บทที่ 21: นมจืดกับความไม่รู้ว่าเดท [50%]
“น้องนมลูก...ลงมาข้างล่างได้แล้ว” เสียงคุณแม่เรียกทำให้นมจืดที่กำลังวุ่นวายกับการเก็บของลงย่ามต้องเร่งมือขึ้นมากกว่าเดิม
“คร้าบบบบ ลงไปแล้วครับ” ดีว่านมจืดทายาที่เข่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
รีบคว้าย่ามสีครีมที่ใช้เป็นประจำก่อนจะค่อยๆเดินลงมาข้างล่าง เข่าที่วันก่อนหกล้มบวมขึ้นมาเล็กน้อยแถมยังเป็นสีม่วงๆเขียวเพราะช้ำ ดีว่าก่อนเข้าบ้านวันนั้นแวะซื้อยามาทาแล้ว
เจอแต่คุณแม่ที่กำลังเตรียมตัวไปทำงานเช่นกัน ส่วนคุณพ่อนั้นไปทำงานต่างจังหวัดอีกสามวันถึงจะกลับ
“งั้นหนูไปก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวลูก...มีคนมารอหน้าบ้านน่ะ” คุณแม่พยักเพยิดไปทางหน้าบ้าน
นัยน์ตากลมโตฉายแววงงงวย ก่อนจะค่อยๆเดินออกไป
“แม่เรียกน้องพระเอกเข้าบ้านแล้วแต่เจ้าตัวบอกไม่เป็นอะไร แม่เลยให้น้องเขาเข้ามาจอดรถรอข้างในนะลูก”
ตอนแรกเธอออกจะแปลกใจเล็กน้อยที่มีเสียงรถมอเตอร์ไซด์ดังที่หน้าบ้านเพราะปกติภายในซอยหมู่บ้านนี้ไม่ค่อยมีรถผ่านไปผ่านมาเท่าไร ยกเว้นแต่คนในหมู่บ้าน เลยออกไปดู เห็นเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่นั่งคร่อมจักรยานยนต์ที่ไม่ได้ดับเครื่องอยู่
พออีกฝ่ายถอดหมวกนิรภัยออกมาถึงจำได้ว่าเป็นรุ่นน้องของลูกชายเธอที่เคยพานมจืดมาส่งที่บ้านครั้งหนึ่ง เลยออกไปเปิดประตูให้อีกฝ่ายเข้าบ้านมารอก่อน แต่ชายหนุ่มยืนกรานว่าไม่เป็นอะไร
“หา?” นมจืดคิดว่าเขาไม่ได้นัดใครเอาไว้แต่เช้านะ ยิ่งนัดที่หน้าบ้านแล้วด้วย ไม่มีแน่นอน
ร่างเล็กค่อยๆเดินเตาะเตะเกาะกำแพงไปเรื่อยๆจนมาถึงหน้าบ้าน ตากลมโตเบิกกว้างพลางเอามือดันแว่นอย่างไม่เชื่อสายตา
“พระเอก! มาได้ไงอะ”
พระเอกกำลังยืนพิงรถทอเตอร์ไซด์สีเขียวมะนาวแป้นจนแสบตา ใบหน้าคมเข้มกับไรหนวดตามสไตล์ของเจ้าตัวกับทรงผมยุ่งไม่ค่อยเป็นทรงเท่าไร พร้อมกับการแต่งตัวตามปกติของเจ้าตัว
“เหอะ” พระเอกพ่นลมหายใจออกมาครั้งหนึ่งก่อนจะหมุนตัวกลับไปคร่อมเบาะนั่ง พร้อมกระดิกนิ้ว “ลีลาอยู่นั่น เร็วๆ”
“นี่น้องใหม่เหรอ?” คนตัวเล็กยิ้มกว้างจนตาหยี “แล้วน้องคันเก่าไปไหนแล้ว”
“ใหม่บ้าอะไร นี่ของเพื่อนกู” แน่นอนว่ากูไปจิ๊กมาโดยบอกเจ้าของล่วงหน้าแล้ว คือแปะกระดาษบอกมันเอาไว้ที่ห้องสตูฯก่อนจะออกมา “ส่วนคันเก่าเข้าอู่เว้ย” เข้าอู่เป็นรอบที่ห้าร้อยแล้วมั้ง เข้าจนเฮียเจ้าของอู่แม่งบอกให้ขายซากเถอะ เฮียแกสงสารเดี๋ยวรับซื้อเอง
“อ้อ...” แก้มกล้มอูมขึ้นเพราะรอยยิ้ม “มารับเราเหรอ?” พระเอกใจดีคนเดิม เพิ่มเติมคือเป็นฮีโร่
“เหอะ! เปล่าเว้ย” ใครบอกว่ากูถ่อมารับมันวะ “กูแค่แวะผ่านมาแถวนี้เว้ย เลยสงเคราะห์มึงให้เห็นขาเป๋อยู่” แค่เวะผ่านมาเป็นสิบ
กิโลแค่นี้เอง
นมจืดมองขาตัวเองที่ยังคงเจ็บแปล๊บอยูบ้างแล้วมองหน้าคนตัวโตแล้วซาบซึ้ง จนพระเอกรีบยืดอกรับความดีความชอบอย่างรวดเร็ว
“พระเอกใจดี”
นมจืดรับหมวกกันน็อคอีกใบมาสวมไว้ ลองดูดีๆเหมือนว่าจะเป็นใบที่ค่อนข้างใหม่พอสมควรเลย
“คุณแม่หนูไปก่อนนะครับ” นมจืดตะโกนบอกคนในบ้าน
“เดี๋ยวกูไปสวัสดีคุณหญิงแม่มึงแป๊บ”
“ไปกันแล้วหรือเด็กๆ” แต่ว่าคุณแม่เดินออกมาพอดิบพอดี
ร่างสูงใหญ่ยกไหว้ “ไปละครับ”
คุณแม่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ขอบคุณน้องพระเอกมานะลูกที่มารับน้องนม” เธอดีใจที่ลูกชายตัวเล็กยังมีเพื่อนที่คอยช่วยเหลือกัน
อย่างดี
รอยยิ้มถูกจุดขึ้นมาที่ริมฝีปากได้รูปครู่หนึ่ง “ไม่เป็นอะไรครับ” ต้องทำตัวสร้างภาพต่อหน้าคุณแม่เอาไว้ก่อน อะไรดีเอาเข้าตัวไว้
“สวัสดีครับคุณแม่” นมจืดสวัสดีเสร็จก็ค่อยๆใส่หมวกกันน็อค
“ขับรถดีๆนะลูก”
“ครับ” มือใหญ่หมุนแฮนด์รถเพื่อเป็นการสตาร์ทเครื่องยนต์
นมจืดรีบพูดอย่างตื่นเต้น “โห...น้องใหม่สตาร์ทง่ายมากเลย ไม่เหมือนน้องคันเก่า กว่าจะถีบติด อิๆ”
โอ๊ย! ถ้าไม่ติดว่าคุณหญิงแม่มึงอยู่นี่ กูจะโบกให้หน้าทิ่มลงไปกองกับพื้น ใครบอกว่ามันเป็นเด็กซื่อๆวะ แม่งกวนตีนฉิบหาย!
“ว่าแต่...น้องพระเอก รถคันใหม่นี่สีสวยดีนะ” คุณหญิงแม่พูดบ้าง “คันก่อนนู้น แม่เห็นแล้วนึกว่าหนูมารับซื้อของเก่าแหนะ”
โอ๊ยๆ คุณหญิงแม่กับลูกชายแม่พอๆกันเลยว่ะ!
กูอยากจะบ้า!!
ก่อนที่รถจักรยานยนต์สีเขียวมะนาวจะเลี้ยวเข้าสู่คณะแต่คนขับกลับหักเลี้ยวไปอีกแยกก่อนจะถึง
จนมามจอดที่ร้านสะดวกซื้อบริการยี่สิบสี่ชั่วโมง คนขับหยุดรถก่อนจะดับเครื่องตรงริมฟุธบาท ถอดอหมวกกันน็อคออกมาสะบัดเส้นผมที่ชื้นเหงื่อ
“รออยู่ที่นี่” บอกเสร็จก็เอาขาตั้งลงให้รถทรงตัวอยู่นิ่งๆ ทิ้งคนตัวเล็กให้นั่งกระพริบตาปริบมองพระเอกเดินหายเข้าไปในร้านอย่าง
รวดเร็ว
ผ่านไปแค่ไม่ถึงห้านาทีเจ้าตัวก็กลับออกมาพร้อมนมกล่องขนาดปกติมีตราวัวสีแดงแปะอยู่ มาถึงคนนั่งก็โยนกล่องนมรวมถึงเค้กกล้วยหอมยี่ห้อดังอีกหนึ่งซองมามบนตักของนมจืด
“เอาไป” พูดเสร็จก็วาดขาคร่อมรถอีกครั้งก่อนจะเริ่มสตาร์ทรถ
คนตัวเล็กทีนั่งอยู่เบาะหลังยิ้มกว้าง มองแผ่นหลังกว้างที่อยู่ด้านหน้าก่อนจะเอื้อมมือข้างที่ไม่ได้ถือของจับชายเสื้ออีกฝ่ายแน่น
“ขอบคุณน้า...” เสียงอู้อี้เพราะใส่หมวกอยู่ฝ่าลมออกมาจนคนขับได้ยินชัดเจน ริมฝีปากได้รูปจุดรอยยิ้มขึ้นมาภายใต้หมวกกันน็อคใบโตอย่างอดไม่อยู่
รถจักรยานยนต์สีเขียวมะนาวแป้นแสบตาค่อยๆเคลื่อนมาจอดตรงหน้าคณะวิทยาศาสตร์เรียบร้อย
พอรถหยุดเรียบร้อย คนขับก็ค่อยๆเอียงรถไปด้านข้างโดยเอาขาตัวเองเป็นเครื่องค้ำยันไม่ให้รถล้ม เพื่อให้คนซ้อนตัวเล็กลงสะดวกขึ้น
นมจืดยึดต้นแขนแข็งแรงของพระเอกแน่นขณะที่เจ้าตัวกำลังค่อยๆปีนลงจากรถร่างสูงใหญ่ก็ทำตัวเป็นหลักยึดได้อย่างดี
“ขอบคุณมากน้าที่มาส่งเรา” ถอดหมวกกันน็อคคืนเจ้าของหลังจากที่ลงมายืนบนพื้นเรียบร้อย
“เออ สงสารมินเนี่ยนขาเป๋แบบมึง” แค่สงสารกลัวหกล้มตกบันไดหน้าแหกไปอีก
“ฮื้อ...”
ร่างสูงใหญ่ถอยรถไปจอดหลบมุมเอาไว้ก่อนจะเดินกลับมาจับแขนเล็กมาวางแหมะบนต้นแขนแแกร่งของตัวเอง พอนมจืดมองตาโตเจ้าตัวก็ทำหน้าเฉไฉมองไปทางอื่น คนตัวเล็กอมยิ้มแก้มอูม มือขาวเกือบซีดเกาะต้นแขนอีกฝ่ายแน่น
“เรียนชั้นไหน?”
“เอ...ชั้นสาม”
“คณะมีลิฟท์ใช่ไหม?”
นมจืดชี้ไปตามจุด พระเอกโล่งใจว่ามันจะได้ไม่ต้องเดินกระเพลกๆขึ้นๆลงๆบันได ยิ่งทำให้ขาหายช้าพอดี
หลังจากขึ้นมาถึงชั้นสามได้ หน้าห้องเลคเชอร์มีคนยืนอยู่บ้าง แต่ว่านมจืดไม่ค่อยสนิทมากเท่าไร แต่ก็คุยได้ พวกเพื่อนในเช็คเดียวกันก็เอ่ยทักทายตามประสา แต่เหมือนว่าป้อมปราบกับศัตรูพ่ายยังไม่มา พระเอกเลยบอกให้นั่งข้างนอกก่อน
“แดกก่อน” พระเอกขี้นิ้วไปที่ขนมและนมจืดในมือของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนชานหน้าระเบียง ส่วนเจ้าตัวยืนค้ำอยู่
นมจืดยิ้มรับ เจาะกล่องนมจืดที่ชอบมาดูดฟืดๆ
“แดกนี่ด้วย” พระเอกหมายถึงเค้กกล้วยหอมชิ้นไม่ใหญ่มาก แต่ว่านมจืดที่ปกติกินแต่นมจืดตอนเช้าได้แต่ทำหน้าแหย
“กินแต่นมไม่ได้เหรอ?” แค่นมกล่องเดียวนมจืดก็อิ่มแล้ว
นัยน์ตาคมกริบถลึงตามองคนที่นั่งดูดนมเหมือนมันตอบคำถามโง่ๆออกมา
“ไม่ได้!” คว้าซองเค้กกล้วยหอมขึ้นมาแแกะ ดึงกระดาษรองออก แล้วยื่นไปจ่อที่ใบหน้าขาว
“งื้อ...” นมจืดผงะเล็กน้อยเมื่อเนื้อเค้กกล้วยหอมแปะอยู่ริมฝีปากแล้วแถมพระเอกยังไม่ผ่อนแรงพยายามดันเข้าปากให้ได้อีก จน
ในที่สุดนมจืดต้องยอมเปิดปากงับเค้กเข้าปากไปคำเล็กๆ
“แดกให้นมหมดนะมึง ไม่งั้นตบให้เตี้ยเลย” ยัดเค้กกล้วยหอมใส่มืออีกข้างของคนตัวเล็กก่อนจะยืนค้ำหัวกอดอกแน่น
ดูสิ..จะแดกหมดไหม ถ้าแม่งไม่หมดก็จะให้นั่งแดกตรงนี้จนกว่าจะหมดทั้งนมและเค้กนั่นแหละ คนห่าอะไรแค่นมกล่องเดียวก็อิ่ม
ได้
“แต่ว่า...เรา...” กำลังจะแย้งแต่ว่าโดนสายตาดุดันจ้องจนต้องทำหน้าหงอยก้มหน้าก้มตางับเค้กเข้าปากสลับกับดูดนมตามเข้าไปเพื่อลดอาการฝืดคอ
แต่ว่าสุดท้ายนมจืดก็กินไม่ไหว นมจืดหมดกล่องแต่ว่าเค้กพร่องไปไม่ถึงครึ้งชิ้น ได้แต่ช้อนตากลมโตมองร่างสูงใหญ่ เม้มปากทำหน้าหงอย
“กินไม่หมดอะ...” อิ่มแล้ว กินต่อไปไม่ไหว อีกอย่างตอนเช้านมจืดไม่กินเยอะเพราะงั้นมันเหมือนเป็นนิสัยไปแล้ว
พระเอกมองหน้าคนตัวเล็กอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยอมใจอ่อน มือใหญ่หยิบเค้กที่เหลือมากัดคำโต รสชาติหอมๆของกล้วยแผ่เข้าไปในปาก ไม่ถึงสามคำเค้กส่วนที่เหลือก็ลงไปอยู่ในท้องของอีกฝ่ายจนหมด
“ไปๆ แดกเสร็จก็เข้าห้องไปได้ละ” โบกมือไล่ “กูจะได้ไปทำงานทำการสักที”
กูรู้สึกเหมือนเป็นผู้ปกครองเด็กอนุบาลที่ต้องมานั่งกำกับให้มันแดกข้าวให้หมด พอแดกเสร็จก็ส่งมันเข้าห้องเรียน นี่ตกลงกูมีลูกใช่ไหม...บอกที…
“มาขอส่วนบุญอะไรแถวนี้อีกละ ไอ้ผี” เสียงกวนๆของคนที่เพิ่งเดินมาถึงหน้าห้องดังขึ้น
“ปราบกับพ่ายมาแล้วเหรอ?” นมจืดยิ้มตาหยี
ศัตรูพ่ายทำหน้าเบ้ “นี่พวกกูโทรหามึงนี่ไม่ได้ยินเหรอไง” ตอนแรกเป็นห่วงว่าไอ้เตี้ยมันจะเดินไม่ไหวเลยจะโทรถามว่าอยู่ไหน แต่นี่อะไร...นั่งยิ้มแป้นกับไอ้เปตรเชียวนะ หมั่นไส้ได้อีก
นมจืดรีบค้นโทรศัพท์ในกระเป๋าย่ามขึ้นมาดู มีสายที่ไม่ได้รับจากเพื่อนอยู่สี่ห้าสายและข้อความไลน์อีกหลายข้อความ
“แหะ...” ยังมีหน้ามาแหะๆอีก น่าบ้องกะโหลก “เราขอโทษน้า”
ขณะที่ป้อมปราบกำลังส่งสายตาฟาดฟันกับพระเอกไม่เลิก อยากจะบึนปากแสยะยิ้มใส่มัน วันก่อนทำหน้าหงอยเป็นหมาแต่วันนี้เหมือนได้กระดูกมาแทะ ส่วนไอ้เพื่อนตัวเล็กนี่ก็เหมือนกัน ตอนแรกซึมเป็นนมบูดแต่ตอนนี้ยิ้มแป้นสดใสเหมือนอมพระอาทิตย์เข้าไป ถ้าไอ้นมเป็นตัวแดกพระอาทิตย์ไอ้คนข้างๆมันก็เป็นราหูอมจักรวาล เหอะ!
“งั้นกูไปละ” ร่างสูงใหญ่ยักษ์ผุดลุกขึ้นเต็มความสูง
“อื้อ...” นมจืดยิ้มให้ ตีแปะเข้าที่แขนของอีกฝ่าย “ขอบคุณที่มาส่งเราน้า แล้วก็ตั้งใจเรียนน้า”
เพื่อนทั้งสองคนมองเพื่อนตัวเล็กของเองยิ้มน้อยยิ้มใหญ่โบกมือให้ไอ้รุ่นน้องกวนตีน แม่งพวกกูหงุดหงิดจนหนวดกระตุกตลอดเวลา เมื่อไรมันจะไปๆได้สักที
แม้ไอ้พระเอกมันไสหัวไปแล้วแต่เพื่อนกูยังคงยิ้มเหมือนแดกพระอาทิตย์ต่อไปไม่หยุด อะไรจะเจิดจ้าแสบตาขนาดนีไอ้เตี้ย แตกต่างจากวันก่อนลิบลับเลยนะเว้ย
“ยิ้มปากแหกแล้วมั้งมึง” ป้อมปราบพูดขึ้นหลังจากที่หาที่นั่งในห้องเลคเชอร์ได้เรียบร้อยแล้ว
นมจืดดันแว่นขึ้นจมูกก่อนจะเกาแก้มอย่างที่ชอบทำเวลาเขิน
“เปล่าสักหน่อย...ปราบไม่ล้อเราน้า”
คนตัวเล็กได้แต่ทำเสียงหงุงหงิงใส่เพื่อนทั้งสองคนที่เอาแต่นั่งแบะปากด้วยความหมั่นไส้ นมจืดอยากรู้มากเลยว่าป่านนี้แล้วป้อมปราบกับศัตรูพ่ายทะเลาะกับพระเอกอยู่อีกเหรอ นึกว่าดีกันแล้วซะอีก ไม่ได้การละ...นมจืดจะต้องทำให้ทั้งสามคนกับมาปรองดองกันให้ได้เลย
ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับแผนการปรองดองในหัวของตัวเองก่อนจะหยิบสมุดโน๊ตและชีทเรียนขึ้นมากองเอาไว้พร้อมตั้งใจเรียน
+++++++++++++++++++++++++++ 50% ++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่า
ต้องขออภัยที่หายไปเป็นอาทิตย์นะคะ ตอนนี้ปิดเทอมกลับมาเที่ยวที่ไทยค่า
วันนี้ใครไปงานวายบุ๊คเดินเจอหรือผ่านเราบ้างไหม ฮ่าๆ
อ่านตอนนี้แล้วใครอยากตบนังพระมารวมกันไว้นะคะ เดี๋ยวมันจะน่าตบกว่านี้อีกมั้ง ฮ่าๆ
อ่านแล้วคอมเม้นบอกกันได้นะคะ หรือจะหวีดที่เดิมในแท็ค #รักรสนมจืด
ขอบคุณทุกการสนับสนุนนะคะ
เยิฟฟฟฟฟ