HEAVY WEIGHT รัก ▪️ หนัก ▪️ มาก [Story by ARPO]
บทที่ 7.2
HEAVY WEIGHT: 7.2 KG.
สรุปวันรุ่งขึ้นผมก็ไม่ได้กระโดดทับมันนะเพราะว่าผมส่งพ่อสิงโตน้อยไปทับแทน
อัคนัสสนุกสนานสุดขีด กระโดดขึ้นไปนอนทับอยู่บนภูเขาหกลูกของอาตัวเอง ไอ้แขกมันก็ฟัดหลานมันเต็มเหนี่ยว ร่างอวบเล็กของอัคนัสดิ้นไปมา หัวเราะคิกคักๆเพราะจั๊กจี้
“G… haha give up!” หลานส่งสัญญาณมือเป็นเชิงยอมแพ้ โธ่พ่อสิงโตน้อย
“หึๆ” ร่างสูงใหญ่มันก็ถึงปล่อยหลาน จับอัคนัสให้ลงมานั่งข้างๆ มันก็บิดขี้เกียจคลายเมื่อย
“หิวยัง?” มันหันมาถามผม ผมส่ายหน้า ตอนนี้ยังเฉยๆเพราะเพิ่งแปดโมงนิดๆ
“กินโจ๊กไหม?” มีร้านโจ๊กอยู่ซอยถัดไป ผมมานอนคอนโคมันทีไรก็ชอบออกไปซื้อกิน อร่อยดี
“ก็ได้” ฟาโรห์เดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟัน มันเปลี่ยนกางเกงเป็นกางเกงวอร์มขายาวเสื้อยืดตัวเดิม เดินไปหยิบกระเป๋าเงินแล้วก็กุญแจรถยนต์ คือจะเดินไปก็ได้แต่ว่านานหน่อยเพราะอยู่ในซอยลึกเหมือนกัน เอารถไปสะดวกกว่า ที่จอดก็พอมีเพราะว่าเป็นช่วงเช้าวันอาทิตย์
“พุกเอาเหมือนเดิมนะ” มันพูดขึ้นมา เหมือนเดิมคือโจ๊กหมูล้วนไข่คน คือเอาไข่ไก่ตีลงไปในโจ๊กเลยเหมือนโจ๊กเด็ก
“ปาท่องโก๋20บาทนะ” ตัวละสองบาทครับเพราะงั้นก็คือสอบตัว ปาท่องโก๋สองบาทนี่เริ่มหายากขึ้นแล้ว เคยเจอแบบแปดตัวยี่สิบ
“No...too much”
โงยยยย! พ่อ! หนูพุกอยากกินอะ
“สิบบาทก็ได้เอ้า!” ดีกว่าอดแดก
ร่างสูงพยักหน้ารับ หันไปคุยกับหลานเป็นภาษาอารบิคครู่หนึ่ง คงถามหลานว่ากินโจ๊กเป็นไหมล่ะมั้ง คือก็ต้องถามหลานก่อนว่าเขาอยากกินหรือเปล่า ถึงคุณฟ้าจะบอกอัคนัสไม่มีอาหารที่แพ้แต่ว่าด้วยความที่ไม่ได้ใช้ชีวิตเมืองไทย อาหารบางอย่างอาจจะไม่คุ้นเคย
เห็นหลานทำหน้างงงวยแต่ก็พยักหน้าหงึกหงัก คงไม่มีปัญหาอะไรมั้ง พอร่างสูงใหญ่มันออกจากห้องไป ผมก็จับอัคนัสมาล้างหน้าล้างตาแปรงฟัน ส่วนน้ำเดี๋ยวตอนจะออกไปข้างนอกค่อยอาบทีเดียว
จำได้ใช่ไหมครับที่ไอ้ปองกุลชวนไปเล่นไอซ์สเก็ต เรานัดกันสิบเอ็ดโมง
พวกผมล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็มานั่งรอที่โต๊ะกินข้าว เทนมจืดใส่แก้วใบเล็กให้หลานดื่มก่อน ผมเองก็ซัดไปหนึ่งแก้ว รอไม่นานมากแค่ผมกับหลานหาขนมกินจุกจิกกันไปหลายอย่าง พ่อยอดชายนายอะลาดินถึงค่อยกลับมาพร้อมถุงอาหารหอมๆเต็มมือ
ผมยิ้มร่า กุลีกุจอเอาไปเทใส่ชามให้ โจ๊กร้อนๆสามถุงก็ถูกยกมาวางบนโต๊ะ ปาท่องโก๋ห้าตัว แอบเบ้ปากแต่ก็ยอม ขอผมกับอัคนัสเป็นหมูล้วนตีไข่คน ส่วนของมันเป็นโจ๊กธรรมดาไม่ใส่ไข่
ตอนปีหนึ่ง ไอ้โรห์เพิ่งมาอยู่ไทยได้ไม่นาน อาหารไทยมันก็กินเป็นบ้างไม่เป็นบ้างแต่มันก็ดีไม่ค่อยเลือกกินเลยอยู่กับผมง่าย ผมก็พามันตระเวนกินไปเรื่อยๆ นึกอะไรออกก็พามันไปกิน จนกลายเป็นว่าตอนนี้มันกินอาหารไทยได้ขึ้นเยอะเลย
แรกๆมาโจ๊กมันยังกินไม่เป็นเลย หนูพุกเลยแทบจับมันกรอกปาก อิๆ ล้อเล่นๆ เพื่อนดีๆเขาไม่จับเพื่อนกรอกโจ๊กเข้าปากกัน
“ร้อนนะอัคนัส” ผมเตือนเด็กแขก “ต้องเป่าแบบนี้” ผมเป่าปุ๋งๆเป็นตัวอย่าง หลานก็ทำตามแต่เป่าแรงไปหน่อยโจ๊กกระเด็นหมด
ผมขำก๊าก หาทิชชู่มาเช็ดโต๊ะ บอกหลานให้เป่าเบาหน่อย
พอกินเข้าไปคำแรก เจ้าหนูเคี้ยวช้าๆ คือพี่พุกอยากจะบอกว่าโจ๊กหนูไม่ต้องเคี้ยวก็ได้ลูก แต่เห็นหลานเคี้ยวตุ้ยๆเลยได้แต่ปล่อยไป แก้มกลมสีน้ำผึ้งอูมขึ้นมา
ผมฉีกแป้งทอดนิ่มๆเป็นชิ้นเล็กๆก่อนจะใส่ชามโจ๊กของหลาน แล้วโยนทั้งตัวใส่ชามไอ้แขก มันขำพรืดออกมา กดแป้งทอดจนจมโจ๊ก แล้วเอาขึ้นมากัดทั้งตัว
“ปาท่องโก๋” ผมชี้บอกหลานที่มองมางงๆ
“ปา...ท้อง...โก้” ปาไม่ท้องลูก แล้วปาก็ไม่โก้ด้วยจ่ะ
ผมขำน้ำตาเล็ด พยายามสอนให้ผันวรรณยุกต์ให้ถูกแต่น้องก็ดูพูดลำบากเหลือเกิน แต่ก็พยายามพูด น่ารัก หลงสุดอะไรสุดอะ
หลังจากกินข้าวเช้ากันเสร็จก็เลยเอาหลานอาบน้ำแต่งตัวหอมฉุย
ฟืดฟาด!
สูดหายใจเข้าจมูก ฮอล! น้องน่ารัก ใส่ชุดเอี๊ยมกางเกงขาสามส่วน มีหมวกแก๊ปที่คุณฟ้าใส่กระเป๋ามาด้วย
หลังจากจัดการน้องเสร็จผมก็ปล่อยให้เล่นกับฟาโรห์ก่อนแล้วผมก็ไปอาบน้ำ
พอใกล้ถึงเวลาก็เตรียมตัว ผมให้อัคนัสใส่รองเท้าให้เรียบร้อย ไอ้แขกโกนหนวดแล้วตามที่ผมบอกเมื่อคืน หน้าใสกิ๊งวิ้งๆเลย มันใส่เสื้อโปโลสีขาวกับกางเกงยีนส์ ดูเหมือนนายแบบบนปกนิตยสารเสื้อผ้า
มองดูกูเอง เสื้อยืดฟรีที่ได้จากผงชูรสญี่ห้อหนึ่ง กางเกงยีสน์ขาสามส่วนที่ใส่บ่อย คือที่ใส่บ่อยไม่ใช่อะไร คือกูหาเสื้อผ้ายาก มีแต่ไซส์เล็กๆ ไม่เห็นใจหนูพุกบ้างเลยว่ะ
เหมือนนายแบบพาเด็กมาเที่ยวส่วนกูคือลูกจ้างถือของ ฮ่วยยยย!
ให้น้องนั่งข้างหลังแค่คาดเข็มขัดนิรภัยตามกฏหมายใหม่ของลุงนายก อัคนัสยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เลยหอมแก้มไปฟอดใหญ่ ยื่นแก้มไปให้อัคนัสหอมคืน ปากเล็กจุ๊บแก้มผม ตั้ลล้าก
Noopook: มึงอยู่ไหนแล้ว พวกกูออกมาแล้วนะ
รอแป๊บนึงก็ไลน์สั่น ไอ้ปองกุลบอกว่ามันก็กำลังออก คือไอ้ปองกุลมันคงขึ้นรถไฟฟ้ามาละมั้ง
“อย่าดึง ไอ้เชี่ย” เสียงแหลมๆของไอ้แห้ง ผมมองไปที่คนสองคนกำลังยื้อยุดกันอยู่
“ไม่ดึงมึงก็วิ่งแจ้นไปซื้อขนมสิวะ” เสียงทุ้มของไอ้เดือนสาขาดังแทรก
“เอ้า! ก็กูอยากกิน”
“ไอ้ไม้เสียบผี มึงเล่นกินแต่ขนม มึงถึงได้แห้งแกรนขนาดนี้”
โอย กูขำแรง เรียกไอ้แห้งว่าเลวร้ายแล้ว ไม้เสียบผีนี่ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดพอดี
“พอๆ เพื่อนมึงมาแล้ว”
พวกผมยืนขำ ไอ้ปองกุลมันรีบสะบัดตัวมายืนอยู่กับผม แต่มันไม่ได้สนใจผมหรอกมันสนใจหลานในชุดเอี๊ยม
“หลานนายใช่ไหมชะรีฟ?” อัคนัสมองไอ้ปองกุลแล้วก็ค่อยๆยกมือไหว้
“ฉะหวัดดีคับ…” แก้มกลมสีน้ำผึ้งยิ้ม
“ครับ” ไอ้ปองกุลจับแก้มจับไหล่ เฮ้ย! เดี๋ยวหลานกูมีมลทิน เอามือออกไป!
“สวัสดีพี่เขาด้วย” หาโรห์กระตุ้นให้ทักทายไอ้เท่อีกคน แต่ไอ้โรห์ก็ไม่รู้จักไอ้เท่ขนาดนั้น
อาจจะมีเคยเห็นบ้างเพราะมันมาคณะผมบ่อยแต่ก็อย่างที่รู้ ผมกับไอ้เท่ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น
“ดี…” ไอ้เท่พยักเพยิดให้ไอ้แขก
“ดี…” เฮ้ย! พวกมึงจะเก๊กใส่กันทำห่าอะไรวะ เออกูรู้ว่าพวกมึงมันหล่อ สาวมองตรึม
ใช่ครับ คนมองตรึม แม่งเล่นมายืนคู่กันคนอื่นแม่งดับหมดอะไรหมด
กูกับไอ้ปองกุลนี่จืดจางไปเลยครับ เฮลโหลว เห็นหัวพวกกูอยู่บ้างไหม?
ปล่อยพวกมันยืนเก๊กกันไป ผมจูงมือหลานให้เดินเข้าไปในโซนเคาน์เตอร์เพื่อเช่ารองเท้าสเก็ต ส่วนไอ้ปองกุลมันบ่นพึมพำบอกว่าเล่นเสร็จมันจะไปซื้อขนมให้ได้
“มีของเด็กไหมครับ?”
“วัดขนาดเท้าได้เลยครับ” พนักงานเรียกให้อัคนัสมาวัดเท้าเพื่อหาไซส์ แต่เจ้าหนูมัวแต่ตื่นเต้นตาโตกับลานน้ำแข็งที่มีคนวิ่งวนในนั้นอยู่ คงอยากเล่นเต็มแก่
“โรห์มาวัดเท้าเร็วๆ หลานอยากเล่นแล้ว” ผมเรียกไอ้แขกมาหารองเท้าใส่
“เย้…” อัคนัสร่าเริงมาก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จัดการใส่รองเท้าด้วยตัวเองแต่ก็ดูลำบากนิดหน่อย ผมไม่ช่วยนะครับ หลานเก่งครับ ถูกฝึกมาให้ช่วยตัวเองเกือบทั้งหมด
คือบ้านรวยแต่ไม่โดนสปอยล์นะ ท่านเทพจุติคงไม่มาสปอยล์ลูกหรอมั้ง หน้าตานี่โหดเยี่ยงผู้ก่อการร้าย มีแต่คุณฟ้าที่ใจดี
“พ้อมแล้ว” ครับๆ อัคนัสพร้อมแล้ว
“เสร็จยัง หลานพร้อมแล้ว”
“แล้วพุกล่ะ” มันถามเมื่อไม่เห็นผมถือรองเท้ามา
เฮอะ! ใครบอกกูจะเล่นวะ อย่างกูไปลื่นหน้าแหกในลานใครจะมาเก็บศพ
“ไม่เล่นอะ รอดู”
“อ้าว...ไม่เล่นหรอวะ” ไอ้เท่ใส่รองเท้าเสร็จเหมือนกัน “เฮ้ย ไอ้ไม้เสียบผีมึงใส่ได้ยัง”
“ไอ้ห่าน กูชื่อปองกุล เรียกกูให้ถูก แล้วก็อย่าเร่งกูผูกเชือกไม่ถูก”
ผมเห็นมันสาละวนกับการผูกเชือก “มึงเล่นเป็นหรอวะ”
ผมไม่เคยเห็นมันมาเล่นเลย เลยอยากรู้จริงๆว่าไอ้แห้งมันเล่นเป็นกับเขาหรอไง
“ไม่รู้ดิ มันคงเหมือนรองเท้าติดล้อๆ สมัยเด็กไๆใช่ไหมวะ” มันดูไม่มั่นใจ ถุย! กูนึกว่าเล่นเป็น
“ไม่รู้เว้ย!” หน้าแหกมาเดี๋ยวรู้กัน
“แล้วมึงอะ เล่นเป็น?” ไม่รู้ว่าอียิปต์มีลานไอซ์ให้เล่นไหม
“อืม...น่าจะได้” เออ เดี๋ยวล้มหน้าแหกไม่หล่ออีกคน สาวๆร้องไห้น้ำตาตกในพอดี
ผมไปขอพนักงานว่าขอแบบที่จับให้เด็ก เป็นตัวเพนกวินที่เอาไว้จับกันลื่น เอาไว้ให้คนที่เล่นไม่ค่อยแข็งจับ
ผมยืนเกาะขอบข้างนอกยืนดู ไอ้โรห์ค่อยๆเดินเข้าไปมือจับหลังหลายที่ยึดเพนกวินเอาไว้ อัคนัสดูแหยๆเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าพื้นมันลื่นๆ
“อ๊าก!” โอ๊ย ไอ้แห้งมึงจะร้องอะไรขนาดนั้น อายชาวบ้านบ้างไหม คนมองหัวเราะกันหมด
“เฮ้ย มึงนิ่งสิวะ เดี๋ยวล้มกันหมด” ไอ้เท่ขมวดคิ้ว จับมือไอ้แห้งแน่น แต่ไอ้ปองกุลแม่งย่องแย่งมาก ไม่รอดชัวร์
“ฮือ ไอ้เชี่ยมึง มันลื่น” โธ่ขี้คุยมากมึง บอกเคยเล่นรองเท้าติดล้อ ที่จริงกลัวหางสั่น
“กูจับอยู่ ใจเย็นๆค่อยเดินตามกูมา”
“มึง...จับกูแน่นๆ อย่าปล่อย” เสียงมันสั่นจริงจัง คงกลัวจริงๆ
“เออ จับแน่นไม่ปล่อยแน่มึง”
บ๊ะ! พูดจาพระเอกมากเลยไอ้เท่
ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมกูยังได้ยินอยู่นะครับเพราะไอ้สองตัวนี้มันยังไม่ไปไหนเล๊ยยยย เกาะขอบแถวๆทีผมนั่งนั่นแหละ
“วู้ว…” มึงดูเด็กบ้างอะไรบ้างไอ้แห้ง อัคนัสเริ่มชินกับลานมาขึ้น ไถตัวฉิวๆพร้อมกับเพนกวิน ไอ้โรห์ก็ไม่เสียราคาคุยมันก็ใช้ได้เลย คือไม่ได้เล่นได้แบบรักกีฬาไอซ์สเก็ตแต่ก็ลื่นไหลได้พร้ิวพอสมควร มันไถเท้าตามหลังหลาน
“เก่งมาก” ผมยกนิ้วให้เมื่อหลานไถเข้ามาเกาะขอบ
“ฉะหนุก…” อัคนัสยิ้มกว้าง ผมยิ้ม เกาะขอบยื่นหน้าเข้าไปคุยกับหลาน
“ครับ...เฮ้ย! ไอ้เชี่ย!” ผมสบถอย่างตกใจเมื่อร่างสูงใหญ่หน้าคมเข้มมาไถมาเกาะขอบตรงที่ผมยืนอยู่พอดี
มันยิ้มตั้งแต่ปากจนถึงตา แกล้งกูนี่สนุกมาใช่ไหมหา!
ผมจับคางมันดันออกไปอีกทาง อยู่ๆเลือดเหมือนจะสูบฉีดขึ้นมาบนหน้าทั้งที่อากาศก็เย็น
ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอมันจนหงุดหงิด ไอ้เวร!
“ไอ้ปองกุล!” ผมเดินหนีไปหาเพื่อน
“เฮ้ย! ไอ้หอก!” มันสะดุ้งหันมามองผมแต่เสือกเสร่อทรงตัวไม่ดีเกือบลื่นล้ม “กูตกใจหมด” ผมขำกิกกักๆ แต่พอหันไปสบตาคมหวานย้อยนั่นก็ขนลุกซู่ ใจสั่นจนต้องหลบสายตา
ผมว่าต้องให้ปองกุลพาไปหาหมอจริงจังแล้ว ที่เคยชวนไอ้แขกไปตรวจสุจภาพด้วยกันคงต้องล้มเลิกความคิด
ไม่งั้นเกิดผมความดันขึ้น หัวใจเต้นผิดปกติเพราะมันนั่งอยู่ด้วยแล้วทำไงวะ
โอย...ป่วยใตเหลือเกิน
+++++++++++++++++ 100% +++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่า
วันอาทิตย์ พรุ่งนี้หลายโรงเรียนเปิดเทอมแล้ว รถติดแล้วว หลังจากรถโล่งอยู่สองเดือนกว่าๆ
เราก็ต้องออกจากบ้านเร็วขึ้นอีก ฮ่าๆ ร้องไห้ๆๆๆ
วันนี้เลยเอาอีกครึ่งตอนมาลงให้อ่านกัน อิอิ
ตอนหน้าเราจะก็โบกมือบ๊ายๆอัคนัสแล้วน้้าาา เพราะงั้นตอนนี้ใครไม่อ่านอดเจอพ่อสิงโตน้อยแล้วน้าาาา
อัคนัสเป็นหลานน่ารัก เราชอบน้องมาก ถ้ามีหลานขอหลานยิ้มตาหยีแบบน้องเลยล่ะ ฮ่าๆ
อยากให้คอมเม้นกันมาเยอะๆ อยากอ่านฟี๊ดแบ็คจากคนอ่านว่าเป็นยังไงบ้าง คนเขียนชอบอ่านคอมเม้น อยากรู้ว่าคนอ่านคิดยังไงกับเรื่องนี้บ้าง เพราะงั้นรบกวนจริงๆ คอมเม้นมาเม้ามอยกับเราได้น้า
ปล. มีนักอ่านสงสัยเรื่องการเรียกชะรีฟของอัคนัสนะคะ ชะรีฟกับอัคนัสเป็นอาหลานกัน แต่ว่าเราให้หลานเรียกชะรีฟว่าพี่นะคะ เลยขอชี้แจงตรงนี้เลย เราขออภัยที่ไม่ได้บอกตั้งแต่ตอนน้องมา
หรือจะไปหวีดกันในทวิตเตอร์ก็ได้น้า ติดแท็ค #ชะรีฟหนูพุก #รักหนักมาก
ขอบคุณทุกการสนับสนุนและการติดตามค่า
ฝากนิยายเรื่องอื่นๆเอาไว้ด้วยค่ะ
วณิพกพเนจร [Re-write]
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55317.0
Second-Class Citizens ผมเป็นแค่พลเมืองชั้นสอง [On Air]
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59805.0
รัก ▪️ ตาม ▪️ สั่ง [End]
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55235.1500
ปล.สอง. แวะเวียนไปคุยกันได้นะค่า
ขอฝากไปกดไลค์เพจเฟสบุ้คกันได้นะครับบบบ เพราะว่าส่วนใหญ่เราจะอัพเดทเวลาที่เรา
หายไปนานๆ หรือว่าติดธุระอะไร เราจะไปอัพเดทไว้ในเฟส หรือว่าบางครั้งจะมีเขียนโมเม้นน่ารักของอีพี่กะน้องเอาไว้เล่นๆที่ไม่
ได้เอามาลงหน้านิยายนะครับ เลยอยากให้ไปพูดคุยในเฟสกันเลยยยย ถ้าคนเขียนหายไปตามจิกในเฟสจะเจอเราเร็วมากเพราะ
เราเล่นประจำ
https://www.facebook.com/airin.arpo/?fref=ts