-03-
มีคนเคยบอกไหม
ว่ามึงโคตรเอาแต่ใจเลยพี่คุณ!!!!!!
สกายกำลังหงุดหงิดมากถึงมากที่สุดเพราะเพื่อนพี่สาวที่แสนดี ไอดอลที่โคตรเท่ของเพื่อนทั้งสองหลังจากคุยกันได้ไม่ถึงชั่วโมง ไอ้แวนกับไอ้เนมก็ดูจะปลาบปลื้มในตัวพี่คุณเสียเหลือเกิน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้เขาหงุดหงิด เขาไม่เคยอิจฉาใครอยู่แล้ว ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ต่างหาก!
“พี่ผมง่วงจริง ๆ นะ”
“ฟ้าหลับไปก่อนก็ได้ถึงแล้วเดี๋ยวพี่ปลุก”
ไม่ใช่ที่ต้องการสื่อเว้ย ความหมายของเขาคืออยากกลับไปนอนที่ห้อง ไม่อยากไป! จบไหม!
“หน้างออีกแล้ว ไหนงอนอะไรพี่ลองบอกมาซิ”
“ผมไม่ได้งอน!”
“แล้วหน้างอทำไมครับ”
ตรัยคุณถามเสียงนุ่มพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้ ก็รู้อยู่หรอกว่าน้องต้องการอะไร แต่ฟ้าตอนหน้างอตอนถูกขัดใจมันน่าแกล้งจนเขาอดไม่ได้จริง ๆ
“ผมง่วง”
“พี่ถึงบอกให้หลับไปก่อนไงครับ”
สกายทิ้งตัวกระแทกเบาะพ่นลมหายใจแรงด้วยความหงุดหงิด คันปากอยากด่าแต่แม่งคำว่าเพื่อนพี่ดรีมและลูกเพื่อนสนิทพ่อมันค้ำคออยู่จึงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการที่ต้องหงุดหงิดอยู่คนเดียวแบบนี้ แทนที่เรียนเสร็จจะได้กลับบ้านนอนให้ชุ่มปอดเล่นกับหมาเล่นเกมกับไอ้เปาให้หนำใจเพราะพรุ่งนี้มีเรียนบ่าย แต่ทุกอย่างดันผิดแผนไปหมดเพราะพี่คุณคนเดียว!
“พี่อยากซื้อของเข้าห้องครับ”นี่คือคำพูดของพี่คุณที่พูดขึ้นหลังจากที่สกายเดินลงบันไดตึกเรียนมาเห็นพี่ชายหน้าหล่อยืนยิ้มแฉ่งรออยู่ ได้แต่ยืนงงว่าพี่มันต้องการอะไรรู้ตัวอีกทีก็ถูกลากขึ้นรถมาแล้ว ถามกูซักคำไหมครับว่ากูอยากไปด้วยไหม
ไม่อยากไปเว้ย จะกลับบ้าน!
“ถ้าไม่พูดพี่ก็ไม่รู้นะว่าฟ้าไม่พอใจอะไร”
“ทำอย่างกับพูดแล้วจะฟัง”
สกายบ่นอุบอิบเบา ๆ
“ครับ?”
“เปล่าครับ แล้วพี่คุณจะซื้ออะไรบ้างครับ”
“พวกของกินของใช้ครับ ในห้องโล่งมากเลยไม่มีอะไรสักอย่าง”
“ลิสรายการไว้หรือยังครับ”
“ยังเลยครับ ต้องทำด้วยหรือ?”
สกายแอบหันไปกลอกตาถอนหายใจหน่ายแล้วหันกลับมาพยักหน้าบอกเพื่อนพี่สาว ตรัยคุณขมวดคิ้วย่นจมูกเขาแค่คิดเอาไว้คร่าว ๆ เท่านั้นว่าจะซื้ออะไรบ้าง
“เดี๋ยวผมจดให้พี่คุณพูดมาก็แล้วกัน”
“พี่แค่คิดเอาไว้คร่าว ๆ เองครับว่าจะซื้ออะไรบ้าง”
คราวนี้สกายถอนหายใจให้อีกคนได้ยิน
“คิดเถอะครับเดี๋ยวผมจดให้ ทำแบบที่พี่คุณว่ามันเสียเวลา”
“ถ้ามันรบกวนฟ้าขนาดนั้นพี่ไปคนเดียวก็ได้ครับ”สกายชะงักมือที่กำลังควานหาถุงดินสอในกระเป๋าขึ้นมามอง แล้วก็คิดผิดมากที่เงยหน้ามามองพี่ท่าน คือยังไงอ่ะ เขาแค่พูดว่ามันเสียเวลาเองนะเว้ย...ก็เอออยากกลับบ้านเร็ว ๆ แต่ก็ไม่ได้รบกวนอะไรขนาดนั้นแล้วทำไมต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นด้วยเล่า!
แล้วทำไมกูต้องรู้สึกผิดขนาดนี้ด้วยวะ!
“ไม่ได้รบกวนครับ แต่ผมหมายความว่าถ้ามัวแต่นึกตอนไปถึงว่าจะซื้ออะไรบ้างอาจลืมซื้อบางอย่างไป แล้วสุดท้ายก็ต้องเสียเวลามาซื้อใหม่ไงครับ”
แถสิแถ นาทีนี้ต้องแถอย่างเดียวเรื่องอะไรจะยอมรับล่ะว่าจริง ๆ แล้วสกายคิดว่ามันเป็นการรบกวน เดี๋ยวพี่คุณเอาไปฟ้องพ่อกับพี่ดรีมมีหวังถูกบ่นหูชาแน่ ๆ เอาเถอะอะไรช่วยได้ก็ช่วยพี่เขาไปแล้วกัน ไปซื้อของกับพี่คุณก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากมายนี่
“อ๋ออย่างนั้นหรือครับ ขอโทษนะครับพี่คิดว่าทำให้ฟ้ารำคาญ”
คนพี่ระบายยิ้มโล่งใจ สีหน้าหล่อดูดีขึ้นกว่าเมื่อสักครู่ชัดเจน สกายรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธว่าตนไม่ได้คิดแบบนั้นถึงเขาจะคิดแบบนั้นจริง ๆ ก็เถอะ
“พี่คุณคิดมาก ผมสบาย ๆ อยู่แล้วน่า ว่าไงครับซื้ออะไรบ้างเดี๋ยวผมจดให้”
สกายยิ้มประจบอีกคนตาหยี ตรัยคุณยิ้มเอ็นดูขยี้หัวคนน้องแล้วบอกสิ่งที่ต้องการจะซื้อ เด็กหนุ่มผู้มากด้วยรอยสักก็ตั้งหน้าตั้งตาจดจนไม่เห็นรอยยิ้มมุมปากแสนเจ้าเล่ห์ของคนขับรถ
บอกแล้วว่าตรัยคุณรู้ทุกอย่างว่าน้องต้องการอะไร และเขาก็รู้อีกนั่นแหละว่าจะต้องจัดการกับเด็กดื้อคนนี้อย่างไร
“ฟ้าใช้ยี่ห้อไหน”
ทั้งสองคนหยุดอยู่หน้าเชล์ฟแชมพูที่มีสารพัดยี่ห้อตั้งเรียงรายอยู่มากมายไม่ว่าจะของไทยของนอกเรียกว่ามีครบก็ว่าได้ จริง ๆ แล้วสกายแอบขัดใจพี่คุณนิดหน่อยคือถ้าจะมาซื้อของอะไรแบบนี้เขาคิดว่าไปซื้อบิ๊กซีแถวคอนโดน่าจะถูกกว่าไม่เห็นจะต้องถ่อมาห้างใหญ่เวอร์ขนาดนี้เลย แต่พอหันไปมองสารรูปพี่คุณก็ต้องบอกว่า
เออ มาที่นี่น่ะถูกแล้ว สมฐานะเขาแล้วล่ะ แล้วก้มมองสารรูปตัวเอง ถ้าเปรียบเทียบเขาสองคนเป็นห้างสรรพสินค้าพี่คุณก็คงเป็นเอ็มควอเทียร์ส่วนสกายก็คงแม็คโครแถว ๆ นอกเมืองดีหน่อยที่วันนี้มาจากมหาลัยเลยใส่ชุดเรียบร้อยกว่าปกติ แล้วถ้าถามว่าปกติของสกายแต่งตัวแบบไหน
ขอแจกแจงเลยแล้วกันเพราะคนแบบคุณเท่าฟ้าการแต่งตัวมีหลายระดับตามความติส ณ ช่วงเวลานั้นของตนเอง ถ้าไปทำงานที่ผับแน่นอนว่าต้องดูดีมีสไตล์ให้สาว ๆ ได้หลงใหล ถ้าอยู่บ้านก็สบาย ๆ เสื้อยืดกางเกงบอลที่เผื่อแผ่ออกมานอกบ้านเป็นครั้งคราว แต่ถ้าขี้เกียจซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นแบบนั้นก็จะเสื้อกล้ามย้วย ๆตามประสาคนขี้ร้อนและคนชอบโชว์(รอยสัก) กางเกงห้าส่วนรองเท้าแตะคีบนั่นแหละไปได้หมดตั้งแต่ตลาดนัดยันพารากอน
โชคดีที่เพื่อน ๆ เข้าใจในความเป็นสกายถึงไม่มีใครว่าอะไร (จริง ๆ คือทุกคนขี้เกียจจะพูดแล้วก็เท่านั้น) จบข่าว มาเข้าเรื่องกันต่อ สกายเลิกคิ้วมองตรัยคุณที่จู่ ๆ ก็ถามว่าเขาใช้แชมพูยี่ห้ออะไรแต่เมื่อคนพี่ไม่พูดอะไรต่อสกายจึงจำเป็นต้องตอบคำถามนั้น
“ใช้ของอันนี้ครับ”
สกายชี้ไปที่แชมพูยี่ห้อหนึ่งที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาด ตรัยคุณพยักหน้าแล้วก้มลงหยิบมาหนึ่งขวดเปิดฝาดมกลิ่นแล้วขมวดคิ้ว
“แน่ใจนะ”
“ครับ”
สกายทำหน้างงแต่ก่อนจะได้ถามคำถามกลับไปใบหน้าหล่อของพี่ชายก็ยื่นเข้ามาใกล้จนสกายย่นคอหนีเมื่อจมูกโด่งกดลงบนกลุ่มผมนุ่มไม่เบานัก
“กลิ่นไม่เห็นเหมือนกันเลย ทำไมอยู่บนหัวเราแล้วหอม”
อยากจะบอกพี่คุณเหลือเกินว่าไม่ได้สระผมมาสองวันแล้วแต่กลัวพี่จะรังเกียจเลยได้แต่ยิ้มแหยคืนกลับไป ตรัยคุณยักไหล่มองแชมพูในมือแล้วก็วางสิ่งนั้นลงในรถเข็น สกายเกาหัวงง ไม่หอมแล้วจะซื้อทำไมวะแล้วอีกอย่างเขาไม่ได้ชอบที่มันหอมแต่ชอบเพราะมันสระแล้วเย็นหัวดีต่างหาก พี่คุณแม่งชอบผิดประเด็นวัยรุ่น
“แล้วสบู่ฟ้าใช้ยี่ห้อไหนครับ”
และอีกหลาย ๆ อย่างที่ลิสไว้มักจะมีคำถามเดิมถามขึ้นมาก่อนซื้อเสมอว่า ฟ้าใช้ยี่ห้อไหน คือพี่คุณครับ พระเดชพระคุณท่านเป็นคนใช้นะไม่ใช่เขานี่ถามจนจะลืมตัวนึกว่าตัวเองมาซื้อของเข้าห้องแทนแล้วนะเนี่ย คนอะไรจะขี้เกียจคิดได้ขนาดนี้วะ ของใช้ตัวเองแท้ ๆ ยังจะมาถามความเห็นคนอื่นอีก แต่ก็ดีอยู่อย่างตรงที่บอกไปแล้วพี่คุณก็จะหยิบสิ่งนั้น อืมก็ไม่เรื่องมากดี พอรับไหว
“พี่คุณ ๆ แปบ ๆ ผมขอแวะตรงนี้ก่อน”
สกายร้องบอกอีกคนกะทันหันเมื่อทั้งสองกำลังจะเดินผ่านโซนขายนมสารพัดชนิด สกายกวาดตามองหานมยี่ห้อประจำเมื่อเจอแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบแกลลอนมาใส่ไว้ในรถเข็น ตรัยคุณเลิกคิ้วมองน้องชาย
“นมพวกนี้มันอยู่ได้ไม่นานนี่ครับ ทำไมไม่ซื้อขวดพอดี ๆ ไป”
“นี่พอดีผมแล้วพี่ กินหมดก่อนด้วยซ้ำ”
สกายยิ้มตาหยียักคิ้วบอกอีกคนด้วยความภูมิใจ ถ้าตัวกินไก่คือตัวเหี้ย ตัวกินนมก็คือเท่าฟ้านี่แหละ สู้กันได้สูสีเลยล่ะ
“จริงนะ”
“โถ่พี่คุณ ผมจะโกหกพี่ให้ได้อะไรเล่า พูดจริงสิพี่ ไป ๆ ไปซื้ออย่างอื่นต่อกันครับ”
สกายใช้มือนึงดึงรถเข็นที่มีตรัยคุณเข็นอยู่ด้านหลังให้ออกเดินตาม ตรัยคุณมองแผ่นหลังบางแล้วได้แต่อมยิ้มส่ายหัว ทั้งสองคนเดินมาหยุดอยู่ตรงโซนขายของสดซึ่งคราวนี้ไม่ใช่สกายที่เป็นคนตัดสินใจ เพราะคนคูลนั้นต้องทำอาหารไม่เป็นหน้าที่นี้เลยเป็นของพี่คุณอย่างแท้จริงเสียที
“ปกติทำอาหารทานเองหรือเปล่าครับ”
“ไม่ครับ ปกติผมสั่งร้านป้าข้างล่างเอาหรือไม่ก็ซื้อเซเว่น”
คำตอบของสกายดูจะไม่เป็นที่พอใจเท่าที่ควร รู้ได้อย่างไรน่ะหรือก็ดูพี่คุณสิขมวดคิ้วจนหัวคิ้วแทบจะติดกันอยู่แล้ว
“ทานอาหารร้านสะดวกซื้อมาก ๆ ไม่ดีนะครับ ตัวเองเรียนหมอก็น่าจะรู้ดี”
สกายยักไหล่ ก็รู้แต่มันไม่มีทางเลือกนี่ จะให้เขาทำอะไรทั้งชีวิตทำได้แค่มาม่า แต่พนันได้เลยว่าถ้าบอกว่ากินมาม่าพี่คุณต้องบ่นมากกว่านี้แหง ๆ
“ก็ผมทำอาหารไม่เป็น แต่ก็ไม่บ่อยหรอกครับผมกลับบ้านบ่อย พวกสาว ๆ ทำอาหารทานกันเองแทบทุกมื้อนั่นแหละ ถ้าสาว ๆ ไม่ทำก็มีทั้งบีสท์ทั้งยู ผมเอาตัวเองเสี่ยงมะเร็งแค่ไม่กี่วันต่อสัปดาห์หรอกครับ”
“บ้านที่อยู่กับพวกเพื่อน ๆ ใช่ไหม”
“ครับ”
“แล้วปกติฟ้าอยู่คอนโดกี่วันครับ”
สกายกลอกตาเอียงคอนับนิ้ว
“ก็วันธรรมดายกเว้นวันพุธครับ”
ตรัยคุณเลิกคิ้วยกนาฬิกาข้อมือที่มีวันที่อยู่ด้วยขึ้นมาดู
“วันนี้วันอังคาร”
สกายพยักหน้า
“ครับเดี๋ยวซื้อของกับพี่เสร็จก็กลับไปนอนบ้านนั้น”
“วันนี้ไม่กลับได้ไหมครับพี่ว่าจะทำอาหารเลี้ยงขอบคุณเราที่สละเวลามาเป็นเพื่อนพี่ แต่ถ้าฟ้าไม่สะดวกเอาไว้วันอื่นก็ได้ครับ”
สกายนิ่งคิดก็ไม่เชิงว่าไม่สะดวกหรอกแต่เขาอยากกลับบ้านนั้นนี่นา แต่ถ้าบอกปฏิเสธพี่คุณไปก็จะเสียมารยาทเหมือนกัน ควักมือถือมาดูเวลาคำนวณคร่าว ๆ กินข้าวเสร็จคงไม่เกินสามทุ่มค่อยกลับบ้านยังทันคิดได้ดังนั้นสกายจึงเอ่ยบอกพี่ชาย
“สะดวกครับ พี่คุณเลี้ยงทั้งทีนี่เนอะกินเสร็จค่อยกลับบ้านก็ได้ครับ”
ตรัยคุณเลิกคิ้วแปลกใจ
“กลับคอนโดแล้วยังจะไปนอนที่บ้านอีกหรือครับ”
“ก็...ครับผมค่อนข้างติดบ้านน่ะพี่”
เมื่อได้ฟังคำตอบตรัยคุณก็พยักหน้าเข้าใจ ถึงจะไม่เข้าใจทั้งหมดแต่สิ่งหนึ่งที่ได้รู้เพิ่มก็คือ น้องชายตัวขาวของเขาติดเพื่อนมากเลยล่ะ
“ฟ้าอยากกินอาหารประเภทไหนครับ”
“เอาแบบที่พี่คุณถนัดเลยพี่”
สกายไหวไหล่ตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ตรัยคุณหรี่ตามองน้องชาย
“เห็นแบบนี้พี่ทำได้หลายอย่างนะครับ”
“ถ้าอย่างนั้นพี่คุณทำอาหารอิตาเลียนได้ไหม”
สกายถามหยั่งเชิงแต่พอได้รับคำตอบก็ทำเอาคนชอบสักตาโตด้วยความตกใจ
“ถ้าพวกพาสต้า พิซซ่า สปาเก็ตตี้อะไรพวกนี้ก็ทำได้ครับ”
“ทำได้จริงดิ”
“พี่จะโกหกฟ้าทำไมครับ ว่าไงเราอยากกินอะไร”
“ผมอยากกินพาสต้า ลาซานญ่าด้วย ชีสเยิ้ม ๆ พี่คุณทำได้ไหม”
“ได้ครับ”
“เจ๋ง! พี่คุณสุดยอด”
ตรัยคุณหัวเราะมองเด็กน้อยที่ยิ้มกว้างชูนิ้วโป้งตาเป็นประกายส่งมาให้เขาด้วยความเอ็นดู ทั้งสองคนเลือกซื้อวัตถุดิบกันเสร็จซึ่งความจริงแล้วมีเพียงตรัยคุณคนเดียวเท่านั้นที่เป็นคนเลือก ส่วนเด็กน้อยของเขาน่ะหรือ
“ซื้อชีสไปเยอะ ๆ เลยนะพี่ผมโคตรชอบ”
“เท่านี้ก็เยอะแล้วครับ”
“พี่คุณ ๆ ชีสยี่ห้อนี้ก็อร่อยแพรวเคยซื้อมาทำผักโขมอบชีส”
“แต่เรามีอันนี้แล้วนะครับถ้าอย่างนั้นเปลี่ยนไปเอาอันที่ฟ้าเลือกไหม”
เด็กน้อยของตรัยคุณยืนนิ่งจ้องมองชีสสองยี่ห้อด้วยสายตาจริงจังก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา
“ซื้อไปสองอันเลยได้ไหมพี่คุณ”
สุดท้ายตรัยคุณก็ต้องยอมจำนนกับถ้อยคำร้องขอที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เลยว่ามันฟังออดอ้อนชวนให้ตามใจแค่ไหนและเขาก็ไม่คิดจะบอกให้อีกฝ่ายได้รู้หรอก ซื้อของกันอีกพักใหญ่ก็พากันเดินมาจ่ายเงินสุดท้ายก็ถึงเวลาเดินทางกลับเสียทีแต่สกายคงลืมไปว่าช่วงเลิกงานในมหานครใหญ่อย่างนี้เป็นเช่นไร
บ้าไปแล้วรถติดเกือบสองชั่วโมง!
“หิววววววว โอ่ยยยยย ไส้ผมต้องขาดแล้วแน่ ๆ”
เด็กหนุ่มเดินลากสังขารในมือถือถุงข้าวของที่ซื้อมาจากซุปเปอร์ตามตรัยคุณมาวางไว้บนเคาท์เตอร์ในครัวและทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้อย่างหมดแรง
“อดทนอีกนิดนะครับพี่จะทำเร็ว ๆ แล้วกัน”
สกายพยักหน้าหงึกหงักวางคางกับเคาท์เตอร์ตาปรือมองพี่ชาย
“พี่คุณจะทำอะไรบ้าง”
“พาสต้าซอสครีมต้มยำกุ้ง ลาซานญ่าหมู ขนมปังกระเทียมแล้วก็สลัดผักโขมดีไหม”
แทนคำตอบสกายยกนิ้วโป้งให้พี่ชายด้วยท่าทีเนือย ๆ เพราะเจ้าตัวทั้งหิวทั้งง่วงเกินจะบรรยาย ตรัยคุณอมยิ้มเอ็นดูแล้วเอ่ยไล่ให้น้องชายไปหาอย่างอื่นทำ
“ออกไปดูทีวีรอก่อนก็ได้ครับเสร็จแล้วเดี๋ยวพี่ไปเรียก”
สกายพยักหน้าว่าง่ายเดินสะโหลสะเหลออกมาจากครัวทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา หยิบรีโมทบนโต๊ะมากดเปิดทีวีดูเลื่อนไปยังช่องสารคดีที่เขาชอบดูแล้วหลับไปนอนไหนก็ไม่รู้
Rrrrr Rrrrrตรัยคุณเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของแรงสั่นสะเทือน โทรศัพท์ของฟ้า? สงสัยจะลืมวางเอาไว้ ร่างสูงวางมือจากสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนแล้วเดินมาหยิบโทรศัพท์ของน้องขึ้นมาดู
หมาเชนตรัยคุณหัวเราะไม่ใช่เพราะชื่อที่เด็กแสบเมมเอาไว้แต่เป็นรูปคนโทรเข้ามาต่างหาก ฟ้าก็ช่างแกล้งเพื่อนจริง ๆ คุณหมอหนุ่มส่ายหน้าแล้วเดินเอาโทรศัพท์ที่สั่นไม่หยุดมาให้เจ้าของแต่ก็ต้องเป็นหมันไปเพราะว่าเจ้าของนั้นนอนหลับคอพับคออ่อนไปเสียแล้ว ตรัยคุณจึงถือวิสาสะรับโทรศัพท์ของอีกคนเสียเอง
“ครับเชน”
“เอ่อ...ใครพูดอยู่ครับ”“พี่เองครับ พี่คุณ”
“อ๋อออ พี่คุณเพื่อนพี่ดรีมเจ้าบ่าวไอ้กาย”ตรัยคุณหัวเราะกับคำเรียกที่อีกฝ่ายเรียกตน
“แล้วกายมันอยู่กับพี่หรือครับ”“ครับมากินข้าวที่ห้องพี่ แต่ตอนนี้ฟ้าหลับอยู่ครับ”
“อ้าวงั้นหรือครับ ไหนมันบอกว่าจะกลับบ้าน”ท้ายประโยคเหมือนคนพูดจะพูดกับตัวเองเสียมากกว่า
“คงไม่ได้กลับแล้วครับเชน พอดีรถติดมากกว่าจะมาถึงคอนโดก็เกือบสองทุ่มแล้ว นี่พี่ยังทำกับข้าวไม่เสร็จเลยวันนี้ฟ้าคงไม่ได้กลับหรอกครับ”
ตรัยคุณตัดสินใจให้น้องเองเสร็จสรรพโดยไม่ถามความเห็นของคนในห้วงนิทราเลยสักคำ
“โอเคครับ ผมจะได้บอกพวกเพื่อน ถ้าอย่างนั้นแค่นี้นะครับพี่คุณ สวัสดีครับ”“สวัสดีครับ”
เมื่อสัญญาณตัดไปแล้วตรัยคุณก็เอามือถือมาส่งคืนเจ้าของโดยวางไว้ตรงโต๊ะหน้าทีวี ร่างสูงกอดอกยืนมองน้องชายที่นอนหลับสนิทด้วยแววตาขบขัน สงสัยวันนี้เขาจะแกล้งอีกคนเยอะไปหน่อยและดูท่าว่าฟ้าจะเหนื่อยจริง ๆ นั่นแหละ หลับสนิทเสียขนาดนี้ ร่างสูงเดินหายเข้าไปในห้องและกลับออกมาพร้อมกับผ้าห่มผืนเล็กและหมอน สองมือเรียวค่อย ๆ ประคองตัวและศีรษะน้องให้นอนราบไปกับโซฟาจัดท่าทางการนอนห่มผ้าให้เรียบร้อยก็หันหลังกลับเข้าไปในครัว
ทำไมเวลาตื่นไม่ทำตัวน่ารักว่าง่ายเหมือนเวลานอนก็ไม่รู้
tbc
talk. ความสกายนั้นแพ้ความตรัยคุณทุกทาง 55555555555
อิฉันบอกแล้วว่านังพี่คุณมันร้าย คุณ ๆ ขาไม่เชื่อกันเองงงงง
น่าจ๋งจ๋านลูกขาของแม่ แล้วเจอกันตอนหน้าค่า
#ฟ้าของคุณ