┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[จบ]==
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[จบ]==  (อ่าน 293858 ครั้ง)

ออฟไลน์ Margarita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[3]==[P.2]== [13/05/60]
«ตอบ #60 เมื่อ15-05-2017 17:16:12 »

ไปอ่านอ๊อกอีกรอบ เพิ่งรู้ว่าเก้ามันหมายถึงใคร  :ling3:

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[3]==[P.2]== [13/05/60]
«ตอบ #61 เมื่อ15-05-2017 21:13:48 »

พี่ภู ผู้ชายอันตราย :hao5:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[3]==[P.2]== [13/05/60]
«ตอบ #62 เมื่อ15-05-2017 23:06:02 »

เรายอมเก้าแล้วววว ยอมแพ้ 55555555555555555555555555555

ออฟไลน์ hoihak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[3]==[P.2]== [13/05/60]
«ตอบ #63 เมื่อ16-05-2017 04:22:00 »

หลงรักเรื่องนี้!!

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[3]==[P.2]== [13/05/60]
«ตอบ #64 เมื่อ16-05-2017 21:37:07 »





-4-

 

ช่วงพักกลางวันเป็นเวลาที่บนเวทีไม่มีเสียงเพลง ทุกคนเดินไปเดินมาตามบูธเพื่อหาของกินเป็นส่วนใหญ่ ผมยืนกอดอกอยู่หน้าบูธ มองเวทีที่พวกดุริยางค์กำลังเตรียมตัวลงไปพักอย่างรอคอย แล้วพี่วินก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง พี่แกวิ่งขึ้นไปด้านบนก่อนจะกระซิบอะไรสักอย่างกับไอ้เต๊ะที่เป็นนักร้องบนเวทีคนล่าสุด ผ่านไปสักพักมันก็พยักหน้าแล้วหันมามองผมตามนิ้วที่พี่วินชี้ และอยู่ๆ พวกมันก็หัวเราะกันจนผมชักอยากจะหากระจกมาส่องหน้าตัวเอง

“ทุกท่านครับ” เต๊ะพูดออกไมค์เสียงดังจนสายตาของคนที่เดินไปเดินมาหันไปมองมัน “เนื่องจากช่วงพักเที่ยงบนเวทีจะไม่มีดนตรี ดังนั้นถ้าใครสนใจฟังดนตรีสดจากอดีตเดือนมหา’ลัยกับนักร้องอันดับหนึ่งของเรา อย่าลืมไปเยี่ยมชมบูธD01นะครับผม”

ผมชูนิ้วโป้งให้ไอ้เต๊ะจากนั้นก็ผงกหัวขอบคุณพี่วินก่อนจะหันกลับเข้ามาในบูธ และมันเป็นเวลาเดียวกับที่ไอ้เพื่อนหน้านิ่งเดินถือกีตาร์โปร่งเข้ามาหาพอดี

“ใช้งานกูอีกละ” โซบ่นแล้วหาวเสียงดัง แต่มันก็ยังเดินเข้าไปทักพี่ภูที่นั่งขมวดคิ้วอยู่แต่โดยดี

ผมให้ไอ้โซนั่งเก้าอี้ที่อยู่ข้างพี่ภู ส่วนตัวเองก็ยืนอยู่ข้างๆ พอเสียงกีตาร์เริ่มดังขึ้นคนที่มุงอยู่ด้านนอกก็เริ่มเข้ามาด้านใน…นั่นรวมถึงพวกที่ถือใบประเมินด้วย

“บูธนี้ไม่น่ากลัวนะ” ผมพูดแล้วยกยิ้ม พวกผู้หญิงที่หันมามองก็หัวเราะกันคิกคัก ไม่ตลกหน้าผมก็คงหน้าพี่ภูนั่นล่ะ

“คือว่า...ภาพพวกนี้ขายหรือเปล่าคะ” ผู้หญิงที่ติดเข็มมหา’ลัยอื่นคนหนึ่งเดินเข้ามาถาม ผมเลยหันไปมองพี่ภู พอเห็นว่าเขาพยักหน้าเลยหันมาตอบให้

“ขายครับ”

“ขายเท่าไหร่เหรอคะ”

คราวนี้พี่ภูพยักเพยิดไปที่กล่องสี่เหลี่ยมที่แขวนอยู่ด้านข้างซึ่งผมเองก็เพิ่งเห็นเหมือนกัน

“ตามกำลังศรัทธาเลยครับ” ผมยิ้มการค้าแล้วชี้ไปที่กล่อง ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้า หยิบแบงค์ร้อยหย่อนใส่กล่องและหยิบภาพสีน้ำขนาดเท่าเอสี่กลับไป

พอเริ่มมีคนนำแล้วก็มีคนตามเองโดยอัตโนมัติ ผมไม่ต้องคอยตอบคำถามอะไรอีกคนก็เริ่มตามเข้ามากันเรื่อยๆ

เสียงกีตาร์เรียบเรื่อยของโซเปลี่ยนเป็นทำนองคุ้นหู ผมเดินไปอยู่ตรงกลางระหว่างมันกับพี่ภูที่ยังนั่งลงสีภาพอยู่แล้วเริ่มร้องเพลงไปตามจังหวะ

 

“อยากบอกกับเธอว่าฉันรู้สึกต่างไปแน่นอนจากวินาทีก่อน…”

 

“วิ้ดวิ้ววว”

ผมค้อมหัวเล็กน้อยให้เสียงปรบมือกับเสียงกรีดร้องเบาๆ ของพวกผู้หญิง แต่เสียงแซวไม่พึงประสงค์ของไอ้พวกดุริยางค์ที่เดินมาดูขอข้ามไปแล้วกัน

 

“อยากบอกว่ารักมันก็เท่านั้น

ก็เพราะว่าฉันรักเธอมากมาย

แต่ไม่ได้หวังหรือว่าต้องการอะไร

อะไรจากเธอ”


 

“อย่าลืมอยู่ดูดนตรีตอนเย็นนะค้าบบบ”

ผมได้แต่ส่ายหน้าให้ไอ้พวกที่ยืนโหวกเหวกอยู่หน้าบูธ แต่ก็ดีที่พวกมันช่วยร้องเพลงคลอจนคนหันมาสนใจมากขึ้น

“แต่ไม่ได้หวัง…” ผมหยุดชะงักกะทันหันเมื่อถึงท่อนสุดท้าย สายตาหันไปมองพี่ภูโดยอัตโนมัติ

[อยากบอกว่ารัก : Sin]

“หยุดทำไม” โซมันเงยหน้าถาม

“แค่คิดต่างจากเพลงนิดหน่อยว่ะ”

“ตรงไหน”

“บอกรักแล้วก็ต้องหวังสิวะ ถ้าไม่หวัง ไม่ต้องการอะไรแล้วจะบอกทำไม” ผมตอบคำถามโซแต่หันไปทางพี่ภู เขาเองก็เงยหน้ามอง ถึงจะไม่ได้แสดงอะไรออกมาแต่ผมก็รู้ว่าเขาเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการบอก

แค่นั้นก็พอแล้ว...สำหรับตอนนี้นะ

รูปภาพที่แขวนไว้ทั่วถูกขายจนหมดในเวลาหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ส่วนพวกดุริยางค์เองก็กลับไปหลังเวทีกันหมดแล้ว ตอนนี้เลยเหลือแค่ผมกับพี่ภูที่ยังอยู่ที่เดิม

“พี่กลับเลยป่ะ”

“รอเช็คชื่อเลิกงาน” พี่ภูตอบสั้นๆ แล้วเก็บของต่อ

“งั้นพี่ก็อยู่ดูผมขึ้นเวทีได้อ่ะดิ” ผมพูดด้วยความตื่นเต้นแล้วรีบเข้าไปช่วยเขายกของ

พี่ภูเดินนำออกไปด้านนอก เขาหยุดยืนอยู่ที่ตู้บริจาคซึ่งตั้งอยู่หน้างานพอดีก่อนจะเทเงินที่ได้ทั้งหมดลงไปในตู้ จากนั้นก็เดินต่อไปที่ลานจอดรถ ผมมองแผ่นหลังกว้างของคนใจดีด้วยความรู้สึกหลากหลาย จนเมื่อเดินมาถึงรถคันหรูแล้วเขาก็วางของที่ถือลงก่อนจะหันมาคว้าของจากมือผมไปใส่หลังรถ

“พี่ภู…”

“ว่าแล้วว่ามึงต้องเป็นตัวน่ารำคาญ”

“เดี๋ยวดิ” ผมหน้าเหวอ สงสัยว่าตัวเองทำอะไรผิด แต่ก่อนจะได้พูดอะไรต่อคนที่ปิดหลังรถแล้วก็หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าเสียก่อน

“ไอ้กระต่ายน่ารำคาญ” สิ้นคำที่เหมือนจะด่า นิ้วชี้เปื้อนสีที่แห้งไปแล้วก็กดลงมาบนหน้าผากผมแรงๆ เหมือนจะตอกย้ำคำพูดว่ากระต่ายที่ว่าหมายถึงใคร ผมได้แต่เอามือกุมหน้าผากตัวเองแล้วมองตามแผ่นหลังของคนที่เดินล้วงกระเป๋ากลับไปทางเดิมเงียบๆ

ใจเต้นอีกแล้วว่ะ...ดาเมจแรงฉิบหาย

ผมยื่นหน้าไปส่องกระจกข้างของรถพี่ภู แล้วก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมใครๆ ถึงได้หัวเราะ ตอนโดนวาดหน้าก็มัวแต่เหวอ ไม่ได้สนใจเลยว่าจะโดนทำอะไรบนใบหน้าบ้าง ผมยกมือแตะขีดดำๆ บนแก้มแบบเดียวกับที่ผมวาดให้พี่ภูเบาๆ พอรวมกับจุดสีชมพูบนจมูกเลยดูเหมือนสัตว์อะไรสักอย่าง

ดูจากคำพูดแล้วคนทำคงอยากให้เป็นกระต่าย…

แต่แม่ง…

ทำไมต้องกระต่ายวะ

ไอ้สิ่งมีชีวิตก้อนๆ ขนๆ นั่นอ่ะ...

ผมโคตรเกลียดเลยเหอะ

“มาอยู่แถวนี้นี่เอง โทรศัพท์ก็ไม่รับ มาเตรียมตัวได้แล้วโว้ย!” เสียงพี่วินดังมาจากด้านหลัง ผมรีบหันไปหาทั้งที่ยังงงๆ อยู่ แต่แทนที่จะเจอหน้าโหดๆ กลับกลายเป็นโดนหัวเราะใส่อีกรอบ “มองไกลๆ กูก็ว่าตลกแล้วนะ มาเจอใกล้ๆ หนักกว่าเดิมอีกว่ะ ฮ่าๆ”

“ตลกตรงไหนวะ” ผมถามเสียงบูด นี่ถ้าไม่ใช่รุ่นพี่นะ...

“โอ๋ๆ มานี่มา...สรุปเป็นตัวไร แมว หมา กระต่าย หรือตัวเหี้ย”

“ตัวเหี้ยบ้านพี่มีหนวดเหรอ”

“ก็บอกกูดิตัวไรแน่ กระต่ายเหรอ” พี่วินหัวเราะจนนนตัวงอ ส่วนผมได้แต่ยืนกระดิกเท้าหงุดหงิดเพราะอยากเตะคน…ที่พี่แกพูดถูกก็ไม่ใช่ว่าตั้งใจอะไรนะ มันแค่รู้ว่าผมไม่ชอบกระต่ายก็เลยพูดต่างหาก

“อย่าทำหน้าบูดดิ แมวก็ได้ โอเคยัง” พี่วินว่าแล้วลูบหัวผมเหมือนจะปลอบ แต่จะดีกว่านี้มากเลยถ้ามันไม่ได้ลูบไปตบไปจนหัวชา “มึงแม่งเหมือนแมวเลยว่ะ ขึ้นเวทีไม่ต้องลบนะ ตลกดี”

“กระต่าย”

“หา…”

“เนี่ย…” ผมชี้หน้าตัวเอง “กระต่าย”

“เอาจริงดิ” พี่วินทำตาโต ท่าทางตกใจโอเวอร์จนน่าถีบ “มึงไม่ชอบกระต่ายไม่ใช่เหรอวะ ไอ้โซเคยบอกกูอ่ะ”

ไม่ต้องสืบละว่าพี่วินรู้ได้ไง

“ก็ไม่ชอบนั่นล่ะ...แต่เขาเรียก”

“อะไรนะ”

“ถึงเวลาเตรียมตัวแล้วไม่ใช่เหรอ” ผมตัดบทแล้วรีบดึงแขนเสื้อพี่วินให้เดินตามก่อนจะโดนถามอะไรต่อ ดูเหมือนพี่แกจะเพิ่งนึกออกเหมือนกันถึงได้รีบร้อนลากผมวิ่งเป็นการใหญ่

หายไปไหนแล้ววะ…

ผมหันซ้ายหันขวา พยายามมองหาคนที่เดินนำมาก่อนในระหว่างที่กำลังวิ่ง แต่มองยังไงก็ไม่เจอพี่ภู บูธของเขาที่เก็บของหมดแล้วก็ไม่มีใครอยู่ จนผมโดนพี่วินทิ้งไว้หลังเวทีแล้วก็ยังมองหาพี่ภูไม่เจออยู่ดี

“พี่เก้า ผมรอดูหน้าเวทีนะพี่” ไอ้เปรมวิ่งเข้ามาหาหน้าตาดี๊ดา ด้านหลังมันมีพวกที่ขึ้นเวทีไปแล้วยืนอยู่ด้วย

“ร้องเพี้ยนนะมึงอ่ะ”

“พี่ฟังด้วยเหรอ!” มันทำตาโต ท่าทางตกอกตกใจจริงจังจนน่าขำ ผมเลยหัวเราะใส่โดยไม่ได้ตอบอะไรไป ไอ้ได้ยินมันก็ได้ยินอยู่หรอกเพราะบูธก็อยู่แถวนี้ แต่ไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่เลยไม่อยากพูดเยอะ

“ไปหาที่หน้าเวทีไป” ผมออกปากไล่ เปรมมันเลยพยักหน้าหงึกหงักอย่างเชื่อฟังโดยไม่เซ้าซี้ต่อ

“เต็มที่นะมึง” รุ่นพี่ปีสามที่กอดคอไอ้เปรมอยู่โบกมือ พอผมพยักหน้าแล้วพวกนั้นก็พากันเดินออกไปทางหน้าเวที

ผมยืนรอเวลาอยู่ข้างเวทีอย่างสงบเสงี่ยม โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีแดดแล้วพวกที่อยู่หน้าเวทีเลยมารวมตัวกันมากกว่าเดิม ถึงจะยังมีบางส่วนเดินไปเดินมาอยู่ตรงบูธ แต่พอเริ่มงานเมื่อไหร่ก็คงมารวมตัวกันเยอะกว่านี้แน่

อย่าลืมว่าเวทีนี้มีอดีตเดือนมหา’ลัยคนดังอยู่ด้วย

“ยอมกลับมาแล้วเหรอ” น้ำเสียงนิ่งๆ ตามสไตล์ของเดือนที่ว่าดังมาจากด้านหลัง แต่ผมรู้ดีว่าภายใต้เสียงนิ่งๆ ของมันนั้นแฝงความกวนตีนเอาไว้มากมายมหาศาล “ทำไมยังไม่ลบหน้า”

“ไม่อยากลบ”

“ไอ้หน้าแมว...”

“กระต่าย”

“แมว”

“กูบอกว่ากระต่ายไง” ผมย้ำ

“อย่างงี้ก็ได้เหรอ” ไอ้โซทำหน้าเหม็นเบื่อ มันกลอกตาก่อนจะยกมือทาบหน้าผากผมเหมือนจะวัดไข้ “ไหวไหม”

“อะไรของมึง”

“มึงใช่เก้าเหรอ”

“ใช่สิวะ”

“ได้ข่าวว่าเกลียดกระต่าย” มันเลิกคิ้วแล้วหรี่ตาลงเป็นเชิงจับผิด

“พี่ภูเรียก”

“หืม”

ผมชักสีหน้าก่อนจะมองเพื่อนด้วยควาามหงุดหงิด ไม่ใช่ว่ามันไม่เข้าใจที่ผมบอก มองจากรอยยิ้มนิดๆ บนหน้าก็รู้แล้วว่ามันเข้าใจ แต่มันกำลังกวนตีนผมอยู่ต่างหาก

“เออใช่...มึงรู้ป่ะ” ไอ้โซทำหน้าตื่นเต้นนิดๆ แล้วเก็บอาการอย่างรวดเร็ว ส่วนผมได้แต่ขมวดคิ้วมองมันกลับไปด้วยความสงสัย

“อะไร”

“ภูชอบกระต่าย”

“อะไรนะ!” ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ มือเขย่าไหล่เพื่อนไม่หยุด “มึงพูดใหม่อีกที”

“กูบอกว่าภูชอบกระต่าย”

ไม่ใช่แค่เห็นว่าวาดออกมาแล้วเหมือนกระต่ายเฉยๆ...แต่เพราะชอบกระต่ายเลยเหรอ

ทำไมต้องกระต่ายวะ…

“กูเกลียดกระต่าย” ผมครวญคราง อยากจะเตะนั่นเตะนี่ทำลายข้าวของให้หายหงุดหงิดโคตรๆ

“แล้วมึงเป็นตัวอะไร”

“เป็นกระต่าย” ผมตอบทันควัน พร้อมกับที่ได้ยินเสียงไอ้โซหัวเราะโดยที่มันไม่คิดปิด ถ้าเป็นปกติผมคงเปิดวอร์ไปแล้ว แต่นี่คือไม่มีอารมณ์

“เพื่อนกูพัฒนาจากคนไปเป็นกระต่ายเฉย”

“แค่เปรียบเปรยเว้ย!”

“เออ แค่เปรียบเปรยแล้วมึงจะซีเรียสทำไม”

“มึงเคยไม่ชอบอะไรมากๆ ป่ะ ไม่ชอบแบบไม่อยากพูดถึงอ่ะ” ผมหันไปถามมันแล้วทำหน้าตาจริงจัง

“เคย”

“เออ เข้าใจกูยัง”

“เข้าใจ แล้วสรุปมึงเป็นตัวอะไรนะ”

“กระต่าย”

“หึหึ”

“...”

ให้ตายเหอะ…ความรักทำให้คนตาบอดจริงๆ ว่ะ และดูเหมือนผมจะบอดสองข้างด้วยดิ

“ถึงเวลาแล้ว” ไอ้โซเตือน มันดันไหล่ผมให้เดินนำไปด้านหน้า “กลับไปเป็นไอ้เก้าคนเดิมก่อน เดี๋ยวค่อยเป็นกระต่ายต่อ”

“เหี้ย”

“นั่นมึง”

“กูเป็นกระต่าย” ผมกอดคอมันให้เดินขึ้นไปพร้อมกัน “กระต่ายเป็นเพื่อนเหี้ย ไม่รู้เหรอ”

“กูเป็นหมา” มันกระซิบบอกผม

แหม...แค่เมียตัวเองบอกว่าเหมือนฮัสกี้หน่อยยอมเป็นหมาเลยว่ะ

“แมวมาว่ะเฮ้ยยยย”

“กรี๊ดดดดดด”

ผมถลึงตาใส่ไอ้พวกเพื่อนที่ยืนอออยู่หน้าเวทีทั้งที่ยังยิ้มอยู่ ส่วนคนที่เดินอยู่รอบๆ พอเห็นว่าใครขึ้นเวทีมาก็เริ่มมุงเข้ามาหน้าเวทีมากขึ้น ตอนนี้เลยดูเหมือนจะกลายเป็นมินิคอนเสิร์ตไปแล้ว

“สวัสดีครับ” ผมกรอกเสียงลงไมค์ ได้ยินทั้งเสียงกรี๊ดและเสียงหัวเราะดังมาจากด้านล่าง “ใครที่อยู่แถวๆ นี้ ถ้าเดินจนไม่มีอะไรจะเดินแล้ว มาร่วมปิดงานแบบสนุกๆ ไปด้วยกันนะครับผม”

“ไอ้ห่า! มึงเป็นแค่ส่วนประกอบเล็กๆ ของงานไม่ใช่เหรอวะ!” รุ่นพี่คนหนึ่งตะโกนมาจากด้านล่าง เรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างเป็นแถบ

“ไปบอกให้เขาเลิกเดินมาดูมึงอีก ไอ้นี่!” รุ่นพี่อีกคนตะโกนสำทับ

“เผื่อจะมีใครมาหาไอ้มือกลองกับไอ้มือเบสบ้างไง” ผมพูดแล้วชี้ไปที่เพื่อนสองตำแหน่งที่ว่า “สาวๆ...งานนี้ไม่ได้มีแต่มือกีตาร์นะรู้ยัง”

“กรี๊ดดดดด”

แหม...พูดให้คิด ไม่ได้พูดให้กรี๊ดมันหนักกว่าเดิม

“ขอแนะนำทีมก่อนแล้วกันนะ ผมเก้าครับ นักร้องนำ” ผมตัดบทเสียงกรี๊ดด้วยการเริ่มแนะนำตัว จากนั้นก็ปล่อยให้พวกที่เหลือแนะนำเอง ไอ้โซมันมองผมตาขวาง ผมรู้ดีว่ามันไม่อยากพูดออกไมค์ ปกติก็จะแนะนำให้อยู่หรอก แต่ครั้งนี้ปล่อยมันพูดเองด้วยความหมั่นไส้ล้วนๆ

ผมใช้เวลาที่เพื่อนกำลังแนะนำตัวกวาดมองด้านล่างเวทีอย่างรวดเร็ว นอกจากน้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ ดุริยางค์ที่ตามมาดูกันแล้วก็เป็นคนจากคณะอื่น พวกมหา’ลัยอื่นก็ยังอยู่กัน แต่ในบรรดาคนเหล่านั้นกลับไม่มีแม้แต่เงาของคนที่ผมมองหา

สงสัยจะไม่มาดูจริงๆ

ถึงจะเฟลอยู่หน่อยๆ แต่งานก็ต้องเป็นงานล่ะนะ

“ไอ้แมว! เหม่อไรมึง” เสียงไอ้แซมมือกลองที่ถามออกไมค์เรียกสติผมให้กลับคืนมาอีกครั้ง ในนขณะที่พวกด้านล่างเวทีหัวเราะแล้วชี้ไม้ชี้มือเรียกแมวกันใหญ่ และในวินาทีที่ผมกำลังจะปล่อยผ่านไปแล้วเริ่มร้องเพลง สายตาก็สบเข้ากับใครคนหนึ่งเข้าอย่างจัง

พี่ภู! พี่ภูยืนกอดอกอยู่ตรงเสาไกลๆ นั่นไง!

ผมขยับยิ้มกว้างด้วยความอารมณ์ดี อยากกระโดดลงจากเวทีแต่ห้ามตัวเองไว้ทัน สุดท้ายเลยได้แต่กลับมาจับไมค์อีกครั้งด้วยอารมณ์ที่ต่างไปจากเดิม

“ก่อนอื่นเลย...ผมเป็นกระต่ายนะไม่ใช่แมว”

เกลียดไม่เกลียดเอาไว้ก่อน แต่ถ้าเขาชอบกูยอมเป็นก็ได้วะ แมนๆ อยู่แล้ว

“น่ารักอ่ะ!”

“น้องเก้าน่ารักจัง”

“ครับ รู้ตัวอยู่” ผมโบกมือให้คนด้านล่างที่ตะโกนขึ้นมา แต่ก่อนจะได้พูดอะไรต่อไอ้พวกที่เล่นเครื่องดนตรีอยู่ด้านหลังก็เริ่มเคาะดนตรีเทสเสียงกันเป็นจังหวะเบาๆ อย่างพร้อมเพรียง เหมือนมันจะทนไม่ได้ที่ผมพูดความจริง

“เบื่อพวกรับความจริงไม่ได้อ่ะ” ผมกรอกเสียงลงไมค์ ได้รับทั้งเสียงโห่และเสียงหัวเราะจากคนด้านล่าง

“ไอ้เก้า…”

ผมหันไปด้านหลังแล้วก็เห็นไอ้เบสที่เล่นเบสพยักเพยิดไปทางคนดู พอมองตามไปเลยพบว่าตรงนั้นมีน้องผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังชูป้ายกระดาษที่เขียนไว้ว่า ‘ขอเพลงสุดท้ายที่ร้องในงานเปิดภาคปีก่อนหน่อยค่ะ’

“เดี๋ยวดิ จะขอเพลงมันต้องรอช่วงขอก่อนไม่ใช่เหรอ นี่พวกผมยังไม่ได้ร้องสักเพลงเลยนะ” ผมพูดขำๆ แล้วมองไปที่ผู้หญิงกลุ่มนั้นที่กำลังกรี๊ดกร๊าดเพราะผมตอบพวกเธอ “แต่จะปฏิเสธก็ยังไงอยู่…”

ผมหันไปมองทีมเป็นเชิงถาม พอพวกนั้นพยักหน้าแล้วก็หันกลับมาพูดต่อ

“สำหรับใครที่ไม่ได้อยู่จนจบงานเปิดภาคปีที่แล้วหรือน้องปีหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาใหม่ มาร่วมฟังไปพร้อมๆ กันอีกครั้งนะครับ” ผมยิ้มก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ และสุดท้ายก็ไปหยุดอยู่ที่คนที่ยืนพิงเสาอยู่  “ผมขอมอบเพลงนี้ให้คนที่กำลังไขว่คว้าหาความรักและคนที่กำลังได้รับความรัก”

เมื่อปีก่อนผมร้องเพลงนี้ในงานเปิดภาคเรียน มันเป็นเพลงที่ผมร้องเพื่อใครหลายๆ คนแต่ไม่ใช่ตัวเอง แต่มาวันนี้ผมจะร้องเพลงนี้เพื่อใครอีกหลายๆ คนที่ยังไม่ได้ฟัง…

รวมถึงเพื่อตัวเองด้วย

 

“มันคงเป็นความรักที่ทำให้ตัวฉันยังยืนอยู่ตรงนี้…”

 

ผมมองพี่ภูนิ่งงัน มีบ้างที่หันมาสนใจคนหน้าเวที แต่ผ่านไปครู่เดียวก็ต้องหันกลับไปมองคนๆ เดิมเพราะกลัวเขาจะหายไปจากสายตา

 

“จะให้เธอจนกว่าเธอจะรับ บอกรักเธอจนกว่าเธอนั้นจะยอม…”

 

จ๋าเคยบอกผมว่า เวลาเราทำอะไรก็ตาม ถ้าเราอินไปกับมัน เราจะทำได้ดีกว่าปกติ

ในช่วงชีวิตที่มีแต่คำว่าชนะ มีแต่คำว่าที่หนึ่ง ผมไม่เคยเข้าใจเลยว่าการมีความรู้สึกร่วมไปกับมันมันดีกว่าปกติยังไง ไม่ว่าจะทำอะไร ขอแค่อยากทำผมก็ทำได้ดีไปหมด ผมมีความสุขเวลาร้องเพลง รู้สึกดีที่ได้จับไมค์ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าการร้องเพลงที่มีความหมายตรงกับความรู้สึกของตัวเองให้ใครสักคนที่ชอบมันรู้สึกแบบไหน…

แต่วันนี้ผมรู้แล้ว

 

“ถ้ารอให้ฉันหยุดหัวใจ

ถ้ารอให้ฉันหันหลังเดินลับหายไป

ได้ยินไหม…”

 

เสียงดนตรีทั้งหมดเงียบลงอย่างเป็นใจ ผมละสายตาจากคนที่อยู่หน้าเวที หันไปมองคนๆ เดิมที่ยังไม่หายไปไหน


“คงต้องรอให้โลกหยุดหมุนไปก่อน”

[มันคงเป็นความรัก : แสตมป์]

วันนี้เสียงของผมอาจจะยังเข้าไปไม่ถึงใจพี่ ทำได้แค่พัดผ่านแล้วสลายหายไป แต่ผมเชื่อว่าวันหนึ่ง...ถ้าผมยังพยายามอยู่ เสียงของผมจะต้องเข้าไปถึงใจพี่ได้แน่นอน

 

 

พองานจบพี่บริหารปีสี่หลายคนก็รีบเข้ามาหาเรา ขอโทษขอโพยยกใหญ่ที่ไม่ทำตามขั้นตอน ดีที่พวกผมมันสายชิวกันอยู่แล้วเลยไม่มีใครว่าอะไร แถมฝั่งเขายังบอกว่าถ้าจะให้ช่วยอะไรจะช่วยเต็มที่ด้วย เรื่องปัญหาอะไรต่างๆ เลยจบไป

“พวกมึงกลับไปพักเหอะ อยู่มาตั้งแต่เช้า เดี๋ยวพวกกูจัดการของเอง” พวกดุริยางค์ที่ตามมาดูเฉยๆ เดินเข้ามาบอก พวกผมที่เพิ่งเล่นเสร็จมองหน้ากัน สุดท้ายก็พยักหน้าแล้วยกหน้าที่ให้พวกมันไป

“มึงจะให้กูไปส่งหรือเปล่า” ไอ้โซหันมาถามผม

“ไม่ต้องอ่ะ มึงกลับก่อนเลย” พอคุยกันรู้เรื่องแล้วผมก็หันไปลาคนอื่นก่อนจะวิ่งออกมาเป็นคนแรก ดีที่พวกมันกำลังวุ่นวายกันอยู่เลยไม่มีใครสนใจถามว่าทำไมผมวิ่งไปทางที่ตรงข้ามกับหอ

จุดหมายแรกที่วิ่งไปคือจุดที่เห็นพี่ภูยืนดูผมร้องเพลง ผมไม่แน่ใจว่าเขาหายไปตอนไหน แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าเขายืนอยู่จนถึงเพลงสุดท้าย ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่หันไปมอง ดวงตาสีเทาดุๆ คู่นั้นก็ยังคงจับจ้องมาที่เวทีเสมอ แม้จะไม่รู้ว่าพี่ภูมองผมหรือเปล่า…แต่แค่เขายืนอยู่ตรงนั้นตามที่ผมขอมันก็ดีมากแล้ว

หายไปไหนแล้ว…

ผมหันซ้ายหันขวา พยายามมองหาเงาร่างของคนที่นึกถึง แต่มองยังไงก็หาไม่เจอ ไม่รู้ว่าเขาเดินไปทางไหน

ครั้งนี้คงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง...ไม่น่าละสายตาเลยว่ะ

ผมออกตัววิ่งอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังที่ที่รถพี่ภูจอดอยู่ ได้ยินเสียงเพื่อนต่างคณะทักทายอยู่หลายเสียง แต่เพราะกำลังรีบเลยไม่มีเวลาตอบพวกมัน ได้แต่ยกมือโบกไปมาเป็นเชิงขอโทษแล้ววิ่งต่อ

รถยังอยู่…

“พี่ภู!” ผมเรียกเสียงดังด้วยอารมณ์หงุดหงิด เพราะขี้เกียจหันหัวไปมาเพื่อมองหาเหมือนตอนแรก แค่วิ่งมาถึงนี่หลังจากแสดงเสร็จได้ก็เต็มกลืนแล้ว

“หนวกหู”

“โทษที” ผมหันไปยิ้มกว้างแล้วเดินเข้าไปหาคนที่โผล่มาจากด้านหลัง มือเขาถือกุญแจรถเอาไว้ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ากำลังจะกลับแล้ว “ขอบคุณมากนะพี่ที่มาดูผมอ่ะ”

“ฆ่าเวลารอเช็คชื่อ” พี่ภูพูดหน้าตายแล้วเดินไปที่ประตูรถ

“จริงๆ พี่ทำเพราะจะขอบคุณผมใช่ไหม” คำถามของผมทำให้พี่ภูชะงักไป เขาเปิดประตูรถทิ้งไว้แต่ไม่ได้เข้าไปนั่ง “ผมแค่รู้สึกว่าพี่เป็นคนแบบนั้น”

“แบบไหน” เขาถามแล้วหันมาเผชิญหน้ากับผมเต็มตัว

“ไม่ชอบติดหนี้ใคร...แล้วก็ใจดี”

ดวงตาคมปรากฏวี่แววของความแปลกใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อกะพริบตามันก็หายไป

“กูไม่ชอบติดหนี้ใคร” พี่ภูก้าวเท้าเข้ามาหาผมก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกของเราเกือบชนกัน “แต่ไม่ได้ใจดี”

“อาจจะไม่ได้ใจดี...” ผมพยักหน้าเห็นด้วยแล้วจ้องกลับด้วยสายตาสงบนิ่ง “แต่ผมว่าพี่ไม่ใช่คนแบบที่ใครๆ เขาพูดกัน”

“ไร้สาระ”

“เออใช่ พวกนั้นแม่งไร้สาระ” ผมโยนขี้หน้าตาย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงตัวเอง แต่เวลาพูดอะไรโง่ๆ แล้วได้เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปของพี่ภูแล้วมันคุ้มว่ะ อย่างตอนนี้ก็สีหน้าเอือมระอานี่ไง

อยากถ่ายรูปเก็บไว้จัง

พี่ภูเข้าไปนั่งในรถโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ ผมเองก็ไม่ได้ห้ามเพราะคิดว่าวันนี้ควรจะพอได้แล้ว แต่ก่อนที่เขาจะปิดประตูรถผมก็ใช้มือรั้งเอาไว้เพื่อถามคำถามที่คาใจเสียก่อน

“ผมมีอะไรจะถามพี่”

เหตุผลที่ผมต้องวิ่งตามหาขนาดนี้…

“อะไร” พี่ภูขมวดคิ้ว ท่าทางเหมือนจะบอกว่าถ้าพูดอะไรไร้สาระออกมาเขาพร้อมจะปิดประตูหนีบนิ้วผมทันที

“พี่ชอบกระต่ายเหรอ”

“...”

“ผมจริงจังนะ พี่ชอบกระต่ายเหรอ” ผมพยายามปั้นหน้าจริงจัง บอกตรงๆ ว่าคำพูดไอ้โซมันไม่ค่อยน่าไว้ใจหรอก ตอนนั้นยังตกใจอยู่เลยไม่ทันคิด แต่พอได้สติแล้วผมก็เห็นอะไรแปลกๆ อยู่หลายอย่าง อย่างเช่นการที่มันแอบยิ้มเยาะตอนผมเซ็งเรื่องกระต่าย...อย่าคิดว่ากูไม่เห็น “ไอ้โซบอกผมว่าพี่ชอบกระต่าย”

“…” พี่ภูถอนหายใจ มือข้างหนึ่งยกขึ้นเสยผมเหมือนคนไม่รู้จะพูดอะไร

“พี่ชอบจริงๆ เหรอ...ไอ้ตัวปุกปุยก้อนๆ นั่นอ่ะ” ผมกัดปากรอคำตอบด้วยความกังวลใจ ที่มาถามเขาไม่ใช่ว่าอยากให้ตอบว่าใช่นะ แต่โคตรจะอยากให้ตอบว่าไม่ใช่เลยเหอะ

“ทำไม”

“พี่เปลี่ยนเป็นตัวอื่นดีกว่า ไอ้ก้อนนั่นไม่เห็นน่ารักเลย” ถ้าคนมองแมลงสาบหรือจิ้งจกแล้วรู้สึกขยะแขยง เวลาผมมองไอ้ก้อนเดินได้นั่นมันก็เหมือนกัน ตัวบ้าอะไรยุกยิกๆ กลมๆ ดูแล้วเป็นก้อนๆ ยุบยับ แค่นึกถึงก็ขนลุกแล้ว

“...”

“เอาเป็นหมาแมวหรืออะไรอย่างอื่นก็ได้...”

“ก้อน…”

“อะไรนะ”

“หึ...ไอ้ก้อนงี่เง่า” สิ้นคำที่เหมือนจะด่า พี่ภูแกะมือผมออกจากประตูรถ ผมได้แต่มองเขาปิดประตูแล้วขับรถจากไปเงียบๆ โดยที่พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว และจนถึงตอนนี้ก็ยังพูดอะไรไม่ออกอยู่

เมื่อกี้…

เหมือนจะเห็นคนหน้าดุยิ้มขำว่ะ

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง มือกดเลือกรายชื่อของคนที่ผมต้องการที่สุดในเวลานี้อย่างรวดเร็ว

[อะไรอีกอ่ะ]

“จ๋า!”

[เสียงดังหาอะไรคะ]

“จ๋าตั้งใจฟังดีๆ นะ...อันนี้เราจริงจัง”

[ค่ะ ว่าไง]

ผมสูดสายใจเข้าจนเต็มปอด แค่นึกถึงรอยยิ้มนิดๆ ที่เห็นเมื่อครู่ ไอ้ความรังเกียจขยะแขยงสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ากระต่ายก็หายไปจนหมดสิ้น

“เราจะเปิดฟาร์มกระต่าย!”

[...]

“เอาเยอะๆ เลยนะจ๋า!”

[คุณคะ มาคุยกับคนแปลกหน้าที ดิฉันปวดหัว]

นอกจากพี่ภูจะทำให้ผมตาบอดแล้ว...เขายังทำให้ผมก้าวข้ามความเกลียดได้ด้วยว่ะ

โคตรคูล!

 

-------------------------

 

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-07-2017 14:28:50 โดย CHESS. »

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #65 เมื่อ16-05-2017 21:57:51 »

เก้านี่เก้าจริงๆ  ยอมใจ  ตกลงพี่ภูนี่ชอบกระต่ายหรือว่าชอบก้อนงี่เง่าข้างหน้ากันแน่จ๊ะ555

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #66 เมื่อ16-05-2017 22:06:21 »

ตลกคุณแม่ :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #67 เมื่อ16-05-2017 22:08:10 »

ชอบตอนเก้าคุยกับแม่จ๋า น่ารักดี

ออฟไลน์ SaKiNonZa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[3]==[P.2]== [13/05/60]
«ตอบ #68 เมื่อ16-05-2017 22:13:29 »

-4-

“พี่ชอบกระต่ายเหรอ”

“...”

“ผมจริงจังนะ พี่ชอบกระต่ายเหรอ” ผมพยายามปั้นหน้าจริงจัง บอกตรงๆ ว่าคำพูดไอ้โซมันไม่ค่อยน่าไว้ใจหรอก ตอนนั้นยังตกใจอยู่เลยไม่ทันคิด แต่พอได้สติแล้วผมก็เห็นอะไรแปลกๆ อยู่หลายอย่าง อย่างเช่นการที่มันแอบยิ้มเยาะตอนผมเซ็งเรื่องกระต่าย...อย่าคิดว่ากูไม่เห็น “ไอ้โซบอกผมว่าพี่ชอบกระต่าย”

“…” พี่ภูถอนหายใจ มือข้างหนึ่งยกขึ้นเสยผมเหมือนคนไม่รู้จะพูดอะไร

“พี่ชอบจริงๆ เหรอ...ไอ้ตัวปุกปุยก้อนๆ นั่นอ่ะ” ผมกัดปากรอคำตอบด้วยความกังวลใจ ที่มาถามเขาไม่ใช่ว่าอยากให้ตอบว่าใช่นะ แต่โคตรจะอยากให้ตอบว่าไม่ใช่เลยเหอะ

“ทำไม”

“พี่เปลี่ยนเป็นตัวอื่นดีกว่า ไอ้ก้อนนั่นไม่เห็นน่ารักเลย”

“...”


-------------------------

ขนาดนั้นเลยหรอเก้า

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #69 เมื่อ16-05-2017 22:55:02 »

ขำจ๋าที่บอกให้คุณป๋ามาคุยกะคนแปลกหน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
« ตอบ #69 เมื่อ: 16-05-2017 22:55:02 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ hpimmc

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #70 เมื่อ16-05-2017 23:23:34 »

มีคัทของคุณแม่ไหมคะ อยากอ่าน 55555555555555555555555

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #71 เมื่อ16-05-2017 23:29:12 »

 :mew1: :mew1: ครอบครัวเก้าน่ารักมากเลยอ่ะ

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #72 เมื่อ16-05-2017 23:49:12 »

ขำ55555 เก้าก็คือเก้า :hao7:

ออฟไลน์ pearlypear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #73 เมื่อ17-05-2017 00:07:41 »

คูลจริงๆค่ะน้องเก้าแม่กระต่ายน้อยยยยย o13 o13 o13

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #74 เมื่อ17-05-2017 00:39:21 »

 :impress2:

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #75 เมื่อ17-05-2017 08:08:01 »

เพื่อพี่หมาตาดุเค้ายอมเป็นไอ้ก้อนๆนั่นให้พี่ขย้ำเลยก็ได้!
                       
                                               -เก้า ไม่ได้กล่าวไว้-

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #76 เมื่อ17-05-2017 09:56:47 »

“พี่เปลี่ยนเป็นตัวอื่นดีกว่า ไอ้ก้อนนั่นไม่เห็นน่ารักเลย”

“เอาเป็นหมาแมวหรืออะไรอย่างอื่นก็ได้อ่ะ...”

“ก้อน…”

อะจ๊ากกกกก พี่ภูชอบ ไอ้ก้อนแล้ว  :ling1: :ling1: :ling1:
ว่าแต่มันก้อน.....อะไรกันน้อ พี่ภู  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #77 เมื่อ17-05-2017 10:26:26 »

ทำไมเก้าน่ารักงี้อ่ะ อิจๆๆๆๆๆอิพี่ภูจิงจังงง :hao5:

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #78 เมื่อ17-05-2017 10:32:55 »

เก้าน่ารักแบบน่ารักมากๆ ฮืออออ พี่ภูคะรีบใจอ่อนเร็ววววว  :ling1:

ออฟไลน์ GOLDMIND

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #79 เมื่อ17-05-2017 13:03:57 »

เก้ามันบ้าดีอ่ะ ชอบว่ะ พี่ภูระวังเก้าเข้าไว้ล่ะ เดี๋ยวหลงน้าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
« ตอบ #79 เมื่อ: 17-05-2017 13:03:57 »





ออฟไลน์ Margarita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #80 เมื่อ17-05-2017 22:25:00 »

นังเก้าาาา 555555 :ling1: :ling3:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #81 เมื่อ18-05-2017 10:52:40 »

มีคัทของคุณแม่ไหมคะ อยากอ่าน 55555555555555555555555

เห็นด้วยกับความเห็นนี้มากครับ มีพาร์ทคุณแม่จ๋าของน้องเก้าไหมครับ อยากอ่าน //ท่าทางจะสนุก ^^

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #82 เมื่อ18-05-2017 16:05:17 »

หลงรักเก้า น่ารักกกกกก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #83 เมื่อ18-05-2017 19:15:42 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #84 เมื่อ19-05-2017 13:42:35 »

ความรักนี้ช่างรุนแรงอะไรขนาดนี้ 55555555555555555555555555

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[4]==[P.3]== [16/05/60]
«ตอบ #85 เมื่อ20-05-2017 17:41:04 »



-5-

 

คู่มือการเลี้ยงกระต่ายอย่างถูกวิธี…

มือใหม่หัดเลี้ยงกระต่าย…

สิบความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกระต่าย…

“ทำไมมันต้องยุ่งยากขนาดนี้ด้วยวะ” ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ ด้วยความรำคาญแต่ก็ไม่เลิกอ่าน สายตายังคงจดจ้องอยู่ที่หน้าจอโน้ตบุ๊กเช่นเดิมมากว่าสองชั่วโมงแล้ว

“มึงทำให้ยุ่งยากเอง” เสียงไอ้หมาเยาะเย้ยมาจากด้านหลัง ผมรีบหันไปมองแล้วตั้งท่าจะด่า แต่พอเห็นว่ามันกำลังนอนตักพี่กีล์เล่นเกมอย่างสบายอารมณ์ก็ได้แต่เบะปากแรงๆ

“หุบปากแล้วเล่นเกมไป”

ตอนแรกก็เฉยๆ นะ แต่เริ่มลำไยผัวเมียคู่นี้แล้วว่ะ

วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แสนสบาย ปกติถ้าไม่มีซ้อมผมมักจะใช้เวลาไปกับการนั่งกินนอนกินในหอ แต่วันนี้ไวไฟที่หอดันใช้ไม่ได้ มันจะไม่น่าหงุดหงิดเลยถ้าวันนี้ไม่ใช่วันที่ผมวางแผนว่าจะใช้เวลาไปกับการศึกษาข้อมูลเรื่องกระต่าย และที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่านั้นคือการที่โทรศัพท์โดนตัดเพราะไม่จ่ายเงินมาหลายเดือนแล้ว

ผมโดนจ๋าหักค่าขนมเพราะใช้เงินฟุ่มเฟือย ต่อให้เถียงว่าใช้เงินไปกับการกินไม่ได้ฟุ่มเฟือยเสียหน่อยจ๋าก็ไม่ฟัง กลายเป็นผมต้องหาเวลาโทรหาป๋าเพื่อขอให้โอนเงินเพิ่มให้ แล้วที่แย่คือจ๋าดันรู้ทันตลอด ไม่เคยเปิดโอกาสให้ป๋าได้รับสายเลยสักครั้ง ขนาดบอกว่าคิดถึงป๋ายังโดนแหยะใส่เลยอ่ะ

นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมต้องหยิบแบงก์ห้าร้อยใบสุดท้ายออกมาใช้เรียกแท็กซี่ไปหาไอ้โซที่คอนโด

“เก้าทานอะไรมาหรือยังครับ”

ผมวางโน้ตบุ๊กลงบนโต๊ะแล้วหันไปหาพี่กีล์โดยเลือกมองเมินไอ้เพื่อนตัวดีที่กำลังหรี่ตาลงเหมือนกลัวว่าผมจะไปแย่งพี่กีล์ของมัน

“ยังเลยพี่ หิวมากเลยอ่ะ” ผมลูบท้องประกอบเพื่อความน่าเชื่อถือ

“น่าจะมีของอยู่ ยังไงเดี๋ยวพี่ทำให้ทานนะครับ” พี่กีล์ยิ้มโลกสดใสก่อนจะดันหัวไอ้หมาหน้าบึ้งออกจากตักแล้วเดินไปที่ครัว ไอ้โซเลยหันมาจ้องหน้าผมเหมือนอยากจะฆ่าให้ตายแล้วปาหมอนอิงมาทางผมอย่างรวดเร็ว เห็นแบบนั้นแล้วผมก็หัวเราะอารมณ์ดีโดยไม่นึกโกรธหมานิสัยเสียเลยสักนิด แค่ปาหมอนใบเดิมใส่หน้ามันแล้วลุกหนีก็สะใจแล้ว

“ไอ้เก้า!”

“พี่กีล์ทำไรอ่ะ” ผมเดินไปที่ส่วนครัวซึ่งอยู่ติดกับโซฟานั่งเล่น และคงเพราะไม่มีผนังกั้นสายตาไอ้โซมันเลยยอมนอนเล่นเกมต่อไม่ตามมาแยกเขี้ยวขู่เหมือนทุกที

“ว่าจะทำกับข้าวง่ายๆ สองสามอย่างครับ เก้าอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม”

“อยากกินหมูผัดขิง”

“อย่างเดียวเหรอ”

“แกงจืดวุ้นเส้น ใส่เต้าหู้ด้วย”

“ได้ครับ”

ผมมองมือพี่กีล์ที่กำลังหั่นหมูอย่างคล่องแคล่วด้วยความรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยทำอาหารกินเองเลยสักครั้ง ต้มมาม่าก็ไม่เคยเพราะจ๋าไม่ให้กิน เรียกได้ว่าไม่รู้เรื่องการทำอาหารเลยแม้แต่นิดเดียว น่าจะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคนทำอาหารจริงๆ จังๆ แบบนี้...ปกติสนใจแต่กิน

“พี่กีล์…”

“หืม”

“พี่เคยเลี้ยงสัตว์ไหม” ผมถามลอยๆ แต่ตายังคงจ้องมือพี่กีล์ด้วยความสนใจ

“ไม่เคยหรอกครับ แต่ถ้าตอนเด็กๆ ก็เคยเอาอาหารให้สุนัขจรจัดอยู่บ้าง” พี่กีล์เดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบของออกมาอีกสองสามอย่าง “พี่เห็นเก้าอ่านกระทู้เรื่องกระต่าย อยากเลี้ยงเหรอครับ”

“เปล่า” ผมตอบทันควันจนพี่กีล์ต้องหยุดมือที่กำลังเตรียมของแล้วเงยหน้ามองอย่างแปลกใจ “จริงๆ ผมเกลียดมัน”

“ทำไมล่ะครับ”

“มันยุบยับๆ อ่ะ แบบ...ตัวกลมๆ ก้อนๆ ดูแล้วแหยะๆ” อี๋...แค่นึกถึงไอ้ก้อนพองๆ นั่นก็รู้สึกขยะแขยงแล้ว

“ไม่ชอบขนาดนั้น แล้วทำไมถึงมาสนใจเรื่องของมันล่ะครับ”

“เพราะพี่ภูดันชอบกระต่ายอ่ะดิ”

“พี่พอจะทราบจากโซมาบ้าง” พี่กีล์หัวเราะ “เห็นโซบอกว่าคุณภูดรอปไปตอนพี่อยู่ปีสี่สินะครับ”

“ใช่”

“ตอนแรกก็ไม่มั่นใจ แต่พอนึกไปนึกมา เหมือนตอนปีหนึ่งจะมีคนดังเข้ามาเรียนอยู่บริหารคนหนึ่งแล้วชื่อนี้เหมือนกัน คงจะเป็นคุณภูนี่ล่ะครับ”

“พี่รู้จักพี่ภูด้วยเหรอ” ผมถามด้วยความตื่นเต้น

“ไม่เชิงรู้จักหรอกครับ แค่เขาโดดเด่นมาก แต่ดูเหมือนจะไม่เข้ากิจกรรมอะไรสักอย่าง ประกอบกับตอนนั้นมีข่าวชกต่อยด้วย พี่เคยเจออยู่ครั้งหนึ่ง อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขายอมเป็นตัวแทนเดือนคณะคงไม่พ้นได้ตำแหน่งเดือนมหา’ลัยแน่ๆ” พอพูดจบแล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมองผม จากนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “พอพูดถึงเรื่องคุณภูแล้วตาเป็นประกายเชียว สรุปว่าที่อยากเลี้ยงกระต่ายเพราะคุณภูชอบสินะครับ”

“ไม่ใช่ ผมไม่ได้อยากเลี้ยง” ผมส่ายหน้าปฏิเสธ “ผมอยากเปิดฟาร์มอ่ะ”

“เอ่อ…” พี่กีล์กะพริบตาปริบๆ เหมือนพูดอะไรไม่ออก แต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมา “ความฝันยิ่งใหญ่ดีนะครับ”

“ไม่ฝันนะ จริงๆ ผมจะทำแล้ว แต่ป๋าห้ามไว้ก่อน”

“ทำไมล่ะครับ”

ทำไมน่ะเหรอ...ผมกลอกตาเมื่อนึกถึงตอนที่คุยโทรศัพท์กับป๋าวันนั้น

 

[ว่าไงคนแปลกหน้า] เสียงทุ้มอ่อนโยนที่ไม่ได้ยินมากว่าอาทิตย์ดังมาตามสาย ผมยิ้มเมื่อรู้สึกได้ว่าป๋ากำลังดีใจที่ได้คุย...ดังนั้นต้องรีบแสดงความต้องการออกไปโดยเร็ว

‘ป๋า เราอยากเปิดฟาร์มกระต่าย’

[หืม...ตัวเล็กไม่ชอบกระต่ายไม่ใช่เหรอ]

‘เราก็ยังไม่ชอบนั่นล่ะ แต่คนที่เราชอบชอบอ่ะ’

[อะไรนะ!] เสียงป๋าที่ตะโกนด้วยความตกใจทำให้ผมต้องดึงโทรศัพท์ออกห่างจากหู

‘ป๋า อย่าเสียงดัง’

[ขอโทษ] ป๋าพูดเสียงเบาลง [ตัวเล็กรอคุณป๋าคุยกับคุณแม่สักครู่นะครับ]

‘เร็วๆ นะ’

[ครู่เดียวครับ...คุณหญิง! ทำไมผมไม่รู้ว่าลูกมีคนที่ชอบแล้ว ทำไมไม่บอกผม นี่คุณ…]

ผมอมยิ้มฟังป๋าเถียงกับจ๋าด้วยความสุขใจ ปกติป๋าจะหงอยอมตลอด แต่ถ้าเป็นเรื่องผมขึ้นมาเมื่อไหร่จะเป็นแบบนี้ทุกที ก็ป๋ารักผมจะตาย ตามใจแทบทุกอย่าง ขออะไรไม่เคยไม่ได้เลยสักครั้ง

[คุณอชิรา! เรียกคุณป๋ากลับไปก่อนจะไม่ได้กระต่ายสักตัว!]

‘ป๋า มาคุยกับเราก่อน’ ผมรีบเรียก

[ครับ ตัวเล็ก ว่าไงครับ...แหม เสียงเปลี่ยนเชียวนะยะ] ยังเถียงกันอีก

‘เรื่องฟาร์มกระต่ายของเราอ่ะ’

[ตัวเล็กจะเปิดที่ไหนดีครับ….คุณคะ! ดิฉันให้ช่วยห้าม ไม่ใช่ให้ส่งเสริมลูก!]

‘แถวบ้านได้ไหมป๋า’

[สักครู่นะครับ] ป๋าว่าแล้วเงียบไป ผมได้ยินเสียงคุยงุ้งงิ้งอยู่ไกลๆ แต่ไม่ชัดเท่าไหร่ จับใจความได้แค่ป๋ากับจ๋ากำลังเถียงกันเรื่องฟาร์มกระต่าย [ตัวเล็ก…]

‘อื้อ’

[ยังไงตัวเล็กเลี้ยงกระต่ายธรรมดาก่อนดีไหม ป๋าว่าเปิดฟาร์มเลยไม่น่าดีนะ ยังไงรอตัวเล็กเรียนจบก่อนก็ได้ ถ้าเปิดตอนนี้แล้วใครจะดูแลล่ะครับ] ป๋าว่าเสียงอ่อย

‘อืม…’ จะว่าไปดูเหมือนผมจะลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย ‘เอางั้นก็ได้’

[ยังไงถ้าอยากได้แบบไหนก็โทรบอกป๋านะครับ แล้วก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลก่อนด้วย ถ้าเอาไปเลี้ยงแล้วยังไงก็ต้องดูแลให้ดี โอเคไหม]

‘โอเค’ ผมรับปาก

[ว่าแต่เรื่องคนที่ชอบ…ตัวเล็กต้องให้ป๋าแสกนก่อนนะ ให้ป๋าดูว่าเขาเป็นผู้หญิงที่ดีเหมาะสมกับตัวเล็กของป๋าหรือเปล่า...หึหึ] เสียงหัวเราะด้วยความสะใจของจ๋าดังตัดคำพูดของป๋า [หัวเราะอะไรคุณหญิง...ถามลูกสุดที่รักของคุณสิคะ]

‘เออใช่ ป๋า...’

[ครับ]

‘คนที่เราชอบเป็นผู้ชายอ่ะ เอาไว้เขาชอบเรากลับแล้วจะพาไปให้ดูตัวนะ บาย’

[อะไรนะ! มันเป็นใคร! ตัวเล็ก! ตัวเล็ก!...]

 

“ครอบครัวน่ารักจัง” พี่กีล์กลั้นหัวเราะจนหน้าแดง “ท่าทางคุณพ่อจะตามใจมากเลยนะครับเนี่ย”

“ใช่...ดีที่ผมเป็นเด็กดีไม่ค่อยขออะไรเท่าไหร่ ป๋ากับจ๋าเลยไม่ต้องปวดหัวมาก”

“เอ่อ…”

“ไม่ปวดหัวก็เหี้ยละ”

“ไรมึง!” ผมหันไปถลึงตาใส่ไอ้โซที่พูดแทรก มันลอยหน้าลอยตา ทำเหมือนไม่ได้ยินแล้วหันไปเล่นเกมต่อ

“แต่ที่คุณพ่อของเก้าพูดก็ถูกต้องแล้วนะครับ” พี่กีล์ยิ้มให้ผมในขณะที่มือก็ทำอาหารไปด้วย “ตอนนี้เปิดฟาร์มไปก็คงดูแลเองไม่ได้”

“ผมรู้แล้ว”

“ว่าง่ายแบบนี้น่าให้รางวัลเนอะ”

“อะไรนะพี่”

“เปล่าครับ…” พี่กีล์ตอบแล้วหันไปมองนาฬิกาที่ผนังห้อง “ได้เวลาพอดี...ยังไงเก้าช่วยลงไปซื้อของให้พี่หน่อยได้ไหมครับ”

“ของขาดเหรอ” ผมถามแล้วชะโงกหน้าไปมองของบนโต๊ะ ดูแล้วก็เยอะอยู่ แต่จะบอกว่าครบก็ไม่ได้เพราะผมไม่รู้ว่ามันต้องใช้อะไรบ้าง

“ครับ เดี๋ยวพี่จะเขียนรายการให้ ช่วยลงไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อข้างล่างทีนะครับ”

“ได้” ผมรับปากแล้วยืนรอพี่กีล์จดรายการของลงบนกระดาษ ไม่นานนักเขาก็ยื่นมาให้พร้อมเงินจำนวนหนึ่ง

“โชคดีนะครับ”

ผมหันไปมองพี่กีล์ด้วยความสงสัย ฝ่ายนั้นไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากส่งยิ้มมาให้ ดูจากท่าทางแล้วต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ เอาเถอะ...ลงไปถึงก็รู้เอง

 

 

ร้านสะดวกซื้อใต้คอนโดไอ้โซเป็นร้านใหญ่ รวบรวมทุกสิ่งเอาไว้เหมือนห้างขนาดย่อม ผมก้าวเท้าเข้าไปด้านใน มือยกปิดปากเพื่อหาว พอเดินมาถึงจุดที่เป็นส่วนวัตถุดิบทำอาหารแล้วก็หยุดเดินเพื่อหยิบใบรายการขึ้นมาดู

เดินวนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอครับ :)

ผมมองใบรายการในมือด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่ได้คิดสงสัยอะไรให้มากความ ลองเขียนมาแบบนี้แสดงว่าคงมีแผนอะไรแน่ๆ พี่กีล์คงไม่ได้ต้องการให้ผมลงมาซื้อของแต่แรก แต่เขาน่าจะต้องการให้ผมมาหาอะไรบางอย่าง ซึ่งถ้าอะไรบางอย่างที่ว่านั่นไม่ได้มีค่ามากเท่าความหิวของผม...ตุ๊กตาหมาฮัสกี้ที่ผมซื้อให้เขาในวันเกิดจะต้องพิการตาหลุดแน่นอน

ผมกวาดตามองรอบทิศทางเพื่อหาสิ่งที่ไม่รู้ว่าคืออะไร ทุกจังหวะที่ก้าวเดินเต็มไปด้วยความปวดร้าวเพราะท้องร้องไม่ยอมหยุด แล้วยิ่งประกอบกับการที่ต้องเดินวนไปวนมาอยู่ในโซนของกินยิ่งแล้วใหญ่

พอที! อะไรจะสำคัญไปกว่าของกินวะ!

“ขวางทาง” น้ำเสียงเรียบเรื่อยคุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง ผมหันไปมองแล้วเบิกตากว้าง

“พี่ภู!” ผมเรียกความตกใจ เท้าก้าวหลบตามคำบอกโดยอัตโนมัติ ตากวาดมองคนที่ไม่ได้เจอมาวันหนึ่งเต็มๆ อย่างพิจารณา พี่ภูอยู่ในชุดลำลองต่างจากทุกครั้งที่เจอ แถมผมเผ้ายังยุ่งเหยิงเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนด้วย

“หลบไป” พี่ภูพูดเสียงห้วน หน้าตาเหมือนยังไม่ตื่นเต็มที่ พอผมหลบให้เขาก็เอื้อมมือไปหยิบของจากบนชั้น จากนั้นก็หันหลังเดินต่อโดยไม่พูดอะไรอีก

ดูเหมือนผมจะเจอสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าของกินแล้วสิ…ว่าแต่ทำไมพี่ภูถึงมาอยู่ที่นี่ได้

การที่เขาใส่ชุดลำลอง รองเท้าแตะ ท่าทางเหมือนเพิ่งตื่น แค่นั้นก็รู้ได้แล้วว่าเขาคงพักอยู่ที่คอนโดเดียวกับไอ้โซ

ความบังเอิญอาจเกิดขึ้นได้แต่คงไม่บ่อยขนาดนี้ อะไรหลายๆ อย่างกำลังทำให้ผมรู้สึกเหมือนการเจอกันครั้งนี้เป็นอะไรที่ถูกเตรียมการไว้แล้ว อย่างน้อยการที่พี่กีล์ให้ผมลงมาเจอพี่ภูโดยตั้งใจก็ยืนยันได้เกินครึ่ง

แล้วจะคิดมากทำไมวะ ได้เจอก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง

ผมสะบัดหัวไล่นิสัยปกติของตัวเองทิ้งแล้ววิ่งไปหาพี่ภู เวลานี้คือโอกาสอันดีในการเข้าใกล้เขา ข้อสงสัยอะไรนั่นเอาไว้ทีหลังแล้วกัน

“พี่ซื้อไปทำกินเองเหรอ” ผมเดินไปยืนอยู่ข้างๆ แล้วมองเขาหยิบวัตถุดิบทำอาหารมากมายใส่ตะกร้าด้วยความสนใจ

“อืม” คนหัวยุ่งตอบสั้นๆ แต่แล้วเขาก็หันมาหาผม ดวงตาเย็นชาฉายแววงุนงงเหมือนไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง “มึงมาอยู่ที่นี่ได้ไง”

“วันนี้ผมมาหาไอ้โซ” ผมยืนมองพี่ภูลูบหน้าลูบตาด้วยรอยยิ้ม “พี่เพิ่งตื่นใช่ไหมเนี่ย”

“อืม”

“พี่ภู...พี่โอเคเปล่า” ผมโบกมือไปมาตรงหน้าเมื่อเห็นว่าเขากะพริบตาถี่ๆ ท่าทางเหมือนคนเมาแล้วเพิ่งฟื้นอะไรแบบนั้น

“มึนหัว” พี่ภูขมวดคิ้วแล้วหลับตาลง ผมมองซ้ายมองขวา พยายามมองหาจุดที่น่าจะเป็นที่พักได้ แต่นอกจากชั้นของแล้วก็ไม่มีอะไรเลย สุดท้ายเลยได้แต่ดันร่างเขาเบาๆ ให้พิงตัวไปกับชั้นด้านหลัง

“พี่จะเอาไรอีกอ่ะ เดี๋ยวผมไปหยิบให้” ผมว่าแล้วคว้าตะกร้ามาถือไว้เอง

“เลือกของเป็นหรือไง” พี่ภูลืมตาถามเสียงเรียบ แต่ผมรู้สึกว่าเสียงของเขาดูอ่อนแรงกว่าทุกที

“พี่บอกมาเลย ผมจำได้”

 พี่ภูเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังคิดว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี เห็นท่าทางเหมือนไม่ไว้ใจกันของเขาแล้วผมก็ได้แต่ยักไหล่ ถามว่าเลือกของเป็นหรือเปล่า...จะเลือกเป็นได้ยังไง รู้แค่วิธีดูวันหมดอายุเท่านั้นล่ะ แต่ถ้าบอกกันว่ามันต้องดูยังไงก็ไม่น่ามีอะไรยาก คนอย่างผมถ้าอยากจะทำก็ทำได้อยู่แล้ว กับแค่การเลือกของมันจะไปยากอะไร

“เอาไป” พี่ภูโยนอะไรบางอย่างมาให้ผม พอก้มลงมองแล้วก็พบว่ามันคือโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ใบเดิมที่ผมเคยถือมาแล้วตอนเจอกันครั้งแรก “ในโน้ตมีจดรายชื่อของอยู่ เงินก็เอาในกระเป๋า กูจะไป…”

“ไปรอบนห้องเลยพี่” ผมฉีกยิ้มกว้างก่อนจะวางของของพี่ภูลงในตะกร้าแล้วช่วยดึงแขนเขาให้ยืนตรง “เดี๋ยวผมเอาไปส่งเอง พี่ขึ้นไปรอบนห้องก่อนเลย เดินไหวไหม ให้ผมเรียกคนมาช่วยป่ะ”

“ไม่…”

“งั้นไปเลยพี่ เดี๋ยวผมตามขึ้นไป” ผมดันแขนพี่ภูเล็กน้อยเป็นเชิงไล่

“เดี๋ยว…” พี่ภูรั้งตัวไว้ เขาหันมามองผมด้วยสายตาเป็นคำถาม “มึงรู้หรือไงว่าห้องกูอยู่ไหน”

“ตอนนี้ยังไม่รู้ แต่เดี๋ยวขึ้นไปก็รู้เอง” เพราะจะไปถามไอ้โซก่อน

“แล้วทำไมกูต้องไปรอบนห้อง”

ผมกลอกตาเพื่อคิดหาคำตอบที่เป็นความจริงแต่ไม่ดูหน้าด้านจนเกินไป จะบอกว่าผมอยากเข้าห้องพี่ก็ดูไม่เข้าท่าเท่าไหร่

“ในนี้มันไม่มีที่นั่งรอ ผมไม่อยากให้พี่ยืนนาน ออกไปรอข้างนอกก็ร้อนเกินไป รอตรงล็อบบี้ก็หนาวเกินไป เพราะงั้นขึ้นไปรอบนห้องโอเคสุดแล้วพี่”

“แค่นั้น?”

ถึงที่พูดไปจะเป็นเรื่องจริงทั้งหมดแต่ก็ดูไม่ตรงกับความตั้งใจจริงของผมเท่าไหร่ เพราะงั้น...

“แล้วผมก็จะได้เนียนเข้าห้องพี่ด้วยไง” แมนๆ ไปเลยดีกว่า

“หึ” ครู่หนึ่งผมมองเห็นความอ่อนอกอ่อนใจปรากฏอยู่ในดวงตาคู่นั้น แต่ก่อนจะได้สังเกตให้มากกว่าเดิมคนป่วยก็หมุนตัวเดินจากไปเสียก่อน

เอาไว้ค่อยไปสังเกตต่อบนห้อง…

ผมเปิดโทรศัพท์พี่ภู ไม่ได้ยุ่งอะไรกับพื้นที่ส่วนตัวของเขาเพราะถือคติเสือกแบบพอประมาณจะดีที่สุด ในโน้ตของเขามีหัวข้อที่เป็นภาษาอังกฤษอยู่หลายอย่าง ผมกดเข้าไปที่รายการแรก ดูรายชื่อของใช้ที่เขาจดเอาไว้ ส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบทำอาหาร ดูจากในตะกร้าน่าจะหยิบมาเกินครึ่งแล้ว ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นขนมปัง นม น้ำผลไม้ต่างๆ ที่ไม่ต้องใช้ความสามารถในการเลือกเท่าไหร่

โชคดีที่ไม่มีให้ไปเลือกผักหรือของสด ไม่งั้นคงโดนดุเพราะเลือกอะไรไปให้ก็ไม่รู้แน่

หลังจากใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการซื้อของ ผมเดินกลับขึ้นมาชั้นบนสุดอีกครั้งโดยขนของทั้งหมดมาด้วย ดีที่พี่กีล์เปิดประตูออกมาพอดีเลยไม่ต้องเปลืองแรงใช้เท้าเตะประตู

“ซื้ออะไรมาเยอะแยะครับเนี่ย” พี่กีล์เดินเข้ามารับของจากผมแล้วช่วยเอาไปวางไว้บนโต๊ะ ส่วนตัวขี้เกียจที่นอนอยู่บนโซฟา ตอนผมลงไปมันอยู่ท่าไหน ตอนนี้มันก็ยังอยู่ท่านั้น

“ของพี่ภู”

“หืม...พัฒนานะเนี่ย” พี่กีล์ยิ้มแซว

“แผนพี่ใช่ไหม”

“อย่าเรียกว่าแผนเลยครับ เรียกว่าพี่ช่วยดีกว่า” พี่กีล์หัวเราะเสียงดังเมื่อผมหรี่ตามองเป็นเชิงกดดัน “ปกติทุกวันนี้เวลานี้พี่จะลงไปซื้อของข้างล่าง แล้วเผอิญทุกครั้งที่ลงไปมักจะเจอคุณภูตลอดเวลา ก็เลยคิดว่าน่าจะมาซื้อเป็นประจำวันนี้เวลานี้เหมือนกันก็เท่านั้นเองครับ พอเห็นว่าเก้าชอบมากขนาดนั้นก็เลยช่วยให้ลงไปเจอ...แล้วไม่ดีเหรอ”

“ดีมากเลยพี่” พอหายสงสัยแล้วผมก็ชูนิ้วโป้งให้พี่กีล์ “แล้ว...โซมันรู้เมื่อไหร่ว่าพี่ภูอยู่ที่นี่อ่ะ”

พี่กีล์เอียงคอมองผม ท่าทางงงๆ เหมือนไม่เข้าใจ

“โซก็รู้แต่แรกแล้วนี่ครับ ก็คุณท่านบอกโซตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้วว่าคุณภูจะมาอยู่ที่ห้องตรงข้ามแทนคุณท่านเพราะคอนโดเก่าของเขามีปัญหา”

“ไอ้โซ!” ผมพุ่งตัวเข้าไปกระชากคอเสื้อเพื่อน “ทำไมมึงไม่บอกกู!”

“ลืม” มันตอบแล้วไหลตัวลงไปกองกับโซฟาเหมือนเดิม

พูดมาได้ว่าลืม เชื่อก็เหี้ยแล้ว เจอกันตั้งหลายทีไม่มีนึกออกเลยหรือไงวะ โคตรน่าฆ่าทิ้ง

ที่พี่ภูมาอยู่ที่คอนโดเดียวกับไอ้โซผมว่าคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แล้วพี่กีล์ยังมาบอกว่าพ่อซีบอกไอ้โซไว้แล้วอีก ถ้าให้เดา...พ่อต้องเป็นคนแนะนำให้พี่ภูมาอยู่ที่นี่แน่ๆ

“พ่อมึงยังช่วยกูมากกว่ามึงอีก” ผมใช้เท้าถีบมันไปติดโซฟาอีกฝั่งโดยมีพี่กีล์ยิ้มมองแบบไม่คิดห้าม

“กูแค่สงสารภู”

“สงสารไร”

“สงสารที่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับคนอย่างมึง...เลยช่วยถ่วงเวลาให้อีกหน่อย”

“กูเป็นคน ไม่ใช่ผี” ผมถลึงตาใส่ไอ้โซ

“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง”

“ไอ้โซ!”

“พอเถอะครับ” พี่กีล์เข้ามาห้ามทัพโดยการดึงแขนผมไว้ “เก้าอย่าว่าโซเลยครับ ช่วงนี้โซช่วยพี่ดูเอกสารทุกวัน อาจจะลืมจริงๆ ก็ได้ ส่วนโซก็เลิกแกล้งเพื่อนได้แล้ว เดี๋ยวเก้าก็โกรธจริงๆ หรอก”

ผมสบตาไอ้โซนิ่งงัน เราจ้องหน้ากันเหมือนจะดูว่าใครจะยอมแพ้ก่อน สุดท้ายก็เป็นมันที่เบะปากแล้วสะบัดหน้าหนี...หึ จะสู้กับกูยังเร็วไปล้านปีไอ้หมากาก!

“แล้วเก้าไม่ไปหาคุณภูเหรอครับ”

เออว่ะ ลืมไปเลย

“พี่กีล์...ช่วยไรผมหน่อยดิ” ผมหันไปหาพี่กีล์แล้วจ้องมองด้วยสายตาที่คิดว่าจริงจังที่สุดในชีวิต ไม่ต้องรอให้บอกว่าเรื่องอะไรเขาก็พยักหน้าแล้วยิ้มให้เป็นการตอบตกลง ต้องแบบนี้ดิ...คนดีของสังคม “พี่ภูไม่สบาย...ผมอยากทำอาหารให้เขาอ่ะ”

“ทำเอง?” พี่กีล์เบิกตากว้าง ท่าทางดูตกใจจริงจัง

“ใช่ ก็ถ้าให้พี่ทำให้มันก็ไม่มีความหมายดิ”

ถึงจะไม่เคยชอบใครมาก่อน แต่ผมก็รู้ดีว่าในสถานการณ์แบบนี้ควรทำอะไร แม้นิสัยพี่ภูไม่น่าใช่คนที่ดีใจกับเรื่องแบบนี้ แถมเขายังไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมด้วย แต่ผมเชื่อว่าการตั้งใจทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้น่าจะทำให้เขาเปิดใจได้บ้าง...สักนิดก็ยังดี

“แล้วนี่เราไม่หิวแล้วเหรอ”

“ลืมไปเลย” ผมถอนหายใจแล้วเอามือลูบท้อง ไอ้หิวมันก็หิวอยู่หรอก แต่จะกินตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว กว่าจะเอาข้าวไปให้พี่ภูอีก “ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมทำไปกินกับพี่ภู”

“เก้าดูจริงจังกับคุณภูมากเลยนะครับ” พี่กีล์ยิ้มแล้วส่งมีดมาให้ “หั่นหมูเป็นชิ้นๆ เลยครับ ไม่ต้องหนามากนะ เดี๋ยวจะไม่สุก”

ผมพยักหน้า จับมีดหั่นหมูตามที่พี่กีล์บอก

“ผมไม่เคยชอบใคร นั่นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้จริงจังขนาดนี้”

“มั่นใจแล้วเหรอว่ามันคือความชอบจริงๆ” พี่กีล์มองผมด้วยสายตาอ่อนโยนก่อนจะชี้ไปที่เนื้อหมูเป็นเชิงบอกให้หั่นต่อ

“เวลาเจอคนถูกใจ ถ้ามัวแต่สงสัยว่ามันคือความชอบหรือเปล่าก็คงไม่รู้สักทีว่ามันใช่หรือไม่ใช่ ผมก็แค่กล้าที่จะเดินเข้าหาสิ่งที่สนใจ คิดว่าถ้าได้คุย ได้รู้นิสัยกันไปเรื่อยๆ ก็คงได้คำตอบเอง”

เหมือนที่พี่กีล์กับโซได้คบกัน…ไม่ใช่ว่าไม่อิจฉานะ ไอ้โซเป็นเพื่อนคนแรกของผมที่นี่ พอเห็นมันเจอคนที่ชอบแล้วกล้าพูดได้เต็มปากว่าชอบก็รู้สึกอิจฉาอยู่เหมือนกัน ยิ่งคนที่มันชอบดันใจตรงกันยิ่งแล้วใหญ่ พอได้เจอคนที่ผมรู้สึกถูกใจบ้างเลยอยากเข้าไปทำความรู้จัก อยากมีคนที่เดินไปข้างๆ กันได้เหมือนที่มันมี...ผมจะได้เขี่ยไอ้หมาขี้เกียจทิ้งไปเสียที

ให้ช่วยอะไรกูจะอ้างว่าไปหาแฟนให้หมดเลย...เดี๋ยวมึงเจอ

“แล้วถ้าวันที่เก้ารู้สึกว่าไม่ใช่ แต่เขากลับรู้สึกว่าใช่ขึ้นมาล่ะครับ”

ผมเงยหน้ามองพี่กีล์โดยอัตโนมัติ ยอมรับว่าไม่เคยนึกถึงเรื่องนั้นมาก่อน

“พี่เขายังไม่ได้ชอบผมเลย”

“เก้ากำลังพยายามอยู่ไม่ใช่เหรอ...แล้วถ้าพยายามสำเร็จขึ้นมา ถ้าความถูกใจของเก้าทำให้เขาชอบขึ้นมาจริงๆ ล่ะ จะทำยังไงดี”

ความถูกใจงั้นเหรอ…

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน…” ผมวางมีดลงเมื่อคิดว่าหมูแค่นี้น่าจะพอแล้ว “เพราะดูเหมือนความรู้สึกของผมมันก้าวข้ามคำว่าถูกใจไปแล้ว”

ถ้าผมได้มองเฉยๆ ก็คงเรียกว่าถูกใจ แต่เพราะได้เข้าไปคุย ได้เข้าไปทำความรู้จัก ถึงจะยังไม่นานแต่ผมก็กล้าพูดว่าตัวเองชอบพี่ภูจริงๆ ผมได้เห็นเขาในมุมที่คนอื่นเห็น…เห็นว่าเขาดูไม่เอาใคร ไม่สนใจใคร ไม่ชอบยุ่มย่ามกับใคร เพราะงั้นถึงสนใจ แต่สิ่งที่ทำให้ความรู้สึกมีมากขึ้นคือการได้เข้าไปพูดคุย ได้รู้ว่าเขาไม่ใช่คนเย็นชาอย่างที่คิด ถึงจะพูดน้อย ชอบทำหน้าดุแต่ก็ใจดี เขาชอบวาดรูป ทำอาหารเป็น ยิ่งรู้เรื่องของเขามากขึ้น รู้ว่าเขาไม่ได้เป็นแบบที่ผมเห็นตอนแรก แทนที่ความรู้สึกจะหายไปมันกลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีหยุด

“สมเป็นเก้าจริงๆ” พี่กีล์เดินเข้ามาหาก่อนจะวางมือลงบนไหล่ผมเบาๆ “ดีแล้วครับที่ไม่ลังเล”

“ลังเล?”

“ถ้าเก้าลังเลกับความรู้สึกของตัวเอง พี่คงเตือนให้คิดดีๆ เพราะความไม่มั่นคงของเก้าอาจไปทำร้ายคนอื่น”

“อืม…” ผมพยักหน้าและคิดตามที่พี่กีล์พูด

“แต่คุณภูก็ไม่ใช่คนธรรมดาเสียด้วยสิ ยังไงก็พยายามเข้านะครับ”

“ขอบคุณมากนะพี่กีล์”

“ครับ”

ผมได้แต่หวังว่าสุดท้ายแล้วพี่ภูจะรู้สึกแบบเดียวกัน เพราะผมคงหยุดความรู้สึกของตัวเองไม่ได้...และถ้าความรู้สึกของพี่ภูมันเป็นศูนย์ ไม่มีทางเพิ่มขึ้นได้จริงๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรทำยังไง

คงจะเสียใจมั้ง…

แต่อย่าหวังว่าจะมีวันนั้นเลย

อย่างน้อยตอนนี้เขาก็คุยกับผมมากขึ้น ให้ผมเข้าใกล้มากขึ้น...ต้องเอ็นดูกันบ้างแหละวะ!

--------------------------





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-07-2017 14:29:13 โดย CHESS. »

ออฟไลน์ kiszy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[5]==[P.3]== [20/05/60]
«ตอบ #86 เมื่อ20-05-2017 20:05:31 »

ชอบอ่ะะะะ น้องเก้ามั่นดี เมื่อไหร่พี่ภูจะใจอ่อนน้าา

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[5]==[P.3]== [20/05/60]
«ตอบ #87 เมื่อ20-05-2017 20:17:31 »

 :pig4:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[5]==[P.3]== [20/05/60]
«ตอบ #88 เมื่อ20-05-2017 21:02:54 »

ลุยเลยเก้า พี่ภูก็ไม่ได้ปฏิเสธเหมือนตอนแรกๆ นะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ pearlypear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[5]==[P.3]== [20/05/60]
«ตอบ #89 เมื่อ20-05-2017 21:04:46 »

 :L2: :L2: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด