ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-  (อ่าน 67733 ครั้ง)

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
น้องสามที่โดนแกล้งตลอดเวลา 55555
ขนาดความรักยังไม่นักเลย อิอิอิ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>ตอนที่ 13 [100%]<<

“พี่บ้า รถเคนเท่านั้นแหละที่เอาพี่ขึ้นได้อะ”

“พี่บ้าเราก็เวอร์แหละ อะ...” เย้ ในที่สุดหมูก็มาอยู่ในมือผม

ผมเดินหลบเข้ามาตรงคนไม่ค่อยเดินผ่าน แล้วก็ฟัดความรักเหมือนตายอดตายอยากมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ จนความรักมันร้องโอดโอยจะเป็นจะตาย อะไรกัน แค่ฟัดเองนะ แค่ฟัดไม่ได้จับเชือดเสียหน่อย ผมขยับจ้องตาขวางๆ ของความรัก ส่งยิ้มเหี้ยมให้แล้วงับไปตามตัวของมันจนมันดิ้นหนี

“ฮ่าๆ...ฮ่าๆ ฮ่าๆ” ตั้ลลั้กกกกกก จุ้บๆ ชอบอะ...มันน่ารักดี มีความสุขเวลาได้เล่นกับมัน แต่มันคงมีความทุกข์ที่ได้เล่นกับผม

“สงสารความรักวะ ต้องมีป่าป๊าแบบมึงเนี่ยคงสยองไปทั้งชีวิตความเป็นหมูของมัน” วิ่งเดินเอาชานมมาวางที่โต๊ะ ตามด้วยพีชถือ...อะไรวะ กาแฟมั้ง

“มาความรัก...โผเข้ามาซบที่อกเรา เราจะปกป้องความรักเอง” แหวะ ไม่เคยเข้าใจไอ้พีชที่มาเต๊าะหมูชาวบ้านเขาแบบนี้

“หยุดเลย ถ้ามึงไป...กูกัด” เห็นความรักเตรียมโผหาคนโรคจิตอย่างพีช ผมก็ขู่ทันที

“ความรักอย่าไปสนใจป๊าแบบนั้น ป๊าอย่างนั้นไม่รักความรักจริงหรอก เราต่างหากที่รักความรักจริง...มาหาเราเถอะความรัก” คือ...มันก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมอะ แต่เล่นใหญ่เหมือนอยู่กันคนละฟากโลก

“ปัญญาอ่อน” คำนี้พูดเบาๆ ก็เจ็บ...ฉึก เอื้อะ...ซะเมื่อไหร่

“มึงสติดีตายอะ” ผมจุ้บแหม่งความรักอีกทีถึงได้ปล่อยให้มันวิ่งไปหาพีช

เล่นกับพีชมากๆ ระวังประตูหลังไว้นะลูกนะ...ให้มันใส่ถุงยางด้วย ไม่ว่ายังไงก็ต้องใส่ ไม่งั้นเราอาจจะติดเชื้อบ้าจากมันได้ แถมเชื้อจากพีชนี่ก็ไม่รู้เป็นเชื้อตัวไหน...รักษาลำบากแน่นอนถ้าเกิดไปติดขึ้นมา แล้วก็ห้ามใช้ปาก ใช้ลิ้น ใช้จุ้กกรู้กับมันด้วย ห้ามแลกน้ำลาย...ห้ามสัมผสของเหลว ห้าม ห้าม ห้าม...กูเนี่ยห้ามคิดอะไรพิเรนถ์ได้แล้วปั๊ดโถ่ว

“ไงหลานรัก เต้นบีบอยวันแรกเป็นไงมั้ง” ผมนั่งลงที่เคาน์เตอร์ปุ้บ น้าบอยก็ถามปั้บ เมื่อกี้นี่ยังคุยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับพี่มะเดี่ยวอยู่เลย

“เจ็บครับ” ตอบละยิ้มหวาน...ยิ้มให้เห็นถึงความออดอ้อนขอน้ำหวานกินฟรี

“สามโคตรด๋อยเลยพี่บอย” อ่าว พี่มะเดี่ยว มึงอย่าฟ้องน้าผมแบบนั้นสิวะ

“ฮ่าๆ ด๋อยสิ...อยู่บ้านอย่างกับคุณชาย ที่บ้านทำฟาร์มแต่ไม่เคยช่วยเลย เอาแต่เล่นเกม กิน แล้วก็นอน มีดีอย่างเดียวคือเรื่องเรียน นอกนั้น...ห่วยมาก” จู่ๆ ก็เหมือนโดนค้อนทุบลงกลางกะบาล มันมึนอย่าบอกใครเชียวครับ เล่นเผากันต่อหน้าต่อตา

“น้าบอยอ่า...”

“ตอนอยากได้ความรักนะ กอดขาพ่อ พร่ำพรรณนาอะไรก็ไม่รู้ อย่างกับบทสวด พ่อเลยซื้อให้ ไม่งั้นไม่ยอมหรอก” มานั่งให้เขานินทาโดยแท้เหลา พี่มะเดี่ยวก็มารยาทดีนะ หัวเราะไม่ไว้หน้ากูเลยอะ

“พอแล้ว...”

“ฉายาตัวเองอะไร...เดอะสามผู้หน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมา ฮ่าๆ” จบกันชีวิตนี้ แม้แต่น้าภูมที่เดินเข้ามาพร้อมกาแฟของพี่มะเดี่ยวก็ขำครืน อยากมีความสามารถพิเศษในการมุดดินหนีไม่ก็ลบความทรงจำของผู้คน จะได้ลบความจำพี่มะเดี่ยวซะ เดี๋ยวแกต้องเอาเรื่องพวกนี้มาแกล้งผมหรือมาล้อผมแน่ๆ เลยอ่า...

อ๊ากกกกก กรีดร้อง พ่นไฟ เกี้วกราดและฉุนเฉียว ฮึ่มๆ...ทุกอย่างล้วนอยู่แค่ในใจ สีหน้าเหรอ ซีดเจื่อน...ไม่น่ามองเลยตอนนี้ คิดในแง่ดี ผมก็เป็นคนที่ดีมากๆ คนหนึ่ง สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้ผู้คนได้ดีขนาดนี้ โอ้โห...ภูมิใจขึ้นมาเลย ถุ้ย!

“อยากเห็นอะ ทำให้ดูหน่อยดิ...กอดขาอ้อนวอนอะ” พี่มะเดี่ยวเอาศอกมาสะกิด แต่สะกิดอีท่าไหนไม่รู้กูเกือบตกเก้าอี้

“เหวอ!” ตัวนี่เอียงจะหล่น ดีที่มือปริศนาของบุคคลไม่ปริศนารับเอวเอาไว้เสียก่อน นั่นคือคนที่สะกิดผมด้วยความรุนแรงประหนึ่งผมเป็นหุ่นยนต์ เบาๆ ไม่ได้ เดี๋ยวไม่รู้ตัว

“ฮ่าๆ อะไร...สะกิดแค่นี้ทิ้งดิ่งเลยเหรอ” ใช่ ทิ้งดิ่ง เอาหัวทิ่มพื้นเผื่อจะหลับไป ตื่นมาวันใหม่แสนสดใส ทุกคนลืมเรื่องในนี้ไปแล้ว อ่า...สบายใจ

ได้ที่ไหนล่ะ!

“พี่อะสะกิดแรง คนอะไรแรงควายชิบ” บ่นงุบงิบคนเดียว แต่คนข้างๆ มันได้ยิน เลยเสนอหน้าเข้ามาใกล้...ทิ่มพรวดเข้ามา เล่นเอาผมผงะจะตกเก้าอี้ทรงสูงอีกรอบ

“ว่าพี่เหรอครับ...” กรี๊ดดดดดด อย่านะ อย่าฆ่ากระผม

“ปะ...เปล่าครับ” ซีดกว่าหน้าผมก็กระดาเอสี่อะครับตอนนี้

“แล้วเมื่อกี้อะไรควายๆ”

“ความๆ...ผมพูดถึงความ” แถด้วยความไวแสง ไม่ได้คิดไว้เลยว่ารูปประโยคนั้นควรแถเต็มๆ ว่าอะไร เปลี่ยนควายเป็นความก่อนเพื่อชีวิตตัวเอง

“โกหกตกนรก...” น้าบอยพูดลอยๆ เป็นอีกครั้งหลังจากเรื่องเล่นเกมโต้รุ่ง ฮื่อ...ทำไมทุกคนรักผมขนาดนี้ล่ะครับ

“ขอโทษครับ” คิดอะไรไม่ออก ยกมือไหว้ขอโทษน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ แต่คิดว่าพี่มะเดี่ยวจะยอมง่ายๆ เดอะสามออกจะน่าสงสารขนาดนี้แล้วแท้ๆ พี่เขาใช้มือที่ว่างจากการโอบเอวผมมาบี้จมูกอย่างแรง!

“โอ้ยยยย เจ็บๆ สามเจ็บครับ” น้ำตาคลอไปเป็นที่เรียบร้อย เจ็บมาก...เจ็บเหมือนจมูกหลุดติดมือพี่ท่านไปแล้ว

“ดีครับ สมน้ำหน้า” สมใจอยากแล้วจากไป ผมขยับนั่งดีๆ สองมือกุมจมูกตัวเองเอาไว้ ตอนนี้มันต้องแดงมาก แดงเหมือนลูกมะเขือเทศแน่เลย

“ฮ่าๆ ดูสนิทกันดีเนอะ เหมือนคู่เราแรกๆ เลยอะ” น้าภูมโอบเอวน้าบอย ถึงอยู่หลังเคาน์เตอร์แต่ผมมองออก แล้วการบอกว่าเหมือนคู่เราแรกๆ นี่มันอะไร...มีมองตากันอีก ปิ๊งเลยไหม ปิ๊งปั๊งเสร็จก็ตั้ม!

“ถ้าเหมือนจริง น้าบอยต้องโรคจิตแน่ๆ” ผมบ่นงุบงิบ โดนแกล้งขนาดนี้ยังไปรักอีก...

“ใช่ บอยโรคจิต...ชอบแกล้งน้า” อ่าว ไหงมันสลับกันล่ะ หน้าเหวอๆ ของผมทำเอาทุกคนขำครืน เห่อๆ...ไม่เหวออย่างผมบ้างก็แล้วไป

ผมหยิบโกโก้ที่น้าภูมเอามาวางเมื่อกี้ขึ้นมาดูด แล้วลงจากเก้าอี้ ตรงไปที่ไอ้พีชและไอ้วิ่ง พวกมันนั่งหัวเราะผมอยู่ก่อนแล้ว…หัวเราะเยาะเย้ยกันมาตั้งแต่ผมโดนเผาอะ ด้วยความที่โต๊ะมันไม่ไกล มันเลยได้ยินทุกช็อตเลย อยากจะงอนมันทุกคน...แต่งอนไปพวกมันก็ไม่ง้อเหมือนพี่ๆ ผม ก็เลยไม่งอนดีกว่าเปลืองพลังงาน

พี่มะเดี่ยวคุยกับน้าผมอีกสักพักถึงได้เดินออกมาบอกพวกเราที่กำลังคุยเรื่องเกมว่าจะไปแล้ว ผมเลยจะเอาความรักใส่กระเป๋า แต่ความรักดันเดินไปที่ขอบโต๊ะ เงยหน้ามองพี่มะเดี่ยว อ้อนกันเข้าไป...ออเซาะกันไม่ไว้หน้าเจ้าของอย่างกูเล้ยยยย ความรักหนอความรัก

“ขี้อ้อนดีวะหมูมึง” เขาอุ้มความรักมาอย่างที่เจ้าหมูทรยศต้องการ

“จะกูจะมึงหรือจะพี่จะน้องก็สักอย่างอะพี่” บางทีกูสับสนไง เดี๋ยวเพราะ เดี๋ยวหยาบ

“ชอบแบบไหนละ...” พี่มะเดี่ยวเงยหน้าจากความรักมาสบตา

“กูมึงกับมันได้เต็มที่พี่ ผมอนุญาต” เดี๋ยวนะวิ่ง...มึงมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจเรื่องนี้วะ

“เอาเพราะๆ สิ” คนเราชอบคนพูดเพราะถูกไหมล่ะ ผมก็ชอบนะเอ้อ

“หึ…ครับน้องสาม” ทำไมมันเพราะแบบประชดวะครับ

พี่มะเดี่ยวอุ้มความรักออกจากร้าน ทิ้งกระเป๋าตัวเองไว้ที่โต๊ะ พีช วิ่ง คว้าของตัวเองแล้วรีบตามพี่มะเดี่ยวไป เห็นไหม...ใครๆ ก็รักผม สนใจใยดีผมมากกกกก สึด! แล้วไง ผมก็ต้องเอากระเป๋าพี่มันไปด้วยไง สะพายของตัวเองไว้ข้างหลัง และเอาของพี่มะเดี่ยวไว้ข้างหน้า

ความรักประจำที่หน้ารถ คนขับสุดหล่อพร้อมคนซ้อนที่หล่อกว่าก็พร้อม เดินทางสิครับ รออะไร ไม่มีใครมาผูกริบบิ้นให้ตัดนะเอ้อ พี่มะเดี่ยวปั่นนำไปทางจักรยาน ตามด้วยวิ่งและพีชปิดท้าย ห้างอยู่ไม่ไกลากมหาลัยเรานัก ปั่นแค่สิบนาทีก็มาถึง เขามีที่จัดเอาไว้ให้นักศึกษาเอาจักรยานมาจอด ผมชอบตรงนี้แหละ ด้วยความมันใกล้มหาลัย มันเลยมีนักศึกษาสายปั่นเยอะ ยิ่งพวกใช้ชีวิสโลว์ไลฟ์นะ ปั่นแต่ฟิกเกียร์ทั้งนั้น

บางทีนะ...มันก็สโลว์ไปอะ

ผมสายปั่น ผมไม่เดือดร้อนห้องอยู่ใกล้ แต่บางคนนะห้องอยู่ไกลแต่เสือกปั่นมาเรียน เข้าเรียนเก้าโมงมาถึงสิบโมง พออาจารย์ถามทำไมมาสาย มันบอกปั่นจักรยานมา คิดว่าอาจารย์เห็นใจไหมล่ะ ก็ไม่อะสิ...คนเราอะต้องมีความรับผิดชอบเว้ย ชอบปั่นอะเข้าใจ แค่มาให้ทันเข้าเรียนหน่อยสิวะ

“โห...คนเยอะแหะ” ไม่เคยเดินมาที่เปิดท้ายหลังห้าง ไม่รู้ว่ามันมีลานเต้นบีบอยและคนเยอะแบบนี้

“เออ คนเยอะเป็นปกติ มึงหิวไรปะ...พวกกูว่าจะไปหาอะไรกิน” วิ่งเดินมาถาม ผมส่ายหัว...ข้าวกับปลากระป๋องยังทำกูอิ่มอยู่เลยเพื่อน

“มึงไปกินกันเหอะ กูยังอิ่มอยู่เลย เออ แต่ซื้อลูกชิ้นมาฝากบ้าง เอาลูกชิ้นหมูอะ”

“ได้ๆ เงินมา” แบมือขอตังเชียว นึกว่าจะเลี้ยงโถ่

ผมให้เงินวิ่งไปห้าสิบบาทสำหรับลูกชิ้นหมูล้วนที่ผมอยากกิน มันรับไปก็กอดคอพีชเดินลิ่วมุ่งหน้าสู่โซนของกิน ผมมองไปรอบๆ สำรวจที่ที่ไม่เคยมา ตื่นตาตื่นใจนิดหน่อย อยู่แถวบ้านผมชอบเดินที่ถนนคนเดินมาก ของถูกและเปิดตอนเย็น แดดไม่ร้อน ทว่าพอหันมาข้างตัวอีกทีกลับพบกับสายตาของพี่มะเดียวและความรักที่จ้องมองมาอย่างอาฆาตแค้น

“อะ...อะไรครับ” เห็นแล้วตกใจอะ ผมทำอะไรผิดเหรอ?

“น้องกินเพื่อนความรักได้ไง…” สีหน้าพี่มึงเหมือนจะเรียกจะผมว่ามึงอะ แล้ว...ผมไม่ได้กินเพื่อนความรักนะ ผมแค่กินลูกชิ้นหมู

“เปล่าซะหน่อยพี่”

“เปล่าอะไร น้องสั่งลูกชิ้นหมู น้องไม่คิดบ้างเหรอว่าหมูที่ถูกเอามาทำลูกชิ้นอาจจะเป็นเพื่อนของความรักก็ได้ แทนที่เพื่อนของความรักจะได้ใช้ชีวิตเยี่ยงหมูปุถุชนธรรมดาตัวหนึ่ง กลับต้องมาตายเพราะน้องสั่งลูกชิ้นหมู...” กูว่ากูเพ้อเจ้อละนะ ลืมไปได้ยังไงว่าพี่มันก็เพ้อเจ้อและคิดอะไรเป็นตุเป็นตะบ้าบอเหมือนกัน

ที่สำคัญ...หมูที่ผมกินไม่มีทางเป็นเพื่อนความรักแน่ๆ เพราะหมูสายพันธุ์เดียวกับความรักเขามีเอาไว้เลี้ยงเป็นหมูบ้าน ไม่ได้มีไว้ทำเป็นอาหาร ตัวก็เล็ก แพงก็แพง ใครที่จะลงทุนหมูพันธุ์นี้มาทำอาหาร บ้าไปแล้ว!

“คืองี้นะพี่...ความรักมันหมูแคระ”

“น้องจะบอกว่าคนเขาไม่เอาหมูแคระมาทำอาหารใช่ไหม แล้วไม่คิดเหรอว่าเพื่อนของความรักมันจะไม่ใช่หมูแคระ” แล้วถ้ามันไม่ใช่หมูแคระแล้วมันจะเป็นเพื่อนกันได้ยังไงละวะ ก็มันถูกเลี้ยงมาในฟาร์ม

“แต่ว่า...”

“น้องเลี้ยงหมู น้องน่าจะเข้าใจความรู้สึกของหมู ดูมันสิ...ไม่สงสารมันเหรอ” ก้มมองความรัก แหมะ ทำตาปรือ...สงสารดีไหมอะ

“ก็...สงสาร”

“สงสารแล้วทำไมต้องกิน” เหมือนกูทำผิดมหันต์อะ เหมือนการกินหมูทำให้คนตายไปหลายร้อยคนทั้งที่ผมก็แค่กินลูกชิ้นหมูอะ

“เคๆ ผมไม่กินแล้ว โอเคไหมครับ” จากหน้าเหี้ยมดุดันก็แปรเปลี่ยน ยิ้มออกแล้วเหรอครับ

“โอเค” ว่าจบก็ก็เดินอาดๆ เข้าฟลอไปเลย ทิ้งผมไว้ท่ามกลางความสับสนอลม่าน คือพี่มึงไม่กินหมูไง...แต่ผมกิน แล้วยังไงอะ…คนละกระเพาะกันนะโว้ยยย

พี่มะเดี่ยวเอาความรักไปอวดทุกๆ คนในฟลอ แล้วพวกเขาก็ชอบมันด้วยนะ ชื่อความรัก เป็นที่รักของทุกคน แหม...มันน่าเอ็นดูขนาดนั้นนี่นะ แต่ผมไม่เดินเข้าไปหรอก ผมตัดสินใจโทรหาวิ่ง ถามว่ามันอยู่ไหนจะตามมันไป

ในเมื่อไม่ให้ผมกิน...ให้พี่เห็น

ผมก็จะไม่กิน...ให้พี่เห็น!

ลั้นลาไปสิ เดินฮัมเพลงเข้าตลาดเปิดท้าย ผมไม่ห่วงความรักหรอก พี่มะเดี่ยวดูรักดูหวงมัน ผมเลยวางใจฝากความรักเอาไว้ที่พี่เขา เดินตามหาวิ่งไม่นานก็เจอ มันซื้อลูกชิ้นหมูล้วนเอาไว้ให้เรียบร้อย ห้าสิบบาทหมดห้าสิบบาทนั่นแหละ

“ทำไมมาวะ...” พีชกอดคอแย่งลูกชิ้นกิน

“พี่มะเดี่ยวไม่ให้กินลูกชิ้นหมู” บอกแม่งตรงๆ นี่แหละ

“มึงเลยแอบกิน” พยักหน้ารับคำวิ่ง

“ฮ่าๆ อย่างกับแอบผัวมาทำผิดเลยมึง....” ผัวพ่องงงงง แค่ส่อง ยังไม่ใช่ผัว อุ้ยยยย!

.....100%....

ทำลับๆ ล่อๆ แบบนี้เหมือนแอบแฟนมาทำผิดเลยอะเนาะ...แต่สามไม่ได้แอบแฟนมาทำผิดสักหน่อยอะเนาะ~ ย่องไปฟ้องพี่มะเดี่ยวแพร่บ!  :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อยากเป็นควารัก -///-

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ฮ่าๆ คือเรื่องนี่ความรักเป็นตัวหลัก ส่วนน้องสามเป็นตัวประกอบ สงสารน้องเค้านะคะ :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 14 [100%]<<

กินอะไรกันเสร็จเรียบร้อย เราสามคนก็ถือน้ำเปล่าคนละขวดเข้าฟลอ คนค่อนข้างเยอะ แล้วก็ไม่ใช่แค่นักศึกษาที่มหาลัยเท่านั้น แต่ยังมีคนอื่นๆ ที่เข้ามาเต้นด้วยมากหน้าหลายตา แต่ละคนหน้าเหี้ยมหน้าโหดทั้งน้านนน ผมไม่แปลกที่คนมองบีบอยเถื่อน ก็ถ้าพวกเขาดูแลตัวเองดีหน่อยมันก็จะไม่มีคนมองแบบนั้นหรอก

“นั่งนี่ดิ” กำลังยืนมองรอบด้าน พี่มะเดี่ยวก็ชี้ๆ ไปที่...ความรัก เจ้าหมูน้อยหน้าดำนั่งเชิดหน้าเฝ้าที่ให้ ข้างๆ มันมีกระเป๋าของพี่มะเดี่ยว จำได้ สะพายมา

“ไปมึง” วิ่งดันหลังให้เดินอ้อมฟลอเต้น ที่นี่ไม่ใช่พื้นที่กว้างขวางเหมือนใต้อาคาร มันมีพื้นที่จำกัด แถมยังเต้นกันอยู่หน้าแม็กโดนัล ข้างๆ มีเซเว่น พร้อมสรรพโคตรๆ แต่คนมันเยอะกว่าพื้นที่ที่มีอีกนะ

พื้นอะมันยื่นออกมาจากร้านแม็กโดนัลเป็นลักษณะครึ่งวงกลม ไม่ใหญ่มาก จอดมอเตอร์ไซก์สักห้าหกคันก็เต็มแล้ว ส่วนที่พี่มะเดี่ยวให้ผมนั่งเป็นม้านั่งยาว มีหุ่นตัวตลก มาสคอตของร้านแม็กนั่งอยู่

“เต้นกันพอเหรอครับ ที่มีแค่นี้เอง” เข้ามาใกล้ ผมก็อดที่จะถามพี่มันด้วยความอยากรู้ไม่ได้ พี่มะเดี่ยวป้อนมะม่วงให้ความรัก นี่ลงทุนซื้อมาเลยสินะ

“เต้นได้ดิ ผลัดกันลงฟลอ ที่นี่เหมาะจะเต้นแบทเทิลแต่ไม่เหมาะที่จะเอาไว้ใช้ซ้อมเต้นอะ บีบอยมีความโรคจิตนิดๆ คือชอบเต้นให้คนอื่นดู…อยากอวดอยากโชว์นั่นแหละ” พยักหน้าเข้าใจ หัดเต้นก็เพื่อโชว์คนนี่เนาะ มันก็ต้องอยากให้คนมุงเยอะๆ

“ซึ่งบางวันเราก็จะเปิดหมวกไปในตัว มีคนให้เราก็เอามาแชร์มาหารกัน หรือซื้อน้ำซื้อของกินมากินร่วมกัน อ่อใช่…มีแข่งที่นี่ปีละครั้งด้วยนะ”

“อ๋อ…” ผมอุ้มความรักขึ้นมาก่อนจะนั่งลง แล้วเอามันวางบนตัก ที่ข้างๆ ติดกับมาสคอตตัวใหญ่เป็นที่วางกระเป๋า วิ่ง พีช โยนทับกระเป๋าพี่มะเดี่ยวเป็นที่เรียบร้อย

มะเดี่ยวยีหัวความรักแล้วหันหน้าเข้าฟลอเต้น พวกเปิดเพลงสนั่นกันตั้งนานแล้วและวิ่งมันก็โดดตีลังกาลงฟลอดังตับ! ไม่ใช่เอาหลังลงนะ เท้าลงเนี่ยแหละ เสร็จแล้วก็เต้นแบบกวาดฟลอโคตรๆ กินพื้นที่ก่อนจะใส่สกิวที่ตัวเองมีอย่างมั่นอกมั่นใจ ผมต้องชะโงกหน้านิดหน่อย มันติดหลังใหญ่ของพี่มะเดี่ยยวเขา พอเพื่อนผมใส่โครมๆ จบหนึ่งคอมโบ พี่คนหนึ่งตัวสูงๆ ผิวเข้ม ใส่เสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีน้ำตาลดำก็ลงบ้าง เขาทำท่าอะไรไม่รู้ เหมือนหกสูงแต่สองมือวางทับกันแล้วหมุนติ้วๆ ผมเคยเห็นเขาซ้อม ตื่นตาตาทุกรอบ ทว่ารอบนนี้...ตื่นตากว่า พี่แม่งล้มลงมาดื้อๆ ทั้งที่ขายังตรงแด่ว พื้นงี้สะเทือนไปหมด

“สัตว์! เจ็บเชี่ย!!!” เสียงด่าหลุดออกมาอย่างดัง ล้มเอง ด่าเอง...ฉุนเฉียวเอง คนมองแบบผมก็งงไปตามระเบียบ ดูโมโหมากเหมือนคนอื่นเขาถีบ ทั้งที่ตัวเองล้มแล้วไม่เซฟตัวเองอะ

“หยาบคายวะไอ้แน มึงควรพูดจากเพราะๆ นะครับแน...” พี่มะเดี่ยวลงฟลอบ้าง เข้าไปอย่างมีสเต็ป โยกซ้ายขวาพร้อมกับฟุตเวิร์ก เขาเท่มาก...หรือควรใช้คำว่ามันน่ามองมากๆ เวลาเขาเต้นดีล่ะ ตอนอยู่ที่มหาลัยมันแค่ซ้อมๆ แต่นี่มันเป็นการเต้นจริงจังกว่า

“ค...วย!!” ครับ...เพราะมาก พี่แนตอบกลับเสียงดังใส่หน้าพี่มะเดี่ยว แต่คนสุภาพของเราไม่สะทกสะท้านหรอกครับ พี่ท่านหกสูง งอตัวทั้งที่อยู่ท่านั้นและมีเพียงมือเดียวรับน้ำหนัก อีกมือเหรอ...ชูนิ้วกลางใส่หน้าพี่แนไง

“เถื่อนเนอะความรัก” ผมก้มลงไปกระซิบกับความรัก มันนั่งมองเขาเต้น นิ่งมาก...นิ่งเหมือนสนใจอยากร่วมฟลอทั้งที่มึงเป็นหมูอะ

“ไม่น่ารักเลย...ทั้งคู่อะ” พี่โซฮานเอามือดันพี่มะเดี่ยวและพี่แนให้พ้นทางเต้นของตนเอง จากนั้นใช้สไตล์ในการกวดเตะทุกคน...พี่ก็ไม่น่ารักครับ

เมื่อเหล่าบีบอยเต้นกันจริงจัง คนที่เดินอยู่รอบๆ ก็หยุดดูพวกเขา เสียงเพลงดังๆ และสายตาคนทำให้พวกเขามีแรงใจฮึกเฮิมขึ้นมา พี่มะเดี่ยวและเพื่อนทั้งสองของผมก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น พวกเขาลงฟลอ ผลัดกันเต้น ผลัดกันทำท่าและลงคอมโบกันรัวๆ ยามที่ร่างล้มลงกระแทกพื้นดังอึก ไม่มีใครแสดงความเจ็บปวดออกมาให้เห็นเลย อ๋อ...ยกเว้นพี่แนเหอะ เจ้านั้นเบ้หน้าด่ากราด ใครยืนอยู่ตรงหน้าแกนะ แกด่าหมด

ผมไม่เก่ง...แต่ผมก็มีความสุขกับการได้นั่งดูพวกเขาเต้นกันนะ บ้าๆ บวมๆ ดีอะ...ถ้าผมเต้นได้อย่างพวกเขาผมจะยิ่งมีความสุขมากกว่านั่งดูใช่ไหมนะ แต่การทำอะไรโหดๆ แบบนั้นมันต้องใช้เวลาขนาดไหน ต้องนานแน่เลยอะ...

ผมละสายตาจากพี่มะเดี่ยวไปทางหญิงสาวสองคนที่เดินมา คนหนึ่งคือพี่ออมแต่อีกคนผมไม่รู้ ก็ทักทายกันปกติ ดูไม่มีอะไรพิเศษมากมายนัก มองเผินๆ ก็คล้ายเป็นแค่แฟนของใครสักคน แต่ที่ทำให้ผมสนใจคือพี่ออมที่เห็นเอาแต่เดินไปเดินมาลงสเต็ปที่ฟลอแล้ว

“ไอ้สัตว์...ฟลอโคตรเดือด” พีชมันยืนอยู่ใกล้ๆ มันพูดขึ้นมาพลางโห่แซ็วพี่ออม

พี่ออมเป็นหญิงสาวตัวเล็ก เธอยิ้มรับคำพูดล่อแหลมและเสียงแซ็วของผู้ชายทุกคนที่รายล้อมรอบเธอ ผมไม่เข้าใจคำว่าฟลอเดือดจนกระทั่งพี่ออมเริ่มใส่จังหวะที่รุนแรงขึ้น แข็งแรง ดุดันแบบที่ผมไม่เคยเห็นที่มหาลัย เป็นผู้หญิง...ไม่ได้หมายความว่าเธอจะแบทเทิลกับผู้ชายไม่ได้

“โอ้วววววว!!!!” ท่าจบคือพี่อออมแกผมก็ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร มันเหมือนหกสูงแต่โพสต์พ้อยขา ทรงตัวมือเดียวเหมือนพี่มะเดี่ยว จากนั้นแกก็ร่วงวูบ ผมคิดว่าจะตก แต่เปล่า...พี่ออมลงมาจบที่แอร์แชร์ อันนี้ผมรู้เพราะว่าพีชมันทำ ทรงตัวแนวนอนตะแคงบนศอก รับน้ำหนักด้วยแขนข้างเดียว มันสวยมาก...และผู้ชายแทบทุกคนก็โห่ร้องพร้อมลุกขึ้น

“โคตรคิลบีท...ยอมๆ”

“ฟลอแตกๆ เอ้าเชี้ย…ฟลอแตกแล้วรอไรล่ะ แยกย้ายสิสัตว์” เสียงรอบด้านอื้ออึง ผมนี่นั่งปรบมือเปาะแปะๆ อยู่ด้านหลังพวกเขาทั้งหมด

จบจากพี่ออม เพื่อนพี่ออมที่เป็นผู้หญิงอีกคนก็ลงบ้าง คนนี้ไม่โหดแต่สไตล์สวย พลิ้ว...เห็นเอวแล้วสามอยาก ฮ่าๆ สามล้อเล่นน่ะโอเคไหม สามจะไม่หื่น...ไม่อยากอะไรใดๆ ทั้งสิ้น แต่เชื่อเหอะว่าผู้ชายในฟลอเต้นทุกคนต้องคิดไม่ต่างจากผมเท่าไหร่

“น้ำลายหกแล้ว” พี่มะเดี่ยวเอามือมาปาดปาก นอกจากตกใจแล้วยังเค็มด้วยฟายยยย

“แหวะ...เล่นไรของพี่เนี่ย”

“ฮ่าๆ ก็ดูมึงจ้อง...จะบอกให้ นั่นน่ะ...กะเทย” ปากกูค้างยิ่งกว่าเดิม กะเทยจริงดิ สวยขนาดนี้ หุ่นเซี้ยะขนาดนั้น กะเทยจริงอ่อ...โอย กะเทยกูก็เอา!

“ก็ได้อยู่นะ” ผมบอกตรงๆ พี่มะเดียวหันขวับมามอง

“ได้...อะไรได้ เอากะเทยได้หรือให้พี่เอาได้” เดี๋ยวๆ เราคุยกันก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับให้พี่เอาเลยนะเว้ยเฮ้ยยยย

“กะเทยเอาได้...”

“ไม่ได้หรอก มีผัวแล้ว” โอเค จบ…เหนือกว่าความเป็นกะเทยโสดงดงามแล้วคือผัวของเธอตัวใหญ่มาก พี่มะเดี่ยวชี้ไปให้ดูผู้ชายตัวใหญ่ๆ ด้านหลัง สูงชะลูด พร้อมด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆ

“ครับ” รับทราบท่านพี่ ผมไม่คิดยุ่งย่ามกับเธออยู่แล้ว ปกติกะเทยไม่ชอบผู้แบบผมเท่าไหร่...หน้าติดหวาน มีแค่สาวแท้ๆ ที่ชอบ

พี่มะเดี่ยวแกออกไปเต้นอีกสองสามรอบก็กลับเข้ามานั่งตรงพื้นด้านหน้าผม ก็ไม่มีอะไรพิเศษครับ...ถ้าพี่เขาหันหน้าเข้าฟลอเต้นไม่ใช่เข้าหาผมแบบนี้ ผมนั่งบนม้านั่งยาวก็จริงอะ แต่มันก็แปลกๆ ยังไงไม่รู้ มีแค่ความรักบนตักเท่านั้นที่ดี้ด้าออกหน้าออกตา พี่มะเดี่ยวก็เลยเล่นกับมันโดยเอาสองแขนของตัวเองมาวางไว้หน้าขาผม เออ คือกูไม่ใช่โต๊ะไงพี่ นี่คนไงพี่คน...คนชื่อสามด้วยเนี่ยเห็นไหม

โอย...เล่นอะไรไม่ถนอมหัวใจกูเล้ย!

“พี่อยากได้ความรักอะ” พี่มะเดี่ยวเงยหน้าสูงมองหน้าผม

“พี่ก็ซื้อเอาสิฮะ” ใช่…พี่ต้องซื้อเว้ย แต่ก็ต้องแสดงความเสียใจด้วยที่พี่จะไม่มีทางได้แบบไอ้ความรักแป๊ะๆ นอกจากลายดำบนตัว

“เอาตัวนี้ไม่ได้อ๋อ เอาทั้งความรักทั้งเจ้าของมันเลย”

“พี่จะเอาผมไปเป็นเบ๊ใช่ไหม...” ไม่ต้องคิดเยอะ พูดมาแบบนี้เอากูไปเป็นเบ๊ชัวร์ๆ แล้วก็จริง พี่มะเดี่ยวหัวเราะเสียงดัง

“ใช่ ขี้เกียจทำความสะอาดห้องวะ อยากได้คนช่วย ไปช่วยหน่อยดิ เดี๋ยวเลี้ยงข้าวความรัก” ใช้แรงคนแต่ให้ค่าจ้างกับหมู เอาเถอะคนเรา...

“ม่าย..ห้องผม ผมยังขี้เกียจทำเลย”

“ซกมกวะ” กรรม จะเอาอะไรกับผมล่ะเอ้อ ผมก็เป็นชายโสดซิงที่ชอบสิงอยู่กับเกมนี่นา

“เต๊าะเด็กอ่อวะ” พี่โซฮานเดินเข้ามาตบไหล่พี่มะเดี่ยว ไอ้คนนั่งพื้นเลยต้องเงยหน้ามองเพื่อนตัวเอง

“เต๊าะคือจีบ แต่อย่างกูเนี่ย...เรียกอ่อย” เออพี่ มึงลืมไปเปล่าว่ากูนั่งอยู่นี่ หรือว่าเล่นแบบนี้กันเป็นปกติ? น่าจะ...ไม่งั้นก็คงไม่พูดอะไรใส่กันแบบนี้ง่ายๆ หรอกมั้ง

มันจะไม่น่าคิดอะไรมากถ้าพี่เขาไม่มองตาผมแบบนี้ ผมเสหน้าหลบ มองนกมองไม้ไปตามเรื่อง ผมรู้ว่า...เวลาผู้ชายแท้ๆ เขาเล่นกัน เขาก็เล่นกันประมาณนี้ นี่ไม่เรียกจีบหรอก จับตงจับตูด เด้าตูดกันเล่นก็มีถมเถไปอะถูกมะ เพราะงั้นผมต้องไม่คิดอะไรกับคำพูดพี่มันเยอะ

“อ่าว...เด็กน็อกเลยมึง ฮ่าๆ คิดมากน้อง มันล้อเล่น” พี่โซฮานหัวเราะ ผมไม่คิดมากนะ ผมคิดจริงจังเลยเนี่ยแหละ แหม่...

“ครับ” รับทราบ ไม่คิดมาก

“งั้นพี่ขอตัวไอ้เดี่ยวหน่อยนะ” เอาไปสิครับ มาขอผมทำไมไม่ได้ล่ามโซ่พี่ท่านเอาไว้กับตัวเสียหน่อย

พอพี่มะเดี่ยวไป ผมก็นั่งกอดความรักดูเพื่อนๆ พี่ๆ เต้นกันต่อ ไอ้วิ่งกับไอ้พีชนี่แย่งกันลงฟลอมาก ผมหัวเราะกับภาพของพวกมันยื้อแย่งกันเต้น พวกรุ่นพี่เห็นมันไม่ลงกันสักทีก็เลยลงก่อน อดแดก...ยื้อแย่งกันเป็นเด็กๆ เต้นๆ หยุดๆ เหนื่อยก็เดินมาพักข้างๆ ผม รับกำลังใจจากความรักแล้วฮึกเหิมเต้นต่อ ซึ่งมันก็แค่ไอ้พีชนะ ไอ้วิ่งนี่นั่งหอบเป็นหมาหอบแดดเลย

นั่งดูไปสักพักก็อยากเดินเล่นบ้าง ไม่ใช่ตรงนี้ไม่สนุก แต่สงสารความรักที่ต้องอยู่กับเสียงดังๆ แบบนี้ตลอด คืออยู่ฟลอเราคุยกันแบบตะโกนเลยล่ะครับ เข้าใจว่าเปิดดังๆ มันเร้าใจ แต่บางทีพาคววามรักไปพักหูหน่อยก็ดี ผมอุ้มความรักไปเดิยเล่นที่ตลาดเปิดท้าย มันก็หันซ้ายหันขวามองนั่นมองนี่ไปเรื่อยเปื่อย

เดินมาเจอร้านขายเสื้อผ้าและของใช้สัตว์เลี้ยงผมก็หยุด เลี้ยวเข้าไปดูนั่นดูนี่ทันทีด้วยความสนใจขั้นสุด งานอดิเรกอีกอย่างคือจับความรักแต่งตัว พี่สองเคยแซ็วว่าเล่นเหมือนเด็กผู้หญิง แต่พอเห็นหมูน้อยใส่เสื้อผ้าแล้วก็พากันชมใหญ่ว่าน่ารักงั้นน่ารักงี้ ถ้าไม่มีเดอะสามคนนี้คอยแต่งตัวให้มันจะน่ารักอย่างนี้ไหมล่ะเอ้อ

“พี่ครับ ชุดนี้มีไซซ์เบอร์หนึ่งไหม” ผมหยิบชุดเทควันโด้สำหรับน้องหมามาให้พี่เขาดู เห็นแล้วน่ารัก จับทาบความรักแล้วน่าเอ็นดูสุดๆ

“มีครับ รอแป๊บหนึ่ง..เดี๋ยวผมหาให้”

“ขอบคุณครับ” นอกจากชุดก็มีหมวก รองเท้านี่ผมไม่ซื้อนะ เห็นความรักใส่รองเท้าเดินแล้วตลกอะ เข้าใจปะว่ามันเป็นสัตว์ มันไม่คุ้นชินกับการใส่รองเท้าเหมือนมนุษย์

นอกจากชุดเทควันโด้ก็ยังมีชุดโงกุน ชุดนารูโตะ ชุดสูท ชุดผึ้งและชุดแตงโม โอ้โห...น่ารักทุกชุด ผมนี่กวาดเรียบ ได้ยินเสียงแม่ด่ามาไกลๆ ว่าไอ้สาม...เรานี่ชักจะใช้เงินมือเติบเกินไปล่ะนะ ฮ่าๆ แหม แค่นิดหน่อยเอง ผมทุ่มให้กับเกมและการแต่งตัวความรักด้วยเงินค่าอาหารของตัวเอง จะว่าไป...ช่วงนี้สตรีมมีลดราคาเกมอยู่ ผมต้องเติมไปสอยเกมใหม่เสียหน่อยแล้ว

เลือกของให้ความรักจนพอใจก็เดินออกมา ผมเปลี่ยนความรักจากหมูน้อยไร้เสื้อผ้าเป็นชีเปลือยเป็นหมูน้อยนักเทควันโด้เรียบร้อย อ้อ ที่ไม่ซื้ออีกอย่างคือปลอกคอ ที่ความรักใส่อยู่เป็นปลอกคอถักสีเขียว ห้อยจี้สั่งทำ สลักว่าความรักของน้องสาม แล้วที่ไม่คิดเปลี่ยนก็เพราะแม่เป็นคนถักปลอกคอนี้ให้อะ

“หล่อมาก...ดูเก่งกาจเกินหน้าหมูทุกตัวบนโลกเลยมึง” ผมกระซิบข้างหูความรัก

“อู๊ดดดด” ดีมาก รับคำกันแบบนี้น่ารักที่สุดเลย ยืนยิ้มอยู่หน้าร้านเหมือนคนบ้าที่คุยกับหมูรู้เรื่อง ทั้งที่ไม่รู้เรื่อง พอเงยหน้ามาจะเดินต่อก็ต้องนิ่งไปเมื่อพี่มะเดี่ยวมาอยู่ตรงหน้า

“น่ารัก...” แก้พูดแล้วจิ้มไปที่หน้าผากความรัก ตาอะตา...มองความรักสิไม่ใช่มองหน้าผม

“ช่าย…มันน่ารักสุดๆ เลยล่ะครับ” ผมยิ้มแป้นให้พี่เขา

“เปล่า มึงอะน่ารัก” นี่ไม่เรียกอ่อยแล้ว…นี่เรียนเต๊าะแบบที่พี่โซฮานเขาพูดนั่นแหละถูกต้องที่สุด

“อ่า...”

“อะ กูซื้อมาให้ เผื่อหิว” พี่มะเดี่ยวส่งถุงร้านแม็กโดนัลมาให้ ข้างในมีเบอร์เกอร์กับน้ำผัก

“ขอบคุณครับ”

“ไม่เป็นไร กูพามาก็ต้องดูแล แล้วนี่รีบกลับเปล่า…ฟลอแม่งเลิกดึกอยู่นะ พวกไอ้โซฮานก็จะไปเต้นตรอกข้าวสารกันต่อด้วย แต่มึงไม่ต้องไป พรุ่งนี้มีเรียนถูกไหม” พี่มะเดี่ยวเดินนำ ผมเดินตาม

“ครับ เดี๋ยวสักพักค่อยกลับก็ได้ พี่ไปกับเขาด้วยใช่ปะ” คิดว่าต้องใช่ แต่ไม่…พี่แกส่ายหน้า

“ไม่อะ เดี๋ยวกลับห้อง กูสายทำงานกลางคืน ถ้าไม่รีบก็กลับพร้อมกัน ตัวมึงยิ่งเล็กๆ น่ารักเดี๋ยวคนฉุด” โอ้ย ใครจะมาฉุด

“ผมมีความรักเป็นองค์รักษ์พี่ไม่ต้องห่วง เจ้านี้ทำงานได้ดีไม่ข้อบกพร่องเลยครับ” ว่าจบก็โดนโบกหัวลั่นไปหนึ่งที

“ตลก ความรักมันจะเผ่นก่อนอะสิ ใส่ชุดเทควันโด้แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดูเก่งขึ้นเลย ดูด๋อยเหมือนมึง...อ้อ ต้องด๋อยเหมือนกันสิเนอะ พ่อลูกกัน” แล้วท่านก็ขำเหมือนนั่งดูตลกคาเฟ่ หึ...การแหน็บแนมผมมันคงเป็นความสุขของพี่จริงๆ สินะ

แต่รอยยิ้มของพี่เขาก็พอจะทำให้ผมไม่รู้สึกงอนได้ล่ะนะ...

พี่มะเดี่ยวพาผมกลับไปที่ฟลอ นั่งดูทุกคนซ้อมเต้นและเล่นแผลงๆ กันต่อ โดยเขามักมายืนอยู่ตรงหน้าผมเสมอ ผมไม่อยากคิดไปเอง...ไม่อยากวาดฝันไปคนเดียวว่าที่พี่เขาทำแบบนี้คือพี่เขาชอบผม เราไม่คาดหวังกับชายแท้ เปอร์เซ็นเจ็บสูง และผมก็ไม่ชอบความเจ็บแบบนั้นเท่าไหร่ ทว่า...การห้ามความคิดนั้นเป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่าหัดเต้นบีบอยเสียอีก ผมได้แต่มองหน้าความรัก...ถอนหายใจแล้วกอดมันเอาไว้อยู่ด้านแผ่นหลังกว้างของพี่มะเดี่ยว

.....100%.....

ตั้งใจจะอัปตั้งแต่เมื่อวานแต่ยุ่งกับงานเลยลืม ขออภัยด้วยนะคะ เราจะอัปทุกวันจนกระทั่งถึงวันที่ 20 หลังจากนั้นขออนุญาตหยุดอัปจนถึงสิ้นเดือนนะ

ขอพูดถึงพี่แน...สมัยเราเต้น เรามีรุ่นพี่คนหนึ่งแบบนี้ คนอื่นเขาซ้อม เขาเจ็บเขาก็เฉยๆ แต่พี่แนเป็นสายบ้าพลัง เขาเต้นที่โครมๆ ล้มเจ็บก็ด่าหยาบคายเสียงดัง ระบมจนพอใจก็จะหายไปเลย สองสามชั่วโมงกลับมาใหม่ เราว่าพี่เขาน่ารักดี...เป็นผิวเข้มตัวสูงใหญ่ หน้าตาดี แต่มีคาแรกเตอร์แปลกๆ จำได้ตลอดไม่ลืมเลยคนอย่างนี้

ว่าแต่...พี่มะเดี่ยวจะรู้ไหมว่าน้องมันหวั่นไหว >\\\<

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เอ็นดูเดอะสาม 555

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
#ทีมเมียหลวงพี่มะเดี่ยว พี่จะอ่อยน้องสามสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะคะ แหมมมมม

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
โซฮานชอบมะเดี่ยวใช่ไหม :hao4:

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 15 [100%]<<
พวกพี่โซฮานแยกย้ายไปตอนทุ่มนิดๆ พวกเขาจะไปเต้นเปิดหมวกที่ตรอกข้าวสาร เห็นอยู่ว่าพยายามชวนพี่มะเดี่ยวไปด้วย แต่พี่มะเดี่ยวปฏิเสธ บอกว่าคืนนี้มีงานต้องทำ มันใกล้งานหนังสืออะไรของเขาเนี่ยแหละ ผมก็ไม่เคยถามพี่เขาจริงจังว่าพี่เขาทำงานอะไร ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนอกจากรุ่นพี่รุ่นน้องและห้องอยู่ตรงข้ามกันนี่นา จะไปถามละลาบละล้วง ผมคิดว่ามันไม่เหมาะสมเท่าไหร่

พอรุ่นใหญ่ไปกันหมด จากที่คนแน่นฟลอตอนแรกก็เริ่มซาลง เด็กหลายคนอายุยังไม่ถึงสิบแปดพากันร่ำลารุ่นพี่เพื่อกลับบ้าน พี่มะเดี่ยวรับไหว้น้องๆ ทุกคน เท่าที่เห็น พี่เขาเป็นคนเฟรนลี่นะ ดูแลน้องๆ ในฟลอดีแล้วก็เป็นคนยิ้มเก่งยิ้มง่าย แกดูใจดี ไม่เห็นแกแกล้งใครเลยเนี่ยนอกจากผม...

“มึงมาซ้อมปะ กูสอน” ไอ้วิ่งเดินมาหยุดตรงหน้า

“เอาจริงดิ”

“เออ เดี๋ยวกูสอนแก็ป”

“เออๆ” จำต้องวางความรักลงบนม้านั่งยาว เดินออกไปที่ริมๆ ฟลอเพื่อให้ไอ้วิ่งมันสอนเต้น

แก็ปเป็นท่าที่ทำด้วยการหกสูงขึ้นก่อน พอหกสูงได้นิ่งแล้วก็จะหักเอวเข้าหาตัว ปล่อยมือข้างหนึ่งเพื่อแตะปลายเท้าข้างใดข้างหนึ่งที่พับลงมานี่แหละ ส่วนสำคัญคือการบิดเอวลงมา เปิดแขนเงยหน้า

วิ่งอธิบายและทำให้ดูทีละสเต็ป มันหกสูงได้นิ่งมาก แก็ปแล้วขึ้นไปอยู่ท่าหกสูงต่อได้โดยไม่ต้องเอาเท้าลงมาแตะที่พื้นเลย ผมก็ลองทำบ้างเมื่อมันสั่งให้ทำ แต่ขอโทษ...การทำจริงไม่เหมือนกับทฤษฎีหรอกนะครับ ฟังเหมือนเข้าใจ พอทำ...ไม่เข้าใจอะไรเลย ผมหกสูงได้ไม่นิ่งด้วยซ้ำ

“ไม่ไหววะ”

“ไม่เว้ย มึงไม่ต้องรอให้มึงหกสูงตรง มึงขึ้นให้ตรงแล้วงอเอวเข้าหาตัวเอง แตะปลายเท้าปุ้บก็จบ ดีดตัวยืนได้” มึงอธิบายเสียง่ายอะ แต่ทำจริงมันไม่ง่ายขนาดนั้น

วิ่งไม่เหมือนพี่มะเดี่ยวที่จะจับขาผมให้ตอนหกสูง มันให้ผมทำด้วยตัวผมเอง ไม่ยุ่ง ยืนดูใกล้ๆ คนอื่นก็ไม่มีใครมาสนใจผมหรอก พวกเขาต่างเต้น ต่างฝึกท่ากันไป พีชเดินมานั่งใกล้ๆ มาช่วยเชียร์และให้กำลังใจ อยากบอกว่าแค่หกสูงผมก็เหวอแล้วอะ

“มึงอย่ากลัวสิวะ เตะแรงๆ” คงเพราะขาไม่ตรงสักทีเนี่ยแหละ โอ้ย...ยากอะไรแบบนี้เว้ย

ลองอีกที...เตะให้แรงขึ้น พอรู้สึกว่ามันตรง...คือมันจะรู้สึกถึงสิ่งนี้ได้ยากมากอะ ดีที่ผมจำความรู้สึกตอนพี่มะเดี่ยวจับขาผมให้วิดพื้นหกสูงได้ ก็เลยรีบเกร็งข้อมือเอาไว้ให้มันตั้งตรง จากนั้นก็หักเอวเข้าหาตัว...หักตรงๆ ไม่ได้นะ ต้องเอียงตัวนิดหนึ่งอะ...กำลังจะแตะปลายเท้าได้ก็ดัน...

ตุ้บ!!

“อึ้ก...” ผมล้ม หัวโขกพื้นดังป๊อก! ผมนอนแผ่เลย กุมหัวตัวเองที่เต้นตุ้บๆ

“เอาใหม่ๆ เมื่อกี้สวยแล้วมึง อีกนิดเดียว” วิ่ง...มึงเห็นไหมว่าหัวกูโขก

“หัวโขกครั้งแรกมันก็จะเจ็บนิดหนึ่งอะนะสาม เดี๋ยวพอโดนโขกมากๆ มึงก็จะเลิกเจ็บแล้วเสียวแทน...” เดี๋ยวนะ...หัวโขกบ้านมึงเสียวได้อะ!!!

“ตลก...เจ็บ” ลุกขึ้นมานั่ง สะบัดหัวนิดหน่อยเพื่อไล่ความมึนเบลอ

รู้สึกเจ็บน้อยลงก็ทำต่อ รอบนี้ทำได้นะ...แตะขาตัวเองได้ แต่เสี้ยวนาทีผมก็ล้มโครมลงมาอีก หัวไม่โขก ทว่า...ทั้งร่างเนี่ยอัดกับพื้นเต็มๆ แม่งเจ็บมากอะ นอนมองท้องฟ้า...ดูดวงดาวที่วิ่งแล่นรอบหัวผมสักพัก หน้าพี่มะเดี่ยวก็ลอยเข้ามา

“เฮ้ย...โอ้ย!” เพราะตกใจเลยรีบเด้งตัวลุกขึ้น แหม่งเลยปะทะกับแหม่งเข้าอย่างจัง ทีนี้แหละ ต่างคนต่างกุมหน้าผากตัวเอง

“ฮ่าๆ...ตลกวะ พี่ก็เสือกเอาหน้าไปใกล้มันเนาะ เป็นไง กะโหลกร้าวไปยังวะสาม” วิ่งเข้ามาดูระยะประชิด ผมส่ายหน้า แต่มึน

“ทำไมเล่นแก็ปแบบไม่เซฟตัวเองเลยอะ ปล่อยร่วงแบบนั้นโครมๆ กระดูกร้าวไม่รู้ด้วยนะเว้ย” พี่มะเดี่ยวหายเจ็บก่อน เขาแค่เอามือถูๆ ตรงที่โดนกระแทก

“ก็...ผมไม่รู้” ไม่รู้ว่าต้องเซฟตัวเองแบบไหน เพิ่งหัดเต้นนี่หว่า

“ให้มันเจ็บเองเยอะๆ นั่นแหละพี่ เดี๋ยวมันก็เซฟตัวเองเป็น ของงี้ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของสัญชาตญาณ” กูนี่มองหน้าวิ่งทันทีด้วยความเคือง คือมึงควรบอกควรสอนกูไง ของแบบนี้เซฟตัวเองได้มันก็ควรทำใช่ไหมล่ะ

“เออ ก็จริง ตามนั้นแหละมึง สู้ๆ” พี่มะเดี่ยวชู้สองนิ้วสู้ตาย เสร็จเดินไปอุ้มความรักที่กำลังกินแอปเปิ้ลมานั่งให้กำลังใจข้างๆ พีช

“เอ้าทำต่อ! เป็นลูกผู้ชายต้องสู้ตายเว้ย” โหวิ่ง กูตายก่อนได้ไหมล่ะ

“กูตุ๊ด!” โพล่งแม่งออกไปแบบนั้นก่อนลุกขึ้นเตรียมทำท่าแก็ปต่อ

“ตุ๊ดคนนี้อยากได้สามีไหมครับ...” พี่มะเดี่ยวส่งเสียงยอกออกมา ทำเอาผมที่กำลังทุ่มกายวางมือเพื่อเตะขึ้นแก็ปต้องเงิบหน้าทิ่ม...ทิ่มจริง ทิ่มแบบหน้ากระแทกพื้นเลยอะครับ!

“เฮ้ย...เป็นไรไหมนั่น!” พี่มะเดี่ยวกับวิ่งรีบเข้ามาดู ผมเอามือทั้งสองขึ้นมากุมหน้าทั้งที่ยังนอนคว่ำอยู่

“เจ็บไง...” น้ำตาคลอเลยฮรึก...เจ็บมากๆ!

“ไหนลุกมาดูซิ” ร่างของผมโดนดึงขึ้นนั่ง สิ่งแรกที่ได้สบตาคือสายตาเป็นห่วงของพี่มะเดี่ยว มองต่ำลงไปก็เจอความรักข้างๆ ร่างใหญ่ เป็นห่วงป๊าด้วยเว้ย โอ้โห...อันนี้ปลื้มใจ!

“ไม่บุบสลาย แต่กูว่ามึงหาอะไรกินก่อนไหมวะ ลูกชิ้นหมูน่าจะย่อยหมดแล้วแขนเลยอ่อนหน้าทิ่มแบบนี้” อ้าปากค้างเลยล่ะครับ...วิ่ง มึงพูดอะไรออกมา กูอุตส่าห์แอบไปกิน มึงพูดมาหมดแบบนี้ที่กูแอบไปโซ้ยลูกชิ้นหมูมาก็ไร้ความหมายสิวะเฮ้ย!

“อ๋อ...หายไปกินลูกชิ้นนี่เอง” นั่นไง หายนะกูมาแล้วไง ดูไอ้วิ่ง...มันไม่สะทกสะท้านและก็ไม่รู้สึกถึงรางร้ายที่กำลังคลืบคลานเข้าสู่ชีวิตของผม

คือ...ผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะเว้ย ผมแค่กินลูกชิ้นหมูอะ แต่ไม่รู้สิ ผมคิดว่าพี่มะเดี่ยวแม่งต้องโกรธแน่ๆ เล่นไซโคให้ผมไม่กิน ผมเองก็รับปากแต่เสือกแอบไปกิน โอ้ย....หลังจากนี้โดนแกล้งบ่อยๆ กูจะไม่แปลกใจในชีวิตตัวเองเลย แค่หลอกพี่มันว่าจะกินหมูที่ตัวเองเลี้ยงผมยังโดนไปหลายดอก นี่โกหกพี่มัน...พี่มันไม่เล่นจนผมยับคาฟลอเต้นไปเลยอ่อวะ

“ใช่พี่ กินไปแค่ห้าไม้เอง มันไม่อิ่มหรอก มึงหาอะไรกินก่อนก็น่าจะดีแล้วค่อยซ้อมต่อ ยังไม่ดึกเท่าไหร่ด้วย” วิ่งพูดจ้อไปเรื่อย แต่กูนี่กินอะไรไม่ลงแล้วล่ะ...พี่มะเดี่ยวจ้องหน้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ นั่นไง โกรธ...กูโดนโกรธซะไหมล่ะ

“วิ่ง...มานี้ดิ้” พีชกวักมือเรียก ไอ้วิ่งก็เดินไปหางงๆ ส่วนความรักมันนั่งหน้าซื่อตาใสมองผมกับพี่มะเดี่ยวสลับกันไปมา

“คือ...ผมหิวน่ะ”

“แต่ก็โกหกปะ” คนโกหกต้องตกนรก แล้วนรกแม่งก็อยู่ตรงหน้าผมแล้วนี่ไง

“พี่โกรธอ๋อ ผมขอโทษ...” ยกมือไหว้ปลกๆ พีชกับวิ่งมันจะมองแล้วขำก็ช่างมัน

“พี่ไม่ชอบคนโกหก” ง่า...แล้วพี่จะให้ผมทำยังไงเล่าวะ ก็ผมอยากกินนี่นา ผมก็แค่กินเองนะเว้ยแค่กินอะ แค่กิน!

“อ่า...ผมขอโทษ”

“พูดเป็นคำเดียวเหรอ ตอนทำคิดปะว่าจะทำให้คนอื่นรู้สึกยังไง คิดว่าคำขอโทษมันทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้เหรอ...เห่อๆ สาม พี่จะบอกให้นะว่า...ไม่เลย เราเป็นคนที่แย่มาก เราคุยกับพี่แล้วแต่เราก็ยังทำ พี่ผิดหวังในตัวเราโคตรๆ” พี่มะเดี่ยวลุกขึ้น แกอุ้มความรักไปกับแกด้วย ซึ่งก็ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก...แค่อุ้มไปคว้ากระเป๋าแล้วออกจากฟลอเท่านั้นเอง

ฮื่ออออออ พี่มึงเล่นใหญ่รัชดาลัยมากอะ กูแค่กินลูกชิ้นอะพี่...แค่กินลูกชิ้นเท่านั้นไม่ได้ไปฆ่าใครที่ไหนตาย ผมมองตามความรักและพี่มะเดี่ยวไปจนลับสายตา เจ็บก็เจ็บ ระบมแม่งหมดไปทั้งร่าง ยังต้องมาปวดใจกับความเล่นใหญ่ของพี่ท่านอีก

นี่...พี่มึงไม่ใช่แฟนกูนะโว้ย!!

“อ่าว...โกรธจริงจังเลย” พีชเอ่ยขึ้นลอยๆ แต่วิ่งนี่หน้าจ๋อยสนิท

“กูลืมวะ...โทษที พี่เขาไม่โกรธมึงนานหรอก กูไม่เห็นพี่มะเดี่ยวโกรธใครเท่าไหร่ ห้องอยู่ตรงข้ามกันเองด้วย ไปง้อหน่อยเดี๋ยวก็หาย” มึงพูดง่ายอะวิ่ง แต่กูดิ...กูจะง้อพี่เขายังไง ไม่ได้สนิทชิดเชื้อขนาดที่รู้ว่าพี่มันชอบอะไรไม่ชอบอะไร จะซื้อของไปเซ่นไหว้ให้หายโกรธก็ไม่ได้...ที่สำคัญ พี่มึงเอาความรักของกูไป ฮรึก...เดอะสามอยากร้องไห้ เอะอะพรากหมูกูไปทุกทีเลยไอ้พี่เลว

“มึงต้องรับผิดชอบ มึงต้องไปง้อพี่เขากับกู” ผมชี้หน้าไอ้วิ่ง เพราะมันแหละหลุดพูดออกมา ไม่งั้นพี่มันจะรู้ได้ไง

“อ่าว เรื่องไร...กูไม่ได้เป็นคนแอบไปกินลูกชิ้นหมูนะมึง”

“แต่แปลกเนาะ แค่มึงกินลูกชิ้นหมูเอง ทำไมพี่มะเดี่ยวต้องโกรธอะไรขนาดนี้วะ เขาไม่ได้เป็นอะไรกับมึงหนิ” มึงพูดถูกพีช...พูดถูกใจกูที่สุด มาให้กูกอดและหอมแก้มที ตามหาคนเข้าใจผมมานานแล้ว

“เออวะ ก็จริงของมึงนะพีช เอางี้ ก่อนมึงง้อนะ…มึงก็ถามไปเลยว่าพี่จะมาโกรธทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกัน” วิ่งนั่งลงข้างๆ เอามือตบหลังเบาๆ

“โกรธที่กูโกหกอะสิ” ห่อเหี่ยวเหลือเกินชีวิต...ถ้าสนิทกัน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันมานานแล้วผมโกหก จะโกรธก็ไม่แปลก

“ก็ใช่อีก สรุป…ยังไงมึงก็ต้องขอโทษ” พีชพูดไม่ทุกข์ร้อน

ผมเออออไปตามนั้น จากนั้นก็ไม่มีอารมณ์จะซ้อมเต้นต่อ ขอตัวพวกมันกลับห้องเลยก็แล้วกัน เดินไปเอากระเป๋าก็เจอถุงน้ำและเบอร์เกอร์ที่พี่มันซื้อมาให้ ผมถืออกมาจากฟลอด้วย โบกมือลาเพื่อนและคนอื่นๆ หน้าจ๋องสนิท ยิ้มทีนี่จืดชืดยิ่งกว่าต้มจืดในตลาดอีกอะบอกตามตรง

ผมเดินมาที่จอดรถจักรยาน กะว่าจะปั่นมันกลับคอนโด แล้วผมก็ได้พบกับอีกสิ่งที่พี่มะเดี่ยวได้ทำไว้ นั่นก็คือ...มันเอาจักรยานผมไปด้วย!!! แกล้งกันชัดๆ อะ นี่มันคือการแกล้งผมชัดๆ ต่อให้ที่นี่ไม่ไกลจากคอนโดมากนักแต่ก็ไกลไง นี่แหละ ผมไม่อยากให้พี่แกโกรธหรือไม่พอใจผมก็เพราะพี่ท่านเป็นแบบนี้ไงล่ะ

แล้วพอจะค้นหาเงินนั่งรถกลับห้อง ผมก็เจอเซอร์ไพร์สชิ้นที่สาม ฮื่ออออออ กระเป๋าตังค์กูพี่มึงเอาไปตอนไหนวะ! ผมเห็นพี่มันยุ่มย่ามกับตรงที่เก็บกระเป๋าแต่คิดว่ารื้อเอากระเป๋าตัวเองไง เพราะตรงนั้นมันก็มีหลายใบที่ถมๆ กันเอาไว้อะ

แต่...ไม่เป็นไร เรามีเพื่อน ยืมเงินเพื่อนกลับบ้านก็ได้ ผมตัดสินใจกลับไปที่ฟลอเพื่อจะไปขอยืมเงินไอ้วิ่งหรือไม่ก็ไอ้พีช ปรากฏว่า พวกมันก็ไม่มีเงินแล้วเหมือนกัน ซื้อของกินหมดแล้ว หอพวกมันอยู่ใกล้ๆ เหมือนผมนี่แหละ เลยไม่จำเป็นต้องพกเงินเยอะ แต่ไม่รู้สิ...ผมว่าพวกมันโกหกผมอะ

“มึงเดินกลับเอาก็ได้ เดินๆ ไปเดี๋ยวก็เจอสิ่งที่ตามหาเองแหละ” มึงพูดแปลกๆ อะพีช...สิ่งที่กูตามหากลับห้องไปแล้ว

“เออๆ” เดินก็เดิน พี่มันต้องการแบบนี้แน่นอน ไม่งั้นไม่เอาจักรยานและกระเป๋าเงินผมไปหรอก

ได้...ในเมื่ออยากให้ผมทำผมก็ทำ ผมตัดสินใจเดินออกมาจากฟลอ มุ่งตรงไปที่ถนน จริงๆ มีป้ายรถเมล์และก็มีรถสองแถววิ่งผ่านเยอะอยู่ ที่ไม่อยู่คือเงินครับ...ไม่มีเงินจ่าย ผมหันกลับไปมองที่ฟลอเล็กน้อย ตงิดใจว่าเพื่อนทั้งสองของผมมันต้องโกหกแน่ๆ

มีอะไรอยู่ในกอไผ่ใช่ไหมนะ...

“อะไรนะ...ความรักสมน้ำหน้าผู้ชายคนนั้นเหรอ ไม่เอาหน่า ไม่ดี เราอย่าไปสมน้ำหน้าเขาเลย เราต้องทับถมเขาต่างหากล่ะความรัก” เดินไปได้สักพัก ผ่านซอยเปลี่ยวใกล้ห้างมาปุ้บ เสียงทุ้มคุ้นหูก็ดังออกมาปั้บ...

ชัดเลย...สิ่งที่กูตามหา

“พี่แกล้งผม” ผมหยุด พี่เขาก็หยุดจักรยาน ความรักอยู่ในตะกร้าหน้ารถที่ประจำของมัน

“ไหนใครแกล้งสาม ไม่มีเลยนะ...พี่ไม่เห็นใครแกล้งสามเลย” พี่มึงก็ส่องกระจกสิ พี่มึงจะได้เห็นไงว่าคนที่แกล้งผมมันคือใคร

“ถ้าผมเดินกลับ พี่จะหายโกรธผมไหมครับ” แต่ต่อให้รู้ว่าเขาแกล้ง ผมก็ยังจะทำตามพี่เขาอยู่ดี ก็ผม...ไม่อยากให้พี่มะเดี่ยวโกรธนี่หว่า โกรธนานๆ บางทีการแกล้งผมอาจจะรุนแรงกว่านี้ก็ได้

“นั่นแหละสิ่งที่พี่ต้องการ” พี่มะเดี่ยวยักคิ้วใส่แบบท้าทาย ไม่ต้องท้าหรอก...ไอ้นี่ไม่กล้าหืออยู่แล้วเหอะ

“ครับ...” หันหลังกลับไปยังทางคอนโดหลังจากหันกลับมาคุยกับพี่มะเดี่ยว

ขากูลากแน่ๆ....ขึ้นห้องได้นี่กูจะไม่เดิน กูจะคลานเข้าห้องอาบน้ำแล้วลากตัวเองมาบนเตียง แค่นึกก็เห็นสภาพตัวเองแล้วอะ มันน่าอนาถใจอย่าบอกใครเลยนะครับ ด้วยความที่ซ้อมก็เยอะ เต้นทีก็เจ็บตัว ยังต้องมาเดินลากขาอีก...ผมไม่อยากนึกถึงพรุ่งนี้เช้าเลยจริงๆ

พี่มะเดี่ยวปั่นจักรยาอยู่เยื้องไปด้านหลัง ผมอยู่ด้านในของทางเท้าแต่พี่เขาอยู่ด้านนอก รถวิ่งผ่านไปคันแล้วคันเล่า หันไปมองก็เจอเขามองอยู่ ผมเก้ๆ กังๆ ทำตัวไม่ถูก เลยต้องเดินก้มหน้าก้มตาต่อไป อึดใจเดียวเว้ยสาม...ไม่นานเราก็จะถึงห้องของเราแล้วเราก็จะได้พักผ่อนเสียที

คิดแง่ดี…พี่เขาก็ไม่โกรธจนทิ้งผมไป เดี๋ยว…ไม่ได้ทิ้งความหมายเชิงนู้นนนนน นะ แค่แบบ ไม่ทิ้งให้ผมเดินคนเดียวอะ!

......100%......

ความรักไม่เข้าข้างสามฉันใด โชคก็ไม่เข้าข้างสามฉันนั้น...ฮ่าๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไปโกรธเค้า บังคับเค้า  เอาหมูเค้าไป เป้นผัวเค้าอ่อ????   :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
วงวารสาม ฮ่าๆ พยายามเข้านะ :sad4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
นี่คือพี่มะเดี่ยวจีบน้องอยู่?
ถ้าใช่คงต้องถาม... ทำได้ดีสุดแค่นี้เหรอ
ถ้าไม่ใช่... แล้วไปยุ่งอะไรกับเขา จะกินหมูจะกินอะไรก็เรื่องของเขาไหม

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
พี่มะเดี่ยวดาราใหญ่ เล่นใหญ่มากกกก 5555555

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
แกล้งเอาจักรยาน กระเป๋าตังค์ไปโดยไม่ถามเจ้าตัวเลยถึงจะรอน้องก็เถอะ  :mew5:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 16 [100%]

เดินไปสักพัก จากที่พี่มะเดี่ยวปั่นจักรยานตามอยู่ด้านหลังก็เคลื่อนมาด้านข้าง ขี่ขนาบกันไป ส่วนความรัก เจ้านี้สบายที่สุดของที่สุด สองเท้าหน้าเกาะอยู่ขอบตะกร้า เงยหน้ารับลม หลับตาพริ้ม ฟินไปเลย

สลับที่กับป๊าไหมความรัก...ป๊าอยากฟินแบบนั้นบ้างอ่า

พี่มะเดี่ยวคอยหหันมามองอยู่บ่อยๆ เราไม่ได้พูดอะไรกันเลย ผมเอาแต่เดินก้มหน้าก้มตา อยากให้ถึงห้องไวๆ เพราะเหนื่อยแล้วก็เพลียมากจริงๆ โหมเต้นมาตั้งแต่กี่โมง แล้วนี่กี่โมงแล้ว ร่างกายต้องการการพักผ่อนอยากมากมายมหาศาล นี่ถ้าเร่งฝีเท้าไหวผมก็จะเร่ง อยากอาบน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจ จากนั้นกินให้อิ่มแล้วนอนหลับปุ๋ย ตื่นอีกทีเช้าวันใหม่อันสดใส...

“หิวก็กินที่ซื้อให้สิ” ที่พูดแบบนี้เพราะทนเห็นสภาพเหมือนผักของผมไม่ไหวละใช่ไหมครับ

“อยากซ้อนพี่มากกว่า...” หันไปมองอ้อน เห็นใจผมเถอะ ขาลากหมดแล้วอ่า อีกตั้งหลายป้ายรถเมล์กว่าจะถึงคอนโด

“ไม่ครับ เดินไปเลย...โกหกพี่ดีนัก หลายครั้งแล้วด้วยนะ นิสัยไม่ดีเลยอะ” เบะปากแป๊บ ผมไม่ได้ตั้งใจจะโกหกนะ...แต่ให้ทำไง โกหกไปแล้วก็ต้องรับผลแห่งการกระทำ

พี่มะเดี่ยวไม่สนหน้าตาน่าสงสารของผม เขาหันไปตั้งใจปั่นจักรยานพลางฮัมเพลงสบายใจ ดูสิ ทั้งคนทั้งหมู มีความสุขกันจนออกนอกหน้านอกตา เห็นแล้วความอิจฉาพุ่งปี๊ด ตาร้อนผะผ่าว ไม่ได้จะร้องไห้ แต่ไฟกำลังจะลุกท่วมดวงตาทั้งสองข้าง...ก็ถ้ามันเป็นไปได้อะนะ

เสียงเพลงเบาๆ กับสายลมเย็นๆ ไม่ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาได้ เริ่มเห็นคอนโดแวมๆ แล้วแต่ก็เริ่มหิวจัดจนไม่มีแรงแล้ว ผมจำต้องล้วงมือเอาแฮมเบอร์เกอร์ที่พี่มะเดี่ยวซื้อมาให้ออกมากิน แกะๆ แล้วงับ...สัตว์ ปลา!

น้ำตาจะไหล...เนื้อปลาเน้นๆ ของเขาดีมีคุณภาพ แต่ผมรู้สึกถึงความคาวหน่อยๆ ครีมซอสเปรี๊ยวๆ หวานๆ ไม่ช่วยให้รสชาติมันดีขึ้นเท่าไหร่ พี่มะเดี่ยวจ้องมองดูปฏิกิริยาของผมอยู่ไม่ห่าง แหงสิ ปั่นขนาบข้างอยู่นี่หนินา หันไปมองหน้าแก...อ้อนวอนทางสายตาหน่อยๆ

“พี่กินไหมครับ” ช่วยกูกินที ไม่ชอบปลา...มันคาว

“ไม่ครับ พี่ซื้อมาให้เราเลยนะ กินให้หมดเลย อร่อยมาก” อร่อยของพี่คนเดียวสิวะ คนไม่ชอบปลาก็คือไม่ชอบอะพี่

“ความรักกินเปล่า” พี่ไม่ช่วยไม่เป็นไร ความรักช่วยผมได้แน่ๆ มันได้กลิ่นหอมก็ยื่นจมูกฟุดฟิด แต่พี่มะเดี่ยวกลับปัดมือผมออกจากวามรัก

“ห้ามครับ ให้ความรักกินแต่ผักผลไม้พอ” เศร้าซ้ำเศร้า

“ครับ” ก็รู้ว่าหมูเป็นสัตว์กินพืช แต่...มันกินเนื้อได้นะ ไม่ใช่กระต่ายที่จะกินพวกเนื้อไม่ได้อะ อีกอย่าง ปลาย่อยง่าย ไม่มีผลกระทบต่อระบบย่อยอาหารของพวกมันหรอก

เถียงได้แค่ในใจ...ใครเล่าจะเข้าใจความรู้สึกของผม มองแฮมเบอร์เกอร์ปลาอีกครั้ง น่าเศร้า กินก็ได้ ขืนปาทิ้งตอนนี้พี่มะเดี่ยวแดกหัวกูแน่นอน ไม่ต้องให้หมอลักษณ์มาฟันธงผมก็รู้อนาคต กัดคำใหญ่ๆ มันจะได้หมดเร็วๆ จากนั้นรีบเอาน้ำที่พี่เขาซื้อมาให้เปิดดื่ม...เจอน้ำผักเข้าไปอีก โถ...ชีวิตเดอะสาม ไม่เชิงว่ากินไม่ได้ แต่ไม่ค่อยชอบน้ำผักเท่าไหร่อะ มันเหม็นเขียวหน่อยๆ เนาะ อ่อย...

“อร่อยไหม...” ยังมีหน้ามาถาม

“ไม่ครับ ผมไม่ชอบปลา...ไม่ชอบน้ำผักด้วย” พูดเสียงอ่อย เชื่อว่าพวกนี้พี่มะเดี่ยวชอบ ซึ่งมันสวนทางกับผมไง

“แต่พี่ชอบนะ อร่อยจะตาย”

“ครับ” อยากบอกว่าพี่ชอบก็เรื่องพี่ พี่ไม่ควรมายัดเยียดสิ่งที่ตัวเองให้คนอื่นที่ไม่ชอบ แต่ก็ไม่กล้าพูด...ไม่รู้ทำไม กลัวพี่เขาโกรธมั้ง หรือกลัวพี่เขาจะว่า ทั้งที่หวังดีซื้อของกินไว้ให้ แต่กลับไปว่าเขาแบบนั้นเงี้ย

ประมาณสิบนาทีต่อมาเราก็มาถึงคอนโด พี่มะเดี่ยวให้ผมไปจอดจักรยานพร้อมกับเขา ความรักอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงนั้น ส่วนผมถือกระเป๋าสองใบ หน้าที่เบ๊ดีๆ นี่เอง พี่มะเดี่ยวเดินขึ้นลิฟต์สีหน้าลั้นลามีความสุข ต่างจากผมที่มีความทุกข์หน่อยๆ ไอ้แฮมเบอร์เกอร์นั่นมันก็ทำให้มีแรงขึ้นมาหน่อยหรอกนะ แต่รสชาติมันไม่ถูกปาก มันเลยทำให้ผมรู้สึกไม่อิ่มเอมอะ ร่างกายอ่อนล้าไปหมด เข้ามาในลิฟต์ได้ผมนี่ขอนั่งพื้นเลยอะ

“เหนื่อยมากเลยเหรอไง” พยักหน้ารัวๆ

“มากครับ”

“อ่อนจริงๆ ฝึกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น ร่างกายยังไม่ชิน” มือหนาลูบหัวผมเบาๆ ทั้งที่ผมนั่งอยู่ที่พื้นเนี่ยแหละ

“ครับ”

ประตูลิฟต์เปิดชั้นที่เราอาศัย ผมฮึ้ด งัดเอาเรี่ยวแรงที่ตัวเองมีขึ้นมาพุ่งไปที่หน้าห้อง ลืมความรักของตัวเองไปเสียสนิท คือรีบมาก...อยากอาบน้ำ อยากนอนแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ ตอนนี้ ทว่าถึงเปิดประตูได้ ผมก็ยังต้องรอพี่มะเดี่ยวที่เดินอย่างอ้อยอิ่งอยู่ดี กระเป๋าเขาอยู่กับผม และความรักผมอยู่กับเขา แล้วพอเห็นเรารอนะ ก็ยิ่งเดินช้า เดินไป เล่นกับหมูไป โอ้ยยยยย พี่เอ้ย เดินเร็วๆ หน่อยได้บ่หนิ

“พี่คร้าบ...ไวหน่อย”

“พี่เหนื่อยอะ เลยอยากเดินช้าๆ” หรา…กูสิเหนื่อย เหนื่อยมาก เหนื่อยสายตัวแทบขาด

จากประตูลิฟต์มาถึงห้องเราทั้งคู่มันยาวแค่สามร้อยเมตร...มั้ง คำนวณจากสายตาก็ราวๆ นี้แหละ แต่พี่ท่านเหมือนกินลมชมหวิว แม่งไม่มีอะไรให้ชมทั้งนั้นแหละ นอกจากประตูห้องที่เรียงรายกันอยู่สองข้างทางแคบๆ เนี่ย ผมหนีเข้าไปอาบน้ำก่อนได้ไหม เชื่อว่าออกมาคงพอดีกับท่านพี่เดินมาถึงตรงนี้อะ ส่วนกระเป๋านี่วางไว้หน้าห้อง ไม่หายหรอก มีแค่เราสองคนตอนนี้

คิดไปต่างๆ นาๆ ในที่สุดครับในที่สุด...พี่มะเดี่ยวก็มาถึงหน้าห้อง พี่เขาวางความรักลง โบกมือลาความรักเพื่อให้มันเดินกลับมาหาผม ส่วนผมยื่นกระเป๋าให้พี่เขาจะได้หนีเข้าห้องตัวเอง ทว่า...ไม่มีอะไรง่ายเลยสำหรับเดอะสามคนนี้ ไอ้ความรักมันไม่ยอมเดินมาหาผม กลับงับชายกางเกงวอร์มของพี่มะเดี่ยวแล้วลากมาทางผมเสียอย่างนั้น...

“เอ่อ...ไอ้ความรัก เขาไม่ใช่ป๊ามึงนะเว้ย” ผมทรุดลงไปดึง แต่ความรักไม่ยอมคายขากางเกงครั้นจะใส่แรงมากไปก็กลัวมันเจ็บ

“สงสัยความรักมันอยากได้พี่เป็นเจ้าของมันมากกว่าสามนะครับ” พี่มะเดี่ยวขำเบาๆ แต่ผมอยากร้องไห้...พี่อย่าพูดแบบนั้นสิครับ สามช้ำใจ

“อ่า...เจ็บจี๊ดเลยครับ” มือผมโดนพี่เขาปัดออก เพื่อจะได้อุ้มความรัก พอเป็นมือพี่มะเดี่ยวปุ้บ ความรักมันยอมคายขากางเกงปั้บ อยู่อ้อมแขนเขามันมีความสุขมากสินะ ชิ ความอิจฉาที่พุ่งสูงนี้คืออารายยยย

“ไปส่งที่ห้องเนาะ ปะ...สามเปิดประตู” อ่า...แม่ตบนะเนี่ยพาผู้ชายเข้าห้อง

ผมลังเลนิดหน่อยที่จะให้พี่มเดี่ยวเข้ามาในห้องตัวเอง ทั้งรกและสกปรกอย่างไม่น่าให้อภัย แต่พอมองหน้าตาที่รอคอยของความรักและพี่มะเดี่ยว ผมก็จำใจเปิดประตูให้ทั้งสองเข้ามาในห้องของตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าที่ยอมไปเนี่ย...ยอมเพราะคนหรือหมูกันแน่นะ

“โห...ห้องรกไปปะเนี่ย หัดเก็บข้าวของบ้างนะน้อง อี๋ กางเกงใน” ว๊ากกกกก อย่าเอาตีนไปเกี่ยวมันขึ้นมาเซ่! เดอะสามรีบพุ่งตัวไปเอากางเกงในจากเท้าของพี่มะเดี่ยว แสงก็แสงเถอะ…เดอะสามเร็วกว่าอย่างเทียบไม่ติด!!

“แฮ่ๆ...อยู่คนเดียวก็งี้แหละครับ ชายโสดไง ชายโสด” ยิ้มเข้าไว้…เหงื่อแตกทั้งหน้าก็ยิ้ม

“เหรอ พี่ก็ชายโสดนะ แต่ห้องพี่สะอาดกว่าห้องสามอีก จริงๆ เราแค่ขี้เกียจเท่านั้นแหละ หัดเก็บจัดห้องให้ดีๆ บ้าง สกปรกเชื้อโรคเยอะ”

“คร้าบๆ” บ่นเป็นแม่คนที่สองเลยครับ อยากบอกแบบนี้แต่กลัวโดนเตะเปรี๊ยงติดข้างฝา

“ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวดูความรักให้”

“คือ...จริงๆ มันอาบพร้อมผม” พี่มะเดี่ยวเดินไปนั่งที่โซฟา เอาความรักวางบนตัก

“งั้นเดี๋ยวพี่อาบให้มันทีหลังเองก็ได้” ดูท่าจะยังอาลัยอาวรณ์กันอยู่

“เอางั้นก็ได้” งั้นผมไปอาบน้ำดีกว่า

ผมเข้าไปเอาเสื้อผ้าออกมาจากห้องนอน แล้วเดินมาอาบน้ำ ซึ่งห้องน้ำมันอยู่นอกห้องนอนน่ะครับ พี่มะเดี่ยวกำลังลูบหัวความรัก อีกมือก็เลื่อนมือถือ จิ้มๆ พิมพ์ๆ อะไรอยู่ไม่รู้เขา มองเสี้ยวหน้าด้านข้างยังหล่ออะ คนอะไรดูดีไปหมด ความรักมันพยายามจะเสือกดูว่าพี่เขาทำอะไรด้วยการชะโงกคอสั้นๆ ของตัวเองขึ้น น่ารักดีเหมือนกันแหะ

จัดการอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยก็ออกมานั่งเล่นอยู่ใกล้กับพี่มะเดี่ยว คือมันมีโซฟายาวแค่ตัวเดียวเองไงห้องผม แล้วตรงหน้าก็เป็นเกมคอนโซล ปกติผมมักเล่นมันก่อนนอน แต่วันนี้เห็นทีจะเล่นไม่ไหว ง่วงเกินบรรยายมาก พี่มะเดี่ยวก็ไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหนเลย เขายังจิ้มหน้าจอมือถืออย่างตั้งใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำอะไร แต่ตอนนี้นะ...หนังตาของผมมันฝืนต่อไม่ไหวแล้วอ่า

หันไปอีกที...หลับซะงั้น

แล้วจะอาบน้ำความรักยังไง ข้าวของเก็บไว้ไหนจะรู้ไหมเนี่ย มะเดี่ยวมองสามนั่งหลับ คอพับ ตัวอ่อนอยู่ใกล้แค่เอื้อม ท่าทางจะเพลียจัดมากจริงๆ นอนอ้าปากค้างเชียว จะว่าน่าเกลียดมันก็น่าเกลียดอะ แต่ในความน่าเกลียดมันมีความน่ารักน่าเอ็นดู

จำได้ว่าเจอครั้งแรกก็ประทับใจในหน้าตาเด็กคนนี้อยู่หรอกนะ ถ้าไม่ติดว่ามาขอความรักโต้งๆ คิดว่าเกย์อดอยากมาจากไหนเสียอีก เลยด่าซะกะให้เสียหมาไปข้าง ไหนจะมีหมูหลงเข้ามาในห้องสร้างความปั่นป่วนให้เขาอีก อารามโมโหเลยไม่ได้ยับยั้งช่างใจ ฟังที่อีกฝ่ายจะพูด

นึกแล้วก็ตลกดี...

แล้วรู้ทั้งรู้นะว่าตัวเองผิดที่ไปด่าเขาแบบนั้น แต่มะเดี่ยวก็ไม่คิดจะขอโทษ เขาไม่ได้คิดอะไรเลยมากกว่านอกจากเป็นห่วงหมูตัวน้อย สามเล่นพูดว่าจะกินหมูตัวเอง เขาเลยเป็นห่วงอะสิ

ด้วยความที่ตอนเด็กๆ มีบ้านอยู่ใกล้โรงเชือดหมู มะเดี่ยวกินหมูเป็นปกติมาตั้งแต่เด็กจนมารู้ว่าเสียงร้องที่ตัวเองได้ยินบ่อยๆ มันคือเสียงหมูที่ตัวเองกิน ตอนที่รู้ความจริงมะเดี่ยวร้องไห้ สงสารหมูที่ตายแล้วกลายมาเป็นอาหารให้ตนเอง แม่กับพ่ออธิบายยังไงมะเดี่ยวก็ไม่ฟัง เขาเชื่อว่าหมูที่โดนเชือดเหล่านั้นคือหมูที่ตัวเองกินอยู่ทุกมื้อ เขาไม่กินมันอีกเลย และแทบจะไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่ด้วยซ้ำ

พอมาเจอสามที่หมายมาดจ้องจะกินหมูที่ตัวเองเลี้ยง...เขาเลยเป็นห่วงมาก เคยคิดขโมยหมูมาจากสาม แต่ไม่มีโอกาส ทั้งงานและเวลาที่ว่างมาเจอสามไม่ตรงกันเลย กระทั่งวันที่สามปรากฏตัวอยู่กับเด็กรุ่นน้อง ความรักวิ่งตรงมาหาเขา...ตามติดมาด้วยเด็กนั่น

มะเดี่ยวไม่ลังเลที่จะแกล้งสามเลย เมื่อสามเอ่ยปากขอความรัก เขาก็เล่นให้เต็มที่เห็นหน้าเหมือนจะร้องไห้ของอีกฝ่ายแล้วรู้สึกชอบ...น้ำตาคลอๆ น่ารักเป็นบ้า มองไปมองมามะเดี่ยวก็ชักชอบเด็กคนนี้ แต่ความห่วงหมูตัวน้อยยังคงมีอยู่เต็มหัวใจ ลองพูดเกลี่ยกล่อมเด็กนี่ดู มันก็ไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนใจ มันพูดหน้าซื่อตาใสว่าสามารถฆ่าหมูที่ตัวเองเลี้ยงได้ง่ายๆ คิดดูเถอะ...ใจดำขนาดไหน เขาแทบจิตตกไปเลย ดีที่มารู้ความจริงจากเพื่อนของสาม ไม่งั้นวันนั้นคงเครียดมากแน่ๆ

เมื่อสามแกล้งเขา...มะเดี่ยวกต้องเอาคืน

ชอบ...เขาชอบเวลาสามไปไม่เป็น ชอบเห็นสามงอแงเหมือนเด็กๆ ชอบที่สามบ่นงุบงิบคนเดียว ชอบที่สามมองเขาเหมือนแค้นแต่ทำอะไรเขาไม่ได้...มะเดี่ยวสรุปรวมๆ กับตัวเองว่า เออ...เขาชอบสาม

“ป๊าแกหลับแล้วความรัก อาบน้ำแกยังไงล่ะทีนี้” มะเดี่ยวพูดกับเจ้าหมูบนตัก ทว่าตากลับจ้องเด็กข้างๆ ไม่ใช่ความรักที่มองป๊ามันอยู่

“ห้องน้ำมีอุปกรณ์อาบน้ำของแกไหม...” คราวนี้เขาหันมาสบตาความรัก ซึ่งมันก็พยักหน้าเหมือนเข้าใจว่าคนๆ นี้พูดอะไรกับมัน

ความรักโดดลงไปที่พื้น เดินดุ้กดิ้กเลี้ยวเข้าห้องน้ำไป มะเดี่ยวไม่อยากละสายตาจากสาม แต่ก็จำต้องเดินตามความรักไปเพื่ออาบน้ำให้กับมัน อย่างที่ได้บอกกับเจ้าตัวเอาไว้ว่าจะอาบน้ำหมูให้ เมื่อเข้าไปถึงก็เห็นแชมพูสำหรับสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่ของหมู แต่เป็นของหมา มะเดี่ยวมองหน้าความรักยิ้มๆ

“ป๊าแกเห็นแกเป็นหมาเหรอความรัก” ซึ่งความรักไม่ได้ตอบโต้อะไร มันพยายามจะงัดเอาชุดเทควันโด้ที่สามใส่ให้ออก

มะเดี่ยวจัดการถอดให้เรียบร้อย จากนั้นก็ค่อยๆ อาบน้ำให้หมูน้อย มีเสียงร้องของความรักและเสียงหัวเราะของมะเดี่ยวลอดออกมาเบาๆ ทว่าเจ้าของห้องตอนนี้ไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวอะไรเลย สามไถลตวลงนอนไปบนโซฟาโดยขาทั้งสองข้างยังอยู่บนพื้นพรม หลับสนิทอย่างที่ไม่เคยเป็น

ร่างสูงถือโอกาสเอาผ้าขนหนูของเจ้าของห้องมาเช็ดตัวให้หมูน้อย มันเชิดหน้าปล่อยให้มะเดี่ยวทำอย่างสบายอกสบายใจ ความรักชอบอาบน้ำ ชอบเล่นน้ำ และมันก็ชอบเวลาที่คนอื่นปฏิบัติตัวต่อมันดีๆ

โดยเฉพาะมะเดี่ยว…มันรับรู้ได้ว่าคนๆ นี้อ่อนโยน มันถึงชอบมะเดี่ยวมากกว่าสามที่ขู่กินมันอยู่ตลอด มันรักเจ้านายมัน แต่มันก็ชอบทำให้สามปวดหัวกับความเป็นมัน ต่างกับมะเดี่ยว อาจเพราะร่างสูงคนนี้ไม่ใช่เจ้าของ มันเลยยิ่งอ้อนเพื่อให้เขาอยู่ใกล้ๆ อยากออเซาะเพราะชอบเวลาที่เขาลูบหัวลูบตัว แถม...มันได้เห็นป๊ามันทำหน้าละห้อยเพราะมันด้วยแหละ

“แกนอนไหนล่ะ...” มะเดี่ยวเอ่ยถามความรักเมื่อเช็ดตัวมันแห้งเรียบร้อย ความรักวิ่งดุ้กๆ ไปหาสาม มันกระโดดขึ้นไปนอนซุกเจ้าของันด้วยความรัก

“นอนกับสามเหรอ แต่สามควรนอนในห้องนะว่าไหม” ร่างสูงตรงเข้าไปอุ้มความรักออกจากตัวเด็กหนุ่ม จากนั้นค่อยๆ ช้อนตัวหอมสบู่ของสามขึ้นมาในอ้อมแขนแข็งแรง

มะเดี่ยวทำอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้รบกวนสามที่หลับใหล เขารู้ดีว่าการซ้อมเต้นบีบอยครั้งแรกมันหนักหนาสาหัสแค่ไหน วันนี้สามเจ็บตัวเยอะ ในสายตาคนเต้นมานานมันเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่รู้สิ...เขาเป็นห่วงสาม เขาไม่ได้อยากให้สามเจ็บตัวมากขนาดนี้ แต่มันเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากเลือกจะเต้นบีบอย การเจ็บตัวนั้นเป็นของคู่กัน สามดูอ่อนแอ สามดูไม่ใช่คนออกกำลังกาย เพราะงั้นการให้สามได้ใช้แรงงานเยอะๆ มันจะทำให้เขาแข็งแรงขึ้น กำลังกายมาได้ด้วยการออกกำลัง เพราะงั้นต่อให้สงสารก็ต้องผลักดันให้สามอดทน

ร่างของเด็กหนุ่มถูกวางลงบนเตียง ความรักกระโดดขึ้นมาที่เตียงเตี้ยๆ มันค่อนข้างเตี้ยกว่าเตียงทั่วไปเพราะว่าสามอยากให้ความรักขึ้นลงมันได้ง่ายๆ ไม่ลำบากกับพุงพลุ้ยๆ มะเดี่ยวห่มผ้าให้ ปรับระดับแอร์ไม่เย็นจนเกินไป จากนั้นเขาก็หอมหัวความรักเบาๆ ทั้งที่ใจจริงก็อยากจะหอมเด็กคนนี้ด้วย ทว่าเขาไม่ได้ทำแบบนั้น...เขายังไม่ได้เป็นอะไรกันนี่นา

“ฝันดี...ทั้งสองตัวเลย” ถึงไม่ฝากสัมผัสนุ่มนิ่มของริมฝีปากไว้ แต่ก็ลูบหัวอีกฝ่ายแผ่วเบาก่อนจะเดินออกมาปิดไฟทั้งห้อง ล็อกให้ดีโดยไม่ลืมเอากระเป๋าตัวเองออกมาด้วย มะเดี่ยวเดินเข้าห้องตัวเองด้วยรอยยิ้ม คืนนี้...เขามีแรงทำงานเหลือเฟือเลยล่ะ...

.....100%.....

แม้กระทั่งตอนนี้ เดอะสามของเราก็ยังเป็นได้แค่ตัวประกอบฉากที่นอนหมดสภาพอยู่ตรงโซฟา~ พี่มะเดี่ยวควรจับน้องปล้ำนะคะ...ฮา มันน่าอะ มันน่านัก!

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
บางทีสามก็ยอมไปไง

ว่าแต่ความรักน่าฟัดอ่ะ เราขอยืมบ้างได้ไหมอ่าาาาา

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด