◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 28 {27.02.62}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 28 {27.02.62}  (อ่าน 116682 ครั้ง)

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #570 เมื่อ01-01-2018 12:40:57 »

สุดยอดของความกันจริงๆ

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #571 เมื่อ01-01-2018 18:58:27 »

ความลับเยอะจังนะอิพี่กัน แค่นี้น้องกอดก็ไปไหนไม่รอดแล้ววว :o8:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #572 เมื่อ01-01-2018 21:57:09 »

เพิ่งๆด้เข่ามาอ่านเรื่องนี้ อ่านรวดเดียวเลย บอกได้คำเดียวเลยชอบมากกก
คนอย่างพี่กันหาได้ที่ไหน อยากได้
หลังจากนี้คงมองโคนี่กับหมีบราวน์เปลี่ยนไป เห็นแล้วคงยิ้มได้ทั้งวัน

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #573 เมื่อ01-01-2018 22:52:40 »

ตามติด และติดตามทุกฝีก้าว  :z2:
+1 ให้กับความน่ารักของทั้งคู่ ก็ กอดกับกันไง 555.... :mew1:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #574 เมื่อ01-01-2018 23:03:25 »

 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ awfsp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #575 เมื่อ04-01-2018 12:44:41 »

คุ้มกับการลงทุนนะเนี่ยพี่กัน

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #576 เมื่อ08-01-2018 19:46:15 »

มาต่อเร็วๆน้า เค้ารอนานแล้ว :ling1:

ออฟไลน์ Jooheon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #577 เมื่อ13-01-2018 11:36:58 »

น่ารักมากกกกกกกก :mew2: :mew2: :mew3: :mew2:

ออฟไลน์ Jooheon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #578 เมื่อ13-01-2018 11:37:43 »

น่ารักมากกกกกกกก :mew2: :mew2: :mew3: :mew2:

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #579 เมื่อ13-01-2018 13:31:06 »

 :mc4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
« ตอบ #579 เมื่อ: 13-01-2018 13:31:06 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #580 เมื่อ19-02-2018 13:17:44 »

รอ รอ รอ และ รอ!!!
ชอบๆๆ หลงจนถอนตัวไม่ขึ้น  o13

ออฟไลน์ nippy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #581 เมื่อ20-02-2018 13:27:46 »

รออ่านตอนต่อไปนะคะ ✌✌✌✌

ออฟไลน์ TeuyHom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #582 เมื่อ28-04-2018 20:02:38 »

โอ้ยยยย....พี่กันนี่ร้ายใช่เล่นเลยนะ  555
อ่านไปเขินไป น่ารักอ่ะ พี่กันน้องกอด  :-[

ออฟไลน์ nugnig7

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #583 เมื่อ28-04-2018 22:42:43 »

เป็นนิยายที่ฮีลลิ่งดีต่อใจมากๆค่าาาา โฮกกกกกกก อยากได้พี่กัน น้องกอดก็น่ารักกก

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #584 เมื่อ15-07-2018 01:16:35 »

กด fav เรื่องนี้ไว้นานมากเพิ่งมีโอกาสได้อ่าน น้องกอดน่ารักน่าฟัดมากๆส่วนพี่กันก็ทำใจบางมากเช่นกัน เป็นเรื่องความรักที่ไม่หวือหวาเน้นชีวิตในแต่ละวันของทั้งคู่ เราว่ามันก็อบอุ่นชวนเขินดีนะ รอนักเขียรมาต่อไวๆนะคะ อย่างทิ้งเรื่องนี้เลยนะ

ออฟไลน์ -Otto-

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #585 เมื่อ16-07-2018 20:19:17 »

คิดถึงเรื่องนี้มากๆ :hao7:

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #586 เมื่อ13-08-2018 16:13:45 »

คิดถึงแล้ว :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #587 เมื่อ15-08-2018 17:37:42 »

ชอบมากเลย ขอบคุณนะคะ ไม่จบไม่เป็นไร แต่ได้อ่านแล้วมีความสุขมากๆค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #588 เมื่อ19-08-2018 13:33:11 »

เพิ่งได้เข้ามาอ่าน สนุกมากกกกกกกกก
พี่กันก็น่ารัก น้องก็น่ารักกว่า ชอบบบบบบ
 :L1:

ออฟไลน์ Pthassa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
«ตอบ #589 เมื่อ23-01-2019 21:57:32 »

ในเด็กดีจบแล้วนะค่ะ ลองเข้าไปติดตามดูมีตอนพิเศษด้วย พี่กันคนหื่นกับน้องกอดคนน่ารัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 27 {30.12.60}
« ตอบ #589 เมื่อ: 23-01-2019 21:57:32 »





ออฟไลน์ leenanhyun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-2
◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 28 {27.02.62}
«ตอบ #590 เมื่อ27-02-2019 12:52:35 »

Chapter 28
อยากให้มั่นใจ

 

            ผมลงจากรถไฟฟ้าในยามค่ำคืนเพื่อที่จะไปเชียร์ใครอีกคนเตะฟุตบอลเป็นวันสุดท้ายก่อนจะเข้าสู่สัปดาห์ไฟนอลอย่างเต็มรูปแบบ

            พอใกล้สอบไฟนอลทีไร ผมเป็นโรคกังวลขึ้นมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นช่วงสมัยมัธยมหรือมหาวิทยาลัยเพราะผมไม่ใช่คนเก่ง ทั้งหมดที่ได้มาล้วนเป็นผลพวงจากความขยันทั้งสิ้น ขนาดที่ว่าจะมาดูเขาเตะบอลผมยังต้องแบกหนังสือมาอ่านเลยอ่ะ

            ไอ้ที่เขาพูดๆกันว่า นักปราชญ์ที่แท้จริงจะต้องไม่ไหวหวั่นเนี่ย มันใช้ไม่ได้กับการเรียนมหาลัยเลยครับ นอกซะจากว่าบุคคลผู้นั้นเกิดมาเพื่อเป็นอัจฉริยะจริงๆอย่างเช่นแฟนของผม ที่เข้าคลาสก็หลับหัวทิ่ม แต่ดันสอบออกมาได้เอ พี่หมอสี่เล่าให้ผมฟังน่ะนะ

            ตลกดีครับที่จู่ๆก็ดันนึกถึงช่วงสอบเข้าขึ้นมา ตอนนั้นอ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลังชนิดที่เรียกว่าแม่เรียกออกไปนอกบ้านผมก็ไม่ไป ถึงจะออกก็ต้องรีบกลับให้ตรงเวลา เพราะผมกลัวจะสอบไม่ติด ถ้าสอบไม่ติด เป้าหมายถัดไปก็คือการไปอยู่ที่เชียงใหม่นั่นแหละ

            เท้าของผมก้าวเดินไปตามพื้นคอนกรีตของตัวสถานี ว่าจะแวะซื้อชานมธัญพืชไปฝากพี่กันเหมือนทุกๆครั้ง แต่วันนี้ร้านดันปิด ก็เลยเบนเข็มตรงไปซื้อเครื่องดื่มผสมโซดาแทน

            ตาขวาผมกระตุกตั้งแต่ออกมาจากมหาลัยแล้ว และก็ดูเหมือนว่าลางสังหรณ์จะถูกต้องจริงๆ เพราะพอเดินออกจากช่องคืนตั๋วปุ๊บ ผมก็ดันเจอกับผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง

            ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าโลกมันกลม ยิ่งกับคนที่เราไม่อยากจะเจอเนี่ย ยิ่งกลม

            พ่อคลี่ยิ้มให้ผมจางๆ แต่ผมกลับทำเพียงแค่ก้มหน้ามองพื้นแล้วเดินดุ่มๆไม่สนใจเขา ทำเหมือนว่าเขาเป็นอากาศ พยายามเลี่ยงออกห่างจากตัวเขาให้มากที่สุด แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เดินมาขวางเอาไว้ ผมไม่ได้เงยหน้ามองผู้ชายที่ยังเป็นฝันร้ายของตัวเอง หากแต่ใช้คำพูดสุภาพเพื่อขอให้เขาหลีกทาง

            “ขอโทษครับ ผมมีธุระ”

            “พ่อขอเวลาซักห้านาทีได้มั้ย”

            “ไม่ได้ครับ”

            “กอด”

            “ผมรีบไป”

            “พ่อขอโทษ” คำพูดของเขาทำให้ผมนิ่งไป

            “พ่อขอโทษที่พูดจาไม่ดีใส่ลูกวันนั้น พ่อคุยกับแม่แล้ว และก็สัญญากับแม่ไปแล้วว่าจะไม่มายุ่งกับกอดและแม่อีก นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่พ่อจะมาบอกลาลูก”

            ลำคอที่ฝืด ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

            ไม่ว่าจะเจอกับเขากี่ครั้ง มันก็ยังเป็นช่วงเวลาที่อึดอัดราวกับจมน้ำทุกครั้งไป

            “ก็ดีแล้วครับ”

            “กอด”

            ริมฝีปากของผมเม้มเข้าหากันแน่น ความโกรธเคืองที่ยังอยู่ในใจมันมากเกินกว่าจะให้อภัย

            ผมไม่เข้าใจหรอกว่าพ่อของตัวเองต้องการอะไร ต้องการจะเป่าหูให้ผมเกลียดแม่ที่เลี้ยงดูผมมา หรือต้องการจะดึงผมไปอยู่กับเขา แต่ถึงอย่างนั้นการแสดงออกของเขาก็ยังหยาบคายไม่ต่างจากหลายๆครั้งที่เขาชอบทำร้ายแม่ด้วยคำพูด

            ดังนั้นผมจะคิดซะว่าการที่เขามาขอโทษแบบนี้

            จะได้จบๆไปซักที

            “ถือว่าจบแล้วกันครับ ผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคุณอีก”

            ผมเงยหน้าสบตากับคนเป็นพ่อ แววตาเจ็บปวดที่ถูกส่งมานั่นไม่ได้ทำให้รู้สึกใจอ่อนเลยสักนิด ก้มหัวให้เขาเล็กน้อยเพื่อเป็นการเคารพเขาครั้งสุดท้าย และหลังจากนี้ถ้าเราเจอกันโดยบังเอิญอีก ผมจะถือว่าเราไม่รู้จักกัน

            ขาสองข้างของผมเดินไวๆออกจากตัวสถานีก่อนจะนั่งรถไปยังมหาลัยของพี่กัน

            คำพูดร้ายๆของพ่อแทรกเข้ามาในหัวอีกครั้ง ผมหลับตาลงพลางผ่อนลมหายใจเบาๆ

มีใครบางคนบอกกับผมไว้ว่า อย่าไปแคร์คำพูดที่ไม่ดีของคนพวกนั้น ถ้ายังลืมคำพูดแย่ๆไม่ได้ ก็คิดถึงเรื่องดีๆไว้ อย่างเช่นเรื่องของกิน

เท่านั้นแหละในหัวสมองก็มีแต่เรื่องของกินไหลพรั่งพรูเข้ามาเหมือนสั่งได้ ผมหลุดยิ้มให้กับตัวเองนิดๆ

ยังมีอิทธิพลกับผมเสมอแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน นั่นแหละพี่กันล่ะ

ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รักเขามากขนาดนี้ มีหลายๆคนพูดว่ารักเพียงแค่สบตาหรือรักครั้งแรกมันไม่มีจริงหรอก ผมเองก็เคยเชื่อแบบนั้น แต่พอมาเจอเข้ากับตัว ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารักแรกพบนั้นมีจริงๆ พอรู้สึกแบบนั้น มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นในการทำความรู้จักกับเขา อยากจะรู้จักเขาให้มากกว่านี้ อยากเข้าไปทักทาย พอได้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ถึงได้รู้ว่ารักเขาเข้าจริงๆ

            รถจอดลงหน้าสนามบอลขนาดใหญ่ การแข่งขันเริ่มขึ้นไปแล้ว ผมสอดสายตาหาที่นั่งที่ลมเย็นๆก่อนจะทิ้งตัวลงบนอัฒจันทร์แล้วหลับตาพลางสูดอากาศสดชื่นเข้าไปเต็มปอด

            ลืมตาขึ้นมาก็เจอกับเขาพอดี คนที่สายตาโฟกัสอยู่กับลูกหนังกลมๆอยู่ในสนาม

            ผู้ชายตัวสูงแขนขายาว สวมชุดนักบอลสีน้ำเงินไม่ต่างจากครั้งแรกที่ไปดูเขาเตะฟุตบอล บนด้านหลังเสื้อยังคงเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวใหญ่ที่เขียนไว้ว่า GUN รวมไปถึงเลขประจำตัวของเขา เบอร์หก

            ในร่างนักกีฬา เขาดูเท่มากๆเลยครับ

            จากที่จะอ่านหนังสือ กลายเป็นว่านั่งดูเขาเตะฟุตบอลไปจนจบเกมนั่นแหละ ฝ่ายพี่กันชนะไปด้วยคะแนนสองต่อศูนย์ ปิดบอลลีกไปอย่างสวยงาม เขาและเพื่อนๆกรูกันไปนั่งข้างสนามพลางพูดคุยกันเหมือนวันแรกที่ผมมาเชียร์เขา เวลาเขาอยู่กับเพื่อน พี่กันจะเหมือนเป็นศูนย์กลางที่ดึงดูดเพื่อนๆเข้ามาหา คงเพราะพลังงานบวกของเขานั่นแหละ

            แล้วหลังจากนั้น สายตาของเขาก็ควานหาอะไรบางอย่าง

            ผมคลี่ยิ้มกว้างออกมาเพราะความอบอุ่นที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจ สายตาของคนตัวสูงหยุดลงเมื่อหาผมเจอ ราวกับเขาคอยค้นหาผมอยู่ตลอด พอสายตาของเราสองคนสบเข้าหากัน เขาก็ส่งยิ้มหวานมาให้ทั้งๆที่ยังมีเพื่อนๆรายล้อม

            เหมือนพูดผ่านสายตาคู่สวยนั่นว่า

            ‘หาเจอแล้วนะ’

            ผมไม่ได้แอบพี่สักหน่อย

            คนบ้าเอ้ย

 

            “อ่ะ”

            ฝ่ามือของผมยื่นขวดที่บรรจุน้ำหวานผสมโซดาให้กับพี่กัน เขารับไปแล้วเปิดดื่มโดยไม่ถามอะไรสักคำ เจ้าตัวเปลี่ยนชุดเตะฟุตบอลเป็นเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นพอดีเข่าเรียบร้อยแล้ว สะพายกระเป๋าสีดำใบโตพาดตัว แปลกตาไปหนึ่งอย่างก็รองเท้าแตะที่เขาหนีบอยู่นั่นแหละ

            ไม่ค่อยได้เห็นเขาใส่รองเท้าแตะเท่าไร พอมาเห็นแบบนี้แล้วก็คิดว่า

            ผมรู้แล้วเขาไม่หล่อเวลาไหน

            เวลาคีบแตะนี่แหละครับ

            หัวยุ่งๆเปียกไปเพราะเหงื่อ หน้ามันๆ แต่งตัวเหมือนจะไปซื้อกับข้าวหน้าปากซอย

            “วันนี้ไม่หล่อเลยอ่ะ” เอ่ยปากแซวคนที่กำลังกระดกน้ำเข้าปาก เขามองผมด้วยหางตา

            “กูก็คนนะตัวนิ่ม มันต้องมีวันที่ไม่หล่อบ้างแหละ”

            ผมยิ้มออกมา แซวเล่นเฉยๆน่า หล่อไม่หล่อก็หลงไปแล้วนี่นา

            “ขอยืมน้ำมันบนหน้าไปทอดไข่หน่อย”

            เขาผลักหัวผมจนเซแล้วยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดหน้ามันๆนั่น

            “กวนนะมึงอ่ะ คิดว่าตัวเองหน้าใสละจะพูดไรก็ได้เหรอ”

            “ช่ายย”

            “เดี๋ยวกูก็กัดแก้มขาด”

            ใจบาป!

            เราสองคนเดินไปตามพื้นคอนกรีตเรียบๆ พี่กันบ่นหิวตั้งแต่เตะบอลเสร็จเหมือนอย่างเคย แต่เขาบอกว่าวันนี้จะพาผมไปเดินเล่นก่อนที่จะไปกินข้าว เพราะวันนี้อากาศดีมีลมเย็นๆพัดผ่านตลอด

            ใช้เวลาเดินอยู่ค่อนข้างนานกว่าจะถึงจุดที่เขาบอกว่าอยากให้ผมมาเห็นสักครั้ง เขาไม่ได้บอกผมว่าสถานที่นี้มีชื่อเรียกว่าอะไร แต่มันเป็นสะพานปูนที่พาดอยู่บนสระน้ำ ทางเดินยาวๆที่ถึงแม้จะเป็นเวลากลางคืนก็ยังมีนักศึกษาเดินผ่านไปมาบ้างประปราย

            พี่กันเดินนำไปที่สะพาน พอเห็นแบบนั้นผมเลยเดินตามเขาไป เราสองคนเดินอยู่ข้างๆกันเงียบๆ แอบเห็นว่าส่วนมากคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะมากันเป็นคู่ๆ ซึ่งผมไม่ได้ใส่ใจเท่าไร เพราะคนที่มาเดินคนเดียวหรือเดินกันเป็นกลุ่มๆก็มีบ้าง อาจจะตั้งใจออกมารับอากาศดีๆแบบเราสองคนนั่นแหละ

ผมมองไปยังเงาที่สะท้อนอยู่ในสระน้ำ เงาพระจันทร์และดวงดาวในยามค่ำคืน เลยอดไม่ได้ที่จะต้องหยุดยืนแล้วเงยหน้ามองบนท้องฟ้าที่มีแสงดาวระยิบระยับเต็มไปหมด

            วันนี้อากาศดีจริงๆครับ ท้องฟ้าปลอดโปร่งเชียว

            “ชอบมั้ย”

            น้ำเสียงทุ้มๆถามขึ้นขัดความเงียบรอบๆกาย ผมพยักหน้าเบาๆ ชอบมาก มันอาจจะเป็นเพียงสะพานธรรมดา แต่การได้มาเดินกับใครอีกคน มันทำให้สะพานธรรมดาๆกลายเป็นสะพานพิเศษสำหรับผม ไม่ใช่แค่เพียงสะพาน แต่รวมไปถึงเรื่องอื่นๆอย่างเช่นการขึ้นรถไฟฟ้าในวันธรรมดาๆ ก็กลายเป็นวันพิเศษสำหรับผมไปแล้ว

            ยังไม่ทันจะได้ขยับตัวไปไหน  เสียงตะโกนของใครสักคนก็ดังขึ้นมาจากอีกฟากหนึ่งของสะพาน

            “หยี”

            หือ

            หยีอะไร?

            “หยี”

            “หยี”

            “หยี”

            เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ ผมหันไปมองหน้าพี่กันที่หลุดหัวเราะออกมา พอเห็นเขาหัวเราะมันก็เหมือนเป็นปฏิกิริยาเคมีที่ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเขาหัวเราะอะไร แต่ก็ดันขำตามไปกับเขาด้วย จนกระทั่งเราเห็นว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร ผู้ชายสวมแว่นคนหนึ่งเดินข้ามสะพานมา เขายังตะโกนคำว่า ‘หยี’ เสียงดังแม้ว่าจะมีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาบนสะพาน พอถึงฝั่งปุ๊บเขาก็เงียบลงไป ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนรออยู่ฝั่งนี้ระดมฟาดแขนผู้ชายคนนั้นอย่างแรง

            “โอ้ยลูกหยีอย่าฟาดเรา”

            “น่าเกลียด อายชาวบ้านเขา”

            แล้วทั้งสองคนก็เดินหนีออกไปท่ามกลางเสียงหัวเราะที่แฝงไปด้วยความเอ็นดูของใครหลายๆคน

            “พี่ขำอะไร” หันไปถามคนที่กุมท้องขำตัวงอไม่ยอมหยุด เขาหัวเราะจนต้องสูดอากาศหายเข้าใจลึกๆ เหมือนถ้าไม่ทำแบบนั้นแล้วล่ะก็ จะหยุดหัวเราะไม่ได้อ่ะ

            “สะพานนี้มีเรื่องเล่ารู้ป่ะ เขาเชื่อกันว่าถ้าเดินบนสะพานแล้วตะโกนชื่อคนที่เราชอบจนสุดสะพานจะสมหวังในความรัก”

            อ่อ ถึงบางอ้อแล้วล่ะครับ

            “ก็เลยมีคนชอบมาตะโกนชื่อคนที่ชอบบนสะพานแบบหยีเมื่อกี้ไง”

            ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ

            “แล้วพี่เคยตะโกนป่ะ”

            “ไม่เคย เพราะกูไม่ค่อยเชื่อ”

            “เหรอ” ผมหลุบตาต่ำลง

            ในมหาลัยของผมเองก็มีความเชื่อหลายๆอย่างอย่างเช่นการเดินสะดุดในที่ต่างๆ ถามว่าตัวผมเองเชื่อมั้ย ตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอกครับ แต่มาคิดดูอีกที ถ้าเชื่อแล้วมีความสุข ก็เชื่อๆไปเถอะจริงมั้ย เป็นสีสันใหม่ๆของชีวิตดี

            “อยากให้ตะโกนป่ะ อยากลองมานานแล้วเหมือนกัน”

            หา

            “กอด!” แล้วเขาก็ตะโกนออกมาจนคนเดินผ่านไปผ่านมาสะดุ้งเลยครับ ผมรีบปิดปากคนตัวสูงที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง พี่กันหัวเราะเสียงดังออกมาทำเอาผมหน้าร้อนไปหมด ไม่รู้จะหันไปทางไหนเลยได้แต่ก้มหน้างุดๆแล้วออกเดินตรงไปเรื่อยๆ

            “กอด”

            เสียงทุ้มๆของเขาดังขึ้น ผมหันกลับไปมองคนที่เดินตามมาด้านหลัง

            “อะไร”

            “เปล่านี่” เจ้าตัวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้จนผมต้องยกนิ้วชี้ชี้หน้าเขาอย่างคาดโทษ

            อย่าคิดจะตะโกนเชียวนะไอ้บ้า

            เดินยังไม่ถึงสามก้าวเขาก็โพล่งขึ้นมาอีกครั้ง

            “กอด”

            “พี่กัน”

            รอยยิ้มเล็กๆบนมุมปากถูกส่งมาให้

            อาวุธลับของเขา ผมต่อสู้ไม่ได้เลยจริงๆ

            “กอด”

            ทุกย่างก้าวของผม มีผู้ชายหนึ่งคนเดินตามมาข้างหลัง ปากเขาบอกว่าไม่เชื่อ แต่เขาก็ส่งเสียงเรียกชื่อผมตั้งแต่ต้นสะพานยันปลายสะพานนั่นแหละ

            เป็นคนที่อยากทำไรก็ทำจริงๆอ่ะ

            “สะพานไม่มีชื่อเหรอ” ผมเอ่ยปากถามระหว่างที่เราเดินห่างออกจากสะพานเรื่อยๆเพื่อตรงไปหาอะไรกินหน้ามหาลัยของเขา

            “มีแต่ไม่บอก”

            ไอ้พี่กัน!

            นี่ถ้าเล็บผมยาว สาบานได้เลยว่าจะหันไปข่วนเขาจนหน้าเยินเลยจริงๆ

            “เมื่อก่อนไอ้หนวดมันก็เคยมาตะโกน” พี่กันพูดไปหัวเราะไป

            ลุงรหัสเนี่ยนะ? ตะโกนชื่อพี่หมอเหรอ?

“แล้วได้ผลมั้ย”

            “ได้”

            “จริงเหรอ”

            “ได้แผล เพราะกูอัดคลิปไปให้ไอ้หมอดู” แล้วเขาก็หัวเราะออกมาเป็นบ้าอยู่คนเดียว

            พี่นี่มัน … ตัวแสบอ่ะ

            “แล้วมึงอ่ะ เชื่อป่ะ” พี่กันตั้งสติแล้วหันมาถามผม

            “ครึ่งๆ”

            “เหรอ แต่เชื่อเรื่องสะดุดนี่” ผมยกมือฟาดแขนคนที่ปากกวนประสาทได้ตลอดเวลา เขาเบี่ยงตัวหนีเล็กน้อย

            “พี่นั่นแหละ บอกไม่เชื่อๆ พูดชื่อผมไม่หยุดเลย”

            “ทำไมอ่ะ ไม่ชอบเหรอ กอดจะได้รักได้หลงพี่คนเดียวไง”

            คำพูดของเขาทำให้ผมหน้าร้อนจนแทบบ้า ผมยกแขนขึ้นมาปิดใบหน้าของตัวเองเอาไว้พลางยกขาเตะเขา พี่กันวิ่งไปรอบๆแล้วล้อผมไม่หยุด

            “เขิน ทำเขิน”

            “พี่กัน!”

            “มีตัวนิ่มเขินอยู่หนึ่งหน่วยครับ”

            “พี่กัน! ไอ้บ้า!”

            “ฮ่าๆ”

            เสียงหัวเราะของเราสองคนดังก้องไปทั่วบริเวณ แม้รอบๆกายจะมืด มีเพียงแค่แสงไฟถนน แต่ทำไมมันกลับทำให้รู้สึกมีความสุขมากมายขนาดนี้

            คงเป็นเพราะผู้ชายตรงหน้านั่นแหละ

            ต่อให้พี่ไม่ตะโกนชื่อผมบนสะพานนั่น ยังไงผมก็ทำความเชื่อนั้นให้เป็นจริงอยู่แล้ว


 

            “ผมเจอพ่อด้วย”

            ผมโพล่งออกมาระหว่างที่เรากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ที่ร้านข้าวต้มข้างทาง พี่กันที่กำลังคีบกุ้งออกจากจานกุ้งผัดน้ำพริกเผามองหน้าผมเงียบๆ เหมือนในการ์ตูนที่เวลาพูดเรื่องน่าตกใจออกมาแล้วใครอีกคนจะอ้าปากค้างจนกุ้งตกจากปาก แต่เขาไม่ทิ้งกุ้งหรอก รักยิ่งกว่าชีวิต

            “เขาพูดจาอะไรไม่ดีหรือเปล่า”

            ส่ายหน้าเบาๆ

            “เขาแค่มาขอโทษอ่ะ แล้วก็บอกว่าคุยกับแม่แล้วว่าจะไม่มายุ่งกับแม่และผมอีก”

            เสียงถอนหายใจเบาๆดังขึ้น

            “ก็ดีแล้ว”

            เงยหน้าไปมองคนที่กำลังสนใจอยู่กับการแกะกุ้งอย่างตั้งอกตั้งใจ ด้านหน้าของพี่กันมีข้าวต้มสามถ้วยตั้งเรียงกันอยู่ เขาบอกว่าไม่ชอบกินของที่ร้อนมากๆเพราะมันกินไม่สะดวก ลวกปาก รถสูบส้วมอย่างเขาก็เลยสั่งมาตั้งไว้ให้เย็นก่อน จะได้กรอกปากง่ายๆรวดเดียว ... แซวเล่นน่ะแซวเล่น

            คนเราน่ะนะ อยากกินข้าวต้มแต่ชอบข้าวต้มแบบไม่ร้อน งงกับเขาจริงๆ

            “ต้องขอบคุณพี่นะ”

            “หือ” คาบกุ้งอยู่ในปาก อีกมือก็ถือหางกุ้งเอาไว้ ผมหลุดยิ้มออกมา

            “พี่ทำให้ผมเข้มแข็งขึ้น จริงๆผมเป็นคนกลัวพ่อมาก แค่เห็นก็จะสั่นไปทั้งตัวแล้ว แต่วันนี้ผมกลั้นหายใจแล้วเดินหนีออกมาได้โดยไม่ร้องไห้ เพราะคิดถึงสิ่งที่พี่พูดว่าถ้าเจอเรื่องแย่ๆก็ให้คิดถึงของอร่อยๆ”

            “เห็นมะ หมอไหนก็ไม่สู้หมอกันนะเว้ย”

            นั่นสินะ

            หมอกันน่ะ เก่งที่สุดในโลกแล้ว

            “จริงๆกูก็มีเรื่องหนึ่งจะบอก” ผมละสายตาจากชามข้าวต้มไปสนใจพี่กันแทน สีหน้าเล่นๆเมื่อกี้ของเขาแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมากะทันหัน

            “แฟนเก่ากูออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ”

            อ่า…

            ก็ดีแล้วนี่

            ใจผมเต้นรัวเพื่อที่จะรอฟังประโยคถัดไปจากเขา ฝ่ามือหนักๆของพี่กันสัมผัสลงบนหัวของผม ขยี้เบาๆ

            “เขาไปอยู่จีนแล้ว ไปกับพี่ชายคนสนิท”

            “ตอนนี้ก็เหลือเราแค่สองคนละ ไร้ก้างขวางคอ”

            “ก็ลองมีก้างสิ ผมจะยิงพี่ทิ้งจริงๆด้วย” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง คนตรงหน้าสะอึกไปเล็กน้อย

            พี่มาทำให้ผมรักขนาดนี้ พี่ดูแลผมดีขนาดนี้ พี่ทำเรื่องธรรมดาๆในทุกๆวันของผมให้มันกลายเป็นวันพิเศษ พี่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวในชีวิตผมแล้ว

            ดังนั้นถ้าใครเข้ามาแทรกหรือมาทำให้เราผิดใจกันล่ะก็ ผมไม่ยอมจริงๆด้วย

            “จะเอาแครอทมายิงพี่อ่ะเหรอ”

            “ปืนจริงๆเนี่ยแหละ!”

            พี่กันขยี้หัวผมอีกรอบ

            “ไม่ทำหรอก เดี๋ยวคนแถวนี้ร้องไห้ ไม่ชอบอ่ะ”

            จะว่าไป มือของเขานี่มัน…

            “พี่เพิ่งแกะกุ้งมาไม่ใช่เหรอ”

            “อุ่ย” เขารีบถอนฝ่ามือออกไป ผมยกส้อมชี้หน้าเขา

            “พี่กัน!”

            “อย่าดุโผมมม”

            อะไรหลายๆอย่างที่เคยเกาะกุมในหัวใจ ตอนนี้เหมือนทุกอย่างมันถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว ทั้งเรื่องพ่อของผม เรื่องแฟนเก่าของพี่กัน

            ผมคิดว่า … ทุกอย่างมันกำลังเข้าสู่สมดุล

            เราทั้งสองคนกำลังเริ่มต้นเดินไปบนสะพาน ถ้าขาดสมดุลไป ก็อาจจะทำให้สะพานขาดลง ดังนั้นสำหรับผม การที่ผมต้องการให้เขารับรู้ว่าเรื่องราวของผมกับพ่อจบลงด้วยดี คือการสร้างความมั่นใจให้กับเขา และการที่พี่กันเอ่ยปากบอกว่าเขาจบกับแฟนเก่าของเขาเรียบร้อยแล้ว นั่นเองก็สร้างความมั่นใจให้กับผม ว่าเราสองคนจะสามารถรักษาสมดุลและพากันไปตลอดรอดฝั่งได้

            และผมหวังว่ามันจะดีขึ้นในทุกๆวัน

            ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความรัก แต่ในทุกๆเรื่อง

            “สงสัยตะโกนบนสะพานจะไม่ได้ผล” เขาพึมพำขึ้นมาระหว่างที่ผมกำลังเคี้ยวปลากรอบอยู่ในปากอย่างเอร็ดอร่อย

            ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย

            “บอกต่อหน้าได้ผลกว่าเยอะ”

            หือ

            “พี่รักกอดนะ”

            ‘แค่ก’

            “รักตั้งแต่วันแรกจนวันนี้”

            “และจะรักไปเรื่อยๆ”

            “รักจนกว่าจะเบื่อไปข้าง”

            “แต่รักน้อยกว่าบราวน์”

            ผมสำลักปลากรอบแล้วไอค่อกแค่ก ส่วนพี่กันก็นั่งซดข้าวต้มต่อไปแบบไม่ได้สนใจอะไร เห็นเพียงแค่รอยยิ้มจางๆบนใบหน้าของเขาแล้ว ก็ดันหน้าร้อนออกมาซะได้ จากที่จะกินข้าวต้มดีๆ กลายเป็นผมต้องฟุบหน้าลงบนโต๊ะด้วยความอ่อนล้าของหัวใจ

            ร้านข้าวต้มชื่อว่าข้าวต้มประตูผีแท้ๆ

            พี่จะมาทำผีๆเปลี่ยนชื่อร้านเขาเป็นข้าวต้มประตูรักไม่ได้นะ

            คนใจบาปนี่…






ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 28 {27.02.62}
«ตอบ #591 เมื่อ27-02-2019 15:09:34 »

เราจะหาคนแบบพี่กันได้ที่ไหนคะเนี่ยยย  ฮื่อออ เขินมาก ตามอ่านทันแล้ว เขินทุกประโยคทุกการกระทำ มันหวิวๆ ในท้องตลอด มโนว่าตัวเองเป็นน้องกอดตลอด555

ฟิลกู้ดจริงๆค่ะเรื่องนี้ เป็นกำลังใจให้นะคะ  :mew1: จุ้บบบ

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 28 {27.02.62}
«ตอบ #592 เมื่อ27-02-2019 20:32:22 »

พี่กันนนนน  :-[

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 28 {27.02.62}
«ตอบ #593 เมื่อ28-02-2019 21:26:34 »

หวานเว่อแต่ขอสารภาพจำเรื่องราวไม่ได้แล้วง่ะ
สงสัยต้องไปอ่านใหม่ :jul3:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 28 {27.02.62}
«ตอบ #594 เมื่อ01-03-2019 10:18:00 »

+1  :impress3: ขอบคุณครับ o13

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 28 {27.02.62}
«ตอบ #595 เมื่อ02-03-2019 00:04:16 »

 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: ◆_Likeกัน_◇ ตอนที่ 28 {27.02.62}
«ตอบ #596 เมื่อ17-05-2020 23:42:27 »

 :pig4:
 o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด