►เสี้ยวอสูร◄☾[จีนโบราณ]-บทส่งท้าย[28/03/61]-END!!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ►เสี้ยวอสูร◄☾[จีนโบราณ]-บทส่งท้าย[28/03/61]-END!!!  (อ่าน 94761 ครั้ง)

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
โอ้อยากปลอบจนเข้าไปจับหาง?  แมวน้อยเอ้ยยยยย

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
รอตอนต่อไปจ้า  :L2:

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ปุกปุย น่ารักดี ตกลงเทพอสูรฆ่ามารดของฉิงเฉิงจริง ๆ 55%

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
หมดกันความน่าเกรงขาม เป็นปุกปุย  :hao7:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ปุกปุย กับ เฉิงเฉิง  ฮ่าๆๆๆๆๆ น่ารักดี

ออฟไลน์ someone0243

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
ชอบมากก น่ารักตรงใจเว่อๆค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ junpa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
 :pig4:ชอบอะ พึ่งเข้ามาอ่าน สนุกมาก  :mew1:

ออฟไลน์ lucifermafis

  • ชีวิตไม่มีไรทำ นั่งชิปนั่งจิ้นไปวันๆ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ๊ยยยยยยยย ทำไมเอ็นดูน้องหนูเฉิงเฉิงยังไงไม่รู้  :hao5:

ออฟไลน์ ice.sp0211

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มีลูบคลำ อีกหน่อยคง..  .   
-.,-

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เอ... เรื่องท่านแม่ของซิ่นเฉิงนี่ยังไงหนอ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
เมื่อไหร่เฉิงเฉิงจะเป็นเด็กดี ดื้อมากๆก็ไม่ดีนะจ๊ะ สงสารแม่ทัพ  :hao5:

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เฉิงเฉิงเด็กดี ทำไมน่ารักอย่างนี้นะ!! ชอบละสิปุกปุยน่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
น่ารักอะไรแบบนี้นะ แมวป่าจะเชื่องขึ้นไหมน้ออ  :hao7:

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ชอบนิยายแนวนี้มาก
เฉิงเฉิงพยศมากเลย

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เฉิงเฉิง ดื้อด้านจริงๆ 5555

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Nov9th

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
บทที่ 8: เทพอสูร

การได้รับรู้ความเจ็บปวดของเทียนอี้ แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ปริปากพูด แต่ก็ทำให้ซิ่นเฉิงลดความพยศลงมาได้บ้าง ไม่ใช่ว่าอยากจะญาติดีกับเจ้าของจวนที่อ้างตนว่าเป็นผู้ปกครองของตนนักหรอก เพียงแค่ไม่อยากจะตอกย้ำความเจ็บปวดของเจ้าสุนัขป่าตัวนั้นก็เท่านั้น ถึงเขาจะเป็นตัวร้ายกาจเพียงใด ทว่าก็หาได้ใจไม้ไส้ระกำ รังแกแม้กระทั่งคนมีปูมหลังหรอก

เป็นความคิดออกจะเข้าข้างตัวเองว่าตนเป็นคนดีของซิ่นเฉิง ถึงจะชวนให้ดูโง่งมอยู่บ้าง แต่นั่นก็นับว่าเป็นเรื่องดีสำหรับชีวิตอื่นๆ ในจวนของแม่ทัพใหญ่เทียนอี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพ่อบ้านเหลียง เพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้า เขาจะต้องเตรียมการงานใหญ่ที่กำลังจะมาถึง

มันคือเทศกาลไหว้พระจันทร์…

ทุกหนึ่งปีจะมาบรรจบหนึ่งครั้ง นับว่าเป็นวันสำคัญอย่างยิ่งของเหล่าเทพอสูรที่พากันตั้งตารอคอยเพื่อที่จะได้สัมผัสกับความเป็นเทพดังเดิม เหล่ามนุษย์ในแคว้นเฟิงฝูเองก็รู้ดีว่าวันนั้นเป็นที่น่าเริงใจเพียงใด เว้นก็แต่ซิ่นเฉิงที่ไม่เคยรู้มาก่อน และก็หาได้สนใจด้วย เขารู้เพียงแค่ว่าพ่อบ้านเหลียงหัวหมุนมากกว่าปกติเป็นพิเศษ กระนั้นสิ่งที่เขาสนใจกลับเป็นการเฝ้าดูบรรดาเทพอสูรในจวนเดินไปมาในยามวิกาล

เพื่อที่จะดูร่างที่แท้จริงยามต้องแสงจันทร์... ซิ่นเฉิงจึงลักลอบออกจากเรือนนอนคนรับใช้มาเฝ้าดูเหล่าเทพอสูรอยู่เป็นนิจ

ทว่า... ไม่มีเทพอสูรตนใดเลยที่สัมผัสกับแสงจันทร์สาดส่องแล้วจะคืนร่างเป็นเทพดังเดิมนอกจากเทียนอี้ คืนนี้ก็เช่นกัน เขาเฝ้าดูทหารยามที่ผลัดเปลี่ยนเวรบนกิ่งต้นท้อแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้ว

ไม่เปลี่ยนร่าง... เพราะอะไรกัน?

ความสงสัยเกาะกุมจิตใจ ก่อนที่จะสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงแหบห้าวดังขึ้นจากทางด้านหลัง

“ทำอะไรของเจ้าอยู่”

ซิ่นเฉิงหันไปมองยังต้นเสียงที่แหงนหน้ามองอยู่ทางโคนต้นท้อด้วยอารามตกใจ พอเห็นว่าเป็นพ่อบ้านเหลียง เขาก็มุ่ยหน้า

“เจ้าก็ไม่เปลี่ยน”

“ไม่เปลี่ยนอันใด” หากไม่เคยเห็นจระเข้เลิกคิ้วสูงมาก่อน คงจะได้เห็นในครานี้

“ไม่มีอะไร” ซิ่นเฉิงปฏิเสธ

“ถ้าไม่มีอะไรก็กลับเรือนนอนของเจ้าไปเสีย ประเดี๋ยวแขกของท่านแม่ทัพมาเห็นเข้าจะไม่เจริญตา”

พ่อบ้านเหลียงว่าเสียงเรียบ เขาหมายความอย่างนั้นจริงๆ ด้วยสารรูปของซิ่นเฉิงที่ดูไร้อารยะแล้ว บรรดาอดีตเทพคงจะไม่ปลาบปลื้มสักเท่าไรนัก ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว ซิ่นเฉิงก็หาได้ยอมแต่งกายเฉกเช่นมนุษย์คนอื่นๆ ในจวน ยังคงสวมใส่เสื้อผ้าชนเผ่า และสวมเครื่องประดับเงินพระจันทร์เสี้ยวดังเดิม มันสร้างความรำคาญใจให้กับพ่อบ้านเหลียงพอสมควร ไหนจะเสียงดังกรุ๋งกริ๋งที่ดังเวลาซิ่นเฉิงเคลื่อนไหว ไหนจะลักษณะนิสัยประดุจแมวป่าที่ซุกซนและชอบสงสัยไปเรื่อย เขาล่ะอยากจะจับมนุษย์หนุ่มผู้นี้มาอบรมบ่มนิสัยใหม่เสียจริงๆ

ขณะเดียวกัน ซิ่นเฉิงก็ไม่ชอบใจคำพูดของพ่อบ้านจระเข้ผู้นี้เท่าไร

“ไม่เจริญตาเช่นนั้นหรือ? เจ้าต่างหากที่ไม่เจริญตา เจ้าจระเข้เฒ่า”

พ่อบ้านเหลียงแทบจะอ้าปากงับเจ้าคนหัวดื้อ แต่ก็ต้องระงับอารมณ์ของตนไว้ด้วยพึงคิดได้ว่าอีกประเดี๋ยว แขกของท่านแม่ทัพจะออกมาแล้ว

“กลับไปเสีย ข้าไม่อยากเสียเวลากับเจ้า ยังมีเรื่องที่จะต้องทำอีกมาก”

พูดจบก็เดินจากไป ปล่อยให้ซิ่นเฉิงเกาะต้นท้อมองตามอยู่อย่างนั้น

สักวันข้าจะถลกหนังเจ้ามาสวม เจ้าจระเข้...

ได้แต่ค่อนขอดอยู่ในใจ สายตาจับจ้องไปยังแผ่นหลังของพ่อบ้านเหลียงที่เดินตรงไปยังห้องรับรองของจวนใหญ่ ขณะที่แขกคนสำคัญก้าวออกมาจากห้องนั้นพร้อมกับเทียนอี้

แขก...เป็นหมาจิ้งจอกขนสีน้ำตาลแดง

ซิ่นเฉิงเกือบจะไม่ได้สนใจอยู่แล้ว เพราะเขาเองก็เห็นแขกของเทียนอี้แวะเวียนมาหาบ่อยๆ ยิ่งในช่วงใกล้เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ก็ยิ่งมีใครต่อใครแวะเวียนมาหาไม่ขาดสายทั้งกลางวันและกลางคืน ได้ยินมาว่าเทพอสูรพวกนั้นมาหารือเรื่องการจัดงานเทศกาล

เรื่องเทศกาลอะไรนั่น ซิ่นเฉิงหาได้สนใจเพราะเผ่าของเขาหาได้มีการเฉลิมฉลองเช่นนี้ แต่เมื่อตัดสินใจจะกลับไปยังเรือนนอน เขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเทียนอี้ที่เดินลงมายังทางเดินปูแผ่นหิน ร่างกายใหญ่โตของสุนัขป่าครึ่งมนุษย์ก็แปรเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มซึ่งเป็นร่างที่แท้จริงของเขายามเป็นเทพ ภาพนั้นช่างชวนให้ซิ่นเฉิงตกอยู่ในภวังค์นัก

เขายังรูปงามปานล่มเมืองไม่เสื่อมคลาย... เป็นภาพที่ซิ่นเฉิงปรารถนาจะยลเสียเหลือเกิน

แต่แล้วก็ต้องหลุดออกจากภวังค์นั้นเมื่อเห็นว่าเทพอสูรในร่างของสุนัขจิ้งจอกที่เดินตามหลังมาก็แปรเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มเช่นกันยามต้องแสงจันทร์

ชายหนุ่มผู้นั้น...มีเรือนผมหยักศกสีน้ำตาลแดง ดวงหน้าคร้ามได้รูป ค่อนไปทางเจ้าสำอาง รูปร่างสูงโปร่งแต่เล็กกว่าเทียนอี้อยู่สักนิด กระนั้นก็มีรูปโฉมที่งดงามไม่ต่างกัน

ขณะที่พ่อบ้านเหลียง...ต้องแสงจันทร์แล้วไม่กลับคืนร่างเดิม

ทำไมกัน?

ซิ่นเฉิงย่นคิ้วยู่ด้วยประหลาดใจ เทียนอี้จัดการส่งต่อแขกให้พ่อบ้านเหลียงล่ำลา ส่วนตนก็กลับเข้ามายังจวนใหญ่ดังเดิม หมายจะตรงไปยังห้องหนังสือ อ่านตำราอย่างเช่นทุกที ทว่าก็ต้องชะงักเสียก่อนเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเงาตะคุ่มบนต้นท้อในสวน เขาเห็นไม่ชัดหรอกว่าเป็นผู้ใด แต่กลิ่นทะเลทรายอันเป็นเอกลักษณ์นั้นก็บ่งบอกให้รู้ว่านั่นคือเจ้าแมวป่าแสนไม่เชื่องของเขา

“จะนั่งอยู่บนนั้นอีกนานไหม น้ำค้างลงแล้วนะเฉิงเฉิง”

เฉิงเฉิง...

ซิ่นเฉิงมุ่ยหน้า อย่ามาเรียกเขาประหนึ่งสัตว์เลี้ยงนะ!

“มันเรื่องของข้า” แล้วก็ยอกย้อนกลับไป

เทียนอี้มองนิ่งๆ แล้วก็เอ่ยออกมา “เจ้ามีสิ่งใดข้องใจอยู่หรือไร?”

ที่ถามแบบนี้เป็นเพราะอ่านสีหน้าของซิ่นเฉิงออก ส่วนอีกฝ่าย เมื่อถูกอ่านใจได้ก็ปฏิเสธ

“บอกแล้วอย่างไรว่าเรื่องของข้า!”

ได้ยินอย่างนั้น เทียนอี้ก็ไม่ใคร่ตอแย แม้ว่าเขาจะพอดูออกว่าซิ่นเฉิงข้องใจสิ่งใดอยู่ก็ตาม

“ข้าก็ไม่อยากยุ่งเรื่องของเจ้านักหรอก แต่เจ้าควรลงจากต้นท้อของข้าแล้วกลับเข้าเรือนนอนเสียที”

ออกปากสั่งไปอย่างนั้น ซิ่นเฉิงก็พ่นลมหายใจออกมาเต็มแรง จากนั้นก็ดื้อแพ่งด้วยการนั่งยองๆ นิ่งอยู่อย่างนั้น ทำเอาเทียนอี้ที่ก้าวขึ้นไปบนเรือน คืนร่างเป็นเทพอสูรดังเดิมแล้วต้องเดินลงมาจากเรือนใหญ่อีกครั้ง แสงจันทร์สาดกระทบ แปรเปลี่ยนร่างสูงใหญ่ให้กลับกลายเป็นร่างของเทพหนุ่ม ครั้นเดินเข้ามาใกล้ซิ่นเฉิงด้วยรูปลักษณ์นั้น ก็ทำเอาคนบนต้นท้อหยุดหายใจไปชั่วขณะ

ไม่ว่าจะเห็นกี่ครั้ง ความงามของเทพก็สร้างความตกตะลึงให้ซิ่นเฉิงทุกครั้งไป...

“จะต้องให้ข้าเอาเจ้าลงมาหรือไม่?”

เมื่อไปหยุดยืนอยู่ใต้ต้นท้อ เทียนอี้ก็ร้องถาม ภาพใบหน้าสมมาตรที่เงยมองอีกฝ่ายอยู่นั้น ทำให้ซิ่นเฉิงต้องกลืนน้ำลายเอื้อก

ดั่งกับต้องมนตร์สะกด... นึกย้อนถึงวันวานที่ได้สัมผัสใบหน้านั้นขึ้นมาอย่างเสียมิได้

ถ้าเป็นไปได้... เขาก็อยากจะสัมผัสอีกครั้ง

แต่ใครกันจะไปร้องขอเช่นนั้น หากได้สัมผัสอีก มีหวังเขาต้องตกอยู่ใต้อำนาจของเทียนอี้จริงๆ แน่ ด้วยรูปลักษณ์เช่นนั้น ไม่ยากนักหรอกที่จะสะกดมนุษย์ปุถุชนให้หลงใหล

ซิ่นเฉิงจึงตัดสินใจที่จะผละจากไป ทิ้งตัวลงมายืนบนพื้น เกือบจะใช้วิชาตัวเบาพุ่งหนีเข้าเรือนนอนอยู่แล้ว ทว่าในจังหวะที่ทิ้งตัวลงมา เครื่องประดับผมของซิ่นจินที่ประดับอยู่บนเปียก็ร่วงลงพื้นเสียก่อน ครั้นจะหันมาเก็บ เทียนอี้ก็ก้มลงเก็บให้แล้ว

“จะทิ้งไว้รึ?”

เห็นซิ่นเฉิงยึกยัก ไม่ยอมเดินเข้ามาเอาเครื่องประดับที่เขายื่นให้ตรงหน้า เทียนอี้ก็ร้องถาม

“ไม่ได้ทิ้ง” ซิ่นเฉิงว่าเสียงแข็ง

“หากไม่ได้ทิ้ง ก็เอาคืนไป” เทียนอี้ว่าพลางยกยิ้ม ดวงหน้าหล่อเหลานั้นยามมีรอยยิ้มประดับก็แทบทำให้ลืมหายใจไปเลยทีเดียว

กระนั้นซิ่นเฉิงก็ประคองสติได้ ก้าวเข้าหา หมายจะไปรับเครื่องประดับผมจากมืออีกฝ่าย ทว่าพอเข้าไปใกล้ ก็เป็นเทียนอี้ที่คว้าปอยผมเปียของซิ่นเฉิงไว้เสียอย่างนั้น

“ข้าติดให้ เจ้าติดเองคงจะไม่ถนัด มันถึงหลุดง่ายเช่นนี้”

จัดการประดับเครื่องประดับผมให้เป็นที่เรียบร้อยโดยหาได้ถามความสมัครใจของซิ่นเฉิงแต่อย่างใด ซิ่นเฉิงอ้าปากเตรียมจะบริภาษ ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อสายตามองเห็นใบหน้าของเทียนอี้ใกล้เพียงคืบ ลมหายใจอุ่นร้อนลอยปะทะใบหน้าเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ซิ่นเฉิงหยุดเคลื่อนไหวไปได้ทันที

ไม่ว่าจะมองอย่างไร เทียนอี้ก็ช่างงามนัก...

เจ้าแมวป่านึกถึงเมื่อครั้งที่เขากินสมุนไพรเจ็ดทิวา เจ็ดราตรีเข้าไป หากเขาได้ร่วมอภิรมย์กับเทียนอี้ในร่างนี้ มันจะดีขนาดไหนกัน เขาอยากรู้นัก

แต่แล้วก็ต้องเรียกสติให้กลับคืนเมื่อตระหนักได้ว่าเขาเป็นบุรุษเพศ ไม่ควรชมชอบกับการสัมผัสกับบุรุษด้วยกัน ต่อให้อีกฝ่ายมีรูปงามดั่งเทพเซียน เขาก็ไม่ควรจะหลงใหลไปเพราะสิ่งนี้

เมื่อรู้สึกว่าเทียนอี้เกี่ยวเครื่องประดับกับปอยผมเปียให้เสร็จสิ้นแล้ว ซิ่นเฉิงก็รีบผละออก ส่งสายตาขุ่นๆ ให้ทันทีทั้งที่ก่อนหน้ามีแววตาอ่อนลงแล้วแท้ๆ

“กลับเรือนนอนไปเสีย หมดเวลาซุกซนของเจ้าแล้ว” เทียนอี้ย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นซิ่นเฉิงทำท่าพยศ

“ไม่ต้องให้เจ้าบอก ข้าก็ไม่อยู่ต่อ”

ซิ่นเฉิงขู่ฟ่อ ก่อนจะหายจากบริเวณนั้นไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เทียนอี้มองตาม ยิ้มน้อยๆ ครู่หนึ่งและผละกลับไปยังเรือนใหญ่ ครั้นก้าวขึ้นไปยังระเบียงเรือน ร่างสง่างามก็แปรเปลี่ยนเป็นเทพอสูรดังเดิม ซิ่นเฉิงที่ทำท่าเหมือนจะหนีเข้าเรือนนอนคนรับใช้ในตอนแรกยังคงลอบมองอีกฝ่ายอยู่

กลับมาเป็นสัตว์หน้าขนเหมือนเดิมแล้ว...

เสียงระบายลมหายใจดังออกมาให้ได้ยินเล็กน้อย ออกจะเสียดายสักหน่อยที่ไม่ได้เห็นรูปโฉมนั้นอีก แต่ก็เอาเถิด เขาเคยลั่นวาจาไปแล้วนี่ว่าการมีขนปุกปุยนั่นก็ไม่ได้แย่ อย่างน้อย...มันก็นุ่มมือดียามเขาสัมผัสมัน ยิ่งในยามอย่างนั้น ขนของเทียนอี้ก็สร้างความรู้สึกดีเมื่อแนวขนลากผ่านผิวกาย...

ภาพของค่ำคืนที่เขาต้องสรรพคุณของยาปลุกกำหนัดฉายวาบขึ้นมาอีก ซิ่นเฉิงรู้สึกอุ่นร้อนที่ใบหน้าอย่างประหลาด ก่อนจะส่ายศีรษะ ก่นด่าตนเองที่คิดครุ่นไปเรื่องนั้น พลันรีบพาตัวเองกลับเข้าไปในเรือนนอน ขณะที่เทียนอี้ซึ่งเพิ่งเดินเข้าห้องหนังสือเมื่อครู่ลอบยิ้มออกมา

สนใจใคร่รู้ทุกวี่วันเช่นนี้ สักวันคงจะต้องมานั่งเล่าเรื่องที่ข้องใจให้ฟังเสียแล้วกระมัง...

เทียนอี้ตั้งตารอวันนั้นมาถึงเลยทีเดียว

 




เรื่องการต้องแสงจันทร์แล้วคืนร่างสู่ร่างเดิมของเทียนอี้และเทพอสูรสุนัขจิ้งจอกตนนั้นยังคงค้างคาใจของซิ่นเฉิง และเขาก็ไม่อาจทนเก็บความสงสัยได้ไหว จำต้องไปถามพ่อบ้านเหลียงขณะที่อีกฝ่ายกำลังยืนคุมคนรับใช้ให้ตกแต่งสวนอยู่

“มีเหตุอันใดจะพูดก็จงพูด มายืนจดๆ จ้องๆ ข้าก็ไม่ได้ประโยชน์อันใดขึ้นมา” พ่อบ้านเหลียงเป็นฝ่ายเปิดฉาก

ใช่... ซิ่นเฉิงตั้งใจจะถาม แต่ก็ไม่พูด กลับมายืนจ้องกดดันอีกฝ่ายจากทางด้านหลังอยู่นานสองนาน แม้พ่อบ้านเหลียงจะไม่ได้มีวิทยายุทธแก่กล้าเท่าบรรดาแม่ทัพ แต่ก็หาใช่ว่าจะไม่รับรู้ถึงรัศมีของซิ่นเฉิง

“ข้าสงสัยเรื่องของพวกเจ้า” เมื่ออีกฝ่ายเปิดโอกาส ซิ่นเฉิงก็ถามออกไป

“เรื่องของพวกข้า?” พ่อบ้านเหลียงหันมามอง สีหน้าจระเข้นั้นมีความสงสัย

“ข้าหมายถึงเทพอสูร” ซิ่นเฉิงขยายความ จากนั้นก็ถามต่อ “เหตุใดเจ้าถึงไม่กลับคืนร่างเดิมยามต้องแสงจันทร์ ไยมีเพียงเจ้าสุนัขป่ากับสุนัขจิ้งจอกนั่นที่แปรเปลี่ยน?”

พ่อบ้านเหลียงเข้าใจได้ทันทีว่าชายหนุ่มตรงหน้าหมายถึงผู้ใด ก่อนว่าเสียงขุ่น

“เจ้าสุนัขป่าที่เจ้าพูดถึงคือท่านแม่ทัพเทียนอี้ และเจ้าสุนัขจิ้งจอกก็คือรองแม่ทัพหมิงจู เจ้าควรเรียกให้ถูก”

จะแม่ทัพหรือรองแม่ทัพอะไร ซิ่นเฉิงก็ไม่สนหรอก เขาจะเรียกสุนัขเพราะทั้งคู่เป็นสุนัข แต่ก็ไม่เถียงอะไรด้วยต้องการคำตอบจากพ่อบ้านเหลียงมากกว่าจะมายืนต่อล้อต่อเถียงด้วย

“นั่นแหละ เหตุใดทั้งสองถึงเปลี่ยนร่าง แต่เจ้าไม่?”

“เพราะข้าเป็นเพียงเทพชั้นผู้น้อย” พ่อบ้านเหลียงไม่เห็นว่าจะต้องปิดบังถึงได้บอกไป แต่ดูเหมือนจะไม่ทำให้ซิ่นเฉิงเข้าใจเท่าไรนักด้วยใบหน้าของเขามีความไม่เข้าใจผุดพราย

“เทพชั้นผู้น้อย?”

“ใช่ เทพชั้นผู้น้อย จะมีเพียงเทพชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถกลับคืนร่างเดิมได้ยามต้องแสงจันทร์ เจ้าเคยได้ยินเรื่องพลังหยินหยางหรือไม่?”

ซิ่นเฉิงยืนนิ่ง ทำเอาพ่อบ้านเหลียงถอนหายใจออกมาอย่างระอา

คงจะไม่รู้สินะ...

“พลังหยินเปรียบเสมือนกับดวงอาทิตย์ มีฤทธิ์ทำให้คำสาปจากองค์เง็กเซียนอุบัติโชติช่วงดั่งแสงไฟ ยามแสงอาทิตย์สาดส่อง พวกข้าจะถูกสะกดเอาไว้ เมื่อราตรีกาลมาถึง พลังหยางซึ่งเป็นพลังจากดวงจันทร์จะช่วยบรรเทาคำสาปลง มันก็เหมือนกับที่เผ่าของเจ้าศรัทธาในพระจันทร์ว่ามีพลังช่วยบรรเทาความร้อนรุ่มในทะเลทราย และคงความร่มเย็นไว้เมื่อราตรีมาถึงนั่นล่ะ”

ซิ่นเฉิงพอจะเข้าใจแล้วว่าพ่อบ้านเหลียงต้องการจะหมายถึงอะไร เผ่าของเขาบูชาดวงจันทร์เปรียบดั่งเทพองค์หนึ่ง ดังนั้นเขาถึงได้มีเครื่องประดับเป็นรูปทรงพระจันทร์เสี้ยวอยู่มาก ไม่เว้นแม้แต่อาวุธที่เป็นดาบวงพระจันทร์เช่นกันด้วยเชื่อกันว่าอำนาจของดวงจันทร์จะนำพาชัยชนะมาสู่เหล่านักรบ

“สำหรับเหล่าเทพอสูรชั้นสูงที่มีตบะแก่กล้า แม้จะถูกสาปก็สามารถคืนสู่ร่างเดิมได้เมื่อแสงจันทร์สาดส่องช่วยลดทอนอิทธิฤทของคำสาป กระนั้นก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว ส่วนตัวข้าเป็นเพียงเทพชั้นผู้น้อย หาได้มีตบะแก่กล้า ไม่แปลกหากจะคงร่างนี้ไว้ชั่วนิรันดร์ เทพอสูรตนอื่นๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ทัพหรือกุนซือก็ล้วนคืนร่างเดิมได้ยามต้องแสงจันทร์เช่นกัน เจ้าคงได้เห็นแล้วกระมังแล้วว่าร่างเดิมของท่านแม่ทัพและรองแม่ทัพเป็นเช่นไร?”

ซิ่นเฉิงพยักหน้า ถ้าหากเขาไม่เห็น เขาจะมาถามให้มากความทำไมกัน

“แล้วเหตุใดตอนที่พวกเจ้ากลายเป็นเทพอสูร พวกเจ้าแต่ละคนถึงได้แปรเปลี่ยนเป็นสัตว์คนละชนิดกัน?”

สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่สงสัย ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในแคว้นเฟิงฝู แม้จะไม่ได้ออกไปเที่ยวเตร่ภายนอกจวน แต่ซิ่นเฉิงก็มั่นใจว่าเขาไม่เคยเห็นผู้ใดมีรูปลักษณ์เป็นสุนัขป่าเช่นเดียวกับเทียนอี้แม้แต่น้อย อย่างดีก็เป็นสุนัขจิ้งจอกอย่างที่เห็น

“นั่นก็เพราะอุปนิสัยสำคัญของเทพแต่ละองค์” พ่อบ้านเหลียงตอบ มองหน้าของซิ่นเฉิงที่รอคำอธิบายเพิ่มเติมนิ่ง ก่อนจะว่าออกมา “ท่านแม่ทัพเทียนอี้ เมื่อครั้งที่ยังเป็นเทพสวรรค์ เขาเป็นคนเด็ดเดี่ยวและซื่อสัตย์ อีกทั้งยังมีความเป็นผู้นำ เรียกได้ว่าเป็นที่โจษจันว่าเป็นแม่ทัพผู้เกรียงไกร รักพวกพ้อง ไม่เคยละเลยเหล่าเทพชั้นผู้น้อยแม้แต่ผู้เดียว เขาจึงกลายมาเป็นสุนัขป่าที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน ส่วนท่านแม่ทัพเจี้ยนสือ... เจ้าน่าจะรู้จัก เขาเป็นคนนำเจ้ากลับมาส่งคืน”

พูดถึงตรงนี้แล้วก็หยุดไป ซิ่นเฉิงย่นคิ้ว นึกถึงเทพอสูรที่มีสรีระผสมกับงูจงอางขึ้นมา

“...เขาเป็นท่านแม่ทัพใหญ่ของสวรรค์เช่นกัน เขาร้ายกาจ พิษสงมากมี และเด็ดขาด เมื่อเทพองค์ใดต้องโทษ เขาไม่เคยละเว้นใดๆ ให้ทั้งนั้น ไม่มีการอะลุ่มอล่วย อุปนิสัยต่างจากท่านแม่ทัพเทียนอี้โดยสิ้นเชิง นั่นจึงเป็นที่มา เขาถึงได้ชื่อว่าเป็นแม่ทัพดำคู่กับแม่ทัพขาวอย่างท่านแม่ทัพเทียนอี้”

ซิ่นเฉิงสรุปเอาเองได้ทันทีเลยว่าเจี้ยนสือผู้นั้นหาใช่คนที่น่าคบหาด้วยไม่ หากเป็นดั่งคำที่พ่อบ้านเหลียงพูด เจี้ยนสือก็คงเป็นอสรพิษร้าย

“แล้วเจ้าสุนัขจิ้งจอก...”

“รองแม่ทัพหมิงจู” พ่อบ้านเหลียงแก้คำพูดให้ถูกต้อง

“เออ นั่นแหละ แล้วเจ้านั่นไยถึงเป็นสุนัขจิ้งจอก” ซิ่นเฉิงว่าด้วยรำคาญ

พ่อบ้านเหลียงเองก็รำคาญ อีกทั้งยังระคายหู แต่ก็ยอมตอบออกไป

“เจ้าเล่ห์ มากเพทุบาย”

ซิ่นเฉิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ พลันจับจ้องยังคนตรงหน้า “แล้วเจ้าล่ะ เหตุใดจึงเป็นจระเข้ เลือดเย็น?”

พ่อบ้านเหลียงก็อยากจะตอบเช่นนี้เหมือนกัน ทว่าเขาไม่ได้เลือดเย็น แต่เป็นเพราะ...

“บ้องตันรสโอชากระมัง”

ซิ่นเฉิงถึงกับมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง ความเงียบเข้าเกาะกุมบรรยากาศรอบข้างของคนทั้งสองทันที ขณะที่ซิ่นเฉิงคิดในใจ

พูดบ้าอันใดของเจ้ากัน เจ้าจระเข้เฒ่า!

พ่อบ้านเหลียงนึกขันกับสีหน้าของซิ่นเฉิงอยู่ในใจ ก่อนจะยุติบทสนทนา

“หมดเรื่องจะถามข้าแล้ว ข้าคงต้องขอตัว ส่วนเจ้าก็ไปช่วยคนอื่นทำงานเสีย อย่ามัวเล่นซุกซน”

สิ้นเสียงก็ผละจากไป ทิ้งให้ซิ่นเฉิงบ่นพึมพำกับคำตอบสุดท้ายที่ค่อนข้างจะไร้ประโยชน์

บ้องตันรสโอชาเช่นนั้นหรือ? น่าขันตาย!

สำหรับซิ่นเฉิงแล้วอาจจะไม่น่าขบขัน แต่สำหรับคนที่แอบฟังทั้งคู่คุยกันอยู่นานอย่างเทียนอี้ มันช่างเป็นเรื่องชวนหัวมากทีเดียว ก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามาเมื่อพ่อบ้านเหลียงจากไปแล้ว

“ข้าเองก็อยากจะลิ้มรสเช่นกันว่ามันโอชาเพียงใด บ้องตันของพ่อบ้านเหลียงน่ะ”

ซิ่นเฉิงหันไปมองก็เห็นว่าเป็นเทพอสูรในร่างครึ่งสุนัขป่า วันนี้ดูเทียนอี้จะร่าเริงเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่นี้

“แท้จริงแล้ว ที่พ่อบ้านเหลียงมีร่างเทพอสูรเป็นจระเข้นั้นเป็นเพราะเมื่อครั้งยังเป็นเทพ พ่อบ้านเหลียงมีประสาทสัมผัสดี หยั่งรู้ความเป็นไปของดินฟ้าราวกับจระเข้”

“ลอบฟังเช่นนี้ ช่างไร้มารยาทนัก” ซิ่นเฉิงแค่นเสียงต่ำ อันที่จริงแล้ว เขาเสียหน้าที่เทียนอี้มาได้ยินเขาพูดคุยกับพ่อบ้านเหลียงแล้วมายืนอธิบายปาวๆ ทั้งที่เขาไม่ได้ขอมากกว่า

“ข้าแค่บังเอิญผ่านมาได้ยินเท่านั้น” เทียนอี้แก้ตัวอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะพูดขึ้นอีกเมื่อเห็นว่าซิ่นเฉิงทำท่าจะเดินจากไป “ข้าเอาของมาให้เจ้า”

 ซิ่นเฉิงถึงกับชะงัก หันมามองทันควัน “อะไร”

เทียนอี้ให้คำตอบด้วยการล้วงมือเข้าไปในสาบเสื้อแล้วหยิบเอาของบางอย่างออกมา มันเป็นเครื่องประดับเงินสำหรับประดับผม ซิ่นเฉิงเห็นก็รีบเอื้อมมือไปจับยังผมเปียของตนเองด้วยคิดว่าทำหล่นหายอีก ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อสัมผัสได้ว่ามันไม่ได้หายไปไหน ในเมื่อของเทียนอี้นั้นเป็นเครื่องประดับอีกชิ้นที่มีลักษณะเหมือนกันต่างหาก

“ข้าเห็นว่าเครื่องประดับผมของเจ้าเก่ามากแล้ว คงจะประดับผมได้ไม่ดีเท่าไรนัก จึงได้ไปเสาะหาชิ้นใหม่มาให้ ลวดลายไม่ต่างจากของเดิมของเจ้ามากนัก”

ใช่ ไม่ต่าง... มีลวดลาดพระจันทร์เสี้ยวเช่นเดียวกัน มองก็รู้ว่าเป็นเครื่องประดับจากเผ่าของซิ่นเฉิง จะต่างก็ตรงที่บริเวณส่วนปลาย...มีเขี้ยวของสุนัขป่าห้อยระย้าอยู่

“ไม่ใช่ของข้าหรอก ไม่ต้องห่วง” เทียนอี้ดักทางไว้อย่างรู้ทันว่าซิ่นเฉิงคิดอะไร

“ต่อให้ไม่ใช่ของเจ้า ข้าก็ไม่ยินดีรับ” ซิ่นเฉิงตอกกลับ ท่าทางขู่ฟ่อขนพองประหนึ่งแมวไม่มีผิด

“แต่ข้าจะให้” เทียนอี้แสดงอำนาจออกมา แม้จะเป็นน้ำเสียงที่นิ่งเรียบ แต่ก็ทำให้ซิ่นเฉิงขัดใจอยู่ไม่น้อย

“ถ้าคิดว่าจะเอามันมาประดับผมข้าได้ง่ายๆ ก็อย่าหวัง”

จากนั้นก็รีบกระโดดหนีไปด้วยความรวดเร็ว เทียนอี้รีบพุ่งไปคว้าเอาไหล่อีกฝ่ายเอาไว้ ซิ่นเฉิงหันมาปัดมือใหญ่ทิ้ง ทว่าก็ถูกเทียนอี้คว้าไว้ได้อีก คราวนี้ไม่คว้าเปล่า ยังจะแย่งชิงเครื่องประดับชิ้นเดิมออกจากศีรษะของซิ่นเฉิงด้วย

มนุษย์หนุ่มเบิกตาโต ครั้นอ้าปากร้อง...

“เจ้า!”

...เครื่องประดับชิ้นใหม่ก็เกี่ยวลงมาบนเส้นผมแล้ว

“ของต่างหน้าของน้องสาวเจ้า ข้าจะเก็บเอาไว้ให้ก่อน อยู่ที่จวนของข้าก็จงใช้เครื่องประดับชิ้นนี้ ยามเจ้าหายออกจากจวนไป ผู้อื่นจะได้รับรู้ว่าเจ้าหลุดมาจากที่ใด”

มองเห็นว่าเขาเป็นสัตว์เลี้ยงจริงๆ ล่ะสินะ!

ซิ่นเฉิงข่มเขี้ยวเคี้ยวฟัน ขัดใจกับเจ้าเครื่องประดับชิ้นใหม่นี่เหลือทน มือจะคว้าไปกระชากออกแล้วโยนทิ้งอยู่แล้วเชียว ถ้าหากเทียนอี้ไม่ขู่ออกมาเสียก่อน

“หากเจ้าโยนทิ้ง ของต่างหน้าของน้องสาวเจ้าก็จะหายไปด้วยเช่นกัน”

มือถึงกับหยุดพลัน ได้แต่ส่งเสียงจึ๊ออกมา

“เจ้านี่มัน...”

“การเชื่อฟังคือบทเรียนแรกของเจ้า เจ้าเหมียว...”

ประเดี๋ยวเฉิงเฉิง ประเดี๋ยวเจ้าเหมียว มันจะกำแหงมากเกินไปแล้ว!

ซิ่นเฉิงจ้องเทียนอี้ตาไม่กะพริบ ทำอะไรไม่ได้นอกจากแค่นเสียงออกมาเท่านั้น

“เจ้าหมา!”

เทียนอี้กลับหัวเราะน้อยๆ ให้กับคำเรียกนั้น

“นานวันไป สุนัขกับแมวก็ย่อมเป็นมิตรกันได้”

ได้ยินประโยคนี้ ซิ่นเฉิงก็ถึงกับกลอกตา

ให้ข้าตายแล้วเกิดอีกสิบชาติ ข้าก็ไม่อยากเป็นมิตรกับเจ้า!

แต่เมื่อเทียนอี้เอ่ยชวนขึ้นมา

“ข้าว่าจะไปพบสหายเสียหน่อย เจ้าจะไปกับข้าหรือไม่ เผื่อเจ้าอยากจะออกไปเที่ยวนอกจวน ตั้งแต่มาเยือนแคว้นเฟิงฝู นอกจากที่หนีไปคราวนั้น เจ้าก็ยังไม่เคยไปชมเมืองเลยมิใช่หรือ?”

เท่านั้นแหละ ซิ่นเฉิงก็จำต้องเป็นมิตรกับสุนัขป่าอย่างไร้ทางเลือก

“หากเจ้าขอร้องถึงเพียงนี้ ข้าก็จะไม่ขัด”

เป็นเทียนอี้ที่หัวเราะในลำคอขึ้นมาอีก

ก็ได้...เป็นเขาที่ขอร้องให้อีกฝ่ายออกไปนอกจวนด้วยก็ได้

“เช่นนั้นก็ไปแจ้งแก่พ่อบ้านเหลียงว่าจะไปกับข้า ข้าจะรออยู่ที่นี่”

ไม่อยากจะทำตามคำสั่งหรอก แต่ซิ่นเฉิงก็ยอมเดินไปหาพ่อบ้านเหลียงอีกมุมหนึ่งของสวนแต่โดยดี ขณะที่เทียนอี้มองตามหลังอย่างพึงใจ

เริ่มเชื่องขึ้นมาบ้างแล้วสินะ...

---------------------------------

มาแล้ววว ว่างมาเขียนแล้ว

ท่านแม่ทัพหมาใจดีกับเจ้าเหมียวมาก แต่โดนเจ้าเหมียวตะปบรัวๆ เลยนะ 555

เดี๋ยวตอนเย็นจะมาอัปตัวอย่างตอนหน้าให้ค่ะ บอกเลยว่าตอนหน้ากิ๊บก๊าวมาก

ถ้าชอบก็ฝากฟีดแบ็กไว้ให้กันหน่อยนะคะ ^^



ป.ล.สารภาพบาปนิดนึง บางคนอาจจะรู้แล้ว บางคนอาจจะยังไม่รู้

จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นงานเขียนของหนูแดงเองค่ะ อวตารนามปากกามา แล้วก็แผนแตกโป๊ะ คนจับได้หลายคน แล้วก็อึดอัดด้วยที่ต้องแทนตัวเองว่านายน์ๆ (คือจริงๆ นามปากกา Nov9th คือวันเกิดของหนูแดงค่ะ ฮา)

ก็เอาเป็นว่าหลังจากนี้จะเรียกแทนตัวเองว่าหนูแดงเหมือนเดิมแล้วกันนะคะ ส่วนนิยายก็จะอัปในบ้านนี้นี่แหละ ขี้เกียจย้ายแล้ว ฝากติดตามด้วยเน้อ อันนี้เพจหนูแดงนะคะ เผื่อบางคนจะยังไม่รู้จักกันค่า ถือโอกาสฝากเนื้อฝากตัวด้วยเลยแล้วกันนะ https://www.facebook.com/NooDangzzz/

ส่วนแท็กในทวิตก็ติด #เสี้ยวอสูร นะคะ อันนี้เอาทวิตแอคเดิมไปส่องได้ละ เลิกอวตาร 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
หมากับแมว คู่นี้คงดีกันยาก แต่แบบนี้ก็น่ารักดี

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เจ้าแมวน่าโดนอีกเจ็ดคืนมากค่ะ แบบนี้เวลาอยากรวมร่างกับพระเอกแบบรูปงามต้องทำกันกลางแจ้งอาบแสงจันทร์เหรอคะ โอ้ยยย  :hao6:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
น้องเหมียวค่อยๆเชื่องแล้ว

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
หมาแมวเป็นคู่กันที่น่ารัก อิอิ

ออฟไลน์ papapajimin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น่าร้ากกกก ชอบความขัดใจแต่ทำอะไรไม่ได้
55555555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คุณหนูแดงเองหรอคะ เปลี่ยนแนวมาแบบนี้เราจำไม่ได้เลยค่ะ  :a5:
แต่เฉิงเฉิงก็เริ่มเชื่องขึ้นเรื่อยๆแล้วนี่นาา

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
แน่ใจเหรอท่านเทพอสูรว่าจะทำให้เจ้าเหมียวตัวนี้เชื่องได้น่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด