[จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)  (อ่าน 516220 ครั้ง)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
55555 ฮาตรงไรท์ยังไม่ตาย คิดถึงนะคะ จะจบแล้วอ่าาา หมอก เมฆ น่ารัก

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ในที่สุดก็ปลอดภัยแล้วนะ
แอบสงสารโรเบิร์ตกับยาหยี

ออฟไลน์ neno.jann

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
สงสารยาหยี ใจคงช้ำน่าดู โรเบิร์ตก้มหน้ารับกรรมไป ถึงจะรักยาหยีจริงๆก็เถอะ สองคนกลับมาดีกันแล้ว ดีใจจจจจ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ยาหยีคิดอะไรอยู่นะ เดาไม่ออกเลย  :confuse:

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :laugh: :laugh: ยังงงงง ไรท์ยังตายไม่ได้ให้จบก่อนนนน 555555555 สู้ๆนะครัชช

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
เริ่มคลี่คลายแล้ววว

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อย่าเพิ่งตายค่ะไรท์ อยู่เพื่อรี๊ดก่อนนะคะ.  :กอด1:

หมอกสตรองมาก  แต่สงสารยาหยี แต่คิดว่ายาหยีก็น่าจะสตรองพอๆ กับหมอก ต้องผ่านเรื่องร้ายๆ ไปได้แน่

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
งุ้ยยย

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:  โล่งจายเลยลุ้นมานานมาก

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คงมีทางออกเรื่องยาหยีแหล่ะ
เพราดูโรเบิตไม่ใช่คนเลวร้าย
ไม่แน่แผนที่วางไว้
อาจเพราะอยากสงบศึกกับฟอลโซ่ก็ได้

ออฟไลน์ hikkie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
จบด้วยดี เฉลยปมที่คั่งค้างในใจ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ดีจัง ดูทุกอย่างคลี่คลายแล้ว

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ยอดเยี่ยม   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ยาหยี ตัดสินใจได้ดี  :mew1:

เมฆ  หมอก    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เจ้มจ้นคะ เค้าปลอดภัยกันแล้ว

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ korner

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หมอกปลอดภัยแล้ว ฉลองงงงงงง สนุกมากเลนค่ะ รออ่านต่อนะคะ

ออฟไลน์ por_pla4u

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คลี่คลายลงด้วยดี แต่น่าสงสารยาหยีจัง คุณแม่เสียใจน่าดู หมอกดูแลเพื่อนด้วยนะ เมฆก็หายเร็วๆ เพราะอาจจะต้องรับมือกับพี่เขยอีกครั้ง 555

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ใจหายวาบบบตอนหมอกบอกยกโทษให้เมฆไม่ได้จริงๆ นึกว่าจะมีดราม่าต่ออีกแล้ว เวลาจะเยียวยาทุกอย่าง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
 :กอด1:ขอหวานหยดเลือดสาดเลยนะคะๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Kekewl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านรวดเดียวจนถึงตอนนี้ ลุ้นมากกกกกกกกก รออ่านต่อนะคะ เป็นกำลังใจให้ writer  :impress2:

ออฟไลน์ Kekewl

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านรวดเดียวจนถึงตอนนี้ ลุ้นมากกกกกกกกก รออ่านต่อนะคะ เป็นกำลังใจให้ writer  :impress2:

ออฟไลน์ มะยองมะแยง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
สงสารยาหยี :o12: รอๆๆลุ้นตอนต่อไปจะเป็นยังไง

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ดีใจที่ยังไม่ตายค่ะ  เรื่องนี้ให้ความรู้สึกว่าติดตามกันยาวนานมาก  ในที่สุดก็ใกล้จะจบแล้ว  :กอด1:

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ปลอดภัยกันแล้ว สงสารยาหยี
แล้วโรเบิร์ตจะรอดไหม ทำมาขนาดนี้

แผนตลบหลัง ไม่ธรรมดาเลยนะคะ นิค

ว้าวววว ในที่สุดเมฆหมอกก็เข้าใจกันแล้ว
ดีที่สุดในเวลานี้เลยค่ะ

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ในที่สุดก็เข้าใจกัน
ดีใจกับทั้งหมอกทั้งเมฆเลย

สงสารยาหยี ขอให้เข้มแข็งเร็วๆ

ออฟไลน์ แมว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :mew6: สมนำหน้าโรเบิร์ตได้ป้ะ5555

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5

Chapter 41: [Now] มิคาเอล อัลฟอนโซ่

แสงสว่างยามเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่านผืนหนาทำให้แพขนตาสีน้ำตาลอ่อนปรือขึ้นอย่างหงุดหงิด มธุวันขยับตัวเพื่อลุกขึ้นจากเตียงเตรียมรับวันใหม่อย่างไม่เต็มใจ แต่มือใหญ่ของคนรักที่ครอบปิดดวงตาของชายหนุ่มทำให้มธุวันหลุดยิ้มออกมา




“นอนต่อก็ได้ครับ ยังเช้าอยู่เลย…” เจ้าของมืองึมงำ ซุกหน้ากับคอของเขาอย่างที่ชอบทำสมัยที่พวกเขายังคบกันอยู่




“ได้ที่ไหนล่ะ หมอกมีเรื่องต้องทำเยอะเลย” มธุวันถอนหายใจ ใช่ว่าเขาอยากจะละทิ้งเตียงนอนแสนสบายกับหมอนข้างสารพัดประโยชน์นามว่าเมฆานี้ไป แต่หากเขาไม่สะสางธุระที่ค้างคาไว้ให้เสร็จ เขาคงรู้สึกไม่สบายใจอยู่แบบนี้




“ให้เมฆไปด้วยมั้ย?” เมฆาถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล มธุวันส่ายหน้า พลิกตัวกลับไปหาคนรักพร้อมรอยยิ้มบาง ทาบทับริมฝีปากเรียวบนริมฝีปากได้รูปของเมฆาเบาๆ



“พักผ่อนเถอะ เดี๋ยวหมอกกลับมาหา”




“อย่านานนะครับ…”



ร่างสูงออดอ้อน คลอเคลียหัวไหล่มนจนมธุวันต้องขยับหนีพร้อมเสียงหัวเราะคิกอย่างจั๊กจี้ มธุวันตวัดขาลงจากเตียง สายตาของร่างโปร่งไม่ละไปจากคนรักบนเตียงไปจนกระทั่งประตูห้องนอนปิดลงระหว่างพวกเขา มธุวันสูดหายใจเข้าลึกๆ ดวงตาสีเทาอมฟ้าเหลือบมองห้องทำงานของนิโคไลสุดทางเดินโดยมีชายชาวต่างชาติในชุดสูทสีดำสองคนยืนเฝ้าระวังอยู่หน้าประตู




ร่างโปร่งกัดริมฝีปากอย่างครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจหมุนตัวเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง









ห้องทำงานของนิโคไลดู…น่าเบื่อกว่าที่เขาคิดไว้




มธุวันไม่มั่นใจว่าภาพห้องทำงานของเจ้าพ่อมาเฟียที่เขาคิดไว้ในหัวเป็นยังไง แต่ห้องของนิโคไลที่ดูเหมือนคอกออฟฟิคขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกองกระดาษหลายต่อหลายปึกนั้นไกลห่างจากความคิดของเขาอย่างมาก ที่มุมหนึ่งของห้องมีโต๊ะทำงานอีกโต๊ะที่ถูกตกแต่งโดยเบาะนวมกำมะหยี่สีม่วง น้ำตกจำลองเล็กๆและกรอบรูปที่มธุวันมองไม่เห็นว่าภาพข้างในคือภาพของใคร แต่นอกเหนือไปจากนั้น โต๊ะทำงานตัวนั้นว่างเปล่าราวกับเป็นเพียงของตั้งประดับในห้อง




“โต๊ะของใครเหรอครับ?”



ร่างโปร่งเริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่มั่นใจว่าตนควรวางตัวอย่างไรต่อหน้าคนที่เขาเพิ่งค้นพบว่าเป็นพี่ชายต่างมารดาของตัวเอง นิโคไลเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารที่แทบจะฝังร่างสูงทั้งเป็น ดวงตาสีมรกตเหลือบมองโต๊ะทำงานที่ว่างเปล่าตัวนั้นด้วยสายตาที่มธุวันอ่านไม่ออก




“พี่ไม่ชอบพูดเรื่องคนตาย”




“ถ้าอย่างนั้น…วันนี้ผมคงไม่ได้รู้เรื่องพ่อกับแม่แท้ๆของผมใช่มั้ยครับ?”




มธุวันเลิกคิ้ว สวมหน้ากากของปีศาจน้ำแข็งที่ตนสวมมาตลอดสี่ปีอีกครั้งด้วยไม่อยากให้คนตรงหน้ารู้ว่าคำว่า ‘พี่’ที่อีกฝ่ายใช้แทนตัวเองนั้นมีผลกับเขามากแค่ไหน




”…อยากรู้เรื่องอะไรล่ะ?” แววตาของนิโคไลอ่อนลง มธุวันนั่งลงที่เก้าอี้นวมตัวหนึ่งอย่างเกร็งๆ ในหัวคิดย้อนไปถึงคำถามมากมายที่เขามีตั้งแต่วันแรกที่เขาตระหนักว่าตัวเองไม่มีพ่อไม่มีแม่จริงๆเหมือนคนอื่นเขา




“พ่อกับแม่…รักกันมั้ยครับ?”



ร่างโปร่งแทบจะกัดลิ้นของตัวเองทันทีที่คำถามนั้นหลุดออกไป ในบรรดาคำถามมากมาย ทำไมคำถามแบบนั้นถึงได้ผุดขึ้นมาก่อนกันนะ?




“พี่ไม่รู้หรอกนะ ว่าก่อนที่นายจะเกิด ผู้ชายคนนั้นรู้จักคำว่ารักรึเปล่า” นิโคไลไหวไหล่ “แต่ถ้านายอยากรู้ว่านายเกิดจากความรักรึเปล่า พี่ตอบได้ว่าทั้งสองคนรักนายมาก มากจนความตายเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขายอมปล่อยมือจากนาย…”
มธุวันรู้สึกถึงน้ำหนักบางอย่างในอกที่เขาไม่รู้ว่าตัวเองแบกไว้มาตลอดหลายปีค่อยๆถูกยกออก ร่างโปร่งขยับยิ้มออกมาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว




“…แต่พี่ไม่เคยปล่อยมือเลยนะ”



จากสีหน้าประหลาดใจของเจ้าของเสียง ดูเหมือนนิโคไลจะเผลอหลุดคำพูดนั้นออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน




“ผมรู้…”



น่าแปลก ทั้งที่มธุวันเพิ่งรับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของพี่ชายได้ไม่นาน แต่ลึกๆแล้ว เขากลับรู้สึกว่านิโคไลไม่เคยจากเขาไปไหน
พวกเขาตกอยู่ในความเงียบที่น่าอึดอัดอีกครั้ง มธุวันเคาะนิ้วรัวบนตักอย่างประหม่า ก่อนจะสังเกตว่าคนตรงหน้าก็กำลังเคาะนิ้วรัวบนโต๊ะของตัวเองเช่นกัน นิโคไลชะงักมือของตน ดวงตาสีมรกตสบกับดวงตาสีเทาอมฟ้า ประกายสีเขียวในดวงตาของมธุวันกระทบกับแสงไฟภายในห้อง ก่อนที่สองพี่น้องจะหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย




 “ขอโทษนะ…ที่ทิ้งให้นายอยู่คนเดียวมาตลอด”คนอายุมากกว่าเอ่ยเสียงอ่อน มธุวันส่ายหน้า



“ไม่คนเดียวหรอกครับ ผมมีทั้งป้า ยาย แล้วก็น้องชายอีกหนึ่งคน…”แววตาของมธุวันฉายแววกังวลเมื่อนึกถึงคนในครอบครัวของตน “พวกเขาจะปลอดภัยมั้ยครับ?”




“ไม่ต้องห่วง คุณป้ากับคุณยายพี่ให้คนคอยคุ้มกันอยู่ห่างๆ เพราะพี่รู้ว่าถึงยังไงพวกมันก็ไม่หว่านแหไปไกลขนาดนั้น ส่วนแดนดิน…”นิโคไลลูบใบหน้าของตัวเองอย่างลำบากใจ “คนของพี่คอยคุ้มกันให้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว”




“ยี่สิบสี่ชั่วโมง?” มธุวันทวนคำอย่างงุนงง เขาเพิ่งเจอกับแดนดินก่อนหน้านี้ ถ้าหากมีคนของนิโคไลอยู่กับน้องชายของเขา มีหรือพี่ชายอย่างเขาจะไม่สังเกต




เว้นเสียแต่ว่า…



“วินทร์…”



“พี่ลงโทษคนของพี่ไปแล้ว พี่ไม่เคยตั้งใจให้น้องชายของนายเข้าใจผิดแบบนี้” นิโคไลถอนหายใจ “หลังจากจบเรื่องทั้งหมดพี่จะส่งนาวินทร์กลับอิตาลีทันที…”




“ไม่ต้องหรอกครับ” ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งที่มธุวันขึ้นชื่อเรื่องการเป็นพี่ชายขี้หวงที่ไม่เคยไว้ใจให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้น้องชายของเขา แต่เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงแววตาที่นาวินทร์มองน้องชายของเข้าในวันนั้น มธุวันกลับรู้สึกใจร้ายกับเพื่อนสนิทของคนรักไม่ลง “ดินโตแล้ว ผมว่าน้องดูแลตัวเองได้”




“ต่อให้โตแค่ไหน คนเป็นพี่ก็อดห่วงไม่ได้หรอก” นิโคไลเอ่ยอย่างรู้ดี แต่ก็ไม่คิดจะขัดน้องชายของตัวเอง “เอาเถอะ พี่จะให้นายจัดการเรื่อวของนาวินทร์เองแล้วกัน เพราะถึงยังไงหมอนั่นก็เป็นคนของนาย”




“ของผม?” เป็นอีกครั้งที่มธุวันเอียงคออย่างไม่เข้าใจ นาวินทร์มาเกี่ยวอะไรกับเขา?



“หมอนั่นเกิดมาเพื่อรับใช้นาย คนในตระกูลของนาวินทร์เกิดมาเพื่อรับใช้อัลฟอนโซ่ และคนที่มีอายุใกล้กับนายที่สุดจะมีฐานะเป็นเงา ซึ่งจะทำตามคำสั่งทุกอย่างของนาย ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร” นิโคไลอธิบายด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ “ในกรณีนี้นอกจากเมฆาที่ถูกตัดออกจากตระกูลเหลียน นาวินทร์เป็นคนที่อายุใกล้กับนายที่สุด และเป็นคนเดียวในตระกูลที่เกิดในช่วงอายุเดียวกับนาย เพราะฉะนั้นตำแหน่งเงาเลยเป็นของเด็กนั่นโดยไม่จำเป็นต้องแย่งกับใคร”




มธุวันรู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกประหลาดใจ แต่เมื่อเหลือยมองโต๊ะทำงานเพียงตัวเดียวนอกจากโต๊ะของนิโคไลที่อยู่ในห้องนี้ เขากลับรู้สึกว่าคนที่โดดเดี่ยวอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารอย่างคนตรงหน้า หากไม่มีใครอยู่เคียงข้าง คงจะรู้สึกโดดเดี่ยวน่าดู



”เงาของคุณ…ของพี่…”



คำเรียกที่เปลี่ยนไปจุดประกายความหวังในดวงตาสีมรกต แต่นิโคไลยังคงส่ายหัวด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย



“ตายไปแล้วล่ะ…”




มธุวันตัดสินใจที่จะไม่ถามต่อ และนั่นทำให้ห้องถูกปกคลุมด้วยความเงียบอีกครั้ง จนกระทั่งนิโคไลเปลี่ยนเรื่องด้วยน้ำเสียงที่สดใสเกินความจำเป็นไปไม่น้อย




“แล้วกับเด็กเมฆานั่นเป็นยังไงบ้าง?ได้ยินว่าเมื่อคืนไม่ได้กลับห้องนี่”




คนถูกทักอย่างไม่ทันตั้งตัวหน้าขึ้นสี



“ก็…ก็ไม่เป็นไงนี่ครับ พวกเราแค่คุยกัน…”




“เหรอ? เด็กสมัยนี้เขาใช้คำว่าคุยกันแทนเรื่องอย่างว่าแล้วเหรอ” นิโคไลเลิกคิ้วด้วยสีหน้าสนุกสนานเต็มที่ แต่มธุวันก็ไม่ใช่เด็กน้อยไร้เดียงสาที่จะถูกใครรังแกได้ฝ่ายเดียวเหมือนกัน




“เชื่อผมเถอะครับ ถ้าเมื่อคืนพวกผมทำมากกว่าคุย ไม่มีใครไม่ได้ยินหรอก” คนอายุน้อยกว่าตอบพร้อมรอยยิ้มมุมปาก เล่น
เอาคนเป็นพี่ถึงกับยกมือยอมแพ้




“แบบนี้พี่คงไม่ต้องห่วงว่านายจะโดนเจ้าเด็กนั่นหักอกอีกใช่มั้ย”




“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ รอบนี้คงเป็นกระดูกของทางนั้นมากกว่าที่จะหักก่อน” มธุวันตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับว่านั่นเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลในตัวของมันอยู่แล้ว



“หึ สมแล้วที่เป็นน้องพี่ แบบนี้พี่คงต้องเป็นห่วงเจ้าเด็กเมฆานั่นแทนแล้วสินะ” นิโคไลเอ่ยพร้อมรอยยิ้มกว้าง ซึ่งฝ่ายคนเป็นน้องเพียงแต่ยิ้มรับคำชมอย่างไม่คิดปฏิเสธคำถามของพี่ชาย




จบเรื่องวุ่นวายไปอีกเรื่องเสียที…








นิโคไลให้คนของตัวเองไปส่งญาวิกาที่สนามบิน ถึงแม้มธุวันจะอยากตามไปส่งเพื่อนสนิท แต่หน้าที่ของเขาในฐานะเลขาทำให้เขาจำเป็นต้องกลับมาดูอาการของธีรเชษฐ์ที่โรงพยาบาลก่อน และถึงแม้นิโคไลจะส่งลูกน้องฝีมือดีของตนหลายคนไปคุ้มกันหญิงสาวตั้งแต่ออกจากที่พัก มธุวันก็ยังคงเลือกที่จะโทรหาเพื่อนสนิทอีกคนให้มารับญาวิกาที่ปลายทางอยู่ดี



เพราะบางครั้ง ร่างกายก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ต้องการการปกป้อง




เขาพยายามเล่าความจริงให้ณัฐภาสฟังให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่เขารู้ว่าเพื่อนสนิทของเขาในตอนนี้กำลังโกรธอดีตคู่หมั้นของญาวิกาหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนไม่รับรู้ข้อมูลอื่น มธุวันจึงทำได้เพียงตัดสายไปเพื่อปล่อยให้คนเลือดร้อนสงบสติอารมณ์




“โอเครึเปล่า?”




เมฆาที่นั่งอยู่ข้างเขาในรถตู้ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง มธุวันส่ายหน้า รู้สึกเพลียเกินกว่าจะโกหกคนรักว่าตัวเองยังโอเคอยู่
มลเมฆาไม่ได้ซักถามอะไรเพิ่ม มือใหญ่เพียงแค่โอบไหล่มนให้เอนซบไหล่ของตัวเองเงียบๆ ซึ่งมธุวันไม่คิดจะปฏิเสธความหวังดีนั้น ร่างโปร่งขยับซุกเข้าหาคนรัก สูดกลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างสูงที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้กลิ่นอีกครั้ง ปล่อยให้เสียงหัวใจของเมฆาเป็นเพลงบรรเพลงผ่อนคลายจิตใจที่ฟุ้งซ่านของเขาให้สงบลง








มธุวันเค่อยๆเปิดประตูห้องพักผู้ป่วยเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ถึงแม้เขาจะรู้ว่านั่นเป็นการเสียมารยาท แต่เขาไม่อยากรบกวนการพักผ่อนของร่างสูงที่อยู่ข้างใน



สิ่งที่เขารู้คือธีรเชษฐ์บาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดที่โรงแรม แพทย์เจ้าของไข้บอกว่าชายหนุ่มยังคงไม่สามารถใช้งานขาทั้งสองข้างและแขนขวาของตัวเองได้ แต่ด้วยการรักษาและกายภาพบำบัดที่สม่ำเสมอ ธีรเชษฐ์มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์



และนั่นทำให้เขาคาดหวังว่าจะเห็นเด็กหนุ่มร่างเล็กที่เขาเคยเป็นห่วงว่าจะนำพาเจ้านายของตนเข้าไปกินข้าวแดงในตาราง
ประคบประหงมดูแลคนป่วย แต่ภายในห้องมีเพียงธีรเชษฐ์ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง และคเชนทร์ที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างๆเพียงเท่านั้น
อาจารย์แพทย์ร่างสูงเหลือบมองนิโคไลด้วยสายตาว่างเปล่า



“ถ้าก้าวเข้ามาอีกก้าวผมจะเรียกตำรวจ”



ทั้งที่นั่นไม่ควรเป็นคำขู่ที่ทำให้เจ้าพ่อมาเฟียอิตาลีเกรงกลัว แต่สีหน้าของนิโคไลดูราวกับลูกสุนัขที่ถูกไม้หน้าสามตีแสกหน้า ชายหนุ่มก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยสีหน้าสลดลง ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับออกไปรอที่ทางเดิน



มธุวันไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ความสนใจของเขาถูกเรียกกลับไปโดยร่างบนเตียงที่เอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า




“หมอก…”



“คุณเชษฐ์ เป็นยังไงบ้างครับ?”



มธุวันรีบเข้าไปหาคนป่วยที่พยายามชันตัวขึ้นมาหาเขาโดยมีเมฆาตามมาติดๆ หากไม่ได้คเชนทร์คอยช่วยพยุง ธีรเชษฐ์ดูเหมือนจะสูญเสียการควบคุมทางร่างกายไปอย่างสิ้นเชิง




“ฉันไม่เป็นไร…ขอโทษนะที่ดึงเธอเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้…” ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด ซึ่งนั่นทำให้คนฟังขมวดคิ้วอย่างสับสน




“ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะครับ?”




“ฉันไม่รู้ว่าเธอรู้เรื่องมากแค่ไหน” ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้ว “แต่เรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี่เป็นฝีมือของคนที่ฆ่าเกศรา เป็นพวกเดียวกับที่จ้องเล่นนิโคไล ฉันไม่รู้ว่าทำไมคนพวกนั้นถึงจับเธอไป พวกมันอาจจะเห็นว่านิโคไลสนใจเธอ…”




ที่หางตา มธุวันลอบสังเกตเห็นว่าคเชนทร์เบือนหน้าหนีจากบทสนทนา ไม่ยอมมองหน้าเขาแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่เขาเข้ามาในห้อง




ดูท่าเขาจะต้องแก้ไขความเข้าใจผิดอย่างเร่งด่วนเสียแล้ว




“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ…”ร่างโปร่งเหลือบมองเมฆรซึ่งส่งยิ้มมุมปากให้กำลังใจเขาอยู่ไม่ห่าง “ คุณนิโคไล…เป็นพี่ชายของผม”
เขานึกอยากจะถ่ายรูปปฏิกิริยาของคนเพียงสองคนในห้องที่รู้สถานการณ์น้อยกว่าเขาไว้เสียจริง เพราะใบหน้าเหวออย่างหมดมาดของธีรเชษฐ์กับสีหน้าอึ้งกิมกี่ของคเชนทร์ไม่ใช่สิ่งที่หาดูได้ทั่วไป




“…คุณมีนาไปไหนซะล่ะครับ?”



มธุวันเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเพื่อคลายความรู้สึกอึดอัด แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ผิดเมื่อธีรเชษฐ์เพียงแต่หลบสายตาเขาโดยไม่ยอมตอบคำถาม



“โดนไล่ไปแล้ว” กลับกลายเป็นคเชนทร์ที่เอ่ยขึ้น ดวงตาสีรัตติกาลภายใต้กรอบแว่นตวัดมองคาดโทษเพื่อนสนิท




“ไล่?…ทำไม…” มธุวันเหลือบไปเห็นแขนขวาที่ไม่สามารถออกแรงได้ของร่างสูง และสามารถเดาสาเหตุของการกระทำนั้นได้อย่าง่ายดาย “คุณหมอบอกแล้วนี่ครับว่าอาการของคุณถ้ารักษาดีๆแค่สองสามเดือนก็อาจจะกลับมาปกติ…”



“เร็วที่สุดคือสองสามเดือน…” ธีรเชษฐ์ขัด “ช้าที่สุดคือหมอไม่รู้ว่าฉันจะกลับมาเป็นปกติได้มั้ย”




“แต่ก็มีโอกาสตั้งแปดสิบเปอร์เซ็นต์…”



“แล้วก็มีโอกาสยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่ฉันจะกลายเป็นคนพิการแบบนี้ตลอดไป” ธีรเชษฐ์ก้มมองมือและขาที่ไม่สามารถสั่งงานได้ดั่งใจนึกเช่นแต่ก่อนของตัวเอง “เด็กดีอย่างมีนาไม่สมควรมาติดอยู่กับคนอย่างฉัน”



“คุณเชษฐ์…”มธุวันเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ แต่เขารู้ว่าคนอย่างธีรเชษฐ์ ลองได้ตัดสินใจอะไรแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนความคิดของร่างสูงได้



“พ่อครับ…ผมทำเอกสารเรียบร้อยแล้ว…”



เสียงของคนที่เขาไม่คิดว่าจะมาอยู่ที่นี่ดังขึ้นจากหน้าห้อง มธุวันหันขวับไปทางต้นเสียงอย่างประหลาดใจเช่นเดียวกับเมฆา ธารธาราก้าวเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าประหม่า ดูจะขัดเขินสายตาที่จ้องมาทางตนเป็นตาเดียวไม่น้อย



“ธาร มาอยู่ได้ยังไง?” เมฆาถามอย่างประหลาดใจ แม้ความสัมพันธ์ของน้องชายของเขากับบิดาจะนับว่าดีขึ้นจากแต่ก่อนพอสมควร แต่ถึงกับเรียกธีรเชษฐ์ด้วยคำว่าพ่อ เขารู้สึกว่าตัวเองต้องพลาดอะไรบางอย่างไปแน่ฟ



“ผมเห็นข่าว เห็นชื่อพ่อในรายชื่อผู้บาดเจ็บ…” ธารธาราตอบเสียงแผ่ว เบือนหน้าหนีสายตาอยากรู้อยากเห็นของพี่ชาย
“ผม…ไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว”



มธุวันอดรู้สึกดีใจแทนธีรเชษฐ์ไม่ได้ แม้ว่าจะเสียมีนาไป แต่อย่างน้อยที่สุด ชายกนุ่มก็ได้ลูกชายของตัวเองกลับคืนมาจากเหตุการณ์ครั้งนี้ถึงสองคน เขาติดต่อกลับไปเมื่อเช้าค้นพบว่าในระหว่างที่ธีรเชษฐ์บาดเจ็บอยู่นั้น ทินกร ลูกชายคนสุดท้องของบ้านก้าวขึ้นมารับหน้าที่ประธานบริษัทชั่วคราวตามคำสั่งที่ธีรเชษฐ์เคยฝากฝังกับทนายของตัวเองไว้ แต่ว่ามธุวันในตอนนั้นจะคัดค้านเรื่องนี้หัวชนฝาด้วยเห็นว่ามีกรรมการอาวุโสที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกว่าเด็กหนุ่มอีกมาก แต่จากที่ฟังขวัญข้าวรายงานความเป็นไปของบริษัท เขาคิดว่าครั้งนี้ธีรเชษฐ์อาจจะคิดถูกแล้วก็ได้



“ผมขอตัวก่อนนะครับ มีเรื่องต้องจัดการอีกเยอะ” มธุวันลุกขึ้นจากเก้าอี้ เวลานี้ควรจะเป็นเวลาของคนในครอบครัว เขาไม่อยากเป็นส่วนเกินให้คนอื่นรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ แต่ทันทีที่ก้าวออกจากห้อง ลูกชายคนโตของบ้านที่ควรจะอยู่พูดคุยกับบิดากลับก้าวตามเขาออกมาเสียอย่างนั้น



“เมฆ? ออกมาทำไม?” มธุวันถามคนรักอย่างงุนงง



“เมฆดูแลพ่อมาเยอะแล้ว ปล่อยให้เจ้าธารใช้เวลากับพ่อเถอะ” เมฆาตอบ มือใหญ่เอื้อมหามือเรียวที่ตนไม่เคยนึกอยากปล่อยไป ดวงตาสีควันบุหรี่ไม่เคยละไปจากคนตรงหน้า“เมฆอยากชดเชยเวลาที่เสียไปของเรามากกว่า”



“เมฆ…เดี๋ยวคนมอง”



มธุวันกระซิบเตือนคนที่ขยับเข้ามาใกล้เขาทีละนิดแม้ไม่คิดที่จะขยับหนี เมฆาไม่สนคำเตือนนั้น ดึงร่างโปร่งของคนรักเข้าไปในอ้อมกอดแน่น



“ไม่เอาแล้วนะ…” เสียงทุ้มพึมพำ มธุวันเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะขยับยิ้มออกมาเมื่ออีกฝ่ายขยายความ “ให้เมฆเก็บเรื่องของเราไว้เป็นความลับเหมือนที่ผ่านมา เมฆไม่เอาแล้วนะ”



“คนเอาแต่ใจ” ร่างโปร่งเอ่ยยิ้มๆ ไม่ได้ถือสาความเอาแต่ใจที่แสนน่าเอ็นดูนั้น



“เอาแต่ใจแล้วรักมั้ย”



มธุวันหลุดหัวเราะออกมาเบาๆกับน้ำเสียงออดอ้อนที่ไม่ได้ยินมานาน สังเกตจากการที่เมฆาแทบจะซุกหน้าเข้าไปในคอเสื้อของเขาอยู่แล้ว คนพูดคงจะรับรู้อยู่แล้วว่าคำถามของตนน่าอายเพียงใด



“ถามบ่อยๆแบบนี้ไม่เบื่อรึไง?”



“ไม่เบื่อ จะถามทุกวันเลย…”



เด็กโข่งร่างสูงตอบเสียงดื้อดึง มธุวันทำได้เพียงส่ายหัวขำๆ มือเรียวลูบกลุ่มผมนุ่มสีรัตติกาลของคนรักอย่างเบามือ เอ่ยด้วย
น้ำเสียงอ่อนโยนที่แม้แต่เขาเองยังไม่เคยคิดว่าจะได้ยินอีกครั้ง



“งั้นหมอกก็จะตอบว่ารักทุกวัน ดูซิว่าใครจะเหนื่อยก่อนกัน”



“คิดว่าจะชนะเมฆจริงๆเหรอ?”




 เมฆาผละจากร่างโปร่งเล็กน้อย แม้จะไม่ยอมปล่อยมือจากร่างของคนรัก ดวงตาสีควันบุหรี่เป็นประกายสนุกสนานตามประสาคนชอบความท้าทาย




นิ้วเรียวตวัดเกี่ยวรอบเนคไทค์ของคนรัก มธุวันดึงคอเสื้อของคนตัวสูงกว่าให้ก้มลงมาใกล้ ดวงตาสีเทาอมฟ้าทอประกายสีมรกตอย่างไม่ยอมแพ้ ริมฝีปากเรียวผุดรอยยิ้มบางของคนที่เกลียดความพ่ายแพ้ไม่น้อยไปกว่ากัน



“ถามตัวเองดีกว่า ว่าเมฆเคยชนะหมอกด้วยเหรอ…”




หากนึกย้อนกลับไป เมฆารู้ตัวว่าเขาไม่เคยชนะอะไรคนตรงหน้า…



แต่สำหรับเขา ต่อให้เขาไม่มีวันรู้ผลแพ้ชนะของการแข่งขันในครั้งนี้ เมฆาก็ยังยินดีที่จะลงสนาม



เพราะเขายินดีที่จะเล่นเกมนี้กับคนตรงหน้า ไปจนกว่าความตายจะพรากพวกเขาจากกัน





The end
----

จบล้าวววววววว
ชีวิตไรท์นี่แหละจบ5555
ขอบคุณทุกท่านที่อยู่ด้วยกันมา ฝากตอนพิเศษของหลายๆคู่ ทั้งเมฆหมอกและเหล่าหนุ่มๆในทีมของนิโคไลที่จะตามมาในไม่ช้าไว้ในอ้อมใจด้วยนะครัช
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
ไรท์ขอไปนอนแล้วงื้อออออ

------------

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด