[จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)  (อ่าน 501854 ครั้ง)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอวันที่หมอครามใจอ่อน  :hao3:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ดีนะที่คุณหมอมา ถ้ารอสงสัยจะไม่ได้เจอ

ออฟไลน์ แมว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Naamtaan22

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
คุณหมอยอมแพ้ใจตัวเองแล้วใช่ไหมคะ.   :hao3:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
คุณหมอดีงาม มาอีกค่ะ เอามาอีก

ออฟไลน์ summerkiss

  • ที่พิมพ์แสดงคห.ไปอาจรุนแรงไปบ้างแต่โปรดรู้ไว้ว่าเราใส่ใจและชอบเรื่องของคุณไม่เช่นนั้นจะไม่มีซักตัวอักษรบนนิยายของคุณหากเราไม่ชอบ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
อ่านแค่ตอนแรก เอ๊ะ?น้ำอุ่น ... พอเลื่อนมาจบตอนถึงกับอ๋อยาวๆ

เคยอ่านซีรี่ย์ของ...(ชื่อพิมพ์ยากหลัวพิมพ์ผิด)
 ปจ. ยังตบหัวตัวเองว่าฉันพลาดไปได้อย่างไรกัน

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
รอคุณหมอออออออออออออออออ

ออฟไลน์ summerkiss

  • ที่พิมพ์แสดงคห.ไปอาจรุนแรงไปบ้างแต่โปรดรู้ไว้ว่าเราใส่ใจและชอบเรื่องของคุณไม่เช่นนั้นจะไม่มีซักตัวอักษรบนนิยายของคุณหากเราไม่ชอบ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Kunt : เห็นด้วยครับ ไม่อยากจะพูดว่า หมอกลองลาออกไปเลย แล้วรอดูซิว่า อีตาประธานนี่จะหาคนมาทำงานแทนได้ดีขนาดไหน อยากจะรู้นัก หาคนเก่งเท่าหมอกอะมีเยอะแยะครับ แต่จะหาคนจิตใจดีแบบหมอก มีความราชินีโหดในที่ทำงานแต่ก็แฝงความอ่อนโยนแบบรู้สึกได้ รวมถึงไม่ได้คิดจะจับเจ้านายด้วย ลองดูซิว่าจะมาทำงานกับธีรเชษฐ์แล้วจัดการสารพัดเรื่องเขาได้ขนาดไหน บริษัทมันจะวุ่นวายขนาดไหน

ผู้ชายบ้าอำนาจ เห็นความสุขตัวเองเป็นใหญ่ ถ้าข้าอยากได้ต้องได้ พอผิดไปหน่อยก็ง้อไปเรื่อยแบบนี้ ก็ไม่แปลกหรอกครับที่ลูกชายคนกลางจะถึงขั้นไม่อยากจะเห็นหน้าน่ะ

ตอนแรกๆ จำได้ว่าเคยอ่านนานแล้ว แต่อ่อานไม่จบ. ซึ่งเราก็ลืมไปว่าทำไมถึงไม่อ่านต่อ

พออ่านมาถึงตรงนี้ ได้ข้อสรุป เบื่อ+รำคาญ พ่อพระเอกมาก. ใช้สารพัดยิ่งกว่างานเลขาอีก สั่งแม่งทุกอย่าง หมอกต้องมาตามเก็บเรื่องสปรกให้อีก แล้วเอาแต่ใจตัวเอง กูอยากได้คนนั้น คนใต้อานัติทุกคน  ไม่ต้องสอด...เฮ้อระอา

แต่ตะพยายามทนอ่านเพื่อหมอกแล้วกัน.

ความคหนี้ โดนใจมากค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Hoya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew3: :mew3:

ปัก..... รายงานว่า อ่านจบเรื่องนี้แล้ว
อ่านแล้ว ชอบไรท์ นับถือ ชื่นชมการวางเรื่อง วางตัวละคร การเชื่อมโยง
อ่านๆ ไป ยังคิด มันน่า มี ใครใน ตปท มาซื้อ พลอตไปทำซีรี่  (ไม่อยากให้ไทย เอามาเล่นเพราะ ..... ฝีมือดาราหน้าเด็ก อ่อนด้อยเกินกว่า บทนิยาย)

เมื่อไหร่เรื่องนี้ จะออกเล่มคะ อยาก สอย จริงๆ

ขอบคุณไรท์ ที่ทุ่มเทให้เรื่องนี้ มาจนจบ... ปะ ไปอ่านเรื่องต่อไป ลำดับที่ 4 :katai4: :katai4: :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-10-2018 00:01:55 โดย Hoya »

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Part 2



คเชนทร์ถอนหายใจออกมาหลังจากที่ประตูห้องปิดลง



เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำนั้นถูกต้องแค่ไหน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ตัวเองทำเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่



หากเขาไม่เคยเห็นด้านที่อ่อนโยนของนิโคไล ความน่าจะเป็นที่เขาจะข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาหาเจ้าพ่อมาเฟียอายุน้อยกว่าในประเทศที่ไม่คุ้นเคยคงน้อยกว่าติดลบร้อย



คเชนทร์นึกโทษสาเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้กับเพื่อนสนิททั้งสอง และน้องชายของนิโคไลที่เขาเคยคิดว่าเป็นเด็กเรียบร้อยเอาการเอางาน



เขาน่าจะรู้ว่าความเจ้าเล่ห์ของนิโคไลนั้นต้องมีปัจจัยทางพันธุกรรมร่วมด้วยไม่มากก็น้อย






“…อาว่าอาการไม่น่ามีอะไรแล้วล่ะ เดี๋ยวอาให้ยาบำรุงแล้วนัดตรวจอีกทีอีกสามเดือนแล้วกัน”



คเชนทร์บอกหลานชายของตนหลังจากตรวจร่างกายเสร็จ เมฆาพยักหน้าพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณอาของตนที่อุตส่าห์เป็นธุระมาตรวจอาการให้ถึงคอนโด



“แล้วแฟนเราไปไหนซะล่ะ?” คเชนทร์ถามหาคนรักของหลานชายที่ปกติมักจะนั่งจดทุกคำพูดของเขาราวกับนักศึกษาแพทย์กำลังฟังเลคเชอร์ เมฆายิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงคนรัก



“อยู่ในครัวครับ สงสัยคงทำอาหารกลางวันให้อาอยู่”



“ไม่ต้องลำบากหรอก วันนี้ไอ้เชษฐ์กับไอ้วีมันชวนไปกินข้างนอก เดี๋ยวอาไปบอกเอง เมฆพักผ่อนเถอะ”



นายแพทย์หนุ่มเอ่ยปรามเมื่อเห็นคนป่วยจะลุกไปหาคนรัก เมฆาพยักหน้าอย่างว่าง่ายแล้วเอนตัวลงนอนอย่างอ่อนเพลีย
คาดว่าคงจะเหนื่อยจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงวิ่งแจ้นไปหาแฟนตั้งแต่เขาตรวจเสร็จแล้ว



คเชนทร์ส่ายหน้าขำๆ เดินไปยังห้องครัวขนาดกลางที่เขาคาดว่ามธุวันจะอยู่ภายใน แต่ก่อนที่คเชนทร์จะได้ก้าวเข้าไปในส่วนของครัว เสียงของเลขาร่างโปร่งที่ดังขึ้นก็ทำให้ฝีเท้าของเขาหยุดชะงักเสียก่อน



“…ครับ เมฆหมอกสบายดี คริสต์มาสนี้พวกผมจองตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว ไว้เจอกันนะครับ”



“คริสต์มาสเลยเหรอ?นานไปรึเปล่า…”



เสียงที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินอีกครั้งดังลอดลำโพงโทรศัพท์ออกมา คเชนทร์แนบตัวติดกับผนัง บอกตัวเองว่าเป็นเพราะตนไม่อยากรบกวนบทสนทนาของสองพี่น้อง ไม่ใช่เพราะเขาเกิดนึกอยากรู้ถึงความเป็นไปของคนที่ไม่ได้เจอมาหลายเดือนขึ้นมา



“หึ…เหงาเหรอครับ?”



“เหงาสิ ลูกก็ไปเรียน หมอกก็อยู่ไทย ทิ้งคนแก่อยู่บ้านคนเดียว…” ปลายสายงอแง คเชนทร์หลุดยิ้มขำออกมาเมื่อนึกถึงสีหน้าของอีกฝ่าย แต่รีบปรับสีหน้ากลับมาเป็นเหมือนเดิมทันทีที่รู้สึกตัว



“ถ้าเหงาก็หาใครซักคนมาอยู่ด้วยสิครับ” มธุวันตอบด้วยน้ำเสียงขบขัน “ทำตัวเป็นป๋า ถ้าเขาไม่รู้ก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะครับ”



คเชนทร์ขมวดคิ้ว ความรู้สึกหงุดหงิดใจที่ได้ยินว่านิโคไลมีเวลาเปย์เด็กที่ไหนไม่รู้จากอีกซีกโลก แต่ไม่คิดแม้แต่จะส่งข้อความมาอธิบายการกระทำของตัวเองกับเขาทำให้ร่างสูงโปร่งคิดจะเดินหนีไปจากบทสนทนาที่ตนกำลังแอบฟัง แต่น้ำเสียงตะกุกตะกักเอียงอายราวสาวน้อยแรกรุ่นกระตุ่นความสงสัยของเขาขึ้นมา




“พี่…พี่ไม่รู้ว่าหมอกพูดเรื่องอะไร”



“คิดว่าผมจะไม่เห็นจริงๆเหรอครับว่ามีคนใช้ชื่อผมซื้อเครื่องมือแพทย์บริจาคโรงพยาบาลที่คุณหมอคเชนทร์ทำงานอยู่”



ชื่อของตัวเองที่โผล่มาในบทสนทนาอย่างไม่ทันตั้งตัวยิ่งทำให้คเชนทร์หวังให้บทสนทนาของสองพี่น้องเร็วขึ้นกว่านี้ ปลายสายเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่นิโคไลจะตอบกลับมาด้วยเสียงงึมงัม



“ก็นั่นมันโรงพยาบาลของพี่ พี่จะอยากทำดีกับเขาบ้างไม่เห็นจะแปลก…”



“แล้วโรงพยาบาลอีกสามที่กับโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยที่หมอคเชนทร์ทำงานอยู่ แถมยังแฟรนไชน์ร้านกาแฟร้านโปรดของหมอคเชนทร์ที่พี่ซื้อไปลงไว้ในทุกโรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่นี่ก็เกิดจากความใจบุญด้วยใช่มั้ยครับ?”



เขาว่าแล้วว่ามันแปลกๆที่จู่ๆร้านกาแฟร้านโปรดของเขาก็ผุดสาขาขึ้นมาเป็นดอกเห็ด…



ไม่สิ…สรุปเขาคือคนที่เจ้าเด็กนี่เปย์ให้จากครึ่งซีกโลกงั้นเหรอ?!



“คือพี่…”




“…แล้วที่พี่ฝากของขวัญวันเกิดคุณหมอมาทางคุณเชษฐ์ คิดว่าคนแบบนั้นจะไปรับพัสดุด้วยตัวเองรึไงครับ?” ของขวัญ?



ใช่ว่าคเชนทร์จะจำไม่ได้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของตัวเอง แต่หลังจากที่พ่อแม่ของเขาเสียไปเมื่อหลายสิบปีก่อน เขาไม่เคยคิดจะทำอะไรใน’วันพิเศษ’วันนี้ไปมากกว่าออกไปทานอาหารกับเพื่อนพอเป็นพิธี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาไม่เคยให้ความสำคัญกับวันที่คนอื่นตีโพยตีพายให้เป็นวันสำคัญนี้



สิ่งที่เรียกว่าของขวัญจึงไม่เคยมาคู่กับคำว่าวันเกิดในพจนานุกรมของเขา



“ถ้าไม่รีบกลับมาทำคะแนน ระวังคุณหมอจะถูกงาบไปนะครับ”



“พี่…ไม่คู่ควรกับคนอย่างเขาหรอก”



“ผมว่านั่นเป็นสิ่งที่คุณหมอควรตัดสินใจเอง จริงมั้ยครับ?”



“อาคราม มายืนทำอะไรตรงนี้ครับ?” เสียงทุ้มของเมฆาทำเอาคนมีชนักติดหลังสะดุ้ง คเชนทร์ส่ายหน้า ผละจากตำแหน่งที่ตนยืนเมื่อครู่ด้วยกลัวว่ามธุวันที่อยู่ภายในจะได้ยินตน



“ไม่มีอะไร อาไปก่อนนะ” อาจารย์หมอหนุ่มรีบพูด ใช้จังหวะที่เมฆากำลังสับสนเผ่นแน่บออกมาจากคอนโดของหลานชาย ในหัวเต็มไปด้วยข้อมูลใหม่ที่เขาไม่รู้ว่าควรจะประมวลผลอย่างไร



ให้ตายเถอะ ทำไมชีวิตเขาถึงยังไม่หลุดพ้นจากผู้ชายที่ชื่อนิโคไลคนนี้เสียที?!








“เอ้า หมดแก้วเลยครับพี่คราม เดี๋ยวพวกผมไปส่งเอง”




ของเหลวสีอำพันแก้วใหญ่ถูกวางลงตรงหน้าของคเชนทร์โดยวีรภัทร เพื่อนสนิทที่อายุน้อยกว่าเขาสองปี



หากเป็นเวลาปกติเขาคงจะปฏิเสธความหวังดีของอีกฝ่าย คเชนทร์ไม่ชอบดื่มเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาจึงมักจะปล่อยให้คนที่ดูจะชื่นชอบเครื่องดึมมึนเมาพวกนี้มากกว่าอย่างธีรเชษฐ์และวีรภัทรจัดการเป็นส่วนใหญ่



แต่วันนี้เขาอยากเมา



“เฮ้ย!พี่คราม!ผมไม่ได้หมายความว่ารวดเดียวหมดนะครับ!!”



วีรภัทรรีบปรามเจ้าของวันเกิดที่ยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกรวดเดียวหมดเหมือนเป็นแก้วช็อตธรรมดา คเชนทร์ไม่ใส่ใจ ยกแก้วขึ้นให้บริกรรินเหล้าเพิ่มในแก้วของตน ก่อนจะสังเกตว่าเพื่อนทั้งสองที่มาพร้อมกับคนรักมีเพียงน้ำเปล่าวางอยู่ตรงหน้า



“พวกมึงไม่กิน?”



“พรุ่งนี้มีนมีเรียนเช้า/ผมจะพาทีมกลับไปเยี่ยมพ่อแม่น่ะครับ”



คำตอบของทั้งสองแม้จะเป็นคนละเรื่องแต่สื่อความหมายเดียวกัน ทั้งแววตาที่เพื่อนของเขามองคนรักของตัวเองยิ่งทำให้คเชนทร์ตระหนักได้ว่าเด็กโข่งทั้งสองที่เขาต้องคอยดูแล ตอนนี้มีคนดูแลของตัวเองอยู่ข้างกายแล้ว



เขายินดีที่เห็นเพื่อนมีความสุข แต่ในขณะเดียวกัน ความว่างเปล่าข้างกายของเขาก็เริ่มยากที่จะเมินเฉย



คเชนทร์ยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกรวดเดียวหมดอีกหลายครั้ง เดือดร้อนธีรเชษฐ์ต้องรีบคว้าแก้วใบนั้นไว้ก่อนที่เพื่อนจะได้ดื่มหมดขวดคนเดียว




”จริงสิ พี่คราม พวกผมมีของขวัญเล็กๆน้อยๆมาให้ครับ”



หากเขามีสติมากกว่านี้ คเชนทร์คงจะพยายามแสดงสีหน้าประหลาดใจให้ไม่ผิดสังเกตได้ ชายหนุ่มรับของขวัญมาโดยไม่มีคำถาม รู้ดีว่าของในกล่องสี่เหลี่ยมเรียวยาวนี้ไม่ใช่ของที่เพื่อนทั้งสองซื้อมา




เขาใช้เวลาทั้งมื้ออาหารไปกับการมองดูเพื่อนทั้งสองกับคนรัก ทั้งที่ปกติแล้วคเชนทร์ไม่ใช่คนคิดมากเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองสามารถอยู่คนเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องมีใครอยู่ข้างๆให้ชีวิตวุ่นวาย แต่วันนี้เขากลับเริ่มคิดถึงอนาคตที่ว่างเปล่าของตัวเอง และด้วยเหตุผลบางอย่าง ความคิดนั้นทำให้ท้องของเขาบิดมวนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก








“โห…ไม่เคยเห็นพี่ครามเมาขนาดนี้มาก่อนเลย”



“เป็นอะไรของมัน?”



คเชนทร์ปล่อยให้เพื่อนทั้งสองที่หิ้วปีกเขามาส่งถึงในห้องนอนคิดว่าตัวเองหลับอยู่ เขาไม่อยากเผชิญหน้ากับคำถามด้วยความเป็นห่วงของวีรภัทรหรือสายตาจ้องจับผิดของธีรเชษฐ์ เสียงปิดกระตูหน้าบ้านทำให้ดวงตาสีรัตติกาลลืมขึ้นมองเพดานห้องของตัวเอง แต่ความมืรอบกายทำให้เขามองไม่เห็นอะไรนอกจากเงาสลัวของฝ้าเพดาน…และความว่างเปล่ารอบกาย
ชายหนุ่มชันตัวขึ้น เพิกเฉยต่อความรู้สึกบิดมวนในช่องท้องของตัวเองแล้วโน้มตัวไปเปิดไฟหัวเตียง. คเชนทร์เบิกคิ้วเมื่อ
เห็นของขวัญของนิโคไลวางนิ่งอยู่ไม่ไกลจากโคมไฟนัก



อาจเป็นเพราะความเมาหรือความขาดสติใดๆก็ตาม ชายหนุ่มตัดสินใจว่าการเปิดของขวัญวันเกิดจากเจ้าพ่อมาเฟียที่หายหัวไปจากชีวิตของเขาหลังจากเข้ามาทำให้ชีวิตที่มีแบบแผนของคเชนทร์วุ่นวายอยู่หลายเดือนนั้นเป็นความคิดที่ดี



…แน่นอน ชายหนุ่มรู้ว่าตัวเองคิดผิดเมื่อเห็นปากกาแท่งหนึ่งวางอยู่ภายใน



ปากกาธรรมดาๆ ที่ทำจากทองคำขาวทั้งแท่ง ประดับด้วยเพชรเม็ดเล็กเรียงกันที่ตัวด้าม คเชนทร์ไม่ได้เป็นคนที่รู้สึกว่ามีความจำเป็นที่ตนจะต้องซื้อปากกาแพงๆ แต่การเขียนคำสั่งการรักษาตลอดทั้งวันทุกวันทำให้คเชนทร์พอมีความรู้อยู่บ้างว่าปากกาแพงยี่ห้อดังนั้นราคาอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่



และสิ่งที่อยู่ภายในกล่องนั้นก็มีค่ามากกว่าเงินเดือนของเขาทั้งเดือนเสียอีก



ความรู้สึกของปากกาในมือเขาไม่ได้หนักอย่างที่คเชนทร์คิด ชายหนุ่มพลิกหมุนตัวปากกาไปมา จนกระทั่งเขาสังเกตเห็นตัวอักษรตวัดม้วนสวยงามที่สลักอยู่ที่ตัวด้าม



‘Luce mia’



ทีแรก คเชนทร์นึกว่านั่นเป็นชื่อของใครก็ตามที่นิโคไลตั้งใจจะส่งปากกาแท่งนั้นให้จริงๆ ความหงุดหงิดก่อตัวในใจร่างสูงโปร่งอย่างห้ามไม่อยู่ แต่อะไรบางอย่างบอกเขาให้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาค้นหาความหมายของคำคำนั้น



และโปรแกรมแปลภาษาอัตโนมัติก็เด้งขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในผลการค้นหาพร้อมกับคำแปลที่ทำให้สมองของคเชนทร์หยุดทำงานชั่วครู่


‘My light’



‘แสงสว่างของผม’



คเชนทร์บอกตัวเองว่าใบหน้าที่ร้อนผ่าวขึ้นมานั้นเป็นเพียงผลจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เท่านั้น แต่สมองของเขารู้ดีเกินกว่าจะตกหลุมพราง



ตั้งแต่เรื่องวุ่นวายทั้งหมดจบลง คเชนทร์ทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับงานและการดูแลธีรเชษฐ์ที่ต้องทำกายภาพบำบัดอยู่ตลอด เขาไม่เคยรู้สึกผิดที่ขับไล่ไสส่งนิโคไลออกไปจากชีวิตของเขา ถึงแม้หลังได้ฟังความจริงทั้งหมดจากปากของธีรเชษฐ์ คเชนทร์จะเริ่มรู้สึกโหวงๆในอกกับการกระทำของตัวเองก็ตาม



แต่เขาไม่รู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจนั้น ชีวิตของเขาเรียบง่ายเกินกว่าที่จะมีพื้นที่ให้เจ้าพ่อมาเฟียอิตาลีที่ใช้ชีวิตอยู่กับความวุ่นวายของโลกมืด



ทั้งที่คิดแบบนั้น แต่มือเรียวกลับกดโทรออกหาน้องชายคนเดียวของเจ้าพ่อมาเฟียคนที่ว่า คเชนทร์ได้แต่หวังว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทั้งหมดที่เขาโหลดเข้าร่างกายไปในวันนี้จะทำให้ความกล้าของเขาคงอยู่จนจบบทสนทนา







หากจะให้พูดตามความจริง คเชนทร์จำบทสนทนาระหว่างเขากับมธุวันไม่ได้ด้วยซ้ำ



เขาไม่รู้ว่าตัวเองไปพูดอะไรกับเลขาของเพื่อนสนิท แต่รู้ตัวอีกที เขาก็มาถึงสนามบินขนาดเล็กที่มีเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวของธีรเชษฐ์รออยู่โดยมีเมฆากับมธุวันรับหน้าที่จัดการอำนวยความสะดวกทุกอย่างให้



“ผมถือวิสาสะใส่ของจำเป็นสองสามอย่างไว้ในกระเป๋าเดินทางของคุณหมอนะครับ” มธุวันยิ้ม ซึ่งเป็นภาพแปลกตาที่หาดูได้ยากสำหรับคเชนทร์ “ผมว่าคุณน่าจะจำเป็นต้องใช้มัน”




ตอนนี้ คเชนทร์กำลังก้มมอง’ของจำเป็น’ที่มธุวันใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางของเขาด้วยสายตาปลงตก



เอาวะ…เป็นไงเป็นกัน!





ทันทีที่คเชนทร์ก้าวเข้ามาในห้องอาหาร ปฏิกิริยาแรกของนิโคไลคือการยืนตะลึงอยู่กับที่ราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหิน คุณหมออายุมากกว่าอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ไม่ควรจะเป็นอะไรน่าตื่นตาตื่นใจ แต่วิธีที่กางเกงตัวนี้โอบรัดท่อนขาเรียวยาวและก้อนเนื้อกลมกลึงที่เขาไม่เคยคิดอยากอวดใครและวิธีที่เสื้อยืดคอกว้างสีเทาตัวบางจนเขารู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเผยช่วงคอระหงส์และหัวไหล่ขาวที่โผล่พ้นเนื้อผ้าเป็นบางครั้งทำให้คเชนทร์อดรู้สึกกระดากอายไม่ได้ เขาเลือกที่จะเช็ดผมหมาดๆและปล่อยให้เส้นไหมสีรัตติกาลนุ่มลื่นลู่ติดศีรษะ เขาถึงขั้นวางแว่นสายตาของตัวเองทิ้งไว้ในห้องนอนด้วยรู้ว่านั่นทำให้เขาดูเด็กลงกว่าความเป็นจริง และผลลัพท์ของมันเป็นที่น่าพอใจมากทีเดียว




คเชนทร์นั่งลงตรงข้ามกับชายหนุ่มยังยืนตะลึงค้างอยู่ในเก้าอี้ของตัวเอง แสร้งทำเป็นไม่สังเกตดวงตาสีมรกตที่ไล่ตามหยดน้ำจากเส้นผมที่ไหลลงมาตามลำคอขาวราวกับคนรอนแรมในทะเลทรายที่เพิ่งได้เห็นบ่อน้ำเป็นครั้งแรก



คเชนทร์ค่อนข้างมั่นใจว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครมองเขาด้วยสายตาแบบนี้



และเขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รังเกียจสายตาที่นิโคไลมองเขาเท่าไหร่



“คุณหมอ…”



“มีอะไร?”



“ถ้ายังทำตัวแบบนี้…” ใบหน้าคมของชายชาวต่างชาติเคลื่อนเข้ามาใกล้ สายตาของนิโคไลในตอนนี้บ่งบอกว่าชายหนุ่มกำลังทำทุกอย่างเพื่อสะกดกลั้นความต้องการของตัวเองไว้ “ผมไม่รับประกันนะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น”



คเชนทร์รู้สึกได้ว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะถอย…



“ทำตัวแบบไหน?”ชายหนุ่มอายุมากกว่าขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้ เรียกได้ว่าหากมีใครสักคนขยับมากกว่านี้ ริมฝีปากของพวกเขาคงสัมผัสกันไปแล้ว “ผมไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย”



คเชนทร์สาบานได้ว่าเขาได้ยินเสียงวินาทีที่เส้นความอดทนสุดท้ายในตัวของนิโคไลขาดผึง ก่อนที่ริมฝีปากแห้งผากจะบดขยี้ลงมา ครอบครองริมฝีปากนุ่มของร่างสูงโปร่งอย่างกระหาย



นี่ไม่ใช่จูบแรกของคเชนทร์ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่พวกมักมากอย่างเพื่อนสนิททั้งสอง แต่ตัวเขานั้นห่างไกลจากคำว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง ถึงอย่างนั้นความรู้สึกในตอนนี้กลับไม่มีอะไรเหมือนจูบที่ผ่านมา นิโคไลทั้งดุดัน เร่าร้อน และแสดงเจตจำนงแน่ชัดว่าต้องการครอบครองทุกพื้นที่ที่ตนสัมผัส ขณะเดียวกัน มือใหญ่หยาบกร้านที่กระชากเขาขึ้นมานั่งบนโต๊ะอาหารเมื่อครู่กลับลูบไล้ไปตามเรือนร่างขาวอย่างไร้จุดหมาย ราวกับกลัวว่าหากเผลอแตะต้องผิวกายเนียนละเอียดนั้นนานเกินไปจะทิ้งรอยไว้บนตัวของเขา




คเชนทร์เพิ่งรู้ตัวว่าร่างกายขากออกซิเจนเป็นเวลานานเกินไปเมื่อนิโคไลยอมปล่อยริมฝีปากของเขาให้เป็นอิสระ เพียงเพื่อจะเปลี่ยนเป้าหมายเป็นลำคอขาวเนียนระหงส์ ชายหนุ่มอายุมากกว่าที่ยังมึนเมาจากรสจูบเมื่อครู่เอียงคอให้อีกฝ่ายได้ลิ้มลองอย่างไม่อิดออด สมองลืมความเขินอายไปชั่วครู่ ความรู้สึกวาบหวามและเสียงดูดดุนชื้นแฉะหลังใบหูทำให้คเชนทร์เริ่มรู้สึกร้อนวูบไปทั้งกาย แม้จะเร็วกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก แต่ชายหนุ่มอดรู้สึกหงุดหงิดกับริมฝีปากได้รูปที่ไม่ยอมทำอะไรไปมากกว่านั้นไม่ได้



“คราม…”



เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกชื่อเขาราวกับกำลังสวดมนต์อ้อนวอนยิ่งทำให้คเชนทร์ร้อนรุ่ม ชายหนุ่มดึงมือใหญ่ของอีกฝ่ายให้สอดเข้ามาใต้เสื้อตัวบาง หวังให้สัมผัสของฝ่ามือหยาบกร้านช่วยอะไรความรู้สึกที่เขาไม่เคยมีกับใครนี้ได้บ้าง แต่สิ่งเดียวที่นิโคไลช่วย คือทำให้ความต้องการของเขาทวีคูณเพิ่มมากขึ้น



“นิค…”



เสียงสั่นเครือหลุดเรียกชื่อของอีกฝ่ายออกมาเบาๆเมื่อปลายนิ้วของนิโคไลสะกิดผ่านยอดอกไวต่อสัมผัส นิโคไลคำรามในลำคอ เสียงนั้นทำให้คเชนทร์นึกถึงสัตว์ป่าดุร้ายที่ถูกยั่วยุ…



เพล้ง!!




แก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะถูกผลักตกลงบนพื้น เสียงเศษแก้วที่แตกกระจายดึงคนทั้งคู่ออกจากโลกส่วนตัวใบเล็ก โดยเฉพาะนิโคไลที่เบิกตากว้างตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาปให้กลายเป็นน้ำแข็ง




“ผม…งาน…ผมมีงาน”




ร่างสูงพึมพำข้ออ้างออกมาส่งๆอย่างรีบร้อน จงใจหลบสายตาเขาอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะรีบเดินออกไปจากห้องโดยไม่คิดจะอธิบายอะไรคเชนทร์ไปมากกว่านั้น




มือของคเชนทร์กำแน่นข้างลำตัว ชายหนุ่มกัดริมฝีปากที่ยังคงบวมเล็กน้อยจากสัมผัสของนิโคไลเมื่อครู่




....คำว่าอับอายอาจจะน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับความรู้สึกของเขาในตอนนี้



------------------

คิดถึงทุกคนนนน :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Hoya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
นืโคไล คุณทำอะไร จะมามีงานอะไรตอนนี้
ไม่ได้ดั่งใจเลย!!!

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไรท์!!!!......ทิ้งกันง่ายๆแบบนี้เลยอ่อ...หมอผิดอะไร???

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
โอ้ยยยยยยยย นิคคคคคคคคค ทำอะไรของแกๆๆๆๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นิคคคคคคคคคคค มีไรอ่ะ  :ruready

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
อยู่ดีๆก็โดนทิ้งไว้กลางทางซะงั้น

ออฟไลน์ lemonphug

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ค้างทั้งคราม ค้างทั้งคนอ่าน

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
สงสารคุณหมอ อิคุณนิโคไลเป็นอะไรรรรรร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
สงสารคุณหมอ อุตส่ายอมนาดนี้แล้ว นิคป๊อดอ่ะ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
อิตาลีคงไม่ปลูกอ้อย มาเฟียอิตาลีเลยไม่รู้จัก :mew4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
คุณหมอหนีกลับบ้านขึ้นมาแล้วอย่าร้องให้งอแงนะคุณมาเฟีย  :m31:  โด่เขาอุตส่าห์มาหาถึงที่แล้วนะ  :serius2:

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
อ้าวๆๆๆๆไ นิคๆๆๆๆๆ กลับมาก๊อนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ลุ้นมากคู่นี้ :ling1:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Part 3



คเชนทร์รู้ว่าสิ่งที่ตนควรทำคือโยนข้าวของทั้งหมดกลับลงไปในกระเป๋าเดินทาง แล้วออกไปจากคฤหาสน์แห่งนี้ให้เร็วที่สุด แต่สุดท้าย สิ่งที่เขาทำมีเพียงทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มขนาดใหญ่อย่างอ่อนล้า ไม่นึกอยากรับรู้สึกใดไปมากกว่านี้



นิโคไลปฏิเสธเขา



นิโคไล…คนคนเดียวที่มองเขาเหมือนเขาเป็นพระจันทร์และดวงดาว เหมือนเขาเป็นโลกทั้งใบ…ปฏิเสธเขาด้วยท่าทีที่เหมือนกับไม่อยากใช้อากาศหายใจร่วมกัน ทำให้ความมั่นใจที่รวบรวมมาอย่างยากลำบากของเขาพังทลายหายไปแทบจะในพริบตา




ชายหนุ่มชันตัวขึ้นจากเตียง ดวงตาสีรัตติกาลเหลือบมองเงาสะท้อนของตัวเองจากกระจกของโต๊ะเครื่องแป้ง ร่างสูงโปร่งในกระจกเงานั้นต่อให้โกงอายุไปสักแค่ไหนก็ไม่สามารถไปได้ไกลกว่าสามสิบกลางๆ ดวงตาสีรัตติกาลมีรอยคล้ำจากการอดนอนคมชัดขึ้นเมื่อขาดแว่นกรอบเหลี่ยม โครงหน้าและรูปร่างแม้ไม่ได้บอบบางจนสามารถปลิวไปตามลมได้ แต่ก็ไม่ได้หุ่นดีมีกล้ามเป็นมัดตามประสาคนไม่ค่อยได้ดูแลตัวเอง หากเทียบกับบรรดาลูกน้องของนิโคไล คนพวกนั้นยังดูดีกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ



เขามีอะไรให้คนอย่างนิโคไลต้องการ?



‘แสงสว่างของผม’



คเชนทร์หลับตาลง ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองโง่ขนาดนี้ในชีวิต




เขาไม่เคยนึกถึงความเป็นไปได้ที่นิโคไลจะนับถือเขาในฐานะคนคนหนึ่ง ท่าทีหยอกเย้าของอีกฝ่ายอาจไม่ใช่อะไรมากกว่าบุคลิกประจำตัวของคนเจ้าคารมแบบนั้น



แล้วทำไม…



มือเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเองเบาๆ ความรู้สึกของริมฝีปากได้รูปยังคงหลงเหลืออยู่



ไม่เข้าใจสักนิด




คเชนทร์หยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงขึ้นมากดโทรทางไกลข้ามประเทศหาคนคนเดียวที่เขาจะสามารถปรับทุกข์ได้ในเวลาแบบนี้



“หนีตามผู้ชายไปอีกทวีปแบบไม่ร่ำลาเพื่อนฝูงแล้วยังจะกล้าโทรกลับมาอีกเหรอ?”



เสียงทุ้มของธีรเชษฐ์มีแววหยอกเย้า แต่แฝงไปด้วยความกังวลที่ปิดจากคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันหลายสิบปีไม่มิด คเชนทร์ขยับยิ้ม จิตใจที่หนักอึ้งผ่อนคลายลงเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนสนิท



ใช่ว่าเขาจะไม่สนิทกับวีรภัทร แต่การจะปรึกษาเรื่องแบบนี้กับคนที่อายุน้อยกว่าถึงสองปีคเชนทร์ก็อดรู้สึกกระดากไม่ได้ แม้จะรู้เต็มอกว่าวีรภัทรน่าจะมีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ให้เขามากกว่าเพื่อนอีกคนก็ตาม



“เชษฐ์…กูกลับดีมั้ย?”



น้ำเสียงของเขาในตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่ไม่กล้าตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง เขาไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้ ไม่ชอบตัวเองที่ไม่หลงเหลือความมั่นใจใดๆในตัวเองแบบนี้



“…มันไม่เอามึงรึไง?”




ความเงียบที่ได้รับเป็นคำตอบที่ดีให้กับปลายสาย ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ



“คราม…มึงลงทุนไปถึงที่นั่น แค่นี้ก็จะถอดใจแล้วเหรอวะ?”



“กูว่า…เขาอาจจะแค่เคารพกูเหมือนรุ่นพี่…”



“มึงเคยเห็นไอ้วีมองมึงด้วยสายตาเหมือนที่ไอ้ฝรั่งนั่นมองมึงรึไง?” คำถามของธีรเชษฐ์ทำให้เขาเงียบไป เขารู้ดีว่าคำตอบคือไม่ ไม่มีใครเคยมองเขาด้วยสายตาแบบที่นิโคไลมอง ไม่เคยมีใครที่ทำให้เขาว้าวุ่นได้เหมือนกับนิโคไลทำ ไม่เคยมีใครที่ทำให้เขารู้สึกงุ่นง่านเวลาอยู่ใกล้ แต่กลับเป็นห่วงเวลาที่ไกลกันได้เหมือนกับที่นิโคไลมีอิทธิพลกับเขาในตอนนี้




“กู…ไม่รู้ว่าควรทำยังไง…แค่นี้กูก็อายจะตายห่าอยู่แล้ว…”



“ด้านได้อายอด อ่อยไม่ได้รอบนึงมึงก็อ่อยต่อสิวะ ไหนว่าเรียนหมอมา แค่ปฏิกิริยาร่างกายมนุษย์แค่นี้ไม่รู้เหรอ?” สมกับเป็นธีรเชษฐ์ นอกจากจะด่าเขาแล้วอีกฝ่ายยังลามปามถึงใบปริญญาที่เขาได้รับมาในลมหายใจเดียว “กูไม่รู้หรอกว่ามันมีเหตุผลอะไรถึงอดใจไม่กระเดือกมึงลงไปทั้งตัวตั้งแต่รอบแรก แต่ความรักแม่ง…ชอบทำให้เราเป็นคนปัญญาอ่อนว่ะ”
การได้ยินเพื่อนสนิทพูดถึงความรักด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุขแบบนั้นทำให้คเชนทร์อดยิ้มไม่ได้



“อือ…คงงั้นมั้ง…”




“กูไปละ เมียให้พาไปซื้อของสดที่ตลาด”



ตัวอย่างของคนที่หน่อมแน้มลงหลังมีความรักคงไม่พ้นไอ้เพื่อนที่เขาโทรมาปรึกษาคนนี้นี่แหละ




หลังจากได้ปรับทุกข์(?)กับเพื่อนที่เขาไม่รู้ว่าช่วยเขาได้มากน้อยแค่ไหน คเชนทร์ตัดสินใจว่าได้ฤกษ์งามยามดีแล้วที่เขาจะออกไปเผชิญหน้ากับความเป็นจริงภายนอกห้องเสียที



ติ๊ง!



คเชนทร์ขมวดคิ้ว ก้มลงอ่านข้อความจากคนที่เขาไม่คิดว่าจะติดต่อมาในเวลานี่อย่างงุนงง



‘ได้ยินว่าต้องการแผนบีเหรอครับคุณหมอ?’








เมื่อเขากลั้นใจเดินลงมาจากบันได เจ้าของบ้านที่เขาตั้งใจมาหากำลังเดินวนไปวนมาเป็นหนูติดจั่นอยู่ที่ตีนบันได



“คุณหมอ!”



นิโคไลแทบจะพุ่งเข้ามาหาเขาทันทีที่เห็นร่างโปร่ง ชายหนุ่มไม่แม้แต่พยายามที่จะเก็บซ่อนสีหน้าร้อนรนของตัวเอง มือใหญ่เอื้อมมาหาเขา คเชนทร์ก้าวถอยหลังครึ่งก้าว แสดงจุดยืนของตัวเองให้อีกฝ่ายเห็น นิโคไลหน้าเสีย ชุกมือของตัวเองเข้ากระเป๋ากางเกงด้วยสีหน้าสลดลง



“ผมจะกลับพรุ่งนี้เก้าโมงเช้า เตรียมรถไว้ให้ด้วย”



“…ครับ”



แววตาของอีกฝ่ายฉายชัดว่าอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่นิโคไลกลับล่าถอยอย่างง่ายดายราวกับกลัวว่าจะทำให้เขาโกรธไปมากกว่านี้



คเชนทร์อยากจะดึงอีกฝ่ายเข้ามาเขย่า เค้นถามเอาความจริงจากปากของมาเฟียหนุ่มให้หมดเปลือกเพื่อให้เรื่องมันจบๆไปเสียที แต่ที่เขาไม่ทำแบบนั้น เป็นเพราะข้อความที่ส่งมาจากน้องชายของร่างสูง



‘ธรรมชาติของคน ถ้ารู้ว่าตัวเองจะเสียของสำคัญไปในเวลาอันสั้น ไม่มีใครโง่ยอมอยู่เฉยๆหรอกครับ’



เห็นได้ชัดว่ามธุวันไม่รู้จักพี่ชายของตนดีพอ



นิโคไลเหลือบมองเขาสลับกับก้มมองพื้นบ้านของตัวเอง แววตาของร่างสูงประหม่าอย่างเห็นได้ชัด แต่คเชนทร์ไม่คิดจะทำอะไรเพื่อช่วยให้สถานการณ์ง่ายขึ้น



“คราม…”



“แง้!!!!”




เสียงร้องลั่นของลูกชายคนเดียวของบ้านเรียกความสนใจของผู้ใหญ่ทั้งสองไปทันที นิโคไลพุ่งตัวออกไปตามเสียงร้องเช่นเดียวกับคเชนทร์ที่สาวเท้าตามด้วยสัญชาตญาณ



“เอเดรียน!”



เด็กชายในอ้อมแขนของนิกิต้าร้องไห้สะอึกสะอื้น บนเข่ามีผ้าสะอาดกดทับปากแผลไว้ เดาได้ไม่ยากว่าเอเดรียนคงไปหกล้มเข่าอกที่ไหนสักที่



“พาไปที่โฟซาก่อน เดี๋ยวผมทำแผลให้”



คเชนทร์สั่งบิดาบังเกิดเกล้าของเด็กชายโดยไม่หันไปมอง หมุนตัวกลับไปยังห้องพักของตัวเองด้วยความเร็วที่มักจะทำให้นักศึกษาแพทย์ตัวน้อยต้องวิ่งตามเป็นพรวน



บาดแผลบนเข่าของเอเดรียนเรียกได้ว่าแม้จะไม่ใช่แผลลึกแต่ก็มีปากแผลกว้างพอสมควร หลังจากทำความสะอาดแผลอีกครั้งและใส่ยาเรียบร้อยแล้ว คเชนทร์ก็ปิดพลาสเตอร์ให้เด็กน้อยที่ยังคงสะอื้นฮัก



“What’s wrong? Are you still hurt?” นิโคไลลูบผมลูกชายด้วยความเป็นห่วง ท่าทีอ่อนโยนของชายหนุ่มนั้นไม่ได่ส่งผลดีต่อคนที่พยายามมองหาจุดยืนของตัวเองอยู่ในตอนนี้เลยสักนิด



“I- I don’t want you to hit Nikki. It was all my fault. And- and—“



“I’m not going to. Okay? Don’t worry about it.” ร่างสูงปลอบลูกชายตัวน้อย ทำให้คเชนทร์อดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายลงโทษลูกน้องมากี่ครั้งแล้วกับเรื่องเล็กๆแบบนี้



คเชนทร์ลุกขึ้นจากพื้นที่ตนคุกเข่าลงทำแผลให้เอเดรียน แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้ทิ้งให้สองพ่อลูกได้อยู่ตามลำพัง มือเล็กๆของเด็กชายก็ดึงขากางเกงของเขาไว้เสียก่อน



“Thank you.” ดวงตากลมโตสีมรกตแหงนมองเขา “Will you be with my daddy forever?”



“Adrain!!”นิโคไลหน้าเหวอกับคำถามของคนเป็นลูก คเชนทร์กัดกระพุ้งแก้มไม่ให้หลุดยิ้มขำกับสีหน้าของอีกฝ่าย ก่อนจะก้มลงพูดกับเด็กน้อย



“That’s for your daddy to decide.”



แล้วเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้น



เอาล่ะ ผมสร้างเดดไลน์ไว้ให้คุณแล้วนะ คุณมาเฟีย









นิโคไลอยู่กับลูกน้อยจนเด็กชายหลับไป แน่นอน เอเดรียนจะเลือกผล็อยหลับไปในออ้อมกอดของใครไปไม่ได้นอกจาก…นิกิต้า ลูกน้องของเขาที่ทำหน้าที่เป็นเบาะรองให้นายน้อยของตนอย่างรู้งาน



บางทีเขาก็นึกอิจฉาความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ความสัมพันธ์ที่ไม่มีคำนิยามใดๆ แต่กลับมีความหมายหนักแน่นว่าทั้งสองจะไม่มีวันทิ้งกันไปไหน ความสัมพันธ์ที่ผูกมัดแน่นตั้งแต่วันที่นิกิน้าช่วยลูกชายในวัยสี่ขวบของเขามาจากโจรลักพาตัว



นิกิต้าไม่ใช่เงาของเอเดรียน สิ่งที่โยงใยระหว่างคนทั้งคู่ไม่ใช่ภาระหน้าที่ ไม่ใช่โชคชะตาที่ถูกขีดไว้ตั้งแต่เกิดเหมือนเขากับวรินทร์ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขากลับรู้สึกว่านั่นยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ยิ่งพิเศษไปกว่าคนอื่นๆ



“นาฬิกา…เริ่มนับถอยหลังแล้วนะครับ”



นิโคไลเงยหน้ามองลูกน้องของตนอย่างไม่เข้าใจ หนุ่มหน้าบากถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนผู้ใหญ่กำลังพูดกับเด็กอนุบาล



“ถ้าหมดเวลานี้ไปแล้ว ต่อให้คุณพูดอะไรไป เขาก็ไม่ฟังหรอกนะครับ…”



“ฉัน…ไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร” ชายหนุ่มอายุมากกว่าเอ่ยอย่างจนปัญญา แต่นิกิต้าไม่คิดสงสาร



“พูดเหมือนว่าคุณจะไม่มีวันได้เจอเขาอีกสิครับ”



“Nikki~” เด็กชายในอ้อมกอดงึมงำ ซุกตัวเข้ากับร่างสูงอย่างมีความสุข ดึงความสนใจของชายหนุ่มไปจากนิโคไลอย่างสิ้น
เชิง นิกิต้ายิ้ม ขยับให้เอเดรียนนอนหลับได้สบายขึ้น



“…” ทั้งที่เด็กน้อยตรงหน้าเป็นลูกชายแท้ๆของเขา แต่นิโคไลกลับรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถแทรกเข้าไปในโลกของทั้งสองได้



ชายหนุ่มจึงตัดสินใจถอนตัวเองออกไปจากโลกใบเล็กๆใบนั้น และกลับไปยังโลกของตัวเองที่กำลังนับเวลาถอยหลังก่อนที่มันจะสลายหายไป







คเชนทร์เดินไปตามสวนดอกไม้ขนาดยักษ์เข้ากับขนาดของคฤหาสน์อัลฟอนโซ่ ชายหนุ่มย่อตัวลงพินิจพิจารณาดอกไม้สีสวยแปลกตาที่ถูกปลูกเรียงกันอย่างสวยงาม นึกทอดถอนใจเป็นครั้งที่ไม่รู้เท่าไหร่ของวันว่าตนมาทำอะไรตรงนี้



‘พี่ชายของผมชอบทำสวนมาก ดอกไม้ในพื้นที่ด้านหน้าของคฤหาสน์ทั้งหมดพี่เป็นคนปลูกเองกับมือ’



ในตอนนั้นเขาไม่เข้าใจว่ามธุวันให้ข้อมูลที่ดูจะไม่สลักสำคัญนี้กับเขาทำไม แต่ยิ่งได้เห็นสวนดอกไม้กว้าง เขายิ่งสงสัยว่าทำไมคนที่เห็นชีวิตคนเป็นผักปลาแบบนั้นถึงได้ชื่นชอบการประคับประคองดอกไม้เล็กๆแสนบอบบางพวกนี้



“…คุณหมอชอบดอกไม้เหรอครับ?”



คเชนทร์รู้สึกถึงร่างของคนที่เขากำลังนึกถึงทรุดตัวลงข้างๆ มือใหญ่แตะลงบนกลีบดอกไม่สีแดงสดเบาๆ คุณหมออายุมากกว่าเหลือบมองนิโคไล ความเงียบของร่างโปร่งทำให้สีหน้าของนิโคไลเจื่อนลง แต่ชายหนุ่มยังคงไม่ยอมแพ้



“อากาศเริ่มร้อนแล้ว...ไปนั่งพักในร่มก่อนมั้ยครั...”



“ไม่มีอย่างอื่นจะพูดกับผมแล้วเหรอ?” คเชนทร์เอ่ยขัด หันไปหาอีกฝ่ายพร้อมคิ้วที่เลิกสูง นิโคไลนิ่งไป ดวงตาสีมรกตเสหลบดวงตาสีรัตติกาลที่จ้องตรงมาอย่างต้องการคำตอบ



“...ขอโทษนะครับสำหรับเรื่องเมื่อเช้า...”



“แค่นั้น?” คเชนทร์กอดอกมองอีกฝ่ายนิ่ง นิโคไลกัดริมฝีปากล่างอย่างชั่งใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างประหม่า



“ผม…ไม่อยากเริ่มต้นแบบนี้” คำตอบที่เหมือนไม่ใช่คำตอบทำให้คนฟังได้แต่กระพริบตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจ ชายหนุ่มชาวอิตาลีลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มือไม้อยู่ไม่สุขราวกับเด็กน้อยที่กลัวจะถูกผู้ใหญ่ดุจนลนลานทั้งที่ตนยังไม่ได้ทำอะไรผิด “ผมอยาก...ผมอยากพาคุณไปดินเนอร์ พาคุณไปเที่ยวชมความสวยงามของบ้านเกิดของผม ผมอยากให้คุณได้เห็นโลกของผมในมุมใหม่ๆ อยากให้คุณเห็นว่าผมเป็นอะไรได้มากกว่ามาเฟียบ้าเลือดที่เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา...”



คเชนทร์สะดุ้งกับประโยคหลัง นี่ผู้ชายคนนี้อ่านใจเขาได้รึยังไงกัน?



“ผม…แค่อยากให้คุณรู้จักผมที่เป็นผมจริงๆก่อนที่คุณจะรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่กลับเข้ามาในชีวิตผม”



หากมะเขือเทศเป็นสีแดงสด ความแดงบนใบหน้าของนิโคไลในตอนนี้คงถูกจัดอยู่ในระบบสีใหม่ไปแล้ว



“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เป็นคนที่แสดงออกทางการกระทำได้ห่วยบรม รู้ตัวบ้างมั้ย?”



แม้เหตุผลที่ได้รับจะขัดกับสิ่งที่เขาคาดไว้อย่างสิ้นเชิง แต่คเชนทร์ก็อดไม่ได้ที่จะระบายยิ้มออกมากับความคิดแสนอ่อนไหวไม่สมกับเป็นคนตรงหน้า



ทั้งที่อีกฝ่ายแค่ให้คำอธิบายอย่างตรงไปตรงมา ทำไมเขาต้องเขินกับสายตาเหมือนลูกหมาถูกทิ้งของคนคนนี้ด้วยเนี่ย?!




“เฉพาะกับคุณเท่านั้นแหละครับ...” รอยยิ้มจางกลับมาบนใบหน้าของนิโคไลอีกครั้ง แต่คราวนี้ แววตาหวานเชื่อมที่ถูกส่งมาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนกลับทำให้คเชนทร์รู้สึกหัวใจอ่อนแอขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน “เพราะเป็นคุณ ผมถึงกลายเป็นเด็กอ่อนหัดที่ลนลานจนทำอะไรไม่ถูกแบบนี้”



คเชนทร์ต้องใช้สติทั้งหมดที่มีไม่ให้ตัวเองเผลอหลุดรอยยิ้มขัดเขินออกมากับคำพูดของอีกฝ่าย มือเรียวยื่นออกมาระหว่างคนทั้งคู่ มาเฟียหนุ่มก้มมองมือขาวเนียนที่ผ่านเครื่องมือหัตถการมานับไม่ถ้วนอย่างไม่เข้าใจ




“จะพาผมไปข้างนอกไม่ใช่รึไง?” คเชนทร์ถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าแกล้งทำเป็นหงุดหงิดเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่าง “จะไปกันได้รึยัง? ผมไม่ได้มีเวลาทั้งวันนะ”




คนที่เพิ่งเข้าใจว่าตัวเองเพิ่งได้โอกาสครั้งที่สองแม้จะในเวลาอันจำกัดหลุดยิ้มกว้างออกมาอย่างตื่นเต้น คว้ามือเรียวมากุมไว้พร้อมดวงตาเป็นประกายอย่างกระตือรือร้น



“ครับ! ขอบคุณมากนะครับคุณหมอ!”



ขอบคุณที่ให้โอกาสคนอย่างผม...




คเชนทร์กลอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายหัวใจ แต่ก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อคนตรงหน้าลากเขาไปที่โรงจอดรถขนาดเท่าโชว์รูมขนาดย่อมของตัวเองด้วยสีหน้าราวกับเด็กได้ของเล่น โดยไม่ได้รู้เลยว่า ต่อให้อีกฝ่ายไม่ได้พยายามเสนอขายข้อดีของตัวเองราวกับกลัวเขาจะเปลี่ยนใจ...เขาก็ไม่คิดว่าตนจะสามารถถอยกลับไปยังชีวิตที่ไม่มีคนคนนี้เข้ามาวุ่นวายได้แล้ว



----------------- :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด