•30•
“ห๊ะ พี่ฟิล์มว่าอะไรนะ!” ผมโพลงขึ้นกลางโต๊ะอาหาร วันนี้จู่ๆ แม่ก็เรียกผมกับพี่อาร์ตกลับบ้านฉุกเฉินครับ ด้วยความที่พวกผมกำลังเอ่อ... ผมกำลังโดนพี่อาร์ตมันจับลอกคราบอยู่ตอนที่แม่โทรมา เลยมาช้ากว่าชาวบ้าน พอมาถึงก็เห็นทั้งพ่อกร แม่ศิลป์ ภาคิน แม่เล็ก แอ๋ม แล้วก็พี่ฟิล์ม(ที่ออกจากงานแล้ว)นั่งพร้อมหน้ากันอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว
ก่อนที่พี่ฟิล์มจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ผมร้องจนเสียงหลงออกมา
“เออ ได้ยินไม่ผิด พี่บอกว่าพี่จะแต่งงาน” พี่ฟิล์มว่าหน้านิ่งๆ ผมรีบหันไปมองแม่ทันทีเลยครับ ใครแฟนพี่วะ ผมยังไม่เคยเจอหน้าเลย!
“แม่!”
“อะไรหรอลูก”
“ใครแฟนพี่ฟิล์มอ่ะ แม่เคยเห็นหรอ พ่อเคยเจอยัง สแกนดีแล้วใช่ไหมว่าใช่ได้ไม่ใช่ว่าเขามะ โอ๊ย!” เสียงร้องเพราะเจ็บปวดดังขึ้นเมื่อพี่สาวเพียงคนเดียวของผมปาหัวปลาใส่ผม...
พี่ใครวะโคตรฮาร์ดคอร์! แล้วนั่นของกินนะเฮ้ย!!
“เงียบ พี่กับเขาคบกันมานานแล้ว เคยพามาหาพ่อแม่แล้วด้วย คินก็เคยเจอ จริงๆ ฝุ่นก็เคยเห็นแต่คงจำไม่ได้ อาร์ตก็รู้จักเนอะ ล่าสุดที่มา...รู้สึกว่าวันนั้นอาร์ตโทรมาบอกแม่ว่าฝุ่นไม่สบาย นอนซมอยู่ห้องเลยไม่ให้มาเจอ” พี่ฟิล์มว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้เขาก็มา คืนนี้ก็นอนนี่แล้วกัน”
ผมบ่นอุบคนเดียว อะไรวะไม่รู้เรื่องสักนิด ผมเคยเจอด้วยหรอ... เพื่อนพี่ฟิล์มที่ผมรู้จักใช่น้อยๆ ซะเมื่อไหร่ล่ะ พ่อแม่ไม่พูด พี่สาวไม่บอก น้องชายเงียบอุบ แถมแฟนที่อยู่ด้วยกันทุกวันก็ไม่บอกกันสักนิด...
คืองอนอ่ะบอกเลย
จึ่กๆ
นิ้วของคนข้างๆ จิ้มเข้าที่แก้มผมเบาๆ พอเห็นผมไม่สนใจพี่มันก็จิ้มแรงขึ้นจนต้องหันไปหา
“พี่อะ! งั่มๆ” เนื้อปลานิ่มๆ ถูกป้อนเข้าปากที่ผมกำลังจะอ้าปากตวาดคนพี่ทันที
“อร่อยไหมครับ” ผมพยักหน้าแทนคำตอบ จากที่งอนๆ นี่หายวับเลยครับ “เอาอีกไหม”
“อ้ามมม งั่ม” พี่อาร์ตที่เห็นผมอ้าปากรอรับก็ส่งเนื้อปลาเข้าปากผมอีก อร่อยอ้ะะะ!
ผมนั่งอ้าปากให้พี่มันป้อนอย่างเคยชิน จนลืมว่าตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ห้องที่คอนโด แต่ตอนนี้เราอยู่ต่อหน้า ทุก-คน
“แม่คะ คนมีสามีแล้วง่อยทุกคนเลยหรอ”
“ไม่นะ แม่ก็ไม่เห็นง่อย”
“นั่นสิ ป้าก็ไม่เป็นขี้เกียจนะ”
“แม่ๆ ไหนขอพ่อป้อนแม่บ้าง”
“แอ๋มว่านะ...นี่มันอ้อนสามีชัดๆ เนอะคิน”
“อื้อๆ เห็นด้วยครับพี่แอ๋ม”
ไม่ต้องบอกนะครับว่าประโยคไหนใครพูด ผมที่งับส้อมของคนพี่ที่มีเนื้อปลาขาวๆ ติดอยู่ก็หันขวับไปหาเจ้าของประโยคทั้งหลายนั่นทันที สายตาล้อเลียนที่มองผมมานี่บอกได้คำเดียวเลย
เขินครับ!
“หึๆ” เสียงของพี่อาร์ตหันไปหัวเราะอีกทางทำให้ผมตวัดตาดุๆ ทั้งที่หน้ายังร้อนๆ ไปมอง
“พี่อาร์ตตตต ไมไม่เตือนฝุ่นนน”
“อ้าว ก็เห็นเราอร่อยอยู่นี่ พี่เลยไม่อยากขัด” มือใหญ่เอื้อมมาวางที่มุมปากผม ปาดเช็ดมันออกเบาๆ ก่อนจะส่งเนื้อปลาชิ้นเล็กที่ติดอยู่บนนิ้วของตัวเองเข้าปาก
ฉ่าาาา
“พะพะ พี่อาร์ตทำอะไร!!!” พอเห็นการกระทำของพี่มันผมก็หน้าร้อนขึ้นทันที ต่อหน้าทุกคนอย่างนี้ไม่ต้องหันไปมองก็รู้เลยครับว่าพร้อมแซวผม
“เช็ดปากไงครับ มันเปื้อนฝุ่นนะ”
“แง่งงง ทิชชู่ก็มีป่ะว่ะพี่อาร์ตตต” ผมโวยวายกลบเกลื่อนความเขิน รวบช้อนวางไว้ก่อนจะลุกขึ้น “แม่! ฝุ่นขึ้นห้องแล้วนะ!”
ว่าจบผมก็ลุกออกจากโต๊ะ เดินขึ้นบันไดไปห้องนอนทันที
ได้ยินเสียงภาคินแว่วๆ ว่า
“นี่มันโดนสามีอ่อยแล้วครับพี่แอ๋ม”
ไอ้คิน!!!
ก็อกๆ
“ฝุ่นครับ พี่เอาข้าวมาให้”
“...”
“ฝุ่น กินข้าวครับ เมื่อกี้เรากินได้น้อยนะ”
“ไม่เอา” ผมตอบกลับเสียงหน้าห้อง “ฝุ่นไม่หิว”
ไม่ใช่ไม่หิว กูเขินครับ...
“งั้นพี่เข้าไปนะ”
“ไม่ให้เข้า!” ประตูถูกเปิดออกโดยคุณอินทัช... ฟังกันมากกก
“มีกุญแจครับ” พี่มันควงพวงกุญแจให้ผมดู มืออีกข้างก็ถือถาดข้าวมาด้วย “ขอโทษที่แกล้งมากไป มากินข้าวเถอะ ไม่หยอกแล้ว”
ผมเหลือบมองคนพี่ที่ยิ้มจางๆ ให้ ก้มมองข้าวในถาดที่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่ของบนโต๊ะเมื่อตอนเย็น น่าจะเป็นไอ้พี่อาร์ตลงทุนทำมาง้อ พอจะปฏิเสธว่าไม่กิน เจ้าท้องไม่รักดีก็ส่งเสียงร้องขึ้นมาก่อน
โคร่กกกก
“นั่นไง หิวแล้ว” พี่มันยิ้มขำ แล้วทิ้งตัวลงมานั่งข้างผม “อ้ามครับ อยู่กันสองคนไม่มีใครเห็นหรอก”
ผมหรี่ตามมองช้อนในมือพี่มันอย่างไม่ไว้ใจ แต่กลิ่นหอมๆ นั่นทำให้ผมทนไม่ไหวจนต้องอ้าปากงับ
งั่ม
“อร่อยไหม” ผมพยักหน้าหงึก เพราะปากยังเคี้ยวตุ้ยๆ “อร่อยก็กินเยอะๆ ครับ”
“จะขุนฝุ่นหรือไง” ผมถามพอเห็นพี่มันเอาข้าวมาจ่อชิดปาก
“เปล่าครับ” พี่มันตอบ “เผื่อฟลุกว่าใจดีด้วยแล้วฝุ่นจะให้ยอมต่อจากเมื่อกลางวัน”
“...” ไอ้คนทำดีหวังผล!
“เออพี่อาร์ต แฟนพี่ฟิล์มใครวะ? พี่รู้จักด้วย??”
“ก็เพื่อนร่วมมหาลัย เคยเจออยู่ไม่กี่ครั้งไม่ได้สนิทส่วนตัวเท่าไหร่”
“ใคร?”
“ฟิล์มไม่ให้บอกครับ” ผมทำหน้าตึงใส่พี่มันทันที อะไรวะ! นี่น้อง นี่แฟนนะเฮ้ยยย มีความลับว่ะ! “น่า ไม่โกรธพี่เขานะ ฟิล์มคงอยากเซอร์ไพร์สเรา”
“ปิดบังฝุ่นดิไม่ว่า อุ๊บ” ผมมองไอ้คนที่เอาช้อนยัดปากป้อนผมเพื่ออุดปากให้เงียบ ก่อนผมจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“...นี่ ไม่บอกฝุ่นจริงหรอฮะ” ผมว่าเสียงอ้อน เงยหน้าช้อนตามอง วางมือลงกับหน้าตักพี่มันแล้วลูบเบาๆ
“ครับ” คนพี่ตอบ เลิกคิ้วมองผมว่าจะทำอะไรเมื่อผมเริ่มลูบมือขึ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งสูงทำลมหายใจพี่มันยิ่งกระตุกจนผมยกยิ้ม
พี่ข้าวสอนไว้ครับ อยากได้ อยากรู้อะไรให้อ้อนเข้าไว้
“บอกฝุ่นนะฮะ ฝุ่นอยากรู้” ผมเอียงคอน้อยๆ ทำตาแป๋วใส่อีกคน เคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ๆ จนรู้สึกว่าพี่มันแข็งไปแล้ว “นะ... เฮ้ย!”
ผมร้องเสียงหลงเมื่อพี่มันหันไปวางถาดไว้กับโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะหันกลับมาจับผมพลิกลงเตียงและเอาตัวเองคร่อมกักผมไว้อย่างรวดเร็ว
“ไม่ยั่วสิครับ” เสียงทุ้มขึ้นข้างหู ก่อนที่คำโวยวายของผมจะเปลี่ยนเป็นครวญครางไม่ได้ศัพท์
ไหนว่าได้ผลไงวะพี่ข้าว!!
เช้าวันใหม่อันสดใสก็มาถึง...
สดใสบ้าบออะไรล่ะ! กว่าผมจะได้นอนก็เข้าวันใหม่ แถมนอนไปไม่กี่ชั่วโมงยังโดนพี่มันปลุกด้วยสาเหตุที่ว่าต้องตื่นเช้าอีก! ใช้แรงมากกว่าทำไมพี่มันยังมีแรงตื่นวะ แม่ง...
“โอ๋ๆ ไม่งอนพี่ดิ ใครให้เรายั่วพี่ล่ะ”
“ชั่วบ้าอะไรล่ะ พี่ข้าวนะพี่ข้าวไหนว่าได้ผล” ผมบ่นอุบ สะบัดหน้าหนีเจ้าของเสียงติดขำนั่น ใจจริงอยากเดินหนีถ้าไม่ติดว่าต้องให้พี่มันช่วงพยุงเดิน... ยอกครับ
คอยดูนะจะโทรไปโวยวายพี่ข้าวว่าวิธีที่ให้มาไม่ได้ผล! นอกจากไม่ได้อะไรแล้วยังเสียตัวอีก ฮรื่อ
“เอ้า ฝุ่นไปทำไรมา อาร์ตถึงต้องพยุง?” พี่ฟิล์มที่ออกจากห้องมาถามขึ้นทันที ก่อนมุมปากของพี่สาวจะยกขึ้นเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อโฟกัสเห็นอะไรบางอย่างที่คอผม “อ๋อ ยังว่าเมื่อคืนได้ยินเสียงแปลกๆ”
“พี่ฟิล์มมม”
“โอเคๆ ไม่ล้อแล้ว ไปๆลงไปกินข้าวกันแฟนพี่มาแล้ว” ผมทำตาโตทันทีที่ได้ยิน อยากรู้จริงๆว่าใครมันหลงผิดเอาพี่สาวขาโหดของผมมาเป็นแฟน
ผมไม่ได้หวงพี่สาวนะ เชื่อผมเถอะ
“อ้ะ นั่นไง พี่ก้องๆ”
ขวับ
ผมหันหน้าไปตามทิศที่มือพี่ฟิล์มโบกอยู่ทันที ก่อนจะเห็นเป็นผู้ชายตัวสูงพอๆ กับผม ใส่เสื้อเชิ้ตสีครีม ตัดผมรองทรงสูงดูเรียบร้อยกำลังถือจานกับข้าวเดินมาทางนี้
หน้าคุ้นๆ ว่ะ
“เฮ้ย คุณเมื่อตอนนั้นนี้” ผมเผลอยกมือขึ้นชี้หน้าอย่างเสียมารยาทจนพี่ฟิล์มตีมีดังเพียะ
“ไงน้องฝุ่น จำพี่ได้ไหมเจอกันล่าสุดก็งานแต่งแนน” คนตรงหน้าพูดขึ้น ผมหันมองคนข้างๆ ที่อมพะนำไว้ทันที
“เอ่อ จำได้ครับ” ผมยิ้มแหยตอบ
ครับ ผมเคยเจอคนๆ นี้ตอนงานแต่งของพี่แนนเมื่อหลายเดือนก่อน พี่แกเป็นเพื่อนฝ่ายเจ้าบ่าวพี่แนน เราได้คุยกันนิดหน่อย เพราะผมนอยด์ที่โดนพี่อาร์ตปล่อยให้นั่งอยู่คนเดียวเลยไม่ได้คุยอะไรมาก อีกอย่างวันนั้นคนทักผมเยอะเลยจำใครไม่ค่อยได้
ว่ากันตามตรงพี่ก้องก็อัธยาศัยดีอยู่นะจากที่เคยคุย
“ฮ่าๆ หน้าเหวอแบบนี้นี่จำไม่ได้ล่ะสิ เอาน่าๆ พี่ไม่ได้ว่าอะไร” พี่ก้องยิ้มขำแล้วหันไปหาพี่ฟิล์ม “งั้นพี่เอานี่ไปวางก่อนนะ ร้อน”
พี่ฟิล์มตอบรับพร้อมควงเข้าที่แขนของพี่ก้อง ก่อนเดินหนุงหนิงกันไปทางห้องกินข้าวสองคน
ก็เข้ากันดีนี่
“อย่างนี้ผ่านไหมครับ” เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูทำให้ผมที่มองตามพี่ๆ ทั้งสองไปสะดุ้งเล็กน้อย
“ไม่รู้สิ” ผมโคลงหัว “แต่ถ้าพี่ฟิล์มโอเค ฝุ่นก็คงห้ามอะไรไม่ได้จริงไหม”
มือใหญ่ของพี่อาร์ตวางลงหัวผมและขยี้เบาๆ ก่อนพี่มันจะชวนผมไปให้อาหารสามซนที่คาบชามข้าวมานั่งแหมะตาแป๋วรอของกินอยู่ที่หน้าบ้าน
มื้อเช้าดำเนินไปอย่างไม่รีบร้อน พี่ก้องเทคทั้งพี่ฟิล์ม พ่อแม่อย่างดี และยังลามมาถึงผมถ้าไม่โดนคนขี้หวงข้างๆ กันไว้ก่อน
“ฟิล์มกับพี่ก้องคุยกันว่ายากได้ช่วงกลางปีหน้าอ่ะแม่ เอาฤกษ์สะดวกของพี่เขาดีกว่าเนอะ” พี่ฟิล์มตอบคำถามแม่
“แม่กับพ่อก็ไม่ได้อะไร วันไหนว่างๆ ก้องพาพ่อแม่ก้องมาหาแม่หน่อยนะ”
“ครับ”
“แล้ว...” พี่ฟิล์มลากเสียง ยกนิ้วเรียวๆชี้มาที่ผม “คู่นั้นน่ะแต่งพร้อมพี่ไหม”
สิ้นคำพูดของพี่สาม ผมกับพี่อาร์ตก็หันมองหันทันที แต่งงาน? ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ตั้งแต่งานพี่แนนเลยแฮะ
“เราอยู่กันอย่างนี้ก็ดีแล้วครับฟิล์ม” พี่มันตอบ มือใหญ่เอื้อมมาวางซ้อนมือผมบนตักแล้วเกลี่ยเบาๆ “อยู่แบบนี้เราก็สบายใจแล้วล่ะ แต่ผมว่า... แม่ไปคุยกับแม่ผมแล้วใช่ไหม”
แม่หัวเราะออกมาเมื่อได้ยินพี่อาร์ตพูด “ก็ตั้งแต่กลับมา แม่เรามาคุยกับแม่ทุกวันเลยนี่ว่าอยากได้ฝุ่นเป็นลูกสะใภ้ จริงๆ ถ้าอยากแต่งก็จัดเรียบๆ ที่บ้านก็ได้นะแม่ไม่ว่า”
“ฝุ่นว่าไง” พี่อาร์ตกระตุกมือผม
“เอ่อ...” ผมเหลือบมองคนข้างๆ “ฝุ่นแล้วแต่พี่อาร์ต”
“งั้นไว้ค่อยคิดๆกันเนอะ” พี่อาร์ตหัวเราะน้อยๆ “ตามนั้นครับแม่ ขอผมกั้นประตูเงินประตูทองของฟิล์มก่อนแล้วกัน”
“โอเคๆ งั้นเรามาคุยเรื่องเรากันต่อนะฟิล์ม” แม่ว่า ก่อนพี่มันจะดึงผมที่ไร้ส่วนร่วมในวงสนทนาออกมาข้างนอกห้อง
“พี่ไม่ได้คิดมากครับ อย่าทำหน้างั้นสิ” นิ้วพี่มันดีดหน้าผากผมดังแปะ “เครียดแล้วไม่หล่อนะ”
“พี่อาร์ตอ้ะ!”
“ยิ้มก่อนๆ พี่แค่จะบอกว่า... แค่มีฝุ่นอยู่ด้วยพี่ก็เหมือนได้เข้าหอทุกวันแล้ว”
“....”
“เข้าหอกันไหม?”
“ไอ้พี่อาร์ต!!!!”
Tbc.
ทางด้านติณณ์ข้าว
“ฮัดชิ้ว!”
“วันนี้จามบ่อย ไม่สบายหรือไง” ติณณ์ยกมือขึ้นทาบหน้าฝากคนที่จามจนน้ำมูกย้อย “หรือแก่แล้วภูมิต้านทานต่ำ?”
ตาดุๆของข้าวเจ้าตวัดมองคนพูดทันที ใช่สิเขาเข้าเลยสามแล้วนี่! “ติณณ์อยากนอนนอกห้องไหมครับ”
“เอ่อ... ติณณ์ไปตากผ้าก่อนนะ ลืม...”
――――――――――――――――――――――――――
สารภาพบาปค่ะ ว่าเรานับตอนผิด5555555555
จริงๆมันมีตอน30กับบทส่งท้ายอีกบท แต่ไอ้บทส่งท้ายเนี่ยมันอยู่นอกโฟลเดอร์เราเลยเข้าใจว่าตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายของเรื่อง แต่จริงๆคือตอนหน้าค่ะLOL
ปล. ใครเหงามาคุยกันได้ในเฟส ทวิตหรือ ask นะเราเหงามาก เราฉีดยาแล้วไม่กัด--- เย้
จิ้มๆช่องทางติดตาม
Page facebook -
https://www.facebook.com/miinnnta/Twitte -
https://twitter.com/miinntaAsk -
https://ask.fm/miinnnta