[END] Oh! God ผมโดนท่านเจ้าที่ตามรังควานครับ!:: จบแล้ว [22-08-2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] Oh! God ผมโดนท่านเจ้าที่ตามรังควานครับ!:: จบแล้ว [22-08-2018]  (อ่าน 98634 ครั้ง)

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 16

“แทงค์ ฉันมารับกลับบ้าน”

 

ตอนแรกผมก็คิดว่าตัวเองคงป่วยแล้วล่ะ แต่พอตื่นนอนขึ้นมาในตอนเที่ยง ผมกลับรู้สึกกระปรี้กระเปร่าราวกับไม่เคยปวดหัวแต่อย่างใด คงต้องขอบคุณพาราเซตามอลที่ท่านเจ้าที่เอามาให้กิน...หมายถึงบังคับให้ผมกินนั่นล่ะ เพราะถ้าไม่ได้กินยาก่อนนอนดักอาการไว้ก่อน ผมอาจจะป่วยไปแล้วจริงๆ ก็ได้

ผมลงมาที่ห้องครัวเพื่อหาข้าวเที่ยงกิน จำได้ว่าในตู้เย็นมีหมูสับกับใบกะเพราอยู่ เดี๋ยวทำกะเพราหมูสับกินแล้วกัน...แต่แล้วผมก็ต้องตะลึงตัวแข็งค้างเมื่อเดินเลี้ยวเข้ามาในครัวแล้วเจอท่านเจ้าที่กำลังแกะถุงอะไรสักอย่างเพื่อเทของในนั้นใส่ชามอยู่ แล้วไม่ได้มีแค่หนึ่งถุงนะ แต่มันยังมีอีกหลายถุงวางอยู่บนโต๊ะกินข้าวอ่ะ!

“เฮ้ย! อะไรเยอะแยะเนี่ยท่านเจ้าที่!?”

“ก็อาหารกลางวันไง” ท่านเจ้าที่ตอบทั้งๆ ที่ไม่หันมามองผม มือก็เลื่อนไปหยิบอีกถุงมาแกะยางหนังสติ๊กออก

ผมเดินเข้าไปหา มองของกินมากมายบนโต๊ะ...ที่แกะใส่ชามไปเมื่อกี้คือก๋วยจั๊บ และที่กำลังแกะอยู่คือก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ส่วนที่ยังไม่ได้แกะก็มีผัดไท แล้วนั่นขนม เป็นข้าวเหนียวสังขยา ถัดไปกล่องๆ นั่นเค้กป่ะวะ?

“ไปปล้นมาจากไหนเนี่ย”

“ปล้นอะไร หยาบคายนะเอ็ง ข้าเป็นเทวดาไม่ใช่ขโมยขโจร” ท่านเจ้าที่หันมาเขม่นตามองผมก่อนจะกลับไปแกะห่อผัดไทต่อ “พวกนี้ข้าซื้อมาน่ะสิ”

“ท่านซื้อมา?” ผมทวนถาม อดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นพระภูมิเจ้าที่ออกไปซื้อของกินที่ตลาดได้ด้วยเหรอ ถ้างั้นทำไมไม่หาข้าวกินเอง ต้องให้มนุษย์เอาข้าวมาเซ่นมาถวายทำไม...พลันผมก็นึกไปถึงคราวก่อนนู้นที่ท่านเจ้าที่ออกไปซื้อวัตถุดิบทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า จนความสงสัยมันผลักดันให้ผมถามออกไป “เออ แล้วคราวก่อนที่ท่านซื้อของทำสปาเก็ตตี้มาอ่ะ นั่นก็ซื้อเองเหรอ?”

“ใช่ ถึงจะเป็นเทวดา แต่บางทีเราก็ปรากฏตัวในฐานะมนุษย์ออกไปดูสภาพความเป็นอยู่ของคนในสังคมบ่อยๆ”

“อ๋อ เข้าใจละ” ผมพยักหน้า หายสงสัยในทันที

“อย่ามัวแต่ถามมาก เจ้าหนูจำมัยเหลือเกินนะเอ็ง มานั่งลงแล้วกินข้าวได้แล้ว” ท่านเจ้าที่ว่าพลางเก็บเอาขยะไปทิ้ง ผมก็เลยทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ประจำของตัวเอง รออีกฝ่ายกลับมานั่งจะได้กินพร้อมกัน “กินเข้าไปสิ จะรออะไร?”

“รอท่านอ่ะแหล่ะ มากินพร้อมกันดิ”

“อือ” ท่านเจ้าที่ตอบรับ ทรุดลงนั่งแล้วหยิบช้อนมาตักชิมก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เห็นอย่างนั้นผมก็เลยลงมือกินบ้าง

กินเงียบๆ ไปได้สักพัก เทวดาหน้าหล่อก็เงยหน้าขึ้นมามองผม ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามทางสายตาว่ามีอะไรหรือเปล่า อีกฝ่ายเลยกลืนอาหารก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “วันนี้จะไปไหนมั้ย?”

ผมพยักหน้ารับ “ไปๆ ผมมีซ้อมดนตรีกับเพื่อนตอนบ่ายสาม”

“ดนตรี? เอ้อ เอ็งเรียนดนตรีนี่นะ”

“รู้ด้วยเหรอ ผมว่าผมไม่เคยบอกท่านนะ แหน่ะ แอบไปเสือกเรื่องของผมมาจากเจ้าที่องค์เก่าอ่ะดิ”

“ข้าไม่ได้เสือก! แค่ถาม” ...แล้วมันต่างจากเสือกตรงไหน ตัวเองโดนด่าบ้างทำมาถลึงตาใส่ ทีตอนด่ากูนี่หน้าระรื่นเชียว จิ๊! “แล้วเอ็งจะกลับกี่โมง”

“คงดึกๆ หน่อยอ่ะ น่าจะซ้อมกันนานเพราะขาดซ้อมไปตั้งสองอาทิตย์”

“ทำไมถึงขาดซ้อม?” ท่านเจ้าที่ยังมีคำถามออกมาเรื่อยๆ แหมะ แล้วมาบอกว่ากูเป็นเจ้าหนูจำมัย ตัวเองก็ไม่ต่างกันเลยไหมล่ะ เบื่อคนปากไม่ตรงกับพฤติกรรม

“ร้านที่ไปเล่นเป็นงานพิเศษเขาปิด พวกผมก็เลยถือโอกาสหยุดพักไปด้วย ก็เลยไม่ได้ซ้อมกันเลยน่ะ”

ท่านเจ้าที่พยักหน้ารับว่าเข้าใจแล้ว จากนั้นเราสองคนก็จัดการสารพัดอาหารตรงหน้าต่อจนหมด...ตอนแรกผมนึกว่าจะกินไม่หมดแล้วเชียว แต่ปรากฏว่าหมดเกลี้ยงเลยครับ แถมแต่ละอย่างที่ท่านเจ้าที่ซื้อมานี่อร่อยมากอ่ะ ไปหาร้านเจอมาจากที่ไหนวะเนี่ย อร่อยๆ ทั้งนั้นเลย ต้องไม่ใช่แถวหน้าปากซอยแน่ๆ ผมมั่นใจเพราะลองกินมาหมดทุกร้านแล้ว

“ไปซื้อมาจากไหนเนี่ยท่านเจ้าที่” ผมอดเอ่ยปากถามออกไปไม่ได้

คนโดนถามเหลือบสายตามามองผม ขณะที่มือก็เก็บจานชามมาวางซ้อนกันเพื่อจะเอาไปเก็บล้าง...จริงๆ ผมบอกแล้วนะว่าเดี๋ยวผมจะล้างเอง แต่ผีอะไรเข้าท่านเจ้าที่อีกแล้วก็ไม่รู้ อีกฝ่ายบอกว่าจะทำเอง แล้วให้ผมนั่งเฉยๆ ก็พอ แล้วผมจะปฏิเสธทำไมอ่ะ นั่งเฉยๆ มันสบายกว่านี่หว่า ใครบ้างไม่อยากนั่งเฉยๆ ฮิๆ

ท่านเจ้าที่ไม่ยอมตอบผมว่ะ ลุกขึ้นเอาจานชามไปยืนล้างที่ซิงค์ ผมก็เลยเท้าคางมองแผ่นหลังอีกฝ่าย แล้วถามซ้ำ “เอ๊า ทำไมไม่ตอบผมเนี่ย”

“จะอยากรู้ไปทำไม?” เขาหันมาย้อนถามผม ผมเลยกลอกตาใส่

“ก็เผื่อวันหลังผมจะไปซื้อมากินบ้างไง”

“เสียใจด้วย ข้าบอกเอ็งไม่ได้” ท่านเจ้าที่ตอบพลางยักคิ้วให้สองจึก กระตุ้นต่อมความหมั่นไส้ของผมให้ทำงาน...หวงไง แค่นี้ทำมาหวง แค่บอกว่าร้านไหนเนี่ยจะหวงเพื่อ?!

“ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก คนขี้หวง!” ผมบ่น บ่นแบบเสียงดังมากๆ ใส่ ก่อนจะสะบัดก้นลุกจากเก้าอี้แล้วทิ้งท้ายไว้แค่ว่า “ไปแล้วนะ!”

แล้วผมก็เดินดุ่มๆ ออกมาทันที...หงุดหงิดเว้ย! ไอ้คนกวนประสาท ชิ!

__________

วันพุธมาถึงในที่สุด วันนี้พวกผมจะได้กลับไปเล่นดนตรีที่ร้านพี่เฟิ่งแล้ว แอบตื่นเต้นไม่น้อยเลยเหมือนกันนะ ไม่ได้เล่นมาพักใหญ่ๆ พอกลับมาเล่นมันก็ใจเต้นตึกตักเลยว่ะ หรือดนตรีก็ทำให้ผมใจเต้นได้แบบที่ไอ้คลาร์กมันใจเต้นเวลาเห็นนมตู้มๆ ของสาวๆ วะครับ? ฮะๆๆ แล้วนี่กูจะไปนึกถึงที่มันเคยพูดทำไมเนี่ย ลากมกจกเปรตมาก!

“ยินดีต้อนรับกลับสู่ร้านเฟิ่งหลงเมียจ้ะเด็กๆ”

...ได้ยินไม่ผิดหรอกครับ ร้านนี้ชื่อว่า ‘เฟิ่งหลงเมีย’

เป็นการเล่นคำน่ะครับ นอกจากจะบอกชื่อเจ้าของร้านแล้ว ยังบอกอีกด้วยว่าเจ้าของร้านนี่หลงเมียขนาดไหน

คนที่ออกมาต้อนรับพวกเราก็คือเจ๊เฟย์ ภรรยาของคุณเจ้าของร้านที่พูดถึงนั่นล่ะ

“หวัดดีครับเจ๊ เสียใจด้วยนะครับเรื่องแม่” ไอ้เนสเอ่ยขึ้นพลางยกมือไหว้เจ๊ใหญ่ของร้าน พวกผมไหว้ตาม

เจ๊เฟย์รับไหว้ “ขอบใจจ้ะ พี่ไม่เป็นไรหรอก แม่ก็ป่วยมานาน ทำใจไว้นานแล้วว่าสักวันในเร็วๆ นี้ท่านคงต้องจากไป ท่านเหนื่อยมามากแล้วนี่นะที่ต้องสู้กับสารพัดโรค”

พวกผมพูดคุยกับเจ๊เฟย์อีกนิดหน่อย ก่อนจะเข้าไปยังหลังร้าน...ที่นี่มีห้องพักให้กับพวกนักดนตรีด้วยครับ พวกผมก็ไปพักเอาที่นั่นทั้งก่อนขึ้นแสดง ระหว่างพัก หรือก่อนกลับบ้านนั่นล่ะ

“ไงพวกมึง” เสียงของพี่เฟิ่งเรียกความสนใจของพวกเราให้หันไปมอง ผมที่กำลังควงไม้กลองเล่นเอ่ยทักกลับไป

“ไงพี่ สบายดีนะ”

“เออ กูสบายดี พวกมึงกินอะไรกันหรือยัง”

“กินแล้วพี่” ไอ้คลาร์กตอบ มือก็เอาผ้าเช็ดกีตาร์ของมันไปด้วย

“ดี งั้นคืนนี้พวกมึงอย่าเพิ่งรีบกลับ แดกเหล้ากับกูก่อน”

“นั่นไง กูเดาไว้ไม่มีผิดว่าพี่เฟิ่งต้องชวนเราแดกน้ำเมา” ไอ้เนสหันไปยักคิ้วให้ไอ้คลาร์ก คู่ซี้คู่กัดของตัวเอง

“หรือพวกมึงจะไม่แดก?” พี่เฟิ่งเลิกคิ้วถาม แต่ไอ้สองหน่อก็ตอบออกมาพร้อมกันว่า...

“แดก!!!”

“ฮะๆ ก็แค่นั้น” แล้วพี่เฟิ่งก็ชวนคุยอีกพักใหญ่ก่อนจะออกไปคุมหน้าร้าน...แหม่ ไม่ถามกูบ้างเหรอว่าอยากแดกหรือเปล่า นี่มีเรียนไงพรุ่งนี้อ่ะ พวกมึงลืมไปแล้วเรอะ?

“พรุ่งนี้มีเรียนนะ” ไอ้ฮัทเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ราวกับรู้ความคิดของผมเพราะมันพูดขึ้นมาแทนผมพอดิบพอดีเลย

“เอาน่า เทเรียนสักวันคงไม่เป็นไรหรอก เราไม่เคยหยุดวิชาของวันพรุ่งนี้เลยนะเว้ย” ไอ้เนสโบกมือที่ถือไมค์ไปมา ขณะที่ไอ้คลาร์กเสริมอีกว่า

“จริงงง เรื่องแดกเหล้าเคล้านารีสำคัญกว่าเรื่องเรียนเว้ย”

“มึงคนเดียวสิที่คิดอย่างนั้น กูยังเห็นชีทการบ้านสำคัญกว่านมสาวเฟ้ยไอ้ควายย แค่ว่าไม่ได้ดริ๊งค์มานานเลยอยากจะเมาสักหน่อยวันนี้” ไอ้เนสยื่นมือไปตบหัวไอ้ลูกครึ่งเสียฉาดใหญ่

คนโดนตบฟาดมือกลับมาอย่างไม่ยอมน้อยหน้า “แล้วมึงเมาใครจะเก็บซากมึงกลับบ้านไอ้ฟัคคค”

“ไอ้ฮัทไง” ผมเอ่ยพลางชี้ไปที่เพื่อนผู้เงียบขรึม อีกฝ่ายเขม่นตามองผม กระตุกมุมปากยิ้มเย็น

“เดี๋ยวกูจะเก็บซากมึงไปส่งวัดด้วยไอ้แทงค์”

“ฮ่าๆๆๆ” พวกผมหัวเราะให้กับคำตอบของมันก่อนจะคุยกันเรื่อยเปื่อย รอเวลาขึ้นเล่นตอนทุ่มครึ่ง

เห็นมันพูดเหี้ยมโหดแบบนี้ จริงๆ แล้วก็เป็นมันนี่แหล่ะครับที่คอยหามพวกขี้เมากลับไปส่งบ้าน ไอ้ฮัทมันค่อนข้างคอแข็ง แต่จริงๆ คือมันแทบไม่ค่อยดื่มมากกว่าน่ะ เลยยังมีสติครบถ้วนจนขับรถกลับบ้านได้ ส่วนผมน่ะเป็นพวกไม่ค่อยดื่ม แต่จะดื่มเฉพาะเวลาที่คิดว่าต้องดื่มเท่านั้น อย่างวันนี้นี่ต้องดื่มแน่ๆ เพราะต่อให้ปฏิเสธยังไง พี่เฟิ่ง ไอ้เนสกับไอ้คลาร์กก็ต้องบังคับผมให้ดื่มจนได้อยู่ดี และก็เมาทุกครั้งที่โดนมอมจากพวกมันนี่แหล่ะครับ เฮ้อ ก็ได้แต่หวังว่าคืนนี้ผมคงจะไม่เมาจนเกินไปล่ะนะ

__________

เที่ยงคืนเลิกงาน...พวกเราเริ่มเล่นตอนทุ่มครึ่ง พักเบรกครึ่งชั่วโมงตอนสามทุ่มครึ่ง เล่นต่อมาจนถึงเที่ยงคืน นั่นคือเวลางานทั้งหมดของพวกผมครับ

ร้านนี้ปิดตีสาม เวลาที่เหลือก็เลยใช้เปิดเครื่องเสียงเอา ส่วนใหญ่ก็เป็นเพลงช้าๆ เบาๆ ฟังสบาย เพราะถ้าเปิดเพลงมันๆ ตอนเลยเที่ยงคืนไปแล้วเนี่ย อาจจะเป็นการกระตุ้นให้คนเมาลุกขึ้นมาตีกันเพียงเพราะเผลอมองหน้ากันก็ได้ อะไรทำนองนั้นตามความคิดเจ้าของร้านเขาน่ะ ฮะๆ

ตอนนี้พวกเราทั้งวงนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่โต๊ะๆ หนึ่งตรงใกล้ทางออกของร้าน ร้านพี่เฟิ่งมีสองโซนครับ คือโซนในร้านก็จะมิดชิดหน่อย ส่วนโซนนอกร้านเป็นแบบเอาท์ดอร์เปิดโล่ง มองเห็นท้องฟ้ายามราตรี

“เอ้า แดกๆๆ” พี่เฟิ่งชงเหล้าให้พวกผมคนละแก้ว ก่อนพวกเราทั้งหมดจะชนแก้วกับพี่เขาแล้วกระดกดื่ม ไอ้เนสกับไอ้คลาร์กนี่พรวดๆ จนหมดแก้ว มีแต่ผมกับไอ้ฮัทที่ค่อยๆ จิบ ก็ไม่รู้จะรีบเมาไปทำไมนี่หว่า ดื่มไปชมบรรยากาศไปมันดีกว่านะผมว่า

“ไอ้ฮัทมึงเตรียมเก็บศพพวกมันด้วยนะ ฮะๆๆ” พี่เฟิ่งเอ่ยเหมือนจะแซวไอ้หน้านิ่ง ส่วนคนโดนแซวน่ะเหรอ?

“ก็เหมือนทุกทีอ่ะพี่ ผมชินแล้ว”

พวกเราฮาครืนกันยกใหญ่ ดื่มไปคุยไปเรื่อยเปื่อย จนเวลาเคลื่อนผ่านจากเที่ยงคืนไปที่ตีสอง...ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองดื่มไปกี่แก้วแล้ว แต่ที่แน่ๆ น่าจะดื่มมากเอาการเพราะตอนนี้เริ่มมองอะไรเป็นสองร่างสามร่างไปหมดแล้วอ่ะครับ เฮ้ยๆๆ ถึงผมจะเมาแต่ก็รู้ตัวนะเว้ยย เก่งป๊ะล่าาา

“อะไรวะ เลื้อยกันแล้วเหรอ” พี่เฟิ่งว่าพลางมองไอ้สองคู่หูคู่กัดที่เริ่มหัวเราะเอิ๊กอ๊ากร้องเพลงด้วยกันไปเรื่อยแล้ว

ผมมองพี่แกก่อนจะเรียกเขา “พี่...เฟิ่งงง”

“อะไรมึง?” อีกฝ่ายตอบรับ

“จั่นเจาไปหนายย”

“จะรู้มั้ย กูไม่ใช่เปาบุ้นจิ้น”

“อ๊อ เหรออ” ผมเลิกคิ้ว หรี่ตามองพี่เฟิ่งที่กำลังแยกร่างให้กลับมามีร่างเดียว “พี่เฟิ่งง รักผมม้ายยย”

“รักเชี่ยไร! กูมีเมียแล้ว!”

“พี่ใจ...ร้ายย พี่ไม่ร๊ากผ๊ม ขะหนาดพาดลมยังสั่ยหน้าเลยย” ผมโวยวาย รู้สึกว่าเสียงตัวเองมันยานๆ นะ “ผมเสียจาย ไม่อยากมีเชวิตอยู่ ต่อปาย ล้าววว เอิ่ว! ฉานผูกคอตาย~ ใต้โต้นมาเขือ ฮื้อออ ฮืออ~”

“มีเอื้อนด้วยว่ะไอ้เหี้ย...”

“ทำมายต้อง ต่ายต้นมาเขือด้วยอ่ะ?” ไอ้คลาร์กเอ่ยถามขึ้นมาเสียเฉยๆ ไอ้เนสเองก็เลยถามกลับ

“แล้วทะไมจะเป็นโต้นมะเขือไม่ล่ายย”

“กูม่ายชอบ...มะเขือ”

“แต่กูชอบบบ โดยเพาะมาเขือ...ยาว ฮ่าๆๆๆ” ไอ้เนสหัวเราะลั่น ผมที่ฟังอยู่ถึงกับต้องยื่นมือไปผลักหัวมัน

“ไอ้พวกทาลึ่งลามกกก” ผมว่าพวกมัน ก่อนจะ... “กูก็ชอบมะเขือยาวว ฮ่าๆๆ”

“เราพวก...เดียวกัน!” ไอ้เนสตอบรับพลางยื่นมือมาตีมือกับผม

“เมิงเองก็ทะลึ่งไอแทงค์ ไอ้ฟายยย” ไอ้คลาร์กด่าแต่ผมก็ไม่สนใจ

ได้ยินเสียงไอ้ฮัทพูดกับพี่เฟิ่งแว่วเข้ามาในหู “พี่ยังไม่ชินอีกเหรอ? ฮะๆ”

“ชินยากว่ะ แม่งพีคทุกครึ่งที่พวกมันเมา ฮ่าๆๆๆ เมาแล้วตลกฉิบหาย”

“เพราะมันตลกพี่เลยชอบมอมเหล้าพวกมันอ่ะดิ” ไอ้ฮัทพูดเหมือนรู้ทัน ให้คนฟังยักไหล่...คิดว่าน่าจะใช่นะ ผมก็มองไม่ค่อยชัด ภาพตรงหน้ามันสั่นๆ กระเพื่อมๆ ไปหมดเลยง่า

“ยอมรับ ฮะๆ เออ มึงพาพวกมันกลับไหวป่ะเนี่ย ไงให้กูบอกเด็กไปช่วยมั้ย?”

“ไม่เป็นไรพี่ ผมไหวๆ”

“งั้นมึงจะกลับเลยหรือเปล่า นี่มันก็ดึกแล้วนะ จวนได้เวลาปิดร้านแล้วด้วย” พี่เฟิ่งว่าพลางกดโทรศัพท์ดูเวลา

“กลับเลยครับพี่”

หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดูเลือนรางมากในสายตาและสติของผม ผมจำได้แค่ว่าไอ้ฮัทเป็นคนพยุงผมเดินออกจากร้าน โดยที่ไอ้เนสกับไอ้คลาร์กเดินกอดคอกันตามหลังมาอย่างเซๆ แล้วในตอนที่กำลังจะเลี้ยวไปที่ที่ไอ้ฮัทจอดรถของมันเอาไว้ จู่ๆ ผมก็รู้สึกว่าต้นแขนของตัวเองโดนดึงไปอีกทางจนตัวปลิวไปติดกับแผ่นอกของใครสักคน พร้อมกับที่เสียงนุ่มทุ้มติดจะเข้มขึงดังขึ้นเรียบๆ ข้างหู

“แทงค์ ฉันมารับกลับบ้าน”





__________

ความเมาเรื้อนที่แท้ทรูค่ะ 55555555 แทงค์เนี่ยจะมีเพื่อนอยู่สามกลุ่มด้วยกัน คือเพื่อนตั้งแต่เด็กอย่างพัค เพื่อนมหาลัยคือพวกเนส กับเพื่อนที่ทำงานคือพวกไวท์ เพื่อนมัธยมก็มีแต่เราไม่ได้ดึงออกมาเปิดตัวเพราะแค่นี้ตัวละครก็เยอะไปแล้ว ฮ่าา

นี่เป็นไง มีคนมารับน้องแทงค์กลับบ้านด้วย ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้เนอะว่าใคร คนเดียวแหล่ะที่ปากบอกมารังควานแต่จริงๆ มาดูแล โด่ว ท่านเจ้าที่จอมซึนเอ๊ย 55555 ตอนหน้า...คนเมาเขาจะอ้อนแหล่ะ คิกๆ แล้วเจอกันค่ะ


อ้อ ไปพูดคุยทักทายเราได้ที่เพจ https://www.facebook.com/Hazelnut.writer/
หรือ Twitter @got7bam_sj15 นะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-12-2017 23:18:24 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ท่านเจ้าที่เป็นห่วงใช่ไหมอ่าาา

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
นึกว่าท่านเจ้าที่จะไปตามถึงในร้าน ไม่งั้นทุกคนได้ฮือฮากันแน่ ฮา

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :katai3:  แหมะท่านค่ะ รู้สึกว่าจะตามไปรังควานทุกที่เลยนะเนี้ย หึหึ จะรอดูเด็กอ้อน  :hao3:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
อุ๊ยยยยย.......มารับตอนเมาอ่ะ!!
//ปูเสื่อรอฉากมุ้งมิ้ง~~~//

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ถ้าท่านเจ้าที่ไปเกิด เราคงจะได้เห็นนิยายรักแนวโอจิค่อน คุณลุงเคะชวนน่าหม่ำสินะ o3

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ตอนต่อไปพลีสสสส

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ aommaboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ท่านภูน่ารักกกก มีมาร้งมารับดั้วะ

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 17

“นอนด้วยกัน...นะ...”

 

[ภูตลา]

"ฉันมารับเขากลับบ้าน" ประโยคเน้นย้ำอีกครั้งของชายแปลกหน้าทำให้ฮัทชะงักฝีเท้า และเกือบจะล้มไปแล้วเพราะโดนไอ้สองหน่อขี้เมาที่เดินตามหลังมาเดินชน แต่ดีที่ชายแปลกหน้าช่วยรั้งทั้งตัวของเขาและแทงค์เอาไว้ได้ทัน

ใช้เวลาอยู่เป็นนาทีเหมือนกันกว่าที่ฮัทจะเอ่ยออกมาได้ "เอ่อ คุณ...คุณเป็นใครครับ?"

"หนายครายย ใครที่หนายเหรออ" แทงค์ที่เมาอ้อแอ้ผงกหัวขึ้นมามองรอบๆ ด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่พอสบตากับหนุ่มร่างสูงไว้หนวดบางๆ ที่กำลังช่วยพยุงตัวเองอยู่ เจ้าตัวก็ฉีกยิ้มกว้าง ยกนิ้วขึ้นชี้หน้าคนตรงหน้าแล้วว่าเสียงยาน "อ่ะนี่ผัวนี่นาาา ผัวเราา"

"หะ!?!" ฮัทถึงกับตาโตร้องเสียงหลง ขณะที่ทั้งเนสและคลาร์กหูผึ่ง เมาแล้วแต่ก็ยังอยากรู้อยากเห็นได้

"หนายผัวใครร ผัวมึงอ่อ ไอ้แทงค์!"

"ผัวมึงทำมายมีสี่ร่าง"

ก็เพราะมึงเมาไงเลยมองเห็นคนอื่นแยกร่างได้!...ฮัทอยากจะด่า แต่ก็เลือกที่จะปล่อยผ่าน หันกลับมาให้ความสนใจคนแปลกหน้า ที่ตอนนี้กำลังถลึงตามองไอ้แทงค์อยู่ เขาคิดว่าเอ่ยปากถาม แต่ไอ้แทงค์ก็แทรกขึ้นมาซะก่อน แถมยัง...

"ผัวมาล้าวว ไม่อาว อย่าทิ้งเมียเด้! ถะอ้ายได้ฟางง เพลงเน้! ถ้าอ้ายยังมี...ชี! วิตตต" ร้องเพลงด้วยไอ้สัส เมาเรื้อนแล้วมึงเอ๊ย หนักกว่านั้นคือไอ้สองคนข้างหลังดันเสือกรับมุกกันด้วยไง

"น้ำอาราย ห้ายชีวิต!"

"น้ำท่วมวัด! พระเลยให้ชี...ไปวิด"

"เมิงรู้ทันกูได้งายวะ!"

"กูเรียนมาาา"

...ปล่อยมันไปละกัน เฮ้อออ!

"เมียก่าววคนเน้ นั้นน ทุกวันยังคิดฮอดจ้าวว" ส่วนไอ้แทงค์แม่งก็ยังร้องเพลงไม่เลิก ไอ้พวกเพื่อนเวร!

ฮัทยกมือข้างที่ว่างขยี้หัวตัวเองอย่างอดจะรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ ไม่ได้ ความนิ่งสงบจนดูเหมือนเย็นชาของเขาตอนนี้แตกโพละไม่เหลือชิ้นดีเมื่อต้องมารับมือกับไอ้พวกเพื่อนขี้เมาทั้งหลายนี่

"ฉันเป็นเพื่อนบ้านของแทงค์ มารับเขากลับบ้าน" ชายแปลกหน้าผู้มีดวงตาดุเข้มเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปนาน

"เอ่อ..." ฮัทลังเล บอกตรงๆ ว่าเขายังไม่ไว้ใจคนคนนี้ ไอ้แทงค์ก็ไม่เห็นเคยเล่าว่ามีเพื่อนบ้านที่สนิทกันจนมารับกันกลับบ้านได้ หรือแม้แต่จะมารับกลับบ้านตอนนี้เวลานี้เนี่ย มันก็ไม่เห็นพูดอะไรสักอย่างเลยนะวันนี้

"ถามเขาดูก็ได้" ท่านเจ้าที่พเยิดหน้าไปที่คนเมา ฮัทเลยลองถามดูแม้จะไม่ค่อยแน่ใจนักว่าไอ้คนเมาเนี่ยมันจะฟังคำถามของเขารู้เรื่องหรือเปล่า หนักกว่านั้นคือจะตอบรู้เรื่องไหมด้วยนี่แหล่ะ น่ากังวลไหมล่ะ

"ไอ้แทงค์ ตกลงนี่เพื่อนบ้านมึงใช่ป่ะ มึงให้เขามารับเหรอ?"

"หือออ?" คนเมามองชายหน้าดุเล็กน้อย แล้วพยักหน้ารับ "เออๆ เพื่อนบ้านสุดหล่อของกูเอ๊งง ไม่เคยเล่าให้พวกเมิงฟัง เพร้าะเดี๋ยวพวกมึง! ต้องล้อกู...แน่ๆ"

"ล้อเรื่องไรวะ?"

"ก็เมิงดู...เมิงดู๊! หล่อมาดเข้มม ไว้หนวดด้วยเห็นมะ? ชวนจั๊กกะจี้คอมั่ก หน้าคมตาดุ! ตัวสู๊งสูง ผิวแทนน หุ่นนายแบบ! แถม...แถมกล้ามท้องยางน่ากัด นี่มานซาเป็กกูชัดช๊าดดด ถ้าพวกมึงรู้จักเขา! ก็ต้องล้อกู! บอกห้ายกูจับเค้าทำ...ปั๋ววว เอิ๊ก!"

ไอ้แทงค์อธิบายความในใจออกมาจนหมด ชนิดที่ฮัทรู้สึกอายแทนมากๆ แถมพอเหลือบมองชายแปลกหน้าก็เหมือนจะแอบเห็นอีกฝ่ายกระตุกยิ้มราวกับชอบใจในสิ่งที่ได้ยิน ก่อนอีกฝ่ายจะรีบปรับสีหน้าเป็นนิ่งขึงเมื่อเห็นว่าเขามองอยู่...ขนาดเหลือบมองแล้วนะแม่งยังเห็น ตาเป็นเรดาร์เรือดำน้ำหรือเปล่าวะนั่น

“ตกลงคุณเป็น เอ่อ เพื่อนบ้านของไอ้แทงค์จริงๆ ใช่ไหมครับ?”

“อืม” ชายร่างสูงพยักหน้ารับ “ฉันพาเขากลับได้แล้วหรือยัง”

“อ่า ครับๆ ฝากด้วยนะครับ” ฮัทส่งเพื่อนให้กับอีกฝ่ายเอาไปพยุงแบบเต็มตัว ก่อนจะนึกขึ้นได้ “เอ่อ แล้วคุณเอารถอะไรมารับมันอ่ะครับ”

“มอเตอร์ไซค์ของเขา” หนุ่มหน้าดุชี้นิ้วไปที่รถมอเตอร์ไซค์คันเล็กแสนธรรมดาของคนเมา ที่วันนี้อีกฝ่ายทิ้งเอาไว้บ้านไม่ได้ขี่ไปเรียน และอาศัยติดรถไอ้เนสมาที่ร้านพี่เฟิ่งเอาเหมือนทุกที

“ผมว่ามันคงไม่สะดวกแน่ๆ ถ้าคุณคิดจะเอาไอ้แทงค์ซ้อนท้ายกลับบ้าน” ฮัทส่ายหน้า เอ่ยบอกอย่างไม่เห็นด้วย คนฟังเลิกคิ้วเป็นเชิงถามโดยไร้เสียงว่า ‘จะให้ทำไงล่ะ ก็มีรถแค่คันนี้คันเดียวในตอนนี้น่ะ’ ฮัทจึงถอนหายใจแล้วว่า “ไอ้นี่มันเมาแล้วชอบเลื้อย นั่งรถมอ’ไซค์นี่คงได้เลื้อยจนหล่นจากรถ”

“งั้นฉันจะพาเขากลับแท็กซี่”

“ไม่ต้องหรอกครับ อ่ะนี่...” ฮัทส่ายหน้าให้อีกครั้ง ก่อนจะยื่นกุญแจรถยนต์ให้แล้วชี้ไปที่รถยนต์สีดำคันหนึ่ง “เอารถของผมขับกลับไปแล้วกัน ส่วนรถไอ้แทงค์เดี๋ยวผมฝากพี่เฟิ่งเอาไว้ให้”

“แล้วนายจะกลับยังไง?”

“ผมเอารถไอ้เนสกลับก็ได้ ยังไงก็ต้องไปส่งพวกมันอยู่แล้วด้วย” ว่าพลางชี้ไปที่ไอ้เพื่อนบ้าสองตัวข้างหลัง ที่เวลานี้พากันกอดคอลงไปนั่งกองกับพื้นแล้ว...สงสัยต้องรีบพาพวกมันกลับบ้านแล้วล่ะ ก่อนที่พวกมันจะนอนกันตรงนี้

“ขอบใจนะ”

“ไม่เป็นไรครับ งั้น...กลับดีๆ นะครับ ผมไปล่ะ” ฮัทเข้าไปสะกิดเรียกเนสกับคลาร์กก่อนจะจิกพวกมันขึ้นยืนแล้วพาไปที่รถหรูสีแดงแจ๊ดของไอ้เนส...จริงๆ เขาอยากขับรถไอ้เนสมานานแล้วล่ะ ก็รถมันนี่เมอร์เซเดสเบ็นซ์เลยนะเว้ย เบาะต้องนุ่มมากแน่ๆ

เพื่อนของทิราวัฒน์ไปกันหมดแล้ว ตรงหน้าร้านเหล้าที่กำลังจะปิดเพราะลูกค้าที่เหลือทยอยกันเดินออกมาเรื่อยๆ จนจะหมดร้าน จึงเหลือเพียงชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงแสล็คสีดำยืนอยู่กับเด็กหนุ่มที่เมาแอ๋เท่านั้น...หุ่นนายแบบสูงใหญ่ทำให้คนที่ผ่านไปมาอดมองไม่ได้ และยิ่งมองมากขึ้นไปอีกเมื่อเขาอุ้มร่างโปร่งของเด็กหนุ่มขึ้นพาดบ่า

“เมาเป็นหมาเลยนะเอ็ง” ท่านเจ้าที่กระซิบเสียงเบาต่อว่าต่อขานคนที่เมาหัวเราะเอิ๊กอ๊ากไม่เลิก รำคาญไม่น้อยแต่ก็ต้องทนฟังมันพร่ามเมาๆ ไปจนกว่าจะกลับถึงบ้านนั่นล่ะนะ

แรกเริ่มเดิมทีเขาไม่ได้คิดจะมารับเจ้าเด็กนี่แต่อย่างใด แต่ดันมานึกขึ้นได้ว่าถ้าไอ้เด็กน้อยนี่ไปเล่นดนตรีที่ร้านเหล้า นั่นหมายความว่ามันต้องกลับดึก แล้ว...มันดึกแค่ไหนกันล่ะ?

คำถามนั้นทำให้คนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับมนุษย์เท่าไหร่ (นอกเสียจากจำเป็นจะต้องออกพื้นที่สำรวจความต้องการของมนุษย์โดยตรง) อดกังวลใจไม่ได้ว่าเด็กในปกครอง(?)จะเป็นอันตรายหรือเปล่าหากกลับบ้านดึกดื่นมืดค่ำจนเกินไป

ด้วยใจร้อนรนในแบบที่เจ้าที่หนุ่มอายุเกือบสองร้อยปีไม่รู้ตัว ทำให้เผลอติดต่อไปหาเหล่าพระภูมิเจ้าที่แถบถนนข้าวสารเพื่อถามว่าพบเห็นแทงค์บ้างหรือไม่ จนเมื่อรู้ว่าเด็กตัวร้ายอยู่ที่ไหน เขาก็มาโผล่ที่นี่ในทันที แล้วก็เพิ่งจะมาตระหนักเอาได้ตอนกำลังขับรถกลับบ้านโดยมีคนเมาอ้อแอ้นอนอยู่ที่เบาะข้างคนขับเนี่ยแหล่ะว่า...

“แล้วข้าจะกระวนกระวายไปทำไมในเมื่อเอ็งโตจนอายุยี่สิบปีเข้าไปแล้วเนี่ย เฮ้อ!”

บ่นไปก็เท่านั้น สุดท้ายเขาก็มารับเจ้าเด็กนี่จนได้แล้วนี่ไง

กลับมาถึงบ้านได้ท่านเจ้าที่ก็เสียเวลาไปกับการดึงแทงค์ออกจากรถ...มันก็คงไม่ยากหรอกกะอีแค่เอาคนเมาออกจากรถแล้วพาเข้าบ้านเนี่ย แต่มันดันยากก็เพราะไอ้คนเมามันไม่ยอมออกน่ะสิ!

“บอกให้ปล่อยไงเล่าไอ้เด็กนี่!” ท่านเจ้าที่ตะโกนใส่แทงค์ทั้งๆ ที่มือยังพยายามแงะอีกฝ่ายออกจากการเกาะเบาะ...ใช่ ตอนนี้แทงค์พลิกตัวหันหน้าเข้าหาพนักพิงก่อนจะโอบแขนกอดเบาะที่นั่งเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“ม่ายอาววว จะอยู่กับเมียยย” คนเมาว่าเสียงยานคาง ก่อนจะนึกขึ้นได้แล้วกลับคำ “ม่ายช่ายดิ กูเป็นรับ กูต้องอยู่กับผัววว ตะหาก!”

เมา เมาเละเลยเวรเอ๊ย!

ท่านเจ้าที่ถลึงตามองเด็กแสบ อดใจไม่อยู่ยกมือขึ้นเขกมะเหงกกับศีรษะของอีกฝ่าย ทำเอาแทงค์ร้องโอดโอย ยอมผละออกมาจากการกอดเบาะแล้วหันมามองคนทำร้ายร่างกายอย่างไม่พอใจ “เขกทำมายเนี่ย! มานเจ็บ...นะ ฮื่อออ”

ใบหน้าหล่อใสบึ้งตึง ปากเรียวบางยู่ลง ดวงตาฉ่ำเยิ้มมองมาอย่างตัดพ้อ เล่นเอาคนมองใจกระตุกไปวูบหนึ่ง เผลอยืนนิ่งงันไปชั่วขณะ...ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าไอ้เจ้าตัวแสบตรงหน้าเขามันน่ารักขึ้นมาได้ทั้งๆ ที่มันเมาไม่เหลือสภาพขนาดนี้น่ะ

ท่านเจ้าที่หนุ่มรีบสะบัดไล่ความคิดบ้าบอของตัวเองออกจากหัว ก่นด่าตัวเองในใจไปด้วยว่าคิดบ้าอะไรไร้สาระ ก่อนจะอาศัยทีเผลอคว้าตัวแทงค์ออกจากรถจนร่างโปร่งปลิวหวือมากระแทกอกแกร่ง ได้จังหวะที่ดีมือหนาก็รีบผลักประตูรถให้ปิดลง ตามด้วยแบกแทงค์ขึ้นบ่าเหมือนกับตอนที่เอาอีกฝ่ายขึ้นรถแล้วพาเดินเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว

ตุบ!!

“โอ๊ยยย!!!” คนเมาร้องโอยอีกครั้งเมื่อถูกปล่อยลงกลางเตียงแบบไม่ออมแรง แม้เตียงจะนุ่มในระดับหนึ่ง แต่มันก็ยังเจ็บอยู่ดีเมื่อหล่นลงมาจากอากาศแบบไม่ทันตั้งตัว “บาวเด้!”

“แค่นี้ไม่ตายหรอกน่า เอ้า นอนนิ่งๆ สิ ข้าจะถอดเสื้อออกให้ เหม็นเหล้าหึ่งเลย น่ารังเกียจนักนะเอ็งเนี่ย” ท่านเจ้าที่บ่นพลางยันเข่าเข้ากับที่นอนนุ่มใกล้ๆ ร่างโปร่ง ก่อนจะพยายามจับอีกฝ่ายนอนให้ดีแล้วปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออก

ไม่ได้มีจิตคิดพิศวาสแต่อย่างใดเขาขอบอกไว้ก่อน แต่เหม็นเหล้านั่นล่ะเลยจะถอดออกแล้วเช็ดตัวให้เท่านั้น

ปลุกปล้ำ(?)ถอดเสื้อ(?)เด็กอยู่นาน พอถอดออกมาได้ก็เข้าห้องน้ำไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวคนเมา เช็ดจนแน่ใจว่ากลิ่นเหล้าหายไปแล้ว หรืออย่างน้อยแค่มันลดลงสักนิดบ้างก็ยังดี จึงจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แทงค์เสียใหม่

นั่งลงตรงขอบเตียง เอี้ยวตัวมองคนที่เหมือนจะหลับมิหลับแหล่ด้วยสายตารำคาญปนหงุดหงิด อดไม่ไหวต้องยื่นมือไปดึงจมูกเด็กหนุ่มแก้หมั่นเขี้ยวและหมั่นไส้ “ทำข้าเหนื่อยมากเอ็งรู้ไหมเนี่ย?!”

“อืม ฮื่อ อายายย” คนเมาก็ตอบรับแบบมึนๆ ปัดมือหนาที่หยิกจมูกตัวเองออก หรี่ตาฉ่ำขึ้นมองร่างสูงที่นั่งอยู่ไม่ไกล “เออะ! ท่าน...เจ้าที่ป๊ะ?”

“เออ ได้สติแล้วเรอะ?”

“งืมๆ” แทงค์ไม่ตอบแต่ลุกขึ้นมานั่ง มองท่านเจ้าที่หนุ่มหน้าเข้มอีกนาทีกว่าก่อนที่จะ...กระชากคอของเทวดาอารักษ์เข้าหาตัว แล้วทิ้งตัวนอนหงายลงไปโดยไม่ปล่อยมือที่รั้งคอหนาเอาไว้ออกด้วยนะ!

“เฮ้ย!” ท่านเจ้าที่ร้องเสียงหลง เอนตัวลงไปนอนตะแคงด้วยท่าทางที่สุดแสนจะแปลกประหลาด จนสุดท้ายก็เป็นฝ่ายพลิกตัวขึ้นคร่อมทับร่างของเจ้าคนเมาเอาไว้แทน อ้าปากคิดจะด่าสักยกหนึ่งแต่นายทิราวัฒน์ก็เหมือนจะรู้ทัน เพราะเจ้าตัวรีบรั้งคอของท่านเจ้าที่ลงมาฝังกับหมอนที่เขากำลังหนุนอยู่ ในตำแหน่งข้างๆ ใบหน้าของตัวเองไม่ไกล ทำให้ใบหน้าหล่อราวกับพระเจ้าสร้างของท่านเจ้าที่ถูกกดฝังลงไปกับหมอนเสียมิด!

“อื้อ! อ่อยอ้าาา (ปล่อยข้าาา)”

คนโดนประทุษร้ายส่งเสียงร้องประท้วงดังอู้อี้ หายใจหายคอไม่ออกจนจะตายอยู่แล้ว พยายามดันตัวเองออกมาจากพันธนาการอยู่หลายนาที กว่าจะหลุดออกมาได้ก็ต้องสูดหายใจเข้าปอดอีกหลายเฮือกกันเลยทีเดียว

หายเหนื่อยกับการยื้อยุดกับคนเมาก็ตั้งใจจะด่านะ แต่เมื่อหันมาแล้วดันสบตาเข้ากับแทงค์ในระยะประชิด เจ้าที่หนุ่มกลับนิ่งงันอีกครั้งโดยอัตโนมัติ...ก็พวกเขาไม่เคยสบตากันในระยะลมหายใจเป่ารินรดกันมาก่อนเลยนี่นา

หากแต่แค่นั้นไม่ได้อธิบายเลยว่าทำไม...ทำไมเขาที่เป็นท่านเจ้าที่อายุเป็นร้อยๆ ปีถึงได้ใจเต้นแรงขึ้นมาได้

พรึ่บ! ฟุ่บ!

ในห้วงแห่งความคิดคำนึง เทวดาหนุ่มที่ไม่ทันระวังตัวจึงโดนคนเมาจับพลิกลงไปนอนด้านล่างแทน ขณะที่เจ้าตัวเปลี่ยนขึ้นมาคร่อมทับ สองมือเรียวจับข้างแก้มของร่างสูงเอาไว้มั่น เอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้างจาตาหยีเป็นสระอิ น่ารัก...

“มาๆ มาจูบบบ ราตีสะหวาดหน่อยย”

“ฮะ เฮ้ย!”

จุ๊บ!

จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ!

คนเป็นพระภูมิเจ้าที่ตัวแข็งค้างไปแล้ว เมื่อจู่ๆ มนุษย์ที่ตนตั้งใจมาตามรังควาน(?)โน้มใบหน้าลงมาหา แล้วกดจูบจุ๊บเข้าที่หน้าผาก หว่างคิ้ว ปลายจมูก และข้างแก้มทั้งสองข้าง...ก่อนจะหยุดนิ่งตรงริมฝีปาก โดยที่มีระยะห่างเพียงแค่หนึ่งข้อนิ้วเท่านั้นกั้นขวางระหว่างริมฝีปากของเขากับอีกฝ่ายไม่ให้สัมผัสกัน

“...”

จุ๊บ

แต่ยังไงจุ๊บสุดท้ายก็ต้องมา...มาแนบอยู่บนเรียวปากของท่านเจ้าที่หนุ่มในที่สุด

“นอนด้วยกัน...นะ...” คนเมาบอก ก่อนจะถดตัวลงแล้วทิ้งตัวทาบทับร่างสูงเอาไว้ทั้งตัว ซบใบหน้าลงกับอกแกร่ง หลับตาลงก่อนจะหลับไปในที่สุดโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ลมหายใจที่เข้าออกสม่ำเสมอบอกกับภูตลาอย่างนั้น

เทวดาหน้าเข้มนิ่งค้างอยู่ท่าเดิม รู้สึกวูบวาบที่ริมฝีปากได้อย่างไรก็ไม่รู้...ดวงตาคู่คมกดลงมองคนที่ใช้ตัวเขาต่างเตียงนอน ใช้อกเขาต่างหมอน แล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจเหมือนเบื่อหน่าย ทั้งๆ ที่ริมฝีปากยกยิ้มน้อยๆ อยู่ไม่คลาย เสียงทุ้มเอ่ยอย่างนุ่มนวลโดยไม่คิดจะขยับตัวเปลี่ยนท่าว่า...

“เอ็งลวนลามข้า รู้ตัวบ้างไหมเนี่ย”

 

ขณะที่อีกด้านหนึ่งนั้น...

ฮัทมาส่งไอ้เนสก่อนเพราะบ้านมันอยู่ใกล้ ตั้งใจว่าจะเอารถมันไปส่งไอ้คลาร์กแล้วขับกลับบ้านตัวเอง ค่อยเอามาคืนมันวันไปเรียนแล้วกัน แต่ที่แน่ๆ พรุ่งนี้คงไม่ได้ไปเรียนกันทั้งแก๊งยกเว้นเขานี่แหล่ะ เมาจนแฮงค์ตายกันไปข้างขนาดนี้

เหยียบเบรกเมื่อมาถึงหน้าบ้านของไอ้เนส เห็นมันบอกว่าวันนี้ไม่มีใครอยู่ แล้วมันเมาขนาดนี้มันจะเอาชีวิตรอดไหมเนี่ย แต่คิดแล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเมาเหมือนหมาแล้วกลับบ้านมาอยู่คนเดียวนี่นะ เพราะงั้นแค่มาส่งแล้วกลับเลยดีกว่า ตัวเขาเองก็เหนื่อย อยากนอนแล้วเหมือนกันเพราะนี่น่ะมันตีสามเข้าไปหลายนาทีละ

“ถึงบ้านมึงแล้วไอ้เนส”

“ไหนบ้าน...บ้านน” เนสผงกหัวหงึกหงัก ควานมือเปิดประตูรถก่อนจะก้าวลงไป มีการหันมาโบกมือลาด้วย “บ๊ายบายเพื่อนรัก หว้าย เจ๋อ กันน”

แล้วมันก็หันหลังกลับเข้าบ้านมันไป และใช่...มันควรจะจบแค่นี้ จบแค่ฮัทมาส่งไอ้เนสจนถึงรอให้มันเข้าบ้านแล้วเรียบร้อย แต่ใครจะไปคิดว่าไอ้คลาร์กที่นั่งเอนตัวไปมาอยู่เบาะหลังจะเปิดประตูก้าวตามลงไปด้วย!

“บ้านๆ กูไปบ้านนน มึงด้วยย”

“อ้าวเฮ้ย! ไอ้คลาร์ก!! มึงจะเข้าบ้านไอ้เนสทำไม!? เฮ้ย” ฮัทเอ่ยทักท้วง แต่สุดท้ายคลาร์กก็ยังเดินตามเนสไปจนทัน ทั้งสองจึงร้องเพลงพลางกอดคอเดินเข้าบ้านไปด้วยกัน สุดท้ายฮัทเลยได้แต่ถอนใจ บอกกับตัวเองเบาๆ “ให้ไอ้คลาร์กอยู่ที่นี่ก็ได้วะ ปล่อยมันสองคนไปแล้วกัน”

แล้วชายหนุ่มหน้านิ่งแสนเย็นชาก็ขับรถจากมา ทิ้งให้คนเมาทั้งสองคนอยู่ด้วยกันโดยที่ไม่รู้เลยว่าคืนนั้น คนที่เป็นแค่เพื่อนจะได้เลื่อนสถานะไปเป็น...อย่างอื่น





__________

คนเมาเขาอ้อนท่านเจ้าที่แหล่ะ วู้ว! 55555 แถมยังไปจู่โจมลวนลาม แทงค์เอ๊ย ทำอนาจารเทวดานี่แต้มบาปเพิ่มขึ้นอีกกี่เปอร์เซนต์อ่ะลูก ก๊ากกก ตอนหน้านี่คนเมาจะฟื้นคืนชีพพร้อมการระลึกชาติได้ เห็นเป็นฉากๆ เลย งานนี้มาดูกันว่านางจะเขินหรือเปล่า ก็เล่นไปขโมยจุ๊บท่านภูเสียขนาดนั้น

ส่วนตอนแถมนี่ให้เก็บไปคิดเอาเองค่ะ เพื่อนรักจะกลายเป็นมากกว่าเพื่อนรึเปล่า ฮ่าา สำหรับวันนี้ ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามกัน ขอบคุณทุกๆ คอมเมนต์ที่มีให้ เป็นกำลังใจชั้นดีจริงๆ ค่ะ ช่วงนี้กำลังท้อแท้มาก ฮือออ ก็มีแต่นิยายกับนักอ่านนี่ล่ะที่ทำให้เราสดชื่นขึ้นได้บ้าง แล้วพบกันตอนหน้านะคะ จุ๊บๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-12-2017 23:25:25 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
รักคนเขียน
สู้ๆ นะตะเอง

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
แต่ละคู่ เมาแล้ว ... ฮ๋า

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
     น่ารักกกกกกกกแทงค์เมาแล้วน่าตีจริงๆๆดูๆทำอ้อนท่านเจ้าที่ซิเดีํยวท่านใจแตกตอนอายุ200ปีทำไงค่ะบาปนะค่าาาอิอิ

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เพิ่งเข้ามาอ่าน แทงค์น่ารักมากเลย ฮาดี ท่านเจ้าที่ก็แซ่บปากก็บอกจะรังควานแต่ช่วยเหลือแทงค์ตลอด โดนปล้ำจูบแล้วยังไม่ว่าอะไรเลย ยังไงๆๆๆท่านเจ้าที่ o18

เพื่อนแทงค์แต่ละคนก็ฮาดี เมามากจนจากเพื่อนเลื่อนเป็นอะไรนะ ลุ้นๆๆใครรุกใครรับ :laugh:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เจ้าที่เริ่มหวั่นไหว  :hao7:

ออฟไลน์ ต้นไม้ใบหญ้า

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตามมาจากกระทู้แนะนำค่ะ
เรื่องตลกมาก 5555

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
อ้าว..! มีคู่อื่นวิ่งเข้าเส้นชัยสละเวอร์จิ้นไปอย่างงงๆเลยสินะ 555+

ออฟไลน์ Hazel_nut

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-3
ตอนที่ 18

“อย่ามายุ่งกับปากของข้านะ!”




[แทงค์]

การตื่นนอนขึ้นมาพร้อมกับความปวดหัวแทบบ้า นั่นคืออาการแฮงค์ของคนที่ดื่มมาอย่างหนักถูกมั้ย? เพราะถ้าใช่ นี่ล่ะคืออาการที่ผมเป็นอยู่ในตอนนี้

“โอยย” ผมโอดครวญ หนักหัวเหมือนมีใครเอาครกหินหนักๆ มาวางทับหัวของผมเอาไว้...เปรียบเทียบแบบนี้แม่งโคตรแปลก แต่ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแล้วว่ะ เมามาก็บ่อย และสารภาพเลยว่าผมเกลียดความรู้สึกตอนตื่นขึ้นมาในวันใหม่หลังเมาแหลกมากถึงมากที่สุด แต่ก็ไม่เคยเข็ดหรอก ก็ดื่มหนักทุกทีอยู่ดี เฮ้อ!

ผมพลิกตัวนอนหงาย ปรือตามองเพดานห้อง...อ่า นี่มันห้องผมนี่นา แล้วผมกลับมาตอนไหน ไม่สิ ใครพาผมกลับมาบ้านวะ ปกติถ้าผมเมาไอ้ฮัทมักจะพาผมไปนอนค้างที่หอมันนี่หว่า

ผมเลิกคิดเพราะยิ่งคิดก็ยิ่งแฮงค์ว่ะ เลยเลือกที่จะหลับตาลงอีกครั้ง ตั้งสติให้มั่นก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกที เหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลที่หัวเตียง บ่ายโมงเข้าไปแล้ว นอนหรือซ้อมตายวะกูเนี่ย...เห็นดังนั้นผมก็เลยค่อยๆ ผุดลุกขึ้นนั่ง ยกมือกุมหัวที่ปวดจี๊ดประหนึ่งมีหนูเป็นร้อยตัวเข้าไปวิ่งอยู่ในนั้น

ตั้งใจว่าจะลุกไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น แต่หางตาดันเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่โต๊ะข้างหัวเตียงเสียก่อน...มันคือน้ำขิงนะถ้าผมไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง เพราะกลิ่นที่ลอยออกมาอ่อนๆ เป็นตัวบ่งบอกว่ามันควรจะเป็นน้ำขิงล่ะ

ท่านเจ้าที่เอามาให้ผมเหรอ?

ผมขยับตัวพาร่างเน่าๆ ของตัวเองไปยังขอบเตียง ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบน้ำขิงแก้วนั้นขึ้นมาดม กลิ่นของมันทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด แถมพอจิบมันลงคอก็รู้สึกอุ่นวาบในอก ลมหายใจของผมปรอดโปร่งขึ้น...ยิ่งจิบมันผมก็ยิ่งรู้สึกดี หัวที่ปวดตึบๆ ก็ค่อยๆ ดีขึ้น แม้จะยังไม่หายสนิทก็ตาม

ผมอมยิ้มให้กับแก้วน้ำขิงที่ดื่มจนหมดแล้ว นึกไปถึงพระภูมิเจ้าที่จอมซึน...ผมมั่นใจว่าเขานั่นล่ะที่เป็นคนเอาน้ำขิงแก้วนี้มาให้ผม จนอดจะพึมพำเสียงเบากับอากาศไม่ได้ว่า “ขอบคุณนะครับ”

หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยผมก็ลงมาที่ห้องครัวเพื่อหาอะไรกิน...ดูเหมือนว่านี่จะเป็นฉากประจำของผมไปแล้วล่ะครับ การตื่นนอนขึ้นมาแล้วก็ลงมาที่ห้องครัวเพื่อกินข้าวเนี่ย แถมพอก้าวเท้าเข้ามาในครัวก็เหมือนฉากเดิมที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งอีกนั่นล่ะ เพราะตอนนี้ในห้องครัวตรงโต๊ะกินข้าวมีร่างของท่านเจ้าที่เจ้าเดิมเจ้าประจำนั่งอยู่ กำลังทำงานหน้าดำคร่ำเคร่งอยู่กับเอกสารอะไรสักอย่างของเขาเหมือนวันก่อนๆ นั่นล่ะ

“อรุณสวัสดิ์ท่านเจ้าที่” ผมเอ่ยทักอย่างปกติชนที่สุดในรอบหลายวัน นั่นเรียกความสนใจให้ท่านเจ้าที่เงยหน้ามามองผมด้วยเรียวคิ้วที่ขมวดมุ่น เสียงเข้มเอ่ยตอบกลับมาว่า...

“นี่มันเลยเที่ยงวันมาแล้ว ยังมีหน้ามาอรุณสวัสดิ์อีกรึ”

นั่นไง จะมีมั้ยที่ผมพูดดีๆ ด้วยแล้วจะไม่โดนกวนส้นใส่เนี่ย!

“ความพอใจของผมที่จะบอกงี้อ่ะ ทำไม? มีปัญหาเหรอ?” ผมก็เลยกวนตีนกลับแม่งเลย ชึ่ย! อุตส่าห์จะซาบซึ้งกับน้ำขิงที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้แก้แฮงค์ แต่ปากอย่างนี้ไม่พูดดีด้วยแล้ว หมั่นไส้!

“คุยกับคนเมาเหมือนหมาแล้วปวดประสาทเสียจริง” ท่านเจ้าที่บ่นๆ ใส่ผม ด่าผมเป็นหมาอีกต่างหาก แค่เมาเองนะเฮ้ย! เหมือนหมาตรงไหนวะ

“ผมไม่ได้เมาขนาดนั้นสักหน่อย!”

พอได้ยินผมเถียง ฝ่ายนั้นก็เชิดหน้ามองผมด้วยหางตา “ไปนึกดูดีๆ สิว่าเมื่อคืนเอ็งทำอะไรเอาไว้บ้าง หึ!”

ทำอะไรวะ?

ผมพยายามนึกตามที่ท่านเจ้าที่บอก...เห็นผมเมาหนักจนแทบจำอะไรไม่ได้แบบเมื่อคืนนี้ แต่จริงๆ แล้วถ้าผมลองนึกดีๆ ผมก็จะค่อยๆ จำได้เองว่าเมื่อคืนก่อนจะเมาหลับผมทำอะไรไปบ้าง แบบภาพมันจะค่อยๆ สว่างขึ้นมาในหัวผมเหมือนเปิดไฟทีละดวงๆ อ่ะครับ นี่ถือเป็นความสามารถเวลาเมาของผมหรือเปล่า? เหอะๆ ถ้าใช่นี่ถือเป็นความสามารถที่ประหลาดมากบอกเลย

เมื่อคืนผมนั่งดื่ม จำได้เลาๆ ว่าผมกวนตีนใส่พี่เฟิ่ง...

‘จั่นเจาไปหนายย’

‘เฟิ่งง รักผมม้ายยย’

แล้วไหนจะมุกทะลึ่งลามกที่ผมเล่นกับไอ้เนส ไอ้คลาร์กอีก...

‘กูก็ชอบมะเขือยาวว ฮ่าๆๆ’

หลังจากนั้นไอ้ฮัทก็แบกผมออกมาจากร้าน จะพาพวกผมกลับบ้าน แต่ก็มีผู้ชายคนหนึ่งโผล่มาดึงผมเอาไว้ ผู้ชายคนนั้น...ท่านเจ้าที่?

เสียงทุ่มนุ่มดังขึ้นในห้วงความคิดของผมราวกับรู้คิว

‘แทงค์ ฉันมารับกลับบ้าน’

ฉ่า...จู่ๆ ผมก็รู้สึกหน้าร้อนวาบขึ้นมา น้ำเสียงนุ่มๆ นั่นยังดังซ้ำก้องอยู่ในหัวของผม เสียงนุ่มที่เรียบเฉยไม่ได้อ่อนโยนอ่อนหวานแต่อย่างใด กระนั้นผมกลับรู้สึกว่ามันอบอุ่น...อ่า นี่ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่คิดว่าเสียงเรียบเรื่อยของท่านเจ้าที่มันชวนให้อบอุ่นหัวใจน่ะ!

“นี่ นี่ท่านเป็นคนไปรับผมกลับบ้านงั้นเหรอ?” ผมถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“...” คนโดนถามเหมือนจะนิ่งงันไป จ้องตาผมโดยไม่พูดอะไร แต่แค่นั้นก็เหมือนเป็นคำยืนยันสำหรับผมแล้ว

“แล้ว...แล้วหลังจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้างล่ะ?”

“เอ็งจำไม่ได้เรอะ?” ท่านเจ้าที่เลิกคิ้วถาม ผมก็เลยส่ายหน้าให้แทนคำตอบ “งั้นก็เรื่องของเอ็ง ดีแล้วที่จำไม่ได้”

ท้ายประโยคอีกฝ่ายพูดเสียงเบามาก เบาเสียจนผมคิดจะเอ่ยถามซ้ำ แต่เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้นซะก่อน ผมหยิบมันออกมาดู...เป็นคอลฯ จากกลุ่มไลน์แก๊งเล่นดนตรีของผม ใครวะคอลฯ กลุ่มเอาตอนนี้

ผมกดรับ แต่ยังไม่ทันได้กรอกเสียงลงไป ก็ได้ยินเสียงโหยหวนของไอ้เนสดังแหวกออกมาจนหูแทบแตก

[ไอ้พวกเหี้ยยยยย!!!!!]

อะ อะไรของมันวะ!?!

[เป็นบ้าอะไรเนี่ยไอ้เนส] ไอ้ฮัทเอ่ยถามแทนใจผมอีกแล้ว

[มึง! ไอ้ฮัท! มึงเป็นคนมาส่งกูกับไอ้คลาร์กใช่มั้ย!?]

[เออ ทำไม?] ไอ้ฮัทตอบ น้ำเสียงติดฉงนสงสัย

[แล้วมึงทำไมไม่เอาไอ้คลาร์กกลับบ้านน มึงให้มันมานอนค้างที่บ้านกูทำม๊ายยย!!!] ไอ้เนสโหยหวน ผมก็เลยแทรกเสียงถามลงไปด้วยความสงสัย

“แล้วมึงจะโวยวายทำไมเนี่ย ก็แค่ไอ้ฝรั่งมันค้างที่บ้านมึงเอง”

[ก็เพราะมึงเลยไอ้ฮัท! เพราะมึงอ่ะ! ถ้ามึงพากูไปส่งที่บ้าน กูกับไอ้เนสก็คงไม่...อุ๊บ!!!] คราวนี้เป็นเสียงไอ้คลาร์กโวยวายแทน แต่ยังพูดไม่ทันจบก็เหมือนมันจะโดนอุดปากซะก่อน

“นี่มึงยังอยู่ด้วยกันเหรอ?”

[อะ เออ! ไม่มีอะไรแล้ว งั้นแค่นี้นะ!!]

แล้วมันก็วางสายไป ทิ้งให้ผมมองหน้าจอแชทกลุ่มด้วยความงุนงง อะไรของพวกมันวะเนี่ย?...เรื่องของผมนี่ก็อีก ตกลงเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ท่านเจ้าที่ไปรับผมกลับบ้านอ่ะ?

ผมพยายามนึกอีกว่ามันเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ภาพทุกอย่างมันเลือนรางอยู่ในหัว แต่มันก็เหมือนชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ที่ค่อยๆ เด้งขึ้นมาทีละตัวๆ เป็นภาพทีละภาพผุดขึ้นๆ ในหัวของผม จนมาถึงฉากสุดท้าย...

‘เมาเป็นหมาเลยนะเอ็ง’

ฉ่า...เป็นอีกครั้งที่ผมหน้าร้อนเหมือนมีใครเอามาม่ามาผัดฉ่าบนหน้าผม นะ...นี่กูพูดอะไรออกไปวะตอนนั้น ชมไอ้ท่านเจ้าที่เสียเยอะแยะ แถมยังบอกว่าอีกฝ่ายเป็นสเป็คอีกต่างหาก หน้าไม่อาย หน้าไม่อายโคตรๆ เลยว้อย!

“ทำหน้าแบบนั้นคิดอะไรออกแล้วหรือไง หึ” ท่านเจ้าที่หัวเราะในลำคอ ผมเหลือบมองเขาแต่พอเห็นว่าเขามองผมอยู่ผมก็รีบหลบตาทันที...ใครจะไปทนมองได้วะ อายนะเฟ้ย!

“กะ ก็นิดหน่อย” ผมตอบเสียงเบา เสมองไปทางอื่น ผมว่าหน้าผมต้องแดงมากแน่ๆ เลยว่ะ ไม่เคยเขินอะไรขนาดนี้มาก่อนเลยห่าเอ๊ย

“ถ้านึกออกจนหมดได้ก็คงดี จะได้รู้ว่าทำให้ข้าเหนื่อยมากแค่ไหนเจ้าเด็กนิสัยไม่ดี แต่อืมมม คิดอีกทีไม่ต้องนึกถึงเรื่องก่อนจะหลับไปคงดีกว่า” ท่านเจ้าที่ยังบ่นอีก แถมยังพูดเรื่องที่ผมไม่เข้าใจด้วย แต่คำพูดของเขาก่อให้เกิดเสียงหนึ่งดังซ้อนขึ้นมาในหัวของผม...

‘มาๆ มาจูบบบ ราตรีสะหวาดหน่อยยย’

จุ๊บ

‘นอนด้วยกัน...นะ...’

อะ...ไอ้เหี้ย เมื่อคืนกู...กูจะ...จะ...จูบ...

“ผะ ผมจูบ...ผมจูบท่านเจ้าที่เหรอวะ!?!”

“...” ท่านเจ้าที่ไม่ตอบอีกแล้ว แต่พอผมมองอย่างคาดคั้น อีกฝ่ายก็เบือนหน้าหลบสายตาของผมแทน

เฮ้ย! เฮ้ยๆๆๆๆ เรื่องจริงเหรอวะ?! เฮ้ยยยยย!!!!

ผะ ผม ผมจูบท่านเจ้าที่...จะ จูบเทวดาอ่ะ! ผมลวนลามเขา ล่วงเกินเขา ไอ้เหี้ยยยย!!!! แต้มบาปกูเพิ่มกี่เปอร์เซ็นต์แล้ววะนั่น ฉิบหาย ฉิบหายย ฉิบหายยย

“เออ เอ็งลวนลามข้า จำได้แล้วใช่ไหมล่ะ”

‘เอ็งลวนลามข้า รู้ตัวบ้างไหมเนี่ย’

ไอ้ฉิบหายยยย จำได้แม่นเลยโว้ย!

“ฮื่อ ผมขอโทษ” ผมเอ่ยออกไปพลางยกมือปิดหน้าตัวเองด้วยความอับอาย ไม่ไหวแล้ว ต่อให้เป็นคนเถื่อนแค่ไหนเจอแบบนี้ก็เขินตายได้นะเว้ย

“เหอะ” ท่านเจ้าที่แค่นหัวเราะ แบบที่ทำให้ผมเหลือบหางตามองเขาแล้วก็เห็นอีกฝ่ายเขม่นตามองมาอยู่พอดี สายตานี่เหมือนราชสีห์เตรียมแดกเหยื่อมากครับ

ไม่ได้จะแดกแบบพิศวาสอะไรแบบนั้นนะ จะแดกแบบทึ้งให้ตายไม่เหลือซากอ่ะ ป่นกระดูกได้คงทำ โธ่ท่าน ไม่ต้องโกรธอะไรขนาดนั้นก็ได้พ่อคุณเอ๋ย แค่นี้ก็รู้สึกผิดจะแย่แล้ว กลัวด้วย กลัวแล้วจ้า

“ทีหลังก็อย่าเมาแล้วไปลวนลามใครอีกล่ะ น่ารังเกียจนักรู้ไหม” ท่านเจ้าที่ต่อว่าต่อขาน ผมก็ได้แต่เงียบฟัง ก้มหน้านิ่งยืนตัวตรงทื่อประหนึ่งเด็กน้อยที่ถูกแม่ดุเพราะทำของในบ้านพัง...อะไรแบบนั้นเลยล่ะครับ “เมาแล้วเรื้อนเหมือนหมา พูดจาไม่สงวนท่าที กอดคนอื่นมั่วซั่ว แถมยังมาพรากความบริสุทธิ์ของริมฝีปากคนอื่นอีก เอ็งนี่มันเหลือทนจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นคือการที่เอ็งทำทุกอย่างนั่นกับเทวดาผู้สูงส่งอย่างข้า หน้าไม่อายเลยสักนิด ลวนลามได้แม้แต่ผู้มีบุญญาธิการ บาปหนาบาปหนักยิ่งนัก ช่างไม่เจียมตัวเลยแม้แต่น้อย...”

ไม่ทน...พอมาฟังเขาบ่นยืดยาวขนาดนี้ จากที่เขินก็กลายเป็นว่าผมรำคาญเสียแทน เพราะงั้นไม่ทนมันแล้ว!

“พอ!” ผมแหกปากใส่ หยุดทุกคำพูดที่กำลังบ่นๆๆๆ ออกมาจากปากของท่านเจ้าที่ ผมขึงตาใส่อีกฝ่ายแล้วว่าเสียงดัง “พอเลยนะพอเลย! เลิกบ่นได้แล้ว!”

“ก็มันจริงนี่ หรือเอ็งจะปฏิเสธ?”

“ไม่! แต่ก็ไม่อยากโดนบ่นเว้ย! พูดซะผมหมดความเป็นคนแล้วแม่ง”

“ก็เอ็งไม่ใช่คนไง แต่เป็นหมา เมื่อคืนก็เพิ่งเมาเหมือนหมากลับมาจำไม่ได้หรือไง หึ”

“ปากแบบนี้อยากโดนจูบปิดปากอีกทีป้ะ?!”

“อย่ามาล่วงเกินริมฝีปากอันงดงามของข้าอีกนะ!” ท่านเจ้าที่ตาโต ยกมือชี้หน้าผมเป็นเชิงขมขู่...เห็นแบบนั้นผมก็อดใจไม่ให้แกล้งเขาไม่ได้ว่ะ กะอีแค่จูบ ทำมาเป็นหวงปาก น่าจูบตายห่าแหล่ะปากมอมๆ แบบนั้น

ผมสาวเท้าก้าวเข้าไปหาท่านเจ้าที่ อีกฝ่ายเอนหลังพิงพนักเก้าอี้จนชิด และถ้าไม่ใช่เพราะนั่งติดกำแพงจนพนักพิงมันพิงกับกำแพงอยู่พอดีล่ะก็ คาดว่าท่านเจ้าที่คงจะเอนตัวหนีผมจนหงายหลังลงไปนอนกับพื้นแล้ว

หึ ทำหน้าเหมือนจะโดนพรากพรหมจรรย์ บ้าบอจริงๆ เลยว่ะ แต่เห็นแบบนี้ก็ยิ่งอยากแกล้ง ผมก็เลยตัดสินใจว่าจะแกล้งเขาสักหน่อย อารมณ์เขินอายก่อนหน้านี้โยนทิ้งไปแล้ว ตอนนี้มีแต่อารมณ์อยากแกล้งล้วนๆ

ผมยื่นสองแขนออกไปจับพนักเก้าอี้ กักเทวดาปากเสียเอาไว้ ใช้หัวเข่าตัวเองเขี่ยเข่าของท่านเจ้าที่ให้แยกออกจากกัน ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปยืนตรงกลางหว่างขาของอีกฝ่าย แล้วโน้มใบหน้าลงไปหา “ปากดีต้องโดนจูบอีกสักทีเนอะ”

“อย่ามายุ่งกับปากของข้านะ!” ท่านเจ้าที่โวยวายลั่น ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดปากตัวเอง ท่าทางเหมือนสาวน้อยที่กำลังจะโดนขโมยจูบแรกก็ไม่ปาน

หึ อุ๊บ! ผมหลุดหัวเราะ...คือแม่งตลกอ่ะ ท่านเจ้าที่ตอนนี้แม่งโคตรตลก ฮ่าๆๆๆ

สุดท้ายผมก็อดใจไม่อยู่หลุดหัวเราะออกมา คนตัวโตเห็นอย่างนั้นก็ถลึงตามองผม ปลดมือออกจากปากแล้วตวาดว้ากใส่ผมลั่นห้องครัว “นี่เอ็งแกล้งข้าเรอะ?!”

“หึๆ” ผมพยายามกลั้นหัวเราะ ก่อนจะอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายเผลอ กดหน้าลงไปหาแล้วฉกปากอย่างไวแตะลงไปที่เรียวปากของท่านเจ้าที่

“!!!”

“ใครบอกว่าผมแกล้งล่ะ หึๆๆ” ผมหัวเราะส่งท้าย ผละออกมายักคิ้วให้คนที่กำลังเหวออีกสองทีแล้วเดินหนีออกจากห้องครัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นเสียงตะโกนก็ดังไล่หลังตามมาว่า...

“ไอ้เด็กเวรรร!!!”

ยกนี้ วิน-วิน ว่ะครับท่านเจ้าที่ ฮ่าๆๆๆๆ



__________

ฮาโหลตัวเอง คือเราจะบอกว่าเราลืมอัพนิยายอ่ะ ลืมจริงจังมาก นี่มันเลยมากี่วันแล้วเนี่ย 55555 ขอโทษจริงๆ ที่รัก มัวแต่ติดนิยายอยู่ด่วย ไปตะลุยอ่าน My Engineer กับ Space มา เพราะเห็นว่ากำลังจะเป็นซีรีส์ แล้วแบบมันฟินมาก ตลกมาก สนุกมาก จนไม่เป็นอันทำอะไรนอกจากอ่านวนซ้ำๆ ค่ะ แงงง้ ทำไมเราเป็นคนแบบนี้ //สติ๊กเกอร์หัวเราะทั้งน้ำตา

วุ้ยๆ รอบนี้เขาวินวินแหล่ะ แต่จริงๆ นี่ว่าแทงค์ได้เปรียบ ขโมยจุ๊บท่านเจ้าที่ตั้งสองครั้ง หน้าไม่อายจริงๆ ก๊ากกก ท่านเจ้าที่จะได้เอาคืนไหมเนี่ย สงสารเขานะคะ ฮ่า! ไปละ เจอกันตอนหน้า มาทวงได้นะคะ เพราะเราลืมจริงๆ เด้อ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-12-2017 23:35:53 โดย Hazel_nut »

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
      แทงค์ทำแต้มปาบซินะค่ะ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ท่านเจ้าที่เริ่มหวั่นไหวนะเนี่ยยยย >\\\\\<

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด