ตอนที่10
#เครื่องกลชนโยธา
“อะไรของมันวะ” ในทันทีที่เสือตัดสายไปไทเกอร์ก็กลับมานั่งจ้องดูหน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังบอกว่าประวัติว่าที่ผ่านมาเมื่อกี๊สิ่งที่เขาเพิ่งจะทำไปก็คือการวิดีโอคอลกับบุคคลที่เรียกว่าศัตรูมาตลอด แล้วตอนนี้ก็วางสายกันมาเกือบจะห้านาทีแล้วแต่เขาก็ยังนั่งจ้องแชทตรงหน้าอยู่
แล้วฝ่ายของเสือเองก็เหมือนกำลังค้างหน้าแชทเขาอยู่เหมือนกัน
เพราะไอ้ปุ่มคอลมันสั่นไหวโดยรอบบอกเป็นสัญญาณ
...งง...
จนไทเกอร์ตัดสินใจที่จะพิมพ์ถามคำนี้ไป
//งงต่อไปดีแล้ว//
...อะไรของมึง กวนตีนหรอ...
//อย่าปากดี//
...ไปนอนไป... แล้วเมื่อเขาพิมพ์คำนี้ออกไปไอ้คนในแชทก็ทำเพียงกดอ่านก่อนที่มันจะออฟไลน์ไป เหลือทิ้งไว้ให้ไทเกอร์ต้องขมวดคิ้วสงสัยอีกแล้ว บอกตามตรงว่าไม่เข้าใจเลยว่าไอ้เสือมันกำลังทำอะไรของมัน แกล้งกวนตีนเขาหรอ หรือว่าอะไรวะ แล้วไอ้ที่ถามถึงเรื่องที่ผับ มันทำตัวเหมือนมีความลับอย่างไงอย่างงั้นแต่เมื่อเขาส่ายหัวไล่ความคิดไม่เข้าใจของตัวเองออกไปแล้วมือกำลังจะวางโทรศัพท์
หนึ่งสิ่งที่เด้งขึ้นมาว่าเป็นการเชิญเข้าไลน์กลุ่ม
และเขาก็กดรับเข้าไปเพราะคนที่เชิญมาคือเจ๊นก
//อีกสองวันเราจะไปชลบุรีกันนะคะ ตอนหกโมงเย็นมาเจอกันที่มหาลัยนะ เตรียมตัวด้วย// นี่คือโน้ตที่เจ๊แกโน้ตไว้ ไทเกอร์ถอนหายใจก่อนวางมือถือลงแล้วเอนตัวนอนพร้อมดึงผ้าห่มมาคลุมไว้จนถึงอก อีกสองวันก็แสดงว่าไปเรียนอีกแค่วันเดียวพอมาอีกวันนึงตอนเย็นก็ต้องออกมาที่มหาลัยอะดิ ไทเกอร์นี่คิดออกเลยว่าจะเป็นยังไงเพราะไปครั้งนี้มีแค่เขา ไอ้เสือ กับไอ้หล่ออีกสองคนซึ่งก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก โห ได้ตีกับไอ้เสือตายแน่เลยว่ะเพราะไอ้ทอยไม่ได้ไปด้วย
ไทเกอร์มองไปที่ตู้เสื้อผ้าของตัวเอง
แล้วเสือช็อปหนึ่งตัวที่ห้อยอยู่ตรงนั้น...
เขาเม้มปากเข้าหากันเพราะรู้สึกว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของเขากับไอ้เสือมันชักแปลกไปหรือเปล่า แล้วก็มีอีกหนึ่งสิ่งด้วยนะที่ไทเกอร์ต้องทำทุกวันนั่นก็คือการลบแชทส่วนตัวระหว่างตัวเองกับไอ้เสือออก เพราะถ้าไม่ลบมีหวังไอ้ทอยที่ชอบเล่นมือถือเขาจะต้องมาเห็นแน่ เนี่ยแม่ง ตอนนี้เขากับมันทำตัวยังกับคนคบชู้กัน
“ไอ้เหี้ยย!!!” ไทเกอร์แหกปากลั่นหงุดหงิด ไม่รู้ทำไมมันจะต้องเข้ามาทำชีวิตเขาวุ่นวายด้วย
แต่ตอนนี้ได้แต่พยายามบอกตัวเองว่าต้องนอนให้หลับ
ต้องนอน เพราะไม่งั้นพรุ่งนี้ไปสายอีกแน่
เรื่องอื่นเอาไว้ก่อนวันนี้ขอนอนก่อนเว้ย!
............
เวรกรรมซ้ำซัดเพราะไม่ว่าจะนอนเร็วแค่ไหนสุดท้ายก็ยังตื่นสายอยู่ดี ไทเกอร์รีบเดินเข้าไปในห้องเรียนของตัวเองด้วยใบหน้าที่แอบแดงเพราะความเหนื่อย มองไปยังตะประจำซึ่งแน่นอนว่ามีไอ้ทอยนั่งรออยู่ อาจารย์มองอย่างเอือมระอาเหมือนคุ้นชินแต่ตัวของเขาก็มีแอบสำนึกผิดเพราะอาจารย์คนนี้ปากชอบบ่นแต่เวลาเกรดออกแกก็พยายามช่วยอย่างหนักที่ไม่ให้เขาต่องติดเอฟ
“ยังไม่ได้นอนเลยจะสิบโมงเช้า” พอเขานั่งปุ้บ ไอ้ทอยก็เปล่งคำปริศนา
“ไรวะ”
“เล่นเกมเพลิน” แล้วเมื่อไทเกอร์หันมองหน้ามันเขาก็ต้องขำเพราะขอบตามันดำผิดปกติแล้วหน้าก็โคตรโทรม
“ไอ้เราก็นึกว่าทำเรื่องใต้ร่มผ้า”
“อย่างกูหรอจะมี” จนทอยพูดคำนี้ไทเกอร์ถึงเบ้หน้าพร้อมด่ากลับไปว่าตอแหล ไอ้หล่อที่ตอนนี้โทรมชิบหายก็หัวเราะพอเป็นพิธีก่อนฟุบหน้าลงบนโต๊ะเลคเชอร์พร้อมหลับตาลง เห็นว่าอาจารย์ประจำวิชามองนิ่งมาและไทเกอร์ก็ทำได้แค่ทำเมินว่าไม่รู้ว่าแกมองอยู่ แต่เมื่อไอ้ทอยไม่ตั้งใจเรียนดังนั้นไทเกอร์จึงต้องจำใจหยิบหนังสือที่โคตรโล่งของตัวเองมากาง
“เออไอ้ทอย” แต่พอนั่งนานไปแล้วนึกขึ้นได้
“หืม”
“พรุ่งนี้มันไม่มีเรียนไง...แต่กูต้องไปถ่ายวิดีโอที่ชลบุรี”
“แล้วไงวะ” ทอยถามพร้อมเงยหน้าขึ้นมองเขา
“ตอนประมาณห้าโมงออกมาส่งที่มหาลัยหน่อย” ซึ่งทอยเพียงพยักหน้ารับก่อนฟุบหลับลงไปต่อ ถึงตอนนี้ทอยหลับไปแล้วส่วนไทเกอร์กำลังนั่งเรียนไปแต่ก็แอบหยิบโทรศัพท์มาเล่นเพราะรู้สึกเบื่อมาก เขากดไปในไลน์กลุ่มล่าสุดที่เพิ่งเข้า
เลื่อนกดตรงดูสมาชิกทั้งหมดของกลุ่ม
เจ๊นก น้องเมฆวิศวะไฟฟ้าที่ดิสเป็นรูปของน้องมันกำลังนั่งเรียน แล้วก็ไอ้พี่กัสที่ดิสเป็นรูปกีตาร์
และคนสุดท้าย....
ถ้าให้ทายแน่นอนว่าต้องคือไอ้เสือ ถึงมันจะตั้งดิสไลน์เป็นรูปท้องฟ้าแต่เขาก็พอเดาได้
ตอนนี้ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องแอบส่องไลน์ของมัน หมายถึงส่องดูไอ้สเตตัสที่มันตั้งไว้หน้าไลน์
...โยธาครับ...
ไทเกอร์เบ้ปากเพราะรู้สึกว่ามันขี้อวดชิบเลยว่าเรียนวิศวะโยธา
เจ๊เอง : แอดไลน์กันไว้นะ มีไรจะได้คุยกัน / เจ๊นกแกเด้งไลน์มาในกลุ่ม
TTiger : ไม่ /แล้วไทเกอร์พิมพ์ไปแบบนี้โดยที่คนอ่านขึ้นจำนวนว่าสาม
Guss : แอดหมดแล้ว
ผมอยู่บนฟ้าผมเป็นเมฆ : แอดครบแล้วเหมือนกันครับ
ดังนั้นแสดงว่าไอ้เสือมันไม่ได้เล่นโทรศัพท์อยู่สินะ
เจ๊เอง : ไทเกอร์แอดเพื่อนกลับให้ครบ
และถึงแม้เจ๊แกจะพิมพ์มาแบบนี้แต่ไทเกอร์กลับเพียงแต่เบ้ปากพร้อมกดออกจากไลน์เท่านั้น นั่งเล่นโทรศัพท์ไปจนหมดคาบต่อไปก็ถึงเวลาลงไปกินข้าวซักที ยอมรับว่าตอนนี้หิวมากเพราะตื่นสายเลยไม่ได้กินข้าวที่ม๊าทำไว้ให้ดังนั้นในตอนนี้เขาถึงได้เดินลงมายังโรงอาหารของคณะตามปกติ
“มองหาใครวะ” จนทอยถามขึ้นไทเกอร์ถึงได้เลิกคิ้ว
“หาใคร”
“เนี่ย มึงชะเง้อคอไปมาจนกูรำคาญ”
“เปล่า” เขาตอบไปก่อนนั่งนิ่ง เออแล้วว่าแต่ เขามองหาใครวะ...
................................
เสียงหอบหายใจดังออกมาจากร่างสูงของคนที่กำลังอยู่ภายในสระน้ำ เป็นเพราะจะต้องไปทำกิจกรรมอื่นดังนั้นในตอนนี้เสือเลยถูกโค๊ทสั่งว่าให้ซ้อมหนักขึ้นเป็นสองเท่า วันนี้ทั้งวันใช้ชีวิตอยู่ในน้ำมากกว่าบนบกเสียเอง เขาไม่ได้จับกระทั่งโทรศัพท์เลยด้วยซ้ำแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรเพราะในเมื่อจะต้องไปจังหวัดอื่นตั้งเกือบอาทิตย์ดังนั้นถ้าจะให้ไม่ซ้อมเลยมีหวังกลับมาอีกทีสปีดในการว่ายได้ลดลงแน่
“เสือ งั้นกว่ามึงจะกลับมาอีกตั้งหลายวัน แล้วงี้จะซ้อมทันเพื่อนหรอวะ” เสียงจากเพื่อในทีมว่ายน้ำทีก่ำลังนั่งพักอยู่ขอบสระดังถามขึ้น เสื้อถอนหายใจออกมาก่อนเฮือกใหญ่เพราะเหนื่อยจัด เขาใช้แขนท้าวคร่อมกับขอบสระ
“ทันไม่ทันไม่รู้ แต่รับปากเจ๊ไปแล้วจะเบี้ยวเขาก็ยังไงอยู่”
“โหย มึงมันตัวว่ายเร็วของทีมเลยนะเว้ย...ถ้ามึงแข่งแพ้พวกกูตายเลยนะ”
“พูดยังกับกูไม่ได้ซ้อมไม่กี่วันแล้วกูจะกระจอกอะสัสพีช” จนสุดท้ายก็ทนไม่ได้ต้องว่าไป
“กูแค่เป็นห่วงอนาคตตัวเองหรอกสัส” พอมันแย้งมาแบบนี้เสือหัวเราะก่อนกลับมาว่ายเล่นในสระอย่างไม่จริงจังนัก เขาลอยตัวขึ้นนอนหงายมองหลังคาโดมก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อน นอนบนเตียงว่าสบายแล้ว นอนบนน้ำแม่งสบายกว่าอีกว่ะ
“ทั้งกิจกรรมทั้งต้องเล่นกีฬา มึงเอาเวลาไหนเรียน” เสียงของพีชดังมาอีก
“มึงเห็นกูได้เอฟเยอะมั้ยหละ”
“เยอะ”
“ก็ตามนั้น” คราวนี้เป็นพีชที่หัวเราะลั่นมาแทน
“เออๆไอ้เสือ ว่าแต่...เดี๋ยวนี้มึงยังตีกับไอ้ไทเกอร์อยู่มั้ยวะ”
“อืม” พอพูดถึงชื่อนี้เสือแทบจะสำลักน้ำตาย เขาต้องรีบดึงสติของตัวเองแล้วว่ายไปนั่งบนฝั่งเสียก่อน พีชที่กำลังนั่งเล่นแว่นตากันน้ำของตัวเองเงียบไปนานสองนานจนพอนึกเรื่องคุยมาได้ถึงได้ร้องเอ้อออกมาก่อนถามอีก
“แต่ไปชลคราวนี้ มึงก็ไปกับมันด้วยไม่ใช่หรอ”
“เออดิวะ รำคาญชิบหาย” แล้วเสียงหัวเราะลั่นจากคู่สนทนาก็ดัง
“ถ้ามันไม่กวนตีนมันก็น่ารักดีอยู่หรอกนะไอ้ไทเกอร์อะ”
“มึงมองยังไงว่ามันน่ารัก” คิ้วของเสือขมวดแน่น
“เอ้าไอ้เหี้ย ขาวจั๊วะ ตาชั้นเดียวแต่ดวงตานี่เสือกกลมบล็อกเลย เวลามันอยู่กับไอ้ทอยน่ารักจะตายห่า”
“คู่เกย์”
“เออกูก็ว่า” แล้วจากตอนแรกก็ตั้งใจว่ายน้ำกันดีอยู่หรอกนะ พอเริ่มเหนื่อยเข้าก็ดันกลายเป็นการนั่งจับเข่าคุยกันเสียแล้ว ก็เล่นซ้อมมาแต่เช้าจนตอนนี้พระอาทิตย์จะตกดินแล้วใครเขาจะไม่เหนื่อยกันก็บ้า แล้วพวกเขาก็นอนหลับกันที่ข้างสระจนตื่นมาอีกทีเห็นว่าเกือบทุ่มแล้วนี่แหละถึงได้ต่างคนต่างรีบลุก
“กูมีธุระต่อว่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ” ระหว่างที่เสือกำลังเก็บของพีชพูดคำนี้
“เออๆ” แล้วเมื่อเขารับเขาไอ้เพื่อนร่วมทีมก็โบกมือลาก่อนวิ่งออกไป เสืออยู่คนเดียวท่ามกลางความเงียบโดยรอบแต่เขาก็ไม่ได้กลัวหรอกถึงแม้ว่าที่นี่จะมีคนบอกว่ามีประวัติก็ตาม
..หมับ..
มือหนารั้งกระเป๋าเป๊ถือสะพายไว้ข้างเดียวก่อนเดินผมเปียกออกมาเพื่อเตรียมจะกลับบ้าน
แต่ในระหว่างที่เกือบเดินจะถึงรถ
..ผลั้ก!..
“เห้ยไม่ดูทางวะ!!” เสือตวาดลั่นเมื่อถูกเดินชนทั้งที่ตัวเองไม่ผิด แล้วไอ้คนที่มัวแต่คุยโทรศัพท์ก็เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะ
“ไอ้เวรเอ้ย!!” มนุษย์ที่สบถคำนี้มีอยู่ไม่กี่คน แล้วหนึ่งในนั้นคือไทเกอร์
“มึงน่ะผิด เดินเชี่ยไรไม่ดูทางมัวแต่คุยโทรศัพท์”
“เอ้าก็กูคุยกับม๊ากู แล้วไม่หลบวะ” ไทเกอร์เถียงมา เสือจ้องหน้าอีกคนนิ่งก่อนเดินเข้าใกล้ แต่
“สกปรก!” หยดน้ำจากผมของเขาหยดโนมันแล้วไอ้ลูกคุณหนูก็โวยวายออกมา เสือคิ้วกระตุกไม่พอใจและเขาก็ยืนจ้องหน้ามันกลับ ทั้งที่คิดว่าวันนี้จะไม่ต้องหงุดหงิดแล้วแต่ก็ยังเสือกหนีไม่พ้นอีก
“เจออีกแล้วรำคาญว่ะ” เสือสบถขึ้น และไทเกอร์ขมวดคิ้ว
“รำคาญๆ แต่ก็ทักแชทกูมาทุกวัน”
“..........” เป็นเสือที่ใบ้แดก
“แอบชอบกูปะเนี่ย ตุ๊ด”
..ผลั้วะ!..
คนที่โดนต่อยแบบไม่ตั้งตัวเกือบจะล้มลงกับพื้น ไทเกอร์ตาโตอารมณ์ประมาณว่าแค่นี้มึงต่อยกูเลยหรอ
“ไม่ต้องเสือกโทรมาหากูอีก!” แล้วคนตัวขาวจัดก็ตะโกนคำนี้ทิ้งไว้ก่อนที่มันจะเดินหน้าหงุดหงิดออกไป เสือกำลังยืนนิ่ง เขาก็ยังไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจะต้องลงมือต่อยมันเพียงแค่โดนพูดใส่แบบนี้
เขาไม่ได้ต่อยมันเพราะคำว่า ตุ๊ด
แต่ต่อยมัน เพราะไอ้ประโยค ...แอบชอบกูปะเนี่ย...
ไอ้สัส แล้วกูได้แอบชอบมันปะวะ!
................................
“แม่ง ไอ้นิสัยเหี้ย” แล้วหนึ่งคนตรงนี้ก็กำลังยืนใบหน้าหงุดหงิดอยู่หน้ากระจก เมื่อกลับมาถึงบ้านได้ไทเกอร์เดินตึงตังขึ้นห้องจนป๊าม๊าต้องมอง เขาเข้ามาในห้องได้ก็ยืนจ้องตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ จ้องไปที่รอยช้ำมุมปากที่เพิ่งได้รับมา ในแววตามันมีความไม่พอใจแต่มันกลับมีอีกหนึ่งความรู้สึกในนั้น
น้อยใจหรอ?
บ้าละ!ทำไมจะต้องไปน้อยใจไอ้เวรนั่นด้วย!
ไทเกอร์ขยี้หัวตัวเองจนยุ่งก่อนเดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อที่บางทีจะได้เลิกคิดอะไรแปลกๆซักที พออาบน้ำเสร็จก็กลับมานอนบนเตียง ชีวิตแม่งวนลูปอยู่แบบนี้ เขาแอบชำเลืองมองโทรศัพท์ของตัวเองพลางคิดว่าก็ดีเหมือนกันที่ไม่มีไอ้เสือคอยส่งข้อความมากวน แถมตอนนี้เขาก็ไม่ค่อยได้ตอบแชทมิ้งแล้วด้วย คือมันบอกไม่ถูกอารมณ์เหมือนคนไม่อยากคุยกับใคร
“.......” แต่ตอนนี้ไทเกอร์นั่งจ้องหน้าเฟสบุ๊คตัวเอง วันนี้แชทเขาก็ยังวุ่นวายเพราะมีคนใหม่ทักมาเหมือนทุกวัน
แต่ว่า...
“ก็ดีแล้วปะ” คราวนี้ไทเกอร์บ่นกับตัวเองก่อนวางโทรศัพท์ลง
“มันไม่ทักมาก็ดีแล้วไงไอ้ควาย” แล้วก็กลายเป็นนั่งด่าตัวเองเฉย แถมตอนนี้ก็เพิ่งจะสองทุ่มเองแล้วจะข่มตาหลับลงได้ยังไง คือแต่ถ้าไม่นอนก็ไม่รู้จะทำอะไร พอเล่นโทรศัพท์ก็นึกถึงแต่มัน เพราะงั้นไทเกอร์เลยพยายามหลับตาลง
เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องไปเจอมันอีก
เขาจะต้องเตรียมแรงไว้สู้ให้เยอะ
...ครืดดดครืดดดครืดดด...!
แล้วเสียงสั่นจากโทรศัพท์บนเตียงเรียกให้คนที่หลับอยู่ต้องเอื้อมมือไปกดรับ
[ตื่นยังมึง]
“อือ วันนี้ไม่มีเรียนมึงทำไมวะ”
[อ้าวก็ไหนว่าห้าโมงเย็นต้องให้กูไปส่ง ละนี่มันสิบโมงแล้วครับเพื่อน...ลุกไปเตรียมของ!] ไทเกอร์ขมวดคิ้ว
“เออ!!” ก่อนตะโกนสวนไปแล้วยอมลุกเดินงัวเงียพาตัวเองไปอาบน้ำ แต่เอาเข้าจริงก็ต้องขอบคุณไอ้ทอยนะเนี่ยที่โทรมาปลุกเพราะพออาบน้ำเสร็จเขาก็ใช้เวลาจัดของอยู่เกือบสองชั่วโมง แถมยังต้องใช้เวลากินข้าวอยู่เกือบชั่วโมง คือกว่าจะทำอะไรเสร็จเรียบร้อยก็ปาไปบ่ายสองแล้วครับ
“นี่จะไปไหนนะเราอะอาเกอร์” คำถามจากม๊าที่นั่งดูทีวีอยู่ด้วยกัน
“ชล ตอนหกโมงเย็น...ไปหลายวันอยู่นะม๊า”
“กี่วันหละ”
“ไม่รู้ เจ๊ไม่ได้บอก” เขาพูดทั้งที่ตามองทีวีแล้วไทเกอร์ก็ใช้เวลาในวันหยุดทั้งวันอยู่ผ่านไปโดยการนั่งดูหนังกับป๊าและม๊า มันดูไม่มีอะไรแต่มีความสุขตรงที่ได้พูดคุยเรื่อยเปื่อยกับพ่อแม่ตัวเอง เป็นเพราะบางครั้งไทเกอร์จะติดเพื่อนจนไม่กลับบ้านเป็นเดือนยังมี แต่พักหลังมานี้มีเรื่องกวนใจบ่อยจนต้องกลับมาพักใจที่บ้านตัวเอง
“นอนอืดจนห้าโมงแล้วเนี่ยอาเกอร์ ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวไป”
“ม่ายย รอไอ้ทอยมาค่อยไปแต่งตัว” เขาบอกไปพร้อมงับขนมในมือ ตอนนี้ม๊าลุกไปทำอาหารเย็นแล้ว มีแค่ไทเกอร์ที่ยังดูทีวี
“แล้วอาทอยจะมาตอนไหน”
“เดี๋ยวมันก็ นั่นไง!!” ไทเกอร์ตะโกนลั่นก่อนรีบวิ่งออกไปรับไอ้เพื่อนรัก
...หมับ..
“หวัดดีเพื่อนทอย” เขากอดมันพร้อมเอ่ยทัก
“ทำไมไม่แต่งตัวอีก”
“ก็รอมึงมาก่อน” ไทเกอร์บอก
“เพื่อ?ไปอาบน้ำแต่งตัว”
“บ่นๆๆๆๆ” แล้วไทเกอร์ก็ทำกวนตีนใส่ก่อนยอมเดินขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวบนห้องของตัวเอง ระหว่างนี้ทอยยังต้องเป็นคนเชคกระเป๋าใบใหญ่ของมันไว้ว่าขาดเหลืออะไรอีกมั้ย ตอนนี้ทำตัวเป็นแม่มันมากกว่าเป็นเพื่อนแล้ว และไอ้ตัวดีที่ใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวเกือบชั่วโมงก็เดินลงมาพร้อมกับเป้ใบใหญ่ยักษ์
ไม่รู้จะไปกี่วัน
แต่ขนของไปเหมือนไปอยู่สองเดือน
“เดี๋ยวเกอร์กลับมานะ!” ก่อนจะเดินออกบ้านไทเกอร์ไม่ลืมเข้าไปกอดป๊าและม๊าตัวเอง
“เร็ว” หลังจากที่ล่ำลาเรียบร้อยทอยต้องเร่งอีกเพราะไทเกอร์กำลังช้ากับการร้อยเชือกรองเท้า
..ปึก..!
แล้วกว่าจะปิดประตูรถเข้ามานั่งได้
ตอนนี้ ห้าโมงห้าสิบ
“นัดเขาไว้กี่โมง” ทอยถามขึ้น
“หกโมงตรง”
“มึงคิดว่ากูเป็นเดอะแฟลตหรอ” พอเขาบ่นไทเกอร์กลับหัวเราะ และความลำบากก็ตกมาที่ทอยซึ่งเป็นคนขับรถแต่ต่อจะขับไวแค่ไหนก็ต้องช้าอยู่ดี นึกสภาพรถในกรุงเทพตอนหกโมงเย็นสิครับ แต่เอาเถอะเพราะถ้าไปช้าไอ้คนโดนด่ามันก็ไม่ใช่เขา แถมตอนนี้ไทเกอร์ยังหน้าระรื่นมองวิวซ้ายทีขวาที มีการฮัมเพลงอีก!
เมื่อมาถึงที่หมายไทเกอร์มองลอดกระจกรถออกไป
มีรถตู้จอดอยู่หนึ่งคัน พร้อมกับเจ๊นกที่ยืนคิ้วขมวดอยู่หน้าประตูรถ
“ดูแลตัวเองด้วย” ทอยพูดขึ้น
“มึงด้วยนะ อย่าไปวางไข่ใส่ลูกสาวคนอื่นเขาทั่ว เป็นห่วง”
“ก็ไม่พ้นกวนตีน” ทอยพูดคำนี้และไทเกอร์หัวเราะก่อนแบกกระเป๋าตัวเองลงจากรถไป
ในตอนนี้ทุกสายตา กำลังจับจ้องมาที่เขา
ทั้งจากเจ๊นก และไอ้คนที่นั่งรอในรถแล้ว
“ทำไมมาช้าคะ” คำถามแรกจากเจ๊แก
“ก็เกอร์ปวดท้องอะเจ๊” ไทเกอร์รู้ว่าเจ๊นกแพ้ลูกอ้อนก็เลยจัดไป
“พอๆ รีบขึ้นรถ เรานี่จริงๆเลยนะ” พอได้ยินประโยคนี้ไทเกอร์ยิ้มพอใจก่อนยื่นกระเป๋าส่งให้เจ๊นกนำไปขัดให้ เขากำลังมองหาที่นั่งก่อนต้องคิ้วกระตุกเมื่อพบว่าตอนนี้เหลือเบาะว่างเพียงที่เดียวเพราะที่อื่นถูกนำวางเสื้อผ้ารวมถึงกระเป่ษของพวกเขาทั้งห้าคน มันจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าที่ว่างที่เจ๊นกเหลือไว้ให้
“ถ้ายังเรื่องมากอีกเจ๊จะโมโหแล้วนะไทเกอร์” เหมือนเจ๊จะรู้ว่าเขาคิดอะไร เพราะแบบนี้
...ปึก..!
ถึงต้องยอมเดินเข้าไปในรถ ปิดประตูรถ
ก่อนจะ
นั่งลงยังเบาะว่างข้างกับไอ้เสือ
“ภาระคนอื่น” นี่คือคำแรกที่มันทักเขา
“เออ” ไทเกอร์ยังเคืองมันเลยสวนไปแบบนี้ก่อนเบือนหน้ามองไปอีกทาง เหมือนเสือจะชะงักนิ่งไปแล้วพวกเขาก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยตั้งแต่ที่รถเคลื่อนตัวออกมา บนรถมีเพียงเสียงคุยของเจ๊นกซึ่งเป็นคนขับรถเองและก็มีเพียงของกัสและเมฆแจมมาบ้าง เสือเงียบถือเป็นเรื่องปกติแต่ไทเกอร์เงียบได้นี่โคตรไม่ปกติ
“เป็นใบ้หรือไง” ได้ทีเสือชิงถามคำนี้ด้วยน้ำเสียงที่ดังพอให้ได้ยินกันแค่สองคน
“.........”
“ไอ้ไทเกอร์”
“.........” แต่พออีกคนเงียบใส่แบบนี้ดันเป็นเขาเสียเองที่เหมือนจะรู้สึกแปลก
ก็นั่งเงียบนานสองนาน
จนกระทั่ง
..หมับ..
“...!” ไทเกอร์ตาโตกับแรงแตะจากปลายนิ้วโปงบริเวณมุมแผล เขาตวัดสายตามองมัน
“เจ็บมั้ย” ทั้งน้ำเสียง ทั้งสายตาของไอ้เสือ แม่ง....
“ยุ่ง” แล้วเหมือนมันจะนิ่งไปก่อนปรับใบหน้าให้ปกติ
“เออก็แค่ถาม ทำตัวงอนเป็นเด็กปัญญาอ่อน”
“ใครงอนมึง” ไทเกอร์ถาม
“มึงไง” ตอนนี้ต่างคนต่างจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนกระทั่ง
...เอี๊ยดด!!!...
...พรึบ..!!
“ว้ายไอ้รถบ้านี่!กล้าดียังไงมาตัดหน้าฉันย่ะ!!!!” เสียงโวยวายของเจ๊นกดังขึ้นมาพร้อมกับดวงตาของคนทั้งสองคนที่เบิกกว้าง เป็นเพราะเมื่อกี๊พวกเขาจ้องหน้ากันอยู่ แล้วรถมันเบรกกะทันหัน
เพราะแบบนี้ตอนนี้
ไอ้เสือหอมแก้มเขา!!
..หมับ..
“ชู่ววว” แต่พอไทเกอร์จะแหกปากร้องเสือรีบปิดปากนิ่มไว้พร้อมส่งเสียงแบบนี้
“อยากโวยวายให้คนอื่นรู้หรือไงว่าโดนกูหอมแก้ม”
“อ่อยอู” เสียงอื้ออึงจากคนที่โดนปิดปาก
“สัญญาก่อนว่าจะไม่โวยวาย” เสือพูดคำนี้และไทเกอร์พยักหน้า จนพอเสือยอมปล่อยมืออกจากปากแล้วไทเกอร์ถึงได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมยกมือเช็ดแก้มของตัวเอง กลับกันกับอีกคนที่เสือกกำลังใช้ลิ้นเลียขอบปาก
“แม่งดีนะที่ไม่มีใครเห็น” ไทเกอร์พึมพำออกมาแบบนี้
แต่หนึ่งเสียงจากเบาะหลัง....
“แต่ผมเห็นนะพี่!”
ไอ้เหี้ยน้องเมฆ!!

# # # # # # #
ตอนนี้เดินเรื่องเร็วนิดนึงเนอะ เพราะเดี๋ยวไปชลบุรีค่อยจะแบบ><