ตอนที่21
#เครื่องกลชนโยธา
เสียงครางในลำคอดังออกมาจากเจ้าของร่างขาวที่กำลังนอนซุกหน้าอยู่กับแผ่นอกกว้างของคนข้างกาย ไทเกอร์ขยับตัวดิ้นก่อนถูกเสือใช้มือรั้งกระชับกอดเอาไว้เหมือนส่งสัญญาณว่าให้นอนต่อ ดวงหน้าดูดีซบเข้าหาลำแขนแกร่งอีกครั้งเช่นเดียวกับปลายจมูกโด่งของเสือที่ในยามนี้กำลังซุกลงบนกลุ่มผมนุ่มของใครอีกคน นอนหลับกันอีกครั้งจนก็เป็นไทเกอร์อีกรอบที่ขยับตัวเมื่อรู้สึกว่าในเวลานี้ควรจะตื่นได้แล้ว
“หืมม นอนต่อเหอะ” เสียงงึมงำจากคนที่ยังหลับตาอยู่อย่างเสือดังขึ้น
“มันสายแล้ววันนี้มีเรียน”
“ไม่ต้องไป....”
“บ้าหรือไง ลุก” ไทเกอร์เสียงแข็งขึ้นมาแต่เสือยังไม่มีที่ท่าว่าจะยอมปล่อยเขาออกจากอ้อมแขน อีกร่างลืมตาขึ้นพร้อมส่งสายตาเหมือนเด็กงอแงมาให้ซึ่งนั่นทำให้ไทเกอร์ต้องใช้มือตบหน้าผากของมันไปด้วยความมั่นไส้ เขาต้องยีหน้าเมื่อในตอนนี้สิ่งที่เสือทำคือการกดริมฝีปากฝังลงบนแก้มทางด้านขวา ไม่พอแค่นั้นเพราะอีกร่างยังทำท่าจะเลื่อนปากมาจูบเขาอีก
“อย่า ฟันยังไม่ได้แปรง”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย”
“ไม่เอ....”
..จุ๊บ...!
แต่เสียงปฏิเสธก็ช้าเกินกว่ากลีบปากนิ่มที่ประกบจูบลงมา เมื่อมันมอนิ่งคิสเขาเรียบร้อยอีกร่างก็เพียงลุกออกจากเตียงแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมทิ้งให้ไทเกอร์นั่งเขินอยู่คนเดียวบนเตียงแบบนี้ ตั้งแต่ที่อยู่กับมันในสถานะความสัมพันธ์แบบนี้ไทเกอร์รับรู้ได้ว่าเขามีนิสัยที่เปลี่ยนไปเยอะ จากหัวร้อนไม่ยอมคนแต่กลับมีหลายครั้งที่ว่าง่ายตามใจเสือทั้งที่บางเรื่องไม่สมเหตุสมผลเลยด้วยซ้ำ
...แกร๊กกกก..
“อาบน้ำหรือทำอะไรเร็วขนาดนั้น” ยังนั่งไม่หายเขินเลยเสือก็เดินตัวเปียกออกมาแล้ว
“อาบน้ำครับ” ไม่พูดเปล่าแต่เสือยังโน้มตัวลงมาทำหน้าทำตาใส่อีก ไทเกอร์ชำเลืองมองมันก่อนส่ายหน้ากับความที่นับวันก็เริ่มจะปัญญาอ่อนของอีกร่าง เขาลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวจะได้อาบน้ำไปเรียนแต่ถึงตอนนี้ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะให้ใส่ชุดอะไรไป
“ในตู้มีเสื้อมึงอยู่นะ” จนเสียงนี้จากเสือ
“เสื้อไรวะ”
“ช็อปมึงไง ในตู้อะ” เมื่ออีกร่างว่ามาแบบนี้ไทเกอร์นิ่งคิดก่อนพยักหน้ารับเมื่อนึกออกว่ามันมีเสื้อหนึ่งตัวที่ไอ้เสือมันยึดของเขาไปตั้งแต่ชาติปางก่อนแล้ว หมดปัญหาเรื่องเสื้อผ้าคราวนี้ถึงเวลาสำหรับอาบน้ำแต่งตัว ลองที่จะก้มมองยังถังขยะอีกครั้งก่อนพบว่ากล่องอนามัยที่เคยอยู่ภายในได้หายไปแล้วเรียบร้อย จุดนี้เขาไม่อยากคิดมากบวกกับไม่อยากโดนมองว่างี่เง่าดังนั้นเรื่องนี้ที่ไมได้ชัดเจนอะไรจะขอไม่เอามาพูดให้เป็นปัญหาแล้วกันเมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำไทเกอร์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเสือหายไป
ลองมองซ้ายขวาก่อนพบกับร่างสูงที่กำลังยืนอยู่หน้าเครื่องปิ้งขนมปัง
และไทเกอร์แอบอมยิ้มเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก
...หมับ...
“....!” เขาจับเข้าที่เอวของอีกร่างพร้อมเอ่ยพูดคำที่ว่า
“มอนิ่ง” ก่อนที่จะ
...จุ๊บ...
“เห้ยทำไร!” เสียงเหวลั่นของเสือสร้างเสียงหัวเราะของไทเกอร์ที่ดังลั่นจนแทบจะลงไปกุมท้องขำ ภาพของเสือที่กำลังยืนทำหน้าไม่ถูกพร้อมมือที่ยกจับซอกคอของตัวเองกำลังทำให้ไทเกอร์ยิ่งตลกไปใหญ่ เป็นเพราะชั่วครู่ที่ผ่านมาเขาเอ่ยมอนิ่งทักทายอีกร่างออกไปก่อนจะกดจูบลงบนซอกคอของมันแล้วปิดท้ายด้วยการแลบลิ้นเลียออกไปด้วย
“มึงเขิน” ไทเกอร์พูดกลั้วเสียงหัวเราะ
“ไม่ได้เขินกูตกใจ”
“ไม่เชื่ออะ” ซึ่งเมื่อเขาพูดประโยคนี้เสือมันทำท่าจะเดินเข้ามาหาแต่ไทเกอร์ไหวตัวทันถึงได้รีบวิ่งหนีโดยที่มีร่างสูงของเจ้าของห้องเดินตามอยู่เช่นกัน เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นมาในขณะที่บัดนี้สองร่างกำลังเดินไล่กันอยู่
...หมับ!..
“ปล่อย!” จนก็เป็นเสือที่คว้าตัวของไทเกอร์เอาไว้ได้
“มึงยั่วหรอหะ”
“ใครยั่วไม่ได้ยั่ว!” เขาตะโกนตอบพลางพยายามดิ้นและสิ่งที่เสือทำก็คือการจับไทเกอร์ให้พลิกหันหน้าเข้าหาก่อนใช้แขนรั้งเอวบางเอาไว้แล้วดันอีกร่างเข้าใส่กับโต๊ะอาหารกลางห้องครัว จากเสียงหัวเราะในครั้งแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นการหุบยิ้มลงเมื่อพบว่าในตอนนี้หน้าชักจะอยู่ใกล้กันเกินไปแล้ว
ไทเกอร์สบสายตาอีกร่างที่บัดนี้เริ่มเคลื่อนใบหน้าใกล้เข้ามา
ปลายจมูกของพวกเราชนกันก่อนต่างคนต่างเปลี่ยนองศาของดวงหน้า
“อือออ...” เมื่อริมฝีปากแนบสนิทเข้าหากันเสียงครางในลำคอดังแผ่วพร้อมปลายริมฝีปากของทั้งสองร่างที่บดเบียดเข้าหา ลมหายใจเริ่มติดขัดเมื่อร่างกายในตอนนี้แทบจะบดเบียดกลืนเป็นร่างเดียวกัน ลิ้นร้อนแทรกผ่านกลีบปากสีสดได้รูป ดูดดึงคลอเคลียกันอยู่แบบนั้นโดยที่ต่างคนต่างผลัดกันรุกจูบ เชื่องช้า อ้อยอิง จนสุดท้ายก็เป็นไทเกอร์ที่งุดหน้าหลบลงก่อนเม้มปาก
“เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปเรียน....” คนตัวขาวพึมพำประโยคนี้ออกมา
“ไม่ต้องไปหรอก”
“มึงอย่ามาไอ้เสือไอ้สันขวาน ออก” เสือหลุดขำเมื่อถูกด่าแถมในระหว่างนี้ร่างสูงยังแลบลิ้นเลียขอบปากของตัวเองพร้อมมองหน้าไทเกอร์ด้วยแววตากรุ่มกริ่มอีกตางหาก และไทเกอร์ใช้มือตบหน้าผากของเสือไปอีกรอบก่อนเดินไปหยิบขนมปังปิ้งที่เสร็จเรียบร้อยออกมาจากเครื่อง ยืนกินขนมปังอยู่ข้างกันโดยที่แอบชำเลืองสายตามองกันไปมาอยู่แบบนี้
“จะไปรถไฟฟ้าหรือจะไปรถกู”
“มันร้อนแล้ว” ไทเกอร์ตอบ
“ลืมไปว่ามากับคุณหนู”
“พูดมาก ถือกระเป๋าให้ด้วยหนัก”
“ตั้งแต่มีกูนี่อ่อนแอขึ้นเยอะเลย” ปากบ่นไปแบบนั้นแต่เสือก็ยอมที่จะเดินไปหยิบกระเป๋าของไทเกอร์ออกมาให้ เมื่อเอาของออกมาหมดเรียบร้อยร่างสูงก็เพียงเดินเข้าไปหาคนที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง เห็นว่าไทเกอร์กำลังกดเล่นโทรศัพท์ของตัวเองอยู่เสือถึงได้ชะโงกหน้ามองเข้าไปว่าอีกร่างทำอะไร
“คุยกับใคร”
“ไอ้ทอย มันถามว่าจะมาเรียนมั้ย” นี่คือคำตอบ
“คุยไรกันเยอะจังวะ”
“แล้วมึงหึงมันกับกูเนี่ยนะ”
“เออ!” นอกจากจะไม่ปฏิเสธยังมีการรับคำมาแบบใบหน้าหงุดหงิดอีกด้วย ไทเกอร์แอบไม่พอใจแต่ก็แอบเขินนิดหน่อยเลยทำเนียนเดินนำโดยที่มือก็กดตอบแชทของทอยไประหว่างทาง เมื่อเข้ามานั่งในรถไทเกอร์แอบชำเลืองมองอีกร่างพ่วงด้วยการที่เอื้อมมือไปดึงแก้มของเสือเพื่อเรียกร้องความสนใจเสียหน่อย
“งอนไร” ไทเกอร์ถาม
“งอนมึงอะ”
“ดีกันดีกว่า” เขาพูดพร้อมยื่นนิ้วก้อยไปง้อซึ่งเสือหันมามอง ทำเล่นตัวใส่ซักพักแต่สุดท้ายก็ยอมที่จะคล้องนิ้วก้อยด้วยซึ่งท่าทางแบบนี้ของเสือเรียกรอยยิ้มของไทเกอร์ให้ปรากฏออกมา ขับออกมาไกลพอควรซักพักเสือก็พูดบางประโยคขึ้นในระหว่างที่รถกำลังติดไฟแดง
“ตอนเย็นว่างปะ”
“ไมอะ” ไทเกอร์ถามกลับ
“ไปกินข้าวเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ” คนถูกชวนนิ่งลงไปเล็กน้อยแต่เพราะคิดว่าก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรถึงได้พยักหน้ารับออกไปพร้อมหยิบน้ำเปล่าที่วางอยู่ในรถของเสือขึ้นมาดื่มเพื่อแก้อาการกระหายที่มีในตอนนี้ เมื่อไม่มีอะไรให้ต้องคุยแล้วดังนั้นเสือถึงได้เลือกเปิดเพลงพร้อมหันกลับมาตั้งใจในการขับรถ และรถยนต์คันสวยหรูก็เคลื่อนกลับมายังจุดเดิมอย่างประตูหลังมหาลัยที่เสือมาส่งทีไรก็มาจอดอยู่แค่ตรงนี้
“เลิกกี่โมงเย็นนี้” ระหว่างที่ไทเกอร์กำลังหยิบกระเป๋าเสือถามขึ้น
“สี่โมง”
“งั้นเดี๋ยวกูมารอที่เดิม เคมั้ย”
“อ่าหะ” คุยกันเสร็จก็เดินลงจากรถพร้อมด้วยการแอบชำเลืองมองว่าเสือจะขับไปทางไหนต่อจนพอเห็นว่าอีกร่างขับตรงไปทางสระว่ายน้ำของมหาลัยไทเกอร์ถึงได้เลิกสนใจแถมยังสบายใจด้วยว่าอย่างมากวันนี้อีกคนก็ไม่ได้โดดซ้อม ระหว่างทางที่เดินมายังตึกคณะแน่นอนว่ายังคงมีสายตาจากคนอื่นมองมาตามปกติ แถมวันนี้ยังแอบมาสายนิดหน่อยเพราะฉะนั้นเมื่อเปิดประตูเข้าไป
...แกร๊กกกก...
“มาสายสองครั้งเชคเป็นขาดหนึ่งครั้งนะอย่าลืม!” นี่คือคำทักทายจากอาจารย์
“เหลืออีกกี่ครั้งอะจารย์ ผมจะได้ขาดให้ครบ” เมื่อเขาสวนไปแบบนี้อีกร่างมีท่าทีแทบจะปาปากกาไวท์บอร์ดใส่หน้าถ้าไม่ติดว่าไทเกอร์รีบเดินมายังที่นั่งของตัวเองอยู่ เห็นว่าพวกไอ้ทอยหัวเราะคิกคักถูกใจจนเมื่อเขานั่งลงได้เพื่อนสนิทที่พักนี้แอบห่างกันจึงรีบขยับเก้าอี้เข้ามาหา
“สัส...วันนั้นกูไม่น่าลืมชวนมึงเลย”
“วันไหน” ไทเกอร์ถามกลับขณะล้วงมือถือออกมาเล่น
“คืนสองคืนก่อนมั้ง กูไปผับมา”
“อืมไม่ชวนไง” เมื่อเขาว่าไปแบบนี้ทอยหัวเราะถูกใจพร้อมรีบรั้งเข้าไปโอ๋
“แต่ก็ดีนะ มึงจะได้ไม่เจ็บตัวเพราะกูเจอไอ้เสือ”
“ที่ไหน” ถ้าตามปกติคงเพียงไม่สนใจแต่กับในตอนนี้ไทเกอร์กลับแทบจะปกปิดใบหน้ากังวลของตัวเองเอาไว้ไม่ไหว ดวงตาคู่สวยมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างเฝ้ารอว่าทอยจะตอบประโยคอะไร พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเสือเขาก็กระโจนเข้าใส่อย่างห้ามตัวเองไม่ไหวเลย
“ก็ผับเดิมแหละ ไมวะ”
“แล้ว...มันไปกับเพื่อนมันหรอ”
“กับเมียมันดิ...แซ่บเว่อร์นัวกันจม” ทอยเล่ามาด้วยใบหน้าติดยิ้มอย่างผู้ชายทั่วไปที่ได้ฟังหรือพูดคุยเรื่องแบบนี้ ไทเกอร์เองได้แต่เพียงยิ้มแห้งพลางฝืนพยักหน้ากลับไปเหมือนว่ารับรู้แล้ว อยากจะหัวเราะให้ดังเหมือนปกติแต่ก็ยากจนทำได้แค่ฝืนยิ้มแล้วนั่งเงียบต่อเท่านั้น
“ว่าแต่มึงเลยคุยกับมิ้งแล้วหรอ”
“เลิกแล้ว”
“เออกูก็ว่ามิ้งถึงได้อยู่แต่กับไอ้เสือ เจอตั้งสองสามครั้งอะสัสเวลาไปผับ...น่าเข้าไปกระทืบแต่กูไปคนเดียวไง”
ตอนนี้ไม่ได้สนใจฟังอะไรอีกแล้ว
เขาเพียงแค่อยากจะให้เวลามันเดินไปถึงเย็นนี้เสียที
............................
“เป็นไรหน้าบูดมาเลย” คำถามแรกดังมาจากร่างสูงที่กำลังท้าวแขนอยู่บนพวกมาลัยรถพร้อมสายตาที่ชำเลืองมองร่างข้างกายที่เพิ่งจะเดินเข้ามา เสียงกระแทกปิดประตูรถที่ดังกว่าปกติรวมไปถึงใบหน้าของไทเกอร์ที่เรียบนิ่งจนสังเกตได้กำลังทำให้เสือต้องขมวดคิ้วพลางคิดว่าวันนี้อีกร่างไปมีเรื่องกับใครมาอีก
“เกอร์”
“อะไร”
“เป็นอะไร” เสือถามอีกครั้ง
“มึงยังไม่ได้เลิกคุยกับมิ้งใช่มั้ย” คำถามนี้ที่ไม่มีใครคิดว่าจะหลุดดังออกมาสร้างอาการชะงักนิ่งจากร่างของคนถูกถามอย่างเสือ คนตัวสูงมีท่าทีอึกอักเช่นเดียวกับดวงตาที่แทบจะไม่กล้าสบตากับไทเกอร์ในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
“ทำไมถามกูแบบนี้”
“กูถามมึงก็ตอบดิ”
“กูเลิกคุยแล้ว” แต่คำตอบของเสือยังไม่ได้ทำให้คนฟังรู้สึกดี
“แล้วถ้ากูบอกว่าไม่เชื่อหละ”
“ถ้างั้นแล้ว...”
“ไอ้ทอยมันเห็นมึงอยู่กับมิ้งที่ผับ!” เสียงตะโกนที่ดังทำให้เสือต้องมองซ้ายขวาที่ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนและคนก็เยอะดังนั้นเขาถึงได้เลือกที่จะยังไม่โต้ตอบแล้วเพียงขับรถออกมาจากจุดเดิมเท่านั้น ไทเกอร์พ่นลมหายใจหงุดหงิดแล้วแถมตลอดทางไม่ว่าเขาจะถามอะไรแต่อีกร่างก็ยังทำเงียบไม่ตอบเท่านั้น แล้วกับสถานที่ที่เสือเลือกขับมาจอดก็คือริมถนนซึ่งห่างจากมหาลัยออกมาในระยะทางที่ไม่มากนัก
“มึงจะอธิบายยังไง”
“กู........” การที่อีกคนอึกอักมันก็เหมือนว่าคือคำตอบสำหรับในตอนนี้
“มึงยังคุยกับมิ้งอยู่ใช่มั้ย”
“..........”
“กูถาม!”
“อืม” แล้วคำตอบรับที่ถึงแม้จะแผ่วเบาจากอีกร่างทำไทเกอร์ต้องกระตุกยิ้ม
“ก็แค่นั้น”
...หมับ...!
แต่พอเขาจะเดินลงจากรถเสือก็กลับใช้มือรั้งแขนขาวเอาไว้
“มึงฟังกูก่อนได้มั้ย”
“มันยังมีอะไรให้ต้องคุยกันอีกหรือไงวะ!!ปล่อยกู”
“แต่กูชอบมึง....” จนเสียงพึมพำจากปากของเสือ
“ปล่อย กู”
“กูชอบมึงจริงๆ” น้ำเสียงที่ชัดเจนและแววตาจริงจังของเสือกำลังทำให้ไทเกอร์สับสนและยากจะวางตัว แต่ถึงอย่างนั้นในตอนนี้ไทเกอร์ขอยืนยันว่าเขายังไม่ต้องการที่จะคุยกับมึงดังนั้นสิ่งที่ทำถึงได้เป็นเพียงการดึงแขนของตัวเองออก
..ปึก..!
ก่อนปิดประตูรถและเดินลงมา ขายาวรีบก้าวพาตัวเองให้ออกห่างจากตรงนี้ พยายามขมวดคิ้วเพื่อบังคับไม่ให้ตัวเองจะต้องร้องไห้ด้วยเรื่องงี่เง่าแบบนี้อีก เคยคิดมาตลอดว่าถึงเราจะไม่เคยพูดว่ารู้สึกยังไงต่อกันแต่เสือก็คงจะไม่มีใครเหมือนอย่างที่เขาซึ่งกล้าจะตัดคนอื่นออกจากชีวิตเหมือนกัน
แต่ไอ้ตรรกกะที่ถ้าจริงจังกับใครแล้วจะได้ความจริงจังกลับมา
แม่งโคตรล้มเหลวเลยว่ะ
# # # # # #