{ { NEVER DIE } } ผมยังไม่ตายนะครับหมอ!! -----> Chapter 25 [ 15/01/2561 ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { { NEVER DIE } } ผมยังไม่ตายนะครับหมอ!! -----> Chapter 25 [ 15/01/2561 ]  (อ่าน 36927 ครั้ง)

ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Chapter 17
( 50% )




ผมค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก แสงแดดอ่อนๆที่ลอดผ่านผ้าม่านสีขาวทำให้ต้องหรี่ตาลงเพื่อปรับสภาพ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งตื่นนอนในตอนเช้า พยายามลุกขึ้นแต่ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงเอาซะเลย จะยกแขนขึ้นยังลำบาก พอกวาดสายตาไปรอบๆก็พบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนของผม เกิดอะไรขึ้น?

“ คุณแม่คะ แวมฟื้นแล้วค่ะ ”
น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจถูกเอ่ยจากคนที่นั่งอยู่บนโซฟาที่มุมห้อง

“ ยืนอยู่เฉยทำไมล่ะ ไปตามหมอมาดูสิ ”

“ ค่ะๆ ”
เฟย์พยักหน้ารับและรีบเดินออกไปตามคำสั่งคุณแม่ของผมทันที

“ เกิดอะไรขึ้นกับผมครับแม่ ”

“ ลูกจำไม่ได้รึไงว่าตัวเองโดนยิงจนกลายเป็นเจ้าชายนิทราอยู่นาน ดีนะที่หนูเฟย์คอยดูแลตลอด แม่นี่ปลื้มใจจริงๆที่จะได้เด็กคนนี้เป็นลูกสะใภ้ ”

“ เฟย์คอยดูแลผม? ”

อย่างเฟย์เนี่ยนะ? ตั้งแต่คบกันมาก็ไม่เคยเห็นเขาจะเป็นห่วงผมสักเท่าไหร่ หลายครั้งที่ผมป่วยแต่เธอไม่เคยสนใจ แถมยังเอาแต่ใช้เงินซื้อของแบรนด์เนมเป็นว่าเล่น

“ ใช่แล้วลูก หนูเฟย์น่ะคอยดูแลลูกทุกอย่าง ตอนอยู่โรงพยาบาลเขาก็มาเยี่ยมลูกทุกวันทั้งๆที่ตัวเองก็เรียนหนักจนแทบไม่มีเวลาอยู่แล้ว นี่ขนาดลูกกลับไปรักษาตัวที่บ้าน หนูเฟย์ยังตามไปดูแลตลอด เมื่อคืนเธอก็มาเยี่ยมลูก เธอบอกแม่ว่าแวมเริ่มรู้สึกตัวแล้ว วันนี้แม่เลยให้คนพาลูกมาโรงพยาบาล พอลูกฟื้นแม่ดีใจที่สุดเลยรู้ไหม ”

ผมได้แต่เงียบไม่พูดอะไร ในสมองนึกประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ผมก็จำเรื่องอะไรไม่ได้เลย

“ คุณหมอมาแล้วค่ะ ”

“ ฝากคุณหมอดูแลลูกชายดิฉันด้วยนะคะ ดิฉันคงต้องขอตัวไปทำธุระก่อน สวัสดีค่ะ ”
คุณแม่ยังคงห่วงงานมากกว่าลูกตัวเองเช่นเคย เธอพูดกับคุณหมอจบก็หันไปกระซิบอะไรกับเฟย์เบาๆก่อนจะเดินออกไป



หลังจากที่ให้หมอตรวจร่างกายเรียบร้อย ผมต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่สักระยะ เฟย์ดูแลผมดีมาก เธอมาเยี่ยมผมทุกวัน แสดงความเป็นห่วงจนบางทีผมก็คิดว่าผมอาจจะอคติกับเธอมากเกินไป ความจริงแล้วเฟย์เป็นคนดูแลผมมาตลอดงั้นเหรอ?

แต่อีกหนึ่งเรื่องที่ผมสงสัยคือพยาบาลที่นี่มักจะทำตัวแปลกๆ หลายคนท่าทางหวาดกลัวเหมือนผมเป็นตัวประหลาด ผมเปรยถามพยาบาลคนนึง จึงได้ฟังเรื่องราวอีกเรื่องที่น่าขำสิ้นดี จะเป็นไปได้จริงเหรอที่ผมเป็นผีไปหลอกคนในโรงพยาบาล ตลกว่ะ

อีกเรื่องที่ได้ยินมาคือมีนักศึกษาแพทย์คนหนึ่งที่คอยดูแลผมมาตลอด เขาคือหมอบีม มันเหมือนความฝันมากกว่าความจริงเสียอีก เรื่องราวพวกนี้มันเหลือเชื่อสำหรับผมมาก ตอนนี้สับสนไปหมด ไม่สามารถฟันธงอะไรได้เลย ถึงผมจะดีใจที่รู้ว่าหมอบีมเป็นคนดูแล แต่มันก็ยากที่จะเชื่อ มันแย่ตรงที่ผมจำอะไรไม่ได้เลยนี่แหละ



วันนี้เฟย์โทรมาบอกว่ามีสอบย่อย คงจะไม่ได้เข้ามาเยี่ยม ทำไมรู้สึกสบายใจแปลกๆวะ ผมอึดอัดทุกครั้งที่อยู่กับเฟย์ คงเป็นเพราะผมพยายามจะรู้สึกดีกับเธอแต่ทำไม่ได้ ใจผมเอาแต่ลอยไปอยู่ที่ใครอีกคนมากกว่า ผมไม่ได้เจอหน้าหมอบีมมานานเกินไปแล้ว แต่ก่อนได้แค่ส่องเขาในโซเชียลก็พอ แต่ทำไมตอนนี้ถึงไม่อยากมองรูปเขาในมือถืออีกต่อไป รู้สึกอยากเจอจนแทบทนไม่ไหว

ครืดดด ครืดดด
วิดีโอคอลจากแชทกลุ่ม

“ กูนึกว่าพวกมึงลืมกูไปแล้วซะอีก ”
ผมยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมาอยู่ระดับใบหน้า เพื่อนรักทั้งสองคนตอนนี้กำลังทำหน้าตาตกใจกับการที่เห็นหน้าผม มันสองคนกำลังกินข้าวอยู่ในร้านอาหารร้านประจำที่ผมคุ้นเคย ว่าแล้วก็โคตรคิดถึงพวกมันเลยว่ะ หายหน้าหายตาไม่มาเยี่ยมกูเลยนะ

“ เชี่ย ไอ้แวมฟื้นแล้วจริงๆด้วย!!! ”
เสียงของไอ้เมฆดังจนคนในร้านหันมามองเต็มไปหมด นาคิมเอามือปิดปากมันพร้อมหันไปขอโทษขอโพยคนในร้าน ผมมองผ่านมือถือแล้วอดที่จะขำไม่ได้

“ พวกมึงเพิ่งรู้รึไงวะ? แม่ง ไม่โผล่หน้ามาเยี่ยมกูเลย ”

“ เออ พวกกูเพิ่งรู้ ”

“ กูเห็นมึงออนไลน์ก็นึกว่าใครแอบแฮกรหัสมึงรึเปล่า? เลยคอลไลน์มาดูหน้าแม่ง ”

“ มึงรู้ไหมว่าแม่มึงห้ามไม่ให้พวกกูไปเยี่ยมมึงที่บ้าน กูเลยไม่รู้ว่ามึงเป็นไงบ้าง รู้อีกทีก็ตอนมึงฟื้นนี่แหละ ”

“ จริงเหรอวะไอ้คิม? ”
ทำไมคุณแม่ต้องทำแบบนั้นด้วย?

“ ไม่ต้องแดกแล้วข้าว ป่ะไอ้คิม ไปเยี่ยมไอ้แวมกัน ”
ใต้เมฆพูดจบก็ตัดสายไปทันที

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพวกมันสองคนก็โผล่หน้ามาให้ผมเห็นจนได้ ไอ้เมฆพุ่งตัวมากอดผมแน่นจนแกะไม่ออก กูป่วยแป๊ปเดียวมึงกลายเป็นปลาหมึกไปแล้วเหรอวะ?

“ ไอ้คิม มาเอามันออกไปดิ กูจะตายแล้ว ”

“ ฮ่าๆ พอแล้วไอ้เมฆ แกล้งมันอยู่ได้ ”

“ กูนึกว่ามึงตายห่าไปแล้วรู้ไหม นี่หาร้านตัดชุดดำเตรียมไปงานเลยนะเนี่ย ”
ใต้เมฆผละตัวออกแล้วพูดกวนตีนผมเช่นเคย รักเพื่อนได้ไม่นานจริงๆนะมึงเนี่ย

“ สัด แช่งกู ”

“ กูล้อเล่นน่า ”

“ เออ พวกมึงมาก็ดีแล้ว กูมีเรื่องอยากจะถาม ”
มันสองคนมองหน้ากันอย่างงงๆ

“ มีอะไรวะ? ”

ผมถามว่าตอนที่ผมป่วยมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง? ใครเป็นคนดูแลผมกันแน่? และเรื่องราวที่ผมได้ฟังจากปากสองคนนี้ก็ทำให้ผมอึ้งอยู่นาน

“ พวกมึงพูดจริงเหรอวะ? ”

“ พวกกูเคยโกหกมึงไหมล่ะ ”

มันสองคนไม่มีทางโกหกผมแน่ๆ ในชีวิตผมไม่เคยเจอเพื่อนคนไหนจริงใจเท่ามันสองคนมาก่อน แต่เรื่องที่ผมเป็นวิญญานมาหลอกคนในโรงบาลก็เหลือเชื่อจนเกินจะเป็นไปได้

“ อ่อ ยังมีอีกเรื่องที่กูไม่รู้ว่าควรจะบอกมึงไหม เพราะบางทีมึงอาจจะรู้อยู่แล้ว ”

“ ไอ้เมฆ ถ้ามึงจะพูดขนาดนี้ก็บอกกูมาเถอะ ”

“ มึงชอบหมอบีม ใช่ไหม? ”

“ เฮ้ย มึงรู้ได้ไงวะ? กูไม่เคยบอกพวกมึงเลยนะว่ากูชอบ ”

“ นั่นไง มึงชอบเขาจริงๆด้วย แล้วอย่าบอกกูนะว่ามึงชอบมานานแล้ว ”

“ แล้วมึงรู้ได้ไง? ”

“ มึงบอกกูเอง ”

“ บอกตอนกูเป็นผีเนี่ยนะ? พวกมึงอย่ามาล้อกูเล่น ”

“ กูไม่ได้ล้อเล่น มันอาจจะเหลือเชื่อนะเว้ย เอาเป็นว่ามึงยังไม่ต้องเชื่อกูก็ได้ แต่ยังไงความจริงก็คือความจริง อ่อ อีกเรื่องที่กูจะบอกมึงก็คือ หมอบีมเขาก็ชอบมึงนะเว้ย ถึงกูจะไม่รู้เรื่องของพวกมึงสองคนมากนัก แต่กูดูออกว่ามึงชอบเขาและเขาก็ชอบมึง หรือบางทีอาจจะมากกว่าชอบ ”

เรื่องที่ไอ้เมฆพูดมันทำให้หัวใจผมสั่นด้วยความดีใจ ถึงจะยังไม่เชื่อแต่ก็แอบภาวนาให้เป็นเรื่องจริง ถ้ามันแกล้งโกหกผมไม่ปล่อยมันไว้แน่ เรื่องความรู้สึกแบบนี้ไม่ควรล้อเล่นนะเว้ย

“ มึงคิดเองเออเองป่าววะไอ้เมฆ กูจะเชื่อมึงได้ไหมเนี่ย? ”

“ มึงไม่ได้โง่นะไอ้แวม ”
นาคิมเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปนาน
“ กูรู้ว่ามึงเชื่อพวกกู พยาบาลที่นี่ก็ยืนยันได้ว่าหมอบีมเป็นคนดูแลมึง พวกกูไม่มีเหตุผลอะไรจะโกหก ส่วนเรื่องที่แม่มึงกับเฟย์โกหกมึงก็น่าจะรู้อยู่ว่าเพราะอะไร ”

“ ที่มึงพูดก็ถูก แต่เรื่องผีมันไม่น่าเชื่อจริงๆว่ะ ”

“ เรื่องผีมันไม่สำคัญหรอกเว้ย มันสำคัญตรงที่ว่ามึงจะเอาไงกับชีวิตมึงต่อ จะเลือกเชื่อเฟย์แล้วมึงมีความสุขก็แล้วแต่มึงนะเว้ย ”

“ กูอยู่กับเฟย์แล้วกุไม่มีความสุขเลยว่ะ กูไม่ได้อยากคบกับเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ”

“ กูว่าแล้ว ”
ใต้เมฆอุทานขึ้นมาทันที

“ โว้ยยย พวกมึงว่ากูควรทำไงดีวะ? ”
ผมรู้สึกสับสนจนอยากจะกลับไปหลับเป็นเจ้าชายนิทราอีกรอบ อย่างน้อยก็ไม่ต้องมารับรู้เรื่องวุ่นวายแบบนี้ ใครไม่มาเป็นผมคงไม่เข้าใจหรอกว่าชีวิตตอนนี้มันยุ่งยากขนาดไหน

“ นี่มึงยังไม่เชื่อพวกกูอีกเหรอวะ? มึงอยากให้กูพิสูจน์ยังไงก็ว่ามาเลยมา ”
นาคิมบ่น

“ ตอนนี้กูสับสนว่ะ เฟย์เขาก็ดีกับกูจริงๆ กูไม่ได้หาว่าพวกมึงโกหกนะเว้ย แต่ถ้าเขาพูดความจริงแล้วกูเชื่อพวกมึงก็ถือว่ากูแย่มาก แต่ถ้าเขาโกหกแล้วกูเลือกที่จะเชื่อเขา หมอบีมล่ะวะ? กูชอบหมอบีม กูไม่ได้ชอบเฟย์ ”

“ เอางี้ มึงก็เชื่อเฟย์ไปก่อนก็ได้ เพราะยังไงเขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนมึงอยู่ ถ้าความจริงมันจะเปิดเผย มันคงต้องมีเวลาของมันเอง กูเชื่ออย่างนั้น ”
โหว คราวนี้ไอ้เมฆพูดได้ดีว่ะ
“ ส่วนเรื่องหมอบีม กูแล้วแต่มึงจะตัดสินใจแล้วกัน ”

“ งั้นกูคงต้องขอความร่วมมือจากพวกมึงหน่อยแล้วว่ะ ”

“ ว่ามา ”
พวกมันสองคนตั้งใจฟังผมพูดอย่างใจจดใจจ่อ

“ กูจะลองเชื่อเฟย์ พวกมึงก็ช่วยคิดว่ากูไม่เชื่อพวกมึงด้วย ”

“ เสแสร้งชิบหาย ”

“ เออน่า ตามนี้ ”

“ ได้ เดี๋ยวกูไปบอกหมอบีมให้ว่ามึงไม่เชื่อพวกกู ระวังไว้นะเว้ย ชักช้ากูจะคาบหมอบีมไปแดกเองแล้วนะ ”

“ ไอ้เมฆ! ”
อย่าเล่นแบบนี้นะเว้ย

“ ไอ้คิม ว่างๆเราชวนหมอบีมออกมาแดกเหล้ากันหน่อยดีไหมวะ? ไม่เจอกันนาน คิดถึงว่ะ ”

“ กูว่าดี ”

“ พวกมึง... ”

“ ไปแล้ว กูมีเรียนบ่าย หายไวๆนะเว้ยไอ้แวม ”
ใต้เมฆตบไหล่ผมเบาๆก่อนจะเดินออกไป มึงไม่เห็นรึไงว่ากูโกรธอยู่? โว้ย หายป่วยเมื่อไหร่จะกระโดดถีบมันคนแรกเลยคอยดู

“ กูต้องเข้าบริษัทแล้วว่ะ พอดีมีประชุม ฮ่าๆ ”
ไอ้คิมก็อีกคน พวกมึงจะเล่นแบบนี้กับกูไม่ได้นะ อย่ามายุ่งกับหมอบีมของกูนะเว้ย




หลังจากที่ผมหายป่วยออกจากโรงพยาบาล ผมก็ต้องมาจัดการกับเรื่องเรียนจนวุ่นวาย บางวิชาอาจารย์ใจดีก็อนุญาตให้ตามส่งงานทีหลังได้เพราะไม่เช็คชื่อเข้าเรียน บางวิชาที่เก็บคะแนนสอบย่อยไปเยอะก็คงต้องดร็อปและลงเรียนซัมเมอร์อีกที วิชาที่คะแนนยังพอไหวก็คงต้องอ่านหนังสือสอบหนักพอสมควร ไม่ได้เข้าเรียนก็คงต้องพึ่งตัวเองแล้วล่ะ

ผมเพิ่งรู้ว่ารุ่นพี่ดีกับผมมาก หลายคนช่วยติวและช่วยผมทำงาน หนึ่งในนั้นก็มีไอ้พี่เทียนด้วย มันคอยติวเนื้อหาที่ผมไม่เข้าใจให้ เพื่อนคนอื่นๆก็ช่วยถ่ายเอกสารเลคเชอร์มาให้อ่าน ผมเพิ่งรู้ว่าการมีเพื่อนมันดีอย่างนี้นี่เอง แอบรู้สึกผิดที่แต่ก่อนทำตัวเกเรไม่เป็นมิตรกับใครอยู่เหมือนกัน

ผมยุ่งเรื่องเรียนจนไม่มีเวลาว่างไปไหน วันๆแค่ทำงานกับอ่านหนังสือ และไปรับไปส่งพาเฟย์ พาเธอไปทานข้าวทุกวัน เธออยากได้อะไรผมก็คอยจ่ายค่าบัตรเครดิตให้ทีหลัง ไม่ยุ่งยาก ผมกับเฟย์ยังเหมือนเดิม ผมยังไม่รู้สึกพิเศษอะไรกับผู้หญิงคนนี้เช่นเดิม

แต่คนที่ผมรู้สึกพิเศษด้วยกลับคอยเอาแต่หลบหน้าผม บางครั้งผมเจอหมอบีมที่คณะตอนไปรับเฟย์ เขาเห็นผมแล้วก็เดินหนีทันที เจอกันที่ไหนก็เอาแต่หลบเหมือนไม่อยากเห็นหน้า ไหนไอ้เมฆมันบอกว่าหมอบีมชอบผมไงล่ะ?

ครืดดด ครืดดด
โทรมาเหมือนรู้ว่ากูกำลังนินทาเลยนะ

“ มีไรวะ? ”
ผมกรอกเสียงหงุดหงิดลงไปในมือถือ

“ อะไรวะไอ้แวม มึงโกรธอะไรกูเนี่ย? ”

“ สรุปมึงมีไร? กูต้องไปปั่นงานต่อ ไม่มีเวลามาให้มึงกวนประสาทนะเว้ย ”

“ โหย กูแค่จะโทรมาขออนุญาตมึง กูจะชวนหมอบีมไปแดกเหล้า มึงคงไม่ว่างไปด้วยกันสินะ ”

“ มึงจะเอาไง!? ”

“ เฮ้ย ใจเย็น อย่าขึ้นเสียงดิวะ นี่เพื่อนไง ”

“ สัด ”

“ ก็กูไม่เห็นมึงจะทำอะไรกับเรื่องหมอบีมสักที เห็นหมอบีมเหงาๆกูก็อยากจะปลอบใจ เผื่อเขาจะหันมาชอบกูบ้าง ฮ่าๆ ”

“ มึงพูดงี้บอกมาเลยดีกว่าว่าจะไปร้านไหน มึงเจอกูแน่ ”




ผมติวเนื้อหาเตรียมสอบกับรุ่นพี่ที่คณะเสร็จก็รีบขับรถมาร้านเหล้าที่ไอ้เมฆบอกทันที
 
ร้านนี้เป็นร้านเหล้ากึ่งผับ ผมเดินแหวกผู้คนที่เต้นไปตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน เดินหาอยู่ไม่นานก็เจอไอ้เมฆกับไอ้คิมกำลังนั่งคุยกับหมอบีมอยู่ที่โต๊ะด้านใน ผมเดินไปถึงก็พอจับใจความได้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันบ้าง เพื่อนรักทั้งสองของผมก็แกล้งสร้างเรื่องตามที่ผมบอก ไม่ผิดหวังที่ไว้ใจพวกมันจริงๆ

“ ตอนนี้เฟย์พูดอะไรมันก็เชื่อไปซะทุกอย่าง พาลหาว่าพวกผมเป็นเพื่อนขี้โกหกไปแล้วครับ ”
ไอ้คิมแม่งใส่ไข่จนเกินเหตุว่ะ ผมไม่ได้พูดแบบนั้นซะหน่อย

“ ถ้าผมตื่นมาแล้วมีคนบอกว่าเห็นวิญญาณผมตอนผมหลับ ผมก็ไม่เชื่อหรอกครับ น่าตลกสุดๆ ”

“ ใช่ น่าตลกสิ้นดี ”
ผมรีบเดินเข้าไปขัดจังหวะการสนทนาทันที เกรงว่าถ้าปล่อยหมอบีมไว้กับสองคนนี้นานๆ มันคงใส่ร้ายป้ายสีผมมากกว่านี้แน่ๆ

หมอบีมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าผม ดวงตากลมโตมองมาเหมือนจะพิจารณาอะไรสักอย่าง หน้าตาผมมีอะไรแปลกไปงั้นเหรอ? จะมีก็แค่ทรงผม วันนี้เบื่อๆอยากเซ็ตทรงใหม่เท่านั้นเอง

เวลาหมอบีมมองมาแล้วรู้สึกใจเต้นแรงสุดๆ ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงแสดงสีหน้าไม่เป็นมิตรเช่นเคย ไม่นานคนที่มองมาก็ก้มหน้าหลุบลงต่ำราวกับต้องการจะหลบสายตา เจอหน้าทีไรก็เป็นแบบนี้ตลอด วันนี้ที่ร้านกาแฟก็เหมือนกัน อุตส่าห์บังเอิญได้เจอ กะว่าจะไปนั่งมองหน้าให้หายคิดถึง แต่พอเขาเห็นหน้าผมเขาก็หนีออกจากร้านทันที

“ คุณคือหมอบีมสินะ หึ เก่งจริงๆเลยที่ปั่นหัวเพื่อนผมได้ ... พวกมึงมาแดกเหล้าไม่เห็นชวนกูเลยนะ ”
ผมเอ่ยประโยคที่ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมาจ้องผมอีกครั้งด้วยท่าทางไม่พอใจ ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลยเปลี่ยนเรื่องไปคุยกับพวกไอ้เมฆไอ้คิมแทน ไอ้เมฆเผลอกระตุกยิ้มก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าไม่สบอารมณ์ทันที ก็ตามบทคือพวกเราต้องอยู่ในช่วงทะเลาะกันอยู่

“ กูก็นึกว่ามึงจะไปแดกกับแฟนมึงไง ”
ใต้เมฆพูดด้วยน้ำเสียงแดกดัน

“ กลับกันเหอะ กูเหนื่อยจะพูดกับมันแล้วว่ะ ”
นาคิมพูดจบก็ลุกออกไปทันที ตามติดๆไปด้วยไอ้เมฆ ทำดีมากเพื่อน ทีนี้ก็เป็นโอกาสที่ผมจะได้อยู่กับหมอบีมสองคนซะที

ผมนั่งลงข้างๆหมอบีม แกล้งทำหน้านิ่งเฉยไร้ความรู้สึกแต่ในใจนี่ปั่นป่วนไปหมด เอาไงดีวะ? จะพูดอะไร? จะทำไงต่อดี?

“ จะก้มหน้าอีกนานมั๊ยครับหมอบีม? ไม่มีเรื่องอะไรมาโกหกผมอีกเหรอ ผมรอฟังอยู่ ”
ผมแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขามากขึ้น อยากมองดวงตากลมโตนั่นชัดๆ ใบหน้าน่ารักๆนั่นเริ่มขึ้นสีเล็กน้อย นี่เขากำลังเขินผมใช่ไหม? ให้ตายเถอะ น่ารักว่ะ

“ นายนี่หล่อซะเปล่า เสียอย่างเดียว โง่ว่ะ ”

ผมอึ้งกับคำพูดนั้นไม่นานเขาก็วิ่งหนีไปทันที อยากจะบอกว่าผมขำมากกว่า ไม่ได้รู้สึกโกรธกับคำด่านั่นเลย หมอบีมไม่รู้อะไรซะแล้ว ผมไม่ได้โง่ แต่แค่แกล้งโง่เท่านั้นเอง



ยิ่งเวลาผ่านไปผมก็ยิ่งชัดเจนว่าผมไม่สามารถรู้สึกดีกับเฟย์ได้จริงๆ ผมคิดถึงหมอบีมตลอดเวลา คิดว่าเมื่อไหร่จะได้เจอ อยากเห็นหน้า อยากอยู่ใกล้ๆ

“ มึงคิดอะไรมากวะ ทำตามที่ใจมึงต้องการดิ ไม่ใช่ก็อย่าฝืน ”
คำพูดของไอ้เมฆยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ทำตามที่ใจต้องการงั้นเหรอ? แต่ตอนนี้เฟย์ดีกับผมมาก จะให้ผมทิ้งเธอไปหาหมอบีมได้ยังไง?

“ เหตุผลแค่ว่าไม่รักก็เพียงพอต่อการบอกเลิกแล้ว มึงรักหมอบีม ไม่ได้รักเฟย์ ทำไมมึงต้องทนคบกับคนที่มึงไม่ได้รักด้วยวะ? ”
อืม ที่ไอ้คิมพูดก็ถูก

แต่ผมผิดเองที่ไปคบกับเฟย์ตั้งแต่แรก ผมขอเธอเป็นแฟนทั้งๆที่ไม่ได้ชอบเธอด้วยซ้ำ ถ้าผมเป็นฝ่ายบอกเลิกตอนนี้ผมคงนิสัยแย่มาก แต่จะทำยังไงก็ไม่สามารถรักเธอได้เลยจริงๆ

“ กูตัดสินใจแล้ว กูจะบอกเลิกเฟย์ ขอเวลาให้กูหน่อย ”

“ ดี จะทำอะไรก็รีบทำเถอะ อย่าปล่อยให้มันค้างคา ”




วันนี้ผมมารับเฟย์ที่คณะเช่นเคย ผมกะว่าจะหาโอกาสบอกเลิกเธอให้เรื่องมันจบๆ แต่ไอ้เพื่อนเวรก็ดันหาเรื่องยุ่งยากให้อีก ที่รถหมอบีมยางแบนก็เป็นแผนของไอ้เมฆไอ้คิม พวกมันบอกว่าอยากให้ผมไปส่งหมอบีมจะได้หายคิดถึงสักที เห็นผมเศร้ามาหลายวันเลยนึกแผนให้ผมได้ใกล้ชิดกับเขา

แต่บอกกันก่อนไม่ได้รึไงวะ? เล่นแบบนี้จะให้ตั้งตัวยังไง?

ผมยืนรอที่ลานจอดรถข้างคณะแพทย์อยู่สักพัก ไม่นานคนที่ผมอยากเจอก็เดินมาทางนี้แล้ว เขาดูกล้าๆกลัวๆ คงเป็นเพราะความมืดทำให้เจ้าของสายตาสั้นภายใต้แว่นกรอบหนามองเห็นไม่ค่อยถนัด

“ เดินดีๆก็ได้ครับ จะย่องมาเงียบๆทำไม? ”
ผมเอ่ยทักทาย พอหมอบีมรู้ว่าเป็นผม เขาก็ออกอาการตกใจเล็กน้อย

“ เอ่า แวม ”
น้ำเสียงดูเหมือนไม่ค่อยอยากจะเจอผมเท่าไหร่นะครับ สายตาเขาดูสงสัยว่าผมมาทำอะไรที่นี่?

“ ผมมารอเฟย์ ”
ผมบอกไปโดยไม่รอให้เขาเอ่ยถาม

“ อ่อ เดี๋ยวก็คงมาล่ะมั้ง ”
หมอบีมตอบแค่นั้น ผมเองก็ทำตัวไม่ถูก ได้แต่ยืนเงียบไม่พูดอะไร เขาหยิบกุญแจรถคันเก่าออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วไขเปิดประตูรถ ผมมองการกระทำของเขาและเดาว่าเขาจะทำอะไรต่อ และเป็นอย่างที่คิด หมอบีมเดินลงจากรถอย่างหงุดหงิดก่อนจะพบว่ายางรถทั้ง 4 ล้อถูกเจาะให้แบนจนไม่สามารถขับต่อไปได้

ผมได้แต่ทำเฉยไม่รู้เรื่อง ต้องโทษไอ้เมฆกับไอ้คิมเลยครับ

“ แวม นายมารอเฟย์นานรึยัง? ”

“ อืม น่าจะเกือบชั่วโมงแล้ว ทำไมครับ? ”

“ นายเห็นใครมายุ่งกับรถฉันบ้างไหม? ”

“ ไม่เห็นครับ ”
ผมตอบไปอย่างแนบเนียน

“ จะกลับยังไงวะเนี่ย? ”
หมอบีมพึมพำบ่นกับตัวเองอย่างอารมณ์เสีย

“ ให้ผมไปส่งไหมครับ? ”

“ ไม่อ่ะ นายไปส่งเฟย์เหอะ ”
เขาว่าก่อนจะทำท่าเดินหนี เฮ้ย ไม่ได้นะ ผมอุตส่าห์หาเรื่องที่จะได้ใกล้ชิดเขาขนาดนี้แล้ว จะปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้หลุดมือไปไม่ได้เด็ดขาด

“ เดี๋ยวก่อนครับ ”
ผมรีบวิ่งตามไปคว้ามือเขาไว้ แก้มใสๆของคนตรงหน้าเริ่มขึ้นสีเล็กน้อย เวลาหมอเขินนี่น่ารักมากเลยรู้ไหม
 
“ มีอะไร? ”
คนตัวเล็กกว่าเงยหน้าขึ้นมาถาม น้ำเสียงนั่นพยายามที่จะไม่สั่นเครือ ผมแกล้งสบตากลมโตจนเขาเป็นฝ่ายก้มหน้างุดหลบสายตา ทำไมถึงทำตัวน่ารักน่าแกล้งขนาดนี้ ผมอดที่จะเชยคางคนตรงหน้าให้เงยขึ้นมาไม่ได้ อยากจะมองแววตาที่รู้สึกคุ้นเคยให้ชัดๆอีกครั้ง ผมพยายามอ่านใจอีกฝ่ายว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ จะเอาแต่หลบหน้ากันไปถึงไหน ผมมองริมฝีปากบางได้รูปที่ดึงดูดให้ผมโน้มใบหน้าเข้าหาอย่างไม่รู้ตัว สถานการณ์แบบนี้มันทำให้คนที่มีความอดทนต่ำอย่างผมห้ามใจตัวเองไม่ไหวจริงๆ

“ ทำอะไรกันน่ะ! ”
ผมต้องจำใจผละออกจากหมอบีมทันทีเมื่อได้ยินเสียงบุคคลที่เข้ามาขัดจังหวะ สีหน้าเฟย์แสดงออกว่าไม่พอใจเท่าไหร่นัก

“ เฟย์ ”
ผมเรียกชื่อเธอ เธอก็เดินเข้ามาควงแขนผมไว้ราวกับแสดงความเป็นเจ้าของ

“ รอนานไหมคะแวม? พอดีเฟย์คุยธุระกับเพื่อนนิดหน่อย เลยออกมาช้าค่ะ ”

“ ไม่เป็นครับ ”

“ แล้วบีมมาอยู่นี่ได้ไงคะ? ”

“ หมอบีมเขาจะติดรถไปกับเราด้วยนะครับ พอดีรถเขาเสียน่ะ ”

“ บอกว่าไม่ไงล่ะ ฉันกลับเองได้ ”
เขายังคงยืนยันที่จะปฏิเสธ นี่ไม่อยากเข้าใกล้ผมขนาดนั้นเลยเหรอ? ทำไมถึงหนีหน้าผมอยู่ได้

“ หมอบีมครับ ”
ผมเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงเหยียบเย็นแสดงความโกรธที่โดนขัดใจ คราวนี้ผมไม่ได้แกล้งทำ แต่รู้สึกไม่พอใจจริงๆ ผมยังคงจ้องคนตรงหน้าด้วยความกดดันจนกว่าเขาจะยอมตอบตกลง

“ ก็หมอบีมบอกว่าเขากลับเองได้ไงคะแวม เราไปกันเถอะค่ะ ”
เฟย์พยายามดึงแขนผมไปที่รถ แต่ผมไม่ยอมไป จะเล่นสงครามประสาทจนกว่าเขาจะยอมไปกับผมให้ได้

“ อือ ผมกลับด้วยก็ได้ ”
ผมเผยรอยยิ้มทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ตอบตกลงแต่แรกก็แล้วเรื่อง ทำไมต้องทำให้หงุดหงิดด้วยนะ

ผมแอบมองคนที่นั่งเบาะหลังผ่านกระจกอยู่ตลอดทาง หมอบีมเอาแต่นั่งทำหน้าบึ้งไม่พูดไม่จา ต่างจากหญิงสาวที่นั่งข้างๆผม รายนี้ชวนคุยไม่หยุด

“ แวมคะ เฟย์อยากได้รองเท้าคู่ใหม่ใส่ไปงานวันเกิดเพื่อนอ่ะค่ะ รองเท้าที่มีอยู่มันไม่เข้ากับชุดที่เฟย์เตรียมไว้เลย แวมพาเฟย์ไปซื้อหน่อยนะคะ ”
เฟย์ทำน้ำเสียงออดอ้อนจนผมต้องจำใจตอบตกลง

“ ครับ งั้นเดี๋ยวแวะห้าง...ก่อนนะ ”
ผมบอกคนที่นั่งเบาะหลัง เขาก็พยักหน้าไม่ว่าอะไร

พอมาถึงห้าง...เฟย์เดินเข้าร้านรองเท้าแบรนด์ดังอยู่หลายร้าน ผมคอยช่วยเลือกรองเท้าอยู่อย่างนั้นจนไม่มีเวลาได้ใกล้ชิดหมอบีมเลย ตอนนี้เขานั่งรออยู่คนเดียว

หลังจากเลือกซื้อรองเท้าอยู่นาน ผมก็จัดการจ่ายเงินและถือถุงสินค้าเดินตามเธอออกมา

“ มา เดี๋ยวช่วยถือ ”
หมอบีมเดินมาหยิบถุงใบใหญ่ในมือผมไปก่อนที่จะเอ่ยห้ามด้วยซ้ำ เขามีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่นตลอด

“ ไม่เป็นไรครับ ”
ผมพยายามแย่งถุงพวกนั้นกลับมาถือเอง แต่ก็โดนเฟย์ดึงแขนไว้ซะก่อน เฮ้อ ผมเริ่มเหนื่อยใจกับผู้หญิงคนนี้แล้วนะ

“ แวมคะ เฟย์หิวแล้วอ่ะ แวะทานอะไรกันก่อนดีมั๊ยคะ? ”

“ เฟย์อยากกินอะไรครับ ”

“ อะไรก็ได้ค่ะ แล้วแต่แวมเลย ”

“ งั้นแวะกินข้าวกันก่อนนะครับ ”
ประโยคนั้นผมหันไปพูดกับหมอบีม เขารีบพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว คงจะหิวเหมือนกันสินะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2017 18:47:54 โดย lostboy »

ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Chapter17
( ต่อ )


ผมพาหมอบีมเข้าร้านโปรดที่ผมชอบมากับพวกไอ้คิมไอ้เมฆ ปกติผมกับไอ้คิมเป็นคนที่ติดหรูโดยนิสัย แต่ไอ้เมฆเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย มันเป็นคนแนะนำร้านนี้ ร้านอาหารธรรมดาๆราคาไม่แพงแต่อร่อยกว่าร้านอาหารหรูๆหลายร้านที่ผมทานอยู่เป็นประจำซะอีก

“ รับอะไรดีครับ? ”
พนักงานร้านเดินเข้ามารับออเดอร์ทันทีที่พวกเรานั่งลงที่โต๊ะ

“ เอาผัดเผ็ดปลาดุกกับข้าวสวยที่นึงครับ ”
หมอบีมสั่งเมนูที่ผมกำลังจะสั่งอยู่พอดี ตอนแรกกะว่าจะให้เขาลองชิมดูว่าเมนูนี้อร่อยจริงๆ แต่เขาดันสั่งตัดหน้าผมไปซะก่อน ใจตรงกันจริงๆเลย

“ เอาผัดขี้เมาทะเล ต้มยำปลากะพง แล้วก็หมึกมะนาวค่ะ ”
เฟย์สั่งอาหารเป็นคนถัดไป
 
แล้วผมจะกินอะไรดีล่ะเนี่ย?
“ ผัดเปรี้ยวหวานกับแกงจืดเต้าหู้งั้นเหรอ? ”
ผมมองเมนูอาหารในมือ อยู่ๆก็อยากลองชิมเมนูนี้ขึ้นมา

“ อะไรนะครับ? ”
พนักงานเอ่ยถามผมอย่างรอคำตอบ

“ เอาแกงจืดเต้าหู้กับผัดเปรี้ยวหวานครับ ”

“ รับเครื่องดื่มอะไรดีครับ? ”
พนักงานคนเดิมยังคงถามต่อ

“ เอาน้ำผึ้งมะนาวแก้วนึงค่ะ ”

“ ชาเย็นแก้วนึงครับ ”
“ ชาเย็นแก้วนึงครับ ”
ผมสั่งชาเย็นไปโดยไม่คิด ทั้งๆที่ปกติผมไม่ชอบดื่มน้ำหวานด้วยซ้ำ และบังเอิญหมอบีมก็สั่งเมนูเดียวกับผม ทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยกับเมนูพวกนี้แบบแปลกๆ อยู่ดีๆก็นึกอยากกินซะอย่างนั้น

“ รอสักครู่นะครับ ”
พนักงานรับออเดอร์ ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ ผมมองหมอบีมที่ได้แต่ตักอาหารเข้าปากเงียบๆคนเดียว ส่วนเฟย์ก็ชวนผมคุยต่อเรื่อยๆ

“ เฟย์ซื้อรองเท้าไปงานวันเกิดใครครับ? ไม่เห็นชวนผมบ้างเลย ”
ผมถามอย่างสงสัย เพราะปกติเฟย์จะชอบควงผมออกงานตลอด แต่นี่เธอยังไม่เอ่ยชวนผมเลย

“ เอ่อ เพื่อนคนนี้แวมไม่รู้จักหรอกค่ะ ”

“ เพื่อนคนไหนเหรอ? ผมรู้จักรึเปล่า? ”
หมอบีมถามแทรกขึ้นมาบ้าง

“ เพื่อนต่างคณะน่ะจ่ะ หมอบีมไม่น่าจะรู้จักนะ ”
ผมว่าเฟย์ต้องมีอไรปิดบังอยู่แน่ๆ น้ำเสียงและแววตาแบบนั้นมันเหมือนคนโกหกไม่เนียนเอาซะเลย

พอทานอาหารเสร็จผมก็เป็นคนจ่ายเงิน แต่หมอบีมยืนยันจะจ่ายเองให้ได้ ดื้อชะมัด กว่าจะยอมพูดรู้เรื่อง เขานิสัยไม่เหมือนใครจริงๆ ชอบช่วยเหลือคนอื่นแต่ไม่เคยอยากได้อะไรจากคนอื่นเลย และนี่ก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผมชอบเขา

“ แวมไปรอที่รถก่อนเลยนะคะ พอดีเฟย์อยากจะซื้ออะไรอีกนิดหน่อย หมอบีมมาช่วยเฟย์ถือของหน่อยสิคะ ”

ซื้อของอะไร ทำไมถึงไม่ให้ผมไปด้วย?

“ ได้ครับ ”
หมอบีมตอบรับคำขอของเฟย์อย่างว่าง่าย

“ ให้ผมไปด้วยไหมครับ? ”

“ ไม่เป็นไรค่ะ แวมไปรอที่รถเถอะ ”
ผมหันไปมองหมอบีมก็ไม่ได้พูดอะไร คงไม่มีไรหรอกมั้ง เอางั้นก็ได้ ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป

ผมเดินมาถึงที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน เวลาห้างใกล้ปิดแบบนี้มีรถจอดเหลือไม่กี่คัน คนจะเดินผ่านไปมายังไม่มีสักคน ผมนั่งรอในรถอยู่สักพักก็มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับมาเสียหลักล้มลงอยู่ไม่ไกล ผมรีบวิ่งออกไปดูเกรงว่าเขาจะบาดเจ็บ

ชายสองคนใส่หมวกกันน็อคปิดบังใบหน้ายกรถขึ้นนั่งพร้อมขับมาทางผมอย่างรวดเร็ว ไม่นานพวกมันก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าผม ไอ้คนที่ซ้อนท้ายหยิบปืนขึ้นมาเล็งเข้าหาผมทันที ตอนนี้ผมได้แต่นิ่งทำอะไรไม่ถูก ในใจคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากกระสุนปืนด้านหน้า

“ ปืน กรี๊ดดด! ”
คนร้ายสองคนหันไปตามเสียงโวยวายของเฟย์ เธอวิ่งหนีไปแต่หมอบีมยังยืนอยู่ตรงนั้น ทำไมถึงไม่หนีไปนะ เขาร้องเสียงดังให้คนช่วยแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าใครจะได้ยิน

“ อย่าไปสนใจ รีบจัดการแล้วรีบหนีเถอะ ถ้างานไม่สำเร็จพวกเราโดนดีแน่ ”
ไอ้คนขับมอเตอร์ไซค์บอกเพื่อนของมันที่ถือปืนอยู่

“ เออ ”
เพื่อนของมันเตรียมที่จะเหนี่ยวไกล ตอนนั้นผมไม่ทันตั้งตัวจริงๆ คิดแค่ว่าจะหนียังไงก็คงหลบกระสุนไม่พ้น ผมไม่กลัวปืนเพราะเคยโดนยิงมาแล้วครั้งนึง ตอนนั้นมันไม่เจ็บเลยซักนิด รู้ตัวอีกทีก็ตอนฟื้นขึ้นมานั่นแหละ ตอนนี้ก็แค่ภาวนาให้มีคนส่งผมไปถึงโรงพยาบาลทันเวลาก็พอ

ปัง!!!
เสียงปืนดังสนั่นราวกับฟ้าผ่า ผมรู้สึกว่าตัวเองโดนผลักให้ล้มลง คนที่โดนยิงคือหมอบีม เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากแขนเปื้อนเสื้อนักศึกษาเป็นทางยาวจนน่ากลัว

“ หมอบีม! ”
เขายิ้มบางๆให้ผมเหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร

รปภ.วิ่งกรูกันเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงปืน แต่ก็ไม่ทันที่จะจับคนร้ายได้

“ ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ? ”
ผมรีบวิ่งเข้าไปประคองหมอบีมทันที ผิวที่ขาวมากอยู่แล้วยิ่งซีดไปกว่าเดิม ผมเป็นห่วงคนข้างๆจนแทบคลั่งแต่ก็ต้องตั้งสติพาเขาขึ้นรถไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

ผมมองคนที่หลับอยู่เบาะข้างคนขับแล้วใจไม่ดีเลย ต้องคอยเรียกให้ตื่นขึ้นมาเพราะกลัวว่าเขาจะไม่ฟื้นอีก
“ หมอบีมครับ อย่าหลับนะครับ ”

“ ฉันไม่ได้หลับซะหน่อย แค่ไม่อยากมองเลือดตัวเอง แม่ง จะไหลอะไรเยอะแยะเนี่ย ”
เฮ้อ เห็นเอ่ยปากบ่นแบบนี้ค่อยอุ่นใจขึ้นมาหน่อย

พอมาถึงโรงบาลผมก็พาเขามาที่ห้องฉุกเฉิน มีแพทย์เวรคอยดูแลเรียบร้อย ทางห้างโทรมาบอกเรื่องคนร้ายว่าจับไม่ได้ แต่ก็แจ้งตำรวจเรียบร้อยแล้ว ผมขับรถไปที่สถานีตำรวจใกล้ๆเพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ทางห้างยื่นข้อเสนอชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่ผมบอกไปว่าไม่เป็นไร ขอแค่จับคนร้ายได้ก็พอ ผมอยากรู้ว่าพวกมันมันเป็นใคร ทำไมถึงทำแบบนี้

ผมกลับมารับหมอบีมที่ห้องฉุกเฉิน ไม่นึกว่าจะเจอภาพที่ทำให้รู้สึกโมโหได้ขนาดนี้ ตอนนี้ไอ้หมอคนนั้นมันกำลังโอบเอวหมอบีมอยู่ อยากจะเดินไปต่อยสักหมัดว่ะแม่ง

 “ ทำอะไรกัน? ”
ผมรีบเข้าไปขัดจังหวะสองคนนี้ทันที ทำไมหมอบีมถึงปล่อยให้มันแตะเนื้อต้องตัวอยู่ได้วะ?

 “ เป็นไงบ้างแวม ตำรวจจับคนร้ายได้ไหม? ”
ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ ตอนนี้ผมรู้สึกอารมณ์ไม่ดีสุดๆ

“ นี่แฟนมึงเหรอวะ? ”
ไอ้หมอนั่นหันไปถามหมอบีม ท่าทางจะสนิทสนมกันพอสมควร ยิ่งเห็นยิ่งหงุดหงิด

“ เฮ้ย ไม่ใช่นะครับพี่หมอ ”

หึ พี่หมองั้นเหรอ? ผมเดินผ่านหน้าไอ้พี่หมอไปหาหมอบีมทันที ไม่อยากให้เขาอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้นานๆ
 “ กลับได้รึยังครับ? ผมจะไปส่ง ”
ผมไม่รอคำตอบ รีบดึงแขนข้างที่ไม่เจ็บให้เขาเดินตามมาทันที

“ เดี๋ยว ”
ไอ้พี่หมอเอ่ยเรียก ทำให้ผมต้องหยุดเดินและหันไปถามว่ามันมีปัญหาอะไรอีก

“ มีอะไร? ”
ไอ้พี่หมอทำหน้าไม่พอใจนิดๆที่ผมพูดเสียงแข็งใส่

“ อย่าลืมพามันไปรับยาด้วยล่ะ เค้าเตอร์อยู่ทางขวามือ ”

“ เออ ”




หลังจากที่ผมทะเลาะกับหมอบีมเรื่องไอ้พี่หมอคนนั้นมาตลอดทาง ผมก็มาถึงหน้าบ้านเขาจนได้ บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังเล็กๆแต่ก็ร่มรื่นน่าอยู่มาก ผมรู้สึกเหมือนตัวเองผูกพันธ์กับบ้านหลังนี้ยังไงไม่รู้ มองแล้วรู้สึกอบอุ่นแปลกๆ หรือบางทีผมอาจจะแค่คิดไปเอง มัวแต่พิจารณาบ้านจนไม่รู้เลยว่าหมอบีมลงจากรถไปเรียบร้อยแล้ว ผมยังไม่ได้คุยอะไรกับเขาเลย ทั้งๆที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้แล้วแท้ๆ

 “ ขอบคุณที่มาส่งนะ ”
ผมได้แต่พยักหน้ามองคนที่ผมแอบชอบมานานเดินหนีผมไปอีกครั้ง

ผมอยากใช้เวลาอยู่กับเขาให้มากกว่านี้ วันนี้หมอบีมต้องมาเจ็บตัวเพราะผม เขาเป็นห่วงผมขนาดนี้แสดงว่าเรื่องที่ไอ้เมฆพูดว่าหมอบีมก็ชอบผมเหมือนกันเป็นเรื่องจริง ยังไงก็ขอเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนแล้วกัน ผมเลิกกลั้นรอยยิ้มแล้วมองหน้าตัวเองในกระจกรถ แค่เห็นหน้าหมอบีมก็มีความสุขแล้ว

ผมเคยปล่อยหมอบีมไปแล้วครั้งนึง คราวนี้ผมจะต้องทำอะไรสักอย่าง จะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นอีกเด็ดขาด!

ผมขับรถออกไปจอดไม่ไกลนัก ดับรถแล้วเปิดประตูลงมาอย่างหัวเสีย

“ รถเสียเหรอ? ”
เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด หมอบีมเดินเข้ามาถามผมจริงๆด้วย

“ ครับ อยู่ๆก็ดับไปเลย ”
ผมรอฟังเสียงตอบกลับว่าเขาจะเชื่อหรือเปล่า ถ้าเกิดนึกอยากจะเช็ครถขึ้นมาจะทำไงดีล่ะเนี่ย?

“ ต้องมีใครแกล้งพวกเราแน่ๆ ”
เฮ้อ โล่งอกที่เขาไม่สงสัยอะไร แถมยังนึกว่าเป็นฝีมือคนอื่นอีก

“ ผมคงสร้างศัตรูไว้เยอะจริงๆ ”

“ แล้วนี่นายจะเอาไงต่อ? ดึกป่านนี้อู่ซ่อมรถแถวนี้คงปิดแล้วล่ะ เดี๋ยวฉันโทรเรียกช่างให้แล้วกัน ”

“ กว่าจะซ่อมเสร็จคงอีกนาน ผมต้องขอค้างที่นี่สักคืนแล้วล่ะครับ ”

“ ฮะ? ค้างที่นี่? ”

“ แต่ถ้าหมอบีมลำบากใจ งั้นผมหาทางกลับเองก็ได้ครับ ”

“ เอ่อ ตอนนี้ดึกมากแล้ว งั้นนายพักที่นี่ก่อนก็ได้ ”

หึ ตามแผน



บ๊อก บ๊อก บ๊อก
สุนัขพันธุ์โกลเด้นตัวโตเดินกระดิกหางเข้ามาหาผมอย่างร่าเริง คิดว่าน่ารักรึไง

“ ช่วยเอามันไปไกลๆผมหน่อยได้ไหมครับ ผมไม่ชอบหมา ”
ผมพยายามเดินหนีให้ห่างจากมันมากที่สุด แต่ไอ้หมาดื้อนี่ก็ยังจะตามมาอีก

“ ชาเย็น มานี่เร็วลูก ”
ขนาดหมอบีมเรียกยังไม่ยอมไปเลย มันคงจะชอบผมมาก

“ มันคงอยากเล่นกับนายน่ะ เดี๋ยวฉันจะไปหาข้าวให้มันกิน ส่วนนายก็เล่นกับมันไปก่อนนะ ”

“ เฮ้ย หมอ เดี๋ยวก่อนครับ หยุดเลยนะไอ้หมาดื้อ ไม่ต้องเข้ามาใกล้ ”

ไอ้เจ้าชาเย็นนี่พูดไม่รู้เรื่องเอาซะเลย ผมเหนื่อยจนหยุดไล่มันไป มองดูดีๆมันก็น่ารักเหมือนกันนะ ทำมาเป็นแลบลิ้นกระดิกหางดีใจ ผมหมั่นไส้เลยลูบหัวมันเล่น ผมไม่เคยเลี้ยงหมา เคยแต่เห็นคนอื่นเขาลูบหัวมันแล้วมันจะเคลิ้ม เออจริงวะ ไอ้เจ้าชาเย็นนี่ก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย

“ ไหนว่าไม่ชอบหมาไงล่ะ? ”
หมอบีมเดินออกมาจากในครัวพร้อมกับถืออาหารสุนัขมาให้เจ้าชาเย็นด้วย

“ เจ้าชาเย็นของหมอมันน่ารักดีครับ ดูเชื่องมากเลย ”

“ มันก็น่ารักเหมือนเจ้าของมันนั่นแหละ ”

“ ครับ น่ารักจริงๆด้วย ”

“ เออ ฉันจะไปนอนแล้ว น่ะ...นายก็นอนโซฟานี่แล้วกันนะ ”
พอเขินแล้วก็เปลี่ยนเรื่องเลยนะครับหมอบีม น่ารักขนาดนี้ยิ่งเห็นยิ่งอยากแกล้ง

“ เดี๋ยวก่อนครับ หมอจะให้ผมนอนตรงนี้จริงๆเหรอ? ถ้ายุงกัดจนผมเป็นไข้เลือดออกขึ้นมาล่ะครับ ใจร้ายจริงๆเลย ”

“ งั้นนายก็ไปนอนห้องคุณพ่อแล้วกัน ”

“ เอ่า แล้ววันนี้คุณพ่อของหมอไม่อยู่บ้านเหรอครับ? ”

“ พ่อฉันอยู่นั่นไง ”
ผมมองไปที่ภาพขาวดำบนฝาผนัง พ่อของหมอบีมเสียแล้ว? นี่แสดงว่าเขาอยู่บ้านหลังนี้ตัวคนเดียวตลอดเลยน่ะสิ ทำไมชีวิตเขาถึงน่าสงสารขนาดนี้นะ
 
“ เอ่อ ผมเสียใจด้วยนะครับ ”

“ อืม ”
เขายิ้มบางๆตอบผม แววตานั่นพยายามซ่อนความเศร้าไม่ให้ใครเห็น แต่ผมดูออก

“ แบบนี้หมอบีมก็ใช้ชีวิตคนเดียวมาตลอดเลยสิครับ? ”

“ คงงั้นมั้ง ดึกแล้ว ไปนอนเถอะ ”

“ ผมขอไปนอนห้องหมอนะครับ ผมกลัวผี ”

“ ฮะ? นายนี่นะกลัวผี? ”

“ ครับ ”

“ งั้นฉันนอนห้องคุณพ่อแล้วกัน ”

“ ทำไมต้องทำให้มันยุ่งยากด้วยครับ นอนห้องเดียวกันก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่ ”

“ ฉันไม่ชอบนอนร่วมห้องกับใคร มันอึดอัดเข้าใจไหม? ”

“ แต่ผมกลัวผีนะครับ ”

“ นั่นมันเรื่องของนาย ”

“ ผมอยากนอนกับหมอ ”

“ ... ”

เดี๋ยว เมื่อกี้ผมพูดอะไรผิดแน่ๆ ทำไมสีหน้าหมอบีมถึงดูหวั่นๆ ให้ตายเถอะ ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยจริงๆนะ เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว

“ ผมหมายความว่าถ้ามีหมอนอนข้างๆก็คงอุ่นใจกว่านอนคนเดียวน่ะครับ ไม่งั้นผมคงกลัวผีจนนอนไม่หลับแน่ๆ ”

“ เรื่องมากว่ะ ”

“ นะครับ ”
ผมแกล้งทำหน้าวิงวอนน่าสงสารเท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่ได้เป็นเดือนมหาลัยก็คงไม่กล้าทำหน้าแบบนี้นะเนี่ย คนอื่นว่าผมหล่อผมก็จะคิดว่าตัวเองหล่อเช่นกัน คนหล่อทำอะไรก็คงดูดีมั้ง ใช่ไหมวะ?

“ เออ ก็ได้ ”

ในที่สุดผมก็ได้เข้ามาในห้องหมอบีม แค่คิดว่าจะได้นอนข้างเขาก็ตื่นเต้นจนมือเย็นไปหมดแล้ว หายใจเข้าลึกๆไว้ไอ้แวม อย่าคิดเรื่องไม่ดีแบบนั้นกับหมอบีมนะเว้ย ผมสูดหายใจตั้งสติก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียง

“ หมอจะไปไหนครับ? ”

“ ไปอาบน้ำ ถ้านายง่วงก็นอนเลยก็ได้นะ ”

“ ผมยังไม่ง่วงครับ กะว่าจะอาบน้ำก่อน ”

“ อืม งั้นฉันอาบก่อนนะ ”
หมอบีมถอดแว่นสายตาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินไปเปิดตู้หยิบเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวออกมา ผมไม่สามารถละสายตาจากคนตรงหน้าได้เลย ทำไมเขาถึงทำให้ผมหลงได้ขนาดนี้นะ

“ เวลาหมอบีมถอดแว่นก็น่ารักไปอีกแบบนะครับ ”
ผมแกล้งหยอด

“ โว้ยยย เลิกพูดอะไรแบบนั้นซะทีเถอะ จะอ้วก ”
น้ำเสียงไม่พอใจแต่แก้มแดงไปหมดเลยนะครับ

“ ครับ งั้นผมขอดูหนังสือพวกนี้รอหมออาบน้ำนะครับ ”
ผมเดินไปสำรวจชั้นวางที่มีหนังสือหลายร้อยเล่มวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด หมอบีมนี่หนอนหนังสือชัดๆ

“ อืม อยากอ่านเล่มไหนก็หยิบตามสบาย ”

ระหว่างที่หมอบีมอาบน้ำอยู่ผมก็กวาดสายตาเลือกหนังสืออ่านค่าเวลาไปเรื่อยๆ สายตาสะดุดเข้ากับหนังสือเล่มนึง ‘ 134340 Pluto ’ มันเป็นหนังสือต่างประเทศที่เขียนเกี่ยวกับดาวเคราะห์ดวงนึงที่ถูกตัดออกจากระบบสุริยะเมื่อนานมาแล้ว ไม่รู้อะไรทำให้ผมสนใจหนังสือเล่มนี้จนเปิดอ่านไปได้หลายหน้าทั้งๆที่ผมไม่ค่อยชอบภาษาอังกฤษเลย

“ อ่านอะไรอยู่เหรอ? ”
ผมไม่รู้ว่าหมอบีมออกมาจากห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ มัวแต่สนใจเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้อยู่

“ หนังสือเกี่ยวกับดาวพลูโตน่ะครับ ผมจำได้ว่าตอนสมัยประถมเคยเรียนว่ามันอยู่ในระบบสุริยะด้วย ”
ผมเอ่ยตอบเขาทั้งๆที่สายตายังจ้องอยู่กับการอ่านหนังสือในมือ

“ อ่านได้ตามสบายเลยนะ ฉันนอนแล้ว พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า ”
เอ่า หมอบีมทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วหลับตาไม่สนใจผมเลย

“ เดี๋ยวครับหมอ ”
ผมเก็บหนังสือเข้าที่เดิมก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆคนที่นอนอยู่บนเตียง

“ มีอะไร? ”
เขาลืมตาขึ้นมาเอ่ยถามผม

“ ทำไมวันนี้หมอถึงช่วยชีวิตผมไว้ ไม่กลัวตายรึไงครับ? ”

“ กลัวดิ ใครเขาจะไม่กลัวตายล่ะ ฉันแค่เห็นนายยืนซื่อบื้ออยู่ เลยวิ่งเข้าไปช่วยผลักออกเท่านั้นเอง ไม่ได้เอาตัวไปรับกระสุนแทนซะหน่อย แต่มันแค่ผิดพลาดทางเทคนิค ฉันเลยเจ็บตัวแบบนี้ไง ”
บอกว่าเป็นห่วงผมก็จบแล้วครับ ผมรู้

 “ เอาเถอะ ยังไงผมก็ต้องขอบคุณหมอบีมมากนะครับ ตอนนี้ผมติดหนี้ชีวิตหมออยู่ หมออยากได้อะไร ถ้าให้ได้ผมก็จะให้ ”

“ ฉันไม่อยากได้อะไรจากนายทั้งนั้นแหละ ”

“ งั้นเหรอครับ? ผมก็นึกว่าหมออยากได้... ”
ผมโน้มตัวเข้าใกล้คนที่นอนอยู่ สายตาเขาดูหวั่นๆอย่างเห็นได้ชัด หึ อยากหนีผมดีนัก รู้มั๊ยว่าผมอยากเจอหมอขนาดไหน ต่อไปนี้ผมจะไม่ยอมให้หมอหลบหน้าผมอีกแล้ว

ถึงผมจะยังจำอะไรไม่ได้ แต่ที่แน่ใจตอนนี้คือผมรู้สึกดีกับหมอบีมมากเกินกว่าจะปล่อยเขาไป ถ้าเรื่องจริงมันเป็นอย่างที่ไอ้เมฆกับไอ้คิมเล่า ผมก็อยากจะฟังความจริงจากปากหมอบีม อยากให้เขายอมรับว่ารู้สึกแบบเดียวกับผม ถ้ามันเป็นเรื่องจริงแล้วทำไมเขาต้องปิดบังเรื่องทั้งหมดกับผมด้วย

ยังไงก็ตาม ผมจะพิสูจน์ความจริงด้วยตัวเอง แต่ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ใจผมก็ให้คนตรงหน้าไปหมดแล้ว

“ นายคิดอะไรอยู่กันแน่? ”
หมอบีมถามผมด้วยแววตาดูสับสน

“ ผมรู้นะว่าตอนที่ผมหลับเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล หมอสร้างเรื่องหาว่าผมเป็นผี กุเรื่องว่าตัวเองดูแลผมทั้งๆที่เฟย์ต่างหากที่เป็นคนดูแล หึ หลักฐานมันก็บอกอยู่ว่าผมตื่นขึ้นมาเจอเฟย์เป็นคนแรก แต่หมอไม่เคยมาเยี่ยมผมเลยด้วยซ้ำ หมอเก่งมากเลยครับที่หลอกพวกเพื่อนสนิทของผมได้ แต่หมอหลอกผมไม่ได้หรอก หมอสร้างเรื่องโกหกนี่ขึ้นมาเรียกร้องความสนใจจากผม แถมยังเอาตัวเองมาบังกระสุนให้ผม น่าประทับใจจริงๆเลยนะครับ ผมก็นึกว่าหมอ...ชอบผมซะอีก ”
ผมพูดไปตามความคิดแรกในตอนที่ยังไม่รู้ความจริงจากปากไอ้เมฆไอ้คิม

มานึกดูแล้วรู้สึกโกรธที่หมอบีมยอมปล่อยให้ผมเชื่อแบบนั้น เขาไม่เคยมาเยี่ยมผมด้วยซ้ำ เจอกันทีไรก็หลบหน้า แถมยังผลักไสให้ผมไปหาเฟย์ง่ายๆ รู้ไหมว่าผมไม่มีความสุขเลย เหมือนหมอตั้งใจจะออกไปจากชีวิตผมให้ได้ แบบนี้ผมควรจะโกรธไหมล่ะ?

“ นายคิดว่าฉันเป็นคนแบบนั้นงั้นเหรอ? เหอะ แล้วอย่าบอกนะว่าเรื่องทั้งหมดในวันนี้นายตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อแกล้งฉัน? ”

“ จะว่าแบบนั้นก็ไม่ถูกทั้งหมดหรอกครับ ไว้ว่างๆผมจะเล่าให้ฟังแล้วกัน แต่ตอนนี้ขอตัวไปอาบน้ำก่อน เริ่มง่วงแล้วเหมือนกันครับ ”

ผมเดินคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำทันที

“ ต้องการอะไรกันแน่วะ!? ”
เสียงโวยวายบ่งบอกถึงความโกรธของคนพูด ผมยิ้มมุมปากเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เหอะ นี่คือบทลงโทษที่หมอพยายามจะหนีไปจากชีวิตผม บอกเลยว่าผมไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นหรอกครับ และต่อจากนี้ไปผมจะเป็นฝ่ายคอยตามหมอเอง จะไม่ยอมปล่อยให้หนีผมไปแบบนั้นอีก

หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็รู้สึกสมองปลอดโปร่งขึ้นมาก มานึกทบทวนดูอีกที หมอบีมคงคิดมากกับคำพูดของผมแน่ๆ ขนาดผมเป็นคนแกล้งยังรู้สึกกดดันเลย ขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจนะครับ ผมพูดกับคนที่หลับสนิทอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว ขนาดตอนหลับยังทำให้ผมละสายตาไปจากเขาไม่ได้เลย

ผมเดินไปปิดไฟแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างๆหมอบีมช้าๆ แสงไฟจากถนนข้างนอกยังส่องสว่างลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้ผมสามารถมองเห็นใบหน้าขาวๆของคนข้างๆได้ ผมมองภาพตรงหน้าอยู่เนิ่นนาน อยากจะยื่นมือไปโอบกอดร่างบางเหลือเกิน แต่สุดท้ายก็ต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้

‘ ฝันดีนะครับ ดาวพลูโตของผม ’







....................................................
มาอัพให้ตามสัญญาแล้วนะครับ  :3123: :L1:
ตอนนี้จะเขียนในพาร์ทของแวมว่าเขาคิดอะไรยังไง 
ตอนหน้าจะเจออะไรก็...ฝากติดตามกันต่อไปนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2017 18:48:55 โดย lostboy »

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
อยากให้อิเฟย์โดนแฉมากมายพร้อมกับผัวมัน
รู้ล่ะใครเป็นคนสั่งยิงเป็นคนใกล้ตัวแน่ๆ

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
สงสารหมอบีมจัง นางเอ่กนางเอก  :z3:

แต่งงอ่ะ ใครกันทำไหมถึงพยายามจะฆ่าแวมจัง :katai4: :m29:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
สงสารหมอบีม 

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ แอนนาแอนนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
มันก็จะตึงๆหน่อยๆ

ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Chapter 18




วันนี้แวมขับรถมาส่งผมที่มหาลัย แต่ผมสงสัยอย่างนึงว่าเมื่อคืนเขารถเสียไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนเช้าถึงใช้งานได้ทั้งๆที่ยังไม่มีช่างมาซ่อมด้วยซ้ำ "เช้ามาก็สตาร์ทติดเฉยเลย แปลกดีเหมือนกันนะครับ" ...อืม แปลกดีเหมือนกัน

" ถ้าเลิกเรียนแล้วโทรหาผมนะครับ ผมจะมารับ " แวมตะโกนผ่านกระจกรถที่ถูกเลื่อนลง เขาตั้งใจส่งเสียงดังให้คนอื่นหันมามองเพื่อแกล้งผมชัดๆ

ผมต้องชะงักฝีเท้าที่กำลังจะเดินเข้าตึกและหันกลับมาหาเขาทันที นักศึกษาหลายคนต่างจ้องมาทางผมและเจ้าของรถหรูที่จอดอยู่หน้าคณะแพทย์ ผมพยายามไม่สนใจคนรอบข้าง เดินกลับมาคุยกับแวมด้วยสีหน้าหงุดหงิด

" นายไม่ต้องมารับฉันหรอก ไปรับแฟนนายสิถึงจะถูก "

" อืม? งั้นหมอบีมกลับเองได้ใช่ไหมครับ? "
นั่นไง สุดท้ายผมก็ไม่สำคัญเท่ากับแฟนของเขาหรอก

" ฉันกลับเองได้ สบายมาก " ผมฝืนยิ้ม

" วันนี้ผมไม่ได้ไปส่งเฟย์ แต่มาส่งหมอบีม ผมว่าเธอคงโกรธผมแย่ " แวมพึมพำกับตัวเอง

" นายก็รีบไปง้อเธอสิ " ถึงผมจะพูดแบบนั้นแต่ข้างในกลับรู้สึกจุกอย่างบอกไม่ถูก

" เย็นนี้ผมจะไปรับเฟย์เป็นครั้งสุดท้าย แล้ววันต่อไปผมจะมารับมาส่งหมอบีมทุกวัน ดีไหมครับ? "

" ฮะ? " เมื่อกี้ผมฟังอะไรผิดไปรึเปล่า? บอกผมที

" ผมจะเลิกกับเฟย์ "

" ... "

" แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะครับ " ใบหน้าหล่อเผยรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนจะกดปิดกระจกรถ

" ดะ...เดี๋ยว "

ไม่ทันจะพูดอะไรรถหรูก็เคลื่อนตัวออกไปแล้ว หวังว่าเขาจะไม่ทำอย่างที่พูดจริงๆหรอกนะ



ครืดดด ครืดดด
" สวัสดีครับ " ผมงัวเงียตอบปลายสายที่โทรปลุกผมตั้งแต่เช้าตรู่ ใครมันมีธุระอะไรตอนนี้วะ? เมื่อคืนอ่านหนังสือจนแทบไม่ได้นอน ขอบตาจะกลายเป็นหมีแพนด้าอยู่แล้วเนี่ย

' หมอบีม ผมมารอหน้าบ้านแล้วนะครับ '

" แวม? เดี๋ยวนะ ทำไมต้องรอ รอทำไม? หน้าบ้าน? " อะไรนะ? อยู่หน้าบ้านแล้วงั้นเหรอ

ผมลุกจากเตียงในสภาพซอมบี้ เปิดหน้าต่างออกไปก็เจอกับรถหรูคันเดิมที่คุ้นเคย ให้ตายเถอะ ผมใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่ถึงสามสิบนาที ไม่ใช่อยากเจอหน้าแวมจนใจจะขาดนะครับ แต่อยากคุยกันให้รู้เรื่องมากกว่า

" ไงชาเย็น คิดถึงอ่ะดิ "

ผมเดินลงมาถึงรั้วหน้าบ้านก็เห็นหนุ่มหล่อขี้เก๊กกำลังเรียกคะแนนจากสุนัขตัวโปรดของผมไปซะแล้ว พอเขาเห็นหน้าผมก็หุบยิ้มลงทันที แต่เมื่อกี้ตอนเขาเล่นกับเจ้าชาเย็นก็ดูน่ารักดีนะ

" เข้ามาก่อนสิ ฉันต้องให้อาหารเจ้าชาเย็นก่อนไปเรียน "

" ครับ " แวมตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนจะเดินตามเข้ามา

ผมเข้าครัวไปเอาอาหารมาให้ชาเย็นกินโดยมีสายตาของคนบางคนคอยจ้องทุกการกระทำ

" วันนี้คุณหมอมีเรียนกี่โมงครับ? "

" เก้าโมง "

" นี่ผมมาเช้าไปสินะ " เขาแสร้งทำเป็นมองนาฬิกาแขวนที่บอกเวลาเพิ่งจะเจ็ดโมง ก็แหงแหละ รบกวนเวลานอนสุดๆ

" นี่แวม นายเลิกกับเฟย์จริงๆเหรอ? " ผมถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

" แล้วทำไมผมจะต้องโกหก? "

" ทำแบบนี้ทำไม? "

" ประโยคนั้นผมต้องถามหมอบีมมากกว่า ทำแบบนี้ทำไมครับ? ทำไมชอบหลบหน้าผม ชอบผลักไสให้ผมไปหาคนอื่น "

คนตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ แววตาแข็งกร้าวนั่นทำให้ผมต้องก้าวขาเพื่อถอยหนี แต่โชคไม่เข้าข้าง ผมดันสะดุดขอบโซฟาจนล้มลงบนฟูกนั่นซะงั้น เป็นการเปิดโอกาสให้อีกคนตามมาค่อมตัวอยู่ด้านบน แขนแกร่งทั้งสองข้างค้ำยันไว้ที่ผิวโซฟาข้างตัวผมทั้งสองด้าน สีหน้าเจ้าเล่ห์และเหยียดยิ้มร้ายแบบนี้อีกแล้ว ผมเกลียดที่สุด

" ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะ "

" ทำแบบนั้นหมอบีมก็หนีน่ะสิครับ " คนตรงหน้าเอี้ยวตัวเข้ามาใกล้จนผมต้องหลับตา " ผมไม่อยากให้หมอบีมหนีผมไปอีก " เสียงทุ้มกระซิบอยู่ข้างหู

" ยะ...อย่า " ผมสะดุ้งทันทีเมื่อปลายจมูกของคนด้านบนกำลังคลอเคลียอยู่ที่ลำคอของผม

ฟอด

ผมเบิกตาจ้องหน้าคนที่ฉวยโอกาสหอมแก้มผมทันที

" หน้าแดงเชียวนะครับ "

" ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ " ผมโวยวายทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองหน้าแดง ผมรู้สึกร้อนไปทั้งหน้าเพราะความเขินจนไม่รู้จะทำไงต่อ จะรอดพ้นจากสถานการณ์ตรงหน้ายังไงดีเนี่ย? นึกออกแล้ว " โอ้ย เจ็บแขน "

" ผมยังไม่โดนแขนหมอบีมเลยสักนิดนะครับ " ผมหันไปมองแขนด้านที่โดนยิงทันที มือของคนด้านบนตั้งใจวางห่างจากแผลผมอยู่แล้ว

หลังจากที่เย็บแผลตอนนี้เนื้อเยื่อคงเริ่มเชื่อมกันแล้ว จะว่าไปก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด

" แล้วนายจะแกล้งฉันอีกนานไหม? ลุกขึ้นได้แล้ว "

" ใครว่าผมแกล้งล่ะครับ ผมเอาจริง " ใบหน้าหล่อเคลื่อนลงมาช้าๆ ผมจ้องในตาคมนั่นพร้อมกับหัวใจที่เพิ่มจังหวะการเต้นที่เร็วกว่าเดิม

" แวม "

" ครับ? กลัวเหรอ? " แวมถามเมื่อเห็นผมตัวสั่น จริงๆมันรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าที่จะรู้สึกกลัว

" ... " คนด้านบนใช้มือเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าผมออกเบาๆ รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ผมเขินเกินกว่าจะลืมตามองเจ้าของตาคมที่จับจ้องมา

" จูบนะครับ "

" ว่าไงนะ... อื้อออ " ไม่รอให้ทักท้วงอะไร ตอนนี้ริมฝีปากของผมถูกอีกคนครอบครองไปเรียบร้อยแล้ว ริมฝีปากหนาบรรจงจูบลงมาอย่างนุ่มนวลจนผมรู้สึกหวิวๆแปลกๆ ลิ้นร้อนพยายามแทรกเข้ามาช้าๆ คนด้านบนครางในลำคอเบาๆ ไม่นานผมก็เคลิ้มตามจนยอมเปิดปากให้ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาหยอกล้อในโพรงปากจนได้

" อืมมม " จากการจูบที่เชื่องช้าเนิบนาบในตอนแรกถูกเพิ่มความหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ แวมขบเม้มและดูดดึงริมฝีปากผมแรงขึ้น ผมเริ่มหอบหายใจเร็วแรงเพราะอารมณ์ดิบที่คุกรุ่นขึ้นมา ร่างกายรู้สึกร้อนลุ่มไปหมด ผมเป็นผู้ชายนะครับ เรื่องแบบนี้มันจุดติดไม่ยากอยู่แล้ว อีกคนก็คงเช่นกัน

" อื้ออ อื้มมม " ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อมือหนาเริ่มซุกซนดึงเสื้อนักศึกษาของผมขึ้นและสอดมือเข้าไปลูบวนที่เอวของผม เขาโอบเอวบางของผมให้แนบชิดตัวมากขึ้น แวมผละริมฝีปากออกจากปากผมและเปลี่ยนเป็นลากวนดูดดึงที่ลำคอแทน

" อ๊ะ...พะ...พอก่อน " ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แต่คนด้านบนไม่ยอมฟังแถมยังปิดปากผมด้วยปากของเขา " อื้อออ ออ...แอ้ววว (พอแล้ว) " ผมพยายามดิ้นแรงขึ้น

" จิ๊ " คนด้านบนจิ๊ปากเบาๆและยอมผละตัวลุกขึ้นอย่างหงุดหงิดทันที เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำ เดาไม่ยากว่าเขาเข้าไปทำอะไร และผมก็เริ่มจะทนไม่ไหวเช่นกัน เสียงครางเป็นจังหวะดังเล็ดลอดผ่านประตูห้องน้ำออกมาทำให้ผมรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวอีกครั้ง

แวมเปิดประตูห้องน้ำออกมาผมก็รีบหลบสายตาคู่นั้นทันที ก็ผมอายนี่ครับ

" ไม่อึดอัดรึไงครับ? " ดวงตาคมมองมาที่จุดอ่อนไหวของผมที่ตอนนี้กำลังแข็งขืนอยู่ด้านในกางเกงขายาว ผมใช้มือปิดส่วนนั้นไว้และลุกเดินไปเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ

" นายจะทำอะไร? " แขนแกร่งโอบรอบเอวผมเข้าหาตัวก่อนฉุดผมไปที่โซฟาอีกครั้ง ตอนนี้ผมกับเขาอยู่ในท่าล่อแหลมเกินไปแล้ว เขานั่งอยู่บนโซฟาขณะที่ผมนั่งอยู่บนตักและหันหลังให้เขา " ให้ผมทำให้ดีกว่า " เสียงทุ้มกระซิบข้างหูจนผมขนลุกไปทั้งตัว

มือหนาถอดเข็มขัดสีดำออกจากเอวผมไปอย่างง่ายดาย และไม่นานซิบกางเกงของผมก็ถูกรูดลงช้าๆราวกับแวมตั้งใจจะแกล้งผม คนด้านหลังเพิ่มความตื่นเต้นโดยการใช้ริมฝีปากดูดดึงต้นคอผมเบาๆ

" อื้มมม อ๊ะ " ไม่นานกางเกงของผมก็ลงไปกองอยู่บนพื้นเรียบร้อยแล้ว และชิ้นต่อไปก็คืออันเดอร์แวร์สีขาวที่ถูกดึงลงอย่างง่ายดายเช่นกัน มือของเขากอบกุมส่วนนั้นของผมไว้พร้อมรูดรั้งขึ้นลงช้าๆ อีกมือก็สอดเข้าไปใต้เสื้อนักศึกษาและลูบวนอยู่บริเวณตุ่มไตด้านในสร้างความเสียวซ่านอย่างที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน

" อ๊ะ อืมมม อ๊ะๆ ระ...แรงอีก " มือหนาเร่งจังหวะมากขึ้น ริมฝีปากก็คลอเคลียอยู่ที่ลำคอของผมไม่ห่าง

" อ่า " ไม่นานน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งเลอะมือของเขา ผมหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย แวมเอียงตัวผมที่นั่งบนตักเขาให้หันไปด้านข้าง แขนแกร่งโอบรอบเอวและดึงผมเข้าไปจูบอีกครั้ง คนตรงหน้าส่งเสียงครางอย่างพอใจพร้อมกับสอดลิ้นร้อนเข้ามา เราสองคนจูบกันอยู่นานก่อนที่เขาจะยอมผละออกไปช้าๆ ใบหน้าหล่อยกยิ้มมุมปากมองหน้าผมอย่างพอใจ ผมทุบไปที่อกแกร่งเบาๆก่อนจะซบหน้าลงไปที่ไหล่เขาด้วยความเขิน

" เด็กไม่ควรดูนะเจ้าชาเย็น " แวมหันไปบอกหมาน้อยที่ยืนอยู่ไม่ไกล ไม่นานมันก็กระดิกหางวิ่งไปทางอื่น

" ไปเรียนได้แล้ว " ผมเอ่ยเสียงแผ่วแต่ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตาอีกฝ่าย

" อยากอยู่แบบนี้นานๆจังครับ " แวมกระชับกอดให้ผมเข้าหาตัวมากขึ้น มือหนาลูบไล้เอวบางของผมเบาๆ

" หยุดเลยนะ " ผมส่งเสียงห้ามเมื่อมือซุกซนเริ่มไล่วนไปถึงบั้นท้ายของผม

" ขอโทษครับ อารมณ์มันพาไป " ผมเงยหน้าขึ้นมองแวมด้วยสายตาดุๆ แต่เขากลับยิ้มขำอยู่ได้

" ปล่อยเลย "

" จุ๊บ " แวมประทับริมฝีปากลงมาแตะที่ปากผมเบาๆ " ครั้งนี้ถือว่ามัดจำแล้วกันนะครับ "

" ... "







................................................
มาแล้วครับ ตอนนี้ก็จะมาแบบหวานๆ ncนิดๆ :L2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-01-2018 01:13:55 โดย lostboy »

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
โอ้ยยย หวานไปอีกกก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ละลายยยยยยยยย

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2

ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Chapter 19





" ที่มึงเรียกพวกกูมานี่เพราะมึงเครียดเรื่องเฟย์ใช่ไหมวะ? เฮ้ยไอ้คิม มึงทำไมไม่เดินวะ? แม่งอ่อนว่ะ " ผมมองเพื่อนรักทั้งสองคนที่กดจอยเกมส์ในมืออย่างเมามันส์ เออ เอาเข้าไป ไม่ต้องสนใจกูก็ได้เพื่อน

" มึงตายเยอะกว่ากูอีก อย่าบ่นๆ "

ตอนนี้ไอ้เมฆกับไอ้คิมกำลังช่วยกันคิดแก้ปัญหาชีวิตที่แสนยุ่งยากของผมอยู่ ผมเรียกพวกมันมาช่วยให้คำปรึกษา ไม่ใช่ให้มานั่งเล่นเกมส์กันแบบนี้นะโว้ย

" เฮ้อ แพ้อีกแล้ว "

" เลิกเล่นแม่ง "

" สรุปมึงเครียดเรื่องอะไรวะไอ้แวม? " กว่าจะสนใจกูได้ก็ตอนจบเกมนะพวกมึง

มันสองคนละความสนใจจากเกมที่เพิ่งแพ้ไปแล้วเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆผม

" คือกูจะเอาไงดีวะ? เฟย์ไม่ยอมเลิกยุ่งกับกู ทั้งๆที่กูบอกเลิกเค้าไปแล้วนะเว้ย แล้วไหนจะแม่กูอีก แม่กูก็จะบังคับกูกลับไปหาเฟย์ให้ได้ กูเลยหนีหน้าแม่มาอยู่คอนโดสักพักว่ะ "

" กูว่านะ ถึงเฟย์จะตามมึงยังไงก็อย่ากลับไปยุ่งกับเขาเด็ดขาด ไม่งั้นความรักของมึงกับหมอบีมไม่ราบรื่นแน่ ผู้หญิงคนนี้น่ะร้ายกาจสุดๆ "

" กูเห็นด้วยกับไอ้เมฆนะ ส่วนเรื่องแม่มึง กูว่าเดี๋ยวเค้าก็คงเข้าใจมั้ง "

" คงยากว่ะ " ผมถอนหายใจอย่าปลงๆ

" เออไอ้แวม มึงเห็นโพสต์นี้ยังวะ? เฟย์ไม่ยอมจบจริงๆด้วย " ไอ้เมฆยื่นมือถือให้ผมดู ในนั้นปรากฏเฟสบุ๊คของเฟย์ที่โพสต์ตัดพ้อว่าผมนอกใจ ใต้โพสต์มีเพื่อนและแฟนคลับของเธอมาคอมเม้นต์ใต้โพสต์เต็มไปหมด

/ พี่เฟย์สู้ๆนะคะ ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ /
/ ผู้ชายสมัยนี้ก็เป็นงี้แหละแก ช่างแม่ง /
/ ทำไมพี่แวมทำแบบนี้คะ? /
/ อีมือที่ 3 มันเป็นใครอ่ะเฟย์ น่าตบว่ะ /

" คนพวกนี้ทำไมเข้าข้างเฟย์จังเลยวะ? " นาคิมเอ่ยขึ้นพลางยื่นโทรศัพท์มือถือคืนใต้เมฆไป

" เดี๋ยวกูจัดการเอง ฮ่าๆ " ใต้เมฆหยิบมือถือมาพิมพ์ข้อความอยู่สักพัก

" มึงทำอะไรวะไอ้เมฆ? "

" เดี๋ยวก็รู้ เอ่า เฟย์บล็อคเฟสกูไปแล้วว่ะ "

" แล้วมึงพิมพ์ไปว่าอะไรวะ? " ผมถาม

" กูก็แค่โพสต์รูปแล้วแท็กเฟย์ไป รูปเขาไปกินข้าวกับดาราคนนึง ตอนนั้นกูแอบถ่ายไว้ก่ะว่าจะเอามาให้มึงดู "

" ร้ายนะมึง "

" กูเบื่อมากเลยพวกที่ใช้โลกโซเชียลเป็นเครื่องมือแสดงว่าตัวเองเป็นคนดีเนี่ย โคตรปลอม "

" เออ ช่างเขาเถอะ ส่วนมึงนะไอ้แวม ถ้าเครียดมากวันนี้ไปกับกูไหม? หาอะไรสนุกๆทำดีกว่าเว้ย "

อะไรสนุกๆที่ไอ้เมฆว่าคงไม่พ้นเรื่องผู้หญิงอีกตามเคย

" ไม่ว่ะ กูไม่อยากมีปัญหากับหมอบีม แค่นี้ก็จะแย่อยู่แล้ว "

" มึงกับหมอบีมยังไม่เคลียร์กันอีกเหรอ? พวกกูอุตส่าห์วางแผนให้มึงสองคนอยู่ด้วยกัน " แผนเจาะยางรถเขาอ่ะเหรอ? บอกเลยว่าเป็นแผนที่โคตรเลว

" จะว่าเคลียร์มันก็เคลียร์นะเว้ย แต่พอรถหมอบีมซ่อมเสร็จ เขาก็ไม่ยอมให้กูไปรับไปส่งอีกเลยว่ะ กูไปหาที่บ้านก็ไล่กูกลับตลอด "

" ให้พวกกูเจาะยางรถหมอบีมอีกไหม? "

" พอเลยไอ้เมฆ " ไอ้คิมตบหัวไอ้เมฆไปฉาดใหญ่

" เออๆๆ แล้วจะให้กูช่วยไอ้แวมยังไงวะ? "

" แล้วทำไมหมอบีมต้องหนีหน้ามึงขนาดนั้น มึงไปทำอะไรให้เขาโกรธรึเปล่า? " พวกมันสองคนจ้องหน้าผมอย่างจับผิด

" เออกู...คือกูจะปล้ำเค้า "

" ไอ้สัด " พวกมันสองคนพร้อมใจกันหัวเราะลั่น มันน่าขำตรงไหนวะ? กูเครียดอยู่นะเว้ย

" เดี๋ยวนะไอ้แวม สรุปมึงเครียดเรื่องนี้มากที่สุดใช่ไหม? กูก็นึกว่ามึงเป็นอะไร เฮ้อ " นาคิมส่ายหัวแบบขอไปที

" กูจะทำไงดี? "

" แล้วมึงกับเค้าแบบว่า...รึยังวะ? "

" ยัง "

" กากว่ะมึง เสียชื่อเพื่อนรักเสือเมฆหมด ถ้าเป็นกูนะ หมอบีมไม่รอดแล้ว " ผมขอฟาดกระบาลเพื่อนรักสักรอบเถอะ แต่ไอ้เมฆดันรู้ทันหลบมือผมได้ซะงั้น

" กูไม่เหมือนมึงนะเว้ย เอ่ะอ่ะก็จะเอาอย่างเดียว "

" แต่เมื่อกี้มึงบอกว่ามึงจะปล้ำเค้าไม่ใช่เหรอ "

" อารมณ์มันพาไป " ผมเกาท้ายทอยด้วยความเก้อเขิน

" ฟังกูนะเว้ย มีโอกาสก็รวบรัดซะ รับรองไปไหนไม่รอด "

" ไอ้เมฆมึงหยุดเสี้ยมเพื่อนเลย เอางี้นะไอ้แวม มึงเคลียดที่หมอบีมไม่ยอมมาเจอมึงใช่ไหม? เดี๋ยวกูจะช่วยมึงเอง แต่! มึงอย่าไปปล้ำเขาอีก เข้าใจไหม? "

" ไอ้คิมแม่งพ่อพระสัด " ใต้เมฆพึมพำเบาๆ แต่ก็ได้ยินกันทุกคนนั่นแหละครับ

" มึงจะช่วยให้หมอบีมยอมมาเจอหน้ากูยังไงวะไอ้คิม? "

" เดี๋ยวมึงดู " นาคิมหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก ไม่นานปลายสายก็รับเรียบร้อย

' สวัสดีครับ? ' เสียงหมอบีมดังจากลำโพงมือถือไอ้คิม ผมอดที่จะเผยรอยยิ้มดีใจขึ้นมาไม่ได้

" หมอบีมทะเลาะอะไรกับไอ้แวมรึเปล่าครับ? "

' ทำไมนาคิมถึงถามผมแบบนั้นล่ะครับ? '

" ตอนนี้ไอ้แวมมันเคลียดมาก มันเมาไม่ได้สติแถมยังละเมอชื่อหมอบีมตลอดเวลา มันตัวร้อนเหมือนจะไข้ขึ้นน่ะครับ แต่พอผมบอกให้ไปหาหมอก็ไม่ไป จะเช็ดตัวให้ก็ไม่ยอม มันบอกจะเจอหมอบีมให้ได้ "
โหว ผมยกนิ้วให้ไอ้คิม เอารางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมไปเลยเถอะ ถ้ามึงจะโกหกขนาดนี้นะ

' แล้วตอนนี้แวมอยู่ไหนครับ? '

" คอนโด XX ครับ "

' ครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ '

ติ๊ด

" เชรด ไอ้คิม มึงแม่งโคตร... "

" เจ๋งใช่ไหม? "

" เหี้ย "

ผมขำกับสองคนนี้จริงๆ แต่ก็ต้องขอบคุณไอ้คิมที่ทำให้หมอบีมยอมมาเจอผมจนได้

" กูช่วยมึงแล้ว ต่อไปก็เรื่องของมึงแล้วนะเว้ย จะสองทุ่มแล้ว กูต้องไปงานเลี้ยงเพื่อนพ่อก่อนว่ะ "

" เอ่าไอ้คิม แล้วมึงบอกว่ากูเมา ป่วย ตัวร้อน? "

" นี่ แดกไป กูต้องไปแล้วเหมือนกัน สาวๆรออยู่ " ไอ้เมฆเปิดตู้เย็นหยิบขวดวอสก้ามาใส่มือผม

" เดี๋ยว พวกมึง " สองคนนั้นออกไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีใครอยู่ช่วยผมเลย ถ้าหมอบีมจับได้ว่าโกหกมีหวังซวยกว่าเดิมแน่ๆ




ผมนั่งจิบวอสก้าอยู่บนโซฟา รอเวลาที่หมอบีมมาถึง จากนั้นก็จะแกล้งเมาให้เขาดูแล เฮ้อม แม่งจะดูเลวไปป่ะวะ?

กริ๊งงง
หมอบีมมาแล้วแน่ๆ เอาไงดีๆ?

ต้องทำตัวโทรมๆ ใช่แล้ว ต้องดูโทรมไว้ก่อน

ผมเดินยีเส้นผมตัวเองให้ยุ่งๆ จัดเสื้อผ้าให้ยับๆ จากนั้นก็ไปเปิดประตูด้วยท่าทางโรยแรง

แต่คนที่ยืนอยู่หน้าประตูดันไม่ใช่หมอบีมซะงั้น ผิดแผนว่ะ แบบนี้ซวยแน่ๆ

" เฟย์ มาทำอะไรที่นี่ครับ? "

เธอไม่ตอบแต่เดินเข้ามาในห้องโดยที่ผมยังไม่ได้เอ่ยเชิญสักคำ ผมถอยหลังทันทีที่เธอพยายามจะเข้าใกล้

" แวมคะ ไม่ต้องทำเหมือนรังเกียจเฟย์ขนาดนั้นก็ได้ค่ะ "

" เราเลิกกันแล้วนะเฟย์ "

" เฟย์รู้ค่ะ แต่เฟย์ก็แค่...คิดถึงแวมเท่านั้นเอง " เธอพุ่งเข้ามากอดเอวผมไว้แบบไม่ทันตั้งตัว

" อย่าทำแบบนี้ดีกว่านะ มันไม่มีประโยชน์ " ผมพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

" ทำไมคะ? ตอนนั้นเรายังรักกันดีๆอยู่เลย ไม่ใช่เหรอคะ? " ผมพยายามแกะมือปลาหมึกของเฟย์ที่ลูบไล้เข้ามาใต้เสื้อเชิ้ตของผมออก

" เฟย์อย่า "

" เรายังไม่เคยมีอะไรกันเลยนะคะแวม ถ้าเราลองดูสักครั้ง บางทีแวมอาจจะเปลี่ยนใจ "

" ไม่มีทาง " ผมตอบเสียงแข็ง ผลักเธอออกจากตัวทันที เฟย์แสดงท่าทางไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

" เพราะหมอบีมใช่ไหม? แวม เขาเป็นผู้ชายนะ "

" อย่างน้อยเขาก็ดีกว่าเฟย์แล้วกัน ออกไปจากที่นี่ได้แล้ว "

" ไม่ค่ะ เฟย์ไม่ไปไหนทั้งนั้น " เธอจ้องหน้าผมด้วยท่าทางโกรธเคืองที่ผมออกปากไล่เธอ ผมชะงักทันทีเมื่อคนตรงหน้าเริ่มแกะกระดุมเสื้อตัวเองออก

" เฟย์หยุดเดี๋ยวนี้นะ " ผมวิ่งเข้าไปจับมือเธอไว้ทันที แต่แทนที่จะเป็นการหยุดการกระทำ มันยิ่งเปิดโอกาสให้เธอยั่วยวนผมมากขึ้น เธอเบียดตัวเองเข้าหาผมในสภาพเสื้อนักศึกษาที่แหวกลงไปถึงกระดุมเม็ดที่สาม ผมเบนหน้าไปทางอื่นแต่เธอก็ไม่วายที่จะพยายามทำให้ผมหมดความอดทน

" ครั้งเดียวนะคะแวม แล้วเฟย์จะไม่มายุ่งกับแวมอีก " ผมหันมองหน้าเธออีกครั้ง ดวงตาเว้าวอนเคลื่อนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มือบางลูบวนอยู่บริเวณหน้าอกของผมเบาๆ

เพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์ที่ดื่มไปเมื่อกี้ทำให้ผมเคลิ้มตามได้โดยง่าย มันยากจะควบคุม ริมฝีปากบางที่พยายามบดเบียดเข้ามาทำให้ร่างกายผมร้อนรุ่มไปหมด

" อื้มมม " ผมครางในลำคอเบาๆ มือหนาคล้องเอวบางเข้าหาตัวอย่างไม่มีสติ

" อ๊ะ ใจเย็นๆสิคะ " ผมจูบตอบสาวน้อยอยู่สักพัก

ไม่นานโลกทั้งใบก็หยุดหมุนลงทันที เพียงเพราะเสียงประตูที่ถูกเปิดออก

แก๊ก
เมื่อกี้เฟย์คงตั้งใจที่จะไม่ล็อคประตูสินะ

" หมอบีม! เดี๋ยวก่อนหมอบีม ฟังผมก่อน " เขาเปิดประตูเข้ามาไม่กี่วินาทีก็วิ่งออกไป แต่ภาพเมื่อครู่ยังคงติดตาผมไม่หาย ภาพสีหน้าของหมอบีมที่เต็มไปด้วยความเสียใจและผิดหวัง เพราะผม

" แวมคะ " เฟย์พยายามดึงแขนผมไว้ไม่ให้ตามหมอบีมไป

" เฟย์ เราอย่าเจอกันอีกเลย "

" ฮึ เฟย์จะไม่ยอมให้แวมสมหวังกับมันหรอก " ผมสะบัดมือเธอออกอย่างแรงโดยไม่สนใจ ตอนนี้ผมห่วงแค่หมอบีมเท่านั้น ผมรีบวิ่งตามหลังอีกคนที่เพิ่งจะเดินเข้าไปในลิฟท์

คลาดกันแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นเอง

" โถ่วเว้ย! " 

 
 

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-01-2018 08:04:44 โดย lostboy »

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เฮ้นี่หรือผู้หญิงที่แม่แวมอยากได้นักได้หนานางก็คือ curry ขัดความสุขนี่แหละอยากให้นางโดนแฉแรงๆว่านางคือประเทศในเอเชียตะวันออกกลางประเทศหนึ่ง!
ส่วนคุณแม่ก็ควรหาตัวคนยิงลูกชายตัวเองได้ละไม่ใช่มาห้ามลูกว่าแม่ไม่ปลื้มผู้ชายแลดูงี่เง่ามากถ้าลูกตายมาจริงๆก็สมน้ำหน้าไปอีก
ส่วนผู้ชายของเฟย์อยากให้มาแฉนางเอาแบบนางไม่ได้ผุดได้เกิดแค้นนังเฟย์มาก  :fire: :angry2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Nekosama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ระวังโซเชียลทำพิษนะเฟย์ 55555 เราเจอคนดับเพราะโซเชียลหลายคนแล้ว อิอิย์

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ว่าไปแม่แวม ก็แปลกๆ พี่ชาย ก็แปลกๆ
เอ่อ.....แวม ก็แปลกๆ สรุปครอบครัวแวม แปลกๆกันหมดทั้งบ้าน
แวม ไปยุ่งกับยายเฟย์ แค่อยากใกล้บีม นี่ไงๆเหมือนๆจะฉลาด  :fire: :fire: :fire:

คราวที่แล้วที่มีคนร้ายจะยิงแวมที่ลานจอดรถ
ดูยังไงก็เป็นแผนเฟย์ เฟย์เจ๊าะแจ๊ะแวม แต่ไม่ชวนแวม
เฟย์ไม่สนิทกับบีม แต่ชวนบีมไปซื้อของ  ตลกมากกกก

เมฆ อุตส่าห์วางแผนให้หมอบีมมาหาแวม
ทำไมเฟย์ซาตานมาได้ประจวบเหมาะ
แล้วเฟย์มีการขอมีอะไรกับแวมเป็นครั้งสุดท้าย
แวมตกลง ทั้งที่รู้บีมกำลังมาหา WTF   :angry2: :angry2: :angry2:
ถึงว่าแวมแปลกๆ เอ่อ......ไม่แปลกแล้ว โง่ชัดๆ
บีม เลิกๆรัก ไปเหอะ จากบทเพลงหนึ่งบื้อ (แวม) คนนี้
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ฆ่าเฟย์ซะ น่าเกียจ 555

ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Chapter 20



เมื่อกี้แวมกับเฟย์...

ผมรู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่ถูกเมื่อนึกถึงภาพเมื่อครู่ ป่านนี้เขาสองคนคงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว

ผู้ชายก็ต้องคู่กับผู้หญิงเป็นเรื่องธรรมดา จริงอย่างที่คุณหญิงบอกว่าเรื่องของผมกับแวมไม่มีทางเป็นไปได้ สุดท้ายแวมก็กลับไปหาเฟย์

ครืดดด ครืดดด
ผมนั่งอยู่ในรถ มองจอมือถือที่ขึ้นชื่อแวมกว่าสิบรอบ ไม่กล้ารับ แต่ก็ไม่กล้าตัดสายทิ้งหรือปิดเครื่องไป

ผมปาดน้ำตาและบีบมือถือแน่นขึ้นเรื่อยๆเพื่อระบายอารมณ์โกรธเคืองในใจ รู้สึกได้ว่ามือทั้งสองข้างก็สั่นไหวไม่ต่างจากมือถือเครื่องนี้เลย

เสียงเรียกเข้าเงียบไปเพียงเสี้ยววินาทีก็ดังขึ้นมาอีกรอบ

ครืดดด ครืดดด

หากแต่รอบนี้เป็นชื่อของอีกคน

‘ พี่วี ’

“ ครับพี่วี ”

“ นี่พี่ฝันไปใช่ไหม หมอบีมยอมรับสายพี่แล้ว? ”

“ พี่วีมีอะไรรึเปล่าครับ? ถ้าไม่มีผมจะวางสายแล้... ”

“ ใจเย็นก่อนครับ ทำไมน้ำเสียงฟังดูแปลกๆ หืม? ร้องไห้อยู่ใช่ไหม? ”

“ ครับ ” ผมตอบไปสั้นๆ

“ ใครทำอะไรหมอบีมครับ? บอกพี่มา เดี๋ยวพี่ไปจัดการเอง ”

“ ... ” ผมเงียบไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แม้คนในสายจะพยายามปลอบใจแต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย

“ ให้พี่ไปหาไหม? ”

“ อย่าดีกว่าครับ ”

“ อืม พี่เข้าใจว่าบีมยังโกรธพี่อยู่ แต่พี่อยากเจอบีมบ้างได้ไหม? สักครั้งก็ยังดี ไว้วันที่บีมว่างๆก็ได้ นะครับ ”

“ ไว้วันหลังนะครับพี่วี ” ผมตอบเสียงแผ่ว

“ โอเคครับ อย่าคิดมากนะ ฝันดีครับ ”

“ ขอบคุณนะครับพี่วี ฝันดีครับ ”



พอผมขับรถมาถึงหน้าบ้านก็ต้องเจอกับคนที่ผมไม่อยากเจอที่สุด แวมมาดักรอที่หน้าประตู ผมจอดรถและเดินเข้าไปหาคนที่ยืนอยู่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

เขามองหน้าผมสักพัก แต่ก็ไม่พูดอะไรสักคำ มือหนาเอื้อมมาเกลี่ยน้ำตาที่ไหลอาบแก้มผมเบาๆด้วยท่าทางรู้สึกผิด ตอนนี้ผมร้องไห้จนขอบตาแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด ไม่ได้อยากจะอ่อนแอ แต่ทำยังไงน้ำตามันก็ไม่ยอมหยุดไหล

“ ผมขอโทษ ” แวมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

ผมยิ้มบางๆและพยักหน้าไม่ตอบอะไรกลับไป

“ โอ๊ะ ” ผมชะงักเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงที่ดึงผมเข้าไปกอดแบบไม่ทันตั้งตัว กอดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก

“ อย่าเงียบแบบนี้ ”

“ นายจะให้ฉันพูดอะไร? มันจุกจนพูดไม่ออก ” 

“ ต้องทำยังไงถึงจะหายโกรธ? ” เขาพึมพำกับตัวเอง

“ ฉันไม่โกรธนายสักนิด แต่ฉันแค่...ผิดหวัง ”

“ หมอบีม ผมขอโทษ ” มือหนากอบกุมมือผมเอาไว้แน่น

“ ฉันผิดหวังในโชคชะตา ถ้าฉันเกิดมาเป็นผู้หญิงแบบที่เฟย์เป็น มันก็คงจะดี นายกับเฟย์น่ะ เหมาะสมกันแล้วล่ะ ”

“ ทำไมถึงพูดแบบนี้ครับ? ”

“ กลับไปหาเฟย์เถอะแวม ”

“ จะไล่กันไปถึงไหน? ” น้ำเสียงหงุดหงิดและแววตาขุ่นเคืองอย่างเห็นได้ชัด มือของผมถูกกุมแน่นจนเริ่มรู้สึกเจ็บ “ หมอบีมโกรธที่เห็นผมกับเฟย์จูบกันใช่ไหมครับ? ” เขาพูดเสียงแข็ง

ผมได้กลิ่นเหล้าจางๆเตะที่ปลายจมูก

“ แวม นายเมา? ”

“ เหล้าขวดเดียว ผมไม่เมาหรอก ” ผมสังเกตสีหน้าอีกคนใกล้ๆ ใบหน้าขึ้นสีบ่งบอกถึงปริมาณแอลกอฮอล์ที่กินเข้าไป

“ นายเมาแล้วแวม ปล่อย ”
อีกคนดึงผมเข้าไปกอดและเริ่มลูบไล้ตัวผมมากขึ้นทุกที

ผมผลักคนเมาออกและรีบถดตัวหนี

“ จะไปไหน ”

“ แวม นี่มันหน้าบ้านนะ อย่าทำแบบนี้ ปล่อย ”

“ อ่อ ต้องทำในบ้านสินะ ” แวมชิงจังหวะแอบล้วงกระเป๋ากางเกงผมและหยิบกุญแจบ้านออกมา อีกมือก็จับแขนดึงตัวผมเข้าหาเขาอีกครั้ง พยายามดิ้นให้หลุดยังไงก็สู้แรงคนตรงหน้าไม่ได้เลย

ผมโดนเขาฉุดกระชากจนมาถึงห้องนอนอย่างทุลักทุเล ข้อมือซ้ายถูกบีบจนชาไปหมด

“ อย่าเข้ามา ” ผมเอ่ยเสียงสั่นพยายามถอยตัวหนี

“ รอบนี้ผมขอแล้วกันนะ ” ร่างสูงยืนใช้สายตาสำรวจตัวผมช้าๆ เขาถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวออกเผยให้เห็นซิกแพคและกล้ามเนื้อเรียงสวย ผมเบือนสายตาหนีไปอีกทาง รู้สึกว่าหน้าเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“ เฮ้ย อย่า... ” แวมดันตัวผมให้นอนราบลงกับเตียงอย่างรวดเร็ว เขาใช้มือทั้งสองข้างตะปบข้อมือทั้งสองของผมกดลงกับพื้นเตียงอย่างรุนแรง

“ ผมจะทำให้หมอบีมหนีผมไปไหนไม่ได้อีก ” เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา

“ ถ้านายทำ ฉันจะเกลียดนาย ” ผมกดเสียงต่ำ

คนเมาขมวดคิ้วงุ่นอยู่นานก่อนจะยอมคลายมือที่จับแขนผมจนเป็นรอยแดงก่ำ

แวมมองหน้าผมและถอนหายใจหนักๆอีกครั้ง สุดท้ายเขาก็ถอยตัวลุกขึ้นจากเตียงแต่โดยดี

“ เฮ้อออ ก็ได้ครับ แต่ผมจะไม่ไปไหนจนกว่าหมอบีมจะยอมยกโทษให้ผม ”

“ ฉันไม่ได้โกรธนาย ”

“ แต่หมอบีมก็เอาแต่ไล่ผมไป ผมต้องทำยังไงครับ? หมอถึงจะยอมรับว่ารักผมเหมือนกัน? ” แวมเริ่มโวยวาย คงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เขากล้าพูดทุกสิ่งที่คิดออกมา

“ ฉัน... ”

“ ไม่ต้องพูดอะไรแล้วครับ เอาเป็นว่าผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมมีความสุขที่จะทำตามใจตัวเองแบบนี้ และไม่ว่ายังไง ผมก็จะอยู่ตรงนี้ เข้าใจนะครับ? ”
พูดจบเขาก็เดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ผมมองคนเมาที่นอนหลับไปแล้วก็อดเผยรอยยิ้มออกมาไม่ได้

ถึงแม้ผมพยายามจะไล่เขาเท่าไหร่ แต่ลึกๆก็แอบดีใจที่เขาดื้อด้านไม่ยอมไปไหนแบบนี้



หลังจากวันนั้นแวมก็ตื้อผมไม่เลิก เขาเดินเข้าออกบ้านผมราวกับเป็นบ้านตัวเอง แถมยังคอยตามไปเฝ้าผมที่คณะอีก

พักเที่ยงวันนี้ก็เช่นเคย ผมยังเห็นเขาที่โรงอาหารคณะแพทย์ และวันนี้ก็ดูจะคึกครื้นกว่าทุกวัน สายตาของนักศึกษาในโรงอาหารนี้ต่างจดจ้องไปที่โต๊ะนั้นโต๊ะเดียว บางคนส่งเสียงซุบซิบและชายตามองมาทางผม วันนี้มีใต้เมฆกับนาคิมมานั่งกับเขาด้วย เดิมทีมีแค่แวมก็เด่นมากอยู่แล้ว

ผมรีบหาทางหลบแต่ก็ไม่พ้นสายตาพวกเขาอยู่ดี

“ หมอบีมมาโน่นแล้ว ”
นาคิมเอ่ยบอกเพื่อนสนิท ไม่นานแวมก็เดินมาหาผมทันที

“ ผมซื้อมาฝากครับ ” เขายื่นแก้วชาเย็นในมือมาให้ผมท่ามกลางสายตาและเสียงโห่แซวน่ารำคาญจากคนรอบข้าง

“ ตามอยู่ได้ ไม่มีอะไรทำรึไง? ” ผมรับแก้วชาเย็นมาอย่างหงุดหงิด

“ ไอ้แวมมันไม่มีอะไรทำหรอก มันดรอปเทอมนี้ไปแล้ว ”

“ ฮะ?! ” ผมหันขวับมองหน้าแวมทันทีที่ใต้เมฆพูดจบ

“ ครับ ” คนตรงหน้าตอบแบบไม่ใส่ใจ

“ จะรอจบพร้อมหมอรึไง? ” ผมพูดประชด

แวมไม่ตอบแต่เปลี่ยนเรื่องคุยแบบหน้าตาเฉย “ ตอนเย็นผมจะมารับไปกินข้าวนะครับ ”

“ ไม่ ”

“ ห้ามผมไม่ได้หรอก ยังไงผมก็มาอยู่ดี ”

“ แล้วจะถามทำไม? ” ผมใจแข็งปฏิเสธคนเอาแต่ใจไม่ได้อีกเช่นเคย

ไม่นานไอ้ก่อกับไอ้เกื้อก็เดินมาหาผมด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ เกิดการเดดแอร์อยู่สักพัก ก่อนที่สามหนุ่มหล่อจะเอ่ยขอตัวไป

“ งั้นผมไปก่อนนะครับหมอบีม ”

“ เอ่อ วันนี้พวกนายจะไปไหนกันเหรอ? ” ไม่รู้ด้วยความสงสัยหรืออะไรที่ทำให้ผมถามออกไปแบบนั้น เพราะวันนี้แวมแต่งตัวดีเป็นพิเศษ แถมยังรวมตัวกันครบสามคนอีก

แต่เขาจะไปไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับผมสักหน่อย

“ อดีตดาวเดือนนัดเลี้ยงส่งพวกพี่บัณฑิตกันน่ะครับ  ” แวมยิ้มตอบ

“ อ่อ ” ผมพยักหน้า

“ กินเลี้ยงเสร็จก็มีปาตี้ต่อ แต่ไอ้แวมมันคงไม่ไปว่ะ เพราะมันติดง้อเมีย ” ใต้เมฆกับนาคิมหันไปพูดกันเหมือนตั้งใจให้ผมได้ยินก่อนจะเดินออกไป 

“ งั้นผมไปก่อนนะครับ ”

“ ตอนเย็นนายก็ไปกับพวกรุ่นพี่เถอะ วันนี้ฉันมีติวสอบไฟนอล คงเลิกดึกน่ะ ” ผมโกหกไป

ไม่อยากให้แวมต้องมาคอยตามผมจนไม่มีเวลาทำอะไรเลย

“ รุ่นพี่คนไหน? ”

“ เมื่อไหร่จะไปสักทีวะ ก็รุ่นพี่หลายคน เขาสลับกันติวให้น้องทุกคนนั่นแหละ ” ไอ้ก่อเริ่มบ่น

“ โอเคครับ ติวเสร็จแล้วโทรหาผมนะ ” แวมหันมายิ้มให้ผม

พักนี้ผมเห็นรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าหล่อมากขึ้น ดีกว่าทำตัวขี้เก๊กเหมือนแต่ก่อนเยอะเลย

“ อืม ” ผมตอบรับปากว่าจะโทรบอกเขาเมื่อติวเสร็จ แวมยิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป

พอสามคนนั้นไปหมดแล้วไอ้ก่อก็นั่งลงบนโต๊ะแทนที่พวกนั้นทันที ไอ้เกื้อก็เช่นกัน สองคนนี้ทำหน้าบึ้งทั้งคู่

“ พักนี้มึงดูสนิทกับสามคนนั้นจังเลยนะไอ้บีม ” น้ำเสียงไอ้ก่อติดจะไม่พอใจนิดๆ

“ แวมเพิ่งเลิกกับเฟย์ไม่ใช่เหรอครับ? แล้วทำไมถึงตามหมอบีม เหมือนว่าจะ... ” ไอ้เกื้ออ้ำอึ้ง

“ จีบ ”

“ จีบมึงน่ะสิไอ้ก่อ ไร้สาระแล้ว ” ผมตัดบทและชวนพวกมันคุยเรื่องอื่นทันที




ผมกลับถึงบ้านตั้งแต่ตอนเย็น นึกถึงอีกคนที่ผมโกหกเขาไปว่ามีติว ผมอยากให้เขาใช้เวลาอยู่กับคนอื่นบ้าง หลายวันมานี้แวมตามผมตลอด

แรกๆผมก็ปฏิเสธและไล่เขาไปทุกครั้ง แต่เพราะความดื้อด้านของเขาก็ทำให้ผมเริ่มชิน ผมรู้สึกมีความสุขที่มีแวมคอยตาม จนบางทีก็ลืมคิดถึงปัญหาอื่นๆ ความสัมพันธ์ของเราตอนนี้เรียกว่าอะไรยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ

การกินข้าวเย็นกับแวมหลังเลิกเรียนถือเป็นกิจวัตประจำวันของผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พอวันนี้กินคนเดียวกลับรู้เหงาและกินข้าวไม่อร่อยขึ้นมาซะอย่างนั้น

ทั้งๆที่เอ่ยไล่เขาไปทุกวันแท้ๆ พอเขาไม่อยู่แล้วเป็นไงล่ะ

ผมอ่านหนังสือรอจนถึงห้าทุ่มกว่าจึงกดโทรหาแวมตามที่รับปากไว้ ผมวางฟอร์มไปงั้นแหละ จริงๆก็เป็นห่วงเขาแต่ไม่กล้าพูด

ผมน่ะ ใจอ่อนจะตายไป

“ ทำไมไม่รับสายนะ? ”

หรือปาตี้หนักจนเมาสลบไปแล้ว โดนสาวที่ไหนลากไปรึเปล่าก็ไม่รู้ ผมเริ่มคิดไปต่างๆนาๆ ปกติแวมไม่เคยรับสายผมช้าแบบนี้

อยากโทรไปอีกหลายๆรอบแต่ก็ไม่ทำ เพราะติดนิสัยวางฟอร์มจนต้องมานั่งกังวลอยู่คนเดียว

ไม่นานเสียงมือถือบนโต๊ะก็ดังขึ้น ผมชะงักนิดหน่อยเมื่อเห็นเป็นเบอร์ของนาคิม ซึ่งปกติผมไม่ค่อยติดต่อกับเขาสักเท่าไหร่ แต่ก็ดี จะได้ถามถึงแวมด้วย

ครืดดด ครืดดด

“ งานเลี้ยงเลิกแล้วเหรอครับ? ” ผมกรอกเสียงลงไป

แต่ก็ต้องชะงักเมื่อปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน

“ หมอบีม ไอ้แวมแย่แล้วครับ ”

ออฟไลน์ worry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด