[จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)  (อ่าน 501668 ครั้ง)

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 37: [Then] ชิ้นส่วนสุดท้าย

‘พวกมันมาแล้วค่ะคุณผู้หญิง’





เสียงของใบเตย ลูกสาวของแต้วดังขึ้นผ่านหูฟังขนาดจิ๋วในหูของเธอทำให้เกศราผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก เธอประเมินความสามารถของพวกกาวิโน่ต่ำไป ภายใต้การฝึกฝนของไอแซค คงจะมีพวกหัวกะทิเกิดขึ้นมากมายทำให้พวกมันส่งคนมาเร็วขนาดนี้




แต่ก็ดีเหมือนกัน...เธออยากจะพักผ่อนเต็มทีแล้ว




‘คุณผู้หญิงคะ...อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ’




เสียงของหญิงสาวสั่นเครืออย่างห้ามไม่อยู่ แต้ว ผู้หญิงที่เลี้ยงเธอมาไม่ต่างจากมารดาหรือพี่สาวแท้ๆปฏิเสธที่จะอยู่ดูวาระสุดท้ายของเกศรา และถึงแม้ว่าใบเตยที่อยู่บนดาดฟ้าของตึกฝั่งตรงข้ามพร้อมสไนเปอร์คู่ใจจะไม่ได้ใกล้ชิดกับเธอมากนัก แต่หญิงสาวก็เป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเธออีกคน




“ฝากดูแลแม่ของเธอด้วยนะเตย”




เกศราตอบกลับไปเพียงแค่นั้นก่อนจะถอดหูฟังออกแล้ววางลงข้างกาย เธอเหนื่อยมามากแล้ว ถึงเวลาที่เธอจะได้ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วกลับไปหาพี่ชายของเธอที่รออยู่อีกฝั่งเสียที





หญิงสาวขยับยิ้มเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ




เธอเกิดมาเป็นคนตระกูลเหลียน ถึงแม้ครึ่งหนึ่งของเวลาในชีวิตเธอจะหันหลังให้กับครอบครัวที่ให้กำเนิดและเลี้ยงเธอมา แต่ในวันนี้เกศราเลือกที่จะจากไปอย่างคนตระกูลเหลียน...




…ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าแม้ว่ามัจจุราชจะยืนอยู่หน้าประตูของเธอ









เมฆาเดินออกมาจากห้องพักของมารดาด้วยศีรษะที่หนักอึ้งจากข้อมูลที่ตนเพิ่งได้รับรู้ ร่างสูงรู้สึกว่าที่ตนยังไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกเท่าที่ควรคงเป็นเพราะความช็อคที่ยังคงไม่หายไปง่ายๆ




“ไม่…”




ยังไงเขาก็ทำใจเชื่อเรื่องบ้าๆที่แม่เพิ่งเล่าให้เขาฟังไม่ลง




อาจจะเป็นยาแก้ปวดที่หมอสั่ง ทำให้มารดาของเขาเพ้อออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว




ใช่...ต้องเป็นยาแก้ปวดแน่ๆ




ร่างสูงตัดสินใจหมุนตัวกลับไปทางที่ตนจากมาอีกครั้ง แม้ว่าตนใกล้จะถึงรถของตัวเองแล้วก็ตาม




เขาต้องเข้าไปเห็นด้วยตาตัวเองว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะฤทธิ์ของยาแก้ปวดที่ทำให้มารดาเกิดภาพหลอน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถทำจิตใจให้สงบได้หลังจากนี้




“นี่น่ะเหรอตัวอันตรายที่เขากลัวกันนักหนา ก็แค่คนป่วยใกล้ตายป่ะวะ? ดีไม่ดีปล่อยไปซักวันสองวันเดี๋ยวก็ตาย จะจ้างเรามาทำไมตั้งหลายคน”




เสียงที่ดังลอดออกมาจากห้องของมารดาทำให้เมฆาชะงักฝีเท้า





ใครน่ะ?




“จะบ่นทำไมวะ? เงินสูงขนาดนั้นก็ทำๆไปเหอะ”




“ไม่ใช่มันตายแล้วเหรอวะ? นอนนิ่งขนาดนี้”




“มึงก็ฉีดยาเข้าสายน้ำเกลือไปนั่นแหละ เพื่อความแน่ใจ ไหนๆก็มาแล้ว”




ร่างสูงเปิดประตูเข้าไปทันทีที่ได้ยินดังนั้น ภายในห้องมีชายหนุ่มวัยฉกรรจ์หกเจ็ดคนยืนอยู่ข้างเตียงของมารดาของเขา เมฆาพุ่งเข้าไปหาคนที่ถือเข็มฉีดยาโดยไม่ต้องคิด ในหัวของเขาไม่มีแม้แต่ทางออกที่จะทำให้เขาสามารถต่อสู้กับชายร่างยักษ์หกเจ็ดคนแล้วช่วยเกศราหนีออกไปได้อย่างปลอดภัย แต่เขารู้ว่ายังไงเขาก็จะไม่ปล่อยให้มารดาเป็นอะไรไปโดยเด็ดขาด





“เฮ้ย! จับมันสิวะ!”





คนที่ถูกเมฆาโถมตัวเข้าใส่ตะโกนสั่งพร้อมยกแขนขึ้นปัดป้องการโจมตี เมฆารัวกำปั้นใส่อีกฝ่ายไม่ยั้งด้วยหวังว่าจะลดจำนวนคู่ต่อสู้ลง แต่ชายอีกคนที่ตัวใหญ่กว่าเขามากจับเมฆาเหวี่ยงออกจากร่างข้างใต้




เพล้ง!





เมฆาเงยหน้าขึ้นตามเสียงเมื่อเห็นชายที่ถูกหวดด้วยแจกันดอกไม้ล้มลงกับพื้น เกศราที่แกล้งหลับอยู่เมื่อครู่ไม่รอให้ศัตรูตื่นจากความตกตะลึง คว้าเสาน้ำเกลือมาหวดใส่คนที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดด้วยแรงที่คนป่วยอย่างเธอไม่ควรจะมี




“เมฆ! หนีไปลูก!”




“เฮ้ย! เก็บมันสิวะ!”




คนที่ถูกหวดด้วยแจกันตะคอก มือข้างหนึ่งกุมศีรษะที่มีเลือดอาบลงมาตามใบหน้า แต่ก่อนที่ลูกน้องของเขาจะได้ทำตามคำสั่ง ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างที่ถูกเปิดไว้ก็ล้มลงไปต่อหน้าทุกคนพร้อมกระสุนที่ฝังอยู่ในศีรษะ




“อะไรวะเนี่ย?!”




“ฆ่ามันทั้งคู่นี่แหละ เร็ว!!”




แต่คนที่สองและสามซึ่งอยู่ใกล้หน้าต่างโดนสอยร่วงลงไปตามกันโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า เมฆาที่ยังคงตกตะลึงกับการเห็นคนเป็นๆถูกยิงต่อหน้าต่อตาแทบจะทรุดตัวลงไปกองกับพื้นเมื่อมารดาที่เขาเคยคิดว่าเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนที่สุดในโลกดึงเสาน้ำเกลือออก เผยให้เห็นโลหะแหลมที่ถูกซ่อนอยู่ภายในแล้วแทงเข้าไปที่อกของชายอีกคน มือเรียวเล็กคว้าเข็มยาพิษบนพื้นแล้วปักมันลงบนต้นแขนของชายที่ทรุดตัวลงบนพื้นด้วยแววตาเย็นชา




ราวกับว่านี่ไม่ใช่การฆ่าคนครั้งแรกของเธอ




“ตาย!!”



“เมฆ ระวัง!”




ภาพตรงหน้าของเมฆาค่อยๆช้าลงราวกับว่าสมองของเขาพยายามสลักทุกวินาทีลงในความทรงจำ ชายคนเดียวที่ยังมีลมหายใจอยู่ในตอนนี้ชักปืนออกมา ร่างสูงรู้สึกถึงร่างบอบบางที่เป็นผู้นำเขาออกมาสู่โลกภายนอกโถมตัวเข้ามาบังลูกกระสุนให้กับลูกชายคนโตของเธอ




ปัง!!




ร่างของเกศราทรุดลงในอ้อมกอดของลูกชาย เช่นเดียวกับคนร้ายที่ล้มลงบนพื้นพร้อมรอยเลือดที่ไหลออกมาจากอก แต่กระสุนที่ปลิดชีพของชายหนุ่มไม่ได้มาจากมือปืนปริศนาที่เมฆามองไม่เห็นตัว แต่มาจากประตูห้องซึ่งอยู่ด้านหลังของเมฆา




“เกศ…”




ชายวัยกลางคนชุดกาวน์สีขาวก้าวเข้ามาในห้อง ในมือมีปืนพกสีดำด้านที่ปากกระบอกปืนยังคงร้อนจากการถูกใช้งาน หมอระพีพัฒน์ที่เขาจำได้ว่าเป็นหนึ่งในทีมแพทย์ที่รักษามารดาของเขา และผู้อำนวยการของโรงพยาบาลแห่งนี้ก้าวเข้ามาในห้อง ปิดประตูแล้วทรุดตัวลงตรงหน้าหญิงสาวที่นอนหายใจรวยรินในอ้อมกอดของเมฆาด้วยแววตาเจ็บปวด แต่ไม่มีท่าทีว่าจะเริ่มปฐมพยาบาลหญิงสาวที่มีเลือดซึมออกมาจากแผลที่ท้อง




“พี่…พี….”




เกศราเอื้อนเอ่ยชื่อของอีกฝ่ายอย่างยากลำบาก มือเรียวขาวซีดเอื้อมไปหานายแพทย์ที่จับมือเธอมากุมไว้แน่น




“พี่อยู่นี่เกศ...”




“หมอครับ! ทำอะไรซักอย่างสิ!!!” เมฆาตะคอกเสียงแข็งอย่างไม่เข้าใจ ทำไมคนคนนี้ถึงยังไม่ช่วยแม่ของเขา




“ไม่เป็นไรลูก...” เกศรายกมืออีกข้างขึ้นแตะใบหน้าของลูกชายอย่างปลอบประโลม “แม่เป็นคนเลือกเอง....แม่เหนื่อยแล้วเมฆ...แม่เหนื่อยเหลือเกิน....”




“แม่…แม่อย่าพูดแบบนั้นสิครับ...แม่อยู่กับเมฆสิ...” เมฆารู้สึกว่าขอบตาของตนร้อนผ่าว ร่างสูงไม่คิดแม้แต่จะยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ค่อยๆไหลออกมาราวกับรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้




“แม่รักเมฆนะลูก...ดู..ดูแลน้องกับพ่อด้วยนะ...” ลมหายใจของเกศราเริ่มขาดห้วง เมฆากระชับอ้อมกอดของตนเมื่อรู้สึกถึงตัวตนของมารดาที่กำลังค่อยๆเลือนหาย เกศราเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วโดยที่ไม่ละสายตาไปจากลูกชาย “พี่พี...พี่กรรณมาแล้ว...”
เมฆากลั้นเสียงสะอื้นที่จุกอยู่ในอกไม่ไหวอีกต่อไป ไหล่กว้างสั่นระริกตามความรู้สึกที่เหมือนหัวใจของตัวเองกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง





“อือ…ฝากทักทายเจ้ากรรณด้วยนะ” ระพีพัฒน์ตอบหญิงสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แม้ดวงตาจะฉายชัดถึงความเจ็บปวดที่ต้องห้ามตัวเองไม่ให้ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเกศรา “ไม่ต้องห่วงทางนี้นะ พี่จะดูแลให้”




‘เกศต้องไปค่ะพี่พี...เพื่อตระกูลเหลียน เพื่ออัลฟอนโซ่ เพื่อครอบครัวของเกศ....เกศต้องไป’




เขายังคงไม่รู้ว่าวิญญาณของเพื่อนจะให้อภัยเขาที่ยอมปล่อยให้น้องสาวจากไปต่อหน้าต่อตาหรือไม่ แต่นั่นเป็นเพียงอีกความผิดหนึ่งที่ระพีพัฒน์จะเก็บไว้เครียดตอนที่เขาก้าวเข้าไปในหุบเหวนรกอเวจี





ที่ที่เขาคงไม่ได้เจอกรรณวัชรอยู่ในนั้น




“แม่…” เมฆาสะอื้น เกศรายิ้มให้ลูกชายอย่างอ่อนโยนเป็นครั้งสุดท้าย หญิงสาวดึงให้ลูกชายก้มศีรษะลงมาแล้วกระซิบคำสั่งเสียสุดท้ายของตนให้เพียงแค่เมฆาได้รับรู้








ระพีพัฒน์ให้คนของตัวเองเข้ามาจัดการกับศพที่นอนเกลื่อนอยู่ในห้อง เมฆาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนกำลังทำอะไรตอนที่นายแพทย์สูงวัยสั่งให้เขาเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ เสื้อผ้าเปื้อนเลือดของเมฆาถูกกำจัดทิ้งและแทนที่ด้วยชุดที่เขาติดไว้ในตู้เสื้อผ้าของที่นี่เผื่อจำเป็นต้องนอนค้าง ร่างสูงนั่งเหม่อลอยอยู่ที่ระเบียงหน้าห้องซึ่งบัดนี้ไร้ร่างของมารดาที่มักจะหันมาทักทายเขาด้วยรอยยิ้มทุกครั้งที่เปิดประตูเข้าไป





“พี่เมฆ...ฮึก...”




“เมฆ…”





เขาไม่รู้ว่าพ่อกับน้องชายทั้งสอง รวมถึงเหล่าแม่บ้านและคนสวนมาถึงโรงพยาบาลเมื่อไหร่ เขาไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะ
ยกมือขึ้นสวมกอดธารธาราและทินกรที่สะอื้นร่ำไห้กอดเขาไว้ราวกับเด็กน้อยที่กำลังหลงทาง ทุกเหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นเพียงภาพเบลอๆที่เขาไม่รู้ว่ามาจากสมองที่อ่อนล้า หรือคราบน้ำตาที่ยังคงไม่แห้งเหือดไป





“กลับมาช้าจั...เมฆ! เป็นอะไร?!”




เมฆารวบเอาร่างของมธุวันเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเองแน่นทันทีร่างโปร่งเปิดประตูห้องของพวกเขา ร่างสูงซุกหน้าลงกับไหล่ของคนรัก ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาอีกครั้ง เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยขึ้นอย่างสั่นเครือเป็นครั้งแรกหลังจากที่เกศราจากไป




“แม่…แม่เมฆไปแล้ว...”





มธุวันกอดเมฆาไว้แน่นพอๆกับที่เมฆากำลังกอดตัวเองไว้ เมฆาไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่แบบนั้นนานแค่ไหน แต่ตัวตนของมธุวันที่ยังคงเด่นชัดในอ้อมกอดของเขาทำให้เมฆาตัดสินใจได้





เขาจะปกป้องหมอก...ต่อให้ต้องแลกด้วยลมหายใจของเขา เขาก็จะปกป้องอีกฝ่ายด้วยตัวของเขาเอง!











“หมอก เรื่องของเรา ลืมมันไปให้หมดจะได้มั้ย”





แม้จะเป็นคนเอื้อนเอ่ยคำลา แต่เมฆากลับรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองต่างหากที่กำลังแตกเป็นเสี่ยง ใบหน้าที่เปื้อนใบด้วยคราบน้ำตาและแววตาไม่อยากเชื่อของคนรักกรีดแทงทุกอณูของร่างกาย




หากทำได้ เมฆาคงจะเลือกลบความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับตัวเองออกไปจากสมองของมธุวัน ถึงแม้ว่าการพบกันครั้งต่อไปอีกฝ่ายจะหันมามองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า แต่อย่างน้อยที่สุดเขาก็จะเป็นคนเดียวที่ต้องทรมาน





แต่สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ คือการดันมีดที่ปักเข้าไปกลางหัวใจของคนที่เขาสาบานจะปกป้องด้วยชีวิตให้มิดด้าม




“ฉันก็จะลืมมันเหมือนกัน”





นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เมฆาพูด ก่อนที่โลกทั้งใบของเขาจะแตกสลาย




ชายหนุ่มหันหลังให้กับร่างที่ทรุดตัวลงบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ทิ้งคนที่เขาไม่เคยอยากเห็นน้ำตาให้สะอื้นฮักอยู่บนพื้นแล้วตัดใจก้าวออกไปจากห้อง




หลังจากงานศพของเกศราซึ่งถูกระพีพัฒน์ลงบันทึกว่าเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน การลอบทำร้ายเมฆายังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าเหตุการณ์พวกนี้จะยังเกิดกับคนรอบตัวของมธุวันคนอื่นๆด้วยอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมพวกกาวิโน่ถึงได้ใช้การกลั่นแกล้งแบบเด็กๆปั่นหัวเขาให้ระแวงแทนการจู่โจมอย่างซึ่งหน้าก็ตาม




นาวินทร์กลับไปอิตาลีและขาดการติดต่อไปตั้งแต่ก่อนงานศพของมารดาของเขา เมฆาจึงไม่สามารถหาข้อมูลได้มากนักด้วยตัวคนเดียว แต่ชายหนุ่มยังคงปักใจเชื่อว่า พวกมันกำลังดมกลิ่นใกล้เข้ามาถึงตัวของมธุวันเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าเมฆาจะไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเข้าใกล้มธุวันในที่สาธารณะอีกหลังจากนั้น แต่วงของคนที่โดนกลั่นแกล้งและลอบทำร้ายที่ค่อยๆแคบลงมาทำให้เขารู้ว่าเวลาของตนกำลังหมดลง




ทันทีที่ขับรถออกมา เมฆารู้สึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกายเขาที่กรีดร้องให้เลี้ยวรถกลับเข้าไปในคอนโด กลับไปสวมกอดมธุวันไว้ จุมพิตศีรษะและขมับของคนรักแล้วจูซับน้ำตาเขาเป็นต้นเหตุ พร่ำบอกรักและอ้อนวอนให้อีกฝ่ายให้อภัย แต่เขารู้ว่าตัวเองมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับไป




ยิ่งเขามาสามารถจบเรื่องบ้าๆนี่ได้เร็วเท่าไหร่ มธุวันก็จะยิ่งปลอดภัยเร็วขึ้นเท่านั้น




เขารู้มาว่าคืนนี้นิโคไล อัลฟอนโซ่ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของอิตาลีที่เป็นฉากบังหน้าของชายหนุ่มมาติดต่อธุรกิจในประเทศไทย และเขาไม่คิดที่จะปล่อยโอกาสที่จะรู้ข้อมูลของสถานการณ์ให้มากกว่านี้หลุดลอยไปได้





Rrrrrr




เสียงเรียกเข้าที่เมฆารู้ดีว่าเป็นของคนรักที่เพิ่งกลายเป็นอดีตได้ไม่ทันข้ามวัน ชายหนุ่มรู้ดีว่าไม่ควรรับสาย แต่ร่างกายยังคงไม่ฟังคำสั่งของสมอง รู้ตัวอีกที เสียงหวานที่แหบพร่าจากการร้องไห้ก็ดังลอดออกมาบีบหัวใจของเขาจากปลายสายเสียแล้ว




“เมฆ..ลืมกระเป๋า...”




แสงไฟสว่างจ้าเป็นสิ่งแรกที่เมฆาเห็น ก่อนที่แรงปะทะจากรถที่พุ่งเข้ามาชนจะน็อคเอาอากาศออกไปจากร่างของเขาในชั่วพริบตา




โครม!!!!




มีคนเคยพูดว่าก่อนตาย คนเราจะเห็นช่วงชีวิตของตัวเองเหมือนภาพยนตร์ที่เล่นอยู่ในหัว แต่นอกจากความทรงจำที่ประกอบด้วยรอยยิ้มสดใสและไออุ่นจากร่างของมธุวัน เมฆาไม่เห็นอย่างอื่นนอกจากความมืดที่กำลังดึงเขาให้จมลงไป




"เมฆ!!"




เสียงของคนรักที่ดังอยู่ข้างหูทำให้เมฆาที่กำลังจะยอมแพ้ให้กับแรงดึงรู้สึกตัวและพยายามดิ้นรนหนีจากกรงเล็บมัจจุราชที่กำลังเอื้อมคว้าวิญญาณของเขา




ใช่แล้ว...เขาจะมาตายตรงนี้ไม่ได้




เขายังมีคนที่ต้องปกป้อง...



หมอก...





เขาต้องกลับไปหาหมอก...




เมฆาดิ้นรนด้วยเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้าย ก่อนที่แสงสว่างสีขาวจะโอบล้อมเขาและพรากเอาสติสัมปชัญญะของชายหนุ่มให้ดับวูบไป


-----------


ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่โหวตหมูน้อยเข้ารอบรางวัลเซ็งเป็ดอะวอร์ดรอบแรกนะคะ :mew1: :mew1: :mew1:
จบพาร์ทThenอย่างเป็นทางการซะที5555

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เคลียร์ ต่อไปก็เป็นปัจจุบันตลอดเลยนะ ใครจะไปช่วยหมอกกกกก :serius2:
 :pig4:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ยังค้างคาอย่างต่อเนื่อง

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เบื้องหลังมันรันทดอย่างนี้นี่เอง  :monkeysad:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เห้ออออ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ภาคอดีตจบแล้ว แต่ปัจจุบันใครจะไปช่วยหมอกได้ทันไหมเนี่ย

ออฟไลน์ แมว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รอpartปัจจุบันค่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ต่อไปได้ทำหน้าที่เงาได้อย่างสมบูรณ์สักทีนะ

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ทุกอย่างกระจ่างในอดีต
ปัจจุบันละ หมอก อย่าเป็นไรนะ
ไปช่วยหมอกกันเร็วววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 38: [Now]

เมฆาฝืนเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งของตัวเองขึ้นอย่างยากลำบาก ถึงแม้ว่าดวงตาของชายหนุ่มจะยังไม่สามารถปรับจุดโฟกัสภาพให้กลับมาคมชัดได้ แต่เมฆายังคงได้ยินเสียงรอบกายตัวเองอย่างชัดเจน




เสียงของเครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆที่มีสายระโยงระยางต่อเข้ากับร่างกายของเขาราวกับปลั๊กไฟ เสียงตะคอกใส่ลูกน้องในภาษาอิตาลีของนิโคไล และเสียงของปู่ของเขาที่บอกให้มาเฟียหนุ่มเกรงใจสถานที่ แต่ความหนาวเหน็บที่เกาะกุมจิตใจของเมฆาอยู่นั้น มาจากการที่เขาไม่ได้ยินเสียงของใครบางคนที่ไม่มีวันปล่อยให้เขาอยู่ในสภาพแบบนี้คนเดียวหากไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น




เขาจำทุกอย่างได้แล้ว




สิ่งที่เกศราเล่าให้ฟัง สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของมารดาของเขาตัวตนที่แท้จริงของคนรัก และสาเหตุที่ทำให้เมฆาจำใจต้องเดินจากคนที่ตนรักยิ่งกว่าหัวใจของตัวเองไปในวันนั้น




“อือ…”




เมฆาพยายามส่งเสียงเรียกคนที่อยู่ในห้องให้รับรู้ว่าตนได้สติแล้ว




“หือ…ฟื้นแล้วเหรอเมฆ?”




ปู่ของเขาเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเมฆาที่นอนอยู่บนเตียง น้ำเสียงของชายชราไม่ได้มีความรู้สึกห่วงใยใดๆเจือปนอยู่ แต่เมฆาที่เคยชินกับนิสัยแข็งกระด้างของปู่ตัวเองรู้ดูว่าคาซีเมียร์เป็นห่วงเขาแค่ไหน




“หมอก...”เสียงแหบพร่าของเมฆาสามารถแค่นออกมาได้เพียงคำเดียว ปู่ของเขาเกาศีรษะแกรกอย่างไม่เข้าใจว่าหลานชายหมายถึงอะไร



“ไม่หมอกนะ แดดออกอยู่”



เมฆาพยายามเอื้อนเอ่ยคำออกไปให้ได้มากกว่านี้ แต่คอเจ้ากรรมกลับไม่ให้ความร่วมมือกับชายหนุ่ม โชคดีของเมฆาที่นิโคไลละความสนใจจากลูกน้องของตัวเองเมื่อเห็นว่าเขาได้สติแล้ว ชายหนุ่มชาวอิตาลีเดินตรงมาหาคนป่วย ใบหน้าที่ส่อแววขี้เล่นมาตลอดเคร่งเครียดจนแทบจะเหมือนเป็นคนละคน



“คุณเมฆา..”



“ผม…รู้แล้ว...” เสียงของเมฆาเริ่มกลับมาหาเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มพยายามชันตัวขึ้นนั่งแต่ถูกปู่กดไหล่ไว้เป็นเชิงเตือน “คุณเป็นพี่ชายหมอก...”




“...รู้เรื่องแบบนี้ค่อยคุยกันง่ายหน่อย” นิโคไลลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียงคนรักของน้องชาย แม้ว่าอีกฝ่ายจะยังคงดูน่าเกรงขามด้วยสีหน้าดุดันของหัวหน้าแก๊งมาเฟียชื่อดัง แต่ความกังวลในแววตาของชายหนุ่มนั้นยากจะมองข้ามผ่านโดยง่าย



“หมอก...”




เมฆาพยายามเค้นเสียงถามหาอดีตคนรัก นิโคไลหลบสายตาของเขา ราวกับอับอายเกินกว่าจะสามารถตอบคำถามนั้นของเมฆาตรงๆได้




“ถูกจับตัวไปตอนเหตุการณ์ชุลมุนในโรงแรม ผมประเมินไอ้โรเบิร์ตต่ำไป”




“โรเบิร์ต?” เมฆาทวนชื่อคู่หมั้นของญาวิกาอย่างไม่เข้าใจ โรเบิร์ตมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องทั้งหมดนี้ด้วย




“โรเบิร์ต กาวิโน่ หัวหน้าคนใหม่ของตระกูลกาวิโน่ต่อจากพ่อของมันที่ตายไปเมื่อปีที่แล้ว...” นิโคไลอธิบายเสียงลอดไรฟัน




“สมัยพ่อของมัน พวกกาวิโน่ก็แค่ปัดแข้งปัดขาแสดงให้ผมรู้ว่าพวกมันมีตัวตน ผมถึงไม่ได้สนใจอะไรนัก แต่นี่มันคงต้องการอวดบารมีให้ลูกน้องเคารพ ถึงได้พยายามลอบกัดผมทุกวิถีทางตั้งแต่ขึ้นรับตำแหน่ง...”




สิ่งเดียวที่นิโคไลไม่มีวันให้อภัย คือใครก็ตามที่บังอาจแตะต้องน้องชายผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา




ไม่ใช่ว่าศัตรูของเขาจะไม่รับรู้เรื่องนี้ ในสมัยบิดาของโรเบิร์ต ชายชราถึงเพียงแค่สั่งให้ลูกน้องตามหาอย่างไม่จริงจังนัก เพื่อไม่ให้ถูกตราหน้าว่ากลัวตระกูลอัลฟอนโซ่จนหัวหด แต่ลึกๆแล้ว ไอ้แก่นั่นก็คงภาวนาไม่ให้ลูกน้องของตนเจอมธุวันเข้าจริงๆเช่นกัน




เขาคิดเสมอว่าสำหรับโรเบิร์ต มธุวันเป็นเพียงแค่เครื่องมือที่ล่อให้นิโคไลออกมาในที่แจ้ง ทว่าเขาอ่านเกมส์ของมันผิดไป
ไอ้โรเบิร์ต...ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คิดจะเผยอหน้าขึ้นมาเทียบชั้นกับเขา นิโคไลก็ไม่ได้คิดจะว่า แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในคราวนี้มันร้ายแรงเกินกว่าชายหนุ่มจะสามารถให้อภัยได้




เมฆาเบิกตากว้าง พยายามขยับตัวลุกขึ้นมาอีกครั้ง แต่เช่นเคย ปู่ของเขากดมือลงบนไหล่ของคนป่วยไม่ให้ขยับไปไหน




“คนของปู่กับนิโคไลกำลังแกะรอยตามหาน้องชายของเขาอยู่ มีแต่มืออาชีพทั้งนั้น แกน่ะนอนพักผ่อนไป ลุกขึ้นมาก็เป็นภาระคนอื่นเขาเปล่าๆ”




“ปู่…ทำไมถึง...”




เมฆารู้ว่าเขาควรจะเอะใจเรื่องความเกี่ยวข้องของปู่ตัวเองกับเรื่องทั้งหมดเร็วกว่านี้ แต่เขามัวแต่ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจนทบไม่ได้ใส่ใจเลยว่าอดีตนักธุรกิจนำเข้าเฟอร์นิเจอร์ชาวรัสเซียที่เพียงแค่ชื่นชอบสะสมอาวุธปืนเป็นงานอดิเรกอย่างคาซีเมียร์มาทำอะไรในสงครามมาเฟียนี้




ชายชราเกาศีรษะแกรกๆด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ ก่อนจะอธิบายด้วยน้ำเสียงห้วนๆตามประสาคนไม่ชอบอ้อมค้อม




“พ่อแกเรียกปู่มาช่วยสะสางเรื่องในอดีตของมัน ที่เหลือไปถามมันเองก็แล้วกัน”




“เรื่อง...คนที่ฆ่าแม่เหรอครับ?”



คำถามที่หลุดออกมาจากปากของหลานชายคนโตทำเอาหัวหน้าแก๊งมาเฟียรัสเซียถึงกับสะอึก คนอย่างพวกเขาถึงแม้จะอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่มานานแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าพวกเขาจะได้อยู่บนนั้นตลอดไป หากรักใครจริงๆ สิ่งเดียวที่ทำได้คือการอยู่ให้ห่างจากคนคนนั้นมากที่สุด คาซีเมียร์จึงพยายามติดต่อกับลูกและหลานของตนเท่าที่จำเป็น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าความรักที่เขามีต่อหลานชายจะไม่ลดน้อยลงไปตามเวลาและระยะห่างของพวกเขา การได้ยินเมฆาเอ่ยถึงสาเหตุการตายของมารดาด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งนั้นทำให้เขานึกอยากกระชากหัวมือปืนรับจ้างทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเกศราขึ้นมาจากหลุมศพแล้วยิงซ้ำอีกสักรอบ




“อืม…” แต่นั่นเป็นเพียงคำตอบเดียวที่คาซีเมียร์คิดออกในเวลานั้น



“ปู่…เป็นใครกันแน่ครับ?” เมฆาถามอย่างไม่เข้าใจ ศีรษะของร่างสูงปวดตุบ แต่เขายังคงฝืนเปิดเปลือกตาเพื่อรอคำตอบจากอีกฝ่าย




“เป็นเหมือนเจ้าเด็กนี่นั่นแหละ” คาซีเมียร์พยักเพยิดไปทางนิโคไล ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เมฆารู้สึกสับสนมากขึ้นไปกว่าเดิม
จะมีญาติฝ่ายไหนของเขาที่ไม่ได้เป็นเจ้าพ่อมาเฟียหรือผู้คุมโลกมืดบ้างมั้ย?!




“ผมว่าตอนนี้เรากลับมาที่ปัญหาของเราดีกว่านะครับ ดูจากอาการของคุณเชษฐ์ คิดว่าคงยังช่วยอะไรเราไม่ได้ กำลังคนในตอนนี้....”




“เดี๋ยวครับ...” เมฆาขัดคำพูดของนิโคไลด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ด้วยนึกได้ถึงตัวตนของใครอีกคนหนึ่งที่หายไปจากกลุ่มผู้เข้า
เยี่ยมของเขา ชายหนุ่มที่ถูกฝังอยู่ใต้เศษปูนขนาดใหญ่ครั้งสุดท้ายที่เมฆาเห็น “พ่อผมอยู่ที่ไหน?”




“พักฟื้นอยู่ห้องข้างๆ พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่หมอบอกว่าคงเดินไม่ได้ไปอีกหลายเดือน” คาซีเมียร์ตอบพร้อมกับไหวไหล่ “อึดขนาดมันดีไม่ดีจะลุกมาเดินตั้งแต่สองเดือนแรก ไม่ต้องห่วงมันหรอก”



แม้จะไม่ใช่ข่าวที่ดีที่สุด แต่เมฆาก็ยังคงโล่งใจที่ได้ยินว่าบิดายังมีชีวิตอยู่



อย่างน้อยที่สุด เขาจะได้ทุ่มแรงทั้งหมดมากังวลกับการตามหามธุวันที่ในตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน




“ตอนนี้สองในสามของเครื่องส่งสัญญาณของพวกเราถูกพวกมันทำลายไปแล้ว...” นิโคไลเอ่ยต่อ “แต่คนของผมกำลังไล่ตามรถที่พวกมันใช้หลบหนี ผมให้คนกระจายตัวตามสนามบินต่างๆเพื่อกันการหลบหนีออกนอกประเทศแล้ว”




เมฆาอยากจะลุกออกจากเตียงไปช่วยแม้จะรู้ว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าที่นิโคไลทำไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือความรู้สึกไร้ค่าที่เขากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้



“หมอก...จะเป็นอะไรมั้ยครับ?”




“มิคา...หมอกมีค่าเกินกว่าที่พวกมันจะกล้าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า ผมเชื่อว่าตราบใดที่มันยังไม่ได้เรียกร้องอะไรจากผมจนพอใจ พวกมันไม่มีทางแตะต้องเขา” นิโคไลเอ่ยอย่างมั่นใจ




แม้ว่านั่นจะไม่ได้ช่วยให้เมฆารู้สึกสบายใจขึ้นเท่าไหร่ แต่ชายหนุ่มทำได้เพียงกล่อมตัวเองให้เชื่อในการคาดเดาของนิโคไลเพื่อให้จิตใจที่ว้าวุ่นสงบลงมากพอที่จะให้เขาใช้ความคิด




ทว่าเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอกห้องทำให้สติที่สามารถรวบรวมมาได้เพียงน้อยนิดของเมฆาแต่กระเจิง โดยเฉพาะเมื่อประตูห้องพักคนไข้ของเขาเปิดผางออกอย่างรุนแรง อาจารย์แพทย์หนุ่มเพื่อนสนิทของธีรเชษฐ์ยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าโกรธขึงอย่างที่เมฆาไม่เคยเห็นมาก่อน




“คุณหมอ...”




ผลั่ก!




มาเฟียหนุ่มผู้เจนจัดในศาสตร์การต่อสู้หลายแขนงถูกคเชนทร์กระแทกหมัดลุ่นๆเข้าไปจังเบอร์ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ถึงกับเซถลา นิโคไลทรงตัวอย่างยากลำบากเพื่อไม่ให้ตัวเองล้มก้นจ้ำเบ้า ยกมือขึ้นห้ามบรรดาลูกน้องที่ชักปืนออกมาใส่คนที่บังอาจทำร้ายหัวหน้าของพวกตน ส่วนอีกมือก็ยกขึ้นแตะมุมปากของตัวเองที่เริ่มมีของเหลวสีแดงสดซึมออกมาตามรอยแผล




“คุณหมอครับ...”




“ผมไปทำอะไรให้คุณ? ทำไมคุณถึงได้ตามจองล้างจองผลาญคนรอบตัวผมขนาดนี้?!!”





คเชนทร์คำรามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด การได้เห็นเพื่อนสนิทของพ่อที่มักจะเป็นเหมือนเสียงแห่งตรรกะและเหตุผลในกลุ่มเพื่อนทั้งสามควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่แบบนี้ทำให้เมฆาอดรู้สึกกลัวขึ้นมาไม่ได้





“ทั้งไอ้เชษฐ์ มีนา เมฆ โรงแรมของไอ้วี คุณรู้ตัวมั้ยว่าเรื่องบ้าๆนี่ทำให้คนอื่นต้องสูญเสียไปเท่าไหร่?!”




เมฆาไม่มั่นใจว่าสมองของเขากำลังเล่นตลกอะไรอยู่หรือไม่ แต่เขาแทบจะสาบานได้ว่าเขาเห็นหยาดน้ำสีใสเอ่อล้นขอบตาภายใต้แว่นกรอบเหลี่ยมของตน




“อาคราม...มันไม่ใช่...”




นิโคไลส่งสายตาปรามเมฆาที่พยายามจะแก้ต่างให้ ก่อนจะหันกลับไปหาคเชนทร์ แววตาของชายหนุ่มผมบลอนด์เต็มไปด้วยอารมณ์มากมายที่เมฆาอ่านไม่ออก




“ผมขอโทษครับ...” นั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่หลุดรอดออกมาจากริมฝีปากของนิโคไล “ผมรู้ว่าคำขอโทษของผมอาจจะไม่มีความหมายสำหรับคุณ แต่ผมไม่เคยตั้งใจให้คนที่คุณรักต้องเจ็บปวด ผมเสียใจจริงๆ”




แววตาภายใต้กรอบแว่นไหววูบเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่คเชนทร์จะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง




“ผมก็เสียใจ...ที่เคยคิดว่าคุณจะเป็นอะไรมากกว่านักเลงหัวรุนแรงที่ใช้กำลังแก้ปัญหา”




แววตาที่นิโคไลมองตามนายแพทย์หนุ่มออกจากห้องนั้นทำให้แม้แต่เมฆาที่ไม่รู้ลึกตื้นหนาบางอะไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ยังอดรู้สึกเจ็บแทนไม่ได้ ชายหนุ่มผมบลอนด์ส่งสายตาให้กับนิกิต้าที่พยักหน้ารับคำสั่งไร้เสียงนั้นอย่างรู้งานแล้วเดินตามคเชนทร์ไป ก่อนจะหันกลับมาหาเมฆาโดยไม่คิดที่จะตามไปอธิบายเรื่องทั้งหมดให้อาจารย์แพทย์หนุ่มเข้าใจ




“ปล่อยไว้แบบนั้น...จะดีเหรอครับ?” เมฆาถาม นิโคไลยิ้ม ทว่ารอยแผลบาดลึกในแววตาของชายหนุ่มนั้นยากที่จะถูกกลบเกลื่อนโดยง่าย




“ดีแล้วล่ะครับ...แบบนี้แหละดีแล้ว”




คนอย่างเขา...อยู่ห่างจากคนดีๆอย่างคเชนทร์แบบนี้แหละดีแล้ว




ใช่ว่าเมฆาจะไม่เข้าใจเหตุผลของนิโคไล แต่เขาต้องยอมรับว่าเขาไม่อยากให้อาคเชนทร์ที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรอบของกฏหมายอย่างเคร่งครัดเข้าไปพัวพันกับบุคคลอันตรายอย่างชายหนุ่ม




“Boss, the last tracker has been discovered.(บอสครับ พวกมันเจอเครื่องส่งสัญญาณตัวสุดท้ายแล้ว)”




นิโคไลสบถเมื่อได้ยินคำรายงานของลูกน้อง เมฆาหน้าซีดเผือด ผุดลุกขึ้นจากเตียงโดยไม่สนอาการเจ็บป่วยของตัวเองและคาซีเมียร์ที่พยายามรั้งให้เขานอนกลับลงไป



“หมอก...”




“ตอนนี้คนของเรากระจายตัวไปตามสถานที่ที่คาดไว้จากตำแหน่งของเครื่องส่งสัญญาณตัวสุดท้ายว่าพวกมันจะไปแล้ว...” นิโคไลลุกขึ้น ปืนพกอัตโนมัติกระบอกสีเงินวาววับเสียบข้างเอวอย่างไม่สนใจว่าใครจะสังเกตเห็น “ผมจะตามไปสมทบกับคน
อื่น คุณอยู่นี่เถอะ ถึงจะตามไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร”




“เดี๋ยวครับ!”




เมฆาร้องเรียกอีกฝ่าย นิโคไลหันกลับมาหาเขาพร้อมกับเลิกคิ้ว เมฆากัดริมฝีปาก เขาไม่มั่นใจว่าความทรงจำที่กลับมาในหัวของเขานั้นถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ แต่ในตอนนี้เขารู้ว่าตัวเองต้องทำทุกวิธีทางเพื่อรับประกันความปลอดภัยของมธุวัน





“ผมคิดว่าผมรู้ว่าหมอกอยู่ที่ไหน”

------------

 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เมฆตามหาหมอกให้ได้นะ  :katai1:

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตามหมอให้เจอนะคะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
โว๊ะ ตื่นเต้น
ยาหยีไง ตัวประกันฝั่งเรา

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว เมฆไปช่วยหมอกเร็วๆน้า

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
รีบไปช่วยหมอกเร็วๆ นะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ลุ้น  ช่วยหมอกให่ได้ไวๆนะ   :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ลุ้นค่าา ขอให้เจอหมอกไวๆ

ออฟไลน์ Blackbone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
โอ๊ยยย มันบีบหัวใจจริงๆๆๆ  :ling1: :ling1: :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ meyj4ever

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ลุ้นมากกก...เมฆหาหมอกให้เจอนะ
สงสารคุณพี่นิโคไลโดนหมอคเชนทร์เข้าใจผิดซะแล้ว
ว่าแต่คุณเชษฐ์กับน้องมีนาเป็นไงบ้างล่ะนั่น
รอติดตามต่อไปค่า

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ขอให้หมอกปลอดภัย ถ้าโรเบิร์ตรักเพื่อนหมอกจริง
ต้องไม่ทำให้หมอกเป็นอันตรายสิ

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

จุดพีคแล้วใช่ไม๊
ฮืออออออ

ยังไงอ่า
พ่อเปนไรไม๊
แล้วมีนาไปไหนนน

ยาหยีจะเสียใจไม๊ ถ้ารู้ว่าผัวตัวเอง จะฆ่าเพื่อนตัวเอง
ฮือออ

ออฟไลน์ แมว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ๊ยยย :z3: :z3:ค้างงงง

ออฟไลน์ hikky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เพิ่งอ่านทันค่ะ มาราธอนมาก  :katai1:

สรุปแล้วน้องรินจะนกบอสจริงๆหรอ รักแทบตายถวายชีวิต นกเฉยเลย สงสารน้องงง  :sad4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
รู้ก้อต้องไป

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
โอ้ยยยย โง้ยยยย รอจ้าาาาา

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
มธุวันลืมตาตื่นขึ้นมาที่เบาะหลังของรถยนต์คันหนึ่ง ร่างโปร่งพยายามขยับตัวขึ้นนั่ง แต่เชือกที่พันธนาการร่างของเขาไปว้ทำให้สิ่งนั้นเป้นไปอย่างยากลำบาก




และแน่นอน ทำให้ชายแปลกหน้าทั้งสองที่นั่งอยู่ด้านหน้าของรถรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของเขาอีกด้วย




“Stay down if you wanna live. (นอนอยู่นั่น ถ้าไม่อยากตาย)” ชายชาวต่างชาติร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างคนขับหันปลายกระบอกปืนมาที่เขา มธุวันรีบนอนกลับลงไปด้วยความตกใจ ไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้เขาต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
หัวสมองที่มึนเบลอพยายามนึกย้อนไปถึงความทรงจำสุดท้ายก่อนที่ตนจะตื่นขึ้นมาบนรถคันนี้



เมฆาพาเขาออกมาจากโรงแรมธารา..



เมฆากลับเข้าไปตามหาธีรเชษฐ์...



แล้วคุณโรเบิร์ต...



ความทรงจำของมธุวันหยุดอยู่ที่โรเบิร์ตเรียกให้เขาตามไปดูญาวิกา มธุวันกวาดสายตามองหาคนทั้งคู่แต่ไม่พบ เขาไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้น นี่เขาถูกจับมาตอนที่โรเบิร์ตไม่เห็นงั้นหรือ?



แล้วตอนนี้เพื่อนของเขาเป็นอย่างไรบ้าง?



เมฆา...เมฆของเขา ตอนนี้อยู่ที่ไหน?



มธุวันไม่รู้ว่าเขาควรจะดีใจหรือร้องไห้ออกมาที่เมฆาไม่ได้อยู่ที่นี่กับเขา ร่างโปร่งได้แต่หวังว่านั่นหมายความอีกฝ่ายยังปลอดภัยอยู่




ว่าแต่...คนพวกนี้เป็นใครกัน?




มธุวันตัดสินใจทำตัวสงบเสงี่ยมเพื่อรอโอกาสหลบหนี เขาไม่รู้เจตนาของคนพวกนี้ที่จับตัวเขามา แต่เลขาหนุ่มเชื่อว่าหากคนร้ายต้องการให้เขาตาย คงไม่เสียเวลาลักพาตัวเขาออกมาแบบนี้




แน่นอน เขาไม่คิดว่าโอกาสของตัวเองจะมาถึงในไม่กี่อึดใจหลังจากนั้น




ระหว่างที่ร่างโปร่งนอนนิ่งอยู่เบาะหลังของรถ มือเรียวที่ถูกกุญแจมือล็อคไพล่หลังปัดป่ายไปโดนปากกาแท่งหนึ่งซึ่งอยู่ภายในกระเป๋ากางเกงของเขา ปากกาที่แม้ว่ามธุวันจะไม่เคยได้ใช้งาน ร่างโปร่งกลับเผลอหยิบติดตัวมาโดยไม่รู้ตัวทุกวัน ไม่รู้ว่าทำไม แต่เจ้าอาวุธขนาดจิ๋วนี้ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยขึ้นทั้งที่รอบตัวของมธุวันก็ไม่ได้มีอันตรายมากมายให้รู้สึกหวาดกลัวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว



‘กดเม็ดบนสุดยิงลูกดอกยาสลบ เม็ดที่สองเป็นเครื่องสะเดาะกุญแจ เม็ดที่สามเป็นมีดแบบเดียวกับอันนั้นแหละครับ’



“นี่…ผมอยากเข้าห้องน้ำ”



มธุวันเอ่ยขึ้นเป็นภาษาไทย ลองหยั่งเชิงดูว่าชายชาวต่างชาติทั้งสองสามารถฟังเขารู้เรื่องหรือไม่



“….”



คนร้ายทั้งคู่เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเอ่ยขึ้นว่า




“Just hold it in.(อั้นไว้)”




“ผมไม่ไหวแล้ว ถ้าคุณไม่หาที่ให้ผมจะปล่อยตรงนี้จริงๆนะ” ร่างโปร่งแสร้งบิดไปมา มือเรียวกำปากกาแท่งเล็กไว้แน่น




“Move again and I’ll  blow your head off. (ขยับอีกทีแล้วฉันจะเป่าหัวแกให้กระจุยเลย)” คนที่ถือปืนอยู่ขู่




“ถ้าคุณจะฆ่าผม คงไม่พาผมมาขับรถเล่นเป็นชั่วโมงแบบนี้หรอก จริงมั้ย?” มธุวันไม่ยอมหลงกลโดยง่าย เมื่อคำขู่ไม่ได้ผล ชายทั้งสองจึงกลับเข้าสู่โหมดใช้ความเงียบสื่อสารกันอีกครั้ง ก่อนที่คนขับจะตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปจอดใต้ต้นไม้ริมทาง ส่วนอีกคนที่ถือปืนอยู่นั้นเดินอ้อมมาเปิดประตูหลังรถแล้วกระชากตัวประกันลงมา




มธุวันอาศัยจังหวะนี้แทงปลายปากกาไปที่คอของชายหนุ่ม กดปุ่มบนสุดเพื่อยิงยาสลบในระยะเผาขน เขาไม่รู้ว่ายานี้จะออกฤทธิ์เร็วแค่ไหน ร่างโปร่งจึงตัดสินใจหวดกำปั้นใส่หน้าของชายชาวต่างชาติไปอีกหมัดเพื่อความมั่นใจ เสียงร่างสูงใหญ่กระทบพื้นทำให้คนร้ายอีกคนที่เหลือรู้ถึงความผิดปกติ




“Hey!”




คนขับรถชักปืนของตัวเองออกมา แต่เลขาหนุ่มไวกว่าใช้ปืนที่แย่งมาจากเพื่อนของอีกฝ่ายยิงกระบอกปืนให้กระเด็นจากมือของชายหนุ่มอย่างแม่นยำ




แม้ในสถานการณ์ที่ต้องเอาชีวิตรอดแบบนี้ มธุวันยังคงรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่สามารถพรากชีวิตของคนตรงหน้าได้ ร่างโปร่งยิงที่เข่าของอีกฝ่ายข้างละนัด ได้แต่หวังว่าคนร้ายจะไม่เลือดไหลตายไปก่อนที่เขาจะเรียกตำรวจมาจับพวกมัน




แม้จะไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แต่สภาพแวดล้อมที่เป็นทางลูกรังแทบไม่มีรถผ่านทำให้มธุวันตัดสินใจวิ่งย้อนกลับไปทางที่คนร้ายขับมา ร่างโปร่งรู้สึกว่าปอดของตัวเองกำลังกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง แต่เขาไม่รู้ว่าจะมีแต้มต่อในเกมส์การไล่ล่านี้ไปอีกนานแค่ไหน ขาเรียวที่ปวดร้าวจึงไม่เคยชะลอความเร็วลง จนกระทั่งเห็นรถยนต์คันหนึ่งกำลังขับตรงมาทางเขาพร้อมกับกระจกรถที่เลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าคุ้นตาของชายหนุ่มชาวต่างชาติที่เขาเพิ่งรู้จักไม่กี่วันก่อน




“คุณมธุวัน! รีบขึ้นมาเร็วครับ!”




อารามดีใจที่ได้เห็นคนรู้จัก มธุวันเปิดประตูด้านที่นั่งข้างคนขับเข้าไปนั่งทันที เมื่อหัวใจที่เต้นอย่างรุนแรงจนรู้สึกเหมือนกล้างเนื้อหัวใจจะฉีกเป็นชิ้นๆค่อยๆลดลง คนที่เพิ่งผ่านสถานการณ์ระทึกขวัญที่สุดในชีวิตจึงหันไปหาผู้ช่วยเหลือของตน




“นี่มัน...เกิดอะไรขึ้นครับคุณโรเบิร์ต? ผมถูกใครก็ไม่รู้จับตัวไป แล้วที่นี่ที่ไหน? ทุกคนปลอดภัยดีมั้ยครับ?”




“ใจเย็นๆครับ คุณปลอดภัยแล้ว ดื่มน้ำให้หายเหนื่อยก่อนนะครับ” คนขับรถปลอบคนข้างๆด้วยน้ำเสียงที่ผู้ใหญ่ใช้กับเด็กที่กำลังเสียขวัญ ยื่นขวดน้ำเปล่าให้กับมธุวันที่รับไปดื่มอย่างกระหาย “พวกคนร้ายที่วางแผนระเบิดโรงแรมลักพาตัวคุณมา ตอนนี้คนของทั้งคุณนิโคไลแล้วก็คนของคุณธีรเชษฐ์กำลังตามหาตัวคุณให้วุ่นไปหมด”




“ทำไมถึงเป็นผม? ผมไม่ใช่คนสำคัญอะไร ลักพาตัวผมไปคนพวกนี้จะได้อะไรขึ้นมา?”




มธุวันถามอย่างไม่เข้าใจ ในงานที่มีคนมีชื่อเสียงมากมายมารวมตัวกันแบบนี้ ทำไมคนที่ถูกจับมาถึงได้เป็นเขา เลขาธรรมดาที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร ไม่มีครอบครัวที่จะสามารถหาค่าไถ่มาให้โจรพวกนี้ ไม่ได้ช่วยให้พวกมันมีอำนาจต่อรองใดๆไม่ว่าจะกับใครก็ตาม




ทว่าคำถามของเขาทำให้คนขับรถหัวเราะเบาๆในลำคออย่างขบขัน เสียงหัวเราะแสนเย็นชาที่ทำให้มธุวันเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ




ทำไม...รู้สึกเวียนหัวแปลกๆ...




“สำคัญสิครับคุณมธุวัน คุณรู้มั้ยว่ามีกี่คนที่ต้องการตัวคุณ”




“อะ…อะไร...”




ร่างโปร่งเริ่มรู้สึกมึนงง ไม่สามารถเอ่ยคำถามนั้นออกมาเป็นประโยคได้ ภาพตรงหน้าของเขาเริ่มพร่าเลือน มือที่ถือขวดน้ำอยู่ไร้เรี่ยวแรงจนต้องปล่อยให้ขวดพลาสติกกลิ้งตกลงบนพื้นรถ




เขารู้สึกถึงมือของอีกฝ่ายที่เอื้อมมาดึงอะไรบางอย่างออกจากมือของเขา ปากกาแท่งที่เพิ่งช่วยชีวิตเขาจากเงื้อมมือของโจรลักพาตัวสองคนนั้น




“ขอโทษนะครับ ผมคงให้คุณเก็บเจ้านี่ไว้ไม่ได้...” ชายชาวต่างชาติเปิดกระจกข้างแล้วโยนปากกาโลหะแท่งนั้นออกไป “ไม่อย่างนั้น เกมส์นี้ก็คงจะง่ายเกินไปสำหรับอัศวินขี่ม้าขาวของคุณ จริงมั้ยครับ?”




มธุวันอ้าปาก แต่ไม่มีเสียงใดๆเล็ดรอดออกมา




และนี่เป็นอีกครั้งของวัน ที่ร่างโปร่งรู้สึกว่าภาพรอบกายของตัวเองมืดดับลง ก่อนที่สติสัมปชัญญะของชายหนุ่มจะดับวูบไป





--------

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
โอ๊ยยยย พลาดอีกแล้ว หนีเสือปะจระเข้
มธุวันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด