- ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26  (อ่าน 207907 ครั้ง)

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านเรื่องนี้ตอนกลางคืนตลอดเลย...หิว
ตลกนับตังค์เหมือนโดนแกล้งตลอดเลย

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บทที่ 7 ข้าวอบเผือก


หลังจากที่นับตังค์พาสองหนุ่มที่มาสมัครเป็นผู้ช่วยเชฟมาถึงครัวของร้านอาหารแล้วจึงสอบถามประวัติคร่าวๆ ของทั้งสองคน ซึ่งนับตังค์ยอมรับว่าประวัติของทั้งสองคนดีมาก เพียงแต่มันดูไม่ค่อยสัมพันธ์กับงานในครัวสักเท่าไหร่ แต่นับตังค์ก็ไม่ได้คิดจะรับผู้ช่วยเพียงแค่พูดคุยเท่านั้น การสอบถามประวัติเป็นเพียงแค่การทำความรู้จักในเบื้องต้นแค่นั้นเอง 


ใบเมี่ยง มีชื่อจริงว่ามาตฤกะ เจ้าตัวบอกว่าชื่อของตัวเองอ่านว่ามาตริกะ เป็นชื่อที่แปลกมากสำหรับนับตังค์ ใบเมี่ยงเป็นคนน่านแต่กำเนิด พูดได้สามภาษา ไทย จีน อังกฤษ แต่ถนัดที่สุดคือการอู้คำเมือง ใบเมี่ยงเรียนจบปริญญาตรีสาขาจิตวิทยาพัฒนาการ ชอบท่องเที่ยว เพราะเวลาได้ออกไปเที่ยวจะได้ไปเจอผู้คนที่มีความแตกต่างทั้งภาษา วัฒนธรรมและการกินอยู่ ใบเมี่ยงเกิดเดือนเดียวปีเดียวกับนับตังค์ อ่อนกว่าแค่สองวัน แต่นับตังค์รู้สึกว่าใบเมี่ยงหน้าอ่อนมาก พอคิดอีกทีก็เครียดว่าใบเมี่ยงหน้าอ่อนหรือตัวเองหน้าแก่กันแน่เพราะใบเมี่ยงกับนับตังค์ห่างกันแค่สองวันเอง ซึ่งคำถามนี้นับตังค์จะไม่มีวันถามบอสจอมกวนประสาทเด็ดขาด เพราะนับตังค์รู้เลยว่าบอสจะตอบว่าอะไร   


ส่วนพายหรือพายพัด หนุ่มหล่อที่นับตังค์เห็นครั้งแรกแล้วนึกว่าเป็นนายแบบ เขาเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลี คนนี้แก่กว่านับตังค์เกือบปี ดูสุขุม ใจเย็น สายตาที่ดูสงบกับรอยยิ้มอ่อนๆ ที่ตราตรึงอยู่บนใบหน้าเป็นอาวุธชั้นดีที่ทิ่มแทงใจของคนที่เห็นจริงๆ พายพัดจบปริญญาตรีถึงสองใบ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และสถาปัตยกรรม เจ้าตัวบอกว่าสามารถจัดสรรเวลาเรียนควบคู่กันไปจนจบพร้อมกันได้ แถมยังพูดได้ถึงสี่ภาษาคือ ไทย อังกฤษ เกาหลีและเยอรมัน เคยทำงานบริษัทชื่อดังและได้เงินเดือนสูงเป็นหลักแสนแต่ก็ลาออก โปรไฟล์ดีมากจนนับตังค์รู้สึกทึ่ง


“ทำไมถึงลาออกล่ะ เงินเดือนสูงมากเลยนะ” นับตังค์ถามด้วยความสงสัย

“เพราะเมี่ยงลาออก” พายพัดตอบนับตังค์ ซึ่งคำตอบนี้ทำให้นับตังค์มองไปที่เมี่ยงด้วยความไม่เข้าใจ

“เมี่ยงเคยทำงานที่เดียวกับพัดครับ แต่ไม่อยากทำงานประจำแล้ว อีกอย่างพอเมี่ยงได้มาเที่ยวที่นี่ เมี่ยงรู้เลยว่าอยากใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ถาวร” เมี่ยงพูดไปยิ้มไป แต่คำตอบของเมี่ยงไม่ได้ทำให้นับตังค์เข้าใจมากขึ้น

“แล้ว...ทำไมถึงอยากมาสมัครมาเป็นผู้ช่วยเชฟ” นับตังค์ไม่ได้ถามลงลึกต่อเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของทั้งสองคนจึงเปลี่ยนคำถาม

“เพราะเมี่ยงรักการทำอาหาร แม่ของเมี่ยงทำอาหารอร่อยนะ เมี่ยงก็ได้ฝีมือการทำอาหารมาจากแม่ ชื่อจริงของเมี่ยงแปลว่าอะไรรู้ไหม มาตฤกะแปลว่ามาจากแม่ เมี่ยงเลยชอบการทำอาหารเหมือนแม่” ใบเมี่ยงยังคงพูดไปยิ้มไป ซึ่งนับตังค์ยอมรับว่าใบเมี่ยงเปรียบเมื่อน้ำค้างยามเช้าที่ให้ความสดชื่นแก่ผู้พบเห็น ถ้าพายพัดเหมือนพระอาทิตย์ที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ใบเมี่ยงก็คงเป็นน้ำค้างที่ปะพรมให้รู้สึกสดชื่นไปถึงหัวใจ

“แล้วพายล่ะ” นับตังค์ไม่ได้เรียกพายว่าพี่แม้ว่าพายจะแก่กว่าเกือบปี เพราะเห็นว่าถ้าให้ความเป็นเพื่อนคงจะดูสนิทสนมกว่า

“เพราะเมี่ยงชอบทำอาหาร” พายตอบแล้วหันไปยิ้มให้เมี่ยง ซึ่งทั้งคำตอบ สายตาและรอยยิ้มของพายพัดทำให้นับตังค์พอจะรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร

“แต่เงินเดือนผู้ช่วยเชฟคงไม่ได้เยอะเท่าที่เคยได้รับกันมาหรอกนะ” นับตังค์บอกเอาไว้ก่อนหลังจากที่ทราบประวัติของทั้งสองคน

“เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเราสองคนครับ” ใบเมี่ยงเป็นคนตอบ

“โอเค เราชื่อนับตังค์นะ เรียกว่าตังก็พอ เราก็รักการทำอาหารมาก ผู้ช่วยของเราไม่จำเป็นต้องเก่งมากแต่ต้องรู้ใจกัน การทำงานกับคนที่เข้าใจและมีทัศนคติหรือความชอบคล้ายกันมันจะทำให้งานออกมาดี เราเชื่ออย่างนั้น เพราะฉะนั้น...เราขอทดสอบความสามารถและความเป็นตัวเองของผู้ช่วยเราสักอย่างหนึ่งนะ เราอยากให้ทั้งสองคนทำราเมนมาให้เราชิมในงบที่เราจะให้ไป ทำยังไงก็ได้ที่คิดว่านี่จะเป็นราเมนของตัวเอง ซื้อของแล้วมาทำที่ร้านนี่นะ เจอกันตอนแปดโมงเช้า” นับตังค์บอกถึงรายละเอียดการทดสอบคัดเลือก

“ตกลงครับ เราสองคนจะทำให้ดีที่สุด” ใบเมี่ยงยิ้มให้นับตังค์ก่อนจะหันไปยิ้มให้พายพัด พายพัดที่ไม่ค่อยได้พูดอะไรแต่นับตังค์คิดว่าคำตอบของใบเมี่ยงก็คือคำตอบของพายพัดนั้นแหละ


นับตังค์มายืนส่งทั้งสองคนอยู่ที่หน้าร้าน แล้วนับตังค์ก็รู้สึกเขินขึ้นมาเมื่อเห็นพายพัดยีผมใบเมี่ยงด้วยความอ่อนโยนก่อนจะจูงมือใบเมี่ยงเดินออกไป นับตังค์ได้แต่นึกในใจว่าถ้าสองคนนี้มีความสามารถเป็นที่ยอมรับของนับตังค์จนได้มาทำงานด้วยกันจริงๆ นับตังค์คงจะยืนเขินแทนใบเมี่ยงวันละไม่รู้กี่รอบแน่ๆ เพราะพายพัดดูจะใส่ใจและอ่อนโยนต่อใบเมี่ยงตลอดเวลาโดยไม่แคร์สายตาของใครเลย เหมือนกับว่าโลกนี้มีเขาเพียงแค่สองคนจริงๆ


...หมับ...


นับตังค์รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาวางอยู่บนหัวของตัวเอง เมื่อหันมามองดูถึงได้รู้ว่าไอ้ที่วางอยู่บนหัวของนับตังค์ก็คือมือของมีคุณนั่นเอง


“บอส นี่หัวนะ ไม่ใช่รั้วบ้าน” นับตังค์หันมาประชดมีคุณ

“สองคนนั่นมาสมัครงานเหรอ หน้าตาดีนะ แล้วรับไหม” มีคุณถามแต่ก็ยังไม่ยอมเอามือลง

“ตังไม่ใช่บอสนะที่เห็นแค่รูปลักษณ์แล้วรับเลย” นับตังค์แขวะ

“พี่ก็ไม่ได้เห็นแค่รูปลักษณ์แล้วรับนะ ไม่งั้นคงไม่รับตังมาทำงานหรอก”

“อ้าวเฮ้ย พูดแบบนี้แปลว่าอะไร” นับตังค์หันมาสวนกลับที่โดนสบประมาท

“ก็พี่ว่า อวัยวะบนหน้าของตังก็ยังตีกันไม่เสร็จเหมือนกัน หรือจะบอกว่าขี้เหร่ก็ได้” มีคุณย้อนคำพูดที่นับตังค์เคยว่าเขาเอาไว้ก่อนหน้านี้

“ขี้เหร่ก็อย่ามามองดิ” นับตังค์เบ้ปากใส่

“แล้วรู้ได้ไงว่าพี่มองถ้าไม่มองพี่เหมือนกัน” มีคุณย้อนถาม

“ไม่ได้มอง แค่ผ่านสายตาไปเหมือนแมลงวันบินผ่าน”

“พี่เป็นแมลงวันว่างั้น” มีคุณถาม

“ก็งั้นแหละ” นับตังค์ยักคิ้วตอบ

“แมลงวันมันชอบบินผ่านขี้นะ รู้ยัง” มีคุณถาม นับตังค์ยืนอึ้งก่อนจะหันมาเขวี้ยงสายตาอาฆาตใส่คนถาม นึกว่าจะได้เปรียบอยู่แล้วแท้ๆ กลับกลายมาเป็นกองขี้ที่โดนแมลงวันหัวเขียวอย่างมีคุณบินผ่านเสียอย่างนั้น

“งั้นบินผ่านแบบไปแล้วไปลับ อย่าแวะกลับมากินขี้ก็แล้วกัน!!” นับตังค์พูดจบก็ปัดมือมีคุณที่อยู่บนหัวของตัวเองออก มีคุณหัวเราะเมื่อคนขี้หงุดหงิดเดินหนีไปแล้ว ก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ อย่างขำๆ

“เห็นมองคนอื่นยีผมกันแล้วหน้าแดงก็อุตส่าห์จะทำให้บ้าง ดันมาจบที่เรื่องแมลงวันกับขี้ซะได้นะ เฮ้อ ดูท่าจะขี้งอนกว่าเจ้าด้วงมั๊งเนี่ย” มีคุณมองตามหลังของนับตังค์ไปและยอมรับว่าตัวเองยิ้มได้บ่อยขึ้นตั้งแต่รู้จักกับนับตังค์


ส่วนนับตังค์หลังจากที่หัวเสียที่พลาดท่าให้มีคุณกวนประสาทเอาได้ก็เดินกลับเข้ามาที่ครัวของบ้าน กำลังคิดว่าจะทำอะไรให้ด้วงกินในตอนเย็นดีเพราะไม่รู้ว่าด้วงชอบหรือไม่ชอบอะไร ส่วนอาหารเย็นของมีคุณกับของตัวเองนั้นนับตังค์ตั้งใจว่าจะทำข้าวอบเผือก วันนี้พี่บ่าวขมิ้นไม่กินข้าวเย็นด้วยเพราะจะไปกินกับพี่สาลี่ แล้วนับตังค์ก็ตัดสินใจที่จะให้ด้วงกินข้าวอบเผือกเหมือนกัน เพราะนับตังค์อยากหัดให้ด้วงกินอะไรก็ได้และไม่เลือกอาหาร


มีคุณเดินตามนับตังค์เข้ามาถึงครัว ยืนกอดอกมองนับตังค์หั่นเผือกเป็นลูกเต๋าขนาดเท่ากันแทบจะทุกอันด้วยความชื่นชม สิ่งที่มีคุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับนับตังค์อีกอย่างหนึ่งก็คือ นับตังค์ออกจะเป็นคนขี้รำคาญและขี้หงุดหงิดง่ายเวลาโดนกวนประสาท แต่เวลาที่ทำอาหารกลับดูเป็นคนใจเย็นและมีสมาธิ คงเหมือนกับนิสัยของเจ้าตัวที่เถียงเก่งและไม่ยอมใคร แต่ถ้าใช้เหตุและผลมาพูดด้วยดีๆ ก็ยอมรับผิดหรือยอมเข้าใจง่ายๆ ง่ายชนิดที่อีกฝ่ายปรับตัวตามแทบไม่ทัน


“ให้พี่ช่วยไหม” มีคุณถาม

“ดี” นับตังค์ตอบสั้นๆ

“ให้ช่วยอะไร”

“ช่วยอย่าจ้อง”

“ก็อยากเห็นเวลาเชฟทำกับอาหาร พี่ไม่ได้มาแกล้งให้ตังหงุดหงิดนะ พี่แค่อยากมีความรู้ด้านการทำอาหารบ้างแค่นั้นเอง” มีคุณเริ่มรู้วิธีการเข้าหานับตังค์ รู้ว่าเวลาไหนควรกวนประสาทหรือเวลาไหนต้องการสงบศึก

“ด้วงล่ะ” นับตังค์นิ่งไปนานก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด

“อยู่กับขมิ้น”

“อยากถ่ายคลิปรึเปล่า” นับตังค์ถาม

“ได้เหรอ” มีคุณเดินเข้าไปหาใกล้ๆ

“อืม” นับตังค์ตอบรับสั้นๆ


มีคุณดีใจรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย นับตังค์เหลือบมองมีคุณนิดหน่อยก่อนจะทำอาหารต่อ มีคุณเริ่มถ่ายตั้งแต่นับตังค์ทอดเผือก ทอดจนหอมไปทั่วครัว จากนั้นก็นำมาคลุกในข้าวสารให้ทั่วๆ เติมน้ำสต็อกใส่แล้วนำไปหุงในหม้อหุงข้าว ระหว่างรอข้าวสุกนับตังค์จัดเตรียมส่วนประกอบของอาหาร เท่าที่มีคุณเห็นก็มี กุ้งสด หมู เห็ดหอม กุ้งแห้ง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เกาลัด แปะก๊วย กระเทียมสับ ใบโหระพา ต้นหอมซอยและผักชี นับตังค์เตรียมหั่นเห็ดหอม ซอยผักและเริ่มทอดเครื่องทีละอย่างด้วยความใจเย็น เตรียมเครื่องครบข้าวก็สุกพอดี นับตังค์คดข้าวมาผึ่งเอาไว้ให้คลายความร้อน จากนั้นก็เริ่มเอากระเทียมสับกับต้นหอมซอยมาผัดน้ำมันก่อน แล้วถึงได้เอาเครื่องทุกอย่างที่ทอดเอาไว้ลงไปผัดกับกระเทียมและต้นหอมจนได้กลิ่นหอมไปทั่ว เมื่อส่วนประกอบทุกอย่างเข้ากันดีจึงตักขึ้นพักไว้


“หอมจัง” มีคุณเผลอชมจนลืมไปว่าอัดคลิปอยู่


นับตังค์ได้ยินแต่ทำเป็นไม่สนใจ นำข้าวที่คลายร้อนดีแล้วมาเตรียมไว้ ตั้งกระทะและใช้น้ำมันเดิมที่ผัดเครื่องเอาไว้มาผัดกับข้าวเพื่อข้าวจะได้มีกลิ่นหอม จากนั้นถึงได้ใส่เครื่องทั้งหมดลงผัดกับข้าวและเริ่มปรุงรสด้วยเกลือ ซอสเห็ดหอม ซีอิ้วขาว พริกไทย มีคุณเห็นว่านับตังค์ใส่น้ำมันงาลงไปเล็กน้อยและใส่ใบโหระพาลงไปด้วย ความหอมของข้าวจึงเพิ่มมากขึ้นจนมีคุณอยากวางโทรศัพท์แล้วไปขอชิม


“เสร็จแล้วเหรอ” มีคุณปิดกล้องก่อนจะถามเมื่อเห็นนับตังค์ปิดเตาแล้ว

“ยังไม่ได้อบเลย” นับตังค์บอกก่อนจะเดินไปหยิบหม้อดินเผามา


มีคุณเห็นว่านับตังค์ยังทำไม่เสร็จจึงกดถ่ายอีกครั้ง นับตังค์ตักข้าวที่ผัดกับเครื่องลงใส่ในหม้อดิน จากนั้นก็หยิบเกาลัดและแปะก๊วยมาเรียงเอาไว้บนสุดแล้วถึงได้นำไปอบ มีคุณกดปิดกล้องไปก่อนจะช่วยนับตังค์เก็บอุปกรณ์ที่ต้องเก็บล้างไปไว้ในอ่างล้างจาน


“พี่นึกว่าต้องเอาเครื่องทุกอย่างผัดในกระทะพร้อมข้าวสารแล้วค่อยนำไปหุง” มีคุณถามเพราะคิดว่าข้าวอบเผือกทำกันแบบนั้น ไม่นึกว่าจะขั้นตอนเยอะขนาดนี้

“ก็ทำได้ แต่ย่าของตังสอนมาแบบนี้ ต้องทอดเครื่องทุกอย่างให้หอมและสีเหลืองทองเสียก่อน เวลาอบจะได้ไม่เละเกินไปและสีจะออกมาดูสวย ข้าวก็ต้องเลือกข้าวเก่าที่ยางน้อย เวลาหุงอย่าใส่น้ำเยอะ ข้าวจะบานไม่เป็นเมล็ดสวย เผือกก็ต้องหั่นให้ขนาดพอดีกันจะได้สุกอร่อยเสมอกันทุกคำ หมูสันนอกเลือกตรงที่ติดขอบมันแข็งนิดหน่อย มันจากหมูจะช่วยให้รสของข้าวอร่อยขึ้น”

“อบกี่นาที พี่อยากชิมแล้ว”

“สิบห้านาที พี่ไปรอข้างนอกก่อนก็ได้ เดี๋ยวตังล้างของพวกนี้ก่อน เสร็จแล้วจะไปตาม” นับตังค์รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเวลามีคุณอยู่ใกล้ๆ

“พี่ช่วยล้าง” มีคุณพูดจบก็จัดแจงเดินไปเบียดนับตังค์แล้วหยิบฟองน้ำมาบีบน้ำยาล้างจานใส่เพื่อล้างเครื่องครัวที่อยู่ในอ่าง

“จะมายืนเบียดตังทำไม” นับตังค์บ่น

“เบียดเหรอ ทำไมพี่ไม่รู้สึกว่าเบียดเลย” มีคุณถามหน้าตายก่อนจะส่งจานที่ล้างน้ำยาแล้วให้นับตังค์ นับตังค์เลยได้แต่เหลือบมองเพราะไม่รู้จะโต้ตอบยังไง แต่ก็ยอมยืนล้างข้าวของข้างมีคุณจนเสร็จ


นับตังค์กับมีคุณช่วยกันเตรียมตั้งโต๊ะอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขมิ้นก็อุ้มด้วงมาส่งให้ก่อนจะลากลับ นับตังค์จัดข้าวอบเผือกให้ขมิ้นเอากลับไปด้วยสองชุดเผื่อให้สาลี่แฟนของขมิ้นด้วย นับตังค์ปล่อยให้ด้วงตักกินเอง เข้าปากบ้างหกบ้างแต่ด้วงก็กินด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย ที่ทำให้นับตังค์เห็นแล้วดีใจก็คือด้วงกินผักได้ทุกอย่าง ต่างจากเด็กส่วนใหญ่ที่นับตังค์เคยเห็นว่าไม่ยอมกินเลย


“ตังพาด้วงไปอาบน้ำให้ได้ไหม พี่ขอทำงานสักหน่อย เดี๋ยวพี่ล้างจานให้เอง” มีคุณบอกกับนับตังค์หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จแล้ว นับตังค์พยักหน้าให้แทนคำตอบก่อนจะจูงมือด้วงออกจากครัวไป


นับตังค์ถอดเสื้อผ้าให้ด้วงแล้วก็พาไปเล่นน้ำในอ่างอาบน้ำ ท่าทางว่าด้วงจะชอบน้ำเพราะว่าไม่งอแงเลย นั่งตีน้ำเล่นให้กระเด็นแล้วหัวเราะชอบใจ นับตังค์ปล่อยให้ด้วงเล่นน้ำจนเสื้อผ้าของตัวเองก็เปียกไปหมด


“ปี้จ๋ามาเย่นน้ำ ยงมาในฉะน้ำนี่” ด้วงยืนขึ้นแล้วดึงมือนับตังค์ นับตังค์เห็นว่าตัวเองก็เปียกแล้วเลยตัดสินใจถอดเสื้อผ้าออกเหลือไว้แต่บ็อกเซอร์แล้วลงไปแช่ในอ่างกับด้วง

“มานี่ พี่ฟอกสบู่ให้ก่อน” นับตังค์จับด้วงให้นั่งลงแล้วเอาฟองน้ำนุ่มๆ บีบสบู่เหลวใส่แล้วค่อยๆ ถูตัวให้ด้วง

“คิกๆๆ ไม่เอาตรงนี้ ปี้จ๋า คิกๆๆ” ด้วงบิดตัวหนีฟองน้ำเมื่อนับตังค์ถูไปโดนรักแร้

“บ้าจี้ด้วยเหรอ” นับตังค์ขำด้วงและแกล้งถูต้องรักแร้อีกจนด้วงหัวเราะลั่น

“สดชื่นไหมด้วง” มีคุณเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาถามเมื่อได้ยินเสียงด้วงหัวเราะร่วน เขาแค่จะขึ้นมาเอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค แต่ไม่คิดว่าการแวะมาดูด้วงหัวเราะจะได้เห็นผิวขาวๆ ของด้วงตัวใหญ่แถมมาด้วย

“ฉดชื่น แต่ปี้จ๋าแกล้งหนู” ด้วงตอบมีคุณก่อนจะฟ้อง ส่วนนับตังค์ตกใจที่มีคุณเข้ามาโดยไม่เคาะประตูห้องน้ำก่อน

“จะยืนมองอีกนานไหม” นับตังค์ถาม แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีโวยวายหรือเขินอาย เพราะมีคุณก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน แล้วนับตังค์ก็ไม่ได้แก้ผ้าออกหมด เพียงแต่รู้สึกกระอักกระอวนสายตาที่มองจ้องมาของบอสต่างหาก

“ก็เป็นห่วงด้วง กลัวจะจมน้ำเลยแวะเข้ามาดู” มีคุณแถไป

“น้ำเท่าตาตุ่มคงจะจมหรอกนะ” นับตังค์พูดไปก็ล้างสบู่ออกจากตัวด้วงไปด้วย แกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไรทั้งที่ในใจอยากจะไล่บอสจอมกวนประสาทที่มาจ้องตัวเองให้ออกไปเร็วๆ

“ด้วง แกล้งปี้จ๋ากลับเลย” มีคุณบอกกับด้วง ด้วงทำท่าจะลุกมาแย่งฟองน้ำในมือของนับตังค์ นับตังค์ต้องรีบเอามาซ่อนไว้ข้างหลัง

“สอนเด็กแต่เรื่องดีๆ นะ” นับตังค์มองมีคุณตาขวาง แล้วนับตังค์ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวก่อนจะหลุดหัวเราะเมื่อนิ้วเล็กป้อมของด้วงแหย่มาที่รักแร้ของนับตังค์

“ฟอกชาบู่ให้ปี้จ๋า” ด้วงทำตามที่มีคุณสอน

“ไม่เอาด้วง ฮ่าๆๆ พอๆ หยุดเลย” นับตังค์จับมือของด้วงมารวบไว้ก่อนจะหันไปทำตาดุใส่มีคุณที่บังอาจสอนด้วงให้แกล้งตน

“ขัดหลังให้ไหม” มีคุณถามนับตังค์

“ไม่ต้อง ออกไปเลยไอ้บอส!!” นับตังค์หมดความอดทนที่จะแกล้งเก็บอาการว่าไม่เขินหรือกระอักกระอวนใจจึงเอาฟองน้ำปาไปตรงที่มีคุณยืนอยู่ มีคุณรีบหลับออกมายืนข้างนอกแล้วหัวเราะเสียงดัง

“ไอ้บอส ไอ้บอส” ด้วงพูดตาม

“สอนแต่เรื่องดีๆ นะ” มีคุณตะโกนต่อว่านับตังค์บ้าง

“ด้วง ไม่พูดคำว่าไอ้นะ มันไม่ดี พี่ลงโทษตัวเองแล้ว” นับตังค์แค้นมีคุณอยากจะด่ามากกว่านี้ แต่กลัวด้วงเลียนแบบเลยต้องพักสงครามปากเอาไว้ก่อน นับตังค์ตบปากตัวเองเบาๆ ให้ด้วงดูว่าลงโทษตัวเองแล้วที่พูดไม่เพราะ

“ฮึก ปี้จ๋าไม่ตี ไม่ตี จัว ไม่ตี” ด้วงดึงมือนับตังค์ออกแล้วเบะปาก นับตังค์ตกใจเมื่อเห็นด้วงจะร้องไห้เลยกอดด้วงไว้ พลางนึกในใจว่าด้วงไปเจอกับอะไรมาถึงได้กลัวเพียงแค่นับตังค์ตีปากตัวเองเบาๆ

“ไม่ตีแล้ว ไม่ร้องนะ ไปแต่งตัวกันดีกว่า เดี๋ยวพี่เล่านิทานให้ฟังนะ” นับตังค์จับด้วงอาบน้ำและอาบให้ตัวเองด้วยก่อนจะพาขึ้นจากน้ำเพราะเดี๋ยวด้วงจะไม่สบายถ้าแช่น้ำนานเกินไป

(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2017 20:39:02 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบน)



เมื่อนับตังค์ออกมาจากห้องน้ำมีคุณก็ไม่ได้อยู่บนห้องแล้วเลยโล่งใจเพราะตัวเองก็นุ่งผ้าขนหนูออกมาผืนเดียว เมื่อจับด้วงแต่งตัวเสร็จก็ให้ด้วงนอนเล่นของเล่นที่เคารพนำมาให้ด้วยบนเตียงไปก่อน นับตังค์เดินเข้าไปแต่งตัวจนเสร็จมีคุณก็เปิดประตูขึ้นมาพร้อมกับนมหนึ่งขวดพอดี


“ขมิ้นบอกว่าด้วงยังกินนมขวดอยู่ กินแค่ก่อนนอน พี่เลยชงมาให้” มีคุณทำเป็นเหมือนว่าเมื่อครู่ไม่ได้กวนประสาทนับตังค์เอาไว้

“ชงเป็นเหรอ” นับตังค์ถาม

“ขมิ้นเขียนบอกเอาไว้ แต่มันยังร้อนอยู่”

“วางเอาไว้ตรงนั้นก่อน ด้วงเพิ่งกินข้าวมา เดี๋ยวค่อยให้กินก่อนจะนอนคงจะอุ่นพอดี” นับตังค์บอกกับมีคุณ

“แล้วคืนนี้นอนกันยังไงดี” มีคุณถาม

“ไม่น่าถาม บอสก็ไปนอนที่โซฟา”

“แต่พี่ปวดหลัง”

“งั้นบอสก็มานอนกับด้วง เดี๋ยวตังนอนโซฟาเองก็ได้” นับตังค์ขี้เกียจเถียงกับมีคุณ แต่ในใจก็คิดเอาไว้แล้วว่ากวามีคุณจะทำงานเสร็จก็คงดึกเหมือนเมื่อวาน ตอนนั้นตัวเองและด้วงคงหลับปุ๋ยบนเตียง ให้มันรู้ไปว่ามีคุณจะใจดำปลุกคนหลับให้ลุกไปนอนที่โซฟา คิดแล้วก็อมยิ้มออกมากับแผนการของตัวเอง

“โอเค” มีคุณยักไหล่ ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินกลับลงไปข้างล่าง

“ยิ้มไปก่อนเถอะบอส ได้นอนโซฟาแน่” นับตังค์พึมพำเบาๆ ด้วยความสะใจ โดยที่ไม่รู้ว่าที่มีคุณยิ้มเพราะรู้ทันว่านับตังค์กำลังคิดแผนอะไรอยู่ต่างหาก


มีคุณเอาคลิปที่ถ่ายนับตังค์กำลังทำข้าวอบเผือกมานั่งดูอยู่หลายรอบ ก่อนจะนึกย้อนกลับไปคิดว่าในวันที่ประกวดขนมครั้งนั้นทำไมนับตังค์ถึงได้พลาดได้ อาหารและขนมหลายอย่างที่นับตังค์ทำให้เขาชิมมันแสดงถึงความสามารถที่มีและฝีมือเทียบเท่าเชฟชื่อดังได้เลย ซอสในวันนั้นเค็มจนไม่น่าเชื่อว่านับตังค์จะชิมมาแล้ว มันคงมีอะไรผิดพลาดสักอย่างจริงๆ พอคิดแล้วก็รู้สึกผิดที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อว่านับตังค์ไปในวันนั้น มีคุณกดย้อนดูคลิปนับตังค์ทำข้าวอบเผือกอีกหลายรอบ ยิ่งดูก็ยิ่งเพลินจนไม่ได้สนใจเลยว่าโทรศัพท์ของตัวเองมีสายเรียกเข้าจากคีตะตั้งสิบกว่าสายเพราะมีคุณใส่หูฟังเอาไว้ด้วย


หลังจากที่ดูคลิปของนับตังค์จนพอใจและนั่งเขียนคอลัมน์จนเสร็จถึงได้เห็นว่าคีตะโทรเข้ามา แต่มีคุณไม่ได้โทรกลับไปเพราะว่าตอนนี้ก็เกือบตีหนึ่งแล้ว เขาปิดคอมพิวเตอร์แล้วกลับขึ้นไปบนห้อง มีคุณเห็นแล้วว่านับตังค์หลับอยู่บนเตียงโดยมีด้วงนอนคว่ำทับอยู่บนตัวนับตังค์ เห็นแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อว่าคนห้าวๆ อย่างนับตังค์จะมีมุมอ่อนโยนแบบนี้ด้วย มีคุณเข้าไปอาบน้ำ เมื่อออกมาก็เห็นว่าด้วงกลิ้งลงมานอนบนที่นอนแล้ว เขาจึงเดินไปปิดไฟแล้วค่อยๆ ทิ้งตัวลงบนที่นอนอีกฝั่งให้เบาที่สุดเพราะกลัวคนขี้หวงจะตื่นมาไล่เขาไปนอนที่โซฟา มีคุณให้ด้วงนอนอยู่ตรงกลางเพราะกลัวว่าด้วงจะดิ้นตกเตียง เขาดึงผ้าห่มผืนหนามาห่มให้ด้วงและนับตังค์ก่อนจะสอดตัวเองเข้าไปในผ้าห่มด้วย รู้สึกแปลกดีเหมือนกันที่ชีวิตมีอะไรเข้ามาพร้อมๆ กันได้แบบไม่ทันได้ตั้งตัวเลยจริงๆ เป็นความแปลกที่กำลังก่อความสุขให้เขาเพิ่มมากขึ้นทุกวันอย่างที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน


นับตังค์ลืมตาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตะวันยังไม่ทันโผล่พ้นจากขอบฟ้า นั่นเพราะด้วงนอนกลับหัวกลับหางเอาเท้าขึ้นมาวางบนหมอนของนับตังค์ แต่นับตังค์แทบจะหลุดหัวเราะเมื่อมองไปที่เท้าอีกข้างของด้วง ปลายนิ้วก้อยอันกระจิริดของเจ้าด้วงเกือบจะแหย่เข้าไปที่จมูกของมีคุณ จากที่กำลังคิดจะนินทามีคุณในใจว่ายังอุตส่าห์จะมานอนเบียดบนเตียงอีกเลยเปลี่ยนใจสมน้ำหน้ามีคุณแทนที่ต้องนอนอยู่กับเท้าน้อยๆ ของด้วงต่อไป


นับตังค์หยิบนาฬิกาขึ้นมาดูก็คิดว่าลุกจากที่นอนเลยดีกว่า เพราะมันก็เกือบตีห้าแล้ว นับตังค์อยากลงไปวิ่งสักหน่อย ตั้งแต่มาที่นี่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย ว่าแล้วนับตังค์ก็เลยลุกไปหยิบหมอนมาวางกันฝั่งตัวเองเอาไว้เพราะกลัวว่าด้วงจะดิ้นตกเตียงลงมาก่อนที่จะไปล้างหน้าแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปวิ่งที่ชายทะเลสักหน่อย


กลิ่นทะเลที่ลอยมากับลมเย็นๆ เสียงคลื่นที่กระทบกับฝั่งทำให้นับตังค์รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นท่ามกลางท้องฟ้าที่ยังมืดมัวอยู่ทำให้ท้องทะเลเป็นสีทองและมีแสงสะท้อนที่ผิวน้ำดูสวยงาม นับตังค์หยุดยืนดูพักใหญ่ก่อนจะตัดสันใจวิ่งกลับบ้านเพราะจะกลับไปทำอาหารเช้าให้ทุกคนได้ทาน ระหว่างทางมีรถคันหนึ่งแล่นมาแล้วชะลอความเร็วลงแล้วขับมาขนาบนับตังค์


“ออกกำลังกายด้วย มิน่าถึงหุ่นดี” พญาเพิ่งกลับจากไปปาร์ตี้ในเมืองมา รู้สึกโชคดีที่ได้เจอกับนับตังค์เพียงลำพัง

“หัดออกกำลังบ้างก็ได้นะ กินแต่เหล้าหน้าแก่ไวนะลุง” นับตังค์ได้กลิ่นเหล้าจากตัวของพญาทั้งที่พญาอยู่ในรถ แปลว่าคงดื่มมากหนักไม่ก็ตกบ่อเหล้ามา

“เป็นห่วงพี่เหรอ” พญาสะดุ้งเมื่อได้ยินนับตังค์เรียกตัวเองว่าลุง แต่ก็ทำเป็นไม่ใส่ใจเพราะเริ่มจะรู้ว่านับตังค์เป็นคนไม่ยอมใคร พญาคิดว่าจะยอมให้ก่อน หากเมื่อไหร่ได้นับตังค์มาเป็นแฟนจะทำให้อ้อนวอนร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียว

“ห่วงคนแถวนี้ เกิดขับไปชนคนอื่นจะทำยังไง” นับตังค์หยุดวิ่งแล้วหันไปพูดกับพญาด้วยสีหน้าจริงจัง นับตังค์เกลียดที่สุดเลยคือคนเมาแล้วขับรถ

“พี่สร่างแล้ว” พญาหน้าเสียเมื่อเห็นว่านับตังค์แสดงสีหน้าไม่ชอบใจ

“สร่างแล้วก็ดี กลับไปนอนไปลุง โคตรเหม็นเหล้าเลย” นับตังค์พูดจบก็วิ่งต่อ ไม่ได้สนใจเลยว่าพญาขับตามมาอย่างช้าๆ เพราะอยากรู้ว่านับตังค์อยู่ที่ไหน เมื่อพญาเห็นแล้วว่านับตังค์วิ่งเข้าไปในร้านอาหารของอนันต์คู่ปรับของพยนต์ผู้เป็นบิดาก็อึ้งไป

“เป็นอะไรกับตาแก่หัวดื้อนะน้องตัง เรื่องของเราช่างเหมือนโรมิโอกับจูเลียตแท้ๆ” พญาบ่นพึมพำก่อนจะขับรถออกจากหน้าร้านอาหารของอนันต์ไปตั้งหลักและหาแผนการที่จะจีบนับตังค์มาเป็นแฟนให้ได้


นับตังค์วิ่งกลับเข้ามาทางร้านแทนที่กลับเข้าบ้านเพราะได้กลิ่นหอมลอยมาแต่ไกล มองนาฬิกาที่ข้อมือก็เห็นว่ายังไม่เจ็ดโมงเช้าเลย เมื่อเดินเข้ามาในร้านก็เห็นขมิ้นกำลังกวาดใบไม้อยู่ที่ระเบียงร้านจึงเดินเข้าไปทัก


“ทำไมพี่บ่าวมาแต่เช้าเลย”

“ปกติก็ตื่นเวลานี้นิ พี่มาถึงเห็นหนุ่มหล่อสองคนมายืนรอที่หน้าร้าน พี่เลยเปิดให้เข้ามา เขาว่าตังนัดให้มาทำข้อสอบ” ขมิ้นรายงาน

“ตังนัดเขาแปดโมง คงมาเตรียมน้ำซุปกันก่อน ตังขอไปดูก่อนนะ”


นับตังค์เดินตามกลิ่นหอมเข้ามาถึงในครัว เมื่อแง้มเปิดเปิดประตูเข้าไปก็ต้องชะงักแล้วกลับออกมายืนที่ด้านนอกตามเดิม นับตังค์ยืนใจเต้นตึกตักที่ดันไปเห็นว่าพายพัดกำลังจูจุ๊บใบเมี่ยงพอดี ถึงจะไม่ใช่จูบที่ดูหื่นกระหายแต่มันก็ทำให้นับตังค์หน้าแดงได้เพราะมันไม่ใช่ภาพที่จะเห็นกันจนชิน นับตังค์ตัดสินใจปล่อยให้ทั้งสองคนนั้นเตรียมทำอาหารกันไป เอาไว้ถึงเวลานัดค่อยลงมาจะดีกว่า


“อ้าว ไปดูมาแล้วเหรอ” ขมิ้นร้องทักเมื่อเห็นนับตังค์เดินกลับมา

“ยัง มาคิดดูแล้วอยากเซอร์ไพรส์ว่าเขาจะทำเมนูอะไรออกมาให้ตังชิม เดี๋ยวรอลงมาตอนเวลานัดเลยดีกว่า พี่บ่าวก็ไม่ต้องเข้าไปนะ ปล่อยเขาสองคนทำไป” นับตังค์รีบบอกเพราะกลัวพี่บ่าวจะเจออะไรเหมือนกับตัวเอง

“ไปเผือกอะไรมานิ”

“อะ อะ อะไรนะ” นับตังค์ตกใจที่ขมิ้นถามแบบนี้

“พี่ว่าข้าวอบเผือกอร่อยนิ สาลี่มันชอบมาก” ขมิ้นพูดซ้ำเมื่อนับตังค์ถาม แต่ก็งงว่านับตังค์เป็นอะไร ดูตื่นเต้นชอบกล

“อ๋อ ครับ ขอบคุณที่ชม ตังไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เดี๋ยวลงมานะพี่บ่าว” นับตังค์พรูลมหายใจ นึกบ่นตัวเองในใจว่ามัวแต่คิดถึงเรื่องจูบจนหูเพี้ยนไปขนาดนั้น


เมื่อนับตังค์กลับขึ้นมาถึงห้องนอนก็เห็นว่ามีคุณนั่งผมยุ่งอยู่บนเตียงโดยมีด้วงขี่หลังอยู่ ปกติมีคุณจะรวบผมไปด้านหลังเป็นจุก ส่วนผมด้านข้างของมีคุณไถสั้นอยู่แล้ว เมื่อปล่อยผมลงมาหมดก็ดูแปลกตาดี


“ไปไหนมา” มีคุณถาม

“ปายไหนมา” ด้วงพูดตามมีคุณ

“ไปวิ่ง ด้วงตื่นนานแล้วเหรอ” นับตังค์ถาม

“นานแล้ว ตื่นมาก็เอานิ้วแหย่จมูกพี่จนต้องตื่นด้วยเลย” มีคุณลูบหน้าลูบตาตัวเองเพราะยังรู้สึกง่วงอยู่

“ทำดีมากด้วง” นับตังค์หัวเราะขำแล้วเดินไปอุ้มด้วงออกมาจากหลังของมีคุณ

“จินนม จะจินนม” ด้วงร้องบอกนับตังค์ก่อนจะดึงมือของนับตังค์มาแล้วเอานิ้วนับตังค์มาดูดเล่น

“ดูดไม่ได้ นิ้วสกปรก เดี๋ยวลงไปกินนมเป็นแก้วเอา ไม่ให้ดุดขวดแล้ว” นับตังค์พยายามจะดึงนิ้วออกมาจากปากของด้วง

“เค็มไหมด้วง ขอกินบ้างได้ไหม” มีคุณแกล้งถาม

“อาหย่อย” ด้วงดึงนิ้วนับตังค์ออกมาแล้วดึงเลื่อนมาทางมีคุณ

“เฮ้ย ทะลึ่งแล้ว” นับตังค์ตกใจรีบชักมือกลับอย่างแรง

“ฮึก..จัว จัว” ด้วงตกใจที่นับตังค์ชักมือกลับไปอย่างแรงเลยเริ่มเบะปาก มีคุณต้องดึงมือนับตังค์มาแล้วปลอบด้วง

“โอ๋ๆ ไม่ร้อง นี่ไง พี่ดูดแล้ว” มีคุณพูดจบก็เอานิ้วนับตังค์มาอมไว้

“อาหย่อย จิน หนูจินล่วย” ด้วงเลิกเบะปากแล้วยิ้มกว้างก่อนจะดึงนิ้วก้อยของนับตังค์มาอมด้วย

“บอส!!” นับตังค์ยืนตัวแข็ง ส่งเสียงเข้มไปให้มีคุณ นิ้วชี้ก็ถูกบอสอมไว้ นิ้วก้อยก็ถูกด้วงอมไว้

“จะปล่อยให้เด็กร้องได้ไง เดี๋ยวเด็กมีปมนะ” มีคุณรีบบอก เมื่อนิ้วนับตังค์เป็นอิสระจากปากของมีคุณ นับตังค์ก็อุ้มด้วงออกมาให้ห่างจากคนกระล่อน

“ด้วงครับ อมนิ้วไม่ได้นะครับ มันมีปิศาจ เดี๋ยวด้วงจะปวดท้อง” นับตังค์บอกกับด้วงก่อนจะส่งสายตาอาฆาตไปให้คนบนเตียง ส่วนด้วงเจอคำขู่เลยรีบดึงนิ้วนับตังค์ออกจากปาก

“จาจินนม” ด้วงเริ่มงอแงเพราะหิวและชิน ตอนอยู่กับดาวเรือง พอด้วงร้องไห้ ดาวเรืองก็ยัดนมใส่ปากท่าเดียว ด้วงเลยกลับมาติดขวดนมอีกรอบ

“กินนมเหรอ” มีคุณทวนคำก่อนจะมองไปที่อกของนับตังค์พร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์

“บอส!!!” นับตังค์อยากจะด่าบอสจนไฟแลบ แต่ต้องห้ามใจเอาไว้เพราะด้วงอยู่ด้วย คนอะไรลามกจกเปรตจริงๆ นับตังค์ได้แต่ด่าในใจ แต่หารู้ไม่ว่าตัวเองหน้าแดงกว่าตอนที่เห็นพายพัดกับใบเมี่ยงจูบกันเสียอีก

“จาจินนม ฮึก ฮือ..” ด้วงเริ่มร้องไห้

“จะลงไปชงนมหรือจะมาอุ้มด้วง” นับตังค์ถามมีคุณ

“ครับเชฟ เดี๋ยวลงไปชงนมให้ครับ” มีคุณพูดไปหัวเราะไป รู้สึกสนุกที่แกล้งนับตังค์ได้

“ให้ไวๆ”

“ด้วงรอก่อนนะ อย่ากินนมปี้จ๋านะ นมปี้จ๋าเค็มปิ๊ดปี๋” มีคุณบอกกับด้วงก่อนจะรีบวิ่งออกไปเพราะนับตังค์ยกเท้าขึ้นมาทำท่าจะเตะมีคุณด้วยความโมโหที่มีคุณไม่เลิกกวนอารมณ์

“ปิ๊ดปี๋เยย นมเค็มปิ๊ปปี๋เยย” ด้วงเลิกร้องไห้พูดตามมีคุณจนนับตังค์นึกแค้นใจที่ระยะหลังมานี่เป็นฝ่ายโดนกวนประสาทตลอด

“ด้วง จุ๊จุ๊จุ๊ ไม่พูดแบบนี้” นับตังค์เอานิ้วชี้มาแตะปากส่งเสียงห้ามด้วง แต่เมื่อนึกได้ว่านิ้วชี้นิ้วนี้ถูกมีคุณอมไปแล้วก็รีบเอาลงแล้วก็ยืนหน้าแดงอีกรอบจนได้


เมื่อมีคุณกลับขึ้นมาพร้อมนม นับตังค์ก็ให้มีคุณดูด้วงเอาไว้ก่อนเพราะนับตังค์จะไปอาบน้ำล้างเหงื่อ ระหว่างที่เข้าไปในห้องน้ำก็แอบเอาโทรศัพท์เข้ามาด้วยเพราะอยากรู้ว่ามีคุณเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับข้าวอบเผือกของตัวเองว่ายังไง แต่ปรากฏว่าเมื่อคืนนี้มีคุณไม่ได้เขียนถึงข้าวอบเผือกของนับตังค์ แต่เขียนถึงร้านอาหารที่มีคุณไปกินกับนับตังค์วันที่นัดนับตังค์ออกมาคุยเรื่องที่จะชวนมาทำงานที่นี่ นับตังค์แอบเซ็งเพราะนึกว่ามีคุณจะเขียนถึงผลงานของตัวเอง


“แล้วทำท่าดีใจทำไมตอนให้ถ่ายคลิปได้” นับตังค์ชูนิ้วชี้ที่โดนมีคุณอมขึ้นมาต่อว่าราวกับว่านิ้วนี้เป็นตัวแทนของมีคุณไปแล้วก่อนจะวางโทรศัพท์ลงแล้วไปอาบน้ำด้วยอารมณ์ที่ผิดหวัง โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องหวังที่จะอ่านมันเหมือนกัน


***โปรดติดตามตอนต่อไป***



เครดิตรูปจาก Goolgle


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]

มีผู้อ่านเรียกร้องมาว่าให้เอารูปอาหารตามชื่อตอนมาลงด้วย เลยเอามาลงให้
แต่ไม่ทราบว่าผิดกฏอะไรรึเปล่า เตือนได้นะคะ แผนผังชื่อตัวละครอยู่ที่บทนำหน้าแรกนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ขอบคุณที่ให้กำลังใจ กำลังใจมาแบบนี้ก้็แต่งไหลลื่นปรื๊ดๆๆ 5555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2017 20:55:42 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Jitsupa_milk

  • Just Milky('s) Way
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ยิ่งมีรูปประกอบยิ่งหิวใหญ่เลยย
ด้วงทำดีมากๆ 55

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ขอบคุณค่าาาา มีรูปแล้วววว ฟินหนักเลยยยย  :m3:  ว้ายยยยย 2 คิ้วท์บอยเดี๊ยน ไม่ต้องจิ้นเลย เป็นแฟนกันแล้ว จุ๊บกันแล้วชัดเจนสุดๆ  บอสนี่...หลงน้องแล้วชัดเนอะ ตอดนิดตอดหน่อยเก็บหมด 55555 น่ารักจัง ชอบๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
พญาขี้มโนไปไหม โรมิโอจูเลียตอะไรกัน หึ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
ให้อารมณ์พ่อแม่ลูกมากกกกกกกกกกกกก   :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ่านแล้วเราก็หิว
ครอบครัวสุขสันต์

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :laugh: มีโมเม้น พ่อ แม่ ลูก อะ แล้วอีกคู่นิหวานมาก หุหุ  :-[
แต่กลัวคีตะกะพญาก่อปัญหาอะ 2 ตัวเนี้ยเอาไปถ่วงในทะเลเหอะ  :m16:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ขี้แกล้งจริงๆมีคุณเนี่ย

ว่าจะทำโรแมนติกกลายเป็นอะไรเนี่ย 55 :hao3:

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก-
«ตอบ #75 เมื่อ07-04-2017 09:43:51 »

ผิดพลาดค่ะ 55

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
มีคุณรุกแรงงง ดูดนงดูดนิ้วอะไรคะคุณ :-[

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สนุกมากๆค่ะ อ่านไปหิวไป  o13

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
อ่านแล้วหิว ยิ่งดูรูปแล้วอยากกิน  ถ้านับตังรับใบเมี่ยงกับพายมาทำงาน คงเป็นตากุ้งยิงบ่อยแน่ หรือไม่ก็ตาแดงเพราะอิจฉาในความตะมุตะมิของทั้งคู่   ดูๆ ไปแล้วสงสัยหนูด้วงจะเป็นกามเทพน้อยให้นับตังกับมีคุณแน่เลย

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
อ่านเรื่องนี้ได้วิธีทำอาหารด้วย อยากทานขึ้นมาทันที
นับตังกวนดีค่ะชอบมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ หนอนกอ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
เพิ่งเจอเรื่องนี้ ชอบมากกกกกกกกก นับตังค์กับมีคุณเป็นอะไรที่เข้ากันมากกกก ชอบการต่อปากต่อคำของทั้งสองคน 5555555555 เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ รอตอนต่อไปค่าา :pig4: :3123:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เพิ่งได้อ่าน ชอบมากๆเลยค่ะ
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ


เพราะปัจจัยสำคัญของราเมนก็คือน้ำซุป ใบเมี่ยงจึงไปซื้อกระดูกหมูมาเคี่ยวทำน้ำซุปเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ส่วนเส้นราเมน ใบเมี่ยงกับพายพัดตัดสินใจจะมาทำเส้นสดในตอนเช้า ทั้งคู่เลยมาก่อนเวลานัดเพราะว่าอยากมีเวลาเตรียมตัวให้นานหน่อย ใบเมี่ยงอยากได้งานนี้จริงๆ การที่ตัดสินใจขายทรัพย์สมบัติที่จังหวัดน่านหลังจากที่แม่เสียชีวิตก็เพราะอยากจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะแห่งนี้ ใบเมี่ยงเคยมาที่เกาะนี้ครั้งหนึ่งแล้ว ได้มาเจอกับคุณปู่อนันต์ ใบเมี่ยงติดใจรสชาติอาหารของคุณปู่มากและเคยขอท่านเป็นศิษย์เพราะอยากเรียนรู้เรื่องอาหาร คุณปู่ก็รับปากว่าจะสอนให้แถมยังบอกว่าจะแบ่งขายที่ดินในราคาถูกให้ใบเมี่ยงอีกด้วย แต่มีข้อแม้ว่าใบเมี่ยงจะต้องช่วยอะไรท่านอย่างหนึ่ง ซึ่งข้อแม้นั้นท่านจะบอกในวันที่ใบเมี่ยงกลับมาอีกครั้ง แต่ใบเมี่ยงตัดสินใจที่จะย้ายมาอยู่ที่นี่ช้าเกินไป คุณปู่อนันต์ท่านเสียชีวิตไปเสียก่อน ใบเมี่ยงรู้สึกเสียใจและเสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับท่านอีก เมื่อใบเมี่ยงได้เห็นใบประกาศรับผู้ช่วยเชฟที่แปะอยู่ในตลาด ใบเมี่ยงก็บอกกับพายพัดว่าจะต้องทำงานนี้ให้ได้ ใบเมี่ยงคิดว่าโชคชะตาอาจจะลิขิตให้ใบเมี่ยงได้รับโอกาส แม้เจ้าของคนใหม่จะไม่ใช่คุณปู่ แต่มันคงมีอะไรสักอย่างที่ทำให้ใบเมี่ยงมาที่นี่ในเวลานี้ เพราะฉะนั้นใบเมี่ยงจะต้องทำบททดสอบนี้ให้ดีที่สุด


ตอนที่มาถึงที่ร้านอาหารของคุณปู่ ใบเมี่ยงกับพายพัดได้เจอคนดูแลร้าน ซึ่งใบเมี่ยงได้ทราบจากการสอบถามว่าชื่อพี่ขมิ้น พี่ขมิ้นเป็นคนเปิดร้านให้ใบเมี่ยงกับพายพัดได้เข้ามาจัดเตรียมทำอาหารในครัวหลังจากที่ใบเมี่ยงแจ้งว่านับตังค์นัดให้มาทำราเมนเพื่อเป็นการทดสอบ ใบเมี่ยงไม่รู้ว่าพายพัดจะทำราเมนอะไร เจ้าตัวไม่ยอมบอก แต่ใบเมี่ยงรู้ดีว่าคนอย่างพายพัดถ้าลองทำนิ่งเฉยแปลว่าเขาพร้อมและมั่นใจในสิ่งที่จะทำแล้ว คงเหมือนกับที่พายพัดตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาอยู่กับใบเมี่ยง แม้ใบเมี่ยงจะไม่เห็นด้วยในทีแรก แต่ก็จำต้องยอมเพราะคำพูดของพายพัดที่พูดตอบกลับมาตอนที่ใบเมี่ยงทักท้วง


“เมี่ยงไม่อยากให้พายเอาอนาคตมาทิ้งกับเมี่ยง”

“เราไม่ได้ทิ้งอนาคต เราแค่อยากให้อนาคตของเรามีเมี่ยงตลอดเวลา อย่าห่วงว่าเราจะไปไม่รอดกับแค่ไม่ได้ทำงานบริษัทใหญ่ เราดูแลเมี่ยงได้ เชื่อใจเรารึเปล่า”


“เมี่ยงไม่เคยคิดว่าพายจะเอาตัวไม่รอด พายเป็นคนเก่ง น่าเสียดายที่จะทิ้งความสามารถเพื่อไปอยู่ที่เกาะเล็กๆ กับเมี่ยง”

“คำว่าน่าเสียดายเอาไว้ใช้ตอนที่เราดูแลเมี่ยงไม่ได้ดีกว่า แต่คงไม่มีวันนั้นหรอก มานี่อุ๋งอุ๋ง อย่าคิดมาก เราตัดสินใจดีแล้ว มาขอกอดหน่อย”


ใบเมี่ยงนึกย้อนไปแล้วก็อดอมยิ้มออกมาไม่ได้ พายพัดชอบบอกว่าใบเมี่ยงเหมือนแมวน้ำ เลยเรียกใบเมี่ยงว่าอุ๋งอุ๋งตลอด เคยถามว่าทำไมถึงคิดว่าใบเมี่ยงเหมือนแมวน้ำแต่พายพัดก็ไม่เคยตอบ ใครจะไปคิดว่าคนหน้าตาดีและเก่งรอบด้านอย่างพายพัดจะมาหลงรักคนที่ธรรมดาอย่างใบเมี่ยงได้ ใบเมี่ยงคิดว่าความโชคดีที่สุดในชีวิตของตัวเองก็คือการได้เจอกับพายพัดนี่แหละ


“คิดอะไรอยู่อุ๋ง” พายพัดเดินมาหาใบเมี่ยงที่เอาแต่ยืนอมยิ้มอยู่คนเดียว

“คิดว่าโชคดีจังที่มีแฟนหล่อ” ใบเมี่ยงพูดจบก็เอาหัวโขกที่อกของพายพัดเบาๆ เป็นท่าอ้อนประจำของใบเมี่ยง

“มาอ้อนอะไรตอนนี้ ไม่สะดวกเลย” พายพัดก้มลงหอมที่ผมของใบเมี่ยง

“ชิมน้ำซุปให้ทีว่าอร่อยไหม” ใบเมี่ยงหันไปตักน้ำซุปในหม้อเพราะเขินที่พายพัดแสดงออกชัดเจนว่าอยากขย้ำแมวน้ำตัวนี้แล้ว

“อืม อร่อยแล้ว” พายพัดชิมน้ำซุปที่ใบเมี่ยงตักมาป้อน

“จริงนะ”

“ไม่เชื่อเหรอ” พายพัดเชยคางใบเมี่ยงขึ้นแล้วจูบเพื่อให้รสชาติของน้ำซุปที่เพิ่งชิมไปแตะสัมผัสที่ลิ้นของใบเมี่ยงบ้าง


...แกร๊ก...


“อ้าว โดนเห็นจนได้” พายพัดได้ยินเสียงดังมาจากประตูเลยชำเลืองดู เห็นแผ่นหลังของนับตังค์แวบๆ จึงเดาว่านับตังค์คงมาเห็นฉากสำคัญเข้าพอดี แต่ก็ดีเหมือนกัน ประกาศให้รู้เลยว่าใบเมี่ยงเป็นของใคร

“ก็เป็นแบบนี้” ใบเมี่ยงต่อว่าพายพัดแบบไม่จริงจังก่อนจะทุบแขนพายพัดเบาๆ ที่ชอบอดใจไม่ไหว ชอบทำอะไรประเจิดประเจ้ออยู่เรื่อย


พายพัดยีผมของใบเมี่ยงด้วยความเอ็นดูก่อนจะเดินกลับมาทำเราเมนของตัวเองต่อ พายพัดเองก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองทำอาหารได้ดีหลังจากที่มาเจอกับใบเมี่ยง พายพัดเป็นคนหัวดีมาตั้งแต่เด็ก พ่อกับแม่ก็เข้มงวดเรื่องเรียนจนเขาสามารถเรียนจบถึงสองสาขาในเวลาไล่เลี่ยกัน พายพัดไม่เคยขัดใจพ่อกับแม่และก็ไม่เคยคิดว่าชอบหรือไม่ชอบกับสิ่งที่พ่อกับแม่วางเส้นชีวิตเอาไว้ให้ พายพัดคิดแต่ว่าหน้าที่คือการเรียนให้จบ หางานที่ดีให้ได้เงินเดือนเยอะๆ สมกับที่เรียนจบมา แต่เมื่อได้เจอกับใบเมี่ยงตอนที่เขาต้องไปทำงานให้สาขาย่อยของบริษัทที่น่าน นั่นเป็นครั้งแรกที่พายพัดรู้สึกได้ว่าความต้องการที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร แบบไหนที่เรียกว่าความสุขที่ตัวเองต้องการ


พายพัดได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่กับใบเมี่ยงในช่วงเวลาที่ได้ทำงานอยู่ที่น่าน เขาได้ลองทำอาหารหลากหลายโดยมีใบเมี่ยงคอยสอน ซึ่งเขาไม่เคยรู้จริงๆ ว่าเขาทำอาหารได้ แถมทำมันออกมาได้ดีทั้งที่ไม่เคยมีความรู้ในด้านนี้มาก่อน เขารู้แต่ว่าทุกครั้งที่ได้ลงมือทำอาหาร เขามีความสุข ยิ่งได้อยู่เคียงข้างใบเมี่ยงด้วยแล้ว เขายิ่งมีความสุข จากวันนั้นมาพายพัดบอกกับตัวเองว่าจะขอใช้ชีวิตที่เหลือให้กับความสุขของตัวเองบ้าง นั่นคือการได้ทำอาหารและดูแลใบเมี่ยงในฐานะคนรัก น่าแปลกใจที่พ่อแม่ของเขาไม่ขัดขวางในวันที่เขาไปบอกว่าเขาจะลาออกจากงานที่ทำประจำ ท่านบอกว่าพายพัดโตแล้วอยากเลือกอะไรให้กับตัวเองก็ตามใจ ซึ่งก็เป็นเรื่องดีเพราะมันทำให้ชีวิตของเขาราบรื่นยิ่งขึ้น


“มากันแล้วเหรอ” นับตังค์ทักพายพัดกับใบเมี่ยงหลังจากที่ขึ้นไปอาบน้ำ จนถึงเวลาที่นัดหมายกับทั้งสองคนถึงได้ลงมา

“ขอมาทำก่อนเวลานัดนะครับ เมี่ยงอยากเคี่ยวน้ำซุปนานหน่อย” ใบเมี่ยงหันมาบอก แต่เมื่อเห็นว่าข้างๆ นับตังค์มีใครอีกคนยืนอยู่ด้วยก็มองไปก่อนจะยิ้มให้

“พาย เมี่ยง เราขอแนะนำให้รู้จักกับเจ้าของร้านนะ คุณมีคุณ จะเรียกว่าคุณมีหรือคุณคุณหรือบอส หรือ..”

“เรียกว่าคุณก็ได้ครับ แต่ถ้าเชฟใหญ่เขารับพวกคุณเข้าทำงานที่นี่แล้วค่อยเรียกบอส” มีคุณรีบแทรกก่อนที่นับตังค์จะสรรหาชื่อแปลกๆ มาให้เขา

“บอส คนนี้ชื่อใบเมี่ยง คนนี้ชื่อพายพัด ส่วนคนนี้ชื่อตัง” นับตังค์แนะนำให้มีคุณรู้จักกับผู้ที่มาสมัครงานทั้งสองคนก่อนจะทะเล้นทำเป็นแนะนำตัวเองด้วย

“ยินดีที่รู้จักครับ ใบเมี่ยง พายพัด ส่วนคนชื่อตังคิดว่ารู้จักดีแล้ว” มีคุณยิ้มให้นับตังค์ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับผู้มาสมัครงานทั้งสองคน ใบเมี่ยงยิ้มตอบกลับมา ส่วนพายพัดมองมองคุณแล้วแค่ก้มหัวให้

“เจอคนหน้าตาดีพูดจาดีเชียวนะ” นับตังค์แซวมีคุณเบาๆ ให้ได้ยินกันสองคน

“ก็อยู่กับคนขี้เหร่มาหลายวัน เจออะไรสบายตาก็ต้องดีใจไง” มีคุณตอบเบาๆ กลับไปบ้าง

“เหมือนกันเหอะ ตังก็เจอแต่อะไรที่อัปลักษณ์” นับตังค์เหล่ใส่มีคุณก่อนจะเดินไปดูน้ำซุปของใบเมี่ยงกับพายพัด มีคุณก็เดินตามไปด้วย

“กลิ่นหอมเหมือนต้มข่าเลย” มีคุณได้กลิ่นน้ำซุปของพายพัดก็ทักขึ้น

“อืม จริงด้วยหอมจังเลย หมูชาชูนี่น่ากินมากเลย บอสมาดูดิ” นับตังค์เดินมาดูหมูชาชูของใบเมี่ยงที่วางอยู่ในถาดแล้วก็เรียกให้มีคุณมาดูด้วย

“เส้นราเมนนี่ทำสดเลยเหรอ” มีคุณถามเมื่อเห็นเศษผงแป้งและเส้นราเมนวางอยู่บนเคาท์เตอร์ใหญ่

“ครับ เมี่ยงกับพายทำกันเอง เติมส่วนพิเศษเล็กน้อย เอาไว้ลองชิมตอนที่ทำเสร็จแล้วนะครับ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ลงมือเลย เดี๋ยวเรากับบอสจะนั่งดูอยู่ที่มุมห้องนะ เอาให้เต็มที่ สู้ๆ” นับตังค์ให้กำลังใจทั้งคู่ก่อนจะเดินไปนั่งอยู่ที่มุมห้องพร้อมกับมีคุณ


นับตังค์รู้สึกตาพร่ามัวตอนที่เห็นพายพัดกำลังยกแป้งขึ้นแล้วดึงแยกให้แป้งเป็นเส้นราเมนยาวๆ ซ้ำไปซ้ำมา ท่วงท่าของพายพัดมันน่าดูไปหมด นึกในใจว่าถ้ารัญญรีมาเห็นคงร้องกรี๊ดแล้วโผเข้าไปจับกล้ามแขนของพายพัดแน่ๆ ผงแป้งที่กระจายตัวสะท้อนกับแสงแดดยามเช้ามันยิ่งทำให้ดูเหมือนหมอกบางๆ เหมือนอย่างในฉากละครตอนเปิดตัวพระเอกจริงๆ


“น้ำลายยืดแล้ว” มีคุณพูดเสียงเข้มหลังจากที่เห็นนับตังค์จ้องพายพัดไม่เลิก

“ก็...เส้นราเมนมันน่ากิน” นับตังค์ยักไหล่ตอบ

“พี่ก็ทำได้”

“เหรออออ” นับตังค์ลากเสียงยาวก่อนจะหัวเราะในลำคอเพราะนึกขำคนขี้โม้

“ใบเมี่ยงเขายิ้มแล้วดูน่ารักดีนะ” มีคุณมองใบเมี่ยงแล้วนึกชม

“เก็บงูบนหัวด้วย” นับตังค์หันมาทำมือเป็นงูใส่มีคุณ

“ตังก็เก็บดิ เพราะงูตัวนี้มันอยู่บนหัวตังก่อนจะเลื้อยมาอยู่ที่หัวของพี่”

“งูของตังตัวใหญ่ นี่งูเล็ก ของบอสนั่นแหละ” นับตังค์ยกยิ้ม

“เหรอ ก็ไม่น่าใหญ่นะ” มีคุณทำเป็นครุ่นคิดก่อนจะมองไปที่กางเกงของนับตังค์

“มองทำไม เดี๋ยวฉกตาบอด” นับตังค์ทำเสียงขู่

“ชู่ๆ พอเลย กำลังจะดูเขาทำราเมน มาชวนคุยอยู่ได้ คิดอะไรกับพี่รึเปล่า” มีคุณทำเป็นบ่นนับตังค์ก่อนจะแอบยิ้มเมื่อเห็นนับตังค์ถลึงตาใส่แต่ไม่กล้าส่งเสียงออกมา


เวลาผ่านไปจนใบเมี่ยงกับพายพัดทำราเมนข้อสอบเสร็จ ทั้งคู่นำราเมนที่ทำมาวางบนโต๊ะที่อยู่ภายในร้านอาหาร มีคุณกับนับตังค์เดินตามออกมานั่งประจำที่เพื่อรอชิม เมื่อมองผลงานของคนทั้งคู่แล้วก็รู้สึกทึ่ง นี่เพียงแค่หน้าตาอาหารยังจัดออกมาดูดีชวนรับประทานจริงๆ


“ของผมเป็นราเมนซุปต้มข่าปลาแซลมอนรมควัน ผมเคี่ยวโครงไก่กับกระดูกวัวกับกะทิ ใส่เครื่องต้มข่าลงไปเคี่ยวด้วยจนข้นและมีกลิ่นหอมจากเครื่องสมุนไพรไทย เคี่ยวได้ที่แล้วก็กรองเศษเครื่องที่เคี่ยวออกให้เหลือแต่น้ำซุป โรยด้วยน้ำมันที่สกัดจากขมิ้นชันผสมกับน้ำมันพริกให้มีรสเผ็ดนิดหน่อยแก้เลี่ยน ตัวเส้นราเมนผมผสมขิงขูดลงไปด้วย ส่วนเห็ดหอมและเนื้อปลาแซลมอน ผมรมควันแค่พอให้มีกลิ่นอ่อนๆ มันจะได้ไม่กลบกลิ่นของน้ำซุป” พายพัดแนะนำราเมนในแบบของตัวเอง

“ส่วนของเมี่ยง เมี่ยงทำเป็นยำราเมนหมูชาชู เส้นราเมนเมี่ยงทำเส้นให้เล็กและเหนียวกว่าทำราเมนแบบใส่น้ำซุป น้ำยำสูตรพิเศษ แล้วเมี่ยงก็ทำหมูชาชูอบขิงเป็นเครื่องแกล้ม มีน้ำซุปกระดูกหมูที่เมี่ยงเคี่ยวจนไขกระดูกหมูออกมาเพิ่มรสให้เข้มข้นกลมกล่อมขึ้น เมี่ยงอยากให้ซดน้ำซุปก่อนจะทานยำราเมนครับ” ใบเมี่ยงแนะนำเมนูของตัวเองบ้าง

“ครีเอทมาก ขอชิมเลยนะ” นับตังค์ตื่นเต้นมาก บอกตรงๆ ว่าไม่เคยคิดว่าทั้งสองคนจะสร้างสรรค์ผลงานได้ถูกใจนับตังค์ได้ขนาดนี้

“เดี๋ยว ขอพี่ถ่ายรูปก่อน” มีคุณร้องห้ามนับตังค์ก่อนจะเอามือถือขึ้นมาถ่าย นับตังค์ทำหน้าเซ็งเมื่อมีคนมาขัดลาภปาก เมื่อถ่ายเสร็จมีคุณก็ส่งสัญญาณให้นับตังค์เริ่มชิมได้

“อร่อย ซุปต้มข่ารสดี ตัวปลารมควันก็หอม เข้ากันดี” นับตังค์ชมหลังจากที่ได้ชิมแล้ว แม้จะรู้สึกว่ารสชาติยังเข้มข้นได้อีกนิด แต่ก็ถือว่าอร่อยใช้ได้แล้ว

“อืม น้ำซุปกลมกล่อม เส้นราเมนเหนียวนุ่ม คลุกกับน้ำยำแล้วเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ เครื่องที่ใส่มาก็เข้ากันดีทุกอย่าง หมูชาชูอร่อยมาก รสชาติน้ำยำเหมือนยำใหญ่ของไทย รสดีมาก” มีคุณชมเมนูของใบเมี่ยงหลังจากที่ได้ชิม นับตังค์ได้ยินจึงรีบชิมเมนูของใบเมี่ยงบ้าง

“สุดยอด อร่อยมากเมี่ยง นี่บอส ลองชิมของพัดบ้าง” นับตังค์ยกนิ้วให้ใบเมี่ยงก่อนจะเลื่อนชามราเมนของพายพัดให้มีคุณได้ชิม

“น้ำมันพริกกับขมิ้นชันช่วยเพิ่มรสซุปได้ดี แต่รสชาติน้ำซุปยังเข้มข้นได้อีกนิดนะ เมนูนี้คนไม่ทานหมูก็กินได้ด้วย พวกคุณเก่งจริงๆ” มีคุณติชมตามจริงก่อนจะปรบมือให้

“ขอบคุณครับ อันที่จริงเมี่ยงถนัดทำขนมหวานกับอาหารเหนือ ส่วนพายเขาชอบทานอาหารไทยทุกอย่าง แต่เพิ่งหัดทำได้ไม่กี่ปีเองครับ แต่ถ้าเรื่องเครื่องดื่มฝีมือของพายไม่มีใครเทียบเลยนะครับ เราสองคิดว่าเชฟตังน่าจะชอบอาหารที่ผสมผสานทุกอย่างได้ถึงได้ให้เราทำราเมนข้อสอบแบบไหนมาก็ได้มาให้ชิม เราสองคนเลยลองเสี่ยงทำเมนูที่คิดว่าเป็นตัวเราได้มากที่สุดดู” ใบเมี่ยงอธิบาย

“ถ้าอย่างนั้นบอกผมหน่อยว่าเมนูที่คุณออกมาในวันนี้ทำมันเป็นตัวคุณยังไง” มีคุณถาม

“ผมชอบต้มข่า” พายพัดตอบสั้นๆ นับตังค์หัวเราะชอบใจเพราะคำตอบมันสั้นและตรงประเด็นสุดๆ

“แล้วเมี่ยงเลือกทำยำ มันเหมือนตัวเองยังไง” นับตังค์ถามเมี่ยงบ้าง

“เพราะเมี่ยงแซ่บครับ” เมี่ยงตอบก่อนจะยิ้มให้เจ้าของร้านและเชฟใหญ่

“โอเค ตกลงรับทั้งคู่” มีคุณตอบทันทีก่อนจะหัวเราะชอบใจในคำตอบของใบเมี่ยงเช่นกัน

“บอส ไหนว่าสิทธิขาดในครัวเป็นของตังไง” นับตังค์โวยวาย

“อ้าว หรือจะไม่รับ” มีคุณหันไปถามนับตังค์

“รับดิ รับทั้งคู่ แต่ให้ตังเป็นคนพูดก่อนดิ ฮู้ เซ็งเลย เอาหน้าว่ะ” นับตังค์บ่นสีหน้าเซ็งขั้นสุดที่โดนตัดหน้า

“ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมาก” ใบเมี่ยงดีใจที่ได้รู้ว่าได้งานนี้แล้ว

“ดีใจด้วยนะอุ๋งอุ๋ง” พายพัดเดินมาลูบผมของใบเมี่ยงก่อนจะก้มลงหอมแก้มใบเมี่ยงฟอดใหญ่ เล่นเอานับตังค์กับมีคุณอ้าปากค้างแล้วหยุดเถียงกันทันที

“พาย!! แบบนี้อีกแล้ว” ใบเมี่ยงเกาแก้มตัวเองเพราะเขินก่อนจะเดินหนีเข้าไปในครัว พายพัดเหลือบมองมีคุณก่อนจะยิ้มน้อยๆ แล้วเดินตามใบเมี่ยงไป

“ไงล่ะ ทำตัวกระล่อนจนเจ้าของเขาต้องประกาศศักดาใส่เลย สมน้ำหน้า” นับตังค์หัวเราะเยาะมีคุณหลังจากที่ผู้ช่วยเชฟทั้งสองคนกลับเข้าไปในครัวแล้ว

“พี่ไม่ได้คิดอะไรกับใบเมี่ยงสักหน่อย” มีคุณหน้าเหวอเมื่อโดนเข้าใจผิด

“แหม บอส เก็บอาการไม่อยู่ ไม่รู้ตัวเหอะ”

“พี่อาจไม่รู้ตัว แต่พี่ว่าพี่รู้ใจ” มีคุณพูดพร้อมกับจ้องหน้าของนับตังค์ จ้องจนนับตังค์เริ่มทำอะไรไม่ถูก

“ตังไปบอกรายละเอียดงานให้กับสองคนนั้นดีกว่า” นับตังค์จะลุกเพื่อหนีสายตาของมีคุณ แต่มีคุณดึงมือเอาไว้

“ไปตอนนี้ ถ้าเขากำลังจูบแสดงความดีใจกันอยู่ล่ะ จะไปเป็นพยานให้เขาเหรอ” มีคุณถาม นับตังค์หน้าเหรอหราแล้วนึกถึงภาพเมื่อเช้า สุดท้ายก็ต้องทิ้งตัวลงนั่งอยู่ที่เดิม

“รู้ได้ไงว่าเขาจะจูบกัน” นับตังค์ถาม

“ก็ถ้าเป็นพี่ พี่ก็คงทำ เวลาเราได้อยู่ใกล้คนที่เราชอบ เราก็อยากกอดอยากจูบตลอด” มีคุณบอก สายตาก็ยังจ้องนับตังค์อยู่ มือที่จับมือของนับตังค์เอาไว้ก็ยังเนียนไม่ยอมปล่อย

“เพ้อเจ้อ ไปหาด้วงดีกว่า” นับตังค์รู้สึกว่าถ้ายังนั่งอยู่นานกว่านี้หัวใจคงจะกระเด็นกระดอนออกมานอกอกแน่ๆ

“ยังไม่ต้องไป ขมิ้นพาด้วงไปหาคุณขจี”

“ก็ไปหาที่รีสอร์ทคุณขจีไง”

“ตัง อย่าดื้อ นั่งลงกินราเมนให้หมดก่อน” มีคุณดุ ไม่ได้ดุจริงจัง แต่เสียงก็เข้มจนนับตังค์ต้องยอมฟัง

“จะกินได้ไงเล่า” นับตังค์พูดเบาๆ

“ทำไม” มีคุณถามด้วยความสงสัย

“จะจับอีกนานไหม่ล่ะ หรือจะให้เอาเท้าคีบตะเกียบ” นับตังค์มองไปที่มือของมีคุณที่จับข้อมือของนับตังค์ไม่ยอมปล่อย

“พี่ป้อนให้ เอาไหม”

“ไม่ต้อง” นับตังค์ดึงมือตัวเองออกจนเป็นอิสระในที่สุด รู้ว่ามีคุณกำลังยิ้มอยู่เลยได้แต่ทำเป็นไม่สนใจแล้วก้มหน้าก้มตากินราเมนไป พยายามสูดเส้นราเมนให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะกลัวว่าถ้าปล่อยให้บรรยากาศรอบตัวเงียบเกินไป มีคุณอาจจะได้ยินเสียงหัวใจของนับตังค์ที่เต้นดังตึกตักอยู่ก็เป็นได้


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-04-2017 11:15:23 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


ขมิ้นอุ้มหนูด้วงกลับมาจากรีสอร์ทของคุณขจี ตอนที่หนูด้วงอยู่กับคุณขจีก็ยังยิ้มแย้มแจ่มใส แต่พอได้เห็นหน้าของดาวเรืองเท่านั้นหนูด้วงก็เริ่มงอแงแล้วร้องกลับ ขมิ้นนึกแปลกใจและเก็บความสงสัยเอาไว้และรีบพาหนูด้วงกลับมาที่บ้าน เมื่อมาถึงบ้านขมิ้นก็เห็นนับตังค์และมีคุณอยู่กับคนที่สมัครเป็นผู้ช่วยเชฟนั่งอยู่ด้วยทั้งสองคน


“กลับมาแล้วเหรอ ร้องไห้ทำไมด้วง” นับตังค์ลุกไปอุ้มด้วงมาจากขมิ้น เมื่อเห็นว่าดวงตาของหนูน้อยมีร่องรอยของน้ำตาอยู่ก็เลยเอ่ยถาม

“พอเห็นหน้าดาวเรืองก็ร้องเลยนิ น่าหวาจะกลัวมัน” ขมิ้นหน้าเครียดแล้วเล่าให้นับตังค์ฟัง

“ตอนตังไปเจอครั้งแรกก็ร้องกลัวเยือง กลัวเยือง” นับตังค์เล่าให้ฟังบ้าง

“แสดงว่าคงเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้ฝังใจ ขอพี่อุ้มหน่อยได้ไหมครับคนเก่ง” ใบเมี่ยงลุกมาหานับตังค์ ด้วงที่ตอนแรกเกาะนับตังค์แน่นก็ดูจะลังเล แต่สุดท้ายก็ยอมให้ใบเมี่ยงอุ้ม ใบเมี่ยงอุ้มได้สักพัก ด้วงก็ชูมือให้นับตังค์อุ้มเหมือนเดิม

“มาตฤกะเป็นคนรักเด็ก” พายแซวใบเหมี่ยง

“อ๊ะ ชื่อมาตฤกะเหรอ” ขมิ้นที่กำลังจะเดินไปในครัว พอได้ยินชื่อของใบเมี่ยงก็หยุดชะงักแล้วเดินย้อยกลับมาถาม

“ครับ ชื่อเมี่ยงเอง” เมี่ยงตอบรับขมิ้นแบบงงๆ

“เคยมาเจอนายปู่ใช่ไหม เคยมาขอทำงานกับนายปู่ใช่ไหม” ขมิ้นถามด้วยความตื่นเต้น

“ใช่ครับ” ใบเมี่ยงเองก็แปลกใจที่ขมิ้นรู้เรื่องนี้ด้วย

“เจอจนได้ เจอตัวจนได้นิ รอก่อนนะ ขอโทรหาทนายเคารพก่อน” ขมิ้นออกอาการดีใจจนทุกคนประหลาดใจ เมื่อขมิ้นหายกลับเข้าไปในครัวมีคุณก็หันมาถามใบเมี่ยง

“เมี่ยงเคยขอมาทำงานกับปู่ของผมเหรอ”

“ก็ไม่เชิงครับ เมี่ยงเคยมาทานอาหารที่ร้านนี้ ฝีมือของคุณปู่สุดยอดมาก เลยเลยมาขอให้ท่านเป็นครูสอน เมี่ยงตั้งใจว่าจะย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะแม่ของเมี่ยงเสียแล้ว อยากมาเดินทางหาอะไรใหม่ๆ คุณปู่เลยบอกว่าจะรับเมี่ยงเป็นศิษย์และจะยอมขายที่ให้เอาไว้สร้างบ้าน แต่คุณปู่มีข้อแม้ที่ต้องแลกเปลี่ยน” เมี่ยงเล่าให้มีคุณกับนับตังค์ฟัง

“ข้อแม้อะไรเหรอ” นับตังค์ถามด้วยความสงสัย ส่วนมีคุณได้แต่นึกในใจว่าคุณปู่กำลังคิดอะไรถึงได้ให้เขามารับช่วงที่นี่ต่อ กำหนดว่าเชฟต้องเป็นนับตังค์ และตอนนี้ยังยอมแบ่งที่ดินให้เมี่ยงซึ่งเป็นคนแปลกหน้าที่แค่แวะมากินอาหารที่ร้าน

“เมี่ยงก็ไม่รู้ เมี่ยงตัดสินใจช้าไปเพราะมัวแต่ลังเล พอกลับมาที่นี่คุณปู่ก็เสียแล้ว แล้วก็ได้มาเห็นประกาศรับผู้ช่วยเชฟ เมี่ยงถึงดีใจและอยากได้งานนี้มาก”

“แต่คุณปู่ไม่อยู่แล้ว ทำไมถึงอยากมาทำที่นี่ล่ะ” นับตังค์ถามอีก

“ใบเมี่ยงคงคิดว่าเป็นพรหมลิขิต อืม...หรือคุณปู่ลิขิตดี” คราวนี้พายพัดเป็นคนตอบแทน


นับตังค์หันไปมองพายพัดก็เห็นแสงระยิบระยับอีกแล้ว คนหน้าตาหล่อแล้วมาพูดเรื่องพรหมลิขิตมันช่างดูละมุนละไมดี แต่พอหันไปเห็นหน้ามีคุณที่กำลังมองมาแล้วยักคิ้วให้ แสงระยับระยับหายไปในทันที แต่กลายเป็นภาพบอสมีคุณที่เคยอมนิ้วของนับตังค์มาแทนที่ นับตังค์เกือบจะสำลักน้ำลายตัวเอง


“พรุ่งนี้คุณเคารพจะมาพบกับคุณนิ คุณปู่ให้ตามหาตัวคุณมานานแล้ว พรุ่งนี้บ่ายๆ มาที่นี่ด้วยนะ” ขมิ้นเดินออกมาบอกกับใบเมี่ยงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“จริงเหรอครับ คุณปู่ตามหาเมี่ยงเหรอครับ” ใบเมี่ยงรู้สึกดีใจ

“จริงแท้นิ” ขมิ้นเองก็ดีใจไม่แพ้กันที่ความต้องการของนายปู่ดูจะเป็นไปด้วยดีทุกอย่าง นายปู่คงจะมีความสุขเมื่อมองลงมาแล้วเห็นว่าคนที่ท่านต้องการให้มาอยู่ที่นี่มาครบกันหมดแล้ว

“เอาเป็นว่า เมี่ยงกับพายได้งานนี้แล้ว อีกหนึ่งเดือนเราถึงจะเปิดร้าน แม้ตอนนี้จะเป็นช่วงฤดูที่นักท่องเที่ยวเริ่มมาที่เกาะกันแล้ว แต่ผมอยากให้ทุกอย่างพร้อมก่อน ผมอยากให้คุณทั้งคู่เริ่มมาทำงานตั้งแต่พรุ่งนี้เลย ส่วนเรื่องเงินเดือนผมขอให้ตามเรทมาตรฐานก่อนสักสามเดือน ถ้านับตังค์ประเมินการทำงานของคุณแล้วเห็นว่าควรเพิ่มให้ ผมก็ยินดี อีกอย่าง นับตังค์เขาจะต้องเริ่มกำหนดเมนูอาหารแล้ว คุณทั้งสองคนจะได้มาลองทำงานให้ให้รู้มือรู้ใจกัน ระหว่างนี้ผมจะก็จะเริ่มทำการโปรโมทร้านไปด้วย แล้วคุณสองคนพักที่ไหน” มีคุณแจกแจงรายละเอียดก่อนจะถามถึงที่พักของใบเมี่ยงและพายพัด

“เราเช่าโฮมสเตย์อยู่ชั่วคราว” พายพัดตอบ

“ถ้าอย่างนั้นมาอยู่ที่นี่ก่อน ไม่ต้องไปเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม” มีคุณพูดจบนับตังค์ก็มองหน้ามีคุณ เพราะบ้านหลังนี้มีห้องนอนห้องเดียว มีคุณชวนพายพัดกับใบมี่ยงมาอยู่แล้วจะให้ทั้งคู่นอนที่ไหน

“จะไม่รบกวนบอสกับเชฟเหรอครับ” ใบเมี่ยงถามด้วยความเกรงใจ

“ไม่เป็นไร เรามีห้องใต้หลังคาอยู่ อาจจะไม่ใหญ่โตมากนักแต่ผมว่าสองคนอยู่ได้สบาย เดี๋ยวจะให้ขมิ้นพาไปดู แล้วคุณสองคนไปย้ายของมาได้เลยในตอนเย็น” มีคุณยังไม่ทันสังเกตว่านับตังค์จ้องหน้ามีคุณอยู่

“ถ้าอย่างนั้นเราสองคนรบกวนด้วยนะครับบอส” ใบเมี่ยงส่งยิ้มสดใสมาให้ พายพัดก็ก้มหัวให้มีคุณแทนคำขอบคุณ แต่ก็ยังไว้ท่าทีเพราะแอบหวงใบเมี่ยง กลัวมีคุณจะมาถูกใจแฟนตัวเอง เพราะตั้งแต่มาถึง ดูมีคุณจะถูกชะตาใบเมี่ยงเหลือเกิน

“บอส!!” นับตังค์เห็นมีคุณไม่สนใจมองมาเลยเรียกมีคุณเสียงเข้ม

“ปี้จ๋า งืม งืม” ด้วงที่ผล็อยหลับซบไหล่นับตังค์อยู่ก็ตกใจเสียงของนับตังค์

“โอ๋ๆ หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” นับตังค์ไม่ทันสังเกตว่าด้วงหลับ คงเพราะตื่นแต่เช้า เลยรีบลูบหลังให้เบาๆ

“ทำเสียงดังลูกตกใจหมด” บอสทำเป็นดุนับตังค์ ส่วนนับตังค์รู้สึกสะดุดกับคำพูดของมีคุณ ทำอย่างกับคนเป็นพ่อเป็นแม่เขาพูดกัน แต่ด้วยความที่กลัวด้วงตื่นเลยได้แต่ข่มใจไม่โวยวายออกไป

“ไหนว่าบ้านนี้มีห้องนอนเดียวไง” นับตังค์กระซิบถามหลังจากที่ขมิ้นพาใบเมี่ยงกับพายพัดขึ้นไปดูห้องแล้ว

“ก็มีห้องนอนเดียวจริงๆ ห้องนั้นมันเป็นห้องใต้หลังคา ไม่ใช่ห้องนอน” มีคุณยักไหล่ตอบ

“แล้วทำไมไม่บอกว่ามันมีอีกห้อง”

“ก็นึกว่ารู้ เอาน่า ยังไงเราก็ต้องนอนด้วยกันอยู่ดี”

“ทำไมตังต้องนอนกับบอสด้วย” นับตังค์ถามอย่างเซ็งๆ

“หรือตังจะไปนอนกับคู่นั้นล่ะ จะนอนหลับเหรอเวลาเขาจู๋จี๋กัน” มีคุณถามขำๆ

“ไม่เอาหรอก ตากุ้งยิงตายเลย” นับตังค์นึกแล้วก็ขนลุก

“เห็นไหม ก็ต้องมานอนกับพี่กับลูกอยู่ดี” มีคุณตีเนียน

“ประโยคของบอสมันฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ นะ” นับตังค์หันมามองมีคุณ แต่มีคุณไม่ยอมแก้ตัวอะไร ได้แต่ยิ้ม

“เดี๋ยวหมิ้นจะเอาหมอนกับผ้าห่มมาเพิ่มให้อีกนิ แต่ห้องทำความสะอาดตลอด ไม่มีฝุ่นหรอก” ขมิ้นเดินลงมาจากข้างบน ใบเมี่ยงและพายพัดตามลงมา

“ว่าไง โอเคไหม” มีคุณถาม

“มันน่าอยู่มากเลยครับบอส ขอบคุณนะครับ” ใบเมี่ยงตอบ

“นายหัว อีกสามวันจะเป็นวันสงกรานต์แล้วนิ ปกตินายปู่จะทำบาบีคิวไปเลี้ยงเด็กๆ พวกลูกหลานชาวประมง ปีนี้จะทำไหม” ขมิ้นถามก่อนที่จะลืม

“ดีจัง มีกิจกรรมด้วยเหรอ ทำนะบอส” นับตังค์หันมาขอมีคุณ ขมิ้นมองไปที่มีคุณเพื่อรอคำตอบของคนเป็นนาย

“เชฟว่าไงก็ตามนั้น ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ก็บอกมาแล้วกัน” มีคุณเห็นนับตังค์อยากทำก็ตามใจ บอกตรงๆ เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าอีกไม่กี่วันจะเป็นวันสงกรานต์แล้ว

“ดีเลย เดี๋ยวเมี่ยงกับพายช่วยด้วยนะเชฟ” ใบเมี่ยงเองก็ดูตื่นเต้นกับวันสงกรานต์ที่จะมาถึง

“พายว่าเราไปขนของกันดีกว่า จะได้ไปเคลียร์ค่าเช่ากับคุณป้าแกด้วย แกจะได้ปล่อยห้องให้คนอื่นเช่า” พายพัดพูดกับใบเมี่ยง

“ขมิ้นเอารถกระบะไปช่วยขนก็ได้ ของเยอะไหม” มีคุณถาม

“ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็ขอบคุณครับบอส” พายพัดเอ่ยปากขอบคุณก่อนจะโอบไหล่ใบเมี่ยงแล้วเอานิ้วเขี่ยที่แก้มของใบเมี่ยงไปด้วย


มีคุณเห็นแล้วก็นึกขำ เดาออกว่าพายพัดคงจะหวงคนรัก แต่ก็ไม่แปลกใจ ใบเมี่ยงเป็นคนน่ารัก ดูสดใส มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ก็น่าจะหวงเป็นธรรมดา เขาเองยังรู้สึกถูกชะตากับใบเมี่ยงเลย จะว่าไปก็ถูกชะตากับคนทั้งคู่ เพียงแต่เขาเห็นใบเมี่ยงแล้วทำให้เขานึกถึงคิวอดีตคนรักเก่า ตอนที่เขายังคบกับคิว เขาก็เคยหวงคิวแบบนี้ เพราะคิวเป็นคนช่างเจรจา สนิทกับคนง่าย มีแต่คนมาตามจีบ มีคุณไม่ค่อยชอบที่คิวยอมให้ใครต่อใครมาถึงเนื้อถึงตัวง่ายๆ แต่ใบเมี่ยงไม่เหมือนคิวตรงที่ไม่มีทีท่ารำคาญพายพัดเวลาที่พายพัดแสดงออกว่าหึงหวง ผิดกับคิวที่แสดงออกว่ารำคาญที่เขาหวงและพูดเตือนเรื่องไปใกล้ชิดกับใครต่อใคร คิวบอกกับเขาว่า คิวเป็นผู้ชาย ไม่ใช่สาวๆ ที่ใครจะมากอดมาโอบไม่ได้ แต่มีคุณกลับคิดว่า ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่ขึ้นชื่อว่าคนรัก ไม่มีใครอยากให้คนรักของตัวเองไปสนิทสนมกับคนอื่นจนเกินไปหรอก


“ตังเอาด้วงไปนอนก่อนนะ พี่ขมิ้นแวะซื้อของสดมาด้วยนะ เย็นนี้มาจัดปาร์ตี้ฉลองทีมเชฟกัน พี่ขมิ้นชวนพี่สาลี่มาด้วยนะ” นับตังค์รู้สึกดีใจที่ใบเมี่ยงกับพายพัดจะมาอยู่ด้วยกันเพราะตัวเองเคยอยู่เป็นครอบครัวใหญ่มาตั้งแต่เด็ก เมื่อออกจากบ้านมาก็รู้สึกเหงา มาตอนนี้เลยเหมือนกับว่าครอบครัวแห่งเกาะใบไม้ครามนี้กำลังขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งมันทำให้นับตังค์คลายความคิดถึงบ้านได้บ้าง

“ทำไมนายหัวชวนสองคนนั้นมาอยู่ทั้งที่เพิ่งรู้จัก” ขมิ้นแอบถามมีคุณหลังจากที่นับตังค์เดินพาด้วงไปนอนบนห้อง ส่วนใบเมี่ยงกับพายพัดเดินไปเอากระเป๋าที่วางเอาไว้ครัวร้าน

“ฉันว่าทั้งสองคนดูเป็นคนดี อีกอย่างหนึ่ง ตังเขาจะได้มีเพื่อน ไม่อยากให้เขาเหงา” มีคุณบอกกับขมิ้นอย่างที่รู้สึก ขมิ้นจับอาการของนายหัวคนใหม่ หลายครั้งแล้วที่ขมิ้นเห็นว่านายหัวดูจะใส่ใจนับตังค์มากเกินนายกับลูกน้อง

“บอสชอบเชฟใช่ม้าย” ขมิ้นถามอย่างตรงไปตรงมา

“ขมิ้นคิดแบบนั้นเหรอ” มีคุณได้ยินแล้วก็นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยย้อนถามขมิ้น

“ฉ้าน” ขมิ้นตอบว่าใช่ มีคุณไม่เข้าใจหรอกว่ามันแปลว่าอะไร แต่เข้าใจได้จากการที่ขมิ้นพยักหน้า

“รอให้ฉันแน่ใจตัวเองมากกว่านี้ก่อนแล้วกัน แล้วฉันจะบอกว่าที่ขมิ้นคิดมันใช่หรือไม่ใช่” มีคุณบอกไปแบบนั้นเพราะเขาเองยังไม่มั่นใจว่าความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นกับนับตังค์ เพราะเขารู้สึกอยากเพิ่มระดับความสัมพันธ์จริงๆ หรือแค่หวั่นไหวเพราะความใกล้ชิด

“ไม่พรือ ตอบใจนายหัวเองก็พอนิ” ขมิ้นพูดจบก็เดินออกไปเอารถเพื่อจะพาใบเมี่ยงและพายพัดไปเอาของใช่ รวมถึงไปซื้อของให้นับตังค์มาทำอาหารในตอนเย็นนี้ด้วย


ส่วนนับตังค์เมื่อพาด้วงมานอนบนเตียงแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนสนิทซึ่งก็คือรัญญรี นับตังค์อยากรู้ว่าที่บ้านของนับตังค์เป็นอย่างไรบ้างและเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คืออยากปรึกษารัญญรีเรื่องความรู้สึกแปลกๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในใจ


“ว่าไงแก ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง” รัญญรีดีใจที่นับตังค์โทรมา กำลังนึกเป็นห่วงอยู่พอดี

“ดีมากเลยว่ะรัน ร้านสวยมาก ร้านในฝันของฉันเลย ทะเลก็สวย น้ำตกก็มี สวยไปหมดเลย” นับตังค์เล่าให้เพื่อนฟังจนรัญญรีตื่นเต้นตาม

“พูดจนฉันอยากนั่งเครื่องไปหาแกเลย แล้วบอสของแกเป็นไงบ้าง เสียท่าแกรึยังวะตัง” รัญญรีถามก่อนจะหัวเราะร่วน

“ฉันเหอะที่จะเสียท่า” นับตังค์บ่นออกมา

“ว่าไงนะ แก...เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยไอ้ตัง”

“ใจเย็นเพื่อน ว่าแต่มีใครโทรมาถามถึงฉันบ้างรึเปล่าวะ”

“ไม่มีเลยว่ะตัง ตั้งแต่ฉันแปลงเพศมา ฉันก็ไม่กล้าไปที่ร้านของย่าแก แต่ไอ้หม่องมันไปมา มันบอกว่าไม่มีใครถามถึงเลย แกอย่าเสียใจนะตัง พวกเขาอาจจะคิดว่ากำลังดัดนิสัยแกอยู่ แต่ในใจพวกเขาต้องคิดถึงแกอยู่แล้ว” รัญญรีนึกสงสารเพื่อนสนิท

“อืม” นับตังค์รู้สึกว่าหัวใจมันหม่นหมองลงหลังจากที่รับรู้ว่าคนที่บ้านไม่มีใครโทรถามข่าวของตัวเองบ้างเลย นับตังค์ไม่แปลกใจถ้าพ่อกับย่าจะไม่โทรมา แต่แม่กับพี่เฟื้องนี่สิ คิดแล้วนับตังค์ก็รู้สึกน้อยใจ

“ไหน แกเล่ามาสิ แกจะเสียท่าบอสของแกได้ยังไง” รัญญรีเดาออกว่านับตังค์กำลังน้อยใจที่บ้านเลยรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“รัน แกรู้ตัวตอนไหนวะว่าแกชอบผู้ชาย” นับตังค์ยังไม่ได้เล่าแต่ถามสิ่งที่คาใจตัวเองก่อน

“ก็รู้ตอนมีผู้ชายให้ชอบนั้นแหละ” คำตอบของรัญญรีตรงๆ สั้นๆ

“แล้วยังไงถึงจะรู้ว่าเราชอบวะ” นับตังค์ยังคงถามต่อ

“ไอ้ตัง แกอย่าคิดอะไรให้มันมากมาย เราจะชอบใครสักคน เราก็อยากอยู่ใกล้ๆ เขาไม่อยู่ก็เหงา ก็คิดถึง เวลาเขามาอยู่ด้วยก็มีความสุข ยิ้มได้ อยากถูกกอด ถ้าชอบมากหน่อยจนถึงรักก็อยากมีอะไรด้วยตามธรรมชาติของการอยากมีคู่ ก็แค่นั้น” รัญญรีตอบกลับไป

“แล้ว เราจะรู้ได้ยังไงว่าอีกฝ่ายชอบเราจริงๆ” นับตังค์ยังคงไม่กล้าคิดเอาเอง แม้หลายต่อหลายครั้งที่มีคุณชอบจ้อง ชอบหยอด แต่อาจจะเป็นนิสัยของมีคุณที่ขี้เล่นไม่ได้จริงจังอะไรก็เป็นได้

“ถามสิ”

“บ้าเหรอ ไม่เอาหรอก” นับตังค์เผลอตัวร้องออกไปเมื่อได้คำตอบจากเพื่อนสนิท

“ไอ้ตัง แปลว่าแกแอบชอบบอสของแกแล้วใช่ไหม” รัญญรีคาดคั้น นับตังค์นิ่งอึ้งไปก่อนจะถอนหายใจ

“ไม่รู้ว่ะรัน ฉันไม่เคยชอบใคร มันอาจจะเป็นเพราะฉันเพิ่งเคยออกจากบ้านนานๆ เป็นครั้งแรก อาจจะแค่เหงาก็ได้ เทพบุตรของแกก็เป็นพวกกระล่อนด้วย ฉันอาจจะเป็นแค่หนูน้อยหมวกแดงในป่าใหญ่ ที่มาเจอกับหมาป่าหื่นกระหายก็ได้” นับตังค์เปรียบไปเรื่อยเปื่อยจนรัญญรีหัวเราะขำ

“ขอให้โดนหมาป่างาบในเร็ววันนะไอ้หนูน้อยหมวกแดง ฮ่าๆ” รัญญรียังคงขำไม่หยุด

“ไอ้รัน แค่นี้ก่อนนะ ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นมาว่ะ” นับตังค์จะวางสายเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากด้านนอก

“อะไรว่ะ ยังไม่ได้เล่าให้ฉันฟังเลยว่าบอสเขาทำอะไรแกถึงได้หวั่นไหว”

“เอาไว้สะดวกแล้วจะโทรไปเล่านะ”

“ตัง อย่าไปคิดอะไรเยอะเกิน อยากรู้ว่าเขาคิดยังไงก็ถามเขา จะได้ไม่ต้องคิดเอง ถ้าเขาไม่ได้คิดตรงกับแก แกจะได้รักษาระยะห่างเอาไว้เพราะแกต้องอยู่กับเขาอีกตั้งปีเชียวนะ เข้าใจไหม แล้วฉันกับไอ้หม่องจะไปหาแก ดูแลตัวเองด้วยนะ รักแกนะ” รัญญรีพูดกับเพื่อนสนิทก่อนจะวางสาย


นับตังค์ฟังแล้วก็ถอนหายใจเพราะคงไม่กล้าทำอย่างที่รัญญรีสอน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา นับตังค์ก็รีบวางโทรศัพท์แล้วแกล้งนอนหลับข้างด้วง เสียงประตูห้องนอนถูกเปิดออก สักพักเจ้าของเสียงฝีเท้าที่นับตังค์ได้ยินก็มาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง


“ไหนบอกจะพาด้วงมานอน ไหงมานอนเสียเอง” มีคุณบ่นเบาๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เมื่อเห็นนับตังค์นอนนิ่งก็เลยโน้มใบหน้าไปมองนับตังค์ใกล้ๆ

“บอส จะทำอะไร” นับตังค์รีบลืมตาเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของมีคุณ

“จะฟังว่าหายใจอยู่รึเปล่า เห็นว่านอนเกร็งเท้าพี่เลยนึกว่าเป็นลมบ้าหมู” มีคุณตอบแล้วหัวเราะเพราะเขารู้ว่านับตังค์แกล้งหลับ เพิ่งจะเดินขึ้นมาบนห้องจะมาหลับสนิทได้ยังไงกัน

“ต้องให้ร้องอู๊ด อู๊ดๆ ด้วยไหม” นับตังค์มองขวางใส่ก่อนจะเล่นมุกกลบความประหม่า

“ก็ลองร้องดิ” มีคุณพูดแล้วเอานิ้วไปดันปลายจมูกของนับตังค์ให้เหมือนจมูกหมู

“ทะลึ่งแล้ว ไม่ต้องมาจับ” นับตังค์ตีมือของมีคุณทันที

“หมู ปี้จ๋าเป็นหมู” จู่ๆ ด้วงก็ลุกขึ้นมาแล้วปีนตัวนับตังค์เพื่อเอานิ้วจิ้มไปที่จมูกของนับตังค์บ้างทั้งที่ยังดูงัวเงียอยู่ ด้วงกำลังทำเลียนแบบที่มีคุณทำ

“เห็นไหม เสียงดัง ลูกตื่นเลย” มีคุณนึกขำที่นับตังค์ไม่กล้าเอานิ้วของด้วงออกจากจมูก คงจะกลัวด้วงตกใจ

“ลูกบอสอะดิ เอาไปดูเองเลย มากวนจนตื่นเนี่ย” นับตังค์อุ้มด้วงส่งให้มีคุณ ส่วนตัวเองรีบเด้งลุกออกจากเตียง

“ฮึก พี่จ๋า ฮึก” ด้วงมองมีคุณแล้วเริ่มเบะปากร้อง มีคุณรีบลุกเดินมาส่งด้วงคืนนับตังค์

“ด้วงติดตังมากกว่าพี่ พาไปนอนเลย เดี๋ยวร้องไห้” มีคุณดันหลังนับตังค์ให้พาด้วงไปนอนที่เตียง

“ปี้จ๋ากอดกัน” ด้วงอ้อนนับตังค์หลังจากที่นับตังค์วางด้วงลงบนเตียง

“กอดแล้วหลับนะ” นับตังค์กอดปลอบ ด้วงเอามือน้อยๆ มาจับหน้าของนับตังค์ก่อนจะลุกชะโงกไปมองมีคุณที่ยืนอยู่

“ปี้จ๋ามากอดล่วยกัน” ด้วงทำท่ากวักมือเรียกมีคุณ

“ด้วง ไม่เอา กอดกันแค่สองคน” นับตังค์รีบร้องบอก

“ได้ไง เดี๋ยวด้วงร้องไห้ อย่าขัดใจเด็กสิตัง” มีคุณรีบลงมานอนข้างนับตังค์แล้วโอบมือข้ามตัวนับตังค์ไปแตะที่ตัวของด้วง ด้วงจึงยอมทิ้งตัวลงนอนซุกอกนับตังค์แล้วทำเป็นหลับตาปี๋

“ไหนบอกอย่าตามใจเด็กมากไง ออกไปไกลๆ หน่อยดิ อึดอัด” นับตังค์เอาศอกดันอกของมีคุณให้ออกห่างแผ่นหลังของตน

“จุ๊ๆ เบาๆ เดี๋ยวด้วงหลับแล้วพี่ก็ปล่อยแล้ว ดื้อกว่าด้วงอีกนะเรา” มีคุณทำเป็นดุ


นับตังค์ไม่ได้ขัดขืนหรือโวยวายอะไรอีก ยอมนอนให้มีคุณโอบเอาไว้ ที่นับตังค์ยอมนอนนิ่งๆ ก็เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าตัวเองกำลังรู้สึกอึดอัดอย่างที่ปากพูดไปหรือว่ากำลังอบอุ่นกับอ้อมแขนของผู้ชายที่ชื่อมีคุณกันแน่


***โปรดติดตามตอนต่อไป***




เครดิตรูปจาก Google

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เล่นน้ำสงกรานต์คลายร้อนแล้วอย่าลืมดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2017 04:06:21 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Jitsupa_milk

  • Just Milky('s) Way
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ด้วงน่ารักกก

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮ่อยยยย น่ารักอ่ะ
รีบรู้ใจกันไวๆ นะคะ
คงหวานมุ้งมิ้งสุด
แต่กลัวตอนตังรู้ความจริงอ่ะ
ไม่อยากให้ดราม่าเยอะเลย

ชอบใบเมี่ยง กับ พายมากอ่ะ
น่ารักจัง

 :mew1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
ชอบมาก   ขอบคุณคร้าบบบบบบบ

 :L2: :pig4: :3123:

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
น่ารักมากกก :impress2: :pig4:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ครอบครัวสุขสันต์ น่ารักจริงๆ

มีคุณคิดไรน้อออ อีกคนก็หวั่นไหววว :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด