►Get it back ll นี่มึงเป็นแฟนเก่าหรือเจ้ากรรมนายเวร [Chapter 10] 21.10.18 ◣PAGE 5◢
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ►Get it back ll นี่มึงเป็นแฟนเก่าหรือเจ้ากรรมนายเวร [Chapter 10] 21.10.18 ◣PAGE 5◢  (อ่าน 23669 ครั้ง)

ออฟไลน์ Red_Enchanted

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

__________________________________________________________________________________________








ll GET IT BACK ll

Written by ALLEIN
**นามปากกไม่ตรงกับ username นะคะ ไม่ทราบวิธีเปลี่ยนจริงๆ


............................................................................



- สารบัญ -




INTRO

- And then I woke up, it’s a bad dream, no one on my side.-

   
   “ฮ่าๆๆๆ ไอ้พิณ คนในรูปนั่นมันมึงใช่มั้ยวะ”

   “โอ้ย!!! ไอ้เหี้ยท่าแม่งอย่างเด็ดอ่ะ กูอยากรู้จริงๆ ว่าอีกคนมันเป็นใคร ใช่คนในโรงเรียนเราปะวะ”

   “ไอ้พิณ มึงแม่งน่าเอาจริงๆโว้ย”


   อย่านะ...

   “ไอ้ห่า กูไม่คิดเลยนะว่าหน้าอย่างไอ้พิณมันจะเป็นเกย์อ่ะ ขยะแขยงว่ะ”
   
   “มึงว่าใครเป็นคนแอบถ่ายอะ มุมกล้องนี่มันจากในห้องที่เอากันชัดๆ ไอ้พิณมันตั้งใจปล่อยให้ตัวเองฉาวเองหรือเปล่าวะ”

   “ไม่ว่ะ กูว่าอีกคนนึงตั้งกล้องแอบถ่ายมากกว่า”

   
   หยุดพูดนะ...

   “กูว่าอีกคนในรูปต้องเป็นไอ้ปืนห้องสามแน่ๆ”

   “ไม่อะ กูว่าพี่แตมป์มอสี่”
   
   “เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นเพื่อนสนิทมันอย่าง...”


   “กูบอกให้หยุดพูดไง!!!!”

   ตึกๆๆๆๆๆๆๆ

   ก้อนเนื้อที่เต้นอยู่ในอกซ้ายของผมเพิ่มจังหวะขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ผมกรีดร้องอย่างสุดเสียงพร้อมเด้งตัวออกจากเตียง เหงื่อที่ชุ่มบริเวณศีรษะและมือทั้งสองข้างของผมทำให้ผมตระหนักได้ว่าทั้งเหตุการณ์และคำพูดที่ผมได้เห็นได้ยินเมื่อครู่นี้เป็นเพียงแค่ภาพความฝัน

   ...อีกแล้วหรอ...ฝันแบบนี้อีกแล้ว

   ผมกระเถิบตัวไปชิดหัวเตียง ก่อนจะชันหัวเข่าทั้งสองข้างขึ้นมาแล้วยกแขนไปกอดรัดไว้

   “ไม่เป็นไรนะ...ไม่เป็นไร มันก็แค่ความฝัน”

   …ผมโคลงตัวไปมา พร้อมปลอบตัวเอง...

   “เป็นแค่ความฝัน เป็นแค่อดีต มันมาทำร้ายอะไรเราไม่ได้ทั้งนั้น”

   …ปลอบตัวเองอยู่คนเดียวในความมืด...

   “ไม่มีอะไรแล้วนะ พิณ”
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2018 18:36:36 โดย Red_Enchanted »

ออฟไลน์ Red_Enchanted

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
CHAPTER ONE

-Now it’s back to the way we started. Strangers.-


   [ Walking down 29th and park
   I saw you in another's arms
   Only a month we've been apart
   You look happier… ]

   “ไอ้ภัทร”

   [ Saw you walk inside a bar
   He said something to make you laugh… ]

   “ภัทร!”

   [ I saw that both your smiles were twice as wide as ours
    Yeah you lo.. ]

   “ไอ้ห่าภัทร!!”

   ป้าป!

   เสียงเรียกชื่อผมดังขึ้นตามด้วยสัมผัสหนักๆที่ลงมากลางกบาลทำให้ตัวผมเซไปข้างหน้าเล็กน้อย ถ้าไม่ติดว่าผมจับแขนเก้าอี้ที่นั่งอยู่ทั้งสองข้างไว้ทันละก็ หัวผมก็คงฟาดไปกับโต๊ะกาแฟข้างหน้าไปแล้วเต็มๆ

   “ไอ้หอกเกล้า เรียกกูดีๆก็ได้เปล่าวะ ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันด้วย” ผมว่า ก่อนจะหันไปหามันพลางถอดหูฟังที่เสียบคาหูเอาไว้อยู่ออก

   ‘ไอ้เกล้า’ เพื่อนสนิทตั้งแต่มอสี่ของผมถอนหายใจออก ก่อนจะเอ่ยปากตอบ

   “เรียกนานกว่านี้กูคงได้เป็นมะเร็งกล่องเสียงอะ แทบจะเอาโทรโข่งมาตะโกนใส่หูแล้วมึงก็ยังไม่ได้ยิน” ร่างสูงที่เพิ่งตบหัวผมไปเมื่อกี้เดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย ก่อนที่จะหยิบแก้วชามะนาวของผมขึ้นมาดื่มอย่างถือวิสาสะ

   “ใครอนุญาต” ผมว่าพร้อมตีมือไปมันไปทีนึง มันมองผมเคืองๆ แล้ววางแก้วลง

   “มาร้านกาแฟแต่สั่งชามะนาวแดก กูละเชื่อมึงจริงๆ”

   “เรื่องของกู”

   “อ้าวๆ ให้เกียรติผมนิดนึงมั้ยครับคุณภัทร วันนี้ผมเป็นตัวนำเงินนำทองมาให้คุณเลยนะ”

   “ตัวเงินตัวทองละสิไม่ว่า” ผมยักคิ้วใส่คนตรงหน้าแบบกวนๆ และถามคำถามขึ้นมาก่อนที่มันว่าอะไรผมกลับ “แล้วไอ้คนที่จะมาติวกับกูน่ะอยู่ไหน”

   “ไม่รู้ว่ะ เดี๋ยวกูไลน์ถามมันแป๊ป” ไอ้เกล้าว่าพร้อมควักมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียนของมันแล้วพิมพ์ลงไป “แล้วทำไมวันนี้มึงไม่ไปเรียนวะ”

   “ขี้เกียจ โดด อยู่บ้าน อ่านหนังสือ”

   “สัตว์...” ไอ้เกล้าเงยหน้ามาด่าผมอย่างเสียไม่ได้ แล้วก้มลงไปมองหน้าจอมือถือมันอีกรอบ “นี่ไง มันมาแล้ว เดี๋ยวกูออกไปรับมันที่หน้าลิฟต์ก่อน มันหาร้านไม่เจอ”

   “อ้าวหรอ เออๆ” ผมพยักหน้ารับไปแกนๆ ก่อนที่ไอ้เกล้าจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากร้าน

   ผมถอนหายใจด้วยอารมณ์ไหนบอกไม่ถูก ก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าดินสอและหนังสือตะลุยโจทย์เลขขึ้นมาวางไว้ตรงหน้า อ่อ...คงพอจะเดาๆกันออกแล้วใช่มั้ยละครับว่าผมมาทำอะไรที่่นี่

   ใช่แล้ว...ผมรับจ้างเป็นติวเตอร์(มือใหม่)สอนคณิตศาสตร์

   แหน่...งงกันอยู่ใช่มั้ยละว่าทำไมผมถึงไม่เร่งอ่านหนังสือเพื่อการสอบเข้ามหาลัยที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนนี้เหมือนกับเด็กมอหกคนอื่นๆ มานั่งติวหาเงินเข้ากระเป๋าอยู่ได้

   นั่นก็เป็นเพราะว่าผมมีแพลนปีหน้าที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศครับ พวกคะแนนต่างๆ ที่ต้องใช้ยื่นผมก็ไปสอบมาหมดแล้วเรียบร้อย และคะแนนสอบที่ได้มันก็น่าพอใจพอๆกับเกรดที่โรงเรียนของผม จนพูดได้ว่าโปรไฟล์ของผม ยื่นไปที่ไหนเขาก็รับ

   ตอนนี้ก็เหลือแค่ยื่นข้อมูลให้มหาลัยทางนู้นเขาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแหละครับ แหะๆ

   ส่วนนักเรียนคนแรกของผมคนนี้ ผมก็ยังไม่รู้จักอะไรหรอก รู้แต่ว่าเป็นเพื่อนของไอ้เกล้าเพราะมันแนะนำมา หน้าเหนอก็ยังไม่เคยเห็น ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันทั้งนั้นแม้แต่ชื่อ รู้แค่ว่าความรู้ทางด้านการคำนวณของมันห่วยเข้าขั้น และต้องการคนช่วยติวด่วน สบโอกาสกับที่ผมไปบ่นๆกับไอ้เกล้าว่าช่วงนี้ผมมีเวลาว่างเยอะ อยากลองรับเป็นติวเตอร์ดู ไอ้เกล้าก็เลยติดต่อให้

   “ไอ้ภัทร” เสียงเรียกชื่อผมจากไอ้เกล้าดังขึ้นทางด้านหลังอีกครั้ง

   ไปไวมาไวจริงแหะ เดินเร็วกันจริงๆทั้งมันทั้งเพื่อน

    ผมยืนขึ้นแล้วหันไปโดยไม่ลืมที่จะประดับรอยยิ้มเล็กๆไว้บนใบหน้าเผื่อว่ามันจะสร้างความประทับใจแรกที่ดีให้กับเพื่อนไอ้เกล้าได้ แต่ทว่า...

   รอยยิ้มของผมกลับถูกทำให้หายไปในพริบตา

   ด้วยปากนั่น...

   จมูกนั่น...

   ตานั่น...

   รูปหน้าแบบนั้น...

   ด้วยคนๆ นั้น

   ‘เขา’

   “พิณ”

   …

   “ภัทร นี่เพื่อนกูมาจากโรงเรียนเธียรวิทย์ ชื่อว่า...”

   “เต” ผมเปล่งเสียงเรียกชื่อเขาออกไปก่อนที่ไอ้เกล้าจะพูดจบประโยค เพื่อนผมพูดอะไรสักอย่างหลังจากนั้น ซึ่งผมไม่ทันได้ฟัง และก็ไม่มีสติมากพอที่จะฟังด้วย

   เขาเปลี่ยนไปมาก...

   ทั้งสูงขึ้น มีกล้ามเนื้อมากขึ้น และดูดีขึ้น

   เขาเปลี่ยนไปมาก...แต่ผมก็ยังจำเขาได้ราวกับว่าเราเพิ่งพบกับเมื่อวาน

   จำได้แม่นเสียจนน่าเจ็บใจ

   “พิณ” เขาเอ่ยชื่อนั่นขึ้นมาอีกครั้ง ชื่อเก่าของผมที่ไม่มีใครเรียกมาหลายปีแล้ว

   ชื่อเก่า...ที่ผมเลิกใช้และฝังกลบมันทิ้งไปพร้อมกับเหตุการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อตอนนั้น

   เขาขยับตัวก้าวเข้า...ผมก้าวถอยหลังหนี

   “อย่า” ผมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่เบาจนผมไม่แน่ใจว่าเขาได้ยิน

   แต่เขาหยุด...

   เขาหยุดนิ่งแล้วมองผมด้วยสายตาที่ผมดูไม่ออกว่าเขากำลังจะสื่ออะไร ผมไม่ใช่คนที่อ่านสายตาคนอื่นเก่งนัก ผมอ่านไม่ออก และในกรณีนี้

   ผมแทบไม่สนใจที่จะอ่านมัน

   “กูไม่สอนแล้วนะเกล้า” ไวเท่าความคิด ผมหันไปเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดลงกระเป๋า คว้ามือถือที่อยู่บนโต๊ะ แล้วหยิบข้าวของทั้งหมดก่อนจะเดินผ่านสองคนนั้นและเนรเทศตัวเองออกจากร้านกาแฟทันที โดยไม่ฟังคำทักท้วงจากเพื่อนตัวเองเลยแม้แต่น้อย

   ผมใช้สองขาพาตัวเองมาที่ลิฟต์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอื้อมมือที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่กดเรียกลิฟท์ กดอยู่ซ้ำๆ อย่างนั้นเหมือนกับว่าการกระทำของผมจะทำให้ลิฟต์มาถึงเร็วขึ้น

   ...ไม่มีอะไรหรอก...เขาคงไม่วิ่งตามมา...

   ผมกดลิฟต์ย้ำๆ

   …คงไม่ตามมา...

   ผมกดปุ่มเรียกลิฟต์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะลดมือลง

   …ไม่ตามมา...

   ติ๊ง!!

   ผมเดินก้มหน้าก้มตาเข้าไปในลิฟต์ที่ว่างเปล่า

   ...ไม่ตามมาจริงๆ สินะ...

   “พิณ!!! เดี๋ยวก่อน!!!”

   ผมเงยหน้าขึ้น...

   …และประตูลิฟต์ก็ปิดลง

   ปิดลง...ก่อนที่ ‘เขา’ จะได้ก้าวเข้ามา

   เขา...เต เตชภณ วิไกรกาญน์



   
   KaoKavin: มึงเป็นเหี้ยไร(16.53 น.)
   KaoKavin: ภัทร เตมันขอไลน์มึงอะ (16.53 น.)
   KaoKavin: มึงรู้จักมัน?(16.53 น.)
   KaoKavin: ทำไมมันถึงเรียกมึงว่าพิณวะ (16.54 น.)

   KaoKavin: บอกหน่อยเถอะ กูอยากเสือก (17.47 น.)

   Missed call (1) from เกล้า

   PPEem: อยู่ไหน (18.18 น.)

   Missed call (3) from เฮียภีม

   KaoKavin: ไอ้เหี้ย เป็นอะไรป่ะเนี่ย (19.40 น.)


   หน้าจอมือถือที่มีการแจ้่งเตือนเกือบสิบครั้งส่องแสงไฟว้าบออกมาเมื่อข้อความล่าสุดส่งมาถึง ผมมองตัวอักษรบนจอสี่เหลี่ยมอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วโยนมันไปไว้ที่โซฟาอย่างไม่ใยดี ผมไม่ได้โกรธหรือรู้สึกไม่ดีอะไรกับไอ้เกล้า และผมไม่ได้อยากให้มันเป็นห่วง เพียงแค่ไม่มีอารมณ์จะตอบตอนนี้

   ผมเดินเข้าห้องนอนก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างหมดสภาพ สายตาของผมจ้องมองไปบนเพดานสีขาวที่ว่างเปล่า ไฟเฟยอะไรในห้องผมก็ยังไม่เปิด...ไม่มีอารมณ์

   รู้สึกเหนื่อยจนอยากจะหลับไปซะให้ได้ ทั้งๆที่วันนี้ยังไม่ทำอะไรนอกจากออกไปข้างนอกแค่เพียงชั่วโมงสองชั่วโมงเท่านั้น แต่ผมก็ไม่หลับ...

   …ได้แต่นอนโง่ๆ อยู่อย่างนั้น แล้วจมตัวเองลงไปสู่ห้วงความทรงจำที่ผมไม่เคยอยากนึกถึง

   ‘ก็อย่าให้ใครรู้สิ’

   เสียงแผ่วเบาที่กระซิบข้างหูทำให้ผมเด้งขึ้นมาจากเตียงนอนอย่างรวดเร็วก่อนจะกะพริบตาถี่ๆเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับความมืดในห้อง ผมถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด เมื่อพบว่าตัวเองหลอนไปเองอีกแล้ว มันเป็นเสียงที่ตามหลอกหลอนผมมาตั้งแต่สามปีที่แล้ว

   ...เสียงแหบพร่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันร้ายกาจของเขา

   อ๊อด! อ๊อดดดดด!

   สัญญาณกริ่งดังขึ้นที่ประตูคอนโดดึงผมให้ออกจากภวังค์ความคิดจนผมสะดุ้ง แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังนั่งอยู่อย่างเฉยเมยที่ปลายเตียง ไม่ได้คิดจะลุกไปเปิดประตูอะไร เพราะผมยังไม่อยากเจอใครทั้งนั้นในตอนนี้

   อ๊อดดดดดดดดดดด!

   ถ้าคนมาเยือนคิดว่าผมไม่อยู่ เขาคงจะไปเองแหละมั้ง

   ปังๆๆๆ!

   “พิณ! พิณ!” ผมสะดุ้งตัวอีกรอบหลังจากได้ยินเสียงที่ดังมาจากหน้าประตูอีกฝั่งของกำแพง เสี้ยววินาทีนึงผมคิดว่าคนที่ผมเจอในร้านกาแฟวันนี้จะมาหาผมที่คอนโด แต่แล้วผมก็จำได้ว่าน้ำเสียงแบบนี้ไม่มีทางเป็นเขาคนนั้น และเขาเองก็ไม่ได้รู้ที่อยู่ผม

   ทันทีที่ผมตระหนักได้ว่าคนที่อยู่หน้าประตูคือใคร ผมก็รีบลุกไปเปิดไฟ ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้กลายเป็นปกติ แล้วเดินไปเปิดประตู

   “ทำไมมาเปิดประตูช้านัก” ร่างหนาที่ยืนอยู่หันมามองหลังจากที่ผมเปิดประตูออกไปแล้วเห็นภาพเขากำลังถือคีย์การ์ดจะสแกนเข้าห้องเพราะรอผมนานเกินไป “นึกว่าเป็นอะไร”

   “ผมไม่ได้เป็นอะไรนี่ ทำไมเฮียไม่แตะบัตรเข้ามาเลยล่ะ กดออดทำไม” ผมถาม

   “บัตรอยู่ในกระเป๋า ขี้เกียจล้วง” คนตรงหน้าตอบพร้อมเลิกคิ้วขึ้น “เมื่อกี้มึงทำอะไร ทำไมไม่รีบมาเปิดประตู”

   “ผม...ผมอาบน้ำอยู่”

   “หรอ...แล้วมึงจะอาบน้ำแต่งตัวออกไปไหน สองทุ่มกว่าแล้วทำไมยังใส่กางเกงยีนส์อยู่” คำถามของคู่สนทนาทำให้ผมต้องตบหน้าผากตัวเองในใจที่ดันไปโกหกกับคนจับเท็จเก่งอย่างเขา แถมสิ่งที่โกหกออกไปก็ดันไม่เนียนอีก เพราะผมยังอยู่ในชุดที่เพิ่งจะใส่ออกไปข้างนอกมา

   ‘เฮียภีม’ พี่ชายร่วมสายเลือดเพียงคนเดียวของผมมองผมอย่างจับผิดตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาเดินเชียดตัวผมเข้ามาในห้องเมื่อเห็นว่าผมไม่มีคำตอบให้ เฮียปลดกระดุมคอบนเสื้อนักศึกษาของเขาออกสองสามเม็ดเพื่อคลายร้อน แล้วหันมาหาผมที่ยืนงงๆ อยู่ตรงธรณีประตู

   “อยู่ห้องตั้งนานแล้วทำไมไม่เปิดแอร์” เฮียภีมยังไม่เลิกจับผิด

   “เอ่อ...”

   “รู้ว่าตัวเองโกหกไม่เก่ง วันหลังก็อย่าโกหก” เฮียจิ๊ปากเบาๆ แล้วมองนิ่งมาที่ผม “ไปทำอะไรให้กินหน่อย”

   “หะ...” ผมชะงักไปนิดหน่อยเพราะปรับอารมณ์ตามคนตรงหน้าไม่ทัน “อ่อ...ได้ๆ เฮียจะกินอะไรอะ”

   “อะไรก็ได้ หิว”

   “ได้ รอแป๊ป” ผมกล่าวก่อนจะเดินหันหลังเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว เสียงฝีเท้าเฮียภีมบ่งบอกว่าเขากำลังพาตัวเองไปนั่งอยู่แถวโซฟาหน้าทีวี

   ผมแอบโล่งใจนิดหน่อยเมื่อเห็นว่าเฮียภีมไม่สงสัยมากเกี่ยวกับการโกหกในครั้งนี้ ผมจัดแจงเอาของสองสามอย่างออกมาจากตู้เย็น ว่าจะทำหมูทอดง่ายๆให้เฮียแกน่ะครับ เนื่องจากว่าตู้เย็นของผมในตอนนี้มีของอยู่ไม่กี่อย่าง คงจะทำเมนูที่เลิศเลอไปกว่านี้ไม่ได้มาก แถมเฮียภีมเองก็บอกอยู่ว่าหิว คงไม่อยากจะทนรออะไรนานๆ

   พี่ชายของผมนั่งดูทีวีอยู่เงียบๆ ขณะที่ผมกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ในครัว เมื่อก่อนผมอยู่คอนโดนี้สองคนกับเฮียภีมครับ ส่วนพ่อแม่เเราทำงานเกี่ยวกับมูลนิธิเพื่อช้างไทยอยู่ทางภาคเหนือ พวกเราสองพี่น้องย้ายมาอยู่กรุงเทพกันเพราะเหตุผลบางประการเมื่อสองปีที่แล้ว ตอนนั้นผมกำลังจะขึ้นมอสี่ ส่วนเฮียภีมที่โตกว่าผมอยู่สองปีก็ต้องย้ายลงมาที่นี่กลางคันทั้งๆที่อีกปีเดียวแกก็จะจบมอปลาย

   แต่ตอนนี้เฮียแกย้ายออกไปอยู่หอแล้วครับเพราะมหาลัยที่แกเรียนอยู่ไกลจากตัวคอนโดเกินไป(แบบคนละฟากของเมืองเลยทีเดียว) ส่วนผมก็ยังต้องอยู่คอนโดเพราะว่ามันใกล้โรงเรียน เฮียภีมจะแวะมาเยี่ยมเยียนผมบ้างตามจังหวะที่แกว่าง แต่เห็นช่วงนี้แกบอกว่ายุ่งๆ เพราะต้องอยู่ซ้อมดนตรีให้กับงานมหาลัย ผมเลยงงๆนิดหน่อยที่เฮียแกโผล่มาวันนี้

   “เฮีย เสร็จแล้ว” ผมเรียกพี่ชายตัวเองหลังจากที่ทำอาหารและจัดโต๊ะเสร็จ ร่างสูงหันไปกดรีโมทปิดทีวีก่อนจะเดินมานั่งเก้าอี้ตรงอีกฝั่งนึงของโต๊ะกินข้าว “ทำแค่นี้นะ ไม่มีของ”

   “อือ” เฮียตอบรับแล้วลงมือกินข้าวอย่างไม่รีบร้อน

   ...นี่หิวจริงหรือเปล่าวะ

   “เฮียมาหาผมทำไมละ งานดนตรีที่มอมันอีกสองวันไม่ใช่หรอ ไม่ซ้อมหรือไง” ผมชวนคุยในขณะที่ยังไม่ลงมือกินอะไร เอาจริงๆมันก็กินไม่ลงเท่าไหร่ เพราะถึงผมจะพยายามทำตัวปกติอย่างไร ความรู้สึกไม่ดีจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเย็นนี้ก็ยังคงติดอยู่ในใจของผม

   “ไลน์หาทำไมไม่ตอบ โทรไปทำไมไม่รับ”

   “ก็ผม...”

   “นี่...” เฮียภีมเอ็ดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “อย่าโกหก”

   เพราะเฮียแกบอกมาอย่างนั้น ผมก็เลยเงียบปาก

   “ไอ้เกล้าโทรมาหาเฮีย บอกว่ามึงทำตัวแปลกๆ เมื่อเย็นนี้” พี่ชายของผมถอนหายใจก่อนจะวางช้อนส้อมลงแล้วพูดขึ้น “หลังจากที่ได้เจอเพื่อนมัน”

   เฮียเว้นจังหวะพูด ผมเว้นจังหวะหายใจ

   “ที่ชื่อว่าเต”

   คำพูดของคนตรงหน้าทำให้ผมเผลอกำมือที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างไม่รู้ตัว ผมหลบตาเฮียภีมทันทีที่ได้ยินชื่อนั้นออกมาจากปากเขา ใจของผมเต้นแรงขึ้นหนึ่งชั่วขณะเมื่อเฮียทำเหมือนจะเดาเรื่องออกแล้ว

   “ใช่ ไอ้เต เตชภณหรือเปล่า”

   ผมเงียบ ก้มหน้า ไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตาหรือกลืนน้ำลาย

   “พิณ” เฮียภีมเรียกผมอีกรอบ

   “ใช่” ผมกลั้นใจตอบออกไป บรรยากาศในห้องยังคงเงียบสงัด ผมเงยหน้าแล้วสบตากับเฮียภีม ก่อนจะพูดขึ้นเพื่อยืนยันคำตอบอีกรอบ “ใช่เฮีย เต...เตชภณ”

   “มันคือคนที่จะมาจ้างมึงติว?” เฮียภีมเลิกคิ้วขึ้นถาม

   “ใช่”

   “บังเอิญไปนะ” ร่างสูงแค่นหัวเราะ “มันรู้หรือเปล่าว่ามึงเป็นคนที่จะไปสอนมัน”

   “ผมไม่รู้” บทสนทนาของเราสองคนเงียบลงอีกครั้งหลังจากที่ผมตอบออกไป เฮียภีมเอนตัวลงกับพนักเก้าอี้ เขายกแขนขึ้นกอดอกแล้วจ้องหน้าผม จนผมทำหน้าไม่ถูก

   “เอาตรงๆนะ ตอนนี้รู้สึกยังไง”

   “ก็ช็อคนิดหน่อย” ผมตอบ “แต่เดี๋ยวก็หายช็อค”

   “พิณ” เฮียเรียกชื่อผมก่อนจะถอนหายใจ “ถ้ามันจะหาย มันหายไปตั้งนานแล้ว”

   “เฮียไม่ต้องเป็นห่วงหรอก หลังจากนี้ผมคงไม่ได้เจอมันอีก” ผมพูดตอบเฮีย และพยายามปลอบใจตัวเองไปในขณะเดียวกัน เฮียภีมเงียบไปอีกครั้ง ผมว่าแกคงกังวลและเป็นห่วงผมอยู่ไม่น้อย “มันไม่มีอะไรแล้วแหละเฮีย”

   “ให้กูกลับมาอยู่คอนโดเป็นเพื่อนมั้ย”

   “ไม่เป็นไร ผมอยู่ได้” ผมรีบปฏิเสธไปทันควัน เพราะการให้พี่ชายผมขับรถไปกลับที่มอกับคอนโดนี่มันก็ไม่ต่างอะไรกับฆ่าแกทางอ้อมเลยสักนิด

   “ถ้ามันแย่จนมึงรู้สึกอยากกลับไปหาหมออีก มึงต้องบอกกูนะ”

   “ฮะๆ” ผมหัวเราะแกนๆ “มันไม่ขนาดนั้นหรอก”

   “แล้วแต่” ร่างหนาพยักหน้ารับก่อนจะลงมือกินข้าว ผมก้มหน้าลงกินอาหารตรงหน้าบ้างเพื่อไม่ให้เฮียเห็นว่าผมรู้สึกแย่กว่าที่แสดงออกอยู่ เพราะไม่เช่นนั้นเฮียคงต้องมาเป็นห่วงผมอีกยกใหญ่แน่ๆ

   อาการของผมดีขึ้นแล้ว...ผมมั่นใจ

   ผมกินข้าวหมดก่อนเฮียภีมเพราะผมตักข้าวมาน้อยกว่าแกมาก ผมลุกขึ้นเพื่อเอาจานข้าวของตัวเองไปเก็บไว้ในซิงค์ ทิ้งจานเอาไว้ในกรณีที่เฮียมีอารมณ์อยากจะล้าง แต่ถ้าแกไม่ล้าง ผมก็ค่อยกลับมาล้างพรุ่งนี้ตอนเย็น

   “เฮีย ผมไปอาบน้ำนอนแล้วนะ” ผมพูดขึ้นในขณะที่เดินผ่านหลังเขา ร่างหนาพยักหน้ารับในขณะที่กำลังกินข้าวพร้อมเช็คโทรศัพท์ในมือตัวเองไปด้วย

   “เดี๋ยวก่อน” เสียงเรียกที่บอกอารมณ์ไม่ถูกของเฮียภีมหยุดการเคลื่อนไหวของผมเอาไว้ แต่เฮียแกก็พูดต่อก่อนที่ผมจะได้ตอบรับอะไร “ถ้าข้างในนั้นมันแย่มาก มึงแสดงออกมาบ้างก็ได้ ไม่ต้องมาทำตัวปกติให้กูสบายใจ นี่กูเฮียมึงนะ มึงบอกกูได้ทุกเรื่อง”

   “อา...” ผมก้มหน้า ปั้นยิ้ม ก่อนหันไปหาพี่ชายตัวเอง “รู้แล้วน่ะเฮีย”

   

   คืนนั้น เวลา 2.14 น.

   ติ้ง!

   TAE.CP added you by LINE ID

   ติ้ง!

   TAE.CP: กูอยากเจอมึง (2.16 น.)




..............................................................................



คนเขียนขอเม้าท์: สวัสดีผู้อ่านที่(อาจจะหลง)เข้ามาทั้งหลายนะคะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บ้าน #เตคนเล่นพิณ ของเราค่ะ เห็นทั้งบทนำทั้งบทแรกมาแนวดราม่าแบบนี้ คนเขียนอยากจะบอกว่านิยายเรื่องนี้คนเขียนตั้งใจให้เป็นนิยายแนวเด็กมัธยมจีบกันใสนะคะ(หรอ) มีอะไรก็ฝากติชมด้วยแล้วกันเนอะ เพราะคนเขียนไม่ได้จับงานทางด้านนี้มานานมากแล้วจริงๆ รูปแบบกระทู้นี่ก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าที่ทำมาถูกแล้วหรือเปล่า ฝากสอน ฝากติ ฝากชมกันด้วยนะคะ
ปล.ที่อยากรู้อีกเรื่องนึงคือ chapter one ของเรามันสั้นไปมั้ยอะคะ กะไม่ถูกจริงๆ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-05-2017 02:44:45 โดย Red_Enchanted »

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
น่าสนใจค่ะ รอติดตาม
ไม่รู้ว่าเตจะผิดจริงหรือเปล่า
แต่ผลจากเหตุการณ์นั้นดูเหมือนจะทำให้น้องพิณอาการแย่ไม่น้อยเลยนะคะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ pearlypear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หวาาาา อยากอ่านอีกนะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
อยากอ่านต่อเลยแล้วแบบนี้จะได้ไปเรียนต่อเมืองนอกมั้ยเนี่ย เจอเจ้ากรรมนายเวรแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เจ้ากรรมนายเวรเลยแฮะ

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ชอบชื่อเรื่อง 55555  :hao6:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เจ้ากรรมนายเวรติดตามมาแบบนี้ จะได้ไปเรียนนอกไหมอ่ะ  :mew5:

ออฟไลน์ pktherabbit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เปิดเรื่องมาได้ใสๆ มาก 555 เราชอบ
เขียนดี ชวนติดตาม ไม่รู้ว่าเตเอาไอดีไลน์มาจากเกล้าด้วยวิธีไหน แต่ถ้าเกล้าให้เองโดยไม่รอพิณอนุญาต เป็นเรา เราเท ตัดเพื่อนอ่ะ อาจแรงไป แต่เพื่อนสนิทที่หวังดีแบบไม่เข้าใจเราจริงๆ ไม่จำเป็นต้องมี เราเซนซิทีฟเรื่องนี้บอกเลย เพิ่งจะตอนแรกเอ๊งงง นี่ก็ออกตัวแรงละ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2017 21:08:23 โดย pktherabbit »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ kkmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ Red_Enchanted

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2

CHAPTER TWO

- And one day, your name didn’t make me smile anymore. -


   “พิณ...คืนนี้กูไปค้างที่ห้องมึงนะ”
   “มึงจะได้ช่วยติวสังคมให้กูไง”


   “ไอ้พิณ ตื่นไปโรงเรียนได้แล้ว”

   “ที่ใจกูเต้นแรงขนาดนี้ มันยังปกติอยู่หรือเปล่าวะ”

   “พิณ” เสียงเรียกชื่อผมดังขึ้นพร้อมแรงกระชากสิ่งที่ห่อหุ้มกายทำให้ผมลืมตาขึ้นมาอย่างงงงวย ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ก่อนจะหรี่ตาลงเพื่อปรับสายตาให้มันคุ้นชินกับแดดในยามเช้า ถ้าให้เดาตอนนี้สีหน้าของผมคงจะบอกบุญไม่รับมากแน่ๆ เนื่องจากถูกปลุกแบบกระทันหันไปหน่อย

   “ไม่เห็นต้องกระชากผ้าห่มขนาดนั้นเลยเฮีย” ผมบ่นง่วงพลางปรือตามองเฮียภีมที่บัดนี้ยืนจับผ้าห่มอยู่ ร่างหนาข้างเตียงใช้อีกมือที่ไม่ได้จับผ้าถือแก้วกาแฟร้อน ทำให้ผมนึกสงสัยว่าไอ้ที่กระชากผ้าห่มผมออกแรงๆเนี่ย มันไม่ไปกระทบกระเทือนอะไรที่จะทำให้กาแฟกระฉอกบ้างเลยหรือ

   “กูปลุกหลายรอบแล้วมึงไม่ยอมลุก” เฮียถอนหายใจเฮือกใหญ่ “มัวแต่นอนฝันอะไรอยู่ล่ะ”

   ฝันหรอ...

   “เปล่า” ผมตอบปฏิเสธ ก่อนจะมองไปรอบๆ ตัว “เฮียเห็นโทรศัพท์ผมมั้ย”

   “เมื่อคืนเห็นอยู่ที่โซฟา ป่านนี้แบตหมดไปแล้วมั้ง” ผมพยักหน้ารับคำตอบ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงอย่างคนไม่เต็มตื่น แล้วเดินไปเอามือถือที่โซฟาถามคำบอกของเฮีย พอเอามากดเช็คดูแล้วก็เห็นว่ามันแบตหมดจริงอย่างที่เฮียแกว่า ผมถอนหายใจออกอย่างหัวเสีย หลังจากนั้นก็เดินเอามือถือไปเสียบชาร์ต “มึงไปอาบน้ำแต่งตัวเลย วันนี้มึงต้องไปโรงเรียน”

   “ไปทำไม” ผมหันไปถามคู่สนทนาเพราะสงสัย ร้อยวันพันปีเฮียแกไม่เคยจะเคี่ยวเข็ญให้ผมไปโรงเรียน เพราะแกรู้ว่าอย่างผมเนี่ยมันคนฉลาดเป็นธรรมชาติ ต่อให้ไม่เข้าเรียนก็สี่หมดทุกตัวอยู่ดี (ไม่ได้หลงตัวเองนะครับ อันนี้เฮียภีมเคยพูดเอาไว้เอง)

   “ระวังหมดสิทธิ์สอบ” เฮียปาผ้าขนหนูใส่หน้าผม “วันนี้กูไม่อยากให้มึงอยู่คอนโดคนเดียว เดี๋ยวคิดมากอีก”

   “แต่ว่า...”

   “รีบไปอาบน้ำ เดี๋ยวกูไปส่ง”

   “เออๆ ก็ได้” ผมเถียงเฮียแกไม่เคยชนะหรอกครับ ส่วนมากเพราะผมไม่ค่อยกล้าหือกับเฮียเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้น มันก็เป็นคนอยู่ดูแลผมมาตลอด ขาดบ้างเกินบ้างแต่ก็ไม่เคยไปไหน ผมเอาผ้าขนหนูพาดบ่า ก่อนจะเดินไปเก็บเตียงลวกๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา




   TAE.CP: กูอยากเจอมึง (2.16 น.)

   “วันนี้กูมีซ้อมใหญ่ กลับไม่ได้ มึงอยู่ได้หรือเปล่า”

   …อยากเจองั้นหรอ

   “ไอ้พิณ”

   “หะ...” ผมละสายตาจากข้อความตรงหน้าไปหาคนที่ขับรถอยู่ “เมื่อกี้เฮียว่าไงนะ”

   “กูบอกว่าคืนนี้กูไม่กลับ มึงอยู่คนเดียวได้มั้ย” เฮียถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าปกตินิดหน่อยพลางหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าซอยโรงเรียนผม “เดี๋ยวกูโทรขอพ่อแม่ไอ้เกล้า ให้มันมานอนเป็นเพื่อนมึงดีกว่า”

   “เฮีย ผมโอเค ไม่ต้องเป็นห่วง” ผมพูดออกไปทั้งๆที่ยังกำโทรศัพท์ในมือแน่น ไม่กล้ามองลงไปที่หน้าจออีกครั้งเลยด้วย เพราะข้อความของคนๆนั้นทำให้หัวใจของผมเต้นผิดจังหวะอย่างควบคุมไม่อยู่จนผมไม่กล้าอ่านซ้ำ “ผมจะไม่คิดมาก”

   เฮียภีมเหลือบตามามองแต่ไม่ได้พูดอะไร ผมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปยิ้มกับคู่สนทนาแล้วพูดขึ้น “พิณคนเก่ามันตายไปตั้งแต่สามปีที่แล้วแล้วเฮีย”

   “เออ...กูเชื่อใจมึงนะ” ร่าหนาเอ่ยขึ้นเมื่อรถจอดเทียบฟุตบาท ผมหันไปสวัสดีพี่ชายตนเอง ก่อนจะลงจากรถแล้วเดินเข้าสู่รั้ว ‘ญาดาพิวัฒน์’ โรงเรียนมัธยมชั้นแนวหน้าของเมืองไทยที่พ่อแม่จัดแจงเอาผมมาฝากฝังเอาไว้ตั้งแต่ขึ้นมอสี่

   ผมไม่ได้สอบที่นี่ไม่ติดหรอกครับ แต่ไม่ได้สอบเลยต่างหาก เพราะว่าตอนช่วงที่โรงเรียนนี้เปิดสอบผมยังไม่ได้มีความคิดที่จะย้ายเข้ามาในกรุงเทพเลย และแม้ว่าครูบางคนจะดูถูกผมในช่วงแรกที่ผมเข้ามา เพราะความเป็นเด็กเส้น แต่ผมก็ได้พิสูจน์ความสามารถให้พวกเขาเห็นด้วยการกวาดสี่เรียบตั้งแต่เทอมแรกทั้งๆที่ผมเกเร ไม่ค่อยได้เข้าเรียน ทางฝ่ายวิชาการเขาก็อยากให้ผมไปสอบแข่งขันนอกสถานที่อะไรแบบนี้นะ แต่ผมปฏิเสธไปครับ เพราะผมไม่อยากได้รางวัลอะไร ผมอยากให้เด็กคนอื่นๆที่อยากไปแข่งจริงๆได้ไปมากกว่า

   บรรยายกาศยามเช้าในโรงเรียนดึงความสนใจของผมออกจากข้อความที่ผมเพิ่งเห็นไปได้ช่วงหนึ่งแต่ก็ไม่นานนัก ผมหยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาจากกระเป๋ากางเกง จ้องหน้าจอที่มืดสนิทอยู่อย่างนั้น ลังเลว่าจะเปิดอ่านข้อความย้ำอีกรอบดีมั้ย แต่ในระหว่างที่ผมกำลังตัดสินใจอยู่นั้นเอง...

   ติ้ง!

   TAE.CP: อ่านแล้วก็ตอบดิ (7.48 น.)

   หน้าด้าน...

   ทำกับกูไว้ขนาดนั้นแล้วยังมาเรียกร้องความสนใจอะไรอยู่อีก

   แม้จะคิดเอาไว้แล้วว่าผมคงไม่มีทางได้กลับไปติดต่อหรือพบเจออะไรกับคนๆนั้นอีก

   แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าก้อนเนื้อที่อยู่ในอกด้านซ้ายของผมมันเต้นแรงขึ้นมาหลังจากเห็นข้อความที่เขาส่งมาหา

   อย่านะ...พิณ

   เขาใจร้ายแค่ไหน มึงเองนั่นแหละที่รู้ดีที่สุด

   ป้าบ!

   “ไอ้ภัทร! เมื่อวานกูทั้งโทรทั้งไลน์หา ไม่ยอมตอบอะไรกูสักอย่าง กูนึกว่ามึงตายไปแล้วนะเนี่ย!” การปรากฎตัวของไอ้เกล้ามักมาพร้อมกับแรงหนักๆที่กบาลผมครับ ส่วนครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะหันไปมองเจ้าตัวแบบไม่สบอารมณ์

   “มึงก็โทรไปฟ้องเฮียกูแล้วนี่” พูดจบ ผมก็เร่งฝีเท้าเดินหนี

   “เอ้า! ไอ้ห่านี่ กูเป็นห่วง”

   “เป็นห่วงหรืออยากเสือก” ผมยกนิ้วชี้ขึ้นคาดโทษมัน ก่อนจะนึกถึงเรื่องบางอย่างออก “มึงใช่มั้ยที่เอาไลน์กูไปให้มัน”

   “ให้ใคร” ไอ้เกล้าทำหน้างุนงงไปชั่วประเดี๋ยวหนึ่ง หลังจากนั้นก็ตบมือดังลั่นเมื่อรู้ว่าผมพูดถึงเรื่องอะไร “ไอ้เตอะนะ?”

   “ใช่” ผมตอบในขณะที่ก้าวขาขึ้นบันได “ใครอนุญาต”

   “อ้าว ก็มันตื้ออ่ะ อีกอย่าง...กูก็บอกมึงไปในไลน์แล้วนี่”

   “แต่กูยังไม่ได้อนุญาต” คนที่เดินตามหลังผมมาส่งเสียงอึกอักเถียงไม่ออก ก่อนจะเงียบปากไป ที่จริงแล้วผมไม่ได้อยากจะหงุดหงิดใส่มันหรอกนะ และผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร ทำไมต้องไปพาลลงไอ้เกล้ามันด้วย ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้รู้เรื่องอดีตที่ผ่านมาของผม

   …ผมไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้เลย

   “ช่างเหอะ” ผมพูดออกไปอย่างปลงๆ ก่อนจะชะงักการก้าวขาแล้วหันไปมองไอ้เกล้า แล้วเอ่ยถึงคำถามบางอย่างที่ค้างคาใจผมอยู่ “มึงไปรู้จักมันได้ยังไง”

   “ไอ้เต?” มันถามผมย้ำราวกับว่ากำลังกวนประสาท แต่ถึงกระนั้นไอ้เกล้าก็ไม่ได้ใช้เวลานานที่จะตระหนักได้ว่ามันควรเลิกกวนตีน แล้วตอบคำถามของผมอย่างจริงๆจังๆเสียที “เพื่อนของเพื่อนที่คอร์ดแบด หลังๆก็มาตีแข่งกันบ้างอะ ทำไมหรอ”

   “เล่นด้วยมานานหรือยัง” ผมถามขึ้นพร้อมหันหน้ากลับมาก้าวขึ้นบันได้ต่อ

   “ไม่นะ เพิ่งรู้จักได้สองสามอาทิตย์เอง” ไอ้เกล้าตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆขึ้น “มึงมีปัญหากับมันมาก่อนใช่มั้ย ถึงไม่ยอมสอนมันอะ”

   มีปัญหาหรอ...

   หึ...มีมากกว่าที่มึงจะจินตนาการออกเลยแหละ

   “อ้าว มาดึงเงียบใส่กูอีก” เพื่อนผมเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าผมไม่ตอบ

   “แล้วมันรู้มาก่อนมั้ยว่ากูเป็นคนที่จะไปสอนมัน” ผมหลีกเลี่ยงการตอบโดยการถาม คนเดินตามทำเสียงฟึดฟัดนิดหน่อย ก่อนจะตอบออกมาอย่างเสียมิได้

   “ก็รู้แค่ว่ามึงชื่อภัทรแหละ” คู่สนทนาตอบพลางเร่งการเคลื่อนไหวเพื่อมาเดินอยู่ในระนาบเดียวกับผม “มึงนี่ยังไง ทำท่าทางเหมือนจะไม่ชอบมัน แต่ก็ถามเรื่องของมันไม่หยุดปากเลยนะ”

   ประโยคที่ถูกเอ่ยขึ้นมาทำให้ผมเงียบปากไปอย่างอัตโนมัติ ผมถามคำถามเดียวกันกับตัวเองในใจ แต่ไม่ว่าจะพยายามคิดเท่าไหร่ ผมก็ไม่ได้คำตอบ แต่อย่างน้อยผมก็ได้รู้มาว่าเตไม่ได้ตั้งใจอะไรที่จะมาเจอผม เพราะมันคงไม่รู้ว่าผมเปลี่ยนทั้งชื่อจริงชื่อเล่นและนามสกุลไปแล้ว แต่ถึงจะรู้ มันก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่านามสมมติเหล่านั้นถูกเปลี่ยนไปเป็นอะไรจนกระทั่งเมื่อวาน

   เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่ความบังเอิญเท่านั้น

   …และคงจะไม่เกิดซ้ำรอยอีก

   “เปล่าหรอก ไม่มีอะไร”




   วันนี้ทั้งวันผมใช้เวลาอยู่แต่ในห้องเรียนครับ เพื่อนในห้องรวมถึงไอ้เกล้ามีท่าทีแปลกใจกันนิดหน่อย ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าผมไม่ได้ออกไปเข้าห้องน้ำหรือลงไปทานอาหารนะ แต่ผมพูดถึงว่าผมไม่ได้โดดเรียนไปไหนเท่านั้นเอง เพราะโดยปกติแล้วผมจะชิ่งไปอยู่ห้องอังกฤษซึ่งช่วงนี้ถูกน้องมอห้าจับจองเพื่อซ้อมละครเวทีของโรงเรียนกันอยู่ครับ โดยมีข้ออ้างว่าผมต้องไปช่วยผู้กำกับทางนั้น เนื่องจากผมเป็นคนเขียนบท อาจารย์จะได้ไม่เช็คขาด

   ผมก็ยังงงๆตัวเองอยู่ ว่าทำไมวันนี้ตัวเองถึงอยู่ห้องเรียนได้ทั้งวัน

   “ภัทร วันนี้มึงจะไปดูหนังกับพวกกูป่ะ”

   ‘มะนาว’ เพื่อนที่นั่งด้านหน้าหันมาถามทันทีที่สัญญาณบอกเลิกเรียนดังขึ้น จริงๆแล้วไอ้มะนาวเนี่ยเป็นผู้ชายทั้งแท่งนะครับ แต่สาเหตุที่ชื่อมันออกผู้หญิงจ๋าแบบนี้ก็เพราะว่าพ่อแม่ยกให้พี่สาวมันเป็นคนตั้งให้ เวรกรรมก็เลยมาตกอยู่ที่มันที่ต้องใช้ชื่อนี้ไปทั้งชีวิต

   “ไม่ว่ะ ว่าจะกลับบ้านเลย การบ้านที่ต้องส่งพรุ่งนี้กูก็ยังไม่ได้ทำ” ผมพูดพลางกวาดห้องที่อยู่บนโต๊ะทั้งหมดลงกระเป๋า แต่ก็ไม่วายหันไปมองตาเขียวใส่ไอ้เกล้า “ถ้าจะโทษใครก็ต้องเป็นไอ้ห่านี่แหละ จารย์สั่งมาเป็นอาทิตย์แล้วเพิ่งมาบอกกู”

   “อ้าว...กูก็มีลืมบ้างอะไรบ้างปะวะ มึงควรโทษตัวเองนะไอ้ภัทรที่ไม่ยอมเข้าเรียนเอง เลยไม่รู้ว่าจารย์เขาสั่งอะไร” ไอ้เกล้าหันมาโวยใส่ผม ผมหยุดต่อปากต่อคำกับมันในเมื่อสิ่งที่เพื่อนพูดเป็นความจริง เถียงไปก็เสียเวลา

   ไอ้เกล้าเลิกถามผมเรื่องของเตแล้วครับ เพราะผมบอกจะเลิกให้บัตรประชาชนปลอมของเฮียภีมที่มันมายืมผมบ่อยๆเพื่อไปเข้าผับ หากมันยังเอ่ยปากถามอะไรเรื่องเตอีก มันเลยยอมหุบปากไป เพราะปกติแล้วไอ้เกล้าเป็นคนช่างซักครับ พูดมากพอๆกับผมนี่แหละ ต่างกันตรงที่มันจะพูดเรื่องของคนอื่นเยอะหน่อย

   ผมสามคนเดินออกมาจากโรงเรียน ไอ้เกล้ากับไอ้มะนาวแยกออกจากผมทันทีเพราะพวกมันจะไปดูหนังกัน พอดีว่าโรงเรียนของผมมันอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้ามาก นั่งวินมอไซค์ไปอึดใจเดียวก็ถึง ส่วนผมก็มายืนรอที่ป้ายรถเมล์เพื่อรอรถประจำทางสายที่ผมต้องนั่งก่อนจะลงเพื่อต่อรถไฟฟ้า

    …

   ความรู้สึกราวกับถูกใครบางคนกำลังจ้องมองทำให้ผมต้องเหลียวไปกวาดตาดูกลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังแต่ก็พบว่ามันไม่มีอะไร ผมถอนหายใจออกมาหนักๆ เมื่อตระหนักได้ว่าตนคงคิดมากไปเอง

   รอไม่นานนักรถประจำทางสายที่ผมรอก็มาจนเทียบฟุตบาท ด้วยความที่ผมยืนอยู่หน้าป้าย ผมจึงถูกดันให้เข้าไปในรถเมล์ก่อน โชคดีที่จำนวนคนไม่เยอะมาก ผมก็เลยไม่ถึงขั้นที่ต้องยืนเบียดกับใคร

   ติ้ง!

   เสียงข้อความเข้าจากโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงดังขึ้น ผมเอี้ยวตัวไปหยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาอย่างทุลักทุเลเพราะกระเป๋าก็ต้องถือ เสารถก็ต้องจับ โทรศัพท์ก็ต้องดู

   เป็นเรื่องจำเป็นครับ...เผื่อว่าเป็นเฮียภีมไลน์มาเช็คแล้วผมไม่ตอบ เฮียแกจะเกิดอาการแพนิคเอาได้

   TAE.CP: ถ้าไม่ตอบกูจะไปหานะ (15.45 น.)

   …

   …เต
   
   “โรคจิตหรือเปล่าเนี่ย” ผมพรึมพรำกับตัวเองเบาๆหลังจากที่อ่านข้อความจบ ก่อนจะคิดไปเองว่ามันไม่มีทางหาผมเจอหรอก ที่อยู่อะไรก็ไม่มี ชื่อเสียงเรียงนามอะไรผมตอนนี้มันก็ไม่รู้ ผมเรียนที่หนะ...

   ...เดี๋ยวนะ

   ไม่ใช่มันรู้ว่าผมอยู่โรงเรียนไหนแล้วหรอกหรือ!

   นัยน์ตาผมเบิกกว้างทันทีเมื่อนึกได้ถึงข้อสำคัญข้อนี้ คิดแล้วอยากจะเอาหัวตัวเองโขกเสารถเมล์สักสองสามทีโทษฐานที่เผลอลืมอะไรสำคัญๆแบบนี้ไปเสียได้ เตมันรู้จักกับไอ้เกล้าได้สองสามอาทิตย์แล้ว คงไม่แปลกหรอกหากพวกมันจะถามไถ่กันว่าเรียนที่ไหนอะไรยังไง

   ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดจนคนข้างๆผมสะดุ้งเบา

   เอาเถอะ...อย่างไรเสียผมก็ขึ้นรถเมล์มาแล้ว มันคงตามผมไม่เจอหรอก อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่วันนี้

   ทั้งนี้...ผมไม่ก็คิดหรอกว่ามันจะมีความพยายามในการตามหาผมอย่างที่มันส่งข้อความมาบอก โรงเรียนเธียรวิทย์อยู่ตั้งไกล ถึงจะเป็นโรงเรียนดังมีแต่ลูกคุณหนูอย่างไรแต่ก็อยู่เสียเกือบนอกเมือง ไอ้เตคงไม่มีอารมณ์นั่งรถมาไกลๆเพื่อพบคนที่ไม่เจอกันมาตั้งหลายปีอย่างผมเป็นแน่

   ผมก้าวลงจากรถประจำทางเมื่อมาถึงที่หมาย ก่อนจะเดินขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อแตะบัตรไปขึ้นรถไฟฟ้า ผมถือโทรศัพท์อยู่ในมือหลังจากที่ได้อ่านข้อความนั้นอยู่ตลอดเวลาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมยังไม่เก็บมันใส่กระเป๋า แค่ยังไม่อยากเก็บ

   รอไม่นานครับ ขบวนรถไฟฟ้าก็จอดเทียบสถานี ตอนนี้คนยังไม่เยอะมากเพราะพนักงานออฟฟิคส่วนใหญ่ยังไม่เลิกงาน จะมีมากก็พวกนักเรียนนักศึกษา ผมก้าวไปในรถไฟฟ้า ก่อนจะเดินเข้าไปจับจองที่ยืนบริเวณประตูอีกฝั่ง

   อากาศเย็นในตัวขบวนทำให้ร่างกายผมเย็นขึ้น แต่มันก็เป็นเพียงแค่ร่างกาย หากพูดถึงภายในจิตใจแล้วมันอุ่นๆร้อนๆเหมือนมีใครเอาไฟอ่อนมาแนบอยู่ ผมถอนหายใจก่อนจะเปิดดูข้อความที่เตส่งมาอีกครั้ง

   …ผมจะทำยังไงดี

   “ตอบเถอะพิณ คนส่งเขารออยู่นะ”

   !!!

   สมองของผมว่างเปล่าไปทันทีเมื่อตระหนักได้ว่าเจ้าของประโยคเมื่อครู่เป็นใคร ลมหายใจของใครอีกคนที่เป่ารดบนหัวทำให้ผมรู้ได้ว่าเสียงพูดนั้นมาจากเขาจริงๆ และผมไม่ได้หลอนไปเองอย่างที่ผ่านมา

   …ผมไม่กล้าแม้จะเงยหน้าขึ้นไปมองด้วยซ้ำ

   “พิณ” ชื่อเรียกพร้อมน้ำเสียงอันคุ้นเคยดังข้างหูอีกครา แต่ผมก็ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงเช่นเดิม อยู่อย่างนั้นเป็นนาทีๆ “จะไม่เงยหน้ามาคุยกันหน่อยหรอ”

   บ้าจริง...ผมคิดอะไรไม่ออก

   คิดไม่ออกเลยสักอย่าง

   !!!

   ผมสะดุ้งตัวโหย่งอีกครั้งเมื่อคนที่พูดอยู่ด้านข้าง ลดหน้าลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหน้าผมแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง “มึงไปอยู่ที่ไหนมา”

   แม้จะมีรอยยิ้มแต่งแต้มที่มุมปาก แต่แววตาอันสั่นไหวและน้ำเสียงที่เศร้าสร้อยของเขา บ่งบอกถึงความหมายบางอย่างที่ถูกแฝงไว้ในประโยคนั่น ประโยคคำถามที่ว่า ‘ผมไปไหนมา’

   ความรู้สึกที่ถูกส่งผ่านมานั้นทำให้ผมปวดใจ

    การได้เห็นหน้าเตอีกครั้งในระยะที่ใกล้ขนาดนี้มันไม่ดีต่อใจผมเลยสักนิด ผมเม้มปากแน่นก่อนจะเสตามองไปทางอื่น ผมทำอะไรไม่ถูก...การได้เจอคนที่เคยทำร้ายผมอย่างแสนสาหัส แต่ตอนนี้เขากลับมาเริ่มบทสนทนากับผมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมควรจะต้องทำตัวยังไงหรอ

   ยิ่งคนๆนั้นเป็นคนที่ผม....

   [ สถานีต่อไป สถานีเอกมัย, โดยประตูรถจะเปิดทางด้านขวา Next station Ekkamai, doors will opened on the right hand side of the train. ]

   “ขอโทษนะ” และในที่สุดผมก็หาเสียงตัวเองเจอ

   ผมเงียบไปเสี้ยววินาทีนึง ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง “ขอทางด้วย” เมื่อพูดจบ ผมก็เดินอ้อมผ่านเตไปยังประตูรถไฟฟ้าที่เปิดออกทันที

   ...เขาไม่ได้ตามออกมา...

   เหมือนเมื่อวานที่เขาไม่ได้ตามผมออกมาจากร้านกาแฟเร็วพอ...

   …เหมือนในวันนั้นที่เขาไม่ได้มาตามผมที่สนามบิน

   …เหมือนกันเลย...



   
   ผมตรงไปกดลิฟต์ขึ้นชั้นตัวเองทันทีที่ถึงคอนโด ทั้งที่จากเดิมผมคิดจะไปซื้อของมาในซูเปอร์เติมใส่ตู้เย็นแท้ๆ แต่ความรู้สึกของผมตอนนี้มันจุกแน่นไปหมดจนบรรยายออกมาไม่ถูก รู้เพียงอย่างเดียวว่าหัวใจของผมยังไม่หยุดเต้นแรงหลังจากที่ได้เผชิญหน้ากับเตบนรถไฟฟ้าเมื่อครู่ และนั่นทำให้ผมกลัว

   อย่านะ...อย่ากลับไปหวั่นไหวกับมันอีก

   อย่ากลับไปเกี่ยวข้องกับคนอย่างมันอีก

   “อ้าว! น้องภัทร!” เสียงใสของใครบางคนดังขึ้นเรียกความสนใจผมให้ออกมาจากโลกของตัวเองทันทีที่ผมเดินออกมาจากลิฟต์ ผมหันไปตามต้นตอเสียง หญิงสาวร่างท้วมวัยยี่สิบกว่าปียิ้มตาหยีมาทางผม ส่วนข้างๆตัวเธอนั้นก็มีผู้ชายวัยไล่เลี่ยกันยืนก้มๆเงยๆหลังลังกระดาษอยู่ ดูท่าทางจะยุ่งไม่เบา

   “อ้าว...พี่ครีม” ผมตอบรับคำทักทายของเพื่อนห้องข้างห้อง ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกเพื่อปรับไม่ให้สีหน้าดูแย่จนเกินไป “มาย้ายของออกหรอครับ”

   “ใช่จ้ะ นี่ก็ล็อตสุดท้ายแล้ว” คนที่เพิ่งทักทายผมพยักหน้า “จะไปเคาะห้องบอกภัทรอยู่พอดีเลยว่าจะไปแล้ว เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนหรอ”

   “อ่า...ครับ” ผมยิ้มรับ อันที่จริง ผมกับพี่ครีมก็สนิทกันนิดหน่อยแต่ไม่มาก มีคุยกันบ้างตามประสาเพื่อนข้างห้องที่อยู่ใกล้กันมาหลายปี กับข้าวกับปลาส่วนใหญ่ที่ผมทำเป็นพี่ครีมเนี่ยแหละครับเป็นคนสอน เห็นแกบอกว่ามีน้องชายวัยใกล้ๆกับผมอยู่ทางบ้านน่ะครับ เลยอดทำตามสัญชาตญาณคนเป็นพี่ไม่ได้ “มีคนติดต่อมาซื้อห้องแล้วหรอพี่”

   “มีแล้วจ้ะ สองสามราย แต่ส่วนใหญ่กดราคาพี่กันทั้งนั้นเลย ห้องนี่ซื้อมาเจ็ดหลัก พวกนั้นต่อให้ลดเป็นหกหลัก ถ้าขายแล้วขาดทุนเยอะพี่ก็คงไม่ขาย พี่ก็ไม่ได้รีบใช้เงินอะไร เออ...เกือบลืมไป” หญิงสาวตรงหน้าชะงักเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ พี่ครีมหมุนตัวเข้าห้องไปก่อนจะหยิบซองสีชมพูอ่อนจากบนลังกระดาษที่วางอยู่ไม่ไกลมายื่นให้ผม “ว่าจะให้ตั้งนานแล้ว นี่การ์ดเชิญร่วมงานแต่งพี่ อย่าลืมไปให้ได้นะ”

   นั่นแหละครับ...สาเหตุที่พี่ครีมย้ายออก

   “ได้ครับ” ผมยิ้มรับ “เดี๋ยวผมเข้าห้องก่อนนะพี่ ยังไงก็เจอกันวันแต่งพี่นะครับ”

   “จ้ะๆ แล้วเจอกัน”

   รอยยิ้มผมหายไปทันทีที่ผมหมุนตัวกลับมา ผมแตะคีย์การ์ดเข้าห้อง ทีแรกตั้งใจว่าจะมุ่งไปยังเตียงนอน แต่ก็เปลี่ยนใจกะทันหันและเดินไปที่มุมโต๊ะเขียนหนังสือ ผมเม้มปากข่มทั้งความคิดและความรู้สึกเอาไว้ข้างในใจพร้อมหยิบชีทการบ้านที่ต้องส่งพรุ่งนี้ออกมาวางบนโต๊ะ

   ถ้าไปนอนอยู่ที่เตียงก็คงไม่วายคิดเรื่องเดิมๆอีกอยู่ดี

   คิดได้เช่นนั้นแล้วผมก็จรดปากกาลงเพื่อทำการบ้าน...

   ผมพยายามไม่คิด ไม่นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาอย่างที่เคยปากดีไว้กับเฮียภีม

   แต่หากมันจะมีอะไรยากไปกว่าการบ้านฟิสิกส์ตรงหน้าแล้วละก็...

   …มันก็คงจะเป็นการทำตามสิ่งที่ผมเคยบอกกับเฮียแก

   เพราะตลอดการทำการบ้านฟิสิกส์ทั้งสามชั่วโมงของผมในครั้งนั้น

   …ผมหยุดคิดเรื่องเตไม่ได้เลย...




   23.20 น.

   พรึ่บ! พรึ่บ!

   ผมนอนไม่หลับ ทำยังไงผมก็ข่มตานอนไม่ลง ผมนอนบนเตียงมาเป็นครึ่งชั่วโมง พลิกตัวไปมาเป็นสิบๆรอบแล้วก็ยังไม่ง่วง เพราะสมองผมมันเอาแต่คิดวกวนอยู่กับเรื่องที่เจอเตบนรถไฟฟ้าวันนี้

   ให้ตายเถอะ...

   ติ้ง!

   เสียงมือถือดังแจ้งเตือนข้อความเข้าทำให้ผมต้องลืมตาหันไปมองอุปกรณ์สื่อสารเจ้าปัญหาที่ดันมาดังไม่รู้จักเวล่ำเวลา ผมคลานไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะปิดเสียงมันไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราวด้วยความเซง แต่ทว่า...

    TAE.CP: ไม่ตอบ แล้วทำไมไม่บล็อคไปล่ะ (23.21 น.)

   …

   ระ...โรคจิตจริงๆเลย!

   ผมคิดอย่างโมโหก่อนจะใช้นิ้วกดปดล็อกโทรศัพท์เพื่อพิมพ์ข้อความบางอย่างลงไป

   pPATn: อย่าท้า (23.21 น.)

   พิมพ์เสร็จผมก็จัดการปิดเสียงเจ้าเครื่องมือสื่อสาร ก่อนจะเอื้อมแขนไปวางมือถือเอาไว้ที่หัวเตียงอย่างฉุนเฉียว แล้วกลับมาข่มตานอนบนเตียง

   แต่จากที่นอนไม่หลับ...ผมก็กลับผล็อยหลับไปในเวลาไม่ถึงห้านาที

   และในการนอนครั้งนี้...

   ผมไม่ได้ฝันร้ายอะไรเลย



..................................................................................



คนเขียนขอเม้าท์: รู้สึกมั้ยว่าช่วงนี้กำลังมีคนทำตัวย้อนแย้ง  :laugh: ขอบคุณทุกเม้นท์และทุกกำลังใจนะคะ : )


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-05-2017 16:39:44 โดย Red_Enchanted »

ออฟไลน์ Saiias0005

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอค่าาา ชอบแนวนี้มากค่ะ

ออฟไลน์ sentpai

  • เพราะโลกของแต่ละคนนั้นมันไม่เหมือนกัน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกดีครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ
#อย่าหวั่นไหวง่ายๆละภัทรพิณ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อยากรู้ รายละเอียดของเต พิณ แล้ว

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อืมม นั่นสิ ย้อนแย้ง 555 ไม่อยากยุ่งก็ บล็อคๆไปซะ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เป็นแฟนเก่าที่ไม่ใช่แค่เลิกกันเพราะทะเลาะแบบมุ้งมิ้ง
แต่มันรุนแรงกว่านั้นมาก ชื่อเรื่องฮาแต่เนื้อหาซีเรียส
น่าติดตาม

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
ชีวิตยังต้องเดินต่อไป  :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
 :ling1:ตาม น่าสนใจมาก

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
อย่าบอกนะว่าตามมาข้างห้องเลย
หรือคนปล่อยคลิปจะไม่ใช่เต

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ย้อนแย้งจริงๆ แต่เรื่องคลิปนี่มันแรงมากเลยนะ เป็นเราคงแตกหักไปข้างหนึ่ง

ออฟไลน์ ppreaww

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ เปาเปา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบค่ะสู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ kamontipsaii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เตคงไม่ได้ปล่อยรูปหรอกมั้ง หรือว่าเตทำ เอ๊ะยังไง 55555555

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
เต ต้องมาอยู่ห้องพี่ครีมแน่เลย

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
หวังว่าเตจะไม่ใช่คนปล่อยคลิปนะ ไม่งั้นคงเชียร์ไม่ขึ้น

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด