ตอนที่8
#เครื่องกลชนโยธา
..พรึบ!..
เมื่อกลับมาถึงบ้านไทเกอร์เหวี่ยงเสื้อช็อปในมือของตัวเองลงบนเตียงด้วยใบหน้าหงุดหงิด เขาต้องใส่เสื้อเปียกโชกของไอ้เสือกลับท่ามกลางแอร์รถที่หนาวจนสั่น เพิ่งจะหายป่วยได้ไม่นานก็ต้องมารู้สึกไม่สบายตัวอีกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นในตอนที่เดินหนีออกจากร้านพวกเจ๊นกและไอ้หล่ออีกสองคนยังมองตามด้วยแววตางุนงงว่าเป็นอะไรกัน เพราะถ้าให้ทายไอ้เสือที่เดินหนีออกมาก่อนก็คงมีสภาพใบหน้าไม่ต่างจากเขา แต่ดีหน่อยที่พวกนั้นไม่ได้สังเกตว่าเสื้อช็อปของเขากับไอ้เสื้อนั้นใส่สลับกันอยู่ นี่ถ้าหากเจ๊แกรู้เห็นนะมีหวังข่าวไวไปทั่วมหาลัยว่าพวกเขาแอบแดกกันเองแน่ แค่คิดก็ขนลุกแล้ว
...ครืดด ครืดดดด..!
แล้วเสียงโทรศัพท์ที่สั่นเพราะปลายสายวิดีโอคอลเข้ามา ไทเกอร์ขมวดคิ้วก่อนมองว่าเป็นใครและเมื่อพบว่าคือทอยเขาจึงทำเพียงกดรับแล้วโยนโทรศัพท์ลงบนเตียงพร้อมยืนถอดเสื้อต่อไปเท่านั้น
[ถึงห้องแล้วหรอมึง]
“เออถึงละ”
[แล้วทำไรมาตัวเปียกเป็นลูกหมาเลยวะ]
“ตากฝน” ไทเกอร์กำลังโกหก
[ไอ้ห่า มึงเพิ่งจะหายป่วยแล้วไปตากฝนทำไม]
“กูเล่นเอ็มวี”
[กวนตีนกูแล้วไง] พอทอยพูดแบบนี้ไทเกอร์หัวเราะก่อนนอนลงบนเตียงแล้วคว้ากล้องโทรศัพท์มาจ่อหน้าเมื่อจัดการถอดเสื้อกล้ามตัวในของตัวเองออกเรียบร้อยหมดแล้ว ไทเกอร์กำลังใช้การมองกล้องในวิดีโอคอลเป็นกระจกโดยการหันซ้ายหันขวาแล้วคอยตอบในคำถามที่ไอ้ทอยถามออกมา
[ว่าจะชวนมาผับซักหน่อย แต่ป่วยคงมาไม่ไหวแน่เลยใช่มั้ยมึง]
“ไหวดิ”
[ไม่ไหวหรอก] ทอยกำลังแกล้งคนในกล้อง
“ไหวเว้ย!” ซึ่งไทเกอร์ตะโกนลั่นออกมาจนทอยต้องนอนหัวเราะ
[งั้นสี่ทุ่มเจอกันเคมั้ย]
“ได้”
[อย่าเล่นเกมกับบางคนเพลินจนลืมนัดเพื่อนนะ]
“ไอ้ทอยมึงก็แบบนี้ไง”
[โอ๋ๆๆ โอเคๆฮะฮ่า แล้วเจอกันครับเพื่อน] ซึ่งไทเกอร์ขมวดคิ้วใส่มันก่อนตัดสายทิ้งแล้วกลับมานอนบนเตียงต่อ เขานอนหายใจทิ้งอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงถึงจะยอมลุกไปอาบน้ำ ระหว่างนี้ที่อาบน้ำไทเกอร์ก้มดมตามต้นแขนของตัวเองซึ่งมีกลิ่นของน้ำหอมรวมไปถึงกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มจากเสื้อของไอ้เสือติดอยู่ด้วย แล้วก็ไม่ต้องทายว่าการอาบน้ำในครั้งนี้จะเป็นยังไง เพราะคนตัวขาวถึงขั้นลงทุนแกะฟองน้ำห่อใหม่ออกมาก่อนนำมาขัดตัวถูไปมาจนแขนเป็นรอยแดงเถือก แค่นั้นไม่พอยังมีการฟอกสบู่อยู่ราวห้ารอบและถ้าเดือนนี้ค่าน้ำที่ประปาที่บ้านขึ้นก็คงไม่ต้องถามหาสาเหตุเลย
..ปัง!..
พออาบน้ำเสร็จก็เดินแก้ผ้าออกมาหยิบเสื้อผ้าที่ตู้เสื้อผ้าใส่ บ็อกเซอร์หนึ่งตัวคู่ใจพร้อมเสื้อกล้ามสีขาวตัวเก่าที่จะขาดแล้วขาดอีกแต่ม๊าก็ยังใจดีเย็บให้ แล้วเมื่ออาบน้ำเสร็จไทเกอร์ก็โดดนอนลงเตียงเพราะเหลือเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัด เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นพร้อมกดส่องเข้าไปในเฟสของหญิงสาวคนสวยอย่างมิ้ง
ดูเหมือนว่าไอ้ไทเกอร์บอกมิ้งว่าถ้าถ่ายงานเสร็จแล้วจะเข้าไปหา
และป่านนี้ก็คงอยู่ด้วยกันแล้ว....
เพราะงั้น
...อยู่มั้ยครับคนสวย...
เขาก็ขอทักแชทไปซักหน่อยแล้วกัน แล้วก็เพียงไม่นานเท่าไหร่
//ไม่ค่อยว่างเลยค่ะตอนนี้ มิ้งทำงานกลุ่มอยู่// ไทเกอร์เลิกคิ้วทำหน้ากวนพลางคิดในใจว่าทำงานกลุ่มหรือกำลังจะทำงานคู่สามัคคีกับไอ้เสือกันแน่ ซึ่งเหมือนว่าเธอจะรีบพิมพ์ตอบแชทเขาด้วยและหลังจากนั้นไม่กี่วิเธอก็ขึ้นว่าออฟไลน์แล้วเงียบหายไปเลย
“เยแน่นอนเลยแบบนี้” ไทเกอร์พึมพำพลางเริ่มคิดว่าต้องทำไงถึงจะก่อกวนไอ้เสือเรื่องมิ้งได้
แต่เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าไอ้เสือมันจริงจังกับมิ้งระดับไหน
คือเพราะถ้าหากว่าอย่างที่ไอ้ทอยพูด ที่ว่าบางทีมันอาจจะจริงจังกับมิ้งกว่าคนอื่น แล้วถ้าหากเขาเข้าไปก่อกวนในครั้งนี้มันอาจจะไม่เหมือนครั้งอื่นที่ก็แค่ทะเลาะกัดกันไปมาแต่อาจจะทะเลาะกันขั้นหนักมากกว่านั้น แต่ไทเกอร์ก็ไม่อยากจะเชื่อหรอกเพราะเขาก็ไม่เคยจะเห็นว่าไอ้เสือมันจริงจังกับใครมานานแล้วนะ
..........................
“เสือคะ...” เสียงหวานหูน่าฟังหลุดดังมาจากร่างขาวเนียนของหญิงสาวคนสวยน่ารักที่กำลังนอนซุกอยู่ภายใต้อ้อมแขนแข็งแรงของชายหนุ่มร่างสูง ดวงหน้าหวานของเธอกำลังซุกอ้อนกับแผ่นอกกว้างเปลือยเปล่าที่มีเม็ดเหงื่อประดับประปรายอย่างน่ามอง หญิงสาวหน้าสวยกำลังยิ้มพอใจพร้อมกอดอีกร่างแน่นพร้อมกับหน่วยตาหวานที่หลับพริ้ม เสือก้มมองคนในอ้อมแขนพลางใช้นิ้วเกลี่ยตามแก้มเนียนของเธอ
“ที่รัก” จนพอเสียงหวานพูดเรียกขึ้นมาอีก
“ครับ?”
“คืนนี้นอนค้างอยู่นี่กับมิ้งมั้ยคะ?”
“ผมต้องดูก่อน” เสือตอบกลับไปพร้อมสายตาที่เงยมองไปยังนาฬิกาปลายเตียงที่บัดนี้บ่งบอกว่าคือเวลาทุ่มกว่าแล้ว เขาเข้ามาหามิ้งตั้งแต่บ่ายแล้วก็อยู่ยาวมาจนถึงตอนนี้ ตามจริงมีนัดซ้อมว่ายน้ำด้วยแต่ก็หนีโดดออกมาเพราะทนความออดอ้อนของเธอไม่ไหว ไม่รู้ว่าป่านนี้โค๊ทจะบ่นไปถึงไหนแล้ว
“แต่มิ้งอยากให้เสืออยู่ด้วย”
“ก็ถ้าว่างก็จะอยู่” และเขาก็ไม่ใช่คนที่จะตามใจใครนัก
“ก็แล้วทำไมต้องไม่ว่างด้วย อยู่กับมิ้งไม่ได้หรอ”
“......”
“ถ้าไม่สนใจมิ้ง มิ้งจะไปหาคนอื่นนะ” เสือยังไงไม่ได้พูดตอบอะไรเขาเพียงแค่นอนเงียบแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมากดเล่นเท่านั้น ยอมรับว่าหนึ่งเหตุผลที่เลือกจะครองตัวโสดมานานก็เพราะว่าผู้หญิงที่ผ่านเข้ามามักจะมีนิสัยแบบนี้เสมอ ในตอนแรกพวกเธอมักน่ารักว่าง่ายแต่พอเขายอมคบยอมคุยด้วยก็จะมีอาการหึงหวงไร้สาระตามมา หนึ่งสาเหตุก็เข้าใจว่าเพราะรูปร่างหน้าตาแต่เห็นแบบนี้เขาก็ไม่ใช่ว่าพอมีคนคุยเป็นตัวเป็นตนแล้วจะยังไปมีคนอื่นอีก ในเมื่อคิดจะคบจะคุยกันถ้าไม่ยอมแม้จะกล้าเชื่อใจ เสือก็คิดว่ามันคงจะไปกันได้ยาก
แล้วในระหว่างนี้ที่กำลังเลื่อนดูหน้าเฟสเรื่อยเปื่อยอยู่
หนึ่งรายชื่อที่ปรากฏว่ากำลังออนไลน์...
นั่นทำให้เสือต้องหลุดยิ้มมุมปากพร้อมกดเข้าไปในแชทที่เป็นสีชมพูหวานแหวว
...เครื่องแกง...
ซึ่งพอกดพิมพ์คำนี้ไปเสือกำลังนั่งนึกถึงสภาพไอ้คนในแชท
//พ่องตาย// แล้วไม่นานเท่าไหร่ข้อความนี้ก็ถูกส่งคืนมา
...อย่าเอาเสื้อกูไปชักว่าวนะ..
//มึงมันเหี้ย// เสือกำลังกลั้นขำจนคนที่นอนอยู่ด้วยอย่างมิ้งต้องเงยขึ้นมองว่าใครอีกคนเป็นอะไรแล้วเธอก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อพบว่าสิ่งที่ทำให้เสือกำลังยิ้มก็คือแชทสีชมพูตรงหน้า! นี่มันบ้าชัดๆ!เพราะขนาดแชทของเธอกับเสือยังเป็นเพียงสีน้ำเงินปกติเอง
“คุยกับใครคะเสือ”
“เปล่า” แล้วใครอีกคนก็ตอบมาแบบนี้
“แต่มิ้งเห็นว่าเป็นแชทสีชมพู”
“แชทกลุ่ม”
“มิ้งขอดูโทรศัพท์เสือหน่อย”
“นี่มิ้ง มากไปแล้ว” ซึ่งประโยคนี้มันทำให้หญิงสายหน้าเสีย
“เสือมีคนอื่นนอกจากมิ้งใช่มั้ย” แล้วคำนี้มันทำให้เสียงถอนหายใจจากคนตัวสูงหลุดดังออกมา เสือเลือกที่จะรั้งผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวก่อนจะพลิกนอนตะแคงหันหลังให้เธอซึ่งนั้นทำให้หญิงสายต้องลุกขึ้นนั่งพร้อมแสดงใบหน้าไม่พอใจแบบนี้ ก็อะไรกันหละ ใครอีกคนเพิ่งจะนอนกับเธอแต่กลับตื่นมาเพื่อตอบแชทสีชมพูบ้าบออะไรนี่น่ะหรอ!แถมตอนอยู่กับเธอเสือยังไม่ค่อยจะยิ้มเลย แล้วนี่อะไร เพียงแค่พิมพ์แชทไม่กี่ประโยคกลับยิ้มร่าเหมือนคนบ้าได้ขนาดนี้ เธอจะต้องสืบหาตัวอีมือที่สามคนนั้นให้ได้เลยคอยดู!
“เสือคะ ทำไมต้องคุยกับคนอื่นด้วยอะ”
“คุยอะไร ไม่ได้คุยกับใคร”
“ก็มิ้งเห็นอะ นี่!แล้วก็หันหน้ามาทางนี้ด้วย” เธอโวยวายไม่หยุดแต่ถึงอย่างนั้นเสือก็ทำเพียงนอนเงียบเหมือนไม่ได้ยิน เขาอยากจะนอนหลับพักเอาแรงแต่หญิงสาวข้างก็ยังส่งเสียงแสบแก้วหูไม่หายแต่พอสาวเจ้าเริ่มสงบ
..ครืดดครืดดครืดดด...
ก็กลับมีสายจากโทรศัพท์ของเขาเข้ามา ซึ่งนั่นทำให้เธอ
“ใครโทรมาคะ”
“เพื่อน!” เสือเผลอตะคอกออกไปจนเธอหน้าเสียแต่เขาไม่ได้สนใจแล้วเพียงเดินลงมาจากเตียงด้วยใบหน้าหงุดหงิด คนตัวสูงเลือกที่จะเดินออกมายังริมระเบียงห้องพร้อมกับการที่ไม่ลืมจะล็อคประตูกระจกเอาไว้ด้วย เห็นว่ามิ้งทำท่าจะเดินตามออกมาแต่เพราะเขาหันไปชี้หน้าเธอถึงได้เดินสะบัดกลับไปยังเตียงตามเดิม
“มีเหี้ยไร”
[อ้าวเป็นไร หงุดหงิดใครมาพ่อ] เสียงสงสัยจากปลายสาย
“กูถามว่ามีอะไร”
[ก็จะชวนมาเที่ยวมามั้ย]
“ที่ไหน”
[ที่เดิมดิ จะมีที่ไหนอีก...ไมวะ มาไม่ได้หรอ ทำไรอยู่อะ] แล้วน้ำเสียงเจ้าเล่ห์จากอีกคน
“เสือก”
[ฮะฮ่า อย่าหักโหมนะกูเป็นห่วง...ว่าแต่จะมามั้ย]
“เออเดี๋ยวไป ซักพัก”
[เคครัช] แล้วเสือก็ว่างสายลงก่อนที่มือจะควานหาบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงที่ไม่รู้ว่าเผลอหล่นไปตอนทำอะไรกันมั้ย เขาหยิบบุหรี่ออกมาก่อนล้วงเอาไฟแช็คที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงอีกข้างขึ้นมาจุดสูบ ยืนสูบบุหรี่พลางมองวิวตอนกลางคืนในมุมสูงไปด้วยมันช่วยให้เขาสงบขึ้นเยอะ
แต่ก็ไม่รู้วาพอเข้าห้องไป
จะต้องเจอกับอารมณ์แบบไหนของเธออีก
..แกร๊กก..
“จะกลับแล้วหรอคะ” เป็นเพราะพอเข้ามาในห้องได้สิ่งที่เสือทำก็คือการหยิบเสื้อของตัวเองมาใส่ แล้วเสือเองก็เพียงแค่พยักหน้ารับพร้อมเดินไปหยิบกุญแจรถของตัวเองเท่านั้น แน่นอนว่าเขากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วค่อยออกมาหามิ้ง เพราะถ้าจะให้ใส่เสือช็อปของไอ้ไทเกอร์มันมา มีหวังได้อึดอัดขาดอากาศหายใจตายก่อนเพราะความคับของเสื้อนี่แหละ
แล้วเสือก็เดินออกจากห้องของมิ้งมา
โดยที่ไม่ได้บอกว่าจะไปไหนต่อ ก็อย่าให้เธอรู้อะดีแล้ว เพราะถ้ามิ้งมาด้วย...
เจ้าของร่างสูงถอนหายใจอีกครั้งเหมือนโล่งอก ในขณะที่ขับรถไปตามเส้นทางตรงหน้าเสือไม่ลืมจะเปิดเพลงโปรดฟังพร้อมเคาะมือตามจังหวะ ขนาดรถติดแต่วันนี้ก็ไม่ได้หงุดหงิดอะไร ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้เขาอารมณ์ดีแบบนี้ มันเป็นเพราะมิ้งหรือเป็นเพราะไอ้แชทชมพูกันแน่
..ปึก..
จนในที่สุดก็มาถึงที่หมาย เขาปิดประตูรถพร้อมเดินเข้าไปด้านในของสถานที่เที่ยวกลางคืนชื่อดังตรงหน้า ปกติที่นี่เสียค่าเข้าเกือบพันแต่เสือเพียงเดินเข้าไปด้านในโดยไม่ต้องมีการหยุดยืนตรวจค้นตัวหรือจ่ายเงินค่าเปิดเบียร์ ก็ต้องขอบคุณพ่อของเขาที่ทำให้เสือพลอยมีชีวิตสบายไปด้วย
“ไอ้เสือ!ทางนี้โว้ยยย!!!” แล้วเสียงของไอ้แกงค์เพื่อนที่เรียก
“คนแม่งเยอะจังวะ” เมื่อมาถึงโต๊ะเสือบ่นอย่างไม่ชอบใจนัก ยิ่งพอมองไปยังฟอล์เต้นด้านล่างที่เต็มไปด้วยคนเขาก็ยิ่งต้องเบ้หน้า ดีหน่อยที่จุดที่พวกเขาอยู่คือชั้นสามและมีเพียงคนที่นั่งชิงฟังเพลงดื่มเหล้าเท่านั้น ส่วนไอ้พวกเท้าไฟส่วนใหญ่จะไปกองรวมกันที่ชั้นหนึ่งกับสองมากกว่า
“ก็วันนี้วันศุกร์มึงลืมหรือไง”
“เออรู้ ขยับให้กูนั่งดิ” เสือพูด พร้อมนั่งลงยังที่ว่างที่เพื่อนขยับให้ แล้วพอเขานั่งปุ้บพวกมันก็รีบชะโงกหน้าเข้ามาใกล้เขาแล้วยื่นส่งแก้วเหล้าให้
“เพิ่งจัดมาหรอ”
“ทำไม?”
“พวกกูถาม ว่าไง”
“รอซอสหรอ”
“เหยดดด” พวกมันโวยวายเสียงดังนี่ถ้าไม่ติดว่ามีเสียงเพลงดังกลบมีหวังไอ้โดนตีนไอ่พวกคนแถวนี้แน่ คนตัวสูงที่นั่งเงียบอยู่ล้วงบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงออกมาสูบอีกครั้ง ดูเหมือนพอเสือนั่งสูบบุหรี่กลางผับแบบนี้สายตาทุกคู่ที่เห็นจะแทบจ้อมาทันที ก็แน่นอนว่าต้องมองเพราะที่นี่มีกฎเหล็กคือถ้าจะสูบบุหรี่จะต้องเข้าไปสูบยังห้องที่ทางสถานที่จัดให้ แล้วถ้าบอดิการ์ดเจอใครสูบเข้าก็ทำเพียงลากไปกระทบก็แค่นั้น แต่แล้วยังไงจุดนี้เขาไม่ได้สนใจหรอก ก็บอกแล้วว่าต้องไปขอบคุณพ่อของเขาที่ทำให้เขามีชีวิตที่อัพเกรดกว่าคนอื่นแบบนี้
...ฟู่ววว...
โต๊ะของพวกเขาแทบจะรมไปด้วยควันบุหรี่เพราะต่างคนก็ต่างนั่งสูบไปด้วยกินเหล้าไปด้วยพร้อมมองสาวที่ยืนเต้นยั่วบริเวณโต๊ะด้านหน้าไปด้วยแต่เหมือนว่าสายตาของเสือที่มองผู้หญิงสาวสวยตรงหน้าอยู่จะต้องชะงักแล้วเบือนมองไปยังไอ้ร่างของคนที่กำลังเดินสูบบุหรี่เข้ามาตั้งแต่หน้าประตู
แล้วดูเหมือนว่าวันนี้ จะมีเรื่องสนุกให้ทำอีกแล้ว
“ยิ้มไรวะ” จนเสียงถามจากเพื่อนข้างกายดังขึ้นเสือถึงได้เพยิดหน้าไปทางชั้นสอง
“นั่นไอ้ไทเกอร์ ใช่มั้ยวะ”
“เออ” แล้วเสือก็ยืนยันตอบออกไป
“เอาเลยปะหละ มันก็อยู่กันทั้งแกงค์น่ะ” แล้วพวกเพื่อนของเขาก็หันมาถามความเห็นว่าจะให้เปิดฉากบู๊ตรงนี้เลยมั้ยแต่เสือก็เพียงส่ายหน้าเพราะพักหลังมานี้เขารู้สึกว่าการกวนตีนไทเกอร์แบบไม่ต้องถึงขั้นลงไม้ลงมืออะไรมันมีความสุขมากกว่า เวลาไอ้ไทเกอร์หงุดหงิดบอกตามตรงว่าเขาโคตรแฮปปี้
“ทำไมอะ ปกติเจอกันตอนครบแกงค์แบบนี้ต้องใส่แล้วไม่ใช่หรือไง”
“ก็เปล่า แต่แค่อีกไม่กี่วันกูมีงานร่วมกับมัน ไม่อยากสร้างเรื่องก่อน” เสืออธิบาย
“ใช่หรอ...ไม่ใช่ว่า หลงเสน่ห์มันหรอกนะมึง”
“เอาสมองส่วนไหนคิดวะ” เขาเถียงไปแล้วไอ้พวกเพื่อนก็เบ้ปากใส่ก่อนหันกลับไปสนใจการดื่มเหล้าต่อส่วนเสือกำลังนั่งจิบเหล้าในมือพร้อมกับสายตาที่กำลังสนใจมองร่างสูงเพรียวของคนตัวขาวจัดที่โคตรโดดเด่นเวลาอยู่รวมกับคนอื่นแบบนี้ ไอ้พวหนั้นกินเหล้ากันเร็วยังกับแดกน้ำเปล่าแล้วพอผ่านนานไปก็เหมือนว่าไทเกอร์กำลังวอแวอะไรบางอย่างกับทอยจนสุดท้ายเสือถึงได้เข้าใจว่าไทเกอร์มันกำลังเซ้าซี้ให้ไอ้ทอยออกไปเต้นเป็นเพื่อนแต่ก็เหมือนจะไม่สำเร็จเพราะมีแค่มันที่เดินออกไปกลางฝูงคนเพียงลำพัง
แล้วเมื่อเห็นว่าใครอีกคนกำลังเต้นอยู่ตรงนั้น
เขาถึงได้ลุกพร้อมเดินถือแก้วเหล้าลงไป ท่ามกลางสายตาของกลุ่มเพื่อนที่มองตามไม่ห่าง
พอได้เดินมาใกล้แบบนี้
แก้มที่เคยขาวแต่ตอนนี้กลับแดงของมัน ก็ถึงทำให้เขาได้รู้ว่าใครอีกคนคงเมาได้ที่แล้ว
“เห้ย” แล้วเสือก็เดินไปยืนซ้อนหลังพร้อมก้มกระซิบเข้าที่ข้างหูของอีกร่าง
“เหี้ยไหนอีก” แล้วเสียงไม่ดังนักจากไทเกอร์ที่ดังพร้อมกับร่างของอีกคนที่หันกลับมามองเขา คิ้วเข้มของมันขมวดและแววตาที่ช่ำวาวเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่จ้องมองมา เหมือนว่าไทเกอร์มันกำลังยืนนึกว่าเขาคือใคร อีกร่างหรี่ตาพร้อมขยับหน้าเข้ามาใกล้จนเป็นเสือเองที่ต้องเบือนหน้าหลบ
“มึง...” แล้วเหมือนว่าตอนนี้ มันจะจำเขาได้แล้ว
“เมาแล้วหรอไอ้อ่อน”
“ใครเมา” ไทเกอร์ถามกลับมาทั้งที่ตาแม่งปรือชิบหาย แล้วเสือก็มองไปยังจุดที่เพื่อนของไทเกอร์นั่งซึ่งดูเหมือนว่าตอนนี้พวกมันกำลังจะลุกมาหาเขาแต่เหมือนจะต้องหยุดเพราะโดนพวกเพื่อนของเขาก่อกวนอยู่
..หมับ..
แล้วเมื่อเพื่อนเบิกทางให้ขนาดนี้ เสือถึงได้คว้าเข้าที่แขนของไอ้ไทเกอร์ก่อนจะออกแรงลากให้มันเดินตามมายังมุมในเพื่อที่ไอ้พวกนั้นจะได้หาไม่เจอ ต้องขอบคุณคนที่เยอะจนเบียดแน่นบังไปหมดด้วย
“ไร ปล่อยกูว” คนที่กำลังยืนพิงกับฝาผนังครวญครางขึ้นมา
“เมื่อตอนเช้ามึงกวนตีนกูไว้เยอะมากเลยนะ” เสือพูดขึ้น
“ก็เดี๋ยวซักห้ายงายเสื้ออะ”
“มีเรื่องอื่นอีก ไม่ใช่แค่เสื้อ”
“เรื่องราย...เรื่องที่ป้ามึงกำลังจาตายหรอ” แล้วนี่ขนาดเมาแม่งก็ยังกวนตีนจนเสือต้องตาโตแบบนี้ เขากำลังจะคว้าเข้าที่คอเสื้อของมัน แต่
..ผลั้ก...
แรงเบียดจากกลุ่มคนที่เต้นอยู่ด้านหลังก็ดันจนเสือต้องแทบล้มคว่ำเข้าหาร่างของไอ้ไทเกอร์
“อื้ออ ไปไกลกู” แล้วเสียงไล่จากไทเกอร์ก็ดังเมื่อรับรู้ว่าเสือกำลังอยู่ใกล้ตัวเองมากแค่ไหน ก็ใกล้แค่ไหนก็ไม่รู้เพราะรู้แค่ว่ามันใกล้จนถ้ามองจากด้านหลังก็โคตรเหมือนว่ากำลังนัวเนียกันอยู่
..ผลั้ก..!
“อย่าเบียดดิวะ!” แล้วเสือก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกไป
“มึงออกไป”
“ถ้ากูออกได้กูก็ออกแล้ว!” เสือตะโกนกลับไปพร้อมหันมาตวัดสายตามองยังดวงหน้าที่แดงจัดของคนเมา เหมือนว่ามันจะเมามากจนยืนแทบไม่ไหวแล้วต้องใช้มือจับไหล่ของเขาเป็นที่ค้ำ ส่วนเสือกำลังหาทางจะออกจากมุมนี้แต่ก็โคตรยากเพราะคนเบียดเข้ามาจนแทบไร้ที่ว่าง
แล้วสุดท้ายพอออกไปไหนไม่ได้
เขาถึงได้ยืนนิ่งแล้วหันกลับมามองเบื้องหน้าของตัวเองซึ่งคือไทเกอร์แทน
...อึก...
แล้วนี่เขาเมาหรืออะไรถึงได้ต้องมากลืนน้ำลายลงคืออึกใหญ่เพราะการที่เพราะสูงกว่าแล้วสามารถมองเห็นได้ถึงแผ่นอกที่โคตรขาวของมัน นอกเหนือกว่านั้นไอ้ห่านี้มันเป็นเหี้ยไรถึงชอบครางอื้ออึงยังกับคนโดนไซร้
แล้วอารมณ์ของเขาแม่งยิ่งขึ้นง่ายเพราะก็เพิ่งจะทำเรื่องแบบนั้นมา
เออมันก็ต้องมีบ้างที่อารมณ์จะยังค้าง แล้วยิ่งมาอยู่ในท่าแบบนี้ ในที่มืดแบบนี้...
“อื้ออออ”
เอาแม่! ภาพตอนนี้มันคือเขาที่กำลังใช้ปากแนบเข้ากับลำคอของไอ้คู่อริมัน!
แล้วกูก็ห้ามอารมณ์ตัวเองไม่ได้ด้วยเว้ย!!
แต่
..หมับ..
..ผลั้ก!!..
“มึงจะทำอะไรมัน!!” แรงกระชากที่หลังคอเสื้อพร้อมแรงเหวี่ยงและเสียงคำถาม ไอ้ทอยมันรีบเข้าไปพยุงร่างของไอ้คนเมาแล้วส่วนเขาที่เหมือนสติจะกลับมาคบแล้วถึงได้รีบหันไปห้ามกลุ่มเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้โคตรพร้อมบวก
แต่เสือไม่ได้จะต่อยทอย
เพราะสิ่งที่เขาอยากทำก็คือการเดินไปใกล้ไอ้ทอย พร้อมกับ
“ขอบใจ” พูดคำนี้ทิ้งไว้พร้อมเดินจากไปกับความสงสัยของทอย
แม่งขอบใจอะไรกูวะ!
......................
..ปึก!!..
“ไอ้เวรเอ้ย!” เสียงสบถโวยวายกำลังดังมาจากบุคคลร่างสูงที่ยืนหอบหายใจพิงกับผนังห้องน้ำอยู่ คงไม่ต้องบอกว่าเมื่อกี๊เขาเพิ่งทำอะไรไปเพราคราบขาวขุ่นที่เหนียวเต็มมือแม่งก็บอกทุกอย่าง
พอกลับมายังโต๊ะได้ เสือก็ขอตัวมาห้องน้ำ
แล้วก็จบลงที่ตรงมือแฉะแบบนี้...
เอาเข้าจริงเขารู้สึกแปลกตั้งแต่ในตอนที่ถอดแลกเสื้อช็อปกับมันในห้องน้ำแล้ว
แล้วนี่พอมาผับแม่งยังจะ
“กูก็แค่เมาแล้วเงี่ยนแหละวะ ไม่ได้มีอารมณ์เพราะมึง”
จุดนี้ก็ได้แต่พยายามพูดวนคำนี้กับตัวเอง
เขาแค่เมา!เข้าใจมั้ย!
# # # # # # #
หราจ๊ะ