ตอนที่18
#เครื่องกลชนโยธา
วันนี้เลิกเรียนค่อนข้างเร็วและเสือเองไม่มีนัดซ้อมดังนั้นเวลาที่เหลือก่อนเที่ยงคืนของวันถึงได้ถูกเลือกจะมาทิ้งเอาไว้ยังห้างสรรพสินค้ากลางกรุงที่รวมวัยรุ่นหลายช่วงอายุไว้ด้วยกัน ทุกวันนี้ขึ้นบีทีเอสบ่อยจนสมัครใช้บัตรสมาชิกแล้วเติมเงินแทนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปต่อคิวซื้อบัตรแล้ว ไฟสีส้มภายในห้างท่ามกลางร่างของบุคคลทั้งสองที่เดินเคียงกันโดยที่หนึ่งคนมีกระเป๋าเป้หนึ่งใบอยู่ในมือส่วนอีกคนข้างกันในมือก็ไม่ได้ว่างเนื่องจากกำลังถือโคนไอศครีมอยู่
“จะไปซื้อไรอะ” เดินเงียบมานานแล้วก็เป็นเสียงของเสือที่ดังพร้อมสายตาที่ชำเลืองมองคนข้างกายด้วย
“ไม่ได้ซื้อ ว่าง...ก็เลยชวนมา” เมื่อเอ่ยตอบจบคำไทเกอร์ก้มงับไอศครีมในมือของตัวเองอีกครั้งพร้อมด้วยการที่ยังคงมองนั่นนี่รอบด้านอย่างไม่มีอะไรทำ เอาเข้าจริงไทเกอร์ก็แค่อยากลองไปที่อื่นที่ไม่ใช่เพียงแค่พอเลิกเรียนก็จะมาเจอกันที่สถานีบีทีเอสแล้วก็ให้เสือเดินมาส่งที่บ้านแล้วก็ต่างคนต่างกลับโดยมีเพยงการนอนคุยกันผ่านโทรศัพท์เท่านั้น
แต่ที่จริงมันก็ไม่ได้แย่หรอกกับความสัมพันธ์ที่แค่เดินมาส่งกันที่บ้านอะ
เพราะช่วงเวลาแต่ละวันที่เดินด้วยกัน มันก็ มีอะไรดีตั้งหลายอย่าง...
“ก็ถ้าไม่ติดซ้อมแล้วเลิกดึกก็จะพาไปเที่ยวหลายๆที่แล้ว” เป็นเสือที่พูดขึ้นมา
“ไม่เห็นจะเคยว่างเลย”
“วันนี้ว่างแล้วไง” ซึ่งเสือพูดประโยคนี้มาพร้อมวางมือลงบนหัวของอีกร่างแล้วจับเอาไว้จนไทเกอร์ต้องชำเลืองมองด้วยหางตาจนพอที่ใครอีกคนหันมาเขาถึงได้ยักคิ้วกลับไปพร้อมส่งยิ้มกวนไปให้ที ซึ่งพอไทเกอร์ชักสีหน้าแล้วสะบัดหน้าหนีเสือถึงได้หลุดหัวเราะแล้วรีบเดินตามร่างของคนตัวขาวจัดไป
“เครื่องแกง” แต่เพราะว่าใครอีกคนเดินไม่รอเสือเลยเรียกด้วยประโยคนี้
“ว่าไงนะ” แล้วมันได้ผลเพราะอีกร่างหยุดเดินเร็วแล้วหันมาจริง
“เดินไม่รอ”
“เมื่อกี๊เรียกกูว่า...”
“เครื่องแกง”
..ปึก!..
“โอ้ยย!” ในทันทีที่ไทเกอร์ต่อยหมัดกระแทกใส่ไหล่ เสือร้องเสียงดังออกมาทั้งที่ริมฝีปากยิ้มกว้างนอกเหนือกว่านั้นยังกลั้นขำจนตัวแอบสั่นและไทเกอร์ที่มองอยู่ขมวดคิ้วมองอีกร่างพลางบ่นพึมพำกับตัวเองว่า กวนตีน
“กินไรเดี๋ยวผมเลี้ยงครับ” แต่พอเห็นว่าอีกคนชักจะโกรธจริงเสือถึงได้เนียนง้อเขาหน่อย
“ไม่ต้องมาเสือกหรอกบ้านกูรวย” ซึ่งประโยคนี้จากปากของไทเกอร์ทำคนฟังแทบจะหลุดเสียงหัวเราะแต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องกลั้นเอาไว้พลางใช้แขนโอบไหล่อีกร่างไว้ด้วย พอเขาชะโงกหน้าลงไปหาไทเกอร์ก็จะหันหนีไปอีกทางทั้งที่ก็ยังยอมเดินด้วยกันแต่ก็ยังอยากจะงอน แล้วก็คงจะต้องขอบคุณห้างนี่แล้วหละที่ใหญ่มากจนสามารถเดินเล่นฆ่าเวลาและให้คนง้อกันได้ด้วย
“ไอติมอีกป่าว” เสือถามอีกครั้ง
“ไม่”
“กาแฟสตาร์บัคส์มะ”
“ไม่”
“ก๋วยเตี๋...”
“ไม่” แต่ไม่ว่าจะถามอะไรคำตอบจากคนในอ้อมแขนก็ยังคือไม่
...ฟอดด..!
“ไอ้เสือ!” จนพอเสือกดฝังปลายจมูกลงมาบนแก้มนั่นแหละไทเกอร์ถึงได้พูดคำอื่นออกมาได้ แถมนอกเหนือไปกว่านั้นเขายังต้องรีบยกมือลูบแก้มของตัวเองพลางมองอีกร่างสลับกับโดยรอบว่ามีใครเห็นมั้ย ดีหน่อยนะที่บริเวณนี้ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่แถมไอ้ตัวดีอย่างเสือยังเพียงยืนยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่อีก ไทเกอร์กำลังทำตัวไม่ถูกเพราะตั้งแต่คืนนั้นพวกเราก็แทบไม่ได้อะไรกันนอกเหนือจากเพียงการแตะเนื้อต้องตัวกันธรรมดาเท่านั้น
“เขิน” แล้วเสียงของเสือที่ดังมาอีก
“ใครให้มึงมาหอมกู” แต่ไทเกอร์กลบเกลื่อนโดยการถามเสียงแข็งแต่หน้าแดง
“ทำเอง สบายใจ”
“-//////-“ แล้วเข้าใจอารมณ์คนไม่รู้จะพูดอะไรมั้ย...
“หายโกรธยัง” จนพอโดนถามไทเกอร์ถึงพยักหน้ารับไปเล็กน้อยและเสือก็เดินเข้ามากอดคอของร่างตรงหน้าอีกครั้งก่อนเดินไปด้วยกันโดยที่ตอนนี้เสือเองก็มีแอบจะหน้าแดงขึ้นมาบ้าง ไม่คิดเหมือนกันว่าเมื่อกี๊จะกล้าทำอะไรแบบนั้นกลางที่สาธารณะแบบนี้ ต่างคนก็ต่างเขินแต่ก็พยายามกลบเกลื่อนและเปลี่ยนเรื่องเป็นว่าไปหาอะไรกินดีกว่า
“เอาชุดไหน” ร้านที่เลือกจะเข้ามาก็คือร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง
“แบบนี้” และไทเกอร์ชี้นิ้วไปยังชุดอาหารบนเมนูเมื่อเสือถาม
“งั้นเอาเหมือนกันเนอะ” เมื่อร่างสูงถามอีกไทเกอร์ก็พยักหน้ารับและเสือก็สั่งอาหารไป
“เอากาแฟปั่นกับนมสดปั่นแก้วนึงด้วยครับ” พร้อมด้วยการที่ไม่ลืมจะสั่งไอเทมเซตประจำตัวไปด้วย ไทเกอร์ที่ได้ยินก็เงยหน้าขึ้นมาจากเกมในมือถือพร้อมยิ้มให้คนที่รู้งานอย่างเสือ ระหว่างที่รออาหารต่างคนก็ต่างก้มหน้าเล่นโทรศัพท์แต่ก็ไม่ได้มีใครจะไม่พอใจกันหรอกนะ นอกเหนือไปกว่านั้นไทเกอร์ยังแอบยิ้มเมื่อพบว่าไอ้คนที่นั่งตรงข้ามเพิ่งจะลงรูปอะไรไปในเฟสบุ๊ค
ภาพแก้วน้ำเปล่าสองใบบนโต๊ะ
ที่ถึงแม้ในภาพจะไม่บอกว่ามากับใครแต่ก็ดูรู้ว่ามีเจ้าของแล้วนะ
...<3..
แล้วแคปชั่นก็ หัวใจอีกแล้ว...
“ดูหนังกันก่อนมั้ยซักเรื่องนึง กลับดึกได้หรือเปล่า” พอโดนเสือถามไทเกอร์ถึงได้เงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์
“ได้”
“งั้นดูหนังกันนะ”
“อื้ม!” ไม่รู้ว่าจะยิ้มทำไมก็แค่ชวนกันดูหนัง แถมยังยิ้มไร้เหตุผลพร้อมกันทั้งคู่อีก หัวใจก็เต้นแรงเพราะที่รู้มาตลอดคนที่จะไปดูหนังด้วยกันสองคนนี่มันต้องมีความสัมพันธ์ค่อนข้างลึกซึ้งหรือเปล่า แต่กับไอ้ทอยเขาก็เคยไปสองคนแต่เราเพื่อนกันไง
แต่เขากับเสือเราไม่ใช่เพื่อนกัน
แล้วอย่างงั้น...
“อาหารมาแล้วค่ะ” แค่อาหารที่มาเสริฟขัดความคิดของไทเกอร์ไว้ได้และก็ช่วยให้พวกเขากลับมาคืนสู่อารมณ์ปกติโดยไร้อาการเขินกันเสียที ตอนนี้คนทั้งคู่กำลังนั่งทานข้าวโดยที่มีเสียงถามจากเสือเป็นระยะและน้ำเสียงที่บางทีก็แลจะเอาแต่ใจของไทเกอร์ที่ดังมาบ้าง แต่โดยหลักก็จะเป็นการคุยเรื่องทั่วไปที่บางเรื่องก็ไม่เคยรู้ทั้งที่ก็เห็นกันมาตั้งนาน
“อาทิตย์หน้าแข่งไปเชียร์ด้วยนะ” เสือพูดขึ้นขณะดูดน้ำจากแก้ว
“กูไม่เคยดูคนว่ายน้ำ”
“มึงก็เคยดูกูว่ายแล้วไง”
“ไม่ใช่ หมายถึงแบบแข่งดิ”
“อ้าวจะไม่ไปเชียร์แฟนหรอ” เหมือนว่าประโยคเชิงเล่นเชิงจริงของเสือจะทำให้คนฟังแทบจะชะงักนิ่งแล้ววิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ แถมไอ้คนพูดยังยิ้มกวนพร้อมยักคิ้วให้เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มจะเขินอีกแล้ว ไทเกอร์ก้มดูดน้ำเพื่อเนียนหลบสายตาของอีกร่างจนเมื่อถูกถามอีกเขาถึงได้พึมพำตอบไป
“ก็ต้องไปอยู่แล้วดิ”
“เอาเหรียญไร”
“ที่หนึ่ง” และเสือไม่ได้พูดตอบแต่เพียงชูนิ้วก้อยขึ้นประมาณว่าสัญญาแล้ว ซึ่งเมื่อทานอาหารอิ่มเรียบร้อยต่อไปก็ได้เวลาไปดูหนังตามที่เสือชวนซึ่งเมื่อมาถึงหน้าโรงภาพยนตร์คนที่เลือกว่าจะดูเรื่องอะไรแน่นอนว่าคือไทเกอร์ เขาเลือกจะดูหนังผีเพราะมันคือแนวที่ชอบและเสือก็ไม่ได้ขัดขืนด้วย
“เอาตั๋วมานี่ เอาใส่กระเป๋าไว้” เสียงของเสือดังมาพร้อมมือที่ยัดตั๋วหนังใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ของไทเกอร์ที่เขาถืออยู่
“ปวดฉี่ว่ะ” แต่หนังเกือบจะเข้าแล้วไทเกอร์ก็พึมพำคำนี้
“จะไปหรอ?”
“ไป”
“งั้นก็ลุก” พอเสือว่ามาแบบนี้ไทเกอร์ก็ลุกขึ้นยืนพ้อมถือของมาด้วยและเดินตามเสือไปยังห้องน้ำของโรงภาพยนตร์ที่ดูท่าคนเยอะเอาการเพราะเหมือนหนังเรื่องก่อนเพิ่งจะจบไปเลยมีคนมาเข้าห้องน้ำเยอะ และเพราะแบบนี้ไทเกอร์เลยสั่งให้เสือยืนรอข้างนอกก็ได้เดี๋ยวเขาจะเข้าไปคนเดียว
เมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จก็เดินมาล้างมือล้างหน้า
แต่ตอนนี้เมื่อมองออกไปหน้าห้องน้ำ ไทเกอร์เห็นว่าเหมือนเสือกำลังยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่
“มันมีเรื่องหรอวะ” คนตัวขาวพึมพำประโยคนี้จนในจังหวะที่เหมือนคนพวกนั้นจะเดินออกไปแล้วเขาก็เดินพ้นจากจากห้องน้ำพอดี ซึ่งภาพตรงหน้าทำไทเกอร์ต้องชะงักยืนนิ่งพลางมองพวกชายกนุ่มเบื้องหน้าที่ก็กำลังมองมาที่เขาเหมือนกัน
พวกนั้นไม่ได้มีเรื่องกับเสือ
แต่พวกมัน คือเพ่อนของไอ้เสือตางหาก...
“ไอ้เสือมึงเจอโจทย์ว่ะ” เป็นเสียงจากคนในกลุ่มของเสือที่ดังและตามด้วยเสียงหัวเราะแต่พอพวกนั้นจะหรูเข้าหาเขาเสือก็รั้งไว้
“อะไร ไม่เอาหรอ”
“คนเยอะ...ค่อยว่าวันอื่น” คำตอบของเสือทำไทเกอร์มีหน้าชาเล็กน้อย ระหว่างนี้ที่อีกร่างเดินกลับไปพร้อมกลุ่มเพื่อนของตัวเองเขาก็ได้แค่ยืนมองและถอนหายใจออกมาเท่านั้น มองไปยังมุมประตูห้องน้ำก็พบว่าเสือมันวางกระเป๋าของเขาทิ้งลงบนพื้นเอาไว้ ก้มเก็บขึ้นมาพร้อมปัดฝุ่นและต้องล้วงหยิบมือถือของตัวเองเมื่อพบว่ามันสั่น
//วันนี้กลับเองได้มั้ย//
...อืม..
และไทเกอร์พิมพ์ข้อความกลับไปก่อนสะพายกระเป๋าใส่หลังแล้วเดินออกไปอีกทางซึ่งไม่ใช่ทางที่จะไปดูหนัง เขาเดินออกมายังส่วนของห้างที่เชื่อมกับประตูบีทีเอสพอดี การขึ้นบีทีเอสคนเดียวครั้งแรกในรอบอาทิตย์เหงานิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้แย่อะไรมากนักหรอก รถเมล์ก็มีคนอื่นขึ้นด้วยตั้งเยอะก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย
...แหมะ..
แต่เมื่อถึงตอนที่ต้องเดินเข้าไปในซอยบ้านคนเดียวแล้วเดินก้มหน้า ไทเกอร์ก็คิดว่าบางทีฝนอาจตกหละมั้งเพราะบนพื้นตรงเขาเดินมีหยดน้ำหยดลงมาด้วย แต่ฝนอะไรไม่รู้ตกก็ไม่เห็นจะเปียกตรงตัวเลย เปียกแค่ตรงหางตากับแค่ตรงแก้มของเขาเอง
“อาเกอร์ ลื้อกินข้าวมายัง”
“กินแล้วม๊า” ไทเกอร์ตอบไปพร้อมเดินขึ้นห้องตัวเอง
...กึก..!
เมื่อเข้ามาในห้องใบหน้าของเขายังคงเรียบนิ่งแต่ในแววตายังแสดงความน้อยใจเช่นเดิม แต่ก็ส่ายหัวบอกตัวเองว่าจะคิดมากทำไมและก็เดินเข้าไปอาบน้ำล้างหน้าให้สดชื่นเพื่อที่จะได้กลับมานอน แต่พอนอนบนเตียงปุ้บสิ่งแรกที่ทำก้ยังไม่พ้นการนอนมองโทรศัพท์เพื่อรอข้อความจากอีกคน
สามทุ่มก็ยังเงียบ
จนสี่ทุ่ม
ห้าทุ่ม...
“...!” จนพอไปส่องหน้าเฟสของเสือแล้วพบว่าสเตตัสล่าสุดก็คือการที่ใครอีกคนถูกแท็กว่าอยู่ที่ผับแห่งหนึ่ง และคงเพราะสาเหตุนี้อะดิเลยไม่ได้บอกเขาอะว่ากลับบ้านยังหรือว่าไปไหนต่อ ยอมรับว่ามีน้อยใจแต่เขาไม่ได้งี่เง่าไรขนาดนั้นและก็เพียงแค่เลื่อนปิดแอพเฟสบุ๊คลงพลางเตรียมตัวนอน
..ครืดด..
แต่แล้วแรงสั่นเพราะมีข้อความเข้าก็ทำไทเกอร์ต้องรีบค้วาโทรศัพท์มาดู
//เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปด้วยกันอีกก็ได้ นะ//
...ไม่ได้โกรธ.. แต่เขาก็ไม่ได้โกรธมันจริงๆนี่ แค่น้อยใจหรอก
//ฝันดี//
...แล้วมึงจะนอนต่อไหน... เป็นเพราะวันนี้คุยกันก่อนนอนแปปเดียวไทเกอร์เลยงอแงจะคุยต่อนิดหน่อย
//เดี๋ยวก็นอนแล้ว//
...อืม...
//พรุ่งนี้ให้ไปรับปะหละ จะได้เอารถไป//
...แล้วแต่ดิ...
//เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปรับ// แล้วเขาอะพอเจอมันทำแบบนี้ใส่ทั้งความรู้สึกนอยหรืองอนก็หายไปหมดเลย คุยกันเสร็จไทเกอร์ก็วางโทรศัพท์มือถือลงพร้อมดึงมาผ้าห่มมาคลุมตัวไว้และปิดไฟลงซะ แต่ถึงแม้จะพยายามนอนหลับกระนั้นก็ยังนอนไม่หลับแล้วคิดอะไรไร้สาระไปเรื่อย เป็นเพราะว่าไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขากับไอ้เสือเป็นอะไรกันอยู่อะ
เพื่อนสนิทก็ไม่น่าใช่
แถมเหมือนก็ต่างคนต่างรู้อะว่ารู้สึกยังไงต่อกัน
แต่ทำไม...
...หรือว่าบางทีเขาควรจะถามมันนะ...
# # # # # # # #
