[ตัวอย่าง] บทที่ 10: ฮูหยินของท่านแม่ทัพใหญ่
เอาตัวอย่างมาก่อน ถามว่าดราม่ามั้ย มันก็ไม่นะคะ (หัวเราะแบบเชื่อไม่ได้)
เออ ไม่ดราม่าจริงๆ ใจร่มๆ รออ่านก่อนนะจ๊ะ
--------------------------------
“นางมาจากสกุลหลิว มีนามว่าหลิวซู”
ได้ยินพ่อบ้านเหลียงพูดเช่นนั้น จากที่แสร้งไม่สนใจอยู่ เทียนอี้ก็วางตำราในมือลงทันควัน หันไปมองหน้าคนสนิทอย่างไม่เชื่อหู
“เมื่อครู่นี้ เจ้าว่านางมีชื่อว่าอะไรนะ”
“หลิวซู” พ่อบ้านเหลียงย้ำคำอีกครั้งช้าๆ และชัดเจน
พลันเทียนอี้ก็นิ่งอึ้งไปอีกครา เมื่อได้สติก็ออกคำสั่ง
“ข้าอยากพบนาง”
“นางเพิ่งมาถึง ยังอยู่ที่หน้าจวนขอรับ”
ได้ยินเช่นนั้น เทียนอี้ก็ไม่รีรออีกต่อไป ตรงออกจากห้องหนังสือ มุ่งหน้าไปยังที่หมายที่พ่อบ้านเหลียงบอกทันที
ร่างใหญ่ก้าวผ่านสวน ซิ่นเฉิงที่นอนเอกเขนกอยู่บนกิ่งท้อมองเห็นก็ปรายตามอง พอเห็นว่าท่าทางของเทียนอี้ช่างดูรีบร้อนนัก เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามีเหตุอันใดกัน อมนุษย์ตรงหน้าถึงได้ร้อนรนเช่นนี้ แม้จะไม่ใช่เรื่องของตนก็แอบลอบตามไปดู กระทั่งมาถึงยังหน้าจวนก็พบว่าบริเวณนั้นมีขบวนเกี้ยวของสกุลใดสักสกุลมาตั้งขบวนอยู่
ส่วนเทียนอี้ ครั้นไปถึงก็หยุดยืนนิ่ง ขณะที่พ่อบ้านเหลียงบอกจุดประสงค์กับคนรับใช้ของเจ้าของขบวนเกี้ยวนั้น
“ท่านแม่ทัพอยากพบนาง”
หญิงรับใช้พยักหน้ารับ เดินไปเปิดม่านที่เกี้ยวแล้วกระซิบบอกผู้เป็นนาย อึดใจเดียว ม่านที่บดบังเกี้ยวอยู่ก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างแน่งน้อยของสตรีนางหนึ่งที่ก้าวลงมา
ทันทีที่สายตาของเทียนอี้ประสบกับดวงหน้านวล เขาก็นิ่งค้างไปราวกับเห็นผี ฉับพลันความตะลึงงันก็ปรากฏอยู่บนสีหน้า ก่อนที่ปากจะเอื้อนเอ่ย
“ซูซู...”
ในใจก็พลันคิด... เหมือนมาก...เหมือนจริงๆ
ซิ่นเฉิงที่แอบดูอยู่จากหลังเสาไม่ไกลนักถึงกับย่นคิ้วยู่ทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น
ใครกัน?
จากนั้นก็ต้องหยุดคิดสงสัยเมื่อเสียงหวานของสตรีนางนั้นดังขึ้น
“ข้าน้อยหลิวซู ขอคำนับท่านแม่ทัพเทียนอี้เจ้าค่ะ”
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าสุนัขป่าเล็กน้อย ก่อนเทียนอี้จะตอบรับ
“แค่ได้เห็นเจ้าอีกครั้ง ข้าก็ยินดียิ่งแล้ว”
“หามิได้เจ้าค่ะ ข้าต่างหากที่ยินดี ท่านแม่ทัพเมตตาให้ข้าได้เข้าพบเช่นนี้ ถือเป็นวาสนาของหลิวซูแล้ว”
“นั่นก็เพราะข้าอยากพบเจ้า”
สิ้นเสียงก็ยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่ซิ่นเฉิงเห็นเป็นประจำ ทว่าดวงตาที่กำลังทอประกายราวกับจะบอกอีกฝ่ายว่ารักใคร่ยิ่งนักนั้น ซิ่นเฉิงหาได้เคยเห็นมาก่อน ถึงตอนนี้ ซิ่นเฉิงก็ขมวดคิ้วหนัก อะไรไม่ว่า เขายังหายใจได้ยากลำบากเมื่อหน้าอกข้างซ้ายจุกเสียดขึ้นมากะทันหันอีก
อาการนี้มัน...
คิดพลางยกมือขึ้นทาบหน้าอก มันปวดอยู่ข้างในลึกๆ ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเต้นถี่ ทำให้ปวดแปลบมากขึ้นไปอีก
หรือว่าข้าจะป่วยกัน?