Chapter 8
หลังเลิกเรียนผมจะแวะมาหาแวมที่โรงพยาบาลทุกวัน เป็นแบบนี้มาประมาณเดือนกว่าแล้ว แรกๆก็ไม่เต็มใจมาเท่าไหร่หรอก แต่เพราะโดนเจ้าผีตัวปัญหานี่ขู่ว่าจะหลอกคนทั้งตึก และเขาก็ทำจริงๆ วันนึงผมสอบแล้วเลิกคลาสดึกเลยนอนหอเพราะเหนื่อยมาก วันนั้นงานเข้าเลยครับ ทั้งตึกไม่สงบต้องเดือดร้อนผมมาปราบผีเช่นเคย จนผมกลายเป็นหมอผีในสายตาคนอื่นๆไปหมด
แต่ตอนนี้การมาที่นี่ถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผมไปแล้ว วันไหนไม่มาจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ผมเริ่มสนิทกับแวมมากขึ้นทุกที จากที่เคยมองเขาในแง่ลบว่าชอบทำตัวหยิ่ง ชอบสร้างปัญหา แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ผมเริ่มรู้สึกดีกับแวมมากขึ้น เวลาผมมีเรื่องอะไรก็จะมาเล่าให้เขาฟังเสมอ มีปัญหาอะไรเขาก็จะคอยรับฟังและให้คำปรึกษาผมตลอด เหนื่อยกับอะไรก็มาระบายให้แวมฟัง จนบางทีผมก็แอบคิดว่าโชคดีที่มีเขาเข้ามาในชีวิตนะ
บ๊อกๆ บ๊อกๆ
“ คุณพ่อครับ หมาใครเนี่ย? น่ารักจัง ”
ผมเอ่ยถามคุณพ่อที่เพิ่งออกมาจากห้องผ่าตัด สีหน้าท่านดูซีดๆเพราะคงเหนื่อยกับการรักษาคนไข้เคสเมื่อกี้
“ ไม่รู้เหมือนกัน มีคนเอามาทิ้งไว้น่ะ พ่อเลยกะว่าจะเอาไปเลี้ยงที่บ้าน ลูกว่าดีมั๊ย? ”
“ ดีครับ ผมอยากเลี้ยงหมามานานแล้ว ”
ผมเข้าไปอุ้มเจ้าโกลเด้นตัวน้อย ตอนนี้มันตัวเล็กมาก คงเพิ่งคลอดได้ไม่นาน แต่หมาพันธุ์นี้พอโตขึ้นต้องตัวโตแน่นอน
“ แล้วเราจะตั้งชื่อมันว่าอะไรดี? ”
ผมนึกชื่อให้เจ้าหมาน้อยอยู่ซักพักก่อนจะได้ชื่อที่ถูกใจ
“ ชาเย็นครับ ”
“ ชาเย็น? ”
“ ใช่ ผมชอบกินชาเย็น แล้วมันก็ขนสีส้มเหมือนชาเย็นเลย คุณพ่อดูสิ ”
บ็อกๆ
เจ้าชาเย็นทำตัวซุกซนเลียมือผมจนเปียกชุ่มไปหมดแล้ว
“ ท่าทางมันจะชอบชื่อนี้นะ ”
คุณพ่อหัวเราะเบาๆ
“ งั้นผมขออุ้มมันไปให้คุณแวมดูนะครับ ”
“ ระวังด้วยล่ะ เจ้านี่มันยิ่งดื้อๆอยู่ ”
“ ครับผม ”
ผมรีบอุ้มเจ้าหมาน้อยขึ้นลิฟฟ์มาที่ห้อง 502 ทันที ผมเป็นคนชอบหมามากๆ และตอนนี้ผมก็รู้สึกเห่อมันเหลือเกิน
“ หมอบีมไปเอาหมาใครมาอุ้มเล่นครับ? ”
แวมขมวดคิ้วงุ้นเมื่อเห็นผมอุ้มหมาเข้ามาในห้อง เขานั่งรอผมที่โซฟาเป็นประจำทุกวัน เวลาผมไม่อยู่คงจะเหงาน่าดู
“ นี่ มันชื่อชาเย็น น่ารักมั๊ย? ”
ผมอุ้มมันเข้ามาใกล้ๆแวม แต่เขาดันถอยหนีซะงั้น
“ ผมไม่ชอบหมาครับ แล้วผมก็ไม่ชอบกินชาเย็นด้วย ทำไมถึงตั้งชื่อนี้ล่ะครับ? ”
แวมมองหน้าเจ้าหมาน้อยอย่างหงุดหงิด
“ ก็ฉันชอบหมานี่นา ชาเย็นฉันก็ชอบกินมากด้วย ”
“ ถ้าคุณหมอชอบ งั้น...ผมชอบด้วยก็ได้ครับ ”
พูดจบแวมก็ยอมขยับเข้าไปใกล้ๆเจ้าชาเย็น เขายอมผมทุกอย่างอยู่แล้ว เป็นผีที่ว่านอนสอนง่ายมาก ว่าแต่ผมกลายเป็นคนเลี้ยงผีตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะเนี่ย?
ผมปล่อยชาเย็นออกจากอ้อมกอดให้มันได้เดินเล่น และสิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ชาเย็นเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าแวมแล้วกระดิกหางดิ๊กๆไปมา
“ ชาเย็นมันมองเห็นผมด้วยครับ ”
แวมหันมาบอกผมพร้อมคลี่ยิ้มดีใจ เขาพยายามจะอุ้มหมาน้อยตรงหน้าแต่ก็ทำไม่ได้
“ ชาเย็น มาหาพ่อมา ”
แวมดีดนิ้วเรียกเจ้าชาเย็นให้เข้ามาหา หมาน้อยตรงหน้ากระโดดโลดเต้นไปมาแล้ววิ่งเข้าไปพยายามเลียมือเขา แต่พอเลียไม่ได้ก็เห่าบ๊อกๆทันที
แวมหัวเราะอารมณ์ดีที่ได้แกล้งเจ้าโกลเด้นตัวน้อย ผมมองภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของคนๆนี้บ่อยๆ แต่ก่อนเขาแทบจะไม่ยิ้มเลย น้อยครั้งนักที่จะเห็นมุมแบบนี้ของเขา
“ พรุ่งนี้ฉันมีสอบแต่เช้านะ ”
พอผมพูดจบ แวมก็ละความสนใจจากเจ้าชาเย็นแล้วหันมาทำหน้าบึ้งมองผม
“ หมอบีมกำลังจะบอกว่าคืนนี้จะไม่อยู่กับผมเหรอครับ? ”
“ เปล่า ไม่ได้จะบอกแบบนั้นซะหน่อย แค่จะเอาหนังสือมาอ่านที่นี่ คืนนี้นายช่วยอยู่เงียบๆไม่รบกวนฉันได้ไหม? ”
“ รับทราบครับ ”
จากสีหน้าที่บึ้งตึงดูอารมณ์ดีขึ้นทันทีเมื่อผมบอกว่าจะไม่ไปไหน
“ เดี๋ยวฉันขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ เอาเจ้าชาเย็นไปไว้ที่บ้านด้วย ”
พูดจบแวมก็พยักหน้ารับรู้
“ อย่าไปนานนะครับ ”
“ คุณหมอไม่ง่วงเหรอครับ? ”
ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาจนถึงเที่ยงคืนกว่า โดยมีแวมเป็นเพื่อนคอยนั่งเฝ้าผมอยู่ตลอด เป็นผีนี่ก็ดีนะ อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องการเวลานอนพักผ่อนด้วย
“ ไม่ง่วงหรอก เรื่องนี้มันยากน่ะ ต้องอ่านหลายรอบหน่อย ”
“ แต่มันดึกแล้วนะครับ พรุ่งนี้ต้องตื่นขับรถไปเรียนแต่เช้าไม่ใช่เหรอ? ”
“ ไม่เป็นไรหรอกน่า ”
“ ที่จริงวันนี้หมอบีมนอนที่หอพักก็ได้นะครับ ไม่ต้องลำบากมาที่นี่ก็ได้ ”
“ ถ้าฉันไม่มานายก็ก่อเรื่องอีกน่ะสิ ”
“ ขอโทษครับ ”
วิญญาณที่นั่งอยู่บนเตียงเริ่มทำหน้ารู้สึกผิด
“ แต่ฉันก็เต็มใจมานะ ”
เขาคลี่ยิ้มทันทีที่ผมบอกแบบนั้น
ติ๊งงง ( เสียงไลน์ )
พี่วี : หมอบีมครับ พรุ่งนี้ว่างไหมครับ? พี่ว่าจะชวนไปทานข้าวเย็นน่ะ
- 00.12 น.
Beam : เอ่อ พรุงนี้ผมน่าจะเลิกเรียนดึกหน่อยครับ คงไม่สะดวก
- 00.13 น.
พี่วี : งั้นไม่เป็นไรครับ
- 00.13 น.
พี่วี : ( สติ๊กเกอร์แมวร้องไห้ )
- 00.13 น.
Beam : ไว้วันหลังนะครับพี่วี
- 00.14 น.
พี่วี : ก็ได้ครับ ถ้างั้นบีมว่างวันไหนบอกพี่นะด้วยนะครับ
- 00.14 น.
Beam : ครับ
- 00.15 น.
“ คุยกับใคร? ”
แวมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ฟังดูก็รู้ว่าคนตรงหน้าติดจะไม่พอใจนิดๆ
“ คุยกับพี่วี ”
ผมตอบไปตามความจริง
“ ช่วงนี้คุยกันบ่อยจังเลยนะครับ ไปกินข้าวด้วยกันก็บ่อย ”
เขาพูดเสียงเรียบพร้อมทำหน้านิ่งประชดอีก
“ อืม ”
“ อืม? หมอบีม ผมไม่ชอบนะ ”
“ ไม่ชอบอะไร? ”
“ ก็ไม่ชอบที่หมอทำแบบนี้ ”
“ แบบนี้? แบบไหนล่ะ? ”
“ ก็ที่หมอทำตัวสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นไง ”
“ แล้วไงต่อ? ”
“ ผมหึง ”
ประโยคนี้ทำให้ผมชะงักทันที หึง? เขาหึงผมจริงๆด้วย ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่เขาเคยบอกว่าชอบผมมันจริงรึเปล่า? นึกว่าแค่พูดเล่นซะอีก
“ หึง? ”
“ อืม ผมดูออกว่าพี่วีชอบหมอ หมออย่าเปิดโอกาสให้เขามากนะครับ หมอก็รู้ว่าตอนนี้ผมสู้เขาไม่ได้ แค่จะแตะต้องตัวหมอ ผมยังทำไม่ได้เลย ”
“ ... ”
“ รับปากกับผมสิครับ ”
“ ว่า? ”
“ รับปากว่าหมอจะยังไม่เปิดใจให้ใคร รอผมก่อนนะครับ นะครับ ”
“ ... ”
“ คุณหมอ รับปากสิครับ ”
แวมทำสีหน้าอ้อนวอน นี่เขากำลังสื่อว่าเขาชอบผมจริงๆงั้นเหรอ?
“ อืม ”
“ อืม? ”
“ ก็ได้ ”
แล้วเขาก็เผยรอยยิ้มดีใจทันทีที่ผมตอบไปแบบนั้น
“ เฮ้อ วันนี้แม่งโคตรเหนื่อยเลยว่ะ ”
“ ใช่ครับ สอบย่อยแล้วยังต้องติวเสริมบล็อกใหม่อีก ”
พอเลิกเรียนไอ้ก่อกับไอ้เกื้อก็บ่นไม่หยุด แต่วันนี้ก็เหนื่อยอย่างที่มันว่าจริงๆ ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนถูกสูบพลังงาน อยากจะนอนพักสักสิบตื่น
“ มึงไปไหนต่อวะหมอบีม? ”
“ ไปโรงบาล ”
“ หมอบีมขับรถไปโรงพยาบาลทุกวันไม่เหนื่อยเหรอครับ? ตอนนี้ก็ค่ำแล้วด้วย ”
“ นั่นสิ มึงจะไปเยี่ยมคุณแวมทุกวันทำไมวะ? ไปเยี่ยมแล้วเขาก็ไม่ตื่นขึ้นมาหรอก พ่อแม่เขายังไม่ไปเยี่ยมบ่อยเท่ามึงเลย ”
“ เรื่องของกูป่ะล่ะ ”
ผมเดินคุยกับไอ้ก่อไอ้เกื้ออยู่ดีๆรถกระบะสีดำคันคุ้นตาก็ขับมาจอดตรงหน้าพวกผม พร้อมกับเจ้าของรถที่เปิดกระจกมาทักทาย
“ หวัดดีครับหมอบีม วันนี้ผมว่าจะไปเยี่ยมไอ้แวม หมอบีมไปด้วยกันมั๊ยครับ? ”
“ วันนี้ผมเอารถมาครับ ”
ผมยิ้มตอบใต้เมฆไป
“ ไม่เป็นไรครับ ที่จริงผมก็แค่จะแวะมาทักทาย เอ่อ เจอกันที่โรงบาลนะครับหมอบีม ไปแล้วนะไอ้เปี๊ยก ”
ใต้เมฆหันไปกวนตีนไอ้ก่อโดยการเรียกมันว่าไอ้เปี๊ยก และนั่นก็ถือว่าเป็นการกวนตีนที่สำเร็จ เพราะไอ้ก่อทำหน้าโมโหมาก แต่มันไม่ทันจะได้โต้ตอบอะไร รถกระบะสีดำก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
“ กูล่ะเกลียดขี้หน้าไอ้หมอนี่จริงๆเลย มึงไปสนิทสนมกับมันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ? ถ้ากูเจอมันอีกจะต่อยให้คว่ำเลยคอยดู ”
ไอ้ก่อหันมาหงุดหงิดใส่ผมแทนซะงั้น
“ ใจเย็นสิก่อ ”
ไอ้เกื่อพยายามปรามพี่ชายไม่ให้โมโห
“ นั่นดิ มึงไปเกลียดอะไรเขานักหนาวะ? ”
“ ก็ดูมันเรียกกูว่าไอ้เปี๊ยกดิ ”
“ ก็มึงเตี้ย ”
“ มึงสูงตายล่ะหมอบีม ”
เอ่า เข้าตัวซะงั้น
“ ก็เตี้ยกันทั้งกลุ่มนั่นแหละครับ ”
“ เออ ป่ะเกื้อกลับบ้าน อารมณ์เสีย ”
ไอ้ก่อทำหน้าหงุดหงิดแล้วเดินนำไอ้เกื้อไปที่รถทันที
“ บายพวกมึง ดูแลไอ้ก่อดีๆนะเว้ยไอ้เกื้อ อย่าให้มันไปกัดใครเข้าล่ะ ”
ผมมาเยี่ยมแวมที่โรงบาลเช่นเคย แต่พอไปถึง เขากลับไม่อยู่ในห้องแล้ว
“ วันนี้คุณหมออนุญาตให้คนไข้ถอดเครื่องช่วยหายใจได้แล้วค่ะ ญาติคนไข้ก็มารับไปอยู่ที่บ้านแล้ว ”
พยาบาลเอ่ยบอกผม ผมได้ยินดังนั้นก็เดินไปถามคุณพ่อที่กำลังคุยกับใต้เมฆอยู่พอดี
“ คุณพ่ออนุญาตให้คุณแวมออกไปแล้วเหรอครับ? ”
“ ใช่ลูก ร่างกายเขาแข็งแรงมากแล้วนะ ”
“ เฮ้อ แบบนี้ผมก็ไม่ได้เจอหน้ามันบ่อยๆแล้วสิ จะไปเยี่ยมมันที่บ้านก็ไม่อยากเจอหน้าไอ้พี่วีเท่าไหร่ ”
ใต้เมฆบ่น
“ เราน่าจะดีใจนะครับที่แวมได้กลับไปอยู่บ้าน อาการเขาก็ดีขึ้นมาก เป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่ใช่เหรอครับ ”
ถึงผมจะบอกแบบนั้นแต่ในใจกลับรู้สึกหวิวๆ พอคิดว่าจะไม่ได้เจอแวมเหมือนทุกวันก็เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ก็เขากลายเป็นส่วนนึงในชีวิตผมไปแล้วนี่ครับ ต่อไปหลังเลิกเรียนก็คงไม่ได้มาเยี่ยมเขาอีกแล้ว ผมคงไม่มีเพื่อนมานั่งเฝ้าเวลาอ่านหนังสือตอนดึกๆ ไม่มีใครมาฟังผมบ่นและรับฟังเรื่องราวที่ผมไปเจอมาในแต่ละวัน แต่เขาอาจจะมีความสุขก็ได้ที่ได้กลับไปอยู่บ้าน และผมก็ควรที่จะยินดีกับเขาไม่ใช่เหรอ
หลังเลิกเรียนวันนี้เป็นวันแรกในรอบเดือนที่ผมไม่ต้องแวะไปที่โรงพยาบาล รู้สึกยังไม่ชินเท่าไหร่ เหงาแปลกๆแฮะ แต่วันนี้เลิกเรียนเร็วผมเลยกลับบ้านมาหาคุณพ่อ
“ ไงหมอบีม? หน้าหงอยมาเชียวนะ ”
คุณพ่อเอ่ยทักทายผมก่อนจะรีบแต่งตัวเตรียมออกไปข้างนอก
“ คุณพ่อจะแต่งตัวออกไปไหนครับเนี่ย? ”
“ มีเคสผ่าตัดด่วนน่ะ พ่อต้องรีบไป ”
“ ช่วงนี้คุณพ่อดูโทรมๆนะครับ ทำงานหนักไปรึเปล่า? ”
“ พ่อสบายมากลูก เดี๋ยวพ่อต้องรีบไปแล้วนะ วันนี้หาข้าวกินเองล่ะ ”
“ ครับ ”
พอพูดจบท่านก็รีบเดินออกไปทันที ผมเป็นห่วงคุณพ่อจริงๆ ช่วงนี้ท่านดูโทรมมาก ผมกลัวว่าท่านจะทำงานหนักจนร่างกายไม่ไหวน่ะสิ
( ไลน์ )
พี่วี : วันนี้มาทานข้าวบ้านพี่นะครับ จะได้มาเยี่ยมแวมด้วย
- 18.25น.
ผมอ่านข้อความจากพี่วีแล้วก็เกิดลังเล ผมอยากไปเจอแวม แต่ก็ไม่อยากเจอพี่เขาเท่าไหร่ พี่วีแสดงออกมากว่าชอบผม เวลาผมอยู่กับพี่เขาผมรู้สึกอึดอัดสุดๆ แต่ก็ไม่กล้าบอกพี่เขาไปตรงๆเพราะเกรงใจ แต่วันนี้พี่วีชวนผมไปทานข้าวที่บ้านก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ผมจะได้รู้ทางไปบ้านแวมแล้วจะได้ไปเยี่ยมแวมด้วย
Beam : ตกลงครับ
- 18.28น.
พี่วี : งั้นเดี๋ยวพี่ไปรับนะ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันครับ
- 18.28น.
Beam : ครับ
- 18.29น.
---------------------------------------
ใจเย็นๆนะครับ แวมใกล้เข้าร่างแล้วล่ะ(มั๊ง)
ค่อยเป็นค่อยไปครับ อย่าเพิ่งรีบเข้าร่างเลย เดี๋ยวดราม่า