{ { NEVER DIE } } ผมยังไม่ตายนะครับหมอ!! -----> Chapter 25 [ 15/01/2561 ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { { NEVER DIE } } ผมยังไม่ตายนะครับหมอ!! -----> Chapter 25 [ 15/01/2561 ]  (อ่าน 36934 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
แวมจะจำหมอบีมไหดไหมนะ

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
น้ำตาจิไหล อยากร้องไห้

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ขอบใจจ้า  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ worry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Chapter 13 – ความในใจของแวม



ย้อนไปสมัยผมอยู่ม.6 แม่ของผมบังคับให้เข้าคณะวิศวะที่มหาลัยนี้ให้ได้ ผมก็ไม่เกี่ยงอะไรหรอกครับ ยังไงผมก็ชอบทางด้านนี้อยู่แล้ว

พอผมขึ้นปี 1 ตอนนั้นระบบรับน้องคณะวิศวะที่นี่ยังเป็นระบบโซตัสอยู่ ให้ทำกิจกรรมโหดๆ ปลูกฝังระเบียบวินัยอะไรต่างๆนาๆ รุ่นพี่ว๊ากรุ่นน้องจนหัวร้อนกันทั้งสองฝ่าย ผมก็เป็นคนไม่ยอมคนซะด้วยสิ เรียกได้ว่ามีเรื่องกับรุ่นพี่เป็นว่าเล่นเลย

ที่นี่ไม่แยกสายเทคกับสายรหัส เพราะรหัสนักศึกษาตัวหลังจะถูกรันตามคณะตัวเอง ทำให้รุ่นน้องได้พี่รหัสอยู่ในคณะเดียวกัน เฮดว๊ากชื่อพี่เต้เป็นทั้งพี่เทคและพี่รหัสของผมด้วย ผมเลยไม่กล้าเถียงพี่เขามาก เพราะเอกสารแนวข้อสอบและความรู้หลายอย่าง พี่สายล้วนแต่จะส่งต่อให้น้องสายตัวเองทั้งนั้น 

ผมแทบไม่มีเพื่อนคบเลย เรียกได้ว่าไม่คบเพื่อนมากกว่า ผมเป็นคนที่ไม่ชอบเข้าหาใครแล้วก็ไม่ชอบให้ใครเข้าหาด้วย จะว่าโลกส่วนตัวสูงมากเลยก็ว่าได้ ถ้าใครเข้าหา ผมก็จะแสดงออกทันทีว่าไม่อยากยุ่งด้วย จนใครๆก็บอกว่าผมหยิ่ง ไม่เป็นมิตรเอาซะเลย ก็จริงอย่างที่เขาพูดนั่นแหละ น้อยคนนักที่จะทำลายกำแพงของผมได้

และนิสัยเข้ากับใครไม่ได้ของผมนี้ก็เป็นปัญหาที่ทำให้ต้องมีเรื่องกับพวกพี่สันทนาการอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะไอ้พี่เทียนที่ทำตัวโหดอย่างกับเป็นพี่ว๊าก

“ เอาล่ะทุกคน วันนี้พวกพี่มีเกมให้เล่น นี่ เห็นอะไรในมือนี่มั๊ย? ”
ไอ้พี่เทียนถือเชือกรองเท้าชูขึ้น กิจกรรมเชี่ยไรอีกวะ น่าเบื่อว่ะ

“ ให้น้องๆทุกคนเอาเชือกนี้ผูกไว้กับเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผูกต่อไปให้ครบ 7 คนนะ แล้วเราจะมาแข่งวิ่งกันทีละ 4 ทีม ทีมที่แพ้ในแต่ละรอบจะต้องโดนทำโทษด้วยไอ้นี่ ”
ถังสีงั้นเหรอ? แม่ง เลอะเทอะอีกแล้ว ทำไปแล้วได้อะไรวะ?

“ ไอ้แวม มึงจะลุกไปไหน? ”
พอไอ้พี่เทียนเห็นผมลุกขึ้นเดินหนีมันก็ตามเข้ามาดึงตัวผมไว้ทันที ผมทะเลาะกับมันแทบจะทุกกิจกรรมเลยก็ว่าได้ จนตอนนี้กลายเป็นคู่กัดกันไปแล้ว

“ ผมแค่ไม่อยากทำอะไรที่มัน...ไร้สาระ ”
ผมเน้นเสียงท้ายประโยคอย่างชัดเจนจนคนตรงหน้าเริ่มโมโห

“ ไร้สาระงั้นเหรอ? ถ้ากูขอสั่งให้มึงไปวิ่งรอบสนามร้อยรอบจะมีสาระพอมั๊ย? ”

“ กู ไม่ ไป ”

“ กวนตีนเหรอวะ! ”

“ เฮ้ย ใจเย็นเว้ย ใจเย็นๆๆ ”
พอไอ้พี่เทียนมันทำท่าจะพุ่งตัวเข้ามาต่อยผม พวกรุ่นพี่ก็รีบวิ่งกรูกันเข้ามาจับมันไว้ทันที

“ มึงก็ดูไอ้เด็กเหี้ยนี่ดิ แม่งพูดจาไม่เคารพรุ่นพี่เลย ขึ้นกูมึงกับกูอีก ”

“ น้องแวมทำไมทำแบบนี้คะ? ”
พี่ผู้หญิงคนนึงเหมือนพยายามจะจับแขนผมให้ไปนั่งที่ ผมสะบัดมือเธอออกแรงๆก่อนจะหันหลังเดินออกไป

แต่ดันโชคร้ายที่พวกพี่ว๊ากเดินมาขวางหน้าผมไว้ซะก่อน
“ มีปัญหาอะไรกัน? ”

ทุกคนต่างเงียบกันเป็นปิดทิ้งเมื่อพี่เต้เฮดว๊ากซึ่งเป็นพี่รหัสของผมเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเช่นเดิม
“ อีกแล้วเหรอ? ”
พี่เต้คงรู้ว่าผมก่อเรื่องอีกแล้ว
“ แวม ปัญหาเยอะนะ ไปวิ่งรอบสนามร้อยรอบตามที่พี่เทียนสั่ง ”

“ ผมไม่ไป ”

“ นี่คือคำสั่งของพี่ ไป! ”
พี่เต้พูดเสียงแข็ง

“ เออ วิ่งก็ได้เว้ย ”
ผมพูดอย่างหงุดหงิดแล้วไปวิ่งรอบสนามกีฬาตามคำสั่ง มาวิ่งก็ยังดีกว่านั่งโดนว๊ากอยู่หน้าตึกเหมือนคนอื่นแล้วกัน ขี้เกียจจะมีเรื่องกับพวกรุ่นพี่แล้วว่ะ

ระบบโซตัสในตอนนั้นโหดมาก ทำให้มีหน่วยพยาบาลมาคอยแสตนด์บายทุกครั้งที่มีการว๊ากน้อง และตอนนี้ทั้งหน่วยก็มาเฝ้าผมที่ริมสนามกันทุกคน จะว่าไป วิ่งตั้งร้อยรอบก็คงไม่ไหวแน่ๆ ผมว่าถ้าไม่เป็นลมตายก็คงขาเสียกันไปข้าง แต่มันก็คุ้มนะ คุ้มยังไงน่ะเหรอ?

“ นี่นาย หยุดวิ่งได้แล้ว นายวิ่งไม่ไหวหรอก ”
นักศึกษาแพทย์ปี 1 ที่ตะโกนเรียกผมอยู่ริมสนามคนนี้ชื่อบีม เขามักจะโผล่มาที่นี่ในตอนเย็นเสมอ หลังเลิกเรียนผมจะเห็นหมอบีมมาช่วยรุ่นพี่หน่วยพยาบาลที่นี่เป็นประจำ ทุกครั้งที่เข้าเชียร์ เขาก็จะคอยเดินไปมา ถือยาดมกับผ้าเย็น หอบกระติกน้ำ ถือพัดพัดให้คนอื่นไม่หยุด

ผมแอบมองหมอบีมอยู่ตลอด เขาเป็นคนมีน้ำใจ ชอบเสนอตัวช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ ผมเคยเห็นเขาช่วยรุ่นพี่คณะผมยกป้ายเชียร์ด้วย ป้ายมันหนักจนเขาเผลอทำหลุดมือ โดนรุ่นพี่ดุไปหลายรอบ อยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องมาให้รุ่นพี่คณะอื่นดุอยู่ได้ แต่หมอบีมก็ทำให้ผมต้องอมยิ้มกับการกระทำของเขาอยู่บ่อยเลยทีเดียว

“ ผมไหวครับ ”
ถึงจะลงท้ายประโยคว่า ‘ครับ’ แต่น้ำเสียงผมก็ห้วนจนดูไม่เป็นมิตรตามนิสัย ผมตอบแค่นั้นแล้วก้าวขาวิ่งต่อ

ผมอยากคุยกับหมอบีม อยากทำหน้าตาให้เป็นมิตรกว่านี้ แต่ผมทำไม่ได้ ผมคงจะชินกับการทำตัวหยิ่งไปแล้ว นิสัยของผมนั้นเข้าหาคนไม่เป็นเลย รู้ตัวว่าน้ำเสียงที่พูดออกไปแต่ละคำมันไม่เป็นมิตรจริงๆ

“ นายไม่ไหวหรอก สนามนี้ระยะทาง 400 เมตรนะ ถ้านายวิ่ง 100 รอบ ก็เท่ากับนายวิ่ง 40 กิโลนั่นแหละ แฮ่กๆ ”
หมอบีมวิ่งตามผมมาพร้อมกับอธิบายระยะทางการวิ่งที่ดูจะยาวไกล เขายังคงวิ่งขนาบข้างไปกับผม ผมมองคนที่เหนื่อยหอบอยู่ข้างๆแล้วอดที่จะหันหน้าไปอีกทางเพื่อแอบซ่อนรอยยิ้มไว้ไม่ได้

“ จะวิ่งตามผมมาทำไม? ”

“ เหอะ ถ้านายไม่หยุดวิ่ง ฉันก็จะวิ่งตามนายอยู่แบบนี้แหละ แฮ่กๆ ”
หมอบีมเพิ่งวิ่งตามผมได้แป๊ปเดียวแต่กลับดูเหนื่อยหอบสุดๆ เขาคงไม่ค่อยออกกำลังกายสินะ

“ เลิกวิ่งตามได้แล้ว รำคาญ ”
ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนี้กับเขานะ นิสัยไม่เป็นมิตรของผมมันสั่งให้ผมพูดคำว่ารำคาญออกไปเอง

“ ไม่เลิก ฉันจะวิ่งอยู่แบบนี้ถ้านายไม่ยอมหยุดวิ่งซะที ”

“ แน่ใจว่าไหว? ”

“ อืม ”

พอผมวิ่งได้สามสิบกว่ารอบท้องฟ้าก็มืดแล้ว ส่วนหมอบีมน่ะเหรอ? เขาไม่อึดขนาดนี้หรอก นู้น นั่งทำท่าจะเป็นลมอยู่ข้างสนามนู้น

ผมวิ่งไปก็แอบเหลืบมองหน้าเขาไปด้วย หมอบีมเป็นคนน่ารัก ผิวขาวอย่างกับกระดาษแน่ะ เวลาเขาวิ่งจนเหนื่อยก็ทำให้แก้มแดงขึ้นสีชัดกว่าเดิม ไหนจะปากแดกๆที่เผยอเล็กน้อยเพราะความเหนื่อยหอบนั่นอีก น่ารักจนผมต้องรีบส่ายหัวปัดความคิดตัวเองก่อนจะคิดไปไกลแล้วตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อ

“ ไอ้แวม กูสั่งให้เลิกวิ่งได้แล้ว ”
พี่เทียนตะโกนเสียงดังมาจากอีกฟากของฝั่งสนาม ผมได้ยินดังนั้นก็หยุดวิ่งทันที รู้สึกกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงจนแทบจะล้มลงตรงนั้นให้ได้

“ นายเป็นอะไรรึเปล่า? ”
หมอบีมกับรุ่นพี่คนนึงวิ่งเข้ามายกแขนผมไว้ทั้งสองข้างก่อนจะพยุงให้ผมมานั่งที่แสตนด์เชียร์

ทุกคนกลับกันหมดแล้ว เหลือแค่หมอบีมที่นั่งพัดและถือยาดมให้ผมอยู่ ที่จริงผมไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แต่สีหน้าเป็นกังวลของเขาที่ดูเป็นห่วงผมนั้น มันทำให้ผมไม่อยากไปจากตรงนี้เลย

วันนี้เป็นวันที่ผมได้ใกล้ชิดหมอบีมมากที่สุด ใกล้จนผมได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวเขาชัดเจน แทบจะไม่ได้กลิ่นเหงื่อจากการวิ่งเลยด้วยซ้ำ ตัวเขาหอมมาก ผมอยากเข้าใกล้เขามากกว่านี้จริงๆ

“ ดีขึ้นยัง? ”

“ อืม ”
ทำไมผมเสียงแข็งขนาดนี้นะ เขากำลังเก็บของเตรียมจะไปแล้ว ชวนคุยดิวะ ยื้อ ยื้อยังไงดี?

ผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองคนที่ผมแอบชอบกำลังเดินจากไป โดยที่ผมยังไม่ได้ผูกมิตรอะไรเลย เขายังไม่รู้ชื่อผมด้วยซ้ำ

แต่ทว่า เขาก็ยังไม่วายเดินกลับมาถามผมด้วยความเป็นห่วงอีก
“ นายกลับไงอ่ะ? ”

“ ผมเอารถมา ”

“ รถอยู่ไหน? มา เดี๋ยวไปส่ง ”
ผมกลั้นยิ้มเมื่อเขายื่นมือมาให้ ผมจับมือเขาไว้แน่นแล้วแกล้งทำเป็นเจ็บขาจนลุกขึ้นยืนไม่ไหว แต่ที่จริงมันก็เจ็บจริงๆนะ

ระหว่างทางเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันเลย ผมเองก็ไม่กล้าที่จะพูดกับเขา และเขาก็คงคิดว่าผมไม่เป็นมิตรอย่างที่คนอื่นๆคิดกันนั่นแหละ ไม่น่าจอดรถใกล้ๆเลยว่ะ มีเวลาเดินข้างๆหมอบีมแค่แป๊ปเดียวเอง

“ กลับก่อนนะ อ่ะนี่ ”
พอเดินมาส่งผมถึงรถ เขาก็ยื่นยานวดบรรเทาปวดให้ผม ก่อนจะขอตัวลา

“ อืม ”
ผมได้แต่ด่าตัวเองในใจ นี่กูจะพูดกับเขาแค่นี้จริงๆเหรอ? ‘ อืม ’ คำเดียวนี่นะ
“ ผมชื่อแวมนะ ”

ผมตะโกนบอกชื่อตัวเองไล่หลังหมอบีมไป และเขาก็คงจะเดินไปไกลจนไม่ได้ยินเสียงผมแล้ว

ผมก้มมองยานวดในมือแล้วอดที่จะเผยรอยยิ้มออกมาไม่ได้ มันเป็นสิ่งของชิ้นแรกที่หมอบีมให้ ผมจะเก็บมันไว้อย่างดีเลยล่ะ



หลังจากผ่านช่วงรับน้องไปได้ ผมก็ไม่ได้เข้าใกล้หมอบีมอีก ผมได้แต่แอบส่องเขาผ่านเฟสบุ๊คที่ไม่ค่อยจะอัพเดทอะไรมากนัก ผมสืบข้อมูลของเขาทุกทางจนรู้ว่าเขาชอบไปไหน มีเพื่อนชื่ออะไร เกิดวันที่เท่าไหร่ ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร

ผมชอบหมอบีมมากถึงขนาดจ้างคนไปแอบถ่ายรูปเขามาสะสมไว้อย่างกับโรคจิต ผมมองภาพหมอบีมที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ ภาพที่เขากำลังยิ้มและหัวเราะให้กับเพื่อนของเขา และอิริยาบถอื่นๆอีกมากมาย

แต่ผมก็ยังไม่กล้าจีบหมอบีมสักที ผมไม่เคยเข้าหาใครก่อน จึงไม่รู้จะเริ่มยังไง แค่ได้ใกล้เขาผมก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว ได้แต่เฝ้ามองอยู่ห่างๆแค่นั้น...

รูปของหมอบีมถูกเก็บไว้ในกล่องใบเล็กๆใต้เตียงนอนของผม จนวันนึงแม่ก็มาเจอกล่องใบนี้เข้า ท่านโกรธมากเมื่อรู้ว่าผมชอบผู้ชาย ท่านยื่นคำขาดว่าห้ามผมไปยุ่งอะไรกับคนในรูปเด็ดขาด ไม่งั้นไม่ต้องมาเรียกแม่ว่าแม่อีกต่อไป

วันนั้นผมทะเลาะกันแม่จนเป็นเรื่องใหญ่โตถึงขนาดท่านเป็นลมเข้าโรงพยาบาล ผมจึงคิดที่จะตัดใจจากหมอบีม เพราะยังไงผมกับเขาก็ไม่ได้เจอ ไม่ได้ทักทายกันอยู่แล้ว และเรื่องของเราก็คงเป็นไปไม่ได้

แต่ถึงคิดจะตัดใจยังไง ผมก็อดใจไม่ได้ที่จะคอยส่องเขาในโซเชียลอยู่ดี มองเขาอยู่ห่างๆ แอบไปคณะแพทย์บ้างแต่ก็น้อยครั้งที่จะเจอเขา

ผมเฝ้ามองเขาอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เวลาล่วงเลยไปจนผมขึ้นปี 3

“ ไอ้แวม มึงดู cute boy คนนี้โคตรน่ารักเลยว่ะ ”
ผมฟังไอ้เมฆพูดพร่ำเรื่องการส่องเพจหนุ่มน่ารักอะไรของมัน แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจนัก
“ หมอบีม คณะแพทย์ว่ะ ”

“ ไหน ”
ผมหันไปสนใจรูปในมือถือไอ้เมฆทันทีที่ได้ยินชื่อหมอบีม

“ มึงสนใจเหรอวะไอ้แวม? ”

“ เปล่าซะหน่อย ”

“ เขาน่ารักมากเลยเว้ย แต่เสียดายที่เขามีคนที่ชอบแล้ว เห็นว่ากำลังตามจีบดาวคณะแพทย์ปี 3 อยู่ ”

“ มึงไปรู้เรื่องของเขาได้ไงวะ? ”

“ กูอ่านคอมเม้นต์ ”

“ ไหนดูหน่อย ”
ผมแย่งมือถือจากมือไอ้เมฆมากดเลื่อนดูคอมเม้นต์ทันที และจากที่อ่านดูก็น่าจะมีมูลความจริงอยู่เหมือนกัน

ตอนนั้นผมรู้สึกว่าทนไม่ได้ที่เห็นหมอบีมไปชอบคนอื่น หวง ถึงจะไม่มีสิทธิ์ก็เถอะ ผมต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้

ผมตัดสินใจจีบผู้หญิงคนนั้น เธอชื่อเฟย์ ผมทำทุกทางเพื่อที่จะให้แน่ใจว่าเธอจะไม่สนใจหมอบีมแน่ๆ ผมจีบใครไม่เป็นหรอกนะ แต่ผู้หญิงคนนี้เข้าหาง่ายมาก ไม่นานเธอก็ยอมตกลงเป็นแฟนกับผมแล้ว ผมดูออกว่าเธอเข้าหาผมเพื่อเงิน และผมก็เกลียดคนแบบนี้มาก นี่แหละคือหนึ่งเหตุผลที่ผมปิดกั้นใครๆ เพราะทุกคนที่เข้าหาผมล้วนเข้ามาเพราะเงินทองและหน้าตาของผมทั้งนั้น

แต่ข้อดีของการเป็นแฟนเฟย์คือผมจะได้ทำให้แม่หายห่วงเรื่องที่ผมชอบผู้ชาย และหาข้ออ้างมารับมาส่งเฟย์เพื่อที่จะได้เจอหน้าหมอบีมที่คณะแพทย์ด้วย ถึงจะไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของเขา แต่ผมก็จะไม่ยอมให้เขาตกเป็นของใครเด็ดขาด



และแล้วโชคชะตาก็ทำให้ผมได้เข้าใกล้หมอบีมอีกครั้ง คืนนั้นที่เขาต่อยผมจนเลือดไหลจากมุมปาก แต่ผมก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด ผมได้มองหน้าเขาใกล้ๆแค่แว๊บเดียว คิดว่าจะไม่ได้มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว แต่มันกลับไม่ใช่

ในคืนเดียวกันนี้ผมได้สิ้นสติไปวูบนึง ก่อนจะพบร่างของตัวเองที่อาบไปด้วยเลือดถูกส่งเข้าไปในห้องผ่าตัด ผมคิดว่าตัวเองตายแล้ว แต่ผมกลับรอด ร่างผมยังมีลมหายใจ หัวใจยังเต้นอยู่ และที่โชคดีไปกว่านั้น ผมได้เห็นหน้าหมอบีมมาเยี่ยมผมเป็นประจำ ผมต้องอยู่กับความเงียบคนเดียว เฝ้ารอให้เขามาหาทุกวัน

พยาบาลบางคนก็มองเห็นผม พวกเธอต่างหวาดกลัวและไปเล่าให้คนอื่นฟังต่างๆนาๆ ทั้งๆที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย ผมไม่ได้ตั้งใจให้ใครกลัวนะ

จนวันนึงปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น หมอบีมมองเห็นผมแล้ว ดีใจสุดๆ ผมได้พูดคุยกับเขาอีกครั้ง และเขาเป็นคนเดียวที่มองเห็นผมตลอดเวลา ผมรู้สึกว่าท่ามกลางความโชคร้ายก็มีโชคดีอยู่จริงๆ ผมได้ใกล้ชิดกับคนที่ผมแอบชอบมานาน ถึงตอนแรกผมจะเอาแต่ใจตัวเอง ขู่ให้เขาลำบากมาหาผมทุกวันก็เถอะ

ผมอยากอยู่ใกล้ๆเขาจนไม่อยากกลับเข้าร่างตัวเองเลย เพราะรู้ดีว่าคงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดหมอบีมแบบนี้อีกแล้ว จิตของผมผูกอยู่กับเขา และนี่คงเป็นเหตุผลที่ผมกลับเข้าร่างไม่ได้

ผมรู้สึกดีกับหมอบีมมากขึ้นทุกวัน และก็คิดว่าเขาคงรู้สึกแบบเดียวกัน เขาเต็มใจมาหาผม เราได้ใกล้กันมากขึ้น หมอบีมไว้ใจเล่าทุกเรื่องให้ผมฟังจนผมรู้สึกว่าผมเองก็เป็นคนสำคัญของเขา

ผมอยู่กับหมอบีมแล้วรู้สึกสบายใจมาก เขาทำลายกำแพงที่ผมปิดกั้นให้พังทลายลง ตอนนี้เขาเป็นคนแรกที่ผมยอมเปิดใจให้มากที่สุด

ผมเฝ้าตามเขาไปตลอด หมอบีมทำให้ผมมีความสุข รู้สึกดี ได้เป็นตัวของตัวเอง และผมก็ได้เห็นตัวเองอีกมุมหนึ่งในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมแน่ใจแล้วว่า...ผมรักเขา

ผมอยากเอ่ยคำว่ารักกับเขาสักครั้ง และถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากได้ยินคำนั้นจากปากเขาเหมือนกัน

“ ผมก็เป็นดาวที่ถูกลืมเหมือนกับพลูโตนั่นแหละครับ ถึงมันจะไม่ได้ถูกจัดอยู่ในระบบสุริยะแล้ว แต่ก็ยังคงหมุนรอบดวงอาทิตย์ไม่ไปไหน มันแค่โคจรแตกต่างจากดาวดวงอื่นเท่านั้นเอง ”

“ นายหมายความว่าไง? ”

ผมหันไปยิ้มบางๆให้หมอบีมก่อนจะพูดต่อ
“ ผมมีเรื่องอยากบอกคุณหมอครับ ”

“ ว่ามาสิ ”

“ ผมแอบชอบหมอบีมมาตั้งแต่ปี 1 แล้ว แต่หมอคงจะจำผมไม่ได้หรอก ผมคอยเฝ้ามองหมออยู่ตลอด เหมือนกับดาวพลูโตที่ถูกลืมแต่ก็ยังโคจรรอบดวงอาทิตย์ไม่ไปไหนนั่นแหละครับ ถึงมันจะโคจรด้วยองศาแปลกๆก็เถอะ ”

“ อะไรนะ? นายแอบชอบฉันมาตั้งแต่ปี 1 เลยเหรอ? แล้วอย่าบอกนะว่าที่นายจีบเฟย์ก็เพราะ... ”

“ ใช่ครับ เพราะผมรู้ว่าหมอชอบเฟย์ แล้วอีกอย่างผมก็จะได้หาเรื่องไปแอบมองหมอบีมที่คณะแพทย์บ่อยๆด้วย ”

“ เป็นการโคจรที่แปลกจริงๆด้วยแหะ ”

“ ใช่ครับ แล้วพอผมได้มาอยู่ใกล้หมอ ผมก็ยิ่งรู้สึกดีกับหมอมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ผมก็แน่ใจแล้วว่า... ”
หมอบีมมองหน้าผมอย่างใจจดใจจ่อ ผมจ้องตาเขาและตัดสินใจพูดสิ่งที่เก็บไว้ในใจมานาน
“ ผมรักหมอบีมนะครับ ”

หมอบีมอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะเผยรอยยิ้มเล็กๆออกมา พร้อมกับคำตอบที่ผมฝันจะได้ยินจากปากของเขาที่สุด
“ ฉันก็รักนายนะแวม ”

พอได้ยินคำนั้นผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยในอวกาศ ทุกอย่างเบาหวิว สิ่งต่างๆเริ่มเลือนรางหายไปเรื่อยๆ เหมือนกำลังถูกดูดเข้าไปในภวังค์อะไรสักอย่าง ผมได้ยินเสียงเรียกจากใครบางคนไม่ชัดนัก และเสียงนั้นก็ค่อยๆเงียบลง ทุกสิ่งรอบตัวเริ่มเคว้งคว้างลงเรื่อยๆ เหลือแค่ความว่างเปล่า ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ไม่รับรู้ถึงอะไรทั้งนั้น เหมือนตัวผมกำลังจะจางหายไปกับสายลม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2017 18:46:21 โดย lostboy »

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
แวมเป็นอะไรอ่าาาา เข้าร่างๆ

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
กลับเข้าร่างแล้วสินะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เอาละสิ ต้องรอลุ้นตอนฟื้นอีกทีสินะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
แวมจะเข้าร่างแล้ววววว

ออฟไลน์ worry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
การที่อยากให้บีมชอบตอบหรือเปล่า
ทำให้วิญญาณแวม ออกจากร่าง
พอภาระกิจสำเร็จ รู้ว่าบีม ก็ชอบตัวเอง
วิญญาณแวมเลยกลับเข้าร่าง

แม่แวม ที่มาบังคับแวมเรื่องที่แวมชอบผู้ชาย
คงเพราะรู้ว่าในตระกูลเหลือแต่แวมคนเดียวที่จะสืบสกุลได้
ก็พี่แวมชิงชอบชายไปก่อนแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
กลับร่างใช่ม้า ^^

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ มาม่าหมูสับ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เขินแวมเลย  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Nekosama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คิดถึงแวม...  :hao4:

ออฟไลน์ lostboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
Chapter 14





ผมตื่นมาในตอนเช้าเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังจนต้องกดรับสาย ผมกรอกเสียงไปอย่างงัวเงียโดยยังไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าใครโทรมา

“ หมอบีม ไอ้แวมฟื้นแล้ว ”
เสียงใต้เมฆนี่นา

“ อือ ”

“ ... ”

“ ฮะ! อะไรนะ? ”
ผมลุกพรวดขึ้นจากเตียงทันที

“ ไอ้แวมฟื้นแล้ว ตอนนี้มันอยู่ที่โรงพยาบาล ให้หมอตรวจร่างกายอยู่ มันหลับไปนานคงต้องฟื้นฟูร่างกายอีกซักระยะเลยว่ะ ”

“ ครับ ผมจะไปเยี่ยมแวมเดี๋ยวนี้แหละ ”
ผมกดตัดสายแล้วลุกจากเตียงอย่างตื่นเต้น แวมฟื้นแล้วจริงๆด้วย ผมดีใจมากที่วิญญาณของเขาเข้าร่างได้อย่างปลอดภัย

ไม่นานผมก็มาถึงโรงพยาบาล พยาบาลที่นี่ยังจำผมได้เช่นเคย พอเธอเห็นผมก็เข้ามาเอ่ยทักอย่างรู้ใจทันที

“ เอ่าหมอบีม มาเยี่ยมคุณแวมแน่ๆเลย แหม ยิ้มอารมณ์ดีมาแต่ไกลเลยนะคะ ”

“ สีหน้าผมดูอารมณ์ดีขนาดนั้นเลยเหรอครับ? ”
ว่าแล้วผมก็พยายามหุบยิ้มลงทันที จะดีใจอะไรขนาดนั้นเนี่ย

“ อืม แต่จะว่าไปก็รู้สึกแปลกๆนะคะที่เห็นคุณแวมฟื้น ”

“ ทำไมครับ? ”

“ ก็ตอนนั้นยังเห็นเป็นผีอยู่เลยนี่คะ ว่าแล้วก็ขนลุก ”
เธอว่าพร้อมแกล้งทำท่าทางหวาดกลัว

“ ฮ่าๆ เขาก็ฟื้นแล้วไงครับ ว่าแต่ตอนนี้แวมอยู่ไหนเหรอครับ? ”

“ อ่อ ไม่ได้อยู่ห้องเดิมหรอกค่ะ ย้ายมาห้องใกล้ๆนี้เอง ห้อง 108 ตรงไปเลี้ยวขวาเลยค่ะ ”

“ เขาเป็นยังไงบ้างครับ? ”

“ แขนขายังไม่ค่อยมีแรงเป็นปกติของคนที่หลับไปนาน ทำกายภาพอีกไม่กี่วันก็หายแล้วค่ะ ส่วนสติก็ถือว่าอยู่ครบอย่างเหลือเชื่อเลย ที่จริงเคสแบบนี้ตื่นมาไม่ความจำเสื่อมก็ปัญญาอ่อนนะคะ เอ่อ ขอโทษค่ะ พูดตรงไปหน่อย ”
เธอยิ้มแหยๆก่อนจะตบปากตัวเองสามทีเหมือนเด็กๆ

“ งั้นผมขอตัวไปเยี่ยมแวมก่อนนะครับ ”




ผมยืนอยู่หน้าประตูห้อง 108 อย่างตื่นเต้น จะได้เจอหน้าแวมแบบมีชีวิตจริงๆซะที ไม่ใช่วิญญาณแล้วสินะ ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เขาจะจำผมได้รึเปล่า? เขาจะยังรู้สึกเหมือนเดิมไหม? แต่ช่างเถอะ แค่เขาฟื้นขึ้นมาก็ดีแล้วนี่นา   

แก๊ก
ผมแง้มเปิดประตูเข้าไปเบาๆ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าเข้าไปในห้อง ภาพตรงหน้าก็ทำให้ผมหยุดชะงักทันที

“ อร่อยมั๊ยคะ? เฟย์ทำเองกับมือเลยนะ ”

“ อร่อยมากเลยครับ ”

“ งั้นก็กินเยอะๆนะ มา เดี๋ยวเฟย์ป้อน ”

แวมกับเฟย์ดูเหมือนคู่รักที่สวีทกันอย่างมีความสุขจนผมไม่อยากที่จะเดินเข้าไปขัดจังหวะเขาสองคนเลย จริงสิ เขาสองคนก็ยังคบกันอยู่นี่นา ส่วนผมน่ะเหรอ เขาจะจำได้รึเปล่าก็ยังไม่รู้

“ เธอมายืนทำอะไรตรงนี้? ”
ผมหันไปตามต้นเสียงก็พบกับผู้หญิงที่แต่งตัวหรูหราประดับเครื่องเพชรหลายชิ้นบ่งบอกฐานะ เธอคือคุณหญิงแม่ของแวมนั่นเอง

“ เอ่อ สวัสดีครับ ผมมาเยี่ยมแวมครับ ”

“ ออกมาคุยกับฉันหน่อยสิ ”
ท่าทางของคุณหญิงดูไม่เป็นมิตรกับผมเอาซะเลย ถึงอย่างนั้นผมก็ยอมเดินตามเธอมาถึงสวนหย่อมที่ห่างออกไปไม่ไกล

“ คุณหญิงมีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ? ”

“ เอาตรงๆเลยนะ ฉันอยากให้เธอออกไปจากชีวิตลูกชายฉันซะ จะเอาเท่าไหร่ก็ว่ามาได้เลย ”

“ เดี๋ยวนะครับ ผมไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนั้น ”
ผมพูดอย่างโมโหนิดๆ

“ เอาเถอะ เธอฟังฉันนะ ฉันรับไม่ได้หรอกถ้าลูกชายของฉันจะมีแฟนเป็นผู้ชาย ฉันคงอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ”

“ แล้วคุณหญิงมาบอกผมทำไมครับ? ”

“ ฉันเพิ่งนึกได้ว่าฉันเคยเจอรูปเธอในห้องของแวม ลูกชายฉันชอบเธออยู่ แต่ฉันขอร้องล่ะ เลิกยุ่งกับเขาเถอะ เห็นแก่หัวอกคนเป็นแม่อย่างฉันบ้าง ฉันอยากจะมีลูกสะใภ้เป็นผู้หญิง มีหลานไว้สืบสกุล อีกอย่างฉันก็ไม่อยากให้วงศ์ตระกูลของฉันต้องมาเสื่อมเสียชื่อเสียงหรอกนะ ”

“ แต่ผม... ”

“ ฉันรักลูกชายของฉันมาก แล้วฉันก็ไม่อยากผิดหวังในตัวเขา เธอเข้าใจใช่ไหม? ”

“ ครับ ”

ผมเข้าใจแล้ว...

“ เรื่องที่เธอเห็นผีลูกชายฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงรึเปล่านะ แต่ฉันอยากให้เธอเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ รวมถึงเรื่องที่เธอคอยดูแลตอนเขาป่วยด้วย ตอนนี้ความสัมพันธ์ของแวมกับเฟย์กำลังไปได้ดี ฉันอยากให้แวมคิดว่าเฟย์เป็นคนดูแลเขา ฉันขอร้องล่ะ เธอช่วยฉันได้ไหม? ”

คุณหญิงพูดด้วยน้ำเสียงวิงวอน ผมรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก ความรู้สึกที่ผมให้แวมมันมากจนยากจะตัดใจแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นแวมก็ลืมผมอยู่ดี ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะยังชอบผมอยู่รึเปล่า สับสนจนไม่รู้จะเอายังไงต่อ ความรักของผมกับเขามันยากเหลือเกิน เหมือนมันเป็นเพียงแค่ความฝัน แล้วคุณหญิงก็เป็นคนปลุกให้ผมตื่นจากฝันมาอยู่กับความเป็นจริงซะที

“ ครับ ผมจะไม่บอกเรื่องของผมกับแวม และจะไม่ยุ่งกับแวมอีก พอใจแล้วใช่มั๊ยครับคุณหญิง? ”
พูดจบผมก็เดินหนีไปทันที รู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ

ทำไมนะ ทำไมแวมต้องเข้ามาทำให้ผมรัก ทำให้ผมรู้สึกดีกับเขา แล้วสุดท้ายเขาก็ทิ้งให้ผมอยู่กับความรู้สึกดีๆนั้นฝ่ายเดียว นึกแล้วน้ำตาก็ไหลมาอาบแก้มอย่างห้ามไม่ได้ ผมคิดถึงคนที่เคยอยู่ข้างๆผมตลอดเวลา ต่อไปไม่มีเขาแล้วชีวิตผมคงเงียบเหงามากเลยล่ะ

ผมกลับบ้านมาด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า หนังสือทุกเล่มที่เคยอ่านให้แวมฟังก็ยังวางอยู่ที่เดิม เฮ้อ ไม่มีคนคอยอ้อนให้อ่านหนังสือให้ฟัง ไม่มีคนอ้อนให้พาไปเที่ยว ไม่มีคนคอยกวนใจแล้ว ต่อไปนี้ผมคงต้องอยู่คนเดียวจริงๆสินะ

“ ไงชาเย็น หิวข้าวเหรอ? ”
ผมลูบหัวเจ้าหมาน้อยที่กำลังเลียมือผมอย่างออดอ้อน
“ อย่างน้อยฉันก็ยังมีนายอยู่กับฉันนี่นา ขอบใจนะชาเย็น ”




“ ไอ้บีม ช่วงนี้มึงทำไมดูเศร้าจังวะ? ทำตัวเหมือนคนอกหัก ”
ไอ้ก่อถามผมขณะนั่งติวหนังสือในร้านกาแฟ

“ อือ ”

“ จริงเหรอครับ? แล้วใครกันนะที่หักอกหมอบีม? อยากรู้จริงๆเลย ”

“ มึงก้มหน้าอ่านหนังสือไปเลยไอ้เกื้อ ไม่ต้องมาอยากรู้เรื่องของกูหรอก ”

“ บอกแต่ไอ้เกื้อ มึงเองก็เปิดหนังสือขึ้นมาอ่านได้แล้ว ใกล้จะสอบแล้วเนี่ย ติดเอฟมาไม่รู้ด้วยนะเว้ย ”
ไอ้ก่อหยิบหนังสือตรงหน้าผมขึ้นมากางแล้วก็ยัดใส่มือผมเรียบร้อย ให้ตายเถอะ ตอนนี้อ่านยังไงก็คงไม่เข้าหัว

ผมมัวแต่คิดถึงคนบางคน ซึ่งฟ้าก็คงเห็นใจผมมาก จึงส่งคนๆนั้นมาให้ผมเห็นหน้าอีกครั้ง แวมกำลังเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเฟย์ที่ควงแขนเขามาด้วย เฮ้อ ว่าแล้วผมก็เบนหน้าหนีแทบไม่ทัน

 “ เฮ้ย นั่นมันเฟย์กับคุณแวมนี่ครับ ”

“ ไหนวะ? ”
ไอ้ก่อหันไปทางที่ไอ้เกื้อบอกก็เจอสองคนนั้นกำลังเลือกโต๊ะที่จะนั่งอยู่ และดูเหมือนว่าสองคนนั้นจะเดินเข้ามาใกล้กับโต๊ะพวกผมเหลือเกิน

อย่าบอกนะว่าจะนั่งตรงนี้น่ะ!

“ กูกลับก่อนนะพวกมึง ”

“ เอ่า รีบไปไหนวะไอ้บีม? ”

“ กูปวดหัวว่ะ ว่าจะกลับไปนอนพักสักหน่อย ไปละ ”
ผมรีบหาเรื่องออกจากตรงนี้ทันทีเมื่อแวมดันเลือกมานั่งโต๊ะตรงข้ามผม และตำแหน่งที่เขานั่งก็มองมาตรงผมเต็มๆ ยิ่งเห็นหน้ายิ่งคิดถึง แต่คิดถึงเท่าไหร่ก็เจ็บเท่านั้น ผมไม่อยากเจอหน้าเขาตอนนี้หรอก เห็นเขากับแฟนรักกันดีก็รู้สึกแย่สุดๆแล้ว

ผมไม่รู้หรอกนะว่าตอนนี้เฟย์จะรักแวมจริงหรือเปล่า เพราะเฟย์ก็คบผู้ชายหลายคน เธออาจจะมาหลอกอะไรแวมอยู่ก็ได้ แล้วจะผิดไหมถ้าผมรู้สึกว่าอยากให้เฟย์ไม่จริงจังกับแวม?

โอ้ย ผมควรเลิกคิดเรื่องนี้ซะที เครียดโว้ยยย

ครืดดด ครืดดด
ใต้เมฆโทรมาทำไม?

“ หมอบีม ว่างมั๊ย? ”



ตอนนี้ผมกำลังนั่งกินเหล้าอยู่ในผับโดยมีใต้เมฆและนาคิมเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะ หนังสงหนังสือสอบไม่ต้องอ่านกันแล้วล่ะครับ พอใต้เมฆชวนกินเหล้าผมก็ตอบตกลงแบบไม่คิดเลย เผื่อดื่มแล้วจะบรรเทาความเครียดได้บ้าง

แต่ผมจะเครียดกว่าเดิมเพราะเห็นหน้าสองคนนี้นี่แหละ ทั้งใต้เมฆและนาคิมต่างทำหน้าเครียดกว่าผมซะอีก

“ เฮ้อออ ”
“ เฮ้อออ ”
“ เฮ้อออ ”

“ พวกมึงจะถอนหายใจพร้อมกันทำไมเนี่ย? ”
ใต้เมฆบ่น

“ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ”
นาคิมหันมาพูดกับผมด้วยสีหน้าจริงจัง
“ ทำไมหมอบีมถึงไม่บอกไอ้แวมว่าหมอเป็นคนดูแลมันล่ะครับ? ”

“ นั่นดิ พวกกูบอกมันเรื่องที่มันเป็นวิญญาณ มันหาว่าพวกกูโกหก ตอนนี้มันคิดว่าเฟย์คือคนที่ดูแลมัน แล้วมันก็ดูรักเฟย์มากกว่าเดิมอีก ”

“ ก็ดีแล้วนี่ครับ ”
ผมว่าพร้อมกระดกเครื่องดื่มในแก้วเข้าปากรวดเดียวหมด

“ ดีที่ไหนกันล่ะ กูรู้แล้วว่าเฟย์น่ะเป็นยังไง กูไม่อยากให้ไอ้แวมโดนหลอกว่ะ ”

“ ตอนนี้เฟย์พูดอะไรมันก็เชื่อไปซะทุกอย่าง พาลหาว่าพวกผมเป็นเพื่อนขี้โกหกไปแล้วครับ ”
นาคิมพูดด้วยสีหน้าเครียดจัด เขาดูเป็นคนคิดมากกับชีวิตสุดๆ

“ ถ้าผมตื่นมาแล้วมีคนบอกว่าเห็นวิญญาณผมตอนผมหลับ ผมก็ไม่เชื่อหรอกครับ น่าตลกสุดๆ ”

“ ใช่ น่าตลกสิ้นดี ”
แวมที่มาจากไหนไม่รู้ อยู่ดีๆเขาก็เดินมานั่งร่วมโต๊ะกับผมแบบไม่ทันตั้งตัว เสียงที่ผมคุ้นเคยได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นโหมดเรียบนิ่งจนน่าหมั่นไส้

แวมคนเดิมกลับมาอีกครั้ง ผมอยากจะบอกว่าผมไม่ชอบไอ้ขี้เก๊กนี่ซะเลย น้ำเสียงก็เย็นชาเหมือนปนหาเรื่องจนน่าต่อย ทำไมกางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ตสีเข้มธรรมดาๆถึงทำให้เขาดูหล่อได้ขนาดนี้นะ วันนี้เซ็ตผมทรงใหม่ดูเท่ห์กว่าเดิมอีก เอ่อ มองเขานานเกินไปแล้วนะเนี่ย พอนึกได้ดังนั้นผมก็ก้มหน้าหลบทันที

“ คุณคือหมอบีมสินะ หึ เก่งจริงๆเลยที่ปั่นหัวเพื่อนผมได้ ... พวกมึงมาแดกเหล้าไม่เห็นชวนกูเลยนะ ”
แวมพูดกับผมจบก็หันไปคุยกับเพื่อนของเขาที่นั่งทำหน้าไม่รับแขกทั้งคู่

“ กูก็นึกว่ามึงจะไปแดกกับแฟนมึงไง ”
ใต้เมฆพูดด้วยน้ำเสียงแดกดัน

“ กลับกันเหอะ กูเหนื่อยจะพูดกับมันแล้วว่ะ ”
นาคิมพูดจบก็ลุกออกไปทันที ตามติดๆไปด้วยใต้เมฆอีกคน เอ่า งี้ก็เหลือแค่ผมคนเดียวน่ะสิ

“ จะก้มหน้าอีกนานมั๊ยครับหมอบีม? ไม่มีเรื่องอะไรมาโกหกผมอีกเหรอ ผมรอฟังอยู่ ”
แวมยื่นหน้าหล่อๆเข้ามาใกล้พร้อมเหยียดยิ้มมุมปากนิดๆ ผมเงยหน้ามองแววตาคุ้นเคยอยู่เนิ่นเนินราวกับถูกมนต์สะกด แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เขาบอกว่าผมโกหกงั้นเหรอ? ผมลุกขึ้นจ้องคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าอย่างโมโหทันที ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วมาหาว่าคนอื่นโกหก โดนหลอกแล้วยังไม่รู้ตัวอีก

“ นายนี่หล่อซะเปล่า เสียอย่างเดียว โง่ว่ะ ”
แวมทำหน้าอึ้งทันทีเมื่อผมพูดแบบนั้นออกไป ไม่รอให้เขาด่ากลับหรอกครับ ตอนนี้ผมวิ่งสี่คูณร้อยเมตรออกมาข้างนอกเรียบร้อยแล้ว







----------------------------

ไม่ได้มาต่อซะนาน จะมีคนคิดถึงผมรึเปล่านะ? ฮ่าๆ คนอ่านหายหมดแล้วมั้งครับ  :hao5:
ทั้งงานทั้งกิจกรรมเต็มไปหมด เฮ้อออ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2017 12:41:13 โดย lostboy »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
 :3125:คิดถึงสิครับ รออ่านอยู่กลับมาพร้อมมาม่าเลยนะครับ :3123:


 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ดีใจที่กลับมาต่อค่ะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ในที่สุดก็มา นึกว่าดองเค็มซะแร้ว

ออฟไลน์ SM_day

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
โอ้พระ หยิก..ตัวเองแรงๆ

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ดีใจที่กลับมาค่ะ แต่นังเฟย์คงโดนเปิดโปงเร็วๆ  :hao3:
ส่วนอิป้าคุณหญิงนี่ก็ลำไยจริงๆรับไม่ได้ที่ลูกไม่ได้ชอบชะนีโดนชะนีปลอกลอกนี่จะหัวเราะให้ฟันร่วงแถมสมน้ำหน้าซ้ำนะคะนิ  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อ้าวว เฮ้ยยยยย

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด