ตอนที่ 16
“แทงค์ ฉันมารับกลับบ้าน”
ตอนแรกผมก็คิดว่าตัวเองคงป่วยแล้วล่ะ แต่พอตื่นนอนขึ้นมาในตอนเที่ยง ผมกลับรู้สึกกระปรี้กระเปร่าราวกับไม่เคยปวดหัวแต่อย่างใด คงต้องขอบคุณพาราเซตามอลที่ท่านเจ้าที่เอามาให้กิน...หมายถึงบังคับให้ผมกินนั่นล่ะ เพราะถ้าไม่ได้กินยาก่อนนอนดักอาการไว้ก่อน ผมอาจจะป่วยไปแล้วจริงๆ ก็ได้
ผมลงมาที่ห้องครัวเพื่อหาข้าวเที่ยงกิน จำได้ว่าในตู้เย็นมีหมูสับกับใบกะเพราอยู่ เดี๋ยวทำกะเพราหมูสับกินแล้วกัน...แต่แล้วผมก็ต้องตะลึงตัวแข็งค้างเมื่อเดินเลี้ยวเข้ามาในครัวแล้วเจอท่านเจ้าที่กำลังแกะถุงอะไรสักอย่างเพื่อเทของในนั้นใส่ชามอยู่ แล้วไม่ได้มีแค่หนึ่งถุงนะ แต่มันยังมีอีกหลายถุงวางอยู่บนโต๊ะกินข้าวอ่ะ!
“เฮ้ย! อะไรเยอะแยะเนี่ยท่านเจ้าที่!?”
“ก็อาหารกลางวันไง” ท่านเจ้าที่ตอบทั้งๆ ที่ไม่หันมามองผม มือก็เลื่อนไปหยิบอีกถุงมาแกะยางหนังสติ๊กออก
ผมเดินเข้าไปหา มองของกินมากมายบนโต๊ะ...ที่แกะใส่ชามไปเมื่อกี้คือก๋วยจั๊บ และที่กำลังแกะอยู่คือก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ส่วนที่ยังไม่ได้แกะก็มีผัดไท แล้วนั่นขนม เป็นข้าวเหนียวสังขยา ถัดไปกล่องๆ นั่นเค้กป่ะวะ?
“ไปปล้นมาจากไหนเนี่ย”
“ปล้นอะไร หยาบคายนะเอ็ง ข้าเป็นเทวดาไม่ใช่ขโมยขโจร” ท่านเจ้าที่หันมาเขม่นตามองผมก่อนจะกลับไปแกะห่อผัดไทต่อ “พวกนี้ข้าซื้อมาน่ะสิ”
“ท่านซื้อมา?” ผมทวนถาม อดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นพระภูมิเจ้าที่ออกไปซื้อของกินที่ตลาดได้ด้วยเหรอ ถ้างั้นทำไมไม่หาข้าวกินเอง ต้องให้มนุษย์เอาข้าวมาเซ่นมาถวายทำไม...พลันผมก็นึกไปถึงคราวก่อนนู้นที่ท่านเจ้าที่ออกไปซื้อวัตถุดิบทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า จนความสงสัยมันผลักดันให้ผมถามออกไป “เออ แล้วคราวก่อนที่ท่านซื้อของทำสปาเก็ตตี้มาอ่ะ นั่นก็ซื้อเองเหรอ?”
“ใช่ ถึงจะเป็นเทวดา แต่บางทีเราก็ปรากฏตัวในฐานะมนุษย์ออกไปดูสภาพความเป็นอยู่ของคนในสังคมบ่อยๆ”
“อ๋อ เข้าใจละ” ผมพยักหน้า หายสงสัยในทันที
“อย่ามัวแต่ถามมาก เจ้าหนูจำมัยเหลือเกินนะเอ็ง มานั่งลงแล้วกินข้าวได้แล้ว” ท่านเจ้าที่ว่าพลางเก็บเอาขยะไปทิ้ง ผมก็เลยทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ประจำของตัวเอง รออีกฝ่ายกลับมานั่งจะได้กินพร้อมกัน “กินเข้าไปสิ จะรออะไร?”
“รอท่านอ่ะแหล่ะ มากินพร้อมกันดิ”
“อือ” ท่านเจ้าที่ตอบรับ ทรุดลงนั่งแล้วหยิบช้อนมาตักชิมก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เห็นอย่างนั้นผมก็เลยลงมือกินบ้าง
กินเงียบๆ ไปได้สักพัก เทวดาหน้าหล่อก็เงยหน้าขึ้นมามองผม ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามทางสายตาว่ามีอะไรหรือเปล่า อีกฝ่ายเลยกลืนอาหารก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “วันนี้จะไปไหนมั้ย?”
ผมพยักหน้ารับ “ไปๆ ผมมีซ้อมดนตรีกับเพื่อนตอนบ่ายสาม”
“ดนตรี? เอ้อ เอ็งเรียนดนตรีนี่นะ”
“รู้ด้วยเหรอ ผมว่าผมไม่เคยบอกท่านนะ แหน่ะ แอบไปเสือกเรื่องของผมมาจากเจ้าที่องค์เก่าอ่ะดิ”
“ข้าไม่ได้เสือก! แค่ถาม” ...แล้วมันต่างจากเสือกตรงไหน ตัวเองโดนด่าบ้างทำมาถลึงตาใส่ ทีตอนด่ากูนี่หน้าระรื่นเชียว จิ๊! “แล้วเอ็งจะกลับกี่โมง”
“คงดึกๆ หน่อยอ่ะ น่าจะซ้อมกันนานเพราะขาดซ้อมไปตั้งสองอาทิตย์”
“ทำไมถึงขาดซ้อม?” ท่านเจ้าที่ยังมีคำถามออกมาเรื่อยๆ แหมะ แล้วมาบอกว่ากูเป็นเจ้าหนูจำมัย ตัวเองก็ไม่ต่างกันเลยไหมล่ะ เบื่อคนปากไม่ตรงกับพฤติกรรม
“ร้านที่ไปเล่นเป็นงานพิเศษเขาปิด พวกผมก็เลยถือโอกาสหยุดพักไปด้วย ก็เลยไม่ได้ซ้อมกันเลยน่ะ”
ท่านเจ้าที่พยักหน้ารับว่าเข้าใจแล้ว จากนั้นเราสองคนก็จัดการสารพัดอาหารตรงหน้าต่อจนหมด...ตอนแรกผมนึกว่าจะกินไม่หมดแล้วเชียว แต่ปรากฏว่าหมดเกลี้ยงเลยครับ แถมแต่ละอย่างที่ท่านเจ้าที่ซื้อมานี่อร่อยมากอ่ะ ไปหาร้านเจอมาจากที่ไหนวะเนี่ย อร่อยๆ ทั้งนั้นเลย ต้องไม่ใช่แถวหน้าปากซอยแน่ๆ ผมมั่นใจเพราะลองกินมาหมดทุกร้านแล้ว
“ไปซื้อมาจากไหนเนี่ยท่านเจ้าที่” ผมอดเอ่ยปากถามออกไปไม่ได้
คนโดนถามเหลือบสายตามามองผม ขณะที่มือก็เก็บจานชามมาวางซ้อนกันเพื่อจะเอาไปเก็บล้าง...จริงๆ ผมบอกแล้วนะว่าเดี๋ยวผมจะล้างเอง แต่ผีอะไรเข้าท่านเจ้าที่อีกแล้วก็ไม่รู้ อีกฝ่ายบอกว่าจะทำเอง แล้วให้ผมนั่งเฉยๆ ก็พอ แล้วผมจะปฏิเสธทำไมอ่ะ นั่งเฉยๆ มันสบายกว่านี่หว่า ใครบ้างไม่อยากนั่งเฉยๆ ฮิๆ
ท่านเจ้าที่ไม่ยอมตอบผมว่ะ ลุกขึ้นเอาจานชามไปยืนล้างที่ซิงค์ ผมก็เลยเท้าคางมองแผ่นหลังอีกฝ่าย แล้วถามซ้ำ “เอ๊า ทำไมไม่ตอบผมเนี่ย”
“จะอยากรู้ไปทำไม?” เขาหันมาย้อนถามผม ผมเลยกลอกตาใส่
“ก็เผื่อวันหลังผมจะไปซื้อมากินบ้างไง”
“เสียใจด้วย ข้าบอกเอ็งไม่ได้” ท่านเจ้าที่ตอบพลางยักคิ้วให้สองจึก กระตุ้นต่อมความหมั่นไส้ของผมให้ทำงาน...หวงไง แค่นี้ทำมาหวง แค่บอกว่าร้านไหนเนี่ยจะหวงเพื่อ?!
“ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก คนขี้หวง!” ผมบ่น บ่นแบบเสียงดังมากๆ ใส่ ก่อนจะสะบัดก้นลุกจากเก้าอี้แล้วทิ้งท้ายไว้แค่ว่า “ไปแล้วนะ!”
แล้วผมก็เดินดุ่มๆ ออกมาทันที...หงุดหงิดเว้ย! ไอ้คนกวนประสาท ชิ!
__________
วันพุธมาถึงในที่สุด วันนี้พวกผมจะได้กลับไปเล่นดนตรีที่ร้านพี่เฟิ่งแล้ว แอบตื่นเต้นไม่น้อยเลยเหมือนกันนะ ไม่ได้เล่นมาพักใหญ่ๆ พอกลับมาเล่นมันก็ใจเต้นตึกตักเลยว่ะ หรือดนตรีก็ทำให้ผมใจเต้นได้แบบที่ไอ้คลาร์กมันใจเต้นเวลาเห็นนมตู้มๆ ของสาวๆ วะครับ? ฮะๆๆ แล้วนี่กูจะไปนึกถึงที่มันเคยพูดทำไมเนี่ย ลากมกจกเปรตมาก!
“ยินดีต้อนรับกลับสู่ร้านเฟิ่งหลงเมียจ้ะเด็กๆ”
...ได้ยินไม่ผิดหรอกครับ ร้านนี้ชื่อว่า ‘เฟิ่งหลงเมีย’
เป็นการเล่นคำน่ะครับ นอกจากจะบอกชื่อเจ้าของร้านแล้ว ยังบอกอีกด้วยว่าเจ้าของร้านนี่หลงเมียขนาดไหน
คนที่ออกมาต้อนรับพวกเราก็คือเจ๊เฟย์ ภรรยาของคุณเจ้าของร้านที่พูดถึงนั่นล่ะ
“หวัดดีครับเจ๊ เสียใจด้วยนะครับเรื่องแม่” ไอ้เนสเอ่ยขึ้นพลางยกมือไหว้เจ๊ใหญ่ของร้าน พวกผมไหว้ตาม
เจ๊เฟย์รับไหว้ “ขอบใจจ้ะ พี่ไม่เป็นไรหรอก แม่ก็ป่วยมานาน ทำใจไว้นานแล้วว่าสักวันในเร็วๆ นี้ท่านคงต้องจากไป ท่านเหนื่อยมามากแล้วนี่นะที่ต้องสู้กับสารพัดโรค”
พวกผมพูดคุยกับเจ๊เฟย์อีกนิดหน่อย ก่อนจะเข้าไปยังหลังร้าน...ที่นี่มีห้องพักให้กับพวกนักดนตรีด้วยครับ พวกผมก็ไปพักเอาที่นั่นทั้งก่อนขึ้นแสดง ระหว่างพัก หรือก่อนกลับบ้านนั่นล่ะ
“ไงพวกมึง” เสียงของพี่เฟิ่งเรียกความสนใจของพวกเราให้หันไปมอง ผมที่กำลังควงไม้กลองเล่นเอ่ยทักกลับไป
“ไงพี่ สบายดีนะ”
“เออ กูสบายดี พวกมึงกินอะไรกันหรือยัง”
“กินแล้วพี่” ไอ้คลาร์กตอบ มือก็เอาผ้าเช็ดกีตาร์ของมันไปด้วย
“ดี งั้นคืนนี้พวกมึงอย่าเพิ่งรีบกลับ แดกเหล้ากับกูก่อน”
“นั่นไง กูเดาไว้ไม่มีผิดว่าพี่เฟิ่งต้องชวนเราแดกน้ำเมา” ไอ้เนสหันไปยักคิ้วให้ไอ้คลาร์ก คู่ซี้คู่กัดของตัวเอง
“หรือพวกมึงจะไม่แดก?” พี่เฟิ่งเลิกคิ้วถาม แต่ไอ้สองหน่อก็ตอบออกมาพร้อมกันว่า...
“แดก!!!”
“ฮะๆ ก็แค่นั้น” แล้วพี่เฟิ่งก็ชวนคุยอีกพักใหญ่ก่อนจะออกไปคุมหน้าร้าน...แหม่ ไม่ถามกูบ้างเหรอว่าอยากแดกหรือเปล่า นี่มีเรียนไงพรุ่งนี้อ่ะ พวกมึงลืมไปแล้วเรอะ?
“พรุ่งนี้มีเรียนนะ” ไอ้ฮัทเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ราวกับรู้ความคิดของผมเพราะมันพูดขึ้นมาแทนผมพอดิบพอดีเลย
“เอาน่า เทเรียนสักวันคงไม่เป็นไรหรอก เราไม่เคยหยุดวิชาของวันพรุ่งนี้เลยนะเว้ย” ไอ้เนสโบกมือที่ถือไมค์ไปมา ขณะที่ไอ้คลาร์กเสริมอีกว่า
“จริงงง เรื่องแดกเหล้าเคล้านารีสำคัญกว่าเรื่องเรียนเว้ย”
“มึงคนเดียวสิที่คิดอย่างนั้น กูยังเห็นชีทการบ้านสำคัญกว่านมสาวเฟ้ยไอ้ควายย แค่ว่าไม่ได้ดริ๊งค์มานานเลยอยากจะเมาสักหน่อยวันนี้” ไอ้เนสยื่นมือไปตบหัวไอ้ลูกครึ่งเสียฉาดใหญ่
คนโดนตบฟาดมือกลับมาอย่างไม่ยอมน้อยหน้า “แล้วมึงเมาใครจะเก็บซากมึงกลับบ้านไอ้ฟัคคค”
“ไอ้ฮัทไง” ผมเอ่ยพลางชี้ไปที่เพื่อนผู้เงียบขรึม อีกฝ่ายเขม่นตามองผม กระตุกมุมปากยิ้มเย็น
“เดี๋ยวกูจะเก็บซากมึงไปส่งวัดด้วยไอ้แทงค์”
“ฮ่าๆๆๆ” พวกผมหัวเราะให้กับคำตอบของมันก่อนจะคุยกันเรื่อยเปื่อย รอเวลาขึ้นเล่นตอนทุ่มครึ่ง
เห็นมันพูดเหี้ยมโหดแบบนี้ จริงๆ แล้วก็เป็นมันนี่แหล่ะครับที่คอยหามพวกขี้เมากลับไปส่งบ้าน ไอ้ฮัทมันค่อนข้างคอแข็ง แต่จริงๆ คือมันแทบไม่ค่อยดื่มมากกว่าน่ะ เลยยังมีสติครบถ้วนจนขับรถกลับบ้านได้ ส่วนผมน่ะเป็นพวกไม่ค่อยดื่ม แต่จะดื่มเฉพาะเวลาที่คิดว่าต้องดื่มเท่านั้น อย่างวันนี้นี่ต้องดื่มแน่ๆ เพราะต่อให้ปฏิเสธยังไง พี่เฟิ่ง ไอ้เนสกับไอ้คลาร์กก็ต้องบังคับผมให้ดื่มจนได้อยู่ดี และก็เมาทุกครั้งที่โดนมอมจากพวกมันนี่แหล่ะครับ เฮ้อ ก็ได้แต่หวังว่าคืนนี้ผมคงจะไม่เมาจนเกินไปล่ะนะ
__________
เที่ยงคืนเลิกงาน...พวกเราเริ่มเล่นตอนทุ่มครึ่ง พักเบรกครึ่งชั่วโมงตอนสามทุ่มครึ่ง เล่นต่อมาจนถึงเที่ยงคืน นั่นคือเวลางานทั้งหมดของพวกผมครับ
ร้านนี้ปิดตีสาม เวลาที่เหลือก็เลยใช้เปิดเครื่องเสียงเอา ส่วนใหญ่ก็เป็นเพลงช้าๆ เบาๆ ฟังสบาย เพราะถ้าเปิดเพลงมันๆ ตอนเลยเที่ยงคืนไปแล้วเนี่ย อาจจะเป็นการกระตุ้นให้คนเมาลุกขึ้นมาตีกันเพียงเพราะเผลอมองหน้ากันก็ได้ อะไรทำนองนั้นตามความคิดเจ้าของร้านเขาน่ะ ฮะๆ
ตอนนี้พวกเราทั้งวงนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่โต๊ะๆ หนึ่งตรงใกล้ทางออกของร้าน ร้านพี่เฟิ่งมีสองโซนครับ คือโซนในร้านก็จะมิดชิดหน่อย ส่วนโซนนอกร้านเป็นแบบเอาท์ดอร์เปิดโล่ง มองเห็นท้องฟ้ายามราตรี
“เอ้า แดกๆๆ” พี่เฟิ่งชงเหล้าให้พวกผมคนละแก้ว ก่อนพวกเราทั้งหมดจะชนแก้วกับพี่เขาแล้วกระดกดื่ม ไอ้เนสกับไอ้คลาร์กนี่พรวดๆ จนหมดแก้ว มีแต่ผมกับไอ้ฮัทที่ค่อยๆ จิบ ก็ไม่รู้จะรีบเมาไปทำไมนี่หว่า ดื่มไปชมบรรยากาศไปมันดีกว่านะผมว่า
“ไอ้ฮัทมึงเตรียมเก็บศพพวกมันด้วยนะ ฮะๆๆ” พี่เฟิ่งเอ่ยเหมือนจะแซวไอ้หน้านิ่ง ส่วนคนโดนแซวน่ะเหรอ?
“ก็เหมือนทุกทีอ่ะพี่ ผมชินแล้ว”
พวกเราฮาครืนกันยกใหญ่ ดื่มไปคุยไปเรื่อยเปื่อย จนเวลาเคลื่อนผ่านจากเที่ยงคืนไปที่ตีสอง...ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองดื่มไปกี่แก้วแล้ว แต่ที่แน่ๆ น่าจะดื่มมากเอาการเพราะตอนนี้เริ่มมองอะไรเป็นสองร่างสามร่างไปหมดแล้วอ่ะครับ เฮ้ยๆๆ ถึงผมจะเมาแต่ก็รู้ตัวนะเว้ยย เก่งป๊ะล่าาา
“อะไรวะ เลื้อยกันแล้วเหรอ” พี่เฟิ่งว่าพลางมองไอ้สองคู่หูคู่กัดที่เริ่มหัวเราะเอิ๊กอ๊ากร้องเพลงด้วยกันไปเรื่อยแล้ว
ผมมองพี่แกก่อนจะเรียกเขา “พี่...เฟิ่งงง”
“อะไรมึง?” อีกฝ่ายตอบรับ
“จั่นเจาไปหนายย”
“จะรู้มั้ย กูไม่ใช่เปาบุ้นจิ้น”
“อ๊อ เหรออ” ผมเลิกคิ้ว หรี่ตามองพี่เฟิ่งที่กำลังแยกร่างให้กลับมามีร่างเดียว “พี่เฟิ่งง รักผมม้ายยย”
“รักเชี่ยไร! กูมีเมียแล้ว!”
“พี่ใจ...ร้ายย พี่ไม่ร๊ากผ๊ม ขะหนาดพาดลมยังสั่ยหน้าเลยย” ผมโวยวาย รู้สึกว่าเสียงตัวเองมันยานๆ นะ “ผมเสียจาย ไม่อยากมีเชวิตอยู่ ต่อปาย ล้าววว เอิ่ว! ฉานผูกคอตาย~ ใต้โต้นมาเขือ ฮื้อออ ฮืออ~”
“มีเอื้อนด้วยว่ะไอ้เหี้ย...”
“ทำมายต้อง ต่ายต้นมาเขือด้วยอ่ะ?” ไอ้คลาร์กเอ่ยถามขึ้นมาเสียเฉยๆ ไอ้เนสเองก็เลยถามกลับ
“แล้วทะไมจะเป็นโต้นมะเขือไม่ล่ายย”
“กูม่ายชอบ...มะเขือ”
“แต่กูชอบบบ โดยเพาะมาเขือ...ยาว ฮ่าๆๆๆ” ไอ้เนสหัวเราะลั่น ผมที่ฟังอยู่ถึงกับต้องยื่นมือไปผลักหัวมัน
“ไอ้พวกทาลึ่งลามกกก” ผมว่าพวกมัน ก่อนจะ... “กูก็ชอบมะเขือยาวว ฮ่าๆๆ”
“เราพวก...เดียวกัน!” ไอ้เนสตอบรับพลางยื่นมือมาตีมือกับผม
“เมิงเองก็ทะลึ่งไอแทงค์ ไอ้ฟายยย” ไอ้คลาร์กด่าแต่ผมก็ไม่สนใจ
ได้ยินเสียงไอ้ฮัทพูดกับพี่เฟิ่งแว่วเข้ามาในหู “พี่ยังไม่ชินอีกเหรอ? ฮะๆ”
“ชินยากว่ะ แม่งพีคทุกครึ่งที่พวกมันเมา ฮ่าๆๆๆ เมาแล้วตลกฉิบหาย”
“เพราะมันตลกพี่เลยชอบมอมเหล้าพวกมันอ่ะดิ” ไอ้ฮัทพูดเหมือนรู้ทัน ให้คนฟังยักไหล่...คิดว่าน่าจะใช่นะ ผมก็มองไม่ค่อยชัด ภาพตรงหน้ามันสั่นๆ กระเพื่อมๆ ไปหมดเลยง่า
“ยอมรับ ฮะๆ เออ มึงพาพวกมันกลับไหวป่ะเนี่ย ไงให้กูบอกเด็กไปช่วยมั้ย?”
“ไม่เป็นไรพี่ ผมไหวๆ”
“งั้นมึงจะกลับเลยหรือเปล่า นี่มันก็ดึกแล้วนะ จวนได้เวลาปิดร้านแล้วด้วย” พี่เฟิ่งว่าพลางกดโทรศัพท์ดูเวลา
“กลับเลยครับพี่”
หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดูเลือนรางมากในสายตาและสติของผม ผมจำได้แค่ว่าไอ้ฮัทเป็นคนพยุงผมเดินออกจากร้าน โดยที่ไอ้เนสกับไอ้คลาร์กเดินกอดคอกันตามหลังมาอย่างเซๆ แล้วในตอนที่กำลังจะเลี้ยวไปที่ที่ไอ้ฮัทจอดรถของมันเอาไว้ จู่ๆ ผมก็รู้สึกว่าต้นแขนของตัวเองโดนดึงไปอีกทางจนตัวปลิวไปติดกับแผ่นอกของใครสักคน พร้อมกับที่เสียงนุ่มทุ้มติดจะเข้มขึงดังขึ้นเรียบๆ ข้างหู
“แทงค์ ฉันมารับกลับบ้าน”
__________
ความเมาเรื้อนที่แท้ทรูค่ะ 55555555 แทงค์เนี่ยจะมีเพื่อนอยู่สามกลุ่มด้วยกัน คือเพื่อนตั้งแต่เด็กอย่างพัค เพื่อนมหาลัยคือพวกเนส กับเพื่อนที่ทำงานคือพวกไวท์ เพื่อนมัธยมก็มีแต่เราไม่ได้ดึงออกมาเปิดตัวเพราะแค่นี้ตัวละครก็เยอะไปแล้ว ฮ่าา
นี่เป็นไง มีคนมารับน้องแทงค์กลับบ้านด้วย ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้เนอะว่าใคร คนเดียวแหล่ะที่ปากบอกมารังควานแต่จริงๆ มาดูแล โด่ว ท่านเจ้าที่จอมซึนเอ๊ย 55555 ตอนหน้า...คนเมาเขาจะอ้อนแหล่ะ คิกๆ แล้วเจอกันค่ะอ้อ ไปพูดคุยทักทายเราได้ที่เพจ
https://www.facebook.com/Hazelnut.writer/หรือ Twitter @got7bam_sj15 นะคะ