ตอนที่4
#เครื่องกลชนโยธา
“เดี๋ยวกูก็เอายัดปากหรอกไอ้เหี้ย”
...หมับ...!
มันพูดจบประโยคปุ้บไทเกอร์ก็หันไปคว้าหมับเข้าที่คอเสื้อของใครอีกคน เขากำลังจะง้างหมัดต่อยแต่ต้องชะงักเพราะสายตาของคนทั้งบีทีเอสที่กำลังมองมา ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดก็คือแววตาที่โคตรกวนตีนของเสือที่กำลังยั่วอารมณ์ของเขา มันน่าหัวเสียก็ตรงที่ตรงนี้มันคือที่สาธารณะและเขาก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้ นอกเหนือไปกว่านั้นกว่าจะถึงสถานีปลายทางคนยังเยอะขึ้นจนร่างของไอ้เสือแทบจะสิงตัวของเขาอยู่แล้ว
“ขยับออกไปหน่อยได้มั้ยวะ”
“พิศวาสตายแหละ” มันว่ามาแบบนี้จนไทเกอร์ต้องขมวดคิ้ว
“ตามกูมาทำไม!” แต่ไทเกอร์ต้องตวาดอีกรอบเพราะเมื่อเขาเดินออกมาจากรถไฟฟ้า ไอ้เสือมันก็เดินตามลงมาเช่นกัน แต่เหมือนจะไม่ใช่แค่ไทเกอร์ที่มีใบหน้าหงุดหงิดเพราะเสือเองก็ขมวดคิ้วแน่นพลางจ้องหน้าของไทเกอร์กลับเช่นกัน
“ก็กูต้องลงสถานีนี้” เสือว่าขึ้นมา
“บอกพ่อกับแม่มึงย้ายบ้านเลยนะ รำคาญ” ไทเกอร์ทิ้งประโยคที่ทำเอาคนฟังต้องเลิกคิ้วพลางอ้าปากค้าง เสือมองคนที่เดินหนีออกไปก่อนจะรีบเดินไปแตะบัตรแล้วเดินตามมันลงไปซึ่งภาพที่เห็นตอนนี้ก็คือไอ้คู่อริตัวขาวยังกับหยวกกล้วยที่กำลังยืนรอรถเมล์อยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่าสาเหตุที่มันต้องมารถโดยสารเพราะอะไรแต่สำหรับเขาคือเพราะกำลังเอารถไปทำเครื่องใหม่ ก็เลยต้องบีทีเอสกลับบ้านเอง ถ้าหากว่าวันนี้ไม่ได้กลับบ้านแต่กลับคอนโดแทนเขาก็คงไม่ต้องมาเจอไอ้ไทเกอร์มันหรอก หงุดหงิดชะมัดเลยว่ะ
แถมมันแย่ตรงที่ต้องขึ้นรถเมล์สายเดียวกัน
แต่ถึงแม้จะลงคนละที่ แต่มันก็ โว้ยย!
เสือไม่ได้เดินเข้าไปใกล้ใครอีกคน เขาก็ยืนรอรถอยู่คนละมุมของป้ายรถเมล์กับมัน จนพอรถเมล์สายที่ต้องขึ้นมาเขาถึงได้เดินขึ้นไปแต่เหมือนนรกจะกลั่นแกล้งเพราะรถเมล์ทั้งคันเหลือที่นั่งติดกันแค่สองที่ แถมพอเสือเลือกจะยืนกระเป๋ารถเมล์ก็ยังมาไล่บอกให้ไปนั่งยังที่ว่างข้างไอ้ไทเกอร์มันอีก
“เสือก” ประโยคแรกที่พอเสือนั่งปุ้บ ก็คือคำนี้ที่ดังมาจากไทเกอร์
“พ่อมึงเป็นกระเป๋ารถเมล์หรอ ถึงทำกร่าง”
“มึงไม่รอขึ้นคันอื่นหละ เสือกมานั่งข้างกูทำไม”
“พูดมากเหม็นปาก ขยับไปให้ติดกระจกเลยไอ้เหี้ย” พอเสือพูดแบบนี้ไทเกอร์ก็ชักสีหน้าพลางขยับไปจนชิดขอบตามที่มันบอก พอกระเป๋ารถเมล์เดินมาเก็บตังค์พวกเขาสองคนก็จ่ายตังค์ไปแต่ปลายทางที่จะลงมันก็ไกลอยู่เพราะต้องนั่งรถเมล์ตั้งเกือบชั่วโมงเลยนะ
...ซ่าา!!..
แถมฝนก็ยังเสือกตกลงมาแล้วไทเกอร์จากที่นั่งชิดหน้าต่างในตอนแรกก็เปลี่ยนมาเป็นการขยับเข้ามาด้านในกว่าเดิมเนื่องเพราะกระจกปิดได้ไม่แน่นแล้วฝนสาด เสือเบี่ยงไหล่หลบและไทเกอร์เองก็ตวัดสายตามองมันอย่างหมั่นไส้ แม่งคิดว่าเขาอยากโดนตัวมันมากเลยมั้ง
“เครื่องแกง...”
“อะไรนะ” ไทเกอร์หันไปถามเสียงแข็ง
“ก็บอกว่าเครื่องแกงไง ทำไม”
“มึงอย่ามากวนตีนกูบนนี้”
“ป็อดอย่างมึงจะทำไม” ไทเกอร์แทบคำรามกับคำท้าของมัน
“เดี๋ยวมึงจะได้น้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่ไอ้เสือ” เสือยักไหล่อย่างไม่สนใจแล้วทำเมินเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่ไทเกอร์พูด ไทเกอร์ขมวดคิ้วพลางสะบัดหน้าหนีมองออกไปอีกทาง ตอนนี้ได้แต่ภาวนาให้ถึงที่หมายไวๆซักที แต่เหมือนว่าสิ่งที่เขาขอจะโคตรล้มเหลว เพราะ
..พรึบ!
จู่ๆรถเมล์ที่พวกเขานั่งอยู่ก็ดับพรึบลงกลางทาง
...ฝนมันตกเครื่องมันเลยดับ!เอาเป็นว่า เดี๋ยววิ่งลงไปรอคันใหม่กันก่อนนะ!...
“หะ อะไรนะลุง!” ไทเกอร์ตะโกนถามออกไปในระหว่างที่คนอื่นเริ่มเดินลงรถเมล์อย่างเหมือนไม่ได้ตกใจอะไร คงมีแค่เขากับไอ้เสือที่บืนทำหน้ายักษ์อยู่บนรถเมล์
..ก็ตามนั้นอะ ฝนตก รถเก่าแล้วมันก็ดับเป็นธะรรดา!...
“เป็นธรรมดาด้วย...” คราวนี้เป็นเสือที่พึมพำออกมาแล้วจำใจเดินลงรถเมล์ไปแต่ก็ต้องมายืนชะงักที่ประตูรถเพราะตอนนี้ฝนตกแรงมากแล้วป้ายรถเมล์อีกป้ายก็อยู่ไกลพอควรอีกด้วย แต่ทางเลือกมันไม่มีแล้วดังนั้นเขาถึงได้เลือกที่จะถอดช็อปของตัวเองออกมาบังฝนในระหว่างที่วิ่ง พอมองไปด้านหลังถัดไปไม่เท่าไหร่ก็จะเห็นว่าไทเกอร์มันกำลังวิ่งตามมาโดยใช้ช็อปของตัวเองบังฝนอยู่เหมือนกัน
“เพราะเจอมึงมันถึงได้แต่ซวย!” พอวิ่งตามเสือจนทัน ไทเกอร์ก็ตะโกนประโยคนี้ใส่
“ไม่ใช่ว่าเพราะมึงหรอมันถึงได้ซวย!” เสือตะโกนกลับไป
...หมับ...!
เสือจับเข้าที่เสื้อช็อปบนหัวของอีกคนก่อนกระชากออกจนไทเกอร์เปียกฝนโชกทั้งตัวแบบไม่มีอะไรคอยบัง
“ไอ้เหี้ย!”
“ทำไม แล้วมึงจะทำ...”
..ผลั้วะ!!..
ไม่ต้องรอให้อีกคนพูดจบไทเกอร์ก็ซัดหมัดกระทบดวงหน้าของเสือไปแบบเต็มแรง แต่พอเสือจะสวนหมัดกลับไทเกอร์ก็ดันวิ่งหนีไปก่อนโดยที่เสื้อช็อปของมันยังคาในมือของเขาอยู่เลย แต่เพราะมัวแต่ทะเลาะกันเลยทำให้รถเมล์คันต่อไปได้มาพร้อมผ่านไปเรียบร้อย แถมคนที่ป้ายรถเมล์ที่เคยเยอะก่อนหน้ายังหายไปหมดและก็เหลือแค่เขาสองคนอีกแล้ว
“เอาช็อปกูคืนมา” พอเสือเดินมาถึง ไทเกอร์ก็ทวงทันที
“มาให้กูต่อยคืนก่อนดิ”
“เสือก” ประโยคสั้นห้วนดังออกมาอีกครั้งแต่เสือเบื่อที่จะสนใจมันแล้วเลยเลือกที่จะนั่งเงียบต่อไปดีกว่า โดยที่ในมือก็ยังถือช็อปของไทเกอร์เอาไว้เพื่อแกล้งให้ใครอีกคนได้หงุดหงิดเล่น
“แค่กๆๆ!!” แต่เสียงไอจากคนข้างกยมันทำให้เสือต้องหันมอง
“ทำเป็นอ่อนแอด้วย?”
“ก็ไม่ได้ถึกเป็น ควาย เหมือนมึงไง” ตอนแรกเสือคิดว่าใครอีกคนแกล้งแต่พอได้เห็นหน้ามันแล้วพบว่าในตอนนี้หน้าที่เคยขาวมันกลับเริ่มแอบแดง ปลายจมูกขาวๆของมันก็แดงแล้วปากที่เคยเป็นสีอ่อนก็ชมพูจัดขึ้นมายังกับผู้หญิงทาลิปมันมีสีแต่เสือก็เลือกที่จะเลิกสนใจทันแล้วนั่งรอรถเมล์ต่อไป แต่เหมือนว่าไอ้คนข้างเขามันจะไม่ไหวจนต้องโทรไปหาที่บ้านของตัวเอง
“ม๊า มารับเกอร์หน่อยดิ ฝนตกอะ...อยู่ตรงป้ายรถเมล์ถัดจากซอยบ้านเรามาซอยนึงอะ”
[ละไม่โทรให้ม๊าไปรับที่มอเลยหละอาเกอร์ จะมาเองทำไม ก็รู้ว่าช่วงนี้อากาศมันเปลี่ยนบ่อย]
“อย่าบ่นดิม๊า เร็วๆ คันตัวแล้วเนี่ย”
[รออยู่นั่นแหละๆ] จนพอไทเกอร์วางสาย
“ลูกแหง่” เสียงหนึ่งที่ดังจากเสือก็ทำให้เขาต้องหันมองในทันที
“ลูกแหง่ก็ดีกว่าลูกพ่อแม่ไม่สนใจแล้วกัน”
“มึงว่าไงนะ” จนพอเสือมันเสียงแข็ง ไทเกอร์ถึงได้เงียบลงเพราะรู้สึกว่าตัวเองอาจพูดแรงไป แต่ตอนแรกเขาแค่พูดเพราะไม่รู้ไงว่าที่จริงไอ้เสือมันมีปมอะไรหรือเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นจะเสียฟอร์มไม่ได้ได้ก็เลยทำหน้าเชิดพร้อมมองจ้องดวงตาของมันต่อ
พวกเขามองหน้ากันนิ่งอย่างไม่มีใครยอมใคร
แต่เสือคิดว่าถ้าเขาต่อยมันตอนนี้จะต้องดูเป็นการรังแกคนไม่มีทางสู้แน่
“รอหายสำออยแล้วค่อยเสนอหน้ามาหาเรื่องกูแล้วกัน”
..เพี้ยะ..!
แต่เสืออดไม่ได้จริงๆที่จะตบไปบนหน้าผากของมัน เพราะถ้าไม่ได้ต่อยก็ขอแค่ได้ทำร้ายร่างกายอะไรมันซักอย่างเถอะ โคตรคันมือคันตีนอยากกระทืบแต่ทั้งตาแดงๆกับแก้มแดงๆรวมถึงปลายจมูกของมันนี่คือถ้าเขาต่อยไปหมัดเดียวไม่ล้มหลับลงตรงนี้แล้วลำบากต้องพามันไปโรงพยาบาลอีกหรอ
“แค่กๆๆ!!!”
“กลับไปตายที่บ้านนะอย่าเสือกมาตายข้างกู”
“ปากดีนะไอ้สัส”
“ลีลาก็ดี ไม่ได้ดีแค่ปาก”
“อันเท่านิ้วก้อยของมึงน่ะหรอ” เสือตวัดสายตามองมันทันที
“งัดออกมาวัดกับกูเลยมา”
“โรคจิต” เสือกำลังเตรียมจะพูดต่อแต่ก็ต้องชะงักลงเมื่อพบว่าเหมือนทางบ้านของไทเกอร์จะมาถึงแล้ว พอมองไปก็พบเข้ากับหญิงวัยกลางคนผิวขาวจัดที่บ่งบอกได้ดิบดีว่าเธอคือคนประเทศไหน เห็นแบบนี้เขาเลยไม่แปลกใจที่ไทเกอร์มันขาวจนเหมือนแดกหลอดไฟเข้าไปขนาดนี้
“ไหนๆม๊าดูสิเป็นไงมั้ง ผื่นขึ้นเต็มหน้าเลยหรอเนี่ยอาเกอร์ ป่วยด้วยหรอเนี่ย ลื้อตากฝนหรอ”
“โหม๊า ค่อยพูดดิ” เป็นเพราะเสืออยู่ตรงนี้ ไทเกอร์เลยไม่อยากให้มันเห็นว่าตอนเขาอยู่กับม๊าเป็นยังไง
“เอ้าละนี่เพื่อนหรอ หล่อนะเนี่ย”
“ขอบคุณครับ” เสือยิ้มรับพร้อมขอบคุณในระหว่างที่ไทเกอร์หน้าหงิกไปแล้ว
“กลับกันได้ละม๊า”
“แล้วเพื่อนลื้อหละ ให้ม๊าไปส่งมั้ย”
“ไม่เป็นไรครับ” เสือรีบค้านเพราะแค่อยู่กับไทเกอร์มันด้วยเวลาแค่นี้เขาก็หงุดหงิดจนประสาทแทบกินแล้ว ถ้าฝืนต้องเจอหฟน้ามันต่อมีหวังได้เส้นเลือดในสมองแตกแน่ และเมื่อไทเกอร์เดินขึ้นรถไปแล้วเสือก็กลับมานั่งรอรถเมล์ต่อด้วยความสบายใจเพราะเวลาไม่มีมันอยู่นี่โคตร
แต่เอ๊ะ
แล้วในมือของเขา ยังถือเสื้อช็อปของมันอยู่เลย
เห็นแบบนี้เสือเลยหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมากดถ่ายภาพนี้ลงไปยังแชทกลุ่มเพื่อน และ
...ถ่ายมาทำไมวะ..
..เออถ่ายมาทำไม โชว์เสื้อใหม่หรอ ...
..เหี้ย แต่แถบสีนี้มันเครื่องกลนี่หว่า...
//เออไง// เสือพิมพ์กลับไป
..ของใคร...
//ให้ทาย//
..ไอ้ไทเกอร์?...
//อ่าหะ//
...เล่าความเป็นมาด่วนนนนนน...
...หรือมึงเอามันแล้ว แล้วมันลืมเสื้อไว้หรอ...
“ถุ้ย!” ถ้าอ้วกได้คงอ้วกไปแล้วกับประโยคนี้ แต่เสือต้องกดออกจากหน้าหลักของแชทเพราะรถเมล์สายที่เขาต้องขึ้นนั่นมาถึงพอดี ส่วนเพื่อนในกลุ่มแชทก็คงจะน่าสงสารหน่อยที่เขามาทิ้งระเบิดลูกใหญ่เอาไว้แล้วหายไปแบบนี้ แต่เสือเองนี่แหละคงพลาด เพราะในตอนนี้
...กูว่าแล้วไง ว่าไอ้เสือต้องเผลอเอาไอ้ไทเกอร์มันซักวันแน่!...
...จนได้!ต่อยกันมาแทบตาย สุดท้ายจบที่เตียงเฉย...
...โอ้ยแต่ขาวยังกับแดกหลอดไฟเป็นอาหารขนาดนั้นเป็นกูก็เอา ถึงจะปากหมาไปหน่อยก็เหอะ...
...แต่กูว่าน่าจะครางลั่น เจอของไอ้เสือเลยนะมึง...
...เอออออ5555555...
บทสนทนามันไปไกล เกินกว่าจะกู่กลับแล้ว อาเมน...
# # # # # # # # #
