◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 28 {27.02.62}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 28 {27.02.62}  (อ่าน 118480 ครั้ง)

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 22 {12.09.60}
«ตอบ #510 เมื่อ24-10-2017 22:25:08 »

เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ แต่ " น่ารักอ่ะ "  :กอด1:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :L2:

ออฟไลน์ Timtimtim

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 22 {12.09.60}
«ตอบ #511 เมื่อ27-10-2017 15:52:07 »

 :z2:มีความอ้อย ระดับสิบ น่ารัก หวานๆละมุนลิ้น

ออฟไลน์ leenanhyun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-2
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 23 {17.11.60}
«ตอบ #512 เมื่อ17-11-2017 16:50:16 »

Chapter 23
ร่ายมนตร์

 

            “ดวงของหนูเนี่ย หน้าตาน่ารัก มีคนรักคนชอบมากมาย แต่ต้องระวังคนคิดร้าย ช่วงนี้จำเป็นต้องเกาะติดกับคนดวงแข็งแล้วจะแคล้วคลาดปลอดภัย”

            ผมมักจะคิดเสมอว่าหมอดูมักจะคู่กับหมอเดา ดังนั้นเลยไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่หมอดูพูดเท่าไร

            เมื่อวานก่อนจะแยกย้ายกับครอบครัวของพี่กัน คุณพ่อแวะดูดวงเล่นๆระหว่างทาง ซึ่งดวงของทุกคนเป็นไปในทางที่ดีหมด พ่อจะมีดวงด้านการงานและการเงิน ปู่รหัสมีแววว่าจะได้มีโอกาสไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศและจะกลายเป็นพ่อคนในเร็วๆวัน ส่วนพี่กันก็มีดวงด้านความรักรวมไปถึงด้านชื่อเสียง จะมีคนรักคนเอ็นดูเพราะความอ่อนน้อมถ่อมตัว

            พอหันมาที่ผม กลายเป็นว่าผมต้องระวังคนคิดร้ายเพราะดวงความปลอดภัยอยู่ในช่วงขาลง ให้เกาะติดกับคนดวงแข็ง ซึ่งหมอดูบอกว่าพี่กันน่ะ ดวงแข็งและจิตแข็งมาก

            ไอ้เรื่องคนคิดร้ายเนี่ย มันไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งมาเกิดในช่วงนี้หรอกครับ สาเหตุที่แม่หวงผมทั้งๆที่อายุสิบเจ็ดเข้าไปแล้วก็เพราะเรื่องนี้แหละ

            จะว่ายังไงดี

            ตั้งแต่เด็กๆผมเหมือนมีแรงดึงดูดคนประเภทนี้ให้เข้ามาใกล้ อย่างเช่นตอนที่เดินลงจากสะพานกับพี่กัน แล้วนั่นก็ไม่ใช่ครั้งแรก เคยเจอหนักสุดก็โดนจูงมือไปต่อหน้าต่อตาแม่เลย โชคดีที่มีตำรวจอยู่แถวนั้น แม่เลยขอให้เขาช่วยทัน

            ถ้าหมอดูจะบอกว่าดวงความปลอดภัยของผมอยู่ในช่วงขาลงล่ะก็

            มันก็คงจะลงมาทั้งชีวิตแล้วอ่ะ

            “อันยองค่ะเพื่อน” จำพี่ลำไยเพื่อนของลุงรหัสได้มั้ยครับ วันนี้เขามาร่วมโต๊ะกินข้าวเที่ยงที่คณะวิศวะกับเรา ถึงจะเป็นเพื่อนร่วมคณะแต่ก็เรียนกันคนละเอก พี่ลำไยเรียนเอกฝรั่งเศสครับ   

            “มึงเรียนเอกฝรั่งเศสไม่ใช่เหรอ”

            “ก็แล้วทำไมคะ ฝรั่งเศสแต่หัวใจเกาหลีอ่ะค่าอปป้า”

            “ไหนพูดฝรั่งเศสดิ๊”

            “เฌอแตมกอมเอิงฟู” พูดเสียงนุ่มๆทุ้มลึกในลำคอตามสไตล์คนฝรั่งเศสแท้ๆ

            “แปลว่า”

            “ฉันรักเธออย่างบ้าคลั่งเลยค่า”

            “กูก็พูดได้นะ ดูเวลังสิกิมง” ทุกคนอึ้งไปเลย

            เมื่อกี้ลุงรหัสพูดว่าอะไรนะ

            “ดูเวลังสิกิมง”

            “ดูเวลาสิกี่โมง” พี่รหัสเป็นฝ่ายตอบให้ ลุงรหัสหันไปยกนิ้วเยี่ยมให้กับพี่รหัส

            ไม่แปลกใจเลยทำไมสนิทกันได้

            “มีอีกๆ” ยังจะมีอีกเหรอ!

            “มงวัวอยู่บงราเบียงค์”

            “มองวัวอยู่บนระเบียง”

            “มึงซงคนปัยกระโดดราเบียงค์ไป อิบ้า!”

            ก่อนที่ผมจะมาเป็นส่วนหนึ่งของสายรหัสสุดขั้วนี่ อยากรู้จังเลยครับว่าปู่รหัสมีคาถาอาคมอะไรในการป้องกันเชื้อบ้าของลุงรหัสและพี่รหัส

            ‘ปั่ก’

            นั่งดูพี่ลำไยทะเลาะกับลุงรหัสอยู่ดีๆ แรงกระแทกจากด้านหลังพร้อมกับน้ำแดงที่หกราดหัวลงมาก็เล่นเอาผมสะดุ้ง ลุงรหัสที่นั่งอยู่ข้างๆกระเด้งตัวออกโดยอัตโนมัติ เขาร้องเสียงหลงเพราะตกใจไม่แพ้ผมนั่นแหละ เพื่อนสนิทที่นั่งเล่นเกมอยู่เงียบๆมานานสองนานถึงกับหันไปจะหาเรื่องคนด้านหลังแต่เจ้าของน้ำแดงแก้วนั้นรีบขอโทษขอโพยก่อน

            “เฮ้ยขอโทษๆ ไม่ได้ตั้งใจ พอดีเพื่อนมันชนอ่ะ”

            “ขอโทษจริงๆครับ แค่จะแกล้งเพื่อนเฉยๆอ่ะ โอเคมั้ย”

            ผมนั่งมองหยดน้ำแดงที่หยดจากปรอยผมลงมาสัมผัสกับแขนเสื้อสีขาวของตัวเอง พลางคิดไปถึงเรื่องที่หมอดูทัก

            ถ้าหมอดูทักว่าช่วงนี้ผมจะโชคร้ายล่ะก็ ก็อาจจะเชื่อนะ

            “วันหลังเล่นกันระวังๆหน่อย คนอื่นเขาเดือดร้อน” ลุงรหัสขึ้นเสียง ผมเลยรีบดึงเขากลับมาก่อนที่จะมีเรื่องไปมากกว่านี้

            “ไม่เป็นไรครับ ผมโอเค”

            มันก็แค่จะเหนียวๆหน่อย

            “เฮ้ยเราขอโทษจริงๆนะ นายโอเคใช่ป่ะ เดี๋ยวเราไปหาเสื้อมาให้เปลี่ยน” ฝ่ามือของเจ้าของแก้วน้ำแดงที่เหมือนจะมีโซดาผสมอยู่ด้วยแตะลงเบาๆบนไหล่ของผม ผมหันไปสบตาเขาพลางยิ้มให้เขานิดๆ

            “ไม่เป็นไร เราโอเค”

            ถึงจะพูดแบบนั้นออกไป แต่เขาก็ไม่ยักจะเชื่อว่าผมโอเคจริงๆแฮะ

            สุดท้ายก็เลยต้องมาล้างหัวล้างตัวที่ก๊อกน้ำล้างมือของทางโรงอาหาร เสื้อนักศึกษาสีขาวเปื้อนน้ำแดงเป็นคราบดูน่ากลัว เพราะแบบนี้ผมเลยต้องจำใจรับเสื้อยืดของเด็กคณะวิศวะมาเปลี่ยน

            “เราขอโทษจริงๆนะ ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ”

            เขาก้มหัวขอโทษขอโพยผมประมาณรอบที่สิบได้แล้วมั้งครับ

            ผมไม่ได้โกรธอะไรเลย สงสัยอยู่กับปู่รหัสบ่อยไปหน่อยเลยติดเชื้อความใจเย็นมาจากเขา

            “ยังไงก็ ขอบคุณเรื่องเสื้อนะ ไว้เดี๋ยวเราซักมาคืนให้” ดูจากสกรีนบนเสื้อแล้ว น่าจะเป็นเสื้อที่เอาไว้ใช้รับน้องของคณะวิศวะแฮะ อาจจะเป็นของสำคัญก็ได้

            “เฮ้ยไม่เป็นไร เรายังไม่ได้ใช้”

            ยังไม่ได้ใช้กับไม่ใช้แล้วนี่ คนละความหมายกันเลยนะ

            “เออน่า เดี๋ยวเราซักมาคืนให้” ยื้อกันไปยื้อกันมา สุดท้ายเขาก็ยอมแต่โดยดี ถ้าขืนไม่ยอมแล้วไม่มีเสื้อใส่เข้ารับน้องล่ะก็ เดี๋ยวก็ได้โดนรุ่นพี่เฉ่งเอาหรอก

            “อ่าโอเค งั้นเราขอไลน์ไว้ได้ป่ะ จะได้นัดเอาเสื้อคืนอ่ะ”

            “อือ” เขายื่นโทรศัพท์มาให้ผมกดไอดีไลน์ ซึ่งผมก็กดไปให้แบบไม่ได้คิดอะไร

            ผมและนายน้ำแดงแยกจากกันโดยที่ก่อนจะแยกกันเขาก็ยังขอโทษไม่ยอมหยุด เพื่อนสนิทผมหัวฟัดหัวเหวี่ยงเดินเข้ามาพลางดึงเสื้อสีขาวเปื้อนน้ำแดงในมือผมไปกางดู

            “โอ้โห เปื้อนเยอะเลย ไอ้ห่าแกล้งอะไรของมันอย่างกับจงใจ”

            ไม่หรอก ถ้าจงใจเขาจะเอาเสื้อรับน้องตัวเดียวที่มีอยู่มาให้ผมใส่ทำไมล่ะ จริงมั้ย?

            เดินกลับมาที่โต๊ะที่พี่ๆยังนั่งกินข้าวกันอยู่ ผมก็ดันลื่นน้ำแดงที่หกอยู่ที่พื้นจนเกือบหัวทิ่ม ดีที่เพื่อนดันหลังเอาไว้ทัน ไม่อย่างนั้นก็คงลงไปนอนจมกองน้ำแดงกลางโรงอาหารเนี่ยแหละ

            โอเค เชื่อก็ได้

            สงสัยจะซวยจริงๆนั่นแหละ

           

            “ใส่เสื้ออะไรมา”

            คนตัวสูงยืนสำรวจหน้าหลังของผมไม่หยุดตั้งแต่ลงจากรถไฟฟ้า พี่กันหมุนตัวผมไปรอบๆเหมือนกำลังดูว่าเสื้อเนี่ย มันไม่ได้มาจากคณะผม แต่มาจากคณะเพื่อนบ้านที่ผมและเพื่อนชอบไปกินข้าวกันบ่อยๆเพราะอาหารอร่อย

            “เสื้อเด็กวิศวะนี่”

            พยักหน้าตอบคำถามเขา

            “ได้มายังไง ใครให้มา”

            “มีคนทำน้ำแดงหกใส่อ่ะ” กลัวพี่กันจะไม่เชื่อ เลยดึงเสื้อที่เปื้อนน้ำแดงเป็นคราบออกมาจากกระเป๋าผ้าให้เขาดู “เขาก็เลยเอาเสื้อมาให้เปลี่ยน เสื้อรับน้องของเด็กวิศวะอ่ะ”

            “แล้วก็รับมาเนี่ยนะ”

            “อือฮึ ก็ตอนนั้นมันไม่มีทางเลือกนี่นา”

            “ถอดเลย ถอดๆ” พี่กันทำท่าจะเลิกเสื้อของผมขึ้น ผมรีบตีมือเขาดังเพี๊ยะ

            “พี่กัน!”

            นี่มันกลางสถานีรถไฟฟ้าพี่จะมาถอดอะไรเล่า!

            “เขาให้มาก็ต้องรับไว้สิ เดี๋ยวก็เอาไปคืนแล้ว”

            คนตัวสูงมองตาขวางแบบไม่พอใจ พอเห็นแบบนั้นเลยดึงแก้มเขาเบาๆ

            ก็รู้น่าว่าเขาหวง แต่นี่มันเป็นอุบัติเหตุที่ฝ่ายนั้นเองก็ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน ก็แค่ยืมเสื้อมาวันเดียว เดี๋ยวกลับหอเอาไปซักแล้วตาก แห้งเมื่อไรก็เอาไปคืน แค่นั้นก็จบแล้ว

          “ถ้างั้นไปซื้อเสื้อใหม่ มานี่เลย”

            แล้วเขาก็ลากผมไปซื้อเสื้อใหม่ตามที่ปากพูดจริงๆ เสื้อยืดสีขาวขนาดพอดีตัวมาอยู่ในมือผม เขาเลือกให้เสร็จสรรพ แถมยังบังคับให้เปลี่ยนทันทีเลยด้วย

            เลือกเสื้อแบบไหนไม่เลือก เลือกเสื้อสกรีนที่มีคำว่า GUN ตัวเบ้อเริ่มแปะอยู่ตรงกลางเนี่ย

            “วันหลังห้ามรับของจากคนแปลกหน้ารู้มั้ย”

            “ผมอายุจะสิบแปดแล้วนะ”

            “อายุสิบแปดแล้วโดนหลอกไม่ได้หรือไง อายุสามสิบยังโดนหลอกได้เลย”

            ทำไมพูดแล้วต้องทำหน้าดุด้วยเล่า

            “แล้วก็ห้ามสบตากับใครด้วย”

            “ทำไมถึงสบตาไม่ได้อ่ะ”

            พี่กันหันมาทำตาขวางใส่ผม เขาเดินดุ่มๆเข้ามาใกล้เหมือนจะเข้ามาหาเรื่องเลยครับ

            “ตามึงอ่ะมีเวทมนตร์”

            หือ

            “ยังไงอ่ะ”

            “ใครสบตาก็ตกหลุมรักมึงทุกคน”

            “แล้วจะให้ทำไงอ่ะ หลับตาเดินเหรอ”

            “ใช่ เพราะถ้าคนอื่นสบตามึงล่ะก็ เวทมนตร์ที่มึงสะกดกูไว้ก็จะเสื่อม”

            “คือไรอ่ะ”

            “กูก็จะหมดรักมึง”

            กะพริบตาปริบๆมองคนตัวสูงที่เดินนำออกไป ยังไม่ทันไรโทรศัพท์ในมือก็สั่นครืด ผมเปิดดูข้อความในไลน์ที่มีใครบางคนกดส่งมาเมื่อตะกี้

            นายน้ำแดงนั่นแหละครับ

            เสื้ออ่ะไม่ต้องรีบคืนก็ได้นะ ยังไม่รีบใช้อ่ะ

            ผมกดส่งสติ๊กเกอร์กระต่ายร้องเสียงดังว่า Sir Yes Sir กลับไป

            น่ารักเนอะ

            *กระต่ายเหรอ

            อือ

            ทั้งกระต่ายทั้งคน


            ถลึงตาใส่ข้อความนั้นด้วยความตกใจ ผมรีบเดินตามไปหาพี่กันพลางดึงชายเสื้อของเขาเอาไว้ คนตัวสูงที่สวมชุดนักศึกษาหันมามองแบบไม่พอใจเท่าไร

            หรือว่าที่เขาพูดจะเป็นเรื่องจริง

            เพราะผมสบตากับนายน้ำแดงเข้าไปแล้ว

            “พี่กัน”

            “หือ”

            “จริงเหรอที่พี่บอกว่าตาผมมีเวทมนตร์”

            “อือ” เขาพยักหน้า

            “ทำไม ไปร่ายมนตร์ใส่ใครไว้อีกอ่ะ”

            ยื่นโทรศัพท์ในมือให้เขาดู ถ้าเป็นพี่กันล่ะก็จะต้องดูออกแน่ๆว่าจุดประสงค์ของนายน้ำแดงคืออะไรกันแน่ ตอนแรกก็คิดว่าเป็นอุบัติเหตุนั่นแหละ แต่พอพิมพ์แบบนั้นมา ก็เริ่มคิดแบบเพื่อนตัวแสบแล้วว่าอาจจะเป็นการจงใจก็ได้

            “ร่ายมนตร์ใส่คนอื่นอีกแล้ว”

            “จริงเหรอ”

            “อือ”

            “แล้วทำไงอ่ะ ทำไงดี เขาจะไม่มาตกหลุมรักผมใช่มั้ย” ผมลนลานอยู่ข้างๆพี่กัน เขาหัวเราะหึหึอยู่ในลำคอ

            “อยากให้ช่วยป่ะ เดี๋ยวคุยให้”

            คนตัวสูงพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปในโทรศัพท์ เขายิ้มมุมปากเหมือนมีแผนชั่วร้าย นี่คิดถูกหรือคิดผิดล่ะเนี่ยที่เอาโทรศัพท์ให้เขา กดอยู่สักพักก็คืนโทรศัพท์กลับมาแล้วเดินหนีออกไป

            ผมกดดูข้อความที่พี่กันส่งไป

            *กระต่ายมีเจ้าของแล้ว

            *คนก็มีเจ้าของแล้ว

            *จีบคนมีเจ้าของมันบาปนะครับน้อง

            เท่านั้นไม่พอ พี่กันยังรัวสติ๊กเกอร์กระต่ายที่ผมจ่ายเงินซื้อมาส่งกลับไปอีกด้วย แถมยังเลือกเฉพาะตัวที่กวนประสาทที่สุดอีก

            *สลัดผัก

            *กลาก

            *ไอ้บ้านี่

            *อยากปะทะหรอ

            *อย่าหาว่าสอนเลยนะ

            *…เงิบไปดิ

            ไอ้คนเงิบเนี่ย

            คือผม

            นี่มันไม่ใช่วิธีการคุย แต่เป็นการเกทับต่างหากล่ะ แล้วเขาจะมองผมเป็นคนแบบไหนกันล่ะเนี่ย

            ไอ้พี่กัน! ไอ้พี่บ้า!

            พอเห็นผมทำหน้าบูดใส่ เขาก็หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียว ขาสองข้างของผมเดินดุ่มๆเข้าไปหาเขาพลางดันตัวพี่กันแรงๆจนเขาเซไปชนกับกำแพงด้านหลัง

            ทำไมพี่กันถึงเป็นคนแบบนี้นะ

            คนใจบาป!

            ตบตีกับเขาอยู่ไม่ทันไรโทรศัพท์ก็สั่นอีกครั้ง คราวนี้นายน้ำแดงส่งข้อความรัวมาเลย

            อ้าว มีแฟนแล้วเหรอ
           
            ขอโทษๆ

            เสื้ออ่ะถ้าจะคืนฝากไว้ที่ร้านน้ำปั่นก็ได้นะ


            พอเห็นข้อความแบบนั้น ก็โล่งใจขึ้นมาหน่อย เห็นจากหางตาเหมือนว่าใครอีกคนจะชะโงกหน้ามามอง พอผมเงยหน้าขึ้นไปพี่กันก็ทำเป็นมองไปอีกทางพลางผิวปากไม่รู้ไม่ชี้

            “เป็นไง ได้ผลป่ะ”

            “ไม่ต้องมาพูดเลย” ป่านนี้นายน้ำแดงคงนึกว่าผมเป็นคนพิมพ์ข้อความนั้นแน่ๆ ผมไม่ใช่คนกวนประสาทขนาดนั้นสักหน่อย

            คนตัวสูงยังยืนขำตัวงอไม่หยุด ไอ้คนนิสัยเสีย

            ฝ่ามือของพี่กันวางลงบนกลุ่มผมของผมแล้วขยี้เบาๆ เขาปล่อยท่าไม้ตายของเขาอีกแล้ว

            ใจผมเต้นรัวขึ้นมาจนจับจังหวะไม่ได้เลย

            “ไอ้กระต่ายต๊องเอ้ย” 

            “พี่แกล้งผมอ่ะ”

            “แต่ก็ได้ผลนะ”

            “นิสัยไม่ดี”

            “โอ๋ๆ คุณกระต่ายไม่โกรธสิครับ”

            เขาวางแขนของตัวเองลงบนไหล่ของผมพลางโยกตัวไปมาเหมือนต้องการจะง้อ

            “หายโกรธเร็ว”

            “ไม่”

            “เดี๋ยวก็จับทำแกงกระต่ายเลย”

            คนเลว!

            ที่หมอดูบอกไว้ว่าดวงของผมจะเจอคนรักคนชอบมากมายแต่ต้องระวังคนคิดร้ายเนี่ย มันใช่คนๆเดียวกันหรือเปล่าครับ เพราะพี่กันเนี่ย ทั้งชอบผมแถมยังคิดร้ายกับผมตลอด

            สรุปว่าคนที่ผมต้องระวัง คือคนดวงแข็งที่ผมต้องอยู่ด้วยใช่มั้ยครับหมอดู

 

            พอพ้นออกมาจากบริเวณขายเสื้อผ้า ผมและคนตัวสูงก็เดินไปตามทางเพื่อตรงไปยังห้องสมุดสาธารณะ ถึงแม้ว่ามิดเทอมจะผ่านไปด้วยดี แต่ยังไงก็ต้องติวจนกว่าพี่กันจะสามารถสอบผ่านไฟนอลไปได้อย่างปลอดภัยแหละครับ

            ช่วงหลังๆก็ดีขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยก็สามารถแปลออกได้ เขาสามารถจำคำศัพท์ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว เรื่องแกรมม่านี่สอนเพียงแค่ครั้งสองครั้งก็เข้าใจแล้ว แต่ถ้าถามถึงความเลวร้ายเรื่องการออกเสียงคำล่ะก็ ยังต้องใช้เวลาแก้อีกนาน

            พี่กันเป็นประเภทที่ว่าไม่สามารถออกเสียงคำได้ครับ ถึงจะจำความหมายได้ แปลออก ก็ออกเสียงไม่เคยถูก อาจจะเป็นเพราะสมองของเขาใช้พื้นที่ส่วนมากไปกับการคำนวณและเรื่องทางวิทยาศาสตร์ อย่างที่เขาเคยบอกว่าเขาเก่งด้านคำนวณอย่างเช่นแคลคูลัสเอามากๆ ผมเคยเห็นเวลาว่างๆเขาอ่านหนังสือพวกแคลคูลัสเล่นด้วย

            ดังนั้นภาษาอังกฤษจึงเป็นอะไรที่สมองเขาไม่เปิดรับ ระบบการสะกดคำก็เลยรวนไปหมด ขนาดนั่งสอนวิธีการไล่เสียงคำ ทุกวันนี้เขาก็ยังไม่สามารถอ่านออกเสียงได้เหมือนคนทั่วไป อย่างเช่นคำว่า User เขาก็ไม่อ่านว่า ยูสเซอร์ พี่กันจะอ่านเป็น อูซี หรือคำว่า Visual ก็ไม่อ่านเป็น วิชวล แต่อ่านเป็น ไวซูอั้น

            แต่เวลาสอบเขาก็ไม่จำเป็นต้องไปพูดสะกดคำให้อาจารย์ฟัง ดังนั้นขอแค่แปลออกและตอบได้เท่านั้นก็พอแล้วล่ะ

            “แต่เรื่องตามึงกูไม่ได้โกหกนะ”

            จู่ๆพี่กันก็โพล่งขึ้นมา ผมหันไปสบตากับเขาเพียงแค่แวบเดียวก็ต้องกลับมาจ้องรองเท้าผ้าใบของตัวเอง

            “ทำไมล่ะ”

            “ตามึงอยู่กับยาย”

            ห่ะ

            นี่คือเล่นมุกเหรอ

            “ตลกเหรอ”

            “อ้าวไม่ขำเหรอ”

            “อยากให้ขำเหรอ หัวเราะให้นิดนึงก็ได้ ฮ่าๆ”

            “ไอ้เด็กนี่” เขายกมือทำท่าจะตีผม แต่เปลี่ยนเป็นผลักหัวผมเบาๆ

            “กูไม่เคยบอกใช่ป่ะว่ากูตกหลุมรักมึงครั้งแรก เพราะสบตากับมึง”

            ขาสองข้างของผมหยุดเดินไปโดยอัตโนมัติ ผมหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่เพราะตกใจที่ได้ยินแบบนั้น สายตามองจ้องไปยังรองเท้าของตัวเอง ที่จู่ๆรองเท้าอีกคู่ของใครอีกคนก็มายืนอยู่ตรงหน้า

            เหมือนหูฝาดไป เมื่อกี้สิ่งที่ผมได้ยินมันคือความจริงหรือเปล่า

            “จริงเหรอ”

            “อือ แค่สบตา ก็ชอบเลย”

            ริมฝีปากของผมเม้มเข้าหากันแน่น อยากจะยิ้มออกมาแต่ก็ดันทำไม่ได้ ใจเต้นรัวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ใบหน้าร้อนผะผ่าวจนไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขา ได้แต่ก้มหน้าเหมือนหนีความผิด

            ผมเองก็ยังไม่ได้บอกพี่กันเลยว่าครั้งแรกที่เจอกับเขา ครั้งแรกที่ตกหลุมรักเขา

            ก็เพราะสบตากับเขานั่นแหละ

            “กูถึงบอกไงว่ามึงร่ายมนตร์ใส่คนที่สบตากับมึงหรือเปล่า”

            เปล่า

            ผมไม่ได้มีเวทมนตร์อะไรแบบนั้นหรอก พี่กันต่างหาก…

            “พี่นั่นแหละ ร่ายมนตร์ใส่ผม”

            “หืม”

            ผมน่ะ

            “เพราะแค่สบตากับพี่วันนั้น ก็ชอบพี่เลย”

            ไม่รู้ว่าพี่กันทำหน้าแบบไหนออกมา ไม่รู้ว่าเขาจะเขินจนหลุดยิ้มกว้างออกมาหรือเปล่า หากแต่ผมไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นไป ไม่กล้าที่จะสบตากับเขาตอนนี้ ไม่กล้าที่จะจ้องนัยน์ตาสวยๆนั่น เพราะรู้ตัวว่าถ้าสบตากับเขาตอนนี้ล่ะก็ ผมคงโดนเวทมนตร์ของเขาเข้าไปอีกครั้ง

            ครั้งแรกก็ว่าหัวใจมันสาหัสแล้ว ถ้าโดนครั้งที่สองล่ะก็ ตายคาอกสมใจเขาแน่ๆล่ะ

            เวทมนตร์ของพี่กันน่ะ ถ้าโดนแล้ว

            ไปไหนไม่รอดหรอกครับ

            ผมพิสูจน์มาแล้ว เชื่อสิ





// มองตาน้องกอดจะต้องมนตร์ แต่ถ้าพี่กันมองตาเรา จะต้องตกเป็นของเรานะ (โดนน้องกอดตบ)

///// ขอโทษแงงงงงงงงงงงงงงงงไม่มีเวลามาลงให้เลยไม่ว่างพอๆกับนังคนแต่งนั้นแหละ แต่หลังจากนี้จะเอามาลงถี่ๆละ
รอกันเด้อ รักจุบๆ #แอดพี


ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 23 {17.11.60}
«ตอบ #513 เมื่อ17-11-2017 17:19:12 »

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 23 {17.11.60}
«ตอบ #514 เมื่อ17-11-2017 17:23:00 »

 :man1: :man1: :man1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 23 {17.11.60}
«ตอบ #515 เมื่อ17-11-2017 19:48:41 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 23 {17.11.60}
«ตอบ #516 เมื่อ17-11-2017 23:07:11 »

กอดกันกลับมาแล้ว :mc4:
 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 23 {17.11.60}
«ตอบ #517 เมื่อ17-11-2017 23:53:54 »

น้องกอดด นานมากเลยกว่าจะมาให้คิดถึง

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 23 {17.11.60}
«ตอบ #518 เมื่อ21-11-2017 20:37:03 »

ฮื่ออออ โคตรคิดถึงพี่กันน้องกอดเลยค่ะ นึกว่าจะไม่มาต่อซะแล้ว :hao5:

ออฟไลน์ leenanhyun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-2
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #519 เมื่อ22-11-2017 20:22:25 »

Chapter 24
โค้ดลับเฉพาะ

 

          ผมเดินเข้ามาในห้องสมุดสาธารณะพลางทิ้งตัวนั่งลงข้างๆปู่รหัสที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ ชีวิตของเด็กมหาลัยตัวน้อยๆ วันๆหมกมุ่นอยู่กับการเรียน การอ่านหนังสือ การติวเพื่อให้สอบผ่าน

            อยากไปเที่ยวทะเลจังเลย

            “สวัสดีครับ”

            ผมยกมือไหว้ปู่รหัสเหมือนทุกครั้ง ถึงแม้จะสนิทกับเขาแบบพี่ชายน้องชาย แต่ก็ยังนับถือเขาเป็นปู่รหัสอยู่นั่นแหละ มองไปด้านหน้าเห็นพี่รหัส ลุงรหัส แล้วก็เพื่อนสนิทกำลังทำหน้าตาตลกๆเล่นกันโดยมีพี่รหัสเป็นคนถือโทรศัพท์อยู่

            “ทำอะไรกัน”

            “เล่นไอ้แอพที่เปลี่ยนหน้าอ่ะ”

            อ๋อ

            “น้องกอด มาเล่นกับพี่มา”

            พี่รหัสกวักมือให้ผมเข้าไปร่วมวงด้วย แอพพลิเคชั่นที่ใช้ในการเปลี่ยนหน้าของเราให้กลายเป็นการ์ตูนน่ารักๆ หรือหน้าตาตลกๆเอาไว้เล่นกับเพื่อน

            “เอาอันนี้ดิๆ เชี่ย โคตรจี้” ลุงรหัสเป็นคนคอยบงการอยู่ข้างหน้าว่าจะเอาหน้าไหนดี แต่ละหน้าที่ลุงเลือกมา ไม่หน้าอูมเหมือนโดนผึ้งต่อย ก็หน้าแหลมเหมือนหัวปลีกล้วยอ่ะ

            พอถ่ายรูปเล่นจนหนำใจ ผมก็โดนเตะส่งกลับมานั่งเจี๋ยมเจี้ยมข้างๆปู่รหัสเช่นเคย

            “กับไอ้กันเป็นไงบ้าง โอเคมั้ย” น้ำเสียงทุ้มนุ่มของปู่ถามออกมา ผมพยักหน้าเบาๆ

            “ก็เรื่อยๆนะ”

            “เรื่อยๆแล้วชอบมั้ย”

            “ครับ”

            “อือ ไม่ต้องไปเร่งหรอก ให้มันค่อยเป็นค่อยไปนั่นแหละ”

            ฝ่ามือของปู่แตะลงบนกลุ่มผมของผม ถึงเขาทั้งสองคนจะเป็นพี่น้องต่างแม่ แต่ก็ถูกเลี้ยงมาโดยพ่อคนเดียวกัน ดังนั้นลักษณะนิสัยค่อนข้างจะเหมือนกัน แม้บุคลิกจะต่างกันคนละขั้วก็ตาม

            ปู่รหัสจะเป็นน้ำแข็ง ส่วนพี่กันจะเป็นไฟ คิดว่าแบบนั้นล่ะนะ

            “ไอ้กันบอกหรือยังว่าสอบย่อยอิ้งล่าสุดมันได้ท็อปห้อง”

            “จริงเหรอ” ผมหันไปมองปู่ตาเป็นประกาย

            “ขอบคุณเรามากที่อดทนสอนมัน ไม่อย่างนั้นโดนไล่ออกไปแล้ว”

            รู้สึกภูมิใจเลยล่ะครับ การได้ยินว่าคนที่เราสอนสอบได้ท็อปเนี่ย มันสุดยอดเลยจริงๆ

            ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่สักพักก่อนจะปลีกตัวออกไปซื้อชานมธัญพืชร้านตรงข้ามกับห้องสมุด สำหรับพี่กันอาจจะเดินน้อยก้าว แต่สำหรับผมต้องเดินหลายก้าวกว่าจะเดินถึง

            จะว่าไป ผมเองก็ยังไม่ได้ถามเขาเลยว่า วันนั้นที่ตัวเปียกโชกขนาดนั้น เพราะไปซื้อชานมจริงๆเหรอ ดูจากระยะทางแล้ว วิ่งมาก็ไม่น่าจะเปียกขนาดนั้นนี่นา

            “เหม่อคิดถึงกันล่ะสิ”

            ผมสะดุ้งเมื่อใครบางคนกระซิบข้างหู จำน้ำเสียงของเขาได้แม่นถึงได้รู้ว่าเป็นพี่กันที่ยืนยักคิ้วอยู่ด้านหลัง บทจะโผล่ก็โผล่มาเหมือนมีประตูมิติแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน ตกใจหมด

            วันนี้เขาสวมชุดแปลกตาจากที่เคย ปกติแล้วเขาจะชอบใส่สีดำเพื่อไม่ให้ดูเด่นท่ามกลางคนหมู่มาก เพราะแค่หน้าตาก็เด่นพออยู่แล้ว วันนี้เลยเปลี่ยนแนวใส่เสื้อสีขาวอยู่ด้านใน ด้านนอกซ้อนทับด้วยแจ็คเก็ตสียีนส์ผ้าเนื้อบาง

            หุ่นนายแบบจริงๆนะเนี่ย

            “อย่ามองนาน”

            “ทำไมอ่ะ”

            “เขิน”

            เขาเบ้ปากแล้วเดินแทรกตัวเข้ามาสั่งชานมธัญพืชเพิ่มอีกแก้ว ผมเลยได้แต่ยืนยิ้มให้แผ่นหลังกว้างๆของเขาเป็นบ้าอยู่คนเดียว

            “ไม่มีเรียนเหรอวันนี้” ถามระหว่างที่เราสองคนเดินห่างออกมาจากร้านชานม

            “ไม่มี วันนี้ไปโรงงานอาหารกระป๋องมา ตัวเหม็นป่ะ” เขาเอนตัวมาให้ผมดมเสื้อ จมูกของผมดมกลิ่นฟุดฟิด ได้กลิ่นแต่กลิ่นน้ำหอมจางๆของเขานั่นแหละ

            “ไม่เหม็น”

            ตอนแรกว่าจะกลับเข้าไปอ่านหนังสือ แต่พี่กันยื้อเอาไว้ไม่ยอมให้กลับ เขาบอกว่าเพื่อนเขาเองก็รออยู่ข้างใน เลยพาผมไปเดินเล่นกินลมตอนเย็นๆก่อน

            ใกล้ๆกันมีงานเทศกาลอาหารเกาหลี และผมคิดว่านั่นแหละคือสาเหตุที่พี่กันไม่ยอมกลับเข้าห้องสมุด ของกินสามารถล่อเขาออกไปทุกที่เลยจริงๆ

            งานเทศกาลอาหารเกาหลีเป็นซุ้มผ้าใบสีขาวเล็กๆหลายๆซุ้ม ผู้คนจำนวนหนึ่งเดินสวนกันไปมาพอสมควร ไฟสีส้มนวลๆถูกเปิดขึ้นเมื่อท้องฟ้าเริ่มจะมืดลง สองข้างทางประดับประดาด้วยไฟกระพริบสวยงามทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย รวมไปถึงเพลงภาษาเกาหลีเบาๆที่มีคนมาร้องสดให้ฟัง

            “อยากกินไรก็บอกนะ”

            “ทาโกยากิ เครป ไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์ชีส”

            “หมูนิ่มเอ้ย” มือหนักๆของเขาผลักหัวผมเบาๆ

            อากาศเย็นๆที่เหมือนกำลังจะพัดพาเมฆฝนมา ผมสูดไอเย็นๆเข้าเต็มปอด กลิ่นอาหารหอมๆโชยไปทั่วบริเวณกระตุ้นความหิวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เราสองคนเดินอยู่ข้างๆกัน สายตาของพี่กันเป็นประกายเหมือนคนที่หลงใหลอะไรบางอย่าง เขารักของกินเอามากๆเลยล่ะ

            มือของเราชนกันนิดๆเวลาเดินไปแต่ละย่างก้าว นิ้วก้อยของพี่กันอยู่ห่างแค่นิดเดียวเอง ผมอยากจะจับมือเขา แต่ตอนนี้เราอยู่ในที่สาธารณะ และผมคงทำมันไม่ได้

            แค่ที่เป็นอยู่ก็โอเคแล้ว ปู่รหัสเองก็บอกว่าไม่ต้องเร่งรีบอะไร

            แต่บางทีผมก็คิดว่า ถ้าสามารถจับมือเขาในที่สาธารณะแบบนี้ได้โดยไม่ต้องแคร์สายตาใครแบบคู่รักคนอื่นๆ ก็คงจะดีมากๆล่ะเนอะ

            ผมเดินแยกจากพี่กันที่กำลังสั่งทาโกยากิเกือบยี่สิบลูกไปฝากเพื่อนๆของเขาและสายรหัสของผม สายตาของผมหยุดมองอยู่ที่คู่รักชายหญิงคู่หนึ่งด้านหน้าที่เดินจับมือกัน

            พี่กันและผมเอง ก็มีช่วงเวลาแบบนั้น ได้เดินจับมือกัน ได้กอดกัน ได้ยืนข้างๆกัน หากแต่ช่วงเวลาเหล่านั้นคือช่วงที่ไร้ผู้คน ถ้ามีผู้คนมากๆรอบกายแบบนี้ล่ะก็ ผมก็คงไม่กล้า

            เราเคยจับมือกันในคอนเสิร์ต หากแต่ตอนนั้น มันไม่มีใครมาสังเกตว่าเราสองคนกำลังจับมือกันอยู่หรือเปล่า เพราะทุกสายตาก็จับจ้องไปที่นักร้องกันหมด

            พลันคำพูดแย่ๆของพ่อก็ย้อนกลับเข้ามาในหัว ทั้งคำด่าทอ ดูถูก และเหยียดหยามราวกับผมเป็นสิ่งมีชีวิตที่ผิดปกติ ผมพยายามสะบัดไล่ความคิดพวกนั้นออกไปก่อนที่อะไรเย็นๆบางอย่างจะสัมผัสลงที่ท้ายทอยด้านหลังทำให้หลุดจากภวังค์

            “เหม่ออะไร”

            พี่กันถือของกินเต็มไม้เต็มมือไปหมด เลยยื่นมือออกไปตรงหน้าเพื่อจะช่วยเขาถือ หากแต่เขากลับเอาของทั้งหมดไปถือไว้มือเดียว แล้วเอามือข้างที่ว่างมาสัมผัสกับมือของผม มือใหญ่ๆอบอุ่นของเขากุมมือของผมเอาไว้พลางยิ้มออกมา

            รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของผมอ่อนแอเสมอๆ

            เขายังคงเป็นเหมือนกระสุนที่เจาะทะลุหัวใจ ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้

            “อยากจับมือทำไมไม่ขอล่ะ”

            “แต่ว่า…”

            ผมมองไปรอบๆกาย ผู้คนเริ่มจะหันมามองเราสองคนแล้ว มากไปกว่านั้นยังมีเสียงซุบซิบ โดยเฉพาะคำสบถที่ว่า ‘พวกผิดเพศ’ ผมก้มหน้าลงต่ำพลางพยายามดึงฝ่ามือของตัวเองออกจากมือของพี่กัน แต่คนตัวสูงไม่ยอมปล่อยมันออก มิหนำซ้ำเขายังมองตาขวางไปยังบุคคลที่สบถคำนั้นออกมา พอเจอสายตาอำมหิตเข้าไป คนๆนั้นก็รีบเดินออกไปทันที

            “อย่าไปสนใจ”

            “แต่ว่า”

            “กอด มองหน้าพี่”

            ค่อยๆเลื่อนสายตาขึ้นไปสบตากับเขา พี่กันกุมมือของผมแน่น นัยน์ตาสวยๆที่สบกลับมานิ่งสงบราวกับต้องการจะปลอบให้ใจที่กำลังร้อนรนจนแทบจะบ้าของผมนิ่งลง มันแฝงไปด้วยความห่วงใยและความอบอุ่น สายตาของเขาไม่เคยโกหกเลยจริงๆ

            เขาดึงผมให้ออกเดินไปตามทาง โดยไม่สนว่าใครจะมองหรือไม่ ผมทำได้เพียงแค่ก้มหน้างุดๆแล้วเดินตามเขาไป สุดท้ายก็อึดอัดจนแทบระเบิด

            “ผมทำไม่ได้”

            “ไม่เป็นไร จับชายเสื้อไว้”

            ลดจากการจับมือเป็นเพียงแค่การจับชายเสื้อเชิ้ตตัวบางของเขาเอาไว้เพื่อให้เขานำทางเดินฝ่าฝูงชนออกไป พี่กันก็ไม่ได้ปฏิเสธ ไม่ได้บ่นหรือว่าอะไร

            เหมือนเขาเข้าใจดี ว่าผมไม่มีภูมิต้านทานต่อสายตาพวกนั้น ยิ่งคำพูดแย่ๆพวกนั้นอีก แม้พี่กันจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่สุดท้ายสายตาของคนเหล่านั้น ก็ยังเต็มไปด้วยคำพูดที่ว่าผมและเขา คือสิ่งผิดปกติของโลกใบนี้

            “ยังคิดเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ” เขาถามระหว่างที่เรามานั่งเล่นกันอยู่ตรงลานกว้าง ฟ้ามืดแล้ว และในเมืองก็เห็นแสงดาวไม่ชัดเหมือนตอนที่ได้ไปเที่ยวเขาใหญ่

            “ผมก็คิดทุกเรื่องนั่นแหละ”

            นิ้วเรียวๆของพี่กันสัมผัสลงระหว่างคิ้วของผม หมุนวนเบาๆ

            “ไม่จำเป็นต้องเก็บมาคิดทุกเรื่องหรอก มีอะไรก็บอกกูได้”

            พยักหน้าตอบเขา

            “แฟนกันอ่ะ มันมีไว้เพื่อแบ่งเบาความทุกข์ความสุขของกันและกันนะ”

            พอเขาพูดแบบนั้นผมก็เผลอคลี่ยิ้มออกมาจางๆ

            นั่นสินะ

            แต่บางทีเรื่องที่ผมคิดมันก็เล็กน้อยซะจนกลัวว่าเขาจะรู้สึกรำคาญไปซะก่อนนี่สิ

            “ถ้าผมพูดไป พี่จะไม่รำคาญเอาเหรอ”

            “ไม่รำคาญและจะไม่มีวันรำคาญด้วย”

            อย่างนั้นเหรอ

            “มึงตีค่าความรู้สึกของกูเท่าไหนกอด มึงว่ากูรักมึงเท่าไหน”

            บอกตามตรงว่าผมไม่รู้ ผมตอบคำถามนี้ไม่ได้

            พี่อาจจะรักผมน้อย หรือ มาก ขอแค่พี่รักผม แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ

            “แล้วพี่รักผมเท่าไหนล่ะ”

            “ปลาวาฬชุบแป้งทอด”

            “แล้วพี่ว่าผมรักพี่เท่าไหน”

            “ปลาวาฬชุบแป้งทอดสองตัว”

            ขนาดนั้นเลย

            “ผมรักพี่ประมาณนี้”

            มือข้างซ้ายของผมยืดออกไปจนสุดแขน มือข้างขวาจึงค่อยๆยืดตามออกไป กลายเป็นว่าตอนนี้ผมกางแขนออกกว้างเพื่อบอกให้เขารู้ว่า ผมรักเขามากๆเลยนะ

            “แขนสั้นละยังมาอวด”

            “พี่กัน!”

            “หึ กูก็รักมึงเท่านี้เลย” เขายิ้มออกมาพลางกางแขนตามผมบ้าง แขนยาวๆของพี่กัน พอกางออกแล้ว มันยาวกว่าแขนของผมเยอะเลยแฮะ

            เราสองคนมองหน้ากันพลางหัวเราะออกมา คนที่เดินไปเดินมาอาจจะสงสัยว่าเราทำอะไรกัน แต่ผมไม่บอกหรอก เพราะเรื่องนี้ มันมีแค่กอดและกันที่รู้ยังไงล่ะ

            “อยากกอดพี่จัง” เผลอหลุดปากพูดออกไป ทั้งๆที่เรายังนั่งอยู่กลางแจ้ง คนตัวสูงส่งสายตาอบอุ่นกลับมาให้ เขาโอบวงแขนสองข้างเข้าหาตัวเอง

            พี่กันกำลังกอดตัวเอง

            “อยากกอดเหมือนกัน”

            พอเห็นแบบนั้นผมเลยโอบแขนสองข้างกอดตัวเองเอาไว้แล้วยิ้มตอบเขา

            “แบบนี้เหมือนเรากำลังกอดกันเลยเนอะ”

            ผมพูดออกมาพลางหัวเราะ

            “ถ้ามึงกลัวสายตาคนอื่น กูก็จะไม่ทำ ดังนั้นถ้าอยากกอดเมื่อไร ก็ทำท่าแบบนี้”

            พยักหน้าตามสิ่งที่เขาพูด

            เขาแคร์ความรู้สึกของผมมากจริงๆ เพราะรู้ว่าผมจะไม่โอเคถ้าโดนสายตาของคนอื่นๆมองมาแบบตั้งคำถามหรือไม่พอใจ ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ คือสร้างโค้ดลับเฉพาะที่เรารู้กันเพียงแค่สองคน

            ถ้าอยากกอดกัน ให้อ้าแขนแล้วกอดตัวเองเอาไว้

            แค่นั้น ก็เหมือนเราได้กอดกันแล้ว

            จริงมั้ยครับ

           

            หลังจากอ่านหนังสือกันเสร็จ ก็ถึงเวลาต้องแยกย้ายกันกลับไปคนละทาง

            ข้อดีของการอยู่ใกล้กัน มันทำให้คนสองคนได้เจอกันบ่อยๆหรือได้อยู่ด้วยกัน หากแต่ชีวิตของเขาและผม มาจากคนละเส้นทางที่ห่างกัน มหาลัยคนละมหาลัย และการเดินทางคนละสาย

            วันๆหนึ่งเราจึงใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้คุ้มค่าเพราะต่างคนต่างก็ต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง มีชีวิตของตัวเอง ดังนั้นเวลาแค่นี้ แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว

            เพื่อนๆของพี่กันกลับกันไปก่อนแล้ว มีเพียงผมที่ยังอ่านหนังสืออยู่จนค่ำพร้อมๆกับสายรหัส เลยเดินออกมาส่งเขาก่อนเพราะหอของผมอยู่ใกล้แค่นี้ แต่หอของพี่กันน่ะอยู่ตั้งไกล

            “กลับดีๆนะ”

            คนตัวสูงส่งยิ้มมาให้

            ผู้คนบนสถานีรถไฟฟ้ายังคงเยอะเช่นเคยแม้จะเป็นเวลาดึกมากแล้ว เพราะคนที่ผ่านไปผ่านมา เลยทำให้เราสองคนทำได้เพียงแค่ยืนมองหน้ากัน

            จู่ๆเขาก็ยกมือขึ้นมาทำเป็นรูปหัวใจ แล้วอ้าแขนออกพลางกอดตัวเองเอาไว้

            โค้ดลับของเขา ที่เอาไว้บอกว่า

            ‘รักกอด’

            คนบ้า

            รอยยิ้มของเขาปรากฎอยู่บนใบหน้า ผมเคยบอกหลายๆครั้งว่ารอยยิ้มของพี่กันเหมือนกับกระสุนที่ยิงออกมาจากปลายกระบอกปืน มันทำให้ใจเราสาหัส มันทำให้หัวใจเราเต้นรัว ทำให้หน้าเราร้อนผ่าว

            หลายครั้งที่มักจะเป็นฝ่ายหลบตาเขา หากแต่วันนี้ กลับอยากจะจ้องมันให้นานกว่าที่เคย

            ผมกดจูบเบาๆลงบนหลังมือของตัวเอง พอเห็นแบบนั้นเขาเลยหลุดยิ้มออกมา พี่กันจรดริมฝีปากลงบนหลังมือของตัวเองบ้างพลางยื่นมือมาสัมผัสกลุ่มผมของผมเบาๆแล้วเดินหายเข้าไปในตัวสถานีเพื่อขึ้นรถไฟฟ้ากลับไปยังที่ของตัวเอง

            จูบเบาๆบนหลังมือ

            หมายความว่า

            ผมอยากจูบเขา

            และเขาอยากจูบผม

            ความรู้สึกมันล้นทะลักจนห้ามไม่อยู่

            ผมใช้ฝ่ามือสองข้างแนบลงบนแก้มของตัวเองพลางหันหลังเพื่อที่จะเดินลงจากสถานี หัวใจเต้นรัวและแรง ไม่ว่าเมื่อไรก็ยังคงเป็นแบบนี้เสมอๆ

            ภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำตลอดเวลาที่ได้อยู่กับเขา

            จากเท้าสองข้างที่วิ่งค่อยๆเปลี่ยนเป็นเดินทีละก้าวก่อนที่ผมจะทรุดลงเมื่อเหยียบถึงขั้นล่างสุดของบันได นั่งเงียบๆกอดตัวเองเอาไว้พลางร้องไห้ออกมา

            ไม่รู้เพราะอะไร

            ก็แค่มีความสุข

            มีความสุขจนล้น

            แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากกอดเขาจริงๆ

            เป็นเพราะผมแท้ๆที่มัวแต่คิดมากเรื่องพ่อ ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะลืมเรื่องบ้าๆเหล่านั้น แต่พอเห็นสายตาของคนอื่นๆที่มองมาแล้ว มันก็กลับลืมไม่ได้ ยิ่งได้ยินคำพูดเหล่านั้น ความทรงจำแย่ๆยิ่งล้นทะลักเข้ามา มันยังฝังอยู่ในหัว มันไม่เคยเลือนลางหายไป

            บาดแผลที่เขาสร้างเอาไว้ มันหนักหนาสาหัสเกินกว่าจะแก้ไข ผมอยากจะเป็นคนที่ลืมอะไรง่ายๆ แต่กลับทำไม่ได้เลยจริงๆ

            เพราะแบบนี้สินะ เขาถึงบอกว่าคำพูดของคน มันสามารถสร้างบาดแผลในจิตใจให้คนๆหนึ่งได้

            ถ้าเป็นคนที่มีพลังงานด้านบวกอยู่ตลอดเวลา ก็คงจะง่ายต่อการลบคำพูดพวกนั้นออกไป หากแต่ผมไม่ได้มีพลังงานด้านบวกมากมายขนาดนั้น

            เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นทางด้านหลังไม่ได้ทำให้ผมเงยหน้าไปมอง ก็คงจะเป็นคนที่วิ่งลงมาจากสถานีเพราะรีบร้อนอะไรบางอย่าง แต่มันไม่ใช่เมื่อมือของใครสักคนจับข้อมือของผมเอาไว้ แรงฉุดกระชากทำให้ผมต้องเงยหน้ามองเขา

            ผู้ชายตัวสูงที่ควรจะขึ้นรถไฟฟ้ากลับไปยังทิศทางของเขาวิ่งกลับมาเพื่อดึงผมไปที่ไหนสักที่ พี่กันลากผมไปหยุดในซอยแห่งหนึ่งที่ไร้ผู้คน ก่อนเขาจะสวมกอดผมเอาไว้

            แค่นั้นแหละน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุดเลย

            ผมรักเขาจัง

            พ่อหมีของผม

            “ทำไมถึงวิ่งกลับมาล่ะ”

            “เห็นหน้าก็รู้แล้วว่าจะร้องไห้”

            ฝ่ามือของพี่กันปาดน้ำตาของผมออกไปเบาๆ ยิ่งทำแบบนั้นผมก็ยิ่งร้องไม่หยุด ความอบอุ่นจากร่างกายของเขามันยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น มันโอบอุ้มหัวใจของผมเอาไว้

            “ผมเหงามากเลย”

            “ผมคิดถึงพี่ด้วย”

            “อยากกอดพี่มากๆ”

            “แต่ผมไม่กล้าทำ”

            อ้อมกอดของพี่กันสวมกอดผมไว้หลวมๆ เขาโยกตัวไปมาเพื่อปลอบให้ผมหยุดร้องไห้ เสียงหัวเราะเบาๆของเขา รอยยิ้มของเขา ทุกสิ่งทุกอย่าง

            มันเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของผม

            “ทำไมถึงรู้ว่าผมจะร้องไห้ล่ะ” ผมถามเขาออกไประหว่างที่เขากำลังปาดน้ำตาให้ผมพลางหัวเราะไปด้วย พี่กันน่ะนะ ไม่ว่าเมื่อไรก็ยังเผื่อแผ่ความสุขออกมาตลอด

            “กูก็ได้ยินเหมือนที่มึงได้ยินนั่นแหละ เลยรู้ว่าคิดมาก”

            “ต่อจากนี้ไม่คิดมากแล้วนะ ถ้ายังลืมคำพูดแย่ๆไม่ได้ ก็คิดถึงเรื่องดีๆไว้เวลาเจอคนพวกนั้น”

            “คิดอะไรอ่ะ”

            “ของกินไง บิงซู เกี๊ยวซ่า หวานเย็น ชานม บะหมี่ปู ข้าวไข่เจียวกุ้ง ลูกชิ้นกุ้ง ขนมเบื้อง วาฟเฟิล แล้วมีอะไรอีกมั้ย”

            “ไอศกรีม”

            “เออ คิดถึงของกิน ใครพูดไรไม่ดีใส่ก็กินมันเข้าไปเลย”

            คำพูดของเขาทำให้ผมหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา

            ความสุขของผมนอกจากแม่แล้ว ก็ยังมีสายรหัสและเพื่อนสนิท นอกจากนั้น คนที่เป็นความสุขให้ผมมาตลอดหลายเดือนนี้ คนที่คอยเป็นพลังให้ผมเสมอๆ

            คือผู้ชายคนนี้เนี่ยแหละ

            ผู้ชายที่ชื่อ ‘กัน’

            เขานี่แหละ คือโค้ดลับของความสุขของผม





// น้องกอดเป็นเด็กที่หวั่นไหวง่ายต่อคำพูดของคน ในทุกๆวันนี้คนประเภทนี้ยังมีอยู่มากมาย ดังนั้นเมื่อเราจะพูดอะไรออกไป หรือจะล้อใครเล่น ให้เราคิดไว้ว่าคำพูดที่ธรรมดาของเรา อาจจะรุนแรงและสร้างบาดแผลให้คนๆหนึ่งไปตลอดชีวิต

รักนะคะ คนอ่านทุกคน




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
« ตอบ #519 เมื่อ: 22-11-2017 20:22:25 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #520 เมื่อ22-11-2017 20:35:49 »

งื้อออ น่ารักอบอุ่นเหมือกอดกันตลอดเวลาเลยค่ะ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #521 เมื่อ22-11-2017 20:41:20 »

 :กอด1: น้องกอดด้วยคน เข้มแข็งนะลูกกก

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #522 เมื่อ22-11-2017 21:12:15 »

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #523 เมื่อ22-11-2017 21:19:38 »

ซึ้งประทับใจตรง วิ่งกลับมาหาอ่ะ

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #524 เมื่อ22-11-2017 21:22:12 »

จะร้องไห้ตามน้องกอด :mew6:
อยู่กับพี่กันไม่ต้องกลัวอะไรแล้วน้าา

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #525 เมื่อ22-11-2017 21:33:21 »

 :pig4: :L1:

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #526 เมื่อ22-11-2017 21:38:03 »

น้องกันเราจะเอาความคิดคนอื่น
มาเครียดไม่ได้นะคะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #527 เมื่อ22-11-2017 21:52:59 »

เข็มแข็งไวไวนะกอด

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #528 เมื่อ22-11-2017 21:59:12 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #529 เมื่อ22-11-2017 22:12:09 »

 :กอด1:
+1  เป็นกำลังใจให้นะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
« ตอบ #529 เมื่อ: 22-11-2017 22:12:09 »





ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #530 เมื่อ23-11-2017 15:20:09 »

 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #531 เมื่อ23-11-2017 19:10:32 »

น่ารักจังงงงงงง

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #532 เมื่อ23-11-2017 21:55:54 »

หวานเบอร์แรง เขินแทนทุกตอนเลย  :o8:

ออฟไลน์ AutoAngels

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #533 เมื่อ24-11-2017 00:27:43 »

รู้สึกรักพี่กันจีงเลย...แต่พี่กันเป็นของน้องกอดนี่น่า5555มาต่ออีกนะค่ะ

ออฟไลน์ wichta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #534 เมื่อ25-11-2017 18:46:13 »

พ่อหมีกอดน้องนานๆ หน่อย เอาก้อนใส่เป๋ากลับบ้านไปด้วยเอากลับไปกอดให้น้องหายเหงา

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #535 เมื่อ26-11-2017 21:46:27 »

รู้สึกพลาดมาก เรื่องน่ารักขนาดนี้ เพิ่งเข้ามาอ่าน

แอบสงสัยเล็กๆ ตอนต้นๆเรื่องที่กอดหยอดเหรียญซื้อตั๋วรถไฟฟ้า
กอดน่าจะมีตั๋วรายเดือนนะ ขึ้นรถไฟฟ้าเป็นประจำงี่

ออฟไลน์ Fanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-2
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #536 เมื่อ04-12-2017 06:52:22 »

เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ สนุกมากกก เป็นเรื่องที่ feel good จริงๆ อ่านแล้วยิ้มตลอดทั้งเรื่องเลย
เข้ามาต่อบ่อยๆนะคะ

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #537 เมื่อ04-12-2017 10:15:12 »

เจ็บปวดดว่าคนอื่นด่า ก็คนใกล้ตัว คนของเราด่านี่แหละ

คนอื่นยังรู้สึกช่างเค้าสิ ไม่ได้มีส่วนอะไรกับชีวิตเราเลย

แต่พอคนของเราไม่เข้าใจ นี่โคตรหนอย   



กอดน้องกอด

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #538 เมื่อ05-12-2017 20:53:06 »

พี่กันจำเป็นต้องน่ารักขนาดนี้เลยเหรอ

สงสารใจคนโสดบ้างงงงงงงงง

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 24 {22.11.60}
«ตอบ #539 เมื่อ06-12-2017 18:26:33 »

พี่กันนนโอ้ยยยยใจน้องบาง :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด