บทที่ 19: นมจืดกับแมงจุ๊ดจิ๊ดในหัว [100%]
“แต่ขอร้อง...อย่าเกลียดกู...”
คนตัวเล็กได้ยินเสียงทุ้มเข้มที่ฟังแล้วมันบีบหัวใจนมจืด มันทำให้นมจืดเหมือนหายใจไม่ออก นมจืดไม่ได้เกลียดพระเอกเลยนะ แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันที่นมจืดไม่กล้ามองหน้าพระเอกเลย
พระเอกส่งสายตาล้ำลึกไปที่คนตัวเล็กแม้ว่าเพื่อนของมันยังคงยืนเป็นหลักบังร่างเพือนอยู่ ป้อมปราบศัตรูพ่ายเห็นไอ้เด็กปีสองมันทำหน้าไม่ปกติพวกเขาก็ไม่ได้คิดจะว่าอะไรต่อ แต่ก็มั่นใจว่าระหว่างมันและเพื่อนเขาคงต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน
จนร่างของรุ่นน้องคณะศิลปกรรมหันหลังเดินจากไป นมจืดก็ยังไม่กล้าโผล่หัวออกจากหลังเพื่อน ได้แต่พึมพำเบาๆกับตัวเอง
“ม...ไม่...ได้เกลียดเลยนะ”
เพื่อนถอนหายใจออกมา
\
“แล้วมันจะได้ยินไหม?” ป้อมปราบไม่รู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เขาคิดว่าเพื่อนเขากำลังสับสน
นมจืดเม้มปากแน่น ก้มหน้าลงต่ำ ศัตรูพ่ายตบผมนุ่มๆปุๆ
“ทีนี้มีอะไรจะเล่าให้พวกกูฟังยัง?”
“คือ...” นัยน์ตากลมโตหลังแว่นตาอันโตช้อนตามองเพื่อน ก่อนจะยอมเปิดปากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ตอนแรกๆที้ฟังก็ยังไม่มีอะไร แต่ยิ่งฟังก็ขมวดคิ้ว นี่ไอ้นมจืดมันอาจหาญไปร้านนั่งชิลกับเขาด้วยหรือไงวะ ดีนะที่มันบอกว่ามันกินนมร้อนไม่ได้กินเหล้า ว่าแต่ว่า...ร้านเหล้าที่ไหนขายนมด้วยวะ อย่างแปลก
จนตอนที่นมจืดค่อยๆเสียงแผ่วลงๆเหมือนไม่อยากเล่าแล้ว จนในที่สุดนมจืดก็กลั้นหายใจเล่าจนจบจนได้
“อะไรนะ!” ป้อมปราบกับศัตรูพ่ายอยากจะพ่นน้ำลายออก
“จูบ!” นี่พวกมึงสองคนมีเรื่องให้พวกกูได้เซอร์ไพรส์ตลอดเลยเว้ย
แต่ตอนนี้ที่อยากจะเต้นเร่าๆมากกว่าคือ ไอ้ห่าพระ! นี่มึงกล้าดียังไงถึงได้มาลวมลามเพื่อนกู ไอ้ผีเปรต!
“ฮื้อ...” นมจืดตาเหลือก ร้องในลำคอ หันซ้ายหันขวาเลิ่กลั่กเพราะกลัวคนอื่นได้ยิน แต่ดีว่าที่เขาไปกินข้าวกันหมดแล้วเลยไม่ค่อยมีใครอยู่ในคณะแล้ว
“มึงเอาแอลกอฮอลล์ล้างปากยัง” ศัตรูพ่ายเร่าๆจะวิ่งไปซื้อมาทั้งแกลลอนแล้วกรอกปากไอ้นมซะเลย
นัยน์ตากลมโตหลังแว่นมองเพื่อนด้วยความไม่เข้าใจ พร้อมทั้งคิ้วเล็กๆที่ขมวดมุ่น
“ทำไมอะ เราไม่ได้เป็นแผลสักหน่อย”
“มันมีเชื้อโรคเว้ย”
คนตัวเล็กตาโต “ฮื้อ ไม่น้าาาา...” นมจืดคิดว่าไม่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเชื้อโรค พระเอกถึงเสื้อผ้าจะไม่ค่อยขาวออกจะเหลืองๆเพราะไม่ใช่ไฮเตอร์ แต่นมจืดคิดว่าไม่น่าจะสกปรกขนาดนั้นนะ
นมจืดยังไม่อยากเอาแอลกอฮอลล์ล้างแผลมาล้างปากซะหน่อย รสขาติมันไม่อร่อยแน่นอนอันนี้นมจืดรู้ดี
“แล้วถ้ามึงไม่ได้เกลียดมันแล้วหลบทำไม?” ป้อมปราบเริ่มเข้าโหมดซีเรียส
นัยน์ตากลมโตหลังแว่นหลุบลง ทำปากขมุบขมิบ ตอบเสียงอ่อย
“เรา...ก็ไม่รู้อะ” นมจืดไม่ได้อยากหลบเลยนะ แต่ว่าขามันพาไปเองอะ อย่าว่าเราเลยน้า “แต่เราไม่ได้เกลียดพระเอกแน่นอน” นมจืดมั่นใจข้อนี้มากๆ
เพื่อนทั้งสองคนถอนหายใจพลางลอบมองหน้ากัน เหมือนว่าไอ้นมจืดมันจะยังไม่เข้าใจตัวเอง เหมือนเป็นเด็กน้อยที่ยังไม่รู้เรื่อง
ราวแม้กระทั่งเรื่องของใจตัวเอง
เฮ้อ...ผู้ปกครองกลุ้มใจมากเลยเว้ย
เหมือนลูกน้อยกำลังจะโดนล่อลวง มันช่างเจ็บปวดและไม่อยากยอมรับ ฮอลลลลลลล
“มึงชอบมันใช่ไหม?” ถ้าไม่ได้เกลียดก็แสดงว่าชอบ
คนตัวเล็กนิ่งงันเหมือนโดนค้อนทุบหัว ตอนนี้นมจืดไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยแม้กระทั่งเสียงแมงจุ๊ดจิ๊ดก็ไม่ได้ยินทั้งสิ้น
ชอบเหรอ?
ชอบ...ที่หมายความว่านมจืดชอบพระเอก ชอบเหมือนแบบที่นมจืดชอบกินนมจืดเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวัน ชอบเหมือนชอบไฮ
เตอร์ที่ขาดไม่ได้เวลาซักผ้าใช่ไหม?
“ชอบ?”
“เออ...ชอบแบบอยากอยู่ข้างๆ อยากเจอไรงี้”
นมจืดชอบอยู่กับพระเอกนะ พระเอกใจดีมากๆถึงแม้จะชอบแกล้งหรือว่าพูดกับนมจืดไม่เพราะก็ตาม แต่นมจืดก็ยังชอบให้พระเอกอยู่ข้างๆ นมจืดชอบเวลาเจอพระเอกนะ นมจืดรู้สึกสนุกมากเลย
“และชอบแบบที่...มึงไม่อยากให้มันหายไป”
ร่างเล็กเม้มปาก พอได้ยินคำพูดของเพื่อนสนิทแล้วนมจืดรู้สึกเหมือนอึดอัดที่หน้าอก มันเจ็บจี๊ดๆ แค่คิดว่าจะไม่ได้เจอพระเอกนมจืดก็เศร้ามาก
“ฮื้อ...” หัวเล็กส่ายไปมาจนผมกระจาย “ไม่เอา...” เสียงเล็กๆพูดด้วยความเอาแต่ใจ
ศัตรูพ่ายตบกลุ่มผมนุ่มปุๆ “ไม่เป็นอะไร...” เขารู้สึกว่าเพื่อนตัวเล็กตอนนี้เหมือนเด็กหลงทาง “ค่อยๆเรียนรู้ใจตัวเอง ค่อยๆคิดดีๆว่าจริงๆแล้วมึงรู้สึกยังไงกันแน่”
นมจืดสบตาเพื่อนทั้งสองคน รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา อย่างน้อยในวันที่นมจืดคิดไม่ตกก็ยังมีเพื่อนคอยให้คำปรึกษา
“อื้อ...ขอบคุณนะ” เขารู้สึกเหมือนตัวเองค่อยๆโอเคขึ้น “เราจะเก็บไปคิด” ตอนนี้สิ่งที่นมจืดทำได้คือต้องถามตัวเองว่าเขารู้สึกยังไงกันแน่
...นมจืดหวังว่าพระเอกยังคงไม่ทิ้งนมจืดไปไหนนะ…
“เฮ้ยมึง...” สมชาติเอาศอกสะกิดเพื่อนที่เดินอยู่ข้างๆด้วยความเหม่อลอย ถึงแม้ว่าหน้าตามันจะยังโหดเหี้ยมเป็นปกติแต่ว่าตาลอยเหมือนโดนดูดวิญญาณไปไหนแล้วก็ไม่รู้
สงสัยวิญญาณล่องลอยไปตามหาหัวใจแล้วมั้ง
ร่างสูงใหญ่มองคนที่เดินมาดักหน้า ถ้าเป็นปกติกูคงแยกเขี้ยวใส่พวกมันไปแล้วแถมยังจะเตะโด่งกลับคณะเพื่อนบ้านไปด้วยเลย เพียงแต่ว่าวันนี้มันไม่ปกติและกูไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแบบนั้นด้วย
“งั้นกูไปซื้อของก่อนละกันนะมึง” สมชาติเดินเลี่ยงไปอีกทาง แน่นอนว่าต่อมเผือกมันกระตุกหงึกๆแต่ว่าตอนนี้เห็นทีจะไม่ใช่เวลาที่ต่อมนี้ทำงานได้ ไม่เป็นอะไร เอาไว้ค่อยเผือกทีหลังก็ได้
พอเห็นเพื่อนเดินไปก่อนแล้ว ร่างสูงใหญ่ก็ยืนนิ่งไม่ได้ขยับเดินต่อหรือถอยหลัง
“อะไร...” เสียงทุ้มต่ำถาม
ป้อมปราบศัตรูพ่ายยักไหล่พร้อมกัน
“เปล่า...มึงมาแกล้งเพื่อนกูทำไม”
คิ้วเข้มขมวดมุ่น “กูไม่ได้แกล้ง” แม้ว่าเขาจะกรึ่มๆแต่ว่ายังมีสติแน่นอน รับรู้ทุกอย่างที่ทำลงไปทั้งหมด “กูทำจริง!”
ศัตรูพ่ายกอดอก “กูถามจริง...มึงจริงจัง?” ลองตอบไม่เข้าหูพ่อจะบ้องงกะโหลกให้กลับบ้านไม่ทันเลย
นัยน์ตาคมกริบจ้องเข้าไปที่อีกฝ่าย ไม่มีแววของความกวนตีนเหมือนปกติสักนิด มีแต่ความจริงจังที่ส่งตรงมา
“เออ...” เขาหนักแน่นและจริงจังกว่าทุกครั้ง
“มึงว่าพวกกูเชื่อมึงได้แค่ไหน?”
ร่างสูงใหญ่นิ่งงัน ก่อนจะตอบเสียงฉะฉาน “กูไม่ได้อยากให้พวกมึงเชื่อ...คนที่กูอยากให้เชื่อมีแค่มัน...”
“มึงรู้ใช่ไหมเพื่อนกูมันยังเด็กน้อย” แม้ว่าอายุมันจะเกินแล้วก็ตาม
“รู้...”
“มึงรู้ว่ามันคิดไม่เหมือนคนอื่น”
คนฟังพยักหน้า
“มันใสจนกูไม่รู้ว่ามันใช้ชีวิตรอดมาจนเจอพวกกูได้ไง”
“รู้...” ใสจนซื่อบื้อจนบางทีกูอยากจะทึ้งหัวด้วย
“และมันยังเปราะบางกับเรื่องพวกนี้” ไอ้นมมันไม่เคยมีความรักแน่นอน
“อืม” เสียงทุ้มต่ำรับคำในลำคอ “แต่กูรอมันได้...” เขาไม่ได้อยากเร่งรีบ “กูรอมันเรียนรู้ค่อยๆเป็นค่อยไป”
กูก็หวังแค่ว่าจะได้เรียนรู้ไปพร้อมกับมันเหมือนกัน
“มึงมั่นใจแล้ว?” ป้อมปราบเลิกคิ้วขึ้น
พระเอกมองหน้าคนถาม เขารู้สึกว่าเขาไม่เคยมั่นใจได้กว่านี้อีกแล้ว
“กูมั่นใจ”
รุ่นพี่ปีสามทั้งสองคนมองหน้ากัน ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“งั้นคำถามสุดท้าย”
“มึงมั่นใจว่าเพื่อนกูดีแล้ว?”
พระเอกคิดว่าคำตอบของเขามีคำตอบเดียวที่เขาอยากตอบได้
.
.
.
“มันดีที่สุดสำหรับกู”
----------------------------- 100% ---------------------------------
สวัสดีค่า
ขออภัยที่หายไปนานนะคะ พอดีว่าเรามีปัญหาด้านสุขภาพนิดหน่อยค่า
เอาอีกครึ่งตอนที่เหลือมาลงให้แล้วนะค้าาาาา น้องนมกำลังโดนแมงจุ๊ดจิ๊ดเล่นงาน ส่วนนังพระก็เป็นหมาหงอยต่อไปเลยจ้า ฮ่าๆๆๆ
คอมเม้นบอกฟี้ดแบ็คกันได้นะค้า หรือจะหวีดกันในทวิตเตอร์ที่ #รักรสนมจืด
ขอบคุณมากค่า
เยิฟฟฟฟ