- ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26  (อ่าน 209342 ครั้ง)

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร


หลังจากที่นั่งรับลมทะเลเคล้าเสียงเพลงจนเต็มอิ่มไปกับบรรยากาศและอาหารทะเลแล้วมีคุณก็ชวนทุกคนกลับเพราะตอนนี้ก็เริ่มดึกมากขึ้น ด้วงก็หลับสนิทไปตั้งแต่ท้องอิ่ม วันนี้ทุกคนก็เหนื่อยกันมาทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นเช้ามาทำบาบีคิวบวกกับเล่นน้ำกันท่ามกลางอากาศร้อนๆ มีคุณกลัวว่าจะไม่สบายกันหากอยู่ดึกมากไปกว่านี้


ส่วนรัญญรีกับหม่องขออยู่ฟังเพลงต่อเพราะรัญญรีมีนัดกับเพื่อนที่เป็นคนพื้นที่อยู่ที่นี่ นับตังค์เห็นเพื่อนจะนั่งต่อก็เลยจะอยู่กับเพื่อน เพื่อนอุตส่าห์มาหาถึงที่เกาะทั้งที แต่เมื่อหม่องบอกว่าเพื่อนที่รัญญรีนัดมาคือคนที่รัญญรีแอบปิ๊ง พอรัญญรีรู้ว่าผู้ชายที่แอบชอบอยู่ที่เกาะเดียวกับนับตังค์ รัญญรีก็รีบชวนหม่องมาทันทีแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อรู้แบบนี้นับตังค์ก็เข้าใจและโล่งใจเพราะกลัวว่าเพื่อนจะน้อยใจหากทิ้งไปก่อนจะขอตัวกลับเพราะก็รู้สึกอ่อนเพลียจริงๆ แต่ก็ไม่วายกำชับเพื่อนทั้งสองคนว่าพรุ่งนี้ต้องมากินข้าวด้วยกันที่บ้านของมีคุณ นับตังค์อยากรู้เรื่องคนที่รัญญรีแอบชอบ ตั้งใจว่าพรุ่งนี้ตอนเจอกันจะซักถามให้ละเอียด เมื่อนัดเวลากันเรียบร้อยต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันไป


เมื่อกลุ่มของมีคุณแยกย้ายกันออกมาจากบริเวณริมหาดแล้ว คีตะที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็หันมาพูดกับพเยีย หญิงสาวหน้าตาน่ารักซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องของเขาตอนที่เรียนอยู่ที่ต่างประเทศ พเยียเป็นคนชวนคีตะมาเที่ยวที่เกาะใบไม้คราม อันที่จริงพเยียชวนคีตะมาทำงานให้พ่อ แต่คีตะยังไม่ให้คำตอบ ตอนนี้อารมณ์ของคีตะขุ่นมัวจนพเยียรับรู้ได้


“ไม่รู้จักผู้ชายคนนั้นจริงเหรอเยีย พี่อยากรู้ว่ามันเป็นใคร ทำไมแฟนของพี่ถึงได้แคร์มันนัก” คีตะชี้ไปที่นับตังค์

“ไม่รู้จักค่ะ แล้วผู้ชายที่เดินข้างกันเขาเป็นแฟนของพี่จริงเหรอ” พเยียถามคีตะด้วยความสงสัย

“ทำไมถามแบบนี้ คิดว่าพี่โกหกรึไง” คีตะหันไปมองพเยียด้วยความไม่พอใจ

“เยียแค่อยากรู้เฉยๆ ทำไมพี่คิวต้องหงุดหงิดด้วยล่ะคะ ที่เยียถามเพราะถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนเยีย เยียคงลุยให้เละไปข้างหนึ่งแล้ว ไม่ปล่อยให้ไปเดินกับผู้ชายคนอื่นหรอกค่ะ” พเยียพูดไปตามที่รู้สึก

“ก็...เคยเป็นแฟน เราไม่เคยบอกเลิกกัน พี่เป็นคนตีตัวออกห่างเขาเอง แต่พี่มั่นใจว่าเขายังคงรักพี่อยู่เพราะเขาไม่เคยคบหาใครเลย พอรู้ว่าพี่กลับมาง้อก็คงจะทำประชดพี่ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่รสนิยมแบบคุณชอบ ดูสกปรกเหมือนพวกศิลปินข้างถนน” คีตะเบ้ปากเมื่อนึกถึงนับตังค์

“ถ้าอย่างนั้นพี่จะกังวลไปทำไม ถ้ามั่นใจว่าเขายังรักพี่ พี่ก็ต้องเดินหน้าง้อจนถึงที่สุด” พเยียแสดงความคิดเห็น

“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่พี่ต้องรู้ให้ได้ว่าคุณมาทำอะไรที่เกาะนี้ แล้วคนพวกนั้นเป็นใคร คุณเป็นพวกขี้สงสาร ไม่รู้ไปใจอ่อนคบค้าสมาคมกับคนพวกนั้นได้ยังไงกัน” คีตะยังคงหงุดหงิดที่เห็นมีคุณไปกับคนที่ดูไม่คู่ควรที่จะเป็นเพื่อนของมีคุณแม้แต่น้อย   

“เดี๋ยวเยียจะถามพี่พญาให้นะคะ รายนั้นเขารู้เรื่องทุกคนบนเกาะนี้” 

“ขอบใจมากนะเยีย” คีตะขอบใจพเยียที่คิดช่วยเหลือ


ครอบครัวของพเยียเป็นผู้มีอิทธิพลของที่นี่ คีตะคิดว่าคงจะรู้เรื่องของมีคุณได้ไม่ยาก เมื่อรู้สึกวางใจแล้วก็เลยเลิกพูดถึงมีคุณอีกแต่กลับส่งสายตาไปให้นักท่องเที่ยวหน้าตาดีคนหนึ่งที่คีตะเห็นว่าแอบมองตัวเองมานานแล้ว เมื่อนักท่องเที่ยวคนนั้นลุกมาชวนคีตะออกไปเต้นรำ คีตะก็ลุกตามไปอย่างไม่รีรอ พเยียเห็นแล้วก็ได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนใจ รู้ดีว่าคืนนี้รุ่นพี่ที่นับถือคนนี้คงจะไม่ได้กลับไปนอนที่โรงแรมง่ายๆ เสียแล้ว ในใจก็แอบคิดว่าการที่คีตะหงุดหงิดเรื่องมีคุณก็คงเพราะไม่อยากเป็นคนแพ้ พเยียรู้ดีว่าคีตะเป็นคนชอบเอาชนะคนอื่นเสมอ



เมื่อขมิ้นขับรถมาส่งทุกคนถึงบ้านเรียบร้อยแล้วก็ขับรถไปส่งสาลี่ต่อเลย ถึงจะเป็นวันหยุด แต่อาชีพของสาลี่คงไม่ได้หยุดเหมือนคนอื่นๆ ยิ่งทำงานในโรงแรม วันหยุดยิ่งเป็นวันที่ยุ่งกว่าวันธรรมดาเสียอีก


นับตังค์จะพาด้วงขึ้นไปนอน แต่วันนี้ใบเมี่ยงขออาสาดูแลด้วงให้เพราะเห็นว่านับตังค์ตื่นมาทำบาบีคิวก่อนใครตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เมี่ยงอยากให้นับตังค์ได้นอนเต็มอิ่ม นับตังค์นึกขอบคุณที่ใบเมี่ยงเป็นห่วง แต่พอเห็นมีคุณขยิบตาให้เมี่ยง นับตังค์ก็เริ่มระแวงว่ามีคุณแอบมีแผนอะไร จนมีคุณอ้อนนับตังค์ว่าอยากกินข้าวต้มเพราะกินอาหารทะเลไม่อิ่ม นับตังค์จึงต้องเข้าครัวไปทำให้ ส่วนพายพัดกับใบเมี่ยงก็พาด้วงขึ้นไปนอนที่ห้องของตน ปล่อยให้มีคุณกับนับตังค์ได้ใช้เวลาส่วนตัวกันสองคน


“เห็นกินกุ้งกินปูจนเกือบหมดทะเล ยังจะหิวอีกเหรอบอส” นับตังค์บ่นหลังจากที่เดินเข้ามาในครัวแล้ว

“ไม่ต้องทำหรอก พี่ล้อเล่น พี่ไม่ได้หิว” มีคุณดึงมือนับตังค์ให้มานั่งที่เก้าอี้ตัวสูง หลังจากนั้นตัวเองก็เดินอ้อมไปนั่งตรงกันข้าม

“อ้าว แล้วทำไม...”

“พี่อยากใช้เวลากับตัง” มีคุณชิงพูดก่อนจะถูกบ่น

“บอกไว้ก่อนนะ เรื่องนั้น ตังพูดเล่นนะ” นับตังค์ทำหน้าตื่นเพราะกลัวมีคุณจะกินตัวเองอย่างที่ไปท้าทายเอาไว้

“พูดเล่นเรื่องอะไร เรื่องนั้นคือเรื่องไหน” มีคุณแสร้งทำเป็นไม่รู้

“ก็....ก็....”

“เรื่องอยากถูกกินนะเหรอ” มีคุณถาม

“อือ ก็นั่นแหละ พูดไปงั้นเองนะ ไม่ได้คิดจริง” นับตังค์เอานิ้วเขี่ยพื้นเคาน์เตอร์ครัวแก้เขิน

“จะช้าจะเร็วก็โดนอยู่ดี” มีคุณแกล้งขู่

“ไม่รู้แหละ ถ้าตังบอกยังก็คือยัง ไม่งั้นเจอดีแน่” นับตังค์ขู่กลับ

“กลัวจะแย่ ว่าแต่อยากถามอะไรพี่ไหม” มีคุณเข้าเรื่อง ที่พานับตังค์มาคุยเพราะอยากรู้ว่านับตังค์ติดใจเรื่องของคีตะรึเปล่า เพราะหลังจากที่เดินตามนับตังค์มาที่โต๊ะ นับตังค์ก็ไม่มีทีท่าว่าไม่พอใจหรืองอนแต่อย่างใด ยังเล่นมุกและเถียงเขาคำไม่ตกฟากเหมือนเดิม แต่มีคุณกลัวนับตังค์เก็บความไม่สบายใจเอาไว้โดยไม่พูดออกมา

“อยากถาม ทำไมบอสถึงชอบผู้ชาย” นับตังค์ถามเมื่อมีคุณเปิดทางให้ ส่วนมีคุณถึงกับอึ้งไป คิดว่านับตังต์จะถามเรื่องคีตะแต่กลับมาถามเรื่องนี้

“ก็คิดเหมือนตังมั๊ง” มีคุณไม่รู้จะตอบยังไง

“ไม่เหมือน” นับตังค์เถียงกลับทันที

“ไม่เหมือนยังไง ไหนบอกสิ” มีคุณอยากรู้เลยถามกลับ

“ก็ตังไม่ได้ชอบผู้ชายคนอื่น แต่ชอบบอส ส่วนบอสชอบผู้ชายคนอื่นได้ด้วย”

“ไม่รู้ว่าฟังแล้วควรดีใจหรือร้องไห้ดี” มีคุณรู้สึกเหมือนโดนนับตังค์พูดประชดใส่

“ตังไม่ได้ว่าบอสนะ” นับตังค์แก้ตัวเมื่อเห็นมีคุณตีหน้าเศร้า นับตังค์ไม่ได้คิดประชด แต่ที่พูดไปนับตังค์รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ก็คนที่นับตังค์ชอบดันเป็นผู้ชายคนนี้ นับตังค์ไม่เคยชอบผู้ชายคนอื่นที่มาจีบเลยสักคน

“อยู่กันสองคนเรียกว่าพี่คุณไม่ได้เหรอ” มีคุณลุกเดินมานั่งฝั่งเดียวกับนับตังค์ แต่นั่งหันหลังชนขอบเคาน์เตอร์ครัว เพราะอยากเห็นหน้าของนับตังค์เวลาคุยด้วย แต่นั่งตรงกันข้ามมันก็ห่างเกินไป

“เรียกบอสไปนั่นแหละ” นับตังค์ทำหน้าไม่ถูกเวลามีคุณมาอยู่ใกล้ๆ

“ไม่เอา มันดูห่าง เราเป็นแฟนกันแล้วนะ” มีคุณยิ้มหวานให้นับตังค์

“ทำไมชอบทำให้เขิน เวลาเขินมันเขินอะ เข้าใจเปล่า มันเขิน” นับตังค์บ่น รู้ตัวเลยว่าตอนนี้หน้าแดงอีกแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะต้องเขินอะไรนักหนา แต่มันก็เขินอยู่ดี แถมตอนนี้รู้สึกร้อนวูบวาบตามผิวอีกต่างหาก

“ก็อย่าเขินดิ เอ๋งเอ๋ง” มีคุณยกมือขึ้นยีผมนับตังต์เบาๆ

“อยากมีแฟนเป็นหมารึไง เล่นจังนะมุกนี้” นับตังค์สวนกลับ

“จะเป็นหมาเป็นอะไรก็ชอบหมดแหละ”

“แหวะ” นับตังค์เขินจนไม่รู้จะทำยังไง เลยทำเป็นเลี่ยนคำหยอดของมีคุณเป็นการกลบเกลื่อน

“ผู้ชายที่เจอวันนี้ เขาเป็นแฟนเก่าของพี่นะ” มีคุณตัดสินใจเล่าเรื่องคีตะเองเพราะนับตังค์ไม่ยอมถาม

“ดูก็รู้เหอะ เดินเข้ามากอดแขนจนแทบจะสิงร่างพี่อยู่แล้ว” นับตังค์ยักไหล่

“ไม่หึงเหรอ”

“หึงทำไม แฟนเก่าก็แปลว่าเก่า อย่างพี่นะ ถ้าบอกไม่มีแฟนเลย บอกว่าด้วงตื่นมาแล้วพูดชัดในวันพรุ่งนี้ยังจะน่าเชื่อกว่า”


...ฟอด...


“ขอหน่อยนะ อดไม่ได้จริงๆ” มีคุณเห็นนับตังค์ยอมเรียกตัวเขาว่าพี่ก็อดไม่ได้ทคี่จะขโมยหอมแก้มนับตังค์ฟอดใหญ่ แต่ก็นึกสงสัยว่าทำไมผิวแก้มของนับตังค์ร้อนกว่าปกติ 

“แล้วเลิกกันทำไม” นับตังค์ไม่ได้ต่อว่าที่มีคุณมาหอม ถึงจะไม่ชินกับการโดนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวมาหอม แต่กับมีคุณนับตังค์ไม่ได้รู้สึกรำคาญ แถมยังรู้สึกดีจนน่าแปลกใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็หน้าแดงหูแดงไปตามระเบียบ

“เขาเลือกที่จะไปเรียนต่อที่เมืองนอก อยากมีอนาคตที่ดีกว่า ไปโดยไม่ลา แล้วก็เลยเลิกกันไปเอง”

“แสดงว่าไปแล้วอนาคตไม่ดีกว่าเดิมถึงดูดีใจตอนได้เจอพี่ขนาดนั้น คงอยากจะกลับมาคืนดีสินะ” นับตังค์เดาเอา

“ถ้าเขาไม่ยอมเลิกรากับพี่ง่ายๆ ตังจะงอนพี่ไหม”

“ไม่รู้ดิ ต้องดูก่อนว่าเหตุการณ์เป็นยังไง มันไม่ได้อยู่ที่เขา อยู่ที่พี่ว่ายังมีเยื่อใยกับเขารึเปล่า”

“ตังทำให้พี่ผิดคาดหลายอย่างเลยนะ”

“ทำไม คิดว่าตังงี่เง่าอะดิ”

“อืม” มีคุณตอบตามตรงจนนับตังค์ต้องหันมามองแล้วหัวเราะ

“พี่กับตังดูแล้วไม่น่าจะมาชอบกันได้เลยนะ ดูจากแฟนเก่าของพี่ ท่าทางจะแซ่บเผ็ดเด็ดดวง พี่น่าจะชอบคนสไตล์นั้น” นับตังค์ชินแล้วที่โดนคนมองแบบนี้ คนที่ไม่รู้จักนับตังค์ดีก็คิดว่านับตังค์ขี้วีนขี้เหวี่ยง คงเป็นเพราะนับตังค์เป็นคนพูดตรงไปตรงมาแล้วก็โวยวายเสียงดังจนเป็นนิสัย แต่ถ้าคนที่รู้จักนับตังค์ดีจะรู้ว่าการโวยวายนั้นเป็นแค่อาการกลบเกลื่อนเวลาคิดคำพูดไม่ทันแค่นั้นเอง

“ของแบบนี้มันดูแค่ภายนอกไม่ได้ มันต้องลองก่อน” มีคุณขยับเข้าไปใกล้ นับตังค์ถลึงตาใส่ก่อนจะขยับออกห่าง

“ไม่ได้อยากเล่นตัวนะ แต่เป็นคนไม่ง่าย เข้าใจตรงกันนะ” นับตังค์คุยข่ม แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองตอบรับเป็นแฟนมีคุณง่ายๆ ก็ชะงักไปกับความย้อนแยงของตัวเอง

“พี่ก็ไม่คิดว่าตังง่ายนะ แต่เราโตๆ กันแล้วเลยตัดสินใจได้เร็วแค่นั้นเอง” มีคุณเหมือนจะรู้ว่านับตังค์กำลังคิดอะไรเลยรีบปลอบไป ส่วนคนถูกปลอบกำลังครุ่นคิดว่าที่มีคุณพูดออกมามันต่างกันตรงไหน ง่ายกับเร็ว มันไม่ค่อยจะต่างกันในความรู้สึก

“ถึงยอมเป็นแฟนง่ายๆ แต่ไม่ยอมเป็น...ง่ายๆ” นับตังค์เว้นคำเอาไว้ให้มีคุณคิดเอาเอง มีคุณนึกขำ ถ้าเติมคำว่าเมียลงไปคงจะโดนนับตังค์ต่อยปากแตกแน่ๆ เลยปล่อยผ่านไป

“ทำไมหน้าแดงไม่หายเลย เขินอะไรนักหนา” มีคุณเอื้อมมือไปรั้งท้ายทอยของนับตังค์ให้เข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะเอาหน้าผากของตัวเองไปแนบกับหน้าผากของนับตังค์ ไอร้อนผ่าวจากผิวเนื้อของนับตังค์ส่งถ่ายมาจนมีคุณรู้สึกได้

“ตังปวดหัว” นับตังค์บ่นออกมาเพราะรู้สึกปวดที่ขมับ

“ตังเป็นไข้ ปวดหัวแล้วทำไมไม่บอก” มีคุณเอามืออังที่หน้าผากของนับตังค์อีกครั้ง

“ก็บอกไปนี่ไง”

“ปวดหัวนานรึยัง”

“ก็สักพักแล้ว”

“ขึ้นห้องก่อน เดี๋ยวพี่เอายาไปให้กิน ไม่ต้องอาบน้ำแล้วนะ” มีคุณกลัวว่านับตังค์จะไม่สบายมากไปกว่านี้ โชคดีที่ใบเมี่ยงเอาด้วงไปนอนด้วย ไม่อย่างนั้นอาจจะติดไข้กันได้

“ตังรอกินยาเลยก็ได้ เราจะได้ขึ้นไปพร้อมกัน” นับตังค์ไม่อยากขึ้นไปคนเดียว


มีคุณอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นนับตังค์อ้อนเหมือนเด็ก เจ้าตัวคงไม่รู้หรอกว่าเวลาพูดจาดีๆ น้ำเสียงจะอ้อนผิดปกติ หน้าตาก็ดูอ้อนจนมีคุณอยากจะกดจมูกไปที่แก้มแดงๆ นั่น ถ้าไม่ติดว่านับตังค์ไม่สบาย คืนนี้คงจะอดใจไม่ไหวแน่ มีคุณจูงมือของนับตังค์ให้มายืนรอที่ตู้ยา หลังจากรื้อดูแล้วเจอยาแก้ไข้ มีคุณก็เดินไปรินน้ำอุ่นใส่แก้ว นับตังค์หยิบยาขึ้นมากินเสร็จแล้วมีคุณจึงพานับตังค์ขึ้นห้องไปพร้อมกัน



คืนนั้นนับตังค์ไข้ขึ้นสูง ยาแก้ไข้ระงับได้แค่ชั่วคราว มีคุณจึงคอยเช็ดตัวระบายความร้อนในร่างกายให้ตลอดทั้งคืนและปลุกนับตังค์มากินยาอีกครั้งเมื่อครบกำหนดเวลา นับตังค์หลับไม่สนิทเพราะปวดหัวและหนาวสั่น แต่ก็ลืมตาไม่ขึ้นเพราะรู้สึกอ่อนเพลีย จนใกล้เช้าถึงได้หลับสนิทเพราะอาการปวดหัวทุเลาลงและไข้ก็ดูจะลดลงบ้าง


“บอสทำอะไรแต่เช้าเหรอครับ” ใบเมี่ยงเดินลงมาชงนมให้ด้วงตอนตีห้า เห็นมีคุณเดินวนอยู่ในครัวก็เลยเข้ามาถาม

“ตังไข้ขึ้น งสัยเพราะเมื่อวานโดนทั้งน้ำเย็นโดนทั้งแดดร้อน ผมเลยว่าจะทำข้าวต้มให้ตังกินก่อนกินยารอบเช้า แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน” มีคุณนึกตำหนิตัวเองที่เก่งเรื่องวิจารณ์อาหาร แต่ตัวเองกลับทำอาหารไม่เก่งเอาเลย

“เมี่ยงทำให้ไหมครับ” ใบเมี่ยงอาสา

“ผมอยากทำให้เขากิน เมี่ยงสอนผมได้ไหม” มีคุณพูดไปแล้วก็รู้สึกเขิน นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่เขาอยากลงมือทำอาหารเอง

“ได้เลยครับ แต่เมี่ยงขอเอานมขึ้นไปให้ด้วงก่อน” ใบเมี่ยงเต็มใจสอน ยิ่งได้รู้ว่ามีคุณอยากทำข้าวต้มไปให้นับตังค์กิน ใบเมี่ยงก็ยิ่งดีใจที่เห็นทั้งคู่แสดงความรักต่อกัน


ข้าวสวยที่หุงสวยขึ้นหม้อถูกจัดเตรียมเอาไว้ก่อนที่มีคุณจะลงมือปรุงน้ำซุป เมนูข้าวต้มปลากะพงเป็นเมนูที่ใบเมี่ยงสอนให้มีคุณทำ ใบเมี่ยงให้มีคุณหัดแล่เนื้อปลาเอง แล่ออกมาบางบ้างหนาบ้างตามประสามือใหม่หัดทำ เมื่อเอาเนื้อปลาที่แล่เสร็จแล้วไปขยำเกลือแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดมีคุณก็พักเนื้อปลาเอาไว้ก่อน จากนั้นใบเมี่ยงก็ให้มีคุณต้มน้ำกับกระดูกหมู ใส่รากผักชี พริกไทยและข่าเผาฝานใส่ลงไปด้วยเพื่อช่วยดับคาวปลาและช่วยให้น้ำซุปมีกลิ่นหอม เมื่อน้ำเดือดจัดมีคุณก็ใส่เนื้อปลาลงไป ใบเมี่ยงบอกกับมีคุณว่าไม่ต้องคนน้ำซุปเพราะเนื้อปลาจะเละยุ่ยได้ แค่ช้อนฟองออกก็พอ จากนั้นเมี่ยงก็ให้มีคุณเบาไฟลงก่อนที่จะใส่เครื่องปรุงลงไป  ใบเมี่ยงเชื่อว่ามีคุณเป็นนักชิมอยู่แล้วย่อมจะรู้ว่ารสชาติขนาดไหนที่คิดว่าอร่อย ระหว่างที่มีคุณชิมรสของน้ำซุป ใบเมี่ยงก็ช่วยเจียวกระเทียมเอาไว้โรยหน้า ทั้งกลิ่นน้ำซุปและกลิ่นของกระเทียมเจียวส่งกลิ่นหอมไปทั่วครัว


“ใส่ข้าวลงไปในน้ำซุปได้เลยครับ” ใบเมี่ยงบอกกับมีคุณเมื่อมีคุณบอกว่าน้ำซุปได้รสชาติที่ดีแล้ว

“ไม่ช่วยชิมน้ำซุปหน่อยเหรอ” มีคุณไม่ค่อยมั่นใจ

“ไม่หรอกครับ เมี่ยงอยากให้เชฟตังได้ชิมเป็นคนแรก ต่อให้ไม่ดีต่อลิ้น แต่ดีต่อใจแน่นอนครับ” ใบเมี่ยงให้กำลังใจมีคุณ

“ขอบคุณมากนะ ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกผมว่าบอสหรอก เรียกว่าพี่ก็พอ จะดูสบายเป็นกันเอง”

“ได้ครับพี่คุณ” ใบเมี่ยงตอบรับ

“พี่ขอเอาข้าวต้มไปให้ตังก่อนนะ เขาจะได้กินยา”

“ครับ” ใบเมี่ยงอมยิ้มเมื่อเห็นมีคุณตั้งอกตั้งใจจัดแต่งชามข้าวต้มก่อนจะยกไปให้นับตังค์ได้กิน


เมื่อมีคุณยกข้าวต้มขึ้นไปถึงหน้าห้องก็เห็นว่าพายพัดยืนอยู่ที่หน้าห้องนอนของตน พายพัดชี้ไปที่ประตูห้องที่ถูกเปิดแง้มอยู่ มีคุณเดินเข้าไปก็เห็นว่านับตังค์ยังคงหลับสนิทอยู่บนที่นอนโดยมีด้วงยืนเกาะเตียงเอาไว้มือหนึ่ง อีกมือหนึ่งก็ถือขวดนมเอาไว้ เจ้าตัวเล็กกำลังพยายามจะชะเง้อมองนับตังค์


“ปี้จ๋าหยับ จะหาปี้จ๋า” ด้วงเดินมาหามีคุณแล้วอ้อนให้มีคุณอุ้มตัวเองขึ้นไปบนเตียง

“ผมไม่กล้าพาออกไป กลัวร้องไห้ ลืมตามาก็จะออกนอกห้องท่าเดียวเลย” พายพัดบอกกับมีคุณ

“ไปอยู่กับพี่พายก่อนนะครับด้วง” มีคุณเดินมาจูงมือด้วง แต่ด้วงดึงมือหนี

“จะอยู่กับปี้จ๋า”

“ด้วงครับ พี่ตังไม่สบาย พี่ตังตัวร้อนจี๋เลย ด้วงสงสารพี่ตังไหม” ใบเมี่ยงที่เพิ่งเดินตามขึ้นมา เห็นด้วงกำลังอ้อนมีคุณก็รีบเดินมาคุกเข่าตรงหน้าของด้วง แล้วพูดกับด้วงอย่างใจเย็น

“ฉงฉาน เดี๋ยวหนูฉีดยาให้ปี้จ๋าแบบนี้” ด้วงเอื้อมมือไปหยิกแขนใบเมี่ยงอย่างแรงจนใบเมี่ยงสะดุ้ง

“ด้วง ไม่น่ารักเลยนะ” มีคุณตกใจเมื่อเห็นด้วงหยิกใบเมี่ยงเลยเผลอดุไป

“ปี้จ๋า จัว จัว ฮือ” ด้วงสะดุ้งก่อนจะวิ่งกลับไปที่เตียงแล้วร้องไห้เรียกนับตังค์เสียงดัง

“ด้วง เป็นอะไร” นับตังค์ได้ยินเสียงร้องไห้ของด้วงก็ตกใจผุดลุกขึ้นมานั่งแล้วร้องถามทั้งที่รู้สึกมึนหัวอย่างแรง

“โอ๋ ด้วง ขอโทษนะครับ” มีคุณเข้ามาลูบหลังด้วง แต่ด้วงไม่หยุดร้องไห้ สุดท้ายใบเมี่ยงก็มาอุ้มด้วงขึ้น

“ด้วงดูสิ พี่ตังตัวร้อนไหม” ใบเมี่ยงจับมือของด้วงไปแตะที่แขนของนับตังค์ ด้วงชักมือกลับเมื่อมือตัวเองสัมผัสได้ถึงความร้อน

“ย้อน” ด้วงบอกทั้งน้ำตา

“ด้วงอยากตัวร้อนแบบนี้ไหม” ใบเมี่ยงถามด้วงอีก

“ไม่เอา ย้อน” ด้วงส่ายหน้า

“ถ้าอย่างนั้นต้องให้พี่ตังกินยาก่อน ตัวพี่ตังหายร้อนแล้วค่อยมาหาใหม่นะ” ใบเมี่ยงหว่านล้อม

“จะอยู่กับปี้จ๋า” ด้วงเริ่มสะอื้นอีกรอบ

“เอาแบบนี้ ด้วงต้องนั่งรอที่ตรงนั้นแล้วพี่จ๋าจะให้อยู่ ตกลงไหม” นับตังค์ชี้ไปที่โซฟาก่อนจะพูดกับด้วงด้วยเสียงแหบแห้ง เมื่อด้วงพยักหน้าใบเมี่ยงจึงต้องยอมพาด้วงไปนั่งรอที่โซฟา

“เดี๋ยวพี่ดูเอง ให้เขาอยู่ตรงนั้นก็ได้ คงคิดถึงแม่เขา” มีคุณบอกกับเมี่ยง พายพัดหัวเราะเมื่อได้ยินสิ่งที่มีคุณพูดออกมา

“บอส!! แค่กๆ” นับตังค์อยากจะโวยวายแต่รู้สึกคอแห้งและระคายคอมาก

“ถ้าอย่างนั้นเมี่ยงกับพายจะลงไปทำอาหารเช้าให้พี่คุณกับด้วงนะครับ” ใบเมี่ยงอยากปล่อยให้มีคุณอยู่กับนับตังค์

“ไปเรียกเขาพี่ เป็นน้องเขารึไง” พายพัดถามใบเมี่ยงเสียงขุ่นเมื่อเห็นใบเมี่ยงเรียกมีคุณว่าพี่อย่างสนิทสนม

“พายก็แบบนี้ ไปเลย อย่างอแง” ใบเมี่ยงดุพายพัดก่อนจะจูงมือพายพัดให้ออกมาจากห้องของมีคุณ


( มีต่อด้านล่างค่ะ)


V
V


ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


เมื่อพายพัดและใบเมี่ยงออกไปแล้ว มีคุณก็ยกถาดข้าวต้มมาที่เตียง นับตังค์มองตามแล้วก็เลิกคิ้วแทนการถามด้วยคำพูด


“พี่ทำเอง ให้ใบเมี่ยงช่วยสอน อร่อยรึเปล่าไม่รู้ ทนกินหน่อยนะ จะได้กินยา” มีคุณวางถาดลงที่โต๊ะข้างเตียง แล้วยกชามข้าวต้มมาถือเอาไว้

“หน้าตาให้ผ่าน” นับตังค์บอกด้วยเสียงที่แหบ ดวงตาของนับตังค์แสดงออกชัดเจนว่าดีใจที่มีคุณทำข้าวต้มมาให้


ด้วงหัวเราะคิกคักเมื่อได้ยินเสียงของนับตังค์ เมื่อมีคุณกับนับตังค์หันไปมองก็เห็นว่าด้วงยืนชะเง้อมองนับตังค์อยู่บนโซฟา ท่าทางของด้วงเป็นที่น่าเอ็นดูจนนับตังค์อดยิ้มออกมาไม่ได้


“แบ่งให้ด้วงกินด้วยได้ไหม ดูท่าทางจะอยากกิน” นับตังค์ถามเจ้าของข้าวต้ม

“ยังมีอยู่ เดี๋ยวพี่ค่อยพาด้วงลงไปกิน ตังกินชามนี้ไปก่อน”

“จะว่าไปก็อย่าเพิ่งให้ด้วงกินเลย ด้วงคงยังไม่มีภูมิต้านทานอาหารของเชฟมือใหม่ เดี๋ยวจะจู๊ดๆ” นับตังค์อดแกล้งมีคุณไม่ได้

“จู๋ๆ จู๋ๆ” ด้วงส่งเสียงมาจากโซฟา

“จู๊ดๆ ด้วง พูดให้มันถูก” นับตังค์หัวเราะขำด้วง ด้วงเห็นนับตังค์หัวเราะก็หัวเราะตาม

“ชิมสิ” มีคุณเร่ง

“อืม...”

“ไม่อร่อยเหรอ” มีคุณหน้าเสียจนนับตังค์ขำ

“ไปวิจารณ์คนอื่นตั้งมากมาย มาเจอกับตัวคงกลัวล่ะสิ ก็อร่อยดีแต่จืดไปนิดหนึ่ง น้ำซุปต้องปรุงให้รสจัดกว่าปกติเพราะว่าเวลาเราใส่ข้าวลงไปมันจะทอนความเข้มข้นลง”

“ก็ตังไม่สบาย พี่เลยไม่อยากทำรสจัดให้กินไง” มีคุณบอกไปตามจริงเพราะว่าตั้งใจทำรสอ่อนแบบนี้แต่แรกแล้ว

“ขอบคุณครับ” นับตังค์พูดจบก็ตักข้าวกินต่อ ไม่กล้ามองหน้ามีคุณเพราะยังรู้สึกขัดเขินเวลาต้องพูดดีๆ ด้วย

“หายไวๆ นะครับ พี่เป็นห่วง” มีคุณหอมที่ผมของนับตังค์

“ห่วงอย่างอื่นก่อนไหม” นับตังค์ถามเสียงเบา

“ห่วงอะไร” มีคุณเลิกคิ้วไม่เข้าใจที่นับตังค์บอก

“มองตาแป๋วอยู่นั่น ทำอะไรไม่ระวังเลย” นับตังค์พยักเพยิดไปที่ด้วงที่กำลังมองมาตาไม่กระพริบ

“ลืมไปเลย อยู่กับตังทีไรนึกว่าโลกนี้มีกันแค่สองคน” มีคุณยังคงหยอดต่อ

“ไปอยู่กับด้วงเลยไป” นับตังค์ไล่เพราะกลัวจะสำลักมุกเลี่ยนๆ ของมีคุณ

“ปี้จ๋าฉีดยาให้ปี้จ๋าหน่อย” ด้วงชี้ไปที่มีคุณก่อนจะชี้ไปที่นับตังค์

“รอพี่จ๋าคนนั้นหายป่วยก่อน พี่จ๋าคนนี้จะฉีดยาพี่จ๋าคนนั้นแน่ๆ” มีคุณชี้ที่ตัวเองก่อนจะชี้ไปที่นับตังค์

“ลามก” นับตังค์ต่อว่ามีคุณเสร็จก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มเพราะทำหน้าไม่ถูก

“ยกมก” ด้วงพูดตามนับตังค์

“สอนดีนักเดี๋ยวจูบโชว์เด็กเลย” มีคุณแกล้งยืนหน้าไปใกล้ๆ

“ด้วงช่วยด้วย” นับตังค์แกล้งร้องให้ด้วงช่วย ด้วงปีนลงจากโซฟาแล้ววิ่งดุ๊กๆ มาดึงขากางเกงของมีคุณให้ออกมาห่างจากนับตังค์

“แฮ่ แฮ่” ด้วงส่งเสียงขู่ในลำคอจนนับตังค์หลุดหัวเราะออกมา แต่สักพักก็ไอโขลกจนต้องคว้าผ้าเช็ดหน้ามาปิดปากเพราะกลัวด้วงจะติดไข้ นับตังค์ไม่รู้ว่าเป็นไข้เพราะแดดหรือเพราะมีเชื้อหวัดแล้ว

“กินน้ำอุ่นก่อน” มีคุณจะเดินเข้าไปรินน้ำให้ แต่ด้วงไม่ยอมปล่อยขากางเกงของมีคุณ ยังคงทำเสียงขู่ในลำคอไม่ยอมให้มีคุณเข้าไปหานับตังค์

“ด้วง พี่จ๋าคนนั้นไม่ทำอะไรพี่จ๋าคนนี้แล้ว” นับตังค์บอกด้วง ด้วงถึงยอมปล่อยมีคุณ มีคุณนั่งลงตรงหน้าของด้วงแล้วยีผมของด้วงเบาๆ

“เราเรียกแบบนี้เด็กจะงง มีแต่พี่จ๋าไม่รู้คนไหนเป็นคนไหน ด้วงครับ คนนี้คือแด๊ด คนนั้นคือมัม ไหนลองพูดตามนะ นี่...แด๊ด นั่น...มัม” มีคุณพูดกับนับตังค์ก่อนจะหันมาสอนด้วง

“ไม่หม่ำ ยังไม่จิน” ด้วงส่ายหน้า

“ไม่ใช่หม่ำ มัม พี่จ๋าคนนั้นชื่อมัม เรียกสิ พี่จ๋าจะได้ทำขนมอร่อยให้กิน”

“มัม มัมๆ” ด้วงได้ยินคำหว่านล้อมก็รีบพูดตาม นับตังค์ได้แต่ทำปากขมุบขมิบอยากจะด่ามีคุณแต่ทำไม่ได้เพราะด้วงอยู่ด้วย

“เก่งมาก ลองพูดอีกนะ นี่...แด๊ด” มีคุณชี้มาที่ตัวเอง

“แล๊ด”

“เฮ้ย ไม่ใช่สิ แด๊ด”

“แล๊ด”

“แด๊ด ดูปากนะด้วง แด๊ด”

“จาจินนม” ด้วงเมินมีคุณก่อนจะเดินกลับไปที่โซฟาแล้วชี้ไปที่ขวดนม

“ฮ่าๆๆ ไปสิ แรด ไปอุ้มด้วงขึ้นโซฟานะแรดนะ” นับตังค์เลียนแบบด้วงแต่ออกสำเนียงให้ดูดัดจริตกว่าด้วยความชอบใจ


มีคุณได้แต่ถอนหายใจเมื่อสอนด้วงไม่สำเร็จ แถมยังมีช่องให้นับตังค์เล่นงานกลับได้อีก เมื่อเดินไปอุ้มด้วงขึ้นไปนั่งบนโซฟา จากนั้นด้วงก็คว้าขวดนมมาดูดก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วเกาพนักพิงโซฟาดังครืดๆ ด้วยความเพลินเพลิน มีคุณกับนับตังค์มองด้วงด้วยความเอ็นดูก่อนจะหันมามองหน้ากัน นับตังค์อมยิ้มก่อนจะกินข้าวต้มของมีคุณต่ออย่างเงียบๆ มีคุณเองมองนับตังค์กับด้วงแล้วก็ต้องยิ้มออกมาเหมือนกัน ก็ความสุขความอบอุ่นมันกำลังเพิ่มพูนมากขึ้นจนทั้งคู่หยุดยิ้มไม่ได้จริงๆ



หลังจากที่ได้ชิมข้าวต้มของพ่อครัวมือใหม่จนหมดชามแล้ว นับตังค์ก็รู้สึกว่าอาการป่วยของตัวเองดีขึ้น อาการมึนหัวปวดหัวก็เบาลงจนแทบไม่รู้สึก ส่วนไข้...นับตังค์ไม่รู้ว่ามันลดลงเพราะฤทธิ์ยาหรือเปล่า เพราะหลังจากกินยาเข้าไปไข้ก็ค่อยๆ ลดลง จนตอนนี้ไม่รู้สึกหนาวสั่นและก็ไม่แสบร้อนตามผิวอีก อาการคันคอก็ลดลง นี่ถ้านับตังค์มีคอลัมน์เป็นของตัวเองก็คงจะเขียนชมถึงข้าวต้มรสจืดชามนี้ของมีคุณว่ามีสรรพคุณรักษาไข้ให้ทุเลาลงได้ด้วย นับตังค์คงจะตั้งชื่อว่ามันว่าข้าวต้มอภินิหาร ถึงข้าวต้มชามนี้จะมีรสชาติธรรมดา แต่นับตังค์อยากชมเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่พ่อครัวมือใหม่ เพื่อต่อไปมีคุณอาจจะอยากลองทำอาหารให้นับตังค์ได้ลองกินอีก แม้ในครั้งนี้อาจจะดูแลนับตังค์เพราะเป็นหน้าที่ของแฟนก็ตาม ซึ่งการกระทำนี้มีความหมายมากสำหรับนับตังค์ การที่มีคุณยอมลงมือทำอาหารทั้งที่ไม่เคยทำนั้นมันส่งผลให้หัวใจของนับตังค์พองโตได้อย่างน่าอัศจรรย์ และได้รู้ว่าเวลาที่เราได้รับความห่วงใยหรือความใส่ใจจากคนที่เรารู้สึกดีด้วยมันดีแบบนี้นี่เอง


“ดีขึ้นแล้วเหรอ ลงมาทำไม ทำไมไม่นอนพักก่อน” มีคุณละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อเห็นว่านับตังค์เดินลงมาจากบนห้องนอน ด้วงนั่งเล่นของเล่นอยู่ข้างๆ มีคุณ เมื่อเห็นนับตังค์เดินลงมาก็รีบลุกวิ่งไปกอดขาของนับตังค์เพื่อจะอ้อนให้อุ้ม

“เดี๋ยวรันกับหม่องมันจะมากินข้าวด้วย ตังยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย” นับตังค์นึกห่วงกลัวว่าจะทำกับข้าวไม่ทัน

“พายกับเมี่ยง แล้วก็ขมิ้นช่วยกันทำอยู่ ไม่ต้องห่วงหรอก มานั่งนี่มา” มีคุณตบที่นั่งข้างๆ เพื่อให้นับตังค์มานั่งใกล้ๆ

“พี่เขียนอะไรอยู่” นับตังค์อุ้มด้วงมานั่งที่ตักของตัวเอง ข้างๆ มีคุณ

“พี่เขียนคอลัมน์อยู่”

“ขอดูหน่อย” นับตังค์ขยับไปใกล้ๆ เมื่อเห็นว่ามีคุณกำลังเขียนชมอาหารเหนือของใบเมี่ยงก็แอบผิดหวังเล็กน้อยที่ยังไม่ใช่อาหารของตัวเอง

“ตัวไม่ร้อนแล้ว กำลังคิดว่าถ้าไข้ไม่ลดจะพาเข้าเมืองไปหาหมอ” มีคุณเห็นนับตังค์ยื่นหน้ามาใกล้ๆ เลยถือโอกาสเอาจมูกไปวัดอุณหภูมิให้ที่แก้ม

“บอส ด้วงอยู่เห็นไหม ชอบทำแบบนี้มันไม่ดี” นับตังค์เอาศอกถองไปที่อกของมีคุณ

“แสดงความรักให้ด้วงเห็นดีกว่าเถียงกันนะ”

“ได้นิดได้หน่อยก็ไม่ปล่อยเลยนะ หื่นไม่รู้เวลา” นับตังค์อดต่อว่ามีคุณไม่ได้ ตั้งแต่ยอมคบเป็นแฟนด้วยโดนหอมไปไม่รู้กี่ที่แล้ว

“โดนแดดเลยตัวร้อน โดนอ้อนเลยโดนรัก” มีคุณกระซิบบอกนับตังค์ที่หูเบาๆ

“ขับรถไปชนท้ายสิบล้อมารึไง เลยไปเอามุกท้ายรถมาด้วย ฮ่าๆ ตลกอะ” นับตังค์หัวเราะขำมุกเสี่ยวๆ ของมีคุณ ด้วงเห็นมีคุณมานั่งใกล้นับตังค์ก็ขยับเข้าไปแทรก

“มัมๆ หนูจาไปลูปี๋เจื้อ” ด้วงทำหน้าเว้าวอนนับตังค์

“เห็นไหม ถ้าด้วงเรียกแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นตังจะทำหน้ายังไง” นับตังค์บ่นเมื่อด้วงเรียกตัวเองว่ามัมตามที่มีคุณสอน

“ไม่คิดว่าด้วงจะจำแม่น ทำไงดีล่ะ” มีคุณยิ้มเจื่อนๆ เมื่อด้วงเรียกนับตังค์ว่ามัมจริงๆ

“ไม่รู้ละ ถ้าด้วงเรียกตังว่ามัม พี่ต้องจ่ายเงินมาคำละห้าร้อยบาท ห้ามต่อ”

“ถ้ายอมเป็นมัมของด้วงจริงๆ พี่ยกทรัพย์สมบัติให้หมดตัวเลย สนใจไหม” มีคุณเสนอ

“ก็น่าสนนะ” นับตังค์ทำท่าคิดก่อนจะยกยิ้ม

“ไอ้งกเอ้ย” มีคุณจิ้มหน้าผากของนับตังค์ด้วยความหมั่นเขี้ยว

“พี่ทำงานไปเถอะ ตังจะพาด้วงไปดูผีเสื้อในสวนนะ”

“ออกไปโดนลมเดี๋ยวก็ไข้กลับนะ”

“ไม่หรอก นั่งในที่ร่ม พาไปแวบเดียวก็พากลับเข้ามาแล้ว”


นับตังค์จูงมือด้วงออกมาเล่นที่สนามหญ้า ด้วงดูจะสดชื่นเมื่อได้ออกมาวิ่งเล่นข้างนอก นับตังค์ปล่อยให้ด้วงวิ่งเล่นเต็มที่ ส่วนตัวเองก็นั่งดูอยู่ไม่ไกล จนกระทั่งด้วงวิ่งกลับมาหา หน้าตาดูตื่นกลัว นับตังค์ถึงได้มองไปที่รั้ว


“พอดีคุณขจีให้เอามะม่วงมาให้ค่ะ ได้ยินเสียงหัวเราะก็จำได้ว่าเป็นหนูด้วง” ดาวเรืองบอกถึงจุดประสงค์ที่มาก่อนจะเดินเข้ามาหานับตังค์พร้อมกับตะกร้าใส่มะม่วง เมื่อดาวเรืองเดินมาใกล้ ด้วงก็กำชายเสื้อของนับตังค์แน่น

“ฝากขอบคุณคุณขจีด้วยนะครับ” นับตังค์รับตะกร้ามะม่วงมาถือเอาไว้

“ด้วง สวัสดีพี่รึยัง ไหนสวัสดีสิ แบบที่พี่เคยสอน” ดาวเรืองทักด้วงอีก ด้วงสะดุ้งก่อนจะหลบตา รีบซุกหน้ากับตักของนับตังค์

“ไม่เอา” ด้วงร้องบอก

“ด้วงครับ” ดาวเรืองคว้าแขนด้วงเมื่อเห็นด้วงทำท่าจะงอแง

“ฮึก...ฮือ” ด้วงร้องไห้ทันทีที่ดาวเรืองมาจับที่แขน

“ด้วงไม่ร้องครับ” นับตังค์วางตะกร้ามะม่วงกับพื้นก่อนจะอุ้มด้วงขึ้นมา ด้วงรีบซบหน้ากับไหล่ของนับตังค์ไม่ยอมมองมาที่ดาวเรืองเลย

“คุณคงตามใจด้วงมากนะคะ ปกติว่านอนสอนง่ายกว่านี้” ดาวเรืองหน้าเสียที่ด้วงแสดงออกว่าไม่อยากคุยด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะประชดออกไป

“น่าแปลกใจเหมือนกันครับ ปกติให้ด้วงสวัสดีใครด้วงก็ทำหมด หรือด้วงจะดูออกว่าใครควรค่าให้ยกมือไหว้” นับตังค์พูดออกไปตรงๆ

“คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไงคะ” ดาวเรืองไม่พอใจที่นับตังค์จงใจแขวะเธอ

“เอาไว้ให้ผมแน่ใจก่อนว่าด้วงโดนอะไรมาบ้าง วันนั้นผมจะบอกคุณให้เข้าใจแจ่มแจ้งโดยไม่ต้องถามเลยว่าผมหมายความว่ายังไง” สีหน้าและท่าทางของนับตังค์ดูน่ากลัวจนดาวเรืองไม่อยากมีเรื่องด้วย เธอรีบหันหลังแล้วเดินกลับออกไป นับตังค์เห็นด้วงตัวสั่นก็สงสารจับใจ ค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าดาวเรืองต้องเคยทำร้ายด้วงแน่ๆ


ไม่รู้ว่ามันเป็นวันอะไรของนับตังค์ นอกจากจะป่วยเป็นไข้ ต้องมาเห็นด้วงกลัวดาวเรืองจนตัวสั่นดูน่าสงสาร ยังไม่ทันจะได้เข้าบ้านให้หายหงุดหงิด พญาก็ขับรถมาจอดที่ร้านแล้วถือวิสาสะเดินผ่านร้านมาถึงสวนหลังบ้านโดยไม่คิดขออนุญาตใครเลย ถึงแม้จะรำคาญความขี้ตื้อของพญา แต่นับตังค์ก็ยังรักษามารยาทด้วยการสงบปากสงบคำเอาไว้


“เจอกันจนได้ เมื่อวานแกล้งพี่จนไม่ได้คุยกันเลยนะ” พญาส่งยิ้มหวานมาให้นับตังค์ ก่อนจะมองด้วงแล้วทำหน้าสงสัย

“สวัสดีคุณตาก่อนด้วง” นับตังค์บอกด้วง ด้วงหันมามองพญาอยู่พักใหญ่ถึงยอมยกมือไหว้ พญาสะดุ้งกับคำว่าตาของนับตังค์ เจอทีแรกเรียกลุง คราวนี้มาตา เจอกันคราวหน้าพญาไม่อยากจะนึกเลยว่าจะได้เป็นอะไรอีก

“น่ารักจัง หลานเหรอครับ หน้าคุ้นเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน” พญาเดินเข้ามาหยิกแก้มด้วงเบาๆ

“มัมๆ หนูจาจับบ้าน” ด้วงเบือนแก้มหนีพญาแล้วร้องอ้อนนับตังค์

“มัม ชื่อใหม่น้องตังเหรอครับ มัมอะไร มัมมี่เหรอครับ” พญาแกล้งกวนนับตังค์บ้าง

“มัมมี่โปะโกะมั๊ง” นับตังค์ยักไหล่ให้

“พี่ล้อเล่น พี่แค่อยากถามว่าน้องตังรับทำของว่างให้กับคนที่จะมาสัมมนาที่โรงแรมของพี่ไหม มีแขกมาสัมมนาแทบทุกวันเลย พี่รู้จากสาลินีว่าน้องตังเป็นเชฟฝีมือดี พี่เลยมาสอบถามดู คิดราคามาได้เลยพี่ยินดีจ่าย” พญารู้ว่าหากเข้าหานับตังค์แบบเดิมคงจะไม่ได้ผล เลยใช้วิธีนี้ อาจจะทำให้นับตังค์มองภาพลักษณ์ของเขาว่าดูเป็นคนเอาการเอางาน

“คุณต้องคุยกับเจ้าของร้าน ผมไม่มีสิทธิ์รับงานเอง” นับตังค์ยอมรับว่าสนใจ แต่เรื่องนี้คงต้องให้มีคุณเป็นคนตัดสินใจ

“สนใจไปเป็นเชฟให้กับโรงแรมของพี่ไหม สามารถเรียกเงินเดือนเท่าที่อยากได้ได้เลยนะ” พญาลองหยั่งเชิง

”ขอบคุณนะครับ แต่ผมไม่ได้ร้อนเงิน ถ้ายังไงเดี๋ยวจะไปตามเจ้าของร้านมาให้คุยนะครับ ผมต้องพาลูกชายไปอาบน้ำก่อน” นับตังค์พูดจบก็พาด้วงเดินกลับเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้พญาอ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำว่าลูกจากปากของนับตังค์     
 

หลังจากที่มีคุณออกไปคุยกับพญา ไม่นานมีคุณก็เดินกลับเข้ามา นับตังค์กำลังนั่งเล่นกับด้วงอยู่ก็รีบลุกมานั่งข้างมีคุณเพราะอยากรู้ว่ามีคุณจะรับงานนี้ไหม แต่มีคุณไม่ยอมเปิดปากเล่าอะไรให้นับตังค์ฟัง จนนับตังค์ทนไม่ไหวต้องเอ่ยถามขึ้นมาก่อน

“พี่ตอบตกลงไปรึเปล่า”

“ยังไม่ได้ให้คำตอบ”

“อ้าว ทำไมล่ะ”

“อยากทำมากเหรอ”

“อะไรเป็นรายได้ก็ควรทำไหมล่ะ”

“แล้วแต่ตัง ตังอยากทำก็ทำ”

“ทำไมพี่ดูหงุดหงิด ตังพูดอะไรผิดไปเหรอ” นับตังค์เห็นอาการของมีคุณแล้วก็ถามออกไปตรงๆ

“ตังไม่ได้ผิดอะไร แต่พี่หึง”

“หึง!! หึงอิตาลุงพญายมนั่นอะนะ” นับตังค์ร้องถามด้วยความประหลาดใจ

“ทำไมไปเรียกเขาแบบนั้น” มีคุณถามทั้งที่ในใจอยากจะหัวเราะออกมาด้วยความดีใจที่นับตังค์มีท่าทีไม่ชอบลูกชายของนายหัวพยนต์

“หึงทุกคน” มีคุณตอบพร้อมกับแกล้งทำหน้าจริงจัง

“กับพายก็หึงเหรอ” นับตังค์ถาม

“ใช่”

“พี่บ่าวก็หึงเหรอ” นับตังค์ยังคงถามอีก

“ก็มีบ้าง”

“อาการหนักนะเรา” นับตังค์ส่ายหน้าก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

“ทำไมล่ะ หึงไม่ได้เหรอ”

“ไม่ได้” นับตังค์ตอบทันควัน

“ทำไมจะไม่ได้ แฟนของพี่ พี่จะหวงมันผิดตรงไหน” คราวนี้มีคุณแกล้งโวยวายบ้าง

“มันไม่ผิด แต่มันไม่ดี การที่พี่หึงแปลว่าพี่ไม่ไว้ใจตัง พี่ต้องทำใจว่ามีแฟนหน้าตาดี เสน่ห์เยอะ มันก็ต้องมีคนมารุมชอบบ้าง ที่สำคัญ ถ้าพี่คิดว่าตังจะมีใจให้คนอื่นง่ายๆ ขนาดนั้น แปลว่าพี่ไม่มีดีที่จะทำให้ตังมั่นคงกับพี่ได้เลย ตังถือว่าพี่ดูถูกตัวเองนะ ถ้าพี่ไม่มีดี ตังก็ไม่ยอมเป็นแฟนหรอก ถึงจะมีดีน้อยไปหน่อยก็เหอะ” นับตังค์รู้ว่ามีคุณอาจจะมีปมกับแฟนเก่ามาก่อน ถึงได้ไม่ชอบให้ใครมาเข้าใกล้คนที่เป็นแฟนของตัวเอง แต่ถ้ามานั่งหึงหวงจนเสียงานเสียการมันก็ต้องตักเตือนกันบ้าง

“ตกลงจะสอน จะปลอบหรือจะชมตัวเอง” มีคุณถามอย่างขำๆ

“โตๆ กันแล้ว ไม่หึงเนอะ” นับตังค์จับคางมีคุณส่ายไปส่ายมา ด้วงเห็นแล้วก็ไต่ตัวมีคุณขึ้นดึงมือของนับตังค์ออก

“ด้วงยังหวงตังเลย ดูดิ” มีคุณเข้าใจสิ่งที่นับตังค์พูดมาทั้งหมดแล้ว แต่ก็อยากแกล้งงอนต่อ

“โอ้ย นี่เด็กไหม ยังพูดไม่ชัดเลย เด็กงอนมันน่ารักนะ แต่ผู้ใหญ่งอนมันอุ...” นับตังค์อดไม่ได้กำลังจะว่ามีคุณว่าอุบาทว์ แต่โดนอีกฝ่ายแทรกมาก่อน

“อุอะไร พูดไม่ดีมีจูบกลับ” มีคุณขู่

“อุ...อุ้ย ต๊าย ว้าย กรี๊ด ไปในครัวดีกว่า” นับตังค์รีบเปลี่ยนคำด่า ก่อนจะลุกขึ้นจับด้วงไปนั่งตักของมีคุณแล้วแกล้งทำท่าสาวแตกจนด้วงหัวเราะร่วนกับท่าทางตลกของนับตังค์ นับตังค์แกล้งเดินบิดไปบิดมาให้ด้วงได้หัวเราะจนกระทั่งเดินหายเข้าไปในครัว

“เฮ้อ ก็น่ารักแบบนี้นี่น้าจะไม่ให้หวงได้ไง” มีคุณขำตามด้วงไปด้วย

“มัมตาหลก” ด้วงเงยหน้ามาพูดกับมีคุณ

“รักมัมไหม” มีคุณถามด้วง

“ยัก” ด้วงตอบ

“แด๊ดก็ยัก” มีคุณก้มลงหอมผมของด้วงแล้วอมยิ้ม พลางคิดทบทวนในใจว่าตัวเองคงไม่ได้แค่ชอบหรือถูกใจนับตังค์เพียงแค่นั้นแล้ว ตอนนี้มีคุณรู้สึกว่านับตังค์กำลังก้าวเข้ามาในชีวิตของเขาจนเต็มพื้นที่ของหัวใจ


...ยิ่งอยู่ใกล้ชิดกับเชฟจอมกวน มีคุณก็รู้สึกว่าตัวเองเข้าใกล้คำว่าตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้นเข้าไปทุกทีแล้ว...


***โปรดติดตามตอนต่อไป***



เครดิตรูปจาก Google


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2017 08:19:48 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
อบอุ่นจังงเลยยยคู่นี้
พญานี่เหมือนมาเป็นตัวตลกของเรื่องอะ
พเยียก้ดูไม่ได้ร้ายขนาดนั้นเลย
สรุปตัวร้ายที่แท้จริงคือคิวสินะ มโนได้โล่จริงๆ
รอค่าาา

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ตลกที่มีคุณล้อเลียนวิธีเรียก อุ๋งอุ๋ง จากอีกคู่มาเรียกว่าเอ๋งเอ๋ง คิดได้ไง  :laugh:

เผ็ชแซบกวนมากๆคู่นี้

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
เพิ่งหายไข้ก็มีคนมาวุ่นวายเนอะนับตังค์

ทั้งพายทั้งบอสขี้หึงกันจริงๆ :hao3:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ PiiNaffe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เป็นนิยายที่ไม่ควรอ่านตอนกลางคืนจริงๆเบย
อยากกินมันหมดทุกอย่างเลยยยย

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารักอ่ะ
ชอบมากกก
ด้วงนี่ลูกชาย เหรอ
ไอ้เราก็คิดว่าลูกสาว 5555555
 :mew1:

น้องตังน่ารักเวอร์อ่ะ ดูมีเหตุผล ไม่งี่เง่าเรื่องแฟนเก่าอ่ะ
น่าจะรับมือได้แน่
 :katai2-1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ 4life

  • R.I.P KT 5-5-13
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 995
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
พญาไม่ร้ายใช่ไหม ไม่อยากให้ร้ายเลย นางฮาๆ เอ๋อๆ ดี 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
เห็นรูปข้าวต้มตอนจะเที่ยงคืน โอ่ยยยย  :hao5:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
คีตะน่าเบื่อ

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
เป็นข้าวต้มอภินิหารจริงๆ เพราะทำให้นับตังหายไข้  และทำให้ทั้งมีคุณและนับตัง รู้จัก รู้ใจกันมากขึ้น

ชอบนิสัยของนับตังค์ มีอะไรก็พูดกันตรงๆ มีเหตุผล ไม่หึงหวงแบบงี่เง่า  ยิ่งเวลาอยู่กับมีคุณ 2 ต่อ 2 แล้วมีมุมน่ารัก ขี้อ้อน ตอนนี้นับตังเลยกลายเป็นมัมของหนูด้วงไปโดยปริยาย   

คีตะปากก็บอกว่ายังรักมีคุณ  แต่พอมีผู้ชายคนอื่นมาเสนอตัว  ตัวเองก็สนองตอบ เป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก

----------------------
เป็นนิยายที่อ่านสนุก ได้ความรู้  ได้ความหิว มีความอยากทำอาหารเพิ่มขึ้น  และตอนนี้ก็อยากให้คนเขียนมาลงอาทิตย์ละครั้งหรือ 2 ครั้ง  ขอบคุณมากค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ชื่อมัม ย่อมาจาก มัมมี่โป๊ะโกะ  :jul3:  เอออออ ตังค์เริ่ดอ่ะ ชอบๆๆๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ดาวเรืองต้องทำไม่ดีกับด้วงไว้เยอะแต่ๆ
ไม่งั้นไม่กลัวขนาดนี้หรอก

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ครอบครัวอบอุ่นนนน น่าร้ากก :o8:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
น่ารักมากกกกกกกก   :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
" ยัก "  :mew1:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3

ออฟไลน์ banazjj

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
น้องตักทำไมน่ารักอย่างนี้ ในเรื่องมีเด็ก 2คน >"<

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
อ่านไปหิวไป

55555555555

ออฟไลน์ vevi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ชอบมากๆเลย  มีกลิ่นหอมๆของอาหารอยู่ในทุกตอนเลย 555
นายเอกน่ารักมาก อ่อนโยนกับหนูด้วงสุดๆ แต่ก็ป่วนพระเอกได้สุดๆเช่นกัน  :m20:
มีประเด็นให้ติดตามมากมาย

รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อเลยค่า ขอบคุณผู้เขียนนะคะ

ออฟไลน์ banazjj

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
รออยู่น้าาาาาา  :ling1:

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
คนเขียนหายไปไหนคะ  รออ่านนับตังกะบอส  ใบเมี่ยงกะพายอยู่  :ling1:

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง


มื้อค่ำสำหรับเลี้ยงตอนรับรัญญรีและหม่องประกอบไปด้วยอาหารใต้หลายอย่าง ทุกอย่างเป็นฝีมือของขมิ้นและสาลี่ ทั้งสองคนขอแสดงฝีมือแทนนับตังค์ที่ป่วยอยู่ เมนูแรกก็คือหมึกไข่ต้มหวาน ปลาหมึกไข่ขนาดกำลังดีที่ปรุงรสให้ออกเค็มหวาน ต้มมาทั้งตัว เวลากินแล้วหนึบหนับด้วยไข่ปลาหมึกเต็มคำ ต่อไปก็คือปลากระบอกทอดขมิ้น รสชาติการหมัพันกปลากลมกล่อม กินแกล้มกับกระเทียมสับที่คลุกเคล้ากับขมิ้นสดและปรุงรสอย่างพอดี ทอดจนกรอบเป็นสีทอง ตัวปลาก็ทอดได้กรอบนอกนุ่มใน เนื้อปลายังคงความหวานฉ่ำจากความสดของปลา หมูโคหรือสามชั้นคั่วเกลือก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ที่ทำเผื่อเด็กน้อยอย่างด้วง ขมิ้นได้เคล็ดจากนายปู่ที่ทอดคั่วหมูสามชั้นได้พอดี ไม่แห้งจนแข็งเกินไป เมื่อกัดชิมคำแรกสัมผัสได้ถึงความกรอบและเมื่อเคี้ยวต่อไปความนุ่มของมันหมูที่แทรกอยู่ยิ่งเพิ่มรสสัมผัสให้กับเมนูนี้ นอกจากนั้นยังมีวายคั่ว เมนูนี้คือการนำกะทิต้มใส่หอมแดง ตะไคร้ มะขามและวาย ทีแรกรัญญรีก็ไม่เข้าใจว่าวายคืออะไร ขมิ้นต้องอธิบายให้ฟังว่าวายก็คือหมึกสาย ซึ่งเพื่อนของขมิ้นตกด้วยมือ ไม่ใช้อวนลาก ตัวหมึกจะมีความนุ่มเด้งมากกว่าใช้อวน แต่หม่องบอกรัญญรีว่าวายคั่วก็คือปลาหมึกตัวผู้ที่ผสมพันธ์ุกับปลาหมึกตัวผู้ ปลาหมึกตัวผู้มันคั่วกันเอง เล่นเอารัญญรีค้อนหม่องจนตาแทบหลุดที่หม่องเล่นมุกทะลึ่งต่อหน้าหนูด้วง แต่มุกของหม่องก็ทำเอาทุกคนขำตามไปด้วย


“อร่อยมากเลย อิ่มจนเดินแทบไม่ไหวแล้ว” รัญญรีเอ่ยชมเพราะกินข้าวมากกว่าปกติจนแน่นท้องไปหมด

“ยังมีเค้กมะพร้าวอ่อนด้วยนะครับคุณรัน อิ่มแบบนี้จะทานไหวไหมครับ” ใบเมี่ยงเป็นคนอาสาทำขนมหวานเอง เห็นว่ามีมะพร้าวเผาอยู่ ซึ่งเนื้อมะพร้าวอ่อนกำลังดี น้ำมะพร้าวก็หอมมาก

“ท้องของรันมีที่ว่างสำหรับของหวานเสมอค่ะ” รัญญรียิ้มหวานส่งไปให้ใบเมี่ยงและเลยไปถึงพายพัดที่นั่งข้างๆ ใบเมี่ยงด้วย

“เดี๋ยว แต่มีที่ว่างสำหรับหนุ่มหล่อๆ มากกว่า” หม่องรีบเสริม

“ไอ้หม่อง กินไป ปากว่างแล้วพูดเยอะนะ” รัญญรีหันไปดุเพื่อนสนิท

“ฝีมือพี่บ่าวนี่สุดยอดเหมือนกันนะ ตังก็อิ่มจนเดินไม่ไหวเหมือนกัน” นับตังค์เพิ่งได้กินอาหารใต้ที่มีรสชาติจัดจ้านเป็นครั้งแรก อร่อยจนอดที่จะชมออกไปไม่ได้เช่นกัน

“เดี๋ยว แกเดินไม่ไหวก็ให้แฟนอุ้มไง แบบส่งตัวเข้าหอ” หม่องไม่วายหันมาแซวนับตังค์บ้าง

“ไอ้หม่อง ฉันจะฟ้องน้องแหม่มว่าเมื่อวานนี้แกไปจีบสาวฝรั่ง” นับตังค์ชี้หน้าของหม่อง

“เฮ้ย  ไม่แซวแล้วก็ได้ ล้อเล่นนิดเดียวเอง แกจะเอาฉันถึงตายเชียวนะเว้ย” หม่องรีบยกมือห้าม

“ฮ่าๆ มันกลัวแฟนด่าจนลืมคำว่าเดี๋ยวเลยว่ะตัง” รัญญรีหัวเราะที่หม่องลืมพูดคำติดปาก

“ใครๆ ก็กลัวแฟนทั้งนั้นแหละครับ แฟนคือของสูง” พายพัดออกความเห็นก่อนจะหันไปยิ้มให้ใบเมี่ยง

“เห็นไหม มันเรื่องธรรมชาติ” หม่องรีบยกมือขึ้นมาไฮไฟว์กับพายพัด

“บอสล่ะ กลัวป๊ะ” นับตังค์หันมาถามมีคุณพร้อมกับยักคิ้วให้

“ไม่กลัวแฟน แต่กลัวภรรยา อยากให้กลัวก็ต้อง...” มีคุณตอบหน้าตาย ทุกคนเป่าปากวี๊ดวิ้วหัวเราะชอบใจกันใหญ่

“ฟิ้ว ฟิ้ว” ด้วงพยายามจะเป่าปากเลียนแบบบ้าง แต่ทำไม่ได้ ได้แต่ทำปากจู๋เป่าลมออกมาจนน้ำลายยืด

“พรุ่งนี้ตังจะทำข้าวแช่” นับตังค์เปลี่ยนเรื่องแทบจะทันทีที่รู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายเสียทีให้กับมีคุณ

“ข้าวแช่ชาววังรึเปล่าว่ะตัง ฉันกำลังอยากเลย” หม่องถาม เป็นที่รู้กันว่าบรรพบุรุษของนับตังค์เป็นข้าเก่าในวัง มีชื่อเรื่องอาหารตำรับไทย หม่องก็อยากจะกินสูตรชาววังแท้ๆ กับเขาบ้าง

“แกอยากกินแบบชาววัง ฉันก็จะทำให้” นับตังค์อมยิ้ม

“พี่ว่าพี่ต้องอ้วนขึ้นแน่เลยค่ะ ได้กินแต่ของอร่อย” สาลี่รู้สึกโชคดีที่ได้กินอาหารจากเชฟที่มีฝีมือดีอย่างนับตังค์บ่อยๆ

“ตังตั้งใจว่าจะทำไปให้คุณขจีด้วย ท่านก็เหมือนญาติผู้ใหญ่อีกคนของบอสนะ วันปีใหม่ไทยแบบนี้ไปไหว้ขอพรท่าน แกด้วยนะไอ้รัน ท่านเป็นป้าของแกด้วยนี่”

“ดีเหมือนกัน” มีคุณรู้สึกประทับใจนับตังค์ เห็นเป็นคนกวนๆ แต่ยังมีจิตใจนึกถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ตัวเองเสียอีกที่ไม่ได้คิดในข้อนี้ไป คุณขจีสนิทสนมกับคุณปู่ ช่วยดูแลร้านให้ช่วงที่คุณปู่เสีย ซ้ำยังดูแลด้วงให้อีก เขายังไม่ได้เข้าไปขอบคุณเลย

“ขอบใจนะที่นึกถึงป้าของฉัน ดีเหมือนกัน แต่พรุ่งนี้ไหว้ขอพรป้าเสร็จฉันก็ต้องกลับเลยนะ แต่ยังไงจะมาเที่ยวอีกแน่ๆ” รัญญรีนึกเสียดายที่ต้องกลับเพราะมีนัดสำคัญเรื่องธุรกิจ

“ผมก็ต้องเข้าเมืองพอดี เดี๋ยวไปเรือของผม ถึงตัวเมืองแล้วผมจะไปส่งให้ที่สนามบิน” มีคุณมีของอีกหลายอย่างที่ต้องการไปซื้อ เลยอาสาที่จะไปส่งรัญญรีและหม่องให้

“ดีเลยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะคุณคุณ” รัญญรีกล่าวขอบคุณ

“พรุ่งนี้พี่จะซื้อของสดมาให้แต่เช้านิ” ขมิ้นอาสา

“ไม่เป็นไร ตังอยากไปเลือกเอง พี่บ่าวมารับตังตอนตีห้าก็แล้วกัน” นับตังค์นัดเวลากับขมิ้น

“ไหวเหรอ เดี๋ยวไข้จะกลับอีกนะ” มีคุณนึกห่วง

“เดี๋ยว สรุปที่ไม่สบายเพราะอากาศหรือเพราะว่า....” หม่องทำหน้าครุ่นคิด

“เพราะว่าอะไร” นับตังค์ทำหน้าสงสัยเมื่อหม่องพูดค้างเอาไว้

“แกยืนขึ้นดิ๊” หม่องสั่ง นับตังค์ก็ยืนขึ้นแบบงงๆ

“ทำไม” นับตังค์ถามเมื่อลุกยืนแล้ว

“นั่งลง” หม่องยังคงสั่งอยู่ ทุกคนในโต๊ะก็มองกันไปมาอย่างไม่เข้าใจ

“ทำไมวะไอ้หม่อง” นับตังค์เริ่มจะสงสัยว่าหม่องต้องการอะไร มาสั่งให้นับตังค์ยืนๆ นั่งๆ

“เจ็บก้นไหม” หม่องกระซิบที่หูของนับตังค์เบาๆ ให้ได้ยินกันสองคน

“ไอ้เวรหม่อง” นับตังค์ได้ยินแล้วฟาดที่หลังของหม่องเต็มแรง หม่องหัวเราะลั่นที่ทำให้นับตังค์อายได้

“ฮึก ฮึก” ทุกคนเงียบเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นของด้วง ด้วงได้ยินเสียงนับตังค์ตีหม่องแล้วก็เริ่มร้องไห้

“โอ๋ ไม่มีอะไรนะครับด้วง ดูสิ พี่เขาล้อเล่นกัน พี่หม่องยังหัวเราะเลย” ใบเมี่ยงรีบอุ้มด้วงมากอดปลอบ

“เจ็บ จัว ไม่ตี หนูจัว” ด้วงสะอึกสะอื้นจนนับตังค์หน้าเสีย

“ผมว่ามันไม่ปกติแล้วนะ ด้วงกลัวเสียงดังๆ กลัวเวลามีการใช้ความรุนแรง กลัวความมืดด้วยนะ วันนั้นที่ตังตื่นไปวิ่ง ด้วงตื่นมาแล้วในห้องมันมืด ด้วงร้องไห้บอกกลัวๆ จนรู้ว่ามีพี่นอนอยู่ถึงได้ยอมเงียบ” มีคุณเห็นอาการของด้วงแล้วเริ่มคิดว่ามีอะไรที่ผิดปกติ

“ตอนที่ด้วงอยู่กับคุณปู่เป็นแบบนี้ไหมพี่บ่าว พี่สาลี่” นับตังค์ถามขมิ้นและสาลี่

“พี่ก็ไม่ค่อยได้สังเกต เพราะเวลาอยู่กับนายปู่ ท่านไม่เคยใช้ความรุนแรงหรือเสียงดังกับหนูด้วงค่ะ แต่เวลาที่เราคุยกันเสียงดังหนูด้วงก็ไม่เคยมีทีท่าหวาดกลัวขนาดนี้นะคะน้องตัง” สาลี่แสดงความคิดเห็น

“แสดงว่าอาจจะเกิดหลังจากที่ไปอยู่กับคุณขจี ซึ่งคุณขจีท่านคงให้ดาวเรืองคอยดูแล” พายพัดแสดงความาคิดเห็นบ้างก่อนจะลูบผมด้วงเบาๆ แต่ก็ไม่ลืมที่จะลูบผมของใบเมี่ยงด้วย

“จะหามัม” ด้วงหยุดร้องไห้แล้วใบเมี่ยงจึงปล่อยด้วงลง ด้วงเดินมาหานับตังค์แล้วชูมือให้อุ้ม

“สองวันมานี่ ฉันได้เจอดาวเรืองช่วงที่พักที่บ้านของคุณป้า ต่อหน้าคุณป้าดูไม่มีพิษภัยอะไรเลยนะ ดูเรียบร้อยเอางานเอาการมาก” รัญญรีเล่าให้ทุกคนฟัง

“สร้างภาพมากกว่า ฉันเจอฤทธิ์เดชมาแล้ว” นับตังค์อุ้มด้วงขึ้นมาก่อนจะส่ายหน้าเมื่อนึกถึงดาวเรือง

“ดาวเรืองเคยเป็นพนักงานที่โรงแรมของนายหัวพยนต์มาก่อน เป็นคนรับใช้ใกล้ชิดคุณใหญ่ สาลี่หมายถึงคุณพยงค์ลูกคนโตของนายหัวค่ะ แต่โดนนายหัวไล่ออกเพราะยุยงให้คุณใหญ่ได้เสียกับคนงาน คุณขจีสงสารเลยรับไว้ทำงาน ตอนเจอที่โรงแรมก็ดูเป็นคนเรียบร้อยนะคะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะร้ายกับเด็กตัวแค่นี้ได้” สาลี่เล่าปูมหลังของดาวเรือง

“พรุ่งนี้ลองดูท่าทีของด้วงอีกทีเวลาเจอกับดาวเรือง” มีคุณฟังทุกคนพูดถึงดาวเรืองแล้วได้แต่เก็บข้อมูลเอาไว้ แต่ถ้ารู้ว่าดาวเรืองเคยรังแกด้วงจริงๆ มีคุณจะไม่ยอมปล่อยเฉยแน่


คุยกันได้อีกพักใหญ่ รัญญรีกับหม่องก็ขอตัวกลับเพราะว่าตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาจนเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ทั้งคู่อยากให้นับตังค์ได้พักเพราะกลัวไข้จะกลับมาอีก ด้วงก็ดูจะง่วงเพราะหาวให้เห็นหลายที เมื่อขมิ้นกับสาลี่ขออาสาเป็นคนเก็บล้างทำความสะอาดให้เอง พายพัดกับใบเมี่ยงเลยขอเป็นคนเดินไปส่งรัญญรีกับหม่องถึงรีสอร์ทของคุณขจี ถึงระยะทางจะไม่ไกลจากกัน แต่มันก็ดึกมากแล้ว นับตังค์กับมีคุณจึงเป็นคนพาด้วงขึ้นไปนอน


“ไม่ต้องอาบน้ำหรอก เช็ดตัวก็พอ” มีคุณบอกกับนับตังค์หลังจากที่นับตังค์พาด้วงไปล้างหน้าล้างตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้ว

“อาบไม่ได้เหรอ ไม่ได้อาบมาทั้งวัน เดี๋ยวเหม็น” นับตังค์หน้ามุ่ย

“ไหนมาดมก่อน” มีคุณยื่นหน้าเขาไปใกล้ๆ ด้วงรีบลุกมาแล้วพยายามดึงมือของนับตังค์ให้ไปนอนด้วยกัน

“ฟังหยูกหมูฉามตัว มีหมาป่าเป่าบ้านปู้ดๆ หนูจาเป่าบ้าน มัมมัมเย้าให้ฟังหน่อย” ด้วงเจื้อยแจ้วไม่ยอมหยุด

“พี่อาบน้ำก่อนได้ไหม” นับตังค์ถามด้วง ด้วงชะโงกไปมองมีคุณ

“ไม่ได้ แค่เช็ดตัวก็พอ มันดึกแล้ว ตัวยังอุ่นๆ อยู่เลย” มีคุณยังไม่ยอมให้นับตังค์อาบน้ำ

“ไม่อาบ มันดึกแย้ว” ด้วงส่ายหน้าให้กับนับตังค์

“ทำไมเข้าข้างกันแล้วล่ะ” นับตังค์จิ้มไปที่หน้าผากของด้วงเบาๆ

“เดี๋ยวหนูนอนนี้ มัมมัมนอนนี้ มัมมัมมาเย่าหยูกหมูให้หนู ไม่ต้องอาบแย้ว” ด้วงเดินมาชี้ที่นอน จัดตำแหน่งให้เสร็จสรรพ

“แล้วแด๊ดนอนไหนล่ะด้วง” มีคุณถาม

“แด๊ดนอนตุงนู้นเยย” ด้วงชี้ไปที่โซฟา

“ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้า” นับตังค์หัวเราะชอบใจ

“เอาแบบนี้ ด้วงกับมัมเป็นหมู ให้แด๊ดเป็นหมาป่า ดีไหม” มีคุณล่อหลอกเพื่อที่จะได้นอนบนเตียงด้วย

“เอาๆ จัวแด๊ด แด๊ดจะจินหยูกหมู” ด้วงพยักหน้าก่อนจะซอยเท้ายิกๆ ทำเป็นหนีมีคุณ ก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วเอาผ้าห่มมาคลุมบังตัวเองเอาไว้

“อย่าทำให้ด้วงตกใจนะ” นับตับค์กระซิบบอกเพราะกลัวด้วงจะร้องไห้อีก

“แด๊ดไม่กินลูกหมูตัวเล็กหรอก แด๊ดจะรอกินลูกหมูตัวใหญ่” มีคุณยิ้มเจ้าเล่ห์

“เคยเห็นหมาป่าฟันหักไหม” นับตังค์ถาม

“ทำไม ลูกหมูตัวใหญ่หนังเหนียวขนาดนั้นเลยเหรอ” มีคุณแกล้งตกใจ

“ทั้งเหนียวทั้งเค็มเลยเหอะ กัดคำหนึ่งก็แสนหนึ่ง” นับตังค์ลอยหน้าลอยตาใส่

“แพงจัง งั้นคงต้องเลือกที่กัด กัดตรงไหนดีนะ เอาแบบคำเดียวอิ่ม” มีคุณเอานิ้วมาเกาคางแล้วมองนับตังค์ตั้งแต่หัวไปหยุดตรงเป้าหมายสำคัญ นับตังค์รีบลดมือไปกุมเป้าของตัวเองก่อนจะหันหลังให้มีคุณ หันไปเจอด้วงกำลังลดผ้าห่มลงมาจนเห็นดวงตาเป็นประกายใสซื่อบริสุทธิ์

“มัมมาหยบตุงนี้ หมาป่าจาจัดมัม จะจินมัม” ด้วงเรียกนับตังค์ให้มาหลบด้วยกัน นับตังค์เลยกระโดดขึ้นเตียงแล้วสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มกับด้วง

“คิดจะหลบในบ้านเหรอ หมาป่าจะเป่าบ้านแล้วนะ” มีคุณขยับเข้าไปใกล้เตียงแล้วทำท่าคลานให้เหมือนหมาป่า

ด้วงเห็นมีคุณแล้วตื่นเต้นสนุกสนาน หัวเราะคิกคักก่อนจะหมุดหลบเข้าไปในผ้าห่ม มีคุณคลานมาจนถึงตัวของนับตังค์ได้ก็ก้มลงไปจูบนับตังค์ ด้วงก็ดิ้นดุ๊ดดิ๊กแอบอยู่ในผ้าห่มไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว จนมีคุณถอนจูบออกเป็นจังหวะเดียวกับที่ด้วงโผล่ออกมาจากผ้าห่มพอดี

“หมาป่าเป่าปู้ดๆ” ด้วงหน้ามุ่ยทำท่าเป่าปากให้ดู เพราะไม่เห็นว่าหมาป่าจะเป่าให้บ้านปลิวสักที

“นั่นดิ ไม่ได้เรื่อง” นับตังค์หน้าแดงแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมหน้าของตัวเอง

“โอเค เอาใหม่นะ หมาป่ามาแล้ว” มีคุณอมยิ้มก่อนจะถอยไปตั้งหลักที่ขอบเตียงใหม่ เมื่อทำท่าคลานมาด้วงก็หัวเราะแล้วหลบไปในผ้าห่มอีกรอบ จนมีคุณทำเสียงเป่าให้ได้ยิน ด้วงถึงหัวเราะเสียงดัง

“เรามาจัดการหมาป่ากัน” นับตังค์บอกกับด้วงก่อนจะดึงผ้าห่มออกแล้วดันมีคุณให้ล้มก่อนจะคร่อมทับตัวของมีคุณ ด้วงลุกขึ้นมานั่งคร่อมตรงอกของมีคุณบ้าง

“ฉู้กับหมาป่า” ด้วงหัวเราะชอบใจ แต่ด้วงไม่ได้ทำอะไรมีคุณเลย หากเป็นเด็กคนอื่นคงตีหมาป่าด้วยความสนุกตามประสาเด็ก ด้วงแค่พูดแล้วทำท่าต่อยลมแค่นั้น นับตังค์เห็นแล้วอดเอ็นดูด้วงไม่ได้จึงหอมแก้มด้วงแล้วกระซิบที่หู ด้วงได้ยินแล้วก็ก้มลงไปหอมมีคุณ เพราะนับตังค์บอกว่าถ้าหอมหมาป่า หมาป่าจะตายไปเอง แต่ด้วงหอมทั้งซ้ายทั้งขวา แต่หมาป่าแด๊ดดี้ก็ไม่ยอมตายสักที

“มัมฆ่าหมาป่าเยย” ด้วงลุกออกจากตัวของมีคุณแล้วดึงแขนเสื้อของนับตังค์ให้ขยับขึ้นมา คราวนี้มีคุณรีบป่องแก้มรอ

“ด้วงฆ่าสิ มัมไม่ฆ่าหรอก” นับตังค์รีบโวยวายเบาๆ ไม่กล้าเสียงดังกลัวด้วงตกใจ

“ไม่เอา มัมทำ มัมทำ” ด้วงกระโดดซอยเท้าเร่งเร้าให้นับตังค์ทำเพราะกลัวหมาป่าจะมาเป่าบ้านอีก สุดท้ายนับตังค์จำต้องก้มลงไปหอมแก้มมีคุณ แต่มีคุณก็ยังไม่ยอมแกล้งตายสักที ด้วงจึงลงไปนั่งข้างๆ แล้วช่วยหอมแก้มมีคุณจนน้ำลายเต็มแก้มของมีคุณไปหมด

“ฮ่าๆ” นับตังค์หัวเราะเยาะมีคุณ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อมีคุณรั้งคอนับตังค์ให้โน้มลงมาแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมก่อนจะจูบนับตังค์เพราะทนความน่ารักของนับตังค์ไม่ได้

“หมาป่าจินมัมแย้ว มัมตายแย้ว หนีๆ หนูหนีจ่อน” ด้วงเห็นนับตังค์หายเข้าไปในผ้าห่มกับหมาป่าก็ร้องโวยวายตามประสาเด็ก ก่อนจะหนีไปนอนซบที่หมอน แอบตะแคงหน้ามาดูก็ยังไม่เห็นนับตังค์ออกมาจากผ้าห่ม จนพักใหญ่ที่ผ้าห่มถูกเปิดออก นับตังค์ทิ้งตัวลงมานอนข้างด้วง หน้าแดงไปหมดจนด้วงกลิ้งมานอนกอดแขนของนับตังค์เอาไว้

“มัมมัมเยือดออกหน้าเยย ยิงหมาป่าโป้งเยย” ด้วงลูบแก้มนับตังค์ก่อนจะยกนิ้วทำเป็นปืนยิงไปที่มีคุณ มีคุณเลยต้องแกล้งตายบ้าง

“นอนกันเนอะ” นับตังค์พลิกตัวมากอดด้วงแล้วลูบผมเบาๆ ด้วงจึงยอมนอนนิ่งๆ

มีคุณเห็นว่าด้วงกับนับตังค์เงียบไปแล้วเลยพลิกตัวมาแล้วสวมกอดนับตังค์จากทางด้านหลังบ้าง หอมไปที่ผมของนับตังค์เบาๆ ก่อนจะหลับตาลง ปกติเขาไม่เคยนอนโดยที่ยังไม่ได้อาบน้ำ อย่างที่บอกไปว่าเขาเป็นคนรักสะอาด แต่ทำไมวันนี้เขากลับรู้สึกสดชื่นสบายตัว ทุกอย่างรอบตัวดูจะหอมหวานไปหมด ได้กลิ่นแป้งเด็กของด้วง ผสมกับกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวนับตังค์ มันทำให้มีคุณไม่อยากลุกไปไหนแล้ว

การได้ใกล้ชิดกับนับตังค์มันทำให้มีคุณมีคำถามให้กับตัวเอง การที่เขาได้กอด ได้จูบ ได้ใกล้ชิด มันทำให้ร่างกายของเขาเกิดความต้องการตามกลไลของความเป็นมนุษย์ แต่ความต้องการนี้มันไม่ได้ก่อเกิดจากความหื่นกระหายหรือความดิบของตัณหา ต้องการมากแต่ไม่ทุรนทุราย มันดูย้อนแย้งในตัวเอง มีคุณไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกนี้ออกมาได้อย่างไร และควรใช้ถ้อยคำไหนถึงจะเหมาะสมกับอาการแบบนี้ เคยวิจารณ์อาหารมาตั้งมากมาย แต่พอมาถึงความรู้สึกที่มีต่อผู้ชายที่ชื่อนับตังค์คนนี้ มีคุณกลับไปไม่เป็น เมื่อไม่มีเหตุผลที่ดีมารองรับความรู้สึกที่เกิดขึ้น มีคุณจึงเดาว่า แบบนี้รึเปล่าที่เรียกความรัก

...เพราะเคยได้ยินมาว่า รักทำให้เราทำอะไรได้อย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นได้ เราโง่ได้แม้จะเป็นคนฉลาด เราฉลาดได้แม้จะเคยโง่มาก่อน เราร้องไห้และหัวเราะได้กับเรื่องไร้สาระในสายตาของคนอื่น เราลบเงื่อนไขที่เคยมีอย่างง่ายดาย เราเป็นอะไรได้ทุกอย่างโดยปราศจากทุกเหตุผลบนโลกใบนี้เมื่อเราอยู่ในห้วงแห่งความรัก...

“ฝันดีนะ...ที่รัก” มีคุณพูดเบาๆ ไม่รู้ว่านับตังค์ได้ยินรึเปล่า

ส่วนนับตังค์ที่นอนหันหลังให้มีคุณอยู่ก็ได้แต่ยิ้มออกมา แต่ก่อนเคยคิดว่าถ้าตัวเองโดนเรียกว่าที่รักคงจะเลี่ยนพิลึก แต่เมื่อถึงเวลาจริง การได้ยินคำนี้มาจากปากคนที่ตัวเองชอบ มันกลับทำให้ใจเต้นรัว รู้สึกมีความสุขจนอยากจะหันกลับไปกอดคนพูดแน่นๆ แต่เพราะเด็กน้อยที่นอนซบแขนของนับตังค์อยู่ทำให้นับตังค์ไม่กล้าขยับตัว จึงได้แต่ยิ้มและหลับตาลง คิดในใจว่า

‘เดี๋ยวตังจะกอดบอสในฝันไปก่อนแล้วกัน ก็สะดวกแบบนี้ให้ทำยังไงได้เนอะ’


...


เสียงนาฬิกาปลุกยังไม่ทันจะดังแต่นับตังค์ต้องตื่นขึ้นมาก่อน เพราะว่าโดนก่อกวนจากเจ้าตัวน้อยที่ตื่นขึ้นมาแล้วขึ้นมานอนบนตัวของนับตังค์ ด้วงคงตื่นขึ้นมาแล้วกลัวความมืด นับตังค์จับด้วงให้ลงไปนั่งข้างๆ ลุกขึ้นมาแล้วหยิบนาฬิกาขึ้นมาดู เห็นว่าเกือบจะตีห้าแล้ว มีคุณยังหลับสนิทอยู่ ด้วงก็ตื่นแล้ว นับตังค์เลยตัดสินใจพาด้วงไปล้างหน้าล้างตาล้างก้นแล้วพาลงไปข้างล่าง นับตังค์พาด้วงไปในสวน แล้วให้ด้วงยืนรออยู่ที่ศาลานั่งเล่นเพราะกลัวว่าจะโดนน้ำค้าง ส่วนตัวเองเด็ดดอกไม้ที่ต้องการได้จนครบแล้วจึงพาด้วงกลับเข้าไปในครัว


ถึงเวลาตีห้าขมิ้นก็ขับรถมาจอดรออยู่ที่หน้าบ้านตรงเวลา นับตังค์อุ้มด้วงเข้ามาในรถก่อนจะส่งขวดนมให้ด้วงกิน ขมิ้นทักทายด้วงก่อนจะขับรถพาทั้งคู่ไปที่ตลาดสด เมื่อมาถึงตลาด นับตังค์ให้ด้วงเลิกดูดขวดนมแล้วให้ลงเดินเอง โดยตนเองจูงมือเอาไว้ตลอด ด้วงตื่นตาตื่นใจเมื่อได้เห็นปลาที่ดิ้นอยู่ในกะละมัง ปลาตัวหนึ่งดีดตัวอย่างแรงจนน้ำกระเด็นขึ้นมา ด้วงตกใจจึงเดินถอยหลังไปอย่างเร็วจนกระทั่งไปชนกับคนที่เดินอยู่ด้านหลัง


“ขอโทษครับ” นับตังค์หันไปขอโทษคนที่ด้วงเดินชน พบว่าเป็นชายสูงวัย รูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางดูน่าเกรงขาม

“ทำไมไม่รู้จักจูงเด็กให้ดี นายเจ็บไหมครับ” ผู้ชายที่เดินตามชายสูงวัยมาเข้ามาดุด้วงกับนับตังค์ ก่อนจะหันไปพินอบพิเทาเจ้านายของตัวเอง

“จัว หนูจัว” ด้วงหันมากอดขาของนับตังค์แล้วเริ่มเบะปากเมื่อโดนดุเสียงดัง

“เด็กตัวนิดเดียวจะไปเจ็บอะไร แกก็เวอร์ไม่เข้าเรื่องนะไอ้เท่ง” คนเป็นนายหันมาต่อว่าลูกน้อง

“ผมขอโทษด้วยครับ ด้วงครับ ขอโทษคุณลุงก่อน” นับตังค์ยกมือไหว้ชายสูงวัยเมื่อเห็นว่าดูมีความเข้าใจในสถานการณ์มากกว่าคนที่เป็นลูกน้อง ด้วงลังเลยังไม่กล้าหันไปมอง จนนับตังค์จับด้วงให้หันไป ด้วงเง้ยขึ้นมองหน้าคนตรงหน้าก่อนจะยกมือไหว้แล้วรีบหันกลับมากอดนับตังค์ใหม่

“ไม่เป็นไร ชื่อด้วงเหรอ ไหนขอลุงอุ้มหน่อย เดี๋ยวลุงให้ขนม” ชายสูงวัย ซึ่งก็คือพยนต์ พูดกับด้วงด้วยความเอ็นดู

“ด้วงครับ ผู้ใหญ่คุยด้วยหันมาก่อน” นับตังค์ย่อตัวลงแล้วพูดกับด้วง ด้วงก้มหน้าก้มตาก่อนจะยอมหันกลับไปมอง

“ไม่เอาไม่อุ้ม” ด้วงส่ายหน้า

“อยากกินขนมไหม ลุงมีขนมครกอร่อยมากเลยนะ” พยนต์ชวนด้วงคุย ด้วงมองหน้านับตังค์ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้พยนต์ พยนต์จึงสั่งเท่งให้ไปเอาขนมครกเจ้าดังของตลาดมาให้ด้วง สักพักเท่งก็วิ่งกลับมาพร้อมถุงขนมครกร้อนๆ

“ขอบคุณครับก่อน” นับตังค์บอกด้วง ด้วงยกมือไหว้อย่างว่าง่าย

“นายหัวพยนต์” ขมิ้นเดินมาสมทบนับตังค์หลังจากที่เอารถไปจอดเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นนับตังค์คุยอยู่กับนายหัวพยนต์ก็ตกใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อมาถึงขมิ้นก็ยกมือไหว้ด้วยมารยาท ทั้งๆ ที่ขมิ้นไม่ชอบนายหัวพยนต์อย่างแรง

“มาด้วยกันเหรอ” นายหัวพยนต์เห็นขมิ้นก็เปลี่ยนสีหน้าท่าทาง น้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนเมื่อครู่เข้มขึ้นจนนับตังค์รับรู้ได้

“ที่แท้ก็ไอ้ขมิ้นข้าทาสไอ้อนันต์นี่เอง” เท่งเปิดฉากทันทีที่เห็นขมิ้น

“มึงนิ...” ขมิ้นจะเดินเข้าหาเท่งแต่นับตังค์คว้าข้อมือเอาไว้

“ผมขอตัวไปซื้อของก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับขนม” นับตังค์ยกมือไหว้พยนต์ ด้วงยกมือไหว้ตาม พยนต์เห็นแล้วแค่พยักหน้าให้ก่อนจะหันหลังเดินออกไปด้วยท่าทีหมางเมินต่างจากตอนแรกเจอ

“กูไปก่อนนะไอ้ทาส” เท่งพูดกับขมิ้นก่อนจะหัวเราะเสียงดัง

“ไม่น่าห้ามพี่เลยนิตังนิ” ขมิ้นเจ็บใจ

“ตังไม่อยากให้ด้วงเห็นความรุนแรง” นับตังค์บอกเหตุผล

“เออ พี่ลืมไป โทษทีนิ” ขมิ้นถอนหายใจออกมาเพื่อระบายความโกรธ

“ไปซื้อของต่อดีกว่า อย่าไปใส่ใจพวกปากหมาเลย” นับตังค์อุ้มด้วงส่งให้ขมิ้น เพราะตัวเองต้องเลือกของ แต่เดินเลือกได้ไม่เท่าไหร่ก็มีคนเดินมากระชากไหล่ของนับตังค์อย่างแรง

“เมื่อกี้มึงว่าใครปากหมา” เท่งท่าทางเอาเรื่องนับตังค์ พูดเสียงดังจนด้วงสะดุ้ง แม่ค้าขายปลาโทรไปบอกเท่งว่านับตังค์ด่าเท่งว่าปากหมา เท่งถึงได้ย้อนกลับมาจัดการคนที่ด่าตนลับหลัง

“พี่พาด้วงไปที่รถก่อน เอาของไปเก็บด้วย” นับตังค์บอกกับขมิ้น

“หม่าย ตังแหละพาด้วงไป ทางนี้พี่จะจัดการเองนิ” ขมิ้นรู้สึกอยากจะลองหมัดกับไอ้เท่งจะแย่แล้ว

“พี่บ่าว ทำอย่างที่ตังบอกนะ” นับตังค์พูดกับขมิ้นด้วยท่าทางจริงจัง ขมิ้นลังเลเพราะกลัวนับตังค์จะถูกทำร้าย แต่สุดท้ายก็จำต้องอุ้มด้วงออกไปด้วยความขัดใจ

“กลัวแพ้แล้วอายเด็กรึไงว่ะไอ้หน้าอ่อน” เท่งเยาะเย้ยนับตังค์

“จะเอาตรงนี้หรือตรงไหน บอกมาเลย ถ้าตรงนี้ข้าวของพัง มึงบอกเจ้านายมึงเองนะว่ามึงหาเรื่องเอง” นับตังค์ถาม เขาไม่จำเป็นต้องสุภาพกับคนถ่อย ถ่อยมาก็ถ่อยกลับไม่มีโกง

“ฮ่าๆ โธ่เอ้ย หน้าอ่อนอย่างมึง ของยังไม่ทันพังหรอก หมัดเดียวมึงก็จอดแล้ว” เท่งหัวเราะเยาะ



(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2017 12:58:30 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


“ฮ่าๆ โธ่เอ้ย หน้าอ่อนอย่างมึง ของยังไม่ทันพังหรอก หมัดเดียวมึงก็จอดแล้ว” เท่งหัวเราะเยาะ


อั๊ก...พลั๊ก อุก...ฟุบ...


ชั่วนาทีหลังจากเท่งหัวเราะเยาะนับตังค์ ตอนนี้เท่งลงไปนอนกองกับพื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนับตังค์จะได้วิชาอาหารมาจากคุณย่าแล้ว นับตังค์ก็ยังได้วิชามวยไทยมาจากพ่อด้วย พ่อสอนนับตังค์กับพี่เหรียญมาตั้งแต่ยังเด็กแล้ว คิดแล้วนับตังค์ก็นึกสงสารเท่งที่นอนกุมคอดิ้นไปดิ้นมาด้วยความเจ็บปวดเพราะเจอนับตังค์ศอกใส่ลำคอไปแบบเบาๆ ถึงจะเบาแต่ก็ทำให้เท่งถึงกับเข่าอ่อนไร้เรี่ยวแรง ถ้านับตังค์ลงแรงศอกมากกว่านี้เท่งอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย


“เฮ้ย อ้ายเท่งนิ มึงทำเพื่อนกู” ผู้ชายสามสี่คนวิ่งกรูเข้ามาหานับตังค์หลังจากที่เห็นว่าเท่งถูกเล่นงานไปแล้ว

“หยุด!!” เสียงตวาดดังจนเพื่อนของเท่งต้องหยุดชะงักเพราะจำได้ว่าเป็นเสียงของใคร

“นายพญา” เพื่อนของเท่งครางชื่อคนที่เดินเข้ามา

“พวกมึงจำเอาไว้นะ ผู้ชายคนนี้มึงห้ามเตะ ถ้าพวกมึงทำให้ผมเส้นหนึ่งของน้องตังร่วง มึงตาย” เสียงกร้าวของพญาทำเอาเพื่อนของเท่งหน้าเสีย

“ครับนาย ผมไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนนาย ไปพวกเรา พาไอ้เท่งไปหาหมอก่อน” เพื่อนของเท่งยกมือไหว้พญาก่อนจะประคองเท่งให้ลุกขึ้นแล้วพาออกไป

“เออ จำให้ดี วันนี้เป็นแค่เพื่อน วันหน้าจะเป็นนายของพวกมึงนี่แหละ” พญาพูดแล้วหัวเราะด้วยความพอใจ ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้นับตังค์แต่ปรากฎว่านับตังค์เดินหนีไปแล้ว พญารีบจ้ำอ้าวตามนับตังค์ไปติดๆ

“พี่ขอโทษแทนเด็กๆ ของพ่อพี่ด้วยนะ มันไม่รู้ว่าน้องตังเป็นใคร แต่จะว่าไป น้องตังนี่เก่งจริงๆ อาหารก็เก่ง ต่อสู้ก็เป็น พี่ช๊อบชอบ” พญายกยอนับตังค์ออกนอกหน้าจนพ่อค้าแม่ค้าพากันมองด้วยความสนใจ

“มีแฟนแล้ว เข้าใจนะ” นับตังค์หยุดเดินแล้วพูดกับพญา พญาชะงักกึกก่อนจะถอนหายใจ

“พี่เข้าใจว่าน้องตังมีเมียมีลูกแล้ว แต่พี่ไม่ถือ” พญาทำหน้าเศร้า แต่นับตังค์กลั้นขำที่พญาคิดว่าด้วงคือลูกแท้ๆ ของนับตังค์ แล้วยังคิดว่านับตังค์มีเมียอีก

“รอเมียทิ้งก่อนแล้วค่อยว่ากัน อย่าตื้อมาก ไม่ชอบ เข้าใจนะ” นับตังค์เล่นไปตามน้ำ พูดกับพญาเสียงเข้ม วางมาดแมน พญาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ อีกครั้ง

“พี่จะรอนะจ๊ะน้องตัง เป็นผัวแล้วมันเพลีย มาเป็นเมียพี่นะจ๊ะ” พญากระซิบนับตังค์เบาๆ


นับตังค์กลั้นขำแทบไม่อยู่แต่ก็เก็กหน้าแล้วเดินเลือกซื้อของต่อ พญาไม่ได้เดินตามไปเพราะยังไม่อยากให้นับตังค์รำคาญ แต่ในใจก็คิดแผนการที่จะทำให้เมียของนับตังค์ทิ้งนับตังค์ให้ได้ ทีแรกก็คิดว่านับตังค์จะเป็นแฟนของไอ้มีคุณ หลานของนายอนันต์คู่ปรับของพ่อ เห็นทำตัวติดกันตลอด แต่เขาเพิ่งได้รู้มาว่าแฟนของมีคุณคือเพื่อนของพเยียน้องสาวของเขาเอง พญาเลยเบาใจ เบาใจได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องมาเครียด เพราะนับตังค์ดันมามีลูกมีเมียแทน ซึ่งเมียของนับตังค์เป็นใครก็คงต้องไปถามเอากับสาลินีอีกที แต่ถึงยังไงพญาก็ไม่มีวันถอดใจ เขาตกหลุมรักนับตังค์เข้าอย่างจริงจัง ถ้าไม่ได้มาครองคงต้องเป็นบ้าตายแน่ๆ


เมื่อซื้อของได้ครบตามที่ต้องการ นับตังค์ก็เดินกลับมาที่รถ ขมิ้นมองนับตังค์อย่างสำรวจ เมื่อเห็นว่าร่างกายของนับตังค์ไม่มีบาดแผลใดๆ และไร้รอยขีดข่วนก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก นับตังค์ไม่ได้เล่าให้ฟัง หันไปเล่นหยอกล้อกับด้วงจนถึงบ้าน


“มันยอมเลิกราแต่โดยดีเหรอ พี่ล่ะไม่อยากจะเชื่อนิ” ขมิ้นถามย้ำเมื่อนับตังค์บอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ตังเป็นคนรักสงบ” นับตังค์เดินมาเปิดโหลแก้วที่เอาดอกไม้สี่ชนิดมาลอยน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไปตลาด เมื่อดมแล้วได้กลิ่นหอมก็พอใจ

“มัมๆ จินหนม” ด้วงชี้ไปที่ถุงขนมครก นับตังค์จึงอุ้มด้วงให้ขึ้นมานั่งบนเคาน์เตอร์แล้วส่งถุงขนมครกให้

“ร้อนนะ เป่าก่อน” นับตังค์บอกก่อนเป่าขนมให้ดูเป็นตัวอย่าง

“ฟู่ๆ” ด้วงก้มลงเป่าขนมครกในถุง

“ถ้าเจอมันอย่าไปใกล้มันอีกนะ พวกนี้มันอันธพาล ร้ายกาจเหมือนนายของมัน โดยเฉพาะไอ้พญา” ขมิ้นเตือนกลัวนับตังค์จะโดนรุมเล่นงาน

“อิตาพญายมนั่นอาจจะไม่ได้ร้ายอย่างข่าวลือหรอกมั๊ง ตังว่าฮาดีออก”

“อย่าไปหลงเสน่ห์มันนิ”

“โอ้ย ไม่หรอกพี่บ่าว ไม่ต้องห่วง มีแฟนแล้ว” ตังกระซิบบอกก่อนจะหัวเราะขำตัวเองที่กล้าพูดออกไป

“ดีๆ จะให้พี่ช่วยอะไรก็บอกนิ”

“ช่วยดูด้วงให้หน่อย เดี๋ยวตังทำเอง ไม่ยาก แต่ขั้นตอนเยอะแค่นั้นแหละ”

“เดี๋ยวพี่ดูด้วงให้เอง ขมิ้นจะได้ไปพักบ้าง เมื่อคืนกว่าจะได้กลับไปนอนก็ดึกแล้ว” มีคุณลงมาในครัวแล้วอาสาเป็นคนดูด้วงให้ ขมิ้นจึงขอตัวไปกวาดใบไม้ที่ร้าน เสร็จแล้วจะกลับไปอาบน้ำที่บ้านแล้วถึงจะกลับมาช่วยในครัวทีหลัง



นับตังค์เอาข้าวสารมาใส่หม้อแล้วนำไปต้มไฟอ่อน ต้มแค่พอใกล้สุกก็รินน้ำร้อนออกแล้วใส่น้ำเย็นเข้าไปแทนที่ เมื่อล้างน้ำเย็นจนข้าวคลายร้อนแล้วถึงได้กรองน้ำออก นับตังค์ขัดข้าวบนหลังกระชอนเบาๆ แค่พอให้ข้าวไม่เป็นขุย เมื่อข้าวขึ้นเป็นเม็ดสวยใสแล้วจึงนำไปห่อในผ้าขาวบางแล้วนำไปนึ่งในน้ำเดือดอีกครั้ง


จากนั้นนับตังค์ก็นำพริกหยวกมาคว้านไส้ออกแล้ววางเตรียมไว้ก่อนจะนำหมูสันนอกติดมันมาสับจนละเอียด ปรุงรสแล้วใส่เนื้อปูกับผักชีสับไปคลุกเคล้าเพิ่มความหอม เสร็จแล้วก็นำไปยัดไส้ในพริกหยวกที่เตรียมเอาไว้แล้วรอนึ่ง เสร็จจากพริกหยวกสอดไส้ นับตังค์ก็เริ่มมาทำหอมแดงยัดไส้ลูกกะปิ นับตังค์ใช้ปลาดุกย่างเลาะก้างออกจนหมด โขลกกับเครื่องสมุนไพรไทยจนละเอียด แล้วถึงได้นำไปผัดกับกะปิอย่างดี  ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเนื้อเหนียวข้นและส่งกลิ่นหอม ชิมแล้วได้รสเป็นที่น่าพอใจก็ตักใส่ชามแล้วรอให้เย็นลงเพื่อจะปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ


มีคุณยืนมองดูนับตังค์ค่อยๆ ปั้นลูกกะปิเป็นก้อนเล็กๆ ก่อนจะยัดเข้าไปในหอมแดงที่คว้านเอาเนื้อตรงกลางออกแล้วด้วยความชื่นชม เป็นภาพที่น่ามองเหมือนกันทุกครั้งเวลาที่ได้เห็นการใส่ใจในทุกขั้นตอนในการลงมือทำอาหารของนับตังค์ แม้แต่ไข่แดงเค็มก้อนกลมเล็กนั้น นับตังค์ก็ปั้นด้วยความพิถีพิถัน นับตังค์บอกกับมีคุณว่า พริกหยวกสอดไส้ที่นึ่งแล้วจะต้องห่อด้วยไข่ที่ทำเป็นตาข่ายอีกที ส่วนลูกกะปิผัดและไข่แดงเค็ม จะต้องชุบแป้งกับไข่แล้วทอดให้กรอบนอกนุ่มใน แต่นับตังค์คิดว่าค่อยนำไปทอดก่อนจะไปหาคุณขจี ทอดใหม่ๆ จะได้กรอบอร่อย


ขั้นตอนต่อไปก็คือการผัดไชโป๊หวานและเนื้อหวานฝอย นับตังค์ทำทั้งเนื้อหวานและหมูหวานฝอย เพราะไม่รู้ว่าคุณขจีทานเนื้อวัวหรือเปล่า มีคุณเพิ่งเห็นว่าสูตรของนับตังค์คือการเอาเนื้อและหมูที่ย่างจนสุก ฉีกจนเป็นฝอยไปอบควันเทียนก่อน แล้วถึงได้เอามาทอดกับน้ำตาลมะพร้าวจนเข้ากันดี มีคุณได้ชิมก็ต้องยกนิ้วให้ หมูและเนื้อฝอยมีรสหวานกลมกล่อมและหอมกลิ่นเทียนอบเล็กน้อยเวลาได้ลิ้มลอง มันเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ เขาคิดว่ากลิ่นเทียนอบมันจะเหมาะกับการทำขนมอย่างเดียวเสียอีก


“พี่นึกว่าจะอบเทียนกับข้าว เพิ่งเคยเห็นว่าเอามาอบกับเนื้อสัตว์” มีคุณพูดกับนับตังค์หลังจากได้ลองชิมเนื้อหวานฝอย

“น้ำลอยดอกไม้ตั้งสี่อย่างแล้ว มีทั้งกระดังงา มะลิ กุหลาบ แล้วก็ชมนาด ถ้านำไปอบเทียน มันก็จะดับกลิ่นหอมธรรมชาติของดอกไม้พวกนี้หมด อีกอย่าง บางคนก็ไม่ชอบกลิ่นเนื้อสัตว์ เราก็อบควันเทียนสักครู่เดียวก็พอ แล้วพี่รู้ไหม ดอกไม้ที่ลอยน้ำพวกนี้คุณปู่ของพี่ปลูกเอาไว้สวน มีครบเลย ท่านก็คงชอบทานข้าวแช่แน่เลย” นับตังค์ตั้งใจทำข้าวแช่ใส่บาตรให้คุณปู่ด้วย

“ใกล้เสร็จแล้วเหรอ” มีคุณถามหลังจากที่เห็นนับตังค์เอาข้าวที่นึ่งมาผึ่งให้เย็น

“เดี๋ยวตังผัดหมูกับน้ำพริกมะขามอีกอย่าง แล้วตังจะทอดเครื่องบางส่วน จะให้พี่เอาไปใส่บาตรให้คุณปู่ พี่บ่าวบอกว่าพระท่านจะผ่านที่หน้าร้านทุกเช้าเลย”

“ฉาธุพระ” ด้วงยกมือไหว้ให้ดูหลายรอบ ปากก็เปื้อนไปด้วยขนมครก

“เก่งมากด้วง” นับตังค์ชม

“ใส่บาตรด้วยกันนะ” มีคุณเดินไปโอบรอบเอวของนับตังค์ เกยคางไว้ที่ไหล่

“ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่เห็นถ่ายรูปกับข้าวของตังเลย” นับตังค์ถามด้วยความสงสัย

“รู้ได้ไงว่าไม่ถ่าย” มีคุณถาม นับตังค์มองไปรอบๆ จึงได้เห็นว่ามีคุณตั้งกล้องเอาไว้อยู่มุมหนึ่ง

“อ๋อ เป็นโรคจิต พวกชอบแอบถ่ายนี่เอง แต่เอ๊ะ...เฮ้ย แบบนี้ที่กอดที่หอมตังก็อยู่ในวีดีโอหมดเลยอะดิ” นับตังค์เพิ่งนึกขึ้นได้

“ว้า รู้ทัน กำลังว่าจะเอาไปเผยแพร่อยู่เลย” มีคุณทำหน้าเสียดาย

“ไปดูด้วงเลย เดี๋ยวร่วงจากเคาน์เตอร์” นับตังค์หันไปเห็นด้วงยืนบนเคาน์เตอร์ก็รีบไล่มีคุณให้ไปดู แต่ใจจริงไม่อยากถูกถ่ายตอนโดนกอดมากกว่า เดี๋ยวจะมีหลักฐานว่านับตังค์ใจง่ายเต็มใจให้กอด

“เจ้าด้วงจอมป่วน หวงมัมจริงๆ เข้าใกล้ไม่เคยได้เลย สงสัยคืนนี้ต้องชวนเล่นหมูสามตัวอีก” มีคุณบ่นก่อนจะไปอุ้มด้วงลงมาจากเคาน์เตอร์ ด้วงวิ่งมาหานับตังค์ทันที

“อุ้มไม่ได้นะด้วง มือเปื้อน ให้แด๊ดอุ้มก่อน” นับตังค์บอกกับด้วง มีคุณอมยิ้มเมื่อเห็นนับตังค์พูดถึงตัวเขาว่าแด๊ด
 แต่ด้วงส่ายหน้าไปมาจนปลายผมกระจาย

“แด๊ดอุ้มแทนไงครับ” มีคุณยื่นมือไปจะอุ้ม แต่ด้วงก็ส่ายหน้าอีก

“ไม่ดื้อนะเด็กดี ถ้าให้แด๊ดอุ้ม เดี๋ยวพี่ให้กินขนม” นับตังค์หลอกล่อ แต่ด้วงก็ส่ายหน้าอีก แต่คราวนี้ทั้งนับตังค์และมีคุณได้ยินเสียงบางอย่างเล็ดลอดออกมาด้วย


...ปุ๋ง...


“ตัง ไปล้างมือไป” มีคุณรีบบอกนับตังค์เมื่อได้ยินด้วงตดออกมา

“พี่นั่นแหละ เป็นพ่อนะ พาด้วงไปอึเลย ตังยังทำกับข้าวไม่เสร็จ” นับตังค์โวยวาย

“เอางั้นเหรอ” มีคุณถามหน้าเจื่อนๆ เกิดมาไม่เคยล้างก้นให้เด็กเลย

“ก็งั้นแหละ” นับตังค์พยักหน้าให้

“ปวดอึเหรอด้วง” มีคุณถาม

“หนูไม่อึ ฮึก ไม่อึแย้ว ไม่ตีหนู หนูเจ็บ หนูไม่อึแย้ว” ด้วงงอตัวเพื่ออั้นความปวดเอาไว้จนดูน่าสงสาร มีคุณเห็นอาการแล้วรีบอุ้มด้วงขึ้นมา

“ไม่ตีหรอกครับ อึได้เลย ไม่มีใครตีด้วงหรอกครับ พี่พาไปอึนะครับ ไม่ร้องนะ ร้องแล้วจะปวดท้อง เดี๋ยวเราไปปล่อยระเบิดกันดีกว่า” มีคุณพยายามปลอบ เริ่มรับรู้แล้วว่าด้วงมีปมที่ใหญ่มากกว่าที่คิด

“ปล่อยยาเบิด” ด้วงสีหน้าดีขึ้นแล้วพูดกับมีคุณ

“ใช่ ปล่อยระเบิดกันเนอะ” มีคุณพาด้วงอุ้มออกไป ทิ้งให้นับตังค์มองตามไปด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลใจกับอาการของด้วง



นับตังค์เตรียมข้าวแช่สำหรับใส่บาตรเสร็จแล้ว มีคุณก็พาด้วงลงมาพอดี อาบน้ำแต่งตัวให้ด้วงเรียบร้อย ทั้งสามคนพากันไปรอใส่บาตรพระที่หน้าร้านอาหาร ไม่นานนักพระท่านก็เดินมา มีคุณจับมือของนับตังค์ตอนที่ตักข้าวใส่บาตร นับตังค์รู้สึกอายจนไม่กล้ามองหน้าพระท่าน ดีว่ามีด้วงมาร่วมใส่บาตรด้วย แถมยังพูด ฉาธุ ฉาธุ เจื้อยแจ้วจนทำให้ลืมอายไปได้บ้าง นับตังค์จึงปล่อยให้มีคุณจับมือตัวเองจนใส่บาตรเสร็จ เมื่อรับพรจากพระท่านเรียบร้อยแล้วก็พากันเดินกลับเข้าไปในบ้าน


พายพัดลงมาข้างล่างก่อนใบเมี่ยง เมื่อเห็นนับตังค์เตรียมเครื่องข้าวแช่เกือบเสร็จแล้วก็นึกทึ่งกับความปราณีตของนับตังค์ พายพัดยอมรับว่าภาพภายนอกของนับตังค์ดูไม่ใช่คนที่จะมาประดิษฐ์ประดอยทำอะไรแบบนี้เลย แต่นับตังค์ก็ทำมันออกมาได้ดีมาก ซึ่งมันทำให้พายพัดอยากที่จะเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับอาหารจากนับตังค์ให้มากกว่านี้ จากที่เคยได้แต่แอบสงสัยว่าทำไมใบเมี่ยงถึงอยากมาอยู่ที่นี่ ตอนนี้พายพัดกลับนึกดีใจที่ใบเมี่ยงตัดสินใจมา เพราะพายพัดก็เพิ่งจะรู้ใจตัวเองว่าอยากจะทำอาหารให้เก่งอย่างที่นับตังค์ทำได้เหมือนกัน


เมื่อถึงเวลาที่จะไปหาคุณขจี พายพัดกับใบเมี่ยงก็ได้ช่วยนับตังค์ทำตาข่ายไข่เพื่อห่อพริกหยวกยัดไส้จนเสร็จ เครื่องที่ต้องทอดก็ทอดจนส่งกลิ่นหอมไปทั่วครัว นับตังค์เอาข้าวนึ่งใส่หม้อดิน ส่วนน้ำลอยดอกไม้ก็ใส่เอาไว้ในโถแก้ว แยกน้ำแข็งบดใส่กระติกไป เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วก็เตรียมตัวพากันไปหาคุณขจีที่รีสอร์ท ส่วนรัญญรีและหม่องรออยู่ที่นั่นแล้ว


“ขอบใจนะที่ยังอุตส่าห์นึกถึงป้า ป้าก็รู้จากขมิ้นว่าเราจะมาดูแลกิจการต่อจากพี่อนันต์ ก็ว่าจะไปหาก็ยังไม่มีโอกาสสักที มาอยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง พออยู่ได้ไหม” หลังจากพิธีรดน้ำดำหัวเสร็จลง คุณขจีให้พรทุกคนแล้วก็ชวนมีคุณมานั่งคุยด้วย

“ทีแรกก็กังวลว่าจะอยู่ได้ไหม ผมเป็นพวกไม่ค่อยชอบอยู่กับที่ แต่พอได้มาอยู่ก็ชอบครับ สงบดี อากาศก็ดี” มีคุณตอบคุณขจีตามจริง

“ปู่ของเราเขารักที่นี่มากนะ ทุ่มเทให้กับมันมาก ป้าก็ดีใจที่เราตัดสินใจมารับช่วงต่อ อย่าขายมันเลยนะ” คุณขจีพูดเชิงขอร้อง

“เอ่อ...ผมจะพยายามครับ” มีคุณแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่กล้าที่จะพูดความจริงว่าที่มารับช่วงต่อก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น

“คุณป้าคะ มาทานข้าวแช่ฝีมือเพื่อนรันเองค่ะ รับรองว่าคุณป้าจะติดใจ” รัญญรีมาตามขจีไปทานข้าวแช่ที่จัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว


ขจีเห็นเครื่องข้าวแช่วางอยู่บนโต๊ะก็นึกชื่นชม ทุกอย่างดูสวยงามจนอยากจะเก็บเอาไว้ดู ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง แตงกวา กระชายที่แกะสลักมาวางเป็นเครื่องเคียงก็ยังดูสวยงามทั้งนั้น เมื่อได้ชิมข้าวแช่แล้ว กลิ่นหอมของดอกไม้และความเย็นจากน้ำแข็งทำให้ร่างกายที่ดูอ่อนล้าของเธอสดชื่นขึ้นมาได้ในทันที


“หอมมาก สดชื่นมาก หนูเก่งมากเลยนะนับตังค์ เครื่องเคียงรสชาติกลมกล่อมทุกอย่าง อร่อยมากที่สุดตั้งแต่ป้าเคยได้กินมา” ขจีเอ่ยชม

“ขอบคุณครับ” นับตังค์ยกมือไหว้จขีที่มอบคำชมมาให้

“หม่องมันหายไปไหน” รัญญรีมองหาเพื่อนสนิท เพราะหม่องเป็นคนที่อยากจะกินข้าวแช่ชาววังฝีมือนับตังค์มากที่สุด แต่ตอนนี้กลับไม่อยู่ที่โต๊ะกินข้าว

“มันอยากกินข้าวแช่ชาววัง เลยจัดให้” นับตังค์บอก


หลังจากที่นับตังค์พูดจบ เสียงดนตรีไทยก็ดังขึ้น ทุกคนหันไปมองก็เห็นว่าหม่องใส่ชุดไทยสไตล์เจ้าพระยาเดินเข้ามาในห้องทานอาหาร แล้วก็เริ่มรำแบบเก้ๆ กังๆ จนทุกคนทั้งขำทั้งสงสาร หม่องรำจนมาถึงโต๊ะอาหารถึงได้หยุดรำ แล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่


“เดี๋ยว พอยังไอ้ตัง ฉันอายเป็นนะเว้ย” หม่องถามนับตังค์

“แกไปบังคับมันเหรอ” รัญญรีถามนับตังค์ไปขำไป

“ก็มันอยากกินแบบชาววัง เลยบอกมันว่ามันต้องรำมากิน ถ้าไม่งั้นจะไม่ให้กิน” นับตังค์รีบเลื่อนเก้าอี้ให้หม่องนั่ง

“โคตรเห็นแก่กินเลย” รัญญรีว่าหม่องแถมยังขำไม่หยุด

“เดี๋ยว ก็แกดูดิ ฝีมือมันไม่ใช่ว่าใครจะได้กินง่ายๆ ให้หมอบคลานมาก็ยอม” หม่องมองข้าวแช่ฝีมือของนับตังค์แล้วกลืนน้ำลาย

“งั้นไปหมอบคลานมาใหม่” นับตังค์จะเลื่อนเก้าอี้เก็บ

“เดี๋ยว พอก่อนไหม เยอะไปละ” หม่องรีบชิงนั่งที่เก้าอี้ก่อนจะต้องไปคลานจริงๆ


ทุกคนบนโต๊ะอาหารต่างก็พากันหัวเราะ รวมถึงหนูด้วงที่หัวเราะเลียนแบบคนอื่นตามไปด้วย คุณขจีเองก็หัวเราะได้หลังจากที่อยู่คนเดียวตามลำพังมานาน เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าคุณอนันต์ต้องการอะไร เธอรู้ดีเรื่องพินัยกรรม แต่เธอไม่เคยเข้าใจ มาถึงวันนี้ถึงจะยังไม่ค่อยแจ่มชัดถึงสิ่งที่คุณอนันต์ทำเอาไว้ก่อนเสียชีวิต แต่ก็พอจะเข้าใจความรู้สึกขึ้นมาบ้าง คุณขจีมองไปที่นับตังค์อย่างพิจารณา ความคิดบางอย่างเกิดขึ้นในใจ แต่สุดท้ายเธอก็ปล่อยผ่านไปแล้วหันมาร่วมพูดคุยกับเด็กๆ ด้วยความสนุกสนานและเพลิดเพลิน


ดาวเรืองแอบลอบมองทุกคนอยู่ที่มุมหนึ่ง สายตาที่อิจฉาริษยาฉายชัดไปที่หนูด้วง มือที่กำแน่นทุบไปที่กำแพงเพื่อระบายความเจ็บแค้นในใจ ยิ่งเห็นหนูด้วงมีความสุขเท่าไหร่ ความแค้นใจก็ยิ่งพอกพูนในใจของเธอมากขึ้นเท่านั้น


***โปรดติดตามตอนต่อไป***

 

เครดิตรูปจาก Google


ที่หายไปหลายวันเพราะว่าข้างห้องเขามาต่อเติมห้อง แล้วช่างทำสายเน็ตผู้แต่งพัง
เพิ่งจะทำให้เสร็จเมื่อคืนนี้เองค่ะ เล่นได้แต่มือถือแต่เอานิยายลงไม่ได้ คิดถึงทุกคนจัง
ขอให้สนุกและฟินกับอาหารมื้อนี้นะคะ มีคำผิดเตือนได้นะคะ ตาลายหมดแล้ววว



[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2017 12:59:12 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Jitsupa_milk

  • Just Milky('s) Way
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ร้อนๆแบบนี้อยากกินข้าวแช่ขึ้นมาเลยค่ะ

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อ่านแล้วความหิวครอบงำ ตอนนี้ทุกคนน่ารักมาก ล่ะพี่ชายพญา เท่งกับดาวเรืองไว้ล่ะกัน :hao6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด