พิมพ์หน้านี้ - กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: мıınta ที่ 25-08-2017 01:47:49

หัวข้อ: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 25-08-2017 01:47:49
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




——————————————————————————————————————


[ กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ ]
#กลิ่นสีและกาวน์หมอ





โดนแฟนทิ้ง...


เข้าบ้านไม่ได้....


เจอแมวโดนทิ้งบาดเจ็บเลยพาไปหาหมอ...


โดนหมอลากเข้าห้อง!!!!



"นี่โรงพยาบาลสัตว์ไม่ใช่โรงพยาบาลคน ที่จะเปิดห้องพิเศษแล้วจะนอนด้วยกันได้นะครับ”




"ผมเข้าบ้านไม่ได้อ่ะ นะๆให้ผมค้างนี่นะ” "




".......งั้นคืนนี้ไปค้างกับผม"




 :katai5: :katai5: :katai5:


Contents

「1」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3694159#msg3694159) 「2」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3694492#msg3694492) 「3」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3695210#msg3695210)
 「4」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3696307#msg3696307) 「5」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3697870#msg3697870) 「6」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3698960#msg3698960)
 「7」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3699621#msg3699621) 「8」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3700638#msg3700638) 「9」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3701942#msg3701942)
「10」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3703483#msg3703483) 「11」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3705086#msg3705086) 「12」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3706024#msg3706024)
「13」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3707290#msg3707290) 「14」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3708294#msg3708294) 「15」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3709502#msg3709502)
「16」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3711136#msg3711136)「17」 (https://goo.gl/oM4fzC) 「18」 (https://goo.gl/M3vhov)
「19」 (https://goo.gl/AaE6Fc) 「20」 (https://goo.gl/bwXifr) 「21」 (https://goo.gl/qz2KB6)
「22」 (https://goo.gl/3za3Tg) 「23」 (https://goo.gl/bcXqZT) 「24」 (https://goo.gl/1pXehA)
「25」 (https://goo.gl/2q7cf9) 「26」 (https://goo.gl/wK5GmN) 「27」  (https://goo.gl/yCRnFml)
「28」 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61615.msg3741008#msg3741008) 「29」 (https://goo.gl/i62BqQ)「30」 (https://goo.gl/eJ59wh)
「บทส่งท้าย」 (https://goo.gl/RQ7NfK)


ตอนพิเศษ

Pocky Day (https://goo.gl/XLF61M)


ชี้แจงเรื่องการปรับเปลี่ยนเนื้อหา
 
เนื่องจากมีคนแจ้งมาว่าเนื้อเรื่องเราไปคล้ายกับอีกเรื่อง เราเลยเปลี่ยนเนื้อหาในส่วนที่คล้ายกัน
เช่นจากแมว->สุนัข คาแรคเตอร์พระเอก และในอีกหลายๆจุดให้ต่างออกไปค่ะ
แต่เนื้อเรื่องหลักๆยังคงเหมือนเดิม
ดังนั้นอาจจะมีจุดที่ยังแก้ไม่เรียบร้อย หรือตกหล่นอยู่บ้าง
 
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
 
-มีน

นิยายที่แต่ง
Only you รักนี้แค่คุณ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61664.msg3696103#msg3696103)[ Short Story ]

First Time #ครั้งแรกพบ (https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1711886)
———————————————————————————————————————
(https://www.mx7.com/i/23d/RuWAoV.png) (https://twitter.com/miinnta)
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「1」25|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 25-08-2017 01:51:36
ชี้แจงค่ะ

     เนื่องจากมีคนแจ้งมาว่ากลิ่นกาวน์เนื้อเรื่องคล้ายกับเรื่องคุณเกรย์ของคุณRaccool เราจึงทำการแก้ไขเนื้อหาบางส่วนที่คล้ายคลึงกันให้ต่างจากเดิมค่ะ

โดยเราเปลี่ยนจากที่สีฝุ่นเจอแมวกลายเป็นเจอน้องหมาพันธุ์ปอมเมเรเนียนแทน(แต่ยังคงชื่อเดิมไว้) ถ้ามีตกหล่นตรงไหนรบกวนแจ้งด้วยนะคะ

ขอบคุณทุกคนค่ะ

-มีน-


กลิ่นสีและกาว(น์)หมอ


• 1 •


ชีวิตบัดซบ...

โดนแฟนสาวที่คบมาเกือบปีบอกเลิกเพราะเธอบอกว่าเข้ากันไม่ได้ ไปชวนเพื่อนไปร้านเหล้าก็ไม่มีใครว่าง เลยต้องไปซดนมปั่นแก้ซ้ำใจคนเดียวจนเจ้าของร้านนมไล่  พอกลับมาถึงบ้าน...

แกร่ก....

รั้วล็อก....

โทรให้แม่มาเปิดให้ แม่บอกไปต่างจังหวัดตั้งแต่เที่ยงจะกลับมาพรุ่งนี้สายๆ... พี่สาวก็ไปทำงานต่างจังหวัด พ่อก็ออกไปหาแรงบันดาลใจ จะไปนอนร้านก็ไม่ได้กุญแจก็อยู่ในบ้าน กุญแจของตัวเองทำร่วงท่อละบายน้ำตั้งแต่เมื่อวานยังไม่ได้ไปปั้มใหม่ จะไปค้างบ้านเพื่อนก็คงไม่มีใครต้อนรับในเวลานี้...

“แม่งเอ๊ย! วันเหี้ยอะไรวะ” ผมได้แต่ทรุดตัวนั่งพิงประตูรั้ว ขยี้หัวตัวเองจนฟู โทษลมฟ้าอากาศ พาลมันแม่งหมดนี่ละ!  จะปีนรั้วเข้าบ้านเดี๋ยวไอ้พวกนั้นคิดว่าเป็นขโมย มาไล่กัดอีก
คืนนี้จะไปอยู่ไหนดีวะเนี่---

แกร่กๆ

หือ? เสียงอะไร?

ผมหันมองหาที่มาของเสียง พอเงี่ยหูฟังดีๆเสียงมันดังมาจากฝั่งซ้ายมือ งั้นแสดงว่าต้องอยู่แถวๆถังขยะหน้าบ้านผมแน่ๆ ผมลองลุกเดินไปดูอีกฝั่งของถังขยะ เขี่ยพวกถุงขยะออกบ้างส่วน

“หงิงๆ”

“อ๊ะ อยู่นี่จริงด้วย” ผมมองไอ้ก้อนขนมอมแมมสีน้ำตาลเข้มที่ใส่อยู่ในลังกระดาษ ถึงจะมองไม่ชัดเแต่คิดว่ามันคงตัวผอมน่าดู

แม่ง! ใครมันเอาลูกหมาใส่กล่องมาทิ้งหน้าบ้านกูวะครับ! !

“แกก็โดนทิ้งมาเหมือนกันสินะ” ผมลากลังกระดาษนั่นออกมาให้ห่างขยะ แล้วก็นั่งลงคุยกับมัน เอาวะ ถือว่ามีเพื่อนคุยรอเช้า

“ว่าไง ใครเอาเรามาทิ้งหน้าบ้านคนอื่นเนี่ย” พูดเหมือนมันจะตอบกลับมาได้ พอลองยื่นมือไปลูบหัวดู มันก็เอาหัวดุนๆมือเหมือนจะอ้อน

“หิวป่าว มีขนมปังเอาไหม” ผมถามมันพร้อมชูถุงขนมที่ซื้อมา ก็ได้ตาแป๋วๆพร้อมลิ้นที่แล่บออกมาของมันกลับมาเหมือนจะตอบกลับว่า ‘เราหิวแล้ว เอามาให้เรานะคุณมนุษย์’

“ฮ่าๆ มาๆเดี๋ยวป้อน กินด้วยกันนี่แหละ” ผมแกะถุงแล้วฉีกขมปังไปวางในลังให้มัน ได้ยินเสียงร้องเบาๆกลับมา สงสัยจะขอบคุณละมั้ง

ผมนั่งเคี้ยวขนมปังที่เหลือไปสักพัก พอหันไปมองไอ้ลูกหมานั่นก็เห็นว่าขนมปังที่วางไว้ไม่พร่องเลยสักนิด พอมันเห็นผมขมวดคิ้ว มันก็ร้องครางหงิงออกมา

“หืม? ไม่ชอบ? ทำไมไม่กิน” ผมหยิบไปจ่อปากมัน มันก็งับกินของมันนะ พอสังเกตดีๆ นอกจากเสียงร้องกับขยับหัวตอนผมลูบหัวมัน ทำไมมันไม่ขยับตัวเลย...ผมขมวดคิ้วอีกครั้งเพราะคิดว่ามันแปลกๆจึงอุ้มมันออกจากลัง

“หงิง...” มันคราง ถ้าเป็นปกติของหมาถ้าเจอคนแปลกหน้าจับตัวต้องเห่าใส่ หรือตะกุยตะกายผมไปแล้ว

แต่นี่ทำไมนิ่ง...

 พอเห็นมันนิ่งผมจับมันลงกล่องเหมือนเดิม ในใจสงสัยว่ามันคงได้รับบาดเจ็บมา แต่เพราะไฟถนนไม่สว่างทำให้มองอะไรไม่ชัด เลยเปิดไฟฉายจากโทรศัพท์ส่องดู

“บ้าชิบ! !” ผมสบถ เพราะทันทีที่แสงไฟกระทบตัวมันภาพที่ผมเห็นคือรอยเลือดที่เกิดจากแผลถูกกรีดตั้งแต่กลางหลังจนถึงช่วงสะโพก ดึกป่านนี้โรงบาลสัตว์ที่ไหนจะเปิดวะ! !
ไม่สิ จำได้ว่ากลางซอยมีเปิดถึงเที่ยงคืนนี่หว่า ผมก้มมองนาฬิกาตอนนี้อีก25นาทีจะเที่ยงคืน วิ่งไปน่าจะทัน

ผมถอดเสื้อคาร์ดิแกนที่ใส่อยู่ออกแล้วเอาคลุมตัวมัน ก่อนที่จะยกทั้งลังวิ่งไปโรงบาลสัตว์




23:52

“แฮ่ก แฮ่ก” ผมวิ่งจนมาเกือบถึงโรงบาลสัตว์ อีกไม่ถึง10นาทีจะเที่ยงคืน จะปิดยังวะ

แกร่ก
แกร่กๆๆ

ลูกบิดประตูถูกล็อกไว้และไฟด้านหน้าถูกปิดบางส่วน แต่ป้ายOpenยังไม่ถูกเปลี่ยน

ปังๆๆๆๆ

“คุณหมอครับ! คุณหมออออออ” ผมทุบประตูพลางตะโกนเรียก หวังว่าหมอเวรสุดท้ายยังมีอยู่

“คุณหม๊อออออออ” ผมแหกปากเพิ่มขึ้นแบบไม่เกรงใจบ้านข้างๆ จนเห็นว่ามีใครบางคนด้านในชะโงกหน้าออกมาจากประตูด้านหลังเค้าเตอร์

อ๊ะ หมอยังอยู่ล่ะไอ้มอม! ผมก้มยิ้มให้ตัวในลัง เห็นคนข้างในทำท่าแปลกๆก่อนเดินออกมาเปิดประตู

“มีอะไรครับคุ--”
   
“หมอครับ! ผมเจอไอ้ตัวนี่ถูกทิ้งนอนอยู่ตรงถังขยะหน้าบ้านผม ผมลองเอาขนมปังให้มันกินแต่มันไม่กินแถมไม่ขยับตัว เอาแต่ครางหงิงๆอยู่นั่นแหละ ผมว่ามันแปลกๆเลยลองอุ้มมันขึ้นมาดู คุณหมอรู้ไหมว่าผมเจอรอยกรีดยาวถึงสะโพก คนทำแม่งโคตรใจร้าย! พอเห็นอย่างนั้นผมเลยแบกมันวิ่งจากต้นซอยเข้ามาหาคุณหมอเลยเนี่ย นี่ไงๆหมอดูดิ” ผมพูดรัวแบบแทบไม่พักหายใจ พร้อมเอาคาร์ดิแกนที่คลุมปิดออกให้หมอเห็นสภาพลูกหทาข้างใน ไม่รู้ว่าหมอฟังทันไหมแต่ผมก็เล่าจนละเอียด

“เอ่อ.. ” คุณหมอหันไปดูนาฬิกาสลับกับเจ้ามอมในมือผมก่อนถอนหายใจออกมาแรงๆ “พาน้องเข้ามาก่อนครับ เดี๋ยวขอผมเปิดไฟสักครู่” หมอว่างั้น เดินไปหมุนป้ายจากOpenเป็นClose ก่อนเดินเลยเปิดไฟโซนเค้าเตอร์ และหยิบกระดาษออกมาตรงหน้าผม

“ตอนนี้เหลือผมเป็นเวรคนสุดท้าย รบกวนคุณกรอกข้อมูลของน้องเองได้ไหม? เดี๋ยวผมจะเอาน้องไปดูอาการข้างในก่อน” ผมพยักหน้า ยื่นเจ้าแมวกล่องให้หมอ และหันไปให้ความสนใจกระดาษแผ่นนั้น

ชื่อ? ชื่อไรดีหว่า ใช้ ไอ้มอม ไปก่อนละกัน
ต่อไปชื่อเจ้าของ... ไม่ใช่เจ้าของง่ะ บังเอิญเจอต้องเขียนไหมวะ? งั้นเขียนชื่อเล่นละกัน
ชื่อเจ้าของ : สีฝุ่น เบอร์โทร: 0812345678
ประเภท : สุนัข
สายพันธุ์... ดูจากขนน่าจะปอมเมเรเนียนมั้ง หรืออะไรวะ ข้ามๆๆ
สี น้ำตาลเข้ม
ตำหนิ? วันเกิด? เอ่อ ไม่รู้อ่ะ...

ผมกรอกข้อมูลเท่าที่จะกรอกได้ วางมันไว้บนโต๊ะและหาของทับ ก่อนไปนั่งรอหมออกมา มองนาฬิกาก็เที่ยงคืนกว่าแล้วแฮะ ง่วงอ่ะ ขอสักงีบละกัน
Zzzz






“ค....”

“คุณ”

“เฮ้ คุณ”

“.....งื้มๆ แม่หรอ?” ผมค่อยๆลืมตาขึ้นหลังจากรู้สึกว่ามีใครมาเรียกและตีแก้มเบาๆ เผลอเอียงหน้าหาไออุ่นที่แก้ม สายตายังโฟกัสภาพตรงหน้าไม่ได้

“คุณ สุนัขที่คุณพามาน่ะผมรักษาให้แล้วนะ แต่ต้องอยู่ที่นี่ดูอาการก่อน”

เสียงผู้ชาย? ไม่ใช่แม่??

ผมสะดุ้งลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงไม่คุ้นหู พอเห็นภาพตรงหน้าผมจึงนึกได้ว่าพาไอ้มอมมาหาหมอ

“เอ่อ.. หมอพูดอีกทีได้ไหม แฮะๆ” ยิ้มแหยๆให้คนตรงหน้า เห็นหมอได้แต่ส่ายหัวเอือมๆ

“ผมบอกว่า หมาคุณโอเคแล้ว แต่ต้องให้ค้างที่นี่ก่อน” พอพูดจบหมอก็ลุกไปปิดไฟด้านในทันที

 “คุณก็กลับบ้านได้แล้ว พวกค่าใช้จ่ายคุณค่อยมาคุยตอนเช้าละกัน” หมอว่าก่อนจะหาวออกมาวอดใหญ่ แล้วเดินออกมาไล่ปิดไฟตรงโซนที่ผมนั่งอยู่

ระหว่างที่หมอกำลังวุ่นกับการปิดไฟอยู่นั้น ผมก็เพิ่งจะได้สังเกตหมอดีๆ คือหมอโคตรสูงอ่ะครับ...ผม178นี่ว่าสูงแล้ว กะด้วยสายตาหมอคงเกือบๆ190อ่ะ ทรงผมยุ่งๆเหมือนคนไม่ได้หวี หนวดขึ้นเป็นตอๆ โคตรเซอร์อ่ะ คือถ้าเจอข้างนอกผมคงไม่คิดว่าเรียนหมอ ถึงจะหมอหมาก็เถอะ ฮา

“เฮ้ คุณก็กลับบ้านได้แล้ว ผมจะปิดร้านแล้ว” หมอพูดก่อนจะเดินผ่านผมไปที่ประตู แต่ระหว่างที่หมอจะผ่านหน้าผมไป

หมับ!

มือลั่นไปคว้าชายเสื้อเชิ้ตคุณหมอเข้าให้...

“หืม? มีไรครับคุณ ค่าใช้จ่ายค่อยมาพรุ่--”

“ผมนอนเฝ้ามันได้ไหม”

“ห๊ะ????”

“แฮะๆ คืนนี้ผมนอนเฝ้ามันได้ไหมอ่ะ” ผมยิ้มแหยๆส่งให้คุณหมอ มือก็ชี้ไปข้างใน ทำให้หมอถอนหายใจอีกรอบ

“คุณฟังผมนะ นี่โรงพยาบาลสัตว์” หมอเน้นคำว่าโรงพยาบาลสัตว์มาก... “ไม่ใช่โรงพยาบาลคนที่จะเปิดห้องพิเศษแล้วจะนอนด้วยกันได้นะครับ” หมอว่างั้น

“คือว่า..” หมอจ้องเขม่งมาที่ผม “ที่จริงผมเข้าบ้านไม่ได้อ่ะ จะไปบ้านเพื่อนก็ไม่มีคนอยู่ นะๆให้ผมค้างนี่นะ” ผมกระตุกเสื้อหมอรัวๆ หมอก้มมองนาฬิกาและถอนหายใจออกมาอีกแล้ว

“บ้านคุณอยู่ไหน?” หมอถาม

“ตรงร้านกาแฟต้นซอยครับ” ผมตอบ เห็นหมอนิ่งไปแวบนึง

“ร้านกาแฟนี่ใช่ร้านบ้านศิลป์? ที่เจ้าของชื่อน้าศิลป์? งั้นคุณก็ลูกชายคุณน้า??” หมอถาม ผมพยักหน้ารัวๆ ไม่แปลกที่คนแถวนี้จะรู้จักร้านของผมที่มีบริการส่งต้นซอยยันท้ายซอยฟรีๆอ่ะนะ

คุณหมอนิ่งไปแล้วเอามือลูบหน้าตัวเอง ก่อนที่จะบอกว่า...


“งั้นคืนนี้คุณไปนอนกับผมก่อนแล้วกัน ยังไงน้าศิลป์ก็คนรู้จัก” หมอยิ้มแปลกๆให้ผมก่อนเดินออกไปจากร้าน

“ห๊ะ คุณว่าไงนะ!” ผมลุกตามไปหน้าประตู

“ผมบอกว่าให้คุณมานอนห้องผมก่อน ยังไงผมไม่ให้คุณอยู่นี่หรอก จะไปกับผมหรือจะนอนหน้าร้าน? ถ้าไปกับผมก็ตามมานะ” หมอดึงผมออกจากประตู จัดการล็อกร้าน ก่อนเดินออกไปซอยข้างๆร้าน

ไปกับหมอ หรือ นอนหน้าร้าน...

ผู้ชายเหมือนกัน แถมตัวเท่าควายทั้งคู่ไม่น่ามีอะไรมั้ง

“คุณเอาไง ผมจะไปแล้วนะ”

“เฮ้ยหมอ! รอผมด้วยดิ ผมไปด้วย! ! ”

Tbc.

———————————————————————————————————————
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「1」25|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 25-08-2017 07:40:55
ชอบจัง  :-[  คุณหมอดูเหมือนพวกติสท์ ๆ อารมณ์ศิลปินเลย ชอบความเซอร์
น้องสีฝุ่นก็ตลกน่ารัก ดูเหมือนพวกเฮฮาบ้าบอ แต่จิตใจดี
ในวันร้าย ๆ ก็ยังมีเรื่องดี ๆ นะ เพราะเข้าบ้านไม่ได้ สีฝุ่นถึงได้เจอน้องมอม
แล้วน้องมอม ก็โชคดีที่ได้เจอคนใจดีแบบสีฝุ่น แถมยังนำพาให้มาเจอคุณหมออีก
ติดตามนะคะ เรื่องที่มีหมาแมวเนี่ย ชอบมากเลย
ขอบคุณคนเขียนค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「1」25|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 25-08-2017 19:26:43
คุณหมอเท่อ่า
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「1」25|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 25-08-2017 19:46:13
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「2」26|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 25-08-2017 22:11:33
• 2 •

ผมนั่งซ้อนท้ายรถมอไซต์คันใหญ่ของคุณหมอมาจนถึงที่พักซึ่งไม่ไกลจากร้านมากนัก ตอนแรกผมนึกว่าหมอจะอยู่หอพักรึบ้านพักธรรมดาๆ แต่ตรงหน้าผม...

ที่อยู่คุณหมอนี่...คอนโดหรูสุดของแถวนี้...

จริงๆผมไม่ควรแปลกใจตั้งแต่เห็นมอไซต์ของหมอแล้ว ดูคาดิ....

“ถึงแล้วครับคุณ รกหน่อยนะ” คอนโดที่หมออยู่เป็นคอนโดที่มี8ชั้น ซึ่งห้องของหมออยู่ชั้น8นั่นแหละ ชั้นที่บริเวรห้องกว้างขวางกว่าชาวบ้าน...

ผมก้าวเท้าเข้าไปในห้องตามคุณหมอต้อยๆประหนึ่งลูกเป็ด  ทันทีที่ผมเห็นห้องของหมอเต็มๆตา...

คือ ห้องโคตรน่าอยู่ครับ! ! ห้องชุดแบบชั้นครึ่ง ก้าวผ่านประตูไป ทางขวามือมีบันไดที่พาขึ้นไปชั้นลอย มองไปเห็นถูกกั้นไว้ คิดว่าคงเป็นห้องนอนหมอ มีโซนครัวกับโต๊ะทานข้าวอยู่ซ้ายมือ ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่น ถัดห้องนั่งเล่นไปเป็นระเบียงแอบเห็นว่าหมอปลูกต้นไม้ไว้ ใต้ชั้นลอยเป็นห้องน้ำ กับโต๊ะทำงาน ประเด็นคือห้องหมอสะอาด และเป็นระเบียบมาก!

ไหนความรกที่หมอบอกวะครับ!

“ห้องแม่งโคตรน่าอยู่” ผมพึมพำ คิดว่าหมอน่าจะได้ยินแหละถึงได้ยิ้มออกมาแบบนั้น

“ฝุ่น ห้องน้ำอยู่ทางนั้น คุณอาบน้ำเลยนะ เดี๋ยวผมเอาเสื้อผ้าลงมาให้ คุณน่าจะใส่ของผมได้ส่วนผ้าเช็ดตัวมีอยู่ในตู้หน้าห้องน้ำ แปรงสีฟันคุณแกะเอาอันใหม่ได้เลย” ผมพยักหน้าหงึก เดินไปตามนิ้วที่หมอชี้


หลังจากมายืนเอ๋อในห้องน้ำไม่นาน คุณหมอก็มาเคาะประตูบอกว่าวางชุดเปลี่ยนไว้ข้างหน้าให้ออกมาเอา ผมเปิดไปเอาชุด เสื้อยืดกับกางเกงบอล แถมด้วยชั้นในตัวใหม่... ผมรีบอาบน้ำให้เสร็จเพื่อที่จะได้ให้คุณหมอได้อาบต่อ พอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นคุณหมอนั่งซดมาม่าอยู่หน้าทีวี

“ผมเสร็จแล้วนะครับ ขอบคุณที่ให้ใช้ห้องน้ำครับ” ผมว่า ก่อนเดินไปนั่งข้างๆที่หมอนั่ง

“คุณขึ้นไปนอนบนห้องนะ ผมอาบน้ำเสร็จเดี๋ยวผมตามไป”

“เฮ้ย ผมนอนโซฟาได้ๆ แค่นี้ก็เกรงใจคุณหมอแย่แล้วครับ” ผมบอกปัด สนิทกันก็ไม่สนิท แค่หมอใจดีให้มาอาศัยด้วยก็เกรงใจแย่แล้ว

“เถอะน่าคุณ คุณนอนโซฟามันไม่สบายตัวหรอก ขึ้นไปนอนข้างบนแหละ อย่าดื้อ” หมอลุกไปทิ้งถ้วยมาม่าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป


ถึงหมอจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ความเกรงใจมันมีมากกว่าไง คือเพิ่งเจอกันอ่ะสนิทก็ไม่สนิท แค่เขาพามาห้องด้วยนี่ก็เกรงใจจะแย่แล้ว แถมยังเอาเสื้อผ้ามาให้อีก ถึงหมอจะบอกว่ารู้จักกับแม่ก็เถอะ แต่นั่นแม่ผมป่ะ! แต่นี่มันผมไม่ใช่แม่! พอหมอลุกไปผมเลยนั่งแหมะกลางโซฟาแทนที่หมอ ทดลองนอนกลิ้งไปมากับโซฟาตัวยาว นิ่มขนาดนี้มันจะนอนไม่สบายตัวยังไงวะ

ผมนอนอยู่อย่างนั้นจนหมออาบน้ำเสร็จ พอหมอออกมาเห็นผมยังไม่ขึ้นไปตามที่บอกก็ทำหน้าดุๆใส่จนผมต้องรีบบอก

“ผมนอนนี่ก็ได้ นิ่มพอๆกับที่ฟูกบ้านผมเลย”

“มีคนเคยบอกคุณไหมว่าคุณดื้อมากเลยฝุ่น มาคุณ ไปนอนกัน”  หมอส่ายหน้าเบาๆ ก่อนฉุดข้อมือผมให้ลุกตาม กดปิดสวิตซ์ไฟขั้นล่าง ก่อนพาเดินขึ้นไปชั้นลอย พาเข้าห้องนอนโดยที่ไม่ฟังผมท้วง แถมยังเหวี่ยงผมลงเตียงอีก! นี่คนครับไม่ใช่ตุ๊กตา! !

เอ๊ะ เดี๋ยวนะ...เหมือนเมื่อกี้ได้ยินหมอเรียกผมว่าฝุ่น?

“เฮ้หมอ รู้ชื่อผมได้ไง?” ผมถามออกไป หมอหันมาจ้องหน้าผมนิ่งๆก่อนจะตอบออกมา

“เอ่อ.. ใช่ๆ ก็ใบประวัติที่คุณกรอกไง คุณเขียนชื่อเล่นลงไป”

ผมพยักหน้าหงึกหงัก เอ่อว่ะใบนั้นผมเขียนชื่อเล่นลงไป หมอคงอ่านตอนเอาไปเก็บแหละ

ผมนั่งมองหมอที่กำลังเอาผ้าห่มอีกผืนจากในตู้ออกมาให้ จะว่าไป หมอชื่อไรวะ......

“ว่าแต่ หมอชื่อไรอ่ะครับ?”

“......” หมอหันมามอง แล้วก็พึมพำอะไรคนเดียวเบาๆ

“ขอโทษที่แนะนำตัวช้า ผมอินทัชครับ จะเรียกอาร์ตเฉยๆ หรือหมอเหมือนเดิมก็ได้” หมอยิ้มให้ โอเครู้ชื่อแล้ว

“ผมสีฝุ่นครับ คิดว่าหมอคงรู้จักผมผ่านแม่แล้วแหละเนอะ แฮะๆ” ผมว่ายิ้มๆ

“ดึกแล้ว นอนเถอะครับ ตื่นมาผมจะพาไปร้านแล้วจะพาไปส่งบ้าน ผมปิดไฟได้นะ?” พยักหน้าให้หมออีกครั้ง พอไฟดับลง หมออาร์ตก็เดินมานอนอีกด้านของที่นอน วางหมอนข้างกั้นอาณาเขต ไม่นานก็ได้ยินเสียงหายใจดังสม่ำเสมอ หมอหลับแล้วแฮะ


ผมพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับสงสัยจะแปลกที่ พอพลิกตัวไปด้านที่หมอนอนอยู่ก็เห็นว่าหมอจ้องมาทางนี้อยู่แล้ว

“นอนไม่หลับหรอครับ เห็นพลิกตัวไปมา”

“แฮะๆ นิดหน่อยครับสงสัยแปลกที่ ขอโทษที่ทำหมอตื่นนะ”

“ไม่เป็นไรผมยังไม่หลับดี” หมอส่ายหน้าเบาๆ “ให้ผมเปิดไฟตรงหัวเตียงไว้ไหม?” หมอถามต่อ ผมรีบปฏิเสธทันที

“งั้น... ราตรีสวัสดิ์ครับฝุ่น” มือของหมอเอื้อมมาลูบหัวผมเบาๆเหมือนผมเป็นเด็กน้อย

“ราตรีสวัสดิ์ครับหมอ”


ผมส่งยิ้มให้หมอผ่านความมืด ก่อนจมเข้าไปในห้วงนิทรา


———————————————————————————————————————



อืมม...

ผมปรือตาขึ้นเพราะถูกแสงในยามเช้ารบกวนการนอน มุดตัวลงให้ผ้าห่มปิดหน้าและพลิกตัวซุกความนุ่มนิ่มของหมอนข้าง
 
หืม? ทำไมวันนี้หมอนข้างมันแข็งแปลกๆวะ??

หมับ!

คลำ ‘หมอนข้าง’ที่ว่านั่น ทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา... หมอนข้างแข็งจังวะ แม่ซื้อมาเปลี่ยนใหม่หรอ? แม่? ไม่สิ..

เดี๋ยวนะไอ้ฝุ่น เมื่อคืนมึงเข้าบ้านไม่ได้ มึงเจอหมาข้างถังขยะ แล้วมึงมานอนห้องของหมอที่เพิ่งเจอที่โรงบาลสัตว์

แล้ว...แล้ว....


พรึ่บ! ทันทีที่สมองประมวลผลได้ ผมดึงผ้าห่มออกจากหัวทันที


เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!

หมอนข้างบ้านมึงสิไอ้ฝุ่น นี่มันอกหมออออออออออออออ ที่มึงซุกๆอยู่เนี่ยคือ อกแน่นๆของหมออ่ะไอ้ฝุ่นนนนนนนนนนนนน!

กึก
จะขยับตัวออกจากหมอ แต่ขยับไม่ได้... ผมผงกหัวขึ้นมอง... เสียใจครับสาวๆ หมอไม่ได้นอนกอดผมเหมือนพระเอกนางเอกในการ์ตูนตาหวาน แต่หมอนอนทับชายผ้าห่มที่ผมห่อตัวอยู่ครับ

“หมอครับ” ลองเรียก หมอยังไม่รู้สึก

“หมอออออ” ดิ้นเบาๆ หมอก็ยังไม่รู้สึกตัว

“หม๊อออออออออออออ” แหกปากดังพอประมาณ อ๊ะ! หมอขยับแล้ว!

“หมอตื่นก่อน ผมจะไปอาบน้ำ”

“หนวกหู คนจะนอน” ฟึ่บ! แขนหมอพาดผ่านเอว ก่อนดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่น


เชี่ยหมอออออออออออออออ มึงตื๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


ผมดิ้นใต้ผ้าห่มแบบที่สังขารพอจะอำนวย หวังให้หมอรู้สึกตัวตื่น แต่ผลที่ได้...ขาหมอพาดมาด้วยทำไมครับ! ! โอเค ตอนนี้ผมโดนล็อกตัวโดยหมอ... ถ้าใครเข้ามาตอนนี้ต้องเห็นภาพที่แม่งไม่น่าดูแน่ๆ ผู้ชายตัวเยี่ยงเสาไฟฟ้าสองคนนอนกอดกันบนอยู่เตียงนอน...

“หมออออออออออ ตื่นนนนนนนนนนนนนนนนนน” ผมแหกปากอีกครั้ง แต่หมอทำไม่สนใจกอดผมแน่นไปอีก!

Rrrrrrr

เสียงสวรรค์!
เสียงจากโทรศัพท์ของหมอดังขึ้น หมอขมวดคิ้วแล้วเอื้อมตัวไปหยิบมารับสายโดยที่ยังไม่ปล่อยผม ปล่อยดิหมอ ปล๊อยยยยยยยยยยยยยย

“ครับ”
‘พี่อาร์ตป่ะ นี่หวานนะ’
“อื้ม ว่า?”
‘จะถามว่าปอมๆในกรงนั้นมาจากไหนอ่ะ’
“อ้อ เมื่อคืนมีลูกค้าคนสุดท้ายมาตอนพี่จะปิดร้านพอดี เลยต้องรับไว้”
‘ไอ้ตัวน้ำตาลๆอ่ะนะพี่’
“เออๆ ไอ้ตัวนั่นแหละ ใบประวัติอยู่บนโต๊ะฝากเก็บด้วย มีใบเดียว”
‘ค่ะพี่อาร์ต แล้วเขาจ่ายค่าใช้จ่ายยัง’

หมอคุยทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ สงสัยที่โรงบาลโทรมาเรื่องไอ้มอม ผมไม่ได้ตั้งใจแอบฟังแต่ระยะนี้มันได้ยินเอง

“อ่าฮะ ก็บอกเจ้าของมันแล้.........” หมอเงียบไป ก่อนลืมตาโพลงมองผม “เดี๋ยวพี่โทรกลับ แค่นี้ก่อน!” หมอวางโทรศัพท์ไปแล้ว แต่ยังไม่คลายอ้อมกอดที่รัดผมอยู่

หมอเดดแอร์ไปแล้ว....

“เอ่อ... ปล่อยผมได้ยังหมอ” ส่งเสียงเรียกสติคุณหมอ พูดจบปุ๊บหมอเด้งตัวออกจากผมทั้งทีประหนึ่งโดนของร้อน

“อ่า พี่ อืมมม เอ่อคือผม...โทษทีผมคิดว่าเป็นหมอนข้าง” หมอก็ยกมือลูบหน้าลูบตาแล้วค้างมือไว้แบบนั้น ส่วนผมก็ลุกขึ้นนั่งทันทีที่เป็นอิสระ

“ฝุ่นลงไปข้างล่างก่อน เดี๋ยวผมตามลงไป” หมอว่า โบกมือไล่กลายๆ แต่มืออีกข้างยังปิดหน้าอยู่ “ถ้าจะอาบน้ำ ชุดเก่าคุณอยู่ระเบียงนะ”

“ครับ” ผมรีบวิ่งลงมาทันที คือปกตินอนกับเพื่อนมันก็ไม่ใกล้ชิดแบบนี้ไง นี่ใกล้ซะจน... ได้ยินเสียงลมหายใจของหมอ...


ทำไมหัวใจเต้นรัวแบบนี้


ผมอาบน้ำเสร็จก็ยังไม่เห็นหมอลงมาสักที เลยถือวิสาสะค้นของในครัวมาทำข้าวเช้าให้หมอกิน กว่าหมอจะลงมา ผมก็ทำข้าวเช้าเสร็จแล้ว

“ขอโทษที่ผมใช้ครัวโดยที่ไม่ได้ขอนะครับ เห็นเมื่อคืนหมอนั่งกินมาม่า ผมเลยอยากทำข้าวเช้าตอบแทนบ้าง” ผมพูดก่อนที่หมอจะถามอะไร ยกจานอาหารไปวางไว้บนโต๊ะ ข้าวเช้าง่ายๆ ไข่ดาว ไส้กรอก กับแซนวิช
หมอจ้องหน้าผมก่อนหลุบตาลง เอ่ยขอบคุณออกมาเบาๆ แล้วเรียกผมให้นั่งทานด้วยกัน

“สัก10โมงค่อยออกไปโรงบาลนะ” หมอพูดขึ้นมาระหว่างทานข้าวเช้าอยู่

“ไม่เป็นไรครับ ผมไปเองได้”

“เถอะน่า ยังไงผมก็มีเวรบ่าย ไปพร้อมกันนี่แหละ”

“ก็ได้ครับ”

“แล้วก็.......” ผมเงยหน้ามอง หมอทำท่าเหมือนอยากพูดอะไรแต่ก็ไม่พูดออกมา

เมื่อหมออิ่ม ผมเลยอาสาเก็บจานไปล้างซึ่งหมอไม่ยอมแหละแต่ผมอ้างว่าเกรงใจไงหมอเลยปล่อย แล้วเดินไปห้องน้ำ จนเกือบๆ10โมงหมอก็ออกมาในชุดทำงานเรียบร้อย

“ไปกันคุณ ไม่ลืมของนะ?” หมอถาม ผมก็ส่ายหัวเป็นคำตอบ แล้วจึงเดินลงไปที่จอดรถ บิ๊กไบค์คันเดิมนั่นแหละ

หมอใช้เวลาขับรถจากคอนโดหมอมาโรงบาลสัตว์ไม่ถึง10นาที หมอบอกให้ผมลงไปคุยเรื่องประวัติกับเคลียร์ค่าใช่จ่ายก่อน ส่วนตัวเองก็เอารถไปจอดที่ซอยข้างๆ


“สวัสดีครับ เอ่อ...เจ้าของไอ้มอมที่มาเมื่อคืนครับ” ผมบอกกับพนักงาน เขาก็สอบถามประวัติเพิ่มเติมซึ่งมันก็เหมือนกับที่เขียนๆไปเมื่อคืนนั่นแหละ สักพักหมอก็ตามเข้ามาทักทายพนักงานคนนั้นที่บังเอิญได้ยินว่าชื่อหวาน ก่อนขอตัวไปดูแลสัตว์ในห้อง

“ค่าใช้จ่ายทั้งหมดxxxบาทนะคะ ต้องให้น้องดูอาการสักวันสองวัน ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนน้องก็น่าจะกลับบ้านได้ค่ะ” คุณหวานยิ้มหวานสมชื่อให้ผม พร้อมบอกถึงอาการของไอ้มอมมัน “เอ่อ คุณสนิทกับหมออาร์ตหรอคะ?” เจ้าหล่อนถามขึ้น

“อืม ไม่เชิงครับ ก็คนรู้จักน่ะครับ” เจอเมื่อวานแล้วโดนเขาหิ้วเข้าห้องเลยนี่เรียกคนรู้จักได้เนอะ

“อ๋อออ ปกติไม่เคยเห็นหมออาร์ตให้ใครซ้อนมอไซต์เลยค่ะ เลยสงสัย แฮะๆ” เธอยิ้มแหยๆให้ผม ผมเลยขอตัวไปดูอาการไอ้มอมมัน แต่ไม่ทันได้เข้าไปหมออาร์ตก็เดินออกมาก่อน

“หมออาร์ตครับ มันเป็นไงบ้าง” ผมชี้เข้าไปในห้อง

“อาการก็ไม่น่าเป็นห่วงมากตอนนี้มันนอนอยู่ ว่าแต่คุณล่ะน้าศิลป์กลับถึงบ้านหรือยัง?”

“น่าจะใกล้ถึงแล้วมั้งครับ แม่บอกกลับมาสายๆ ยังไงผมขอตัวก่อนแล้วกันครับ ขอบคุณสำหรับเมื่อคืนนะครับ” ผมยิ้มให้ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากร้าน

“เดี๋ยวคุณ ผมไปส่ง”

“ไม่เป็นไรครับ เดินไปแค่นี้เองงง ชิวๆ” ผมว่า แต่มองสภาพอากาศแล้วว่าจะถึงเหงื่อคนไหลเป็นน้ำ

“......” หมอมองผมก่อนหันไปถามคนในร้าน “พี่จะไปบ้านศิลป์ เอาไรกันป่ะ?” เท่านั้นแหละออเดอร์มาเต็ม หมอหันมายักคิ้วแบบกวนๆให้ผมก่อนจะลากไปที่มอไซต์อีกครั้ง

เดี๋ยวหมอ มัดมือชกแบบนี้คือร๊ะะะะะะะะะะ

Tbc.


Talk with Mi

สวัสดีค่า มิเองค่ะ ไหนๆก็ลงตอน2แล้วขอพื้นที่น้อยๆมาทอล์กๆกันหน่อย ///w\\\
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่งเลยค่ะ  ถ้าไม่นับฟิคสมัครม.ปลายนะฮา เราพยายามจะไม่ดองค่ะ เนื้อเรื่องอาจจะเรื่อยๆเอื่อยๆ ถ้างงๆ หรือพิมพ์ผิดไปบ้างก็ขออภัยค่ะ ติชมได้เยยยยย
ขอบคุณทุกคอมเม้นตอนแรกมากค่ะ #กอดแน่น
ส่วนแฮชแท็กเรื่องก็ #กลิ่นสีและกาวน์หมอ ตามชื่อเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「2」265|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 25-08-2017 23:17:04
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「2」265|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-08-2017 08:17:49
อ๊าาา............ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ให้ความรู้สึกว่าหมอ แอบมองมานานแล้ว
มีเอาไปก่ายเป็นหมอนข้าง
มีไปส่งบ้านอีก
แถมไม่ยอมให้ใครซ้อนรถ ก็ยอมง่ายๆ แอร๊ยยยยยย  :m20: :laugh:
รอตอนใหม่นะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「2」265|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 26-08-2017 08:42:31
ตอนแรกเดาโพสิชั่นไม่ออกเลยอะ ตอนนี้เริ่มจะเดาได้บ้างละ // ขอบคุณคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「2」265|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 26-08-2017 09:07:06
รอตอนต่อไปจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「2」265|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 26-08-2017 13:19:13
น่ารักกกกก ชอบมากเลย  :-[ พี่หมออาร์ตใจดีจัง อบอุ่นละมุนละไม
ดูแลน้องดีจนน่าสงสัย รู้สึกมันผิดปรกติคนเพิ่งรู้จักกันนะเนี่ย
แถมยังรู้ชื่อน้องอยู่แล้ว ตอนน้องถามชื่อกลับ พี่หมอก็บ่นพึมพัม ก่อนบอกชื่ออีก
หรือจริง ๆ เคยรู้จักกันตอนเด็ก ๆ แต่น้องฝุ่นจำพี่หมอไม่ได้หรือเปล่า
นี่คิดว่าพี่หมอแกล้งละเมอกอดน้องนะเนี่ย ก็น้องตะโกนออกลั่นขนาดนั้น
นี่ไม่รู้ตัวจริง ๆ อ่ะ ว่าที่กอดไม่ใช่หมอนข้าง น้องตัวนุ่มนิ่มขนาดนั้นเลย ?
ไม่เคยให้ใครซ้อนมอเตอร์ไซด์ ก็ให้น้องซ้อน หาเรื่องไปส่งบ้านอีก แหม ๆ มันน่าคิด
ชอบความใสซื่อของน้องฝุ่น พี่หมอใจดี แต่แอบกวน แถมเอาแต่ใจนิด ๆ ด้วย ชอบ
ต้องได้มาเจอพี่หมอเรื่อย ๆ เพราะน้องมอมยังอยู่โรงพยาบาลเนอะ
แต่ยังไง พี่หมอก็ต้องหาเรื่องไปเจอน้องอยู่ดีนั่นแหละ >////<
รอตอนต่อไปน้า ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「2」265|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 26-08-2017 17:01:22
อยากอ่านอีก ชอบบบบบบบบบบ :katai4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「3」27|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 27-08-2017 12:05:46
• 3 •


นับว่าเป็นบุญของก้นผมมากกกกที่ได้นั่งรถแพงๆถึง3ครั้ง หลังจากหมอฉุดผมซ้อนท้ายได้หมอก็บิดพาผมมาจนถึงบ้าน แถมไล่ผมให้ลงไปร้านก่อนอีก


พอผมเปิดประตูร้านเข้าไป น้าศรก็เข้ามาบอกว่าแม่ยังไม่กลับบ้าน น้าศรเป็นรุ่นน้องของแม่ แม่รู้จักกับน้าศรมานานเห็นว่าน้าแกทำขนมและเครื่องดื่มเป็น เลยจ้างน้าศรเป็นผู้คนดูแลร้าน นอกจากแล้วมีเด็กเสิร์ฟอีก2-3คน แล้วก็น้าหยงที่อยู่ทำขนมที่หลังร้าน

ร้านบ้านศิลป์ก็เป็นร้านกาแฟกึ่งแกลอรี่ ที่มีเฟรมผ้าใบวาดรูปตั้งวางปะปนกับเฟรมภาพถ่าย แม่ผมทำงานเป็นจิตรกร เลยเอางานตัวเองมาตั้งโชว์ลูกค้า อันไหนมีคนสนใจก็ขายไป เหมือนๆกับพ่อผมที่เป็นตากล้อง ก็เอารูปที่ตัวเองไปถ่ายมาตั้งโชว์ มีตั้งแต่ภาพสมัยพ่อเป็นวัยรุ่นจนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว

แม่วาดรูปพ่อถ่ายรูป ลูกๆเลยได้ชื่อตามงานที่ตัวเองทำ ฟิล์ม กับ ฝุ่น....


“อ้าวน้องฝุ่น วันนี้ตื่นช้าจังคะ” น้าหยงที่ยกเอาเค้กออกมาพอดีเอ่ยทักทายผม

 “คือ.. เมื่อวานฝุ่นเข้าบ้านไม่ได้อ่ะฮะ เลยไปนอนบ้านเพื่อนมา”

 “อีกแล้วนะคะ นี่ไปบ้านเพื่อนจริงๆ หรือบ้านน้องผู้หญิงที่ชื่อฝนคนนั้นคะ” น้าศรพูดแซว เคยพาเธอมาที่บ้านบ่อยจนคนในร้านจำได้

“เพื่อนจริงๆฮะน้า” ผมยืนยัน ยังไม่มีใครในบ้านรู้ว่าเลิกกับฝนแล้ว เอาจริงๆเมื่อวานดันมีเรื่อไอ้มอมเข้ามาจนทำผมลืมนี่ ถ้าน้าศรไม่พูดผมคงลืมไปแล้วว่าเมื่อวานโดนแฟนทิ้งมา พอนึกได้ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาเลยแฮะ...


“เป็นอะไรรึเปล่าคะน้องฝุ่น?” สงสัยผมจะทำหน้าประหลาดๆออกไปให้เห็น ผมอึกอักไม่ได้ตอบออกไปทันที ก่อนที่ผมจะได้ตอบออกไปนั้น...

“พี่ครับ โรงบาลสัตว์เอารายการตามนี้” คุณหมอก็เข้ามายื่นกระดาษที่จดออเดอร์ให้ น้าศรเลยรับไปแล้วหันไปทำตามออเดอร์ แต่ไม่วายหันมามองผมแบบห่วงๆ

“ของหมอสั่งอะไรครับ เอาขนมด้วยไหม? เดี๋ยวผมไปทำให้เลยตอบแทนที่ให้ผมพักเมื่อคืน” ผมหันไปคุยกับคุณหมอระหว่างรอน้าศรหันไปทำเครื่องดื่ม

“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้เอง”

“แค่นี้ที่ไหนละหมอ ให้ผมไปนอนด้วยไม่พอ ชุดที่ผมใส่นอนหมอก็ไม่ยอมเอามาให้ผมซักด้วยซ้ำ”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเกรงใจผม คุณทำข้าวเช้าให้ผมก็ถือว่าตอบแทนแล้วน่า”

“ข้าวเช้ามื้อเดียว กับ คุณหมอที่ให้คนแปลกหน้าอย่างผมไปนอนด้วยเนี่ยนะ”

“คนแปลกหน้าที่ไหน รู้จักกันแล้ว---”

ระหว่างที่ผมกับหมอเถียงกันไปกันมาอยู่นั้น ก็มีคนเปิดประตูร้านเข้ามาอย่างแรงจนทำให้ผมกับหมอหันไปมอง


“ศร! เห็นฝุ่นมันกลับมายัง เมื่อคืนมันโทรมาบอกว่าเข้าบ้านไม่ได้ ไม่รู้ว่ามันไปหานอนไหน อ้าว!ตาอาร์ต มาซื้อกาแฟหรอลูก” บุคคลที่เข้ามาใหม่คือแม่ผมเองครับ ท่าทางเหมือนจะหงุดหงิดอะไรมาด้วย ตะโกนถามน้าศรดังลั่นร้านแต่พอเห็นหน้าของหมอแม่ก็ลดระดับเสียงมาเป็นเสียงปกติ คือผมยืนอยู่หลังหมอไง จากมุมที่แม่ยืนเลยยังไม่เห็นผม เพราะความหนาของหมอบังผมพอดี


“ครับน้าศิลป์ ผมมาซื้อให้คนที่โรงบาลด้วย”

“โถ่ จริงๆโทรมาก็ได้ เดี๋ยวน้าให้คนไปส่ง” แม่ว่าเสียงอ่อน

“อีกอย่าง... ผมต้องมาส่งเด็กด้วยครับ” หมอดึงให้ผมมายืนข้างๆ พอแม่เห็นผมปุ๊ป แม่ก็ทำตาโตเหมือนจะเบิกเนตรใส่ผมทันที

“สีฝุ่น! !”

“แฮะๆ แม่จ๋าาาาา” ผมเข้าไปกอดอ้อนแม่

“อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนสีฝุ่นไปนอนกับอาร์ทน่ะ” แม่หันไปถามหมอ เขาก็พยักหน้ารับ “แล้วนี่ไปเจอกันยังไง??” คราวนี้แม่หันมาถามผมบ้าง

แต่ก่อนที่ผมจะตอบแม่ น้าศรก็เอาบรรดาชากาแฟมาให้หมอ แม่บอกว่าไม่เอาเงินแต่หมอไม่ยอม พอจ่ายเงินเสร็จหมอก็ขอตัวกลับโรงบาลสัตว์ พอหมอไปปุ๊ปแม่ก็ลากผมเข้าบ้านและเริ่มซักทันที

“ไปเจอพี่อาร์ตได้ยังไง? เล่าแม่มาเลยนะ”

ผมก็เล่าเหตุการณ์ตั้งแต่เจอไอ้มอมข้างถังขยะ จนกระทั่งหมอพาเข้าห้อง (แต่ไม่ได้เล่าเรื่องหมอกอดนะ) พอฟังจบแม่ก็ยิ้มหน้าระรื่น ประหนึ่งว่าที่ผมเล่าไปเนี่ยมันสนุกมันน่าสนใจนักหนา ทั้งๆที่ผมอยากจะร้องไห้


“เอ่อใช่ แม่จ๋าฝุ่นถูกทิ้งแล้วล่ะ” ได้ทีเล่าให้แม่ฟัง เหมือนจะลืมความเจ็บของการถูกโดนทิ้งตั้งแต่เมื่อคืน แต่พอได้ขุดคุ้ยขึ้นมาก็เจ็บเหมือนเดิม ก็ว่าแหละเนอะแผลสดยังแสบ

“แม่ก็ว่าอยู่ว่าต้องมีวันนี้ แล้วหนูฝนบอกว่ายังไงตอนขอเลิกล่ะ”

“เขาบอกว่าเวลาอยู่กับฝุ่นแล้วฝุ่นเทคแคร์เขาเหมือนเพื่อนมากกว่าแฟนอ่ะแม่ เขาว่าฝุ่นไม่ใส่ใจเท่าที่เขาต้องการ แล้วมีหลายๆเรื่องที่เราเข้ากันไม่ได้ ฝนเลยขอเลิก...” ผมกอดแม่นิ่งๆ จนแม่หัวเราะขึ้นมา ปากก็บอกว่าฝุ่นเหมือนเด็กน้อย

“แม่ขอถามหน่อย ฝุ่นรู้สึกยังไงกับฝน เอาจากใจจริงๆเลยนะ”

ผมนิ่งไปนิด ก่อนตอบ “ฝุ่นชอ--”


“ฝุ่นใช้คำว่าชอบ แสดงว่ายังไม่ใช่รักเขาใช่ไหม ขนาดคบกันมาปีกว่านะนี่” แม่ขัดขึ้นมา “ตอนนี้ฝุ่นยังคงไม่เข้าใจ แต่ถ้าฝุ่นเจอคนที่ ‘รัก’ขึ้นมาฝุ่นจะเข้าใจเอง ชอบกับรักน่ะไม่ไม่เหมือนกันนะ ชอบคือเราสนใจแค่รูปร่างหน้าตาหรือแค่มีบางส่วนที่ถูกใจเรา แต่ถ้าเป็นรัก เราจะรับได้ทุกอย่างของเขาทั้งข้อดีข้อเสีย” แม่กอดผมโยกเบาๆราวกับปลอบเด็กน้อย

“ว่าแต่แม่จ๋า ทำไมแม่ถึงรู้จักหมอ? เขาเป็นลูกค้าประจำหรอ?? ทำไมฝุ่นไม่เคยเจอเวลาอยู่ร้านเลย” ผมเปลี่ยนเรื่องพูดจบแม่ก็หัวเราะลั่นออกมา มีอะไรน่าขำวะ?

“นี่ลืมไปแล้ว? ลูกแม่เป็นปลาทองหรือไง แม่ละสงสารตาอาร์ตมันจริงๆ” แม่ส่ายหัวปลงๆก่อนลุกหนีขึ้นห้อง ทิ้งให้ผมนั่งงงอยู่ตรงนั้น

ลืม? ลืมอะไรวะ?? แล้วสงสารหมอมันทำไม???

“แม่! ฝุ่นลืมไรอ่ะ เล่ามานะ!!” วิ่งตามไปเคาะประตูห้องแม่ มันค้างคาง่ะต้องรู้ให้ได้! !




ตอนเย็นผมตั้งใจว่าจะไปเยี่ยมไอ้มอม แต่ไอ้พวกซนๆที่บ้านมันดันลงไปคลุกดินจนมอมแมมไปทั้งตัว แม่เลยสั่งให้ผมอาบน้ำให้มันให้สะอาด ไอ้ซนที่ผมพูดถึงเนี่ยคือมะหมา4ขาครับ ที่บ้านเลี้ยงไว้2ตัว คือ หมาบางแก้วชื่อข้าวตัง กับหมาเตี้ยขาสั้นคอร์กี้ชื่อ หมูหยอง ผมคิดไว้ว่าถ้าไอ้มอมหายแล้วผมคงต้องหาบ้านให้ใหม่อ่ะ คิดว่าถ้าไอ้มอมมาอยู่กับพวกนี้คงไม่น่ารอด... มั้ง
กว่าผมจะจับพวกมันแต่ละตัวอาบน้ำ เป่าขนเสร็จก็ปาไปเกือบทุ่ม ผมนี่เปียกยันชั้นในเหมือนเล่นสงกรานต์ มองเวลาแล้วไม่ต้องออกไปไหนกันละวันนี้ พรุ่งนี้ค่อยไปเยี่ยม


ขึ้นห้องนอนด้วยความเหน็บเหนื่อย ปวดเมื่อยจากการจับหมาใส่ตะกร้าล้างน้ำ ไอ้หมูหยองก็วิ่งส่ายก้นกลมๆตามผมขึ้นห้องด้วย ผมนอนมองมันคุ้ยชั้นหนังสือชั้นล่างสุดจากบนเตียงนอน ส่วนมากเป็นอัลบั้มรูปที่เก็บใส่กล่องหนาไว้ เลยไม่กลัวว่ามันจะขาด

ผมรอมันคุ้ยจนพอใจ ก่อนจะตะกุยประตูออกไปข้างนอก ผมถึงได้ฤกษ์เก็บของที่มันคุ้ย

จะว่าไป ถ้าแม่พูดถึงเรื่องลืม ก็น่าหมายถึงเรื่องเก่าๆป่ะ? คิดได้ปุ๊ปผมก็นั่งไล่เปิดอัลบั้มรูปดู มีแต่รูปผมตั้งแต่ตอนเด็กจนรับปริญญา นอกจากคนในครอบครัวก็ไม่มีรูปคนอื่นเข้ามาแม้แต่นิด

ช่างแม่งละกัน




รุ่งขึ้นผมออกไปหาไอ้มอมตั้งแต่เช้า คิดว่าจะได้เจอหมออาร์ต แต่เป็นหมอคนอื่นแทน หมอคนนั้นบอกว่าใส่คอลล่าร์(ปลอกคอกันเลียแผล)ให้แล้ว นอกจากแผลตรงกลางหลังที่มีผ้าพันแผลแล้ว อาการอื่นๆก็ไม่มีอะไรหน้าห่วง สามารถพากลับบ้านได้เลย แล้วหมอก็ให้พามาตรวจใหม่หลังจากนี้อาทิตย์หนึ่ง กำชับไม่ให้มันลงน้ำหรือซนจนแผลเปิด

อ้อใช่ ผมถามหมอว่าไอ้มอมมันพันธุ์อะไร หมอบอกว่าเหมือนจะเป็นพันธุ์ผสมระหว่างปอมเมอเรเนียนกับชิสุห์ แต่จะให้ชัดก็ต้องรอตอนมันโต


ก่อนออกมาผมลองถามหาหมออาร์ตกับคุณหวาน เขาบอกว่าวันนี้เป็นวันหยุดของหมอคงไม่น่าเข้ามาถ้าไม่มีธุระ ผมว่าจะมาขอบคุณสักหน่อยเลยอดเลย



“ไอ้ตังไอ้หมู นี่เพื่อนใหม่พวกแก ชื่อมอมมันป่วยอยู่อย่าไปรังแกมันล่ะ” ผมหอบกรงใส่หมากลับบ้าน ไอ้พวกซนมันก็เข้ามารุมดมกันใหญ่ สงสัยจะแปลกกลิ่นเลยบอกว่ามันไว้ก่อนว่าห้ามรังแกมัน (Mi : พูดเหมือนมันเข้าใจนะคะลูก...) พอวางตะกร้าลง พวกมันมาก็ดมๆมองๆแต่ไม่ยักจะเห่าหรือขู่แฮะ ไอ้ตัวเล็กก็ไม่มีท่าทีกลัวหมาใหญ่พวกนี้ พออุ้มไอ้มอมออกจากตะกร้าไอ้คู่ซนก็จะเข้ามาใกล้ๆให้ได้จนผมลองปล่อยให้มันดมจนพอใจ ดูเหมือนสองซนจะไม่มีปัญหากับเพื่อนใหม่แฮะ
เออ ถ้าอยู่ด้วยกันได้ก็ดี จะได้เลี้ยงด้วยกันเลย

หมาสามตัวไม่ทำให้เดือดร้อนสักเท่าไหร่...มั้ง



หลังจากที่ผมพามอมเข้ามาอยู่ในบ้านไม่นาน มันก็กลายเป็นลูกรักของแม่ทันทีเพราะความน่ารักของมัน โดยมีข้าวตังหมูหยองเป็นเพื่อนเล่น

“ทำไมชื่อมอมละลูก ชื่ออื่นมีตั้งเยอะ เปลี่ยนชื่อดีไหม” เปล่าครับ แม่ไม่ได้พูดกับผม นู่นนน งุ้งงิ้งกับไอ้มอมอยู่นู่น

“ก็ฝุ่นไม่รู้จะกรอกชื่อไรไปนี่ เจอข้างถังขยะไม่ตั้งชื่อว่าถังก็ดีแล้ว” ผมบอกไป แม่หันมาจิกตามองทันที

“อืมมม ชื่อไรดีครับ มีข้างตังหมูหยองแล้ว ข้าวหลามไหม?”

“.........”

แม่เหลือบตามองผม

“ไม่ดีหรอ อ๊ะ งั้นชื่ออุ่นไหม? ไออุ่น”

“โฮ่ง!” มันตอบรับครับ! ไอ้มอมแม่พูดตั้งหลายชื่อมันนิ่ง แต่มาชื่อนี้มันขานรับ! !

“โอเค ชื่ออุ่นเนอะ ฝุ่น! น้องชื่ออุ่นนะไม่ใช่มอมแล้ว” แม่หันหน้ามาบอกผมแล้วหันกลับไปเล่นกับมันต่อ โดยมีไอ้ซนทั้งสองขนาบข้าง


ครับ ตอนนี้เราก็มีสมาชิกใหม่ของบ้านอย่างเป็นทางการ เป็นหมาปอมที่เก็บได้ข้างถังขยะ ตัวสีน้ำตาลๆ ขนยาวแอบแหว่ง นามว่า “ไออุ่น”

แม่ถ่ายรูปมันลงในไลน์ของครอบครัวใหญ่เลย พี่ฟิล์มก็บอกน่ารัก พ่อก็อยากกลับมาดู แม่งโคตรเห่อกันอ่ะ ตอนไอ้หมูหยองมาไม่เห็นเห่อขนาดนี้

ผมนั่งมองแม่เล่นกับไอ้มอมที่มีชื่อใหม่ไออุ่นสักพัก ก่อนขอตัวลงมาช่วยงานที่ร้าน จะว่าไปยังไม่เจอหมออาร์ตเลย พามอม...ไม่สิพาไออุ่นไปตรวจวันก่อนก็ไม่เจอ เรื่องที่แม่บอกตอนนั้นก็ยังไม่ได้ถาม เอาไว้ก่อนละกัน



ผมลงมาช่วยน้าศรที่ร้าน เพราะผมทำงานเป็นตากล้องฟรีแลนซ์เลยว่างมาช่วยร้านอยู่บ่อยๆ หน้าที่หลักของผมเวลาเข้าร้านคือทำขนมกับเครื่องดื่ม ครับอ่านไม่ผิด ทำขนม ผมชอบกินของหวานเลยหัดทำกับน้าหยง พอทำอร่อยแม่ก็ให้ผมประจำร้านทันที ฮา

เอาจริงๆก็เป็นแค่ลูกมือหละครับ ที่ร้านมีหน้าหยงทำประจำอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ผมจะมาทำพวกเมนูพิเศษประจำวันมากกว่า อย่างวันนี้แม่ให้ผมมาทำเมนูพิเศษซึ่งมีจำนวนจำกัด แม่ไปโปรโมตไว้แล้วจะไม่ทำก็ไม่ได้ มันคือเงินเดือนนนนน

ไม่นานเกิดรอ ทาร์ตผลไม้สูตรผมก็พร้อมวางขาย ทำแค่15ชิ้นก็พอ เยอะกว่านี้ผมขี้เกียจ ฮาาาาาา

Tbc.


———————————————————————————————————————


Talk with Mi

สวัสดีค่า มิเองค่ะ ตอนนี้น้องแมวมีชื่ออย่างเป็นทางการแล้ววว //อิมเมจแมวเรามาจากแมววัดแถวบ้านค่ะ เราเรียกมันว่าไอ้เทาตามสี เป็นแมวที่ตัวใหญ่พอๆกับหมาเริ่มจะโต เสียงร้องนี่แบบใหญ่มาก ชอบเข้ามาเล่นในสวนเราบ่อยๆ แต่ไม่เคยไปผูกมิตรได้ซักทีขนาดล่อทั้งขนม ทั้งของเล่น และหลายๆอย่างก็ตาม #กัดผ้า แต่อิมเมจพระนายทั้งสองไม่มีค่ะ จิ้นกันตามสบายเลยยย (ไม่ใช่ไรค่ะคือเราขี้เกียจหา ฮาาาาาา) ถ้าว่างๆจะเอาอาร์ตหนุ่มๆมาฝากกกกก

ส่วนการลงนิยาย เราคิดว่าจะลงวีคละ1ถึง3ตอนนะคะ แล้วแต่ว่าวีคไหนหัวแล่นเยอะก็จะเขียนได้เยอะ 55555555

เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ >[ ]<
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「3」27|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 27-08-2017 12:15:38
พอบอกว่าชื่อไออุ่น ทำไมเรานึกถึงการผสมกันระหว่างฝุ่นกับอาร์ท ฮา
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「3」27|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 27-08-2017 15:45:44
ว่าแล้ว ๆ เคยรู้จักกันมาก่อนจริง ๆ ด้วย แต่เป็นอะไรกันละเนี่ย เพื่อนพี่ฟิล์มหรือเปล่า
รูปถ่ายด้วยกันก็ไม่มี คุณแม่ก็ไม่ยอมเฉลยอีก แล้วทำไมน้องฝุ่นถึงลืมได้สนิทขนาดนั้นกันน้อ
แหม แต่แอบคิดว่าพี่อาร์ต จะหาเรื่องมาเจอน้องฝุ่นเรื่อย ๆ ไหงหายไปเลยล่ะ น้องไปหาก็ไม่เจอ
อ่านแล้ว ชอบบรรยากาศร้านบ้านศิลป์มาก ๆ นึกภาพตาม ถ้าได้ไปนั่งชิว ๆ คงมีความสุขน่าดู
บ้านน้องฝุ่นนี่ ให้อารมณ์ศิลปินกันทั้งบ้าน ลูกชื่อฟิล์มกับฝุ่นไม่พอ ว่าที่ลูกเขยก็ชื่อ อาร์ต ด้วยนะ 555
ชอบน้องฝุ่นคุยกับแม่จัง ขี้อ้อนเหลือเกิน แม่จ๋าอย่างนั้นอย่างนี้ น่ารักอ่ะ
สุดท้าย น้องมอมก็ได้ชื่อเพราะ ๆ แล้ว น้องไออุ่น แถมมีข้าวตังหมูหยองอีก น่ากิน เอ๊ย น่ารัก ฮาาา
ตอนแรกคิดว่าสีฝุ่น ยังเป็นนักศึกษานะเนี่ย ทำงานแล้วแถมทำขนมเก่งอีกด้วย พ่อศรีเรือนจริง ๆ
ทาร์ตผลไม้สูตรน้องสีฝุ่น พี่หมอจะมาเหมาไหม ตอนหน้าพระเอกค่าตัวแพงคงโผล่มานะ
ชอบมาก ๆ เลยค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณคนเขียนค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「3」27|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 27-08-2017 23:41:17
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「3」27|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 28-08-2017 10:38:55
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「3」27|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-08-2017 11:42:22
น่ารัก ชอบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

อาร์ท รู้จักแม่ฝุ่นจริงๆ
แต่ฝุ่น ไม่รู้จักอาร์ท นี่มันแปลกๆนะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「3」27|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 28-08-2017 11:48:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「3」27|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 28-08-2017 12:22:04
โอ้ยน่ารักจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「4」29|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 29-08-2017 15:36:27
• 4 •


วันนี้แม่สั่งหยุดร้านครับ หยุด2วัน เพราะพ่อกลับมาแล้วบวกแกนัดเพื่อนไว้ เย็นนี้แม่เลยลงมือเข้าครัวโชว์ฝีมือทำอาหารเย็นเอง ทิ้งให้ผมกับพ่อนอนเฝ้าลูกรักตัวใหม่ของแม่อยู่ที่ห้องนั่งเล่น

มาคิดๆดูแล้ว ตั้งแต่วันที่ผมเอาไออุ่นกลับมาจากโรงบาลสัตว์จนถึงวันนี้ก็2อาทิตย์กว่าแล้ว อาการของมันดีขึ้นมากตามลำดับ แถมยังเข้ากับคนในบ้านได้ดีสุด โดยเฉพาะกับแม่ผมนี่แหละครับแม่ถึงกับอาสาพามันไปหาหมอเองเลย ซ้ำยังโทรสั่งให้พ่อซื้อของใช้สำหรับหมาเด็กเข้าบ้านอีก เมื่อวานนี้พ่อกลับจากมาการออกไปตามหาแรงบันดาลใจ (ฝุ่น: พ่อบอกว่างั้นนะ แต่จริงๆคือหนีแม่เที่ยว...) พอถึงบ้านปุ๊บบรรดาข้าวของของใช้ลูกหมาทั้งหลายก็ถูกส่งตามมามันที มีทั้งของเล่นเอย ที่นอนใหม่ แต่ไอ้อุ่นไม่สน มันลงแต่กล่องที่ใส่ของพวกนั้นมา... ถามจริงนี่หมาหรือแมววะถึงเล่นกล่อง?
ส่วนไอ้ข้างตังหมูหยองก็เข้ากันกับไอ้อุ่นได้ดีเกินคาด ตอนนี้มันตามตูดไออุ่นต้อยๆประหนึ่งเป็นองครักษ์เลยล่ะครับ ทั้งบ้านเหลือแต่พี่ฟิล์มที่ยังไม่เคยเจอมัน



“ไงไอ้ลูกหมา แม่บอกว่าเอ็งโดนสาวทิ้ง” ผมที่นอนอยู่กลางห้องนั่งหน้ามองพ่อที่เอาขาหน้าไออุ่นมาสะกิดผม

“ก็ไม่ไงอ่ะพ่อ คนมันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่เนอะ ว่าแต่พ่อเถอะสาวเหนือสวยมากไหม” ผมถามพ่อกลับ เรื่องโดนบอกเลิกมานี่ผมพอทำใจได้ละ แค่อยู่กับไอ้สามซนนี่ผมก็ไม่มีเวลาคิดเรื่องอีกแล้ว

“อูย เบาลูกเบา สาวนงสาวเหนืออะไร๊ พ่อมีแต่แม่เอ็งคนเดียว”

“แล้วรูปนั่นล่----”

“ไอ้ฝุ่นเงียบ!” พ่อเอาตีนหมามาอุดปากผมทันที “เอาเท่าไรค่าปิดปาก” ฮาาา แสดงว่าพ่อไปแอ่วสาวเหนือจริงสินะถึงกับจะให้ค่าปิดปากเนี่ย

ผมจับขาหน้าไอ้ฝุ่นไว้ ก่อนลุกมานั่งประจันหน้ากับพ่อดีๆ

“ขอเลนส์กล้องสักตัวครับพ่อ” 

“ในตู้ อยากได้ตัวไหนไปเอามา”

 “....แม่คร้าบบบบบบบบ อุ๊บ” มือของพ่อปิดปากผมแทบจะทันที

“มีไรครับลูกชาย” แม่ตะโกนกลับมา ทำให้พ่อถลึงตาใส่ผม

“เปล่าครับแม่ ฝุ่นแค่จะบอกว่าหิวแล้ว ข้าวเสร็จรึยังงง” ผมตะโกนกลับไป ได้ยินแม่ตอบอะไรสักอย่างกลับมา ส่วนพ่อถอนหายใจดังเฮือก

“เออๆ จะเอาตัวไหนก็เอา แต่เอ็งต้องปิดปากเรื่องที่รู้ให้มิดเลยนะ” พ่อมองหน้าผมที่กำลังยิ้มกริ่ม มือก็เปิดกระเป๋าตังค์แล้วหยิบบัตรเอทีเอ็มให้ผม “อะ รหัสเดิมไปกดเอาเอง” ได้ยินพ่อบ่นกับตัวเองประมาณว่าเต๊าะนิดเต๊าะหน่อยเอง

“ขอบคุณครับคุณพ่อกร” ยกมือไหว้พ่องามๆไปที ใจปล้ำแบบนี่สิพ่อผม หึๆ

“สองพ่อลูกกินข้าวได้แล้ว แม่จะเอาข้าวไปให้3ตัวนั่นก่อน” จู่ๆแม่ก็เดินเข้ามาในห้อง อุ้มเอาไออุ่นที่ตักพ่อออกไป พ่อผมนี่สะดุ้งโหยงเลยคนมีชนักติดหลังก็แบบนี้แหละครับ

ผมเดินตามแม่ออกไป แต่ก่อนที่จะพ้นโซนห้องนั่งเล่น

“เออ พ่อครับ”

“จะเอาอะไรอีกไอ้หมา!”

“ฝุ่นแค่จะบอกว่า....”

“..............”

“ที่จริงฝุ่นพูดเล่นแหละ รูปอะไรฝุ่นก็ยังไม่เคยเห็นแต่ไม่นึกว่าพ่อจะไปแอ่วสาวมาจริ--- แว๊กกกกกกกกก” ยังพูดไม่จบประโยคดี พ่อผมก็ถอดสลิปเปอร์ที่ใส่อยู่แล้วปามาตรงผมทันที! !



ตลอดเวลาที่ทานมื้อเย็นกัน พ่อผมนี่มองผมแบบอาฆาตแค้นมากครับ แหมๆแค่ขอค่าปิดปากนิดหน่อยเองงง แม่ก็นั่งมองผมกับพ่อจ้องตากันเขม็งโดยไม่พูดอะไร พอทานกันเสร็จแล้วผมก็ขอตัวหนีขึ้นห้องก่อนมา ปล่อยให้หนุ่มๆสาวๆวันสี่สิบปลายๆมีเวลาสวีทกันสองต่อสองตามประสาคนไม่ได้เจอกันน๊านนาน โดยทิ้งสุนัขทั้งสามไว้ด้วย








ก็อกๆ

ก็อกๆๆๆ

“ฝุ่นลูก”

เสียงเคาะประตูห้องทำให้ผมรู้สึกตัว เงยมองนาฬิกา เพิ่งแปดโมงเช้า... เมื่อคืนนอนตี2 ตอนนี้มันยังไม่ได้เวลาผมตื่นเลยย

“ครับแม่ คร้าบบ” ผมตะโกน สะบัดผ้าห่มออกจากตัวก่อนเกิดไปเปิดประตูห้อง “ครับแม่ ฮ้าววว”

“เมื่อวานแม่ลืมบอก วันนี้พ่อกับแม่จะออกไปข้างนอกนะ แม่นัดป้าเล็กไว้”

“ป้าเล็ก?” ผมทวนชื่อที่ได้ยิน พร้อมทำหน้างงใส่

“ป้าเล็กที่เคยอยู่ข้างบ้านเราไงลูก ที่ตอนนี้ไปอยู่กับลูกสาวที่กรุงเทพฯน่ะ สิบโมงแม่จะออกไปแล้วนะ อ้อใช่ๆ ลูกสาวป้าแกน้องแอ๋มน่ะก็มาด้วยแต่ไม่ได้ไปกับแม่ ถ้าแม่ไปแล้วยังไงลูกก็พาน้องเข้าไปในเมืองหน่อยแล้วกันนะ เย็นๆพี่ชายเขาจะมารับไปนอนด้วย แล้วก็แม่เอาไออุ่นไปด้วยนะ” ผมพยักหน้ารับเหมือนเข้าใจ แต่จริงๆคือสมองยังไม่ทำงาน “ฝุ่นก็ไปอาบน้ำได้แล้วไป ป้าเล็กจะมาแล้ว” แม่ดันผมเข้าห้องคืนก่อนปิดประตูให้

ผมหยิบผ้าเช็ดตัวเดินตาปรือเข้าไปในห้องน้ำ โดนน้ำเย็นราดก็ยังไม่รู้สึกตื่นจนเผลอเอาโฟมล้างหน้ามาแปรงฟันนั่นแหละถึงจะรู้สึกตัวตื่นเต็มตา... ออกจากห้องน้ำมาก็เกือบ9โมงครึ่งแล้ว รีบแต่งตัวแล้วลงไปหาแม่



“อ้าวลงมาพอดีเลย ไหว้ป้าเล็กยังลูก” ผมยกมือไหว้คนตรงหน้า

“แล้วนี่น้องแอ๋ม ฝุ่นจำน้องได้ไหม?” ผมพยักหน้าแล้วมองตามมือแม่

 “จำได้ครับ ไม่เจอกันนานแอ๋มสวยขึ้นเยอะเลยนะ”

ผมยิ้มให้คนตรงหน้า พลางคิดว่าระยะ4-5ปีที่ไม่ได้เจอกันทำไมน้องเปลี่ยนไปเยอะแบบนี้!! คือแอ๋มเป็นลูกของป้าเล็กที่อยู่ข้างบ้านครับ แม่ๆเราสนิทกันเลยเล่นด้วยกันบ่อยๆ ป้าแกมีลูกสองคน ลูกชายกับลูกสาวที่อายุห่างกัน6ปี ลูกชายป้าเล็กรู้สึกจะชื่ออาร์มเป็นผู้ชายตัวสูงใส่แว่นหนาเต๊อะ ส่วนแอ๋มตอนนี้จากเด็กทอมๆ กลายมาเป็นสาวสวยแล้วครับ... น้องห่างกับผม3ปี เรียนอยู่ปี4ที่มหาลัยในกรุงเทพป้าเล็กแกห่วงลูกสาวเลยเข้าลงไปอยู่ด้วย บ้านป้าแกก็ให้ญาติแกมาอยู่แทน
ผมไม่ได้เจอน้องตั้งแต่น้องเข้ามหาลัยไม่น่าเชื่อว่าระยะเวลาไม่นานอะไรๆก็เปลี่ยนไปมากเลย...

“เห็นไหมแม่ แอ๋มบอกแล้วพี่ฝุ่นจำแอ๋มได้” แอ๋มเดินมากอดแขนผมหลวมๆสงสัยจะคุยกันไว้ว่าผมคงจำไม่ได้ จริงๆผมก็จำไม่ได้แหละครับ...

“พี่ฝุ่นต้องพาแอ๋มเที่ยวนะ แม่ทิ้งแอ๋มไปกับป้าศิลป์แล้ว” น้องหันมาทำเสียงอ้อนใส่ผม

“ป้าฝากน้องด้วยนะ พวกป้าคงกลับมาดึกๆ เดี๋ยวพี่ชายไอ้แอ๋มมันจะมารับตอนเย็น” ป้าเล็กว่า

“ครับผม อยากไปไหนบอกนะเดี๋ยวพี่พาไปนะ” ผมบอกแอ๋ม ก่อนแบมือไปตรงหน้าแม่ แม่เลยวางเงินและบัตรเครดิตให้ เลยเก็บใส่กระเป๋ากางเกงแล้วแบบมือต่อ

“อะไรลูก ที่แม่ให้ไม่พอรึไง” แม่ถามฉุนๆ

“เปล่าครับ ผมจะขอกุญแจรถ” เท่านั้นแหละครับ ทุกคนยกเว้นแม่ก็หัวเราะลั่น



———————————————————————————————————————


   

“หูย แอ๋มว่าแอ๋มไปไม่นานนะพี่ กลับมาทีนี่เปลี่ยนไปหมดเลย” ผมพาแอ๋มมาไหว้อนุสาวรีย์ย่าโมก่อน พอน้องเห็นว่าตรงข้ามมีบ้านทรงไทยที่เป็นเปิดพิพิธภัณฑ์จึงลากผมไปดู ข้างในมีเป็นของดีแต่ลำตำบล

“สวยอ่ะ พี่ถ่ายให้แอ๋มสวยๆนะ” น้องยิ้มสู้แดดให้ผม ผมก็รัวชัตเตอร์ตามน้องแกบอก

เราใช้เวลาเดินดูไม่นานแอ๋มก็บ่นหิวออกมา ตอนแรกผมจะพาไปห้างใกล้ๆแต่น้องบอกอยากกินชาบูชิก็เลยต้องขับรถพาน้องออกมาอีกห้างแทน ระหว่างกำลังเดินจากที่จอดรถเข้าตัวห้าง สายตาผมก็ดันไปเห็นรถของแฟนเก่าจอดอยู่ จึงถอนหายใจออกมาจนน้องแอ๋มสังเกต


“พี่ฝุ่นเป็นไรอ่ะ?”

“เปล่าๆ ไม่ได้เป็นไร”

“อิหรอบนี้เป็นแน่ๆ อกหักหรอ” น้องเข้ามาเขย่าแขนผม จึงพยักหน้าส่งๆให้ “หูย หล่อๆแบบพี่ถูกสาวทิ้งได้ไง” เล็บยาวของแอ๋มจิ้มเข้าที่แก้มผม

“ยุ่งน่า” ผมผลักหัวน้อง สงสัยจะแรงไปจนน้องเบ้หน้า

“งั้นวันนี้แอ๋มให้ยืมควงวันนึง อย่าเอาไปบอกแฟนแอ๋มนะ คิก” น้องควงเข้าที่แขนผม เลยปล่อยเลยตามเลย

“มีแฟนแล้วหรอเรา?”

“มีแล้วค่า เป็นถึงดาวคณะแอ๋มเลยนะ” แอ๋มยิ้มเขินๆ

หืม ดาว?

“เดือนคณะรึป่าวแอ๋ม?”

“ดาวแหละถูกแล้วพี่ แฟนแอ๋มเป็นผู้หญิง” น้องยิ้มกว้าง แล้วเปิดรูปให้ดู สวยคู่เลยครับ

“แล้วป้--”

“แม่โอเคค่ะ” แอ๋มขัดเหมือนรู้ว่าผมจะถามอะไร “แม่บอกว่าคบเพศไหนก็ได้ ขอแค่เป็นคนดีก็พอ”ผมพยักหน้าให้กับคำพูดแอ๋ม


เมื่อถึงร้านชาบูชิ ระหว่างที่ทานกันนั้นอยู่ผมก็นั่งฟังแอ๋มบ่นทั้งเรื่องเรียนว่ายาก เรื่องเพื่อนไม่ช่วยงาน เรื่องกลัวติดเอฟ กลัวจบไม่พร้อมกับกับแฟน น้องบอกว่า ปีหน้าจบแล้วจะกลับมาอยู่โคราชเพราะป้าเล็กอยากกลับมา เอาเป็นว่านาทีนี้น้องอยากบ่นอะไรผมก็พร้อมรับฟังหมดแหละครับ ฮา
   กว่าเราจะทานกันเสร็จก็บ่าย3กว่าแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าตัวเล็กๆแบบแอ๋มจะกินได้โคตรเยอะแบบนี้ เรียกว่าโคตรคุ้มอ่ะ


ผมถามแอ๋มว่าพี่จะมากี่โมง น้องก็บอกว่าน่าจะ6โมงเย็นแล้วจะพากลับไปนอนห้องพี่ ส่วนป้าเล็กค้างบ้านผม ผมเลยเสนอให้ซื้อของไปทำอาหารเย็นกินกันเอง ซึ่งแอ๋มก็เห็นด้วย เลยพากันไปซื้อของที่ซุปเปอร์ แต่พอจ่ายเงินเสร็จ กำลังจะเดินไปที่รถเท่านั้นแหละ....

“ฝน...” ผมพึมพำชื่อคนตรงหน้า ถึงจะเห็นรถที่จอดอยู่ก็เถอะแต่ก็ไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอกันแบบนี้

ฝนปรายตาลงมองแขนผมที่ถูกแอ๋มควงอยู่

“แหม เพิ่งเลิกกันฝนไม่นานเองนะคะ” เธอว่าเสียงเรียบ “สวัสดีค่ะ ฝนค่ะเป็น‘แฟนเก่า’ของฝุ่น” ฝนเน้นคำ มือบางยื่นมาตรงหน้าแอ๋ม
น้องไม่จับมือ หรือตอบอะไรคนตรงหน้าแต่กลับขยับมากอดแขนผมแทน “พี่ฝุ่นคะไปกันเถอะ”

“ครับ เดี๋ยวกลับกันเลยนะ ส่วนฝน...ยินดีที่ได้เจออีกครั้งนะ” ผมลูบหัวน้องก่อนพูดบอกหันมองฝน เห็นเธอยืนเม้มปากแน่น “ผมขอตัวก่อนนะ”

ผมรู้ว่าฝนไม่พอใจ แต่ไม่พอใจอะไรล่ะในเมื่อเราเลิกกันแล้ว และเธอเป็นคนบอกเลิกผมก่อน



แอ๋มดึงผมให้เดินออกจากตรงนั้นทันที พอเห็นว่าไกลพอแล้วน้องก็เริ่มซักไซ้

“พี่ฝุ่น! นั่นแฟนเก่าพี่หรอ ใครบอกเลิกใครก่อนคะ ทำไมเขาทำหน้าเหมือนอยากจิกหัวแอ๋มแบบนั้นละ!” น้องพูดรัวมาก

“เขาบอกเลิกพี่ก่อนน่ะ” ผมว่า

“นี่เลิกจริง หรือเขาประชดให้พี่ไปง้อกัน?”

“ไม่รู้ดิ คงอยากเลิกจริงมั้ง” ผมยักไหล่

“เหอะ หมาหวงก้าง” น้องสบถออกมา



ทันทีที่ถึงบ้านน้องก็ขอไปพักก่อนเพราะรู้สึกมึนๆหัว ผมจึงอาสาเข้าครัวทำอาหารเอง(ตอนแรกตกลงว่าจะทำด้วยกัน) แล้วบอกให้น้องไปนอนที่ห้องแขกได้ กะเวลาว่าใกล้ๆ6โมงเย็นจะไปปลุกน้อง ผมยกของมาไว้บนเค้าเตอร์ครัว พอเอาเนื้อออกจากถุงไอ้หมาจมูกดีทั้งสองก็รีบปรี่เข้ามาหาผมทันที

“เฮ้ย อันนี้ไม่ใช่ของแก อย่ายุ่ง” ผมยกเนื้อขึ้นเหนือหัวเพราะไอ้ข้าวตังมันพยายามจะยืนเกาะผมให้ได้ “ข้าวตังออกๆๆ!”

มันผละออกไปแล้ว ผมมองดูท่าเหมือนซอมบี้หิวโซของมันทั้งสองก่อนนึกขึ้นได้ว่า ผมลืมให้อาหารมันตั้งแต่มื้อเที่ยง!! จึงจัดการคว้าเข้าที่ปลอกคอทั้งสองตัวให้ออกจากครัว ลากมันไปจุดที่วางจานอาหารที่ตั้งคู่เครื่องให้อาหารอัตโนมัติซึ่งมีแต่ความว่างเปล่า

“เออๆขอโทษๆ ลืม” ผมว่า แล้วเทอาหารเม็ดใส่จานให้มัน ก่อนจะเดินหาไออุ่นแต่นึกได้ว่าแม่เอาไออุ่นไปด้วย เสร็จภารกิจให้อาหารหมา ก็ถึงเวลาทำอาหารคนแล้ว ผมเลือกทำอาหารแบบที่ผมอยากกินอย่างพะแนงเนื้อ ยำไข่ต้ม กับของที่แอ๋มรีเควสไว้อีกสองสามอย่าง มีของหวานเป็นพายบลูเบอรี่ที่ผมลองทำ

ผมนี่มันพ่อศรีเรือนจริงๆเลย วานบ้านเป็น อาหารทำได้ ของหวานทำเป็น ใครได้เป็นสามีโคตรโชคดี หึๆ

มองนาฬิกาเข็มสั้นเกือบจะเลขหกแล้ว ผมเอากับข้าวเข้าเก็บในตู้ แล้วจึงขึ้นไปปลุกแอ๋มให้ไปล้างหน้าล้างตาเตรียมรอพี่ชายแอ๋มมารับ

“เมื่อกี้พี่โทรมาบอกว่าอาจมาช้าหน่อยนะคะ เห็นบอกว่าติดเคสด่วนอ่ะ” ผมพยักหน้ารับรู้ จำได้ราวๆว่าพี่ชายของแอ๋มเรียนหมอ จะว่าไปก็เหนื่อยแทนคนเป็นหมอนะครับไม่ได้พักเป็นเวลา ไหนจะวิ่งวุ่นกับเคสคนป่วยอีก

นั่งดูรายการทีวีรอเกือบชั่วโมง พี่ชายของแอ๋มก็โทรเข้ามาบอกว่าใกล้ถึงแล้ว น้องเลยบอกจะไปตั้งโต๊ะรอเอง รอไม่นานก็ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดในบริเวณบ้าน สงสัยจะมาแล้วแฮะ

ผมออกมารอหน้าบ้าน เห็นรถของพี่ชายแอ๋มกำลังจอดอยู่ โรงจอดรถบ้านผมหลอดไฟขาดจึงทำให้เห็นแค่เป็นเงาคนเท่านั้น ผมยืนรอพลางคิดว่าถ้าคนน้องเปลี่ยนไปขนาดนี้ คนพี่จะหน้าตาเปลี่ยนจากความทรงจำอันน้อยนิดของผมมากไหม

อ๊ะ มาแล้วมาแล้ว

ผมยืนยิ้มมอง ก่อนเบิกตากว้างเมื่อเห็นหน้าคนมาใหม่ชัดๆ

“คุณ! ! ! !”


Tbc.


———————————————————————————————————————


Talk with Mi

ตัดฉิบบบบบบบบ ใครมาเอ่ย ตัวละครใหม่??????????
ก็ไม่รู้สินะ
เรื่องนี้ดำเนินเรื่องในจังหวัดบ้านเกิดมิเองค่ะ โคราชบ้านเอ็ง~~~ จังหวัดที่รถติดพอๆกลับกรุงเทพฯเลยย มิเคยไปอยู่กรุงเทพฯช่วงต้นปีที่ผ่านมา พอกลับมาโคราชแล้วรู้สึกว่าการจราจรของสองที่นี้มันไม่ต่างกันเลย ฮรื่อออ
สองตอนมานี้พระเอกค่าตัวแพงค่ะ พี่หมอบอกว่าไม่ว่าง----
ยังไงก็ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ อิอิ
#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「4」29|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 29-08-2017 20:34:37
พี่หมออาร์ทสินะ คราวนี้คงจำได้เสียที (หรือเปล่า)
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「4」29|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 29-08-2017 21:50:20
มาแล้ว ๆ  พี่อาร์ท  ลูกชายป้าเล็กคนนั้นนั่นเอง มาปุ๊บ ก็จบปั๊บเลยอ่ะ น่าสงสารคุณพระเอก 555
แล้วทำไมฝุ่น จำเป็นชื่ออาร์มล่ะเนี่ย ถึงว่า ได้ยินชื่อพี่อาร์ทแล้ว ก็ยังจำไม่ได้ ลืมสนิทไปเลย
แล้วยิ่งพี่อาร์ทคงจะเปลี่ยนไปมาก ๆ จากความทรงจำของฝุ่น ที่เป็นหนุ่มแว่นหนาเตอะ แสดงว่าตอนนั้น
พี่อาร์ทกับฝุ่นคงไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่สินะ นี่อยากรู้ว่า ฝุ่นในความทรงจำของพี่อาร์ทเป็นยังไงน้อ
เอ แต่พี่อาร์ท ก็เพิ่งกลับมาอยู่แถวนี้หรือเปล่า ไม่อย่างนั้น 4-5 ปีที่ผ่านมา ฝุ่นก็ต้องได้เจอบ้างสิ
น้องแอ๋มน่ารักดีอ่ะ ชอบ แต่ฝนแฟนเก่าฝุ่น คิดว่าจะนิสัยดีกว่านี้ เห็นคุณแม่พูดเหมือนเอ็นดู
ที่ไหนได้ ท่าทางจะร้ายพอดูเลย แล้วทำไมยังมาทำท่าทางหึงหวงฝุ่นอีกล่ะ บอกเลิกเองแท้ ๆ
ครอบครัวสีฝุ่นอบอุ่นดีจัง ชอบคุณพ่ออ่ะตลกดี น้องไออุ่น ก็กลายมาเป็นศูนย์รวมใจของบ้านซะแล้ว น่ารัก
แต่ฝุ่น ชื่อสีฝุ่น ก็คิดว่าจะเป็นจิตรกรแบบแม่ซะอีก กลายเป็นตากล้องแบบพ่อ งี้พี่ฟิล์มเป็นจิตรกรหรือเปล่า
แล้วนี่เขียนเป็นตุเป็นตะ ไม่ใช่เปิดตอนหน้า ผู้มาใหม่ไม่ใช่พี่อาร์ทนะ หน้าแตกยับแน่ ฮาาาา
เอาน่า มั่นใจ ๆ อยากเจอพี่อาร์ทแล้ว รอตอนต่อไปนะคะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「4」29|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-08-2017 22:12:09
เป็นพี่หมอที่ฝุ่นไปนอนด้วยแน่ๆ
แต่ชื่อไรกันแน่ อาร์ท หรือ อาร์ม
หรือ ทั้งสองชื่อ ชื่อที่บ้านกับที่เรียน
หรืออาร์ม เปลี่ยนไปเป็น อาร์ท

 :angry2:  ฝน เธอแปลกๆและ บอกเลิกเอง  :m16:
แล้วมาเหวี่ยงวีนใส่แอ๋ม ใส่ฝุ่น เสียดายฝุ่นละสิ  o18
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「4」29|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 29-08-2017 23:25:17
อ้าว คนบ้านเดียวกัน แค่มาองตากันก็เข้าใจอยู่~~
ค้างอ่ะ มาต่อเร้วๆเด้อ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「4」29|08|60
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 30-08-2017 00:18:34
ตามมมม
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 01-09-2017 21:08:40
• 5 •



“คุณ! ! ! !”


ผมตะโกนออกมาทันทีเมื่อผมเห็นหน้าบุคคลมาใหม่ชัดๆ และเขาคนนั้นก็เอาแต่ยิ้มและจ้องหน้าผม

“คุณมะ-----”

“พี่ชายยยยยยยยยยยยยยยยย” ไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรออกไป แอ๋มก็กระโจนออกจากตัวบ้านไปกอดผู้ชายคนนั้นอย่างเต็มแรง ก่อนที่แขนของผู้ชายคนนั้นจะโอบเอว และยกน้องแอ๋มขึ้นจนทั้งสองหัวเราะร่า

“พี่ชาย??” ผมพึมพำออกมา แต่เหมือนคนแถวนี้จะหูดี

“ครับ ผม‘อาร์ต’ เป็นพี่ชายของแอ๋มครับ” เขาวางตัวแอ๋มลง  ก่อนหันมายิ้มและพูดกับผม ทำให้ผมมองทั้งสองคนสลับกันทันที

“คิก จริงอย่างที่พี่บอกเลยว่าพี่ฝุ่นต้องจำพี่ไม่ได้”

“ใช่ไหมล่ะ พี่พูดผิดซะที่ไหน”

“ไม่ใช่แค่พี่นะ น้าศิลป์ก็บอกอย่างงั้น”
“จริงดิ?”
“จริงค่า แล้วนี่พี่ก็เอาคนที่จำตัวเองไม่ได้เข้าห้องเนี่ยนะ”
“ช่วยไม่ได้ ก็ฝุ่นเต็มใจตามมาเองนี่เนอะ”
ได้ยินเสียงสองพี่น้องนั่นคุยกันเอง ก่อนที่จะหันมาเนอะๆใส่ผมที่กำลังประมวลผลอยู่

ครับ...
คุณหมอที่ผมพาไออุ่นไปหาตอนเที่ยงคืนวันนั้น
คุณหมอใจดีไม่สมกับหน้าตาที่ให้ผมไปนอนที่ห้องด้วย ทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกัน
คุณหมอที่อยู่ตรงหน้าผม...พี่ชายของแอ๋ม เป็นคนเดียวกันครับ! ! !
มาถึงตอนนี้ผมรู้เลยว่ารอยยิ้มแปลกๆที่เห็นหมอยิ้มวันนั้นคืออะไร... 

และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันนั้นถึงเรียกชื่อผมถูก! !





ผมเดินพาทั้งสองคนเข้าบ้าน จังหวะที่หมอขอไปเข้าห้องน้ำ ผมเลยลากแอ๋มมาซักถามทันที
“พี่ชายแอ๋มไม่ใช่ชื่ออาร์มหรอ?”
“ไม่นะพี่ พี่ชายแอ๋มชื่ออาร์ตนี่แหละ ชื่อนี้น้าศิลป์ตั้งให้เลยนะ”
“แล้วทำไมแต่ก่อนแอ๋มเรียกว่าพี่อาร์ม?”

“อ๋อออ ตอนนั้นแอ๋มเห็นว่าชื่อมันไม่คล้องกัน อาร์ตแอ๋มเนี่ย เลยเรียกพี่อาร์ตว่าอาร์มจะได้คล้องจองกันอ่ะ แฮะๆ” ผมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินคำตอบแอ๋ม โอ๊ย เด็กน้อยเอ๊ยยยยย ทำคนอื่นจำชื่อผิดมากี่ปีแล้ว

“พี่ฝุ่นไม่ตีหน้ายักษ์ใส่แอ๋มสิ เขี้ยวจะงอกแล้วนะ” น้องยื่นมือมาจิ้มหว่างคิ้วผม พร้อมทำหน้าแหยๆใส่

“เฮ้อ นี่กูปล่อยไก่ไปกี่ตัวละวะ” ผมลูบหน้าตัวเอง พยายามนึกถึงวันที่ไปนอนห้องหมอว่าได้ไปทำวีรกรรมอะไรไว้ไหม

“นี่พี่จำพี่อาร์ตไม่ได้จริงดิ?” แอ๋มถาม

“ใครจะจำได้ฮะไม่เจอมาตั้งกี่ปี ป้าเล็กก็บอกว่าลูกชายเรียนหมอ ก็นึกว่าหมอคนใครจะรู้ว่าที่จริงคือหมอหมา” ผมบ่นยาว แอ๋มหัวเราะร่า

“ก็จริงของพี่นะ”

“อีกอย่าง ตอนนั้นพี่ชายแอ๋มใส่แว่นด้วยนี่”

“อ๋อ ผมไปทำเลสิคมาครับ ทำแว่นพังบ่อยเลยตัดสินใจทำ” เสียงทุ้มของบุคคลที่สามดังขึ้นจากด้านหลัง ผมหันไปมอง จู่ๆก็นึกฉุนคนตรงหน้าขึ้นมา จนแอ๋มยิ้มแหยๆให้อีกรอบ

“พี่ชายยย หิวยังกินข้าวกัน” แอ๋มรีบลากพี่ชายตัวเองออกไปที่ครัว “นี่ๆ มีของโปรดพี่ด้วย พี่ฝุ่นทำเองนะ มีความเป็นแม่ศรีเรือนอ่ะ น้องอยากได้” น้องพูดกับหมอพร้อมหันมายิ้มให้ผม ก่อนที่ทั้งสองจะ นั่งลงที่โต๊ะตรงข้ามกับผม
มื้อเย็นของวันนี้พะแนงเนื้อกับยำไข่ต้มที่ผมชอบแล้ว ยังมีน้ำพริกปลาทู กับไข่เจียวปูอีก คิดว่าปริมาณคงพอกับคนสามคน (ฝุ่น:/เหลือบมองน้องแอ๋มหวาดๆ)

“หมดนี่ผมทำเองครับแอ๋มเขารีเควสมาให้ทำ ไม่รู้จะถูกปากหมอ...เอ่อพี่อาร์ตหรือเปล่า”

“เรียกตามคุณถนัดก็ได้ ผมไม่ได้ว่าอะไร” ผมพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะลงมือทานมื้อเย็นกัน โดยมีเสียงสองพี่น้องคุยถามไถ่กันตลอดเวลา



พอทานกันเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาที่จะส่งสองศรีพี่น้องตัวอ.กลับบ้านได้แล้ว

แต่ทว่า....

“พี่อาร์ตตตต แอ๋มขอนอนนี่ได้ไหม อยากเล่นกับมันอ่ะ” เสียงแอ๋มดังขึ้น นิ้วชี้ไปที่หมาขาสั้นที่กำลังเดินมาทางนี้ ก่อนลงไปนั่งยองๆเล่นกับมัน “ฮึ่ยยย น่ารักกก”  (ก่อนหน้านี้แอ๋มไม่เจอเพราะหนีเข้าห้องก่อน+ปกติข้าวตังนอนในกรงข้างนอก ส่วนหมูหยองจะนอนห้องแม่ไม่ก็ห้องผม)

“ค่อยมาเล่นพรุ่งนี้ดีกว่าครับ เรากวนฝุ่นมาทั้งวันแล้ว” หมอมองผมก่อนจะตอบน้องสาว แอ๋มเบ้ปากใส่หมอ ก่อนจะหันมาอ้อนผมแทน

“นะๆ แอ๋มนอนนี่ได้ไหมคะพี่ฝุ่น” แอ๋มอุ้มหมูหยองขึ้น พร้อมทำตาแป๋วแข่งกับคอร์กี้มาให้ผม

“เอ่อ...ถ้าป้าเล็กให้ พี่ก็ไม่ห้ามครับ” ผมตอบกลางๆ จะให้ผู้หญิงมานอนเองก็ยังไงๆอยู่ ถึงจะเป็นน้องก็เถอะนะ ผมลอบถอนหายใจ ไม่ได้สังเกตว่าอีกมีบางกำลังมองผมอยู่

“โอเคค่ะ ถ้าแม่ให้พี่ห้ามขัดนะ” น้องหยิบมือถือมากดโทรออกทันที “แม่คะ หนูนอนบ้านพี่ฝุ่นได้ไหมอยากเล่นกับคอร์กี้~~  เจอพี่แล้วค่ะแม่ ห๊ะ อ๋อค่ะ ค่ะแม่ เดี๋ยวบอกให้ค่า~ รักแม่นะ จุ๊บ”

“แม่แอ๋มโอเคค่ะ” น้องยิ้มให้ผม “แล้วแม่ก็ฝากบอกว่าคืนนี้พวกแม่ๆไม่กลับบ้านนะ”

“ห๊ะ!”

“เห็นว่าติดลมกัน ตอนนี้อยู่อยุธยาไว้กลับเช้าทีเดียว”

โธ่... แม่นะแม่ กับลูกนี่ทิ้งได้ทิ้งดี ทีไอ้อุ่นละเอาไปด้วย

“อ่า โอเค นอนห้องแขกได้นะ? รึจะนอนห้องพี่ฟิล์ม?” ผมถามน้องที่กำลังแหย่หมูหยองอย่างสนุกสนาน ไอ้หมูก็ออเซอะสาวซะเต็มที่

“ห้องแขกก็ได้ ชุดแอ๋มอยู่ในกระเป๋าเดียวกับแม่” น้องตอบโดยไม่มองหน้าผม แต่หันไปมองอีกคนแทน “พี่กลับห้องเลยไหมคะ? จะได้ฝากชุดไปด้วยเลย” แอ๋มพูดบังคับมากกว่าถาม

“อื้อ คงกลับเลยแหละ เจ้าของบ้านคงอยากไล่พี่เต็มทีแล้ว ดูสิตั้งแต่พี่มาถึงเขาคุยกับพี่กี่คำกันเชียว” หมอพูดกับแอ๋ม แต่หันมายักคิ้วทำหน้าตากวนเบื้องล่างใส่ผม

“งั้นรอแอ๋มแปป ไปเก็บชุดก่อนพรุ่งนี้เดี๋ยวไปนอนด้วย” พูดจบน้องก็อุ้มไอ้เตี้ยขาสั้นไปห้อง ทิ้งให้ผมยืนเคว้งอยู่กับหมอหมาสองคน



ระหว่างรอแอ๋มไปเอาของ ผมว่าจะหนีขึ้นห้องเลย แต่ถ้าผมทำอย่างนั้นคงมีคนหาว่าผมเป็นเจ้าบ้านที่ไม่ดีแน่ๆที่ไม่ยอมดูแลแขก จึงเลือกที่จะเดินมาที่โซฟาชุดและนั่งรอแอ๋มเงียบๆแทน

แต่ที่ว่าเงียบนี่ ไม่ใช่กับคนบางคนไง...

“นี่คุณจำผมไม่ได้จริงๆหรอ”

“.....”

“ผมหล่อขึ้นสินะ หึๆ”

“.....” เหล่หางตามองคนหลงตัวเอง

“ไม่นึกว่าจะจำกันไม่ได้ เลยไม่ได้บอกแต่แรก โทษทีนะ”

“.....”

“เฮ้ โกรธหรอ”  หมอใช้สะกิดแขนผม

“.....”

“.....”

“.....”

เมื่อหมอเห็นผมเงียบไม่คุยด้วยไม่ตอบสักคำถาม หมอก็เงียบตาม จนได้ยินแต่เสียงหายใจของเราทั้งคู่ ผมนั่งเหม่ออยู่อย่างนั้น จนกระทั่งรู้สึกถึงความยวบของที่ข้างๆ และ...

“ฝุ่นจะไม่คุยกับพี่จริงๆหรอครับ”

น้ำเสียงทุ้มๆที่กระซิบดังขึ้นข้างหูผม....

ด้วยความตกใจทำให้ผมหันหน้าไปตามทิศทางของเสียงทันที และด้วยระยะความใกล้ของเสียงทำให้ผมรู้ว่าผมพลาด!!!!

กึก...
ปลายจมูกแตะช่วงโหนกแก้มของอีกคน...

ผมชะงักค้างอยู่อย่างนั้น ผิดกับหมอที่ค่อยๆยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มก่อนผละออกไปหน่อย

“แหม อยากหอมก็ไม่บอก จะได้ให้หอมดีๆ”     

ผมนั่งค้างอยู่อย่างนั้น จนเสียงของอีกคนในบ้านดังขึ้นมาดึงสติผม

“อุ๊ย แอ๋มมาขัดจังหวะพี่ๆกันหรือเปล่าคะ” แอ๋มอุ้มหมูหยองลงมาพร้อมรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม

 “อะ..เอ่อ ไม่ใช่นะ!! ไม่ใช่! !” ผมปฏิเสธทันทีที่เรียกสติกลับมาได้ มือไม้โบกไปมาอย่างไม่เป็นสุข

“ก็แอ๋มเห็นพี่ฝุ่นหอมแก้-----”

“ไม่ใช่! มันแค่อุบัติเหตุ เอ่อใช่ๆ มันเป็นอุบัติเหตุ!!” ผมแก้ตัว แต่สองคนตรงหน้ามองผมด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกันเด๊ะๆ

“โอเคค่ะ อุบัติเหตุก็อุบัติเหตุ แต่งานนี้มีคนได้กำไรเต็มๆ” แอ๋มปราบตามองพี่ชายตนเอง “นี่ค่ะชุดแอ๋ม แล้วก็ฝันดีค่ะ ฟอดดดด” น้องยื่นกระเป๋าที่ถือมาให้หมอ วางหมูหยองลงก่อนเขย่งตัวไปหอมแก้มพี่ชายฟอดใหญ่

“ครับ ฝันดีครับ อย่าดื้อกับฝุ่นเขาล่ะ” คนตัวสูงไม่ได้หอมน้องสาวกลับ แต่เอื้อมมือมาลูบผมน้องตัวเองแทน

ภาพที่เห็นทำให้ผมนึกถึงตอนที่หมอลูบหัวผมในวันนั้น

“ค่า แอ๋มไม่ดื้อเนอะพี่ฝุ่น” น้องวิ่งมากอดแขนผม

“ครับ ไม่ดื้อก็ไม่ดื้อ ส่วนคุณก็กลับบ้านดีๆล่---”

ฟอด

“ขอบคุณสำหรับมื้อค่ำครับ ราตรีสวัสดิ์นะครับฝุ่น” หมอหมุนตัวออกจากบ้านไปแล้ว ได้ยินเสียงแอ๋มร้องกรี๊ดกร๊าดพร้อมแรงกระตุกที่แขนเสื้อ

ผมไม่รู้ว่าแอ๋มพูดอะไรกับผม

ผมไม่รู้ว่าผมไปปิดบ้านยังไง

ผมไม่รู้ว่าผมกลับมานอนแผ่อยู่บนเตียงตั้งแต่เมื่อไร

ผมรู้แค่ว่า...ผมถูกหมอ หอม! แก้ม! ผม! นอกจากพ่อผมแล้วไม่เคยมีผู้ชายคนไหนหอมแก้มผมเลยนะเฮ้ย! ขนาดแฟนเก่าผมยังไม่ค่อยหอมเลยเถอะ!

ผมยกมือลูบแก้มข้างที่โดนหมอหมาขโมยหอมไปอย่างไม่รู้ตัว จนได้ยินเสียงแจกเตือนไลน์ดังขึ้น

เอื้อมหยิบโทรศัพท์ กดดูข้อความโดยไม่ได้ดูชื่อผู้ส่ง

Artt

พี่ถึงห้องแล้วนะ ฝันดีครับ ^^   23.49
:: สติกเกอร์กระต่ายนอนหลับ ::    23.50

ไอ้หมอเฮงซวย!!!






ผมตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงของหลายๆคนดังขึ้น มองนาฬิกาที่เข็มสั้นชี้เกือบเลขเก้าก็คิดไปว่าพ่อกับแม่คงกลับมากันแล้ว จึงลุกออกจากเตียงเพื่อที่จะไปอาบน้ำ

ก็อกๆๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ผมจะได้เข้าไปจัดการตัวเอง เปลี่ยนเป้าหมายจากห้องน้ำเป็นประตูห้องแทน

“ครับแม่ ฮ้าว”  ผมเดินขยี้ตาไปเปิดประตูก่อนหาวออกมาวอดใหญ่
“.....”
“แม่ครับ?  เฮ้ยหมอ!” ผมหยุดขยี้ตาและมองคนที่ตัวเองนึกว่าเป็นแม่ หมอในชุดเสื้อยืดสีพื้นกับกางเกงยีนส์ กับผมในสภาพบ็อกเซอร์ตัวเดียว...

“ฝุ่นก็หุ่นดีเหมือนกันนะเนี่ย”  หมอไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ้มกริ่มก่อนสายตาจะไปหยุดอยู่ที่เป้าบ็อกเซอร์...

“เลยเวลาเคารพธงชาติแล้วนะครั---”

ปัง!!!!!


ผมปิดประตูทันทีโดยไม่รอให้หมอพูดจบ หมอมาทำไรบ้านตูแต่เช้าวะ!!! แล้วดูสภาพไอ้ฝุ่น พร้อมรับแขกมาก...

ภาพหมอหอมแก้มผมโผล่ขึ้นมาแวบนึง

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!” ผมทรุดตัวลงกับประตู พลางขยี้หัวแรงๆ บ้าบออะไรวะ เมื่อคืนโดนหอม วันนี้หมอเจอในสภาพ.....(ก้มมอง) ตูจะสู้หน้าหมอยังง๊ายยยยยยยยย

ก็อกๆ
เสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง

“อะไรอีกวะหมอ!!!” ผมตวาดออกไป

“พี่แค่จะบอกว่า น้าศิลป์ให้รีบอาบน้ำนะ สิบโมงจะพาไปเขาใหญ่กัน”

“อื้อ”

“แล้วก็อีกอย่าง....”

“.....”

“พี่จะจีบฝุ่นแล้วนะ”

!!!!!

ห๊ะ ว่าไงนะไอ้หมอหมา!!!!!


Tbc.


 ———————————————————————————————————————


สวัสดีค่ะ มิเอาหมอมาส่งแล้วค่ะ เขาจะจีบกันแล้วค่ะ อิอิ///\\\
ช่วงนี้โคราชฝนตกหนักมากกกกกกก นั่งพิมพ์อยู่ดีๆไฟตก คอมดับวูบพร้อมน้ำตา ประเด็นอยู่ที่มันไม่ออโต้เซฟไง ดีนะพล็อตรวมๆเขียนใส่กระดาษไว้ นั่งพิมพ์ใหม่วนไปค่ะ ฮรื่อ
ตอนนี้คุณน้องฝุ่นดูจะเปลืองตัวดีนะคะโฮะๆ แล้วก็ขอบคุณคอมเม้นทุกๆตอนค่ะเป็นกำลังใจที่ดีมากๆเลย กอดทุกคนนน <3
เรื่องนี้เนื้อเรื่องจะเรื่อยๆ ทายกันง่ายๆงี้แหละ ดราม่งดราม่าอะไรนี่ไม่มีหร๊อกกกกกกกกกก หึๆ
ตอนหน้าพาทัวร์เขาใหญ่นะคะ อยากให้หนุ่มๆไปไหนกันบ้างคอมเม้นได้เลยคะ /_\
เจอกันใหม่เดือนกันยาค่ะ ฮา

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 01-09-2017 21:59:47
 :hao6:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 01-09-2017 22:33:02
หมอน่ารักเวอร์
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-09-2017 22:38:43
ว่าและ
ตอนจำไม่ได้ ก็ถูกลูบหัว
พอรู้ว่าเคยรู้จัก ก็หอมแก้มพี่อาร์ทเพราะกลโกงพี่อาร์ท
แถมโดนพี่อาร์ทหอมแก้มก่อนกลับ จนแอ๋ม ฟินนนนน

วันรุ่งขึ้น พี่อาร์ทชมว่าหุ่นดี  o22
เห็นฝุ่นน้อยเคารพธงชาติด้วย  :laugh:
และบอกว่าจะจีบแล้ว อะจ๊ากกกกกก  :ling1: :ling1: :ling1:

อยากอ่านพาร์ทพี่อาร์ทแล้ว  :z3: :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 02-09-2017 00:00:14
 :hao7:  :hao7:  :hao7:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 02-09-2017 06:45:10
หมอน่ารัก :L2:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
เริ่มหัวข้อโดย: Thanaphon ที่ 02-09-2017 08:48:07
 :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 02-09-2017 12:19:08
ห๊ะ! ตกใจกับน้องฝุ่นด้วยคน พี่หมอ อะไรคะ จู่ ๆ ก็มาขอจีบ มาหอมแก้ม  :-[
ไม่ใช่ขอสิ แค่บอกน้องเฉย ๆ ใช่ไหม ว่าจะจู่โจมแล้วนะ เตรียมตัวรับมือ 555
ถ้าเราเป็นฝุ่น ก็คงมึน ๆ งง ๆ อ่ะ แต่จากที่น้องแอ๋ม ดูจะฟินจนออกนอกหน้า
เดาว่า น้องแอ๋ม คงรู้อยู่แล้ว ว่าพี่อาร์ตต้องแอบชอบน้องฝุ่นมานานแล้วแน่ ๆ
นี่ยิ่งอยากรู้มาก ๆ ว่าสีฝุ่น ในความทรงจำของพี่หมออาร์ตเป็นยังไงบ้าง
อยู่ข้างบ้านกัน แม่สีฝุ่น เป็นคนตั้งชื่อให้พี่อาร์ต แสดงว่าทั้งสามคน
ก็น่าจะคลุกคลีกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วเนอะ แต่ดูฝุ่นไม่ค่อยรู้เรื่องพี่อาร์ตเลย
ชอบความกวนประสาทของพี่อาร์ตมาก ที่ขยันแกล้งน้องฝุ่นเนี่ย
เพื่อขยับเข้าใกล้น้องใช่ไหม ฝุ่นยังดูเกร็ง ๆ เรียกคุณ ๆ ผม ๆ ยังดูห่างเหินเกินไป
แต่พอเข้าโหมดอบอุ่น พี่อาร์ตก็ละมุนละไม ดีต่อใจเหลือเกิน ชอบที่รายงานตัวก่อนนอน
ตอนหน้า ไปเที่ยวเขาใหญ่ รอดูซิ พี่อาร์ตจะจีบน้องจนอายม้วนยังไงบ้าง >////<
น่ารักมากเลย รอตอนต่อไปจ้า ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「5」01|09|60
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 02-09-2017 15:09:03
อะไรยังไง
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「6」03|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 03-09-2017 22:26:44
• 6 •



ผัวะ!!


ผมเปิดประตูออกไปอย่างแรง ไม่สนแล้วว่าจะอยู่ในสภาพไหน คนที่อยู่ด้านหน้าผมยังคงเป็นหมอที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่เหมือนเดิม

“หมอว่าไงนะ!”

“พี่บอกว่า พี่-จะ-จีบ-ฝุ่น-นะ”

“หมอล้อเล่นใช่ไหม” ผมกระตุกยิ้มมุมปาก “ผมไม่ตลกด้วยนะ”

“พี่ไม่ได้ล้อเล่น”

หมอก้าวเข้ามาประจันหน้ากับผม ใบหน้ายิ้มแย้มเคลื่อนเข้ามาเสมอใบหน้าผม

“พี่จริงจังนะครับ”

“.....”

“ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวสายแล้วน้าศิลป์จะบ่นเอา”

หมอผลักไหล่เบาๆพอให้ผมถอยเข้าห้อง ก่อนเอื้อมมือมาจับลูกบิดประตูอีกฝั่ง ค่อยๆดึงประตูกลับอย่างช้าๆ

“เฮ้ย!!”

จุงหวะที่ประตูห้องกำลังจะปิดสนิท หมอกับเปิดมันออกอีกครั้ง ก่อนมือหนาจะคว้าเข้าที่ต้นแขนผม ออกแรงดึงกระชากให้ร่างผมไปปะทะกับคนตัวสูงกว่า

ก่อนที่จะรับรู้ถึงสัมผัสนุ่มหยุ่นที่ถูกกดลงมาบริเวณใกล้ๆมุมปาก...

“มอนิ่งคิสครับ”

หมอปล่อยผม ดันผมเข้าห้องและปิดประตูอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ผมยืนเอ๋อไปกับสัมผัสเมื่อสักครู่

วอท เดอะ ฟั*************!!




เก้าโมงครึ่งไม่ขาดไม่เกิน ผมจัดการตัวเองเสร็จปุ๊ปก็เดินลงมาข้างล่าง เห็นคนอยู่ครบทั้งบ้านเราและบ้านป้าเล็ก(ยกเว้นพี่ฟิล์มที่ยังคงไม่กลับบ้าน) มีพวกแม่ๆกำลังคุยกันอย่างออกรสออกชาติอยู่บนโซฟา ส่วนพ่อกับสองพี่น้องตัวอ.อ่างที่กำลังวุ่นอยู่กับการจับสามซนเข้ากรง

“แม่!”

“ลงมาได้แล้วหรอไอ้ตัวดี มาๆกินข้าวจะได้ไปกัน ไหนกระเป๋าล่ะ?”

“กระเป๋า? เป๋าไรแม่” ผมทำหน้างงถามแม่

“อ้าว อาร์ตไม่ได้บอกน้องหรอว่าไปค้างคืน” ป้าเล็กหันไปถามลูกชาย

“ขอโทษครับ สงสัยผมจะลืมบอกน้องไป”

“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวให้เจ้านี่มันกินเสร็จแล้วค่อยให้ไปจัด ออกช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก”

“ถ้าน้าศิลป์ไม่ว่าอะไร...ผมไปจัดให้น้องก็ได้ครับ” ผมเงยหน้ามอง หมอที่ก้มหน้าก้มตาเหมือนจะสำนึกผิดนะ ..... แต่ปากหมอยิ้มทำเชี่ยอะไรครับ!!!!

“ก็ดีนะศิลป์ ให้อาร์ตมันไปจัดให้จะได้เสร็จไวๆ” ป้าเล็กพูดกับแม่ผม

“ไม่!!!” ผมร้องเสียงหลง จนแม่ตีหน้าดุใส่ผม “ฝุ่นจัดเองได้ เดี๋ยวกินเสร็จจะขึ้นไปเก็บของแปปปปปปปนึงนะแม่นะ”

แม่ถอนหายใจก่อนจะเออออกับผม ทำให้ผมต้องรีบกินแล้วต้องไปจัดเสื้อผ้าต่อ

บอกตามตรง ไม่ไว้ใจหมอว่ะครับ!!!




เวลาสิบโมงกว่าๆ
ตอนนี้พวกเรากำลังขับรถอยู่แถวๆเขื่อนลำตะคลองครับ อากาศในตอนนี้กำลังดีไม่ร้อนเกินไป ยิ่งหนังท้องตึงไปแล้ว มีเพลงกล่อมเบาๆยิ่งโคตรดีจนหนักเปลือกตา แต่จะดีมากกว่านี้ถ้าคนที่ขับรถเป็นผมหรือพ่อ ไม่ใช่หมอ....


เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่นาน

‘ฝุ่นไปนั่งกับหมอนะ คันนี้ให้พ่อขับ’ แม่ชี้ไปที่รถอีกคันที่จอดอยู่ข้างรถพ่อ
‘ไม่ๆๆ เดี๋ยวฝุ่นขับให้เอง พ่อแก่แล้วนั่งเฉยๆเถอะ เนอะๆ’
‘ว่าใครแก่วะไอ้หมา ช้ะๆ เดี๋ยวเอ็งโดน!!’
‘เฮ้ย พ่อ ผมไม้ได้ว่าพ่ออย่างนั้นนนนนน’ ผมแก้ตัวเป็นพัลวันก่อนที่พ่อจะประเคนบาทาให้ผม
‘งั้นตามนี้นะฝุ่นไปกับตาอาร์ต น้องแอ๋มป้าเล็กไปกับแม่ ส่วนคุณก็ไปขึ้นรถได้แล้ว’
‘จ้ะ แม่จ๋า’
‘แม่! ฝุ่นไปด้วยยย’ ตะโกนออกไปแต่ไม่ทัน...พ่อซิ่งรถออกไปแล้ว...

ปี๊น

‘มาเร็วครับ มามะ’ หมอโผล่หน้าออกมาจากหน้าต่างเรียกให้ขึ้นรถ ผมจึงต้องจำใจขึ้นรถไปด้วยความหงุดหงิด
แม่นะแม่ ฮึ่ยยย


ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน
ผมนั่งเท้าคางมองวิวข้างทางที่ผ่านเข้ามา มืออีกข้างก็สไลด์หน้าจอโทรศัพท์ เข้าแอพตัวเอฟสีฟ้าเช็คหน้าฟีดข่าวไปเรื่อยๆ เห็นเพื่อนบางคนเช็คอินร้านเหล้าตั้งแต่เมื่อคืน เฮอะ! ไม่มีชวนกันเล้ยยยย
ผมนั่งเลื่อนฟีดเล่นจนเจอโพสรูปของผู้หญิงคนนึง แฟนเก่าผมนั่นเอง

Fon Rassaya
พาน้องมาหาหมอ แต่หมอไม่อยู่ ว้า~~

283likes 35comments

ผมมองโพสนั้นแล้วส่งเสียงหึออกมาเบาๆ น้องที่เธอว่าเป็นหมาครับ จำได้ว่าเป็นหมาของเพื่อนฝน และผมจำได้ว่าเธอเคยบอกไม่ชอบสุนัข เพราะมันเห่าเสียงดังและตัวเหม็น คิดดูนะครับขนาดเธอมาบ้านผม เธอยังไม่เข้าใกล้ไอ้ข้าวตังหมูหยองสักนิดเลยเลย
แล้วดูรูปนี่สิ แก้มคนแนบแก้มหมาซะสนิท


แปะ

“ฝุ่นครับ คิ้วขมวดแล้วครับ” มือของคนข้างๆละจากพวงมาลัยมาแตะหว่างคิ้วผม “ขมวดมากแก่ไวไม่รู้ด้วยนะ”

“ยุ่ง!” ผมปัดมือหมอทิ้ง กดออกจากแอพแล้วเก็บโทรศัพท์ลง

“ก็อยากยุ่งนี่”

“มันเรื่องของผม”

“เรื่องของคนที่พี่ชอบจะให้พี่ไม่ยุ่งได้ไงครับ หืม” หมอหันมายิ้มให้ ผมเบือนหน้าหนีทันที

“ถามจริงเถอะนะหมอ นี่จะจีบผมจริงอ่ะ?”

“จริงครับ”

“.....”

“ก็พี่มองเรานานแล้วนี่นา” หมอพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่ผมได้ยินชัดเจน

ทำไมจู่ๆรู้สึกร้อนที่หน้า...

“แต่ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย”

“พี่ก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย ....แต่พี่ชอบฝุ่นนะ” หมอหันมาขยิบตาใส่ผม ขับรถมองทางสิเฮ้ย!

“ให้โอกาสพี่ได้ไหมครับ”

“.................................”

ผมครางในลำคอเบาๆ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธคำขอนั้น ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมไม่ตอบปฏิเสธออกไปชัดๆ ผมเลือกที่จะเบือนหน้าหนี ตั้งหน้าตั้งตามองวิวข้างทางเหมือนกับว่าตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยพบเคยเห็นวิวแบบนี้มาก่อนเลย

กระจกสะท้อนภาพหมอที่ยิ้มกว้างจนหน้าหมั่นไส้



“ฝุ่นครับ”

“หือ...”

“ฝุ่นครับ ตรงๆ”

“หือ???” ผมขยับนั่งหลังตรงทันทีเพราะคิดว่าตัวเองบังกระจกข้าง แต่หมอกลับหัวเราะลั่น

“ไม่ใช่ให้นั่งหลังตรงครับ”

“อ้าว?”

“แม่พี่บอกว่า....” หมอเงียบไปจนผมต้องหันไปมอง หมอมองมาทางผมอยู่แล้วเหมือนกับรอจังหวะให้ผมหันมา “....ถ้าชอบใคร ให้บอกตรงๆ ครับ”

“.....”

ไอ้หมอหมา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

เออ ยอมรับกูเขินครับ......



———————————————————————————————————————



   แม่โทรมาบอกว่าให้แวะที่วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม หรือที่เรียกกันว่าวัดพระขาวที่กลางดงก่อน แล้วค่อยขับไล่ไปทางเขาใหญ่ พอลงจากรถได้ ผมก็คว้ากล้องขึ้นมาถ่ายภายในวัดทันที

วัดพระขาวเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ตั้งอยู่กลางเขา มีบันไดให้เราเดินขึ้นเขาไปสักการะได้ เราสามารถมองเห็นหลวงพ่อขาวได้จากถนนใหญ่ เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คของกลางดงเลยทีเดียว

“แม่จะขึ้นไปข้างบน ฝุ่นขึ้นไปด้วยกันไหมครับ?” แม่หันมาถาม ผมพยักหน้าให้เป็นคำตอบ

ผมและพวกแม่ๆไม่มีปัญหาเกี่ยวกับกับการเดินขึ้นเขาด้วยบันไดชันๆ แต่ไม่ใช่กับหมอ.....

“พี่ไหวไหมเนี่ย” แอ๋มถามพี่ชายที่นั่งหอบแฮ่กเป็นหมาอยู่กลางบันได

“ไหวๆ พี่ขอพักก่อน” หมดสภาพครับบอกเลย เหงื่อหมออกซ่กจนผมสงสาร จริงๆหมอดูเหมือนคนชอบออกกำลังกายนะ แต่แค่นี้ทำไมดูเหนื่อยง่ายจัง

ผมคว้ากล้องมาถ่ายสภาพหมอก่อนเปิดเป้หยิบผ้าให้แอ๋มเช็ดเหงื่อหมอ

“ขอบคุณครับ”

“พี่ไปเร็วแอ๋มหิวแล้วเนี่ย อีกนิดเอง”

“ครับๆ อีกนิด” หมอแหงนมองบันไดตรงหน้าด้วยแววตาเลื่อนลอย

“งั้นแอ๋มไปกับพี่ก่อนเนอะ ทิ้งคนแถวนี้ให้เดินขึ้นไปเองดีกว่า” ผมว่า ก่อนจูงแอ๋มให้เดินต่อโดนไม่หันไปมองด้านหลัง

“ยิ้มโคตรชั่วร้ายเลยนะพี่ฝุ่น” แอ๋มกระซิบขำ



เราใช้เวลาไม่นานในการขึ้นถึงจุดหมาย หมอเพิ่งจะเดินขึ้นมาถึงด้วยสภาพไม่ต่างกับเมื่อสักครู่ก็ตอนที่ผมสักการะหลวงพ่อขาวเสร็จนั่นแหละ ผมยิ้มขำให้หมอที่ทรุดกับพื้น ก่อนจะจดจ่อกับการถ่ายรูปวิวตรงหน้า วิวจากข้างบนเขานี้ทำให้มองลงไปเห็นถนนหน้าวัดที่ยาวเป็นเส้นตรงเกือบสองกิโล และรายล้อมไปด้วยต้นไม้และไร่ที่ชาวบ้านปลูกไว้ ผมถ่ายทั้งวิวและผู้คนที่มาวัดแห่งนี้จนเป็นที่พอใจ

แชะ

“หืม?”

ผมหันมองตามเสียงชัตเตอร์ เห็นแม่ๆยืนถ่ายรูปกันอยู่ไม่ไกลโดยมีแอ๋มเป็นคนอาสาถ่ายให้ ข้างๆแอ๋มเป็นหมอที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้โทรศัพท์ในมือตัวเอง ผมเก็บกล้องแล้วเดินไปรวมกลุ่มกับแม่ พักกันพอหายเหนื่อยแล้วถึงเดินลงมากัน แอ๋มบ่นหิวตลอดทางที่ลงมา แต่แม่บอกว่าให้รอไปหาที่กินข้าวแถวเขาใหญ่แทน
 
พอออกจากตัววัดมา เราก็มุ่งหน้าไปปาลิโอ้กันต่อ ครั้งนี้หมอให้ผมเป็นคนขับรถแทนเพราะหมอบอกว่าปวดขา ขับรถต่อไปไม่นานก็ถึงปาลิโอ้ แต่ดันมาใช้เวลานานเพราะหาที่จอดรถทำให้คลาดกับแม่ที่ได้ที่จอดทันทีที่ถึง ผมชอบที่นี่นะให้บรรยากาศเหมือนอยู่อิตาลีดี ยิ่งมาตอนอากาศดีๆแบบนี้ด้วย ผมอยู่ได้ทั้งวันเลยเถอะ
ผมไล่ถ่ายร้านค้าตลอดทางที่เดินมาเพลิน จนรู้สึกว่ามีคนมาสะกิดแขน
“น้าศิลป์บอกว่าให้ไปทานข้าวก่อนครับแล้วค่อยมาถ่ายต่อ” หมอชูโทรศัพท์ให้ดูประกอบ หน้าจอสายที่กำลังคุยอยู่เป็นชื่อแม่ผม หมอคุยกับแม่อีกไม่กี่คำก่อนเดินพาผมไปที่
.
.
.
.
เอ็มเคสุกี้..............

มาตั้งไกลเพื่อกินเอ็มเคเนี่ยนะ!!!!!!


พออิ่มหมีพลีมันกันเรียบร้อย ผมก็ขอตัวออกมาไปถ่ายรูปรอบๆโดยสองพี่น้องตัวอ.ตามมาด้วย แอ๋มขอให้ถ่ายเข้าตัวตามมุมต่างๆให้ผมก็ไม่เกี่ยง กดถ่ายเพลินทั้งตึกทั้งคน

“อ๊ะ ขอโทษครับ” ผมถอยไปชนคนด้านหลังด้วยความไม่ระวัง ก่อนหันไปขอโทษออกมาเบาๆ แต่กลับมีกุหลาบสีสวยดอกโตดอกหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้าแทน

“.....”
“ให้ครับ”

ผมยืนมองดอกไม้สลับกับคนถือ

แชะ

ยกกล้องขึ้นมาถ่ายดอกกุหลาบและคนถือหนึ่งรูปถ้วน ...

“ไปกันต่อไหมแอ๋ม” ผมคว้ากุหลาบ เสมองทางอื่นแล้วรีบจูงแอ๋มเดินหนีทันที

อายเว้ย!!




ขับออกจากปาลิโอ้มาอีกหน่อยก็เป็นทางขึ้นไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่พวกผมไม่ได้ขึ้นไป แค่จอดแวะซื้อของที่ชาวบ้านแถวนั้นเอามาขายแทน เราขับรถไปตามทางเรื่อนๆ มองนาฬิกาตอนนี้เกือบสี่โมงเย็น ขับไปถึงที่พักก็เกือบได้เวลาเคารพธงชาติตอนเย็น

ตอนแรกผมนึกว่าแม่จองโรงแรมหรือรีสอร์ทไว้แต่ที่ไหนได้....แม่พามาบ้านคนรู้จักครับ จริงๆเขาทำบ้านไว้สำหรับเป็นรีสอร์ทแหละครับ แต่มันยังไม่เสร็จดี เหลือตกแต่งเขาเลยให้แม่มาช่วยแต่งให้ แม่เลยถือโอกาสพาพวกผมมาเที่ยวซะเลย งานนี้ไม่เสียค่าที่พักเลยสักบาท

“ตอนนี้ห้องว่างมีสามห้องนะคะพี่ศิลป์ เดี๋ยวเก็บของกันแล้วค่อยมาทานมื้อเย็นกัน” เจ้าของบ้านเอ่ย ผมเดินไปหาพ่อ กะว่าจะนอนกับพ่อแต่ก็ดันโดนเบรกดังเอี๊ยด

“ไปนอนกับมันนู่น พ่อจะนอนกันแม่เอ็ง” พ่อบุ้ยปากไปทางหมอ

“ไม่เอา!!”

“ทำไมล่ะ ห้องตาอาร์ตไปค้างมาแล้วจะกลัวอะไร”

“ก็มัน-----” คิดไม่ซื่อกับลูกแม่นี่ ผมละประโยคหลังไว้ในใจ เลือกที่จะเงียบแทน

“ก็มันอะไร หนูแอ๋มนอนกับแม่เขา แม่นอนกับพ่อ ลูกก็นอนกับตาอาร์ตพอดีไง อย่าเถียงแม่เอาตามนี้” แม่ชี้หน้าผมที่กำลังจะพูดอะไรออกไป คำเด็ดขาดของแม่ทำให้ผมหุบปากแล้วฟึดฟัดลากกระเป๋าเข้าห้อง


มื้อเย็นคุณเจ้าของบ้านลงมือทำกับข้าวเลี้ยงพวกเราทุกอย่างอร่อยจนผมตึงท้อง พอตกดึกหน่อยแม่ก็ไล่พวกผมไปนอนบอกว่าเป็นเวลาของผู้ใหญ่ ผม25นี่ยังไม่ผู้ใหญ่หรอแม่!

เข้าห้องได้ผมก็คว้าเสื้อผ้าไปอาบน้ำห้องแม่ทันที กลับมาอีกทีก็ได้ยินเสียงจากในห้องน้ำ หมอคงมาแล้ว... ผมเปิดกล้องเช็ครูปที่ถ่ายวันนี้ไปเรื่อย ก่อนจะไปหยุดที่รูปหมอถือดอกกุหลาบ

มุมปากผมยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

“...บ้าเอ๊ย...”

ผมเก็บของและทิ้งตัวลงนอน ซุกหน้าที่เริ่มขึ้นสีกับหมอนใบโตก่อนหลับตาลง

รู้สึกถึงสัมผัสของอะไรสักอย่างที่นิ่มและเย็น แตะลงมาที่หน้าผากของผมก่อนที่ผมหลับสนิท...


Tbc.


———————————————————————————————————————


มาแล้วค่ะ เฮ้
ก่อนอื่นเลย เราต้องขอขอบคุณทุกกกกกกกกกกกทุกคอมเม้นเลยค่ะ บางเม้นอ่านไปยิ้มไปทำให้มมีกำลังใจแต่ขึ้นโขเลย////3\\\\
ยอมรับว่าตอนนี้เราว่ามันมึนๆหน่อย ฮา จริงๆแถวเขาใหญ่ปากช่องมันมีที่เที่ยวเยอะว่านี้นะ แต่เราไม่ได้ไปแถวๆนั้นตั้งแต่ปีใหม่ เต็มที่ก็เอ้าท์เลทปากช่องแล้ววนกลับเมืองเลย ตอนนี้แอบต้องอาศัยกูเกิ้ลในการบรรยายประกอบเยอะมาก 5555
อย่างวัดพระขาวนี่เวลาไปกับที่บ้านทีไรเป็นอันต้องแวะ แต่ไม่ขึ้นถึงข้างบนนะคะเหนื่อยจริงจัง บันไดตั้ง1250ขั้นแหน่ะ จริงๆข้างวัดพระขาวเป็นตลาดน้ำศิลปะค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่ายังมีอยู่ไหมเลยไม่พูดถึงดีกว่า เอาไว้ให้หนุ่มๆไปตลาดน้ำปากช่องแล้ววนไปวังน้ำเขียวดีกว่า ฮา
พาร์ทหน้าคุณหมอขอเล่าเรื่องค่ะ อะไรๆที่ทุกคนสงสัยมันอยู่ที่พาร์ทหมอนี่แหละค่ะ อิอิ

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
 
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「6」03|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 03-09-2017 23:39:47
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「6」03|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 03-09-2017 23:48:43
 :impress2:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「6」03|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 04-09-2017 00:09:23
 o13 เยี่ยมมากที่สุดพี่หมอ....บุกน้องเข้าไป...ดูท่ากองกำลังเสริม(ครอบครัวน้อง)  จะแน่นหนา....สู้ๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「6」03|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 04-09-2017 01:38:26
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「6」03|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 04-09-2017 13:07:18
ฮื่อออออ  เขินนนน   :ling1:  ทำไมพี่หมอน่ารักอย่างนี้อ่ะ ชอบบบ
พี่หมอ คนจริงจ้า แม่บอกให้พูดตรง ๆ ก็พูดตรง ๆ ชอบก็บอกว่าชอบ ดีต่อใจแท้ > <
แค่เริ่มจีบ ก็มอนิ่งคิสแล้วอ่ะ ทั้งขอโอกาส แอบถ่ายรูป ให้ดอกกุหลาบ
ปิดท้ายด้วย จูบหน้าผากก่อนนอนอีก โอยยย พี่หมอพลังทำลายล้างสูงนัก :-[
เจอขนาดนี้ ฝุ่นจะไม่หวั่นไหวได้ไง ดูสิ มาแอบดูรูปเขาแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ละ
แพ้ทางพี่หมอเห็น ๆ ตั้งแต่วันแรกเลย แต่เราชอบ แพ้ต่อไปนะฝุ่นนะ 555

ชักตะหงิด ๆ ยัยฝน ตอนที่แล้วยังทำเป็นหวงฝุ่นอยู่เลย แล้วที่ลงรูปมาหาหมอเนี่ย
พี่อาร์ตแน่ ๆ จริง ๆ ขอเลิกกับฝุ่น เพราะไปแอบสนใจพี่อาร์ตใช่ไหม แล้วยังมาหวงก้างฝุ่น
ยัยฝนนี่ต้องมาสร้างความวุ่นวายอีกแน่ ต้องให้น้องแอ๋มจัดการ ฮึ่มม

รอตอนหน้า พี่หมออาร์ตมาเอง อยากรู้จริง ๆ ไปแอบปิ๊งน้องฝุ่นตอนไหน ยังไงน้อ
ชอบเรื่องนี้มากกก อ่านไปอมยิ้มไปตลอดเลย ขอบคุณมาก ๆ นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 05-09-2017 01:24:49
• 7 •


-อาร์ต-

ผมถอนริมฝีปากออกจากหน้าผากของคนที่นอนหลับไปแล้ว นั่งมองจนแน่ใจว่าน้องมันหลับสนิท ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอดังออกมาเบาๆ เกลี่ยปลายนิ้วไล่ไปตามรูปหน้าน้อง
 
...ผู้ชายอะไรวะแก้มโคตรนุ่ม...
 
ผมไล่ปลายนิ้วไปตามรูปหน้า ก่อนไปหยุดที่ริมฝีปากที่เผยอออกมาน้อยๆ

“....................”

ผมผละมือออกทันที ก่อนนอนตะแคงข้างมองสีฝุ่นอยู่อย่างนั้น
นึกไปถึงครั้งแรกที่แม่พาไปเจอน้องเมื่อตอนยังเด็กๆ...



พ่อกับแม่ผมแยกกันอยู่ตั้งแต่แอ๋มอายุ2-3ขวบ ผมถูกพ่อพาไปอยู่กับปู่ย่าที่กรุงเทพฯ แต่พ่อยังมีความใจดีมากพอที่จะให้ผมกลับไปหาแม่ทุกๆช่วงปิดเทอม โดยในช่วงนั้นแม่ก็ต้องส่งให้แอ๋มไปอยู่กับพ่อแทน ผมอยู่กับพ่อก็จริง แต่ผมไม่ได้สนิทกับพ่อเพราะตั้งแต่ที่ผมมากรุงเทพฯ พ่อก็เข้มงวดกับการเรียนผมมากบังคับให้เรียนพิเศษที่โรงเรียนทุกวันไม่พอ วันเสาร์อาทิตย์ก็แทบไม่ได้หยุด ผมอ่านหนังสือจนสายตาแย่ลงและมันสั้นมากพอจนต้องใส่แว่นสายตาไว้ตลอดเวลา

...เกรด4คือข้อตกลงของพ่อ แลกกับการที่ผมจะได้กลับไปหาแม่ในตอนปิดเทอม...
 ปิดเทอมก่อนผมขึ้น ป.4 จู่ๆพ่อก็บอกแม่ว่าไม่ต้องให้แอ๋มลงไปหาที่กรุงเทพฯและให้ผมไปหาแม่ทันทีที่สอบวันสุดท้ายเสร็จ พ่อไม่บอกสาเหตุกับแม่ แต่ผมคิดว่าผมรู้สาหุ....มีผู้หญิงคนนั้นที่พ่อให้ผมเรียกว่าแม่ เจ้าหล่อนไม่ชอบแอ๋มที่เป็นลูกติดของพ่อ รวมทั้งผมด้วย

ในปีนั้นผมจึงมีโอกาสได้อยู่กับแม่และน้องพร้อมหน้ากันครั้งแรก

ไม่กี่วันถัดมาแม่ก็พาผมและแอ๋มไปบ้านเพื่อนแม่คนนึง ซึ่งก็คือน้าศิลป์ แม่บอกว่าน้าศิลป์เป็นคนตั้งชื่อเล่นให้ผม ผมถูกพาให้ไปเจอเพื่อนใหม่อีก2คน นั่นคือครั้งแรกที่ผมเจอกับ กล้องฟิล์ม และ สีฝุ่น

“พี่ชื่ออาร์ตนะ ส่วนนี่แอ๋ม ยินดีที่ได้รู้จัก” ผมพูดกับสองพี่น้อง
“เราฟิล์ม ส่วนนี่ฝุ่นน้องเรา” ฟิล์มตอบผมกลับ พยายามแกะมือน้องชายที่เกาะเสื้ออยู่แต่ไม่เป็นผล

ตอนนั้นฟิล์มจะเป็นเด็กผู้หญิงแนวแก่นๆ ส่วนฝุ่นนี่แทบจะไม่คุยกับผมสักคำเอาแต่หลบหลังฟิล์ม  ถามอะไรก็ตอบแค่อื้อๆ ท่าทางจะเป็นเด็กขี้อาย แม่ปล่อยให้ผมเล่นกับสองพี่นั้นนั่นทั้งวัน ฝุ่นก็เอาแต่แอบมองผมไม่ยอมเข้าใกล้ ผิดกับแอ๋มที่สนิทกับสองพี่น้องนั่นไปแล้ว
จนกระทั่งได้เวลากลับบ้าน

กึก

ชายเสื้อผมถูกดึงโดยมือเล็กๆของเด็กผู้ชาย

“ม....นะ”

“หืม? ว่าไงนะ” ผมมองเด็กชายตัวเล็กที่ก้มหน้างุดพูดอะไรออกมา แต่ผมได้ยินไม่ชัดจึงก้มหน้าเอียงหูไปใกล้ๆปากเล็กนั่น

“มาเล่นกันอีกนะ! อ๊ะ” น้องเงยหน้าทันทีที่พูดจบ ด้วยระยะที่ใกล้มากทำให้พอน้องเงยหน้าขึ้น ปากเล็กนั่นก็จุ๊บแก้มผมเข้าไปเต็มๆ น้องทำตาโตเพราะตกใจก่อนวิ่งหนีไปหลบหลังน้าศิลป์

“ดูเจ้าตัวเล็กนั่นสิ ไปหอมแก้มเขาแล้วเขินเองซะงั้น” แม่ผมพูดกับน้าศิลป์

“โหยเล่นเขินซะแดงทั้งตัวแบบนี้ โตขึ้นไปลูกชายแม่จะจีบสาวไหนติดไหมครับ” น้าศิลป์แซวลูกชายตัวเองฝุ่นที่หน้าแดงอยู่แล้วยิ่งแดงขึ้นไปอีก ยังกับมะเขือเทศเลย

“....น่ารัก”

“แม่คะ! พี่เขาบอกว่าฝุ่นน่ารัก!!” ผมพึมพำออกมาเบาๆ ไม่คิดว่าไอ้ตัวแสบมันจะได้ยินแล้วบอกแม่ นิ้วป้อมชี้ไปหาสีฝุ่นที่หลบหลังน้าศิลป์ แม่นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่ผู้ใหญ่ทั้งสองจะหัวเราะร่าออกมาพร้อมกัน



ถัดจากปีนั้น แม่ก็ย้ายจากบ้านเดิมไปอยู่ข้างบ้านน้าศิลป์ ทำให้พวกผมได้เจอกันตลอดปิดเทอม

“พี่อาร์มมม อ้ามมม” แอ๋มจ่อขนมที่ปาก ผมทำหน้าเอือมกับคำเรียกชื่อก่อนงับขนมชิ้นนั้น ตั้งแต่ผมกลับมาแอ๋มก็เอาแต่เรียกผมว่าอาร์ม เพราะเพื่อนแอ๋มบอกว่าชื่อผมกับน้องไม่คล้องกัน ผมอธิบายไปแอ๋มก็ไม่ฟัง ร้องไห้จนแม่บอกให้ผมยอมๆน้องไปก่อน จนสองพี่น้องบ้านข้างๆก็เรียกผมด้วยชื่อนี้ เออเอาเข้าไป

“พี่อาร์ม” สีฝุ่นเดินหน้างอมาหาผม “ฝุ่นไม่อยากเล่นพ่อแม่ลูกกับแอ๋ม”

ผมหัวเราะ ปีนึงที่ผ่านมาน้องดูโต และพูดมากขึ้น “งั้นจะเล่นอะไรครับ”

“รถแข่ง!!” น้องชูรถบังคับที่ถือมาด้วย ผมพยักหน้าก่อนจูงน้องไปเล่นข้างนอก

“พี่อาร์มไปไหนมา” ฝุ่นทำตาแป๋วถามผม

“ไปไหน? พี่ไม่เห็นได้ไปไหน”

“ก็เวลาฝุ่นกลับจากโรงเรียนไปเล่นบ้านป้าเล็ก ฝุ่นเจอแต่แอ๋ม พี่อาร์มไปไหน” น้องลงไปนั่งยองๆ ก้มหน้าชิดเข่า “ฝุ่นไม่มีคนเล่นด้วยเลย”

ผมฟังน้องพึมพำ

“พี่ไปอยู่ที่อื่นมาน่ะ”

“พี่อาร์มอยู่นี่ตลอดไม่ได้หรอ”

“.....” ผมเงียบนานจนน้องรู้สึกหน้าเสีย “..งั้นพี่จะมาทุกปิดเทอมนะ โอเคไหม” ผมส่งมือไปยีหัวน้อง ทำให้น้องเงยหน้าขึ้นยิ้มร่า

“อื้อ! ” น้องทิ้งของเล่นเข้ามาผมแน่นผมก็กอดตอบ

โดยไม่รู้ว่ามีผู้ใหญ่ของบ้านกำลังนั่งมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม



ปิดเทอมก่อนขึ้น ป.6
ปีนี้ผมไม่ได้กลับไปหาแม่ ไม่ได้ไปหาเด็กน้อยคนนั้น พ่ออยากให้ผมเข้าโรงเรียนมัธยมชื่อดังจึงจัดให้ผมเรียนพิเศษหนักขึ้นในตอนปิดเทอม หลังจากสอบเข้าโรงเรียนได้สมใจพ่อ เขาให้ผมเรียนหนักมากขึ้นกว่าเดิม
เกือบ2ปีที่ผมไม่เจอหน้าแม่ แม้ว่าแม่ไม่เคยขึ้นมาหา ผมก็ไม่ได้น้อยใจหรืออะไรเพราะเข้าใจเหตุผลของแม่ดี แค่ได้ยินเสียงของแม่ผ่านสายโทรศัพท์ก็พอใจแล้ว

“น้องฝุ่นร้องถามหาลูกแหละ”

จู่ๆแม่ก็พูดขึ้นมาอย่างนั้น ภาพของเด็กน้อยตัวแดงแวบขึ้นมาในหัว ตอนนี้เป็นปิดเทอมของม.1 ปีนี้พ่อไม่ให้ผมไปหาแม่อีกแล้ว มีแต่โทรศัพท์ที่พอให้ผมคลายคิดถึงแม่ได้ ชีวิตผมมีแต่เรียน และเรียน หลักฐานคือ เลนส์แว่นที่หนากว่าเดิมมาก


เวลาผ่านจนถึงวันแรกปิดเทอมใหญ่ของมัธยม2

“ผมจะไปหาแม่!”

“แกจะไปทำไม ฉันส่งเงินให้แกเรียนแกก็มีหน้าที่เรียน! ไปหายัยนั่นก็เสียเวล่ำเวลา หลังจากนี้แกต้องเรียนให้สูงๆ เข้าใจไหม แกเป็นลูกชายฉัน ในเมื่อแกใช้นามสกุลนี้แกต้องสืบทอดตำแหน่งประธานบริษัทต่อจากฉัน!!”

“ผมไม่ใช่หุ่นเชิดของพ่อนะ!!”

เพี้ยะ !

ฝ่ามือหนาของพ่อตบลงจนหน้าผมหัน แว่นที่ผมใส่ร่วงหล่น และแตกร้าว...

นี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่ผมโดนพ่อทำร้ายร่างกายผม แต่ครั้งนี้...ความแรงนั่นทำให้ผมรู้สึกถึงคาวเลือดคละคลุ้งในปาก

ผมกุมหน้าซีกที่โดนตบ จ้องมองผู้ให้กำเนิดเขม็ง

เหมือนสติขาด... ผมไม่รู้ว่าหลังจากนั้นผมตวาดอะไรออกไปบ้าง เสียงมันคงดังจนคุณปู่คุณย่าเข้ามาห้ามและพาผมออกไปทำแผล

ผมหนีขึ้นมาบนห้องนอน ก้มมองโทรศัพท์ท่อยู่ในมือ กดเบอร์10หลักที่จำได้ขึ้นใจแต่ไม่ได้กดโทรออกไป
ไม่อยากให้แม่รู้... แต่ก็อยากให้รับรู้...

เสียงรอสายดังขึ้นเมื่อผมกดโทรออก รอไม่นานอีกฝั่งก็รับสาย

“ว่าไงครับลูกชาย ถึงโคราชแล้วหรอ”

“แม่...”

“อาร์ต? เป็นไรหรือเปล่าลูก?”

“ผม อาร์ตอยากไปหาแม่...” ผมเว้นช่วง “...เขาตบผม”

“ให้แม่ขึ้นไปหาไหม” เสียงแม่ร้อนรนขึ้นมาทันที ผมส่ายทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่เห็น

“ไม่ต้องมาครับ อาร์ตไม่เป็นไร” เสียงผมสั่นเครือ พึมพำกับแม่ว่าไม่เป็นไรซ้ำไปซ้ำมา

“เดี๋ยวแม่จะไปหาอาร์ตนะครับ”

“ไม่...”

“อาร์ตครับ” เสียงนุ่มของแม่ดังขัดขึ้น

“.....”

 “เดี๋ยวแม่ไปหาครับ รอแม่นะ”

 “.....” ผมกลั้นหายใจ ภาพสิ่งของข้างหน้าเบลอเพราะน้ำตาที่ตื้นขึ้นมา “ฮึก... แม่มาหาอาร์ตนะ”

...หยดน้ำตาร่วงหล่น...


ผมไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันดังขึ้น ผมเช็ดคราบน้ำตาออกก่อนคว้าแว่นสำรองมาใส่ ก่อนเปิดประตูออกไป

“ไหนบอกว่าคุณจะเลี้ยงเขาให้ดีไง!”

“ลูกผม ผมรู้ว่าอะไรดีไม่ได้คุณไม่ต้องมายุ่ง!!”

“ลูกคุณก็ลูกฉันไม่ใช่หรือไง! พ่อบ้าที่ไหนมายัดความรู้เข้าหัวเด็กมันจนไม่มีเวลาขยับตัวไปไหนแบบนี้!”

“คุณ!!!”

“ฉันจะเอาลูกฉันกลับไปอยู่ด้วย! อาร์ตบอกหมดแล้วว่าคุณทำอะไรเขา!”

“เฮอะ”

“แม่!” ผมเบิกตากว้างเรียกแม่เสียงดัง ทำให้ทั้งคู่หันมามองผมทันที

“แกบอกแม่แกไปว่าจะอยู่กับฉัน!” พ่อปรี่เข้ามากระชากแขนผม “บอกไป!!”

“คุณหยุดนะ ลูกมันเจ็บไม่เห็นรึไง!”

“ลูกผู้ชายเจ็บแค่นี้แม่เห็นจะเป็นไร” พ่อบีบแขนผมแรงขึ้นอีก ผมเบ้หน้าด้วยความเจ็บ

“คุณปล่อยลูก!”

“หยุดกันทั้งคู่นั่นแหละ”

เสียงของผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในบ้าน...เสียงของคุณปู่ดังขึ้น ข้างกายเป็นคุณย่าที่ถืออะไรบางอย่างมาด้วย


“พ่อไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแก ลูกชายของแกทั้งคนแกทำร้ายมันลงได้ยังไง ทั้งตี ทั้งบังคับมันเรียนหนักๆ” ปู่พูดกับพ่อผม ชี้เข้าที่แขนผมที่ถูกกำจนเป็นรอย “พ่อทนเห็นหลานมันไม่มีความสุขแบบนี้ไม่ได้”

“ผมแค่อยากให้ลูกได้ดี ถ้าแค่นี้ทำไม่ได้แล้วโตไปมันจะทำอะไรได้!” พ่อเถียง ปู่ได้แต่ส่ายหน้าให้ความรั้นของพ่อ

“พ่อจำได้ว่าตอนแก พ่อก็ไม่เคยบังคับให้แกเรียนหรือทำอะไรที่แกไม่ชอบสักครั้ง” ปู่ว่า “ไปห้องรับแขก พ่อมีเรื่องจะคุยกับแก เธอด้วยนะเล็ก” แม่พยักหน้า ก่อนเข้ามาสำรวจแขนผม ผมกุมมือแม่ไว้หลวมๆก่อนส่งยิ้มให้


เมื่อถึงห้องรับแขก คุณย่าก็เอาเอกสารในซองออกมาส่งให้ปู่

“เอกสารนี้คือข้อตกลงระหว่างพ่อกับแม่เรา ตั้งแต่เขาหย่ากัน ลูกสาวต้องไปอยู่กับแม่และลูกชายต้องมาอยู่กับพ่อ” ปู่หันมาพูดกับผม ก่อนฉีกเอกสารนั้นเป็นชิ้นๆ “ปู่ขอยกเลิกข้อตกลงทั้งหมด”

“พ่อครับ!!”

“และนี่คือข้อตกลงใหม่” ย่าหยิบเอกสารชุดใหม่ออกมา “แม่ให้ทนายแก้ข้อตกลงใหม่ ครั้งนี้ให้ตาอาร์ตรับรู้ด้วย”

พ่อกัดฟันกรอด ผมก้มอ่านกระดาษแผ่นนั้นทันที

“ข้อตกลงที่เพิ่มเข้ามา ข้อแรก แกจะมีสิทธิ์เลี้ยงดูหลานได้ถึงแค่สิบห้า หรือก็คือเมื่ออาร์ตจบม.3เท่านั้น หลังจากนั้นแม่เขาจะเป็นคนดูแลต่อ” ปู่พูด “ข้อสอง แกไม่มีสิทธิ์บังคับเรื่องการเรียนของอาร์ต เด็กมันไม่อยากเรียนอะไรก็อย่าไปยัดให้มัน”

“คุณพ่อครับ!”

ย่าจับมือผม “ย่าไปลาออกให้แล้วนะ พวกที่เรียนพิเศษทั้งหลายที่ลูกเรียนอยู่”

“ข้อสาม...อาร์ตยังคงเป็นผู้สืบทอดบริษัทนี้ แต่ถ้าอาร์ตต้องการที่จะไม่ทำแล้ว พ่อจะยกให้ลูกคนรองมันดูแลต่อ ส่วนข้อที่เหลือยังเหมือนกับแผ่นเก่า เซ็นต์ซะ”

ปู่วางปากกาลงตรงหน้าพ่อ

“ผมไม่เซ็นต์”

“กรณีที่แกไม่ยอมรับ ทุกอย่างจะตกไปให้หนูเล็กและลูกทันที” ปู่เอ่ยเสียงเรียบ ทำให้พ่อกัดฟันดังกรอด ก่อนกดปากกาเซ็นต์ชื่อลงไป

“หลังจากนี้หนูอยากเรียนอะไรก็แล้วแต่หนูแล้วนะ” ย่าเข้ามาลูบแขนผม “ถ้าไปโคราชแล้วอย่าลืมกลับมาหาคนแก่ที่ทางนี้มั่งนะ”

ผมได้แต่พยักหน้าให้...

ผมตัดสินใจกลับโคราชกับแม่ทันที แต่อยู่แค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น พอเปิดเทอมก็กลับมาเรียนที่กรุงเทพฯ โดยให้เหตุผลว่าผมไม่อยากที่จะย้ายโรงเรียนใหม่

“พี่อาร์มมมมมมมมมม” แอ๋มพุ่งเข้ามากอดผมทันทีที่เห็นหน้า

“ยังไม่เลิกเรียกชื่อนี้อีกหรอ หืม”

“มันติดแล้วอ่ะ แฮะๆ”
ผมชะเง้อมองข้างบ้าน เห็นการเปลี่ยนแปลงไปเยอะไม่ว่าจะสวนหรือแม้กระทั้งโครงสร้างของอะไรสักอย่างที่กำลังก่ออยู่

“พี่ฟิล์มพี่ฝุ่นไม่อยู่เขาบ้าน เนี่ยๆน้าศิลป์จะทำร้านกาแฟล่ะ” แอ๋มพูดขึ้นมาเหมือนรู้ว่าผมจะถามอะไร

“ใช่ๆ พี่ฝุ่นงอนที่พี่ไม่มาหาด้วยละ”

“........”



สองวันสุดท้ายก่อนเปิดเทอม ม.3
ตั้งแต่มาผมยังไม่เจอพี่น้องบ้านข้างๆเลยสักครั้ง แม่บอกว่าน้าศิลป์จะกลับวันนี้แหละ แต่วันนี้ผมต้องกลับกรุงเทพฯแล้วด้วยสิ....
ไม่ได้เจอสีฝุ่นตั้งนาน น้องยังจะจำผมได้ไหมนะ

“แม่! ฝุ่นเจอนกตกจากต้นไม้ พามันไปหาหมอได้ไหม”

เสียงเล็กๆดังขึ้นจากข้างบ้าน ผมรีบปีนกำแพงขึ้นดูเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กก็อะไรบางอย่างไว้ในมือและวิ่งไปหาแม่ตัวเอง

“ปีกหักหรือเปล่า เดี๋ยวแม่พาไปหาลุงหมอเนอะ”

“อื้อ! คุณหมอรักษาสัตว์นี่เก่งเนอะ รักษาได้ทุกอย่างเลย”

“เขาเรียกสัตวแพยท์ครับคนเก่ง ที่หมอเข้าเก่งก็เพราะเขาเรียนมา ลูกอย่างเป็นเหมือนเขาต้องขยันรู้ไหม”

“ไม่ฝุ่นอยากเป็นตากล้อง!! แต่ฝุ่นชอบสัตวแพทย์ เท่จัง” ประโยคหลังน้องพูดเสียงเบา

ผมเงี่ยหูฟังบทสนทนาของสองแม่ลูก ผมว่าผมได้เป้าหมายในชีวิตแล้วแหละ

ผมจะเรียนสัตวแพทย์! ! !

“อะแฮ่ม ไปได้ยังครับคุณลูก” เสียงแม่กระแอ่มดังจากด้านหลังผม รอยยิ้มกริ่มประดับริมฝีปาก
“ไปครับไป แฮะๆ”



“ชอบน้องมันล่ะสิ แม่ไปขอให้ไหม”
“แม่!!!!!!!!!!!”


Tbc.


———————————————————————————————————————


พาร์ทพี่หมอยังไม่จบนะคะทุกท่าน แต่งเพลินจนต้องตัดครึ่งมีต่อตอนหน้าอีกตอนแล้วเราจะคืนเรื่องให้ฝุ่นละ 555555555555555
หนูฝุ่นกับหมออาร์ตเคยเจอกันตอนเด็กๆค่ะ แต่เพราะน้องยังเด็กมากบวกกับยิ่งโตอะไรใหม่ๆก็เข้ามา พอนานไปก็ลืม แต่พี่หมอจำน้องได้ตลอดนะคะ
ตอนนี้แต่งไปก็สงสารอาร์ตไป(อาร์ต-สงสารแล้วให้บทงี้ผมทำไม....) พ่อแม่อาร์ตนี่แต่งงานกันเพราะโดนบังคับค่ะ พ่อแม่ทั้งคู่เขารู้จักกัน ทั้งปู่ย่าตายายของอาร์ตทำธุรกิจร่วมกันเลยให้ลูกดองกันเอง เรียกง่ายๆก็คุมถุงชนนั่นแหละ อะไรที่ไม่ใช่พอถึงจุดๆหนึ่งที่มันไปด้วยกันไม่ได้ก็ต้องแตกหักกัน
ปู่ย่าของอาร์ตรักหลานมาก แต่ลูกชายตัวเองเป็นคนเข้มงวดเกินไป ท่านเห็นว่าอนาคตน่าจะมีปัญหาเลยทำข้อตกลงขึ้นมา พอพ่อของอาร์ตทำร้ายลูกหนักๆทั้งร่างกายและจิตใจเลยทนไม่ได้ ยอมส่งลูกคืนแม่ดีกว่า

พ่ออาร์ตจะมีบทอีกหลายตอน แต่เรายังหาชื่อไม่ได้เลยตอนแรกจะให้สมบัติมันก็ยังไงๆอยู่ เรียกพ่อไปก่อนละกันเนอะ


#กลิ่นสีและกาวน์หมอ

ปล.เรากำลังแต่งตอนพิเศษ สปอยชื่อตอนลงไว้ในทวิตค่ะ ฮาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 05-09-2017 11:37:34
คุณหมอน่ารัก
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 05-09-2017 12:54:33
ฮืออ น่ารักจังเลย รักฝังใจตั้งแต่น้องฝุ่นตัวเล็กตัวน้อยเลยเชียว  :m1:
เพราะความจิตใจดีของเด็กน้อยสีฝุ่น จึงเป็นสาเหตุให้พี่หมอมาเป็นสัตวแพทย์
เพราะอยากเป็นคุณหมอสุดเท่ห์สำหรับน้องฝุ่น ฮืออ ชอบมาก ๆ 
พี่หมอตอนที่ต้องอยู่กับคุณพ่อ น่าสงสารมาก เราอ่านไปน้ำตาคลอเลยอ่ะ T^T
แต่ยังดีที่มีคุณแม่ที่เข้มแข็งน่ารัก คุณปู่คุณย่าที่เข้าใจ ไม่งั้นชีวิตนี้ของพี่หมอคงไม่มีอิสระ
โดยเฉพาะคุณแม่เล็กเนี่ย ชอบมาก เป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจโลก รักลูก มีการจะสู่ขอน้องให้ด้วย 555
ตอนแรกคิดว่าน้องฝุ่น ไม่ค่อยสนิทกับพี่หมอตอนเด็ก ๆ นะเนี่ย ที่ไหนได้ ติดหนึบซะงั้น
แต่น้องยังเล็กมากอ่ะเนอะ พอแยกกันนาน ๆ ก็ต้องลืมเลือนไปบ้าง ก็เรื่องธรรมดา
แต่เดี๋ยวจบ มอสาม พี่หมอก็ได้มาอยู่กับแม่เล็กแล้ว แล้วทำไมยังไม่ค่อยได้เจอน้องกันนะ
รอพี่หมอมาเล่าต่อ ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลย ขอบคุณคนเขียนนะคะ   :กอด1:

ปล. ไปแอบดูรูปน้องฝุ่นในทวิตมา น่ารักมากค่า แต่ ชื่อตอนพิเศษนั่น คืออะไร  เอาจริง? 555
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: fsbeentaken ที่ 05-09-2017 21:38:17
น่ารักโว้ยยยยยยย  :o8:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 05-09-2017 23:50:08
 :haun5:


น่ารักกกกกกกก
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-09-2017 07:27:18
มันอย่างนี้นี่เอง  :hao3:
อาร์ท ฝนเคยเจอกันตอนฝุ่นยังเล็กๆ
แล้วฝุ่นจุดประเด็นให้อาร์ทเรียนสัตวแพทย์  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「7」05|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 06-09-2017 20:24:20
น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 06-09-2017 21:28:38
• 8 •


พอผมอายุครบสิบห้า หลังจบม.3ผมตัดสินใจเรียนต่อที่กรุงเทพ แต่ขอออกจากบ้านพ่อมาอยู่คอนโดที่แม่ซื้อให้ ซึ่งพ่อก็ไม่คัดค้านอะไรเพราะว่าตอนนี้เขากำลังจะมีลูกชายคนใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับผมที่จะไม่โดนเพ่งเล็งมาก
ผมก็ยังกลับไปหาแม่บ้างในทุกปิดเทอม ถ้าผมไม่ไปก็จะแม่มาหาผม ผมยิ่งพอใกล้ม.6 ผมไปหาแม่แค่ระยะสั้นๆเพราะต้องกลับมาเรียนพิเศษ แล้วผมกลับโคราชทีไรบ้านข้างๆมีอันต้องไม่อยู่ทุกที

ทุกครั้งที่มาบ้าน ผมต้องชะเง้อมองบ้านข้างๆตลอด

“หนูฝุ่นลืมลูกไปแล้วม้างงง” แม่เอ่ยแซว ใครจะรู้ล่ะว่ามันลืมไปจริงๆ....

ผมสอบคณะสัตวแพทย์ติดตามที่หวัง ชีวิตในรั้วมหาลัยไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ยิ่งเวลาว่างยิ่งไม่ต้องพูดถึงครับ หายากยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทร
ปีสอง ผมกลับบ้านในช่วงหยุดยาว ซึ่งมันเป็นอะไรที่คิดผิดมหันต์ แย่งชาวบ้านเพื่อตั๋วใบเดียวไม่พอ ขึ้นรถไปก็ต้องแย่งอากาศบนรถกับผู้คนอีก...
พอกลับถึงบ้าน ผมก็เจอคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอยืนอยู่หน้าบ้านกับแม่ผม

“ฝุ่น...”

เจ้าของชื่อหันมามอง ผมเผลอกลั้นหายใจไปครู่หนึ่ง

น้องกวาดสายตามองสภาพผมที่เพิ่งไปเบียดอัดผู้คนมา ทั้งเสื้อชุ่มเหงื่อ หน้ามันแผล่บ ผมยาวรกหน้ารกตา(ขี้เกียจตัด) แว่นร่วงมาปลายจมูก ถ้าสายตาน้องมันพูดได้คงถามว่า ไอ้บ้านี่มึงเป็นใครวะ...

ผมไม่ได้เจอน้องมาแปด...หรือเก้าปีแล้วนะ ไม่แปลกที่น้องจะจำไม่ได้
แต่ผมไม่เคยลืมน้อง...

เด็กน้อยที่เอาแต่ตามผมต้อยๆตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว น้องหล่อและสูงขึ้นมาก ความสูงตอนนี้อยู่ราวๆปลายคางผมที่สูง187แล้ว อีกไม่นานน้องคงตามผมทัน

“ขอก่อนตัวครับ” น้องก้มหัวให้ผม ก่อนเดินสวนผมออกไป

กลิ่นกายที่คุ้นจมูกตอนเด็กเปลี่ยนไป กลายเป็นกลิ่นที่ผมไม่คุ้นเคย ผมมองน้องอย่างไม่ละสายตาจนกระทั่งน้องเข้าบ้านไป


“มองขนาดนั้น ให้แม่ไปขอให้ไหม” เสียงแม่ทำให้ผมสะดุ้ง ยกมือลูบหน้าลูบตาแก้เขิน

“ไม่ใช่แม่... คือมัน เอ่อ” ผมพยายามแก้ตัว

“ชอบน้องมันแม่ก็ไม่ว่าหรอก จะรักใครชอบใครก็ขอให้เขาเป็นคนดีก็พอ อย่าให้เหมือนแม่...กับพ่อเรา” ผมพูดเสียงเบา ก่อนหันหลังเดินเข้าบ้าน

“...ได้จริงหรอครับ”

“แม่ว่าศิลป์มันก็คงไม่ว่าอะไรหรอก บ้านนั้นอินดี้จะตายไป รู้ตัวไหมว่าพวกแม่เห็นลูกดูแลฝุ่นมันดีกว่าดูแลแอ๋มอีก”

“แม่ครับ..”

“ความรักมันไปใช่เรื่องแปลกครับลูกชาย” แม่ว่า “พวกแม่ไม่ขวางถ้าลูกจะจีบน้อง แต่ถ้าน้องไม่ชอบลูกมันก็อีกเรื่องนะ”  แม่ยักไหล่ให้

ถึงแม่จะว่าอย่างนั้นก็จริงแต่หลังจากนั้นผมไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้น้องเลยนี่สิ ฝุ่นสอบได้มหาลัยจังหวัดใกล้ๆจึงย้ายไปอยู่นู่นแทน พอผมอยู่ปีสูงขึ้นเลยได้แค่เรียน และเรียนจนไม่ได้ตามน้องมัน



ตอนนี้แอ๋มที่กำลังจะขึ้นปี1 ก็มาสอบติดที่มหาลัยเดียวกับผมจึงย้ายตัวเองมาอยู่คอนโดกันสองพี่น้อง พอผมจบเพื่อนผมก็ชวนไปทำงานที่ฟาร์มบ้านมันผมตอบตกลงไป แม่ที่ไม่อยากให้แอ๋มอยู่คนเดียวเลยขึ้นมาอยู่ที่นี่ด้วย บ้านที่โคราชก็ให้ญาติแม่มาอยู่ชั่วคราว ผมทำงานกับเพื่อนอยู่สองปีกว่า ก่อนตัดสินใจกลับไปอยู่โคราช สมัครเป็นสัตวแพทย์ของโรงบาลสัตว์แถวบ้าน
หลังจากที่ผมกลับบ้านเมื่อปี2 ผมก็ยังไม่ได้เจอน้องสักครั้งเห็นแต่รูปจากเฟสที่ไปขโมยจากแอ๋มมา ได้แต่ส่องไม่ได้กดแอดไปหรอกครับ ไม่กล้า....


“ผมไม่ได้อยู่บ้านนะ ว่าจะไปอยู่คอนโดเพื่อนที่อยู่ใกล้โรงบาลก่อนมันบอกไปให้เฝ้าให้ ไว้แอ๋มเรียนจบแล้วค่อยกลับบ้านด้วยกัน” ผมบอกกับแม่ และคอนโดที่ว่าก็คือที่อยู่ของผมยันปัจจุบัน (เพื่อนมันไปอยู่บ้านเมียแล้ว)
ผมใช้เงินเก็บตลอดสองปีในการทำเลสิคเพราะเบื่อแว่นหนาๆ บังเอิญไปเจอคนรู้จักที่เป็นคนรู้จักของคนรู้จักอีกทีปล่อยบิ๊กไบค์มือสองพอดีเลยขอซื้อต่อเขามา....

ชีวิตผมวนเวียนอยู่ที่ทำงาน หอพัก และร้านบ้านศิลป์ มีไม่กี่ครั้งที่ผมจะไปเจอฝุ่นอยู่ร้าน ไปทีไรก็เจอแต่น้าศิลป์

“โอ๊ย ตาอาร์ตรู้ไหม ตั้งแต่มันเรียนจบนะ มันชอบออกทริปถ่ายรูปกับพ่อมัน บ้านช่องก็ไม่ค่อยอยู่ ฟิล์มก็ไปทำงาน มีแต่น่าอยู่คนเดียวกับสองตัวนั่นแหละ” น้าศิลป์บ่นให้ผมฟัง

 ผมลองถามน้าด้วยคำถามเดียวกับที่เยถามแม่เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งคำตอบที่ได้ก็เหมือนๆกัน

แต่ว่า...

“เออ อาร์ตรู้หรือยังว่าตอนนี้ฝุ่นมีแฟนแล้วนะ”

...รู้สึกเหมือนกับโดนผลักตกจากที่สูง...

ผมไม่รู้ว่าน้องมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ เข้าเฟสน้องก็ดูได้แค่อะไรที่น้องแชร์เป็นสาธารณะ ผมไล่ดูจากรูปที่เพื่อนๆน้องถูกแท็กมาจนเจอรูปที่น้องมันนั่งเบียดชิดกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตา แต่ผมนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน

...คนนี้สินะแฟนสีฝุ่น...




“ไอ้หมอหมาอกหักเป็นด้วยหรอวะ มึงชอบใครกูไม่เห็นรู้เรื่องเลยวะ ห่า” เสียงติณณ์ เจ้าของห้องที่ผมอยู่พูดขึ้น ผมโทรเรียกมันออกมากินเหล้าย้อมใจครับ กินอยู่ห้องมันนี่แหละ

“ทำไมกูต้องป่าวประกาศว่าชอบใครด้วย” ผมยกแก้วที่มีน้ำสีอำพันขึ้นจนหมด

“สาวที่ไหนวะ ถึงตาถั่วไม่เอามึงเนี่ย”

“สาวห่าอะไร” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ แต่ไอ้เจ้าของห้องแม่งเสือกหูดี

“อุ๊ยตาย นี่มึงชอบผู้ชาย?!” ติณณ์สะดิ้ง “มึงคงไม่ได้คิดอะไรกับกูใช่ไหม กูมีเมียแล้วรักเมียคนเดียว” มันไถลไปกอดแฟนมัน ผลคือถูกแฟนมันถีบเข้าลูกชายเต็มๆครับ...

“อูยย ถ้าตินน้อยใช้ไม่ได้แล้วที่รักจะแย่เอานะ” มันนอนกุมเป้า ก่อนจวมดหิ้วหันมาหาผม “อย่าบอกนะว่าคนนี้ที่มึงเคยเล่าตั้งแต่ตอนนู้นนนนนนน”

“เออ”

“สมควรว่ะ มึงไม่รุกเขาสักทีนี่ ถูกหมาคาบไปแดกละ ดูกูสิชอบเขาก็ไปเอาเขา~~~” มันร้องเป็นเพลง ถูกแฟนมันถีบมาทางผม ผมยกแก้วขึ้นอีกครั้ง

“มึงมีโอกาสอยู่นะ”

“หืม”

“ทำให้เขาเลิกกันดิมึง แค่นี้เอง”

“เลว” ไม่ใช่เสียงผมครับ เสียงแฟนมันครับ

“ตินล้อเล่นครับที่รัก ไม่ว่าตินสิ”

ผมนั่งมองน้ำในมือ ทำให้เลิกกันงั้นหรอ...

“เออมึง กูมีอะไรจะบอก” ติณณ์เดินมาใกล้ผมก่อนกระซิบ “ครั้งแรกกับผู้ชาย...มึงจะรู้ว่ามันโคตรแน่— โอ๊ย ที่รักอย่าตีสิครับ!”



เช้าวันจันทร์ ผมหอบสังขารตัวเองขับลูกรักไปทำงาน โชคดีที่ไม่แฮงค์ ตื่นมาห้องสะอาดเอี่ยมไม่รู้ติณณ์กับแฟนมันกลับบ้านกันตอนไหน

“พี่อาร์ตคะ คุณคนเมื่อวานมาอีกแล้วค่ะ” หวาน เพื่อนร่วมงานบอกทันทีเมื่อเห็นผมเดินเข้ามา คือเดือนที่ผ่านมาเนี่ยหวานมันแอบเอารูปผมไปลง#หมอหล่อบอกต่อด้วย เท่านั้นแหละครับสาวๆจจากไหนก็ไม่รู้ก็แห่เอาสัตว์มาให้รักษา แต่มันมีลูกค้าคนนึงพาสัตว์เลี้ยงมานี่บ่อยกว่าชาวบ้าน ทั้งๆอาการก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก ยิ่งอาทิตย์ก่อนยิ่งมาถี่ เอาขนมมาฝากบ้างล่ะ มาทักทายบ้างล่ะ ทุกอย่างเจาะจงมาหาผม...
ใครไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนเล็งผมไว้ก็ตาบอดแล้วล่ะ

“อื้ม เดี๋ยวพี่ดูเอง” ผมพยักหน้ารับเอือมๆ วันนี้จะมาไม้ไหนนะ จริงๆผมปฏิเสธไปแล้ว แต่เธอตื้อไม่เลิก

ผมเข้าไปที่ประจำที่ ก่อนลูกค้าคนนั้นจะเดินเข้ามาในห้อง ผมก้มอ่านประวัติที่หวานเอามาให้พอเป็นพิธี เพราะจากที่ผ่านๆมา นอกจากครั้งแรกหมาที่คุณเธอเอามามันแทบไม่ได้เป็นอะไรเลย...

“คราวนี้น้องเป็นอะไรมาครับคุณฝน” ผมถาม เงยหน้ามองคู่สนทนาก่อนจะเบิกตากว้าง

ผู้หญิงคนที่อยู่ในรูปกับน้อง...

ผมนิ่งไปจนคนตรงข้ามสังเกต จงใจขยับมาใกล้ผมก่อนโบกมือไปมา

“หมอคะ หมอ” เสียงใสๆดังขึ้น ดึงให้ผมหลุดจากภวังค์

“ครับ น้องเป็นอะไรมาอีกเอ่ย” ผมปรับสีหน้าก่อนถาม

“ดุ๊กดิ๊กไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ฝนแค่หาข้ออ้างมาเจอหมอแค่นั้น” ฝนยิ้มหวานให้ ผมได้แต่ยกยิ้มมุมปากให้

“มาหาผมแบบนี้แล้วแฟนคุณไม่ว่าหรอครับ” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแค่แวบนึง

“แฟนอะไรกันคะ ฝนโสดค่ะ”

“ไม่น่าเชื่อนะครับว่าคนสวยแบบคุณจะยังโสด” สวยแต่รูปจูบไม่หอมนะ...

เธอหัวเราะอกมาเบาๆ ดูยังไงก็เสแสร้ง ท่าทางจะได้ทำแบบที่ติณณ์บอก

ทำให้เลิกกัน...

“ไหนๆก็มาแล้ว ขอผมตรวจน้องหน่อยนะครับ” ผมให้ความสนใจกับตัวสี่ขามากกว่าคนตรงหน้า เอื้อมมือไปอุ้มเจ้าหมามาดู

“ถ้าน้องไม่ได้เป็นอะไรก็ไม่ต้องมาหาหมอนะครับ เสียเวลาคุณเปล่าๆ” ฝนชักสีหน้าเมื่อได้ยินผมพูด

เธอเดินเข้าประชิดผม ก่อนกระซิบข้างหูผม “ถ้ากับหมอ...ฝนไม่เสียเวลาหรอกค่ะ”

อือหือ...แม่ได้สอนไหมว่าเป็นผู้หญิงให้รักนวลสงวนตัว



หลังจากนั้นผมขอแลกตารางงานกับเพื่อนจากช่วงเช้าเป็นช่วงดึก ทุกครั้งที่ผมเข้างานหวานก็จะมาบอกว่าเธอแวะมาหาผมตลอด คราวนี้มาทุกวันเลย

“พี่อย่าเอาผู้หญิงแบบนี้ทำเมียนะพี่” หวานบอกกับผมอย่างนั้น




23:52

ผมอยู่เวรดึกจนใกล้เวลาปิดร้าน มองนาฬิกาว่าเกือบๆเที่ยงคืนอาการง่วงก็เข้าแทรกทันที เมื่อเห็นว่าคงไม่มีใครมาแล้วก็จัดการล็อกประตูร้าน เช็คสัตว์ที่ต้องนอนดูอาการก่อนไล่ปิดไฟข้างใน

ปังๆๆๆๆ

“คุณหมอครับ! คุณหมออออออ”
“คุณหม๊อออออออ” ผมได้ยินเสียงคนตะโกนแหกปากจากหน้าร้าน ผมจึงชะโงกหน้าออกไปดู

ใครแม่งมาตอนนี้วะคนยิ่งง่วงๆอยู่อยากปิดร้านไปซุกที่นอนนิ่มๆ ผมเบ้หน้าลงก่อนเดินไปเปิดประตู

“มีอะไรครับคุ--”
“หมอครับ! ผมเจอไอ้ตัวนี่ถูกทิ้งนอนอยู่ตรงถังขยะหน้าบ้านผม ผมลองเอาขนมปังให้มันกินแต่มันไม่กินแถมไม่ขยับตัว เอาแต่ครางหงิงๆอยู่นั่นแหละ ผมว่ามันแปลกๆเลยลองอุ้มมันขึ้นมาดู คุณหมอรู้ไหมว่าผมเจอรอยกรีดยาวถึงสะโพก คนทำแม่งโคตรใจร้าย! พอเห็นอย่างนั้นผมเลยแบกมันวิ่งจากต้นซอยเข้ามาหาคุณหมอเลยเนี่ย นี่ไงๆหมอดูดิ” คนตรงหน้าพูดรัวจนผมจับใจความได้แค่ว่ามีหมาโดนกรีดหลัง

“เอ่อ.. ” ผมมองนาฬิกาสลับกันคนตรงหน้า ก่อนถอนหายใจออกมาแรงๆ  “พาน้องเข้ามาก่อนครับ เดี๋ยวขอผมเปิดไฟสักครู่”

“ตอนนี้เหลือผมเป็นเวรคนสุดท้าย รบกวนคุณกรอกข้อมูลของน้องเองได้ไหม? เดี๋ยวผมจะเอาน้องไปดูอาการข้างในก่อน” ผมรับกล่องนั้นมาก่อนพามันไปดูอาการ

ออกมาอีกทีคนๆนั้นนอนคอหักคอห้อยอยู่ตรงเก้าอี้ ปลุกก็ไม่ตื่นจนผมถือวิสาสะตบแก้มเบาๆหวังให้รู้สึกตัว

ที่ไหนได้มาคลอเคลียมือผมซะงั้น คนอะไรยังกับแมว


“คุณ สุนัขที่คุณพามาน่ะผมรักษาให้แล้วนะ แต่ต้องอยู่ที่นี่ดูอาการก่อน”  มันสะดุ้งโหยง สะบัดหัวไปมาเผื่อให้ตัวเองตื่น
ผมไล่ให้เขากลับบ้าน ผมจะได้ไปนอนซะที..

หมับ!

ชายเสื้อผมถูกดึงโดยมือผู้ชายคนนั้น

...ภาพทับซ้อนกับมือเล็กๆของเด็กชายมะเขือเทศในอดีต...

ไม่นะ...ไม่น่าใช่...

“หืม? มีไรครับคุณ ค่าใช้จ่ายค่อยมาพรุ่--”

 “ผมนอนเฝ้ามันได้ไหม”

“ห๊ะ????”

“แฮะๆ คืนนี้ผมนอนเฝ้ามันได้ไหมอ่ะ” คนนั้นชี้ไม้ชื่อมือไปที่ห้องพักสัตว์

“คุณฟังผมนะ นี่โรงพยาบาลสัตว์ไม่ใช่โรงพยาบาลคนที่จะเปิดห้องพิเศษแล้วจะนอนด้วยกันได้นะครับ”

“คือว่า..ผมเข้าบ้านไม่ได้อ่ะ จะไปบ้านเพื่อนก็ไม่มีคนสนใจ นะๆให้ผมค้างนี่นะ” ชายเสื้อผมโดนกระตุกรัว ผมก้มมองนาฬิกาและถอนหายใจออกมา กูง่วงครับคุณ

“บ้านคุณอยู่ไหน?”

“ตรงร้านกาแฟต้นซอยครับ” ผมชะงักเมื่อได้รับคำตอบ

“ร้านกาแฟนี่ใช่ร้านบ้านศิลป์? ที่เจ้าของชื่อน้าศิลป์? งั้นคุณก็ลูกชายคุณน้า??” ผมถาม คนตรงหน้าพยักหน้ารัวๆ

ผมรีบพิจารณาคนตรงหน้าทันที เห็นภาพทับซ้อนระหว่างเด็กน้อยในอดีต กับ คนตรงหน้า

...สีฝุ่น...

ผมเอามือลูบหน้าเพื่อซ่อนรอยยิ้ม ก่อนที่จะบอกว่า...

“งั้นคืนนี้คุณไปนอนกับผมก่อนแล้วกัน ยังไงน้าศิลป์ก็คนรู้จัก” ผมเดินออกห่างน้อง เพื่อซ่อนรอยยิ้มบนหน้า

คุณเอ๊ย สีฝุ่นตัวเป็นๆอยู่ตรงหน้าผม!!!

“ห๊ะ คุณว่าไงนะ!” น้องลุกตามผม

“ผมบอกว่าให้คุณมานอนห้องผมก่อน ยังไงผมไม่ให้คุณอยู่นี่หรอก จะไปกับผมหรือจะนอนหน้าร้าน? ถ้าไปกับผมก็ตามมานะ” ผมจัดการล็อกประตู รู้ว่าน้องมันไม่ยอมนอนหน้าร้านแน่ๆ ก่อนเดินไปเอาลูกรัก


เหี๊ยเอ๊ย หุบยิ้มไม่ได้!!!


———————————————————————————————————————

น้องซ้อนลูกรักผมมาจนถึงคอนโด จัดการต้อนน้องอาบน้ำหาชุดให้น้องเปลี่ยน ก่อนไปจัดห้องดีๆชุดนี้กูจะไม่ซัก...

ผมบอกให้ฝุ่นไปนอนในห้องก่อนออกมาอาบน้ำ ออกมาอีกทียังเห็นน้องเอกเขนกอยู่บนโซฟา

“ผมนอนนี่ก็ได้ นิ่มพอๆกับที่ฟูกบ้านผมเลย” น้องว่า ผมทำหน้าดุใส่

“มีคนเคยบอกคุณไหมว่าคุณดื้อมากเลยฝุ่น มาคุณ ไปนอนกัน” ผมจัดการลากเด็กดื้อขึ้นเตียงจนได้
 
“เฮ้หมอ รู้ชื่อผมได้ไง?” ชิบหายละอาร์ต

“เอ่อ.. ใช่ๆ ก็ใบประวัติที่คุณกรอกไง คุณเขียนชื่อเล่นลงไป” ผมแถจนแสบสีข้าง มันเขียนชื่อเล่นไปจริงๆหรอวะครับ...
แต่ดูเหมือนน้องจะพอใจในคำตอบ

“ว่าแต่ หมอชื่อไรอ่ะครับ?”

“...ลืมกันจริงๆสินะ...” ผมหันมองน้องก่อนพึมพำออกมา
เหมือนใจโดนบีบ...

“ขอโทษที่แนะนำตัวช้า ผมอินทัชครับ จะเรียกอาร์ตเฉยๆ หรือหมอเหมือนเดิมก็ได้” ผมฝืนยกยิ้มให้น้อง

“ผมสีฝุ่นครับ คิดว่าหมอคงรู้จักผมผ่านแม่แล้วแหละเนอะ แฮะๆ”

“ดึกแล้ว นอนเถอะครับ ตื่นมาผมจะพาไปร้านแล้วจะพาไปส่งบ้าน ผมปิดไฟได้นะ?”  น้องพยักหน้า ผมจึงปิดไฟและล้มตัวลงอีกด้าน

จู่ๆคำพูดไอ้ติณณ์แวบเข้ามาในหัว
ชิบหาย...


ผมหลับตานับแกะพยายามไม่ฟุ้งซ่าน รู้สึกว่าอีกคนพลิกตัวไปมา


“นอนไม่หลับหรอครับ เห็นพลิกตัวไปมา”

“แฮะๆ นิดหน่อยครับสงสัยแปลกที่ ขอโทษที่ทำหมอตื่นนะ”

“ไม่เป็นไรผมยังไม่หลับดี” ผมส่ายหน้าเบาๆ “ให้ผมเปิดไฟตรงหัวเตียงไว้ไหม?” น้องปฏิเสธ

“งั้น... ราตรีสวัสดิ์ครับฝุ่น” ผมเอื้อมมือไปลูบหัวน้อง เหมือนกับตอนเด็กๆ

“ราตรีสวัสดิ์ครับหมอ”

 เรายิ้มให้กันผ่านความมืด




ผมมองคนนอนม้วนกับผ้าห่มเป็นซูชิโรล ขยับตัวไปมาเหมือนหาของซุกจนมาหยุดที่อกผม

หมับ!

น้องยกมือมาลูกอก ผมหลับตาลงทันที แอบรี่ตามองเห็นหน้าลนลานเพราะขยับตัวไม่ได้ คนอะไรโคตรน่าแกล้ง

“หมอครับ”  ผมนิ่ง

“หมอออออ”
 
“หม๊อออออออออออออ” ผมลองขยับตัวแต่ยังไม่ลืนตา น้องเรียกผมอีกครั้ง

“หมอตื่นก่อน ผมจะไปอาบน้ำ”

“หนวกหู คนจะนอน” แกล้งพูด ก่อนกวาดแขนออกไปกอดแยมโรลผ้าห่ม ซุกหน้าลงกับกลุ่มผมนิ่ม

ฟื้ดดดดดดด ชื่นใจจจจจจ

ยิ่งผมกอดแน่น น้องก็ยิ่งดิ้น ด้วยความหมั่นไส้ผมเลยยกขาล็อกตัวไปด้วย ดูสิจะทำยังไง

“หมออออออออออ ตื่นนนนนนนนนนนนนนนนนน” ผมทำหูทวนลม จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

ผมแสร้งทำหงุดหงิดกับเสียงนั่น เอื้อมหยิบและกดรับสาย ปรือตามองน้องที่นอนฟังบทสนทนา

“อ่าฮะ ก็บอกเจ้าของมันแล้.........” ผมเงียบเมื่อน้องหยุดดิ้น ทำท่าคิดแล้วลืมตาขึ้นทันที “เดี๋ยวพี่โทรกลับ แค่นี้ก่อน!”

ภาพผมสะท้อนในตาน้องยังกับclose-up ผมกับน้องระยะตอนนี้โคตรอันตราย...ต่ออะไรบางอย่างที่ผู้ชายสุขภาพดีเป็นกันตอนเช้า
 
“เอ่อ... ปล่อยผมได้ยังหมอ”

สิ้นเสียงน้องผมก็รีบผละออก ก่อนที่อะไรๆมันจะไปโดนน้อง

“อ่า พี่ อืมมม เอ่อคือผม...โทษทีผมคิดว่าเป็นหมอนข้าง” ผมลูบหน้า น้องรีบออกจากห้องทันที โอ๊ย อาร์ตน้อยนอนลงไปสิลูกพ่อ



ผมไปส่งน้องกลับบ้านแบบมัดมือชก ผมเข้าร้านทันพอที่ได้ยินที่น้าศรคุยกับฝุ่น น้าศรพูดถึงคนชื่อฝน
...ดูจากสีหน้าน้องไม่น่าใช่เรื่องดี...


น้าศิลป์กลับมาพอดี น้าแกทักทายผมตามปกติ สงสัยยังไม่เห็นสีฝุ่น
 
“อีกอย่าง... ผมต้องมาส่งเด็กด้วยครับ” ผมดึงน้องออกมา น้าทำหน้าตกใจ

“อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนสีฝุ่นไปนอนกับอาร์ตน่ะ” ผมพยักหน้ารับ “แล้วนี่ไปเจอกันยังไง??” แต่ก่อนที่จะได้ตอบ น้าศรก็เอาเครื่องดื่มมาให้พอดี ผมเลยขอตัวออกมา

ไม่นานน้าศิลป์ก็โทรมาหาผม

“ฝุ่นเลิกกับแฟนมันแล้วนะ” ผมถือโทรศัพท์ค้าง นี่เรื่องจริงใช่ไหม??

“อาร์ตฟังน้านะ พวกน้าไม่ว่านะถ้าอาร์ตจะจีบไอ้ฝุ่นมัน แต่ขอแค่ให้ฝุ่นมันมีความสุขก็พอ” ผมยิ้มกว้างเอ่ยตอบรับก่อนกดวางสายไป



ไม่กี่วันถัดมาเพื่อนร่วมงานผมขอแลกเวรทำให้ผมต้องมาอยู่กะเช้าอย่างช่วยไม่ได้  ทำให้ผมเจอผู้หญิงที่ผมหนีหน้ามาหลายวันจนได้ คุณเธอเข้ามาหาผมอย่างหน้าชื่นตาบานกว่าตอนนั้น แหงดิเลิกกับน้องแล้วนี่หว่า
“หมอคะ พักเที่ยงเราไปทานข้าวกันไหมคะ” เธอกรีดนิ้วลงกับต้นแขนผมเบาๆ

“ไม่ว่างครับ”

“น่าหมอ แปปเดียวเอง”

“ไม่ครับ”

”นะหมอ”  ผมถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างกับเธอ

“คุณฝน คุณฟังที่ผมพูดนะ” เธอพยักหน้ายิ้มแย้ม “ผมมีคนที่ชอบอยู่ครับ”

“แล้วไงคะ? ก็แค่ชอบ”

“...คนที่ผมชอบ คุณก็รู้จัก”

“.....”

“สีฝุ่นไง”

หน้ายิ้มแย้มเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด  ตากลมนั่นจ้องผมเขม็ง ผมมองกลับด้วยสายตาจริงจัง

“เฮอะ”

“.....”

“ผู้ชายอย่างฝุ่นมันมีดีตรงไหน” เธอแสยะยิ้ม ผมนิ่งทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูดต่อ “ผู้ชายกับผู้ชายอย่างนั้นหรอ จะไปกันได้สักกี่น้ำเชียว คนอย่างหมออยู่เฉยๆก็มีผู้หญิงเสนอตัวให้ทำไมถึงไม่สนใจกันคะ” เล็บสีสวยกรีดลงบนต้นแขนผมอีกครั้ง

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็เชิญครับ ลูกค้าคนอื่นรอผมอยู่” ผมเบี่ยงตัวหนี ผายมือไปทางประตู

“ฉันไม่หยุดแค่นี้หรอกคุณอาร์ต ไว้เจอกัน”

ผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว...

หวังว่าหล่อนคงไม่ไปทำอะไรสีฝุ่นนะ



ใครจะไปรู้ว่าถัดไปไม่กี่วัน ฝุ่นกับแอ๋มจะบังเอิญไปเจอเธอที่ห้างอย่างนั้น...


Tbc.


———————————————————————————————————————
กลิ่นกาวพิเศษ

แม่ศิลป์ : อาร์ตลูก ปอมที่ฝุ่นเก็บมาแม่อยากตั้งชื่อใหม่ให้น่ะ ช่วยแม่คิดหน่อย
แม่เล็ก : พู่กันดีไหม? มีสีแล้วยังไม่มีพู่กันเลย
อาร์ต : เฟรมไหมแม่? ไม่มีพู่กันยังวาดรูปได้
แอ๋ม : หมาของพี่ฝุ่นกับพี่อาร์ตใช่ไหม
ฟิล์ม : ตัวที่แม่ส่งให้หนูดูป่ะ ไอ้ตัวน้ำตาลๆ?
อาร์ต : อื้อ
แอ๋ม : ชื่อไรดีอ่ะ นึกไม่ออก
ฟิล์ม : งั้นชื่ออุ่น อาร์ตกับฝุ่นรวมกันเป็นไออุ่น ไง
แอ๋ม : แอ๋มชอบๆ
แม่ศิลป์ : แม่ก็ชอบชื่อนี้ เดี๋ยวแม่ไปบอกฝุ่นก่อนนะ หุๆ
อาร์ต : ฟิล์มอยากได้อะไรบอกพี่เลยครับ พี่พร้อมซื้อให้ทุกอย่างเลย
อาร์ต : โดนใจชื่อนี้
แอ๋ม : หนูล่ะ!!หนูน้องพี่นะ! !

จบเถอะ
———————————————————————————————————————


สรุปว่าที่ฝนเจอฝุ่นกับแอ๋มที่ห้าง ที่คุณเธอมองไม่ใช้หวงนะคะ นางมองฝุ่นแบบผู้ชายคนนี้มีอะไรดีพอที่ให้หมอมาชอบค่ะ
ตอนนี้ยาวเป็นพิเศษเพราะเอาตอนเก่าๆมาใส่ด้วยค่ะ นี่เรียงไทม์ไลน์เวลาสนุกสนาน ว่าแต่ว่า8ตอนผ่านไปคุณกล้องฟิล์มก็ยังคงไร้บทนะคะ...
ตอนหน้าพอกลับโคราชแล้วคุณหมอก็จะเดินหน้าจีบหนูฝุ่นเต็มที่ค่ะ แล้วก็จะมีดราม่าพอหอมปากหอมคอ(หรอ...)หน่อย ละมุนมากไปไม่ใช่แนวเรา ฮุๆๆ
ไหนใครว่าพี่หมอรวยคะ นั่นก็คอนโดเพื่อน นั่นก็รถมือสอง----
พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ คือบทให้หนูฝุ่นแล้วนะ 555555

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
ปล. อิอาร์ตมันร้ายยยยย 55555555555555

หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-09-2017 22:02:11
ฝนพิษ จริงๆ
ที่แท้ชอบหมออาร์ต เลยขอเลิกกับฝุ่น

พอรู้ว่าอาร์ต ชอบฝุ่น ยังมีหน้าว่าแค่ชอบ
ผู้ชายกับผู้ชายอย่างนั้นหรอ จะไปกันได้สักกี่น้ำเชียว
หมออยู่เฉยๆก็มีผู้หญิงเสนอตัวให้ทำไมถึงไม่สนใจ หน้าด้านมากๆ

ฝนพิษ เลว ตั้งแต่เจอฝุ่นกับแอ๋มแล้ว
ไม่แน่ไปหาเรื่องฝุ่นอีกเพราะจะจีบหมอ  :m16: :m16: :m16:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Thanaphon ที่ 06-09-2017 22:03:16
 :- :o8: :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 06-09-2017 23:46:20
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 07-09-2017 13:31:43
โห ผู้สนับสนุนพี่หมอเยอะขนาดนี้ มิน่าถึงมีโอกาสได้ทำคะแนนกับน้องลิ่ว ๆ
แล้วพี่ฟิล์มนี่เอง เบื้องหลังชื่อหนูไออุ่น แหม ขนาดตัวไม่อยู่นะเนี่ย 555
แต่พี่อาร์ตนี่ก็นะ ชอบน้องก็ยังปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปได้ตั้งนาน
จนสีฝุ่นมีแฟน นี่ถ้าสีฝุ่นไม่โดนทิ้ง พี่หมอคงไม่ได้เริ่มทำอะไรสิเนี่ย
ส่วนยัยฝน  เป็นผู้หญิงที่นิสัยเหลือรับ น้องฝุ่นไปเอามาเป็นแฟนได้ไง สงสัยมาก
ไปตามตื้อ เสนอตัวให้ผู้ชายถึงที่ ทั้งที่โดนปฏิเสธแล้ว ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว หน้าไม่อาย
พอเลิกกับแฟน ก็ยังมาพูดจาดูถูกแฟนเก่าตัวเองอีก น่าเกลียดมาก
ถ้าจะมีข้อดี ก็คงมีแค่ที่บอกเลิกสีฝุ่นเนี่ยแหละ ไม่งั้นพี่หมอเราคงไม่ได้เริ่ม
พี่อาร์ต ได้ใจเรามาก ตอนแรกแอบกลัว ว่าพี่จะทำตามที่เพื่อนแนะ
ที่จะทำให้ฝุ่นเลิกกับแฟน แบบนั้นมันไม่ดีเลย ดีที่พี่หมอไม่ทำ
แถมยังบอกยัยฝนชัดเจนด้วย ว่าชอบใครอยู่ รู้สึกสะใจมาก 555
แต่ยัยฝนนี่ ต้องกลับมาหาเรื่องอีกแน่ ๆ แต่แบบไหนแค่นั้นแหละ เฮ้อ
หวังว่าพี่อาร์ตจะรับมือได้ อย่าให้ยัยมารร้ายมาทำอะไรสีฝุ่นนะ
ดราม่า อย่าเยอะน้า เราไม่ถูกกับดราม่าเลย ไม่อยากเสียน้ำตา ฮือออ  :monkeysad:
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 07-09-2017 22:31:53
 :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「8」06|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 09-09-2017 10:51:03
น่ารักกก
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「9」09|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 09-09-2017 21:27:36
• 9 •


คืนพื้นที่ให้สีฝุ่น


วันนี้ผมตื่นไวกว่าปกติเพราะรู้สึกอึดอัดเหมือนโดนรัดตัว ลืมตาได้ก็เห็นท่อนแขนของผู้ร่วมห้องอีกคนพาดเอวผมอยู่ ท่านอนตอนนี้คือเราหันหน้าหากัน

“หมอ...” ผมลองเรียก ไม่กล้าขยับเพราะกลัวทำเขาตื่นนาฬิกาตอนนี้ยังไม่หกโมงเช้าดี ผมคิดว่าหมอควรพักเยอะๆ จะได้มีแรงขับรถให้ผมนั่ง (ขี้เกียจหรอลูก..)

นอนมองคนตรงหน้าที่หลับสนิท ผมของหมอยาวจนปรกหน้าปรกตาหมด ผมเอื้อมมือไปเกลี่ยผมออกจากหน้าหมอเบาๆ เผยให้เห็นโครงหน้าคมตามแบบฉบับชายไทยที่หนวดกำลังเริ่มขึ้นเป็นตอ โอเค-ผมยอมรับว่าผมลืมคนๆนี้ไปแล้วจริงๆ ก็ครั้งสุดท้ายที่ผมเจอก็ตอนน่าจะตอนป.2นู่น คิดดูดิว่าผ่านมากี่ปีแล้วใครจะไปจำได้ แล้วแอ๋มดันเรียกพี่มันว่าอาร์มอีก ใครจะรู้ว่าจริงๆคือชื่ออาร์ตกัน โถ่

พี่ชายข้างบ้านที่ใจดี คอยมาเล่น มาปลอบ มาดูแลตลอด

แล้วไหนจะคำพูดนั่น...

‘งั้นพี่จะมาทุกปิดเทอมนะ โอเคไหม’

แต่แล้วก็ไม่เคยมา...

พี่ชายใจดีคนนั้น กับหมอคนที่นอนอยู่ข้างผมตอนนี้คือคนๆเดียวกันสินะ

เผลอยิ้มออกมา ขยับมือไล้ตามโครงหน้าได้รูปเบาๆ

“พี่อาร์ต...” ผมเรียกเบาๆ กล้าเรียกเพราะเห็นว่าเขาหลับอยู่ ยังไงก็ไม่ได้ยิน~

ผมกำลังจะพลิกตัวนอนหงาย จังหวะเดียวกับที่เสียงทุ้มติดงัวเงียจะดังขึ้น

“ว่าไงครับ” อ้อมแขนกระชับตัวผมแน่นขึ้น “เรียกพี่ทำไมครับ”

เชี่ย ได้ยินด้วยหรอวะ หมอตื่นตั้งแต่เมื่อไร???

“ใครเรียกหมอกัน ตื่นแล้วก็เอามือออกไป” ผมตีแขนหมอรัวๆ แต่หมอกลับดึงผมให้ชิดกว่าเดิม จนหน้าผมแทบจะชิดกับหมอ

“พี่ได้ยินนะ เรียกอีกสิพี่ชอบ” หมอกดจมูกลงกับขมับผม ได้ยินเสียงสูดเบาๆ มือข้างที่กอดผมอยู่ก็ค่อยๆลูบขึ้นตามแนวสันหลัง

“หมออย่าเนียน ปล่อย!!” ผมดิ้นจนหมอยอมปล่อยมือ ลุกขึ้นมองคนตัวโตที่นอนอยู่ “ผม...ผมจะไปอาบน้ำ หมอนอนต่อก็ได้เดี๋ยวมาปลุก”

“ฝุ่น...” หมอลุกนั่งกับเตียงแล้วคว้ามือผม ก่อนเรียกชื่อผมออกมา

“ครับ?”

“แทนตัวเองว่า ฝุ่น เหมือนตอนเด็กๆได้ไหม” ผมนิ่ง

หมอขยับมาใกล้และ...กดจูบลงที่หลังมือผม...

“ได้ไหมครับ”

คนตัวโตเงยหน้าสบตาผม เอ่ยคำขอด้วยเสียงทุ้มติดอ้อน...

ผมเม้มปากแน่นด้วยความประหม่า รู้สึกถึงความร้อนที่กองขึ้นมาที่หน้า

“ผม..ผมไปอาบน้ำก่อนนะ!!!”

ดึงมือออกจากมือใหญ่ที่เกาะกุมไว้ ก่อนเอาตัวรอดด้วยการวิ่งหนีเข้าห้องน้ำ

อย่าเต้นแรงนักสิ...หัวใจ



พวกเราออกจากที่นั่นเมื่อทานมื้อเช้าเสร็จ ขับเลาะไปทางเส้นวังน้ำเขียว ตลอดทางมีที่ให้แอ๋มงอแงหยุดลงถ่ายรูปตลอดเวลา ตากล้องก็ไม่ใช่คนไกลครับ...ผมไง ขับมาถึงเขาแผงม้าก็เจอร้านกาแฟที่คนนิยมกันมา มีให้อาหารแกะด้วย

“พี่ดูดิๆ น่ารักกกก” แอ๋มชี้ลูกแกะที่เดินอยู่นอกคอก “ป้อนอาหารมันกัน” ว่าแล้วก็วิ่งไปซื้อผักสำหรับป้อนแกะมาแจกพวกผมทันที

ผมจ้องตากลมๆของแกะตัวตรงหน้า ฝากพ่อถือกล้องไว้

“แบะ แบะ” มันยืนเกาะคอกทันทีที่เห็นคนถืออาหารมาให้ ยื่นไปก้านนึงมันก็เคี้ยวทันที

“โอ๊ะ เฮ้ยยยยยย!!” ผมรู้สึกว่าผักในมือถูกดึง พอหันไปก็เห็นแกะสีน้ำตาลตัวใหญ่กำลังเขี้ยวผักในมือผมอยู่!!

“หยุด เฮ้ยหยุ๊ดดดดด” ผมยกผักหนี ไอ้ตัวที่อยู่นอกคอกแม่งพากันกรูมาที่ผม “ออกป๊ายยย”

“แม่จ๋า ดูไอ้ฝุ่นมันดิโดนแกะรุมแล้วนั่น” เสียงพ่อหัวเราะลั่น เห็นกำลังเล็งกล้องมาทางนี้...

“พ่ออย่าถ่าย!! แว๊กกกกกก” ตอมผมหันไปหาพ่อ มีแกะตัวนึง...มันยกขาหน้าถีบเข้าสะโพกผมอย่างแรง! ส่งผลให้ผมหน้าคว่ำลงไปทันที

“ฝุ่น!” “พี่ฝุ่น!!” เสียงสองพี่น้องนั่นเรียกชื่อผมพร้อมกัน ผมลุกขึ้นนั่งทันทีเพราะกลัวพวกมันเดินมาเหยียบซ้ำ ผักยังอยู่ในมือผมไง

“พี่ฝุ่นเป็นอะไรมากไหม เจ็บตรงไหนรึเปล่า” แอ๋มเข้ามาถามอย่างร้อนรน แม่กับป้าเล็กก็เข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง พนักงานที่ดูแลแกะก็เข้ามาสอบถามและเอ่ยขอโทษ

“ไม่เป็นครับ แค่ตกใจเฉย” ผมตอบ รู้สึกแสบที่ฝ่ามือขึ้นมานิดๆแต่ไม่แสดงออกไป

“ดีแล้วที่ไม่เป็นไร” ป้าเล็กถอนหายใจออกมา ผมลุกยืนเต็มความสูง ซ่อนฝ่ามือที่เจ็บไว้ด้านหลัง

“งั้นกลับกันเลยดีกว่า” แม่ว่า “ตรงกลับบ้านเลยนะลูก”

“ครับ”

“ฝุ่น” พ่อเรียก ก่อนยื่นกล้องคืน “พ่อถ่ายตอนฝุ่นโดนถีบได้พอดีเลย”

“พ๊อออออออ!”

ผมให้ทุกคนเดินนำไปก่อน ผมลอบถอนหายใจก่อนที่มือของในบางคนจะกำข้อมือผม ยกฝ่ามือที่เจ็บขึ้นไปสำรวจแผล ช่วงฝ่ามือและสันมือถลอกเป็นรอยกว้างจนเลือดออก

“เจ็บทำไมไม่บอก”

“.....”

“เด็กดื้อ”

“.....”

ผมเม้มปากแน่น เดินตามแรงดึงของอีกคนที่ดึงผมมาถึงห้องน้ำ หมอจับผมล้างมือเอาเศษดินเศษหญ้าออกจากแผล

“ที่รถมีชุดทำแผล เดี๋ยวพี่ทำให้”

น้ำเสียงที่หมอพูดกับผมตอนนี้มันนิ่งมาก...

“ครับ...”

หมอจูงผมจนมาถึงรถ เดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลออกมาทำให้ผม ตั้งแต่เดินมาหมอยังไม่พูดกับผมสักคำเลย

กึก

กล่องพยาบาลถูกปิดลง ผมมองมือที่ถูกปิดด้วยผ้าพันแผลก่อนเอ่ยขึ้น

“ขอโทษครับ”

“หืม?”

“หมอ..โกรธผมหรอ”

“เปล่า” หมอส่ายหน้า “ไม่ได้โกรธ พี่แค่คิดว่าทำไมฝุ่นเจ็บแล้วไม่บอกพี่หรือใคร ถ้าพี่ไม่สังเกตว่าเราซ่อนมือตลอด ตอนรับกล้องจากลุงกรก็ใช้มืออีกข้างแทนพี่ก็ไม่รู้ว่าเรามีแผล ทำไมไม่บอกพี่ครับ? หรือพี่พึ่งพาไม่ได้กัน?”

“ไม่ใช่อย่างนั้น...”

“.....”

“ผม...ฝุ่นขอโทษ”

“อื้อ ไม่เป็นไรมากก็ดีแล้ว” หมอหันมายิ้มให้ผม ก่อนหันไปมองถนนเหมือนเดิม

“แล้วก็..”

“.....”

“ขอบคุณครับ พี่อาร์ต”

ผมพูดเสียงเบา หันหน้าหนีมองวิว โดยไม่รู้ว่าอีกคนยิ้มกว้างแค่ไหน

———————————————————————————————————————

หลังจากกลับมาจากวังน้ำเขียว ผมก็กลับมาสู่ชีวิตปกติสุขอยู่ได้ไม่นาน....

วันอาทิตย์
   “ฝุ่นชอบสีเทาไหม”
   “ก็ชอบนะ”
   “ก็ดี เทาจะได้มีแต่เรอ เธอจะได้มีแต่เรา”
   “...........”

วันจันทร์
   “ฝุ่นครับพี่ให้ ลูกโป่งใบนี้สำคัญมากนะ” ผมเปิดประตูห้องไปเจอหมอที่ยื่นลูกโป่งลูกใหญ่มาให้
   “ฮะ?”
“ก็มันมีลมหายใจของพี่อยู่ไง”
“.......................”

วันอังคาร
   “ฝุ่นครับ มีโอป่ะ?”
   “ไม่อ่ะ ไม่ได้เลี้ยงแมวจะได้มีแมวต้องมีโอ”
   “เปล่าครับ มีโอ...กาสที่เราจะได้รักกัน”
   “......................”

วันพุธ
   “หมอเป็นรึอะไรป่าว?” วันนี้ผมอยู่ร้านครับ เห็นหมอทำหน้าเหนื่อยมาแต่ไกลจึงเข้าไปถาม   
   “มีเรื่องหนักใจน่ะ” หมอฟุบลงกับโต๊ะ
   “หมอมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ผมพอช่วยได้ไหม?”
   “พี่หนักใจ...เพราะก็ฝุ่นมาวิ่งเล่นในใจพี่ตลอดเลย”
   “เสี่ยวไปไหมลูกกกกกก” เสียงแม่ตะโกนมาจากอีกมุมของร้าน

วันพฤหัส
   วันนี้ประเทศไทยอากาศร้อนจัดจนเหงื่อออกเต็มทั้งๆที่ร้านก็เปิดเครื่องปรับอากาศ
   “ฝุ่นร้อนหรอครับ เหงื่ออกหมดแล้ว”
   “ร้อนดิ หมอไม่ร้อนหรือไงไม่ถอดกาวน์เนี่ย”
   “พี่ไม่ร้อนครับ”
“อื้อ”
“แต่...ถ้าฝุ่นร้อนเดี๋ยวพี่เป็น แฟน ให้นะ”
   “...มาทางไหนไปทางนั้นเลยครับ”

วันศุกร์
   วันนี้หมอมาซะเย็น ดูสิจะมาไม้ไหน   
   “ฝุ่น พี่ขอข้าวหน่อย”  เหะ วันนี้มาปกติ?
   “หมอกินอะไรครับ ผมจะสั่งร้านข้างๆพอดี”
   “พี่ขอข้าว....” หมอเว้นช่วงยาว “พี่ขอเข้าไปในหัวใจฝุ่นหน่อยครับ”
   “........................................................”



นั่นแหละครับ ตั้งแต่กลับมาผมก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีหมอมาแจกมุกเสี่ยวทุกวัน อยากรู้ว่าสัตวแพทย์ร้านนี้มันว่างขนาดเดินมากวนตีนกับชาวบ้านได้หรอ...

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่หมอหยุด ผมคิดว่าหมอคงไม่สละเวลานอนมากวนผมหรอก

แต่ที่ไหนได้...

“ฝุ่นครับ ไปเที่ยวกับพี่กัน” ลงจากห้องด้วยสภาพชุดนอนมาก็เจอหมอยืนยิ้มแป้นให้ผม

“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ” ผมหาววอด อยากนอนต่อแต่กระเพาะประท้วงด้วยความหิวเลยต้องลงมา

“ไปดูหนังกัน”

“ไม่ว่าง แม่ให้เฝ้าร้านให้”

“น้าศิลป์บอกพี่ว่าวันนี้ฝุ่นไม่ต้องไป”

“......”

“น่า ไปดูหนังกัน อยากกินอะไรอยากได้อะไรพี่เลี้ยงเอง”

“จริงป่ะหมอ” ผมหูผึ่ง ของฟรีนี่ชอบ

“จริงครับ”

“งั้นไป!”

“แต่ฝุ่นต้องเรียนพี่ว่าพี่ แล้วต้องแทนตัวเองว่าฝุ่นด้วยนะ” หมอยื่นข้อแลกเปลี่ยน ยกยิ้มมุมปากขึ้น

“.....”

“อ่า พี่คงขอมากไปสินะ ถือว่าพี่ไม่ได้พูดแล้วกัน” หมอยิ้มจาง “ถ้าจะไปก็โทรบอกพี่นะ วันนี้พี่อยู่บ้าน”

ผมมองแผ่นหลังหมอที่ค่อยๆห่างออกไป

“พี่อาร์ต!” ผมกลั้นใจตะโกนเรียก “เดี๋ยวไปด้วย รอนี่แหละอาบน้ำแปป!”

ผมพูดรัวก่อนวิ่งกลับเข้าห้อง


เรียกพี่อาร์ตก็ไม่ได้แย่เท่าไร

ถ้าไม่ติดที่กูเขินอ่ะนะ...
   
———————————————————————————————————————

หมอ.... ไม่สิ พี่อาร์ตพาผมมาห้างใหม่ของโคราช ผู้ชายข้างๆผมยิ้มเผื่อแผ่สาวน้อยหนุ่มน้อยตั้งแต่ลานจอดรถยันหน้าโรงหนังจนผมเบ้ปากใส่ ผมยื่นมองรายชื่อหนังเข้าใหม่แต่ไม่ทันที่จะได้เลือกเรื่อง พี่อาร์ตก็ยัดแบงค์ม่วงๆใส่มือผมให้ไปซื้อป๊อปคอร์น ส่วนเจ้าตัวเดินไปซื้อตั๋ว

ผมจะไม่โวยวายเลยถ้าหนังที่หมอเลือกไม่ใช่หนังผี และเก้าอี้โซฟาคู่...

“หมอก็รู้ว่าผมไม่ดูหนังผี!!” ผมโวยวาย

“พี่อาร์ตสิ”

“....พี่อาร์ตครับ พี่ก็รู้ว่าผมไม่ดูหนังผี” ผมกัดฟันพูดแต่อีกคนกลับยิ้มแป้น

“พี่รู้ไง ถึงเลือกโซฟาคู่เวลาฝุ่นกลัวจะได้ซบพี่ได้ ไปๆได้เวลาเข้าโรงแล้ว”

“ไม่ป๊ายยยยยยยยยยย”

ไม่รอดแรงดึงของพี่แก ถูกลากเข้าโรงจนได้...


“แว๊กกกกกกก”
“ฮื่อออออออ ฝุ่นไม่ดูแล้ว”
“อ๊ากกกกกกกกกกกก”
“เหี้ย!!!”
“พี่อาร์ตตต ไม่แกล้งดิเอาเสื้อมา!! อ๊ากกกกกกกก”
“ฮรื่อออ ไม่ดูแล้วววว”
ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงมีแต่ผมที่โวยวาย และซุกเบียดอีกคนจนแทบจะเกยตักรวมร่างตั้งแต่ต้นเรื่องยันหนังจบ นาทีนี้ไม่สนห่าเหวอะไรละกับไอ้มือที่ลูบเอวลูบสะโพกผมอยู่เนี่ยยยย


“โอ๋ๆ หนังจบแล้วครับคนเก่ง ไม่ร้องๆ” หมอปลอบด้วยท่าทีขำๆ มือลูบหลังผมไปมา ตอนนี้หนังขึ้นเอ็นเครดิตแล้ว คนส่วนใหญ่ก็อออกจากโรงไปแล้ว แต่ผมไม่มีแรงที่จะลุก...ได้แต่ซุกหน้าลงกับอกกว้างของอีกคนนิ่งๆ

“ไหนๆ คนเก่งครับเงยหน้ามองพี่หน่อยครับ” หมอใช้สองมือประคองแก้มให้ผมเงยขึ้นมองตัวเอง

“.....”

“ยิ้มหน่อยครับ”

“.....” ผมเบ้ปากใส่

“จบแล้วครับ ไม่กลัวนะ จุ๊บ”

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ผมเบิกตากว้าง เมื่อริมฝีปากพี่อาร์ต...ประทับลงมาที่ริมฝีปากผมเบาๆ

“ไม่กลัวนะครับคนเก่ง คืนนี้ให้พี่ไปนอนเป็นเพื่อนไหม”

“ไม่ต้อง!!!!!!!!!!”


ผมหนีหมอออกจากโรงหนังด้วยใจที่เต้นแรง สัมผัสที่ริมฝีปากยังคงติดอยู่

อะไรวะไอ้ฝุ่น จูบผู้หญิงไม่เห็นรู้สึกอย่างนี้...

งื้อออออออ หมอหมาบ้า!


ผมออกมายืนรอหมอที่หน้าทางเข้า เมื่อเห็นหมอเดินมาก็รีบเดินนำทันที...กลัวหมอเห็นหน้าแดงๆ

“ทานไรดีเที่ยงนี้ครับ” หมอก้าวยาวๆมาเดินข้างผม

“บาบีก้อน”

“โอเค ไปกัน”



กว่าพวกเราจะกลับถึงบ้านก็ฟ้ามืดแล้ว หมอมาส่งผมถึงหน้าห้องพร้อมบรรดาถุงหลากสีในมือ มีทั้งเสื้อผ้า ของใช้และกันพลาที่จ่ายโดยคนที่ถือมาให้นั่นแหละ

“ขอบคุณที่ไปกับพี่วันนี้นะครับ”

“ฝุ่นต้องขอบคุณพี่สิ ป๋าเปย์ซะขนาดนี้ ถามจริงหมดตัวยัง”

“สำหรับฝุ่น พร้อมเปย์เสมอครับ”

“เหอะๆ”

หมอวางถุงทั้งหลายไว้บนพื้นห้อง ก่อนขอตัวกลับบ้าน

“พี่กลับก่อนนะ” พี่มันยกมือมาวางบนหัวผม ก่อนขยี้เบาๆ “ถ้ากลัวก็โทรหาพี่นะ เดี๋ยวมาหาทันทีเลย” พี่มันพูดพร้อมขยิบตาใส่

“กวนละ กลับไปเลยยยย”

“ครับๆ”

“งั้นก็ราตรีสวัสดิ์ครับ”

“อื้อ ฝันดีครับ”

 “พี่อาร์ต”

“ครับ?”

ฟอด

“กลับบ้านดีๆครับพี่อาร์ต” ผมเขย่งตัวไปหอมแก้มอีกคน ก่อนรีบปิดประตูห้องลงทันที ไม่สนว่าอีกคนจะทำหน้ายังไง

“สีฝุ่น!!!!!”





อยู่กับพี่อาร์ตก็ไม่ได้แย่เท่าไรแฮะ

Tbc.

———————————————————————————————————————

ลงตอนที่9 วันที่9เดือน9 พอดีเลยยยย
ยอมใจความหมอ 5555555 ช่วงนี้จะละมุนกันยาวๆค่ะ เรื่อยๆเอื่อยๆให้พี่หมอได้จีบฝุ่นแบบชิลๆ พี่อาร์ตสายเปย์กับหนูฝุ่นสายฟรี----
เรื่องโดนแกะถีบนี่เราเจอกับตัวค่ะ กำลังเอ๋อๆอยู่มันยกขาหน้าถีบช่วงสะโพกเต็มแรง โชคดีที่ไม่ล้ม น้องชายเรายังถ่ายรูปรอบกีบเท้าแกะที่ติดเสื้อไว้อยู่เลย 5555555555555
ตอนหมอเล่นมุกเสียวนี่ต้องเปิดเว็บดู ปกติเล่นแต่ขอข้าวๆ คือหมอดูว่างมากเนอะ มาหยอดหนูฝุ่นทุกวันเลยยยย
เจอกันตอนหน้าค่า

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「9」09|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 09-09-2017 21:36:38
เพิ่งมาอ่าน มีความน่ารัก :impress2:
ขอดราม่าน้อยๆๆๆๆๆๆน๊าาาา
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「9」09|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 09-09-2017 21:53:52
ถึงจะเสี่ยวแต่ก็โอเคนะ 5555
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「9」09|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 09-09-2017 22:35:14
 :mew4: :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「9」09|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 10-09-2017 01:05:36
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「9」09|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 10-09-2017 16:06:47
โห พี่หมอสายเปย์ เสี่ยอาร์ตมาเองเลย แหม
แต่ก็คุ้มอ่ะเนอะ ได้แต๊ะอั๋งน้องฝุ่นไปตั้งเท่าไหร่ เจ้าเล่ห์จริง ๆ หมั่นไส้ 555
ว่าแต่ ไปสรรหามุกเสี่ยว ๆ จากที่ไหน มาจีบน้องฝุ่นได้ทุกวัน ๆ พี่หมอว่างเหรอ  :laugh:
สม่ำเสมอขนาดนี้ ดูแลดี๊ดีขนาดนี้  น้องฝุ่นจะไม่ใจอ่อนได้ไง
นอกจากได้จุ๊บน้องแล้ว สุดท้ายยังได้หอมฟอดใหญ่จากน้องเป็นรางวัลอีก ดีใจด้วยค่า  :m3:
ขอแบบละมุนละไมไปยาวววววว เลย อย่าเพิ่งดราม่าค่ะ ใจเรายังไม่พร้อมนะ ฮืออออ
รอตอนต่อไปน้า  ขอบคุณคนเขียนจ้ะ  :กอด1:
 

หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「9」09|09|60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-09-2017 17:49:34
พี่อาร์ต เนียนมากกกก
ถึงเนื้อถึงตัว ได้หอมแก้ม
ยิ่งพาไปดูหนังผี ยิ่งได้กำไรมากกกก
เพราะฝุ่นสิงพี่อาร์ตเองแทบจะรวมร่าง
พี่อาร์ตก็ลูบเอว สะโพกเพลินเลยสิ
ตอนจบยังจุ๊บปากฝุ่นอีก  :o8: :-[ :impress2:
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「10」12|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 12-09-2017 19:54:19
• 10 •


เฮือก!


ผมสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะเสียงหมาหอนที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมาหยุดที่หน้าบ้านผม ไอ้หมูหยองที่ผมเอามานอนบนเตียงด้วยมันก็เริ่มส่งเสียงตามเพื่อน แล้วก็ทุกเสียงก็เงียบลงไปทันทีเมื่อผมลุกขึ้น

“หมูหยอง อยู่ไหน” ผมเรียก แล้วกวาดมือไปหาก้อนกลมๆที่น่าจะอยู่บนเตียง แต่ไม่พบอะไร

“หมูหยอง?” ลองส่งเสียงเรียกอีกครั้งแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงเก่าตอบกลับมา ผมจึงกดเปิดไฟหัวเตียงเพื่อมองหาว่ามันไปอยู่ไหน

นาฬิกาบนผนังบอกเวลาตี2กว่าๆ

ผมหรี่ตาลงเพราะแสงไฟ เห็นไอ้ก้อนเตี้ยๆสีน้ำตาลขาวนั่งเงยหน้ามองหน้าต่างด้านหน้าบ้านที่ผมแง้มม่านไว้เพื่อให้แสงข้างนอกสาดเข้ามาหน่อย เรียกชื่อมันก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง จึงลุกขึ้นไปหามัน

“มองอะไรไอ้อ้วน” ผมนั่งยองๆข้างมัน มันก็เอาแต่นั่งนิ่งมองหน้าต่างเหมือนกับมีสิ่งหน้าสนใจอยู่ ผมเลยอุ้มมันขึ้นมา พอหมูหยองอยู่เสมอหน้าต่าง มันก็ตะกุยผ้าม่านทันที

“เฮ้ย ไม่เอาดิมึง” ผมอุ้มมันห่าง มันก็หยุดตะกุยและมองไปตรงม่านที่ผมแง้มไว้แทน มีอะไรน่าสนใจ? ผมคิด และมองตามสายตามันออกไป


...มีเงาสีดำผ่านหน้าผมไป...


ผมชะงักทันทีที่เห็นเงานั่น ห้องผมอยู่ชั้นสอง และไม่มีระเบียงให้ยืนได้... มันไม่ใช่เงาสะท้อนตัวผมแน่ๆ เพราะเงานั่นอยู่ประมาณคางผม

ยกมือที่กำลังสั่นเทาออกไปปิดม่าน ก่อนก้าวยาวๆไปที่เตียงนอน วางหมูยองลงและคว้ารีโมททีวีกดเปิดเพื่อให้ห้องไม่เงียบเกินไป ปิดไฟข้างเตียงลงให้เหลือแต่แสงสว่างจากจอโทรทัศน์

ผมนอนมองไอ้หมูหยองที่กำลังหลับ ผมที่กำลังเคลิ้มหลับอยู่นั้นก็ได้ยินเสียง...

กึก

กึก กึก

เสียงของอะไรสักอย่างมากระทบกระจกบานนั้น... หิน?

ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาถือไว้  ผมไม่กล้าที่จะออกไปดูว่ามีใครโยนอะไรใส่กระจกหรือเปล่า และรีบเอาผ้าห่มคลุมตัวทันทีที่ได้ยินเสียงหมาหอนดังขึ้นอีกครั้ง... คราวนี้มันดังมาจากหน้าบ้านผมพอดี

มือที่สั่นเทาของผมกดโทรออกหาเบอร์พ่อ เบอร์แม่
แต่...ไม่มีสัญญาณตอบรับ

เสียงหมาหอนหยุดไปแล้ว แทนที่ด้วยเสียงสะอื้นของใครบางคนลอยมาตามลม....

ฮื่ออ ไม่เอางี้ดิ!

มือผมไล่กดโทรออกทุกเบอร์ที่มีในเครื่องแต่ทุกเบอร์ไม่มีคนรับ หรือไม่ก็ไม่มีสัญญาณ จนกระทั่งถึงเบอร์ของหมอ

ติ๊ด
หมอรับแล้ว!

“หมอ...พี่อาร์ตครับ คืออยู่...อยู่กับฝุ่นหน่อย” ผมกรอกเสียงที่มันสั่นของตัวเองลงไป

“....................”

“พี่อาร์ต? พี่อาร์ตครับ!!” ผมตะโกน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไร มีแค่เสียงซ่าๆที่ดังออกมาเท่านั้น

“อื้อ....”

“พี่อาร์ต! อย่าวางนะอยู่กับฝุ่นก่อน!!”

 “ฮึก....”

“พี่...อาร์ต?”

 “ฮึก....ฮื่อ....”

ปลายสายสะอื้นไห้เสียงเย็นออกมา เสียงแบบที่คนเสียงทุ้มอย่างหมอไม่สามารถทำได้...

“ฮึก..ฮึก..ฮื่อ......”

“แม่ง!!”

ผมโยนให้โทรศัพท์ออกห่างตัว ช่างแม่งว่ามันจะไปตกมุมไหนของห้อง น้ำตาผมไหลลงมาด้วยความกลัว

เสียงสะอื้นคลอกับเสียงบางอย่าง ยังคงดังอยู่อีกฝั่งของหน้าต่าง..........
.
.
.
.
.

เฮือก!

ผมสะดุ้งตื่น แสงที่ส่องผ่านรอยแยกของม่านกระทบเข้ามาบ่งบอกว่าถึงเวลาเช้าแล้ว

ฝัน?

ผมลูบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ ก่อนก้มมองหมูหยองที่นอนอยู่ข้างกาย ม่านที่หน้าต่างยังคงแง้มอยู่เหมือนทุกวัน โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างหัวเตียง และโทรทัศน์ที่ปิดสนิท

ผมถอนหายใจด้วยความโล่ง ต้องโทษไอ้คุณพี่อาร์ตตัวดีที่พาผมไปดูหนังผีทั้งๆที่รู้ว่าผมกลัวมากจนเก็บเอามาฝัน

แต่...

ในความรู้สึกของผมบอกว่าเหมือนมีอะไรที่มันไม่ปกติ

เดินไล่สายตามองรอบห้อง จนไปสะดุดกับหน้าต่างบานที่ผมแง้มม่านเอาไว้ มันมีเปื้อนของอะไรบางอย่างติดอยู่

คราบเหมือนรอยมมือคน... รอยยาวในแนวตั้งเหมือนคนเอามือมาปาดหน้าต่าง...



Rrrrrrrr
เฮือก!


ผมสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น ก่อนเดินไปคว้ามันขึ้นมา


P’Art Calling you
ผมกดรับทันทีเมื่อเห็นว่าใครโทรมา


“ครับ”

“เมื่อคืนฝุ่นโทรหาพี่ทำไมหรอครับ ช่วงตี2กว่าๆ” เสียงร่าเริงของหมอดังมาตามสาย คิ้วผมขมวดหากัน และตัวชาเมื่อได้ยินประโยคถัดไป “พอดีพี่ไปนอนหอแล้วลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน นี่พี่กลับมาเอาแล้วเห็นว่ามีเด็กน้อยโทรมาหา พี่เลยโทรกลับครับ”

“พี่...นอนหอ?”

“ครับ พอดีที่โรงบาลให้ไปช่วยตอนสามทุ่ม พี่เลยอยู่หอดีกว่ายังไงกลับมาบ้านก็ไม่มีคนอยู่ แม่กับน้องกลับกรุงเทพไปแล้ว ”

“เอ๋?”

ฝัน? ไม่สิ ไม่ใช่ฝัน?

ความรู้สึกกลัวจับใจแล่นขึ้นมาทันที มือไม้ แข้งขาของผมอ่อนจนแทบจะประคองโทรศัพท์ไม่อยู่ ผมไม่มีแรงจะก้าวไปไหน จึงทรุดตัวนั่งลงข้างเตียงทันที

“จะว่าไป ใครมันมากดรับสายกันฝุ่นนะ” เสียงหมอพึมพำมาตามสาย

“ไม่...ไม่ใช่ฝัน” ผมพึมพำเสียงสั่น น้ำตาเริ่มคลอที่หางตา

“ฝุ่นครับ?”

“ฮึก..มาหา...มาหาฝุ่นหน่อย” นาทีนี้ผมไม่สนใจอะไรแล้วเมื่อรับรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเจอเมื่อคืนไม่ใช่ฝัน ผมได้แต่ปล่อยโฮจนได้ยินเสียงกระวนกระวายของอีกฝ่าย

“ฝุ่น? ไม่ร้องครับเดี๋ยวพี่ไปหา ไม่เกิน5นาทีโอเคไหมครับ”

“มานะ ห้ามวางสาย”

“โอเคครับ รอพี่ก่อนนะ”


ผมซุกหน้ากอดเข่าตัวเอง ในมือกำโทรศัพท์ที่มีเสียงอีกคนลอดออกมาแน่น จนกระทั่งสายตัดไปเมื่อหมอก้าวเข้ามาในห้อง



“ฝุ่น!”

“พี่อาร์ต...ตัวจริงใช่ไหม” เงยหน้ามองคนตรงหน้า ก่อนเอื้อมมือแตะแก้มอีกฝ่าย

“ครับ พี่อยู่นี่ครับ คนเก่งไม่ร้องนะ” มือใหญ่กุมมือข้างที่ผมจับแก้ม ก่อนกระชับแน่นเพื่อบอกว่าอยู่ตรงนี้

“ฝุ่นเป็นอะไรครับ บอกแม่หน่อย” เสียงหวานของแม่ผมดังขึ้น พร้อมมือนิ่มที่จับมืออีกข้างของผมไปกุม

ผมสะอื้นออกมา และเล่าเรื่องที่ผมเจอเมื่อคืนให้แม่และหมอฟัง

ทั้งสองหันมองหน้ากันทันทีเมื่อฟังจบ

“พี่อาร์ตแหละ เพราะพี่พาฝุ่นไปดูหนังเมื่อวาน!” ผมโทษอีกคน กระชับกอดแม่ให้แน่นขึ้น “เพราะพี่...”

“พี่ขอโทษครับ” มือใหญ่ของหมอแปะลงที่หัว ก่อนจะลูบเบาๆ

“วันนี้วันพระนี่? ไปหาหลวงพ่อหน่อยไหม” ผมพยักหน้าให้แม่ ก่อนแม่จะเงยถามอีกคนในห้อง “อาร์ตวันนี้เข้างานกี่โมงครับ พาน้องไปทำบุญได้ไหม?”

“เข้าสิบโมงครับ ไปตอนนี้น่าจะกลับมาทันครับ” แม่พยักหน้า ก่อนบอกให้ผมไปอาบน้ำ ส่วนตัวเองจะออกไปเตรียมของให้ผม ทิ้งให้ผมอยู่กับคนตัวโตสองคน...ไม่สิ ยังมีหมูหยองที่นอนไม่รู้เรื่องอีกตัว

“ไปอาบน้ำครับคนเก่ง พี่เข้าไปด้วยไหม” หมอยิ้มกริ่มทำหน้าเชิงหยอก แต่ผมพยักหน้าแรงๆ

“อื้อ”

“เอ่อ...เอาจริงดิ?”

“อื้อ ห้องน้ำห้องฝุ่นแยกโซนเปียกกับแห้งอยู่ หมอไม่ต้องกลัวเปียก”

“ไม่ได้กลัวเปียกครับ...พี่กลัวใจตัวเอง...”

“.....”

สุดท้ายก็ลงเอยที่ผมแง้มประตูห้องน้ำไว้ โดยมีหมอนั่งเฝ้าที่หน้าประตู...


โอเค-  ผมรู้ว่าไอ้อาการแบบนี้มันไม่ควรมีกับผู้ชายตัวที่สูงเกือบร้อยแปดสิบอย่างผม แต่ถ้าคุณเคยเจอเรื่องแบบนี้จังๆกับตัว และมันน่ากลัวกว่านี้หลายเท่าตัว คุณก็คงเป็นเหมือนผมแหละครับ...เจอพีคสุดก็ตอนเข้าค่ายม.ต้นนั่นแหละ...



กว่ากลับจากวัดก็ได้เวลาหมอเข้างานแล้ว หลวงพ่อบ่นผมยับเลยว่าพอเกิดเรื่องขึ้นละถึงมาได้ ฝุ่นผิดอะไร; - ; ทีแรกหมอจะให้ผมเอาลูกรักคุณเขาขับกลับบ้านแต่ผมปฏิเสธ ถึงขับรถสองล้อได้ แค่ไม่กล้าขับของชาวบ้านป่ะวะ ชนขึ้นมาจะมีปัญญาไหนซ่อม...
จึงลงเอยด้วยการที่หมอหิ้วผมมาทำงานด้วย...


“หวาน พี่ฝากเด็กหน่อยนะ ฝุ่นก็อย่าดื้ออย่าซนล่ะ” หมอว่าแค่นั้นแล้วก็เดินเข้าห้องไปเฉ๊ยยยย เอาผมกลับบ้านก็ได้ไหมล่ะ


“คุณฝุ่นใช่ คนที่มากับหมอตอนนั้นใช่ไหมคะ” น้องหวาน อืม...ผมว่าเธอน่าจะเป็นรุ่นน้องผมนะ พูดขึ้นมา พร้อมกับประกายในตา

“เอ่อ ครับ” ผมยกน้ำขึ้นจิบ เสมองไปปทางอื่น

“เป็นแฟนหมอหรอคะ”

พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !

“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่!!”

“อ๊ะ ขอโทษค่ะ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่เนอะ” เธอยิ้ม พร้อมส่งทิชชู่มาให้ “แฮะๆ พอดีหวานเห็นว่าหมอไม่ค่อยสนิทกับใครง่ายๆน่ะค่ะ ยิ่งมอไซต์ลูกรักหมอนี่ยังไม่เคยเห็นว่ามีคนได้ซ้อนเลยค่ะคุณฝุ่น ขนาดหวานเป็นหลานรหัสพี่แกยังไม่เคยขึ้นเลยยย”

“อย่างนั้นหรือครับ”   

“อีกอย่าง เดือนก่อนมีผู้หญิงมาจีบหมอตั้งเยอะแยะไม่เห็นว่าพี่จะสนใจสักนิด เอาแต่บอกจะไปบ้านศิลป์ทุกวัน หวานเลยคิดว่าคุณกับหมอเป็น...”

“เอ่อ ไม่ใช่----”

“ตอนนี้ยังไม่ใช่ครับหวาน สีฝุ่นไม่ยอมใจอ่อนให้พี่เลย” เสียงของหมอดังขึ้นจากด้านหลังผม มือใหญ่เอื้อมผ่านไหล่ผมไปบีบจมูกสาวตรงหน้าแรงๆ “นี่ว่างมากขนาดเผาพี่ให้ฝุ่นฟังรึไง”

“แอะ เจ็บ” หวานลูบจมูกที่ขึ้นแดง “พี่อาร์ตก็~ หวานไม่ได้เผาสักหน่อยเนอะคุณฝุ่น”

“งั้นหรอ”

“ก็แหม สาวๆมาจีบก็ไม่สน มาทีไรก็เห็นควงคุณฝุ่นมาด้วยจะไม่ให้หวานคิดได้ไงคะพี่ชาย~”

หมอยิ้มกริ่ม แล้วนั่งลงซ้อนหลังผม(ผมนั่งบนเก้าอี้สตู) ก่อนวางคางบนไหล่ผม

ที่ข้างๆก็ว่างป่ะหมอ! ทำไมกูเปลืองตัวจังวะ!!

“พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ เนอะสีฝุ่น” คางแหลมวางที่ไหล่ ลมหายใจอุ่นๆรดที่ข้างแก้มผม

“โหยยย ขนาดไม่ได้เป็นแฟนยังขนาดนี้ คบกันทีนี่ไม่ฆ่าคนโสดรึไงคะ” หวานว่า เอ่อ...หวานจะยกโทรศัพท์มาทำไมครับ เอาลงไปเลยยยย

“หมอลุก! ไปทำงานเลยนะ!” ผมดันหน้าหมอให้ออกจากตัว แต่ถ้ายอมลุกไปดีๆก็ไม่ใช่หมอน่ะสิ...

“ก็ทำอยู่ นี่ว่างไง”

“วันนี้ไม่ไปบ้านศิลป์หรอพี่ หวานอยากได้กาแฟสักแก้ว”

“ไม่ไปครับ คนที่อยากเจออยู่นี่แล้ว” สองมือของหมอสอดเข้าที่เอว ดึงให้แผ่นหลังผมไปปะทะแผ่นอกของหมอ

“อ๋อ~~~~~ อยากเจอซะกอดแน่นเชียว” หวานแซว รู้สึกว่าหน้าผมเริ่มร้อนขึ้น

“หมอปล่อย!”

ฟอด

“เรียกใหม่ครับ”

“หมอทำบ้าอะไ---”

ฟอดดด

“พะ...พี่อาร์ต ปล่อยฝุ่น!!”

“โอเคครับ”

ทันทีที่หมอคลายแขนที่รัดอยู่ ผมก็เด้งตัวออกจากที่ตรงนั้นทันที

“โอ๊ยพี่อาร์ต จะสวีตกันก็สงสารหวานหน่อยแค่นี้ผู้ชายก็ขาดตลาดแล้วววว” หวานโอดครวญ ส่วนผมนี่หน้าแดงก่ำ

“ฝุ่นจะกลับบ้านแล้ว!!”

“กลับยังไงครับ พี่ไม่ไปส่งนะ”

“งั้นคุณฝุ่นไปกับหวานเนอะ หวานอยากกินกาแฟพอดีเลย” คนตัวเล็กโดดผ่านหน้าหมอมากอดแขนผม “พี่เฝ้าร้านก่อนนะ เดี๋ยวหวานมา”

พูดจบเธอก็ลากผมออกไปทันทีโดยไม่ฟังเสียงโวยวายของหมอที่ดังเป็นแบล็กกราวด์...




ผมปั่นจักรยานสีชมพูสดใสกลับถึงร้านโดยมีหวานนั่งซ้อนหลังมาด้วย โชคดีที่ตอนกลางวันรถไม่เยอะ เลยไม่ต้องระวังมาก
“แก้วนี้ผมเลี้ยงเอง” ผมบอกหวาน เธอปฏิเสทแต่ผมคะยั้นคะยอให้เธอรับไปโดยบอกว่าเลี้ยงในฐานะเพื่อนใหม่

“อ้าวฝุ่น ทำไมกลับมาตอนนี้ล่ะ แม่นึกว่าจะอยู่กับอาร์ตเข้าถึงเย็นซะอีก” แม่ผมเอ่ยขึ้นมาเมื่อเห็นผมเดินเข้าบ้าน ข้างตัวแม่มีกรอบรูปที่ถูกห่อไว้อย่างดีวางอยู่ กลิ้นสีมี่คลุ้งทั่วห้องบอกว่างานบางตัวเพิ่งเสร็จไม่นาน

“แม่จะไปไหนอ่ะ?”

“คุณชาติโทรมาเร่งให้แม่เอาของไปส่งน่ะสิ คืนนี้แม่กับพ่อคงกลับดึกนะ ไม่ก็ไม่ได้กลับ”

“ฝุ่นไปด้วย!”

“แม่ไปทำงานครับลูกชาย นี่แม่โทรบอกตาอาร์ตแล้ว คืนนี้พี่มันจะมาอยู่เป็นเพื่อนลูกนะครับ”

“แต่...”

“ไม่แต่ครับ ข้าวตังหมูหยองไออุ่นก็อยู่ โตจนสูงกว่าแม่แล้วยังกลัวอะไรอีกครับ”

“ก็ฝุ่นไม่อยากอยู่คนเดียวนี่” ผมยู่ปาก แม่คงหมั่นไส้เลยดีดริมฝีปากผมแรงๆไปที

“น่า ให้อาร์ตมันมาอยู่ด้วยเนอะ สิ้นเดือนนี้ฟิล์มมันก็กลับบ้านแล้ว”

“....อื้อ”

“เด็กดีครับลูกชาย” แม่ลูบหัวผมเบาๆก่อนผละไปจัดการของต่อ ผมจะช่วยก็โดนไล่ให้ไปอยู่หน้าร้านแทน


“อ้าวน้องฝุ่น ไหนเข้าบ้านคะ” น้าศรถาม
“แม่ไล่ออกมาครับ....”




ผมช่วยน้าศรอยู่ปิดร้าน ก่อนหน้าที่แม่จะออกไปผมโทรตามหมอหมาแล้ว พี่แกบอกว่าเดี๋ยวกลับไปเอาเสื้อผ้าก่อนแล้วจะมา ผมที่ไม่กล้าเข้าบ้านเลยต้องระเห็จตัวเองออกมาอยู่ร้านก่อน

ไม่เกินหนึ่งทุ่มหมอก็มาถึงบ้านผม อย่างแรกที่ผมทำหลังหมอมาคือ ต้อนข้าวตังหมูหยองและไออุ่นยัดกรง...

“ฝุ่นครับ ให้พี่นอนไหน”

“บนเตียงกับฝุ่นสิ” ผมตอบ ก็มือเล่นกับไอ้อุ่นที่มีเนื้อมีหนังขึ้นมาจนกลม

“ฝุ่นครับ ที่จริงน้าศิลป์เล่าให้พี่ฟังคร่าวๆแล้วแหละ”

“หือ?”

“เรื่องวันนั้นน่ะ เล่าให้พี่ฟังได้ไหม”

“................”



Tbc.

———————————————————————————————————————

ตัดฉึบ
หนูฝุ่นเปลืองตัวมาหลานตอนแล้วและจะยังเปลืองตัวเรื่อยๆ ที่ตอนนี้อ่อยหมอแบบเนียนๆ---------
ตอนหน้ามาฟังเรื่องผีกันค่ะ XD ตัวละครที่มีแต่ชื่อมาหลายตอนก็กำลังจะมาแล้วนะคะ ฮา

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
ปล. แท็ก #กลิ่นกาว ก็ได้นะคะ---

หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「10」12|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-09-2017 20:06:22
เห้ยๆ.........เริื่องน่ากลัวอ่ะ
ให้สงสัยถ้าฝุ่นไม่ไปดูหนังผี จะเกิดเรื่องอะไรมั้ย

แต่พี่อาร์ต ได้กำไรตลอดๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「10」12|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 12-09-2017 21:52:18
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「10」12|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 12-09-2017 22:12:31
เดี๋ยวนะคะ เดี๋ยวนะ เรื่องนี้มี ผีหลอกวิญญาณหลอน ด้วยเหรอ ฮื่อออ น่ากลัว :ling3:
ไม่ใช่ไม่ชอบน้า ปรกติชอบอ่านเรื่องแนวนี้อยู่แล้ว แต่มันแค่ปรับโหมดไม่ทัน
ก็ตอนที่แล้วยังกุ๊กกิ๊กหวานแหววอยู่เลย มาตอนนี้ทำเอาขนลุกเลยอ่ะ บรึ๋ย
นี่ตอนแรกก็คิดว่าน้องฝุ่นแค่ฝันจริง ๆ แต่คราบรอยมือที่หน้าต่าง
กับ เรื่องโทรศัพท์ของพี่อาร์ตนี่ มันไม่ใช่ฝันแล้วอ่ะ น่ากลัวมาก ฮือออ
ฝุ่นมีเซ้นทางด้านนี้อยู่แล้ว หรือไปทำอะไรเข้าเลยทำให้เห็น  เพียงแต่ไม่ได้เจอบ่อยๆ
เรื่องวันนั้น คือวันไหน วันที่เริ่มทำให้ฝุ่นเห็น...เหรอ ต้องน่ากลัวมากแน่ ๆ เลย งืออ
พี่ฟิล์ม จะกลับมาแล้วสิน้า มาเลย ๆ มาอยู่เป็นเพื่อนฝุ่นหน่อย น่าสงสารอ่ะ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「10」12|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 13-09-2017 12:16:27
เรื่องวันนั้น? เรื่องวันไหน?
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「10」12|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: fsbeentaken ที่ 13-09-2017 13:51:38
ลึกลับ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「10」12|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 13-09-2017 19:03:43
เรื่องนี้มีเรื่องผีด้วยออนึกว่าหมอมันแกล้ง
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「10」12|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 15-09-2017 19:06:49
 :z1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「11」16|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 16-09-2017 00:19:12
• 11 •


เรื่องผีและสีฝุ่น


วันนั้นเมื่อตอนม.ต้น...

ผมไปเข้าค่ายลูกเสือกับที่โรงเรียน ค่ายที่ไปเป็นค่ายลูกเสือสักที่นึงในไทยนี่แหละจำแล้วไม่ได้ว่าที่ไหน
“ฝุ่น! คืนนี้มีรอบกองไฟ พอจบพวกกูจะไปลองของกันมึงจะไปด้วยไหม” คม หัวหน้ากลุ่มผมเอ่ยถาม ผมที่กวนเรื่องพวกนี้เป็นทุนอยู่แล้วก็ปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ไม่ดีกว่ามึง กูรอรับหน้าครูให้พวกมึงดีกว่า”
“เหอะ ป็อดก็บอกมา” มันยิ้มเหยียด
“กูไม่ได้ป็อด!”
“งั้นก็ไปกับพวกกูสิ ไหนๆพรุ่งนี้ก็กลับแล้ว”
“เออ!”

คืนนั้นหลังจบรอบกองไฟ ครูก็ปล่อยให้พวกผมไปอาบน้ำเข้านอนกัน ไอ้คมใช้จังหวะนี้ลากผมออกไปยังจุดที่เพื่อนๆคนอื่นมันรออยู่

เบื้องหน้าผมคือศาลไม้เก่า ที่มีผ้าแพรสีซีด และพวงมาลัยแห้ง....
เป็นศาลที่ต้องอยู่ระหว่างที่พักกับสระน้ำใหญ่ที่มีเสาไฟติดเป็นแนว

“กู... ว่าเรากลับดีกว่า” ผมกระตุกแขนเสื้อเพื่อน
“มาถึงนี่จะป๊อดห่าอะไรอีก”
“เออ แม่งหลายคนกลัวห่าอะไร”
เพื่อนทั้งหลายมันคะยั้นคะยอจนผมทำอะไรไม่ได้ มันบอกว่าจะเดินวนรอบสระน้ำนี้3รอบ โดยพวกผมเดินเป็นแถวเรียงหนึ่ง มีเชือกยาวพอที่คน10คนจะถือได้เป็นตัวเชื่อมพวกเราเหมือนเล่นรถไฟตอนเด็กๆ

รอบแรก...ผ่านไปด้วยดี

รอบสอง... ทุกคนรู้สึกว่าเชือกที่ถือถูกกระตุกจากด้านหน้า ซึ่งไอ้คมบอกว่าไม่ได้ทำ พอวนครบรอบพวกเราเริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

รอบที่สาม...เดินเกือบจะครบรอบสระ ทุกอย่างปกติจนผมโล่งใจ ด่าตัวเองว่ามาปอดแหกไรกับพวกนี้

แต่...

จู่ๆไอ้คมที่เดินนำก็หยุดกึกก่อนถึงตัวศาลประมาณ5เมตร ส่งผลให้ผมหยุดตามและทำให้คนข้างหลังชนกันเบาๆ พวกมันส่งเสียงด่าคนข้างหน้า
ผมชะโงกหน้าข้ามไหล่ไอ้คม(ช่วงมัธยมผมสูงไม่ถึง160 แต่เพื่อนในกลุ่มมัน160ขึ้นทั้งนั้นโดยเฉพาะไอ้คมที่สูงกว่าผมเกือบ20เซนต์) มองไปด้านหน้าว่ามันหยุดมองอะไร แต่ด้านหน้าพวกผมว่างเปล่า...
“เฮ้ย! ไอ้หนู เอ็งมาทำอะไรกันตรงนี้!” แสงจากกระบอกไฟฉายตกกระทบพวกผม พร้อมเสียงของบุคคลในชุดเจ้าหน้าที่ตวาดขึ้น
“เอ่อ....” ผมนิ่ง
“พวกผมมาเดินเล่นครับ!” เสียงจากสักคนที่หางแถวตะโกนตอบ
“เอ็งกลับกันได้แล้ว ไม่รู้หรือไงว่าที่นี้เขาห้ามเข้า!” เจ้าหน้าที่คนนั้นยังคงตวาดพวกผม พวกผมรีบขอโทษขอโพยก่อนพากันวิ่งออกมาจากที่ตรงนั้น
จังหวะที่พวกผมจะวิ่งผ่านเจ้าหน้าที่คนนั้น...
“เอ็งวิ่งไปแล้วอย่าหันกลับมาล่ะ”

ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ไอ้พวกนั้นยกเว้นผมหันกลับมองตามเสียงที่ได้ยิน จู่ๆพวกมันก็แหกปากโวยวาย ไอ้คมก็แบกผมขึ้นบ่าและออกแรงวิ่ง จังหวะที่ผมจะเงยหน้าถามมันนั้น ผมก็เห็นเจ้าหน้าที่คนนั้น...

หน้าตาแบบคนทั่วไปกำลังแปรเปลี่ยนเป็นเน่าเฟอะ... ร่างกายสูงใหญ่ตามแบบทหารที่ตอนนี้มันบวมและมีหนองไหลออกมาตามแขนขา.... ดวงตาข้างหนึ่งถลนและหลุดออกจากเป้า และที่สำคัญ...
ริมฝีปากที่กำลังฉีกยิ้ม...จนถึงใบหู....
“ข้าบอกเอ็งแล้ว ว่าอย่าหันกลับมา หึหึหึ”

“อ๊ากกก! !”
“ว๊ากกก! !”
“แว๊กกก! !”

ผมซบหน้าลงกับแผ่นหลังของไอ้คมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นอีก เสียงพวกผมแหกปากดังลั่นจนพวกผมไปถึงเรือนนอน ไอ้คมทรุดลงกับพื้นทันทีเมื่อเห็นแสงไฟ ปล่อยผมลงจากบ่าดังตุ๊บ สภาพพวกเราทั้งหมดแทบไม่ต่างกับ บรรดาครูและนักเรียนที่ยังไม่หลับก็ออกมามุงดูพวกผมทันที

“เกิดอะไรกัน!”
“ผี ผีหลอก! !”
“ผะผมขอโทษ ผมขอโทษครับ!”
“ฮึ่ก ฮื่ออออ”
“เฮ้ย ครูคนไหนว่างมาช่วยเอาพวกนี้เข้าห้องก่อน เร็ว!”

ผมไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น เมื่อแสงยามเช้ามาถึงครูกับเจ้าหน้าที่ที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องก็พาพวกผมไปขอขมาที่ศาลหลังนั้นทันที
พวกผมกลับบ้านก่อนกำหนดการด้วยความหวาดกลัวภาพที่เห็นยังคงติดตา พ่อแม่พวกเราที่รู้เรื่องก็มารับถึงโรงเรียน แม่ผมเข้ามากอดปลอบผมทันที หน้าตาไหลพรากเมื่อได้รับอ้อมกอดอุ่นๆ
แม่พาผมไปที่วัดแห่งหนึ่งที่ผมเคยตามแม่ไปตอนเด็กๆ ให้หลวงพ่อพรมน้ำมนต์ให้ ไม่กี่วันหลังจากนั้นผมก็คลายอาการกลัวนั้นลงไปได้ แต่ไม่กล้าที่จะนอนคนเดียว ถ้าอยู่คนเดียวต้องเปิดไฟ หรือเปิดทีวีไว้ไม่ให้ห้องเงียบ

แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก หรือครั้งเดียวที่เจอ แต่มันเป็นครั้งที่เจอแล้วภาพมันติดตา และผมกลัวมากที่สุด....





ผมเล่าให้คนที่นอนอยู่ข้างๆฟัง มือใหญ่โอบผมก่อนดึงเข้าหาอกตัวเอง โดยที่ผมไม่ปฏิเสธที่จะเข้าหาความอุ่นนั้น
“ก็หลังจากนั้น...ถ้าฝุ่นจิตตกมากๆ หรือช่วงวันพระ ถ้าโชคดีอย่างวันนี้ ฝุ่นก็จะเจอแบบนี้แหละครับ...” ผมว่าเสียงเอื่อยๆ เมื่อคืนแม่งแอดวานซ์เกินไปไง ปกติแค่เงาอ่ะชิน
“พี่ขอโทษครับ”
“หืม?”
หมอไม่พูดอะไร แต่ยกมือมาลูบหัวผมแทน

“ว่าแต่ว่า...”
“คมนี่มันเพื่อนเราคนไหนครับ มาอุ้มฝุ่นได้ไง”

เดี๋ยวหมอ หน้าตาซีเรียสไปไหม



———————————————————————————————————————



“ขี้เซาตื่น”
“อื้อ”
“ตื่นครับ เช้าแล้ว”
“อื้อออ”
ผมลืมตาขึ้น เห็นเจ้าของรอยยิ้มที่ส่งให้ผมเมื่อคืนนอนอยู่ข้างๆ ก่อนบอกผมด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวเมื่อผมขยับตัว

“พี่ชาแขน ฝุ่นลุกก่อนครับ...” ครับ ผมไม่ได้นอนหนุนหมอนแต่หนุนแขนพี่มันทั้งคืน ไม่แปลกที่ตื่นมาแขนจะชาดิก
“ไหนๆ จึ่ก!” ผมจิ้มนิ้วลงแขนข้างนั้นเต็มแรงจนหมอเบ้หน้า แม่งโคตรฮา
“แกล้งพี่หรอเรา หืมมมม” หมอจัดการพลิกตัวมาคร่อมผมไว้ ก่อนจัดการ.....

จั๊กจี้เข้าที่เอว

“หมอหยุ๊ดดดด หม๊ออออออออ ฮ่าๆๆๆ”
“พี่ให้เรียกว่าไง”
“โอ๊ย ไม่เอาอย่าจี้ เหนื่อยยย กร๊ากกกกก”
“เรียกใหม่ก่อนครับ”
“พี่ ฮ่าๆๆๆ หยุดก๊อนนนน พี่อาร์ตๆๆๆๆๆๆๆๆ” ผมเรียกชื่อรัวๆให้อีกคนพอใจ ก่อนหอบหายใจแรงๆเมื่อพี่มันหยุดมือ
“ฝุ่นเหนื่อย แฮ่กๆ”
“.....ฝุ่น”
“ฮะพี่อาร์ต แฮ่ก”
“แบบนี้...ไม่ดีเลย”
พี่มันโน้มตัวลงมาใกล้ ใกล้ซะจนเห็นภาพผมที่สะท้อนอยู่ในตาอีกคน

จุ๊บ
 
ก่อนที่สัมผัสนุ่มของริมฝีปากที่แตะลงมายังหน้าผากของผม...
ไล่ลงมายังเปลือกตา

โหนกแก้ม

ปลายจมูก

ลงไปเรื่อยๆจนตอนนี้คนที่อยู่บนตัวผมฝังหน้าลงกับลำคอ ไรหนวดจางๆบนใบหน้าคมถูเข้ากับต้นคอจนผมจั๊กจี้

“พี่..อาร์ต อ๊ะ!” ผมร้องออกมาเมื่อรู้สึกถึงจูบหนักๆที่กดลงมาที่ซอกคอ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขบเม้ม
“พี่อาร์ต....”
“ไม่ดีแน่...” คนตัวโตพึมพำ และผละขึ้นมาใช้ปลายจมูกคลอเคลียกับปลายจมูกผมแทน

“สีฝุ่นครับ”
“......”
“คบกับพี่ได้ไหม”
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างเว้าวอน ผมมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย
 “นะครับ คบกับพี่นะครับ”
“ฝุ่น...อื้ออ”
ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยอะไร เสียงของผมก็ถูกปิดกลั้นโดยริมฝีปากของคนด้านบน
เพียงแค่สัมผัสเบาๆของริมฝีปากที่ทาบทับกัน ไม่มีการล่วงล้ำเกินเลยเข้ามา มันทำให้ใจผมเต้นแรง ก่อนสัมผัสนุ่มของอีกคนจะเปลี่ยนเป็นขมเม้มริมฝีปากล่างผมแทน
“ได้ไหมครับคนดี”
เสียงที่กระซิบติดริมฝีปากดังขึ้น ดวงตาสีดำสนิทของคนตัวใหญ่เงยขึ้นสบกับผมพอดี
“ฝุ่น....”






ปัง!

“สีฝุ่น! พี่กลับมาแล้วน้องรักกกกกกก ชะอุ้ย เรามาผิดเวลาหรือเปล่าเอ่ย”
เสียงของบุคคลที่สามที่เปิดประตูพรวดเข้ามาทำให้เราผละออกจากกันทันที ได้ยินพี่อาร์ตสถบเบาๆในลำคอ ก่อนลุกขึ้นหันไปมองคนมาใหม่ แต่ยังไม่ยอมลุกไปจากตัวผม...

“มาได้ถูกจังหวะมากครับกล้องฟิล์ม”
“แหม ว่าจะมาเซอร์ไพรส์น้อง ใครจะรู้ว่าน้องพาผู้ชายมากกถึงห้องแบบนี้ละคะคุณอาร์ต”
ครับ ผู้หญิงที่เข้ามาใหม่...กล้องฟิล์มพี่สาวผมเอง...

“พี่อาร์ต ลุก!” ผมดิ้น พี่มันก้มลงมาจุ๊บปากผมเบาๆ แบบไม่อายบุคคลที่สาม แล้วดึงเสื้อผมที่เลิกขึ้นจนถึงอกลงก่อนลุกไป เดี๋ยวนะ...เสื้อนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่
“ฝุ่น...เป็นสาวเป็นนางพาผู้ชายมานอนกกได้ไง”
 “พี่ฟิล์ม!” ทันทีที่เป็นอิสระ ผมก็รับวิ่งไปกอดพี่สาวทันที โคตรคิดถึง!
“ไหนสาว นี่หนุ่ม” หมอชี้มาที่ผม “แล้วนี่กลับมาได้ไง ไหนน้าศิลป์บอกกลับสิ้นเดือน?”
“อยากเซอร์ไพรส์น้องไงอาร์ต เจอน้องชายเซอร์ไพรส์กลับซะงั้น” พี่ฟิล์มหันตอบอีกคน
“อ้อหรอ”
“ว่าแต่...ไปคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมถึงมาทิ้งรอยให้น้องเราแบบนี้” พี่ฟิล์มบีบกรามผมแล้วจับหน้าหัน ได้ยินเสียงกระดูกลั่น... นิ้วเรียวจิ้มเข้าที่ลำคอ

เดี๋ยวนะ...รอย?

“หมอ! ! ! ! !” ผมตวาด แล้วยกมือกุมคอทันที
“ยังไม่ได้คบ”
“อ้าว” คนสวยของผมขมวดคิ้ว “แล้วเมื่อกี้...”
“เมื่อกี้เราขอคบน้องเธอ พอฝุ่นจะตอบเรา ฟิล์มเข้ามาขัดพอดี” หมอว่าด้วยสีหน้าปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือผมที่ร้อนวูบที่หน้าเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ ฮื่อ ทำไมมึงไม่ขัดขืนเลยครับฝุ่นนนนน
“อ๋อ จะว่าเรามาขัดจังหวะตอนเข้าด้ายเข้าเข็มช้ะ?”
“เออครับ”
“งั้นเราไปดีกว่า ไหนๆขอพี่หอมน้องชายสักที ฟอดดดดด” พี่ฟิล์มคว้าคอผมลง กดจมูกลงที่แก้มผมยาวๆ ก่อนจะออกจากห้องไป คนตัวโตรีบเข้าประชิดผมทันที

“ฝุ่นตอบคำถามพี่ได้หรือยังครับ”
“ฮึ่ยยยยยยย”

ขอหนีเข้าห้องน้ำทำใจก่อน ไม่กล้ามองหน้าพี่มันแล้ว งื้อออออ


———————————————————————————————————————


ผู้หญิงตัวไม่เล็กมากแต่แรงมหาศาล แต่งตัวชิลๆด้วยเสื้อยืดกางเกงเจเจที่นั่งเกาพุงไออุ่นอยู่ตรงหน้าผมนี้ ก็คือกล้องฟิล์ม พี่สาวผมเองครับ เธอไปทำงานที่ต่างจังหวัดนานๆทีจะกลับมาบ้าน แล้วกลับมาทีนี้ก็ได้จังหวะตอนผมกับหมอ...เอ่ออออ นั่นแหละ! ! ! !

“อ้าว ไม่ได้ต่อกันหรอ นึกว่าจะนานกว่านี้ซะอีก” พี่ฟิล์มพูดขึ้นให้ที่นั่งตรงข้ามผมรู้สึกร้อนวูบที่หน้า ก่อนจะหันไปสนใจข้าวตังหมูหยองที่กระโจนหาแทน
“ฟิล์มกลับมากี่วัน” พี่อาร์ตถามแล้วทิ้งตัวลงข้างผม
“2อาทิตย์กว่าๆ เราใช้วันหยุดที่สะสมมาอ่ะ สิ้นปีนี้ว่าจะออกแล้วเราเบื่อเจ้านาย” พี่เบะปากตอบ น่าจะเบื่อมากจริงๆดูคุณเธอทำหน้าเข้าสิ
“เจอแม่ยังพี่ฟิล์ม”
“เจอแล้วๆ แม่กลับมาตอนพี่ลงมาพอดี ก็เลยเล่าว่าเปิดห้องน้องไปเจอฉากเด็ดพอดี---- ไอ้ฝุ่น! ! !” ผมปาหมอนอิงใส่พี่ฟิล์มอย่างแรงด้วยความเขิน พูดขึ้นมาให้ผมเขินอีกทำม๊ายยยยยยยยยยยยยย
“แฟนแกเขินรุนแรงว่ะอาร์ต รับมือได้แน่นะ?”
“ไม่ใช่แฟน!”
“ได้สิ รักขนาดนี้ยังไงก็รับไหว”

ฉ่า

หน้าผมเองครับ ไม่รู้ว่ามันแดงขนาดไหน แต่เห็นแววตาพี่ฟิล์มที่มองล้อๆแล้วมันคงแดงมาแน่เลย

“พี่ฟิล์มอ้ะ ไม่ใช่แฟนสักหน่อย” ผมซุกหน้าอยู่กับหมอน คนข้างตัวก็มือปลาหมึกอยู่ได้ ไม่ต้องมาเลื้อย!
“ไม่ใช่แฟน? งั้นเมียอาร์ต? ไอ้ฝุ่น! ปามาอีกคืนนี้แกนอนคนเดียวเลยนะ!!” หมอนในมือผมกระทบหน้าพี่ฟิล์มอีกครั้ง

งื้อออออ เมียบ้าเมียบออะไรเล่าพี่บ้า! ! !

“ถ้าฟิล์มให้ฝุ่นนอนคนเดียว งั้นเราขอมานอนเป็นเพื่อนน้องนะ”
“ไอ้หมอหมา! !”


สงครามหมอนกับการแซวของพี่ฟิล์มผสมหมอหมาผสานเสียงหมาเห่า ก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนพ่อกับแม่ลงมาจากห้อง คำแรกที่แม่ทักคือ....

“อ้าวฝุ่น คอเป็นรอยไรแดงๆ แพ้อะไรหรือเปล่าครับลูก”

ฟุ่บ!

หมอนอิงใบแข็งสุดถูกปากอัดหน้าคนทำให้เกิดรอยอย่างแรง





“เมื่อคืนน้องเป็นไงมั่งครับอาร์ต” พ่อถามขึ้นระหว่างทานมื้อเช้า
“น้องก็นอนหลับสบายครับคุณพ่อ สบายจนแขนผมชาเลย”

พรึ่บ!

ทุกคนบนโต๊ะพร้อมใจหันมองคนตัวโตทันทีที่ได้ยินหมอมันเรียกพ่อผมว่า คุณพ่อ แทน น้ากรแบบทุกครั้ง
“เอาอย่างนี้เลยหรอลูก” แม่ว่ายิ้มๆ ส่วนพ่อเก็กหน้าโหด
“เอาอย่างนี้เลยแหละครับ เดี๋ยวคบกันแล้วยังไงก็ต้องเรียกคุณพ่อ คุณแม่ เนอะฝุ่น” งื้อ มานงเนอะอะไร!
“คบบ้าอะไรล่ะ” ผมตอบกลับ
“ถ้าไม่คบ...พี่ข้ามขั้นนะ” พี่มันขยับหน้ามาข้างหูผม พ่อแม่และพี่ฟิล์มพร้อมใจกันก้มทานข้าวทันที “ข้ามจากแฟน....เป็นสามีนะครับ”

“ไอ้หมอหมา! !”




   ผมพาพี่ฟิล์มขับรถตามหมอมาที่โรงบาล ต้องพาไอ้ข้าวตังหมูหยองมาตรวจสุขภาพประจำปีครับ โชคดีที่มันให้ความร่วมมือไม่งั้นเหนื่อยชิบหาย

“งั้นถ้าตรวจเสร็จแล้วโทรหาเรานะ เดี๋ยวมารับพวกมันเอง” พี่ฟิล์มบอกหมอ
“เดี๋ยวเราเอาไปส่งที่บ้านก็ได้ เราว่าง”
“ว่างหรืออยากมาหาน้องเรา?”
“อยากหาฝุ่นครับ” พี่มันหันมายิ้มให้ผม แต่ผมก็หลบตามันทันที เขินครับ...
“เออๆ ตามนั้นก็ได้ ยังไงตอนเย็นแม่ก็บออกให้อาร์ตไปกินมื้อเย็นด้วยกัน งั้นเราไปก่อนนะ ป่ะฝุ่น”


พอออกจากโรงบาลผมก็วนรถกลับบ้านทันที จู่ๆพี่ฟิล์มก็มาเลยไม่มีแผนจะไปไหนกัน พอถึงบ้านแม่กับพ่อก็ลากพี่ฟิล์มไปคุย พอตกเย็นหมอก็เอาไอ้สองซนนั่นมาส่งถึงบ้านตามที่บอก ไอ้สองซนนั่นพอเข้าบ้านได้ก็วิ่งไปคาบจานข้าวมาหาผมทันที
“หิวล่ะสิ อยู่กับหมอมันไม่ให้ไรกินใช่ป่าว” ผมพูด พลางมองไอ้ข้างตังหมูหยองที่ลิ้นห้อยจนน้ำลายย้อย “เอ้าๆ กินไปๆ”
ผมนั่งลงกับพื้น ไออุ่นอยู่กับพี่ฟิล์มทั้งวันมันคงอิ่มแล้วมั้ง พี่ฟิล์มแม่งขุนไอ้อุ่นจนจะกลมเพิ่มแล้ว
“สนแต่หมา ไม่สนพี่เลยนะ” เสียงคุ้นหูในช่วงนี้ดังขึ้นเหนือหัว
“ก็เป็นหมาสิ ผมจะได้สน”
“ไม่อ่ะเป็นหมอหมาดีกว่า ฝุ่นชมว่าเท่ด้วย” คนตัวสูงทิ้งตัวลงข้างๆ
“บอกตอนไหนว่าเท่ เอ๊ะ หมอตัดผม?” ผมหันมองคนข้างๆ ก่อนเห็นว่าผมของหมอที่ยาวระต้นคอ ตอนนี้เหลือเป็นแค่ทรง Top Knot  เท่านั้น

เอ่อ...เป็นหมอหมาจำเป็นต้องหล่อให้สัตว์ดูหรอครับ! !

“ครับ พี่ร้อนเลยไปไถข้างๆออก ใจจริงอยากตัดอันเดอร์คัทแต่เสียดายผม” หมอลูบท้ายทอยเขินๆ “ดูดีไหม?”
พยักหน้าหงึกแบบลืมตัวไปที
“ขอบคุณครับ” หมอยิ้มกว้าง ก่อนที่ผมจะรู้ตัวว่าทำอะไรไป
“เฮ้ย ไม่ใช่!”
“ไม่ทันแล้วครับสีฝุ่น”
ผมเบ้หน้า ไอ้หมูหยองที่อิ่มแล้วก็เดินขาสั้นมาหาผม แล้วทิ้งตัวลงกับขาที่นั่งขัดสมาธิอยู่ ตากลมแป๋วของมันช้อนขึ้นมอง ทำให้ผมหันความสนใจไปที่มันแทน
“ว่าไงเตี้ย”

ฟอด
แชะ

“เฮ้ย!” ผมเอามือปิดแก้ม หันมองคนข้างๆสลับกับพี่ฟิล์มที่ถือกล้องโพลาลอยด์อยู่
“บอกแล้วนี่ครับว่าให้เรียกพี่ว่าไง”
“รูปดูดีนี่อาร์ต”
 “เราขอนะฟิล์ม”
“พี่อาร์ต!”
“ขอค่ารูปด้วยค่ะ”
“พี่ฟิล์มอ่ะ!”

เหมือนโดนรุมแกล้งว่ะ! !
เบะปากแล้วทำเมินคนแก่กว่าทั้งสองคน ทั้งคู่หัวเราะกับท่าทีผมออกมาดังๆ

“ฝุ่น คืนนี้เดี๋ยวพี่ไปนอน....”
“ไปนอนกับฝุ่นใช่ป่าวว พี่ฟิล์มน่ารักที่สุด” ผมพูดขัด แล้วเข้ากอดพี่สาวแน่น
“ไปนอนกับแม่ ส่วนฝุ่นนอนกับหมอเหมือนเดิมนะ”
“ไม่เอา! ! !”


Tbc.


———————————————————————————————————————

ขอโทษที่หายไปหลายวันค่ะ แง
พาพี่ฟิล์มกลับบ้านแล้วนะะะ อิอิ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「11」16|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 16-09-2017 00:35:38
ขนาดนี้แล้ว...ยอมๆไปเถอะฝุ่น เดี๋ยวก็ดีเอง
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「11」16|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 16-09-2017 07:19:51
โหยยย พี่ฟิล์ม  เลือกเวลากลับดีจริง ๆ อีกนิดพี่หมอจะได้น้องเป็นแฟนแล้วอ่ะ
แต่ยอมให้พี่หมอทั้งหอม ทั้งกอด ทั้งจุ๊บขนาดนี้แล้ว ยอมเป็นแฟนพี่หมอเหอะน้องฝุ่น 555
นี่ขนาดยังไม่ยอม พี่หมอยังสถาปนาตัวเองเป็นว่าที่ลูกเขยไปเรียบร้อยแล้ว
แถมทุกคนยังเห็นดีเห็นงามกันหมดอีก เหลือแต่น้องฝุ่นแล้วเน้อ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「11」16|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 16-09-2017 17:31:24
อีกนิดเดียวเองน้องก็ดิ้นไม่หลุดล่ะ 5555
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「11」16|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-09-2017 18:16:23
สีฝุ่นนนนน........กลัวก็บอกว่ากลัวเซ่
ไปรับคำท้าแล้วเป็นไง เห็นที่กลัวๆ ยิ่งกลัวไปอี๊ก
เลยทำให้ขวัญอ่อนไปเลย
แต่เข้าทางพี่อาร์ต
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「11」16|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 16-09-2017 22:14:26
 :impress2:


หม๊ออออออออออออ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「11」16|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 17-09-2017 08:21:52
คืนนี้.... จับทำเมียเลยพีิอาร์ต
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「12」17|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 17-09-2017 20:33:46
• 12 •


   ผมตื่นมาเห็นคนนอนข้างๆเป็นวันที่สาม สามวันแล้วครับที่ผมไม่กล้านอนคนเดียว แล้วหมอ...ไม่ๆ เรียกหมอแม่งเดี๋ยวมาหาเรื่องหอมแก้มผมอีก เอาใหม่ๆ สามวันแล้วครับที่พี่อาร์ตมานอนเป็นเพื่อนผม พี่ฟิล์มก็หนีไปนอนห้องพ่อแม่ทุกวัน...
ผมนอนมองใบหน้าของคนข้างๆในระยะที่เงยหน้าเห็นขี้ตาเป็นก้อน ยังไม่ชินกับทรงผมใหม่มัน แถมพี่มันกอดผมตั้งแต่เข้านอนยันตอนเช้า จะขยับหนีแม่งก็คว้าผมไปกอดเหมือนเดิม ถามผมสักคำว่าอยากให้กอดไหมก็ไม่ ขนาดหน้าพี่มันผมยังไม่กล้ามองเต็มตาเลยยย ประเด็นคือตอนนี้ผมอยากลุกแล้ว แต่ไอ้พี่อาร์ตก็ยังไม่ยอมปล่อยสักทีรัดอยู่นั่นแหละ

จะว่าไปทำไมผมต้องโดนมันกอดทุกทีวะ

“ตื่น!” ผมจิกเล็บลงแขนที่มีแต่กล้ามเนื้อแล้วยกออกจากตัว เจ้าของแขนขยับเล็กน้อยแต่ยังไม่ปล่อย
“........”

โครม !
“โอ๊ย!”
“ตื่นได้ยัง?”
“ครับๆ ตื่นแล้วครับ อู่ย”
ครับ... ผมถีบพี่มันลงเตียงอย่างแรง แม่งปลุกแล้วเนียนนอนต่อไม่ยอมตื่นดีนัก
“ตื่นแล้วก็ลุก! มือเนี่ยปล่อยได้แล้ว!”

อย่างพี่อาร์ตต้องรุนแรงรับอรุณครับถึงจะตื่น...



“สีฝุ่นตกลงทริปสิ้นเดือนหน้าเอาไง ไปไม่ไป?”
“เออลืมไปเลย ไปครับพ่อ ไปๆ”
พ่อที่กำลังทำความสะอาดกล้องตัวโปรดอยู่ทักขึ้นเมื่อเห็นผมลงมาจากห้อง ทริปที่ว่าเนี่ยเป็นทริปถ่ายรูปออกต่างจังหวัดของกลุ่มเพื่อนพ่อเขาครับ งานหลักคือเที่ยวงานรองคือถ่ายรูป... ก็ไอ้ที่พ่ออ้างว่าไปหาแรงบันดาลใจนั่นแหละครับ
“รอบนี้ไปไหนนะ?” พ่อยิ้มกริ่มเมื่อผมถาม คิดว่าทะเลชัวร์...
“ภูเก็ต”
“ทำไมซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้วะไอ้ฝุ่น”
“แล้วลูกเขยพ่อล่ะ ยังไม่ตื่น?”
“เขยพ่อง!” ปากลั่น ลืมตัวครับ....
“เออ นี่พ่อมึง”
“โทษครับพ่อ... แล้วแม่ล่ะ?” ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วกวาดสายตาหาสองสาวในบ้าน
“พาพี่เอ็งไปร้านนู่น”
“งั้นผมไปหาแม่นะ”
“แฟนพ่อฝากบอกว่าให้เอ็งหาข้าวให้ลูกเขยกินด้วย”
พ่อพูดขัดตอนที่ผมกำลังเดินออกไปร้าน อะไรนะ? หาข้าวให้ลูกเขย
“ไม่ครับ”
“แม่แกสั่ง.... เขยแม่แกมานู่นแล้ว รีบๆไปทำได้แล้วไอ้หมา” พ่อทำปากยื่นไปทางที่พี่อาร์ตกำลังเดินลงมา ก่อนหอบลูกรักพ่อแกไปเก็บ ไอ้คนสถาปนาตนเป็นเขยของบ้านแม่งเดินยิ้มหน้าบานมาเชียว

“ว่าที่แฟนพี่จะทำอะไรให้พี่กินครับ”
“ใครแฟนหมอ!”
จุ๊บ
คนตรงหน้าก้มมาจุ๊บปากเบาๆ
“พี่ให้เรียกว่าไงครับ”
“..............”

เหี้ยครับ หลุด!
สติผมนี่แหละหลุด!



———————————————————————————————————————


   หลังจากผมหนีออกจากสถานการณ์ตอนนั้นได้ด้วยการเดินหนีขึ้นรถ แล้วขับออกไปข้างนอกโดยไม่บอกคนในบ้าน และไม่ได้ทำอะไรให้พี่มันกิน

เออ ยอมรับว่าช่วงนี้เขินชิบหายเวลาโดนพี่มันตอดนิดตอดหน่อย มีหมอไหนรักษาได้มั่ง?


ผมขับรถวนรอบเมืองให้เปลืองน้ำมันเล่นอย่างไม่มีจุดหมาย ไม่ได้ตั้งใจออกมานี่หว่าแต่ก็ไม่อยากกลับบ้านตอนนี้  สุดท้ายก็มาตายรังกับที่ห้างใกล้ๆ
โคร่ก~
เสียงกระเพาะที่ร้องประท้วงดังขึ้น ผมจัดการหาที่จอดรถแล้วรีบลงมาหาอะไรเข้าท้องก่อนมันจะประท้วงดังกว่านี้ พอหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน ผมพาร่างตัวเองมาตรงจุดFree Wifi กะว่าจะอยู่ตรงนี้สักพักแล้วค่อยกลับบ้าน
ใส่หูฟังแล้วจมไปกับนิยายที่ถือติดมือมาด้วย

“ฝุ่น?”
เสียงคนเรียกและแรงสะกิดที่บ่าทำให้รู้สึกหงุดหงิด ผมหันไปมองเจ้าของเสียงก่อนเบิกตากว้าง
“ไอ้เกอร์!”
“เฮ้ย ไอ้ฝุ่นจริงด้วยว่ะมึง”
“ไงมึง ยังมีชีวิตอยู่หรอ?”
“เหี้ยเอ๋อ”
“กูชื่อเอ๋ครับ ไม่ใช่เอ๋อ”
ไอ้พวกที่มาทักผมเป็นเพื่อนสนิทผมเองครับ ไทเกอร์กับเอ๋ พวกผมเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ม.ปลายจนจบมหาลัย(ถึงจะคนละคณะก็เถอะ) หลังจบมาก็เจอกันบ่อยอยู่หรอก พอมาช่วงที่ผมไปออกทริปกับพ่อบ่อยๆก็ไม่ได้ติดต่อพวกมันอีกเลย

“กูพอใจจะเรียกเอ๋อ ไงมึงสบายดีกันนะ”
“ก็ดี” เกอร์ตอบ ก่อนหันไปพยักหน้ากับเอ๋
“จะดีกว่านี้ถ้าเพื่อนกูคนนึงมันไม่หายหัวไปเป็นปีแบบนี้”
ฉึก
“เนอะ แม่งตายห่าไหนก็ไม่บอก ไลน์แม่งก็ร้างชิบหาย”
ฉึก
“เรายังมีตัวตนในสายตามันอยู่ไหมวะเกอร์”
ฉึก
“กูก็ว่----”
“กูขอโทษที่หายไปโดยไม่บอกกก ไม่ด่ากูสิเพื่อนนนน”
ผมถลาหาพวกมัน แต่มันหลบทั้งคู่ก่อนเอ่ยขึ้นพร้อมกันว่า....
“เลี้ยงข้าวกูก่อนแล้วกูจะไม่ด่า”
ครับ... เพื่อนกินหาง่ายฉันใด เพื่อนให้เลี้ยงหาง่ายกว่าฉันนั้น...
 “ไหนๆก็เจอมึงสักที กูขอถ่ายรูปสามเกลอหน่อย” ไม่ว่าเปล่า ไอ้เอ๋คว้าคอผมไปถ่ายรูปแบบไม่ให้ตั้งตัว พอได้รูปมันก็ก้มหน้าพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์ ก่อนส่งให้ผมดู
หน้าโคตรเหี้ย....
“ลบเลยมึง หน้ากูเหี้ยชิบหาย” ผมโวยวาย
“กูหล่อ กูพอใจ” มันตอบ ไอ้เกอร์ส่ายหน้าเอือมๆ



สุดท้ายพวกผมก็มาลงเอยกับร้านM.K. ไอ้สองคนนั้นแม่งสั่งยังกับจะเลี้ยงทั้งหมู่บ้าน ถาดสีแดงเรียงเป็นตั้งยังกับคอนโด....
“เออมึง กูได้ยินว่าแฟนมึงไปอ่อยผู้ชาย” เอ๋พูดขึ้นแต่ปากยังเต็มไปด้วยผักบุ้ง
“แฟนกู?”
“ชื่อไรวะเกอร์?” มันหันไปหาเกอร์ที่ขยับปากเป็นคำตอบ “เออฝนๆ”
“เลิกกันแล้ว”
“ห๊ะ!”
“เบามึงเบา”
ไอ้เอ๋ตะโกนลั่นร้าน ส่วนไอ้เกอร์เหมือนจะรู้อยู่แล้วเลยไม่มีปฏิกิริยาอะไรออกมา เพียงแค่คีบข้าวโพดร้อนๆในหม้อต้มยัดปากเอ๋
โหดสัด...

“ร้อนไอ้สัส ว่าแต่เลิกกันจริงดิ?”
“เออ”
“เลิกกันยังไงวะ?”
“ไม่เสือกสิเพื่อนเอ๋อ”
“กูชื่อเอ๋ ไอ้เชี่ยทิกเกอร์!”
“กูพอใจจะเรียกเอ๋อ มีอะไรไหม?” เกอร์ว่าด้วยหน้านิ่งๆ แล้วสนใจอาหารในหม้อต่อ
“ก็ไม่มีอะไรมาก เขาบอกเลิกกูแค่นั้นจบ”
“แล้วมึง...”
“เออกูโอเค รื่องมันนานแล้วน่า”
ไอ้เอ๋อพยักหน้าพอใจในคำตอบ ก่อนคำพูดมันจะทำให้ผมสนใจ
“ก็ยังว่า เดือนก่อนเห็นไปอ่อยหมออยู่”
“หมอ?”
“หมอหมาๆ” หางตาผมกระตุกเบาๆ “แต่มึงเลิกกับเขาก็ดีแล้ว ตอนนี้มีแฟนใหม่ยังครับ” ข้าวโพดอันเดิมถูกเสียบด้วยตะเกียบแล้วยื่นจ่อหน้าผมแทนไมค์
“เงียบนานแบบนี้แสดงว่ามี” ไอ้เกอร์ที่เงียบมานานยกยิ้ม
“มีแน่ๆ ใคร! บอกกูมา!”   
“เสือก”
คำเดียวจบครับ แม่งนิ่งไปทั้งคู่เลย ใครมันจะบอกละวะ ว่าแมนๆแบบไอ้ฝุ่น(Mi: แน่ใจหรอลูก?)มันโดนผู้ชายตามจีบอยู่!
หลังจากโดนด่าว่าเสือก ไอ้เกอร์เลยเปลี่ยนหัวข้อสนทนาใหม่โดยมีไอ้เอ๋เป็นลูกคู่ ส่วนมากก็เรื่องทั่วๆไปช่วงผมหายหัวไป

ครืด

Artt

อยู่ไหนครับ   11.28
รีบออกไปเลย ได้กินอะไรหรือยัง? 11.28

ผมเผลอยกยิ้มเมื่อเห็นชื่อเจ้าของข้อความ ก่อนกดโต้ตอบกับพี่มันโดยลืมว่ามีสองเสือกที่นั่งตรงข้ามกำลังมองผมอยู่ คุยไปสักพักพอพี่มันบอกว่าจะไปทำงานต่อ ผมเลยกดล็อกหน้าจอแล้ววางโทรศัพท์ลง เงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับรอยยิ้มชั่วๆของเพื่อนทั้งสอง
“เอ่อ...มองไรครับมึง”
“เกอร์ เราว่าเพื่อนเราแฟนใหม่มันชัวร์”
“ยิ้มหน้าบานยิ่งกว่าหม้อสุกี้แบบนี้มันคงไม่พ้นแฟนแหละครับเอ๋”
“หึๆ”
“ตกลงมีแฟนใหม่แล้วสินะมึง”
“เอ่อ....” ผมควรตอบอะไรดี ปฏิเสธไปสิไอ้ฝุ่น! ทำไมหน้าหมาหงอยของพี่มันแวบเข้ามาตอนคิดจะปฎิเสธวะะะะ
“ก็...ดูๆกันอยู่” มั้ง....
“ก็แค่นั้น” แล้วไอ้สองคนนั้นก็กลับไปสนใจของกินต่อ คือจะเสือกแค่นี้ช้ะ?

พออิ่มก็เรียกเช็กบิล พวกมันไม่ให้ผมออกคนเดียวจริงๆหรอกครับ เราหารสามกันเหมือนแต่ก่อน หลังจากจ่ายเงินกันเรียบร้อย ผมที่กำลังคิดจะกลับบ้านก็โดนเอ๋ล็อกตัวให้อยู่ต่อทันที เดินไปสักพักไอ้เอ๋ก็ลากทั้งผมกับเกอร์เข้าช็อปรองเท้า
“มึงจะดูอะ-- อุ๊บ” ผมโดนผ่ามือเค็มๆอุดปากทันทีที่จะพูด
“ชู่ว์ กูว่ากูเห็นแฟนเก่ามึงมากับผู้ชาย” ไอ้เอ๋ปล่อยมือจากปากผม ก่อนชี้ผู้หญิงกับผู้ชายคู่นึงที่กำลังเดินมาทางนี้ให้ผมดู
ใช่ฝนจริงๆด้วย แต่อีกคนใครวะ ทำไมคุ้นๆ
“แล้วทำไมต้องหลบวะ” เกอร์ถาม
“กูอยากเสือก”

“แหม บังเอิญเจอกันทั้งที ไปทานข้าวกันหน่อยไหมคะ” เสียงใสดังขึ้นให้พอได้ยิน
“ไม่ครับ”
“ใจร้ายจังนะคะหมอ”

“หืม ผู้ชายหน้าตาดีนี่หว่า” ไอ้เอ๋พึมพำ ไม่เห็นว่าผมที่อยู่ข้างหลังมัน คิ้วขมวดแค่ไหนเมื่อชายหญิงทั้งสองเดินเข้ามาใกล้จนเห็นหน้าชัด

“ผมว่าผมบอกคุณชัดแล้วนะครับ”
“ใครแคร์คะ? ในเมื่อหมอก็ยังจีบเขาไม่ติด ยังไงฝนก็ยังมีโอกาสจีบหมอนี่คะ”
ผู้ชายคนนั้นหยุดเท้าตรงที่พวกผมอยู่พอดี คนตัวสูงหันหน้ามาทางพวกผม เผยให้เห็นใบหน้าที่ผมคุ้นเคย ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาแรงๆ
พี่อาร์ต...
“ไม่มีครับ”
“หรือถ้าอย่างนั้น............” ฝนเข้าไปกระซิบอะไรสักอย่างที่พวกผมไม่ได้ยิน ก่อนริมฝีปากสีสดจะประทับลงแก้มของคนตัวสูง
“คุณหยุ---------”

“เฮ้ยฝุ่น! จะไปไหนวะ!!”


Tbc.


———————————————————————————————————————

เอาล่ะเหว่ยเอาล่ะหว่า~~
เกิดไรขึ้นต่อไป ติดตามตอนหน้าค่ะ เย้~

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「12」17|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-09-2017 20:52:08
ฝนพิษ มีฤทธิทำลายล้าง
นางมั่นหน้าจีบ อ่อยชาย ไม่อายสายตาประชา

ฝุ่น เลยเห็นชัดๆ ว่าพี่อาร์ตถูกฝนพิษจูบ  :z3: :z3: :z3:
ว่าแต่ที่ออกจากเพื่อน ไม่ใช่หนีหมอนะ
ที่ถูก ต้องไปแสดงตนเป็นแฟนหมอซะเลย ให้นางมารเงิบบบบบ ไปเลย
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「12」17|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 18-09-2017 07:41:33
ยิ่งอ่านไป ก็ยิ่งแปลกใจ ว่าผู้หญิงอย่างยัยฝน ฝุ่นเคยคว้ามาเป็นแฟนได้ไง ไม่เข้าใจ
แล้วตอนนี้ เพื่อนก็บอกอยู่นะ ว่ายัยฝนไปตามอ่อยเขาเอง
เห็นกับตา ว่าพี่หมอไม่ได้เล่นด้วย แถมได้ยินด้วย ว่าฝนตามจีบฝ่ายเดียว
ขนาดนี้แล้ว ถ้ายังเข้าใจพี่หมอผิดจนดราม่านี่ ก็ไม่ไหวนะฝุ่น
หวังว่าสีฝุ่น จะไม่ทำให้ผิดหวัง จะให้ดีใช้โอกาสนี้ประกาศตัวเป็นแฟนพี่หมอไปเลย
ได้ให้ความชัดเจนกับพี่หมอ แล้วยังได้ตอกหน้ายัยฝนจนหงายด้วย สะใจออก
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「13」20|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 20-09-2017 01:55:20
• 13 •

-อาร์ต-

หลังจากผมแกล้งสีฝุ่นจนอายม้วนและหนีไปแล้ว ผมก็ออกไปทำงานโดยได้ขนมปังจากน้าศิลป์เป็นข้าวเช้าพร้อมบ่นฝุ่นอย่างขำๆให้ผมฟัง นั่งว่างๆคุยกับหวานอยู่ก็เห็นแจ้งเตือนว่าฝุ่นถูกเพื่อนแท็กในรูปว่าอยู่กับเพื่อนที่ห้าง ผมจึงทักอีกฝ่ายทางไลน์ไป เมื่อฝุ่นยืนยันว่าอยู่ที่นั่งจริงผมก็ทิ้งงานให้หวานกันหมอเวรอีกคน ก่อนบึ่งลูกรักออกไปหาฝุ่นทันที
พอถึงตัวห้าง ผมก็มัวแต่คิดว่าจะได้เจอฝุ่นโดยไม่ได้สังเกตว่ามีใครบางคนกำลังเกิดเข้ามาหาผม
“หมอคะ” เสียงแหลมดังขึ้น ทำให้ผมหันไปมองต้นเสียงที่อยู่ในชุดเดรสสั้น
“คุณฝน?”
“ฝนเองค่ะ คิดว่าใครคะ?” ยิ้มหวานถูกส่งให้ อุตส่าหลบหน้าได้ตั้งนาน แม่ง...
“สวัสดีครับ ขอตัวก่อนครับผมมีธุระ” หลังจากทักทายพอเป็นพิธีเสร็จ ผมก็ก้าวขาเดินต่อทันที สิบนาทีก่อนน้องบอกว่าอยู่เอ็มเค ถ้าอิ่มกันแล้วคงยังไปไม่ไกลมาก แต่มือของหญิงสาวก็คว้าเข้าที่แขนผม
“หมอทานข้าวมาหรือยังคะ”
“...........” ผมส่ายหน้าปฏิเสธทันที แต่อีกคนก็ยังไม่ปล่อย ผมเลยแกะมือนั่นออก มือคนรึหลาหมึกวะ เหนียวซะ
“แหม บังเอิญเจอกันทั้งที ไปทานข้าวกันหน่อยไหมคะ”
“ไม่ครับ”
“ใจร้ายจังนะคะหมอ” เธอว่าอย่างตัดพ้อ ถ้าใครได้ยินเข้าคงคิดว่าเป็นแฟนทะเลาะกันแน่ๆ

“ผมว่าผมบอกคุณชัดแล้วนะครับ”
“ใครแคร์คะ? ในเมื่อหมอก็ยังจีบเขาไม่ติด ยังไงฝนก็ยังมีโอกาสจีบหมอนี่คะ”
ผมถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนหยุดฝีเท้าแล้วหันหน้าคุยกับอีกคน
 “ไม่มีครับ”
“หรือถ้าอย่างนั้น............” ฝนเข้ามาเหมือนจะกระซิบอะไร แต่กลายเป็นว่าริมฝีปากที่ฉาบลิปสติกสีสดจะประทับลงแก้มผมแทน
“คุณหยุ---------”
“เฮ้ยฝุ่น! จะไปไหนวะ!!”

ไม่ทันที่ผมจะได้พูดโต้ตอบอะไรออกไปก็มีเสียงโวยวายแทรกขึ้น ชื่อที่ได้ยินนั้นทำให้ผมขมวดคิ้ว พอหันไปมองก็เห็นว่าเจ้าของชื่อกำลังเดินมาทางนี้เสียแล้ว

“ฝุ่น...พี่” คนตัวเล็กเดินเข้ามาแทรกระหว่างผมกับฝน น้องยืนหันมาทางผม และยกแขนขึ้นสูง ผมเบิกตาค้าง
ก่อนที่จะ
.
.
.
แปะ
รับรู้ถึงสัมผัสของเนื้อของกระดาษบาง ที่ถูกยกขึ้นเช็ดคราบลิปสติกที่ติดอยู่กับแก้มผม...
น้องตั้งหน้าตั้งตาเช็ดมากครับ คิ้วขมวดจนเป็นปมเชียว

“ฝุ่น!” เสียงแหลมแหวดชื่อน้องจนผมแสบแก้วหู
“ครับ?” น้องหยุดเช็ดแล้วหันไปหาอีกคน
“ฝุ่นทำอะ---”
“ฝนรู้อะไรไหม” น้องแทรกขึ้น ก่อนพูดขึ้นด้วยเสียงเรียบเฉย “ตอนที่เราคบกัน มีหลายคนมาบอกเราว่าฝนไม่ได้เป็นตอนแบบที่เราอยู่ด้วย  แต่ตอนนั้นเราไม่เชื่อเพราะเวลาที่อยู่ด้วยกันฝนแสร้งทำเป็นใสซื่อ น่ารัก”
น้องหยุดพูด มองคู่สนทนาที่เม้มปากแน่น
“เวลาอยู่กับเราฝนก็เป็นอีกแบบ พอลับหลังเราฝนก็เป็นอีกแบบ แล้วเราก็รู้นะว่าฝนไม่ได้มีแค่เรา เพื่อนเราส่งรูปเวลาฝนอยู่กับคนอื่นตลอด แต่ฝนบอกว่าเป็นแค่เพื่อนบ้าง รุ่นพี่รุ่นน้องบ้าง เราเชื่อ ไม่คิดมากเพราะฝนบอกว่าเป็นแค่นั้น” น้องยิ้มขื่น “พอเลิกกันแล้วถึงรู้ว่าเราโง่จริงๆที่ดันเชื่อฝนทุกคำพูด”
“สีฝุ่น” ผมแตะแขนน้อง เมื่อเห็นว่าผู้หญิงตรงหน้าโกรธจนหน้าดำหน้าแดง แต่น้องกลับปัดผมมือทิ้ง
“จะไม่แก้ตัวหน่อยหรอครับ? คนตรงหน้านี้ไม่ใช่คนที่ฝนตามจับอยู่หรอ? ให้มารับรู้เรื่องแบบนี้จะดีหรอ”

เพียะ

ฝ่ามือเล็กของหญิงสาวตบลงบนในหน้าสีฝุ่นเต็มแรง แต่น้องกลับหัวเราะ...

“จริงอยู่ที่เราไม่เชื่อตั้งแต่ที่มีคนเตือนครั้งแรกเพราะชอบจนไม่ฟังอะไร จนกระทั่งเลิกกันเราก็ยังเชื่อว่าฝนไม่ใช่คนแบบนั้น แต่พอมาคิดดูอีกทีเราแม่งเป็นควายให้ฝนจูงนานแค่ไหนวะ?”
“สีฝุ่น!!” ฝนตวาดชื่อคนตรงหน้า แต่น้องกลับถอยมาชิดผม ก่อนจะพูดขึ้นว่า.....

“แล้วก็นะ
.
.
.
คนนี้ของเรา”
จบประโยค สีฝุ่นก็กระชากแขนผม ออกแรงดึงให้ไปจากตรงนั้นทันที โดยไม่สนใจอีกคนที่ยืนตัวสั่นด้วยความโกรธอยู่อย่างนั้น


“ฝุ่นครับ” ผมเรียกชื่อน้องเมื่อเห็นว่าพ้นจากตรงนั้นมาไกลพอสมควร แต่น้องก็ยังไม่หยุดเดิน
“สีฝุ่น”
“.....”
“ที่รักครับ”
กึก น้องหยุดได้ผลแฮะ
“ใครที่รักพี่วะ!” น้องหันมาตวาดผม โชคดีที่โซนนี้ไม่ค่อยมีคน
“ก็ฝุ่นไง”
“ฝุ่นตกลงตอนไหน!”
“ก็ฝุ่นบอกว่า... คนนี้ของเรา ไม่ใช่หรอครับ” น้องชะงัก แก้มขาวของน้องที่ข้างหนึ่งแดงเป็นรอยมือก็เริ่มขึ้นสีเหมือนเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว
“ฝุ่น...คือ เอ่อ”

ผมยกยิ้มเมื่อเห็นอาการรนของน้อง อดไม่ได้ที่จะรวบตัวมากอดแล้วกดจมูกลงกับกลุ่มผม

“พี่อาร์ต! นี่มันกลางห้างนะ!” น้องโวย
“เมื่อกี้หึงพี่?”
“ไม่---”
“เอาความจริงครับ”
“ก็...ไม่ชอบ” ผมยิ้ม ส่วนน้องก็เงยเอากระดาษมาเช็ดรอบลิปสติกที่แก้มผมต่อ “ก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับพี่ มันหงุดหงิด”
“แต่นั่นแฟนเก่าเรานะ?”
“หวานเล่าให้ฟังแล้ว ตั้งแต่ที่เขามาหาพี่ตอนเขายังไม่เลิกกับผม... ผมโง่ไปชอบคนแบบนั้นได้ไงตั้งนานวะ ซี๊ด เจ็บ” น้องผละออกจากผม ก่อนกุมแก้มข้างที่โดนฝ่ามือฟาดมา
“ไหน ขอพี่ดูหน่อยครับ”
ดีที่น้องให้ความร่วมมือในการดูแผล นอกจากรอบแดงบนแก้มนิ่มกับรอยแผลที่มุมปากแล้วก็ไม่มีอะไรมาก
“กลับไปก็ใส่ยานะครับ”
“อื้อ”
“เด็กดี จุ๊บ” ก้มจูบมุมปากเบาๆ
“พี่---”
“ฝุ่น! เฮ้ย! เอ่อ... ไม่เห็นครับ เราไม่เห็นอะไรเลยครับ” เสียงเพื่อนทั้งสองของสีฝุ่นที่ตามมาดังขึ้นขัดจังหวะ เมื่อมองดูก็เห็นสองคนนั้นเอามือปิดตา...แต่ถ่างนิ้วไว้
“ไอ้เอ๋อ! ไอ้เกอร์!”
“แฮะๆ ต่อเลยครับ ต่อเลย” เด็กที่ตัวพอๆกับฝุ่นพูดขึ้น
“ต่อเหี้ยไรวะ เอ่อ...นี่เพื่อนฝุ่น เอ๋กับเกอร์” น้องแนะนำเพื่อนทั้งสอง “แล้วนี่พี่อาร์ตเป็น---”
“แฟนฝุ่นสินะครับ” เกอร์แสยะยิ้มให้ฝุ่น
“ไม่ใช่เว้ย! นี่พี่ข้างบ้าน!” ผมขมวดคิ้ว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเหมือนเดิม
“ยังไม่ใช่ครับ เพื่อนน้องไม่ยอมตกลงเป็นแฟนกับพี่เลยครับ”
“เล่นตัวว่ะมึง”
“โคตรเล่นตัว แต่เมื่อกี้เขากอดเขาหอมก็ไม่มีโวยวายนะครับคนเรา” แซวหนักกว่าคนที่บ้านก็คงเพื่อนน้องมันแหละครับ...
“เรื่องของกูไหม ไปหมอกลับบ้าน! พอ!! ไม่ต้องมาเนียนหอม!” น้องยกมือดันหน้าผมทันทีเมื่อเห็นผมจะก้มไปหอมแก้มใส
“ไม่หอมก็ได้ จุ๊บ” ไม่ได้แก้ม ปากก็ว่างนี่ครับ
“หูย คนจริง”
“กลับบ้านไปเลยไป๊!!!”

   พอโดนฝุ่นไล่กลับบ้าน ผมแยกตัวมาจากน้องทันทีเพราะเห็นว่าใกล้จะเกินเวลาพักของผมแล้ว เลยฝากฝังเพื่อนน้องให้พาไปทำแผลที่ปากแทน เมื่อผมถึงโรงบาลเท่านั้นแหละครับหวานก็ออกมาแซวผมทันที แหม คนมีความสุขจะให้หน้าบึ้งหรือไง~

———————————————————————————————————————

-สีฝุ่น-

   อย่างที่บอก ผมรู้ทุกเรื่องที่ฝนทำลับหลังแต่ผมไม่เคยเชื่อ เพราะเวลาที่อยู่ต่อหน้าผมเขาเป็นอีกอย่างนึง แล้วคงเพราะความรักบังตาด้วยมั้งครับ เชื่อแต่ที่เห็นไม่เชื่อคำชาวบ้าน พอเลิกกันแล้วมานั่งคิดตามคำพูดคนอื่นแล้วถึงนึกได้ว่าผมแม่งโง่จริงๆยอมมีเขาบนหัวตั้งนาน อันที่จริงแล้วผมก็ไม่ได้อะไรกับเธอนะครับเรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป แต่นี้พอเห็นว่าเธอมากับพี่มันแล้วหลุด อืมมม ว่าไงดี ฟิวส์ขาด? มั้งครับ...

แล้วคนนี้ของเราอะไรกัน... กูพูดอะไรออกไป๊! !


“มึงหึง”
“กูไม่ได้--- ไอ้เอ๋กูเจ็บ! จิ้มหาพ่อง!”

ตอนนี้ผมโดนเพื่อนลากมาปักหลักที่ศูนย์อาหารครับ มีเอ๋นั่งเอายาทาแผลมุมปากให้ผม ส่วนเกอร์มันนั่งไถจอโทรศัพท์มันมาสักพักแล้ว

“โดนสาวทิ้งทีเปลี่ยนรสนิยมเลยนะเพื่อน”
“เปลี่ยนเชี่ยไร กูยังชอบผู้หญิง”
“แต่เมื่อกี้มึงหึงพี่คนนั้นจนไม่ไว้หน้าแฟนเก่ามึงเลยนะครับ”
“กูแค่-! ไอ้เอ๋มึงเบามือดิ๊!” ไม่ทันได้เถียงมันครับ แม่งกดสำลีเต็มๆมุมปากผม แสบจี๊ดเลย
“นี่ใช่พี่เขาไหมวะฝุ่น”
“ไหน?” สมาทโฟนเครื่องบางของเกอร์ถูกยื่นมาให้ หน้าจอเป็นแอพนกสีฟ้าที่มีภาพผู้ชายผมยาวรวบมวยยิ้มกับลูกหมาในมือ ดูยังไงๆก็พี่มันก่อนตัดผมชัดๆ
“ก็ใช่ ทำไม?”
“ไม่มีไร แค่บังเอิญไปเจอในแฮทแท็กหมอหล่อบอกต่อด้วย” มันยักไหล่ด้วยท่าทางชิวๆ ก่อนคว้าโทรศัพท์คืนไป
แฮทแท็กอะไรวะ...

   ผมอยู่กับไอ้สองคนนั่นจนเกือบถึงเวลาเด็กเลิกเรียนพวกเราจึงแยกย้ายกัน แต่ไอ๋เอ๋ไม่วายแซวผมทิ้งท้ายให้ผมหงุดหงิดเล่น พอถึงบ้านก็โดนแม่ถามถึงรอยบนหน้าอีก จะไม่เล่าก็ไม่ได้ ขื่นไม่วันนี้ยังไงๆแม่ต้องถามวันหน้า สู้เล่าๆให้จบไปเลยดีกว่า

“ถือว่าหมดเวรหมดกรรมนะลูกนะ”
“อื้อ”
“แล้วสรุปกับตาอาร์ตนี่ คบกันแล้ว?”
“ไม่ใช่!”
“โถ่ลูกครับ หึงเขาออกหน้าออกตาแบบนั้นยังปากแข็งอีก คบตาอาร์ตก็ดีนะเทคแคร์เราดี ไม่เช้าชู้ ขยันทำงา----”
“เดี๋ยวแม่เดี๋ยว ทำไมอวยพี่มันจัง!” ผมโวยวายเมื่อแม่เริ่มชมหมอออกนอกหน้านอกตาลูกชายไปละ
“อ้าวหรอ แม่แค่พูดความจริง” แม่ยิ้มก่อนลุกขึ้นยืน “พี่มันมองเรานานแล้วรู้ไหม”
“.......”
แม่ทิ้งไว้แค่นั้นก่อนเดินออกจากห้องไป


จบมื้อเย็น ผมก็ขึ้นมานอนเลื่อนหน้าเฟสบุ๊คไปเลื่อย โล่งใจเบาๆเมื่อเห็นว่าไม่มีใครถ่ายเหตุการณ์วันนี้ไว้ ไม่รู้อะไรดลใจให้กดค้นหาชื่อเฟสของฝนแต่ก็ตามคาด โดนบล็อกเรียบร้อยครับ

ก็อกๆๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมวางโทรศัพท์ลงกับที่นอนก่อนลุกไปเปิดประตู  นาฬิกายังไม่ห้าทุ่มดี คงจะเป็นใครสักคนในบ้านมาเคาะ

“คร้าบบบ อ๊ะ”
 
ผมผงะ เมื่อเปิดประตูไปแล้วพบกับ...ตุ๊กตาแมวน้ำสีขาวตัวใหญ่ที่ถูกยกพอดีกับระดับสายตาผมพอดี
“เอ่อ...”
“ให้ครับ” คนที่อยู่หลังตุ๊กตาพูดขึ้น แล้วยัดตุ๊กตาแมวน้ำตัวเขื่องใส่มือผม
“มา...ทำไม”
“มาขอคำตอบครับ”
“คำตอบอะไร?” ผมถาม ยังประติดประต่อเรื่องไม่ได้
“ที่พี่ถามไว้วันก่อนไงครับ”
“......”
“จำได้ไหม พี่ขออะไรไว้”
ผมก้มซ่อนใบหน้ากับตุ๊กตาตัวยักษ์ ก่อนจะส่ายหัวออกมาเบาๆ
ไม่ใช่จำไม่ได้...
“ฝุ่นครับ”
“อื้อ...”
“วันนี้หึงพี่ใช่ไหมครับ”
ผมยังคงก้มหน้ากับตุ๊กตาตัวนั้น ไม่กล้าเงยสบตากับคนตรงหน้า
ยอมรับว่าไม่อยากให้พี่มันเข้าใกล้คนอื่น...
ยอมรับว่าไม่พอใจที่เห็นคนอื่นแตะตัวพี่มัน...

ฝ่ามืออุ่นของคนตรงหน้าแนบลงมาที่แก้ม ก่อนประคองให้เงยสบตา

“ฝุ่นครับ...คบกับพี่ได้ไหมครับ”
.
.
.
.
.
“.....ครับ”

Tbc.


———————————————————————————————————————

กลิ่นกาวพิเศษ

สีฝุ่น : ทำไมต้องเป็นตุ๊กตาแมวน้ำครับ ตัวโคตรใหญ่ /จับพลิกไปมา/
อาร์ต : ก็...พี่เห็นแล้วนึกถึงฝุ่นนี่ครับ เหมือนกันดี
สีฝุ่น : เหมือนตรงไหนวะ /ขมวดคิ้วแล้วจับก้อนขาวๆในมือยืด/
อาร์ต : ตรงนี้ไง ยืดเหมือนกันเลย /จับแก้มคนน้องแล้วยืดแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว/
สีฝุ่น : เจ็บ!! ดึงอีกข้างสิวะไอ้หมอบ้า!!!
อาร์ต : เรียกหมออีกพี่ทำมากกว่าจูบนะ
สีฝุ่น : ยะ อย่าเข้ามานะไอ้พี่บ้า!! /หน้าแดงก่ำ โยนแมวน้ำตัวเขื่องใส่อีกฝ่ายที่นั่งหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง/

จบเถ๊อะ

———————————————————————————————————————

เอ๋ ดราม่าคืออะไรคะ หึๆ :hao3:
จริงๆวางเรื่องไว้แบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว หนูฝุ่นไม่เดินหนีค่ะ นางเข้าไปบวกแทน 555555555เราเชื่อว่าหลายคนต้องมีความรู้สึกที่หลงมากจนไม่เชื่อคำพูดชาวบ้านที่เตือนเรา หนูฝุ่นของเราก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ความรักทำให้คนตาบอดจริมๆ LOL
///หลังจากตอนนี้สต็อกเริ่มหมดแล้ว เหลือแต่พล็อตคร่าวๆที่พิมพ์ไว้ ช่วงหลังอาจจะมาช้าหน่อยนะคะ พยายามจะไม่หายไปนานแน่ๆค่ะ
รักทุกคนอ่าน❤
#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「13」20|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 20-09-2017 02:21:58
ดูเรื่องเว้นวรรคตอนในประโยคสนทนาหน่อยก็ดีน้า เคาะลงสองครั้งจะสวยงามกว่านี้ค่ะ ^^


เรามีเพื่อนคนนึงเป็นแบบฝุ่นคือใครพูดอะไรก็ไม่เชื่อ จนเพื่อนหลอกให้ไปเจอเอง รู้เเหละว่าต้องเจ็บแต่ก็ดีกว่าปล่อยให้โดนหลอกไปเรื่อยๆจริงๆ พอๆยาวกว่านี้จะกลายเป็นคลับ ฟรายเดย์ไป
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「13」20|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 20-09-2017 06:18:26
น้องฝุ่นจัดว่าเด็ด
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「13」20|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: caffeine_0258 ที่ 20-09-2017 06:36:14
สีฝุ่นน่ารัก
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「13」20|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 20-09-2017 08:16:28
เป็นแฟนกันแล้ววว  เย้  ดีใจกับพี่หมอค่า  :m3:
สีฝุ่น สุดยอด นายเอกของเราต้องแบบนี้นะจ้ะ 'คนนี้ของเรา' จบ 555 สะใจ
โดนตบแค่นี้ไม่เป็นไรเนอะ ได้พูดตอกหน้ายัยฝนกลับ ถือว่าคุ้ม
อย่างที่คุณแม่ว่า ได้หมดเวรหมดกรรมกันเสียทีนะน้องฝุ่น
ต่อไป พี่หมอจะทำอะไร ๆ น้อง เราก็จะไม่ว่าพี่หมอลวนลามน้องแล้วค่ะ
ก็เขาเป็นแฟนกันแล้ว การเฝ้ามองมาเป็นสิบปีของพี่หมอ สำเร็จเสียที
รอตอนต่อไปน้า ขอบคุณคนเขียนมากค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「13」20|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-09-2017 13:21:40
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「13」20|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 21-09-2017 20:23:38
อ่านไปยิ้มไป
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「13」20|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 21-09-2017 23:50:54
คบกันซะทีลุ้นแทบตาย 55555
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「13」20|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 22-09-2017 00:58:50
 :laugh:


สาแก่ใจ จริงๆ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「14」22|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 22-09-2017 15:27:13
• 14 •

ผ่านมาสามวันแล้วครับหลังจากที่ผมตกลงคบกับพี่อาร์ต... คืนนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกครับ พอผมตอบตกลงกับพี่มันแล้ว ผมก็ไล่พี่มันกลับไปนอนบ้านเพราะไม่กล้าสู้หน้าพี่อาร์ต...ดีที่พี่มันเข้าใจ แต่เช้ามานี่สิครับรายนั้นเล่นมาดักรอที่บ้านตั้งแต่ไก่โห่ พอเจอพ่อแม่ผมก็รีบฝากตัวเป็นลูกเขยทันที เดือดร้อนให้แม่วิ่งมาปลุกผมที่ยังซุกเตียงอยู่ให้ตื่นเพื่อยืนยันว่าคบกันจริงๆ

‘ฝุ่น! สีฝุ่นตื่น!’

‘งืม อะไรแม่ฝุ่นจะนอน’

‘ตื่นมาตอบแม่ก่อนครับลูกว่าที่ตาอาร์ตพูดเป็นเรื่องจริง’

‘หืม? พี่อาร์ตพูดอะไรครับ?’

‘ก็ที่ว่าฝุ่นกับตาอาร์ตคบกับแล้วไง นี่พี่เขามาขอฝากตัวเป็นลูกเขยอย่างเป็นทางการแล้วรู้ไหม’

ผมลุกพรวด สบตามองกับเจ้าของชื่อยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าประตู ก่อนจะรู้สึกร้อนวูบที่หน้าจนต้องเอาผ้าห่มขึ้นมาเป็นกำบัง

‘จากท่าทางลูกหมาของเราแล้ว น่าจะเป็นเรื่องจริงแหละแม่’

‘แม่ก็ว่างั้นแหละพ่อ แม่โทรไปหาพี่เล็กก่อนดีกว่า ฝากปลุกน้องด้วยนะตาอาร์ต’

‘ครับคุณแม่’

และพี่มันเดินมายืนข้างเตียงผมแทนที่แม่ที่ออกจากห้องไปแล้ว

‘ตื่นเต็มตาหรือยังครับตัวเล็ก’

เสียงอ่อนโยนแบบชิบหาย เรียกเลือดให้กองบนหน้าผมมากกว่าเดิมทันที

‘ตะ...ตื่นแล้ว! ยะ อย่าเข้ามานะ ไปทำงานไป๊!!’

หมอนใบใกล้มือถูกโยนใส่พี่มันแบบไม่ยั้งแรง ด้วยกิริยาท่าทางของผมเรียกเสียงหัวเราะร่าจากคนตัวสูงได้อย่างดี

‘ไปเลยไอ้หมอบ้า!!’

‘ครับ เจอกันเย็นนี้ครับแฟน จุ๊บ’

ไม่วายก้มลงใช้ปากแตะปากทิ้งท้าย....

ก็นั่นแหละครับทุกอย่างก็ปกติดีถ้าไม่นับเรื่องที่พี่มันฉวยโอกาสกับผมมากกว่าเดิมเยอะมาก! เอะอะจูบ เอะอะหอม หนักเข้าหน่อยตื่นมาเจอพี่มันคร่อมอยู่บนตัว พร้อมเสื้อผมที่ถกมาถึงอกอย่างเมื่อเช้า... พี่อาร์ตเลยได้รอยหมัดสวยๆประดับท้องแต่เช้า

“แม่! แม่ให้กุญแจห้องฝุ่นกับมะ...พี่อาร์ตทำไม!” ผมโวยวาย เมื่อคืนอุตส่าห์ล็อกห้องอย่างดีแต่ยังมีคนแอบเข้าห้องได้ และต้องเปลี่ยนคำเรียกเพราะเจอขู่ไว้ว่าถ้าเรียกหมออีกจะทำมากกว่าเมื่อเช้า... ก็คนติดปากจะให้ทำไงได้วะ!

“แม่เปล่านะ ฝุ่นให้เองแล้วลืมหรือเปล่า?” เมื่อแม่ปฏิเสธ  ผมก็เบนเข็มหาพ่อทันที แต่ไม่ทันได้อ้าปากถามพ่อก็ส่ายหน้าก่อน

หรือพี่มันแอบเอาของผมไปทำเพิ่มวะ?อย่าให้รู้นะฆ่าทิ้งแม่ง ผมได้หันแต่ทำตาเขียวใส่คนบ้าที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ แล้วฆาตโทษเจ้าตัวในใจ แต่จู่ๆ...

“แม่ครับพ่อครับ วันนี้ผมขอพาน้องไปนอนด้วย...ได้ไหมครับ”

พวรดดด!

“ไปสิ” “ไม่ไป!” ผมหันสบตาแม่ทันที จะอนุญาตทำไมครับแม่ ส่งเนื้อเข้าปากเสือซะงั้น!

“บ่ายนี้แม่ไปรับป้าเล็กกับแอ๋มที่กรุงเทพฯ ส่วนฟิล์มก็ยังอยู่บ้านเพื่อน ถ้าคิดว่าอยู่คนเดียวได้ก็อยู่ไป” แม่ว่าเรียบๆก่อนรวบจานข้าวที่หมดแล้วไปเก็บ

“งั้นฝุ่นไปกับแม่ด้วย”

“ที่ไม่พอครับลูกชาย ถ้าไปด้วยรถก็เต็มแล้ว”

“แต่...”

“อยู่บ้านนี่แหละครับลูกพรุ่งนี้แม่ก็กลับ เข้าใจไหม”

“เข้าใจครับ...” ขืนลองไม่เข้าใจสิครับ.. แม่ได้พูดซ้ำจนกว่าผมจะตอบว่าเข้าใจนั่นแหละ

“ดีมากครับลูกชาย แม่ฝากน้องด้วยนะอาร์ต” แม่หันไปยิ้มแย้มเมื่อลูกเขยคนใหม่รับคำอย่างว่าง่าย ตกกระป๋องไปสิสีฝุ่น!


ผมเดินหนีบทสนทนาระหว่างแม่ยายกับลูกเขยที่เข้าขากันดีชิบหาย (มีแต่พ่อที่บ่นเล็กน้อยเพราะยังอยากอุ้มหลานอยู่) โดยการออกมาที่หน้าร้าน แต่ก็ยังไม่วาย...

“ไงเพื่อนฝุ่น ตกลงคบกับพี่เขาแล้วสินะ”

“ถ้าจะมาเสือก กลับทางไหนไปทางนั้นเลยครับเพื่อนเอ๋”

“แฟนมึงเล่นป่าวประกาศตั้งแต่เห็นหน้ากู จะไม่ให้เสือกได้ไงครับ” มันยิ้ม “ไหนๆมึงก็มาแล้ว กูอยากกินขนมฝีมือมึงว่ะทำให้ก่อนหน่อย”

ทุกทีครับ ไอ้เพื่อนสองคนนี้มันติดขนมฝีมือผมตั้งแต่ม.ปลายแล้ว

“เออๆ รอกูสักชั่วโมง ถ้าเห็นพี่มันออกมาก็อย่าเสือกไม่งั้นมึงจะอด!” ชี้หน้าไว้ก่อน แต่คนอย่างเอ๋มันไม่สนหรอกครับ เชื่อผมสิ...

ไหนๆวันนี้ผมก็ลงครัวสักที เจอหน้าน้าหยงปุ๊บก็โดนจับเป็นมาลูกมือปั๊บ จากชั่วโมงเดียวที่บอกไอ้เอ๋ไว้ กลายเป็นว่าผมอยู่ในครัวเกือบ3ชั่วโมงไปโดยปริยาย... รอไปนะเพื่อน
   กว่าจะถูกน้าหยงปล่อยตัวมาได้ก็บ่าย1กว่าๆ หลังจากถูกรมด้วยกลิ่นวนิลาและครีมเค้กจนตัวหอม ผมอุ้มเค้กก็ออกมาหาไอ้เอ๋ ซึ่งตอนนี้มีบุคลไม่ได้รับเชิญมาร่วมโต๊ะเพิ่มอีก2คน คนนึงก็ไอ้เกอร์ ส่วนอีกคนก็คนที่คุณก็น่าจะรู้ว่าใครแหละครับ

   “นี่มึงไปรอเขาทำแป้ง?หรือมึงรอไก่ออกไข่วะ กว่าจะมาได้” มาถึงมันก็โวยใส่เลยครับสงสัยรอนานจริง ผมวางเค้กลงกับโต๊ะแล้วแจกอาวุธในการกินให้มันกับเกอร์

“ไปโทษน้าหยงครับ ที่กูโดยกักตัวอยู่ในครัวเนี่ยเพราะน้าหยงให้ช่วยงานครับ” ผมว่า ก่อนจะหมุนตัวเดินไปเอาเก้าอี้สำรองเพราะไอ้เอ๋มันเลือกนั่งติดหน้าต่าง มีเก้าอี้แค่3ตัว ผมเลยค้องไปเอาเพิ่ม

แต่ทว่า...

“มานั่งนี่ครับ” มือหนาของบุคคลที่สามคว้าเข้าที่ข้อมือผม แล้วออกแรงดึงให้ผมลงไปนั่งที่ตักเจ้าตัวทันที แถมยังล็อกเอวไม่ให้ผมลุกไปอีก!

“ฮิ้ว~~”

“เกรงใจคนโสดหน่อยครับพี่อาร์ต”

“พี่อาร์ตปล่อย!” ผมเมินประโยคแซวของเพื่อนทั้งสอง หันมาจัดการแกะมือของเก้าอี้จำเป็นออกแต่คือแม่ง เหนียวแน่นยิ่งกว่ากาวตราช้าง...

“ไม่อยากปล่อยครับ ฝุ่นตัวหอมน่ากินนี่นา” ผมเบี่ยงหน้าหนี... เมื่อคนข้างหลังมันเล่นงับใบหูผม! เฮ้ยๆ อย่าลงไปคอ! !

“อื้อ ปะ ปล่อยนะ อย่าซน!” ดันหน้าแม่ง มัวแต่ยุ่งกับคนหาเศษหาเลยกับตัวผมจนลืมว่ามีอีกสอง...ไม่สิ หลายชีวิตอยู่ในร้าน

“เกอร์...ตั้งแต่เป็นเพื่อนกับมันมากูเพิ่งเคยเห็นมันทำหน้าอย่างนั้นครั้งแรก”

เสียงกระซิบที่ดังชิบหายทำให้ผมรู้สึกตัว

 “พี่อาร์ตปล่อย!”

“ครับๆที่รัก” พอหลุดได้ ผมก็ผุดลุกขึ้นยืนทันที ก่อนชี้หน้าฆาตโทษเรียงตัวโดยเฉพาะไอ้หมอหมาที่ยิ้มหื่นอยู่นั่น!

คืนนี้ผมจะรอดจากพี่มันไหมครับ! ฮื่อ...



หลังจากพ่อแม่หนีไปกรุงเทพ... หกโมงเย็นพอดีเป๊ะพี่มันก็ขับรถมารับผมถึงบ้าน เอาผมไปทิ้งไว้คอนโดแล้วออกมาทำงานต่อ พี่มันบอกวันนี้เลิกงานสามทุ่มให้อยู่คนเดียวไปก่อน ผมที่โคตรจะเคว้งคว้างในห้องแสนกว้างใหญ่ของพี่มันก็ว่างจัด ทำการสำรวจทุกมุมห้อง คราวก่อนห้องพี่อาร์ตแม่งโคตรสะอาดครับ มารอบนี้... เสื้อไปทาง กางเกงไปทาง ที่สำคัญ... กางเกงในที่ม้วนเป็นเลขแปด และกล่องถุงยางหลากหลายกล่องนั่นคืออะไร! !

ผมเก็บเสื้อผ้าที่มันรกหูรกตาให้เข้าที่ ทำเป็นไม่สนใจไอ้กล่องที่วางอยู่นั่นแล้วหันไปทำอาหารไว้รอพี่อาร์ตเลิกงานแทน  แต่...ความอยากรู้อยากเห็นของคนเรามันต้านทานไม่ได้ไง เดินไปสุ่มหยิบกล่องเล็กๆนั่นขึ้นมากล่อง....

เดี๋ยวนะ ศูนย์ ศูนย์ สะ....
ขนาดเอ่อ....

“กลับมาแล้วครั— เฮ้ย!!” พี่มันรีบวิ่งมาหาผมทันทีเมื่อเห็นว่าในมือผมถืออะไรอยู่ ก่อนคว้าเอาของในมือผมและที่วางอยู่กวาดลงลิ้นชักอย่างเร็ว ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดอะไรไอ้พี่อาร์ตก็รีบพูดขัด

“ของเพื่อนพี่ครับ มันเป็น..เอ่อเป็นเจ้าของห้องนี้ สงสัยมันเอามาเก็บไว้ แฮะๆ ไปกินข้าวกันเถอะพี่ซื้อมา” หมอพูดรัว และชูของที่ซื้อมาขึ้น ดันให้ผมไปที่โต๊ะกินข้าว

“แต่ฝุ่นทำกับข้าวไว้....” พอทำเสียงหงอย คนตัวโตรีบกลับคำทันที

   “กินฝีมือฝุ่นครับ อันนี้ไว้ตอนเช้าก็ได้ พรุ่งนี้พี่หยุด”



หลังจากอิ่มท้อง และได้รู้ความจริงว่าห้องที่พี่มันอยู่เนี่ยเจ้าตัวไม่ใช้เจ้าของ แต่มาอาศัยห้องชาวบ้านเขาอีกที... หมอมันก็ไล่ให้ผมให้ขึ้นห้องส่วนตัวเองก็ยกเอาจานไปล้างให้ ก่อนจะตามขึ้นมาหลังผม ของในห้องยังเหมือนครั้งแรกที่เข้ามา ยกเว้นก็แต่ผู้ชายตัวโตตรงหน้าผมนี่แหละครับ...

“เอ่อ..ฝุ่นนอนโซฟาได้ไหม” ขอห่วงสวัสดิภาพของตัวเองก่อนครับ เห็นไอ้กล่องทั้งหลายนั่นแล้วไม่วางใจคนตรงหน้า...

“ไม่ครับ นอนกับพี่สิ มามะ”

“....ไม่ทำอะไรฝุ่นนะ”

“ไม่ครับ” ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะหน้าเหวอเพราะประโยคต่อไป “ไม่รับปากว่าจะไม่ทำอะไรครับ แฟนนอนข้างๆแต่ทำอะไรไม่ได้นี่ใจร้ายไปหน่อยนะ”

“...............”

สุดท้ายก็ต้องปีนขึ้นเตียงด้วยความจำยอมครับ พอใกล้จะเคลิ้มหลับ ก็รู้สึกว่ามีอะไรยุ่มย่ามกับร่างกายตัวเอง พอลืมตาขึ้นก็เห็นคนตัวโตกว่าคร่อมอยู่...

จุ๊บ

“อื้อ พี่อาร์ตฝุ่นง่วง” เอียงหน้าหนีสัมผัสนุ่มหยุ่น กลายเป็นว่าเปิดทางให้อีกคนซุกไซ้มากกว่าเดิม

ลมหายใจร้อนที่รดต้นคอ
“อ๊ะ ไม่เอา”

ริมฝีปากที่ขบเม้นลงมา ฝ่ามือหยาบที่สอดเข้ามาบีบคลึงใต้เสื้อนอน
“พี่...อาร์ต ไม่เอา อื้ออ”

ไหนจะ...สัมผัสชื้นบริเวณใบหู
“อ๊ะ อย่า..ตรงนั้นมัน อื้อออ”

“พี่อาร์ต หยุ.. อื้อ!”

เสียงผมขาดหายเมื่อคนด้านบนก้มลงมาปิดปากผมด้วยริมฝีปาก

“พะ...”

“พี่อะ....”

“งื้อออ พอแล้วววว”

ผมยกมือขึ้นกันปากตัวเอง เมื่อพี่อาร์ตมันเล่นก้มมาจุ๊บทุกครั้งที่ผมจะพูด! ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้ผมหน้าแดงแค่ไหนแล้ว ดูจากรอยยิ้มของคนขี้แกล้งด้านบนก็รู้ว่ามันสนุกอยู่!

จุ๊บ
“อ๊ะ...”

ถึงจะมีฝ่ามือกั้น พี่มันก็ยังอุตส่าก้มลงมาจุ๊บหลังมือผม ก่อนเม้มเบาๆ

“...น่ารัก” เสียงคนด้านบนพึมพำออกมา ก่อนที่จะจับมือผมแยก มือข้างที่ว่างยกมาคลึงริมฝีปากผมเบาๆ “พี่จูบได้ไหมครับ”

“เรื่อง...เรื่องแบบนี้ใครเขาขอกัน....”

จบประโยค คนด้านบนก็ประทับริมฝีปากลงมาทันที จากสัมผัสเบาๆ กลายเป็นขบเม้ม ดูดดึง... ก่อนจะรุนแรงขึ้นเมื่อลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในโพรงปาก...

“อื้ออ” ครางประท้วงเมื่อรู้สึกหายใจไม่ทัน ผมหอบน้อยๆหลังจากคนพี่ผละออก ก่อนจะกดปากลงมาอีกครั้ง และอีกครั้ง

รอยยิ้ม แววตา และสัมผัสจากมือพี่มันทำให้ผมรู้สึกร้อนวูบทั้งตัว ร่างกายที่แนบชิดกันทำให้รับรู้ถึงความต้องการของอีกฝ่าย มือใหญ่ยกปาดหยาดเหงื่อบนใบหน้าผม กดจูบหนักๆลงบนหน้าผาก ก่อนจมูกพี่อาร์ตจะคลอเคลียปลายจมูกผม

“พี่รักสีฝุ่นนะครับ”

เสียงแหบพร่าจะกระซิบลงข้างใบหู จูบหน้าผากอีกครั้งก่อนคนตัวโตด้านบนจะผละออกจากตัวผม และเดินออกจากห้องไป

ห่ะ....

เดี๋ยว!

ไอ้หมอมึง ! !
.
.
.
.
ค้าง.....

Tbc.


———————————————————————————————————————

อื้อ เค้าเขิน  :-[ /ปิดหน้าวิ่งหนี❤
ตอนนี้ไม่มีแพนกล้องค่ะ ตอนนี้ยังไม่มี๊
เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ

หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「14」22|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-09-2017 16:45:15
พี่หมออาร์ตมาทำน้องฝุ่นค้างได้ยังไงงงงงงง :ling1: :ling1: :ling1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「14」22|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Thanaphon ที่ 22-09-2017 18:53:45
 :-[ :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「14」22|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 22-09-2017 19:16:46
สงสารหมอ 555555
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「14」22|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: loleiei ที่ 22-09-2017 19:27:27
 :z1: :z1:
วรั๊ยๆ ฝุ่นโดนทำให้ค้างและจากไปแหละ :z1: :z1:
พี่หมอก็แกล้งน้องแล้วตัวเองก็ไปสานต่อเอาเอง :-[ :-[
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「14」22|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 22-09-2017 19:41:36
เป็นอะไรที่ดีเยียวยาหัวใจของเรามาก
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「14」22|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 22-09-2017 22:55:26
อ้าววววว.... พี่หมอหมา... หลอกให้อยากแล้วจากไป
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「14」22|09|60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 22-09-2017 23:36:07
 :a5: ค้าง.....
ใจร้ายกว่าแบนกล้องก็คือการค้างแบบนี้แหละค่ะ...  :ling1:  :ling1:  :ling1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「15」24|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 24-09-2017 21:58:06
• 15 •


   “ฝุ่นตื่นได้แล้วครับ”
นิ่ง...

“ฝุ่นเช้าแล้วครับ”
ยังคงนิ่ง....

“พี่รู้นะว่าเราตื่นแล้ว ถ้ายังไม่ลุกพี่จะอุ้มนะ”
ผมขยับตัว ม้วนผ้าห่มพันตัวเองเป็นก้อนและนิ่ง... ได้ยินเสียงคนหน้าห้องถอนหายใจออกมาเบาๆพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามา

“เอ้า ฮึ๊บ!”

“เฮ้ย!ปล่อยฝุ่น! !” ผมโวยวายทันทีที่ตัวลอยขึ้นจากที่นอน พี่มันช้อนตัวผมขึ้นทั้งๆที่ผมยังอยู่ในผ้าห่ม อุ้มไหวได้ไงวะ น้ำหนักผมไม่ใช่เบาๆนะ!

 “งอนอะไรพี่ครับตัวเล็ก” ผมเบือนหน้าหนีพี่มัน

ไม่ได้งอน! โกรธครับ! ไม่อยากมองหน้า! ก็เมื่อคืนหลังจากที่พี่อาร์ต...เอ่อ นั่นแหละ! หลังจากพี่มันจับฟัดผมจนพอใจแล้ว ไอ้คนแก่หื่นกามที่อารมณ์ขึ้นไวแล้วนั่นมันก็ลุกพรวดออกจากห้องทันที โอเค! ผมยอมรับว่ามีอารมณ์ร่วมกับพี่มันบ้าง! เจอรุกแบบนั้นใครไม่รู้สึกอะไรก็บ้าแล้ว... แต่ที่โกรธคือมันปล่อยผมให้ค้างอยู่อย่างนั้นไง!  (Mi: อ้าวลูก ไม่กลัวพี่เขาปล้ำหรอ---)  หลังจากพี่มันออกไป ผมที่พอสงบอารมณ์ตัวเองได้แล้วก็ลุกไปล็อกห้องทันที ไม่ตองมานอนด้วยกันเลย! !

“ใครงอนพี่กัน! ปล่อยฝุ่นด้วย!” แวดเสียงใส่ พยายามดิ้นให้หล่นแต่ไม่เป็นผล

“ก็ฝุ่นไง งอนที่พี่ไม่ทำต่อหรือไง”

“ใครงอน!”

“โอเค ไม่งอนก็ไม่งอนครับ”

“ปล่อยฝุ่นเดี๋ย--- โอ๊ย ปล่อยทำไม!” มันทิ้ง! พี่มันปล่อยผมทิ้งลงกับพื้นข้างเตียงครับทุกคน! ผมผลุดออกจากผ้าห่มแล้วลุกนั่งจ้องคนที่ยืนอยู่เขม็ง

“ก็ฝุ่นบอกให้พี่ปล่อยนี่ครับ” พี่อาร์ตยิ้มเจ้าเล่ห์ ย่อตัวนั่งยองๆตรงหน้าผม

หมั่นไส้! เตะผ่าหมากแม่ง!
ไวเท่าความคิด ผมก็ยกขาขึ้นถีบทันที แต่เจ้าตัวดันรู้ทัน จับขาผมแล้วลากเข้าหาตัว

แล้วทำอิท่าไหนผมถึงมาอยู่ใต้ร่างพี่มันได้ละครับ....

“ไม่เล่นแรงสิครับ” พี่อาร์ตยิ้มแล้วก้มหอมแก้มผมแรงๆ ผิดกับผมที่หน้าบึ้งไปแล้ว

“คุยกับพี่หน่อยสิครับ”

ผมยังนิ่ง รออีกคนพูดต่อ

“เมื่อคืนพี่ขอโทษครับที่ปล่อยเราไว้แบบนั้น พี่กลัวคุมตัวเองไม่ได้ กลัว...ว่าฝุ่นจะไม่โอเคครับ” มือใหญ่ยกลูบหัวผมไปมา

“..........”

“อ่า...พี่ขอโทษครับ” พี่อาร์ตยิ้มเจื่อนๆ  ก่อนทำท่าจะลุกขึ้นแต่ผมคว้าคอเสื้อบนด้านบนไว้ “ฝุ่น? เฮ้---”

จุ๊บ

และจุ๊บปากพี่มันเบาๆไปที

“....คิดเองเออเองตลอด” ว่าแค่นั้น ผลักคนยังไม่ได้สติออกจากตัวก่อนลุกขึ้นยืน หมายจะเดินออกจากห้อง

หมับ! ฟุ่บ!

“พี่อาร์... !!” แต่ช้ากว่าพี่มัน...ที่พุ่งหาและอุ้มตัวผมขึ้น โยนลงเตียง ก่อนจูบหนักๆจะกดลงมา

“อย่ามาทำตัวน่ารักครับฝุ่น พี่ทนไม่ได้แล้วฝุ่นจะแย่เอง” กระซิบติดริมฝีปาก เสียงบดฟันที่ทำให้รู้ว่าคนพี่ระงับอารมณ์ตัวเองอยู่

ผมยกยิ้ม

“ฝุ่นก็ไม่ได้ให้ทนนี่ครับ”  เอื้อมกอดคอคนด้านบนให้โน้มตัวลงมา ออกแรงจับพี่มันพลิกให้อยู่ใต้ผม ก้มกดจูบเบาๆที่มุมปาก รู้สึกถึงส่วนกลางตัวที่กำลังขยาย

ผมแสยะยิ้มให้คนตรงหน้า “แต่ไม่ใช่ตอนนี้ครับ”

“สีฝุ่น! !”

“ฝุ่นหิวแล้ว มีอะไรกินครับเช้านี้”

ผมเอ่ยถามด้วยใบหน้าสดใจ รีบลุกจากตัวพี่พี่มันแล้ววิ่งออกจากห้องนอน ได้ยินเสียงพี่มันสบถออกมาแว่วๆ

หึหึ


หลังจากที่ผมลงมาข้างล่าง ไม่กี่นาทีต่อมาคุณหมอหมาก็เดินลงมาตาม พี่มันหยุดมองผมที่นั่งกินขนมปังอยู่หน้าทีวี ก่อนเดินมานั่งลงข้างๆผม และนั่งจ้องเขม็ง ผมทำเป็นไม่สนใจสายตาพี่มัน ทั้งที่ใจระแวงว่าพี่มันจะเข้ามาทำอะไรไหม แต่พี่มันก็แค่มองจนผมกินหมด เมื่อเห็นว่าพี่มันไม่เข้ามาทำอะไรก็ลุกขึ้นและเดินเข้าห้องน้ำไป

แกรก

“หือ?” ผมหันมองประตูห้องน้ำ แต่มันก็ไม่มีอะไรผิดปกติจึงหันไปจัดการแปรงฟันต่อ

แกรก ปัง!

“เย้ย! พี่อาร์ต!ไม่เอา ปล่อย!!” จังหวะที่หมุนตัวจะออกจากห้องน้ำ จู่ๆคนร่วมห้องก็พุ่งเข้ามายกผมขึ้นแล้วเอาไปวางบนเคาน์เตอร์ล้างมือ ก่อนขังผมไว้ในอ้อมแขน และแทรกตัวที่หว่างขา

“เอ่อ... พี่อาร์ต”

“ว่าไงครับ”

“ปล่อยฝุ่นนะ?”

“ไม่ครับ พี่อุตส่าห์อดทนไม่ทำอะไรเรา แต่เรามาอ่อยพี่คืออะไรครับ” พี่มันว่า ปลายจมูกโด่งคลอเคลียต้นคอผม

แอะ ใครอ่อย?

“ฝุ่นไม่ได้--- อุ๊บ” ริมฝีปากถูกปิด ลิ้นร้อนของอีกฝ่ายถูกส่งเข้ามาให้โพรงปาก ตวัดเกี่ยวกับลิ้นผม กดคลึงย้ำๆจนเกิดเป็นเสียงก้องในห้องน้ำแคบ ผมได้แต่ครางประท้วงในลำคอ มือหนาของพี่มันสอดเข้ามาในชายเสื้อ ลูบคลำและนวดเฟ้นผ่านหน้าท้องขึ้นมาถึงเอว

“อื้อ!” ผมส่งเสียงประท้วงและดิ้นขัดขืน แต่พี่มันไม่สนใจกดจูบซ้ำๆอยู่อย่างนั้นจนพอใจถึงผละออกไปให้ผมได้มีโอกาสหอบเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนเสียงทุ้มติดแหบพร่าจะกระซิบขึ้นข้างใบหู

“พี่จะทำโทษเด็กดื้อครับ”

—————————————————


“พี่...อาร์ต” เสียงผมสั่น เมื่อจูบหนักๆของพี่มันกดลงที่ลำคอ มือหนาสอดเข้าใต้ชายเสื้อลูบคลำและบีบเฟ้นตามลำตัว เสื้อที่ผมใส่ถูกเลิกขึ้นสูง พี่อาร์ตไล่จูบตั้งแต่ซอกคอลงไปถึงหน้าท้อง ละเลียดขมเม้มทุกส่วนที่ลากผ่านจนเกิดรอยแดง และวนกลับขึ้นมาที่หน้าอก.. เสียงครางดังขึ้นเมื่อยอดอกถูกคลึงจากมือใหญ่ ก่อนจะแทนที่ด้วยริมฝีปากของอีกคน

สัมผัสเปียกชื้นบริเวณอก และแรงดูดดึงทำให้ผมได้แต่ส่งเสียงคราง อารมณ์ที่เตลิดทำให้ภายในหัวว่างเปล่า รู้สึกปวดหนึบที่ช่วงร่าง มือทั้งสองข้างที่ว่างของพี่อาร์ตนวดเฟ้นช่วงสะโพกและออกแรงขยำ

พี่อาร์ตผละจากอก แล้วเลียริมฝีปากตัวเอง

“พี่อาร์ต....”

“ว่าไงครับ หืม” เสียงแหบพร่าดังขึ้นและเงียบไป เมื่อเขากดจูบลงมาที่ริมฝีปากผมซ้ำๆ ก่อนมือหน้าจะกระตุกเอาบ็อกเซอร์ออกจากตัว  ความเย็นโล่งจากด้วยล่างทำให้ผมยกขาหนีบเข้าหากันโดยอัตโนมัติ แต่ก็ถูกมือของอีกคนดันเข่าทั้งสองไว้ ผมจึงได้แต่ส่งมือลงไปปิดส่วนล่างที่โป่งพองไว้ด้วยความเขินอาย

“พี่อาร์ต.. ไม่เอานะ” โทนเสียงแปลกๆของตัวเองดังออกมาแผ่วเบา ผมก้มส่ายหน้าลงกับไหล่กว้างที่ซุกอยู่ แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะออกมาเบาๆให้ได้ยิน

“พี่บอกแล้วไงว่าจะทำโทษเด็กดื้อครับ” มือหนาจับยกมือผมที่ปิดส่วนนั้นออก ไล่กดจูบช่วงหน้าท้อง และไล่ลงมาที่ท้องน้อย ไอความร้อนจากลมหายใจที่กระทบผิวทำให้ผมไม่มีแรงที่จะขัดขืน ภาพการกระทำของคนตัวโตตรงหน้าทำให้ผมหลับแน่น และรู้ว่าผมคิดผิดเมื่อหลับตาแล้วสัมผัสทุกอย่างมันชัดเจนขึ้น

“อึก...” ผมสะดุ้งโหยงเมื่อรู้สึกถึงความอุ่นชื้นที่...ครอบลงมาที่...ส่วนนั้น

“พี่อาร์ต.... อึก พี่อาร์ต” ได้แต่เรียกชื่อคนพี่ซ้ำๆเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับ สัมผัสแปลกใหม่ที่ได้รับทำให้ไม่มีแรงแม้แต่จะขัดขืนทำได้แต่เอนอ่อนไปตามสัมผัสที่ได้รับ  เสียงครางแสนน่าอายดังก้องห้องน้ำแคบเมื่ออีกฝ่ายขยับมือเร็วขึ้น

“อ๊ะ” ผมร้องเมื่อพี่อาร์ตหยุดการกระทำนั้น ใบหน้าผมเห่อร้อนขึ้นเมื่อคนตัวโตดึงกางเกงตัวเองลงก่อนจะรวบส่วนร้อนผ่าวเข้าไว้ด้วยกัน ผมซุกหน้าลงกับไหล่พี่มัน ไม่กล้าที่จะก้มมองหรือสบตาอีกฝ่าย

จูบหนักๆกดลงที่ขมับชื้น

“พร้อมกันนะครับ”

ได้แต่ส่งเสียงอื้ออึงในคอเมื่อมือใหญ่เริ่มรูดรั้งส่วนล่าง เผลอกัดไหล่กว้างที่ซุกอยู่ด้วยอารมณ์ที่เพิ่มสูงขึ้น เสียงครางที่ดังขึ้นเมื่อมือใหญ่เพิ่มความเร็วในการรูดรั้ง
ก่อนที่จะปลดปล่อยออกมาพร้อมๆกัน...

ผมหอบออกมาอย่างหนัก กอดคอพี่อาร์ตไว้ด้วยไม่มีแรงที่จะลุกยืน มือหนาโอบขยับให้ผมเผชิญหน้า คนตรงหน้ายกยิ้มให้ก่อนจุมพิตลงกลางหน้าผากชื้นเหงื่อ

“พี่รักฝุ่นนะครับ”

เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูทำให้ผมหน้าร้อน กอดซุกคนตัวโตแน่นเพราะไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองอีกฝ่าย ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอดังออกมาเบาๆ พร้อมๆกับฝ่ามือใหญ่ที่ลูบหลังผมราวกลับปลอบเด็กน้อย


———————————————————————————————————————

หลังจากที่พี่อาร์ต ทำโทษ เสร็จเรียบร้อย พี่มันก็จัดการเนื้อตัวเราทั้งคู่ และอุ้มผมที่ยังไม่มีแรงเดินออกจากห้องน้ำ ผมยังคงซุกอยู่ที่ไหล่ของพี่มัน ใครมันจะกล้ามองหน้าวะ!


“ไงมึง เสียงลั่นห้องเชียวนะ”

ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงบุคคลที่สามในห้อง กอดรัดคอคนอุ้มอยู่แน่นกว่าเดิม

“...ไอ้ห่าติณณ์!” พี่อาร์ตตวาดใส่คนๆนั้น ก่อนรีบเดินพาผมขึ้นมาห้องนอนเพราะสภาพผมตอนนี้มัน... มีแค่เสื้อของพี่อาร์ตตัวเดียว...

“แต่งตัวก่อนนะครับ พี่อยู่หน้าห้องถ้าเสร็จแล้วก็เรียกนะ” พี่มันวางผมลงกับเตียง หยิบเสื้อผ้าในตู้ส่งให้ผม และคว้าเสื้อของตัวเองไปใส่นอกห้อง ผมถอดเสื้อยืดที่ใส่อยู่ออก ก่อนเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ที่พี่มันหยิบให้

“ทำไมมันตัวใหญ่จังวะ...สูงห่างกันไม่กี่เซนต์เอง” ผมบ่น เสื้อบนตัวใหญ่กว่าที่ผมใส่ปกติประมาณ2ไซส์ได้ โชคดีที่กางเกงเป็นเอวยืดเลยไม่มีปัญหา

“พี่อาร์ต...” เงาหน้าห้องขยับเมื่อได้ยินเสียงเรียก พี่อาร์ตเข้ามาตั้งท่าจะช้อนผมอุ้มขึ้นแต่ผมเบรกไว้ก่อน เพราะได้นั่งพักค่อยดีขึ้น ...กิจกรรมก่อนหน้านี้ทำให้เรี่ยวแรงผมหายไปพอสมควร

“ใคร...ครับ” ผมถามขึ้น

“เจ้าของห้องนี้ ที่พี่บอกเมื่อคืนไงครับ”

“อ๋อ” ผมลากเสียง เจ้าของกองถุงยางนั่นสินะ

พี่อาร์ตจูงผมให้ลงไปข้างล่าง ซึ่งมีคุณเจ้าของห้องยืนดักรออยู่ที่ขั้นสุดท้าย รอยยิ้มขำๆบนใบหน้าเขาทำให้ผมได้แต่ก้มหน้ามองพื้นเพราะไม่รู้ว่าเขาได้ยิน...มากแค่ไหน

พี่อาร์ตพาผมไปนั่งที่โซฟาและทิ้งตัวนั่งข้างๆแล้วโอบผมหาตัว เจ้าของห้องนั่งลงอีกฝั่ง กลายเป็นว่าผมอยู่ระหว่างกลางทั้งสอง เงาสะท้อนจากจอโทรทัศน์ทำให้ผมรู้สึกว่า... นี่กูเตี้ยรึไอ้พวกนี้สูงไปครับ ทำไมนั่งเป็นหลุมแบบนี้!

“ไม่คิดจะแนะนำน้องให้กูรู้จักหรอ”

“ไม่”

“โหยใจร้ายว่ะ พี่ชื่อติณณ์นะครับเป็นเพื่อนไอ้หมอหมานี่มัน ยินดีที่ได้เจอครับ” ประโยคแรกพี่เขาหันไปพูดกับพี่อาร์ตด้วยน้ำเสียงงอนๆ...ก่อนหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงร่าเริง

“เอ่อ..สีฝ--- เค็ม!” ผมกำลังจะตอบ แต่มือของคนที่โอบผมก็ปาดเข้าปากผมทันที นี่แกล้งกันชัดๆ!

“นี่สีฝุ่นแฟนกู” พี่มันพูดแล้วโอบผมเข้าไปชิดตัวกว่าเดิม ชิดขนาดนี้ให้ผมสิงร่างเลยไหมครับพี่!

“สีฝุ่น? อ๋อ เด็กคนนั้นสินะ แหมๆ แอบรักน้องมันมาตั้งนาน ได้แล้วสินะ เหี้ย! ตบทำห่าไร!” พี่ติณณ์ว่าล้อๆ ก่อนโดนพี่อาร์ตยกมือตบหัว

“พูดมาก นี่มาทำไม หรือว่าเมียทิ้ง?” พี่มันถาม สภาพตอนนี้ผมเกยพี่มันไปครึ่งตัวแล้วครับ...

“เออ กูโดนเมียทิ้ง” พี่ติณณ์ทำหน้าเศร้า

“เฮ้ย เกิดไรกั---”

“ทิ้งกูให้ฟังเสียงมึงเอากับน้องแล้วหนีลงไปข้างล่าง เนี่ยมึงดูดิกูยังไม่ลงเลย” ว่าเสร็จพี่ติณณ์ก็ชี้ลงเป้ากางเกง ก่อนผมจะได้ยินเสียงโหยหวนดังตามมาเพราะพี่อาร์ตยกเท้าถีบลงไปกลางกล่องดวงใจอีกคนเต็มๆ ยังใช้งานได้อยู่ไหม...

“ไอ้...ห่...า” ผมมองพี่ติณณ์ที่ลงไปนอนกุมเป้าอยู่กับพื้น ผิดกับพี่อาร์ตที่นั่งแสยะยิ้มแบบผู้ชนะ

“เอ่อ....”

“ข้าวมาแล้วๆ” ไม่ทันที่จะได้ถามอาการคนโดนทำร้าย เสียงเปิดประตูห้องก็ดังแทรกเข้ามาพร้อมกับเสียงใสๆ พอผมหันไปดูก็เจอกับ...ผู้ชาย? ผู้ชายที่ตัวเล็กและบางกว่าผมหน่อย หน้าตาหวานปนหล่อ ถือกล่องข้าวหลายกล่องวางบนโต๊ะ ก่อนจะหันมามองผมที่จ้องอยู่ก่อนแล้ว พอสบตากัน อีกฝ่ายก็เบือนหน้าหนีพร้อมหน้าที่ขึ้นสีนิดๆ

ใครวะ น่ารักเหี้ย ! ! ! ! ! ! !

“อ้าวอาร์ต เสร็จกันแล้วหรอ พี่ซื้อข้าวมาฝากนะมากินด้วยกันๆ” คนน่ารักยิ้มหวานให้ กวักมือเรียกพวกผมไปกินข้าวด้วยกัน กลิ่นหอมของข้าวทำให้น้ำย่อยให้กระเพาะผมทำงาน ทำให้คนในห้องหัวเราะออกมา ยกเว้นก็อีกคน..

“แล้วติณณ์ล่ะอาร์ต?” ถามหาอีกคนที่ยังลงไปกองกับพื้นอยู่ พอพี่อาร์ตชี้ตำแหน่งและเหตุผลที่ทำให้ไปอยู่พื้น พี่คนน่ารักที่ผมยังไม่รู้ชื่อก็เดินไปหาพี่ติณณ์ที่ทำแววตาอ้อนวอนส่งมาให้

และ

ซ้ำเติมโดยการ บีบ ส่วนนั้นอีกครั้ง...

เสียงโหยหวนดังลั่นห้อง....


หลังจากกินข้าวที่พี่ข้าว(รู้ชื่อแล้ว)ซื้อมาให้เสร็จ พี่เขาก็บอกว่าตอนแรกตั้งใจจะมาชวนไปเที่ยวเพราะหยุดตรงกันพอดี แต่กลัวผมไปไม่ไหวเลยจะเปลี่ยนแผน เดือนร้อนให้ผมหาข้อแก้ตัวว่าไม่ได้ทำอะไรกันอย่างที่พี่ๆเขาคิด ไอ้คนทำแม่งก็ไม่ช่วยแก้ตัวไง! เอาแต่นั่งหัวเราะอยู่นั่นแหละ ฮึ่ย สุดท้ายก็สรุปกันว่าจะอยู่ห้องไม่ไปไหนเพราะตอนเย็นแม่ๆพวกผมให้กลับบ้าน พี่อาร์ตกับพี่ติณณ์เลยลงไปซื้อของกินเล่นตามคำขอกึ่งบังคับของพี่ข้าว
พอพี่ๆทั้งสองออกไปแล้ว พี่ข้าวก็เข้ามาประชิดและถกเสื้อผมขึ้นทันที!

“อาร์ตรุนแรงจัง” มือเรียวของพี่ข้าวไล้ตามตัวผม ซึ่งผมคิดว่ามันคงมีแต่รอยแดง!

“เอ่อ...พี่ข้าวครับ” ผมรั้งมือพี่ข้าวเอาชายเสื้อลง เจ้าตัวเงยหน้ามองผมด้วยแววตาที่บอกว่าพี่ข้าวกำลังสนุก!

“ดูสิ มีรอยจูบตรงนี้ ตรงนี้ อ๊ะ ตรงนี้มีรอยกัดด้วย”

เหมือนแกล้งกัน เมื่อคนตัวเล็กปีนมาคร่อมขาผมและลูบตามเนื้อตัวผมอีกครั้ง จนตอนนี้นิ้วพี่เขากรีดอยู่ใกล้ยอด
อก... จะผลักก็ไม่กล้าไง กลัวพี่เขาเจ็บบวกกับภาพพี่ข้าวบีบไข่มันยังติดตา

“ยังไม่โดนทำใช่ไหม” ผมพยักหน้า ก่อนพี่ข้าวจะเขามากระซิบข้างหู“ครั้งแรกมันเจ็บมากนะรู้ไหม ยิ่งถ้าโด---”

ปัง!

“พี่ข้าว! จะทำอะไรน้องมันน่ะ!” เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมร่างของพี่ติณณ์ที่วิ่งเข้ามากระชากพี่ข้าวออกจากตัวผมอย่างรวดเร็ว ส่วนคนตัวเล็กหัวเราะคิกคัก

“เกิดอะไรขึ้น?” พี่อาร์ตที่ตามมาทีหลังเอ่ยถามพี่ติณณ์ที่ยืนทำหน้ายุ่ง

“เมียกูแกล้งฝุ่น มึงพาน้องมันออกไปซื้อของสักชั่วโมงนะ กูขอจัดการคนก่อน” พี่ติณณ์ว่าเสียงเข้ม ก่อนไล่พวกผมออกจากห้อง พอพ้นห้องได้ไม่เท่าไรพี่อาร์ตก็ซักผมทันที มีหรอที่จะไม่ตอบได้...

หนึ่งชั่วโมงไม่ขาดไม่เกินที่พี่อาร์ตพาผมเดินเล่นอยู่ในห้าง ก่อนจะลากกลับห้องเพื่อมาเจอกับสภาพของพี่ข้าวที่ยิ้มแป้นส่วนพี่ติณณ์ลงไปกองกับพื้นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือรอยตามคอพี่ข้าว โอเครู้เรื่องเลยครับ....

Tbc.


———————————————————————————————————————

มาแล้วครับผมมม วันนี้ไปสอบมาจะตายเอา ไปนั่งหลับในห้องสอบ TwT
หลังจากกันค้างจากตอนก่อน...บทลงโทษของพี่หมอหาวาร์ปตามแท็กเลยนะคะ ในทวิตเรานั่นแหละ //บอกเลยว่าเสียงพลังงานกับบทนี้มากกกกกกกกกก
ให้พี่อาร์ตแกล้งคนเดียวฝุ่นไม่พอ เอาคู่เพื่อนพี่อาร์ตมาเป็นแขกรับเชิญด้วย(ออกช่วงตอน8) คู่นี้ขี้แกล้งทั้งน้องตินพี่ข้าวเลยคับ หึๆ

เจอกันตอนหน้าเนอะ /w\

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「15」24|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Sky ที่ 24-09-2017 23:10:55
 :z1:  :ling1: :ling1: เขินแทนสีฝุ่น
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「15」24|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-09-2017 23:37:21
อูยยยย........ :z1: :pighaun: :haun4:

พี่อาร์ต สีฝุ่น  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

พี่ติณณ์ พี่ข้าว ตลกดี  :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「15」24|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-09-2017 02:14:55
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「15」24|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 25-09-2017 06:02:29
จัดไปๆ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「15」24|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 25-09-2017 06:30:45
โอ้ย... พี่ติณณ์ถึงกับหมดแรง
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「15」24|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 25-09-2017 07:40:08
หูยย พี่อาร์ต ร้อนแรงจริง ๆ เขินนน :-[
ชอบพี่ข้าวอ่ะ เคะราชินีชัด ๆ แอบสงสารพี่ติณณ์
แต่ก็นะ พี่ติณณ์อาจจะเป็นมาโซฯ ดูชอบความรุนแรง 555
ขอบคุณคนเขียนมากค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「15」24|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-09-2017 08:48:12
:hao6:
ว่าแต่พี่ติณณ์จัดการพี่ข้าวแบบไหนทำไมลงไปกองกับพื้นล่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「15」24|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 25-09-2017 11:02:09
 :hao6:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「15」24|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 25-09-2017 13:08:28
ดีใจกับหมอหมาด้วยในที่สุดก็ได้กินฝุ่น
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「15」24|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 25-09-2017 23:27:42
 :laugh:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「16」27|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 27-09-2017 21:20:52
• 16 •


“ตายแล้ว! อาร์ตเอาลูกชายแม่ไปทำอะไรมาครับ!” แม่ปรี่เข้ามาหาผมทันทีที่เห็นผมเดินเข้ามาในตัวบ้าน ก่อนจับผมหันซ้ายขวาเมื่อเห็นรอยแดงที่ลำคอ ผมหันไปมองคนที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เขม็ง ปล่อยให้แม่ซักไซ้ผมอยู่ได้

ลืมได้ไงวะ! นี่กูไปซื้อของด้วยสภาพนี้หรอ โอ๊ย ยังว่าทำไมสาวมองเยอะจัง ก็นึกว่ามองเพราะหล่อ ที่ไหนได้.... แม่มเอ๊ย

“นี่พี่ต้องหาสินสอดมาเตรียมให้ศิลป์แล้วหรอ? ลูกชายพี่นี่จริงเลยๆ น้องเขามีพ่อมีแม่นะไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้” ป้าเล็กว่าเสียงดุ แต่ปากที่ยิ้มกว้างนั่นมันขัดกันมากเลยครับ!

“โถ่แม่ครับ ผมแค่หมั่นเขี้ยวน้องมากไปหน่อยเอง ไม่ได้ทำอะไรน้องสักหน่อย จริงๆนะครับ”

หมั่นเขี้ยวบ้านพี่มันดิ! ผมแยกเขี้ยวใส่พี่อาร์ตแล้วหันไปอ้อนแม่แทน

“ไม่ได้ๆ อาร์ตอย่าทำอะไรน้องนะน้องยังเด็ก...เอ๊ะ ฝุ่นไม่เด็กแล้วนี่ เอาไปเลยครับแม่ให้”

“แม่อ้ะ!”

หลังจากกินข้าวเย็นกันเสร็จ เพราะป้าเล็กกับแอ๋มมาบ้าน พี่อาร์ตเลยต้องระเห็จกลับไปนอนบ้านด้วย ไม่วายทำหน้าหมาหงอยใส่ผมแต่ก็ขัดแม่ตัวเองไม่ได้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดีสำหรับผมมาก! เจอพี่มันมาเกาะแกะลวนลามทุกวันจนจะช้ำอยู่แล้ว!
———————————————————————————————————————

เสียงหยดน้ำกระทบหลังคาและเสียงฟ้าร้องดังลั่น... วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฝนตกลงมาตั้งแต่เที่ยงถึงเย็น ตอนเช้าแดดนี่จ้าจนแสบ ไหงพอเที่ยงแล้วความมืดมาแทรกได้วะ ผมเลื่อนหน้าเฟสบุ๊คเล่นมีเจอแต่ข่าวน้ำรอระบายไม่ว่าจะเป็นถนนเส้นไหนในตัวเมือง ซึ่งก็รวมถึงหน้าบ้านผมด้วย...

“เฮ้อ~” ผมซุกหน้าลงกับโต๊ะ มองหยาดฝนที่ตกลงมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสลับกับผู้คนบางส่วนที่ยังติดฝนอยู่ในร้าน

“น้องฝุ่นเป็นอะไรคะ?” น้าหยงที่ว่างงานพอๆกับผมเอ่ยถาม ไม่สิ...ตอนนี้ก็ว่างงานกันทุกคนแหละถึงมานั่งกองกันที่โต๊ะเดียวกับได้

“เปล่าครับ ฝุ่นเบื่อ ฝุ่นง่วงอากาศมันน่านอน” ว่าแล้วก็เอาแก้มไถโต๊ะต่อ ได้ยินเสียงน้าหยงหัวเราะ จะวิ่งเข้าบ้านตอนนี้ถึงมีร่มก็คงเปียกยันกางเกงใน สู้รอมันหยุดดีกว่า

“งั้นพี่ฝุ่นมาเล่นนี่กับผมไหม” ไอ้ตูน เด็กในร้านพูดขึ้นแล้ววิ่งไปเอา นี่ ที่มันว่าจากหลังร้าน โห มาเป็นเป้เลยวุ้ย

“เกมเศรษฐี?”

“ไอ้นี่ก็มีนะพี่” มันล้วงเป้แล้วชูกล่องอูโน่ขึ้น “บิงโกก็มี”
“ไม่ๆ แก้วจะเล่นเกมเศรษฐี เล่นนะพี่ฝุ่น นะๆ” แก้ว เด็กอีกคนในร้านอีกคนเอ่ย(ร้านผมมีน้องๆมหาลัยมาทำงานพิเศษ2คนครับ ถ้าเสาร์อาทิตย์จะมีเพิ่มอีกคน) แล้วกระตุกแขนผมรัวๆ

“ได้ครับ งั้นเล่นนี้แหละ” ผมว่า ไหนๆคนก็ไม่น่าจะเข้าร้านตอนฝนตกแรงแบบนี้ คลายเครียดนิดๆหน่อยๆก็ไม่น่าเป็นไร...มั้ง

“ว่าแต่” ผมเงยหน้ามองตูนที่ยืนจัดของ “มึงอยู่ป.ไหนวะถึงพกของเล่นไปโรงเรียนเนี่ย”

“พี่ฝุ่นอ้ะ!”


พอได้ของเล่นกัน คนเล่นจะมีผม ตูน และแก้ว ส่วนน้าหยงไม่เล่นพวกผมเลยยัดเยียดบทนายธนาคารให้ ไม่รู้ว่าผมดวงดีหรือว่าไง โฉนดที่ได้มีแต่ค่าเช่าสูงๆจนไอ้ตูนหน้าหงิกเป็นตูด(มันได้ที่เลขหลักเดียวครับ...)

“อะไรวะ! เสียให้พี่ฝุ่นอีกและ” ไอ้ตูนโวยวายหลังจากทอยเต๋ามาตกที่ของผมเป็นรอบที่สาม

“เอามาเลย อย่าช้า” ผมยกยิ้ม มองแบงค์ห้าพันใบสุดทายในมือมันด้วยหน้าตากวนตีน

“แม่ม ทอนผมด้วย!”

เกมกระดานเริ่มดำเนินไปอย่างเรื่อยๆจนกระทั่งโชคผมหมด... ทั้งตกช่องคุกบ้าง ลงที่ชาวบ้านบ้าง ไหนจะเปิดการ์ดได้แต่เสียเงิน อีก เงินในมือผมเหลือน้อยนิดแล้วครับ...

“ว้ากกกก ไอ้ตูน! มึงซื้อช่องแรกดักกูใช่ไหมมม” ผมโวยวายในคนตรงข้าม ทุกรอบที่วนกลับมาผมจะเดินตกช่องแรกตลอด... ไอ้ตูนกินเงินไปเยอะแล้วครับ! นี่เล่น3คน หรือ2คนกันแน่!

“น่าๆ ทีใครทีมันสิครับพี่พี่” มันยักคิ้วกวน กระดิกนิ้วชี้เรียกเงินจากมือผม

“แม่งง ของให้มึงล้มละลาย!”

“อ๊า เสียเงินอีกแล้ววว น้าหยงคะ หนูขอขายที่~~”เสียงใสของแก้วดังขึ้น โฉลดในมือถูกเปลี่ยนเป็นเงินอีกใบ

“หมดตัวแน่แก้ว อิอิ”

“อิอิพ่อง!” ว่าแล้วแก้วก็ฝาดมือลงกลางหลังตูน ฟาดแรงกว่านี้สิแก้ว!

หลังจากพลัดกันได้พลัดกันเสียไปหลายตา ผมก็ดันทอยเต๋าได้ไปตกช่องเปิดการ์ด จังหวะที่ผมจะหยิบการ์ดใบน้อยพลิกนั้น เสียงกระดิ่งที่ประตูก็ดังขึ้นเรียกความสนใจจากพวกเรา ใครมันบ้ามาตอนฝนตกวะ...

เฮ้ย!

“พี่อาร์ต!” ผมทิ้งการ์ดในมือแล้วพุ่งไปหาคนมาใหม่ที่เปียกปอนยังกับลูกหมาตกน้ำทันที หมอหมายิ้มแหยๆให้เมื่อเห็นว่าเป็นผมที่เข้าไปหา ก่อนผมจะออกแรงลากพี่มันไปทางหลังร้าน

“มาทำไม ฝนตกหนักขนาดนี้!”

“ก็พี่เลิกงานแล้ว”

“แล้วไง ทำไมไม่รอให้ฝนหยุดก่อน ขึ้นมอไซต์ตอนฝนตกมันอันตรายนะ!”

“ก็...พี่อยากเจอฝุ่นนี่...” พี่มันเสียงอ่อยลงเมื่อผมทำหน้าดุใส่ จะบ้ารึไงขับรถมานตอนฝนตกหนักๆ

“ทำไมไม่รอฝนหยุดก่อน ฝนแรงอย่างนี้ทำไมถึงมา!”

“ก็....”

“เฮ้อ ไม่ก็ครับ ห่วงตัวเองหน่อยไม่ใช่ห่วงแต่ฝุ่น โอเคไหม” ผมถอนหายใจเมื่อคนตัวโตทำหน้าหงอยเป็นหมา ก่อนหันไปหยิบผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดหัวให้ ซึ่งคนตัวโตก็ให้ความร่วมมือดีมาก รึเพราะถูกดุเลยหงอย?

ผมก้มมองคนที่นั่งนิ่งให้ผมเช็ดหัวให้ คุณคิดสภาพหมาโกลเด้นตัวใหญ่ๆที่ไปวิ่งตากฝนแล้วโดนดุนะครับ ตอนนี้คุณหมอหมอสุดหล่อกำลังอยู่ในสภาพนั้นเลย ผมละมือจากการขยี้หัวมาจับแก้มชื้นของพี่มัน แล้วงัดให้มองหน้าผม

“........”

“พี่...ขอโทษครับ” พี่มันว่าแล้วก้มลงไปคืน แต่ติดที่มือผมยังประคองแก้มพี่มันอยู่เลยทำไม่ได้

“ฟังฝุ่นนะ ฝุ่นดุเพราะห่วงพี่ เก็ตนะ? ฝนตกแรงแบบนี้ยังขับมาหาอีก ถ้ารถล้มใครเจ็บตัวครับพี่หรือฝุ่น? จะมาหาฝุ่นก็ไม่ได้ว่าแต่ดูสภาพอากาศด้วยดิครับ หืม” ผมบี้แก้มทั้งสองข้างของพี่อาร์ตจนปากบู้ ถูกแก้มแรงๆด้วยความหมั่นไส้ส่วนตัว

“อื้อออ เอ้าไอแอ้วอับ” พี่มันพูดออกมาเป็นภาษาเอเลี่ยน(?) ผมเลยหยิกแก้มแรงๆไปที แต่พอจะปล่อยก็โดนมือใหญ่จับกุมไว้เหมือนเดิม

“ว่าไงครับ”

“เข้าใจแล้วครับที่รัก จุ๊บ”

และแล้วพี่มันก็เนียนดึงผมไปกอดจนผมเปียกด้วยจนได้...



“ครับแม่ ให้น้องกินยาแล้วครับ”

“ถ้าดึกๆน้องตัวร้อนก็เช็ดตัวให้น้องนะ”

หืม...เสียงใคร?

“ครับแม่ เดี๋ยวผมดูน้องให้เองแม่ไปนอนเถอะครับ ดึกแล้ว”

ผมพยุงตัวให้ลุกขึ้นนั่ง มองเห็นพี่อาร์ตยืนคุยกับแม่ที่หน้าห้อง พยายามนึกว่าตัวเองมาอยู่ในห้องได้ไง ... เมื่อเย็นหลังจากถูกพี่มันฟัดจนตัวชื้นไปด้วย เลยตัดสินใจพากันวิ่งฝ่าฝนกลับบ้าน พออาบน้ำกินข้าวกันเสร็จก็มากองกันหน้าทีวีเล่นกับไอ้สามแสบ จากนั้น...เอ่อ จำไม่ได้แฮะ

“อ้าว ตื่นแล้วหรอครับ ไหนพี่ขอวัดไข้หน่อยครับ ตัวยังอุ่นๆอยู่เลย” มือหนาแตะลงที่หน้าผาก ก่อนย้ายไปที่แก้มและคอผม

“ฝุ่น...” เหี้ย เสียงโคตรแหบ

“ฝุ่นวูบไปครับ ตัวโคตรร้อนเลยรู้ไหม ป่วยง่ายก็ไม่บอกพี่จะได้ไม่พาตากฝน”

“.......” ตอบไม่ได้ครับ ไม่มีเสียง

“ไหนๆก็ตื่นแล้วก็มากินยาครับ ไข้จะได้ลด” พี่อาร์ตว่า ก่อนยื่นยาเม็ดขาวๆพร้อมแก้วน้ำมาให้ ผมเบือนหน้าหนีทันที

“ไม่เอาไม่กิน”

“กินครับจะได้หาย” พี่มันยังพยายามยื่นเม็ดยาจ่อปากผม แต่ผมก็เม้มปากแน่น มันขนไม่ชอบ!

“ฝุ่นครับกินยา” ผมยังหันหน้าหนีอยู่อย่างนั้น ได้ยินพี่มันถอนหายใจออกมาพร้อมๆกับเม็ดยาที่ถูกดึงกลับคืน

“ฝุ่นไม่กินพี่ป้อนนะ”

หืม ป้อน? ผมขมวดคิ้วแล้วหันไปมอง มือใหญ่ของพี่อาร์ตบีบแก้มผมไว้ให้อ้าปากออก แล้วส่งเม็ดยาสีขาวเข้าปากผม...ด้วยปากพี่มัน

“อื้อออ” ผมครางประท้วง เมื่อถูกล็อกท้ายไว้ไม่ให้หนี ลิ้นร้อนของพี่มันแทรกเข้ามาดุนดันให้ผมกลืนยาลงไปอย่างเสียไม่ได้ เมื่อพี่อาร์ตเห็นว่าผมกลืนยาลงไปแล้วจึงผละออกหยิบน้ำมาป้อนผมอีครั้ง ผมงี้มองตาขวางเลยครับ

“ก็ฝุ่นดื้อไม่กินยานี่นา”

“ฮึ่ยยย” เมื่อตอบโต้ไม่ได้ ก็ทำได้แค่ไหลลงไปซุกในผ้าห่ม ไอ้พี่อาร์ตแม่งก็ขำอยู่ได้!

“ลุกมาเช็ดตัวด้วยครับ”

“ไม่เอา!”

“ฝุ่นอย่าดื้อครับ พี่ห่วงเรานะ”

เสียงทุ้มนุ่มๆนั่นดังในระยะประชิด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพี่มันก้มมาแน่ๆ เปิดไปตอนนี้ไม่วายไปชิดหน้าพี่มั-----

พรึ่บ!

“เฮ้ยยยยยยย” พี่อาร์ตดึงผ้าห่มที่พันตัวผมขึ้นรวดแล้ว แล้วโยนผ้าไปไว้ที่ปลายเตียง ก่อนช้อนตัวผมให้ลุกขึ้นนั่งตักพี่มัน

“พี่อาร์ต!”

“นั่งเฉยๆครับ พี่จะเช็ดตัวให้” พี่มันว่าเสียงเรียบ แต่มือข้างนึงล็อกตัวผมแน่น มีแต่จำยอมสินะครับทีนี้...

ผมนั่งเปลือยท่อนบน(ที่ถูกจับถอด...)พิงอกพี่มันไว้ ผ้าชื้นในมืออีกคนเช็ดตามแขนผมแล้วค่อยๆไล่ขึ้นมา จะดีมากถ้าพี่มันไม่วนรอบอกผมนานขนาดนี้...

“อ๊ะ” ผมสะดุ้งเมื่อมืออีกข้างที่มันไม่ผ้าถูกยกขึ้นมา... สะกิดยอดอกอีกข้างของผม

“เอ่อ... มือลั่นครับ แฮะๆ”

“จะเช็ดตัวก็เช็ด อย่ามาหื่น!” ผมหันไปตวาดใส่เก้าอี้จำเป็นที่ยิ้มแหยกลับมาให้ โดนดุไปก็เท่านั้นพี่มันก็ตอดนิดตอดหน่อยกับร่างกายผม ถ้านิดๆหน่อยๆจะไม่อะไรเลยครับ ไอ้แท่งๆที่อยู่ชิดหลังผมนี่มันอะไร! คนไม่มีแรงจะไปขัดขืนอะไรได้ครับ.. พอพี่อาร์ตเช็ดตัวเสร็จและลวนลามผมจนพอใจแล้วพี่มันก็ลุกขึ้นจับผมใส่เสื้อ ห่มผ้าให้ ก้มจุ๊บหน้าผากผม และวิ่งเข้าห้องน้ำทันที...

ขณะที่ผมกำลังจะเคลิ้มหลับเพราะฤทธิ์ของยานั้น

“อืม... ฝุ่นครับ”

“อ่า....”

“แบบนั้นแหละ อืมม...”

ปัง!

“เงียบ! ไอ้หมอหื่น!!”

Tbc.

———————————————————————————————————————
ย้อยกลับไปตอนที่สีฝุ่นพาอาร์ตไปหลังร้าน

ตูน – แก้วว่า... พี่ฝุ่นเนียนเลิกเล่นไหมวะ?
แก้ว – คงไม่มั้งตูน...

ทั้งสองมองหน้ากันก่อนมองการ์ดใบเล็กที่ถูกพลิกขึ้น ในนั้นมีข้อความพิมพ์ไว้ว่า ล้มละลาย.....

———————————————————————————————————————

มาต่อแล้วค่ะ ขอโทษที่มาช้าพอดีดูแคสเกมเพลิน แง~
#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「16」27|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-09-2017 00:13:30
 :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「16」27|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-09-2017 05:30:31
โห่.......พี่หมอหมาหื่นสุดๆ  :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「16」27|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 28-09-2017 07:32:55
พี่อาร์ต คนติดแฟนเอ้ย ถึงขนาดต้องฝ่าฝนมาเพื่อเห็นหน้าน้อง แหม ๆ
ย้ายข้าวของมาอยู่บ้านน้องเลยมา เอ้ะ หรือสู่ขอฝุ่นไปอยู่ด้วยจะง่ายกว่า
ฮาพี่หมอตัวโต โดนน้องดุทีนี่หงอยเป็นโกลเด้นซึมเลย โถ น่าเอ็นดู ฮาาา
แล้วไหงดันเป็นน้องฝุ่นไม่สบายซะนี่ พี่อาร์ตเลยได้หาเรื่องดูแลอย่างใกล้ชิดเชียวนะ
รักกันหวานชื่นเชียว น่ารัก  ขอบคุณคนเขียนมากค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「16」27|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-09-2017 08:28:09
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「17」29|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 29-09-2017 20:02:38
• 17 •


โชคดีที่ไข้ขึ้นแค่เมื่อคืน พอได้นอนเต็มอิ่ม ตื่นมาค่อยมีแรงขึ้นมาหน่อย จะไม่โอเคก็แต่เสียงครางจากไอ้พี่อาร์ตมันนี่แหละครับ! มีอย่างที่ไหนมาโลกสวยด้วยมือเราในห้องนอนของคนอื่น ซ้ำยังคราง...ชื่อผมอีก

ไอ้หมอบ้า! ! ! ! !

“ตัวไม่ร้อนแล้วนี่ครับ อาร์ตดูแลดีล่ะสิ” แม่เอ่ยแซวผมที่นอนซุกตักอยู่ มือนิ่มลูบหัวผมไปมา ส่วนเจ้าของชื่อนั่นออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว บอกจะมาหาหลังเลิกงาน

“ก็ดีครับ” ถ้ามันไม่ครางชื่อลูกชายแม่แบบนั้น...

“ว่าแต่สิ้นเดือนนี้ไปกับพ่อเขาใช่ไหม?” ผมพยักหน้ากับตักแม่

“แล้วบอกพี่เขารึยัง”

...เออว่ะ ลืมไปเลย

“ยังครับแม่ ฝุ่นลืม”

“ไอ้ลูกคนนี้” แม่ฟาดมือลงบนหน้าผากแรงๆ “อย่าลืมบอกพี่เขาล่ะ”

“อื้อ” รับคำแล้วก็ซุกลงกับตักแม่ต่อ ก่อนเผลอหลับไปด้วยฤทธิ์ยาที่โดนบังคับกินไปก่อนหน้านี้


อือ...

ผมขยับตัวด้วยความอึดอัด รู้สึกว่าตัวเองถูกยกขึ้นแต่ผมไม่มีแรงที่จะลืมตามองแต่กลิ่นกายที่คุ้นเคยทำให้รู้ว่าคนที่อุ้มผมขึ้นคือใคร

แกร่ก

เสียงเปิดและปิดประตูดังขึ้น ก่อนที่ผมจะลงไปอยู่กับความนุ่มนิ่มของที่นอน ขยับพลิกตัวเข้าหาตุ๊กตาแมวน้ำไซส์ใหญ่ตัวนิ่ม แต่ทว่ามือหนาของใครอีกคนจับเข้าที่คาง ก่อนริมฝีปากร้อนผ่าวจะทาบลงมา

“อื๊ออ”

ลิ้นร้อนของอีกฝ่ายที่แทรกเข้ามากวาดต้อนภายในโพรงปากเนิ่นนาน ผมหอบหายใจหนักเมื่ออีกคนผละออกไป จมูกโด่งคลอเคลียที่ข้างแก้ม แต่ปากยังคงหยอกเย้าอยู่กับริมฝีปากผม ก่อนจะแทรกลิ้นเข้ามาอีกครั้ง

ปึ่ก ปึ่ก!

ผมทุบไหล่คนตัวหน้าจนอีกคนยอมผละออกไปโดยดี พี่มันยกยิ้มเหมือนพอใจที่ได้แกล้งผม

“ไม่มีไข้แล้วนี่ครับ” พี่มันพูดยิ้มๆ มือหนาเอื้อมาปาดหยาดน้ำที่ติดริมฝีปาก

คิ้วผมขมวดเข้าหากัน

“จูบนี่คือวัดไข้บ้านพี่หรอ!” ผมตวาดใส่ แต่อีกฝ่ายก็ทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว ยืนยิ้มหล่ออยู่นั่นแหละ

หมั่น!

”สิ้นเดือนนี้พวกติณณ์ชวนไปเที่ยวทะเล ไป3วัน2คืน ไปด้วยกันไหม” พี่อาร์ตถาม นั่งลงข้างเตียงและยกมือลูบหัวผมเล่น

“ไปดิไป...เอ๊ะ สิ้นเดือนนี้? !” ผมผุดลุกขึ้นนั่งประจันหน้ากับอีกคนที่ยกยิ้มกว้างทันที

 สิ้นเดือนนี้ไม่ได้... แต่ถ้าไม่ตรงกันก็ไปได้นี่หว่า

“พี่ติณณ์ชวนไปวันไหนอ่ะพี่อาร์ต”

“28-30ครับ”

เรือหาย ทริปพ่อไปตั้งแต่วันที่22 งี้จะไปด้วยก็ไม่ได้เลย...

“คือสิ้นเดือนนี้....ฝุ่นรับปากพ่อไว้แล้วว่าจะไปทริปด้วย...” ผมพูดเสียงเบา ก้มหน้าลงเมื่อเห็นอีกคนหุบยิ้มลงเพียงเสี้ยววิ ก่อนจะยิ้มออกมาเหมือนเดิม

“ไม่เป็นไรครับ ไว้คราวหน้าก็ได้ ฝุ่นรับปากลุงกรแล้วนี่” มือหนาออกแรงขยี้ผมจนฟู ผมถึงได้เงยหน้ามองพี่อาร์ตที่ยิ้มอยู่ แต่ตาพี่มันไม่ยิ้มด้วย

“จะอาบน้ำหรือเช็ดตัวครับ พี่จะได้เตรียมให้” พี่อาร์ตลุกขึ้นถาม แต่ไม่หันมองผม

“อาบน้ำก็แล้วกัน”

“งั้น... เดี๋ยวพี่กลับเลยแล้วกัน ฝุ่นอาบน้ำเสร็จแล้วก็นอนนะครับ อย่าลืมกินยาล่ะ” เสียงทุ้มพูดขึ้น ก้มมาจูบหน้าผากผม ก่อนจะหันตัวไปทางประตูห้อง

หมับ

“ไม่อาบแล้ว ฝุ่นจะเช็ดตัว” ผมคว้าชายเสื้อพี่อาร์ตแน่น เอ่ยรั้งให้อยู่ต่อกลายๆ

“งั้นพี่ไปเตรียมน้ำให้นะ ฝุ่นเช็ดเองได้ใช่ไห--”

“พี่อาร์ตทำให้ฝุ่นหน่อย...นะครับ” ผมเอ่ยอ้อน ช้อนตามองอีกคน พี่อาร์ตยิ้มรับ แกะมือผมออกจากเสื้อแล้วไปเอากะละมังใส่น้ำกับผ้าที่อยู่ในห้องน้ำ ก่อนเดินถือออกมาวางไว้ข้างเตียง ใช้ผ้าบิดหมาดเช็ดไปตามตัวผมอย่างช้าๆ

“...แล้วคืนนี้นอนกับฝุ่นด้วย”
เอ่ยเสียงอ้อนเรียกยิ้มกว้างกลับคืนใบหน้าบนใบหน้าหมอหมา ..ไม่ชอบที่เห็นพี่มันยิ้มแบบก่อนหน้านี้ ยิ้มเหมือนคนผิดหวัง...



“พ่อออ สิ้นเดือนฝุ่นไม่ไปแล้วได้ไหม” ผมกระโจนเอาหัวไปไถหลังพ่อที่นั่งขุดดินปลูกต้นอะไรสักอย่างอยู่  เมื่อคืนหลังจากเผลอไปอ้อนให้พี่มันนอนด้วยก็จริง แต่พอตื่นมาพี่มันก็หายไปแล้ว หรือผมตื่นสายเองหว่า

“เหตุผลล่ะ”

“คือ...พี่อาร์ตชวนไปเที่ยว”

“เลยอยากไปกับเขา?” พ่อละมือจากหลุดที่ขุดอยู่แล้วหันมามอง ผมจึงพยักหน้าให้เบาๆ

พ่อเงียบไปพักใหญ่ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันก่อนถอนหายใจออกมา

“......”

“จะไปไหนก็ไปเลยไอ้หมา” พ่อคลี่ยิ้มออกมา มือที่เปื้อนดินของพ่อวางลงที่หัวผมและออกแรงขยี้จนเจ็บ รู้สึกเหมือนมีเส้นผมหลุดติดมือพ่อไปด้วย...

ห๊ะ

“เอ๊ะ ไม่ว่า?”

“ก็ไม่อ่ะ เอ็งไม่ไปก็ดีพ่อจะได้ไปเหล่สาวง่ายๆ หึๆ” พ่อยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ ก่อนหันไปสนใจต้นไม้ต่อ

“ไม่ว่าไรจริงดิ?”

“เออไม่ว่า พ่อเข้าใจว่าเอ็งอยากไปกับแฟนมากกว่าพ่อ”

“ฝุ่นไม่ได้...”

“อยากไปก็ไปเถอะ พ่อจะว่าเอ็งเรื่องไรวะ? ยังไงพ่อก็ไปกับเพื่อนทุกที แล้วเอ็งก็ไม่ได้ไปกับพ่อทุกครั้งนี่ นานๆทีถึงยอมไปที” พ่อพูด “ก็ยังว่าทำไมเมื่อเช้าไอ้อาร์ตทำบรรยากาศหม่นหมอง ที่แท้มันหงอยเพราะฝุ่นบอกว่าไม่ไปสินะ”

“ถือว่าอนุญาตแล้วนะพ่อ”  ไว้ตอนเย็นค่อยบอกพี่มันแล้วกัน

“เออ”

“ว่าแต่พ่อปลูกไรอ่ะ? มิ้นต์?” ผมถาม มองต้นใบหยักๆ ที่พ่อกำลังเอาลงดินอยู่

“Catnip” คำตอบของพ่อทำให้ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความไม่คุ้นชื่อ จนพ่อต้องบอกต่อ “ภาษาไทยเรียกกัญชาแมว ดูนั่น”

ผมหันไปมองตามทิศทางที่นิ้วของพ่อชี้ไป

เพื่อพบกับ.....

แมวสีส้มเหลืองจากไหนก็ไม่รู้ที่นอนแผ่หลา ทำตาเยิ้มข้างๆต้นแคทนิปที่พ่อยังไม่เอาลงดิน....

“มันเมากัญชา”

กร๊ากกก หน้าแม่งโคตรจี้! !



   เข็มสั้นของนาฬิกาที่ห้องรับแขกเคลื่อนผ่านเลข6ไปไม่มาก ท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีคราม เวลา6โมงกว่าน่าจะเป็นเวลาเลิกงานของใครหลายคนแล้ว แต่คนที่ผมรอยังไม่แม้แต่จะตอบข้อความหรือปรากฏตัวมาหา คิดในแง่ดีว่าพี่มันอาจจะติดลูกค้าเลยไม่มีเวลาตอบ จะโทรหาก็กลัวไม่ว่าง คงไม่...

   แกร่ก
   
   “พี่อาร์ต!” ผมหันไปตามเสียงประตูบ้าน แต่...

   “เฮ้ พี่เองไอ้น้อง นี่รออาร์ต?” คนที่ก้าวเข้าบ้านมาเป็นพี่สาวผมที่ไม่ได้เจอหน้ามา2-3วันครับ เนื่องจากคุณเธอไปนอนบ้านเพื่อนมา ร่างเล็กของพี่ฟิล์มก้าวเข้ามานั่งลงข้างๆผม

“อื้อ...เปล่า! ใครรอพี่มันกัน!” ผมเผลอพยักหน้า แต่ก็ส่ายหัวรุนแรงเมื่อคิดได้

“อ๋อหรอ แล้วเมื่อกี้ใครตะโกนว่าพี่อาร์ตกันนะ” พี่ฟิล์มมองผมด้วยแววตาล้อเต็มที่

“.....ฝุ่นเองพอใจยัง!”

“ก็แค่นั้น พี่ขอนอนหน่อยนะ”

ว่าจบพี่ฟิล์มก็ทิ้งตัวลงที่ตักผมทันทีโดยไม่รอผมตอบ มือก็คว้าหมูหยองที่วิ่งมาขึ้นกอดแนบอก มือที่ว่างก็หยิบรีโมตทีวีขึ้นมาเปิดดูลิตเติ้ลโพนี่

“พี่เปลี่ยนช่องเถอะครับ...” ผมบอกเสียงยาน แต่พี่ฟิล์มกลับหัวเราะลั่น

นาฬิกาเลื่อนไปที่เลข9 จนตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อความอะไรตอบกลับมา....

———————————————————————————————————————

เสียงนาฬิกาปลุกผมให้ตื่นจากนิทรา ถูหน้าซุกกับอุ๋งอุ๋งตัวนิ่มที่พี่อาร์ตซื้อให้ ตั้งใจขยับตัวคลายเมื่อยแต่ติดวงแขนแกร่งที่โอบผ่านเอว

ผมว่า... เมื่อคืนผมนอนคนเดียวนะ

“พี่อาร์ต!” ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเจ้าของวงแขนคือใคร คนในบ้านคงไม่มีทางมามุดผ้าห่มผมแบบนี้แน่ๆ ไม่มีทางเข้ามากอดอย่างนี้แน่ๆ!

“อืมม ขอนอนต่อครับที่รัก เมื่อคืนกว่าจะเสร็จงานก็ตั้งดึก” เสียงติดงัวเงียดังพร้อมกับวงแขนที่กระชับเอวผมให้แน่นขึ้น รู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆที่รดต้นคอ

“ตื่น!”

“.......”

“พี่อาร์ตตื่น!”

“.......”

“พี่อะ---”

“คร่อก...”

เสียงกรนที่ดังแทรกทำให้ผมหลุดขำ ต้องง่วงแค่ไหนเนี่ยถึงหลับได้ทั้งๆที่ผมเรียกเสียงดัง นอนเป็นหมอนข้างให้คนตัวโตซุกกอดจนลมหายใจร้อนที่รดหลังอยู่หายใจเข้าออกสม่ำเสมอจึงพลิกตัวหันหน้าหาอีกคน

“...................”

   ผมยิ้มให้คนที่นอนหลับ ขยับตัวเข้าไปจูบริมฝีปากบางเบาๆ พอผละออกก็เห็นว่าคนที่น่าจะหลับอยู่กลับลืมตายกยิ้มให้ผม...เหมือนคนรู้สึกตัวตื่นนานแล้ว

“ลักหลับพี่หรอครับ” เสียงทุ้มที่ไม่มีความงัวเงียหลงเหลืออยู่เอ่ยถาม กระชับอ้อมกอดให้ตัวผมเข้าไปชิดจนรู้สึกถึงอุณหภูมิร่างกายของอีกคน

   “แกล้งหลับหรอ!”

   “เปล่าครับ รู้สึกตัวตอนฝุ่นพลิกตัวครับ แต่พอจะลืมตาก็เจอคนมาลักจูบก่อน” คนตัวโตยิ้มกว้าง ผิดกับผมที่หน้ามุ่ยเพราะเสียรู้มันอีกแล้ว! พี่อาร์ตหาวออกมาวอดใหญ่แต่ยังไม่ปล่อยผมเป็นอิสระ   

   “พี่อาร์ต เรื่องไปทะเลกับพี่ติณณ์...”

“ถ้าฝุ่นไม่ว่างค่อยไปคราวหน้าครับ ไว้เราค่อย...”

“ฝุ่นไปได้นะ ขอพ่อแล้ว”

ผมพูดขัดคนตรงหน้า พี่อาร์ตที่ตอนแรกเลิกคิ้วงงๆก่อนเปลี่ยนเป็นยกยิ้มกว้างจนผมอมยิ้มตาม

จุ๊บ

“ขอบคุณครับ”

นี่สิรอยยิ้มที่อยากเห็น

Tbc.

———————————————————————————————————————

คำถามม ใครร้ายกว่ากันคะ wwwwww หลงพี่มันแล้วสิลูกชายยย
หนูฝุ่นถูกลวนลามแบบเสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่ตอนแรกมาก และจะยังโดนหมอตอดเรื่อยๆจนจบแน่นอน---
เจอกันตอนหน้าเน้ออ❤

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ

ปล. เห็นแมวเมากัญชาเต็มหน้าเฟสแล้วอดเอามาเขียนไม่ได้----
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「17」29|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-09-2017 20:13:26
หมออาร์ต มีความสูงทุกตรง
หื่นสูง งอนสูง น้อยใจสูง
ฝุ่น หลงเข้าไปในวังวนหมออาร์ตเต็มตัว ถอนตัวไม่ขึ้นและ   o18
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「17」29|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-09-2017 20:40:08
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「17」29|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 29-09-2017 20:56:13
แหม เดี๋ยวนี้เห็นหน้าหงอย ๆ ของพี่อาร์ตไม่ได้เลยนะน้องฝุ่น ใจอ่อนตลอด ๆ
ไปเดทที่ทะเลกัน สองคู่ชูชื่นเหรอ มันจะมีอะไร ๆ เกิดขึ้นหรือเปล่าหนอ  :o8:
พี่หมอ บอกให้แม่เล็กเตรียมไปสู่ขอน้องไว้ล่วงหน้าเลยก็ดีนะ 555
ขอบคุณคนเขียนค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「17」29|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 29-09-2017 21:58:25
แหมมมมมมมมมมมม น้องฝุ่นเห็น :o8: ดีกว่าพ่อเหรอคะ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「17」29|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 30-09-2017 02:11:23
 :hao6:


บรรยากาศแบบนี้
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「17」29|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 30-09-2017 07:39:05
ฝุ่นได้เป็นเมียหมอแน่นอน
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「17」29|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-09-2017 09:15:39
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「17」29|09|60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 30-09-2017 11:26:35
โถ่เลือกผู้ชายซะงั้น 55555
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「18」1|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 01-10-2017 12:17:06
• 18 •


   หาดทรายสีขาว ทะเลสีฟ้า ท้องฟ้าสดใส และแสงแดดที่แผดเผา!

“วู้วววววววววววว ทะเลลลลลล”

“นั่นแฟนรึลูกมึงวะไอ้หมอ”

“แล้วข้างๆแฟนกูนั่นก็เมียมึงไม่ใช่หรอวะติณณ์”

เสียงของสองหนุ่มตัวใหญ่ดังแว่วออกจากจากห้องโถงของที่พัก คนข้างๆผมหันไปแยกเขี้ยวใส่แฟนตัวเองจนอีกคนหัวเราะลั่น ก่อนหันกลับมาชวนผมดูทะเลที่ทอดยาวลิบตา เพราะเป็นหาดส่วนตัวของที่พักจึงไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านมากนัก

ใช่แล้วครับตอนนี้เราอยู่ที่ทะเลในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตอนแรกผมนึกว่าพี่ติณณ์จะชวนมาเที่ยวกันแค่สี่คน พอมาถึงที่พักถึงรู้ว่าพี่มางานแต่งของเพื่อนพี่ เลยถือโอกาสนี้พาพวกผมมาเที่ยวด้วยเลย ตอนมาถึงแล้วเจอเพื่อนๆพวกพี่แกมารุมทักทายนี่ทำผมกับพี่ข้าวสตั้น สองคนนั่นไม่ได้บอกว่าจะพามางานแต่งด้วย พี่ข้าวถึงกับโวยใส่พี่ติณณ์เพราะไม่ได้มีชุดดีๆมา

“ฝุ่นเข้ามาก่อนครับ อยากเล่นค่อยไปเล่นตอนเย็น แดดแรงๆเดี๋ยวป่วยอีกนะ” เสียงทุ้มและสัมผัสที่เอวทำให้ผมสะดุ้งเบาๆ หันไปก็เจอคนตัวโตยืนกอดเอวไว้ออกแรงดึงเบาๆให้ห่างจากระเบียง

ผมพยายามไม่เบนสายตาไปมองผู้ชายอีกคนที่นั่งยิ้มกริ่มเตรียมจะล้ออยู่ด้านหลังเด็ดขาด!

“จะเล่นได้ไง ไหนพี่บอกว่ามีงานตอนเย็นอีก” ผมท้วง แกะมือปลาหมึกที่เอวออกอย่างเนียนๆ แต่ก็ไร้ผล...

“อืมมม ค่อยเล่นพรุ่งนี้แล้วกัน”

ฟอด

“พี่อาร์ต!”

“ฮิ้ววววว คู่นั้นมาฮันนีมูนกันหรอครับ แต่งกันตั้งแต่เมื่อไหร่เอ่ยยย” เสียงพี่ติณณ์เอ่ยแซว ว่าแต่คนอื่นแล้วตัวเองล่ะ!

กล้องแพนไปที่พี่ติณณ์กำลังป้อนองุ่นให้พี่ข้าวที่นั่งตักอยู่นะครับทุกคน

“ว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็เหมือนกันไม่ใช่หรอ” พี่อาร์ตยักคิ้วให้อีกคน ก่อนออกแรงดันหลังให้ผมเดินเข้าตัวบ้าน แต่ตอนที่จะเดินผ่านคู่นั้นไป พี่ติณณ์ก็ล็อกคอพี่ข้าวไว้แล้วทาบริมฝีปากลงไป ซึ่งพี่ข้าวก็ไม่ขัดรสจูบที่อีกคนมอบให้ จังหวะที่พี่ข้าวเอียงหน้าจูบตอบทำให้คนที่ยืนมองอยู่เห็นแม้กระทั่งลิ้นของทั้งคู่ที่สัมผัสกัน

เหยดแหม่...

“มึงจะไปต่อกันที่เตียงไหม? แฟนกูหน้าแดงหมดแล้ว” เสียงพี่อาร์ตทำให้ทั้งคู่ผละออกจากกัน พี่ข้าวหน้าแดงจัดเหมือนลืมว่ามีคนอื่นนอกจากตัวเองอยู่ด้วย นิ้วเรียวของคนข้างๆจิ้มแก้มผมจึ่ก ความรู้สึกร้อนวูบแล่นที่หน้าทันที ผมจะเบนหน้าหนีคน...แต่ กลายเป็นว่าดันไปจุ๊บหน้าหล่อที่ยิ้มทะเล้นย่อตัวให้เสมอหน้าผมแทน

“อยากได้แบบนั้นไหมครับ” หน้าหล่อยักคิ้วกวนๆให้ ก่อนผมจะฟาดมือลงไหล่อีกคนแรงๆจนร้องโอดโอย

แพนกล้องไปอีกด้าน

“ตินอยากกินข้าว” คนตัวสูงเอ่ยขึ้นมาเบาๆให้คนบนตักได้ยิน ผลที่ได้คือกำปั้นเสยคางเน้นๆจนได้ยินร้องเจ็บปวดไปอีกคน...

ติณณ์ K.O.



ท้องฟ้ายามเย็นกับกลิ่นอายของทะเล คลอด้วยเสียงดนตรีเบาๆทำให้งานวิวาห์ของบ่าวสาวดูหวานชื่นกว่าเดิม พี่แนน เพื่อนของพี่อาร์ตซึ่งเป็นนางเอกของวันนี้อยู่ในชุดผ้าชีฟองสีขาวครีม รอยยิ้มสวยประดับบนใบหน้าตลอดเวลาที่ประกอบพิธีในตอนเย็น ซึ่งเป็นการแลกแหวนและกินเลี้ยงกัน ภายในงานมีแค่ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทเท่านั้น ถามพี่อาร์ตก็ได้ความว่าพี่แนนจัดที่โรงแรมไปแล้วรอบนึง ครั้งนี้เหมือนเป็นงานเลี้ยงในกลุ่มเฉยๆ สาวๆที่เป็นเพื่อนพี่แนนมองพี่อาร์ตตาไม่วาง พอพี่มันเล่นแนะนำว่าผมเป็นแฟนเท่านั้นแหละ จากมองคนหล่อกลายเป็นเสียงกรีดร้องเพราะเสียดายแทน

ถ้าความฝันของผู้หญิงทุกคนคือการได้เป็นเจ้าสาวของคนที่รัก แล้วถ้า...

ผมเงยมองคนตัวสูงข้างๆ ก่อนสบกับแววตาอบอุ่นที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว มือใหญ่เคลื่อนมาจับมือผมไว้ สอดประสานแล้วแกว่งเบาๆ ก่อนเอ่ยประโยคที่เหมือนอ่านใจผมออก

“แค่มีฝุ่นอยู่ตรงนี้พี่ก็ดีใจแล้ว”

แค่ประโยคเดียวก็สามารถทำให้ใจเต้นผิดจังหวะได้...

แพ้คนๆนี้จริงๆ...

“ใครจะขึ้นมาร้องเพลงให้แนนนะ? อาร์ตป่ะ อาร์ตตต where are you~~” เสียงของพิธีกรที่ดังผ่านลำโพงทำให้พวกเราผละมือออกจากกัน หันสบตาก่อนเบนหน้าไปคนละทาง สีแดงที่หูทำให้รู้ว่าอีกฝ่าย...ก็เขินอายไม่ต่างกัน

“อยู่นี่ๆ ฝุ่นยืนตรงนี้ห้ามไปไหนนะครับ” พี่มันตะโกนกลับ ก่อนหันมาพูดกับผม แล้วเดินตรงไปที่เวทีพื้นเตี้ย รับกีตาร์โปร่งสีดำมาเช็คสายและปรับไมค์ให้พอดี

“แฮ่ม จำเราได้ป่ะ? เราอาร์ตคนเดิมเพิ่มเติมคือหล่อขึ้น” เสียงโห่และเสียงหัวเราะดังขึ้นทันทีที่พี่มันพูด “ก็ยินดีกับบ่าวสาวด้วยเนอะ มีลูกเต็มบ้านล่ะ แล้วก็เพลงนี้ถือว่าเป็นของขวัญอีกอย่างจากเรานะ”

เสียงทุ้มเงียบไป แทนที่ด้วยเสียงกีตาร์ที่ดังขึ้นเบาๆ

จะบอกอีกทีว่าฉันรักเธอ
จะบอกให้ฟังว่าฉันค้นเจอ
ความหมายของการมีชีวิตอยู่
ก็รู้จากเธอไม่ใช่ใคร


คนที่นั่งร้องเพลงอยู่ตรงนั้นหันไปยิ้มให้บ่าวสาวก่อนส่งยิ้มไปรอบๆเรียงเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาวๆ


จะบอกอีกทีถ้าไม่เชื่อกัน
จะบอกอีกทีว่าความสำคัญ
เธอนั้นเป็นที่หนึ่ง เหนือผู้ใด
และไม่มีใครนอกจากเธอ

อย่ากลัวกับคนที่เขามานินทา
อย่ากลัวว่าในแววตาฉันมีใคร
เชื่อในรักเรา เชื่อในหัวใจที่ฉันให้เธอได้ไหม


จู่ๆคนที่นั่งดีดกีตาร์บนเวทีเงยหน้าขึ้นมา ผมเผลอกลั้นหายใจเมื่อสบตากับพี่มัน ก่อนที่เสียงพี่ติณณ์จะดังขึ้นเบาๆ
“ดูท่าไอ้หมอมันไม่ได้ร้องให้แนนมันแล้ว”


ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา
รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้
จะไม่มีตรงกลางที่เหลือว่างเผื่อใคร
ถ้าใจเรายังผูกกัน

ใครจะพยายามยุยงให้สั่นคลอน
รู้ไว้นะทุกครั้งฉันนอนหลับตาฝัน
เห็นแค่ภาพเรารักกันยาวนาน
จนถึงวันที่ฉันแต่งงานกับเธอ



คำที่ส่งผ่านบทเพลงและทำนอง นัยน์ตาสีเข้มที่สบมองมาแต่ผมตลอดเพลง ไหนจะรอยยิ้มอบอุ่นที่มอบให้ผมทั้งหมดแปลได้ว่า...รัก....


ผมหลุบตาลงเพราะไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองอีกคนบนเวที ท่อนฮุกที่วนกลับมาอีกครั้งจบจวนเสียงของกีตาร์ที่หยุดลงไป พร้อมๆกับเสียงผู้คนรอบข้างที่เงียบสนิท


รองเท้าผ้าใบคุ้นตาก้าวเข้ามาในระยะมองเห็น ดอกกุหลาบสีขาวถูกยื่นมาบดบังภาพทุกอย่าง ก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ยท่อนสุดท้ายของบทเพลง

“จนถึงวันที่ฉันแต่งงานกับเธอ”



“ฮิ้ววววววววววว”

“เฮ้ยอาร์ตนี่งานเราป่ะ อย่าแย่งซีนดิ!”

“ฝุ่นหน้าแดงหมดแล้วไอ้อาร์ต”

“นี่จะอวยพรเพื่อนหรือขอแต่งงานครับคุณณณ”


เสียงต่างๆนานาที่ดังกระหึ่มเมื่อจบคำนั้น ผมได้แต่มุดหน้าแดงๆเข้ากับอกของคนพี่เพราะความอาย ผิดกับอีกคนที่ยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง

“พี่อาร์ตอ้ะ!”

“รักนะครับ อยู่ด้วยกันนานๆนะ”

“.......”

“ว่าไงครับ”

เสียงรอบข้างเงียบลงอีกครั้งเหมือนรอฟังคำตอบ ผมกลั้นใจดันตัวเองออกจากอกพี่มัน ก่อนจะ...

“รัก...เหมือนกัน”

“ฮิ้วววววววววววววว จัดสองคู่เลยไหมครับ บ่าวสาวตัวจริงว่าไงเอ่ยย”

“ไม่ๆๆ งานนี้เรางานเราดิ ถ้าอาร์ตแต่งตอนไหนร่อนการ์ดบอกเราด้วยนะ”

เสียงหยอดล้อทำให้ผมยกกุหลาบในมือฟาดใส่ตัวต้นเหตุเบาๆ ก่อนบังคับให้เอากุหลาบไปคืนทีเดิม

ครับ...พี่มันขโมยกุหลายข้างเวทีที่เป็นพรอพในงานมาใช้...



บรรยากาศกลับคือสู่ความปกติ เสียงจอแจพูดคุยของผู้คนที่นานๆทีได้กลับมาเจอกันอีกครั้งดังขึ้นตามุมต่างๆ ผมนั่งยกเครื่องดื่มในมือมองคนรอบตัวเพราะไม่รู้จักใคร พี่อาร์ตก็โดนลากตัวไปคุยมุมนึง พี่ติณณ์ลากพี่ข้าวไปอีกมุม กลายเป็นว่าผมถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวซะงั้น

“น้องฝุ่นใช่ไหม พี่ขอนั่งด้วยนะ” เสียงหวานๆของคนที่ผมจำได้ว่าเป็นเพื่อนเจ้าสาวดังขึ้นข้างๆ

“เอ่อครับ...”

“เฮ้ พี่มาดีไม่ต้องเกร็งๆ พี่ชื่อหม่อนนะ” หญิงสาวพูดขำๆ ยกเครื่องดื่มในมือชูขึ้นทักทาย

“อาร์ตมันมั่นคงดีนะ รักใครรักจริง” ผมเลิกคิ้ว หันไปมองเจ้าของเสียง “ตอนอยู่มหาลัยพี่ก็เคยจีบอาร์ตนะ น้องอยากรู้ไหมว่ามันตอบอะไรกลับมา”

ผมพยักหน้าลง

“อาร์ตบอกพี่ว่า... ขอโทษนะแต่เรามีคนที่ชอบแล้ว ชอบมาตั้งนานแล้วด้วยถึงเขาจะไม่รู้ตัวก็ตาม พอบอกให้ลองคบกันดูก่อนเพราะพี่คิดว่าคนที่อาร์ตพูดถึงอาจเป็นรักข้างเดียวที่คงไม่มีทางเป็นไปได้ แต่รายนั้นก็ปฏิเสธทันที บอกว่าไม่อยากให้รู้สึกผิดกับคนๆนั้น” คนตรงหน้าคลี่ยิ้มให้ผม “ตอนแรกพี่ก็นึกว่าอาร์ตมากับเพื่อนๆ แต่ฟังจากเพลงที่อาร์ตร้องเมื่อกี้แล้ว...น้องคงเป็นคนๆนั้นที่อาร์ตรอสินะ”

“.........”

“แล้วหลังจากนั้นมันก็เอาพี่เป็นไม้กันหมา กันคนเข้ามาจีบชาวบ้านก็นึกว่าพี่เป็นแฟมันเลยไม่มีหนุ่มเข้าหาพี่ โคตรเซ็ง” พี่หม่อนหัวเราะขำๆ และเล่าเรื่องสมัยอยู่มหาลัยให้ผมฟัง

“คนแบบนี้อย่าปล่อยให้หลุดมือไปนะน้องฝุ่น” เธอยื่นแก้วมากระทบกับแก้วในมือผม ก่อนลุกออกไปหากลุ่มเพื่อนที่กวักมือเรียก

ผมนั่งเหม่อไม่ได้รู้สึกว่ามีคนมานั่งข้างๆอีกครั้งจนกระทั่งลมหายใจอุ่นถูกเป่าใส่ใบหู

“อื๊ออ พี่อาร์ต!”

“เมื่อกี้หม่อนมาพูดอะไรด้วย ผู้หญิงคนเมื่อกี้น่ะ”

“....เปล่านี่ เขาแค่ทักทายเฉยๆคงเพราะเห็นผมมากับพี่” ผมก้มหน้าลงไม่สบตา หวังว่าความมืดจะซ่อนหน้าแดงๆของผมได้นะ งื้อ

“จริงหรอ?”

“หึ ไม่จริง เขาเข้ามาบอกว่าเขาเคยเป็นแฟนพี่”  ผมว่าเสียงเรียบ ตีหน้านิ่งจนพี่มันทำหน้าเลิ่กลั่ก

“เฮ้ย ไม่ใช้ พี่ไม่ได้คบหม่อนนะ นั่นเพื่อนในกลุ่มพี่ แม่งไอ้หม่อนแม่งพูดอะไรกับฝุ่นวะ รอพี่แปปเดี๋ยวพี่พาหม่อนมาคุยด้วย” ผมมองอีกคนที่ลนลานแก้ตัว ค้าวข้อมือไว้ก่อนที่คนตัวสูงจะไปลากพี่หม่อนมา

“พี่หม่อนมาเล่าวีรกรรมพี่ตอนมหาลัยให้ฟัง คนเนื้อหอมจนสาวๆเข้ามาจีบจนบันไดคณะไม่แห้ง” ผมฉีกยิ้มกว้างให้ อีกคนหยิกแก้มผมเต็มแรง

“แกล้งพี่หรอครับ หืม”

“เปล่า~~”

“เด็กไม่ดีต้องโดนทำโทษนะ”

“เฮ้ย ไม่เอา! อ๊ะ...” คนตรงหน้ายื่นมือมาสัมผัสริมฝีปากผมอย่างแผ่วเบา ยิ้มละมุมประดับใบหน้า

“เอาครับ คืนนี้ไม่ได้นอนแน่” ยิ้มร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อ...คืนนี้หนีไปนอนกับพี่ข้าวได้ไหมมม


Tbc.


———————————————————————————————————————

มาต่อแล้วค่ะ กดสคริปมาทะเลแล้วววว

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ

หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「18」1|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 01-10-2017 14:05:22
 :a5: omg... จบตอนอย่านี้...คนอ่านยิ่งกว่าค้างอีกค่ะ....  :ling1: รีบมาต่อด่วนนะค่ะ.... pleaseeee  :katai1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「18」1|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-10-2017 16:00:05
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「18」1|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 01-10-2017 17:22:23
รอวันเียตัวได้เลยน้องฝุ่น... 5555
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「18」1|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 01-10-2017 18:54:09
 :z1: รอส่งตัวเจ้าสาว(หนุ่ม)เข้าหอ
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「18」1|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 01-10-2017 20:03:08
แย่งซีนคู่บ่าวสาวตัวจริงเขาเฉยเลยนะพี่อาร์ต แหม หวานซะ  :-[
แล้วคืนนี้ จะเป็นยังไงต่อล่ะจ้ะ ฝุ่นเอ้ย หนีไปไหนไม่พ้นแล้ว 555
ขอบคุณคนเขียนค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「18」1|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-10-2017 22:49:33
พี่อาร์ต หาโอกาสหื่นได้ตลอด
พี่อาร์ต ฝุ่น  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「18」1|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 01-10-2017 23:01:34
ไม่ขอแต่งงานเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「18」1|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 01-10-2017 23:30:31
 :hao6:



หมอหิวสิน่ะ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「18」1|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-10-2017 10:59:04
ฝุ่นคิดจะหนีไปนอนกับพี่ข้าวเขาน่ะ คิดดีแล้วเหรอคาดว่าจะไม่ได้นอนเหมือนกันมากกว่า :z1: :z1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「19」02|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 02-10-2017 22:47:16
• 19 •


“อื้ออ” ทันทีที่กลับมาถึงห้อง พี่อาร์ตก็รุกจูบจนผมหายใจไม่ทัน ลิ้นร้อนของอีกคนกวาดแทรกเข้ามาทั่วโพรงปากจนผมคลายจะมึนกับรสชาติของแอลกอฮอล์จางๆที่ติดปลายลิ้นนั้น

ไม่รู้ว่าถูกดันมาที่เตียงตั้งแต่ตอนไหน ไม่รู้ว่าถูกคนพี่จับนั่งตักตั้งแต่เมื่อไหร่ ความเย็นของเครื่องปรับอากาศปะทะกับผิวเนื้อส่วนที่โดนคนตัวสูงถอดออกไปเมื่อครู่ มือของอีกคนแตะเข้าที่สีข้างและเคลื่อนขึ้นอย่างช้าๆ ผมสะดุ้งเมื่อนิ้วเย็นสัมผัสกับยอดอก ออกแรงบีบเค้นจนมันบวมเต่ง

ผมหายใจเฮือกใหญ่เมื่อพี่อาร์ตถอนปากออกไป ปลายจมูกโด่งของอีกคนเคลื่อนลงแตะเข้าที่ลำคอจนรู้สึกถึงลมหายใจร้อน ผมเบนหน้าหนีแต่กลายเป็นเปิดทางให้อีกคนใช้ริมฝีปากขบเม้มตามลำคอ ลาดไหล่ และลงไปยันอกเปลือย ครอบครองยอดอกด้วยริมฝีปากดูดดึงจนรู้สึกวูบที่ท้องน้อย มือข้างที่ประคองหลังผมอยู่เคลื่อนลงตามแนวสันหลัง ก่อนแทรกมือลงในกางเกงไปบีบเค้นบั้นท้ายอย่างง่ายดาย

ผมจะจำไว้ว่าไม่ควรใส่กางเกงเอวยืด!!


.
.
.
.
.



พี่อาร์ตปรับให้ผมนอนราบกับเตียงและมอบรสจูบให้อีกครั้ง ถอดดึงกางเกงผมออกและกดสะโพกลงมาแนบชิด ทำให้ส่วนกลางตัวที่ถูกปลุกเร้าสัมผัสกัน แม้จะมีกางเกงหนาขวางกั้นไว้ก็รู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวของอีกฝ่าย มือที่บีบเค้นสะโพกเปล่าเปลือยอยู่นั้นค่อยเคลื่อนลงจนกระทั่ง...

“อื้อ!”

ปลายนิ้วเรียวที่สะกิดเข้าที่ช่องทางด้านหลัง...

เพราะปากยังถูกปิดโดยคนตรงหน้า จึงทำได้แต่ครางประท้วงในคอ ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะยกมือประทุษร้ายอีกคน สัมผัสแปลกใหม่ที่ได้รับทำให้ผมนึกย้อนถึงเรื่องที่พี่ข้าวบอกไว้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับครั้งแรก...ระหว่างผู้ชาย

ยอมรับตามตรงว่าผมกลัว...

“พี่อาร์ต...ไม่เอา...” เสียงผมสั่น พี่อาร์ตหยุดการกระทำนั้นและจูบเข้าที่ขมับชื้นเหงื่อ

“แค่นิ้ว...ได้ไหมครับ” เสียงแหบพร่ากระซิบติดใบหู ก่อนจะยกให้ผมคร่อมตักเมื่อผมพยักหน้ารับ...

“เชื่อใจพี่นะครับคนเก่ง” นิ้วเรียวกดลงกับช่องทางแคบอีกครั้งเมื่อคนตัวโตพูดจบ แค่แรงกดเบาๆไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปมากกว่านั้น ผมซุกหน้าลงกับไหล่พี่อาร์ตเหลือบเห็นอะไรบางอย่างที่กำลังดุนดันอยู่ใต้กางเกง ทันทีที่วางมือลงกับส่วนแข็งขืนคนตัวโตก็สะดุ้งเบาๆพร้อมสายตาดุที่ส่งมาให้

“สีฝุ่น...อย่าซนครับ”

“ฝุ่นทำให้นะ” ไม่รอคำตอบ ผมก็ปลดกระดุมกางเกง จับเอาส่วนโป่งพองของเจ้าของตักออกมา และรวบเข้ากับแก่นกายของตัวเอง

เสียงกัดฟัดกรอดที่ได้ยิน และลมหายใจรุนแรงทำให้ผมรู้ว่าอีกคนต้องอดกลั้นแค่ไหนที่จะไม่จับผมกดลงตอนนี้ แต่เพราะพี่อาร์ตรู้ว่าผมยังไม่พร้อม...

“อืม..” เสียงครางต่ำของอีกคนดังขึ้นเมื่อเริ่มผมขยับมือ พยามทำตามที่อีกฝ่ายเคยทำให้ก่อนหน้านี้ จังหวะที่เนิบช้าสลับเร็วไปตามแรงอารมณ์ เสียงเหนอะหนะและเสียงครางดังผสมกันจนเกรงว่าถ้าใครผ่านมาจะได้ยิน

“อ๊ะ พี่อาร์ต...” ครางชื่อคนตรงหน้าเมื่อนิ้วเรียวถูกกดเข้าไปในช่องทาง สัมผัสเสียดๆของสิ่งแปลกปลอมที่ล่วงล้ำเข้ามาทำให้ผมเกร็งตัวบีบรัดข้อนิ้วจนอีกคนต้องปลอบ

“ชู่ว์ อย่าเกร็งครับคนเก่ง” คนพี่ว่า ส่งมืออีกข้างที่ว่างมาช่วยรูดรั้งแกนกาย นิ้วที่แช่อยู่ภายในขยับควานเป็นวงคล้ายจะทำให้คลายเกร็ง เสียงครางดังออกมาอีกครั้งเมื่อคนพี่กดอีกนิ้วเพิ่มเข้ามาจนสุด ขยับเข้าออกเป็นจังหวะประสานกับส่วนหน้า ก่อนนิ้วเรียวจะไปสะกิดบางจุดภายในตัวผมจนสะท้าน

“ฮึก ตรงนั้น..ไม่...”

“ตรงนี้หรอครับ”

คล้ายคนตัวโตจะแกล้ง พี่อาร์ตยกยิ้มขึ้นและกดกระแทกนิ้วซ้ำๆที่จุดนั้นพร้อมกับรูดรั้งไปด้วยจนผมครางเสียงหลง ก่อนที่จะปลดปล่อยน้ำสีขาวออกมาจนเลอะอีกคน

“อื้อ...” ผมซบลงส่ายหัวกับไหล่กว้าง พี่อาร์ตถอนนิ้วออกจากช่องทางแคบ ก่อนจับมือผมขยับอีกไม่กี่ครั้งก่อนจะปลดปล่อยตามมา


 “เก่งมากครับคนเก่ง” พี่อาร์ตจูบขมับผมที่ยังคงหอบหนัก

คนพี่จัดการทำความสะอาดให้ผมที่หมดแรงนอนเป็นผัก ก้มจูบปากแรงๆก่อนเดินหายไปในห้องน้ำ แล้วออกมาพร้อมผ้าผืนเล็กที่ชื้นน้ำ เช็ดเอาคราบคาวที่ติดอยู่ออกให้ สัมผัสเสียดๆทางด้านหลังที่แม้ว่าพี่มันจะถอนนิ้วออกไปนานแล้วแต่ก็เหมือนยังคงอยู่ นี่ขนาดแค่นิ้วนะ ถ้ามากกว่านี้....

ฮรื่อออ ไม่อยากจะคิด

มองค้อนใส่พี่มันที่มองมางงๆก่อนจะมุดหายไปในผ้าห่ม เสียงคนตัวโตหัวเราะร่าตามมาทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด! ! !

———————————————————————————————————————


“ฝุ่นครับเช้าแล้ว”

อืม...หนวกหูคนจะนอน

“ฝุ่นครับ”

“.......”

“ไม่ตื่นพี่ปล้ำนะ”

พรึ่บ!

“ตื่นแล้วววว” ผมลุกขึ้นมาฉีกยิ้มให้พี่มันทั้งที่ตายังปิดอยู่ กลัวโดนปล้ำครับบอกเลย

“ถ้าตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าล้างตา อาหารเช้าเริ่มตอนเจ็ดโมงเดี๋ยวไม่ทัน” พี่อาร์ตดุนหลังผมที่ยังเมาขี้ตาให้ลุกไปห้องน้ำ สงสัยจะไม่ทันใจ เฮียแกเลยจัดการเอาน้ำลูบหน้าแถมด้วยยัดแปรงสีฟันเข้าปากให้ผมเอง ก่อนโยนผมออกนอกห้องน้ำแล้วจัดการตัวเองต่อ


“อ้าวตื่นกันแล้วหรอ” พี่ข้าวทักทายเมื่อเห็นผมออกมาจากห้อง คนตัวเล็กจ้องผมแล้วแก้มใสก็เปลี่ยนเป็นขึ้นสีระเรื่อ นิ้วชี้เข้าที่ลำคอตัวเองจนผมลูบตาม ก็ไม่มีอะไรติดนี่หว่า?

“เห~ ฝุ่นมีแรงตื่นด้วยหรอนี่”

“ทำไมต้องไม่มีแรงตื่นล่ะพี่ติณณ์” ผมเลิกคิ้วถามอีกคนที่เดินมาทางนี้

“ก็....” พี่ติณณ์ก้มหน้ามาเสมอผมก่อนแตะนิ้วลงกับคอผม จุดเดียวกับที่พี่ข้าวชี้ “เมื่อคืนไม่ใช่โดนไปแล้วหรอ รอยมาเต็มแถมเสียงครางลั่นเลย โชคดีนะที่บ้านนี้มีแค่สองห้อง”

“....................” ผมอ้าปากเหวอกับเรื่องที่พี่ติณณ์พูด

“ไม่น่าเชื่อว่าโดนครั้งแรกยังมีแรงลุกได้ หรืออาร์ตมันเล็-------อั่ก! เหี้ยกูเจ็บ!”

“หุบปากก็ไม่มีใครว่านะไอ้ติณณ์ อีกอย่างกูยังไม่ได้ทำอะไรน้องมัน” พี่อาร์ตวางหนังสือเล่มหนาที่ใช้เป็นอุปกรณ์ประทุษร้ายหัวพี่ติณณ์ลง โอบผมเข้าหาอกกวาดตามองผมแล้วยกยิ้มถูกใจ

“เอ่อ...”

“พี่ข้าวพามันไปกินข้าวก่อนเลยครับผมจัดการน้องแปป ฝุ่นเข้าห้อง”

ว่าจบพี่มันก็ลากผมเข้าห้องอีกครั้ง จับผมถอดเสื้อยืดคอกว้างที่ใส่อยู่แล้วคุ้ยหาเสื้อใหม่ในกระเป๋า ทำไมใส่ได้...วะ....
เฮ้ย!

“พี่อาร์ต!”

“ครับๆแปปๆ พี่หาเสื้อให้ฝุ่นก่อน”

“ไอ้พี่อาร์ต! คอฝุ่น! โอ๊ยยยย ยังว่าทำไมพี่ข้าวพี่ติณณ์ถึงทำหน้าแบบนั้น” ผมลูบคอตัวเองแรงๆ เงาสะท้อนจากกระจกตรงหน้าเผยให้เห็นบรรดารอยแดง รอยกัดที่ช่วงลำคอ ลาดไหล่ และหน้าอก

จะปิดยังไงให้มิดดีวะครับ...

“อ่ะ ฝุ่นตัวนี้ๆ” พี่มันยัดเสื้อใส่มือผม

“พี่อาร์ต!”

“ครับ?”

ผมชี้เข้าที่ลำคอและอกตัวเอง “ทำไมมันเยอะอย่างนี้! แล้วฝุ่นจะลงเล่นน้ำยังไง!!”

“ก็ใส่เสื้อลงไงครับ แต่ตอนนี้ใส่เสื้อก่อนเร็วคนเก่ง เอ้าฮึบ” พี่มันว่า หยิบเสื้ออกจากมือผมแล้วจัดการใส่ให้เอง “ตัวนี้คอสูงน่าจะปิดได้อยู่ ไม่มีใครเห็นแน่ครับที่รัก”

“ไอ้พี่อาร์ต!!”



หลังจากจัดการกับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้ากันเรียบร้อย พี่ข้าวก็กลับไปเอารองพื้นของพี่แกมาโบกปิดรอยที่คอเสื้อบังไม่มิดให้ เพราะพวกเพื่อนๆพี่แกทยอยกลับกันแล้วหลังหมดมื้อเช้า แพลนของวันนี้ก็คือพี่ติณณ์จะพาไปเที่ยวรอบตัวจังหวัด อยากแวะไหนก็จอดนั่นในช่วงเช้า วนกลับมาที่พักแล้วค่อยออกไปตลาดจักจั่นต่อตอนดึกๆ พรุ่งนี้ก็ค่อยไปแวะเพลินวานก่อนกลับโคราช

“พี่ข้าวครับ” ผมสะกิดคนข้างๆให้หันมาสนใจ ตอนนี้พวกเรากำลังไปตลาดน้ำหัวหินกันครับ กะจะไปหาของกินกันก่อนกลับที่พัก

“ว่าไงฝุ่น”

“คืนนี้นอนผมขอกับพี่ข้าวได้ป่ะ” ผมขยับไปกระซิบ เมื่อเห็นพี่ติณณ์ที่ทำหน้าที่สารถีจำเป็นเหลือบมองผมผ่านกระจก

“ได้ๆ/ไม่ได้!!” เสียงแรกเป็นของคนข้างๆผม ส่วนอันหลังคือเสียงของไอ้พวกเกินมาตรฐานชายไทย(ในหลายๆความหมาย)ที่นั่งอยู่ข้างหน้าครับ...

“ฝุ่นจะไปนอนกันพี่ข้าวทำไม ไปรบกวนเขาซะเปล่า”

“ใช่ๆ พี่ก็อยากนอนกอดข้าวนะฝุ่น”

เมื่อสองเพื่อนซี้ประสานเสียงกันตอบ ผมก็ได้แต่ทำหน้าเลิ่กลั่กมองพี่ข้าวที่นั่งยิ้มกริ่ม

“ติณณ์ไปนอนกับอาร์ตพี่จะนอนกับฝุ่น เข้าใจตรงกันนะ” ดูท่าคำพี่ข้าวจะเป็นคำขาดของพี่ติณณ์แฮะ ไม่ฮือไม่อือต่อเลย มีแต่งึมงำอะไรคนเดียว พวกเกียมัวสินะ....

แต่คำพี่ข้าวใช้ไม่ได้กับอีกคน....

“โธ่พี่ข้าวครับ มาทะเลทั้งมีผมก็อยากอยู่กับแฟนผมนะ พี่ข้าวไม่อยากอยู่กับติณณ์หรือไง”

“ไม่อ่ะเบื่อหน้ามัน อยากนอนกับฝุ่น”

“ข้าว!!”

“ติณณ์เงียบ!” คนขับรถหุบปากทันที “อาร์ตไปนอนกับติณณ์นะ คืนนี้เดี๋ยวพี่ดูแลเด็กเราเอง”

เอ่อ..เปลี่ยนใจได้ไหมครับ เห็นยิ้มพี่ข้าวแล้วใจคอไม่ดี

“.....ที่บ้านผมมีบลูอยู่” พี่อาร์ตเว้นช่วง “มีคนให้แม่มานานแล้วแต่แม่ผมไม่ดื่ม คิดว่าพี่น่าจะต้องกา---”

“ดีล งั้นฝุ่นนอนกับอาร์ตนะ”

“.........”

นี่ผมมีค่าแค่บลูขวดเดียวหรอครับ...


———————————————————————————————————————

ตลาดน้ำตอนตะวันอยู่กลางหัวเป็นอะไรที่บอกได้แค่ว่า ร้อน-เหี้ย!

“ร้อนอ่ะ” ผมเกยคางลงกับโต๊ะบนหน้าผากมีผ้าเย็นติดไว้อยู่ ตอนเข้ามายี่สิบนาทีแรกก็วิ่งถ่ายรูปไปทั่วอยู่หรอกแต่พอเจอแดดจ้านานๆก็เหงื่อไหลเป็นน้ำ

ตัดภาพไปที่พี่ข้าวที่กำลังหอบสารพัดของกินมาทางนี้อย่างร่าเริง

“พี่ก็พัดให้แล้วไงครับ พี่ข้าวผมขอนั่น....กินนี่ไหมจะได้ดีขึ้น” แท่งไอติมโบราณที่พี่ข้าวเพิ่งไปซื้อมาถูกยื่นมาชิดปาก สัมผัสเย็นๆที่แตะริมฝีปากทำให้ผมอ้าปากรับอย่างง่ายดาย

ผมลุกนั่งแล้วหยิบไอติมออกจากมือพี่มันมาถือไว้เอง ดูดรสชาติของไอติมในมือไปทั่วแท่ง ที่จริงอยากกัดแต่ทำไม่ได้ครับมันเสียวฟันที่อุด... ความเย็นของไอติมทำให้คลายร้อนไปได้บ้าง

“หืม?” ผมเงยมองคนข้างๆที่นั่งนิ่งจ้องผมที่กำลังเขม็ง ไม่ใช่แค่คนข้างๆสิ สองคนตรงข้ามด้วย

เอ๊ะ ทำไมพี่ข้าวหน้าแดงๆหว่า?

“....เฮ้อ กินดีๆหน่อย” คนตัวสูงถอนหายใจออกมาแล้วยกมือขึ้นเช็ดปากผม ก่อนเบือนหน้าหนี

อ้าว..เปื้อนก็ไม่บอกกันนะคนเรา

“ไอ้หมอ...แสดงว่ามันน้องเคย? หน้ามึงแม่งฟ้อง” พี่อาร์ตพยักหน้ารับคำ ส่วนพี่ข้าวก็หน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ ว่าแต่ว่าเคยไรวะ?

   พอไอติมหมดแท่งพี่อาร์ตก็จูงผมกลับรถทันที โดยมีพี่ติณณ์พี่ข้าวตามมาติดๆ ก่อนดึงให้ผมเข้ารถแล้วตัวเองก็มานั่งแทนที่คนตัวเล็ก

“คราวหน้าพี่ไม่ให้กินแล้วนะ ไอ้ไอติมแท่งเนี่ย”

“ทำไมอ่ะ?” ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย ทำไมอ่ะแค่กินไอติมเอง

“ก็....”

“ฝุ่นครับ คิดตามพี่นะ” คนขับรถพูดขึ้นเมื่อพี่อาร์ตไม่ยอมตอบสักที “เมื่อกี้ฝุ่นกินอะไรที่เป็นแท่งๆแถมยังมีคราบเปื้อนปากฝุ่นด้วยใช่ไหม” ผมพยักหน้าแล้วคิดตาม

อืม...
เอ๊ะ...
เดี๋ยวนะ...

“เชี่ยยยยยย!”

“ตามนั้นแหละครับน้องฝุ่น พี่ว่าตอนไอ้หมอมองน้องมันคงคิดเป็นอื่น” ผมสบตากับพี่ติณณ์ที่มองล้อผ่านกระจก ก่อนหันไปแยกเขี้ยวใส่คนข้างๆ

แม่งเอ๊ยยย ต่อไปนี้จะกินไอติมยังไงให้ไม่คิดมากวะะะะะ!


   
   หลังจากพี่อาร์ตพาไปถลุงเงินที่ตลาดจักจั่นจนผมได้ของจนพอใจ(พี่ติณณ์พี่ข้าวขออยู่ห้อง) มือข้างนึงของพี่อาร์ตก็แบกของของผมทั้งหมด ส่วนอีกข้างก็กุมมือผมไว้ตลอดทาง

   “พี่อาร์ตๆอยากกิน” ผมชี้ไปที่ร้านน้ำปั่นร้านนึง

   “แก้วเดียวพอนะ กินไม่หมดเดี๋ยวฝุ่นก็เอามาให้พี่อีก”

   “แฮะๆ ป้าครับเอาแตงโมปั่-- อ๊ะ”

ตุบ

มีเด็กผู้ชายคนนึงวิ่งเข้ามาชนผมอย่างแรง โชคดีที่พี่อาร์ตจับผมไว้จึงไม่ล้มแต่เด็กคนนั้นลงไปอยู่กับพื้นแล้ว

“อ๊ะ ขอโทษครับพี่ชาย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เด็กคนนั้นผุดลุกขึ้นมาขอโทษก่อนที่ผมจะได้ก้มไปช่วยให้ลุก

“พี่ไม่เป็นไรครับ น้องล่ะเจ็บตรงไหนไหม”

“ไม่ครับ สบายมาก อ๊ะ แม่ครับทางนี้ๆ”เด็กชายโบกมือให้ผู้หญิงวัยกลางคนที่กำลังเดินมาทางนี้

“น้าขอโทษนะคะเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ถ้ายังไงให้น้าเลี้ยงแก้วนี้แทนคำขอโทษนะคะ”

“ไม่เป็นไรครับ  อ๊ะ พี่อาร์ตอย่าบีบแรงดิ เจ็บมือนะ” ผมตอบผู้หญิงตรงหน้าแล้วหันไปบอกคนข้างๆที่บีบมือผมแน่น

“อาร์ต?”

“เอ่อ...ผมไม่ได้เป็นไรครับ ไม่ต้องเลี้ยงก็ดะ--- เฮ้ย พี่อาร์ต!!”

“ฝุ่นกลับ” คนตัวสูงว่าเสียงเข้ม ออกแรงกระชากผมให้เดินตามทันทีโดยไม่ฟังเสียงผมโวยวาย พอถึงรถก็จับเหวี่ยงเข้ารถแล้วสตาร์ทออกไป

เป็นอะไรของเขากันนะ...


Tbc.


———————————————————————————————————————

มาต่อกับทริปทะเลวันที่สองงง เอ๊ะพี่อาร์ตเป็นอะไรอ่ะ??

คุณหมอยังไม่ได้กินค่ะ คุณหมอยอมน้องงงง น้องไม่พร้อมก็ไม่กล้าทำ พี่อาร์ตได้กินแน่ๆค่ะทุกคน ใจเย็นกันนะ55555 แต่ตอนไหนอีกเรื่องนะหุๆ ///ขอโทษเรื่องที่ภาษาอาจจะกากๆหน่อยนะคะ ; w ;

รักทุกคน❤

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「19」02|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-10-2017 23:05:30
อ้าวว พี่อาร์ตเป็นไรอะ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「19」02|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 03-10-2017 08:34:58
เจอแม่เลี้ยงปะ.....
เมื่อไหร่จะได้กิ๊นนนนนนนน  :ling1:
คือพี่อาร์ทแบบยอมน้องทุกอย่างอะ น่าร้ากกกกกก  :mew1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「19」02|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 03-10-2017 22:26:43
แม่เลี้ยงกับน้องชายพี่อาร์ตแน่เลย ยังอุตส่าห์บังเอิญมาเจอกันอีก
ไม่ใช่ว่า พ่อพี่อาร์ตก็มาด้วยหรอกนะ เจอกันนี่เป็นเรื่องแน่
เรื่องเป็นแฟนกับน้องฝุ่นอีก ว่าพ่อพี่อาร์ตต้องไม่รับไม่ได้แน่ ๆ เลยอ่ะ
แต่ดูอย่างนี้ ก็เหมือนแม่เลี้ยงพี่อาร์ต ก็ไม่ได้นิสัยเลวร้ายเท่าไหร่นี่นะ
หมดสนุกเลยเนอะพี่อาร์ต อุตส่าห์มาเดทกับน้องทั้งที เฮ้ออ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「19」02|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 03-10-2017 22:50:34
 :serius2:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「20」04|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 04-10-2017 22:53:20
•20•


   หลังจากเราออกมาจากตลาดจักจั่น พี่อาร์ตก็ทำหน้าไม่รับแขกตลอดทางจนผมไม่กล้าพูดถามอะไร แต่เพราะเข็มอัตราความเร็วที่เพิ่มขึ้นสูงทำให้ผมต้องเอื้อมไปแตะแขนพี่มันเบาๆ

   “พี่อาร์ตเร็วไปแล้ว” เหมือนพี่อาร์ตจะเพิ่งนึกได้ว่ามีผมมาด้วย คนตัวโตผ่อนลมหายใจและค่อยๆลดระดับความเร็วลงจนกลับมาเป็นปกติ

“ขอโทษครับ” สิ้นคำพูดตัวโต ความเงียบก็เข้าปกคลุมห้องโดยสาร ทีแรกผมก็พยายามหาเรื่องคุยกับพี่มันแหละครับ แต่พี่มันตอบกับมาแค่ อืมๆ จนผมไม่รู้จะคุยอะไรต่อ เลยเลือกที่จะเงียบไว้ดีกว่า...


“อ้าว ทำไมกลับมาเร็วจัง” เมื่อถึงบ้านพี่ข้าวกับพี่ติณณ์ที่นั่งดูหนังอยู่ก็เอ่ยทัก แต่พี่อาร์ตก็เดินผ่านสองคนนั่นไปเฉย พี่ติณณ์เลิกคิ้วมองผมเหมือนจะถามว่ามันเป็นไร ผมได้แต่ส่ายหัวให้เพราะไม่รู้เหมือนกัน

เดินตามคนตัวโตที่เข้าห้องนอนไปก่อนหน้านี้ พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าพี่มันทำหน้าเครียดอยู่ปลายเตียง ผมขยับเข้าไปใกล้จนอีกคนเงยหน้ามามอง และรวบเอวผมเข้าไปกอด

ผมได้แต่ยืนนิ่งให้อีกคนกอด แล้วยกมือลูบผมสั้นของพี่มันเบาๆ ลมหายใจหนักๆกระทบหน้าท้องก่อนคนกอดจะพูดขึ้นมา

“ขอโทษที่พากลับมาก่อนนะ พี่ทำฝุ่นหมดสนุกหรือเปล่าครับ” พี่อาร์ตเอ่ยเสียงเรียบ ผมส่ายหัวก่อนนึกได้ว่าพี่มันไม่เห็น

“ไม่ครับ”

“ผู้หญิงคนนั้น... เมียใหม่พ่อพี่เอง”

“แม่เลี้ยงพี่หรอครับ” ผมถาม รู้แค่ว่าป้าเล็กหย่ากับสามีนานแล้ว และพี่อาร์ตก็ไม่เคยเล่าเรื่องทางนั้นให้ฟัง

“อย่าเรียกเขาว่าแม่เลยครับพี่มีแค่แม่เล็กคนเดียว อีกอย่างทางนั้นเขาก็ไม่นับว่าพี่เป็นลูกด้วย” พี่อาร์ตกระชับเอวผมให้ไปใกล้ขึ้นจนหน้าแนบกับหน้าท้อง

“รู้ใช่ไหมว่าพ่อแม่พี่หย่ากันตั้งแต่พี่ยังเด็ก” ผมตอบรับเบาๆ “พี่ถูกพ่อพาไปอยู่ด้วย ที่จริงเขาจะเอาทั้งพี่ทั้งแอ๋มไปแต่แม่ไม่ยอมเขาเลยพาพี่ที่โตกว่าไป คงเพราะลูกชายทำอะไรๆได้มากกว่าลูกสาวมั้ง ยังดีที่ตอนปิดเทอมเขายังอนุญาตให้พี่กลับมาหาแม่ได้ถึงจะมีข้อแลกเปลี่ยนก็เถอะจนได้เจอฝุ่นนั่นแหละ”

คนตัวโตผละออกจากหน้าท้องมายิ้มให้ผมด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นกว่าเดิม

“เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรพี่หรอกเจอหน้าปู่ย่ามากกว่าพ่อตัวเองอีก แต่พอใกล้ขึ้นมัธยมพ่อก็เข้มงวดเรื่องการเรียนพี่มาก ทั้งเรื่องสายการเรียน ลามไปถึงคณะตอนขึ้นมหาลัยเพราะตั้งใจจะให้พี่บริหารงานของทางนั้นต่อ ชีวิตช่วงนั้นพี่มีแต่เรียนและเรียนจนกระทั่งถึงจุดหัก
น่าจะช่วงพี่ม.2 พี่อยากจะไปหาแม่เพราะไม่ได้เจอนานมากแต่เขาไม่ให้ไปทะเลาะกันจนเขาตบหน้าพี่ ตอนนั้นพี่ไม่ไหวแล้วเลยโทรไปหาแม่...รู้ตัวอีกทีแม่ก็มากรุงเทพแล้ว สองคนนั้นทะเลาะกันลั่นบ้านจนปู่ต้องลงมาจัดการเรื่องเอง โดยการทำข้อตกลงฉบับใหม่ขึ้นมา”

“ข้อตกลง?”

“ครับ ปู่พี่ทำข้อตกลงระหว่างพ่อกับแม่ตั้งแต่เขาหย่ากัน ถ้าพี่จำไม่ผิดฉบับแรกพ่อจะมีสิทธิดูแลพี่จนจบมหาลัย ว่าง่ายๆคืออยู่ใต้คำสั่งเขาจน21-22นั้นแหละ แต่พอมีเรื่องเกิดขึ้นปู่เลยเปลี่ยนมาเป็นพ่อมีสิทธิดูแลพี่ถึงแค่จบม.3 แถมย่ายังไปยกเลิกบรรดาที่เรียนพิเศษให้พี่อีก บอกว่าอยากเรียนอะไรก็เรียนไปไม่ต้องสนเรื่องบริษัทก็ได้ หลังจากนั้นพี่ก็กลับมาอยู่โคราชจนเปิดเทอมแล้วกลับไปเรียนต่อจนถึงมหาลัย โชคดีที่แม่ซื้อคอนโดไว้ให้เลยไม่ต้องทนอยู่บ้านนั้นอีก มีไปหาปูย่าบ้างแต่ไปเฉพาะเวลาเขาไม่อยู่บ้านกัน โชคดีอีกอย่างคือตอนนั้นเขากำลังจะได้ลูกชายคนใหม่พอดี พี่เลยไม่โดนเพ่งเล็งอะไรมากออกมาอยู่คนเดียวชิวๆ”

“.....เจ็บไหม” ผมยืนมือลูบแก้มของอีกคนเบาๆ ตอนนั้นเด็กชายอินทัชเจออะไรๆมาเยอะสินะ...

 “ตอนนั้นเจ็บครับ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว” พี่อาร์ตจับมือผมไว้แล้วกดจูบลงกลางฝ่ามือ “แต่ก็นะ มันก็เหมือนแผลเป็นละมั้ง ถึงจะลืมๆไปแล้วแต่พอเห็นอีกทีก็รู้ว่ามันเคยเป็นแผล”

ผมเงียบ... อีกคนส่งยิ้มจางมาให้ ก่อนดึงผมให้นั่งลงที่ตักแล้วส่งมือมาลูบปากที่เม้มแน่น

“ไม่ทำหน้าอย่างนั้นสิครับ เรื่องมันผ่านไปนานแล้วเขาคงไม่มายุ่งกับพี่แล้วแหละ วันนี้ขอโทษที่พาออกมาก่อนนะครับ พี่แค่คิดว่าถ้าสองคนนั่นมาเขาก็ต้องมาด้วย แต่พี่ไม่อยากที่จะเจอเขา”

“ฝุ่นถามอะไรได้ไหม”

“ว่าไงครับ?”

“ทำไมถึงเลือกเรียนสัตวแพทย์?” ผมถามออกไป แต่คนตัวโตหันหน้าหนีทันที “ฝุ่นอยากรู้อ่ะ”

“เรื่องไม่บอกได้ไหมครับ...”

“ก็ได้.. ไม่อยากรู้ก็ได้” ผมแสร้งทำเสียงอ่อยแล้วก้มหน้ามองตักตัวเอง แอบอมยิ้มเมื่อเห็นอีกคนทำหน้าเหลอหลา

“เอ่อ...ถ้าบอกแล้วฝุ่นห้ามหัวเราะนะ” เงยหน้ามองพี่อาร์ตที่หันข้างให้ ใบหูพี่มันเปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อนๆ “ก็...ตอนนั้นก่อนพี่จะกลับกรุงเทพ พี่เห็นเด็กคนหนึ่งกำลังเอาลูกนกที่ได้รับบาดเจ็บไปหาแม่เขา แล้วบอกประมาณว่าสัตวแพทย์ทั้งเก่งทั้งเท่ คือ...พี่อยากได้คำชมจากเด็กคนนั้นมั่งเลยเลือกเรียนทางนี้ครับ”

ผมขมวดคิ้วทันทีเมื่อพี่มันพูดจบ เด็กที่ไหนวะทำให้พี่มันอยากเรียนหมอหมา
ว่าแต่... ทำไมเหตุการณ์มันคุ้นๆจังวะครับ?

   “ขมวดคิ้วนี่คิดอะไรอยู่ครับ” พี่มันจับแก้มผมให้หันมองหน้า

   “เด็กที่ไหน” พอผมพูดออกไป พี่อาร์ตก็ยกยิ้มกว้างจนน่าหมั่นไส้แล้วยื่นหน้ามาจุ๊บปากผมเบาๆ

   “หึงหรอครับ”

   “หึงบ้านพี่ดิ!!”

   “โอ๊ะ เด็กคนนั้นก็อยู่ข้างบ้านพี่นะ”

   ห่ะ
ผมมองอีกคนเต็มตา เด็กข้างบ้านพี่มัน...ก็ตูนี่หว่า

“ตามนั่นครับผม” พี่มันก้มจุ๊บผมอีกครั้ง ผละออกยกยิ้มละมุนให้ “ขอบคุณที่รับฟังเรื่องของพี่นะครับ”

“อื้อ ขอบคุณ...ที่เล่าให้ฟังครับ”

และคนพี่ก็กดริมฝีปากลงมาที่ปากผมอีกครั้งเมื่อสิ้นคำ...

———————————————————————————————————————

- อาร์ต –

ผมยอมรับว่าควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้พอเห็นหน้าผู้หญิงของคนๆนั้นที่ตลาดจนพาลไปลงกับน้อง ก็ยังว่าอยู่ทำไมไอ้เด็กที่ชนฝุ่นมันหน้าคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหน ที่แท้ก็...

หลังจากคุยทุกอย่างให้น้องฟังจนจบ พอเห็นว่าเด็กน้อยหลับไปแล้วผมก็เดินออกมาที่ชานบ้าน กะจะให้ลมทะเลตีให้สมองโล่ง ไม่นึกว่าไอ้เพื่อนสนิทผมมันจะยืนรออยู่เหมือนจะรู้ว่าผมต้องออกมาแน่ๆ 

“ว่าไง มีอะไรที่กูควรรู้ไหมอาร์ต”

ผมถอนหายใจให้กับความรู้ทันของมัน ก็นะ...คบกันมาเป็นสิบๆปีไม่รู้ไส้รู้พุงกันก็แปลก

“เฮ้อออ กูก็ว่าอยู่ทำไมมึงพอน้องกลับมาเร็ว หมดสนุกเลยดิ”  ไอ้ติณณ์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อผมเล่าจบ

“เออดิ แถมกูยังพาลใส่น้องอีก แต่ดีที่น้องมันยังฟังกูอยู่” ผมทรุดลงนั่งกับขั้นบันได ที่จริงมันเคยมีเรื่องคล้ายๆอย่างนี้เกิดขึ้นตอนปี3-4ได้ครับแต่ผมไม่ได้เล่าให้น้องฟัง ตอนนั้นพาไอ้ติณณ์ไปจีบพี่ข้าวอยู่ดีๆ บังเอิญหันไปเจอเมียใหม่พ่อนั่งอยู่โต๊ะเยื้องๆกัน ไม่นานนักก็มีสายเรียกเข้าจากเขาโทรเข้ามา ประมาณว่าจะให้ผมเข้าไปรับช่วงต่อให้ได้

...เรื่องสิ...

เท่านั้นแหละครับ โยนซิมทิ้งแล้วไปซื้อเบอร์ใหม่ทันที.... อารมณ์แบบต่างคนต่างอยู่ก็แล้วจะมายุ่งวุ่นวายอะไรกันอีก เพราะงั้นเรื่องที่เจอพวกเขาคราวนี้ผมเลยไม่ได้วางใจเท่าไร กลัวเหตุการณ์ซ้ำรอยครับ ทำได้แต่ขอให้ไม่เกิดเรื่องอย่างนี้ผมคิด

“แล้วตกลงพรุ่งนี้เอาไง กลับเลยไหม?”

“ไว้ค่อยถามสองคนนั่นแล้วกัน” ผมมองเข้าไปในห้อง “กูอยากพาน้องมันเที่ยวมากกว่ามาเครียดเรื่องกูว่ะ ไม่รู้คราวนี้เขาจะมายังไงอีก”

“แพลนเดิมสินะ ไปนอนได้แล้วมึง เครียดมากระวังน้องมันเครียดตามนะ”

“เออ”

เช้ามาพอถามทั้งสองก็ได้คำตอบว่าจะไปเที่ยวก่อนกลับ เราเลยมาอยู่ที่เพลินวานกันตามแพลนที่วางไว้ เด็กน้อยของผมที่ตอนนี้วิ่งพล่านถ่ายรูปไปทั่วโดยมีพี่ข้าวเป็นนายแบบเต็มใจ ตั้งแต่ตื่นเช้ามาน้องก็ไม่พูดถึงเรื่องเมื่อคืนเลยซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีเพราะผมก็ไม่อยากพูดถึงมันเหมือนกัน

“ข้าว! ไปหอมแก้มฝุ่นทำไม!” เสียงคนที่นั่งข้างผมโวยวายขึ้นเมื่อเห็นแฟนตัวเองหอมแก้มฝุ่น “ไอ้หมอมึงเอาเด็กมึงออกห่างแฟนกูดิ๊!”

“ฝุ่นมานี่ครับ” ผมเรียก แต่เด็กน้อยยังหน้ามึนยืนให้พี่ข้าวกอดไม่พอ ยังก้มไปหอมแก้มพี่ข้าวอีก! ผมมองน้องที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะมาหาจนต้องกดเสียงต่ำ “ฝุ่นครับ...”

“มาแล้วครับพี่อาร์ต แฮะๆ” น้องเดินมายิ้มแหยะให้ผม ผิดกับพี่ข้าวที่ยิ้มระรื่น “ฝุ่นยังไม่ได้ทำอะ----”

ฟอด ฟอด
ผมดึงน้องให้นั่งสองที่ตัก รอบเอวไว้แน่น แล้วหอมแก้มนิ่มทั้งสองข้างแรงๆอย่างไม่อายคนผ่านไปมา

“โทษที่ไปหอมแก้มคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ครับ จุ๊บ” และแถมจุ๊บแก้มขึ้นสีแดงนั้นไปทีนึง

“ว้าวววว/วิดวิ้ววว”

“เงียบนะพี่ติณณ์พี่ข้าว!” น้องหันหน้าแดงๆไปโวยวายใส่สองคนนั้น แล้วพยายามแกะมือผมที่กอดเอวออก พอแกะไม่ได้ก็ฟาดมือผมแรงๆ “นี่ก็ปล่อยเลยไอ้พี่บ้า!”

“ตินตินขอหอมแบนั้นได้ไหมครับ”

“ไม่ครับ คนเยอะข้าวอาย”

“ไอ้พี่อาร์ตปล่อยเลย! อยากกลับแล้ววว ฮื่อ”

———————————————————————————————————————

.....ทั้งสี่หยอกล้อกันอย่างที่ไม่รู้ว่าทุกการกระทำตกอยู่ในสายตาใครบางคน...


Tbc.


———————————————————————————————————————

ยังคะ ยังไม่ดราม่า
คนที่เจอก็เมียใหม่พ่อพี่อาร์ตเขาแหละค่ะ พี่หมอเราไม่เรียกฝ่ายนั้นว่าแม่และฝ่ายนั้นก็ไม่เห็นพี่อาร์ตเป็นลูกค่ะ เพราะคุณเธอไม่เคยมาดูแลซ้ำยังไม่ชอบลูกติดพ่อพี่แกด้วย
แต่อิพี่อาร์ตนี่... หายดราม่าก็ลวนลามน้องต่อเลยนะคะที่รัก

เจอกับพี่หมอต่อตอนหน้านะคะ❤

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「20」04|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 04-10-2017 23:43:20
 :hao5:


โอยยยยย
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「20」04|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-10-2017 05:04:40
พี่อาร์ต หื่น รุกฝุ่นหนักมาก ก็ยังไม่สำเร็จ
ยังไงๆ พี่อาร์ตต้องพยายามให้สำเร็จ จนได้  :o8: :-[ :impress2:

พ่อพี่อาร์ต ก็พาลูกเมียใหม่มาเที่ยว
คนที่เห็นหอมแก้มกันคงเป็นพ่อแน่เลย  o22 o22 o22
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「20」04|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-10-2017 11:30:03
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「20」04|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 06-10-2017 06:40:57
งานจะเจ้าอีกรอบสินะ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「21」07|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 07-10-2017 22:26:19
•21•

- สีฝุ่น –



   ตั้งแต่กลับมาจากทะเลจนถึงตอนนี้พี่อาร์ตก็มีอาการเหม่อลอยเป็นประจำเลยครับ ไม่รู้ว่ายังคิดมากเรื่องที่ไปเจอแฟนใหม่พ่อหรือเปล่า จะถามก็กลัวจะไปทำให้พี่มันคิดมากมากกว่าเดิมอีกเลยเลือกที่จะไม่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็น

   “เฮ้อ...”

   “พี่ฝุ่นถอนหายใจอีกแล้ว เดี๋ยวก็แก่ไวหรอก” เสียงใสๆคุ้นหูที่ดังขึ้นทำให้ผมต้องเงยหน้าจากเค้าเตอร์ขึ้นไปมอง

   “คิน! ไหนบอกแม่พี่ว่าเดือนนี้ขอลาไง แล้วนี่...” ผมถามคนตรงหน้า คิน หรือ ภาคิน เด็กผู้ชายที่สูงพอๆกับพี่ข้าวตัวเล็กใส่แว่น เป็นเด็กที่แม่ผมอุปการะอยู่ครับ มันบอกมีผมเป็นไอดอลเลยเลือกเรียนมัลติ... ก่อนหน้านี้น้องอยู่กับยายแค่สองคนพอยายแกเสียแม่ก็รับมันมาดูแลต่อ ส่งเสียพวกค่าเรียนค่าอยู่ แล้วคินมันเด็กขยันครับทำได้ทุกอย่างทั้งๆที่ไม่ได้สั่ง บอกว่าอยากตอนแทนเท่าที่ทำได้
แต่พอขึ้นมหาลัย คินมันก็ออกไปอยู่หอเพราะใกล้กว่าบ้านที่น้องอยู่ แม่เข้าใจว่าเด็กมหาลัยงานเยอะเลยให้มาช่วยงานร้านแค่เสาร์อาทิตย์ หรือช่วงว่างๆแทนครับ

   “คือ...มีปัญหานิดหน่อยฮะพี่ฝุ่น” น้องทำท่าอึกอักเหมือนไม่อยากจะพูดถึง

   “หืม มีไรเปล่า?”

”พี่ฝุ่นให้คินอยู่ด้วยสักอาทิตย์ได้ไหมฮะ นะๆ” เสียงอ้อนแง๊วๆของเด็กตรงหน้าทำให้ผมใจอ่อน แต่พอจะตอบตกลง หน้าของไอ้หมอหมาที่เนียนมานอนด้วยทุกคืนก็ลอยเข้ามา

“เอ่อ.. ขอพี่ถามแฟนพี่ก่อนนะ”

“หือออ พี่ฝุ่นมีแฟน!” ไอ้คินทำตาโตแบบที่ดูก็รู้ว่าแสร้งทำ จนผมอดที่จะดีดเหม่งมันไม่ได้

“เออ มีแล้วอยากเห็นป่ะ” เด็กมันพยักหน้า “หันหลังครับ”

   ขวับ!
ไอ้เด็กนี่หันหลังไปจังหวะเดียวกับร่างสูงของใครบางคนเปิดประตูก้าวเข้ามาในร้าน

“ไหนอ่ะพี่ฝุ่น คินเห็นแต่ลูกค้าเข้าร้าน พี่โกหกคินหรอออออ” ยังครับยัง มันคงไม่คิดว่าแฟนผมที่ว่าเป็นผู้ชาย พี่อาร์ตที่ดิ่งเข้ามาหาผมทำหน้าเหมือนอยากถาม แต่ผมเอานิ้วแตะปากตัวเองเป็นสัญญาณว่าไม่ให้พูด

“เมื่อกี้พี่บอกว่าไงครับ”

“ให้คินหันหลังแล้วจะเห็นแฟนพี่”

“แล้วไงต่อครับ”

“ก็พอคินหันหลังไป คินเห็นแต่ลูกค้าคนนี้เข้ามา ไม่เห็นมีใครที่น่าจะเป็นแฟนพี่ฝุ่นได้...เลย” ไอ้คินยกมือชี้หน้าคนมาใหม่ที่มายืนข้างๆตัวเองทันที ทำหน้าตาเหมือนเห็นผีมองผมสลับกับพี่อาร์ตไปมาจนผมขำ

“พะพะพะพี่ฝุ่น!!”

“หึ นี่พี่อาร์ตแฟนพี่เอง ส่วนพี่อาร์ตครับผนี่คินน้องอีกคนของฝุ่น” ผมแนะนำทั้งสอง ไอ้หมอหมายกยิ้มถูกใจคำว่าแฟน แต่ไอ้คินนี่สิ อ้าปากหวอไปแล้ว

“ไม่จริงน่า!”

“ก็ตามนั้นครับน้อง”

“จริงหรอคุณ!” มันทำตาโตหันไปถามคนยิ้มกริ่ม

“ให้พี่จูบปากฝุ่นให้ดูเลยไหมครับจะได้เชื่อ” พี่อาร์ตหันมายิ้มตาวาวๆให้ผม  ไอ้เด็กคินพยักหน้าทันที!

“ถ้าพี่อาร์ตทำตอนนี้ ห้ามเข้าห้องฝุ่น!!!!” ผมชี้หน้าห้าม ไอ้สองคนนั่นหัวเราขำ เออ เข้ากันไปเลยจ้า


หลังจากลากคินที่หยุดซักเรื่องผมแล้วเข้าบ้านพร้อมไอ้พี่อาร์ต น้องมันก็งัดลูกอ้อนที่ชอบใช้กับผมออกมาอ้อนพี่อาร์ตเพื่อที่จะได้ค้างบ้านผมได้
เดี๋ยวนะ ตกลงใครเจ้าของบ้านวะ... แต่พอพี่อาร์ตถามสาเหตุที่น้องจะมาอยู่บ้าน คินก็ไม่ยอมตอบ ก้มหน้าอ้อมแอ้มๆบอกแค่ว่ามีปัญหากับเพื่อนเฉยๆ

“นะๆ คุณศิลป์บอกให้ผมอยู่ได้ ปกติผมจะนอนกับพี่ฝุ่นแต่พี่ฝุ่นบอกให้ขอแฟนพี่ก่อน” ไอ้คินว่า ตอนนี้มันพับเพียบเรียบร้อยอยู่กับพื้นข้างพี่อาร์ต แทบจะซบตักไอ้หมอแล้วครับ
ส่วนพี่อาร์ตนั้น...ขมวดคิ้วจ้องผมเขม็งเลยวุ้ย

“ถ้าฝุ่นให้คินอยู่บ้าน ฝุ่นต้องไปนอนกับพี่นะ” จบคำพี่อาร์ต ไอ้คินก็หันมาทำตาปริบๆเหมือนลูกแมวใส่ผมเหมือนจะบอกว่า ตกลงไปสิ ตกลงไปนะ

อย่าคิดว่าจะได้ผล....

“นะครับพี่ฝุ่น” ผมมองสายตาอ้อนๆของมัน ก่อนจะเบือนหน้าหนี

....เออ กูยอมไอ้แมวนี่

“ทุกวันนี้ไม่ได้นอนด้วยกันหรือไง” ผมถอนหายใจออกมายาวๆหลังจบประโยค

   “ก็พี่อยากนอนกับฝุ่นนี่ครับ” ผีบ้า... เน้นคำว่านอนไม่พอ แววตาเหมือนสิงโตจ้องตะปบเหยื่อนั่นคืออะไรรรรร

   “เออๆ เห็นแก่คินนะ”

   “เย้ รักพี่ฝุ่นพี่สุดดด” ไอ้เตี้ยกระโจนขึ้นกอดผมแน่น จนพี่อาร์ตลุกขึ้นมากระชากคอเสื้อมันออกห่างผม
นั่นน้องกูนะ...

———————————————————————————————————————

“ครับพ่อ ครับๆได้ครับ บาย” ผมวางสายจากพ่อที่ยังลัลล้าอยู่ทะเลใต้ จู่ๆแกก็ได้งานด่วนจากเพื่อนมา แต่พ่อขี้เกียจทำเลยโยนงานให้ผมแทน... งานที่ว่าคือถ่ายพรีเวดดิ้งครับ

ผมหันจะบอกพี่อาร์ตเรื่องงาน แต่นึกขึ้นได้ว่าพี่มันเพิ่งเข้าห้องน้ำไปเมื่อสักครู่นี้เอง ตอนนี้โดนพี่มันบังคับย้ายสำมโนครัวมาอยู่ห้องที่คอนโดครับ ส่วนห้องผมก็ได้ไอ้คินครอง...


Rrrrrrrr
เสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นทำให้ผมยกโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดูว่าใครโทรมาแต่ก็พบกับหน้าจอเปล่า พอหันมองโทรศัพท์อีกเครื่องที่รุ่นเดียวกันเป๊ะที่วางอยู่บนโซฟา พร้อมหน้าจอแสดงชื่อ –แม่-

“พี่อาร์ตตต แม่พี่โทรมา” ผมตะโกนบอกคนในห้องน้ำ

“ฝุ่นรับเลยครับ พี่อาบน้ำก่อน” พอได้คำอนุญาตก็กดครับสายทันที “ครับแม่”

‘อาร์ตลูก เขาได้โทรหาเราไหม เมื่อวานเขาติดต่อลูกมาบอกว่าเจอลูกที่ประจวบฯ’ เสียงอีกฝ่ายดูรนแปลกๆ เขา? ใครวะ?

“เอ่อ..แม่ครับนี่ฝุ่นนะ พี่อาร์ตอาบน้ำอยู่ครับ”

‘อ้ะ ฝุ่นหรอลูก งั้นแม่รบกวนบอกพี่เขาให้โทรกลับหาแม่หน่อยนะครับ’

“ครับแม่”

พอวางสายจากแม่พี่อาร์ตเสร็จ รอไม่นานนักพี่มันก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพผ้าปิดส่วนล่างผืนเดียว แทนที่จะแต่งตัว พี่มันกลับเดินดิ่งมาหาผมแทน พี่อาร์ตเดินมาจูบผมจนพอใจถึงยอมไปแต่งตัวได้
.....ชินครับ


“พี่อาร์ตๆ อาทิตย์หน้าผมไปทำงานต่างจังหวัดนะ” ผมบอกคนข้างๆ มือยังเลื่อนอ่านรายละเอียดงานที่พ่อส่งให้อยู่ แม่งไปตั้ง3วัน บอกเลยขี้เกียจ

“อ้าว ไม่แทนตัวเองว่าฝุ่นแล้วหรอ” ผมยู่ปากจนอีกคนหัวเราะ “ไปเช้าเย็นกลับหรือเปล่า พี่จะได้ไปด้วย”

“น่าจะ3-4วันครับ เข้ากรุงเทพ”

“นาน! ไม่ไปได้ไหม” คนตัวโตขยับมากอดผมไว้ ทำหน้าอ้อนๆเหมือนที่ไอ้คินชอบทำใส่ผม รายนั้นแมวครับแต่นี่หมา... ความน่ารักมันต่างกันเถอะ

“ไม่ครับ พ่อรับปากไปแล้ว”

“งั้นให้พี่ทบต้นทบดอกก่อนไม่เจอกันนาน” มือพี่มันเลื้อยลงตามสันหลังผม แล้วบีบบั้นท้ายแรงๆ “ว่าแต่แม่โทรมามีเรื่องอะไรไหม”

“แม่พี่บอกให้พี่โทรกลับครับ ได้ยินแม่พูดประมาณว่าเขาติดต่อมา” เจ้าของมือที่อยู่ที่ก้นผมชะงักเมื่อผมพูดจบ สีหน้าร่าเริงเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉย

“ครับ งั้นพี่ขอโทรหาแม่ก่อนนะ” พี่มันจูบหน้าผากผมแล้วลุกขึ้นไปที่ระเบียงทันที

ผมมองตามแผ่หลังของคนตัวสูงกว่า ใบหน้าของพี่มันตอนคุยโทรศัพท์ดูเครียดๆ คิ้วขมวดหากันแน่น สีหน้าเหมือนว่าสิ่งที่ได้รับฟังมันไม่ใช่เรื่องดี

เขาที่ว่า...คงไม่ใช่พ่อพี่อาร์ตใช่ไหม...


   ครืด
   เสียงเปิดปิดประตูระเบียงทำให้ผมหันไปมอง คนตัวสูงเดินเข้ามานั่งข้างๆผมด้วยสีหน้าที่อ่านไม่ออก

   “ฝุ่นต้องไปทำงานวันไหนครับ” พี่มันถามเสียงเครียด

   “อีก3วันครับ พี่...พี่มีอะไรหรือเปล่า” ผมถาม แต่พี่มันนิ่งไม่ตอบ

   “พี่อาร์ต...”

   “....งั้นไปเก็บของครับเอากล้องไปด้วยเลย ไปหาแม่พี่ก่อนแล้วเดี๋ยวพี่ไปส่งถึงที่” ว่าจบพี่มันก็ฉุดผมให้ลุกขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าอันน้อยนิดในห้อง และพาผมไปเอาลูกรักที่ต้องใช้ทำงานที่บ้าน ก่อนจะจับผมยัดหน้ารถแล้วขับออกไปเลย

   “พี่อาร์ตครับ เกิดอะไรขึ้นหรอ” ผมถามคนที่ตั้งใจขับรถอยู่

   “ไม่มีอะไรหรอกครับ ง่วงก็นอนไปก่อนนะ” พี่อาร์ตไม่ตอบแต่เอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ
 
   ตกลงเกิดอะไรขึ้น!?

Tbc.


———————————————————————————————————————

อุ...มาลงต่อแล้วค่ะ ใครเห็นในทวิตเมื่อวานคงรู้แล้วว่าเรามัวแต่ทำของไปทำโรงทาน กว่าจะเสร็จทั้งหมดก็เกือบ4ทุ่มเลยไม่ได้เปิดคอมค่ะTwT

ขอบคุณทุกคนติดตามและคนเม้นนะคะ❤

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ
ปล. คินไม่ใช่มือที่สามนะ ดักไว้ก่อน ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「21」07|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-10-2017 22:56:33
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「21」07|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 07-10-2017 23:20:49
 :hao4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「21」07|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 08-10-2017 05:59:44
มีเรื่องอัลไลกัน.. คงไม้พ้น.. เรื่องพ่อสินะ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「21」07|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 08-10-2017 10:20:22
ไปถ่ายรูปให้พ่อของคินเหรอ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「21」07|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-10-2017 11:47:29
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「21」07|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-10-2017 12:56:55
ให้คิดว่าคนที่ติดต่อถ่ายภาพ คงไม่ใช่พ่อพี่อาร์ตนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「21」07|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 08-10-2017 13:21:35
เหมือนจะมีอีกคู่ น้องคินกับเพื่อน ผู้ทำให้น้องคินหนีมาหาพี่ฝุ่นแน่ ๆ > <
พ่อพี่อาร์ต จะมาก่อเรื่องวุ่นวายอะไรให้อีก เป็นคนที่น่ารำคาญจริง ๆ เฮ้อ  :เฮ้อ:
เอาใจช่วยพี่อาร์ตกับน้องฝุ่นจ้า
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「22」11|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 11-10-2017 01:10:54

ชี้แจงเรื่องการปรับเปลี่ยนเนื้อหา
 
เนื่องจากมีคนแจ้งมาว่าเนื้อเรื่องเราไปคล้ายกับอีกเรื่อง เราเลยเปลี่ยนเนื้อหาในส่วนที่คล้ายกัน
เช่นจากแมว->สุนัข คาแรคเตอร์พระเอก และในอีกหลายๆจุดให้ต่างออกไปค่ะ
แต่เนื้อเรื่องหลักๆยังคงเหมือนเดิม
ดังนั้นอาจจะมีจุดที่ยังแก้ไม่เรียบร้อย หรือตกหล่นอยู่บ้าง
 
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
 
- มีน

———————————————————————————————————————


•22•


“ฝุ่นตื่นครับ ถึงแล้ว” แรงเขย่าเบาๆที่แขนกับเสียงทุ้มคุ้นหูทำให้ผมลืมตาขึ้น ภาพภายนอกที่เห็นตอนนี้น่าจะเป็นที่จอดรถของอาคารๆหนึ่ง

“ที่ไหน...” ผมมองไปรอบๆ นาฬิกาดิจิตอลในรถบอกเวลาตีสองกว่าๆ

“กรุงเทพครับ นี่คอนโดที่พี่อยู่ตอนเรียน ขึ้นห้องไปแล้วค่อยหลับต่อเนอะ จุ๊บ” พี่อาร์ตก็ยังเป็นพี่อาร์ต...ฉวยโอกาสทุกครั้งที่ทำได้

“แล้วมาที่นี่ทำไมครับ” ถามออกไปเสียงงัวเงีย คนตัวโตทำท่าอึกอัก

“เดี๋ยวตอนเช้าค่อยคุยกันนะครับ ตอนนี้ขึ้นไปนอนเอาแรงก่อนดีกว่า”

“...อื้อ” ได้แต่เดินตามแรงจูงของคนพี่ ถึงห้องถึงเตียงเมื่อไรไม่รู้ รู้แต่หลับเป็นตาย...

.
.
.

รู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งเพราะได้ยินเสียงดังออกมาจากนอกห้อง พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย ถึงนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่โคราชแล้ว

“กี่โมงแล้ววะ...” ผมกวาดตามองหาสิ่งที่เรียกว่านาฬิกาในห้อง แต่ก็ไม่มี
นอนอีกซักงีบก็แล้วกั....

“เขาว่าอย่างนั้นจริงๆหรอครับ”
“ก็เขามาพูดกับแม่อย่างนั้นเองเลยนะ”

หือ?
เสียงพี่อาร์ตกับ..แม่?

“แม่เชื่อเขาได้หรือไง”
“แม่ก็ไม่รู้... อาร์ตไปปลุกน้องมากินข้าวเช้าก่อนดีกว่านะแม่ว่า แล้วค่อยคุยกับน้องด้วย”

ได้ยินเสียงพี่อาร์ตรับคำเบาๆ ตามด้วยเสียงประตูห้องที่ถูกเปิดขึ้น เสียงฝีเท้าเบาๆที่เดินมาหยุดนิ่งข้างเตียงและแรงยุบลงเมื่อคนตัวสูงนั่งลงตรงที่ว่างข้างๆ
ผมชะงักเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังโน้มหน้าลงมามาหา

“ว้า ว่าจะจูบปลุกสักหน่อยตื่นซะแล้ว” พี่มันยิ้มหวานให้

“ไม่ใช่เจ้าหญิงนิทรานะครับจะได้จูบปลุก” ผมว่า มือดันหน้าอีกคนให้ออกห่างแล้วลุกขึ้นนั่ง

“พี่ไม่ได้ว่าฝุ่นเป็นเจ้าหญิงนิทราครับ”

“.....” ผมมองค้อนให้อีกคน

“พี่ว่าฝุ่นเป็นเจ้าชายกบต่างหาก ไหนๆคืนร่างยังเอ่ย จุ๊บ”

“ไอ้พี่อาร์ต!!!” หมอนหนุนถูกฟาดใส่คนตรงหน้าไม่ยั้งมือ แม่งงงง

“โอ๊ยๆ พอครับๆ” พี่มันจับข้อมือผมไว้ “แม่ให้มาปลุกไปกินข้าวครับ แล้วพี่ก็มีเรื่องจะคุยด้วย”

“อะไรครับ”

“เดี๋ยวไว้ค่อยคุยกันนะครับ ตอนนี้ไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนไป” ผมพยักหน้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป แต่ออกมาอีกทีก็ไม่เห็นคนตัวสูงอยู่ในห้องแล้ว

“แม่ครับ พี่อาร์ตล่ะ?” ผมถามหา ไหนใครมีเรื่องจะคุยกับผมวะครับ

“เดี๋ยวมาจ้ะลูก รอพี่เขาแปปนึงนะ”

นาฬิกาเคลื่อนไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นคนตัวสูงเข้ามาในห้องอยู่ดี
จะว่าไปแอ๋มก็ไม่อยู่ หรือพี่อาร์ตออกไปกับแอ๋มหว่า?


แม่พี่อาร์เดินมาบอกกับผมว่าจะลงไปซื้อของมาทำมื้อเที่ยง ผมอาสาจะไปเป็นเพื่อนแต่ท่านบอกไม่เป็นไร จึงใช้เวลานี้ในการเดินสำรวจห้องเล่นๆ สงสัยเพราะมีแต่ผู้หญิงอยู่เลยมีแต่พวกกลิ่นครีมหอมๆ นึกสภาพตอนพี่อาร์ตอยู่ไม่ออกเลยแฮะ
ห้องนี้เป็นห้องขนาดสองห้องนอน  ห้องที่ผมนอนเมื่อเช้าคงเป็นห้องเล็กไว้สำหรับให้คนอื่นมานอนมั้งครับ เพราะพวกเฟอร์นิเจอร์และกลิ่นเครื่องสำอางแทบจะไม่มี

แกร่ก

เสียงประตูที่ดังขึ้นทำให้ผมหยุดการสำรวจห้องคนอื่นแล้วหันไปมองต้นเสียง ทีแรกผมนึกว่าเป็นแม่ของพี่อาร์ตที่กลับจากซื้อของ ไม่ก็พี่อาร์ตที่กลับมาแล้ว

แต่ทว่าไม่ใช่ทั้งสอง..

———————————————————————————————————————

-อาร์ต-

ย้อนกลับไปตอนที่ผมโทรกลับไปหาแม่
แม่บอกว่าก่อนหน้านี้เขาติดต่อมาหาแต่แม่เลี่ยงที่จะคุยจึงตัดสายไป ไม่กี่วันต่อมาก็มีซองใส่เอกสารอยู่ที่ล็อกจดหมาย เปิดดูข้างในเป็นรูปถ่ายของที่มีรูปของพวกติณณ์กับผมและฝุ่นอยู่ในนั้นมาให้แม่ด้วย ภาพที่แม่เอามาให้ดูเมื่อเช้ามองเผินๆเหมือนกลุ่มเพื่อนไปเที่ยวด้วยกัน ถ้ามันไม่มีรูปตอนที่ผมหอมแก้มน้องพอดี...
เท่านั้นแหละครับผมก็พาน้องมาแม่ทันที

“แล้วเล่าให้น้องฟังหรือยัง”

“รอให้ฝุ่นตื่นก่อนแล้วกันครับ” ผมมองประตูห้องนอนที่คนน้องหลับอยู่


หลังจากที่ไปปลุกและให้น้องไปอาบน้ำ ผมตั้งใจว่าจะคุยเรื่องนี้กับน้อง แต่พอผมก้าวออกจากห้องแม่ก็ยื่นโทรศัพท์ขอแม่มาให้ บนหน้าจอมีข้อความเรียกให้ไปพบแต่ไม่มีชื่อสถานที่นัดและชื่อคนส่ง
ถึงจะเป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกไว้แต่ก็น่าจะเดาได้ใครเป็นคนส่งมา

“แม่อยู่กับฝุ่นนะ เดี๋ยวผมไปหาเขาเอง” ไม่ทันให้แม่คัดค้าน ผมก็คว้ากุญแจรถออกจากห้องไปทันที

...ไปยังสถานที่ ที่เคยอยู่มา...


“มีธุระอะไรหรือคะ” เสียงของผู้ดูแลบ้านดังขึ้นเมื่อเห็นผมยืนอยู่หน้ารั้วบ้าน... บ้านหลังนี่ก็เป็นบ้านทั่วไปแหละ ไม่ได้ใหญ่โตถึงขนาดเรียกคฤหาสน์ แต่คงเพราะมีคนสูงอายุในบ้านเลยมีคนงานอยู่ด้วย

“คุณภูมินัดผมให้มาหาครับ บอกเขาไปว่าอินทัชมาหาครับ”

“สักครู่นะคะ” เธอเดินกลับเข้าตัวบ้าน รอครู่ใหญ่ก็มีคนงานมาเปิดประตูให้ผมเข้าไป

ไม่ทันได้ก้าวเข้าตัวบ้านดี เจ้าของก็ออกมาต้อนรับ

“ฉันจำได้ว่าไม่ได้เรียกแกมา” เขาเอ่ยขึ้น เจ้าของเสียงที่เปลี่ยนจากความทรงจำผมไปตามกาลเวลา ผายมือไปยังโซฟาชุดกลางห้องรับแขก

“ผมว่าคุณคงมีเรื่องอยากพูดกับผมมากกว่าแม่ผมนะครับ”

“หึ... ก็ดี รูปพวกนี้ฉันบังเอิญไปถ่ายได้ตอนไปเที่ยวกับครอบครัว” รูปถ่ายที่ผมเคยเห็นถูกยื่นวางบนโต๊ะตรงหน้า“นี่เป็นพวกผิดเพศไปแล้ว? แม่แกเลี้ยงแกยังไงให้แกเป็นอย่างนี้”

“ผมเป็นของผมเองเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่ผม อีกอย่างแม่ผมบอกไว้ว่าไม่ผิดที่จะรักใครสักคน” ผมว่าเสียงแข็ง

“เล็กว่าอย่างนั้น? ที่แกพูดมันก็จริง ไม่ผิดที่จะรักใครสักคน ” คนตรงหน้ายกยิ้มขึ้น “แต่อย่าลืมว่าสังคมนี้ไม่ได้เปิดกว้างสำหรับคนอย่างพวกแกขนาดนั้น ไม่ใช่ทุกคนจะรับได้กับความสัมพันธ์แบบนี้”

“....”

ความเงียบเข้าแทรก ต้นแบบดวงตาและโครงหน้าจ้องมองมาที่ผมที่ยังคงนั่งนิ่ง

“ในโลกนี้ยังมีอะไรที่แกยังไม่เคยเห็นอีกมาก แกแน่ใจได้ยังไงว่าที่แกเลือกมันถูกต้อ...”

“ผมมั่นใจในสิ่งที่ผมเลือก” ผมพูดขัด “ถึงต่อให้สิ่งที่ผมเลือกมันผิด แต่ผมจะไม่มีทางเลิกกันเขา”

“ฉันบอกตอนไหนว่าให้แกเลิก?” คนตรงหน้าเลิกคิ้วขึ้น ผิดกับผมที่ขมวดแน่น

“ก็คุณ...”

“ฉันแค่เตือนแกในฐานะที่แกเป็นลูกชาย”

“คุณไม่ได้....”

   “ฉันไม่ได้รังเกียจเพศที่สาม เพื่อนฉันหลายคนมันก็เป็น” เขายกยิ้ม แต่ไม่ใช่ยิ้มที่ผมเห็นมาตลอด.. “โลกนี้มันไม่ได้ยอมรับเรื่องนี้ได้กันทุกคน เพื่อนฉันบางคนต้องหลบๆซ่อนๆตัวตนเพียงเพราะมีคนรักเป็นผู้ชาย ฉันแค่เตือนสติแกเผื่อแกเลือกเดินทางผิด”

“ทำไมคุณ...”

“ฉันคงแค่อยากไถ่โทษเรื่องที่ทำไว้กับแกละมั้ง... นับวันฉันยิ่งแก่ตัวลง เหมือนมาคิดได้ตอนแก่ว่าอะไรๆที่เคยทำมันผิดมาก อันที่จริงฉันเรียกเล็กมาเพราะอยากคุยเรื่องนี้แหละ”

“.....”

“เรื่องที่ทำยังไงจะได้เจอแก”

“แล้ว...เรื่องรูป”

“อ้อ เรื่องนั้นฉันบังเอิญไปเห็นในกล้องของเจ้าเตมัน ยอมรับว่าครั้งแรกที่เห็นฉันเกือบรับไม่ได้กับการที่มีลูกชายเป็นเกย์ แต่ก็อย่างที่บอกว่าฉันรู้จักเพื่อนเป็นเกย์เยอะ แล้วฉันคิดวิธีที่จะคุยกับเล็กไม่ได้เลยใช้รูปนี้ให้เป็นประโยชน์ ไม่นึกว่ามันจะมีประโยชน์จริงๆ พาแกมาถึงนี่ได้โดยไม่ต้องให้เล็กช่วย”

ผมเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนตรงหน้ายกยิ้ม ยิ้มแบบมีความสุข...

“ฉันไม่ได้จะให้แกยกโทษเรื่องในอดีตให้ เพราะทำแกไว้มากจริงๆ ฉันรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะมาพูดตอนนี้... แต่เพื่อนความสบายใจของฉัน ฉันอยากให้แกยอมรับฟังคำขอโทษจากพ่อที่ไม่ได้เรื่องคนนี้”

.....

ผมนิ่งไปเมื่อได้ยินพูดจากคนตรงหน้า

“พ่อขอโทษนะ”

Tbc.


———————————————————————————————————————

   กลับมาแล้วค่ะ ขอโทษหายไปหลายวันเลย; w ; ก็ไม่ได้บอกนะคะว่ามีดราม่า—
เมื่อคืนนั่งเวิ่นเว้อฟังเพลงจนได้นิยายมาเรื่องนึงค่ะ ยังไงก็ขอฝาก First Time #ครั้งแรกพบ ด้วยนะคะ

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ

ปล. ไว้จบเรื่องหนูฝุ่นแล้วจะลงติณณ์ข้าวต่อนะคะ มีคนอยากอ่านคู่นี้เยอะมาก
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「22」11|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-10-2017 01:24:24
 :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「22」11|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-10-2017 05:13:43
 ไรท์ ลงหน้าผิดนะ  ต้องเป็น หน้า 6
กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「22」11|10|60 P.5

พลิกล็อก  :katai1:
ดีเลย ที่พ่อพี่อาร์ต แค่ตักเตือนให้คิดดีๆ
ไม่ได้ขัดขวาง หรือให้เลิก
แล้วพ่อยังขอโทษเรื่องที่เคยใช้อารมณ์ บังคับที่ผ่านมา
ก็ถือว่าสถานการณ์คลี่คลาย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「22」11|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-10-2017 09:51:54
พี่อาร์ตไปคุยกับพ่อ แล้วใครมาหาน้องฝุ่นล่ะ :hao4: :hao4: :hao4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「22」11|10|60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 11-10-2017 13:31:44
อ้าว คุณพ่อ ไม่ได้มาร้ายหรอกเหรอ แหะ ๆ ขอโทษที่ว่าคุณพ่อไปนะคะ
เวลาก็ทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้จริง ๆ อ่ะเนอะ เปลี่ยนไปทางที่ดีขึ้น ก็ดีไป
ดีแล้วที่ไม่ดราม่า แล้วใครไปหาน้องที่บ้านล่ะ
ขอบคุณคนเขียนค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「23」12|10|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 12-10-2017 21:18:02
•23•


-อาร์ต-
   


   “ฉันรู้ว่ามันสายเกินจะพูด แต่ฉันอยากให้แกแค่รับฟัง”   

ผมก้มหน้ามองมือที่กุมกันแน่น
ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงกับสถานการณ์ตรงหน้านี้ ผู้ชายตรงหน้าผมยกยิ้มขึ้นน้อยๆหลังพูดจบประโยคนั้น ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่บรรยากาศรอบตัวเขาดูผ่อนคลายขึ้นกว่าตอนแรกที่ผมมาถึง

แต่ความรู้สึกของผมตอนนี้... มันสับสน

ผมมาเพราะเรื่องรูปพวกนั้น แต่ทำไม... เรื่องที่เขาพูดจะเชื่อได้มาแค่ไหนกัน

“คุณ...ผม...ไม่รู้”

“ฉันบอกแล้วว่าแกไม่ต้องยกโทษให้ฉันก็ได้ แต่ขอให้ฉันได้พูดเพื่อความสบายใจของคนแก่ๆฉันเถอะ”

ผมเผลอเงยหน้าขึ้นมอง ไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนออกไป คนตรงหน้าถึงยิ้มอย่างนั้นออกมา

“ฉันไม่ได้มีแผนให้แกตายใจอย่างที่แกคิดน่า นี่เห็นฉันร้ายกาจขนาดนั้น” เขาหัวเราะออกมาเมื่อเห็นผมเลิกคิ้วสูง “ดูทำหน้าเข้านั่น”

“ที่คุณพูดเป็นเรื่องจริง...”

“ฉันพูดเรื่องจริงพูดจากใจจริง แต่แกจะเชื่อไม่เชื่อฉันคงไปห้ามความคิดแกไม่ได้หรอก สำหรับฉันแค่นี้ก็ดีแล้ว”
   
   “ผมไม่รู้ว่าจะเชื่อคุณได้แค่ไหน ผม....”

“รู้หรือยังว่าฉันหย่ากับแม่เจ้าเตได้หลายปีแล้ว” ผมเลิกคิ้วสูง “ที่เห็นว่าเขาไปเที่ยวกัน นั่นเจ้าเตเขาอยากไปแต่ฉันไม่ว่างทางนั้นเลยพาไปแทน”

“....ครับ”
   
“ที่บ้านนี้มีแต่คนแก่ๆ เจ้าเตก็ไปอยู่หอกับเพื่อนมันนานๆทีจะกลับ” จู่ๆเขาก็พูดขึ้น “ปู่ย่าคิดถึงแกนะ คราวหน้าพาแฟนแกมาพบพวกเขาสิ ฉันก็อยากเจอ”

“....ผมขอตัวกลับก่อนครับ” ผมลุกขึ้นยืนทันที แต่คนตรงหน้าไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาเหมือนรู้อยู่แล้วว่าไม่ช้าก็เร็วผมก็ต้องพูดคำนี้ ผมก้าวเท้ายาวๆไปทางประตูบ้านโดยมีเขาเดินตามมาติดๆจนถึงรถที่ผมจอดไว้นอกรั้ว

“พ่อ... ฉันฝากทักทายแม่แกด้วยนะ”

“ครับ” ผมเปิดประตูรถไว้แต่ยังไมเข้านั่ง “ไว้ผมจะมาหาปู่กับย่า...คราวหน้าครับ”
...หมายความว่าผมจะมาที่นี่อีก...

คนตรงหน้ายิ้มให้ผมเมื่อได้ยิน ผมก้าวเข้ารถและขับออกไปทันที

ผมจะลองเชื่อสักครั้งแล้วกันนะพ่อ



นาฬิกาในรถบอกเวลาว่าบ่ายกว่าๆแล้ว...

ผมเลี้ยวเข้ามาในที่จอดรถคอนโด และนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นเกือบห้านาทีแล้ว สาเหตุที่ผมไม่ลุกไปสักทีหรอครับ... เพราะผมลืมไปว่าเมื่อเช้าบอกน้องไว้ว่ามีเรื่องจะคุยด้วยน่ะสิ แต่ผมออกมาโดยไม่บอกน้องแบบนี้คงโดนโกรธ...

“เอาวะ เป็นกันเป็นกัน แม่น่าจะบอกแล้วน้องคนไม่โกรธมากหรอก...”

ให้กำลังใจตัวเองเสร็จก็เดินไปที่ลิฟต์ กดเลขชั้นรอไม่นานก็ขึ้นถึงจุดหมาย

“เฮ้อออ” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่อยู่หน้าห้อง ความเครียดที่มีของผมหายไปตั้งแต่ออกจากบ้านเขาแล้ว แต่ฝุ่นนี่สิผมไม่ได้บอกอะไรสักอย่างเลยเพราะอยากรอคุยกับแม่ให้แน่ใจก่อน  น้องมันจะเครียดมากแค่ไหนวะ

แอด
ผมค่อยๆเปิดประตูเข้าห้อง แค่กลัวฝุ่นโกรธทำไมรู้สึกเหมือนหนีเมียเที่ยวเลยว...

“จริงหรอครับ ฮ่าๆๆ”

เอ๊ะ? เสียงฝุ่นหัวเราะ?
ผมจ้ำอ้าวไปตามเสียงทักที เพื่อพบกับ...

“จริงสิ ตอนนั้นตั้งแต่อาร์ตกลับมามันก็เอาแต่พูดเรื่องเด็กข้างบ้านให้ฟัง ตอนแรกก็ไม่คิดว่ามันจะตามติดเราซะขนาดนี้ นี่อะไรกัน”

“โหยย คำว่าขนาดนี้น้อยไปครั้ง คราวก่อนไปทะเลกันตอนแรกฝุ่นจะไม่ไปด้วย พี่อาร์ตถึงกับหงอย อ๊ะ พี่อาร์ตมาแล้วครับ มานี่ๆ” น้องที่กำลังสนุกสนานกับการเม้าเรื่องผมกวักมือเรียกให้ผมเข้าไป ข้างๆน้องนอกจากแม่ผมแล้วยังมี...

...คุณปู่ กับ คุณย่า...

“ไงหลายชายตัวดี ไม่เจอกันนานเลยนะลืมไปหรือยังว่าเรามีปู่ย่าอยู่ฮึ” รูปประโยคเหมือนจะประชด แต่ใบหน้าของปู่กลับยิ้มกว้าง

“เอ่อ.. สวัสดีครับปู่ สวัสดีครับย่า” ผมยกมือไหว้คนทั้งสองแล้วทรุดนั่งลงข้างแม่ที่นั่งยิ้มให้ จากที่ว่าจะพาน้องเข้าไปหา ไม่คิดว่าจะได้เจอเร็วขนาดนี้ “นี่มาได้...ยังไง”

“ก็พ่อภูมิน่ะสิที่เล่าให้ฟัง บอกว่าหลานชายคนโตย่ามีคนรักแล้ว ปู่กับย่าเลยอยากมาเจอสักหน่อย” มือของย่าลูบเข้าที่แก้มนุ่มของน้อง ซึ่งเจ้าตัวก็ยิ้มรับ “ก็ไม่นึกเลยว่าคนที่เจอจะเป็นคนเดียวกับเด็กที่อาร์ตเคยเล่าให้ย่าฟังตอนเด็กๆ คนเดียวกับที่ทำให้หลานอยากเป็นสัตวแพทย์”

“แล้วคุณปู่ระ--”

“ได้ไม่ได้ก็อย่างที่เห็นล่ะหลานเอ๊ย” ย่าขัด “ตอนแรกที่ปู่หลานเห็นตาหนู ปู่แกก็เกือบลมจับ หลานชายคนโตมีคนรักเป็นเพศเดียวกัน”

ผมเงยหน้ามองปู่ที่นั่งยิ้ม

“แม่เล็กแกช่วยพูดช่วยอะไรให้ พอรู้ว่าเป็นใครจากไหนปู่แกก็เย็นลง หลานรักใครเราก็รักด้วยเนอะคุณ” ย่าหันไปคุยกับคนที่นั่งอีกด้านของฝุ่น “ถึงจะไม่ได้ยอมรับเต็มร้อย เพราะย่ายังอยากเห็นหน้าเหลนอยู่ก็เถอะ ไว้ค่อยให้เจ้าเตมีให้แล้วกัน”

คนตรงกลางระหว่างปู่ย่ายกยิ้มขำ

“งั้นให้ฝุ่นเป็นหลานอีกคนแทนนะครับคุณปู่ คุณย่า” นั่น มีประจบ

“ได้สิหลานรัก” จบประโยคของย่าก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของทุกคน

ได้กลิ่นเน่าๆไหมครับทุกคน?
หัวผมเอง...

———————————————————————————————————————


“ย่าไปแล้วนะหลาน”

“ดูแลสุขภาพด้วยนะครับคุณปู่คุณย่า”

“ว่างๆก็มาหาคนแก่สองคนนี้บ้างนะลูก”

“ได้ครับ”

ประโยคข้างต้นไม่ใช่ผมพูดครับ นู่นนน หลานรักคนใหม่ของย่าเป็นคนพูด

“ไว้ฝุ่นจะพาพี่อาร์ตไปหานะครับ” น้องหันมายิ้มหวานให้ผม

เมื่อประตูห้องปิดลง สีหน้ายิ้มแย้มของน้องก็เปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยทันที งานเข้าละไอ้อาร์ตยิ่งจอนนี้อยู่ห้องแค่สองคนด้วย... (แม่อาสาไปส่งปู่ย่าครับ)

จะว่าไปตั้งแต่ผมกลับมา ฝุ่นยังไม่คุยกับผมเลยนี่หว่า...

“เอ่อ ฝุ่นครับ...”

“หืม มีอะไรจะพูดกับผมหรอ”

“พี่ขอโทษที่ปล่อยให้ฝุ่นรอครับ” ผมทำตาปริบๆใส่น้อง

“แม่บอกแล้วว่าพี่อาร์ตไปธุระ แล้วคุณปู่คุณย่าพี่ก็บอกพวกผมหมดแล้ว ฝุ่นเข้าใจแล้ว แต่...” น้องหยิบโทรศัพท์รุ่นเดียวกับผมขึ้นชูให้เห็นหน้าจอ “หวานโทรมาตามให้พี่ไปทำงาน บอกว่าเดือนนี้พี่ลาไปเยอะแล้ว แล้วที่มานี่พี่ก็ไม่ได้ลาไว้ ฝุ่นต้องรับหน้าแทนอ้างนู่นนี่นั่น เพราะงั้น กลับ-ไป-ทำ-งาน!!!!”

“เงอะ...แต่ว่าฝุ่น”

“ไม่แต่ครับวันนี้ฝุ่นลาให้แล้ว ตอนนี้บ่ายสี่...กรุงเทพ-โคราชตีนผีแบบพี่ 2-3 ชั่วโมงก็ถึง เพราะงั้นกลับไปครับ ฝุ่นไม่อยากให้พี่ขับรถกลางคืน
มะรืนฝุ่นก็ต้องไปทำงานเหมือนกัน ไว้เจอกันหลังจากนั้นก็ได้ เค๊?”

“แต่พี่อยากอยู่กับ...”

“วันศุกร์หน้าฝุ่นเสร็จงานพี่ค่อยมารับ ตกลงตามนี้ครับ อะเป๋า”

ผมก้มมองเป้ที่ยัดใส่มือ... แล้วช้อนตามองฝุ่นแบบอ้อนๆ

“ถ้าเป็นเด็กดีกลับไปตอนนี้อยากได้อะไรฝุ่นให้อย่างนึงเอ้า” น้องว่า

“อะไรก็ได้ใช่ไหม?” ผมทวนคำน้อง แล้วแสยะยิ้มออกมาก

“คะ เอ่อ...ยกเว้นอะไรติดเรท” น้แงเปลี่ยนคำเมื่อเห็นหน้าผม นี่ผมแสดงออกทางสีหน้ามากไปหรอ

“ทุกอย่างสิครับ ตกลงตามนี้เนอะ” ผมยิ้ม “งั้นพี่ฝากบอกแม่ด้วยนะ ไหนๆมาจูบที”

ไม่รอน้องให้อีกคนปฏิเสธ ผมก็รวบตัวน้องเข้ามาแล้วกดริมฝีปากลงไปทันที เพราะน้องไม่ได้ตั้งตัวทุกอย่างเลยสะดวกต่อผมมาก ยกเว้นแต่น้องที่ไม่เปิดปาก

ปึ่ก! “พี่! แฮ่ก อาร์— อื๊อ!” แรงทุบที่ไหล่ทำให้ผมผละออกจากน้องเล็กน้อย จังหวะที่น้องอ้าปากผมก็ฉวยโอกาสแทรกลิ้นเข้าไปทันทีจนคนในแขนอ่อนยวบ

แต่แล้ว...

แกร่ก
“อุ๊ย แม่อย่าเพิ่งเข้าค่ะ!”
ปัง!

ขัดจังหวะมากเลยครับน้องสาว...

“พี่อาร์ตบ้า! กลับไปเลยนะ!” น้องผลักผมออกจากตัวเอง สภาพน้องตอนนี้บอกได้เลยว่าน่าฟัดมาก แก้มแดงๆ ปากบวมๆแดง อื้อออ

“ครับๆ ไปแล้ว ฟอดดด” ก้มห้อมแก้มอีกคนให้แดงกว่าเดิม แล้วเปิดประตูห้องออกไปทันที

“อ้าวเสร็จแล้วหรอ” แอ๋มที่อยู่หน้าห้องถามยิ้มๆ

“อ่าห๊ะ เดี๋ยวพี่กลับโคราชก่อน ฝากดูแลฝุ่นด้วยนะ”

“ต้องฝากพี่ฝุ่นให้ดูแลแอ๋มป่ะ? แฮะ คนหลงเมีย” แอ๋มเบะปากใส่ ผมมันเขียวเลยดึงแกล่างน้องแรงๆจนแอ๋มร้อง
   
   “พี่ไปละ บายยยย”

โบกมือลาน้องสาวตัวดี ก่อนลงลิฟต์ไปยังรถที่จอดไว้
รอฝุ่นอีกไม่กี่วันเอง...


จะขอน้องเรื่องอะไรดีนะ :)

Tbc.

———————————————————————————————————————

   มาต่อแล้วค่ะ เพื่อไม่ให้ค้างคาก่อนเราจะหายไปปป
///แจ้งงดอัพถึงสิ้นเดือนนะคะ แต่อาจมีเล็กๆน้อยๆแวบในทวิต ไปพูดคุยกันได้ค่ะ ❤❤

#กลิ่นสีและกาวน์หมอ

   ปล. ไม่กี่วันของพี่หมอ คือ เดือนหน้าของเรา...

หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「23」12|10|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 13-10-2017 00:06:08
 :hao6:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「23」12|10|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-10-2017 02:29:27
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「23」12|10|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-10-2017 10:41:41
หึ หึ เรื่องติดเรท ที่จะขอน้อง น้องก็ดักทางไปและ กร๊ากกกกก
แต่มีหรือพี่อาร์ตจะยอมรามือ พี่อาร์ตจอมหื่นซะอย่าง
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「23」12|10|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 13-10-2017 11:17:04
คุณปู่คุณย่า น่ารักจังเลย  น้องฝุ่นก็รู้จักเข้าหาคนแก่อ่ะ ขี้ประจบจริงเชียว 555
แต่พี่อาร์ตนี่ ไม่ดีเลยนะ ทิ้งงานทิ้งการมาไม่บอกกล่าวใครได้ไงคะ สมควรให้น้องโกรธแล้ว
ดีแล้วที่มีแฟนแบบน้องฝุ่น จัดการได้รวดเร็ว ฉับไว เด็ดขาดดีมาก ๆ
มีแฟนดีเป็นศรีแก่ตัวเนอะพี่หมอเนอะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「24」31|10|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 31-10-2017 22:17:59
•24•


- สีฝุ่น –


หลังจากที่บังคับกึ่งไล่พี่อาร์ตกลับโคราชได้แล้ว ผมก็ต้องมาหนักใจกับการที่หลุดปากว่าถ้ายอมไปจะขออะไรก็ได้... ระดับพี่อาร์ตมันคงไม่ขออะไรแค่กอดแค่จูบหรอกครับ...

คิดว่าเหลืออะไรที่ผมยังไม่เสียให้อีกคน... พี่มันคงขออันนั้นแหละครับ...



“ซ้ายหน่อยครับ ดีครับดี”

แชะ

“พี่ผู้ชายชิดหน่อยครับ”

แชะ แชะ

“โอเคครับ เรียบร้อยแล้วครับ”

ผมลดกล้องลงจากระดับสายตาเมื่อแสงสุดท้ายของวันหมดลง วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมทำงานครับ เร็วกว่ากำหนดหนึ่งวันเพราะเมื่อวานทางบ่าวสาวอยากได้ฉากกลางคืนด้วยเลยถ่ายอีกเซ็ตไปตั้งแต่เมื่อคืน เหลือแค่เอาภาพไปส่งต่อให้ทีมของพ่อจัดการต่อ งานนี้ผมมีหน้าที่ถ่ายอย่างเดียวจริงๆครับ...

“ขอบคุณน้องฝุ่นมากครับที่มาช่วยพวกพี่ พี่กรก็อินดี้เกินไปทิ้งงานไปเที่ยวแล้วให้ลูกชายมาแทน” เสียงหัวเราะจากบรรดาทีมงานดังขึ้นเมื่อสิ้นประโยคหลัง “เดี๋ยวค่าตัวน้องฝุ่นพี่จะโอนไปให้นะครับ”

“ขอบคุณครับพี่”


เพราะงานที่เสร็จไวกว่ากำหนด ทำให้ผมมีเวลาเอากล้องลูกรักออกไปตะลอนรอบกรุงเทพต่อในวันรุ่งขึ้น ถ่ายวนตามกระทู้พาเที่ยวรอบกรุงทั้งลงMRT ขึ้นBTSจะชวนเธอไปดูตู้ปลา (มีน : เดี๋ยวนะ...) ก่อนจะมาจบลงที่เจเจกรีนในตอนกลางคืน

รู้ตัวอีกทีก็ได้ของเต็มไม้เต็มมือ...


“อ๊ะ กลับมาแล้วหรอคะพี่ฝุ่น” สาวน้อยเปิดเหม่งในชุดเตรียมนอนเป็นคนมาเปิดประตูให้ผมเข้าห้อง ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้วครับ

“ครับ อ่ะพี่ให้ ส่วนอันนี้ของแม่นะ” ผมยื่นของในมือให้แอ๋มสองถุง เป็นเสื้อลายน่ารักๆของแอ๋มถุงนึงกับต้นไม้ต้นเล็กๆของแม่

“ขอบคุณค่ะพี่ฝุ่น ว่าแต่ไปไม่ชวนน้องชวนนุ่งเลยนะ”

“ก็พี่ยิงยาวแต่เช้าเลยนี่ จะให้ชวนตอนไหนละ” ผมลูบหัวแอ๋มที่ทำปากจู่ใส่ “เราก็ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้เรียนเช้านี่”

“ค่า พรุ่งนี้พี่ฝุ่นก็กลับแล้วป่ะ?”

“อื้อ กลับสายๆพี่ชายเราจะมารับ”

“ว่าแต่นะพี่” สาวน้อยเงยหน้ามองผมตาแป๋ว “กับพี่ชายแอ๋ม..โดนกินรึยัง”

“แอ๋ม!!!”

“ฮ่าๆๆๆ ไปนอนแล้วววว ฝันดีค่ะ” แอ๋มยิ้มร่าแล้ววิ่งเข้าห้องไป

ผมส่ายหัวให้กับแอ๋ม สาวเท้ายาวๆไปที่ห้องอีกห้องที่เป็นที่สถิตของตัวเองตอนนี้ ทิ้งของที่ซื้อมาลงพื้นก่อนเดินเข้าไปห้องน้ำด้วยความล้าขาจากการเดินทั้งวัน

ออกมาเจอเตียงนุ่มๆก็หลับเป็นตายครับ

คร่อก



“อืม...”

ผมขยับตัวเมื่อรู้สึกไม่สบายตัวกับท่านอน ก่อนความอบอุ่นคุ้นเคยที่ได้รับทำให้ผมพลิกตัวเข้า...หา

เดี๋ยวนะ คุ้นเคย?

พรึ่บ!

“พี่อาร์ต!”

ผมลืมตามองบุคคลร่วมเตียงที่ตอนนี้งัวเงียจากการถูกปลุกกะทันหัน

“พี่อาร์ตมาได้ไง! ไม่สิ มาตั้งแต่ตอนไหน!”

“ค่อยคุยนะ พี่ขอนอนก่อน”

พูดจบแขนพี่มันก็เกี่ยวให้ผมลงไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่มันพร้อมผ้าห่มทันที ไม่นานนักไอร้อนจากลมหายใจที่รดต้นคอผมอยู่ก็เป็นจังหวะเสมอทำให้รู้ว่าคนอีกคนหลับสนิทไปแล้ว ผมพยายามแกะมืออีกออก แต่ปลาหมึกมันรัดแน่นเกินไปจนผมได้แต่กรอกตาไปมา


ผมเผลอหลับไปอีกรอบตามพี่อาร์ตไปติดๆ ก่อนจะรู้สึกตัวขึ้นเมื่อมีมือมายุ่มย่ามกับร่างกายผม...

“พี่อาร์ตปล่อย”

“ไม่ปล่อยครับ คิดถึง” ว่าจบพี่มันก็งับลงหลังคอผมแรงๆ มือยังคงบีบเค้นอยู่กับยอดอกผม

“พี่อาร์ตฝุ่นบอกให้ปล่อย!” ผมฟาดมือลงกับมือที่อยู่ใต้เสื้อ แต่กลับโดนพี่มันรวบสองมือผมไว้ด้วยมือเดียว และพลิกตัวขึ้นมาคร่อมผมไว้

“ไม่เจอกันตั้งนาน ขอพี่ชื่นใจหน่อยครับ จุ๊บ” ตั้งนานบ้าอะไร! ผมได้แต่เถียงพี่มันในใจเนื่องจากปากโดนปิดด้วยปากของอีกคน

มืออีกข้างที่ว่างของพี่มันลูบไปทั่วลำตัวผม ก่อนจะเคลื่อนลงและหยุดลงตรงจุดกลางตัว

“อื้อออ” ผมครางประท้วงเมื่อไอ้พี่มันบีบคลึงส่วนนั้นหนักๆ “พี่อาร์ต ฝุ่นไม่เอานะ!”

“จุ๊บ พี่ไม่ได้เอาครับ พี่แค่จะช่วย” พี่อาร์ตยกยิ้มละมุนให้ผม รอยยิ้มกับการกระทำไม่เข้ากันเลย!

“อ๊ะ ไม่เอา”

 “จุ๊บ หึๆ ฝุ่นน้อยตื่นแล้วนี่ครับ”

 “อื้อ...อ๊ะ พี่อาร์ต” จากเสียงห้ามกลายเป็นเสียงครางตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มือใหญ่ของอีกคนกำลังรูดรั้งส่วนแข็งขืนผ่านเนื้อกางเกงที่ผมใส่อยู่

 “อ๊ะพี่อาร์ต เร็วอีก...”

“ครับที่รัก” พี่มันปล่อยมือข้างที่ตรึงมือผมไว้อยู่ให้เป็นอิสระ ก่อนมือนั้นจะกระชากกางเกงผมให้พ้นออกไปทำให้มือใหญ่ได้สัมผัสเนื้อโดยตรง

“อ๊ะ...พี่”

แกร่ก

“พี่ฝุ่นคะ แอ๋ม... ว้าย! ขอโทษค่ะ!”

ปั้ง!

เสียงเปิดปิดประตูและเสียงของหญิงสาวที่ดังขึ้นมา ทำให้พวกเราชะงักจากกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ ผมหันหน้าสบตากับคนด้านบนที่ยิ้มแหยออกมาให้

“ฮึก..”

“โอ๋ ไม่ร้องครับๆ ยัยแอ๋มไม่เห็นอะไรหรอกครับ ดูสิผ้าห่มบังอยู่นะ” พี่อาร์ตดึงผมขึ้นไปกอดปลอบ ตวัดผ้าห่มให้คลุมตัวผมที่ตัวยังไม่เรียบร้อยไว้คนเดียว

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่เอา” ผมเบะปากโทษคนตัวสูงแล้วซุกหน้าลงกับผ้าที่คลุมตัว มันอายจนน้ำตาจะไหล...

“ครับๆ ขอโทษครับ ไม่ร้องนะ เอ่เอ๊”

ไอ้เอ่เอ๊ของพี่อาร์ตนี่แหละครับที่ทำให้ผมพอหลุดหัวเราะออกมาได้



“พี่อาร์ต! พี่ฝุ่นอ่ะ”

“นู่นน เขินม้วนอยู่ในห้องเนี่ย”

เสียงของแอ๋มดังขึ้นทันทีเมื่อเห็นพี่อาร์ตก้าวออกจากห้อง ก่อนเจ้าตัวจะโผล่หน้ามาให้ผมที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วเห็น

“งื้อ เมื่อกี้หนูขอโทษ หนูไม่รู้ว่าพี่....”

“ไม่ต้องพูดดดดด หยุดเลยแอ๋ม!” แอ๋มยกมือขึ้นปิดปากทันที ผมเลยพูดต่อ “เมื่อกี้ไม่เห็นอะไรใช่ไหม”

“ไม่เห็นค่ะ ไม่เห็นๆๆ” น้องสายหัวจนผมกระจาย

“แล้ว...มีอะไรครับ”

“แอ๋มจะมาบอกว่าแอ๋มจะไปมหาลัย ส่วนแม่ออกไปแต่เช้าแล้ว ถ้าพี่ๆจะกลับกันก็ทิ้งกุญแจไว้ในห้องได้เลยค่ะ”

“แค่นั้นเขียนโน้ตไว้ก็ได้มั้ง” เสียงอ.อ่างคนพี่ดังแทรกขึ้นมา

“ก็แอ๋มอยากบอกอ้ะ! ใครจะรู้ว่าพี่กำลั---”

“แอ๋ม!!”

“เอ่อ.. ไม่พูดแล้วค่ะพี่ฝุ่น แฮะๆ งั้นไปเรียนก่อนนะพี่ บายยย”

อ.อ่างคนน้องออกจากห้องไปแล้ว ตอนนี้เหลือสิ่งมีชีวิตสองคนอยู่ที่ห้อง...

“ตกลงพี่มาตอนไหน” ผมเดินออกมาจากห้อง ก่อนนั่งลงมองแผ่นหลังของคนตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ครัว

“ถึงนี่ตีสี่ครับ เมื่อคืนเลิกงานตีหนึ่งก็บึ่งมาเลย”

“ทำไมไม่มาตอนเช้า”

 “หน้าหนาวขาดผ้าห่มไม่เป็นไร” ไข่ดาวใบสวยในจานถูกวางลงตรงหน้าผม “แต่ขาดเธอเหมือนขาดใจจริงๆเชียว”

ผมกรอกตากับความเสี่ยวของหมอหมา

“ก็พี่คิดถึงฝุ่นนี่ครับ อยากเจอไวๆ” พี่อาร์ตหั่นไข่ดาวเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วจ่อที่ปากผม “อ้ามครับ อ้ามม”

“ฝุ่นกินเองได้” ผมเบือนหน้าหนีพ่อครัวจำเป็นที่ยิ้มเล็กๆให้

“พี่ป้อนคำเดียวก็ได้อ่ะ อ้ามม”

ผมเหล่มองพี่อาร์ตแล้วงับเนื้อไข่เขาปาก พี่มันยิ้มกว้างเมื่อเห็นผมเคี้ยวไข่ตุ้ยๆ

จุ๊บ

“อ๊ะ”

“อิ่มแล้วจะได้กลับบ้านเรากันครับ เนอะ” พี่อาร์ตกัดปากล่างผมเบาๆก่อนผละออกไปอีกทาง

“ไอ้พี่บ้า...”



“พี่อาร์ตๆ ได้ไปดูไหมว่าคินมันกลับหอไปยัง” ผมถามคนตัวสูงระหว่างที่กำลังขับรถกลับโคราช

“ยังนะ”

“อืมมม” ผมลูบคางตัวเอง กลับไปคงต้องไล่มันไปนอนห้องอื่นแฮะ

“คิดอะไรอยู่ครับ คิ้วขมวดเชียว” มือหนาจิ้มเข้าที่หว่างคิ้วผมอย่างแรงจนหน้าหงาย

“เจ็บ!”

“คิดอะไรอยู่ หืม” พี่อาร์ตถามซ้ำ “เหมือนตอนฝุ่นนั่งรถพี่ครั้งแรกเลย ตอนนั้นฝุ่นก็คิ้วขมวดแบบนี้แหละ”

“ฝุ่นแค่คิดว่ากลับไปจะไปไล่ไอ้คินมันไปนอนห้องอื่น หรือจะนอนกับมันดี”

“.....”

“หืม?”

“ตอนนั้นฝุ่นบอกว่า ถ้าพี่เป็นเด็กดีกลับไป พี่จะขออะไรฝุ่นก็ได้ใช่ไหม” คนตัวสูงสบตาผมผ่านกระจกหลัง ตาพราวๆนั่นให้ผมได้กลืนน้ำลายอึกใหญ่

“...ครับ”

“งั้นพี่ขอ...”  ผมเผลอกลั้นหายใจ “ขอให้ฝุ่นไปอยู่กับพี่ได้ไหมครับ”

ผมเบิกตากว้างมองคนที่กำลังขับรถอยู่ มือข้างนึงของพี่มันละมายีหัวผม “หึๆ ดูทำหน้าเข้า คิดว่าพี่จะขออะไรครับ”

“ไม่ได้คิด...ครับ”

“หรอออออ” พี่มันว่าเสียงสูงก่อนรถจะหยุดเพราะสัญญาณไฟเป็นสีแดง

“จริงครับ”

“ถ้าเรื่องอย่างกว่า...” พี่มันยื่นหน้ามาใกล้ๆผม “พี่จัดเลยครับ ไม่เสียเวลาขอหรอก หึๆ”

“.......ไอ้หมอหื่น!!”


หลังจากกลับมาจากกรุงเทพฯ ผมก็ย้ายตัวเองมาอยู่กับพี่อาร์ตตามที่พี่มันขอไว้ พี่อาร์ตขอแค่จนกว่าไอ้คินมันจะกลับไปนอนหอมันผมต้องไปนอนคอนโดพี่มันแทน เรื่องมันง่ายขึ้นเมื่อไอ้พี่อาร์ตไปขอพ่อแม่ผมไว้แล้วด้วย...

ตั้งแต่ไปอยู่ห้องกับพี่มันนะครับ พี่อาร์ตแทบไม่แตะผมเลย ซึ่งมันเหมือนจะเป็นเรื่องดีสำหรับผมนะแต่ทำไมตาผมกระตุกถี่ก็ไม่รู้

เหมือนพี่มันจะทำให้ผมตายใจว่าพี่มันจะไม่ทำอะไรอย่างนั้น...
แต่แววตาพี่มันบอกว่าตูไม่รอด...
   

“พี่ข้าวครับ” ผมสะกิดคนตัวเล็กที่นั่งข้างๆที่กำลังยกแก้วใส่น้ำสีอำพันขึ้นดื่ม

วันนี้พี่ข้าวกับพี่ติณณ์บุกไปหาผมที่ถึงห้องครับ มาพร้อมกับบรรดาเหล้าเบียร์และกับแกล้มทั้งหลาย เห็นบอกว่าบอกพี่อาร์ตไว้แล้วว่าจะเข้ามาหา

“มีอะไรหรอน้องฝุ่น” พี่ข้าวหันมายิ้มให้ “หรือเอาอะไรอีกไหม”

“ไม่ครับ คือ” ผมเม้มปาก ก่อนขยับเข้าไปกระซิบข้างหูพี่ข้าว “ที่พี่เคยบอกว่า...ครั้งแรกมันเจ็บจริงๆหรอ”

พี่ข้าวทำตาโต รอยยิ้มหวานก่อนหน้ากลายเป็นยิ้มกริ่มจนผมเสียวสันหลังวาบ

“อะไรเจ็บๆนะฝุ่น”

“ติณณ์ไปซื้อของให้หน่อย พี่จะขอคุยกับฝุ่นหน่อย” พี่ข้าวพูดกับพี่ติณณ์ที่โผล่หน้ามาแทรกกลาง เอ่ยชื่อของที่(บังคับ)จะให้ไปซื้อให้

“ข้าวอ่ะ ขอคุยด้วยคนดิ”

“ไป ไม่งั้นคืนนี้อด” อด...อดอะไรครับพี่ข้าว!

“ครับ! ไปแล้วครับ!” พี่ติณณ์วิ่งออกไปทันทีที่สิ้นคำ พี่ตัวเล็กก็หันมามองผม

“อืม...ครั้งแรกหรอ นี่อาร์ตปล่อยฝุ่นไว้นานขนาดนี้เชียวหรอ พี่ก็นึกว่า...”

“ยังครับยัง” ผมส่ายหัวรัวจนพี่ข้าวหัวเราะร่า “ยังไม่ถึงขั้นนั้น”

“โอ๊ะโอ ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอแสดงว่าคืนนั้นแค่...” ผมครางชื่อคนข้างๆในคอ เมื่อเห็นพี่ข้าวชูนิ้วตัวเองขึ้นมาสองนิ้วแล้วขยับไปมา

“พี่ว่าถ้าเป็นอาร์ตคงไม่ทำเราเจ็บหรอก” คนตรงหน้ายกแก้วขึ้นจรดปาก แล้วพูดเสียงเบาราวกับพูดกับตัวเอง “ถ้าไม่โดนบังคับก็คงไม่น่าเจ็บ...”

“เอ๋?”

“นี่แสดงว่าอาร์ตมันขอสินะ ฝุ่นถึงมาถามพี่แบบนี้” ผมพยักหน้าแทนคำตอบ รู้สึกร้อนวูบที่แก้มจนได้แต่นั่งจ้องสร้อยข้อมือที่ใส่อยู่ “จริงๆฝ่ายรับอย่างเรามันต้องเตรียมตัวเยอะหน่อย”

“อันนี้เคยอ่านเจอครับ แต่...”

“เชื่อพี่สิ อาร์ตมันไม่รุนแรงกับฝุ่นหรอกดูมันออกจะหวงเราขนาดนี้”

ผมเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่นั่งข้างๆที่ส่งยิ้มให้ ก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ “เชื่อใจ ไว้ใจ แล้วมันจะดีเอง”

“...ครับ”

“แต่ว่านะ” พี่ข้าววางแก้วลง แล้วหันมาหาผมทั้งตัว “ให้พี่สาธิตไหมเรื่อง ‘จัดการ’ ตรงนั้นน่ะ”

“เอ่อ...เกรงใจครับ” ผมเถิบหนีคนตัวเล็กที่ปีนขึ้นเกยตัก แล้วจับผมนอนลงกับโซฟา “พี่ข้าววววววว ไม่เอา~”

“น่าคนกันเองกลัวไร”

“ไม่ๆๆ ลงจากตัวผมนะพี่ พี่เมาแล้วใช่ไหม!!” ผมดันมือพี่ข้าวออก แต่คนตัวเล็กที่แรงเยอะกว่าไม่ขยับสักนิด

“รู้ทฤษฏีจากในเน็ต แต่พี่สอนปฏิบัติให้นะ”

“ม่ายยยยยยย”

Tbc.

———————————————————————————————————————

กลับมาแล้วค่ะ แฮร่
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「24」31|10|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-11-2017 00:32:25
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「24」31|10|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-11-2017 08:45:22
เดี๋ยวววววว พี่ข้าวหยุดเลยนะปล่อยเป็นหน้าที่พี่อาร์ตเถอะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「24」31|10|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-11-2017 12:55:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「25」02|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 02-11-2017 23:40:51
•25•


- อาร์ต –
 “มึงไม่ได้อยู่ข้างบนกับข้าว?” ผมเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่ยืนสูบบุหรี่ตรงข้างลานจอดรถ ในมือมันมีถุงใส่ขนมและกระป๋องเบียร์อยู่

“ข้าวไล่กูลงมาซื้อของ ได้ยินฝุ่นไปคุยเรื่องอะไรเจ็บๆนี่ล่ะเลยถูกไล่ลงมา” ไอ้ลูกเสี้ยวพ้นควันออกมา “กูเลยอยู่รอขึ้นไปพร้อมมึง”

“เมียมึงชอบแกล้งฝุ่นยังกล้าปล่อยไว้สองคนนะ” ผมส่ายหัวออกมาช้าๆขณะเดินไปขึ้นลิฟต์ ตอนสองคนนั้นเจอกันครั้งแรกพี่ข้าวนี่ขึ้นคร่อมฝุ่นจนไอ้ติณณ์กระชากออกแทบไม่ทัน ไปทะเลก็มุ้งมิ้งกันซะ

ไอ้ติณณ์หัวเราะออกมาเบาๆ “เชื่อกูเถอะ ข้าวไม่ทำอะไรเมียมึงหรอก”

“อย่าไปเรียกฝุ่นว่าเมียกูให้น้องได้ยินนะ กูยังไม่อยากง้อน้องมัน”

“หืม นี่ยังไม่ได้? อุ๊ยว๊าย พี่อาร์ตอ่อน” ไอ้ติณณ์สะดิ้งจนผมกรอกตา

“กูรอน้องพร้อม ใครจะเหมือนมึงละล่อซะพี่ข้าว...” ผมหยุดพูดเมื่อถึงหน้าห้อง ได้ยินเสียงบางอย่างดังออกมาจากในห้องเบาๆ

“อ๊ะ พี่ข้าวไม่เอา ฝุ่นเจ็บ”
“อีกนิดน่า เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว”
“พี่ข้าว...อา”
“ตรงนี้หรอ”
“อึก ออกไปมันเจ็บ!”

ผมหันมองเพื่อนสนิทที่มันขมวดคิ้วแน่นไม่ต่างกับผม บทสนทนาล่อแหลมทำให้ผมรีบควาญหากุญแจในกระเป๋า แทนที่จะเคาะให้ฝุ่นมาเปิดแบบปกติ

ผัวะ
“ข้าว!” ไอ้สูงข้างผมก้าวเข้าไปในห้องทันทีที่ประตูเปิด “ข้าวทำอะ...ไร”

ผมมองตามเพื่อนสนิทที่พุ่งไปอุ้มแฟนตัวเองที่มีแค่บ็อกเซอร์ติดตัวขึ้นแนบอก ก่อนจะเดินไปตรงที่สามคนนั่นอยู่ ภาพตรงหน้าที่เห็นทำให้ผมถึงกับถอนหายใจ

สีฝุ่นที่นอนหลับหน้าแดงตาพริ้มอยู่บนโซฟา ทั้งตัวมีแค่เสื้อยืดกับบ็อกเซอร์ตัวเล็กติดกาย

อิหรอบนี้เมาชัวร์

“ดูท่าคืนนี้เราแล้วอดกินแล้วว่ะ ดูพวกนี้ดิ” ติณณ์ถอนหายใจออกมา

“เถอะน่า ว่าแต่เมื่อกี้พี่ข้าวทำอะไรฝุ่นครับ” ผมถามคนตัวเล็กที่หัวเราะคิกคักอยู่ในอ้อมกอดเพื่อนสนิทผม

“ข้าวแค่นวด~ ฝุ่นบอกเมื่อยเราเลยนวดให้” พี่ข้าวตอบเสียงยานแล้วซุกเจ้าของอ้อมแขน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมาแล้วทั้งคู่

“มึงเอาพี่ข้าวไปล้างหน้าแต่งตัวก่อนไป มึงจะนอนไหนห้องหรือตรงนี้?”

“ตรงนี้ก็ได้ ฝากเคลียร์ที่ด้วย” มันตอบแล้วอุ้มพี่ข้าวเข้าห้องน้ำไป โชคดีที่คนตัวเล็กทั้งสองกินแล้วไม่ทำเละเทะ ผมเลยเก็บของทิ้งและไปเอาที่นอนมาปูได้สะดวกระหว่างรอสองคนนั่นไปจัดการกันเองในห้องน้ำ

ผมเกลี่ยผมที่ปรกหน้าคนตัวเล็กที่หายใจสม่ำเสมอออก ตั้งแต่กลับมาจากกรุงเทพฯผมก็ไม่ได้แตะน้องเกินความจำเป็นเลย เรื่องของเรื่องคือกลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้ครับ มีคนตัวนิ่มๆหอมๆกอดพอดีอยู่ข้างมือทุกวันแต่ทำไรไม่ได้ ได้แต่ท่องไว้ว่าน้องยังไม่พร้อม แล้วไปใช้บริการแม่นางทั้งห้าแทน...

“เรียบร้อยแล้ว มึงก็เอาฝุ่นไปจัดการต่อเลย” ติณณ์อุ้มพี่ข้าวที่หลับปุ๋ยจาก‘กิจกรรม’ในห้องน้ำของสองคนนั่นออกมา ก็แหม ห้องน้ำเสียงมันก้องนี่นา

“กูนึกว่ามึงจะนอนในห้องน้ำซะอีก พี่ข้าวครางซะ” ผมยกยิ้มล้อเพื่อนที่ยักคิ้วให้

“เออ เอาเมียมึงไปจัดการได้แล้วไอ้อ่อน”

“กูไม่ได้อ่อน กูแค่รอน้องพร้อม” ผมว่าแล้วยกฝุ่นขึ้นแล้วก้าวยาวๆไปห้องน้ำทันที
ก็ใช่ว่าฝุ่นไม่หนักนะ หนักอยู่พอตัว...


ผมว่าผมมือเบาแล้วนะ แต่คนเมาไม่ยอมอยู่เฉยให้ผมจัดการง่ายๆ...

“อื้อ.. ไม่เอาตรงนั้น” เสียงครางของน้องดังขึ้นพร้อมกับมือที่ปัดป่ายเมื่อผมเอาผ้าชุบน้ำเช็ดลงที่ลำคอ

“ฝุ่นครับ อยู่นิ่งๆ” ผมรวบข้อมือน้องด้วยมือเดียว “เฉยๆแปปเดียวนะคนเก่ง”

คนเก่งของผมพยักหน้าให้แล้วซบลงกับบ่า ผมจึงรีบจัดการเช็ดหน้าเช็ดตาให้น้องอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าลืมเอาเสื้อผ้ามาให้ฝุ่นเปลี่ยน ใส่ตัวเก่าก่อนละกัน

ผมอุ้มน้องออกจากห้องน้ำไปที่ห้องนอน ไฟหน้าทีวีที่ถูกดับลงทำให้คิดว่าสองคนนั่นน่าจะหลับไปแล้ว

“อืม...” น้องขยับตัวเมื่อผมวางลงบนเตียวนุ่ม จัดการถอดบ็อกเซอร์ตัวเก่าของน้องออกแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อโอเวอร์ไซต์ตัวใหญ่ของตัวเองแทนเพราะมันใส่ง่ายสุด ก่อนจะปล่อยให้น้องกลิ้งหามุมนอนของตัวเอง ผมที่เห็นอย่างนั้นจึงผละตัวไปอาบน้ำบ้าง

แต่เมื่อก้าวออกมาไม่ทันไร เสียงครางจากด้านล่างทำให้ผมยอมเดินกลับเข้าห้องคืน

“พี่อาร์ต?” คนที่คิดว่าหลับปุ๋ยไปแล้วลุกขึ้นมามองผมอย่างงัวเงีย

“พี่เปลี่ยนชุดก่อนนะ เดี๋ยวมานอนด้วย” ผมเดินไปจูบหน้าผากน้องแล้วผละออกไปเปลี่ยนชุด กางเกงบอลตัวเดียวก็นอนได้แล้วครับ “มาครับนอนกัน”

สีฝุ่นยกหัวหนุนแขนทันทีเมื่อผมทิ้งตัวลงนอน คนตัวเล็กกอดก่ายผมประหนึ่งเป็นหมอนข้างก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง ทิ้งผมให้นอนฟังเสียงครางหวานของพี่ข้าวจากด้านล่างดังมาเป็นระยะๆ

ไอ้ติณณ์แม่งเล่นกูแล้วไง...

“พี่อาร์ต...พี่อาร์ตครับ” ไม่นานนักก็รู้สึกถึงแรงกระตุกแขนและเสียงเรียกจากคนข้างๆ ความกระสับกระส่ายของคนน้องทำให้ผมหันไปมอง

“ครับ ไม่นอนหรอ” คนน้องส่ายหัวรัว ไฟสลัวๆทำให้เห็นใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำของน้อง “มีอะไรหรอครับ”

“คือเสียงมัน...”

“เสียงมันทำไมครับ?” ผมแสร้งถาม ทั้งๆที่รู้ว่าเด็กน้อยของผมเป็นอะไรเพราะฝุ่นน้อยมันตื่นจนเบียดต้นขาผมขนาดนี้

“ก็เสียง...พี่ข้าว” ผมยกยิ้มให้คนตัวเล็กกว่า ได้ยินหนังสดใกล้ขนาดนี้มีอาการก็คงไม่แปลก

“ทำไมครับ บอกพี่หน่อย” สีฝุ่นขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น ริมฝีปากปากแดงๆทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้เปร่งเสียงออกมา

 “พี่อาร์ต...”

“ครับ”

บ้าเอ๊ย!

“สีฝุ่น!!” ผมเบิกตามองคนตรงหน้า ไม่รู้ด้วยเพราะอาการเมาหรืออะไรที่ทำให้น้องกล้าที่จะปีนขึ้นมาคร่อมตัวผมไว้ “ฝุ่นลุกขึ้นครับ”

“....” สีฝุ่นไม่ได้ตอบอะไรออกมา ตรงข้ามกัน น้องกลับนั่งทับลงตรงหน้าท้อง ใช้สะโพกเปลือยเปล่าถูไถกับส่วนที่ยังคงหลับไหลของผม

“ไม่ดื้อครับฝุ่น พี่บอกให้ลงไปไงครับ” ผมกัดฟันแน่นเมื่อคนด้านบนยังคงเบียดสะโพกลงมา “ถ้าฝุ่นไม่หยุด...อย่ามาว่าพี่ใจร้ายนะครับ”

“เอาสิ...”

สิ้นเสียงน้อง ผมก็จัดการพลิกให้ตัวน้องลงมาอยู่ใต้ร่างทันที เสื้อตัวใหญ่กว่าตัวน้องไหล่ตกไปข้างจนไล่เนียนน่ากัดโผล่ทักทาย
คิดผิดคิดถูกวะที่จับน้องแต่งแบบนี้

“ฝุ่นเมามากแล้วครับ นอนเถอะ”

“ฝุ่นไม่ได้เมาขนาดนั้น.. สร่างตั้งแต่พี่เช็ดตัวให้แล้ว” คนข้างใต้พูดงึมงำ

“ฝุ่นครับ ไม่ดื้อสิครั---”

เสียงผมขาดหายไปเมื่อน้องกระชากคอเสื้อผมลงไปประกบจูบ ลิ้นเล็กไล้ตามริมฝีปากผมอย่างเงอะงะก่อนผละออก

“พี่อาร์ตพูดมาก” น้องว่า “มะ..ไม่ทำฝุ่นไม่ให้แล้วนะ”

“......” ผมนิ่งไปเมื่อได้ยินคนตรงข้ามพูด แต่ดูเหมือนคนตัวเล็กของผมกลับตีความไปในทางตรงข้ามกัน น้องทำท่าจะดันผมออกแต่คิดหรอว่าผมจะยอม?

“พี่อาร์ตปล่อยผม!” น้องขืนตัวเมื่อผมก้มไปกอด กักไว้ระหว่างแขนสองข้าง

“เมื่อกี้พูดจริงหรอ?” ผมถามย้ำ คนตัวเล็กพยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบ “แล้วก็ไม่ได้เมาแล้ว?”

“ฝุ่นรู้ลิมิตตัวเองน่า ไม่ได้มะ..อุ๊บ!” ไม่รอให้น้องพูดจบผมก็บดริมฝีปากลงไปกับปากแดงเรืองนั่น ฉวยจังหวะน้องเผลอสอดลิ้นเข้าไปกวาดความหวานภายในโพลงปากทักทายหยอกล้อกับลิ้นเล็ก ส่งมือสะกิดเข้ากับยอดอกใต้เสื้อตัวหนาจนตั้งชัน มืออีกข้างนวดเฟ้นตามเอวและสะโพก
ถือคติไม่ปล้ำคนเมาครับ...ถ้าไม่เมาก็เสร็จ ฮึๆ


“อื้อออ” คนใต้ร่างทุบประท้วงเมื่อหายใจไม่ทัน ผมผละออกเล็กน้อยให้น้องได้หายใจ แล้วเปลี่ยนเป้าหมายจากริมฝีปากที่บวมแดงไปเป็นหน้าอกแทน เมื่อริมฝีปากของผมสัมผัสหน้าอกแบนราบโดยไม่มีอะไรขวางกั้นสีฝุ่นก็หลุดครางออกมาทันที

ในตอนนี้เสียงครางจากด้านล่างของห้องไม่ได้อยู่ในความสนใจของผมแล้ว ในเมื่อเสียงครางหวานและอาการบิดเร่าจากการถูกกระตุ้นของคนตรงหน้าน่าสนใจกว่า

ผมไล่จูบผิวกายขาว รอยสีสวยปรากฏขึ้นทุกจุดที่ผมลากผ่าน ไล่ตั้งแต่หน้าอกลงไปเรื่อยๆ...จนถึงส่วนกลางตัวที่แข็งขืน

“อ๊ะ พี่อาร์ต ไม่เอา..ปาก”  ปากเอ่ยห้ามแต่การกระทำกลับตรงข้าม มือของน้องขยุ้มจิกหัวผมเมื่อผมใช้แกกับส่วนนั้น  ไล่ลิ้นตามความยาวโดยที่ไม่ลืมเอื้อมมือไปเล่นกับลูกกลกมทั้งสอง

“อืม..พี่อาร์ต” สีฝุ่นครางดังขึ้นเตอนที่ผมครอบปากลงไป ดูดดึงจนคนน้องครางออกมาไม่เป็นภาษา

“อา...พี่อาร์ตฝุ่นจะ...” ผมเร่งมือเมื่อเห็นว่าน้องใกล้ถึงจุดหมาย แรงดึงและเสียงบอกให้หยุดดังเข้ามาแต่ผมไม่ได้สนใจ

จนกระทั่ง...

“อ๊าาา” เสียงหอบดังขึ้นเมื่อสีฝุ่นถึงฝั่งฝัน ผมขยับลุกขึ้นมองดูคนตัวเล็ก

ดวงตาที่เต็มไปด้วนน้ำ ร่างกายที่ชื่นเหงื่อทำให้ผมรู้สึกว่าตอนนี้ฝุ่น..โคตรเซ็กซี่

“พี่อาร์ต! กลืนทำไมคลายออกมาเลยนะ!” ผมยกยิ้มน้อยๆให้น้องที่หน้าแดงจัดจากอาการหอบ ก่อนก้มลงไปจุดเดิม แต่เปลี่ยนตำแหน่งเป็นช่องทางสีสดด้านหลังที่เคยใช้นิ้วหยอกเย้ากับมันไม่กี่ครั้ง

“เฮือก! พะ...พี่อาร์ตทำอะไร” เสียงสั่นๆของสีฝุ่นถามขึ้นมาเมื่อผมปล่อยน้ำสีขาวขุ่นของเจ้าตัวแทนเจลหล่อลื่นจนชุ่มช่องทางลับ กดนิ้ววนรอบปากทางก่อนสอดเข้าไปเพื่อเตรียมช่องทางให้พร้อม

 “พี่อาร์ต ไม่เอา..ฝุ่น..ไม่” แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น คนตัวเล็กก็เอ่ยเสียงสั่นทำให้ผมถอนนิ้วออก

“ชู่ว” ผมผุดลุกขึ้นรวบน้องเข้าอ้อมกอด กดจูบหน้าผากลงคนตัวเล็กที่สั่นเป็นลูกนก “ถ้าไม่พร้อมพอแค่นี้ก็ได้ครับ”

น้องส่ายหัวรัว ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำช้อนขึ้นมองผม วางมือลงกับส่วนแข็งขืนที่ยังไม่ได้ปลดปล่อยของผม “ฮึก..ต่อเลย ฝุ่น...โอเค”

“ครับ รักฝุ่นนะ” ผมยิ้ม กดจูบลงบนริมฝีปากบวมแดงเบาๆ แต่คนน้องกลับกอดคอผมแน่นและเป็นฝ่ายรุกจูบเอง ผมอาศัยจังหวะที่น้องเมากับรสจูบนี้สอดนิ้วเข้าช่องทางอีกครั้ง

ก่อนจะเพิ่มนิ้วเป็นสอง และสามเมื่อเห็นน้องเริ่มชินกับสัมผัสข้างในตัว
แค่นิ้วยังรัดแน่นขนาดนี้ และถ้า...

“อ๊า มะ..ตรงนั้น” น้องสะดุ้งออกมาเมื่อผมสะกิดเข้ากับจุดๆหนึ่งด้านใน ผมยกยิ้มและกดซ้ำลงที่จุดนั้นจนน้องครางถี่

ตัวน้องเกรงราวกับใกล้จะถึงฝั่ง แต่ก่อนที่น้องจะปลดปล่อยอีกครั้งผมก็ถอนนิ้วออกมา

“...อ๊ะ?” ผมยกยิ้มให้น้องที่มองมา ถอยออกมาปลดกางเกงตัวเองลงให้คนตัวเล็กหน้าแดงซ่าน จับจะโพกน้องให้เกยตักแล้วจ่อส่วนแข็งขืนกับช่องทาง

“พะ..พี่อาร์ต” น้องเบิกตาโตเมื่อรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

“เชื่อใจพี่นะครับ ถ้าเจ็บนะครับ” คนใต้ร่างพยักหน้า “พี่รักฝุ่นนะครับ”

“ฝุ่นก็รักพี่..อึก!” น้องทำหน้าเหยเกเมื่อผมกดส่วนนั้นลงไป ความคับแน่นที่ล้อมรอบทำให้ผมอยากกระแทกตัวตนลงไปจนสุด แต่ต้องยั้งใจเพราะกลัวว่าคนข้างใต้จะเจ็บ

“ชู่ว ไม่ร้องครับ” ผมจูบซับน้ำตาที่ไหลลงมา “ผ่อนคลายหน่อยครับพี่เข้าไม่ได้”

คนน้องเอาแต่กอดผมแล้วซุกหน้าลงกับไหล่ เอาแต่ส่ายหน้าไปมาอยู่อย่างนั้น “ไม่..ไม่ไหว”

“โอเคครับ งั้นพี่หยุดนะคนเก่ง” ผมถอนตัวออกเมื่อเห็นว่าน้องไม่พร้อม ถึงจะอย่ากแค่ไหนแต่ผมก็ไม่ดึงดันที่จะทำต่อ เซ็กซ์ไม่ใช่ทั้งชีวิต มือมีก็สาวต่อไปครับพี่น้อง

“อีกครั้...ง นะ” น้องเงยหน้าสบตา ผมยิ้มจางแล้วส่ายหน้าให้ คนเจ็บคือฝุ่นนี่ครับไม่ใช่ผม

แต่ทว่า...

“เฮ้ยฝุ่น! อึก” น้องพลิกตัวมาคร่อมผมอีกครั้ง ก่อนจะจัดการกดตัวเองลงมากับส่วนแข็งขืนของผมจนสุดในครั้งเดียว

“อึก..แน่น”

“สีฝุ่น พี่บอกว่า!”

“พี่ข้าว..ฮึกบอกว่าถ้าจะเจ็บ” คนตัวเล็กกัดปากแดงๆจนขึ้นขาว มือปาดน้ำตาที่ไหลลงมาทิ้ง แล้วฉีกยิ้มแหยๆให้ผม “ถ้าเจ็บก็ให้ครั้งเดียวดีกว่า”

“เด็กดื้อเอ๊ย” ผมสบถออกมา “ห่วงตัวเองให้เหมือนที่พี่ห่วงหน่อยครับ”

ผมรวบคนตัวเล็กที่ยิ้มแหยทั้งน้ำตาไว้ในอ้อมกอด ลูบตามแผ่นหลังเบาๆราวกับปลอบ ช่องทางข้างในทั้งอุ่นทั้งตอดรัดและบีบแน่นจนผมปวดไปหมด

“โอ๊ย” ฝุ่นร้องออกมาเมื่อผมขยับตัว “ขยับเลย ฝุ่นไม่เป็นไร” ผมดึงคนบนตักมาจูบอีกครั้ง ก่อนขยับสะโพกขึ้นเบาๆจนอีกคนหลุดครางหวาน

“งั้น...พี่ขอนะครับ” ไม่รอให้ฝุ่นตอบ ผมก็จับคนอีกคนไว้แล้วขยับกระแทกตัวเองตัวเองขึ้นไป ครอบปากลงกับยอดอกสีหวานตรงหน้า อีกมือช่วยขยับส่วนกลางตัวของน้อง

สะโพกกลมของคนด้านบนเริ่มขยับตามจังหวะนำ ก่อนผมจะปล่อยให้อีกคนคุมจังหวะเอง

“อ๊ะ..อาา”

....วิวโคตรดี

“อาร์..ต ไม่ไหว” ไม่นานนักน้องก็ทรุดลงกับไหล่ผม ก่อนจะหัวเราะน้อยๆเมื่อเห็นว่าน้องไม่มีแรง พลิกให้น้องนอนกับเตียงแทน จับขาน้องให้เกี่ยวเอวตัวเองแล้วขยับโดนจุดอ่อนไหวจนฝุ่นหวีดร้องออกมา

“อ๊า พี่อาร์ต ตรงนั้น...”

“ดีไหมครับคนเก่ง” แรงจิกที่ไหล่และหลัง กับเสียงครวญครางเป็นคำตอบอย่างดี

“อาร์ต...อืมม พี่อาร์ต เร็ว...” ผมกระแทกย้ำซ้ำๆตรงจุดนั้นจนน้องครางชื่อผมออกมาถี่ๆ

ไม่นานนักคนตัวเล็กก็สั่นสะท้านแล้วปลดปล่อยออกมา ผมขยับกระแทกตัวอีกไม่กี่ครั้งก่อนจะปล่อยออกมาตาม

“เหนื่อย...” คนตัวเล็กครางออกมาแล้วทุบผมเบาๆให้ลุกออก แต่ผมเลือกที่จะแช่ตัวในน้องต่อ “พี่อาร์ตออกไปเลยยยย”

“ขออยู่แบบนี้ก่อนนะตัวเล็ก”

“พี่อาร์ต! อย่าขยับดิมันเสียด!” ฝุ่นเสียงดุเมื่อผมขยับตัวกอดขึ้นน้อง

“เสียวหรือเสียวครับ เมีย” ผมจุ๊บปากน้องรัวๆ ตัวเล็กของผมที่หน้าแดงก่ำจากกิจกรรมที่ผ่านมายิ่งแดงขึ้นไปอีก พอสบตาก็เบือนหน้าหนีจนผมมันเขี้ยว ก้มงับแก้มนิ่มเบาๆ

“คะ...ใครเมียใคร!” คนน้องตวาดเสียงแหบแห้ง

“ฝุ่นไงครับ เนี่ยหลักฐาน” ผมแกล้งกระแทกตัวเข้าไปแรงๆคนน้องหวีดร้อง “อีกรอบได้ไหมครับ”

“พี่อาร์ต!! อ๊า...ยะ อย่า อืมมม”

เท่านั้นแหละครับ เสียงดุๆก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงครางหวานต่อ
สุขสมครับ

ผมถอนตัวเองออกมาเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กสลบไปแล้ว หลังขาวๆของน้องมีแต่รอยแดงจากการขบจูบ ด้านหน้าก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ ถ้าน้องตื่นมาคงโวยวายใส่ผมน่าดู
แต่สภาพห้องนี่สิ...ดูท่าว่าต้องเปลี่ยนผ้าปูใหม่


“ไงครับมึงเมื่อคืน ได้ยินยันข้างล้าง” เสียงแหบห้าวของเพื่อนสนิทผมทักขึ้น เมื่อเห็นผมที่จะลงไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ฝุ่น

ผมยักคิ้วให้มันแทนคำตอบ ไอ้ติณณ์หยิบของบางอย่างแล้วยื่นมาให้ผม

“อ่ะนี่ ข้าวบอกว่าฝากให้ฝุ่น ยาทา ยาแก้ไข้ ยาแก้เจ็บคอ”

“ฝากขอบคุณพี่ข้าวด้วย ยังไงตอนเช้าบอกพี่ข้าวให้ขึ้นมาดูฝุ่นหน่อยนะ” ผมว่า “ว่าแต่กูเถอะ มึงได้นอนยัง”

“เฮอะ ข้าวเพิ่งนอนก่อนมึงลงมาเนี่ย”

ผมสบตากับเพื่อนรักแล้วหัวเราะออกมาพร้อมกันเบาๆอย่างรู้ความหมาย

Tbc.


———————————————————————————————————————

จุดพลุให้พี่อาร์ตค่ะทุกคน---
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「25」02|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-11-2017 02:25:12
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「25」02|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 03-11-2017 12:59:29
กว่าจะมาถึงวันนี้ พี่อาร์ตเค้าถนอมน้องดีจริงๆๆๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「25」02|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 03-11-2017 13:18:47
กว่าจะตามทันเค้าก็ได้กันแล้ว  :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「25」02|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-11-2017 14:41:16
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「25」02|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 03-11-2017 15:29:56
โอ้โห  ไม่รู้จะเม้นอะไรเลยอ่ะ  เขิน   :o8:
ร้อนแรงเหมาะสมกันจริง ๆ ทั้งสองคู่เลย
ขอบคุณคนเขียนค่า   :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「25」02|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 06-11-2017 10:31:09
ในที่สุดเขาก็ได้กัน
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「26」08|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 08-11-2017 02:11:39
•26•


-ฝุ่น-

อย่าถามว่าเมื่อคืนกี่ครั้งครับ... สลบตอนไหนยังไม่รู้

“อุ่ก... เจ็บ” ผมร้องออกมาเมื่อพยายามจะลุกจากเตียง อาการเจ็บที่สะโพกและช่องทางด้านหลังปวดจี๊ดขึ้นมาตามแนวสันหลัง จนไม่กล้าขยับตัวมากกว่านี้

ไอ้ตอนทำอ่ะไม่เจ็บ...พอเสร็จแล้วระทม
ไหนพี่ข้าวบอกไอ้หมอมันจะไม่ทำเจ็บไงวะ! ไม่เจ็บแค่สองรอบแรกเท่านั้นแหละ นอกนั้นใส่เอาๆ!

“พี่อาร์ตแม่ง...”

“พี่แม่งอะไร แล้วลุกมาทำไมครับเด็กดื้อ” เสียงทุ้มว่าดุๆ ทำให้ผมเบะปากหันมอง แต่พอได้สบตากับคนตัวสูงแล้ว.. ภาพ‘ความแนบชิด’เมื่อคืนแม่งมาเป็นฉากๆในหัวเลยว่ะครับ!

“ก็ฝุ่นจะลุก! ฝุ่นหิว!” ผมเบือนหน้าแดงๆหนีหมอหมาที่เดินถือข้าวต้มมาวางข้างเตียง ก่อนจะพยุงผมให้ลุกขึ้นพิงตัวเองดีๆ

“พี่เอามาให้แล้วไงครับฝุ่น เมื่อคืนวัดแล้วว่าไม่น่ามีไข้แต่ก็กันไว้ก่อนดีกว่า อ้ามเร็วจะได้กินยา” ช้อนที่มีข้าวต้มควันฉุยส่งกลิ่นหอมจ่อชิดริมฝีปากผม เหลือบมองพี่มันก็เอาแต่คะยั้นคะยอให้อ้าปากรับ “คนเก่งทานหน่อยนะครับ”

ผมเปิดปากอย่างเสียไม่ได้ พี่อาร์ตที่เห็นอย่างนั้นก็ยกยิ้มขึ้นแล้วส่งข้าวต้มร้อนๆเข้าปากโดยที่ไม่ได้เป่าให้เย็น...

“ร้อน!” ผมฝืนกลืนข้าวต้มที่ร้อนๆลงคอ แล้วแลบลิ้นที่เหมือนจะพองออกมา

“เฮ้ย พี่ขอโทษ พองไหมเนี่ย” พี่อาร์ตวางข้าวต้มคืนแล้วจับหน้าผมให้หันไปหา “ปากแดงเลย จุ๊บ”

ผมเบิกตากว้างเมื่อพี่อาร์ตที่กำลังจับหน้าผมที่แลบลิ้นอยู่ก็ครอบปากลงมา ลิ้นชื้นเย็นเหมือนคนเพิ่งกินน้ำมาสัมผัสกับลิ้นร้อนๆของผมก่อนจะไล่ลิ้นไปทั่วในปาก.. จากที่คิดขัดขืนกลายเป็นคล้อยตามอย่างง่ายๆ

“...พี่จำได้ว่าบอกให้เราเอาข้าวต้มไปให้ฝุ่นกินนะ ไม่ใช่ให้มากินฝุ่นอีก” เสียงใสของพี่ข้าวดังขึ้นทำให้ผมสะดุ้ง นี่ผมหลังติดที่นอนตั้งแต่เมื่อไหร่...
แล้วไอ้พี่อาร์ตมันมาคร่อมผมตอนไหน!

“พี่อาร์ตลุก!” ผมดันคนตัวโตให้ลุกออก แต่พอขยับตัวนิดเดียวก็เจ็บแปร๊บขึ้นมา

“เฮ้อ อาร์ตไม่ได้เรื่องเลยถอย” พี่ข้าวส่ายหัวแล้วปรี่มาผลักไอ้คนที่คร่อมผมอยู่ออก มือน้อยๆของคนพี่จับหน้าผากผมเหมือนวัดไข้ “โชคดีที่ไม่มีไข้ ฝุ่นลุกเองไหวไหม”

ผมส่ายหัวออกมาเบาๆ คนตัวเล็กก็เข้ามาช่วยพยุงให้ผมลุกนั่งกับที่นอน พอได้ขยับตัวนั่งดีๆได้ก็รู้สึกถึงของของเหลวที่ซึมออกมาจากส่วนนั้นจนทำให้ผมหน้าขึ้นสี พี่ข้าวที่เห็นอย่างนั้นก็หันควับไปหาหมอหมาทันที

“นี่เมื่อคืนไม่ได้เอาออกให้น้อง?” อีกฝ่ายพยักหน้าลงเป็นคำตอบ ทำให้พี่ข้าวต้องถอนหายใจออกมา “พาฝุ่นไปเอาออกเดี๋ยว-นี้ ทำเป็นใช่ไหม”

“เอ่อ..พี่ข้าวฝุ่นทำเองได้”

“นี่เดินไว้หรือไงให้ มันพาไปครับน้องฝุ่นปล่อยไว้นานๆมันไม่ดี อย่าดื้อ” คุณแม่...พี่ข้าวว่าเสียงแข็ง พี่อาร์ตก็ทำตามโดยการลุกมาอุ้มผมออกไปทันที

แต่ตอนที่เดินผ่านพี่ข้าว ก็ได้ยินคนตัวเล็กบ่นเบาๆว่า “ถุงก็มีทำไมไม่ชอบใช้กันวะไอ้พวกนี้”
....หน้าร้อนชะมัด



“พี่ข้าวววว งื้ออ” ผมโผหาคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาทันทีที่คนตัวสูงอุ้มออกมาจากห้องน้ำได้ พี่อาร์ตนะพี่อาร์ตให้เอาของค้างออก ไม่ใช่จะไปเพิ่มมัน แง่ง!

“ว่าไงครับ เจ็บคอหรอยาอมไหม?” ผมหน้างอเมื่อได้ยินพี่ข้าวพูด “ก็ห้องน้ำมันก้องนี่”

“พี่ข้าวอ่ะ! พี่อาร์ตแม่งงง” หันหน้าไปแยกเขี้ยวใส่พี่อาร์ตที่เดินลอยหน้าลอยตาถือกระป๋องเบียร์ไปหาพี่ติณณ์ที่อยู่ตรงระเบียง

“ไหนพี่ข้าวบอกว่าพี่อาร์ตจะไม่ทำเจ็บไง” คนข้างๆหัวเราะเสียงใส จะว่าไป... “เมื่อคืนพี่ข้าวก็เสียงดังขนาดนั้นทำไมไม่เสียงแห้งเลย”

“เอ๋ นี่ได้ยินด้วย?” แก้มขาวขึ้นริ้วแดงจางๆแล้วหลบตาผม

“ได้ยินดิพี่ ดังขนาดนั้น” เสียงจากคนที่ระเบียงตอบแทนผม “แต่ต้องขอบคุณเสียงพี่นะที่ทำให้ผมได้กินฝุ่น หึๆๆ”

“ถ้ายิ่งเสียงข้าวตอนเสร็จนะมึง....”

“ติณณ์!/พี่อาร์ต!!” ผมกับพี่ข้าวตวาดขึ้นพร้อมกันจนไอ้สูงสองคนที่ระเบียงหัวเราะร่า

“ฝุ่นหันมานี่” เสียงพี่ตัวเล็กสะกิดแขนผมเบาๆให้ผมหันไปหา

“ครับ อุ๊บ” ทันทีที่หันหน้าไป พี่ข้าวก็ตะบบแก้มผมไว้แล้วกดจูบลงมาที่... นิ้วโป้งที่คั่นริมฝีปากเราไว้ ได้ยินเสียงร้องลั่นของคนตัวโตสองคนที่กินเบียร์กันอยู่

คือตอนนี้ผมหันหลังให้ระเบียงแล้วพี่ข้าวอยู่ตรงหน้าผมไง
ซึ่งถ้ามองจากมุมนั้นละก็...

พรึ่บ

“พี่ข้าวทำอะไรฝุ่น!” ผมถูกคนตัวโตที่ตะคอกเสียงดังใส่พี่ข้าวดึงไปกอดไว้ ซึ่งพี่ข้าวก็โดนคนของตัวเองที่กัดฟันกรอดรวบตัวไว้เหมือนกัน

“จูบ” พี่ติณณ์คิ้วกระตุกเมื่อพี่ข้าวชูนิ้วโป้งขึ้นมาแล้วพูดต่อ “...นิ้วโป้ง”

ได้ยินเสียงคนข้างหลังผมถอนหายใจเหมือนคนโล่งอก แต่คนตัวสูงของคู่ด้านหน้ากลับไม่โล่งแบบผม

“...จะเล่นเลสหรือไงหืม หลายทีแล้วนะครับคุณข้าวเจ้า”

“เอ่อ คือพี่---”

เสียงพี่ข้าวขาดหายไปเมื่อถูกพี่ติณณ์ประกบจูบอย่างรุนแรง แต่ก่อนที่ผมจะได้เห็นอะไรมากกว่านั้นมือของพี่อาร์ตก็ยกขึ้นมาปิดตาผมไว้

เพราะงั้นสิ่งที่ผมรับรู้ตอนนี้มีแต่เสียงอย่างเดียว

อ๊ะ...พอ
จุ๊บ
อื้ออ ไม่..ตรงนั้น
อา..ติณณ์

...จริงๆแค่เสียงก็เกินพอแล้วครับผมว่า


เชื่อไหมครับว่าตั้งแต่วันที่ผมถูกพี่อาร์ตเลื่อนตำแหน่งจากแฟนมาเป็นเมียเนี่ย พี่อาร์ตมันก็จ้องจะงาบผมทุกวัน! ไม่รู้กลายเป็นคนมักมากในกามตั้งแต่เมื่อไหร่..

โดยเฉพาะไอ้วันลอยกระทงที่ผ่านมานี่ละครับ ตื่นมานี่แทบจะลุกจากเตียงไม่ไหว! วันนั้นยังเดินเป๋กลับบ้านจนแม่ทักอ่ะคิดดู...

‘ฝุ่นไปทำไรมาครับ ทำไมถึงเดินอย่างนั้นล่ะ’ สิ้นเสียงที่แม่ถาม ผมก็อดหันไปมองค้อนใส่ผู้ชายตัวโตที่เดินข้างๆไม่ได้
‘ไม่มีไรแม่ ฝุ่นล้มนิดหน่อย’
‘อ๋อออ ล้มหรอ แล้วเจ็บตรงไหนล่ะ’
‘หึ น้องเจ็บก้นครับแม่’
‘พี่อาร์ต!’ ผมแวดใส่คนข้างๆที่กลั้นขำจนไหล่สั่น พอหันไปหาแม่...ที่กำลังปิดปากกลั้นขำอย่างเต็มที่ ‘แม่~~’
‘เจ้าลูกคนนี้ โกหกไม่เนียนแล้วยัง... อาร์ตก็ถนอมๆน้องหน่อยสิครับ เอาซะเป๋แบบนี้ไม่ดีเลยครับ ระวังพ่อเขาดุล่ะ’ แม่ว่าขำๆ ‘อ้อ อาร์ตอย่าลืมโทรหาแม่เราล่ะ’
‘โทรทำไมแม่?’ ผมถามทั้งที่ยังไม่กล้ามองหน้าแม่ตรงๆ คือแม่รู้ว่าไปทำอะไรมาไง...
‘เอ๊า ก็คุยเรื่องสินสอดไง ว่าไงเราจะเรียกจากตาอาร์ตเท่าไหร่อย่าลืมคุยกันนะ เดี๋ยวแม่ไปร้านละ’
‘ได้ครับ เดี๋ยวผมคุยกับน้องแล้วจะบอกอีกที’
‘ไอ้พี่อาร์ต!!!!’หน้าขึ้นสีแค่ไหนถามใจดู...


เรื่องก็ตามนั้นแหละครับ...


 “ไออุ่นก็อย่าไปให้ใครเขาท้องล่ะ”  ผมบอกกับหมาตัวกลมที่นอนหงายพุงอยู่บนพื้น ผมพาไออุ่นมาอยู่คอนโดพี่อาร์ตด้วยครับคืออยู่คนเดียวว่างๆละเหงา อีกอย่างปล่อยไออุ่นไว้กับแม่มากเสียหมาเลย “นี่มึงกลิ้งแทนเดินไหม?”

“โฮ่ง!” ก้อนขนสีน้ำตาลเห่าตอบกลับมาเหมือนรู้เรื่อง ผมหยุดเกาพุงมันแล้วลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นว่าใกล้จะหกโมงเย็นแล้ว

“เฮ้อ... หรือจะจับทำหมันดีวะ”

“จับใครทำหมันครับ?” เสียงทุ้มนุ่มที่ดังขึ้นข้างหู และมือที่เข้ามาโอบเอวผมจากด้านหลังทำให้สะดุ้งโหยง “ว่าไงครับ จะจับใครทำหมัน ฟอด”

“จับพี่อาร์ตทำหมัน! ปล่อยฝุ่นเลยนะ ไม่ต้องมาหอมมม” ผมโวยวายใส่แล้วยกหมาตัวกลมขึ้นกั้น “หื่นมาก จับไปตอนแม่ง!”

“พูดไม่เพราะเลยครับตัวเล็ก อีกอย่าง...” พี่อาร์ตยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ “ไม่ต้องให้พี่ทำหมันหรอกครับ เพราะถึงปล่อยในยังไงฝุ่นก็ไม่ท้อ--- โอ๊ย!”

ผมกระทืบลงที่เข้าคนพี่แรงๆก่อนที่พี่มันจะพูดจบ ใช้จังหวะที่พี่มันเผลอคลายมือพุ่งตัวออกมาจากอ้อมกอดทันที ไอ้คนโดนกระทืบเท้าทำหน้าเหยเกเหมือนจะเจ็บมาก ทั้งๆที่พี่มันก็ใส่ถุงเท้าหนาๆอยู่นะ..

“เจ็บนะครับ เมียพี่รุนแรงจัง”

“ฝุ่นรุนแรงได้มากกว่านี้อีก หึ” ผมเชิดหน้าใส่อีกคนที่เลิกแสร้งว่าเจ็บแล้ว “งั้นคืนนี้ฝุ่นไปนอนบ้านดีกว่า อยู่คนเดียวดีๆนะพี่อาร์ต บาย”

“เฮ้ย! เดี๋ยวดิฝุ่น” พี่อาร์ตรั้งแขนผมไว้แล้วทำหน้าหงอย “นอนกับพี่นะครับ นะ”

“...ฝุ่นนอนด้วยก็ได้” โกลเด้นตรงหน้าฉีกยิ้ม “แต่ห้ามแตะฝุ่นแม้แต่ปลายเล็บ ดีล”

“ไม่ดีล พี่อยากนอนกอดเมีย ลูกหลบครับพ่อจะเอาแม่แกไปทำน้อง” พี่อาร์ตใช้เท้าเขี่ยไออุ่นที่มาพันแข้งพันขาให้ออกห่าง แล้วแบกผมเข้าห้องทันที

“ไอ้พี่อาร์ต ปล่อย!” ผมทุบลงกลางหลัง แต่อีกคนฟาดมือกับสะโพกผมแรงๆ

“ไม่ปล่อยอ่ะ ไปรักกันเถอะครับ”

“.....” ขัดขืนยังไงให้ได้ผลครับ ตอบ!


Tbc.

   
มาซะดึกเลย... นั่งแก้เพลินแล้วลืมเวลา แต่มาช้ายังดีกว่าไม่มีเนอะ TuT
วันนี้มานั่งดูพลอตดีๆ คิดว่าอีกไม่กี่ตอนพี่หมอของเราจะจบแล้วค่ะ... ใจหาย

หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「26」08|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-11-2017 06:03:10
ก็สงสัยอยู่  :katai1:
ทำยังไงให้พี่อาร์ต หยุดหื่น
แต่ปล่อยให้หื่นไปเถอะ พี่อาร์ตชอบ
คนอ่านก็ชอบ  :z1:

พี่อาร์ต ฝุ่น  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「26」08|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 08-11-2017 07:14:48
พี่อาร์ต เบา ๆ ค่า อย่าทำน้องระบมมากเน้อ >////<
อยากอ่านคู่พี่ติณณ์กับพี่ข้าวจัง นั่นก็สายหื่นเหมือนกัน แต่หื่นทั้งคู่นะ 555
นี่ยังจำน้องไออุ่นเป็นแมวอยู่เลย ตอนแรกคิดว่าคนเขียนเขียนผิด
นึกได้ว่า อ้อ เปลี่ยนเป็นหมาแล้วนี่นา แหะ ๆ
ขอบคุณคนเขียนมากค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「26」08|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-11-2017 10:58:36
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「26」08|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 08-11-2017 20:19:20
พี่อาร์ต. พี่ติณท์  เบาๆกับเมียหน่อย555
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「26」08|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-11-2017 22:19:00
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「26」08|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 09-11-2017 02:24:48
ยินดีกับพี่อาร์ต ได้หื่นอย่างเต็มที่
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「Pocky Day!」11|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 11-11-2017 13:58:08
Pocky Day
11.11


อาร์ต

"สีฝุ่นนนนน" เสียงใสๆของแฟนเพื่อนสนิทดังขึ้น พร้อมๆร่างเล็กที่โถมใส่สีฝุ่นที่นอนเล่นกับลูกเราอยู่

"พี่ข้าววววว" สีฝุ่นหันกลับมากอดรัดพี่ข้าวทันทีที่เห็นอีกฝ่ายเต็มตา

"ติณณ์ล่ะ?" พี่ข้าวส่ายหน้ากับคำถามผม อิหรอบนี้หนีมาชัวร์ "แล้วนั่นอะไร?"
ผมชี้ถุงของร้านสะดวกซื้อเจ้าของสโลแกนหิวเมื่อไหร่ก็แวะมาที่แฟนเพื่อนถือมา

"วันนี้วันPockyDayไง" พี่ข้าวเฉลย กล่องขนมบิสกิตแท่งหลายสีถูกเทลงต่อหน้าพวกเรา

"แล้ว?"ผมมองพี่ข้าวที่เริ่มแกะขนมออกมา หยิบแท่งเคลือบน้ำตาลมาถือไว้

"มันมีเกมป๊อกกี้ ฝุ่นอ้าปาก" ผมคิ้วกระตุกเมื่อเห็นสีฝุ่นอ้าปากรับป๊อกกี้จากพี่ข้าวอย่างง่ายๆ

พี่ข้าวยกยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วหันมาบอกผมว่าให้ถ่ายคลิปไว้ จะเอาส่งให้ติณณ์
พอผมค้านเพราะรู้ว่าพี่ข้าวจะทำอะไร แต่พี่ข้าวก็กระซิบหูสีฝุ่น แล้วน้องก็หันมาพูดกับผมว่า

"ถ้าไม่ทำ ฝุ่นไม่ให้กินแล้ว"...ยอมก็ได้

"ถ่ายดีๆนะอาร์ต" พี่ข้าวบอกยิ้มร่า แล้วงับเข้าที่ปลายป็อกกี้อีกด้าน

ผมมองภาพปากของพี่ข้าวเคลื่อนเข้าหาริมฝีปากที่ผมชอบจูบคลึงช้าๆ เสียงหักของแท่งบิสกิตดังเข้าโซนประสาท

10 เซนต์
.
.
6 เซนต์
.
.
4 เซนต์
.
.
กระทั่งสองเซนต์สุดท้าย

พี่ข้าวไม่ยอมแพ้ และสีฝุ่นก็เช่นกัน
ทั้งคู่ขยับหน้าเข้าหากันเชื่องช้าในความคิด ผมจ้องมองภาพของทั้งสองตรงหน้า ไม่คิดจะไปห้ามปราบหรืออะไร
ใจหนึ่งอยากจะห้าม แต่อีกใจกลับอยากรู้ว่าทั้งคู่จะทำยังไงต่อไป....

พี่ข้าวยกยิ้มมุมปากเล็กๆ ก่อนริมฝีปากนิ่มที่ผมชอบจูบก็ถูกประกบโดยริมฝีปากของคนตัวเล็กอีกคน

ผมมองตาค้าง เช่นเดียวกับสีฝุ่นที่เบิกตาโพลงเพราะไม่นึกว่าข้าวเจ้าจะกล้าจูบเข้ามาแบบนี้

"พี่ข้าว!!" ผมโยนเครื่องสื่อสารในมือทิ้ง จังหวะเดียวกับพี่คนชอบแกล้งผละออกพอดี

"พี่ข้าว!!!!" ผมตวาดเสียงดังออกไปเมื่อเห็นว่าแฟนเพื่อน.. แลบลิ้นเลียริมฝีปากสีฝุ่น!

"มิน่าล่ะอาร์ตถึงชอบจูบน้อง" พี่ข้าวเผยรอยยิ้มพึงพอใจ ก่อนคว้าโทรศัพท์ที่ผมโยนทิ้งไปไกลขึ้นมา จิ้มจึ่กๆไม่กี่ทีก็ยื่นมาให้ตรงหน้าผม

พร้อมข้อความ
' Pocky day~ '
กับคลิปสั้นๆเมื่อกี้

พี่ข้าวกดส่งก่อนที่ผมจะคว้ามัน

หมับ

"ครับสีฝุ่น มีอะไรครับ" ผมหันไปหาเจ้าของมือที่จับชายเสื้อผม
สีฝุ่นหน้าแดงจัดจนคล้ายกับสีของกล่องป็อกกี้ น้องส่ายหน้าจนผมกระจายเมื่อถูกถามซ้ำ ก่อนคนน้องจะขยับมาซุกๆผม

"โกรธพี่หรอ" พี่ข้าวจิ้มลงที่แก้มสีฝุ่นสองสามที คนน้องยิ่งซุกกับอกผมยิ่งขึ้น

คงไม่กล้ามองหน้าพี่ข้าว

ผมช้อนคางคนหน้าแดงจัดขึ้น แล้วจุมพิศลงเบาๆที่ริมฝีปากแดงระเรื่อนั่น ได้ยินเสียงพี่ข้าวร้องว้าว ตามด้วยเสียงแชะ

ถึงจะเป็นพี่ข้าวก็เถอะ แต่สีฝุ่นน่ะของผมนะ

"ว้าว อาร์ตหึงล่ะ" พี่ข้าวว่าขำๆ คนน้องแทบจะปีนขึ้นตักผมด้วยความเขิน

"กับพี่ข้าว ผมไม่หึงนะ" ผมว่า "แต่ผมหวง" ผมก้มจูบหัวเหม่งของน้องไปครั้ง

"ติณณ์ตอบอะไรมายังพี่?" พี่ข้าวส่ายหัว พร้อมเสียงประตูก็ดังขึ้นทันที

"ข้าวเจ้า!!" เสียงมาก่อนตัวเลยแฮะ

"ฝุ่นลุกก่อนครับ พี่จะไปเปิดประตูให้ติณณ์" น้องส่ายหัวไม่ยอมปล่อยผมจนพี่ข้าวหัวเราะร่า "อ่ะ เอาลูกเราไปกอดก่อน ไออุ่นมานี่มา"
หมาตัวกลมที่สีฝุ่นเคยช่วยไว้วิ่งร่ามาตามเสียงเรียก ก่อนมันจะกระโจนเข้าหาสีฝุ่นที่อ้าแขนรับ

ผมผละออกมาเปิดประตูให้เพื่อนสนิทที่ยืนหน้าบึ้ง

"ข้าว กลับ" สองคำเท่านั้น พี่ข้าวรีบเก็บของแล้วก็วิ่งไปหาแฟนตัวเองทันที

ผมหัวเราะออกมาเบาๆกับคู่นี้ พี่ข้าวชอบเวลาที่ติณณ์หึง แล้วไอ้ติณณ์มันก็หึงเวลาพี่ข้าวคลอเคลียใคร
อย่างในกรณีนี้ เหยื่อพี่ข้าวคือคนตัวเล็กของผม

กล่องป๊อกกี้ยังวางอยู่ที่เดิม

"ฝุ่นครับ" ผมแนบแท่งบิสกิตลงกับริมฝีปากน้อง สีฝุ่นส่ายหัวไม่ยอมรับท่าเดียว

"ไม่เอา พี่อาร์ตเล่นอะไรฝุ่นรู้นะ" น้องทำแก้มป่อง จะยื่นไออุ่นที่ลิ้นห้อยเพราะเห็นของกินมาหา

"ไออุ่นกินช็อกโกแลตไม่ได้นะครับ" ผมว่า สีฝุ่นที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบวางไออุ่นลงเหมือนเดิม

ผมเปลี่ยนแท่งใหม่และเอาแนบริมฝีปากน้อง

ครั้งนี้น้องงับ แต่กัดรัวๆเหมือนกระรอกจนหมดแท่งภายในไม่กี่วิฯ

ผมลอบยิ้มออกมาเมื่อเห็นคนน้องยักคิ้วประมาณว่า ไม่ได้แอ้มหรอก หารู้ไม่ว่า.. ผมกำลังรอจังหวะนี้

"อุ๊บ" ความนิ่มหยุ่นของริมฝีปากสีฝุ่นถูกผมประกบ สอดลิ้นกวาดแย่งเอาขนมหวานที่ยังอยู่ภายในปากเข้าปากตัวเองจนหมด

จูบรสป๊อกกี้ช็อกโกแลต

ผมดูดดึงริมฝีปากล่างน้องซ้ำๆ และผละออกคลอเคลียปากนุ่มอย่างอ้อยอิ่ง สีฝุ่นที่ก่อนหน้านี้ว่าหน้าแดงแล้ว ตอนนี้ยิ่งแดงเข้าไปกว่าเดิมอีก

"พี่อาร์ต!!" สีฝุ่นเรียกชื่อผมเสียงดัง

"ครับ" ผมยิ้มให้คนหน้าแดงก่ำ ก่อนจูบเบาๆอีกครั้ง "มีอะไรครับ"

"พี่อาร์ตบ้า"

ผมยิ้มเอ็นดูให้อีกคนในอ้อมแขน

"ของพี่" จูบลงกับหน้าผาก
"นี่ก็ของพี่" เคลื่อนลงมาที่จมูก ย้ายไปที่แก้มนิ่ม
"นี่ก็ของพี่" ขบกัดลงที่ริมฝีปากเบาๆ
"พี่เป็นคนหวงของครับ"

สีฝุ่นค้างไปแล้ว

"พะ...พี่อาร์ต!!" แรงทุบที่ไหล่ไม่ได้ทำให้สะเทือนเท่าไร "มือ! อย่าซน!!"

ผมก้มมองมือที่กำลังคลึงสะโพกนิ่มผ่านกางเกงยีนส์ขาสั้น

“วันนี้วันป็อกกี้…”

สีฝุ่นนิ่งไปเมื่อผมจับมือน้องมาวางกลางตัว

“กินป็อกกี้พี่หน่อยสิ”

“พี่อาร์ต อย่าหื่น!!!”

แพนกล้องไปที่กล่องป็อกกี้ครับ แพนไปป



End - PockyDay 11.11


นี่ไปเที่ยววังน้ำเขียว จู่ๆก็ไปโผล่a cup of love ที่บ้าพี่หมอเคยไปเที่ยวกับบ้านฝุ่น ใครมีทวิตเราจะเห็นว่าเราลงรูปอยู่ 555555

แฮปปี้ป๊อกดี้เดยยย์
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「Pocky Day!」11|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-11-2017 14:54:25
" กินป็อกกี้พี่หน่อยซิ " พี่อาร์ตตตตตตตตต   :z1: :z1: :z1: :z1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「Pocky Day!」11|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 11-11-2017 17:21:31
อยากเห็นฝุ่นกินป้อกกี้
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「Pocky Day!」11|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-11-2017 18:42:31
กำไรพี่อาร์ตตลอด
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「Pocky Day!」11|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-11-2017 18:53:12
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「Pocky Day!」11|11|60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 12-11-2017 12:37:05
พี่อาร์ตหื่นได้ตลอด ๆ อ่ะ แหม กินป๊อกกี้พี่อะไรเนี่ย เขิน >////<
พี่ข้าวขี้แกล้งจริง ๆ ฝุ่นก็ไม่เข็ดนะ โดนพี่ข้าวแกล้งมากี่รอบแล้ว 555
แต่พี่ข้าวขี้แกล้งก็เพราะพี่ติณณ์ขี้หึงอย่างนี้ไง เลยลงล็อคตลอดอ่ะ น่ารัก
สองคู่ชูชื่น มีความสุขเลย  ขอบคุณคนเขียนมากค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「27」15|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 15-11-2017 20:14:53
•27•


ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าช่วงนี้พี่อาร์ตทำตัวมีพิรุธ ...

ไอ้ทีเห็นชัดๆเลยคือพี่มันกลับบ้านช้ากว่าปกติมาก คือขออธิบายเวลาเลิกงานของพี่มันก่อนนะ ด้วยความที่เป็นโรงพยาบาลสัตว์24ชั่วโมง เวลาทำงานจะเป็นสี่กะ คือ กะเช้าจะเป็นเจ็ดโมงถึงบ่ายสาม กะบ่ายหนึ่งถึงหนึ่งทุ่ม กะเย็นจะตั้งแต่หกโมงเย็นถึงเที่ยงคืน กะดึกเที่ยงคืนถึงกะเช้าเข้าร้าน

ตั้งแต่ที่ผมตกลงคบกับพี่อาร์ตแล้วย้ายมาอยู่ด้วย(เพราะยังโดนภาคินยึดห้อง) พี่มันก็จะทำงานกะเช้าเป็นส่วนใหญ่ นานๆทีจะได้เป็นอีกสามกะที่เหลือ คือผมก็ไม่ได้บอกพี่มันว่าต้องกลับบ้านทันทีที่เลิกงาน แต่ผมให้เต็มที่คือต้องถึงห้องไม่เกินสามทุ่ม ถึงอย่างนั้นพี่อาร์ตก็ดิ่งไปรอรับผมที่ร้านทุกทีที่เลิกงาน บอกว่าอยากอยู่กับผมนานๆ

แต่...ช่วงสี่ห้าวันมานี้พี่มันบอกให้ผมกลับบ้านเองแล้วพี่มันก็เข้าห้องหลังสี่ทุ่มขึ้นไป เคยแอบโทรไปถามหวาน หลานรหัสของพี่อาร์ตที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน เธอก็บอกว่า ‘พี่อาร์ตออกไปตั้งแต่เลิกงานแล้ว’ ตลอด ตอนแรกก็นึกว่าพี่ติณณ์พาหนีเที่ยวแต่พอไปดมๆตามเนื้อผ้าที่พี่มันใส่ก็ไม่มีกลิ่นอะไรผิดแปลกติดตัวเลยสักนิด มีแค่กลิ่นวนิลาจางๆที่คงติดตอนพี่มันไปนัวเนียกับผมช่วงพักเที่ยง


แกร่ก

เสียงประตูที่ดังขึ้นทำให้ผมละสายตาจากข้อความที่กำลังคุยกับพวกไอ้เอ๋ขึ้นไปมองคนตัวสูงที่เปิดประตูห้องมา ก่อนจะเบนสายตาไปมองนาฬิกา...ตอนนี้อีกสิบนาทีจะสี่ทุ่ม
แล้ววันนี้พี่อาร์ตเข้ากะเช้า ที่เลิกตั้งแต่บ่ายสาม...
คิดว่าผมควรรู้สึกยังไง?

“กลับมาแล้วครับ” เจ้าของห้องเดินยิ้มกว้างมาจูบลงกลางศีรษะผมเบาๆ “คุยกับใครอยู่ครับ หืม”

ผมได้ไม่ตอบอะไร ชายตามองคนที่กำลังหาเศษหาเลยกับตัวผมเล็กน้อยก่อนจะตั้งใจก้มตอบข้อความของเอ๋ในโทรศัพท์ต่อ

“ฝุ่นครับ” พี่อาร์ตจิ้มแก้มผมเบาๆ “สีฝุ่นยังไม่ตอบพี่เลย”

ผมหันไปมองหมอหมาที่ส่งยิ้มหวานให้แล้วตอบคำถามนั้นด้วยคำถาม “ทำไมกลับช้าครับ”

“เอ่อ พอดีติดพันไอ้พวกตัวเล็กที่ร้านครับ พี่เหนื๊อยยยย เหนื่อย”

พี่อาร์ตโกหก...

“งั้นหรอครับ”

“ใช่ครับ ไหนๆพี่ขอหอมหน่อ--”

“....ก่อนหน้านี้ฝุ่นโทรไปที่ร้าน” ผมพูดแทรกเสียงเรียบ หันมองอีกฝ่ายที่อ้าแขนชะงักค้าง “ทางนั้นบอกว่า หมออาร์ตกลับไปแล้วตั้งแต่เลิกงาน ฝุ่นจะไม่ว่าอะไรเลยถ้ามันแค่วันสองวัน แต่นี่...เกือบจะอาทิตย์แล้ว”

“...พี่ คือ”

ผมรอฟังพี่อาร์ตที่อึกอัก ทำปากพะงาบๆเหมือนปลาขาดน้ำ แต่คนตัวสูงก็ไม่ยอมพูดซ้ำยังเบือนหน้าหนีผมเหมือนคนมีความผิด

“...ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรครับ” ผมฝืนยิ้ม ลุกขึ้นเดินไปอุ้มไออุ่นที่ขดอยู่ในตะกร้าที่ถูกใช้เป็นที่นอนขึ้นแนบอก ไอ้หมาขี้เซาเงยหน้ามองผมเล็กน้อยก่อนจะหลับไปอีกครั้ง “ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรครับ ฝุ่นจะเชื่อก็ได้ว่าพี่ไปทำงาน”

“ไม่ใช่อย่างที่ฝุ่นคิดนะ!” ข้อมือผมโดนคว้าไปจับแน่น ขณะที่ผมเดินผ่านอีกคนไปทางประตูห้อง

“ฝุ่นคิดอะไรอยู่ พี่รู้หรอ” ผมหันกลับไปประจันหน้าคนที่กำข้อมือผมแน่น “หรือมีอะไรที่บอกฝุ่นไม่ได้?”

พี่อาร์ตยังคงเงียบ คนตรงหน้าเม้มปากเข้าหากันแน่น

อีกครั้งที่พี่อาร์ตหลบตาผม...

“พี่”

“หึ ผมจะกลับบ้าน” ผมเปลี่ยนคำแทนตัวที่ใช้กับอีกฝ่าย พยายามบิดข้อมือออกจากการเกาะกุม “ช่วยปล่อยมือผมด้วยครับ”

ข้อมือผมหลุดออกจากการเกาะกุมง่ายๆ เมื่ออีกคนยอมคลายมือออก ผมยืนมองพี่อาร์ตที่ไม่ได้แม้แต่จะเอ่ยอะไรออกมาเป็นคำแก้ตัว

ถ้าพี่มันอยากให้ผมเชื่อว่าติดพันงาน ผมก็จะเชื่ออย่างนั้นก็ได้

แต่..

“ถ้าพี่อาร์ตไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับบ้านก่อนครับ” ผมก้มตัวให้อีกฝ่ายเล็กน้อย ฉวยหยิบกุญแจมอไซต์ลูกรักของพี่อาร์ตติดมือมาด้วยและเดินออกจากห้องทันที
...ไม่แม้แต่ที่จะหันไปมองผู้ชายอีกคนที่อยู่ในห้อง


“อ้าว คุณฝุ่นจะไปไหนครับ ดึกขนาดนี้แล้ว” รปภ.ของคอนโดที่คุ้นหน้าคุ้นตากันทักขึ้นเมื่อเห็นผมเดินออกจากลิฟต์มา

“กลับบ้านครับ” ผมส่งยิ้มน้อยๆให้เขาก่อนเดินไปตรงจุดจอดรถมอเตอร์ไซต์ ดูคาติคันสวยที่เครื่องยังอุ่นๆเพราะเจ้าของเพิ่งจะขึ้นห้องไปไม่นาน

“หงิง”

ไอ้ตัวกลมในอ้อมแขนร้องขึ้นเมื่อถูกผมจับวางไว้กับตัวถังน้ำมัน ก้าวขาคร่อมกับเบาะแล้วจัดท่าทางไออุ่นให้ยืนดีๆ

เห็นอย่างนี้ผมก็ขับไอ้สองล้อคันโตนี่ได้นะครับ โดนพี่อาร์ตจับสอนนี่ละ

แต่ก่อนที่ผมจะออกรถไป แรงสั่นของโทรศัพท์เครื่องที่ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นยาวจนผมต้องเอาขึ้นมาดูก่อน

พี่อาร์ตโทรมา...
ผมกดตัดสายทันทีที่เห็นชื่อ จัดการปิดเสียงปิดสั่นแล้วยัดเข้ากางเกงเหมือนเดิม

ก่อนจะขับลูกรักของใครบางคนออกไปจากตรงนั้นทันที...


เกือบเก้าโมงเช้าของวันต่อมา พี่อาร์ตตามผมมาถึงบ้านเหมือนอย่างที่คิดไว้ หมอหมาที่น่าจะเข้าทำงานไปแล้วมายืนหงอยอยู่หน้าห้องผม เมื่อพี่มันเห็นผมก็ปรี่เข้าหาทันที

“สีฝุ่น...” คนตรงหน้าครางชื่อผมเบาๆพอผมเบี่ยงตัวหลบ

“ทำไมไม่ไปทำงานครับ” ผมพูดขัดอีกคน ก่อนจะรู้สึกถึงอะไรสักอย่างที่มันเกาะขาอยู่ “ไออุ่นไปหาข้าวตังหมูหยองก่อนนะ”

“พี่เข้าช้าได้ครับ แต่เรื่องที่พี่กลับดึก พี่ขอ--”

“ไม่อยากบอกผมก็ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจอะไรแล้ว” ผมยิ้มจางให้อีกฝ่ายที่นิ่วหน้าลงเมื่อผมพูดออกไปอย่างนั้น “เกเรงานไม่ดีนะครับ ไปทำงานเถอะ”

สิ้นเสียงผมพูด โทรศัพท์พี่อาร์ตก็ดังขึ้นทันที คนตัวสูงก้มมองเบอร์ที่โทรเข้าสลับกับมองผม พอผมบอกให้รับพี่มันก็กดรับอย่างเสียไม่ได้

“อินทัชครับ...” พี่อาร์ตมองตามผมที่วางกุญแจที่ฉวยเอามาเมื่อคืนใส่มือเจ้าของตัวจริง ก่อนที่เดินออกจากตรงนั้นโดยมีไออุ่นวิ่งหลุนๆตามมาติดๆ

ผมอุ้มไออุ่นออกจากตัวบ้านไปทางร้าน เมื่อคืนพอกลับถึงบ้านผมก็คุยกับพวกเอ๋ต่อแล้วมันบอกว่าจะมาหาวันนี้ แต่ผมคิดว่าพวกมันคงช่วงสายๆแหละ เลยตั้งใจว่าจะมาช่วยงานน้าศรรอเวลา

ผิดคาดแฮะ....
“ไงฝุ่น” เพื่อนสนิททั้งสองยกมือทักทายเมื่อเห็นผมปรากฏตัวขึ้นที่ร้าน มันทั้งคู่นั่งอยู่ที่ประจำตรงข้างกระจก“พอดีว่าว่างเลยมาเร็ว”

“เออ แล้วมีไรล่ะ”  ผมถามออกไป เกอร์กับเอ๋หันมองหน้ากันก่อนที่เกอร์จะเป็นคนพูดออกมา

“เรื่องพี่อาร์ต...” ไทเกอร์เหล่มองอีกฝั่งของกระจกร้าน พี่อาร์ตยืนมองผมตาละห้อยอยู่อีกด้าน พอพี่มันเห็นผมไม่สนใจก็เดินคอตกไปขึ้นรถที่ขับมา

“ไปทำอิท่าไหนวะถึงพี่มันหงอยขนาดนั้น เมื่อคืนกูก็บอกมึงแล้วไงว่าพี่มัน---” เอ๋พูดขึ้นหลังพี่อาร์ตลับสายตาพวกเรา “มึงก็รู้ความจริงแล้วนี่ ยังจะไปแกล้งพี่อาร์ตอยู่ได้”

ผมยกยิ้มมุมปาก เมื่อนึกถึงสิ่งที่เพื่อนทั้งสองส่งมาในไลน์เมื่อคืนก่อนที่พี่อาร์ตจะกลับถึงห้อง

‘แฟนมึงคิดจะเซอร์ไพรส์วันเกิดมึง’
ใช่ครับ อีกไม่กี่วันก็จะวันเกิดผม แล้วไอ้สองคนนี้มันไปเจอพี่อาร์ตเดินเข้าโรงเรียนสอนทำขนมช่วงหัวค่ำของเมื่อวานเลยส่งรูปมาให้ผมดู โชคดีที่โรงเรียนนั้นเกอร์รู้จักเจ้าของเลยได้รู้ว่าพี่อาร์ตเขาไปลงคอร์สเรียนทำขนมเค้กระยะสั้น แล้วช่วงนี้มีแค่วันเกิดผมพวกมันเลยเข้าใจว่าพี่อาร์ตคงคิดทำเซอร์ไพรส์ผมแน่ๆ

“น่าเพื่อน แค่อยากแกล้งที่พี่มันไม่ยอมบอกอะไรกูเลยยย ปล่อยให้กูคิดมากอยู่ตั้งนาน” ไอ้สองคนตรงหน้าถอนหายใจออกมาพร้อมกัน “พี่มันคิดว่ากูชอบคิดเล็กคิดน้อยหรือไงวะ! อยากทำอะไรกูสอนให้ก็ได้ป่ะ”

“ก็แฟนพี่มันเล่นทำขนมทำอาหารเก่งซะขนาดนั้น พี่มันคงยอมให้มึงสอนอยู่มั้ง... แล้วดูหน้าพี่มันเมื่อกี้ก็น่าสงสารพี่มันนะฝุ่น หงอยเป็นหมาเชียว”

“เอ๋...ถ้ามึงมีแฟนแล้วแฟนหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าว กลับมาอีกทีดึกดื่นมึงจะโกรธไหม” ผมถามคนที่เหมือนจะเข้าข้างพี่อาร์ต

“ไม่รู้ว่ะ เพราะกูยังไม่มีแฟน” มันยกยิ้มกวนตีนพร้อมคำตอบ เกอร์อย่าเพิ่งมองเอ๋ตาขวางครับ...

“ไอ้เอ๋อย่าเพิ่งกวนฝุ่น” ไทเกอร์หันปรามเพื่อนตัวเตี้ย “แล้วมึงจะปล่อยพี่เขาหงอยต่อไปหรือไง นี่เล่นแกล้งทำตัวดราม่าหนีออกมาจากห้อง ป่านนี้พี่เขาคงลงแดงแล้วมั้งฝุ่น”

ผมหัวเราะออกมากับคำเพื่อน ความจริงพี่มันลงแดงขนาดที่ว่ากระหน่ำโทรหาแม่ผม เพราะผมไม่ยอมรับสายตั้งแต่หกโมงเช้าจนแม่มาเคาะห้องปลุกผมกับภาคินที่นอนหลับปุ๋ยกอดกันกลมดิ๊ก เพื่อถามว่าผมไปทะเลาะอะไรกัน พี่อาร์ตถึงทำเสียงร้อนรนขนาดนั้น ผมก็เลยเล่าความจริงไป พอคุณนายศิลป์ได้ฟังปุ๊บแม่ก็ให้ความร่วมมือผมดีมากโดยการกดโทรหาพี่อาร์ตแล้วเปิดสปีกเกอร์โฟน แสร้งทำเสียงร้อนอกร้อนใจว่าผมก็ไม่ยอมออกคุยกับแม่ ตีไข่ใส่ความจนดูเหมือนผมโกรธพี่มันมาก จนทำให้คนพี่สารภาพว่าทำอะไรไปถึงทำให้ผมโกรธจนหนีกลับบ้าน แถมกำชับแม่ว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับผมเพราะอยากเซอร์ไพรส์วันเกิดผม แล้วรีบมาดักรอผมที่หน้าห้องตั้งแต่เช้า

ตอนแรกก็ดีใจชิบหายตอนรู้ว่าพี่มันแอบไปทำอะไร รู้ว่าต้องการจะเซอร์ไพรส์ผมแต่การไม่บอกอะไรผมสักนิดปล่อยให้ผมคิดมากอยู่เกือบอาทิตย์มันก็ต้องมีเคืองกันบ้างใช่ไหมครับ อย่างน้อยก็แวบมาบอกว่าพี่มีธุระ ช่วงนี้กลับช้าหน่อย แค่นี้ผมก็เข้าใจแล้ว ไม่ใช่จู่ๆหายไปแบบนี้

“พี่ฝุ่นแม่งขี้แกล้งเนอะพี่เกอร์พี่เอ๋” ภาคินที่บังเอิญรู้เรื่องเพราะอยู่ด้วยกันตอนแม่โทรหาพี่อาร์ตเอ่ยขึ้นตอนที่เอากาแฟมาให้ผม  เลยมองค้อนมันไปที

“ถ้าแฟนคินทำอย่างนี้คินจะโกรธไหมล่ะ”

“ไม่ครับ”

“หูยย น้องใจเย็นว่า ไม่โกรธเพราะเข้าใจหรอ” เอ๋พูดแทรกเด็กแว่นภาคินที่ยืนยิ้มสดใส

“ไม่ให้เข้าใกล้ครับ” ภาคินแสยะยิ้ม

“มองนะครับน้องคิน...” เกอร์ถอนหายใจออกมาเพราะคำตอบภาคิน “สรุปมึงจะแกล้งโกรธพี่อาร์ตต่อ?”

ผมพยักหน้าลงเป็นคำตอบ

แกล้งงอนจนกว่าจะวันเกิดนี่แหละครับ รออีกสองวันเองเนอะพี่อาร์ตเนอะ

Tbc.
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「27」15|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 15-11-2017 20:22:55
น้องฝุ่น แบบว่ามีการเอาคืน มีแผนซ้อนแผน
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「27」15|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 15-11-2017 21:37:54
ฝุ่นแกร้ายมาก
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「27」15|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-11-2017 23:50:37
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「27」15|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 21-11-2017 17:11:23
โถ่ววว พี่อาร์ตผู้น่าสงสาร  :m14: :m14:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「28」21|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 21-11-2017 22:54:50
「28」


คิดว่าพี่อาร์ตจะลงแดงเพราะผมโกรธนานแค่ไหนกันครับ ?
คำตอบคือ...ไม่ถึงวันครับ

“สีฝุ่น น้องคินครับ... ขอพี่นอนด้วยสิ” ผมมองพี่อาร์ตที่อยู่ในชุดนอนเรียบร้อย ในอ้อมแขนมีหมอนใบโตยืนอยู่หน้าห้อง พี่อาร์ตมองผมตาละห้อยก่อนจะหันไปสบตากับภาคินที่ยืนอ้าปากค้าง

“ให้นอนพื้นก็ได้ แต่พี่ขอนอนด้วนคนนะๆ”

ภาพของสุนัขพันธ์โกลเด้นทำหน้าหงอยใส่ชุดนอนที่ส่งมาทำให้ผมหันหน้าขวับ เพื่อกลั้นไม่ให้ตัวเองขำออกมาต่อหน้าพี่มัน

นี่มันลงแดงขั้นสุดยอดนี่หว่า...

“พี่ฝุ่นฮะ...” ภาคินสะกิดผมรัวๆ ก่อนจะกระซิบถามว่าจะเอายังไงดี

“อะแฮ่ม” ผมปรับสีหน้าก่อนจะหันกลับไปทางหมอหมาอีกครั้ง “คินออกไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ขอคุยกับเขาก่อน”

เด็กดีอย่างภาคินรับคำแล้วรีบเดินออกจากห้องทันทีที่ผมพูดจบประโยค ดูท่าแล้วคงจะออกไปหัวเราะละสินั่น...

“พี่มีอะไรครับ แล้วทำไมไม่นอนที่ห้อง” ผมถามเสียงเรียบ พยายามเต็มที่ที่จะไม่ให้หลุดหัวเราะออกไป

“พี่อยากนอนกับฝุ่นครับ ตรงไหนก็ได้แค่ในห้องเดียวกันก็ยังดี...” พี่อาร์ตว่าเสียงเบาหวิวเหมือนคนไม่มีความมั่นใจ คนตัวโตก้มหน้าก้มตาซุกกับหมอนที่ถือมาด้วย

มันน่าถ่ายรูปไปให้พี่ติณณ์ดูชะมัด !

“อย่างงั้นหรอครับ งั้นเดี๋ยวผมไปให้คินเตรียมที่นอนให้นะครับ”

“เดี๋ยว!” ผมเลิกคิ้วมองพี่อาร์ตที่คว้าหมับเข้าข้อมือผม เจ้าตัวที่เห็นผมทำหน้าอย่างนั้นก็ปล่อยมือออกทันที “เอ่อ..คือพี่ขอโทษครับ”

“ขอโทษเรื่องอะไรครับ” เพราะผมถามออกไป มันยิ่งทำให้พี่อาร์ตทำหน้าสลดกว่าเดิม

“เรื่องที่กลับช้า กับ... ที่โกหกฝุ่นครับ” ผมมองคนตัวสูงที่ยืนก้มหน้าไหล่งุ้มเข้าหาตัว มือที่กุมกันไว้หยุกหยิกเหมือนเด็กน้อยเวลาสารภาพผิดกับคุณแม่
... ถ้าพี่อาร์ตเงยหน้ามาสักนิดจะเห็นว่าผมฉีกยิ้มกว้างอยู่

“ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้โกรธอะไรแล้ว... ตอนนี้ก็ดึกแล้วพี่อาร์ตนอนเถอะ” อูย นี่ก็เงยหน้ามาตอนกำลังยิ้มกว้าง เกือบหุบไม่ทันไหมล่ะ

หมับ
“...พี่บอกไม่ได้ว่าพี่หายไปทำอะไร แต่ฝุ่นเชื่อใจพี่นะครับว่าพี่ไม่ได้ไปทำอะไรแย่ๆ” พี่อาร์ตทิ้งหมอนลงพื้นแล้วดึงผมเข้าไปกอด เสียงอู้อี้จากการเอาหน้าซุกลงกับไหล่ผมทำให้อีกฝ่ายดูน่าสงสาร “เชื่อพี่นะครับ พี่รักฝุ่นนะ”

สัมผัสนุ่มถูกกดลงมาที่ขมับและผละออกอย่างช้าๆ ใบหน้าหล่อติดอ้อนที่มองมาทำให้ผมคิดว่า...

หรือเราจะแกล้งพี่อาร์ตแรงไป ?

“พี่ก็... อย่าโกรธฝุ่นนะ” พรุ่งนี้ฝุ่นจะไม่แกล้งแล้ว...

“ครับ?” คนตัวสูงทำหน้างงๆกับคำพูดที่ได้ยินไม่ชัด แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรออกไปเพราะสงสารความหงอยของแฟน ภาคินก็เดินเข้าห้องมาพร้อมที่นอนปิกนิคซะก่อน

“น้าศิลป์ให้เอามาให้ครับ” น้องชายว่า “พี่อาร์ตนอนบนเตียงกับพี่ฝุ่นเดี๋ยวผมนอนพื้นเอง”

“คินนอนกับฝุ่นเหมือนเดิมแหละ พี่นอนพื้นเองครับ” พี่อาร์ตส่ายหน้าน้อยๆให้ แล้วแย่งคินถือที่นอนนั่นไปปูข้างเตียงเอง
โถ่...หูหางตกเชียวนั่น

“ฮึ่ม...” ผมครางออกมาเบาๆอย่างหงุดหงิดเมื่อนอนไม่หลับทั้งๆที่ง่วงจนตาจะปิดอยู่แล้ว นอนกอดไอ้คินก็แล้วกอดไอ้อุ๋งตัวยักษ์ก็แล้วก็ยังนอนไม่หลับทั้งๆที่เมื่อคืนก็หลับปุ๋ย
ทำไมนะ...

เงาตะคุ่มๆบนพื้นตรงข้างเตียงคงเป็นคำตอบของผม

“พี่อาร์ต...” ผมเรียกชื่อคนด้านล่างเบาๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบสนองก็ตัดสินใจค่อยๆเคลื่อนตัวลงไปอยู่บนที่นอนเดียวจนได้ ดึงชายเสื้อคนพี่ไว้แล้วขยับตัวเองหน้าผากชนกับแผ่นหลังที่โค้งงอนั่นเบาๆ ไออุ่นคุ้นเคยจากกายของเจ้าของแผ่นหลังส่งผลให้ผมเคลิ้มหลับอย่างง่ายดาย

โดยที่ไม่รู้เลยว่าเมื่อผมหลับไปแล้ว เจ้าของแผ่นหลังนั่นก็พลิกตัวมาเผชิญหน้ากับตัวเองพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ
“ฝันดีนะครับสีฝุ่น”

แชะ
หือ...

แชะ แชะ
“อืมมม” ผมร้องอย่างหงุดหงิดเมื่อได้ยินเสียงรบกวนเวลานอน ขยับซุกหน้าลงกับอ้อมอกของพี่อาร์ตเพื่อหลีกหนีเสียงนั่น

“ฝุ่น ฝุ่นครับ” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นข้างหูทำให้ผมค่อยๆปรือตาขึ้นมอง สิ่งแรกที่เห็นเลยคือรอยยิ้มละมุนของเจ้าของอ้อมแขนที่กอดผมเอาไว้หลวมๆ “ฝุ่นตื่นไปใส่บาตรไหม วันนี้วันเกิดนะครับ”

“อื้อ..” ผมยังคงซุกอยู่กับอกพี่มัน กว่าจะได้นอนตั้งตีหนึ่งตีสอง ง่วง...

“หายโกรธพี่แล้วหรือไงฮึ มาซุกอย่างนี้” พี่อาร์ตว่าติดขำ อยากตอบว่าไม่โกรธแล้ว จะสารภาพผิดด้วยแต่ง่วงเกินไปที่สมองจะประมวลคำพูดได้

“ขี้เซาเอ๊ย... คินไปบอกแม่นะว่าเดี๋ยวสายๆพี่พาไปทำบุญเอง สีฝุ่นคงไม่ตื่นง่ายๆแน่” เสียงแว่วๆของพี่มันดังเข้าโซนประสาท พร้อมๆกับตัวผมที่ลอยขึ้นไปอยู่กับความนุ่มนิ่มของอะไรสักอย่าง ก่อนที่ผมจะเข้าสู่นิทราอีกครั้ง


ลืมตาขึ้นอีกทีก็เกือบแปดโมงครึ่ง...
“พี่อาร์ต! พี่อาร์ต ตื่นๆๆ” ผมเขย่าตัวศพที่นอนข้างๆบนเตียงอย่างบ้าคลั่ง วันนี้วันเกิดผมนะทำไมไม่ปลุก !

“ฮ้าวว ฝุ่นตื่นแล้วหรอ” พี่อาร์ตสภาพหัวรังนกน้ำลายยืดถามผม “พี่กับคินปลุกเราไปแล้วแต่เราไม่ตื่น เอาแต่อ้อนพี่นอนต่ออยู่นั่นแหละ”

ภาพตอนเช้าลอยเข้ามาเป็นฉากๆ...

“งื้อออ ก็น่าจะปลุกฝุ่นจนตื่นป่ะ” พี่มันขำพอเห็นผมเหวี่ยงน้อยๆ คนตัวสูงก็รวบตัวผมเข้าไปกอด พลิกให้ผมจมไปกับที่นอนแล้วกดจูบลงมาอย่างคนมันเขี้ยว

จูบทั้งที่ฟันยังไม่แปรงทั้งคู่นี่ล่ะ เน่าดี

“อื๊อออ”

พี่มันจูบแรงๆอีกครั้งก่อนผละออกมาให้จมูกคลอเคลียกัน “สุขสันต์วันเกิดนะครับที่รัก”

“อื้อ..ขอบคุณครับ” ผมว่าเสียงเบา ตอนนี้ลืมไปแล้วว่าแกล้งโกรธพี่มัน รับรู้แค่เพียงรสจูบที่ไม่ได้รับมาสองวันติดอยู่ที่ริมฝีปาก

“หายโกรธพี่นะครับ เย็นนี้พี่ของให้เราด้วย นะ” มือใหญ่ของพี่อาร์ตลูบแก้มผมแล้วดึงเบาๆ “ไปอาบน้ำไป เน่าแล้ว”

ผมจ้องหน้าคนที่ละมือออกจากแก้มไปแล้ว ก่อนจะตัดสินใจโน้มตัวไปหอมแก้มพี่มันเบาๆก่อนผละออกอย่างรวดเร็ว

ปล่อยให้พี่อาร์ตยิ้มเป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียวนั่นแหละ


ตกเย็น... ด้วยความเป็นวันเกิดของลูกชายคนเดียวของบ้านที่กลายเป็นภรรายาชาวบ้านไปแล้ว แม่ศิลป์เลยจัดการปิดร้านให้เร็วขึ้นเพื่อใช้ฉลองวันเกิดผม ทั้งๆที่บอกแล้วว่าไม่ต้องปิดร้าน คุณแม่ก็บอกว่าถือโอกาสนี้ไปเหมาเนื้อย่างมาเลี้ยงคนในร้านด้วยเลย คำเถียงผมเลยตกไปครับ...

“ไอ้อาร์ตล่ะ?” พ่อที่กำลังขนเตาไฟฟ้าจากหลังบ้านพูดขึ้น

“ไม่รู้อ่ะพ่อ หายไปตั้งแต่เที่ยงแล้ว” ผมตอบ รู้นะว่าไปไหน แต่พี่มันบอกว่าจะเซอร์ไพรส์ผมก็จะทำเป็นไม่รู้ก็ได้เนอะ

“เอ้อๆ ไอ้เกอร์กับเอ๋มาไหม พ่ออยากได้คนกินเหล้าด้วย” ผมพยักหน้าตอบ ไอ้สองคนนั้นถ้าเรื่องของฟรีนะมันมาแน่น คอยดูหลังเลิกงานนะ

ผมนั่งมองพ่อแม่พี่น้องพนักงานที่กำลังสนุกสนานกับการแย่งเนื้อที่ปิ้งแล้วกัน โดยเฉพาะไอ้เอ๋ที่ไปแหย่น้องแก้วจนถูกไอ้ตูนมองแรงใส่ เมื่อสักครู่นี้ผมเพิ่งรับสายวีดิโอคอลจากพี่ติณณ์พี่ข้าว สองคนนั้นเพิ่งรู้ว่าวันนี้วันเกิดผมจากพี่อาร์ตเลยบอกจะเอาของมาให้ทีหลัง แต่ผมก็บอกปัดๆไปแล้วนะแต่คิดว่าคงไม่ฟังกันหรอก พอๆกับป้าเล็กกับพี่ฟิล์มที่ฝากของขวัญมาให้ คนหนึ่งเป็นเงินเข้าบัญชี อีกคนเป็นเลนส์ตัวใหม่ที่ผมบ่นว่าอยากได้

ตอนนี้ใกล้จะทุ่มครึ่งแล้วพี่อาร์ตยังไม่มาเลย...

“ฝุ่นครับ ตาอาร์ตไปไหนล่ะไม่เห็นตั้งแต่บ่ายแล้ว” เสียงของแม่ที่ดังขึ้นทำให้ผมได้แต่ส่งยิ้มน้อยๆไปให้ ผมวางของทุกอย่างในมือแล้วโผเข้าหาผู้หญิงที่ผมรักที่สุด

“แม่ ฝุ่นรักแม่นะ” ผมซุกหน้าลงกับหน้าท้องที่ผมเคยอยู่มาเก้าเดือนแล้วหมุ่นหน้าไปมา “ขอบคุณที่ทำให้ฝุ่นเกิดมานะครับ”

ประโยคที่ผมบอกแม่ในทุกวันเกิด แต่..ครั้งที่ไม่ได้มีแค่เสียงผมคนเดียวที่พูดประโยคนั้น

“อ้าวตาอาร์ต ไปไหนมาล่ะลูกทิ้งน้องไว้ได้ไง” ผมหันไปมองเจ้าของเสียงเมื่อครู่ที่ยืนถือเค้กปอนด์สีขาวปักเทียวไว้... มุมเสยกับแสงเทียนโคตรหน้ากลัว...

“ไปทำไอ้นี่มาครับแม่ เอ้า Happy Birthday to you” เสียงทุ้มนุ่มเปล่งเสียงเพลงวันเกิดออกมา เป็นต้นเสียงให้คนที่กำลังเอร็ดอร่อยกับเนื้อย่างวางตะเกียบแล้วร้องตาม

จนกระทั่งเพลงจบลง ทุกคนพร้อมใจกันเงียบเพื่อรอให้ผมเป่าเทียนตัวเลยบนเค้กนั่น

แก่ขึ้นอีกปีสินะ...

ผมหลับตาลง ก่อนเป่าลมเบาๆให้เทียนตรงหน้าดับ เสียงเฮดังลั่นพร้อมเสียงไอ้เอ๋ที่บอกว่า แดกต่อได้โว้ย ไอ้เห็นแก่กิน...

“... Happy Birthday my dear” เสียงทุ้มของพี่อาร์ตดังขึ้นข้างหู “อาทิตย์ที่ผ่านมาพี่ไปเรียนทำไอ้นี่มาครับ ขอโทษที่ไม่ได้บอกนะ แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ฝุ่นเป็นห่วงนะครับ”

ผมยกยิ้มให้คนตัวสูง

“ฝุ่นรู้แล้ว ไอ้พวกนั้นบอก” ชี้นิ้วไปที่ไอ้เพื่อนสนิทที่โดนพ่อมอมเหล้า “ขอโทษที่แกล้งงอนนะครับ”

“....”

“แหงะ พี่อาร์ตไม่เงียบสิ นะๆ ไม่โกรธฝุ่นนะ” ผมเขย่าแขนพี่มันที่นิ่งไม่ยอมตอบผม “พี่อาร์ต~”

คนตัวโตเผยยิ้มออกมาน้อยๆ พอเห็นผมเริ่มจะงอแง

“ครับๆ หายกันนะ” นิ้วก้อยถูกยื่นมาตรงหน้า ผมยิ้มกว้างให้อีกคนแล้วยกนิ้วก้อยตัวเองไปเกี่ยวกับอีกคน ก่อนหน้าผมจะขึ้นสีเมื่อ.. พี่อาร์ตยกนิ้วก้อยที่เกี่ยวกันขึ้นไปจูบเบาๆ “หายกันๆ”

“เฮ้ยตรงนั้นน่ะ อึ่ก หยุดหวานแล้วมาแดกกก กูอิจฉาาา” เสียงยานๆของเกอร์ผู้ไม่เคยหลุดมาดดังขึ้นทำให้เราทั้งคู่ผละออกจากกัน สภาพเพื่อนทั้งสองผมนี่แทบเลื้อยไปกับพื้นโดยมีไอ้คินเป็นคนเก็บภาพททุกช็อตไว้ หลังงานจะเอาลงเฟสให้หมดเลยไอ้พวกนี้

“เออๆ ป่ะพี่อาร์ต” ผมจูงคนตัวสูงไปนั่งข้างๆพ่อกับแม่ ก่อนผมจะเริ่มหันไปอ้อนแม่ “แม่ๆ ป้อนฝุ่นหน่อย”

“อ้าปากเป็นลูกนกเชียว อ่ะๆ” แม่บ่นแต่ก็ป้อนเนื้อย่างชุ่มน้ำจิ้มเข้าปากผม ความเผ็ดของมันทำให้ผมน้ำหูน้ำตาไหลจนขำกันไปทั้งวง

กว่าจะจบงานได้ก็เกือบเที่ยงคืน เค้กที่พี่อาร์ตแอบไปทำมาให้หมดไปอย่างรวดเร็ว โดนแม่ติว่าไม่ค่อยมีรสชาติไปจนพี่มันหน้าเจื่อนไปนิด แต่แม่ศิลป์ก็บอกว่าจะสอนทำเอาคราวหลัง ส่วนไอ้เกอร์ก็เมาเรื้อนจนพ่อแบกมันไปโยนไว้ที่ห้องนอนแขก น้องแก้วก็มีตูนอาสาไปส่ง ภาคินหนีไปนอนห้องพี่ฟิล์ม

ส่วนผม...ตอนนี้ก็อยู่ในห้องกับพี่อาร์ตสองคนครับ

“ไหนของขวัญฝุ่นล่ะ” ผมแบมือใส่คนตรงหน้า พี่มันทำหน้ากวนตีนใส่แล้ววางมือของตัวเองลง

“ไม่มีครับ”

“...อื้อ” ไม่ได้บอกให้หาของขวัญก็จริงแต่แอบเฟลนิดๆแฮะ ของขวัญจากแฟนนี่นา...

“ล้อเล่นครับ ฝุ่นหลับตาแล้วยื่นมือมานะ” ผมทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะรู้สึกถึงความหนักๆที่ถูกวางลงที่มือ “เอาล่ะครับ ลืมตาได้”

“...กล้อง?”  ผมมองสิ่งที่อยู่ในมือ กล้องพร้อมเลนส์ตัวที่ผมชอบไปเมียงมองทุกครั้งเวลาผ่านร้านขายกล้อง ที่ตรงฮู้ดเลนส์มีข้อความเล็กๆเขียนไว้ด้วยปากกาสีเงิน

“You are my all” คนพี่ก้มมาจูบปากเบาๆ “ชอบไหม พี่เห็นเราชอบมองรุ่นนี้เวลาเดินผ่านร้านกล้อง”

ผมยิ้มกว้างให้พี่อาร์ต วางกล้องลงแล้วโผหาคนตรงหน้า “ชอบครับ ชอบที่สุดเลย”

“หึๆ ชอบก็ดีครับ เอาล่ะได้เวลาให้รางวัลพี่หรือยัง” พี่อาร์ตเอียงหน้ามาจะจูบผม แต่กลับโดนผมปิดปากไว้

“ยังไม่เคลียร์เรื่องกลับดึกแล้วไม่ยอมบอกครับ แถมยังทำอะไรลับๆล่อๆอีก” ผมทำเสียงดุพร้อมชี้หน้าคาดโทษ พี่มันทำหน้างอแงออกมาทันที

“ง่ะ ฝุ่นก็รู้จากไทเกอร์แล้วนี่ คราวหน้าพี่จะไม่ทำแล้วครับ จะกลับบ้านตรงเวลาไม่เถลไถลนอกลู่นอกทางที่รักครับ สัญญาเลย” พี่อาร์ตชูสามนิ้วขึ้น

“โอเครับ จำคำพูดตัวเองด้วย” ผมว่า ก่อนจะขยับออกห่าง “ส่วนตอนนี้ นอนครับ!”

“สีฝุ่น! อาร์ตน้อยมันตื่นแล้วนะ!”

“ทำตื่นแล้วก็พานอนเองดิ”

“...ได้ฝุ่นได้”

คนพี่เงียบไปแล้ว ผมหาวออกมาวอดใหญ่ก่อนจะรู้สึกถึงเงาดำๆที่ทาบทับมาจนต้องลืมตามอง

พี่อาร์ตกำลังคร่อมผมอยู่ และ...

“อืม...สีฝุ่นครับแรงกว่านี้หน่อย”

“.....”

“อ่า เมียครับ”

“ฝุ่น...อืมมมมม”

ไอ้ พี่ อาร์ต!

และคืนนั้น... นายอินทัชก็ได้ลงไปครอบครองพื้นห้องนอนเป็นครั้งที่สอง

Tbc.


ใกล้ปลายทางแล้วค่ะ งื้อออ ใจหาย
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「28」21|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-11-2017 23:27:33
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「28」21|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 22-11-2017 06:51:55
ตกลงพี่อาร์ต ฝัน หรือได้กันจริง555
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「28」21|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 22-11-2017 14:45:58
พี่อาร์ตนี้น้าาา :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「28」21|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-11-2017 17:50:32
พี่อาร์ต รักฝุ่นจริง ติดฝุ่นมากกกกก  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「28」21|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 26-11-2017 12:32:24
อยากช่วยฝุ่นด่าไอ้พี่อาร์ตด้วย

พี่เขาร้ายนะคะ ฮาาาาา
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「29」27|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 27-11-2017 20:30:42
「29」


“อ้าวตาอาร์ต หน้าไปโดนอะไรมาล่ะลูก” เสียงแม่ที่เอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นใบหน้าที่มีรอยแดงติดอยู่ของคนตัวสูงที่เดินตามผมมาต้อยๆ

“แมว...ข่วนครับแม่” พี่อาร์ตหันมามองผมตอนพูดคำว่าแมว ก่อนจะโดนแม่ซักชุดใหญ่ว่าแมวที่ไหนอะไรยังไงทำไมถึงไปโดนข่วนได้

อันที่จริง... เมื่อเช้าผมไม่รู้ว่าพี่มันขึ้นมานอนด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ ด้วยความตกใจเลยเผลอฟ้อนเล็บใส่พี่มันไปครับ...

“ฝุ่นไปเล่นกับสามซนนะ” ผมบอกคนที่นั่งโอ๋กันอยู่ที่โซฟา ก่อนปลีกตัวออกมาหน้าบ้านพร้อมกระป๋องใส่อาหารหมาในมือ ระดับนี้ไม่ต้องเคาะเรียกครับ แค่เปิดฝาไอ้ข้าวตังหมูหยองไออุ่นก็ปรี่เข้ามาล้อมผมพร้อมคาบชามใส่อาหารมาด้วย โคตรแสนรู้อ่ะหมาใครวะ

“เอ้า วางไว้ๆ” ผมตบพื้นหญ้าตรงหน้า ไอ้สามซนก็วางสิ่งที่คาบมาลงทันที ผมมองหมาแก่สุดอย่างหมูหยองที่น้ำลายย้อย เมื่อคืนที่นั่งกินเนื้อย่างก็นั่งแถวๆข้างกรงมันกันแหละครับ สงสัยจะเห็นแล้วโดนใครยั่วแน่ๆไม่งั้นมันคงไม่ทำท่าหิวขนาดนี้หรอก ส่วนอีกสองเตี้ยกลมทำแค่แลบลิ้นมองของในมือผมตาวาวตามประสาหมาตะกละ เสียงอาหารเม็ดกระทบชามข้าวพลาสติกยิ่งทำให้ไอ้พวกหิวโหยยิ่งน้ำลายย้อย

“อิ่มกันไหมวะเนี่ย?” ผมพึมพำเมื่อเห็นไอ้สามซนกวาดอาหารหมดในไม่กี่นาที ไอ้หมาแก่มองผมอย่างอ้อนๆเมื่ออาหารหมด

“พอครับฝุ่น” เสียงทุ้มกับมืออุ่นๆรั้งผมที่กำลังจะเทอาหารเม็ดเพิ่มให้พวกตรงหน้า “แม่ศิลป์บอกว่าเมื่อเช้าก็ให้แล้วครับ กินมากก็ไม่ดีต่อตัวน้องมันนะ”

“ถ้าหมอหมาว่าอย่างนั้นก็พอเลย เฮ้ยไอ้หมูหยอง!!” ผมร้องเรียกชื่อหมาตัวโตที่เอาหน้ามุดกับกระป๋องอาหารหมาในมือ ระหว่างที่ผมกำลังหันไปคุยกับพี่อาร์ตจนต้องรีบยกขึ้นสูง หมอหมาที่เห็นอย่างนั้นก็หัวเราะลั่นออกมาพร้อมเอาฝามาปิดกระป๋องที่ผมชูสูงให้

“ตะกละชิบหาย” พอพวกมันรู้ว่าแววตาแป๋วๆไม่ได้ทำให้ผมเทอาหารให้เพิ่ม สามซนก็ถอดใจคาบชามอาหารเข้าไปเก็บที่เดิม แต่ไม่ใช่กับหมอหมาพันธุ์โกลเด้นที่นั่งอ้อนผมอยู่ข้างๆตัว

“พี่หิวแล้วอ่ะฝุ่น” คนตัวโตถูแก้มลงกับแขนผม “นะๆ กินกัน”

“กินไรล่ะเดี๋ยวฝุ่นไปทำให้” ผมดันหัวหมาโกลเด้นในร่างมนุษย์ออกห่าง ก่อนจะได้แววตาวาวๆเป็นคำตอบ

“กิน...ฝุ่น”

“เฮ้ย!” ผมร้องออกมาเมื่อพี่อาร์ตทิ้งตัวใส่ผมจนผมหงายหลังไปกับพื้นหญ้า โดยมีคนตัวโตนอนขำอยู่ตรงอก “อูยย เจ็บนะพี่อาร์ต! เปื้อนหมดเลยด้วย”

“ฮ่าๆๆ ขอโทษครับ มาๆ ” พี่มันลุกขึ้นแล้วยื่นมือให้ผมจับ ผมมองอีกคนด้วยสายตาไม่ไว้ใจแต่พอเห็นรอยยิ้มใสซื่อ(?) ของอีกคนก็ทำให้ผมเผลอยื่นมือไปวางบนมือใหญ่ที่จับกลับมาแน่น

“เอ้าฮึบ!” ก่อนที่ผมตัวจะปะทะกับแผงอกกว้างที่รอรับอยู่ “กินข้าวกัน”

“อื้อ” พอผมพยักหน้า พี่อาร์ตก็จูงผมไปห้องน้ำเพื่อล้างเศษดินเศษหญ้าออกจากตัว ก่อนพี่มันจะอุ้มผมออกมาในสภาพระทวยในครี่งชั่วโมงให้หลัง...


“ฝุ่นไม่สบายหรือครับดูหน้าแดงๆ นะ” คำถามแม่ทำให้ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่คนข้างๆทันที เนื่องจากพ่อและพวกเกอร์ยังแฮงค์อยู่ตอนนี้เลยมีแค่พวกเราสามคน อ้อ มีภาคินยังไม่ตื่นอีกคน

“เปล่านี่ครับแม่” ไอ้คนตัวการตอบแทนผม แม่ทำเสียงอ๋อออกมายาวๆ และมองผมด้วยสายตาล้อเลียน

เบือนหน้าหนีสิครับจะรออะไร

“ลูกชายแม่สึกหรอแล้วหรือยังตาอาร์ต”

“...ยังครับแม่”

“ยังไงก็ยั้งตัวเองบ้างนะ สีฝุ่นกลายเป็นตุ๊กแกแล้ว”

ผมที่นั่งกินข้าวฟังสองแม่ยายกับลูกเขย(?)คุยกันก็เผลอยกมือตะบบคอตัวเองทันที ก่อนจะรู้ว่าตัวเองเสียรู้คนแก่ก็เมื่อเห็นแม่อ้าปากหัวเราะแบบไม่เหลือมาดคนสวย

“แม่อ้ะ!” รู้ตัวเลยครับว่าหน้าแดงจนคนพี่มันเอานิ้วมาเขี่ยๆแก้มผมแล้วยกยิ้มเจ้าเล่ห์ “พี่อาร์ตอย่าแกล้งฝุ่นดิ งื้อออ”

“ลูกแม่น่ารักเนอะ” นี่แม่

“มากๆครับ” นี่พี่มัน

“ผม...ฝุ่นจะไปปลุกภาคินนะ!”

เมื่อรู้ตัวว่าถ้ายังอยู่ต่อไปคนโดนแซวจนพรุนแน่ๆผมจึงเอาตัวรอดด้วยการลุกหนี... ก้าวยาวๆเดินออกมาจากโต๊ะอาหารที่มีเสียงหัวเราะของสองแม่(ยาย)ลูก(เขย)ขึ้นไปชั้นสอง ปากบอกจะไปหาภาคินแต่ตอนนี้เท้ากำลังตรงดิ่งไปยังห้องนอนแขกที่มีเพื่อนทั้งสองอยู่แทน

แกรก
ปัง!
ตุ๊บ!
“เฮ้ย!!” เสียงไทเกอร์ร้องดังเมื่อผมเปิดประตูห้องเข้าไป เดินดุ่มทิ้งตัวลงไประหว่างเกอร์กับเอ๋ที่นอนอยู่จนมันสะดุ้งลุกขึ้นนั่ง ส่วนเอ๋... ปล่อยมันนอนกรนต่อไปครับ

“งื้ออออ มึงงงงง” ผมกอดซุกหน้าลงกับพุงไอ้เกอร์ที่มองผมอย่างงงๆ กลิ่นละมุดหึ่งเลยนะมึง “แม่แกล้งกูอ้ะมึงงง”

“แม่หรือผัวมึง” ไอ้เกอร์พูดขำๆให้ผมมองมันตาเขียว แต่ก็พยักหน้ารับไปที

“เออๆ แล้วมาปลุกกูนี่มีไร” มันถาม

“เปล่า กูจะมาหาที่หลับ” ว่าแล้วก็มุดผ้าห่มมัน ไอ้เอ๋ปรือตามามองผมที่ไปแย่งผ้าห่มแล้วก็หลับต่อ “ไปล็อกห้อง กูขอนอนสักงีบนะ”

“เออ นี่บ้านมึงตามสะ...”

“ฝุ่นนนน” ไม่ทันที่เกอร์จะพูดจบ เสียงเรียกชื่อผมก็ดังมาจากหน้าห้อง ไอ้เพื่อนสนิทมันหันมองผมแล้วถามว่าเอาไง

“ฝากไปบอกพี่มันทีว่ากูจะนอน” พูดจบก็ตวัดผ้าคลุมโปงทันที ปล่อยให้ไอ้เกอร์รับหน้าไปครับผมจะนอน~


หลังจากผ่านพ้นวันเกิดของผมไป คุณหมอหมาที่มีนามว่าอินทัชก็ดูเหมือนว่าจะเกาะติดผมยิ่งกว่าเดิมครับ แบบกลับบ้านตรงเวลาซะยิ่งกว่าตรง ตอนผมจะไปห้องน้ำหรือทำกับข้าวก็เดินตามตูดต้อยๆเหมือนลูกเจี๊ยบเดินตามแม่ไก่ แล้วไหนจะ เอ่อ... ผมว่าพี่มันแม่งหื่นขึ้นครับ เปิดช่องว่างไม่ได้เป็นอันต้องลูบคลำ หนักหน่อยก็แบกขึ้นห้อง...

แต่คือพอโดนตามติดมากๆมันก็หงุดหงิดไง พอทำอะไรไม่สะดวกเลยเผลอตวาดพี่มันไปด้วยความรำคาญที่ถูกเกาะแกะ รู้ไหมครับว่าเขาตอบอะไรกลับมา

‘ก็อาทิตย์ก่อนพี่ได้อยู่กับฝุ่นไม่นานนี่ครับ ตอนนี้พี่เลยไม่อยากอยู่ห่างฝุ่นอีกแล้ว...’

พูดไปพี่มันก็ทำหูลู่หางตกไป ไหล่หนาที่งองุ้มเข้าหากัน ไหนจะใบหน้าหล่อๆที่ติดหงอยนั่นอีกล่ะ ไม่ใจอ่อนก็บ้าแล้วครับ สุดท้ายก็เสียรู้คนเจ้าเล่ห์จนต้องยอมให้พี่อาร์ตตามติดยิ่งกว่าเหาฉลามไปเกือบอาทิตย์ เพื่อชดเชยเวลาที่ขาดหายไปของพี่มัน...

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้อาร์ตเนี่ยนะเป็นอย่างนั้น” พี่ติณณ์หัวเราะลั่นเมื่อได้ฟังผมเล่าจบ

“พี่ติณณ์ไม่ได้เป็นผม พี่ไม่เข้าใจหรอกครับ” ผมเบะปากพลางนึกถึงเหตุการณ์ของอาทิตย์นั้น ให้ตายเถอะ พกกรรไกรคนละอันเลยไหม จะได้ไม่ต้องห่างกันไกล อ้าว มุขนี้แป้กหรอครับ

“แล้วสุดท้ายฝุ่นทำไงล่ะ” พี่ข้าวถามต่อ

“ก็... ยอมให้พี่มันเกาะติดเป็นเหาฉลามครับ” ผมยิ้มแห้งให้พี่ๆ ทั้งสอง พี่ข้าวทำหน้าเหมือนจะสงสาร(หรือสมน้ำหน้าผมก็ไม่รู้)ออกมา แต่สุดท้ายก็หันไปหัวเราะคิกคักกับแฟนตัวเองจนได้

แกรก
“เหาฉลามของน้องฝุ่นมาแล้ว ฮ่าๆๆ โอ๊ย ฝุ่นแม่งเปรียบซะพี่เห็นภาพ” พี่ติณณ์ปาดน้ำตาป้อยๆ มือไม้ชี้ไปยังประตูห้องที่พี่อาร์ตเปิดเข้ามาด้วยสีหน้างุนงงโดยมีไออุ่นเดินไปรับถึงที่

“มาทำอะไรกัน” พี่อาร์ตถามเพื่อนสนิทที่นั่งหัวเราะจนขดกุมท้อง “แล้วนี่หัวเราะอะไรนักหนาวะ?”

“หัวเราะมึง ฮ่าๆ ที่มึงติดฝุ่นแจ” คำตอบของพี่ติณณ์ทำให้หมอหมาหันมาหาผมโดยไว สีหน้านิ่งๆ ของพี่มันเหมือนจะเป็นการคาดโทษผมที่เอาเรื่องมาแฉ แต่ริ้วแดงๆ ที่ใบหูทำให้รู้ว่าพี่มันกำลังเขิน และเขินหนักมากด้วย

“ แล้วตกลงมีอะไร” พี่อาร์ตตามเสียงแข็ง ก่อนพี่ติณณ์จะชี้กล่องที่วางอยู่ข้างๆผมให้หมอหมาดู

“เอานั่นมาให้ ของขวัญจากกูกับข้าว” พี่ติณณ์ยักคิ้ว แล้วดึงพี่ข้าวให้ลุกขึ้น “งั้นถ้าเหาฉลามมาแล้วพี่ขอตัวก่อนแล้วกันนะ ป่ะข้าวกลับบ้าน”

ว่าจบพี่ติณณ์ก็ลากพี่ข้าวเดินลิ่วๆ ออกจากห้องไปทันทีโดยไม่รอให้บอกลา ทิ้งให้ผมอยู่กับเหาฉลาม เอ๊ยพี่อาร์ตสองคน

“สีฝุ่น...” เมื่อไร้คนก่อกวนพี่อาร์ตก็หันมาหาผม ก่อนว่าด้วยเสียงอ่อน “ไปเล่าอะไรให้พวกนั้นฟัง โธ่”

“ก็พี่ติณณ์อยากรู้นี่ครับ” ผมตอบคนที่ทรุดตัวลงบนโซฟาตัวเดียวกับผม ก่อนจะโดนพี่มันล็อกคอหอมแก้มอย่างคนหมั่นเขี้ยว

“ไม่ต้องเล่าหมดก็ได้ไหมล่ะ ฮึ่ย” พี่มันกดจมูกหนักๆลงกับแก้มผมแล้วผละออก “แล้วตกลงมันให้อะไรเรา?”

ผมส่ายหัวเพราะไม่รู้เหมือนกัน พลางมองกล่องของขวัญขนาดเท่าลังเบียร์ที่ตั้งอยู่ตรงหน้า

“พี่อาร์ตแกะ” ผมว่า หยิบเจ้ากล่องนั่นแล้วยื่นให้พี่มัน “เผื่อเป็นอะไรแปลกๆ ฝุ่นจะได้ไม่ตกใจ”

พี่ถลึงตาใจผม แต่พี่มันยอมเป็นคนลงมือแกะกล่องนั้น พอกระดาษห่อหลุดออกไปถึงเห็นว่าพี่ติณณ์เอาลังเบียร์มาใส่ของจริงๆด้วยครับ ยี่ห้อนี่เด่นหราเลย...

“อะไรอ่ะพี่อาร์ต?” ผมถามเมื่อเห็นคนพี่หยิบของออกมาจากกล่องนั้น ไม่ได้มีแค่ชิ้นเดียวครับแต่เป็นชิ้นย่อยราวๆ5-6 ชิ้นทั้งเล็กใหญ่ที่ถูกห่อในกล่องกระดาษอีกชั้น

“อะไรเยอะแยะวะเนี่ย?” พี่อาร์ตเกาหัวแกร่กๆเมื่อเอาของในกล่องออกมาหมด “แกะไหม?”

ผมพยักหน้า ชี้กล่องที่ใหญ่สุดก่อน

“อันนี้ของพี่ข้าวล่ะ” ผมมองการ์ดเล็กๆ ที่ติดอยู่กับกล้อง แกะออกมาเป็นเลนส์กล้องครับแถมเป็นรุ่นเดียวกับที่พี่ฟิล์มซื้อให้ผมด้วย

“ที่เหลือน่าจะของไอ้ติณณ์ มันเขียนชื่อไว้” พี่อาร์ตว่าแล้วหยิบบางกล่องมาเขย่าจนได้ยินเสียงกุกกักจากของที่อยู่ด้านใน "บอกตามตรงพี่ไม่ไว้ใจของขวัญมันวะ ตอนอยู่มหาลังมันให้อะไรแปลกๆพี่บ่อย"

“แปลกๆ? ยังไงอ่ะพี่”

“ก็พวกถุงยางทรงแปลกๆงี้ ถุงยางเรืองแสงบ้าง แบบกลิ่นแปลกๆบ้างไม่รู้ว่ามันไปสรรหาจากไหน” เจ้าตัวตอบเสียงอ่อย ก่อนจะพูดให้ผมที่ยิ้มเจื่อนสบายใจ “แต่นี่พี่ว่าคงไม่มีหรอก กล่องใหญ่กว่าถุงยางทั้งนั้น ฮ่ะๆ”

ผมหรี่ตามองบรรดากล่องตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ หยิบกล่องใกล้มือสุดเสี่ยงดวงแกะออก “อันนี้ลูกอมแฮร์รี่...” ก็ยังดีวะ

“...” แต่คนที่แกะไปแล้วสองกล่อง และมีกล่องที่สามในมือเงียบเสียงลงจนผมต้องชะโงกหน้าไปมองไอ้สิ่งที่อยู่ในกล่องนั้นเอง

“บางครั้งพี่ก็อยากฆ่าเพื่อนตัวเองนะ” พี่อาร์ตว่าเสียงเอือม ซึ่งผมก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดพี่มันนะ

เพราะไอ้สิ่งที่อยู่ใส่สามกล่องนั้นน่ะ เต็มไปด้วยคอนด้อมแบบแปลกๆ เต็มไปหมดเลยครับ...

แต่... ไอ้ประโยคที่พี่อาร์ตพูดเนี่ย ไม่ใช่ความหมายเดียวกับผมนะ

“สีฝุ่น...”

“ครับ”

“ไอ้พวกนี้คนละไซต์กับพี่ว่ะ มันเล็กไป”

“....”

ปึก!

“โอ๊ย! สีฝุ่นไม่ปาสิครับ โอ๊ย พี่ไม่เกี่ยวนะเฮ้ยยยย”
สุดท้ายไอ้คอนด้อมเหล่านั้นก็ถูกส่งกลับไปหาพี่ติณณ์ตามเดิม

แถม
ในบรรดาของขวัญที่พี่ติณณ์ให้มา ที่ดูโอเคที่สุดคงก็เป็นลูกอมแฮรี่กล่องใหญ่ที่เราเอามาเล่นเกมเสี่ยงดวงกัน 
“พี่อาร์ต ขอลูกอมแฮร์รี่หน่อย” ผมแบมือโดยที่ยังไม่ละสายตาจากหนังในจอโทรทัศน์ ก่อนจะเอาเม็ดลูกอมเข้าปากแบบไม่ได้มองสี เพราะผมเอาไอ้รสแปลกๆคัดทิ้งไปหมดแล้ว
กึก
รสชาติของดินคละคลุ้งไปทั่วปากจนผมนิ่วหน้า...
ผมหันไปมองไอ้คนหยิบให้ผมทันที ก่อนจะพบกว่าพี่มันกำลังหันหน้าไปหัวเราะอยู่อีกทาง ก่อนจะตัดสินใจกระชากผมที่เริ่มยาวของพี่มันให้หันกลับมา และกดจูบลงกับปากนั่นทันที
ไม่ใช้พิศวาสพี่มันครับ แต่เป็นจะส่งไอ้ที่อยู่ในปากคืน
“แหวะอ่ะ” ผมว่า หลังจากส่งลูกอมเข้าปากพี่มันได้แล้ว ถึงไอ้ลูกอมเจ้าปัญหาจะไปอยู่ในปากของคนพี่แล้วแต่กลิ่นชื้นๆ เหมือนดินหลังฝนตกยังคงอยู่จนต้องลุกไปแปรงฟันบ้วนปากอีกครั้ง
กลับมาก็ยังเห็นพี่มันทำหน้าแหยๆ กับรสชาติเดียวกันที่อยู่ในปาก เพราะเจอผมขู่ว่าถ้าคายจะไม่ให้กอดทั้งอาทิตย์
โธ่.. พ่อคนกาม!

Tbc.


สวัสดีค่า มีนเองค่ะ ตอนหน้าเป็นตอนสุดท้ายของพี่อาร์ตกับหนูฝุ่นแล้วค่ะ ทั้งดีใจที่ตัวเองแต่งจนจบ และโหวงๆที่จะเขียนคำว่าจบท้ายเรื่องเหมือนกัน... แง TwT
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「29」27|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 27-11-2017 20:32:25
วงวาาาารหมอมากค่ะ 555 เฟลทุก mission :hao3:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「29」27|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-11-2017 20:52:16
ถถถถถถ ฝุ่น อย่ารำคาญพี่เขาเลย
หายากนะที่จะรักจะหลงซะขนาดนี้

พี่อาร์ต ฝุ่น  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「29」27|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 28-11-2017 01:31:28
สงสารพี่หมอหมา 55555
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「29」27|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 28-11-2017 06:40:01
พี่ติณณ์ให้ฝุ่นหรือเปล่าแบบจะให้ฝุ่น รุก ไง 5555
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「29」27|11|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-11-2017 08:55:17
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「30」02|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 02-12-2017 11:28:09
•30•


“ห๊ะ พี่ฟิล์มว่าอะไรนะ!” ผมโพลงขึ้นกลางโต๊ะอาหาร วันนี้จู่ๆ แม่ก็เรียกผมกับพี่อาร์ตกลับบ้านฉุกเฉินครับ ด้วยความที่พวกผมกำลังเอ่อ... ผมกำลังโดนพี่อาร์ตมันจับลอกคราบอยู่ตอนที่แม่โทรมา เลยมาช้ากว่าชาวบ้าน พอมาถึงก็เห็นทั้งพ่อกร แม่ศิลป์ ภาคิน แม่เล็ก แอ๋ม แล้วก็พี่ฟิล์ม(ที่ออกจากงานแล้ว)นั่งพร้อมหน้ากันอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว

ก่อนที่พี่ฟิล์มจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ผมร้องจนเสียงหลงออกมา

“เออ ได้ยินไม่ผิด พี่บอกว่าพี่จะแต่งงาน” พี่ฟิล์มว่าหน้านิ่งๆ ผมรีบหันไปมองแม่ทันทีเลยครับ ใครแฟนพี่วะ ผมยังไม่เคยเจอหน้าเลย!

“แม่!”

“อะไรหรอลูก”

“ใครแฟนพี่ฟิล์มอ่ะ แม่เคยเห็นหรอ พ่อเคยเจอยัง สแกนดีแล้วใช่ไหมว่าใช่ได้ไม่ใช่ว่าเขามะ โอ๊ย!” เสียงร้องเพราะเจ็บปวดดังขึ้นเมื่อพี่สาวเพียงคนเดียวของผมปาหัวปลาใส่ผม...

พี่ใครวะโคตรฮาร์ดคอร์! แล้วนั่นของกินนะเฮ้ย!!

“เงียบ พี่กับเขาคบกันมานานแล้ว เคยพามาหาพ่อแม่แล้วด้วย คินก็เคยเจอ จริงๆ ฝุ่นก็เคยเห็นแต่คงจำไม่ได้ อาร์ตก็รู้จักเนอะ ล่าสุดที่มา...รู้สึกว่าวันนั้นอาร์ตโทรมาบอกแม่ว่าฝุ่นไม่สบาย นอนซมอยู่ห้องเลยไม่ให้มาเจอ” พี่ฟิล์มว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้เขาก็มา คืนนี้ก็นอนนี่แล้วกัน”

ผมบ่นอุบคนเดียว อะไรวะไม่รู้เรื่องสักนิด ผมเคยเจอด้วยหรอ... เพื่อนพี่ฟิล์มที่ผมรู้จักใช่น้อยๆ ซะเมื่อไหร่ล่ะ พ่อแม่ไม่พูด พี่สาวไม่บอก น้องชายเงียบอุบ แถมแฟนที่อยู่ด้วยกันทุกวันก็ไม่บอกกันสักนิด...

คืองอนอ่ะบอกเลย

จึ่กๆ
นิ้วของคนข้างๆ จิ้มเข้าที่แก้มผมเบาๆ พอเห็นผมไม่สนใจพี่มันก็จิ้มแรงขึ้นจนต้องหันไปหา

“พี่อะ! งั่มๆ” เนื้อปลานิ่มๆ ถูกป้อนเข้าปากที่ผมกำลังจะอ้าปากตวาดคนพี่ทันที

“อร่อยไหมครับ” ผมพยักหน้าแทนคำตอบ จากที่งอนๆ นี่หายวับเลยครับ “เอาอีกไหม”

“อ้ามมม งั่ม” พี่อาร์ตที่เห็นผมอ้าปากรอรับก็ส่งเนื้อปลาเข้าปากผมอีก อร่อยอ้ะะะ!

ผมนั่งอ้าปากให้พี่มันป้อนอย่างเคยชิน จนลืมว่าตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ห้องที่คอนโด แต่ตอนนี้เราอยู่ต่อหน้า ทุก-คน

“แม่คะ คนมีสามีแล้วง่อยทุกคนเลยหรอ”
“ไม่นะ แม่ก็ไม่เห็นง่อย”
“นั่นสิ ป้าก็ไม่เป็นขี้เกียจนะ”
“แม่ๆ ไหนขอพ่อป้อนแม่บ้าง”
“แอ๋มว่านะ...นี่มันอ้อนสามีชัดๆ เนอะคิน”
“อื้อๆ เห็นด้วยครับพี่แอ๋ม”

ไม่ต้องบอกนะครับว่าประโยคไหนใครพูด ผมที่งับส้อมของคนพี่ที่มีเนื้อปลาขาวๆ ติดอยู่ก็หันขวับไปหาเจ้าของประโยคทั้งหลายนั่นทันที สายตาล้อเลียนที่มองผมมานี่บอกได้คำเดียวเลย

เขินครับ!

“หึๆ” เสียงของพี่อาร์ตหันไปหัวเราะอีกทางทำให้ผมตวัดตาดุๆ ทั้งที่หน้ายังร้อนๆ ไปมอง

“พี่อาร์ตตตต ไมไม่เตือนฝุ่นนน”

“อ้าว ก็เห็นเราอร่อยอยู่นี่ พี่เลยไม่อยากขัด” มือใหญ่เอื้อมมาวางที่มุมปากผม ปาดเช็ดมันออกเบาๆ ก่อนจะส่งเนื้อปลาชิ้นเล็กที่ติดอยู่บนนิ้วของตัวเองเข้าปาก

ฉ่าาาา
“พะพะ พี่อาร์ตทำอะไร!!!” พอเห็นการกระทำของพี่มันผมก็หน้าร้อนขึ้นทันที ต่อหน้าทุกคนอย่างนี้ไม่ต้องหันไปมองก็รู้เลยครับว่าพร้อมแซวผม

“เช็ดปากไงครับ มันเปื้อนฝุ่นนะ”

“แง่งงง ทิชชู่ก็มีป่ะว่ะพี่อาร์ตตต” ผมโวยวายกลบเกลื่อนความเขิน รวบช้อนวางไว้ก่อนจะลุกขึ้น “แม่! ฝุ่นขึ้นห้องแล้วนะ!”

ว่าจบผมก็ลุกออกจากโต๊ะ เดินขึ้นบันไดไปห้องนอนทันที

ได้ยินเสียงภาคินแว่วๆ ว่า

“นี่มันโดนสามีอ่อยแล้วครับพี่แอ๋ม”

ไอ้คิน!!!


ก็อกๆ
“ฝุ่นครับ พี่เอาข้าวมาให้”

“...”

“ฝุ่น กินข้าวครับ เมื่อกี้เรากินได้น้อยนะ”

“ไม่เอา” ผมตอบกลับเสียงหน้าห้อง “ฝุ่นไม่หิว”

ไม่ใช่ไม่หิว กูเขินครับ...

“งั้นพี่เข้าไปนะ”

“ไม่ให้เข้า!” ประตูถูกเปิดออกโดยคุณอินทัช... ฟังกันมากกก

“มีกุญแจครับ” พี่มันควงพวงกุญแจให้ผมดู มืออีกข้างก็ถือถาดข้าวมาด้วย “ขอโทษที่แกล้งมากไป มากินข้าวเถอะ ไม่หยอกแล้ว”

ผมเหลือบมองคนพี่ที่ยิ้มจางๆ ให้ ก้มมองข้าวในถาดที่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่ของบนโต๊ะเมื่อตอนเย็น น่าจะเป็นไอ้พี่อาร์ตลงทุนทำมาง้อ พอจะปฏิเสธว่าไม่กิน เจ้าท้องไม่รักดีก็ส่งเสียงร้องขึ้นมาก่อน

โคร่กกกก
“นั่นไง หิวแล้ว” พี่มันยิ้มขำ แล้วทิ้งตัวลงมานั่งข้างผม “อ้ามครับ อยู่กันสองคนไม่มีใครเห็นหรอก”

ผมหรี่ตามมองช้อนในมือพี่มันอย่างไม่ไว้ใจ แต่กลิ่นหอมๆ นั่นทำให้ผมทนไม่ไหวจนต้องอ้าปากงับ
งั่ม

“อร่อยไหม” ผมพยักหน้าหงึก เพราะปากยังเคี้ยวตุ้ยๆ “อร่อยก็กินเยอะๆ ครับ”

“จะขุนฝุ่นหรือไง” ผมถามพอเห็นพี่มันเอาข้าวมาจ่อชิดปาก

“เปล่าครับ” พี่มันตอบ “เผื่อฟลุกว่าใจดีด้วยแล้วฝุ่นจะให้ยอมต่อจากเมื่อกลางวัน”

“...” ไอ้คนทำดีหวังผล!

“เออพี่อาร์ต แฟนพี่ฟิล์มใครวะ? พี่รู้จักด้วย??”

“ก็เพื่อนร่วมมหาลัย เคยเจออยู่ไม่กี่ครั้งไม่ได้สนิทส่วนตัวเท่าไหร่”

“ใคร?”

“ฟิล์มไม่ให้บอกครับ” ผมทำหน้าตึงใส่พี่มันทันที อะไรวะ! นี่น้อง นี่แฟนนะเฮ้ยยย มีความลับว่ะ! “น่า ไม่โกรธพี่เขานะ ฟิล์มคงอยากเซอร์ไพร์สเรา”

“ปิดบังฝุ่นดิไม่ว่า อุ๊บ” ผมมองไอ้คนที่เอาช้อนยัดปากป้อนผมเพื่ออุดปากให้เงียบ ก่อนผมจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“...นี่ ไม่บอกฝุ่นจริงหรอฮะ” ผมว่าเสียงอ้อน เงยหน้าช้อนตามอง วางมือลงกับหน้าตักพี่มันแล้วลูบเบาๆ

“ครับ” คนพี่ตอบ เลิกคิ้วมองผมว่าจะทำอะไรเมื่อผมเริ่มลูบมือขึ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งสูงทำลมหายใจพี่มันยิ่งกระตุกจนผมยกยิ้ม

พี่ข้าวสอนไว้ครับ อยากได้ อยากรู้อะไรให้อ้อนเข้าไว้

“บอกฝุ่นนะฮะ ฝุ่นอยากรู้” ผมเอียงคอน้อยๆ ทำตาแป๋วใส่อีกคน เคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ๆ จนรู้สึกว่าพี่มันแข็งไปแล้ว “นะ... เฮ้ย!”

ผมร้องเสียงหลงเมื่อพี่มันหันไปวางถาดไว้กับโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะหันกลับมาจับผมพลิกลงเตียงและเอาตัวเองคร่อมกักผมไว้อย่างรวดเร็ว

“ไม่ยั่วสิครับ” เสียงทุ้มขึ้นข้างหู ก่อนที่คำโวยวายของผมจะเปลี่ยนเป็นครวญครางไม่ได้ศัพท์

ไหนว่าได้ผลไงวะพี่ข้าว!!


เช้าวันใหม่อันสดใสก็มาถึง...

สดใสบ้าบออะไรล่ะ! กว่าผมจะได้นอนก็เข้าวันใหม่ แถมนอนไปไม่กี่ชั่วโมงยังโดนพี่มันปลุกด้วยสาเหตุที่ว่าต้องตื่นเช้าอีก! ใช้แรงมากกว่าทำไมพี่มันยังมีแรงตื่นวะ แม่ง...

“โอ๋ๆ ไม่งอนพี่ดิ ใครให้เรายั่วพี่ล่ะ”

“ชั่วบ้าอะไรล่ะ พี่ข้าวนะพี่ข้าวไหนว่าได้ผล” ผมบ่นอุบ สะบัดหน้าหนีเจ้าของเสียงติดขำนั่น ใจจริงอยากเดินหนีถ้าไม่ติดว่าต้องให้พี่มันช่วงพยุงเดิน... ยอกครับ

คอยดูนะจะโทรไปโวยวายพี่ข้าวว่าวิธีที่ให้มาไม่ได้ผล! นอกจากไม่ได้อะไรแล้วยังเสียตัวอีก ฮรื่อ

“เอ้า ฝุ่นไปทำไรมา อาร์ตถึงต้องพยุง?” พี่ฟิล์มที่ออกจากห้องมาถามขึ้นทันที ก่อนมุมปากของพี่สาวจะยกขึ้นเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อโฟกัสเห็นอะไรบางอย่างที่คอผม “อ๋อ ยังว่าเมื่อคืนได้ยินเสียงแปลกๆ”

“พี่ฟิล์มมม”

“โอเคๆ ไม่ล้อแล้ว ไปๆลงไปกินข้าวกันแฟนพี่มาแล้ว” ผมทำตาโตทันทีที่ได้ยิน อยากรู้จริงๆว่าใครมันหลงผิดเอาพี่สาวขาโหดของผมมาเป็นแฟน

ผมไม่ได้หวงพี่สาวนะ เชื่อผมเถอะ

“อ้ะ นั่นไง พี่ก้องๆ”

ขวับ
ผมหันหน้าไปตามทิศที่มือพี่ฟิล์มโบกอยู่ทันที ก่อนจะเห็นเป็นผู้ชายตัวสูงพอๆ กับผม ใส่เสื้อเชิ้ตสีครีม ตัดผมรองทรงสูงดูเรียบร้อยกำลังถือจานกับข้าวเดินมาทางนี้

หน้าคุ้นๆ ว่ะ
“เฮ้ย คุณเมื่อตอนนั้นนี้” ผมเผลอยกมือขึ้นชี้หน้าอย่างเสียมารยาทจนพี่ฟิล์มตีมีดังเพียะ

“ไงน้องฝุ่น จำพี่ได้ไหมเจอกันล่าสุดก็งานแต่งแนน”  คนตรงหน้าพูดขึ้น ผมหันมองคนข้างๆ ที่อมพะนำไว้ทันที

“เอ่อ จำได้ครับ” ผมยิ้มแหยตอบ

ครับ ผมเคยเจอคนๆ นี้ตอนงานแต่งของพี่แนนเมื่อหลายเดือนก่อน พี่แกเป็นเพื่อนฝ่ายเจ้าบ่าวพี่แนน เราได้คุยกันนิดหน่อย เพราะผมนอยด์ที่โดนพี่อาร์ตปล่อยให้นั่งอยู่คนเดียวเลยไม่ได้คุยอะไรมาก อีกอย่างวันนั้นคนทักผมเยอะเลยจำใครไม่ค่อยได้

ว่ากันตามตรงพี่ก้องก็อัธยาศัยดีอยู่นะจากที่เคยคุย

“ฮ่าๆ หน้าเหวอแบบนี้นี่จำไม่ได้ล่ะสิ เอาน่าๆ พี่ไม่ได้ว่าอะไร” พี่ก้องยิ้มขำแล้วหันไปหาพี่ฟิล์ม “งั้นพี่เอานี่ไปวางก่อนนะ ร้อน”

พี่ฟิล์มตอบรับพร้อมควงเข้าที่แขนของพี่ก้อง ก่อนเดินหนุงหนิงกันไปทางห้องกินข้าวสองคน

ก็เข้ากันดีนี่

“อย่างนี้ผ่านไหมครับ” เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูทำให้ผมที่มองตามพี่ๆ ทั้งสองไปสะดุ้งเล็กน้อย

“ไม่รู้สิ” ผมโคลงหัว “แต่ถ้าพี่ฟิล์มโอเค ฝุ่นก็คงห้ามอะไรไม่ได้จริงไหม”

มือใหญ่ของพี่อาร์ตวางลงหัวผมและขยี้เบาๆ ก่อนพี่มันจะชวนผมไปให้อาหารสามซนที่คาบชามข้าวมานั่งแหมะตาแป๋วรอของกินอยู่ที่หน้าบ้าน


มื้อเช้าดำเนินไปอย่างไม่รีบร้อน พี่ก้องเทคทั้งพี่ฟิล์ม พ่อแม่อย่างดี และยังลามมาถึงผมถ้าไม่โดนคนขี้หวงข้างๆ กันไว้ก่อน

“ฟิล์มกับพี่ก้องคุยกันว่ายากได้ช่วงกลางปีหน้าอ่ะแม่ เอาฤกษ์สะดวกของพี่เขาดีกว่าเนอะ” พี่ฟิล์มตอบคำถามแม่

“แม่กับพ่อก็ไม่ได้อะไร วันไหนว่างๆ ก้องพาพ่อแม่ก้องมาหาแม่หน่อยนะ”

“ครับ”

“แล้ว...” พี่ฟิล์มลากเสียง ยกนิ้วเรียวๆชี้มาที่ผม “คู่นั้นน่ะแต่งพร้อมพี่ไหม”

สิ้นคำพูดของพี่สาม ผมกับพี่อาร์ตก็หันมองหันทันที แต่งงาน? ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ตั้งแต่งานพี่แนนเลยแฮะ

“เราอยู่กันอย่างนี้ก็ดีแล้วครับฟิล์ม” พี่มันตอบ มือใหญ่เอื้อมมาวางซ้อนมือผมบนตักแล้วเกลี่ยเบาๆ “อยู่แบบนี้เราก็สบายใจแล้วล่ะ แต่ผมว่า... แม่ไปคุยกับแม่ผมแล้วใช่ไหม”

แม่หัวเราะออกมาเมื่อได้ยินพี่อาร์ตพูด “ก็ตั้งแต่กลับมา แม่เรามาคุยกับแม่ทุกวันเลยนี่ว่าอยากได้ฝุ่นเป็นลูกสะใภ้ จริงๆ ถ้าอยากแต่งก็จัดเรียบๆ ที่บ้านก็ได้นะแม่ไม่ว่า”

“ฝุ่นว่าไง” พี่อาร์ตกระตุกมือผม

“เอ่อ...” ผมเหลือบมองคนข้างๆ “ฝุ่นแล้วแต่พี่อาร์ต”

“งั้นไว้ค่อยคิดๆกันเนอะ” พี่อาร์ตหัวเราะน้อยๆ “ตามนั้นครับแม่ ขอผมกั้นประตูเงินประตูทองของฟิล์มก่อนแล้วกัน”

“โอเคๆ งั้นเรามาคุยเรื่องเรากันต่อนะฟิล์ม” แม่ว่า ก่อนพี่มันจะดึงผมที่ไร้ส่วนร่วมในวงสนทนาออกมาข้างนอกห้อง

“พี่ไม่ได้คิดมากครับ อย่าทำหน้างั้นสิ” นิ้วพี่มันดีดหน้าผากผมดังแปะ “เครียดแล้วไม่หล่อนะ”

“พี่อาร์ตอ้ะ!”

“ยิ้มก่อนๆ พี่แค่จะบอกว่า... แค่มีฝุ่นอยู่ด้วยพี่ก็เหมือนได้เข้าหอทุกวันแล้ว”

“....”

“เข้าหอกันไหม?”

“ไอ้พี่อาร์ต!!!!”


Tbc.

ทางด้านติณณ์ข้าว
“ฮัดชิ้ว!”
“วันนี้จามบ่อย ไม่สบายหรือไง” ติณณ์ยกมือขึ้นทาบหน้าฝากคนที่จามจนน้ำมูกย้อย “หรือแก่แล้วภูมิต้านทานต่ำ?”
ตาดุๆของข้าวเจ้าตวัดมองคนพูดทันที ใช่สิเขาเข้าเลยสามแล้วนี่! “ติณณ์อยากนอนนอกห้องไหมครับ”
“เอ่อ... ติณณ์ไปตากผ้าก่อนนะ ลืม...”

―――――――――――――――――――――――――― 
สารภาพบาปค่ะ ว่าเรานับตอนผิด5555555555
จริงๆมันมีตอน30กับบทส่งท้ายอีกบท แต่ไอ้บทส่งท้ายเนี่ยมันอยู่นอกโฟลเดอร์เราเลยเข้าใจว่าตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายของเรื่อง แต่จริงๆคือตอนหน้าค่ะLOL

ปล. ใครเหงามาคุยกันได้ในเฟส ทวิตหรือ ask นะเราเหงามาก เราฉีดยาแล้วไม่กัด--- เย้
จิ้มๆช่องทางติดตาม
Page facebook - https://www.facebook.com/miinnnta/
Twitte - https://twitter.com/miinnta
Ask - https://ask.fm/miinnnta

หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「30」02|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-12-2017 14:28:57
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 06-12-2017 22:01:31
บทส่งท้าย



“จนถึงตอนนี้หวานยังไม่อยากจะเชื่อเลยนะคะว่าคุณฝุ่นจะยอมคบกับพี่อาร์ตเนี่ย”

“เอ๋ ทำไมล่ะ?” ผมมองเจ้าของคำพูดด้วยสีหน้างงๆ

ตอนนี้ผมมานั่งแก่วอยู่ที่ห้องพนักงานของโรงบาลสัตว์ครับ พอดีเอาข้าวเที่ยงยามบ่ายมาให้หมอหมาเรื่องมากที่งอแงตั้งแต่เมื่อคืนว่าอยากกินข้าวฝีมือผม  อีกสาเหตุคือ... ก่อนหน้านี้ไม่นานไออุ่นมันคงมโนว่าตัวเองเป็นแมว ปีนขึ้นต้นไม้หน้าบ้านแล้วลงผิดท่าจนขาแพลงต้องอุ้มมาหาหมอ... ซนจริงๆ ลูกใครวะ

แล้วตอนนี้คุณเขายังติดเช็คไออุ่นอยู่ผมที่ไม่อยากไปรบกวนเลยถือโอกาสมานั่งเล่นกับหวานพร้อมกับสินบนเล็กๆ น้อยๆ สำหรับสายข่าวส่วนตัว ในห้องพักพนักงาน

“ก็...ตอนนั้นที่หวานเคยถามว่าคุณฝุ่นเป็นแฟนหมอหรอ คุณก็ปฏิเสธรัวเลยนี่คะ” หวานหัวเราะออกมาน้อยๆ ให้ผมพอรู้สึกเขินกับการโดนแซว “แล้วคุณฝุ่นรู้ไหมคะ ตอนคุณตกลงคบกันพี่อาร์ตเนี่ย พี่แกเล่นป่าวประกาศซะรู้กันทั้งโรงบาลเลยว่าตัวเองมีเจ้าของแล้ว ตอนแรกหวานก็ตกใจอยู่ที่พี่แกคบผู้ชาย แต่พอรู้ว่าเป็นคุณฝุ่นก็โล่งใจหน่อย ดีกว่าพี่แกไปคบกับผู้หญิงที่จ้องจะจับผู้ชายแบบนั้น”

หลานรหัสพี่อาร์ตว่าเสียงแข็งเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมาเพราะรู้ว่าหวานพูดถึงใคร

“เออใช่ๆ คุณฝุ่นคะ หวานมีคำถาม” หวานเปลี่ยนสีหน้าเป็นตาวาววับ ก้มหน้าที่ขึ้นสีชมพูอ่อนๆ และเอานิ้วชี้จิ้มกันไปมา  “คือคุณฝุ่นกับพี่อาร์ตนี่...หรือยังคะ”

“หวานนน” ผมร้องเสียงหลงเมื่อเจอคำถามนั้นจากหญิงสาวตรงหน้า หวานยิ้มเขินๆ ให้ผมแล้วบอกว่าไม่ต้องตอบก็ได้ แต่...

“นี่พอเป็นคำตอบได้ไหม หืม” เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มจากทางด้านหลังเอื้อมมาดึงคอเสื้อยืดที่ผมใส่อยู่ลง เผยให้เห็นร่องรอยสีอ่อนจากกิจกรรมบนเตียงของเมื่อคืนปรากฏขึ้นต่อหน้าหญิงสาว หวานที่เห็นอย่างนั้นก็ยกมือขึ้นปิดปากแล้วกรี๊ดออกมาเบาๆ ใบหน้าขึ้นสีแดงยิ่งกว่าเดิม

“พี่อาร์ต!” ผมหันไปแวดใส่เจ้าของมือนั่น ยกมือขยุ้มคอเสื้อตัวเองไม่ให้พี่มันดึงลงอีก

“อ้าวก็หวานถาม เนอะ” พี่อาร์ตหันไปยกยิ้มหล่อใส่อีกคนที่ยังคงเอามือปิดหน้า “ไหนข้าวพี่ล่ะ?”

“ไม่ต้องกินแล้ว!” ผมหยิบกล่องข้าวมากอดไว้และสะบัดหน้าใส่หมอหมาที่หัวเราะร่าเพราะทำผมหน้าแดงได้ “หวานหิวข้าวไหม?”

“เฮ้ยได้ไง! หวานนั่นของพี่นะ!” พี่มันโวยวายขึ้นเมื่อผมยื่นกล่องข้าวให้หวานที่แบมือรอ ก้าวยาวๆ หมายจะหยิบกล่องที่หวานเอาไว้ด้านหลัง

“ของพี่ที่ไหน ก็คุณฝุ่นให้หวานแล้วนี่คะ คิก” ผมมองผู้ชายตัวโตที่แย่งกล่องข้าวน้อยกับผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้า ก่อนจะส่ายหัวน้อยๆออกมา

“โธ่ สีฝุ่น” หมอหมาครางหงิง มีเอฟเฟคเป็นเสียงท้องร้องน้อยๆ ประกอบ “พี่หิวข้าวนะครับ”

ผมหันไปสบตากับหวานที่ขยิบตาให้ก่อนจะเดินหลบฉากไป พอหันกลับมามอง เห็นพี่อาร์ตที่ทิ้งตัวลงกับเก้าอี้เงียบๆ ก็มีความรู้สึกเหมือนตอนไปแกล้งไออุ่น เวลายกของกินมาล่อมันแล้วสุดท้ายเรากินเองอ่ะครับ ทำตัวซึมๆ หน้าหงอยๆ หูตกๆ แลดูน่าสงสาร

“อ่ะ” ผมยื่นกล่องข้าวอีกกล่องออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นไปตรงหน้าหมอหมาคนหงอย “อันนั้นสินบนของหวาน ส่วนของพี่อาร์ตอันนี้”

หมับ!
สิ้นคำ ผมก็โดนหมอหมารวบเอวไปกอดจะต้องรีบเอากล่องข้าววางไว้กันล่วง แล้วพี่มันก็เอาหน้าซุกๆหน้าท้องผมเหมือนหมาตัวโตอ้อนคน ก่อนเสียงคนพี่จะดังขึ้น

“ฝุ่นแกล้งพี่”

“เปล่าสักหน่อย” ผมยิ้มขำ และถามอาการของไอ้หมาอ้วนที่อุ้มมา “แล้วไออุ่นเป็นไงบ้าง”

“คงเป็นหมาเป๋ไปพักใหญ่ ช่วงนี้ก็ให้อยู่ห้องเราอย่าเพิ่งเอาไปเล่นที่บ้านแล้วกัน เดี๋ยวเจอไอ้พวกนั้นจะคึก”

“อื้อ” ผมรีบคำ “กินข้าวเลยไหม?”

“...ไม่กินข้าวได้ไหม อยากกินฝุ่นแล้ว” เสียงอู้อี้จากบริเวณหน้าท้อง ก่อนคนพูดจะเงยหน้าส่งสายตาอ้อนๆ มามองผม “อยู่รอพี่เลิกงานได้ไหมครับ อีกไม่กี่ชั่วโมงเอง”

ผมแกล้งโคลงหัวกับคำถาม จริงๆ วันนี้ผมก็ว่างทั้งวันแหละ “อืมม ว่างดีไหมนะ เฮ้ย!”

ผมหลุดเสียงร้องออกมาเมื่อคนพี่ดึงให้ผมไปนั่งคร่อมอยู่กับตักเอ่อ.. นั่งแบบหันหน้าเข้าหากันด้วยนะ แล้วพี่มันซุกหน้าลงกับคอผมจนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รดริน
...ท่าโคตรล่อแหลม

“พี่อาร์ต!”

“ขอพี่ชาร์ตแบตหน่อยนะครับ... นะ” ผมอยู่นิ่งทันทีที่ได้ยินพี่อาร์ตพูดด้วยเสียงติดอ้อน พอเห็นคนตัวโตพ่นลมหายใจก็สองมือยกขึ้นยกขึ้นกอดตอบแล้วลูบหลังเบาๆ

“เป็นอะไรหรอครับ” ถามคนตัวโตที่นานๆ ทีจะอ้อนผมบ้าง

“กำลังคิดถึงคำพูดหวานอยู่”

“หืม?”

“ที่หวานคุยกับฝุ่นไง ตอนนั้น... พี่ก็ไม่คิดว่าสีฝุ่นจะยอมคบกับพี่เหมือนกัน” มุมปากผมยกขึ้นออกมาเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ขอบคุณที่ยอมคบกับพี่นะครับ”

 ผมได้แต่ยิ้มเขินๆ ออกมาให้คนพี่ที่เอาแต่ซุกซอกคอ

ไม่รู้ว่าเรานั่งอยู่ท่านี้นานแค่ไหน จนได้ยินเสียงร้องอุ๊ยของหวานที่เดินเข้ามาแหละครับถึงจะยอมผละออกจากกันได้

 “พี่อาร์ต นี่ที่ทำงานนะ” หวานเอ่ยแซวอดีตลุงรหัสตัวเอง คุณหมอหมาคนเก่งแอบกระซิบข้างหูเมื่อสักครู่นี้เองครับว่าหวานน่ะ... สาววายตัวแม่ครับ

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงแซวผมตั้งแต่วันแรกที่เจอ!

 “พี่ขอแปปนะ หวานออกไปก่อนได้ไหม ล็อกห้องให้พี่ด้วย”

เสียงหวานรับคำ หมุนตัวออกจาห้องและไม่วายล็อกประตูทันทีแบบไม่รอให้ผมได้ค้านคำ

 “พี่อาร์ต!” ผมหันไปหาเจ้าของเสียงที่ยังคงยกยิ้มกว้าง ก่อนรอยยิ้มนั้นจะหายไปเมื่อพี่มันกดจมูกลงมาหอมแก้มผมดังฟอดซ้ำๆ ทั้งซ้ายขวาจนเจ็บ

 “พี่อาร์ตพอเลย ฝุ่นเจ็บ” ผมยกมือขึ้นปิดปากพี่มันเพื่อให้หยุด แต่กลับโดนพี่มันจับข้อมือผมไว้และกดจูบลงมาที่กลางฝ่ามือแทน

จุ๊บ
ฉ่า...
ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนจัดเมื่อพี่มันเงยหน้าขึ้นทั้งๆที่ริมฝีปากยังอยู่กลางมือผม ไม่ใช่การกระทำ... แต่เป็นแววตาของพี่มันที่มองมาทำให้ผมหน้าร้อนจนแทบอยากจะเบือนหน้าหนี ถ้าไม่ติดว่ามีมืออุ่นอีกข้างกุมแก้มผมไว้

“งื้อ พี่อาร์ตปล่อยนะ...”

 “รู้หรือเปล่าว่าพี่กำลังรักฝุ่นอยู่” ง่ะ... ผมหลบตาทันที ไม่กล้าที่จะสบตาคนตรงหน้าตรงๆ เพราะรู้ว่าคนพี่มันกำลังบอกรักผ่านทาง...สายตา

 “หลบตาพี่อย่างนี้... ไม่รักพี่หรือครับ” เสียงเบาหวิวนั่นทำให้ผมรีบเงยหน้าแดงๆ ขึ้นทันที

 “บ้าหรอ ไม่รักแล้วจะยอมให้กอดหรือไง!” ผมว่าเสียงหลง แต่รอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากทำให้รู้ว่าตัวเองเสียรู้คนตรงหน้าอีกแล้ว! “ปล่อยฝุ่นเลยนะ อุ๊บ”

สัมผัสเบาๆ ประทับลงที่ริมฝีปากปิดกั้นเสียงของผม ขบเม้มเลาะเล็มทั่วปากก่อนคนพี่จะผละออกเล็กน้อย เสียงนุ่มของพี่มันกระซิบติดริมฝีปาก  “บอกรักพี่หน่อยครับเด็กดี”

“ที่บ้านได้มะ...อื้ออ” พี่มันกดจูบมาอีกครั้ง

“นะครับ พี่อยากฟังที่นี่ ตอนนี้”

ผมเม้มปากแน่น ก่อนจะเอ่ยถาม “...ทำไมถึงอยากฟัง”

 “อยากรู้จริงหรอ” พี่อาร์ตยิ้มเมื่อเห็นผมกดหน้าลง “ก็... เพราะที่นี่ทำให้พี่ได้เจอฝุ่นอีกครั้งนี่ครับ วันนั้นมีคนหอบลังใส่หมามาหาตอนเกือบๆ เที่ยงคืนแถมยังจะขอนอนเฝ้าหมาอีก จำได้ไหม”

 “โหย ใครจะจำไม่ได้วันนั้นนะฝุ่นโดนทั้งแฟน ทั้งที่บ้านทิ้ง เจอไอ้ก้อนบาดเจ็บข้างรั้วบ้าน สงสารจนต้องพามาหาหมอ” ผมยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงวันนั้น นึกแล้วก็ขำตัวเอง

 “และพี่ก็เก็บเด็กแถวนี้ไปห้องด้วย”

 “อื้อ ฝุ่นก็ยังว่าทำไมพี่โคตรรรใจดีให้คนแปลกหน้าไปห้อง ที่ไหนได้รู้จักอยู่แล้วนี่เอง”

 “แต่ฝุ่นก็จำพี่ไม่ได้นี่ครับ”

 “ขอโทษได้ไหมล่ะ อ๊ะ!” พี่มันก้มมากัดปากผมอ้ะ! “ไอ้หมอหมา!”

“แล้วรู้หรือยังล่ะ ทำไมพี่ถึงอยากให้ฝุ่นบอกรักพี่ที่นี่”

ผมเม้มปากแล้วกดหน้าลงเบาๆ “อื้อ”

 “แล้ว...”

ผมช้อนตาขึ้นมองอีกคนที่ยิ้มพราวอย่างมีความสุข หายใจเข้าเฮือกใหญ่กลั้นความเขินลงไปก่อนเอ่ยคำที่ทำให้พี่อาร์ตยิ้มกว้างกว่าเดิม

 “ฝุ่นรักพี่อาร์ตนะ ผมรักคุณ”

 “ผมก็รักคุณครับ”

 “ขอบคุณครับพี่อาร์ต”

 “ครับ?”

ผมส่ายหน้าช้าๆ และซุกหน้าลงกับไหล่พี่อาร์ตที่เลิกคิ้วสูงกับคำพูดผมด้วยใจพองโต

ผู้ชายคนนี้รักผมมาเกินสิบปี
รักทั้งๆ ที่รู้ว่าผมเป็นผู้ชาย
รักทั้งๆ ที่รู้ว่าสังคมยังไม่กว้างขวางในเรื่องนี้
รักทั้งๆ ที่ผมไม่ได้รับรู้ถึงความรักนั้น แต่เขาก็ยังรอ...
ถึงจะมีทะเลาะกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่การพูดคุยทำให้เราเข้าใจ
ถึงผมจะเริ่มรักช้ากว่าพี่อาร์ตไปสิบปี...
แต่เชื่อผมสิว่าความรักของเรามันเท่ากันและจะเพิ่มขึ้นทุกๆ วัน

“ขอบคุณที่รักกันครับ”

“หึๆ ยินดีครับ”

และอีกครั้งที่ริมฝีปากของเราประกบ จูบที่อ้อยอิ่งดำเนินไปอย่างช้าๆ ไม่รีบเร่ง

แต่ทว่า...
แกรก
“โฮ่ง!”
 “เฮ้ย ไออุ่นอย่าเพิ่งเข้าไป ชะอุ้ย แฮะๆ หวานไปแล้วค่ะ”
ปัง!

พวกเราไปมองต้นเสียงที่โผล่มาและไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาพร้อมๆ กันเมื่อเห็นลูกชายในสภาพขามีผ้าพันไว้กำลังพยายามเดินมาทางนี้อย่างทุลักทุเล

“ฮ่าๆ พี่อาร์ตปล่อยนะ ฝุ่นจะไปหาไออุ่น” ผมปาดน้ำตาออกจากหน้า ผละลุกขึ้นไปอุ้มไอ้หมาขาเป๋ที่ยืนมองพวกผมมองตาแป๋วขึ้น “ฮึบ หนัก”

“เฮ้อ ขัดจังหวะพ่อแม่จริงๆ ไอ้ตัวยุ่ง” พี่มันว่าขำๆ แล้วก้มหน้าลงไปหอมหัวไออุ่นที่ผมกอดอยู่ โดยไม่ลืมที่จะเผื่อแผ่มาที่แก้มผมด้วยยอีกฟอดใหญ่

“โฮ่ง โฮ่ง!”

“รู้เรื่องหรือไงเรา” พี่อาร์ตขยี้หัวไออุ่นอย่างมันเขี้ยว ลดมือลงมาโอบเอวผมหลวมๆ แล้วรวบให้ผมเข้าไปหาโดยมีไออุ่นอยู่ตรงกลาง

“ถ่ายรูปกัน พี่จะส่งให้ไอ้ติณณ์ว่ามีลูกแล้ว” พี่มันว่าพลางยักคิ้ว หยิบสมาร์ทโฟนตัวเองออกจากกระเป๋ากางเกง เข้าสัญลักษณ์รูปกล้องแล้วเปิดก้องหน้า

“เอาล่ะ ยิ้มมม”

ฟอด
แชะ

“พี่อาร์ตตตต!” ผมโวยวายเมื่อพี่มันก้มมาหอมแก้มแล้วกดถ่าย “ถ่ายใหม่เลยยย”

“ไม่อ่ะ เอารูปนี้แหละน่ารักดี” พี่มันว่า คลายมือจากเอวขึ้นมาจับหลัง แล้วออกแรงดันให้ผมเดินนำหน้าออกจากห้องพัก “ไปๆ ลูกชายหิวแล้วมั้งเนี่ย เดี๋ยวพี่เลิกงานแล้วจะรีบกลับไปหานะ”

“อื้อ” ผมเบ้หน้าใส่อีกคน พยักหน้ารับคำนั่น ก่อนจะเดินออกมาจากโรงบาลสัตว์ที่ไม่ต้องหันกลับไปมองก็รู้ว่าหมอหมาตัวโตกำลังยืนมองอยู่

ผมยกยิ้มน้อยๆ ให้กับไอ้หมาอ้วนกลมขนฟูในมือ

รักของเราเริ่มที่นี่ แต่ไม่ได้จบลงที่นี่...

 “เนอะไออุ่น”

“โฮ่ง!”

[END]
#กลิ่นสีและกาวน์หมอ

--------------------------------

Start – 25082017
End – 02122017

แงงงงงง จบลงไปแล้วค่ะสำหรับกลิ่นสีและกาว(น์)หมอ เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกที่เราแต่งค่ะ แต่งขึ้นด้วยสาเหตุที่ว่า ว่างงงงงงจัด และอยากอ่านนิยายแบบโดนใจตัวเองค่ะLOL ใจหายเหมือนกันตอนที่เขียนคำว่าจบต่อท้ายเรื่องนี้ ไม่นึกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ฮรื่อออ
อันที่จริงเราเคยแต่งฟิคช่วงม.ต้นแต่ก็เกือบสิบปีที่แล้ว(บ่งบอกอายุเลย..)นะ แต่พอกลับมาแตะอีกครั้งทั้งภาษา สำนวนเลยดูแปลกๆไม่สมูทไม่โอเคสำหรับเราเท่าไหร่ แต่ก็เกลาแล้วเกลาอีกจนได้อย่างที่เห็น ถ้ามีคำผิดบ้างก็ขอโทษด้วยนะคะ.-. ว่ากันตามตรงก็ไม่นึกว่าจะมีคนติดตามเรื่องนี้เยอะขนาดนี้ ตอนแรกที่เห็นจำนวนคนติดตามขึ้นหลักร้อยก็ไปกรี๊ดกับเพื่อนแล้ว พอขึ้นหลักพัน และขึ้นมาเรื่อยจนกระทั่งตอนนี้มันบอกเป็นความรู้สึกไม่ได้อ่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนรักพี่อาร์ตคลหื่นกับหนูฝุ่นเยอะขนาดนี้ เราปรึ่มมม ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เริ่มแรกนะคะ
ขอบคุณนักอ่านทุกคนสำหรับทุกคอมเม้นและการติดตามค่ะ เราอ่านทุกเม้นเลยนะตั้งแต่เม้นแรกยันเม้นล่าสุด บางเม้นนี่ทำเราหัวเราะจนคนข้างๆถามว่าเป็นบ้าอะไร ทุกเม้นเป็นกำลังใจของเราเลยขอบคุณจริงๆค่ะ /วิ่งกอดรอบทิศ
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ถึงพี่หมอจะจบแล้วก็เหลือตอนพิเศษกับเรื่องของพี่ติณณ์กับพี่ข้าวเขาค่ะ คู่นี้เป็นเรื่องสั้นๆไม่ถึงสิบตอนเลยว่าจะต่อเป็นSpin offด้วยเลย นอกเหนือจากตอนพิเศษแล้ว อาจจะมีAfter Endingของพี่หมอค่ะ ที่ร่างๆ ไว้เป็นชีวิตของคุณๆ เขาคบหลังกันจนพี่อาร์ตเข้าเลขสาม (ปัจจุบันนาง28) มีหลานตัวน้อย ลูกของพี่ฟิล์มมาป่วนด้วย ถ้าไม่ติดที่ขี้เกียจนะคะ-ย้ำถ้าไม่ขี้เกียจ
ส่วนเรื่องรูปเล่มมีคนถามว่าจะได้มีไหม ตอบเลยว่ามี ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการคุยกับสนพ.นะคะ 0w<
สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ เจอกันใหม่เรื่องหน้านะคะ จุ๊บบบบ

ปล. ใครเหงามาคุยกันได้ในเฟส ทวิตหรือ ask นะเราเหงามาก เราฉีดยาแล้วไม่กัด--- เย้
จิ้มๆช่องทางติดตาม
Page facebook - https://www.facebook.com/miinnnta/
Twitte - https://twitter.com/miinnta
Ask - https://ask.fm/miinnnta
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-12-2017 22:48:18
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :L2: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 07-12-2017 09:24:18
ขอบคุณนะคะ เนื้อเรื่องอบอุ่นและน่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-12-2017 10:23:18
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 07-12-2017 12:49:28
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 07-12-2017 20:46:04
หมอหมาจอมหื่น ล่อลวงเด็กใส ๆ  :m25: :z1: :haun4:
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-12-2017 21:32:32
จบแล้วววววว น่ารักมากกกกก  :mew1: :mew1: :mew1:

พี่อาร์ต สีฝุ่น  :L1: :L1: :L1:
ขอบคุณไรท์ ให้ความสุขคนอ่าน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:   
       
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 08-12-2017 10:38:26
ละมุนจิตใจมากเลยค่า ขอบคุณสำหรับนิยายฟิลลิ่งกู้ดอีกเรื่องค่ะ
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: TaemyG ที่ 10-12-2017 11:23:53
 :-[ :man1:
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 11-12-2017 01:13:57
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Mod40 ที่ 11-12-2017 07:19:56
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 11-12-2017 22:21:27
น่ารักมาก ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-12-2017 11:13:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 20-12-2017 16:14:50
น่ารักแล้วก็สนุก
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-12-2017 17:18:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MuMeen ที่ 21-12-2017 22:35:07
พึ่งมีโอกาสเข้ามาอ่าน ชอบมากๆๆๆๆๆๆเลย แงงงรุ้สึกผิดที่มาอ่านช้าเลย :z3: :sad4:
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 22-12-2017 10:25:15
น่ารักกกกกก  :mew1: :mew1:
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 22-12-2017 11:14:26
สนุกมากค่ะ
ไออุ่นน่ารักมาก
ชอบครอบครัวของทั้งคู่มากๆเลย
รออ่านเรื่องต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 22-12-2017 15:02:33
พี่อาร์ต - สีฝุ่น น่ารักมาก ๆ ครับ



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「บทส่งท้าย」06|12|60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 25-12-2017 11:26:40
งื้ออออออ น่ารักอะ /ไออุ่น อะนะที่น่ารัก/ อิอิอิ ส่วนพี่หมอหมา ความหื่นพี่เกินที่คาดไว้ไปมากโข
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「THAT DAY」13|01|61 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 13-01-2018 00:04:29
That Day

“งื้อออ พี่ชายยยย” เสียงงอแงของเด็กน้อยสักคนทำให้ผมละสายตาจากหนังสือการ์ตูนหันไปมอง ก่อนจะเห็นเจ้าของเสียงยืนทำหน้าคล้ายจะร้องไห้อยู่ไม่ไกลนัก มือเล็กๆ ทั้งสองข้างขยุ้มชายกระโปรงแน่น

“เดี๋ยวครับ ทำไม...ชุดนั้น” ผมขมวดคิ้วมองเด็กตรงหน้าที่อยู่ในชุดกระโปรงสั้นแบบผู้หญิง บนศีรษะมีที่คาดผมที่ทำเป็นเปียเล็กๆ ห้อยออกมาทั้งสองข้างสวมอยู่

อิหรอบนี้ถูกฟิล์มกับแอ๋มแกล้งชัวร์...

“ฮึ่ก พี่ฟิล์ม พี่ฟิล์มจับใส่ แงงง” ว่าจบน้องก็วิ่งมาใส่ผมที่อ้าแขนรอ มือและขาทั้งสองข้างกอดคอรัดเอวผมแน่นจนแทบหายใจไม่ออก ปากเล็กก็เอ่ยฟ้องจ้อยๆ ข้างหู “พี่ฟิล์ม ฮึ่ก บอกว่าถ้าไม่ใส่จะเอาของเล่นฝุ่นไปทิ้ง แงงง”

“โอ๋ๆ ไม่ร้องครับ ป่ะๆ เปลี่ยนชุดกัน ฮึบ” เพราะน้องไม่ยอมปล่อยผมเอาแต่ซุกไหล่สะอื้น ผมเลยต้องพาไปเปลี่ยนชุดทั้งที่น้องยังเกาะผมเป็นลูกลิงอยู่อย่างนั้น ยอมปล่อยแค่ตอนเปลี่ยนชุดพอเสร็จก็เกาะผมเหมือนเดิม บอกกลัวโดนแกล้งอีก

พอผมพาน้องลงมาเห็นฟิล์มกับแอ๋มยืนอยู่ตรงปลายบันไดเขาก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม ร้องหนักจนเอาซะสองคนนั้นหน้าเสีย ขอโทษยังไงสีฝุ่นก็ไม่สนใจเอาแต่กอดคอผมแน่น

ยิ่งวันนี้น้าศิลป์กับแม่ก็ไม่อยู่ ไม่แปลกใจเลยที่ฟิล์มจะแกล้งน้องชายตัวเองอย่างนี้... ก็คนดุไม่อยู่นี่นา

“แล้วฟิล์มไปแกล้งน้องมันอย่างนั้นทำไม น้องมันผู้ชายนะ” ผมที่เปรียบเหมือนพี่ใหญ่ของทั้งสองบ้านเอ่ยดุสองสาวน้อยที่นั่งทำหน้าสลด ส่วนสีฝุ่น...รายนั้นร้องไห้จนหลับไปแล้วครับ หลับคาตักผมนี่ล่ะ “แอ๋มด้วย ทำไมไม่ห้ามพี่เขา”

“เราขอโทษ... ไม่นึกว่าฝุ่นจะร้องนี่” ฟิล์มแก้ตัวเสียงอ่อย ก้มหลบตาผม “เราเห็นชุดมันน่ารักดีแต่เราใส่ไม่ได้ แถมแอ๋มก็หลวมไป เห็นว่าคงพอดีกับฝุ่นก็เลย...”

“แต่น้องของฟิล์มเป็นผู้ชายนะ แล้วชุดที่ใส่นั่นชุดเด็กผู้หญิงไม่ใช่ชุดเด็กผู้ชาย” ผมว่าขัด นั่นยิ่งทำให้ตัวต้นเหตุตรงหน้าทำหน้าจ๋อยลงไปอีก ในขณะที่น้องสาวผมก็น้องตาเริ่มคลอเบ้าแล้ว

“เฮ้อ แอ๋มมานี่” น้องสาววัยสี่ขวบของผมเดินเตาะแตะมาหา ทิ้งตัวลงกับพื้นข้างผม “เราก็อีกคน ทำไมไม่ห้ามพี่เขาครับ ไหนบอกพี่ไงว่าแอ๋มโตแล้ว แอ๋มเป็นเด็กดี ทำไมเด็กดีไม่ห้ามพี่ฟิล์มครับ”

“ก็พี่ฟิล์มบอกถ้าห้ามจะไม่ให้กินขนม” คำตอบนั้นทำให้ผมหันไปหาอีกคนทันที ฟิล์มร้องอุ้ยออกมาแล้วยิ้มแฮะๆ ให้ผม ฟิล์มนี่มันจริงๆ เลย...

“ไปขู่น้องได้ไง ทั้งฝุ่นทั้งแอ๋มเลย” ผมดุต่อ ไม่รู้ระหว่างที่ไปอยู่บ้านพ่อตอนเปิดเทอม น้องๆ สองคนนี้โดนฟิล์มแกล้งอะไรไปบ้าง “ถ้าเราได้ยินน้องๆ มาฟ้องเราว่าโดนฟิล์มแกล้งอีกเราจะไปบอกน้าศิลป์นะ”

“ง่ะ ไม่ๆๆ เราไม่แกล้งน้องแล้ว สัญญาเลย” ฟิล์มชูนิ้วขึ้นสามนิ้วแบบลูกเสือ แต่เชื่อผมเถอะว่านิ้วมือที่อยู่ด้านหลังนั่นไขว้กันไว้

“เอานิ้วที่ไขว้กันไว้ออกก่อนดิ แล้วเราจะเชื่อ”

ฟิล์มสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินผมพูดอย่างนั้น “รู้ด้วยหรอ แฮะๆ”

“เฮ้อ ถ้าฝุ่นตื่นแล้วก็ขอโทษฝุ่นด้วย ทั้งสองเลย”

“ค่า”

เวลาผ่านไปไม่นาน... ผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านก็กลับมาจากการไปซื้อของมาทำข้าวเย็น ภาพที่เห็นตรงหน้าหลังจากเปิดประตูบ้านเข้าไปทำให้พวกเธอชะงักแล้วหันไปยิ้มให้กัน ก่อนใครสักคนจะเดินไปหยิบกล้องถ่ายรูปมาถ่ายเด็กทั้งสี่ที่หลับปุ๋ยอยู่กับพื้นบ้านเก็บเอาไว้

.
.
.

“พี่อาร์ตดูอะไร ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ได้” เสียงจากสีฝุ่นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงที่ยืนค้ำหัวอยู่ พอเจ้าตัวเห็นว่าผมกำลังดูอะไรอยู่ก็นั่งลงข้างตัว “รูปตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ ไม่เห็นรู้เรื่อง?”

“น่าจะตอนฝุ่นโดนฟิล์มกับแอ๋มจับใส่ชุดกระโปรง พี่ก็เพิ่งเห็นรูปนี้เหมือนกัน” ผมตอบคนที่ยื่นหน้ามาใกล้เพื่อดูรูปในอัลบั้ม แก้มใสๆ นั่นทำให้ผมอดใจที่จะก้มลงไปหอมไม่ได้

“พี่อาร์ต!” โวยวายหน้าแดงเถือก

“ฮ่าๆ ก็แก้มแฟนพี่หอม มาๆ ดูรูปต่อไหม” ผมถามพลางดึงคนน้องให้มานั่งอยู่หว่างขา เกยคางไว้กับไหล่น้องแล้วพาดูรูป ก่อนว่าติดขำให้สีฝุ่นตีหน้ามุ่ย “น่าเสียดายไม่มีรูปตอนฝุ่นใส่ชุดกระโปรงนั่นแฮะ”

 “เฮอะ! ไม่มีแหละดีแล้ว พี่ฟิล์มแหละแกล้งฝุ่นได้ไง อ๊ะ รูปนี้ตอนเราไปทะเลกันนี่” ฝุ่นละความสนใจจากรูปนั้น นิ้วเรียวชี้ไปที่รูปข้างๆ รูปผมแบกน้องขึ้นหลังโดยมีฉากหลังเป็นทะเล

“อันนี้อัดกันได้ไงสี่คนเตียวเดียว” ชี้ไปยังรูปอีกรูปที่พวกเรานอนเรียงกันบนเตียง ผมกับฝุ่นผลัดกันพูดถึงรูปสีจางๆ ในอัลบั้มนั้นราวกับกำลังย้อนความทรงจำกลับไปตอนที่พวกเรายังเด็กๆ

“อัลบั้มนี้ไม่เคยเห็นเลยแฮะ” ผมปล่อยให้น้องถือ ส่วนมือตัวเองแปะอยู่ที่เอวนิ่ม “มีแต่รูปที่ไม่รู้ว่ามี”

“สงสัยแม่จะถ่ายเก็บไว้แยก พี่ก็เพิ่งมาเห็นตอนเก็บของนี่ล่ะ”

“พี่อาร์ตตตต” ไม่ทันได้ฟังว่าฝุ่นตอบอะไรมา เสียงใสของน้องสาวผมมาพร้อมกับน้ำหนักตัวที่โถมใส่หลังผมเต็มๆ จนรู้สึกเจ็บ “อ้าว พี่ฝุ่นอยู่ด้วยหรอหวัดดีค่ะ ดูไรกันอยู่หนูดูด้วยๆ”

แอ๋มยื่นหน้ามาอีกฝั่งของสีฝุ่น ยื่นมือไปเปิดตั้งแต่หน้าแรกของอัลบั้ม

“พี่เขาดูอยู่อย่าไปแย่งสิ” ผมเอ่ยดุน้องสาวตัวดี ย้ายตัวเองมานั่งข้างๆ สีฝุ่นแล้ววางอัลบั้มไว้กลางวง “เอ้า รูปตอนเรายังเด็กๆ”

“หว๋า ไปเจอได้ไงคะเนี่ย กี่ปีแล้วเนี่ย” แอ๋มร้องตาวาว “เรียกพี่ฟิล์มมาดูด้วยนะๆ เดี๋ยวหนูมา”

ว่าจบน้องสาวผมก็วิ่งออกไปทันที ก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมสาวข้างบ้านที่ตัวสูงพอๆ กัน...ที่ในมือยังคงมีถ้วยมาม่าไว้ กลายเป็นว่าตอนนี้พวกเราสี่พี่น้อง(?)สองบ้านมาสุมหัวดูอัลบั้มเดียวกันอยู่กลางบ้าน

“ไง แอ๋มว่าเจอรูปเก่าๆ?”

“อื้ม เราเก็บของแล้วเจอน่ะ จำรูปนี้ได้ไหม” ชี้ไปยังรูปแรก รูปที่นอนกองกันนั่นแหละ

“จำได้ดิ เราจับฝุ่นใส่ชุดที่เราไม่ชอบแล้วมันไปฟ้องนาย นายเลยมาดุพวกเราเนี่ย” ฟิล์มตอบพลางหัวเราะร่า

“ตอนนั้นนะพี่อาร์ตโอ๋แต่ฝุ่นจนหนูคิดว่าจริงๆ แล้วหนูเป็นน้องสาวพี่ฟิล์มแล้วพี่ฝุ่นเป็นน้องพี่อาร์ตอ่ะ” แอ๋มเสริม “ก็พี่ดูดิ พี่อาร์ตกลับบ้านแต่ละทีเอาแต่อยู่กับพี่ฝุ่น น้องสงน้องสาวละไม่สนใจ”

“แล้วเราเอาแต่ขลุกกับพี่ฟิล์มไม่ใช่หรือไง”

“แฮะๆ” แอ๋มได้แต่ยิ้มแหยเมื่อโดนฝุ่นว่าอย่างนั้น “อ๊ะ รูปนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่! โอ๊ยยย อย่ามามองนะ งื้อออ”

ผมขำลั่นเมื่อเห็นน้องสาวรีบเอามือปิดรูปของตัวเองตอนเด็กที่แก้ผ้าเล่นน้ำในอ่างเป่าลม ที่จริงฟิล์มกับฝุ่นก็อยู่นะแต่สองคนนั้นใส่ชุดว่ายน้ำอยู่ น่าจะเป็นช่วงที่ผมไม่ได้อยู่บ้านนี้

“ตอนนั้นเรางอแงไม่ใส่เองไม่ใช่หรอ ดูการ์ตูนมากไปแล้วเข้าใจว่านี่อาบน้ำกลางแจ้งแบบญี่ปุ่นไม่ใช่หรือไง” ฟิล์มว่าพลางยกมือดีดเหม่งน้องเล็กในกลุ่มให้อวดครวญ ก่อนเราจะยกความสนใจไปให้แต่ละรูปในอัลบั้มที่มีอยู่ ผลัดกันเล่าผลัดกันแฉเรื่องในตอนนั้นที่บางเรื่องผมไม่รู้ แล้วไม่ใช่แค่หนึ่งเล่มนะแต่มีถึงสามเล่ม ดูกันเพลินจนลืมเวลา จนแม่ๆ มาเรียกไปกินข้าวนี่ละถึงแยกวงได้ ไม่วายที่จะเอาเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นบนโต๊ะอาหารอีก


“ฝุ่นครับ”

“หืม?” ผมกระชับคนบนตักที่นั่งเปิดอัลบั้มรูปของผมไปมา... เจ้าตัวไปขอแม่มาครับ

“สนพี่หน่อยสิ” กดจมูกลงกับซอกคอคนบนตัก เกลี่ยไปมาจนคนน้องละมือมาดันหน้าผม

“ก็สนอยู่นี่ไง” ชี้รูปในอัลบั้ม “แสดงว่าตอนนั้นที่ฝุ่นเจอหน้าบ้านป้าเล็กนี่คือพี่สินะ จำไม่ได้เลย” (-จากตอน8ที่อาร์ตกลับบ้านตอนปีสองค่ะ)

“อ่า...ครับผม” ยิ้มแหยให้คนในรูป ผู้ชายผมยาวเพราะขี้เกียจตัด ใส่แว่นหนาเตอะ ขัดกับรูปข้างๆ ที่ทำผมเปิดใบหน้าที่ไร้แว่นบดบัง จะไม่ต่างได้ไงครับก็ช่วงเรียนจนหัวหมุ่นไงครับ... สภาพเลยอย่างที่เห็นหมดมาดอดีตเดือนคณะและอดีตรองเดือนสุดๆ

“ก็ยังว่าว่าใครมาบ้านป้าเล็ก แล้วนี่ตอนนั้นใส่แว่นสลับคอนแทคหรอ?”

“ครับ แต่แว่นพังบ่อยบวกกับขี้เกียจซื้อคอนแทค พอก็บเงินได้เลยตัดสินใจไปทำเลสิคเอา” ผมว่าพลางแอบหอมคนน้องดังฟอด

“นี่ก็เนียนไป” น้องมันเอาอัลบั้มในมือดันหน้า “ง่วงแล้ว นอนกัน”

ผมมองคนน้องที่ลุกออกจากตักแล้วเอาอัลบั้มนั้นไปวงบนโต๊ะ เดินเลยไปปิดไฟห้องแล้วกลับมาหาผมที่ยังอยู่ปลายเตียง พอเห็นว่าน้องมาใกล้ก็คว้ามือน้องขึ้นมา “...ฝุ่นครับ”

“ครับ?”

“จำได้ว่าฝุ่นเคยงอแงเพราะไม่เคยไปเที่ยววันเด็กกับพี่... วันเด็กนี้ไปเที่ยวกันไหม” ผมถามคนน้อง ก่อนหน้านี้เจอรูปตอนน้องในชุดคนแคระกำลังร้องไห้หน้าแดงก่ำ แล้วด้านหลังรูปเขียนว่างอแงเพราะผมไม่มางานวันเด็กของโรงเรียน

“ห๊ะ! เราไม่เด็กกันแล้วนะพี่อาร์ต ปีหน้าพี่ก็จะเลขสามแล้วป่ะ จะไปเล่นกับเด็กๆ ทำไม” ส่งค้อนวงใหญ่ให้สีฝุ่นที่หัวเราะร่า กระชากแขนน้องให้ล้มตัวลงไปนอนอยู่บนเตียง

“ไม่เล่นกับเด็กก็ได้” ว่าพลางคร่อมตัวคนพูดเยอะ “งั้นพี่เล่นแบบผู้ใหญ่นะ”

“หยุดนะ พรุ่งนี้ฝุ่นมีงาน!”

“ช่างดิ” ก้มหน้าลงไปไซร้กับซอกคอขาวน่าทำรอยแดงๆ ว่าแล้วก็จัดไปสักรอย

“อื้อ... พี่ อาร์ต!”

“หึ ล้อเล่นครับ นอนกันเนอะ จุ๊บ” จูบปากคนที่ยังเอ๋ออยู่เบาๆ ผละตัวออกมานอนข้างๆ โดยไม่ลืมที่จะรวบตัวสีฝุ่นมากอดแนบอก

“ฝันดีครับเด็กน้อยของพี่”

“อื้อ...ฝันดีครับ”


END – That Day

――――――――――――――――――――――――――――――――

เอามาลงรับวันเด็กค่ะ กินเด็กเป็นอมตะเนอะพี่อาร์ต----
แล้วก็... เรื่องนี้จะได้รวมเล่มด้วยล่ะ /w\
หัวข้อ: Re: 「END」กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「THAT DAY」13|01|61 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: anawas ที่ 20-01-2018 06:06:52
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」
เริ่มหัวข้อโดย: мıınta ที่ 14-02-2018 17:54:52
วาเลนไทน์ เดย์กับพี่อาร์ตและสีฝุ่น

13 Feb 20xx
“ฝุ่นครับ พรุ่งนี้วันวาเลนทะ...” เสียงโคร้งเคร้งของถ้วยและถาดอะลูมิเนียมดังกลบเสียงของผมที่อยู่ในชุดเสื้อกาวน์แขนสั้นสีขาวที่ไม่น่ามาสิงจะอยู่ในห้องครัวที่เต็มไปด้วยฝุ่นจากผงโกโก้ไปซะหมด... เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่กอดอกยืนมองความวุ่นวายตรงหน้า

“พี่ข้าวค่อยๆ กวนนะ รอเป็นเนื้อเดียวค่อยใส่พิมพ์” แฟนของเพื่อนสนิทที่ถูกแฟนตัวเองเอามาปล่อยไว้กับแฟนของผมตั้งแต่เที่ยงพยักหน้าอย่างแข็งขัน สีฝุ่นที่เห็นอย่างนั้นก็ละสายตาไปช่วยหน้าศรที่กำลังบีบครีมอะไรสักอย่างลงในถาด

“ฝุ่นครับ”

เคร้งงง!

“หย๋า พี่ข้าวระวังหน่อยสิ ใจเย็นๆ นะฮะ”

เห็นว่าน้องว่างแล้วก็เลยเรียก ไม่ทันได้ยิ้มกว้างให้คนที่หันมามองก็ต้องหุบปากฉับเมื่อพี่ข้าวทำหม้อกวนตกจากหม้อที่ใส่น้ำอุ่นไว้ สีฝุ่นที่ทำท่าจะเดินมาหาผมเลยเปลี่ยนทิศทางไปหาพี่ข้าว ริมฝีปากที่มีรอยยิ้มน้อยๆ เอ่ยดุนักเรียนจำเป็นอย่างไม่จริงจัง

เหมือนพี่ข้าวจะสังเกตว่ามีคราบสีน้ำตาลๆ ติดบนใบหน้าน้องเหมือนกับผม มองมือของแฟนเพื่อนที่กำลังเอื้อมไปปาดแก้มสีฝุ่นอย่างแผ่วเบาตามด้วยหยิกน้อยๆ อย่างเอ็นดูซึ่งเรียกเสียงหัวเราะให้แก่ผู้พบเห็นอย่างผมหรือน้าศรได้อย่างดี

เอาเถอะยิ่งฝุ่นหน้าแดงยิ่งน่ารัก

“ไงมึง มาแอบอะไรตรงนี้”

พอหันตามเสียงเรียกก็เจอกับเพื่อนสนิทที่พาแฟนมันมาทิ้งไว้กับฝุ่นนั่นแหละ ไอ้ติณณ์ยังคงอยู่ในชุดสูทเต็มยศอย่างคนเพิ่งเลิกประชุม ผมชี้ให้มันดูพี่ข้าวที่ก่อนหน้านี้งอนไอ้ติณณ์ฉิบหายกำลังทำของเซอร์ไพรส์เจ้าตัวอยู่ พอไอ้ติณณ์เห็นอย่างนั้นก็ระบายยิ้มออกมาน้อยๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าเครียด

“มึง...กูมีเรื่องให้ช่วย พอดีลูกค้าจะชวนกูกับพ่อกูไปกินข้าวแล้วกูปฏิเสธไม่ได้ คงได้กลับตอนเกือบๆ ห้าทุ่ม กูเลยว่าจะใช้โอกาสนี้ละทำเซอร์ไพรส์ข้าว”

“แล้ว...”

“มึงช่วยไปส่งข้าวที่คอนโดหน่อยนะ”

“เออๆ แล้วมึงบอกพี่ข้าวยังว่าลูกค้าชวนมึงกินข้าว” มันส่ายหัว ให้ตายเถอะ

“น่า ให้ข้าวโกรธกูเต็มที่เลยเดี๋ยวกูง้อเอง แปบนะ... ครับๆ ร้านXXXนะครับ โอเคครับ ครับ ... งั้นกูไปละ ฝากด้วย”

โบกมือตามหลังเพื่อนสนิทที่มันมา...มันฝากให้ช่วย... แล้วมันก็ไป หันมองคนในครัวต่อก็เกือบสะดุ้งเมื่อเห็นสีฝุ่นยืนอยู่ข้างๆ

“พี่ติณณ์มาหรอ” พยักหน้าให้น้อง “งั้นฝุ่นบอกพี่ข้าวกะ...อืออออออ”

ทำการล็อกคอปิดปากน้องเดินออกมานอกร้านทันที เดี๋ยวพี่ข้าวได้ยินจะเป็นเรื่อง

“พี่อาร์ตทำอะ...อุ๊บ” จุ๊บปากคนน้องเป็นสัญญาณว่าห้ามพูด และมันก็ได้ผล เสียงสีฝุ่นเงียบลงทันทีพร้อมกับหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ

“ติณณ์มาบอกว่าจะเตรียมเซอร์ไพรส์พี่ข้าวครับ ฝากให้เราไปส่งพี่ข้าวด้วย” บอกคนน้องไป “ห้ามหลุดปากว่าติณณ์มาให้พี่ข้าวได้ยินนะ”

“อื้อๆ งั้นฝุ่นไปทำงานต่อแล้ว”

“เดี๋ยวดิ คุยกับพี่ก่อน” ดึงคนน้องที่เตรียมเดินหันหลังเข้าร้านไว้ ออกแรงดึงให้หมาอยู่ในอ้อมกอด “พรุ่งนี้วันวาเลนไทน์นะครับ”

“พรุ่งนี้ต้องช่วยน้าศรอ่ะ...” น้องว่าเสียงเบาแล้วเงยหน้ามองผม สอนแขนกอดผมกลับอย่างอ้อนๆ “ไม่ทำหน้าตึงสิครับ พี่อาร์ตครับ~”

“งั้นที่พี่แลกวันหยุดมานี่ไม่มีความหมายสินะ” ว่าเสียงแข็งจนน้องหน้าเสีย “ว่าจะพาไปดูหนังสักหน่อย แต่งตัวคู่หนึ่งฟรีหนึ่งเชียวนะ ไม่อยากดูหรือไง”

“งื้อออ อยากกก แต่ แต่...” สีฝุ่นซุกหน้าลงกับอกผมแล้วถูไถเหมือนแมว “ฝุ่นรับปากน้าศรแล้วอ่า งื้อพี่อาร์ตไม่โกรธนะครับ นะ”

เหล่ตามองน้องที่นับวันก็ยิ่งจะมีลูกอ้อนเพิ่มขึ้น ยิ้มกว้างจากคนตรงหน้าหายไปเมื่อน้องเขย่งตัวมาจุ๊บปากผมเบาๆ ก่อนจะกลายเป็นว่าน้องครางอื้ออึงในลำคอ

“ฝุ่นอยู่ไหน...อ๊ะ” เสียงร้องเบาๆ ทำให้เราผละออกจากกัน พอหันไปมองก็เห็นพี่ข้าวยืนยิ้มอยู่ “พี่มาขัดจังหวะหรือเปล่าเอ่ย แต่น้าศรให้มาตามล่ะ”

น้องยกหลังมือปาดปากตัวเองไปมาก่อนจะวิ่งไปหาพี่ข้าวที่ยืนยิ้มล้อ ไม่วายหันมายิ้มแห้งๆ ให้ผมพร้อมขยับปากเป็นคำว่าไม่งอนนะ

มันน่ากัดให้ตัวลายจริงๆ แฟนใครวะ


“พี่ข้าวขึ้นไปแล้วใช่ไหม” สีฝุ่นพยักหน้ารับ เห็นอย่างนั้นเลยยกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายถึงเพื่อนสนิท

ตอนนี้เรามาส่งพี่ข้าวกันครับ พอฝุ่นทำของเสร็จก็เลยชวนพี่ข้าวกินมื้อดึกด้วยกัน แต่คนสูงวัยก็ไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าไหร่เพราะเอาแต่กดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิทแต่มันไม่รับจนเกือบได้ปาโทรศัพท์ทิ้ง ไม่รู้หรอกครับว่ามันคุยอะไรกับพี่ข้าว คนตัวเล็กเลยน้ำตาคลอเบ้าแล้วเดินมากอดสีฝุ่นแน่นก่อนจะบอกให้พวกเราไปส่ง

‘ไงมึง ส่งข้าวแล้ว?’ ปลายสายถามขึ้นมาทันทีที่กดรับ แอบขำสีฝุ่นทำหน้ายู่ใส่เสียงที่ดึงออกจากลำโพงมา

“เออ ส่งพี่ข้าวแล้ว ก่อนหน้านี้มึงพูดอะไรกับพี่เขาวะ แม่งทำหน้าจะร้องเหล่มิร้องเหล่แล้วนั่น”

‘กูแค่บอกว่าคืนนี้คงกลับดึกไม่ต้องรอกู ให้บอกมึงว่าให้พาไปส่งที่หอเลย’

“แค่นี้แน่นะครับ” สีฝุ่นถามย้ำ

‘แค่นั้นแหละฝุ่น สงสัยเพราะทะเลาะกันตอนมาด้วยมั้งเลยเป็นอย่างนั้น นี่พี่กำลังไปเอาดอกไม้แล้วเดี๋ยวก็ถึงห้อง ฝุ่นไม่โกรธพี่แทนข้าวนะ’

ขำน้องที่นั่งกอดอกหน้าตึง หันไปคุยกับไอ้ติณณ์สองสามคำก่อนกดวางสาย ผมเดินตามสีฝุ่นเข้าบ้าน ตามเข้าห้อง ตามยังเข้าห้องน้ำด้วยจนคนน้องหันมาตีหน้ายักษ์ใส่

“พี่ขอครับ” รวบเอวคนน้องไว้ กดจูบลงกับลำคอเบาๆ จนน้องดิ้น

“งื้อออ ไม่ขอ พรุ่งนี้ฝุ่นขายของ ไว้พรุ่งนี้นะ” สีฝุ่นช้อนตาขึ้นมามองพร้อมเอ่ยอ้อน

“งั้นคืนพรุ่งนี้ก็ได้แต่ออนท็อปให้พี่นะ โอเคดีลครับจุ๊บ” เดินผ่านคนหน้าเหวอออกจากห้องน้ำแล้วปิดประตูให้ ได้ยินเสียงคนโวยวายออกมาเบาๆ ก่อนจะพาตัวเองไปอาบน้ำอีกห้อง

ฉวยโอกาสกับก้อนกลมบนเตียงจนน้องโวยวายแล้วก็หลับฝันดี


14 Feb 20xx

วันแห่งความวุ่นวายเริ่มต้นขึ้นเมื่อยัยแก้วไปโพสในเพจของร้านว่ามีโปรโมชั่นคู่(เพื่อน/แฟน)ที่มาทานที่ร้านจะได้คุกกี้เสี่ยงทายเป็นของแจก นี่ก็ตามกระแสกันเต็มที่ปั้นโอนิกิริกันไปสิ...

ลูกมือวันนี้มีไอ้ติณณ์เพิ่มมาหนึ่งคน ดูจากหน้าตาพี่ข้าวแล้วคงดีกันแล้วล่ะ อย่าคิดว่าไม่เห็นรอยที่คอของพี่ข้าวที่รับหน้าที่เป็นแคชเชียร์นะ

ส่วนเบ๊สารพัดประโยชน์อย่างผมนั้นหรอ...

“พี่อาร์ตๆ ไปเอาช็อกโกแลตหลังร้านมาเติมให้หน่อย”

“ครับๆ” ขานรับแล้วไปหยิบถาดช็อกโกแลตไปให้คนสั่ง

“พี่อาร์ตต รับออเดอร์โต๊ะสี่ครับ”

“สักครู่ครับ นี่ครับ” วิ่งไปหยิบเมนูแล้วก้าวยาวๆ ไปให้สาวๆ ที่มามาใหม่ แอบขยิบตาเรียกเรทติ้งจนได้เสียงกรี๊ดมาเบาๆ

“อาร์ตๆ เหรียญหมดอ่ะ”

“พี่อาร์ตต”

“ไอ้อาร์ต”

“อาร์ตตต”

และอีกหลายๆ อาร์ตที่ได้ยิน... ส่วนไอ้อาร์ตก็ทำได้แต่ “คร้าบบบบบบบบบบ”


“โอ๊ยยยย! เหนื่อยโว้ยยยยยย” ผมโอดครวญเสร็จสิ้นภารกิจในวันนี้ นอนฟังเสียงคนน้องที่ไปอาบน้ำได้พักใหญ่ก็ได้แต่ยิ้มกริ่ม

เพราะของที่ได้ติณณ์ให้มายังอยู่ในถุง หึๆ

“โอ๊ะ พี่อาร์ตเหนื่อยไหม ฝุ่นนวดให้นะๆ วันนี้พี่อาร์ตขอองฝุ่นเก่งมากกก” ตวัดตาคนอาบน้ำเสร็จที่ทำเสียงสดใสที่วิ่งมาบีบๆ นวดๆ ไหล่ผม แหมมม ทำเป็นเอาใจ “จุ๊บ ขอบคุณครับพี่อาร์ต”

“อื้ออ มาจูบทีดิ๊” คว้าคอคนน้องมาจูบปากแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว

“ฮื่อ...ไว้ก่อนพี่อาร์ตเหนื่อยอ่ะอยากนอน” สีฝุ่นทำหน้าบูดหน้าเบี้ยวพร้อมดันหน้าผมออกห่าง แต่ห่างได้ไม่มากเพราะติดมือที่ผมล็อกเอวไว้

“ไหนสัญญากับพี่ไว้แล้วไงครับว่าคืนนี้ให้พี่” ทวงคำสัญญาให้น้องหน้างอ “เห็นถุงนั่นไหม ไปหยิบมา”

“ถุงที่พี่ติณณ์ให้เนี่ยนะ” น้องทำหน้าแหยง เหมือนจะฝังใจไปแล้วว่าอะไรที่ติณณ์ให้มาไม่มีประโยชน์ต่อตัวฝุ่นสักอย่างแต่ แต่มีประโยชน์กับผมเต็มๆ

“เออเอามา แล้วเปิดเอาของข้างในมาให้พี่ด้วย” ว่าแล้วก็ทิ้งตัวลงนอน มองสีฝุ่นที่หันแยกเขี้ยวใส่แล้ลุงไปหยิบถุงนั่นขึ้นมา ล้วงมือไปหยิบเอาดอกกุหลายดอกโตและกระดาษในนั้นขึ้นมาอ่านแล้วขมวดคิ้วมองผมเขม็ง

“พี่อาร์ต” ลุกขึ้นนั่งกางแขนยิ้มรับคนน้องที่เดินถือถุงนั่นมา “...น้องนุ่นนี่ใครครับ”

“ห๊ะ!”

“ฮ่าๆ ล้อเล้นครับ คิ้วขมวดเลย อ๊ะ!” เอื้อมมือไปรั้งเอวคนแกล้งให้มาใกล้ๆ อ้าปากงับหน้าอกน้องผ่านเสื้อเป็นการลงโทษไปทีนึงแล้วรวบน้องให้นั่งตัก “ฮื่อ ไม่เป็นได้ไหมอ่ะ My valentine เนี่ย อยากเป็น Your Everyday”

สีฝุ่นหันมาขยิบตาให้แล้วยิ้มกว้างจนตาหยี... ก่อนก้มไปดมดอกไม้ในมือเล่นแก้เขิน ไหนจะประโยคนั้นอีก ติดสตั้นไปดิครับไอ้อาร์ต

“เฮ้ย!” โวยวายเพราะผมเหวี่ยงคนบนตักไปกลางเตียงไม่รอให้น้องได้ตั้งตัวก็ตามไปปล้ำจูบ

“อ๊ะ พี่อาร์ตอย่า อ๊า~~”

จับสีฝุ่นลอกคราบจนตัวเปล่าเปลือยไม่ต่างกัน มองคนน้องที่หุบขาแน่นด้วยความอาย สองมือรั้งเข่าคนน้องออกแล้วแทรกตัวเข้าไปแทนที่ กดจูบแผ่วเบาไล่จากหน้าผากชื้นเหงื่อ... เปลือกตาที่ปิดสนิท... ปลายจมูกและแก้มทั้งสองข้าง และจบท้ายที่ริมฝีปากที่บวมเบ่งจากการปล้ำจูบเมื่อครู่

“ฮื่อ พี่อาร์ตไม่เอา มัน...”

“สกปรกที่ไหน ฝุ่นเพิ่งอาบน้ำไม่ใช่หรือไง”

เอ่ยล้อและ รวบมือที่ปัดป้องเมื่อผมเคลื่อนตัวลงจากใบหน้าไปตามลำคอ ลากไปยักแผ่นอก... รอยสีสดเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ริมฝีปากลากผ่าน เสียงครางสะอื้นดังแผ่วเบาเมื่อครอบครองตัวคนของคนข้างใต้ด้วยริมฝีปาก ปรนเปรอจนเสร็จสิ้น เบิกทางเตรียมพร้อมสำหรับการฝากฝังตัวตนในไม่กี่นาทีข้างหน้า

“ชู่ว สุดแล้วครับ” เอ่ยปลอบสีฝุ่นเมื่อดันตัวตนเข้าไปจนสุด สองมือของคนน้องที่คล้องคอรั้งให้ไปหา ปิดขั้นเสียงครางของตัวเองด้วยการประกบริมฝีปากเข้าหา มอบรสจูบอ่อนหวานให้อีกฝ่ายขัดกับส่วนร่างที่กระแทกกายจนคนน้องหน้าเหยเก

สีฝุ่นละมือที่กอดผมอยู่หมายจะไปปรนเปรอแก่นกายของตัวเองเพื่อให้ถึงจุดหมายอีกครั้ง ทว่าผมกลับจับมือนั้นไว้ พลิกตัวให้คนข้างใต้ขึ้นมาอยู่เหนือร่างแทนที่จนได้ยินคนครางเสียงหลงจนน่ารังแก สองมือประกองสะโพกคนที่ยังทำหน้าตื่นให้ขยับตาม ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้สีฝุ่นที่แดงอยู่แล้วแตงขึ้นไปอีก

“ขยับสิครับ...ที่รัก”

.
.
.

“ขี้เซาตื่นเร็ว” กระซิบข้างใบหูพร้อมหอมแก้มเบาๆ

“ฮื่อ จะนอนอย่ากวน” ขำคนที่โบกมือไปมาเหมือนปัดแมลง รวบสองมือน้องไว้แล้วไล่จุ๊บไปทั่วหน้าจนอีกคนตื่นขึ้นมาด้วยหน้าบึ้งๆ “พี่อาร์ต!”

“บอกรักพี่ก่อนแล้วจะปล่อย” ขยับเข้าไปรวบคนหน้าบึ้งขึ้นมานอนบนตัว เอ่ยดักคอเมื่อเห็นเด็กน้อยจะลง “อย่าดิ้นนะ เดี๋ยวมันตื่นอีก”

ชะงักกึกทันที... ขำ

“งื้อ เมื่อคืนบอกไปแล้วนี่” น้องฟาดมือลงกับอกก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่ตื่นพร้อมๆ กัน “ไม่เอาแล้วนะ ฝุ่นไม่ไหวแล้ววว”

ลากเสียงยาวพร้อมถูหน้าซกกับอกให้สงสาร แต่ไรหนวดที่ถูไปมาทำให้สยิว...

“บอกรักก่อนครับ จูบรับอรุณด้วย” ประคองหน้าคนหน้าแดงไว้แล้วกดจูบลงไปเบาๆ งับปากล่างน้องอย่างหมั่นเขี้ยวแล้วปล่อย “รักฝุ่นนะ”

“ฮื่อออ รักพี่อาร์ตเหมือนกัน” อู้อี้กับอกแต่ก็ฟังออก “ปล่อยได้ยังจะนอนนน”

“จูบล่ะ”

“ไม่เอาาา”

“งั้นพี่...เอา”

จุ๊บ! “พอใจยัง! ฮึ่ย!”

ก็แค่นั้นล่ะ

“แฮปปี้วาเลนไทน์ครับที่รัก”

“เลยวันแล้วป่ะ แก่แล้วขี้หลงขี้ลืมหรอ อ่ะโด่วววว” ได้ยินอย่างนั้นก็พลิกคนบนตัวให้ลงมาใต้ร่างทันที

“เออพี่แก่แล้วไง แต่แรงยังดีนะ” ส่งวิ่งค์ให้คนน้อง “สักยกสองยกไหมเช้านี้ หืมมม”

“ม๊ายยย”

รบกวนแพนกล้องด้วยนะครับ...ขอบคุณ

END – วาเลนไทน์เดย์ของพี่อาร์ตและสีฝุ่น

―――――――――――――――――――

คิดถึงสองคนนี้เนอะ อุอิ มีพาร์ทของพี่ข้าวและเรื่องแยกของคู่นี้ด้วยนะคะ ชื่อเรื่องจีบนะครับ...รักผมที จิ้มมม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65658.0)

แจ้งข่าวค่ะ
กลิ่นสีและกาวน์หมอจะตีพิมพ์กับทางฟาไฉนะคะ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ รอติดตามทางแฟนเพจของฟาไฉกับของเราได้เลยย /ขยิบตา
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 21-02-2018 22:54:00
หมอหมานี่ดีสุดๆไปเลยนะ. ฟิน
หมอก็รักน้องสุดจริง รอคือรอจริง
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 22-02-2018 04:48:20
 :-[
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 23-02-2018 17:20:46
 o13 o13 o13
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 25-02-2018 13:00:12
สนุกมากครับ น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 26-02-2018 20:40:43
 :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 04-03-2018 21:02:15
น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 08-03-2018 19:18:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 31-05-2018 11:52:25
 :pighaun: :hao7: คือมันหวานนนน...ละมุนใจเว่อร์มากค่ะ o13....อิจน้องฝุ่น...อาร์ตนิหาจากไหนได้อีกค่าาา :z3: :ling1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 02-06-2018 08:19:38
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วดีต่อใจ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 03-06-2018 09:37:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 04-06-2018 15:33:01
ละมุนมาก 555
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 09-06-2018 14:33:17
สนุกค่ะ สีฝุ่นกับพี่หมอน่ารักน่าเอ็นดู
อ่านแล้วสบายใจ อมยิ้มตลอดเวลา   :pig4:

และเราเคยอ่านอีกเรื่องที่บอกว่าคล้ายกัน
แต่เราว่าไม่คล้ายนะ แต่ก็สนุกทั้งคู่
มีสำนวนการเขียนเป็นของตัวเอง
 o13
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 06-07-2018 05:44:51
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 14-03-2021 20:14:32
 :-[
หัวข้อ: Re: กลิ่นสี และ กาว(น์)หมอ「END」ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 27-03-2021 17:46:18


สุดดดดยอด  น่ารัก  เยื่ยมไปเลย

ขอบคุณมีน นักเขียนผู้น่ารัก@

 :pig4: :pig4: :pig4: