29
“เอ่อ…พ่อกับแม่ไม่มองแบบนี้ได้มั้ยอ่า” สกายลากเสียงยาวมือไม้วางเกะกะไปหมดจนคนพี่ต้องรวบมือเอาไว้บนตัก
“อะไร พ่อมองลูกชายตัวเองไม่ได้หรือไง” พ่ออมยิ้มบอก น้ำเสียงล้อเลียนจนสกายต้องโอดครวญออกมาแล้วหันไปมองค้อนใส่คนพี่ที่ยิ้มไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ข้างๆ
“ฮื้อพ่ออ่ะ พี่คุณปล่อยเลยจับไว้งี้พ่อกับแม่ก็ล้อผมไม่หยุดซักที”
“ไอ้ดื้อ เขาล้อก็เพราะเรามัวแต่เขินนี่แหละ” สุดท้ายเหมือนฝันที่ทนไม่ไหวเพราะพ่อกับแม่มัวแต่แกล้งลูกชายคนเล็กด้วยการมองแล้วยิ้มล้อจนสกายเกิดอาการเขินแล้วพาลส่วนเพื่อนตัวดีของเธอก็เอาแต่ยิ้มแล้วจับมือน้องชายเธออยู่อย่างนั้น
“ผม…เปล่าซักหน่อย” สกายตอบอ้อมแอ้มก้มหน้างุด พ่อกับแม่หัวเราะแกล้งลูกชายจนเป็นที่พอใจแล้วก็เปลี่ยนไปคุยเรื่องสัพเพเหระอย่างอื่นแทน
“วันนี้ลูกแม่จะนอนบ้านไหมหรือจะตามพี่เขากลับ” สกายหันไปปรึกษาพี่คุณครู่หนึ่งก็ยิ้มประจบแม่
“วันนี้จะนอนกับแม่แหละให้พ่อไปนอนที่อื่น”
“เดี๋ยวแกจะได้นอนนอกบ้านไอ้ลูกคนนี้” สกายหัวเราะคิกคักชอบใจเมื่อโดนพ่อดุ
“แล้วพี่คุณล่ะลูกจะนอนกับน้องที่นี่หรือจะกลับคอนโด”
“กลับคอนโดครับพอดีพรุ่งนี้ขึ้นเวรเช้า เอาไว้คราวหน้านะครับคุณแม่” สกายปากยื่นขยับปากล้อเลียน คุณหมอเขากลายเป็นลูกชายอีกคนของบ้านนี้ไปแล้ว จากที่แม่เขาอะไรๆ ก็หมอคุณๆ ตอนนี้อัพสกิลเป็น พี่คุณลูก ไปละ คิดแล้วก็เศร้าคนหล่อตกกระป๋อง
“อย่าหักโหมมากนะลูก เหลืองานไว้ให้ไอ้ดื้อของแม่ทำต่อบ้างเดี๋ยวจบไปแล้วจะสบายเกินมีพี่คุณทำให้ทุกอย่าง” แม่บอกแล้วหรี่ตามองสกายที่หยุดทำหน้าล้อเลียนแทบไม่ทัน คนถูกพาดพิงยิ้มกว้างประจบแล้วกระแซะตัวไปนั่งโซฟาตัวเดียวกับมารดากอดเอวอ้อนเอาใจ
“โหแม่ อีกตั้งหลายปีกว่าจะจบให้พี่คุณทำไปนั่นแหละดีแล้ว โอ๊ยๆ แม่ผมเจ็บๆ อย่าบิดๆ” สกายร้องโอดโอยสะดุ้งถอยหนีกลับไปหาพี่คุณ คนพี่ยิ้มอ่อนแล้วลูบหัวปลอบ
“ไม่โหมครับ ผมทำไหว” ตรัยคุณยิ้มบอกพอมีคนให้ท้ายสกายก็ยิ้มกว้าง
“เห็นป่าวผมบอกแล้ว พี่คุณอ่ะสุดยอด เนอะๆ” ท้ายประโยคหันมายิ้มกับคนพี่ ตรัยคุณเองก็พยักหน้ารับ กิริยาเหล่านั้นทำเอาอีกสามคนที่อยู่ร่วมในห้องนั่งเล่นพากันทอดถอนหายใจ
“เราก็อย่าไปตามใจน้องมากคุณ เอาแต่ใจจนพ่อไม่รู้จะปรามไงแล้ว” พ่อบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ
“เป็นบางเรื่องครับเดี๋ยวนี้น้องไม่ค่อยดื้อ” สกายตวัดสายตามองคนพี่
“แปลว่าเมื่อก่อนผมดื้อหรือไงพี่”
“ฟ้าจะให้พี่พูดความจริงไหมครับ” สิ้นคำพูดตรัยคุณทุกคนยกเว้นสกายก็หัวเราะชอบใจ เด็กดื้อของตรัยคุณหน้ามุ่ยแต่ก็ไม่ได้โต้ตอบแต่อย่างใดเท่ากับว่ายอมรับสิ่งที่พี่คุณพูดมาเหมือนกัน
“ไม่พูดด้วยแล้ว ดึกแล้วนะพี่กลับเลยป่าว” สกายเปลี่ยนเรื่อง เขามองนาฬิกาเรือนใหญ่ของบ้านแล้วหันกลับมาถาม
“ตายจริงดึกขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย ไปๆ พี่คุณกลับไปพักผ่อนนะแล้วว่างๆ มาเยี่ยมแม่ใหม่นะลูก” สกายกลอกตาลับหลังแม่ตัวเอง มาเยี่ยมอะไรล่ะที่โรงพยาบาลก็เจอกันแทบทุกวันเจอกันบ่อยกว่าเขาอีกเถอะ
“ขับรถดีๆ นะพี่หรือจะให้ผมกลับด้วยดีมันดึกแล้ว” เมื่อเหลือกันอยู่สองคนสกายก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ตรัยคุณยิ้มกว้างก่อนจะดึงน้องเข้ามากอดสูดกลิ่นหอมจากตัวเด็กดื้อจนพอใจแล้วจึงคลายอ้อมกอดออก
“ชาร์ตพลังแล้วครับ เรานอนที่นี่แหละคุณแม่ท่านคิดถึงไว้เดี๋ยวพี่ถึงคอนโดแล้วจะโทรหานะครับ”
“โอเคพี่ เจอกันพรุ่งนี้ครับ” สกายเม้มปากชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะทำตามความต้องการของตัวเอง ร่างสูงโปร่งขยับตัวเข้าไปกอดเอวซบหน้ากับไหล่พี่คุณอย่างออดอ้อน
“อย่าขับรถเร็วนะครับ” ตรัยคุณยิ้มกว้างกอดตอบน้องก่อนจะโยกตัวเด็กดื้อของเขาไปมา
“รับทราบครับคนดี”
ตลอดทั้งสัปดาห์ชีวิตของสกายก็วนลูปเดิมคือเรียนหนักเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือมีพี่คุณคอยดูแลชนิดที่ว่าสบายกว่ารักยมที่บ้านแฝดอีกและวันนี้มีเวลาหยุดพักสกายจึงคิดไว้ว่าจะกลับไปบ้านแฝดแต่ที่ทำให้เขาต้องมานั่งหน้าเคร่งเครียดก็คือ จะทำอย่างไรให้ไอ้พวกเพื่อนบ้ามันไม่ล้อเขาจนอยากจะมุดดินหนีแต่คิดไปคิดมาสกายก็กระจ่างใจว่า
ไม่มีเสียหรอก! เล่นพวกนั้นไว้เยอะถึงเวลาพวกมันต้องเอาคืนไม่เหลือซากแน่
“เป็นอะไรครับ ถ้าเราเครียดขนาดนั้นพี่ไม่ไปด้วยก็ได้นะ พี่เข้าใจครับ” ตรัยคุณยิ้มอ่อนกอดไหล่น้องไว้ สกายรีบส่ายหน้าปฏิเสธเพราะกลัวอีกคนคิดมาก เดี๋ยวลุงจะพาลน้อยใจหาว่าเขาอายเพื่อน
“ป่าวพี่ ผมแค่กำลังคิด”
“คิดอะไรคนดีบอกพี่หน่อยสิครับ” ได้ยินคำว่าคนดีที่ช่วงนี้พี่คุณชอบเรียกใจสกายก็อ่อนยวบได้ตลอด พลังทำลายล้างของคำนี้ทำไมมันขนาดนี้วะเนี่ย
“พวกมันชอบล้อ” สกายบ่นอุบอิบเสียงเบาแต่เพราะว่าอยู่กันแค่สองคนในห้องตรัยคุณเลยได้ยินชัดเจน
“หึหึ เราเองก็ชอบล้อเพื่อนไม่ใช่หรือไงครับ” สกายเม้มปากเอนตัวซบไหล่กว้าง
“ก็ผมสนุกนี่”
“เพื่อนเราก็คิดแบบนั้นแหละครับ”
“แต่ผมอาย ไม่ได้หมายความว่าอายที่มีพี่เป็นคนรักนะแต่อายที่พวกมันล้อเนี่ยแหละ ล้อเหมือนพวกชาวบ้านเขาที่ไหนกันล้อทีหน้าแทบไหม้!” สกายบ่นเพื่อนตัวเองซึ่งคนพี่ก็พอจะเดาได้จากที่เขาเคยเจอมา ถึงจะเจอแค่ไม่กี่คนและไม่ได้เจอพร้อมกันแต่ก็พอจะรู้ถึงความแสบของกลุ่มนี้ โดยเฉพาะเด็กแสบของเขา
อย่างว่าแหละนะ อยู่ด้วยกันมาได้นานขนาดนี้ความแสบก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่
“กลัวอะไรครับเดี๋ยวพี่ยืนเขินอยู่ข้างๆ ฟ้าเอง” โอ่ยสกายอยากตายเมื่อเสียงทุ้มนุ่มของพี่คุณเอ่ยออกมา ก่อนจะไปอายกับเพื่อนเขาคงต้องซ้อมอายพี่คุณให้ชินก่อนใช่ไหมตอบ!
“โอ๊ะโออออออออออออออออออออออออออออออออออ ใครน้าหาทางกลับบ้านเจอล้าวววววววววว” ยังไม่ทันจะก้าวเท้าออกจากรถได้ครบสองข้างไอ้หมากเพื่อนบ้าก็เริ่มปฏิบัติการล้อมันลงทุนเดินฝ่าแดดตอนกลางวันมาต้อนรับเขาและพี่คุณถึงโรงรถพร้อมด้วยไอ้เชนลูกคู่
“เพื่อนเราแค่หลงทางอยู่ในวังวนแห่งรักมาร์ค ตอนนี้หาทางออกมาพบปะเพื่อนฝูงได้แล้ว” สกายแสร้งตีหน้าขรึมทั้งที่แก้มเริ่มแดงเรื่อ ร่างสูงเดินลงมาจากรถพร้อมกับพี่คุณ เชนกับมาร์คยิ้มแฉ่งก่อนจะยกมือไหว้พี่คุณอย่างพร้อมเพรียง พร้อมขนาดที่ว่าพวกมันนับหนึ่งสองสามพร้อมกันแล้วค่อยไหว้กันเลยทีเดียว
“สวัสดีครับพี่เขยเอ้ยพี่คุณ” ไอ้หมาหมากนี่มันน่าเตะจริงๆ สกายถลึงตาใส่เพื่อนก่อนจะยิ้มกว้างย่อตัวลงรับแรงปะทะ
โฮ่ง!
“โอ๊ะ ลูกพ่อคิดถึงมากเลยดิ ฮิๆ โอ๊ยๆ รักอย่าทับ เฮ้ยยมหัวพ่อแดกไม่ได้นะเว้ย” สกายร้องโวยวายเมื่อสุนัขสองตัวแย่งความรักจากเจ้าของโดยการกระโดดทับแสดงความรักกระดิกหางแย่งกันเลียหน้าสกาย
“เออ พ่อมันหนีตามผู้ชาย อุ่ย ขอโทษครับพี่คุณ” มาร์คโพล่งออกมาตามใจคิดก่อนจะสะดุ้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าผู้ชายที่เพื่อนหนีตามยืนอยู่ตรงหน้า ร่างเล็กยกมือไหว้ขอโทษแทบไม่ทัน ตรัยคุณยิ้มขำโบกมือไม่ถือสาก่อนจะย่อตัวลงช่วยเด็กดื้อของเขาจากสุนัขแสนรัก
“หึหึ ไม่เป็นไรครับ ตัวไหนรัก ตัวไหนยมครับเนี่ย” เมื่อสุนัขสองตัวได้ยินเสียงเรียกชื่อตนเองเป้าหมายก็เปลี่ยนจากสกายมาเป็นอีกคนทันทีแต่ปฏิกิริยาแค่ดมทำเสียงฟุดฟิดแล้วส่ายหางวิ่งรอบตัวตรัยคุณเท่านั้น
“ไซบีเรียนชื่อรักโกลเด้นชื่อยมครับ” สกายยันตัวขึ้นมาจากพื้นด้วยความช่วยเหลือจากพี่คุณก่อนจะเอ่ยตอบ
“น่ารักครับ”
“เนอะๆ ผมโคตรรักเลย” สกายยิ้มกว้างก่อนจะขยี้ขนโกลเด้นตัวใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยวส่วนตรัยคุณก็ลูบขนไซบีเรียนจอมซนที่ตอนนี้ยอมนั่งเฉยๆ ให้ตรัยคุณลูบหัวแถมยังทำหน้าเคลิ้มจนน่าหมั่นไส้
“ที่น่ารักพี่หมายถึงฟ้าเวลาเล่นกับเจ้าพวกนี้ต่างหากครับ”
“อู่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” สองเสียงจากท่านผู้ชมดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกับความร้อนทั้งหมดมากองอยู่ที่แก้มของสกาย
“เฉียบมาก” เชนทำหน้าอึ้งแล้วยกนิ้วส่งให้พี่คุณ มาร์คเองก็ทำตาม
“ยิ่งกว่าเห็บหมาอีกอ่ะพวกเรา”
“ไส้ติ่งยังภูมิใจในตัวมันกว่าพวกเราอีกอ่ะมึงมาร์ค”
“ส่วนเกินสุดๆ” สองคนผลัดกันพูดไปมา สกายหน้าร้อนถลึงตามองพี่คุณที่ยิ้มขำก่อนจะลุกพรวดจนสุนัขทั้งสองตัวสะดุ้งตกใจ
“ผมเข้าบ้านเล่า! ฮึ่ย! ไอ้พี่บ้า!” ว่าแล้วก็สะบัดก้นเดินงอนเข้าบ้านด้วยความรวดเร็วทิ้งให้ทั้งสามคนยืนหัวเราะชอบใจเดินตามหลังมาช้าๆ
“พี่คุณก็ร้ายเหมือนกันนะครับเนี่ย” เชนเอ่ยแซว
“เวลาฟ้าเขินน่ารักดีครับ มาช่วยขนขนมดีกว่าครับพี่ซื้อมาฝากพวกเราเต็มเลย” คนตัวเล็กเหมือนมีหางงอกออกมามาร์คตาเป็นประกายรีบออกตัวช่วยตรัยคุณถือถุงขนม
“โหเยอะมาก ขอบคุณครับพี่คุณ โคตรป๋าเลยอ่ะ”
“เห็นฟ้าบอกว่าวันนี้อยู่กันครบพี่เลยซื้อมาเยอะครับกลัวทานกันไม่พอ” ทั้งสามคนช่วยกันหอบหิ้วถุงขนมและของทานเล่นเดินเข้ามาในบ้านได้ยินเสียงโห่แซวดังมาจากในห้องนั่งเล่นพร้อมกับเสียงโวยวายของน้องดังออกมาตรัยคุณก็ยิ้มขำ คงไม่แคล้วเด็กดื้อของเขาโดนเพื่อนแกล้ง
“มาแล้วๆ” มาร์คตะโกนบอกพวกเพื่อนในห้องสกายที่กำลังโวยวายเงียบก่อนจะเดินเข้ามาช่วยพี่คุณถือของ ร่างโปร่งเม้มปากมองพี่คุณแล้วหันไปทางเพื่อนๆ
“ต้องแนะนำใช่ป่ะ” สกายบอกเสียงเบา
“แน่นอนสิอย่าเสียมารยาทดิกาย” บีสท์บอกด้วยรอยยิ้มกวน สกายถลึงตาใส่เพื่อนแย่งถุงขนมจากมือซ้ายพี่คุณไปถือแล้วแทนที่ถุงขนมด้วยมือตัวเอง ตรัยคุณมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มกว้างถ้าไม่ติดว่ามีเพื่อนน้องอยู่เขาคงดึงเด็กดื้อของเขามาหอมสักฟอดสองฟอดใครให้ทำตัวน่ารักขนาดนี้ก็ไม่รู้
“พี่คุณครับเรียงจากซ้ายไปขวานะ ยู แจม เจน แตงกวา เปา เมเปิ้ล แพรว บีสท์ ซันแฟนบีสท์ นาฟต้า ไอ้หมาที่ถือถุงขนมนี่ชื่อมาร์คแล้วก็เชนที่พี่คุณน่าจะรู้จักอยู่แล้ว ทุกคน...นี่พี่คุณคนรักของเค้าเอง” เพราะมีเพื่อนผู้หญิงอยู่ด้วยสรรพนามที่สกายใช้จึงสุภาพขึ้นมาหนึ่งระดับ ตรัยคุณมองเด็กน้อยของเขาด้วยความเอ็นดูชอบที่น้องเรียกเขาว่าคนรักมากกว่าคำว่าแฟน มันทำให้เขารู้สึกว่ามันสำคัญและให้ความหมายได้มากกว่า
“สวัสดีครับทุกคน”
“สวัสดีค่ะพี่คุณ // สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับสู่บ้านของพวกเรานะครับ//นะคะ” พวกเพื่อนพูดกันอย่างพร้อมเพรียงตามมาด้วยเสียงโห่แซวจนสกายหน้าแดงแจ๋
“วิ้วววววววววววววว ในที่สุดก็เปิดตัวแล้วเว้ยยยยยย”
“ก็คิดอยู่ว่าจะให้ป่องก่อนหรือเปล่าค่อยมาแนะนำอย่างเป็นทางการ”
“ท้อง?” เปาหันไปถามเมเปิ้ล หญิงสาวตัวเล็กอมยิ้มแล้วพยักหน้า
“เปล่ามันอ้วน พี่คุณเลี้ยงดีเกินเห็นกินแต่ละอย่างน่าหมั่นไส้มาก!”
“หึหึ” คนพี่หัวเราะแล้วยกมือลูบแก้มน้องเบาๆ เป็นการปลอบแต่เหมือนยิ่งเติมเชื้อเพลิงให้พวกเพื่อนได้ล้อมากขึ้น
“โอ๊ยหัวใจจจจจ เขามีจับหน้ากันด้วยค่าคุณขา” แตงกวากรีดร้องขึ้นมาเธอแสร้งยกหมอนขึ้นมาปิดหน้าเขินอาย
“แบบนี้ต้องโพส!” เจนบอกแล้วพยักหน้าให้เปาที่ลดกล้องโปรราคาแพงลงมาเช็ครูป สกายตาค้าง
“ไอ้เปา นี่มึงเล่นงี้เลยหรอวะ”
“คนอย่างแกต้องเจอแบบนี้แหละนังตัวดี!” แจมจีบปากจีบคอบอกก่อนจะชะโงกหน้าไปดูรูปที่เปาถ่าย
“อื้อหืออออออ หวานมาก มึงแพ้เลยอ่ะบีสท์” มาร์คที่วิ่งดุ๊กๆ ไปดูรูปหันไปบอกเพื่อนตัวใหญ่ที่เป็นคู่รักสโลแกนโคตรเหม็นความรักของบ้าน บีสท์กระตุกยิ้มแล้วเล่นผมแฟนตัวเอง
“ยอมไหม” ก้มหน้าถามซันแฟนตัวเองที่ชะโงกหน้าไปดูรูปกลับมา
“ก็ไม่เท่าไหร่ ยังสู้เราไม่ได้” ซันพูดช้าๆ สกายเห็นแล้วอยากจะเดินไปขยี้หัวมันให้ฟูติดตรงที่พี่คุณจับมือไว้อยู่
“กล้าหยามกูหรอไอ้เอ๋อ” ซันปรายตามากระตุกยิ้มกวน สกายดิ้นเร่าจะเดินไปแก้แค้นแต่ตรัยคุณรั้งตัวเด็กดื้อของเขาเอาไว้ได้ทัน
“พี่คุณดูมันดิ!” เมื่อทำอะไรอีกคนไม่ได้ก็หันมาฟ้องแทน คนพี่ยิ้มแล้วจูงมือน้องมานั่งตรงโซฟาที่พวกเพื่อนน้องเว้นว่างไว้ให้
“บ้านนี้ครึกครื้นกันดีนะครับ” ตรัยคุณเปลี่ยนเรื่อง สกายฟึดฟัดอีกนิดหน่อยแล้วตอบ
“ปกติยิ่งกว่านี้อีกพี่แต่พวกนี้กำลังให้เกียรติพี่อยู่” ตรัยคุณหลุดขำกับคำบอกเล่าของน้องมองพวกเพื่อนที่ยิ้มแห้งพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง เขาคลึงหัวคิ้วเล็กน้อยยิ้มส่ายหัวเด็กแสบพวกนี้นี่ขนาดให้เกียรติยังแซวน้องจนหน้าแดงหูแดงไปหมดถ้าไม่ให้เกียรติเขาจะขนาดไหนกันนะ
“พี่คุณอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนนะคะ” แพรวเอ่ยชวน
“ความจริงนอนที่นี่เลยก็ได้นะครับพี่ เป็นแฟนสกายก็เหมือนเป็นคนในครอบครัวของพวกเรา” ยูบอกกับคนอายุมากกว่าด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ครับใช่ พี่คุณก็เหมือนพี่ชายของพวกเราอยู่ที่ว่าจะยอมรับพวกเราเป็นน้องหรือเปล่า” มาร์คเอ่ยสมทบ
“ให้เป็นน้องเถอะค่ะเป็นอย่างอื่นเกรงว่าเพื่อนเราจะช้ำใจตาย ฮริฮริ” หญิงสาวตัวเล็กที่ตรัยคุณจำได้ว่าชื่อนาฟต้าบอกด้วยเสียงหัวเราะแปลกที่เขาไม่เคยได้ยินแต่คงจะเริ่มได้ยินจากพวกเพื่อนน้องนี่แหละ
“ขอบคุณทุกคนมากนะ คิดว่าพี่เป็นพี่ชายของพวกเราก็ได้ครับมีอะไรก็ปรึกษากันได้” ตรัยคุณบอกอย่างใจดี แตงกวายกมือขึ้นสุดมือเหมือนเด็กนักเรียนมีคำถามกับคุณครู ตรัยคุณผายมือเล่นด้วยเป็นเชิงให้พูดได้
“ยืมเงินได้มั้ยคะพี่คุณ” ชายหนุ่มหลุดขำกับคำถามของเพื่อนน้อง เขาหันไปหาน้องแล้วตอบคำถามหญิงสาว
“ต้องถามฟ้าครับ สิทธ์การตัดสินใจพี่ให้ฟ้าทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเรื่องอะไร”
“ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว”
“พบคนหลงเมี...เอ่อหลงแฟนเพิ่มอีกหนึ่งคนนอกจากไอ้บีสท์แล้วคร้าบบบบบบบบบบบบบบ”
“โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ใจหน่องงงงงงง ไม่ไหวล้าวววววว”
“ชาติที่แล้วหมากายมันต้องทำบุญไว้เยอะมากแน่เลยอ่ะถึงได้พี่คุณคนดีศรีรามเทพนครมาเป็นของตัวเอง”
“ไป ไปทำบุญกันกูจะสร้างอารามหลวงชั้นวรมหาวิหารเลย ชาติหน้ากูต้องได้ของดีบ้าง!!!!” มาร์คลุกขึ้นชูมือข้างซ้ายขึ้นอย่างฮึกเหิม เจนตบเข่าฉาด
“ไป! กูไปด้วยมาร์ค เดี๋ยววิ่งไปเอากระเป๋าตังค์กับสมุดบัญชีแปบ!”
“เฮ้ยไปด้วย!”
“ไปด้วยๆๆๆ”
แล้วความวุ่นวายก็เกิดขึ้นภายในบ้านหลังใหญ่ ตรัยคุณมองเพื่อนน้องที่วิ่งกันไปมาเหมือนเด็กแล้วก็ยิ้มขำ เขาหันไปมองเด็กดื้อที่ทั้งเขินทั้งขำเพื่อนของตัวเองเป็นจังหวะเดียวกับน้องหันมาสบตาเขาพอดี
“เราก็ไปทำบุญกันมั่งไหมพี่” ตรัยคุณเลิกคิ้ว
“ทำไมครับ พี่ก็อยู่ตรงนี้แล้วไง” สกายหน้าแดงยิ้มกว้าง
“ก็ชาติหน้าและชาติต่อๆ ไปผมจะได้เจอพี่อีกไง เนี่ยเดี๋ยวตอนเราทำบุญนะผมจะจับมือพี่ให้แน่นๆ เลย จะเกาะติดพี่ทุกชาติไปยิ่งกว่าผีอีแพงอีก” ตรัยคุณหัวเราะขยี้ผมเด็กน้อยของเขาอย่างหมั่นเขี้ยว ขยันพูดจาเอาอกเอาใจเขาเหลือเกิน ชักจะร้ายขึ้นทุกวี่ทุกวันแต่เขาก็ไม่ปฏิเสธหรอกว่าเขาชอบน้องที่พูดจาแบบนี้มาก ฟังแล้วอยากจะจับมากอดหอมให้หายหมั่นเขี้ยว
“ไปสิครับให้ตามที่เราต้องการเลย”
“โคตรรักพี่คุณเลยอ่ะ”
“พี่ก็รักเราเหมือนกันครับ”
ขยันทำตัวน่ารักแบบนี้หัวใจพี่ก็ไม่ค่อยไหวเหมือนกัน แต่เขาก็ชอบที่จะได้ฟังมันไปทุกๆ วัน แค่คนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือคนๆ นี้ คนที่เขารักและรอคอยมาตลอด คนที่อยู่ในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ทุกความคิดและเป้าหมายของตรัยคุณมีน้องอยู่เสมอ ถ้าถามว่าความรักสำหรับตรัยคุณคืออะไร เขาก็คงตอบได้เพียงประโยคเดียว
ความรักของตรัยคุณคือเท่าฟ้า
รักนะครับ
ฟ้าของพี่คุณEND
เดินทางกันมาถึงตอนสุดท้าย ต้องขอโทษทุกคนที่เราทิ้งช่วงไว้นานมาก หนึ่งคือเราไม่มีเวลาเลยค่ะ งานหนักและเหนื่อยมากบวกกับทุกหยุดต้องบินกลับบ้านตลอด พ่อเราป่วยค่ะ สร้างบ้านใหม่ด้วย ตั้งแต่ปีใหม่มาเลยไม่มีเวลาและพอมันเหนื่อยมากๆ สมองก็ตันค่ะ ยอมรับว่าหมดแรงบรรดาลใจไปหลายๆ ส่วน หลายครั้งที่เราเปิดหน้าเวิร์ดมาแล้วนั่งนิ่งๆเป็นชั่วโมง เขียนได้สามสี่บรรทัดแล้วก็ต้องพอทิ้งตัวลงนอนเฉยๆ 55555 แต่เราตั้งใจไว้กับตัวเองแล้วว่ายังไงก็ต้องเขียนให้จบ
มาพูดถึงเรื่องนี้กันค่ะ สกายคือตัวละครที่เรารักมาก น้องเป็นเด็กที่น่ารักและจิตใจดี เราเลยคิดว่าคนที่จะมารักน้องต้องเป็นคนที่รักม๊ากกกกกกและพี่คุณคือตัวเลือกของเราค่ะ 55555 พ่อไม่เคยทำให้ฟ้าผิดหวัง พระเดชพระคุณท่านรักน้องมากเวอร์ รักจนบางทีเราแต่งเองยังเบ้ปากใส่เลย ก๊ากกกกก เราตั้งใจไว้แล้วว่าจะลงตอนพิเศษในเว็บ 3-4 ตอนและตอนพิเศษในเล่มรวมที่ลงในเว็บ ประมาณ 10 ตอน ตั้งใจให้เท่ากับตัวร้ายค่ะและก็จะพยายามเขียนทั้งหมดให้เสร็จในเดือนเมษานะคะ จะพยายาม ก๊ากกกกกกก ไม่มั่นใจในตัวเองเลย
แล้วเจอกันเรื่องหน้าค่ะ ขอบคุณทุกคนที่อยู่กันมาจนถึงตอนสุดท้าย บางคนตามกันมาตั้งแต่พี่พีทน้องคิวเลย ดีใจมากๆ ค่ะ แล้วก็อยู่ด้วยกันต่อๆ ไปน้า
รักทุกคน
แอบบอกนิดนึงว่า เล่มทั้งหมดใจ และ ตัวร้าย มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไปแล้วนะคะ ไปจับจองกันได้เล้ยยยยย