บทที่ 21: นมจืดกับความไม่รู้ว่าเดท [100%]
‘วันเสาร์ทำตัวให้ว่าง’
นมจืดขยับตัวจากที่นอนมาหยิบโทรศัพท์ที่สั่นครืดอยู่บนเตียงมาอ่าน ตอนแรกต้องเอาเครื่องมาติดหน้าและหยีตาอ่าน แต่สุดท้ายก็ต้องขยับลุกไปหยิบแว่นมาสวมเพราะว่ามองไม่เห็นเท่าไร
‘ทำไมเหรอ?’
นมจืดพิมพ์ยุกยิกกลับไปหาเจ้าของบทสนทนา ไม่รู้วว่าพระเอกมีอะไรหรือเปล่า
‘เออน่า เอาเป็นว่าวันเสาร์ตอนสิบเอ็ดโมง แค่นี้นะ’
‘ไม่ต้องถามมาก’
‘กูขี้เกียจตอบ’
‘บรัยยยยย ไปละไอ้เตี้ยหมาตื่น’
ฮื้อ...นมจืดพิมพ์ไม่ทันเลยอะ พระเอกเล่นรัวๆมาขนาดนี้ คิ้วสีอ่อนขมวดมุ่นแต่ว่าริมฝีปากกลับค่อยๆยิ้ม แต่เดี๋ยวก็ทำปากยู่สลับกันไป
‘ฮื้ออออ...’
‘รอคำตอบเราก่อนสิ’
แต่ว่าแชทของนมจืดขึ้นว่าอีกฝ่ายอ่านแล้วแต่ว่าไม่ยอมตอบอะไรนมจืดเลยอะ เหมือนอ่านแล้วก็ตายหายไปเฉยๆ
‘พระเอก พระเอก’
แงงงงง...พระเอกตายหายไปเฉยๆจริงๆด้วย ฮื้อออออออ
ที่นมจืดคิดว่าพระเอกตายหายไปเลยไม่ใช่แค่ในไลน์เท่านั้นแต่ว่าแม้กระทั่งพระเอกตัวเป็นๆนมจืดก็ไม่ได้เจออีกเลยจนกระทั่งวันเสาร์
นมจืดตื่นเช้าเป็นประจำเหมือนเดิมแม้ว่าจะเป็นวันหยุดก็ตามเพราะความเคยชิน ตื่นมาแล้วก็เทนมกินหนึ่งแก้ว นั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านจนเกือบสิบเอ็ดโมงโทรศัพท์มือถือก็สั่นครืดๆอีกครั้ง
‘กูใกล้ถึงละ’
นมจืดว่าไม่ใช่ใกล้แล้วมั้งเพราะว่านมจืดได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถดังมาจากหน้าบ้านแล้วเนี่ย คำว่าใกล้ของพระเอกเนี่ยใกล้มากจริงๆด้วย
“วันนี้จะไปไหนกันเหรอลูก”
“ไปข้างนอกกับพระเอกครับ” เอาตามจริงคือนมจืดก็ยังไม่รู้เลยว่าพระเอกจะไปไหน
นมจืดใส่ถุงเท้าส้นเตี้ยก่อนจะสวมรองเท้าผ้าใบ ออกไปหน้าบ้านแต่ว่านัยน์ตากลมโตก็มองเห็นรถจักรยานยนต์ที่ไม่คุ้นตาจอดอยู่
รถคันใหญ่ ล้อใหญ่และเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มจนนมจืดกลัวว่าป้าสมรข้างบ้านจะออกมาสาดน้ำไล่เลย
พอคนขับรถถอดหมวกแล้วสะบัดผมไล่เหงื่อ นมจืดตาพร่าไปเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมพระเอกดูเหมือนนายแบบถ่ายลงนิตยสาร
วันนี้พระเอกมาในชุดแปลกตากว่าปกติ ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อยืดคอสีทับด้วยเสื้อคลุมสีเข้ม กางเกงยีนส์ขายาวและรองเท้าผ้าใบ นมจืดคิดว่านี่เป็นชุดที่ดีที่สุดที่พระเอกเท่าที่นมจืดเคยเห็นมาเลยนะเนี่ย
“ทำไมวันนี้แต่งตัวดูดีจัง”
คนฟังหัวคิ้วกระตุก นี่มันกำลังหลอกด่ากูว่าที่ผ่านมากูแต่งตัวได้สถุลมากเลย อะไรแบบนี้หรือเปล่าวะ
“ไอ้บักห่า กูแต่งตัวหล่อทุกวันเว้ย มึงนี่พูดจาหมาไม่แดกเลยนะ” ฟังแล้วแสลงหู
“ฮื้อ...พูดไม่เพราะเลยน้า”
คนตัวเล็กทำหน้าสนอกสนใจเจ้ารถคันใหม่มาก เดินสนไปรอบๆอย่างอยากรู้อยากเห็น ตัวรถเงาวับเหมือนใหม่ แถมคันใหญ่กว่านมจืดอีก
“นี่ก็น้องใหม่เหรอ? ไปจิ๊กใครมาขับเหรอ?
“โอ๊ย! ไอ้เชี่ย!” เสียงหงุดหงิดจนนมจืดย่นคอหลบ “จิ๊กห่าไรล่ะ ของกูเซ่ะ!” แม่ง! กูพระเอกรูปหล่อพ่อรวยฟรวยใหญ่ไข่ตุงมีอันจะกิน อุตส่าห์ให้ไอ้พระรองไปขับมาจากบ้านมาทิ้งไว้ให้ที่คอนโด มันยังมีหน้ามาบอกว่ากูไปตอดนถชาวบ้านมาอีกนะ สมองนี่มีอะไรในหัวบ้าง!
“อ้าวเหรอ...ทุกทีเห็นแต่น้องที่เกือบเป็นซาก” ไม่รู้ว่าพระเอกเอาซากน้องไปขายหรือยังนะ
ซากบ้านมึงไอ้เตี้ย! “คันนั้นอยู่ในอู่ ไม่งั้นกูไม่เอาคันนี้มาให้มึงนั่งเป็นบุญตูดมึงหรอก”
“หูวววววว ดีใจจัง” คนตัวเล็กตาวาววับ
สาบานว่ามันไม่ได้กวนตีนกูใช่ไหม?!
“ขึ้นรถ!” เบื่อไอ้เตี้ยชอบทำเสียงง้องแง้งใส่จริงๆเว้ย
“นี่ๆพระเอก…” นมจืดกำลังจะปีนขึ้นขึ้นรถแต่ว่ามีปัญหาเล็กน้อย คือ “มันสูง…” นมจืดไม่รู้ว่าจะเอาก้นตัวเองขึ้นไปนั่งซ้อนได้ยังไง เบาะด้านหลังทำสูงขึ้นกว่าด้านคนขับอีก ความสูงร้อยหกสิบนิดๆของนมจืดเป็นอุปสรรคมากเลยตอนนี้
ร่างสูงใหญ่ถอนหายใจเฮือก ก่อนจะแขวนหมวกกันน็อคอันโตเอาไว้ที่รถแล้วลงมายืนกอดอก
“ปีนขึ้นไปดิวะ”
คนตัวเล็กพยายามเอาขาสั้นๆของตัวเองวาดขึ้นรถให้ได้แต่ว่าก็ทำไม่ได้ ตาก็พยายามสอดส่องที่เหยียบแต่ว่าก็ไม่มีเลย
“เขาลืมทำที่เหยียบให้หรือเปล่าอะ”
โว้ยยย ลืมแป๊ะยิ้มอะไรวะ ปวดหัววววว
“ยุ่งจริงไอ้เตี้ย”
สุดท้ายนมจืดแทบร้องตาเหลือกเพราะว่าพระเอกจับเอวเล็กๆพร้อมกับดันสะโพกเล็กๆขึ้นไปนั่งแหมะอยู่บนเบาะหลังเรียบร้อย พอนมจืดขึ้นไปนั่งกระพริบตาปริบๆบนเบาะหลังเรียบร้อย แล้วพระเอกก็โยนหมวกกันน็อคอีกใบมาให้
แล้วพระเอกก็ขึ้นประจำที่คนขับ พอสตาร์ทรถอีกครั้งเสียงเครื่องก็ดังกระหึ่มจนนมจืดไม่ได้ยินที่พระเอกพูดอะไรเลย
“จับไว้ดีๆละ ตกไปไม่ไปตามเก็บนะเว้ย”
“หา...อะไรนะ?” ยังถามไม่จบเลย รถมอเตอร์ไซด์คันโตก็ออกตัวจนคนตัวเล็กเกือบหงายหลังเพราะความแรงของเครื่องยนต์ ดีว่าพระเอกอ้อมเอามือมาคว้าตัวไว้ทัน แล้วก็ได้ยินเสียงพระเอกโวยวายตามมาอีกแต่ว่านมจืดฟังไม่รู้เรื่องเลย
มือใหญ่ของพระเอกมาคว้าแขนนมจืดเอาไว้ก่อนจะเอาไปวางแหมะไว้ที่รอบเอวแข็งแรง
“บอกว่าให้จับกูไว้แน่นๆ ตกไปกูจะตามไปเหยียบซ้ำเลย”
นมจืดก็ทำตามอย่างง่าย โถมตัวเข้าไปรัดเอวอีกฝ่ายไว้เพราะกลัวตก ยิ่งรถคันนี้เบาะนั่งด้านหลังยกสูงขึ้นทำให้นมจืดแทบจะไหลลงไปทับหลังพระเอกหมดแล้ว ตอนแรกนมจืดก็ยังกลัวอยู่นะ แต่พอมีมือแข็งแรงมาตบแปะที่ฝ่ามือของนมจืดที่วางอยู่บนรอบเอวของอีกฝ่ายแล้วก็รู้สึกว่าอุ่นใจขึ้นมาเลยล่ะ
“กูจะดูเรื่องนี้!”
พอมาถึงห้างได้นะ นมจืดยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็โดนพระเอกลากมาจนถึงหน้าชั้นของโรงหนังของห้างจนได้
นัยน์ตากลมโตมองหนังภาพบนต์ที่โปสเตอร์เป็นสีทะมึนทึงและมีนักแสดงที่เป็นเด็กและผู้ใหญ่อยู่บนนั้น แต่ว่าหน้าตาจองแต่ละคนในโปสเตอร์ดูน่ากลัวมาก
“แต่เราว่าเราดูเรื่องนี้ดีกว่าไหมอะ?” ชี้ไปทางโปสเตอร์อีกเรื่องที่เป็นอนิเมชั่นชื่อดังที่เพิ่งออกภาคสองมาได้ไม่กี่วัน
“กูไม่อยากดูไอ้เด็กหัวจุกเป็นเสี่ยวหลงเปาแบบนั้น”
อะไรกัน! น้องออกจะน่ารักมากเลย
“แต่...”
“รอบที่แล้วมึงหลอกกูมาดูเรื่องกระต่ายโง่ๆแล้ว รอบนี้มึงต้องดูเรื่องที่กูอยากดู”
“ฮื้อ..ก็ได้น้า”รอบที่แล้วพระเอกยอมดูบันนี่ฮ็อปๆกับนมจืดแล้วรอบนี้นมจืดยอมดูตามที่พระเอกอยากดูก็ได้
พอพระเอกไปซื้อตั๋วเสร็จก็ยังเหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมงเลยตัดสินใจว่าจะกินอะไรไรง่ายๆ เลยไปจบอยู่ที่ร้านอาหารบนฟู๊ดคอร์ทของห้างแทน กินเสร็จกลับมาก็ได้เวลาพอดี
นมจืดเดินกอดถังป๊อบคอร์นตามร่างสูงใหญ่ต้อยๆเข้ามาภายในโรงด้านใน ตอนนี้หนังเรื่องนี้ไม่ค่อยมีคนดูแล้วเท่าไรเพราะว่าใกล้จะออกโรงแล้ว
เก้าอี้ที่ได้นั่งเป็นที่นั่งแถวบนๆตรงกลางพอดีเลย ในโรงมีอยู่แค่ไม่ถึงสิบคน
โฆษณาต่างๆก็ถูกฉายตามปกติ จนเข้าเรื่อง นมจืดได้ยินเสียงประกอบแล้วก็รู้สึกเย็นเยือกขึ้นมานิดหน่อย มือเล็กๆล้วงข้าวโพดมากินกรุบๆ ตากลมๆก็ดูหนังที่ฉายไปเรื่อย มีบางครั้งที่ตื่นเต้นจนลืมหายใจ มือก็หยุดชะงัก บางครั้งก็หยีตาดูเพราะแอบกลัวแบบจะมีผีสะดุ้งโผล่ขึ้นมาให้ตกใจเล่น
นัยน์ตาคมกริบเหล่มองคนที่นั่งข้างๆ อยากรู้ว่ามันมีกลัวหรือเปล่าเพราะหนังที่เขาเลือกดูคือหนังสยองขวัญที่เห็นรีวิวว่าน่ากลัว กดดัน หายใจไม่ออก คะแนนรีวิวก็ไม่เลวเลย เลยชวนมันมันมาดูซะเลย
แต่ไอ้ฉิบหาย!
ไหนใครบอกว่าน่ากลัว กดดัน หายใจไม่ออกไงวะ แล้วไอ้เตี้ยข้างๆกูที่นั่งจ้วงแดกข้าวโพดคั่วกรวมๆแบบไม่สนสี่สนแปดใดๆบนโลกนี้มันคือเชี่ยอะไร!!
ไหนโมเม้นที่ต้องโผเข้าซบอกกู ไหนโมเม้นตัวสั่นน้ำตาคลอเบ้าให้กูปลอบ? ไหนโมเม้นนั่งจับมือเพราะความตื่นเต้น ไหน????
แม่ง!
ไม่มีสักอย่างไอ้ห่านเอ๊ยยยยยย
ไอ้เตี้ยหมาตื่น!!!
สองชั่วโมงกว่าๆในโรงหนังที่กูคิดว่าแม่งบัดซบที่สุดในชีวิต
นี่กูเสียตังค์สี่ร้อยกว่าบาทมาเพื่อดูหน้าไอ้เตี้ยตอนแดกข้าวโพดคั่วจนแแก้มป่องอย่างเดียวเหรอวะ
นี่เหรอ...สิ่งที่เขาเรียกว่าเดทแรก ไอ้ฉิบหาย พังโหม๊ดดดดดดดดด โว้ยยยยยยย หัวร้อนดั่งไฟเย่อร์อีกแล้ว ไปเอาหม้อมาตั้งบนหัวกูได้เลย เดือดชัวร์
“ฮื้อ...หนังน่ากลัวมาก”
ไหน? ไหนบอกกูสิว่ามึงกลัวตรงไหน? ในหนังแม่งหั่นคอฉึกๆมึงยังนั่งดูดน้ำได้นี่แม่งน่ากลัวตรงไหน ตอบกูสิ
“เหอะ”
“สงสารปีเตอร์อะ...” นมจืดยื่นถังป๊อบคอร์นไปให้อีกฝ่าย แต่พระเอกหันหน้าหนี
ตอนอยู่ในโรงนะ พระเอกก็เอาแต่ทำหน้าบู้บี้ สงสัยหนังไม่ถูกใจแน่เลย
“เหอะ...”
นมจืดดันแว่นขึ้น ตากลมโตมองร่างสูงใหญ่ “ไม่ชอบหนังเหรอ?” ถามเสียงเบา
ร่างสูงใหญ่หันกลับมามองคนตัวเล็ก ไล่ลงมาถึงนิ้วเล็กๆจิ้มจึกๆที่ต้นแขนเขา
“เปล่า...” เห็นมันทำหน้าหงอยแล้วกูก็ไปไม่เป็น “ก็ดี...”
พอได้ยินยังงั้นนมจืดก็ยิ้มตาหยี “รอบหน้าเรามาดูกันอีกไหม? เราอยากดูน้องหัวจุก”
พอเห็นรอยยิ้มกับตาหยีๆหลังแว่นกลมโตทรงโบราณนั่น เฮ้อ...อยากมานาบูมานาบีมานาบับ
สุดท้ายคนตัวใหญ่ก็ขยี้ผมนุ่มๆ “เออ...รอบหน้ากูให้มึงเลือกก็ได้”
“สัญญาแล้วน้า...”
“เออ สัญญา”
-------------------------------------------------- 100% -----------------------------------------------------
สวัสดีค่า
วันนี้เอาเต็มๆตอนมาลงแล้วนะค้า ตอนนี้ใครอยากสมน้ำหน้านังพระมารวมกันตรงนี้ได้เลยค่า ดูคนเรานะ อยากจวนมาเดทแต่ปากแข็งไม่ยอมบอกตรงๆเป็นไงล่ะ ฮ่าๆ ดูน้องกินป๊อบคอร์นไปละกันนะ อิๆ
อ่านแล้วฟี้ดแบ็คบอกกันได้นะคะ หรือจะหวีดกันในทวิตที่เดิม รักรสนมจืด
ปล. หลังจากเคาะต้นฉบับแล้วเหลืออีกแค่ประมาณสามตอนก็จะจบแล้วสำหรับน้องนมและนังพระนะคะ
ปล.สอง. แอบมาส่งข่าวว่าน้องนมกับนังพระน่าจะได้โชว์ตัวกับทุกคนช่วงงานหนังสือเดือนตุลาคมนี้แน่นอนค่า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด
ขอบคุณทุกการสนับสนุนนะคะ เยิฟฟฟฟฟ