┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[จบ]==
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[จบ]==  (อ่าน 275736 ครั้ง)

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[31]==[P.19]== [06/10/60]
«ตอบ #570 เมื่อ06-10-2017 21:01:31 »

มีความอบอุ่นเจือสีเทาเบาๆ :กอด1:

ออฟไลน์ missm2c

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[31]==[P.19]== [06/10/60]
«ตอบ #571 เมื่อ06-10-2017 22:31:44 »

พี่ภูแม่งชอบก้อนว่าโง่ ก้อนแค่ตามพี่ภูไม่ทันเองนะ 5555555  #พี่ภูของบ่าว

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[31]==[P.19]== [06/10/60]
«ตอบ #572 เมื่อ06-10-2017 22:55:06 »

มันรู้สึกอุ่นๆ  :-[

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[31]==[P.19]== [06/10/60]
«ตอบ #573 เมื่อ06-10-2017 23:35:01 »

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[31]==[P.19]== [06/10/60]
«ตอบ #574 เมื่อ07-10-2017 00:35:30 »

งื้ออออ ละมุนค่าาาาาา

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[31]==[P.19]== [06/10/60]
«ตอบ #575 เมื่อ07-10-2017 12:56:39 »

เก้าอ่ะ ชอบเก้ามากเลยย

ออฟไลน์ nantarat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[31]==[P.19]== [06/10/60]
«ตอบ #576 เมื่อ07-10-2017 18:17:18 »

 :กอด1:

ออฟไลน์ chaWice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[0]== [29/04/60]
«ตอบ #577 เมื่อ07-10-2017 22:06:45 »

ร้ายทั้งคู่

 :กอด1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[31]==[P.19]== [06/10/60]
«ตอบ #578 เมื่อ08-10-2017 00:52:45 »

เวลาเก้าเขินมันน่ารักมากเลย

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[31]==[P.19]== [06/10/60]
«ตอบ #579 เมื่อ09-10-2017 08:15:27 »

พี่ภูคนอบอุ่นนนนนน :heaven

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[31]==[P.19]== [06/10/60]
« ตอบ #579 เมื่อ: 09-10-2017 08:15:27 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[31]==[P.19]== [06/10/60]
«ตอบ #580 เมื่อ14-10-2017 19:16:22 »



-32-

 

“งานนี้ผมจำเป็นต้องไปจริงๆ นะ”

“แต่คุณรับปากกับฉันว่าจะพาลูกไปเที่ยววันนี้นะคะ”

“เฮเลน่า…”

วันนี้ผมได้รู้เพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง…ดูเหมือนจริงๆ แล้วแม่เฮเลนจะมีชื่อเต็มๆ ว่าเฮเลน่า ผมหันไปถามภามแล้วก็ได้ความว่าเขากับพี่ภูชินที่จะเรียกสั้นๆ มากกว่า จะมีก็แต่พ่อออสตินที่ยังเรียกชื่อเต็มอยู่

“เก้า ช่วยพ่อหน่อย”

อุตส่าห์ยืนคิดอะไรเพลินๆ…โดนลากเข้าไปเกี่ยวจนได้

“งั้นแม่ไปกับพ่อด้วยดีไหมครับ” ผมเดินเข้าไปเกาะแขนแม่เฮเลนที่ยืนขมวดคิ้วอยู่อย่างรู้งาน พอท่านหันมามองแล้วก็ยิ้มอ้อนให้จนใบหน้าแข็งกร้าวอ่อนลงอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องห่วงภามนะ เดี๋ยวผมดูแลให้เอง”

“จะดีเหรอลูก”

“เอาไว้เราไปเที่ยวกันวันหลังก็ได้ครับ แม่ไปกับพ่อเถอะนะ” พอผมพูดจบท่านก็ทำท่าคิดหนัก เอาแต่มองหน้าภามสลับกับผมอยู่นานหลายนาที จวบจนพ่อเดินเข้ามาโอบเอวนั่นล่ะท่านถึงยอมเดินตาม

“งั้นแม่ฝากด้วยนะลูก” แม่เฮเลนหันมาจับไม้จับมือผมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินนำออกไปนอกบ้านโดยไม่รอพ่อ ฝ่ายคนที่โดนงอนพอเห็นแบบนั้นแล้วก็ถอนหายใจยาว ท่านหันมาตบไหล่ผมเป็นการขอบคุณสองสามทีแล้วรีบวิ่งตามภรรยาออกไป

เห็นคนมีอายุดูรักกันดีแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าดีจังเลยน้า…

“แผนล่มแบบนี้แล้วเราจะทำอะไรกันดี” ผมหันกลับไปถามคนที่ยืนกอดอกพิงขอบประตูอยู่ไม่ไกล ตอนนี้ทั้งบ้านเหลือกันอยู่สองคน พี่ภูก็ไปทำงาน ป้าเจนก็ลากลับบ้านกับลุงอดัม พ่อกับแม่ก็เพิ่งออกไปเมื่อกี้ เหลือแค่ผมกับภามที่ไม่รู้ว่าจะไปไหน

เรื่องของเรื่องคือจริงๆ วันนี้เราวางแผนร่วมกันไว้ว่าจะออกไปเที่ยวข้างนอก โดยแม่เฮเลนจะพาผมเข้าไปเที่ยวในเมืองและถือโอกาสพาภามไปด้วย เราคิดว่าจะเที่ยวจนถึงเย็นแล้วรอพี่ภูเลิกงานเพื่อไปกินข้าวนอกบ้านพร้อมกัน แต่ทุกอย่างก็ล่มหมด เมื่อพ่อออสตินที่ต้องเป็นคนขับรถบอกว่ามีงานเข้าและอยากให้แม่เฮเลนไปด้วย ตอนแรกท่านจะให้ผมกับภามไปด้วยกันเลย แต่ภามบอกว่าไม่อยากไป ผมเองก็เห็นด้วยกับเขาเพราะไม่อยากไปเกะกะระหว่างพ่อทำงาน สุดท้ายสถานการณ์เลยกลายเป็นแบบเมื่อครู่

‘จริงๆ ผมมีเรื่องจะขอให้ช่วย’

“หืม…” ผมเดินกลับไปหาภาม ก่อนจะมองเขาด้วยความแปลกใจ จะบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายขอให้ช่วยก็คงได้

‘ผมอยากไปที่ห้องนั้น’

“ภาม…” ผมขมวดคิ้วเมื่อได้รู้สิ่งที่เขาต้องการ ไม่ต้องถามต่อก็รู้ว่าห้องที่ว่าคือห้องอะไร แต่ปัญหาคือ…

‘ผมรู้อยู่แล้วว่ามีอะไรอยู่ที่นั่น’

ตั้งแต่หลายวันก่อนที่ผมกับพี่ภูขึ้นไปที่ห้องภาพซึ่งมีเปียโนอยู่ด้วย หลังจากวันนั้นก็ไม่มีใครพูดเรื่องห้องนั้นอีกเลย ผมแอบถามพี่ภูตอนที่เราอยู่ด้วยกันสองคน แล้วก็เป็นไปตามคาด…ที่เขาล็อกห้องไว้ก็เพราะมีภาพของแม่แท้ๆ อยู่ในนั้น และที่ต้องรีบออกมาก็เพราะไม่ต้องการให้ภามเห็น

“รอให้พี่ภูกลับมาก่อนดีไหม” ผมถามด้วยความกังวล บอกตรงๆ ว่าลำพังตัวคนเดียวคงรับมือไม่ได้แน่ถ้าภามแสดงอาการอะไรออกมา พี่ภูเคยบอกผมว่าที่บ้านเก็บทุกอย่างที่เกี่ยวกับแม่แท้ๆ ของพวกเขาออกไปหมดแล้ว เพราะไม่ต้องการให้ภามเห็น พวกเขากลัวว่าภามจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม…เหมือนตอนที่เคยพยายามฆ่าตัวตาย

‘ไม่เป็นไรหรอก’

ผมถอนหายใจก่อนจะพยักหน้า แต่ถ้าถามว่าเชื่อไหม…เชื่อไม่เชื่อก็ส่งไลน์ไปหาพี่ภูแล้วเรียบร้อย กันไว้ดีกว่าแก้

“ภาม”

ภามหยุดมือที่กำลังจะเปิดประตูเข้าห้องไว้ เขาหันมามองผมเป็นเชิงถาม แต่เมื่อเห็นผมทำหน้ายุ่งเพราะกำลังคิดมากก็หลุดยิ้มออกมา

‘ผมไม่อาละวาดหรอกน่า’

“ถ้าทำขึ้นมากูตีหัวมึงสลบนะ” อันนี้จริงจัง ถ้าต้องเห็นอีกฝ่ายอาละวาดหรือนั่งซึมผมตีสลบจริงๆ แน่ ตัดปัญหา

ภามทำหน้าเหมือนอยากจะขำอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมพยักหน้า เขาดึงแขนผมให้เดินเข้าไปด้านในโดยไม่ยอมให้ขัดอะไรอีก พอเข้ามาแล้วเจ้าตัวก็สอดส่ายสายตามองไปรอบห้อง ผมมองคนที่เดินไปดูภาพต่างๆ ด้วยความกังวลใจ สุดท้ายก็ต้องแอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าคนที่กำลังทำงานอยู่ได้รับข้อความหรือยัง

 

PHU: กำลังไป

 

ค่อยยังชั่วหน่อย…ขอแค่พี่ภูมาอยู่ตรงนี้ผมก็เชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย แต่ก่อนหน้านั้นผมต้องดูแลภามด้วยตัวเองก่อน จะให้ทุกคนผิดหวังไม่ได้เด็ดขาด

คิดได้แบบนั้นแล้ว ผมก็มองตามร่างของเด็กตัวสูงที่ดูมีเนื้อมีหนังมากกว่าแต่ก่อนตาไม่กะพริบ จะว่าไปก็เพิ่งสังเกตเหมือนกันว่านับวันคนตรงหน้าเริ่มดูเหมือนพี่ภูมากขึ้นเรื่อยๆ หน้าตาก็ไม่ได้ซูบตอบเหมือนเดิมแล้วด้วย ส่วนสูงก็เท่าเทียมกัน ถ้าภามตัดผมทรงเดียวกับพี่ภูแล้วมองจากด้านหลังคงแทบแยกไม่ออก แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อได้เห็นหน้าก็ยังแตกต่างกันอยู่มาก และผมยังคงยืนยันคำเดิมว่าบรรยากาศรอบตัวทั้งคู่ไม่เหมือนกันเลยสักนิด

วินาทีที่ภามไล่มือไปตามภาพสีน้ำ ผมรู้สึกใจหายแปลกๆ เพราะยิ่งเดินก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาเข้าใกล้ภาพวาดขนาดใหญ่ที่ตั้งหันหลังอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ ผมกัดริมฝีปากเพื่อไม่ให้เผลอส่งเสียงรั้งเขาไว้ ซึ่งดูเหมือนภามจะรู้ว่าผมคิดอะไร เขาถึงได้หันกลับมาหาแล้วยิ้มน้อยๆ เหมือนจะย้ำว่าไม่เป็นไรหรอก

ไม่เป็นได้ไงล่ะ…เมื่อไหร่พี่ภูจะมาเนี่ย ผมไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยให้ตายเถอะ

ภามจับขอบไม้ของภาพวาดที่ตั้งหันหลังไว้ ก่อนเขาจะเดินไปด้านหน้ามันช้าๆ นั่นทำให้ผมมองเห็นหน้าของคนที่กำลังมองไปที่ภาพวาดได้อย่างชัดเจน…ใบหน้าที่ดูว่างเปล่าและไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ…ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมองไปที่มันนิ่งๆ และยืนอยู่อย่างนั้นนานหลายนาที…หลายนาทีจนผมเริ่มรู้สึกไม่ดีและต้องเดินเข้าไปหา

“ภาม พอเถอะ” ผมดึงร่างที่ยังยืนแข็งเป็นหินออกมาจากจุดนั้น แล้วบังคับให้เขาเดินตามไปนั่งที่โซฟาซึ่งอยู่ไม่ไกล “โอเคหรือเปล่า”

‘โอเค’ มือบอกว่าโอเค แต่หน้าตาไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด

ได้เห็นเขาทำท่าเหมือนตกอยู่ในภวังค์อีกครั้งผมก็เริ่มใจไม่ดี คิดไปคิดมาว่าจะทำยังไงอยู่สักพัก สุดท้ายเลยใช้มือสองข้างจับแก้มอีกฝ่ายไว้แล้วบังคับให้มองหน้ากัน

“เป็นก็บอกว่าเป็นดิวะ” ว่าแล้วก็เขย่าหน้าที่จับอยู่จนสั่นคลอน ทำเอาอีกฝ่ายทำหน้างงไปครู่หนึ่งและต้องดึงมือผมออกเพื่อให้หยุดเขย่า

‘มึนหัว’

“ดีแล้ว” เอาให้ความคิดรวนไปเลย ไอ้ที่คิดในหัวจะได้หายไปให้หมด

‘บ้าบอ’

“กล้าว่ากูเหรอ”

ภามลอยหน้าลอยตาไม่ยอมตอบ แต่ผมไม่ถือสา ได้เห็นท่าทางกวนส้นตีนของเขาแล้วก็ยิ้มออก…อย่างน้อยไม่ทำหน้าตาว่างเปล่าแบบเมื่อกี้ก็พอแล้ว

“ภาม…มึงมีอะไรอยากพูดหรือเปล่า” ผมถอนหายใจโล่งอก เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนยืนอยู่ที่ประตูซึ่งไม่ได้ปิด แต่เพราะภามหันหน้ามาหาผม เจ้าตัวเลยไม่เห็นว่าพี่ชายตัวเองกลับมาแล้ว โดยพี่ภูก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเดินเข้ามาหาแต่อย่างใด เขาแค่ยืนพิงขอบประตูไว้นิ่งๆ แล้วส่งสัญญาณให้ผมคุยต่อ

‘พูด?’

“อือ…อะไรที่อยากพูด บอกกูได้นะ”

‘จะบอกให้ผมสู้ๆ อีกคนเหรอ’ เขายิ้มบิดเบี้ยว ท่าทางดูราวกับกำลังนึกถึงอะไรบางอย่าง ผมเลยจัดการผลักหัวยุ่งๆ นั้นอย่างแรงจนภามเกือบตกโซฟาเป็นการเรียกสติ เล่นเอาคนถูกกระทำเงยหน้ามองตาขวาง

“หน้ากูดูเหมือนคนที่จะพูดว่า ‘สู้ๆ นะ’ เหรอ”

ผมไม่ใช่คนที่พูดไปเรื่อยแบบไร้ประโยชน์ คนแต่ละคนมีความต้องการแตกต่างกัน ยิ่งคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับจิตใจก็ยิ่งต้องใส่ใจ คนพวกนี้เขาไม่ได้ต้องการคำพูดลอยๆ ตามมารยาทที่ใครก็พูดได้ จริงๆ ต้องบอกว่าคงไม่มีใครต้องการคำพูดตามมารยาททั้งนั้น มันก็เหมือนเวลาที่เรารู้สึกแย่หรือผิดหวัง สิ่งที่เราต้องการที่สุดคงไม่ใช่คำพูดจอมปลอม…แต่มันคือ ‘ความจริงใจ’ ต่างหาก

“ที่อยากให้เล่าเป็นเพราะกูอยากช่วย และคิดว่ามึงเองก็คงอยากพูดให้ใครสักคนฟัง…กูไม่รู้ว่ามึงเคยเจอคนแบบไหนมานะภาม แต่ตอนนี้กูคือครอบครัวมึงแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่งั้นคิดซะว่ากูเป็นกระต่ายก็ได้…มึงอยากลองเล่าให้กระต่ายฟังดูสักครั้งไหม”

‘กระต่าย?’ ภามทำหน้าตาเหลอหลา ผมเลยพยักหน้าตอบกลับไปอย่างจริงจัง

“เออ…ถ้ามึงไม่อยากเล่าให้ใครฟังก็คิดว่ากูเป็นกระต่ายก็แล้วกัน ทีนี้อยากบอกอยากระบายอะไรก็ว่ามาเลย” ไม่ใช่เรื่องง่ายนะที่ผมจะยอมรับว่าตัวเองเป็นกระต่ายกับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ภู แต่ในกรณีจำเป็นแบบนี้ก็คงต้องยอม อีกอย่าง เจ้าของก็ยืนมองอยู่แล้วด้วย

ภามส่ายหน้าหน่ายเมื่อผมพูดจบ เขาหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาแล้วกดอะไรก็ไม่รู้ ผ่านไปสักพักโทรศัพท์ของผมก็สั่นเพราะมีไลน์เข้า

 

asdf: …

 

“มึงไปเอาไลน์กูมาตอนไหน” ผมเงยหน้าถามงงๆ จำได้ว่าเราไม่เคยแลกไลน์กัน หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้องบอกว่าผมเพิ่งรู้ว่าภามมีโทรศัพท์มากกว่า

‘พี่’

“อ๋อ…แล้วตั้งชื่ออะไรของมึงเนี่ย”

‘ช่างผมเถอะน่า’ ภามโบกมือปัดไปมาแล้วทำหน้าตาไม่พอใจ ‘เคยมีใครบอกไหมว่านายชอบทำลายบรรยากาศ’

จำได้ว่ามี…แต่เยอะเกินจนนึกไม่ออกว่าใครบ้าง

 

asdf: ผมเคยเล่าเรื่องตัวเองให้เพื่อนฟังมาก่อนแล้ว

 

ผมเงยหน้ามองคนที่อยู่ๆ ก็พิมพ์ไลน์เปลี่ยนเรื่องด้วยความประหลาดใจ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรแล้วก้มลงตั้งใจอ่านสิ่งที่เขาพิมพ์มา…โดยไม่ลืมส่งทุกข้อความต่อไปให้พี่ภูดูด้วย โชคดีที่ฝั่งนั้นปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ตลอดเวลาภามเลยยังไม่รู้ตัว

 

asdf: หลังจากแม่ตายผมก็ไม่อยากพูดอะไรอีก แต่เพราะยังต้องไปโรงเรียนผมถึงพยายามพูดออกมาเพื่อไม่ให้เพื่อนมองว่าแปลก จนมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง ผมเล่าทุกสิ่งที่คิดและรู้สึกให้ฟังเพราะเขาถาม แต่กลับกลายเป็นว่าเพื่อนคนนั้นก็แค่อยากรู้ พอได้คำตอบก็แค่บอกว่าสู้ๆ แล้วเอาไปพูดต่อสนุกปาก

 

เพราะแบบนั้นถึงไม่ยอมเล่าให้ใครฟังอีกสินะ…

 

asdf: หลุมในใจผมใหญ่กว่าเดิม ต่อให้ใครใส่อะไรมาก็ไม่มีวันเต็ม ผมไม่อยากเจอหน้าใคร ไม่อยากได้รับความช่วยเหลืออะไรทั้งนั้น

 

ภามนิ่งไปและทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง เขาดูเหม่อลอยมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องตัดสินใจพูดออกมา

“ครอบครัวมึงอยู่ตรงนี้” รวมถึงผมด้วย…

เขาเงยหน้ามองด้วยสายตาเรียบเฉยแต่ไม่ได้ว่างเปล่าเหมือนเคย จากนั้นก็ส่งยิ้มบางมาให้ผม ก่อนจะก้มหน้าก้มตาพิมพ์ต่อ

 

asdf: เวลาหลับตา…ผมมองเห็นภาพแม่จมอยู่ในกองเลือดและกำลังร้องขอความช่วยเหลือ ในขณะที่ผมนั่งหลบอยู่ในตู้เก็บของโดยที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

 

ผมขมวดคิ้วเคร่งเครียด ก่อนจะเงยหน้าสบตากับพี่ภูเข้าอย่างจัง สีหน้าของเขาดูเจ็บปวดไม่แพ้ภามเลยสักนิด

 

asdf: แค่หลับตาลงในความมืดผมก็รับรู้ได้ถึงอารมณ์ในตอนนั้น มันอึดอัด มันเจ็บไปหมด…

 

“พอเถอะ” ผมจับไหล่คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาไว้แน่นและอยากบอกให้เขาหยุด เพราะยิ่งเล่าสีหน้าของภามก็ยิ่งดูเจ็บปวดจนผมเริ่มทนไม่ไหว เพียงแต่เขาไม่ฟังและยังคงก้มหน้าพิมพ์ต่ออยู่อย่างนั้น

 

asdf: ผมรักครอบครัว ผมไม่อยากให้ทุกคนลำบากเพราะตัวเอง แต่ยิ่งผมพยายามมากเท่าไหร่ทุกคนก็ยิ่งเจ็บปวด ผมไม่ได้อยากเป็นแบบนี้เลย ไม่เคยอยากเป็นแบบนี้เลยสักนิด

 

“พอแล้ว!” ผมปัดโทรศัพท์ออกจากมือภาม ก่อนจะดึงคนที่กำลังตัวสั่นเป็นลูกนกเข้ามากอดไว้แน่น ตอนแรกเขานิ่งไม่แสดงท่าทีอะไร แต่เมื่อกายสูงใหญ่ของใครอีกคนขยับเข้ามากอดเราทั้งคู่ไว้ คนในอ้อมแขนผมก็ยอมกอดกลับและร้องไห้ออกมาโดยไม่คิดกลั้น

“ผมทรมานมากเลยกระต่าย…ฮึก”

นี่คือครั้งแรก…ที่ผมได้ยินเสียงภาม

คนที่จมอยู่กับความทรงจำเลวร้ายที่ฝังรากลึกอยู่นานหลายปี มันไม่ใช่ว่าตัวเขาต้องการให้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด แต่เป็นเพราะคนรอบข้างนอกเหนือจากครอบครัวไม่เคยเข้าใจเขาเลยต่างหาก ไม่ใช่ไม่เคยพยายาม…ภามเองก็เคยเล่าแล้ว แต่เพราะสิ่งที่เขาเล่ากลับกลายเป็นเรื่องตลกของคนอื่น เขาถึงได้เลือกที่จะเก็บมันเอาไว้แบบนั้น

ถ้าการป่วยทางกายเป็นเรื่องน่ากลัว…ผมคิดว่าการป่วยทางใจเองก็น่ากลัวไม่แพ้กัน…โดยเฉพาะเมื่อคนป่วยที่มีความอ่อนไหวง่ายได้รับฟังคำพูดแย่ๆ หรือทัศนคติเฮงซวยจากคนรอบข้าง…คนที่คิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ ถ้าไม่ใช่สิ่งที่เกิดกับครอบครัวตัวเอง

“ไม่เป็นไร” อ้อมแขนที่กอดรัดผมกับภามเอาไว้กระชับแน่นกว่าเดิม ราวกับจะช่วยเรียกสติของเราทั้งคู่ พี่ภูวางคางลงบนบ่าผม ในขณะที่มืออีกข้างก็ลูบหัวลูบหลังปลอบน้องตัวเองที่ซุกหน้าไว้กับอกผมไม่หยุด

“เออ ไม่เป็นไร” ผมย้ำด้วยเสียงที่พยายามทำให้ดูร่าเริง

“ฮึก…”

ผมโคลงตัวโยกไปโยกมาเหมือนภามเป็นเด็กๆ โดยมีคนที่กอดซ้อนอยู่ด้านหลังช่วยออกแรงตามอีกที เพราะลำพังผมคนเดียวคงลากพวกเราให้โยกตามกันไม่ไหว จวบจนเมื่อรู้สึกได้ว่าเสียงสะอื้นเริ่มเบาบางลงผมเลยพูดต่อ

“กูก็ชอบให้กอดแบบนี้นะ แต่เปลี่ยนเป็นกูซุกมึงแทนได้ไหม คือตัวมึงหนักมากเลย…”

ถึงจะมีพี่ภูอยู่ด้านหลังคอยประคองไว้อีกทีแต่มันก็ยังหนักอยู่ดี แถมตอนนี้ก็รู้สึกเจ็บอกที่ถูกทิ้งน้ำหนักลงมาเต็มๆ ไปหมดแล้วด้วย

“มึงนี่นะ” พี่ภูกระซิบเบาๆ ข้างหูผมด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย แต่แล้วเราก็ต้องชะงักไปทั้งคู่ เมื่ออยู่ๆ คนที่เพิ่งหยุดร้องไห้ก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ

“ภาม?” ผมส่งเสียงเรียก แต่ภามไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่ดันตัวออกช้าๆ ก่อนจะยกมือเช็ดหน้าเช็ดตาตัวเอง จนเมื่อเอามือออกแล้วผมถึงมองเห็นตาแดงๆ คู่นั้นได้อย่างชัดเจน

“ผะ…ผม…” ภามพยายามจะพูดอะไรสักอย่างออกมา แต่มันก็ดูติดๆ ขัดๆ จนน่าสงสาร สุดท้ายคนที่ยังนั่งซ้อนหลังผมอยู่ก็ทนไม่ไหว ต้องเอ่ยปากกับเขา

“ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดก็ได้”

พอได้ยินคำบอกกับสายตาลุ้นๆ จากผมกับพี่ภูแล้ว ภามก็สูดหายใจเข้าจนสุด ก่อนจะจ้องมองกลับมาอย่างมุ่งมั่น

“ผม…อยากพูดกับทุกคน…มาตลอด”

ผมดีใจที่ได้ยินแบบนั้น แต่คนที่ดีใจมากกว่า…น่าจะเป็นคนที่กำลังกอดเอวผมไว้แน่นจากด้านหลังในตอนนี้

“กูรู้ว่ามันยาก แต่ตอนนี้ก็ทำได้แล้วนี่” ผมยื่นมือไปตบไหล่ภามแปะๆ ซึ่งเขาก็ส่งยิ้มน้อยๆ กลับมาให้

“คงเพราะ…ได้ระบาย” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าของคนที่ไม่ได้พูดมานานฟังดูเศร้าสร้อยจนทำให้ผมรู้สึกแย่ตามไปด้วย และคิดว่าคนที่อยู่ข้างหลังก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน ผมเลยวางมือทับไว้ที่มือของพี่ภูเพื่อให้กำลังใจเขา ก่อนจะมองหน้าภามแล้วพูดต่อ

“ไม่มีใครเก่งไปหมดทุกเรื่องหรอก กูยอมรับว่าแม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดจะบอกอะไร แต่มึงก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจกับความห่วงใยที่กูกับพี่ภูมีให้ใช่ไหม” ไม่ใช่แค่ถามไปเฉยๆ เพื่อจะบอกว่าสู้ๆ หรืออะไรทั้งนั้น ผมอยากให้เขาพูดในสิ่งที่คิดเพื่อระบายความรู้สึกทั้งหมดออกมา รวมถึงอยากจะบอกว่ามีคนที่เข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างๆ เขาตลอดเวลาอยู่ตรงนี้ “ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก แต่อย่าคิดว่าไม่มีใครเข้าใจมึง อย่าคิดว่าไม่มีใครเป็นห่วง ถ้าหลับตาแล้วเห็นแต่ภาพที่ไม่ดี งั้นมึงก็ไม่ต้องหลับตา แค่มองความจริงตรงหน้า นึกถึงสิ่งที่จะเจอต่อไปในวันพรุ่งนี้แทน”

“…”

“เวลามันน่ากลัวนะ…แม้แต่กระต่ายอย่างกูยังกลัวเลย” เพราะถอยหลังกลับไปไม่ได้ แก้ไขอดีตไม่ได้ อะไรที่เสียไปแล้วก็ไม่อาจย้อนคืนกลับมาได้ใหม่ เพราะงั้นมันถึงน่ากลัวที่สุด…

“ผมรู้แล้ว” คนฟังตอบกลับพร้อมรอยยิ้มจาง เขามองหน้าผมสลับกับหน้าพี่ภูอยู่นาน มองจนผมเริ่มสงสัยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ และเมื่อคิดที่จะขัดเพราะกลัวภามจะนึกถึงอะไรที่ไม่ดี อยู่ๆ เขาก็พูดออกมาเสียก่อน “ผมเองก็อยากมีคนอยู่เคียงข้างเหมือนที่พี่มีบ้าง”

“ชอบกูล่ะสิ” ผมเชิดหน้าขึ้นอย่างอวดๆ ก่อนจะหัวเราะหึ “แย่หน่อยนะที่กูเป็นของแรร์”

เพียะ!

“โอ๊ย! ตีผมทำไมเนี่ย” ผมลูบแขนที่โดนคนข้างหลังตีดังเพียะป้อยๆ ก่อนจะหันไปมองเคืองๆ แต่พี่ภูแค่ส่งสายตาเหนื่อยหน่ายกลับมาแล้วเมินผมไป

“เดี๋ยวก็เจอ” เขาบอกภามแบบนั้น “พอถึงเวลาเดี๋ยวมันก็มาอยู่ตรงหน้าเอง”

มือที่กอดเอวผมไว้กระชับแน่นกว่าเดิมราวกับจะย้ำให้ผมฟังด้วยอีกคน ในขณะที่ภามทำเพียงแค่ส่งยิ้มจางๆ มาให้ ก่อนจะพยักหน้า

“แต่ก่อนหน้านั้นต้องตั้งใจรักษาก่อน เข้าใจหรือเปล่า” พี่ภูพูดในสิ่งที่ตรงกับใจผมพอดี จริงๆ ผมก็อยากหาเวลาพูดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ถึงภามจะไม่ได้ต่อต้านอาวิล แต่ท่านก็มาบอกอยู่ว่าเขาไม่ได้เต็มใจแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่จะแค่รับฟังแล้วตอบแบบสั้นๆ มากกว่า หรือบางทีก็มีสิ่งที่ใช้มือสื่อสารออกมาได้ไม่หมด เพราะงั้นเลยยังน่าเป็นห่วงอยู่พอควร

“ครับ” ภามพยักหน้า “ผมจะพยายาม”

“เออภาม ถ้ามึงรู้สึกดีขึ้นแล้วไว้ไปเที่ยวไทยกับกูนะ” ผมตาเป็นประกายทันทีเมื่อนึกอะไรดีๆ ได้ ยิ่งเมื่อเห็นภามดูสนใจก็ยิ่งคันปากอยากพูด “บ้านกูอยู่เหนือ จ๋า…หมายถึงแม่กูมีไร่ส้มอยู่ด้วย บรรยากาศดีมากๆ กูว่ามึงต้องชอบ”

ภามพยักหน้าหงึกหงักรับคำอย่างรวดเร็ว ผมเลยแอบยิ้มกับตัวเอง ต้องขอบคุณความขี้เสือก…ไม่ดิ…ความช่างสังเกตของตัวเองที่ทำให้เห็นในสิ่งที่ไม่น่าเห็น…

หลังจากได้เข้าไปนอนอยู่ในห้องภามมาหลายสัปดาห์ ผมสังเกตเห็นว่าก่อนนอนเขามักจะมีกิจวัตรประจำวันอยู่อย่างหนึ่งที่ต้องทำตลอด สิ่งนั้นก็คือการเปิดคอมพิวเตอร์ในห้องเพื่อดูรายการท่องเที่ยว ตอนแรกผมคิดว่าเขาแค่หาอะไรทำฆ่าเวลา แต่เมื่อสังเกตแล้วถึงได้รู้ว่าเจ้าตัวดูรายการแบบเดียวกันแทบทุกวัน อีกทั้งยังมีการค้นหาข้อมูลเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวอยู่บ่อยๆ ด้วย

“มึงอยากไปเที่ยวใช่ไหม”

“ผมชอบสถานที่สวยๆ” เขาตอบ “บางที่…แค่เห็นรูปก็รู้สึกดีแล้ว”

“แค่บอกพ่อหรือพี่มึงก็ไปได้สบายๆ แล้ว” ผมบอกก่อนจะเบะปาก ถ้าเป็นตัวเองนะ…นอกจากป๋าจะไม่ให้ไปคนเดียวแล้ว จ๋ายังจะไล่ให้ไปหาเงินเองด้วยเถอะ

“ไม่…” ภามส่ายหน้า เขาอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ดูไม่ชิน เลยต้องใช้เวลาสักพักกว่าคำพูดจะหลุดออกมาได้ “ผมไม่ได้อยากไป แค่รู้สึกว่ามันสวยดี”

แบบนั้นมันก็เรียกว่าชอบไง…

“ลองหาเป้าหมายดูไหม” พี่ภูพูดก่อนจะปล่อยแขนออกจากเอวผม เขาจิ๊ปากเบาๆ เหมือนจะหงุดหงิด ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าเรื่องอะไร แต่พอโดนผลักหัวจนตัวเอนตกจากโซฟาก็เข้าใจ…

เขากำลังจะบอกว่าผมเกะกะ! เกลียดดดด

แม้อยากเอาคืน แต่เมื่อเห็นว่าเรื่องที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงจังเลยได้แต่ขมวดคิ้ว แล้วเอาคางเกยโซฟามองคนทางซ้ายกับคนทางขวาสลับกันเงียบๆ

“เป้า…หมาย?”

“ลองมองหาสิ่งที่อยากทำดู เผื่อทุกอย่างจะดีขึ้น”

“ตอนนี้ผมก็ดีขึ้นแล้ว”

ผมสบตากับพี่ภูเพื่อสื่อสารกันทางสายตา เป็นอย่างที่ภามว่า…ตอนนี้เขาดูดีขึ้นแล้วจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไว้ใจไม่ได้หรอก ถ้าเขาอยู่ตัวคนเดียวแล้วคิดถึงเรื่องแย่ๆ อีก อารมณ์ตอนนั้นอาจทำให้อะไรเกิดขึ้นก็ได้ เพราะงั้นพี่ภูถึงอยากให้เขามองหาเป้าหมายของตัวเองเอาไว้ จะได้นึกถึงเรื่องอื่นๆ

“กูมีความฝันอยู่อย่างหนึ่ง…” ผมเริ่มพูดเรื่องของตัวเองขึ้นมา พอเห็นว่าคนฟังมองมาอย่างสงสัยก็ขยับยิ้มให้ “เพราะอยากเปิดโรงเรียนสอนดนตรีก็เลยเลือกเรียนดุริยางค์ แต่กูกลับไม่ใช่คนที่อยากสอนหรืออยากทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ อยู่แค่นั้น อารมณ์ประมาณว่าอยากเปิดโรงเรียนเพราะมันดูเท่อะไรแบบนี้ ดังนั้นสำหรับตอนเด็กๆ มันเลยเป็นแค่ความฝันที่เป็นไปได้ยาก นึกออกไหม”

“นั่นมันเป็นเรื่องดีเหรอ” ภามถามหน้าตาจริงจัง

“ดีไม่ดีไม่รู้ รู้แค่อยากทำแล้วก็ตั้งมันเป็นความฝันมาโดยตลอด พอโตขึ้นมาถึงได้รู้ว่าอนาคตกับความฝันมันไม่เหมือนกัน…ความฝันก็เป็นแค่ความฝัน ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิต เหมือนกับการที่กูฝันอยากเปิดโรงเรียนเลยเลือกเรียนสายนี้ ในขณะที่อนาคตหรือเป้าหมายคือความรับผิดชอบที่จะต้องอยู่กับมันไปตลอด…ซึ่งจนถึงตอนนี้กูก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองจะทำอะไร” ผมหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าปวดตับของพี่ภู “แต่คิดว่ามีคำตอบอยู่แล้วล่ะ แค่ยังไม่ได้บอกใคร”

“อะไรเหรอ”

“ไม่บอก” ผมยิ้มอารมณ์ดีเมื่อเห็นสีหน้าขัดใจของทั้งพี่ทั้งน้อง “มึงเองก็ลองมองหาดูสิ ความฝัน เป้าหมาย สิ่งที่อยากทำ จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น”

ภามขมวดคิ้ว ก่อนจะก้มหน้าลงเหมือนคนคิดหนัก ผ่านไปสักพักเขาก็เงยหน้ามองพี่ภูสลับกับผมด้วยดวงตาที่ดูเปล่งประกายกว่าทุกครั้ง

“ผมอยาก…ไปเที่ยวบ้านเก้า”

“อื้อ ได้อยู่แล้ว” ผมรับคำด้วยรอยยิ้ม

“อยากไป…ว่ายน้ำ”

“หมดหน้าหนาวแล้วจะพาไป” พี่ภูตอบ

“ไปญี่ปุ่นด้วย” ภามยิ้มกว้างเมื่อพูดถึงญี่ปุ่น จะว่าไปดูเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวที่เขาชอบค้นหาจะอยู่ในญี่ปุ่นเยอะเหมือนกัน

“ถ้าว่างเมื่อไหร่ก็ไปด้วยกัน” พี่ชายสายเปย์ตอบอย่างรวดเร็ว แถมยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กตารางงานอีกต่างหาก

“ผมอยากตามหาจุดหมายของตัวเอง”

“…”

“อยากตามหา…สิ่งที่เป็นของตัวเอง” ภามก้มลงมองมือทั้งสองแล้วกำมันไว้แน่น “อยาก…ลองดู”

ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อโดนบิดแก้มโดยไม่ทันรู้ตัว และเมื่อเงยหน้ามองถึงได้เห็นสายตาของคนหน้าดุที่กำลังบอกว่าให้พูดอะไรสักอย่างเดี๋ยวนี้

“ตัวเองพูดไม่เก่งเอง จะใช้งานแล้วยังทำร้ายร่างกายกันอีก” บ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆ พอโดนหรี่ตามองผมก็ยอมหันไปหาภามแต่โดยดี “ทำได้แน่”

“…”

“ถ้าพยายามและตั้งใจ สักวันหนึ่งมันจะเป็นของเรา” เหมือนกับที่ผมพยายามมาตลอด…

“ถ้าอดีตมันแย่ก็ไม่ต้องนึกถึงอะไรทั้งนั้น แค่มองหาอนาคตของตัวเองให้เจอก็พอ” พี่ภูพูดต่อจากผมอย่างรู้งาน ก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวภามเบาๆ ซึ่งเขาก็พยักหน้าและส่งยิ้มกลับมาให้

“ครับ”

“มาเกี่ยวก้อยกันก่อน” ผมยื่นนิ้วก้อยออกไปตรงหน้าคนที่กำลังทำหน้างง “ต่อไปรู้สึกแย่ตอนไหน สั่นกระดิ่งเรียกกูหรือพี่ภูทันทีเลยโอเคไหม”

“สั่นกระดิ่ง?”

“เปรียบเปรยๆ” อะไรวะ แค่นี้ก็ไม่เข้าใจ

“สั่นเรียกกระต่ายโง่ไปคนเดียว สำหรับพี่ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยโทร. มาก็พอ” พี่ภูหันไปบอกภามโดยจงใจทำเป็นไม่สนใจผมที่ทำหน้าบึ้งอยู่ด้านล่าง

“เก้าเป็น…กระต่ายโง่”

“พอเริ่มพูดรัวได้แล้วเอาใหญ่เลยนะมึง” ผมชี้หน้าคาดโทษคนที่เริ่มพูดไม่ติดขัดเหมือนตอนแรก แต่เจ้าตัวกลับส่งเสียงหัวเราะอารมณ์ดีตอบกลับมา เล่นเอาจะเคืองก็เคืองไม่ลง ผมได้แต่สบตากับพี่ภู ก่อนเราจะยิ้มออกมาพร้อมกันเมื่อเห็นภามดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิมหลายเท่าตัว

จนถึงตอนนี้ ผมคิดว่าสิ่งที่ภามเคยเป็นมันไม่สำคัญเลยสักนิด ไม่ว่าจะเคยก้าวร้าวแค่ไหน อาการของเขาจะเป็นยังไง เขาจะคิดอะไรอยู่ในหัวบ้าง ผมไม่ได้อยากรู้เลยแม้แต่น้อย สำหรับครอบครัวของพี่ภูรวมถึงผม…เราขอแค่ภามยังอยู่ตรงนี้และมีความสุขก็พอ…

ผมเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้ภามพูดได้ไม่ใช่แค่เพราะผมหรือเพราะเขาได้ระบาย แต่เป็นเพราะความพยายามทีละเล็กทีละน้อยของคนในครอบครัวที่สั่งสมมาตลอดหลายปี…

ต่อให้อาการของเขาจะยังรักษาให้หายขาดไม่ได้ แต่ถ้าเราช่วยกัน ค่อยๆ ประคับประคองเขาไปเรื่อยๆ…สักวันหนึ่งภามจะต้องหายดีและพบเจอกับความสุขที่แท้จริงอย่างแน่นอน

 

-----------------------------

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #581 เมื่อ14-10-2017 19:47:28 »

 o13

ออฟไลน์ SaKiNonZa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #582 เมื่อ14-10-2017 20:15:19 »

เก้าก็ยังคงเป็นซูเปอร์ฮีโร่กระต่าย

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #583 เมื่อ14-10-2017 20:21:56 »

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #584 เมื่อ14-10-2017 20:42:25 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #585 เมื่อ14-10-2017 21:17:25 »

ชอบกระต่าย แรร์ตัวนี้จริงๆ  :impress2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #586 เมื่อ14-10-2017 21:40:41 »

สู้ ๆ หลานภาม  :จุ๊บๆ:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #587 เมื่อ14-10-2017 22:15:36 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #588 เมื่อ14-10-2017 22:16:02 »

อ่านในเด็กดีแล้วมาในเล้าอีกที  :mew1: :mew1: :mew1: 

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #589 เมื่อ14-10-2017 22:36:09 »

น้ำตาซึม  ดีใจอ่ะ ดีใจที่ภามเปิดใจ พูดความรู้สึกออกมา


เก้าเก่งมากๆเลยลูกแม่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
« ตอบ #589 เมื่อ: 14-10-2017 22:36:09 »





ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #590 เมื่อ14-10-2017 23:17:19 »

หลงภาม

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #591 เมื่อ14-10-2017 23:17:51 »

อยากกอดภามแน่นๆๆเลยย
ในที่สุดก้มีวันนี้ ภามยอกพูดแล้ว
กระต่ายตัวนี้สารพัดประโยชน์จริงๆเลยย
พี่ภูต้องเก็บไว้ดีๆแล้ว ของแรร์ขนาดนี้

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #592 เมื่อ14-10-2017 23:24:38 »

ภามพูดแล้วว  :katai2-1:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #593 เมื่อ15-10-2017 05:17:50 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #594 เมื่อ15-10-2017 08:55:58 »

ภามดีขึ้นแล้ว ดีใจมาก :katai2-1:

ออฟไลน์ TaemyG

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #595 เมื่อ15-10-2017 10:53:09 »

กอดภาม :กอด1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #596 เมื่อ15-10-2017 11:54:20 »

 :pig4:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #597 เมื่อ15-10-2017 12:42:48 »

 o13 o13 o13

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #598 เมื่อ15-10-2017 13:52:30 »

ดีต่อใจ

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
Re: ┌▼Nitrogen ไนโตรเจน▲┘ ==[32]==[P.20]== [14/10/60]
«ตอบ #599 เมื่อ15-10-2017 16:10:24 »

พึ่งได้อ่านเรื่องนี้ ชอบมากค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด