พิมพ์หน้านี้ - - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Loverouter ที่ 23-03-2017 16:40:45

หัวข้อ: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 23-03-2017 16:40:45
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


**********************************************


หมายเหตุจากผู้แต่ง

นิยายเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อคน สถานที่ เนื้อเรื่องถูกแต่งขึ้นทั้งหมดจากจินตนาการของผู้แต่ง อาจจะมีคำไม่สุภาพบ้างนิดหน่อยในการแทนตัวของตัวละครหรือคำเขียนที่ผิดเพี้ยนจากคำที่ถูกต้องไปบ้าง เพื่อแสดงอารมณ์ของตัวละครในบทสนทนา แต่จะพยายามให้น้อยที่สุดนะคะ และหากเนื้อเรื่องตอนใดของนิยายเรื่องนี้ไปคล้ายคลึงชื่อใคร สถานที่ใด เรื่องใดก็ตามต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วย แต่รับรองว่าเนื้อเรื่องทั้งหมดมาจากจินตนาการผู้แต่งล้วนๆค่ะ ขอให้สนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ

---------------------


นิยายเรื่องอื่นๆของผู้แต่ง



ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44925.0)

รักวุ่นดีปีโป้ช่วยลุ้น ภาค 1 และ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45546.0)

จนกว่ารักจะทักทาย (18+) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.0)

เคลียร์คิวหัวใจเอาไว้ให้ความรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52203.0)


ซีรีส์ชาวเกาะ
ปรุงรักให้ลงล็อก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.0)
ปลดล็อกให้ความรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64395.0)
เพลงรักที่หายไป (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67389.0)


มนตราแห่งมายัน
ภาค วสันตวิษุวัต (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69992.0)
ภาค ครีษมายัน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70879.0)


เรื่องสั้น
ผู้โชคดี (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70401.0)



[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย] (https://twitter.com/loverouter)


---------------------



หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก-
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 23-03-2017 16:41:11
บทนำ


'มีคุณ' หนุ่มนักวิจารณ์อาหารชื่อดังกำลังมีปัญหาเรื่องหนี้สินที่มารดาสร้างเอาไว้จำนวนมาก ซึ่งมีคุณยังไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ได้ยังไง
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าบุญมีแต่กรรมบังหรือเปล่า เมื่อจู่ๆเขาก็ได้รับมรดกจากคุณปู่ที่เพิ่งเสียชีวิตไป มรดกที่ว่าก็คือร้านอาหารของคุณปู่นั่นเอง ร้านนี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งมันอยู่บนเกาะเล็กๆทางใต้ แต่กำลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ หากมีคุณขายที่ดินที่ร้านนี้ได้ มีคุณจะมีเงินมากพอมาใช้หนี้ให้มารดาได้

แต่ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ เพราะคุณปู่มีข้อแม้ระบุไว้ว่า...มีคุณจะขายร้านพร้อมที่ดินได้ก็ต่อเมื่อมารับช่วงต่อในกิจการร้านอาหารของปู่จนครบหนึ่งปี โดยทุกเดือนต้องทำกำไรให้ได้ไม่ต่ำกว่าที่ปู่เคยทำเอาไว้

แต่ปัญหาที่ทำให้มีคุณต้องปวดหัวที่สุดก็คงเป็นข้อแม้สุดท้ายของปู่ ซึ่งข้อแม้นั้นก็คือเรื่องเชฟที่คุณปู่ระบุเอาไว้ในพินัยกรรมว่าต้องการเชฟคนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น

เชฟคนนั้นคือ 'นับตังค์' เด็กหนุ่มที่มาจากครอบครัวหัวโบราณแต่มีชื่อเรื่องรสมือการทำอาหารคาวหวานแบบไทยๆมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ

แม้นับตังค์โตมากับอาหารและขนมไทย แต่เจ้าตัวดันคิดอะไรไม่เหมือนคนในครอบครัว นับตังค์แอบคิดสูตรใหม่ๆ โดยนำอาหารไทยไปประยุกต์ผสมผสานกับอาหารฝรั่งในสไตล์ของตัวเอง แอบไปประกวดโดยไม่ให้ครอบครัวรู้

มีคุณจะทำอย่างไรให้นับตังค์ยอมมาเป็นเชฟให้เพราะตัวเองเคยไปวิจารณ์ฝีมือของนับตังค์มาก่อนจนไม่เหลือดี
แถมคุณเชฟก็เกรียน คุณบอสก็กวน กลิ่นอาหารและกลิ่นความรักจะตลบอบอวล รออ่านเรื่องราวรักที่จัดจ้านชวนทานกันนะคะ


สารบัญ ปรุงรักให้ลงล็อก

[ตอนที่ 1 ข้าวเหนียวดง-มะยงชิด] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3602553#msg3602553) , [ตอนที่ 2 บิบิมบับฉบับคลุกกะปิ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3603211#msg3603211) , [ตอนที่ 3 จ่างมงกุฎ ดาราเอก] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3605025#msg3605025)
[ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3605614#msg3605614) , [ตอนที่ 5 ขนมจาก] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3607049#msg3607049) , [ตอนที่ 6 ลุกชุบ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3609314#msg3609314) , [ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3610895#msg3610895)
[ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3614599#msg3614599) , [ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3616708#msg3616708) , [ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3620090#msg3620090)
[ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3625001#msg3625001) , [ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3631799#msg3631799) , [ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3636032#msg3636032)
[ตอนที่ 14 ขนมจีบ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3645854#msg3645854) , [ตอนที่ 15 รังไร] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3650834#msg3650834) , [ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3654107#msg3654107) , [ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3660625#msg3660625)
[ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3667683#msg3667683) , [ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3670736#msg3670736) , [ตอนที่ 20 ต้มมะรัก] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3676894#msg3676894) , [ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3679795#msg3679795)
[ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3681879#msg3681879) , [ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3686688#msg3686688) , [ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3691747#msg3691747)
[ตอนที่ 25 ม้าห้อ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3695621#msg3695621) , [ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3700974#msg3700974) , [ตอนที่ 27 แกงรัญจวน] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3705212#msg3705212) , [ตอนที่ 28 รวมมิตร] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3709717#msg3709717)
[ตอนที่ 29 มัศกอด] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3718619#msg3718619) , [ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3724003#msg3724003) , [ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3725343#msg3725343) , [ตอนที่ 32 ขนมมงคล] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3730924#msg3730924)
[ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3733666#msg3733666) , [ตอนที่ 34 แกงระแวง] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3736591#msg3736591) , [ตอนที่ 35 ขนมลา] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3739030#msg3739030) , [ตอนที่ 36 ตำรับรัก ตอนจบ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3747217#msg3747217) , [ตอนพิเศษ] (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.msg3803851#msg3803851)



หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 1 ข้าวเหนี่ยวดง-มะยงชิด 23/3/60
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 23-03-2017 16:52:09
ปรุงรักให้ลงล็อก

ตอนที่ 1 ข้าวเหนียวดง-มะยงชิด


พลอยประดับ...หญิงวัยกลางคนที่แม้ใบหน้าของเธอจะมีริ้วรอยที่บ่งบอกถึงอายุที่ล่วงเลยไปเกือบหกสิบปี แต่กระนั้น...เจ้าตัวก็ยังคงความสวยสง่าตามแบบฉบับคนที่เคยได้รับตำแหน่งนางงามประจำจังหวัดสมัยที่ยังเป็นสาวแรกรุ่น โดยปกติแล้วเธอจะเป็นคนที่ค่อนข้างใจเย็น แต่วันนี้เธอรู้สึกร้อนใจคอยมองไปที่หน้าบ้านอยู่ตลอดเวลา คนที่เธอมองหาป่านนี้ยังมาไม่ถึงบ้านทั้งที่เธอโทรไปตามตัวให้มาหาตั้งนานแล้ว คนที่เธอรอนั้นไม่ใช่คนอื่นไกลแต่คือลูกชายคนเดียวของเธอกับอดีตสามีที่เป็นถึงรัฐมนตรีมีหน้ามีตาในสังคมไทย อดีตสามีที่เธอเคยฝากชีวิตให้เขา เธอร่วมสุขร่วมทุกข์มาตั้งแต่สมัยเขายังเป็นแค่นักการเมืองท้องถิ่นกลับทอดทิ้งเธอกับลูกเพื่อไปแต่งงานใหม่กับผู้หญิงที่อ่อนวัยกว่าเธอ เธอทั้งแค้นใจและเสียใจ แต่ผู้หญิงอย่างพลอยประดับก็ปากกัดตีนถีบเลี้ยงลูกมาจนโตโดยไม่พึ่งพาอดีตสามีแม้แต่สตางค์แดงเดียว


สิ่งที่ทำให้เธอต้องร้อนใจก็มาจากเรื่องผิดพลาดอย่างมหันต์ที่เธอได้ทำเอาไว้ ด้วยความที่เธอยังยึดติดอยู่กับวงสังคมคนมีเงิน เธอจึงพยายามรักษาภาพคนมีฐานะทั้งที่ตอนนี้รายได้ทางเดียวที่ทำให้เธอมีกินมีใช้ก็มาจากลูกชายคนเดียวของเธอ ด้วยความที่ยังจมไม่ลงและยังใช้เงินฟุ่มเฟือยไปกับภาษีสังคม เมื่อมีคนเสนอช่องทางการหาเงินที่ง่ายดายเข้ามา เธอจึงยอมเสี่ยง อยากรวยทางลัดจนทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนในวันนี้


พลอยประดับสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหมายเลขที่โทรเข้า เมื่อเห็นว่าเป็นหมายเลขของคุณหญิงอิงชนกที่โทรเข้ามาเธอก็รีบวางโทรศัพท์ลงที่เดิมและปล่อยให้มันดังจนเงียบไปเอง


“ฉันจะทำยังไงดี ตาคุณนะตาคุณ แม่ขอให้ช่วยแม่แค่นี้ก็ไม่ได้ ลูกหนอลูก ไม่รู้รึไงว่าแม่อาจจะต้องติดคุกติดตารางเอาตอนแก่ เฮ้อ...ฉันจะทำยังไงดีนะ”


พลอยประดับเดินวนเป็นหนูติดจั่น ความผิดพลาดในชีวิตที่ทำให้เธอกลุ้มใจอยู่ในตอนนี้ก็คือเธอไปชวนเพื่อนๆ ในวงสังคมมาเล่นหุ้นทอง แต่เดิมเธอถูกนายมาโนชพ่อค้าเครื่องประดับชวนให้เธอลงเล่นก่อน เธอก็ลองเล่นในจำนวนเงินไม่กี่บาทเพราะยังกล้าๆกลัวๆ แต่เมื่อเห็นผลตอบแทนที่กลับมามันทำให้เธอเกิดความโลภ คราวนี้เธอชวนเพื่อนไปลงเล่นเพราะเห็นว่ามันได้เงินกลับมาจริงๆ และหากเธอหาสมาชิกมาเพิ่มได้อีก เธอจะได้เปอร์เซ็นต์เพิ่มอีกเท่าตัว ด้วยความที่มั่นใจในการลงทุนแบบนี้ พลอยประดับจึงยอมเซ็นสัญญารับประกันให้กับบรรดาเพื่อนๆ ของเธอ ผ่านไปสักระยะนายมาโนชเริ่มจ่ายเงินไม่ตรง สุดท้ายก็หายไปพร้อมกับเงินลงทุนของเธอกับเพื่อน ตอนนี้พลอยประดับเลยกลายเป็นแพะรับบาปแต่เพียงผู้เดียวเมื่อเพื่อนทุกคนเอาสัญญามาข่มขู่เธอให้ชดใช้เงินทั้งหมดที่ลงทุนไป ไม่เช่นนั้นเพื่อนของเธอจะแจ้งความในฐานะที่เธอสมรู้ร่วมคิดกับนายมาโนชทั้งที่เธอเองก็เป็นเหยื่อเหมือนกัน


“มาเสียที แม่โทรตามแกตั้งนานแล้วนะตาคุณ” พลอยประดับเห็นลูกชายเดินเข้ามาก็รีบบ่นลูกชายทันที


มีคุณ...ลูกชายคนเดียวของพลอยประดับที่เกิดกับรัฐมนตรีเสถียรเดินเข้ามานั่งที่โซฟาอย่างใจเย็น มีคุณได้ความสูงและสีผิวมากจากพ่อ พ่อของมีคุณเป็นคนใต้ มีคุณจึงมีผิวสีแทน ส่วนหน้าตาของมีคุณคมคายได้แม่ เนื่องจากพลอยประดับมีความสวยระดับนางงามเป็นประกัน มีคุณจึงเป็นผู้ชายที่ชื่อว่าหล่อเหลาคมเข้มและเป็นที่ชื่นชมของคนที่ได้พบเห็นเสมอ


“ผมมีงานต้องทำ” มีคุณเห็นแม่ของตัวเองหงุดหงิดก็พอจะเดาออกว่าเรื่องอะไร

“แม่ขอให้แกช่วยเขียนชมร้านอาหารของคุณหญิงอิงชนกแค่นี้ก็ทำให้แม่ไม่ได้เหรอตาคุณ แกก็รู้ว่าแม่มีหนี้สินที่ต้องรีบหามาชดใช้เพื่อน คุณหญิงอิงชนกจะให้เงินแม่ตั้งสามแสนหากแกช่วยเขียนชมร้านอาหารของคุณหญิงให้ แล้วดูสิ คุณหญิงโทรหาแม่ตั้งหลายสาย แม่ไม่กล้าจะรับสายเลย” พลอยประดับตัดพ้อต่อว่าลูกชายตัวดีที่ไม่ยอมทำอย่างที่เธอต้องการ

“แม่ครับ ผมบอกแม่หลายครั้งแล้วนะว่าผมต้องมีจรรยาบรรณในวีชาชีพของผม ถ้าผมโกหกความน่าเชื่อถือของผมก็หายกันพอดี” มีคุณไม่รู้จะทำยังไงให้แม่เข้าใจในอุดมการณ์ของเขา

“แกเป็นนักวิจารณ์อาหารชื่อดัง มีคนติดตามคอยอ่านงานของแกเป็นล้านคน แค่หลับหูหลับตาชมไปอีกสักร้านก็คงไม่มีใครว่าอะไรหรอก ลองคิดสิว่าความน่าเชื่อถือหรืออาชีพของแกมันช่วยให้แม่ไม่ติดคุกได้ไหม แม่ก็ไม่อยากจะบีบแกหรอกนะตาคุณ แต่แกก็เห็นว่าแม่ถูกเพื่อนขู่จะแจ้งความจับแม่ แกจะช่วยแม่หน่อยไม่ได้รึไง” คุณพลอยประดับเห็นว่าใช้ความแข็งกร้าวกับลูกชายไปก็คงไม่มีประโยชน์ เธอควรจะทำให้มีคุณสงสารเธอมากกว่า

“เงินแค่สามแสนก็ช่วยแม่ไม่ได้อยู่ดี แต่ถ้างานผมพังเราจะพังกันทั้งคู่นะครับ ผมกำลังหาทางช่วยแม่อยู่ เงินมันไม่ใช่น้อยๆ ผมก็เคยเตือนแม่ไปแล้วว่าอย่าชวนคนอื่นมาเล่นแชร์หุ้นบ้าบออะไรนั่น” มีคุณรู้ว่าต่อว่าแม่ไปแบบนี้แม่อาจจะเสียใจ แต่เขาอดไม่ได้จริงๆ ถ้าแม่ไม่หวังรวยทางลัดก็อยู่ได้อย่างสบายอยู่แล้ว

“แกจะตอกย้ำแม่ให้ช้ำใจทำไม ตอนพวกนั้นได้เงินไปก็ชื่นชมแม่กันใหญ่แต่พอโดนโกงจะมาให้แม่รับผิดชอบ เจ็บใจนัก”

“แม่ไปเซ็นสัญญารับผิดชอบเขาเองนะครับ” มีคุณส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจ

“ก็แม่ได้ค่านายหน้า แม่ก็แค่อยากช่วยแกหาเงินเข้าบ้านบ้าง แกก็รู้ว่าพ่อแกไม่เคยคิดจะเหลียวแลเราเลยทั้งๆ ที่รวยออกปานนั้น” คุณพลอยประดับนึกถึงอดีตสามีก็รู้สึกแค้นใจ

“อย่าไปพูดถึงเขาเลย แม่ให้เวลาผมหน่อยก็แล้วกัน ผมจะช่วยแม่เอง แม่ตามผมมาแค่เรื่องนี้ใช่ไหมครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะ” มีคุณลุกจากโซฟาตัวใหญ่แล้วเดินออกไปเลยเพราะไม่อยากให้แม่ขอร้องในเรื่องที่ทำให้เขาต้องอึดอัดใจอีก

“ถ้าแกหาเงินไม่ทันก็ไปเยี่ยมแม่ในคุกด้วยก็แล้วกัน” คุณพลอยประดับพูดไล่หลังลูกชายไป


พลอยประดับรู้ว่ามีคุณคงไม่ปล่อยให้เธอติดคุกติดตาราง แต่จำนวนเงินมันก็ไม่ใช่น้อย แม้ลูกชายจะมีการงานที่ดีแต่เงินแต่ละเดือนของมีคุณมารวมกันทั้งปียังชดใช้หนี้ของเธอได้ไม่หมดเลย เธอนึกเสียใจที่ทำให้ลูกชายต้องมาลำบากเพราะความโลภตัวเดียวแท้ๆ ตอนที่เธอสารภาพให้มีคุณฟัง มีคุณถึงกับไม่พูดกับเธอไปสองสามวัน คงจะเครียดและผิดหวังในตัวเธอ เธอได้แต่หวังว่ามีคุณจะช่วยเธอได้แม่จะเป็นหวังที่ยังมองแทบไม่เห็นทางเลยก็ตาม


มีคุณขับรถออกมาจากบ้านแต่ยังไม่กลับเข้าไปในที่ทำงานเพราะเขารู้สึกเครียดกับเรื่องของแม่ เขาเลือกที่จะออกจากบ้านมาก่อนเพราะไม่อยากหงุดหงิด เขาอาจจะหมดความอดทนพูดจาต่อว่าจนอาจจะทำให้แม่ต้องเสียใจมากไปกว่านี้ เขายิ่งเป็นคนพูดอะไรไม่ค่อยจะถนอมน้ำใจคนอื่นสักเท่าไหร่ อยากจะโกรธแม่ก็โกรธไม่ลง เพราะชีวิตของเขาก็โตมาได้เพราะมือสองมือของผู้หญิงที่ชื่อพลอยประดับคนนี้เพียงลำพัง


มีคุณขับรถมาจอดรถอยู่ที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวชานเมืองแทนที่จะกลับไปยังที่ทำงาน เวลาที่เขาเครียดเขามักจะออกมาหาอะไรทาน อาหารเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาคิดว่าเป็นความสุขของเขา เขาชอบลิ้มรสอาหารจากฝีมือของคนอื่น ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเขามีพรสวรรค์ทางด้านนี้ได้หรือเปล่า เพราะทันทีที่เขาได้ชิมเขาจะบอกได้เลยว่าอาหารจานนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้าง รสชาติดีหรือแย่ควรค่าแก่การติหรือชม ทุกครั้งเมื่อเขาวิจารณ์อาหารที่เขาได้ชิมไป ไม่ว่าจะในทางดีหรือทางลบ คำวิจารณ์ของเขาจะมีผลกับเจ้าของร้านอาหารนั้นเสมอ เพราะมาตรฐานของเขาได้รับความเชื่อถือจากคนที่ได้อ่านและติดตามคอลัมน์ของเขา ที่สำคัญคือ...มีคุณจะไม่เลือกระดับร้านอาหาร เขาชิมได้ตั้งแต่ภัตตาคารจนถึงร้านข้างทาง ด้วยฝีปากในการชิมและฝีมือในการเขียนวิจารณ์ของเขา ร้านที่ถูกชมสามารถก่อร่างสร้างตัวได้ในเวลาอันรวดเร็วเพราะจะมีลูกค้ามาอุดหนุนอย่างเนืองแน่นตามคำบอกเล่าของมีคุณ ส่วนร้านที่เขาติเรื่องรสชาติหรือความสะอาด ก็เป็นที่รู้ๆ กันว่าบางร้านถึงกับต้องปิดตัวไปเลยก็มี


“ฉันมาถึงร้านที่นายบอกแล้ว นายอยู่ไหนแล้วล่ะ โอเค ฉันไปรอในร้านเลยนะ จะดูสิว่าอร่อยอย่างที่นายคุยเอาไว้รึเปล่า” มีคุณต่อสายหาเพื่อนสนิทหลังจากที่โทรไปชวนเพื่อนออกมากินข้าวด้วยกัน เพื่อนสนิทของมีคุณขอเป็นคนเลือกร้านอาหารแห่งนี้ในการนัดพบ


‘ร้านอาหารไทยละม่อม’ มีคุณอ่านชื่อป้ายร้านที่ทำมาจากไม้แผ่นใหญ่แกะสลักชื่อเป็นตัวอักษรไทยสวยงามก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน


ร้านอาหารรูปทรงเรือนไทยแห่งนี้ตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูสะอาดสะอ้านจนมีคุณนึกชมตั้งแต่เดินเข้ามาในร้าน พนักงานต้อนรับสาวสวยคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหามีคุณ เธอสวมเสื้อผ้าไหมแขนยาวทรงกระบอกสีม่วงอ่อนและนุ่งผ้าถุงยาวสีดำปักไหมเป็นรูปดอกกล้วยไม้สีม่วงอ่อนเช่นเดียวกับสีเสื้อที่ปลายผ้า ส่วนพนักงานคนอื่นๆจะใส่เสื้อลายผ้าขาวม้า ผู้หญิงใส่กระโปรง ผู้ชายก็จะใส่กางเกง ทุกคนล้วนแต่งกายดูสะอาดตาและเป็นระเบียบเรียบร้อย


“สวัสดีค่ะ ร้านไทยละม่อมยินดีต้อนรับนะคะ ไม่ทราบว่าได้จองเอาไว้รึเปล่าคะ” พนักงานต้อนรับสาวสวยถามมีคุณด้วยท่าทีสุภาพ

“ครับ จองด้วยชื่อสุดเขตครับ” มีคุณตอบชื่อเพื่อนของตัวเองไป

“คุณสุดเขตนะคะ เชิญทางนี้เลยค่ะ” หญิงสาวสวยยิ้มหวานให้ก่อนจะเดินพามีคุณไปยังโต๊ะที่มีชื่อจองเอาไว้


เมื่อมีคุณได้นั่งเรียบร้อยแล้วก็มองไปรอบๆ เพื่อเก็บรายละเอียดของร้าน เท่าที่มีคุณสังเกตเห็นบรรยากาศร้านระหว่างเดินมาที่โต๊ะ เขายอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้สวยงามตามแบบฉบับความเป็นไทย ของโบราณที่ตั้งโชว์ไว้ตามมุมต่างๆ ทำให้รู้สึกราวกับว่าได้ย้อนเวลามาเยือนสมัยรุ่นปู่ย่าตายาย


มีคุณนั่งชมบรรยากาศโดยรอบได้ไม่นานพนักงานบริการอีกคนก็นำรายการอาหารพร้อมกับขันน้ำสีเงินขนาดกลาง ซึ่งใส่น้ำลอยดอกมะลิมาให้มีคุณ มีคุณรู้สึกประทับใจในบริการของร้านอาหารแห่งนี้ ยิ่งได้ดื่มน้ำเย็นลอยดอกมะลิหอมๆ ความเครียดที่สั่งสมมาก่อนหน้านี้ก็คลายลง มีคุณรับรายการอาหารมาดูและจัดการสั่งอาหารที่อยากลองทานจนครบก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปบรรยากาศในร้านเอาไว้ ปกติถ้าเขาๆได้มาร้านอาหารใหญ่ๆ เขาจะมีกล้อง ไม่ได้ใช้มือถือถ่าย แต่วันนี้เขาไม่ทันได้คิดว่าตัวเองจะได้มาร้านอาหารที่มีบรรยากาศสวยงามแบบนี้เลยไม่ได้นำกล้องติดตัวมาด้วย มันทำให้มีคุณรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เตรียมมา


ร้านอาหารไทยละม่อมแห่งนี้เป็นของตระกูลมณีรัตน์ เจ้าของคนปัจจุบันก็คือคุณธนบัตรหรือคนใกล้ตัวจะเรียกกันว่าคุณอัฐ อัฐมีภรรยาเป็นสาวเหนือชื่อคุณนับดาว มีลูกด้วยกันสามคน คนโตเป็นผู้ชายชื่อว่าเหรียญเงินหรือเงิน คนรองเป็นลูกสาวชื่อว่าตำลึงทองหรือเฟื้อง ส่วนคนสุดท้องเป็นลูกชายมีชื่อว่านับตังค์หรือคนในครอบครัวจะเรียกกันว่าตัง


บรรพบุรุษของอัฐได้มีโอกาสรับใช้เจ้านายในวัง มีหน้าที่ดูแลห้องเครื่องตั้งแต่คุณเทียดจนสืบมาถึงคุณแม่ของอัฐซึ่งก็คือคุณละม่อม คุณละม่อมลาเจ้านายออกมาแต่งงานกับคุณกษาปณ์ซึ่งเป็นนายธนาคาร คุณละม่อมแต่งงานออกมาอยู่บ้านเฉยๆ ก็รู้สึกเบื่อเลยหาอะไรทำ โดยเริ่มจากการขายอาหารไทยตำรับชาววังในตลาดน้ำแถวๆ นนทบุรี ขายดิบขายดีจนมาถึงรุ่นลูกซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวก็คืออัฐ คุณละม่อมถ่ายทอดสูตรอาหารคาวหวานให้กับลูกชายจนไปถึงรุ่นหลาน เธอสอนทุกอย่างรวมไปถึงงานฝีมือต่างๆ ด้วยวิธีครูพักลักจำมาจากในวัง ลูกหลานตระกูลมณีรัตน์จึงเก่งเรื่องการบ้านการเรือนและมีฝีมือในทำอาหาร ทุกคนต้องอยู่ในกรอบ ต้องเชื่อฟังคำสั่งและต้องฝึกฝนเรื่องงานฝีมือและเรื่องการทำอาหารให้ได้ตามบรรพบุรุษทุกกระเบียดนิ้ว เพราะคุณละม่อมนั้นเข้มงวดและค่อนข้างหัวโบราณ ซึ่งนิสัยส่วนนี้ก็ติดมาถึงคุณอัฐ จนเรียกได้ว่าออกมาจากพิมพ์เดียวกันก็ไม่ผิด


นับตังค์เป็นหลานชายที่ได้พรสวรรค์มาจากบรรพบุรุษตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย นับตังค์ชอบดูคุณย่าทำอาหาร เมื่อได้ซึมซับในสิ่งที่เห็นและได้รับการสั่งสอนมาจนถึงตอนนี้ ฝีมือการทำอาหารคาวหวานของนับตังค์ก็ชำนาญจนเรียกได้ว่าเทียบชั้นคุณอัฐซึ่งเป็นพ่อได้ไม่แพ้กัน เสียแต่ว่านับตังค์คิดต่างจากครอบครัว แม้จะชำนาญอาหารไทยตำรับชาววังที่ได้รับการถ่ายทอดจากคุณย่าและคุณพ่อ แต่นับตังค์คิดว่าอาหารทุกแบบสามารถรังสรรค์ได้อย่างที่ใจต้องการ ในเมื่อโลกใบนี้ยังคงหมุนอยู่ทุกวัน ทำไมจึงต้องหยุดรูปแบบอาหารเอาไว้กับสิ่งเดิมๆ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่นับตังค์ได้แต่คิดเพราะรู้ว่าหากพูดออกไปคงจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณย่าและคุณพ่อ นับตังค์ต้องทนอยู่ในกรอบที่ครอบครัววางเอาไว้ให้ทั้งที่สมองและหัวใจสุดแสนจะอึดอัดกับกรอบที่ครอบตัวเองอยู่

ส่วนเหรียญเงินพี่ชายของนับตังค์นั้นเป็นคนไม่ชอบการทำอาหารและไม่ชอบการถูกบังคับ เหรียญเงินทนทำในสิ่งที่ไม่ได้รักไม่ได้จนหนีออกจากบ้านไป ทั้งคุณย่าและคุณพ่อโกรธเหรียญเงินมากจนถึงขั้นตัดความสัมพันธ์ไป จากวันที่เหรียญเงินหนีไปจนถึงตอนนี้ นับตังค์ยังไม่เคยได้ข่าวพี่ชายของตัวเองอีกเลย


“ตัง...งานเข้าแล้ว” เฟื้องรีบเดินเข้ามาหาน้องชายของตัวเองในครัวหลังจากต้อนรับมีคุณเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่น้องชายของเฟื้องเอาแต่จัดจานอาหารของลูกค้าด้วยความตั้งใจ

“ตัง!!” เฟื้องเรียกชื่อน้องชายอีกครั้ง

“พี่เฟื้อง ตังกำลังใช้สมาธิ” นับตังค์จัดวางอาหารจนเป็นที่พอใจแล้วถึงได้หันมาพูดกับพี่สาวของตัวเอง

“มีแขกมาที่ร้าน” เฟื้องส่งรายการอาหารให้น้องชาย นับตังค์รับมาดูแล้วก็เลิกคิ้วมองพี่สาว

“แล้วยังไง ทำไมต้องงานเข้า รายการอาหารก็ไม่ได้แปลกอะไรนี่”

“ก็คนที่มากินไม่ใช่แขกธรรมดาไง”

“ใครเหรอ”

“นี่ไง” เมื่อเฟื้องเปิดนิตยสารที่ถือติดมือมาให้นับตังค์ดู น้องชายของเธอถึงกับชะงักไป อารมณ์ที่ดูแจ่มใสเมื่อครู่ของนับตังค์เปลี่ยนไปในทันใด

“มื้อนี้ตังจะทำให้เต็มที่เลย ดูสิจะด่าอะไรอีก” นับตังค์รู้สึกเหมือนได้เจอศัตรูที่เคยลงบัญชีดำเอาไว้ แต่เฟื้องกลับไม่เข้าใจว่าน้องชายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร

“มีอะไรกัน เฟื้องทำไมไม่ไปต้อนรับแขก” คุณนับดาวเดินมาดุลูกสาวที่มาอยู่ในครัวทั้งที่มีหน้าที่ต้อนรับแขกอยู่ด้านนอก

“แม่ ก็นักวิจารณ์อาหารชื่อดังที่เฟื้องเคยเล่าให้ฟัง ที่ชื่อมีคุณไงคะแม่ วันนี้เขามากินที่ร้านของเรา” เฟื้องรีบบอกมารดา

“จริงเหรอ ตายแล้ว เฟื้องรีบออกไปต้อนรับเขาให้ดีก่อนนะ แล้วไปเรียกพ่อมาด้วย” คุณนับดาวตื่นตกใจตามลูกสาวไปด้วยเมื่อได้ยินชื่อของมีคุณ

“แม่ จะเรียกพ่อทำไม เดี๋ยวตังทำเองก็ได้” นับตังค์อยากเป็นคนทำอาหารให้มีคุณได้ทานเอง

“ให้พ่อมาคอยช่วยดูดีแล้ว งานนี้ถ้าเกิดโดนวิจารณ์ในทางลบร้านเราก็พังพอดี” เฟื้องไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้นับตังค์ทำคนเดียว

“จริงด้วย เดี๋ยวแม่ไปตามเองดีกว่า แม่จะตามคุณย่ามาด้วย ท่านคงอยากลงมาคุมเอง” คุณนับดาวพูดจบก็รีบเดินออกไปจากครัว เฟื้องเองก็รีบเดินตามมารดาออกไปเช่นกัน ส่วนนับตังค์ได้แต่ถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายที่สุดท้ายแล้วทุกคนในครอบครัวก็ไม่เชื่อมือของตัวเองอยู่ดี

“ทำไมเขาต้องตื่นเต้นกันด้วยล่ะพี่ตัง” ละมุดเด็กเสิร์ฟในร้านเอ่ยถามนับตังค์

“มานี่เลยไอ้มุด แกจำผู้ชายคนนี้ได้ไหม” นับตังค์เรียกลูกน้องคนสนิทมาดูรูปของมีคุณที่อยู่ในนิตยสาร

“คุ้นๆ เดี๋ยวนะ นี่มันคนที่เป็นกรรมการตอนที่พี่แอบเอาขนมไปประกวดใช่ไหม มุดจำได้ มันด่าขนมพี่ว่าห่วยที่สุดตั้งแต่เคยได้กินขนมในจักรวาลนี้มา คนที่มันถามพี่ว่ามาผิดงานรึเปล่า นี่มันงานประกวดขนมอร่อยไม่ใช่ประกวดนาเกลือ แล้วที่มันบอกว่า...”

“หยุด!!! ไอ้มุด ไม่ต้องตอกย้ำ แค่ถามว่าจำได้ไหม”

“จำได้สิพี่ จะมีสักกี่คนด่าพี่ตังของผมจนหงอยไปเป็นเดือน”

“เออ ตอนนี้มันกำลังนั่งอยู่ในร้านของเรา” นับตังค์ส่งสายตาเครียดแค้นออกไปด้านนอก

“เดี๋ยวตาก็ถลนออกมากันพอดี” ละมุดรีบเอามือบังสายตาของนับตังค์เอาไว้

“ฉันมีเรื่องต้องไปทำ แกดูต้นทางให้ด้วยนะ”

“พี่ตังคิดจะทำอะไร เดี๋ยวนายอัฐรู้จะซวยเอานะพี่” ละมุดรีบห้ามเพราะรู้ว่าลูกพี่ของตัวเองดื้อรั้นเป็นที่สุด

“จะไปล้างตาเว้ย” นับตังค์พูดด้วยความหมายมั่นอย่างกับว่าวันนี้เป็นศึกวันล้างตา อยากลบคำสบประมาทของนักวิจารณ์ปากดีคนนั้นให้ได้ก่อนเดินออกจากครัวใหญ่ไปทันที ทิ้งให้ละมุดยืนงงว่ามีอะไรเข้าตานับตังค์ถึงได้จะไปล้างตา


สุดเขตขับรถมาถึงร้านอาหารไทยละม่อมแล้วก็รีบลงจากรถ เมื่อเดินเข้ามาจนพบคนที่ตนเองแอบหลงรักมานานก็ยิ้มกว้างจนแทบเห็นฟันครบสามสิบสองซี่ เฟื้องเห็นสุดเขตก็ยกมือไหว้ต้อนรับลูกค้าประจำก่อนจะพาไปที่โต๊ะ สุดเขตแอบกระซิบเฟื้องก่อนจะเดินไปถึงโต๊ะที่มีคุณนั่งรออยู่


“ไม่ต้องกังวลนะจ๊ะน้องเฟื้อง ร้านของน้องเฟื้องจะต้องมีคนลูกค้าเพิ่มขึ้นจนต้องขยายร้านเลย มีคุณมันเป็นเพื่อนสนิทของพี่เอง กว่าจะได้คิวมันมาไม่ใช่ง่ายๆเลย” สุดเขตรีบคุยโว 

“ขอบคุณนะคะคุณเขต แต่น่าจะบอกเฟื้องก่อนว่าเพื่อนของคุณเขตคือคุณมีคุณ” เฟื้องแอบกังวลว่าวันนี้อาจจะมีอะไรผิดพลาดได้เพราะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน

“เอาน่า ไม่ต้องห่วงนะ ร้านของน้องเฟื้องมาตรฐานสูงมากอยู่แล้ว” สุดเขตให้ความมั่นใจกับหญิงสาวที่ตนหลงรัก

“ขอบคุณค่ะ” เฟื้องรู้สึกสบายใจขึ้นมานิดหนึ่งที่ได้รู้ว่าสุดเขตเป็นเพื่อนของมีคุณ เมื่อพาสุดเขตมาถึงโต๊ะที่มีคุณนั่งรออยู่ ก็ส่งสัญญาณให้เด็กมาเสิร์ฟน้ำลอยดอกมะลิให้สุดเขต จากนั้นเฟื้องถึงได้เดินออกไป

“เป็นไงเพื่อน ร้านนี้ดูดีไหม” สุดเขตถามเพื่อนสนิท เขาเคยชวนมีคุณมากินที่ร้านนี้หลายครั้งแล้ว แต่มีคุณไม่เคยมีคิวว่างให้เขาเลยสักครั้งเดียว ครั้งนี้นับเป็นโชคดีที่มีคุณเป็นฝ่ายโทรมาหาเขาเอง

“ดูดี นายมากินบ่อยเหรอ ดูจะสนิทกับพนักงานสาวสวยคนนั้นนะ” มีคุณพอจะดูออกว่าเพื่อนสนิทของตัวเองมองหญิงสาวคนนั้นแบบไหน

“เธอเป็นลูกสาวเจ้าของร้านนี้ เออน่า ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอก ฉันรู้ว่านายไม่ชอบให้ใช้เส้นสายกับงานของนาย แต่ฉันมั่นใจในรสชาติอาหารของร้านนี้ถึงอยากให้นายลองมาชิมสักที” สุดเขตเห็นสีหน้าของมีคุณเลยดักคอเอาไว้ก่อน

“รู้ก็ดี เพราะขนาดแม่ฉันขอร้องฉันยังไม่ยอมทำตามใจแม่เลย” มีคุณทำหน้าเซ็งจนสุดเขตพอจะเดาออก

“ทะเลาะกับแม่มาอีกล่ะสิ คราวนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ”

“อย่าเพิ่งคุยเรื่องนี้เลย ขอกินอย่างมีความสุขดีกว่า” มีคุณไม่อยากให้เสียบรรยากาศเลยยุติเรื่องมารดาของตัวเองเอาไว้ก่อน


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 1 ข้าวเหนี่ยวดง-มะยงชิด 23/3/60
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 23-03-2017 16:55:24
(ต่อจากด้านบน)


หลังจากที่พนักงานนำอาหารที่มีคุณสั่งมาจัดเสิร์ฟจนครบ มีคุณก็หยิบมือถือมาถ่ายรูปหน้าตาของอาหาร มีคุณยอมรับว่าอาหารแต่ละจานตกแต่งได้ประณีตสมกับที่สุดเขตบอกว่าเจ้าของร้านได้รับการถ่ายทอดฝีมือมาจากในวัง ผักที่ถูกแกะสลักด้วยความวิจิตรบรรจงยิ่งช่วยเพิ่มมูลค่าของอาหารให้ดูดีมากยิ่งขึ้น


“เป็นยังไง ถูกปากไหม” สุดเขตถามเพื่อน ในใจก็แอบกังวล เขากลัวว่าหากสุดเขตไม่ชอบแล้วเอาไปวิจารณ์ในทางลบ ชีวิตรักของเขาคงพังก็คราวนี้ แต่ยังไงสุดเขตก็มั่นใจในฝีมือการทำอาหารพ่อครัวร้านนี้ เชื่อว่ามีคุณจะชอบ

“อืม อร่อย กลมกล่อม รสมือดีมากนะ” มีคุณชมจากใจ

“โอ้ย โล่ง” สุดเขตถึงกับถอนหายใจก่อนจะหันไปยิ้มให้เฟื้องที่ยืนลุ้นจนแทบลืมหายใจ

“ฉันจะเขียนอย่างรงไปตรงมา ไม่ต้องห่วง แล้วก็...” มีคุณยังพูดไม่ทันจบพนักงานบริการคนหนึ่งก็นำของหวานมาเสิร์ฟ

“นายสั่งเหรอ” สุดเขตหันไปถามมีคุณ


มีคุณส่ายหน้าให้เพื่อนแทนคำตอบก่อนจะมองขนมที่วางอยู่ตรงหน้า เขาคลับคล้ายคลับคลาว่าเขาเคยเห็นขนมแบบนี้มาก่อนแต่ยังจำไม่ได้ว่าที่ไหน ข้าวเหนียวเมล็ดสวยมูนด้วยกะทิจนขึ้นเงาวางอยู่ในจาน มีมะยงชิดที่ริ้วมาจนเหมือนดอกจำปาสีเหลืองสดสวยวางเคียงข้าง ปกติแล้วจะต้องมีน้ำกะทิราดเพื่อตัดรสหวานของข้าวเหนียวมูนให้กลมกล่อมขึ้น หากแต่ในถ้วยเล็กๆที่จัดเสิร์ฟมากลับเป็นน้ำซอสสีเหลืออ่อนมาแทนที่น้ำกะทิ แถมด้วยไอศกรีมเนื้อสีขาวละเอียดที่แซมด้วยเนื้อมะยงชิดชิ้นเล็กๆ ก็ถูกวางเอาไว้ข้างกันกับจานข้าวเหนียว


มีคุณตักข้าวข้าวเหนียวขึ้นมาชิมก่อนหนึ่งคำก่อน จากนั้นถึงได้ตักน้ำซอสสีเหลืองอ่อนมาราดบนข้าวเหนียวและตัดเนื้อมะยงชิดขึ้นมาทานร่วมกับข้าวเหนียวด้วย หลังจากชิมข้าวเหนียวมูนกับมะยงชิดเสร็จแล้วก็ลองตักไอศกรีมมากินต่อ จนกระทั่งเฟื้องเดินหน้าตาตื่นเข้ามาหาเพราะไม่รู้ว่าขนมพวกนี้มันมาได้ยังไง


“ใครทำขนมพวกนี้ครับ” มีคุณถามเฟื้อง

“เอ่อ...ทางร้านต้องขอโทษด้วยนะคะ อาจจะมีการเข้าใจอะไรผิดกัน” เฟื้องเดาว่าต้องเป็นฝีมือของน้องชายแน่

“สงสัยเสิร์ฟผิด ไม่เป็นไรหรอกเฟื้อง” สุดเขตรีบตัดบทเมื่อเห็นมีคุณทำหน้านิ่งเฉยเมื่อทานขนมเสร็จ

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ” เฟื้องทำท่าจะเก็บขนมกลับไปก่อนที่พ่อหรือแม่จะรู้ว่าน้องชายทำอะไรลงไป

“เดี๋ยวก่อน ผมขอพบตัวพ่อครัวที่ทำข้าวเหนียวมูนนี้หน่อยครับ” มีคุณบอกความต้องการกับเฟื้องที่ตอนนี้หน้าซีดจนแทบไม่มีสีเลือด เฟื้องแอบหันไปมองอัฐที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยความกังวลใจ


ส่วนอัฐ หลังจากที่เป็นคนแสดงฝีมือทำอาหารให้มีคุณเสร็จ อัฐก็มายืนดูว่าผลงานของตัวเองถูกใจคนทานหรือไม่ ซึ่งตรงที่อัฐยืนดูอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะของมีคุณเท่าไหร่นัก อัฐพินิจดูรูปร่างหน้าตาการแต่งกายของมีคุณแล้วไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนที่ใครต่อใครยกให้เป็นกูรูทางได้การวิจารณ์อาหาร ผู้ชายที่รวบผมไปมัดเป็นจุกอยู่ทางด้านหลัง ส่วนด้านข้างทั้งสองด้านไถผมสั้นจนเกือบติดหนังหัว แถมยังไว้เคราบางๆ ตั้งแต่จอนผมยาวไปถึงคาง ใส่แว่นตากรอบสีส้มสด แต่งตัวแนวเซอร์ๆ ฮิปๆ เหมือนอย่างที่อัฐเคยได้ยินนับตังค์พูดให้ฟังอยู่บ่อยๆ ซึ่งการแต่งตังของมีคุณไม่ได้ต่างจากการแต่งตัวของนับตังค์สักเท่าไหร่ ก็ไม่รู้ว่าทำไมเด็กรุ่นใหม่ถึงชอบแต่งตัวแบบนี้กันนัก นับตังค์เองก็ชอบแต่งตัวแบบนี้จนโดนคุณย่าละม่อมบ่นบ่อยๆ ว่าแต่งตัวไม่เรียบร้อยดูสกปรก อัฐเองก็เห็นด้วยกับคุณละม่อมผู้ที่เป็นมารดา เมื่อเห็นการแต่งตัวและภาพโดยรวมของมีคุณในวันนี้ อัฐจึงแอบนึกอคติอยู่ในใจ พาลทำให้ไม่ค่อยเชื่อถือว่ามีคุณจะมีพรสวรรค์ด้านการชิมอาหารจริงๆ และเมื่อเห็นว่ามีคุณคุยอยู่กับตำลึงทองอยู่นานสองนาน อัฐจึงตัดสินใจเดินไปที่โต๊ะอาหารที่มีคุณนั่งอยู่


“มีอะไรผิดพลาดรึเปล่าครับ” อัฐถามขึ้น แต่เมื่อเห็นจานข้าวเหนียวมูนกับมะยงชิดและไอศกรีมวางอยู่ที่โต๊ะของมีคุณถึงกับนิ่งไป

“คุณเป็นคนทำขนมกับไอศกรีมกะทิผสมมะยงชิดเหรอครับ” มีคุณถามคุณอัฐซึ่งแต่งชุดพ่อครัวเต็มยศ

“คือ...ผม” อัฐอยากจะกลั้นใจตายตรงนี้ เขารู้ว่านี่เป็นฝีมือของใคร ต้องเป็นลูกชายตัวแสบของเขาแน่ นับตังค์ชอบแอบทำขนมแบบมั่วสูตรจนเขาตำหนิไปหลายหน ถึงเขาพอจะรู้ว่าลูกชายชอบดื้อรั้นเอาแต่ใจตัวเอง จะแอบทำแอบชิมเองเขาก็พอจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้ แต่ก็ไม่คิดว่านับตังค์จะลองดีเอาขนมที่เขายังไม่รู้เลยว่ารสชาติมันเป็นยังไงออกมาเสิร์ฟแขก ที่สำคัญคือแขกคนนี้อาจจะมีผลต่ออนาคตของร้านเสียด้วย

“ผมทำเองครับ” นับตังค์เดินออกมาที่โต๊ะของมีคุณ คุณธนบัตรถลึงตาใส่ลูกชายเพราะไม่อยากให้มีปัญหามากไปกว่านี้


มีคุณมองหน้าของชายหนุ่มที่รับว่าเป็นเจ้าของผลงานขนมจานนี้ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย ชายหนุ่มที่ดูแล้วอายุไม่น่าจะห่างจากเขาสักเท่าไหร่ สวมชุดพ่อครัวเหมือนกับชายสูงวัยที่เดินมาก่อนหน้า มีคุณกำลังคิดว่าสายตาที่ดูลองดีแบบนี้เขาเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แล้วความทรงจำที่เกือบจะลบเลือนไปก็แล่นกลับมาจนเขาต้องมองหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง


‘ทำไมเขาถึงลืมไปได้นะ’ มีคุณนึกในใจ


ขนมที่ดูมีความคิดสร้างสรรค์แบบที่เขาเคยนึกชมตอนที่เห็นครั้งแรก แต่วันนี้รสชาติกลับแตกต่างจากขนมในวันนั้นราวฟ้ากับดิน


“มันยังห่วยอยู่รึเปล่าครับ” นับตังค์ปล่อยคำถามออกมาจนคุณอัฐ เฟื้อง รวมไปถึงสุดเขตถึงกับสะดุ้ง

“ตัง!! กลับเข้าไปในครัวเดี๋ยวนี้” อัฐเริ่มโมโหที่ลูกชายเสียมารยาทกับแขกในร้าน

“เอ่อ...ผมว่าคงมีการเข้าใจอะไรผิดกัน คุณเฟื้องคิดเงินเลยดีกว่าครับ” สุดเขตรีบบอกกับตำลึงทอง

“คงไม่ได้เข้าใจผิดหรอกครับ เอาเป็นว่ามันไม่ห่วย แต่ก็ไม่ได้ดีมากจนผมต้องชม” มีคุณพูดกับนับตังค์ก่อนจะยิ้มให้ ซึ่งพอนับตังค์เห็นแล้วรู้สึกว่ามันช่างเป็นยิ้มที่กวนใจให้ขุ่นมัวเป็นที่สุด

“ผมขอไม่คิดเงินอาหารมื้อนี้แล้วกันครับแทนคำขอโทษ” อัฐพูดกับมีคุณและสุดเขต

“ไม่เป็นไรครับ อาหารอร่อยมาก ผมดีใจที่ได้มาทานนะครับ” มีคุณพูดกับอัฐแต่ปลายตาไปมองนับตังค์ที่ยืนขมวดคิ้วจนเขานึกขำ


นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตการทำงานที่มีคุณถึงกับยอมละทิ้งอุดมการณ์ไป ความจริงแล้วขนมที่ชายหนุ่มคนนี้ทำมาให้เขาชิมในวันนี้มันอร่อยมาก เขาถึงอยากเจอพ่อครัวที่ทำเพราะอยากรู้ว่าข้าวเหนียวมูนด้วยอะไร มันไม่ใช่แค่กะทิแน่ๆ รวมถึงตัวครีมซอสด้วย มันเข้ากันได้ดีกับตัวมะยงชิดและไอศกรีม เป็นครั้งแรกที่มีคุณเดาไม่ออกว่าขนมจานนี้มีส่วนผสมอะไรบ้าง เขาคิดว่ามันมีส่วนผสมของถั่ว แต่มั่นใจว่าต้องมีอย่างอื่นด้วย  แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงอยากทำให้คนๆ นี้หงุดหงิด มีคุณเลยทำเป็นว่าเขาไม่ได้ชื่นชมขนมสักเท่าไหร่ เขาคิดว่าชายหนุ่มคนนี้ยังคงแค้นใจที่เขาไปวิจารณ์ขนมของเจ้าตัวตอนที่มีการประกวดขนมสไตล์ฟิวชั่น ซึ่งขนมที่ชายหนุ่มตรงหน้าทำมาประกวดก็เป็นแบบเดียวกับที่นำมาเสิร์ฟเขาในวันนี้ แต่รสชาติมันต่างกันราวฟ้ากับดิน ในวันนั้นครีมซอสที่ทำมามันเค็มจนเขาคายทิ้งแทบไม่ทัน ในวันนั้นเขายอมรับว่าเขาวิจารณ์ขนมของคนๆนี้ จนไม่เหลือดี นั่นก็เพราะสายตาที่อวดดีแบบเดียวกับที่กำลังมองเขาอยู่ในตอนนี้ไม่มีผิดเพี้ยน


“เฮ้ย มีคุณ มันอร่อยมากเลยนะ” สุดเขตเอ่ยขึ้นมาเมื่อได้แอบตักชิมขนมที่นับตังค์ทำ

“สงสัยลิ้นของคุณคงจะไม่ได้มาตรฐานแล้วล่ะ...คุณนักวิจารณ์” นับตังค์ยักไหล่เมื่อเห็นว่าสุดเขตตักขนมขึ้นมาชิมแล้วชมไม่หยุด

“ถ้าอย่างนั้นก็ให้เพื่อนของผมเขียนชมร้านอาหารของคุณแทนผมก็แล้วกันนะครับ” มีคุณพูดจบก็รู้สึกเป็นต่อเมื่อเห็นนับตังค์หน้าเสียไปครู่หนึ่ง

“ผมขอโทษแทนลูกชายด้วยนะครับ ตัง!! ขอโทษแขกเดี๋ยวนี้” อัฐพูดกับมีคุณก่อนจะหันมาดุลูกชาย นับตังค์เม้มปากแน่น แต่สุดท้ายก็ยกมือไหว้มีคุณก่อนจะเดินหนีกลับเข้าไปในครัว


เมื่อคิดเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ธนบัตรพร้อมกับนับดาวผู้เป็นภรรยาก็ออกมาส่งมีคุณถึงรถด้วยตัวเอง ทั้งคู่กล่าวคำขอโทษมีคุณอีกครั้งที่ลูกชายทำตัวเสียมารยาทใส่ มีคุณบอกไปว่าไม่ได้ถือสาอะไรและยังบอกว่าจะเขียนถึงร้านอาหารไทยละม่อมนี่ด้วยความจริงใจทุกประการ


เมื่อมีคุณกลับไปแล้วธนบัตรก็รีบเดินกลับเข้าร้านโดยมีนับดาวรีบเดินตามไปเพราะรู้ว่าเรื่องใหญ่กำลังเกิดขึ้นแน่ๆ


“ไอ้ตัง ทำไมถึงได้ชอบก่อปัญหานัก” อัฐเปิดฉากกับลูกชายทันทีที่เข้ามาถึงครัวหลังเล็กที่สร้างเอาไว้สำหรับทำขนม

“พ่อ ตังก็แค่อยากลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง พ่อลองชิมขนมของตังก่อนค่อยด่าตังก็ได้ กว่าตังจะฝึกดงข้าวเหนียวให้นุ่มอร่อยเสมอกันทุกเม็ดมันไม่ใช่ง่ายๆ กว่าจะได้สูตรครีมที่ใช้มูนข้าวเหนียวให้ได้รสชาติที่นุ่มนวลกว่ากะทิ ตังก็ตั้งใจทำเหมือนกับที่พ่อตั้งใจเรียนรู้อาหารไทยจากคุณย่าเหมือนกันนะครับ” นับตังค์รีบส่งจานข้าวเหนียวมูนให้พ่อ แต่อัฐปัดมันทิ้งจนจานหล่นแตก นับดาวตกใจมากที่เห็นสามีแสดงอาการโกรธเกรี้ยวลูกชายมากขนาดนั้น

“ฉันเคยบอกแกแล้วว่าอาหารไทยมันเป็นมรดกที่บรรพบุรุษส่งต่อมาให้เรารักษาเอาไว้ แกก็ยังจะรั้นแหกคอกทำสูตรบ้าบออะไรก็ไม่รู้” อัฐตะคอกลูกชายจนนับดาวต้องเข้ามาดึงแขนสามีเอาไว้

“ขอโทษพ่อเขาสิตัง” นับดาวรีบบอกลูกชายก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปกว่านี้

“แม่ ตังผิดอะไร ตังก็ไม่ได้คิดที่จะทำลายมรดกที่ปู่ย่าตายายให้มา แต่ตังก็แค่อยากลองเพิ่มเติมอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง เรามีอาชีพขายอาหารนะครับ ถ้าเราสามารถพัฒนาต่อยอดของเดิมที่มีได้ก็ถือว่าเป็นกำไรให้กับผู้บริโภค” นับตังค์ยังคงพูดในสิ่งที่คิด

“นี่เป็นร้านของฉัน ถ้าแกอยากลองอะไรใหม่ๆ ก็ไปทำที่อื่น ตราบใดยังอยู่ที่นี่ก็ต้องทำตามกฎของฉัน ไม่อย่างนั้นแกก็ตามพี่ชายแกออกไปเลย” ธนบัตรหัวเสียจนระงับคำพูดเอาไว้ไม่อยู่

“ตังไปก็ได้” นับตังค์มองพ่อด้วยความเสียใจก่อนจะถอดหมวกและปลดผ้ากันเปื้อนออก จากนั้นจึงเดินออกจากครัวไป

“ตัง ตังกลับมาก่อนลูก” นับดาวรีบเรียกลูกชายเอาไว้

“ปล่อยมันไป เด็กสมัยนี้มันอวดดี ต้องให้มันรู้ว่าไม่มีที่ไหนดีเท่าที่บ้านมันจะได้เข็ด” คราวนี้ทุกคนต้องหยุดพูดเมื่อคุณย่าละม่อมที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ เป็นฝ่ายเอ่ยปากออกมาเอง

“เฟื้องขอตัวไปดูแลแขกก่อนนะคะ” ตำลึงทองน้ำตาคลอ อยากจะเถียงคุณย่าว่าถ้าไม่มีที่ไหนดีเท่าที่บ้านแล้วทำไมพี่เหรียญเงินถึงไม่กลับมา แต่รู้ว่าไม่มีประโยชน์เพราะคำพูดของคุณย่ากับคุณพ่อถือเป็นสิทธิขาดในบ้านหลังนี้ เธอได้แต่สงสารน้องชายและสงสารตัวเองที่ยังต้องอยู่ในกรอบที่ทุกคนวางเอาไว้ให้ต่อไปโดยไม่สามารถโต้งแย้งอะไรได้เลย


เมื่อแยกกับสุดเขตแล้วมีคุณก็ได้รับแจ้งจากเลขาฯ ของเขาว่ามีคนมารอพบเขาอยู่ที่บริษัท เมื่อสอบถามก็ได้ความว่าคนที่มารอพบเขาชื่อเคารพ เป็นทนายความส่วนตัวของอนันต์ซึ่งเป็นคุณปู่ของมีคุณนั่นเอง มีคุณแปลกใจเพราะคุณปู่ไม่ได้ติดต่อเขาตั้งแต่แม่พาเขาออกมาจากบ้าน มีคุณรู้แต่ว่าคุณปู่ก็ไม่ค่อยจะลงรอยกับพ่อสักเท่าไหร่ พ่อของเขาย้ายมาปักหลักอยู่ที่กรุงเทพ ส่วนคุณปู่ยังอยู่ทางใต้


เมื่อมีคุณกลับเข้ามาถึงสำนักพิมพ์ที่เขาทำงานอยู่ก็ได้เจอกับเคารพ เคารพแนะนำตัวและบอกถึงเหตุผลที่มาพบมีคุณในวันนี้ มีคุณยอมรับว่าตกใจที่ได้รู้ว่าคุณปู่ของตนเสียชีวิตแล้ว และก่อนเสียชีวิตคุณปู่ได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ ซึ่งในพินัยกรรมนั้นระบุว่ามีคุณนั้นเป็นผู้รับมรดกแต่เพียงผู้เดียว


“ร้านอาหารเหรอครับ” มีคุณถามเคารพพร้อมกับขยับแว่นขึ้นไปคาดเอาไว้ที่ศีรษะ เขาใส่แว่นเพราะชอบใส่ แต่สายตาของเขาปกติดี

“ใช่ครับ ร้านอาหาร บ้านและที่ดินโดยรอบ เกาะนี้เพิ่งได้รับการโปรโมทให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ คุณปู่ของคุณเป็นคนบุกเบิกเพราะที่ดินส่วนหนึ่งเป็นมรดกที่ท่านได้รับมาจากคุณทวดของคุณ ช่วงท่านไปก่อร่างสร้างตัวก็ลำบากพอสมควร ตอนนั้นยังเป็นที่รกร้าง จากนั้นเจ้าของที่ดินคนอื่นๆ ก็เริ่มไปเปิดรีสอร์ทกันมากขึ้น ตอนนี้ทางการเปิดท่าเรือจากตัวแผ่นดินใหญ่ไปที่เกาะแล้ว สะดวกมากขึ้น นักท่องเที่ยวเริ่มรู้จักและไปเที่ยวกันมากกว่าเดิมเยอะเลยครับ” เคารพส่งรูปให้มีคุณดู

“ผมจะขายมันได้ไหมครับ เพราะอาจจะไม่สะดวกไปดูแล” มีคุณถามตรงๆ หากเขาขายเขาอาจจะมีเงินมากพอมาใช้หนี้ให้แม่ได้ ดูแล้วว่าร้านอาหารและที่ดินโดยรอบก็กว้างพอสมควร

“ได้ครับ แต่...”

“แต่อะไรครับ” มีคุณถามเมื่อเห็นเคารพพูดค้างเอาไว้

“นี่คือเงื่อนไขสามข้อของคุณอนันต์ ถ้าคุณยินยอมทำตามเงื่อนไขของคุณอนันต์ครบสมบูรณ์ทั้งสามข้อ คุณถึงจะมีสิทธิขาดในมรดกที่คุณอนันต์มอบให้ครับ” เคารพส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้มีคุณได้อ่าน

“เงื่อนไขแรกคือคุณต้องรับช่วงกิจการร้านอาหารของคุณอนันต์จนครบหนึ่งปีหลังจากวันที่เซ็นรับทราบเงื่อนไข สองคือ... คุณจะต้องลงไปดูแลด้วยตัวเองห้ามใช้ให้ใครมาดูแลแทนคุณ คุณต้องทำทุกอย่างเหมือนที่คุณปู่ของคุณเคยทำ ทำกำไรให้ได้เท่ากับที่คุณปู่เคยทำ เงื่อนไขสุดท้าย...คุณอนันต์ระบุคนที่ท่านต้องการให้มาเป็นเชฟประจำร้านของท่านในช่วงที่คุณรับช่วงกิจการจนครบหนึ่งปี ถ้าคุณทำครบทั้งสามข้อนี้ครบหนึ่งปี คุณจึงจะมีสิทธิขาดในร้านและที่ดินทั้งหมดนี้ และถ้าคุณทำให้มันกำไรได้เท่ากันหรือมากกว่าที่คุณอนันต์ทำเอาไว้ เงินสดอีกสิบล้านในบัญชีของคุณอนันต์จะเป็นของคุณด้วยครับ” เคารพพูดให้ฟังไปด้วยระหว่างที่มีคุณกำลังไล่อ่านสัญญารับทราบเงื่อนไข

“นับตังค์ มณีรัตน์” มีคุณมัวแต่อ่านชื่อเชฟที่คุณปู่ระบุมาแล้วพยายามนึกให้ออก ลืมตื่นเต้นจำนวนเงินที่เคารพบอกเพราะสนใจเรื่องคนที่คุณปู่ต้องการมากกว่า ถ้าคุณปู่ถึงกับระบุมาขนาดนี้แสดงว่าต้องเป็นเชฟที่มีชื่อและมีฝีมือที่ดีมากจนมีคุณอยากรู้จัก

“ครับ นับตังค์ มณีรัตน์ คนนี้ครับ” เคารพยื่นรูปให้มีคุณดู

“เด็กตัวแค่นี้เองเหรอครับ คุณปู่ต้องการอะไรถึงได้ให้ผมจ้างเด็กอายุแค่นี้มาเป็นเชฟ ถ้าไม่อยากให้ผมได้มรดกก็ไม่น่าจะแกล้งกันแบบนี้” มีคุณรับรูปจากเคารพมาดูแล้วรู้สึกตกใจ รูปเด็กคนหนึ่งอายุไม่น่าจะถึงสิบขวบด้วยซ้ำ กำลังเล่นน้ำทะเลด้วยความสนุกเพราะยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว

“ใจเย็นครับ นั่นเป็นรูปที่คุณอนันต์มีเมื่อนานมาแล้ว แต่ตอนนี้เด็กคนนี้โตแล้ว ผมเลยไปสืบหาด้วยตัวเองก่อน จนได้รูปปัจจุบันมาแล้วครับ” เคารพยื่นรูปอีกใบให้ คราวนี้มีคุณรับไปดู

“นี่...มัน...” มีคุณถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้เห็นบุคคลในรูป


แม้ในรูปเด็กหนุ่มคนนี้จะไม่ได้อยู่ในชุดพ่อครัวอย่างที่เขาเคยเห็น แต่สายตาอวดดีกับรอยยิ้มที่อวดฟันเรียงสวยแบบนี้คงเป็นใครไปไม่ได้แน่ๆ นอกจากเจ้าเด็กข้าวเหนียวดงมะยงชิดคนนั้น


**โปรดติดตามตอนต่อไป**


(https://www.uppic.org/image-FDC9_58E62A7E.jpg)

เครดิตรูปจาก Goolgle

ความรู้ท้ายบท

ดง คือ การนำหม้อที่หุงข้าวได้ที่และรินน้ำข้าวออกจากหม้อแล้วยกขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ เอียงและหมุนไปโดยรอบเพื่อให้ข้าวระอุ (ใช้ในการหุงข้าวแบบเช็ดน้ำ)

ข้อมูลจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ มาเจอกันอีกแล้ว ฝากเนื้อฝากตัวคุณเชฟกับคุณบอสด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 1 ข้าวเหนี่ยวดง-มะยงชิด 23/3/60
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 23-03-2017 21:24:51
 :L2: :pig4:

รอติดตาม
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 1 ข้บิบิมบับฉบับคลุกกะปิ 24/3/60
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 24-03-2017 15:44:04
ตอนที่ 2 บิบิมบับฉบับคลุกกะปิ


หลังจากที่นับตังค์แยกไข่ขาวกับไข่แดงออกจากกันเรียบร้อยแล้ว เขาก็นำมันไปเจียวก่อนจะซอยมันให้เป็นเส้นยาวประมาณสามนิ้วด้วยความพิถีพิถัน ทุกครั้งที่นับตังค์มีเรื่องไม่สบายใจเขาจะระบายมันออกมาด้วยการทำอาหาร เพียงแต่วันนี้ห้องครัวที่นับตังค์ใช้ระบายความเครียดนั้นไม่ใช่ครัวของตัวเอง แต่เป็นครัวขนาดใหญ่ที่ดูหรูหรา มีอุปกรณ์และเครื่องใช้ทันสมัยทุกอย่างครบครัน มันเป็นครัวที่อยู่ภายในคฤหาสน์ขนาดใหญ่โตของเศรษฐีนีเจ้าของบริษัทส่งออกรายใหญ่อันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่นับตังค์สามารถมาทำตัวตามสบายที่นี่ได้ก็เพราะลูกชายของเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้คือเพื่อนสนิทกับนับตังค์นั้นเอง

“หอมมาก เสร็จรึยัง อยากจะกินแล้ว” ราชันหรือรัน เพื่อนสนิทของนับตังค์ ลูกชายคนเดียวของคุณสโรชาผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้เดินเข้ามาถามในขณะที่นับตังค์กำลังตั้งอกตั้งใจทำอาหาร ซึ่งเป็นภาพที่รันคุ้นตาเสมอ

ราชันหรือรัน ซึ่งปัจจุบันนี้รันได้เปลี่ยนชื่อจริงมาเป็น ‘รัญญรี’ รันเป็นสาวประเภทสองที่ผ่าตัดแปลงเพศจากชายให้เป็นหญิงโดยสมบูรณ์แบบแล้ว รันกับนับตังค์สนิทกันมาตั้งแต่มัธยมต้น รวมไปถึงเพื่อนสนิทอีกคนของทั้งคู่ก็คือพนัสหรือหม่อง ทั้งสามคนสนิทกันมาก รู้ไส้รู้พุงกันชนิดที่ว่าไม่ต้องพูดก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร ต่างฝ่ายต่างรู้เรื่องครอบครัวของกันและกัน มีอะไรจะปรึกษากันทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องที่รันอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้หญิงเต็มตัว ทั้งนับตังค์และหม่องรับรู้และให้กำลังใจรันได้ทำในสิ่งที่ต้องการ ตอนที่เรียนด้วยกันมารันเป็นนักกิจกรรมตัวยง แม้จะยังไม่ได้แต่งตัวเป็นหญิงแต่คนรอบตัวก็ดูออกว่ารันมีบุคลิกคล้ายผู้หญิงมากกว่าเพศที่แท้จริง รันเป็นคนดูแลตัวเองเสมอ ผิวพรรณก็ดี ยิ่งตอนนี้พอได้ผ่าตัดแปลงเพศ ไว้ผมยาวและแต่งตัวเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้วแทบดูไม่ออกด้วยซ้ำว่ารันเคยเป็นผู้ชายมาก่อน

“ฉันผัดข้าวเสร็จก็เสร็จแล้ว ไปชิมแซลมอนหวานให้หน่อยว่าอร่อยไหม” นับตังค์บอกเพื่อนสนิทก่อนจะตักข้าวที่เพิ่งจะผัดเสร็จใส่หม้อที่เตรียมเอาไว้

“อร่อยสุดยอด” รันตักปลาแซลมอนหวานมาชิมแล้วยกนิ้วให้

นับตังค์ตักข้าวคลุกกะปิที่ผัดร้อนๆ ใส่ชามดินเผา จากนั้นก็นำเครื่องเคียงที่ซอยเป็นเส้นยาวๆ ไม่ว่าจะเป็นแตงกวา มะม่วงดิบ กุนเชียง ไข่แดงเจียว ไข่ขาวเจียว หอมแดง มาเรียงให้เป็นวงกลมทับบนข้าวผัดกะปิให้ดูคล้ายข้าวยำเกาหลีหรือบิบิมบับ จากนั้นก็ตักปลาแซลมอนที่ทอดเป็นก้อนสี่เหลี่ยมก่อนจะปรุงรสแทนหมูหวานมาวางตรงกลาง ตามด้วยกุ้งแห้งทอดกรอบ พริกขี้หนูและถั่วฟักยาวซอยบางๆ ไม่ลืมหยิบมะนาววางเอาไว้ด้วยหนึ่งซีก ไม่เพียงเท่านั้น นับตังค์ยังเอาผักที่เป็นเครื่องเคียงข้าวคลุกกะปิมาคลุกกับโคชูจังแยกไว้สำหรับกินแกล้มแก้เลี่ยนอีกด้วย

“เสร็จแล้ว แม่กลับมารึยังจะได้ทำให้แม่ด้วย” นับตังค์ส่งชามข้าวให้รันก่อนจะถามถึงคุณสโรชาซึ่งเป็นคุณแม่ของรัน

“ไปประชุมกับพวกคณะกรรมการการค้าส่งออก แต่เดี๋ยวคงกลับเพราะเย็นนี้ฉันนัดห้องเสื้อให้เอาเสื้อมาให้ฉันกับแม่ลองด้วยกัน” รันรับชามดินเผามาแล้วไปนั่งที่เคาท์เตอร์ที่ทำมาจากหินอ่อนซึ่งมันตั้งอยู่ตรงกลางครัวขนาดใหญ่นี้

นับตังค์ไม่ได้กินด้วยแต่เดินไปนั่งตรงข้ามกับรัน เขาไม่เคยคิดว่าเพื่อนที่วิ่งเล่นไล่เตะกันมาก่อนจะกลายเป็นสาวสวยได้ขนาดนี้ นึกอิจฉารันโชคดีที่มีแม่เข้าใจในสิ่งที่รันเป็น แม่ของรันพารันไปออกงานในฐานะลูกสาวด้วยความภาคภูมิใจ ไม่เคยแสดงออกว่าอายที่รันเป็นผู้หญิงข้ามเพศ

“มองทำไม” รันถามนับตังค์ที่นั่งมองตัวเองตาไม่กระพริบ

“อิจฉาแกที่มีแม่เข้าใจ” นับตังค์ถอนหายใจเพราะนึกถึงตัวเอง

“แกอยากแปลงเพศอย่างฉันเหรอ” รันวางช้อนก่อนจะทำตาโต

“ไอ้บ้า ฮ่าๆ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น หมายถึงอิจฉาที่แม่ของแกเข้าใจแกในสิ่งที่แกเป็น แกดูฉันดิวะ แค่ทำอะไรออกนอกกรอบนิดหน่อยก็โดนไล่ออกจากบ้านแล้ว” นับตังค์ขำที่รันนึกว่าตัวเขาอยากแปลงเพศ

นับตังค์จำได้ว่าหม่องกับรันเคยฟันธงเอาไว้ว่าตัวเขาเป็นเกย์ เพราะเวลามีผู้หญิงมาตามจีบเขา เขามักจะหนีตลอดแล้วก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนแล้วรู้สึกว่าถูกใจเลย นับตังค์ไม่รู้หรอกว่าตัวเองเป็นอย่างที่เพื่อนทั้งสองคนพูดเอาไว้รึเปล่า เพียงแต่ตัวเขามีความสุขเวลาทำอาหารจนไม่ได้คิดถึงเรื่องของความรักเลย อีกอย่างนับตังค์รู้ดีว่าที่บ้านก็คงไม่สนับสนุนให้รีบมีแฟนอีกตามเคย เพราะผู้หญิงที่จะได้มาตรฐานตามความพอใจของพ่อกับย่าก็คงจะต้องทำกับข้าวเก่ง เรียบร้อยอยู่ในกรอบ ซึ่งนับตังค์คิดว่าเขาสงสารผู้หญิงที่จะเข้ามาเป็นสะใภ้ในครอบครัวของตัวเองมากกว่า แล้วถ้ายิ่งมีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนกันยิ่งไม่ต้องคิดเลย ทั้งพ่อกับย่าคงจะช็อกและอาละวาดจนบ้านระเบิดแน่ นับตังค์เลยขอโสดดีกว่า จะได้ไม่ต้องมีเรื่องกลุ้มใจ แต่รันก็จะพูดเสมอว่าถ้าวันหนึ่งนับตังค์เจอคนที่ใช่ นับตังค์จะไม่สร้างเหตุผลมากมายมาเป็นเงื่อนไขให้กับชีวิตเลย

“แล้วไป ไม่อยากมีคนมาสวยแข่งด้วย” รันพูดจบก็กินข้าวต่อ

“เชิญสวยไปคนเดียวเถอะครับคุณหนูรัน” นับตังค์ลุกเดินไปที่อ่างล้างจานเพื่อจะเก็บล้างของที่กองเอาไว้

“ไม่ต้องล้าง เดี๋ยวให้แม่บ้านมาล้าง แกแค่ทำให้กินก็พอแล้ว มานี่...นั่งนี่ก่อน” รันบอกกับเพื่อนสนิท นับตังค์จึงเดินกลับมานั่งที่เดิม

“เอาน้ำมะนาวไหม ฉันทำเอาไว้ แช่อยู่ในตู้เย็น” นับตังค์ถามเพื่อน

“นี่แกทำกี่อย่างวะตัง เครียดอะไรนักหนา แล้วแกจะเอายังไงต่อไป อยู่ที่นี่ตลอดเลยก็ได้นะ ฉันจะได้ไม่เหงา” รันถามเพราะนึกสงสารที่นับตังค์โดนไล่ออกจากบ้าน รันรู้ดีว่าที่บ้านของเพื่อนสนิทคนนี้หัวโบราณแค่ไหน รันเองรู้กิตติศัพท์ของคุณอัฐและคุณย่าละม่อมดี หลังจากที่รันแปลงเพศแล้วยังไม่กล้าโผล่ไปหานับตังค์ที่บ้านเลยเพราะกลัวคุณพ่อกับคุณย่าของนับตังค์รับไม่ได้

“ไม่รู้ว่ะ ยังไม่ได้คิดเลย เคยโดนพ่อโกรธบ่อยๆ แต่ไม่เคยโดนไล่ออกจากบ้าน เพราะไอ้บ้านั่นคนเดียวแท้ๆ” นับตังค์นึกไปถึงนักวิจารณ์ปากดีคนนั้น

“แต่แกก็ไปหาเรื่องเขาก่อนไม่ใช่เหรอ” รันถาม

“หาเรื่องตรงไหนวะรัน ฉันแค่อยากพิสูจน์อีกครั้งว่าขนมที่ฉันทำมันไม่ได้ห่วยอย่างที่หมอนั่นเคยวิจารณ์เอาไว้ ครั้งนี้มันก็อร่อย ขนาดเพื่อนของไอ้หมอนั่นแท้ๆ ยังชมไม่ขาดปากเลย แต่อีตาปากดีนั่นก็ยังไม่ยอมรับ กลัวจะเสียหน้าล่ะสิไม่ว่า” นับตังค์เบ้ปากเมื่อพูดถึงมีคุณ

“เออ ฝีมือแกอร่อยสุดๆ อร่อยมากจริงๆ ปกติฉันกินน้อยนะ กลัวอ้วน แต่นี่หมดชามเลยดูดิ ตัง...ไอ้ยำนี่ก็อร่อยอะ” รันโชว์ถ้วยยำผักกับโคชูจังให้เพื่อนสนิทดู

“ฉันอยากมีร้านอาหารของตัวเองว่ะ” นับตังค์ถอนหายใจเพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้

“ให้แม่ฉันออกเงินทำร้านให้ไหม” รันรีบเสนอ

“ไม่เอา” นับตังค์ปฏิเสธทันที

“ทำไมวะ แกมีฝีมือแบบนี้ แม่ฉันต้องรีบตกลงแน่ๆ”

“เป็นเพื่อนกัน ไม่ควรทำธุรกิจด้วยกัน นี่คือกฎเหล็กของฉัน” นับตังค์อธิบาย

“งั้นฉันให้แกยืมเงินก็ได้” รันเปลี่ยนข้อเสนอ

“ไม่เอา เดี๋ยวรับโทรศัพท์ก่อนนะ” นับตังค์ปฏิเสธข้อเสนอของรันก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่ดังเตือนว่ามีสายเข้า

“ที่บ้านโทรมาเหรอ” รันถามเมื่อเห็นเพื่อนยืนมองโทรศัพท์แต่ไม่กดรับ

“เบอร์ใครไม่รู้”


นับตังค์ตัดสินใจกดรับสาย เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็แทบจะตัดสายทิ้งทันที แต่เหมือนปลายสายจะรู้ตัวเลยรีบเอ่ยคำขอโทษมาก่อน เมื่อได้ยินคำขอโทษจากอีกฝ่ายนับตังค์จึงยังไม่วางสาย นับตังค์ไม่ได้พูดอะไรเลยเอาแต่ฟังอีกฝ่ายพูดจนรันยิ่งสงสัยว่าใครโทรมาหา สุดท้ายรันก็ได้ยินนับตังค์พูดคำว่าตกลงก่อนจะวางสาย


“ใช้โทรจิตคุยเหรอวะตังค์” รันถามเพราะไม่เห็นว่าเพื่อนสนิทจะพูดอะไรเลยนอกจากคำว่าตกลง

“หมอนั่นโทรมา”

“หมอไหน”

“ก็ไอ้นักวิจารณ์อาหารคนนั้นไง มันโทรมาขอโทษที่ทำให้ฉันเดือดร้อน แล้วมันก็บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับฉัน”

“แล้วแกก็ตอบตกลงใช่ไหม แกเกลียดหน้าเขาจะตายแล้วตอบตกลงทำไม” รันถามด้วยความสงสัย

“ก็ฉันอยากให้หมอนั่นขอโทษฉันต่อหน้ามันถึงจะสะใจ”

“ขอไปด้วยได้ไหม เขาหล่อดี” รันรีบถามเพื่อนสนิท รันเคยห็นรูปมีคุณตามหน้านิตยสารต่างๆ หรือแม้กระทั่งตามรายการโทรทัศน์ที่เชิญมีคุณไปออก

“แกห้ามชอบคนนี้เลยนะ ไม่ให้ผ่าน” นับตังค์รีบดักคอเพื่อนเอาไว้ก่อน

“แบบนี้เขาเรียกหวงก้างรึเปล่า” รันย้อนเพื่อน

“บ้าดิ แกเป็นเพื่อนสนิทฉัน เพราะฉะนั้นคนที่จะเป็นแฟนแกต้องไม่ใช่คนที่ฉันเกลียดขี้หน้า เข้าใจไหมคุณหนูรัน”
 
“เออๆ เสียดายของ ทั้งหล่อทั้งเก่งแบบนี้น่าเอามาควงจะตาย ฉันเคยอ่านข่าวซุปซิปนะ เขาบอกว่านายมีคุณเป็นเกย์ด้วยนะแก ว่าแต่เขานัดแกวันไหน” รันถามเพราะก็ยังอยากจะไปด้วยอยู่ดี

“วันนี้ ตอนเย็น” นับตังค์ตอบ ในใจก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่าคนปากเสียคนนั้นจะเป็นเกย์อย่างที่เพื่อนสนิทบอก

“อ๊ะ เสียดาย ฉันนัดร้านเสื้อเอาชุดมาให้ลอง อดไปด้วยเลย งั้นแกเอารถฉันไปก็ได้ แล้วรีบไปรีบกลับนะ อย่าไปตกหลุมรักคนที่เกลียดเสียเองล่ะคุณนับตังค์” รันพูดจบก็หัวเราะร่วน ส่วนนับตังค์ได้แต่ค้อนเพื่อนสนิทที่คิดอะไรไม่เข้าท่าเอาเสียเลย

….


มีคุณมานั่งรอนับตังค์ก่อนเวลานัดพอสมควร เขาสั่งอาหารสองสามอย่างพร้อมกับเครื่องดื่มมากินฆ่าเวลาระหว่างรอ แต่ปรากฏว่านับตังค์เองก็มาก่อนเวลานัด จึงมาถึงไล่เลี่ยกับมีคุณ เมื่อมีคุณเห็นนับตังค์เดินเข้ามาจึงลุกขึ้นโบกมือให้ มีคุณมองชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาด้วยความรู้สึกแปลกตา เจอนับตังค์สองครั้งก็อยู่ในชุดพ่อครัวสีขาว ใส่ผ้ากันเปื้อนพร้อมกับสวมหมวกพ่อครัวทั้งสองครั้ง แต่วันนี้นับตังค์มาในชุดเสื้อยืดตัวบางสีเทาอ่อน แขนสั้น คอวีกว้าง ส่วนกางเกงเป็นยีนส์สีซีดพอดีตัว มีรอยขาดที่หัวเข่าให้เห็นเส้นด้ายรุ่ยร่ายแบบที่กำลังนิยมในหมู่วัยรุ่น ผมหยักศกที่ยาวพอรวบได้ก็ถูกรวบไปด้านหลัง ดวงตาที่ดูรั้นฉายมาแต่ไกล แต่มีคุณยอมรับว่ารู้สึกชอบนับตังค์แต่งตัวแบบนี้มากกว่าชุดพ่อครัวสีขาวตัวใหญ่ที่บดบังหุ่นสมส่วนของนับตังค์เสียหมด

“นั่งก่อน อยากกินอะไรก็สั่ง” มีคุณเชิญให้นับตังค์นั่งก่อนจะนั่งลงตามแล้วเลื่อนรายการอาหารไปให้

“นายสั่งไปรึยัง” นับตังค์ถาม

“สั่งแล้ว” มีคุณตอบกลับสั้นๆ แต่น้ำเสียงไม่ห้วนเหมือนนับตังค์ ดูจากการตอบของนับตังค์แล้ว มีคุณเดาว่านับตังค์คงเป็นคนที่ไม่ยอมใครสักเท่าไหร่

“กินแค่นั้นได้” นับตังค์ยังคงตอบสั้นๆ ห้วนๆ

“เครื่องดื่มสั่งไปแต่เบียร์ กินได้เหมือนกันไหม” มีคุณถาม ในใจก็นึกขำท่าทางหยิ่งๆ ของนับตังค์

“กินได้ แต่ไม่กิน เอาน้ำเปล่า” นับตังค์ตอบ มีคุณจึงเรียกพนักงานเสิร์ฟมารับรายการอาหารและเครื่องดื่มเพิ่ม

“ผมขอโทษนะ ที่...”

“เดี๋ยว อย่าเพิ่งพูด” นับตังค์ยกมือห้ามจนมีคุณต้องชะงัก เมื่อเห็นนับตังค์ยกโทรศัพท์ขึ้นมาทำท่าจะถ่ายรูปมีคุณจึงรีบถามกลับ

“ต้องถ่ายรูปเลยเหรอ”

“ถ่ายคลิปต่างหาก พ่อฉันจะได้รู้ว่าใครโกหก จะขอโทษก็รีบสิ” นับตังค์เร่ง

“โอเค ผมขอโทษครับ ขนมของคุณนับตังค์อร่อยมาก สร้างสรรค์และรสชาติดีจนผมอยากเชิญมาชื่นชม แต่ผมดันอีโก้เยอะไปหน่อยเลยบอกไปว่ารสชาติงั้นๆ แต่ที่ชมไปผมหมายถึงขนมครั้งที่สองนะ ครั้งแรกที่คุณทำประกวด ผมยังคงยืนยันเหมือนเดิม มันเค็มเหมือนทำเกลือหก ผมพูดจริงนะไม่ได้โกหก” มีคุณพูดยังไม่ทันจบนับตังค์ก็ลดมือถือลง มีคุณคิดว่าตัวเองพลาดไปแล้ว นับตังค์คงจะต้องโกรธที่เขาไปจี้ปมเดิม แล้วจุดประสงค์ที่เขาต้องการมาขอร้องนับตังค์ในวันนี้คงพังแน่

“นายไม่ได้โกหกแน่นะ มันเค็มมากเลยเหรอ” นับตังค์ถามเสียงจริงจัง

“ผมมีจรรยาบรรณนะครับ วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาถึงอยู่มาได้จนทุกวันนี้ วันนั้นครีมซอสของคุณมันเค็มจนโคนลิ้นผมชาเลย” มีคุณบอกออกไปตามตรง

“มันต้องมีอะไรผิดพลาด ฉันก็ชิมแล้วนะ” นับตังค์ทำท่าครุ่นคิดก่อนจะถอนหายใจ ส่วนมีคุณรู้สึกประหลาดใจที่นับตังค์มีท่าทีอ่อนลงไม่เหมือนอย่างที่คิดเอาไว้ เขานึกว่าจะโกรธเขาจนระเบิดลงเสียแล้ว

“มันคงมีอะไรผิดพลาดจริงๆ แต่คุณก็ทำให้ผมเห็นแล้วว่าขนมที่คุณทำมันอร่อยมาก ผมเขียนถึงมันด้วยนะในคอลัมน์ของผม” มีคุณเริ่มเห็นใจนับตังค์ขึ้นมาเมื่อเห็นสายตาที่เคยอวดดีดูเศร้าหมองลงจึงพยายามจะปลอบเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ

“แต่ฉันจะเชื่อนายได้ยังไง ปากก็บอกว่ามีจรรยาบรรณ แต่วันนั้นที่ร้าน นายก็เอาความรู้สึกส่วนตัวไปปะปนกับงาน วันที่ประกวดนายอาจจะเป็นเหมือนกันก็ได้” แววตาที่มีคุณเห็นว่าเศร้าหมองกับมาดูอวดดีอย่างเดิมจนมีคุณตั้งรับแทบไม่ทัน

“ผมถึงมาขอโทษไงครับ อีกอย่างผมมีอะไรมาเสนอกับคุณด้วย” มีคุณรีบเปิดประเด็นก่อนจะทำให้นับตังค์อารมณ์เสีย

“อะไร” นับตังค์หรี่ตามองมีคุณด้วยความระแวง

“ผมมีร้านอาหารของคุณปู่อยู่ที่เกาะใบไม้คราม มันเป็นเกาะเพิ่งเปิดตัว ผมจำความฝันของคุณจากใบสมัครที่คุณเคยกรอกเอาไว้ตอนเอาขนมไปประกวดได้ คุณอยากลองทำอาหารสไตล์ฟิวชั่น ผสมผสานสูตรตำรับชาววังกับอาหารสมัยใหม่เข้าด้วยกัน ผมยินดีให้คุณได้ทำอยากที่ใจคุณอยากทำ ส่วนเงินเดือนคุณลองเสนอเข้ามาได้เลย”


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 2 บิบิมบับฉบับคลุกกะปิ 24/3/60
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 24-03-2017 15:46:33
(ต่อจากด้านบน)


นับตังค์ฟังข้อเสนอของมีคุณแล้วนิ่งคิด ถามว่าข้อเสนอที่มีคุณเสนอมามันน่าสนใจไหม นับตังค์ยอมรับว่าน่าสนใจมาก เพราะนับตังค์จะได้พิสูจน์ตัวเองให้ครอบครัวได้เห็นว่านับตังค์ไม่ใช่เด็กที่คิดอะไรพิเรนทร์ จะได้ลองทำในสิ่งที่อยากทำ เหมือนได้ฝึกฝีมือก่อนจะมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง เงินเดือนก็เรียกได้เอง แต่ข้อเสนอมันดูมากไปสำหรับคนอย่างนับตังค์ที่เคยถูกมีคุณต่อว่าเรื่องรสชาติอาหารมาก่อน นับตังค์จึงยังระแวงมีคุณอยู่ว่ามาไม้ไหนและต้องการอะไรถึงได้มาชวนนับตังค์ไปทำงานด้วย


“ทำไมต้องเป็นฉัน นายไม่เคยเชื่อฝีมือของฉัน” นับตังค์ถามด้วยความสงสัย

“แทนคำขอโทษจากผมที่ทำให้คุณต้องออกจากบ้านมาและที่สำคัญผมอยากให้คุณพิสูจน์ว่าคุณไม่ได้ทำขนมอร่อยด้วยความบังเอิญ” มีคุณคิดว่าคนอวดดีอย่างนับตังค์ต้องใช้แผนนี้

“ความบังเอิญไม่มีสำหรับคนที่ชื่อนับตังค์หรอกนะ แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันโดนไล่ออกจากบ้าน”

“ผมรู้มาจากพี่สาวของคุณ ไม่มีใครเชื่อว่าคุณจะเอาตัวรอดได้ คิดว่าอีกไม่นานคุณจะกลับบ้านเอง” มีคุณแอบเจ้าเล่ห์พูดเกินจริงไปเพราะอยากให้นับตังค์ตอบตกลง

“มีเงื่อนไขอะไรบ้าง” นับตังค์รู้สึกเคืองที่โดนสบประมาท นึกเคืองพี่สาวด้วยที่เอาเรื่องในบ้านมาพูดให้คนนอกอย่างมีคุณฟัง

“คุณต้องเซ็นสัญญาเป็นเชฟให้ร้านของผมเป็นเวลาหนึ่งปี เงินเดือนคุณเสนอมา ถ้าดูเหมาะสมและเราทั้งสองฝ่ายพึงพอใจก็ไม่มีปัญหา ผมมีที่พักพร้อมอาหารให้สามมื้อ มีค่ารักษาพยาบาลให้หากเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ คุณกำหนดรายการอาหารได้เอง แต่ผมจะต้องได้ชิมก่อนจะอนุมัติลงในเมนู สิทธิขาดในครัวจะเป็นของคุณ คุณเลือกผู้ช่วยและพนักงานในครัวเองได้ แต่ผมขอเป็นคนบริหารภาพโดยรวม และหากคุณทำกำไรให้ได้ตามที่ผมกำหนดในแต่ละเดือน ครบหนึ่งปีผมมีโบนัสให้คุณจำนวนห้าล้านบาท แต่ถ้าคุณยกเลิกสัญญาก่อน คุณจะถูกปรับเป็นจำนวนเงินห้าล้านเช่นกัน” มีคุณอธิบายเงื่อนไขจนจบก็แอบสังเกตทีท่าของนับตังค์

“ฉันต้องให้คำตอบนายวันไหน” นับตังค์ทำท่าครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะถามกลับ

“เร็วที่สุดก็ดี เพราะว่าผมมีกำหนดเดินทางไปที่เกาะสุดสัปดาห์นี้ ผมจะปล่อยให้ร้านไม่มีพ่อครัวนานไม่ได้ ผมหวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันนะ” มีคุณไม่ได้บอกความจริงให้นับตังค์ฟังเรื่องเงื่อนไขที่เขาต้องทำตามพินัยกรรมเพราะไม่อยากให้นับตังค์รู้ว่าเขาจำต้องทำทุกอย่างเพื่อหวังมรดกถึงความจริงมันจะเป็นอย่างนั้น สิ่งที่เขาเสนอให้นับตังค์ถือว่าเยอะแล้วสำหรับเชฟมือใหม่ในสายตาของเขา ถึงขนมที่นับตังค์ทำให้เขาได้ชิมที่ร้านในวันนั้นจะอร่อยมาก แต่ก็ไม่ได้ความว่านับตังค์จะทำอาหารอร่อย แต่มีคุณไม่มีทางเลือกอื่นหากต้องหากเงินมาใช้หนี้ให้มารดา มีคุณก็ต้องยอมทำตามเงื่อนไขของปู่ทุกข้อ อันที่จริงมีคุณอยากรู้มากกว่าคุณปู่รู้จักกับนับตังค์ได้ยังไงถึงได้ระบุชื่อมาในพินัยกรรม แต่มีคุณไม่ได้ถามเพราะไม่อยากให้นับตังค์ยิ่งสงสัย

“ทำไมต้องใส่แว่นกันแดดในร้านมันมีแดดเหรอ” นับตังค์ถามขึ้นมาลอยๆ

“มันเป็นรสนิยมของผม” มีคุณตอบแบบงงๆ คุยกันเรื่องธุรกิจแท้ๆ นับตังค์ดันเปลี่ยนเรื่องมาเป็นเรื่องแว่นกันแดดที่มีคุณใส่อยู่เฉยเลย

“ถอดได้ไหม” นับตังค์ถามพลางใช้นิ้วเคาะโต๊ะไปด้วย

“ทำไมต้องถอด” มีคุณขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจคนตรงหน้าจริงๆ

“ไม่อยากให้คนอื่นคิดว่ามานั่งกินกับคนตาบอดแล้วไม่ดูแลตักข้าวปลาอาหารให้”

“ฮ่าๆๆๆ” มีคุณหัวเราะเสียงดังทั้งที่ควรจะโกรธที่โดนคนที่เด็กกว่าเกรียนใส่ แต่เขากลับชอบใจมากกว่าที่นับตังค์เป็นตัวของตัวเอง ดีกว่าเก็กหน้าอยู่ตลอดเวลา เห็นแล้วมีคุณรู้สึกเมื่อยแทน

“นี่ถ้าถือไม้เท้ามาด้วยเหมือนเลยนะ” นับตังค์ยังคงกวนประสาทมีคุณต่อ

“ตอนเด็กๆ ก็ดูน่ารัก โตมาแล้ว...” มีคุณพูดค้างเอาไว้

“แล้วอะไร เอ๊ะ แล้วรู้จักฉันตอนเด็กๆ ได้ยังไง” นับตังค์รีบถาม

“เดาเอา ว่าตอนเด็กๆ คงน่ารัก” มีคุณเกือบพลาดหลุดพูดไปว่าเคยเห็นรูปของนับตังค์ตอนเด็กๆ จากทนายความของปู่เสียแล้ว หากนับตังค์รู้เรื่องพินัยกรรมอาจจะไม่ช่วยเขาก็ได้เพราะเขาทำให้นับตังค์ต้องอายในวันที่ประกวดอาหารครั้งนั้น

“ตอนโตก็น่ารักเหอะ คนที่มีรสนิยมใส่แว่นกันแดดในที่ร่มอย่างนายคงมองไม่เห็นความน่ารักของฉันหรอก” นับตังค์เบ้ปากให้มีคุณ

“โอเค ลองถอดแว่นดูก็ได้ว่าจะเห็นความน่ารักอย่างที่คุณบอกรึเปล่า” มีคุณถอดแว่นกันแดดออกแล้วจ้องหน้านับตังค์ จ้องแบบไม่ละสายตาจนนับตังค์เป็นฝ่ายเริ่มทำตัวไม่ถูก

“ทำไมร้านนี้ทำอาหารช้าจัง” นับตังค์ทำเป็นมองไปทางอื่น แต่เมื่อหันกลับมามีคุณก็ยังมองมาไม่เลิก

“อืม...” มีคุณส่งเสียงในลำคอ

“อืมอะไร” นับตังค์ถาม

“อืม...ก็น่ารักดี” มีคุณตอบ

“.......” เมื่อโดนชมง่ายๆ นับตังค์ก็ไปต่อไม่ถูก ได้แต่นั่งมองไปทางอื่น

“แค่ต้องมองนานหน่อย” มีคุณพูดต่อ

“ปากดีนะ” นับตังค์นึกไว้อยู่แล้วว่าคนอย่างมีคุณไม่ชมใครง่ายๆหรอก แต่ก็ดีแล้ว เพราะถ้ามีคุณชมนับตังค์จริงๆ นับตังค์คงนึกเลี่ยนจนกินข้าวไม่ลง ดูแค่หน้าตาท่าทางก็รู้แล้วว่ามีคุณกระล่อนไม่เลือกแม้นับตังค์จะเป็นผู้ชายก็ตาม นึกแล้วก็ชักจะเชื่อคำพูดของรันที่ว่ามีคุณอาจจะมีรสนิยมชอบผู้ชายด้วยกัน

“ผมยอมรับครับ ว่าปากผมดี” มีคุณพูดจบก็หัวเราะ ผิดกับนับตังค์ที่ทำท่าถอนหายใจแล้วเคาะนิ้วเล่นกับโต๊ะต่อเพราะไม่รู้จะวางตัวยังไงเมื่อมีคุณมองมาตลอด

“ใส่แว่นเหมือนเดิมก็ได้นะ” นับตังค์บอก

“ไม่ดีกว่า เดี๋ยวคุณจะต้องมาป้อนข้าวผมเพราะกลัวคนอื่นจะคิดว่าผมตาบอดแล้วคุณไม่ดูแล” มีคุณย้อนคำพูดของนับตังค์

“จะเล่นต่อใช่ไหม” นับตังค์ถามด้วยท่าทางเอาเรื่อง


มีคุณรีบยกมือขึ้นยอมสงบศึกเพราะว่าพนักงานมาเสิร์ฟอาหารพอดี ระหว่างทานมีคุณก็พูดถึงอาหารที่ได้กินว่าน่าจะมีส่วนประกอบอะไรบ้างและรสชาติขาดอะไรไป นับตังค์ได้ฟังก็แอบยอมรับว่ามีคุณพูดได้ตรงกับสิ่งที่นับตังค์คิด แต่ถึงอยากจะชมยังไงนับตังค์ก็ไม่มีวันพูดให้คนตรงหน้าได้ยิน เพราะมันอาจจะกลายเป็นว่านับตังค์ต้องยอมรับว่าขนมของตัวเองในวันประกวดห่วยอย่างที่มีคุณเคยวิจารณ์เอาไว้ เสียใจไปแล้วเรื่องอะไรจะต้องมาเสียฟอร์มอีก


‘ใครจะไปชม ฝันไปเถอะ’ นับตังค์ได้แต่คิดในใจ



นับตังค์กลับจากไปกินข้าวกับมีคุณก็เห็นว่าหม่องเพื่อนสนิทอีกคนมาอยู่ที่บ้านของรันแล้ว รันรีบถามนับตังค์ทันทีว่ามีคุณชวนไปคุยเรื่องอะไร นับตังค์จึงเล่าให้เพื่อนสนิททั้งสองฟังอย่างละเอียด ยกเว้นเรื่องที่ถูกมีคุณกวนประสาทด้วยการจ้องหน้าไม่เลิกแม้ตอนมาส่งนับตังค์ที่รถก็ยังจ้องจนนับตังค์อยากเอาจะกุญแจรถทิ่มตาให้บอดจริงๆ หมอนั่นจะได้ใส่แว่นกันแดดตลอดชีพ

“เฮ้ย ไปเลย ฉันว่าเป็นโอกาสที่ดีนะแก” รันสนับสนุนหลังจากที่ได้ฟัง

“เดี๋ยว ไกลไปไหม แล้วแกไว้ใจไอ้มีคุณได้มากแค่ไหน” หม่องถามเสียงเครียด ถึงข้อเสนอจะดี แต่มันดีจนน่าระแวง

“แกกลัวอะไรวะหม่อง” รันถามเมื่อเห็นหม่องขัด

“เดี๋ยว ก็ถ้าหมอนั่นมันเป็นพวกโรคจิต เกิดมันทำอะไรไอ้ตังขึ้นมาจะทำยังไง” หม่องออกความเห็น

“ฮ่าๆๆ ไอ้หม่อง ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างไอ้รันนะโว้ย ดูกล้ามพี่ตังเสียก่อน” นับตังค์ถกแขนเสื้อเพื่อโชว์กล้าม

“กล้าโชว์” รันมองกล้ามเล็กๆ ของเพื่อนแล้วส่ายหน้า

“ทำไม ฉันแข็งแรงกว่าตอนเด็กๆ ตั้งเยอะแล้ว กล้ามท้องก็มีนะ แต่แค่มันขี้อายไปหน่อย เลยไม่แสดงออก” นับตังค์เปิดท้องโชว์ให้เพื่อนดูอีก

“เดี๋ยว นั่นกล้ามหรือซี่โครงวะตัง แล้วสรุปแกจะไปหรือไม่ไป” หม่องถามอีกเพราะอยากรู้ว่าเพื่อนสนิทจะตัดสินใจยังไง

“ก็อยากลอง แต่ถ้าไม่ดีแล้วอยากเลิกฉันต้องเสียตั้งห้าล้าน” นับตังค์ติดปัญหาเรื่องนี้ เพราะการถูกผูกมัดหนึ่งปีสำหรับนับตังค์มันก็นานอยู่

“โดนท์ วอรี่ อะเบาท์ แดท มาดามรันรวย มาดามรันสวย ถ้าอยู่ไม่ได้ก็กลับ มาดามจะจ่ายค่าปรับเอง” รันจีบปากจีบคอส่งสำเนียงเป็นมาดามรันจนนับตังค์นึกขำ

“ตั้งห้าล้านนะมาดาม” นับตังค์ถาม

“เดี๋ยว สำหรับความปลอดภัยของเพื่อน ห้าล้านมันไม่เยอะ ถ้าถึงจุดที่ทนไม่ได้ก็เอาเงินไอ้รันไปก่อน แล้วกลับมาผ่อนมัน ฝีมืออย่างแกไปสมัครเป็นเชฟที่โรงแรมดังๆ ก็ไม่มีใครปฏิเสธหรอก เงินห้าล้านแกคงคืนมันได้ไม่ยาก อีกอย่างนะ ไอ้รันมันทำนมไปแล้ว ไม่มีเรื่องต้องให้ใช้เงินอีก ผ่อนมันเดือนละร้อยก็พอ” หม่องตบบ่านับตังค์

“ไอ้หม่องขยันเดี๋ยว พูดมากเดี๋ยวจะโดน แต่มันพูดถูกนะตัง ไม่ต้องซีเรียสเรื่องเงิน แต่ฉันว่าฉันเชื่อสายตาตัวเองนะ” รันพูดกับหม่องก่อนจะหันมาพูดกับนับตังค์

“เชื่อว่าฉันจะทำได้ใช่ไหม” นับตังค์ถาม

“เปล่า เชื่อว่าคุณมีคุณ ว่าที่บอสของแกไม่ใช่พวกโรคจิต แต่เป็นเทพบุตร” รันทำหน้าเคลิ้ม

“เดี๋ยว ตอนแปลงเพศ หมอลืมตัดต่อมแรดออกไปด้วยใช่ไหม” หม่องถามรันเสียงเครียด แต่พอโดนรันเอาหมอนอิงขว้างใส่ก็หัวเราะเสียงดังที่แกล้งเพื่อนได้

“ตกลง!! ฉันจะไปลองใช้ชีวิตนอกกรอบดู” นับตังค์ตะโกนออกมาจนเพื่อนทั้งสองคนตกใจ แต่เมื่อเห็นความจริงจังของเพื่อนรัก ทั้งรันและหม่องก็ปรบมือให้กำลังใจเพื่อนที่กล้าก้าวเดินออกมาจากชีวิตเดิมๆ ได้เสียที



มีคุณนั่งมองของฝากที่นับตังค์ส่งให้เขาตอนที่เขาเดินไปส่งนับตังค์ที่รถ เขาไม่คิดว่าของที่นับตังค์ให้จะเป็นของกินเพราะทั้งเขาและนับตังค์ก็กินอาหารจากร้านอาหารด้วยกันจนอิ่มแปล้ แต่เมื่อเขากลับมาถึงสำนักพิมพ์แล้วแกะห่อผ้าออกดูถึงได้เห็นว่าเป็นกล่องข้าวที่ทำจากไม้รูปทรงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดแปดนิ้วได้ มีคุณเปิดฝากล่องข้าวออกก็เห็นหน้าตาอาหารที่ถูกตกแต่งให้คล้ายกับข้าวยำของเกาหลี เพียงแต่วัตถุดิบที่ประกอบอาหารตรงหน้าเขาว่ามันน่าจะเป็นข้าวคลุกกะปิมากกว่า ส่วนกล่องเล็กอีกกล่องที่ถูกห่อติดมาด้วยทำให้มีคุณค่อนข้างแปลกใจ เขาดมกลิ่นแล้วก็พอจะเดาได้ว่ามันคือโคชูจัง แต่เอามาคลุกกับแตงกวา ถั่วฟักยาว มะม่วง กุ้งแห้งและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งเขาคิดว่ามันไม่น่าจะเข้ากันกับข้าวคลุกกะปิ มีคุณนั่งมองมันอยู่นานเพราะยังรู้สึกอิ่มอยู่ ไม่รู้ว่านับตังค์คิดอะไรถึงให้ข้าวกล่องนี้เขามาหลังจากที่เพิ่งกินอาหารมาด้วยกัน จนเหลือบไปเห็นใต้ฝากล่องข้าวมีกระดาษเล็กๆแปะอยู่หนึ่งใบ


“เอาแต่มองไม่คิดจะลองรึไง” มีคุณอ่านข้อความในกระดาษก่อนจะหัวเราะออกมาเพราะดันไปนึกถึงหน้ากวนๆ ของเจ้าของกล่องข้าวนี้


มีคุณตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปข้าวในกล่องที่จัดมาอย่างสวยงามพร้อมกับกล่องยำผักเครื่องเคียง หลังจากนั้นก็หยิบช้อนออกจากถุงผ้าที่นับตังค์ใส่มาให้ด้วย เขาบีบมะนาวโรยทั่วข้าว คลุกข้าวในกล่องไม้ให้เข้ากัน หลังจากที่ตักข้าวเข้าปากคำแรกมีคุณก็นิ่งไป ก่อนจะเริ่มตักยำผักกับโคชูจังมากินแกล้ม มีคุณไม่รู้ว่านับตังค์ปรุงเครื่องปรุงอื่นด้วยหรือเปล่าแต่มันอร่อยลงตัวมาก แล้วมีคุณก็เริ่มกินคำต่อไป จนกระทั่งถึงคำสุดท้ายมีคุณถึงวางช้อนลง เขาเก็บกล่องข้าวใส่ถุงผ้าเหมือนเดิมก่อนจะเปิดโน๊ตบุ๊คของตัวเองแล้วเริ่มพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปด้วยความรู้สึกที่มีหลังจากกินข้าวคลุกกะปิของนับตังค์ไปจนหมดกล่อง



นับเป็นเช้าวันที่สองหลังจากที่นับตังค์ออกจากบ้านมาอยู่ที่บ้านของรันและยังเป็นเช้าที่นับตังค์รู้สึกสับสนกับเรื่องของตัวเองมากที่สุดในชีวิต เมื่อวานตอนเย็น นับตังค์ยังตั้งใจว่าจะเดินออกจากกรอบเดิมๆ ไปพิสูจน์ตัวเองให้ครอบครัวได้เห็น แต่มาวันนี้ นับตังค์กลับเริ่มกลัวกับอนาคตที่ไม่คุ้นเคย กลัวว่าจะตัดสินใจผิด เมื่อมีเรื่องให้คิดไม่ตก นับตังค์เลยตื่นตั้งแต่เช้ามาอบขนมจนส่งกลิ่นหอมไปทั่วบ้าน


“ตัง ทำอะไรแต่เช้าเลยลูก” คุณสโรชาเดินเข้ามาในครัวพร้อมกับไอแพดและโทรศัพท์มือถือ แม้เธอยังอยู่ในชุดนอนแต่ก็สวมเสื้อคลุมให้ดูเรียบร้อยเพราะถึงยังไงเพื่อนของลูกก็เป็นผู้ชาย ถึงเธอจะดูออกว่านับตังค์อาจเป็นผู้ชายที่ไม่ได้สนใจผู้หญิงก็ตาม

“ตังทำเสียงดังรบกวนแม่รึเปล่าครับ” นับตังค์ตกใจที่คุณสโรชาตื่นลงมาตั้งแต่เช้า นับตังค์เรียกคุณสโรชาว่าแม่เพราะนับถือแม่ของเพื่อนเหมือนแม่ของตัวเอง

“เปล่าลูก แม่ก็ตื่นเช้าแบบนี้อยู่แล้ว ปกติแม่ตื่นก็นอนอ่านข่าวอยู่บนห้อง สายๆ ถึงจะลงมา แต่วันนี้แม่มีอะไรจะให้ตังได้อ่านเลยรีบลงมา” คุณสโรชาส่งไอแพดให้เพื่อนสนิทของลูกชายดู

“เดี๋ยวตังชงกาแฟให้แม่ก่อนนะครับ ตังอบสโคนเสร็จพอดี มีแยมมะตูมกับแยมมะม่วงด้วย แม่ลองชิมนะครับ” นับตังค์รีบไปชงกาแฟกับเอาขนมที่เพิ่งทำเสร็จมาเสิร์ฟคุณสโรชา หลังจากนั้นถึงได้หยิบไอแพดของคุณสโรชามานั่งดู พบว่าสิ่งที่คุณสโรชาอยากให้นับตังค์ได้เห็นก็คือคอลัมน์ของมีคุณนั้นเอง นับตังค์จึงเริ่มอ่านมันในใจ


‘ตั้งแต่ผมได้ก้าวเข้ามาในอาชีพที่เป็นอยู่นี้ จากนักวิจารณ์อาหารโนเนมคนหนึ่งจนมาถึงวันที่ผมกลายมาเป็นนักวิจารณ์อาหารที่ได้รับรางวัลคอลัมน์ยอดเยี่ยมติดกันมาถึงหกปี สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยก็คือผมมั่นใจในความรู้สึกแรกของผมเมื่อผมได้ลิ้มรสอาหารเหล่านั้น ผมจะวิจารณ์ตามสิ่งที่ผมรู้สึก ซึ่งความรู้สึกของผมอาจจะไปตรงใจใครหลายๆ คน แต่อีกมุมหนึ่งอาจจะสร้างความไม่พอใจให้ใครอีกหลายคนที่โดนผมวิจารณ์ไป


ผมเจออาหารมาทุกรูปแบบและก็เจอคนทำอาหารมาทุกรูปแบบเช่นกัน ผมเชื่อว่าคนทำอาหารทุกคนก็หวังให้คนที่ได้ชิมอาหารของตนชื่นชมและชื่นชอบ ไม่มีใครอยากโดนตำหนิ บางคนรับได้ บางคนก็รับไม่ได้ แต่ผมไม่เคยสนใจว่าเขาจะรู้สึกกับคำติชมของผมอย่างไร หน้าที่ของคุณคือขายรสมือในการทำอาหารให้ผู้อื่น หน้าที่ของผมก็คือเป็นผู้อื่นที่ว่าไปตามรสชาติที่ได้รับจากคุณ ผมคิดแค่ว่าอาชีพที่ผมกำลังทำอยู่นี้เป็นประโยชน์ให้แก่ผู้บริโภคก็พอแล้ว


จนวันนี้ผมได้ชิมข้าวคลุกกะปิกล่องหนึ่ง มันค่อนข้างจะเย็นเพราะกว่าผมจะได้กินก็ผ่านการปรุงไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่สิ่งที่ทำผมตัดสินใจที่จะกินมันทั้งที่ผมเพิ่งจะทานอาหารมาจนอิ่มก็คือหน้าตาของอาหารที่คนทำตั้งใจบรรจงมันออกมาอย่างที่คุณจะได้เห็นในภาพข้างล่างนี้ เครื่องเคียงที่ให้ ไม่ว่าจะเป็นไข่เจียว มะม่วง แตงกว่าที่ซอยมาเท่ากันแทบจะทุกเส้น ข้าวที่ผัดเป็นเม็ดสวยนุ่มกำลังดี หอมกลิ่นไหม้ของกระทะ ส่งให้กะปิที่ผัดกับข้าวมีรสชาติที่ดีขึ้น แม้ข้าวจะเย็นแล้วแต่มันก็ยังไม่แฉะ ยังคงนุ่มและคงรสชาติอยู่จนคำสุดท้าย ตัวปลาแซลมอนหวานที่ใช้แทนหมูหวานก็อร่อยลงตัวกับเครื่องเคียงทุกอย่าง ที่สำคัญคือความกล้าที่จะคิดอะไรที่ต่างออกไป เขานำผักและเครื่องเคียงบางส่วนมายำกับซอสที่คิดขึ้นมาเฉพาะตัว โดยที่ผักไม่เสียรสชาติหวานกรอบ ซอสก็อร่อยลงตัวเมื่อทานแกล้มกับข้าวที่มีกลิ่นกะปิของไทยเรา ผมเห็นถึงความตั้งใจของคนทำข้าวคลุกกะปิกล่องนี้ คำแรกที่ผมได้ชิมจนถึงคำสุดท้ายมันทำให้ผมต้องกลับมาถามตัวเองอีกครั้ง


...อาชีพที่ผมทำเป็นประโยชน์ให้กับผู้บริโภคอย่างเดียวจริงหรือ แล้วผมก็ได้คำตอบแล้วว่า...ไม่ใช่...


คนที่ทำข้าวคลุกกะปิให้ผมได้ชิมในวันนี้ก็คือคนที่ผมเคยวิจารณ์ฝีมือเขาจนแทบไม่เหลือดี เขากลับมาพิสูจน์ให้ผมเห็นว่าการมีพรสวรรค์อย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำ มันจะต้องประกอบไปด้วยพรสวรรค์และพรแสวง ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้ว่า คำวิจารณ์ของผมยังเป็นประโยชน์ให้กับคนที่รักในการทำให้อาหารด้วยเช่นกัน ผมอยากให้ทุกคนได้รู้ว่า


...ชีวิตนักปรุงอาหารของคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวอักษรของผม แต่ตัวอักษรของผมอาจจะทำให้คุณรู้ว่าชีวิตของคุณต้องการอะไร...


ขอบคุณข้าวคลุกกะปิที่แสนอร่อย ผมกินจนลืมว่าผมอิ่มอยู่ ขอบคุณที่กลับมาพิสูจน์ให้ผมเห็นว่าคุณเป็นคนมีฝีมือ คุณรักในการทำอาหารจากหัวใจ และผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนต้องการรอพิสูจน์ฝีมือของคุณเช่นกัน’


นับตังค์อ่านจนจบ นั่งดูรูปข้าวคลุกกะปิของตัวเองจากฝีมือการถ่ายของมีคุณแล้วก็ยิ้ม นับตังค์คิดว่าคุณสโรชาคงรู้ว่าคนที่มีคุณพูดถึงก็คือนับตังค์ เพราะเมื่อวานนี้คุณสโรชาก็ได้กินข้าวคลุกกะปิฝีมือของนับตังค์เช่นกัน รันเล่าให้ฟังว่าคุณสโรชาถูกใจในรสชาติมากจนจะให้นับตังค์ทำข้าวคลุกกะปิไปเลี้ยงเพื่อนๆ ในสมาคมและยังคิดจะจ้างนับตังค์ให้ทำขนมเวลาจัดเลี้ยงงานสำคัญอีกด้วย


“เห็นรันว่าตังอยากเปิดร้านอาหาร แม่ลงทุนให้เอาไหม แม่จะไม่ยุ่งอะไรกับการบริหารเลย” คุณสโรชาได้ฟังรันเล่าให้ฟังเกี่ยวกับครอบครัวของนับตังค์เลยอยากจะช่วย เสียดายฝีมือของนับตังค์ถ้าต้องอยู่แต่ในกรอบเดิมๆ

“ขอบคุณมากครับแม่ แต่ตังอยากมีประสบการณ์ก่อน” นับตังค์รู้ว่าถ้าตอบตกลงก็คงได้มีร้านอาหารเป็นของตัวเองแน่ แต่นับตังค์ยังอยากยืนด้วยขาของตัวเองก่อน

“เอาเป็นว่าถ้าลูกอยากทำก็มาบอกแม่ได้ทุกเมื่อนะ แม่ก็เห็นตังเหมือนลูกของแม่ไม่ต่างจากรัน แล้วขนมนี่ก็อร่อยมากเลยลูก” คุณสโรชายิ้มให้นับตังค์ก่อนจะยกนิ้วให้กับสโคนและแยมผลไม้ที่นับตังค์ทำมาให้กิน

“เดี๋ยวผมจะจัดใส่กล่องให้แม่เอาไปฝากเพื่อนด้วยนะครับ” นับตังค์ดีใจที่คุณสโรชาชอบขนมที่นับตังค์ทำ

“ดีจังเลย เพื่อนแม่คงถูกใจน่าดู ขอบคุณนะลูก ลูกอยู่ที่นี่ได้นานเท่าที่ลูกอยากอยู่เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจแม่ มีลูกเพิ่มอีกคนแม่ก็ไม่เหงา ตามสบายเลยนะลูกตัง เดี๋ยวแม่ขอไปดูข่าวตัวเองหน่อย เมื่อวานมีนักข่าวมาสัมภาษณ์แม่ด้วย” คุณสโรชาเดินมาลูบผมนับตังค์ก่อนจะเดินถือจานขนมกับกาแฟไปนั่งดูข่าวต่อที่ห้องรับแขก


เมื่อคุณสโรชาเดินออกไปแล้วนับตังค์ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาละมุด รู้ว่าเวลานี้ละมุดคงตื่นเตรียมไปทำงานที่ร้านอาหารของย่าแล้ว เมื่อละมุดรับสายก็แสดงอาการดีใจที่นับตังค์ติดต่อกลับมาเสียที แต่แล้วละมุดก็หลุดปากบอกไปว่าพ่อกับย่าไม่ให้แม่กับพี่เฟื้องโทรตามนับตังค์กลับมาหากนับตังค์ไม่เปลี่ยนแปลงความคิด นับตังค์รู้สึกเสียใจที่พ่อยังคงไม่เข้าใจ แต่มันก็ทำให้นับตังค์ตัดสินใจได้ในที่สุด นับตังค์มองดูรูปข้าวคลุกกะปิในไอแพดของคุณสโรชาอีกครั้งก่อนจะคิดในใจ

‘ถ้าไม่กล้าที่ตัดสินใจทำอะไรที่มันแตกต่างดูบ้าง มันก็จะเป็นเพียงแค่ข้าวคลุกกะปิธรรมดาเท่านั้นสินะ’


**โปรดติดตามตอนต่อไป**

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)

เพิ่มเติมท้ายบท

บิบิมบับ เป็นข้าวยำเกาหลี เป็นเหมือนสัญลักษณNอีกอย่างของประเทศเกาหลี ประกอบด้วย ข้าวสวยร้อนๆ ที่หุงด้วยน้ำซุป ปกคลุมไปด้วยเครื่องเคียงต่างๆ หลายอย่าง ตอกไข่แดงดิบไว้ตรงกลางแล้วราดด้วยน้ำซอส เวลาจะทานก็คลุกส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

โคชูจัง คือ น้ำพริกของเกาหลี ทำมาจากพริกแดง ถั่วเหลือหมักเกลือ ซอสถั่วเหลืองและข้าวเหนียวนึ่ง ตำให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน

สโคน หรือ สกอน (scone) เป็นขนมปังอังกฤษประเภท quick bread เนื้อสัมผัสกึ่งนุ่ม กึ่งร่วน รสไม่หวานนัก จึงมักนิยมทานกับวิปครีมและน้ำชาหรือเครื่องดื่มร้อน

*ข้อมูลจาก Google 


หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 3 จ่ามงกุฎ ดาราเอก 27/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 27-03-2017 16:14:11
ตอนที่ 3 จ่ามงกุฎ-ดาราเอก


ถือว่าเป็นข่าวดีที่มีคุณได้รับตั้งแต่เช้าตรู่ ข่าวดีนั้นก็คือเขาได้รับข้อความจากนับตังค์ว่าตกลงที่จะเดินทางไปที่เกาะใบไม้ครามด้วยกันช่วงสุดสัปดาห์นี้ แม้นับตังค์ยังไม่ตกลงเซ็นสัญญาด้วยเพราะอยากขอไปดูสิ่งแวดล้อมที่จะต้องไปใช้ชีวิตอยู่เป็นปีก่อน แต่มีคุณก็มั่นใจว่านับตังค์จะต้องตอบตกลง

หลังจากที่มีคุณส่งข้อความกลับไปว่าดีใจที่นับตังค์จะเดินทางไปด้วยกันแล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก มีคุณมัวแต่ยุ่งอยู่กับการเคลียร์งานทุกอย่างที่ค้างอยู่ให้เรียบร้อยเพราะเขาเองต้องไปอยู่ที่เกาะนั่นเป็นปี ไหนจะต้องไปเคลียร์กับเจ้าหนี้ของแม่ทั้งหลายเพื่อขอชะลอการชำระหนี้ด้วยการขอเซ็นสัญญาเลื่อนกำหนดการชำระเอาไว้ที่หนึ่งปีครึ่ง หากมีคุณไม่มาชำระตามกำหนดจะถูกปรับดอกเบี้ยและไม่มียอมความกันอีก จนกระทั่งถึงวันที่ต้องเดินทางไปเกาะใบไม้ครามด้วยกัน นับตังค์ถึงได้โทรมาหามีคุณเพื่อบอกว่าให้ไปเจอกันที่สนามบินเลย เมื่อมีคุณมาถึงสนามบินก็เจอนับตังค์ยืนอยู่กับผู้หญิงสาวสวยคนหนึ่ง ท่าทางสนิทสนมกันมากอย่างกับเป็นคนพิเศษของกันและกัน

“มาถึงนานรึยัง” มีคุณเอ่ยทักนับตังค์ก่อน

“นานแล้ว กลัวเครื่องตก เอ้ย ตกเครื่อง” นับตังค์ตอบแบบกวนๆ

“ไอ้ตัง! ปากเสีย อย่าถือสาเพื่อนของรันเลยนะคะ” รันหันไปต่อว่าเพื่อนก่อนจะหันมาพูดกับมีคุณด้วยท่าทางเป็นมิตร

“ชินแล้วครับ” มีคุณตอบและส่งยิ้มกลับไปให้เพื่อนของนับตังค์ พอได้ยินเสียงของรัญญรี มีคุณก็รู้ว่ารัญญรีไม่ใช่ผู้หญิงแท้ มีคุณดูแทบไม่ออกเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าเพื่อนสนิทของนับตังค์คนนี้สวยมากจริงๆ

“ก็เสียพอกันเหอะ” นับตังค์รีบเถียง

“รัญญรีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักคุณมีคุณนะคะ” รันแนะนำตัวเองเพราะคิดว่านับตังค์คงไม่แนะนำให้แน่

“ยินดีเช่นกันครับ” มีคุณถอดแว่นออกแล้วส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้รัญญรีจนนับตังค์รีบเดินเข้ามาขวางเอาไว้

“รัน แกกลับได้แล้ว” นับตังค์พูดกับเพื่อนสนิทเพราะไม่อยากให้รันไปยุ่งกับคนที่ดูเจ้าชู้แบบมีคุณ อีกอย่างจากแววตาที่มีคุณมองรัน นับตังค์ชักจะเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ตามที่รัญญรีบอกว่ามีคุณเป็นเกย์ แต่อีกใจก็แอบสับสนเพราะรัญญรีดูเหมือนผู้หญิงมากว่าผู้ชายอีก หมอนั่นอาจจะชอบผู้หญิงแล้วก็ชอบผู้ชายด้วย แล้วนับตังค์ก็รีบสลัดความคิดเรื่องรสนิยมของมีคุณออกจากหัวเพราะมันไม่ใช่เรื่องที่นับตับค์ต้องใส่ใจ

“ฝากดูแลตังด้วยนะคะ ดื้อไปนิด มีฤทธิ์ไปหน่อย จีบได้ ไม่ดุ กินจุ นอนเก่ง แต่เป็นคนดีค่ะ” รันร่ายคำขวัญของเพื่อนสนิทให้กับมีคุณฟังจนมีคุณหัวเราะ

“ไปกันได้แล้ว” นับตังค์รีบตัดบทกลัวรันจะสาธยายตัวเองมากไปกว่านี้ ซึ่งกว่านับตังค์จะเดินเข้าเกทไปได้ก็ฟังรัญญรีพร่ำพูดเรื่องให้ดูแลตัวเองจนเกือบจะตกเครื่องจริงๆ


ระหว่างการเดินทาง นับตังค์ก็หลับมาตลอดทางเพราะเมื่อคืนนอนไม่หลับเลย นับตังค์ทั้งตื่นเต้นและกังวลไปสารพัด เพราะเกิดมาก็เพิ่งจะได้ไปไกลจากบ้านก็ครั้งนี้ ระหว่างที่กำลังนอนหลับเพลินๆ มีก็คุณปลุกนับตังค์เมื่อแอร์โฮสเตสเอาขนมและเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ


“จะไปล้างหน้าล้างตาหน่อยไหม” มีคุณถาม นับตังค์พยักหน้าให้ก่อนจะลุกไปล้างหน้า เมื่อกลับมาก็เห็นมีคุณหยิบขนมสีเหลืองทองรูปร่างคล้ายมงกุฎมาดูด้วยความตั้งใจ

“จ่ามงกุฎนี่อร่อยดีนะ” มีคุณพูดกับนับตังค์

“เป็นนักวิจารณ์อาหารชื่อดังเสียเปล่าแต่ไม่รู้จักชื่อขนม นี่มันดาราทองหรืออีกชื่อหนึ่งก็คือทองเอกกระจังต่างหาก” นับตังค์พูดจบก็หยิบขนมดาราทองเข้าปาก

“มั่วเปล่า” มีคุณย้อนถาม

“ถ้าไม่มั่วจ่ายมาสามพัน โอเคไหมล่ะ” นับตังค์ยักคิ้วส่งกลับไป

“ไม่โอเค ผมเป็นนักวิจารณ์อาหาร ไม่ใช่กูรูขนมไทย มันก็ต้องมีผิดกันบ้าง” มีคุณรีบปฏิเสธ

“เคยได้ยินบทพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้ารัชการที่สองไหม งามจริงจ่ามงกุฎ ใส่ชื่อดุจมงกุฎทอง เรียมร่ำคำนึงปอง สะอิ้งน้องนั้นเคยยล”

“เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ ชักอยากจะเห็นของจริงแล้วว่าเป็นยังไง” มีคุณรู้สึกทึ่งกับความรู้เรื่องอาหารของนับตังค์

“ตังทำอร่อยกว่านี้อีก ยิ้มอะไร” นับตังค์พูดขึ้นมาหลังจากที่หยิบขนมดาราทองขึ้นมากิน พอหันไปเห็นว่ามีคุณมองมาแล้วยิ้มจึงถาม

“ไม่มีอะไร ถ้าอย่างนั้นจ่ามงกุฎมันเป็นยังไง” มีคุณรีบปฏิเสธ อันที่จริงเขายิ้มเพราะนับตังค์แทนตัวเองว่าตังไม่ใช่ฉันแบบทุกที คิดว่านับตังค์คงจะลืมตัว

“ดาราทองเนี่ยมันรูปร่างคล้ายมงกุฎ แล้วก็มีสีเหลืองทอง คนก็เลยคิดไปว่ามันคือจ่ามงกุฎ แต่จ่ามงกุฎของจริงมันคล้ายกะละแม ทำจากแป้ง เอาไปกวนกับกะทิและน้ำตาลทราย โรยถั่วลิสงคั่วซอยหรือไม่ก็เมล็ดแตงโมกะเทาะเปลือก มันไม่มีสีเหลืองทองเลยด้วยซ้ำ ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ห่อด้วยตองกล้วยอีกที จะว่าไปมันไม่มีส่วนคล้ายมงกุฎเลย คนส่วนใหญ่เลยเข้าใจกันผิด เอาไว้จะทำให้กินเป็นบุญปากนะ” นับตังค์อธิบายให้มีคุณฟังแต่ไม่วายจะกวนประสาทในตอนจบ

“คุณว่าจ่ามงกุฎกับดาราทองอะไรอร่อยกว่ากัน” มีคุณหันไปถามนับตังค์

“ก็อร่อยพอกัน แล้วแต่คนจะชอบ”

“จ่ามงกุฎ...ดูจากชื่อมันก็เป็นได้แค่จ่า ส่วนอันนี้รูปร่างหน้าตาน่ากิน ได้เป็นถึงดาราทองเชียวนะ แสดงว่าอร่อยกว่า” มีคุณหยิบขนมเข้าปากบ้าง

“หึ...ถ้าอย่างนั้น นายชื่อมีคุณ ก็คงจะมีแค่บุญคุณ ส่วนฉันชื่อนับตังค์ แปลว่ามีตังค์เยอะแยะให้นับ ถ้าเอาไปตั้งเป็นชื่อขนม งั้นฉันก็อร่อยกว่าอะดิ” นับตังค์เห็นมีคุณตัดสินรสชาติของขนมเพียงดูแค่ชื่อและหน้าตาเลยย้อนเอาชื่อตัวเองมาข่มบ้าง

“จริงเหรอ ไม่รู้ดิ ยังไม่เคยชิม” มีคุณตอบกลับมาหน้าตาเฉยจนนับตังค์รู้แล้วว่าตัวเองพลาดที่ไปเล่นมุกเข้าตัวแบบนั้น

“อีกนานไหมกว่าจะถึง ปลุกมาทำไมเนี่ย” นับตังค์แกล้งโวยวายเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

“จะถึงแล้ว” มีคุณตอบพลางกลั้นขำไปด้วย

เมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินโดยสวัสดิภาพก็มีคนมารอรับมีคุณกับนับตังค์ไปที่เกาะ คนที่มารับทั้งคู่มีชื่อว่าขมิ้น เป็นผู้ชายผิวออกดำค่อนข้างเตี้ยแต่ดูคล่องตัว สำเนียงใต้ที่พยายามพูดภาษากลางของขมิ้นทำให้นับตังค์อมยิ้มเมื่อได้ยิน นับตังค์ไม่ได้ขำแบบดูถูกแต่รู้สึกถูกชะตา ขมิ้นเล่าว่าตนเองเป็นคนดูแลความสะอาดบ้านและร้านให้นาย นายของขมิ้นก็คือคุณปู่อนันต์ ซึ่งเป็นคุณปู่ของมีคุณนั่นเอง


ขมิ้นนำรถมาจอดที่ท่าเรือและช่วยมีคุณของขนลงเรือ ส่วนนับตังค์เอากระเป๋าเป้มาแค่ใบเดียวเพราะยังไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าจึงถึงเกาะ เมื่อมาถึงแล้วนับตังค์ก็พูดไม่ออกเพราะภาพเบื้องหน้าช่างสวยงามเกินกว่าจะบรรยายออกมาได้


“ธรรมชาติมันยังดีอยู่ครับเพราะเพิ่งจะเปิดเกาะได้ไม่กี่ปี ทรายขาว ทะเลใส ปะการังก็ยังสมบูรณ์” คนที่ขับเรือบอกกับมีคุณระหว่างที่ช่วยขมิ้นขนของขึ้นจากเรือ

“สวยมากจริงๆ อีกหน่อยคงมีนักท่องเที่ยวมาเยอะขึ้น ถึงวันนั้นจะสวยอย่างนี้อีกรึเปล่า” มีคุณมองไปรอบๆ ก่อนจะถอนหายใจ เขาดูข่าวปะการังถูกนักท่องเที่ยวทำลายอยู่บ่อยๆ

“คุณปู่ของคุณทำข้อตกลงกับผู้ถือกรรมสิทธิ์คนอื่นๆ ว่าจะจำกัดนักท่องเที่ยวที่เข้ามาที่นี่ครับ เพื่อรักษาความสวยงามแบบนี้ให้อยู่ตลอดไป ทุกคนก็ให้ความร่วมมือดียกเว้น...”

“ยกเว้นใคร” มีคุณถามคนขับเรือ

“ยกเว้นนายหัวพยนต์เจ้าของรีสอร์ทที่อยู่อีกฝากหนึ่งของเกาะครับ เขาอยากให้คนมาเที่ยวเกาะเยอะๆ จนไม่สนอะไรทั้งนั้น”

“อย่าเที่ยวพูดอะไรไปเลยจะเดือดร้อนเอานะไอ้เบิ้ม” ขมิ้นเดินมาเตือนเพื่อนเพราะรู้ดีว่าคนของนายหัวพยนต์มีอยู่ทั่วเกาะ

“จริงด้วย งั้นผมขอตัวก่อนดีกว่า ถ้ามีอะไรให้ผมรับใช้ก็บอกผ่านไอ้ขมิ้นมาได้เลยนะครับ คุณอนันต์มีบุญคุณกับผมมาก” เบิ้มคนขับเรือรีบบอกกับมีคุณก่อนจะขอตัวขับเรือกลับไปเพราะต้องไปรับลูกค้าที่ว่าจ้างล่วงหน้าเอาไว้ให้ทัน


หลังจากที่เบิ้มไปแล้วมีคุณก็เดินขึ้นมาสมทบกับนับตังค์ที่นั่งรออยู่ที่ท้ายรถกระบะแล้ว มีคุณยอมรับว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาคิดเกี่ยวกับตัวนับตังค์นั้นผิดไปหลายอย่าง เคยคิดว่าท่าทางที่ดูกวนๆ มีความเหย่อหยิ่ง ก้าวร้าวนิดๆ ปากแข็ง ไม่ยอมใคร อาจจะสร้างความลำบากใจให้เขาหากต้องมาอยู่ด้วยกัน ดีไม่ดีอาจเป็นเขาเองที่ไล่นับตังค์ออกเพราะเขาไม่ชอบคนที่ไม่มีเหตุผล แต่แค่ระยะเวลาสั้นๆ ที่เขาได้เริ่มพูดคุยกับเด็กกวนประสาทคนนี้ มีคุณกลับเห็นว่านับตังค์นิสัยคล้ายกับเขาหลายอย่าง รวมไปถึงการแต่งตัวก็ด้วย


“ให้คุณมานั่งข้างหน้าก็ไม่ยอมมา แดดแรงนิ” ขมิ้นฟ้องมีคุณหลังจากที่บอกให้นับตังค์มานั่งในรถแต่ไม่เป็นผล

“ไม่เป็นไรหรอก โดนแดดบ้างจะได้ไม่ซีด” มีคุณพูดกับขมิ้นแต่ตามองไปที่นับตังค์

“ให้ไวหน่อยสิ จะหายซีดแต่เกรียมแทนเพราะรอคนอืดอาดนี่แหละ” นับตังค์บ่น มีคุณปีนขึ้นมานั่งทีท้ายกระบะกับนับตังค์ด้วยก่อนจะเคาะรถบอกขมิ้น

“ไปเลยขมิ้น เดี๋ยวจะมีคนบ่นจนหูชา” มีคุณอดไม่ได้ที่จะต่อปากต่อคำกับนับตังค์อีก แต่นับตังค์ได้แต่เบ้ปากใส่ก่อนจะนั่งมองธรรมชาติด้วยความตื่นตาตื่นใจ

“ไม่เคยออกจากบ้านไปไหนเลยเหรอ” มีคุณชวนคุย

“ไม่ได้อยากไปเอง ถ้าจะไปก็ไปได้” นับตังค์ตอบไปแบบนั้นเพราะไม่อยากให้มีคุณหัวเราะเยาะ

“แทนตัวเองว่าตังสิ น่ารักดี” มีคุณตะโกนพูดกับนังตังค์แข่งกับเสียงลม

“รู้ได้ไงว่าน่ารัก เคยได้ยินรึไง” นับตังค์ถาม

“เคย บนเครื่องบินไง ที่พูดว่า ตังทำอร่อยกว่านี้อีก” มีคุณเลียนแบบคำพูดของนับตังค์

“มั่วเหอะ ไม่ได้พูดสักหน่อย”

“พูด ผมได้ยินกับหู”

“ไม่ได้พูด” นับตังค์เถียงเพราะจำไม่ได้ว่าไปพูดตอนไหน

“โอเค ไม่พูดก็ไม่พูด แล้วตัดสินใจได้รึยังว่าจะยอมมาทำงานให้ผมรึเปล่า” มีคุณตัดบท

“ยัง ขอไปดูร้านก่อน” นับตังค์ยังตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ทั้งที่ใจเอนเอียงไปทางยอมตกลงรับงานเพราะเริ่มหลงรักเกาะนี้ตั้งแต่แรกเห็นเสียแล้ว


จากท่าเรือมาถึงบ้านของอนันต์ใช้เวลาเพียงยี่สิบนาที เมื่อขมิ้นขับรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้านแล้วมีคุณกับนับตังค์ก็กระโดดลงจากท้ายรถ นับตังค์สะพายกระเป๋าเป้ของตัวเองตรงเข้าไปในบ้านโดยไม่รอมีคุณเลย เพราะเมื่อเห็นบ้านของคุณอนันต์ นับตังค์ก็เหมือนต้องมนตร์ มันเหมือนบ้านในฝันของนับตังค์มากเลย


บ้านหลังนี้เป็นบ้านสไตล์โพร์วองซ์ของประเทศฝรั่ง นับตังค์เคยเห็นในอินเตอร์เน็ตแล้วก็นึกชอบมาโดยตลอด ผนังบ้านฉาบหยาบ หลังคาทำจากดินเผา เพดานสูง เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ดูเก่าแบบคลาสสิก ชั้นวางของส่วนใหญ่เป็นหินหล่อทำมุมโค้งไม่มีเหลี่ยมดูสบายตา โดยเฉพาะห้องครัวที่นับตังค์เห็นแล้วรีบเดินเข้าไปถ่ายรูปเก็บเอาไว้ทุกซอกทุกมุมเพราะมันช่างแต่งได้ตรงใจและถูกใจของนับตังค์ไปเสียหมด


“ชอบเหรอ” มีคุณเดินตามเข้ามาในครัวของปู่

“ชอบมากเลย” นับตังค์เดินลูบข้าวของเครื่องใช้ที่เจ้าของบ้านสะสมเอาไว้ มีเครื่องทองเหลืองแบบโบราณและเครื่องกระเบื้องที่ดูสวยงามจนอดใจไม่อยู่

“ผมจะไปดูที่ร้านหน่อย ถ้าอยากตามไปที่ร้านก็เดินผ่านสวนข้างบ้านนี้ไปนะ จะเห็นรั้วไม้ที่กันระหว่างบ้านกับร้านเอาไว้” มีคุณไม่อยากขัดจังหวะความสุขของนับตังค์เลยปล่อยให้นับตังค์สำรวจบ้านที่จะพักให้พอใจก่อน


นับตังค์เดินสำรวจบ้านชั้นล่างจนพอใจแล้วถึงได้เดินออกไปที่สวน ขนาดสวนยังตกแต่งสวยจนนับตังค์อยากจะหอบเสื่อไปปูนอนให้สบายใจในตอนนี้เลย แล้วนับตังค์ก็หันไปเห็นน้ำพุขนาดเล็กที่มีกามเทพตัวน้อยสองตัวยืนอยู่ในนั้น ตัวหนึ่งกำลังแผลงศร อีกตัวหนึ่งกำลังทำท่าร้องเพลงพร้อมกับเล่นพิณไปด้วย มันดูน่ารักจนนับตังค์ต้องเดินไปดูใกล้ๆ เมื่อเห็นว่ารูปปั้นกามเทพที่กำลังแผลงศรโป๊อยู่เลยนึกสนุกก้มลงไปหยิบใบไม้มาแปะปิดที่เป้าของเจ้ากามเทพให้ ทันใดนั้นหนอนน้อยของกามเทพตัวที่กำลังแผลงศรก็หลุดร่วงติดมือของนับตังค์มาด้วยจนนับตังค์ตกใจ


“เวรแล้ว ทำไมมันหลุดง่ายแบบนี้” นับตังค์รีบมองซ้ายมองขวาก่อนจะพยายามเอาหนอนน้อยของกามเทพไปต่อคืนที่เดิมทั้งที่รู้ว่ามันต่อคืนไม่ได้

“ทำอะไรอยู่นิ” ขมิ้นเดินเข้ามาถาม

“ปะ...เปล่า แค่มาชมสวน” นับตังค์รีบซ่อนหนอนน้อยของกามเทพไว้ข้างหลังแล้วยืนบังรูปปั้นกามเทพเอาไว้

“เดี๋ยวตามไปดูที่ร้านนิ อยากได้อะไรขมิ้นจะได้ไปซื้อให้” ขมิ้นบอกก่อนจะเดินไปที่ประตูบานพับที่สูงแค่เอว มันเป็นทางลัดเวลาจะไปที่ร้าน ไม่ต้องอ้อมออกทางหน้าบ้าน เพราะร้านจะอยู่เยื้องไปทางด้านหลังของตัวบ้านอีกที ซึ่งทางลัดนี้จะใช้ได้เฉพาะคุณอนันต์หรือคนงานในร้านเท่านั้น

“โอเค เดี๋ยวตามไป” นับตังค์รีบถอนหายใจก่อนจะหันกลับมามองที่รูปปั้นกามเทพใหม่ กำลังพินิจว่าจะเอาอวัยวะชิ้นเล็กเจ้าปัญหานี้ไปซ่อนไว้ตรงไหนก่อนดี หากได้ไปตลาดค่อยซื้อกาวช้างกลับมาซ่อมแซมให้เหมือนเดิม

“อย่าช้านะคุณ” ขมิ้นหันกลับมาตะโกนจนนับตังค์ตกใจ นับตังค์ไม่รู้จะทำยังไงเลยตัดสินใจเอาหนอนน้อยของกามเทพไปยัดไว้ในปากของรูปปั้นกามเทพเล่นพิณที่กำลังอ้าปากร้องเพลง เพราะมันเป็นที่เดียวที่นับตังค์เห็นว่ามันใส่เอาไว้ได้ จากนั้นก็รีบวิ่งตามขมิ้นไปก่อนที่ใครจะมาเห็นว่านับตังค์ทำของพังตั้งแต่มาถึง


บ้านก็ว่าสวย สวนก็ว่าสวย เมื่อนับตังค์เดินผ่านสวนมาถึงร้านอาหาร สิ่งปลูกสร้างที่ตกแต่งด้วยกระจกสีเขียวใสรอบด้าน บริเวณร้านมีแต่ต้นไม่ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่นและดูเย็นตา ส่วนภายในร้านตกแต่งด้วยไม้เลื้อยและไม้ประดับ ดูแล้วเหมือนเรือนกระจกที่เอาไว้สำหรับปลูกต้นไม้ตามชนบทในต่างประเทศ ไม้เลื่อยสีเขียวสดเลื้อยปิดคลุมหลังคากระจกเพื่อให้ร่มเงา มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ลอดผ่านมาบ้างให้พอได้กลิ่นอายของแดด เคาท์เตอร์ไม้สีขาวขนาดใหญ่ที่เอาไว้สำหรับชงกาแฟสดและเครื่องดื่มต่างๆ ก็ดูเข้ากันกับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ในร้าน โต๊ะเก้าอี้สำหรับแขกก็ถูกจัดวางได้อย่างลงตัว ไม่เยอะจนแออัดเกินไป และไม่แต่งจนรกตา ทุกอย่างมันดูดีมากจริงๆ สำหรับความรู้สึกของนับตังค์


นับตังค์เดินดูรอบๆ ร้านจนเห็นว่ามีส่วนที่เป็นระเบียงไม้ขนาดใหญ่สำหรับคนที่อยากนั่งทานอาหารพร้อมกับรับอากาศจากธรรมชาติด้วย 


“สุดยอด มีธารน้ำตกไหลผ่านด้วยเหรอ” นับตังค์ตื่นเต้นกับทำเลของร้าน ด้านหน้าไม่ไกลจากทะเล ด้านหลังติดธารน้ำใส หากได้มานั่งทานอาหารที่นี่นอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังอิ่มตาได้อีก

“มันไหลมาจากน้ำตกด้านบนโน้น” ขมิ้นที่เดินตามนับตังค์มาก็ชี้บอก

“พาไปดูในครัวหน่อยสิ” นับตังค์บอกกับขมิ้นเพราะอยากเห็นสถานที่ที่อาจจะต้องอยู่ทำงานให้ครบหนึ่งปี


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 3 จ่างมงกุฎ ดาราเอก 27/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 27-03-2017 16:20:08
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


พื้นที่ครัวของคุณอนันต์ค่อนข้างกว้างพอสมควร แทบจะเท่ากับขนาดพื้นที่ที่ใช้รับรองแขก การตกแต่งยังคงสไตล์โพรวองซ์ ครัวแบบชาวฝรั่งเศส อุปกรณ์เครื่องครัวก็ครบถ้วนทุกอย่าง มีทั้งแบบทันสมัยและแบบโบราณ มีกระทะทองเหลืองแบบไทยไปจนถึงเตาถ่านหินที่ใช้สำหรับอบพิซซ่า หินโม่แป้งสดก็ยังมี ทุกสิ่งทุกอย่างที่นับตังค์ได้เห็นมันทำให้นับตังค์รับรู้ได้ว่าเจ้าของร้านอาหารแห่งนี้รักการทำอาหารมากแค่ไหน เขาให้ความสำคัญกับครัวแทบจะทุกตารางนิ้ว ซึ่งมันทำให้นับตังค์รู้สึกว่าตัวเองค้นพบที่ที่ใช่สำหรับตัวเองเข้าแล้ว


“ชอบไหม” มีคุณเดินเข้ามาในครัว

“ชอบ แต่น่าเสียดาย”

“น่าเสียดายอะไร” มีคุณถามเพราะอยากรู้ว่าครัวที่มีพร้อมขนาดนี้ยังมีอะไรที่ไม่สมบูรณ์สำหรับนับตังค์อีก

“น่าเสียดายตรงที่คนที่จะได้ครอบครองมันทำอาหารไม่เป็นไง” นับตังค์ตอบก่อนจะเดินไปสำรวจอุปกรณ์ในครัว

“หึหึ...ผมถึงได้จ้างคุณมาไง เพราะรู้ว่าคุณจะเห็นคุณค่าของมันมากกว่าใคร” มีคุณหัวเราะที่โดนนับตังค์ค่อนขอดก่อนจะหยอดคำยอกลับไป

“ต้องเริ่มเปิดร้านเมื่อไหร่” นับตังค์ถามกลับ

“เดือนหน้า แต่ถ้าคุณตกลงก็ต้องย้ายมาอยู่ที่นี้ให้เร็วที่สุด เพราะเราต้องเตรียมตัวกันก่อน ตกลงคุณจะรับงานนี้ไหม” มีคุณถาม

“ขอถามข้อหนึ่งก่อน ที่นายเขียนชมข้าวคลุกกะปิ นายคิดแบบนั้นจริงๆ หรือชมเพราะอยากให้ฉันมารับงานของนาย” นับตังค์อยากให้มีคุณพูดออกมาจากปากมากกว่า


มีคุณได้ยินคำถามของนับตังค์จึงเดินเข้าไปหา เขาจ้องดวงตาที่ยังคงฉายแววอวดดีของนับตังค์ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าปกติ


“คุณไม่เชื่อฝีมือของตัวเองรึไง ถ้าคุณไม่มีความสามารถ ผมคงไม่ยอมเสี่ยงเอาคุณมาเป็นพ่อครัวให้กับกิจการของผม” มีคุณพูดจบก็เห็นว่านับตังค์ค่อยๆ ยกยิ้มที่มุมปาก


...ติ๊ด... นับตังค์ยกมือถือขึ้นมากดปิดเพราะเมื่อครู่แอบกดอัดเสียงพูดของมีคุณเอาไว้


“ฉันรู้ตัวดีว่าตัวเองเก่ง แต่ก็ขอบใจนะที่ช่วยยืนยัน นายมันชอบมั่วต้องอัดไว้เป็นหลักฐาน ตกลงว่าฉันรับงานนี้ แต่ขอกลับไปเก็บของที่กรุงเทพสักสองวัน” นับตังค์เก็บมือถือลงกระเป๋าก่อนจะผิวปากเดินออกจากครัวไปอย่างคนอารมณ์ดีสุดๆ

“เด็กแสบ” มีคุณพึมพำพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินตามนับตังค์ออกไป รู้สึกอารมณ์ดีไม่แพ้กัน เพราะว่าทุกอย่างมันออกมาเป็นอย่างที่ใจต้องการ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับตัวเอง


เมื่อนับตังค์เซ็นสัญญากับมีคุณเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาโทรศัพท์หาเฟื้องเพื่อจะเล่าเรื่องที่ตัวเองจะย้ายมาอยู่ที่เกาะใบไม้คราม อย่างน้อยมีใครสักคนในครอบครัวรับรู้เอาไว้จะได้ไม่เป็นห่วง แต่เมื่อต่อสายไปคนที่รับสายกลับเป็นอัฐ


“ไม่มีที่ไปแล้วรึไงถึงได้โทรกลับมา” อัฐถามลูกชายที่หนีออกจากบ้านไปหลายวันแล้ว

“พ่อไม่คิดจะถามตังเลยเหรอว่าสบายดีไหม” นับตังค์น้อยใจที่พ่อไม่แสดงความเป็นห่วงตนเลย

“ถ้าแกสบายดีคงไม่โทรกลับบ้านหรอก ถ้ารู้แล้วว่าข้างนอกมันไม่ได้สบายเหมือนที่บ้านก็กลับมา แล้ววันหลังก็จำเอาไว้ว่าอย่าอวดดีคิดทำอะไรแผลงๆ ฉันกับย่าจะให้อภัยแกอีกสักครั้ง อยู่ที่ไหนจะให้เจ้าละมุดไปรับ”

“พ่ออาจจะไม่เชื่อว่าตังมีความสามารถ ตังไม่ได้โทรมาเพราะเอาตัวไม่รอด ตังจะทำให้พ่อเห็นว่าโลกมันกว้างและมีอะไรมากมายรออยู่นอกกรอบที่พ่อขีดเอาไว้ ขอโทษนะครับที่ไม่ได้ตกอับอย่างที่พ่อคิด” นับตังค์วางสายด้วยความเสียใจ

“อยากไปสำรวจรอบเกาะกันไหม” มีคุณเห็นนับตังค์เดินกลับเข้ามาในร้านด้วยท่าทางเศร้าๆ เลยเอ่ยปากถาม นับตังค์ตอบรับเพราะกำลังรู้สึกแย่อยู่พอดี

“โอ้โห รถใครอะ คลาสสิกสุดๆ” นับตังค์เดินตามมีคุณไปที่โรงจดรถจนเห็นรถมอเตอร์ไซด์โบราณคลาสสิกคันหนึ่งจอดอยู่ สภาพมันยังดูดีมากอยู่เลย

“รถของปู่ ว่าแต่ตังขับเป็นไหม” มีคุณถาม นับตังค์สะดุดไปเล็กน้อยเมื่อมีคุณเรียกชื่อเล่นของตัวเอง

“เป็น นายขี่ไม่เป็นเหรอ” นับตังค์ถาม

“ขี่ไม่เป็น” มีคุณส่งกุญแจรถให้นับตังค์

“ขี่จักรยานเป็นไหม” นับตังค์ถามอีก

“ไม่เป็น”

“ฮ่าๆๆ” นับตังค์ขำเพราะท่าทางและการแต่งตัวของมีคุณดูน่าจะเป็นคนที่เถื่อนๆ ลุยๆ ห้าวๆ แต่จักรยานยังขี่ไม่เป็นไรเลย

“ขำอะไร ตกลงจะขี่ได้ไหม” มีคุณถาม รู้สึกเสียหน้าเหมือนกันที่โดนนับตังค์หัวเราะเยาะที่ตัวเองขี่จักรยานไม่เป็น

“ซ้อนมาเลยบอส” นับตังค์ขึ้นไปคร่อมบนมอเตอร์ไซด์ก่อนจะพูดกับมีคุณไปพลางหัวเราะไปพลาง


มีคุณเดินไปขึ้นคร่อมซ้อนที่เบาะด้านหลัง นับตังค์สตาร์ทเครื่องก่อนจะค่อยๆ บิดคันเร่งแล้วขี่พามีคุณออกไป มีคุณบอกให้นับตังค์ขี่เลียบถนนชายฝั่งไปเรื่อยๆ นับตังค์แกล้งขี่ฉวัดเฉวียนไปมาจนมีคุณขยับตัวไปจนชิดหลังของนับตังค์และเกาะเอวของนับตังค์แน่น


“เกาะขนาดนี้ขี่คอเลยไหม” นับตังค์ตะโกนถาม

“จะดีเหรอ ให้ขี่จริงรึเปล่า” มีคุณถามกลับ นับตังค์จึงหันมามองหน้ามีคุณ มีคุณกลัวรถล้มจึงรีบดันหน้าของนับตังค์ให้หันกลับไปมองถนน

“ใจปลาซิวจริงๆ นะบอส” นับตังค์หัวเราะเยาะมีคุณก่อนจะพาขี่รถขึ้นเขาไป ในใจก็รู้สึกแปลกเมื่อมีคุณขยับมาชิดตัวเองแบบนี้


นับตังค์ขี่รถมาตามคำบอกของมีคุณเรื่อยๆ จนมาถึงทางขึ้นไปยังน้ำตกพระคราม รถมอเตอร์ไซด์สามารถขี่ขึ้นมาได้แค่หน้าบ้านพักของเจ้าหน้าที่ มีคุณจึงชวนนับตังค์เดินขึ้นต่อ ทางขึ้นค่อนข้างชันเพราะเกาะเพิ่งจะเปิด เจ้าหน้าที่ที่ดูแลน้ำตกนี้อยู่ก็ได้แต่ถางพวกเถาวัลย์ที่ขึ้นรกให้พอเป็นทางเดินขึ้นไปได้ ทั้งคู่เดินขึ้นไปจนถึงสะพานเชือกขนาดเล็กที่จะพาข้ามไปยังจุดชมวิวอีกฝั่งได้ มีคุณเดินนำหน้านับตังค์ไป นับตังค์เดินตามมาจนถึงกลางทาง พอก้มมองลงไปด้านล่างก็หยุดชะงัก


“เดินมาสิตัง” มีคุณเรียกเมื่อเดินมาถึงอีกฝั่งแล้วแต่นับตังค์ยังอยู่ที่เดิม

“ไม่ไปได้ไหม” นับตังค์พยายามพูดกับมีคุณด้วยท่าทางปกติ แต่มีคุณดูออกว่านับตังค์กลัว

“มาสิ อีกนิดเดียวจะถึงแล้ว” มีคุณแกล้งเดินลงน้ำหนักจนสะพานเชือดแกว่งไปมา

“อย่าเดินแรงสิ!!” นับตังค์ส่งเสียงร้องดังด้วยความตกใจ ตอนนี้ทั้งขาและใจของนับตังค์สั่นไปหมดแล้ว เกิดมาก็เพิ่งจะรู้ว่าคนที่กลัวความสูงเขารู้สึกยังไง

“มันไม่ขาดหรอก ดูสิ” มีคุณแกล้งกระโดด นับตังค์เข่าทรุดลงไปนั่งกอดราวเชือกแน่น น้ำตาเริ่มคลอเพราะกลัวจนยืนไม่ไหว

“อย่า...กระ...โดด” นับตังค์เสียงสั่น มีคุณหยุดกระโดดเมื่อเห็นว่านับตังค์กลัวจริงๆ นึกค่อนขอดในใจว่าเมื่อครู่ยังแกล้งขับรถให้มีคุณกลัวอยู่เลย แถมยังว่ามีคุณว่าใจปลาซิวอีก ที่แท้ก็ใจปลาซิวไม่ต่างกันเลย

“อยากให้เลิกกระโดดเหรอ” มีคุณลงมานั่งใกล้ๆ แล้วถามด้วยสายตามีเลศนัย

“อือ” นับตังค์รีบพยักหน้า

“เราต้องทำงานด้วยกันอีกนาน เพราะฉะนั้นเราต้องเปลี่ยนสรรพนามกันสักหน่อย จะได้สนิทสนมกัน โอเคไหม” มีคุณถาม

“เอาไว้ค่อยคุยวันหลัง” นับตังค์มองลงไปข้างล่างแล้วใจสั่นมากกว่าเดิม

“คุยวันนี้แหละดีที่สุด เอาเป็นว่า เรียกพี่ว่าพี่คุณ เรียกนายมันดูปีนเกลียวเกินไป” มีคุณได้ทีเลยต่อรอง พอเห็นว่านับตังค์ทำหน้าไม่พอใจมีคุณก็ขยับตัวแรงๆ จนสะพานเชือกสั่นไปหมด

“เออๆ ก็ได้ พี่คุณ”  นับตังค์รีบเรียกเพราะกลัวเชือกจะขาด

“แล้วก็ แทนตัวเองว่าตังด้วยนะ”

“มากไปแล้วนะ” นับตังค์ชักจะทนไม่ไหว

“ตามใจ” มีคุณลุกขึ้นยืนแล้วจะเดินกลับ แกล้งลงน้ำหนักเท้าแรงๆ จนสะพานเชือกสั่นไหวซ้ำอีก

“ก็ได้โว้ย!!” นับตังค์หลับหูหลับตาตะโกนออกไป

“เดี๋ยวจะผิดสัญญา ไหนพูดอีกสิว่าถ้าไม่ทำอย่างที่รับปากจะโดนค่าปรับคำละหมื่น” มีคุณเดินกลับมาใกล้ๆนับตังค์อีกครั้ง ความจริงมีคุณไม่ได้ถือสาหรอกถ้านับตังค์จะเรียกเขาว่าอะไร แต่อยากแกล้งคนอวดดีอย่างนับตังค์มากกว่า แล้วก็อยากให้นับตังค์ทำตัวเป็นกันเองมากกว่านี้ เขาต้องทำให้นับตังค์อยู่ที่นี่ให้ครบหนึ่งปีตามเงื่อนไขของคุณปู่ ดังนั้นเขาควรสร้างความสนิทสนมมากกว่าการมาตั้งแง่ใส่กัน

“ตังจะเรียกพี่คุณ ถ้าไม่เรียกให้ปรับคำละหมื่น พอใจรึยัง!! หยุดทำสะพานแกว่งได้แล้ว กลัว!!!” นับตังค์ยังคงหลับตาตะโกนออกไป จนได้ยินเสียง ‘ติ๊ด’ ดังขึ้นใกล้ๆ นับตังค์จึงค่อยๆ ลืมตามาดู

“หึหึ พี่ก็ต้องอัดเก็บเอาไว้เหมือนกัน เดี๋ยวจะมีคนตีเนียน ไม่ยอมรักษาคำพูด” มีคุณหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอัดเสียงของนับตังค์เอาไว้เหมือนกัน

“กลับ อยากกลับแล้ว” นับตังค์ไม่มีแรงจะเถียง หัวใจจะวายอยู่ทุกทีที่มองไปยังน้ำตกเบื้องล่าง


มีคุณยื่นมือส่งไปให้ นับตังค์จับมือมีคุณแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นมา มีคุณเดินนำไปแต่นับตังค์ก็ยังไม่กล้าที่จะก้าวขาออกไป จนมือของนับตังค์ถูกอีกฝ่ายกระชับให้แน่นขึ้นเพื่อให้ความมั่นใจ นับตังค์ถึงได้กล้าที่จะก้าวขาเดินตาม ระยะทางจากที่ยืนอยู่ไปถึงฝั่งอาจจะไม่ยาวไกล แต่สำหรับคนที่กลัวความสูงอย่างนับตังค์มันช่างนานดีแท้กว่าจะก้าวไปได้แต่ละก้าว ถึงใจอยากจะมองคอยลอบมองลงไปด้านล่างแต่สายตากลับไปโฟกัสอยู่ที่แผ่นหลังของคนข้างหน้า แปลกใจตัวเองที่รู้สึกปลอดภัยเมื่อรู้ว่าเจ้าของแผ่นหลังนี้ยังจับมือตัวเองจนแน่นเหมือนกลัวว่าจะหลุดออกจากกัน


“งามจริงจ่ามงกุฎ ใส่ชื่อดุจมงกุฎทอง เรียมร่ำคำนึงปอง สะอิ้งน้องนั้นเคยยล” มีคุณเดินท่องพระราชนิพนธ์ที่นับตังค์ท่องให้ฟังบนเครื่องเพื่อให้นับตังค์คลายความกลัวและไม่ต้องสนใจความสูงของสะพานเชือกกับผืนน้ำเบื้องล่าง ซึ่งมันก็ได้ผล

“อารมณ์ไหน” นับตังค์บ่น แต่ก็ฟังมีคุณท่องจนเพลิน ลืมสนใจความสูงข้างใต้ไปได้

“ถึงแล้ว ตังกลัวความสูงเหรอ” มีคุณถามนับตังค์เมื่อเดินพ้นสะพานเชือกมาแล้ว

“แทบจะคลานกลับแบบนั้นไม่กลัวหรอกมั๊ง” นับตังค์เริ่มออกฤทธิ์เมื่อผ่านวิกฤตของชีวิตมาได้แล้ว

“หึหึ เก่งเชียวนะตอนนี้” มีคุณแซว

“อย่าให้ถึงทีฉัน...”

“หนึ่งหมื่น” มีคุณรีบพูดแทรกเมื่อนับตังค์เริ่มทำผิดเรื่องที่รับปาก เพราะฉะนั้นต้องโดนปรับ

“ฮึ่ย” นับตังค์ส่งเสียงไม่พอใจก่อนจะก้าวเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว


หลังจากที่ลงมาจากบนเขาแล้วมีคุณก็ให้นับตังค์ขี่รถมาฝั่งรีสอร์ทของนายหัวพยนต์ ด้านฝั่งที่เป็นเขตพื้นที่ของนายหัวพยนต์นั้นค่อนข้างเจริญไปด้วยสิ่งทันสมัย มีร้านค้าผุดขึ้นมากมายจนเหมือนกับอยู่ในเมือง


“เหมือนข้ามมิติมาเลย ฝั่งร้านคุณปู่มีแต่ต้นไม้และคงธรรมชาติเดิมเอาไว้ พอมาฝั่งนี้เหมือนหลุดกลับไปอยู่ในกรุงเทพ” มีคุณพูดขึ้นมา ซึ่งนับตังค์ก็เห็นด้วย

“นักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติจริงๆ ถึงได้ไปพักฝั่งของ... ฝั่งของพี่มากกว่าไง” นับตังค์เกือบพลาดโดนปรับอีกหมื่น ดีที่สมองไวแก้ไขได้ทัน

“เห็นขมิ้นบอกว่าใกล้กับร้านของเรามีโฮมสเตย์อยู่ คนพักเต็มตลอดเวลา เราก็ได้ลูกค้าที่มาพักที่โฮมสเตย์นั้นด้วย” มีคุณเล่าให้นับตังค์ฟัง แต่ตัวเขาก็ยังไม่เคยเห็นโฮมสเตย์ที่ว่านั่น รู้แต่ว่าเจ้าของสนิทกับคุณปู่ของเขามาก

“สองคนนั่นเป็นใคร พี่รู้จักรึเปล่า ตังเห็นเขามองพี่มาตั้งนานแล้ว” นับตังค์ถามมีคุณเมื่อเห็นชายหญิงคู่หนึ่งมองมา

“ไม่รู้ เขาอาจจะมองเพราะพี่หล่อก็ได้”

“มั่นหน้าให้สิบเลย” นับตังค์เบ้ปากใส่มีคุณ คนถูกแขวะไม่ได้โกรธกลับหัวเราะชอบใจ

“จะกินข้าวแถวนี้ไหม” มีคุณถาม

“มากับเชฟมือทองแล้วจะชวนกินอาหารที่อื่นเนี่ยนะ แวะตลาดดีกว่า วันนี้ตังจะโชว์ฝีมือเอง รับว่าจะอึ้งจะพูดไม่ออก” นับตังค์อยากลองใช้ครัวในฝันใจจะขาดอยู่แล้ว

“ดีเหมือนกัน” มีคุณเห็นดีด้วยจึงชวนนับตังค์ไปเดินตลาดสดที่ขมิ้นเล่าให้ฟังว่ามีแต่ของทะเลสดใหม่ ที่ชาวประมงนำมาขายกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย


มาถึงตลาดสดแล้วมีคุณก็ได้แต่เดินช่วยนับตังค์หิ้วของเพราะไม่รู้ว่านับตังค์จะทำอะไรให้เขากิน ตลาดที่นี่ใหญ่และมีของให้เลือกมากมายจนนึกไม่ถึงว่าจะเป็นตลาดที่อยู่ในเกาะเล็กๆอย่างเกาะใบไม้ครามเท่านั้น มีคุณเดาว่าอาจจะเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยวที่มาเป็นหมู่คณะและต้องการซื้อของสดไปทำอาหารกินกันเอง ซึ่งมันก็เป็นโจทย์ให้มีคุณกลับไปคิดว่าจะบริหารยังไงที่จะทำให้นักท่องเที่ยวอยากออกมากินอาหารที่ร้านอาหารของเขามากกว่าการซื้ออาหารไปทำกินเอง รสมือของเชฟคงสำคัญเป็นที่สุด เขาจึงได้แต่หวังว่านับตังค์จะทำได้อย่างที่คุยเอาไว้ว่าตัวเองเก่งและเป็นเชฟมือทองที่จะทำให้คนอย่างมีคุณต้องอึ้งจนพูดไม่ออก


“เดินเร็วๆ ดิบอส” นับตังค์หันมาบ่นที่มีคุณเดินช้า

“ครับๆ” มีคุณรีบก้าวตามไปให้ทัน ได้แต่นึกในใจว่าใครเป็นบอสใครกันแน่



**โปรดติดตามตอนต่อไป**


(https://www.uppic.org/image-389B_58D8D96F.jpg)

เครดิตรูป จาก Google


มาแวะพูดคุยหรืออ่านตอนพิเศษสั้นๆได้ที่นี่นะคะ [ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)

สงสัยจะไม่ค่อยชอบแนวนี้กัน เงียบจนผีหลอกผู้แต่ง 555 
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 28-03-2017 14:43:24
ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู


   เมื่อนับตังค์ขี่รถมอเตอร์ไซด์พามีคุณกลับมาถึงร้านก็ไล่มีคุณให้ออกไปรออยู่ข้างนอก นับตังค์อยากจัดการทำอาหารเองโดยให้ขมิ้นช่วยเป็นลูกมือให้เพียงคนเดียว นับตังค์บอกกับมีคุณว่ายังไม่อยากให้มีคุณรู้ว่าตัวเองจะทำเมนูอะไรให้กิน แต่เหตุผลที่แท้จริงที่ไม่อยากให้มีคุณอยู่ในครัวด้วยก็แค่ไม่อยากให้มีคุณมาคอยจ้องมองตลอดเวลามากกว่า ส่วนเมนูอาหารที่นับตังค์ตั้งใจจะทำให้มีคุณได้กินก็คือขนมจีนน้ำยาปูกับรวมมิตรทะเลเทมปุระ

   ขมิ้นยืนมองนับตังค์เริ่มทำอาหารไปได้สักพักโดยที่ยังไม่ได้ช่วยหยิบจับอะไรเลย ความรู้สึกของขมิ้นเปลี่ยนไปจากตอนแรก ตอนที่ได้รับรู้ว่าจะมีเชฟมาจากกรุงเทพพร้อมกับเจ้าของร้านคนใหม่ ขมิ้นไม่เชื่อว่าจะมีใครคนไหนมาแทนที่คุณอนันต์ได้ คิดแค่ว่าถ้าร้านอาหารนี้ขาดคุณอนันต์ก็คงไปต่อไม่ได้ แต่ตอนนี้ขมิ้นเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณอนันต์ถึงสอนขมิ้นเสมอว่า รสชาติของอาหารของแต่ละคนไม่มีทางจะเหมือนกันแม้จะทำจากสูตรเดียวกันก็ตาม สิ่งเดียวที่จะเหมือนกันได้คือความตั้งใจและความพยายาม สิ่งนี้แหละที่จะทำให้อาหารทุกจานเป็นอาหารจานพิเศษได้เหมือนๆ กัน

   สายตาของเชฟคนใหม่ที่ขมิ้นกำลังยืนมองอยู่ดูนั้นกำลังจดจ่อกับอาหารตรงหน้าโดยไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่ามีขมิ้นยืนมองอยู่ เครื่องแกงน้ำยาที่โขลกเองส่งกลิ่นหอมฟุ้งเมื่อนำมาผัดกับหัวกะทิ ท่าทางของเชฟคนใหม่นี้เหมือนกับตอนที่ขมิ้นได้มองคุณอนันต์ทำอาหารเหลือเกิน ความสุขบนใบหน้าของนับตังค์ช่างเหมือนใบหน้าของนายปู่ตอนทำอาหารไม่มีผิด

“ขมิ้นพักที่นี่เหรอ” นับตังค์ชวนคนที่ยืนจ้องตัวเองคุยด้วย ซึ่งปกติแล้วเวลานับตังค์ทำอาหารจะไม่ชอบคุยกับใคร แต่วันนี้คงต้องยกเว้นเพราะนับตังค์อยากรู้ประวัติของที่นี่และอยากผูกมิตรกับขมิ้นด้วย

“ใช่ นายปู่ทำห้องเอาไว้ให้เป็นส่วนตัว อยู่เยื้องจากบ้านของนายปู่ไปทางด้านหลังโน่น” ขมิ้นเรียกคุณอนันต์ว่านายปู่

“อ๋อ แล้วปกตินายปู่เป็นคนปรุงอาหารเองทุกอย่างเลยเหรอ” นับตังค์เรียกคุณอนันต์ว่านายปู่ตามขมิ้น

“ก่อนจะป่วยนายปู่ปรุงอาหารเองหมด แต่พอเริ่มยืนนานๆ ไม่ไหว นายปู่ก็จ้างเชฟมาช่วย แต่ถึงยังไงนายปู่ก็จะชิมเองก่อนจะให้ลูกค้าได้ทานนิ”

“อ้าว แล้วเชฟคนนั้นไปไหน ทำไมไม่จ้างเขาต่อล่ะ”

“นายปู่ไล่ออกไปแล้ว พอไม่นานนายปู่ก็เสีย ร้านก็ปิดมาสามเดือนนิ แล้วพวกคุณก็มาแทน”

“อ๋อ แบบนี้เอง ขมิ้นมาช่วยชิมน้ำยาปูให้หน่อย” นับตังค์ตักแกงใส่ช้อนส่งให้ขมิ้นชิม ใจจริงก็อยากรู้ว่าเชฟคนเก่าโดนไล่ออกทำไม แต่อีกใจก็คิดว่ายังไม่ควรถามให้ขมิ้นมากมายเพราะเพิ่งจะได้สนทนากันยาวๆ

“หรอยแรง” ขมิ้นทึ่งเมื่อได้ชิม รสชาติไม่แพ้ฝีมือของคุณอนันต์เลย แต่นับตังค์ดูอายุไม่เยอะเท่าไหร่ น้อยกว่าขมิ้นด้วยซ้ำ ขมิ้นถึงได้ไม่เชื่อมือในตอนแรกที่ได้เห็นหน้า

“แรงขนาดไหน กี่แรงม้าดี” นับตังค์ถามขำๆ

“ให้ขมิ้นช่วยทำอะไรบอกมานิ” ขมิ้นเริ่มเปิดใจให้นับตังค์เมื่อได้ชิมรสมือจึงเดินเข้าไปถามด้วยความกระตือรือร้นกว่าเดิม

“ดีเลย ช่วยล้างผักสดให้ตังหน่อยนะพี่บ่าว” นับตังค์พอจะฟังภาษาใต้ออกแต่พูดไม่ได้ แต่ก็เคยได้ฟังคนใต้พูดกันบ้างเลยเอามาใช้สักหน่อย เมื่อเห็นขมิ้นหัวเราะแล้วทำตัวสบายขึ้นนับตังค์ก็โล่งใจ

   ส่วนมีคุณ เมื่อนับตังค์ไล่ให้ออกมารอข้างนอกก็เลยออกมานั่งเล่นที่ระเบียงร้าน เขารู้สึกว่าตัวเองหัวใจจะวายตอนที่นับตังค์ขี่เจ้าสองล้อพาเขาซิ่งกลับมาจากตลาดด้วยความเร็ว เขาต้องภาวนามาตลอดทางว่าให้ถึงที่หมายโดยปลอดภัย แถมยังต้องรักษาอาการเอาไว้ ทำเหมือนว่าไม่รู้สึกอะไรทั้งที่เป็นคนกลัวความเร็วเป็นที่สุด การที่เขาขี่จักรยานหรือมอเตอร์ไซด์ไม่เป็นเพราะมีความหลังฝังใจตั้งแต่ยังเด็ก มีคุณรู้ว่านับตังค์คงแก้แค้นที่เขาไปแกล้งนับตังค์ที่สะพานเชือกนั่นก่อน แต่ถ้าจะให้เขาร้องโวยวายขอให้เจ้าเด็กแสบนั่นลดความเร็วก็ฝันไปเถอะ คนอย่างมีคุณไม่ยอมเสียฟอร์มง่ายๆ อย่างมากก็แค่กอดเอวนับตังค์เอาไว้แน่นๆ ซึ่งมันก็ทำให้นับตังค์ขี่ช้าลงได้บ้าง

   เมื่อรู้สึกหายใจหายคอสะดวกขึ้นแล้วมีคุณก็ต่อสายโทรศัพท์หาสุดเขตเพื่อนสนิท เขาให้สุดเขตช่วยไปดูแลคุณพลอยประดับให้ช่วงที่เขาไม่อยู่ แต่กำชับว่าห้ามบอกเรื่องพินัยกรรมนี่เด็ดขาด เขาไม่อยากให้แม่เข้ามาวุ่นวายจนทำให้เสียแผน เอาไว้ให้เขาทำตามเงื่อนไขคุณปู่ผ่านก่อนเขาถึงจะบอกเรื่องนี้ให้แม่ฟัง ก่อนจะมาที่นี่เขาบอกกับคุณพลอยประดับไปว่า เขามีงานพิเศษที่ต้องไปทำ ซึ่งจะได้รับค่าจ้างจำนวนมากพอที่จะใช้หนี้ให้คุณพลอยประดับได้ และเขาจะต้องไปทำงานอยู่ที่นั่นเป็นระยะเวลาหนึ่งปี คุณพลอยประดับก็ดูจะอยากถามรายละเอียด แต่เมื่อมีคุณบอกว่าถ้าความลับของงานนี้รั่วไปเงินที่จะได้ถือเป็นโมฆะ คุณพลอยประดับจึงปิดปากสนิทและไม่ซักไซ้อะไรมีคุณอีกเลย

“เป็นไงบ้าง น้องตังยอมเซ็นสัญญาไหมวะ” สุดเขตรีบถาม

“เซ็นแล้ว ขอบใจนายมากนะที่ช่วยเรื่องนั้น”

“เออ แกห้ามหลุดปากบอกให้น้องตังรู้เลยนะว่าฉันทำอะไรลงไป ไม่อย่างนั้นชีวิตรักฉันพังแน่” สุดเขตกำชับเพื่อน

“เออน่า ฉันไม่หลุดหรอก ว่าแต่พี่สาวของตังเขารับรักแกแล้วเหรอวะ” มีคุณถามกลับ

“ดูท่าแกจะสนิทสนมกับน้องตังแล้วใช่ไหมวะ อย่าบอกนะว่าเกิดถูกใจน้องเขาเข้าแล้ว สรุปว่าน้องเขาเป็นอย่างแกไหมไอ้คุณ แต่ฉันก็คิดเอาไว้ว่าน้องตังต้องมีรสนิยมเดียวกับแก ฉันว่านะ...”

“พอเลยไอ้เขต ฉันกับน้องเขาไม่ได้คิดอะไรกันแบบนั้น ที่ต้องทำตัวสนิทสนมเพราะฉันต้องทำงานกับเขาอีกตั้งปีหนึ่ง เขม่นกันมาก่อนก็แย่แล้ว ถ้ายังไม่ยอมขอโทษหรือยอมลดอีโก้ลงฉันคงไม่ได้ตัวเขามา ยังไงก็ต้องสงบศึก”

“ไม่คิดแบบนั้นก็ดี ฉันไม่อยากให้ว่าที่น้องชายของภรรยาของฉันต้องเสียใจเพราะแก”

“ทำไมไอ้เขต ฉันมันไม่ดีตรงไหน” มีคุณย้อนถามเมื่อโดนเพื่อนสบประมาท

“ก็ใจแกยังมีแต่คิว แกคงรักคนอื่นไม่ได้หรอก อีกอย่างนะ แกรู้แล้วรึยังว่าคิวมันกลับมาอยู่ที่ไทยถาวรแล้ว” สุดเขตถามเพื่อนเกี่ยวกับบุคคลที่ทำให้เพื่อนรักของตัวเองต้องเป็นโรคชอกช้ำใจมานาน

“ฉันไม่ได้สนใจเขามานานแล้ว เขาจะอยู่ที่ไหนก็ช่างเขา เออ พรุ่งนี้ฉันคงกลับขึ้นกรุงเทพนะ ไปเก็บเคลียร์งานสุดท้ายแล้วคงลงมาอยู่ยาวเลย แต่คงไม่ได้เข้าบ้าน ยังไงก็ฝากแม่ด้วยนะ” มีคุณเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากพูดถึงใครบางคนอีก

“เออๆ แล้วน้องตังจะกลับขึ้นมารึเปล่า ถ้าเขาเจอกับพี่สาวของเขาฉันจะซวยไหมวะที่ไปจ้างละมุดให้โกหกว่าคนที่บ้านเขาไม่สนใจถามถึงเลย” สุดเขตถามด้วยความกังวลใจ

“ฉันว่าพ่อแม่เขาก็คงไม่ได้สนใจจริงๆ ฉันไม่เห็นว่าจะโทรมาตามเลย แกอย่ากังวลไปเลย” มีคุณปลอบเพื่อน

“ไม่แน่นะโว้ย ถ้าเกิดพ่อแม่เขารู้ว่าน้องตังต้องไปอยู่ไกล เขาอาจจะไม่ยอม”

“แล้วไง ถ้าฉีกสัญญาก็ต้องจ่ายฉันมาห้าล้าน” มีคุณไม่เห็นว่าจะเป็นปัญหาเพราะเงินจำนวนมากขนาดนั้นเขาคงไม่ยอมมาเสียฟรีๆ หรอก

“แกคงไม่รู้สินะ ตระกูลมณีรัตน์ของน้องตังเขาเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทอง เขาไม่แต่งตัวอวดรวยในวงสังคม ใช้ชีวิตเรียบๆ แต่เขาเป็นข้าเก่าในวัง มีเงิน มีที่ดิน มีทรัพย์สมบัติที่บรรพบุรุษได้รับพระราชทานมาจากเจ้านายในวัง เขานำมาต่อยอดอีก ถ้าจะรวมมูลค่ามาถึงตอนนี้ก็มหาเศรษฐีดีๆ นี่เอง เงินแค่ห้าล้านเขาจ่ายให้แกได้สบายมาก” สุดเขตรู้ดีเพราะแม่ของสุดเขตเป็นเพื่อนรักของคุณนับดาวซึ่งเป็นแม่ของเฟื้องกับนับตังค์

“เอาเป็นว่าฉันมั่นใจว่านับตังค์จะอยู่กับฉันที่นี่ แกไม่ต้องกังวล”

“ทำไมมั่นใจนักวะ ทีแรกเห็นมองกันเหมือนเป็นศัตรู” สุดเขตถามเพราะรู้สึกว่าท่าทีของเพื่อนรักเปลี่ยนไป สุดเขตก็ไม่อยากจะคิดว่ามีคุณจะชอบนับตังค์ เพราะเท่าที่รู้จักกันมา คนแบบที่มีคุณชอบ ถ้าเปรียบเป็นอาหารก็คงเป็นอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน ซึ่งเท่าที่สุดเขตแอบสังเกตดู นับตังค์ไม่ใช่คนประเภทที่มีคุณจะชอบได้เลย

“เขาทำให้ฉันผิดคาดหลายอย่าง เอาไว้ค่อยเล่าให้ฟัง ฉันต้องวางก่อนนะ ตังเดินมาแล้ว” มีคุณวางสายจากสุดเขตเมื่อเห็นนับตังค์เดินมา

“เสร็จแล้ว ไปกินเลยไหม” นับตังค์เดินมาตามเพราะอยากให้มีคุณได้กินอาหารที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ

“กินเลย พี่หิวแล้วเหมือนกัน” มีคุณรีบบอกก่อนจะเดินตามนับตังค์เข้าไปในร้าน

   ขนมจีนที่ถูกจัดเป็นคำวางอยู่บนจานเปลโดยมีตะกร้าผัดสดวางอยู่เคียงข้าง ส่วนตรงกลางโต๊ะมีชามกระเบื้องขนาดใหญ่สีขาวลายดอกกุหลาบวางอยู่ข้างกันกับจานกระเบื้องขอบสีทอง อาหารในจานกระเบื้องนั้นประกอบไปด้วยกุ้ง ก้ามปู เนื้อปลา หอยเชลล์ ซึ่งถูกหุ้มด้วยแป้งเทมปุระที่ทอดจนสีเหลืองทองดูน่ากิน นับตังค์เปิดฝาชามกระเบื้องออก กลิ่นหอมของน้ำยาปูก็ลอยขึ้นมาพร้อมกับไอร้อนที่ยังคงกรุ่นอยู่

“หอมมาก” มีคุณเอ่ยชมเมื่อนับตังค์เปิดฝาชามกระเบื้องออกจนได้กลิ่นน้ำแกง

“ปูเน้นๆ” นับตังค์คีบขนมจีนไปวางที่จานของมีคุณ ก่อนจะตักน้ำยาปูราดให้ เนื้อปูก้อนใหญ่ที่ชุ่มไปด้วยน้ำแกงสีเหลืองข้นดูเชิญชวนจนท้องของมีคุณเกือบจะร้องประท้วงออกมาให้ได้ยิน

“แล้วนั้นซอสอะไร” มีคุณชี้ไปทางถ้วยขนาดเล็กที่วางอยู่ข้างจานเทมปุระ

“ก็น้ำยาปูนี่แหละ ตังเอาเนื้อปูโขลกใส่เพิ่มแล้วเคี่ยวให้ข้น ลองกินกับเทมปุระดูว่าเข้ากันไหม” นับตังค์เลื่อนจานเทมปุระมาให้มีคุณ

“อืม เข้ากันดี ไม่น่าเชื่อ” มีคุณหยิบเทมปุระมาชิมแล้วเอ่ยชม

   มีคุณยอมรับว่าตัวซอสน้ำยาปูนั้นนับตังค์ทำได้กลมกล่อมมาก ตัวรวมมิตรเทมปุระที่นับตังค์ทอดมาก็กรอบกำลังดี แป้งเบาบางและฟู เนื้อสัตว์ที่อยู่ด้านในก็ไม่เละแฉะ ยังคงความหวานสดตามธรรมชาติ แสดงถึงการผสมแป้งได้สัดส่วน อุณหภูมิของน้ำมันและระยะเวลาในการทอดนั้นเหมาะสมพอดี  เมื่อลองราดซอสน้ำยาปูที่โขลกเนื้อปูจนละเอียดแล้วเคี่ยวจนแทบเป็นเนื้อเดียวกับตัวซอส รสชาติไม่เผ็ดมากเกินไป มันช่างเข้ากันได้ดีเหลือเกิน หลังจากที่ชิมเทมปุระแล้วมีคุณตักสะตอสดและถั่วงอกที่นับตังค์เด็ดหัวทิ้ง เหลือแต่ตัวก้านสีขาวอวบดูกรอบโรยในจานขนมจีน แล้วจัดการกินโดยไม่พูดอะไรอีก

“บอส ตังว่าจะไม่กลับไปกรุงเทพแล้ว ตังฝากพี่ไปเอาของใช้ของตังที่บ้านของรันได้เปล่า” นับตังค์เป็นฝ่ายชวนคุยก่อน มีคุณเห็นนับตังค์ชอบเรียกเขาว่าบอสก็ไม่อยากจะขัด แค่พูดด้วยดีๆ ไม่มีน้ำเสียงแข็งขืนแบบตอนแรกก็ดีมากแล้ว

“ได้สิ มีอะไรรึเปล่า ทำไมถึงไม่กลับ” มีคุณถาม

“ไม่มี ขี้เกียจเดินทาง” นับตังค์ไม่อยากบอกว่าความจริงแล้วที่ไม่กลับเพราะไม่รู้จะกลับไปหาใคร ในเมื่อครอบครัวคิดจะตัดหางปล่อยวัด นับตังค์ก็ไม่อยากเสียเวลาไปกับการเดินทางอีก เอาเวลามานั่งคิดรายการอาหารแล้วลองทำดีกว่า ที่เกาะนี่ยังมีอะไรที่นับตังค์อยากสำรวจอีกเยอะ

“พี่จะรีบไปรีบกลับ” มีคุณตักขนมจีนใส่จานเพิ่ม ฝีมือของนับตังค์ถือว่าดีมากทีเดียว นั่นยิ่งทำให้มีคุณอยากรู้ว่าคุณปู่รู้ได้ยังไงว่านับตังค์มีความสามารถขนาดนี้

“ไม่ต้องรีบ ไปนานๆ เลยก็ได้นะ หรือจะไปแล้วไม่มาก็ไม่ว่ากัน จ่ายเงินเดือนผ่านบัญชี มีเลขที่บัญชีรึยัง” นับตังค์เริ่มกวนประสาทมีคุณอีกแล้ว มันอดไม่ได้จริงๆ นึกบ่นในใจว่ากินตุ้ยๆ แต่ไม่เห็นจะชมให้ได้ยิน

“เบื่อหน้ากันแล้วเหรอ” มีคุณถามพลางขำ

“อือ เบื่อขี้หน้ามาก นี่ยังไม่ได้จัดการเรื่องที่ทำให้ฉี่แทบราดบนสะพานเชือกเลย” นับตังค์พูดตรงๆ จนมีคุณแทบสำลัก

“ขอโทษ พี่ไม่คิดว่าจะกลัวจริงจังขนาดนั้น ก็เห็นทีแรกเดินด้วยความมั่นใจ” ทีแรกมีคุณจะพูดเรื่องที่นับตังค์ขับรถเร็วแล้ว แต่เปลี่ยนใจไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวเป็นจุดอ่อนให้นับตังค์แกล้งได้อีก

“ก็ทีแรกมันยังไม่ได้มองลงไปข้างล่างไง ใครจะไปคิดว่าอยู่ๆ ขามันจะสั่นขนาดนั้น หัวใจจะวาย ทำไมขึ้นเครื่องบินยังไม่รู้สึกเลย” นับตังค์ขมวดคิ้ว สงสัยว่าทำไมตัวเองถึงกลายเป็นคนกลัวความสูงไปได้

“หลับตลอดทางจะเอาเวลาไหนไปกลัว กรนอีกต่างหาก” มีคุณส่ายหน้า

“ไม่จริง มั่ว ตังไม่เคยนอนกรน”

“เดี๋ยวคราวหลังจะอัดคลิปเอาไว้ให้ดู” มีคุณยักคิ้ว ยิ่งเห็นนับตังค์ทำหน้าลังเลว่าตัวเองกรนจริงรึเปล่ายิ่งต้องกลั้นขำ

“ไม่ต้อง”

“ไม่มั่นใจดิท่า”

“มั่นใจ แต่ไม่ชอบให้ใครเข้ามาในห้องนอน”

“เรานอนห้องเดียวกัน บ้านปู่มีห้องนอนห้องเดียว เดินสำรวจแล้วไม่ใช่เหรอ” เมื่อมีคุณบอกเรื่องห้องนับตังค์ก็หรี่ตามองเพราะไม่เชื่อ คิดว่ามีคุณต้องแกล้งอำ

“ไม่ได้เดินขึ้นข้างบน แต่ถ้ามีห้องเดียวจริง ตังนอนบนเตียง พี่ต้องนอนพื้น เพราะตังไม่ชอบนอนกับใคร อึดอัด”

“ทำไมพี่ต้องทำแบบนั้นด้วย ตังก็ไปนอนพื้นเองสิ”

“ถ้าเชฟนอนไม่หลับ นอนไม่พอ ฝีมือจะตก ขาดทุนไม่รู้ด้วย เอาไง”

“เอาไว้ขึ้นไปดูห้องก่อนค่อยตกลง พี่ก็แค่รู้มาจากขมิ้นว่ามันมีห้องเดียว ถ้ามันเล็กน่าอึดอัดเดี๋ยวค่อยว่ากัน ตกลงไหม”

“ก็ได้”

“ไม่มีของหวานเหรอ” มีคุณถามหลังจากที่กินขนมจีนเสร็จแล้ว

“มี”

“เอามาชิมสิ”

“เป็นคำสั่งหรือคำขอร้อง” นับตังค์ยียวน

“สั่งได้ไหมล่ะ” มีคุณถามกลับ

“ได้ แต่ไม่ทำ”

“งั้นขอร้อง”

“ขอร้องเขาพูดกันแบบนั้นเหรอ” นับตังค์ยังคงทำหน้าตายียวนกวนประสาทมีคุณเหมือนเดิม

“มันต้องพูดแบบไหน ไหนพูดให้ดูเป็นตัวอย่างหน่อย”

“ขอขนมที่อร่อยที่สุดในโลกหน่อยครับ” นับตังค์พูดให้มีคุณฟัง

“ยังดูไม่ขอร้องเท่าไหร่ เอาใหม่ซิ” มีคุณกอดอกแล้วส่ายหน้า

“งั้นเอาแบบนี้ คุณเชฟสุดหล่อ รบกวนเอาขนมที่อร่อยที่สุดในโลกมาให้ผมกินหน่อยครับ ได้โปรด” นับตังค์หลับตาแล้วทำท่าอ้อนวอนให้มีคุณดูเป็นตัวอย่างอีกรอบ

...ติ๊ด...

“เฮ้ย หลอกถ่ายรูปกันนี่” นับตังค์โวยวายเมื่อเห็นว่ามีคุณยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย

“เวลาทำตัวอ้อนแบบนี้ก็น่ารักดีนะ ขอถ่ายเก็บเอาไว้ดู เพราะคงไม่เห็นแบบนี้บ่อยๆ”

“แน่ล่ะ จะอ้อนไม่อ้อนมันก็ต้องขึ้นอยู่ว่าอยู่กับใคร” นับตังค์ยักไหล่

“แล้วทำไมเวลาอยู่กับพี่ชอบกวนประสาท เพราะพี่ไปวิจารณ์ขนมวันประกวดเหรอ” มีคุณอยากรู้ว่านับตังค์ยังฝังใจเรื่องเก่าอยู่รึเปล่า

“เรื่องนั้นมันจบไปแล้ว ส่วนไอ้เรื่องกวน นี่ถามจริงว่าไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าใครกวนประสาทใครก่อน” นับตังค์ย้อนถาม

“พี่ไปกวนประสาทตังตอนไหน”

“นี่ไง หน้าตาของบอสตอนนี้ก็กวน”

“เฮ้ย ไม่ใช่แล้ว หน้าพี่มันแบบนี้เองไหม”

“ก็นี่ไง หน้าตาผิดหลักการผูกมิตร อวัยวะบนหน้าบอสยังตีกันไม่เสร็จ เรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่าขี้ริ้วขี้เหร่และกวนประสาท” นับตังค์ได้ทีเหน็บมีคุณ

“ฮ่าๆ ไอ้ที่พูดมาทั้งหมดเนี่ยหลอกด่าพี่มากกว่า พี่รู้ตัวเองว่าพี่มีเสน่ห์ ด่ายังไงพี่ก็ไม่รู้สึกหรอก” มีคุณรู้สึกสนุกเวลาที่เห็นนับตังค์ต่อปากต่อคำ

“โอ้ย หลงตัวเองชะมัด” นับตังค์เห็นมีคุณไม่โกรธแถมยังหัวเราะชอบใจก็รู้สึกเซ็งที่มาเจอกับคนหน้าหนาเข้าให้แล้ว

“ก็อย่ามาเผลอหลงพี่แล้วกัน” มีคุณยกยิ้ม

“หึ...ไม่มีวันเผลอ เป็นคนมีสติ สรุปจะกินขนมไหม ไหน...ขอร้องก่อน” นับตังค์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตั้งถ่ายบ้าง

“อยากกินขนมของเชฟจังครับ ได้โปรด” มีคุณเก็กหน้าหล่อให้กับกล้องโทรศัพท์ของนับตังค์ พูดด้วยน้ำเสียงที่ปรับให้ดูละมุนที่สุด

“รอ” นับตังค์เยืนนิ่งไปแวบเดียวก่อนจะลดกล้องลง เก็กหน้านิ่งพูดกับมีคุณสั้นๆ แล้วรีบหันหลังเดินกลับเข้าไปในครัวโดยไม่ทันเห็นว่ามีคุณแอบยิ้มอยู่ข้างหลังที่ทำให้นับตังค์เขินได้

   หลังจากรับประทานของหวานเสร็จและชั่วโมงแห่งการปะทะฝีปากของคุณเชฟและคุณบอสผ่านพ้นไป ปัญหาใหม่ที่ทำให้คนทั้งคู่ต้องมาปะทะคารมกันต่อก็คือเรื่องของห้องนอน

“เตียงมันก็ใหญ่ แล้วจะให้พี่ไปนอนที่โซฟาทำไม” มีคุณพยายามบ่ายเบี่ยงเมื่อนับตังค์เดินขึ้นมาถึงห้องนอนแล้วบอกให้มีคุณไปนอนที่โซฟา ถึงโซฟามันจะใหญ่แต่มันจะนอนสบายเหมือนกับนอนเตียงได้ยังไงกัน

“ใหญ่ที่ไหนกัน ดูนะ ถ้าตังนอนตรงนี้ ดึกๆ ก็ต้องดิ้นไปดิ้นมาแบบนี้ มันก็พอดีสำหรับคนเดียว เห็นไหม” นับตังค์รีบลงไปนอนบนเตียงแล้วกลิ้งไปกลิ้งมาให้ดู มีคุณเห็นแล้วก็นึกขำในใจ

“เดี๋ยวเอาหมอนมากันก็ได้ คืนนี้นอนด้วยกันไปก่อน ห้องนี้มันใหญ่จะตาย เอาไว้พี่กลับมาจะซื้อเตียงมาเพิ่ม วางมุมนั้นน่าจะได้” มีคุณชี้บอก

“ไหนบอสว่าตังนอนกรนไง กรนดังด้วย ถ้านอนด้วยกัน บอสทนไม่ไหวหรอก” นับตังค์ยังคงหาเหตุผลที่จะครอบครองเตียงเอาไว้คนเดียว

“พี่ทนได้”

“งั้นก็ตามใจ” นับตังค์คิดว่าเถียงไปก็คงไม่เป็นผล จะว่าไปบ้านนี้เป็นบ้านของมีคุณ ถ้าเรื่องมากอาจจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้ แต่คนอย่างนับตังค์ไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล

“ถ้าอย่างนั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ” มีคุณนึกแปลกใจที่นับตังค์ยอมง่ายๆ แต่ก็เริ่มจะชินกับนิสัยของนับตังค์แล้ว บทจะดื้อก็ดื้อเถียงคอเป็นเอ็น บทจะว่าง่ายก็ง่ายจนนึกไม่ถึง


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 28-03-2017 14:46:47
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


   มีคุณเข้าไปอบน้ำนานพอสมควรเพราะเขารู้สึกเหนียวตัวตั้งแต่ไปตะลอนกับนับตังค์แล้ว เขาใช้ช่วงเวลาผ่อนคลายนี้คิดถึงอนาคตของตัวเองไปด้วย ถึงแม้ที่นี่จะสวยและน่าอยู่มากแค่ไหนก็ตาม แต่เขาทบทวนแล้วว่าตัวเขาเองไม่เหมาะกับที่นี่ เขาเป็นคนไม่ชอบอยู่กับที่ ชอบไปท่องเที่ยวและได้ไปชิมอาหารที่หลากหลายตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างไม่มีข้อจำกัดใดๆ หากไม่ใช่เพราะนึกสงสารแม่ที่เดินชีวิตผิดพลาดไป มีคุณก็คงจะปฏิเสธมรดกของคุณปู่ที่มีเงื่อนไขผูกมัดเขาอย่างนี้ ลำพังเงินจากงานเขาก็อยู่ได้อย่างสบายแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถปล่อยให้แม่ไปขึ้นโรงขึ้นศาลหรือติดคุกได้ เขาจึงต้องจำใจทำตามเงื่อนไขของปู่ คิดแค่ว่าอดทนแค่หนึ่งปีเขาก็จะรีบขายที่ดินและร้านนี้ไปอย่างแน่นอน

   เมื่อมีคุณได้อาบน้ำจนรู้สึกสดชื่นแล้ว เมื่อออกมาจากห้องน้ำก็พบว่านับตังค์หลับสนิทไปแล้ว เตียงที่ว่ากว้างขนาดนอนได้ถึงสามคน แต่นับตังค์สามารถนอนกางแข้งกางขาได้เต็มพื้นที่ มีคุณพยายามจะปลุกแต่คนขี้เซาก็ไม่ทีท่าว่าจะรู้สึกตัว มีคุณเลยยกแขนยกขาของนับตังค์ให้ขยับไปนอนดีๆ นึกในใจว่าเห็นตัวผอมแบบนี้ก็หนักไม่ใช่เล่น สุดท้ายแล้วก็เคลียร์พื้นที่นอนให้ตัวเองได้แค่พอดีตัวเท่านั้นแต่ก็คงดีกว่าต้องไปนอนที่โซฟา

   มีคุณยังคงยืนมองนับตังค์อยู่ อยากจะปลุกให้นับตังค์ไปอาบน้ำเพราะส่วนตัวแล้วเขาไม่ชอบความสกปรก ถึงเขาชอบแต่งตัวเซอร์ๆ ดิบๆ แบบนี้ แต่เขาเป็นคนที่รักความสะอาดมาก ไม่เคยนอนโดยไม่อาบน้ำ ไม่เคยใส่เสื้อผ้าซ้ำโดยไม่ซัก ไม่ปล่อยให้ร่างกายสกปรกและมีกลิ่น แต่มีคุณเริ่มทำใจว่าคงจะปลุกคนขี้เซาคนนี้ให้ตื่นได้ยาก ขนาดเขายกแขนยกขาขนาดนี้ก็ยังไม่ตื่น ความหวังที่จะให้นับตังค์ไปอาบน้ำคงริบหรี่เต็มทน มีคุณตัดสินใจชะโงกหน้าไปดมตัวของนับตังค์ใกล้ๆ ก่อนจะนึกชมในใจว่าขนาดออกไปขี่มอเตอร์ไซด์ตากแดดตากลม นับตังค์ยังไม่มีกลิ่นเหงื่อเลย ออกจะหอมด้วยซ้ำ ผิวพรรณก็ดูสะอาดดี มีคุณเห็นแล้วก็เลยล้มตัวลงนอนข้างนับตังค์ได้อย่างสะดวกใจ

“คร่อกกกกกกกก”

   มีคุณกำลังจะเคลิ้มหลับก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกรนของนับตังค์ดังขึ้นมาข้างหู มีคุณรีบเอื้อมไปเปิดโคมไฟ ปรากฏว่านับตังค์กลิ้งมานอนอยู่บนหมอนใบเดียวกับเขา แถมยังกรนดังสนั่น เมื่อตอนหัวค่ำเขาอำเรื่องที่นับตังค์นอนกรน ไม่คิดว่าจะกรนจริงๆ เห็นเจ้าตัวเถียงคอเป็นเอ็นว่าไม่กรน ตอนนี้เขาอยากจะอัดคลิปเอาไว้ให้คนเถียงเก่งดูจริงๆ มีคุณพยายามจะเอาหมอนมากั้นก็แล้ว เอาทิชชูมาอุดหูก็แล้ว แต่นับตังค์ก็ยังกรนจนเขาทนไม่ไหว สุดท้ายมีคุณก็ยอมแพ้ ต้องขนหมอนไปนอนที่โซฟา ผ้าห่มก็ไม่มีเลยต้องอาศัยเอาผ้าขนหนูมาห่มแทน ด้วยความอ่อนเพลียสักพักมีคุณก็ผล็อยหลับไป

   เมื่อทางฝั่งโซฟาเงียบสนิทไร้การเคลื่อนไหวได้สักพักใหญ่ เสียงกรนจากฝั่งบนเตียงก็ค่อยๆ เงียบลงตาม นับตังค์ค่อยๆลุกขึ้นมาชะโงกดูที่ปลายเท้า เมื่อเห็นว่ามีคุณเงียบไปนานพอสมควรแล้วนับตังค์ก็แอบยิ้มด้วยความพึงพอใจ แต่พอนึกถึงลมหายใจของมีคุณที่มาสัมผัสใบหน้าของนับตังค์ในระยะเผาขนตอนที่นับตังค์แกล้งหลับเมื่อครู่นี้แล้วก็รู้สึกว่าหัวใจมันวูบวาบพิกล ตอนนั้นเกือบจะหลุดลุกขึ้นมาโวยวายอยู่แล้วเพราะคิดว่ามีคุณจะทำอะไรมากกว่านั้น ใจของนับตังค์เต้นรัวจนแทบลืมหายใจ เพราะคำพูดของรันแท้ๆ ที่บอกว่ามีคุณเป็นเกย์ มันทำให้นับตังค์กลัว ซึ่งนับตังค์ก็ตอบไม่ได้ว่ากลัวอะไร กลัวมีคุณจะเข้าหาหรือกลัวความรู้สึกบางอย่างที่อาจจะขึ้นกับหัวใจตัวเอง แต่ก็เป็นเรื่องที่นับตังค์ไม่อยากให้เกิดทั้งสิ้นในตอนนี้ นับตังค์หยุดความคิดที่ฟุ้งซ่านอยู่ในหัวแล้วบอกกับตัวเองว่าอย่าคิดอะไรมากเกินไป ก่อนจะค่อยๆ ลงจากเตียงแล้วย่องไปอาบน้ำให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้

   ด้วยความแปลกที่ กว่านับตังค์จะข่มตาหลับได้ก็เกือบเช้า มันเลยทำให้นับตังค์ตื่นเอาเกือบเที่ยง เมื่ออาบน้ำอาบท่าแล้วเดินลงมาข้างล่างก็ได้กลิ่นหอมลอยมาจากในครัว นับตังค์เดินตามกลิ่นไปจนพบว่ากลิ่นหอมนี้เป็นฝีมือของขมิ้นนั่นเอง

“ทำอะไรพี่บ่าว หอมจัง” นับตังค์ถามก่อนจะเดินไปดูใกล้ๆ

“แกงเหลืองกับปลากระพงทอดขี้หมิ้น” ขมิ้นตอบ

“ปลาทอดขมิ้นหรือขมิ้นกำลังทอดปลากันแน่” นับตังค์หยอก

“เอิดนิ” ขมิ้นพูดจบนับตังค์ก็ขมวดคิ้วเพราะไม่เข้าใจ

“เอิดแปลว่าอะไรพี่บ่าว”

“กวนตีน” ขมิ้นตอบตรงๆ ด้วยน้ำเสียงที่ดูออกว่าไม่ได้ว่าจริงจัง

“ไม่ได้กวน ดูดิ” นับตังค์ชี้ไปที่เท้า

“เดี๋ยวจะโดน” ขมิ้นเอาตะหลิวชี้หน้านับตังค์ นับตังค์หัวเราะร่วนเมื่อได้ยินแต่ก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ขมิ้น ถึงจะรู้ว่าขมิ้นไม่ถือสาแต่นับตังค์ก็อยากให้รู้ว่านับถือขมิ้นเป็นพี่ชาย เมื่อขมิ้นเห็นนับตังค์ยกมือไหว้ก็รีบโบกมือทำนองว่าไม่เป็นไร รู้ว่าเป็นการหยอกล้อ

“แล้วบอสไปไหนล่ะ” นับตังค์ยังไม่เห็นมีคุณเลยตั้งแต่ลงมา

“กลับกรุงไปแล้ว นายหัวทิ้งจดหมายเอาไว้นิ อยู่บนโต๊ะ” ขมิ้นทำหน้าบุ้ยใบ้ไปทางจดหมายเพราะมือไม่ว่างที่จะชี้บอก

   นับตังค์เดินไปที่โต๊ะก่อนจะหยิบกระดาษที่มีหินลับมีดทับอยู่ขึ้นมาอ่าน มีคุณเขียนบอกเอาไว้ว่าอาจจะอยู่เคลียร์ธุระส่วนตัวที่กรุงเทพสักสองสามวันและจะไปเอาของใช้ของนับตังค์จากรัญญรีให้ นอกจากนั้นมีคุณยังได้ทิ้งเงินให้นับตังค์เอาไว้ใช้ส่วนตัวก้อนหนึ่ง อีกก้อนให้เอาไว้ซื้อของใช้ในครัว ไม่ว่าจะเป็นของสดหรือของใช้อะไรก็ได้ที่นับตังค์เห็นว่าจำเป็น  มีกำชับด้วยว่าถ้าทำอาหารหรือขนมอะไรให้ถ่ายรูปและถ่ายคลิปขั้นตอนการทำให้มีคุณดูผ่านทางไลน์ด้วย ถือเป็นการส่งการบ้าน นับตังค์พับจดหมายของมีคุณเก็บใส่กระเป๋าก่อนจะนึกบ่นมีคุณว่าไม่อยู่แล้วยังจะให้การบ้านอีก จากนั้นจึงใช้ความคิดว่าควรจะต้องเริ่มทำอะไรก่อนดี

“พี่บ่าว ตังอยากเปิดรับผู้ช่วยในครัวสักสองคน” นับตังค์หันกลับมาพูดกับขมิ้น

“เดี๋ยวจะไปติดประกาศให้ในตลาด เดี๋ยวออกไปตอนบ่ายๆ ดีไหม” ขมิ้นถามก่อนจะเอาจานปลาทอดมาวางตรงหน้านับตังค์

“ดีเลย อยากคัดคนหน่อย ตังอยากได้คนที่รักในการทำอาหาร แล้วนี่...พี่ทำกับข้าวให้ตังกินเหรอ” นับตังค์มองปลาที่ทอดกรอบจนสีเหลืองทองแล้วถึงได้ถาม

“กินได้ไหม” ขมิ้นที่เดินไปตักแกงเหลืองอยู่หันกลับมาย้อนถามด้วยความกังวล เพราะไม่รู้ว่านับตังค์จะชอบอาหารใต้รึเปล่า

“ได้ อยากกิน พี่กินด้วยกันนะ ตังคดข้าวให้” นับตังค์เห็นขมิ้นพยักหน้าแล้วรีบเดินไปหยิบจานมาตักข้าวสวยร้อนๆ วางไว้สองจาน

“กินเผ็ดไหวเปล่านิ”

“สบายมาก เคยกินเผ็ดมากๆ จนตดออกมาเป็นไฟเลย” นับตังค์พูดจบก็เห็นขมิ้นทำหน้าตะลึง

“พันพรือ” ขมิ้นไม่เชื่อว่าคนเรากินเผ็ดแล้วจะตดออกมาเป็นไฟได้

“ตังล้อเล่น ฮ่าๆ” นับตังค์ไม่คิดว่าขมิ้นจะเชื่อเลยรีบบอก

“ฉ็องด็องนิ” พอรู้ว่านับตังค์ล้อเล่นถึงได้ทำท่าโล่งอก เพราะเคยได้ยินมาเหมือนกันว่าตดคนติดไฟได้เลยนึกว่านับตังค์ตดเป็นไฟจริงๆ

“แปลด้วย”

“พิเรน ทะเล้น ทะลึ่ง บ้าหรือสติไม่ค่อยดี”

“โอ้โห ยาวเลยนะ” นับตังค์รีบยกมือไหว้ก่อนจะได้ความหมายของคำว่าฉ็องด็องมากไปกว่านี้

“ฮ่าๆ ว่าแต่แกงหรอยหม้าย”

“หรอยจังฮู้” นับตังค์หัวเราะแล้วยกนิ้วให้ขมิ้นก่อนจะจัดการอาหารใต้ต่อด้วยความเอร็ดอร่อย

   นับตังค์กับขมิ้นสนิทกันมากขึ้นหลังจากที่ได้มีเวลาทำความรู้จักกันผ่านการพูดคุยช่วงมื้อกลางวันที่ผ่านมา ทั้งคู่เล่าเรื่องส่วนตัวกันบ้าง ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับเรื่องทั่วไปให้กันและกันฟังเพื่อเป็นข้อมูลให้กับอีกฝ่าย เช่น อาหารที่ชอบ เพลงโปรด ภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ ซึ่งนับตังค์เองก็เพิ่งรู้ว่าขมิ้นไม่เคยดูภาพยนตร์เลยสักเรื่องเดียว ยิ่งคุยก็ยิ่งทำให้นับตังค์รับรู้ว่าขมิ้นเป็นคนที่ซื่อสัตย์และรักคุณอนันต์เจ้าของร้านคนเก่ามาก นับถือคุณอนันต์เหมือนพ่อแท้ๆ ขมิ้นไม่เคยได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย มันทำให้นับตังค์มองว่าขมิ้นก็มีเรื่องราวคล้ายกับตัวเองอยู่บ้างเหมือนกัน นับตังค์อยู่ในกรอบที่ถูกครอบครัววางให้ ส่วนขมิ้นต้องอยู่ในกรอบชีวิตที่จำเป็นต้องอยู่เพราะสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยให้ขมิ้นได้ก้าวออกไป

   ส่วนขมิ้นเปิดใจให้นับตังค์จนเกือบเต็มร้อยแล้ว ติดอีกเรื่องเดียวที่นายปู่สั่งขมิ้นกับคุณเคารพเอาไว้ก่อนเสียชีวิต ซึ่งเรื่องนี้คุณเคารพได้บอกกับขมิ้นว่าอย่าเพิ่งพูดออกไป เรื่องนี้มันไม่ได้อยู่ในสัญญา คุณอนันต์ไม่บังคับ แต่เป็นเรื่องของจิตใจ ซึ่งคุณเคารพจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง ถ้านายหัวคนใหม่ยอมทำตามความต้องการของนายปู่ด้วยความเต็มใจ ขมิ้นก็จะยอมให้ใจเต็มร้อยกับนายหัวคนใหม่และคนของนายหัวซึ่งก็คือนับตังค์ด้วยเช่นกัน

“เดี๋ยวตังเดินเล่นแถวนี้ก่อน พี่ไปทำธุระเถอะ เดี๋ยวมาเจอกันตรงนี้” นับตังค์บอกกับขมิ้นหลังจากที่ชวนกันออกมาตลาด ขมิ้นจะมาฝากเพื่อนให้ช่วยประกาศหาผู้ช่วยเชฟให้นับตังค์ ส่วนนับตังค์ก็อยากมาซื้ออาหารสดและอาหารแห้งไปเก็บเอาไว้ที่บ้าน

   นับตังค์เดินซื้อของไปเรื่อยๆ เห็นว่าอะไรที่มีคุณน่าจะกินได้ก็ตั้งใจจะซื้อไปเก็บเอาไว้ที่ครัวของบ้าน เดินมาจนถึงร้านผลไม้ จำได้ว่ามีคุณบอกว่าชอบกินแตงโมจึงหยิบขึ้นมาเลือกดู แล้วนับตังค์ก็หยุดชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีคุณจะไม่อยู่สองสามวัน แล้วทำไมต้องนึกถึงมีคุณด้วย คิดแล้วก็เลยรีบวางผลไม้ที่จะซื้อลงที่เดิมก่อนจะเดินไป แล้วสุดท้ายนับตังค์ก็อดไม่ได้ที่จะเดินกลับมาร้านขายแตงโมอีก บอกตัวเองว่าก็แค่มีน้ำใจให้เจ้าของเงินก็คงไม่แปลกมั๊ง

“สวัสดีครับ มาเที่ยวที่เกาะเหรอครับ หรือว่าจะมาอยู่ที่นี่ พักอยู่แถวไหนเหรอครับ” เสียงหนึ่งเอ่ยทักนับตังค์

“เรารู้จักกันเหรอ” นับตังค์ถามเมื่อเห็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งมาทักตัวเอง ไม่ได้จะกวน แต่นึกไม่ออกว่ารู้จักกันรึเปล่าถึงได้มาถามอะไรมากมาย

“ไม่รู้จักหรอกครับ แต่อยากรู้จัก ผมเป็นเจ้าของตลาดที่นี่ครับ ไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยลองมาทักดู”

“อ๋อ บริการดีนะครับ” นับตังค์พยักหน้ารับรู้

“หมายถึงแม่ค้าเหรอครับ” พญายิ้มรับคำชมของนับตังค์ด้วยความปีติ

“เปล่า หมายถึงคุณ ถึงกับต้องมาต้อนรับและซักประวัติคนที่มาเดินซื้อของในตลาดด้วยตัวเองแบบนี้” คราวนี้นับตังค์ตั้งใจกวน

“อ๋อ เอ่อ...ไม่ใช่กับทุกคนหรอกครับ ผมชื่อพญาครับ” พญารีบหน้าเสียเล็กน้อยก่อนจะแนะนำตัวเอง

“ครับ รับทราบ” นับตังค์เลือกแตงโมลูกที่ถูกใจได้ก็ส่งให้แม่ค้า

“ไม่คิดเงินค่ะ” แม่ค้าเห็นท่าทางของพญาก็พอจะรู้ใจว่าพญากำลังจะจีบพ่อหนุ่มหน้าสวยคนนี้

   คนในท้องที่ส่วนใหญ่รู้กันว่า ’พญา’ ลูกชายคนเดียวของนายหัวพยนต์นั้นมีรสนิยมอย่างไร ด้วยความที่พ่อเป็นคนมีอำนาจในเขตนี้ ทุกคนจึงไม่มีใครกล้ายุ่งกับพญาสักเท่าไหร่ หลายต่อหลายครั้งที่พญาทำตัวก้อร่อก้อติกกับนักท่องเที่ยวหนุ่มๆ ที่หน้าตาดีจนมีเรื่องมีราว แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครทำอะไรพญาได้เพราะอำนาจของนายหัวพยนต์มาช่วยให้รอดตัวทุกครั้ง

“ไม่ได้ขายเหรอครับ” นับตังค์ถามเมื่อเห็นว่าแม่ค้าไม่คิดเงิน

“ขายค่ะ แต่สำหรับคุณ เป็นบริการพิเศษจากชาวตลาดค่ะ” แม่ค้าทำแบบนี้เพราะอยากเอาใจพญา ซึ่งก็ได้ผล พญายิ้มด้วยความพึงพอใจ

“ทำไมต้องพิเศษครับ ผมไม่เข้าใจ” นับตังค์ยังคงถามต่อ

“เพราะคุณคือคนพิเศษไงครับ” คราวนี้พญาเป็นฝ่ายตอบแทนแม่ค้า แถมยังส่งสายตาที่แสดงอกอย่างเปิดเผยว่าสนใจนับตังค์

“ตัง ซื้อของเสร็จยังนิ” ขมิ้นรีบเดินเข้ามาเมื่อเห็นว่าพญายืนอยู่กับนับตังค์

“เสร็จพอดี ผมไม่เอาดีกว่าครับ ไม่ชอบของฟรี” นับตังค์วางแตงโมคืนก่อนจะส่งถุงของให้ขมิ้นช่วยถือ เมื่อทำท่าจะเดินออกไป พญาก็คว้าแขนของนับตังค์เอาไว้

“ชื่อตังเหรอ น่ารักดีนะ” พญาถาม ขมิ้นทำท่าจะเข้ามาดึงมือของนับตังค์ แต่นับตังค์ส่ายหน้าให้กับขมิ้น

“คุณเป็นเกย์เหรอ” นับตังค์ถามพญาเสียงดังจนพ่อค้าแม่ค้าและนักท่องเที่ยวแถวนั้นมองมา

“ทำไมถามแบบนั้นครับคุณน้องตัง รังเกียจเหรอ” พญาถามเสียงเบา ถึงพญาจะรู้ว่าคนแถวนี้รู้ว่าตัวเองมีรสนิยมยังไง แต่เมื่อถูกถามเสียงดังก็อดที่จะหน้าเสียไม่ได้ มือที่จับแขนนับตังค์ไว้แน่นก่อนหน้านี้จึงคลายลงทันใด

“ไม่ได้รังเกียจ แต่ถ้าใช่ แล้วคุณคิดจะจีบผม ผมมีอะไรจะแนะนำ คุณมีภาษีดีกว่าคนทั่วไปเพราะเป็นถึงเจ้าของตลาด ดังนั้นอย่าทำตัวให้ดูเป็นแค่กุ๊ย มันโลว์ โอเคนะ” นับตังค์พูดจบก็เดินออกไปเลยท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนที่อยู่แถวนั้น

   พญามองไปรอบๆ ด้วยสายตาดุดัน เสียงหัวเราะก็เงียบลง พญารู้สึกอับอาย แต่อีกใจก็รู้สึกว่าถูกท้าทายจากคนที่เพิ่งเดินจากไป เขาเห็นชายหนุ่มที่ชื่อตังคนนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่มากับผู้ชายอีกคนเลยไม่ได้เข้ามาทัก เพราะเขาโดนพ่อห้ามเอาไว้ว่าอย่าก่อเรื่องในระยะนี้จึงได้แต่มอง แต่เขารู้สึกถูกชะตาและรู้สึกว่าตัวเองตกหลุมรักผู้ชายที่ชื่อตังตั้งแต่แรกเห็นเข้าแล้ว แม้เขาจะเป็นคนเจ้าชู้ มีคนมากมายอยากจะได้เขาเป็นคู่รัก แต่พญาให้สถานะคนเหล่านั้นได้แค่คู่นอน คนไหนทำให้เขาถึงอกถึงใจเขาก็ตอบแทนด้วยเงินและความสุขสบาย เงินซื้อได้ทุกอย่าง อย่างที่พ่อของเขาทำมาให้เห็นมาตั้งแต่เด็ก ยกเว้นหนุ่มห้าวนัยน์ตาสวยที่มีลักยิ้มคนนี้ ถ้าอยากจะมาอยู่ในตำแหน่งคนรักของพญา ตำแหน่งที่ไม่มีใครเคยได้มายืน พญาก็เต็มใจ  ยิ่งพยศแบบนี้พญายิ่งชอบใจเหลือเกิน พญาจะต้องรู้ให้ได้ว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นใครและพักอยู่ที่ไหน จะพยศแค่ไหนก็จะเอามาเป็นของตัวให้ได้ นี่คือสิ่งที่พญาหมายมั่นเอาไว้


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


(https://www.uppic.org/image-FD33_58E62A7E.jpg)

 เครดิตภาพน้ำยาปูจาก Google , เครดิตภาพเทมปุระ Princess & napier

ฮาโหลลลลล ขอเสียงผู้อ่านหน่อยจ้า ถ้าลงสักห้าตอนยังโหวงเหวง
ผู้แต่งจะอสัญกรรมนิยายตัวเองแล้วนะคะ 55555


  :L3:

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Jitsupa_milk ที่ 28-03-2017 15:47:58
อ่านแล้วรู้สึกหิวทันที
ติดตามอยู่นะคะะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: หนอนกอ ที่ 28-03-2017 16:38:39
เพิ่งได้แวะมาอ่านนิยายเรื่องนี้ คนเขียนอย่าเพิ่งอสัญกรรมนิยายเลยนะคะ  :mew2: กำลังจะสนุกเลย เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 28-03-2017 17:13:20
 :L2: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 28-03-2017 17:20:27
สนุกดีมีสาระสอดแทรก. ไรท์สู้ๆจะรออ่านนะ o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-03-2017 17:35:41
 :L1: :pig4:  ชอบงานเขียนของคุณมากครับ   เป็นกำลังใจให้ครับ....
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 28-03-2017 17:50:19
ถ้ามีรูปแนบมาด้วยทุกครั้งเราต้องอยากกินตามแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-03-2017 20:22:25
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: หนอนกอ ที่ 28-03-2017 21:54:40
เข้ามารอตอนต่อไป  :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 28-03-2017 22:49:27
พระเอกนิสัยไม่ค่อยดีนิดหน่อย นายเอกก็ใช่ว่าจะยอมคน ไม่ธรรมดา คู่นี้ไม่ธรรมดา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 28-03-2017 23:23:08
นิยายของคุณ loverouter มีเนื้อเรื่องเข้มข้นหน้าติดตาม ไม่ลูกกวาด ไม่เบาโวงหรือกลวง แอบคิดนิดนึงเหมือนกันว่าดูจากคอมเม้นท์แล้ว นิยายคุณโดน underrate มากๆ

อย่างไรก็ตามเท่าที่สังเกตรอบปีนี้ ไม่ใช่แค่นิยายของคุณนะเรารู้สึกว่า คอมเม้นท์น้อย นิยายที่มีมีเรตติ้งดี คอมเม้นท์เยอะกว่าเรื่องอื่นๆ ก็ยังถือว่าน้อยลงจากปีที่พีคๆมาก (แอดมินผ่านมาเห็นอย่าโกรธนะคะ พูดตามที่เคยตามอ่านเล้ามานาน ตั้งแต่ปี 51-52)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 29-03-2017 16:39:24



อย่าเพิ่งท้อไปก่อนนะคะ
เพราะเราก็เพิ่งเปิดมาเจอนิยายเรื่องใหม่ของคุณเมื่อเช้านี้เอง
พอเห็นที่คุณเขียน เราเลยอยากจะเข้ามาให้กำลังใจ ^^

เราอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่คุณและน้องตังผู้เก่งกาจรอบครัว
อยากเห็นเขาเป็นฝั่งเป็นฝากันท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ อันมีหาดทราย สายลม เป็นพยานเหลือเกิน ^^
รอตอนต่อไปนะคะ สู้ ๆ !!  :กอด1:


หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 30-03-2017 17:41:33
ตอนที่ 5 ขนมจาก


นับตังค์กลับมาถึงบ้านก็จัดการเอาของที่ซื้อมาจากตลาดเก็บเข้าที่ ขมิ้นก็มาช่วยนับตังค์เก็บของด้วย เมื่อเห็นว่านับตังค์ซื้อใบจากมาด้วยจึงเอ่ยปากถาม

“ซื้อมาทำไรนิ”

“จะทำขนมจาก เคยกินไหม”

“ไม่เคย แต่นายปู่ปลูกจากเอาไว้ตรงหลังบ้านที่พี่พักอยู่นิ นายปู่ชอบมวนจากตากแห้งมาสูบ นึกว่าตังจะสูบด้วย”

“เหรอ ตังไม่รู้ว่าเรามีต้นจากเลยซื้อมาด้วย ตังไม่สูบบุหรี่ พี่บ่าวไม่เคยกินขนมจากใช่ไหม เดี๋ยวตังจะทำให้กิน ถือเป็นการเปิดบริสุทธิ์พี่บ่าว” นับตังค์พูดแล้วขำ ส่วนขมิ้นทำหน้าสยองกับมุกของนับตังค์

“เออ...ตัง อย่าไปยุ่งกับไอ้พญานิ ถ้ามันมาตอแยอีกก็เดินหนีมันเอาไว้ ไม่ต้องไปผูกสัมพันธ์กับมัน”

“ทำไมล่ะ พี่รู้จักเขาเหรอ เออ พี่กดถ่ายคลิปตอนตังทำขนมให้ด้วยนะ ต้องส่งการบ้านนายหัวคนใหม่ของพี่” นับตังค์พูดจบก็ส่งโทรศัพท์ให้ขมิ้นแล้วสอนวีธีการถ่าย ก่อนจะเดินไปหยิบมะพร้าวมาเตรียมขูดเพื่อทำขนมด้วย ขมิ้นเริ่มกดถ่ายแล้วก็เริ่มเล่าเรื่องของครอบครัวนายหัวพยนต์ให้นับตังค์ฟังไปด้วย

นายหัวพยนต์ได้กรรมสิทธิ์ครอบครองพื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของเกาะใบไม้ครามมาจากบรรพบุรุษของตัวเอง เดิมทีก็ไม่มาสนใจอะไร เพราะตอนนั้นเกาะนี้ยังรกร้าง ความเจริญยังเข้าไม่ถึง มีเพียงชาวบ้านอาศัยอยู่เป็นกลุ่มเล็กๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวประมง จนคุณอนันต์คุณปู่ของมีคุณมาบุกเบิก เข้ามาอยู่ที่เกาะตั้งแต่น้ำไฟยังเข้าไม่ถึง ต้องใช้เครื่องปั่นไฟ คุณปู่เข้ามาพัฒนาและความรู้กับชาวบ้าน ให้ใช้ที่ดินที่นี่ให้เป็นประโยชน์ แนะนำอาชีพเสริมที่ทำให้ชาวบ้านหาเลี้ยงตัวเองได้ในช่วงมรสุมที่ไม่สามารถทำอาชีพหลักได้ โดยยึดหลักสำคัญคือการเบียดเบียนธรรมชาติให้น้อยที่สุด จนกระทั่งมีการพูดถึงเกาะใบไม้ครามมากขึ้น นายหัวพยนต์รู้ข่าวจึงเข้ามาใช้พื้นที่ของตัวเองทำธุรกิจเพื่อการท่องเที่ยว แค่นั้นไม่พอ ยังเริ่มใช้อำนาจกวาดซื้อกรรมสิทธิ์ที่ดินของชาวบ้านที่อยู่ที่นี่กันมานาน จนชาวบ้านต้องยอมขายแล้วพากันย้ายไปอยู่ในเมืองแทนเพราะกลัวจะเดือดร้อน มีแต่คุณอนันต์กับคุณขจีซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่อยู่ติดกันกับที่ดินของคุณอนันต์ที่ไม่ยอมลงให้กับอำนาจของนายหัวพยนต์
คุณขจีเปิดทำที่พักให้กับนักท่องเที่ยว โดยพยายามให้สิ่งปลูกสร้างภายในรีสอร์ททำลายธรรมชาติเดิมให้น้อยที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่คนที่มาพักจะเป็นคนต่างชาติ พวกที่ชอบธรรมชาติจริงๆ เพราะบ้านพักทุกหลังจะได้ใช้ไฟฟ้าเป็นเวลาตามที่คุณขจีกำหนดเพื่อประหยัดพลังงาน เพราะฉะนั้นคนที่ชอบความสะดวกสบายก็จะไปพักที่โรงแรมฝั่งของนายหัวพยนต์

ขมิ้นเล่าต่อว่านายหัวพยนต์มีลูกสามคน คนโตเป็นหญิงสาวที่มีนิสัยผิดแผกไปจากพ่อและน้อง เธอชื่อพยงค์หรือคุณใหญ่ คุณใหญ่เธอเป็นคนเงียบๆ นิสัยน่ารัก มีเมตตา หัวอ่อน เป็นลูกนายหัวพยนต์ไม่ค่อยรัก เพราะความใจดีใจอ่อนและไม่มีหัวทางการค้า ค้าขายอะไรก็เลยขาดทุน คุณใหญ่เธอแอบรักกับลูกจ้างของตัวเอง จนนายหัวพยนต์ไล่ออกจากบ้านเพราะโกรธที่ใฝ่ต่ำ แล้วก็ไม่มีใครพบเจอเธออีก ลือกันว่าหนีตามผู้ชายไปอยู่ที่กรุงเทพ คนรองก็คือพญาหรือคุณรอง ขมิ้นเล่าว่าคุณรองคนนี้ได้พ่อมาเต็มๆ นิสัยโผงผาง ชอบวางอำนาจ ที่เป็นอย่างนี้เพราะมีพ่อคอยให้ท้ายจึงทำให้พญาได้ใจ มีข่าวลือว่าพญาอาจจะไปพัวพันเรื่องยาเสพติดด้วย ส่วนคนสุดท้ายเป็นผู้หญิงชื่อพเยียหรือคุณเล็ก คนนี้เปรี้ยวจนเข็ดฟัน งานการไม่ค่อยทำ เอาแต่แต่งตัวแล้วก็ชอบอะไรที่รื่นเริงบันเทิงใจ แต่ในบรรดาลูก นายหัวพยนต์ตามใจคนนี้มากที่สุด เพราะพเยียหน้าตาสะสวยแล้วก็เอาใจเก่ง แต่ขมิ้นบอกว่าพเยียยังนิสัยดีกว่าพญา ตรงที่ไม่ได้ร้ายกาจใส่ใครแบบไร้เหตุผล จะเสียก็แต่ดูเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองมากไปหน่อยเท่านั้น ที่ขมิ้นรู้เรื่องพวกนี้ดีเพราะคนรักของขมิ้นทำงานอยู่ในโรงแรมของนายหัวพยนต์ด้วย ขมิ้นจึงได้รับข้อมูลมาจากคำบอกเล่าของสาลี่ซึ่งเป็นคนรักของตนบ่อยๆ

นับตังค์ฟังเรื่องราวของครอบครัวผู้ทรงอิทธิพลที่อยู่ที่เกาะนี้ด้วยความเพลิดเพลิน เหมือนได้ฟังขมิ้นเล่านิทาน นับตังค์รู้ว่าคนพวกนี้มีอยู่จริงในสังคมไทย พวกที่รวยแล้วใช้ความรวยไปในทางที่ผิด แต่ไม่คิดว่าจะได้มาเจอด้วยตัวเอง ยอมรับว่าตกใจที่พญาถือวิสาสะรุกเข้าหาแบบไม่มีมารยาท แต่นับตังค์ก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาเอาเปรียบตัวเองง่ายๆ ต่อให้รู้ว่ามีอิทธิพล แต่นับตังค์เชื่อว่า ถ้าเราศรัทธาความถูกต้อง ความถูกต้องนั้นจะปกป้องเราเอง

ขมิ้นเล่าไปแต่ตาก็ดูนับตังค์ทำขนมผ่านกล้องจากโทรศัพท์ไปด้วย ขมิ้นเดาไม่ออกว่านับตังค์กำลังคิดอะไรอยู่เมื่อได้ยินเรื่องของนายหัวพยนต์จากปากตน เพราะเวลาที่นับตังค์ทำขนม สีหน้าของนับตังค์จะดูสงบและจดจ่อกับสิ่งที่ทำเท่านั้น

นิ้วเรียวยาวของนับตังค์กำลังนวดส่วนผสมของขนมซึ่งก็คือ แป้ง น้ำตาลมะพร้าว เนื้อมะพร้าวอ่อนขูดและกะทิคั้นสดด้วยความตั้งใจ นวดจนเหนียวได้ที่ ตัวขนมมีความเหลวที่ไม่มากจนเกินไป จากนั้นนับตังค์ก็ทาหัวกะทิลงบนใบเพื่อไม่ให้ตัวขนมติดใบจากเวลาเอามันไปปิ้ง แล้วตักขนมวางบนใบจากที่ขมิ้นช่วยล้างตากเอาไว้ กลัดหัวท้ายใบจากด้วยไม้กลัดก่อนจะวางเรียงไว้ในถาดจนขนมหมดแล้วถึงได้เงยหน้าขึ้นมามองขมิ้น

“ตังคงไม่ไปสนิทกับเขาหรอก ปกติก็ไม่ค่อยจะสนิทกับใครง่ายๆ พี่บ่าว กดปิดกล้องโทรศัพท์ได้แล้ว เดี๋ยวค่อยถ่ายตอนปิ้งขนม ต้องตัดเสียงออก ไม่อย่างนั้นบอสคงได้ยินที่พี่บ่าวเมาท์” นับตังค์พูดแล้วหันไปยิ้มให้ขมิ้น

“เออ ตัดออกนะ เดี๋ยวนายจะว่าพี่เสือกเรื่องชาวบ้าน มันไม่ใช่นิสัยพี่นิ ส่วนเรื่องไอ้พญา สะใจตอนที่ตังสั่งสอนมัน แต่พี่ว่าไอ้พญามันไม่ยอมหยุดง่ายๆ นี่ถ้ามันรู้ว่าตังมีแฟนแล้วมันคงจะหัวเสียน่าดู” ขมิ้นนึกโล่งใจที่นับตังค์พูดขึ้นมา เห็นแต่ตั้งใจทำขนมจนคิดว่าอาจจะไม่ได้ฟังเรื่องที่ขมิ้นเล่าตั้งยาวเหยียด

“ห๊ะ ใครแฟนตัง” นับตังค์สะดุ้งเมื่อได้ยินประโยคที่ขมิ้นพูดมา

“อ้าว ก็นายหัวมีคุณไงนิ” ขมิ้นพูดจบนับตังค์ก็เดินไปล้างมือ ก่อนจะเดินกลับมายืนตรงหน้าของขมิ้นแล้วยกมือขึ้นมานวดขมับให้ขมิ้นเบาๆ

“ขอจูนข้อมูลพี่บ่าวก่อน ตังโสด ไม่มีแฟน บอสไม่ใช่แฟนตังนะพี่บ่าว” นับตังค์พูดจบก็เอามือที่นวดขมับของขมิ้นลง

“ขี้หก” ขมิ้นยังคงไม่เชื่อ

“ขี้ไม่หก ไอ้ที่จะหกก็น้ำตาตังนี่แหละ คิดไปได้นะพี่บ่าว ทำไมพี่ถึงคิดว่าบอสเป็นแฟนตัง” นับตังค์อยากจะรู้นักว่าทำไมขมิ้นถึงคิดแบบนี้ เพราะนับตังค์ว่าตัวเองก็ไม่ได้แสดงความใกล้ชิดอะไรกับมีคุณจนทำให้ใครคิดว่าเป็นแฟนกันได้เลย อีกอย่าง ทั้งบอสและตัวนับตังค์เองก็ไม่ได้ทำตัวตุ้งติ้งอะไรสักหน่อย

“ก็เมื่อเช้าพี่จะขึ้นไปตามนาย แลว่าไม่ลงมาสักที จะไปส่งที่สนามบิน  ไอ้พี่ก็ลืมเคาะประตู เปิดไปเห็นนายกำลังนั่งจ้องหน้าตังบนเตียง สายตามันบ่งบอกอยู่นิ ซ่าหวาเป็นพันนี้น่ะ อ่อ...หมายถึง พี่สงสัยว่าน่าจะเป็นแบบนี้แหละนิ” ขมิ้นทำท่านึกภาพเมื่อเช้าที่ได้เห็นมาและเผลอพูดภาษาถิ่นไป พอเห็นนับตังค์ทำหน้างงเลยต้องอธิบาย

“พี่ติดเตาถ่านให้ตังทีนะ เดี๋ยวตังจะปิ้งขนมจาก แต่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนเดี๋ยวมา” นับตังค์ยืนนิ่งไปนานก่อนจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากขมิ้น เสร็จแล้วก็เดินออกจากครัวไป ปล่อยให้ขมิ้นเกาหัวแกรกๆ เพราะไม่รู้ว่าสรุปแล้วที่ตัวเองคิดมันผิดหรือถูกกันแน่  แล้วที่จู่ๆ นับตังค์เดินหนีไปเพราะเขินหรือไม่พอใจที่ขมิ้นไปเข้าใจว่านับตังคืไปรักกับผู้ชายด้วยกัน ขมิ้นก็สุดที่จะเดาออก

..

มีคุณลงจากเครื่องได้ก็ตรงเข้ามาที่สำนักพิมพ์ทันที อันที่จริงเขาเคลียร์งานที่ค้างจนเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนไปที่เกาะแล้ว เสื้อผ้าข้าวของเขาก็ขนไปไว้ที่เกาะจนครบแล้วเช่นกัน แต่ที่เขากลับขึ้นมาในวันนี้เพราะมีใครบางคนต้องการที่จะพบเขา ซึ่งเขาบ่ายเบี่ยงมานานพอสมควร มาถึงตอนนี้เขาก็ไม่อยากที่จะปฏิเสธอีก คุยให้มันจบ จะได้ไม่ต้องบ่ายเบี่ยงอีก ซึ่งสถานที่นัดพบก็คือที่สำนักพิมพ์ของเขาแทนที่จะเป็นร้านอาหาร เพราะมีคุณไม่อยากใช้เวลากับคนๆ นี้นานจนเกินไปนั่นเอง

“คนที่นัดมาแล้วค่ะ” เลขาฯ ของมีคุณเข้ามาแจ้งให้ทราบเมื่อแขกที่ขอนัดมีคุณเอาไว้มาถึงแล้ว

“เชิญเขาเข้ามาเลย” มีคุณละสายตาจากคอมพิวเตอร์มองไปที่ประตูห้องทำงาน

ผู้ที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของมีคุณนั้นเป็นชายหนุ่มรูปร่างสันทัด ผิวขาวผ่องและดวงตาเรียวเล็กด้วยมีเชื้อชาติจีนติดมาจากทางมารดา จมูกโด่งได้รูป แต่งตัวทันสมัย โดยรวมแล้วถือว่าหน้าตาท่าทางแบบนี้กำลังเป็นที่นิยมของสังคมวัยรุ่นไทย มีคุณไม่แปลกใจกับความอ่อนเยาว์กว่าวัยที่แท้จริงของคีตะ คีตะเป็นคนดูแลตัวเองดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ยิ่งไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกเมืองนาที่มีอากาศดีๆ คีตะก็ยิ่งดูเด็กลงกว่าเดิมอีก

“กว่าจะนัดได้นะ นึกว่าจะไม่ยอมเจอกันซะแล้ว” คีตะหรือคิวทำหน้าเง้าหน้างออย่างที่เคยทำทุกครั้งเวลาที่รู้สึกน้อยใจมีคุณ

“มีธุระอะไรก็ว่ามา ผมมีอะไรต้องไปทำอีกหลายอย่าง” มีคุณเปิดประเด็นด้วยท่าทีเหินห่าง

“คุณ ยังไม่เลิกโกรธคิวอีกเหรอ คิวรู้ว่าวันนั้นคิวใจร้ายที่เลือกอนาคตของตัวเอง แต่คิวรู้ว่าถ้าคิวไม่ไปเรียนต่อ คุณจะยิ่งลำบากกว่านี้  พ่อของคิวคงไม่เลิกราวีคุณ ตอนนี้คิวอิสระแล้วนะ คิวก็รีบกลับมาหาคุณนี่ไง เราเจ็บปวดกันมามากพอแล้วนะที่รัก” คีตะพยายามจะอธิบายก่อนจะถือวิสาสะเดินมาโอบรอบคอของมีคุณ

“เอาเป็นว่าผมไม่ได้โกรธ ผมไม่ได้คิดเรื่องคุณมานานมากแล้ว แต่ถ้าจะให้กลับไปเหมือนเดิมก็คงเป็นไปไม่ได้เหมือนกัน ธุระของคุณมีแค่นี้ใช่ไหม” มีคุณไม่ได้แสดงออกว่าโกรธหรือหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้แสดงออกว่าการที่คีตะถือวิสาสะใช้ความใกล้ชิดจะทำให้เขาหวั่นไหวได้อีก แม้ในใจอยากจะบอกคีตะว่าคนที่เจ็บปวดมามากพอแล้วมันคือตัวเขาคนเดียว

“ไปทานข้าวกันนะ คิวมีเรื่องจะเล่าให้คุณฟังตั้งหลายอย่าง คุณจะได้เข้าใจคิวมากขึ้น” คีตะยังไม่ละความพยายาม

“ผมมีธุระสำคัญต้องทำหลายอย่าง คงต้องขอตัว” มีคุณพูดตัดสัมพันธ์

“โอเค วันนี้คิวไม่กวนคุณก็ได้ แต่ให้คุณรู้เอาไว้นะ คิวจะง้อคุณจนกว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้” คีตะยังคงคิดเข้าข้างตัวเองว่ามีคุณยังรู้สึกรักตัวเองอยู่ เพราะเท่าที่รับรู้มาว่าหลังจากที่ตัวเองตัดสินใจไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ มีคุณก็ไม่เคยมีใครอีก คีตะอยากแก้ตัว อยากได้โอกาสอีกสักครั้ง คราวนี้จะไม่ยอมทำให้มีคุณต้องเสียใจอีก

เมื่อคีตะยอมกลับไปแต่โดยดี มีคุณก็ทำได้แต่ถอนหายใจกับคำพูดของคีตะที่พูดทิ้งเอาไว้ เขายอมรับว่าเขายังคงจดจำได้เสมอว่าครั้งหนึ่งเขาเคยรักผู้ชายคนนี้มากแค่ไหน แต่ที่เขาไม่แน่ใจก็คือความรู้สึกที่มีในตอนนี้ เขารู้สึกดีใจที่คีตะกลับมาแล้วบอกว่าต้องการเขามากแค่ไหน แต่ความดีใจนี้เขาไม่แน่ใจว่ามันเป็นแค่ความสะใจหรือเปล่า ไม่แน่ใจว่าเขาอยากยังอยากทำให้คีตะต้องเจ็บเหมือนกับที่เขาต้องเจ็บรึเปล่า มีคุณถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วต่อสายหาคนที่คิดว่าจะทำให้เขาหายหงุดหงิดได้

“ฮัลโหล ทำอะไรอยู่” มีคุณทักไปเมื่อปลายสายกดรับ

“อยู่ในส้วม ต้องให้ถ่ายรูปให้ดูไหมอะ” เสียงของนับตังค์ตอบกลับมา

“กล้าถ่ายก็กล้าดู” มีคุณนึกขำ

“เพิ่งรู้ว่ามีบอสเป็นพวกชอบถ้ำมอง” นับตังค์ยังคงนึกถึงเรื่องที่ขมิ้นเล่าให้ฟัง มันยังวนอยู่ในหัวของนับตังค์จนต้องหลบขมิ้นมายืนตั้งสติอยู่ในห้องน้ำ เกือบจะหลุดถามอยู่เหมือนกันว่าเมื่อเช้านี้มีคุณนั่งจ้องมองตอนที่นับตังค์หลับทำไม แต่ก็กลัวมีคุณจะหาว่านับตังค์คิดไปเองเลยสงบปากเอาไว้ก่อนดีกว่า แต่เมื่อช่องให้แขวะได้จึงแอบแขวะเสียหน่อย

“อ้าว ก็ถามเองว่าจะให้ถ่ายไหม เริ่มก่อนแล้วมาว่าคนอื่น” มีคุณแกล้งโวยวาย

“แล้วโทรมาทำไมมิทราบ” นับตังค์ขี้เกียจเถียงต่อ

“ไหนล่ะการบ้าน” มีคุณทวงถาม

“ทำอยู่ ยังไม่เสร็จ ต้องทวงด้วยรึไง”

“แล้วทำอะไร”

“ขนมจาก”
“อย่างเดียวเหรอ”

“ใช่ จะทำแค่อย่างเดียว อร่อยมากด้วย อดกินไปเถอะ”

“อร่อยได้ไง ไหนบอกว่ายังทำไม่เสร็จ”

“มันอร่อยตั้งแต่ซื้อของแล้วเหอะ”

“อืม นึกว่าจะบอกว่าอร่อยตั้งแต่คนทำ” มีคุณเองก็ตกใจเหมือนกันที่ตัวเองเล่นมุกนี้ไป แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปเลยก็นึกขำ เดาเอาว่าคงจะเขินอยู่หรือไม่ก็คงแอบด่ามีคุณในใจ รู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่เลือกจะโทรหานับตังค์ มันทำให้ให้มีคุณอารมณ์ดีขึ้นได้อย่างที่คิดเอาไว้

“แค่นี้นะ มือไม่ว่าง จะล้างก้น” นับตังค์รีบกดวางสายก่อนจะเบ้ปากใส่โทรศัพท์ เมื่อได้ยินเสียงขมิ้นตะโกนบอกว่าติดเตาให้เรียบร้อยแล้วนับตังค์ถึงได้เดินออกจากห้องน้ำไป

กลิ่นหอมจากใบจากที่โดนไฟทำให้ขมิ้นต้องคอยกลับขนมไปมาเพราะกลัวว่าหากเผลอแล้วจะทำใบจากไหม้จนขนมเสียรส นับตังค์คอยแนะบอกว่าเวลาจะดูว่าขนมจากนี้ปิ้งมาใหม่หรือเก่าให้ดูจากตัวใบจาก ถ้าปิ้งมาใหม่ๆ ใบจากจะยังมีสีเขียวปนรอยไหม้ แต่หากปิ้งทิ้งเอาไว้นานหรือค้างคืนใบจากจะเป็นสีน้ำตาล ถ้าแบบนั้นเนื้อขนมอาจจะมียางยืดๆ ซึ่งจะไม่หอมไม่มันและไม่อร่อย ที่นับตังค์ให้ขมิ้นเป็นคนปิ้งขนมเพราะตัวเองจะเป็นคนคอยถ่ายคลิปและถ่ายรูปขนมให้ เมื่อการปิ้งขนมจากเสร็จสิ้นแล้วก็เป็นขั้นตอนของการชิม นับตังค์แกะขนมวางในจาน ถ่ายรูปเอาไว้ก่อนจะส่งให้ขมิ้นได้ชิม

“หรอยแรง ขอเอาไปฝากสาลี่ได้ไหม มันคงชอบ” ขมิ้นชมจากใจ รสมันละมุนในปากมาก กลิ่นไหม้อ่อนๆ ของใบจากและรสชาติละมุนของน้ำตาลมะพร้าว เนื้อสัมผัสของแป้งและมะพร้าวอ่อน ทุกอย่างมันเข้ากันดีมาก

“เอาไปเลย มีตั้งเยอะแยะ พี่เอาไปฝากเพื่อนพี่ด้วยก็ได้” นับตังค์ดีใจที่ขมิ้นชอบ

“ขอบใจอย่างแรงนิ เดี๋ยวพี่เก็บล้างเอง เสร็จแล้วพี่จะไปหาสาลี่มันหน่อย แล้วจะกลับมาทำข้าวเย็นให้”

“ไม่เป็นไรพี่ แกงเหลืองกับปลาทอดก็ยังเหลือ ตังกินได้ พี่ไปหาแฟนพี่แล้วกลับบ้านเลยก็ได้นะ ตังอยู่คนเดียวได้ หม้ายพรือ” นับตังค์แกล้งส่งสำเนียงใต้บ้าง

“เอางั้นก็ได้นิ” ขมิ้นรู้สึกดีกับนับตังค์มากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นว่านับตังค์อยู่ง่ายกินง่ายแล้วก็มีน้ำใจ

หลังจากที่ช่วยขมิ้นเก็บล้างข้าวของที่ใช้ทำขนมเรียบร้อยแล้วนับตังค์ก็มานั่งเล่นอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น นับตังค์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดแอพลิเคชั่นไลน์ เลือกชื่อของมีคุณก่อนจะกดส่งรูปและคลิปทำขนมจากไปให้ จากนั้นก็หยิบหนังสือทำขนมที่วางอยู่บนโต๊ะมาอ่านเล่น ไม่นานเสียงไลน์ก็ดังเตือนว่ามีข้อความเข้า นับตังค์จึงหยิบมันขึ้นมาดู เป็นข้อความมาจากมีคุณ นับตังค์อ่านแล้วก็กดข้อความโต้ตอบกลับไป

MEkhun : น่ากินจัง เดี๋ยวกลับไปแล้วทำให้กินด้วยนะ

ท่านเคาท์มันนี่ : ทำแค่รอบเดียว อยากไม่อยู่เอง อดกินไปเถอะ

MEkhun : งั้นเดี๋ยวกลับไปกินวันนี้เลยก็ได้

ท่านเคาท์มันนี่ : เพ้อเจ้อ รวยนักรึไง เพิ่งจะไปเมื่อเช้า แล้วบอสไปเอาของให้ตังรึยัง

MEkhun : กำลังจะไปเอาให้ อยากได้อะไรอีกไหม พี่จะซื้อกลับไปให้

ท่านเคาท์มันนี่ : ไม่เอา

นับตังค์เห็นมีคุณเงียบไปเลยจะวางโทรศัพท์ลง แต่ไม่ทันจะได้วางเสียงข้อความก็ดังขึ้นมาอีก

MEkhun : ขนมเอยขนมจาก เหมือนจำพรากจากกันไกล หวานรื่นแต่ขื่นใน คิดถึงน้องละอองนวล

คราวนี้เป็นฝ่ายนับตังค์ที่เงียบไป เจอมาเป็นกลอนแบบนี้เล่นเอานับตังค์ไปต่อไม่ถูก ไม่รู้ว่ามีคุณอารมณ์ไหน แล้วนึกยังไงถึงพิมพ์มาแบบนี้

MEkhun : พี่แต่กลอนเก่งไหม เดี๋ยวว่าจะเอาลงในคอลัมน์คู่กับภาพขนมที่ตังส่งมา

นับตังถอนหายใจ ที่แท้มีคุณก็จะเอากลอนไปประกอบภาพขนมนี่เอง เล่นเอานับตังค์อึ้งไปนึกว่ามีคุณแต่งกลอนจีบตัวเอง นึกเคืองทั้งรัญญรีและขมิ้นที่ทำให้นับตังค์พลอยมาคิดมากเรื่องของมีคุณ

ท่านเคาท์มันนี่ : จ่ายค่าลิขสิทธิ์มาเลย ยังไม่ได้ชิมจะเอาไปวิจารณ์ได้ไง จะมั่วอีกดิท่า

MEkhun : เขี้ยวเหลือเกินนะท่านเคาท์ ก็บอกว่าเดี๋ยวจะกลับไปชิมไง พี่ต้องไปพบคุณรันแล้ว

ท่านเคาท์มันนี่ : ก็ไปดิ ไม่ได้ดึงขาไว้สักหน่อย

MEkhun : ไม่กวนสักวันจะคันไหม

ท่านเคาท์มันนี่ : คันมากกกกก ไปได้แล้ว ชิ้วๆ

มีคุณหัวเราะก่อนจะวางโทรศัพท์ลง จากนั้นเขาก็เรียกเลขาฯ ของตัวเองมาเพื่อสั่งงานในช่วงระหว่างที่เขาไม่อยู่ ก่อนจะออกจากสำนักพิมพ์ไปหารัญญรีเพื่อเอาของใช้ของนับตังค์

(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 30-03-2017 17:46:37
(ต่อจากด้านบน)


ส่วนนับตังค์ เมื่อส่งข้อความโต้ตอบกับมีคุณจบแล้วรู้สึกว่าไม่มีอะไรทำเลยออกไปเดินเล่น เดินเรื่อยเปื่อยจนมาถึงรีสอร์ทรักษ์โลกของคุณขจี มันอยู่ไม่ไกลจากบ้านของคุณอนันต์สักเท่าไหร่ แต่มันก็ค่อนข้างลึกเข้ามาจากถนนใหญ่มากกว่าบ้านและร้านของคุณอนันต์

รีสอร์ทแห่งนี้อยู่ติดธารน้ำที่มีต้นน้ำมาจากน้ำตกพระครามที่นับตังค์ไปมาเมื่อวานนี้ สิ่งปลูกสร้างที่ให้นักท่องเที่ยวพักแต่ละหลังสร้างจากไม้ มีส่วนที่เป็นคอนกรีตน้อยมาก บริเวณโดยรอบยังอุดมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ เต็มด้วยความเขียวขจีเสมือนยังเป็นป่าไม้มากกว่าเป็นรีสอร์ท เพียงแต่ได้รับการตกแต่งจนเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูไม่รก สมกับชื่อของรีสอร์ท

‘ขจีไพร’

“ปี้จ๋า อุ้ม อุ้ม”

ขากางเกงของนับตังค์ถูกกระตุกเบาๆ พร้อมกับเสียงเล็กๆ ที่ดังมาจากเบื้องล่าง นับตังค์ก้มลงไปมองก็เห็นเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งดึงขากางเกงของเขาอยู่ เมื่อเด็กน้อยเห็นนับตังค์มองลงมาก็ชูมือชูไม้เพื่อให้อุ้ม

“ทำไมอยู่คนเดียว พ่อแม่ไปไหนหมด หื้ม” นับตังค์ก้มลงไปอุ้มน้อยขึ้นมาแล้วถาม เด็กน้อยไม่ได้ตอบแต่ยิ้มกว้างจนเห็นฟันน้ำนมซี่เล็กๆ ที่เรียงกันเป็นแถวเหมือนข้าวโพด

“ทำไมปล่อยให้เด็กมาอยู่ที่นี่คนเดียว” นับตังค์มองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นมีผู้ใหญ่สักคน

“ปี้จ๋า หนูจากินคาหนม มีคาหนมไหม” เด็กน้อยพูดจายังไม่ชัดถ้อยชัดคำดีนักคนฟังเลยเผลอทำให้คนฟังเผลอยิ้มตาม

“จะกินขนมเหรอ อยากกินอะไร” นับตังค์รู้สึกถูกชะตากับเด็กน้อยคนนี้ ปกติเขาไม่ใช่คนชอบเด็กเพราะเวลาที่เด็กเจอเขามักจะร้องไห้ด้วยซ้ำไป มันทำให้นับตังค์รู้สึกกังวลเวลาไปทำให้ลูกคนอื่นต้องร้องไห้ แต่ผิดกับเด็กน้อยคนนี้ที่เจอเขาครั้งแรกก็ร้องให้เขาอุ้มเลย

“หนูจากินยูกอม” เด็กน้อยเอานิ้วขึ้นมาดูด นับตังค์รีบดึงออกเพราะเห็นว่ามือเด็กเปื้อนดิน

“เด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง ดูไม่ออกเลย ขนตายาวเชียว กี่ขวบแล้วเนี่ย” นับตังค์เอียงคอพินิจใบหน้าของเด็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม

“ฉิบขวด” เด็กน้อยทำเป็นชูนิ้วก่อนตอบ ถึงจะเป็นพูดยังไม่ค่อยชัดแต่ท่าทางจะฉลาดไม่น้อยเพราะนับตังค์ถามอะไรก็ตอบได้

“มั่วแล้ว สิบขวบอะไร พูดยังไม่ชัดเลย ขอหยิกแก้มหน่อยนะ หมั่นเขี้ยว” นับตังค์หยิกแก้มเจ้าตัวเล็กเบาๆ

“เจ็บแต่ย้องไห้ไม่ได้ เดี๋ยวเยืองตี” เด็กน้อยทำท่าหยิกแก้มตัวเองเลียนแบบนับตังค์แล้วส่ายหน้า นับตังค์ไม่เข้าใจที่เด็กคนนี้พูด

“ใครจะตี ไม่มีใครตีหรอกนะ แต่ต้องไม่ดื้อรู้ไหม” นับตังค์ปัดผมหน้าม้าที่ตกลงมาทิ่มตาเด็กน้อยให้ ใบหน้ามอมแมมไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเห็นความน่ารักที่ฉายออกมา

“ไม่ดื้อ ดื้อไม่ได้ เดี๋ยวเยืองตี” เด็กน้อยรีบพยักหน้า

“โอ้ย ด้วง!! ทำไมซนแบบนี้นะ หาแทบตายเลย” เสียงตะโกนดังมาจากด้านหลังทำให้นับตังต้องหันไปตามต้นเสียง

“จัว ปี้จ๋า หนูจัว” เด็กน้อยรีบโผกอดนับตังค์แล้วซุกหน้ากับอกของนับตังค์

“มานี่เลย” หญิงสาวที่แต่งหน้าจนเข้มเดินมาดึงตัวเด็กน้อยที่กอดนับตังค์แน่น

“เดี๋ยวครับ เดี๋ยว” นับตังค์ร้องบอกเมื่อเสื้อของเขาถูกเด็กน้อยกำเอาไว้ เมื่อถูกหญิงสาวคนนั้นดึงตัวเด็ก เสื้อของนับตังค์ก็ยืดตามไปด้วย

“ขอโทษด้วยนะคะ เด็กคนนี้ฤทธิ์เยอะจริงๆ” หญิงสาวคนเดิมบ่นออกมา ท่าทางจะหัวเสียไม่น้อย

“ไม่ดึงเสื้อน้านะ คุณแม่มาตามแล้ว ไม่ดื้อนะ” นับตังค์พูดกับเด็กน้อยดีๆ

“โอ้ย ฉันไม่ใช่แม่หรอกค่ะ เป็นแค่พี่เลี้ยงชั่วคราว ตอนถูกจ้างก็ไม่คิดว่าเด็กจะเล็กขนาดนี้ ยังพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเลยแต่ซนเหลือเกิน เผลอแวบเดียวเดินออกมาถึงหน้ารีสอร์ท เฮ้อ มานี่เลย เดี๋ยวนายหญิงรู้เข้าอีเรืองคนนี้ตายแน่” หญิงสาวทีชื่อเรืองดึงเด็กน้อยออกจากตัวนับตังค์อย่างแรงจนเด็กร้องไห้จ้าด้วยความตกใจ

นับตังค์ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร หญิงสาวคนนั้นก็เดินอุ้มเด็กน้อยที่ชื่อด้วงกลับเข้าไปด้านในของรีสอร์ทอย่างรวดเร็ว นับตังค์ได้แต่นึกสงสารเด็กน้อยคนนั้น พลางนึกติคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ไม่รู้จักเลี้ยงลูกเอง ไว้ใจคนอื่นให้เลี้ยงได้ยังไง ดูแล้วว่าพี่เลี้ยงคนนี้ไม่ได้รักหรือเอ็นดูเด็กน้อยเลย ออกจะกลัวด้วยซ้ำไป คิดแล้วก็หงุดหงิด จากที่คิดว่าจะเข้ามาสำรวจรีสอร์ทของคุณขจี ตอนนี้เลยเปลี่ยนใจเดินกลับบ้านด้วยความเซ็ง

นับตังค์ยอมรับว่าเมื่อได้อยู่คนเดียวในบ้านที่ไม่คุ้นเคยก็รู้สึกเคว้งคว้างอยู่เหมือนกัน เตียงนอนที่กันท่าไม่ยอมให้มีคุณนอนเบียด แต่ตอนนี้มันดูกว้างจนนับตังค์ต้องไปขนหมอนจากในตู้มากองจนเต็มเตียง เมื่อไม่มีอะไรให้ทำนับตังค์อีกจึงอาบน้ำแล้วมานอนเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือจนผล็อยหลับไป ขณะที่กำลังหลับสบาย จู่ๆ นับตังค์ก็ได้ยินเสียงคนปิดประตูห้อง เมื่อลุกขึ้นมาชะโงกดู พยายามใช้สายตาฝ่าความมืดอยู่นาน แต่ไม่ปรากฏว่ามีใครอยู่ในห้องนอน แต่คราวนี้ได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากนอกห้องแทน นับตังค์ยังไม่กล้าเปิดไฟเพราะกลัวว่าหากเป็นโจรมันจะจับได้ว่านับตังค์ตื่นแล้ว

นับตังค์รีบลุกขึ้นแล้วควานหาของใกล้มือมาถือไว้เพื่อมีโจรเข้ามา จากนั้นก็ค่อยๆ ย่องไปที่ประตูห้อง เอาหูแนบฟังเสียง เสียงกุกกักหายไปแล้ว แต่นับตังค์ยังไม่นิ่งนอนใจ ค่อยๆ เปิดแง้มประตูแล้วชะโงกหน้าออกไปส่องดู แต่ก็ไม่มีใครอีก นับตังค์ตัดสินใจเดินลงไปข้างล่าง พยายามเบาฝีเท้าให้มากที่สุด จนกระทั่งเดินมาถึงชั้นล่างจึงได้เห็นว่าไฟในห้องครัวเปิดอยู่

“หรือจะเป็นพี่ขมิ้น” นับตังค์พึมพำกับตัวเอง

นับตังค์ยืนพิงกำแพงหน้าห้องครัวด้วยใจที่เต้นตึกตัก เกิดมาไม่เคยต้องมาจับโจรแบบนี้เลย แต่ลูกผู้ชายอย่างนับตังค์จะมากลัวแล้วมุดหัวก็คงเสียชาติเกิด เมื่อนับหนึ่งถึงสามในใจก็ตัดสินใจกระโจนออกไป เมื่อเห็นแผ่นหลังของใครบางคนก็พุ่งตัวเข้าไปหาแล้วยื่นอาวุธที่ถือติดมาชี้ไปที่โจรยามวิกาล

“หยุดนะ อยากตายรึไง” นับตังค์ตะโกนกร้าวออกไปด้วยเสียงอันดัง

“คือผม...ยังไม่อยากตาย...ด้วยแปรงสีฟันหรอกครับ” มีคุณรีบวางจานขนมจากในมือลงแล้วยกมือขึ้น ก่อนจะกลั้นขำอย่างแรงแล้วพูดกับโปลิศจำเป็นด้วยท่าทางที่ดูก็รู้ว่าแกล้งกลัวไปอย่างนั้นเอง

“อ้าว บอส กลับมาได้ยังไง แล้วมาทำตัวเป็นโจร ตกใจหมด” นับตังค์มองแปรงในมือของตัวเองแล้วรู้สึกเสียหน้า มัวแต่กลัวไม่ทันได้ดู นึกว่าเป็นปากกาหรือมีดพับที่วางเอาไว้ที่หัวเตียง

“ก็บอกแล้วไงว่าจะกลับมากินขนม ทำไมนอนเร็วจัง เพิ่งจะสี่ทุ่มเอง” มีคุณรู้แล้วว่านับตังค์รู้สึกอายที่เอาแปรงสีฟันมาทำอาวุธจึงรีบเปลี่ยนเรื่องให้

“ก็ไม่มีอะไรทำ แล้วสนุกมากใช่ไหม ไปกลับในวันเดียวเนี่ย หรือคิดจะจีบแอร์โฮสเตส” นับตังค์แก้ขายหน้าด้วยการเริ่มยียวน

“ก็เสร็จธุระแล้วก็กลับ กลัวว่าจะมีคนอยู่คนเดียวไม่ได้” มีคุณยักคิ้วก่อนจะหันกลับมากินขนมจากที่เพิ่งแกะใส่จานเสร็จ

“อยู่คนเดียวสบายจะตาย พี่บ่าวพาออกไปเที่ยวทั้งวัน”

“พี่บ่าว? ใคร” มีคุณขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“ไม่บอก อยากรู้ก็สืบเอาเอง แล้ว...ขนมอร่อยไหม” นับตังค์ยักไหล่เล่นตัวก่อนจะถามเมื่อเห็นว่ามีคุณชิมขนมแล้ว

“ไม่บอก อยากรู้ก็รออ่านในคอลัมน์เอา”

“ทำไมต้องรออ่าน ไม่เคยติดตาม ไม่เห็นว่าจะน่าติดตามอะไร” นับตังค์ยังคงกวนประสาทมีคุณอย่างต่อเนื่อง

“เชยนะ ไม่เคยได้ยินชื่อคอลัมน์...ของดีมีคุณ...เลยเหรอ ว่าแต่ขนมนี่มันน่าจะชื่อว่าขนม...คิดถึง เนอะ”

“ยอมเชย แล้วขนมนี่มันห่อด้วยจากใบจากก็ต้องชื่อขนมจาก รู้เรื่องมั่งเปล่าบอส เกี่ยวตรงไหนกับคิดถึง ฮู้” นับตังค์ส่งเสียงเหมือนว่ารำคาญความคิดเห็นมั่วๆ ของมีคุณ แต่มีคุณกลับยิ้มให้

“เกี่ยวสิ มันทำให้คนกินรู้สึกคิดถึงคนทำไง”

“.........”

“.........”

“.........”

“พี่หมายถึง ขนมจากมันเป็นเหมือนของฝาก คนที่ได้กินก็จะนึกถึงคนซื้อมาฝากไง มันเลยไม่น่าชื่อว่าขนมจาก ดูเหินห่าง” มีคุณเห็นนับตังค์ยืนนิ่งอึ้งไปก็รีบอธิบาย

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนทำ” นับตังค์เถียงเพราะรู้สึกว่ามีคุณแถเก่งสุดๆ เมื่อกี้ยังพูดว่า คนกินคิดถึงคนทำอยู่เลย

“นั่นสิเนอะ ไม่เกี่ยว หรือเกี่ยวดี ยังไงดี” มีคุณหันมายิ้มให้นับตังค์อีก รู้สึกสนุกที่แกล้งให้นับตังค์เขินได้เรื่อยๆ

“ก็เพราะมันเป็นของฝาก แปลว่า คนซื้อให้อยู่ไกลคนรับไง มันก็เลยต้องชื่อขนมจากไหม หรือจะเถียงอีก” นับตังค์เถียงต่อ

“โอเค ยอมแพ้” มีคุณยอมแพ้ง่ายๆ จนนับตังค์แอบหรี่ตามอง

“เอาของมาให้ตังรึเปล่า” นังตังค์ถาม

“ลืม”

“อะไรอะ ไหนตอนคุยกันก็บอกว่ากำลังไปเอาให้ไง” นับตังค์โวยวาย

“ไม่ได้ลืมของ” มีคุณเดินไปรินน้ำจากตู้เย็นมากิน

“บอส กวนละ จะเล่นใช่ไหม” นับตังค์ทำเป็นชูกำปั้นใส่

“ไม่เล่นแล้ว กลัวแล้วครับเชฟ”

“แล้วสรุป ลืมอะไร”

“ลืมบอกว่า” มีคุณเดินมาใกล้นับตังค์แล้วจ้องหน้านิ่ง คนโดนจ้องถอยหลังไปเล็กน้อย

“ว่าอะไร”

“ที่ตังแกล้งกรนจนพี่นอนไม่ได้ มันไม่ได้ผลในคืนนี้แล้วนะ” มีคุณพูดจบก็ยิ้มอีก ยิ้มและจ้องตาจนนับตังค์ทำหน้าไม่ถูก

“ของของตังอยู่ไหน” นับตังค์รีบเดินหนีออกมาจากระยะประชิดที่ทำให้รู้สึกว่าระบบในร่างกายกำลังจะรวนก่อนจะตะโกนถาม

“อยู่ที่ห้องแล้ว อย่าลืมเปลี่ยนแปรงสีฟันด้วยล่ะ ขนมันบานแล้ว” มีคุณตะโกนบอกมาจากในครัว

“เออน่า!!” นับตังค์รู้สึกขายหน้ารอบสองจึงตะโกนออกไปแล้วรีบวิ่งกลับขึ้นห้องนอนด้วยความแค้นใจที่ยกนี้ต้องเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำให้กับบอสจนได้

นับตังค์กลับขึ้นห้องนอนไปแล้ว แต่มีคุณนั่งทำงานและเขียนคอลัมน์อยู่ข้างล่างจนดึก กลับขึ้นมาที่ห้องนอนก็เห็นว่านับตังค์เอาหมอนมากองสุมไว้จนเต็มเตียง แถมยังจัดที่นอนให้เขาที่โซฟาเสียเรียบร้อย ส่วนคนหวงที่นอนหลับไปแล้ว มีคุณได้แต่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำ เมื่อจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็เดินมาที่เตียงแล้วขนเอาหมอนบนเตียงไปวางกองไว้ที่โซฟาอย่างเบามือ เมื่อเคลียร์พื้นที่ให้ตัวเองได้แล้วถึงได้ล้มตัวลงนอนบ้าง

วันนี้ไม่มีเสียงแกล้งกรนของคนที่หลับสนิทอยู่ ที่เขารู้ว่านับตังค์แกล้งเพราะตอนที่เขาตื่นนอนเมื่อเช้านี้ เขามานั่งจ้องดูนับตังค์หลับอยู่นาน แต่ไม่เห็นมีวี่แววว่าจะกรนเลยสักนิด แถมยังนอนขดตัวในผ้านวมไม่กระดุกกระดิก มีคุณเลยรู้ว่าที่ดิ้นก่ายไปมาทั่วเตียงและกรนจนหวูดรถไฟยังต้องกราบขนาดนั้นเป็นแค่การแผลงฤทธิ์ของเชฟตัวแสบแค่นั้นเอง นึกแล้วก็ทำให้มีคุณอดยิ้มออกมาไม่ได้ ก่อนจะนึกในใจว่า

‘การได้มาอยู่ที่เกาะที่ห่างไกลจากบ้านแบบนี้ก็ไม่ได้มีอะไรน่าเบื่ออย่างที่คิด แค่หนึ่งปีกับคนที่ทำให้เขาหายเหงาได้แบบนี้ก็ไม่เลวเลย’

…..

คอลัมน์ ของดีมีคุณ ประจำวันนี้

‘ขนมเอยขนมจาก เหมือนจำพรากจากกันไกล หวานรื่นแต่ขื่นใน คิดถึงน้องละอองนวล’

สมัยเมื่อผมยังเด็ก ผมเคยได้รับของฝากจากคนรู้จักท่านหนึ่ง ซึ่งของฝากนั้นเป็น ’ขนมจาก’ หนึ่งมัดใหญ่ ในวันนั้น เมื่อผมได้ชิม ผมคิดแต่ว่ามันก็รสชาติหวานๆ มันๆ แต่มันคงไม่ใช่ขนมที่ผมชอบสักเท่าไหร่ เพราะมันไม่ค่อยถูกปากผมเลย แม่ผมเคยบอกว่าขนมชนิดนี้ทำง่าย ใครๆ ก็ทำได้ ผมก็ได้แต่คิดตามแล้วก็ลืมมันไป แต่มาในวันนี้ผมได้ชิมขนมจากอีกครั้ง โดยฝีมือของคนที่รักในการทำขนมเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งรสชาติมันแตกต่างจากขนมจากมัดนั้นที่ผมได้ทาน ผมก็เพิ่งได้เห็นวิธีการทำขนมจากอย่างจริงจังในวันนี้

ผมจึงได้รู้ว่า...ขนมที่ว่าทำง่ายและอร่อยนั้น มันไม่มีจริง

ทุกขั้นตอนที่ผมได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนวัตถุดิบที่ต้องพอเหมาะรสชาติถึงจะลงตัว ความหวานที่ได้จากน้ำตาลมะพร้าว ความเข้มมันจากกะทิ เนื้อมะพร้าวที่ผสมกับตัวแป้งนั้นก็ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป ให้สัมผัสที่นุ่มละมุนรสชุ่มฉ่ำเวลาทาน ไม่เป็นกากแข็งและแห้งเหมือนกับขนมจากที่ผมเคยกินในวัยเยาว์ เพราะฉะนั้นการเลือกวัตถุดิบจึงสำคัญมาก ไหนจะต้องใส่ใจตอนที่นำขนมไปปิ้งกับไฟ เพราะใบจากนั้นติดไฟง่าย คนปิ้งจึงต้องคอยดูไฟให้พอดี ถ้าไฟแรงและไหม้จนกลบกลิ่นและรสของขนมหรือทำให้ขนมแห้งเกินไปก็เป็นอันจบ ผมเห็นแล้วครับว่าขั้นตอนการทำมันดูง่าย แต่ทำให้อร่อยมันยาก

‘ขนมจาก’ ที่ผมได้ชิมในวันนี้คงจะกลายเป็นอีกหนึ่งขนมโปรดของผมเสียแล้ว

ผู้ที่คิดค้นขนมจากเป็นคนแรก คงตั้งชื่อมันตามวัสดุที่ใช้ห่อ ซึ่งก็คือใบจาก แต่ผมอยากตั้งชื่อมันว่า ‘ขนมคิดถึง’ เพราะผมว่า...หลังจากที่ผมได้ทานมัน มันจะทำให้ผมได้รับรู้ถึงคำว่า ‘คิดถึง’

‘ขนมเอยขนมจาก รสถูกปากฝากให้หวน ชวนคิดถึงน้องนวล ปรุงรสล้ำให้คำนึง’

                                                                                                           
  มีคุณ นฤวิทย์


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


(https://www.uppic.org/image-E29B_58E62C98.jpg)

เครดิตรูปจาก Goolgle

ขอบคุณมากเลยนะคะสำหรับกำลังใจ เอาจริงๆไม่ได้อยากออกมาเรียกร้องคอมเมนท์นะคะ
แต่เห็นว่าลงมาสี่ตอนแล้วมันเงียบเลยแอบกังวลและจิตตกนิดหน่อยค่ะ กลัวว่ามันไม่สนุก
แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าบางท่านอาจจะไม่ทันเห็นหรือบางทียุ่งๆ ยังไม่ได้อ่าน
ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่เข้ามาทักทายให้ได้รู้ว่ายังมีกัน นึกว่าจะโดนเท ฮ่าๆๆๆ
ขอให้มีความสุขและอิ่มเอมไปกับคุณบอสและคุณเชฟนะคะ


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Jitsupa_milk ที่ 30-03-2017 18:18:35
ชอบการเขียนคอลัมของมีคุณมากเลย
ทำให้หิวอีกแล้ว555
ขอบคุณนะคะะ :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 30-03-2017 18:27:37
 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 30-03-2017 20:45:39
แทบจะเรียกได้ว่าจีบกันผ่านคอลัมน์เลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 30-03-2017 21:15:17
 :katai5:

อ่านชื่อทีไร หิวทุกที
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 30-03-2017 22:35:24
ชอบๆๆๆ o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 31-03-2017 00:09:22
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 31-03-2017 08:19:58
ชอบๆ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 31-03-2017 11:51:20
 :3123: :3123: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: หนอนกอ ที่ 31-03-2017 12:35:35
อยากให้มีรูปอาหารประกอบแต่ละตอนจังค่ะ คงเสริมความหิวได้เป็นอย่างดี  :hao6:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 31-03-2017 13:17:13
เขาเริ่ม :heavenมีอิ๊อ๊ะมุ้งมิ้งกันละ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 31-03-2017 15:33:44
เวลา 1 ปีอะไรๆ คงก้าวหน้า เพิ่มพูนไปเรื่อยๆ
ชอบบรรยากาศอะ อ่านแล้วอบอุ่นดี ถึงจะเริ่มไม่ชอบคีตะก็เถอะ
รออาหาร/ขนม จานต่อไปคะ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 31-03-2017 19:09:19
อ่านแล้วหิว อยากกินขนม
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 31-03-2017 20:59:14
เราหิววววว อ่านแล้วชอบ อยากทำตาม แต่ทำกับข้าวไม่เป็น ต้องรอสามีเท่านั้น อ่านพึ่งทิ้งกันไปนะ ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 31-03-2017 21:52:06
อ่านละอยากไปทำตามแต่ฝีมือคงไม่เทียบนับตังค์ เอาเป็นว่าจะรอกิน เอ้ย!ผิดๆ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-04-2017 21:32:59
 o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 02-04-2017 12:00:47
อ่านแล้วหิ้วทุกตอนเลย 555
แอยเดาว่าคุณขจีเจ้าของรีสอร์ทนั่น เป็นเมียพี่ชายของตังที่โดนไล่ออกจากบ้าน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 02-04-2017 16:13:05
จีบหมุ่นผ่านคอลัมน์หรอบอสสสสส
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 03-04-2017 19:12:00
ตอนที่ 6 ลูกชุบ


วันนี้มีคุณได้รับโทรศัพท์จากเคารพแต่เช้าว่ามีเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่จะต้องแจ้งให้ทราบและจะมาพบมีคุณด้วยตัวเองในช่วงสายๆ เคารพโทรมาแต่เช้าก็จริงแต่ก็ยังสายกว่านับตังค์ เพราะเมื่อเข้าลืมตาขึ้นมาก็ไม่เห็นนับตังค์อยู่ในห้องแล้ว มีคุณลุกขึ้นอาบน้ำเพื่อรอการมาของเคารพ เขาไม่รู้ว่าเรื่องสำคัญที่ว่ามันสำคัญขนาดไหน ในสัญญาเงื่อนไขการรับมรดกของคุณปู่ก็เซ็นกันเรียบร้อยแล้ว ไม่สามารถจะเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้ คิดว่าคงไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้มีคุณต้องกังวลใจอีก

เมื่อมีคุณลงมาถึงห้องครัวก็เห็นนับตังค์กับขมิ้นกำลังขะมักเขม้นทำอะไรบางอย่างจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ทั้งคู่กำลังปั้นอะไรสักอย่างให้เป็นรูปผลไม้บ้าง ผักบ้าง มีคุณหยิบขนมที่ขมิ้นปั้นขึ้นมาดูแล้วก็หัวเราะจนขมิ้นรู้สึกอาย

“ปั้นไม่เป็นก็ยังจะบังคับ ก็ออกมาเป็นพันนี้นิ” ขมิ้นฟ้องมีคุณที่โดนนับตังค์บังคับให้ช่วยทำ

“ทำเป็นหัวเราะคนอื่น มาลองปั้นบ้างดิบอส” นับตังค์ท้ามีคุณ

“ลูกชุบเหรอ นี่ไม่ใช่ถั่วเหลืองใช่ไหม” มีคุณถาม

“ไม่ใช่ ตังใช้อัลมอนด์ทำ แล้วลูกชุบไทยส่วนใหญ่เขาใช้ถั่วเขียวเลาะเปลือกนะ ไม่ใช่ถั่วเหลือง คิดจะเป็นนักวิจารณ์ต้องหัดเรียนรู้ด้วยนะ” นับตังค์เริ่มเปิดศึกปะทะฝีปากแต่เช้า

“เอ้า มันไม่เหมือนกันรึ พี่ก็คิดว่าเรียกว่าถั่วเหลืองนิ” ขมิ้นขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“เห็นไหม พี่กับขมิ้นไม่มีใครมาสอนแบบตังนี่ จะได้รู้ไปหมด” มีคุณดีใจที่ได้ขมิ้นเป็นพวก

“ถั่วเขียวเวลาเลาะเปลือกออกมันจะมีสีเหลือง คนเลยชอบเข้าใจผิดเรียกมันว่าถั่วเหลือง แต่ย่าของตังเรียกว่าถั่วทอง ถั่วทองเนี่ยใช้ทำขนมหลายอย่าง ส่วนถั่วเหลือง ตัวเม็ดมันจะใหญ่กว่าถั่วเขียว ที่เอาไว้ทำน้ำเต้าหู้ไง” นับตังค์อธิบาย ทั้งมีคุณและขมิ้นจึงพยักหน้ารับรู้โดยพร้อมเพรียงกัน

“แล้วทำไมใช้อัลมอนด์ทำล่ะ” มีคุณหยิบขนมที่นับตังค์ปั้นเป็นรูปพริกขึ้นมาดม ได้กลิ่นหอมจึงอดไม่ได้ที่จะเอาใส่ปากชิม

“แต่เดิมขนมลูกชุบเป็นขนมที่มีต้นกำเนิดจากโปรตุเกส เขาใช้อัลมอนด์ แต่พอขนมมาถึงไทย อัลมอนด์มันหายาก บรรพบุรุษเราเลยใช้พืชผลที่เรามีมาดัดแปลงแทน แต่เราทำรูปลักษณ์ออกมาสวยกว่าเพราะคนไทยเรื่องงานฝีมือไม่แพ้ใคร มันก็เลยกลายเป็นขนมไทยที่มีสีสันสวยงามและเป็นที่รู้จัก เด็กก็ชอบ” นับตังค์เล่าไปก็หยิบขนมมาลงสี

“อยากทำหนังสือรวมภาพอาหารและขนมเป็นของตัวเองไหมตัง” มีคุณถาม เพราะเห็นว่าเวลาที่นับตังค์ทำอาหารหรือทำขนม รวมไปถึงเวลาพูดถึงอาหาร นับตังค์ดูมีความสุขและบ่งบอกว่ารักในการทำอาหารจริงๆ

“ก็อยากนะ” นับตังค์ได้ยินแล้วก็คิดตาม

“ใช้ได้แล้ว จุ่มเลยเหรอ” ขมิ้นยกหม้อวุ้นที่ตั้งไฟจนละลายดีแล้วมาตั้งบนโต๊ะ

“บอส ปั้นมังคุดต่อที พี่บ่าวมาลงสีขนมแทนตังหน่อย เดี๋ยวตังจะจุ่มวุ้นเอง”

“อ๋อ ขมิ้นนี่เองพี่บ่าว” มีคุณมองขมิ้นแล้วยิ้ม เพราะนับตังค์พูดถึงพี่บ่าวก็นึกว่าเป็นคนอื่น ที่แท้ก็คือขมิ้นนี่เอง แต่ขมิ้นงงว่าทำไมมีคุณถึงยิ้มให้แล้วพูดถึงอะไรกัน

“ต้องจุ่มสองรอบ” นับตังค์ไม่ได้สนใจว่ามีคุณกำลังทำหน้ายังไง มัวแต่ใจจดใจจ่อกับขนมที่ตั้งใจทำให้ไปให้เด็กน้อยคนเมื่อวานได้กิน

“นายหัว นั่นมันมั่งขุดหรือนาวโอ” ขมิ้นชี้ไปยังขนมในมือของมีคุณ นับตังค์ละสายตาออกจากหม้อวุ้นก่อนจะมองตามมือของขมิ้นไป

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะของนับตังค์ดังลั่นครัว จะไม่ให้ขำได้ยังไง บอกให้มีคุณปั้นมังคุด ดันปั้นลูกโตจนขมิ้นยังร้องทักว่าเป็นส้มโอ

“ไหนว่าคนเราไม่ควรหัวเราะเยาะคนอื่นไง” มีคุณรู้สึกขายหน้าที่โดนหัวเราะเยาะ นึกบ่นในใจว่าก็คนมันปั้นไม่เป็นยังจะมาใช้อีก

“โทษทีๆ ไม่ขำแล้ว” นับตังค์พยายามกลั้นหัวเราะ ซึ่งมีคุณดูออกว่าเสแสร้งสุดๆ แต่มีคุณไม่ได้โกรธจริงจังเพราะรู้ว่านิสัยของนับตังค์เป็นคนกวนๆ ไปอย่างนั้นเอง

“โธ่ พี่ไม่แคร์หรอก อยากขำก็ขำไปเหอะ” มีคุณทำหน้าเมินใส่แล้วพยายามปั้นขนมในมือให้เป็นมังคุดให้ได้

“หัวเราะอะไรกันอยู่เหรอครับ” เสียงดังมาจากทางเข้าห้องครัว ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องจึงหันไปมองพร้อมกัน

“อ้าว คุณเคารพมาแล้วเหรอครับ” มีคุณวางขนมลงแล้วยกมือไหว้เคารพ นับตังค์กับขมิ้นจึงยกมือไหว้ตาม

“ผมมาไวกว่าเวลานัดเพราะว่าเสร็จธุระกับคุณแล้วผมต้องกลับกรุงเทพเลย” เคารพชี้แจง

“ถ้าอย่างนั้นเชิญไปนั่งที่ห้องรับแขกดีกว่าครับ อ่า..ผมลืมแนะนำ นี่เชฟคนใหม่ของผม...นับตังค์ นับตังค์...นี่ทนายของคุณปู่ของพี่ ชื่อคุณเคารพ”

“สวัสดีครับคุณนับตังค์ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” เคารพยิ้มให้นับตังค์ นับตังค์ก้มหัวให้อย่างนอบน้อมแทนคำทักทาย

“ยินดีเช่นกันครับคุณเคารพ”

“สบายดีนะขมิ้น” เคารพทักขมิ้นบ้าง

“สบายดีครับ” ขมิ้นรู้ว่าเคารพมาที่นี่ทำไม เริ่มรู้สึกกังวลใจแล้วว่ามีคุณจะยอมรับคำขอสุดท้ายของคุณอนันต์รึเปล่า

“เชิญที่ห้องรับแขกเลยครับ” มีคุณเชิญเคารพออกไปก่อนที่เคารพจะเผลอพูดเรื่องเงื่อนไขของพินัยกรรมให้นับตังค์ได้ยิน

เมื่อเคารพเดินตามมีคุณออกมาถึงห้องรับแขกแล้วก็นั่งลงที่โซฟาตามคำเชิญของมีคุณ ไม่นานขมิ้นก็นำลูกชุบและน้ำชามาเสิร์ฟให้คนทั้งคู่ ขมิ้นแอบสบตากับเคารพด้วยสีหน้าหนักใจก่อนจะเดินกลับเข้าไปในครัว เคารพเห็นขนมสีสดใสน่าตาน่ารับประทานก็หยิบขึ้นมาชิม ก่อนจะทำตาโตแล้วแสดงออกว่าพึงพอใจในรสชาติของขนมมาก

“อร่อยมาก คุณอนันต์ตาถึงจริงๆ ที่ให้จ้างคุณนับตังค์ รสดีมากเลย ไม่หวานมาก ตัวถั่วมันและหอมมาก ดูไม่น่าจะใช่ถั่วเหลืองนะ ตัววุ้นก็บางกำลังดี กัดแล้วหนุบหนับเล็กน้อย อร่อยมาก อร่อยมากจริงๆ” เคารพชมไม่หยุดปาก

“นับตังค์เขาใช้ถั่วอัลมอนด์แทนถั่วเขียวเลาะเปลือกครับ” มีคุณอธิบายให้เคารพฟังหลังจากที่ได้รับความรู้มาจากนับตังค์แล้ว

“ถึงว่า ทั้งหอมทั้งมัน เนื้อสัมผัสก็เนียนดีเหลือเกิน” เคารพมองขนมในมือแล้วพยักหน้าชื่นชม

”คุณเคารพพอจะทราบไหมว่าคุณปู่ผมรู้จักกับนับตังค์ได้ยังไง” มีคุณถามสิ่งที่คั่งค้างใจมานาน

“ผมไม่ทราบหรอกครับ” เคารพตอบโดยไม่มีพิรุธ มีคุณจึงหมดคำถาม ขนาดทนายประจำตัวของคุณปู่ยังไม่รู้ แล้วเขาจะรู้ได้ยังไง

“แล้ววันนี้มีเรื่องสำคัญอะไรเหรอครับถึงต้องมาด้วยตัวเอง” เมื่อไม่ได้คำตอบเรื่องของนับตังค์ มีคุณเลยถามเข้าประเด็น

“ผมมาเพราะยังมีคำขอร้องสุดท้ายจากคุณปู่ของคุณ ท่านไม่ได้เขียนไว้ในเงื่อนไข แต่ท่านขอร้องผ่านผมด้วยตัวท่านเอง ผมจึงต้องมาทำหน้าที่ของผมให้สมบูรณ์”

“เรื่องอะไรเหรอครับ” มีคุณเริ่มรู้สึกว่าคำขอร้องสุดท้ายของคุณปู่นี้อาจจะน่ากังวลกว่าเงื่อนไขที่ได้รับในตอนแรกเสียแล้ว

“รอสักครู่นะครับ” เคารพบอกกับมีคุณเสร็จก็ลุกเดินออกไปข้างนอก หายไปพักหนึ่งก็กลับเข้ามาพร้อมกับอุ้มเด็กน้อยคนหนึ่งมาด้วย

“อย่าบอกนะครับว่าคุณปู่มีลูก...” มีคุณร้องถามออกไปด้วยความตกใจ

“ไม่ใช่หรอกครับ แต่จะว่าไป ก็เหมือนใช่ครับ” เคารพยิ้มเจื่อนๆ

“ผมซีเรียสนะคุณเคารพ” มีคุณถอนหายใจ

“ปี้จ๋า จะจินยูกอม” เด็กน้อยชี้ไปที่ลูกชุบ

“ค่อยๆ กินนะ เดี๋ยวติดคอ” เคารพหยิบลูกชุบให้เด็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามามองมีคุณที่นั่งหน้าเครียดอยู่

“สรุปคุณปู่อยากขอร้องอะไรผมครับ”

“ท่านรับหนูด้วงเป็นลูกบุญธรรมก่อนที่ท่านจะเริ่มป่วย หลังจากท่านเสียผมก็เอาหนูด้วงไปฝากไว้กับคุณขจี เจ้าของรีสอร์ทที่เป็นเพื่อนสนิทของท่าน ท่านขอให้ผมบอกกับคุณว่าได้โปรดรับเด็กคนนี้เป็นลูกบุญธรรมแทนท่าน ได้โปรดให้ชีวิตน้อยๆ นี้ได้มีโอกาสเรียนและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ท่านไม่ได้บังคับแต่ท่านขอร้อง” เคารพพูดกับมีคุณ แต่สายตาก็มองหนูน้อยที่นั่งอยู่บนตักด้วยความเวทนา

“แล้วถ้าผมทำตามคำขอร้องของท่านไม่ได้ เด็กคนนี้จะอยู่ในความดูแลของใครเหรอครับ” มีคุณหวังในใจว่าคุณขจีอาจจะรับเลี้ยงเด็กคนนี้ต่อให้ หากเป็นอย่างนั้นจริงมีคุณคงจะสบายใจ มีคุณยินดีเป็นคนออกค่าส่งเสียเลี้ยงดูเด็กคนนี้จนโต แต่หากให้เขารับไปเลี้ยงเองคงจะลำบาก เขาไม่เคยมีลูก ไม่เคยเลี้ยงเด็ก ไหนจะต้องบริหารร้านอาหารของคุณปู่ให้ครบตามเงื่อนไข ตัวเขาเองก็เดินทางบ่อยๆ คงไม่สะดวกนักกับการต้องดูแลชีวิตหนึ่งอย่างถาวร โดยเฉพาะชีวิตเด็กน้อยที่ยังช่วยตัวเองไม่ได้เลย

“ผมต้องนำหนูด้วงไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าครับ” เคารพถอนหายใจอย่างแรงเมื่อเห็นท่าทีของมีคุณ เดาว่ามีคุณคงไม่พร้อมจะรับคำขอร้องของคุณอนันต์แน่ๆ

“เด็กคนนี้เป็นลูกใคร แล้วทำไมคุณปู่ถึงตัดสินใจรับมาเลี้ยงทั้งๆ ที่ท่านก็อายุมากแล้ว” มีคุณนึกสงสัย

“คุณจะได้ทราบรายละเอียดทั้งหมดในวันที่คุณทำตามเงื่อนไขในสัญญาครบตามกำหนดครับ” เคารพเองก็หนักใจที่พูดอะไรมากไม่ได้

“เฮ้อ ทำไมต้องทำให้ลึกลับยุ่งยากแบบนี้ด้วยนะ ผมก็สงสารเด็กคนนี้นะครับ แต่ลำพังผมเองก็ยังดูแลตัวเองได้ไม่ดีเลย ผมกลัวว่าจะไม่สามารถทำตามคำขอร้องของคุณปู่ได้ เราพอจะมีทางออกอื่นไหมครับ” มีคุณปรึกษาทนายความประจำตัวของคุณปู่

“ปี้จ๋า เย่นได้ไหม” ด้วงบิดไถตัวลงจากตักของเคารพก่อนจะเดินไปหยิบรถของเล่นเล็กๆ ที่ตั้งโชว์อยู่ที่โต๊ะกลาง แล้วเดินไปหามีคุณ ด้วงชูรถของเล่นส่งให้มีคุณแล้วมองตาปริบๆ

“อ้าว ด้วง มาได้ยังไง” นับตังค์หิ้วถุงขนมออกมาจากในครัว ตั้งใจจะเอาไปให้เด็กน้อยที่ได้เจอที่รีสอร์ทของคุณขจีเมื่อวานนี้ซึ่งก็คือด้วง แต่เมื่อออกมาก็มาเจอด้วงยืนอยู่ตรงหน้าของมีคุณเสียก่อน

“ปี้จ๋า ปี้จ๋าอุ้มหน่อย” ด้วงวิ่งดุ๊กๆ ไปหานับตังค์แล้วอ้อนให้อุ้ม นับตังค์อุ้มด้วงขึ้นมาก่อนจะหยิกแก้มเด็กน้อยเบาๆ

“รู้จักด้วยเหรอ” มีคุณถามด้วยความประหลาดใจ

“เมื่อวานไปเดินเล่นที่รีสอร์ทของคุณขจีแล้วไปเจอพอดี ลูกคุณเคารพเหรอครับ” นับตังค์ตอบมีคุณก่อนจะหันมาถามเคารพ

“ไม่ใช่ครับ แต่เป็นลูกบุญธรรมของคุณอนันต์” เคารพเห็นนับตังค์เอ็นดูหนูด้วงแล้วรู้สึกว่าความหวังที่ริบหรี่กำลังสว่างขึ้นในทันใด

“ลูกบุญธรรมนายปู่เหรอครับ” นับตังค์มองหน้าด้วงก่อนจะทำหน้าประหลาดใจไม่ต่างจากมีคุณตอนที่รับรู้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน

“ใช่ครับ คุณอนันต์ขอร้องก่อนเสียชีวิตว่าให้คุณมีคุณช่วยดูแลหนูด้วงต่อจากท่าน” เคารพรีบบอก มีคุณแอบลุ้นว่าเคารพจะหลุดพูดเรื่องพินัยกรรมรึเปล่า พอเห็นว่าไม่ได้พูดก็โล่งใจ ถึงตอนนี้นับตังค์จะเซ็นสัญญาแล้ว แต่มีคุณกลัวว่านับตังค์จะโกรธที่ไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด

“แล้ว...” นับตังค์หันไปมองมีคุณ หน้าตาแสดงออกชัดเจนว่าอยากรู้ว่ามีคุณตัดสินใจยังไง

“คือพี่ว่า...พี่...” มีคุณรู้สึกหนักใจ แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของนับตังค์ที่มองมาแล้วทำเอาเขาไม่กล้าที่จะพูดออกไปว่าไม่พร้อมจะรับเลี้ยงเด็กน้อยคนนี้

“ว่า...” นับตังค์ขมวดคิ้วถามซ้ำ

“ปี้จ๋า หนูไม่ดื้อ หนูเย่นได้เปล่า” ด้วงส่ายหน้าเพื่อบอกว่าตัวเองไม่ดื้อแล้วก็ชูรถของเล่นให้นับตังค์ดู นับตังค์มองหน้าด้วงก่อนจะหันไปมองมีคุณอีกครั้ง สายตาของนับตังค์มีความคาดหวังว่ามีคุณจะไม่ใจร้ายปฏิเสธคำขอร้องของคุณปู่ เมื่อวานนี้แค่เห็นพี่เลี้ยงดุด้วงและเลี้ยงแบบขอไปที นับตังค์ยังรู้สึกแย่และสงสารด้วงมาก

“เอาก็เอาครับ ผมจะรับเลี้ยงเด็กคนนี้ก็ได้ แล้วผมต้องทำยังไงบ้าง” มีคุณถอนหายใจแล้วก็หันไปตอบเคารพ

“ผมเอาของใช้ที่จำเป็นของหนูด้วงมาจากคุณขจีให้แล้ว ส่วนเรื่องรับรองให้เป็นบุตรบุญธรรมผมจะจัดการให้ ขอบคุณมากนะครับที่ยอมทำตามคำขอสุดท้ายของคุณอนันต์ ท่านคงดีใจมากและภูมิใจในตัวของคุณมากนะครับ” เคารพแสดงท่าทางดีใจกับการตัดสินใจของมีคุณและสิ่งที่เคารพสังเกตเห็นก็คือ...นับตังค์ดูจะมีอิทธิพลกับมีคุณอยู่พอสมควร ซึ่งมันทำให้เคารพแปลกใจอยู่เหมือนกันกับสิ่งที่ได้เห็น

“ผมต้องดูเด็กคนนี้ตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป ถูกไหมครับ” มีคุณถามเสียงเบา ไม่รู้ว่าตัวเองตัดสินใจผิดหรือถูกกับภาระหนักอึ้งที่ได้รับ

“ครับ ส่วนรายละเอียดของด้วงเท่าที่จำเป็น เช่นการฉีดวัคซีน แพ้ยาอะไร ประวัติการป่วย ผมทำเป็นเล่มเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะครับ เรื่องค่าใช้จ่ายของหนูด้วงก็ไม่ต้องห่วง คุณอนันต์มีเงินก้อนสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายหนูด้วง เดี๋ยวผมจะออกไปเอาของใช้ทั้งหมดของหนูด้วงมาให้พร้อมกับสมุดบัญชีนะครับ แล้วก็คงต้องขอตัวกลับเลย มีธุระสำคัญที่ต้องไปทำต่อครับ” เคารพบอกกับมีคุณ

“สวัสดีครับคุณลุงก่อน” นับตังค์พูดกับด้วง ด้วงยกมือไหว้ตามจนเคารพต้องเดินมาลูบศีรษะด้วงเบาๆ ด้วยความเอ็นดู

“ฉลาดจังนะเรา เป็นเด็กดีนะ ไม่ดื้อนะ แล้วลุงจะมาเยี่ยมบ่อยๆ” เคารพพูดกับด้วง

“ไม่ดื้อ ดื้อเยืองตี” ด้วงรีบยกมือขึ้นโบกไปมา

“เยืองตีเหรอ” เคารพหน้าเครียด

“ใครเหรอครับ” มีคุณถาม

“คงจะเป็นดาวเรือง เด็กรับใช้ของคุณขจี เฮ้อ...ต่อไปจะไม่มีใครตีหนูแล้วนะด้วง” เคารพถอนหายใจ

หลังจากที่เคารพ มีคุณและขมิ้นช่วยกันขนของของด้วงมาไว้ในบ้านเรียบร้อยแล้ว เคารพก็รีบกลับไปเพราะเรือรับจ้างรออยู่ มีคุณนั่งกอดอกมองด้วงที่อ้อนและติดนับตังค์เป็นตังเมแบบตาไม่กระพริบ นับตังค์เงยหน้ามาเห็นก็เลิกคิ้วขึ้นก่อนจะเอ่ยถาม

“เอาแต่นั่งมองแบบนี้เด็กมันจะติดไหม”

“ตังก็เลี้ยงไง เด็กติดตังมากกว่าพี่” มีคุณพูดพลางยักคิ้ว

“ไหงงั้น นี่มันว่าที่ลูกบุญธรรมของบอสนะ”

“แต่ตังเป็นคนอยากให้พี่รับเลี้ยงเด็กคนนี้นะ” มีคุณย้อน

“ตังไปพูดตอนไหน” นับตังค์โวยกลับ

“พูดทางสายตา พี่รู้...ถ้าพี่ปฏิเสธ ตังก็ต้องโกรธพี่ เดี๋ยวจะหาว่าพี่ไม่เมตตาเด็ก”

“ก็มันจริงไหมล่ะ ถึงตังโกรธแล้วเกี่ยวอะไร ตังก็แค่คนอื่น เรื่องนี้มันเรื่องของบอส บอสตัดสินใจเองก็แปลว่าบอสก็ต้องรับผิดชอบเองดิ”

“ก็พี่ไม่ได้เห็นตังเป็นคนอื่นไง หมายถึง ตอนนี้เราก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน” มีคุณตอบกลับไปจนนับตังค์พูดไม่ออก

“เอาดีๆ สรุปว่าพี่คิดจะทำยังไงกับเด็กคนนี้ต่อไป” นับตังค์ถามเพราะนึกห่วงอนาคตของด้วง

“คงต้องจ้างคนมาเลี้ยง”

“ถ้าได้คนไม่ดีล่ะ แบบพี่เลี้ยงที่คุณขจีจ้างมา ร้ายจะตาย ตังเห็นกับตาเลย เป็นลูกจ้างแท้ๆ แต่ดุเอาดุเอา” นับตังค์ยังนึกเคืองไม่หาย

“เหรอ เป็นลูกจ้างแต่ดุเอาดุเอาเลยเหรอ” มีคุณทวนคำ นับตังค์หันมาทำหน้าเอือมใส่มีคุณเพราะรู้ว่าโดนแขวะ

“เอาแบบนี้ ร้านของเราเปิดเดือนหน้า ระหว่างนี้ก็ช่วยกันเลี้ยงไปก่อน พอเปิดร้านแล้วคงยุ่ง ตอนนั้นค่อยจ้างพี่เลี้ยง แต่ตังขอเป็นคนเลือกเองนะ” นับตังค์ออกความเห็น แต่มีคุณเอาแต่ยิ้ม เพราะได้ยินคำว่า ร้านของเรา

“ตามนั้น” มีคุณก็เห็นดีด้วยกับความคิดของนับตังค์

“ปี้จ๋า” ด้วงร้องเรียกนับตังค์หลังจากที่นับตังค์ยอมปล่อยให้ลงไปเดินเล่นในบ้านแล้วไปเจอกับหนังสือรูปสัตว์

“เห็นไหม ลูกเรียกแม่แล้ว” มีคุณพูดแล้วหัวเราะ

“เอิดละ ฉ็องด้อง” นับตังค์ด่ามีคุณเป็นภาษาใต้ก่อนจะเดินไปนั่งขัดสมาธิข้างด้วงที่พื้น

“ด่าไปเหอะ ไม่เจ็บ เพราะฟังไม่ออก” มีคุณยักคิ้วให้ก่อนจะรู้สึกว่าเวลาที่เห็นนับตังค์อยู่กับด้วงนั้นดูเป็นภาพที่น่ารักดี รู้สึกเพลินจนลืมไปว่าเมื่อครู่เขายังเครียดแทบตายที่ต้องดูแลชีวิตน้อยๆ ชีวิตหนึ่งซึ่งไม่ได้เกี่ยวพันอะไรกันเลย ทุกอย่างมันเร็วไปหมด จู่ๆ เคารพบอกว่าต้องเลี้ยงเด็กคนหนึ่ง แล้วจู่ๆ เขาก็ตัดสินใจรับเลี้ยงง่ายๆ เสียอย่างนั้น แล้วสุดท้ายเขาก็ยังสับสนว่าเขาต้องมาเป็นผู้บริหารร้านอาหารหรือมาเป็นคุณพ่อจำเป็น ไม่เข้าใจคุณปู่จริงๆ ว่าท่านคิดอะไรกับเรื่องราวทั้งหมด

“ทะลึ่ง เสียสติ บ้า พิเรนทร์ เดี๋ยวนะ...มีอีก นึกก่อน” นับตังค์เอามืออุดหูด้วงก่อนจะแปลศัพท์ใต้ที่ตัวเองเพิ่งพูดให้มีคุณเข้าใจ

“ปี้ ไม่เอา ไม่ทำ” ด้วงเอามือน้อยๆ แกะมือของนับตังค์ออกเพราะรำคาญ

“เห็นไหม จะด่าอะไรเกรงใจเด็กด้วยนะ” มีคุณได้ที

“มาเลี้ยงด้วงเลย ตังจะไปทำกับข้าว เดี๋ยวบ่ายนี้จะมีคนมาสมัครเป็นผู้ช่วยในครัว” นับตังค์บอกกับมีคุณ

“จะให้พี่เลี้ยงคนเดียวเหรอ” มีคุณทำหน้ากระอักกระอวนเพราะกลัวว่าจะเลี้ยงไม่ได้

“นี่บอส...ด้วงฟังรู้เรื่องทุกอย่าง แค่พูดไม่ชัด บอสก็ต้องใช้ความสามารถแปลเอาหน่อย แล้วด้วงก็ไม่ใช่เด็กทารก เลี้ยงไม่เห็นยากเลย โน้น บอสพาไปเดินเล่นในสวน เดี๋ยวตังทำกับข้าวเสร็จจะไปตาม ห้ามบ่น เดี๋ยวจะขอขึ้นเงินเดือนด้วยเพราะต้องเป็นทั้งพี่เลี้ยงเด็กและยังต้องมาเป็นพี่เลี้ยงผู้ใหญ่ด้วย เฮ้อ เกิดเป็นไอ้ตังช่างน่าสงสารจริงๆ” นับตังค์เดินบ่นออกไปหลังจากที่รู้สึกว่ามีคุณเลี้ยงยากกว่าด้วงเป็นพันเท่า

(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 03-04-2017 19:14:17
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


มีคุณพาด้วงออกมาเดินเล่นอยู่ในสวนตามคำแนะนำของนับตังค์ ด้วงเดินเล่นบนพื้นหญ้าด้วยความสนุกตามประสาเด็ก มีคุณนั่งมองดูอยู่ไม่ไกลแล้วก็คิดว่าทำไมตัวเองถึงต้องแคร์นับตังค์ถึงขนาดที่ยอมทำอะไรที่ดูไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลย เขาเป็นคนรักอิสระ การที่จะให้มารับเลี้ยงเด็กคนหนึ่งไปจนโตคงไม่ใช่เรื่องที่เขาจะยอมรับง่ายๆ แต่แค่เห็นสายตาที่คาดหวังกึ่งขอร้องของนับตังค์ที่มองมาแค่นั้นเขาก็ยอมตกลงแล้ว

“เฮ้อ แกกลัวเขาจะไม่เป็นเชฟขนาดนั้นเชียวเหรอวะไอ้มีคุณ” มีคุณบ่นตัวเองและคิดไปว่าเหตุผลที่แคร์นับตังค์คงเพราะกลัวนับตังค์ไม่ทำงานให้

“ปี้จ๋า” ด้วงเดินไปถึงน้ำพุก็หันมาเรียกมีคุณแล้วแลบลิ้นใส่

“ไม่เอา ไม่แลบลิ้น” มีคุณสอน

“ยิ้น ดูยิ้น” ด้วงยังคงแลบลิ้นให้มีคุณ แต่มือก็ชี้ไปที่รูปปั้นกามเทพ

มีคุณลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมาหาด้วง มองตามนิ้วอันจ้อยที่ชี้ไปยังรูปปั้นกามเทพ แล้วมีคุณก็ต้องตกใจที่เห็นว่าปากของรูปปั้นกามเทพนั้นคาบอะไรอยู่ มีคุณรีบอุ้มด้วงแล้วพาออกมาจากรูปปั้นพิเรนทร์นั่นก่อนจะตะโกนเรียกขมิ้นเสียงดังไปถึงในครัว

“ขมิ้น ขมิ้น”

“ครับนายหัว” ขมิ้นวิ่งออกมาจากในครัวแล้วร้องรับ

“ใครพิเรนทร์เอา เอา... เอาไอ้นั้นไปใส่ในปากรูปปั้นกามเทพ” มีคุณถาม นี่ดีว่ารูปปั้นนี้อยู่ในบ้าน หากไปตั้งอยู่ในร้านอาหารคงเสียภาพพจน์หมด

“เอาอะไรครับนายหัว หมิ้นไม่เข้าใจ” ขมิ้นเกาหัว

“ก็เอา...ใส่ไว้ในปากกามเทพ” มีคุณทำปากจู๋ แต่ขมิ้นก็ยังไม่เข้าใจ

“ยิ้น ยิ้น” ด้วงแลบลิ้นอีก

“ไปดูเองไป” มีคุณไม่อยากจะเอ่ยถึงอวัยวะเพศของผู้ชายต่อหน้าด้วง แม้มันจะเป็นแค่ปูนปั้นก็เถอะ ขมิ้นเลยวิ่งออกไปดูก่อนจะวิ่งกลับมาหน้าตาเหรอหรา

“อ๊ะโต้ย!! ใครมันฉ็องด็องแท้นิ” ขมิ้นหยิบจู๋อันน้อยของรูปปั้นกามเทพติดมือมาด้วย

“เกิดอะไรขึ้น” นับตังค์ได้ยินเสียงโวยวายของมีคุณเลยเดินออกมาดู

“ก็ใครพิเรนทร์เอาของที่อยู่ในมือขมิ้นไปใส่ไว้ในปากของรูปปั้นกามเทพน่ะสิ ด้วงไปเห็นแลบลิ้นตามใหญ่เลย” มีคุณส่ายหน้า แต่นับตังค์มองสิ่งที่อยู่ในมือของขมิ้นแล้วยืนนิ่ง มันก็คือหนอนน้อยปิกกาจูที่นับตังค์ทำมันหักนั่นเอง

“น่ะน่ะนั่นสิ ใครนะ พิเรนทร์จริง” นับตังค์พูดตะกุกตะกักแล้วรีบหมุนตัวกลับ

“เดี๋ยว” มีคุณเรียกเอาไว้ นับตังค์สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันมาแล้วรอว่ามีคุณจะพูดอะไร ในใจก็กังวลว่ามีคุณจะจับได้ว่าเป็นฝีมือของนับตังค์เอง

“เปลือกกระเทียมติดผม” มีคุณเดินไปหยิบเปลือกกระเทียมออกให้ นับตังค์แอบพรูลมหายใจ

“ขอบคุณ” นับตังค์รีบขอบคุณจนมีคุณเริ่มสงสัยในพฤติกรรม เพราะเขาคิดว่านับตังค์จะว่าเขาเสียอีกที่ถือวิสาสะไปหยิบเปลือกกะเทียมออกให้ต่อหน้าขมิ้น

“ขมิ้น ในสวนมีกล้องวงจรปิดใช่ไหม” มีคุณถามก่อนจะขยิบตาให้ขมิ้น

“เอ่อ..อ่อ...มีครับ” ขมิ้นตอบรับเมื่อเห็นสัญญาณจากนายหัวคนใหม่ของตน ส่วนนับตังคืได้ยินแล้วชะงัก ขาก้าวไม่ออกได้แต่ยืนนิ่ง

“ก็แค่ปูนปั้น ไม่มีของหายสักหน่อย ต้องดูกล้องวงจรปิดด้วยเหรอ เวอร์แล้วบอส” นับตังค์ตังสติได้ก็รีบโวยวายเอาไว้ก่อน

“ก็พี่อยากรู้ว่าฝีมือใคร ต้องจับให้ได้ ทะลึ่งไม่มีใครเกิน เอาไอ้นั้นไปใส่ในปาก ไปเปิดกล้องดูกัน” มีคุณพอจะเดาออกแล้วว่าเป็นฝีมือใครเลยยิ่งแกล้ง จะจับผู้ร้ายปากแข็งให้ได้

“เออๆ ตังทำเอง ตังไม่ได้ตั้งใจ ก็จะเอาใบไม้ไปปิดให้แล้วมันก็หักคามือเลยอะ แล้วก็ไม่รู้จะเอาวางไว้ไหนกลัวมันหายก็เลยฝากไว้ก่อน ว่าจะซื้อกาวมาต่อให้แล้วก็ลืมอีก” นับตังค์ยอมรับสารภาพในที่สุด มีคุณกับขมิ้นมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“ไม่ขำ” นับตังค์พูดกับทั้งสองคน แต่พอด้วงเห็นมีคุณกับขมิ้นหัวเราะก็เลยหัวเราะตาม นับตังค์เลยได้แต่ทำหน้าเซ็งๆ

“มือหนักขนาดไหนกันนะปูนถึงกับหักได้ น่ากลัวจังเนอะด้วงเนอะ เราไปกันดีกว่า กลัว..หัก” มีคุณแกล้งก้มลงมองเป้าของตัวเองแล้วพูดกับด้วงด้วยสีหน้าหวาดระแวง

“จัว จัว จัวหัก” ด้วงพูดตามมีคุณ มีคุณหัวเราะชอบใจ ชักเริ่มเอ็นดูเด็กน้อยคนนี้เข้าแล้ว

“ฝันไปเหอะ!! รุ่นนี้ตัดให้ขาดอย่างเดียว” นับตังค์มองแรงใส่มีคุณก่อนจะเดินฉับๆ กลับเข้าครัวไปด้วยความหงุดหงิดที่โดนมีคุณทำให้อายอีกแล้ว

เมนูที่นับตังค์ทำเป็นอาหารกลางวันในวันนี้ก็คือสปาเก็ตตี้ครีมเห็ดแบบง่ายๆ เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี ทีแรกตั้งใจจะทำครีมซอสกะหรี่กุ้งให้ทุกคนได้ชิม แต่โดนทุกคนหัวเราะเยาะเลยลดความไฮโซลงเหลือแค่ครีมเห็ด ระหว่างมื้ออาหารทั้งมีคุณและขมิ้นไม่มีใครกล้าหัวเราะเยาะเชฟนับตังค์อีก เพราะกลัวว่าอาหารเย็นอาจจะเหลือแค่ไข่เจียว นับตังค์ก็เลยอารมณ์ดีขึ้น นั่งป้อนสปาเก็ตตี้ด้วงคำหนึ่งกินเองคำหนึ่งไปด้วย

“ทำไมไม่หัดให้กินเอง” มีคุณถามนับตังค์ ด้วงเป็นเด็กผู้ชาย มีคุณเลยไม่อยากให้โอ๋ด้วงสักเท่าไหร่

“เด็กมันยังไม่สามขวบดีเลย ฟังรู้เรื่อง พูดโต้ตอบรู้เรื่องก็ถือว่าฉลาดมากแล้วนะ อย่างอื่นก็ค่อยๆ สอนก็ได้” นับตังค์เถียงเมื่อได้รู้ข้อมูลของด้วงจากขมิ้น

“เริ่มสอนตั้งแต่เด็กนี่แหละดี พอโตแล้วสอนยาก จะยิ่งดื้อ มีตัวอย่างให้เห็นอยู่ใกล้ๆ” มีคุณแหย่นับตังค์

“เอาอีกไหม” นับตังค์ไม่เถียงมีคุณแต่ใช้หางตาเหลือบมอง พอเห็นมีคุณจ้องมองมาแล้วยิ้มก็เมินใส่แล้วหันมาพูดกับด้วงแทน ด้วงพยักหน้าแทนคำตอบ

“เอายูกอม” ด้วงชี้ไปที่ลูกชุบที่นับตังค์เตรียมใส่ถุงไปให้ด้วงในทีแรก

“ไม่ใช่ลูกอม ลูกชุบ พูดสิ ลูกชุบ” นับตังค์สอน

“ยูกซุบ”

“ฮ่าๆ ต้องกินนี่ให้หมดก่อน” นับตังค์ขำที่ด้วงพูดไม่ชัด ด้วงอ้าปากรับสปาเก็ตตี้ที่นับตังค์ป้อนต่อ

“ได้กินลูกชุบ เลยมีคนมาชุบให้เป็นลูก ดีไหม ด้วง” ขมิ้นหันมาพูดกับด้วง

“งั้นดีนะที่ตังไม่ทำซอสกะหรี่กุ้งให้ทุกคนกิน” นับตังค์พูดแทรกขึ้นมา

“ทำไม” มีคุณถาม

“ก็กินลูกชุบยังถูกชุบเป็นลูก ถ้ากินซอสกะหรี่ จะถูกชุบเป็น...” นับตังค์ยังไม่ทันพูดจบ ทั้งมีคุณและขมิ้นก็ตะโกนขึ้นพร้อมกัน

“ฉ็องด็อง!!”

“ฉ็องด็อง!!”

แล้วทั้งสามคนก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน ด้วงได้ยินก็มองไปทางนั้นทีทางนี้ที สุดท้ายก็เลยแกล้งหัวเราะตามบ้าง ยิ่งทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสามคนหัวเราะในความทะเล้นของด้วงต่ออีก มีคุณเริ่มรู้สึกอย่างจริงจังแล้วว่า การมีนับตังค์ ด้วงและขมิ้นเข้ามาในชีวิตก็ดีเหมือนกัน เขาไม่ได้หัวเราะแบบนี้มานานแล้ว นึกว่าจะมีแต่อาหารที่ทำให้เขามีความสุขได้ แต่ตอนนี้บุคคลแปลกหน้าทั้งสามคนที่กำลังเข้ามาเป็นเหมือนครอบครัวใหม่ก็ทำให้หัวใจของเขาอิ่มเอมได้เช่นกัน

หลังจากมื้อเที่ยงผ่านไป มีคุณต้องเป็นคนที่พาด้วงไปอาบน้ำ เพราะนับตังค์ปล่อยให้ด้วงกินสปาเก็ตตี้เอง ตัวของด้วงก็เลยเลอะครีมซอสไปหมด ทีแรกขมิ้นอาสาพาด้วงไปอาบน้ำ เพราะตอนที่ด้วงอยู่กับนายปู่ ขมิ้นก็เป็นคนดูแลด้วงให้บ่อยๆ แต่นับตังค์ยื่นคำขาดว่าให้มีคุณเป็นคนพาด้วงไปอาบน้ำ เพราะมีคุณเป็นคนอยากให้ด้วงช่วยเหลือตัวเอง นับตังค์ก็อยากให้มีคุณช่วยเหลือตัวเองในการอาบน้ำให้ด้วงเหมือนกัน

ส่วนตัวนับตังค์ออกมาในสวนพร้อมกับหนอนน้อยของรูปปั้นกามเทพ ขมิ้นเป็นคนเอากาวมาให้แล้วบอกให้นับตังค์ไปซ่อมเอาเอง นับตังค์เลยต้องมายืนเล็งรูปปั้นอยู่ในตอนนี้

“เจ็บใจชะมัด บนโลกนี้ใครจะมาเห็นก็ได้ ไม่น่าเป็นบอสเลยให้ตายเหอะ”

นับตังค์ยื่นบ่นกระปอดกระแปดอยู่คนเดียวเรื่องที่มีคุณดันเป็นคนมาเห็นหนอนน้อยอยู่ในปากของรูปปั้นกามเทพ แล้วนับตังค์พลอยนึกไปถึงตอนที่ตื่นมาเมื่อเช้านี้ นับตังค์ตกใจตอนที่ลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่ภายใต้ผ้านวมเดียวกับมีคุณ แถมยังนอนขดตัวซุกเขาอีก ปกติตัวเองเป็นคนขี้หนาวเลยชอบนอนซุกหมอนหรือขดตัวในผ้านวมหนาๆ คงคิดไปว่ามีคุณเป็นหมอน เมื่อคืนถึงนอนได้หลับสนิทเพราะมันรู้สึกอุ่น พอรู้สึกตัวเลยต้องรีบลุกออกจากเตียง แถมยังรู้สึกเสียฟอร์มเป็นอย่างมากที่ถูกบอสจับได้ว่าแกล้งนอนดิ้นและนอนกรน แต่เรื่องนั้นก็ยังไม่เท่าเรื่องที่ทำให้นับตังค์รู้สึกไม่เป็นตัวเอง นั่นก็คือเรื่องบทความของมีคุณที่เขียนเกี่ยวกับขนมจาก นับตังค์แอบเปิดอ่านคอลัมน์ของมีคุณในห้องน้ำเพราะไม่อยากให้มีคุณรู้ว่านับตังค์อยากรู้ว่ามีคุณเขียนว่าอย่างไร ทั้งๆ ที่มันก็เป็นแค่บทความที่พูดถึงอาหารทั่วไปแบบสไตล์ที่มีคุณเขียนบ่อยๆ แต่นับตังค์กลับรู้สึกว่ามันเหมือนกลอนยาวที่ผู้ชายใช้จีบสาวในรุ่นปู่ย่ายังไงก็ไม่รู้ ยิ่งอ่านไปถึงกลอนสุดท้ายที่มีคุณแต่งขึ้น นับตังค์ก็หวั่นไหวขึ้นมาเองอย่างช่วยไม่ได้

‘ถ้าวันหนึ่งแกเจอคนที่ใช่ แกจะไม่สร้างเหตุผลมากมายมาเป็นเงื่อนไขให้กับชีวิตเลย’

คำพูดของรันวนเข้ามาในหัว มันทำให้นับตังค์ยืนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะไม่อยากยอมรับว่าตัวเองแอบหวั่นไหวให้กับคนที่เคยมอบตำแหน่งคู่กัดให้ง่ายๆ แบบนี้

“แกจะเป็นเกย์หรือชอบผู้ชายคนในไหนในโลกก็ได้นะไอ้ตัง แต่ต้องไม่ใช่คนนี้ดิวะ” นับตังค์พยายามบอกตัวเองก่อนจะทากาวลงบนหนอนน้อยแล้วยื่นไปแปะตรงเป้าของรูปปั้นกามเทพ แต่ด้วยความที่มัวแต่คิดเรื่องของมีคุณ เลยคว่ำผิดทาง จุ๊ดจู๋ของเจ้ากามเทพเลยบิดเบี้ยวไม่เข้ารูปเดิม

“ผมว่ามันคงฉี่ลำบากหน่อยนะ” เสียงหนึ่งดังมาจากทางด้านหลังของนับตังค์ นับตังค์ตกใจแล้วหันไปมอง

เหมือนมีแสงระยิบระยับส่องมาจากทางด้านหลังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าของนับตังค์ นับตังค์ถึงกับต้องกระพริบตาถี่ๆ แล้วขยี้ตาซ้ำ ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวราวกับหิมะต้องแสงแดด หน้าตาเครื่องหน้าก็ลงตัวไปหมด หล่อเหมือนนายแบบหรือจะว่าหล่อเหมือนศิลปินเกาหลีที่นับตังค์เคยเห็นตามซีรีย์ที่พี่เฟื้องชอบแอบดูก็ว่าได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มันก็มาลงเอยที่คำว่าหล่ออยู่ดี หล่อจนผู้ชายด้วยกันอย่างนับตังค์ยังต้องชื่นชม แล้วก็นึกถึงตัวเอง พี่เฟื้องชอบบอกว่านับตังค์ไม่เป็นธรรมชาติของตัวเอง  นับตังค์เป็นคนตาโต ขนตาก็ดันยาวไปอีก ตาของนับตังค์เลยดูหวาน แถมยังมีลักยิ้มใต้ตาเหมือนแม่ แต่นับตังค์ก็ชอบแต่งตัวแบบแนวเซอร์ๆ ดูห้าวๆ ดิบๆ พี่เฟื้องเลยบอกว่าไม่รู้จะชมยังไงดีเพราการแต่งตัวขัดกับหน้าตาเหลือเกิน นับตังค์ได้แต่เถียงในใจว่าแบบนับตังค์นี่แหละเรียกว่าหล่อเหนือธรรมชาติ 

“น่าฮักปะล้ำปะเหลือน้อ”

นับตังค์หันมามองคนที่พูดประโยคนี้ ซึ่งใครคนนั้นยืนอยู่ข้างๆ พ่อโอปป้าซารางเฮที่มาทักนับตังค์ก่อน ซึ่งชายหนุ่มที่ตัวเล็กกว่าคนนี้พูดภาษาเหนือก่อนจะส่งยิ้มสดใสมาให้นับตังค์

...เอาอีกแล้ว...

 แสงวิบวับระยิบระยับส่องประกายมาจนนับตังค์ต้องขยี้ตาซ้ำอีกรอบ ชายหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มสดใสผู้นี้ใช้คำว่าหล่อไม่ได้ แต่ต้องใช้คำว่าน่ารัก น่ารักปะล้ำปะเหลือจริงๆ ปากนิด จมูกหน่อย ดวงตาเรียวเล็กแต่มีประกายความสุขฉายชัด ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน นี่นับตังค์ฝันอยู่รึเปล่า หรือว่าโดนกามเทพลงโทษที่ทำให้หนอนน้อยต้องบิดเบี้ยวไป เลยดลบันดาลให้เห็นว่ามีคนหน้าตาดีมายืนตรงหน้าถึงสองคนจนทำให้นับตังค์ตาพร่ามัวแบบนี้

“พวกคุณ....เป็นใครครับ” นับตังค์พูดออกในที่สุดหลังจากสติของตัวเองสามารถทนออร่าของอาคันตุกะทั้งสองคนได้แล้ว

“ผมชื่อ...พายครับ” หนุ่มโอปป้าหน้าตาอินเทรนด์เป็นฝ่ายแนะนำตัวก่อน

“ส่วนเมี่ยงชื่อ...ใบเมี่ยงครับ” หนุ่มสุดคิวท์ตัวเล็กแนะนำตัวบ้าง

“เราสองคนมาสมัครเป็นผู้ช่วยในครัวตามใบประกาศนี้ครับ” คราวนี้ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน

นับตังค์เอื้อมมือไปรับใบประกาศจากมือของสองหนุ่มมาอ่านดู อยากแน่ใจว่าเป็นใบประกาศรับสมัครผู้ช่วยของตัวเองที่ฝากเพื่อนของขมิ้นไปแปะประกาศเอาไว้จริงๆ ไม่ใช่เป็นใบประกาศรับสมัครหนุ่มคลีโอหรือใบรับสมัครนายแบบ เมื่อเห็นว่าไม่ผิดแน่ถึงได้เงยหน้าไปยิ้มให้คนทั้งสอง นึกในใจว่าถ้าชายหนุ่มทั้งสองมีความสามารถในด้านอาหารจริงๆ ก็คงจะดีไม่น้อย ครัวของนับตังค์จะได้สดใสขึ้นมาบ้าง เพราะหากต้องทนมองหน้าบอสจอมกวนนั้นบ่อยเกินไป อาจไม่ดีต่อใจของนับตังค์เข้าสักวัน


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


(https://www.uppic.org/image-FB2D_58E629B6.jpg)

เครดิตรูป : คุณอุบลธชาติ Pantip


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาให้กำลังใจ ขอให้อิ่มเอมกับความอร่อยของเชฟและคุณบอสนะคะ

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-04-2017 19:27:38
 :katai5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 03-04-2017 19:35:55
มีตัวละครใหม่เพิ่มทีเดียวสามคนในตอนเดียว (น้องด้วงไม่ใหม่มาก) ตื่นเต้น
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 03-04-2017 19:45:20
ยังไงคะ หนุ่มมาใหม่เนี่ย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 03-04-2017 21:58:43
แค่ห้าตอน เรื่องก็เข้มข้นขนาดนี้แล้ว น่าติดตามสุดๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-04-2017 22:55:20
หลงเด็ก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 03-04-2017 23:11:02
สนุกมากเลยยย ติดตามๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jitsupa_milk ที่ 03-04-2017 23:11:31
น้องด้วงงงงง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-04-2017 23:33:45
 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-04-2017 00:00:03
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-04-2017 00:13:34
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 04-04-2017 16:38:11
ฉากที่น้องด้วงทำตามรูปปั้นนี้นึกออกเลยคะ
ฮาน้ำตาเล็ด :m20:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 04-04-2017 17:28:53
ว๊าวอยู่กันไม่เท่าไรมีลูกด้วยกันซะละ อ่านไปก็ฮาไปเถอะ วีระกรรมแต่ละอย่างน้อนับตังค์น้อ  :m20:
เพิ่มสีสันมาอีก 2 คนจะอัพความฮาแค่ไหนรอจานต่อไปจ้า  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 04-04-2017 21:56:42
โอ๊ยยยยยย ชอบบบบบบ ชอบมากเลยเรื่องนี้  o13 เพิ่งเจอค่ะ 6 ตอนเองแต่อ่านเพลินมาก ปกติก็ชอบอ่านเรื่องที่มีของกินเป็นเมนเรื่องอยู่แล้ว อ่านแล้วสดใส หวาน ดูฟินเหมือนได้กินอาหารในเรื่องเอง 55555 ถึงถ้ามีรูปปลากรอบ #ประกอบ แฮร่!!  ยิ่งจะเพิ่มความฟินให้ได้จิ้นตามมากขึ้นอีกเยอะเลยนะ ชอบค่ะชอบ  :katai2-1:  ขอเกาะตามติดน้องตังคนเก่งไปด้วยคนค่ะ แถมตอนนี้จะมีคิ้วท์บอยมาร่วมทีมอีก โอ๊ยยยยย มีคุณเตรียมนับน้องตังค์  เอ้ยยย นับตังค์รอได้เลย ดี๊ดี มาต่อเร็วๆน้าาาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 05-04-2017 13:53:39
ตัวละครเยอะจัง  สงสัยต่อไปต้องทำเป็นแผนผังให้ดูป่าวนิ ว่าตัวละครแต่ละคนเกี่ยวข้องกันยังไง  :a5:

ตอนนี้มีแต่เรื่องสงสัยไปหมดไม่ว่าจะเป็น
- คุณปู่รู้จักตังมาตั้งแต่เด็ก  ถ้าแบบนี้ตังน่าจะจำคุณปู่ได้บ้าง ถ้าได้เห็นรูปคุณปู่
- พี่ชายคนโตของตังไปอยู่ไหน
- ด้วงเกี่ยวข้องยังไงกับคุณปู่

แต่ชอบเนื้อเรื่อง ปูเรื่องมาได้ดี  แต่ถ้าให้ดีเวลาที่มีฉากทำอาหาร น่าจะมีรูปให้ดูด้วย เอาแต่รูปอาหารปกติ ไม่ต้องสไตล์ฟิวชั่นที่นับตังทำออกมาก็ได้

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 05-04-2017 16:20:24


ตาย ๆๆ เรื่องนี้มีแต่ของโปรดเราทั้งนั้น
ไม่ว่าจะอาหาร ขนม ผู้ชายหน้าคม หน้าสวย หนุ่มหน้าเกาหลี หล่อน่ารัก
แถมยังมีเด็กและทะเลปิดท้ายขบวนตามมาอีก
แล้วอย่างนี้แฟนคลับอย่างเราจะหนีไปไหนได้

รอตอนต่อไปค่ะ ^^  :กอด1:


หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: หนอนกอ ที่ 05-04-2017 17:15:25
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 05-04-2017 17:37:44
 :hao3:อยากอ่านต้่อแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 05-04-2017 20:51:45
อ่านเรื่องนี้ตอนกลางคืนตลอดเลย...หิว
ตลกนับตังค์เหมือนโดนแกล้งตลอดเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 06-04-2017 08:54:16
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 06-04-2017 17:40:12
บทที่ 7 ข้าวอบเผือก


หลังจากที่นับตังค์พาสองหนุ่มที่มาสมัครเป็นผู้ช่วยเชฟมาถึงครัวของร้านอาหารแล้วจึงสอบถามประวัติคร่าวๆ ของทั้งสองคน ซึ่งนับตังค์ยอมรับว่าประวัติของทั้งสองคนดีมาก เพียงแต่มันดูไม่ค่อยสัมพันธ์กับงานในครัวสักเท่าไหร่ แต่นับตังค์ก็ไม่ได้คิดจะรับผู้ช่วยเพียงแค่พูดคุยเท่านั้น การสอบถามประวัติเป็นเพียงแค่การทำความรู้จักในเบื้องต้นแค่นั้นเอง 


ใบเมี่ยง มีชื่อจริงว่ามาตฤกะ เจ้าตัวบอกว่าชื่อของตัวเองอ่านว่ามาตริกะ เป็นชื่อที่แปลกมากสำหรับนับตังค์ ใบเมี่ยงเป็นคนน่านแต่กำเนิด พูดได้สามภาษา ไทย จีน อังกฤษ แต่ถนัดที่สุดคือการอู้คำเมือง ใบเมี่ยงเรียนจบปริญญาตรีสาขาจิตวิทยาพัฒนาการ ชอบท่องเที่ยว เพราะเวลาได้ออกไปเที่ยวจะได้ไปเจอผู้คนที่มีความแตกต่างทั้งภาษา วัฒนธรรมและการกินอยู่ ใบเมี่ยงเกิดเดือนเดียวปีเดียวกับนับตังค์ อ่อนกว่าแค่สองวัน แต่นับตังค์รู้สึกว่าใบเมี่ยงหน้าอ่อนมาก พอคิดอีกทีก็เครียดว่าใบเมี่ยงหน้าอ่อนหรือตัวเองหน้าแก่กันแน่เพราะใบเมี่ยงกับนับตังค์ห่างกันแค่สองวันเอง ซึ่งคำถามนี้นับตังค์จะไม่มีวันถามบอสจอมกวนประสาทเด็ดขาด เพราะนับตังค์รู้เลยว่าบอสจะตอบว่าอะไร   


ส่วนพายหรือพายพัด หนุ่มหล่อที่นับตังค์เห็นครั้งแรกแล้วนึกว่าเป็นนายแบบ เขาเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลี คนนี้แก่กว่านับตังค์เกือบปี ดูสุขุม ใจเย็น สายตาที่ดูสงบกับรอยยิ้มอ่อนๆ ที่ตราตรึงอยู่บนใบหน้าเป็นอาวุธชั้นดีที่ทิ่มแทงใจของคนที่เห็นจริงๆ พายพัดจบปริญญาตรีถึงสองใบ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และสถาปัตยกรรม เจ้าตัวบอกว่าสามารถจัดสรรเวลาเรียนควบคู่กันไปจนจบพร้อมกันได้ แถมยังพูดได้ถึงสี่ภาษาคือ ไทย อังกฤษ เกาหลีและเยอรมัน เคยทำงานบริษัทชื่อดังและได้เงินเดือนสูงเป็นหลักแสนแต่ก็ลาออก โปรไฟล์ดีมากจนนับตังค์รู้สึกทึ่ง


“ทำไมถึงลาออกล่ะ เงินเดือนสูงมากเลยนะ” นับตังค์ถามด้วยความสงสัย

“เพราะเมี่ยงลาออก” พายพัดตอบนับตังค์ ซึ่งคำตอบนี้ทำให้นับตังค์มองไปที่เมี่ยงด้วยความไม่เข้าใจ

“เมี่ยงเคยทำงานที่เดียวกับพัดครับ แต่ไม่อยากทำงานประจำแล้ว อีกอย่างพอเมี่ยงได้มาเที่ยวที่นี่ เมี่ยงรู้เลยว่าอยากใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ถาวร” เมี่ยงพูดไปยิ้มไป แต่คำตอบของเมี่ยงไม่ได้ทำให้นับตังค์เข้าใจมากขึ้น

“แล้ว...ทำไมถึงอยากมาสมัครมาเป็นผู้ช่วยเชฟ” นับตังค์ไม่ได้ถามลงลึกต่อเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของทั้งสองคนจึงเปลี่ยนคำถาม

“เพราะเมี่ยงรักการทำอาหาร แม่ของเมี่ยงทำอาหารอร่อยนะ เมี่ยงก็ได้ฝีมือการทำอาหารมาจากแม่ ชื่อจริงของเมี่ยงแปลว่าอะไรรู้ไหม มาตฤกะแปลว่ามาจากแม่ เมี่ยงเลยชอบการทำอาหารเหมือนแม่” ใบเมี่ยงยังคงพูดไปยิ้มไป ซึ่งนับตังค์ยอมรับว่าใบเมี่ยงเปรียบเมื่อน้ำค้างยามเช้าที่ให้ความสดชื่นแก่ผู้พบเห็น ถ้าพายพัดเหมือนพระอาทิตย์ที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ใบเมี่ยงก็คงเป็นน้ำค้างที่ปะพรมให้รู้สึกสดชื่นไปถึงหัวใจ

“แล้วพายล่ะ” นับตังค์ไม่ได้เรียกพายว่าพี่แม้ว่าพายจะแก่กว่าเกือบปี เพราะเห็นว่าถ้าให้ความเป็นเพื่อนคงจะดูสนิทสนมกว่า

“เพราะเมี่ยงชอบทำอาหาร” พายตอบแล้วหันไปยิ้มให้เมี่ยง ซึ่งทั้งคำตอบ สายตาและรอยยิ้มของพายพัดทำให้นับตังค์พอจะรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร

“แต่เงินเดือนผู้ช่วยเชฟคงไม่ได้เยอะเท่าที่เคยได้รับกันมาหรอกนะ” นับตังค์บอกเอาไว้ก่อนหลังจากที่ทราบประวัติของทั้งสองคน

“เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเราสองคนครับ” ใบเมี่ยงเป็นคนตอบ

“โอเค เราชื่อนับตังค์นะ เรียกว่าตังก็พอ เราก็รักการทำอาหารมาก ผู้ช่วยของเราไม่จำเป็นต้องเก่งมากแต่ต้องรู้ใจกัน การทำงานกับคนที่เข้าใจและมีทัศนคติหรือความชอบคล้ายกันมันจะทำให้งานออกมาดี เราเชื่ออย่างนั้น เพราะฉะนั้น...เราขอทดสอบความสามารถและความเป็นตัวเองของผู้ช่วยเราสักอย่างหนึ่งนะ เราอยากให้ทั้งสองคนทำราเมนมาให้เราชิมในงบที่เราจะให้ไป ทำยังไงก็ได้ที่คิดว่านี่จะเป็นราเมนของตัวเอง ซื้อของแล้วมาทำที่ร้านนี่นะ เจอกันตอนแปดโมงเช้า” นับตังค์บอกถึงรายละเอียดการทดสอบคัดเลือก

“ตกลงครับ เราสองคนจะทำให้ดีที่สุด” ใบเมี่ยงยิ้มให้นับตังค์ก่อนจะหันไปยิ้มให้พายพัด พายพัดที่ไม่ค่อยได้พูดอะไรแต่นับตังค์คิดว่าคำตอบของใบเมี่ยงก็คือคำตอบของพายพัดนั้นแหละ


นับตังค์มายืนส่งทั้งสองคนอยู่ที่หน้าร้าน แล้วนับตังค์ก็รู้สึกเขินขึ้นมาเมื่อเห็นพายพัดยีผมใบเมี่ยงด้วยความอ่อนโยนก่อนจะจูงมือใบเมี่ยงเดินออกไป นับตังค์ได้แต่นึกในใจว่าถ้าสองคนนี้มีความสามารถเป็นที่ยอมรับของนับตังค์จนได้มาทำงานด้วยกันจริงๆ นับตังค์คงจะยืนเขินแทนใบเมี่ยงวันละไม่รู้กี่รอบแน่ๆ เพราะพายพัดดูจะใส่ใจและอ่อนโยนต่อใบเมี่ยงตลอดเวลาโดยไม่แคร์สายตาของใครเลย เหมือนกับว่าโลกนี้มีเขาเพียงแค่สองคนจริงๆ


...หมับ...


นับตังค์รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาวางอยู่บนหัวของตัวเอง เมื่อหันมามองดูถึงได้รู้ว่าไอ้ที่วางอยู่บนหัวของนับตังค์ก็คือมือของมีคุณนั่นเอง


“บอส นี่หัวนะ ไม่ใช่รั้วบ้าน” นับตังค์หันมาประชดมีคุณ

“สองคนนั่นมาสมัครงานเหรอ หน้าตาดีนะ แล้วรับไหม” มีคุณถามแต่ก็ยังไม่ยอมเอามือลง

“ตังไม่ใช่บอสนะที่เห็นแค่รูปลักษณ์แล้วรับเลย” นับตังค์แขวะ

“พี่ก็ไม่ได้เห็นแค่รูปลักษณ์แล้วรับนะ ไม่งั้นคงไม่รับตังมาทำงานหรอก”

“อ้าวเฮ้ย พูดแบบนี้แปลว่าอะไร” นับตังค์หันมาสวนกลับที่โดนสบประมาท

“ก็พี่ว่า อวัยวะบนหน้าของตังก็ยังตีกันไม่เสร็จเหมือนกัน หรือจะบอกว่าขี้เหร่ก็ได้” มีคุณย้อนคำพูดที่นับตังค์เคยว่าเขาเอาไว้ก่อนหน้านี้

“ขี้เหร่ก็อย่ามามองดิ” นับตังค์เบ้ปากใส่

“แล้วรู้ได้ไงว่าพี่มองถ้าไม่มองพี่เหมือนกัน” มีคุณย้อนถาม

“ไม่ได้มอง แค่ผ่านสายตาไปเหมือนแมลงวันบินผ่าน”

“พี่เป็นแมลงวันว่างั้น” มีคุณถาม

“ก็งั้นแหละ” นับตังค์ยักคิ้วตอบ

“แมลงวันมันชอบบินผ่านขี้นะ รู้ยัง” มีคุณถาม นับตังค์ยืนอึ้งก่อนจะหันมาเขวี้ยงสายตาอาฆาตใส่คนถาม นึกว่าจะได้เปรียบอยู่แล้วแท้ๆ กลับกลายมาเป็นกองขี้ที่โดนแมลงวันหัวเขียวอย่างมีคุณบินผ่านเสียอย่างนั้น

“งั้นบินผ่านแบบไปแล้วไปลับ อย่าแวะกลับมากินขี้ก็แล้วกัน!!” นับตังค์พูดจบก็ปัดมือมีคุณที่อยู่บนหัวของตัวเองออก มีคุณหัวเราะเมื่อคนขี้หงุดหงิดเดินหนีไปแล้ว ก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ อย่างขำๆ

“เห็นมองคนอื่นยีผมกันแล้วหน้าแดงก็อุตส่าห์จะทำให้บ้าง ดันมาจบที่เรื่องแมลงวันกับขี้ซะได้นะ เฮ้อ ดูท่าจะขี้งอนกว่าเจ้าด้วงมั๊งเนี่ย” มีคุณมองตามหลังของนับตังค์ไปและยอมรับว่าตัวเองยิ้มได้บ่อยขึ้นตั้งแต่รู้จักกับนับตังค์


ส่วนนับตังค์หลังจากที่หัวเสียที่พลาดท่าให้มีคุณกวนประสาทเอาได้ก็เดินกลับเข้ามาที่ครัวของบ้าน กำลังคิดว่าจะทำอะไรให้ด้วงกินในตอนเย็นดีเพราะไม่รู้ว่าด้วงชอบหรือไม่ชอบอะไร ส่วนอาหารเย็นของมีคุณกับของตัวเองนั้นนับตังค์ตั้งใจว่าจะทำข้าวอบเผือก วันนี้พี่บ่าวขมิ้นไม่กินข้าวเย็นด้วยเพราะจะไปกินกับพี่สาลี่ แล้วนับตังค์ก็ตัดสินใจที่จะให้ด้วงกินข้าวอบเผือกเหมือนกัน เพราะนับตังค์อยากหัดให้ด้วงกินอะไรก็ได้และไม่เลือกอาหาร


มีคุณเดินตามนับตังค์เข้ามาถึงครัว ยืนกอดอกมองนับตังค์หั่นเผือกเป็นลูกเต๋าขนาดเท่ากันแทบจะทุกอันด้วยความชื่นชม สิ่งที่มีคุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับนับตังค์อีกอย่างหนึ่งก็คือ นับตังค์ออกจะเป็นคนขี้รำคาญและขี้หงุดหงิดง่ายเวลาโดนกวนประสาท แต่เวลาที่ทำอาหารกลับดูเป็นคนใจเย็นและมีสมาธิ คงเหมือนกับนิสัยของเจ้าตัวที่เถียงเก่งและไม่ยอมใคร แต่ถ้าใช้เหตุและผลมาพูดด้วยดีๆ ก็ยอมรับผิดหรือยอมเข้าใจง่ายๆ ง่ายชนิดที่อีกฝ่ายปรับตัวตามแทบไม่ทัน


“ให้พี่ช่วยไหม” มีคุณถาม

“ดี” นับตังค์ตอบสั้นๆ

“ให้ช่วยอะไร”

“ช่วยอย่าจ้อง”

“ก็อยากเห็นเวลาเชฟทำกับอาหาร พี่ไม่ได้มาแกล้งให้ตังหงุดหงิดนะ พี่แค่อยากมีความรู้ด้านการทำอาหารบ้างแค่นั้นเอง” มีคุณเริ่มรู้วิธีการเข้าหานับตังค์ รู้ว่าเวลาไหนควรกวนประสาทหรือเวลาไหนต้องการสงบศึก

“ด้วงล่ะ” นับตังค์นิ่งไปนานก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด

“อยู่กับขมิ้น”

“อยากถ่ายคลิปรึเปล่า” นับตังค์ถาม

“ได้เหรอ” มีคุณเดินเข้าไปหาใกล้ๆ

“อืม” นับตังค์ตอบรับสั้นๆ


มีคุณดีใจรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย นับตังค์เหลือบมองมีคุณนิดหน่อยก่อนจะทำอาหารต่อ มีคุณเริ่มถ่ายตั้งแต่นับตังค์ทอดเผือก ทอดจนหอมไปทั่วครัว จากนั้นก็นำมาคลุกในข้าวสารให้ทั่วๆ เติมน้ำสต็อกใส่แล้วนำไปหุงในหม้อหุงข้าว ระหว่างรอข้าวสุกนับตังค์จัดเตรียมส่วนประกอบของอาหาร เท่าที่มีคุณเห็นก็มี กุ้งสด หมู เห็ดหอม กุ้งแห้ง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เกาลัด แปะก๊วย กระเทียมสับ ใบโหระพา ต้นหอมซอยและผักชี นับตังค์เตรียมหั่นเห็ดหอม ซอยผักและเริ่มทอดเครื่องทีละอย่างด้วยความใจเย็น เตรียมเครื่องครบข้าวก็สุกพอดี นับตังค์คดข้าวมาผึ่งเอาไว้ให้คลายความร้อน จากนั้นก็เริ่มเอากระเทียมสับกับต้นหอมซอยมาผัดน้ำมันก่อน แล้วถึงได้เอาเครื่องทุกอย่างที่ทอดเอาไว้ลงไปผัดกับกระเทียมและต้นหอมจนได้กลิ่นหอมไปทั่ว เมื่อส่วนประกอบทุกอย่างเข้ากันดีจึงตักขึ้นพักไว้


“หอมจัง” มีคุณเผลอชมจนลืมไปว่าอัดคลิปอยู่


นับตังค์ได้ยินแต่ทำเป็นไม่สนใจ นำข้าวที่คลายร้อนดีแล้วมาเตรียมไว้ ตั้งกระทะและใช้น้ำมันเดิมที่ผัดเครื่องเอาไว้มาผัดกับข้าวเพื่อข้าวจะได้มีกลิ่นหอม จากนั้นถึงได้ใส่เครื่องทั้งหมดลงผัดกับข้าวและเริ่มปรุงรสด้วยเกลือ ซอสเห็ดหอม ซีอิ้วขาว พริกไทย มีคุณเห็นว่านับตังค์ใส่น้ำมันงาลงไปเล็กน้อยและใส่ใบโหระพาลงไปด้วย ความหอมของข้าวจึงเพิ่มมากขึ้นจนมีคุณอยากวางโทรศัพท์แล้วไปขอชิม


“เสร็จแล้วเหรอ” มีคุณปิดกล้องก่อนจะถามเมื่อเห็นนับตังค์ปิดเตาแล้ว

“ยังไม่ได้อบเลย” นับตังค์บอกก่อนจะเดินไปหยิบหม้อดินเผามา


มีคุณเห็นว่านับตังค์ยังทำไม่เสร็จจึงกดถ่ายอีกครั้ง นับตังค์ตักข้าวที่ผัดกับเครื่องลงใส่ในหม้อดิน จากนั้นก็หยิบเกาลัดและแปะก๊วยมาเรียงเอาไว้บนสุดแล้วถึงได้นำไปอบ มีคุณกดปิดกล้องไปก่อนจะช่วยนับตังค์เก็บอุปกรณ์ที่ต้องเก็บล้างไปไว้ในอ่างล้างจาน


“พี่นึกว่าต้องเอาเครื่องทุกอย่างผัดในกระทะพร้อมข้าวสารแล้วค่อยนำไปหุง” มีคุณถามเพราะคิดว่าข้าวอบเผือกทำกันแบบนั้น ไม่นึกว่าจะขั้นตอนเยอะขนาดนี้

“ก็ทำได้ แต่ย่าของตังสอนมาแบบนี้ ต้องทอดเครื่องทุกอย่างให้หอมและสีเหลืองทองเสียก่อน เวลาอบจะได้ไม่เละเกินไปและสีจะออกมาดูสวย ข้าวก็ต้องเลือกข้าวเก่าที่ยางน้อย เวลาหุงอย่าใส่น้ำเยอะ ข้าวจะบานไม่เป็นเมล็ดสวย เผือกก็ต้องหั่นให้ขนาดพอดีกันจะได้สุกอร่อยเสมอกันทุกคำ หมูสันนอกเลือกตรงที่ติดขอบมันแข็งนิดหน่อย มันจากหมูจะช่วยให้รสของข้าวอร่อยขึ้น”

“อบกี่นาที พี่อยากชิมแล้ว”

“สิบห้านาที พี่ไปรอข้างนอกก่อนก็ได้ เดี๋ยวตังล้างของพวกนี้ก่อน เสร็จแล้วจะไปตาม” นับตังค์รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเวลามีคุณอยู่ใกล้ๆ

“พี่ช่วยล้าง” มีคุณพูดจบก็จัดแจงเดินไปเบียดนับตังค์แล้วหยิบฟองน้ำมาบีบน้ำยาล้างจานใส่เพื่อล้างเครื่องครัวที่อยู่ในอ่าง

“จะมายืนเบียดตังทำไม” นับตังค์บ่น

“เบียดเหรอ ทำไมพี่ไม่รู้สึกว่าเบียดเลย” มีคุณถามหน้าตายก่อนจะส่งจานที่ล้างน้ำยาแล้วให้นับตังค์ นับตังค์เลยได้แต่เหลือบมองเพราะไม่รู้จะโต้ตอบยังไง แต่ก็ยอมยืนล้างข้าวของข้างมีคุณจนเสร็จ


นับตังค์กับมีคุณช่วยกันเตรียมตั้งโต๊ะอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขมิ้นก็อุ้มด้วงมาส่งให้ก่อนจะลากลับ นับตังค์จัดข้าวอบเผือกให้ขมิ้นเอากลับไปด้วยสองชุดเผื่อให้สาลี่แฟนของขมิ้นด้วย นับตังค์ปล่อยให้ด้วงตักกินเอง เข้าปากบ้างหกบ้างแต่ด้วงก็กินด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย ที่ทำให้นับตังค์เห็นแล้วดีใจก็คือด้วงกินผักได้ทุกอย่าง ต่างจากเด็กส่วนใหญ่ที่นับตังค์เคยเห็นว่าไม่ยอมกินเลย


“ตังพาด้วงไปอาบน้ำให้ได้ไหม พี่ขอทำงานสักหน่อย เดี๋ยวพี่ล้างจานให้เอง” มีคุณบอกกับนับตังค์หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จแล้ว นับตังค์พยักหน้าให้แทนคำตอบก่อนจะจูงมือด้วงออกจากครัวไป


นับตังค์ถอดเสื้อผ้าให้ด้วงแล้วก็พาไปเล่นน้ำในอ่างอาบน้ำ ท่าทางว่าด้วงจะชอบน้ำเพราะว่าไม่งอแงเลย นั่งตีน้ำเล่นให้กระเด็นแล้วหัวเราะชอบใจ นับตังค์ปล่อยให้ด้วงเล่นน้ำจนเสื้อผ้าของตัวเองก็เปียกไปหมด


“ปี้จ๋ามาเย่นน้ำ ยงมาในฉะน้ำนี่” ด้วงยืนขึ้นแล้วดึงมือนับตังค์ นับตังค์เห็นว่าตัวเองก็เปียกแล้วเลยตัดสินใจถอดเสื้อผ้าออกเหลือไว้แต่บ็อกเซอร์แล้วลงไปแช่ในอ่างกับด้วง

“มานี่ พี่ฟอกสบู่ให้ก่อน” นับตังค์จับด้วงให้นั่งลงแล้วเอาฟองน้ำนุ่มๆ บีบสบู่เหลวใส่แล้วค่อยๆ ถูตัวให้ด้วง

“คิกๆๆ ไม่เอาตรงนี้ ปี้จ๋า คิกๆๆ” ด้วงบิดตัวหนีฟองน้ำเมื่อนับตังค์ถูไปโดนรักแร้

“บ้าจี้ด้วยเหรอ” นับตังค์ขำด้วงและแกล้งถูต้องรักแร้อีกจนด้วงหัวเราะลั่น

“สดชื่นไหมด้วง” มีคุณเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาถามเมื่อได้ยินเสียงด้วงหัวเราะร่วน เขาแค่จะขึ้นมาเอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค แต่ไม่คิดว่าการแวะมาดูด้วงหัวเราะจะได้เห็นผิวขาวๆ ของด้วงตัวใหญ่แถมมาด้วย

“ฉดชื่น แต่ปี้จ๋าแกล้งหนู” ด้วงตอบมีคุณก่อนจะฟ้อง ส่วนนับตังค์ตกใจที่มีคุณเข้ามาโดยไม่เคาะประตูห้องน้ำก่อน

“จะยืนมองอีกนานไหม” นับตังค์ถาม แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีโวยวายหรือเขินอาย เพราะมีคุณก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน แล้วนับตังค์ก็ไม่ได้แก้ผ้าออกหมด เพียงแต่รู้สึกกระอักกระอวนสายตาที่มองจ้องมาของบอสต่างหาก

“ก็เป็นห่วงด้วง กลัวจะจมน้ำเลยแวะเข้ามาดู” มีคุณแถไป

“น้ำเท่าตาตุ่มคงจะจมหรอกนะ” นับตังค์พูดไปก็ล้างสบู่ออกจากตัวด้วงไปด้วย แกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไรทั้งที่ในใจอยากจะไล่บอสจอมกวนประสาทที่มาจ้องตัวเองให้ออกไปเร็วๆ

“ด้วง แกล้งปี้จ๋ากลับเลย” มีคุณบอกกับด้วง ด้วงทำท่าจะลุกมาแย่งฟองน้ำในมือของนับตังค์ นับตังค์ต้องรีบเอามาซ่อนไว้ข้างหลัง

“สอนเด็กแต่เรื่องดีๆ นะ” นับตังค์มองมีคุณตาขวาง แล้วนับตังค์ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวก่อนจะหลุดหัวเราะเมื่อนิ้วเล็กป้อมของด้วงแหย่มาที่รักแร้ของนับตังค์

“ฟอกชาบู่ให้ปี้จ๋า” ด้วงทำตามที่มีคุณสอน

“ไม่เอาด้วง ฮ่าๆๆ พอๆ หยุดเลย” นับตังค์จับมือของด้วงมารวบไว้ก่อนจะหันไปทำตาดุใส่มีคุณที่บังอาจสอนด้วงให้แกล้งตน

“ขัดหลังให้ไหม” มีคุณถามนับตังค์

“ไม่ต้อง ออกไปเลยไอ้บอส!!” นับตังค์หมดความอดทนที่จะแกล้งเก็บอาการว่าไม่เขินหรือกระอักกระอวนใจจึงเอาฟองน้ำปาไปตรงที่มีคุณยืนอยู่ มีคุณรีบหลับออกมายืนข้างนอกแล้วหัวเราะเสียงดัง

“ไอ้บอส ไอ้บอส” ด้วงพูดตาม

“สอนแต่เรื่องดีๆ นะ” มีคุณตะโกนต่อว่านับตังค์บ้าง

“ด้วง ไม่พูดคำว่าไอ้นะ มันไม่ดี พี่ลงโทษตัวเองแล้ว” นับตังค์แค้นมีคุณอยากจะด่ามากกว่านี้ แต่กลัวด้วงเลียนแบบเลยต้องพักสงครามปากเอาไว้ก่อน นับตังค์ตบปากตัวเองเบาๆ ให้ด้วงดูว่าลงโทษตัวเองแล้วที่พูดไม่เพราะ

“ฮึก ปี้จ๋าไม่ตี ไม่ตี จัว ไม่ตี” ด้วงดึงมือนับตังค์ออกแล้วเบะปาก นับตังค์ตกใจเมื่อเห็นด้วงจะร้องไห้เลยกอดด้วงไว้ พลางนึกในใจว่าด้วงไปเจอกับอะไรมาถึงได้กลัวเพียงแค่นับตังค์ตีปากตัวเองเบาๆ

“ไม่ตีแล้ว ไม่ร้องนะ ไปแต่งตัวกันดีกว่า เดี๋ยวพี่เล่านิทานให้ฟังนะ” นับตังค์จับด้วงอาบน้ำและอาบให้ตัวเองด้วยก่อนจะพาขึ้นจากน้ำเพราะเดี๋ยวด้วงจะไม่สบายถ้าแช่น้ำนานเกินไป

(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 06-04-2017 17:43:55
(ต่อจากด้านบน)



เมื่อนับตังค์ออกมาจากห้องน้ำมีคุณก็ไม่ได้อยู่บนห้องแล้วเลยโล่งใจเพราะตัวเองก็นุ่งผ้าขนหนูออกมาผืนเดียว เมื่อจับด้วงแต่งตัวเสร็จก็ให้ด้วงนอนเล่นของเล่นที่เคารพนำมาให้ด้วยบนเตียงไปก่อน นับตังค์เดินเข้าไปแต่งตัวจนเสร็จมีคุณก็เปิดประตูขึ้นมาพร้อมกับนมหนึ่งขวดพอดี


“ขมิ้นบอกว่าด้วงยังกินนมขวดอยู่ กินแค่ก่อนนอน พี่เลยชงมาให้” มีคุณทำเป็นเหมือนว่าเมื่อครู่ไม่ได้กวนประสาทนับตังค์เอาไว้

“ชงเป็นเหรอ” นับตังค์ถาม

“ขมิ้นเขียนบอกเอาไว้ แต่มันยังร้อนอยู่”

“วางเอาไว้ตรงนั้นก่อน ด้วงเพิ่งกินข้าวมา เดี๋ยวค่อยให้กินก่อนจะนอนคงจะอุ่นพอดี” นับตังค์บอกกับมีคุณ

“แล้วคืนนี้นอนกันยังไงดี” มีคุณถาม

“ไม่น่าถาม บอสก็ไปนอนที่โซฟา”

“แต่พี่ปวดหลัง”

“งั้นบอสก็มานอนกับด้วง เดี๋ยวตังนอนโซฟาเองก็ได้” นับตังค์ขี้เกียจเถียงกับมีคุณ แต่ในใจก็คิดเอาไว้แล้วว่ากวามีคุณจะทำงานเสร็จก็คงดึกเหมือนเมื่อวาน ตอนนั้นตัวเองและด้วงคงหลับปุ๋ยบนเตียง ให้มันรู้ไปว่ามีคุณจะใจดำปลุกคนหลับให้ลุกไปนอนที่โซฟา คิดแล้วก็อมยิ้มออกมากับแผนการของตัวเอง

“โอเค” มีคุณยักไหล่ ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินกลับลงไปข้างล่าง

“ยิ้มไปก่อนเถอะบอส ได้นอนโซฟาแน่” นับตังค์พึมพำเบาๆ ด้วยความสะใจ โดยที่ไม่รู้ว่าที่มีคุณยิ้มเพราะรู้ทันว่านับตังค์กำลังคิดแผนอะไรอยู่ต่างหาก


มีคุณเอาคลิปที่ถ่ายนับตังค์กำลังทำข้าวอบเผือกมานั่งดูอยู่หลายรอบ ก่อนจะนึกย้อนกลับไปคิดว่าในวันที่ประกวดขนมครั้งนั้นทำไมนับตังค์ถึงได้พลาดได้ อาหารและขนมหลายอย่างที่นับตังค์ทำให้เขาชิมมันแสดงถึงความสามารถที่มีและฝีมือเทียบเท่าเชฟชื่อดังได้เลย ซอสในวันนั้นเค็มจนไม่น่าเชื่อว่านับตังค์จะชิมมาแล้ว มันคงมีอะไรผิดพลาดสักอย่างจริงๆ พอคิดแล้วก็รู้สึกผิดที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อว่านับตังค์ไปในวันนั้น มีคุณกดย้อนดูคลิปนับตังค์ทำข้าวอบเผือกอีกหลายรอบ ยิ่งดูก็ยิ่งเพลินจนไม่ได้สนใจเลยว่าโทรศัพท์ของตัวเองมีสายเรียกเข้าจากคีตะตั้งสิบกว่าสายเพราะมีคุณใส่หูฟังเอาไว้ด้วย


หลังจากที่ดูคลิปของนับตังค์จนพอใจและนั่งเขียนคอลัมน์จนเสร็จถึงได้เห็นว่าคีตะโทรเข้ามา แต่มีคุณไม่ได้โทรกลับไปเพราะว่าตอนนี้ก็เกือบตีหนึ่งแล้ว เขาปิดคอมพิวเตอร์แล้วกลับขึ้นไปบนห้อง มีคุณเห็นแล้วว่านับตังค์หลับอยู่บนเตียงโดยมีด้วงนอนคว่ำทับอยู่บนตัวนับตังค์ เห็นแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อว่าคนห้าวๆ อย่างนับตังค์จะมีมุมอ่อนโยนแบบนี้ด้วย มีคุณเข้าไปอาบน้ำ เมื่อออกมาก็เห็นว่าด้วงกลิ้งลงมานอนบนที่นอนแล้ว เขาจึงเดินไปปิดไฟแล้วค่อยๆ ทิ้งตัวลงบนที่นอนอีกฝั่งให้เบาที่สุดเพราะกลัวคนขี้หวงจะตื่นมาไล่เขาไปนอนที่โซฟา มีคุณให้ด้วงนอนอยู่ตรงกลางเพราะกลัวว่าด้วงจะดิ้นตกเตียง เขาดึงผ้าห่มผืนหนามาห่มให้ด้วงและนับตังค์ก่อนจะสอดตัวเองเข้าไปในผ้าห่มด้วย รู้สึกแปลกดีเหมือนกันที่ชีวิตมีอะไรเข้ามาพร้อมๆ กันได้แบบไม่ทันได้ตั้งตัวเลยจริงๆ เป็นความแปลกที่กำลังก่อความสุขให้เขาเพิ่มมากขึ้นทุกวันอย่างที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน


นับตังค์ลืมตาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตะวันยังไม่ทันโผล่พ้นจากขอบฟ้า นั่นเพราะด้วงนอนกลับหัวกลับหางเอาเท้าขึ้นมาวางบนหมอนของนับตังค์ แต่นับตังค์แทบจะหลุดหัวเราะเมื่อมองไปที่เท้าอีกข้างของด้วง ปลายนิ้วก้อยอันกระจิริดของเจ้าด้วงเกือบจะแหย่เข้าไปที่จมูกของมีคุณ จากที่กำลังคิดจะนินทามีคุณในใจว่ายังอุตส่าห์จะมานอนเบียดบนเตียงอีกเลยเปลี่ยนใจสมน้ำหน้ามีคุณแทนที่ต้องนอนอยู่กับเท้าน้อยๆ ของด้วงต่อไป


นับตังค์หยิบนาฬิกาขึ้นมาดูก็คิดว่าลุกจากที่นอนเลยดีกว่า เพราะมันก็เกือบตีห้าแล้ว นับตังค์อยากลงไปวิ่งสักหน่อย ตั้งแต่มาที่นี่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย ว่าแล้วนับตังค์ก็เลยลุกไปหยิบหมอนมาวางกันฝั่งตัวเองเอาไว้เพราะกลัวว่าด้วงจะดิ้นตกเตียงลงมาก่อนที่จะไปล้างหน้าแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปวิ่งที่ชายทะเลสักหน่อย


กลิ่นทะเลที่ลอยมากับลมเย็นๆ เสียงคลื่นที่กระทบกับฝั่งทำให้นับตังค์รู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นท่ามกลางท้องฟ้าที่ยังมืดมัวอยู่ทำให้ท้องทะเลเป็นสีทองและมีแสงสะท้อนที่ผิวน้ำดูสวยงาม นับตังค์หยุดยืนดูพักใหญ่ก่อนจะตัดสันใจวิ่งกลับบ้านเพราะจะกลับไปทำอาหารเช้าให้ทุกคนได้ทาน ระหว่างทางมีรถคันหนึ่งแล่นมาแล้วชะลอความเร็วลงแล้วขับมาขนาบนับตังค์


“ออกกำลังกายด้วย มิน่าถึงหุ่นดี” พญาเพิ่งกลับจากไปปาร์ตี้ในเมืองมา รู้สึกโชคดีที่ได้เจอกับนับตังค์เพียงลำพัง

“หัดออกกำลังบ้างก็ได้นะ กินแต่เหล้าหน้าแก่ไวนะลุง” นับตังค์ได้กลิ่นเหล้าจากตัวของพญาทั้งที่พญาอยู่ในรถ แปลว่าคงดื่มมากหนักไม่ก็ตกบ่อเหล้ามา

“เป็นห่วงพี่เหรอ” พญาสะดุ้งเมื่อได้ยินนับตังค์เรียกตัวเองว่าลุง แต่ก็ทำเป็นไม่ใส่ใจเพราะเริ่มจะรู้ว่านับตังค์เป็นคนไม่ยอมใคร พญาคิดว่าจะยอมให้ก่อน หากเมื่อไหร่ได้นับตังค์มาเป็นแฟนจะทำให้อ้อนวอนร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียว

“ห่วงคนแถวนี้ เกิดขับไปชนคนอื่นจะทำยังไง” นับตังค์หยุดวิ่งแล้วหันไปพูดกับพญาด้วยสีหน้าจริงจัง นับตังค์เกลียดที่สุดเลยคือคนเมาแล้วขับรถ

“พี่สร่างแล้ว” พญาหน้าเสียเมื่อเห็นว่านับตังค์แสดงสีหน้าไม่ชอบใจ

“สร่างแล้วก็ดี กลับไปนอนไปลุง โคตรเหม็นเหล้าเลย” นับตังค์พูดจบก็วิ่งต่อ ไม่ได้สนใจเลยว่าพญาขับตามมาอย่างช้าๆ เพราะอยากรู้ว่านับตังค์อยู่ที่ไหน เมื่อพญาเห็นแล้วว่านับตังค์วิ่งเข้าไปในร้านอาหารของอนันต์คู่ปรับของพยนต์ผู้เป็นบิดาก็อึ้งไป

“เป็นอะไรกับตาแก่หัวดื้อนะน้องตัง เรื่องของเราช่างเหมือนโรมิโอกับจูเลียตแท้ๆ” พญาบ่นพึมพำก่อนจะขับรถออกจากหน้าร้านอาหารของอนันต์ไปตั้งหลักและหาแผนการที่จะจีบนับตังค์มาเป็นแฟนให้ได้


นับตังค์วิ่งกลับเข้ามาทางร้านแทนที่กลับเข้าบ้านเพราะได้กลิ่นหอมลอยมาแต่ไกล มองนาฬิกาที่ข้อมือก็เห็นว่ายังไม่เจ็ดโมงเช้าเลย เมื่อเดินเข้ามาในร้านก็เห็นขมิ้นกำลังกวาดใบไม้อยู่ที่ระเบียงร้านจึงเดินเข้าไปทัก


“ทำไมพี่บ่าวมาแต่เช้าเลย”

“ปกติก็ตื่นเวลานี้นิ พี่มาถึงเห็นหนุ่มหล่อสองคนมายืนรอที่หน้าร้าน พี่เลยเปิดให้เข้ามา เขาว่าตังนัดให้มาทำข้อสอบ” ขมิ้นรายงาน

“ตังนัดเขาแปดโมง คงมาเตรียมน้ำซุปกันก่อน ตังขอไปดูก่อนนะ”


นับตังค์เดินตามกลิ่นหอมเข้ามาถึงในครัว เมื่อแง้มเปิดเปิดประตูเข้าไปก็ต้องชะงักแล้วกลับออกมายืนที่ด้านนอกตามเดิม นับตังค์ยืนใจเต้นตึกตักที่ดันไปเห็นว่าพายพัดกำลังจูจุ๊บใบเมี่ยงพอดี ถึงจะไม่ใช่จูบที่ดูหื่นกระหายแต่มันก็ทำให้นับตังค์หน้าแดงได้เพราะมันไม่ใช่ภาพที่จะเห็นกันจนชิน นับตังค์ตัดสินใจปล่อยให้ทั้งสองคนนั้นเตรียมทำอาหารกันไป เอาไว้ถึงเวลานัดค่อยลงมาจะดีกว่า


“อ้าว ไปดูมาแล้วเหรอ” ขมิ้นร้องทักเมื่อเห็นนับตังค์เดินกลับมา

“ยัง มาคิดดูแล้วอยากเซอร์ไพรส์ว่าเขาจะทำเมนูอะไรออกมาให้ตังชิม เดี๋ยวรอลงมาตอนเวลานัดเลยดีกว่า พี่บ่าวก็ไม่ต้องเข้าไปนะ ปล่อยเขาสองคนทำไป” นับตังค์รีบบอกเพราะกลัวพี่บ่าวจะเจออะไรเหมือนกับตัวเอง

“ไปเผือกอะไรมานิ”

“อะ อะ อะไรนะ” นับตังค์ตกใจที่ขมิ้นถามแบบนี้

“พี่ว่าข้าวอบเผือกอร่อยนิ สาลี่มันชอบมาก” ขมิ้นพูดซ้ำเมื่อนับตังค์ถาม แต่ก็งงว่านับตังค์เป็นอะไร ดูตื่นเต้นชอบกล

“อ๋อ ครับ ขอบคุณที่ชม ตังไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เดี๋ยวลงมานะพี่บ่าว” นับตังค์พรูลมหายใจ นึกบ่นตัวเองในใจว่ามัวแต่คิดถึงเรื่องจูบจนหูเพี้ยนไปขนาดนั้น


เมื่อนับตังค์กลับขึ้นมาถึงห้องนอนก็เห็นว่ามีคุณนั่งผมยุ่งอยู่บนเตียงโดยมีด้วงขี่หลังอยู่ ปกติมีคุณจะรวบผมไปด้านหลังเป็นจุก ส่วนผมด้านข้างของมีคุณไถสั้นอยู่แล้ว เมื่อปล่อยผมลงมาหมดก็ดูแปลกตาดี


“ไปไหนมา” มีคุณถาม

“ปายไหนมา” ด้วงพูดตามมีคุณ

“ไปวิ่ง ด้วงตื่นนานแล้วเหรอ” นับตังค์ถาม

“นานแล้ว ตื่นมาก็เอานิ้วแหย่จมูกพี่จนต้องตื่นด้วยเลย” มีคุณลูบหน้าลูบตาตัวเองเพราะยังรู้สึกง่วงอยู่

“ทำดีมากด้วง” นับตังค์หัวเราะขำแล้วเดินไปอุ้มด้วงออกมาจากหลังของมีคุณ

“จินนม จะจินนม” ด้วงร้องบอกนับตังค์ก่อนจะดึงมือของนับตังค์มาแล้วเอานิ้วนับตังค์มาดูดเล่น

“ดูดไม่ได้ นิ้วสกปรก เดี๋ยวลงไปกินนมเป็นแก้วเอา ไม่ให้ดุดขวดแล้ว” นับตังค์พยายามจะดึงนิ้วออกมาจากปากของด้วง

“เค็มไหมด้วง ขอกินบ้างได้ไหม” มีคุณแกล้งถาม

“อาหย่อย” ด้วงดึงนิ้วนับตังค์ออกมาแล้วดึงเลื่อนมาทางมีคุณ

“เฮ้ย ทะลึ่งแล้ว” นับตังค์ตกใจรีบชักมือกลับอย่างแรง

“ฮึก..จัว จัว” ด้วงตกใจที่นับตังค์ชักมือกลับไปอย่างแรงเลยเริ่มเบะปาก มีคุณต้องดึงมือนับตังค์มาแล้วปลอบด้วง

“โอ๋ๆ ไม่ร้อง นี่ไง พี่ดูดแล้ว” มีคุณพูดจบก็เอานิ้วนับตังค์มาอมไว้

“อาหย่อย จิน หนูจินล่วย” ด้วงเลิกเบะปากแล้วยิ้มกว้างก่อนจะดึงนิ้วก้อยของนับตังค์มาอมด้วย

“บอส!!” นับตังค์ยืนตัวแข็ง ส่งเสียงเข้มไปให้มีคุณ นิ้วชี้ก็ถูกบอสอมไว้ นิ้วก้อยก็ถูกด้วงอมไว้

“จะปล่อยให้เด็กร้องได้ไง เดี๋ยวเด็กมีปมนะ” มีคุณรีบบอก เมื่อนิ้วนับตังค์เป็นอิสระจากปากของมีคุณ นับตังค์ก็อุ้มด้วงออกมาให้ห่างจากคนกระล่อน

“ด้วงครับ อมนิ้วไม่ได้นะครับ มันมีปิศาจ เดี๋ยวด้วงจะปวดท้อง” นับตังค์บอกกับด้วงก่อนจะส่งสายตาอาฆาตไปให้คนบนเตียง ส่วนด้วงเจอคำขู่เลยรีบดึงนิ้วนับตังค์ออกจากปาก

“จาจินนม” ด้วงเริ่มงอแงเพราะหิวและชิน ตอนอยู่กับดาวเรือง พอด้วงร้องไห้ ดาวเรืองก็ยัดนมใส่ปากท่าเดียว ด้วงเลยกลับมาติดขวดนมอีกรอบ

“กินนมเหรอ” มีคุณทวนคำก่อนจะมองไปที่อกของนับตังค์พร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์

“บอส!!!” นับตังค์อยากจะด่าบอสจนไฟแลบ แต่ต้องห้ามใจเอาไว้เพราะด้วงอยู่ด้วย คนอะไรลามกจกเปรตจริงๆ นับตังค์ได้แต่ด่าในใจ แต่หารู้ไม่ว่าตัวเองหน้าแดงกว่าตอนที่เห็นพายพัดกับใบเมี่ยงจูบกันเสียอีก

“จาจินนม ฮึก ฮือ..” ด้วงเริ่มร้องไห้

“จะลงไปชงนมหรือจะมาอุ้มด้วง” นับตังค์ถามมีคุณ

“ครับเชฟ เดี๋ยวลงไปชงนมให้ครับ” มีคุณพูดไปหัวเราะไป รู้สึกสนุกที่แกล้งนับตังค์ได้

“ให้ไวๆ”

“ด้วงรอก่อนนะ อย่ากินนมปี้จ๋านะ นมปี้จ๋าเค็มปิ๊ดปี๋” มีคุณบอกกับด้วงก่อนจะรีบวิ่งออกไปเพราะนับตังค์ยกเท้าขึ้นมาทำท่าจะเตะมีคุณด้วยความโมโหที่มีคุณไม่เลิกกวนอารมณ์

“ปิ๊ดปี๋เยย นมเค็มปิ๊ปปี๋เยย” ด้วงเลิกร้องไห้พูดตามมีคุณจนนับตังค์นึกแค้นใจที่ระยะหลังมานี่เป็นฝ่ายโดนกวนประสาทตลอด

“ด้วง จุ๊จุ๊จุ๊ ไม่พูดแบบนี้” นับตังค์เอานิ้วชี้มาแตะปากส่งเสียงห้ามด้วง แต่เมื่อนึกได้ว่านิ้วชี้นิ้วนี้ถูกมีคุณอมไปแล้วก็รีบเอาลงแล้วก็ยืนหน้าแดงอีกรอบจนได้


เมื่อมีคุณกลับขึ้นมาพร้อมนม นับตังค์ก็ให้มีคุณดูด้วงเอาไว้ก่อนเพราะนับตังค์จะไปอาบน้ำล้างเหงื่อ ระหว่างที่เข้าไปในห้องน้ำก็แอบเอาโทรศัพท์เข้ามาด้วยเพราะอยากรู้ว่ามีคุณเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับข้าวอบเผือกของตัวเองว่ายังไง แต่ปรากฏว่าเมื่อคืนนี้มีคุณไม่ได้เขียนถึงข้าวอบเผือกของนับตังค์ แต่เขียนถึงร้านอาหารที่มีคุณไปกินกับนับตังค์วันที่นัดนับตังค์ออกมาคุยเรื่องที่จะชวนมาทำงานที่นี่ นับตังค์แอบเซ็งเพราะนึกว่ามีคุณจะเขียนถึงผลงานของตัวเอง


“แล้วทำท่าดีใจทำไมตอนให้ถ่ายคลิปได้” นับตังค์ชูนิ้วชี้ที่โดนมีคุณอมขึ้นมาต่อว่าราวกับว่านิ้วนี้เป็นตัวแทนของมีคุณไปแล้วก่อนจะวางโทรศัพท์ลงแล้วไปอาบน้ำด้วยอารมณ์ที่ผิดหวัง โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องหวังที่จะอ่านมันเหมือนกัน


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


(https://www.uppic.org/image-7223_58E61BED.jpg)

เครดิตรูปจาก Goolgle


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)

มีผู้อ่านเรียกร้องมาว่าให้เอารูปอาหารตามชื่อตอนมาลงด้วย เลยเอามาลงให้
แต่ไม่ทราบว่าผิดกฏอะไรรึเปล่า เตือนได้นะคะ แผนผังชื่อตัวละครอยู่ที่บทนำหน้าแรกนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ขอบคุณที่ให้กำลังใจ กำลังใจมาแบบนี้ก้็แต่งไหลลื่นปรื๊ดๆๆ 5555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Jitsupa_milk ที่ 06-04-2017 18:29:00
ยิ่งมีรูปประกอบยิ่งหิวใหญ่เลยย
ด้วงทำดีมากๆ 55
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 06-04-2017 18:36:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-04-2017 19:05:13
  o13o13 o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 06-04-2017 19:12:05
ขอบคุณค่าาาา มีรูปแล้วววว ฟินหนักเลยยยย  :m3:  ว้ายยยยย 2 คิ้วท์บอยเดี๊ยน ไม่ต้องจิ้นเลย เป็นแฟนกันแล้ว จุ๊บกันแล้วชัดเจนสุดๆ  บอสนี่...หลงน้องแล้วชัดเนอะ ตอดนิดตอดหน่อยเก็บหมด 55555 น่ารักจัง ชอบๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 06-04-2017 19:25:44
พญาขี้มโนไปไหม โรมิโอจูเลียตอะไรกัน หึ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 06-04-2017 19:33:15
 :3123: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-04-2017 19:38:57
ให้อารมณ์พ่อแม่ลูกมากกกกกกกกกกกกก   :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 06-04-2017 19:49:17
อ่านแล้วเราก็หิว
ครอบครัวสุขสันต์
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 06-04-2017 19:55:01
 :laugh: มีโมเม้น พ่อ แม่ ลูก อะ แล้วอีกคู่นิหวานมาก หุหุ  :-[
แต่กลัวคีตะกะพญาก่อปัญหาอะ 2 ตัวเนี้ยเอาไปถ่วงในทะเลเหอะ  :m16:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-04-2017 23:44:55
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 07-04-2017 00:55:04
ขี้แกล้งจริงๆมีคุณเนี่ย

ว่าจะทำโรแมนติกกลายเป็นอะไรเนี่ย 55 :hao3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก-
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 07-04-2017 09:43:51
ผิดพลาดค่ะ 55
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 07-04-2017 16:40:15
มีคุณรุกแรงงง ดูดนงดูดนิ้วอะไรคะคุณ :-[
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 08-04-2017 01:20:11
สนุกมากๆค่ะ อ่านไปหิวไป  o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 08-04-2017 10:53:59
อ่านแล้วหิว ยิ่งดูรูปแล้วอยากกิน  ถ้านับตังรับใบเมี่ยงกับพายมาทำงาน คงเป็นตากุ้งยิงบ่อยแน่ หรือไม่ก็ตาแดงเพราะอิจฉาในความตะมุตะมิของทั้งคู่   ดูๆ ไปแล้วสงสัยหนูด้วงจะเป็นกามเทพน้อยให้นับตังกับมีคุณแน่เลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 08-04-2017 16:01:00
อ่านเรื่องนี้ได้วิธีทำอาหารด้วย อยากทานขึ้นมาทันที
นับตังกวนดีค่ะชอบมาก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: หนอนกอ ที่ 10-04-2017 21:17:00
 :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 11-04-2017 22:07:09
เพิ่งเจอเรื่องนี้ ชอบมากกกกกกกกก นับตังค์กับมีคุณเป็นอะไรที่เข้ากันมากกกก ชอบการต่อปากต่อคำของทั้งสองคน 5555555555 เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ รอตอนต่อไปค่าา :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 7 ข้าวอบเผือก 6/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 12-04-2017 01:30:04
เพิ่งได้อ่าน ชอบมากๆเลยค่ะ
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 12-04-2017 11:12:06
ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ


เพราะปัจจัยสำคัญของราเมนก็คือน้ำซุป ใบเมี่ยงจึงไปซื้อกระดูกหมูมาเคี่ยวทำน้ำซุปเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ส่วนเส้นราเมน ใบเมี่ยงกับพายพัดตัดสินใจจะมาทำเส้นสดในตอนเช้า ทั้งคู่เลยมาก่อนเวลานัดเพราะว่าอยากมีเวลาเตรียมตัวให้นานหน่อย ใบเมี่ยงอยากได้งานนี้จริงๆ การที่ตัดสินใจขายทรัพย์สมบัติที่จังหวัดน่านหลังจากที่แม่เสียชีวิตก็เพราะอยากจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะแห่งนี้ ใบเมี่ยงเคยมาที่เกาะนี้ครั้งหนึ่งแล้ว ได้มาเจอกับคุณปู่อนันต์ ใบเมี่ยงติดใจรสชาติอาหารของคุณปู่มากและเคยขอท่านเป็นศิษย์เพราะอยากเรียนรู้เรื่องอาหาร คุณปู่ก็รับปากว่าจะสอนให้แถมยังบอกว่าจะแบ่งขายที่ดินในราคาถูกให้ใบเมี่ยงอีกด้วย แต่มีข้อแม้ว่าใบเมี่ยงจะต้องช่วยอะไรท่านอย่างหนึ่ง ซึ่งข้อแม้นั้นท่านจะบอกในวันที่ใบเมี่ยงกลับมาอีกครั้ง แต่ใบเมี่ยงตัดสินใจที่จะย้ายมาอยู่ที่นี่ช้าเกินไป คุณปู่อนันต์ท่านเสียชีวิตไปเสียก่อน ใบเมี่ยงรู้สึกเสียใจและเสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับท่านอีก เมื่อใบเมี่ยงได้เห็นใบประกาศรับผู้ช่วยเชฟที่แปะอยู่ในตลาด ใบเมี่ยงก็บอกกับพายพัดว่าจะต้องทำงานนี้ให้ได้ ใบเมี่ยงคิดว่าโชคชะตาอาจจะลิขิตให้ใบเมี่ยงได้รับโอกาส แม้เจ้าของคนใหม่จะไม่ใช่คุณปู่ แต่มันคงมีอะไรสักอย่างที่ทำให้ใบเมี่ยงมาที่นี่ในเวลานี้ เพราะฉะนั้นใบเมี่ยงจะต้องทำบททดสอบนี้ให้ดีที่สุด


ตอนที่มาถึงที่ร้านอาหารของคุณปู่ ใบเมี่ยงกับพายพัดได้เจอคนดูแลร้าน ซึ่งใบเมี่ยงได้ทราบจากการสอบถามว่าชื่อพี่ขมิ้น พี่ขมิ้นเป็นคนเปิดร้านให้ใบเมี่ยงกับพายพัดได้เข้ามาจัดเตรียมทำอาหารในครัวหลังจากที่ใบเมี่ยงแจ้งว่านับตังค์นัดให้มาทำราเมนเพื่อเป็นการทดสอบ ใบเมี่ยงไม่รู้ว่าพายพัดจะทำราเมนอะไร เจ้าตัวไม่ยอมบอก แต่ใบเมี่ยงรู้ดีว่าคนอย่างพายพัดถ้าลองทำนิ่งเฉยแปลว่าเขาพร้อมและมั่นใจในสิ่งที่จะทำแล้ว คงเหมือนกับที่พายพัดตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาอยู่กับใบเมี่ยง แม้ใบเมี่ยงจะไม่เห็นด้วยในทีแรก แต่ก็จำต้องยอมเพราะคำพูดของพายพัดที่พูดตอบกลับมาตอนที่ใบเมี่ยงทักท้วง


“เมี่ยงไม่อยากให้พายเอาอนาคตมาทิ้งกับเมี่ยง”

“เราไม่ได้ทิ้งอนาคต เราแค่อยากให้อนาคตของเรามีเมี่ยงตลอดเวลา อย่าห่วงว่าเราจะไปไม่รอดกับแค่ไม่ได้ทำงานบริษัทใหญ่ เราดูแลเมี่ยงได้ เชื่อใจเรารึเปล่า”


“เมี่ยงไม่เคยคิดว่าพายจะเอาตัวไม่รอด พายเป็นคนเก่ง น่าเสียดายที่จะทิ้งความสามารถเพื่อไปอยู่ที่เกาะเล็กๆ กับเมี่ยง”

“คำว่าน่าเสียดายเอาไว้ใช้ตอนที่เราดูแลเมี่ยงไม่ได้ดีกว่า แต่คงไม่มีวันนั้นหรอก มานี่อุ๋งอุ๋ง อย่าคิดมาก เราตัดสินใจดีแล้ว มาขอกอดหน่อย”


ใบเมี่ยงนึกย้อนไปแล้วก็อดอมยิ้มออกมาไม่ได้ พายพัดชอบบอกว่าใบเมี่ยงเหมือนแมวน้ำ เลยเรียกใบเมี่ยงว่าอุ๋งอุ๋งตลอด เคยถามว่าทำไมถึงคิดว่าใบเมี่ยงเหมือนแมวน้ำแต่พายพัดก็ไม่เคยตอบ ใครจะไปคิดว่าคนหน้าตาดีและเก่งรอบด้านอย่างพายพัดจะมาหลงรักคนที่ธรรมดาอย่างใบเมี่ยงได้ ใบเมี่ยงคิดว่าความโชคดีที่สุดในชีวิตของตัวเองก็คือการได้เจอกับพายพัดนี่แหละ


“คิดอะไรอยู่อุ๋ง” พายพัดเดินมาหาใบเมี่ยงที่เอาแต่ยืนอมยิ้มอยู่คนเดียว

“คิดว่าโชคดีจังที่มีแฟนหล่อ” ใบเมี่ยงพูดจบก็เอาหัวโขกที่อกของพายพัดเบาๆ เป็นท่าอ้อนประจำของใบเมี่ยง

“มาอ้อนอะไรตอนนี้ ไม่สะดวกเลย” พายพัดก้มลงหอมที่ผมของใบเมี่ยง

“ชิมน้ำซุปให้ทีว่าอร่อยไหม” ใบเมี่ยงหันไปตักน้ำซุปในหม้อเพราะเขินที่พายพัดแสดงออกชัดเจนว่าอยากขย้ำแมวน้ำตัวนี้แล้ว

“อืม อร่อยแล้ว” พายพัดชิมน้ำซุปที่ใบเมี่ยงตักมาป้อน

“จริงนะ”

“ไม่เชื่อเหรอ” พายพัดเชยคางใบเมี่ยงขึ้นแล้วจูบเพื่อให้รสชาติของน้ำซุปที่เพิ่งชิมไปแตะสัมผัสที่ลิ้นของใบเมี่ยงบ้าง


...แกร๊ก...


“อ้าว โดนเห็นจนได้” พายพัดได้ยินเสียงดังมาจากประตูเลยชำเลืองดู เห็นแผ่นหลังของนับตังค์แวบๆ จึงเดาว่านับตังค์คงมาเห็นฉากสำคัญเข้าพอดี แต่ก็ดีเหมือนกัน ประกาศให้รู้เลยว่าใบเมี่ยงเป็นของใคร

“ก็เป็นแบบนี้” ใบเมี่ยงต่อว่าพายพัดแบบไม่จริงจังก่อนจะทุบแขนพายพัดเบาๆ ที่ชอบอดใจไม่ไหว ชอบทำอะไรประเจิดประเจ้ออยู่เรื่อย


พายพัดยีผมของใบเมี่ยงด้วยความเอ็นดูก่อนจะเดินกลับมาทำเราเมนของตัวเองต่อ พายพัดเองก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองทำอาหารได้ดีหลังจากที่มาเจอกับใบเมี่ยง พายพัดเป็นคนหัวดีมาตั้งแต่เด็ก พ่อกับแม่ก็เข้มงวดเรื่องเรียนจนเขาสามารถเรียนจบถึงสองสาขาในเวลาไล่เลี่ยกัน พายพัดไม่เคยขัดใจพ่อกับแม่และก็ไม่เคยคิดว่าชอบหรือไม่ชอบกับสิ่งที่พ่อกับแม่วางเส้นชีวิตเอาไว้ให้ พายพัดคิดแต่ว่าหน้าที่คือการเรียนให้จบ หางานที่ดีให้ได้เงินเดือนเยอะๆ สมกับที่เรียนจบมา แต่เมื่อได้เจอกับใบเมี่ยงตอนที่เขาต้องไปทำงานให้สาขาย่อยของบริษัทที่น่าน นั่นเป็นครั้งแรกที่พายพัดรู้สึกได้ว่าความต้องการที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร แบบไหนที่เรียกว่าความสุขที่ตัวเองต้องการ


พายพัดได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่กับใบเมี่ยงในช่วงเวลาที่ได้ทำงานอยู่ที่น่าน เขาได้ลองทำอาหารหลากหลายโดยมีใบเมี่ยงคอยสอน ซึ่งเขาไม่เคยรู้จริงๆ ว่าเขาทำอาหารได้ แถมทำมันออกมาได้ดีทั้งที่ไม่เคยมีความรู้ในด้านนี้มาก่อน เขารู้แต่ว่าทุกครั้งที่ได้ลงมือทำอาหาร เขามีความสุข ยิ่งได้อยู่เคียงข้างใบเมี่ยงด้วยแล้ว เขายิ่งมีความสุข จากวันนั้นมาพายพัดบอกกับตัวเองว่าจะขอใช้ชีวิตที่เหลือให้กับความสุขของตัวเองบ้าง นั่นคือการได้ทำอาหารและดูแลใบเมี่ยงในฐานะคนรัก น่าแปลกใจที่พ่อแม่ของเขาไม่ขัดขวางในวันที่เขาไปบอกว่าเขาจะลาออกจากงานที่ทำประจำ ท่านบอกว่าพายพัดโตแล้วอยากเลือกอะไรให้กับตัวเองก็ตามใจ ซึ่งก็เป็นเรื่องดีเพราะมันทำให้ชีวิตของเขาราบรื่นยิ่งขึ้น


“มากันแล้วเหรอ” นับตังค์ทักพายพัดกับใบเมี่ยงหลังจากที่ขึ้นไปอาบน้ำ จนถึงเวลาที่นัดหมายกับทั้งสองคนถึงได้ลงมา

“ขอมาทำก่อนเวลานัดนะครับ เมี่ยงอยากเคี่ยวน้ำซุปนานหน่อย” ใบเมี่ยงหันมาบอก แต่เมื่อเห็นว่าข้างๆ นับตังค์มีใครอีกคนยืนอยู่ด้วยก็มองไปก่อนจะยิ้มให้

“พาย เมี่ยง เราขอแนะนำให้รู้จักกับเจ้าของร้านนะ คุณมีคุณ จะเรียกว่าคุณมีหรือคุณคุณหรือบอส หรือ..”

“เรียกว่าคุณก็ได้ครับ แต่ถ้าเชฟใหญ่เขารับพวกคุณเข้าทำงานที่นี่แล้วค่อยเรียกบอส” มีคุณรีบแทรกก่อนที่นับตังค์จะสรรหาชื่อแปลกๆ มาให้เขา

“บอส คนนี้ชื่อใบเมี่ยง คนนี้ชื่อพายพัด ส่วนคนนี้ชื่อตัง” นับตังค์แนะนำให้มีคุณรู้จักกับผู้ที่มาสมัครงานทั้งสองคนก่อนจะทะเล้นทำเป็นแนะนำตัวเองด้วย

“ยินดีที่รู้จักครับ ใบเมี่ยง พายพัด ส่วนคนชื่อตังคิดว่ารู้จักดีแล้ว” มีคุณยิ้มให้นับตังค์ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับผู้มาสมัครงานทั้งสองคน ใบเมี่ยงยิ้มตอบกลับมา ส่วนพายพัดมองมองคุณแล้วแค่ก้มหัวให้

“เจอคนหน้าตาดีพูดจาดีเชียวนะ” นับตังค์แซวมีคุณเบาๆ ให้ได้ยินกันสองคน

“ก็อยู่กับคนขี้เหร่มาหลายวัน เจออะไรสบายตาก็ต้องดีใจไง” มีคุณตอบเบาๆ กลับไปบ้าง

“เหมือนกันเหอะ ตังก็เจอแต่อะไรที่อัปลักษณ์” นับตังค์เหล่ใส่มีคุณก่อนจะเดินไปดูน้ำซุปของใบเมี่ยงกับพายพัด มีคุณก็เดินตามไปด้วย

“กลิ่นหอมเหมือนต้มข่าเลย” มีคุณได้กลิ่นน้ำซุปของพายพัดก็ทักขึ้น

“อืม จริงด้วยหอมจังเลย หมูชาชูนี่น่ากินมากเลย บอสมาดูดิ” นับตังค์เดินมาดูหมูชาชูของใบเมี่ยงที่วางอยู่ในถาดแล้วก็เรียกให้มีคุณมาดูด้วย

“เส้นราเมนนี่ทำสดเลยเหรอ” มีคุณถามเมื่อเห็นเศษผงแป้งและเส้นราเมนวางอยู่บนเคาท์เตอร์ใหญ่

“ครับ เมี่ยงกับพายทำกันเอง เติมส่วนพิเศษเล็กน้อย เอาไว้ลองชิมตอนที่ทำเสร็จแล้วนะครับ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ลงมือเลย เดี๋ยวเรากับบอสจะนั่งดูอยู่ที่มุมห้องนะ เอาให้เต็มที่ สู้ๆ” นับตังค์ให้กำลังใจทั้งคู่ก่อนจะเดินไปนั่งอยู่ที่มุมห้องพร้อมกับมีคุณ


นับตังค์รู้สึกตาพร่ามัวตอนที่เห็นพายพัดกำลังยกแป้งขึ้นแล้วดึงแยกให้แป้งเป็นเส้นราเมนยาวๆ ซ้ำไปซ้ำมา ท่วงท่าของพายพัดมันน่าดูไปหมด นึกในใจว่าถ้ารัญญรีมาเห็นคงร้องกรี๊ดแล้วโผเข้าไปจับกล้ามแขนของพายพัดแน่ๆ ผงแป้งที่กระจายตัวสะท้อนกับแสงแดดยามเช้ามันยิ่งทำให้ดูเหมือนหมอกบางๆ เหมือนอย่างในฉากละครตอนเปิดตัวพระเอกจริงๆ


“น้ำลายยืดแล้ว” มีคุณพูดเสียงเข้มหลังจากที่เห็นนับตังค์จ้องพายพัดไม่เลิก

“ก็...เส้นราเมนมันน่ากิน” นับตังค์ยักไหล่ตอบ

“พี่ก็ทำได้”

“เหรออออ” นับตังค์ลากเสียงยาวก่อนจะหัวเราะในลำคอเพราะนึกขำคนขี้โม้

“ใบเมี่ยงเขายิ้มแล้วดูน่ารักดีนะ” มีคุณมองใบเมี่ยงแล้วนึกชม

“เก็บงูบนหัวด้วย” นับตังค์หันมาทำมือเป็นงูใส่มีคุณ

“ตังก็เก็บดิ เพราะงูตัวนี้มันอยู่บนหัวตังก่อนจะเลื้อยมาอยู่ที่หัวของพี่”

“งูของตังตัวใหญ่ นี่งูเล็ก ของบอสนั่นแหละ” นับตังค์ยกยิ้ม

“เหรอ ก็ไม่น่าใหญ่นะ” มีคุณทำเป็นครุ่นคิดก่อนจะมองไปที่กางเกงของนับตังค์

“มองทำไม เดี๋ยวฉกตาบอด” นับตังค์ทำเสียงขู่

“ชู่ๆ พอเลย กำลังจะดูเขาทำราเมน มาชวนคุยอยู่ได้ คิดอะไรกับพี่รึเปล่า” มีคุณทำเป็นบ่นนับตังค์ก่อนจะแอบยิ้มเมื่อเห็นนับตังค์ถลึงตาใส่แต่ไม่กล้าส่งเสียงออกมา


เวลาผ่านไปจนใบเมี่ยงกับพายพัดทำราเมนข้อสอบเสร็จ ทั้งคู่นำราเมนที่ทำมาวางบนโต๊ะที่อยู่ภายในร้านอาหาร มีคุณกับนับตังค์เดินตามออกมานั่งประจำที่เพื่อรอชิม เมื่อมองผลงานของคนทั้งคู่แล้วก็รู้สึกทึ่ง นี่เพียงแค่หน้าตาอาหารยังจัดออกมาดูดีชวนรับประทานจริงๆ


“ของผมเป็นราเมนซุปต้มข่าปลาแซลมอนรมควัน ผมเคี่ยวโครงไก่กับกระดูกวัวกับกะทิ ใส่เครื่องต้มข่าลงไปเคี่ยวด้วยจนข้นและมีกลิ่นหอมจากเครื่องสมุนไพรไทย เคี่ยวได้ที่แล้วก็กรองเศษเครื่องที่เคี่ยวออกให้เหลือแต่น้ำซุป โรยด้วยน้ำมันที่สกัดจากขมิ้นชันผสมกับน้ำมันพริกให้มีรสเผ็ดนิดหน่อยแก้เลี่ยน ตัวเส้นราเมนผมผสมขิงขูดลงไปด้วย ส่วนเห็ดหอมและเนื้อปลาแซลมอน ผมรมควันแค่พอให้มีกลิ่นอ่อนๆ มันจะได้ไม่กลบกลิ่นของน้ำซุป” พายพัดแนะนำราเมนในแบบของตัวเอง

“ส่วนของเมี่ยง เมี่ยงทำเป็นยำราเมนหมูชาชู เส้นราเมนเมี่ยงทำเส้นให้เล็กและเหนียวกว่าทำราเมนแบบใส่น้ำซุป น้ำยำสูตรพิเศษ แล้วเมี่ยงก็ทำหมูชาชูอบขิงเป็นเครื่องแกล้ม มีน้ำซุปกระดูกหมูที่เมี่ยงเคี่ยวจนไขกระดูกหมูออกมาเพิ่มรสให้เข้มข้นกลมกล่อมขึ้น เมี่ยงอยากให้ซดน้ำซุปก่อนจะทานยำราเมนครับ” ใบเมี่ยงแนะนำเมนูของตัวเองบ้าง

“ครีเอทมาก ขอชิมเลยนะ” นับตังค์ตื่นเต้นมาก บอกตรงๆ ว่าไม่เคยคิดว่าทั้งสองคนจะสร้างสรรค์ผลงานได้ถูกใจนับตังค์ได้ขนาดนี้

“เดี๋ยว ขอพี่ถ่ายรูปก่อน” มีคุณร้องห้ามนับตังค์ก่อนจะเอามือถือขึ้นมาถ่าย นับตังค์ทำหน้าเซ็งเมื่อมีคนมาขัดลาภปาก เมื่อถ่ายเสร็จมีคุณก็ส่งสัญญาณให้นับตังค์เริ่มชิมได้

“อร่อย ซุปต้มข่ารสดี ตัวปลารมควันก็หอม เข้ากันดี” นับตังค์ชมหลังจากที่ได้ชิมแล้ว แม้จะรู้สึกว่ารสชาติยังเข้มข้นได้อีกนิด แต่ก็ถือว่าอร่อยใช้ได้แล้ว

“อืม น้ำซุปกลมกล่อม เส้นราเมนเหนียวนุ่ม คลุกกับน้ำยำแล้วเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ เครื่องที่ใส่มาก็เข้ากันดีทุกอย่าง หมูชาชูอร่อยมาก รสชาติน้ำยำเหมือนยำใหญ่ของไทย รสดีมาก” มีคุณชมเมนูของใบเมี่ยงหลังจากที่ได้ชิม นับตังค์ได้ยินจึงรีบชิมเมนูของใบเมี่ยงบ้าง

“สุดยอด อร่อยมากเมี่ยง นี่บอส ลองชิมของพัดบ้าง” นับตังค์ยกนิ้วให้ใบเมี่ยงก่อนจะเลื่อนชามราเมนของพายพัดให้มีคุณได้ชิม

“น้ำมันพริกกับขมิ้นชันช่วยเพิ่มรสซุปได้ดี แต่รสชาติน้ำซุปยังเข้มข้นได้อีกนิดนะ เมนูนี้คนไม่ทานหมูก็กินได้ด้วย พวกคุณเก่งจริงๆ” มีคุณติชมตามจริงก่อนจะปรบมือให้

“ขอบคุณครับ อันที่จริงเมี่ยงถนัดทำขนมหวานกับอาหารเหนือ ส่วนพายเขาชอบทานอาหารไทยทุกอย่าง แต่เพิ่งหัดทำได้ไม่กี่ปีเองครับ แต่ถ้าเรื่องเครื่องดื่มฝีมือของพายไม่มีใครเทียบเลยนะครับ เราสองคิดว่าเชฟตังน่าจะชอบอาหารที่ผสมผสานทุกอย่างได้ถึงได้ให้เราทำราเมนข้อสอบแบบไหนมาก็ได้มาให้ชิม เราสองคนเลยลองเสี่ยงทำเมนูที่คิดว่าเป็นตัวเราได้มากที่สุดดู” ใบเมี่ยงอธิบาย

“ถ้าอย่างนั้นบอกผมหน่อยว่าเมนูที่คุณออกมาในวันนี้ทำมันเป็นตัวคุณยังไง” มีคุณถาม

“ผมชอบต้มข่า” พายพัดตอบสั้นๆ นับตังค์หัวเราะชอบใจเพราะคำตอบมันสั้นและตรงประเด็นสุดๆ

“แล้วเมี่ยงเลือกทำยำ มันเหมือนตัวเองยังไง” นับตังค์ถามเมี่ยงบ้าง

“เพราะเมี่ยงแซ่บครับ” เมี่ยงตอบก่อนจะยิ้มให้เจ้าของร้านและเชฟใหญ่

“โอเค ตกลงรับทั้งคู่” มีคุณตอบทันทีก่อนจะหัวเราะชอบใจในคำตอบของใบเมี่ยงเช่นกัน

“บอส ไหนว่าสิทธิขาดในครัวเป็นของตังไง” นับตังค์โวยวาย

“อ้าว หรือจะไม่รับ” มีคุณหันไปถามนับตังค์

“รับดิ รับทั้งคู่ แต่ให้ตังเป็นคนพูดก่อนดิ ฮู้ เซ็งเลย เอาหน้าว่ะ” นับตังค์บ่นสีหน้าเซ็งขั้นสุดที่โดนตัดหน้า

“ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมาก” ใบเมี่ยงดีใจที่ได้รู้ว่าได้งานนี้แล้ว

“ดีใจด้วยนะอุ๋งอุ๋ง” พายพัดเดินมาลูบผมของใบเมี่ยงก่อนจะก้มลงหอมแก้มใบเมี่ยงฟอดใหญ่ เล่นเอานับตังค์กับมีคุณอ้าปากค้างแล้วหยุดเถียงกันทันที

“พาย!! แบบนี้อีกแล้ว” ใบเมี่ยงเกาแก้มตัวเองเพราะเขินก่อนจะเดินหนีเข้าไปในครัว พายพัดเหลือบมองมีคุณก่อนจะยิ้มน้อยๆ แล้วเดินตามใบเมี่ยงไป

“ไงล่ะ ทำตัวกระล่อนจนเจ้าของเขาต้องประกาศศักดาใส่เลย สมน้ำหน้า” นับตังค์หัวเราะเยาะมีคุณหลังจากที่ผู้ช่วยเชฟทั้งสองคนกลับเข้าไปในครัวแล้ว

“พี่ไม่ได้คิดอะไรกับใบเมี่ยงสักหน่อย” มีคุณหน้าเหวอเมื่อโดนเข้าใจผิด

“แหม บอส เก็บอาการไม่อยู่ ไม่รู้ตัวเหอะ”

“พี่อาจไม่รู้ตัว แต่พี่ว่าพี่รู้ใจ” มีคุณพูดพร้อมกับจ้องหน้าของนับตังค์ จ้องจนนับตังค์เริ่มทำอะไรไม่ถูก

“ตังไปบอกรายละเอียดงานให้กับสองคนนั้นดีกว่า” นับตังค์จะลุกเพื่อหนีสายตาของมีคุณ แต่มีคุณดึงมือเอาไว้

“ไปตอนนี้ ถ้าเขากำลังจูบแสดงความดีใจกันอยู่ล่ะ จะไปเป็นพยานให้เขาเหรอ” มีคุณถาม นับตังค์หน้าเหรอหราแล้วนึกถึงภาพเมื่อเช้า สุดท้ายก็ต้องทิ้งตัวลงนั่งอยู่ที่เดิม

“รู้ได้ไงว่าเขาจะจูบกัน” นับตังค์ถาม

“ก็ถ้าเป็นพี่ พี่ก็คงทำ เวลาเราได้อยู่ใกล้คนที่เราชอบ เราก็อยากกอดอยากจูบตลอด” มีคุณบอก สายตาก็ยังจ้องนับตังค์อยู่ มือที่จับมือของนับตังค์เอาไว้ก็ยังเนียนไม่ยอมปล่อย

“เพ้อเจ้อ ไปหาด้วงดีกว่า” นับตังค์รู้สึกว่าถ้ายังนั่งอยู่นานกว่านี้หัวใจคงจะกระเด็นกระดอนออกมานอกอกแน่ๆ

“ยังไม่ต้องไป ขมิ้นพาด้วงไปหาคุณขจี”

“ก็ไปหาที่รีสอร์ทคุณขจีไง”

“ตัง อย่าดื้อ นั่งลงกินราเมนให้หมดก่อน” มีคุณดุ ไม่ได้ดุจริงจัง แต่เสียงก็เข้มจนนับตังค์ต้องยอมฟัง

“จะกินได้ไงเล่า” นับตังค์พูดเบาๆ

“ทำไม” มีคุณถามด้วยความสงสัย

“จะจับอีกนานไหม่ล่ะ หรือจะให้เอาเท้าคีบตะเกียบ” นับตังค์มองไปที่มือของมีคุณที่จับข้อมือของนับตังค์ไม่ยอมปล่อย

“พี่ป้อนให้ เอาไหม”

“ไม่ต้อง” นับตังค์ดึงมือตัวเองออกจนเป็นอิสระในที่สุด รู้ว่ามีคุณกำลังยิ้มอยู่เลยได้แต่ทำเป็นไม่สนใจแล้วก้มหน้าก้มตากินราเมนไป พยายามสูดเส้นราเมนให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะกลัวว่าถ้าปล่อยให้บรรยากาศรอบตัวเงียบเกินไป มีคุณอาจจะได้ยินเสียงหัวใจของนับตังค์ที่เต้นดังตึกตักอยู่ก็เป็นได้


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 12-04-2017 11:15:06
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


ขมิ้นอุ้มหนูด้วงกลับมาจากรีสอร์ทของคุณขจี ตอนที่หนูด้วงอยู่กับคุณขจีก็ยังยิ้มแย้มแจ่มใส แต่พอได้เห็นหน้าของดาวเรืองเท่านั้นหนูด้วงก็เริ่มงอแงแล้วร้องกลับ ขมิ้นนึกแปลกใจและเก็บความสงสัยเอาไว้และรีบพาหนูด้วงกลับมาที่บ้าน เมื่อมาถึงบ้านขมิ้นก็เห็นนับตังค์และมีคุณอยู่กับคนที่สมัครเป็นผู้ช่วยเชฟนั่งอยู่ด้วยทั้งสองคน


“กลับมาแล้วเหรอ ร้องไห้ทำไมด้วง” นับตังค์ลุกไปอุ้มด้วงมาจากขมิ้น เมื่อเห็นว่าดวงตาของหนูน้อยมีร่องรอยของน้ำตาอยู่ก็เลยเอ่ยถาม

“พอเห็นหน้าดาวเรืองก็ร้องเลยนิ น่าหวาจะกลัวมัน” ขมิ้นหน้าเครียดแล้วเล่าให้นับตังค์ฟัง

“ตอนตังไปเจอครั้งแรกก็ร้องกลัวเยือง กลัวเยือง” นับตังค์เล่าให้ฟังบ้าง

“แสดงว่าคงเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้ฝังใจ ขอพี่อุ้มหน่อยได้ไหมครับคนเก่ง” ใบเมี่ยงลุกมาหานับตังค์ ด้วงที่ตอนแรกเกาะนับตังค์แน่นก็ดูจะลังเล แต่สุดท้ายก็ยอมให้ใบเมี่ยงอุ้ม ใบเมี่ยงอุ้มได้สักพัก ด้วงก็ชูมือให้นับตังค์อุ้มเหมือนเดิม

“มาตฤกะเป็นคนรักเด็ก” พายแซวใบเหมี่ยง

“อ๊ะ ชื่อมาตฤกะเหรอ” ขมิ้นที่กำลังจะเดินไปในครัว พอได้ยินชื่อของใบเมี่ยงก็หยุดชะงักแล้วเดินย้อยกลับมาถาม

“ครับ ชื่อเมี่ยงเอง” เมี่ยงตอบรับขมิ้นแบบงงๆ

“เคยมาเจอนายปู่ใช่ไหม เคยมาขอทำงานกับนายปู่ใช่ไหม” ขมิ้นถามด้วยความตื่นเต้น

“ใช่ครับ” ใบเมี่ยงเองก็แปลกใจที่ขมิ้นรู้เรื่องนี้ด้วย

“เจอจนได้ เจอตัวจนได้นิ รอก่อนนะ ขอโทรหาทนายเคารพก่อน” ขมิ้นออกอาการดีใจจนทุกคนประหลาดใจ เมื่อขมิ้นหายกลับเข้าไปในครัวมีคุณก็หันมาถามใบเมี่ยง

“เมี่ยงเคยขอมาทำงานกับปู่ของผมเหรอ”

“ก็ไม่เชิงครับ เมี่ยงเคยมาทานอาหารที่ร้านนี้ ฝีมือของคุณปู่สุดยอดมาก เลยเลยมาขอให้ท่านเป็นครูสอน เมี่ยงตั้งใจว่าจะย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะแม่ของเมี่ยงเสียแล้ว อยากมาเดินทางหาอะไรใหม่ๆ คุณปู่เลยบอกว่าจะรับเมี่ยงเป็นศิษย์และจะยอมขายที่ให้เอาไว้สร้างบ้าน แต่คุณปู่มีข้อแม้ที่ต้องแลกเปลี่ยน” เมี่ยงเล่าให้มีคุณกับนับตังค์ฟัง

“ข้อแม้อะไรเหรอ” นับตังค์ถามด้วยความสงสัย ส่วนมีคุณได้แต่นึกในใจว่าคุณปู่กำลังคิดอะไรถึงได้ให้เขามารับช่วงที่นี่ต่อ กำหนดว่าเชฟต้องเป็นนับตังค์ และตอนนี้ยังยอมแบ่งที่ดินให้เมี่ยงซึ่งเป็นคนแปลกหน้าที่แค่แวะมากินอาหารที่ร้าน

“เมี่ยงก็ไม่รู้ เมี่ยงตัดสินใจช้าไปเพราะมัวแต่ลังเล พอกลับมาที่นี่คุณปู่ก็เสียแล้ว แล้วก็ได้มาเห็นประกาศรับผู้ช่วยเชฟ เมี่ยงถึงดีใจและอยากได้งานนี้มาก”

“แต่คุณปู่ไม่อยู่แล้ว ทำไมถึงอยากมาทำที่นี่ล่ะ” นับตังค์ถามอีก

“ใบเมี่ยงคงคิดว่าเป็นพรหมลิขิต อืม...หรือคุณปู่ลิขิตดี” คราวนี้พายพัดเป็นคนตอบแทน


นับตังค์หันไปมองพายพัดก็เห็นแสงระยิบระยับอีกแล้ว คนหน้าตาหล่อแล้วมาพูดเรื่องพรหมลิขิตมันช่างดูละมุนละไมดี แต่พอหันไปเห็นหน้ามีคุณที่กำลังมองมาแล้วยักคิ้วให้ แสงระยับระยับหายไปในทันที แต่กลายเป็นภาพบอสมีคุณที่เคยอมนิ้วของนับตังค์มาแทนที่ นับตังค์เกือบจะสำลักน้ำลายตัวเอง


“พรุ่งนี้คุณเคารพจะมาพบกับคุณนิ คุณปู่ให้ตามหาตัวคุณมานานแล้ว พรุ่งนี้บ่ายๆ มาที่นี่ด้วยนะ” ขมิ้นเดินออกมาบอกกับใบเมี่ยงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“จริงเหรอครับ คุณปู่ตามหาเมี่ยงเหรอครับ” ใบเมี่ยงรู้สึกดีใจ

“จริงแท้นิ” ขมิ้นเองก็ดีใจไม่แพ้กันที่ความต้องการของนายปู่ดูจะเป็นไปด้วยดีทุกอย่าง นายปู่คงจะมีความสุขเมื่อมองลงมาแล้วเห็นว่าคนที่ท่านต้องการให้มาอยู่ที่นี่มาครบกันหมดแล้ว

“เอาเป็นว่า เมี่ยงกับพายได้งานนี้แล้ว อีกหนึ่งเดือนเราถึงจะเปิดร้าน แม้ตอนนี้จะเป็นช่วงฤดูที่นักท่องเที่ยวเริ่มมาที่เกาะกันแล้ว แต่ผมอยากให้ทุกอย่างพร้อมก่อน ผมอยากให้คุณทั้งคู่เริ่มมาทำงานตั้งแต่พรุ่งนี้เลย ส่วนเรื่องเงินเดือนผมขอให้ตามเรทมาตรฐานก่อนสักสามเดือน ถ้านับตังค์ประเมินการทำงานของคุณแล้วเห็นว่าควรเพิ่มให้ ผมก็ยินดี อีกอย่าง นับตังค์เขาจะต้องเริ่มกำหนดเมนูอาหารแล้ว คุณทั้งสองคนจะได้มาลองทำงานให้ให้รู้มือรู้ใจกัน ระหว่างนี้ผมจะก็จะเริ่มทำการโปรโมทร้านไปด้วย แล้วคุณสองคนพักที่ไหน” มีคุณแจกแจงรายละเอียดก่อนจะถามถึงที่พักของใบเมี่ยงและพายพัด

“เราเช่าโฮมสเตย์อยู่ชั่วคราว” พายพัดตอบ

“ถ้าอย่างนั้นมาอยู่ที่นี่ก่อน ไม่ต้องไปเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม” มีคุณพูดจบนับตังค์ก็มองหน้ามีคุณ เพราะบ้านหลังนี้มีห้องนอนห้องเดียว มีคุณชวนพายพัดกับใบมี่ยงมาอยู่แล้วจะให้ทั้งคู่นอนที่ไหน

“จะไม่รบกวนบอสกับเชฟเหรอครับ” ใบเมี่ยงถามด้วยความเกรงใจ

“ไม่เป็นไร เรามีห้องใต้หลังคาอยู่ อาจจะไม่ใหญ่โตมากนักแต่ผมว่าสองคนอยู่ได้สบาย เดี๋ยวจะให้ขมิ้นพาไปดู แล้วคุณสองคนไปย้ายของมาได้เลยในตอนเย็น” มีคุณยังไม่ทันสังเกตว่านับตังค์จ้องหน้ามีคุณอยู่

“ถ้าอย่างนั้นเราสองคนรบกวนด้วยนะครับบอส” ใบเมี่ยงส่งยิ้มสดใสมาให้ พายพัดก็ก้มหัวให้มีคุณแทนคำขอบคุณ แต่ก็ยังไว้ท่าทีเพราะแอบหวงใบเมี่ยง กลัวมีคุณจะมาถูกใจแฟนตัวเอง เพราะตั้งแต่มาถึง ดูมีคุณจะถูกชะตาใบเมี่ยงเหลือเกิน

“บอส!!” นับตังค์เห็นมีคุณไม่สนใจมองมาเลยเรียกมีคุณเสียงเข้ม

“ปี้จ๋า งืม งืม” ด้วงที่ผล็อยหลับซบไหล่นับตังค์อยู่ก็ตกใจเสียงของนับตังค์

“โอ๋ๆ หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” นับตังค์ไม่ทันสังเกตว่าด้วงหลับ คงเพราะตื่นแต่เช้า เลยรีบลูบหลังให้เบาๆ

“ทำเสียงดังลูกตกใจหมด” บอสทำเป็นดุนับตังค์ ส่วนนับตังค์รู้สึกสะดุดกับคำพูดของมีคุณ ทำอย่างกับคนเป็นพ่อเป็นแม่เขาพูดกัน แต่ด้วยความที่กลัวด้วงตื่นเลยได้แต่ข่มใจไม่โวยวายออกไป

“ไหนว่าบ้านนี้มีห้องนอนเดียวไง” นับตังค์กระซิบถามหลังจากที่ขมิ้นพาใบเมี่ยงกับพายพัดขึ้นไปดูห้องแล้ว

“ก็มีห้องนอนเดียวจริงๆ ห้องนั้นมันเป็นห้องใต้หลังคา ไม่ใช่ห้องนอน” มีคุณยักไหล่ตอบ

“แล้วทำไมไม่บอกว่ามันมีอีกห้อง”

“ก็นึกว่ารู้ เอาน่า ยังไงเราก็ต้องนอนด้วยกันอยู่ดี”

“ทำไมตังต้องนอนกับบอสด้วย” นับตังค์ถามอย่างเซ็งๆ

“หรือตังจะไปนอนกับคู่นั้นล่ะ จะนอนหลับเหรอเวลาเขาจู๋จี๋กัน” มีคุณถามขำๆ

“ไม่เอาหรอก ตากุ้งยิงตายเลย” นับตังค์นึกแล้วก็ขนลุก

“เห็นไหม ก็ต้องมานอนกับพี่กับลูกอยู่ดี” มีคุณตีเนียน

“ประโยคของบอสมันฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ นะ” นับตังค์หันมามองมีคุณ แต่มีคุณไม่ยอมแก้ตัวอะไร ได้แต่ยิ้ม

“เดี๋ยวหมิ้นจะเอาหมอนกับผ้าห่มมาเพิ่มให้อีกนิ แต่ห้องทำความสะอาดตลอด ไม่มีฝุ่นหรอก” ขมิ้นเดินลงมาจากข้างบน ใบเมี่ยงและพายพัดตามลงมา

“ว่าไง โอเคไหม” มีคุณถาม

“มันน่าอยู่มากเลยครับบอส ขอบคุณนะครับ” ใบเมี่ยงตอบ

“นายหัว อีกสามวันจะเป็นวันสงกรานต์แล้วนิ ปกตินายปู่จะทำบาบีคิวไปเลี้ยงเด็กๆ พวกลูกหลานชาวประมง ปีนี้จะทำไหม” ขมิ้นถามก่อนที่จะลืม

“ดีจัง มีกิจกรรมด้วยเหรอ ทำนะบอส” นับตังค์หันมาขอมีคุณ ขมิ้นมองไปที่มีคุณเพื่อรอคำตอบของคนเป็นนาย

“เชฟว่าไงก็ตามนั้น ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ก็บอกมาแล้วกัน” มีคุณเห็นนับตังค์อยากทำก็ตามใจ บอกตรงๆ เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าอีกไม่กี่วันจะเป็นวันสงกรานต์แล้ว

“ดีเลย เดี๋ยวเมี่ยงกับพายช่วยด้วยนะเชฟ” ใบเมี่ยงเองก็ดูตื่นเต้นกับวันสงกรานต์ที่จะมาถึง

“พายว่าเราไปขนของกันดีกว่า จะได้ไปเคลียร์ค่าเช่ากับคุณป้าแกด้วย แกจะได้ปล่อยห้องให้คนอื่นเช่า” พายพัดพูดกับใบเมี่ยง

“ขมิ้นเอารถกระบะไปช่วยขนก็ได้ ของเยอะไหม” มีคุณถาม

“ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ก็ขอบคุณครับบอส” พายพัดเอ่ยปากขอบคุณก่อนจะโอบไหล่ใบเมี่ยงแล้วเอานิ้วเขี่ยที่แก้มของใบเมี่ยงไปด้วย


มีคุณเห็นแล้วก็นึกขำ เดาออกว่าพายพัดคงจะหวงคนรัก แต่ก็ไม่แปลกใจ ใบเมี่ยงเป็นคนน่ารัก ดูสดใส มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ก็น่าจะหวงเป็นธรรมดา เขาเองยังรู้สึกถูกชะตากับใบเมี่ยงเลย จะว่าไปก็ถูกชะตากับคนทั้งคู่ เพียงแต่เขาเห็นใบเมี่ยงแล้วทำให้เขานึกถึงคิวอดีตคนรักเก่า ตอนที่เขายังคบกับคิว เขาก็เคยหวงคิวแบบนี้ เพราะคิวเป็นคนช่างเจรจา สนิทกับคนง่าย มีแต่คนมาตามจีบ มีคุณไม่ค่อยชอบที่คิวยอมให้ใครต่อใครมาถึงเนื้อถึงตัวง่ายๆ แต่ใบเมี่ยงไม่เหมือนคิวตรงที่ไม่มีทีท่ารำคาญพายพัดเวลาที่พายพัดแสดงออกว่าหึงหวง ผิดกับคิวที่แสดงออกว่ารำคาญที่เขาหวงและพูดเตือนเรื่องไปใกล้ชิดกับใครต่อใคร คิวบอกกับเขาว่า คิวเป็นผู้ชาย ไม่ใช่สาวๆ ที่ใครจะมากอดมาโอบไม่ได้ แต่มีคุณกลับคิดว่า ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่ขึ้นชื่อว่าคนรัก ไม่มีใครอยากให้คนรักของตัวเองไปสนิทสนมกับคนอื่นจนเกินไปหรอก


“ตังเอาด้วงไปนอนก่อนนะ พี่ขมิ้นแวะซื้อของสดมาด้วยนะ เย็นนี้มาจัดปาร์ตี้ฉลองทีมเชฟกัน พี่ขมิ้นชวนพี่สาลี่มาด้วยนะ” นับตังค์รู้สึกดีใจที่ใบเมี่ยงกับพายพัดจะมาอยู่ด้วยกันเพราะตัวเองเคยอยู่เป็นครอบครัวใหญ่มาตั้งแต่เด็ก เมื่อออกจากบ้านมาก็รู้สึกเหงา มาตอนนี้เลยเหมือนกับว่าครอบครัวแห่งเกาะใบไม้ครามนี้กำลังขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งมันทำให้นับตังค์คลายความคิดถึงบ้านได้บ้าง

“ทำไมนายหัวชวนสองคนนั้นมาอยู่ทั้งที่เพิ่งรู้จัก” ขมิ้นแอบถามมีคุณหลังจากที่นับตังค์เดินพาด้วงไปนอนบนห้อง ส่วนใบเมี่ยงกับพายพัดเดินไปเอากระเป๋าที่วางเอาไว้ครัวร้าน

“ฉันว่าทั้งสองคนดูเป็นคนดี อีกอย่างหนึ่ง ตังเขาจะได้มีเพื่อน ไม่อยากให้เขาเหงา” มีคุณบอกกับขมิ้นอย่างที่รู้สึก ขมิ้นจับอาการของนายหัวคนใหม่ หลายครั้งแล้วที่ขมิ้นเห็นว่านายหัวดูจะใส่ใจนับตังค์มากเกินนายกับลูกน้อง

“บอสชอบเชฟใช่ม้าย” ขมิ้นถามอย่างตรงไปตรงมา

“ขมิ้นคิดแบบนั้นเหรอ” มีคุณได้ยินแล้วก็นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยย้อนถามขมิ้น

“ฉ้าน” ขมิ้นตอบว่าใช่ มีคุณไม่เข้าใจหรอกว่ามันแปลว่าอะไร แต่เข้าใจได้จากการที่ขมิ้นพยักหน้า

“รอให้ฉันแน่ใจตัวเองมากกว่านี้ก่อนแล้วกัน แล้วฉันจะบอกว่าที่ขมิ้นคิดมันใช่หรือไม่ใช่” มีคุณบอกไปแบบนั้นเพราะเขาเองยังไม่มั่นใจว่าความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นกับนับตังค์ เพราะเขารู้สึกอยากเพิ่มระดับความสัมพันธ์จริงๆ หรือแค่หวั่นไหวเพราะความใกล้ชิด

“ไม่พรือ ตอบใจนายหัวเองก็พอนิ” ขมิ้นพูดจบก็เดินออกไปเอารถเพื่อจะพาใบเมี่ยงและพายพัดไปเอาของใช่ รวมถึงไปซื้อของให้นับตังค์มาทำอาหารในตอนเย็นนี้ด้วย


ส่วนนับตังค์เมื่อพาด้วงมานอนบนเตียงแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนสนิทซึ่งก็คือรัญญรี นับตังค์อยากรู้ว่าที่บ้านของนับตังค์เป็นอย่างไรบ้างและเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คืออยากปรึกษารัญญรีเรื่องความรู้สึกแปลกๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในใจ


“ว่าไงแก ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง” รัญญรีดีใจที่นับตังค์โทรมา กำลังนึกเป็นห่วงอยู่พอดี

“ดีมากเลยว่ะรัน ร้านสวยมาก ร้านในฝันของฉันเลย ทะเลก็สวย น้ำตกก็มี สวยไปหมดเลย” นับตังค์เล่าให้เพื่อนฟังจนรัญญรีตื่นเต้นตาม

“พูดจนฉันอยากนั่งเครื่องไปหาแกเลย แล้วบอสของแกเป็นไงบ้าง เสียท่าแกรึยังวะตัง” รัญญรีถามก่อนจะหัวเราะร่วน

“ฉันเหอะที่จะเสียท่า” นับตังค์บ่นออกมา

“ว่าไงนะ แก...เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยไอ้ตัง”

“ใจเย็นเพื่อน ว่าแต่มีใครโทรมาถามถึงฉันบ้างรึเปล่าวะ”

“ไม่มีเลยว่ะตัง ตั้งแต่ฉันแปลงเพศมา ฉันก็ไม่กล้าไปที่ร้านของย่าแก แต่ไอ้หม่องมันไปมา มันบอกว่าไม่มีใครถามถึงเลย แกอย่าเสียใจนะตัง พวกเขาอาจจะคิดว่ากำลังดัดนิสัยแกอยู่ แต่ในใจพวกเขาต้องคิดถึงแกอยู่แล้ว” รัญญรีนึกสงสารเพื่อนสนิท

“อืม” นับตังค์รู้สึกว่าหัวใจมันหม่นหมองลงหลังจากที่รับรู้ว่าคนที่บ้านไม่มีใครโทรถามข่าวของตัวเองบ้างเลย นับตังค์ไม่แปลกใจถ้าพ่อกับย่าจะไม่โทรมา แต่แม่กับพี่เฟื้องนี่สิ คิดแล้วนับตังค์ก็รู้สึกน้อยใจ

“ไหน แกเล่ามาสิ แกจะเสียท่าบอสของแกได้ยังไง” รัญญรีเดาออกว่านับตังค์กำลังน้อยใจที่บ้านเลยรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“รัน แกรู้ตัวตอนไหนวะว่าแกชอบผู้ชาย” นับตังค์ยังไม่ได้เล่าแต่ถามสิ่งที่คาใจตัวเองก่อน

“ก็รู้ตอนมีผู้ชายให้ชอบนั้นแหละ” คำตอบของรัญญรีตรงๆ สั้นๆ

“แล้วยังไงถึงจะรู้ว่าเราชอบวะ” นับตังค์ยังคงถามต่อ

“ไอ้ตัง แกอย่าคิดอะไรให้มันมากมาย เราจะชอบใครสักคน เราก็อยากอยู่ใกล้ๆ เขาไม่อยู่ก็เหงา ก็คิดถึง เวลาเขามาอยู่ด้วยก็มีความสุข ยิ้มได้ อยากถูกกอด ถ้าชอบมากหน่อยจนถึงรักก็อยากมีอะไรด้วยตามธรรมชาติของการอยากมีคู่ ก็แค่นั้น” รัญญรีตอบกลับไป

“แล้ว เราจะรู้ได้ยังไงว่าอีกฝ่ายชอบเราจริงๆ” นับตังค์ยังคงไม่กล้าคิดเอาเอง แม้หลายต่อหลายครั้งที่มีคุณชอบจ้อง ชอบหยอด แต่อาจจะเป็นนิสัยของมีคุณที่ขี้เล่นไม่ได้จริงจังอะไรก็เป็นได้

“ถามสิ”

“บ้าเหรอ ไม่เอาหรอก” นับตังค์เผลอตัวร้องออกไปเมื่อได้คำตอบจากเพื่อนสนิท

“ไอ้ตัง แปลว่าแกแอบชอบบอสของแกแล้วใช่ไหม” รัญญรีคาดคั้น นับตังค์นิ่งอึ้งไปก่อนจะถอนหายใจ

“ไม่รู้ว่ะรัน ฉันไม่เคยชอบใคร มันอาจจะเป็นเพราะฉันเพิ่งเคยออกจากบ้านนานๆ เป็นครั้งแรก อาจจะแค่เหงาก็ได้ เทพบุตรของแกก็เป็นพวกกระล่อนด้วย ฉันอาจจะเป็นแค่หนูน้อยหมวกแดงในป่าใหญ่ ที่มาเจอกับหมาป่าหื่นกระหายก็ได้” นับตังค์เปรียบไปเรื่อยเปื่อยจนรัญญรีหัวเราะขำ

“ขอให้โดนหมาป่างาบในเร็ววันนะไอ้หนูน้อยหมวกแดง ฮ่าๆ” รัญญรียังคงขำไม่หยุด

“ไอ้รัน แค่นี้ก่อนนะ ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นมาว่ะ” นับตังค์จะวางสายเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากด้านนอก

“อะไรว่ะ ยังไม่ได้เล่าให้ฉันฟังเลยว่าบอสเขาทำอะไรแกถึงได้หวั่นไหว”

“เอาไว้สะดวกแล้วจะโทรไปเล่านะ”

“ตัง อย่าไปคิดอะไรเยอะเกิน อยากรู้ว่าเขาคิดยังไงก็ถามเขา จะได้ไม่ต้องคิดเอง ถ้าเขาไม่ได้คิดตรงกับแก แกจะได้รักษาระยะห่างเอาไว้เพราะแกต้องอยู่กับเขาอีกตั้งปีเชียวนะ เข้าใจไหม แล้วฉันกับไอ้หม่องจะไปหาแก ดูแลตัวเองด้วยนะ รักแกนะ” รัญญรีพูดกับเพื่อนสนิทก่อนจะวางสาย


นับตังค์ฟังแล้วก็ถอนหายใจเพราะคงไม่กล้าทำอย่างที่รัญญรีสอน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา นับตังค์ก็รีบวางโทรศัพท์แล้วแกล้งนอนหลับข้างด้วง เสียงประตูห้องนอนถูกเปิดออก สักพักเจ้าของเสียงฝีเท้าที่นับตังค์ได้ยินก็มาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง


“ไหนบอกจะพาด้วงมานอน ไหงมานอนเสียเอง” มีคุณบ่นเบาๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เมื่อเห็นนับตังค์นอนนิ่งก็เลยโน้มใบหน้าไปมองนับตังค์ใกล้ๆ

“บอส จะทำอะไร” นับตังค์รีบลืมตาเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของมีคุณ

“จะฟังว่าหายใจอยู่รึเปล่า เห็นว่านอนเกร็งเท้าพี่เลยนึกว่าเป็นลมบ้าหมู” มีคุณตอบแล้วหัวเราะเพราะเขารู้ว่านับตังค์แกล้งหลับ เพิ่งจะเดินขึ้นมาบนห้องจะมาหลับสนิทได้ยังไงกัน

“ต้องให้ร้องอู๊ด อู๊ดๆ ด้วยไหม” นับตังค์มองขวางใส่ก่อนจะเล่นมุกกลบความประหม่า

“ก็ลองร้องดิ” มีคุณพูดแล้วเอานิ้วไปดันปลายจมูกของนับตังค์ให้เหมือนจมูกหมู

“ทะลึ่งแล้ว ไม่ต้องมาจับ” นับตังค์ตีมือของมีคุณทันที

“หมู ปี้จ๋าเป็นหมู” จู่ๆ ด้วงก็ลุกขึ้นมาแล้วปีนตัวนับตังค์เพื่อเอานิ้วจิ้มไปที่จมูกของนับตังค์บ้างทั้งที่ยังดูงัวเงียอยู่ ด้วงกำลังทำเลียนแบบที่มีคุณทำ

“เห็นไหม เสียงดัง ลูกตื่นเลย” มีคุณนึกขำที่นับตังค์ไม่กล้าเอานิ้วของด้วงออกจากจมูก คงจะกลัวด้วงตกใจ

“ลูกบอสอะดิ เอาไปดูเองเลย มากวนจนตื่นเนี่ย” นับตังค์อุ้มด้วงส่งให้มีคุณ ส่วนตัวเองรีบเด้งลุกออกจากเตียง

“ฮึก พี่จ๋า ฮึก” ด้วงมองมีคุณแล้วเริ่มเบะปากร้อง มีคุณรีบลุกเดินมาส่งด้วงคืนนับตังค์

“ด้วงติดตังมากกว่าพี่ พาไปนอนเลย เดี๋ยวร้องไห้” มีคุณดันหลังนับตังค์ให้พาด้วงไปนอนที่เตียง

“ปี้จ๋ากอดกัน” ด้วงอ้อนนับตังค์หลังจากที่นับตังค์วางด้วงลงบนเตียง

“กอดแล้วหลับนะ” นับตังค์กอดปลอบ ด้วงเอามือน้อยๆ มาจับหน้าของนับตังค์ก่อนจะลุกชะโงกไปมองมีคุณที่ยืนอยู่

“ปี้จ๋ามากอดล่วยกัน” ด้วงทำท่ากวักมือเรียกมีคุณ

“ด้วง ไม่เอา กอดกันแค่สองคน” นับตังค์รีบร้องบอก

“ได้ไง เดี๋ยวด้วงร้องไห้ อย่าขัดใจเด็กสิตัง” มีคุณรีบลงมานอนข้างนับตังค์แล้วโอบมือข้ามตัวนับตังค์ไปแตะที่ตัวของด้วง ด้วงจึงยอมทิ้งตัวลงนอนซุกอกนับตังค์แล้วทำเป็นหลับตาปี๋

“ไหนบอกอย่าตามใจเด็กมากไง ออกไปไกลๆ หน่อยดิ อึดอัด” นับตังค์เอาศอกดันอกของมีคุณให้ออกห่างแผ่นหลังของตน

“จุ๊ๆ เบาๆ เดี๋ยวด้วงหลับแล้วพี่ก็ปล่อยแล้ว ดื้อกว่าด้วงอีกนะเรา” มีคุณทำเป็นดุ


นับตังค์ไม่ได้ขัดขืนหรือโวยวายอะไรอีก ยอมนอนให้มีคุณโอบเอาไว้ ที่นับตังค์ยอมนอนนิ่งๆ ก็เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าตัวเองกำลังรู้สึกอึดอัดอย่างที่ปากพูดไปหรือว่ากำลังอบอุ่นกับอ้อมแขนของผู้ชายที่ชื่อมีคุณกันแน่


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


(https://www.uppic.org/image-DE49_58EDAA94.jpg)

เครดิตรูปจาก Google

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เล่นน้ำสงกรานต์คลายร้อนแล้วอย่าลืมดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Jitsupa_milk ที่ 12-04-2017 11:45:16
ด้วงน่ารักกก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 12-04-2017 12:35:48
ฮ่อยยยย น่ารักอ่ะ
รีบรู้ใจกันไวๆ นะคะ
คงหวานมุ้งมิ้งสุด
แต่กลัวตอนตังรู้ความจริงอ่ะ
ไม่อยากให้ดราม่าเยอะเลย

ชอบใบเมี่ยง กับ พายมากอ่ะ
น่ารักจัง

 :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-04-2017 12:38:04
ชอบมาก   ขอบคุณคร้าบบบบบบบ

 :L2: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 12-04-2017 13:17:48
น่ารักมากกก :impress2: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 12-04-2017 14:04:54
ครอบครัวสุขสันต์ น่ารักจริงๆ

มีคุณคิดไรน้อออ อีกคนก็หวั่นไหววว :hao3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 12-04-2017 14:12:49
หาคำตอบให้ได้เร็วนะคะ บอสสสสสส.  :katai3:
2คู่ น่ารักอะ เฮ้อ... แต่แอบมีชื่อคิวมาโผล่ หงุดหงิดอะบอส  :beat:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-04-2017 14:14:06
หิวขึ้นมาทันที
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-04-2017 14:27:33
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 12-04-2017 14:54:36
โอ๊ยยยยย น่ารักทั้ง 2 คู่เลยยยย ชอบๆๆ ค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 12-04-2017 15:40:11
ตังเริ่มหวั่นไหวแล้วนะ
สงสัยจังว่าปู่ให้ตามหาเมี่ยงเพื่ออะไร
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 12-04-2017 16:57:01
อ่านตามแล้วอยากกินมั่งเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 12-04-2017 17:09:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 12-04-2017 19:18:13
หนูน้อยหมวกแดงนับตังจะโดนหมาป่ามีคุณเขมือบเมื่อไรต้องรอดูต่อไป  ขมิ้นยังดูออกเลยว่าบอสชอบนับตัง

ใบเมี่ยง-พายพัด บอกรักกันบ่อย  ไว้ต้องรอดูว่าถ้าคู่มีคุณ-นับตัง ตกลงคบกัน  คู่ใครจะหวานกว่ากัน แต่ยังไงทั้ง 2 คู่ก็คงทำให้คนอ่านอิจฉากับความหวาน

----------------------------------
ปล. ขอบคุณคนเขียนที่ทำแผนผังให้คนอ่านได้เข้าใจ :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-04-2017 21:52:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-04-2017 23:14:27
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-04-2017 10:09:45
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 13-04-2017 11:42:27
รีบรู้ใจกันไวๆนะทั้ง2 :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 8 ราเมนข้อสอบ 12/4/60 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 14-04-2017 22:51:55
เรื่องนี้ดีงามมม

สนุกมากจ้ะ

แปลกใจ  ทำไมคนอ่านน้อยจุงเบยยยยย

เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะจ๊ะ

เราติดตามอยู่จ้ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 16-04-2017 03:40:56
ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย


หลังจากที่ใบเมี่ยงและพายพัดเก็บของใช้และเคลียร์ค่าเช่าห้องพักเรียบร้อยแล้ว ขมิ้นพาทั้งคู่มาที่ตลาด ใบเมี่ยงอาสาขอเป็นคนซื้อของไปทำอาหารเย็นเอง ใบเมี่ยงอยากทำอาหารเหนือให้ทุกคนได้ทาน ขมิ้นจึงปล่อยให้ทั้งสองคนลงที่ตลาดสด ส่วนตัวเองขอไปแวะสั่งของให้มีคุณก่อน เมื่อทำธุระให้มีคุณเสร็จจึงแวะกลับมารับใบเมี่ยงและพายพัดที่ตลาด ซึ่งทั้งคู่ก็ซื้อของเสร็จพอดี ขมิ้นจึงบอกทั้งสองคนว่าก่อนกลับขอแวะไปรับแฟนของตนด้วยเลยเพราะได้เวลาที่สาลี่เลิกงานพอดี


เมื่อมาถึงที่โรงแรมภูมิเทพ โรงแรมของนายหัวพยนต์ ซึ่งเป็นที่ทำงานของสาลี่ ใบเมี่ยงและพายพัดก็ย้ายไปนั่งที่ท้ายกระบะเพื่อให้สาลี่ได้นั่งคู่กับไปขมิ้น จังหวะนั้นพญาที่กำลังเดินออกมาจากโรงแรมพอดีก็เห็นขมิ้นกำลังมองหาใครอยู่ พญาเดินแอบดูอยู่ห่างๆ เพราะว่านับตังค์อาจจะมากับขมิ้นด้วยก็ได้ แต่เมื่อเดินมาจวนจะถึงรถที่ขมิ้นขับมากลับเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีถึงสองคนนั่งอยู่ท้ายกระบะแทน พญานึกชื่นชมหน้าตาของทั้งคู่ในใจ พลางคิดว่าถ้าสองคนนี้เกี่ยวข้องกับร้านอาหารของตาแก่หัวดื้อคู่ปรับของพ่อ พญาก็ชักจะสนใจอยากได้ร้านอาหารนั้นเอาไว้ในครอบครอง การมีคนหน้าตาดีรายล้อมรอบข้างนั้นคงจะทำให้พญามีความสุขไม่น้อย และจะมีความสุขมากยิ่งขึ้นหากข้างกายเป็นหนุ่มผมหยักศกตาหวานแต่ฤทธิ์เยอะที่ชื่อนับตังค์มาเคียงข้าง



“คุณพญามาหานายหัวพยนต์เหรอครับ” ผู้จัดการโรงแรมรีบเข้ามาถามด้วยความนอบน้อม

“นี่ ผู้หญิงที่อยู่กับผู้ชายคนนั้นเป็นพนักงานของโรงแรมเราใช่ไหม” พญาชี้ไปที่หญิงสาวที่สวมชุดพนักงานและกำลังเดินไปหาขมิ้น

“ใช่ครับ เธอชื่อสาลินี เป็นหัวหน้าแม่บ้าน เธอทำอะไรไม่ถูกใจคุณพญารึเปล่าครับ” ผู้จัดการมองไปที่สาลินีหรือสาลี่ก่อนจะตอบคำถาม

“พรุ่งนี้เช้าให้สาลินีมาพบฉันหน่อยนะ” พญาสั่งก่อนจะยกยิ้มเพราะถ้าสาลี่สนิทกับขมิ้น เขาก็คงจะล้วงข้อมูลของนับตังค์ได้ไม่ยาก

“ได้ครับนาย” ผู้จัดการโรงแรมค่อนข้างรู้สึกกังวลใจเพราะไม่รู้ว่าสาลี่ไปทำเอาไว้ นายพญาถึงกับสั่งให้ไปพบเป็นการส่วนตัวแบบนี้


เมื่อขมิ้นขับรถกลับมาถึงบ้าน สาลี่กับขมิ้นก็ขนของสดไปเก็บในครัว ส่วนใบเมี่ยงกับพายพัดแยกตัวเอาของใช้ส่วนตัวขึ้นไปเก็บบนห้อง


มีคุณได้ยินเสียงกุกกักจากด้านนอกก็เดาว่าใบเมี่ยงกับพายพัดคงกลับมาแล้วจึงลุกขึ้นมานั่งมองดูด้วงกับนับตังค์ที่หลับสนิทด้วยกันทั้งคู่ มีคุณคิดทบทวนอยู่หลายรอบว่าเขาต้องการอะไรจากผู้ชายที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเองเมื่อครู่นี้ นับตังค์อาจจะไม่ใช่คนที่เขาถูกใจเมื่อแรกเห็น เขาเคยคิดว่านับตังค์ไม่ใช่แนวที่เขาชอบ นับตังค์ไม่ใช่คนขี้อ้อน ไม่ใช่คนอ่อนโยน แถมยังอวดดี แต่ยิ่งได้มาอยู่ใกล้กันมุมมองที่เขามีต่อนับตังค์มันเปลี่ยนไป นับตังค์มีมุมอ้อนในแบบของตัวเอง เป็นการอ้อนโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ว่ากำลังอ้อน แต่มันทำให้มีคุณยอมตามใจง่ายๆ อยู่หลายครั้ง ความอ่อนโยนของนับตังค์จะแสดงให้กับคนที่ดูอ่อนแอกว่าตัวเอง ความอวดดีอยากเอาชนะที่มีมันเป็นแค่เปลือก ถ้าสามารถกะเทาะเปลือกบางๆ นั้นออกมาได้จะเห็นว่านับตังค์มีความอยากเอาชนะก็จริง แต่ก็น้อมรับความพ่ายแพ้ได้โดยงอแงงี่เง่าเลยหากการพ่ายแพ้นั่นมันโปร่งใสและยุติธรรม ที่สำคัญนับตังค์เป็นคนมีน้ำใจให้กับทุกคนรอบตัว มีเหตุผลมากกว่าที่มีคุณคิดอคติในตอนแรกเห็น


...ถ้าเปรียบนับตังค์เป็นอาหาร เขานึกไม่ออกจริงๆ ว่านับตังค์เป็นอาหารประเภทไหน รู้แต่ว่าคงจะเป็นอาหารที่ครบรส แต่จะอร่อยไหมนั้นก็คงต้องได้ชิมก่อนถึงจะประเมินได้... 


“หึหึ...” มีคุณเผลอหลุดหัวเราะออกมาเมื่อนึกว่าการจะได้ชิมอาหารอย่างนับตังค์ได้ เขาคงจะปากแตกก่อนจะได้ชิม


มีคุณนั่งมองนับตังค์อยู่นานเห็นว่ายังนอนหลับสบายจึงปล่อยให้นับตังค์กับด้วงนอนต่อ ส่วนตัวเขาออกไปดูความเรียบร้อยให้ใบเมี่ยงกับพายพัด ก่อนหน้าที่ขมิ้นจะออกไปข้างนอก มีคุณให้ขมิ้นไปสั่งซื้อเครื่องนอนมาเพิ่มให้กับผู้ช่วยเชฟทั้งสองคน ตอนที่ขมิ้นถามว่าจะสั่งซื้อเตียงให้ด้วงเพิ่มไหมเพราะขมิ้นกลัวว่าเตียงเดียวนอนถึงสามคนคงจะอึดอัด แต่มีคุณกลับปฏิเสธโดยบอกกับขมิ้นไปว่า ไม่เห็นจะอึดอัดเลยสักนิด


“ทำอะไรกัน” มีคุณได้กลิ่นหอมๆ มาจากในครัวเลยเดินเข้ามา เห็นใบเมี่ยงกับพายพัดกำลังลงมือทำอาหารกันแล้ว มิน่าเขาเดินขึ้นไปหาที่ห้องใต้หลังคาก็ไม่พบทั้งสองคนแล้ว

“เมี่ยงขอโชว์ฝีมืออาหารเหนือสูตรของแม่หน่อยนะครับบอส”

“เอาเลย ว่าแต่ที่เมี่ยงบอกว่าพายถนัดเรื่องเครื่องดื่ม ถ้าผมจะให้พายดูแลส่วนของเครื่องดื่มจะสะดวกไหม” มีคุณเอ่ยถาม

“แล้ว...ในครัวจะยุ่งไหมถ้ามีแค่เชฟตังกับเมี่ยง” พายพัดถามมีคุณ

“ยังมีขมิ้นช่วยอยู่อีกคน แต่ถ้าร้านเราไปด้วยดี ผมรับคนช่วยเพิ่มได้” มีคุณเห็นว่าลำพังฝีมือของนับตังค์กับใบเมี่ยงก็คงเอาอยู่ เพราะฉะนั้นถ้าจะรับคนช่วยในครัวเพิ่มก็เอาคนที่เป็นลูกมือในการจัดเตรียมของก็พอ

“ผมจะช่วยอยู่ที่บาร์เครื่องดื่มก็ได้ แต่ถ้าบอสจะรับผู้ช่วยในครัว ผมขอให้เป็นผู้หญิงได้ไหม” พายพัดถาม

“สิทธิขาดในครัวเป็นเชฟนับตังค์ ไปถามเขาเอาเองก็แล้วกัน” มีคุณเดาว่าพายพัดไม่อยากให้มีผู้ชายคนอื่นมาอยู่ใกล้กับใบเมี่ยงแน่ๆ

“ถ้างั้นก็คงไม่มีปัญหา” พายพัดตอบเพราะคิดว่านับตังค์จะเข้าใจ

“พาย เราเป็นแค่ลูกจ้างนะ” ใบเมี่ยงปรามคนรัก แม้จะรู้ว่าพายพัดคิดอะไร แต่ไม่อยากให้ทำความลำบากใจให้กับนับตังค์

“เชฟบอกว่าเราเป็นครอบครัวต่างหากอุ๋งอุ๋ง” พายพัดเดินมาใกล้ๆ ใบเมี่ยงก่อนจะย่อตัวเอาหน้าผากของตัวเองมาชนกับหน้าผากของใบเมี่ยงเบาๆ

“เอ่อ...ผมขอตัวก่อนนะ ตามสบายเลย” มีคุณบอกกับทั้งสองคนก่อนจะรีบเดินออกมาเพราะกลัวว่าจะสำลักความหวานไปเสียก่อน


นับตังค์ลืมตาขึ้นมาหลังจากที่มีคุณตื่นแล้วออกไปจากห้องแล้ว นับตังค์ยกมือขึ้นมาทาบหน้าอกของตัวเองว่าหัวใจยังเต้นดีอยู่ไหม ยังไม่อยากจะยอมรับความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเองเลย ตอนที่ถูกเพื่อนสนิทแซวสมัยเรียน เวลาที่มีคนมาจีบ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย นับตังค์ว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะมันไม่เคยมีผลต่อหัวใจของนับตังค์ได้เลย นับตังค์จึงได้มั่นใจบอกกับรันและหม่องไปว่าไม่มีอะไรจะมาทำให้หัวใจเต้นแรงได้เท่ากับเวลาคิดสูตรอาหารสูตรใหม่ได้ จนมาเจอกับตัวเองในวันนี้ นับตังค์ไม่เคยคาดคิดว่าไอ้ความรู้สึกชอบใครสักคนมันจะเกิดง่ายๆ ได้ขนาดนี้ ยังทบทวนอยู่เลยว่ามันเกิดในตอนไหน ยังเถียงยังกัดกับมีคุณอยู่ตลอดเวลา ตั้งแง่ใส่มีคุณตั้งแต่แรกเจอ แค่คำหยอดนิดๆ หน่อยๆ ของมีคุณไม่น่าจะมาทำให้หวั่นไหวได้ นับตังค์ก็เจอคนจีบมาตั้งมากมาย ไม่ใช่ว่าจะไม่ประสาในเรื่องนี้เสียทีเดียว


“หรือจะถามไปเลยว่าคิดยังไง” นับตังค์พึมพำกับตัวเอง เริ่มลังเลและสับสน สุดท้ายก็เกาหัวตัวเองจนยุ่งแล้วก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ คิดในใจว่าถ้าลองนั่งเงียบๆ ในห้องน้ำอาจจะปลดความฟุ้งซ่านออกไปด้วยเลยก็เป็นได้ นับตังค์เข้าไปนั่งเงียบๆ อยู่ในห้องน้ำพักใหญ่ จนมีเสียงของมีคุณทักมาจากหน้าประตูห้องน้ำ นับตังค์ถึงกับสะดุ้งสุดตัว

“ตัง พี่ปลุกด้วงนะ เดี๋ยวคืนนี้ไม่ยอมนอน”

“อื้อ ปลุกเลย”

“ทำอะไรนานจัง พี่ขึ้นมาตั้งนานก็ไม่เห็นจะออกมาสักที ท้องผูกเหรอ” มีคุณเริ่มกวนประสาท

“นี่บอส ต้องให้รายงานละเอียดเลยไหมว่าอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว” นับตังค์ถามกลับก่อนจะลุกขึ้นยืน

“พี่แค่เป็นห่วง” มีคุณตอบกลับไป ยืนรออยู่นานแต่ไม่ได้ยินเสียงนับตังค์ตอบกลับมาก็เลยมาปลุกด้วงที่เตียง ส่วนคนที่ได้ยินคำว่าเป็นห่วงจากอีกฝ่ายก็ได้แต่ยืนวนไปมาอยู่ในห้องน้ำ จนได้ยินเสียงด้วงร้องไห้ถึงได้รีบเปิดประตูออกมา

“แอบหยิกด้วงเปล่าบอส” นับตังค์รีบเดินมาอุ้มด้วงที่กำลังร้องไห้จ้า

“พี่แค่ปลุก พอลืมตามาเห็นหน้าพี่ก็ร้องเลย” มีคุณหน้าเสียเพราะว่าตกใจ

“โอ๋ๆ ด้วง คนไม่ใช่ผีนะ ไม่ต้องตกใจ โอ๋ๆ” นับตังค์ปลอบด้วง มีคุณได้ยินนับตังค์แขวะก็เลยยกมือขึ้นไปเขกหัวนับตังค์เบาๆ

“ด้วงคงไม่ชอบพี่ สงสัยต้องให้อยู่กับตังตลอด” มีคุณทำท่ากังวลว่าตัวเองจะเลี้ยงด้วงไม่ได้

“บอสก็ต้องทำให้ด้วงรักให้ได้ บอสเป็นพ่อนะ อีกหน่อยตังก็ต้องไป จะมาอยู่ตลอดได้ไง” นับตังค์พูดตามความจริงโดยไม่ทันมองว่ามีคุณมีสีหน้ายังไง

“นั่นสิ ต้องทำให้รักให้ได้” มีคุณย้อนคำพูดของนับตังค์ แล้วทุกอย่างในห้องก็เงียบสนิทรวมไปถึงเสียงร้องไห้ของด้วงด้วย

“ยักกัน ยักกัน” ด้วงพูดไปสะอื้นไป นับตังค์แอบหันไปมองมีคุณ เห็นมีคุณจ้องอยู่เลยรีบหันกลับ

“ตังพาด้วงไปล้างหน้าก่อน เดี๋ยวจะลงไปทำอาหารเย็นแล้ว” นับตังค์ลุกขึ้นเพราะอยากหนีบรรยากาศที่ชวนประดักประเดิด

“เมี่ยงกับพายทำอยู่ เขาอยากโชว์ฝีมือ แต่คงใกล้เสร็จแล้ว” มีคุณเองก็รู้สึกขัดเขินขึ้นมาอย่างนั้น

“งั้นเดี๋ยวเจอกันข้างล่างเลยก็ได้” นับตังค์บอกก่อนจะอุ้มด้วงเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อได้ยินเสียงมีคุณออกจากห้องไปแล้วถึงได้ถอนหายใจออกมา


ขมิ้นกับสาลี่มาช่วยใบเมี่ยงจัดโต๊ะอาหาร ไม่นานนับตังค์ก็อุ้มด้วงลงมา สาลี่เข้ามาทักทายนับตังค์แล้วเอ่ยปากชมกับข้าวที่นับตังค์ฝากขมิ้นไปให้กินบ่อยๆ ว่าอร่อยจนดันพุงเลย ขมิ้นต้องมาแปลให้ว่าสาลี่กินจนท้องอืดเดินแทบไม่ไหว


“พี่ช่วยอุ้มหนูด้วงให้นะคะ” สาลี่ลองชูมือขออุ้ม ด้วงโผตัวไปให้สาลี่อุ้มแต่โดยดี นับตังดีใจที่ด้วงยอมให้สาลี่อุ้ม

“น่ากินทั้งนั้นเลยเมี่ยง” นับตังค์เห็นอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วท้องร้องประท้วงทันที

“อาหารพร้อมแล้วนะครับ เดี๋ยวเมี่ยงไปเอาข้าวเหนียวมาให้ กำลังร้อนๆ ทุกคนเชิญนั่งรอเลยครับ” ใบเมี่ยงบอกกับทุกคน


ไส้อั่วที่เพิ่งย่างเสร็จใหม่ๆ ถูกหั่นวางเรียงมาในจาน มันยังคงมีไอร้อนลอยอยู่ให้เห็น ผักสดจัดใส่ตะกร้าเล็กๆ มาตั้งให้ทุกคน คนละหนึ่งตะกร้า บนโต๊ะยังมีตำขนุน แกงอ่อมสันคอหมู น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ปีกไก่ทอดกรอบและข้าวผัดรวมมิตรทะเลหนึ่งจานใหญ่สำหรับคนที่ไม่ทานเผ็ด ใบเมี่ยงนำกระติบข้าวเหนียวขนาดเล็กมาแจกให้ทุกคน ส่วนพายพัดก็นำน้ำพั้นซ์แบบไม่ใส่แอลกอฮอล์มารินใส่แก้วให้ทุกคน รวมถึงเจ้าด้วงน้อยที่กำลังหยิบไก่ทอดที่สาลี่แกะวางให้เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย


“พี่สาลี่เคยเจอด้วงมาก่อนใช่ไหม ด้วงถึงดูคุ้นเคยกับพี่จัง” นับตังค์ถาม รู้สึกถูกชะตากับสาลี่


สาลี่เป็นผู้หญิงหน้าตาคมคาย ตัวเล็ก ผิวเข้มแต่ก็ไม่เท่าพี่ขมิ้นแต่ดูสะอาดสะอ้าน ท่าทางใจดีและพูดจานุ่มนวลไพเราะน่าฟัง


“ค่ะ พี่เคยมาช่วยนายปู่เลี้ยงหนูด้วงตอนที่ร้านยุ่งๆ” สาลี่ลูบผมด้วงด้วยความเอ็นดู

“อร่อยใช่ไหมด้วง” มีคุณถาม

“อาหย่อยฉุดๆ ปี้จ๋าหนูจาเอาน้ำฉีฉ้ม” ด้วงชี้ไปที่แก้วน้ำพั้นซ์

“พูดให้ชัดๆ น้ำพั้นซ์” นับตังค์สอน

“น้ำปั๊น”

“น้ำพั้นซ์” นับตังค์ออกเสียงซอโซ่ปิดท้ายด้วย

“น้ำปั๊นซี่” ด้วงลากเสียงซี่ยาวจนทุกคนพากันหัวเราะ

“เฮ้อ เจ้าด้วงเอ้ย” นับตังค์ห่อไหล่พรูลมหายใจเมื่อดูแล้วว่าด้วงติดพูดไม่ชัดไปแล้ว

“ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ด้วงเพิ่งจะสองขวบกว่าเอง ยังถือว่าเป็นการพูดไม่ชัดแบบปกติ แต่เราช่วยได้ด้วยการพูดคำที่ถูกให้เขาฟังบ่อยๆ เมี่ยงว่าพัฒนาการของด้วงถือว่าเร็วด้วยซ้ำ” ใบเมี่ยงอธิบายจากวิชาที่ได้เรียนรู้มา

“จริงสิ เมี่ยงจบจิตวิทยาพัฒนาการมา” นับตังค์นึกขึ้นได้ ใบเมี่ยงยิ้มตอบแทนการตอบรับ

“หรอยจังหู ต้องบอกว่าไงนะ ลำขนาด ลำแต้ๆ สาลี่เอ้ย มื้อนี้ดันพุงอีกแน่นิ” ขมิ้นได้ชิมแล้วรู้สึกว่าอาหารเหนือก็อร่อยไม่แพ้อาหารใต้เลยจึงยกนิ้วโป้งชื่นชมใบเมี่ยงก่อนจะหันไปพูดกับสาลี่

“คราวนี้นอกจากพูดไม่ชัดแล้ว ด้วงคงได้ถึงสามภาษา” นับตังค์พูดพลางหัวเราะ

“เดี๋ยวผมสอนภาษาอื่นให้ด้วงด้วย เด็กช่วงนี้กำลังจดจำใช่ไหมอุ๋งอุ๋ง” พายพัดพูดกับทุกคนแล้วหันไปถามใบเมี่ยง เมื่อเห็นว่ามีเศษแป้งติดที่ปลายผมของใบเมี่ยงก็เขี่ยออกให้ ช่างเป็นภาพที่ดูละมุนละไมจนนับตังค์อดยิ้มตามออกมาไม่ได้

“มีผมหงอกติดด้วยนะเอ๋งเอ๋ง พี่เอาออกให้” มีคุณกระซิบที่ข้างหูของนับตังค์แล้วทำท่าจะปัดผมของนับตังค์เลียนแบบพายพัด เพราะเห็นนับตังค์มองพายพัดแล้วทำหน้าเคลิ้มก็อดหมั่นไส้ไม่ได้

“กินไก่ไปเลยบอส” นับตังค์หยิบปีกไก่มายัดใส่ปากของมีคุณเมื่อโดนกวนประสาท คนกำลังฟินกับบรรยากาศหวานๆ ของใบเมี่ยงและพายพัดอยู่ก็มาขัด

“จินไจ่ไปเลย” หนูด้วงเห็นแล้วก็หยิบปีกไก่มาใส่ปากให้สาลี่บ้างจนนับตังค์ต้องร้องห้ามยกใหญ่

“เชฟคงเป็นเหมือนแม่ของหนูด้วงไปแล้ว หนูด้วงถึงได้เลียนแบบแทบทุกอย่าง เหมือนลูกไก่ที่คอยเดินตามแม่ไก่ แม่ไก่จิกอาหารที่พื้นก็ทำตามตลอด” ใบเมี่ยงแสดงความคิดเห็น

“ใช่ ต้องระวังกิริยาอาการด้วยนะคุณแม่” มีคุณรีบเสริม

“หึ อยากให้เป็นแม่ใช่ไหม เพิ่มค่าแรงมาเลยสองเท่า” นับตังค์ทำตัวไม่ถูกที่โดนเมี่ยงเปรียบให้ตัวเองเหมือนแม่ของด้วง แถมมีคุณยังจะตีเนียนอีก เลยหาทางออกด้วยการทำเป็นตีเนียนตามไป

“ไม่มีปัญหา แต่ต้องสอนให้เรียกแม่จ๋าแทนปี้จ๋าแล้วสิ ใช่ไหมด้วง แม่จ๋า เรียกสิ แม่จ๋า” มีคุณยักไหล่ให้นับตังค์ก่อนจะหันไปพูดกับด้วง

“แม่จ๋า แม่จ๋า” ด้วงพูดตามทั้งที่มีข้าวเหนียวเต็มปาก

“สอนดีนักนะ นี่ กินข้าวเหนียวกับน้ำพริกหนุ่มนะบอส ตังจะป้อนให้” นับตังค์จ้วงน้ำพริกหนุ่มคำโตแล้วให้บอสกิน เน้นเนื้อพริกเต็มๆ มีคุณถึงกับแทบสำลักน้ำพริกหนุ่ม

“น่าฮักกันแต้ก๊ะ” ใบเมี่ยงมองนับตังค์กับมีคุณแล้วยิ้ม ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้พายพัดแล้วป้อนไส้อั่วให้พายพัดบ้าง


บรรยากาศมื้อค่ำวันนี้ดูจะครื้นเครงกว่าทุกๆ วัน โดยส่วนใหญ่จะมีเสียงของนับตังค์กับมีคุณกวนประสาทกันไปมาเป็นระยะ สลับกับเสียงหัวเราะของทุกคนเวลาที่ด้วงพยายามจะพูดตามแต่พูดไม่ชัด ขมิ้นเห็นแล้วอดคิดถึงนายปู่ไม่ได้ ถ้านายปู่ยังอยู่ก็คงจะมีความสุขไม่น้อย ขมิ้นรู้ว่านายปู่เหงา คิดถึงลูกหลาน ขมิ้นไม่เคยเห็นญาติคนไหนมาเยี่ยมนายปู่บ้างเลย จนกระทั่งพ่อกับแม่ของหนูด้วงมาอาศัยอยู่ด้วย นายปู่ดูจะมีความสุขมาก แต่แล้วพ่อกับแม่ของหนูด้วงก็มาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางเรือ หนูด้วงจึงเป็นเหมือนความสุขเดียวที่เหลืออยู่สำหรับนายปู่ ทีแรกขมิ้นก็แอบมีอคติกับมีคุณ หลานคนเดียวที่นายปู่ยกทุกอย่างให้แต่ไม่เคยมาดูแลนายปู่ แต่มาในวันนี้อคติในใจของขมิ้นก็ค่อยๆ ลดลง นั่นคงเป็นเพราะมีคุณยอมรับดูแลหนูด้วงและหนูด้วงดูมีความสุขมาก ขมิ้นเลยคิดเอาเองว่านายปู่มองดูอยู่ข้างบนสวรรค์ก็คงจะมีความสุขไม่ต่างกัน ขมิ้นจึงเริ่มเปิดใจให้เจ้านายคนใหม่และหวังว่าเจ้านายคนใหม่นี้จะเป็นคนดีเหมือนนายปู่ของขมิ้น ขมิ้นจะยอมทุ่มเทแรงกายแรงใจและซื่อสัตย์กับมีคุณด้วยชีวิต ให้เหมือนกับที่เคยมีให้นายปู่เช่นกัน


….


แล้ววันสงกรานต์ก็มาถึง งานสงกรานต์ประจำปีของเกาะใบไม้ครามถูกจัดขึ้นที่ริมหาด เป็นการร่วมมือกันกับทางจังหวัดและกลุ่มเจ้าของกิจการต่างๆ เพื่อเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยงของเกาะไปในตัว ขณะนี้มีนักท่องเที่ยงมาจับจองที่พักจนเต็มไปทุกที่แล้ว กิจกรรมที่จัดขึ้นในช่วงกลางวันจะเป็นกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ให้แขกที่มาพักได้ร่วมเล่นชิงรางวัล ไม่ว่าจะเป็นแข่งชักกะเย่อ เก้าอี้ดนตรี หลับตาตีแตงโม และอื่นๆ อีกมากมาย มีโซนขายอาหารทะเล อาหารพื้นเมืองให้เลือกซื้อกินได้หลากหลาย ส่วนงานในตอนกลางคืนก็คงจะเป็นปาร์ตี้ริมทะเล มีการจ้างนักร้องดังมาแสดงโชว์ ขมิ้นบอกว่างานปีนี้ดูจะใหญ่กว่าปีที่ผ่านมาเยอะเลย


ทีมของมีคุณจัดทำบาบีคิวมาจำนวนมาก นอกจากจะแจกลูกหลานชาวประมงแล้ว มีคุณคิดทำการตลาดโดยการแจกให้นักท่องเที่ยวได้ชิมด้วย นับตังค์และใบเมี่ยงจึงลงแรงลงใจทำบาบีคิวให้มีรสชาติที่ดีที่สุดออกมาเพื่อให้ลูกค้าชิมแล้วติดใจอยากกลับมาชิมอีก ส่วนพายพัดก็ทำเครื่องดื่มง่ายๆ อย่างเช่น น้ำใบเตยเกล็ดหิมะ น้ำมะพร้าวเผาเกล็ดหิมะไปร่วมแจกด้วย ขมิ้นจัดสถานที่สำหรับแจกบาบีคิวจนเสร็จแล้ว ซึ่งบูธของมีคุณจะแยกออกมาจากโซนขายอาหาร ขมิ้นจัดการขนของในรถมาวางเอาไว้โดยมีเบิ้มมาคอยช่วยด้วย


“เดี๋ยวเริ่มปิ้งเลยดีกว่าพี่บ่าว คนมากันเยอะแล้ว ตังแบ่งเป็นสองส่วน สำหรับเด็กๆ ส่วนหนึ่ง แล้วก็ที่จะให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่ง แล้วตังกับเมี่ยงแยกประเภทเนื้อสัตว์เอาไว้ ลังนี้เป็นเนื้อ ลังนี้เป็นหมู ลังนี้ไก่ ส่วนอันนี้เป็นบาบีคิวทะเล” นับตังค์บอกกับขมิ้นและเบิ้มที่จะเป็นคนช่วยปิ้งบาบีคิวให้ ซึ่งนับตังค์สอนเทคนิคการปิ้งบาบีคิวให้สุกกำลังดีและไม่แห้งจนเกินไปกับทั้งคู่เรียบร้อยแล้ว


ขมิ้นหยิบเอาเนยสดมาทาบนตะแกรงบางๆ ก่อนจะหยิบบาบีคิวขึ้นมาวางบนตะแกรงที่กำลังร้อนได้ที่ ไฟไม่แรงจนเกินไป เนื้ออาจจะติดตะแกรงและไหม้ได้ เนื้อชิ้นโตที่หมักมาอย่างดีเมื่อโดนความร้อนก็เริ่มส่งกลิ่นหอมกระจายไปทั่วบริเวณ ใบเมี่ยงเป็นคนช่วยเอาน้ำซอสที่ปรุงมาเป็นพิเศษมาปะพรมจนเนื้อดูชุ่มช่ำน่ากินเป็นอย่างมาก เบิ้มพาเพื่อนมาช่วยกันปิ้งบาบีคิวแจกนักท่องเที่ยวอยู่อีกเตาหนึ่ง เด็กในพื้นที่หลายคนที่คุ้นเคยดีเพราะรู้ว่าคุณอนันต์มาแจกแบบนี้ทุกปีก็เริ่มมาต่อแถวรอกินกันจนแถวยาวเหยียด


“เซอร์ไพรส์!!!”

“เฮ้ย ไอ้รัน ไอ้หม่อง มากันได้ยังไง” นับตังค์หันไปตามเสียงก็พบว่าเพื่อนสนิททั้งสองคนมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าแล้ว

“หยุดยาวทั้งทีก็มาหาเพื่อนหน่อย” รัญญรีโผเข้ากอดนับตังค์ด้วยความคิดถึง

“โอ้ย ฉันดีใจมากเลย แล้วแกไปพักกันที่ไหน” นับตังค์ถามเพื่อน

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ว่าแต่สองคนนั้นใคร หน้าตาดีจัง” รัญญรีชี้ไปที่พายพัดและใบเมี่ยง

“ผู้ช่วยฉันเอง เขาเป็นแฟนกัน ไม่ต้องทำตาหวานเยิ้มเลยไอ้รัน” นับตังค์รีบขัด

“ว้าว ร้านอาหารของบอสแกนี่มีแต่คนหน้าตาน่ากินทั้งนั้นเลย ฉันขอมาอยู่ด้วยคนดีกว่า” รัญญรีส่งยิ้มให้ใบเมี่ยงกับพายพัด ทั้งสองคนก็ยิ้มตอบกลับมาให้รัญญรีและหม่อง

“เดี๋ยว แล้วแฟนแกล่ะ” หม่องถามแทรกขึ้นมา

“แฟนอะไร ไม่มีเว้ย ฉันโสด” นับตังค์ค้อนใส่รัญญรีเพราะรู้ว่ารัญญรีคงจะไปเล่าให้หม่องฟังเรื่องที่นับตังค์กำลังสับสนอยู่

“แฟนแกอยู่นั่นไง” รัญญรีชี้ไปที่มีคุณซึ่งกำลังยืนคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง นับตังค์หันไปมองเห็นมีคุณคุยอยู่กับทนายเคารพก็รีบหันกลับ

“ไม่ใช่แฟน อย่ามามั่ว” นับตังค์รีบปฏิเสธเพื่อน

“เดี๋ยว แต่แกยิ้ม” หม่องเถียง

“ไม่ได้ยิ้ม” นับตังค์ปฏิเสธอีก

“แกยิ้มไอ้ตัง ยิ้มจนเห็นฟันครบทุกซี่เลย” รัญญรีจิ้มไปที่ปากของนับตังค์ นับตังค์รีบหุบยิ้มแล้วทำเป็นจัดถาดใส่บาบีคิวส่งให้เบิ้ม

“แฟนแกเดินมาแล้วไอ้ตัง” รัญญรีร้องบอกด้วยความตื่นเต้น

“เขาไม่ได้มาหาฉันหรอก” นับตังค์ทำเป็นไม่สนใจทั้งที่ก็รู้สึกตื่นเต้นตามรัญญรีไปด้วย

“มาหาแกแน่ๆ” รัญญรียังยืนยัน

“ทำไมแกมั่นใจว่ะไอ้รันว่าเขาเดินมาหาฉัน” นับตังค์ขมวดคิ้วก่อนจะถาม

“ก็ไอ้หม่องขยันเดี๋ยวมันกวักมือเรียกเขาอยู่เนี่ย” รัญญรีชี้ไปที่หม่อง

“เฮ้ยไอ้หม่อง หยุดเลย” นับตังค์ตกใจหันไปฟาดแขนของหม่องที่กำลังกวักมือเรียกมีคุณ

“สวัสดีครับคุณรัน” มีคุณเดินมาถึงจุดที่นับตังค์กับเพื่อนยืนอยู่ก็เอ่ยทัก

“สวัสดีค่ะคุณ ดูหล่อขึ้นนะคะ” รัญญรีทักมีคุณอย่างเป็นกันเอง

“สายตาสั้นแล้วไอ้รัน” นับตังค์รีบแย้ง

“เดี๋ยว ไม่คิดจะแนะนำกันเหรอ” หม่องอยากร่วมวงสนทนาด้วย

“บอส นี่เพื่อนสนิทอีกคนของตัง ชื่อหม่อง หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือไอ้หม่องขยันเดี๋ยว” นับตังค์เป็นคนแนะนำ

“เดี๋ยว...” หม่องจะพูดต่อ แต่เห็นมีคุณหลุดขำเสียก่อนเลยหยุดพูด

“ขอโทษทีครับที่เสียมารยาท ทีแรกผมไม่เข้าใจหม่องขยันเดี๋ยวคืออะไร” มีคุณเพิ่งเข้าใจว่าเพื่อนของนับตังค์คนนี้ชอบพูดว่าเดี๋ยวนั่นเอง

“ไม่ว่ากันครับ ผมชื่อพนัส เรียกหม่องก็ได้ครับ ยินดีที่รู้จักแฟ..เอ้ย เจ้านายของไอ้ตังนะครับ” หม่องเกือบหลุดคำว่าแฟนออกไปแล้ว ดีที่เห็นสายตาอาฆาตของนับตังค์เสียก่อน

“เราสองคนแวะมาเยี่ยมตังค่ะ กลัวบอสเลี้ยงไม่ดี เราจะได้พาเพื่อนกลับ” รัญญรีพูดกับมีคุณทีเล่นทีจริง

“ลิ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยล่ะครับ” มีคุณตอบกลับก่อนจะหันไปยิ้มให้นับตังค์

“ดีค่ะ เพราะแค่ห้าล้านรันจ่ายให้ได้ค่ะ หวังว่าคุณคงไม่ทำให้เพื่อนของรันต้องขอให้รันมาพามันกลับบ้านนะคะ” รัญญรียังคงยิ้มหวาน แต่สายตาที่ดูจริงจังทำให้มีคุณรู้ว่าอีกฝ่ายพูดจริง

“สวัสดีครับตัง” เสียงที่แทรกเข้ามาทำให้ทุกคนต้องหยุดการสนทนาแล้วหันไปมอง


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 16-04-2017 03:47:38
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


“สวัสดีครับตัง” เสียงที่แทรกเข้ามาทำให้ทุกคนต้องหยุดการสนทนาแล้วหันไปมอง

เจ้าของเสียงก็คือพญานั่นเอง เมื่อวันก่อนพญาเรียกสาลี่ให้มาพบแล้วสอบถามเรื่องของนับตังค์ สาลี่รู้สึกอึดอัดมากแต่ก็จำต้องตอบไปบ้างเพราะเกรงว่าหากทำให้พญาไม่พอใจอาจมีปัญหากับงานก็ได้ สาลี่มีแม่ที่อายุมากต้องดูแลอยู่ จึงไม่อยากถูกไล่ออกในตอนนี้ โชคดีที่พญายังไม่ได้ถามอะไรมากเกินไป แค่ถามว่านับตังค์มาทำอะไรที่เกาะนี้ เป็นอะไรกับคุณอนันต์ อายุเท่าไหร่ แล้วก็ให้สาลี่กลับออกไปได้ จากนั้นพญาก็บังเอิญได้ยินสาลี่ชวนเพื่อนๆ ให้แวะไปที่บูธบาบีคิวของนับตังค์ที่ทำแจกให้ชิมในวันสงกรานต์นี้ พญาจึงแต่งตัวหล่อมาเพื่อมาเจอนับตังค์โดยเฉพาะ


“พี่รู้มาว่าตังจะมาทำบาบีคิวเลี้ยงเด็กๆ พี่เลยว่าจะมาช่วย อ่อ สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อพญา เป็นเจ้าของตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในเกาะนี้ พ่อผมเป็นเจ้าของโรงแรมภูมิเทพและรีสอร์ทในเครือภูมิเทพทั้งหมด งานในวันนี้พ่อผมก็เป็นโต้โผใหญ่” เมื่อพญารู้ว่านับตังค์อายุน้อยกว่าก็เรียกให้ดูสนิทสนม ก่อนจะรีบแนะนำตัวเองแบบโอ้อวดให้ นับตังค์ มีคุณ รัญญรีและพนัสได้รับรู้ จะว่าไปคงตั้งใจพูดให้ได้ยินกันทั้งบูธ เพราะเสียงแนะนำตัวของพญาดังไปถึงใบเมี่ยงและพายพัดด้วย

“กิจการมากมายขนาดนี้ยังว่างงานเหรอ” นับตังค์ถามกวนๆ

“พี่ไม่ใช่คนว่างงานหรอกครับน้องตัง แต่สำหรับน้องตัง เอ่อ พี่หมายถึง เห็นน้องตังเป็นคนที่มาอยู่ใหม่ๆ อาจจะต้องการความช่วยเหลือ พี่ก็เลยมาอำนวยความสะดวกให้เป็นพิเศษ”

“อยากช่วยจริงเหรอลุง” นับตังค์ถามก่อนจะยิ้มให้พญาที่หน้าเสียไปเล็กน้อยเมื่อถูกนับตังค์เรียกว่าลุงอีกแล้ว แต่ก็พยายามเอาหูไปนาเสีย ส่วนมีคุณมองพญาแล้วรู้สึกไม่ชอบตั้งแต่แรกเห็น

“จริงสิครับ จะให้พี่ช่วยอะไร” พญายกยิ้มแบบที่คิดว่าหล่อที่สุดจนหม่องกับรันมองหน้ากันแล้วกลั้นขำ เพื่อนสนิทของนับตังค์รู้ดีว่านับตังค์ไม่ชอบผู้ชายที่มารุกจีบแบบนี้ เดี๋ยวคงจะโดนฤทธิ์เดชของนับตังค์แน่ๆ

“ถ้าอย่างนั้นตามตังมาเลย ดีใจจังที่มีคนมาช่วย” นับตังค์พูดไปยิ้มไปก่อนจะเดินนำพญาออกไปทางด้านหลังของบูธ

“ไม่ต้องตามไปหรอกค่ะ ตังมันเอาตัวรอดได้” รัญญรีเห็นสีหน้าท่าทางของมีคุณเลยรีบบอก

“แล้วคุณสองคนพักที่ไหนครับ” มีคุณมองนับตังค์ไปด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อเพื่อนสนิทของนับตังค์ออกตัวแล้วว่านับตังค์เอาตัวรอดได้เขาจึงปรับท่าทีให้เป็นปกติก่อนจะหันมาถามรัญญรีแทน

“รันมีญาติอยู่ที่นี่ค่ะ เรามีที่พักแล้ว”

“เดี๋ยว สองคนคุยกันไปก่อนนะ ผมขอไปต่อแถวชิมบาบีคิวฝีมือไอ้ตังหน่อย กลิ่นหอมจนอดใจไม่ไหวแล้ว” หม่องพูดแทรกคนทั้งคู่จบก็รีบเดินไปต่อแถวบ้าง กลิ่นของบาบีคิวหอมตลบอบอวลไปทั่วบริเวณนี้แล้วจริงๆ

“คุณรัน นี่ทนายเคารพ ทนายประจำตัวของคุณปู่ของผม” เมื่อทนายเคารพเดินเข้ามาหามีคุณ มีคุณจึงแนะนำทนายเคารพแก่รัญญรี

“สวัสดีค่ะ” รัญญรียกมือไหว้ก่อนจะรู้สึกว่าทนายคนนี้หน้าตาคุ้นมาก

“สวัสดีครับ ผมขอโทษที่เสียมารยาทเข้ามาขัดจังหวะนะครับคุณรัน เอ่อ...คุณมีคุณครับ...ถ้าผมอยากคุยกับคุณมาตฤกะเลยจะสะดวกไหมครับ มีเอกสารที่ต้องให้คุณมาตฤกะเซ็นด้วย” เคารพถามมีคุณ

“ได้ครับ ผมจะพาไป ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวสักครู่นะครับคุณรัน”

“เชิญตามสบายค่ะ” รัญญรีพยายามนึกว่าเคยเจอเคารพที่ไหนแต่ก็ยังนึกไม่ออก เมื่อมีคุณเดินไปแล้ว รัญญรีก็ยังยืนอยู่รอเพื่อนอยู่ที่เดิม สักพักนับตังค์ก็เดินออกมาจากด้านหลังบูธ

“แกเอาหมอนั่นไปไว้ไหน ฆ่าตายรึเปล่าวะ” รัญญรีถามเมื่อเห็นนับตังค์เดินออกมาคนเดียวโดยไม่มีพญาออกมาด้วย

“ถ้าหลุดออกมาจากกลุ่มเด็กได้ก็คงไม่ตายหรอก” นับตังค์พูดแล้วหัวเราะ เขาใช้ให้พญาไปติดเตาถ่าน ก่อนจะเดินไปบอกเด็กๆ ว่าพญาจะแจกของขวัญชิ้นโต ถ้าเด็กคนไหนน่ารัก นับตังค์แนะนำเด็กๆ ไปว่าให้กอดพญาแน่นๆ แบบไม่ให้หลุดไปได้ เด็กๆ ที่อยู่แถวนั้นเลยกรูกันเข้าไปกอดพญาจนมองไม่เห็นตัวคนถูกกอดเลยแม้แต่เงาเพราะอยากได้ของขวัญ

“แกมันแสบจริงๆ แล้วเรื่องบอสของแกสรุปว่าไง ได้สารภาพรักไปรึยัง” รัญญรีถามตรงๆ

“บ้าดิ ใครจะไปสารภาพ”

“ตัง บาบีคิวโคตรอร่อยเลย นุ่มมาก กัดทีน้ำแตกคาปากเลย” หม่องเดินมาสาธยายหลังจากได้ชิมบาบีคิวฝีมือเพื่อนสนิทก่อนจะมองหน้าเพื่อนสลับกันไปมาว่าเพื่อนคุยอะไรกัน ดูบรรยากาศจริงจังกว่าทุกที

“แกนี่มันเป็นมนุษย์ชอบแทรกจริงๆ แล้วบรรยายอาหารแบบนี้ฉันไม่ได้นึกถึงบาบีคิวเลยนะไอ้หม่อง” รัญญรีทำท่าขนลุก

“เออว่ะ ฟังแล้วมันทะลึ่งมากไอ้หม่อง”

“เดี๋ยว ฉันพูดตามจริง น้ำซอสที่แกปรุงมันแทรกซึมเข้าไปในเนื้อ กัดแล้วไหลซึมลิ้นออกมา โคตรอร่อย ฝีมือแกพัฒนากว่าเดิมอีกนะ” หม่องกัดเนื้อให้ดูเป็นตัวอย่างว่าไม่ได้พูดเกินจริง

“เอางี้ ไอ้หม่อง แกไปเอาบาบีคิวเนื้อกับบาบีคิวหมูมาอีก ฉันจะให้ไอ้ตังมันเล่นบาบีคิวเสี่ยงทาย” รัญญรีสั่งหม่องก่อนจะพูดกับนับตังค์

“เล่นยังไงวะ เคยเห็นแต่คุกกี้เสี่ยงทาย” นับตังค์ถามเพื่อนด้วยความสงสัย

“ก็เดี๋ยวพอบอสแกมา ฉันจะชวนเขากิน ถ้าเขาหยิบเนื้อวัวก่อน แปลว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับแกจริงจัง แค่ขำๆ  แต่ถ้าเขาหยิบเนื้อหมูก่อน แปลว่าเขาชอบแกจริงจัง อยากได้แกมาเป็นแฟน” รัญญรีอธิบาย

“เฮ้ย ไม่เอาด้วยหรอก มันไม่เห็นจะน่าเชื่อถือตรงไหน” นับตังค์รีบปฏิเสธ

“เชื่อฉันดิตัง ฉันเคยทำมาแล้ว เอาน่า ลองดู”

“เดี๋ยว อาจจะแม่นก็ได้ เหมือนพระโคเสี่ยงทายไงแก” หม่องทำหน้าเห็นด้วยกับรัญญรี

“ไอ้บ้า ฮ่าๆ” นับตังค์หัวเราะขำเมื่อนึกไปว่า มีคุณก็เหมาะกับการเป็นโคอยู่เหมือนกัน


หลังจากที่พาทนายเคารพไปหาใบเมี่ยงเรียบร้อยแล้ว มีคุณก็เดินกลับมาที่กลุ่มของนับตังค์อีกครั้ง เขาไม่เห็นพญาอยู่ในกลุ่มด้วยเลยนึกสงสัยว่านับตังค์จัดการพญายังไง รัญญรียื่นจานที่ใส่บาบีคิวมาตรงหน้าเมื่อมีคุณเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า


“ช่วยชิมฝีมือเชฟนับตังค์แล้ววิจารณ์หน่อยค่ะ” รัญญรีรีบบอกเมื่อเห็นมีคิ้วเลิกคิ้วทำหน้าสงสัย


นับตังค์เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง แม้จะคิดว่าไอ้เกมบาบีคิวเสี่ยงทายมันจะไร้สาระ แต่พอเอาเข้าจริงก็อดลุ้นไม่ได้ว่ามีคุณจะหยิบอะไรมาชิมก่อน โดยปกติแล้วนักชิมมักจะชอบกินเนื้อวัว ไอ้รันดันกำหนดว่าถ้าหยิบเนื้อวัวมากินแปลว่ามีคุณไม่มีใจให้ นับตังค์จึงแอบลุ้นจนออกอาการ


“จะแกล้งอะไรพี่รึเปล่า” มีคุณถามเมื่อเห็นนับตังค์ดูกระสับกระส่าย

“เปล่า ก็...แบบ... เพื่อนตังอยากเห็นบอสวิจารณ์สดๆ แบบตัวๆ แค่นั้น” นับตังค์แอบถอนหายใจเมื่อมีคุณพยักหน้ารับรู้

“เชิญค่ะ” รัญญรีส่งจานบาบีคิวให้กับมีคุณ มีคุณรับจานมาถือไว้ก่อนจะหยิบบาบีคิวเนื้อวัวขึ้นมา นับตังค์เห็นแล้วก็หน้าเสีย

“กินด้วยกัน” มีคุณส่งบาบีคิวเนื้อให้นับตังค์ เมื่อนับตังค์รับไป มีคุณก็หยิบบาบีคิวเนื้อหมูขึ้นมากิน

“บอสกินหมูเหรอ...” นับตังค์เผลอพูดออกมา

“อืม อร่อยมากเลย เนื้อไม่แห้ง นุ่ม รสดีมาก กินคู่กับผักย่างแล้วลงตัวดี” มีคุณวิจารณ์ตามจริง

“บอสกินหมู” นับตังค์ยังคงพูดซ้ำ

“ใช่ หมู ทำไมเหรอ” มีคุณทำหน้าสงสัย

“ก็แบบ...” นับตังค์ไม่รู้จะอธิบายว่ายังไง ได้แต่ยืนเขินเพราะรันกับหม่องส่งยิ้มอย่างมีเลศนัยมาให้

“คุณรัน ผมฝากช่วยดูความเรียบร้อยให้ด้วยนะครับ เดี๋ยวผมกับตังขอไปทำธุระครู่หนึ่ง” ยังไม่ทันที่จะได้คุยเรื่องบาบีคิวต่อ มีคุณหันไปเห็นว่าพญากำลังเดินออกมาโดยมีเด็กๆ รุมกอดเต็มไปหมด มีคุณจึงส่งจานบาบีคิวคืนรัญญรีก่อนจะจับข้อมือของนับตังค์แล้วหันมาพูดกับรัญญรี

“ได้เลยค่ะ ไม่ต้องห่วงทางนี้ รันกับหม่องจัดการให้ค่ะ” ทีแรกรัญญรีก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมีคุณดูร้อนรน แต่พอหันไปเห็นพญากำลังจะเดินมาเลยรีบสนับสนุนมีคุณ

“เดี๋ยว จะพาตังไปไหน เดี๋ยว บอส เดี๋ยว” คราวนี้นับตังค์ขอยืมคำติดปากของหม่องมาใช้เพราะถูกมีคุณจูงมือออกไปโดยไม่ฟังคำทัดทานของนับตังค์เลย


มีคุณพานับตังค์มาถึงริมหาดที่จัดกิจกรรม ขณะนั้นที่ริมหาดกำลังเริ่มต้นเกมเก้าอี้ดนตรีอยู่พอดี มีคุณจึงจูงมือนับตังค์แทรกฝูงชนเข้าไปร่วมเล่นด้วย ทีแรกนับตังค์ก็โวยวายไม่ยอมเล่น แต่พอเห็นสายตาคนอื่นมองมาเลยหยุดโวยวายแล้วจำต้องเล่นแต่โดยดี ทีแรกก็ไม่อยากเล่น แต่พอได้เล่นแล้วนับตังค์ก็สนุกสนานเมามันกับการแย่งเก้าอี้คนอื่นจนมีคุณนึกขำ


“โอ้โห ตอนนี้ก็เหลืออยู่แค่สามคนแล้ว ใครจะเป็นคนโดนออกในรอบนี้มาดูกันนะครับ เพลงเริ่มเลย” พิธีกรพูดใส่เครื่องขยายเสียงก่อนจะให้สัญญาณว่าเริ่มเปิดเพลงได้


ตอนนี้ในเกมเหลือแค่มีคุณ นับตังค์และชาวต่างชาติอีกคน นับตังค์เห็นหุ่นไซส์ยักษ์ของชาวต่างชาติแล้วรีบเดินตีห่าง ส่วนมีคุณที่โดนนับตังค์คอยแกล้งแย่งเก้าอี้ตลอดแต่ก็เอาตัวรอดมาได้ เมื่อเห็นแล้วว่าฝรั่งอีกคนตั้งใจจะแย่งเก้าอี้ของนับตังค์เพราะนับตังค์ตัวเล็กกว่ามีคุณก็เลยรีบเดินไปใกล้ๆ เมื่อเพลงถูกปิด ฝรั่งก็พุ่งไปแย่งชิงเก้าอี้ที่นับตังค์กำลังจะนั่ง มีคุณเห็นก็รีบคว้าเอวของนับตังค์มาประชิดตัวก่อนจะโดนฝรั่งร่างยักษ์กระแทกจนปลิวแล้วถึงทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ที่เหลืออยู่อีกตัวหนึ่ง


“แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้ คุณฝรั่งได้เก้าอี้ไปครองแล้ว แต่อีกตัวมีการนั่งตักกันด้วย อย่างนี้จะถือว่าเป็นโมฆะหรือเปล่าครับท่ากรรมการทั้งหลาย” พิธีกรถามความเห็นจากกรรมการเมื่อเห็นว่านับตังค์นั่งตักของมีคุณอยู่บนเก้าอี้ตัวเดียวกัน

“ผมขอสละสิทธิ์ ให้รางวัลนักกับนักท่องเที่ยวไปเลยครับ” มีคุณตะโกนบอก

“ถ้าอย่างนั้นรางวัลเงินสดหนึ่งพันบาทเป็นของคุณแพททริกไปเลยครับ ส่วนรองชนะผมขอให้ตุ๊กตาตัวนี้เป็นการปลอบใจก็แล้วกันนะครับ” พิธีกรหยิบตุ๊กตาสีเทาตัวใหญ่ส่งให้นับตังค์ เจ้าตุ๊กตามีลักษณะคล้ายแมว แต่ดูอีกทีมันก็ไม่ใช่ตุ๊กตาแมวก็เสียทีเดียว

“ตัง รับสิ” มีคุณสะกิดบอกเมื่อเห็นว่านับตังค์นั่งนิ่งไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

“อ๊ะ ครับๆ ขอบคุณครับ” นับตังค์รีบรับตุ๊กตามาอุ้มเอาไว้ก่อนจะเด้งลุกออกจากตักของมีคุณ ตอนนี้หน้าของนับตังค์แดงไปหมด แดงลามไปถึงหูทั้งสองข้าง

“อากาศมันร้อน แดดแรงมากครับวันนี้” พิธีกรเห็นนับตังค์หน้าแดงจึงเอ่ยทัก นับตังค์ยิ้มแห้งๆ ให้พิธีกรก่อนจะเดินโกยอ้าวออกมาจากริมชายหาด

“ตัง รอพี่ก่อน” มีคุณร้องเรียก นับตังค์หยุดเดินแล้วหันกลับไป ตั้งใจจะบ่นว่ามีคุณทำให้นับตังค์อดรางวัลหนึ่งพันบาทไปเพื่อกลบความอายที่เกิดขึ้น


...ซ่า....


“บอส!!!” นับตังค์ร้องเรียกมีคุณเสียงดังเมื่อถูกมีคุณสาดน้ำใส่เข้าจังๆ

“พี่กลัวตังเป็นลมแดด เห็นหน้าแดงเข้มเชียว” มีคุณยักคิ้วให้ก่อนจะยกยิ้ม

“จะเล่นใช่ไหม ได้เลย” นับตังค์เดินไปหยิบปืนฉีดน้ำที่วางอยู่ไม่ไกล ของใครก็ไม่รู้แต่ขอยืมก่อน มีคุณเห็นก็รีบวิ่งหนี

“บอส!! อย่าขี้โกง กลับมาเลย ฮึ่ย...วันนี้ถ้าบอสไม่เปียกไม่กลับบ้านโว้ย” นับตังค์อาฆาตแค้นก่อนจะวิ่งไล่มีคุณไป


บาบีคิวถูกแจกจ่ายไปจนหมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่ไม้เดียว ขมิ้นบอกให้พายพัด ใบเมี่ยง รัญญรีและหม่องไปเดินเที่ยวงานสงกรานต์ของเกาะก่อนก็ได้ ส่วนเรื่องข้าวของที่ต้องเก็บ ขมิ้นและเบิ้มจะจัดการกันเอง เพราะพวกของขมิ้นเคยเที่ยวงานเทศกาลนี้มาหลายครั้งจนไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นแล้ว อยากให้ทั้งสี่คนได้ไปเปิดหูเปิดตากัน ส่วนสาลี่ที่อาสาช่วยดูแลด้วงให้ตอนที่ทุกคนยุ่งกับการทำบาบีคิว พอขมิ้นโทรบอกว่าของแจกหมดแล้ว สาลี่จึงพาด้วงมาสมทบทีหลังเพราะไม่อยากให้ด้วงต้องเจอความร้อนและควันไฟจนไม่สบาย


ทางด้านรัญญรี หม่อง พายพัดและใบเมี่ยงนั้นได้ทำความรู้จักกันเองแล้ว ทั้งสี่คนสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วเพราะต่างก็รู้สึกถูกชะตากัน หนำซ้ำพอได้แนะนำตัวกัน หม่องเลยรู้ว่าแม่ของใบเมี่ยงกับแม่ของหม่องเรียนมัธยมที่โรงเรียนเดียวกัน เพราะแม่ของหม่องก็เป็นสาวน่านมาตั้งแต่เกิดเช่นเดียวกับแม่ของใบเมี่ยง ทั้งสี่คนตกลงว่าจะไปเดินเที่ยวในงานโดยไม่รอนับตังค์และมีคุณ เพราะคิดว่าทั้งสองคนคงแอบหนีไปเที่ยวกันแล้ว ระหว่างที่กำลังจะพากันออกไปเดินดูกิจกรรมวันสงกรานต์ของเกาะ ยังไม่ทันจะก้าวออกไปไหนไกลทุกคนก็ต้องหยุดชะงักก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมายกเว้นหนูด้วง


“ปี๋ ปี๋น่าจัว หนูจัวปี๋หน้าขาว” ด้วงชี้ไปข้างหน้าก่อนจะซบไหล่สาลี่แล้วร้องกลัวๆ


นับตังค์กับมีคุณมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าทุกคนในสภาพที่เปียกปอนตั้งแต่หัวจรดเท้า แถมยังมีแป้งโปะเต็มหน้าเต็มผมจนแทบไม่เห็นเค้าเดิม มันทำให้ด้วงตกใจและร้องออกมาเพราะนึกว่าผี นับตังค์ยกปืนฉีดน้ำขึ้นมาแล้วฉีดไปที่หน้าของมีคุณเต็มๆ จนแป้งหลุดลอกออกมาจากใบหน้าของมีคุณบ้าง


“ไม่ใช่ผี ด้วง ดูดิ ฮ่าๆๆๆๆๆ ผีที่ไหนกัน แค่ลิงหน้าขาว อุ๊ป แค่กๆๆๆ” นับตังค์หัวเราะเยาะมีคุณก่อนจะสำลักเพราะมีคุณสาดน้ำใส่หน้านับตังค์เหมือนกัน

“นี่พี่จ๋าไงด้วง ไม่ใช่ผีเหมือนกัน” มีคุณบอกกับด้วง

“ปี้จ๋า ปี้จ๋าอยู่นั่น ไม่ต้องจัวปี้จ๋า” ด้วงเริ่มจำได้ก็ทำท่าจะโผไปหานับตังค์

“แค่กๆๆ” นับตังค์ยังคงสำลักน้ำอยู่จนมีคุณรู้สึกผิดที่แกล้งแรงไป มีคุณรีบจับหน้าของนับตังค์ให้หันมาแล้วค่อยๆ ลูบแป้งบนหน้าของนับตังค์ออกให้อย่างเบามือ อีกมือก็ลูบหลังให้หายสำลัก

“พี่ขอโทษนะ” มีคุณปาดแป้งออกจากแก้มและคิ้วให้นับตังค์ก่อนจะเทน้ำใส่มือแล้วล้างแป้งให้นับตังค์จนเกือบสะอาดดี

“แป้งเข้าคอเลย” นับตังค์ไม่ได้โกรธ ไม่ได้มีทีท่าว่าจะโกรธอย่างที่มีคุณคิด

“เดี๋ยว รู้สึกไหมว่าโลกนี้มีกันแค่สองคน” หม่องพูดแทรกขึ้นมา คนอื่นก็เริ่มพยักหน้าเพราะเห็นด้วย


นับตังค์กับมีคุณมองไปก็เห็นว่าทุกคนยืนมองมาที่ด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม เป็นยิ้มที่ทำให้ทั้งมีคุณและนับตังค์รู้สึกทำตัวกันไม่ถูก มีคุณกับนับตังค์ก็เลยหันมามองหน้ากัน นับตังค์ยกยิ้มก่อนจะพยักหน้าให้มีคุณ มีคุณเข้าใจว่านับตังค์ต้องการอะไรจึงพยักหน้าตอบรับ


แล้วทุกคนก็ต้องวิ่งหนีกันเหมือนผึ้งแตกรังเมื่อนับตังค์กับมีคุณจัดการฉีดน้ำใส่และวิ่งเอาแป้งไล่ทาหน้าทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งหนูด้วง สาลี่ ขมิ้น เบิ้ม ต่างก็เปียกปอนกันถ้วนหน้า ทุกคนจึงวางข้าวของที่ตั้งใจจะเอาไปเก็บแล้วหันมาเอาน้ำไล่สาดกันราวกับเป็นเด็ก โดยมีสายตาบึ้งตึงของพญาที่ยืนมองมาด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรงที่เห็นมีคุณทำตัวใกล้ชิดกับนับตังค์จนเหมือนเป็นคู่รักกัน



***โปรดติดตามตอนต่อไป***


(http://uppic.sodazaa.com/image.php?id=BB3E_58F29D66&jpg)


สวัสดีวันปีใหม่ไทยค่ะ ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขแจ่มใสกันตลอดปีนะคะ
ดูคู่รองเขาหวานตะมุตะมิกันมาก ส่วนคู่หลักเราฮาร์ดคอร์กันสุดๆ ฮ่าๆ
ขอบคุณที่ติดตามและแวะมาให้กำลังใจนะคะ ทุกคอมเมนต์มีค่าสำหรับผู้แต่งมากค่ะ



(http://uppic.sodazaa.com/image.php?id=4CBB_58F28C94&jpg)

เครดิตรูปจาก Google


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 16-04-2017 06:28:05
ชอบทุกอย่างในเรื่อง ดีงามมมมม
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 16-04-2017 07:06:43
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 16-04-2017 08:53:53
ลุ้นสุดๆเลยนะนับตังค์ 555

 :impress2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 16-04-2017 09:44:25
น่ารักง่ะ หนูตังค์เราเริ่มยอมรับความรู้สึกตัวเองนิดๆนะ ส่วนบอสก็ค่อยๆๆๆๆ ต่อนยอนต๊ะต่อนยอนไปเรื่อยๆ นะ กว่าจะได้ตกร่องปล่องชิ้นกันหนูด้วงคงได้ออกเรือนพอดี 55555

“จริงสิ ด้วงจบจิตวิทยาพัฒนาการมา” นับตังค์นึกขึ้นได้ ใบเมี่ยงยิ้มตอบแทนการตอบรับ 

น่าจะเป็นหนูใบเมี่ยงไหม? เจ้าหนูด้วงยังไม่พูดไม่ชัดอยู่เลยนะ 55555  o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 16-04-2017 10:57:43
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 16-04-2017 11:18:17
น่ารักง่ะ หนูตังค์เราเริ่มยอมรับความรู้สึกตัวเองนิดๆนะ ส่วนบอสก็ค่อยๆๆๆๆ ต่อนยอนต๊ะต่อนยอนไปเรื่อยๆ นะ กว่าจะได้ตกร่องปล่องชิ้นกันหนูด้วงคงได้ออกเรือนพอดี 55555

“จริงสิ ด้วงจบจิตวิทยาพัฒนาการมา” นับตังค์นึกขึ้นได้ ใบเมี่ยงยิ้มตอบแทนการตอบรับ 

น่าจะเป็นหนูใบเมี่ยงไหม? เจ้าหนูด้วงยังไม่พูดไม่ชัดอยู่เลยนะ 55555  o13

ขอบคุณมากเลยค่ะที่ช่วยเตือน แก้ไขเรียบร้อยแล้วค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-04-2017 13:55:38
 o13ดีงาม
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 16-04-2017 14:13:50
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 16-04-2017 14:42:13
สนุกจัง เราชอบอ่านเรื่องเกี่ยวกับอาหารจังค่ะ ละมุนตุ้นมาก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 16-04-2017 17:28:49
อยากให้สาลี่เล่าให้ขมิ้นหรือมีคุณฟังถึงเรื่องที่พญามาถามเรื่องนับตัง  เผื่อว่าจะชวนให้สาลี่ลาออกมาเป็นผู้ช่วยนับตัง หรือพายพัดในร้านอาหารแทน

เป็นคู่รักฮาร์ดคอร์ที่แค่มองตาก็รู้ใจว่าต้องการอะไร แต่ก็มีมุมตะมุตะมิไม่แพ้อีกคู่จริงๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 16-04-2017 18:37:56
 :3123: :L1: :pig4: :L1: :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 16-04-2017 19:42:30
เมื่อไหร่บอสจะสารภาพรักสักที ตังรออยู่นะ
หนูด้วงน่ารักจังงงงง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-04-2017 20:21:49
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 16-04-2017 22:18:09
อุ๋งอุ๋ง มาปะทะกะเอ๋งเอ๋ง  :m20: ลั่นห้องเลยจ้า
สุดยอดเลยคู่นี้ แหมะพอบอสเลือกหมูนิ นับตังค์ เขินละสิ  :-[ 
หลังๆ ป่วนๆ กวนๆ แอบมีหวานกันเล็กน้อย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 16-04-2017 23:07:31
ชอบคู่ใบเมี่ยงพายพัดอ่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 16-04-2017 23:45:59
รักกกกก

มีคุณรีบจัดการพญาสิ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-04-2017 00:26:30
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 17-04-2017 00:48:12
คู่พาย เมี่ยงนี่หวานไปอิ๊กกกกกกกกกกก

 :-[
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 17-04-2017 05:51:03
เป็นเรื่องที่ทั้งน่ารัก และทำให้หิวจริงๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-04-2017 12:11:03
หนูด้วงน่ารัก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 9 บาบีคิวเสี่ยงทาย 16/4/60 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-04-2017 23:08:27
เป็นเรื่องที่น่ารักมาก แล้วอาหารก็น่ากินทุกเมนูเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 21-04-2017 08:04:47
ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ


หลังจากที่เล่นน้ำสงกรานต์กันจนเหนื่อย ทุกคนก็เตรียมตัวกันกลับไปอาบน้ำชำระคราบแป้งที่เกาะทั้งเสื้อผ้าหน้าผมจนขาวไปหมด รัญญรีกับหม่องแยกไปยังที่พักของตัวเองแล้วบอกกับนับตังค์ว่าค่อยมาเจอกันที่นี่ตอนค่ำเลย ขมิ้นมาส่งทุกคนถึงบ้านก็ขอตัวพาสาลี่ไปส่งที่บ้านเพื่อให้สาลี่ได้กลับไปอาบน้ำและจะรอพาสาลี่กลับมาด้วยเลยเพราะคืนนี้จะมีดนตรีที่ริมหาด ทุกคนตัดสินใจจะไปกินข้าวกันที่นั่น มีคุณจะขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงทุกคนรวมไปถึงรัญญรีและหม่องด้วย ขมิ้นจะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาหลายรอบ


พายพัดกับใบเมี่ยงกลับขึ้นมาถึงบนห้องก็ผลัดเสื้อผ้าที่เปียกออก พายพัดบอกกับใบเมี่ยงให้เข้าไปอาบน้ำด้วยกันเพราะเส้นผมของใบเมี่ยงมีแต่แป้งติดเต็มไปหมด พายพัดจะได้เป็นคนช่วยล้างออกให้


“ไปล้างน้ำเลยดีกว่า ทำแบบนี้เมื่อไหร่จะแป้งจะหลุดออกหมด” ใบเมี่ยงถามพายพัดที่ค่อยๆ ดึงเศษแป้งออกให้อย่างเบามือ

“มันเกาะแน่น พายไม่อยากให้เมี่ยงเจ็บ เมื่อยเหรอ งั้นมานั่งตรงนี้” พายพัดจูงมือใบเมี่ยงมาที่เคาน์เตอร์หินอ่อนแล้วออกแรงยกตัวใบเมี่ยงขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์ จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงเศษแป้งออกจากผมของใบเมี่ยงต่อด้วยความตั้งใจ

“ผมพายมีแป้งเยอะกว่าเมี่ยงอีก” ใบเมี่ยงช่วยปัดเศษแป้งออกให้พายพัดบ้าง

“ทนายเขาว่ายังไงบ้าง” พายพัดถามคนรักเมื่อเห็นว่าทนายเคารพมาคุยด้วยอยู่นานสองนาน

“เขาเอาเอกสารมาให้เมี่ยงเซ็น คุณปู่อนันต์จะยกที่ดินให้เมี่ยงฟรีพร้อมกับจะออกค่าปลูกบ้านให้ โดยมีข้อแม้ว่าให้เมี่ยงช่วยดูแลพัฒนาการของหนูด้วงจนกว่าหนูด้วงจะเรียนจบชั้นประถม”

“ทำไมเขาถึงอยากให้เมี่ยงดูแลด้วง ถึงเมี่ยงจะเรียนมาทางนี้ แต่ด้วงก็มีคนดูแลตั้งหลายคนแล้ว ไม่ใช่เด็กมีปัญหาสักหน่อย”

“เมี่ยงยังบอกพายไม่ได้ มันอยู่ในสัญญา แต่เมี่ยงก็เซ็นรับไปแล้ว โกรธเมี่ยงรึเปล่าที่ไม่ได้ปรึกษาพายก่อน” ใบเมี่ยงกลัวพายพัดจะโกรธจึงรีบอ้อนพร้อมกับสวมกอดเอวของพายพัดเอาไว้

“ทำแบบนี้อยากจะโกรธก็โกรธไม่ลงหรอก” พายพัดจูบที่หน้าผากของใบเมี่ยง พายพัดไม่ได้โกรธเพราะรู้ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของใบเมี่ยง ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวพายพัดไม่เคยก้าวก่าย อาจจะถามถึงเพราะเป็นห่วง แต่หากใบเมี่ยงบอกเขาแค่ไหนก็แค่นั้น สิ่งเดียวที่เขาเป็นห่วงก็คือใบเมี่ยงเป็นคนมองโลกในแง่ดี ดีจนบางทีอาจจะถูกเอาเปรียบได้

“เมี่ยงขอโทษนะ แต่เมี่ยงอยากอยู่ที่นี่ นอกจากที่น่านแล้วเมี่ยงก็รู้สึกว่าทีนี่เหมือนบ้านอีกหลัง ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แล้วเมี่ยงก็อยากให้พายอยู่กับเมี่ยงด้วย” ใบเมี่ยงอ้อนหนักโดยการซบหน้ากับแผ่นอกกว้างของพายพัด

“ไม่ได้อยากอยู่เพราะบอสหน้าตาหล่อหรอกนะ” พายพัดถามหน้ามุ่ย

“ก็แบบนี้ หึงอีกแล้ว ดูไม่ออกรึไงว่าบอสชอบเชฟ ไม่ได้ชอบเมี่ยงสักหน่อย”

“ดูออก แต่อยากหึง เวลาเมี่ยงทำหน้าง้อแล้วน่ารัก” พายพัดจับคางใบเมี่ยงให้เงยขึ้นแล้วทาบทับริมฝีปากลงไปบดเบียดเพราะอดใจไม่ไหว

“ถ้าเมี่ยงหึงพายบ้าง พายจะง้อเมี่ยงไหม” ใบเมี่ยงถามขึ้นบ้างหลังจากที่โดนชิงจูบจนหายใจแทบไม่ทัน

“คงไม่ได้ง้อเพราะพายไม่มีวันสนใจใคร อ้อนหนักแบบนี้อยากกินอุ๋งอุ๋งแล้ว” พายพัดทำท่าจะจูบใบเมี่ยงอีกครั้ง แต่ใบเมี่ยงยกมือขึ้นมาปิดปากพายพัดเอาไว้ก่อน

“ไม่สนใจใครก็ดี เพราะเวลาเมี่ยงหึง พายคิดไม่ถึงแน่ๆ” ใบเมี่ยงขู่เอาไว้ก่อน

“แมวน้ำขู่เหมือนแมวบ้านเลย น่ารัก” พายพัดเห็นใบเมี่ยงทำหน้าขู่แล้วชอบใจ อดไม่ไหวหอมแก้มใบเมี่ยงฟอดใหญ่ด้วยความหลงใหล


ใบเมี่ยงรู้ดีว่านาทีต่อจากที่โดนหอมแก้มแล้วคงจะหนีไม่พ้นโดนคนขี้หึงคนนี้จัดการอย่างแน่นอน มือที่ยกขึ้นห้ามไม่ให้พายพัดจูบเปลี่ยนเป็นโอบรอบคอของพายพัดแทนเพื่อแสดงให้รู้ว่าเต็มใจที่จะเป็นของผู้ชายคนนี้เสมอ


พายพัดซุกไซร้จมูกไปที่ลำคอขาวเนียนของคนรัก แต่แล้วก็นึกขัดเคืองใจเพราะกลิ่นแป้งดินสอพองมันกลบกลิ่นหอมของใบเมี่ยงเสียหมด พายพัดจึงตัดสินใจพาใบเมี่ยงไปยืนที่ใต้ฝักบัวแล้วเปิดน้ำชำระล้างคราบแป้งออกจากตัวใบเมี่ยงให้หมด เขากดสบู่เหลวแล้วชโลมจนทั่วตัวใบเมี่ยงด้วยความทะนุถนอม แม้ร่างกายจะต้องการใบเมี่ยงมากแค่ไหนแต่พายพัดก็ไม่เคยรีบร้อน เพราะสิ่งที่สำคัญไม่ใช่แค่ปลดเปลื้องความต้องการของตัวเอง แต่เป็นการมอบความสุขให้กันด้วยความอ่อนโยนต่างหาก


ใบเมี่ยงเห็นว่าพายพัดช่วยล้างคราบแป้งให้ตัวเองจนสะอาดแล้วจึงกดยาสระผมมาขจัดคราบแป้งให้กับพายพัดบ้าง ด้วยความที่พายพัดสูงกว่า ใบเมี่ยงจึงต้องเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อจะนวดศีรษะให้กับคนรัก นิ้วเล็กๆ สอดแทรกเส้นผมของพายพัดแล้วคลึงนวดให้อย่างเอาใจ 


พายพัดอดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อร่างกายของเจ้าอุ๋งอุ๋งมาสัมผัสเสียดสีเขาโดยที่เจ้าตัวคงไม่ทันสังเกต ก็เจ้าอุ๋งอุ๋งมัวแต่ตั้งใจนวดผมให้เขาอยู่เลยไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังทำให้เขาต้องการจนแทบทนไม่ได้ แต่พายพัดก็หักห้ามใจโดยปล่อยให้ใบเมี่ยงสระผมให้เขาจนเสร็จ จนกระทั่งน้ำจากฝักบัวถูกปิด ใบเมี่ยงถึงได้เห็นว่าตัวเองทำให้คนรักเตลิดไปแค่ไหน เจ้าตัวได้แต่ยืนหน้าแดงเมื่อเห็นว่าตัวเองก็กำลังรู้สึกอย่างที่พายพัดกำลังรู้สึกเช่นกัน


“จะกินแล้วนะครับ” พายพัดเอียงตัวโน้มลงมาจ้องมองหน้าของใบเมี่ยงแล้วทำท่าน่ารักจนใบเมี่ยงหัวเราะขำ

“ไม่ให้กินได้รึเปล่า” ใบเมี่ยงแกล้งถาม

“ไม่ได้ครับ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะครับ” พายพัดพูดจบก็ดันตัวใบเมี่ยงไปจนหลังชิดผนังห้องน้ำ


สองร่างที่เปลือยเปล่าแนบชิดกันจนดูเหมือนจะกลายเป็นคนๆ เดียวกัน ใบเมี่ยงถึงกับต้องกลั้นลมหายใจเมื่อพายพัดใช้ริมฝีปากสำรวจไปทั่วร่างกาย หยดน้ำที่เกาะตามร่างกายของใบเมี่ยงไม่ช่วยบรรเทาความร้อนจากริมฝีปากของพายพัดยามที่สัมผัสแตะต้องผิวของใบเมี่ยงให้ลดลงได้เลย กลับยิ่งทำให้ใบเมี่ยงทุรนทุรายมากขึ้นไปอีก


เมื่อได้สำรวจร่างกายของคนรักจนหนำใจแล้วพายพัดก็พลิกตัวใบเมี่ยงให้หันหน้ากลับไปพิงผนังห้องก่อนจะเข้าไปทาบทับ ใบเมี่ยงเอื้อมมือไปเปิดน้ำจากฝักบัวให้ช่วยบรรเทาความร้อนในร่างกาย ละอองน้ำกระเซ็นไปทั่วเมื่อปะทะกับร่างที่เคลื่อนไหวไปมาของพายพัด ไม่ว่าช่วงเวลาแบบนี้จะเกิดมาหลายครั้งแต่ใบเมี่ยงก็ไม่เคยที่จะคุ้นชิน พายพัดยังคงสร้างความปั่นป่วนจนใจแทบจะขาดได้ทุกครั้งไป ร่างกายของใบเมี่ยงสั่นสะท้านเมื่อพายุอารมณ์ก่อตัวมาจนถึงขีดสุดท้าย พายพัดสวมกอดใบเมี่ยงแน่นก่อนจะจูบที่ท้ายทอยเบาๆ


“รักอุ๋งอุ๋งนะ” คำบอกรักที่พายพัดไม่ลืมที่จะพูดทุกครั้ง เป็นคำบอกรักที่ใบเมี่ยงรับรู้ได้ว่ามาจากหัวใจของพายพัดจริงๆ

...

เมื่อทำธุระส่วนตัวกันเสร็จ ทุกคนก็ลงมานั่งกันที่ห้องนั่งเล่นเพราะดูเวลาแล้วเห็นว่ายังอีกนานกว่าจะถึงเวลานัด นับตังค์อาบน้ำให้ด้วงเสร็จด้วงก็หลับปุ๋ยไปเลย  นับตังค์ไม่ได้ให้ด้วงนอนบนห้องแต่อุ้มลงมานอนที่โซฟาข้างล่าง ตั้งใจจะให้นอนแค่พอหายเพลีย เพราะถ้าปล่อยให้นอนนานๆ เดี๋ยวคืนนี้ก็จะไม่ยอมหลับ


ใบเมี่ยงเห็นว่ามีคุณกับนับตังค์ลงมาแล้วก็เลยเล่าเรื่องที่คุณปู่ยกที่ดินกับเรื่องที่ให้ช่วยดูแลด้วงให้ฟัง มีคุณก็ยินดีที่เมี่ยงจะได้มาอยู่ช่วยดูแลด้วง เพราะโดยส่วนตัวแล้วมีคุณไม่ถนัดเรื่องเลี้ยงเด็กจริงๆ ส่วนเรื่องการสร้างบ้านมีคุณจะแนะนำเพื่อนสนิทที่เป็นผู้รับเหมาให้ พายพัดนึกชื่นชมมีคุณในใจ เพราะการที่ใบเมี่ยงได้ส่วนแบ่งจากมรดกที่ควรจะเป็นของมีคุณไปง่ายๆ ถ้ามีคุณเป็นคนโลภก็คงไม่ยอม แต่พายพัดเห็นแล้วว่ามีคุณดูจะยินดีและเต็มใจ จากที่เคยตั้งแง่กับบอสคนนี้เอาไว้ ตอนนี้ความรู้สึกนั้นจึงลดทอนลง ส่วนนับตังค์นั่งฟังอยู่โดยไม่ได้พูดอะไรเลย มีคุณเห็นว่านับตังค์นั่งเฉยๆ ก็นึกแปลกใจ แล้วจู่ๆ นับตังค์ก็ลุกขึ้นยืน ท่าทางดูรุกรี้รุกรนผิดปกติ


“ไม่รู้ว่าที่งานจะมีอะไรขายบ้าง คนก็เยอะ ตังว่าตังขอไปทำของว่างติดไปด้วยดีกว่า เผื่อไปนั่งฟังเพลงแล้วจะได้มีของกินของเราเองติดไปด้วย นั่งคุยกันไปก่อนนะ ขอตัวไปในครัวก่อน บอส ดูด้วงด้วยนะ” นับตังค์พูดจบก็เดินเข้าครัวไปเลย ทิ้งให้ทั้งสามคนมองตามไปอย่างงงๆ


นับตังค์เดินเข้ามาในครัวแล้วก็ยกมือขึ้นมาพัดหน้าตัวเองให้หายร้อน ก็สายตาเจ้ากรรมดันไปเห็นรอยแดงที่คอของใบเมี่ยงเข้าอย่างจัง ยังไม่จบแค่นั้น ตอนที่ใบเมี่ยงขยับตัว คอเสื้อที่ลึกของใบเมี่ยงก็เผยให้เห็นรอยแดงเหนือหน้าอกอีกด้วย แล้วนับตังค์ก็ย้อนนึกถึงตอนที่จะเอาผ้าขนหนูไปให้ทั้งสองคนที่ห้อง เคาะเรียกตั้งนานก็ไม่มีใครมาเปิดให้ก็เลยจะเดินกลับห้อง แต่ช่วงที่กำลังจะหันหลังกลับ ได้ยินเสียงเหมือนคนร้องครวญครางแว่วมาให้ได้ยิน เพิ่งมาแจ้งแก่ใจในตอนนี้เองว่าเสียงนั้นเกิดจากอะไร


นับตังค์พยายามจะสลัดสิ่งที่คิดให้ออกจากหัว มันก็เป็นธรรมดาของคนที่รักกันที่จะจู๋จี๋กัน แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงมาวนเวียนในหัวของนับตังค์อยู่ได้ก็ไม่รู้ ที่สำคัญดันสัปดนนึกภาพตัวเองจู๋จี๋กับบอสนี่สิ นี่แหละที่ทำให้นับตังค์หน้าแดงแล้วร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้จนต้องระเห็จตัวเองมาอยู่ในครัว นับตังค์คิดว่าการทำอาหารจะช่วยให้หายฟุ้งซ่านได้ เมื่อเดินสำรวจในครัวว่ามีอะไรพอที่จะทำได้บ้าง เมนูที่นับตังค์คิดจะทำก็ผุดขึ้นมาในหัว ว่าแล้วนับตังค์ก็เริ่มลงมือทำในทันทีจะได้ไม่ต้องคิดอะไรบ้าบออีกต่อไป


อย่างแรกที่นับตังค์ลงมือทำก็คือการผสมแป้งเพื่อที่จะทำพาย ขั้นตอนการทำแป้งพายไม่มีอะไรยุ่งยาก เมื่อผสมทุกอย่างและนวดจนเนื้อเนียนดีแล้วนับตังค์ก็นำไปแช่เย็นเอาไว้ก่อน จากนั้นก็มาเริ่มทำเครื่องเมี่ยงคำ โชคดีที่มีวัตถุดิบในการทำเมี่ยงคำมีครบ นับตังค์เดาว่าพี่ขมิ้นคงอยากกินเมี่ยงคำถึงได้ซื้อใบชะพลูและเครื่องเมี่ยงมาทิ้งเอาไว้


นับตังค์เอามะพร้าวแก่มาหั่นซอยละเอียดก่อนจะนำไปคั่วจนหอม ตามด้วยการคั่วถั่วลิสงและกุ้งแห้ง อันที่จริงควรจะนำมะพร้าวที่หั่นซอยไปตากแดดเสียก่อน แต่ด้วยเวลามีไม่มาก นับตังค์จึงนำมันไปอบก่อนจะคั่ว หลังจากนั้นถึงได้มาหั่นหอมแดง ขิง มะนาวและตะไคร้ด้วยความประณีต ทุกชิ้นที่นับตังค์หั่นเป็นรูปทรงเต๋านั้นมีขนาดเท่ากันแทบจะทุกชิ้น ยกเว้นตะไคร้ที่ซอยจนบาง ส่วนใบชะพลูและพริกขี้หนูสวนก็ล้างและผึ่งเอาไว้ให้แห้ง 


มีคุณเดินตามนับตังค์เข้ามาเพราะอยากรู้ว่านับตังค์เป็นอะไร เห็นนั่งเงียบๆ และก็ลุกเดินออกมาเลย แต่เมื่อเข้ามาก็เห็นว่านับตังค์กำลังทำอาหารด้วยความตั้งใจก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ มีคุณชอบมองเวลานับตังค์ทำอาหาร เป็นภาพที่ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกชื่นชมเพิ่มมากขึ้นทุกที


“ทำอะไร” มีคุณเอ่ยถาม

“บอกแล้วว่าอย่าใส่แว่นดำบ่อย ตาบอดเลยไม่เห็นใช่ไหมว่าทำอะไรอยู่” นับตังค์ยียวนทั้งที่ในใจมันเต้นตึกตักจนอยากจะควักออกมาแช่ช่องแช่แข็งให้รู้แล้วรู้รอดไป

“ที่ถามหมายถึงทำเมนูอะไร ประจำเดือนมาเปล่าถึงได้แปรปรวน” มีคุณกระเซ้าถามบ้าง

“อือ ประจำเดือนมา ไม่เหมือนบอสหรอก วัยทองแล้วดิ ใช่ไหม” นับตังค์ก็รู้ว่ามีคุณเข้ามาถามดีๆ แต่มันอดไม่ได้ที่จะกวนประสาทกลับไป

“เกินไป พี่ยังเตะปี๊บดังอยู่ อยากได้ยินรึเปล่า”

“ไม่อยาก ไปเตะไกลๆ โน่นเลย”

“ไม่เอา ถ้าจะเตะ ก็เตะแถวนี้แหละ”

“เตะมามีเตะกลับ” นับตังค์พูดพร้อมกับยักคิ้ว

“พี่ไม่ได้บอกเลยว่าจะเตะปี๊บของตัง หรืออยากให้เตะ” มีคุณย้อนจนนับตังค์อึ้งไปที่โดนย้อนกลับ
 

เมื่อเถียงไม่ชนะ นับตังค์เลยเดินไปเอาแป้งพายที่แช่เย็นมาคลึงให้เป็นแผ่นบาง แล้วก็กดแป้งให้เป็นวงกลมขนาดเท่ากัน จากนั้นก็นำไปกรุในพิมพ์ทีทาเนยขาวเอาไว้ มีคุณเดินเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะเอ่ยปากขอช่วยทำ นับตังค์ไม่ได้กวนประสาทอะไร ยอมให้มีคุณช่วยแต่โดยดี นับตังค์ให้มีคุณเป็นคนกดแป้งแล้วกรุในถ้วยพิมพ์พร้อมกับบอกให้เอาส้อมจิ้มแป้งพายด้วย มีคุณทำตามคำสั่งโดยไม่แกล้งกวนประสาทนับตังค์อีก นับตังค์แอบลอบมองมีคุณตั้งใจทำพาย เมื่อเห็นท่าทางเก้ๆ กังๆ แล้วก็แอบยิ้มโดยไม่ให้มีคุณเห็น เมื่อเตรียมเครื่องเมี่ยงคำและทำน้ำจิ้มเรียบร้อยแล้ว นับตังค์ก็เอาแป้งพายไปอบ


“ทำพายไส้อะไร” มีคุณเห็นนับตังค์ทำแต่แป้งพาย ไม่เห็นมีตัวไส้เลยเอ่ยถาม

“ไส้เลื่อนมั๊ง” นับตังค์ตอบ

“ไม่ค่อยใส่กางเกงในล่ะสิ ถึงได้เลื่อน” ทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่ต่อปากต่อคำให้นับตังค์เสียอารมณ์ แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ เวลาที่ได้ปะทะคารมกับนับตังค์แบบไม่ได้จริงจังมันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งของมีคุณ

“.................” นับตังค์ไม่เถียงต่อ ได้แต่เหลือบตามองแล้วทำเมินใส่

“ขอกินเมี่ยงคำสักคำได้รึเปล่า” มีคุณถามเพราะกลิ่นน้ำจิ้มเมี่ยงคำที่นับตังค์เพิ่งเสร็จใหม่ๆ มันหอมจนอยากลอง

“ก็กินสิ”

“ทำให้หน่อย มือยังเปื้อนแป้งอยู่เลย” มีคุณยกมือให้นับตังค์ดู มือของมีคุณไม่ได้เปื้อนอะไรขนาดนั้นแต่ก็ทำใจกล้าขอร้องให้นับตังค์ป้อน

“แล้วทำไมไม่ไปล้าง” นับตังค์บ่นแต่ก็ห่อเมี่ยงคำให้ แต่พอจะยื่นส่งเมี่ยงคำให้มีคุณ มีคุณก็อ้าปากรอ

“มือเปื้อนไง” มีคุณเห็นนับตังค์ยังไม่ยอมป้อนก็ยกมือขึ้นให้ดูอีก

“ก็แค่เปื้อนไหม ทำอย่างกับมือด้วน” นับตังค์แขวะกลับแต่สุดท้ายก็ยอมป้อนแต่โดยดี มีคุณเคี้ยวเมี่ยงคำก่อนจะทำตาโต

“ใส่พริกมากี่เม็ดเนี่ย” มีคุณเป่าปากหลังจากรสชาติความเผ็ดมันเริ่มแผ่ซ่านที่ลิ้น ถึงว่าทำไมนับตังค์ยอมห่อเมี่ยงคำและป้อนให้ง่ายเหลือเกิน ที่แท้ก็คิดแกล้งนี่เอง

“ห้าเม็ดเอง ฮ่าๆ” นับตังค์หัวเราะชอบใจ เมื่อเห็นมีคุณเผ็ดจริงๆ ก็เริ่มรู้สึกผิด กำลังจะหาน้ำให้ดื่มดับความเผ็ดแต่พอเห็นมีคุณมองมาแบบมีเลศนัยก็เลยถอยหนี

“มานี่เลย พี่ป้อนบ้าง” มีคุณคว้ามือของนับตังค์มาเมื่อนับตังค์ทำท่าจะหนี

“ไม่เอา โอ้ย บอส!! ใส่พริกไปทำไมตั้งหกเม็ด” นับตังค์เห็นมีคุณเอาพริกวางบนใบชะพลูตั้งหกเม็ดก็ร้องเสียงหลง

“อยากแกล้งพี่ก่อนทำไม” มีคุณไม่ได้จะให้กินจริงๆ หรอก แต่อยากแกล้งนับตังค์แค่นั้น

“ไม่กิน บอส ขอโทษ ไม่ทำแล้ว ไม่แกล้งแล้ว ตังผิดไปแล้ว ตังไม่กินนะ นะ น้า” นับตังค์รีบยกมือไหว้ก่อนจะโดนยัดพริกขี้หนูสวนหกเม็ดเข้าปาก


มีคุณชะงักนิ่งเมื่อได้ยินน้ำเสียงอ้อนๆ ของนับตังค์ บวกกับดวงตากลมโตที่กำลังเว้าวอนเขาอยู่ทำให้มีคุณตกอยู่ในภวังค์ มือข้างหนึ่งที่ยังจับข้อมือของนับตังค์เอาไว้ออกแรงดึงนับตังค์ให้ขยับเข้ามาใกล้ๆ นับตังค์เองเมื่อโดนสายตาของมีคุณจ้องมองมาก็เหมือนถูกสะกดจนไม่อาจจะละสายตาตัวเองไปไหนได้ ใบหน้าของทั้งคู่เลื่อนเข้าหากันโดยอัตโนมัติ ใกล้เข้ามาจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากลมหายใจของกันและกัน แล้วในที่สุดมีคุณก็ประทับริมฝีปากไปที่อีกฝ่าย ก่อนจะป้อนจุมพิตที่ดูดดื่มจนนับตังค์รู้สึกหวามไหวใจสั่นจนยืนแทบไม่อยู่ ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ทั้งสองคนเผลอไผลไปกับจูบที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจกันมาก่อน รสเผ็ดจากพริกที่ยังติดอยู่ที่ลิ้นของมีคุณถูกส่งไปถึงต่อมรับรสของอีกฝ่าย แต่ถึงกระนั้นสติของนับตังค์ก็ยังถูกตรึงเอาไว้จนแทบไม่รับรู้อะไรเลย รู้แต่เพียงว่าตอนนี้มีอะไรบางอย่างมาแทรกตรงกลางระหว่างคนทั้งคู่ แถมเจ้าสิ่งนั้นยังดุกดิกไม่ยอมหยุด


“ปี้จ๋าทำอะไย ปี้จ๋ากัดกัน ปี้จ๋ากัดกัน”

“ด้วง!!” มีคุณกับนับตังค์เด้งออกจากกันทันทีที่มองลงไปแล้วเห็นว่าเจ้าตัวดุกดิกนั้นก็คือด้วงนั่นเอง ด้วงมายืนแทรกอยู่ตรงกลางแล้วก็กอดขาของนับตังค์เอาไว้

“ขอโทษทีครับ ด้วงตื่นมาก็ร้องหาเชฟ เผลอแวบเดียวด้วงก็วิ่งเข้ามาในนี้เลย ” เมี่ยงยิ้มแหยๆ ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังไงที่ดันปล่อยให้ด้วงเข้ามาขัดจังหวะหวานของบอสกับเชฟจนได้

“คือ เมี่ยง แบบ...พอดี ตังทำพายเมี่ยงคำ แล้ว คือบอส...คือบอสมาช่วยชิม คือ...” นับตังค์พยายามจะแก้ไขสถานการณ์ แต่ก็ดันคิดไม่ออกเลยได้แต่พูดตะกุกตะกัก นึกกังวล ไม่รู้ว่าใบเมี่ยงจะเห็นรึเปล่าว่าตัวเองถูกขโมยจูบแรกไปแล้ว

“ปี้จ๋ากัดกัน” ด้วงชี้ไปที่ปากของนับตังค์ก่อนจะทำปากจู๋

“ฮ่าๆ..” มีคุณกลั้นไม่อยู่ หัวเราะออกมาเสียงดังจนด้วงตกใจรีบกอดขานับตังค์แน่นกว่าเดิม

“ขำอะไร ต่อมเส้นตื้นพันกับลูกกระเดือกรึไงบอส ด้วงตกใจหมดแล้ว” นับตังค์ซึ่งยังคงเคืองที่บอสถือวิสาสะมาจูบตัวเองอยู่ไม่หาย ซ้ำยังมีหน้ามาหัวเราะดัง มันยิ่งทำให้นับตังค์หงุดหงิดจนต้องโวยวายกลับไป

“เอ่อ เชฟทำพายเมี่ยงคำเหรอครับ น่ากินจัง แปลกจังเลย เมี่ยงชอบเมนูนี่จังครับ” ใบเมี่ยงเห็นว่าควรเปลี่ยนบรรยากาศเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง ใบเมี่ยงดูออกว่านับตังค์กับเชฟมีความรู้สึกตรงกันแน่นอน เพียงแต่ด้วยนิสัยของทั้งคนเลยยังวางฟอร์มใส่กัน ใบเมี่ยงได้แต่หวังว่าทั้งคู่จะได้เปิดใจกันเร็วๆ นี้ เพราะคนเราลองได้มีใจให้กันแล้วก็คงไม่อาจจะปิดกั้นได้นาน

“ใช่ เราทำเมนูนี้ให้เป็นของขวัญต้อนรับผู้ช่วยเชฟทั้งสองคน ไม่รู้มันจะเข้ากันไหม ลองชิมดูนะ” นับตังค์พูดกับเมี่ยง พยายามไม่สนใจสายตาของมีคุณที่จ้องมาอย่างไม่ลดละ จนกระทั่งได้ยินเสียงเตาอบดัง ใบเมี่ยงจึงเดินไปดู

“แป้งพายสุกพอดีเลย เดี๋ยวเมี่ยงช่วยจัดของใส่กล่องให้นะครับ จะได้เอาไปกินตอนไปฟังดนตรีกันที่ริมหาด” ใบเมี่ยงอาสาจัดการให้

“ฝากเมี่ยงทำข่าวผัดปลาทูน่าให้ด้วงด้วยนะ เราเตรียมของเอาไว้ให้แล้ว” นับตังค์บอกกับใบเมี่ยง เมื่อใบเมี่ยงพยักหน้าตอบรับ นับตังค์ก็อุ้มด้วงเดินออกไป มีคุณหันไปยิ้มให้ใบเมี่ยงก่อนจะรีบตามนับตังค์ออกไปเช่นกัน


(มีต่อด้านล่าง)

V
V



(http://uppic.sodazaa.com/image.php?id=CE71_58F96250&jpg)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 21-04-2017 08:09:47
(ต่อจากด้านบน)


นับตังค์อุ้มด้วงออกมาเล่นกับพายพัดโดยไม่สนใจมีคุณเลย มีคุณอยากจะคุยกับนับตังค์เป็นการส่วนตัวก็ไม่มีโอกาส ยิ่งเห็นนับตังค์หัวเราะต่อกระซิกกับพายพัดมีคุณก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง จนกระทั่งขมิ้นขับมาถึงที่บ้านพร้อมกับสาลี่ รัญญรีและหม่อง ทุกคนถึงได้เดินออกมาสมทบกันที่หน้าบ้าน

“รถใครเหรอ” มีคุณถามเมื่อเห็นว่าขมิ้นไม่ได้ขับรถกระบะคันเดิมมาแต่เป็นรถโฟร์วีลคันใหญ่ที่ยังดูใหม่เอี่ยมแทน

“รถนายปู่ครับ นายปู่เอาไปฝากไว้ที่รีสอร์ทของคุณขจี ไม่ค่อยได้ใช้จนหมิ้นลืมไปเลย พอนึกได้ก็เลยจะไปเอามาให้นายหัวใช้ หมิ้นเลยไปเจอคุณรันกับคุณหม่องที่นั่น” ขมิ้นบอกเล่า

“อ้าว สรุปพวกแกพักที่รีสอร์ทของคุณขจีเหรอ” นับตังค์ถามเพราะนึกว่ารัญญรีจะไปพักอยู่ทางฝั่งของนายหัวพยนต์

“ใช่ ป้าขจีเป็นลูกพี่ลูกน้องของแม่ฉันเอง ฉันก็ไม่คิดว่าจะอยู่ใกล้กับบ้านของคุณ” รัญญรีพูดกับนับตังค์ก่อนจะหันไปพูดกับมีคุณ

“โลกกลมจังเลยนะครับ” มีคุณยิ้มตอบก่อนจะมองไปที่นับตังค์ เมื่อเห็นนับตังค์ทำเป็นไม่สนใจก็เลยขยับไปยืนจนชิด

“ไปกันเถอะ” นับตังค์รีบเดินหนีไปขึ้นรถทันทีจนรัญญรีจับอาการได้ว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับเพื่อนรักแน่ๆ


รถโฟร์วีลคันใหญ่บรรทุกทุกคนมาได้หมด เมื่อมาถึงชายหาดก็เห็นว่ามีผู้คนทยอยมากันเยอะพอสมควร บนเวทีเริ่มมีนักดนตรีมาทดสอบเครื่องเสียงกันแล้ว เก้าอี้ผ้าใบถูกนักท่องเที่ยวจับจองจนเกือบเต็ม แต่ก็ยังพอมีเหลือให้กลุ่มของมีคุณไปนั่งได้ มีคุณชวนนับตังค์ให้ไปเลือกซื้ออาหารทะเลด้วยกัน ทีแรกนับตังค์จะไม่ยอมไป อ้างว่าต้องดูแลด้วง แต่เมื่อรัญญรีอาสาจะอุ้มด้วงให้ ด้วงก็ยอมอยู่กับรัญญรี นับตังค์จึงจำต้องไปช่วยมีคุณเลือกซื้ออาหารทะเลที่พ่อค้าแม่ค้ามาปิ้งย่างและปรุงกันสดๆ ฝ่ายใบเมี่ยงกับพายพัดอาสาไปเลือกเครื่องดื่มมาให้ ส่วนขมิ้นกับสาลี่ก็กำลังจัดแจงปูเสื่อข้างๆ กับเก้าอี้ผ้าใบ เผื่อว่าใครอยากยืดแข้งยืดขาสบายๆ ก็ลงมานั่งตรงนี้ได้


ลมทะเลที่พัดมาในช่วงหัวค่ำแบบนี้ช่วยคลายความร้อนให้กับผู้คนที่มานั่งรอฟังดนตรีและมากินอาหารทะเลได้มาก ผิดกับเมื่อตอนเที่ยงวันที่แสงแดดแทบจะแผดเผาจนแสบผิวไปหมด มีคุณเดินตามนับตังค์ที่กำลังเลือกดูอาหารตามซุ้มต่างๆ ทุกครั้งที่มีคุณจะเริ่มพูดบางสิ่งที่ตั้งใจ นับตังค์ก็จะชิงพูดโน้นพูดนี้ขึ้นมาก่อน สุดท้ายมีคุณก็ยังไม่ได้พูดอะไรทั้งที่มีโอกาสอยู่กันแค่สองคน เมื่อนับตังค์เลือกของกินจนถือกันแทบไม่ไหว ทั้งสองคนจึงต้องเดินกลับมาที่กลุ่มเพื่อนเพื่อเอาอาหารที่ซื้อมาวางเอาไว้ นับตังค์เลือกเดินมานั่งข้างรัญญรี มีคุณแอบถอนหายใจเมื่อเริ่มรู้สึกว่านับตังค์กำลังหนีเขาอยู่ ชักเริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่อยากจะพูดกับนับตังค์นั้นมันเหมาะที่จะพูดไปในตอนนี้หรือเปล่า


“พายเมี่ยงคำอร่อยมากนะเชฟ” พายพัดยกนิ้วให้นับตังค์หลังจากที่ได้ชิมพายเมี่ยงคำที่นับตังค์ทำมา

“จริง อร่อยมากเลยแก ทีแรกยังคิดว่าจะเข้ากันไหม พอได้กินนะ แป้งพายออกเค็มนิดๆ หอมเนยหน่อยๆ ตัดรสชาติหวานของน้ำจิ้มเมี่ยงคำ แล้วพวกเครื่องทอดก็กรุบกรอบดี ไม่แข็งเป็นกาก เครื่องเคียงอื่นก็อร่อยมาก สุดยอดเลยไอ้ตัง แม่ฉันต้องอยากกินแน่ๆ ฉันถ่ายรูปไปอวดแล้ว” รัญญรีชมฝีมือเพื่อนรักเสียยืดยาว

“ชมจนน้ำลายแทบไหลเลย ขอพี่บ่าวกินด้วยคนนิ ตังรู้ได้ไงว่าพี่อยากกินเมี่ยงคำ” ขมิ้นทำท่ากลืนน้ำลาย ใบเมี่ยงเลยจัดการห่อเมี่ยงคำแล้ววางลงในถ้วยพายให้ขมิ้น

“ก็ตังเอาของที่พี่บ่าวซื้อมาทำให้กินนี่ไง เมี่ยงทำเผื่อพี่สาลี่ด้วยนะ” นับตังค์บอก

“อืม หรอยแรง เข้ากันจริงนิ” ขมิ้นได้กินแล้วก็ยกนิ้วให้นับตังค์เหมือนพายพัด

“อร่อยจริงๆ ด้วยค่ะเชฟ ถ้าร้านเปิดเมื่อไหร่พี่จะช่วยโฆษณาให้เลยค่ะ ลูกค้าต้องแน่นร้านแน่ๆ” สาลี่ชมจากใจ

“แล้วบอสแกไปไหนแล้ว เมื่อกี้ยังอยู่เลย” หม่องหันมาถามนับตังค์ นับตังค์ไม่ทันสังเกตว่ามีคุณหายไป เมื่อมองหาไม่เจอก็แอบใจหาย

“จะไปรู้เหรอ ขาไม่ได้ติดกันซะหน่อย” นับตังค์ทำเป็นปากดีบอกกับเพื่อนไปทั้งที่ในใจก็หวั่นๆ นับตังค์ไม่ได้อยากจะเล่นตัว แต่มันเขินจนไม่รู้ต้องทำตัวยังไงเวลามีคุณจ้องมองมา

“ปี้จ๋า ไม่จินอันนี้” ด้วงส่งใบชะพลูคืนนับตังค์พร้อมกับทำหน้าเหยเก

“เอ้า ไปหยิบมากินตั้งแต่เมื่อไหร่” นับตังค์ขำด้วงที่เอามือถูลิ้นยกใหญ่ คงไม่ชินกับรสชาติของใบชะพลู

“ไม่อาหย่อย” ด้วงส่ายหน้าจนผมปลิวเมื่อนับตังค์แกล้งส่งใบชะพลูให้อีก

“มากินข้าวดีกว่า มานั่งกับพี่พายมา” พายพัดเรียกด้วง ด้วงยอมเดินไปหาแต่โดยดีเพราะกลัวนับตังค์ให้กินใบชะพลู

“แกบอกมาสิว่าเกิดอะไรขึ้น ทะเลาะกันเหรอ” รัญญรีกระซิบถามนับตังค์

“เดี๋ยว แก อยากรู้ด้วย ขอเปลี่ยนที่ก่อน” หม่องรีบลุกมานั่งกับพื้นเสื่อข้างๆ เพื่อนสนิททั้งสองคน

“ว่าไง เล่ามาเลย” เมื่อหม่องมานั่งสุมหัวกันเรียบร้อยแล้ว รัญญรีก็เร่งถาม

“ไม่มีอะไร ก็ทะเลาะกันเป็นปกติ” นับตังค์พยายามจะไม่แสดงพิรุธอะไรออกไป

“เดี๋ยว แกโกหกพวกเราไม่ได้หรอกตัง” หม่องบอกเพราะดูก็รู้ว่านับตังค์ไม่ปกติ

“ยังไม่อยากเล่าตอนนี้” นับตังค์รู้ว่าปิดเพื่อนไม่ได้ก็เลยตัดบทเอาดื้อๆ

“ด้วง ทำอะไร” พายพัดร้องถามเมื่อเห็นด้วงจับหน้าเมี่ยงมาแล้วเอาปากไปจุ๊บปากเมี่ยงย้ำๆ หลายที

“กัดกัน กัดกันเยยแบบปี้จ๋า” ด้วงชี้มาที่นับตังค์

“ดะ...ด้วง มั่วแล้ว” นับตังค์ตกใจจนทำอะไรแทบไม่ถูก

“อ๋อ...” รัญญรีกับหม่องครางออกมาพร้อมกันก่อนจะส่งยิ้มกว้างไปให้นับตังค์

“กุ้งเผาหมดแล้วเหรอ เดี๋ยวไปซื้อให้ใหม่นะ” นับตังค์เห็นทุกสายตามองมาก็รีบลุกออกไป นึกโมโหตัวต้นเรื่องที่ทำให้ด้วงเห็นแล้วหายหัวไปไหนก็ไม่รู้ อย่างน้อยถ้ามีคุรอยู่ก็ยังมีเพื่อนให้อายด้วยกัน นี่ปล่อยให้นับตังค์อายขายหน้าอยู่คนเดียว มันน่าให้โมโหไหมล่ะ

“ตัง จะไปไหน” มีคุณที่กำลังเดินกลับมาจากรถ เห็นนับตังค์เดินออกมาจากริมหาดเลยถาม

“ไปไหนมา” นับตังค์ถามห้วนๆ

“ไปที่รถ พี่ลืมโทรศัพท์” มีคุณตอบ

“มานี่เลย” นับตังค์คว้าข้อมือของมีคุณแล้วพาเดินกลับไปที่รถ


แม้มีคุณจะไม่เข้าใจว่านับตังค์หงุดหงิดอะไรมา แต่เมื่อโดนนับตังค์จับข้อมือพาเดินผ่านผู้คนโดยไม่สนใจอะไรก็เลยได้แต่อมยิ้มแล้วยอมเดินตามไป เมื่อมาถึงรถ นับตังค์ก็ปล่อยข้อมือของมีคุณแล้วก็กอดอกพร้อมกับจ้องหน้ามีคุณเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ก็ไม่ยอมพูด เอาแต่ถอนหายใจแล้วทำท่าหงุดหงิด มีคุณเลยตัดสินใจพูดขึ้นมาก่อน


“เป็นแฟนกันไหม” มีคุณถาม คราวนี้คนที่ทำท่ากระฟัดกระเฟียดถึงกับยืนนิ่งเป็นหุ่น

“หัวไปกระแทกหินโสโครกมารึเปล่า” นับตังค์อ้อมแอ้มถามและไม่กล้ามองหน้าคนถาม  ใจนึกอยากจะโวยวายที่พูดเพ้อเจ้อแต่ทำไมดันพูดเสียงอ่อนกลับไปแทนก็ไม่รู้

“อายเหรอ” มีคุณถามเมื่อเห็นว่าแก้มของนับตังค์แดงระเรื่อขึ้นลามไปถึงใบหู

“ใครจะไปหน้าด้านเหมือนบอสล่ะ”

“โตๆ กันแล้ว ไม่ต้องอ้อมค้อม ไม่ดีเหรอ จะได้เข้าใจง่ายๆ”

“ถ้าจะมาขอเป็นแฟนเพราะแค่จูบ ไม่ต้องก็ได้”

“ได้เหรอ” มีคุณเลิกคิ้วถาม นับตังค์อึ้งไปไม่คิดว่ามีคุณจะขอเป็นแฟนเพราะแค่จูบจริงๆ

“เออ” นับตังค์กระแทกเสียงตอบกลับไป จนมีคุณหัวเราะออกมา นับตังค์ถึงได้ขมวดคิ้ว

“ต่อไปอยากจูบก็จูบได้เลยใช่ไหม ไม่ต้องเป็นแฟน”

“อยากโดนต่อยรึไง” นับตังค์ชักเคือง

“อ้าว ก็ตังบอกเองว่าถ้าแค่จูบไม่ต้องเป็นแฟนก็ได้”

“หมายถึงถ้าคิดจะรับผิดชอบเพราะแค่เผลอมาจูบก็ไม่ต้องโว้ย” นับตังค์นึกเสียใจที่ไปเผลอใจให้คนที่เห็นคนอื่นเป็นของเล่นอย่างมีคุณ

“คนที่เขาอยากรับผิดชอบใครบางคนเพราะเขาเห็นคนๆ นั้นมีค่านะ ทำไมถึงไม่อยากเป็นคนมีค่าของพี่” คราวนี้มีคุณถามด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจัง

“ก็...” นับตังค์อ้ำอึ้ง ความรู้สึกกลัวมันทำให้สับสน หากตอบรับไป แล้ววันหนึ่งมันไปกันไม่ได้แล้วจะทำงานด้วยกันได้ยังไง

“ก็อะไร” มีคุณอยากรู้ว่านับตังค์คิดอะไรอยู่

“บอกมาก่อน ว่าถ้าเราเป็นแฟนกันจะมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง” นับตังค์ถามก่อนจะตัดสินใจ

“ข้อดีก็คง...” มีคุณทำท่าคิด

“เฮ้ย บอส คิดนานอะ” นับตังค์ตีแขนมีคุณเมื่อเห็นว่าคิดนานเหลือเกิน

“สำหรับพี่นะ ข้อดีก็คือ พี่มีความสุข พี่หัวเราะได้”

“ไปเลือกตลกมาเป็นแฟนไหม”

“ตังนี่ไงที่ตลก ถ้าไม่ได้เป็นเชฟ ไปเป็นตลกได้เลยนะ”

“เร็ว เอาดีๆ บอกมา”

“ก็พูดจริง พี่มีความสุขเวลาอยู่กับตัง เหตุผลแค่นี้ไม่พอเหรอ คนเราจะมีอะไรดีไปกว่ามีความสุข” มีคุณตอบไปตามที่คิด

“แล้วข้อเสีย”

“มีแฟนเป็นเชฟคงจะอ้วนน่าดู ได้กินทั้งอาหาร ได้กินทั้งแฟน” มีคุณตอบโดยไม่ลังเล

“ตกลง เป็นแฟนกันก็ได้” นับตังค์ตอบกลับทันทีเหมือนกัน

“เอาจริงดิ” มีคุณถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ นึกว่านับตังค์จะใช้เวลาคิดนานกว่านี้ มีคุณตั้งใจตอบคำถามกวนประสาทไป นึกว่าจะถูกด่าก่อนด้วยซ้ำ แต่นับตังค์กลับตอบรับเฉยเลย

“ก็จริงดิ”

“ทำไม อยากให้พี่อ้วนเหรอ” มีคุณถามด้วยความสงสัย

“เปล่า”

“แล้วทำไมล่ะ”

“อยากโดนกิน” นับตังค์ตอบจบก็ยักคิ้วให้  มีคุณถึงกับอ้าปากค้างไปต่อไม่ถูก

“เอาจริงดิ” มีคุณถามซ้ำ

“เคยพูดเล่นเหรอ แต่ถ้าไม่มีน้ำยา พรุ่งนี้เลิกกัน” นับตังค์พูดจบก็จะเดินออกไป แต่โดนมีคุณดึงเอาไว้ก่อน

“จะให้กินคืนนี้เลยเหรอ” มีคุณยังคิดว่านับตังค์พูดเล่น

“โตๆ กันแล้ว จะรออะไร” นับตังค์ยังคงตอบแบบท้าทาย

“งั้นกลับบ้านเลย หิว” มีคุณดึงนับตังค์จะให้กลับไปขึ้นรถ เพียงแค่นั้นนับตังค์ก็ร้องโวยวายทันที

“ตังล้อเล่น ไม่ไป ตังจะไปหาเพื่อน วันนี้จะไปนอนกับเพื่อนด้วย ปล่อยดิบอส บอกว่าล้อเล่นไง” นับตังค์โวยวายไม่หยุด แต่สู้แรงมีคุณไม่ได้เลยโดนจับมานั่งอยู่ในรถเรียบร้อย


มีคุณปรับเบาะที่นับตังค์นั่งให้เอนลงเล็กน้อยก่อนจะคร่อมตัวและจ้องหน้าของนับตังค์ คนที่ถูกจ้องหน้าใจเต้นตึกตักจนหัวใจแทบจะหลุดออกมานอกอก นึกในใจว่าไม่น่าหาเรื่องทำเป็นอวดดีท้าทายมีคุณไปเลย เมื่อตอนบ่ายที่ถูกขโมยจูบไปยังจำสัมผัสและความรู้สึกมาจนถึงตอนนี้ แต่กลับปากดีจนจะถูกจูบอีกรอบ คราวนี้ไม่ควรยอมแต่โดยดี ควรจะต้องเล่นตัวบ้าง

“ไม่เอา ห้ามจูบ” นับตังค์เอามือดันอกของมีคุณ

“ใครบอกพี่จะจูบ” มีคุณถาม

“ก็....ทำท่าแบบนี้จะให้คิดว่าโม่แป้งทำเปียกปูนรึไง” นับตังค์เถียง

“ไม่ได้จูบ แค่จะหอม” มีคุณพูดจบก็หอมแก้มนับตังค์ดังฟอด

“บอส!!” นับตังค์เรียกมีคุณเสียงดัง มีคุณก้มลงหอมแก้มอีกข้างทันที

“พี่ขี้ตกใจ” มีคุณแสร้งทำหน้าตกใจ นับตังค์ทำหน้าเอือมระอากับมุกตลกหื่นของมีคุณ

“บอส ถามจริงๆ อยากเป็นแฟนกันจริงๆ เหรอ ถ้าเราไปกันไม่ได้ เราจะทำงานด้วยกันลำบากนะ” นับตังค์เลิกโวยวายก่อนจะถามมีคุณอีกครั้ง ยอมรับว่าตัวเองมีใจให้มีคุณและต่อไปอาจจะตกหลุมรักผู้ชายคนนี้เอาง่ายๆ ทั้งที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครเลย นั่นยิ่งทำให้นับตังค์รู้สึกหวั่นใจกลัวตัวเองจะต้องเสียใจ

“พี่ก็คิดแบบนั้นในตอนแรกที่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกกับตังเกินเพื่อน พี่ก็ถามตัวเองว่าถ้าเราไปกันไม่ได้จะทำยังไง แต่พี่ตอบตัวเองไม่ได้ รู้อีกทีก็ชอบแล้ว อยากจริงจังถึงได้ขอเป็นแฟน พี่ให้ตังตัดสินใจก็แล้วกัน”

“มันจะดีใช่ไหม” แววตาของนับตังค์ดูกังวลจนมีคุณต้องโน้มตัวลงไปจูบที่เปลือกตาของนับตังค์เบาๆ

“ด้วงคงอยากได้ตังเป็นแม่”

“เราเลิกกันดีกว่า” นับตังค์เปลี่ยนใจ แต่ไม่ทันแล้ว คราวนี้มีคุณก้มลงไปจูบปากของนับตังค์แบบไม่ทันให้ได้ตั้งตัว

“มันดีใช่ไหม” มีคุณถามหลังจากที่ถอนจูบออก

“ก็...งั้นๆ” นับตังค์ยักไหล่

“หลับตาพริ้มแบบนี้ไม่งั้นๆ หรอกมั๊ง”

“ไม่อยากเห็นคนขี้เหร่ต่างหาก ถ้าลืมตาเดี๋ยวจะพาลหมดอารมณ์” นับตังค์เบ้ปากใส่ มีคุณอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้เลยก้มลงไปจูบอีกครั้ง


...ก็อกๆ..


เสียงเคาะกระจกรถดังขึ้นจนมีคุณกับนับตังค์ต้องหยุดจุมพิตที่กำลังดื่มด่ำแล้วหันไปมอง เมื่อเห็นว่าขมิ้นกำลังทำท่าส่องเข้ามาในรถทั้งคู่ก็ตกใจ มีคุณเปิดประตูออกโดยที่ยังคงคร่อมตัวนับตังค์อยู่ ขมิ้นเห็นแล้วก็ยิ้มจนเกือบเห็นฟันครบสามสิบสองซี่

“คุณรันให้มาตาม ฝากถามตังว่าไปย่างกุ้งถึงพม่าเลยรึเปล่าถึงช้าขนาดนี้นิ”

“ใช่ บอกรันมันด้วยว่าติดอยู่ที่ด่านคนเข้าเมือง ตอมอให้ผ่านแล้วจะรีบไป ปิดประตูให้ด้วย อาย” นับตังค์พูดจบก็หันหน้าหนีขมิ้น มีคุณหัวเราะชอบใจกับการเขินแบบมีสไตล์ของนับตังค์

“น่ารักดีนะเรา” มีคุณอดไม่ได้หอมแก้มนับตังค์โชว์ขมิ้น นับตังค์เลยทุบอกของมีคุณดังอั๊กที่หน้าด้านเกินจะทน

“สงสัยด้วงจะมีน้องเร็วๆ นี้นิ” ขมิ้นส่ายหน้าไปยิ้มไป

“พี่บ่าว ฉ็องด็องนิ!!!” นับตังค์ทนไม่ได้เอื้อมมือไปปิดประตูรถเอง แต่ก็ได้ยินเสียงขมิ้นหัวเราะดังลั่นเข้ามาให้ได้ยิน มีคุณจึงโอบกอดนับตังค์เอาไว้แล้วหอมแก้มอีกครั้ง


นับตังค์ซบหน้ากับอกของมีคุณ ใบหน้าที่ร้อนผ่าวกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะมันทำให้นับตังค์เข้าใจคำพูดของรัญญรีแล้ว เวลาเราได้เจอคนที่ใช่ ความรู้สึกดีๆ มันเกิดขึ้นได้รวดเร็วและง่ายดายจนแทบไม่ต้องหาเหตุผลอะไรเลยจริงๆ


หลังจากที่ใช้เวลาใกล้ชิดกันอยู่ในรถตามลำพังและสรุปความสัมพันธ์กันจนเป็นที่ชัดเจนแล้ว มีคุณก็ชวนนับตังค์ออกไปหากลุ่มเพื่อน นับตังค์รู้สึกทำตัวไม่ถูกหลังจากที่ได้รับตำแหน่งสถานะแฟนของมีคุณแล้ว อีกทั้งยังอายเพราะคิดว่าขมิ้นอาจจะไปบอกทุกคนถึงสิ่งที่ได้มาเห็น แต่ถึงยังไงทุกคนก็ต้องได้รู้ นับตังค์จึงรวบรวมความกล้าแล้วปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติก่อนจะเดินตามมีคุณไป ระหว่างทางนับตังค์ขอแวะซื้อกุ้งเผากลับไปด้วย ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนรัญญรีค่อนขอดเอาได้


“คุณ!! คิวว่าแล้วว่าไม่ได้ตาฝาดไป เมื่อกลางวันเห็นคุณนั่งอยู่ที่ท้ายรถกระบะแต่ก็เรียกไม่ทัน ดีใจจังเลย” คีตะรู้สึกดีใจมากที่ได้เจอกับคนที่อยากเจอที่สุด เขาเดินเข้าไปคล้องแขนมีคุณด้วยความดีใจ คีตะตามหามีคุณไม่เจอ ไม่มีใครบอกว่ามีคุณหายไปไหน ถามสุดเขตก็ไม่ยอมบอก โทรมาหามีคุณก็ไม่ยอมรับสาย แถมยังไม่โทรกลับอีก ไม่อยากจะเชื่อว่าบทจะเจอก็มาเจอเอาได้ง่ายๆ โชคดีที่คีตะตัดสินใจรับคำเชิญจากเพื่อนรุ่นน้องซึ่งเป็นลูกเจ้าของโรงแรมใหญ่ของเกาะนี้ให้มาเที่ยวในวันสงกรานต์ คีตะถึงได้มาเจอกับอดีตคนรักจนได้


นับตังค์มองคีตะแล้วพิจารณาในใจ ท่าทางของคีตะดูแล้วไม่น่าจะเป็นแค่เพื่อนของมีคุณ สายตาของคีตะที่มองนับตังค์ก็ดูจะพิจารณารูปลักษณ์ของนับตังค์ตั้งแต่หัวจรดเท้า นับตังค์ใส่แค่เสื้อยืดหลวมๆ กับกางเกงเลสีฟ้าสด ผมก็ปล่อยเป็นธรรมชาติไม่ได้รวบไปด้านหลังเหมือนทุกที ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร แต่นับตังค์เห็นรอยยิ้มที่ดูแล้วคิดว่าไม่ใช่สายตาของคนที่อยากผูกมิตรกับตนสักเท่าไหร่ จึงไม่ได้ยิ้มให้แต่มองไปที่มีคุณแทน


“บอสคุยกับเพื่อนไปก่อนแล้วกัน ตังจะเอากุ้งไปให้ทุกคน เดี๋ยวหายร้อนแล้วจะไม่อร่อย” นับตังค์พูดจบก็เดินไปเลย


มีคุณมองตามนับตังค์เดินไปก่อนจะมองมาที่คีตะแล้วถอนหายใจ รู้สึกเบื่อที่โลกลมเกินไป ไม่รู้จะพูดยังไงให้คีตะเข้าใจว่าทุกอย่างมันจบไปแล้วอย่างที่เขาเคยบอกไปหลายครั้ง มีคุณแกะมือของคีตะออกจากแขนของตัวเองแล้วเดินตามนับตังค์ไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกของคีตะและไม่สนใจด้วยว่าคีตะกำลังรู้สึกอย่างไร


“ก็รู้นิสัยคิวอยู่แล้วว่าคิวเป็นคนชอบเอาชนะ อย่าหวังจะให้คิวเป็นคนแพ้เลยคุณ ไม่มีวัน” คีตะข่มความหงุดหงิดก่อนจะบอกกับตัวเองว่าจะทำให้มีคุณกลับมาอ้อนวอนขอความรักอย่างที่แล้วมาให้ได้อีกครั้ง


***โปรดติดตามตอนต่อไป***

ว้าว ว้าว เขาเป็นแฟนกันแล้ว คู่รองก็หวานจนครัวจะระเบิด คู่หลักก็หวานแบบพริกกับเกลือ 555
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ดีใจที่ผู้อ่านชอบ อาจจะมีสลับชื่อด้วงกับเมี่ยงไปบ้าง เพราะคนแต่งเบลอตัวหนังสือ
ช่วยเตือนกันได้นะคะ พยายามดูแล้ว แต่บางทีก็หลุดรอดไปจริงๆ T_T


(http://uppic.sodazaa.com/image.php?id=A7A2_58F963E3&jpg)

เครดิตรูปจาก Google

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 21-04-2017 08:24:50
โอ้ยยยยยย เป็นแฟนกันแล้วว  :-[
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 21-04-2017 08:49:46
เป็นแฟนกันแล้ววววด้วย อิอิ
ตัวขัดมาอีกหนึ่ง :katai4:

น่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 21-04-2017 09:05:22
โตล้าววววว อยากเป็นแฟนกันก็เป็น อยากให้กินกันก็บอก แอร๊ยยยยยยย  :-[  ชอบมุกขึ้ตกใจของบอส ตกใจปุ๊บหอมปั๊บ จูบปุ๊บ 555555 นุ้งตังค์ชอบ คนอ่านก็ชอบบบบ

เราเห็นท่อนนี้ "อย่างแรกที่นับตังค์ลงมือทำก็คือการผสมแป้งเพื่อที่จะทำพาย ขั้นตอนการทำแป้งไม่พายไม่มีอะไรยุ่งยาก"  คำว่า ไม่ น่าจะเกินใช่มะ??   :man1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 21-04-2017 09:13:31
 :beat: นั้นไงว่าละ เฮ้อ... อย่าไปยอมนะตังค์ เดะก็ไปรวมมือกะอีตาพญาแน่ๆ  :m31:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 21-04-2017 09:46:01
คู่รองก็เร่าร้อนดูดดื่ม   ส่วนคู่หลักตอนนี้ก็ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว แต่ก็มีตัวมารมาให้ลองใจทั้งคู่  เพราะดูแล้วคิวคงไม่ยอมปล่อย
มีคุณไปง่ายๆ แน่ และยิ่งเป็นเพื่อนกับพญาด้วยแล้ว งานนี้ทั้งนับตังและมีคุณต้องตั้งสติ และเชื่อใจกันเท่านั้น ถึงจะผ่านอุปสรรคไปได้ 

อยากกินพายเมี่ยงคำบ้าง :ling1: 
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 21-04-2017 10:39:57
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 21-04-2017 12:56:46
เป็นแฟนกันปุ๊บ คิวโผล่มาปั๊บ
โลกกลมแท้
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 21-04-2017 13:11:39
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 21-04-2017 13:48:49
ขอกันเป็นแฟนแบบมึนๆอ่ะ
 o13

แต่ๆ ไม่ทันไรคิวก็โผล่มาแล้ววววว
 :ling2:

ขอให้มันหวานมุ้งมิ้ง
คู้รองหวานจนน้ำตาลยอมแพ้เลยอ่ะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-04-2017 15:42:19
โตๆกันแล้วคุยกันง่าย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 21-04-2017 17:58:30
เพิ่งเจอเรื่องนี้ฮะ ชอบมาก รู้สึกดีกับเชฟขึ้นมาทันที
อยากเจอร้านที่มีเชฟทำอาหารแบบใส่ใจแบบนี้จริงๆ คงจะฟินมากมือนั้น
ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุกๆให้ได้อ่าน และให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารด้วย  :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-04-2017 20:31:02
จ่ะคิว เอาที่สบายใจ อยากทำอะไรทำไปถ้าคิดว่าทำแล้วคุณจะสนใจอ่ะนะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 21-04-2017 21:26:27
บอสกับตังยังไม่ทันได้หวาน ได้จี๋จ๋าให้กร๊าวใจ
อิคิวตัวร้ายก็โผล่มาล๊าววว

แต่เราโอเคนะ เราเชื่อมือนักเขียน ตามอ่านมาหลายเรื่องแล้ว

ปล. เดินเรื่องกระชับฉับไว ไม่ยืดยาดสไตล์ซีรีย์ส์น้ำดีเกาหลีเลยฮ่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 21-04-2017 23:20:16
พอกำลังตะหวานกันก้มีมทรมาผจญทันทีเลยนะ
คิวนี่ก้พยายามเนอะ เยอะไปมันจะน่ารำคานรู้ป่าวว
รอค่าาา ชอบบความไม่ยืดของเรื่องนี้มาก555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 5 ขนมจาก 30/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: phunpk ที่ 22-04-2017 13:58:41
อ่านแล้วรู้สึกหิว แต่ละอย่างที่นับตังค์ทำน่ากินทั้งนั้นเลยยยยย ทั้งนับตังค์ทั้งมีคุณดูแบบก้่วเข้าใกล้กันมากขึ้น
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 22-04-2017 16:34:23
หิวทุกอย่างที่น้องตังทำเลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 24-04-2017 20:15:34
นังคิวต้องคู่กะไอ้พญา ดูๆ เเล้วศีลเสมอ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-04-2017 13:17:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: หนอนกอ ที่ 27-04-2017 23:39:55
อยากกินเมี่ยงเลยค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: littlep_ ที่ 27-04-2017 23:44:15
 :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-04-2017 00:25:10
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 28-04-2017 18:27:45
 :m3: เป็นแฟนกันไม่ถึง ชั่วโมง ก้างก็มาตำคอเสียแล้ว
+1 ให้เป็นกำลังใจ สนุกไปกับอาหารในแต่ละตอน  o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 28-04-2017 19:58:06
ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร


หลังจากที่นั่งรับลมทะเลเคล้าเสียงเพลงจนเต็มอิ่มไปกับบรรยากาศและอาหารทะเลแล้วมีคุณก็ชวนทุกคนกลับเพราะตอนนี้ก็เริ่มดึกมากขึ้น ด้วงก็หลับสนิทไปตั้งแต่ท้องอิ่ม วันนี้ทุกคนก็เหนื่อยกันมาทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นเช้ามาทำบาบีคิวบวกกับเล่นน้ำกันท่ามกลางอากาศร้อนๆ มีคุณกลัวว่าจะไม่สบายกันหากอยู่ดึกมากไปกว่านี้


ส่วนรัญญรีกับหม่องขออยู่ฟังเพลงต่อเพราะรัญญรีมีนัดกับเพื่อนที่เป็นคนพื้นที่อยู่ที่นี่ นับตังค์เห็นเพื่อนจะนั่งต่อก็เลยจะอยู่กับเพื่อน เพื่อนอุตส่าห์มาหาถึงที่เกาะทั้งที แต่เมื่อหม่องบอกว่าเพื่อนที่รัญญรีนัดมาคือคนที่รัญญรีแอบปิ๊ง พอรัญญรีรู้ว่าผู้ชายที่แอบชอบอยู่ที่เกาะเดียวกับนับตังค์ รัญญรีก็รีบชวนหม่องมาทันทีแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อรู้แบบนี้นับตังค์ก็เข้าใจและโล่งใจเพราะกลัวว่าเพื่อนจะน้อยใจหากทิ้งไปก่อนจะขอตัวกลับเพราะก็รู้สึกอ่อนเพลียจริงๆ แต่ก็ไม่วายกำชับเพื่อนทั้งสองคนว่าพรุ่งนี้ต้องมากินข้าวด้วยกันที่บ้านของมีคุณ นับตังค์อยากรู้เรื่องคนที่รัญญรีแอบชอบ ตั้งใจว่าพรุ่งนี้ตอนเจอกันจะซักถามให้ละเอียด เมื่อนัดเวลากันเรียบร้อยต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันไป


เมื่อกลุ่มของมีคุณแยกย้ายกันออกมาจากบริเวณริมหาดแล้ว คีตะที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็หันมาพูดกับพเยีย หญิงสาวหน้าตาน่ารักซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องของเขาตอนที่เรียนอยู่ที่ต่างประเทศ พเยียเป็นคนชวนคีตะมาเที่ยวที่เกาะใบไม้คราม อันที่จริงพเยียชวนคีตะมาทำงานให้พ่อ แต่คีตะยังไม่ให้คำตอบ ตอนนี้อารมณ์ของคีตะขุ่นมัวจนพเยียรับรู้ได้


“ไม่รู้จักผู้ชายคนนั้นจริงเหรอเยีย พี่อยากรู้ว่ามันเป็นใคร ทำไมแฟนของพี่ถึงได้แคร์มันนัก” คีตะชี้ไปที่นับตังค์

“ไม่รู้จักค่ะ แล้วผู้ชายที่เดินข้างกันเขาเป็นแฟนของพี่จริงเหรอ” พเยียถามคีตะด้วยความสงสัย

“ทำไมถามแบบนี้ คิดว่าพี่โกหกรึไง” คีตะหันไปมองพเยียด้วยความไม่พอใจ

“เยียแค่อยากรู้เฉยๆ ทำไมพี่คิวต้องหงุดหงิดด้วยล่ะคะ ที่เยียถามเพราะถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนเยีย เยียคงลุยให้เละไปข้างหนึ่งแล้ว ไม่ปล่อยให้ไปเดินกับผู้ชายคนอื่นหรอกค่ะ” พเยียพูดไปตามที่รู้สึก

“ก็...เคยเป็นแฟน เราไม่เคยบอกเลิกกัน พี่เป็นคนตีตัวออกห่างเขาเอง แต่พี่มั่นใจว่าเขายังคงรักพี่อยู่เพราะเขาไม่เคยคบหาใครเลย พอรู้ว่าพี่กลับมาง้อก็คงจะทำประชดพี่ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่รสนิยมแบบคุณชอบ ดูสกปรกเหมือนพวกศิลปินข้างถนน” คีตะเบ้ปากเมื่อนึกถึงนับตังค์

“ถ้าอย่างนั้นพี่จะกังวลไปทำไม ถ้ามั่นใจว่าเขายังรักพี่ พี่ก็ต้องเดินหน้าง้อจนถึงที่สุด” พเยียแสดงความคิดเห็น

“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่พี่ต้องรู้ให้ได้ว่าคุณมาทำอะไรที่เกาะนี้ แล้วคนพวกนั้นเป็นใคร คุณเป็นพวกขี้สงสาร ไม่รู้ไปใจอ่อนคบค้าสมาคมกับคนพวกนั้นได้ยังไงกัน” คีตะยังคงหงุดหงิดที่เห็นมีคุณไปกับคนที่ดูไม่คู่ควรที่จะเป็นเพื่อนของมีคุณแม้แต่น้อย   

“เดี๋ยวเยียจะถามพี่พญาให้นะคะ รายนั้นเขารู้เรื่องทุกคนบนเกาะนี้” 

“ขอบใจมากนะเยีย” คีตะขอบใจพเยียที่คิดช่วยเหลือ


ครอบครัวของพเยียเป็นผู้มีอิทธิพลของที่นี่ คีตะคิดว่าคงจะรู้เรื่องของมีคุณได้ไม่ยาก เมื่อรู้สึกวางใจแล้วก็เลยเลิกพูดถึงมีคุณอีกแต่กลับส่งสายตาไปให้นักท่องเที่ยวหน้าตาดีคนหนึ่งที่คีตะเห็นว่าแอบมองตัวเองมานานแล้ว เมื่อนักท่องเที่ยวคนนั้นลุกมาชวนคีตะออกไปเต้นรำ คีตะก็ลุกตามไปอย่างไม่รีรอ พเยียเห็นแล้วก็ได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนใจ รู้ดีว่าคืนนี้รุ่นพี่ที่นับถือคนนี้คงจะไม่ได้กลับไปนอนที่โรงแรมง่ายๆ เสียแล้ว ในใจก็แอบคิดว่าการที่คีตะหงุดหงิดเรื่องมีคุณก็คงเพราะไม่อยากเป็นคนแพ้ พเยียรู้ดีว่าคีตะเป็นคนชอบเอาชนะคนอื่นเสมอ



เมื่อขมิ้นขับรถมาส่งทุกคนถึงบ้านเรียบร้อยแล้วก็ขับรถไปส่งสาลี่ต่อเลย ถึงจะเป็นวันหยุด แต่อาชีพของสาลี่คงไม่ได้หยุดเหมือนคนอื่นๆ ยิ่งทำงานในโรงแรม วันหยุดยิ่งเป็นวันที่ยุ่งกว่าวันธรรมดาเสียอีก


นับตังค์จะพาด้วงขึ้นไปนอน แต่วันนี้ใบเมี่ยงขออาสาดูแลด้วงให้เพราะเห็นว่านับตังค์ตื่นมาทำบาบีคิวก่อนใครตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เมี่ยงอยากให้นับตังค์ได้นอนเต็มอิ่ม นับตังค์นึกขอบคุณที่ใบเมี่ยงเป็นห่วง แต่พอเห็นมีคุณขยิบตาให้เมี่ยง นับตังค์ก็เริ่มระแวงว่ามีคุณแอบมีแผนอะไร จนมีคุณอ้อนนับตังค์ว่าอยากกินข้าวต้มเพราะกินอาหารทะเลไม่อิ่ม นับตังค์จึงต้องเข้าครัวไปทำให้ ส่วนพายพัดกับใบเมี่ยงก็พาด้วงขึ้นไปนอนที่ห้องของตน ปล่อยให้มีคุณกับนับตังค์ได้ใช้เวลาส่วนตัวกันสองคน


“เห็นกินกุ้งกินปูจนเกือบหมดทะเล ยังจะหิวอีกเหรอบอส” นับตังค์บ่นหลังจากที่เดินเข้ามาในครัวแล้ว

“ไม่ต้องทำหรอก พี่ล้อเล่น พี่ไม่ได้หิว” มีคุณดึงมือนับตังค์ให้มานั่งที่เก้าอี้ตัวสูง หลังจากนั้นตัวเองก็เดินอ้อมไปนั่งตรงกันข้าม

“อ้าว แล้วทำไม...”

“พี่อยากใช้เวลากับตัง” มีคุณชิงพูดก่อนจะถูกบ่น

“บอกไว้ก่อนนะ เรื่องนั้น ตังพูดเล่นนะ” นับตังค์ทำหน้าตื่นเพราะกลัวมีคุณจะกินตัวเองอย่างที่ไปท้าทายเอาไว้

“พูดเล่นเรื่องอะไร เรื่องนั้นคือเรื่องไหน” มีคุณแสร้งทำเป็นไม่รู้

“ก็....ก็....”

“เรื่องอยากถูกกินนะเหรอ” มีคุณถาม

“อือ ก็นั่นแหละ พูดไปงั้นเองนะ ไม่ได้คิดจริง” นับตังค์เอานิ้วเขี่ยพื้นเคาน์เตอร์ครัวแก้เขิน

“จะช้าจะเร็วก็โดนอยู่ดี” มีคุณแกล้งขู่

“ไม่รู้แหละ ถ้าตังบอกยังก็คือยัง ไม่งั้นเจอดีแน่” นับตังค์ขู่กลับ

“กลัวจะแย่ ว่าแต่อยากถามอะไรพี่ไหม” มีคุณเข้าเรื่อง ที่พานับตังค์มาคุยเพราะอยากรู้ว่านับตังค์ติดใจเรื่องของคีตะรึเปล่า เพราะหลังจากที่เดินตามนับตังค์มาที่โต๊ะ นับตังค์ก็ไม่มีทีท่าว่าไม่พอใจหรืองอนแต่อย่างใด ยังเล่นมุกและเถียงเขาคำไม่ตกฟากเหมือนเดิม แต่มีคุณกลัวนับตังค์เก็บความไม่สบายใจเอาไว้โดยไม่พูดออกมา

“อยากถาม ทำไมบอสถึงชอบผู้ชาย” นับตังค์ถามเมื่อมีคุณเปิดทางให้ ส่วนมีคุณถึงกับอึ้งไป คิดว่านับตังต์จะถามเรื่องคีตะแต่กลับมาถามเรื่องนี้

“ก็คิดเหมือนตังมั๊ง” มีคุณไม่รู้จะตอบยังไง

“ไม่เหมือน” นับตังค์เถียงกลับทันที

“ไม่เหมือนยังไง ไหนบอกสิ” มีคุณอยากรู้เลยถามกลับ

“ก็ตังไม่ได้ชอบผู้ชายคนอื่น แต่ชอบบอส ส่วนบอสชอบผู้ชายคนอื่นได้ด้วย”

“ไม่รู้ว่าฟังแล้วควรดีใจหรือร้องไห้ดี” มีคุณรู้สึกเหมือนโดนนับตังค์พูดประชดใส่

“ตังไม่ได้ว่าบอสนะ” นับตังค์แก้ตัวเมื่อเห็นมีคุณตีหน้าเศร้า นับตังค์ไม่ได้คิดประชด แต่ที่พูดไปนับตังค์รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ก็คนที่นับตังค์ชอบดันเป็นผู้ชายคนนี้ นับตังค์ไม่เคยชอบผู้ชายคนอื่นที่มาจีบเลยสักคน

“อยู่กันสองคนเรียกว่าพี่คุณไม่ได้เหรอ” มีคุณลุกเดินมานั่งฝั่งเดียวกับนับตังค์ แต่นั่งหันหลังชนขอบเคาน์เตอร์ครัว เพราะอยากเห็นหน้าของนับตังค์เวลาคุยด้วย แต่นั่งตรงกันข้ามมันก็ห่างเกินไป

“เรียกบอสไปนั่นแหละ” นับตังค์ทำหน้าไม่ถูกเวลามีคุณมาอยู่ใกล้ๆ

“ไม่เอา มันดูห่าง เราเป็นแฟนกันแล้วนะ” มีคุณยิ้มหวานให้นับตังค์

“ทำไมชอบทำให้เขิน เวลาเขินมันเขินอะ เข้าใจเปล่า มันเขิน” นับตังค์บ่น รู้ตัวเลยว่าตอนนี้หน้าแดงอีกแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะต้องเขินอะไรนักหนา แต่มันก็เขินอยู่ดี แถมตอนนี้รู้สึกร้อนวูบวาบตามผิวอีกต่างหาก

“ก็อย่าเขินดิ เอ๋งเอ๋ง” มีคุณยกมือขึ้นยีผมนับตังต์เบาๆ

“อยากมีแฟนเป็นหมารึไง เล่นจังนะมุกนี้” นับตังค์สวนกลับ

“จะเป็นหมาเป็นอะไรก็ชอบหมดแหละ”

“แหวะ” นับตังค์เขินจนไม่รู้จะทำยังไง เลยทำเป็นเลี่ยนคำหยอดของมีคุณเป็นการกลบเกลื่อน

“ผู้ชายที่เจอวันนี้ เขาเป็นแฟนเก่าของพี่นะ” มีคุณตัดสินใจเล่าเรื่องคีตะเองเพราะนับตังค์ไม่ยอมถาม

“ดูก็รู้เหอะ เดินเข้ามากอดแขนจนแทบจะสิงร่างพี่อยู่แล้ว” นับตังค์ยักไหล่

“ไม่หึงเหรอ”

“หึงทำไม แฟนเก่าก็แปลว่าเก่า อย่างพี่นะ ถ้าบอกไม่มีแฟนเลย บอกว่าด้วงตื่นมาแล้วพูดชัดในวันพรุ่งนี้ยังจะน่าเชื่อกว่า”


...ฟอด...


“ขอหน่อยนะ อดไม่ได้จริงๆ” มีคุณเห็นนับตังค์ยอมเรียกตัวเขาว่าพี่ก็อดไม่ได้ทคี่จะขโมยหอมแก้มนับตังค์ฟอดใหญ่ แต่ก็นึกสงสัยว่าทำไมผิวแก้มของนับตังค์ร้อนกว่าปกติ 

“แล้วเลิกกันทำไม” นับตังค์ไม่ได้ต่อว่าที่มีคุณมาหอม ถึงจะไม่ชินกับการโดนที่ไม่ใช่คนในครอบครัวมาหอม แต่กับมีคุณนับตังค์ไม่ได้รู้สึกรำคาญ แถมยังรู้สึกดีจนน่าแปลกใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็หน้าแดงหูแดงไปตามระเบียบ

“เขาเลือกที่จะไปเรียนต่อที่เมืองนอก อยากมีอนาคตที่ดีกว่า ไปโดยไม่ลา แล้วก็เลยเลิกกันไปเอง”

“แสดงว่าไปแล้วอนาคตไม่ดีกว่าเดิมถึงดูดีใจตอนได้เจอพี่ขนาดนั้น คงอยากจะกลับมาคืนดีสินะ” นับตังค์เดาเอา

“ถ้าเขาไม่ยอมเลิกรากับพี่ง่ายๆ ตังจะงอนพี่ไหม”

“ไม่รู้ดิ ต้องดูก่อนว่าเหตุการณ์เป็นยังไง มันไม่ได้อยู่ที่เขา อยู่ที่พี่ว่ายังมีเยื่อใยกับเขารึเปล่า”

“ตังทำให้พี่ผิดคาดหลายอย่างเลยนะ”

“ทำไม คิดว่าตังงี่เง่าอะดิ”

“อืม” มีคุณตอบตามตรงจนนับตังค์ต้องหันมามองแล้วหัวเราะ

“พี่กับตังดูแล้วไม่น่าจะมาชอบกันได้เลยนะ ดูจากแฟนเก่าของพี่ ท่าทางจะแซ่บเผ็ดเด็ดดวง พี่น่าจะชอบคนสไตล์นั้น” นับตังค์ชินแล้วที่โดนคนมองแบบนี้ คนที่ไม่รู้จักนับตังค์ดีก็คิดว่านับตังค์ขี้วีนขี้เหวี่ยง คงเป็นเพราะนับตังค์เป็นคนพูดตรงไปตรงมาแล้วก็โวยวายเสียงดังจนเป็นนิสัย แต่ถ้าคนที่รู้จักนับตังค์ดีจะรู้ว่าการโวยวายนั้นเป็นแค่อาการกลบเกลื่อนเวลาคิดคำพูดไม่ทันแค่นั้นเอง

“ของแบบนี้มันดูแค่ภายนอกไม่ได้ มันต้องลองก่อน” มีคุณขยับเข้าไปใกล้ นับตังค์ถลึงตาใส่ก่อนจะขยับออกห่าง

“ไม่ได้อยากเล่นตัวนะ แต่เป็นคนไม่ง่าย เข้าใจตรงกันนะ” นับตังค์คุยข่ม แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองตอบรับเป็นแฟนมีคุณง่ายๆ ก็ชะงักไปกับความย้อนแยงของตัวเอง

“พี่ก็ไม่คิดว่าตังง่ายนะ แต่เราโตๆ กันแล้วเลยตัดสินใจได้เร็วแค่นั้นเอง” มีคุณเหมือนจะรู้ว่านับตังค์กำลังคิดอะไรเลยรีบปลอบไป ส่วนคนถูกปลอบกำลังครุ่นคิดว่าที่มีคุณพูดออกมามันต่างกันตรงไหน ง่ายกับเร็ว มันไม่ค่อยจะต่างกันในความรู้สึก

“ถึงยอมเป็นแฟนง่ายๆ แต่ไม่ยอมเป็น...ง่ายๆ” นับตังค์เว้นคำเอาไว้ให้มีคุณคิดเอาเอง มีคุณนึกขำ ถ้าเติมคำว่าเมียลงไปคงจะโดนนับตังค์ต่อยปากแตกแน่ๆ เลยปล่อยผ่านไป

“ทำไมหน้าแดงไม่หายเลย เขินอะไรนักหนา” มีคุณเอื้อมมือไปรั้งท้ายทอยของนับตังค์ให้เข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะเอาหน้าผากของตัวเองไปแนบกับหน้าผากของนับตังค์ ไอร้อนผ่าวจากผิวเนื้อของนับตังค์ส่งถ่ายมาจนมีคุณรู้สึกได้

“ตังปวดหัว” นับตังค์บ่นออกมาเพราะรู้สึกปวดที่ขมับ

“ตังเป็นไข้ ปวดหัวแล้วทำไมไม่บอก” มีคุณเอามืออังที่หน้าผากของนับตังค์อีกครั้ง

“ก็บอกไปนี่ไง”

“ปวดหัวนานรึยัง”

“ก็สักพักแล้ว”

“ขึ้นห้องก่อน เดี๋ยวพี่เอายาไปให้กิน ไม่ต้องอาบน้ำแล้วนะ” มีคุณกลัวว่านับตังค์จะไม่สบายมากไปกว่านี้ โชคดีที่ใบเมี่ยงเอาด้วงไปนอนด้วย ไม่อย่างนั้นอาจจะติดไข้กันได้

“ตังรอกินยาเลยก็ได้ เราจะได้ขึ้นไปพร้อมกัน” นับตังค์ไม่อยากขึ้นไปคนเดียว


มีคุณอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นนับตังค์อ้อนเหมือนเด็ก เจ้าตัวคงไม่รู้หรอกว่าเวลาพูดจาดีๆ น้ำเสียงจะอ้อนผิดปกติ หน้าตาก็ดูอ้อนจนมีคุณอยากจะกดจมูกไปที่แก้มแดงๆ นั่น ถ้าไม่ติดว่านับตังค์ไม่สบาย คืนนี้คงจะอดใจไม่ไหวแน่ มีคุณจูงมือของนับตังค์ให้มายืนรอที่ตู้ยา หลังจากรื้อดูแล้วเจอยาแก้ไข้ มีคุณก็เดินไปรินน้ำอุ่นใส่แก้ว นับตังค์หยิบยาขึ้นมากินเสร็จแล้วมีคุณจึงพานับตังค์ขึ้นห้องไปพร้อมกัน



คืนนั้นนับตังค์ไข้ขึ้นสูง ยาแก้ไข้ระงับได้แค่ชั่วคราว มีคุณจึงคอยเช็ดตัวระบายความร้อนในร่างกายให้ตลอดทั้งคืนและปลุกนับตังค์มากินยาอีกครั้งเมื่อครบกำหนดเวลา นับตังค์หลับไม่สนิทเพราะปวดหัวและหนาวสั่น แต่ก็ลืมตาไม่ขึ้นเพราะรู้สึกอ่อนเพลีย จนใกล้เช้าถึงได้หลับสนิทเพราะอาการปวดหัวทุเลาลงและไข้ก็ดูจะลดลงบ้าง


“บอสทำอะไรแต่เช้าเหรอครับ” ใบเมี่ยงเดินลงมาชงนมให้ด้วงตอนตีห้า เห็นมีคุณเดินวนอยู่ในครัวก็เลยเข้ามาถาม

“ตังไข้ขึ้น งสัยเพราะเมื่อวานโดนทั้งน้ำเย็นโดนทั้งแดดร้อน ผมเลยว่าจะทำข้าวต้มให้ตังกินก่อนกินยารอบเช้า แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน” มีคุณนึกตำหนิตัวเองที่เก่งเรื่องวิจารณ์อาหาร แต่ตัวเองกลับทำอาหารไม่เก่งเอาเลย

“เมี่ยงทำให้ไหมครับ” ใบเมี่ยงอาสา

“ผมอยากทำให้เขากิน เมี่ยงสอนผมได้ไหม” มีคุณพูดไปแล้วก็รู้สึกเขิน นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่เขาอยากลงมือทำอาหารเอง

“ได้เลยครับ แต่เมี่ยงขอเอานมขึ้นไปให้ด้วงก่อน” ใบเมี่ยงเต็มใจสอน ยิ่งได้รู้ว่ามีคุณอยากทำข้าวต้มไปให้นับตังค์กิน ใบเมี่ยงก็ยิ่งดีใจที่เห็นทั้งคู่แสดงความรักต่อกัน


ข้าวสวยที่หุงสวยขึ้นหม้อถูกจัดเตรียมเอาไว้ก่อนที่มีคุณจะลงมือปรุงน้ำซุป เมนูข้าวต้มปลากะพงเป็นเมนูที่ใบเมี่ยงสอนให้มีคุณทำ ใบเมี่ยงให้มีคุณหัดแล่เนื้อปลาเอง แล่ออกมาบางบ้างหนาบ้างตามประสามือใหม่หัดทำ เมื่อเอาเนื้อปลาที่แล่เสร็จแล้วไปขยำเกลือแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดมีคุณก็พักเนื้อปลาเอาไว้ก่อน จากนั้นใบเมี่ยงก็ให้มีคุณต้มน้ำกับกระดูกหมู ใส่รากผักชี พริกไทยและข่าเผาฝานใส่ลงไปด้วยเพื่อช่วยดับคาวปลาและช่วยให้น้ำซุปมีกลิ่นหอม เมื่อน้ำเดือดจัดมีคุณก็ใส่เนื้อปลาลงไป ใบเมี่ยงบอกกับมีคุณว่าไม่ต้องคนน้ำซุปเพราะเนื้อปลาจะเละยุ่ยได้ แค่ช้อนฟองออกก็พอ จากนั้นเมี่ยงก็ให้มีคุณเบาไฟลงก่อนที่จะใส่เครื่องปรุงลงไป  ใบเมี่ยงเชื่อว่ามีคุณเป็นนักชิมอยู่แล้วย่อมจะรู้ว่ารสชาติขนาดไหนที่คิดว่าอร่อย ระหว่างที่มีคุณชิมรสของน้ำซุป ใบเมี่ยงก็ช่วยเจียวกระเทียมเอาไว้โรยหน้า ทั้งกลิ่นน้ำซุปและกลิ่นของกระเทียมเจียวส่งกลิ่นหอมไปทั่วครัว


“ใส่ข้าวลงไปในน้ำซุปได้เลยครับ” ใบเมี่ยงบอกกับมีคุณเมื่อมีคุณบอกว่าน้ำซุปได้รสชาติที่ดีแล้ว

“ไม่ช่วยชิมน้ำซุปหน่อยเหรอ” มีคุณไม่ค่อยมั่นใจ

“ไม่หรอกครับ เมี่ยงอยากให้เชฟตังได้ชิมเป็นคนแรก ต่อให้ไม่ดีต่อลิ้น แต่ดีต่อใจแน่นอนครับ” ใบเมี่ยงให้กำลังใจมีคุณ

“ขอบคุณมากนะ ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกผมว่าบอสหรอก เรียกว่าพี่ก็พอ จะดูสบายเป็นกันเอง”

“ได้ครับพี่คุณ” ใบเมี่ยงตอบรับ

“พี่ขอเอาข้าวต้มไปให้ตังก่อนนะ เขาจะได้กินยา”

“ครับ” ใบเมี่ยงอมยิ้มเมื่อเห็นมีคุณตั้งอกตั้งใจจัดแต่งชามข้าวต้มก่อนจะยกไปให้นับตังค์ได้กิน


เมื่อมีคุณยกข้าวต้มขึ้นไปถึงหน้าห้องก็เห็นว่าพายพัดยืนอยู่ที่หน้าห้องนอนของตน พายพัดชี้ไปที่ประตูห้องที่ถูกเปิดแง้มอยู่ มีคุณเดินเข้าไปก็เห็นว่านับตังค์ยังคงหลับสนิทอยู่บนที่นอนโดยมีด้วงยืนเกาะเตียงเอาไว้มือหนึ่ง อีกมือหนึ่งก็ถือขวดนมเอาไว้ เจ้าตัวเล็กกำลังพยายามจะชะเง้อมองนับตังค์


“ปี้จ๋าหยับ จะหาปี้จ๋า” ด้วงเดินมาหามีคุณแล้วอ้อนให้มีคุณอุ้มตัวเองขึ้นไปบนเตียง

“ผมไม่กล้าพาออกไป กลัวร้องไห้ ลืมตามาก็จะออกนอกห้องท่าเดียวเลย” พายพัดบอกกับมีคุณ

“ไปอยู่กับพี่พายก่อนนะครับด้วง” มีคุณเดินมาจูงมือด้วง แต่ด้วงดึงมือหนี

“จะอยู่กับปี้จ๋า”

“ด้วงครับ พี่ตังไม่สบาย พี่ตังตัวร้อนจี๋เลย ด้วงสงสารพี่ตังไหม” ใบเมี่ยงที่เพิ่งเดินตามขึ้นมา เห็นด้วงกำลังอ้อนมีคุณก็รีบเดินมาคุกเข่าตรงหน้าของด้วง แล้วพูดกับด้วงอย่างใจเย็น

“ฉงฉาน เดี๋ยวหนูฉีดยาให้ปี้จ๋าแบบนี้” ด้วงเอื้อมมือไปหยิกแขนใบเมี่ยงอย่างแรงจนใบเมี่ยงสะดุ้ง

“ด้วง ไม่น่ารักเลยนะ” มีคุณตกใจเมื่อเห็นด้วงหยิกใบเมี่ยงเลยเผลอดุไป

“ปี้จ๋า จัว จัว ฮือ” ด้วงสะดุ้งก่อนจะวิ่งกลับไปที่เตียงแล้วร้องไห้เรียกนับตังค์เสียงดัง

“ด้วง เป็นอะไร” นับตังค์ได้ยินเสียงร้องไห้ของด้วงก็ตกใจผุดลุกขึ้นมานั่งแล้วร้องถามทั้งที่รู้สึกมึนหัวอย่างแรง

“โอ๋ ด้วง ขอโทษนะครับ” มีคุณเข้ามาลูบหลังด้วง แต่ด้วงไม่หยุดร้องไห้ สุดท้ายใบเมี่ยงก็มาอุ้มด้วงขึ้น

“ด้วงดูสิ พี่ตังตัวร้อนไหม” ใบเมี่ยงจับมือของด้วงไปแตะที่แขนของนับตังค์ ด้วงชักมือกลับเมื่อมือตัวเองสัมผัสได้ถึงความร้อน

“ย้อน” ด้วงบอกทั้งน้ำตา

“ด้วงอยากตัวร้อนแบบนี้ไหม” ใบเมี่ยงถามด้วงอีก

“ไม่เอา ย้อน” ด้วงส่ายหน้า

“ถ้าอย่างนั้นต้องให้พี่ตังกินยาก่อน ตัวพี่ตังหายร้อนแล้วค่อยมาหาใหม่นะ” ใบเมี่ยงหว่านล้อม

“จะอยู่กับปี้จ๋า” ด้วงเริ่มสะอื้นอีกรอบ

“เอาแบบนี้ ด้วงต้องนั่งรอที่ตรงนั้นแล้วพี่จ๋าจะให้อยู่ ตกลงไหม” นับตังค์ชี้ไปที่โซฟาก่อนจะพูดกับด้วงด้วยเสียงแหบแห้ง เมื่อด้วงพยักหน้าใบเมี่ยงจึงต้องยอมพาด้วงไปนั่งรอที่โซฟา

“เดี๋ยวพี่ดูเอง ให้เขาอยู่ตรงนั้นก็ได้ คงคิดถึงแม่เขา” มีคุณบอกกับเมี่ยง พายพัดหัวเราะเมื่อได้ยินสิ่งที่มีคุณพูดออกมา

“บอส!! แค่กๆ” นับตังค์อยากจะโวยวายแต่รู้สึกคอแห้งและระคายคอมาก

“ถ้าอย่างนั้นเมี่ยงกับพายจะลงไปทำอาหารเช้าให้พี่คุณกับด้วงนะครับ” ใบเมี่ยงอยากปล่อยให้มีคุณอยู่กับนับตังค์

“ไปเรียกเขาพี่ เป็นน้องเขารึไง” พายพัดถามใบเมี่ยงเสียงขุ่นเมื่อเห็นใบเมี่ยงเรียกมีคุณว่าพี่อย่างสนิทสนม

“พายก็แบบนี้ ไปเลย อย่างอแง” ใบเมี่ยงดุพายพัดก่อนจะจูงมือพายพัดให้ออกมาจากห้องของมีคุณ


( มีต่อด้านล่างค่ะ)


V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 28-04-2017 20:00:38
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


เมื่อพายพัดและใบเมี่ยงออกไปแล้ว มีคุณก็ยกถาดข้าวต้มมาที่เตียง นับตังค์มองตามแล้วก็เลิกคิ้วแทนการถามด้วยคำพูด


“พี่ทำเอง ให้ใบเมี่ยงช่วยสอน อร่อยรึเปล่าไม่รู้ ทนกินหน่อยนะ จะได้กินยา” มีคุณวางถาดลงที่โต๊ะข้างเตียง แล้วยกชามข้าวต้มมาถือเอาไว้

“หน้าตาให้ผ่าน” นับตังค์บอกด้วยเสียงที่แหบ ดวงตาของนับตังค์แสดงออกชัดเจนว่าดีใจที่มีคุณทำข้าวต้มมาให้


ด้วงหัวเราะคิกคักเมื่อได้ยินเสียงของนับตังค์ เมื่อมีคุณกับนับตังค์หันไปมองก็เห็นว่าด้วงยืนชะเง้อมองนับตังค์อยู่บนโซฟา ท่าทางของด้วงเป็นที่น่าเอ็นดูจนนับตังค์อดยิ้มออกมาไม่ได้


“แบ่งให้ด้วงกินด้วยได้ไหม ดูท่าทางจะอยากกิน” นับตังค์ถามเจ้าของข้าวต้ม

“ยังมีอยู่ เดี๋ยวพี่ค่อยพาด้วงลงไปกิน ตังกินชามนี้ไปก่อน”

“จะว่าไปก็อย่าเพิ่งให้ด้วงกินเลย ด้วงคงยังไม่มีภูมิต้านทานอาหารของเชฟมือใหม่ เดี๋ยวจะจู๊ดๆ” นับตังค์อดแกล้งมีคุณไม่ได้

“จู๋ๆ จู๋ๆ” ด้วงส่งเสียงมาจากโซฟา

“จู๊ดๆ ด้วง พูดให้มันถูก” นับตังค์หัวเราะขำด้วง ด้วงเห็นนับตังค์หัวเราะก็หัวเราะตาม

“ชิมสิ” มีคุณเร่ง

“อืม...”

“ไม่อร่อยเหรอ” มีคุณหน้าเสียจนนับตังค์ขำ

“ไปวิจารณ์คนอื่นตั้งมากมาย มาเจอกับตัวคงกลัวล่ะสิ ก็อร่อยดีแต่จืดไปนิดหนึ่ง น้ำซุปต้องปรุงให้รสจัดกว่าปกติเพราะว่าเวลาเราใส่ข้าวลงไปมันจะทอนความเข้มข้นลง”

“ก็ตังไม่สบาย พี่เลยไม่อยากทำรสจัดให้กินไง” มีคุณบอกไปตามจริงเพราะว่าตั้งใจทำรสอ่อนแบบนี้แต่แรกแล้ว

“ขอบคุณครับ” นับตังค์พูดจบก็ตักข้าวกินต่อ ไม่กล้ามองหน้ามีคุณเพราะยังรู้สึกขัดเขินเวลาต้องพูดดีๆ ด้วย

“หายไวๆ นะครับ พี่เป็นห่วง” มีคุณหอมที่ผมของนับตังค์

“ห่วงอย่างอื่นก่อนไหม” นับตังค์ถามเสียงเบา

“ห่วงอะไร” มีคุณเลิกคิ้วไม่เข้าใจที่นับตังค์บอก

“มองตาแป๋วอยู่นั่น ทำอะไรไม่ระวังเลย” นับตังค์พยักเพยิดไปที่ด้วงที่กำลังมองมาตาไม่กระพริบ

“ลืมไปเลย อยู่กับตังทีไรนึกว่าโลกนี้มีกันแค่สองคน” มีคุณยังคงหยอดต่อ

“ไปอยู่กับด้วงเลยไป” นับตังค์ไล่เพราะกลัวจะสำลักมุกเลี่ยนๆ ของมีคุณ

“ปี้จ๋าฉีดยาให้ปี้จ๋าหน่อย” ด้วงชี้ไปที่มีคุณก่อนจะชี้ไปที่นับตังค์

“รอพี่จ๋าคนนั้นหายป่วยก่อน พี่จ๋าคนนี้จะฉีดยาพี่จ๋าคนนั้นแน่ๆ” มีคุณชี้ที่ตัวเองก่อนจะชี้ไปที่นับตังค์

“ลามก” นับตังค์ต่อว่ามีคุณเสร็จก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มเพราะทำหน้าไม่ถูก

“ยกมก” ด้วงพูดตามนับตังค์

“สอนดีนักเดี๋ยวจูบโชว์เด็กเลย” มีคุณแกล้งยืนหน้าไปใกล้ๆ

“ด้วงช่วยด้วย” นับตังค์แกล้งร้องให้ด้วงช่วย ด้วงปีนลงจากโซฟาแล้ววิ่งดุ๊กๆ มาดึงขากางเกงของมีคุณให้ออกมาห่างจากนับตังค์

“แฮ่ แฮ่” ด้วงส่งเสียงขู่ในลำคอจนนับตังค์หลุดหัวเราะออกมา แต่สักพักก็ไอโขลกจนต้องคว้าผ้าเช็ดหน้ามาปิดปากเพราะกลัวด้วงจะติดไข้ นับตังค์ไม่รู้ว่าเป็นไข้เพราะแดดหรือเพราะมีเชื้อหวัดแล้ว

“กินน้ำอุ่นก่อน” มีคุณจะเดินเข้าไปรินน้ำให้ แต่ด้วงไม่ยอมปล่อยขากางเกงของมีคุณ ยังคงทำเสียงขู่ในลำคอไม่ยอมให้มีคุณเข้าไปหานับตังค์

“ด้วง พี่จ๋าคนนั้นไม่ทำอะไรพี่จ๋าคนนี้แล้ว” นับตังค์บอกด้วง ด้วงถึงยอมปล่อยมีคุณ มีคุณนั่งลงตรงหน้าของด้วงแล้วยีผมของด้วงเบาๆ

“เราเรียกแบบนี้เด็กจะงง มีแต่พี่จ๋าไม่รู้คนไหนเป็นคนไหน ด้วงครับ คนนี้คือแด๊ด คนนั้นคือมัม ไหนลองพูดตามนะ นี่...แด๊ด นั่น...มัม” มีคุณพูดกับนับตังค์ก่อนจะหันมาสอนด้วง

“ไม่หม่ำ ยังไม่จิน” ด้วงส่ายหน้า

“ไม่ใช่หม่ำ มัม พี่จ๋าคนนั้นชื่อมัม เรียกสิ พี่จ๋าจะได้ทำขนมอร่อยให้กิน”

“มัม มัมๆ” ด้วงได้ยินคำหว่านล้อมก็รีบพูดตาม นับตังค์ได้แต่ทำปากขมุบขมิบอยากจะด่ามีคุณแต่ทำไม่ได้เพราะด้วงอยู่ด้วย

“เก่งมาก ลองพูดอีกนะ นี่...แด๊ด” มีคุณชี้มาที่ตัวเอง

“แล๊ด”

“เฮ้ย ไม่ใช่สิ แด๊ด”

“แล๊ด”

“แด๊ด ดูปากนะด้วง แด๊ด”

“จาจินนม” ด้วงเมินมีคุณก่อนจะเดินกลับไปที่โซฟาแล้วชี้ไปที่ขวดนม

“ฮ่าๆๆ ไปสิ แรด ไปอุ้มด้วงขึ้นโซฟานะแรดนะ” นับตังค์เลียนแบบด้วงแต่ออกสำเนียงให้ดูดัดจริตกว่าด้วยความชอบใจ


มีคุณได้แต่ถอนหายใจเมื่อสอนด้วงไม่สำเร็จ แถมยังมีช่องให้นับตังค์เล่นงานกลับได้อีก เมื่อเดินไปอุ้มด้วงขึ้นไปนั่งบนโซฟา จากนั้นด้วงก็คว้าขวดนมมาดูดก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วเกาพนักพิงโซฟาดังครืดๆ ด้วยความเพลินเพลิน มีคุณกับนับตังค์มองด้วงด้วยความเอ็นดูก่อนจะหันมามองหน้ากัน นับตังค์อมยิ้มก่อนจะกินข้าวต้มของมีคุณต่ออย่างเงียบๆ มีคุณเองมองนับตังค์กับด้วงแล้วก็ต้องยิ้มออกมาเหมือนกัน ก็ความสุขความอบอุ่นมันกำลังเพิ่มพูนมากขึ้นจนทั้งคู่หยุดยิ้มไม่ได้จริงๆ



หลังจากที่ได้ชิมข้าวต้มของพ่อครัวมือใหม่จนหมดชามแล้ว นับตังค์ก็รู้สึกว่าอาการป่วยของตัวเองดีขึ้น อาการมึนหัวปวดหัวก็เบาลงจนแทบไม่รู้สึก ส่วนไข้...นับตังค์ไม่รู้ว่ามันลดลงเพราะฤทธิ์ยาหรือเปล่า เพราะหลังจากกินยาเข้าไปไข้ก็ค่อยๆ ลดลง จนตอนนี้ไม่รู้สึกหนาวสั่นและก็ไม่แสบร้อนตามผิวอีก อาการคันคอก็ลดลง นี่ถ้านับตังค์มีคอลัมน์เป็นของตัวเองก็คงจะเขียนชมถึงข้าวต้มรสจืดชามนี้ของมีคุณว่ามีสรรพคุณรักษาไข้ให้ทุเลาลงได้ด้วย นับตังค์คงจะตั้งชื่อว่ามันว่าข้าวต้มอภินิหาร ถึงข้าวต้มชามนี้จะมีรสชาติธรรมดา แต่นับตังค์อยากชมเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่พ่อครัวมือใหม่ เพื่อต่อไปมีคุณอาจจะอยากลองทำอาหารให้นับตังค์ได้ลองกินอีก แม้ในครั้งนี้อาจจะดูแลนับตังค์เพราะเป็นหน้าที่ของแฟนก็ตาม ซึ่งการกระทำนี้มีความหมายมากสำหรับนับตังค์ การที่มีคุณยอมลงมือทำอาหารทั้งที่ไม่เคยทำนั้นมันส่งผลให้หัวใจของนับตังค์พองโตได้อย่างน่าอัศจรรย์ และได้รู้ว่าเวลาที่เราได้รับความห่วงใยหรือความใส่ใจจากคนที่เรารู้สึกดีด้วยมันดีแบบนี้นี่เอง


“ดีขึ้นแล้วเหรอ ลงมาทำไม ทำไมไม่นอนพักก่อน” มีคุณละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อเห็นว่านับตังค์เดินลงมาจากบนห้องนอน ด้วงนั่งเล่นของเล่นอยู่ข้างๆ มีคุณ เมื่อเห็นนับตังค์เดินลงมาก็รีบลุกวิ่งไปกอดขาของนับตังค์เพื่อจะอ้อนให้อุ้ม

“เดี๋ยวรันกับหม่องมันจะมากินข้าวด้วย ตังยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย” นับตังค์นึกห่วงกลัวว่าจะทำกับข้าวไม่ทัน

“พายกับเมี่ยง แล้วก็ขมิ้นช่วยกันทำอยู่ ไม่ต้องห่วงหรอก มานั่งนี่มา” มีคุณตบที่นั่งข้างๆ เพื่อให้นับตังค์มานั่งใกล้ๆ

“พี่เขียนอะไรอยู่” นับตังค์อุ้มด้วงมานั่งที่ตักของตัวเอง ข้างๆ มีคุณ

“พี่เขียนคอลัมน์อยู่”

“ขอดูหน่อย” นับตังค์ขยับไปใกล้ๆ เมื่อเห็นว่ามีคุณกำลังเขียนชมอาหารเหนือของใบเมี่ยงก็แอบผิดหวังเล็กน้อยที่ยังไม่ใช่อาหารของตัวเอง

“ตัวไม่ร้อนแล้ว กำลังคิดว่าถ้าไข้ไม่ลดจะพาเข้าเมืองไปหาหมอ” มีคุณเห็นนับตังค์ยื่นหน้ามาใกล้ๆ เลยถือโอกาสเอาจมูกไปวัดอุณหภูมิให้ที่แก้ม

“บอส ด้วงอยู่เห็นไหม ชอบทำแบบนี้มันไม่ดี” นับตังค์เอาศอกถองไปที่อกของมีคุณ

“แสดงความรักให้ด้วงเห็นดีกว่าเถียงกันนะ”

“ได้นิดได้หน่อยก็ไม่ปล่อยเลยนะ หื่นไม่รู้เวลา” นับตังค์อดต่อว่ามีคุณไม่ได้ ตั้งแต่ยอมคบเป็นแฟนด้วยโดนหอมไปไม่รู้กี่ที่แล้ว

“โดนแดดเลยตัวร้อน โดนอ้อนเลยโดนรัก” มีคุณกระซิบบอกนับตังค์ที่หูเบาๆ

“ขับรถไปชนท้ายสิบล้อมารึไง เลยไปเอามุกท้ายรถมาด้วย ฮ่าๆ ตลกอะ” นับตังค์หัวเราะขำมุกเสี่ยวๆ ของมีคุณ ด้วงเห็นมีคุณมานั่งใกล้นับตังค์ก็ขยับเข้าไปแทรก

“มัมๆ หนูจาไปลูปี๋เจื้อ” ด้วงทำหน้าเว้าวอนนับตังค์

“เห็นไหม ถ้าด้วงเรียกแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นตังจะทำหน้ายังไง” นับตังค์บ่นเมื่อด้วงเรียกตัวเองว่ามัมตามที่มีคุณสอน

“ไม่คิดว่าด้วงจะจำแม่น ทำไงดีล่ะ” มีคุณยิ้มเจื่อนๆ เมื่อด้วงเรียกนับตังค์ว่ามัมจริงๆ

“ไม่รู้ละ ถ้าด้วงเรียกตังว่ามัม พี่ต้องจ่ายเงินมาคำละห้าร้อยบาท ห้ามต่อ”

“ถ้ายอมเป็นมัมของด้วงจริงๆ พี่ยกทรัพย์สมบัติให้หมดตัวเลย สนใจไหม” มีคุณเสนอ

“ก็น่าสนนะ” นับตังค์ทำท่าคิดก่อนจะยกยิ้ม

“ไอ้งกเอ้ย” มีคุณจิ้มหน้าผากของนับตังค์ด้วยความหมั่นเขี้ยว

“พี่ทำงานไปเถอะ ตังจะพาด้วงไปดูผีเสื้อในสวนนะ”

“ออกไปโดนลมเดี๋ยวก็ไข้กลับนะ”

“ไม่หรอก นั่งในที่ร่ม พาไปแวบเดียวก็พากลับเข้ามาแล้ว”


นับตังค์จูงมือด้วงออกมาเล่นที่สนามหญ้า ด้วงดูจะสดชื่นเมื่อได้ออกมาวิ่งเล่นข้างนอก นับตังค์ปล่อยให้ด้วงวิ่งเล่นเต็มที่ ส่วนตัวเองก็นั่งดูอยู่ไม่ไกล จนกระทั่งด้วงวิ่งกลับมาหา หน้าตาดูตื่นกลัว นับตังค์ถึงได้มองไปที่รั้ว


“พอดีคุณขจีให้เอามะม่วงมาให้ค่ะ ได้ยินเสียงหัวเราะก็จำได้ว่าเป็นหนูด้วง” ดาวเรืองบอกถึงจุดประสงค์ที่มาก่อนจะเดินเข้ามาหานับตังค์พร้อมกับตะกร้าใส่มะม่วง เมื่อดาวเรืองเดินมาใกล้ ด้วงก็กำชายเสื้อของนับตังค์แน่น

“ฝากขอบคุณคุณขจีด้วยนะครับ” นับตังค์รับตะกร้ามะม่วงมาถือเอาไว้

“ด้วง สวัสดีพี่รึยัง ไหนสวัสดีสิ แบบที่พี่เคยสอน” ดาวเรืองทักด้วงอีก ด้วงสะดุ้งก่อนจะหลบตา รีบซุกหน้ากับตักของนับตังค์

“ไม่เอา” ด้วงร้องบอก

“ด้วงครับ” ดาวเรืองคว้าแขนด้วงเมื่อเห็นด้วงทำท่าจะงอแง

“ฮึก...ฮือ” ด้วงร้องไห้ทันทีที่ดาวเรืองมาจับที่แขน

“ด้วงไม่ร้องครับ” นับตังค์วางตะกร้ามะม่วงกับพื้นก่อนจะอุ้มด้วงขึ้นมา ด้วงรีบซบหน้ากับไหล่ของนับตังค์ไม่ยอมมองมาที่ดาวเรืองเลย

“คุณคงตามใจด้วงมากนะคะ ปกติว่านอนสอนง่ายกว่านี้” ดาวเรืองหน้าเสียที่ด้วงแสดงออกว่าไม่อยากคุยด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะประชดออกไป

“น่าแปลกใจเหมือนกันครับ ปกติให้ด้วงสวัสดีใครด้วงก็ทำหมด หรือด้วงจะดูออกว่าใครควรค่าให้ยกมือไหว้” นับตังค์พูดออกไปตรงๆ

“คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไงคะ” ดาวเรืองไม่พอใจที่นับตังค์จงใจแขวะเธอ

“เอาไว้ให้ผมแน่ใจก่อนว่าด้วงโดนอะไรมาบ้าง วันนั้นผมจะบอกคุณให้เข้าใจแจ่มแจ้งโดยไม่ต้องถามเลยว่าผมหมายความว่ายังไง” สีหน้าและท่าทางของนับตังค์ดูน่ากลัวจนดาวเรืองไม่อยากมีเรื่องด้วย เธอรีบหันหลังแล้วเดินกลับออกไป นับตังค์เห็นด้วงตัวสั่นก็สงสารจับใจ ค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าดาวเรืองต้องเคยทำร้ายด้วงแน่ๆ


ไม่รู้ว่ามันเป็นวันอะไรของนับตังค์ นอกจากจะป่วยเป็นไข้ ต้องมาเห็นด้วงกลัวดาวเรืองจนตัวสั่นดูน่าสงสาร ยังไม่ทันจะได้เข้าบ้านให้หายหงุดหงิด พญาก็ขับรถมาจอดที่ร้านแล้วถือวิสาสะเดินผ่านร้านมาถึงสวนหลังบ้านโดยไม่คิดขออนุญาตใครเลย ถึงแม้จะรำคาญความขี้ตื้อของพญา แต่นับตังค์ก็ยังรักษามารยาทด้วยการสงบปากสงบคำเอาไว้


“เจอกันจนได้ เมื่อวานแกล้งพี่จนไม่ได้คุยกันเลยนะ” พญาส่งยิ้มหวานมาให้นับตังค์ ก่อนจะมองด้วงแล้วทำหน้าสงสัย

“สวัสดีคุณตาก่อนด้วง” นับตังค์บอกด้วง ด้วงหันมามองพญาอยู่พักใหญ่ถึงยอมยกมือไหว้ พญาสะดุ้งกับคำว่าตาของนับตังค์ เจอทีแรกเรียกลุง คราวนี้มาตา เจอกันคราวหน้าพญาไม่อยากจะนึกเลยว่าจะได้เป็นอะไรอีก

“น่ารักจัง หลานเหรอครับ หน้าคุ้นเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน” พญาเดินเข้ามาหยิกแก้มด้วงเบาๆ

“มัมๆ หนูจาจับบ้าน” ด้วงเบือนแก้มหนีพญาแล้วร้องอ้อนนับตังค์

“มัม ชื่อใหม่น้องตังเหรอครับ มัมอะไร มัมมี่เหรอครับ” พญาแกล้งกวนนับตังค์บ้าง

“มัมมี่โปะโกะมั๊ง” นับตังค์ยักไหล่ให้

“พี่ล้อเล่น พี่แค่อยากถามว่าน้องตังรับทำของว่างให้กับคนที่จะมาสัมมนาที่โรงแรมของพี่ไหม มีแขกมาสัมมนาแทบทุกวันเลย พี่รู้จากสาลินีว่าน้องตังเป็นเชฟฝีมือดี พี่เลยมาสอบถามดู คิดราคามาได้เลยพี่ยินดีจ่าย” พญารู้ว่าหากเข้าหานับตังค์แบบเดิมคงจะไม่ได้ผล เลยใช้วิธีนี้ อาจจะทำให้นับตังค์มองภาพลักษณ์ของเขาว่าดูเป็นคนเอาการเอางาน

“คุณต้องคุยกับเจ้าของร้าน ผมไม่มีสิทธิ์รับงานเอง” นับตังค์ยอมรับว่าสนใจ แต่เรื่องนี้คงต้องให้มีคุณเป็นคนตัดสินใจ

“สนใจไปเป็นเชฟให้กับโรงแรมของพี่ไหม สามารถเรียกเงินเดือนเท่าที่อยากได้ได้เลยนะ” พญาลองหยั่งเชิง

”ขอบคุณนะครับ แต่ผมไม่ได้ร้อนเงิน ถ้ายังไงเดี๋ยวจะไปตามเจ้าของร้านมาให้คุยนะครับ ผมต้องพาลูกชายไปอาบน้ำก่อน” นับตังค์พูดจบก็พาด้วงเดินกลับเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้พญาอ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำว่าลูกจากปากของนับตังค์     
 

หลังจากที่มีคุณออกไปคุยกับพญา ไม่นานมีคุณก็เดินกลับเข้ามา นับตังค์กำลังนั่งเล่นกับด้วงอยู่ก็รีบลุกมานั่งข้างมีคุณเพราะอยากรู้ว่ามีคุณจะรับงานนี้ไหม แต่มีคุณไม่ยอมเปิดปากเล่าอะไรให้นับตังค์ฟัง จนนับตังค์ทนไม่ไหวต้องเอ่ยถามขึ้นมาก่อน

“พี่ตอบตกลงไปรึเปล่า”

“ยังไม่ได้ให้คำตอบ”

“อ้าว ทำไมล่ะ”

“อยากทำมากเหรอ”

“อะไรเป็นรายได้ก็ควรทำไหมล่ะ”

“แล้วแต่ตัง ตังอยากทำก็ทำ”

“ทำไมพี่ดูหงุดหงิด ตังพูดอะไรผิดไปเหรอ” นับตังค์เห็นอาการของมีคุณแล้วก็ถามออกไปตรงๆ

“ตังไม่ได้ผิดอะไร แต่พี่หึง”

“หึง!! หึงอิตาลุงพญายมนั่นอะนะ” นับตังค์ร้องถามด้วยความประหลาดใจ

“ทำไมไปเรียกเขาแบบนั้น” มีคุณถามทั้งที่ในใจอยากจะหัวเราะออกมาด้วยความดีใจที่นับตังค์มีท่าทีไม่ชอบลูกชายของนายหัวพยนต์

“หึงทุกคน” มีคุณตอบพร้อมกับแกล้งทำหน้าจริงจัง

“กับพายก็หึงเหรอ” นับตังค์ถาม

“ใช่”

“พี่บ่าวก็หึงเหรอ” นับตังค์ยังคงถามอีก

“ก็มีบ้าง”

“อาการหนักนะเรา” นับตังค์ส่ายหน้าก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

“ทำไมล่ะ หึงไม่ได้เหรอ”

“ไม่ได้” นับตังค์ตอบทันควัน

“ทำไมจะไม่ได้ แฟนของพี่ พี่จะหวงมันผิดตรงไหน” คราวนี้มีคุณแกล้งโวยวายบ้าง

“มันไม่ผิด แต่มันไม่ดี การที่พี่หึงแปลว่าพี่ไม่ไว้ใจตัง พี่ต้องทำใจว่ามีแฟนหน้าตาดี เสน่ห์เยอะ มันก็ต้องมีคนมารุมชอบบ้าง ที่สำคัญ ถ้าพี่คิดว่าตังจะมีใจให้คนอื่นง่ายๆ ขนาดนั้น แปลว่าพี่ไม่มีดีที่จะทำให้ตังมั่นคงกับพี่ได้เลย ตังถือว่าพี่ดูถูกตัวเองนะ ถ้าพี่ไม่มีดี ตังก็ไม่ยอมเป็นแฟนหรอก ถึงจะมีดีน้อยไปหน่อยก็เหอะ” นับตังค์รู้ว่ามีคุณอาจจะมีปมกับแฟนเก่ามาก่อน ถึงได้ไม่ชอบให้ใครมาเข้าใกล้คนที่เป็นแฟนของตัวเอง แต่ถ้ามานั่งหึงหวงจนเสียงานเสียการมันก็ต้องตักเตือนกันบ้าง

“ตกลงจะสอน จะปลอบหรือจะชมตัวเอง” มีคุณถามอย่างขำๆ

“โตๆ กันแล้ว ไม่หึงเนอะ” นับตังค์จับคางมีคุณส่ายไปส่ายมา ด้วงเห็นแล้วก็ไต่ตัวมีคุณขึ้นดึงมือของนับตังค์ออก

“ด้วงยังหวงตังเลย ดูดิ” มีคุณเข้าใจสิ่งที่นับตังค์พูดมาทั้งหมดแล้ว แต่ก็อยากแกล้งงอนต่อ

“โอ้ย นี่เด็กไหม ยังพูดไม่ชัดเลย เด็กงอนมันน่ารักนะ แต่ผู้ใหญ่งอนมันอุ...” นับตังค์อดไม่ได้กำลังจะว่ามีคุณว่าอุบาทว์ แต่โดนอีกฝ่ายแทรกมาก่อน

“อุอะไร พูดไม่ดีมีจูบกลับ” มีคุณขู่

“อุ...อุ้ย ต๊าย ว้าย กรี๊ด ไปในครัวดีกว่า” นับตังค์รีบเปลี่ยนคำด่า ก่อนจะลุกขึ้นจับด้วงไปนั่งตักของมีคุณแล้วแกล้งทำท่าสาวแตกจนด้วงหัวเราะร่วนกับท่าทางตลกของนับตังค์ นับตังค์แกล้งเดินบิดไปบิดมาให้ด้วงได้หัวเราะจนกระทั่งเดินหายเข้าไปในครัว

“เฮ้อ ก็น่ารักแบบนี้นี่น้าจะไม่ให้หวงได้ไง” มีคุณขำตามด้วงไปด้วย

“มัมตาหลก” ด้วงเงยหน้ามาพูดกับมีคุณ

“รักมัมไหม” มีคุณถามด้วง

“ยัก” ด้วงตอบ

“แด๊ดก็ยัก” มีคุณก้มลงหอมผมของด้วงแล้วอมยิ้ม พลางคิดทบทวนในใจว่าตัวเองคงไม่ได้แค่ชอบหรือถูกใจนับตังค์เพียงแค่นั้นแล้ว ตอนนี้มีคุณรู้สึกว่านับตังค์กำลังก้าวเข้ามาในชีวิตของเขาจนเต็มพื้นที่ของหัวใจ


...ยิ่งอยู่ใกล้ชิดกับเชฟจอมกวน มีคุณก็รู้สึกว่าตัวเองเข้าใกล้คำว่าตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้นเข้าไปทุกทีแล้ว...


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


(http://uppic.sodazaa.com/image.php?id=8F67_59033EA4&jpg)

เครดิตรูปจาก Google


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 28-04-2017 20:55:19
อบอุ่นจังงเลยยยคู่นี้
พญานี่เหมือนมาเป็นตัวตลกของเรื่องอะ
พเยียก้ดูไม่ได้ร้ายขนาดนั้นเลย
สรุปตัวร้ายที่แท้จริงคือคิวสินะ มโนได้โล่จริงๆ
รอค่าาา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 28-04-2017 21:12:47
ตลกที่มีคุณล้อเลียนวิธีเรียก อุ๋งอุ๋ง จากอีกคู่มาเรียกว่าเอ๋งเอ๋ง คิดได้ไง  :laugh:

เผ็ชแซบกวนมากๆคู่นี้
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 28-04-2017 21:21:20
เพิ่งหายไข้ก็มีคนมาวุ่นวายเนอะนับตังค์

ทั้งพายทั้งบอสขี้หึงกันจริงๆ :hao3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 28-04-2017 21:47:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PiiNaffe ที่ 28-04-2017 22:21:35
เป็นนิยายที่ไม่ควรอ่านตอนกลางคืนจริงๆเบย
อยากกินมันหมดทุกอย่างเลยยยย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 28-04-2017 23:18:20
น่ารักอ่ะ
ชอบมากกก
ด้วงนี่ลูกชาย เหรอ
ไอ้เราก็คิดว่าลูกสาว 5555555
 :mew1:

น้องตังน่ารักเวอร์อ่ะ ดูมีเหตุผล ไม่งี่เง่าเรื่องแฟนเก่าอ่ะ
น่าจะรับมือได้แน่
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-04-2017 23:46:43
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:


 :L2: :3123: :pig4: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 28-04-2017 23:48:38
พญาไม่ร้ายใช่ไหม ไม่อยากให้ร้ายเลย นางฮาๆ เอ๋อๆ ดี 555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 29-04-2017 00:02:08
เห็นรูปข้าวต้มตอนจะเที่ยงคืน โอ่ยยยย  :hao5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 29-04-2017 01:44:50
คีตะน่าเบื่อ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 29-04-2017 10:49:35
เป็นข้าวต้มอภินิหารจริงๆ เพราะทำให้นับตังหายไข้  และทำให้ทั้งมีคุณและนับตัง รู้จัก รู้ใจกันมากขึ้น

ชอบนิสัยของนับตังค์ มีอะไรก็พูดกันตรงๆ มีเหตุผล ไม่หึงหวงแบบงี่เง่า  ยิ่งเวลาอยู่กับมีคุณ 2 ต่อ 2 แล้วมีมุมน่ารัก ขี้อ้อน ตอนนี้นับตังเลยกลายเป็นมัมของหนูด้วงไปโดยปริยาย   

คีตะปากก็บอกว่ายังรักมีคุณ  แต่พอมีผู้ชายคนอื่นมาเสนอตัว  ตัวเองก็สนองตอบ เป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก

----------------------
เป็นนิยายที่อ่านสนุก ได้ความรู้  ได้ความหิว มีความอยากทำอาหารเพิ่มขึ้น  และตอนนี้ก็อยากให้คนเขียนมาลงอาทิตย์ละครั้งหรือ 2 ครั้ง  ขอบคุณมากค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 29-04-2017 15:18:08
ชื่อมัม ย่อมาจาก มัมมี่โป๊ะโกะ  :jul3:  เอออออ ตังค์เริ่ดอ่ะ ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-04-2017 16:21:57
 o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-04-2017 16:25:00
ดาวเรืองต้องทำไม่ดีกับด้วงไว้เยอะแต่ๆ
ไม่งั้นไม่กลัวขนาดนี้หรอก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 29-04-2017 17:44:08
ครอบครัวอบอุ่นนนน น่าร้ากก :o8:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-04-2017 10:43:44
น่ารักมากกกกกกกก   :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 30-04-2017 17:23:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 02-05-2017 14:22:41
" ยัก "  :mew1:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 02-05-2017 20:12:38
อ๊ยยยชอบ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: banazjj ที่ 03-05-2017 13:48:59
น้องตักทำไมน่ารักอย่างนี้ ในเรื่องมีเด็ก 2คน >"<
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 05-05-2017 01:07:49
อ่านไปหิวไป

55555555555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 06-05-2017 21:06:29
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ชอบมากๆเลย  มีกลิ่นหอมๆของอาหารอยู่ในทุกตอนเลย 555
นายเอกน่ารักมาก อ่อนโยนกับหนูด้วงสุดๆ แต่ก็ป่วนพระเอกได้สุดๆเช่นกัน  :m20:
มีประเด็นให้ติดตามมากมาย

รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อเลยค่า ขอบคุณผู้เขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: banazjj ที่ 07-05-2017 22:35:18
รออยู่น้าาาาาา  :ling1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 11 ข้าวต้มอภินิหาร 28/4/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 09-05-2017 11:05:47
คนเขียนหายไปไหนคะ  รออ่านนับตังกะบอส  ใบเมี่ยงกะพายอยู่  :ling1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 09-05-2017 12:34:07
ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง


มื้อค่ำสำหรับเลี้ยงตอนรับรัญญรีและหม่องประกอบไปด้วยอาหารใต้หลายอย่าง ทุกอย่างเป็นฝีมือของขมิ้นและสาลี่ ทั้งสองคนขอแสดงฝีมือแทนนับตังค์ที่ป่วยอยู่ เมนูแรกก็คือหมึกไข่ต้มหวาน ปลาหมึกไข่ขนาดกำลังดีที่ปรุงรสให้ออกเค็มหวาน ต้มมาทั้งตัว เวลากินแล้วหนึบหนับด้วยไข่ปลาหมึกเต็มคำ ต่อไปก็คือปลากระบอกทอดขมิ้น รสชาติการหมัพันกปลากลมกล่อม กินแกล้มกับกระเทียมสับที่คลุกเคล้ากับขมิ้นสดและปรุงรสอย่างพอดี ทอดจนกรอบเป็นสีทอง ตัวปลาก็ทอดได้กรอบนอกนุ่มใน เนื้อปลายังคงความหวานฉ่ำจากความสดของปลา หมูโคหรือสามชั้นคั่วเกลือก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ที่ทำเผื่อเด็กน้อยอย่างด้วง ขมิ้นได้เคล็ดจากนายปู่ที่ทอดคั่วหมูสามชั้นได้พอดี ไม่แห้งจนแข็งเกินไป เมื่อกัดชิมคำแรกสัมผัสได้ถึงความกรอบและเมื่อเคี้ยวต่อไปความนุ่มของมันหมูที่แทรกอยู่ยิ่งเพิ่มรสสัมผัสให้กับเมนูนี้ นอกจากนั้นยังมีวายคั่ว เมนูนี้คือการนำกะทิต้มใส่หอมแดง ตะไคร้ มะขามและวาย ทีแรกรัญญรีก็ไม่เข้าใจว่าวายคืออะไร ขมิ้นต้องอธิบายให้ฟังว่าวายก็คือหมึกสาย ซึ่งเพื่อนของขมิ้นตกด้วยมือ ไม่ใช้อวนลาก ตัวหมึกจะมีความนุ่มเด้งมากกว่าใช้อวน แต่หม่องบอกรัญญรีว่าวายคั่วก็คือปลาหมึกตัวผู้ที่ผสมพันธ์ุกับปลาหมึกตัวผู้ ปลาหมึกตัวผู้มันคั่วกันเอง เล่นเอารัญญรีค้อนหม่องจนตาแทบหลุดที่หม่องเล่นมุกทะลึ่งต่อหน้าหนูด้วง แต่มุกของหม่องก็ทำเอาทุกคนขำตามไปด้วย


“อร่อยมากเลย อิ่มจนเดินแทบไม่ไหวแล้ว” รัญญรีเอ่ยชมเพราะกินข้าวมากกว่าปกติจนแน่นท้องไปหมด

“ยังมีเค้กมะพร้าวอ่อนด้วยนะครับคุณรัน อิ่มแบบนี้จะทานไหวไหมครับ” ใบเมี่ยงเป็นคนอาสาทำขนมหวานเอง เห็นว่ามีมะพร้าวเผาอยู่ ซึ่งเนื้อมะพร้าวอ่อนกำลังดี น้ำมะพร้าวก็หอมมาก

“ท้องของรันมีที่ว่างสำหรับของหวานเสมอค่ะ” รัญญรียิ้มหวานส่งไปให้ใบเมี่ยงและเลยไปถึงพายพัดที่นั่งข้างๆ ใบเมี่ยงด้วย

“เดี๋ยว แต่มีที่ว่างสำหรับหนุ่มหล่อๆ มากกว่า” หม่องรีบเสริม

“ไอ้หม่อง กินไป ปากว่างแล้วพูดเยอะนะ” รัญญรีหันไปดุเพื่อนสนิท

“ฝีมือพี่บ่าวนี่สุดยอดเหมือนกันนะ ตังก็อิ่มจนเดินไม่ไหวเหมือนกัน” นับตังค์เพิ่งได้กินอาหารใต้ที่มีรสชาติจัดจ้านเป็นครั้งแรก อร่อยจนอดที่จะชมออกไปไม่ได้เช่นกัน

“เดี๋ยว แกเดินไม่ไหวก็ให้แฟนอุ้มไง แบบส่งตัวเข้าหอ” หม่องไม่วายหันมาแซวนับตังค์บ้าง

“ไอ้หม่อง ฉันจะฟ้องน้องแหม่มว่าเมื่อวานนี้แกไปจีบสาวฝรั่ง” นับตังค์ชี้หน้าของหม่อง

“เฮ้ย  ไม่แซวแล้วก็ได้ ล้อเล่นนิดเดียวเอง แกจะเอาฉันถึงตายเชียวนะเว้ย” หม่องรีบยกมือห้าม

“ฮ่าๆ มันกลัวแฟนด่าจนลืมคำว่าเดี๋ยวเลยว่ะตัง” รัญญรีหัวเราะที่หม่องลืมพูดคำติดปาก

“ใครๆ ก็กลัวแฟนทั้งนั้นแหละครับ แฟนคือของสูง” พายพัดออกความเห็นก่อนจะหันไปยิ้มให้ใบเมี่ยง

“เห็นไหม มันเรื่องธรรมชาติ” หม่องรีบยกมือขึ้นมาไฮไฟว์กับพายพัด

“บอสล่ะ กลัวป๊ะ” นับตังค์หันมาถามมีคุณพร้อมกับยักคิ้วให้

“ไม่กลัวแฟน แต่กลัวภรรยา อยากให้กลัวก็ต้อง...” มีคุณตอบหน้าตาย ทุกคนเป่าปากวี๊ดวิ้วหัวเราะชอบใจกันใหญ่

“ฟิ้ว ฟิ้ว” ด้วงพยายามจะเป่าปากเลียนแบบบ้าง แต่ทำไม่ได้ ได้แต่ทำปากจู๋เป่าลมออกมาจนน้ำลายยืด

“พรุ่งนี้ตังจะทำข้าวแช่” นับตังค์เปลี่ยนเรื่องแทบจะทันทีที่รู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายเสียทีให้กับมีคุณ

“ข้าวแช่ชาววังรึเปล่าว่ะตัง ฉันกำลังอยากเลย” หม่องถาม เป็นที่รู้กันว่าบรรพบุรุษของนับตังค์เป็นข้าเก่าในวัง มีชื่อเรื่องอาหารตำรับไทย หม่องก็อยากจะกินสูตรชาววังแท้ๆ กับเขาบ้าง

“แกอยากกินแบบชาววัง ฉันก็จะทำให้” นับตังค์อมยิ้ม

“พี่ว่าพี่ต้องอ้วนขึ้นแน่เลยค่ะ ได้กินแต่ของอร่อย” สาลี่รู้สึกโชคดีที่ได้กินอาหารจากเชฟที่มีฝีมือดีอย่างนับตังค์บ่อยๆ

“ตังตั้งใจว่าจะทำไปให้คุณขจีด้วย ท่านก็เหมือนญาติผู้ใหญ่อีกคนของบอสนะ วันปีใหม่ไทยแบบนี้ไปไหว้ขอพรท่าน แกด้วยนะไอ้รัน ท่านเป็นป้าของแกด้วยนี่”

“ดีเหมือนกัน” มีคุณรู้สึกประทับใจนับตังค์ เห็นเป็นคนกวนๆ แต่ยังมีจิตใจนึกถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ตัวเองเสียอีกที่ไม่ได้คิดในข้อนี้ไป คุณขจีสนิทสนมกับคุณปู่ ช่วยดูแลร้านให้ช่วงที่คุณปู่เสีย ซ้ำยังดูแลด้วงให้อีก เขายังไม่ได้เข้าไปขอบคุณเลย

“ขอบใจนะที่นึกถึงป้าของฉัน ดีเหมือนกัน แต่พรุ่งนี้ไหว้ขอพรป้าเสร็จฉันก็ต้องกลับเลยนะ แต่ยังไงจะมาเที่ยวอีกแน่ๆ” รัญญรีนึกเสียดายที่ต้องกลับเพราะมีนัดสำคัญเรื่องธุรกิจ

“ผมก็ต้องเข้าเมืองพอดี เดี๋ยวไปเรือของผม ถึงตัวเมืองแล้วผมจะไปส่งให้ที่สนามบิน” มีคุณมีของอีกหลายอย่างที่ต้องการไปซื้อ เลยอาสาที่จะไปส่งรัญญรีและหม่องให้

“ดีเลยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะคุณคุณ” รัญญรีกล่าวขอบคุณ

“พรุ่งนี้พี่จะซื้อของสดมาให้แต่เช้านิ” ขมิ้นอาสา

“ไม่เป็นไร ตังอยากไปเลือกเอง พี่บ่าวมารับตังตอนตีห้าก็แล้วกัน” นับตังค์นัดเวลากับขมิ้น

“ไหวเหรอ เดี๋ยวไข้จะกลับอีกนะ” มีคุณนึกห่วง

“เดี๋ยว สรุปที่ไม่สบายเพราะอากาศหรือเพราะว่า....” หม่องทำหน้าครุ่นคิด

“เพราะว่าอะไร” นับตังค์ทำหน้าสงสัยเมื่อหม่องพูดค้างเอาไว้

“แกยืนขึ้นดิ๊” หม่องสั่ง นับตังค์ก็ยืนขึ้นแบบงงๆ

“ทำไม” นับตังค์ถามเมื่อลุกยืนแล้ว

“นั่งลง” หม่องยังคงสั่งอยู่ ทุกคนในโต๊ะก็มองกันไปมาอย่างไม่เข้าใจ

“ทำไมวะไอ้หม่อง” นับตังค์เริ่มจะสงสัยว่าหม่องต้องการอะไร มาสั่งให้นับตังค์ยืนๆ นั่งๆ

“เจ็บก้นไหม” หม่องกระซิบที่หูของนับตังค์เบาๆ ให้ได้ยินกันสองคน

“ไอ้เวรหม่อง” นับตังค์ได้ยินแล้วฟาดที่หลังของหม่องเต็มแรง หม่องหัวเราะลั่นที่ทำให้นับตังค์อายได้

“ฮึก ฮึก” ทุกคนเงียบเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นของด้วง ด้วงได้ยินเสียงนับตังค์ตีหม่องแล้วก็เริ่มร้องไห้

“โอ๋ ไม่มีอะไรนะครับด้วง ดูสิ พี่เขาล้อเล่นกัน พี่หม่องยังหัวเราะเลย” ใบเมี่ยงรีบอุ้มด้วงมากอดปลอบ

“เจ็บ จัว ไม่ตี หนูจัว” ด้วงสะอึกสะอื้นจนนับตังค์หน้าเสีย

“ผมว่ามันไม่ปกติแล้วนะ ด้วงกลัวเสียงดังๆ กลัวเวลามีการใช้ความรุนแรง กลัวความมืดด้วยนะ วันนั้นที่ตังตื่นไปวิ่ง ด้วงตื่นมาแล้วในห้องมันมืด ด้วงร้องไห้บอกกลัวๆ จนรู้ว่ามีพี่นอนอยู่ถึงได้ยอมเงียบ” มีคุณเห็นอาการของด้วงแล้วเริ่มคิดว่ามีอะไรที่ผิดปกติ

“ตอนที่ด้วงอยู่กับคุณปู่เป็นแบบนี้ไหมพี่บ่าว พี่สาลี่” นับตังค์ถามขมิ้นและสาลี่

“พี่ก็ไม่ค่อยได้สังเกต เพราะเวลาอยู่กับนายปู่ ท่านไม่เคยใช้ความรุนแรงหรือเสียงดังกับหนูด้วงค่ะ แต่เวลาที่เราคุยกันเสียงดังหนูด้วงก็ไม่เคยมีทีท่าหวาดกลัวขนาดนี้นะคะน้องตัง” สาลี่แสดงความคิดเห็น

“แสดงว่าอาจจะเกิดหลังจากที่ไปอยู่กับคุณขจี ซึ่งคุณขจีท่านคงให้ดาวเรืองคอยดูแล” พายพัดแสดงความาคิดเห็นบ้างก่อนจะลูบผมด้วงเบาๆ แต่ก็ไม่ลืมที่จะลูบผมของใบเมี่ยงด้วย

“จะหามัม” ด้วงหยุดร้องไห้แล้วใบเมี่ยงจึงปล่อยด้วงลง ด้วงเดินมาหานับตังค์แล้วชูมือให้อุ้ม

“สองวันมานี่ ฉันได้เจอดาวเรืองช่วงที่พักที่บ้านของคุณป้า ต่อหน้าคุณป้าดูไม่มีพิษภัยอะไรเลยนะ ดูเรียบร้อยเอางานเอาการมาก” รัญญรีเล่าให้ทุกคนฟัง

“สร้างภาพมากกว่า ฉันเจอฤทธิ์เดชมาแล้ว” นับตังค์อุ้มด้วงขึ้นมาก่อนจะส่ายหน้าเมื่อนึกถึงดาวเรือง

“ดาวเรืองเคยเป็นพนักงานที่โรงแรมของนายหัวพยนต์มาก่อน เป็นคนรับใช้ใกล้ชิดคุณใหญ่ สาลี่หมายถึงคุณพยงค์ลูกคนโตของนายหัวค่ะ แต่โดนนายหัวไล่ออกเพราะยุยงให้คุณใหญ่ได้เสียกับคนงาน คุณขจีสงสารเลยรับไว้ทำงาน ตอนเจอที่โรงแรมก็ดูเป็นคนเรียบร้อยนะคะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะร้ายกับเด็กตัวแค่นี้ได้” สาลี่เล่าปูมหลังของดาวเรือง

“พรุ่งนี้ลองดูท่าทีของด้วงอีกทีเวลาเจอกับดาวเรือง” มีคุณฟังทุกคนพูดถึงดาวเรืองแล้วได้แต่เก็บข้อมูลเอาไว้ แต่ถ้ารู้ว่าดาวเรืองเคยรังแกด้วงจริงๆ มีคุณจะไม่ยอมปล่อยเฉยแน่


คุยกันได้อีกพักใหญ่ รัญญรีกับหม่องก็ขอตัวกลับเพราะว่าตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาจนเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ทั้งคู่อยากให้นับตังค์ได้พักเพราะกลัวไข้จะกลับมาอีก ด้วงก็ดูจะง่วงเพราะหาวให้เห็นหลายที เมื่อขมิ้นกับสาลี่ขออาสาเป็นคนเก็บล้างทำความสะอาดให้เอง พายพัดกับใบเมี่ยงเลยขอเป็นคนเดินไปส่งรัญญรีกับหม่องถึงรีสอร์ทของคุณขจี ถึงระยะทางจะไม่ไกลจากกัน แต่มันก็ดึกมากแล้ว นับตังค์กับมีคุณจึงเป็นคนพาด้วงขึ้นไปนอน


“ไม่ต้องอาบน้ำหรอก เช็ดตัวก็พอ” มีคุณบอกกับนับตังค์หลังจากที่นับตังค์พาด้วงไปล้างหน้าล้างตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้ว

“อาบไม่ได้เหรอ ไม่ได้อาบมาทั้งวัน เดี๋ยวเหม็น” นับตังค์หน้ามุ่ย

“ไหนมาดมก่อน” มีคุณยื่นหน้าเขาไปใกล้ๆ ด้วงรีบลุกมาแล้วพยายามดึงมือของนับตังค์ให้ไปนอนด้วยกัน

“ฟังหยูกหมูฉามตัว มีหมาป่าเป่าบ้านปู้ดๆ หนูจาเป่าบ้าน มัมมัมเย้าให้ฟังหน่อย” ด้วงเจื้อยแจ้วไม่ยอมหยุด

“พี่อาบน้ำก่อนได้ไหม” นับตังค์ถามด้วง ด้วงชะโงกไปมองมีคุณ

“ไม่ได้ แค่เช็ดตัวก็พอ มันดึกแล้ว ตัวยังอุ่นๆ อยู่เลย” มีคุณยังไม่ยอมให้นับตังค์อาบน้ำ

“ไม่อาบ มันดึกแย้ว” ด้วงส่ายหน้าให้กับนับตังค์

“ทำไมเข้าข้างกันแล้วล่ะ” นับตังค์จิ้มไปที่หน้าผากของด้วงเบาๆ

“เดี๋ยวหนูนอนนี้ มัมมัมนอนนี้ มัมมัมมาเย่าหยูกหมูให้หนู ไม่ต้องอาบแย้ว” ด้วงเดินมาชี้ที่นอน จัดตำแหน่งให้เสร็จสรรพ

“แล้วแด๊ดนอนไหนล่ะด้วง” มีคุณถาม

“แด๊ดนอนตุงนู้นเยย” ด้วงชี้ไปที่โซฟา

“ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้า” นับตังค์หัวเราะชอบใจ

“เอาแบบนี้ ด้วงกับมัมเป็นหมู ให้แด๊ดเป็นหมาป่า ดีไหม” มีคุณล่อหลอกเพื่อที่จะได้นอนบนเตียงด้วย

“เอาๆ จัวแด๊ด แด๊ดจะจินหยูกหมู” ด้วงพยักหน้าก่อนจะซอยเท้ายิกๆ ทำเป็นหนีมีคุณ ก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วเอาผ้าห่มมาคลุมบังตัวเองเอาไว้

“อย่าทำให้ด้วงตกใจนะ” นับตับค์กระซิบบอกเพราะกลัวด้วงจะร้องไห้อีก

“แด๊ดไม่กินลูกหมูตัวเล็กหรอก แด๊ดจะรอกินลูกหมูตัวใหญ่” มีคุณยิ้มเจ้าเล่ห์

“เคยเห็นหมาป่าฟันหักไหม” นับตังค์ถาม

“ทำไม ลูกหมูตัวใหญ่หนังเหนียวขนาดนั้นเลยเหรอ” มีคุณแกล้งตกใจ

“ทั้งเหนียวทั้งเค็มเลยเหอะ กัดคำหนึ่งก็แสนหนึ่ง” นับตังค์ลอยหน้าลอยตาใส่

“แพงจัง งั้นคงต้องเลือกที่กัด กัดตรงไหนดีนะ เอาแบบคำเดียวอิ่ม” มีคุณเอานิ้วมาเกาคางแล้วมองนับตังค์ตั้งแต่หัวไปหยุดตรงเป้าหมายสำคัญ นับตังค์รีบลดมือไปกุมเป้าของตัวเองก่อนจะหันหลังให้มีคุณ หันไปเจอด้วงกำลังลดผ้าห่มลงมาจนเห็นดวงตาเป็นประกายใสซื่อบริสุทธิ์

“มัมมาหยบตุงนี้ หมาป่าจาจัดมัม จะจินมัม” ด้วงเรียกนับตังค์ให้มาหลบด้วยกัน นับตังค์เลยกระโดดขึ้นเตียงแล้วสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มกับด้วง

“คิดจะหลบในบ้านเหรอ หมาป่าจะเป่าบ้านแล้วนะ” มีคุณขยับเข้าไปใกล้เตียงแล้วทำท่าคลานให้เหมือนหมาป่า

ด้วงเห็นมีคุณแล้วตื่นเต้นสนุกสนาน หัวเราะคิกคักก่อนจะหมุดหลบเข้าไปในผ้าห่ม มีคุณคลานมาจนถึงตัวของนับตังค์ได้ก็ก้มลงไปจูบนับตังค์ ด้วงก็ดิ้นดุ๊ดดิ๊กแอบอยู่ในผ้าห่มไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว จนมีคุณถอนจูบออกเป็นจังหวะเดียวกับที่ด้วงโผล่ออกมาจากผ้าห่มพอดี

“หมาป่าเป่าปู้ดๆ” ด้วงหน้ามุ่ยทำท่าเป่าปากให้ดู เพราะไม่เห็นว่าหมาป่าจะเป่าให้บ้านปลิวสักที

“นั่นดิ ไม่ได้เรื่อง” นับตังค์หน้าแดงแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมหน้าของตัวเอง

“โอเค เอาใหม่นะ หมาป่ามาแล้ว” มีคุณอมยิ้มก่อนจะถอยไปตั้งหลักที่ขอบเตียงใหม่ เมื่อทำท่าคลานมาด้วงก็หัวเราะแล้วหลบไปในผ้าห่มอีกรอบ จนมีคุณทำเสียงเป่าให้ได้ยิน ด้วงถึงหัวเราะเสียงดัง

“เรามาจัดการหมาป่ากัน” นับตังค์บอกกับด้วงก่อนจะดึงผ้าห่มออกแล้วดันมีคุณให้ล้มก่อนจะคร่อมทับตัวของมีคุณ ด้วงลุกขึ้นมานั่งคร่อมตรงอกของมีคุณบ้าง

“ฉู้กับหมาป่า” ด้วงหัวเราะชอบใจ แต่ด้วงไม่ได้ทำอะไรมีคุณเลย หากเป็นเด็กคนอื่นคงตีหมาป่าด้วยความสนุกตามประสาเด็ก ด้วงแค่พูดแล้วทำท่าต่อยลมแค่นั้น นับตังค์เห็นแล้วอดเอ็นดูด้วงไม่ได้จึงหอมแก้มด้วงแล้วกระซิบที่หู ด้วงได้ยินแล้วก็ก้มลงไปหอมมีคุณ เพราะนับตังค์บอกว่าถ้าหอมหมาป่า หมาป่าจะตายไปเอง แต่ด้วงหอมทั้งซ้ายทั้งขวา แต่หมาป่าแด๊ดดี้ก็ไม่ยอมตายสักที

“มัมฆ่าหมาป่าเยย” ด้วงลุกออกจากตัวของมีคุณแล้วดึงแขนเสื้อของนับตังค์ให้ขยับขึ้นมา คราวนี้มีคุณรีบป่องแก้มรอ

“ด้วงฆ่าสิ มัมไม่ฆ่าหรอก” นับตังค์รีบโวยวายเบาๆ ไม่กล้าเสียงดังกลัวด้วงตกใจ

“ไม่เอา มัมทำ มัมทำ” ด้วงกระโดดซอยเท้าเร่งเร้าให้นับตังค์ทำเพราะกลัวหมาป่าจะมาเป่าบ้านอีก สุดท้ายนับตังค์จำต้องก้มลงไปหอมแก้มมีคุณ แต่มีคุณก็ยังไม่ยอมแกล้งตายสักที ด้วงจึงลงไปนั่งข้างๆ แล้วช่วยหอมแก้มมีคุณจนน้ำลายเต็มแก้มของมีคุณไปหมด

“ฮ่าๆ” นับตังค์หัวเราะเยาะมีคุณ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อมีคุณรั้งคอนับตังค์ให้โน้มลงมาแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมก่อนจะจูบนับตังค์เพราะทนความน่ารักของนับตังค์ไม่ได้

“หมาป่าจินมัมแย้ว มัมตายแย้ว หนีๆ หนูหนีจ่อน” ด้วงเห็นนับตังค์หายเข้าไปในผ้าห่มกับหมาป่าก็ร้องโวยวายตามประสาเด็ก ก่อนจะหนีไปนอนซบที่หมอน แอบตะแคงหน้ามาดูก็ยังไม่เห็นนับตังค์ออกมาจากผ้าห่ม จนพักใหญ่ที่ผ้าห่มถูกเปิดออก นับตังค์ทิ้งตัวลงมานอนข้างด้วง หน้าแดงไปหมดจนด้วงกลิ้งมานอนกอดแขนของนับตังค์เอาไว้

“มัมมัมเยือดออกหน้าเยย ยิงหมาป่าโป้งเยย” ด้วงลูบแก้มนับตังค์ก่อนจะยกนิ้วทำเป็นปืนยิงไปที่มีคุณ มีคุณเลยต้องแกล้งตายบ้าง

“นอนกันเนอะ” นับตังค์พลิกตัวมากอดด้วงแล้วลูบผมเบาๆ ด้วงจึงยอมนอนนิ่งๆ

มีคุณเห็นว่าด้วงกับนับตังค์เงียบไปแล้วเลยพลิกตัวมาแล้วสวมกอดนับตังค์จากทางด้านหลังบ้าง หอมไปที่ผมของนับตังค์เบาๆ ก่อนจะหลับตาลง ปกติเขาไม่เคยนอนโดยที่ยังไม่ได้อาบน้ำ อย่างที่บอกไปว่าเขาเป็นคนรักสะอาด แต่ทำไมวันนี้เขากลับรู้สึกสดชื่นสบายตัว ทุกอย่างรอบตัวดูจะหอมหวานไปหมด ได้กลิ่นแป้งเด็กของด้วง ผสมกับกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวนับตังค์ มันทำให้มีคุณไม่อยากลุกไปไหนแล้ว

การได้ใกล้ชิดกับนับตังค์มันทำให้มีคุณมีคำถามให้กับตัวเอง การที่เขาได้กอด ได้จูบ ได้ใกล้ชิด มันทำให้ร่างกายของเขาเกิดความต้องการตามกลไลของความเป็นมนุษย์ แต่ความต้องการนี้มันไม่ได้ก่อเกิดจากความหื่นกระหายหรือความดิบของตัณหา ต้องการมากแต่ไม่ทุรนทุราย มันดูย้อนแย้งในตัวเอง มีคุณไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกนี้ออกมาได้อย่างไร และควรใช้ถ้อยคำไหนถึงจะเหมาะสมกับอาการแบบนี้ เคยวิจารณ์อาหารมาตั้งมากมาย แต่พอมาถึงความรู้สึกที่มีต่อผู้ชายที่ชื่อนับตังค์คนนี้ มีคุณกลับไปไม่เป็น เมื่อไม่มีเหตุผลที่ดีมารองรับความรู้สึกที่เกิดขึ้น มีคุณจึงเดาว่า แบบนี้รึเปล่าที่เรียกความรัก

...เพราะเคยได้ยินมาว่า รักทำให้เราทำอะไรได้อย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นได้ เราโง่ได้แม้จะเป็นคนฉลาด เราฉลาดได้แม้จะเคยโง่มาก่อน เราร้องไห้และหัวเราะได้กับเรื่องไร้สาระในสายตาของคนอื่น เราลบเงื่อนไขที่เคยมีอย่างง่ายดาย เราเป็นอะไรได้ทุกอย่างโดยปราศจากทุกเหตุผลบนโลกใบนี้เมื่อเราอยู่ในห้วงแห่งความรัก...

“ฝันดีนะ...ที่รัก” มีคุณพูดเบาๆ ไม่รู้ว่านับตังค์ได้ยินรึเปล่า

ส่วนนับตังค์ที่นอนหันหลังให้มีคุณอยู่ก็ได้แต่ยิ้มออกมา แต่ก่อนเคยคิดว่าถ้าตัวเองโดนเรียกว่าที่รักคงจะเลี่ยนพิลึก แต่เมื่อถึงเวลาจริง การได้ยินคำนี้มาจากปากคนที่ตัวเองชอบ มันกลับทำให้ใจเต้นรัว รู้สึกมีความสุขจนอยากจะหันกลับไปกอดคนพูดแน่นๆ แต่เพราะเด็กน้อยที่นอนซบแขนของนับตังค์อยู่ทำให้นับตังค์ไม่กล้าขยับตัว จึงได้แต่ยิ้มและหลับตาลง คิดในใจว่า

‘เดี๋ยวตังจะกอดบอสในฝันไปก่อนแล้วกัน ก็สะดวกแบบนี้ให้ทำยังไงได้เนอะ’


...


เสียงนาฬิกาปลุกยังไม่ทันจะดังแต่นับตังค์ต้องตื่นขึ้นมาก่อน เพราะว่าโดนก่อกวนจากเจ้าตัวน้อยที่ตื่นขึ้นมาแล้วขึ้นมานอนบนตัวของนับตังค์ ด้วงคงตื่นขึ้นมาแล้วกลัวความมืด นับตังค์จับด้วงให้ลงไปนั่งข้างๆ ลุกขึ้นมาแล้วหยิบนาฬิกาขึ้นมาดู เห็นว่าเกือบจะตีห้าแล้ว มีคุณยังหลับสนิทอยู่ ด้วงก็ตื่นแล้ว นับตังค์เลยตัดสินใจพาด้วงไปล้างหน้าล้างตาล้างก้นแล้วพาลงไปข้างล่าง นับตังค์พาด้วงไปในสวน แล้วให้ด้วงยืนรออยู่ที่ศาลานั่งเล่นเพราะกลัวว่าจะโดนน้ำค้าง ส่วนตัวเองเด็ดดอกไม้ที่ต้องการได้จนครบแล้วจึงพาด้วงกลับเข้าไปในครัว


ถึงเวลาตีห้าขมิ้นก็ขับรถมาจอดรออยู่ที่หน้าบ้านตรงเวลา นับตังค์อุ้มด้วงเข้ามาในรถก่อนจะส่งขวดนมให้ด้วงกิน ขมิ้นทักทายด้วงก่อนจะขับรถพาทั้งคู่ไปที่ตลาดสด เมื่อมาถึงตลาด นับตังค์ให้ด้วงเลิกดูดขวดนมแล้วให้ลงเดินเอง โดยตนเองจูงมือเอาไว้ตลอด ด้วงตื่นตาตื่นใจเมื่อได้เห็นปลาที่ดิ้นอยู่ในกะละมัง ปลาตัวหนึ่งดีดตัวอย่างแรงจนน้ำกระเด็นขึ้นมา ด้วงตกใจจึงเดินถอยหลังไปอย่างเร็วจนกระทั่งไปชนกับคนที่เดินอยู่ด้านหลัง


“ขอโทษครับ” นับตังค์หันไปขอโทษคนที่ด้วงเดินชน พบว่าเป็นชายสูงวัย รูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางดูน่าเกรงขาม

“ทำไมไม่รู้จักจูงเด็กให้ดี นายเจ็บไหมครับ” ผู้ชายที่เดินตามชายสูงวัยมาเข้ามาดุด้วงกับนับตังค์ ก่อนจะหันไปพินอบพิเทาเจ้านายของตัวเอง

“จัว หนูจัว” ด้วงหันมากอดขาของนับตังค์แล้วเริ่มเบะปากเมื่อโดนดุเสียงดัง

“เด็กตัวนิดเดียวจะไปเจ็บอะไร แกก็เวอร์ไม่เข้าเรื่องนะไอ้เท่ง” คนเป็นนายหันมาต่อว่าลูกน้อง

“ผมขอโทษด้วยครับ ด้วงครับ ขอโทษคุณลุงก่อน” นับตังค์ยกมือไหว้ชายสูงวัยเมื่อเห็นว่าดูมีความเข้าใจในสถานการณ์มากกว่าคนที่เป็นลูกน้อง ด้วงลังเลยังไม่กล้าหันไปมอง จนนับตังค์จับด้วงให้หันไป ด้วงเง้ยขึ้นมองหน้าคนตรงหน้าก่อนจะยกมือไหว้แล้วรีบหันกลับมากอดนับตังค์ใหม่

“ไม่เป็นไร ชื่อด้วงเหรอ ไหนขอลุงอุ้มหน่อย เดี๋ยวลุงให้ขนม” ชายสูงวัย ซึ่งก็คือพยนต์ พูดกับด้วงด้วยความเอ็นดู

“ด้วงครับ ผู้ใหญ่คุยด้วยหันมาก่อน” นับตังค์ย่อตัวลงแล้วพูดกับด้วง ด้วงก้มหน้าก้มตาก่อนจะยอมหันกลับไปมอง

“ไม่เอาไม่อุ้ม” ด้วงส่ายหน้า

“อยากกินขนมไหม ลุงมีขนมครกอร่อยมากเลยนะ” พยนต์ชวนด้วงคุย ด้วงมองหน้านับตังค์ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้พยนต์ พยนต์จึงสั่งเท่งให้ไปเอาขนมครกเจ้าดังของตลาดมาให้ด้วง สักพักเท่งก็วิ่งกลับมาพร้อมถุงขนมครกร้อนๆ

“ขอบคุณครับก่อน” นับตังค์บอกด้วง ด้วงยกมือไหว้อย่างว่าง่าย

“นายหัวพยนต์” ขมิ้นเดินมาสมทบนับตังค์หลังจากที่เอารถไปจอดเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นนับตังค์คุยอยู่กับนายหัวพยนต์ก็ตกใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อมาถึงขมิ้นก็ยกมือไหว้ด้วยมารยาท ทั้งๆ ที่ขมิ้นไม่ชอบนายหัวพยนต์อย่างแรง

“มาด้วยกันเหรอ” นายหัวพยนต์เห็นขมิ้นก็เปลี่ยนสีหน้าท่าทาง น้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนเมื่อครู่เข้มขึ้นจนนับตังค์รับรู้ได้

“ที่แท้ก็ไอ้ขมิ้นข้าทาสไอ้อนันต์นี่เอง” เท่งเปิดฉากทันทีที่เห็นขมิ้น

“มึงนิ...” ขมิ้นจะเดินเข้าหาเท่งแต่นับตังค์คว้าข้อมือเอาไว้

“ผมขอตัวไปซื้อของก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับขนม” นับตังค์ยกมือไหว้พยนต์ ด้วงยกมือไหว้ตาม พยนต์เห็นแล้วแค่พยักหน้าให้ก่อนจะหันหลังเดินออกไปด้วยท่าทีหมางเมินต่างจากตอนแรกเจอ

“กูไปก่อนนะไอ้ทาส” เท่งพูดกับขมิ้นก่อนจะหัวเราะเสียงดัง

“ไม่น่าห้ามพี่เลยนิตังนิ” ขมิ้นเจ็บใจ

“ตังไม่อยากให้ด้วงเห็นความรุนแรง” นับตังค์บอกเหตุผล

“เออ พี่ลืมไป โทษทีนิ” ขมิ้นถอนหายใจออกมาเพื่อระบายความโกรธ

“ไปซื้อของต่อดีกว่า อย่าไปใส่ใจพวกปากหมาเลย” นับตังค์อุ้มด้วงส่งให้ขมิ้น เพราะตัวเองต้องเลือกของ แต่เดินเลือกได้ไม่เท่าไหร่ก็มีคนเดินมากระชากไหล่ของนับตังค์อย่างแรง

“เมื่อกี้มึงว่าใครปากหมา” เท่งท่าทางเอาเรื่องนับตังค์ พูดเสียงดังจนด้วงสะดุ้ง แม่ค้าขายปลาโทรไปบอกเท่งว่านับตังค์ด่าเท่งว่าปากหมา เท่งถึงได้ย้อนกลับมาจัดการคนที่ด่าตนลับหลัง

“พี่พาด้วงไปที่รถก่อน เอาของไปเก็บด้วย” นับตังค์บอกกับขมิ้น

“หม่าย ตังแหละพาด้วงไป ทางนี้พี่จะจัดการเองนิ” ขมิ้นรู้สึกอยากจะลองหมัดกับไอ้เท่งจะแย่แล้ว

“พี่บ่าว ทำอย่างที่ตังบอกนะ” นับตังค์พูดกับขมิ้นด้วยท่าทางจริงจัง ขมิ้นลังเลเพราะกลัวนับตังค์จะถูกทำร้าย แต่สุดท้ายก็จำต้องอุ้มด้วงออกไปด้วยความขัดใจ

“กลัวแพ้แล้วอายเด็กรึไงว่ะไอ้หน้าอ่อน” เท่งเยาะเย้ยนับตังค์

“จะเอาตรงนี้หรือตรงไหน บอกมาเลย ถ้าตรงนี้ข้าวของพัง มึงบอกเจ้านายมึงเองนะว่ามึงหาเรื่องเอง” นับตังค์ถาม เขาไม่จำเป็นต้องสุภาพกับคนถ่อย ถ่อยมาก็ถ่อยกลับไม่มีโกง

“ฮ่าๆ โธ่เอ้ย หน้าอ่อนอย่างมึง ของยังไม่ทันพังหรอก หมัดเดียวมึงก็จอดแล้ว” เท่งหัวเราะเยาะ



(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 09-05-2017 12:40:26
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


“ฮ่าๆ โธ่เอ้ย หน้าอ่อนอย่างมึง ของยังไม่ทันพังหรอก หมัดเดียวมึงก็จอดแล้ว” เท่งหัวเราะเยาะ


อั๊ก...พลั๊ก อุก...ฟุบ...


ชั่วนาทีหลังจากเท่งหัวเราะเยาะนับตังค์ ตอนนี้เท่งลงไปนอนกองกับพื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนับตังค์จะได้วิชาอาหารมาจากคุณย่าแล้ว นับตังค์ก็ยังได้วิชามวยไทยมาจากพ่อด้วย พ่อสอนนับตังค์กับพี่เหรียญมาตั้งแต่ยังเด็กแล้ว คิดแล้วนับตังค์ก็นึกสงสารเท่งที่นอนกุมคอดิ้นไปดิ้นมาด้วยความเจ็บปวดเพราะเจอนับตังค์ศอกใส่ลำคอไปแบบเบาๆ ถึงจะเบาแต่ก็ทำให้เท่งถึงกับเข่าอ่อนไร้เรี่ยวแรง ถ้านับตังค์ลงแรงศอกมากกว่านี้เท่งอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย


“เฮ้ย อ้ายเท่งนิ มึงทำเพื่อนกู” ผู้ชายสามสี่คนวิ่งกรูเข้ามาหานับตังค์หลังจากที่เห็นว่าเท่งถูกเล่นงานไปแล้ว

“หยุด!!” เสียงตวาดดังจนเพื่อนของเท่งต้องหยุดชะงักเพราะจำได้ว่าเป็นเสียงของใคร

“นายพญา” เพื่อนของเท่งครางชื่อคนที่เดินเข้ามา

“พวกมึงจำเอาไว้นะ ผู้ชายคนนี้มึงห้ามเตะ ถ้าพวกมึงทำให้ผมเส้นหนึ่งของน้องตังร่วง มึงตาย” เสียงกร้าวของพญาทำเอาเพื่อนของเท่งหน้าเสีย

“ครับนาย ผมไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนนาย ไปพวกเรา พาไอ้เท่งไปหาหมอก่อน” เพื่อนของเท่งยกมือไหว้พญาก่อนจะประคองเท่งให้ลุกขึ้นแล้วพาออกไป

“เออ จำให้ดี วันนี้เป็นแค่เพื่อน วันหน้าจะเป็นนายของพวกมึงนี่แหละ” พญาพูดแล้วหัวเราะด้วยความพอใจ ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้นับตังค์แต่ปรากฎว่านับตังค์เดินหนีไปแล้ว พญารีบจ้ำอ้าวตามนับตังค์ไปติดๆ

“พี่ขอโทษแทนเด็กๆ ของพ่อพี่ด้วยนะ มันไม่รู้ว่าน้องตังเป็นใคร แต่จะว่าไป น้องตังนี่เก่งจริงๆ อาหารก็เก่ง ต่อสู้ก็เป็น พี่ช๊อบชอบ” พญายกยอนับตังค์ออกนอกหน้าจนพ่อค้าแม่ค้าพากันมองด้วยความสนใจ

“มีแฟนแล้ว เข้าใจนะ” นับตังค์หยุดเดินแล้วพูดกับพญา พญาชะงักกึกก่อนจะถอนหายใจ

“พี่เข้าใจว่าน้องตังมีเมียมีลูกแล้ว แต่พี่ไม่ถือ” พญาทำหน้าเศร้า แต่นับตังค์กลั้นขำที่พญาคิดว่าด้วงคือลูกแท้ๆ ของนับตังค์ แล้วยังคิดว่านับตังค์มีเมียอีก

“รอเมียทิ้งก่อนแล้วค่อยว่ากัน อย่าตื้อมาก ไม่ชอบ เข้าใจนะ” นับตังค์เล่นไปตามน้ำ พูดกับพญาเสียงเข้ม วางมาดแมน พญาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ อีกครั้ง

“พี่จะรอนะจ๊ะน้องตัง เป็นผัวแล้วมันเพลีย มาเป็นเมียพี่นะจ๊ะ” พญากระซิบนับตังค์เบาๆ


นับตังค์กลั้นขำแทบไม่อยู่แต่ก็เก็กหน้าแล้วเดินเลือกซื้อของต่อ พญาไม่ได้เดินตามไปเพราะยังไม่อยากให้นับตังค์รำคาญ แต่ในใจก็คิดแผนการที่จะทำให้เมียของนับตังค์ทิ้งนับตังค์ให้ได้ ทีแรกก็คิดว่านับตังค์จะเป็นแฟนของไอ้มีคุณ หลานของนายอนันต์คู่ปรับของพ่อ เห็นทำตัวติดกันตลอด แต่เขาเพิ่งได้รู้มาว่าแฟนของมีคุณคือเพื่อนของพเยียน้องสาวของเขาเอง พญาเลยเบาใจ เบาใจได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องมาเครียด เพราะนับตังค์ดันมามีลูกมีเมียแทน ซึ่งเมียของนับตังค์เป็นใครก็คงต้องไปถามเอากับสาลินีอีกที แต่ถึงยังไงพญาก็ไม่มีวันถอดใจ เขาตกหลุมรักนับตังค์เข้าอย่างจริงจัง ถ้าไม่ได้มาครองคงต้องเป็นบ้าตายแน่ๆ


เมื่อซื้อของได้ครบตามที่ต้องการ นับตังค์ก็เดินกลับมาที่รถ ขมิ้นมองนับตังค์อย่างสำรวจ เมื่อเห็นว่าร่างกายของนับตังค์ไม่มีบาดแผลใดๆ และไร้รอยขีดข่วนก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก นับตังค์ไม่ได้เล่าให้ฟัง หันไปเล่นหยอกล้อกับด้วงจนถึงบ้าน


“มันยอมเลิกราแต่โดยดีเหรอ พี่ล่ะไม่อยากจะเชื่อนิ” ขมิ้นถามย้ำเมื่อนับตังค์บอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ตังเป็นคนรักสงบ” นับตังค์เดินมาเปิดโหลแก้วที่เอาดอกไม้สี่ชนิดมาลอยน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไปตลาด เมื่อดมแล้วได้กลิ่นหอมก็พอใจ

“มัมๆ จินหนม” ด้วงชี้ไปที่ถุงขนมครก นับตังค์จึงอุ้มด้วงให้ขึ้นมานั่งบนเคาน์เตอร์แล้วส่งถุงขนมครกให้

“ร้อนนะ เป่าก่อน” นับตังค์บอกก่อนเป่าขนมให้ดูเป็นตัวอย่าง

“ฟู่ๆ” ด้วงก้มลงเป่าขนมครกในถุง

“ถ้าเจอมันอย่าไปใกล้มันอีกนะ พวกนี้มันอันธพาล ร้ายกาจเหมือนนายของมัน โดยเฉพาะไอ้พญา” ขมิ้นเตือนกลัวนับตังค์จะโดนรุมเล่นงาน

“อิตาพญายมนั่นอาจจะไม่ได้ร้ายอย่างข่าวลือหรอกมั๊ง ตังว่าฮาดีออก”

“อย่าไปหลงเสน่ห์มันนิ”

“โอ้ย ไม่หรอกพี่บ่าว ไม่ต้องห่วง มีแฟนแล้ว” ตังกระซิบบอกก่อนจะหัวเราะขำตัวเองที่กล้าพูดออกไป

“ดีๆ จะให้พี่ช่วยอะไรก็บอกนิ”

“ช่วยดูด้วงให้หน่อย เดี๋ยวตังทำเอง ไม่ยาก แต่ขั้นตอนเยอะแค่นั้นแหละ”

“เดี๋ยวพี่ดูด้วงให้เอง ขมิ้นจะได้ไปพักบ้าง เมื่อคืนกว่าจะได้กลับไปนอนก็ดึกแล้ว” มีคุณลงมาในครัวแล้วอาสาเป็นคนดูด้วงให้ ขมิ้นจึงขอตัวไปกวาดใบไม้ที่ร้าน เสร็จแล้วจะกลับไปอาบน้ำที่บ้านแล้วถึงจะกลับมาช่วยในครัวทีหลัง



นับตังค์เอาข้าวสารมาใส่หม้อแล้วนำไปต้มไฟอ่อน ต้มแค่พอใกล้สุกก็รินน้ำร้อนออกแล้วใส่น้ำเย็นเข้าไปแทนที่ เมื่อล้างน้ำเย็นจนข้าวคลายร้อนแล้วถึงได้กรองน้ำออก นับตังค์ขัดข้าวบนหลังกระชอนเบาๆ แค่พอให้ข้าวไม่เป็นขุย เมื่อข้าวขึ้นเป็นเม็ดสวยใสแล้วจึงนำไปห่อในผ้าขาวบางแล้วนำไปนึ่งในน้ำเดือดอีกครั้ง


จากนั้นนับตังค์ก็นำพริกหยวกมาคว้านไส้ออกแล้ววางเตรียมไว้ก่อนจะนำหมูสันนอกติดมันมาสับจนละเอียด ปรุงรสแล้วใส่เนื้อปูกับผักชีสับไปคลุกเคล้าเพิ่มความหอม เสร็จแล้วก็นำไปยัดไส้ในพริกหยวกที่เตรียมเอาไว้แล้วรอนึ่ง เสร็จจากพริกหยวกสอดไส้ นับตังค์ก็เริ่มมาทำหอมแดงยัดไส้ลูกกะปิ นับตังค์ใช้ปลาดุกย่างเลาะก้างออกจนหมด โขลกกับเครื่องสมุนไพรไทยจนละเอียด แล้วถึงได้นำไปผัดกับกะปิอย่างดี  ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเนื้อเหนียวข้นและส่งกลิ่นหอม ชิมแล้วได้รสเป็นที่น่าพอใจก็ตักใส่ชามแล้วรอให้เย็นลงเพื่อจะปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ


มีคุณยืนมองดูนับตังค์ค่อยๆ ปั้นลูกกะปิเป็นก้อนเล็กๆ ก่อนจะยัดเข้าไปในหอมแดงที่คว้านเอาเนื้อตรงกลางออกแล้วด้วยความชื่นชม เป็นภาพที่น่ามองเหมือนกันทุกครั้งเวลาที่ได้เห็นการใส่ใจในทุกขั้นตอนในการลงมือทำอาหารของนับตังค์ แม้แต่ไข่แดงเค็มก้อนกลมเล็กนั้น นับตังค์ก็ปั้นด้วยความพิถีพิถัน นับตังค์บอกกับมีคุณว่า พริกหยวกสอดไส้ที่นึ่งแล้วจะต้องห่อด้วยไข่ที่ทำเป็นตาข่ายอีกที ส่วนลูกกะปิผัดและไข่แดงเค็ม จะต้องชุบแป้งกับไข่แล้วทอดให้กรอบนอกนุ่มใน แต่นับตังค์คิดว่าค่อยนำไปทอดก่อนจะไปหาคุณขจี ทอดใหม่ๆ จะได้กรอบอร่อย


ขั้นตอนต่อไปก็คือการผัดไชโป๊หวานและเนื้อหวานฝอย นับตังค์ทำทั้งเนื้อหวานและหมูหวานฝอย เพราะไม่รู้ว่าคุณขจีทานเนื้อวัวหรือเปล่า มีคุณเพิ่งเห็นว่าสูตรของนับตังค์คือการเอาเนื้อและหมูที่ย่างจนสุก ฉีกจนเป็นฝอยไปอบควันเทียนก่อน แล้วถึงได้เอามาทอดกับน้ำตาลมะพร้าวจนเข้ากันดี มีคุณได้ชิมก็ต้องยกนิ้วให้ หมูและเนื้อฝอยมีรสหวานกลมกล่อมและหอมกลิ่นเทียนอบเล็กน้อยเวลาได้ลิ้มลอง มันเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ เขาคิดว่ากลิ่นเทียนอบมันจะเหมาะกับการทำขนมอย่างเดียวเสียอีก


“พี่นึกว่าจะอบเทียนกับข้าว เพิ่งเคยเห็นว่าเอามาอบกับเนื้อสัตว์” มีคุณพูดกับนับตังค์หลังจากได้ลองชิมเนื้อหวานฝอย

“น้ำลอยดอกไม้ตั้งสี่อย่างแล้ว มีทั้งกระดังงา มะลิ กุหลาบ แล้วก็ชมนาด ถ้านำไปอบเทียน มันก็จะดับกลิ่นหอมธรรมชาติของดอกไม้พวกนี้หมด อีกอย่าง บางคนก็ไม่ชอบกลิ่นเนื้อสัตว์ เราก็อบควันเทียนสักครู่เดียวก็พอ แล้วพี่รู้ไหม ดอกไม้ที่ลอยน้ำพวกนี้คุณปู่ของพี่ปลูกเอาไว้สวน มีครบเลย ท่านก็คงชอบทานข้าวแช่แน่เลย” นับตังค์ตั้งใจทำข้าวแช่ใส่บาตรให้คุณปู่ด้วย

“ใกล้เสร็จแล้วเหรอ” มีคุณถามหลังจากที่เห็นนับตังค์เอาข้าวที่นึ่งมาผึ่งให้เย็น

“เดี๋ยวตังผัดหมูกับน้ำพริกมะขามอีกอย่าง แล้วตังจะทอดเครื่องบางส่วน จะให้พี่เอาไปใส่บาตรให้คุณปู่ พี่บ่าวบอกว่าพระท่านจะผ่านที่หน้าร้านทุกเช้าเลย”

“ฉาธุพระ” ด้วงยกมือไหว้ให้ดูหลายรอบ ปากก็เปื้อนไปด้วยขนมครก

“เก่งมากด้วง” นับตังค์ชม

“ใส่บาตรด้วยกันนะ” มีคุณเดินไปโอบรอบเอวของนับตังค์ เกยคางไว้ที่ไหล่

“ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่เห็นถ่ายรูปกับข้าวของตังเลย” นับตังค์ถามด้วยความสงสัย

“รู้ได้ไงว่าไม่ถ่าย” มีคุณถาม นับตังค์มองไปรอบๆ จึงได้เห็นว่ามีคุณตั้งกล้องเอาไว้อยู่มุมหนึ่ง

“อ๋อ เป็นโรคจิต พวกชอบแอบถ่ายนี่เอง แต่เอ๊ะ...เฮ้ย แบบนี้ที่กอดที่หอมตังก็อยู่ในวีดีโอหมดเลยอะดิ” นับตังค์เพิ่งนึกขึ้นได้

“ว้า รู้ทัน กำลังว่าจะเอาไปเผยแพร่อยู่เลย” มีคุณทำหน้าเสียดาย

“ไปดูด้วงเลย เดี๋ยวร่วงจากเคาน์เตอร์” นับตังค์หันไปเห็นด้วงยืนบนเคาน์เตอร์ก็รีบไล่มีคุณให้ไปดู แต่ใจจริงไม่อยากถูกถ่ายตอนโดนกอดมากกว่า เดี๋ยวจะมีหลักฐานว่านับตังค์ใจง่ายเต็มใจให้กอด

“เจ้าด้วงจอมป่วน หวงมัมจริงๆ เข้าใกล้ไม่เคยได้เลย สงสัยคืนนี้ต้องชวนเล่นหมูสามตัวอีก” มีคุณบ่นก่อนจะไปอุ้มด้วงลงมาจากเคาน์เตอร์ ด้วงวิ่งมาหานับตังค์ทันที

“อุ้มไม่ได้นะด้วง มือเปื้อน ให้แด๊ดอุ้มก่อน” นับตังค์บอกกับด้วง มีคุณอมยิ้มเมื่อเห็นนับตังค์พูดถึงตัวเขาว่าแด๊ด
 แต่ด้วงส่ายหน้าไปมาจนปลายผมกระจาย

“แด๊ดอุ้มแทนไงครับ” มีคุณยื่นมือไปจะอุ้ม แต่ด้วงก็ส่ายหน้าอีก

“ไม่ดื้อนะเด็กดี ถ้าให้แด๊ดอุ้ม เดี๋ยวพี่ให้กินขนม” นับตังค์หลอกล่อ แต่ด้วงก็ส่ายหน้าอีก แต่คราวนี้ทั้งนับตังค์และมีคุณได้ยินเสียงบางอย่างเล็ดลอดออกมาด้วย


...ปุ๋ง...


“ตัง ไปล้างมือไป” มีคุณรีบบอกนับตังค์เมื่อได้ยินด้วงตดออกมา

“พี่นั่นแหละ เป็นพ่อนะ พาด้วงไปอึเลย ตังยังทำกับข้าวไม่เสร็จ” นับตังค์โวยวาย

“เอางั้นเหรอ” มีคุณถามหน้าเจื่อนๆ เกิดมาไม่เคยล้างก้นให้เด็กเลย

“ก็งั้นแหละ” นับตังค์พยักหน้าให้

“ปวดอึเหรอด้วง” มีคุณถาม

“หนูไม่อึ ฮึก ไม่อึแย้ว ไม่ตีหนู หนูเจ็บ หนูไม่อึแย้ว” ด้วงงอตัวเพื่ออั้นความปวดเอาไว้จนดูน่าสงสาร มีคุณเห็นอาการแล้วรีบอุ้มด้วงขึ้นมา

“ไม่ตีหรอกครับ อึได้เลย ไม่มีใครตีด้วงหรอกครับ พี่พาไปอึนะครับ ไม่ร้องนะ ร้องแล้วจะปวดท้อง เดี๋ยวเราไปปล่อยระเบิดกันดีกว่า” มีคุณพยายามปลอบ เริ่มรับรู้แล้วว่าด้วงมีปมที่ใหญ่มากกว่าที่คิด

“ปล่อยยาเบิด” ด้วงสีหน้าดีขึ้นแล้วพูดกับมีคุณ

“ใช่ ปล่อยระเบิดกันเนอะ” มีคุณพาด้วงอุ้มออกไป ทิ้งให้นับตังค์มองตามไปด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลใจกับอาการของด้วง



นับตังค์เตรียมข้าวแช่สำหรับใส่บาตรเสร็จแล้ว มีคุณก็พาด้วงลงมาพอดี อาบน้ำแต่งตัวให้ด้วงเรียบร้อย ทั้งสามคนพากันไปรอใส่บาตรพระที่หน้าร้านอาหาร ไม่นานนักพระท่านก็เดินมา มีคุณจับมือของนับตังค์ตอนที่ตักข้าวใส่บาตร นับตังค์รู้สึกอายจนไม่กล้ามองหน้าพระท่าน ดีว่ามีด้วงมาร่วมใส่บาตรด้วย แถมยังพูด ฉาธุ ฉาธุ เจื้อยแจ้วจนทำให้ลืมอายไปได้บ้าง นับตังค์จึงปล่อยให้มีคุณจับมือตัวเองจนใส่บาตรเสร็จ เมื่อรับพรจากพระท่านเรียบร้อยแล้วก็พากันเดินกลับเข้าไปในบ้าน


พายพัดลงมาข้างล่างก่อนใบเมี่ยง เมื่อเห็นนับตังค์เตรียมเครื่องข้าวแช่เกือบเสร็จแล้วก็นึกทึ่งกับความปราณีตของนับตังค์ พายพัดยอมรับว่าภาพภายนอกของนับตังค์ดูไม่ใช่คนที่จะมาประดิษฐ์ประดอยทำอะไรแบบนี้เลย แต่นับตังค์ก็ทำมันออกมาได้ดีมาก ซึ่งมันทำให้พายพัดอยากที่จะเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับอาหารจากนับตังค์ให้มากกว่านี้ จากที่เคยได้แต่แอบสงสัยว่าทำไมใบเมี่ยงถึงอยากมาอยู่ที่นี่ ตอนนี้พายพัดกลับนึกดีใจที่ใบเมี่ยงตัดสินใจมา เพราะพายพัดก็เพิ่งจะรู้ใจตัวเองว่าอยากจะทำอาหารให้เก่งอย่างที่นับตังค์ทำได้เหมือนกัน


เมื่อถึงเวลาที่จะไปหาคุณขจี พายพัดกับใบเมี่ยงก็ได้ช่วยนับตังค์ทำตาข่ายไข่เพื่อห่อพริกหยวกยัดไส้จนเสร็จ เครื่องที่ต้องทอดก็ทอดจนส่งกลิ่นหอมไปทั่วครัว นับตังค์เอาข้าวนึ่งใส่หม้อดิน ส่วนน้ำลอยดอกไม้ก็ใส่เอาไว้ในโถแก้ว แยกน้ำแข็งบดใส่กระติกไป เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วก็เตรียมตัวพากันไปหาคุณขจีที่รีสอร์ท ส่วนรัญญรีและหม่องรออยู่ที่นั่นแล้ว


“ขอบใจนะที่ยังอุตส่าห์นึกถึงป้า ป้าก็รู้จากขมิ้นว่าเราจะมาดูแลกิจการต่อจากพี่อนันต์ ก็ว่าจะไปหาก็ยังไม่มีโอกาสสักที มาอยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง พออยู่ได้ไหม” หลังจากพิธีรดน้ำดำหัวเสร็จลง คุณขจีให้พรทุกคนแล้วก็ชวนมีคุณมานั่งคุยด้วย

“ทีแรกก็กังวลว่าจะอยู่ได้ไหม ผมเป็นพวกไม่ค่อยชอบอยู่กับที่ แต่พอได้มาอยู่ก็ชอบครับ สงบดี อากาศก็ดี” มีคุณตอบคุณขจีตามจริง

“ปู่ของเราเขารักที่นี่มากนะ ทุ่มเทให้กับมันมาก ป้าก็ดีใจที่เราตัดสินใจมารับช่วงต่อ อย่าขายมันเลยนะ” คุณขจีพูดเชิงขอร้อง

“เอ่อ...ผมจะพยายามครับ” มีคุณแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่กล้าที่จะพูดความจริงว่าที่มารับช่วงต่อก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น

“คุณป้าคะ มาทานข้าวแช่ฝีมือเพื่อนรันเองค่ะ รับรองว่าคุณป้าจะติดใจ” รัญญรีมาตามขจีไปทานข้าวแช่ที่จัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว


ขจีเห็นเครื่องข้าวแช่วางอยู่บนโต๊ะก็นึกชื่นชม ทุกอย่างดูสวยงามจนอยากจะเก็บเอาไว้ดู ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง แตงกวา กระชายที่แกะสลักมาวางเป็นเครื่องเคียงก็ยังดูสวยงามทั้งนั้น เมื่อได้ชิมข้าวแช่แล้ว กลิ่นหอมของดอกไม้และความเย็นจากน้ำแข็งทำให้ร่างกายที่ดูอ่อนล้าของเธอสดชื่นขึ้นมาได้ในทันที


“หอมมาก สดชื่นมาก หนูเก่งมากเลยนะนับตังค์ เครื่องเคียงรสชาติกลมกล่อมทุกอย่าง อร่อยมากที่สุดตั้งแต่ป้าเคยได้กินมา” ขจีเอ่ยชม

“ขอบคุณครับ” นับตังค์ยกมือไหว้จขีที่มอบคำชมมาให้

“หม่องมันหายไปไหน” รัญญรีมองหาเพื่อนสนิท เพราะหม่องเป็นคนที่อยากจะกินข้าวแช่ชาววังฝีมือนับตังค์มากที่สุด แต่ตอนนี้กลับไม่อยู่ที่โต๊ะกินข้าว

“มันอยากกินข้าวแช่ชาววัง เลยจัดให้” นับตังค์บอก


หลังจากที่นับตังค์พูดจบ เสียงดนตรีไทยก็ดังขึ้น ทุกคนหันไปมองก็เห็นว่าหม่องใส่ชุดไทยสไตล์เจ้าพระยาเดินเข้ามาในห้องทานอาหาร แล้วก็เริ่มรำแบบเก้ๆ กังๆ จนทุกคนทั้งขำทั้งสงสาร หม่องรำจนมาถึงโต๊ะอาหารถึงได้หยุดรำ แล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่


“เดี๋ยว พอยังไอ้ตัง ฉันอายเป็นนะเว้ย” หม่องถามนับตังค์

“แกไปบังคับมันเหรอ” รัญญรีถามนับตังค์ไปขำไป

“ก็มันอยากกินแบบชาววัง เลยบอกมันว่ามันต้องรำมากิน ถ้าไม่งั้นจะไม่ให้กิน” นับตังค์รีบเลื่อนเก้าอี้ให้หม่องนั่ง

“โคตรเห็นแก่กินเลย” รัญญรีว่าหม่องแถมยังขำไม่หยุด

“เดี๋ยว ก็แกดูดิ ฝีมือมันไม่ใช่ว่าใครจะได้กินง่ายๆ ให้หมอบคลานมาก็ยอม” หม่องมองข้าวแช่ฝีมือของนับตังค์แล้วกลืนน้ำลาย

“งั้นไปหมอบคลานมาใหม่” นับตังค์จะเลื่อนเก้าอี้เก็บ

“เดี๋ยว พอก่อนไหม เยอะไปละ” หม่องรีบชิงนั่งที่เก้าอี้ก่อนจะต้องไปคลานจริงๆ


ทุกคนบนโต๊ะอาหารต่างก็พากันหัวเราะ รวมถึงหนูด้วงที่หัวเราะเลียนแบบคนอื่นตามไปด้วย คุณขจีเองก็หัวเราะได้หลังจากที่อยู่คนเดียวตามลำพังมานาน เธอเริ่มเข้าใจแล้วว่าคุณอนันต์ต้องการอะไร เธอรู้ดีเรื่องพินัยกรรม แต่เธอไม่เคยเข้าใจ มาถึงวันนี้ถึงจะยังไม่ค่อยแจ่มชัดถึงสิ่งที่คุณอนันต์ทำเอาไว้ก่อนเสียชีวิต แต่ก็พอจะเข้าใจความรู้สึกขึ้นมาบ้าง คุณขจีมองไปที่นับตังค์อย่างพิจารณา ความคิดบางอย่างเกิดขึ้นในใจ แต่สุดท้ายเธอก็ปล่อยผ่านไปแล้วหันมาร่วมพูดคุยกับเด็กๆ ด้วยความสนุกสนานและเพลิดเพลิน


ดาวเรืองแอบลอบมองทุกคนอยู่ที่มุมหนึ่ง สายตาที่อิจฉาริษยาฉายชัดไปที่หนูด้วง มือที่กำแน่นทุบไปที่กำแพงเพื่อระบายความเจ็บแค้นในใจ ยิ่งเห็นหนูด้วงมีความสุขเท่าไหร่ ความแค้นใจก็ยิ่งพอกพูนในใจของเธอมากขึ้นเท่านั้น


***โปรดติดตามตอนต่อไป***

 
(http://uppic.sodazaa.com/image.php?id=ED17_59115AAD&jpg)

เครดิตรูปจาก Google


ที่หายไปหลายวันเพราะว่าข้างห้องเขามาต่อเติมห้อง แล้วช่างทำสายเน็ตผู้แต่งพัง
เพิ่งจะทำให้เสร็จเมื่อคืนนี้เองค่ะ เล่นได้แต่มือถือแต่เอานิยายลงไม่ได้ คิดถึงทุกคนจัง
ขอให้สนุกและฟินกับอาหารมื้อนี้นะคะ มีคำผิดเตือนได้นะคะ ตาลายหมดแล้ววว



[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Jitsupa_milk ที่ 09-05-2017 12:56:59
ร้อนๆแบบนี้อยากกินข้าวแช่ขึ้นมาเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 09-05-2017 13:07:39
อ่านแล้วความหิวครอบงำ ตอนนี้ทุกคนน่ารักมาก ล่ะพี่ชายพญา เท่งกับดาวเรืองไว้ล่ะกัน :hao6:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-05-2017 14:14:38
หนูด้วงลูกคุณใหญ่รึป่าว?
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 09-05-2017 14:27:31
อ่านจบแล้วเราหิวมากเลย เป็นนิยายที่ทำร้ายเราที่สุด
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-05-2017 15:00:54
 :กอด1: :L2: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-05-2017 15:04:00
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 09-05-2017 15:07:31
 :angry2: ดาวเรืองนิยังไง ทำไม่ต้องริษยาด้วงอะ ชักอยากรู้แระว่าน้องด้วงลูกใคร ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้   :m16:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 09-05-2017 15:07:45
อ่านแล้วอยากกินไปทุกเมนูเลย  โดยเฉพาะอากาศร้อนแบบนี้ ต้องข้าวแช่เท่านั้น แต่คงขอกินแบบธรรมดาก็พอ ไม่ต้องชาววัง 555

นับตังค์น่าจะสอนมวยไทยให้เท่งมากกว่านี้นะ เอาให้เดี้ยงไปเลย สมน้ำหน้า  และถ้ามีคุณรู้ว่านับตังค์เป็นมวยไทย อาจมีหนาวได้

สงสารด้วงจังที่ต้องมาเจอเหตุการณ์ร้ายๆ มากมายแบบนี้  แต่ก็ยังเป็นโชคดีที่ด้วงได้มาอยู่กับพวกนับตังค์ ยิ่งได้ใบเมี่ยงและทุกคนคอยช่วยดูแลด้วย  อาการกลัวอาจจะค่อยๆ บรรเทาไป 

เดาว่า ด้วงอาจเป็นลูกของพี่เหรียญเงินพี่ชายของนับตังค์  ถึงทำให้นับตังค์ถูกชะตากับหนูด้วง และหนูด้วงอาจมีชื่อเล่นว่าพดด้วงก็ได้  พี่เหรียญเงินอาจเคยทำงานกับปู่อนันต์  เลยแนะนำให้ชวนนับตังค์มาทำงานด้วย  ส่วนดาวเรืองคงแอบชอบพ่อของด้วง 


---------------------------------

อยากให้คนเขียนบอกทีว่าเรื่องนี้จะลงวันไหนได้บ้าง  เช่น อาจลงทุกวันจันทร์ เป็นต้น  ขอบคุณมากค่ะ  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 09-05-2017 15:39:19
ด้วงนี่หวงมัมสุดๆ5555

ว่าแต่ดาวเรืองเป็นไรมากมั้ยนิ :m16:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-05-2017 18:18:05
 o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 09-05-2017 21:46:37
เสน่ห์ปลายจวัก ผัวรักจนตายยยยย  อิจฉาพี่คุณมีเชฟส่วนตัว คนอ่านๆไปน้ำลายไหลไป 55555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 10-05-2017 12:04:45
 :L2: :pig4:

อ่านไปกลืนน้ำลายไป
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 10-05-2017 12:26:48
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 10-05-2017 12:45:00
อยากกินข้าวแช่ทันที  :katai2-1:

นี่สงสัยพินัยกรรมมาก จุดประสงค์จริงคือรัยนะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 10-05-2017 18:38:44
อ่านเรื่องนี้ทีไรหิวทุกที

แอบคิดเหมือนนับตังค์เลย ว่าอิตาพญา มันดูฮาๆมากกว่าร้าย

รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 11-05-2017 23:04:55
 :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 12-05-2017 03:10:17
สนุกมากค่ะ และหิวมากเช่นกัน. นี่ตี3แล้ว จะไปหาของกินได้จากไหน!!!
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lunarinthesky ที่ 12-05-2017 13:10:00
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ สนุกมาก ได้ความรู้เรื่องอาหารด้วย จะติดตามต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 12-05-2017 17:22:28
ชอบมากเลย นี่เราพลาดนิยายดีๆแบบนี้ได้ไงกันนะ
ทำให้เรามีความรู้เกี่ยวกับอาหารคาวหวานของไทยชาววังด้วย ขอบคุณจริงๆ

สารภาพว่าเพิ่งรู้ว่าจ่ามงกุฎทำจากแป้งที่คล้ายกับกาละแมร์  นี่คิดว่าดาราทองคือจ่ามงกุฎมาตลอด

ปล.อาหารแต่ละอย่างน่ากินมาก อยากไปกินที่ร้านกันเลยทีเดียว

มาต่ออีกนะคะ ชอบมากเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 13-05-2017 10:04:26
กับเด็กก็อิจฉาหรอ :fire:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 16-05-2017 15:54:54
ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม


หลังจากที่ทุกคนได้ทานข้าวแช่ชาววังกันจนอิ่มทั้งท้องและอิ่มทั้งความสุขกันถ้วนหน้าแล้ว ถึงเวลาที่รัญญรีและหม่องจะต้องเดินทางกลับกรุงเทพ รัญญรีบอกกับคุณขจีว่าจะกลับมาเที่ยวอีกแน่นอนและจะพาคุณสโรชาผู้เป็นแม่ของรัญญรีมาเที่ยวด้วย คุณขจีดีใจที่รัญญรีรับปากว่าพาน้องสาวของเธอมาหา เพราะคุณขจีรู้ดีว่าสโรชาเป็นสาวสังคมและไม่ค่อยมีเวลา แต่หากรัญญรีอ้อนให้มาก็คงจะตอบตกลงแน่ พราะสโรชารักและตามใจรัญญรีมาก


มีคุณขอตัวพาเพื่อนสนิททั้งสองคนของนับตังค์ไปส่งที่สนามบิน แต่นับตังค์ พายพัด ใบเมี่ยงขออยู่คุยกับคุณขจีต่อ คุณขจีชวนนับตังค์พูดคุยเรื่องอาหารไทย เมื่อได้พูดคุยกับนับตังค์แล้วจึงได้รู้ว่านับตังค์เป็นลูกของคุณธนบัตรกับคุณนับดาว ซึ่งคุณขจีรู้จักทั้งสองคน คุณขจีเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมถึงรู้สึกคุ้นหน้านับตังค์เพราะนับตังค์มีใบหน้าคล้ายคุณนับดาวนั่นเอง


“โลกมันกลมดีแท้ ป้าเคยไปเรียนทำอาหารไทยกับคุณย่าของหนู ท่านสบายดีใช่ไหม” ขจีถามนับตังค์

“ครับ คุณย่าแข็งแรงดี ปกติคุณย่าท่านจะไม่ยอมสอนใคร แสดงว่าต้องสนิทสนมกับคุณป้านะครับ” นับตังค์ออกจะแปลกใจอยู่เหมือนกัน เพราะปกติคุณย่าละม่อมเป็นคนหวงสูตรอาหารของท่านมาก ถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวจะไม่สอนเด็ดขาด

“แม่ของป้าท่านก็เป็นข้าเก่าในวัง แต่ไม่ได้อยู่ประจำห้องเครื่องหรอก ท่านสนิทกับคุณย่าของหนู ป้าเลยพลอยได้ความเอ็นดูจากป้าละม่อมยอมให้ป้าเป็นศิษย์ แต่ป้าคงไม่มีบุญเพราะว่าไม่ถนัดเรื่องอาหารจริงๆ เลยขอเป็นคนชิมดีกว่า” คุณขจีระลึกอดีตแล้วนึกขำตัวเอง ด้วยความที่ไม่มีฝีมือทางด้านอาหาร ไม่ว่าคุณย่าของนับตังค์จะพยายามสอนเท่าไหร่ก็ไม่พัฒนา จึงต้องขอลาจากการฝึกเป็นแม่บ้านแม่เรือนมาเป็นคนชิมเพียงอย่างเดียว แต่หลังจากที่คุณแม่ของคุณขจีเสีย คุณขจีก็มาใช้ชีวิตอยู่ที่เกาะนี้ ด้วยอายุที่มากขึ้นก็เลยไม่ค่อยเดินทางไปไหน จึงไม่ได้ขึ้นไปเยี่ยมเยียนคุณละม่อมอีก

“เมี่ยงอยากขอไปเป็นศิษย์คุณย่าของเชฟบ้างจังเลยครับ” ใบเมี่ยงรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้รับรู้ประวัติของนับตังค์

“สรุปว่าหนูตังจะมาเป็นเชฟที่ร้านของพี่อนันต์เหรอจ๊ะ ดีจังเลย ป้าจะได้ทานของอร่อยทุกวัน ตั้งแต่พี่อนันต์เสีย ป้าก็ไม่ค่อยได้ทานของอร่อยเลย ดูสิ เคยกินของอร่อยจนเคยตัว ตอนนี้กินอะไรก็รู้สึกไม่ถูกปากไปหมด หรือจะเพราะอายุเยอะขึ้นก็ไม่รู้ เห็นอะไรก็ไม่อยาก ได้ข้าวแช่ของหนูตัง วันนี้ป้าเลยเจริญอาหารกว่าปกติ” คุณขจีคิดถึงคุณอนันต์ที่ตนนับถือเหมือนพี่ชายแท้ๆ ยังคงนึกอาลัยไม่หายเมื่อได้คิดถึง

“คุณป้าอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ พรุ่งนี้ตังจะทำมาให้กิน” นับตังค์รู้สึกว่าได้ใกล้ชิดคุณขจีแล้วเหมือนได้อยู่กับแม่ ท่านดูมีเมตตา ใจดี เวลาพูดจาก็ดูนุ่มนวลน่าฟัง

“ป้ายังจำรสหรุ่มของป้าละม่อมได้ มันอร่อยมาก หนูตังทำได้ไหมจ๊ะ” ขจีนึกถึงรสชาติอาหารไทยโบราณฝีมือของคุณละม่อมได้ดี โดยเฉพาะหรุ่มกับล่าเตียง สมัยที่เธอยังอยู่ที่กรุงเทพ ทุกครั้งที่คุณละม่อมทำอาหารสองชนิดนี้เป็นต้องทำเผื่อเธอทุกครั้งเพราะรู้ว่าเธอชอบ

“สบายมากเลยครับ พรุ่งนี้ตังจะทำให้คุณป้าลองทานว่าฝีมือจะสู้คุณย่าได้หรือเปล่า” นับตังค์ดีใจที่จะได้ทำให้คุณขจีทานข้าวได้

“หรุ่ม ล่าเตียง ชื่อแปลกดีนะครับ ผมเพิ่งเคยได้ยิน” พายพัดซึ่งนั่งเล่นกับด้วงอยู่ เมื่อได้ยินชื่ออาหารไทยแปลกๆ ก็อยากรู้ว่ามันคืออะไร

“มันไม่เหมือนกันเหรอครับเชฟ” ใบเมี่ยงถามเพราะสงสัยอยู่เหมือนกัน

“เลิกเรียกเชฟได้แล้ว บอกว่าเอาไว้เรียกตอนเวลางาน เรียกตังดีกว่า” นับตังค์เห็นใบเมี่ยงเรียกมีคุณแบบสนิทสนมแล้วก็อยากให้เรียกตัวเองแบบสนิทสนมบ้าง นับตังค์ชอบใบเมี่ยงและพายพัด คิดว่าทั้งสองคนเป็นเหมือนคนในครอบครัวไปแล้ว

“เมี่ยงลืมตัวทุกทีครับ” ใบเมี่ยงหัวเราะเพราะเรียกนับตังค์ว่าเชฟจนติดปาก

“เมื่อก่อนป้าก็คิดว่ามันเหมือนกัน แต่มารู้ตอนที่ย่าของหนูตังอธิบายให้ฟัง ทั้งคู่เป็นอาหารที่อยู่ในบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ล้นเกล้ารัชกาลที่สอง ป้ายังจำได้ขึ้นใจเลยตอนที่โดนสั่งให้ท่องกาพย์เห่เรือนี้ให้ได้” คุณขจีนึกแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

“ท่องให้เมี่ยงฟังได้ไหมครับ” ใบเมี่ยงชอบฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับอาหาร โดยเฉพาะอาหารไทยโบราณ

“ล่าเตียงคิดเตียงน้อง นอนเตียงทองทำเมืองบน ลดหลั่นชั้นชอบกล ยลอยากนิทรคิดแนบนอน” คุณขจีท่องให้ใบเมี่ยงฟัง

“มันหมายความว่ายังไงครับ” พายพัดทำหน้าไม่เข้าใจ ถึงเขาจะมีแม่เป็นคนไทย แต่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเกี่ยวกับอาหารไทยหรือเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทยมากนักเพราะแม่ไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟัง

“ก็หมายถึงเวลาได้เห็นอาหารที่ชื่อว่าล่าเตียง ก็พลอยทำให้คิดถึงเตียงของน้อง เตียงสีทองมีลวดลายสวยงาม ลดหลั่นเป็นชั้นเหมือนอยู่บนสวรรค์ เห็นแล้วก็หวนให้อยากกลับนอนกับน้องบนเตียงนั่น” คุณขจีอธิบายให้ฟัง

“ผมอยากเห็นแล้วสิว่าล่าเตียงมันเป็นยังไง” พายพัดได้ยินแค่กลอนก็อยากจะเห็นอาหารไทยชนิดนี้แล้ว

“แล้วหรุ่มละครับ” ใบเมี่ยงถามอีก

“เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน เจ็บไกลในอาวรณ์ ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง” คราวนี้นับตังค์เป็นคนท่องให้ฟัง

“คำแปลก็คือ เวลาเห็นอาหารที่ชื่อหรุ่ม ทำให้นึกไปถึงความรุ่มร้อนที่ระอุอยู่ในอก เป็นความทรมานใจที่คิดถึงคนไกล มันร้อนรุ่มกลุ้มใจไปทุกอย่าง” คุณขจีอธิบายต่อโดยที่ไม่ได้รอให้ใบเมี่ยงถาม

“แบบนี้ผมขอกินล่าเตียงดีกว่า มันดูไม่ทรมานดีนะครับ” พายพัดรีบบอก คุณขจีได้ยินก็หัวเราะขำ

“แล้วมันแตกต่างกันตรงไหนเหรอตัง เมี่ยงเคยได้กินนะ แต่มันเหมือนกันเลย เมี่ยงนึกว่ามันคืออาหารอย่างเดียวกันแต่มีสองชื่อเสียอีก”

“ข้อแตกต่างของมันอันดับแรกเลยคือรูปแบบของไข่ที่ห่อไส้ ล่าเตียงจะใช้ไข่โรยในกระทะให้เป็นตาราง ลักษณะเหมือนแห่ อย่างที่เราใช้ห่อพริกหยวกนึ่งในเมนูข้าวแช่ไง ส่วนหรุ่มจะทอดไข่เป็นแผ่นบางๆ แล้วห่อไส้อีกที ส่วนไส้ก็ปรุงรสคล้ายๆ กัน แต่สูตรของคุณย่า ล่าเตียงจะมีส่วนผสมของกุ้ง ส่วนหรุ่มจะใช้เนื้อหมูหรือไม่ก็ไก่” นับตังค์อธิบายตามที่ถูกสอนมา

“อ๋อ แบบนี้นี่เอง ดีจัง ได้ความรู้แน่นเลย คิดแล้วก็อยากให้พรุ่งนี้เร็วๆ เมี่ยงอยากช่วยทำแล้วก็ช่วยชิมด้วย”

“หนูจินด้วย หนูจะจินหนม” ด้วงชูมือสองข้างขอกินด้วยเป็นที่น่าเอ็นดู

“ด้วงดูแจ่มใสขึ้น ได้อยู่กับพี่ๆ คงคลายความคิดถึงพ่อแม่และพี่อนันต์ได้บ้างแล้ว ตอนอยู่กับป้า ด้วงซึมจนป้าไม่สบายใจเลย” คุณขจีมองด้วงแล้วถอนหายใจ

“คุณป้า พอดีตังอยากจะถามว่า...” นับตังค์กำลังจะถามเรื่องของด้วง แต่ดาวเรืองเดินเข้ามาเสียก่อน

“ขอโทษที่ดิฉันเข้ามาขัดจังหวะนะคะ คุณท่านคะ มีชาวต่างชาติมาเป็นกรุ๊ปใหญ่เลยค่ะ” ดาวเรืองพูดจาสุภาพนอบน้อมจนนับตังค์ไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยว่าเป็นคนเดียวกับที่ใส่อารมณ์กับเขาในวันนั้น

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไม่กวนคุณป้าแล้วครับ เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะเอาล่าเตียงกับหรุ่มมาให้คุณป้าชิมแล้วจะแวะมาคุยด้วยใหม่นะครับ” นับตังค์ถือโอกาสขอตัวเพราะไม่อยากพูดเรื่องด้วงตอนดาวเรืองอยู่

“อุ้มหนู” ด้วงเห็นดาวเรืองมาก็รีบอ้อนพายพัดให้อุ้ม เมื่อพายพัดอุ้ม ด้วงก็ซบหน้ากับไหล่ของพายพัดทันที

“ขอบใจมากนะ วันนี้ป้ามีความสุขมาก ทั้งอิ่มท้อง ทั้งหายเหงา” ขจีรับไหว้จากเด็กหนุ่มทั้งสาม รวมถึงเจ้าตัวเล็กด้วยที่พายพัดบอกให้หันมาสวัสดีคุณขจีก็ทำตามอย่างว่าง่าย

“บายๆ นะหนูด้วง” ดาวเรืองทักด้วง แต่ด้วงไม่ยอมมองหน้า รีบหันหลับไปซบพายพัดใหม่ ดาวเรืองเลยได้แต่ฝืนยิ้มเจื่อนๆ ต่อหน้าทุกคน



มีคุณโทรบอกให้เบิ้มเช่ารถกระบะคันหนึ่งมารอเอาไว้หลังจากที่นั่งเรือมาถึงตัวเมืองแล้ว เขาขับรถไปส่งรัญญรีกับหม่องที่สนามบินเรียบร้อยแล้วก็ขับวนมาที่ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด มีคุณอยากซื้อกล้องถ่ายรูปให้นับตังค์ เขาเห็นนับตังค์เป็นคนชอบถ่ายรูป แต่เห็นถ่ายด้วยมือถือ จึงอยากซื้อกล้องให้นับตังค์ถ่ายเป็นเรื่องเป็นราว รวมถึงถ่ายรูปอาหารของตัวเองด้วย


“คุณ บังเอิญจังเลย คุณมาซื้อกล้องเหรอ” คีตะรู้สึกเบื่อเลยชวนพเยียมาเดินเที่ยวห้างในตัวเมือง คีตะเห็นมีคุณตั้งแต่เดินเข้ามาในห้างจึงเดินตามมีคุณมาเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่ามีคุณแวะร้านขายกล้องถ่ายรูปจึงเดินเข้ามาทัก

“อืม แล้วคิวมาเดินเที่ยวเหรอ” มีคุณทักกลับแต่สายตายังคงเลือกกล้องต่อ

“คุณชอบกล้องตัวเล็กๆ แบบนี้ด้วยเหรอ คิวจำได้ว่าคุณชอบถ่ายรูป แต่คุณไม่ได้เล่นกล้องแบบนี้นี่นา” คีตะพยายามชวนคุย

“มาคนเดียวเหรอ” มีคุณไม่ได้ตอบเรื่องกล้องแต่ถามกลับเมื่อเห็นคีตะมาคนเดียว

“คิวมากับเพื่อน คุณ...เมื่อวันก่อนคิวขอโทษนะที่ตื้อคุณมากไป คิวจะไม่วุ่นวายให้คุณรำคาญ แต่คุณอย่าโกรธและทำเหมือนคิวเป็นอากาศได้ไหม คิวไม่อยากให้คุณเกลียดคิว” เสียงของคีตะเริ่มสั่นเครือจนมีคุณต้องวางกล้องลงแล้วหันมามอง

“อย่าคิดมาก เรื่องเก่ามันจบไปแล้ว ผมไม่ได้คิดอะไรแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นไปกินข้าวกับคิวได้ไหม พรุ่งนี้คิวก็จะกลับกรุงเทพแล้ว ในฐานะเพื่อนก็ยังดี” คิวอ้อนวอน

“แล้วเพื่อนคิวล่ะ”

“ทำผมทำเล็บนวดหน้านวดตัว คงอีกนานกว่าจะเสร็จ”

“แต่ผมมีเวลาไม่นานนะ”

“กินอะไรง่ายๆ ก็ได้”

“อืม” สุดท้ายมีคุณก็ยอมตกลงไปทานข้าวกับคีตะ ไม่ใช่เพราะใจอ่อน เขารู้นิสัยของคีตะดี ถ้าเขาขัดใจคีตะก็จะยิ่งอยากเอาชนะและตื้อเขาไม่ยอมหยุด เขาไม่อยากให้คีตะทำความลำบากใจให้กับนับตังค์แม้ว่านับตังค์จะบอกว่าไม่คิดมากเรื่องนี้ก็ตาม


คีตะพามีคุณมากินสุกี้เพราะรู้ว่ามีคุณเป็นคนชอบกินสุกี้มาก ตอนที่คบกัน มีคุณมักจะชวนคีตะมากินสุกี้ตลอด ซึ่งคีตะเบื่อและเคยบอกไปว่าไม่ชอบกิน มีคุณก็ตามใจและเลือกที่จะกินร้านที่คีตะเป็นคนเลือก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารญี่ปุ่น แต่วันนี้คีตะอยากเอาใจมีคุณจึงยอมกินสุกี้ที่ตัวเองไม่ค่อยชอบ

“คิวไม่ชอบสุกี้ไม่ใช่เหรอ” มีคุณถามเมื่อคีตะเดินเข้าร้านสุกี้ชื่อดัง

“ยังจำได้ด้วยเหรอ คิวดีใจจัง” คีตะยิ้มแล้วถือวิสาสะควงแขนของมีคุณไปหาโต๊ะนั่ง

“ไปกินร้านอื่นก็ได้นะ จริงๆ ผมก็กินมาแล้ว ยังอิ่มอยู่เลย”

“กินที่นี่แหละ ขี้เกียจเดินหาร้านแล้ว คิวอยากใช้เวลากับคุณให้นานที่สุดก่อนจะกลับ”

“คิว...ผม”

“คิวขอแค่นี้เองนะครับ” คิวทำหน้าเศร้าเมื่อเห็นว่ามีคุณทำท่าทางอึดอัด


มีคุณตัดสินใจนั่งลง คีตะอยากจะนั่งฝั่งเดียวกับมีคุณ แต่เห็นมีคุณไม่ยอมขยับให้ จึงต้องเดินไปนั่งฝั่งตรงกันข้าม พยายามเก็บอาการขี้หงุดหงิดของตัวเองเอาไว้แล้วหยิบเมนูมาสั่งอาหาร คีตะสั่งของที่มีคุณชอบทุกอย่าง ระหว่างนั้นเสียงข้อความจากไลน์ของมีคุณก็ดังขึ้นมา


ท่านเคาท์มันนี่ : ถึงยัง

MEkhun : ถึงนานแล้ว กลับจากรีสอร์ทรึยัง

ท่านเคาท์มันนี่ : เพิ่งถึงบ้านเลย พรุ่งนี้จะทำล่าเตียงนะ คุณป้าขจีอยากกิน

MEkhun : อะไรนะ ชวนพี่ขึ้นเตียงเหรอ

ท่านเคาท์มันนี่ : ขึ้นเขียงก่อนไหม ทะลึ่ง แล้วจะกลับกี่โมงอะ

MEkhun : คิดถึงพี่แล้วเหรอ

ท่านเคาท์มันนี่ : อือ

MEkhun : จริงดิ

มีคุณค่อนข้างแปลกใจที่นับตังค์ยอมรับง่ายๆ

ท่านเคาท์มันนี่ : ทำไม คิดว่าตังล้อเล่นเหรอ 

MEkhun : ก็ใช่อะดิ ปกติปากแข็งจะตาย

ท่านเคาท์มันนี่ : ปากแข็งยังไง ตังไปปากแข็งกับพี่เมื่อไหร่เหอะ

MEkhun : ก็ทุกทีพี่ต้องเป็นคนหยอด ตังไม่เคยจะเห็นพูดหวานๆ กับพี่เลย

ท่านเคาท์มันนี่ : น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลมะพร้าว ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ตังเม น้ำตาลกรวด หวานพอยัง

MEkhun : เราก็เป็นแบบนี้ไง

ท่านเคาท์มันนี่ : อยากได้คนหวานๆ เปลี่ยนใจทันนะ

MEkhun : ไม่อะ ไม่ทันแล้ว หลงจนหัวปรักหัวปรำ

นับตังค์อ่านแล้วยิ้มก่อนจะถ่ายรูปด้วงตอนกำลังทำหน้าเหวอส่งไปให้มีคุณดู

ท่านเคาท์มันนี่ : ด้วงบอกว่า...ให้ยีบจับบ้าน 

MEkhun : ด้วงบอกให้รีบกลับบ้านหรือมัมบอก เอาดีๆ

ท่านเคาท์มันนี่ : ด้วงบอกจริงๆ ถ้าไม่เชื่อรีบกลับมาถามดิ แล้วพี่ทำอะไรอยู่

MEkhun : บังเอิญมาเจอคิว เขาขอให้กินข้าวด้วยก่อนที่เขาจะกลับกรุงเทพ

ท่านเคาท์มันนี่ : นัดกิ๊กเอาไว้นี่เอง

MEkhun : เปล่านัดนะ หึงเปล่า บอกมาเลย

ท่านเคาท์มันนี่ : ไม่หึง

MEkhun : แน่นะ

ท่านเคาท์มันนี่ : อือ

MEkhun : ชัวร์

ท่านเคาท์มันนี่ : เยส

MEkhun : แอ๊ะ

ท่านเคาท์มันนี่ : ไม่หึงโว้ย

MEkhun : ฮ่าๆ เนี่ย ปากแข็ง

ท่านเคาท์มันนี่ : โรคจิตปะ แฟนไม่หึงก็จะให้หึง

MEkhun : รู้ตัวว่าเป็นแฟนก็ดีแล้ว ไม่หึงก็ดีแล้ว โตๆ แล้ว คืนนี้มาล่าเตียงกันนะ ซ้อมใหญ่

ท่านเคาท์มันนี่ : เดี๋ยวจะให้ด้วงกินนมผสมกาแฟ จะได้ดีดทั้งคืน พี่จะได้ทำอะไรตังไม่ได้

MEkhun : ฝากด้วงกับเมี่ยงไง เนอะ อยากกุ๊กกิ๊กกับแฟนบ้าง เนอะ


“คุณครับ อาหารมาครบแล้วนะ” คีตะเห็นมีคุณนั่งจิ้มโทรศัพท์แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอดเวลา ไม่สนใจว่ามีคีตะนั่งอยู่ด้วย คิดแล้วอยากจะกระชากโทรศัพท์มาดู แต่ก็จำต้องอดทนเอาไว้

MEkhun : พี่กินข้าวก่อนนะ รีบๆ กิน จะได้ รีบๆ กลับ อยากหอมแก้มแฟน แฟนน่ารัก

ท่านเคาท์มันนี่ : รู้ว่าตัวเองน่ารักไม่ต้องชมเยอะ แล้วพี่กินอะไรกับกิ๊กบอกสิ

MEkhun : สุกี้

ท่านเคาท์มันนี่ : เอาเป็ดย่างมาฝากด้วยนะ

MEkhun : ครับที่รัก

ท่านเคาท์มันนี่ : ดีมาก Thanks darling 


มีคุณแทบอยากจะนั่งเรือกลับบ้านในตอนนี้เลยหลังจากเห็นข้อความสุดท้าย ตั้งแต่ได้รู้จักกันมามีคุณพยายามเรียนรู้ว่านับตังค์เป็นคนยังไง ชอบอะไร นิสัยแบบไหน มีคุณยอมรับว่านับตังค์เป็นคนที่มีความหลากหลายในตัวเองมาก อะไรที่เขาคิดว่านับตังค์จะเป็นแบบนั้นมันกลับไม่ใช่เลย จะเป็นคนหวานก็ไม่ใช่ แต่ก็ทำให้เขายิ้มได้เสมอ

“คุณครับ คิวถามว่าคุณจะกลับกรุงเทพเมื่อไหร่” คีตะเริ่มจะหงุดหงิดที่มีคุณดูสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาถามคำถามมีคุณไปสองสามรอบแต่มีคุณกลับไม่ได้ยิน

“ยังไม่แน่ใจ” มีคุณไม่คิดจะบอกเรื่องที่ต้องมาอยู่ที่นี่ปีหนึ่ง

“คิวได้ยินข่าวมาว่าคุณปู่ของคุณเป็นเจ้าของร้านอาหารที่อยู่บนเกาะ แต่คุณปู่ของคุณเสียชีวิตแล้ว คุณมาจัดการเรื่องของท่านเหรอครับ” คีตะลองถามดู

“ครับ” มีคุณตอบสั้นๆ นึกแปลกใจเหมือนกันที่คีตะรู้เรื่องนี้ เห็นทีว่าต้องไปถามสุดเขตว่าหลุดพูดอะไรไปบ้าง

“ถ้าคุณกลับกรุงเทพแล้ว เราจะนัดเจอกันได้บ้างไหม คิวรู้ว่าคิวผิดทำให้คุณต้องผิดหวัง แต่เรื่องราวระหว่างเรามันมีก็เรื่องดีๆ ไม่ได้เลวร้ายไปซะทุกอย่าง คิวมีความสุขทุกครั้งที่ได้นึกถึง ที่คิวมาขอร้องคุณไม่ใช่เพราะคิวไม่มีที่ไป แต่คิวเพิ่งได้รู้ว่าไม่มีที่ไหนที่ทำให้คิวมีความสุขได้มากเท่าตอนอยู่กับคุณ ให้โอกาสคิวได้พิสูจน์ความจริงใจอีกครั้งไม่ได้เหรอครับ”

“ผมให้คุณได้แค่คำว่าเพื่อน” มีคุณย้ำ

“ไม่เป็นไร แค่เพื่อนก็ได้ ดีกว่าเป็นอะไรที่ไม่มีความหมายสำหรับคุณเลย ขอบคุณมากนะครับ” คีตะเอื้อมมือมาแตะที่มือของมีคุณก่อนจะยิ้มเศร้า

“กินเถอะ ผมมีธุระต้องไปทำต่ออีกหลายอย่าง” มีคุณยิ้มตอบก่อนเนียนชักมือของตัวเองออกมาหยิบตะเกียบแล้วก็รีบกินสุกี้เพื่อที่จะได้กลับไปหาคนที่รอคอยเขาอยู่ที่เกาะ


….



อัฐยืนมองนับดาวผู้เป็นภรรยาซึ่งกำลังนั่งเหม่อมองไปเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย เขารู้ดีว่าภรรยาเสียใจที่ลูกชายคนเล็กหนีออกจากบ้านไป คราวนี้นับดาวดูจะเศร้ากว่าครั้งที่ลูกชายคนโตออกจากบ้านไปเสียอีก

“คุณดาว ไปทานข้าวกันเถอะ คุณแม่ท่านรออยู่” อัฐลอบถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปหาภรรยา

“ขอโทษทีค่ะ ฉันมัวแต่เช็ดจานชามพวกนี้จนลืมเวลา” นับดาวรีบวางจานลงแล้วลุกขึ้น เธอมัวแต่คิดถึงลูกชายทั้งสองคนที่ออกจากบ้านไป

“ผมรู้ว่าคุณคิดถึงเจ้าตัง อดทนหน่อย เดี๋ยวมันก็กลับมา” อัฐปลอบภรรยา

“ฉันกลัวค่ะ ฉันกลัวว่านับตังค์จะหายไปเหมือนเหรียญเงิน คุณคะ ความผิดของลูกมันรุนแรงถึงกับต้องให้หายจากกันไปอย่างนี้เลยหรือคะ” นับดาวถามด้วยเสียงสั่นเครือ เธอรู้ว่าครอบครัวของสามีเข้มงวดและเด็ดขาด แต่การที่เธอจะไม่ได้เจอหน้าลูกอีกเลย แค่คิด...เธอก็เหมือนว่าหัวใจจะขาดลงเสียให้ได้

“คุณแม่ท่านแก่แล้ว ผมไม่อยากให้ท่านผิดหวังถ้าผมไม่สามารถทำให้ลูกอยู่ในโอวาทได้ เจ้าตังไม่เหมือนเหรียญเงิน ผมเชื่อว่ามันจะคิดได้และกลับมา”

“ฉันจะอดทนอีกแค่เดือนเดียวนะคะ ถ้าลูกยังไม่กลับมาฉันจะไปตามหาลูก” นับดาวพูดกับสามีก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน

อัฐได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะเดินไปเหลือบไปเห็นผ้ากันเปื้อนของนับตังค์ที่ภรรยาของเขาวางทิ้งเอาไว้เลยหยิบขึ้นมา ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดถึงลูกชายคนนี้ นับตังค์เป็นลูกที่ว่านอนสอนง่ายมาตลอด เป็นลูกที่ค่อนข้างสนิทกับเขามากกว่าลูกอีกสองคน เขาถึงได้อดโมโหไม่ได้เมื่อนับตังค์จะเดินออกนอกกรอบที่เขาวางเอาไว้ให้ เพราะเขาเองก็เคยอยู่ในกรอบที่ถูกวางมาก่อน ชีวิตของเขาก็สุขสบายเรียบง่ายเป็นไปด้วยดี เขาจึงมั่นใจว่าการที่นับตังค์ได้ออกไปเจอสิ่งแวดล้อมนอกบ้านนั้น ไม่มีทางดีกว่าสิ่งที่ครอบครัวมอบให้แน่นอน อัฐถึงมั่นใจว่านับตังค์จะต้องกลับมา


….


หลังจากกลับมาจากรีสอร์ทของคุณขจีแล้ว นับตังค์เห็นว่าควรไปซื้อของเอาไว้ทำล่าเตียงกับหรุ่มเสียเลย จะได้ไม่ต้องกวนให้ขมิ้นมารับแต่เช้าอีก ส่วนข้าวเย็นได้ฝากมีคุณซื้อเป็ดย่างกลับมา นับตังค์คิดว่าจะผัดผักและยำรวมมิตรทะเลอีกสองอย่างก็คงพอ นับตังค์ฝากด้วงเอาไว้กับพายพัดและใบเมี่ยง ทั้งสองคนเลยขอติดรถไปลงที่ริมทะเล เห็นว่าแดดร่มลมตกแล้วเลยอยากพาด้วงไปเล่นที่ชายทะเลบ้าง นับตังค์เห็นดีด้วยแล้วบอกว่าเมื่อซื้อของเสร็จจะตามมานั่งเล่นด้วยคน


ช่วงที่นับตังค์ไปซื้อของที่ตลาดได้พักใหญ่มีคุณก็กลับมาถึงเกาะ มีคุณสั่งซื้อรถจักรยานมาด้วยสองคัน คันหนึ่งที่เป็นจักรยานนำเข้ามาจากเกาหลี ซึ่งมันมีเก้าอี้ขนาดใหญ่พอสมควรเอาไว้สำหรับให้เด็กนั่งอยู่ทางด้านหน้า มีพลาสติกเนื้อใสทรงรียาวสำหรับป้องกันลมและเศษฝุ่นติดมากับแฮนด์รถด้วย ส่วนอีกคันก็เป็นจักรยานทั่วไป นอกจากนั้นก็ยังมีของเล่นของด้วงอีกสองสามอย่าง ของใช้สำนักงาน ขนม ของกิน ที่สำคัญคือเป็ดย่างที่นับตังค์สั่งเอาไว้ พายพัดเห็นมีคุณกำลังขนของเลยวิ่งไปช่วยมีคุณกับเบิ้มขนของลงจากเรือ มีคุณขี้เกียจรอขมิ้นมารับจึงจ้างรถสามล้อเครื่องเพื่อเอาของไปเก็บที่บ้าน ส่วนจักรยานทั้งสองคันมีคุณบอกว่าให้จอดไว้ที่นี่จะได้เอาไว้ขี่กลับไปที่บ้าน


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 16-05-2017 16:01:49
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


หลังจากที่มีคุณนั่งรถสามล้อเครื่องออกไปจากริมหาด คีตะกับพเยียก็กลับมาถึงเกาะในเวลาไล่เลี่ยกัน คีตะค่อนข้างหงุดหงิด ไม่ใช่แค่อากาศที่ร้อนอบอ้าวจนเหนียวตัว แต่ในใจก็ร้อนรุ่มเช่นกันที่ยังไม่สามารถดึงมีคุณกลับมาเป็นคนรักอย่างเดิมได้ ระหว่างที่เดินจากท่าเรือไปยังรถที่มารอรับ คีตะเห็นนับตังค์กำลังยืนอยู่กับผู้ชายอีกสองคนและมีเด็กอีกหนึ่งคนจึงหยุดเดิน พเยียเห็นคีตะหยุดเดินจึงมองตามสายตาของคีตะไป ทันทีที่พเยียเห็นพายพัด พเยียก็ไม่สามารถละสายตาไปที่อื่นได้เลย


“ขอไปทำความรู้จักกับเพื่อนของคุณสักหน่อยนะ เยียรอพี่สักครู่นะ” คีตะพูดกับพเยียก่อนจะเปลี่ยนทิศทางเดิน

“เยียไปด้วยสิคะพี่คิว” พเยียรีบเดินตามไป จนกระทั่งทั้งสองคนเดินมาถึงกลุ่มของนับตังค์

“สวัสดีครับ จำผมได้ไหม” คีตะถามนับตังค์


นับตังค์ พายพัดและใบเมี่ยงมองคนที่เข้ามาทัก ยกเว้นด้วงที่ก้มหน้าก้มตาเล่นกองทรายไม่สนใจใคร นับตังค์เพิ่งจะให้ขมิ้นมาส่งที่ริมหาดหลังจากที่เอาของที่ซื้อมาจากตลาดไปเก็บเรียบร้อยแล้ว เห็นตีตะเดินมาแต่ไกล แต่ไม่คิดว่าจะเข้ามาทักถึงที่


“จำได้ครับ” นับตังค์ตอบ

“คุณยังมาไม่ถึงเกาะอีกเหรอครับ เราไปทานข้าวด้วยกันมา แต่ก็แยกกันตั้งนานแล้วนะ” คีตะแสร้งขมวดคิ้วถาม ส่วนพเยียเอาแต่มองพายพัดตาไม่กระพริบ

“มาถึงแล้วครับ แต่เอาของไปเก็บ” ใบเมี่ยงเป็นฝ่ายตอบแทนนับตังค์ เพราะว่านับตังค์เพิ่งมาถึงและสวนกับมีคุณที่เพิ่งจะกลับไปที่บ้านได้เพียงครู่เดียว

“พวกคุณเป็นเพื่อนของคุณใช่ไหมครับ ผมเป็น...เป็นเพื่อนของคุณเหมือนกัน ชื่อคิว ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับ” คีตะตั้งใจเว้นสถานะเอาไว้นานก่อนจะพูดต่อ

“เยียก็ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ” พเยียบอกยินดีที่ได้รู้จักทุกคน แต่ส่งยิ้มหวานไปให้พายพัดเพียงคนเดียว

“ผมชื่อใบเมี่ยง นี่พายพัด นี่นับตังค์ ส่วนนี่ก็หนูด้วง ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” ใบเมี่ยงเป็นคนแนะนำและส่งยิ้มกลับไปให้พเยียและคีตะ ส่วนพายพัดหันไปเล่นกับหนูด้วงตั้งแต่คีตะแนะนำตัวเองแล้ว

“ชื่อหนูด้วงเหรอคะ น่ารักจังเลย” พเยียลดตัวลงนั่งแล้วทักด้วง แต่สายตายังคงมองไปที่หนุ่มหน้าตาดีที่ทำให้เธอใจเต้นตั้งแต่แรกเห็น

“ด้วง สวัสดีครับก่อน” ใบเมี่ยงพูดกับด้วง ด้วงเลยหน้ามามองพเยียก่อนจะสวัสดี แต่มือของด้วงถือที่ตักทรายอยู่ ทรายจึงกระเด็นไปโดนหน้าของพเยียเต็มๆ

“ว้าย ตายแล้ว” พเยียตกใจเลยเผลอร้องออกมาเสียงดัง ด้วงสะดุ้งตกใจรีบผุดลุกขึ้นโยนของเล่นทิ้งแล้วโผกอดพายพัดแน่น ทรายที่ติดจากของเล่นกระเด็นไปโดนคีตะด้วย

“เปื้อนหมดเลย” คีตะแสดงสีหน้าหงุดหงิดเต็มที่ ทรายที่ชุ่มน้ำเปื้อนขากางเกงราคาแพงของคีตะ ยิ่งปัดก็ยิ่งเปื้อน คีตะอยากจะหันไปดุด้วง แต่พเยียแตะที่แขนของคีตะเอาไว้ก่อน

“ขอโทษทีนะคะ เยียเสียงดังมากไปหน่อย” พเยียหน้าเสียเมื่อเห็นพายพัดมองคีตะด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ

“พายพาด้วงไปเล่นที่ริมทะเลก่อนนะ” พายพัดพูดกับใบเมี่ยงก่อนจะอุ้มด้วงเดินออกไปจากกลุ่ม ไม่สนใจสายตาของพเยียที่มองมาเลย

“ลูกชายคุณพายเหรอครับ” คีตะถามขึ้นเพราะรู้ว่าใจว่าพเยียคงอยากรู้

“ลูกชายของบอสมีคุณครับ” นับตังค์ตอบแล้วยิ้มแต่คีตะตกใจอย่างเห็นได้ชัด ส่วนพเยียรู้สึกโล่งใจที่ไม่ใช่ลูกของพายพัด

“ลูกของคุณเหรอ เป็นไปไม่ได้หรอก” คีตะรีบพูดออกไป

“คุณคงเป็นเพื่อนเก่าที่ไม่ได้ติดต่อกับบอสนานแล้วใช่ไหมครับเลยไม่รู้ว่าบอสมีลูกแล้ว เมื่อครู่ทานข้าวด้วยกันเขาน่าจะเล่าให้คุณฟังบ้าง บอสนี่นา มีลูกน่ารักไม่รู้จักอวดเพื่อน” นับตังค์แสร้งถอนหายใจ

“เรียกคุณว่าบอส เป็นลูกน้องของคุณเหรอ” คีตะรู้ว่านับตังค์ตั้งใจแขวะ ทีแรกก็เกือบจะวีนใส่แต่เมื่อเห็นว่านับตังค์เรียกมีคุณว่าบอสจึงเดาว่าคงเป็นลูกน้องของมีคุณเลยข่มใจเอาไว้

“ใช่” นับตังค์ตอบไปตรงๆ


คีตะได้ยินแล้วก็ยิ้มออกมาได้ ที่แท้ผู้ชายคนนี้ก็เป็นแค่ลูกน้องของมีคุณ คีตะไม่รู้ว่ามีคุณจ้างนับตังค์มาทำอะไรที่เกาะนี้ แต่เรื่องนี้ยังไม่หนักใจเท่าเรื่องที่มีคุณมีลูก ซึ่งมันไม่น่าเป็นไปได้ที่มีคุณจะเปลี่ยนรสนิยมไป ยังไงคีตะจะต้องสืบเรื่องนี้ให้ได้ จากที่คิดว่าจะกลับกรุงเทพในวันพรุ่งนี้ คีตะเปลี่ยนใจจะอยู่ที่นี่ต่อและคิดแผนกลับกรุงเทพพร้อมกับมีคุณ


“คุณเขาพักอยู่ที่ไหนเหรอ ผมมีของจะให้เขา” คีตะหลอกถาม

“ถามเจ้าตัวดีกว่าครับ มาโน้นแล้ว” ใบเมี่ยงชี้ไปที่มีคุณ ซึ่งกำลังเดินตรงมา

“คิวเพิ่งกลับมาถึง เจอลูกน้องของคุณเลยแวะทัก คุณเพิ่งถึงเหรอ” คีตะรีบหันมาพูดกับมีคุณเมื่อมีคุณเดินมาถึง พยายามเน้นคำว่าลูกน้อง

“ถึงได้สักพักแล้ว ด้วงไปไหน” มีคุณตอบคีตะก่อนจะหันไปถามนับตังค์ แถมยังเอามือวางบนผมของนับตังค์แล้วยีเบาๆ เป็นภาพที่ทำให้รอยยิ้มของคีตะหายไป

“ไปกับพายพัด ซื้อเป็ดมาให้เปล่า” นับตังค์ตอบก่อนจะเงยหน้าไปยิ้มให้มีคุณแล้วถามถึงของที่สั่งซื้อ

“ซื้อแล้ว” มีคุณยิ้มตอบให้นับตังค์ เป็นรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนจนคีตะและพเยียรับรู้ได้ว่าสองคนนี้ไม่ใช่แค่เจ้านายกับลูกน้องแน่ๆ

“คิวขอตัวก่อนนะ ร้อน” คีตะพูดจบก็เดินออกไปเลย พเยียรีบเดินตามไป แต่ก็ไม่วายหันไปมองที่พายพัดอย่างรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้คุยกันให้มากกว่านี้

“แฟนเก่าพี่นี่ท่าทางอารมณ์ร้อนนะ” นับตังค์พูดกับมีคุณตรงๆ หลังจากที่คีตะเดินไปไกลแล้ว มีคุณนั่งลงข้างๆ นับตังค์

“อ้าว แฟนเก่าพี่คุณหรอกเหรอครับ ถึงว่าทำไมมองตังแปลกๆ” ใบเมี่ยงถาม

“เขาเป็นคนขี้หงุดหงิดแบบนั้นแหละ โกรธง่ายหายเร็ว” มีคุณพูดถึงคีตะให้ฟังแค่สั้นๆ ถึงเลิกกันไปแล้วก็ไม่อยากพูดถึงอีกฝ่ายในทางที่เสียหาย

“แต่เพื่อนของเขาสงสัยจะชอบพาย มองตาไม่กระพริบเลย” ใบเมี่ยงทำหน้ามุ่ย

“หึงเหรอเรา” มีคุณขำใบเมี่ยงที่ทำหน้างอ

“ไม่ต้องไปหึง พายพัดสนใจที่ไหนกัน หายใจเข้าก็เฮ้อ...เมี่ยง หายใจออกก็เฮ้อ...เมี่ยง” นับตังค์ปลอบใบเมี่ยงเป็นเพลง

“เมี่ยงรักของเมี่ยงก็ต้องหึงกันบ้างสิตัง” ใบเมี่ยงพูดแล้วก็หัวเราะ เพราะหันไปเห็นพายพัดวิ่งหนีด้วงจนล้มกลิ้งไม่เป็นท่า

“หึงทำไม โตๆ กันแล้ว เนอะบอสเนอะ” นับตังค์หันไปพยักพเยิดกับมีคุณ

“จริงๆ พี่ก็อยากให้ตังหึงบ้างนะ” มีคุณทำท่าครุ่นคิด อยากรู้ว่าเวลานับตังค์หึงจะเป็นยังไง

“โอ้ย เปลืองพลังงาน ไม่หึงหรอก ถ้าทำตัวไม่น่าไว้ใจก็แค่เลิก เสียพลังงานตอนเลิกเลยทีเดียว” นับตังค์ยักคิ้วให้มีคุณ

“แรงอะ” มีคุณแกล้งทำหน้าสลดก่อนจะคว้ามือของนับตังค์ขึ้นมาจูบเบาๆ นับตังค์หน้าเหวอที่โดนจูบมือในที่สาธารณะ สักพักก็หน้าแดงขึ้นเองอย่างช่วยไม่ได้

“พายพัดเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลี แต่หน้าออกไปทางเกาหลีมากกว่าไทยเนอะ” นับตังค์รีบเปลี่ยนเรื่องทันที

“พี่ก็เป็นลูกครึ่งนะ” มีคุณ

“จริงเหรอครับ ลูกครึ่งอะไรเหรอครับ” ใบเมี่ยงถามก่อนจะมองหน้ามีคุณอย่างพิจารณา

“พ่อเป็นแขก” มีคุณตอบ

“จริงดิ แล้วแม่ของพี่ล่ะ” นับตังค์มองหน้ามีคุณแล้วไม่อยากจะเชื่อ ไม่เห็นมีตรงไหนที่เหมือนแขก ตาก็ไม่ได้โต ขนตาก็ไม่ได้งอนยาว

“จริงสิ พ่อเป็นแขก แม่เป็นเจ้าของบ้าน” มีคุณตอบกลับไปแล้วหันไปอมยิ้ม ส่วนนับตังค์กับใบเมี่ยงได้ยินแล้วหันมามองหน้ากันก่อนจะหัวเราะลั่น

“เออ ผ่านๆ มุกนี้ผ่าน” นับตังค์ตบไหล่มีคุณก่อนจะหัวเราะต่อ

“พี่คุณตลกดีจัง” ใบเมี่ยงเองก็ขำ

“พ่อเป็นแขก แม่เป็นเจ้าของบ้าน ไหงลูกออกมาหน้าเหมือนโจร” นับตังค์หันมาถามด้วยสีหน้ากวนๆ มีคุณเขกหน้าผากนับตังค์เบาๆ

“ถึงพี่จะหน้าเหมือนโจร แต่อ่อนโยนอย่างเหลือเชื่อนะ”

“ฮ่าๆ สงสัยเมาสุกี้มาแหงๆ” นับตังค์ขำมีคุณที่ปล่อยมุกไม่หยุด มีคุณเห็นนับตังค์หัวเราะกับมุกของตัวเองได้ก็ดีใจ ก่อนจะขยับไปจนตัวชิดกับนับตังค์แล้วกระซิบที่หู

“เมารักมากกว่า คืนนี้เรามีนัดกันนะ””

“ตังไปเล่นกับด้วงดีกว่า” นับตังค์ได้ยินแล้วหยุดหัวเราะ หน้าแดงหนักกว่าเดิมก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปหาด้วงกับพายพัด

“คืนนี้เมี่ยงจะดูแลด้วงให้นะครับ” ใบเมี่ยงอมยิ้ม ส่วนมีคุณทำหน้าไม่ถูก

“ได้ยินด้วยเหรอ” มีคุณถามพลางเกาท้ายทอยอย่างเขินๆ

“ไม่ต้องอายครับ โตๆ กันแล้ว” ใบเมี่ยงพูดจบก็หัวเราะก่อนจะลุกขึ้นแล้ววิ่งไปสมทบกับพายพัดและนับตังค์ ทิ้งให้มีคุณมองภาพผู้ชายสามคนวิ่งหนีเด็กน้อยแล้วยิ้มกว้างอยู่คนเดียว



เล่นน้ำทะเลจนพระอาทิตย์เริ่มตกดิน มีคุณก็ให้ทุกคนขึ้นจากน้ำ โดยเฉพาะนับตังค์ที่เพิ่งจะหายจากไข้ จักรยานสองคันใหม่เอี่ยมจอดอยู่ที่ริมหาด คันแรกมีคุณซื้อให้พายพัดกับใบเมี่ยง ส่วนอีกคันก็เป็นของเขา นับตังค์และด้วง


บรรยากาศสองข้างทางระหว่างทางกลับบ้านเต็มไปเสียงหัวเราะของหนูด้วงสลับกับเสียงบ่นของนับตังค์ จะไม่ให้นับตังค์บ่นได้ยังไงในเมื่อมีคุณขี่รถสองล้อไม่เป็น ภาระหนักจึงตกเป็นของนับตังค์ที่ต้องเป็นคนขี่ให้ด้วงนั่งข้างหน้าและมีหมีตัวใหญ่นั่งกอดเอวนับตังค์จนแน่นอยู่ข้างหลัง แถมหมียักษ์ยังมาบ่นว่านับตังค์ขี่เป๋ไปเป๋มาจนเวียนหัว กว่าจะปั่นถึงบ้านเล่นเอานับตังค์หอบแฮ่ก ไม่เหมือนคู่พายพัดและใบเมี่ยงที่ทั้งกอดทั้งซบหลังทั้งอ้อนกันจนนับตังค์อิจฉา



เมื่อถึงบ้านก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำอาบท่าก่อนจะลงมากินข้าวพร้อมกัน วันนี้ขมิ้นไม่ได้มาทานด้วย แต่มีคุณก็ซื้อเป็ดย่างมาฝากขมิ้นกับสาลี่เหมือนกัน เมื่ออาหารมื้อค่ำผ่านไป ใบเมี่ยงก็หลอกล่อพาด้วงไปที่ห้องเพราะอยากให้มีคุณกับนับตังค์ได้มีเวลาส่วนตัวกันให้มากขึ้น

แต่ความฝันของมีคุณที่หวังจะล่าเตียงกับนับตังค์สองต่อสองต้องพังทลายลงเมื่อด้วงร้องไห้จะหานับตังค์ไม่ยอมหยุดจนใบเมี่ยงก็เอาไม่อยู่ เล่านิทานก็แล้ว หลอกล่อสารพัดก็แล้ว สุดท้ายก็ต้องไปเคาะห้องของมีคุณเพื่อส่งด้วงให้กับนับตังค์ นับตังค์ทั้งขำทั้งสงสารมีคุณที่อุตส่าห์อ้อนวอนขอเพิ่มลำดับขั้นของการเป็นแฟนจนนับตังค์เริ่มจะใจอ่อน แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายให้แก่หนูด้วงที่นอนแทรกตรงกลางและหวงนับตังค์เอาไว้คนเดียว หลังจากที่ด้วงหลับแล้วนับตังค์ถึงได้อุ้มด้วงไปนอนฝั่งด้านใน นับตังค์หันไปสวมกอดมีคุณและร้องเพลงต้องมีสักวันของพี่ก๊อตจักรพรรณ์แทนการปลอบโยน แต่มีคุณกลับรู้สึกว่านับตังค์กำลังซ้ำเติมเขามากกว่า จึงตอบโต้ด้วยจูบมัดจำจนนับตังค์ไม่สามารถร้องเพลงกวนประสาทมีคุณได้อีก


..


พายพัดกับใบเมี่ยงตื่นมาตั้งแต่เช้าเพื่อรอดูนับตังค์ทำอาหารไทยชาววังที่คุณขจีอยากทาน แต่ก่อนที่นับตังค์จะลงมาก็จัดการทำอาหารเช้าเอาไว้สำหรับทุกคนเรียบร้อยแล้ว


ส่วนนับตังค์กับมีคุณลงมาพร้อมกันเพราะทั้งสองคนช่วยกันจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ด้วงจนเสร็จ ทั้งคู่เริ่มปรับตัวกับการดูแลเจ้าตัวน้อยจนเข้าขากันดี มีคุณก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะล้างก้นหรืออาบน้ำให้เด็กได้ รวมไปถึงทำใจให้เย็นในการหลอกล่อเด็กซนให้อยู่นิ่งๆ ได้ ซึ่งการที่ได้มาอยู่ที่นี่ เขาได้ทำอะไรหลายอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ยกเว้นอย่างเดียวที่เขายังทำไม่ได้และโดนนับตังค์ขู่ว่าเขาจะต้องทำให้ได้ นั่นก็คือการขี่จักรยานและมอเตอร์ไซด์ให้เป็น


“ว้าว อาหารเช้าน่าทานทั้งนั้นเลย” นับตังค์มองดูสารพัดอาหารเช้าที่พายพัดกับใบเมี่ยงทำแล้วก็เริ่มหิว

“ตังอุ้มด้วงมานั่งตรงนี้ พี่ซื้อเก้าอี้สำหรับให้เด็กกินข้าวมาให้ ชอบให้นั่งที่เคาน์เตอร์” มีคุณชี้ไปที่เก้าอี้นั่งทรงสูงสำหรับเด็กสีฟ้าเมื่อเห็นว่านับตังค์ทำท่าจะอุ้มด้วงไปนั่งที่เคาน์เตอร์ครัว

“แบกลงเรือมาได้ยังไง จักรยานอีกสองคัน” นับตังค์พาด้วงไปนั่งแล้วจัดการคาดเข็มขัดให้ด้วงด้วย นึกถึงของที่มีคุณซื้อมาก็นึกสงสัย นี่ยังไม่รวมพวกอุปกรณ์สำนักงานบางอย่างที่มีคุณขนเอาไปไว้ที่ห้องทำงานในร้านอาหารอีก

“พี่เก่ง จบนะ” มีคุณชมตัวเองแล้วยักคิ้วให้นับตังค์ที่กำลังเบ้ปากใส่เขาก่อนจะลงมือทานอาหารเช้าก่อนที่มันจะเย็นชืด



เมื่อทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้วนับตังค์ก็เริ่มลงมือทำล่าเตียงกับหรุ่ม พายพัดกับใบเมี่ยงช่วยเตรียมเครื่องสำหรับทำไส้ตามที่นับตังบอก วัตถุดิบทั้งสองอย่างไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ เพียงแต่ตัวล่าเตียงใช้เนื้อกุ้งเป็นส่วนประกอบหลักและผัดกับถั่วลิสงคั่ว ส่วนหรุ่ม นับตังค์ใช้เนื้อสันในหมูสับและมีส่วนผสมของมันเทศนึ่งบดละเอียดด้วย ไส้ของล่าเตียงจะแห้งกว่าตัวไส้ของหรุ่มนิดหน่อย


กลิ่นสามสหายผัดกับน้ำมันเริ่มส่งกลิ่นหอมไปทั่ว สามสหายที่ว่าก็คือ กระเทียมสับ รากผักชี พริกไทยเม็ด โขลกละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อผัดจนหอมแล้วนับตังค์จึงใส่กุ้งกับหอมใหญ่ลงไปผัดจนเกือบสุก จากนั้นก็ปรุงรสด้วยน้ำปลาดีกับน้ำตาลมะพร้าว เมื่อได้รสเป็นที่พอใจและเนื้อกุ้งสุกกำลังดี นับตังค์ก็ใส่ถั่วลิสงคั่วบดลงไปผัดให้เข้ากันแล้วจึงตักขึ้นพักเอาไว้ จากนั้นก็มาทำไส้ของหรุ่มต่อ วิธีการทำก็ไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไหร่ แต่นับตังค์ใส่มันเทศบดละเอียดเพิ่มลงไปด้วยเพื่อให้รสสัมผัสมันละมุนกลมกล่อม เมื่อทำไส้ของทั้งอย่างเสร็จแล้วนับตังค์ก็เริ่มทำไข่ที่จะต้องห่อ


“สีผสมอาหารเหรอ” มีคุณที่ยืนถ่ายคลิปอยู่ถามขึ้นเมื่อเห็นนับตังค์หยอดสีเหลืองเข้มลงไปในไข่

“ขมิ้นคั้น แต่หยดนิดเดียวพอนะ เดี๋ยวกลิ่นมันแรงไป แต่มันจะช่วยให้สีของไข่สวยขึ้น แล้วไข่ก็ใช้ไข่เป็ด ไข่เป็ดสีมันเข้มกว่าและให้ความเหนียวหนืดกว่า เวลาเราเอามาโรยทำเป็นตาข่ายมันก็จะห่อได้ดีกว่า” นับตังค์อธิบายให้ทุกคนฟัง

“แล้วไข่ที่ห่อหรุ่ม มันควรจะกรอบหรือนุ่มครับ” ใบเมี่ยงถาม

“ไม่กรอบมากและไม่นุ่มมากเกินไป เวลาเราแผ่ไข่เป็นวงกลม พยายามหยอดแล้วเกลี่ยให้เนื้อเสมอกัน ด้านที่ทาบกับกระทะให้กรอบสักนิด แต่อีกด้านยังคงความนุ่มเล็กน้อย ถ้าให้นุ่มมากไปมันจะแฉะ อะ เดี๋ยวลองทำดูนะ ห่อตองเป็นรูปกรวยก่อน” นับตังค์ส่งใบตองให้พายพัดกับใบเมี่ยง

“ไส้มันคล้ายสาคูไส้หมูเลย แต่หอมกว่า มีเนื้อหมูมากกว่า” มีคุณแอบชิมตัวไส้ที่นับตังค์ทำเสร็จแล้ว

“ก็คนขายสาคูไส้หมูสมัยนี้ประหยัดหมูไง มีแต่ถั่วกับไชโป๊ ไส้ก็ให้นิดเดียว ตัวสาคูก็หนาเกิน กินคำเดียวเคี้ยวไปร้อยรอบ ถ้าอยากกินตังจะทำให้กิน” นับตังบ่นไปก็ห่อใบตองให้เป็นรูปกรวยไปด้วย

“ทำอะไรไม่ได้บ้าง” พายพัดถามนับตังค์เพราะรู้สึกทึ่ง

“ทำใจไม่ให้รักเธอ กิ้วๆ” นับตังค์ตอบแล้วกระพริบตาปริบๆ ส่งไปให้พายพัด ใบเมี่ยงหัวเราะขำ แต่มีคุณกระแอมดังๆ

“จาปล่อยยาเบิด” ด้วงทำหน้ายู่แล้วร้องบอก

“ไปเลย พาด้วงไปปล่อยระเบิด ไม่ต้องมาไอ หน้าตาไม่หล่อก็ต้องแพ้ไป” นับตังค์พูดกับมีคุณก่อนจะแอบยิ้มเมื่อเห็นมีคุณเดินไปแหวกแพมเพิร์สของด้วงดูแล้วทำหน้าเหยเก

“นี่ขนาดยังไม่ปล่อยระเบิดนะด้วง เหม็นแล้ว” มีคุณทำจมูกยู่ ด้วงทำจมูกยู่ตาม

“ไม่เหม็นเยย” ด้วงเถียงแต่ก็ทำจมูกยู่ไปด้วย



มีคุณรีบพาด้วงไปเข้าห้องน้ำก่อนที่ด้วงจะปล่อยระเบิดใส่แพมเพิร์ส แล้วเสียงโทรศัพท์ของมีคุณก็ดังขึ้นหลังจากที่มีคุณออกไปจากครัวแล้ว นับตังค์เหลือบไปดูว่าใครโทรมาเพราะว่ามีคุณวางโทรศัพท์ทิ้งเอาไว้ เมื่อเห็นชื่อคนที่โทรมาก็ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วหันไปเอาไข่เทใส่กรวย จากนั้นก็สอนให้พายพัดกับใบเมี่ยงลองทำแพไข่ดู เสียงโทรศัพท์จากคีตะยังคงดังระรัวไม่ยอมหยุดจนสายตัดไปเพราะไม่มีใครกดรับ แต่คีตะก็ยังคงโทรกลับมาอีกจนนับตังค์ต้องส่ายหน้าเพราะรำคาญเสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุดเป็นสิบๆ สาย


“เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน เจ็บไกลในอาวรณ์ ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง“ พายพัดท่องกาพย์เห่เรือนี้ขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเสียงโทรศัพท์ของมีคุณยังคงดังต่อเนื่อง

“อืม...ล่าเตียงคิดเตียงน้อง นอนเตียงทองทำเมืองบน ลดหลั่นชั้นชอบกล ยลอยากนิทรคิดแนบนอน” ใบเมี่ยงท่องขึ้นมาบ้าง ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับพายพัดเพราะรู้ว่าพายพัดคิดอะไรอยู่


ใบเมี่ยงนึกในใจว่า อาหารทั้งสองชนิดที่กำลังทำอยู่มีวิธีทำใกล้เคียงกัน รูปแบบก็คล้ายกัน แต่ความหมายที่ล้นเกล้ารัชกาลที่สองท่านทรงประพันธ์ไว้ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ก็คงเหมือนนับตังค์กับคีตะ คนหนึ่งเป็นคนที่มีคุณคิดถึงและอยากแนบนอนด้วยความเสน่หา อีกคนก็มีแต่ความร้อนรุ่มสุมในทรวง เฝ้าแต่ว้าวุ่นคิดถึงคนที่เป็นแค่อดีตไปแล้ว


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


ขอบคุณที่ติดตามและคอยแวะเวียนมาทักทายนะคะ กดติดตามเพจเอาไว้น้า
บางทีมีรูปตัวอย่างนั่นนี้ก็จะเอาไปลงที่เพจไว้ให้ดูกัน อย่างเช่นจักรยาน จะได้มโนกันออกเนอะ ฮ่าๆๆ
มีอะไรผิดพลาดประการใดขออภัย ณ.ที่นี่ด้วยค่ะ เดี๋ยวคำผิดมาตามแก้จ้า

*อ้างอิง หรุ่มและล่าเตียงจาก ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์ ข้าหลวงประจำห้องเครื่องในพระวิมาดาเธอพระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ



(https://www.uppic.org/image-3E53_5919B7E0.jpg)


เครดิตรูปจาก Google


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 16-05-2017 16:39:36
หิวทันที น้ำลายย้อย /ปาดน้ำลาย  :hao5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 16-05-2017 16:45:54
 :กอด1: :3123: :pig4: :3123: :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 16-05-2017 16:46:11
เห็นด้วยกับใบเมี่ยง ที่บอกนับตังค์เหมือนล่าเตียง และคิวเหมือนหรุ่ม    มีคุณโชคดีแล้วที่เลิกกับคิว  และได้มารู้จักกับนับตังค์
 
ฮากับมุก "พ่อเป็นแขก แม่เป็นเจ้าของบ้าน"

ไปๆ มาๆ คุณขจีก็คนรู้จักของครอบครัวนับตังค์  รอลุ้นต่อไปว่านับตังค์จะได้คุยเรื่องด้วงกับคุณขจีเมื่อไร

 :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 16-05-2017 17:00:44
 :pig4: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 16-05-2017 17:22:36
น่าทานอีกแล้วล่ะค่ะ   
อ่านแล้วหิวเลย 5555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PiiNaffe ที่ 16-05-2017 18:50:31
ดีใจที่ไม่อ่านตอนกลางคืนไม่งั้นทนไม่ไหวแน่ๆ
หิวววววว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 16-05-2017 19:21:57
ต้องกินให้อิ่มก่อนมาอ่านเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-05-2017 20:26:52
  o13o13 o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 16-05-2017 20:41:16
คีตะนี่อะไรนักหนา โทรมาทำไมมมม

มีคุณโดนเจ้าหนูด้วงแกล้งซะแล้ววว
อดล่าเตียงกะบนับตังค์เลยย555 :hao3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-05-2017 21:25:27
ดีว่าอิ่มแล้วถึงมาอ่าน 55555
เห็นเค้าลางอะไรบางอย่างละ ว่าทำไมถึงต้องจ้างตังมาอยู่ที่นี่
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 16-05-2017 21:30:51
ไม่น่าอ่านตอนนี้เลย หิว :hao7:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 16-05-2017 21:40:27
ยังไม่เห็นแววเปิดร้านซะที
รออะไร
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-05-2017 12:20:11
 :mew1: :mew1: :3123: :3123: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 13 ล่าเตียง,หรุ่ม 16/5/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 17-05-2017 13:35:21
หยอด จิก กัด เป็นคู่ที่มีหลากรส น่ารักจริงๆ คู่นี้ ขอให้จับมือกัน ชนะมารทั้งหลายด้วยน้อ แรงๆ กันทั้งนั้น
ไม่ว่า ดาวเรือง คีตะ พญา แต่ละปัญหานี้ชวนปวดหัว แต่ดาวเรืองนี้จะใหญ่สุด สงสัยอะ และก็สงสารด้วง
แล้วหวังว่าจะไม่ดราม่าเรื่องร้านน้อ คงจะมีแต่คีตะนี้ละ คงจะไปหาข้อมูลเพิ่มแน่ๆ คาดว่าคงไม่หยุด  :katai1:
แต่ละตอนนี้พาหิวตลอด ได้ทั้งความรู้ด้วย ชอบๆ  o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 02-06-2017 13:49:48
ตอนที่ 14 ขนมจีบ


จากวันสงกรานต์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ก็ครบสองอาทิตย์พอดี เมื่อวันพักผ่อนได้หมดลงทุกคนก็เริ่มเอาจริงเอาจังในหน้าที่ของตนเอง เพราะเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันร้านอาหารจะต้องเปิดตัวแล้ว ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา มีคุณเรียกทุกคนมาประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็นร่วมกันเกี่ยวกับแผนการตลาดกับรูปแบบของร้านอาหารที่เขาวางเอาไว้ อย่างแรกก็คือเรื่องชื่อร้าน ทุกคนช่วยกันคิดจนมาลงตัวกันว่าให้ร้านอาหารแห่งนี้ชื่อว่าร้านอาหาร ‘มีคุณอนันต์’

ประเด็นที่สอง...มีคุณให้นับตังค์เป็นคนจัดการเกี่ยวกับรายการอาหาร นับตังค์เสนอว่าสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการจองและจ่ายเงินล่วงหน้านั้น นับตังค์จะจัดเป็นอาหารชุดพิเศษให้ได้เลือก ชุดอาหารแต่ละวันในหนึ่งอาทิตย์จะไม่ซ้ำกันเลย แต่ลูกค้าสามารถเลือกได้หนึ่งในสามชุดที่นับตังค์จัดเอาไว้ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่นที่นับตังค์คิดสูตรเอง รวมไปถึงของหวานที่นับตังค์ยกหน้าที่ให้ใบเมี่ยงเป็นคนจัดการ โดยนับตังค์จะให้โจทย์เอาไว้ว่าของหวานในวันนั้นจะต้องไปกันได้ด้วยดีกับชุดอาหารคาวของนับตังค์ เครื่องดื่มที่พายพัดมีหน้าที่จัดการก็เช่นกัน

ที่นับตังค์เสนอแบบนี้เพราะอยากให้อาหารที่ทำแต่ละวันได้วัตถุดิบที่สดใหม่หมดวันต่อวัน ถ้าอยากทานเป็นอาหารตามสั่งหรืออยากทานเหมือนร้านทั่วไป นักท่องเที่ยวก็สามารถเลือกไปทานทางฝั่งของพ่อเลี้ยงพยนต์ได้ นับตังค์อยากให้ลูกค้ามีตัวเลือกเพิ่มขึ้นมาอีก รายการอาหารจะเน้นวัตถุดิบในพื้นที่ราคาจะได้ไม่แพงจนเกินไปแต่ได้กินของดีมีคุณภาพ มีคุณและทุกคนสนับสนุนความคิดของนับตังค์เลยได้ข้อสรุปในเรื่องของอาหารเป็นที่เรียบร้อย

เมื่อคุณขจีรับทราบเรื่องแนวคิดเกี่ยวกับอาหารที่นับตังค์เสนอกับมีคุณ เธอจึงได้ยื่นข้อเสนอมาว่าอยากให้ทางร้านมีคุณอนันต์จัดอาหารเย็นให้แขกจากรีสอร์ตของเธอด้วย ทางคุณขจีจะขายเป็นแพ็คเกจให้กับลูกค้าที่ต้องการห้องพักพร้อมอาหารเย็น ซึ่งเมื่อมีคุณเอารายการอาหารชุดพิเศษที่นับตังค์คิดไปให้คุณขจีลงในเว็บไซต์ของรีสอร์ต ลูกค้าทั้งชาวต่างชาติทั้งคนไทยก็จองล่วงหน้ากันเข้ามาจนเต็มทุกวัน ตอนนี้เรียกได้ว่าในส่วนของอาหารเย็นนั้นถูกจองเต็มยาวไปสี่เดือนแล้ว ผลตอบรับนี้ทำให้มีคุณพึงพอใจเป็นอย่างมาก

มีคุณจึงสรุปได้ว่าทางร้านจะเปิดเป็นช่วงเวลาแค่สองช่วง ช่วงแรกเป็นอาหารกลางวัน จะเริ่มเปิดตั้งแต่สิบเอ็ดนาฬิกาถึงบ่ายสองโมง จะเน้นไปที่อาหารจานเดียว ถึงจะเป็นแค่อาหารจานเดียว แต่เมนูที่นับตังค์คิดขึ้นมาและลองทำให้ทุกคนได้กินนั้นมีคุณยอมรับว่ามันดูดีและรสชาติอร่อยเทียบเท่าอาหารจากเชฟในโรงแรม ทุกคนที่ได้ชิมก็เอ่ยปากเป็นเสียงเดียวกันว่าฝีมือของนับตังค์สุดยอดมากจริงๆ ส่วนอาหารค่ำจะเริ่มตั้งแต่ห้าโมงเย็นจนถึงสี่ทุ่มครึ่งและมีไว้สำหรับผู้ที่จองล่วงหน้าเพียงเท่านั้น ที่มีคุณไม่ได้เปิดร้านในช่วงเช้าเพราะว่าอยากให้เชฟและพนักงานทุกคนได้มีเวลาพักพอเพียงและมีเวลาที่จะจัดเตรียมอาหารสำหรับมื้อกลางวันและอาหารค่ำได้อย่างเต็มที่

ขณะนี้มีคุณได้เปิดรับผู้ช่วยในครัวเพิ่มอีกหนึ่งคนและเด็กเสิร์ฟอีกห้าคน ผู้ช่วยในครัวอีกหนึ่งคนที่รับมาเคยทำงานที่นี่สมัยที่คุณปู่ของมีคุณยังบริหารอยู่ เธอมีชื่อว่าสายรุ้ง อายุสี่สิบกว่า รูปร่างเล็กและดูคล่องตัวมาก เธอเป็นคนเชียงราย ผิวขาวและไม่ค่อยพูดมาก ขมิ้นมาช่วยยืนยันว่าสายรุ้งนิสัยดีและขยัน ด้วยความที่เป็นคนเหนือเหมือนใบเมี่ยง ทั้งสองคนจึงสนิทกันรวดเร็ว ส่วนเด็กเสิร์ฟอีกห้าคนเป็นคนในพื้นที่ เป็นผู้ชายสามคนและผู้หญิงอีกสองคน

สำหรับสวัสดิการของพนักงาน มีคุณจัดอาหารให้สามมื้อสำหรับพนักงานทุกคน ทุกคนจะเริ่มทานอาหารเช้าร่วมกันและหลังจากมื้อเช้าเสร็จสิ้นต้องมารวมตัวเพื่อพูดคุย นับตังค์จะบอกเกี่ยวกับรายละเอียดของอาหารชุดพิเศษของวันนั้นๆ ทุกคนจะต้องได้ชิมและรับรู้ว่ารสชาติของอาหารเป็นอย่างไร มีส่วนประกอบอะไร เพื่อจะได้ให้ข้อมูลกับลูกค้าได้ถูกต้องชัดเจนฉะฉาน จากนั้นทุกคนจะต้องมารวมตัวอีกครั้งหลังจากที่ร้านปิดเพื่อพูดคุยถึงปัญหาของแต่ละคนในแต่ละวัน ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง มีคุณจะประเมินการทำงานและบอกข้อติชมจากลูกค้าให้ทุกคนฟังด้วย นอกจากนี้มีคุณยังมีสวัสดิการเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้กับทุกคนด้วยเหมือนกัน

ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมามีคุณยุ่งอยู่กับการทำการตลาดให้กับร้าน อบรมพนักงานเสิร์ฟให้พร้อมสำหรับปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ รวมไปถึงยังต้องคอยดูแลการตกแต่งร้านให้สะอาด แม้ร้านของมีคุณไม่ได้ใหญ่โตเหมือนภัตตาคาร แต่ด้วยความที่เขาเป็นนักวิจารณ์อาหารที่มีอุดมการณ์ในอาชีพสูง มาตรฐานของมีคุณจึงค่อนข้างสูงตามไปด้วย เขาเคยเห็นทั้งข้อดีและข้อเสียจากร้านอาหารที่เขาไปทานและเคยไปวิจารณ์เอาไว้ มาถึงร้านอาหารที่เป็นของเขาเอง เขาอยากให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์ให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

ส่วนนับตังค์ก็ยุ่งอยู่กับการทำอาหารทุกอย่างตามรายการอาหารที่คิดขึ้นมา เมื่อลองจัดเซ็ทกับขนมหวานและเครื่องดื่มของใบเมี่ยงและพายพัดแล้ว อาหารทั้งหวานคาวจะต้องเข้ากันได้ดี มีคุณจะเป็นคนสุดท้ายที่ตัดสินว่ามีอะไรตรงไหนต้องแก้ไขปรับเปลี่ยนหรือไม่ รวมไปถึงจัดการถ่ายรูปอาหารทุกอย่างเพื่อเอาไปลงในเมนูและสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งมีคุณและนับตังค์จะมีเวลาส่วนตัวก็แค่ก่อนนอนเท่านั้น นับตังค์ต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปซื้อของสดด้วยตัวเอง ไหนจะต้องเตรียมอาหารให้ทุกคนได้ลองชิม เสร็จงานแล้วกว่านอนก็ต้องกล่อมให้ด้วงหลับก่อน บางวันก็หลับก่อนด้วงจนมีคุณต้องเป็นคนเล่านิทานให้ด้วงฟังเอง มีคุณรู้ว่านับตังค์เหนื่อยแต่ก็เห็นว่านับตังค์มีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่รักเช่นกัน

ในช่วงนี้ใบเมี่ยงและพายพัดจะเป็นคนช่วยดูแลด้วงให้ในช่วงกลางวัน แต่บางทีก็อดสงสารด้วงไม่ได้เมื่อมีท่าที่เศร้าซึมเวลาที่ไม่ได้อยู่กับนับตังค์ สุดท้ายนับตังค์ก็ต้องยอมให้ด้วงเข้าไปอยู่ในครัวด้วย แต่ให้นั่งที่เก้าอี้ของเด็กที่มีคุณซื้อเอาไว้ให้และตั้งอยู่ตรงมุมห้องครัว ด้วงก็ไม่งอแงยอมนั่งเล่นของเล่นอยู่บนเก้าอี้ บางทีก็หลับคาเก้าอี้เป็นที่น่าเอ็นดูและน่าสงสารปนกันไปเมื่อได้เห็น

มีอยู่อย่างหนึ่งในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาที่สร้างความประหลาดใจให้กับนับตังค์และทุกคนนั่นก็คือ ‘ขนมจีบ’ ทุกๆ เช้าจะมีคนนำขนมจีบมาส่งให้นับตังค์ แม้คนที่มาส่งจะไม่ยอมบอกว่ามาจากไหน แต่นับตังค์เดาได้ว่าใครเป็นคนส่งมา วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ขมิ้นหิ้วขนมจีบเข้ามาในร้านตั้งแต่เช้าตรู่

“วันนี้พี่ไม่กินแล้วนิ เบื่อแล้ว” ขมิ้นยื่นถุงขนมจีบให้นับตังค์ ถึงขนมจีบจะรสชาติดี แต่พอต้องกินทุกวันขมิ้นก็รู้สึกเบื่อ

“หนูจากิน หนูกินนะ” ด้วงร้องขอพร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้า

“ดีมาก พูดชัดขึ้นบ้างแล้ว” นับตังค์เดินไปลูบผมของด้วงแล้วหอมแก้มยุ้ยของด้วงฟอดใหญ่


ใบเมี่ยงเป็นคนช่วยฝึกด้วงให้พูดชัดขึ้น ช่วงเวลาแค่สองอาทิตย์ด้วงพูดกอไก่ได้ชัดขึ้นบ้างก็ถือว่าดีแล้ว อีกอย่างหนึ่งคือใบเมี่ยงไม่ยอมให้ด้วงกินนมจากขวดแล้ว ทีแรกด้วงก็งอแงเพราะชินมาจากตอนที่ดาวเรืองเลี้ยง ใบเมี่ยงบอกว่ามันเป็นภาวะถดถอย แต่ทุกคนช่วยกันแข็งใจไม่สงสาร พยายามหลอกล่อให้ดื่มจากแก้ว สุดท้ายด้วงก็ยอมดื่มนมจากแก้วแทนการดูดขวด ส่วนแพมเพิร์สใบเมี่ยงยอมให้ด้วงใส่แค่ช่วงเวลานอนเพราะคำขอร้องของมีคุณ มีคุณสงสารนับตังค์ หากต้องฝึกด้วงให้เลิกใส่แพมเพิร์สช่วงเวลากลางคืน นับตังค์อาจจะมีเวลานอนน้อยกว่าเดิม เพราะต้องคอยระแวงว่าด้วงจะฉี่รดที่นอน ที่เป็นเช่นนั้นเพราะด้วงไม่ยอมนอนกับใครเลยนอกจากนับตังค์ ซึ่งมีคุณกำลังคิดว่าคงต้องหาพี่เลี้ยงมาช่วยเลี้ยงดูด้วง เพราะตอนที่ร้านอาหารเปิดทุกคนจะไม่มีเวลาอย่างตอนนี้แน่

“พี่บ่าวบอกคนที่มาส่งขนมจีบไปรึยังว่าไม่ต้องมาส่งให้แล้ว” นับตังค์ถามขมิ้น

“พี่บอกจนเมื่อยปากแล้วนิตังนิ” ขมิ้นบ่น

“ต้องไปบอกคนสั่งไม่ใช่คนส่ง ให้พี่ไปบอกให้ไหม” มีคุณถามเสียงเข้ม

“ไม่ต้องเลย พี่จะเปิดร้านอาหารอยู่แล้ว มีศัตรูมันไม่ดีหรอก ก็แค่ขนมจีบ อยากส่งก็ปล่อยให้เขาส่งมา” นับตังค์รีบห้าม

“ตังก็บอกเขาไปสิว่ามีแฟนแล้ว” ใบเมี่ยงเสนอแนะ

“โอ้ย อิตาพญามันคิดว่าตังมีเมียมีลูกแล้วเหอะเมี่ยง คงกะว่าทำคะแนนไปทุกวันรอตังเลิกกับเมีย” นับตังค์พูดแต่หันไปยักคิ้วให้มีคุณ เน้นคำว่าเมียจนมีคุณยกยิ้ม

“เน้นจัง อยากได้ตำแหน่งนี้เร็วๆ รึไง” มีคุณกระซิบถามนับตังค์เบาๆ เขาไม่ได้อายใครแต่กลัวด้วงจะได้ยิน

“เรื่องหื่นไว้ใจมีคุณ ไวเชียว ว่าแต่กิ๊กเก่าพี่หายไปเลย ไม่โทรมาแล้วเหรอ ปกติต้องโทรมาทุกวัน ไม่รับก็ยังโทรมายิกๆ” นับตังค์ถามถึงคีตะ นับตังค์ไม่ได้หึงหวง เพียงแต่ยอมใจในความขี้ตื้อของคีตะ ถึงแม้การพูดคุยจะมาในรูปแบบของเพื่อน แต่การโทรมาหามีคุณทุกวัน เขาไม่รับก็ยังขยันโทรมา นับตังค์เลยอยากรู้ว่าคีตะไม่รู้เลยเหรอว่าแฟนเก่าของตัวเองเป็นคนขี้รำคาญแค่ไหน

“เขาก็แค่โทรมาปรึกษาเรื่องงาน เขาเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน” มีคุณเองก็ยอมรับว่าเขารำคาญคีตะ แต่อีกใจก็นึกเห็นใจ เขาคบกับคีตะมาหลายปี มันก็ยังมีความเป็นเพื่อนให้กันอยู่บ้าง แม้คีตะจะโทรมาบ่อย แต่การที่คีตะยอมกลับกรุงเทพไปโดยไม่มาตามเฝ้าเขาถือว่าดีมากแล้วสำหรับคนเอาแต่ใจอย่างคีตะ

“ไม่แปลก” นับตังค์ยักไหล่ ไม่รู้สึกแปลกใจที่คีตะไม่ค่อยมีเพื่อน

“มานี มีนา มาพอดีเลย มาลองชิมคอกเทลสูตรใหม่นี่ให้พี่หน่อย” พายพัดเห็นฝาแฝดมานีกับมีนาเดินเข้ามาก็รีบเรียก

มานีกับมีนาเป็นฝาแฝดที่มาสมัครเป็นสาวเสิร์ฟ ทั้งคู่จบแค่ชั้นมัธยมปลาย ไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยเพราะฐานะทางบ้านยากจน แต่ทั้งสองคนพูดภาษาอังกฤษได้คล่องเพราะเคยไปช่วยแม่ทำงานบ้านให้กับชาวต่างชาติตั้งแต่ยังเด็กๆ มีคุณรับทั้งสองคนเอาไว้เพราะเห็นว่าพูดภาษาอังกฤษได้ หน้าตาก็ดูยิ้มแย้มและคล่องตัว ช่วงที่ร้านยังไม่ได้เปิด พายพัดพอมีเวลาก็ช่วยสอนภาษาเกาหลีให้กับทั้งคู่ด้วย มีคุณจึงให้ทั้งสองคนมาที่ร้านทุกวันในช่วงนี้ นอกจากมาช่วยหยิบจับงานในร้านก็ยังได้เรียนภาษาเกาหลีกับพายพัดไปด้วย พายพัดบอกกับมีคุณว่าทั้งคู่หัวไวและเรียนรู้ได้เร็ว เห็นว่าใบเมี่ยงจะสอนภาษาจีนให้ด้วยเผื่อต้องต้อนรับลูกค้าคนจีน

“เมื่อวานให้หนูกินน้ำสีม่วงๆ อร่อยมากเลยค่ะโอปป้า” มานีเอ่ยชม

ทั้งมานีและมีนาต่างก็ชื่นชมพายพัดราวกับว่าตัวเองเป็นแฟนคลับและพายพัดเป็นศิลปินเกาหลี ทั้งคู่ถึงกับยืนตะลึงตอนที่ได้เห็นพายพัดในครั้งแรก นอกจากมีรสนิยมที่ชอบดารานักร้องเกาหลีแล้ว มีนากับมานียังเป็นสาววายเต็มตัว เมื่อรู้ว่าพายพัดเป็นแฟนกับใบเมี่ยง ทั้งคู่ถึงกับกรี๊ดดีใจจนขมิ้นเกาหัวจนผมแทบหลุดเพราะเพิ่งเคยเห็นผู้หญิงคลั่งไคล้ผู้ชายที่มีแฟนเป็นผู้ชายก็วันนี้เอง

“เอาขนมจีบไปกินด้วยสิมีนา มานี” มีคุณส่งกล่องขนมจีบให้สองสาว

“ของหนู หนูจากิน” ด้วงร้องท้วงเมื่อเห็นมีคุณจะเอากล่องขนมจีบไป

“เดี๋ยวให้มัมทำให้กิน อันนี้ไม่ดี ไม่ต้องกิน” มีคุณบอกกับด้วง ไม่อยากให้กล่องขนมจีบนี้อยู่ขวางหูขวางตา

“ไม่รู้ใครส่งมานะคะ แต่มีนาว่าเชฟตังทำต้องอร่อยกว่ามากแน่ๆ” มีนาอยากกินขนมจีบฝีมือของเชฟตังบ้างจึงรีบบอก

“คนส่งมาต้องชอบเชฟแน่เลยค่ะ ให้ขนมจีบก็เหมือนมาจีบ” มานีแสดงความเห็น

“หึหึหึ” จู่ๆ มีคุณก็หัวเราะในลำคอจนสองสาวฝาแฝดมองหน้ากันอย่างงงๆ

“ขำอะไร” นับตังค์ถาม สีหน้าของมีคุณดูเจ้าเล่ห์จนไม่น่าไว้ใจ

“ตัง...ทำขนมจีบให้ด้วงกินด้วยนะ พี่ไปทำงานต่อก่อนนะ” มีคุณอารมณ์ดีขึ้นมาเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“อะไรของเขา” นับตังค์มองตามมีคุณที่เดินผิวปากออกไปก่อนจะหันมายักไหล่ให้ใบเมี่ยงที่ยืนขำอยู่

“นี่ดีนะครับว่าเป็นพี่คุณ ถ้าลองเป็นพายนะ ขนมจีบคงไปนอนอยู่ก้นถังขยะแล้ว” ใบเมี่ยงพูดให้นับตังค์ฟัง

“อุ๋งอุ๋ง ไม่เอา ไม่นินทาแฟนนะครับ” พายพัดเดินมาจับคางของใบเมี่ยงให้ส่ายไปมา มานีกับมีนาแอบยิ้มและบิดเขินอย่างกับเป็นใบเมี่ยงเสียเอง

“สรุปว่าบอสกับเชฟก็...คิดแบบนั้นไหมมีนา” มานีกระซิบถามน้องสาวฝาแฝด

“แบบนั้นเลยมานี เฮ้อ...ดูทุกอย่างเป็นสีชมพู มีความสุขจังเนอะ” มีนาตอบก่อนจะหันไปหัวเราะกับพี่สาว

“โลกของสาววาย จินตนาการสำคัญกว่าความรู้จริงๆ นิ” ขมิ้นเห็นแล้วก็ส่ายหน้าก่อนจะขำตามสองสาวที่ดูจะมีความสุขมาก ด้วยความร่าเริงของแฝดสาวก็ทำให้ห้องครัวดูสว่างไสวไปเลยสำหรับขมิ้น

“พรุ่งนี้หยุดพักหนึ่งวัน ตังว่าจะเข้าเมืองหน่อย จะไปซื้อเสื้อผ้ากับดูชักโครกของเด็กให้ด้วง พายกับเมี่ยงจะไปไหม” นับตังค์ถาม

“เราสองคนว่าจะไปเที่ยวที่น้ำตก ยังไม่เคยไปเลย” พายพัดตอบแทนใบเมี่ยง

“ว้าว ต้องลองขึ้นไปชั้นบนสุดดูนะคะโอปป้า ไม่ค่อยมีคนขึ้นไป สวีทได้” มีนารีบแนะนำ

“แหงล่ะ สูงจะตาย ใครจะขึ้นไป” นับตังค์ทำหน้าขยาดเมื่อนึกถึงสะพานเชือกอันนั้น

“เชฟเคยขึ้นไปเหรอคะ ไปกับบอสรึเปล่า นั่นแน่” มานีรีบเข้าไปถามนับตังค์

“หึ ก็ไปกับบอสนั่นแหละ แต่ไม่ต้องคิดเลยนะว่าจะมีอะไรให้แซว มีแต่ความน่าสะพรึง” นับตังค์รีบบอกก่อนจะหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อนึกว่าตัวเองแอบหวั่นไหวตอนที่โดนมีคุณจูงมือ แต่พอนึกถึงตอนที่มีคุณกระโดดให้พานเชือกสั่นก็ชักจะแค้นใจที่โดนแกล้ง แล้วพอมานึกถึงตอนที่ตัวเองแกล้งขี่รถเร็วๆ จนมีคุณหน้าซีดบ้างก็อดขำไม่ได้อีก

“เชฟเมาคอกเทลของโอปป้ารึเปล่า เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวหน้าบึ้ง เดี๋ยวก็หัวเราะ” มานีกระซิบถามพายพัด

“เมารักมากกว่า” พายพัดตอบแล้วยิ้มให้มานี เล่นเอามานีตะลึงยิ้มค้างอยู่นานสองนาน จนมีนาต้องเข้ามาสะกิดให้ไปช่วยกันจัดชุดผ้าปูโต๊ะที่ร้านซักรีดเพิ่งเอามาส่ง มานีถึงต้องยอมออกจากครัวไปด้วยความเสียดาย

“พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันนะด้วง” นับตังค์บอกกับด้วง

“ไปเที่ยว หนูจาไปดูโยมา ชื้อตุ๊ตาด้วย” ด้วงรีบพูดแถมยังทำท่าประกอบเป็นโลมาว่ายน้ำ

“ขอเยอะแยะ มีเงินรึเปล่า” นับตังค์นึกขำด้วง

“มี” ด้วงพยักหน้ารัว

“ไหนล่ะ” นับตังค์แบมือ

“เยืองเอาไปหมดเยย” ด้วงตอบก่อนจะทำปากยื่น

“ชื่อนี้อีกแล้วเหรอ” นับตังค์หน้าบึ้งทันทีที่ได้ยินชื่อดาวเรือง

“มัม กินได้ไหม” ด้วงชี้ไปที่กล่องขนมจีบที่ยังวางอยู่ สรุปว่ามีคุณลืมหยิบเอาออกไปด้วย ด้วงทำตาโตเอียงคอถาม เป็นท่าประจำเวลาอ้อนอยากได้อะไร

“เดี๋ยวพี่ทำให้ใหม่แล้วกัน แด๊ดเขาไม่ชอบ อย่าขัดใจแด๊ด แด๊ดแก่แล้ว ขี้งอน” นับตังค์หายหงุดหงิดเรื่องดาวเรืองเมื่อเห็นท่าทางน่าเอ็นดูของด้วง

“แด๊ดขี้ เหม็นยาเบิดแด๊ด” ด้วงได้ยินคำว่าขี้งอนก็เข้าใจว่ามีคุณอึ เลยทำหน้ายู่ยี่แล้วเอามืออุดจมูก

“น่ารักจังหนูด้วง อุ๋งอุ๋งน้อย” พายพัดอดไม่ได้ต้องเดินเข้ามาหอมแก้มด้วง

“อุ๋งอุ๋ง อุ๋ง อุ๋ง” ด้วงพูดแล้วทำตาโตๆ ทำปากจู๋ เป็นท่าเลียนแบบแมวน้ำที่พายพัดสอนให้ด้วงทำเวลาพูดคำว่าอุ๋งอุ๋ง

ใบเมี่ยงเห็นพายพัดเล่นกับด้วงก็อดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ แต่ในใจลึกๆ ก็นึกไปถึงเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ตัวเองตัดสินใจขายบ้านที่น่านแล้วย้ายมาอยู่ที่เกาะใบไม้ครามนี้ ได้แต่หวังว่าตัวเองจะได้ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและมีความสุขแบบที่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ตลอดไป



มีคุณออกจากครัวมาก็กลับไปที่ห้องทำงาน เขาจ้างช่างมาต่อเติมห้องทำงานเพิ่มเพราะว่านอกจากดูแลบริหารแล้ว มีคุณยังมีโปรเจคหนึ่งที่คิดทำเอาไว้โดยที่ยังไม่ได้บอกใคร ส่วนอาชีพวิจารณ์อาหารเขาคงต้องพักชั่วคราว เพราะการที่เขามีร้านอาหารเป็นของตัวเองในตอนนี้ทำให้เขาไม่มีเวลาไปชิมอาหารตามคำเชิญที่ถูกส่งมาและเขาก็ไม่อยากวิจารณ์อาหารที่ร้านของตัวเองด้วยเช่นกัน ถึงฝีมือของนับตังค์จะอร่อยจนอยากจะเขียนชมแค่ไหนแต่มันจะทำให้คนอื่นโจมตีได้ เขาต้องการให้ชื่อเสียงของนับตังค์เป็นที่บอกปากต่อปากจากลูกค้ามากกว่า ซึ่งเขาเชื่อว่าด้วยฝีมือของนับตังค์ ไม่นานจะเป็นรู้จักในวงการอาหารได้อย่างรวดเร็วแน่ๆ

“ฮัลโหล ว่ายังไงไอ้เขต” มีคุณกดรับโทรศัพท์จากสุดเขต

“แกสบายดีนะ หายไปเลย” สุดเขตไม่ได้คุยกับมีคุณพักใหญ่ก็นึกห่วง แต่นี่ก็ยังไม่ใช่ประเด็นที่เขาโทรมาหามีคุณในวันนี้

“สบายดี ยุ่งนิดหน่อย ร้านใกล้จะเปิดแล้ว”

“แกจะขึ้นมากรุงเทพบ้างไหม”

“คงยัง ทำไม มีอะไรรึเปล่า”

“ไอ้คุณ วันก่อนเฟื้องมาหาฉัน เขาจะให้ฉันช่วยตามหาน้องตังว่ะ” สุดเขตพูดพลางถอนหายใจ

“แกได้บอกอะไรไปรึเปล่า”

“เปล่า แต่ฉันสงสารเขา เขาร้องไห้เป็นห่วงน้อง เอาไงดีวะไอ้คุณ เขาบอกว่าโทรหาน้องตังแล้วแต่น้องตังปิดเบอร์ไปแล้ว”

“อืม เบอร์เดิมมันไม่ค่อยมีสัญญาณเลยเปลี่ยนใหม่ ฉันก็นึกว่าเขาจะโทรไปบอกเบอร์กับครอบครัวเขานะ” มีคุณเป็นคนบอกให้นับตังค์เปลี่ยนเบอร์เอง แต่เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร แค่เห็นนับตังค์บ่นว่าโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณเลย

“น้องตังโทรไปหาละมุด แต่ละมุดมันก็ช่วยเฉไฉไม่ให้น้องตังได้คุยกับเฟื้องตามที่แกเคยขอเอาไว้ แล้วแกจะเอายังไง” สุดเขตถามด้วยความกังวลใจ

“เฮ้ย ฉันขอแค่ก่อนเซ็นสัญญาโว้ย แกยังไม่ได้บอกละมุดเหรอวะไอ้เขตว่าไม่ต้องทำแบบนั้นแล้ว”

“เออ ฉันกลัวน้องตังเปลี่ยนใจกลับบ้านแล้วแกจะซวยเอาได้เลยยังไม่ได้ไปบอก” สุดเขตคิดว่านับตังค์ไม่เคยไปไกลจากบ้านเลย ถ้าทางบ้านมาง้อคงจะกลับไปง่ายๆ เขาเลยยังไม่ได้ไปบอกละมุดว่าไม่ต้องคอยเลี่ยงเวลาที่นับตังค์โทรถามเรื่องที่บ้านแล้ว

“ตอนนี้ฉันคบกับน้องตังแล้วว่ะเขต ฉันจะพาน้องตังกลับบ้านเอง คงจะไปพูดกับพ่อเขาตรงๆ และขอให้น้องตังมาอยู่ด้วย” มีคุณตัดสินใจว่าจะพานับตังค์กลับขึ้นกรุงเทพก่อนที่ร้านจะเปิด

“อะไรนะ แกกับน้องตังได้กันแล้วเหรอ ไอ้คุณเอ้ย ไหนแกว่าน้องไม่ใช่สเป็คแกไงวะ แกจริงจังกับน้องเขารึเปล่า” สุดเขตโวยวายทันทีที่ได้รับรู้

“เบาๆ ดิไอ้เขต ยังไม่ได้กันแต่คบกันแล้ว ฉันจริงจังกับตัง ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอก ฉันถึงอยากไปคุยกับที่บ้านน้องเขาตรงๆ”

“ถ้าแกจริงจังกับน้องตังจริงๆ แกอย่าเพิ่งพาน้องกลับมา ที่บ้านน้องตังรับไม่ได้หรอก เรื่องราวมันจะไปกันใหญ่ ดีไม่ดีพาลจะทำทุกอย่างพังไปหมด เอาแบบนี้ ฉันจะค่อยๆ หาวิธีพูดกับเฟื้อง คิดว่าเฟื้องน่าจะเข้าใจถ้าน้องชายจะคบกับผู้ชาย แล้วฉันจะโทรบอกแกอีกทีว่าจะเอายังไง เฮ้อ ไอ้คุณ แกจะพาลทำให้ฉันเข้าบ้านตระกูลมณีรัตน์ไม่ได้ก็คราวนี้” สุดเขตบ่นอย่างเพลียใจ

“ฉันก็ไม่คิดว่าจะได้มาคบกับตัง รู้อีกทีก็รักไปแล้ว ยังไงแกรีบหาทางพูดกับคุณเฟื้องเร็วๆ นะ ฉันไม่อยากให้น้องรู้สึกแย่” มีคุณเริ่มจะหนักใจเรื่องที่ครอบครัวของนับตังค์จะรับเรื่องของตัวเองกับนับตังค์ไม่ได้ ความสุขที่เกิดขึ้นมันทำให้เขาลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป รู้ว่าเป็นความเห็นแก่ตัวที่คิดจะเก็บนับตังค์เอาไว้กับตัวเอง แต่หากไม่มีนับตังค์ในตอนนี้มีคุณก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร ปมที่เขาเคยโดนทอดทิ้ง ทั้งจากพ่อและคนรักเก่าอย่างคีตะ มันทำให้มีคุณกลัวที่จะต้องเสียนับตังค์ไปอีก

“เออ ฉันจะพยายามหาทางออกให้เร็วที่สุด แต่แกต้องดีกับน้องตังให้มากๆ นะไอ้คุณ” สุดเขตยังแอบคิดไปว่าการที่มีคุณเป็นกังวลในเรื่องนี้เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับมรดกหากน้องตังอยู่ไม่ครบหนึ่งปีตามข้อกำหนดของคุณปู่จึงเน้นย้ำให้ทำดีกับน้องตัง

“แกก็รู้ว่าฉันไม่เคยทิ้งใครก่อน” มีคุณถอนหายใจ

“ก็เพราะรู้ไง ฉันถึงกังวลว่าความใกล้ชิดมันจะทำให้แกหวั่นไหว ที่ฉันคอยหยั่งเชิงถามแกบ่อยๆ เพราะฉันรู้ว่าบ้านของน้องตังเขาเป็นยังไง ขนาดฉันมีพร้อมทุกอย่าง พ่อของเฟื้องยังไม่ค่อยจะยอมเปิดใจให้ฉันเลย ดีว่าแม่ฉันเป็นเพื่อนกับแม่ของเขา ฉันถึงได้เข้านอกออกในได้บ้าง ฉันก็นึกว่าในใจแกยังมีแต่คิว ไม่คิดว่าแกจะตกหลุมรักน้องตังง่ายๆ น้องเขาไม่ใช่แบบที่แกชอบเลยนี่หว่าไอ้คุณ แกแค่หวั่นไหวหรือหลงไปรึเปล่าหรือแกกลัวว่าจะไม่ได้มรดกว่ะ”

“แกหยุดคิดแบบนั้นเลยไอ้เขต เพราะเขาไม่ใช่แบบที่ฉันชอบไง ฉันถึงมั่นใจว่าฉันรักตัง รักแบบที่เขาเป็นเขา ไม่ใช่แบบที่เขามีลักษณะที่ฉันชอบ แกคงไม่เข้าใจ” มีคุณถอนหายใจอีกครั้ง

“ท่าทางจะอาการหนักกว่าตอนคบคิวอีกนะ เออๆ ฉันเชื่อแล้วว่าแกรักน้องเขาจริงๆ หมดลายเสือเลยเว้ยเพื่อนกู”

“เสืออะไร ฉันเป็นหมีต่างหาก” มีคุณนึกถึงตอนที่นับตังค์เรียกเขาว่าหมียักษ์ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

“ท่าทางจะหนักจริงๆ เออ ฉันต้องวางสายแล้ว จะพาแม่ไปกินข้าวที่ร้านของย่าน้องตัง แล้วมีข่าวคืบหน้าอะไรฉันจะโทรมาอีกทีนะ”

“ขอบใจมากนะเขต” มีคุณวางสายจากสุดเขต ในใจเริ่มมีแต่ความกังวลใจและความรู้สึกผิด เขาจะหาทางออกนี้ได้ยังไงดี

...

นับตังค์เห็นว่าช่วงบ่ายนี้ว่างไม่มีอะไรให้ทำแล้วจึงคิดว่าจะทำขนมจีบตามคำขอของมีคุณ รายการอาหารใหม่ๆ ที่ทดลองทำก็ได้ทำจนครบและมีคุณก็ให้ผ่านทุกรายการแล้ว ทีเหลือจากนี้ก็แค่สอนให้พี่สายรุ้งปรุงน้ำซุปและเตรียมเครื่องต่างๆ ที่นับตังค์จะต้องทำในแต่ละวันให้ได้ตามมาตรฐานของนับตังค์แค่นั้นเอง

นับตังค์ตั้งใจจะทำขนมจีบแป้งสดเป็นแป้งแบบขนมจีบไทย นับตังค์จึงจัดการผสมแป้งข้าวเจ้ากับแป้งมันเพื่อที่จะทำแผ่นแป้งเกี้ยวเองเพราะที่ร้านมีทั้งวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการทำครบทุกอย่าง แผ่นแป้งที่ใช้ห่อขนมจีบถ้าทำสดใหม่มันจะนุ่มนวลอร่อยกว่า ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เมื่อผสมแป้งทั้งสองเสร็จแล้วเติมน้ำสะอาดเล็กน้อยให้ส่วนผสมเข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟแล้วกวนจนแป้งสุกจับกันเป็นก้อนและสีใสขึ้น จากนั้นก็พักแป้งเอาไว้โดยใช้ผ้าขาวบางคลุมกันไม่ให้ถูกลมรอให้ความร้อนคลายตัวจะได้จนนวดได้

ระหว่างนี้นับตังค์ก็นำเนื้อกุ้งสับหยาบและหมูสับติดมันมาผสมกับสามสหายที่โขลกละเอียดแล้ว เพิ่มด้วยต้นหอมซอย ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลาดี น้ำมันงา นับตังค์ใช้น้ำแข็งบดละเอียดผสมเข้าไปในขั้นตอนที่นวดไส้ด้วยเล็กน้อย นวดจนไส้เหนียวนุ่มได้ที่ก็กลับมาจัดการแป้งที่คลายร้อนแล้ว นับตังค์เอาหัวกะทิมาแตะที่ปลายนิ้วแล้วนวดแป้งอีกครั้งหนึ่งก่อนจะแบ่งออกเป็นส่วนๆ แล้วคลึงจนเนื้อแป้งเนียนเข้ากันดี จากนั้นนับตังค์ก็นำแผ่นแป้งไปรีดจนได้ความบางที่ต้องการแล้วจึงใช้พิมพ์ตัดแผ่นแป้งเป็นรูปวงกลม

“อยากกินแล้วเหรอด้วง” นับตังค์เห็นด้วงมองมาแบบตาไม่กระพริบเลยเดินมาหา

นับตังค์นึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน หลายครั้งที่ด้วงร้องตามนับตังค์มาอยู่ในครัว แม้นับตังค์ใช้เวลาอยู่ในครัวนานๆ แต่ด้วงไม่เคยงอแงแบบที่เด็กในวัยนี้ควรจะเป็น ด้วงจะคอยจ้องดูด้วยความสนใจ อย่างมากสุดถ้านับตังค์ไม่ได้หันมาชวนคุยแล้วจดจ่ออยู่กับอาหารที่ทำ ด้วงก็หลับคาเก้าอี้เด็กที่มีคุณซื้อมาให้ ดีว่าเก้าอี้ตัวนี้มีลักษณะคล้ายรถเข็นเด็ก ด้วงจึงนอนหลับสบายอยู่ในครัวเป็นประจำ แต่ถึงยังไงนับตังค์ก็ไม่อยากให้ด้วงมานอนในครัวอยู่ดีจึงอยากหาพี่เลี้ยงดีๆ สักคนมาดูแลด้วงตอนที่ร้านเปิด

“จินได้ไหม” ด้วงชูมือจะให้นับตังค์อุ้ม

“กินได้ไหม พูดใหม่ก่อน”

“กินได้ไหม” ด้วงพูดตามช้าๆ

“เก่งมาก แต่ยังกินไม่ได้ อยากทำขนมด้วยกันไหม” นับตังค์ถาม ด้วงพยักหน้าก่อนจะยิ้มกว้าง

นับตังค์อุ้มด้วงขึ้นแล้วพาไปล้างมือก่อนจะพามานั่งที่เคาน์เตอร์ใหญ่ ด้วงดูจะตื่นเต้นเมื่อนับตังค์ส่งช้อนคันเล็กๆ ให้ เด็กแค่สองขวบกว่าเมื่อเห็นของแปลกใหม่ที่ไม่ใช่ของที่เล่นประจำเลยทำตาโตเป็นไข่ห่าน

“เอาช้อนตักแบบนี้ ทำตามนี้นะไม่อย่างนั้นจะไม่ให้ทำ ของกินมีค่าจะทำเป็นเล่นไม่ได้นะ อะ...ดูอีกทีนะ ตักแบบนี้” นับตังค์สอนด้วง แม้ด้วงจะยังเล็กเกินกว่าจะเข้าใจอะไรทั้งหมด แต่นับตังค์คิดว่าสอนตั้งแต่ยังเล็กนี่แหละดีที่สุด เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้

“หนูจาทำ” ด้วงเอาช้อนในมือตักไส้ขนมจีบตามที่นับตังค์ทำให้ดู แต่ก็ตักได้แค่ปลายช้อน นับตังค์จึงจับซ้อนมือด้วงแล้วตักไส้ขนมจีบขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็วางไส้ลงบนแผ่นแป้ง

“เก่งมาก เดี๋ยวพี่จะบอกว่าด้วงเป็นคนทำให้แด๊ดกินนะ อยากให้แด๊ดรักไหม” นับตังค์ถามด้วง

“ยักแด๊ด พี่ยักแด๊ดไหม” ด้วงพยักหน้ายกใหญ่ก่อนจะถามนับตังค์บ้าง

“รักดิ” นับตังค์พูดเบาๆ แล้วก็หัวเราะคิกคัก ด้วงเห็นก็หัวเราะตามจนตาหยีเป็นรูปสระอิ


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขมมจีบ 02/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 02-06-2017 13:53:36
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


แล้วนับตังค์กับด้วงก็ช่วยกันห่อขนมจีบจนเสร็จ เสร็จช้าเพราะการให้เด็กที่ยังไม่ประสามาช่วยทำก็ต้องใจเย็น ห่อสวยบ้างไม่สวยบ้างแต่สะอาดก็ไม่เห็นเสียหายอะไร นับตังค์ยอมรับเลยว่าด้วงเป็นเด็กที่น่ารักมาก ว่านอนสอนง่าย มีแอบซนบี้ไส้ขนมจีบเล่นบ้างตอนนับตังค์เผลอ แต่พอนับตังค์เตือนก็หยุดทำแล้วก็ไม่งอแง นับตังค์ยังจำคำบอกเล่าของแม่ได้ว่าตอนตัวเองเป็นเด็ก พ่อกับย่าก็หัดให้เข้าไปอยู่ในครัว นับตังค์ทำของกินเละไม่เป็นท่า ซนหนักกว่าด้วงหลายเท่า

ตอนนี้ขนมจีบที่ห่อเสร็จแล้วก็เตรียมขึ้นซึ้งนึ่ง ไม่กี่นาทีก็จะพร้อมทานแล้ว นับตังค์พาด้วงไปล้างมือแล้วพากลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเองก่อนจะกลับไปเจียวกระเทียมกรอบๆ เตรียมเอาไว้โรยหน้า 

“หอมจนเครื่องดูดควันเก็บกลิ่นไม่อยู่เลยนิ” ขมิ้นเดินกลับเข้ามาในครัวเพราะจะมาเอาน้ำดื่มไปให้ช่างที่มาตกแต่งต้นไม้ในร้าน

“ตังทำเอาไว้เยอะเลย ใกล้สุกแล้ว พี่บ่าวเอาไปให้คนงานกินด้วยก็ได้นะ แล้วบอสอยู่ไหนเหรอพี่บ่าว” นับตังค์ถามขมิ้น

“อยู่ที่ห้องทำงาน หน้าตาดูเหนื่อยๆ” ขมิ้นเอาใบเบิกเงินไปให้มีคุณ เห็นมีคุณสีหน้าไม่ค่อยดีเลยอดเล่าให้นับตังค์ฟังไม่ได้

“รายนั้นก็ไม่ค่อยได้นอน นั่งทำงานดึกดื่นทุกคืนเลย นี่ข้าวกลางวันก็ไม่ยอมมากิน แล้วพายกับเมี่ยงล่ะพี่บ่าว” นับตังค์แอบเป็นห่วงมีคุณอยู่เหมือนกัน งานร้านอาหารจุกจิกสารพัด ไม่แปลกเลยที่คนไม่เคยทำอย่างมีคุณจะวิ่งวุ่นไปหมด

“เอาขนมไปให้คุณขจีที่รีสอร์ต เดี๋ยวคงกลับมา”

“ตังว่าตังเอาน้ำไปให้คนงานเองดีกว่า ฝากพี่บ่าวดูขนมจีบให้ที อีกสามนาทีปิดเตาได้เลย” นับตังค์พูดจบก็เดินไปอุ้มด้วงลงจากเก้าอี้แล้วก็หิ้วกระติกน้ำที่จะให้คนงานออกจากครัวไปโดยไม่ได้สนใจขนมจีบที่ยังนึ่งคาเอาไว้อยู่ 

“เจ้าตังเอ้ย จะมีอะไรที่สนใจมากกว่าอาหารก็คงเป็นนายหัวนี่นิ” ขมิ้นพูดตามไล่หลังไปเมื่อเห็นท่าทีรีบร้อนของนับตังค์

ขมิ้นเดาว่าตอนนี้เจ้านายคนใหม่ของขมิ้นคงมีผลต่อหัวใจของนับตังค์อย่างมากเข้าให้แล้ว แม้ขมิ้นจะไม่เคยมีเพื่อนสนิทที่มีรสนิยมอย่างมีคุณ นับตังค์ พายพัดและใบเมี่ยงมาก่อน อาจจะไม่ค่อยเข้าใจว่าผู้ชายจะมารู้สึกชอบพอกับผู้ชายด้วยกันได้ยังไง ผู้ชายที่เป็นเพศที่ไม่มีความอ่อนหวานนั้นจะแสดงความรักต่อกันยังไง แต่หลังจากที่ได้มาใกล้ชิดคนทั้งสี่คน ขมิ้นถึงได้เริ่มเข้าใจว่าแค่เราเปิดใจรับรู้ถึงความรักที่บุคคลหนึ่งให้แก่อีกคนหนึ่ง ความอ่อนหวานในความรักจะถูกแสดงให้เห็นเองโดยธรรมชาติ เพราะฉะนั้นคำที่ขมิ้นเคยได้ยินมาว่า...ธรรมชาติสร้างให้ผู้หญิงเกิดมาเพื่อรักกับผู้ชายก็คงผิดไปแล้ว ธรรมชาติแค่กำหนดให้เพศผู้และเพศเมียเกิดมาคู่กันเพื่อสืบเผ่าพันธุ์แค่นั้นเอง ส่วนความรักไม่สามารถมีอะไรมากำหนดว่าใครต้องคู่กับใคร แม้แต่ธรรมชาติก็กำหนดความรักไม่ได้เช่นกัน

นับตังค์จูงด้วงเดินมาถึงห้องทำงานของมีคุณแล้วจึงเคาะประตูห้องสองสามครั้ง มีคุณส่งเสียงบอกให้เข้าไปได้จึงเปิดเข้าไป นับตังค์เพิ่งจะเห็นห้องทำงานของมีคุณเป็นครั้งแรก เพิ่งรู้ว่าในห้องนี้นอกจากมีโต๊ะทำงานและตู้เอกสารของมีคุณแล้ว ยังมีอีกมุมหนึ่งที่มีคุณต่อเติมทำเป็นที่ให้พักผ่อนนอนเล่นได้ด้วย ถ้าเข้าใจไม่ผิดมุมนั้นคงสร้างเอาไว้สำหรับด้วง เพราะบนฟูกนอนสีขาวบนเตียงทรงกลมที่อยู่ในส่วนของโดมกระจกที่นับตังค์เห็นนั้นมีหมอนขนาดเล็กและของเล่นของเด็กกองเต็มไปหมด

“หนูจาไปเย่นของเย่น” ด้วงชักมือของตัวเองออกจากมือของนับตังค์ก่อนจะปีนบันไดที่บุนวมกันกระแทกขึ้นไปบนฟูกหนาอย่างรวดเร็ว

“ทำไมพี่ไม่ไปกินข้าวกลางวัน” นับตังค์เห็นด้วงขึ้นไปนั่งเล่นเรียบร้อยแล้วเลยหันมาถามมีคุณที่กำลังเรียงใบเสร็จเข้าแฟ้มอยู่อย่างเป็นระเบียบ

“ยังอิ่มอยู่เลย เป็นห่วงพี่เหรอ” มีคุณปิดแฟ้มแล้วลุกเดินมาหานับตังค์

“ก็ห่วงดิ เดี๋ยวไม่มีคนจ่ายเงินเดือนให้ พี่เครียดอะไร” นับตังค์เห็นว่ามีคุณมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างที่ขมิ้นบอกเลยเอ่ยปากถาม

“พี่ไม่ได้เครียดอะไรนี่” มีคุณยืนพิงโต๊ะทำงานแล้วรั้งเอวนับตังค์ให้เข้ามาใกล้จนชิดตัวเอง

“คิ้วเนี่ยชนกันแบบนี้เนี้ยเรียกว่าเครียด” นับตังค์ยกนิ้วขึ้นมาขยี้ที่หัวคิ้วของมีคุณเบาๆ

“ก็เวลาทำงานเอกสารมันก็ต้องมีบ้าง” มีคุณจ้องมองดวงตาของนับตังค์ที่อยู่ใกล้จนเห็นเงาของตัวเอง พยายามซ่อนความกังวลใจเอาไว้เพราะรู้ว่าสายตาของอีกฝ่ายจับจ้องมาเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง

“มีอะไรบอกตังได้นะ ถึงตังจะช่วยไม่ได้แต่ก็รับฟังได้”

“ไม่มีอะไรหรอก ใกล้เปิดร้านมันก็ยุ่งมากหน่อย ตังเองก็เหนื่อยมากแล้ว แต่ถ้ามีเรื่องที่ตังช่วยพี่ได้ พี่จะบอกนะ ตอนนี้ขอหอมทีหนึ่งได้ไหม” มีคุณอดไม่ได้อยากหอมคนตรงหน้า

“อะโห หัดมีมารยาทขอก่อนหอมตั้งแต่เมื่อไหร่ ไหนดูสิ หัวไปกระแทกอะไรมารึเปล่า” นับตังค์ชะโงกไปดูหัวของมีคุณทางซ้ายทีทางขวาทีจนมีคุณหมั่นเขี้ยวกดจมูกไปหอมแก้มนับตังค์ฟอดใหญ่

“เจียวกระเทียมมาเหรอ” มีคุณถามเพราะได้กลิ่นกระเทียมเจียว

“ก็ทำขนมจีบให้พี่ไง จะตามให้ไปกิน เหม็นก็ไม่ต้องมาหอม”

“พูดรึยังว่าเหม็น” มีคุณเคาะนิ้วไปที่หน้าผากของนับตังค์เบาๆ นับตังค์แกล้งเบ้ปากใส่ มีคุณเลยทำท่าจะจูบ

“ด้วง หมาป่าจะกัดพี่แล้ว ช่วยด้วย” นับตังค์เรียกด้วง ด้วงหันมามองอย่างลังเล อยากจะช่วยมัม แต่ของเล่นชิ้นใหม่หลายชิ้นบนนี้ก็เยอะแยะไปหมด

“ไม่มีหมาป่าหยอก ไม่ต้องจัว” ด้วงพูดจบก็ตัดสินใจหันกลับไปเล่นของเล่นต่อ มีคุณหัวเราะลั่นที่ด้วงไม่ช่วยนับตังค์อย่างเคย

“อ้าว เทกันเลย” นับตังค์ทำหน้าเซ็งที่ด้วงไม่สนใจ

“ตัง...”

“มีอะไร” นับตังค์ถามหลังจากที่เห็นมีคุณเรียกชื่อตัวเองแล้วไม่ยอมพูดอะไร

“อยากกลับไปหาครอบครัวก่อนร้านเปิดไหม ยังพอมีเวลา” มีคุณตัดสินใจถาม

“ก็อยากกลับนะ แต่คงไม่มีใครอยากเจอตังหรอก” นับตังค์ยักไหล่

“ตังรู้ได้ไง” มีคุณหยั่งเชิงถาม

“พี่ชายของตังหายไปหลายปีแล้วพ่อยังไม่เคยตามหาเลย ต่อให้ตังคิดถึงบ้านหรือคนที่บ้านคิดถึงตัง แต่ถ้าตังยังอยู่ในกรอบที่พ่อกับย่าวางเอาไว้ให้ไม่ได้ ตังกลับไปก็คงไม่มีประโยชน์” นับตังค์ถอนหายใจ

“คือ...ถ้าตังอยากกลับบ้านวันไหนบอกพี่ได้นะ พี่จะพาไป แต่พี่ก็อยากให้ตังรู้ว่าที่นี่ก็เป็นครอบครัวของตังนะ” มีคุณโอบกอดนับตังค์

“ถ้าติดใจอยากอยู่เกินหนึ่งปีกับพี่ก็ได้ใช่ไหม” นับตังค์ถาม

“หนึ่งปีเหรอ” มีคุณถึงกับอึ้งไปเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมาที่นี่ทำไม ถ้าเขาไม่ขายที่นี่เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ให้มารดาตามกำหนด ตัวเขาเองก็คงเรียกได้ว่าล้มละลายตามมารดาไปด้วยแน่ การที่ได้มาอยู่ที่นี่ในช่วงเวลาสั้นๆ และได้อยู่กับคนที่เป็นคนพิเศษ คนที่เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นคนรัก รวมไปถึงบุตรบุญธรรมอย่างด้วง มันทำให้เขาลืมจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการมาที่นี่เสียสนิท แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เขาเพิ่งรับรู้ได้ว่าตัวเองบริหารและทุ่มเทให้กับร้านนี้ด้วยความรักโดยไม่รู้ตัว

“คิดอะไรอยู่” นับตังค์เห็นมีคุณเงียบไป

“ได้สิ พี่ให้ตังอยู่กับพี่ได้ตลอดชีวิต” มีคุณตอบตามความจริง แม้อาจจะเป็นความจริงแค่ส่วนเดียว เพราะเมื่อถึงเวลานั้น เขาจำเป็นต้องขายที่นี่ เงินที่ได้คงมากพอที่จะใช้หนี้ให้มารดาและยังเหลือให้เขาเปิดร้านอาหารแห่งใหม่ให้นับตังค์ได้ ถึงจะเสียดายแต่มีคุณคิดว่าตัวเองคงไม่มีทางเลือกนอกจากนี้แล้วจริงๆ

“วันนี้มาผิดโหมด ต้องมีอะไรแน่เลย” นับตังค์รู้สึกว่ามีคุณไม่กวนประสาทเหมือนทุกที

“ผิดโหมดยังไง” มีคุณขมวดคิ้วสงสัย

“ก็ปกติต้องกวน...” นับตังค์พูดแล้วขยับตัวออกก่อนจะยกเท้าให้มีคุณดูแทนคำพูด เพราะไม่อยากให้ด้วงได้ยินคำว่าตีน

“ชอบมีแฟนกวน..รึไง” มีคุณพูดแล้วยกเท้าตัวเองขึ้นถามบ้าง

“หนูจ้อมี หนูจ้อมี” ทั้งคู่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วด้วงเลยหันไปดู ด้วงกำลังนอนยกเท้าของตัวเองขึ้นมาทั้งสองข้างแล้วชี้ให้ดู ด้วงเห็นมัมกับแด๊ดอวดเท้ากันเลยอยากอวดบ้างว่าตัวเองก็มี

“ด้วง!” นับตังค์เห็นแล้วขำ การมีเด็กฉลาดอยู่ด้วยมันช่างอันตรายจริงๆ

“ด้วง ดูสิ มีนกด้วย” มีคุณชี้ไปที่ด้านนอกโดม ด้วงรีบชะเง้อไปดูตามคำบอกของมีคุณ ระหว่างนั้นมีคุณก็รีบขโมยจูบนับตังค์ จนด้วงหันกลับมามีคุณก็ถอนจูบออกพอดี

“ไม่เห็นมีนกเยย” ด้วงส่ายหน้า

“นิดหน่อยก็เอานะ” นับตังค์บ่นแต่ก็อมยิ้ม แรกๆ ที่โดนจูบก็รู้สึกแปลกๆ  หวิวๆ แต่ตอนนี้นับตังค์ว่ามันก็เพลินๆ ดี

“ได้กอดได้จูบแล้วหายเหนื่อยเลย” มีคุณดึงนับตังค์มากอดอีกครั้ง เขารู้สึกอบอุ่นและหายเหนื่อยจริงๆ

“วิถีของคนหื่นก็งี้” นับตังค์ต่อว่ามีคุณแก้เขินแต่ตัวเองก็สวมกอดมีคุณกลับ นับตังค์คิดว่าเวลามีแฟนแล้วได้กอดกันแบบนี้มันรู้สึกอบอุ่นดี มิน่าคนถึงได้ชอบมีแฟน แต่มันคงไม่ได้รู้สึกดีถ้าคนที่เรากอดไม่ใช่คนที่เรารัก ใครจะไปคิดว่าที่นับตังค์ครองตัวเป็นโสดมาตั้งนานเพราะถูกโชคชะตากำหนดมาให้ต้องตกเป็นของหมีปากดีขี้หื่นอย่างมีคุณนี่เอง

“นายหัว เข้าไปได้ไหมนิ” ขมิ้นเคาะประตูถามอยู่ข้างนอก

“เข้ามาได้” มีคุณปล่อยให้นับตังค์เป็นอิสระก่อนจะบอกให้ขมิ้นเข้ามาได้

“ขนมจีบสุกแล้ว หมิ้นเห็นนายหัวยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลยตักมาให้นิ” ขมิ้นวางจานขนมจีบลงบนโต๊ะทำงาน

“หนูจากิน” ด้วงได้กลิ่นหอมก็รีบปีนลงจากเตียงแล้วเดินมาเขย่งเท้าเกาะที่ขอบโต๊ะทำงานของมีคุณ

“ร้อนนะ เป่าก่อน” นับตังค์ร้องบอกเมื่อมีคุณจะป้อนขนมจีบให้กับด้วง ด้วงที่กำลังอ้าปากรอกินขนมจีบจึงรีบห่อปากเป่าดังฟู่ๆ ก่อนจะกิน

“หรอยแรงไหม อร่อยไหม” ขมิ้นถามด้วง ทีแรกด้วงไม่ตอบ ขมิ้นเลยต้องถามเป็นภาษากลาง

“อาหย่อย เอาอีก” ด้วงพยักหน้า

“อร่อยมากเลยตัง ขนมจีบแป้งสดเหรอ พี่เคยกินแป้งแบบนี้ที่เขาปั้นเป็นรูปนก แต่ไส้ของตังอร่อยมาก ไม่แห้ง ชุ่มฉ่ำดี ไส้นุ่มเหนียวเด้งในปากเลย” มีคุณรีบเดินไปหยิบกล้องมาถ่ายขนมจีบแบบระยะใกล้เพื่อโชว์ความชุ่มฉ่ำของไส้ขนมจีบ

“พี่ตักแบ่งมานิดหน่อยให้คนงานได้กิน ชมกันไม่ขาดปากเลย” ขมิ้นเล่าให้นับตังค์ฟัง

“อร่อยมากจริงๆ แต่ทำไมปั้นขนมได้แปลกๆ” มีคุณจิ้มขนมจีบอันที่มันค่อนข้างบิดเบี้ยวขึ้นมาดู

“ฝีมือเด็กน้อยคนนี้ไง” นับตังค์ชี้ไปที่ด้วงซึ่งกำลังเคี้ยวขนมจีบจนแก้มตุ่ยไปข้างหนึ่ง

“เก่งมากเลยด้วง ตัวแค่นี้ทำได้แล้ว” มีคุณยีผมด้วงด้วยความเอ็นดู

“พี่บ่าวบอกมานีกับมีนาให้ไปกินด้วยนะ เอาไปฝากพี่สาลี่ด้วย ตังทำเอาไว้เยอะ”

“จัดใส่กล่องให้ชุดหนึ่งนะ พี่จะเอาไปฝากใครบางคน” มีคุณพูดแล้วก็ยิ้มมุมปาก

“มีแผนการร้ายชัวร์” นับตังต์เห็นสีหน้าของมีคุณแล้วก็พูดออกมา

“ร้ายอะไร แฟนตัวเองเป็นคนมีน้ำใจ รู้เอาไว้ด้วยนะ” มีคุณพูดแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

นับตังค์รู้ว่ามีคุณจะส่งขนมจีบไปให้พญา แต่ไม่รู้ว่าคิดอะไรในใจ แต่นับตังค์ไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่ส่ายหน้านึกขำว่าคนที่ดูจริงจังกับชีวิต เวลาหึงขึ้นมาก็ทำตัวเป็นเด็กได้เหมือนกัน

...

เสียงตะโกนโหวกเหวกของพญาดังลั่นห้องทำงานที่ตั้งอยู่ภายในตลาดสดที่ตัวเองบริหารอยู่ พเยียที่กำลังมาหาพี่ชายของตัวเองพอดีได้ยินก็ตกใจจนต้องรีบวิ่งเข้ามาดูว่าเกิดอะไรข้างในห้อง ภาพที่เห็นคือลูกน้องของพญานั่งคุกเข่าก้มหน้าตัวสั่นกันเป็นแถว พเยียไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้พี่ชายของตัวเองโมโหได้ขนาดนี้ รู้แต่ว่าพี่ชายของตัวเองถือกล่องที่บรรจุขนมจีบด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยวขนาดหนัก

“เกิดอะไรขึ้นคะพี่รอง ไอ้พวกนี้มันทำอะไรให้พี่โกรธ” พเยียถามพี่ชาย

“มันโง่ไง ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้เรื่องสักคน โว้ย!!!!!” พญาชี้หน้าด่าลูกน้องตัวเอง

“แต่ผมเลือกร้านที่อร่อยที่สุดในตลาดตามที่นายสั่งเลยนะครับนาย” ก้าน ลูกน้องคนสนิทรีบอธิบายให้เจ้านายของตัวเองฟัง

“แค่ขนมจีบเนี่ยนะที่ทำให้พี่รองโกรธขนาดนี้ ไหน...เยียขอชิมสิคะ” พเยียไม่ทันฟังคำทัดท้านของพี่ชาย จิ้มขนมจีบในกล่องมากิน แล้วพเยียก็ต้องทำตาโต

“อร่อยมากเลยค่ะพี่รอง เยียไม่เคยกินขนมจีบที่ไหนอร่อยแบบนี้เลย” พเยียเอ่ยชมก่อนจะเอื้อมมือไปจะจิ้มขนมจีบอีกลูกมาชิมซ้ำ แต่คราวนี้พญาชักกล่องขนมจีบหนี

“พี่ไม่ได้หมายถึงกล่องนี้ กล่องนี้มันต้องอร่อยมากอยู่แล้ว อร่อยที่สุดในโลกของพี่เลย” พญาแทบจะกอดกล่องขนมจีบที่ถือเอาไว้

พเยียขมวดคิ้ว รู้สึกไม่เข้าใจอารมณ์พี่ชายของตัวเอง ทำไมต้องโกรธมากกับอีแค่เรื่องของกิน พี่รองไม่เคยใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ แล้วทำไมต้องหวงขนมจีบกล่องนั้นขนาดนั้น จนสายตาเหลือบไปเห็นการ์ดฉบับหนึ่งที่เปิดคาเอาไว้บนโต๊ะจึงหยิบมาเปิดอ่าน

“ส่งมาให้ชิมดูว่าขนมจีบที่มันอร่อยมันต้องมีรสชาติยังไง แล้วก็เลิกส่งขนมจีบมาจีบได้แล้ว เพราะขนมจีบที่ส่งมา ไส้ของมันใส่แห้ว เข้าใจไหม มันเลยแห้ว ย้ำ แห้วนะครับ ขีดเส้นใต้และทำตัวหนาอีกครั้งว่า แห้วครับ แบบนั้นเขาเรียก ขนมจีบ..ไม่ติด จากคนที่มีเมียมีลูกแล้วและรักเมียมาก” พเยียอ่านข้อความในการ์ดจบก็หันไปมองพี่ชายที่กำลังกัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสันนูน

“ไอ้ก้าน!!! มึงไปบอกแม่ค้าร้านขนมจีบที่มึงไปซื้อมา ถ้ามันยังใส่แห้วในขนมจีบอีกให้มันไปขายที่ตลาดอื่น กูไม่ให้มันเช่าแผงแล้ว โว้ย!!! พวกมึงมันโง่ ทำไมไม่ชิมก่อนว่าขนมจีบมีแห้วผสม กูเลยแห้วเลย ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้เรื่องสักคน ไล่ออกให้หมดดีไหมวะ หงุดหงิดโว้ย” พญาตะโกนโวยวาย เดินไปเตะก้นลูกน้องทีละคนเพื่อระบายความโกรธ แต่มือก็ยังประคองกล่องขนมจีบด้วยความหวงแหนก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไป

ที่พญาหงุดหงิดเพราะเข้าใจไปว่านับตังค์เป็นคนเขียนการ์ดแนบมาให้ คำว่ารักเมียมากมันทำให้พญาเจ็บจี๊ดที่หัวใจ แต่ยังไงพญาก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด คนอะไรทั้งน่ารักทั้งทำอาหารอร่อยขนาดนี้ มันควรจะต้องมาเป็นเมียเขาไม่ใช่ไปเป็นผัวคนอื่น การได้ชิมขนมจีบสุดอร่อยกล่องนี้มันยิ่งทำให้พญามั่นใจว่า นับตังค์ช่างเป็นคนที่คู่ควรกับพญาผู้ยิ่งใหญ่แห่งเกาะใบไม้ครามที่สุด ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำให้ครอบครัวของนับตังค์ร้าวฉานเสียที

“ตกลงนายของพวกแกไปตกหลุมรักผัวใครกัน” พเยียถามลูกน้องของพญา นึกกลุ้มใจที่พี่ชายของตัวเองอาการหนัก จากที่รักชอบเพศเดียวกัน ชอบไปยุ่งกับนักท่องเที่ยวที่ถูกใจจนทำให้พ่อปวดหัวบ่อยๆ ก็เรียกว่าหนักมากแล้ว นี่ถึงกับไปหลงรักผู้ชายที่มีเมียมีลูกแล้ว ถ้าพ่อรู้เข้าคงเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ

“คนที่ฝั่งโน้นครับคุณหนู ชื่อนับตังค์” ก้านบอกกับเพยีย

“นับตังค์อย่างนั้นเหรอ” พเยียทำท่านึกว่าชื่อนี้คุ้นๆ สุดท้ายเมื่อนึกขึ้นได้ก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ ที่แท้คนที่พี่รองติดอกติดใจก็คือคนที่ทำให้คีตะหัวเสียจนต้องกลับไปตั้งหลักที่กรุงเทพนี่เอง แล้วพเยียก็นึกไปถึงพายพัด ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อคิดได้ว่าตัวเองจะหาเรื่องไปใกล้ชิดกับพายพัดได้ยังไง


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


ขอโทษที่หายไปนานนะคะ โหมงานประจำหนักเลยป่วยไปหลายวันเลย ขอบคุณที่ยังติดตามค่ะ
เดี๋ยวกลับมาแก้คำผิดนะคะ ขอให้อร่อยกับตอนขนมจีบนี้นะคะ กอดกันๆ


(https://www.uppic.org/image-0162_593108FF.jpg)

เครดิตรูปจาก Google

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 02-06-2017 14:36:36
อูยยยยยยย อ่านแล้ว น้ำยายย๋ายยยยย // ฮา พี่พญาอ่ะ 55555 ตกลงพี่เป็นตัวร้ายในเรื่องจริงหรือเปล่า? แลดูพี่ออกแนวลูกชายพ่อกำนันในมนต์รักลูกทุ่ง อะไรงั้นนะ 555555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 02-06-2017 14:49:54
นี่ดีนะไม่ได้อ่านตอนกลางคืน นึกภาพตามได้เลยอ่ะพวกอาหาร555

แต่ขนาดตอนกลางวันก็ยังอยากกินเลย

มีคุณนี่วางแผนสุดๆ

รู้สึกจะเริ่มมีการป่วนๆเล็กน้อย (?)

ติดตามต่อไปป :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 02-06-2017 15:26:38
 :katai2-1:
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-06-2017 23:41:01
หิวววววว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 03-06-2017 00:45:23
อยากทานขึ้นมาทันใด
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 03-06-2017 10:53:29
อยากให้นับตังค์ไปถามคุณขจีที ว่ารู้จักกับดาวเรืองได้ยังไง  และเล่าเหตุการณ์ที่ด้วงกลัวทุกครั้งที่เจอดาวเรือง  เผื่อจะมีกล้องวงจรปิด หรืออะไรก็ตามที่สามารถดูย้อนหลังได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ถ้านับตังค์คอยสอนด้วงทำอาหาร  ไม่แน่อาจมีเชฟอายุน้อยที่สุดในร้านอาหาร "มีคุณอนันต์" มาคอยช่วยนับตังค์ก็ได้

:m20: กับข้อเขียนที่มีคุณเขียนถึงพญา  ขนมจีบไส้แห้ว ก็ต้องแห้วต่อไปล่ะกัน

สงสารนับตังค์เรื่องครอบครัว แต่อยากให้นับตังค์ทำงานที่นี่ จนมีชื่อเสียงจนพ่อหรือย่าได้รู้และลงมาดูเองกับตาดีกว่า ที่นับตังค์จะกลับไปเยี่ยมครอบครัวตอนนี้

:L2: :pig4: คนเขียน และรักษาสุขภาพด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 03-06-2017 11:45:51
เครียดตามพี่หมีอะ 1 ปีทำไงดีไม่อยากให้ขายร้านเลย  :monkeysad:
อบอุ่น น่ารักทุกคู่เลย น้องตังค์นับวันยิ่งน่ารัก มัน แด๊ด ด้วง ชอบๆ  :กอด1:
ปิดท้ายด้วยความร้ายของพี่หมี จบด้วยความฮาจากพ่อพญา  :pigha2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 03-06-2017 12:15:55
ขนมจีบทำเอาหิวเลย ฮาตรงที่มีคุณส่งขนมจีบไปเย้ยอิตาพญานี่แหล่ะ แห้วนะแห้ว  :laugh:

แต่ไม่อยากจะคิดเลย ถ้านับตังรู้ว่ามีคุณจะขายร้านจะเป็นยังไง อยากให้มีคุณคุยกับนับตังตรงๆ แล้วหาวิธีแก้มากกว่านะ  :hao5:

เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 03-06-2017 12:50:21
ไม่อยากให้มีดราม่าเรื่องร้านอ่ะ
อยากให้มีคุณคุยกับนับตังค์ดีๆไปเลย
แบบเปิดอกคุยค่ะ
หรือจะถอดเสื้อผ้าคุยก็ไม่ว่ากัน
คือมีคุณดูรักจริงอ่ะ ไม่ได้แบบแกล้งทำ
น้องตังค์ก็ดูรักอ่ะ
ฮื่ออออออออออออออออออออออ
ให้จับมือกันไปตีกับคนอื่นดีกว่าค่ะ อิตาพญา คีตะ ไรนู่นดีกว่า อ้อ อีกคนสิ น้องพญาอ่ะ
จะมาเอาพายพัดไม่ได้ นั่นของใบเมี่ยงเด้อ
 :katai1:  :fire:
เรื่องราวน่ารักอ่ะ
อ่านทีไรหิวทุกทีเลย
 :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 03-06-2017 16:26:32
ชอบพญาอ่ะ อย่าเอาดีทางเป็นตัวร้ายเลย เป็นตลกเหมาะกว่า แล้วฝากคนเขียนหาสามีให้ซักคน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PiiNaffe ที่ 04-06-2017 21:35:29
หิววววววววว
น่าตะีออ่านเรื่องนี้พรุ่งนี้  :ling1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-06-2017 23:12:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: littlep_ ที่ 05-06-2017 08:24:59
 :pig4: :pig4: :pig4
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 06-06-2017 00:04:18
ขนมจีบแป้งสดไม่เคยกินเลย ปกติกินแบบห่อด้วยแป้งเกี๊ยว.  หิวววววว :katai1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 14 ขนมจีบ 02/06/60 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 07-06-2017 22:33:29
 o13 สนุกมากกกกกกกกกกกก

อ่านไปหิวไปเลย อยากลองทำเองดูบ้างแต่คงได้แค่เจียวไข่ กับข้าวผัดกะปิ

หนูด้วงน่ารัก ~ เรามีความรู้สึกว่าหนูด้วงต้องมาจาก พดด้วง คือลูกของพี่ชายตังแน่ๆ แล้วสัญญาต่างๆของคุณปู่นี้อีก อนาคตต้องวุ่นวายแน่ๆ ช่วยลุ้นนะคะ มาต่อไวๆ พี่คุณจะได้ล่าเตียงซะที555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 10-06-2017 11:30:07
ตอนที่ 15 รังไร


วันนี้หนูด้วงตื่นตั้งแต่เช้าเหมือนจะรู้ว่าจะได้ไปเที่ยว ยอมอาบน้ำแต่งตัวอย่างว่าง่ายโดยไม่อิดออดเหมือนทุกครั้ง เมื่อคืนนี้นับตังค์แยกเสื้อผ้าของด้วงใส่ถุงเอาไว้ เสื้อผ้าที่ถูกแยกเป็นเสื้อผ้าที่ค่อนข้างคับและเก่า ซึ่งพอนับตังค์แยกออกมาแล้วชุดที่เหลือพอจะใส่ได้ก็มีเพียงไม่กี่ตัวแค่นั้นเอง นึกสงสารด้วงที่ต้องมาเสียพ่อและแม่ไปตั้งแต่ยังไม่รู้ความ พอได้มาอยู่กับคุณปู่ คุณปู่ก็มาเสียชีวิตไปอีก ตอนที่ไปอยู่กับคุณขจีก็ไม่รู้ว่าถูกดาวเรืองรังแกยังไงบ้างถึงได้ดูหวาดกลัวหลายอย่าง ถึงตอนนี้ด้วงจะอยู่ภายใต้การดูแลของมีคุณแล้ว แต่มีคุณไม่ใช่คนที่พร้อมจะดูแลเด็ก นับตังค์เข้าใจดีว่าเรื่องการมีลูกแบบกะทันหันมันสร้างความกดดันให้มีคุณไม่น้อย นับตังค์ก็ไม่ใช่ว่าจะดีกว่ามีคุณ เพียงแต่ตัวเองเติบโตมาในครอบครัวที่มีพร้อมทั้งพ่อและแม่ ถึงจะเป็นผู้ชายแต่ก็ถูกฝึกมาให้เป็นเหมือนแม่บ้านแม่เรือน อย่างน้อยก็ใส่ใจกับเรื่องละเอียดอ่อนได้มากกว่ามีคุณ แต่นับตังค์ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะได้อยู่กับมีคุณนานแค่ไหน ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อมั่นในตัวของมีคุณ แต่เรื่องของความรักมันไม่มีอะไรแน่นอน หากวันหนึ่งที่ไปกันไม่ได้หรือไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ นับตังค์ก็ไม่รู้ว่าด้วงจะเป็นอย่างไรในวันนั้น

“ไปกันได้แล้ว” มีคุณเดินเข้ามาตามนับตังค์เมื่อขมิ้นมาบอกว่าเบิ้มเอาเรือมารอที่ท่าแล้ว

“หนูจาไปเที่ยว ใฉ่หมวกใฉ่ยองเท้า” ด้วงรีบวิ่งไปหยิบหมวกกับรองเท้ามายื่นให้นับตังค์

“ถ้าปวดฉี่ปวดอึต้องทำไง” นับตังค์ถามด้วง

“ทำแบบนี้” ด้วงย่อขาลงแล้วเอามือกุมท้องพร้อมกับทำหน้ายู่

“เก่งมาก” นับตังค์หัวเราะชอบใจที่ด้วงทำตามที่สอนได้

“แล้วจำที่แด๊ดสอนได้รึเปล่า” มีคุณถามด้วงบ้าง ด้วงพยักหน้า

“สอนอะไร” นับตังค์ย่นคิ้วเข้าหากัน

“จำได้ ต้องจับมือตาหยอด แบบนี้เยย” ด้วงเดินไปจับมือมีคุณข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็จับมือของนับตังค์

“ดีมาก ห้ามปล่อยนะ” มีคุณยกยิ้ม

“จูงแด๊ดคนเดียวก็พอ” นับตังค์รีบบอกเพราะคิดว่าถ้าต้องเดินจูงกันไปแบบนี้คนอื่นต้องมองแน่ๆ

“ไม่ได้ ปล่อยไม่ได้” ด้วงทำหน้ายุ่งและจับมือของนับตังค์แน่นกว่าเดิม

“สอนดีนักนะ” นับตังค์กัดฟันพูดกับมีคุณ

“กลัวลูกหลงไง ไปกันเถอะ” มีคุณตีเนียนแล้วจูงมือด้วงไป ด้วงก็จูงมือนับตังค์ให้เดินตามมาอีกที กลายเป็นภาพครอบครัวพ่อแม่ลูกสมดั่งใจที่มีคุณต้องการ


ทีแรกนับตังค์ก็กังวลว่าด้วงจะเมาเรือ แต่ปรากฏว่าด้วงยังคงสดใสและร่าเริง แถมยังชวนนับตังค์กับมีคุณคุยเจื้อยแจ้วตลอดการเดินทาง จนทั้งสามคนมาถึงตัวเมืองในที่สุด เบิ้มเช่ารถยนต์เตรียมเอาไว้ให้มีคุณเหมือนอย่างทุกทีที่มีคุณเข้ามาในเมืองเพราะมันจะสะดวกกว่านั่งรถสองแถว 

หลังจากที่ไปเลือกดูชักโครกสำหรับเด็กและสั่งซื้อเรียบร้อยแล้ว มีคุณก็พานับตังค์กับด้วงไปเที่ยวที่ซีเวิร์ลเพราะด้วงอยากไปดูโชว์ปลาโลมา วันนี้มีชาวต่างชาติมาเที่ยวกันเยอะ แต่ละคนก็ตัวสูงใหญ่จนด้วงมองไม่เห็น มีคุณจึงอุ้มด้วงให้มาขี่คอตัวเอง ด้วงส่งเสียงอู้หูทุกครั้งที่ปลาโลมากระโดดลอดห่วง บางทีเห็นคนอื่นปรบมือก็ปรบมือตามบ้าง นับตังค์เห็นแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ รู้สึกผูกพันและเอ็นดูด้วงขึ้นมาทุกทีจนบางทีก็เผลอตัวคิดไปว่าด้วงคือลูกของตัวเองจริงๆ ไปแล้ว

“โยมากระโดดฉูง แย้วก็ตกน้ำตู้ม” ด้วงพยายามทำท่าทำทางประกอบเสียใหญ่โตจนนับตังค์ต้องแกล้งตื่นเต้นตามไปด้วย

“จริงเหรอ แล้วน้ำกระเด็นไหม” นับตังค์ถาม

“เปียกหมดเยย” ด้วงพยักหน้าแล้วทำตาโตเหมือนโดนน้ำกระเด็นใส่ตัวเอง

“รู้ไหมว่าโลมาที่ดูน่ารักแบบนี้นิสัยจริงของมันไม่น่ารักสักเท่าไหร่” มีคุณพูดกับนับตังค์ระหว่างที่ด้วงกำลังเพลิดเพลินกับการดูโชว์อย่างตื่นตาตื่นใจ

“ทำไมอะ ไม่น่ารักยังไง” นับตังค์ก็เห็นว่ามันดูเชื่อฟังคนสอนดี

“พฤติกรรมของมันขึ้นชื่อว่าหื่นมาก”

“โลมาหรือมีคุณ” นับตังค์เลิกคิ้วถาม

“กวนละ พี่พูดเรื่องจริงนะ” มีคุณอยากจะฟัดแก้มคนกวนประสาทเสียจริง

“อะๆ เล่าต่อ ไม่กวนแล้ว ฮ่าๆ” นับตังค์เอาไหล่ไปเบียดกระแทกมีคุณเบาๆ แทนการง้อ

“มันเป็นสัตว์ที่มีเซ็กส์เพราะความสนุกนะ ช่วงผสมพันธุ์นะมันจะรุมโทรมตัวเมีย ถ้าตัวเมียไม่สมยอมมันก็จะซ้อมด้วยการเอาตัวชน เอาหางฟาดจนกว่าตัวเมียจะยอม”

“ร้ายกาจ” นับตังค์ทำหน้าสยอง

“ตัวผู้บางตัวก็ทะลึ่ง ถ้าใกล้ชิดกับคนมากๆ มันถึงกับจะมาทำเรื่องนั้นกับคนด้วยนะ”

“จริงดิ” นับตังค์ฟังแล้วรู้สึกอึ้งกับข้อมูลที่ไม่เคยรู้

“จริง แล้วรู้ไหม..”

“ไม่รู้”

“ยังไม่ได้เล่า”

“แหะๆ ย่อเย่น อะเล่าๆ ไม่ขัดแล้ว” นับตังค์แกล้งพูดไม่ชัดเลียนแบบด้วง

“พวกมันส่วนใหญ่เป็นไบเซ็กส์ชวล มันสามารถมีเซ็กส์กับเพศเดียวกันเพื่อความสนุกอีกด้วย แล้วถ้าช่วงไหนที่เกิดความไม่สมดุลทางเพศในฝูงของมัน อย่างเช่นถ้ามีประชากรที่เป็นตัวผู้มากกว่า ถ้าตัวเมียคลอดลูกเป็นตัวผู้ออกมาอีก บรรดาโลมาตัวผู้จะร่วมกันฆ่าลูกโลมาอับโชคตัวนั้นทิ้ง”

“เฮ้ย น่ากลัวอะ พี่รู้ได้ไง จริงหรืออำ” นับตังค์ฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อ

“จริง พี่เคยดูสารคดีมา นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ที่มันขี้เล่นและดูเป็นมิตร นั่นเป็นการเล่นสนุกอย่างหนึ่งของมัน ประมาณว่าเป็นของเล่นยามว่างแค่นั้น แต่นิสัยจริงนะ ถ้ามันเล่นอะไรเบื่อแล้ว มันจะฆ่าให้ตายก็มี”

“เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าดูคนที่ภายนอกไม่ได้ ดูปลาโลมาที่ภายนอกไม่ได้เช่นกัน จำไว้นะด้วง บางคนหน้าตาเถื่อนๆ แต่ความรู้รอบตัวเยอะมาก จะไปดูถูกไม่ได้” นับตังค์ปรบมือให้มีคุณ

ด้วงหันมามองเมื่อได้ยินนับตังค์เรียกชื่อของตัวเอง พอเห็นนับตังค์ปรบมือก็ปรบตาม แล้วก็หันไปสนใจดูโลมาต่อ

“ไม่เอาครับ ไม่นินทาแฟนนะครับ เดี๋ยวแฟนน้อยใจกลับบ้านไปเจอปล้ำนะครับน้องตัง” มีคุณกระซิบที่หูของนับตังค์

“นี่ไปเอาดีเอนเอของปลาโลมามาป๊ะ” นับตังค์ถามเสียงสูงแบบกวนๆ

“ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ ตั้งใจว่าจะถ่ายดีเอนเอของตัวเองให้น้องตังเร็วๆ นี้ โอเคนะ”

“ไม่โอเค” นับตังค์เบ้ปากใส่ มีคุณหัวเราะพลางนึกในใจว่าแฟนของตัวเองไม่มีความโรแมนติกเอาเสียเลย

ทั้งสามคนนั่งดูโชว์ปลาโลมาจนจบ ด้วงเล่าเรื่องโลมาที่ได้ดูมาแบบฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่รอยยิ้มที่สดใสของด้วงเป็นเครื่องหมายแสดงให้มีคุณกับนับตังค์เห็นว่าเด็กน้อยคนนี้กำลังมีความสุขมากจริงๆ

“หิวรึยัง เห็นเบิ้มบอกว่าที่ห้างเขามีงานมหกรรมอาหารพอดี” มีคุณถามนับตังค์

“ไปที่ห้างเลยก็ได้ ด้วงคงหิวแล้ว” นับตังค์บอกเพราะเห็นด้วงมองไปที่ร้านขายขนม ดวงตาเป็นประกาย


เมื่อทั้งสามคนมาถึงห้างสรรพสินค้า นับตังค์ชวนมีคุณไปกินข้าวก่อน จากนั้นค่อยไปเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าให้ด้วง ท้ายสุดค่อยไปเดินที่งานมหกรรมอาหาร เพราะว่านับตังค์อยากซื้อของกินในงานไปฝากทุกคนในบ้าน มีคุณเห็นด้วยเลยให้นับตังค์เป็นคนเลือกว่าจะกินอะไร ซึ่งนับตังค์เลือกกินสุกี้

“ชอบกินสุกี้เหรอ” มีคุณถาม

“ใช่ ชอบกินเป็ดย่างด้วย พี่ไม่ชอบเหรอ จะกินอย่างอื่นก็ได้นะ” นับตังค์ถามกลับ

“ชอบสิ ชอบมากเลยแปลกใจที่ตังชอบเหมือนกัน” มีคุณแสดงท่าทีดีใจออกมา

“แค่นี้ก็ดีใจ”

“ดีต่อใจ” มีคุณยิ้มให้นับตังค์ที่แกล้งทำเป็นดูรายการอาหารแต่ก็เห็นได้ชัดว่าอมยิ้มอยู่เหมือนกัน

มีคุณเอาแต่นั่งมองนับตังค์กับด้วงจนเพลิน รู้สึกว่าสุกี้มื้อนี้เป็นสุกี้ที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยได้กินมา มันอิ่มเอมทั้งท้อง อิ่มเอมทั้งหัวใจ ผู้ชายตรงหน้าพยายามจะสอนให้เด็กตัวน้อยกินผัก หลอกล่อสารพัด เจ้าเด็กน้อยก็ฉลาดไม่เบา ผักอันไหนกินได้ก็กินโชว์เพราะอยากได้รับคำชม ผักอันไหนไม่ถูกปากก็อมเอาไว้ที่กระพุ้งแก้มแล้วบอกว่ากินไปแล้ว ศึกสังหารผักลงท้องจบลงด้วยฝ่ายมัมมี่นับตังค์ชนะขาดลอยเพราะว่าถ้าเด็กน้อยไม่กลืนผักลงไปจะอดได้ตุ๊กตา ผักที่ถูกอมเอาไว้จึงต้องไหลลื่นลงคอไปแต่โดยดีแม้เจ้าตัวจะอยากคายออกมาก็ตาม

“กินอะไรให้เลอะ” นับตังค์ไม่ได้พูดกับด้วง แต่กำลังพูดกับมีคุณ พร้อมกันนั้นก็โน้มตัวลุกขึ้นมาเอาทิชชูเช็ดที่มุมปากของมีคุณให้ก่อนจะกลับไปนั่งอย่างเดิม

มีคุณถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่คิดว่านับตังค์จะกล้าแสดงออกกับเขาต่อหน้าผู้คนอย่างนี้ มีคุณไม่ได้ตกใจ แต่กำลังดีใจจนพูดไม่ออก มีคุณคงแสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้าเกินไปนับตังค์ถึงได้ยิ้มอ่อนกลับมาให้

“อยากทำแบบนี้มานานแล้ว ดูในซีรีส์เกาหลีแล้วตั้งใจว่าถ้ามีแฟนจะทำแบบนี้ให้บ้าง” นับตังค์พูดจบก็หัวเราะ

“ต่อไปพี่จะกินให้เลอะบ่อยๆ นะ” มีคุณใจเต้นแรงให้กับรอยยิ้มและความโรแมนติกของนับตังค์ที่เขาเพิ่งจะได้เห็นเป็นบุญตา

“เป็นพาร์กินสันรึไง ถึงได้จะมือไม้สั่นกินแล้วหกเลอะเทอะบ่อยๆ ไม่ได้เรื่อง” นับตังค์บ่น

‘จบกัน’ มีคุณนึกในใจ ความโรแมนติกที่กำลังก่อตัวหายวับไปกับตา นับตังค์ก็ยังคงเป็นนับตังค์ ทำให้เขาทึ่ง อึ้ง เกินความคาดเดาไปได้ทุกทีสินะ

“แด๊ดไม่ได้เยื่องเยย” ด้วงหันมาบ่นสมทบ

‘สรุปว่าในครอบครัวนี้คนที่แพ้ต้องเป็นแด๊ดคนนี้สินะ ยอมก็ได้ ลูกเมียน่ารักแบบนี้ยอมแพ้หน่อยจะเป็นไรไป’ มีคุณได้แต่นึกในใจ เพราะขืนพูดออกไปเขาคงโดนโลมานับตังค์สะบัดหางใส่จนไส้แตกก็เป็นได้ การทำให้นับตังค์เขินมากเกินไปจะเป็นภัยต่อชีวิต ต้องค่อยๆ หยอด ค่อยๆ จีบ ค่อยๆ หวาน มีคุณชักจะรู้ทางของคนที่ตัวเองรักแล้ว 


อิ่มจากสุกี้แล้ว นับตังค์กับมีคุณก็ไปเลือกซื้อเสื้อผ้าให้ด้วง ด้วงต้องมองทั้งคู่เถียงกันไปมาเรื่องสไตล์ของเสื้อผ้าก่อนจะหาวหวอดเพราะพอท้องอิ่มก็เริ่มจะง่วง กว่าแด๊ดกับมัมจะซื้อเสื้อผ้าได้มากพอตามที่ต้องการด้วงก็เกือบจะหลับ แต่มาตาโตลืมง่วงก็ตอนที่แด๊ดกับมัมพามาตรงโซนขายตุ๊กตา ทุกอย่างตรงหน้ามันดูตื่นตาตื่นใจด้วงไปหมด

“เอาอันนี้ได้ไหม” ด้วงชี้ไปที่ตุ๊กตากระต่าย

“หุ่นยนต์ดีกว่าไหมด้วง” นับตังค์ถามเพราะกระต่ายที่ด้วงชี้ไปมันดูมุ้งมิ้งมาก

“ขัดลูกทำไม ให้เขาเลือกที่เขาชอบ” มีคุณพูดกับนับตังค์เบาๆ

“แต่ว่า..” นับตังค์จะเถียง แต่มีคุณแทรกขึ้นมาก่อน

“ตังยังไม่ชอบอยู่ในกรอบเลยนะ” พอมีคุณพูดแบบนี้นับตังค์ก็เถียงไม่ออกและเริ่มคิดว่ามีคุณก็เป็นพ่อที่ใจกว้างและเป็นผู้ใหญ่กว่าที่นับตังค์เคยคิดสบประมาทในใจ

“เอากระต่ายตัวนี้ใช่ไหม” นับตังค์ถามด้วงอีกครั้ง

ตอนนี้สายตาของด้วงไม่ได้มองไปที่กระต่ายแล้ว แต่มองไปที่ตุ๊กตาเอเลี่ยนที่ห้อยอยู่หลายตัว สายตาใสบริสุทธิ์มองอย่างสนใจก่อนจะหันกลับมามองนับตังค์ด้วยท่าประจำตัวเวลาที่อยากได้ของ คือการทำตาโตและเอียงคอถาม

“เอาตุ๊ตาหมาน้อยได้ไหม”

“มันหมาตรงไหนอะ” นับตังค์หันมาถามมีคุณเพราะมองยังไงเอเลี่ยนตัวนี้มันไม่เหมือนหมาสักนิด

“อย่าปิดกั้นจิตนาการของลูก” มีคุณกอดอกแล้วตอบกลับไป

“หมาก็หมา เอาหมาน้อยนี่ใช่ไหม” นับตังค์ถามด้วง

เมื่อด้วงพยักหน้ายืนยัน นับตังค์จึงบอกพนักงานว่าต้องการตุ๊กตาเอเลี่ยนตัวนี้พร้อมกับจ่ายเงินให้ ไม่นานพนักงานก็นำตุ๊กตาใส่ถุงมายื่นให้ นับตังค์เอาตุ๊กตาออกจากถุงส่งให้ด้วง ด้วงรีบรับมากอดเอาไว้

“มันชื่อด้าวนะ เป็นน้องชายของด้วง” นับตังค์บอกกับด้วง

“ชื่อมีเป็นพัน ตั้งชื่ออะไร ตลก” มีคุณนึกขำนับตังค์

“เอ้า ก็มันเป็นพวกต่างด้าวไหม แล้วด้าวกับด้วงก็ไปด้วยกันได้ ด้าว ด้วง แด๊ด เห็นไหม ออกจะดี” นับตังค์เห็นว่าชื่อนี้เก๋สุดๆ แล้ว

“ด้าว ด้วง แด๊ด” ด้วงพูดตาม

“งั้นด้วงต้องเรียกมัมว่า ด้งนะ จะได้เหมือนกับเราสามคน” มีคุณพูดกับด้วง

“ทำไมต้องด้ง” นับตังค์ถาม

“ก็พอตกดึก ตังจะมีกระด้งเอาไว้ฝึกบินไง” มีคุณพูดจบก็หัวเราะชอบใจ

“ว่าตังเป็นกระหังรึไง เออดี กระหังมันพกสากเป็นอาวุธ แม่จะตำให้แหลกคามือเลย” นับตังค์เอากำปั้นทุบลงมือ

“งั้นพี่ขอเป็นกระหังดีกว่า พี่อยากตำตัง” มีคุณยักคิ้วให้นับตังค์พร้อมกับเอากำปั้นทุบมือเหมือนกัน แต่มีสูดปากเพิ่มด้วย

“โอ้ย ไอ้หมีสัญชาติโลมา ไปกันดีกว่าด้วง” นับตังค์หน้าแดงก่อนจะรีบจูงมือด้วงพาเดินออกไปให้ห่างจากกระหังหื่นตัวนี้ให้ไวที่สุด


ตอนนี้ทั้งสามคนลงมาถึงสถานที่ที่กำลังจัดงานมหกรรมอาหาร นับตังค์ให้มีคุณอุ้มด้วงเอาไว้เพราะว่าคนค่อนข้างเยอะ ร้านที่มาร่วมงานต่างก็เป็นร้านชื่อดังที่ไม่ใช่เฉพาะร้านในจังหวัด ผู้จัดงานดึงเอาร้านดังจากจังหวัดอื่นมาร่วมด้วย นับตังค์เดินซื้อของกินหลายอย่างที่จะเอากลับไปกินเป็นอาหารเย็นด้วยกันกับทุกคน จนเดินมาถึงร้านขนมไทยร้านหนึ่งซึ่งมีขนมไทยวางเรียงหลายอยู่หลายอย่าง แต่มีขนมอย่างหนึ่งที่บรรจุหีบห่อคุ้นตา เมื่อเดินไปดูใกล้ๆ นับตังค์ถึงกับหยุดนิ่งไปจนมีคุณสงสัย

“มีอะไรเหรอ” มีคุณถาม

“ขนมรังไร มาจากร้านของย่า มาขายถึงนี้เลย ปกติย่าจะไม่ทำขายที่อื่น ไม่รู้ทำไมถึงมาวางขายอยู่ที่นี่ได้” นับตังค์มองขนมรังไรที่มีป้ายยี่ห้อ ‘ไทยละม่อม’ ติดอยู่

“จะรับขนมรังไรไหมคะ คนทำเป็นชาววังเก่านะคะ อร่อยมาก เหลือแค่สี่ถุงสุดท้ายแล้วนะคะ” คนขายรีบนำเสนอเมื่อเห็นนับตังค์มองขนมรังไรไม่วางตา

“เอาสี่ถุงเลยครับ” มีคุณเป็นฝ่ายตอบแทนนับตังค์

คนขายดีใจรีบหยิบขนมใส่ถุงให้ มีคุณจ่ายเงินเรียบร้อยก็พานับตังค์กับด้วงเดินออกมาจากงาน เห็นนับตังค์เงียบไปก็ใจไม่ดี

“คิดถึงบ้านใช่ไหม” มีคุณถาม

“ย่าไม่ได้ทำรังไรนานมาก ตังจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ย่าทำคือตอนที่พี่เหรียญเงินหนีออกจากบ้านไป”

“ตัง พี่พาตังกลับไปหาครอบครัวได้นะ พี่จะไปช่วยอธิบายทุกอย่าง” มีคุณสงสารคนรัก

“กลับเกาะกันเลยได้ไหม” นับตังค์ส่ายหน้าก่อนจะถาม

“ได้สิ นี่ก็เย็นมากแล้ว” มีคุณลูบผมนับตังค์เบาๆ เพราะเขาไม่รู้จะปลอบใจนับตังค์ยังไงดี


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 10-06-2017 11:32:52
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


ขนมรังไรเส้นเล็กละเอียดสีสันงดงามถูกจัดวางใส่จานหลังจากที่คนซื้อกลับมาถึงบ้านแล้ว ช่วงเวลาอาหารค่ำที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาไม่ได้ทำให้อารมณ์ของนับตังค์แจ่มใสขึ้นสักเท่าไหร่ แม้ใบเมี่ยงกับพายพัดจะพยายามชวนคุย รวมไปถึงหนูด้วงที่เล่าเรื่องโลมาให้ฟังเป็นที่น่าเอ็นดู แต่นับตังค์ก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆ และเหม่อลอยจนมีคุณไม่สบายใจ

“ตัง” มีคุณเรียกนับตังค์หลังจากที่ใบเมี่ยงถามนับตังค์หลายรอบว่าขนมรังไรมีวิธีทำอย่างไร แต่นับตังค์ไม่ได้ยินเพราะมัวแต่จมอยู่ในความคิดของตัวเอง

“ขอโทษทีนะ เมี่ยงถามว่าอะไรเหรอ” นับตังค์รีบพาสติตัวเองกลับมา

“ขนมรังไรมันทำยังไง แล้วทำไมมันชื่อว่ารังไร” ใบเมี่ยงถามซ้ำ ใบเมี่ยงสัมผัสได้ว่านับตังค์มีเรื่องอะไรในใจ เลยพยายามจะชวนคุยเรื่องอาหารเผื่อจะช่วยให้นับตังค์สบายใจขึ้น

“รังไรก็เป็นขนมอีกชนิดหนึ่งที่อยู่ในบทพระราชนิพนธ์กาพย์เห่เรือของรัชกาลที่สอง” นับตังค์อธิบายให้ใบเมี่ยงฟัง

“จริงเหรอ ท่องให้ฟังหน่อยสิ เราชอบ” พายพัดถามอย่างสนใจ เพราะติดใจตั้งแต่ล่าเตียงกับหรุ่มแล้ว

“รังไรโรยด้วยแป้ง เหมือนนกแกล้งทำรังรวง โอ้อกนกทั้งปวง ยังยินดีด้วยมีรัง”

“เพราะจัง รูปร่างมันคล้ายรังนกนี่เอง ขอชิมหน่อยได้ไหม” พายพัดถาม เมื่อเห็นนับตังค์พยักหน้าเลยจะหยิบขึ้นมาชิมชิ้นหนึ่ง

“อย่าเพิ่ง โรยกะทิก่อน” นับตังค์บอกก่อนจะจัดการปรุงขนมรังไรให้ครบขั้นตอนแล้วจึงส่งให้พายพัดกิน

“อร่อยมากเลย อร่อยมาก ร้านไหนทำ” พายพัดหยิบถุงขนมที่วางเอาไว้ข้างจานขึ้นมาดู

“ทำยากไหมครับ” ใบเมี่ยงถามเพราะตอนนี้ใบเมี่ยงสนใจทำขนมไทยมาก โดยเฉพาะขนมไทยที่อยู่ในบทพระราชนิพนธ์

“ไม่ยากหรอก ทำจากแป้งข้าวเจ้า นำไปอบควันเทียนกับกระดังงาลนไฟ อบจนหอมแล้วก็นำไปนวดกับน้ำลอยดอกมะลิ นวดดีแล้วก็เติมกะทิ ผสมสี แล้วนำไปกวนจนแป้งสุกร่อน นำลงมาแบ่งเป็นก้อนแล้วนวดอีกทีให้แป้งเนียนดีก่อนที่จะเอาไปกดพิมพ์ให้เป็นเส้น ขั้นตอนนี้สำคัญ เส้นต้องเล็กเสมอกันแล้วตะล่อมให้เป็นก้อนกลมเหมือนรังนก ขั้นตอนสุดท้ายก็นำไปนึ่ง เวลาจะกินก็กินกับกะทิปรุงรส งาคั่วผสมเกลือกับน้ำตาล แล้วโรยมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย”

คำว่าไม่ยากของนับตังค์เล่นเอาใบเมี่ยงแทบปาดเหงื่อ ถึงฟังแล้วส่วนผสมจะไม่มีอะไรมาก แต่ขึ้นชื่อว่าขนมไทย ถ้าไม่ละเอียดและพิถีพิถันจริงรสชาติจะไม่อร่อยและรูปลักษณ์ก็คงจะไม่งดงามแน่ๆ

“ถ้าชอบเอาไว้ตังจะทำให้ดูนะ” นับตังค์บอกก่อนจะมองไปที่รังไรอีกครั้ง

“อยากรู้ว่าของตังกับของเจ้านี้ ที่ไหนจะอร่อยกว่ากัน” พายพัดยังคงติดใจรสชาติของรังไรอยู่ มันทั้งหวานมันเค็มนิดๆ ทั้งหอมติดลิ้น ทั้งชื่นใจแม้ขนมจะถูกกลืนไปหมดแล้ว

“เราสู้เขาไม่ได้หรอก” นับตังค์พูดจบก็ตักขนมรังไรขึ้นมากิน

ใบเมี่ยง พายพัด รวมไปถึงมีคุณพูดไม่ออกเมื่อเห็นน้ำตาของนับตังค์หลังจากที่กินขนมรังไรไปแล้ว มีเพียงมีคุณเท่านั้นที่รู้ว่านับตังค์กำลังคิดอะไรอยู่ เขาเดินเข้าไปหาแล้วโน้มตัวลงไปสวมกอดนับตังค์จากทางด้านหลัง จูบที่ผมของนับตังค์อย่างอ่อนโยน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นน้ำตาของคนที่เขารัก มันทำให้มีคุณถึงกับใจหายจนทำตัวไม่ถูก แต่คิดว่าการกอดคงจะเป็นการปลอบโยนที่สุดในขณะนี้

“ตังไม่ได้เป็นอะไร แค่อร่อยจนน้ำตาไหลแค่นั้นเอง” นับตังค์พยายามจะเข้มแข็ง

“อุ้มหนูหน่อย” ด้วงชูมือให้ใบเมี่ยงอุ้มตัวเองลงจากเก้าอี้เด็ก จากนั้นด้วงก็เดินไปหานับตังค์แล้วเบะปาก นับตังค์รีบอุ้มด้วงขึ้นมานั่งตัก

“เบะทำไม” นับตังค์ถามทั้งที่ตัวเองยังน้ำตาไหลไม่หยุด นับตังค์พยายามฝืนเอาไว้แล้ว แต่พอได้ชิมฝีมือของย่าก็อดคิดถึงบ้านไม่ได้จริงๆ

“มัมไม่ย้องนะ” ด้วงรีบเช็ดน้ำตาให้นับตังค์แต่ตัวเองก็เบะปากน้ำตาคลอ

“ไม่ร้องแล้ว” นับตังค์รีบกลั้นน้ำตาเอาไว้

“โอ้อกนกทั้งปวง ยังยินดีด้วยมีรัง ถ้าที่นี่เป็นรังของนกน้อยที่พลัดถิ่นมา พี่สัญญาว่าจะทำให้รังนี้อบอุ่นที่สุดทำหรับทุกคนนะ ไม่ร้องนะครับ พี่ไม่อยากเห็นน้ำตาของตังเลย” มีคุณพูดก่อนจะหอมที่ผมของนับตังค์อีกครั้ง

“ซึ้งมากเลยพี่คุณ” ใบเมี่ยงน้ำตาคลอตาม

“รังนี้...แมวน้ำอยู่ได้ไหมครับ” พายพัดถามจบนับตังค์หลุดหัวเราะทั้งน้ำตา ด้วงเห็นนับตังค์หัวเราะก็มองตาปริบๆ ก่อนจะหัวเราะตาม

“ได้สิ จะแมวน้ำ จะโอปป้า หรือจะกระหัง เราทุกคนคือครอบครัวนะ” มีคุณตอบ

“เกือบดีละเชียว” นับตังค์คว้าแขนของมีคุณที่โอบคอตัวเองมากัดเบาๆ

“มัมจะกินแด๊ด” ด้วงรีบดึงแขนมีคุณออกจากปากของนับตังค์

“เดี๋ยวนี้เข้าข้างกันแล้วเหรอ พอแด๊ดทำเตียงให้ มีของเล่นให้ ย้ายข้างเลยนะตัวแสบ” นับตังค์เคาะหน้าผากด้วงเบาๆ

“เดี๋ยวพี่ทำเตียงกับซื้อของเล่นให้ตังบ้าง จะได้ไม่น้อยใจนะ เอาของเล่นแบบไหนดี เอาเตียงน้ำไหม เด้งดึ๋งดีนะ เอาไหม” มีคุณทำหน้าเจ้าเล่ห์

“เดี๋ยวคืนนี้ด้วงไปนอนกับพี่ไหมครับ พี่จะเล่านิทานกับเล่นตุ๊กตาหุ่นเชิดให้ดู” ใบเมี่ยงถามด้วง

“หนูจะนอนกับพี่จ๋า” ด้วงชี้ไปที่ใบเมี่ยง

“วู้” มีคุณแสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้า

“อุ๋งอุ๋ง ไหนคืนนี้ว่าจะให้รางวัลพายไง” พายพัดทำหน้าเศร้า

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้สองรางวัลเลย คืนนี้เราต้องช่วยกันสร้างรังให้พี่คุณก่อน” ใบเมี่ยงกระซิบพายพัด พายพัดถึงได้ยิ้มออก

“ไม่ต้องกระซิบหรอกเมี่ยง ได้ยินชัดเหมือนพูดในโทรโข่งเลย” นับตังค์ค้อนใบเมี่ยงที่รู้เห็นเป็นใจให้ลูกครึ่งหมีผสมโลมาได้เข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ แล้วใครล่ะที่เสียเปรียบ นับตังค์คนนี้ไง

“มันจะดีนะ เชื่ออุ๋งอุ๋งเขาเถอะตัง อะไรดีอุ๋งอุ๋งก็ว่าดี” พายพัดช่วยคอนเฟิร์มจนนับตังค์อยากจะวิ่งลงเรือออกจากเกาะให้รู้แล้วรู้รอด

“อุ๋งอุ๋ง” ด้วงทำท่าแมวน้ำตอนที่ได้ยินคำว่าอุ๋งอุ๋ง

“ด้วงครับ ไปนอนกับพี่ไหม พี่จะเล่านิทานลูกหมูสามตัวให้ฟัง มีหมาป่าด้วย” นับตังค์หันมาล่อหลอกด้วง มีคุณทำหน้าเซ็งทันที

“ไม่เอา เบื่อแย้ว จะนอนกับพี่จ๋า จะไปเล่นตุ๊ตากับพี่จ๋า” ด้วงชี้ไปที่ใบเมี่ยง

“รักลูกจังเลยลูก เดี๋ยวแด๊ดจะซื้อตุ๊กตากระต่ายเพิ่มให้นะคนเก่ง” มีคุณหัวเราะชอบใจที่ทุกอย่างดูจะเป็นใจให้เขาได้ล่าเตียงกับนับตังค์ในคืนนี้แล้ว

“เย้” ด้วงชูไม้ชูมือทำท่าดีใจที่จะได้ตุ๊กตาเพิ่ม คงมีแต่นับตังค์ที่นั่งหน้าแดงใจสั่นกับอนาคตอันใกล้ที่ทำให้รู้สึกย้อนแย้งในตัวเอง ทั้งกลัวทั้งต้องการปนเปกันไปหมด

“กินข้าวกันสิ ไม่กินจะเก็บล้างแล้วนะ” นับตังค์ไม่รู้จะแก้เขินยังไงเลยแกล้งพาล

“กินๆๆ” มีคุณรีบเดินกลับไปนั่งแล้วชี้ชวนให้ทุกคนกินข้าว รีบสร้างบรรยากาศใหม่ก่อนที่ด้วงจะเปลี่ยนใจขอกลับมานอนกับนับตังค์

นับตังค์ยอมรับว่าคำพูดของมีคุณที่ว่า ‘จะทำให้รังนี้อบอุ่นที่สุด’ มันทำให้หัวใจที่อ่อนแอของนับตังค์แข็งแรงขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ การร้องไห้คิดถึงครอบครัวไม่ได้หมายความว่าที่นี่ไม่อบอุ่น แต่คำปลอบโยนของมีคุณมันเหมือนผ้าหนึ่งผืน ที่ช่วยซับน้ำตาให้จางหาย ช่วยห่อหุ้มเป็นรังให้นกพลัดถิ่นตัวนี้ได้อาศัยจนหายเหน็บหนาว หากคืนนี้นับตังค์จะต้องกลายเป็นคนรักของมีคุณโดยสมบูรณ์ นับตังค์ก็เต็มใจ แต่ขอให้ได้เล่นตัวกันบ้าง จะเสียตัวทั้งทีมันต้องมีสไตล์

...

เฟื้องยืนมองขนมรังไรที่คุณย่าทำเอาไว้แล้วอดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้ รังไรเป็นขนมที่พี่เหรียญเงินชอบกินมาก คุณย่าไม่เคยทำอีกเลยตั้งแต่พี่เหรียญเงินหนีออกจากบ้านไป จนมาวันก่อน...มีคนเข้ามาขอให้คุณย่าทำขนมไทยให้ บอกว่าอยากให้คนได้กินขนมไทยโบราณสูตรชาววังบ้าง ซึ่งคนที่มาติดต่อจะนำไปขายในงานมหกรรมอาหารที่ถูกจัดเป็นงานใหญ่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ เฟื้องประหลาดใจที่คุณย่ายอมตกลงทำให้และจัดการลงมือทำด้วยตัวเอง ที่ยิ่งประหลาดใจกว่าก็คือคุณย่าเลือกทำขนมรังไรให้

เฟื้องเดาใจคุณย่าไม่ออก หากคุณย่าคิดถึงหลานชายทั้งสองคนที่หนีออกจากบ้านไป ทำไมถึงไม่ยอมลดทิฐิลงบ้าง ทุกครั้งที่แม่ทำท่าว่าจะออกไปตามหาพี่เหรียญเงินหรือนับตังค์ คุณย่าก็จะออกคำสั่งไม่ให้แม่ไป เฟื้องสงสารแม่ที่ต้องร้องไห้จนน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด พ่อก็เป็นอีกคนที่เฟื้องรู้สึกน้อยใจ เฟื้องรู้ว่าพ่อถูกสอนมาให้รักและเคารพคุณปู่คุณย่า ถือความกตัญญูเป็นที่ตั้ง แต่เฟื้องอยากรู้ว่าพ่อรักลูกบ้างไหม การสูญเสียลูกไปไม่ทำให้พ่อเสียใจบ้างเลยหรือ คิดแล้วก็อดที่จะสะเทือนใจไม่ได้ เฟื้องทำได้แต่คิดถึงพี่ชายและน้องชายของตัวเองอย่างสุดหัวใจ


“น้องเฟื้อง มาหาพี่ถึงโรงงานเลย มีอะไรรึเปล่าครับ” สุดเขตได้รับแจ้งจากคนงานว่ามีคนมาหา เขาไม่คิดว่าจะเป็นตำลึงทอง

“เฟื้องเอาขนมมาให้คุณน้ากับพี่เขตค่ะ คุณแม่ท่านให้เอามาฝาก” ตำลึงทองส่งถุงขนมรังไรให้สุดเขต

“น่ากินมากเลย หากินยากมากเลยนะ แล้ว...ตาแดงๆ น้องเฟื้องร้องไห้ใช่ไหม” สุดเขตนึกเป็นห่วงคนที่ตนรัก

“พี่เขตได้ข่าวตังบ้างหรือยังคะ”

“เข้าไปนั่งในห้องทำงานของพี่ดีกว่า พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” สุดเขตตัดสินใจว่าจะพูดเรื่องของนับตังค์จึงพาตำลึงทองเข้าไปนั่งในห้องทำงาน เพราะมันค่อนข้างส่วนตัว

“สรุปว่าพี่ได้ข่าวตังแล้วใช่ไหมคะ” ตำลึงทองถามซ้ำเพราะคิดว่าสุดเขตน่าจะได้ข่าวอะไรมาบ้าง

“น้องตังอยู่กับเพื่อนของพี่เอง”

“เพื่อนของพี่ ใครเหรอคะ แล้วทำไมตังถึงไปอยู่กับเพื่อนของพี่ได้” ตำลึงทองรู้สึกร้อนใจนึกห่วงน้องชายที่ไม่เคยไปไหนไกลจากบ้านเลย ไม่รู้ว่ากินอยู่อย่างไร

“มีคุณ เฟื้องจำมีคุณได้ใช่ไหม ที่เป็นนักวิจารณ์อาหาร”

“จำได้ค่ะ แต่ว่าทำไมสองคนนี้ถึงไปอยู่ด้วยกันได้คะ” ตำลึงทองนึกสงสัยเพราะเท่าที่รู้มา นับตังค์ค่อนข้างมีอคติกับมีคุณเป็นอย่างมาก

“คือเพื่อนพี่มันได้รับช่วงกิจการร้านอาหารของปู่มัน มันเห็นว่าน้องตังอยากพิสูจน์ฝีมือทำอาหารในแบบที่น้องตังชอบ มันเลยเสนองานให้ เงินเดือนสูง มีที่พักและสวัสดิการให้อย่างดี น้องตังอ่านข้อเสนอแล้วก็ตอบตกลงไป”

“แล้วทำไมพี่ไม่บอกเฟื้องตั้งแต่แรกคะ ทำไมพี่ต้องปิดบังเฟื้อง พี่ไม่รู้รึไงคะว่าเฟื้องห่วงน้องมากแค่ไหน” ตำลึงทองรู้สึกเสียใจที่โดนปิดบัง

“พี่ขอโทษจริงๆ พี่ไม่ได้ตั้งใจ ทุกอย่างมันมีเหตุผล แต่พี่ยังบอกน้องเฟื้องไม่ได้จริงๆ เพราะมันเป็นข้อตกลงระหว่างมีคุณกับน้องตัง พี่เห็นน้องตังโตแล้วเลือกทางเดินชีวิตได้เองแล้วพี่ก็เลยจำต้องยอมรับการตัดสินใจของเขา แต่พี่รับประกันว่าเพื่อนของพี่ดูแลน้องตังได้เป็นอย่างดี นี่ไง มันส่งรูปมาให้พี่ดูด้วย” สุดเขตรีบหยิบไอแพดมาเปิดรูปให้ตำลึงทองดู เป็นรูปที่ถ่ายในวันสงกรานต์

เฟื้องเห็นรอยยิ้มของนับตังค์แล้วก็ปล่อยโฮออกมา เธอคิดถึงน้องชายมาก ทั้งคู่โตมาด้วยกัน ยิ่งตอนที่พี่เหรียญเงินหายไป ทั้งคู่ก็ยิ่งสนิทกันมาขึ้น เข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้นเพราะชีวิตถูกกดดันมาไม่ต่างกัน ตอนนี้เฟื้องเห็นแล้วว่าน้องชายกำลังมีความสุข รอยยิ้มที่สดใสของนับตังค์ทำให้เฟื้องคลายความกังวลใจได้มาก แต่อีกใจก็ยังอยากให้น้องชายกลับบ้านเพราะสงสารแม่

“เฟื้องจะติดต่อน้องได้ยังไงคะ โทรไปเบอร์เดิมก็ไม่ติดเลย” เมื่อสงบจิตใจจนเลิกร้องไห้ได้แล้ว ตำลึงทองก็เอ่ยถามสุดเขต

“เบอร์เดิมไม่มีสัญญาณน้องตังเลยเปลี่ยนค่าย อาจจะยุ่งเพราะร้านใกล้เปิดแล้วเลยไม่ทันได้โทรมาบอกน้องเฟื้อง แล้วเดี๋ยวพี่จะขอจากมีคุณให้นะ” สุดเขตพยายามจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ก่อน แต่คิดว่าคงยังไม่บอกเรื่องที่นับตังค์คบกับมีคุณในฐานะคนรัก

“น้องไปอยู่ที่ไหนคะถึงไม่มีสัญญาณ”

“เอาไว้น้องเฟื้องถามน้องตังเอาเองก็แล้วกันนะครับ แต่อย่าโกรธพี่เลยนะครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังจริงๆ”

“ขอคิดดูก่อนนะคะว่าจะยกโทษให้ดีไหม” ตำลึงทองค้อนสุดเขตที่ทำให้เธอต้องเสียใจอยู่นานสองนานกว่าจะยอมบอกความจริง

“โธ่ พี่ยอมทุกอย่างเลยคนดีของพี่ แต่อย่าโกรธพี่เลยนะครับ” สุดเขตเอื้อมมือมากุมมือของตำลึงทอง

“ครั้งนี้เฟื้องจะยกโทษให้นะคะ แต่ถ้าเฟื้องรู้ว่าพี่ปิดบังอะไรเฟื้องอีก คราวนี้เฟื้องจะไม่ยกโทษให้พี่เลย” ตำลึงทองคาดโทษเอาไว้จนสุดเขตกลืนน้ำลายลงคอได้อย่างยากเย็น

“พี่อยากทานขนมนี้แล้ว เราเอาเข้าไปให้คุณแม่พี่ได้กินด้วยกันดีกว่านะ คุณแม่ของพี่คงดีใจที่รู้ว่าเฟื้องมา” สุดเขตรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะจูงมือพาตำลึงทองเข้าไปในบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก อยู่ถัดจากด้านหลังของโรงงานไปเพียงนิดเดียว


ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือโชคชะตากำหนดมาให้ชีวิตของมีคุณต้องเจอกับบททดสอบ เพราะก่อนหน้าที่สุดเขตจะพาตำลึงทองมานั่งอยู่ในห้องทำงาน สุดเขตกำลังคุยโทรศัพท์กับคีตะอยู่ คีตะกำลังเค้นเอาความจริงจากสุดเขตว่ามีคุณลงไปทำอะไรที่เกาะใบไม้คราม เมื่อมีคนงานมาแจ้งกับสุดเขตว่ามีคนมาขอพบ สุดเขตจึงบอกให้คีตะวางสายไปก่อน จากนั้นสุดเขตก็ทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะแล้วเดินออกไป ไม่ทันดูว่าตัวเองไม่ได้กดวางสาย ซึ่งคีตะเองก็ไม่ได้กดวางสายเช่นกัน เพราะฉะนั้นบทสนทนาของสุดเขตกับตำลึงทองจึงเข้าหูของคีตะทุกคำ

“ที่แท้นับตังค์ก็เป็นน้องชายของเฟื้องนี่เอง จะเป็นยังไงนะ ถ้าพ่อแม่หัวโบราณรู้ว่าลูกของตัวเองเป็นเกย์” คีตะพึมพำกับตัวเอง

คีตะรู้จักตำลึงทองจากคำบอกเล่าของสุดเขตตั้งแต่สมัยที่สุดเขตจีบตำลึงทองใหม่ๆ รู้มาว่าที่บ้านของตำลึงทองค่อนข้างหัวโบราณ เข้มงวดมากจนสุดเขตกลัวว่าตัวเองจะไม่สมหวังกับลูกสาวบ้านนี้ ถ้านับตังค์เป็นน้องชายของเฟื้อง คีตะคิดว่าพ่อแม่ของนับตังค์คงรับไม่ได้แน่ๆ ที่นับตังค์จะคบหาผู้ชายด้วยกัน ถ้าเป็นแบบนั้นนับตังค์คงจะต้องถูกพาตัวกลับบ้านแน่นอน คีตะรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นทันที โชคเข้าข้างขนาดนี้ไม่ต้องลงแรงทำอะไรให้มากก็คงจะได้มีคุณกลับมา หรือถ้าไม่ได้มีคุณกลับมา ก็อย่าหวังว่านับตังค์จะสมหวังเหมือนกัน คนอย่างที่คีตะเกลียดที่สุดก็คือคนที่ได้ทุกอย่างของคีตะไป อะไรที่เคยเป็นของคีตะ ถ้าคีตะไม่อยากให้ก็จะไม่มีวันปล่อยมือไปง่ายๆ เหมือนกัน


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เดี๋ยวกลับมาแก้คำผิดที่หลุดรอดให้นะคะ ว่าแต่คีตะคะ ระวังทุเรียนนะคะ 555


(https://www.uppic.org/image-45E3_593B736F.jpg)


เครดิตรูปจาก Google


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 10-06-2017 11:59:19
 :เฮ้อ:((((    งานเข้าแล้วน้องตัง    ))))

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 10-06-2017 13:12:41
พังตั้งแต่สุดเขตบอกกะเฟื้องละ ยังยะมามีมารจากแฟนเก่าของมีคุณอีก  สู้ๆ นะตาง เฮ้อออ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 10-06-2017 13:44:06
อ้าวคีตะ เดี๋ยวมีข้าวเหนียวเปลือกทุเรียนไปส่งถึงที่นะจ๊ะ

ปล.คิดถึงพี่พญาคนฮา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 10-06-2017 14:35:31
มาม่าไม่ใช่อาหารไทยต้นตำหรับนะ
ครอบครัวนับตังค์ทำไมปรุงออกมาเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 10-06-2017 14:52:06
 :angry2: กำจัดยากจริงๆมารตัวนี้ หึ ประฉันไม่ได้คนอื่นก็ต้องไม่ได้ เลวอะ  :serius2:
สู้ๆนะพ่อหมีแม่กระหัง
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 10-06-2017 15:21:48
ปกติอ่านจากในมือถือ เลยไม่เคยเห็นรูปขนมภาพประกอบ
พลาดมาก บอกเลย  :ling1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-06-2017 15:26:48
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 10-06-2017 15:35:31
งานเข้าครั้งใหญ่รึเปล่านะ คีตะนี่อยู่เฉยๆไม่ได้นะ คนเขาไม่รักแล้วก็พยายามอยู่นั่นล่ะ


รอตอนต่อไป....นี่จะไปหาขนมไทยแบบนี้ทานที่ไหนไม่เคยทาน เพิ่งเคยได้ยินด้วย ขนมรังไรชื่อแปลก

ขอบคุณนะคะ ได้ความรู้เกี่ยวกับขนมไทยเยอะเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 10-06-2017 15:42:36
เรื่องวุ่นวายจะเข้ามาอีกแล้ววว

ทำไมชอบเอาชนะขนาดนี้นะคีตะเนี่ย

สู้ๆนะนับตังค์
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Kunpimook ที่ 10-06-2017 18:15:28
เพิ่งอ่านถึงตอนที่8 จ้าาา
เนื้อเรื่องดีมากก ไม่กลวง แอบได้ความรู้เกี่ยวกับขนมไทยไปในตัว เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ แต่งต่อนะนะๆๆๆ เด่วกระแสนิยายจะค่อยๆเพิ่มขึ้นน้าา  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 10-06-2017 18:35:49
เรื่องวุ่นๆกำลังจะมาอีกแล้ว  :hao5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-06-2017 18:42:27
เอาเข้าไปปัญหารุมเข้ามาอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-06-2017 19:18:32
คีตะทำตัวเป็นตัวร้ายภูธรมากกกกก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 10-06-2017 20:12:59
นับตังค์จะว่ายังไงกับเรื่องต่างๆที่มีคุณปิดบังไว้ แล้วกับความไว้เนื้อเชื่อใจจากทุกคนอีก
จะทำยังไงให้มีรายได้จากการทำร้านอาหารให้พอใช้หนี้บ้างน๊า

หนูด้วงน่ารัก นอกจากจะติดพี่ตังมากๆแล้ว ยังชอบเข้าครัวอีกต่างๆหาก
รอมีคุณกับน้องตังจัดการอดีตพี่เลี้ยงของหนูด้วงซะที นี่เอาเงินน้องไปด้วยเหรอเนี่ย!

มีคุณใจร้ายที่ทำให้นับตังค์เข้าใจพี่กับคุณแม่ผิดนะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 11-06-2017 02:38:46
หมั่นไส้คึตะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 11-06-2017 15:08:43
 :3123: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 12-06-2017 12:57:31
ถือเป็นบททดสอบทั้งของมีคุณและนับตังค์ว่าจะผ่านด่านมารที่ชื่อคีตะไปได้ไหม  แล้วนับตังค์จะต้องกลับบ้านไปก่อนที่ร้านจะเปิดหรือเปล่า

ตอนนี้คงต้องลุ้นให้สุดเขตบอกมีคุณเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดให้นับตังค์ได้รู้ทุกเรื่อง  ก่อนที่คีตะหรือครอบครัวนับตังค์จะพานับตังค์กลับไปอยู่บ้าน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 15 รังไร 10/06/60 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 12-06-2017 17:24:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 15-06-2017 18:14:45
ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว


นับตังค์นั่งกอดหมอนอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ รู้ดีว่าถ้าคนที่กำลังอาบน้ำอยู่ในตอนนี้ออกมาจากห้องน้ำเมื่อไหร่ นับตังค์จะต้องเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเสียเอกราชเป็นแน่ นับตังค์คิดว่าตัวเองพอจะเข้าใจหัวอกหญิงสาวในคืนวันส่งตัว อยากจะเป็นของเขาแต่ก็มีอะไรให้กังวลไปสารพัด แล้วมันยิ่งน่ากังวลกว่าเพราะคนที่จะมาตีเอกราชของนับตังค์เป็นผู้ชายเหมือนกัน แล้วแบบนี้นับตังค์จะต้องทำท่ายังไงก่อน นอนเฉยๆ หรือว่ากระดิกนิ้วเรียก จะต้องพูดอะไรบ้าง พูดยั่วยวนหรือกวนบาทา หรือไม่ต้องพูดให้มากความ มาถึงก็โจนทะยานกันได้เลย คิดแล้วก็ได้แต่นั่งหน้าร้อนฉ่าอยู่คนเดียว


มีคุณอาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว จากที่รู้สึกหวั่นๆ ว่าด้วงจะงอแงขอกลับมานอนด้วย แต่ใบเมี่ยงบอกกับเขาก่อนที่เขาจะเดินกลับเข้ามาในห้องว่าด้วงหลับไปเรียบร้อยแล้ว คงเพราะเมื่อเช้าด้วงตื่นแต่เช้า แถมยังตะล่อนมาทั้งวัน ไม่แปลกเลยที่ด้วงจะหลับตั้งแต่หัววันอย่างนี้ ตอนนี้มีคุณก็เลยอารมณ์ดีเป็นที่สุด คืนนี้จะได้นัวเนียนนับตังค์ให้สมใจ


ส่วนนับตังค์เห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของมีคุณก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ อันที่จริงก็เคยเห็นมีคุณนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวอยู่เป็นประจำ แต่วันนี้นับตังค์กลับไม่กล้าที่จะมองเหมือนทุกที ได้แต่เหลือบมองแล้วก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมานั่งเล่น จนกระทั่งมีคุณเดินเข้ามาแล้วนั่งลงข้างๆ แถมยังดึงมือถือของนับตังค์เอาไปวางที่โต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างเตียงอีก


“เอาโทรศัพท์ของตังไปทำไม” นับตังค์โน้มตัวไปเพื่อจะแย่งโทรศัพท์คืนแต่มีคุณดันตัวนับตังค์ให้กลับไปพิงที่หัวเตียงเหมือนเดิม

“กลัวเหรอ” มีคุณถาม

“ทำไมต้องทำเสียงนุ่มด้วย” นับตังค์ถามเมื่อเห็นว่ามีคุณทำเสียงนุ่มนวลกว่าปกติ
   
“เลิฟซีนทั้งทีใครเขากระโชกโฮกฮากกัน หรือชอบแบบรุนแรง”
   
“ก็ดีนะ” นับตังค์ทำเป็นใจกล้า
   
“พูดจริงเปล่า พี่มีโซ่กับกุญแจมือนะ”
   
“ถามจริง” นับตังค์หน้าตื่นเมื่อเห็นมีคุณทำหน้าจริงจัง จนมีคุณหัวเราะออกมานับตังค์ถึงได้เบาใจ นึกว่าจะถูกเฆี่ยนซะแล้ว
   
“กลัวรึเปล่า” มีคุณถามอีกครั้ง
   
“ไม่ได้กลัว แต่มันก็ต้องเขินเปล่าล่ะ จะให้ยิ้มแฉ่งรองี้เหรอ”
   
“สรุปว่าไม่กลัว” มีคุณถามอีกครั้ง
   
“บอกไม่ถูกอะ มันมีอะไรให้ต้องกลัวไหม” นับตังค์ถามอย่างหวาดๆ
   
“ไม่มีหรอก”
   
“จริงนะ”
   
“จริง”
   
มีคุณสบตาของนับตังค์ก็พอเดาออกว่านับตังค์มีความกังวลใจ เขาเลยดึงนับตังค์มาแล้วโอบกอดเอาไว้ จูบเบาๆ ที่แก้มและลูบที่แผ่นหลังเพื่อให้นับตังค์คลายความกังวลใจ
   
“เอาแค่ขั้นบีก่อนได้เปล่า” นับตังค์ถาม
   
“ขั้นบี ขั้นบีคืออะไร” มีคุณคลายอ้อมกอดออกก่อนจะถาม เพราะอยากมองหน้าของนับตังค์ไปด้วย อยากดูว่าคนรักจะมีอะไรให้ประหลาดใจอีก
   
“ไม่เคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นเหรอ มันมีขั้นเอ ขั้นบี ขั้นซี ขั้นดี”
   
“ไหนบอกพี่สิ มันยังไง พี่ไม่เห็นจะเคยได้ยิน” มีคุณทิ้งตัวลงนอนทั้งที่ยังใส่ผ้าขนหนูผืนเดียว แล้วก็ดึงให้นับตังค์ลงมานอนข้างๆ
   
“จะไม่ใส่เสื้อผ้าก่อนเหรอ” นับตังค์ถามเพราะมีความรู้สึกว่าผ้าขนหนูมันจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่อยู่แล้ว
   
“ใส่ทำไม เดี๋ยวก็ต้องถอด เร็ว อย่านอกเรื่อง” มีคุณพลิกตัวตะแคงมามองหน้านับตังค์
   
“ก็ขั้นเอก็จูบไง บีก็ขยับมาอีกนิด ซีก็ขยับจากบีมาอีกหน่อย ขั้นดีก็มากกว่าซี”
   
“แล้วไอ้ขยับมาอีกนิดมันแค่ไหน”
   
“ก็แบบมากกว่าจูบแต่ยังไม่ต้องมีแบบนี้ไง” นับตังค์เอามือมาประกบกันแล้วกระแทกมือใส่กันดังป๊าปๆ
   
“ฮ่าๆๆๆ ตังนี่ตลกดี” มีคุณขำที่เห็นนับตังค์ทำท่าประกอบ
   
“ไม่ตลกนะ สรุปว่าได้เปล่า”
   
“แล้วขั้นซีคืออะไร” มีคุณยังคงสงสัย
   
“ขั้นซีก็ป๊าปๆ ไง” คราวนี้นับตังค์ไม่ได้ทำท่าประกอบเพราะกลัวมีคุณหัวเราะอีก
   
“อ้าว ถ้าซีป๊าปๆ แล้วขั้นดีล่ะ”
   
“ขั้นดีเหรอ ก็คือตังป๊าปๆ พี่คืนบ้างไง” นับตังค์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
   
“ฝันไปเหอะ ขั้นดีพี่ขอยกเลิก” มีคุณจิ้มที่หน้าผากของนับตังค์เบาๆ
   
“ไม่ยุติธรรมเลย” นับตังค์ทำหน้ามุ่ย
   
“เชื่อพี่เถอะ ตังเก่งแค่ทำอาหารก็พอ อย่างอื่นพี่จัดการเอง”
   
“เออๆ ก็ได้ แต่วันนี้ขั้นบีนะ”
   
“แล้วมากกว่าจูบ มันทำอะไรได้บ้าง” มีคุณรู้แต่ก็อยากแกล้ง อยากเห็นคนกวนประสาทอาย มันดูน่ารักดี
   
“ปั่นหู แคะเล็บ ถอนขนรักแร้มั่ง” นับตังค์อดไม่ได้ที่จะต่อปากต่อคำแม้ในเวลาที่จะโดนปล้ำอยู่ร่อมร่อ
   
“กวนอีก พี่ถามเพราะเดี๋ยวทำมากไปกว่าไอ้ขั้นตอนอะไรของตังก็จะหาว่าพี่เอาเปรียบ เอาแบบนี้ ตังทำให้พี่ดูก่อน เดี๋ยวพี่นอนเฉยๆ รอดูตัวอย่างก่อน ดีไหม” มีคุณคิดแผนการณ์เจ้าเล่ห์
   
“ตังไม่โง่นะ ไม่ต้องมาหลอกล่อเหมือนเด็ก” นับตังค์ค้อนใส่
   
“งั้นบอกพี่มา ว่าให้ทำอะไรก่อนดี” มีคุณหัวเราะชอบใจที่แกล้งนับตังค์ได้
   
นับตังค์ถอนหายใจก่อนจะลุกมานั่งขัดสมาธิแล้วก็ดึงมือมีคุณมาให้ลุกขึ้นมานั่งหันหน้าเข้าหากัน
   
มีคุณแอบยกยิ้มและรอดูว่านับตังค์จะทำอะไร ด้วงไม่อยู่แบบนี้เขามีเวลาให้นับตังค์ทั้งคืน จะรีบร้อนไปทำไมในเมื่อจะได้เห็นท่าทางเขินแบบน่ารักๆ ของนับตังค์ที่ไม่ค่อยจะได้เห็นในนับตังค์คนแมนคนนี้สักเท่าไหร่
   
พอมีคุณหันหน้ามาหาตัวเองแล้ว นับตังค์ก็โน้มตัวไปกระซิบที่หูของมีคุณ
   
มีคุณได้ยินก็อยากจะขำ แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้เพราะเดี๋ยวจะทำให้นับตังค์งอนได้ มีคุณเชยคางนับตังค์ขึ้นแล้วละเลียดจุมพิตให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มระดับจนนับตังค์เผลอยกมือขึ้นมาเกาะแขนของมีคุณแล้วบีบเบาๆ
   
“แล้วยังไงอีก” มีคุณถามหลังจากที่จูบนับตังค์อย่างดูดดื่ม เมื่อครู่นับตังค์มากระซิบบอกขั้นตอนว่าให้เขาเริ่มต้นจากจูบก่อน
   
“ก็...ก็ มาจูบตรงนี้ ตรงนี้” นับตังค์โน้มตัวไปกระซิบที่หูของมีคุณอีกครั้งก่อนจะชี้ไปที่ใบหูแล้วก็ซอกคอของตัวเอง
   
“โอเค” มีคุณพยักหน้ารับรู้
   
มีคุณยิ้มก่อนจะขยับตัวไปใกล้นับตังค์อีกนิด จากนั้นก็ซุกไซร้ไปที่ซอกคอขาว ได้ยินเสียงของนับตังค์หัวเราะคิกคักมีคุณจึงงับที่ใบหูและใช้ปลายลิ้นแตะไปเบาๆ เสียงหัวเราะของนับตังค์เงียบไปทันที ได้ยินเสียงลมหายใจที่ระบายออกมาแทน มีคุณซุกไซร้จนเห็นอีกฝ่ายเริ่มจะอ่อนแรงจึงหยุด
   
“แล้วยังไงอีก” มีคุณถาม เพิ่งได้เห็นว่าใบหน้า ลำคอและใบหูของนับตังค์แดงแจ๋ไปหมด
   
นับตังค์อยากจะบ้าตาย ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือคิดถูกที่ให้มีคุณทำตามขั้นตอนอะไรแบบนี้ ต้องคอยมานั่งบอกทีละขั้น อายจนเลือดจะทะลุใบหน้าออกมาแล้ว แต่มาถึงขั้นนี้แล้วนับตังค์ก็ต้องไปต่อ เมื่อโน้มตัวไปกระซิบขั้นตอนต่อไปให้มีคุณฟังแล้ว มีคุณก็เลิกคิ้วขึ้น
   
“ขอถามอะไรหน่อยสิ” มีคุณเอ่ยปากถามหลังจากที่นับตังค์กระซิบบอกเขาว่าขั้นตอนต่อไปให้เขาจูจุ๊บทีหน้าอกได้
   
“ถามมา” นับตังค์พยักหน้า
   
“ไอ้หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นที่อ่านมันมีบอกขั้นตอนแบบนี้จริงเหรอ การ์ตูนหรือหนังสือโป๊ ไหนบอกมาสิ” มีคุณถามจบก็หัวเราะ ส่วนคนถูกถามนั่งหน้าแดงกว่าเดิม
   
“หมดอารมณ์ นอนดีกว่า” นับตังค์ทิ้งตัวลงนอนทันทีเมื่อโดนมีคุณหัวเราะเยาะ
   
มีคุณลุกไปคร่อมตัวนับตังค์เอาไว้แล้วจ้องดวงตากลมโตด้วยความเอ็นดูอย่างที่สุด ตอนมีเรื่องของคีตะ นับตังค์ก็ไม่หึง ไม่เคยงอแง แต่วันนี้เพิ่งเห็นนับตังค์งอน มันทำให้มีคุณอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ยิ่งตอนนี้อีกฝ่ายทำเป็นไม่ยอมสบตาเขา เขายิ่งมองว่านับตังค์น่ารักมาก
   
“ขอโทษครับ ไม่แกล้งแล้ว โตๆ แล้ว ไม่งอนเนอะ” มีคุณก้มลงไปหอมแก้มของนับตังค์
   
“ผ้าเช็ดตัวพี่หลุดอะ” ที่นับตังค์หันไปมองทางอื่นไม่ใช่ว่าจะงอน แต่สายตาดันไปเห็นโลมาผงาดเข้าเต็มๆ จนต้องรีบหันไปมองทางอื่น
   
“ว้า แย่จัง ตังเห็นของพี่ งั้นขอเห็นของตังบ้างนะ ตังเป็นคนชอบความยุติธรรมนี่เนอะ” มีคุณพูดจบก็จัดการถอดเสื้อผ้าของนับตังค์โดยไม่ฟังเสียงร้องโวยวายของนับตังค์เลย
   
สุดท้ายความยุติธรรมก็เกิดขึ้น แต่เป็นความยุติธรรมที่นับตังค์ไม่ได้ร้องขอแบบนี้สักหน่อย
   
“ใครจะหน้าหนาเท่าพี่ไม่มีอีกแล้ว” นับตังค์บ่น
   
“หอมจัง”
   
มีคุณไม่สนคำบ่นของคนรักแต่กลับซุกไซร้ไปทั่ว ผิวของนับตังค์หอมเหมือนขนมหวาน มันทำให้มีคุณไม่อยากหยุดที่จะสำรวจ ได้ยินเสียงระบายลมหายใจของอีกฝ่ายมีคุณก็รู้ว่านับตังค์กำลังเคลิบเคลิ้มกับสิ่งที่เขามอบให้
   
นับตังค์อยากจะร้องขอให้มีคุณปิดไฟเพราะยังรู้สึกอายกับการเข้าสู่สนามรักเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ตอนนี้นับตังค์แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ มีคุณแตะตรงไหนก็รู้สึกวูบวาบอย่างกับโดนไฟฟ้าช็อต หวังจะให้นับตังค์พูดเป็นประโยคก็คงไม่ได้แล้วก็เลยต้องเลยตามเลย คิดในใจว่า ‘หลับตาเอาก็ได้วะไอ้ตังเอ๋ย มันมืดเหมือนกัน’
   
สองร่างกายบดเบียดเกี่ยวรัดกันไปตามแรงของอารมณ์ นับตังค์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองก็ตอบรับให้กับการกระทำของมีคุณอย่างเต็มที่ จากที่นอนนิ่งๆ เหมือนหญิงสาวแรกรุ่น ตอนนี้นับตังค์พลิกตัวมากอดรัดมีคุณแบบไม่มีใครยอมใคร มันเป็นไปตามกลไกของอารมณ์ผู้ชาย แต่ไหนเลยที่ลูกแมวจะเป็นเสือไปได้ สุดท้ายนับตังค์ก็ต้องกลับไปนอนระทวยเมื่อมีคุณจัดการสู้รบกับส่วนอ่อนไหวของนับตังค์ด้วยความชำนาญ จนตอนนี้เสือมือใหม่สิ้นลายต้องกลับไปเป็นลูกแมวนอนหายใจหอบเหมือนว่าใกล้จะขาดใจ
   
“พี่คุณ...ตังไม่ไหวแล้ว” นับตังค์รีบบอกเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองมาถึงปลายทางแล้ว นี่ขนาดแค่ขั้นบี มีคุณยังทำเอานับตังค์หายใจหายคอไม่ทันเลยจริงๆ
   
มีคุณได้ยินก็หยุดสาละวนกับเจ้าตังน้อยแล้วขยับขึ้นมาทาบทับนับตังค์เอาไว้ บดเบียดร่างกายให้แนบชิดกัน มีคุณขยับเขยื้อนตัวเป็นจังหวะเพื่อให้ร่างกายได้สัมผัสกันให้มากที่สุด นับตังค์เองก็โอบกอดมีคุณแน่น ไม่นานทั้งสองคนก็เหยียดตัวเกร็งก่อนจะค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมา
   
“มันดีไหม” มีคุณถามก่อนจะพลิกตัวลงมานอนข้างๆ นับตังค์หลังจากที่พากันไปถึงปลายทางแล้ว
   
“มันดีมาก” นับตังค์ตอบตรงๆ จนมีคุณต้องหันไปมองหน้าเพราะคิดว่านับตังค์พูดไปงั้นๆ
   
“กวนเปล่า” มีคุณถามก่อนจะคว้าตัวนับตังค์ให้ขึ้นมานอนทับตัวเขา
   
“ไม่ได้กวน มันดีจริงๆ สนุกดี” นับตังค์หัวเราะ แต่มีคุณอยากจะหัวเราะให้ดังกว่ากับคำว่า ‘สนุก’ ของนับตังค์
   
“ต้องบอกว่ามีความสุขสิ ใครเขาบอกว่าสนุกกัน” มีคุณเอื้อมมือไปบีบบั้นท้ายนับตังค์ด้วยความหมั่นเขี้ยว
   
“ก็ตังไม่อยากเหมือนคนอื่นนี่” นับตังค์พูดแล้วก็ขยับตัวไปจูบที่หน้าผากของมีคุณด้วยความหมั่นเขี้ยวเช่นกัน
   
“ก็ไม่มีใครเหมือนตังอยู่แล้ว” มีคุณจูบหน้าผาก แก้ม จมูกและคางของนับตังค์คืนบ้าง
   
“พูดเฉยๆ ก็ได้ ไม่ต้องตื่น” นับตังค์รู้สึกว่าอะไรบางอย่างของมีคุณมันพร้อมจะ ‘สนุก’ อีกรอบ
   
“ก็ตังขยับตัวทำไม ตังปลุกมันเองนะ”
   
“อีกรอบเปล่าล่ะ” นับตังค์ถาม
   
“กวนเปล่านี่” มีคุณต้องถามย้ำเพราะไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง คนขี้อายคนนั้นไปไหนแล้ว
   
“ก็มันสนุกดีอะ” นับตังค์พูดแล้วก็หัวเราะ
   
พอมีคุณทำท่าจะสานต่อตามคำเชิญ นับตังค์ก็รีบลุกขึ้นและหนีไปเข้าห้องน้ำทันทีก่อนจะส่งเสียงหัวเราะเยาะมาให้ได้ยิน มีคุณเลยรู้ว่าคราวนี้นับตังค์กวนประสาทเขาจริงๆ แต่มีคุณอยากให้นับตังค์ได้รู้จักประโยคที่ว่า ‘หัวเราะที่หลังดังกว่า’ เป็นยังไง มีคุณจึงลุกตามเข้าไปในห้องน้ำ

   
ใบเมี่ยงเดินออกมาจากห้องนอน ได้ยินเสียงนับตังค์โวยวายแว่วมา แต่ก็เพียงครู่เดียว เสียงโวยวายก็หายไปเป็นเสียงลูกแมวบางตัวครวญครางมาให้ได้ยินแทน ใบเมี่ยงได้แต่อมยิ้มแล้วก็เดินผ่านไป รู้สึกดีใจที่เห็นมีคุณสมหวังในสิ่งที่หวังเสียที


...   


พเยียได้รับฟังเรื่องของนับตังค์จากคีตะ คีตะโทรมาเล่าให้เธอฟังว่าจะนำเรื่องของนับตังค์ไปบอกกับครอบครัวของนับตังค์เพราะเชื่อว่าครอบครัวของนับตังค์จะต้องพานับตังค์กลับกรุงเทพ แต่พเยียไม่เห็นด้วยและบอกกับคีตะไปว่า หากคีตะทำแบบนั้นจะมีแต่เสียกับเสีย เพราะนอกจากที่มีคุณจะไม่กลับมาหาคีตะแล้ว อาจจะเกลียดคีตะที่ทำให้ทุกอย่างพังลงไป หรือไม่นับตังค์อาจจะเลือกมีคุณมากกว่าครอบครัว เพราะนับตังค์ไม่ใช่เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ สามารถตัดสินใจเลือกอนาคตตัวเองได้ หากเป็นเช่นนั้น มีคุณกับนับตังค์อาจจะรักกันมากกว่าเดิม คีตะได้ฟังแล้วก็คล้อยตามและปรึกษาว่าเขาควรทำอย่างไร แล้วคีตะก็ตัดสินใจว่าจะมาทำงานที่โรงแรมของนายหัวพยนต์ คีตะบอกพเยียว่าจะลงมาที่เกาะให้เร็วที่สุดและจะหาหนทางที่จะทำให้นับตังค์กับมีคุณผิดใจกันให้ได้

   
พเยียรู้สึกโล่งใจที่เกลี่ยกล่อมคีตะได้ เธอยอมรับว่าเธอไม่อยากให้คีตะทำแบบนั้นเพราะกลัวว่าเธอจะพลอยถูกพายพัดเกลียดไปด้วย ถึงอย่างไรพายพัดก็สนิทสนมกับนับตังค์ เธอคิดว่าจะหาทางให้นับตังค์มารักกับพี่ชายของเธอจะดีเสียกว่า ถ้านับตังค์คบหากับพี่พญา เธอก็จะได้ใกล้ชิดกับพายพัดได้ด้วย เพราะฉะนั้นเป็นมิตรกับนับตังค์ก็ดีกว่าเป็นศัตรู

   
“อะไรนะ สรุปว่าน้องตังไม่ได้มีเมีย แต่เป็นคนรักของไอ้มีคุณเหรอ แกรู้ได้ไงยัยเล็ก” พญาถามน้องสาวด้วยความตกใจ
   
“พี่รองจำเพื่อนเยียได้ไหม ที่ชื่อคีตะ เขาเป็นคนรักเก่าของมีคุณ เขาเผอิญไปได้ยินเรื่องเกี่ยวกับน้องตังของพี่มา” พเยียเล่าเรื่องของนับตังค์ที่ได้ยินจากคีตะให้พี่ชายของตัวเองฟัง
   
“แล้วเด็กคนนั้นลูกใคร” พญายังคงสงสัย
   
“ลูกใครก็ไม่เห็นจะสำคัญนี่คะ ไม่ใช่ลูกของนับตังค์ก็พอแล้ว เยียว่าพี่รองต้องเดินหน้าจีบแล้วนะคะ ถ้าตังเป็นคนรักของมีคุณได้ก็แปลว่ามีจิตใจที่ชอบผู้ชาย แบบนี้ก็ง่ายกว่าการไปรักผู้ชายที่มีเมียนะคะ”
   
“มันก็จริงนะ แต่คนนี้พี่จริงจัง ไม่อยากใช้ความรุนแรงแย่งมา พี่ไม่อยากเป็นผู้ร้ายในสายตาของน้องตัง” พญาถอนหายใจ
   
“เดี๋ยวพเยียจะช่วยคิดหาทางนะคะ” พเยียพูดไปทั้งที่นึกหงุดหงิดที่พี่ชายอยากจะเป็นคนดีเอาตอนนี้
   
“ทำไมถึงอยากช่วยพี่” พญาหรี่ตามองน้องสาว
   
“ก็ถ้าพี่จะเอาผู้ชายสักคนมาเป็นพี่สะใภ้ของเยีย เยียก็เห็นว่านับตังค์เหมาะที่สุด หน้าตาก็ดี ทำอาหารก็เก่ง” พเยียพูดเอาใจพญา เห็นพี่ชายยิ้มกว้างก็ดีใจที่ตัวเองมาถูกทางแล้ว
   
“แกสองคนคิดจะทำอะไรกันอีก” พยนต์เดินเข้ามาเห็นสองพี่น้องคุยอะไรกันด้วยท่าทีที่มีลับลมคมในจึงเอ่ยปากถาม
   
“พ่อคะ ทำไมถึงมองเยียกับพี่รองแบบนั้น” พเยียรีบเดินไปคล้องแขนพ่อด้วยท่าทีออดอ้อน
   
“ฉันได้ยินว่าแกไปชอบคนของหลานไอ้อนันต์ใช่ไหมไอ้รอง” พยนต์ถาม
   
“ใครมารายงานพ่ออีกล่ะครับ” พญาถามอย่างหัวเสีย ปลายตามองไปที่ไอ้ก้านลูกน้องของตัวเอง
   
“แกคิดว่ามีอะไรบนเกาะนี้ที่ฉันจะไม่รู้เรื่องบ้าง” พยนต์ถามลูกชาย
   
“คนนี้ผมจริงจังนะพ่อ” พญากลัวว่าพ่อจะห้ามเรื่องของนับตังค์หรือไม่ก็อาจจะใช้เงินหรืออิทธิพลบังคับเพื่อให้นับตังค์ออกไปจากชีวิตของเขาเหมือนคนก่อนๆ เลยรีบดักคอเอาไว้ก่อน
   
“หึ คนไม่เอาไหนอย่างแกใครจะมาเอา” พยนต์ถอนหายใจ
   
คนภายนอกมักจะมองว่าเขาตามใจพญาจนเสียคน คงเพราะเขาไม่เคยดุด่าลูกชายต่อหน้าคนอื่น แต่อันที่จริงแล้วพญาเป็นลูกที่ถูกเขาใช้ความรุนแรงสั่งสอนมากที่สุด ด้วยความที่เขาคาดหวังว่าลูกชายคนเดียวคนนี้จะเป็นที่เชิดหน้าชูตาให้เขาได้ แต่มันดันกลับเป็นเกย์ หนำซ้ำยังสร้างแต่ปัญหาเพราะตัณหาที่ไม่หยุดหย่อนของมัน เขาทุบตีให้มันหลาบจำ หวังให้มันเข้มแข็งและเปลี่ยนแปลงตัวเอง มันก็ยิ่งต่อต้าน ไม่รู้เวรกรรมอะไรนักหนาเขาถึงมาเจอความอัปยศอดสูแบบนี้
   
“นับตังค์เป็นคนเก่งนะคะพ่อ ที่เยียรู้มาที่บ้านของเขาเป็นชาววังเก่า เก่งเรื่องทำอาหารมาก อย่างน้อยถ้าพี่รองจะมีคนรักสักคน ก็หาที่จะทำผลประโยชน์ให้เราได้ไม่ดีกว่าเหรอคะ ถ้าเราได้นับตังค์มา โรงแรมของเราจะมีนักท่องเที่ยวมาเพิ่มมากขึ้น ดีกว่าไปคว้านักท่องเที่ยวที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า” พเยียรู้ว่าจุดอ่อนของพ่อคืออะไร เมื่อเธอลองหว่านล้อมเรื่องของนับตังค์ก็เห็นว่าพ่อนิ่งไป เธอดูออกว่าพ่อกำลังจะคล้อยตาม
   
“เรื่องมันจะเอาใครมาทำเมียฉันไม่สนใจหรอก แต่ฉันมีเรื่องที่จะให้แกสองคนทำ” แม้พยนต์จะคล้อยตามสิ่งที่พเยียพูด แต่ก็ยังวางท่าดั่งเดิม
   
“อะไรเหรอคะ”
   
“ฉันสืบจนรู้มาว่าไอ้อนันต์มันยกที่ดินให้หลานของมันที่ชื่อมีคุณ แต่มันมีข้อแม้บางอย่าง ซึ่งฉันยังไม่รู้รายละเอียด รู้แต่ว่าถ้าครบหนึ่งปี หลานของมันถึงจะขายที่ดินตรงนั้นได้ ฉันอยากให้แกไปขอซื้อที่ดินจากมันเอาไว้ก่อน มันอยากได้เท่าไหร่ให้มันเสนอมา เรายินดีจ่ายให้มันก่อนครึ่งหนึ่ง แต่ต้องทำสัญญาขายให้เราเมื่อครบกำหนดหนึ่งปี ส่วนเรื่องคนที่แกรัก ฉันก็จะไม่ยุ่ง แต่แกห้ามทำอะไรที่จะทำให้ไอ้มีคุณมันไม่ยอมขายที่ให้ฉัน” พยนต์ต้องการที่ดินตรงนั้นมากจริงๆ เขาคิดว่าโชคคงเริ่มเข้าข้างเขาบ้างหลังจากที่ตาแก่อนันต์เสียชีวิตไป อย่างน้อยเขาก็สืบรู้มาว่ามีคุณไม่ได้อยากได้ที่ดินตรงนั้น แถมแม่ของมันก็มีหนี้สินมากมาย เอาเงินไปล่อเข้าหน่อยขี้คร้านจะรีบเซ็นสัญญาให้
   
“แล้วถ้าพวกเราทำไม่สำเร็จล่ะพ่อ” พญาถาม เพราะการที่เขาจะต้องเอานับตังค์มาเป็นคนรักให้ได้ มีคุณย่อมไม่พอใจอยู่แล้ว
   
“แกรู้เอาไว้ ทายาทของฉันไม่ได้มีแค่พวกแก ถ้าแกไม่เอาไหนกันก็อย่าหวังว่าจะได้อะไรจากฉันเลย” พยนต์พูดจบก็เดินออกไปโดยไม่สนใจเลยว่าลูกทั้งสองคนจะรู้สึกอย่างไร
   
“แสดงว่าพ่อยังติดต่ออีนั่นอยู่ เยียนึกว่ามันไปจากเกาะตั้งแต่พี่ใหญ่หนีไปแล้ว” พเยียหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อพ่อพูดถึงพี่สาวต่างมารดา มันเป็นลูกเมียน้อยของพ่อ เมียน้อยขี้ข้าที่ทำให้แม่ของพเยียต้องตรอมใจตาย
   
“พี่รู้ว่าพี่เป็นคนเลวร้ายในสายตาของพ่อและแกนะยัยเล็ก พ่ออาจจะทำให้พี่กับแกเห็นตลอดมาว่าความรักของพ่อคือการได้ผลประโยชน์ แต่แกจำเอาไว้นะยัยเล็ก พี่ชอบน้องตังไม่ใช่เพราะเขาจะทำผลประโยชน์ให้พี่ได้ แต่พี่ชอบเขาเพราะเขาทำให้พี่อยากเห็นอนาคตของตัวเอง เพราะฉะนั้นแกอย่าดูถูกน้องตังด้วยการคิดแบบนั้นอีก เรื่องของน้องตังแกไม่ต้องมาช่วยพี่ พี่จัดการเองได้” พญาเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางที่พเยียไม่เคยได้เห็นมาก่อน
   
ที่ผ่านมาพญาเหมือนคนไม่เอาไหนอย่างที่พ่อว่า ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ เอาแต่เมาเละเทะแล้วก็ไปมีเรื่องกับนักท่องเที่ยวผู้ชายที่ตัวเองชอบ บางทีก็หิ้วพวกผู้ชายขายน้ำมานอนที่โรงแรมจนพ่อและพเยียเบื่อหน่าย ดีว่าพ่อคอยจัดการปัญหาและสร้างภาพให้พญาเสมอ ผู้คนถึงได้ยำเกรงไม่กล้าไปยุ่งด้วย เมื่อมาคิดให้ดี พเยียก็เพิ่งจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของพี่ชาย ระยะหลังมานี่พี่รองไม่ได้ออกไปเมาหัวราน้ำเหมือนทุกที แถมยังเข้าตลาดไปทำงานทุกวัน แม้จะยังไปก้อร่อก้อติกกับชายหนุ่มที่พึงพอใจบ้าง แต่ก็ไม่เคยหิ้วใครมานอนด้วย
   
‘หรือว่านับตังค์จะเป็นรักจริงของพญา’ พเยียก็ได้แต่เก็บเอาไว้ในใจและคิดว่าคงจะต้องสืบให้ละเอียดว่าพื้นเพของนับตังค์เป็นมาอย่างไรกันแน่
   
พเยียคงไม่รู้ว่าพยนต์เองก็เริ่มจะสนใจที่จะรู้เรื่องของนับตังค์ให้ละเอียดเช่นเดียวกัน เขาสั่งให้คนไปสืบประวัติของนับตังค์มาให้ละเอียดรวมถึงเรื่องที่มาทำงานให้กับมีคุณด้วย
   
‘คนที่ทำให้ลูกชายของเขาเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ต้องมีอะไรพิเศษ’ พยนต์คิดแบบนั้น


(มีต่อด้านล่าง)


V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 15-06-2017 18:17:54
(ต่อจากด้านบนค่ะ)



นับตังค์ตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อจะลงมาทำเมนูใหม่ที่คิดขึ้นมาได้ มันไม่ใช่เมนูที่แปลกใหม่อะไร เพียงแต่เขาฝันว่าได้เจอกับพี่เหรียญเงิน พี่เหรียญเงินบอกว่าอยากกินแบบนี้ นับตังค์จึงตั้งใจทำแต่เช้าเพราะกลัวว่าจะลืม ตั้งใจจะเอาไปใส่บาตรอุทิศให้คุณปู่อนันต์ด้วย
   
นับตังค์คิดถึงพี่เหรียญเงิน ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน แต่คิดว่าพี่เหรียญเงินก็คงกำลังคิดถึงนับตังค์อยู่ เพราะจำได้ว่า แม่เคยบอกว่าในขณะที่เรากำลังคิดถึงใครมากๆ ใครคนนั้นก็คงกำลังคิดถึงเราด้วยเช่นกัน
   
นับตังค์นำของทะเลทั้งหมดมาล้างให้สะอาดและเอาขึ้นมาให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนับตังค์ก็หันไปทำตัวน้ำซอสที่จะเอามาคลุกกับเครื่องทะเลทั้งหลาย เมนูนี้มันจะคล้ายกับกุ้งถังที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในกรุงเทพ เพียงแต่ตัวซอสที่นับตังค์ทำจะเป็นซอสที่มีส่วนผสมของน้ำมะขามเปียก คาราเมล เกลือและพริกไทยดำเป็นหลัก ที่นับตังค์ไม่ได้ใช้ซอสสไตล์บาบีคิวเพราะเมนูกุ้งถังมันมีที่มามาจากฝั่งอเมริกา แล้วส่วนใหญ่ลูกค้าที่จองมาทานที่ร้านมีคุณอนันต์นี้จะเป็นชาวต่างชาติเสียส่วนใหญ่ นับตังค์จึงอยากให้รสชาติออกมาเป็นสไตล์ไทยให้ดูแตกต่าง จึงเลือกที่จะใช้ซอสคาราเมลมะขามแทน
   
“ตื่นแต่เช้าได้แบบนี้แปลว่าแรงดีไม่มีตกนะ” มีคุณเดินมาสวมกอดนับตังค์เอาไว้ เขาตื่นมาก็ไม่เห็นนับตังค์นอนอยู่ถึงได้ลงมาดูว่านับตังค์หายไปไหน ครัวที่บ้านก็ว่างเปล่าเลยตัดสินใจเดินมาที่ร้าน มีคุณได้กลิ่นหอมลอยมาแตะจมูกตั้งแต่ยังไม่ถึงห้องครัว
   
“โดนแค่นั้นสบายมาก” นับตังค์ทำเป็นคุยทั้งที่เมื่อคืนมีคุณจัดการเสียจนนับตังค์หลับคาอก ขอย้ำว่าแค่ขั้นบีเองนะ ถ้านับตังค์ยอมให้ถึงขั้นซีดูท่าจะลงมาทำครัวไม่ไหว
   
“ทำอะไร หอมมากเลย กุ้งราดซอสมะขามเหรอ” มีคุณมองส่วนประกอบแล้วลองเดา
   
“ไม่ใช่ ยังไม่ได้ตั้งชื่อเลย มันจะคล้ายกุ้งถัง แต่ตังไม่ใช่น้ำพริกเผาหรือไม่ใส่ซอสบาบีคิว ตังลองทำน้ำซอสมะขามแบบไทยๆ แต่ว่าจะตำพริกไทยดำลงไปด้วยเพิ่มความเข้มข้น แล้วก็ใส่คาราเมลให้มีกลิ่นหอม” นับตังค์อธิบาย
   
“แล้วลวกของทะเลพวกนี้เอาเหรอ” มีคุณมองไปที่กุ้งหอยปูปลาที่อยู่ในถาดแล้วถามด้วยความอยากรู้
   
“ไม่ใช่ ทอดกับเนย”
   
“อยากชิมแล้ว”
   
“พี่ปล่อยตังก่อน เดี๋ยวเสร็จแล้วจะให้ชิม จะทำใส่บาตรให้คุณปู่ด้วยนะ” นับตังค์ถูกกอดแบบนี้เลยรู้สึกไม่ถนัด แต่ก่อนจะเป็นอิสระก็โดนมีคุณหอมแก้มไม่หยุดจนต้องทำตาขวางใส่ไปหลายตลบอีกฝ่ายถึงยอมปล่อย
   
นับตังค์เดินมาที่เคาน์เตอร์ ก่อนจะใช้นิ้วก้อยเกี่ยวเอาซอสคาราเมลมะขามที่ปรุงเสร็จแล้วมาชิม ทำหน้าพึงพอใจเพราะได้รสชาติที่ต้องการ จากนั้นก็เอาช้อนคันเล็กมาตักน้ำซอสแล้วยื่นส่งให้มีคุณที่ยืนอยู่ข้างๆ
   
มีคุณส่ายหน้าก่อนจะขยับเข้าไปยืนชิดนับตังค์ให้มากกว่าเดิม แล้วเขาก็จับนิ้วก้อยของนับตังค์ไปปาดน้ำซอสจากช้อนมาใส่ปากตัวเอง มีคุณละเลียดชิมน้ำซอสจากนิ้วก้อยของนับตังค์ช้าๆ จนเกลี้ยง ก่อนจะแสดงสีหน้าว่าอร่อยมาก ส่วนนับตังค์ก็หน้าแดงอย่างเคยเพราะการกระทำของมีคุณมันชวนให้เลือดในร่างกายของนับตังค์พุ่งพล่าน แถมร่างกายก็ยังรู้สึกหวิวๆ วาบๆ
   
“ลงตัว แต่ต้องขอลองชิมกับของทะเลทอดเนยด้วย” มีคุณบอกกับนับตังค์ก่อนจะยอมปล่อยมือของนับตังค์ให้เป็นอิสระ
   
“ตังปรุงครีมชีสเอาไว้เป็นน้ำจิ้มด้วยนะ ไม่รู้มันจะเข้ากันรึเปล่า แต่อยากลอง”
   
นับตังค์ตักน้ำซอสคาราเมลมะขามลงไปคลุกกับเครื่องทะเลที่ทอดเตรียมเอาไว้ส่วนหนึ่งแล้ว จากนั้นก็โรยด้วยหอมเจียวกรอบๆ และพริกแห้งทอดลงไป นับตังค์คลุกจนเข้ากันดีก็แกะเปลือกกุ้งออกมาจิ้มครีมชีสก่อนจะป้อนมีคุณ มีคุณชิมแล้วพยักหน้าอีกครั้ง
   
“อร่อย ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากัน ซอสคาราเมลมะขามของตังมันไม่ได้ออกรสชาติจัดจ้านเกินไป เปรี้ยวหวานเค็มพอดี ไม่มีรสไหนเด่นเกิน พอกินกับครีมชีสมันได้ความหอมมันเพิ่มอีก เก่งจัง แฟนใครนะ”
   
“โอ้โห ทั้งจูบทั้งดูดยังมีหน้ามาถามว่าแฟนใคร คืนเดียวสมองเสื่อมเลยเหรอ” นับตังค์ทำเป็นโวยวายแก้เขิน
   
“อยากโดนดูดอีกรึไงถึงได้มากวนพี่” มีคุณรั้งเอวนับตังค์มากอดอีก
   
‘ดูด’ ของนับตังค์หมายถึงนิ้วที่โดนมีคุณดูดเมื่อครู่ แต่ ‘ดูด’ ของมีคุณนี่สิ ทำเอานับตังค์นึกไปไกลจนใจสั่น
   
“ทะลึ่ง” นับตังค์ทุบแขนมีคุณเสร็จก็โดนมีคุณจูบทันที
   
“พี่เคยบอกแล้วว่าพี่ขี้ตกใจ ทุบมาแบบไม่ทันตั้งตัวเลยเผลอจูบเลย” มีคุณกระล่อนใส่นับตังค์ตลอดเวลา ช่วงเวลาค่ำคืนที่ผ่านมามันทำให้มีคุณมีความสุขจนเหมือนได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งจะรู้จักความรักเป็นครั้งแรก
   
“โลมาว่าหื่นนะ เจอมีคุณเข้าไป โลมาสะบัดครีบกราบแทบไม่ทันเลย” นับตังค์ประชดแบบขำๆ ปากก็ว่าเขาแต่ก็อดไม่ได้ที่จะขอจูบมีคุณก่อนบ้าง
   
ทั้งคู่ยืนจูบกันอย่างดูดดื่มจนลืมไปว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ส่วนตัว จนได้ยินเสียงกระแอมดังนับตังค์ถึงได้ตกใจรีบหันไปดู พอเห็นพายพัดและใบเมี่ยงที่อุ้มด้วงมาด้วยก็อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี  รีบยกผ้ากันเปื้อนมาบังหน้าเอาไว้
   
“พี่ว่าตังเอาผ้ากันเปื้อนลงดีกว่า” มีคุณกระซิบที่หูของนับตังค์เบาๆ
   
“ไม่เอา อาย พี่มาจูบตังทำไม ดูดิ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” นับตังค์พาลไปโทษมีคุณ
   
“ก็เอาไว้ที่เดิมแล้วเอาผ้ากันเปื้อนลงมา”
   
“ไม่เอา ทำไมต้องให้เอาลง”
   
“ก็ตรงนั้นของตังมันโด่งมากเลย” มีคุณพูดจบนับตังค์ก็ตกใจรีบก้มลงมองที่เป้ากางเกงของตัวเอง พอเห็นว่ามันไม่ได้ตื่นตัวอย่างที่มีคุณบอกก็รู้ว่าถูกมีคุณแกล้งเข้าให้
   
“สนุกใช่ไหม นี่ๆ” นับตังค์ฟาดที่แขนของมีคุณสองสามที จนเห็นท่าทางตกใจของด้วงก็รีบหยุดทันที ลืมไปว่าด้วงไม่ชอบความรุนแรง
   
“พี่ตบยุงให้แด๊ด ยุงมันกัดแด๊ด” นับตังค์รีบหาทางออก
   
“หนูจะหามัม” ด้วงชูมือไปทางนับตังค์ ใบเมี่ยงจึงปล่อยด้วงลง พอด้วงเดินไปหานับตังค์ นับตังค์ก็อุ้มด้วงมาหอม
   
“แด๊ดกัดมัมทำไม เยือดออกเยย” ด้วงทำหน้ายุ่งแล้วเอามือน้อยๆ ลูบที่ปากสีแดงเข้มของนับตังค์
   
“ยุงมันกัดที่ปากของมัมไง แด๊ดเลยกัดยุงออกให้” มีคุณไม่รู้จะแก้ตัวยังไง เพราะปากของนับตังค์บวมเจ่อนิดๆ จากการที่เขาจูบดูดดื่มมากไปหน่อย
“ไม่ต้องกัดยุง ต้องตบยุง” ด้วงสอนมีคุณก่อนจะโผไปซบที่ไหล่ของนับตังค์

ด้วงตื่นมาไม่เจอนับตังค์แล้วงอแง ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนใบเมี่ยงต้องพาไปหาที่ห้อง แต่เคาะเรียกอยู่นานก็ไม่มีใครตอบรับเลยคิดว่าคงยังไม่ตื่นกัน ใบเมี่ยงเลยว่าจะพาด้วงมาในครัวแล้วทำแพนเค้กให้กิน แต่แป้งแพนเค้กที่บ้านก็หมดอีก ใบเมี่ยงจึงชวนพายพัดมาทำอาหารเช้าที่ครัวของร้านเสียเลย ไม่คิดว่าจะมาเจอมีคุณกับนับตังค์สวีทกันอยู่
   
“ไปใส่บาตรกันนะ แล้วเดี๋ยวมาชิมเมนูใหม่ของตัง อร่อยมาก” มีคุณชักชวนทุกคนเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ไม่อยากให้นับตังค์เขินอายมากไปกว่านี้ กลัวว่าต่อไปนับตังค์จะไม่กล้าแสดงความรักกับเขาแบบนี้อีก
   
“หนูจากินแพนเค้ก” ด้วงหันมาบอกนับตังค์
   
“ไปใส่บาตรก่อนเดี๋ยวพี่เมี่ยงทำให้กินนะ จะราดซอสอะไรดี สตรอว์เบอร์รี่หรือช็อกโกแลต” ใบเมี่ยงถามด้วง
   
“สยอบาตี้” ด้วงตอบก่อนจะทำหน้าลังเล แต่ทุกคนกำลังขำภาษาอังกฤษของด้วง
   
“สตรอว์เบอร์รี่เหรอ” ใบเมี่ยงถามซ้ำ
   
“เอายอตตาแซต หนูจะกินยอตตาแซต ไม่กินสยอบาตี้” ด้วงส่ายหน้า
   
“สำเนียงได้แล้วล่ะ อย่างอื่นผ่านไปก่อน แล้วพี่จะสอนภาษาเกาหลีให้ด้วยนะ” พายพัดหัวเราะขำก่อนจะยีผมของด้วงด้วยความเอ็นดู

   
หลังจากที่ช่วยกันจัดกับข้าวใส่ถุงเรียบร้อยแล้วทุกคนก็มายืนรอใส่บาตร ไม่นานหลวงพ่อก็เดินมาถึงหน้าร้าน ทุกคนช่วยกันใส่บาตรเสร็จก็พากันนั่งลงรอรับพร หลวงพ่อท่านมองหน้านับตังค์ก่อนจะมองเลยไปที่ด้านหลังอยู่นานพอสมควรจนนับตังค์ต้องเหลียวไปมองตามแต่ก็ไม่เห็นอะไร แล้วหลวงพ่อก็หลับตาสวดมนตร์ให้ก่อนจะปิดท้ายด้วยการให้พร
   
“ที่นี่มีวัดด้วยเหรอ อยู่ตรงไหน” นับตังค์ถามขึ้นหลังจากที่หลวงพ่อไปแล้ว
   
“นั่นสิ ต้องรอถามพี่ขมิ้น” ใบเมี่ยงก็อยากรู้
   
“พายเห็นป้ายบอกนะ ตอนที่เราไปเที่ยวที่น้ำตก เอาไว้ไปกัน” พายพัดเอ่ยชวน
   
“ดี พาบอสไปเข้าวัดหน่อย ใจจะได้สงบ” นับตังค์กระซิบพายพัด
   
“สงบไม่ได้หรอก กิเลสอยู่ตรงนี้” พายพัดชี้มาที่ตัวนับตังค์ก่อนจะหัวเราะ เล่นเอานับตังค์ไปต่อไม่ถูกเลย

   
หลังจากที่ทั้งห้าคนใส่บาตรเสร็จ ขมิ้น สายรุ้ง มานีและมีนาก็มาถึงที่ร้านพอดี ทุกคนได้ลองชิมเมนูใหม่ของนับตังค์แล้วก็พากันยกนิ้วให้ โดยเฉพาะขมิ้นที่เอ่ยชมไม่ขาดปาก
   
จากวันแรกที่ขมิ้นนึกสบประมาทนับตังค์เอาไว้ วันนี้ขมิ้นอยากจะยกมือไหว้ขอโทษนับตังค์เหลือเกิน ใครจะไปคิดว่าหนุ่มหน้าอ่อนคนนี้จะมีฝีมือการทำอาหารได้เลิศรส ไม่แปลกใจเลยที่นายปู่จะต้องการตัวนับตังค์ถึงขนาดนี้ แต่ที่น่าแปลกใจคงไม่พ้นเรื่องที่นายปู่รู้ได้อย่างไรว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะเก่งกาจเหนือความคาดหมายเป็นที่สุด
   
อย่าว่าแต่ขมิ้นเลยที่ไม่อยากจะเชื่อในตัวของนับตังค์ ตัวนับตังค์เองก็เหมือนกัน นับตังค์ไม่คิดว่าตัวเองจะทำอะไรออกมาได้ถูกใจคนอื่นมากขนาดนี้ ตลอดเวลาที่อยู่ที่บ้าน นับตังค์มีพื้นฐานการทำให้อาหารมากก็จริง แต่ทุกอย่างมันคือมาตรฐานที่ได้รับสืบทอดมา สัดส่วนต้องพอดีห้ามผิดเพี้ยน ซึ่งมันก็เป็นข้อดีที่ทำให้นับตังค์ได้ความละเอียดพิถีพิถันทุกขั้นตอนมาจากการอบรมของพ่อกับย่า แต่เมื่อนับตังค์ได้ออกมาหาประสบการณ์ด้วยตัวเองในครั้งนี้ มันก็เหมือนได้ผืนผ้าใบที่ว่างเปล่ามาหนึ่งอันที่รอให้นับตังค์ละเลงสีลงไป แม้จะมีความกังวลที่ต้องออกแบบภาพวาดนั้นเอง แต่พอคิดว่าจะได้ทำตามสิ่งที่ตัวเองคิด ความสุขที่เกิดขึ้นมันทำให้นับตังค์สร้างศิลปะการปรุงอาหารของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ผลมันก็ออกมาอย่างที่เห็น คำชมจากทุกคนทำให้นับตังค์มีความสุข
   
‘ผืนผ้าใบมันไม่ได้ว่างเปล่าอีกต่อไป มันเป็นภาพที่ไม่ซ้ำใคร มันเป็นภาพของนับตังค์เอง’
   
“แล้วจะตั้งชื่อเมนูนี้ว่าอะไรดีคะบอส” มานีถามหลังจากที่อิ่มแปล้จนเดินแทบไม่ไหว
   
“ทะเลถังดีไหม” มีนาเสนอ
   
“ทะเลขึ้นบกล่ะ ดีไหม” พายพัดออกความเห็นบ้าง
   
“ดีค่ะ โอปป้าว่าดีก็ดี” มานีกับมีนาพูดขึ้นพร้อมกัน สมแล้วที่เป็นฝาแฝด
   
“พี่ว่า น่าจะตั้งชื่อให้มันแหวกแนว พอได้ยินปุ๊ปต้องอยากสั่ง” สายรุ้งเสนอบ้าง
   
“ความเห็นของพี่สายรุ้งก็ดีนิ” ขมิ้นเห็นด้วย
   
“เอาอะไรดีล่ะ ยากจัง” ใบเมี่ยงพยายามจะช่วยคิด
   
“รู้แล้ว” มีคุณพูดโพล่งขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้นับตังค์ เป็นรอยยิ้มที่ทำให้นับตังค์ขนลุกชอบกล
   
“ชื่ออะไรนิ” ขมิ้นถาม
   
“ซีฟู้ดดูดนิ้ว” มีคุณพูดจบทุกคนก็เงียบ โดยเฉพาะนับตังค์ที่นั่งหน้าแดงแจ๋เพราะรู้ว่ามีคุณหมายถึงอะไร
   
“เยี่ยมเลย อร่อยจนต้องดูดนิ้วไม่ให้เหลือ ใช่ไหมคะบอส” มานีปรบมือชอบใจ ทุกคนปรบมือตามเพราะคิดว่าเป็นชื่อที่มีเอกลักษณ์ดี
   
“อ๋อ ดูดนิ้ว แบบเกลี้ยงเลยเนอะ” นับตังค์รู้สึกหน้าแตกที่คิดสองแง่สองง่ามไปเอง ที่แท้ความหมายมันหมายถึงความอร่อยนี่เอง
   
“หนูดูดนิ้วได้” ด้วงดูดนิ้วโชว์ ทุกคนต้องร่วมใจกันปรบมือให้ด้วงอีกรอบ ด้วงเลยยิ้มไม่หุบ
   
“เฮ้อ ตื่นเต้นจังเลย อีกไม่กี่วันร้านจะเปิดแล้ว นายปู่คงดีใจที่ทุกอย่างมันออกมาดี นายปู่รักร้านนี้มาก ถ้ารู้ว่ามีลูกค้ามาจองแน่นร้านยาวแบบนี้ท่านคงมีความสุข” ขมิ้นนึกถึงนายปู่ อยากให้นายปู่ได้มาเห็น
   
มีคุณได้ฟังที่ขมิ้นพูดก็แอบลอบถอนหายใจ พยายามหาทางคิดว่าจะมีหนทางไหนที่ทำให้เขารักษาร้านนี้ได้และมีเงินมากพอไปใช้หนี้ให้มารดาตามกำหนด หนทางนี้มันดูยากเย็นเหลือเกินสำหรับมีคุณ   


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


พ่อพญามาอย่างเท่ห์เลยนะคะตอนนี้ 5555  อย่าดีแตกแล้วกันเนอะ เดี๋ยวกลับมาแก้คำผิดที่หลุดตาให้นะคะ


(https://www.uppic.org/image-4E7D_5942502B.jpg)


เครดิตรูปจาก Google


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 15-06-2017 19:23:09
เรื่องซับซ้อนไสตล์คุณ loverouter เลย วางพล็อตเก่งมากๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-06-2017 21:30:40
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-06-2017 21:52:13
หิวเลย อยากกินทะเลดูดนิ้วมั่ง 555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 15-06-2017 22:17:28
 :z1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 15-06-2017 23:11:45
เชียร์พญา 55
ราศีเริ่มมา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 16-06-2017 00:46:56
หิวจ้า
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 16-06-2017 01:18:23
โง่ยยย หิววว เวลานี้ ตีหนึ่งยี่สิบสามนาที  :heaven
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 16-06-2017 09:42:21
อ่านแล้วอยากดูดนิ้วตาม เป็นทะเลที่น่ากินมาก

ว่าไปพญาดูจะเป็นคนดีกว่าคีตะอีกนะ  ถ้าได้นับตังค์ชี้ทางสว่างให้   นับตังค์อาจได้พญาเป็นพวกเพิ่มขึ้น

อีนั่นของพเยียจะใช่ดาวเรืองหรือเปล่า  แล้วที่หลวงพ่อมองไปข้างหลังนับตังค์คือเห็นคุณปู่อนันต์ หรือเห็นพี่เหรียญเงินอยากรู้  :ling1: :ling1:

มีคุณได้นับตังค์ขั้นบีก็โอเคแล้ว อย่าเพิ่งรีบร้อน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 16-06-2017 11:00:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 16-06-2017 11:18:03
อ่านตอนใกล้เที่ยง หิวเลย~ :hao3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-06-2017 11:32:54
มีความสุขกับอาหารแต่ก็เริ่มกังวลกับอุปสรรคที่ยังไม่มาถึงจัง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 16-06-2017 12:34:19
ถ้ามีคุณไม่เคลียร์เรื่องที่ปิดบังทุกคนไว้ เราจะเชียร์อิตาพญาแล้วนะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 16-06-2017 15:43:41
นี่ก็ว่าอีกหน่อยพญาอาจจะมาเป็นเพื่ิอนของนับตังค์อีกคนแน่ๆ

มีคุณอาจจะต้องตัดสินใจทำอะไรให้มันเคลียร์ๆ เพราะไม่อยากเห็นนับตังค์ต้องเสียความรู้สึก ...
แต่ก็ค่อยเป็นค่อยไปละกันนะ มีคุณสู้ๆ

อินกับเรื่องนี้ อยากไปกินอาหารที่ร้านนี้จริงๆเลยล่ะ:)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 22-06-2017 16:44:44
กลับมาอ่านหลังจากหายจากวงการนี้ไปนาน

เรื่องของคุณ Loverouter ยังสนุกไม่เเปลี่ยนเลย
ชอบที่เรื่องนี้ใช้เส้นเรื่องหลักเป็นอาหาร สูตรและวิธีทำมาครบ
ต้องดอกจันว่าห้ามอ่านตอนกลางคืนหรือท้องว่างเลย55555555

ชอบความละมุนของเรื่องนี้มากๆ ตัวละครทุกตัวมีความเทาในตัว ไม่ขาวจัด ไม่ดำมืด
ทุกคนมีเหตุและผลของการกระทำจนเราไม่รู้สึกหงุดหงิดว่าทำไมถึงทำแบบนี้นะ
ติดอยู่แค่นู้สึกว่ารัวหลักของเรานี่ไวไฟจัง รักกันเร็วจริง อิอิ

พออ่านแบบติดๆ มาถึง 16 ตอนก็ลุ้นกับแผนการตัวร้ายทั้งหมดเลยว่าจะเป็นอย่างไร
จะมาทำให้เกิดความร้าวฉานขนาดไหน เห้อออ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: momoku ที่ 22-06-2017 20:43:40
น่ากินทุกตอนเลย เป็นนักอ่านเงาคนนึง แต่จะพยายามเม้นต์นะ คนเขียนสู้ๆจ้า เขียนสนุก น่ากินมากๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: momoku ที่ 23-06-2017 13:12:24
คิดว่าพี่เหรียญเงินคงไม่อยู่แล้ว TT ได้แต่หวังว่าจะเป็นไปด้วยดี
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 24-06-2017 02:14:39
รอๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 26-06-2017 11:49:27
ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน


อีกเพียงแค่สองวันร้านอาหารมีคุณอนันต์ก็จะเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว แม้ว่าจะไม่มีอะไรติดขัด ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี บุคลากรของร้านทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมันทำให้มีคุณมั่นใจว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปด้วยดี แต่เมื่อคุณขจีแนะนำว่าให้มีคุณทำบุญร้านก่อนที่จะเปิดอย่างเป็นทางการ มีคุณจึงเลือกเอาวันนี้เป็นวันทำบุญร้าน ซึ่งมีคุณเลือกเอาจากฤกษ์สะดวกของตัวเอง

นับตังค์ ใบเมี่ยงและพายพัดช่วยกันลงมือทำอาหารคาวหวานถวายเพลพระ คุณขจีก็มาช่วยดูแลด้วงให้ตั้งแต่เช้ามืด พอเธอรู้ว่าหนึ่งในเมนูที่นับตังค์จะทำวันนี้คือห่อหมก เธอจึงขอเข้ามาอยู่ในครัวด้วยเพราะรู้ดีว่าห่อหมกสูตรของคุณละม่อมไม่เป็นสองรองใครเลย

“ตังจะทำห่อหมกปลาช่อนกับห่อหมกทะเลครับ ตัวห่อหมกทะเลตัวนี้ ตังทำใส่ในเมนูร้านด้วย จะเป็นรสที่ชาวต่างชาติทานได้ง่ายหน่อย” นับตังค์บอกกับคุณขจีก่อนจะเริ่มต้นลงมือทำห่อหมก

นับตังค์เริ่มต้นจากนำปลาช่อนไปขอดเกล็ดออก เอาเครื่องในปลาออกพร้อมกับเลาะก้างทิ้งทั้งหมด จากนั้นก็นำไปล้างน้ำให้สะอาด ล้างดีแล้วก็นำปลามาซับน้ำให้แห้งก่อนจะลงมือแล่เนื้อปลาให้เป็นชิ้นขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป นับตังค์นำเนื้อปลาที่แล่แล้วใส่ลงในชามแก้วขนาดใหญ่ ขั้นตอนต่อมาก็นำไข่เป็ด น้ำตาลทราย น้ำปลาดีและเกลือ ผสมใส่ลงบนเนื้อปลาแล้วคนจนกระทั่งไข่เป็นสีเหลืองครีมและข้นขึ้น จากนั้นนับตังค์ก็นำหัวกะทิมาใส่เพิ่มแล้วก็คนเพื่อให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน

“พาย...มาคนต่อให้หน่อย”

นับตังค์ส่งพายขนาดเล็กให้พายพัดช่วยคนส่วนผสมต่อ ส่วนตัวเองไปจัดการเอาพริกแกงที่โขลกเองผสมกับหางกะทิคั้นสด ผสมจนเข้ากันแล้วก็นำไปเทรวมกับส่วนผสมเนื้อปลาในชามแก้วที่พายพัดคนอยู่ นับตังค์บอกว่าขั้นตอนต่อไปสำคัญที่สุด นั่นคือการคนไปเรื่อยๆ ต้องใจเย็นและลงน้ำหนักมือให้สม่ำเสมอ คนแรงไปเนื้อปลาจะเละได้ คนเบาไปส่วนผสมก็จะไม่เหนียวข้นเข้าเนื้อปลา ย่าละม่อมเคยสอนนับตังค์ว่า ยิ่งคนนาน ห่อหมกก็จะยิ่งอร่อย

พายพัดอาสาคนห่อหมกให้ต่อ นับตังค์จึงไปเตรียมในส่วนของกะทิที่จะใช้โรยหน้าและพวกผักรองก้น ซึ่งมีทั้งใบยอ โหระพา ผักกาดขาว  พายพัดเพิ่งได้ความรู้ใหม่ว่าอาหารไทยมันมีขั้นตอนการทำละเอียดแบบนี้นี่เอง แค่การคนส่วนผสมก็ทำให้อาหารอร่อยขึ้นได้ด้วย

“เราจะรู้ได้ยังไงว่าใช้กะทิกี่กิโล” พายพัดถามในขณะที่ตั้งใจคนห่อหมกให้สม่ำเสมอ

“ปลาหนึ่งกิโลต่อกะทิสองกิโล กะทิน้อยไม่อร่อย แล้วเราควรคั้นเองจะได้กะทิที่มัน ข้นและหอม” นับตังค์ตอบ

“ไม่ต้องใส่แป้งเหรอ” ใบเมี่ยงอยากชิมห่อหมกฝีมือของนับตังค์แล้ว

“ไม่ใส่”

“ดีจัง ที่เคยกินเรารู้เลยว่าเขาผสมแป้งด้วย” ใบเมี่ยงบ่น

“ทำกินเองอร่อยกว่า” นับตังค์กินของดีจนเคยตัว ให้ไปกินอะไรที่อื่นก็ไม่ค่อยจะถูกปาก บางร้านอยากได้กำไรมากกว่าความภูมิใจจึงลดโน่นเติมนี่จนเสียรส แต่นับตังค์ก็เข้าใจว่าเศรษฐกิจแบบนี้ใครก็อยากได้กำไรเยอะๆ แต่มันคงไม่ใช่กับนับตังค์ ก็คงเป็นเพราะคำสอนที่ได้ยินย่ากับพ่อคอยพูดให้ฟังตลอดจนนับตังค์จำขึ้นใจและนับตังค์ก็นำมันมาใช้กับชีวิตทุกๆ ด้านก็คือ ‘คนเราถ้าซื่อกินไม่หมด ถ้าคดกินไม่นาน’ นั่นเอง

“อันที่จริงที่เกาะนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับห่อหมกนะ คนที่นี่ร่ำลือกันว่ามันเป็นห่อหมกในตำนาน” คุณขจีนึกขึ้นได้เลยเล่าให้ทุกคนฟัง

“ห่อหมกในตำนานเลยเหรอครับ” พายพัดรู้สึกสนใจ

“มันเป็นตำนานเล่ากันต่อๆ มา มีคุณยายคนหนึ่ง ท่านเป็นคนท้องถิ่น อาศัยที่เกาะนี้มานานมาก ซึ่งสมัยนั้นเกาะนี้ยังไม่มีไฟฟ้าเลย ใช้เครื่องปั่นไฟเอา เป็นชุมชนเล็กๆ อยู่กันไม่กี่ครอบครัว สามีของคุณยายเป็นคนที่ชอบทานห่อหมกมาก คุณยายก็จะทำห่อหมกปลาทะเลให้ทานบ่อยๆ เพราะเป็นของที่หาง่าย แต่มาวันหนึ่ง คุณตาอยากทานห่อหมกปลาช่อนนา ด้วยความที่ที่นี่เป็นเกาะมีแต่ทะเลล้อมรอบ จะหาปลานาก็ยากเต็มทน แต่ด้วยความที่สามีอยากกิน คุณยายก็ข้ามไปในตัวเมืองและหามาจนได้ แต่ในวันนั้นคุณตาออกไปตกปลาตั้งแต่เช้า ปรากฏว่าเรือล่มเพราะพายุเข้า ยังไม่ทันได้กินห่อหมกปลาช่อนนาที่คุณยายทำก็เสียชีวิตไปก่อน จากนั้นก็มีคนเล่าว่าเห็นวิญญาณของคุณตามาเดินแถวบ้านทุกคืนที่คุณยายทำห่อหมก คุณยายจะทำใส่บาตรทุกวันพระและแบ่งให้เพื่อนบ้านได้กิน เป็นที่ร่ำลือว่ามันอร่อยมาก เขาเลยตั้งชื่อกันว่าห่อหมกในตำนาน”

“แล้วคุณยายท่านเสียยังไงเหรอครับ” นับตังค์ถาม

“หลังจากที่คุณตาเสีย แกก็มักจะนั่งเรือเล็กข้ามไปที่ตัวเมืองเพื่อจะไปหาซื้อปลาช่อนมาทำห่อหมกถวายพระ ในวันนั้นเรือเล็กที่แกอาศัยไปล่มก่อนจะถึงฝั่ง แกอายุมากแล้วว่ายน้ำไม่ไหวก็เลยเสียชีวิตในทะเลเหมือนสามี แล้วก็เป็นที่เล่ากันอีกว่า ทุกวันพระจะได้กลิ่นห่อหมกลอยมาจากแถวบ้านแก แล้วก็เห็นคุณตาเดินวนเวียนอยู่เช่นเดิม แกคงรอกันและกัน” คราวนี้สายรุ้งเป็นคนเล่าต่อจากคุณขจี เพราะสายรุ้งได้ยินเพื่อนที่เป็นคนท้องถิ่นเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเช่นกัน

ใบเมี่ยงได้ฟังเรื่องคุณยายกับคุณตาแล้วรู้สึกสะเทือนใจในความรักที่ถูกพรากจากกันมากกว่าจะกลัวเรื่องผีสาง ได้แต่หวังในใจว่าคุณยายกับคุณตาคงจะได้อยู่ด้วยกันแล้วในตอนนี้     

“หนูเมี่ยงทำมะม่วงลอยแก้วเหรอจ๊ะ” คุณขจีจูงหนูด้วงเดินมาดูใบเมี่ยงทำขนมเมื่อเห็นว่าใบเมี่ยงดูเศร้า เธอไม่อยากให้ทุกคนหดหู่ในวันมงคลแบบนี้ นึกตำหนิตัวเองในใจที่มาเล่าเรื่องนี้ให้ทุกคนฟัง

“ครับ อากาศร้อนแบบนี้ทานอะไรเย็นๆ จะได้ชื่นใจ” ใบเมี่ยงยิ้มให้คุณขจีก่อนจะส่งเนื้อมะม่วงที่ฝานบางๆ ให้ด้วง

“เปรี้ยวเหรอ” คุณขจีหัวเราะเมื่อด้วงชิมแล้วทำหน้าสั่น

ใบเมี่ยงแบ่งขนมที่จะถวายพระไว้ต่างหาก ส่วนที่เหลือจึงตักให้คุณขจีลองชิม หลังจากที่ได้ชิมขนมแล้ว ขจียอมรับว่าฝีมือการทำมะม่วงลอยแก้วของใบเมี่ยงนั้นอร่อยมาก เนื้อมะม่วงฝานจนเป็นแผ่นบาง น้ำลอยแก้วก็อร่อยครบรสเค็มหวาน กินกับมะม่วงที่มีรสเปรี้ยวนิดหน่อย ใส่น้ำแข็งบดละเอียดแล้วรู้สึกชื่นใจจริงๆ นึกเสียดายที่คุณอนันต์ไม่ได้อยู่ด้วยกันในวันนี้ เด็กรุ่นใหม่พวกนี้มีฝีมือเกินอายุและเป็นเด็กที่น่ารักทุกคน

“บ้านของคุณตาคุณยายตำนานห่อหมกอยู่ที่ไหนเหรอครับ” นับตังค์ถามขึ้นมา

“ถามทำไม จะไปเหรอ” พายพัดถามด้วยความสนใจ เพราะตัวเองก็อยากรู้เหมือนกัน

“ถ้ามีโอกาสก็อยากทำห่อหมกไปไหว้ท่านทั้งคู่” นับตังค์บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมถึงสนใจ

“อยู่แถวทางขึ้นน้ำตกพระคราม ไม่ต้องขึ้นเขาไปนะจ๊ะ อยู่ลึกเข้าไปในเขตป่าพอสมควร ตอนนี้คงรกน่าดูไม่มีคนดูแลถางทางแถวนั้นแล้ว” คุณขจีหน้าหม่นหมองลงเมื่อพูดถึงตรงนี้ ซึ่งสีหน้าและท่าทางของคุณขจีทำให้นับตังค์แปลกใจ

“แต่มีคนตั้งศาลให้คุณยายกับคุณตานะคะ อันที่จริงศาลตั้งอยู่ตรงสามแยกทางขึ้นเขา แต่ชาวบ้านเขาถือกันว่าไม่ควรตั้งศาลให้ตรงสามแยก เลยย้ายศาลเข้าไปลึกหน่อย” สายรุ้งเล่าไปก็ตักผักไปรองไว้ที่ก้นกระทงใบตอง

“ตัง คนแค่นี้พอรึยัง” พายพัดถามเมื่อเห็นว่าห่อหมกมันเริ่มข้นมากแล้ว

“โอเค ช่วยกันหยอดใส่กระทงเลยจะได้นึ่ง กับข้าวอย่างอื่นเสร็จหมดแล้ว เดี๋ยวตั้งจัดห่อหมกทะเลเอง ตังทำแยกเอาไว้แล้ว” นับตังค์หันกลับมาสนใจอาหารของตัวเองเพราะยังมีห่อหมกทะเลที่ต้องนึ่งอีก นี่ก็ใกล้เวลาที่จะต้องถวายเพลแล้ว หากมัวแต่คุยอาจจะไม่ทันเวลา

.....

ขมิ้นขับรถไปรับพระภิกษุมาถึงที่ร้านแล้ว มีคุณนิมนต์หลวงตาและพระลูกวัดอีกสี่รูปเข้าไปนั่งที่อาสนะ ตุ้ย ม้าและเฮง เด็กเสิร์ฟทั้งสามคนของมีคุณมาคอยช่วยเป็นลูกศิษย์วัดให้หลังจากช่วยกันเตรียมเครื่องสักการะและสถานที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากคนในร้านแล้ว ก็มีคุณขจี สาลี่ มาร่วมงานบุญนี้ด้วย แถมด้วยแขกที่มีคุณไม่ได้เชิญและไม่คิดว่าจะมา นั่นก็คือ พญา พเยียและคีตะ ซึ่งคราวนี้ทั้งสามคนแสดงความเป็นมิตรจนมีคุณรู้สึกว่ามันน่าจะมีอะไรมากกว่าการมาผูกมิตรธรรมดา

“ไปตามทุกคนในครัวมา บอกว่าพระมาแล้ว แล้วพอได้เวลาถวายเพลตุ้ยก็ให้ม้า เฮง มานี มีนา ไปช่วยยกสำรับที่นับตังค์เขาจัดเอาไว้มาได้เลย” มีคุณสั่งตุ้ยก่อนจะเดินไปหากลุ่มของพญา

“คุณ เราสามคนมาร่วมทำบุญด้วย คิวจัดขนมไทยมาถวายพระด้วยนะ ซื้อมาจากกรุงเทพเลย เจ้านี้อร่อยมาก ตำรับชาววัง” คีตะส่งกระเช้าที่บรรจุขนมไทยหลายอย่างให้มีคุณ

มีคุณเห็นป้ายชื่อร้านแล้วชะงักไป เขามองหน้าคีตะที่ดูไม่มีเลศนัยอะไรด้วยความชั่งใจว่าคีตะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจซื้อขนมร้านนี้มา แต่มีคุณก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ได้แต่เรียกมานีมารับกระเช้าไปจัดขนมใส่จานเตรียมถวายพระ

“ขอบคุณมากครับ แต่รู้ได้ยังไงว่าผมทำบุญร้านวันนี้” มีคุณถามทั้งสามคน

“พอดีเห็นคนของพี่คุณไปซื้อของที่ตลาด ถามมาเลยรู้ว่าพี่คุณจะทำบุญร้าน เราเลยอยากมาร่วมบุญด้วย เดี๋ยววันเปิดร้านคุณพ่อท่านก็จะมาร่วมยินดีด้วยนะคะ” พเยียเป็นฝ่ายตอบ เรียกมีคุณอย่างสนิทสนมจนคีตะเองยังนึกหมั่นไส้รุ่นน้องคนนี้

“อ๋อ ครับ ขอบคุณมากครับ เชิญนั่งก่อนครับ” มีคุณพยักหน้ารับรู้แต่ในใจไม่เชื่อในสิ่งที่พเยียพูด เพราะคนที่ไปซื้อของที่ตลาดก็คือนับตังค์ เขาเชื่อว่านับตังค์คงไม่พูดอะไรแน่

“คุณจะไม่ถามเลยเหรอว่าคิวมาทำอะไรที่นี่อีก” คีตะถือวิสาสะเกาะแขนของมีคุณ

“เอาไว้ค่อยคุยกันดีกว่านะคิว วันนี้ผมยุ่ง” มีคุณแกะแขนคีตะออกแล้วเดินเข้าไปหาคุณขจีที่เดินมาพร้อมกับด้วง

คีตะมองตามไปอย่างไม่พอใจแต่ก็ต้องระงับความหงุดหงิดเอาไว้แล้วลงไปนั่งข้างๆ พเยีย ส่วนพญาชะเง้อคอมองหานับตังค์ พอเห็นนับตังค์เดินตามขจีออกมาก็รีบส่งยิ้มให้ เห็นนับตังค์เลิกคิ้วทำหน้าประหลาดใจก่อนจะยิ้มกลับมาให้พญาก็ใจเต้นรัว ตอนนี้ทุกคนมากันครบแล้ว พญาถือโอกาสลุกมานั่งข้างนับตังค์ ส่วนมีคุณนั่งอยู่อีกข้างหนึ่งและพยายามจะไม่หงุดหงิดเพราะวันนี้เป็นวันดีๆ

...

ทุกคนฟังพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ด้วยความตั้งใจจนได้เวลาถวายภัตตาหาร พญาทำเป็นกระวีกระวาดช่วยนับตังค์ยกอาหารถวายพระ มีคุณได้แต่ถอนหายใจเพราะคีตะก็ตีเนียนมาจับมือเขาตอนช่วยถวายภัตตาหาร ไม่ต่างอะไรกับที่พญากำลังไปวุ่นวายกับนับตังค์เช่นกัน

เมื่อพระท่านฉันท์อาหารคาวหวานเรียบร้อยแล้ว หลวงตาก็บอกให้ทุกคนตั้งใจกรวดน้ำ นับตังค์เห็นหลวงพ่อมองมาทางตนก็นึกสงสัย นับตังค์นึกแปลกใจเพราะตอนที่ใส่บาตรหลวงตาก็มองจ้องมาแบบนี้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าท่านจ้องมองมาทางนับตังค์เพราะอยากให้พรหรือเปล่า บางทีท่านอาจไม่ได้โฟกัสอะไรทั้งสิ้น นับตังค์คงคิดไปเอง

“ไหนมานี่สิ” หลวงตาเรียกให้ด้วงเข้ามาหาใกล้ๆ หลังจากที่พิธีกรรมทุกอย่างเสร็จสิ้นลงแล้ว

“เปียกหมดเยย” ด้วงลูบหน้าตัวเองที่เต็มไปด้วยน้ำมนต์

“ชื่ออะไรล่ะเรา” หลวงตาถามด้วง ด้วงไม่ได้ตอบแต่มองหลวงตาตาปริบๆ

“ชื่อด้วงครับ แต่ผมยังไม่รู้ชื่อจริงเขาเลย” นับตังค์ตอบแทนด้วง เพิ่งมารู้สึกเหมือนกันว่าตัวเองยังไม่ค่อยรู้ประวัติของด้วงสักเท่าไหร่เลย

“หนูด้วงชื่อจริงชื่อพยัคฆ์เจ้าค่ะหลวงพ่อ” ขจีเป็นฝ่ายตอบแทนเพราะรู้ว่าด้วงชื่อจริงว่าอะไร

“ดีๆ โตขึ้นจะเก่งกล้าอย่างพยัคฆ์ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอกนะ” หลวงตาพูดแล้วลูบผมด้วงด้วยความเมตตา

”ไม่ห่วงก็ได้ครับ” นับตังค์คิดว่าหลวงตาพูดกับตัวเองก็เลยตอบไป หลวงตาไม่ได้พูดอะไรอีก ได้แต่ยิ้มให้

“นิมนต์หลวงตาเลยครับ รถพร้อมแล้ว” มีคุณเดินเข้ามาบอกเมื่อขมิ้นมาบอกว่ารถพร้อมไปส่งพระกลับวัดแล้ว

“ธุครับหลวงตาก่อนด้วง” นับตังค์บอกก่อนจะก้มลงไปกราบหลวงตา

ด้วงก้มลงไปกราบพระตามนับตังค์ แต่ท่าทางยังเก้ๆ กังๆ ก้นกระดกสูงจนทุกคนยิ้มให้กับภาพที่เห็น พอหลวงตาและพระรูปอื่นเดินออกจากร้านไปแล้ว มีคุณก็เชิญทุกคนไปทานอาหารกลางวันที่จัดเตรียมเอาไว้ให้ รวมถึงพนักงานในร้านทุกคนด้วย


ขจีรู้สึกแปลกใจที่ลูกชายและลูกสาวของนายหัวพยนต์มาร่วมทำบุญในวันนี้ด้วย เป็นที่รู้กันดีว่านายหัวพยนต์ไม่ค่อยลงรอยกับเธอและคุณอนันต์สักเท่าไหร่ ถ้าให้เธอเดา เธอคิดว่าทั้งคู่คงเข้ามาผูกมิตรเพื่อขอซื้อที่ดินจากมีคุณ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ขจีหนักใจ มีคุณเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ ยากที่จะมาใช้ชีวิตที่เกาะแห่งนี้ตลอดไป หากมีคุณตัดสินใจขายที่ดินส่วนนี้ให้กับนายหัวพยนต์ รีสอร์ตของเธอคงไม่สงบสุขแน่ๆ แต่จะให้เธอซื้อที่ดินนี้เอาไว้ กำลังทรัพย์ของเธอคงสู้นายหัวพยนต์ไม่ได้ เธอจึงได้แต่หวังว่ามีคุณจะมีแนวคิดเดียวกับคุณปู่ของตัวเองคือการรักษาที่ดินตรงนี้เอาไว้ให้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานยาวสืบไป

“โอ้โห ห่อหมกน่ากินมากเลยนะคะ น่ากินทั้งสองแบบเลย” พเยียเอ่ยปากชมหลังจากที่เห็นห่อหมกวางอยู่บนโต๊ะ จานแรกเป็นห่อหมกในกระทงใบตองแบบที่พเยียเคยเห็นทั่วไป ส่วนอีกแบบมีกุ้งก้ามกรามตัวใหญ่วางพาดอยู่บนถ้วยห่อหมก

“แค่เห็นก็อร่อยแล้ว” พญาพูดแต่สายตามองไปที่นับตังค์

“คงไม่ค่อยได้กินของอร่อยกันนิ” ขมิ้นพูดลอยๆ

“ใครจะไปโชคดีอย่างเราล่ะพี่บ่าวที่ได้ทานฝีมือเชฟตังทุกวัน” มานีรีบเสริม

“ทานกันเถอะ คุณป้าขจีรออยู่” มีคุณตัดบทเพราะเห็นพญาจ้องขมิ้นด้วยความไม่พอใจ 

มีคุณกำลังจะเดินไปหานับตังค์ แต่คีตะรีบแทรกเดินเคียงคู่ไปกับมีคุณแล้วชวนมีคุณคุยจนไม่มีช่องว่างให้นับตังค์เข้ามาได้ นับตังค์จึงต้องหยุดให้มีคุณกับคีตะเดินนำไปก่อน พญาสบโอกาสจึงเดินเข้ายืนเคียงข้างนับตังค์ทันที

“น้องตังครับ คนไหนเมียน้องตังเหรอครับ” พญากระซิบถามเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน เขาอยากรู้ว่านับตังค์จะตอบยังไง ในเมื่อพเยียบอกว่าด้วงไม่ใช่ลูกของนับตังค์

“จะเอาคนไหนล่ะ เมียคนแรก คนที่สองหรือคนล่าสุด” นับตังค์ตอบแล้วอมยิ้ม

“มีหลายคนเลยเหรอ จุ๊ๆๆ แรงดีแบบนี้พี่ชอบ” พญาหัวเราะชอบใจ ซึ่งท่าทีหัวร่อต่อกระซิกของพญาขัดหูขัดตามีคุณเป็นอย่างมาก

ทุกคนเดินไปนั่งลงยังโต๊ะที่ถูกจัดเอาไว้ ต่างก็ช่วยกันตักข้าวรินน้ำกันเอง ยกเว้นพญา พเยียและคีตะที่นั่งรออยู่เฉยๆ ขจีนึกชื่นชมมีคุณที่ดูแลพนักงานในร้านราวกับเป็นคนในครอบครัว ให้มาร่วมรับประทานอาหารด้วยกันอย่างไม่ถือสาหรือแบ่งชนชั้น บอกตรงๆ ว่ามีคุณมีส่วนคล้ายคุณอนันต์อยู่มากทั้งท่าทางและอุปนิสัย ไม่ว่าจะเป็นตอนที่กำลังจริงจังกับการทำงานหรือตอนเวลาที่ผ่อนคลาย   

“คุณครับ อาหารอร่อยมากเลย ฝีมือของนับตังค์คนเดียวเลยเหรอ เก่งจัง ไปเรียนมาจากที่ไหนเหรอ” คีตะถามมีคุณก่อนจะมองไปที่นับตังค์

“เรียนจากที่บ้าน พ่อแม่ปู่ย่าตายายสอนมา...ครับ” นับตังค์ตอบก่อนจะหันไปเช็ดปากให้ด้วงที่กำลังเอร็ดอร่อยกับต้มจืดเต้าหู้อ่อน

นับตังค์รู้ว่าคีตะเป็นคนเอาขนมไทยจากร้านของคุณย่ามาร่วมทำบุญ ซึ่งนับตังค์แน่ใจว่าคีตะคงรู้แล้วว่านับตังค์เป็นใคร แต่ที่ไม่รู้ก็คือใครบอกเรื่องของนับตังค์ให้คีตะได้รู้และคีตะมีเจตนาอะไรถึงมาหลอกถามนั่นนี่อยู่ได้ นับตังค์ไม่อยากจะพูดดีด้วย แต่เกรงใจคุณขจีเลยต้องเติม ‘ครับ’ ไปในประโยคให้ดูอ่อนลง ที่นับตังค์อยากจะรู้มากที่สุดก็เรื่องที่คุณย่ายอมทำขนมให้ ในเมื่อท่านเลิกรับทำขนมให้คนอื่นมานานแล้ว จะทำขายเฉพาะสำหรับทานในร้านเท่านั้นเอง

“เก่ง เก่งตั้งแต่เด็ก” พญาลุกขึ้นปรบมือเสียงดัง ชมนับตังค์จนออกนอกหน้า

“ลุง เวอร์ไปแล้ว” นับตังค์บ่นพญาที่ชอบเล่นใหญ่ตลอด

“ไม่เวอร์ พี่ชิมห่อหมกฝีมือของน้องตังแล้ว หอมเครื่องแกงมาก เข้มข้นสุดๆ เนื้อปลาก็ดี เนื้อกุ้งก็เด้ง ใครได้ไปเป็นแฟนคงมีความสุขทุกวันเลย” พญายังคงชมไม่หยุด

“นั่นสิ ถ้าป้ามีหลานสาวจะยกให้เลย” ขจีเอ่ยชมนับตังค์ด้วย

“โชคดีนะครับที่คุณป้าไม่มีหลาน” พญารีบแทรก ขจีได้ยินพญาพูดแทรกขึ้นมาแล้วหุบยิ้มแทบไม่ทัน

“แล้วพายมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ เป็นเชฟเหมือนเชฟตังหรือเปล่า” พเยียรีบเปลี่ยนเรื่อง หันมาถามคนที่ตัวเองสนใจบ้าง ไม่อยากให้พญาทำเสียเรื่อง

สายตาและท่าทางของพเยียใครก็ดูออกว่าชื่นชอบพายพัดมาก มานีกับมีนารู้สึกว่าพี่น้องสองคนนี้ รวมไปถึงคนที่ชื่อคีตะกำลังจะเข้ามาทำให้ครอบครัวมีคุณอนันต์ต้องร้าวฉาน แต่ถึงจะไม่พอใจ มานีกับมีนาก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ เพราะรู้ดีว่าตระกูลของนายหัวพยนต์ร้ายกาจแค่ไหน
 
“ผมตามแฟนมาครับ” พายพัดตอบสั้นๆ

พเยียได้ยินถึงกับพูดไม่ออก แต่สุดท้ายก็ยิ้มเจื่อนๆ ออกมาแล้วพยายามคิดว่าใครคือแฟนของพายพัด

“ที่จริงฝีมืออย่างนับตังค์น่าจะไปเป็นเชฟตามโรงแรมใหญ่ๆ ได้เลยนะ คุณไปเจอนับตังค์ที่ไหนเหรอครับถึงได้ชวนมาเป็นเชฟ” คีตะพยายามจะถามต่อ

“คงเป็นพรหมลิขิต” มีคุณตอบคีตะก่อนจะหันไปยิ้มให้นับตังค์ ซึ่งคำตอบของมีคุณก็ทำเอาพญากับคีตะนิ่งอึ้งตามพเยียไปติดๆ

“พรหมลิขิตหรือเป็นกรรมลิขิต” นับตังค์หันกลับมาพูดกับมีคุณ ที่ต่อปากต่อคำไม่ใช่เพราะเขิน แต่นับตังค์เห็นคุณขจีมองมาก็เลยทำตัวไม่ถูก ส่วนพญาได้ยินแล้วหัวเราะชอบใจที่มีคุณโดนนับตังแขวะ


คุณขจีฟังหนุ่มๆ สาวๆ คุยกันได้สักพักก็ขอตัวกลับไปที่รีสอร์ท นับตังค์ให้ขมิ้นช่วยห่อกับข้าวกับของหวานกลับไปให้คุณขจีด้วย พอคุณขจีไปแล้วคีตะก็พูดลอยๆ ขึ้นมาให้ทุกคนได้ยิน 

“เป็นแค่ลูกน้องแต่กล้าต่อปากต่อคำกับเจ้านายจังนะครับ” คีตะตั้งใจต่อว่านับตังค์

“พูดถึงเรื่องกล้า ผมจะชวนทุกคนไปพิสูจน์ความกล้ากันดีกว่า” พายพัดรำคาญที่คีตะคอยกวนน้ำให้ขุ่นเลยเปลี่ยนเรื่อง เขาไม่อยากให้ราคากับคนอย่างคีตะ

“ว่ามาเลยค่ะพาย” พเยียรีบตอบรับทันที

“คืนนี้ใครจะไปพิสูจน์ตำนานห่อหมกกับผมบ้าง” พายพัดถามขึ้นมา พเยียได้ยินก็หน้าแดงเพราะคิดว่าพายพัดพูดสองแง่สองง่าม

“เรื่องแบบนี้ไม่ควรเอามาล้อเล่นนะพาย ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่” ใบเมี่ยงดุพายพัด รู้ว่าพายพัดชอบพิสูจน์สิ่งเร้นลับ แต่ใบเมี่ยงก็ไม่อยากให้พายพัดไปรบกวนเจ้าที่เจ้าทางแถวนั้น

พเยียทำหน้าเหรอหราเมื่อรู้ว่า ‘ห่อหมก’ ที่พายพัดพูดถึง คงไม่ใช่เรื่องทะลึ่งอย่างที่คิด

“พายไม่ได้ไปลบหลู่นะอุ๋งอุ๋ง พายแค่อยากเอาห่อหมกไปเซ่นไหว้คุณตา ห่อหมกของนับตังค์อร่อยมาก ถ้าคุณตาได้ชิมก็คงจะดี” พายพัดอธิบายให้คนรักฟัง พเยียได้ยินพายพัดเรียกใบเมี่ยงว่าอุ๋งอุ๋งก็เริ่มพินิจใบเมี่ยงอย่างจริงจัง

“ไปๆ ตังไป ลุงไปด้วยกันนะ หรือว่าป๊อด” นับตังค์ตอบรับก่อนจะชวนพญา มีคุณเห็นนับตังค์ชวนพญาก็ส่งสายตาดุๆ ไปให้นับตังค์

“น้องตังดูถูกพี่พญาคนนี้เสียแล้ว เรื่องไปดูห่อหมก พี่ถนัดนักเชียว เห็นมีคนพูดกันนานแล้วว่าเฮี้ยน เดี๋ยวพี่พญาคนนี้จะทำให้เห็นว่าอะไรเฮี้ยนกว่ากัน” พญาถือว่านี้เป็นโอกาสที่จะโชว์ความแมนให้นับตังค์ได้เห็น

“ตำนานอะไรเหรอ” คีตะถามเพราะไม่รู้เรื่อง

พเยียพอจะเดาออกว่าเป็นเรื่องตำนานห่อหมกจึงเล่าให้คีตะฟัง เพราะเธอก็เคยได้ฟังเรื่องนี้ต่อๆ มาเหมือนกัน คีตะได้ฟังก็ลูบแขนยกใหญ่

“เมี่ยงไม่ไปนะ เมี่ยงจะดูด้วงให้” ใบเมี่ยงไม่อยากไปเลยอาสาดูแลด้วงให้ พายพัดทำหน้างอเพราะอยากให้ใบเมี่ยงไปด้วยกัน

“บอสไปรึเปล่า” นับตังค์หันมาถามมีคุณที่นั่งทำหน้านิ่งตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว นับตังค์แอบเอานิ้วสะกิดที่ขาของมีคุณ แต่มีคุณก็ขยับขาหนี

“ไม่ไป พี่มีงานอีกเยอะต้องทำ” มีคุณปฏิเสธ

“เยียขอตัวดีกว่า พี่คิวจะไปเหรอคะ” พเยียหันมาถามคีตะ

“กลัวก็อยู่บ้าน” นับตังค์ยักคิ้ว

“ใครกลัว มีแต่คนบ้านนอกแค่นั้นที่เชื่อเรื่องไร้สาระ ไปก็ได้ คุณไปกับคิวนะ นะครับ มีคุณไปด้วยคิวก็อุ่นใจ” คีตะยักไหล่ให้นับตังค์ก่อนจะหันไปชวนมีคุณ

“อืม ไปก็ได้” มีคุณพยักหน้า

ที่มีคุณตัดสินใจไปไม่ใช่เพราะคีตะอ้อน แต่เพราะไม่อยากปล่อยนับตังค์ไปกับคนอย่างพญา เขายอมรับว่าเมื่อครู่หึงและหวงนับตังค์มาก เขาน้อยใจนับตังค์ที่แขวะเขาต่อหน้าคนอื่น ไม่ใช่ว่าไม่เคยโดนนับตังค์ต่อปากต่อคำ แต่ทำต่อหน้าพญาแบบนี้มันทำให้เขาหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ แถมยังชวนพญาก่อนที่จะชวนเขาอีก แต่เมื่อเห็นท่าทีที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยของนับตังค์อาการหงุดหงิดหึงหวงจึงเบาบางลงแล้วนึกเป็นห่วงแทน

“งั้นไปเจอกันที่ปากทางขึ้นน้ำตกตอนสองทุ่ม” พญาเอ่ยปากนัดหมายหลังจากที่อิ่มเอมกับอาหารกลางวันเสร็จสิ้นแล้ว

“ไม่ต้อง ตังจะไปรับเอง ไปรถคันเดียวพอ เดี๋ยวไปยืมรถคุณปู่ ลุงเตรียมพระห้อยคอไปเยอะๆ ก็แล้วกัน” นับตังค์บอกกับพญาก่อนจะหันมายิ้มให้พายพัด

“พี่จะรอนะ” พญายกยิ้มแม้จะตะขิดตะขวงใจกับตำแหน่ง ‘ลุง’ ที่นับตังค์มอบให้ 

พญาเตรียมแผนเอาไว้ในใจแล้ว ตั้งใจจะให้ลูกน้องของตัวเองไปรอแถวนั้นแล้วหลอกให้ทุกคนกลัว เขาจะถือโอกาสนั้นพานับตังค์แยกตัวออกมา แล้วปลอบประโลมจนน้องนับตังค์ซาบซึ้งใจ แค่คิดก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ขอแค่ได้กอดปลอบพี่พญาคนนี้ตายตาหลับแล้ว


ก่อนจะกลับ พญาก็ขอคุยกับมีคุณเป็นการส่วนตัว มีคุณจึงเชิญพญาให้ไปคุยที่ห้องทำงาน คีตะจะขอตามมาด้วยแต่เจอพญาดุจนหน้าเจื่อนไป พเยียจึงต้องรีบพาคีตะออกไปนั่งเล่นรอที่สวนหย่อมของร้าน พเยียรู้ดีว่าเวลาพญาหงุดหงิดมันน่ากลัวกว่าที่คีตะจะคาดถึง

“ผมขอพูดแบบตรงไปตรงมาเลยนะ ผมอยากมาเจรจาเรื่องการขอซื้อร้านต่อจากคุณ อย่าเพิ่งปฏิเสธผม ผมไม่ได้เร่งรัดอะไรถ้าคุณยังไม่อยากขาย แต่ถ้าคุณมีแนวโน้มที่จะขาย ผมยินดีจะซื้อในราคาที่คุณเสนอมาแบบไม่ต่อราคาเลย ที่สำคัญ ผมยินดีจ่ายค่ามัดจำล่วงหน้าเอาไว้ก่อนครึ่งหนึ่งในกรณีถ้าคุณมีระยะเวลาให้กับทางผมได้รอ ลองเอาไปคิดดูนะครับ” พญาเปิดประเด็นแบบตรงไปตรงมา ยิ่งเห็นมีคุณเงียบก็ยิ่งคิดว่ามีคุณอาจจะสนใจในข้อเสนอ พญาหยิบกระดาษมาหนึ่งแผ่นแล้วเขียนตัวเลขสองแถวลงไปก่อนจะยื่นให้มีคุณ

“ที่จะคุยกับผมที่เท่านี้ใช่ไหม” มีคุณถาม เขารู้ว่าตัวเลขแถวแรกที่พญาเขียนใส่กระดาษมาให้คือเบอร์โทรของพญา ส่วนตัวเลขแถวที่สองนั้นทำให้มีคุณอึ้งไปเหมือนกัน เพราะมันคือจำนวนเงินที่พญาเสนอมา มันมากกว่าที่เขาตีราคาที่ดินที่นี่เอาไว้ถึงสามเท่า

“เรื่องธุรกิจก็มีแค่นี้ แต่เรื่องอื่นผมไม่คิดเจรจา” พญาพูดและวางท่าให้ดูเหนือกว่า

“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญกลับไปได้แล้วครับ ผมมีงานต้องทำต่อ ขอบคุณที่มาร่วมทำบุญร้าน อันที่จริงคุณน่าจะบอกผมก่อนว่าจะมา ผมจะได้ทำขนมจีบใส่แห้วเอาไว้ต้อนรับ” มีคุณเน้นคำว่าแห้ว

พญาจ้องหน้ามีคุณก่อนจะรีบหันหลังเดินออกจากห้องทำงานของมีคุณไป มีคุณหัวเราะตามไล่หลังไป แต่เมื่อพญาเดินไปไกลแล้วมีคุณก็ถอนหายใจ มองกระดาษในมือแล้วก็ตัดสินใจทิ้งมันลงไปในถังขยะ




(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 26-06-2017 11:51:25
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


เมื่อใกล้ถึงเวลาที่นัดหมายกับพญาเอาไว้ ทุกคนก็เตรียมจะออกเดินทางไปรับพญากับคีตะที่โรงแรม แต่ด้วงร้องไห้งอแงตามนับตังค์ไม่ยอมหยุดจนสุดท้ายนับตังค์ก็ตัดสินใจเอาด้วงไปด้วย ใบเมี่ยงก็เลยตัดสินใจตามไปด้วยอีกคน

นับตังค์เลือกที่จะเอารถโฟร์วีลล์คันใหญ่ของคุณปู่ไปรับพญากับคีตะเพราะเป็นรถแบบหกที่นั่ง พายพัดอาสาที่จะขับไปให้ นับตังค์ให้ใบเมี่ยงนั่งหน้าคู่ไปกับพายพัด ส่วนตัวเองนั่งคู่ไปกับมีคุณที่เบาะตอนกลางโดยอุ้มหนูด้วงนั่งตักเอาไว้ เมื่อไปถึงโรงแรมของนายหัวพยนต์ พญากับคีตะก็เดินมาที่รถ คีตะไม่ยอมไปนั่งเบาะหลัง นับตังค์จึงให้คีตะนั่งตอนกลางไปกับพญา ส่วนตัวเอง มีคุณและด้วงไปนั่งที่เบาะท้ายแทน แม้คีตะจะรู้สึกขัดใจที่ต้องไปนั่งคู่ไปกับพญา แต่ก็ไม่อยากเรื่องมากเพราะไม่อยากทำตัวร้ายกาจตลอดเวลาต่อหน้ามีคุณ

พายพัดขับรถไปจนถึงสามแยกที่จะขึ้นไปยังน้ำตกพระครามก็ชะลอรถเพราะทางข้างหน้าค่อนข้างจะมืดสนิท พญาแอบกดโทรศัพท์เพื่อส่งสัญญาณให้ลูกน้องของตัวเองรู้ว่ามาถึงสามแยกแล้ว

“ต้องเข้าไปทางนั้นใช่ไหม ไปที่ศาลตายายก่อน ตังจะเอาห่อหมกไปไหว้” นับตังค์ชี้บอกพายพัด

“รถคงเข้าไปได้อีกไม่เท่าไหร่ สงสัยต้องเดินเข้าไป” พญาบอกก่อนจะแอบลอบยิ้ม

“นั่นบ้านใคร” ใบเมี่ยงชี้ไปที่บ้านที่เห็นอยู่ไกลๆ เห็นไฟดวงเล็กๆ สีเหลืองนวลห้อยอยู่หน้าบ้านเพียงดวงเดียว

“พี่สายรุ้งว่าแถวนี้ไม่มีบ้านใครแล้ว หรือจะบ้านของตากับยาย แต่มันร้างมานานแล้วทำไมถึงมีไฟได้” พายพัดพูดขึ้นมาก่อนจะจอดรถที่ริมถนนแล้วมองเข้าไปที่ตัวบ้าน แต่มันก็ไกลเกินจะเห็นได้ชัด

“นั่นสิ ทำไมมีไฟเปิดได้ล่ะ” คีตะถามขึ้น จากที่ทำปากกล้าบอกว่าไม่กลัวตอนนี้คีตะหน้าซีดจนแทบไม่มีสีเลือด

เมื่อคีตะพูดจบเสียงเพลงในรถก็แผดดังขึ้นมาเองจนทุกคนตกใจ ยกเว้นหนูด้วงที่นั่งหัวเราะชอบใจเพราะเป็นเพลงเด็กที่ด้วงเคยฟังประจำ คีตะตะโกนบอกให้พายพัดลดเสียงลง แต่พายพัดตะโกนบอกว่าเขากดลดเสียงไม่ได้ พญาไม่เชื่อว่าพายพัดพูดความจริงจึงโน้มตัวไปกดปุ่มลดเสียงเอง แต่พอพญาปล่อยมือจากปุ่ม หน้าปัดก็โชว์สัญลักษณ์ว่าเสียงถูกเร่งขึ้นมาใหม่ คีตะเริ่มหวาดกลัวจนขยับเข้าไปกอดแขนของพญาโดยอัตโนมัติ พญาเองก็อึ้งไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า

“พวกผมมาดีครับ อยากเอาห่อหมกมาไหว้ตากับยาย” นับตังค์ยกมือไหว้แล้วพูดออกมาเสียงดัง พักเดียวเสียงเพลงก็เบาลงเองอย่างน่าอัศจรรย์

“กลับเถอะคุณ” คีตะหันมาอ้อนวอนมีคุณเมื่อเห็นว่าชักไม่ชอบมาพากลแล้ว

“ได้ไง ไหนว่าไม่กลัวไง” พญาดึงแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมของคิวก่อนจะรีบพูดออกมา ขืนกลับตอนนี้เขาก็ไม่ได้กอดนับตังค์กันพอดี แผนที่คิดมาก็พังหมด

“นั่นไงศาล” พายพัดชี้ให้ทุกคนดูศาลไม้ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านไม้หลังที่เห็น

“ตังจะเอาห่อหมกไปไหว้นะ รอกันอยู่ในรถนี่แหละ” นับตังค์บอกทุกคน

“พี่จะไปเป็นเพื่อน” มีคุณทำท่าจะลงจากรถ

“พี่ดูด้วงดีกว่า ตังไปแวบเดียว” นับตังค์ส่งด้วงให้มีคุณอุ้มเอาไว้ก่อนจะเปิดประตูระลงไป

“พี่ไปด้วย” พญาได้ทีก็รีบตามนับตังค์ลงไป

มีคุณมองตามไปด้วยความเป็นห่วงแต่ตามไปไม่ได้เพราะตอนนี้ด้วงซบกอดเขาแน่นเหมือนกลัวว่าจะถูกเขาทิ้งไปอีกคน

นับตังค์ถือกล่องห่อหมกลงมาพร้อมกับธูปเทียนและดอกไม้ที่เตรียมเอามา หนทางข้างหน้าค่อนข้างจะมืดและรกไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า มีเพียงแสงไฟจากรถที่ส่องมาพอให้เห็นทางบ้าง แต่พอเดินลึกเข้ามาจนแสงไฟจากรถมาไม่ถึง นับตังค์ก็จุดเทียนส่องทางมา นึกบ่นตัวเองในใจว่าทำไมถึงลืมเอาไฟฉายติดตัวมาด้วย

นับตังค์กับพญาเดินมาถึงศาลไม้ที่เต็มไปด้วยใบไม้แห้ง บ่งบอกให้รู้ว่าไม่มีใครมาดูแล ช่วงที่นับตังค์กำลังหยิบใบไม้ออกจากศาลและจุดธูปเทียน พญาก็กดโทรศัพท์ส่งข้อความบอกลูกน้องให้เริ่มจัดการตามแผน

นับตังค์วางกล่องห่อหมกลงแล้วยกมือไหว้บอกในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจมาในคืนนี้ สายลมที่เคยเงียบสงบอยู่ก็กลับพัดแรงขึ้นมาอย่างน่าประหลาด พญามองไปรอบๆ แล้วก็ลูบแขนของตัวเอง นึกชมลูกน้องของตัวเองในใจว่าสร้างบรรยากาศน่ากลัวได้เนียนดี เห็นทีเขาต้องตกรางวัลพวกมันอย่างงาม

“เฮ้ย” พญาร้องเสียงดังเมื่อประตูบ้านไม้หลังเก่าที่อยู่ลึกเข้าไปในดงป่ากระแทกกับวงกบอย่างแรง จากที่คิดแผนเอาไว้ว่านับตังค์ต้องกลัว แต่ตัวเองดันเผลอตกใจร้องดังจนเสียฟอร์ม จากที่นึกชมลูกน้องเมื่อครู่ตอนนี้เขาอยากจะด่าที่มันแกล้งเนียนเกินไปจนทำให้เขาตกใจไปด้วย

“ไหว้เสร็จแล้ว ไปดูในบ้านกัน” นับตังค์ชวน

“ไปสิ” พญายกยิ้ม พวกลูกน้องเขาคงอยู่ในนั้น ดีไม่ดีถ้ามันแกล้งได้ดี เขาอาจจะได้จูบนับตังค์แทนการกอดปลอบก็ได้

ยังไม่ทันที่สองคนจะเดินลึกเข้าไปถึงตัวบ้าน ลูกน้องของพญาต่างก็วิ่งสวนออกมาแล้วตะโกนร้องเสียงดัง พญาเห็นลูกน้องของตัวเองวิ่งเตลิดไปคนละทางสองทางก็คิดว่าเป็นแผนที่จะทำให้นับตังค์กลัวจึงได้แต่กระหยิมยิ้มย่องในใจ ทำเป็นโวยวายตามไปด้วยเพื่อให้นับตังค์ตกใจ แต่พอจะหันไปจับมือเพื่อดึงนับตังค์มากอดก็พบแต่ความว่างเปล่า พญาร้องเรียกหานับตังค์แต่ไม่มีเสียงตอบกลับจึงตัดสินใจจะเดินกลับไปที่รถ แล้วจู่ๆ พญาก็หน้าซีดเผือดเมื่อเดินผ่านศาลตากับยาย สิ่งที่ทำให้พญาตกใจจนก้าวขาแทบไม่ออกคือชายแก่คนหนึ่งกำลังควักห่อหมกบนพื้นขึ้นมาถือเต็มสองมือสองไม้ และที่ปากชายแก่เต็มไปด้วยเลือดดูน่าสยดสยองอย่างมาก

“นี่ไม่ใช่ลูกน้องกู ชะ ชะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย ผะ ผะ ผีเปรตหลอกกู พวกมึง มะ มะ มาช่วย กู กะ ก่อน” พญาพยายามจะตะโกนร้องเรียกลูกน้องแต่ก็ทำได้แค่พูดติดๆ ขัดๆ

“กินไหม” เสียงแหบแห้งจากชายแก่ดังมาก่อนที่เจ้าของเสียงจะทำท่าลุกขึ้นเดินมาหาพญา

จากที่ยืนตะลึงอยู่นาน ตอนนี้พญาโกยอ้าวแบบไม่คิดชีวิต จนกระทั่งวิ่งไปถึงที่รถของมีคุณ พอพญาเปิดประตูรถมาเจอบางอย่างตรงหน้าก็ช็อกแล้วก็เป็นลมหมดสติล้มลงไปกองกับพื้นทันที

...

“กล้าดีนักนะมึง”

เสียงเข้มของใครบางคนดังอยู่ที่ข้างหูของนับตังค์ ตอนนี้นับตังค์ถูกมือใหญ่หยาบกร้านปิดปากอยู่จนไม่สามารถส่งเสียงได้ แต่ถึงจะถูกลิดรอนอิสระแต่นับตังค์กลับไม่ดิ้นรนอะไร ยังคงยืนนิ่งเฉยจนอีกฝ่ายแปลกใจ มันยืนอยู่ที่ด้านหลังของนับตังค์และล็อกตัวของนับตังค์เอาไว้ สุดท้ายเจ้าของมือก็ยอมเปิดปากของนับตังค์ให้เป็นอิสระ

“จะกลับมาแก้แค้นรึไง ไอ้เท่ง” นับตังค์จำเสียงของมันได้ มันคือลูกน้องของนายหัวพยนต์ คนที่นับตังค์เล่นงานมันจนหมอบ

“จำกูได้ด้วย” เท่งถามและแสร้งทำว่าไม่มีความกังวลใด ทั้งที่จริงเท่งกำลังกังวลเป็นอย่างมากที่นับตังค์จับได้ว่าตัวเองเป็นใคร

เท่งอยากจะแก้แค้นนับตังค์มานานแล้ว แต่ติดที่พญาพูดเอาไว้ว่าห้ามแตะต้องนับตังค์ จนเท่งมาได้ยินไอ้ก้านลูกน้องของพญาพูดถึงแผนการหลอกผีให้นับตังค์กลัวขึ้นมาจึงได้อาศัยโอกาสนี้กลับมาชำระแค้น เขาไม่คิดว่านับตังค์จะจำเขาได้ อุตส่าห์คลุมหน้าคลุมตา คิดว่าจะเล่นงานให้น่วมแล้วหนีไป แต่เมื่อนับตังค์จำเสียงเขาได้เขาคงปล่อยนับตังค์เอาไว้ไม่ได้ไม่อย่างนั้นคงที่ตายคงเป็นตัวเขาเอง

“แน่จริงมาสู้กันตัวต่อตัวสิวะ” นับตังค์ท้าทาย

“กูไม่โง่ ไม่ต้องมาท้าทายกู” เท่งรู้ดีว่านับตังค์มีชั้นเชิงมวยไทย เรื่องอะไรจะสู้ตัวต่อตัวให้ตัวเองบาดเจ็บอีก

“มึงขี้ขลาด” นับตังค์พูดจบก็ถองข้อศอกไปที่ท้องของเท่งอย่างแรง เท่งไม่ทันตั้งตัวจึงเสียหลักเซไปด้านหลัง

“มึงตายเถอะ” เท่งชักมีดขึ้นมาแล้วเตรียมตัวจะพุ่งไปหานับตังค์

นับตังค์เบี่ยงตัวหลบทันแต่ในบ้านมันมืดมากจนแทบไม่เห็นอะไร มีแสงไฟด้านนอกเพียงริบหรี่ที่ลอดเข้ามา พอเท่งพุ่งตัวมาอีกครั้ง กว่านับตังค์จะเห็นเท่งก็มาใกล้ตัวแล้ว นับตังค์จะเบี่ยงหนีแต่ตัวไปติดกับกระดานไม้ที่พิงขวางอยู่ คิดว่าคงหลบไม่ทันจึงยกมือขึ้นมาตั้งใจว่าอย่างน้อยก็ใช้แขนรับมีดแทนตัวไปก่อน แต่ความคมกริบของมีดไม่ได้ถูกตัวของนับตังค์แม้แต่น้อยเพราะมีบางอย่างมาขวางเอาไว้เสียก่อน

ไฟฉายกระบอกใหญ่สาดแสงเข้ามา นับตังค์เห็นว่าคนที่ยืนบังตัวเองเอาไว้ก็คือมีคุณ ตอนนี้ที่แขนของมีคุณมีเลือดไหลออกมาเยอะพอสมควร เท่งตกใจที่มีคนอื่นเข้ามาช่วยนับตังค์จึงรีบลนลานหนีออกไปทางด้านหลังของบ้าน นับตังค์มองไปที่คนส่องไฟ พอเห็นได้ชัดก็ตกใจเล็กน้อยเพราะเป็นชายสูงวัยหนวดเครารุงรัง ที่ปากและหนวดของเขาเต็มไปด้วยเลือด

“พี่ เป็นยังไงบ้าง เลือดไหลเยอะเลย” นับตังค์เลิกสนใจชายสูงวัยแล้วหันมาหามีคุณ

“ไม่เป็นไร ขอบคุณคุณน้ามากครับ” มีคุณกดแผลของตัวเองเอาไว้ก่อนจะก้มหัวขอบคุณคนที่มาส่องกบบริเวณนี้พอดี

ชายสูงวัยยิ้มให้มีคุณกับนับตังค์ เขาเป็นคนไร้บ้านและแอบมาอาศัยอยู่ที่บ้านร้างนี้ อาศัยส่องกบกับหาของป่ากินกันตายไปวันๆ วันนี้มีพวกวัยรุ่นมันมาก่อกวนที่บ้านร้างแห่งนี้ เขาจึงไล่มันไปเพราะกลัวพวกมันมาซ่องสุมเล่นยา พอพวกมันเห็นเขาก็ตกใจแล้วชกเขาเสียจนเลือดกบปาก จากนั้นพวกมันก็วิ่งหนีไป ข้าวก็ยังไม่ได้กินยังมาปากแตกอีก กลับไปส่องกบก็ไม่มีกบสักตัว โชคดีที่มีคนเอาห่อหมกมาไหว้ที่ศาล ทั้งที่ไม่มีคนมาไหว้ศาลร้างนี้นานแล้ว เขาจึงถือว่ามีลาภปาก และยิ่งรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันโชคดีสองเด้ง เพราะเขาไม่ได้กินของอร่อยแบบนี้มานานมากแล้ว ไม่รู้ว่าใครนำของอร่อยนี้มาวางไว้ ระหว่างที่กำลังอร่อยกับห่อหมก ก็ยังมีวัยรุ่นอีกคนมาเจอกับเขาอีก พอเห็นเขาก็ทำท่าเหมือนเห็นผีแล้วก็วิ่งหนีไปอีก เขาจึงตั้งใจเอาห่อหมกกลับไปกินต่อที่บ้านร้าง ขณะที่กำลังจะกลับบ้าน ก็มาเจอพ่อหนุ่มคนนี้วิ่งมาตามหาคนรัก เขาจึงช่วยส่องไฟให้ แปลกใจเหมือนกันว่าพ่อหนุ่มคนนี้รู้ได้ยังไงว่าคนรักของตัวเองอยู่ที่บ้านร้างนี้ พวกวัยรุ่นพวกนั้นก็หนีไปหมดแล้ว แต่ที่น่าแปลกใจกว่าคือเขาคิดไม่ถึงว่าคนรักของพ่อหนุ่มคนนี้ก็เป็นชายหนุ่มเหมือนกัน

“ไม่เป็นไร ฮ่าๆ ดีจัง ไม่มีใครเรียกน้านานแล้ว มีแต่คนเรียกฉันว่าตาแก่ ไปเถอะๆ ไปหาที่ทำแผล” ชายสูงวัยหรือ ‘ช้วน’ พูดกับนับตังค์และมีคุณ

“ขอบคุณมากนะครับพี่” นับตังค์ยกมือไหว้ช้วน ช้วนหัวเราะที่นับตังค์เรียกตัวเขาว่าพี่

“เจอกันอีกทีคงเรียกฉันว่าน้องสินะ ไปๆ ฉันจะช่วยส่องไฟให้” ช้วนโต้ตอบอย่างคนอารมณ์ดีก่อนจะเดินนำทั้งคู่ออกไป

ช้วนส่งทั้งสองคนจนเห็นว่ามีแสงไฟจากรถส่องทางแล้วจึงขอตัวกลับไปที่บ้านร้าง นับตังค์ประคองมีคุณแล้วเดินมาจนถึงรถ ใบเมี่ยงกับพายพัดตกใจที่เห็นแขนของมีคุณเต็มไปด้วยเลือด คีตะก็โวยวายยกใหญ่ กล่าวโทษนับตังค์ที่หาเรื่องจนมีคุณต้องเจ็บตัว มีคุณต้องบอกให้คีตะเงียบ คีตะถึงได้หยุดพูดทั้งที่อยากจะต่อว่านับตังค์ให้มากกว่านี้

“บัยบาย บัยบาย” ด้วงโบกมือออกไปข้างทางก่อนจะหัวเราะยิ้มแย้ม ทุกคนได้แต่เงียบเพราะไม่รู้ว่าด้วงโบกมือให้ใคร แต่ก็ไม่มีใครอยากทักขึ้นมา

คีตะอยากจะร้องไห้ที่ต้องมาเจอกับเรื่องบ้าบอนี้ พญาก็มาสลบจนต้องช่วยกันหามขึ้นรถ ไม่รู้ว่าไปเจอกับอะไรมาถึงทำให้คนอย่างพญาเป็นถึงขนาดนี้ได้ คีตะตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะไปวัดให้พระท่านช่วยรดน้ำมนต์เพราะกลัวว่าวิญญาณแถวนี้จะตามไป



เมื่อรถเคลื่อนตัวออกด้วงก็หันมาซบนับตังค์ นับตังค์กุมมือของมีคุณเอาไว้ตลอดทางจนถึงอนามัยชุมชน คีตะรีบลงมาประคองมีคุณไปทำแผลเพราะด้วงหลับคาอกของนับตังค์อยู่จึงลุกไปไม่ได้ ส่วนใบเมี่ยงเดินลงไปขอยาดมจากเจ้าหน้าที่มารมที่จมูกของพญา ไม่นานพญาก็ฟื้น

“น้องตังหายไปไหนมา” พญาถามหลังจากที่ได้สติแล้ว สีหน้ายังซีดเสียวจนพายพัดแอบขำ

“ลูกน้องของลุงเกือบฆ่าบอสของตัง” นับตังค์พูดอย่างเคืองๆ

“ใคร ไอ้ก้านเหรอ มันทำอะไร แล้วมันทำอะไรน้องตังรึเปล่า” พญาตกใจเมื่อมองไปรอบๆ แล้วเห็นว่ารถมาจอดอยู่ที่หน้าอนามัยของชุมชน

“ไม่ใช่ก้าน แต่เป็นไอ้เท่ง มันตั้งใจจะแก้แค้น  มันจะแทงตัง บอสมาช่วยพอดี” ใจจริงนับตังค์อยากจะเจอมันแล้วซัดมันให้พิการไปเลย แต่คิดพญาควรจะจัดการกับลูกน้องของพ่อตัวเอง

นับตังค์รู้ว่าพญาไม่ได้มีใจคิดร้ายกับตัวเอง คงแค่วางแผนให้ลูกน้องของตัวเองหลอกผีให้นับตังค์กลัว นับตังค์ไม่ได้โกรธเพราะว่าตัวเองก็วางแผนกับพายพัดหวังจะแกล้งพญากับคีตะเหมือนกัน ไม่คิดว่าเรื่องมันจะออกมาแบบนี้ อีกอย่างเท่งก็ไม่ใช่ลูกน้องของพญา นับตังค์เดาว่าพญาคงไม่รู้เรื่องนี้ ยิ่งเห็นสายตาของพญาในตอนนี้นับตังค์คิดว่าเท่งคงจะงานเข้าเข้าแล้ว

“พี่ขอโทษนะ” พญาพูดเสียงเรียบๆ ก่อนจะเตรียมตัวลงจากรถ ตั้งใจให้ลูกน้องมารับและไปจัดการอะไรบ้างอย่าง แต่พอสายตาเหลือบไปเห็นสิ่งที่ด้วงกอดเอาไว้ก็หน้าเสียก่อนจะหันไปมองพายพัดกับใบเมี่ยง

“ผมสัญญาว่าจะไม่บอกใคร” ใบเมี่ยงรีบบอกก่อนจะกลั้นขำ

“เมี่ยงไม่พูด ผมก็จะไม่พูด” พายพัดเองก็กลั้นขำเหมือนกัน

“พี่ไปก่อนนะ” พญารีบลงจากรถ

“มีอะไรเหรอ” นับตังค์เห็นพญาเดินลงไปแล้วเตะขาไปมากับลมเหมือนคนหัวเสียก็สงสัย

“ก็พอหมอนั่นเห็นน้องด้าวของด้วงก็สลบไปเลย” ใบเมี่ยงพูดจบก็หัวเราะลั่น

“ไหนว่าจะไม่บอกใครไงครับอุ๋งอุ๋ง ช่างเมาท์นะเรา” พายพัดจับคางของใบเมี่ยงส่ายไปมา

“โถ น่าสงสารนิ” นับตังค์มอง ‘น้องด้าว’ ตุ๊กตาเอเลี่ยนของด้วงแล้วก็อยากขำ แต่ตอนนี้ใจของนับตังค์ไม่สดใสเอาเสียเลย ยังคงห่วงว่ามีคุณจะเป็นยังไงบ้าง


สักพักใหญ่มีคุณก็เดินออกมาพร้อมกับคีตะ พายพัดไปส่งคีตะที่โรงแรม ทีแรกคีตะจะอ้อนขอไปนอนกับมีคุณที่บ้านโดยอ้างว่าจะดูแลมีคุณเอง แต่เมื่อมีคุณปฏิเสธตรงๆ คีตะจึงจำต้องยอมกลับไปนอนที่โรงแรม เมื่อมาถึงบ้านแล้วใบเมี่ยงก็มาอุ้มหนูด้วงไปเพราะคิดว่าคืนนี้นับตังค์ต้องดูแลมีคุณ มีคุณเล่าว่าถูกเย็บไปหลายเข็มเพราะแผลลึกพอสมควร

มีคุณกลับขึ้นมาถึงห้องก็เดินไปนั่งที่เตียง นับตังค์รีบเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะยกกะละมังใส่น้ำออกมาเพื่อเตรียมตัวจะเช็ดตัวให้มีคุณ มีคุณปล่อยให้นับตังค์ดูแลตัวเขาแล้วแอบลอบยิ้ม จนกระทั่งเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มีคุณเสร็จนับตังค์ถึงได้หายเข้าไปในห้องน้ำ นานจนมีคุณเกือบจะหลับ เมื่อนับตังค์ออกมามีคุณก็เห็นว่านับตังค์ตาแดงเหมือนผ่านการร้องไห้มา

“มานี่สิ เป็นอะไร” มีคุณดึงมือของนับตังค์ให้มานั่งใกล้ๆ

“ตังขอโทษนะ ตังทำให้พี่เจ็บ ร้านจะเปิดอยู่แล้ว พี่ต้องมาเจ็บแบบนี้” นับตังค์ลูบที่ผ้าพันแผลของมีคุณเบาๆ รู้สึกผิดมากที่หาเรื่องสนุกจนมีคุณได้รับบาดเจ็บ นอกจากความสูงที่นับตังค์กลัวแล้ว เลือดของมีคุณก็ทำให้นับตังค์กลัวจนยืนแทบไม่อยู่เหมือนกัน

“มันไม่ใช่ความผิดของตังหรอก ร้องไห้ทำไม ปกติร้องไห้ยากไม่ใช่เหรอเราน่ะ” มีคุณเห็นหน้าจ๋อยๆ ของนับตังค์ก็อดสงสารไม่ได้ เขาเห็นสายตาของนับตังค์ตอนที่เห็นเขาบาดเจ็บ เขารู้ได้ทันทีว่านับตังค์เป็นห่วงเขาแค่ไหน ยิ่งตอนที่จับมือเขาตลอดเวลาจนถึงอนามัย มือของนับตังค์สั่นจนดูน่าสงสารกว่าคนเจ็บอย่างเขาเสียอีก

“มันเป็นความผิดของตัง ตังนึกสนุกอยากแกล้งคนอื่นจนกรรมตามทันเลย”

“สรุปว่าที่ชวนหมอนั่นไปเพราะอยากแกล้งเขารึไง” มีคุณเพิ่งมารู้ จากที่แอบน้อยใจคนรักอยู่บ้าง ตอนนี้หายเป็นปลิดทิ้ง

“ก็ใช่น่ะสิ อยากมาวุ่นวายกับตัง แฟนเก่าพี่ก็ด้วย ขี้ตื้อชะมัด ตังแกล้งใช้รีโมทบังคับวิทยุให้เสียงดังกับให้พายพัดรอเอาไฟฉายส่องเจ้าด้าวตอนเดินกลับมา ไม่คิดว่าจะมีเรื่องไอ้เท่งมาเกี่ยว แต่ใจจริงตังก็อยากไปไหว้ศาลตากับยายจริงๆ ถ้าพายพัดไม่ชวนเสียก่อนก็กะว่าจะชวนพี่ไปด้วยกัน”

“มาหอมทีซิ” มีคุณจะหอมนับตังค์ แต่นับตังค์เป็นฝ่ายไปหอมมีคุณเสียก่อน ทำเอามีคุณหุบยิ้มไม่ได้เลย

“พี่เจ็บไหม” นับตังค์ถามอย่างห่วงใย

“เจ็บ แต่ถ้าพี่ปล่อยให้มีดบาดตัง พี่คงเจ็บกว่า” มีคุณหอมนับตังค์กลับบ้าง

“ซึ้งอะ” นับตังค์ทำท่าจะร้องไห้

“ไม่ต้องซึ้งหรอก ปล่อยให้เชฟมือเจ็บร้านก็ไม่ได้เปิดกันพอดี” มีคุณพูดต่อ

“ดีนะไม่ทันเสียน้ำตาให้ ชิ” นับตังค์เบ้ปากใส่ก่อนจะหอมแก้มมีคุณแรงๆ เป็นการแก้แค้น

“ไม่ทันอะไร ตาแดงออกมาแบบนี้” มีคุณย้อน

“สบู่มันเข้าตา อย่าเข้าใจผิด” นับตังค์แก้ตัว

“คืนนี้ขอขั้นซีได้เปล่า” มีคุณอ้อน

“แขนเจ็บยังไม่เจียมนะ”

“ขั้นซีไม่ต้องใช้แขนมั๊ง” มีคุณทำท่าคิดจนนับตังค์หมั่นไส้

“ไม่ได้ ไอ้รันมันเคยสอนตังว่า ถ้าเรายังไม่รู้จักชื่อหมาของคนที่มาจีบเรา เราห้ามไปรักเขาและห้ามมีอะไรด้วย”

“ทำไมล่ะ”

“ก็แปลว่าเรายังไม่รู้จักเขาดีพอไง”

“ได้ไง พี่ไม่ได้เลี้ยงหมา แบบนี้ก็อดตลอดชีพอะสิ”

“ก็ใช่ไง พี่ไม่มีหมา ตังเลยหยวนให้ก่อน เพราะฉะนั้นแค่ขั้นบีไปก่อน”

“แต่นานๆ ทีจะมีโอกาสอยู่กันสองต่อสองนะ” มีคุณยังอ้อนต่อ

“บีพอ ว่าไง โอเคไหม” นับตังค์ต่อรอง

“โอเคไหมก็ดูที่ห่อหมกของพี่สิ” มีคุณบุ้ยใบ้ให้นับตังค์ดูบางอย่างที่มันกำลังตื่นตัว

“ถามหน่อยเหอะ หมอเขาฉีดยาชาหรือฉีดยาม้าให้ ทำไมคึกขนาดนี้ โอ้ย...น่ากลัวกว่าผีก็ความหื่นของพี่นี่แหละ” นับตังค์โวยวายเมื่อมองไปแล้วเห็นว่ามีคุณของขึ้นได้อีก

“เออ พูดถึงผี นึกถึงคุณน้าที่บ้านร้างคนนั้น พี่ว่าจะชวนเขามาอยู่ด้วยกัน สงสารแก อยู่คนเดียวต้องไปหากบหาเขียดกิน” มีคุณขยับตัวลงนอนและดึงให้นับตังค์ลงมานอนซบแขนข้างที่ไม่เจ็บ

“ดีเหมือนกัน ให้พักกับพี่บ่าวไปก่อนแล้วค่อยหาที่พักให้ใหม่ ว่าแต่เขาเป็นคนบอกพี่เหรอว่าตังถูกไอ้เท่งจับตัวไป” นับตังค์ถาม

“ตอนแรกพี่เห็นคนวิ่งออกมาจากดงหญ้าสามสี่คนก็รู้สึกเอะใจแล้ว สักพักพอพญาวิ่งออกมาคนเดียวโดยไม่มีตัง พี่ก็รีบลงไปตามหาตังเลย แต่ไม่รู้ว่าจะไปตรงไหนเพราะมันมืดไปหมด แล้วก็ไปเจอผู้ชายคนหนึ่ง น่าจะเป็นชาวบ้านที่มาส่องกบ เขาชี้บอกว่าตังอยู่ที่บ้านร้าง พอพี่วิ่งไปก็ไปเจอกับคุณน้าคนนั้นเข้าพอดี เขาเลยช่วยส่องไฟแล้วพาพี่ไปที่บ้านร้าง”

“เดี๋ยวนะ แล้วชาวบ้านคนที่ชี้บอกพี่เขารู้ได้ไง” นับตังค์ยิ่งนึกสงสัยเมื่อฟังคำบอกเล่าจากมีคุณ

“เออ นั่นสิ ตอนนั้นลืมคิดไป”  มีคุณก็เพิ่งจะเอะใจตอนที่นับตังค์ถาม

“หรือว่าจะเป็นลูกน้องของตาลุงพญา อาจจะรู้ว่าไอ้เท่งจะทำร้ายตังเลยมาบอก” นับตังค์คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ที่สุด

“ก็อาจจะเป็นได้” มีคุณคิดตาม แม้ในใจจะยังคิดว่าชายคนนั้นไม่น่าใช่ลูกน้องของพญา รูปร่างท่าทางดูดีเกินกว่าจะเป็นชาวบ้านอย่างที่มีคุณบอกกับนับตังค์ด้วยซ้ำไป

“เฮ้อ ช่างมัน คิดไปก็ปวดหัว แสดงว่าพี่กับตังยังมีบุญถึงได้มีคนมาช่วยเหลือเนอะ”

“นึกว่าจะมีแต่กรรมลิขิต” มีคุณอดไม่ได้เอาคำพูดนับตังค์มาย้อน

“โห ไม่เอาน่า ตังก็พูดไปงั้นเอง การได้เจอกับพี่จะเป็นกรรมไปได้ยังไง บุญพาวาสนาส่งชัดๆ” นับตังค์รีบอ้อนเอาใจ แต่มีคุณว่ามันเหมือนประชดชัดๆ เลยหัวเราะออกมาอย่างขำๆ

“พี่ดีใจนะที่ได้เจอกับตัง ไม่ว่าจะกรรมลิขิตหรือบุญพาวาสนาส่งก็ดีใจ” มีคุณหอมที่ผมของนับตังค์

“อะหือ พูดจานุ่มนวลชวนก่อคดีชะมัด ปล้ำดีไหมนะ” นับตังค์ทั้งเขินทั้งรู้สึกดี

“ขอบคุณนะที่ใจง่ายยอมให้พี่จีบจนติด จะว่าไปยังไม่ทันได้จีบด้วย ตังให้ท่าพี่มากกว่า อ่อยเก่งเหมือนกันนะเรา” มีคุณพูดต่อ

“ว่าแล้ว ดีได้ไม่เคยนานจริง มาโดนลงโทษซะดีๆ” นับตังค์ลุกขึ้นมาก่อนจะเอื้อมมือไปปิดไฟ เสียงหัวเราะของคนทั้งคู่ค่อยๆ เงียบไปพร้อมกับไฟในห้องที่ดับลง


ท้องฟ้ายามราตรีในคืนนี้มืดมิดจนมองไม่เห็นดวงดาว สักพักสายฝนก็โปรยลงมาเบาๆ ทั้งที่ไม่มีเค้ารางมาก่อน พายพัดนอนกอดใบเมี่ยงเอาไว้จนได้ยินเสียงหัวเราะของด้วงจึงได้ชะโงกหน้ามาดู เห็นด้วงกำลังละเมอชูมือชูไม้แล้วหัวเราะร่วน สักพักด้วงก็พูดว่าป้อจ๋าแม่จ๋าอยู่หลายรอบก่อนจะหลับลงตามเดิม พายพัดรู้สึกขนลุกก่อนจะสวมกอดใบเมี่ยงแน่นกว่าเดิมแล้วรีบข่มตาให้หลับ ไม่นานพายพัดก็หลับสนิทไป

ฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมาหนักขึ้นไม่ได้ก่อกวนให้พายพัด ใบเมี่ยงและหนูด้วงตื่น ส่วนคนที่อยู่ในห้องอีกฝากหนึ่งก็ไม่ได้สนใจสายฝนที่กระหนำลงมาเช่นกัน ภายในห้องมีแต่ไอรักร้อนแรงตลบอบอวลอยู่ท่ามกลางสายฝน

มันเป็นอีกวันหนึ่งที่มีเรื่องราวมากมายได้เกิดขึ้นกับมีคุณ เป็นเรื่องราวที่หากเขาไม่ได้มาอยู่ที่นี่มันก็คงไม่เกิดขึ้น เขาเจ็บตัวถึงขั้นเลือดตกยางออก แผลนี้ใหญ่ที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา แต่หัวใจของมีคุณกลับอิ่มเอมและสุขมากกว่าวันไหนๆ สุขจนลืมความเจ็บปวดและความกังวลใดๆ ไปสิ้น เขานึกขอบคุณคุณตาคุณยายผู้สร้างตำนานห่อหมกขึ้นมา เพราะถ้าเขาไม่ได้เจ็บตัวในวันนี้ เขาคงยังไม่แน่ใจว่านับตังค์รักเขามากแค่ไหน แต่วันนี้เขาได้เรียนรู้แล้วว่าความรักของนับตังค์มันไม่สามารถวัดได้จากระยะเวลาที่คบกันหรือการแสดงออกด้วยคำพูดหวานๆ หรือท่าทีออดอ้อน ความรักของนับตังค์เป็นแบบฉบับที่ไม่มีใครเหมือน คงมีอีกมากมายที่เขายังต้องเรียนรู้ความเป็นนับตังค์ให้มากขึ้นและมีคุณหวังว่าจะเป็นทั้งชีวิตของเขาที่จะได้ใช้เวลากับคนคนนี้ 


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


เดี๋ยวกลับมาแก้คำผิดที่หลุดรอดให้ค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ


(https://www.uppic.org/image-E981_59508EB7.jpg)


เครดิตรูปจาก Google


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 26-06-2017 12:39:12
ตอนนี้มีแอบหลอนเบาๆเนอะ ลุงช้วนจะต้องเป็นคนไขความลับในอดีตหลายๆเรื่องต่อไปอีกแน่นวลลลล  // ขนมจีบใส้แห้วกลายเป็นซิกซ์เนเจอร์ประจำตัวลุงพญาไปแล้ว //  มีคุณล้อยันลูกพญาบวชอ่ะ 555555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 26-06-2017 14:11:13
ห่อหมกในตำนาน
 :mew1: :mew1: :mew1:
น้องตังน่ารักจังเลย
เราก็ยังแอบภาวนาว่าไม่อยากให้มีดราม่าเรื่องร้านมีคุณกับน้องตังค์เลยง่ะ
แบบว่าไปดราม่าอื่นๆ เราว่ายังพอไหว
 :mew2: :mew2:

หรือไม่ดราม่าเลยยิ่งดี
เราชอบที่เค้าสองคนเข้าใจกันอ่ะ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่า
อ่านทีไรเราหิวทุกที
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-06-2017 14:19:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 26-06-2017 15:12:25
ดราม่าที่เรากลัวที่สุดคือ ความจริงเปิดเผยว่า ความตั้งใจแรกของมีคุณคือทำร้านครบปีแล้วจะขายเอาเงินไปใช้หนี้
กลัวว่าน้องตังค์จะไม่เข้าใจถึงเจตนาที่เปลี่ยนไปหลังจากได้เจอน้องตังค์

และคิดว่าชาวบ้านที่บอกทาง น่าจะเป็นคุณตาแน่นอน หวานไปแบบนี้เรื่อยๆ นะ ไม่อยากให้มีอะไรเศร้า
สำคัญที่สุด มาอ่านเรื่องนี้จะตอนไหนๆ เราก็หิว แล้วก็ต้องไปหาของกิน โอ๊ย!!! ร้านของมีคุณอยู่ไหน จะไปชิมฝีมือน้องตังค์
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 26-06-2017 15:31:23
จเพิ่งกินข้าวเสร็จ มาอ่านเรื่องนี้เห็นห่อหมกยังน้ำลายไหลได้เลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 26-06-2017 16:09:23
เข้ามาฮากับความหน้าแตกของพญาที่ได้เจอน้องด้าว ถึงขั้นเป็นลมสลบไปเลย สมน้ำหน้าจริงๆ  แต่อยากให้แกล้งคีตะมากกว่าพญา  เพราะหมั่นไส้ในนิสัยและความหน้าด้านของนางมาก

เห็นด้วยว่าควรชวนพี่ช้วนของนับตังค์มาทำงานด้วย  แต่คนที่บอกทางคนแรกน่าจะเป็นวิญญาณพี่ชายนับตังค์หรือเปล่านะ

ห่อหมกในตำนาน ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งฮา บู๊ และจบลงที่ความหื่นของพี่คุณ 

รอวันเปิดร้านอย่างเป็นทางการ

-----------------------
เป็นนิยายที่น่าติดตามอีกเรื่อง แต่แปลกใจที่ไม่ค่อยมีคนเข้ามาเม้น  ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คนเขียน สู้ๆ นะคะ  :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-06-2017 17:36:33
 o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-06-2017 17:58:32
พ่อแม่หนูด้วยไม่อยู่แล้วจริงๆ หรออ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 26-06-2017 19:00:54
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-06-2017 21:30:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 26-06-2017 22:41:18
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 26-06-2017 23:38:02
ฟังเรื่องห่อหมกในตำนานแลดูหลอนนิดๆ แต่เพิ่มความฮาด้วยตาลุงพญานี่ล่ะ555

คุณตาเป็นคนบอกทางพี่คุณให้มาเจอนับตังค์
หนูด้วงโบกมือลานั่นคือตากับยายรึเปล่า (เดา)


สุดท้ายพี่คุณเราก็สายหื่นตามเคย แม้แขนเจ็บก็ตาม

ร้านใกล้เปิดแล้วววว อยากไปทานบ้าง  หิวเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 27-06-2017 07:51:46
เห็นชื่อตอนว่าห่อหมกนี้ต้องหื่นแน่ๆ แต่อ่านไป เฮ้ยไม่หื่นนี่หว่า  แต่สุดท้ายก็จบลงที่ห่อหมกแบบหื่นอยู่ดี 55
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 27-06-2017 13:46:17
ตอนที่พระบอกว่าไม่ต้องห่วงหนูด้วงนี่บอกกับคุณอนันต์รึเปล่าดูแล้วน่าจะห่วงด้วงที่สุด

แอบหลอนหน่อยๆตอนเข้าป่า ชาวบ้านที่บอกทางนี่คุณตาแน่ๆเลย ดีที่มีคุณไปช่วยนับตังค์ทัน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ยิ่งดีขึ้น หวังว่าเมื่อความจริงเปิดเผยมันจะไม่ม่านะ

ดูจากความเป็นนับตังค์แล้วต้องไม่ม่าสิ :hao5:

รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Kunpimook ที่ 29-06-2017 10:59:18
ขอเดาว่า พ่อของด้วงคือพี่ชายของนับตังค์
ทั้งคู่ตายแล้ว คุณปู่น่าจะรู้เรื่องนี้ด้วยเลยดึงเข้ามาเอี่ยว  :katai5: ปมเยอะจังเรื่องนี้ สนุกๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 29-06-2017 22:47:18
น้องร้ายยยย o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 30-06-2017 21:50:34
ตอนนี้แอบหลอน ทั้งหลอนทั้งหิว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 07-07-2017 15:03:00
ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก


ท้องฟ้าในเช้าวันนี้ดูสดใสมากกว่าทุกวัน ซึ่งมันคงเป็นฤกษ์ดีเพราะว่าวันนี้เป็นวันเปิดร้าน ‘มีคุณอนันต์’ เป็นวันแรก และโชคดีทีมีคุณอาการดีขึ้นกว่าเมื่อวานนี้ที่ทั้งไข้ขึ้นและปวดระบมที่แผล นับตังค์เฝ้าดูแลมีคุณทั้งวันไม่ห่าง หนูด้วงก็เหมือนจะรู้งาน ยอมอยู่กับใบเมี่ยงและพายพัดไม่งอแงร้องหานับตังค์เหมือนทุกครั้ง 

นับตังค์กวาดสายตามองดูไปรอบๆ ห้องครัวด้วยความรู้สึกตื่นเต้นปนความภูมิใจ นี่เป็นครั้งแรกที่นับตังค์ได้ยืนอยู่ในครัวในฐานะหัวหน้าพ่อครัวหลัก ที่ผ่านมานับตังค์ต้องทำทุกอย่างตามข้อกำหนดของพ่อซึ่งท่านก็ได้รับข้อกำหนดนั้นมาจากคุณย่าอีกที แต่วันนี้นับตังค์จะได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ได้สร้างสรรค์อาหารในแบบที่เคยคิดฝันเอาไว้ตลอด ส่วนข้อกำหนดหลักของนับตังค์ที่มีให้ทีมงานทุกคนคือ ‘ขอให้ทุกคนทำงานด้วยความสุข มีความซื่อสัตย์ในอาชีพและรักษามาตรฐานที่ดี’ เพียงเท่านี้

ใบเมี่ยงได้รับหน้าที่ให้เป็นเชฟหลักทางของหวานโดยมีพายพัดคอยช่วยเหลือ เมื่อคืนใบเมี่ยงได้รับโจทย์จากนับตังค์มาว่าของหวานสำหรับแขกที่จะเข้ามาทานมื้อกลางวันซึ่งเป็นอาหารจานเดียวนั้น ขอให้ใบเมี่ยงทำขนมไทย จะเป็นขนมแบบไทยเดิมหรือแบบฟิวชั้นก็ให้ใบเมี่ยงเลือกเอง ขอแค่ให้มีความเป็นไทยเข้ามาเป็นส่วนประกอบหลักด้วย ส่วนของหวานสำหรับมื้อค่ำ ซึ่งเป็นรอบที่มีการจองล่วงหน้าเข้ามานั้น นับตังค์บอกถึงเมนูอาหารที่นับตังค์จะทำแล้วให้ใบเมี่ยงคิดเองว่าจะทำอะไร ขอให้ดูไปกันได้กับเมนูหลักของนับตังค์ก็พอ นับตังค์แนะใบเมี่ยงว่า ขอให้แขกได้ทานแล้วรับรู้ได้ว่านี่คือ ‘ขนมจากเชฟใบเมี่ยงแห่งร้านมีคุณอนันต์’ ซึ่งเป็นโจทย์ที่ยากมากสำหรับเชฟมือใหม่อย่างใบเมี่ยง สุดท้ายแล้วใบเมี่ยงก็บอกกับนับตังค์ว่า ตัวเองจะทำ ‘รูบิคเค้ก’ ซึ่งพอทุกคนได้ยินต่างก็พากันถามว่ามันเป็นอย่างไร ใบเมี่ยงได้แต่ยิ้มแล้วบอกว่าขอไม่บอกในตอนนี้ แต่ทุกคนจะได้เห็นพร้อมกับแขกที่มาทานในร้านเลยทีเดียว ส่วนขนมไทยสำหรับมื้อกลางวันใบเมี่ยงจะทำวาฟเฟิลข้าวเหนียวมูนกับไอศกรีมถั่วดำ

ส่วนพายพัดไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือเกร็งอะไรมากในส่วนของเครื่องดื่มซึ่งเขาเป็นคนรับผิดชอบ เพราะพ่อกับแม่เคยจ้างคนมาสอนเขาเพราะเห็นว่าเขาชอบ ตอนนี้เขาจึงได้นำความรู้ที่เคยเรียนมาใช้ จะมีก็แต่ต้องหาสมุนไพร ผักและผลไม้ในท้องถิ่นมาใช้ผสมผสานให้มีเครื่องดื่มที่หลากหลายได้มากที่สุด ซึ่งวันนี้เครื่องดื่มสูตรของพายพัดที่ลูกค้าเลือกจองล่วงหน้าเอาไว้มากที่สุดก็คือ ‘บริ๊งดริ๊งค์’ พายพัดให้คำนิยามลงไปว่า ดื่มแล้วจะสดชื่นตื่นตัว

ในเช้าวันแรกของการเปิดร้าน พนักงานทุกคนมากันพร้อมหน้าตั้งแต่เช้าและตอนนี้กำลังร่วมทานอาหารเช้าด้วยกันตามที่มีคุณเคยแจ้งเอาไว้ว่าระหว่างทานอาหารด้วยกันนั้นนับตังค์เป็นคนที่อธิบายเมนูอาหารสำหรับวันนี้ พร้อมกันนั้นพนักงานทุกคนก็จะได้ชิมอาหารตัวอย่างตามไปด้วย เป็นกฎที่ทุกคนต้องทำ เพราะนับตังค์อยากให้พนักงานได้รับรู้รสชาติของอาหารว่าเป็นเช่นไร จะได้ตอบลูกค้าได้หากลูกค้าต้องการที่จะรู้รายละเอียดเกี่ยวกับอาหาร

“เป็นบุญปากของพวกเราจริงๆ” ‘ม้า’ หนึ่งในพนักงานเสิร์ฟพูดขึ้นมาหลังจากที่ได้ชิมเกี๊ยวปูราดซอสแกงกะหรี่ฝีมือของนับตังค์

“จริงด้วยพี่ม้า ถ้าไม่ได้ทำงานที่นี่คงไม่มีปัญญาได้กินแน่เลย อร่อยจนหยดสุดท้ายเลย” เฮงพูดแล้วอยากจะเลียจานให้เกลี้ยง

“อร่อยจริงเปล่า” นับตังค์ถามก่อนจะหัวเราะกับคำชมของ ‘เฮง’ เด็กเสิร์ฟอีกคนของร้าน

“จริงค่ะเชฟ ข้าวอบอโวคาโด้กับฉู่ฉี่หอยแมลงภู่ก็วิเศษสุดๆ” ปกติมานีไม่ค่อยชอบทานอาหารเช้าหนักๆ แต่วันนี้เธอหยุดกินทุกอย่างไม่ได้จริงๆ

“วาฟเฟิลข้าวเหนียวมูนกับไอติมถั่วดำก็เข้ากันมาก เอ๊ะ ต้องเรียกให้ถูก ไอศกรีมแบล็กบีน ใช่ไหมคะเชฟอุ๋งอุ๋ง” มีนาหันมาถามใบเมี่ยง ซึ่งใบเมี่ยงเริ่มจะชินที่ถูกสองสาวฝาแฝดมานีมีนาแซวเรื่องชื่ออุ๋งอุ๋งจึงได้แต่ยิ้มให้แทนคำตอบ

“ว่าแต่บอสชอบเมนูไหน เห็นดื่มแต่บริ๊งดริ๊ง สามแก้วแล้วนะ” พายพัดถามเมื่อมีคุณขอเติมเครื่องดื่มของพายพัดอีก

“มีนาว่า บอสอยากตื่นตัวมั๊งคะ”

“มานีก็ว่าแบบนั้น” ทั้งสองสาวมานีมีนาหัวเราะรับลูกกันจนนับตังค์ส่ายหน้าให้กับความทะเล้นของสองสาว

“พี่ชอบทุกเมนูแหละ ทุกคนเก่งมาก อร่อยทุกอย่างเลย ขอบคุณทุกคนสำหรับความทุ่มเทนะ มา! สู้ไปด้วยกัน สู้ๆ” มีคุณยื่นมือออกไป ทุกคนลุกขึ้นแล้วโน้มตัวมาวางมือบนมือของมีคุณ

“ฉู้ๆ” ด้วงเห็นทุกคนทำอะไรก็อยากจะทำบ้าง รีบยื่นมือไปข้างหน้าเลียนแบบผู้ใหญ่

นับตังค์ขำความตื่นเต้นของด้วง ตอนนี้ยังหาพี่เลี้ยงให้ด้วงไม่ได้เลยจำต้องเอาด้วงมาอยู่ในครัวไปก่อน ทีแรกมีคุณตั้งใจว่าจะให้อยู่ในห้องทำงานของมีคุณ แต่แขนของมีคุณก็ยังไม่หายเลยจำต้องให้อยู่ตรงนี้ เพราะอย่างน้อยก็ยังมีคนช่วยกันดู อีกอย่างด้วงก็ไม่งอแงหรือทำตัวให้เป็นภาระ แต่ถึงยังไงมีคุณก็ยังประกาศรับสมัครพี่เลี้ยงให้ด้วงอยู่ดี

“สู้ไปด้วยกัน เฮ้ๆ” ทุกคนตะโกนขึ้นพร้อมกันก่อนจะหัวเราะออกมา

“เอาใหม่ๆ รอพี่ด้วยนิ” ขมิ้นรีบตะโกนบอกเมื่อเห็นสมาชิกในร้านกำลังส่งกำลังใจให้กัน

ขมิ้นกับสายรุ้งเพิ่งจะมาถึงร้านเพราะว่ามีคุณให้ขมิ้นไปรับคุณน้าที่อยู่ที่บ้านร้างมา ขมิ้นจึงบอกมีคุณว่าจะเลยไปรับสายรุ้งมาด้วยเลยเพราะบ้านของสายรุ้งเป็นทางผ่าน แต่ปรากฏว่าคนที่เดินเข้ามามีแต่ขมิ้นกับสายรุ้งเพียงเท่านั้น

“น้าเขาไม่ยอมมาเหรอ” มีคุณถามขมิ้น

“ลุงแกบอกว่าให้ตังเป็นคนไปรับแกนิ หมิ้นก็เลยปล่อยแกไปก่อน” ขมิ้นเล่าให้มีคุณฟัง

“เอาไว้พรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน วันนี้เปิดร้านวันแรกตังคงไม่สะดวก กว่าร้านจะปิดก็ดึก” มีคุณตัดสินใจแทนนับตังค์ แต่พอมองหน้านับตังค์ดูก็รู้ว่าอยากจะไปรับคุณน้าคนนั้นเลย ที่เขายังไม่อยากให้นับตังค์ไปไหนมาไหนเพราะตำรวจก็ยังจับเท่งไม่ได้

“พี่ว่าแกคงเอ็นดูเชฟแล้วค่ะ เหมือนจะไม่ไว้ใจคนอื่น” สายรุ้งเล่าบ้าง

“เอาแบบนี้ เดี๋ยวช่วงพักก่อนอาหารค่ำมีเวลาเหลือเฟือ ตังจะไปรับแกเอง ไปกับพี่ขมิ้น แล้วถ้าบอสเป็นห่วงเดี๋ยวตังพาเฮงกับตุ้ยไปด้วยก็ได้” นับตังค์เสนอ

“ก็ได้” มีคุณไม่อยากขัดใจนับตังค์

“ไหน พี่ยังไม่ได้ชิมอาหารเลย” ขมิ้นมองดูบนโต๊ะอาหารแล้วรีบถาม

“เก็บเอาไว้แล้วครับ” ตุ้ยเดินไปหยิบอาหารส่วนของขมิ้นและสายรุ้งมาจัดวางให้

ขมิ้นถึงกับยกนิ้วให้ทีมเชฟทุกคนก่อนจะชมไม่หยุดหลังจากที่ชิมอาหารทั้งหวานคาวรวมถึงเครื่องดื่มแล้ว ขมิ้นกล้าฟังธงเลยว่าร้านอาหารมีคุณอนันต์จะมีชื่อเสียงโด่งดังแน่ๆ เพราะอาหารทุกอย่างสวยงามดูดีทั้งรูปลักษณ์และรสชาติ ขมิ้นคิดว่าฝีมือนายปู่แม้จะอร่อยหาคนเทียบยาก แต่การสร้างสรรค์นั้น นายปู่ก็ยังแพ้เด็กรุ่นใหม่พวกนี้ ทุกอย่างมันดูลงตัวไปหมด ทั้งหมดนี้ขมิ้นขอยกเครดิตให้นายปู่ เพราะนายปู่คนเดียว ตอนนี้นายหัวมีคุณ นับตังค์ รวมไปถึงใบเมี่ยงและพายพัดถึงได้มาอยู่ที่นี่ ไม่เว้นแม้แต่เจ้าตัวเล็กที่กำลังยืนเต้นดุ๊กดิ๊กโชว์ทุกคนอย่างด้วงด้วย

‘คนที่นายปู่พามาเป็นคนเก่งคนดี นายปู่คงจะมีความสุขอยู่ใช่ม้าย’

ขมิ้นมองดูคนในครอบครัวมีคุณอนันต์ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความสุข ได้แต่พูดกับนายปู่อยู่ในใจและหวังว่านายปู่คงจะคอยเป็นกำลังใจให้ทุกคนอยู่บนฟ้านั่น

...

เป็นไปตามที่มีคุณคาดเอาไว้ อันที่จริงต้องบอกว่าเหนือกว่าที่มีคุณคาดเอาไว้พอสมควร เพราะตั้งแต่วินาทีที่เปิดร้าน ร้านก็เต็มไปด้วยลูกค้าที่พากันมาเพราะเห็นจากสื่อโฆษณาต่างๆ ที่มีคุณวางแผนการตลาดเอาไว้ ลูกค้าที่มามีทั้งคนในพื้นที่ คนจากในเมืองและนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แม้ว่าลูกค้าจะเยอะเกินความคาดหมายแต่ด้วยการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีของมีคุณและทีมเชฟ ทุกอย่างจึงผ่านไปได้ด้วยดี แม้จะมีความฉุกละหุกหรือมีปัญหาไปบ้างแต่ทุกคนก็แก้ไขได้ ลูกค้าชาวต่างชาติบางคนถึงกับขอเจอเชฟเพราะต้องการชื่นชมด้วยตัวเอง 

นายหัวพยนต์ซึ่งมาทานอาหารที่ร้านของมีคุณอย่างที่พเยียบอกเอาไว้ก็ยังอดชมนับตังค์ในใจไม่ได้ อาหารทุกจานรสชาติอร่อยมาก วัตถุดิบสดมากและปรุงรสชาติมาอย่างลงตัว แม้จะเป็นอาหารจานเดียวแต่ก็ทำออกมาได้ดีเยี่ยม ถ้าได้นับตังค์ไปเป็นเชฟให้กับโรงแรมก็คงจะสร้างชื่อให้เขาไม่น้อย ซึ่งจุดนี้มันทำให้เขาคล้อยตามคำแนะนำของลูกสาวคนเล็กว่า หากพญาจะมีรสนิยมชอบพอผู้ชายด้วยกัน ผู้ชายคนนั้นก็ควรจะคู่ควรและทำตัวเป็นประโยชน์ให้กับพญาได้ ซึ่งเท่าที่รู้มา ตั้งแต่พญามาชอบผู้ชายที่ชื่อนับตังค์คนนี้ก็ดูจะทำตัวดีขึ้นจนน่าประหลาดใจ

“เป็นไงล่ะพ่อ อร่อยจนอึ้งใช่ไหม” พญาถามเมื่อเห็นว่าบิดาจะเจริญอาหารมากกว่าปกติ

“แกมีปัญญาพาเขาไปทำงานที่โรงแรมไหมล่ะ” พยนต์ถามลูกชาย

“พ่อโอเคเหรอ บอกแล้วว่าน้องตังไม่ธรรมดา” พญารู้สึกดีใจที่พ่อดูจะพึงพอใจกับคนที่เขาแอบรักคนนี้

“ถ้าแกมีปัญญา ฉันก็ไม่มีปัญหา เอาล่ะ ฉันจะกลับแล้ว พวกแกก็อย่างลืมสิ่งที่ฉันสั่งเอาไว้ ขอซื้อที่ดินจากมีคุณให้ได้” พยนต์กำชับลูกชายลูกสาว พอเห็นทนายเคารพจึงรีบปลีกตัวแล้วเดินตามออกมา

“สวัสดีครับนายหัว” เคารพเห็นนายหัวพยนต์เดินมาหาตนก็ยกมือไหว้

“ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ ถ้ายังไงเย็นนี้เชิญที่โรงแรมหน่อยนะ” พยนต์พูดกับเคารพเบาๆ ให้ได้ยินเพียงแค่สองคน

“ครับ ผมขอตัวไปทำธุระสำคัญก่อน เย็นนี้ผมจะไปพบคุณ” เคารพก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะขอตัวออกไปโดยมีนายพยนต์มองตามแล้วยิ้มอย่างพึงพอใจ

...

หลังจากที่ลูกค้าโต๊ะสุดท้ายทานเสร็จเรียบร้อยแล้ว นับตังค์ก็ขอตัวกลับขึ้นไปอาบน้ำเพราะรู้สึกเหนียวตัว วันนี้เขายืนอยู่ที่หน้าเตาตั้งแต่เปิดร้านจนกระทั่งถึงเวลาปิดร้านในรอบอาหารกลางวันจนขาเมื่อยล้าไปหมด โชคดีที่ใบเมี่ยงและพี่สายรุ้งเป็นผู้ช่วยเชฟที่มีความสามารถจึงเบาแรงเขาได้มาก แม้ว่าจะเหนื่อยจนแทบขาดใจ แต่เมื่อได้รับคำชมจากลูกค้ามันทำให้นับตังค์ชื่นใจและมีความสุขมาก มันคงจะดีไม่น้อยถ้าคนในครอบครัวมณีรัตน์ของนับตังค์ได้มาเห็นว่าอาหารตำรับไทยมันสามารถต่อยอดได้ในแบบที่ต่างออกไป อยากให้พ่อรู้ว่าสิ่งที่นับตังค์คิดและทำมันไม่มีอะไรที่ผิดจนพ่อต้องโกรธขนาดนั้น

“ตัง พี่เข้าไปนะ” มีคุณถามแต่ไม่ได้รอคำตอบ ถือวิสาสะเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาเลย ดีว่านับตังค์แต่งตัวเสร็จพอดี

“วันหลังไม่ต้องถามก็ได้มั๊ง” นับตังค์ยอกย้อนเมื่อเห็นว่ามีคุณเข้ามาเลยโดยที่ตัวเองยังไม่ทันอนุญาต

“โอเค”

“เฮ้ย คนประชดยังจะมาเนียนอีก”

“เหนื่อยไหม” มีคุณเดินมาซ้อนด้านหลังของนับตังค์แล้วสวมกอด

“เหนื่อยแต่มีความสุขมากเลย ไอ้รันไอ้หม่องมันให้คนส่งดอกไม้มาอวยพร มันบอกว่าจะมาอุดหนุนเองช่วงวันหยุดยาว”

“เห็นแล้ว ช่อใหญ่มากเลย คุณป้าขจีก็ส่งมาให้ ท่านคงมาทานอาหารช่วงค่ำเลย”

“เฮ้อ เห็นลูกค้ากินหมดทุกจานก็หายเหนื่อย”

“ลูกค้าชมทุกคนเลยนะ ไม่มีใครติเลย จะมีติก็เรื่องเดียวคือช่วงอาหารเย็นถูกจองเต็มจนพวกเขามาทานไม่ได้ ต้องรอตามคิว ส่วนใหญ่เป็นคนที่มาจากในเมือง” มีคุณเล่าให้นับตังค์ฟัง

“ถ้ามีลูกค้าขาจรเข้ามาเพิ่มมากขึ้น พี่ก็ขยายร้านสิ เพราะคงมีลูกค้าประเภทที่อยากทานก็มาทานเลย” นับตังค์ออกความเห็นเพราะเห็นว่าพื้นที่ร้านยังสามารถขยายเพิ่มได้

“ถ้าแบบนั้นตังจะเหนื่อยมากกว่าเดิม แบบลูกค้าที่จองมา ตังยังเตรียมเอาไว้ก่อนได้ แค่นี้ตังก็เหนื่อยมากแล้วนะ ยืนอยู่หน้าเตาไม่ได้หยุดเลย” มีคุณพูดจบก็กดจมูกลงที่ซอกคอของนับตังค์ กลิ่นหอมอ่อนๆ มันยั่วใจจนเขาอดใจไม่ได้จริงๆ

“ตังมีความสุขนะที่ได้ทำ มันไม่ได้เหนื่อยจนไม่ไหว” นับตังค์หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับมีคุณ

“ขอบคุณนะ”

“เออ จะถามตั้งแต่เมื่อคืนแล้วลืม วันนั้นตาลุงพญามันคุยอะไรกับพี่สองต่อสอง” นับตังค์ถามขึ้นมาเพราะวันนี้พญาเข้ามาชมเรื่องอาหารแล้วบอกว่าหากนับตังค์ตกงานเมื่อไหร่ให้นึกถึงตาลุงพญาเป็นคนแรก

“เขามาขอซื้อร้าน” มีคุณตอบตามตรง

“ฮ่าๆๆ อิตาลุงเอ้ย” นับตังค์หัวเราะร่วน

“ขำอะไร”

“ก็คนที่เขาทุ่มเททำร้านขนาดนี้ใครจะคิดขาย คงเห็นว่าพี่ทำร้านออกมาดีเลยอยากได้มั๊ง ถ้าพี่จะขายนะ ขายให้ตังดีกว่า แต่ขายถูกๆ นะ เบี้ยน้อยหอยไม่มี แต่พี่คงไม่ขายหรอก ร้านแบบนี้เป็นร้านในฝัน ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ อีกอย่างนะ ถ้าพี่คิดจะขาย ตังจะได้ลาออกเลย ฉีกสัญญาทิ้ง จะเหนื่อยทำไมถ้าพี่คิดจะขาย” นับตังค์แกล้งขู่แล้วหัวเราะก่อนจะหมุนตัวกลับมาส่องกระจกแล้วหวีผมต่อ

“พี่จะพาตังไปรับน้าคนนั้นเอง เด็กๆ จะได้พักแล้วก็มีเวลาเตรียมงานช่วงค่ำด้วย” มีคุณรู้สึกพูดไม่ออกเรื่องร้าน เขาดึงหวีในมือของนับตังค์มาหวีผมให้ ก่อนจะรวบผมนับตังค์มารัดเป็นจุกอยู่ทางด้านหลัง เป็นทรงประจำที่นับตังค์ชอบทำ

มีคุณย้อนคิดถึงภาพของนับตังค์ทำอาหารอยู่ในครัวด้วยความตั้งใจแล้วเขาก็คิดว่าสิ่งที่เขาตัดสินใจในครั้งนี้คงถูกต้องที่สุดแล้ว มีคุณให้ทนายเคารพมาหาแต่เช้าและบอกสิ่งที่ต้องการให้กับทนายเคารพรับรู้ มีคุณว่าจ้างทนายเคารพให้เป็นคนไปเจรจากับเจ้าหนี้ของแม่ให้อีกครั้ง เขาจะขอต่อรองขอลดดอกเบี้ยและทยอยจ่ายเงินเป็นงวด อาจจะหนักมากกับจำนวนเงินที่ต้องหาคืนเจ้าหนี้หลายคนพร้อมกันในแต่ละเดือน แต่มีคุณคิดว่ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุด เขาไม่อยากให้ความตั้งใจของคนในร้านมีคุณอนันต์ต้องสูญเปล่า แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหนคนที่เหนื่อยที่สุดก็คือนับตังค์ มันทำให้มีคุณรู้สึกละอายใจที่สุดท้ายแล้วเขาก็ใช้ประโยชน์จากนับตังค์เพื่อตัวเองอยู่ดี

“งั้นไปกันเลยดีกว่า เอาด้วงไปด้วยนะ พี่ขมิ้นจะได้ช่วยพี่รุ้งเตรียมของให้ตัง” นับตังค์หันกลับมาหอมแก้มมีคุณเพราะเห็นสีหน้ามีคุณเครียดๆ นับตังค์อยากเอาใจคนรักให้หายเหนื่อยบ้าง วันนี้มีคุณลงมาช่วยทำทุกหน้าที่ตั้งแต่ในครัวยันเสิร์ฟอาหารเองทั้งที่แขนยังเจ็บ นับตังค์คิดว่ามีคุณคงรักร้านนี้มาถึงได้ทุ่มเทขนาดนี้

“ไปสิ” มีคุณยิ้มกว้างเมื่อถูกคนรักหอมแก้ม ถ้าไม่ติดว่าต้องออกไปรับคุณน้าคนนั้นคงจะขอแจกโบนัสให้กับนับตังค์สักหน่อย

“ความหื่นฉายชัดระดับสิบเลยนะ ไปเลย รีบไปรีบกลับ” นับตังค์เห็นแววตาวิบวับของมีคุณก็รู้ทันทีจึงรีบพาตัวเองออกมาจากอ้อมกอดของมีคุณแล้วดันมีคุณให้เดินลงไป

..

นับตังค์อาสาเป็นคนขับรถเองโดยให้มีคุณอุ้มหนูด้วงนั่งตักเอาไว้ ทั้งคู่มาถึงบริเวณศาลตากับยายแล้วก็จอดรถแล้วเดินต่อไปที่บ้านร้าง ยังไม่ทันจะเข้าไปถึงบ้านก็เห็นคุณน้าคนนั้นเดินออกมาพร้อมกับถุงขยะสีดำในมือ ที่หนวดของคุณน้ายังมีคราบเลือดติดเกรอะกรัง ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้าค่อนข้างมอมแมม แต่ดวงตากลับมีสีฟ้าสดใส ความสกปรกยังไม่สามารถปิดบังความขาวของผิวได้ พอได้เห็นชัดๆ ในเวลากลางวันแบบนี้ก็เลยได้รู้ว่าคุณน้าคนนี้มีหน้าตาเหมือนชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย

“มากันสักที รอตั้งนาน หิวแล้ว”

“แล้วทำไมไม่ไปกับคนที่ตังให้มารับละครับ ทำไมต้องให้ตังมารับเอง” นับตังค์แกล้งบ่น

“ข้าไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นแหละ เดี๋ยวจับข้าไปส่งตำรวจ คนแถวนี้คิดว่าข้าบ้า”

“แล้วพี่บ้ารึเปล่า” นับตังค์ถามแล้วหัวเราะ

“ข้าไม่บ้า ข้าแค่เป็นคนพิเศษ” ช้วนชมตัวเองแล้วหัวเราะบ้าง

“แล้วพี่ชื่ออะไร” นับตังค์ถาม เริ่มลังเลว่าหากคนตรงหน้าคนนี้เป็นชาวต่างชาติ ทำไมพูดไทยได้ชัดขนาดนี้

“ช้วน เรียกพี่ช้วนก็ได้หรือจะเรียกท่านช้วน ข้าก็ไม่ว่า” ช้วนหัวเราะชอบใจที่นับตังค์เรียกตัวเองว่าพี่

“พี่เป็นคนต่างชาติเหรอครับ” มีคุณจำต้องเรียกช้วนว่า ‘พี่’ ตามนับตังค์ ทั้งที่ดูจากริ้วรอยบนใบหน้าแล้ว ผู้ชายคนนี้น่าจะอายุพอๆ กับแม่ของเขาได้เลย

คำถามของมีคุณเป็นคำถามที่นับตังค์อยากรู้พอดี นับตังค์จึงตั้งใจฟังคำตอบไปด้วย มีสิ่งหนึ่งที่น่าแปลกใจคือ ด้วงชี้ไปที่พี่ช้วนแล้วหัวเราะ ซึ่งพี่ช้วนก็เดินเข้ามาทำหน้าตลกแหย่ให้ด้วงหัวเราะได้ ปกติด้วงจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับคนแปลกหน้าง่ายๆ ถึงไม่งอแงใส่แต่ก็ไม่หัวเราะด้วยง่ายๆ แบบนี้

“ข้าเป็นลูกครึ่ง พ่อเป็นคนเยอรมัน มาเอาแม่แล้วก็ทิ้ง แม่ก็เลยจะเอาข้ามาทิ้งกับยาย ยายก็มาตายอีกเลยต้องอยู่คนเดียว” ช้วนเล่าให้ฟัง

“ต่อไปไม่ต้องอยู่คนเดียวแล้ว ไปอยู่ด้วยกัน ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยตังเมื่อคืนนั้น แต่จะไปอยู่ด้วยกันแบบนี้มันมีอะไรที่พี่ช้วนต้องยอมให้ตังจัดการเสียก่อน” นับตังค์มองตั้งแต่หัวจรดเท้าของช้วนแล้วคิดว่าต้องทำให้ช้วนหายมอมแมมเสียก่อน

“ให้ข้าทำอะไรก็ได้ แต่ขอกินห่อหมกอีกนะ ไอ้หนุ่มคนเมื่อเช้ามันบอกเราเป็นคนทำห่อหมก อร่อยชิบหาย” ช้วนเอ่ยชม

“พูดเพราะๆ ดิพี่ช้วน เดี๋ยวด้วงจะพูดตาม เอาเป็นว่าไปอยู่กับบอสกับตัง จะได้กินของอร่อยทุกมื้อเลย” นับตังค์บ่นกึ่งขำ

“ตกลง” ช้วนรีบรับคำ อยู่ดีๆ ก็มีลาภปากให้กินทุกมื้อ มีที่ให้อยู่ เรื่องอะไรจะปฏิเสธ

“คนนี้เป็นเจ้าของบ้านที่พี่ช้วนจะไปอยู่นะ ชื่อมีคุณ ส่วนผมชื่อตัง นี่ก็หนูด้วง” นับตังค์แนะนำตัวเองและทุกคน

“เอ็งสองคนเป็นผัวเมียกันเหรอ” ช้วนถามตรงๆ มีคุณถึงกับหลุดหัวเราะ

“โอ้ย ปู่!” นับตังค์รีบโวยวาย

“อ้าว พูดไม่ถูกหูเรียกข้าว่าปู่เลยเว้ย ไอ้หนุ่มนี่ตลกดี” ช้วนหัวเราะ

“พูดไม่ถูกหูแต่ถูกใจผมครับพี่ช้วน” มีคุณรีบเอาใจช้วนยกใหญ่

“พี่จ๋าฟันดำปี๋เยย มีฉับปะหยาดในปาก” ด้วงชี้ไปที่ฟันของช้วนแล้วยิงฟันของตัวเองโชว์บ้าง

“ข้าเอาสมุนไพรมาอมไว้ ไม่งั้นฟันผุหมด เดี๋ยวล้างออกก็ขาวแล้ว ไอ้หนูด้วงนี่เลอะเทอะ” ช้วนรีบบอก

“ไปกันเถอะ” นับตังค์ส่ายหน้ากับความห่ามของช้วนแล้วรีบชวนทุกคนกลับ

“บัยบาย บัยบาย” ด้วงโบกมือไปทางบ้านร้าง

นับตังค์กับมีคุณมองตามไปก็เห็นว่าไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้น มีแต่ช้วนที่หัวเราะแล้วลูบผมด้วงก่อนจะเดินนำออกไป นับตังค์กับมีคุณรีบเดินตามเพราะรู้สึกขนลุกจนบอกไม่ถูก

...

เมื่อพาช้วนกลับมาถึงบ้านมีคุณก็ขอตัวไปที่ร้านก่อนเพราะว่าจะไปดูความพร้อมของอาหารรอบค่ำที่ถูกจองเต็มหมดแล้ว นับตังค์ให้ช้วนนั่งรออยู่ที่ศาลาในสวนหลังบ้านกับด้วงก่อนจะเดินหายไป กลับมาอีกทีพร้อมกับอุปกรณ์หลายอย่าง ช้วนเห็นของในมือนับตังค์แล้วเบิ่งตาโต เมื่อเห็นนับตังค์ทำหน้าจริงจังจึงต้องยิ้มเจื่อนๆ แล้วพยักหน้าให้เป็นการอนุญาตให้นับตังค์จัดการสภาพของตัวเองได้ จากนั้นนับตังค์ก็จัดการทำตัวเป็นนางฟ้าแม่ทูนหัวแปลงร่างให้กับช้วน โดยมีด้วงหัวเราะชอบใจเพราะนับตังค์ให้ด้วงช่วยถือสายยางฉีดน้ำใส่ช้วนจนเปียกปอนกันไปทุกคน

มีคุณเดินกลับมาที่ร้านก็เห็นว่าภายในร้านสะอาดเรียบร้อยดีมาก ผ้าปูโต๊ะผืนใหม่ถูกปูแทนผืนเก่าที่ถูกใช้งานในรอบเที่ยงไปแล้ว มีการจัดโต๊ะเอาไว้สวยงามเป็นระเบียบพร้อมรับลูกค้าในรอบค่ำ แต่ละโต๊ะมีป้ายชื่อคนที่จองวางเอาไว้ เครื่องชามช้อนถูกจัดให้เหมาะสมกับรายการอาหารที่ลูกค้าสั่ง ตอนนี้พนักงานทุกคนคงกำลังทานอาหารกันอยู่ในครัวของร้าน มีคุณจึงเดินเข้าไปหา

“เป็นไง เหนื่อยกันหน่อยนะ ทำงานเรียบร้อยรวดเร็ว สุดยอดมากทุกคน” มีคุณเอ่ยชมทุกคนในขณะที่ทุกคนกำลังทานผัดไทยส้มโอกับเนื้อย่างเตาถ่านกันอย่างเอร็ดอร่อย

นับตังค์ปรุงน้ำผัดไทยเอาไว้แล้ว สั่งให้สายรุ้งเป็นคนผัดให้พนักงานได้ทานเป็นอาหารกลางวัน ส่วนเนื้อย่างก็หมักเอาไว้แล้วให้ขมิ้นเป็นคนย่าง มีคุณเห็นว่าทุกคนกำลังทานกันอย่างเอร็ดอร่อยก็รีบทำมือบอกให้ทุกคนกินกันต่อตามสบาย

“เหนื่อยแต่ได้รับคำชมแล้วหายเหนื่อยเลยค่ะบอส บอสจะทานเลยไหมคะ มานีจะตักผัดไทยให้ แล้วเชฟไปไหนคะ” มานีไม่เห็นนับตังค์จึงถามหา

“กำลังแปลงร่างคนอยู่ เดี๋ยวคงมา พี่รอกินพร้อมตังดีกว่า” มีคุณบอก

“ตกลงแกยอมมาแล้วใช่ไหมนิ” ขมิ้นถาม

“อืม เขาชื่อช้วนนะ เป็นลูกครึ่งไทยเยอรมัน อายุยังไม่รู้ แต่ก็คงจะหกสิบได้ เขาจะมาเป็นคนในครอบครัวเรา ฝากทุกคนด้วยนะ” มีคุณรู้ดีว่าทุกคนไม่ได้รังเกียจช้วน แต่ก็บอกเอาไว้ก่อนเพราะดูท่าทางช้วนเป็นคนพูดอะไรโผงผางตรงไปตรงมา เคยใช้ชีวิตอิสระอยู่คนเดียว อาจจะไม่คุ้นหากต้องมาอยู่กับคนหมู่มาก

“ว้าว ลูกครึ่งเลยเหรอคะ ร้านของเราอินเตอร์จริงๆ” มีนาปรบมือชอบใจ

“สงสัยพี่จะตกกระป๋องแล้วมั๊ง” พายพัดหยอกสองสาว

“ที่หนึ่งในใจยังเป็นโอปป้าค่ะ” สองสาวตอบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“แล้วสรุปรอบค่ำเมี่ยงจะทำขนมอะไร พี่ยังไม่เห็นเลย” มีคุณถามเพราะใบเมี่ยงยังไม่บอก

“ทีแรกเมี่ยงว่าจะเก็บเป็นความลับ แต่อยากให้ทุกคนได้ชิม งั้นเดี๋ยวรอเชฟตังมาก่อนดีกว่าครับ” ใบเมี่ยงอมยิ้ม

“ยังไม่ยอมให้ผมเห็นเลยบอส” พายพัดฟ้อง

“คงจะพิเศษมากเลยใช่ไหม” มีคุณถามก่อนจะยิ้มให้ใบเมี่ยง

“ครับ พิเศษมาก” ใบเมี่ยงคิดว่าขนมชิ้นนี้จะพิเศษที่สุดสำหรับทุกคน รสชาติของมันจะถูกปากแค่ไหนใบเมี่ยงก็คาดเดาไม่ได้ แต่ใบเมี่ยงตั้งใจทำด้วยหัวใจจริงๆ


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 07-07-2017 15:06:39
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


ระหว่างที่รอนับตังค์มา เมื่อทุกคนทานกันเสร็จแล้วมีคุณเลยนั่งรับฟังถึงปัญหาของแต่ละคนไปด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไม่มีอะไรมาก สามหนุ่มเด็กเสิร์ฟยังอ่อนเรื่องภาษาเลยต้องคอยให้มานีกับมีนามาช่วยรับลูกค้าต่างชาติ ส่วนในครัว มีคุณยังต้องหาคนช่วยทำความสะอาดและล้างจานเพิ่มขึ้น เพราะลำพังนับตังค์ ใบเมี่ยง สายรุ้งและขมิ้นยังทำกันแทบไม่ทัน พายพัดมารับดูแลที่บาร์เครื่องดื่มคนเดียว คิดว่าจะมีเวลาเข้ามาช่วยบ้างก็ทำหน้าที่ของตัวเองแทบไม่ทันเหมือนกัน ส่วนช้วนที่มาใหม่ มีคุณตั้งใจว่าจะให้ช่วยอยู่กับด้วงไปก่อนที่จะหาพี่เลี้ยงได้เพราะเห็นว่าเข้ากันได้กับด้วง อายุช้วนก็ไม่น้อยแล้ว ไม่อยากให้ต้องมาทำอะไรหนักๆ ให้นั่งอยู่ในห้องทำงานของเขา มีแอร์เย็นๆ อยู่กับด้วงช่วงเวลาที่ทุกคนไม่สามารถดูแลด้วงได้ ช่วงเวลาที่จะยุ่งมากก็รอบละไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง มีคุณเลยคิดว่าช้วนคงจะช่วยเบาแรงในส่วนนี้ได้

“แต่น แตน แต้น ทุกคน มาดูสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเร็ว ตะแด๊น ตะแด๊น ตะแด๊นนนนน” เสียงของนับตังค์ดังขึ้นมาก่อนตัว สักพักนับตังค์ก็จูงมือด้วงเข้ามาในครัว

“แต้น แต้น” ด้วงพูดตามนับตังค์ก่อนจะกระโดดปรบมือให้เข้ากับจังหวะที่นับตังค์ฮึมฮัมอยู่

ทุกคนที่อยู่ในครัวมองคนที่เดินตามหลังนับตังค์เข้ามาแบบตาไม่กระพริบ โดยเฉพาะคนที่เคยเห็นช้วนก่อนหน้านี้อย่างใบเมี่ยง พายพัด มีคุณ ขมิ้นและสายรุ้ง ถึงกับอ้าปากค้าง ชายสูงวัยที่เนื้อตัวสกปรก ผมและหนวดยาวรุงรังพันกันเป็นสังกะตัง เสื้อผ้าที่เก่าและขาดเหมือนคนบ้าจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่ตอนนี้กลับสวมชุดสะอาดสะอ้านของคุณปู่อนันต์ที่มีคุณอนุญาตให้นับตังต์เอาไปใช้ได้ ผมยุ่งรุงรังถูกตัดจนเป็นทรง หนวดเคราโดนโกนจนเกลี้ยงไม่เหลือเค้าเดิม แม้ริ้วรอยจะบ่งบอกถึงอายุที่มากอยู่ แต่มันไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาแบบฝรั่งลดลงได้เลย โดยเฉพาะดวงตาสีฟ้าสดใสเป็นจุดเด่นที่ช่วยทำให้เจ้าของดวงตาดูมีเสน่ห์ขึ้นอีกเป็นกอง

“โอ้ มาย กอช นึกว่าเพียซบอสแนนมาเองเลย” มานีครางชื่อดาราฝรั่งรุ่นพ่อที่เล่นเรื่องเจมส์บอนด์ออกมา เพราะชายสูงวัยตรงหน้าดูคล้ายดาราดังมาก หล่อแบบภูมิฐานน่าอบอุ่น

“จริงด้วยมานี ถ้าแม่เรามาเห็นคงสลบ ขวัญใจแม่ของพวกเราเลย” มีนาเองก็ละสายตาออกจากช้วนไม่ได้

“สุดยอด เมค อิท แฮปเพน เมบะลีนนิวหยวกมาก” เฮงอดไม่ได้ที่จะพูดเลียนแบบโฆษณาที่ได้ยินบ่อยๆ

“พวกเอ็งมีอะไรให้ข้ากินบ้าง หิวจนแดกควายได้แล้ว”

“...”

“...”

“...”

ทุกคนเงียบเหมือนถูกอะไรอุดปากเอาไว้หลังจากที่ช้วนพูดออกมา สายรุ้งถึงกับทำช้อนหล่นเพราะไม่คิดว่าคำพูดโผงผางของช้วนจะออกมาจากหน้าตาที่ดูหล่อเหลาแบบนี้ ถึงจะรู้ว่าช้วนเป็นคนเร่ร่อนมาก่อน แต่ก็ยังตกใจอยู่ดีที่ได้ยิน
 
“โอ้ย ปู่! อุตส่าห์ทำให้หล่อจนคนตะลึง พอพูดแล้วจบเลย บอกให้พูดเพราะๆ ไง” นับตังค์ถอยหายใจ ขนาดขู่เอาไว้ว่าถ้ายังพูดคำหยาบจะเรียกปู่ให้ดูแก่ แต่ก็ไม่ช่วยอะไรเลย ดีนะที่ด้วงมัวแต่สนใจเจ้าด้าวอยู่เลยไม่ได้ฟังช้วนพูด โบราณถึงว่าไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยากจริงๆ

“เออๆ ข้าขอโทษ ลืมตัว หิวนี่หว่า มีอะไรให้กินบ้าง” ช้วนรีบเดินมามองอาหารบนโต๊ะ พอเห็นผัดไทยที่เหลือในจานของเฮงก็รีบลงไปนั่งตักกินโดยไม่ฟังเสียงใคร

“ทีแรกพี่ว่าจะให้พี่ช้วนช่วยดูด้วง สงสัยจะไม่ได้แล้ว” มีคุณยิ้มเจื่อนๆ เมื่อเห็นว่าด้วงคงจะด่าได้ก่อนจะพูดชัดหากให้ช้วนช่วยดูแล

“เอาน่า แกยังปรับตัวไม่ได้ เมื่อกี้กว่าตังจะโกนหนวดให้แกได้เล่นเอาเหนื่อย” นับตังค์ส่ายหน้าขำ ไม่รู้ว่าช้วนจะหวงหนวดตัวเองไปไหน นี่ถ้าไม่ขู่ว่าจะไม่ทำของอร่อยให้กินก็คงไม่ยอมง่ายๆ

“ตัดผมเก่งนี่” มีคุณชม รู้สึกทึ่งกับความสามารถของคนรัก นอกจากทำอาหารเก่งแล้วยังตัดผมได้อีกด้วย

“เห็นไหมว่านับตังค์คนนี้ครบทุกอย่าง รักษาให้ดีนะ ปล่อยหลุดมือไปจะพลาดของดี” นับตังค์กระซิบมีคุณเบาๆ

“จะจับให้แน่นเลย” มีคุณยิ้มแล้วยักคิ้วให้

“อร่อยมาก ส้มโอเหรอ เอามาผัดแบบนี้อร่อยดี ขออีกจานนะ” ช้วนร้องขอทั้งที่ยังกินไม่หมด

“ไม่ต้องรีบกินเดี๋ยวติดคอครับ ยังมีอีกเยอะ” ใบเมี่ยงรีบเตือนเมื่อเห็นช้วนตักผัดไทยใส่ปากคำโต

“เนื้อย่างนี้หมักผิวส้มจีนด้วยเหรอ สุดยอด” ช้วนยกนิ้วให้นับตังค์หลังจากที่จิ้มเนื้อย่างที่เหลืออยู่ในจานเปลขนาดใหญ่ที่วางอยู่กลางโต๊ะมากิน มีคุณได้ยินช้วนพูดก็เดินเข้ามาแล้วจิ้มเนื้อย่างมาชิมบ้าง

“ปู่แกรู้ได้ยังไง” นับตังค์ทำท่าสงสัยไม่ต่างจากมีคุณเลย นับตังค์เอาเปลือกส้มจีนแห้งมาหมักช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อ มันยังเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมายอีกด้วย แต่คนจะไม่ค่อยรู้ว่ามันเป็นส้มจีน

“เดา” ช้วนตอบสั้นๆ ก่อนจะหันกลับไปสนใจอาหารบนโต๊ะต่อ

“พี่จ๋า ไปเย่นหุ่นยนต์กัน หนูมีฉับปะหยาดด้วย” ด้วงมาดึงเสื้อของช้วน

“ได้ๆ กินข้าวก่อน มานี่ข้าอุ้ม มานั่งกินด้วยกันก่อน” ช้วนอุ้มหนูด้วงขึ้นมานั่งที่เก้าอี้ก่อนจะบอกให้นับตังค์เอาข้าวมาให้ด้วง

ทุกคนมองช้วนที่กำลังกินข้าวไปและเล่นกับด้วงไปด้วยความประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่าคนอย่างช้วนจะทำให้หนูด้วงหัวเราะได้ขนาดนั้น แถมบางทีบทสนทนาของทั้งคู่นั้นคนอื่นฟังแล้วไม่ค่อยจะรู้เรื่อง แต่ทั้งคู่ดูจะคุยกันรู้เรื่องกันอยู่สองคน ซ้ำท่าทางประหลาดของช้วนยังสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนรอบตัวได้อีกด้วย ซึ่งมันก็ทำให้นับตังค์และมีคุณเบาใจและสบายใจขึ้นมากที่เห็นว่าช้วนเริ่มปรับตัวเข้ากันได้กับบุคคลอื่น

ตอนนี้ครอบครัวมีคุณอนันต์มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน ในฐานะหัวหน้าครอบครัว เมื่อมีคุณเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนในครอบครัวก็รู้สึกดี มันเหมือนชีวิตในส่วนที่ขาดของเขาถูกเติมเต็ม ชีวิตที่ผ่านมาคำว่าครอบครัวสำหรับเขาคือการหาเงินให้สร้างความมั่นคงสะดวกสบายให้กับแม่ แทบไม่เคยมีช่วงเวลาที่ใช้ร่วมกันแบบนี้เลย เขาไม่เคยได้ยิ้มหรือหัวเราะบ่อยๆ อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ผู้คนที่มาจากต่างถิ่นต่างที่มาอยู่รวมกันได้และทำให้เขารู้สึกไม่อยากเดินทางไปไหนอีกแล้ว มันคงคุ้มค่าแล้วกับการตัดสินใจที่จะรักษาร้านนี้เอาไว้ ที่เหลือก็แค่บอกแม่ให้ได้รับรู้เกี่ยวกับอนาคตของเขาเอง ถึงยังไงมีคุณก็สงสารคุณพลอยประดับหากต้องปล่อยให้แม่อยู่คนเดียวที่กรุงเทพ แต่ก็ยังหนักใจเพราะไม่รู้ว่าแม่จะคิดยังไงหากเขาตัดสินใจจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ตลอดไป หากมารดาอยากตามมาอยู่กับเขาก็ไม่รู้ว่าจะเข้ากันได้กับนับตังค์รึเปล่า แล้วนับตังค์จะอึดอัดไหม แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้มีคุณต้องให้ความสำคัญกับหน้าที่หลักของตัวเองก่อน ทั้งเรื่องการบริหารร้านและหาเงินไปใช้หนี้ในแต่ละเดือน หากเขาหาเงินไปใช้หนี้ให้เจ้าหนี้ของแม่ตามที่ให้ทนายเคารพไปเจรจาไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่วาดฝันเอาไว้คงพังลงทั้งหมด

...

เค้กก้อนเล็กๆ ทรงลูกบาศก์หลายลูก ด้านนอกชุบด้วยช็อกโกแลตหลากสีหลากรส ส่วนในตัวเค้กก็สอดไส้ครีมต่างๆ เพื่อให้รสสัมผัสที่แตกต่างต่างกัน ถูกนำมาประกอบเลียนแบบให้เป็นรูป ‘รูบิค’ ที่เป็นของเล่นก็คือขนมหวานที่ใบเมี่ยงทำในวันเปิดร้านวันแรก ใบเมี่ยงเคยเห็นรูปแบบขนมนี้มาจากในอินเตอร์เน็ต แต่ในนั้นไม่มีวิธีทำบอก ใบเมี่ยงเลยทดลองทำด้วยตัวเอง ครีมต่างๆ ที่สอดไส้ใบเมี่ยงก็ใช้ผลไม้ต่างๆ ที่หาได้ในฤดูนี้มาทำเป็นไส้ ซึ่งคนที่ทานจะต้องลุ้นเอาเองว่าตัวเองจะได้ทานรสชาติใด ทุกคนในร้านเห็นขนมแล้วรู้สึกตื่นเต้นและอยากชิมแทบทุกรสเพราะใบเมี่ยงทำออกมาได้น่าทานมาก

“ดูดีมากเลยเมี่ยง” นับตังค์เอ่ยชมจากใจ

“ที่ว่าพิเศษ ขอคำอธิบายหน่อยครับอุ๋งอุ๋ง” พายพัดเห็นใบเมี่ยงแสดงออกว่าดีใจที่ทุกคนชอบแล้วก็อดดีใจตามไปด้วยไม่ได้ เขาว่าเขาพอจะรู้ว่าใบเมี่ยงทำขนมชิ้นนี้เพราะอะไร แค่มองตาก็รู้ใจจึงอยากให้คนรักได้บอกกับทุกคนว่าขนมชิ้นนี้มันพิเศษยังไง

“ลองทายกันสิครับ” ใบเมี่ยงอยากให้ทุกคนลองเดาดู

“มันสวย ลูกค้าต้องอยากถ่ายรูปอวด เป็นการโฆษณาในตัว” ม้าลองทายดู

“ยังไม่ใช่ แต่ก็เป็นคำตอบที่ดีนะ” ใบเมี่ยงส่ายหน้า

“อืม กินได้แล้วยังเล่นได้ด้วย” มานีตอบบ้างเพราะเห็นว่ามันใบเมี่ยงใช้ช็อกโกแลตแผ่นบางรองแต่ละฐาน จึงทำให้มันสามารถหมุนได้ด้วย

“ยังไม่ถูก”

“เพราะพายพัดชอบเล่นรูบิค” นับตังค์ลองทายบ้าง

“ผิด เราไม่เล่นรูบิค เราเล่นแต่แมวน้ำ” พายพัดเป็นฝ่ายตอบ คำตอบของพายพัดทำเอามานีกับมีนากรี๊ดเบาๆ

“ร้านนี้มีปลาโลมาตั้งสองตัว” นับตังค์บ่นเบาๆ เมื่อเห็นว่าความหื่นของพายพัดไม่แพ้มีคุณเลย

“ไม่เห็นจะยากเลย” ช้วนยกแขนเสื้อมาเช็ดปากก่อนจะพูดขึ้นมา

ทุกคนหันมามองที่ช้วนเป็นตาเดียวกัน ต่างก็ลุ้นว่าจะมีคำพูดโผงผางอะไรหลุดมาจากช้วนอีกรึเปล่า นับตังค์รีบเอามืออุดหูของด้วงล่วงหน้าก่อนเลย

“ไอ้เค้กก้อนเล็กๆ มันก็แทนพวกเอ็งแต่ละคน ทุกคนมีด้านที่ไม่เหมือนกัน แต่มาอยู่รวมกันจนเป็นไอ้รูบิค เป็นกลุ่มเป็นก้อน มีความสวยงาม มีความลงตัว แต่ถ้ามันแตกเมื่อไหร่มันก็เป็นแค่เค้กก้อนเล็ก กินก็ไม่อิ่ม” ช้วนพูดแล้วกลืนน้ำลายลงคอเพราะอยากกินเค้กตรงหน้าแล้ว

“สุดยอดเลยครับ พี่ช้วนอ่านใจเมี่ยงได้ขาดเลย” ใบเมี่ยงรู้สึกทึ่งเป็นอย่างมาก ใบเมี่ยงทำขนมชนิดนี้ออกมาเพราะนึกถึงสมาชิกทุกคน แต่ละคนนิสัยแตกต่างกัน มีความเป็นตัวของตัวเองก็เหมือนช็อกโกแลตก้อนเล็กๆ ที่มีรสชาติต่างกัน แต่พอมารวมอยู่ด้วยกันก็เป็นความสวยงามอีกแบบได้

“รู้ได้ไงนิ คิดได้ไงนิ” ขมิ้นถึงกับปรบมือให้ ไม่คิดว่าคนที่คนอื่นคิดว่าบ้าอย่างช้วนกลับคิดอะไรได้ลึกซึ้งขนาดนี้

“ก็พวกเอ็งมันโง่ ขืนให้ทายต่อข้าไม่ได้กินกันพอดี กินได้ยัง ดูๆ ไอ้หนูด้วงมองตาเป็นประกายเลยเว้ย ฮ่าๆๆ” ช้วนหันไปหัวเราะด้วงที่มองรูบิคเค้กด้วยความสนใจ

“หลอกด่ากันนี่ปู่” นับตังค์บ่นแต่ก็เริ่มคิดว่าช้วนไม่ธรรมดา บางทีอาจจะเป็นคนพิเศษอย่างที่ช้วนชมตัวเองเอาไว้จริงๆ

“ไม่ได้หลอกด่า แต่ด่าตรงๆ ว่าแต่ไอ้หนุ่มสองคนนี้ก็เป็นผัวเมียกันเหมือนเอ็งกับนายท่านใช่ไหม” ช้วนถามนับตังค์ก่อนจะชี้ไปที่พายพัดกับใบเมี่ยง แถมช้วนยังเรียกมีคุณว่านายท่านเพราะรู้ว่ามีคุณเป็นเจ้าของบ้านต้องให้ความเคารพ

“ปู่!!!!” นับตังค์โวยวายก่อนจะหน้าแดง

เฮง ม้าและตุ้ย สามหนุ่มสามมุมเด็กเสิร์ฟถึงกับทำตาโตกับข้อมูลใหม่ที่ได้รู้ เรื่องของพายพัดกับใบเมี่ยงก็พอจะดูออกบ้างเพราะพายพัดแสดงออกชัดเจนว่าหวงใบเมี่ยง แต่บอสกับเชฟนี่สิที่ทั้งสามคนไม่ได้นึกสงสัยเลย นึกว่าเป็นเพื่อนสนิทที่ชอบยอกย้อนต่อปากต่อคำกันเฉยๆ พอได้รู้ก็เล่นเอาตกใจอยู่เหมือนกัน

“กินไหมด้วง รูบิคเค้ก ข้าป้อน” ช้วนทำไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะหันมาพูดกับด้วง

“หนูกินยูบิกฉีจมปู ด้าวกินด้วย ด้าวเอาอันนี้” ด้วงชี้บอก

“ข้าจองอันที่มีทองแปะอยู่ เผื่อทองมันไปงอกในท้องข้า ฮ่าๆๆ” ช้วนหัวเราะชอบใจ

ทุกคนหัวเราะตามแล้วก็พากันส่ายหน้า เริ่มเดากันไม่ถูกว่าช้วนเป็นผู้ใหญ่หรือเป็นเด็กกันแน่ แต่ก็เริ่มชินกับความห่ามของช้วนกันแล้ว ยกเว้นนับตังค์ที่ยังคงยืนหน้าแดงทำตัวไม่ถูก มีคุณจึงเดินเข้าไปหาแล้วยีผมของนับตังค์เบาๆ ด้วยความเอ็นดูในความน่ารักของคนรัก แต่นั่นยิ่งทำให้นับตังค์หน้าแดงหนักเข้าไปกันใหญ่เพราะโดนสามหนุ่มสามมุมกับสองสาวฝาแฝดส่งเสียงแซวไม่หยุด

..

เมื่อถึงอาหารรอบค่ำ ลูกค้าเริ่มทยอยกันมาตามเวลาที่ระบุเอาไว้ อาหารชุดพิเศษที่ลูกค้าเป็นคนเลือกเองถูกทยอยออกมาเสิร์ฟให้ทุกคนได้ลิ้มลอง มีคุณที่ออกมาต้อนรับและคอยดูแลลูกค้าก็ได้รับคำชมถึงรสชาติของอาหารทั้งคาวหวานรวมถึงเครื่องดื่มของพายพัดด้วย ลูกค้าสาวๆ บางท่านติดใจความหล่อเหลาของพายพัดถึงกับขอถ่ายรูปลงโซเชียลพร้อมกับติดแฮชแท็กว่า ‘บาเทนเดอร์หล่อบอกต่อด้วย’ มีคุณแอบนึกในใจว่าร้านคงจะมีการบอกต่อมากขึ้นเพราะมีสุดหล่ออย่างพายพัดเป็นจุดขายอีกอย่างแน่ๆ 

“ขอบคุณทุกคนมากนะสำหรับความทุ่มเทในหน้าที่ วันนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ลูกค้าชื่นชอบมาก ชอบทั้งอาหารและการบริการ ผมขอปรบมือให้ทุกคนจากใจ” มีคุณลุกขึ้นยืนแล้วปรบมือให้กับพนักงานทุกคนหลังจากที่มาประชุมหลังจากที่ร้านปิดเรียบร้อยแล้ว

“ทิปเต็มกระปุกเลยค่ะบอส” มีนาชี้ไปที่กระปุกทิปที่ลูกค้าให้ เงินทิปในส่วนนี้มีคุณจะให้เด็กเสิร์ฟทั้งห้าคนแบ่งไปเท่ากันตอนสิ้นเดือน ส่วนทีมเชฟ รวมถึงขมิ้นและสายรุ้งมีคุณตั้งใจว่าจะโบนัสให้พิเศษเอง

“หมิ้นให้สาลี่ไปจ้างคนมาช่วยทำความสะอาดในร้าน ซักผ้าปูโต๊ะ ล้างจาน ซักพวกผ้าที่ใช้ในครัวแล้วนินายหัว ให้เป็นรายวันไปก่อน” ขมิ้นรายงานให้มีคุณรับรู้

“โอเค เอาเป็นว่าวันนี้ขอขอบคุณมากจริงๆ กลับบ้านได้แล้วเหนื่อยกันมาทั้งวัน ขับรถกลับกันดีๆ นะ เอากับข้าวกลับไปกินกันด้วย” มีคุณบอกเพราะเห็นว่านับตังค์ทำกับข้าวจัดใส่ถุงให้ทุกคนเอากลับบ้านไปด้วย

..

เมื่อต่างคนต่างแยกย้ายกันไปแล้ว ก็เหลือนับตังค์กับมีคุณอยู่ในครัวกันแค่สองคน นับตังค์ยังคงไม่ได้ไปพักเพราะต้องเคี่ยวน้ำซอสต่างๆ เอาไว้เลย พรุ่งนี้เวลาทำอาหารจานเดียว สายรุ้งและใบเมี่ยงจะได้ช่วยทำอีกเตาได้โดยไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่ม พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ด้วย นับตังค์กลัวว่าลูกค้าอาจจะเยอะกว่าวันธรรมดาจึงอยากเตรียมอะไรที่เตรียมได้เอาไว้ก่อน

มีคุณได้แต่ยืนมองดูนับตังค์ทำเพราะโดนสั่งห้ามว่าไม่ให้มายุ่ง นับตังค์บอกว่าเวลามีคุณมานัวเนียแล้วเสียสมาธิ แถมนับตังค์ยังเปิดเพลงสากลรุ่นพ่อเสียงดังเหมือนจมอยู่ในโลกของตัวเอง มีคุณไม่อยากกวนนับตังค์จึงเดินไปเอาบัญชีมานั่งทำระหว่างรอนับตังค์อยู่ที่เคาน์เตอร์ในครัว โดยมีด้วงนั่งข้างๆ อยู่ที่เก้าอี้ของตัวเอง

เมื่อครู่ขมิ้นเอาด้วงมาส่งให้เพราะว่าช้วนต้องไปนอนที่บ้านของขมิ้นชั่วคราวก่อน ขมิ้นเล่าว่าตอนที่เข้าไปตามช้วนในห้องทำงานของมีคุณ เห็นช้วนหยิบหนังสือของมีคุณมาอ่าน มันคงไม่น่าตกใจเท่าไหร่หากหนังสือเล่มนั้นไม่ใช่หนังสือที่มีแต่ภาษาอังกฤษล้วนๆ มีคุณฟังแล้วไม่ได้พูดอะไร บอกให้ขมิ้นกลับไปพัก แล้วจึงอุ้มด้วงเข้ามารอนับตังค์ด้วยกัน

นับตังค์แอบเหลือบมองมีคุณนั่งทำเอกสารแล้วก็อมยิ้ม เคยคิดในใจว่าก่อนหน้านี้หากเพียงแค่เดินผ่านผู้ชายอย่างมีคุณนับตังค์ก็คงจะไม่สนใจแน่ๆ มีคุณไม่ใช่คนหล่ออย่างพายพัดชนิดที่เห็นแล้วมีประกายระยิบระยับความหล่อฉายชัด แต่พอได้มาใกล้ชิด หลายอย่างในตัวของมีคุณทำให้นับตังค์หวั่นไหวได้ง่ายดายมากจนนึกบ่นตัวเองในใจว่าใจง่ายตอบรับเขาเป็นแฟนแบบไวไฟเหลือเกิน แล้วนับตังค์ก็หาเหตุผลว่าทำไมตัวเองถึงได้ตกหลุมรักมีคุณได้อย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับคนอื่นมาก่อนเลย

‘มือของมีคุณเวลาที่กุมมือของนับตังค์ มันทำให้นับตังค์รู้สึกปลอดภัย’

‘เวลาถูกมีคุณกอด นับตังค์รู้สึกอบอุ่น’

‘เวลาต่อปากต่อคำกับมีคุณมันทำให้นับตังค์รู้สึกมีชีวิตชีวา รู้สึกว่ามีเพื่อนสนิทที่คุยแล้วถูกคอ รู้ทันไปเสียทุกเรื่อง’

‘คำพูดธรรมดาของมีคุณ เมื่อมาพร้อมกับแววตาอ่อนโยน มันทำให้คำพูดนั้นละมุนขึ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ อีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์มีความหื่นแฝงอยู่เบาๆ แต่มันก็ทำให้นับตังค์ฟังแล้วเขินได้ตลอด’

'เวลาโดนมีคุณจูบ มันทำให้นับตังค์รู้ว่าใจเต้นรัวเป็นยังไง ไฟฟ้าสถิตย์ยังไม่วูบวาบเท่าจูบของมีคุณเลย’

‘รูปร่างของมีคุณยามไร้เสื้อผ้า มันทำให้นับตังค์อยากสวมกอด อยากแนบหน้ากับอกแข็งแรง อยากกัดที่แขนที่มีกล้ามแน่นๆ อยากขึ้นไปนอนอยู่บนร่างกายแข็งแกร่งนั้นแล้วหลับตาผ่อนคลาย อยากจะ..’


“ตัง ยืนหัวเราะคนเดียวนานแล้วนะ ติดเชื้อพี่ช้วนรึเปล่า” มีคุณถามหลังจากที่เห็นนับตังค์คนซอสไปก็ยิ้มไป บางทีก็หัวเราะคิกคักอยู่หน้าเตาคนเดียว

“ตังกำลังหลงรักซอสของตังต่างหาก” นับตังค์แก้ตัว นึกเขินตัวเองที่กำลังหื่นไม่แพ้มีคุณเลย แต่เหตุผลทั้งหมดที่นับตังค์คิดมันทำให้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ใจง่ายสักหน่อย ก็แค่แพ้ทางคนอย่างมีคุณเท่านั้นเอง

“แล้วเสร็จรึยัง” มีคุณถามเมื่อเห็นว่ามันเริ่มดึกมากแล้ว ด้วงที่ตอนแรกดูตื่นตาตื่นใจกับกระดาษและดินสอที่มีคุณให้มาเขียนเล่นก็เริ่มจะตาปรือปรอย

“เสร็จพอดี พี่ช่วยชิมหน่อยว่าโอเคไหม ซอสตัวใหม่” นับตังค์ตักซอสใส่โถแล้วเหลือติดก้นหม้อเพื่อให้มีคุณชิมเพียงนิดหน่อย พอเดินมาหามีคุณก็ใช้ช้อนตักให้ชิม มีคุณส่ายหน้าให้นับตังค์รู้ว่าไม่ชิมจากช้อน นับตังค์เบ้ปากใส่แต่ก็ใช้นิ้วก้อยของตัวเองปาดซอสจากช้อนยื่นไปที่ปากของมีคุณ

“อร่อย แต่พี่ว่า...มันอร่อยกว่านี้ได้อีกถ้า...” มีคุณดูดซอสจากนิ้วของนับตังค์เสร็จก็พูดค้างเอาไว้

“ถ้าอะไรคุณนักวิจารณ์” นับตังค์อยากรู้ว่าซอสของตัวเองยังขาดรสชาติอะไรไป

“ตังลองชิมอีกทีสิ” มีคุณบอก

นับตังค์ปาดซอสเข้าปากตัวเองบ้าง ทันใดนั้นมีคุณก็โน้มตัวมาประกบปากของนับตังค์ ละเลียดชิมซอสที่หลงเหลืออยู่ที่ปลายลิ้นของอีกฝ่ายอย่างอ้อยอิ่งถึงได้ยอมถอนริมฝีปากของตัวเองออก นับตังค์ไม่ได้ต่อว่าที่มีคุณทำอะไรตามใจต่อหน้าด้วง เพราะว่าตอนนี้ด้วงหลับคาเก้าอี้ไปแล้ว

“มันจะอร่อยมากถ้าเราชิมกันแบบนี้บ่อยๆ” มีคุณให้คำตอบที่พูดค้างเอาไว้ก่อนจะแอบลุ้นว่าตัวเองจะถูกนับตังค์ต่อว่าอะไรที่จู่โจมไปแบบนี้

“พี่...” นับตังค์ชะโงกมองไปที่ด้วง เมื่อเห็นว่าด้วงหลับปุ๋ยอยู่ก็หันมาสบตากับมีคุณอีกรอบ

“หืม”

“ตังทำซอสห้าแบบ”

“แล้วไง”

“ก็...”

“หืม”

“ก็พี่เพิ่งชิมไปแบบเดียวเองไง”

มีคุณหัวเราะก่อนจะดึงนับตังค์มากอดเอาไว้ หอมแก้มนับตังค์จนพอใจแล้วจึงชวนนับตังค์กลับขึ้นห้อง ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะชิมซอสที่เหลือในแบบของเขาเอง นับตังค์ก็อุตส่าห์เล่นมุกอ้อนให้ชิมจนหัวใจของเขาแทบละลาย แต่ขืนได้ชิมด้วยการจูบแบบนี้ไปอีกสักรอบสองรอบ มีคุณคิดว่าหนูด้วงอาจจะได้หลับคาเก้าอี้ยันเช้าเป็นแน่


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ


(https://www.uppic.org/image-FD92_595F41B5.jpg)


เครดิตรูปจาก Google

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 07-07-2017 15:38:11
อ่านนิยายมาก็หลายเรื่อง แต่สำหรับเรื่องนี้ เรายกให้ 10/10
ภาษาดี สวยงาม ไม่มีคำผิด อ่านแล้วละมุนมากๆ
และที่สำคัญอ่านแล้วหิววววววววววววววววว  :hao6: :hao6:

เราว่าปู่ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ อาจจะเป็นคนพิเศษจริงๆ มีความรู้ความสามารถ
แต่มาทำตัวเป็นคนบ้า หรืออาจจะเป็นคนรวยตามหารักแท้ 555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 07-07-2017 16:43:52
ตัวละครลับเพิ่มมาอีกคน
แหมะอยากไปส่องตอนเขาชิมซอสจริงๆ  :hao6:
หิว อิอิ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 07-07-2017 18:43:11
 :3123: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 07-07-2017 19:20:34
อาหารก็หิว ปู่ช้วนเป็นใคร เราก็สงสัย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-07-2017 19:35:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 07-07-2017 20:34:57
หื่นทั้งคู่  :hao3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 07-07-2017 21:21:25
โอ๊ยยยย แชร์โลเคชั่นร้านนี้ด่วนๆค่ะ อยู่ไกลลำบากแค่ไหน? ดิฉันก็จะดั้นด้นไป เรื่องเสียงร่ำลือของอาหารนั้นก็มีส่วน แต่เหตุผลหลัก...บอกเลยว่า ตามไปฟิน บอสตังค์ กับ พายพัดอุ๋งอุ๋ง เป็นหลักคร่าาา งื้ออออ ดี๊ดี  //  ปู่ช้วนหล่อไปอี๊กกก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-07-2017 22:22:28
ช้วนอายุ 60 แต่ดูสมาร์ทมาก
ใครกันหว่า
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Kunpimook ที่ 07-07-2017 22:45:19
 :katai2-1: :katai3: มีตัวละครมาเพิ่มอีกๆๆๆ
เรื่องยิ่งซับซ้อนและน่าติดตามมากขึ้น ขออย่างเดียวนะคะถ้ามีดราม่า(ซึ่งต้องมีแหละเนอะ55) ช่วยดราม่าเรื่องด้วงน้อยๆหน่อยนะฮะ สงสารด้วงๆ :really2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 10-07-2017 11:51:47
อ่านแล้วหิว อาหารน่ากินอีกแล้วววว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 10-07-2017 13:25:38
พี่ช้วนสงสัยจะเป็นคนพิเศษจริงๆ เหมือนจะเป็นนักชิม สงสัยวิญญาณคุณปู่เข้าสิงร่างช้วนอยู่รึเปล่า 555

พี่เลี้ยงหนูด้วงคงไม่ต้องไปหาคนอื่นแทนแล้ว ให้พี่ช้วนนี่แหละคอยดูแล

เห็นอาหารแล้วหิว อยากกินรูบิกเค้ก กับผัดไท
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-07-2017 14:40:26
 o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 10-07-2017 16:37:26
อ่านแล้วหิวมากๆ 555
ด้วงเป็นหลานแท้ๆ ของตังค์ใช่ไหม ลูกพี่ชายที่หายไป
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 18 รูบิคเค้ก 07/07/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 10-07-2017 18:58:52
 :mew1: :mew1: :mew1: :3123: :3123: :3123: o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 12-07-2017 02:30:26
ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ


ร้านมีคุณอนันต์เปิดให้บริการมาถึงวันนี้ก็เป็นเวลาเดือนกว่าแล้ว ชื่อเสียงของร้านที่ถูกแนะนำจากลูกค้าที่ได้มารับประทานอาหารแล้วแชร์ต่อกันไปในโลกโซเชียลทำให้คนรู้จักมากขึ้นและยังมียอดจองล่วงหน้าเข้ามามากจนมีคุณต้องขอจำกัดยอดจองเอาไว้ที่ครึ่งปีก่อน เหตุเพราะนับตังค์ขอร้องเอาไว้ว่าในอนาคตอาจจะมีการเพิ่มเติมรายการอาหารเซ็ทใหม่ จึงไม่อยากให้คิวจองยาวนานเกินไป

สิ้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อมีคุณจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานทุกคนพร้อมกับเคลียร์ค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในร้านเรียบร้อยแล้วจึงรวบรวมเงินเพื่อชำระหนี้แทนคุณพลอยประดับเป็นเดือนแรก ทนายเคารพโทรมาแจ้งว่าเจ้าหนี้บางรายยินยอมลดดอกเบี้ยให้และให้ผ่อนจ่ายเป็นรายเดือน แต่ยังมีบางรายที่ไม่พอใจและยังไม่ยอมรับข้อเสนอ จะขอยึดสัญญาเดิมที่มีคุณบอกว่าจะใช้เป็นก้อนใหญ่เพราะคิดแล้วว่าได้ดอกเบี้ยเยอะกว่า ซึ่งเจ้าหนี้รายนั้นเป็นรายใหญ่สุดที่เสียด้วย

มีคุณถอนหายใจเมื่อดูยอดเงินที่เหลือในบัญชี แม้ว่าเดือนที่ผ่านมารายได้จากร้านอาหารมีคุณอนันต์จะมากพอสมควร แต่เมื่อต้องชำระหนี้แทนคุณพลอยประดับแล้วยังมีรายจ่ายส่วนตัวในแต่ละเดือนร่วมด้วย มันก็ทำให้เหลือไม่มากเท่าไหร่ โดยเฉพาะตอนนี้มีคุณไม่ได้ทำคอลัมน์ของตัวเองแล้วจึงขาดรายได้ไปอีกทาง หากยอดเงินเหลือในแต่ละเดือนมีเพียงเท่านี้ก็คงไม่พอใช้ให้เจ้าหนี้รายใหญ่ตอนครบหนึ่งปีแน่นอน พญาและพเยียก็ยังแวะเวียนมาพูดเรื่องขอซื้อร้านอยู่สม่ำเสมอ แม้มีคุณจะยืนยันว่าไม่คิดจะขายร้านแล้ว แต่ทุกครั้งที่มีคุณปฏิเสธ คนทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มมูลค่าที่ดินมากขึ้นทุกครั้งที่มาเจรจา ถึงมีคุณจะเสียดายแต่ก็ไม่เสียใจกับสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้ว

ส่วนคีตะที่มาทำงานให้กับโรงแรมของนายหัวพยนต์ก็ยังคงแวะเวียนมาหามีคุณทุกวัน อาศัยช่วงเวลาเลิกงานจากโรงแรม คีตะก็จะมาช่วยมีคุณต้อนรับลูกค้าในร้านจนลูกค้าหลายคนนึกว่าคีตะเป็นเจ้าของร้านไปเลยก็มี แต่ทุกคนก็ยอมรับเรื่องความสามารถในการต้อนรับลูกค้าของคีตะ เพราะคีตะเป็นคนปากหวาน เอาใจเก่ง ช่างพูดช่างเจรจา ลูกค้าหลายคนติดใจและเอ่ยปากชม แต่ในขณะเดียวกันคีตะก็สร้างความปวดหัวให้กับนับตังค์ไม่น้อยด้วยการทำตัวเป็นเหมือนแมลงหวี่ ถึงไม่กัดให้ต้องเจ็บปวดแต่ก็บินวนเวียนสร้างความรำคาญ แม้นับตังค์เห็นว่ามีคุณให้คีตะได้แค่ความเป็นเพื่อนแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เห็นว่าคีตะจะยอมถอดใจเสียที

ส่วนเรื่องเท่ง หลังจากร้านเปิดได้แค่อาทิตย์เดียว นับตังค์ก็ได้ข่าวเรื่องของเท่งจากตำรวจท้องที่ว่าเท่งเสียชีวิตแล้ว ตำรวจมาขอให้นับตังค์ไปให้ปากคำเพราะทางตำรวจสันนิษฐานว่าเท่งโดนฆาตกรรม ซึ่งนับตังค์เคยมีเรื่องกับเท่งในตลาดและล่าสุดเท่งก็คิดทำร้ายนับตังค์  นับตังค์ยินดีไปให้ปากคำเพราะว่าบริสุทธิ์ใจและมีพยานหลายคนบอกได้ว่านับตังค์อยู่ที่ร้านในวันเกิดเหตุ แล้วเรื่องของเท่งก็เงียบไปในที่สุดเพราะตำรวจไม่สามารถหาตัวฆาตกรได้

เรื่องที่มาที่ไปของช้วนก็เป็นอีกเรื่องที่คนในร้านต่างก็พากันสงสัย บ่อยครั้งที่ช้วนทำตัวเหมือนคนสติไม่ดี พูดคนเดียว หัวเราะคนเดียว เล่นกับหนูด้วงราวกับว่าอายุเท่ากัน แต่ก็บ่อยครั้งอีกเช่นกันที่ช้วนทำให้หลายคนต้องอึ้งไป ยกตัวอย่างเช่นช่วงเวลาที่ทุกคนต้องมาประชุมกันในตอนเช้าและหลังร้านปิด ช้วนจะมานั่งฟังอยู่ด้วยตลอด ระหว่างที่พนักงานพูดถึงปัญหาที่เจอ ช้วนก็จะโพล่งวิธีการแก้ปัญหาออกมา แม้คำพูดจะโผงผางแต่ทุกคนก็ยอมรับว่ามันเป็นการแก้ปัญหาที่ดี หรือบางทีช้วนก็วิจารณ์อาหารของนับตังค์ในแบบที่คนอื่นนึกไม่ถึง บางทีทุกคนลงมติว่าอร่อยแล้ว แต่ช้วนจะบอกว่าควรใส่อะไรเพิ่ม พอนับตังค์เอาไปทำตามก็เพิ่มความอร่อยได้มากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ พอนับตังค์เค้นถามว่าช้วนเคยมีอาชีพอะไรมาก่อนและเคยอยู่ที่ไหนมาก่อน ช้วนก็ตอบเหมือนกันทุกครั้งว่าตัวเองมาจากต่างดาวและไม่ต้องทำอะไรเพราะเก่งทุกด้านมาตั้งแต่เกิด จนนับตังค์เลิกถามคำถามเดิมๆ เพราะรู้ว่าถามไปก็ไม่ได้สาระอะไรกลับมา แต่เปลี่ยนคำถามใหม่ว่า ‘ปู่มาจากดาวไหน’ แทนแล้ว

“นี่ ขอข้าวผัดปูจานหนึ่งสิ เอาไปให้ที่ห้องทำงานของคุณนะ ฉันจะกินที่นั่น” คีตะเดินมาสั่งนับตังค์ในครัว วันนี้เป็นวันหยุดของคีตะ เขาจึงมาหามีคุณตั้งแต่เช้า อยู่ช่วยในร้านและทำตัวติดกับมีคุณเพราะอยากให้นับตังค์หมดความอดทน

“เราทุกคนในร้านกินอาหารพร้อมกัน เมื่อครู่ที่คนอื่นเขากินกันทำไมคุณไม่มากิน” ใบเมี่ยงเป็นฝ่ายโมโหแทนนับตังค์ ปกติแล้วใบเมี่ยงไม่ใช่คนอารมณ์เสียง่ายๆ แต่คราวนี้มันสุดจะทนเพราะคีตะใช้น้ำเสียงสั่งนับตังค์ราวกับนับตังค์เป็นคนรับใช้

“สั่งข้าวอีกคน แต่ดันไปหนักหัวอีกคน” คีตะกอดอกแล้วพูดใส่ใบเมี่ยง

“มันไม่ได้หนักหัวหรอก มันหนักใจ ตอนเด็กๆ ขาดความรักเหรอ ตอนโตมาถึงอยากได้ขนาดนี้” ใบเมี่ยงโต้ตอบกลับ

พายพัดและนับตังค์มองใบเมี่ยงอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ตั้งแต่รู้จักกันมาใบเมี่ยงไม่เคยว่าใครรุนแรงแบบนี้เลย คราวนี้คงจะหมดความอดทนแล้วจริงๆ พอพายพัดเห็นว่าคีตะจะเดินเข้ามาหาใบเมี่ยงก็รีบเดินเข้ามาขวาง แต่ยังไม่ทันที่ใบเมี่ยงกับคีตะจะต่อปากต่อคำกันต่อ เสียงช้อนกระทบกับจานดัง ’เคล้ง’ ก็ดังมาให้ได้ยิน

“กินข้าวอิ่มก็มีเกาเหลาให้กินต่อเว้ย สนุก ข้าชอบ ข้าจะเป็นกรรมการให้นะ ด้วงเชียร์ใครไหนบอกปู่ซิ” ช้วนถามด้วงหลังจากที่ยกเอาช้อนมาเคาะจานแทนให้สัญญาณเปิดศึกเกาเหลา

“หนูจาเชียทุเยียนกะจินโจ้ ใฉ่หน้ากาก ย้องเพงแข่งกัน” ด้วงตอบไปเพราะนึกว่าช้วนถามถึงรายการแข่งขันรายการหนึ่งที่มีคนใส่หน้ากากมาร้องเพลง ด้วงชอบมากเพราะมีหน้ากากประหลาดทุกอาทิตย์ให้ได้ดู แต่หลังๆ มานี่นับตังค์ไม่ให้ด้วงดูแล้วเพราะว่ารายการมันเลิกดึกเกินไป ด้วงชอบฝืนดู สัปหงกไปแล้วยังถ่างตารอดูอีก

“ไม่ใช่ คนละเรื่องกันแล้ว นี่ ปู่จะชี้ให้ดูนะ นั่นหน้ากากแมวน้ำ” ช้วนชี้ไปที่ใบเมี่ยง

“แมวน้ำ” ด้วงพูดตาม

“ส่วนหน้านั่นหน้าหนา เอ้ย หน้ากากแรด” ช้วนกระซิบด้วงเบาๆ แล้วชี้ไปที่คีตะ

“นี่แย่ดเหยอ” ด้วงพูดตามแล้วชี้ไปที่คีตะ

“ปู่! สอนอะไรหนูด้วงอีกแล้ว” นับตังค์ได้ยินคำว่า ‘แย่ด’ จากด้วงแล้วสะดุ้ง

“เอ็งให้ข้าเลี้ยงก็อย่ามายุ่งกับข้า เอ้า เจ้าด้วง เอ็งจะเชียร์ใคร” ช้วนหันไปเถียงนับตังค์แล้วก็กลับมาถามด้วงต่อ ด้วงมองไปทางใบเมี่ยงแล้วก็มองไปทางคีตะสลับกันไปมาหลายรอบ

“ไม่ชอบแย่ด หนูชอบอุ๋งอุ๋ง” ด้วงทำท่าแมวน้ำแบบที่พายพัดเคยสอน จนเห็นคีตะถลึงตาใส่ด้วงจึงรีบซุกหน้ากับอกของช้วนทันที

“เอ็งอย่ามาทำท่าขู่หลานข้านะไอ้หนุ่ม เห็นข้าบ้าแบบนี้ จริงๆ ข้าก็บ้าแบบนี้แหละ” ช้วนพูดวกไปวนมาจนนับตังค์ส่ายหน้า แต่คีตะกำลังหน้าบูดเหมือนข้าวค้างปี

“ไม่รู้มีคุณเลี้ยงคนบ้าแบบนี้ได้ยังไง พวกเห็บเหาเกาะกินฟรี” คีตะมองช้วนแบบไม่พอใจ

“นี่คุณแฟน ‘เก่า’ ของบอส เดี๋ยวจะทำข้าวผัดปูให้นะ อยากกินก็พูดจาให้มันดีๆ ไม่ใช่โมโหหิวแล้วทำท่าเหมือนผู้หญิงมีประจำเดือน แล้วพี่ช้วนก็ไม่ใช่เห็บเหา เพราะถ้าใช่แปลว่าบอสเป็นหมา ซึ่งจากที่ดูแล้วอย่างบอสคงเป็นหมาไม่ได้ เพราะหมามันสมสู่ไม่เลือก แต่บอส ‘เลือก’ แล้วอย่ามาระรานใครในครัวนี้อีก เพราะที่นี่ผมใหญ่ที่สุด” นับตังค์เห็นว่าคีตะลามปามผู้ใหญ่อย่างช้วนแล้วต้องปรามเสียบ้าง และยังจงใจเน้นคำว่า ‘เก่า’ และ ‘เลือก’ ให้คีตะได้แสบๆ คันๆ ด้วย

“นายมันเป็นแค่พ่อครัว คนที่ใหญ่ที่สุดคือมีคุณต่างหาก นายไม่มีสิทธิ์มาไล่ใคร” คีตะหน้าเสียที่ถูกนับตังค์ย้อน

“ลองดูไหมละ ผมจะตามบอสมา อยากรู้เหมือนกันว่าบอสจะเลือกใคร ระหว่างคุณกับผม พร้อมจะรับรู้ความจริงหรือเปล่าล่ะ” นับตังค์ท้าทาย คีตะนิ่งอึ้งไปเพราะคิดว่ารู้คำตอบดี สุดท้ายก็ทำได้แต่มองตาขวางใส่ทุกคนแล้วเดินออกไป ทุกคนมองตามไปจนได้ยินเสียง ‘เคล้ง’ อีกรอบ

“หน้ากากแมลงสาปชนะ” ช้วนเคาะจานเสร็จก็ป่าวประกาศ

“ปู่! ทำไมต้องให้ตังเป็นแมลงสาปล่ะ อุตส่าห์ช่วย รู้งี้ให้ปู่เป็นหน้ากากเหาต่อไปก็ดี” นับตังค์บ่น แต่พายพัด ใบเมี่ยงและสายรุ้งหัวเราะกันใหญ่

“มัมๆ ไม่ใช่แมงฉาปหยอก หนูไม่ชอบแมงฉาป ไม่ยักปู่แย้ว โกดปู่” ด้วงขมวดคิ้วแล้วยกนิ้วโป้งให้ช้วน ก่อนจะชูมือให้นับตังมาอุ้ม

“ฮ่าๆ สมน้ำหน้า บอกแล้วที่นี่ตังใหญ่สุด” นับตังค์มาอุ้มด้วงแล้วหัวเราะชอบใจที่ด้วงปกป้องตน

“เฮ้ย ใจเย็นกันก่อน แมลงสาปมันอึด มันทนถึกตายยาก แถมว่องไว ไต่เก่ง สบตาปุ๊ป บินใส่ปั๊ป ข้าก็เห็นว่ามันเหมือนเอ็งชัดๆ” ช้วนรีบอธิบายเมื่อโดนหลานคนโปรดงอนใส่

“เหมือนตรงไหนคะพี่ช้วน” สายรุ้งถามด้วยความสงสัย

“ก็เชฟของพวกเอ็งมันฉลาด คล่องแคล้วรู้งาน ทนถึก ใครก็ทำร้ายไม่ได้” ช้วนสาธยายต่อ

“แล้วไอ้ไต่เก่ง สบตาปุ๊ปบินใส่ปั๊ปนี่มันเหมือนตรงไหนมิทราบ” นับตังค์กอดอกถาม

“อันนั้นเอ็งไปถามผัวเอ็งเถอะ ข้าไปดีกว่า” ช้วนพูดจบก็ลุกขึ้นยืน ปล่อยให้นับตังค์ยืนหน้าแดงท่ามกลางเสียงหัวเราะของพายพัด ใบเมี่ยงและสายรุ้ง นับตังค์คิดว่าโชคดีที่แก๊งเด็กเสิร์ฟไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นคงโดนหัวเราะเยาะร่วมด้วย

“ปู่นี่เพ้อเจ้อ ตังไปผัดข้าวดีกว่า เดี๋ยวคุณหน้ากากแย่ดจะโมโหหิวเอาอีก” นับตังค์รีบส่งด้วงให้ใบเมี่ยงอุ้มต่อ แล้วก็พาตัวเองออกมาก่อนจะโดนช้วนพูดให้ต้องอายไปมากกว่านี้

“ผัดเผื่อข้าด้วยนะ ข้าอยากกินอีก” ช้วนตะโกนไล่หลังนับตังค์ไปก่อนจะหัวเราะชอบอกชอบใจที่แกล้งนับตังค์ได้


มีคุณกำลังตรวจสอบใบจองของลูกค้าในรอบค่ำอยู่ในห้องทำงาน เมื่อเห็นคีตะเดินเข้ามาพร้อมกับท่าทางหงุดหงิดก็รู้ว่าคงเข้าไปในครัวมาแน่ๆ แต่มีคุณไม่อยากให้ความสำคัญอะไรจึงไม่ถามและนั่งทำงานต่อ ได้ยินเสียงถอนหายใจจากคีตะหลายรอบก็ยังคงไม่สนใจ จนคีตะเป็นฝ่ายทนไม่ได้

“คุณ ถึงคุณจะยังโกรธคิว แต่คุณก็ควรให้พนักงานของคุณให้เกียรติคิวบ้าง คุณรู้ไหมว่าตาแก่คนนั้นด่าคิวว่าแรด” คีตะอดไม่ได้ที่จะฟ้องอดีตคนรัก

“แล้วคิวแรดรึเปล่า” มีคุณเงยหน้าถาม

“คุณ!!”

“ถ้าคิวไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นว่าคิวจะใส่ใจทำไม ผมไม่ใช่ไม่รู้นิสัยคิวหรอกนะ ถ้าไม่ไปหาเรื่องคนอื่นก่อน คนอื่นเขาจะว่าคิวเหรอ เราโตๆ กันแล้วนะ อย่าทำให้ทุกอย่างมันยุ่งยากเลย” มีคุณเตือนสติ

“คิวรู้ดีว่าคิวนิสัยไม่ดี แต่คุณเป็นคนบอกว่ารักที่คิวเป็นคิว คุณบอกเองว่าต่อให้คิวแย่กว่านี้คุณก็ไม่คิดจะปล่อยมือคิว” คีตะเดินมายืนตรงหน้ามีคุณแล้วพูดเรื่องในอดีต

“แล้วผมเป็นคนปล่อยมือคิวเหรอ” มีคุณถามด้วยสีหน้าจริงจังจนคีตะอึ้งไป

“คิวรู้ว่าคิวดึงมือตัวเองออกจากคุณเอง แต่เพราะคิวไม่อยากให้คุณต้องลำบากเพราะพ่อของคิว วันนี้คิวขอมือของคุณอีกครั้งไม่ได้เหรอครับ ให้โอกาสคิวได้จับมือคุณอีกครั้งนะครับ คิวรู้แล้วว่ามือคู่นี้มีค่าแค่ไหนสำหรับคิว” คีตะกุมมือของมีคุณแล้วลงไปนั่งคุกเข่าก่อนจะยกมือของมีคุณมาแนบที่แก้ม น้ำตาที่ไหลออกมามาจากความเสียใจที่ไม่รู้คุณค่าของมือคู่นี้

นับตังค์เดินเข้ามาในห้องทำงานของมีคุณพร้อมกับถาดใส่อาหารจึงได้เห็นภาพการอ้อนวอนของคีตะพอดี มีคุณเห็นนับตังค์ก็พยายามจะดึงมือออกจากการเกาะกุมของคีตะ แต่คีตะไม่ยอมปล่อยมือของมีคุณง่ายๆ ยังคงยื้อเอาไว้ แต่พยายามจะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาให้นับตังค์ได้เห็น


“นี่ข้าวผัดปูของแขกของบอส ส่วนนี่ตังทำมาให้บอสชิม เป็นลูกชิ้นที่ทำจากกุ้ง ปู ปลา แล้วก็หอย ว่าจะลองให้ลูกค้าชิมโต๊ะละที่ แต่จะเอาลงในเมนูอาหารกลางวัน” นับตังค์วางถาดอาหารลงบนโต๊ะกระจกที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับโต๊ะทำงานของมีคุณ

น้ำซุปจากชามส่งกลิ่นหอมจนคีตะเองต้องชะเง้อดู ลูกชิ้นลูกโตที่อยู่ในชามนั้นดูหลากหลายแตกต่างกัน มีคุณดึงมือของตัวเองหลุดจากการเกาะกุมของคีตะสำเร็จก็รีบลุกไปหานับตังค์

“น่ากินมากเลย ไหนพี่ขอชิมหน่อย” มีคุณตักน้ำซุปมาชิมก่อนจะทำสีหน้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก จากนั้นก็ตักลูกชิ้นลูกแรกมาชิม ทยอยชิมจนครบทุกรส ลูกชิ้นแต่ละลูกที่นับตังค์ทำออกมาไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่น้อย ส่วนผสมของเนื้อสัตว์มีความกรุบเด้งแบบธรรมชาติ ชิมดูก็รู้ว่าไม่มีส่วนผสมของแป้งเลย น้ำซุปก็หวานละมุนลิ้น กลิ่นกระเทียมเจียวก็ช่วยเพิ่มความหอม ได้ซดร้อนๆ แบบนี้ช่างชื่นใจดีเหลือเกิน

“อร่อยไหม” นับตังค์ถามด้วยความอยากรู้

“มีอะไรบ้างที่ตังทำแล้วพี่ไม่ชอบ แล้วเมนูนี้มีชื่อรึยัง” มีคุณส่งสายตาหวานซึ้งไปให้แบบเปิดเผย

“ทีแรกก็ว่าจะให้ชื่อว่าเกาเหลาลูกชิ้นรวม แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว” นับตังค์ตักลูกชิ้นกุ้งมาป้อนมีคุณอีกรอบ ซึ่งมีคุณก็อ้าปากรับแต่โดยดี

“ชื่ออะไรเหรอ”

“เกาหลาชนะใสๆ เอ้ย เกาเหลาใสๆ” นับตังค์ตอบก่อนจะส่งยิ้มให้คีตะ

“คุณ วันนี้คิวคงไม่ได้มาช่วยช่วงค่ำนะ รู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอตัวกลับก่อน” คีตะลุกขึ้นยืนหลังจากที่รู้สึกว่าตัวเองดูเป็นส่วนเกิน เจ็บเกินที่จะอยู่ดูต่อไป

“ร้ายนักนะ” หลังจากที่คีตะออกไปแล้วมีคุณก็รั้งเอวนับตังค์มากอด

“ใครร้าย พูดดีๆ นะ นี่ยังไม่ร้ายนะขอบอก” นับตังค์หันไปเหวี่ยงใส่มีคุณเบาๆ

“หึงแล้วใช่ไหม” มีคุณยังหยอก

“ไม่ได้หึง รำคาญ นี่ก็ทำตัวให้เขาแทะโลมอยู่ได้ เป็นพระเอกรุ่นดึกดำบรรพ์รึไง กลัวแฟนเก่าเสียใจเลยให้ความหวังอยู่ได้” นับตังค์ดึงมือของมีคุณออกจากเอวของตัวเองแล้วเดินตรงไปที่โดมกระจก ทิ้งตัวลงนั่งที่เตียงกลมของหนูด้วง

“ตังเป็นคนบอกพี่เองนะว่าคิวอยากทำอะไรก็ปล่อยไป ตังไม่ได้ใส่ใจ” มีคุณรีบเดินมาง้อ

“ตังผิดสินะ” นับตังค์ย้อนถาม มีคุณรีบลงไปนั่งข้างๆ

“เปล่า พี่ไม่ได้ว่าตัง ก็แค่พูดให้ฟัง”

“ถึงตังจะพูดแบบนั้นก็เพราะตังเป็นคนดีไง แต่พี่หน้าเหมือนโจร พี่ไม่ต้องใจดีแบบตัง เข้าใจป๊ะ” นับตังค์ถามเสียงสูง

“เอ้า ซะงั้น สรุปจะให้พี่ไล่คีตะตรงๆ ใช่ไหม” มีคุณถาม

“อยากทำอะไรก็ทำ ตามใจ ไม่อยากจะขัด” นับตังค์เมินหน้าหนีไปทางอื่น 

“ทำไมวันนี้งอแงจังเลย” มีคุณนึกแปลกใจ พยายามจะจับคางนับตังค์ให้หันหน้ามา แต่อีกฝ่ายก็ยังขืนใบหน้าเอาไว้ จนมีคุณเริ่มเครียดว่านับตังค์งอนจริงจึงลุกไปดูให้เห็นหน้าคนแสนงอน

“คิกๆๆ” นับตังค์เห็นหน้ามีคุณก็หลุดขำออกมา

“แกล้งพี่เหรอ” มีคุณส่ายหน้าขำ

“เปล่า ดูในซีรีย์เกาหลี เห็นเวลาเขางอนง้อกันมันน่ารักดี ตั้งใจว่ามีแฟนแล้วอยากทำมั่ง คิกๆๆ เขินเนอะ ตลก” นับตังค์พูดไปขำตัวเองไป

“เรานี่มันจริงๆ เลยนะ เฮ้อ ตกใจหมดนึกว่างอนจริง” มีคุณถอนหายใจ

“ตังไม่ค่อยงอนหรอก แต่ถ้าลองได้โกรธ ง้อไปเถอะ หายยาก บอกเลย อย่าคิดทำให้โกรธ” นับตังค์ขู่

“เชื่อ ตอนที่พี่ไปวิจารณ์ขนมของตัง ตังก็แค้นพี่จนจำฝังใจเลย แต่ก็ดีนะ” มีคุณระลึกถึงความเก่า

“ดียังไง” นับตังค์หรี่ตารอคำตอบ

“ก็จำฝังใจ พี่เลยออยู่ในใจของตังตลอดเวลาไง ฝังซะมิดเลย” มีคุณได้ทีหยอด

“ว่าแล้วเชียว” นับตังค์เบ้ปากแต่ในใจก็เริ่มเห็นด้วยว่าสงสัยจะแค้นมีคุณจนฝังเอาไว้ในใจจริงๆ

“เอาเป็นว่าถ้าคิวมาอีก พี่คงต้องพูดแรงๆ เขาจะได้เข้าใจเสียที” มีคุณถอนหายใจ เขาไม่รู้หรอกว่าพระเอกยุคดึกดำบรรพ์ของนับตังค์เป็นยังไง ไม่รู้ว่านับตังค์จะเข้าใจไหม การที่เราเคยรักสักคน เคยใช้เวลากับเขามาก็มากอยู่ แม้ตอนนี้ความรักนั้นมันจะหมดไปจากใจแล้ว มันยังคงมีความผูกพันบางอย่างที่ทำให้มีคุณหลงเหลือความสงสารให้

“พี่กลัวจะเสียความเป็นเพื่อนไปใช่ไหม” นับตังค์ถาม มีคุณเลิกคิ้วมองนับตังค์เพราะนับตังค์เหมือนมานั่งอยู่ในความคิดของเขา

“อืม”

“พี่จะเสียความเป็นเพื่อนให้เขาได้ยังไงหากเขาไม่มีความเป็นเพื่อนให้พี่ สิ่งที่เขามีให้พี่คือความรักในฐานะคนรักเท่านั้น ตังเข้าใจว่ามันยากเพราะอย่างน้อยพี่เคยรักเขามาก ตังแค่เอามาเปรียบกับตัวเองว่าหากวันหนึ่งเราต้องเลิกรากัน ตังก็ไม่อยากให้เราต้องเกลียดกัน เอาเป็นว่าพี่ไม่ต้องเอ่ยปากไล่เขาหรอก แต่พี่ต้องชัดเจน”

“พี่ก็บอกเขาไปแล้วว่าพี่ไม่ได้รักเขา พี่มีคนที่พี่รักแล้ว เขาเป็นคนชอบเอาชนะ”

“ปากบอก ตัวก็ต้องทำด้วย ไม่ใช่ว่าเขากุมมือก็ยอมให้เขากุม อย่างกับสาวแรกรุ่นไม่มีแรงดึงมือออกแบบเมื่อกี้อะ” นับตังค์หน้ามุ่ย

“สรุปว่าหึงพี่ใช่ไหม” มีคุณกระเซ้าถาม

“เออ หึงก็ได้ ยอมรับ” นับตังค์กระแทกเสียงใส่ มีคุณหรี่ตามองว่าคราวนี้นับตังค์ล้อเล่นอีกหรือเปล่า พอเห็นว่าท่าทางหึงจริงมีคุณก็อมยิ้ม

“น่ารัก” มีคุณหอมแก้มนับตังค์ฟอดใหญ่ ดีใจที่นับตังค์หวงเขาเสียที

“ประสาท” นับตังค์ต่อว่าแต่ก็อมยิ้มไม่ต่างกัน

“พรุ่งนี้เป็นวันหยุดประจำเดือน ไปเที่ยวน้ำตกกันนะ พวกเด็กๆ เขาชวนไปด้วยกัน” มีคุณดึงนับตังค์ให้ยืนขึ้นแล้วสวมกอด พูดไปก็จูบไปทั่วจนนับตังค์ต้องหดคอหนีเพราะจั๊กจี้

“ไม่เอา ตังกลัว” นับตังค์นึกถึงสะพานเชือกแล้วรีบปฏิเสธ

“มันมีทางลัดอื่น ไปนะ ด้วงจะได้ไปเล่นน้ำตกด้วย” มีคุณเริ่มขบติ่งหูนับตังค์จนใบหน้า คอ หูของนับตังค์แดงซ่านไปหมดแล้ว

“ก็ได้ อืม...พี่ ตังจะกลับครัวแล้ว” นับตังค์เริ่มเคลิ้มแต่ก็กลัวว่าลูกครึ่งหมีผสมโลมาจะของขึ้นอีก

“ยังมีเวลาอีกตั้งนาน พี่ล็อกห้องก่อน ขอขั้นบีสักหน่อยนะ” มีคุณอ้อน

“พี่ เราจะไม่เรียกขั้นเอบีซีแล้ว” นับตังค์พยายามชวนคุยก่อนที่จะโดนบุกรุกพื้นที่สงวน

“เปลี่ยนอีกแล้วเหรอ จะให้เรียกอะไร” มีคุณยอมหยุดนัวเนียคนรักเพราะอยากรู้ว่านับตังค์จะมาไม้ไหนอีก

“ตังเป็นเชฟ เราเรียกเป็นอาหารดีกว่า”

“ว่ามา”

“ก็ขั้นเอ เราก็เรียก ไข่ตุ๋น ดีมะ แบบซอล์ฟๆ” นับตังค์เสนอ

“โอเค แค่จูบเรียกว่าไข่ตุ๋น ถูกไหม”

“ถูก ขั้นบี เราก็เรียกว่า คั่วกลิ้งไง แบบแซ่บขึ้นมาหน่อย” นับตังค์เสนอ

“โอเค มากกว่าจูบ สำรวจพื้นที่ภายนอกได้หมดแต่ห้ามบุกรุกภายใน เรียกว่าคั่วกลิ้ง ถูกไหม” มีคุณยักคิ้วถาม

“ถูก แล้ว..ขั้นซี แบบ...เอาชื่ออะไรดีนะ คิดก่อน” นับตังค์พยายามถ่วงเวลาให้เจ้าหมีที่กำลังของขึ้นสงบลง ไม่อยากต้องมาเสียเอกราชในยามนี้ เดี๋ยวจะไม่มีแรงยืนทำงานหน้าเตา

“พี่ว่า ขั้นซี คือพี่จะต้องได้กินตังใช่ไหม เอาชื่อว่า ‘โจ๊ก’ ก็แล้วกัน” มีคุณเป็นฝ่ายเสนอ

“ทำไมต้องโจ๊กอะ” นับตังค์ถาม

“ก็...’เละ’ เป็นโจ๊กไง หึหึ” มีคุณหัวเราะในลำคอเมื่อนึกถึงวันที่จะได้กินโจ๊ก ส่วนคนฟังก็หน้าตาตื่นเมื่อนึกถึงว่าตัวเองจะเละเป็นโจ๊กในสักวัน

“เฮ้ย นึกขึ้นได้ ตั้งหม้อน้ำซุปเอาไว้ ไปก่อนนะ” นับตังค์รีบหาข้ออ้างพยายามจะเบี่ยงตัวออก แต่โดนมีคุณกอดรัดเอาไว้แน่นเพราะรู้ทัน

“ขอกินไข่ตุ๋นก่อน” มีคุณพูดจบก็ประทับริมฝีปากไปทันทีไม่รอให้เชฟใหญ่หาทางหนีทีไล่อีก

ส่วนเชฟใหญ่ที่ทำทีว่าอยากจะขัดขืนก็ทำท่าผลักไสได้แค่ครู่เดียว ตอนนี้เลยต้องยอมให้คุณบอสเขาชิมไข่ตุ๋นจนพอใจ แต่ก็คิดในใจว่าอย่าฝันจะได้กินโจ๊กง่ายๆ เลย ‘ฝันไปก่อนเถอะไอ้บอสบ้ากามเอ้ย’


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 12-07-2017 02:33:34
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


มาถึงวันหยุดประจำเดือน มีคุณตกลงว่าให้มีวันหยุดประจำเดือนได้สองวัน คือวันที่สิบกับวันที่ยี่สิบของทุกเดือน พนักงานในร้านเลยนัดกันว่าจะไปเที่ยวน้ำตกกัน ทีมเชฟลุกมาช่วยกันเตรียมอาหารง่ายๆ ไปกินกันในช่วงกลางวัน ส่วนทีมเด็กเสิร์ฟก็เตรียมพวกเสื่อและอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ไปด้วย วันนี้สาลี่ลางานเพื่อจะไปเที่ยวด้วยกันกับสมาชิกของร้านมีคุณอนันต์ ส่วนช้วนปฏิเสธที่จะไปเพราะตอนอาศัยอยู่ที่บ้านร้างก็ขึ้นไปหาของกินแถวน้ำตกบ่อยๆ วันนี้จึงอยากขอเฝ้าบ้านให้เอง คนที่ตื่นเต้นที่สุดก็คงจะเป็นหนูด้วง พอรู้ว่าจะได้ไปเที่ยวก็ยิ้มหน้าแป้นโชว์ฟันขาวไปทั่ว

วันนี้ทุกคนมาด้วยรถกระบะคันเก่าของคุณปู่อนันต์ เพราะขมิ้นคิดว่ามันบรรทุกคนได้เยอะดี รถคันนี้คงจะเหมาะสมที่สุดแล้ว ขับมาถึงทางขึ้นเขาขมิ้นก็จอดแวะให้ทุกคนไหว้ศาลตากับยาย จากนั้นขมิ้นก็ขับขึ้นไปจอดที่หน้าบ้านพักของเจ้าหน้าที่เพราะมันสุดทางที่รถใหญ่จะขึ้นไปได้

“ไหนพี่ว่ามีทางลัดอื่นไง” นับตังค์โวยวายทันทีเมื่อได้รู้ว่าไม่มีทางอื่นไปน้ำตกนอกจากจะต้องข้ามสะพานเชือก

“พี่ขอโทษ พี่กลัวตังจะไม่ยอมมา” มีคุณรีบบอกหลังจากที่โดนนับตังค์โวยวายจนหูชา

“ก็แหงล่ะ ไม่มาแน่ๆ ตังจะกลับ ให้ตายก็ไม่ข้ามไปหรอก” นับตังค์หน้าบึ้งเมื่อรู้ว่าถูกหลอก

“อย่าโกรธบอสเลยนะคะเชฟ พวกเราอ้อนให้บอสหลอกเชฟเองเพราะเราอยากให้เชฟมาด้วยกัน” มีนารีบมากอดแขนของนับตังค์เมื่อเห็นว่านับตังค์โกรธจริง

“ตังจะกลับ” นับตังค์ยังคงยืนยัน

“เดี๋ยวพี่คุยเอง” มีคุณดึงแขนของนับตังค์ให้เดินออกมาห่างจากทุกคนพอสมควรเมื่อเห็นว่าทุกคนหน้าเสียกันหมด

“พี่ขอโทษนะครับ ตังจะกลับก็ได้ แต่อย่าหน้าบึ้งเลยนะ สงสารเด็กๆ เขาแค่เห็นว่าตังคือคนสำคัญจึงอยากให้มาด้วยกัน” มีคุณปลอบ

“ตังไม่ชอบให้ใครหลอกตัง บอกตังตรงๆ ก็ได้” นับตังค์เริ่มใจเย็นลงเมื่อหันไปมองแล้วเห็นว่าคนอื่นหน้าเจื่อนกันหมด

“ขอโทษนะ พี่จะพาตังกลับ” มีคุณสะอึกไปเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ของนับตังค์ มันยิ่งทำให้มีคุณเริ่มกังวลจนไม่กล้าสารภาพความจริงเรื่องพินัยกรรมของคุณปู่

“มันไม่มีทางอื่นขึ้นไปจริงๆ เหรอ” นับตังค์เห็นด้วงหัวเราะสนุกสนานอยู่ก็ถอนหายใจ ไม่ใช่ว่าไม่อยากไปเที่ยวกับทุกคน แต่นับตังค์กลัวความสูงจริงๆ

“ตังเชื่อใจพี่ไหม พี่จะพาตังข้ามไปอย่างปลอดภัย” มีคุณถามสีหน้าจริงจัง

“ไม่เชื่อ พี่อะตัวแกล้งเลย จำไม่ได้ใช่ไหม คลิปยังอยู่ จะดูไหม” นับตังค์ทำหน้าขยาดจนมีคุณเกือบหลุดหัวเราะ

“มันไม่เหมือนกัน ตอนนั้นพี่หมั่นไส้ความเกรียนของตัง แต่วันนี้พี่จะทำทุกทางให้คนที่พี่รักปลอดภัย” มีคุณจับมือนับตังค์มาจับเอาไว้

“ก็ได้ แต่ถ้าตังไม่ไหวก็คือไม่ไปต่อนะ” นับตังค์ชั่งใจอยู่นาน เมื่อเห็นสีหน้าของทุกคนดูวิงวอนอยากให้นับตังค์ไปด้วยกันก็อดใจอ่อนไม่ได้

ทุกคนร้องไชโยเมื่อรู้ว่านับตังค์ตัดสินใจจะไปต่อ พายพัดอุ้มหนูด้วงนำทีมข้ามไป นับตังค์ยืนอยู่ตีนสะพานตะโกนร้องโหวกเหวกเมื่อเห็นหนูด้วงยื่นหน้าไปดูพื้นล่าง รู้สึกเสียวขาแทนคนอื่นจนยืนแทบไม่ไหว จนกระทั่งทุกคนข้ามไปอีกฝั่ง ก็เหลือแต่มีคุณกับนับตังค์ เมื่อมีคุณกระชับมือของนับตังค์เตรียมจะพาข้าม นับตังค์ก็ขืนตัวเอาไว้แล้วส่ายหน้าน้ำตาคลอ มีคุณนึกสงสารจึงคิดว่าจะไม่ฝืนใจนับตังค์แล้ว

“ตังขี่หลังพี่ได้ไหม” นับตังค์ถามหลังจากที่มีคุณถามว่าจะกลับหรือไปต่อ

“ได้สิ เอาแบบนั้นก็ได้” มีคุณย่อตัวลงแล้วให้นับตังค์ขึ้นมาขี่หลัง

“มีข้อแม้อีกอย่างด้วย”

“ว่ามา”

“พี่ต้องหัดขี่จักรยาน พี่เคยบอกว่าจะหัด คราวนี้ต้องหัดจริงๆ” นับตังค์ยื่นข้อแม้

“ก็ได้ ยอมก็ยอม” มีคุณจำต้องยอมแลกความกลัวของตัวเองเพื่อความกล้าของนับตังค์

“จริงๆ ในซีรีย์เกาหลีมันก็มีฉากที่ต้องขี่หลังแบบนี้นะที่ตังอยากลองทำตอนมีแฟน มันควรเป็นฉากโรแมนติกไม่ใช่เหรอ ฮือ” นับตังค์ส่งเสียงครวญก่อนจะหลับตาปี๋เมื่อมีคุณเริ่มเดินไปบนสะพานเชือก

“พี่รักตังนะรู้ไหม” มีคุณบอกเพราะอยากให้นับตังค์ลืมความกลัว แต่...

“โอ้ย จะมาบอกอะไรเหมือนสั่งลาตอนนี้เล่า เงียบๆ ไปเลย” นับตังค์หลับตาโวยวาย

มีคุณต้องกลั้นขำเพราะกลัวสะพานเชือกจะสั่น เดี๋ยวคนที่ขี่หลังเขาอยู่จะเสียสติไปมากกว่านี้ มีคุณค่อยๆ เดินมาจนถึงปลายสะพาน พอนับตังค์ได้ยินเสียงร้องเฮก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เมื่อเห็นว่าตัวเองข้ามผ่านมาได้แล้วก็ถอนหายใจแล้วซบหน้ากับหลังของมีคุณเพราะเกร็งจนเหนื่อยไปหมด

“มัมไม่กัวน้า โอ๋ๆ” หนูด้วงหมุนข้อมือสะบัดนิ้วไปมาแทนการปลอบใจ

“กลัวอะไร แค่อยากขี่หลังบอสต่างหาก แกล้งกลัวไปงั้นแหละ” นับตังค์รีบลงมาจากหลังของมีคุณแล้วทำใจกล้า

“ไม่ทันแล้วเชฟ!” สามหนุ่มสามมุมกับสองสาวฝาแฝด รวมถึงขมิ้นต่างตะโกนออกมาพร้อมกันจนนับตังค์ต้องทำหน้าเซ็งที่เสียฟอร์มต่อหน้าทุกคน

เมื่อทุกคนมาถึงน้ำตกชั้นที่สามารถเล่นน้ำได้ก็ปูเสื่อจับจองพื้นที่กัน นับตังค์กับด้วงส่งเสียงตื่นเต้นแข่งกันเมื่อเห็นธรรมชาติที่สวยงามและน้ำที่ใสแจ๋วจนทุกคนขำ วันนี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ มีกลุ่มของนับตังค์ที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่สุด

ทุกคนเริ่มเล่นน้ำตกกันสนุกสนาน หนูด้วงนั่งอยู่บนห่วงยางรูปกระต่าย กำลังหัวเราะสดใสถูกใจที่ได้เล่นน้ำ มีคุณเห็นใบเมี่ยงลอยตัวซ้อนอยู่บนตัวของพายพัดก็หันมามองนับตังค์เหมือนจะถามว่าทำแบบนั้นบ้างไหม แต่มีเหรอที่คนอย่างนับตังค์จะยอม นอกจากจะไม่เล่นอะไรที่ดูโรมแมนติกแล้ว ยังจับมีคุณกดน้ำบ้าง แกล้งดึงกางเกงของมีคุณลงบ้าง ปีนขึ้นไปยืนบนบ่ามีคุณแล้วกระโดดลงน้ำบ้าง จนมีคุณต้องปลงว่าคนรักของตัวเองแก่นกะโหลกเหลือเกิน

เมื่อเล่นน้ำกันจนเหนื่อยก็กลับขึ้นมากินอาหารกลางวันที่เตรียมมา มีทั้งแซนด์วิช หมูทอด ข้าวเหนียว เห็ดย่างเนย ผักต้ม น้ำพริกหนุ่ม ไข่ต้มยางมะตูมและตับทอดกระเทียม มีผลไม้ที่ปลอกมาเรียบร้อยแล้วอีกกล่องใหญ่ สาลี่ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หนูด้วง เช็ดผมให้จนแห้งแล้วถึงพามานั่งกิน ทุกคนเอร็ดอร่อยกับอาหารง่ายๆ แต่รสชาติอร่อยมากกันจนอิ่มแปล้

“ดีจังเลย เอาไว้มาด้วยกันอีกนะ” ใบเมี่ยงเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เล่นน้ำกันต่อจนเย็น ตอนนี้ทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บข้าวของเสร็จพร้อมจะกลับก่อนที่ท้องฟ้าจะมืด

“ไปเที่ยวที่อื่นบ้างก็ได้” นับตังค์รีบบอกก่อนจะหน้าเสียเมื่อรู้ว่าต้องข้ามสะพานเชือกอีกรอบ

“จะกลัวทำไม เมื่อกี้พี่ก็พามาอย่างปลอดภัย” มีคุณพูดก่อนจะย่อตัวลง นับตังค์อายก็อาย แต่ความกลัวมีมากกว่าจึงรีบเดินไปขี่หลังของมีคุณต่อหน้าทุกคน

“เดี๋ยวแวะกินข้าวต้มที่ตลาดก่อนแล้วค่อยแยกย้ายกันกลับ” มีคุณบอกกับขมิ้น

“เดี๋ยวมื้อนี้ตังเลี้ยงเองนะ” นับตังค์หลับตาพูดเพราะไม่อยากมองลงไปข้างล่าง

“เย้” เฮงชูมือร้องรับเมื่อรู้ว่าจะได้อิ่มฟรีอีกมื้อ

“เย้” ด้วงทำตาม

“เย้ เย้ เย้” คราวนี้ทุกคนทำตาม

“โอ้ย ไม่ต้องเย้กันได้ไหม สะพานมันสั่น เดี๋ยวไม่เลี้ยงเลย” นับตังค์โวยวายหลังจากที่รู้สึกถึงความสั่นคลอน

เมื่อได้ยินเสียงขู่ของนับตังค์ทุกคนจึงจำต้องเอามืออุดปากกันยกใหญ่ ยกเว้นคนเดียวที่ไม่ยอมทำตามคำสั่ง ก็คือหนูด้วงที่ยังชูมือร้องเย้ๆ ไม่ยอมหยุด เรื่องนี้ทำให้มีคุณรู้ว่า ‘เหนือนับตังค์ก็ยังมีหนูด้วงนี่เอง’

..

ขมิ้นขับรถมาจอดที่หน้าตลาด ก่อนจะเดินนำทุกคนไปที่ร้านข้าวต้มกุ้ยที่มีชื่อที่สุดในเกาะนี้ ระหว่างที่ทุกคนกำลังเดินเข้าไปในร้านก็เห็นว่าพญากำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่กับคีตะสองต่อสอง พอพญาเห็นนับตังค์ก็ยิ้มกว้างแล้วรีบลุกมาหา ส่วนคีตะไม่ได้ลุกมา ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ

“น้องตังทำไมถึงแวะมาหาพี่ได้” พญาเข้าข้างตัวเองแบบหน้าด้านๆ

“จะมาให้เลี้ยงข้าวต้มมั๊ง” นับตังค์เห็นพญาเข้าข้างตัวเองก็นึกขำ

“ได้เลย เต็มที่เลย พี่เลี้ยงเอง เจ๊แดง เดี๋ยวโต๊ะนี้มาเก็บเงินที่ผมนะ” พญาหันไปสั่งเจ้าของร้าน

“เฮ้ย ตังล่อเล่น ไม่ต้องหรอก ลุงไปกินกับคนที่มากับลุงไปเลย” นับตังค์ทำมือไล่พญา

“น้องตังอย่าหึงพี่นะ เราไม่ได้มาด้วยกัน แต่หมอนั่นมาเป็นลมตรงหน้าพี่พอดี พี่เลยจำต้องให้นั่งกินด้วยกัน” พญารีบแก้ตัว นับตังค์เหลือบมองมีคุณ เห็นว่ามีคุณแสดงสีหน้าเป็นห่วงคีตะอยู่ก็เข้าใจ

“พี่ไปดูเพื่อนพี่ก็ได้” นับตังค์หันมากระซิบมีคุณ มีคุณมองหน้านับตังค์อย่างลังเล จนเห็นว่านับตังค์ไม่ได้ประชดจึงเดินเข้าไปหาคีตะ

“รู้รึเปล่าว่าเขาเป็นแฟนกันมาก่อน” พญาถามนับตังค์

“รู้”

“เขาเหมาะกันดีนะ” พญาพยายามจะเสี้ยม

“ไม่อะ ลุงเหมาะกว่า ลองจีบดูสิลุง จะได้ไม่ต้องกินขนมจีบไส้แห้ว” นับตังค์ย้อนจนพญาหน้าม้านไปเลย ขมิ้นถึงกับหลุดหัวเราะออกมาทันที

“ตังมาสั่งอาหารก่อน” พายพัดเรียกนับตังค์เมื่อหาโต๊ะนั่งได้แล้ว นับตังค์กำลังจะเดินไปนั่งแต่พญาคว้าข้อมือของนับตังค์เอาไว้ก่อน

“พี่จะจีบคนอื่นได้ยังไงในเมื่อหัวใจพี่มีแต่ตัง ตังคงจะเห็นพี่เป็นตัวตลก แต่พี่จริงจัง พี่จริงใจนะ” คราวนี้พญาพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังกว่าทุกที

“แต่วันนี้ตังให้ลุงได้แค่สองทาง เพื่อนกับคนแปลกหน้า เลือก” นับตังค์ตอบด้วยสีหน้าจริงจังเหมือนกัน

“น้อยจัง ตอนสมัยประถมยังมีตั้งสี่ข้อให้เลือก” พญาหน้าเจื่อน

“ถ้ามีให้เลือกเพิ่มจะบอกวันหลัง แต่วันนี้มีให้แค่สอง จะเลือกเองหรือให้ตังเลือกให้” นับตังค์เร่งถามเพราะเห็นว่ามีคุณมองมาด้วยสายตาเขียวปั๊ด

“เพื่อนก็ได้ แต่เป็นเพื่อนที่รอวันเลื่อนขั้นได้รึเปล่า แบบรอนานก็รอได้” พญาต่อรอง จนนับตังค์พยักหน้าให้พญาถึงยิ้มออกแล้วยอมปล่อยมือของนับตังค์

นับตังค์ก็สงสารพญาเพราะรู้ว่าพญาคงชอบตัวเองจากใจจริง มีความรู้สึกว่าพญาไม่ใช่คนไม่ดี ถ้าได้มาเป็นเพื่อนก็อาจจะเป็นเพื่อนตายกันเลยก็ได้ นิสัยห่ามๆ เหมือนกันแบบนี้นับตังค์ชอบ แต่นับตังค์รู้ว่าจิตใจคนมันบังคับกันยาก จึงได้ปล่อยผ่านไปเพราะคนอื่นคิดยังไงเราบังคับเขาไม่ได้ รวมถึงเรื่องของคีตะก็ด้วย นับตังค์ถึงไม่อยากจะเด็ดขาดเรื่องของคีตะกับมีคุณ รู้ว่าทุกอย่างมันต้องใช้เวลา เพียงแต่ทุกอย่างมันก็ต้องมีขอบเขต ที่นับตังค์บอกกับพญาไปแบบนั้น นับตังค์ไม่ได้คิดให้ความหวังพญา ในเมื่อพญาบอกเองว่ารอได้ก็ให้รอไป แต่แค่ให้พญารับรู้ว่ามันไม่ใช่เวลานี้ที่พญาจะเข้ามาเป็นมากกว่าเพื่อน

มีคุณถามไถ่อาการของคีตะเสร็จก็กลับมานั่งที่โต๊ะ หน้างอบอกบุญไม่รับ กินข้าวไม่พูดไม่จา นับตังค์ตักกับข้าวให้ก็ไม่ยิ้มจนบรรยากาศมึนตึงเกิดขึ้น ยิ่งเมื่อกินเสร็จแล้วรู้ว่าพญาเป็นคนจ่ายเงินให้เรียบร้อยแล้วก็ยิ่งไม่พูดอะไรเลย เดินจ้ำอ้าวไปรอที่รถจนทุกคนต้องหันไปยิ้มให้กำลังใจนับตังค์

ขมิ้นส่งทุกคนถึงบ้านเรียบร้อย เหลือก็แต่มีคุณ นับตังค์ พายพัด ใบเมี่ยงและหนูด้วงที่เป็นจุดหมายสุดท้าย พายพัดและใบเมี่ยงไปนั่งอยู่ด้านหน้า ปล่อยให้นับตังค์กับมีคุณนั่งอยู่ที่ท้ายกระบะกันสองคน นับตังค์นั่งจ้องหน้ามีคุณมาตลอดทาง จนเห็นว่ามีคุณยังนั่งนิ่งอยู่จึงขยับไปนั่งตักของมีคุณหน้าตาเฉย แถมยังเอามือของมีคุณมากอดเอวของตัวเองเอาไว้อีก

“พี่ไม่มีเหตุผลเลย” นับตังค์พูดแข่งกับสายลม มีคุณจูบที่แผ่นหลังของนับตังค์ก่อนจะถอนหายใจออกมา

“พี่รู้ แต่มันห้ามอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ พี่เป็นคนขี้หึง” มีคุณยอมรับตรงๆ

“ตังดูเป็นคนไม่ซื่อสัตย์เหรอ” นับตังค์เลื่อนตัวลงมานั่งกับพื้นรถแล้วพลิกตัวกลับมาให้เผชิญหน้ากับมีคุณ

“พี่ไม่ได้โกรธตัง ไม่ได้ไม่เชื่อใจตังนะ แต่พี่...พี่ไม่รู้จะอธิบายยังไง” มีคุณถอนหายใจอีกครั้งกับความงี่เง่าของตัวเอง

“ค่อยๆ อธิบายสิ ตังจะได้รู้”

“พี่โดนทิ้งจนเป็นโรคระแวง มันกลัว รู้ว่าวันนี้ตังไม่ได้ชอบมันหรอก แต่พี่ก็กลัวกาลเวลา กลัวความเปลี่ยนแปลง กลัวว่าวันหนึ่งพี่จะโดนทิ้งอีก” มีคุณพูดออกมาตรงๆ แล้วมีคุณก็เล่าเรื่องครอบครัวของตัวเอง เรื่องของคีตะ ที่สำคัญ...มีคุณเล่าเรื่องแฟนคนแรก เป็นเรื่องที่มีคุณไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย สุดเขตก็ยังไม่รู้ แต่มีคุณอยากเล่าให้นับตังค์ฟัง

“พี่คิดว่าเป็นความผิดของตัวเองเหรอ” นับตังค์ถามเสียงอ่อน รู้สึกสงสารมีคุณเมื่อรับรู้อดีตของคนรัก นับตังค์โตมากับครอบครัวที่อบอุ่น คนในครอบครัวก็มีผัวเดียวเมียเดียวมาตั้งแต่บรรพบุรุษ อยู่กันจนตายไปข้างหนึ่ง จุดนี้มันเลยทำให้นับตังค์ไม่ใช่คนขี้หึงหรือคนขี้ระแวง อาจจะเรียกว่านับตังค์มองโลกด้านเดียวเพราะมีครอบครัวเป็นต้นแบบก็เป็นได้

“ถ้าพี่ดีพอพวกเขาคงไม่ทิ้งพี่ไปหรอก พี่อาจจะหึงจะหวงจนเขารำคาญแล้วก็ทนไม่ได้” มีคุณคิดแบบนั้นจึงพูดออกมา
“ตังไม่อยากให้สัญญาว่าจะไม่ทิ้งพี่ไปนะ เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต แต่ตังจะทนความขี้หึงของพี่ให้ถึงที่สุด พี่ช้วนบอกว่าตังทนถึกเหมือนแมลงสาป ตังจะเกาะติดพี่ให้แน่นเลยดีไหม” นับตังค์ปลอบตามสไตล์ของนับตังค์ ซึ่งมันทำให้มีคุณยิ้มออก

“แมลงสาปอะไรจะตัวหอมขนาดนี้” มีคุณดึงนับตังค์ให้มานั่งที่ตักเหมือนเดิมแล้วสวมกอดนับตังค์เอาไว้

“อายชาวบ้านไหมล่ะ” นับตังค์บ่น

“เมื่อกี้ตังมานั่งก่อนนะ” มีคุณแย้ง

“ก็ไม่รู้จะง้อยังไงนี่ แต่นี่พี่หายงอนแล้ว” นับตังค์เบี่ยงตัวเองลงมานั่งที่พื้นเหมือนเดิมเพราะเห็นว่ามีรถขับตามมา

“คืนนี้คั่วกลิ้งกันนะ” มีคุณชวน

“ไม่เบื่อรึไง”

“ตังเบื่อเหรอ”

“ไม่เบื่อ ฮ่าๆ” นับตังค์ตอบแล้วก็หัวเราะ

มีคุณอยากจะกดนับตังค์ลงกับพื้นรถแล้วจูบให้หนำใจ แต่ต้องอดทนเอาไว้ก่อน เขายอมรับว่ากำลังหลงรักนับตังค์มากขึ้นทุกวันถึงได้หึงหน้ามืดตามัวจนเป็นคนไร้เหตุผลเพราะกลัวจะเสียนับตังค์ไปอีกคน

“ผมรักนับตังค์ รักมาก รักมากเลยโว้ย ทั้งหึงทั้งหวง ช่วยผมด้วย ผมตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ได้แล้ว” มีคุณป้องปากตะโกนออกมาสุดเสียงแข่งกับสายลม นับตังค์ได้ยินก็ตกใจก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นความบ้าระห่ำของมีคุณ

“ลองถอนตัวดูสิ จะเฉือนไอ้นั่นให้หมากิน ฮ่าๆ ตังก็รักพี่คุณโว้ย รักมากเหมือนกัน” นับตังค์ตะโกนบ้าง แต่เป็นช่วงที่ขมิ้นชะลอรถเพราะมีหมาข้ามถนนพอดี เสียงของนับตังค์จึงดังลั่นจนคนแถวนั้นหันมามอง

นับตังค์หน้าเหรอหราแล้วรีบถดตัวลงไปนอนราบกับพื้นกระบะ อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี มีคุณหัวเราะลั่นจนนับตังค์ต้องแอบหยิก มีคุณจึงจำต้องกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ก่อนจะถดตัวลงไปนอนราบเคียงข้างนับตังค์ กุมมือของนับตังค์แล้วนอนดูท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยกัน ช่างเป็นความสุขที่มีคุณอยากหยุดเอาไว้ให้นานที่สุด แต่ในที่สุดขมิ้นก็ขับรถมาจอดที่หน้าโรงจอดรถ เมื่อรถจอดสนิทดีแล้วช้วนก็วิ่งออกมาจากบ้านด้วยหน้าตาที่ดูตื่นกลัว

“นายท่าน ทำไงดี” ช้วนพูดกับมีคุณด้วยท่าทางร้อนรน

“เกิดอะไรขึ้นครับพี่ช้วน” มีคุณถาม คนอื่นๆ ก็ตกใจท่าทางของช้วนจึงเดินมารอฟัง

“แม่มด มีแม่มดมา” ช้วนชี้ไปที่ตัวบ้าน ทุกคนจึงมองตามไป แล้วมีคุณก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นใครคนหนึ่งเดินออกมา

“แม่!!” มีคุณส่งเสียงเรียกด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าจะเห็นคุณพลอยประดับที่เกาะแห่งนี้ได้

คนที่ตกใจไม่แพ้มีคุณก็คือคนที่มีคุณกำลังกุมมือแน่นอยู่ นับตังค์ใจหายวาบเมื่อเห็นสายตาของคุณพลอยประดับมองมาที่ตนจึงรีบดึงมือของตัวเองออกก่อนจะส่งสายตาไปทางมีคุณด้วยความกังวล

“แย่แล้ว จะมีศึกแม่ผัวลูกสะใภ้ไหมวะ” ช้วนพึมพำออกมาแล้วก็เดินหนีไป ทิ้งให้นับตังค์ยิ่งกังวลใจหนักเข้าไปกว่าเดิมล้านเท่า


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เดี๋ยวกลับมาแก้คำผิดที่หลุดรอดนะคะ  :กอด1:



 
(https://www.uppic.org/image-BF45_59651D04.jpg)


เครดิตรูปจาก Google


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)

[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย] (https://twitter.com/loverouter)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 12-07-2017 04:13:52
ความจริงจะบังเกิด ดราม่าจะมาเยือน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-07-2017 04:32:14
ได้อ่านตอนตีสี่แบบนี้ ท้องไม่ร้องได้ไงไหวคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 12-07-2017 08:01:32
ชอบที่เขาชวนกันกินไข่ตุ๋น กินคั่วกลิ้งกัน 555555 ไม่ใช่เชฟนี่คิดไม่ได้นะ // เราว่าพญาน่ารักอ่ะ นางเหมือนลูกชายผู้ใหญ่บ้านที่จิ๊กโก๋ฮาๆไปวันๆ อยากให้นางมีคู่ หวังว่าคงไม่ใช่คีตะนะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 12-07-2017 08:54:35
อดกินคั่วกลิ้งเลยบอส
ว่าแต่แม่มด เอ้ยคุณแม่มานิจะนำปัญหาไรมาอีกน้อ เฮ้อ...
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-07-2017 10:18:29
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-07-2017 18:46:26
 :hao7:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 12-07-2017 21:17:02
ดราม่ามาแล้วววววววว



หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-07-2017 21:23:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-07-2017 23:35:40
หนูด้วงมีลุงช้วนเป็นพี่เลี้ยง ต่อไปคงแสบน่าดู
ส่วนขุ่มแม่มด เอ้ยขุ่นแม่สามี เล่นมาแบบนี้ งานนี้สนุกแน่ 5555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 13-07-2017 09:30:56
เข้ามาฮากับขั้น ABC เข้าใจคิดว่าเป็น ไข่ตุ๋น คั่วกลิ้ง กะ เละเป็นโจ๊ก

คนเขียนอินเทรนด์มาก มีหน้ากากแรด กะหน้ากากแมลงสาป แถมยังเข้าใจเปรียบเทียบว่า แมลงสาปทน อึดถึด สบตาปุ๊บปิ๊งปั๊บ

เพิ่งจะเห็นหน้ากากแมวน้ำอุ๋งอุ๋งพ่นไฟได้ เล่นเอาคีตาเกือบไหม้เกรียม ยิ่งมาโดนหน้ากากแมลงสาปแบบนับตังค์พ่นใส่เข้าไปอีกเกือบไหม้เป็นจุณต้องหนีกลับไปก่อน

เห็นด้วยกับนับตังค์ถ้าได้พญามาเป็นเพื่อน รับรองว่าเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายที่จะคอยคุ้มครองอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากพ่อของพญาเองหรือจากคนอื่นได้เลย ดูได้จากที่เท่งอาจโดนพญาสั่งเก็บ

ขุ่นแม่ของมีคุณ หรือแม่มดของพี่ช้วนมาแล้ว จะมีดราม่าเกิดขึ้นหรือเปล่า 

ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ ที่มาต่อตอนนี้เร็วมาก  และเกาเหลาน้ำใสน่ากินมาก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 13-07-2017 11:46:10
 :laugh: พี่ช้วนนี้มาเอาฮานะ คุณปู่แกดูมีอะไรดีๆซ้อนอยู่แน่ๆ

เรื่องรี้อ่านทีไรหิวทุกที ~ ..ศึกลูกสะใภ้กะแม่สามี ดูท่าละหน้ากากแยดฟ้องไปแน่นวลเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-07-2017 22:37:42
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 14-07-2017 11:26:17
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 14-07-2017 14:18:10
แม่มา!! อย่าสร้างความหนักใจให้มีคุณอีกเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ก๊าบก๊าบ ที่ 14-07-2017 23:00:02
อยากอ่านต่อแล้วววว ~ อ่านไปกลืนน้ำลายไป
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 19 เกาเหลาใสๆ 12/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 17-07-2017 20:49:21
เอาแล้วๆๆๆๆ จะดราม่ามั้ยน้ออิ :hao3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 23-07-2017 04:16:30
ตอนที่ 20 ต้มมะรัก


คุณพลอยประดับเห็นท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวของลูกชายก็รู้สึกหงุดหงิด เมื่อเธอทราบว่าลูกชายแอบมาเปิดร้านอาหารอยู่ที่เกาะแห่งนี้โดยไม่บอกเธอก็ร้อนใจจนต้องรีบเดินทางมาที่นี่ทันที ถึงเธอจะรู้ว่ามีคุณไม่ใช่คนที่ทำอะไรเอาแต่ใจแต่เธอก็อยากรู้เหตุผลของลูกชายว่าอะไรที่ทำให้ลูกชายของเธอตัดสินใจทิ้งงานที่กรุงเทพมา หากเหตุผลนั้นเป็นไปตามที่ผู้หวังดีบอกเธอ เธอก็คงจะอกแตกตายแน่ๆ

“แกจะไม่ยอมบอกแม่จริงๆ ใช่ไหมว่าแกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วทำไมถึงหยุดงานประจำที่แกทำ” ในที่สุดคุณพลอยประดับก็ทนไม่ได้จึงต้องเอ่ยปากถาม

“ผมไม่ได้จะกวนแม่นะ แต่แม่จำเป็นที่ต้องรู้จริงๆ ใช่ไหม ถ้าผมแค่บอกว่าผมมีเหตุผลดีพอที่มาทำแค่นี้แม่จะเข้าใจผมรึเปล่า” มีคุณย้อนถามมารดาด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ดูนุ่มนวลมากที่สุด เขาเข้าใจว่าคนเป็นแม่ไม่ว่าลูกคิดจะทำอะไรก็อดห่วงไม่ได้

“ตาคุณ แม่ก็ไม่ได้อยากจะมากดดันอะไรแกหรอกนะ แต่แม่กลัวว่าความลุ่มหลงมันจะทำให้แกตัดสินใจอะไรพลาดไป ไหนแกบอกมาสิ ผู้หญิงคนไหนที่แกมาติดพัน”

“ผู้หญิงอะไรกัน แม่ตอบผมมาก่อนว่าแม่เอาข้อมูลพวกนี้มาจากไหน แล้วผมจะตอบแม่” มีคุณเลิกคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อมารดาพูดในสิ่งที่ไม่มีมูลความจริงเลย

“ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนโทรมาบอก แต่เขาบอกว่าแกมาเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่นี่เพราะมัวแต่มาเฝ้าคนที่แกรัก แกถึงกับทิ้งงานที่แกรักมาได้ก็คงหลงเขาไม่น้อยสิท่า แถมยังโกหกแม่ว่าจำต้องหายไปทำงานเพราะจะหาเงินมาใช้หนี้ให้แม่ แกบอกแม่ตรงๆ ก็ได้นะตาคุณ แม่รู้ว่าทำให้แกลำบาก แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะทำให้แกไม่อยากอยู่กับแม่ขนาดนั้น” คุณพลอยประดับตัดพ้อด้วยความน้อยใจ

“แม่ครับ คิดอะไรไปไกลแล้ว เรามีกันแค่สองแม่ลูกผมจะทิ้งแม่ไปได้ยังไง แต่ผมจำเป็นต้องมาอยู่ที่นี่ก็เพราะผมต้องหาเงินมาทยอยใช้หนี้ให้แม่อยู่ นี่ผมเริ่มทยอยผ่อนใช้ไปแล้ว แต่ผมไม่อยากบอกใคร ถ้าผมบอกว่าจะเลิกทำงานประจำแล้วมาเปิดร้านอาหาร ก็ต้องมีคนถามว่าทำไม ผมหาเงินเยอะๆ ไปทำอะไร ผมไม่อยากตอบคำถามใคร” มีคุณเดินเข้าไปโอบกอดมารดาเมื่อเห็นว่ามารดากำลังน้อยใจ

“ต้องปิดแม้กระทั่งแม่เหรอ แม่สัญญาว่าจะไม่พูดต่อนะตาคุณ” เมื่อคุณพลอยประดับเห็นว่าลูกชายต้องมาอยู่ในสถานที่ที่ห่างไกลจากบ้านเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ให้ตัวเองก็เสียงอ่อนลง แต่ก็ยังอยากรู้ว่าการมาทำร้านอาหารเล็กๆ แบบนี้จะใช้หนี้ก้อนโตให้เธอได้ยังไง

“ผมได้รับมรดกจากคุณปู่อนันต์ ท่านจะยกที่นี่ให้เราทั้งหมด ร้าน ที่ดิน แต่ผมต้องทำตามเงื่อนไขของท่าน” แล้วมีคุณก็เริ่มเล่าให้มารดาฟัง รวมถึงเรื่องที่ต้องจ้างนับตังค์มาเป็นเชฟและเรื่องของด้วงด้วย

“ท่านเสียแล้วเหรอ” คุณพลอยประดับรู้สึกใจหาย บิดาของอดีตสามีเก่าคนนี้เป็นคนใจดี ท่านไม่ค่อยลงรอยกับอดีตสามีของเธอสักเท่าไหร่ แต่ท่านก็เอ็นดูเธอในฐานะลูกสะใภ้เสมอ พอรู้ว่าท่านเสียชีวิตแล้วยังยกมรดกให้มีคุณทั้งหมดก็ยิ่งรู้สึกตื้นตัน

“ครับ แต่ผมอยากให้แม่เก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่อน ผมอยากอยู่เงียบๆ และทำงานใช้เงินให้ครบ”

“แต่ร้านอาหารที่อยู่บนเกาะเล็กๆ แบบนี้จะทำกำไรได้สักเท่าไหร่ แม่ว่าพอครบหนึ่งปีตามข้อตกลงแกก็ขายร้านไปไม่ดีเหรอ จะได้กลับไปอยู่ที่บ้านกับแม่”

“ผมรักร้านนี้ครับแม่ เอาเป็นว่าถ้าแม่ตั้งใจจะมาพักที่นี่กับผมอาทิตย์หนึ่งอยู่แล้ว แม่ก็ลองดูเอาเองดีกว่าว่าร้านเล็กๆ แห่งนี้มันมันไม่ธรรมดายังไง โดยเฉพาะพนักงานทุกคน ผมอยากให้แม่คิดว่าทุกคนที่นี่คือครอบครัวของเรา ทุกคนเต็มที่เพื่อร้านของผม”

“ก็ได้ อ้อ...แล้วเรื่องเด็กด้วง แกนึกยังไงถึงตัดสินใจรับเลี้ยงเอาไว้ คนอย่างแกจะดูแลเด็กเป็นได้ยังไง แม่ก็ไม่เข้าใจคุณพ่อจริงๆ ว่าทำไมถึงวางใจให้แกเลี้ยงเด็กเล็ก” คุณพลอยประดับไม่คิดว่าลูกชายของตัวเองจะดูแลเด็กคนหนึ่งได้ ข้าวปลายังกินไม่ตรงเวลา บางคืนก็ทำงานจนดึกดื่น เป็นแบบนี้แล้วจะไปดูแลใครได้ยังไง

“ให้เป็นหน้าที่ของผมนะครับ แม่แค่อยู่พักที่นี่ให้สบายใจ เรื่องหนี้สินและเรื่องอื่นๆ ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเอง แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ”

“แต่แม่ก็ไม่อยากให้แกอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตอยู่ดี”

“ผมตัดสินใจแล้ว แล้วแม่จะรักที่นี่” มีคุณยังคงยืนยันความต้องการของตัวเอง

“เดี๋ยวก่อน ยังไม่จบแค่นั้น สรุปว่าแกไม่ได้มาติดผู้หญิงใช่ไหม ถ้ามีก็ให้บอกแม่มา ยังไงก็ต้องให้ผ่านสายตาของแม่เสียก่อน เข้าใจไหมตาคุณ” คุณพลอยประดับรีบถามเรื่องที่กังวลที่สุด

“ผมไม่ได้ติดผู้หญิงที่ไหน แม่ไม่ต้องห่วงหรอก”

“ค่อยโล่งอกหน่อย เอาล่ะ แม่เชื่อว่าแกเก่งและจะเอาตัวรอดได้ แม่ขออวยพรให้แกประสบความสำเร็จกับงานใหม่ที่ตัดสินทำก็แล้วกัน แกพาแม่ไปดูร้านของแกหน่อยสิ อ้อ...อีกเรื่องหนึ่ง แม่จะไม่พูดเรื่องนี้แกอย่าห่วง เพราะแม่ไม่อยากให้พ่อแกรู้ว่าคุณปู่ยกมรดกให้แก ถ้าเรื่องนี้ไปเข้าหูแม่เลี้ยงของแก หล่อนต้องไม่ยอมแน่ แกก็ปิดให้ดีล่ะ”

“ครับแม่” มีคุณนึกขำมารดาแต่ก็รับคำไปก่อนจะพามารดาออกไปเดินดูรอบร้าน

เมื่อเดินดูร้านจนพอใจแล้วคุณพลอยประดับกับมีคุณก็เดินกลับมาที่บ้านซึ่งตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งรอกันอยู่ที่ห้องรับแขก คุณพลอยประดับส่งยิ้มให้ทุกคนด้วยความเป็นมิตร ต่างจากตอนแรกที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับจนช้วนเผลอเรียกว่าแม่มด มีคุณแนะนำทุกคนให้มารดาได้รู้จักจนมาถึงหนูด้วง คุณพลอยประดับมองหนูด้วงอยู่นาน เมื่อเห็นหนูด้วงมีทีท่าว่ากลัวจึงเดินเข้าไปลูบผมเบาๆ

“หนูไม่ดื้อ ไม่กินตับหนูนะ” หนูด้วงรีบยกมือไหว้คุณพลอยประดับก่อนจะหันกลับมาซบอกของนับตังค์

“ด้วง พูดอะไรอย่างนั้น ขอโทษคุณย่าก่อน” นับตังค์ตกใจที่ได้ยินรีบบอกด้วงให้ขอโทษ ถ้าคิดไม่ผิดช้วนคงจะสอนด้วงแน่ๆ

“คงจะมีใครสอนล่ะสิ” คุณพลอยประดับมองไปที่ช้วนก่อนจะค้อนจนตาแทบกลับ

“โธ่ แม่คุณ ใครจะไปรู้ว่าเป็นแม่ของนายท่าน เราดีกันนะ” ช้วนยื่นนิ้วก้อยให้

“ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนะ เรียกฉันให้มันดีๆ หน่อย” คุณพลอยประดับดุช้วนเสียงดังจนด้วงตกใจกอดนับตังค์แน่นกว่าเดิม

“แล้วข้าเรียกไม่ดีตรงไหน เป็นแม่ของนายคุณ ข้าก็เรียกแม่คุณ ไม่ถูกรึ ไม่ได้เรียกไม่ไอ้คุณสักหน่อยจะได้ว่าข้าพูดไม่ดี แล้วอย่าดุให้มันมากนัก เด็กกลัวหมดแล้ว แล้วข้าก็ไม่ใช่เพื่อเล่นของแม่คุณ ข้าแก่กว่าแน่ๆ ต่อไปเรียกข้าว่าพี่ช้วน ให้มันรู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ เข้าใจไหมแม่คุณ” ช้วนลุกขึ้นพูดกับคุณพลอยประดับด้วยสีหน้าจริงจังและน้ำเสียงก็เข้มมากจนทุกคนตะลึง ช้วนไม่เคยดุใครแบบนี้ให้เห็นเลยสักครั้ง ซึ่งท่าทางขึงขังจริงจังของช้วนดูมีอำนาจจนคุณพลอยประดับต้องพยักหน้ารับด้วยความตกใจ

 “ปู่ไม่ดุย่านะ หนูไม่ชอบ ถ้าปู่ดุย่าอีกหนูจาไม่เย่นด้วย” ด้วงเลิกซุกหน้ากับอกของนับตังค์แล้วหันมาพูดกับช้วน

“ขอรับคุณด้วง ปู่ผิดไปแล้ว อะดูนี่สิ เราดีกันแล้ว” ช้วนรีบยื่นนิ้วก้อยให้คุณพลอยประดับแล้วทำหน้าพยักพเยิดให้คุณพลอยประดับยอมเกี่ยวก้อยด้วย พอคุณพลอยประดับทำเฉยก็แอบทำหน้าดุใส่จนคุณพลอยประดับต้องรีบยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวด้วย คนอื่นๆ เห็นแล้วต้องแอบกลั้นขำกันใหญ่

“เย้ ดีกันแย้ว ไม่มีใครโกดกันเยย” ด้วงปรบมือชอบใจ แต่พอหันไปเห็นว่าคุณพลอยประดับมองมาก็รีบซุกกับอกของนับตังค์อีก

“แล้วจะให้แม่นอนที่ไหน” คุณพลอยประดับรีบถามลูกชายเพราะไม่อยากอยู่ใกล้คนอย่างช้วนแล้ว

“เดี๋ยวแม่ไปนอนที่ห้องของผมก็แล้วกัน ด้วงคงให้นอนกับใบเมี่ยงไปก่อน ผมกับตังไปนอนที่ร้านได้” มีคุณเป็นคนตัดสินใจ

“จะรบกวนหนูตังรึเปล่าลูก” คุณพลอยประดับถามนับตังค์ พอเธอรู้ว่านับตังค์คือคนสำคัญที่จะทำให้ร้านนี้ขับเคลื่อนไปได้ก็รู้สึกเกรงอกเกรงใจ และหากไม่มีนับตังค์ลูกชายของเธอก็คงจะไม่ได้มรดก มันทำให้เธอต้องดีกับนับตังค์ให้มากเป็นพิเศษ

“ไม่เป็นไรครับ” นับตังค์รู้สึกแปลกใจที่คุณพลอยประดับมีท่าทีที่เปลี่ยนไปหลังจากที่ไปคุยกับมีคุณ แต่ก็รู้สึกดีใจที่บรรยากาศโดยรอบมันดีขึ้น

“ถ้าอย่างนั้นแม่ขอตัวก่อนนะลูกๆ รู้สึกเพลียอยากพักแล้ว” คุณพลอยประดับรับปากกับมีคุณว่าจะเห็นทุกคนเหมือนคนในครอบครัวก็เลยพูดจนอ่อนหวานขึ้นกับทุกคน แต่ใจก็อยากจะยกเว้นตาฝรั่งแก่ที่ยืนยักคิ้วหลิ่วตาทำท่ากวนประสาทอยู่ได้

“ฝันดีนะแม่คุณ” ช้วนส่งจูบไปให้ คุณพลอยประดับรีบสะบัดหน้าไปทางอื่น

“เอาล่ะ แยกย้ายกันไปพักเถอะ” มีคุณส่ายหน้าให้กับความขี้เล่นของช้วนก่อนจะพาคุณพลอยประดับขึ้นไปพักที่ห้องนอน ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะพามารดาไปพักที่รีสอร์ทของคุณขจีคงจะสะดวกกว่า


หลังจากที่นับตังค์ขึ้นไปเอาของใช้ส่วนตัวออกมาเรียบร้อยแล้วก็ลงมาอาบน้ำที่ห้องน้ำข้างล่าง จากนั้นก็รอมีคุณอาบน้ำให้เสร็จจะได้เดินไปที่ร้านด้วยกัน ระหว่างที่รอมีคุณ พายพัดกับใบเมี่ยงก็ขึ้นไปอาบน้ำเช่นกัน นับตังค์เลยเอาด้วงมาดูแลก่อน นับตังค์เล่านิทานให้ด้วงฟังเป็นการกล่อมให้ด้วงหลับ แล้วด้วงก็หลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความอ่อนเพลียจากการที่ไปเล่นน้ำตกมาทั้งวัน

“หนูตัง” คุณพลอยประดับเห็นว่าลูกชายยังอาบน้ำอยู่เลยเดินลงมาข้างล่างเพราะอยากพูดคุยกับนับตังค์

“ครับ” นับตังค์เห็นคุณพลอยประดับเดินลงมาก็เริ่มกังวล จะบอกว่าร้อนตัวก็ได้ กลัวคุณพลอยประดับจะรู้เรื่องของตัวเองกับมีคุณ

“ตาคุณบอกว่าหนูเป็นคนที่ต้องเหนื่อยที่สุดในร้าน ขอบใจมากนะที่ทุ่มเท แม่ขอฝากตาคุณด้วยนะลูก” คุณพลอยประดับลงมานั่งข้างๆ ก่อนจะแตะมือของนับตังค์เบาๆ เป็นการฝากฝังลูกชาย

“ตังจะทำหน้าที่ของตังให้เต็มที่ครับ” นับตังค์เขินๆ เมื่อฟังคำฝากฝัง อีกใจก็รู้สึกขำ เหมือนคุณพลอยประดับมาฝากลูกสาวมากกว่าลูกชาย

“คิดเสียว่าแม่เป็นแม่อีกคนแล้วกันนะลูก แล้วดูสิ นอกจากจะเป็นเชฟแล้วยังเลี้ยงเด็กเก่งด้วย ถ้าหนูมีแฟน แฟนหนูต้องโชคดีมากเลยนะ” คุณพลอยประดับเอ่ยชมจนนับตังค์ทำหน้าไม่ถูก อยากรู้ว่ามีคุณพูดอะไรกับแม่ของตัวเองไปบ้าง

“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”

“ไม่ต้องเขินหรอก แม่ก็ชมตามที่เห็น อ้อ...พรุ่งนี้แม่อยากทำต้มมะระของโปรดตาคุณเขา ที่แม่ลงมาข้างล่างเพราะอยากมดูว่ามีของไหม”

“เดี๋ยวตอนเช้าตังจะให้คนเอาของมาให้แม่ที่นี่นะครับ ที่ร้านมีทุกอย่างครับ”

“ขอบใจมากนะจ๊ะ หนูตังน่ารักจริงๆ อ้าว ตาคุณลงมาพอดี แล้วหนูด้วงนี่ให้แม่อุ้มขึ้นไปให้ไหมคะ” คุณพลอยประดับถามนับตังค์

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวตังอุ้มไปส่งใบเมี่ยงเอง บอสรอก่อนนะ” นับตังค์พูดกับคุณพลอยประดับก่อนจะพูดกับมีคุณแล้วถึงได้อุ้มด้วงขึ้นไปส่งที่ห้องของใบเมี่ยง

“แม่คุยอะไรกัน” มีคุณถามอย่างร้อนตัว

“แม่บอกว่าจะไม่พูดอะไรก็ไม่พูด ไม่ต้องห่วงหรอก แม่แค่มาทำความรู้จัก หนูตังเขาน่ารักดีนะ แม่ชอบ” คุณพลอยประดับเอ่ยชมนับตังค์จนมีคุณต้องลอบถอนหายใจ มีคุณตั้งใจว่าจะสารภาพกับนับตังค์ในคืนนี้เองเลยไม่อยากให้นับตังค์รู้จากคนอื่นก่อน

“แม่ขึ้นไปพักเถอะครับ” มีคุณขึ้นไปส่งคุณพลอยประดับแล้วเดินลงมาพร้อมกับนับตังค์ที่ไปส่งด้วงเสร็จแล้วเหมือนกัน

..

นับตังค์ยังไม่ได้เข้านอนในทันทีเมื่อไปถึงที่ร้านเพราะว่ายังไม่ดึกมากเท่าไหร่ นับตังค์อยากเข้าไปเตรียมของสำหรับรายการอาหารในวันพรุ่งนี้เท่าที่เตรียมได้ ส่วนมีคุณก็แยกเข้าไปทำงานของตัวเองเหมือนกัน จนกระทั่งนับตังค์เตรียมของเสร็จก็เกือบเที่ยงคืนจึงกลับเข้าไปที่ห้องทำงาน เห็นมีคุณกำลังยืนเหม่อลอยมองไปที่สวนก็เลยเดินเข้าไปหา

“พี่เครียดอะไร” นับตังค์แตะที่ไหล่ของมีคุณ

“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”  มีคุณหันกลับมาพร้อมกับรั้งเอวนับตังค์ให้เข้ามาชิดตัวเอง

“อย่าบอกนะว่าแม่ของพี่รู้เรื่องของเราแล้ว” นับตังค์ทำตาโตเมื่อคิดไปก่อน

“เปล่า ไม่ใช่”

“เฮ้อ โล่ง แล้วเรื่องอะไร” นับตังค์รู้สึกโล่งอก แต่เมื่อเห็นท่าทางเครียดของคนรักก็เริ่มกังวลอีกรอบ

“พี่มีเรื่องที่ไม่ได้บอกตังตั้งแต่แรก จะว่าพี่ปิดบังตังก็ได้ พี่อยากสารภาพหลายหนแล้วแต่ใจไม่กล้าพอ”

“ถ้าตังรู้แล้วตังจะเกลียดพี่ไหม” นับตังค์ถามมีคุณ ซึ่งมีคุณคิดว่าคำถามนี้มีคุณควรจะถามนับตังค์มากกว่า

“พี่ก็ภาวนาไม่ให้ตังเกลียดพี่” มีคุณตอบพร้อมกับทำหน้าเว้าวอน

“ขอเวลาทำใจก่อน” นับตังค์เอามือของมีคุณออกจากเอวของตัวเองแล้วเดินไปนั่งที่เตียงทรงกลม

มีคุณได้แต่มองตามไป จนนับตังค์ส่งสัญญาณมาว่าให้มีคุณเริ่มพูดได้ มีคุณจึงสารภาพความจริงเรื่องข้อกำหนดของคุณปู่ รวมถึงเรื่องที่จ้างละมุดให้คอยกีดกันไม่ให้นับตังค์ได้คุยกับตำลึงทองด้วย แต่มีคุณไม่ได้พูดถึงเรื่องหนี้สินของมารดา เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่อยากให้คนมองมารดาของตัวเองไม่ดี นับตังค์นิ่งฟังจนจบด้วยท่าทางสงบจนมีคุณเดาไม่ออกว่านับตังค์รู้สึกอย่างไร ถ้านับตังค์จะโกรธเขาก็เข้าใจได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้เกลียดเขาเลย

“ทำไมถึงได้มาสารภาพ” นับตังค์พูดขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปนาน

“พี่ไม่อยากให้ตังรู้จากคนอื่น”

“ถ้าตังไม่ทำงานที่นี่ต่อ พี่จะไม่ได้มรดกใช่ไหม”

“อืม”

“ตังขอไปนอนกับใบเมี่ยงนะ”

“ตัง”

“ให้เวลาตังได้คิดหน่อย”

นับตังค์ขนข้าวของเดินกลับไปที่บ้าน ทิ้งให้มีคุณยืนหน้าเศร้าคนเดียวอยู่ในห้องทำงาน ถึงแม้จะใจหายที่โดนนับตังค์โกรธแต่ก็รู้สึกโล่งใจที่ได้พูดความจริงออกไปแล้ว แต่ลึกๆ มีคุณก็หวังว่านับตังค์จะให้อภัยตัวเอง

..

นับตังค์พยายามข่มตาสักเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับสักทีจึงตัดสินใจลงมาข้างล่างตั้งแต่ตีสี่ เดินลงมาก็เจอคุณพลอยประดับกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัวนับตังค์จึงเดินเข้าไปหา

“อ้าว หนูตังมาแต่เช้าเชียว เอ๊ะ หรือหนูย้ายมานอนที่นี่ หนูเป็นคนเอาของสดพวกนี้มาให้แม่ใช่ไหมจ๊ะ”

“ครับตังเอามาเอง พอดีตังกลัวด้วงจะร้องไห้ถ้าไม่เจอตังเลยกลับมานอนที่บ้านครับ”

“หนูด้วงติดหนูตังเหรอลูก แต่แม่ก็ไม่แปลกใจหรอกนะ ใครเจอหนูก็ถูกชะตาทั้งนั้น แต่ที่แม่ห่วงคือต่อไปจะอยู่กับตาคุณยังไง รายนั้น เด็กเจอเป็นร้องไห้แทบทุกราย”

“ด้วงก็ติดบอสนะครับแม่”

“จริงเหรอ แปลกใจจริง แต่จะว่าไปแม่ก็ไม่คิดว่าตาคุณจะมาอยู่ที่เกาะนี้ได้ เขาเป็นคนไม่ชอบอยู่กับที่ ชอบเดินทาง อยู่ด้วยกันที่กรุงเทพยังแทบไม่ค่อยได้เจอหน้า เขารักอาชีพของเขามาก เฮ้อ จะว่าไปแม่ก็รู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องมาทำงานที่ไม่ถนัดแบบนี้”

“บอสคงมีเหตุผลครับที่มาอยู่นี่” นับตังค์แอบถอนหายใจเบาๆ ถ้านิสัยของมีคุณเป็นอย่างที่คุณพลอยประดับเล่าให้ฟัง แปลว่าหากไม่ติดข้อกำหนดของคุณปู่ มีคุณก็คงไม่คิดทำร้านนี้

“แม่ไม่รู้ว่าตาคุณจะเผลอทำอะไรให้หนูขัดเคืองใจรึเปล่าเพราะเขาเป็นคนซีเรียสในเรื่องงาน แต่หากเขาทำอะไรเอาแต่ใจไปบ้างหนูตังอย่าไปถือสาเขาเลยนะ กับแม่เขายังเผลอดุเลย เขาขาดพ่อตั้งแต่ยังเด็กเลยทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินตัว เป็นคนที่คอยปกป้องแม่ แม่ก็ไม่ค่อยมีเวลาดูแลเขาเพราะต้องหาเงิน เขาก็ต้องมาเป็นหัวหน้าครอบครัวตั้งแต่วัยรุ่น เขาไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่เพราะทำแต่งาน ไม่ค่อยได้ไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูง แต่เขาบอกกับแม่ว่าทุกคนที่นี่คือครอบครัวของเขาแปลว่าพวกหนูคงสำคัญกับเขาจริงๆ”

“แม่คิดแบบนั้นเหรอครับ”

“ใช่ แม่คิดแบบนั้น อ้อ...อีกเรื่องหนึ่ง แม่จะฝากตังช่วยดูแลผู้หญิงที่จะเข้ามาหาตาคุณให้แม่ด้วยนะ แม่มีลูกชายคนเดียวต้องสกรีนกันหน่อย จะให้ผู้หญิงไม่ดีมาได้ตาคุณไปแม่ไม่ยอมหรอก”

“จะดีเหรอครับ” นับตังค์ยิ้มเจื่อนๆ รู้สึกร้อนสันหลังวาบ

“ดีสิลูก แม่ดูออกว่าตาคุณให้ความสำคัญกับหนูมากที่สุด หนูคอยเตือนอะไรเขาต้องฟังแน่ๆ”

นับตังค์ไม่ได้พูดอะไรต่อแต่ช่วยคุณพลอยประดับเตรียมทำต้มจืดมะระยัดไส้ไปอย่างเงียบๆ คุณพลอยประดับก็เล่าเรื่องของมีคุณตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กให้นับตังค์ฟังไปเรื่อย จนคุณพลอยประดับทำต้มจืดเสร็จแล้วก็ให้นับตังค์ช่วยชิม พอนับตังค์ได้ชิมก็พูดไม่ออกเพราะมันขมมาก เมื่อตอนที่คุณพลอยประดับเริ่มทำนับตังค์ก็ไม่ทันดู มัวแต่ฟังเรื่องของมีคุณจนเพลินเลยไม่รู้ว่าคุณพลอยประดับได้ล้างมะระกับเกลือเพื่อลดความขมหรือเปล่า

“ขมนิดหน่อยครับแม่” นับตังค์แบ่งรับแบ่งสู้

“หอมจังวุ้ย ไหนใครทำอะไรแต่เช้าเลย” เสียงของช้วนดังเข้ามาก่อนตัว มาถึงก็ปรี่มาที่หม้อต้มจืดทันที นับตังค์มองนาฬิกาก็เห็นว่าตีห้าพอดี ได้เวลาที่ขมิ้นจะมากวาดใบไม้และทำความสะอาดที่ร้าน

“นี่นาย จะมาชิมก่อนลูกชายฉันได้ยังไง” คุณพลอยประดับโวยวายเมื่อช้วนถือวิสาสะตักมะระใส่ถ้วยกินก่อนใคร

“ฝีมือแม่คุณหรอกรึ มิน่า” ช้วนทำหน้าเหยเก

“มิน่าอะไร” คุณพลอยประดับถามเสียงเขียว

“ขมไปยันล้ำไส้เลยแม่คุณ โอ้ย นึกว่าเจ้าตังทำ สงสัยจะขมติดคอไปถึงเที่ยงคืน” ช้วนบ่นก่อนจะเดินไปรินน้ำมากิน ส่วนคุณพลอยประดับหน้าเสียแล้วรีบตักต้มจืดฝีมือของตัวเองชิม พอรับรู้รสแล้วก็หน้าเสียไปเลย

“ตาคุณชอบแบบขมๆ น่ะหนูตัง” คุณพลอยประดับรีบแก้ตัวกับนับตังค์

“หวานเป็นลม ขมเป็นบ้าเลยแม่คุณ” ช้วนพูดต่อ

“ปู่!” นับตังค์หันมาดุช้วน

“ขมเป็นยาย่ะ” คุณพลอยประดับหันมาพูดใส่ช้วนเสียงดังก่อนจะเดินออกไปจากครัวด้วยความไม่พอใจ

“ปู่นะปู่” นับตังค์ส่ายหน้าให้กับความเกรียนของช้วน

“ก็ข้าพูดความจริง” ช้วนยักไหล่

“ความจริงบางอย่างก็ไม่ควรพูดไหมปู่” นับตังค์เถียง

“เออก็ใช่ ความจริงบางอย่างมันก็พูดออกมาเลยไม่ได้ มันต้องรอเวลา เข้าใจไหมเอ็ง” ช้วนย้อนคำพูดของนับตังค์จนนับตังค์อึ้งไป

“ตังไปอาบน้ำดีกว่า” พอรู้ว่าช้วนย้อนตัวเองก็เลยรีบเปลี่ยนประเด็นไป ช้วนหัวเราะไล่หลังนับตังค์ไปแล้วก็กินต้มจืดมะระฝีมือของคุณพลอยประดับต่อจนหมดถ้วย

..

นับตังค์กลับขึ้นไปอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไปที่ร้าน ทักทายพี่บ่าวที่กำลังกวาดระเบียงร้านเสร็จก็เข้าไปในครัว แอบมองไปที่ห้องทำงานของมีคุณก็คิดว่าน่าจะยังหลับอยู่ นับตังค์ลอบถอนหายใจก่อนจะลงมือทำต้มจืดมะระยัดไส้ใหม่ อันที่จริงนับตังค์ไม่ได้โกรธจนไม่อยากมองหน้าของมีคุณหรอก แต่แค่สับสนว่าการที่มีคุณทำดีด้วยหรือมาขอคบเป็นคนรักเพราะกลัวว่านับตังค์จะไม่อยู่ทำงานให้ครบปีรึเปล่า แต่การกระทำของมีคุณก็ดูจริงใจ นับตังค์ไม่เคยคิดระแวงเลยจนมารับรู้เรื่องนี้ คำถามในใจที่เกิดขึ้นก็คือ...ความรักที่มันเกิดในเวลาอันรวดเร็วระหว่างตัวเองกับมีคุณนั้น มันเกิดขึ้นจากตัวเองแค่ฝ่ายเดียวรึเปล่า

มะระที่นับตังค์หั่นเป็นท่อนขนาดกำลังดีถูกคว้านไส้ทิ้งและล้างความขมออกด้วยเกลือสองครั้ง จากนั้นนับตังค์ก็นำหมูสับที่หมักปรุงรสแล้วมายัดไส้ ตั้งน้ำจนเดือดถึงได้หย่อนมะระที่ยัดไส้ลงไปแล้วหรี่ไฟให้อ่อนลง นับตังค์เคี่ยวด้วยไฟอ่อนแล้วคอยตักฟองออกทิ้งจนได้น้ำซุปที่ใส ปรุงรสจนเป็นที่พอใจก็รอให้มะระกับหมูสุกพอดี ถ้าตั้งไฟนานเกินไปหมูจะแข็งแล้วมะระก็จะเละได้ เมื่อทำเสร็จแล้วนับตังค์ก็ยกกลับไปที่บ้านแล้วไปเปลี่ยนใส่หม้อที่เหมือนกับที่คุณพลอยประดับทำเอาไว้ ส่วนตัวมะระที่คุณพลอยประดับทำ นับตังค์ก็ตักใส่ถุงแล้วนำไปเก็บที่ร้านแทน

..

สมาชิกทุกคนมาถึงที่ร้านแล้วและกำลังเตรียมทานอาหารเช้าร่วมกัน มีคุณแนะนำพนักงานคนที่เพิ่งมาให้รู้จักกับมารดาของตน จากนั้นก็ชวนให้ทุกคนทานอาหารเช้าพร้อมกัน คุณพลอยประดับเห็นว่าหม้อต้มจืดมะระของตัวเองถูกนำมาวางไว้ในครัวของร้านก็ตกใจ กลัวคนอื่นชิมแล้วจะแสดงออกเหมือนที่ช้วนแสดง จะห้ามก็ไม่ทันแล้วเพราะว่าตอนนี้สายรุ้งตักมาวางเอาไว้ที่โต๊ะอาหารแล้ว

“แม่ทำเหรอครับ” มีคุณชิมแล้วขมวดคิ้วก่อนจะหันมาถามมารดาด้วยความไม่แน่ใจ

“มันไม่อร่อยก็อย่าไปทานลูก” คุณพลอยประดับหน้าเสียกำลังจะเลื่อนชามแกงจืดออก

“อร่อยมากต่างหากค่ะนายแม่ สุดยอดเลย” มานีเอ่ยชมก่อนจะซดน้ำซุปเสียงดัง

“อร่อยจริงครับ” ตุ้ยยืนยันอีกเสียง

“จริงครับแม่ อร่อย” มีคุณบอกกับแม่แต่ตามองไปที่นับตังค์ นับตังค์กำลังอมยิ้มอยู่พอเห็นมีคุณมองมาก็หุบยิ้มแล้วเมินใส่

“จริงเหรอลูก” คุณพลอยประดับรีบตักชิมบ้างก่อนจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมา

“แปลกจัง รสมือมัน...” ช้วนพูดยังไม่ทันจบนับตังค์ก็หยิกขาช้วนทันที ช้วนกำลังจะอ้าปากร้องโวยวายแต่พอเห็นสายตาขอร้องของนับตังค์จึงหุบปากไป

“มันยังไงเหรอคะ” คุณพลอยประดับกอดอกถาม

“มันอร่อยมากแม่คุณ ชิมแล้วอร่อยเหมือนตายแล้วเกิดใหม่เลยจ้าแม่คุณ” ช้วนพูดจบคุณพลอยประดับก็ยกยิ้มด้วยความพอใจ

“ยังถือว่ามีรสนิยมดีนะ” คุณพลอยประดับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ทุกคนเอ่ยชมฝีมือของตัวเอง

“กินเสร็จแล้วเชฟตังไปพบกับผมที่ห้องหน่อยนะ” มีคุณอาศัยความเป็นเจ้านายบังคับนับตังค์ไม่ให้ปฏิเสธได้

“แล้วไม่ประชุมเหรอบอส” พายพัดถาม จนใบเมี่ยงแอบเอาขากระแทกที่ขาของพายพัดเบาๆ พายพัดถึงได้เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของมีคุณ

“วันนี้จะให้ใบเมี่ยงเป็นคนนำประชุมแทน พอดีพี่จะคิดโปรเจคใหม่เลยจะปรึกษาเชฟใหญ่ก่อน” มีคุณแก้ตัวไปแบบเนียนๆ

“พูดที่นี่ก็ได้” นับตังค์บอกแต่ไม่ยอมมองหน้าของมีคุณ

“ไม่ได้หรอกครับเชฟ เดี๋ยวการประชุมมันยืดเยื้อแล้วพวกเราจะเตรียมงานของพวกเราไม่ทัน” ใบเมี่ยงเป็นฝ่ายปฏิเสธแทนมีคุณ

“จริงด้วยเชฟ เรื่องสำคัญในส่วนครัวเป็นของเชฟ เชฟต้องไปคุยกับบอสสองคนก่อน” พายพัดสนับสนุนอีกเสียง

“แม่ก็ว่าหนูตังไปคุยกับตาคุณก่อนดีกว่ามาคุยส่วนรวมนะลูก” คุณพลอยประดับไม่รู้อะไรด้วยแต่ก็สนับสนุนเพราะคิดว่าเป็นเรื่องงานจริงๆ

“ข้าก็ว่า...”

“ก็ได้ก็ได้” นับตังค์รีบพูดแทรกช้วนเพราะกลัวฝีปากของช้วนจับใจ เกิดพูดว่าให้นับตังค์ตามผัวไปคุณพลอยประดับคงจะกลายเป็นแม่มดได้จริงๆ

“คิกๆ ก้อด้ายก้อด้าย” ด้วงได้ยินนับตังค์พูดก็ขำออกมาแล้วก็พูดตามพร้อมกับผงกหัวไปด้วย

“หนูด้วง วันนี้อยู่กับย่านะจ๊ะ ย่าจะพาไปเดินเล่น ดูผีเสื้อด้วย เอาไหม” คุณพลอยประดับนึกเอ็นดูหนูด้วงจึงพยายามจะใช้เวลากับหนูด้วงดูบ้าง ถ้ามีคุณตัดสินใจรับหนูด้วงมาเป็นลูกบุญธรรมแล้วเธอก็เป็นเหมือนย่าของหนูด้วงเหมือนกัน

“ให้ปู่ไปด้วยนะ ปู่จับผีเชื่อเก่ง” ทีแรกด้วงก็ยังไม่ยอมตอบเอาแต่มองหน้าคุณพลอยประดับ แต่สุดท้ายก็ยอมพูดคุยด้วย

“ถ้าปู่เกิดพาย่าของเอ็งเดินเล่นมากไปหน่อยพาลจะปวดข้อปวดเข่า” ช้วนรีบพูดกับหนูด้วง

“หนูเดินเองก้อด้ายก้อด้าย ให้ปู่อุ้มย่าก้อด้ายก้อด้าย” หนูด้วงพูดจบคุณพลอยประดับก็ทำหน้าอิหลักอิเหลื่อ แต่คนอื่นๆ ต้องกลั้นขำกันจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด

“เอาไงล่ะแม่คุณ จะยอมไปกับหลานไหม” ช้วนถาม

“ก็ได้ก็ได้ ฉันเป็นคนชวนหลานฉันก็ต้องไปสิ รีบๆ กินกันเถอะจะได้ไปทำงานกัน” คุณพลอยประดับทำเป็นสั่งทุกคน มีคุณก็ได้แต่อมยิ้มกับบรรยากาศโดยรวมที่ออกมาดีกว่าที่เคยกังวลเอาไว้

(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 23-07-2017 04:19:47
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


นับตังค์เดินตามมีคุณไปที่ห้องทำงานด้วยท่าทีเฉยชา เมื่อเดินเข้าไปถึงในห้องแล้วมีคุณก็รีบล็อกประตูห้องทันที นับตังค์ทำเป็นไม่สนใจจนกระทั่งมีคุณมาสวมกอดถึงได้จะดึงมือของมีคุณออก

“พี่ขอโทษนะ หายโกรธพี่นะ”

“ตังไม่ได้โกรธพี่แต่โกรธตัวเอง”

“ตังจะโกรธตัวเองทำไมล่ะครับ”

“ก็โกรธที่โง่เชื่อว่าพี่มาจีบเพราะพี่ชอบตังจริงๆ” นับตังค์พูดออกมาตรงๆ

“ที่ผ่านมาพี่ทำให้ตังรู้สึกแบบนั้น เหรอ ไหนมองตาพี่แล้วตอบ”

“ไม่มอง ไม่ต้องมาบังคับ” นับตังค์ทำหน้ามุ่ย ขืนสบตาก็ใจอ่อนกันพอดี

“พี่ยอมรับว่าพี่ต้องการให้ตังมาเป็นพ่อครัวเพราะมันเป็นเงื่อนไขของปู่ พี่ยอมรับว่ากลัวตังจะเปลี่ยนใจไม่เซ็นสัญญากับพี่เลยวางแผนบ้าๆ ไม่ยอมให้คุยกับพี่สาวเพื่อไม่ให้ตังลังเล แต่นั่นมันก่อนที่พี่จะได้มาใกล้ชิดกับตัง ที่พี่จีบตัง ที่พี่แสดงความรักทุกอย่างจนถึงตอนที่เราคั่วกลิ้งกัน ทุกอย่างมันคือความรู้สึกของพี่จริงๆ มันไม่ใช่การหลอกลวงเลย ถ้าพี่แค่จะหลอกให้ตังเซ็นสัญญา ตังก็เซ็นแล้ว พี่ก็ไม่จำเป็นต้องแกล้งต่อ ถูกไหม พี่เสียใจนะที่ตังตีค่าความรู้สึกของพี่ไปแบบนั้น ที่แย่ไปกว่านั้นคือตังกำลังตีค่าของตัวเองต่ำเกินไป ไม่รู้ตัวรึไงว่าทำให้ใครหลงรักจนกลัวจะถูกทิ้ง ที่กลัวจะเสียตังไปตอนนี้ไม่ใช่เพราะอยากได้มรดก แต่เพราะพี่อยากใช้ชีวิตกับตังจริงๆ” มีคุณพูดทุกอย่างออกไปด้วยความจริงใจแต่นับตังค์ก็ยังคงนิ่งจนมีคุณเริ่มใจไม่ดี

จะว่าไปนับตังค์ก็ไม่ได้โกรธเรื่องที่ถูกมีคุณวางแผนกีดกันไม่ให้คุยกับพี่สาวของตัวเองหรอก เพราะนับตังค์เคยโทรไปแล้วเจอพ่อ พ่อเป็นคนทำให้นับตังค์ตัดสินใจที่จะมาพิสูจน์ตัวเอง แต่ที่นับตังค์กำลังรู้สึกคือการไม่มั่นใจว่ามีคุณรักตัวเองจริงหรือเปล่า จากที่ไม่เคยคิดเรื่องของระยะเวลาก็ทำให้ต้องคิด แม้จะพยายามคิดบวกว่าตัวเองยังรักมีคุณได้ในเวลาอันรวดเร็ว มีคุณก็อาจจะรู้สึกแบบเดียวกัน แต่สุดท้ายการคิดบวกก็ไม่ช่วยให้นับตังค์มั่นใจได้อีก

“มีอะไรโกหกตังอีกรึเปล่า” นับตังค์ยอมพูดออกมาในที่สุด

“ไม่มีแล้ว แต่ถ้าตังอยากรู้อะไรก็ถามมา พี่จะตอบทุกอย่าง แต่หายโกรธพี่นะ” มีคุณอ้อนวอน

“ไม่รู้จะถามอะไร ยังคิดไม่ออก”

“ถ้างั้นพี่ถามเอง ตังเป็นคนทำต้มจืดมะระใช่ไหม”

“ใช่ พี่รู้ได้ยังไง”

“ก็มันไม่ขม แม่ของพี่ไม่เคยทำต้มมะระแล้วไม่ขม พี่ต้องยอมกินเพราะแม่อุตส่าห์ทำให้ แม่เลยเข้าใจว่าพี่ชอบต้มมะระแบบขมๆ ว่าแต่ตังทำต้มมะระมาแบบนี้คิดจะทิ้งพี่ใช่ไหม”

“เกี่ยวกันตรงไหน” นับตังค์ขมวดคิ้ว

“ก็จะบอกพี่แบบทางอ้อมว่า..มะระพี่แล้วช่าม้า” มีคุณใช้มุกเลียนแบบการพูดให้เหมือนคนงานต่างด้าวที่ขมิ้นจ้างให้มาช่วยล้างจานเพื่อจะทำให้นับตังค์หายโกรธ

“ฮ่าๆ ประสาท ตอนเรียนนี่ได้คะแนนท็อปแกทเชื่อมโยงใช่ไหม ถามจริง” ในที่สุดนับตังค์ก็หลุดขำมาจนได้

“โตะโลงระหรือมะระ” มีคุณยังเล่นต่อ

“ไม่ต้องมาทำตลกกลบเกลื่อนเลย พี่ทำให้ตังไม่มั่นใจ ตังบอกแล้วว่าไม่ชอบการโดนหลอกลวงเพราะฉะนั้นต่อไปนี้พี่ต้องพิสูจน์ให้ตังเห็นก่อนว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”

“ครับ ผมจะไม่ทำให้เชฟผิดหวังแล้วครับ ให้อภัยพี่นะ พี่จะทำทุกวินาทีต่อไปนี้ให้ดีที่สุด”

“อดกินคั่วกลิ้งไปหนึ่งเดือนด้วย” นับตังค์ใจอ่อนหายโกรธแล้วแต่ยังอยากจะแกล้งมีคุณต่อ

“ฆ่าพี่ให้ตายตรงนี้เลยดีกว่า”

“เอาปืนมาดิ”

“มีแต่ปืนใหญ่” มีคุณยักคิ้ว

“มั่นหน้าให้สิบอะ” นับตังค์มองต่ำลงไปยัง ‘ปืนใหญ่’ ของมีคุณก่อนจะเบ้ปากใส่

“เมื่อคืนนอนไม่หลับเลย คิดถึงพี่บ้างไหม พี่คิดถึงตังมากเลยนะ” มีคุณพูดพลางทั้งกอดทั้งหอมนับตังค์ไม่หยุด แสดงให้รู้ว่าคิดถึงคนในอ้อมกอดมากแค่ไหน

“เกินจริงไปมาก” นับตังค์ทำเป็นบ่นแต่ก็ยิ้มไม่หุบ

“พี่บอกแล้วว่าจะไม่โกหกตังอีก ที่พูดไปจริงทุกคำเลยนะ ยกเลิกข้อห้ามคั่วกลิ้งหนึ่งเดือนเนอะ สงสารพี่เนอะ” มีคุณยังอ้อนอย่างต่อเนื่อง

“ก็ได้ก็ได้” นับตังค์ยิ้มอ่อนทำเหมือนยอมแบบเสียไม่ได้ทั้งที่จริงก็ใจอ่อนให้อภัยมีคุณไปตั้งนานแล้ว

“น่ารักจังแฟนพี่” มีคุณหอมแก้มนับตังค์ฟอดใหญ่

“แต่ก็อย่าหวังจะได้กินโจ๊กเลย”

“โธ่ กว่าจะได้กินโจ๊กต้องรอนานแค่ไหนครับแฟนพี่”

“จนกว่าตังจะมั่นใจในพี่อีกครั้ง ปล่อยตังได้แล้ว เดี๋ยวกลับไปเตรียมอาหารไม่ทัน” นับตังค์ดูเวลาแล้วเห็นว่าต้องไปตรวจดูความเรียบร้อยในครัวแล้ว ขืนยังยอมให้มีคุณทั้งกอดทั้งหอมแบบนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี

“แล้วรักพี่หรือไม่รัก ตอบพี่ให้ชื่นใจหน่อย”

“มะระ..” นับตังค์ตอบเข้ม

“อ้าว ไหงงั้นล่ะตัง” มีคุณยืนหน้างอ

“มะระมะด๊ะล้าว” นับตังค์พูดต่อแล้วก็ขำตัวเองที่บ้าไปเล่นมุกตามมีคุณไปด้วย

พอนับตังค์ออกไปจากห้องแล้วมีคุณก็พรูลมหายใจออกมา รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เขาดีใจที่ได้โอกาสจากนับตังค์อีกครั้ง เขาจะทำอย่างที่รับปากกับนับตังค์ให้ได้ นั่นคือการที่เขาจะไม่ทำให้นับตังค์ต้องผิดหวังในตัวเขาอีก เมื่อคืนที่ต้องนอนคนเดียวมันทำให้มีคุณรู้ว่านับตังค์สำคัญตัวเองมากแค่ไหน ส่วนเรื่องของมารดา ที่มีคุณไม่ได้บอกคุณพลอยประดับไปตรงๆ ว่าคบหานับตังค์เพราะไม่อยากให้คุณพลอยประดับตั้งแง่กับนับตังค์ตั้งแต่แรกเจอ อยากให้คุณพลอยประดับเปิดใจได้มารู้จักตัวตนของนับตังค์ด้วยตัวเองก่อน ซึ่งเท่าที่มีคุณเห็น มีคุณมั่นใจว่ามารดาของเขาจะรักนับตังค์ได้อย่างที่เขารัก

..

ในรอบอาหารกลางวันในวันนี้ ลูกค้าก็ยังคงมาอุดหนุนกันอย่างเนื่องแน่น แม้อากาศจะร้อนมากแค่ไหน แต่ก็ยังมีลูกค้ายอมนั่งรอโต๊ะว่างอยู่ในสวนของร้าน คุณพลอยประดับทึ่งในตัวของนับตังค์มากกว่าเดิมอีกเท่าตัว อาหารแต่ละเมนูที่นับตังค์ทำออกมาทั้งน่ากินและดูแปลกใหม่ ยิ่งเธอได้ลองชิมอาหารเหล่านั้นก็ยิ่งชื่นชมในตัวของเด็กหนุ่มคนนี้ อายุก็ดูไม่มากเท่าไหร่แต่ฝีมือในการทำอาหารช่างเชี่ยวชาญราวกับมีประสบการณ์ทำอาหารมาหลายปี เธอกระจ่างแล้วว่าทำไมคุณพ่อของอดีตสามีของเธอถึงสร้างข้อแม้เอาไว้อย่างนั้น ลูกชายของเธอช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้คนเก่งแบบนับตังค์มาร่วมงานด้วย

“คุณย่าไปดูมะแยงเต่าทอนกะหนูมั้ย” ด้วงวิ่งมาหาคุณพลอยประดับที่กำลังเดินเล่นอยู่สวนของร้าน ตอนนี้เป็นช่วงพักรอบบ่ายของพนักงาน คุณพลอยประดับจึงบอกลูกชายว่าจะขอเดินดูรอบร้านอีกสักที เมื่อคืนที่ได้มาดูมันเห็นไม่ชัดสักเท่าไหร่

“ไปสิลูก ให้ย่าอุ้มไหม” คุณพลอยประดับถาม หลังจากที่เธอได้คลุกคลีกับหนูด้วงในช่วงเช้าที่ผ่านมา ตอนนี้หนูด้วงเลยไม่มีทีท่ากลัวเธอแล้ว พอได้ใช้เวลาอยู่กับเด็กคนนี้คุณพลอยประดับรู้สึกว่าเด็กคนนี้น่ารักน่าเอ็นดู ดูไปแล้วเธอก็คิดว่าหนูด้วงมีส่วนก็คล้ายนับตังค์อยู่เหมือนกัน

“หนูเก่งแย้ว หนูเดินเองได้ ตามหนูมาเยย หนูพาย่าไปดูมะแยงเต่าทอน” ด้วงจับมือคุณพลอยประดับแล้วพาเดินนำไป

คุณพลอยประดับถูกด้วงพาเดินไปจนถึงสวนหย่อมเล็กๆ ซึ่งเป็นทางลงไปบ้านพักของขมิ้นได้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่โปรดที่ด้วงชอบมานั่งเล่นที่นี่ มันมีธารน้ำตื้นๆ ไหลผ่านด้วย คุณพลอยประดับยอมรับว่าที่ดินของคุณอนันต์ตั้งอยู่ท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง หากประกาศขายคงได้ราคาที่ดีมาก

“นี่ไง อยู่นี่” ด้วงนั่งยองๆ ลงแล้วชี้ไปแปลงดอกไม้เล็กๆ

“จริงด้วย แมลงเต่าทองของหนูด้วงใช่ไหม เก่งที่สุดเลยหาเจอก่อนย่าอีก” คุณพลอยประดับชมเพราะอยากเอาใจหลานชาย ซึ่งได้ผล หนูด้วงยิ้มจนตาหยี

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะหนูด้วง” เสียงที่เอ่ยทักมาทำให้หนูด้วงและคุณพลอยประดับหันไปมอง หนูด้วงลุกขึ้นยืนนิ่งทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

“รู้จักหนูด้วงเหรอคะ” คุณพลอยประดับเอ่ยถาม

“ดิฉันเป็นพี่เลี้ยงเก่าของหนูด้วงเองค่ะ เลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก ไหน...มาขอพี่หอมให้หายคิดถึงหน่อย” ดาวเรืองเดินมานั่งยองๆ ตรงหน้าของหนูด้วงแล้วดึงมากอด พร้อมกับหอมหนูด้วงแล้วลูบผม แสดงความรักความเอ็นดูจนคุณพลอยประดับคลายใจ ทีแรกก็ยังไม่ไว้ใจ แต่พอเห็นด้วงยอมให้กอดให้หอมก็เลยเลิกระแวง

“คุณดาวเรืองเป็นคนที่นี่เหรอคะ” คุณพลอยประดับถามขึ้น

“ค่ะ แล้วคุณ...” ดาวเรืองแสร้งถามทั้งที่รู้อยู่ว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นใคร

“อ๋อ ดิฉันเป็นแม่ของเจ้าของที่นี่ค่ะ” พลอยประดับตอบอย่างภูมิใจ

“คุณแม่ของคุณมีคุณนั้นเอง ดูยังสาวยังสวย ถ้าไม่บอกเรืองคงคิดว่าเป็นพี่สาวมากกว่า”

“แหม ปากหวานจังนะหนู อ้าวหนูด้วง ทำไมฉี่รดล่ะลูก ปวดฉี่ต้องบอกรู้ไหม” คุณพลอยประดับเหลือบไปเห็นกางเกงของหนูด้วงเปียกเลยร้องถามด้วยความตกใจ

“ไม่ตีหนู หนูไม่ฉี่แย้ว ไม่ตีหนูนะ” ด้วงเริ่มร้องไห้ไปพูดไปจนคุณพลอยประดับตกใจ

“หนูด้วงคงตกใจเสียงของคุณค่ะ แกเป็นเด็กมีปัญหาตั้งแต่เล็กแล้ว โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ ไม่มีใครตีหนูนะ” ดาวเรืองลูบหลังด้วง พอเห็นคุณพลอยประดับไม่ได้มองมาก็รีบกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของด้วง ด้วงได้ยินจากที่ร้องไห้เสียงดังก็รีบเอามืออุดปากตัวเองแล้วกลั้นสะอื้นจนตัวสั่น

“มีปัญหาเหรอคะ แหมายความว่ายังไง”

“แกเป็นเด็กกำพร้าขาดความอบอุ่นเลยค่อนข้างเอาใจยาก เวลาฉี่รดอึรดขึ้นมาก็จะร้องไห้เรียกร้องความสนใจเอาไว้ก่อนแบบนี้เสมอค่ะ ดิฉันสงสารและรักแกมาก ไม่คิดเลยว่าพอไม่ได้ดูแลแกแล้วจะดูมีปัญหามากกว่าเดิม”

“ลูก แล้วก็อยู่แต่กับผู้ชายที่ทำกันแต่งาน น่าสงสารจริง”

“คุณน่าจะเอาแกไปเลี้ยงนะคะ ดิฉันพอจะทราบมาว่าคุณอนันต์ทิ้งเงินเอาไว้หนูด้วงเยอะเชียว ถ้าแกได้คนดูแลที่ดีก็จะดีกับตัวแกเองนะคะ” ดาวเรืองเสนอแนะ ซึ่งดูว่าคุณพลอยประดับจะสนใจอยู่ไม่น้อย

“ฉันคงต้องปรึกษาตาคุณก่อน” คุณพลอยประดับพูดจบ จู่ๆ หนูด้วงก็กรีดร้องแล้วดิ้นไปมาอยู่ในอ้อมกอดของดาวเรืองจนคุณพลอยประดับตกใจ

“ใครทำหลานข้าร้องไห้ว่ะ” เสียงของช้วนดังขึ้น พอด้วงได้ยินเสียงของช้วนก็พยายามดีดดิ้นให้หลุดจากกอดรัดของดาวเรือง

“ไม่มีใครทำหรอก หนูด้วงแค่ฉี่รดแล้วกลัวถูกตีจึงร้องไห้เรียกร้องความสนใจแค่นั้น จะโวยวายทำไม” คุณพลอยประดับต่อว่าช้วนที่เอะอะโวยวาย

“ปล่อยหลานข้าเดี๋ยวนี้” ช้วนพูดกับดาวเรือง ดาวเรืองรีบปล่อยด้วงลงเพราะท่าทางของช้วนดูน่ากลัวมาก ด้วงรีบโผไปหาช้วน สะอึกสะอื้นจนดูน่าสงสาร ช้วนจ้องดาวเรืองตาขวางก่อนจะมองไปที่คุรพลอยประดับอย่างไม่พอใจ จากนั้นจึงอุ้มด้วงกลับขึ้นไป ทิ้งให้คุณพลอยประดับยืนหงุดหงิดที่ช้วนทำเหมือนว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ

“ทำไมคุณมีคุณปล่อยให้ผู้ชายคนนี้มาอยู่ด้วยก็ไม่รู้นะคะ แกเคยเป็นคนบ้า อาศัยอยู่ที่บ้านร้างโน้น แล้วให้มาดูแลหนูด้วงแบบนี้น่าเป็นห่วงจังเลยค่ะ” ดาวเรืองทำสีหน้ากังวลจนคุณพลอยประดับกังวลตามไปด้วย

“จริงเหรอคะ ถึงว่าดูไม่น่าไว้ใจเลย ไม่มีใครเล่าให้ดิฉันฟังเลย ตาคุณนะตาคุณเอาคนสติไม่ดีมาเลี้ยงหนูด้วงได้ยังไง”

“ถ้ามีอะไรให้ดิฉันช่วยก็โทรมาได้นะคะ ดิฉันทำงานให้คุณขจี เจ้าของรีสอร์ทที่อยู่ใกล้ๆ กันนี่เองค่ะ พอดีเดินเลาะลำธารมาจะมาหาคุณมีคุณ แต่ก็บังเอิญเจอคุณแม่เสียก่อน”

“มาหาตาคุณทำไมเหรอคะ”

“พอดีมีคนอยากถามว่าคุณมีคุณสนใจจะขายที่ดินหรือเปล่า เขาไหว้วานให้ดิฉันมาถามให้ ดิฉันเห็นว่าเขาเสนอราคามาสูงมากก็เลยอยากให้คุณมีคุณลองพิจารณาดู ด้านหลังนามบัตรคือตัวเลขที่เขาเสนอมาค่ะ” ดาวเรืองส่งนามบัตรของนายหัวพยนต์ให้คุณพลอยประดับ

“คุณพระ” คุณพลอยประดับเห็นจำนวนตัวเลขที่เขียนอยู่ทางด้านหลังของนามบัตรถึงกับอุทานออกมา

ดาวเรืองลอบยิ้มเมื่อเห็นว่าแม่ของมีคุณคนนี้ดูจะประโยชน์ให้กับตัวเธออย่างที่เธอคิด หากเธอสามารถทำให้นายหัวพยนต์พอใจได้ เธอก็คงจะสบายกว่านี้ คุณพลอยประดับรีบเก็บนามบัตรใส่กระเป๋าเสื้อแล้วขอตัวกลับไปดูหนูด้วง ดาวเรืองตีสีหน้าว่าเป็นห่วงหนูด้วงแล้วให้คุณพลอยประดับรีบไปดู พร้อมกับย้ำว่าให้ระวังช้วนเอาไว้ให้ดี เมื่อคุณพลอยประดับไปแล้วดาวเรืองก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มเหยียดก่อนจะเดินกลับไปที่รีสอร์ทของคุณขจีด้วยความพึงพอใจที่แผนการของตัวเองลุล่วงไปด้วยดี

..

หลังจากที่คุณพลอยประดับกลับขึ้นไปที่บ้านก็ไม่เจอหนูด้วงเลย ไม่รู้ว่าช้วนพาหนูด้วงไปที่ไหน เธอเลยเดินไปที่ร้านก็เห็นว่าทุกคนกำลังขะมักเขม้นกันทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะมัวแต่เพลินดูนับตังค์กับใบเมี่ยงทำอาหารเธอจึงลืมเรื่องหนูด้วงไปเสียสนิท จนถึงเวลาที่ร้านจะเปิดในรอบค่ำ คุณพลอยประดับออกไปช่วยลูกชายต้อนรับลูกค้า จนกระทั่งร้านปิดคุณพลอยประดับถึงได้ออกมานั่งทุบขาของตัวเองให้หายเมื่อยล้าอยู่ที่สวนหลังบ้าน มีคุณที่เดินกลับจากร้านผ่านมาเห็นเข้าก็เลยเดินมานั่งคุกเข่าตรงหน้าของมารดาเพื่อบีบนวดขาให้

“ไม่น่าเชื่อว่าลูกค้าจะเต็มร้านตลอดเวลา ฝีมือของหนูตังคงทำให้ลูกค้าติดใจแน่ๆ” คุณพลอยประดับเอ่ยชมนับตังค์

“ต่อไปผมว่าจะขยายร้าน จะได้รองรับลูกค้าได้มากขึ้น”

“แต่แม่ว่าแกจะเหนื่อยมากไปนะตาคุณ แล้วหากวันไหนหนูตังลาออกขึ้นมาแกจะลำบากนะ ตอนนี้เราก็เหมือนเอาจมูกเขามาหายใจ แม่ว่าถ้าครบหนึ่งปีแกขายร้านไปไม่ดีกว่าเหรอ ได้เงินก้อนแล้วก็กลับไปทำอาชีพที่แกรัก” คุณพลอยประดับลองหยั่งเชิงลูกชายดู

“ผมไม่คิดขายร้านหรอกครับ กลับเข้าบ้านกันดีกว่า ไปแช่น้ำอุ่นแม่จะได้หายเมื่อย ขอบคุณมากนะครับแม่...ที่ช่วยผมทั้งวันเลย” มีคุณเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากพูดเรื่องขายร้าน คุณพลอยประดับจึงต้องยุติการหว่านล้อมไปก่อนเพราะรู้นิสัยลูกชายของตัวเองดี

เมื่อคุณพลอยประดับกับมีคุณเดินกลับมาถึงบ้านก็เห็นว่าหนูด้วงกำลังนั่งร้องไห้อยู่บนตักของนับตังค์ สีหน้าของนับตังค์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ใบเมี่ยงกับพายพัดที่ยืนอยู่ด้วยก็มีสีหน้าไม่ต่างจากนับตังค์

“เกิดอะไรขึ้น” มีคุณรีบเดินเข้ามาถาม นับตังค์จึงเลิกเสื้อให้มีคุณดูหลังของหนูด้วง ทั้งมีคุณกับคุณพลอยประดับตกใจเป็นอย่างมากเพราะแผ่นหลังของหนูด้วงมีรอยเขียวช้ำเป็นวงและมีรอยถลอกเป็นทางยาว ซ้ำยังมีเลือดออกซิบๆ อีกด้วย

“ตายแล้วลูก ไปโดนอะไรมา” คุณพลอยประดับรีบถาม พอเธอเดินเข้าไปลูบผมหนูด้วง หนูด้วงก็กอดนับตังค์แน่น  กลั้นสะอื้นจนตัวสั่น

“ไม่ยอมให้ใครแตะตัวเลยนอกจากตัง” พายพัดบอกกับมีคุณ

“ต้องเป็นตาแก่บ้านั่นแน่ เมื่อบ่ายด้วงกับแม่ลงไปเดินเล่นที่ริมลำธาร แล้วหนูด้วงฉี่รด แกกลัวแม่จะดุก็ร้องไห้ออกมาก่อน ตอนนั้นหนูด้วงยังไม่เป็นอะไรเลย จากนั้นตาแก่นั่นก็มาเอาหนูด้วงไป แล้วก็มามีแผลแบบนี้ ต้องเป็นตาบ้านั่นแน่ๆ” คุณพลอยประดับนึกได้ก็รีบเล่าให้ลูกชายฟัง

“ไม่น่าเป็นไปได้นะครับแม่ พี่ช้วนแกก็ดูแลหนูด้วงมาหลายวันแล้ว ไม่เคยเกิดอะไรขึ้น” ใบเมี่ยงไม่คิดว่าจะเป็นช้วน

“แกจะมั่นใจได้ยังไงในเมื่อหมอนั่นอยู่กับหนูด้วงเพียงคนเดียว หมอนั้นอาจจะขู่หนูด้วงไม่ให้พูดก็ได้ ลองถามหนูด้วงดูสิตาคุณ” คุณพลอยประดับยังมั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือของช้วนแน่ๆ

“ใครทำด้วงครับ บอกแด๊ดซิ” มีคุณพูดกับด้วงอย่างอ่อนโยนแต่ด้วงรีบเอามืออุดปากตัวเองแล้วส่ายหน้า ด้วงไม่กล้าพูดออกมาเพราะดาวเรืองแอบกระซิบขู่ว่าถ้าด้วงบอกใครว่าดาวเรืองเป็นคนหยิก ดาวเรืองจะฆ่าด้วงให้ตาย

“เอาไว้พรุ่งนี้ตอนพี่ช้วนมาแล้วค่อยถามก็แล้วกัน” เมื่อเห็นหนูด้วงไม่ยอมพูดมีคุณเลยตัดสินใจว่าค่อยคุยเรื่องนี้ในวันพรุ่งนี้

“โทรไปถามเลย ทำหลานขนาดนี้ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ เอาเบอร์โทรมา แม่จะถามเอง” คุณพลอยประดับนึกโมโหตัวเองที่ปล่อยหนูด้วงไปกับคนสติไม่ดีอย่างช้วน

“เดี๋ยวผมโทรเอง แม่ใจเย็นก่อนนะครับ ถ้าไม่มีหลักฐานอะไรมันจะเป็นการกล่าวหากัน แต่ผมก็คิดว่าพี่ช้วนไม่น่าเป็นคนทำ” มีคุณเตือนสติมารดาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาขมิ้น เมื่อขมิ้นรับสายแล้วมีคุณก็ขอสายช้วน แต่ขมิ้นบอกว่าช้วนออกไปข้างนอก ไม่ยอมบอกว่าไปไหนเหมือนกันแต่ดูท่าทางหงุดหงิดจนขมิ้นยังเข้าหน้าไม่ติด มีคุณรับรู้แล้วจึงวางสาย

“พี่ช้วนหลับไปแล้วครับ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน แยกย้ายกันไปพักดีกว่านะ เดี๋ยวตังพาด้วงไปนอนกับพี่ วันนี้ด้วงคงไม่ยอมอยู่กับใครแน่” มีคุณไม่ได้บอกความจริงเพราะไม่อยากให้มารดาโวยวายเรื่องของช้วน แต่ตั้งใจว่าเดี๋ยวแยกตัวไปแล้วจะบอกกับนับตังค์

“แกอย่าสงสารคนไปทั่วนะตาคุณ ต้องดูให้ดีว่าเลี้ยงคนหรือเลี้ยงงูเห่า เอาล่ะ ทุกคนก็ไปนอนกันได้แล้วนะลูก เหนื่อยกันมาทั้งวัน” คุณพลอยประดับนึกห่วงลูกชายที่มีนิสัยขี้สงสาร กลัวว่าจะเลี้ยงคนไม่ดีจนตัวเองต้องเดือดร้อน ยิ่งเห็นลูกชายเชื่อมั่นในตัวของช้วนก็ยิ่งนึกห่วง นึกถึงคำบอกเล่าของดาวเรืองว่าช้วนเป็นคนบ้าเธอก็ยิ่งวิตกกังวล หากลูกชายของเธอต้องอยู่ร่วมกับคนบ้าคุ้มดีคุ้มร้ายแบบนั้นชีวิตจะไม่ปลอดภัยเอา

มีคุณได้แต่พยักหน้าเพื่อตอบรับคำเตือนของมารดา เมื่อเห็นท่าทีเศร้าซึมของหนูด้วงก็รู้สึกสงสารจับใจ ดูจากรอยแผลก็รู้ว่าหนูด้วงโดนทำร้ายมามากกว่าจะประสบอุบัติเหตุ มีคุณจะไม่ยอมผ่านเรื่องนี้ไปแน่ๆ เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันแน่ที่ทำร้ายเด็กตาดำๆ ได้ขนาดนี้


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เป็นยังไงกันบ้าง ทักทายกันหน่อยค่า
จะมาแจ้งว่าตอนนี้นิยายเรื่องเก่าๆ ของผู้แต่งกำลังจะมีการรวมเล่มนะคะ
เลยยังไม่สามารถลงตอนพิเศษให้ได้ แต่ละเรื่องจะมีตอนพิเศษให้อ่านในเล่ม
รับประกันความพิเศษค่ะ ยังไงก็ฝากผลงานไว้ล่วงหน้า แล้วผู้แต่งจะมาอัพเดทอีกทีจ้า

ว่าแต่มาดักตบยัยดาวเรืองกันดีไหม!

ก็ได้ก็ได้~ (เสียงตอบรับจากท่านผู้อ่าน 555555)


 :angry2:

 
(https://www.uppic.org/image-4946_5973BA13.jpg)

เครดิตรูปจาก Google


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)

[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย] (https://twitter.com/loverouter)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 23-07-2017 06:05:32
ผิดไหมที่ลำไยคุณพลอยประดับ 5555555555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 23-07-2017 08:08:52
ทำไมหงุดหงิดตอนนี้ที่สุด   :m16:

รำแม่มีคุณ กะนังพี่เลี้ยงเก่านั่น   :z6:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 23-07-2017 08:43:02
นังดาวเรืองต้องโดน  :z6:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 23-07-2017 08:50:26
นังดาวเรือง แกจะอะไรกับเด็กตัวเล็กๆคนเดียวกันนักกันหนา ด้วงไปฆ่าบิดามารดาแกหราถึงได้จองเวรจองกรรมกับเด็กไม่มีทางสู้แบบนี้  :katai1:  ชะรอยจะไม่ได้อยู่แบบมีความสุขนะแก หึหึ  เดี๋ยวๆๆๆ เดี๋ยวเจอนับนับตังค์กับบอสไปเคลียร์แบบชุดใหญ่ไฟกระพริบแน่  เกลียดนัก! คนเก่งแต่กับเด็กแบบเนี้ย #อินอิน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 23-07-2017 10:32:16
 o22 หมดปัญหาเรื่องใหญ่ของมีคุณ ก็เจอปัญหาใหญ่กว่าตามมาเลย วุ่นวายเสียจริง  :hao4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-07-2017 12:45:40
ยายคุณนายนี้ก็น่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 23-07-2017 16:00:20
ปูมาขนาดนี้
ตอนหน้าชื่อเมนูโป๊ะแตกมาม่าแน่ๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 23-07-2017 16:58:48
เฮ้อ! ตอนแรกนึกว่าแม่มีคุณจะมีนิสัยดีขึ้น จะได้แนะนำให้พี่ช้วน แต่เป็นแบบนี้แล้วอยากให้แม่มีคุณรีบกลับไปกรุงเทพฯเร็วๆ

สงสารหนูด้วง  :monkeysad: ต้องมาโดนยัยดาวเรืองทำร้าย  ทำยังไงหนูด้วงถึงจะยอมบอกว่าโดนยัยพี่เลี้ยงทำร้ายตัวเองยังไง คงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าจะมีใครมาช่วยหนูด้วงให้พ้นจากยัยพี่เลี้ยงใจร้ายนี้ได้   
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 23-07-2017 17:08:46
 :3125:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 23-07-2017 17:16:27
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-07-2017 21:30:27
ดาวเรืองมีปัญหาอะไรกับด้วงนักหนา
ส่วนลุงช้วนนี่ พ่อพี่คุณรึป่าว มโนไปเรื่อยละตอนนี้ 5555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 24-07-2017 07:29:43
ดาวเรืองน่าตบมากกกกกก
ดีใจที่ตังค์ไม่โกรธ มีคุณทำถูกแล้วที่บอกความจริงอาจจะบอกไม่หมดแต่ก็ดีกว่าที่ไม่บอกเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: มายาป่าฝน ที่ 27-07-2017 21:45:09
ด้วงนี่หลานมีตังค์ป่าว ลูกของพี่ชายอ่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 20 ต้มมะรัก 23/07/60 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 28-07-2017 13:10:56
รู้สึกว่าแม่มีรุณจะทำให้เรื่องให้มีคุณอีก :m16:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 28-07-2017 15:28:46
ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้


หนูด้วงนอนคว่ำอยู่บนตัวของนับตังค์ระหว่างที่ฟังนับตังค์เล่านิทานไปด้วย โดยมีมีคุณนอนฟังอยู่ข้างๆ โชคดีที่มีคุณตัดสินใจต่อเติมส่วนของโดมกระจกขึ้นมาในห้องทำงานและสั่งให้ช่างทำเตียงทรงกลมที่มีขนาดพอดีกับพื้นที่ของโดม ซึ่งมันก็กว้างพอที่จะนอนด้วยกันได้ทั้งสามคน เจตนาในตอนแรกเพียงเพื่อเอาไว้ให้หนูด้วงมานั่งนอนเล่นได้ในตอนกลางวัน แต่มีคุณเพิ่งเห็นประโยชน์ที่ดีกว่าของมันในวันนี้ นั่นก็คือการที่เขาได้นอนใกล้ชิดกับนับตังค์ท่ามกลางหลังคากระจกใสที่มองเห็นดวงดาวได้ อีกทั้งกำแพงกระจกรอบด้านช่วยสร้างบรรยากาศให้เหมือนได้มาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งมองภาพโดยรวมแล้วมันควรจะเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกมากหากนับตังค์ไม่สั่งให้รูดม่านรอบกระจกโดมให้ปิดสนิท มัมของเจ้าหนูด้วงให้เหตุผลกับมีคุณว่า ถ้าเปิดม่านทิ้งไว้ทั้งคืนอาจจะเห็นผีมากกว่าเห็นธรรมชาติที่สวยงาม พอมีคุณอ้อนวอนว่าอยากนอนกอดกันท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ นับตังค์ก็ย้อนกลับมาว่า ‘นึกว่าตัวเองเป็นทาร์ซานรึไง’ เป็นอันจบกันกับความโรแมนติกที่มีคุณวาดเอาไว้

“สงสัยจะเจ็บหลังที่โดนหยิก ไม่ยอมนอนสักที” นับตังค์พูดกับมีคุณหลังจากที่เล่านิทานให้ด้วงฟังเป็นเรื่องที่สิบแล้วด้วงก็ยังไม่ยอมหลับเสียที

“ตังคิดว่าพี่ช้วนจะมีส่วนไหม” มีคุณถามความเห็น เขาเล่าให้นับตังค์ฟังแล้วว่าช้วนไม่อยู่ที่บ้านพักของขมิ้นตอนที่โทรไป

“ตังว่าพี่ช้วนไม่ทำหรอก แต่กำลังคิดว่าพี่ช้วนน่าจะรู้ว่าใครทำ พี่ไม่สังเกตเหรอ ก่อนพี่ช้วนจะกลับท่าทางแกดูไม่ขี้เล่นหรือเกรียนเหมือนทุกทีเลย ดูนิ่งจนตังยังไม่กล้าไปแหย่แกเลย” นับตังค์คิดว่าพรุ่งนี้คงจะได้รู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายหนูด้วงจากปากของช้วนแน่

“แต่ตามคำบอกเล่าของแม่ นอกจากพี่ช้วนก็มีแค่แม่ของพี่ที่ได้อยู่กับหนูด้วง พี่ก็ไม่คิดว่าแม่จะทำร้ายหนูด้วงนะ” มีคุณถอนหายใจ ถึงมารดาของตัวเองจะเป็นคนชอบเจ้ากี้เจ้าการไปบ้างแต่ก็ไม่ใช่คนใจร้ายที่ทำเด็กเล็กแบบหนูด้วงได้ลง

“ทำไมพี่คิดแบบนั้น แม่ของพี่ไม่ทำร้ายหนูด้วงหรอก” นับตังค์ไม่เชื่อเช่นกันว่าคุณพลอยประดับจะเป็นคนทำ

“ด้วงครับ บอกแด๊ดไม่ได้เหรอว่าใครทำหนู” มีคุณพลิกตัวมานอนตะแคงหันหน้าเข้าหาด้วงแล้วลูบผมของด้วงเบาๆ ด้วงหันหน้าหนีไปอีกทาง มือน้อยๆ กำเสื้อของนับตังค์แน่น

“ไม่ต้องกลัวนะด้วง” นับตังค์กระชับกอดด้วงเพื่อให้ด้วงรู้สึกว่ากำลังได้รับการปกป้อง

“หนูเจ็บยั๋ง” ด้วงเงยหน้ามาพูดกับนับตังค์ น้ำตาคลอจนนับตังค์เองอดสะเทือนใจไม่ได้ นึกในใจว่าเราโตแล้วถูกหยิกยังเจ็บ นี่ผิวหนังของเด็กมันบางจะตาย ถูกหยิกจนเลือดซิบจะไม่เจ็บได้ยังไงกัน

“ด้วงบอกมัมไม่ได้เหรอว่าใครทำ มัมจะได้ไปจัดการให้ เขาจะได้ไม่มาทำให้ด้วงเจ็บอีกไงครับ” เมื่ออยู่กันแค่สามคนนับตังค์จะยอมแทนตัวเองว่า ‘มัม’ เพราะด้วงจะชอบหากนับตังค์แทนตัวเองแบบนี้

“หนูไม่พูด ไม่ดื้อ หนูไม่ดื้อ” ด้วงส่ายหน้า น้ำตาเริ่มหยดลงมาบนอกเสื้อของนับตังค์

“เขาขู่ด้วงใช่ไหม ไม่ต้องกลัว ถ้าด้วงไม่บอกมัมเขาจะแอบมาอีก แต่ถ้าด้วงบอกมัม มัมจะไม่ให้เขามาหาด้วงอีกเลย มัมสัญญา” นับตังค์พยายามหว่านล้อม

“มัมของด้วงเป็นซุปเปอร์แมนเลยนะ มีพลังวิเศษปกป้องด้วงได้ ด้วงอยากให้มัมช่วยด้วงไหมครับ” มีคุณเห็นท่าทีของด้วงดูลังเลก็รีบพูดหว่านล้อมอีกแรง

“เยืองจะหยิดมั้ย เยืองหยิดเจ็บ” ด้วงเอ่ยถามทั้งน้ำตา

“อีเรืองอีกแล้ว!” นับตังค์ได้ยินก็ลุกพรวดขึ้นมานั่ง พอรู้ว่าตัวเองกำลังจะทำให้หนูด้วงตกใจก็รีบลูบหลังปลอบใจ

“เรืองมาหาด้วงเหรอครับ” มีคุณยังคงหลอกถามต่อทั้งที่ในใจร้อนเป็นไฟเมื่อรู้ว่าผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นทำร้ายร่างกายเด็กแบบด้วงได้ลงคอ

“เยืองไม่ให้พูด” หนูด้วงซุกอกของนับตังค์

“ไม่ไหวแล้ว พี่จะไปที่รีสอร์ทของป้าขจี” มีคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถใจเย็นได้อีกแล้วเพราะผู้หญิงใจร้ายคนนั้นนอกจากจะทำให้ด้วงมีปมในใจแล้วยังจะตามมาราวีไม่หยุด

“เราไม่มีหลักฐานหรือพยานเลยนะ ทำอะไรต้องรอบคอบ ตังไม่ได้ไม่โกรธนะที่มันมารังแกด้วง แต่เราไปแบบไม่มีหลักฐานก็เหมือนไปหาเรื่องใส่ความ” นับตังค์เตือนสติมีคุณที่กำลังหัวเสียอย่างหนัก

“อย่างน้อยป้าขจีจะได้รู้ว่าเลี้ยงนังงูพิษเอาไว้ พี่เชื่อว่าป้าจะเชื่อถ้าเราเล่าเรื่องของด้วงให้ป้าฟัง” มีคุณยังยืนยันว่าจะไปที่รีสอร์ทให้ได้

“โอเค ถ้าอย่างนั้นตังว่าพี่ควรโทรถามแม่ของพี่ก่อนนะว่าได้เจอดาวเรืองรึเปล่า เราอาจจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มขึ้น” นับตังค์ยังคงสงสัยว่าดาวเรืองได้เจอด้วงตอนไหน ถ้าให้เดาก็คิดว่าน่าจะตอนที่ไปเดินเล่นกับคุณพลอยประดับ

มีคุณออกไปโทรศัพท์หามารดาของตัวเอง เขารู้ตัวว่าตอนนี้กำลังหงุดหงิดมาก กลัวว่าหากพูดเสียงดังไปแล้วด้วงจะยิ่งตกใจ ระหว่างนั้นนับตังค์ก็นอนกอดด้วง กล่อมด้วงจนด้วงหลับไปในที่สุด เมื่อด้วงหลับไปแล้วนับตังค์ก็โทรหาใบเมี่ยงเพื่อให้ใบเมี่ยงมาอยู่เป็นเพื่อนหนูด้วงก่อนเพราะตัวเองอยากไปที่รีสอร์ทของคุณขจีพร้อมกับมีคุณด้วย ท่าทางของมีคุณดูโกรธมาก นับตังค์กลัวว่ามีคุณจะทนไม่ไหวตบนังดาวเรืองเอาได้ง่ายๆ เพราะขนาดตัวนับตังค์เองที่ว่าใจเย็นแล้ว ยังอยากอัดผู้หญิงใจร้ายคนนั้นให้พิการไปเลย สักพักใบเมี่ยงและพายพัดก็เดินเข้ามาพร้อมกับมีคุณที่คุยโทรศัพท์เสร็จพอดี

“แม่ของพี่บอกว่าดาวเรืองมาคุยด้วยจริงๆ มันอ้างว่าจะมาหาพี่เพื่อจะคุยเรื่องที่ดิน แต่แม่ไม่ปักใจเชื่อว่ามันเป็นคนทำเพราะมันดูรักและเป็นห่วงด้วงมาก แม่บอกว่าด้วงยังยอมให้มันกอดแต่โดยดี แม่ของพี่อคติกับพี่ช้วนเลยจ้องแต่จะคิดว่าพี่ช้วนเป็นคนทำ เฮ้อ แม่นะแม่ เรื่องสำคัญแบบนี้ทำไมไม่เล่า มันน่าโมโหนัก” มีคุณเล่าให้ทุกคนฟังพลางถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด

“ท่านคงไม่คิดว่าผู้หญิงหน้าไหว้หลังหลอกแบบดาวเรืองจะทำเลยไม่ได้นึกถึง พี่ก็อย่าไปโทษท่านเลย ท่านไม่ได้รู้จักดาวเรืองมาก่อน มันคงมาพูดดีหว่านล้อมแม่ของพี่เรื่องที่ดิน สร้างภาพว่ารักหนูด้วง แล้วมันคงถือโอกาสนั้นหยิกด้วงแน่เลย อิเลวเอ้ย มันเป็นอะไรมากไหม ทำไมต้องทำร้ายด้วงตลอดเลย” นับตังค์ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

“ไปกันเถอะ” มีคุณชวนนับตังค์ เขาเองก็อยากจะรู้ว่าดาวเรืองจะแก้ตัวยังไง ถึงจะปฏิเสธเพราะไม่มีหลักฐานเอาผิดได้ แต่อย่างน้อยไปให้รู้ว่าทางนี้สงสัยในพฤติกรรมของมัน มันจะได้ไม่กล้ามาเข้าใกล้หนูด้วงอีก

“ฝากด้วงด้วยนะ เรากลัวว่าจะสะดุ้งตื่นอีก” นับตังค์ฝากด้วงกับใบเมี่ยงและพายพัด

“ไปเถอะ ไม่ต้องห่วง” พายพัดบอกกับนับตังค์ก่อนจะมองไปที่หนูด้วงที่นอนหลับทั้งน้ำตาด้วยความสงสารจับใจ

นับตังค์เอารถจักรยานยนต์ของคุณปู่อนันต์ขี่พามีคุณมาจนถึงรีสอร์ทของคุณขจี ทั้งคู่เจอพนักงานต้อนรับหญิงคนหนึ่งจึงถามหาดาวเรืองและคุณขจี พนักงานต้อนรับบอกกับมีคุณว่าคุณขจีไปอนามัยชุมชนตั้งแต่เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วเพราะได้รับแจ้งมาว่าดาวเรืองโดนทำร้ายร่างกาย มีคุณกับนับตังค์ตกใจที่ได้รับรู้ ทั้งคู่จึงต่อสายไปหาคุณขจีทันที เมื่อได้คุยกับคุณขจีจนรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วทั้งสองคนก็ตัดสินใจกลับบ้านโดยที่ยังไม่ได้เล่าเรื่องของด้วงให้คุณขจีรับรู้

เมื่อทั้งสองคนกลับมาถึงบ้านก็เล่าเรื่องของดาวเรืองให้ใบเมี่ยงและพายพัดฟัง คุณขจีบอกว่ามีคนไปพบดาวเรืองอยู่ในป่าใกล้บ้านร้าง โดนจับมัดเอาไว้กับต้นไม้ หน้าตาบวมปูด คาดว่าน่าจะโดนผึ้งต่อย แต่ที่ตำรวจคิดว่าดาวเรืองโดนทำร้ายร่างกายด้วยเพราะที่แผ่นหลังมีรอยแผลม่วงช้ำเป็นวงและมีรอยข่วนเป็นทางยาวจนเลือดซึมออกมา เมื่อตำรวจมาสอบถาม ดาวเรืองเอาแต่ส่ายหน้า ท่าทางลนลานเหมือนกลัวอะไรสักอย่างและไม่ยอมตอบคำถามของตำรวจ   

“เวรกรรมตามทันจริงๆ” ใบเมี่ยงได้ฟังเรื่องของดาวเรืองก็รู้สึกว่าโลกนี้ยังมีความยุติธรรมอยู่บ้าง

“แต่กรรมมันตามไวจนน่าแปลกใจนะ” พายพัดพูดจบมีคุณกับนับตังค์ก็มองหน้ากัน ทั้งคู่กำลังนึกถึงใครบางคนที่หายตัวไปในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะกันพอดี

“เอาไว้พรุ่งนี้คงจะได้ความอะไรมากกว่านี้ แยกย้ายกันไปพักก่อนแล้วกัน” มีคุณบอกกับทุกคนเมื่อเห็นว่าตอนนี้ก็เริ่มดึกมากแล้ว ยังไงก็ต้องรอช้วนมาในตอนเช้าถึงจะได้รู้ว่าช้วนหายไปไหน แล้วทำไมถึงหายไปในเวลาที่ดาวเรืองถูกทำร้ายพอดี   

...

ช้วนมาถึงร้านพร้อมกับขมิ้นตอนตีห้าตรงเหมือนกับทุกวัน มาถึงที่ร้านก็เจอมีคุณยืนรออยู่แล้ว ขมิ้นนึกสงสัยเพราะไม่เคยเห็นมีคุณตื่นแต่เช้าแบบนี้มาก่อน แถมเมื่อคืนมีคุณก็โทรมาหาช้วน ขมิ้นคิดว่าอาจจะเป็นเรื่องของหนูด้วงแต่ก็ไม่กล้าเสียมารยาทถามจึงเดินเลี่ยงเข้าไปในร้าน ปล่อยให้มีคุณได้อยู่กับช้วนตามลำพัง

“เมื่อคืนพี่ช้วนไปไหนมา” มีคุณถามพลางสังเกตช้วนตั้งแต่หัวจรดเท้าว่ามีร่องรอยของการต่อสู้บ้างรึเปล่า แต่ปรากฏว่าไม่มีอะไรที่ผิดปกติเลย มีคุณคิดว่าถ้าช้วนเกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บของดาวเรืองก็น่าจะมีอะไรที่ผิดปกติบ้าง

“ข้าก็ไปที่ชอบที่ชอบสินายท่าน เห็นข้าแก่เข้าหน่อยคิดว่าเตะปี๊ปไม่ดังรึไง” ช้วนตบอกตัวเองเบาๆ

“เมื่อคืนดาวเรืองถูกทำร้าย พี่ช้วนทำรึเปล่า” มีคุณไม่เชื่อว่าช้วนจะไปเที่ยวผู้หญิงจึงตัดสินใจถามไปตรงๆ

“ดาวเรืองไหน เมียน้อยนายท่านรึ”

“ผมรู้ว่าพี่ช้วนรู้ว่าผมพูดถึงอะไร พี่ช้วนบอกผมมาตรงๆ ดีกว่า”

“นายท่านอยากให้ข้าพูดอะไร” ช้วนย้อนถาม

“พูดความจริง ผมแค่เป็นห่วง ถ้าพี่ช้วนทำร้ายดาวเรือง ถ้าดาวเรืองแจ้งตำรวจพี่ช้วนจะเดือดร้อนนะครับ”

“ข้าไม่กลัวหรอก เพราะข้าไม่ได้ทำ ผู้ชายอย่างข้าไม่ทำร้ายผู้หญิง” ช้วนยักไหล่ มีคุณจ้องหน้าของช้วนอย่างพิจารณา เมื่อเห็นว่าช้วนมีทีท่าปกติไม่มีอะไรผิดสังเกต ซ้ำยังยืนยันว่าไม่ได้ทำก็เลยได้แต่ถอนใจ

“พี่ไม่ได้ทำก็ดีแล้ว ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ผมขอตัวก่อนนะ เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลย” มีคุณยิ้มให้ช้วนก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้าน เมื่อมีคุณเดินไปแล้วคุณพลอยประดับก็เดินเข้ามายืนขวางหน้าช้วนเอาไว้

“แกสารภาพมาว่าแกทำร้ายหนูด้วงใช่ไหม ถึงลูกชายฉันยอมเชื่อแกง่ายๆ แต่ฉันไม่ ถ้าให้เลือกระหว่างดาวเรืองกับแก ฉันว่าแกน่าจะทำมากกว่า แล้วนี่แกก็ทำร้ายดาวเรืองด้วยใช่ไหม” คุณพลอยประดับนอนไม่หลับเพราะคิดเรื่องนี้ทั้งคืน เธอลุกมาแต่เช้าเพราะอยากจะเค้นเอาความจริงจากคนที่ลูกชายของเธอจ้างเอาไว้ให้ดูแลหนูด้วง เมื่อเห็นว่าลูกชายพาช้วนมาคุยที่สวนหลังบ้านเธอจึงรีบออกมาฟังว่าลูกชายคุยอะไรกับตาแก่คนนี้บ้าง เธอคิดว่าแม้หน้าตาช้วนจะดูดี ดูเหมือนคนปกติทั่วไป แต่พฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ คนบ้ายังไงก็คือคนบ้า

“ละเมอมารึไงแม่คุณ”

“แกมันผู้ร้ายปากแข็ง ฉันจะไม่ยอมให้ลูกชายของฉันต้องมาเสี่ยงกับคนที่อารมณ์แปรปรวนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายหรอกนะ” คุณพลอยประดับชี้หน้าช้วน

“พูดถึงตัวเองอยู่รึไง” ช้วนหันไปถามคุณพลอยประดับ

“นี่แก!”

“นี่ไง โกรธอีก เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย ระวังความดันพุ่งนะแม่คุณ”

“ยอมสารภาพมา ฉันจะขอให้ตาคุณยกโทษให้แล้วให้เงินแกไปก้อนหนึ่ง แต่ฉันไม่ไว้ใจให้แกอยู่ที่นี่”

“คำก็แก สองคำก็แก ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่าข้าอายุเยอะกว่า ให้มันรู้จักเคารพนบนอบหน่อยนะแม่คุณ ข้าไม่เคยคิดทำร้ายเด็ก แต่ไม่แน่ใจว่าจะอดใจไม่ทำร้ายผู้ใหญ่ได้รึเปล่า”

“เห็นไหม ธาตุแท้โผล่มาแล้ว” แม้คุณพลอยประดับจะกลัวท่าทางขึงขังจริงจังของช้วนแต่ก็พยายามจะทำว่าไม่รู้สึกกลัว ขอแค่ยั่วโมโหให้ช้วนตบะแตก ถึงเธอจะโดนทำร้ายก็ยอม อย่างน้อยลูกชายของเธอก็จะได้เห็นธาตุแท้ของผู้ชายคนนี้เสียที ขืนปล่อยให้ช้วนสร้างภาพต่อไป มีคุณอาจจะลำบากมากไปกว่านี้ ลองทำร้ายร่างกายหนูด้วงได้แปลว่าจิตใจต้องไม่ปกติ

ช้วนเดินเข้ามาใกล้คุณพลอยประดับ จ้องใบหน้าที่ยังคงความสวยงามตามแบบฉบับหญิงไทยแบบตาไม่กระพริบ ส่วนคนถูกจ้องในระยะประชิดต้องเบนหน้าหนี ยกมือขึ้นมาเพื่อจะผลักคนตรงหน้า แต่ก็ถูกมือที่หยาบกร้านจับข้อมือเอาไว้แน่น ไม่ว่าคุณพลอยประดับจะบิดหนีอย่างไรก็ไม่เป็นผล อยากจะตะโกนร้องเรียกลูกชายให้มาช่วยแต่ไม่รู้ทำไมปากถึงไม่ยอมขยับตามที่สมองสั่ง

“สวย” ช้วนชมออกมาตรงๆ

“อะ..อะไรของแก” คุณพลอยประดับใจเต้นตึกตักขึ้นมาเสียอย่างนั้นเมื่อถูกชม

“ตาสวย...แต่มองคนไม่เป็น จมูกสวยแต่ไม่รู้กลิ่นไหนเน่ากลิ่นไหนดี ปากก็สวย แต่พ่นออกมาแต่เรื่องแย่ๆ น่าเสียดาย น่าเสียดายจริงๆ” ช้วนเชยคางของคุณพลอยประดับขึ้นมาเพื่อพินิจใบหน้าอย่างละเอียดก่อนจะพูดในสิ่งที่คิด

“ปากแกสิที่...”

“หึ ฮ่าๆๆ เฮ้อ.. ข้าเกือบจะตกหลุกรักในความสวยนี้แล้ว รู้ไหมแม่คุณ กุหลาบมันสวย สวยจนอยากจะเด็ดมาดอมดม แต่พอรู้ว่าเป็นกุหลาบพิษ มันก็ไม่มีใครต้องการ คงต้องปล่อยให้เหี่ยวคาต้นต่อไป” ช้วนหัวเราะแทรกขึ้นมาก่อนคุณพลอยประดับจะด่าจบ เมื่อเห็นอีกฝ่ายโกรธจนหน้าดำหน้าแดงก็เอามือออกจากคางคนตรงหน้าแล้วเดินผิวปากเข้าไปในร้าน

“อีตาบ้า” คุณพลอยประดับด่าไล่หลังช้วนไปก่อนจะลูบหน้าของตัวเอง ย้อนนึกไปถึงดวงตาสีฟ้าที่จ้องเธอเมื่อครู่แล้วก็รู้สึกเหมือนถูกสะกด อยากจะด่าตัวเองที่อายุปูนนี้แล้วยังจะมาใจเต้นเป็นเด็กสาวที่ไม่เคยต้องมือชายไปได้ ทั้งที่โดนหลอกด่าแต่ทำไมกลับขัดเขินเมื่อโดนจ้องหน้าใกล้ๆ แทนที่จะโกรธ คิดแล้วก็หงุดหงิดตัวเองจึงรีบเดินกลับเข้าบ้านไปเพื่อไปสงบสติอารมณ์ที่ฟุ้งซ่านของตัวเอง

ส่วนช้วนเดินกลับเข้ามาในร้านก็ตรงไปในครัวเพราะรู้สึกหิว แต่เมื่อเข้าไปถึงในครัวก็เจอนับตังค์ยืนควงตะหลิวรออยู่ สายตาของนับตังค์จับจ้องมาจนช้วนต้องถอนหายใจแล้วเอ่ยปากถาม

“จะมาจับผิดอะไรข้าอีกคนหนึ่งล่ะ”

“ร้ายกาจมากนะปู่” นับตังค์ยิ้มให้ช้วน แต่เป็นยิ้มที่เจ้าเล่ห์จนช้วนนึกขนลุก

“อะไรของเอ็ง”

“หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง นับตังค์ก็มีตานะปู่ แก่จะตายแล้วยังริอาจจีบสาว” นับตังค์หรี่ตามองช้วนแล้วหัวเราะในลำคอ

“นั่นเรียกสาวรึ ข้าก็แสดงไปอย่างนั้นเอง อยากลองเช็คดูว่าเสน่ห์ของข้ายังใช้การได้อยู่รึเปล่า”

“สายตาแบบนั้นมันไม่แสดงหรอกมั๊ง อ่อนโยนจนน่าขนลุกเชียวนะปู่ เอาล่ะ...สารภาพมา ทุกเรื่องเลย เร็วสิปู่”

“ข้าก็บอกผัวเอ็งไปแล้วว่าไม่รู้เรื่อง เอ็งก็รู้ว่าข้าเป็นคนตรงๆ”

“ตรงไปตรงมาหรือตรงไปทำร้าย” นับตังค์เลิกคิ้วถาม

“ตรงไปทำร้าย เฮ้ยไม่ใช่!! ตรงไปตรงมา เอ็งอย่ามาจับผิดอะไรข้า เดี๋ยวข้าบอกแม่คุณนะว่าเอ็งเป็นเมียลูกชายเขา” ช้วนขู่นับตังค์

“ปู่! เงียบไปเลย” นับตังค์ตกใจรีบส่งสัญญาณให้ช้วนเงียบ

“ฮ่าๆ ยกนี้ข้าชนะ”

“อย่าให้ถึงทีตังบ้างแล้วกัน ที่มาถามไม่ได้จะต่อว่าหรือจับผิดหรอก แต่จะมาขอบคุณที่ช่วยจัดการคนบางคนแทนตัง”

“เอ็งพูดอะไร ข้าไม่รู้เรื่อง ว่าแต่วันนี้ข้าเอารังผึ้งสดๆ มาด้วย น้ำผึ้งนี่ฉ่ำเลย ข้าอยากกินไข่ลูกเขย ใช้น้ำผึ้งทำนะ ทำให้หน่อย แต่จะว่าไป...ถ้าเอ็งทำมันก็ต้องเป็นไข่ลูกสะใภ้ใช่ไหมวะ ฮ่าๆๆๆๆ เออดีๆ ไข่ลูกสะใภ้” ช้วนหัวเราะร่วนก่อนจะยื่นถุงรังที่ใส่ผึ้งให้นับตังค์

“ร้ายกาจจริงๆ” นับตังค์เห็นรังผึ้งก็เข้าใจได้ทันที ถึงจะยังไม่เห็นสภาพของดาวเรือง แต่นับตังค์ว่าตัวเองพอจะนึกออกว่าดาวเรืองจะน่วมมากแค่ไหน นึกแล้วก็ขนลุกก่อนจะหันไปมองช้วนอีกครั้ง ได้แต่คิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน ไม่ธรรมดาเอาเสียเลยจริงๆ

...

คุณพลอยประดับตัดสินใจที่จะมาหาดาวเรืองที่อนามัยของชุมชน เธอโกหกมีคุณว่าอยากไปเดินดูตลาดสด อยากจะไหว้วานให้ขมิ้นขับรถพาเธอไป มีคุณเองก็ยุ่งไม่มีเวลาพามารดาไปเที่ยวชมรอบเกาะจึงรบกวนให้ขมิ้นช่วยพาคุณพลอยประดับไปแทนตัวเอง

แต่เมื่อออกมาจากบ้าน คุณพลอยประดับก็บอกให้ขมิ้นขับรถพาเธอมาที่อนามัยแทนและสั่งขมิ้นว่าห้ามบอกมีคุณว่าเธอมาที่นี่ เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่แล้วรู้ว่าดาวเรืองยังพักฟื้นอยู่ที่นี่ก็ดีใจที่มาแล้วไม่เสียเที่ยว คุณพลอยประดับเดินมาที่ห้องพักของดาวเรืองตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อมาถึงหน้าห้องก็ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่จึงหยุดยืนฟัง เสียงโต้ตอบของดาวเรืองสั่นเครือจนคุณพลอยประดับทนไม่ได้ต้องแอบชะโงกหน้าไปดูว่าดาวเรืองคุยกับใคร โชคดีที่ห้องพักของอนามัยไม่มีประตูห้อง เธอจึงเห็นว่าคู่สนทนาของดาวเรืองเป็นผู้หญิงสาวสวยแต่งตัวทันสมัยแต่ท่าทางดูจะเอาเรื่องไม่เบา

“แกมันหาเรื่อง ก็สมควรแล้วที่จะเป็นแบบนี้ นี่ยังโชคดีนะที่ไม่ตาย”

“ถ้าจะมาด่ากันก็ไม่ต้องมา”

“ฉันก็ไม่ได้อยากมาหรอกนะถ้าพ่อไม่สั่งให้มาจัดการค่าใช้จ่ายให้แก แกมันก็ดีแต่ทำให้พ่อผิดหวัง”

“ฉันทำให้ผิดหวังงั้นเหรอ แล้วที่พี่สาวของแกใฝ่ต่ำหนีตามคนงานไปล่ะ พี่ชายของแกก็วิปริตผิดเพศ หึ แอบไปหลงรักไอ้นับตังค์ ยอมมันทุกอย่าง ไอ้โง่เอ้ย ไม่รู้รึไงว่าไอ้นับตังค์มันเป็นเมียของไอ้มีคุณ พวกแกมันก็ไม่ได้เรื่อง ทำไมคุณท่านไม่ผิดหวังกับพวกแกบ้าง แล้วที่ฉันต้องเจ็บตัวแบบนี้ก็เพราะใคร ฉันทำเพื่อใครล่ะ”

“แกอย่ามาโทษคนอื่น อย่าเอาเรื่องของคนอื่นมาทำให้ตัวเองดูดี พ่อสั่งให้แกไปจัดการเรื่องที่ดิน แต่แกกลับโรคจิต เด็กตัวแค่นั้นแกยังไปรังแกได้ ก็สมควรแล้วที่ทางนั่นจะสั่งคนมาสั่งสอนแก อ่อ แล้วพ่อก็สั่งมาว่าห้ามแกไปแจ้งตำรวจให้เรื่องราวมันใหญ่โต พ่อไม่อยากโดนลากไปเกี่ยวด้วย ส่วนเรื่องของนับตังค์ฉันขอเตือนแกว่าแกอย่าไปยุ่งถ้ายังอยากหายใจ แกก็รู้ว่าพี่พญาไม่เหมือนใคร แล้วก็เลิกรังควานเด็กด้วงเสียทีนะอีโรคจิต”

“ไม่ กูเกลียดมัน เกลียด กูจะจองเวรกับมัน กูเกลียดทุกคน กูจะทำให้ทุกคนไม่เหลืออะไรเหมือนกับกู ออกไป ออกไปให้พ้นหน้ากู ฮือ กูบอกให้ออกไป”

“เออ ไปแน่ไม่ต้องมาไล่ แล้วอย่าสะเออะคิดว่าตัวเองจะได้อะไรจากพ่ออีก”

“กูบอกให้ออกไป!”

คุณพลอยประดับตกใจที่ได้รับรู้ความจริงว่าดาวเรืองคือคนที่ทำร้ายหนูด้วง ยิ่งเห็นอาการคุ้มคลั่งของดาวเรืองก็ยิ่งพูดไม่ออก แต่ที่ทำให้คุณพลอยประดับช็อกที่สุดก็คงเป็นเรื่องของมีคุณกับนับตังค์ เธอรีบเดินออกมาจากอนามัยแล้วมานั่งเอามือทาบอกอยู่ในรถ จนขมิ้นเห็นอาการของคุณพลอยประดับจึงเอ่ยปากถามว่าเกิดอะไรขึ้น คุณพลอยประดับไม่ตอบ ได้แต่สั่งให้ขมิ้นพากลับบ้านแล้วนั่งเงียบตลอดทางจนกระทั่งถึงบ้านถึงได้ลงจากรถไปด้วยท่าทีเศร้าซึมจนขมิ้นนึกสงสัย

คุณพลอยประดับไม่ได้เดินกลับเข้าไปในบ้าน แต่เดินลงมาที่สวนหย่อมเล็กๆ ที่หนูด้วงพาเธอมาเมื่อวานนี้ เธอทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก มองลำธารใสตรงหน้าแล้วก็ร้องไห้ออกมา เธอก็บอกไม่ถูกว่าตอนนี้กำลังรู้สึกอย่างไร รู้แต่ว่าอยากร้องไห้เพื่อไม่ให้ตัวเองบ้าไปเสียก่อน

“ย่าย้องไห้ ปู่ๆ ย่าย้องไห้” หนูด้วงมาเดินเล่นกับช้วน พอเห็นคุณพลอยประดับนั่งอยู่ก็เข้ามาหา พอเห็นคุณพลอยประดับร้องไห้ก็รีบบอกช้วน พอคุณพลอยประดับเห็นหนูด้วงก็คว้ามากอด

“ย่าขอโทษนะลูกที่ไม่ได้สังเกตเลยว่ามันรังแกหนู” คุณพลอยประดับสะอื้นเหมือนเด็ก ด้วงรีบดึงเสื้อของตัวเองมาเช็ดน้ำตาให้คุณพลอยประดับยกใหญ่

“หนูไม่ตีย่า ย่าไม่ต้อนย้องไห้” หนูด้วงยิ่งปลอบคุณพลอยประดับก็ยิ่งร้องไห้เพราะรู้สึกผิด

“ด้วงว่าย่าของด้วงต้องขอโทษใครอีกคนรึเปล่าน้า” ช้วนลงมานั่งข้างๆ คุณพลอยประดับแล้วแสร้งถามด้วง

“จะมาซ้ำเติมฉันก็เอาเลยสิ ฉันมันก็ผิดจริงๆ แต่ไม่เคยได้ยินรึไงว่าคนล้มแล้วอย่าข้าม” คุณพลอยประดับพูดเสียงอ่อนลงกว่าทุกครั้งแต่ก็ยังคงมีร่องรอยของความถือดีอยู่บ้าง

“ข้าไม่ได้ถือโทษโกรธแม่คุณหรอกนะ ข้ารู้ว่าคนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด แต่ก็ให้มันเป็นบทเรียนว่าอย่ามองคนแค่หน้าตา” ช้วนถือโอกาสสอนโดยที่ไม่สนใจว่าคนถูกสอนส่งสายตาขัดเคืองไปให้ที่ถูกด่าว่าโง่

“ฉันขอโทษ” คุณพลอยประดับยอมเอ่ยปากขอโทษในที่สุด

“ยกโทษให้ ว่าแต่แค่รู้สึกผิดที่กล่าวหาข้าถึงกับต้องมาร้องไห้ขนาดนี้เลยรึแม่คุณ” ช้วนเอนตัวลงนอนกับพื้น เอาแขนมารองต้นคอแล้วถามคุณพลอยประดับด้วยความสงสัย

“มันไม่ใช่แค่เรื่องนั้นหรอก แก...เอ่อ นายรู้เรื่องที่มีคุณ...กับ...นับตังค์...” คุณพลอยประดับรู้ตัวว่าผิดจึงพยายามจะปรับท่าทีที่เคยพูดไม่ดีกับช้วน

“เป็นผัวเมียกันนะรึ”

“คุณพระ แปลว่ามันจริงเหรอ โธ่ ตาคุณลูกแม่” คุณพลอยประดับยกมือทาบอกแล้วร้องไห้อีกหน ช้วนก็ปล่อยให้คุณพลอยประดับร้องไห้จนพอใจ ด้วงก็ได้แต่ยกเสื้อเช็ดน้ำตาให้คุณพลอยประดับจนเสื้อของด้วงเปียกไปหมด

“เชื่อหนูเปียกหมดแย้ว ย่าย้องไห้เก่งจัง” ด้วงร้องท้วง กำลังทำหน้ามุ่ยเพราะเสื้อของตัวเองเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา

“ฉันรับไม่ได้หรอก” คุณพลอยประดับบอกกับช้วนเพราะไม่รู้จะระบายกับใคร

“ไม่ได้แล้วยังไง จะกีดกันพวกเขารึไงแม่คุณ”

“ฉันมีลูกชายคนเดียวนะ”

“ขนาดมีลูกชายคนเดียวแม่คุณยังทำให้เขามีความสุขไม่ได้เลย” พอช้วนแย้งไปคุณพลอยประดับก็พูดไม่ออก

“นายก็เป็นคนรุ่นเก่า ทำไมถึงรับเรื่องนี้ได้”

“มันไม่เกี่ยวกับอายุ มันอยู่ที่ทัศนคติ เอาแบบนี้ ข้าถามหน่อย เจ้าตังมันมีอะไรที่ไม่ดี มันด้อยตรงไหน ถ้าไม่นับว่ามันเป็นผู้ชาย”

“ก็...ไม่มีตรงไหนด้อยหรอก ฉันรู้ว่าหนูตังเป็นคนดีมีความสามารถ แต่ว่า..ก็เพราะหนูตังเป็นผู้ชาย สังคมไม่ยอมรับเรื่องแบบนี้หรอก”

“แสดงว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เจ้าตังถูกไหม แต่ปัญหามันอยู่ที่ลูกชายของแม่คุณ ต่อให้เลิกกับเจ้าตังไป ลูกชายของแม่คุณจะชอบผู้หญิงได้เหรอ ต่อให้แม่คุณตีให้ตายหรือตัดแม่ตัดลูกไป ลูกชายของแม่คุณจะเปลี่ยนตัวเองได้ไหม ถ้าคำตอบคือไม่ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ การที่ลูกชายของแม่คุณได้มารักกับคนที่ไม่มีอะไรด้อยเลยอย่างเจ้าตัง แม่คุณต้องถือว่าลูกของแม่คุณมีบุญวาสนาแล้วนา” ช้วนพูดจบก็รู้สึกคอแห้งจึงหันไปหยิบตะกร้าขนมของหนูด้วงมาแล้วหยิบขวดน้ำดื่มมาเปิดดื่ม ด้วงเห็นตะกร้าขนมที่ใบเมี่ยงเตรียมเอาไว้ให้จึงรีบยื่นมือมาขอขนมจากช้วนด้วย

“ฉันถามจริงๆ นายบ้าหรือว่าไม่บ้ากันแน่” คุณพลอยประดับถามด้วยความสงสัย ความคิดความอ่านของช้วนไม่ใช่ความคิดของคนบ้าเลยสักนิด ดูมีเหตุและผลมากกว่าเธอด้วยซ้ำ แต่ทำไมชอบทำตัวให้ดูไม่ปกติจนคนอื่นคิดว่าบ้า

“เรียกข้าว่าพี่ช้วนก่อนสิ แล้วข้าจะบอก” ช้วนยักคิ้วหลิ่วตาให้คุณพลอยประดับจนอีกฝ่ายรู้สึกทำหน้าไม่ถูก

“เพราะฉันอยากรู้หรอกนะ จะยอมเรียกก็ได้ พี่ช้วน บอกฉันหน่อยว่าบ้าหรือไม่บ้า”

“ฮ่าๆ เฮ้อ...มีคนสวยๆ มาเรียกพี่ช้วนแล้วข้าใจเต้นโครมครามเลยเว้ย” ช้วนตะโกนเสียงดังจนคุณพลอยประดับอายจนหน้าแดง

คุณพลอยประดับมีดีกรีเป็นถึงนางงามเก่า ถึงจะอายุป่านนี้แต่ก็มักมีคนชมให้ได้ยินเสมอ คนใหญ่คนโตก็ยังมีมาตามจีบแม่หม้ายอย่างเธอไม่ขาด แต่เธอไม่เคยสนใจใครสักคน น่าแปลกที่กลับมารู้สึกประหม่าให้กับคนที่คนอื่นมองว่าบ้าแบบช้วนเอาง่ายๆ

“สรุปว่าบ้าหรือไม่บ้า” คุณพลอยประดับถามแก้เขิน

“แม่คุณชอบคนบ้าไหม” ช้วนถาม

“ไม่ชอบ”

“งั้นข้าไม่บ้าก็ได้” ช้วนพูดจบก็หัวเราะ หนูด้วงเห็นก็หัวเราะตามบ้างทั้งที่ขนมปังเต็มปาก

“หนูก้อไม่บ้า หนูเป็นเด็กดี” ด้วงยิ้มจนตาหยี คุณพลอยประดับเห็นแล้วก็อดยิ้มตามออกมาไม่ได้ แต่ในใจก็ยังรู้สึกสับสนเรื่องของมีคุณ ถึงรู้ว่าตัวเองเปลี่ยนรสนิยมของลูกชายไม่ได้แต่เรื่องนี้มันก็ยากจะยอมรับง่ายๆ

“ความรักเกิดขึ้นได้กับทุกคนนะแม่คุณ ไม่เว้นทั้งเพศทั้งวัย อย่าคิดอะไรมาก แก่จนจะลงโลงอยู่แล้ว ปล่อยให้มันเป็นไปตามวิถีของแต่ละคนดีกว่านะคนสวย ตกลงไหม” ช้วนส่งสายตาหวานเชื่อมไปให้คุณพลอยประดับ

“คนจ๋วย” ด้วงพูดตาม

“ก็ได้ก็ได้ ฉันจะพยายาม แต่พี่ลงโลงไปคนเดียวเถอะ ฉันยังอยู่ได้อีกนาน” คุณพลอยประดับพรูลมหายใจก่อนจะเลียนแบบคำพูด ‘ก็ได้ก็ได้’ ที่หนูด้วงชอบ หนูด้วงได้ยินก็รีบกลืนขนมลงคอก่อนจะหัวเราะเอิ้กอ้ากออกมาเมื่อได้ยิน

“ก้อได้ก้อได้” หนูด้วงพูดล้อเลียนก่อนจะหัวเราะสดใสขึ้นกว่าเมื่อเช้าที่ยังดูเซื่องซึม


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 28-07-2017 15:31:35
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


มีคุณแอบยืนดูมารดาของตัวเองอยู่ที่มุมหนึ่งก็รู้สึกโล่งใจ ตอนที่ขมิ้นไปบอกเขาว่าคุณพลอยประดับให้ขมิ้นพาไปหาดาวเรือง แต่ไม่รู้ว่าไปเจอรึเปล่า รู้แต่ว่าพอกลับลงมาก็มีอาการซึมเศร้าจนดูน่าเป็นห่วง มีคุณก็นึกห่วงและรีบออกมาตามหามารดาที่นี่เมื่อไปหาที่ห้องนอนแล้วไม่พบ พอมาได้ยินคุณพลอยประดับร้องไห้ระบายความในใจเรื่องของตัวเองให้กับช้วนฟังก็นึกสงสารมารดา เขาเข้าใจดีว่าเรื่องแบบนี้มันยากที่จะยอมรับกันได้ แต่ช้วนก็ทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น ดูผลลัพธ์ที่ออกมาแล้วน่าจะเป็นไปได้ด้วยดี มีคุณอยากจะกราบขอบคุณช้วนที่พูดหว่านล้อมจนมารดาของตนสงบลงได้ ช้วนเหมือนเป็นเทวดามาโปรดให้เรื่องยุ่งยากของมีคุณเปลี่ยนเป็นเรื่องง่ายไปได้เกือบทุกอย่าง

“หรือว่าจะมาจากต่างดาวจริงๆ” มีคุณมองช้วนแล้วพึมพำออกมาก่อนจะลูบแขนของตัวเองเพราะจู่ๆ ก็ขนลุกขึ้นมาเองอย่างน่าประหลาดใจ

...

นับตังค์นำไข่เป็ดที่ต้มและปอกเปลือกเรียบร้อยแล้วมาลงทอดในน้ำมันจนผิวเป็นสีเหลืองทองทั่วกัน เคล็ดลับคือการคนไข่ตลอดเพื่อให้น้ำมันสัมผัสผิวของไข่เสมอกันทั้งลูก เมนูไข่ลูกเขยที่พี่ช้วนขอมาโดยบังคับให้นับตังค์ใช้น้ำผึ้งที่พี่แกอุตส่าห์หอบหิ้วมาประกอบในเมนูนี้ด้วย นับตังค์เลยจะใช้มันผสมในส่วนของตัวน้ำที่จะราดไข่ลูกเขย ซึ่งนับตังค์จะไม่ทำน้ำราดแบบรสดั้งเดิมที่มีน้ำมะขามเปียกกับน้ำตาลปี๊บเป็นส่วนประกอบหลัก แต่นับตังค์จะใช้ซอสผลไม้เมืองร้อนใส่ผสมกับน้ำผึ้งมาราดแทน นอกจากนั้นนับตังค์ยังใช้ฟัวกราทอดเนยมาประกอบในเมนูนี้ด้วยเช่นกัน

คุณพลอยประดับกับช้วนพาหนูด้วงกลับขึ้นมาที่ร้านก็เป็นช่วงเวลาพักของพนักงานในช่วงบ่ายพอดี ซึ่งเป็นเวลาทานอาหารกลางวันของทุกคน คุณพลอยประดับถูกช้วนชวนให้ชิมไข่ลูกเขยที่นับตังค์ทำด้วยกัน คุณพลอยประดับดูจะวางตัวไม่ถูกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับมีคุณและนับตังค์หลังจากที่รู้เรื่องของทั้งสองคน มีคุณซึ่งรู้แล้วว่ามารดาของตนทราบสถานะของตัวเองกับนับตังค์แล้วแต่ก็ตีเนียนทำเฉยเหมือนไม่รู้อะไร ส่วนนับตังค์ที่ไม่รู้อะไรเลยก็พยายามตักอาหารเอาใจคุณพลอยประดับเหมือนปกติ

“แม่ไม่หิวเหรอครับ หรือไม่ถูกปาก อยากกินอะไรไหมครับตังจะทำให้” นับตังค์ถามเมื่อเห็นว่าคุณพลอยประดับเขี่ยอาหารไปมาแต่ไม่ยอมทานสักที

“อ๋อ.. เอ่อ.. เปล่าหรอก แม่ไม่ค่อยหิว” คุณพลอยประดับพูดจาตะกุกตะกักเพราะยังรู้สึกแปลกที่จะรับนับตังค์มาเป็นสะใภ้ ขนาดไข่ลูกเขยที่เป็นของโปรดของเธอในสูตรที่นับตังค์ทำจะน่ากินเป็นอย่างมากแต่เธอกลับกินไม่ลง

“แม่ครับ ผมขอโทษนะครับที่เมื่อคืนหงุดหงิดใส่แม่มากไปหน่อย” มีคุณเห็นอาการของมารดาก็เลยหาเรื่องมาคุยด้วย

“แม่ต่างหากที่ต้องขอโทษ แม่ผิดเองที่ปล่อยให้คนอื่นมาทำร้ายหนูด้วงได้” คุณพลอยประดับนึกขึ้นมาก็น้ำตารื้น

“แม่รู้แล้วเหรอครับว่าใครทำ” พายพัดเอ่ยถามด้วยความอยากรู้

“ก็ยัยคนดาวเรืองนั้นแหละ แม่ได้ยินจากปากมันเลยว่ามันเกลียดหนูด้วง เจ็บใจนัก ถ้าแม่เอะใจสักนิดหนูด้วงคงไม่เจ็บตัว” คุณพลอยประดับพูดชื่อดาวเรืองให้เบาที่สุดเพราะกลัวหนูด้วงจะได้ยินแล้วขวัญเสีย

“เป็นมันจริงๆ หมิ้นอยากจะไปหยิกมันให้สาแก่ใจบ้างนิ” ขมิ้นเอากำปั้นทุบมือตัวเองเพราะรู้สึกโกรธแค้น

“กรรมตามมันทันแล้วล่ะพี่บ่าว มีคนไปจัดการให้แล้ว มันถึงได้นอนหยอดน้ำเกลืออยู่ที่อนามัยไง” ใบเมี่ยงพูดแล้วก็มองไปที่ช้วน

“อาการหนักอยู่นะ แม่เห็นว่าหน้ามันบวมเจ่อไปหมด ว่าแต่มันคุยกับใครสักคน ผู้หญิงหน้าตาดีนะ แต่งตัวจัดจ้านน่าดู พูดถึงพ่อกันด้วย แม่ไม่รู้ว่าเป็นใครแต่เท่าที่ได้ยินเหมือนว่าคนเป็นพ่อจะให้พวกมันขอซื้อที่ดินของแกให้ได้เลยนะตาคุณ” คุณพลอยประดับนึกขึ้นได้เลยเล่าให้ฟัง

“พี่ว่าต้องเป็นคนของนายหัวพยนต์แน่เลยค่ะบอส” สายรุ้งออกความเห็น เธอพอจะรู้อยู่ว่าดาวเรืองเคยทำงานให้นายหัวพยนต์มาก่อน

“ช่างเขาเถอะ ยังไงผมก็ไม่ขาย บอกให้รู้ทั่วกันเลยนะครับว่าถ้ามีใครพยายามติดต่อทุกคนให้มาพูดเรื่องขายร้าน ผมขอให้ทุกคนปฏิเสธไปเลย ผมขอให้ทุกคนคิดว่าที่นี่คือครอบครัว เดือดร้อนอะไรให้เข้ามาพูดกับผม เราต้องรักและสามัคคีกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน เราจะเติบโตไปด้วยกัน ที่นี่เป็นบ้านของพวกเรา เราจะไม่ขายบ้านของตัวเอง” มีคุณประกาศบอกทุกคน ที่สำคัญมีคุณอยากให้คุณพลอยประดับรู้ว่ามีคุณตัดสินใจจะใช้ชีวิตที่เกาะนี้แน่แล้ว

“ดีๆ ครอบครัวเดียวกัน ต่อไปก็ขอให้นายท่านคิดเสียว่าข้าเป็นเหมือนพ่อก็แล้วนะ ฮ่าๆ” ช้วนพูดจบก็หัวเราะก่อนจะมองหน้าคุณพลอยประดับอย่างมีความหมาย แต่คนอื่นๆ กลับเงียบแล้วมองช้วนสลับกับคุณพลอยประดับไปมา

“อย่าบอกนะคะว่าพี่ช้วน...” มานีกับมีนาพูดขึ้นพร้อมกัน

“ข้าขอประกาศเหมือนกัน ว่าข้าจะจีบแม่คุณ” ช้วนยืนขึ้นแล้วผายมือไปทางคุณพลอยประดับที่นั่งอ้าปากค้างกับคำประกาศของช้วน

“คู่จิ้นคู่ใหม่ของเรา เย้” มานีกับมีนาปรบมือพร้อมกับส่งเสียงชอบใจ

“เย้” ด้วงเห็นก็ปรบมือตาม

“อิตาบ้า” คุณพลอยประดับเขินจนไม่รู้จะมองหน้าคนอื่นยังไงจึงต่อว่าช้วนแล้วรีบลุกหนีไป ช้วนยิ้มตามไป พอหันมาเจอมีคุณที่กำลังกอดอกทำหน้ายักษ์อยู่จึงร้อง ‘อุ่ย’ ด้วยความตกใจ

“แม่ของผมไม่ใช่ดอกไม้ริมทางนะพี่ช้วน” มีคุณทำเสียงเข้ม

“เอาน่า แล้วข้าจะหากระถางมาให้จะได้ไม่ต้องไปอยู่ริมทาง อย่ามาชวนข้าคุย ข้าจะกินไข่ลูกสะใภ้ของข้าแล้วโว้ย ฮ่าๆ มาๆ ด้วง มากินกับปู่ มีตับห่านด้วย” ช้วนโบกมือไล่มีคุณให้ไปทางอื่นก่อนจะอุ้มหนูด้วงมานั่งข้างๆ แล้วจัดการกินข้าวกับไข่ว่าที่ลูกสะใภ้ของตัวเองด้วยความเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจเลยว่านับตังค์ยืนสะดุ้งมองซ้ายมองขวาเพราะกลัวคุณพลอยประดับจะกลับมาได้ยินชื่อไข่ที่ช้วนพูดออกมาเสียดังลั่นห้องครัว

...

มีคุณนั่งทำบัญชีอยู่ในห้องหลังจากที่ปิดร้านไปได้สักพักหนึ่งแล้ว เขายิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นว่าวันนี้รายได้ที่ร้านเพิ่มขึ้นมากกว่าทุกวัน เขาคงต้องคิดเรื่องการขยายร้านเพื่อที่จะได้รองรับความต้องการของลูกค้าที่มีเพิ่มมากขึ้นให้พอเพียง อาจจะต้องรับพ่อครัวอีกสักคนเพื่อไม่ให้นับตังค์ต้องทำงานหนักเกินไป พอคิดถึงนับตังค์ นับตังค์ก็เดินเข้ามาในห้องพอดี คงจะเตรียมของสำหรับวันพรุ่งนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

“เหนื่อยมากใช่ไหม” มีคุณเอ่ยถามเมื่อเห็นนับตังค์ทิ้งตัวลงนอนแผ่ที่เตียง

“ก็นิดหนึ่ง” นับตังค์พูดทั้งที่หลับตา

“พี่นวดให้นะ” มีคุณลุกจากโต๊ะทำงานมานั่งบนเตียง ช้อนขาของนับตังค์มาวางบนตักแล้วลงมือนวดขาให้กับคนรัก

“ด้วงล่ะ”

“อยู่กับพี่ช้วนแล้วก็แม่ของพี่ที่บ้าน เดี๋ยวคงเอามาส่ง”

“เออ พี่คุณ...ถ้าสมมุติว่าพี่ช้วนจะจีบแม่ของพี่จริงๆ พี่ยอมด้วยเหรอ” นับตังค์ลืมตาขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าอยากจะถามเรื่องนี้กับมีคุณ

“พี่ไม่มีปัญหาหรอก แล้วแต่แม่ ชีวิตใครคนนั้นก็ต้องตัดสินใจเอง”

“เอาจริงๆ นะ ตังว่าพี่ช้วนหน้าตาดี เป็นคนสูงวัยที่ดูเท่ห์มาก ถึงจะทำตัวห่ามๆ แต่ตังว่าเบื้องลึกเบื้องหลังของพี่ช้วนไม่ธรรมดา ดูมีความรู้รอบตัว เผลอๆ จะมากกว่าตังเสียอีก ดีไม่ดี อาจจะเป็นเศรษฐีปลอมตัวมาหารักแท้ พี่ว่างั้นไหม” นับตังค์ถามไปก็ขยับขาออกแล้วลุกนั่งหันหลังเพื่อให้มีคุณเปลี่ยนมานวดที่หลังแทน

“นั่นมันนิยายแล้ว”

“ทำไมล่ะ ทีเรื่องของเรายังเหมือนนิยายเลย”

“ยังไง เหมือนตรงไหน”

“อ้าว ก็คิดดูนะ พี่เคยวิจารณ์อาหารของตังจนตังเก็บความแค้นนี้ไว้ตลอดเลย แล้วจู่ๆ พี่ก็มากินอาหารที่ร้านของย่า แล้วก็มีเหตุให้ตังต้องโดนไล่ออกจากบ้านมาอยู่กับพี่ แล้วพี่ก็มาจีบตัง แล้วตังก็ดันใจอ่อนมาชอบพี่คนที่ตังคิดว่าจะเป็นศัตรูกันด้วยซ้ำ นิยายชัดๆ” นับตังค์เล่าเป็นฉากๆ

“พี่เรียกว่าพรหมลิขิต” มีคุณคลึงที่ไหล่ของนับตังค์ช้าๆ แต่ก็ไม่วายจะแอบหอมที่ท้ายทอยของคนรักไปด้วย

“พูดแบบนี้ให้ตลอดแล้วกัน” นับตังค์อมยิ้ม

“หิว อยากกินคั่วกลิ้ง” มีคุณทำเสียงอ้อน

“ตอนนี้เหรอ บ้าดิ” นับตังค์ทำตาโตถาม พอเห็นมีคุณส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาก็รู้ว่าท่าทางจะได้เมื่อยมากกว่าเดิม

ด้านคุณพลอยประดับเมื่อพาหนูด้วงไปอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็ไล่ช้วนให้กลับบ้านพักไปเพราะตอนนี้มันก็เริ่มดึกแล้ว ส่วนเธอจะไปส่งหนูด้วงที่ร้านแล้วจะกลับมานอนเหมือนกัน ช้วนทำท่าอิดออดไม่ยอมกลับแต่สุดท้ายก็ยอมกลับไปแต่โดยดี ก่อนจะไปก็ไม่วายหยอดคำหวานบอกว่าจะฝันถึงคุณพลอยประดับจะได้ฝันดี เล่นเอาคุณพลอยประดับเขินจนลืมวัยไปเลย

ระหว่างทางจากบ้านมาที่ร้าน คุณพลอยประดับก็ครุ่นคิดเรื่องของมีคุณกับนับตังค์ไปด้วย เธอจะพยายามทำใจยอมรับความรักของลูกชายให้ได้ เธอเป็นต้นเหตุและเป็นภาระให้มีคุณต้องมาลำบากอยู่ที่นี่ หากจะกีดกันลูก ให้ลูกต้องเป็นทุกข์อีก เธอก็คงกลายเป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้ อีกอย่างหนึ่งนับตังค์ก็เป็นคนน่ารัก เธอคิดว่าถ้าได้ใช้เวลาศึกษานับตังค์อีกสักนิดก็คงจะทำใจยอมรับได้ในที่สุด

“โอ้ย พี่คุณ....” เสียงครางของนับตังค์ทำเอาขาของคุณพลอยต้องหยุดอยู่กับที่

“ทนหน่อยนะ”

“ตังเสียว พี่คุณ อย่าทำแบบนี้ ตังเสียว”

“ใกล้เสร็จแล้ว”

“พี่คุณ ไม่เอาแล้ว ตังไม่ไหวแล้ว”

เสียงโต้ตอบระหว่างมีคุณกับนับตังค์ทำเอาคุณพลอยประดับลมแทบใส่ เธอเพิ่งจะคิดว่าจะพยายามใช้เวลาทำใจยอมรับความรักที่ผิดแปลกแบบนี้ให้ได้ แต่ทั้งคู่เล่นข้ามขั้นไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัวแบบนี้เห็นทีจะต้องตักเตือนกันบ้าง หากใครผ่านมาได้ยินก็จะนินทาเอาได้ว่าเจ้าของร้านนี้เป็นคนยังไง เล่นบทรักกับผู้ชายด้วยกันแบบไม่ระมัดระวัง ซ้ำยังส่งเสียงน่าอับอายให้ได้ยินขนาดนี้ คิดแล้วคุณพลอยประดับก็ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปโดยลืมไปว่าตัวเองอุ้มหนูด้วงมาด้วย ถ้าทั้งคู่กำลังแสดงบทรักกันอยู่หนูด้วงก็จะเห็นเอาได้ แต่มาคิดได้ก็สายไปแล้วเพราะตอนนี้เธอก้าวเข้ามาอยู่ในห้องทำงานของลูกชายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“แม่!” มีคุณตกใจที่คุณพลอยประดับพรวดพราดเข้ามา

“คุณแม่” นับตังค์เองก็ตกใจเหมือนกัน

“เยือบิน หนูจาเย่นเยือบินด้วย” ด้วงรีบส่งเสียงร้องเมื่อเห็นสภาพของมีคุณกับนับตังค์บนเตียง

“เอ่อ...ลูกเล่นอะไรกันอยู่เหรอจ๊ะ” คุณพลอยประดับหน้าเสีย

ภาพของมีคุณที่นอนหงายอยู่บนเตียง แล้วกำลังใช้แขนกับขายันตัวของนับตังค์ให้ลอยอยู่บนอากาศ เป็นท่าดัดตัวที่มีคุณเคยเรียนมา เห็นว่าช่วยยืดเส้นยืดสายได้จึงลองทำดู นับตังค์ซึ่งกลัวความสูงอยู่เป็นทุน พอร่างกายถูกดันให้ลอยสูงขึ้นไป มีเพียงมือและฝ่าเท้าของมีคุณที่ช่วยทรงตัวของตัวเองเอาไว้จึงร้องเสียงสั่นเพราะกลัวจะตก เมื่อทั้งคู่เห็นคุณพลอยประดับเข้ามาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียงก็ตกใจ คุณพลอยประดับเองเมื่อเห็นว่าตัวเองเข้าใจผิดไปก็หน้าแตกจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเหมือนกัน

“หนูจาบิน หนูจาบิน” ด้วงชูมือชูไม้จะไปหามีคุณ คุณพลอยประดับจึงต้องพาด้วงเดินเข้าไปหา

“ตังเขาเมื่อยเพราะยืนทั้งวัน ผมเลยดัดตัวให้เขาอยู่” มีคุณอธิบายให้มารดาเข้าใจ

“อ๋อ เหรอจ๊ะ แม่ขอโทษทีที่ไม่ได้เคาะประตู เห็นหนูด้วงง่วงมากเลยเปิดเข้ามาเลย” คุณพลอยประดับรีบแก้ตัว

“หนูไม่ง่วง” ด้วงหันมาพูดเพราะกลัวจะอดเล่นเรือบินแบบนับตังค์

“แต่เมื่อกี้หลานหาวไงคะ” คุณพลอยประดับหน้าแตกรอบสองเมื่อด้วงปฏิเสธว่าไม่ได้ง่วง

“บอส ปล่อยตังลงก่อน” นับตังค์ร้องท้วงเพราะตัวเองยังลอยคว้างอยู่บนมือและฝาเท้าของมีคุณอยู่เลย

“โทษที ลืมไป” มีคุณหัวเราะขำก่อนจะย่อแขนย่อเข่าให้นับตังค์ลงมานอนที่เตียง

“แม่ว่า ที่นี่มันแคบ ให้หนูตังนอนกับหนูด้วงสองคนก็พอ ตาคุณ แกขึ้นไปนอนกับแม่ดีกว่า” คุณพลอยประดับยังคงทำใจไม่ค่อยได้เมื่อคิดไปว่ามีคุณจะทำอะไรเกินเลยกับผู้ชายด้วยกัน

“แม่ครับ ผมนอนได้” มีคุณรู้ว่าคุณพลอยประดับคิดอะไรอยู่จึงปฏิเสธ

“แต่หนูตังจะอึดอัดเอาได้ ใช่ไหมลูก” คุณพลอยประดับรีบหันไปถามทางนับตังค์

“บอสไปนอนกับคุณแม่ก็ได้” นับตังค์คิดว่าคุณพลอยประดับอาจจะคิดถึงลูกชายเลยเออออไปตามความต้องการของคุณพลอยประดับ

“ด้วงคงไม่ยอมหรอก” มีคุณเอาด้วงมาอ้าง

“หนูด้วงจ๊ะ นอนกับพี่ตังสองคนนะคะ ย่าขอให้แด๊ดไปนอนกับย่าได้ไหมลูก” คุณพลอยประดับถามหนูด้วงที่กำลังปีนป่ายไปบนตัวของมีคุณ

“ไม่ได้ หนูจานอนกะแด๊ดกะมัม” ด้วงส่ายหน้า แต่นับตังค์หน้าตื่นเมื่อด้วงเรียกตัวเองว่ามัมต่อหน้าคุณพลอยประดับ

“ด้วง ไม่ดื้อเนอะ” นับตังค์รีบดึงด้วงมากอด เมื่อด้วงไม่ได้เล่นลอยตัวเป็นเรือบินแบบที่เห็นนับตังค์ลอยอยู่ในทีแรกก็เริ่มจะเบะปากน้ำตาคลอ

“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวแด๊ดให้เล่นเรือบิน เห็นไหมครับแม่ ด้วงเพิ่งจะดีขึ้นอย่าขัดใจดีกว่า แม่กลับไปพักผ่อนนะครับ แล้วเจอกันตอนเช้า บายคุณย่าก่อนครับด้วง” มีคุณได้ทีจึงรีบตัดบท

“บัย บาย บัยบาย” ด้วงรีบทำตามที่มีคุณบอกเพราะกลัวจะไม่ได้เล่นสนุก

“ก็ได้ก็ได้ เฮ้อ พรุ่งนี้แม่มีเรื่องต้องคุยกับแกนะตาคุณ” คุณพลอยประดับรู้ตัวว่าคงไม่สามารถพาลูกชายไปด้วยได้จึงต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ในที่สุด

เมื่อเดินกลับออกไปแล้ว คุณพลอยประดับก็ได้ยินเสียงลูกชายของเธอกับหนูด้วงหัวเราะให้กันอย่างสดใส เธอไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของลูกชายแบบนี้มานานมากแล้ว มีคุณคงกำลังมีความสุขอยู่จริงๆ กับทางเลือกที่เขาได้เลือกเอง ตอนนี้คุณพลอยประดับเลยคิดแต่ว่า ถ้าทั้งสองคนคิดจะรักกันจริงๆ ก็ต้องมาคุยกันให้รู้เรื่อง ถึงเธอจะมีลูกสะใภ้เป็นผู้ชาย ก็ขอรู้ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร หากมีคุณคิดจะเอาลูกชายคนอื่นมาครอบครอง เธอก็ต้องทำให้มันถูกต้อง จะมีลูกสะใภ้ที่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเธอกต้องไปสู่ขอเหมือนกัน

***โปรดติดตามตอนต่อไป***


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ หากจะอัพช้าไปบ้างก็ขออภัยล่วงหน้านะคะ ช่วงนี้โรคประจำตัวรุมเร้าน่าดูค่ะ T_T
 

(https://www.uppic.org/image-40DE_597AF38E.jpg)

 
เครดิตรูปอยู่ในภาพเลยจ้า

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย] (https://twitter.com/loverouter)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 28-07-2017 15:51:05
ปู่ช้วนนี่คารมดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 28-07-2017 16:21:10
 o13  โห สุดยอด แหมะชักอยากรู้ที่มาของน้ำผึ้งซะละ ปู่ เอ้ยต้องเรียกพี่ช้วนสิ ตอนนี้เขาเป็นพระเอก  :katai3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-07-2017 16:37:56
 o13

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 28-07-2017 17:00:13
น่ารักดี นาน ๆ ได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ที ต้องหาเวลามาอ่านซะแล้ว
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 28-07-2017 17:24:35
คุณแม่ใจอ่อนแล้วนะพี่คุณ  :-[
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 28-07-2017 17:38:50
เม้นไว้ที่เด็กดีแล้ว มาขอเม้นไว้ในเล้าด้วยนะคะ
อ่านตอนนี้จบแล้ว ยิ้มทั้งน้ำตาคลอเลยค่ะ ชื่นใจจริงๆที่คนแต่งคลี่คลายปมให้อย่างละมุนละม่อม
ถ้าใส่ดราม่าชงเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้ แถมเรื่องจะขายร้านลงมาคงทำให้สนุกน้อยลง (นิดนึง)
แต่ตอนนี้ที่แต่งออกมาเป็นอะไรที่ประทับใจดีงามลงตัวตื้นตันที่สุดๆๆ
ขอบคุณที่ไม่ยัดเยียดดราม่าลงมานะคะ ตอนนี้อ่านทวนวนซ้ำสามสี่รอบแล้วค่ะ
เขียนเม้นพร้อมรอยยิ้มส่งกำลังใจให้คนแต่ง และนับวันรอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-07-2017 18:47:33
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: sleepybear ที่ 28-07-2017 18:50:02
น่ากินทุกตอนเลย
แต่เราว่า  คำว่า "ธาตุแท้" น่าจะสะกดอย่างนี้มากกว่า "ทาสแท้" นะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 28-07-2017 19:08:01
555 ในที่สุดสิ่งที่คิดไว้ก็เป็นจริง พี่ช้วนมาขอคุณแม่มีคุณเป็นแฟนจริงด้วย  และพี่ช้วนก็จัดการดาวเรืองได้สะใจเรามาก

รอต่อไปว่าทำไมดาวเรืองถึงเกลืยดด้วงขนาดนี้  แล้วพี่ช้วนจริงๆ เป็นใครกันแน่ และเมื่อไรคุณขจีจะรู้เรื่องที่ดาวเรืองทำร้ายด้วง เพราะพอมีคุณหรือนับตังค์จะบอกคุณขจีทีไร ต้องมีเหตุให้คลาดกันตลอด

ชอบคำคมที่พี่ช้วนว่าแม่พี่คุณ ทำเอาแม่พี่คุณถึงจะโกรธ แต่ก็ต้องยอมรับว่าพูดตรง ทำให้ได้คิดว่าตัวเองผิดจริง

 :pig4: :3123: ขอบคุณคนเขียน และรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-07-2017 19:16:13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-07-2017 19:21:48
ดาวเรื่องท่าจะเป็นบ้า อะไรกับหนูด้วงนักนะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-07-2017 20:55:09
หวังว่าคุณแม่จะเข้าใจได้นะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 28-07-2017 21:35:02
คู่ใหม่ๆ หวังว่าความรักจะราบรื่นน้าา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 28-07-2017 23:05:16
ช้วนดูมีเบื้องลึกเบื้องหลังน่าคิดจัง จะจีบแม่มีคุณซะด้วย

เอาแล้วไงคุณพลอยถามลูกก่อนนะถ้าจะไปหาครอบครัวนับตังค์อ่ะ ไม่มาม่ามาแน่เลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 29-07-2017 00:47:26
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 29-07-2017 08:59:35
ตกลงเรื่องนี้ลุงช้วนเป็นพระเอกใช่มั้ย :m20:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 29-07-2017 11:24:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 29-07-2017 11:45:53
ยิ่งอ่านยิ่งหลงรักนิยายเรื่องนี้ เราทำกับข้าวไม่เป็น ยังอยากลองหัดทำแบบที่นับตังค์ทำเหมือนกันนะ
สงสารหนูด้วง เราว่าด้วงต้องเกียวข้องกับนับตังค์แน่นอน เป็นด้วงก็เป็นสกุลเงินในสมัยก่อน
ปู่ช้วน ปู่จะชวนแม่คุณลงจากคานเหรอ
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 29-07-2017 17:27:03
ฮืออออออ ชอบเรื่องนี้มาก อ่านมาหลายปีไม่เคยเม้นท์ นี่เม้นท์แรกเลย หนูด้วงงงง หนูด้าววววว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 29-07-2017 20:18:39
สงสารหนูด้วงค่ะ เด็กน้อยที่น่ารักน่าเอ็นดูตอนนี้หนูมีคนที่รักหนูเพิ่มขึ้นอีกแล้วน๊า คุณย่ากับคุณปู่ไง
มัมตังค์เวลาอยู่กับหนูด้วงแล้วอ่อนโยนมากๆ ตังค์รักและเป็นห่วงหนูด้วงมากๆเลย อย่าให้ใครมารังแกอีกน๊าาาา :L2:

ติดตามๆ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 29-07-2017 20:36:50
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: P_Ple ที่ 30-07-2017 09:49:50
อยากรู้จังว่าพี่ช้วนเป็นใคร
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 31-07-2017 13:18:55
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ อ่านรวดเดียวถึงตอนที่14เลย
   อ่านแล้วชอบจนอดไม่ได้ ต้องเข้ามาให้กำลังใจคนเขียนแล้วล่ะ ชอบเรื่องนี้ที่เนื้อหามีอะไรๆที่เป็นของเก่าแบบคลาสสิคๆรวมอยู่ด้วยน่ะ นี่เลยอาหารไทยที่ต้องใช้ความใส่ใจและความละเมียดละไมในการปรุง
และเนื้อหาของเรื่องนี้โดยรวมก็มีความละมุนละไมอยู่ อ่านแล้วแบบให้ความรู้สึกบายๆผ่อนคลายดีจัง
ฝากกาพย์ยานี11บทนี้ให้ตอนที่14ด้วยจ้ะ
"..ขนมจีบเจ้าจีบห่อ 
 งามสมส่อประพิมพ์ประพาย
นึกน้องนุ่งจีบทวาย   
ชายพกจีบกลีบแนบเนียน.."
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 01-08-2017 10:37:52
ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง


พญานั่งถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าบรรดาลูกน้องของพญาไม่มีใครกล้าเข้าหน้าเจ้านายของมันเลยสักคน แม้เจ้านายของพวกมันจะไม่ได้มีท่าทีหงุดหงิด แต่สำหรับลูกน้องคนสนิทอย่างไอ้ก้านแล้ว ให้เจ้านายของมันโวยวายอย่างที่เคยจะดีกว่านั่งถอนหายใจแล้วทำท่าเหมือนหมาหงอยอยู่แบบนี้

“นายพญา ไอ้ก้านได้ข่าวมาว่าตอนนี้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่เกาะเต็มไปหมดเลย หน้าตาหล่อมากเลยนะนาย นายจะไม่ลองไปดูหน่อยเหรอครับ” ก้านทำใจกล้าเข้าไปชวนเจ้านายของมันคุยด้วย

“เฮ้อ...” พญาไม่ได้หันมามองหน้าลูกน้องคนสนิทแต่ถอนหายใจออกมาอย่างแรงแทน

“หรือว่าจะไปเที่ยวในเมือง เอาไหมครับ เดี๋ยวไอ้ก้านจะโทรไปให้คนฝั่งโน้นเตรียมหนุ่มๆ ให้นาย”

“ไอ้ก้าน”

“คะ..ครับ” ไอ้ก้านสะดุ้งตกใจเมื่อพญาส่งเสียงเรียกชื่อมัน

“มึงเคยตกหลุมรักใครแบบถอนตัวไม่ขึ้นไหมวะ” พญาหันมาถามลูกน้องคนสนิท

“ไม่เคยหรอกครับ คนอย่างไอ้ก้านฟันแล้วทิ้งอย่างเดียว”

“มึงนี่เกิดมาเป็นคนเสียเปล่า คนเรามันต้องรู้จักรักใครสักคนสิวะ”

“โธ่ นาย ความรักมันทำให้เราไม่เป็นตัวเอง มันทำให้อ่อนแอ ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย โดยเฉพาะถ้าไปตกหลุมรักคนที่มีเจ้าของ”

“ไอ้ก้าน!”

“นายเตะไอ้ก้านเลยครับที่ไอ้ก้านมันปากหมา” ก้านตั้งใจกวนโมโหเจ้านายเพราะอยากให้เจ้านายได้ระบายออกมาบ้าง มันรีบหันหลังหลับตาโก่งตัวพร้อมรับเท้าของพญา แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นว่าจะโดนถีบเหมือนอย่างทุกทีมันจึงลืมตาแล้วหันกลับไปดู ปรากฏว่าเจ้านายของมันนั่งเท้าคางถอนหายใจพร้อมกับเหม่อมองไปข้างนอกแทนที่จะถีบมันเหมือนอย่างทุกครั้ง

“ถ้ากูรู้ว่ากูจะรักใครได้ขนาดนี้กูคงไม่ทำตัวเละเทะหรอกไอ้ก้าน เขาคงได้ยินชื่อเสียงที่ไม่ดีของกูเขาถึงรักกูไม่ได้”

ก้านฟังเจ้านายของมันระบายความในใจออกมาก็นึกเห็นใจ ที่ผ่านมาเจ้านายของมันก็ทำตัวไร้สาระ รังแกคนที่อ่อนแอกว่า นึกชอบใจใครก็จะเอามาทำเมียเสียหมด แม้บางทีก้านไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเจ้านายแต่ก็ไม่เคยขัดใจ นั่นเพราะก้านรู้ดีว่าพฤติกรรมทั้งหมดที่นายพญาทำลงไปเพียงเพราะขาดความรักและไม่มีใครคอยอบรม แม่ของก้านเป็นคนสนิทของนายหญิงที่เสียไป นายหญิงเป็นแม่ของนายพญา เป็นคนใจดีมีเมตตา แต่ท่านต้องอยู่อย่างเจ็บปวดเพราะนายหัวพยนต์เป็นคนเจ้าชู้ สุดท้ายก็ตรอมใจตายในช่วงที่นายพญากำลังอยู่ในวัยที่ต้องการแม่ มีเพียงคุณใหญ่พี่สาวคนโตที่คอยดูแลแทน แต่คุณใหญ่ก็มาหนีหายไปอีกคน นายพญาจึงใช้ชีวิตไปวันๆ แบบไม่มีเป้าหมาย ใช้ชีวิตแบบสนองความต้องการของตัวเอง ไอ้ก้านคิดว่านายพญาคงคิดว่าทำแบบนั้นแล้วตัวเองมีความสุขก็เลยทำ คนอื่นมักจะมองว่านายพญาเป็นคนเลว มีข่าวลือต่างๆ นาๆ ว่านายค้ายาบ้าง ค้าอาวุธบ้าง แต่ไอ้ก้านรู้ดีว่านายพญาไม่ได้เลวอย่างที่ใครต่อใครพูดกัน ในการแสดงออกที่ก้าวร้าวและทำตัวเป็นอันธพาล นายพญายังมีมุมที่อ่อนแอและอ่อนโยน น้อยคนนักที่จะรู้ว่านายพญาอุปการะเด็กน้อยคนหนึ่ง ไม่ได้เลี้ยงเพื่อสนองตัณหา แต่นายพญาให้การศึกษาและดูแลเหมือนผู้ปกครอง นายพญาเคยบอกไอ้ก้านว่า นายไม่มีแม่ เด็กคนนั้นก็ไม่มี นายไม่อยากให้เด็กดีคนนั้นโตมาแล้วเลวเหมือนอย่างนาย ตอกย้ำไอ้ก้านให้มั่นใจว่าแก่นแท้ของนายไม่ใช่คนเลวเลย ยิ่งถ้าใครได้มาเห็นนายพญาในตอนนี้คงจะมีคำถามเดียวกันว่า...นี่ใช่นายพญาคนที่เป็นนักเลงโตแห่งเกาะใบไม้ครามแน่หรือ

“เรามาร่วมมือกันไหม” คีตะถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องพักของพญา มาได้ยินความในใจของพญาจึงเอ่ยปากถาม

“ห้องนี้ไม่ใช่ว่าใครอยากจะเข้ามาก็เข้ามาได้ง่ายๆ นะครับคุณคีตะ” ก้านรีบเดินมาขวางหน้า

“ไม่เป็นไร พวกมึงออกไปก่อน” พญาทำมือไล่ให้ก้านกับพรรคพวกออกไป คีตะยิ้มเหยียดให้ก้านก่อนจะเดินเข้ามาหาพญา

“คุณอยากได้นับตังต์ คิวก็อยากได้มีคุณคืนมา ถ้าเราช่วยกันก็วินวินทั้งสองฝ่าย” คีตะเสนอ

“มีแผนแล้วรึไง” พญาถามพลางมองคีตะตั้งแต่หัวจรดเท้า พญายอมรับว่าคีตะเป็นคนหน้าตาดี ผิวขาว การแต่งตัวก็ดูดีสะอาดสะอ้าน หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่ปล่อยให้รอดสายตาไปได้ แต่ตั้งแต่พญาเจอกับนับตังค์ก็ไม่เคยมีใครเข้าตาเขาอีกเลย กว่าจะได้สำรวจรูปร่างหน้าตาของคีตะอย่างจริงจังก็วันนี้นี่เอง

“ตอนนี้คุณแม่ของมีคุณมาที่เกาะแล้ว คิดว่าตอนนี้คงจะได้รู้เรื่องของนับตังค์ คิวว่ามีคุณคงกำลังปวดหัวอยู่แน่ๆ” คีตะเดินไปนั่งเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับที่พญานั่ง

“ใช้แผนแม่ผัวลูกสะใภ้รึไง” พญานึกขำแผนตื้นๆ ของคีตะ

“คุณเขารักคุณแม่เขามาก ถ้าคุณแม่เขาไม่ชอบนับตังค์ก็คงมีปัญหาแน่ สมัยที่คบกับคิว ขนาดเขารักคิวมากเขายังไม่กล้าพาคิวไปแนะนำให้แม่เขารู้จักในฐานะคนรักเลย เพราะฉะนั้นช่วงที่ฝ่ายนั่นกำลังมีปัญหา ทั้งคิวแล้วก็คุณควรเข้าไปช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่สั่นคลอน” คีตะเสนอแผน

“นี่ จะบอกอะไรให้นะ ถ้าลองแม่ของไอ้มีคุณไม่ชอบนับตังค์แล้วละก็...เขาก็คงไม่ยอมรับนายเหมือนกัน เพราะนายไม่มีอะไรที่เหนือกว่านับตังค์เลย แล้วก็ไอ้แผนปัญญาอ่อนนี่เก็บกลับไปใช้คนเดียวเถอะ คนอย่างไอ้พญาไม่เสียเวลากับเรื่องไร้สาระ” พญายิ้มเยาะคีตะ

“หึ ได้ข่าวว่าที่ผ่านมาก็ใช้แต่กำลังไม่เคยใช้สมอง ตอนนี้มาเที่ยวว่าแผนของคนอื่นปัญญาอ่อน ไหนบอกมาสิว่าแผนของคุณดีกว่าของคิวยังไง” คีตะเริ่มโมโหที่ถูกพญาด่า

“ถ้ากูจะเอานับตังค์มาเป็นของกูมันไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่เขามีคุณค่ามากกว่าจะได้รับการกระทำชั้นต่ำแบบนั้น พูดไปคนไร้ค่าอย่างมึงก็คงไม่เข้าใจ จำเอาไว้นะ มึงจะใช้แผนไหนเพื่อเอาผัวมึงกลับมาก็เรื่องของมึง แต่ถ้าทำให้นับตังค์ของกูเจ็บ มึงจะต้องเจ็บกว่า” พญาจ้องมองคีตะด้วยสายตาที่ดูน่ากลัว

“อยากจะเป็นพระเอกตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วมั๊ง ถ้าคิวไร้ค่า คุณมันก็ไร้ค่าในสายตาของนับตังค์เหมือนกัน คนอย่างนับตังค์คงไม่ทิ้งมีคุณมาหานักเลงชั้นต่ำอย่างคุณหรอกนะ” คีตะโกรธจัดที่ถูกต่อว่าแรงๆ นิสัยชอบเอาชนะทำให้คีตะลืมที่จะกลัวนิสัยอันธพาลของพญา จนกระทั่งพญาเดินเข้ามาใกล้ คีตะถึงได้รู้ว่าตัวเองไปแหย่เสือให้โกรธถึงในถ้ำ

“ถึงกูจะอยากเป็นพระเอกสำหรับนับตังค์ แต่ไม่ได้แปลว่ากูจะไม่เป็นผู้ร้ายกับคนอื่น” พญากระชากข้อมือของคีตะให้ลุกขึ้นมา

“จะทำอะไร” คีตะจะเดินหนีแต่ข้อมือที่ถูกพญาจับเอาไว้แน่นทำให้ไม่สามารถเดินหนีไปได้ พอโดนพญาบิดข้อมือคีตะถึงกับร้องลั่น

ก้านได้ยินเสียงก็วิ่งเข้ามา พอเห็นว่าพญากำลังปล้ำจูบคีตะอยู่ก็ชะงักอยู่กับที่ ทีแรกก็ตั้งใจจะเข้าไปห้ามนายเพราะรู้ว่าคีตะคือแขกคนสนิทของนายหญิงคนเล็ก แต่ตอนนี้พอก้านเห็นคีตะจูบตอบพญาด้วยความร้อนแรง ก้านจึงค่อยๆ เดินออกจากห้องไปประหนึ่งว่าไม่ได้เข้ามาเห็นอะไรเลย



กำหนดการเดิมของคุณพลอยประดับคือเธอตั้งใจจะมาอยู่ที่เกาะนี้เพียงแค่อาทิตย์เดียว แต่มีคุณอ้อนให้มารดาอยู่จนถึงวันเกิดของเธอเอง มีคุณอยากจัดงานวันเกิดให้มารดา คุณพลอยประดับจึงใจอ่อนยอมเลื่อนตั๋วเครื่องบินออกไปอีก อันที่จริงเธอก็ยังไม่อยากกลับ เธออยู่ที่นี่แล้วไม่รู้สึกเหงา แต่ก็เกรงใจลูกชายกับนับตังค์ที่ต้องมาแย่งห้องนอนของคนทั้งคู่ แต่ทั้งคู่ก็บอกเธอว่ายินดีที่จะนอนที่ห้องทำงานเพราะมันก็ไม่ได้ลำบากอะไร โดยเฉพาะมีคุณที่เต็มใจเสียสละห้องให้มารดารเป็นอย่างยิ่ง เหตุผลก็คือเขาหมายมาดเอาไว้ในใจว่าจะต้องกินโจ๊กกับนับตังค์ภายใต้ดวงดาวและแสงจันทร์ในห้องนั้นให้ได้

วันนี้คุณพลอยประดับตื่นสายกว่าทุกวัน เธอเอาแต่คิดเรื่องของนับตังค์จนนอนไม่หลับ เรื่องของเรื่องคือเมื่อวานนี้เธอเรียกลูกชายกับนับตังค์มาคุยเรื่องอนาคตของคนทั้งคู่ นับตังค์ดูจะตกใจที่เธอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา คงไม่คิดว่าเธอจะรู้เรื่อง แต่เมื่อเธอไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้ก็ดูเจ้าตัวจะมีสีหน้าที่ดีขึ้น เธอแอบซักไซ้ที่มาที่ไปของนับตังค์จนได้รู้ว่านับตังค์ไม่ใช่คนที่มีคุณจะเอามาเป็นของตัวเองง่ายๆ เลย ในวงสังคมรู้กันอยู่ว่าต้นตระกูลมณีรัตน์เป็นผู้ดีเก่า ได้อยู่ในรั้วในวังมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เธอไม่แปลกใจเลยว่านับตังค์มีฝีมือในการทำอาหารมาจากที่ใด แม้ครอบครัวนี้จะทำตัวเรียบง่ายและไม่ชอบเข้าสังคม แต่กิตติศัพท์ของคุณละม่อมก็เป็นที่รู้กันว่าไว้ตัวและหยิ่งในศักดิ์ศรีของวงตระกูลมากที่สุด เธอเริ่มหนักใจแทนลูกชาย แต่เมื่อเห็นว่าลูกชายของตัวเองแสดงออกว่ารักนับตังค์มากมันจึงทำให้เธอพูดไม่ออก นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอนอนไม่หลับเพราะกลัวว่าทางบ้านของนับตังค์จะไม่ยอมรับมีคุณ โดยเฉพาะชื่อเสียงเสียๆ ของเธอ ที่อาจจะทำให้ลูกชายต้องมัวหมองไปด้วย ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเสียใจที่ดำเนินชีวิตผิดพลาดไปจนทำให้ลูกชายต้องมาเดือดร้อนเพราะการกระทำของเธอเอง

“กอไก่ในสวนบ้านฉัน เช้าขันปลุกฉันตื่นนอน เช้าแล้วกอไก่ตื่นก่อน กอไก่สั่งสอนฉันไปโรงเรียน”

“กอก่ายในฉวน..บั้นฉัน เช้าขันปุดฉันตื่นนอน เช้าแย้วกอก่ายตื่นจ่อน กอก่ายฉั่งฉอนฉันไปโยงเยียน”

คุณพลอยประดับเดินลงมาแล้วเห็นลูกชายของตัวเองกำลังสอนหนูด้วงร้องเพลง มีคุณกำลังทำท่าไก่ตีปีกประกอบเพลงโดยมีเจ้าตัวเล็กซอยเท้ากระโดดตีปีกเลียนแบบ แถมยังร้องเพลงไม่ชัดแต่ก็ยังร้องตามมีคุณด้วยความตั้งใจ เธอต้องแอบขำเพราะไม่เคยเห็นลูกชายของตัวเองในมุมนี้เลย ที่ผ่านมามีคุณเคร่งเครียดกับการทำงาน ชอบทำหน้านิ่วคิ้วขมวดบ่อยๆ กลับมาบ้านก็จ้องแต่หน้าคอมฯ มันทำให้เธอลืมไปว่าตัวตนที่แท้จริงของลูกชายนั้นเป็นคนขี้เล่นสดใส

“เอาคอควายบ้างนะ ดูแด๊ดดีๆ นะ คอควายมีสี่ขา ใช้ไถนามีเขายาวงาม อยู่ในโคลนจนตัวมันดำ เดินย่ำน้ำร้องฮุยเลฮุย” มีคุณเปิดเพลงแล้วทำท่าประกอบ พอร้องมาถึงท่อนท้ายที่ว่า ‘ฮุยเลฮุย” หนูด้วงก็ล้มกลิ้งลงไปหัวเราะงอหงายจนมีคุณต้องเท้าเอวมอง

“หัวเราะมากขนาดนี้คืนนี้จะฝันร้ายเอานะหนูด้วง” คุณพลอยประดับเดินเข้ามาหาสองพ่อลูกแล้วก็อดขำตามหนูด้วงไปด้วยไม่ได้

“ฮุยเยฮุย แด๊ดทำอีก” หนูด้วงลุกมาเกาะขามีคุณแล้วอ้อนให้ทำให้ดูอีก

“ทำตามแด๊ดด้วยสิ ให้คุณย่าทำด้วยดีไหม” มีคุณบอกกับด้วง

“ว้าย ตาคุณ ไม่เอาหรอก อย่ามาทะเล้นกับแม่นะ” คุณพลอยประดับรีบปฏิเสธ

“ย่าเต้นกะหนู” หนูด้วงหันมาอ้อน

สุดท้ายคุณพลอยประดับก็ใจอ่อนยอมเต้นตามไปด้วย แต่ก็อดส่งสายตาค้อนๆ ไปให้ลูกชายของตัวเองไม่ได้ ดูเอาสิ...ให้เธอมาเต้นท่าตลกๆ แบบนี้ เธอไม่เคยทำตัวเป็นเด็กแบบนี้มาก่อนเลย

ทั้งสามคนเริ่มเต้นเพลงคอควายเก่งไถนาพร้อมกัน หนูด้วงเต้นได้ไม่จบเพลงก็ล้มลงไปนอนหัวเราะเหมือนเดิม คุณพลอยประดับเองก็ทั้งเขินทั้งขำ จนกระทั่งช้วนเดินปรบมือเข้ามาคุณพลอยประดับถึงได้รีบนั่งลงแล้วปรับท่าทีเพื่อกลบความอาย

“ปู่เป็นควายกัน” หนูด้วงลุกมาเขย่ามือของช้วน

“อ้าวไอ้ตัวแสบ อยู่ดีๆ มาชวนปู่ไปเป็นควายเสียแล้ว” ช้วนอุ้มหนูด้วงขึ้นมาฟัดพุงน้อยๆ หนูด้วงหัวเราะแล้วดิ้นไปมา

“พอเลย ให้หัวเราะมากๆ เดี๋ยวฝันร้าย” คุณพลอยประดับร้องเตือน

“คิดอะไรโบราณไปแล้วแม่คุณ คนเราเวลาหัวเราะจะหลั่งสารเอนโดรฟิน สารแห่งความสุข เหมือนตอนที่พี่ช้วนคนนี้ได้เห็นแม่คุณ สารความสุขก็หลั่งไปทั่วร่างกายเลยนะจ๊ะ” ช้วนหยอดคำหวานจนมีคุณต้องกระแอมเตือนว่ามีคนยืนอยู่ตรงนี้ ส่วนคุณพลอยประดับก็นั่งหน้าแดงแต่ก็แสร้งทำว่าไม่รู้สึกอะไร

“พี่ช้วนกินข้าวเสร็จแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมไปกินบ้างนะ” มีคุณมาดูแลหนูด้วงให้เพราะเปลี่ยนให้ช้วนไปกินข้าว มีคุณไม่อยากให้หนูด้วงนั่งเล่นอยู่แต่ในครัวจึงพามาสอนร้องเพลงสอนเด็กที่บ้าน

“เออ นายท่านรีบไปเลย ข้าเห็นว่าศัตรูหัวใจของนายท่านมาหาเจ้าตัง” ช้วนรีบบอกเพราะไม่อยากให้มีคุณมาอยู่เป็นก้างขวางคอ

“ใครกันพี่ช้วน” คุณพลอยประดับถามด้วยความอยากรู้

“ลูกชายนายหัวพยนต์ครับแม่ ผมไปก่อนนะ” มีคุณบอกแม่แล้วก็รีบเดินออกไป ทิ้งให้คุณพลอยประดับนั่งส่ายหน้ากับความขี้หวงของลูกชาย นิสัยที่เป็นมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเธอคิดว่าเป็นนิสัยที่คงแก้ไม่ได้เสียแล้ว

มีคุณเดินผ่านสวนหลังบ้านเพื่อจะมาที่ร้าน จังหวะนั้นเขาก็เห็นพญากำลังจะเดินเข้าไปในร้านอยู่เหมือนกัน มีคุณรีบเดินเข้าไปหาเพราะว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ร้านยังไม่เปิด

“ร้านยังไม่เปิดครับ”

“ไม่ได้มากิน มาหาเชฟ” พญาตอบด้วยท่าทีกวนๆ

“แต่นี่เป็นเวลางาน” มีคุณตอบกลับด้วยท่าทีกวนๆ ไม่ต่างกัน

“แต่ผมนัดเอาไว้ เชฟบอกว่าให้ผมมาหาได้” พญารู้สึกเป็นต่อ เขาโทรมาหานับตังค์แล้ว บอกว่าจะขอมาคุยธุระสำคัญด้วย นับตังค์จึงบอกว่าให้มาในเวลานี้

มีคุณได้ยินแล้วอึ้งไปแต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร เขาคิดว่านับตังค์คงมีเหตุผลที่อนุญาตให้พญามาหาได้เขาจึงทำได้แค่เดินนำเข้าไปก่อน พญาหัวเราะเยาะให้มีคุณได้ยินก่อนจะเดินตามไป ทั้งคู่เดินตรงเข้าไปในครัว แต่ไม่เจอนับตังค์ที่นั่นมีคุณจึงถามหานับตังค์จากใบเมี่ยง ใบเมี่ยงจึงตอบว่านับตังค์อยู่ในครัวไทยที่มีคุณเพิ่งต่อเติมใหม่ให้ มีคุณกับพญาจึงรีบเดินแข่งกันไปราวกับว่าอยู่ในเกมแห่งศักดิ์ศรี ใครได้ทักนับตังค์ก่อนคือชนะ แต่เมื่อเดินเข้าไปถึงปากประตูของครัวไทยทั้งคู่ก็หยุดชะงักอยู่กับที่ สายตาของทั้งคู่ต่างก็จ้องไปที่ภาพเบื้องหน้า

ลำแสงจากดวงอาทิตย์ที่ส่องพาดเป็นทางยาวลงมาบนใบหน้าของนับตังค์นั้น ทำให้เจ้าของใบหน้าดูละมุนละไมเป็นที่สุด ช่างเป็นภาพที่สามารถสะกดผู้ชายทั้งสองคนนี้ให้ยืนนิ่งค้างอยู่กับที่ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะคนตรงหน้ากำลังนั่งอยู่บนกระต่ายขูดมะพร้าวแล้วก้มๆ เงยๆ ขูดมะพร้าวด้วยความตั้งใจ ยิ่งเป็นภาพที่ทำให้ใจของชายหนุ่มทั้งสองคนเต้นตึกตักจนแทบทะลุออกมาจากอก ถึงแม้นับตังค์จะไม่ได้นุ่งกระโจมอกเหมือนในภาพยนตร์ก็เถอะ แต่มือเรียวยาวที่เกาะกุมกะลามะพร้าวแล้วออกแรงขูดกับซี่เหล็กแหลมขึ้นๆ ลงๆ มันน่าเอ็นดูที่สุดสำหรับคนทั้งคู่ที่ยืนเบียดกันแบบไม่มีใครยอมใครอยู่ที่หน้าประตูครัวไทย จนกระทั่งคนที่ถูกจ้องรู้ตัวว่ามีคนมองอยู่จึงหันมามอง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยืนนิ่งไม่ไหวติงก็กระพริบตาปริบๆ ด้วยความสงสัยว่าผู้ชายหน้าเหี้ยมโหดทั้งสองคนนั้นเป็นอะไรรึเปล่า

“ต้องรอให้เจ้าที่อนุญาตรึไงถึงจะก้าวข้ามธรณีประตูมาได้” นับตังค์เลิกคิ้วถาม

“มีเจ้าที่ด้วยเหรอจ๊ะ พี่นึกว่ามีแต่นางฟ้า” พญาหยอดคำหวานให้นับตังค์

“ที่นี่ไม่มีเจ้าที่ มีแต่เจ้าของ รู้เรื่องนะ” มีคุณเกทับ คราวนี้ต่างคนต่างจ้องตากันเขม็ง

“เอ้า เอาแต่มองตากันเดี๋ยวก็ท้องหรอก” นับตังค์ส่ายหน้าให้กับคนทั้งคู่

“น้องตังทำอะไรอยู่เหรอ” พญากระแทกไหล่ของมีคุณแล้วก้าวเข้าไปหานับตังค์ก่อน

“ทำข้าวตังหน้าตั้ง ลุงบอกมีเรื่องจะคุยด้วยใช่ไหม ว่ามาเลย” นับตังค์เข้าประเด็น อยากให้พญารีบพูดธุระมาเพราะขี้เกียจเห็นหน้ายักษ์ของคนขี้หวง

“พี่อยากคุยกับน้องตังแค่สองคน” พญาเหลือบตามองไปทางมีคุณ

“พี่รอกินข้าวนะ คุยเสร็จแล้วรีบให้เพื่อนกลับล่ะ” มีคุณเน้นคำว่าเพื่อนใส่พญาก่อนจะยอมเดินออกจากครัวไทยไป

“พี่อยากกินตัง เอ้ย ข้าวตังบ้าง” พญาทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นข้างๆ นับตังค์

“นี่ลุง มาทะลึ่งใส่เดี๋ยวโดนกระต่ายขูดมะพร้าวเจาะหน้าหรอก อย่ามาชักช้า เข้าเรื่องเลย” นับตังค์แกล้งขู่ไปไม่จริงจัง

“พี่เพิ่งรู้เรื่องที่ดาวเรืองมาแกล้งหนูด้วง” พญาทำหน้าขึงขังจริงจังจนนับตังค์ต้องวางมะพร้าวลงแล้วลุกไปล้างมือก่อนจะกลับมานั่งแคร่ไม้ พญาลุกตามขึ้นมานั่งบนแคร่ด้วย

“แบบนั้นไม่ได้เรียกแกล้งนะ เรียกว่าทำร้ายร่างกาย” นับตังค์เองก็ทำหน้าจริงจังเมื่อพูดถึงเรื่องนี้

“พี่จะจัดการให้ ไม่ให้เขามายุ่งกับตังอีก”

“เขาเป็นอะไรกับลุง ลุงถึงจะห้ามเขาได้”

“เป็นพี่สาวพี่เอง เป็นลูกคนละแม่ แต่พ่อไม่ยอมรับ” เมื่อพญาบอกให้นับตังค์รู้ก็ทำเอานับตังค์อึ้งไป

“ทำไมเขาต้องเกลียดหนูด้วง” ถึงจะรู้หัวนอนปลายเท้าของดาวเรืองแล้ว นับตังค์ก็ยังไม่เข้าใจการกระทำของดาวเรืองอยู่ดี

“มันเกลียดทุกคนแหละ แต่มันเคยเลี้ยงหนูด้วงก็คงเห็นเป็นที่ระบายจนเคย พี่ว่าจะจับมันส่งโรงพยาบาลบ้าให้รู้แล้วรู้รอด”

“เอาเป็นว่าลุงจะทำยังไงกับพี่สาวของลุงก็ตามใจ แต่ก็ขอบคุณนะที่ลุงเป็นห่วง แต่ถ้าเขามายุ่งกับด้วงอีก ตังไม่รับประกันความปลอดภัยของเขานะ”

“รู้ด้วยเหรอว่าพี่เป็นห่วง” พญาถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเศร้าไม่ทะเล้นเหมือนทุกที

“ลุง...” นับตังค์ไม่รู้จะพูดยังไงดีที่จะทำให้คนฟังสะเทือนใจน้อยที่สุด

“พี่รู้ ตังให้พี่เลือกแล้วนี่เนอะ ว่าแต่ข้าวตังหน้าตั้งนี่รสชาติมันเป็นยังไง พี่ไม่เคยกินมาก่อนเลย พี่ช่วยทำได้ไหม” พญาเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้นับตังค์อึดอัด

“ตังต้องไปกินข้าวก่อน ลุงกินมารึยัง”

“ยัง แต่ไม่เป็นไร พี่รอในนี้ก็ได้”

“ไปกินด้วยกันก็แล้วกัน แล้วค่อยมาช่วย” นับตังค์ตัดสินใจแทน

บรรยากาศในตอนนี้เหมือนกำลังอยู่ในสงครามโลกครั้งที่สาม พนักงานในร้านทุกคนต่างก็ได้แต่มองภาพพญากับมีคุณจ้องตากันเหมือนพร้อมจะเปิดสงครามได้ทุกเมื่อ ส่วนนับตังค์นั่งกินข้าวทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่ากำลังจะมีคนจ้องตากันตายเพราะตัวเองอยู่ จนกระทั่งมีระเบิดปรมาณูลูกใหม่เดินเข้ามาในครัว พนักงานทุกคนถึงกับลุ้นว่าวันนี้ครัวร้านมีคุณอนันต์จะระเบิดหรือไม่

“คุณ คิวโทรมาคุณก็ไม่ยอมรับสาย คิวมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” คีตะคือระเบิดลูกใหม่ที่ว่า แต่ว่าวันนี้คีตะดูอิดโรยจนทุกคนที่เห็นยังสงสัยว่าคีตะเป็นอะไร

“ไปรอพี่ที่ห้องทำงาน เดี๋ยวพี่กินข้าวเสร็จจะตามไป” มีคุณเห็นท่าทางของคีตะเหมือนคนป่วยก็นึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน

“ที่นี่ดีจัง บอสน้องตังบอกว่าไม่มีเจ้าที่ มีแต่เจ้าของ สงสัยจะเป็นเจ้าของมือสองด้วยนะน้องตัง” พญาพูดแล้วหัวเราะร่วน

“ไม่ตลก” มีคุณพูดจบก็ลุกเดินออกไป พญายิ้มเหยียดใส่มีคุณก่อนจะหันมายิ้มหวานให้นับตังค์ที่กำลังมองตามมีคุณไปด้วยความสงสัยว่าคีตะจะมาไม้ไหนอีก

เมื่อมีคุณเดินเข้ามาในห้องทำงานก็เห็นว่าคีตะกำลังร้องไห้อยู่ พอคีตะเห็นมีคุณก็โผเข้ามากอด ร้องไห้จนพอใจแล้วถึงได้ค่อยๆ ถอดเสื้อของตัวเองออกมาให้มีคุณได้เห็นร่องรอยที่ร่างกายของตัวเอง มีคุณเห็นถึงกับพูดไม่ออก

“เกิดอะไรขึ้น” มีคุณถามคีตะ

“มันข่มเหงคิว”

“ใคร”

“ไอ้พญา”

มีคุณอึ้งไปเมื่อได้รู้ มีคุณคิดว่าคนอย่างพญาไม่น่าจะกล้าทำร้ายคีตะคนที่เป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวตนเอง แต่ข่าวลือเรื่องการข่มเหงนักท่องเที่ยวของพญาก็เคยมีมาให้ได้ยิน มันทำให้มีคุณลังเลว่าที่คีตะพูดจะเป็นความจริงหรือเปล่า

“คุณคงไม่คิดว่าคิวใส่ร้ายไอ้พญาใช่ไหม คิวจะทำไปทำไม คิวก็ไม่อยากให้คุณรู้หรอกนะว่าคิวโดนทำอะไรมา แต่ที่เกาะนี่คิวไม่มีใครเลย คิวมีแค่คุณที่คิวไว้ใจ” คีตะบีบน้ำตาจนมีคุณนึกเห็นใจ

“จะแจ้งความไหม”

“ไม่เอา คิวจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

“แล้วจะทำยังไง โดนมันทำแบบนี้แล้วยังคิดกลับไปทำงานให้กับมันเหรอ ผมว่าคิวควรกลับกรุงเทพนะ”

“คุณใจร้ายมากเลยนะ คิวโดนทำร้ายขนาดนี้แต่คุณไล่คิวกลับกรุงเทพ” คีตะตัดพ้อ พยายามทำตัวให้ดูน่าสงสารที่สุด เขารู้ดีว่ามีคุณเป็นคนขี้สงสาร เมื่อเห็นท่าทีของมีคุณดูอ่อนลงก็เข้าไปสวมกอด

“ผมไม่ได้ไล่ แต่คิวจะมาอยู่แบบนี้ทำไม มันไม่มีประโยชน์ ผมมีแฟนแล้ว ผมรักนับตังค์ ผมให้อภัยในสิ่งที่ผ่านมา แต่ยังไงมันก็ไม่เหมือนเดิม”

“คุณ ได้โปรดอย่ารักคนอื่นได้ไหม นะครับ คิวไม่มีคุณไม่ได้ นะครับ รักคิวนะ รักคิวเหมือนเดิมนะ” คีตะพยายามจะจูบมีคุณด้วยคิดว่าเคยใช้ร่างกายนี้ทำให้มีคุณหลงใหลในตัวเองได้มาก่อน ครั้งนี้ก็อาจจะใช้ได้เหมือนเคย จนกระทั่งประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงเข้มๆ ที่ทำให้คีตะตกใจจนต้องผละตัวออกจากมีคุณ

“นี่มันอะไรกันตาคุณ นี่มันเพื่อนเก่าของลูกไม่ใช่เหรอ ทำไมมาทำตัวแบบนี้!” คุณพลอยประดับเห็นสภาพของคีตะที่กำลังพยายามจะเข้าหาลูกชายของเธอก็หัวเสียอย่างที่สุด แต่พอได้เห็นร่างกายของคีตะมีแต่รอยแดง คุณพลอยประดับก็ตกใจและไม่อยากจะเดาว่ามันคือรอยอะไร

“คุณแม่ครับ ผมรักมีคุณ เรารักกันครับคุณแม่ ผมกับมีคุณเรามีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันมาหลายปีแล้วครับ” คีตะคิดว่าตัวเองกำลังจนตรอกเลยตัดสินใจโพล่งออกไป มีคุณถึงกับหน้าเหวอที่คีตะพูดออกไปแบบนั้น ส่วนคุณพลอยประดับมองคีตะสลับกับลูกชายของตัวเองอย่างชั่งใจ

(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 01-08-2017 10:40:13
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


พญาที่เผอิญจะเดินไปเอาโทรศัพท์ของตัวเองที่รถแล้วต้องผ่านห้องทำงานของมีคุณ เมื่อเห็นร่างกายของคีตะผ่านประตูห้องที่เปิดเอาไว้ก็ตกใจ เขาเพิ่งเห็นว่าตัวเองสร้างรอยจูบตามร่างกายให้คีตะมากขนาดนี้ เมื่อวานที่ทำกับคีตะไปเพราะอารมณ์หงุดหงิดตัวเดียวแท้ๆ กอปรกับไม่ได้มีอะไรกับใครนานแล้ว พอมาเจอความร้อนแรงที่คีตะมอบกลับมามันทำให้พญาลืมตัวตอบสนองกลับไปอย่างถึงพริกถึงขิง เมื่อพายุอารมณ์จบลงคีตะก็รีบกลับไปที่ห้องของตัวเองก่อนที่พญาจะทันสังเกตเห็นว่าตัวเองทำอะไรเอาไว้บนร่างกายนั้นบ้าง

 “เอาล่ะ เรื่องนี้เอาไว้ค่อยคุยทีหลังเพราะเดี๋ยวลูกค้าก็จะมากันแล้ว ตาคุณ แกไปรอชิมข้าวตังที่หนูตังทำ เห็นว่าวันนี้จะเอามาเสิร์ฟให้ลูกค้าได้ลองทาน ส่วนหนูรอให้ร้านปิดในช่วงบ่ายก่อนก็แล้วกัน เราคงมีเรื่องต้องคุยกัน” คุณพลอยประดับตัดบท คีตะจึงจำต้องยอมทำตาม



นับตังค์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ห้องทำงานของมีคุณ แต่ตอนนี้ทั้งมีคุณ พญา รวมไปถึงคุณพลอยประดับที่มายืนดูนับตังค์ทำข้าวตังหน้าตั้งอยู่ในครัวไทยถึงดูเหมือนคนที่มีเรื่องอะไรในใจให้ต้องคิดหนัก ไม่เว้นแม้แต่คีตะที่เดินตามเข้ามาที่หลังก็ยังมายืนอยู่เงียบๆ ไม่แขวะนับตังค์เหมือนอย่างทุกที นับตังค์เดาว่าคีตะคงจะเกรงใจคุณพลอยประดับ แต่นับตังค์ก็เลิกสนใจทุกคนแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารต่อไปโดยมีพี่สายรุ้งมาเป็นลูกมือให้ ส่วนพนักงานคนอื่นๆ ก็ไปเตรียมตัวทำหน้าที่ของตัวเองเพราะใกล้เวลาที่รอบอาหารกลางวันจะเปิดแล้ว

สมัยก่อนรุ่นปู่ย่าตายายเขาจะใช้วิธีดงข้าวด้วยเตาถ่าน ด้วยความร้อนจากฟืนมันควบคุมได้ยากจึงทำให้มีข้าวติดก้นหม้อเสมอ บรรพบุรุษของคนไทยจึงใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านขูดข้าวก้นหม้อเก็บเอาไว้ นำมาแผ่แล้วเกลี่ยให้แบนบางเสมอกัน ตัดเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมหรือวงกลมตามชอบ จากนั้นนำไปตากแดดให้แห้ง แล้วจึงนำมาเก็บใส่ในปี๊บหรือโหล อยากจะทานเมื่อใดก็นำมาปิ้งกินหรือทำเป็นของว่าง

นับตังค์ให้พี่สายรุ้งเอาข้าวที่ตากแดดได้ที่แล้วไปปิ้งบนเตาถ่าน นับตังค์ไม่เอาข้าวไปทอดเหมือนคนสมัยนี้ทำเพราะมันจะไม่หอมเท่ากับเอาไปปิ้ง ส่วนตัวนับตังค์ก็เริ่มทำหน้าข้าวตัง วิธีการก็ไม่ยุ่งยากอะไร เริ่มจากผัดสามเกลอกับหัวกะทิจนมันเริ่มส่งกลิ่นหอมดีแล้วก็ตามด้วยหอมใหญ่สับละเอียด แล้วก็ตามด้วยเนื้อหมูสับและเนื้อกุ้งสับ จากนั้นก็เติมกะทิที่นับตังค์คั้นสดๆ เอาไว้ พอกะทิเริ่มแตกมันนับตังค์ก็ใส่หอมแดงซอยและเริ่มปรุงรสด้วยน้ำตาลดอกมะพร้าว มะขามเปียก เกลือและน้ำปลาดี ชิมรสจนพอใจแล้วก็ตบท้ายด้วยการใส่ถั่วลิสงคั่วบดลงไปและราดหน้าด้วยน้ำมันจากน้ำพริกมันกุ้ง

คีตะที่ยืนสังเกตทุกคนอยู่เงียบๆ ก็เริ่มรู้สึกอยากจะร้องไห้ สายตาของคุณพลอยประดับแสดงความชื่นชมนับตังค์อย่างเปิดเผย การที่คีตะให้พเยียแกล้งทำเป็นผู้หวังดีโทรไปหาคุณพลอยประดับให้มาที่นี่เพื่อให้กีดกันความรักของนับตังค์กับมีคุณ ถึงตอนนี้คีตะจะไม่รู้ว่าคุณพลอยประดับจะรู้เรื่องของทั้งสองคนนั้นรึยัง แต่การที่คุณพลอยประดับแสดงออกว่าชื่นชอบนับตังค์มันก็ทำให้คีตะรู้สึกเหมือนเป็นผู้แพ้ โดยเฉพาะสายตาของมีคุณที่มองนับตังค์ก็ฉายชัดไปด้วยความรักที่แทบจะล้นทะลุออกมา ส่วนสายตาของคนที่เพิ่งจะมีอะไรกับตัวเองอย่างพญายิ่งทำเหมือนคีตะไม่มีตัวตนด้วยซ้ำไป ตอนนี้หัวใจของคีตะก็เหมือนถูกขยี้จนแหลกสลายให้ตายทั้งเป็น

“ข้าวตังกรอบถนัด น้ำพริกผัดละเลงทา ข้าวตังปิ้งใหม่มา จิ้มหน้าตังทั้งเค็มมัน เสร็จแล้วครับ ชิมได้แล้ว” นับตังค์ท่องบทพระราชนิพนธ์กาพย์เห่เรือชมเครื่องว่างของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจบก็ชวนทุกคนให้มาชิม

“ฮุยเยฮุย หนูมาแย้ว” เสียงของหนูด้วงดังมาก่อนตัว นับตังค์เห็นช้วนอุ้มหนูด้วงมาก็นึกขำ ถ้าเรื่องกินต้องยกให้พี่ช้วนเขาล่ะ

“หม่อมถนัดขวามาช่วยชิมแล้ว” ช้วนพูดจบก็ใช้มือขวาหยิบข้าวตังมาชิมทันที ชิมเสร็จก็ยกนิ้วให้นับตังค์

“หนูจากิน ป้อนหนูหน่อย” ด้วงร้องขอกินบ้าง ช้วนจึงบิข้าวตังให้มีขนาดเล็กลง แล้วป้ายตัวหน้าข้าวตังเพียงเล็กน้อยก่อนจะส่งเข้าปากหนูด้วง

“อาหย่อยฉุดฉุด” หนูด้วงชูนิ้วให้นับตังค์เลียนแบบช้วนบ้าง

“ขอพี่ชิมบ้าง” พญารีบเดินเข้าไปแต่ก็ช้ากว่ามีคุณที่เดินมาถึงตัวนับตังค์ก่อน มีคุณเหลือบมองพญาแบบเยาะเย้ยก่อนจะหันกลับมามองหน้านับตังค์

นับตังค์เห็นมีคุณทำหน้าพยักพเยิดก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ จนมีคุณอ้าปากนับตังค์ถึงได้รู้ว่ามีคุณจะให้ป้อน ทีแรกนับตังค์ก็ว่าจะไม่ทำเพราะมันน่าอายที่จะมาทำต่อหน้าคนอื่น แต่พอมาคิดว่าหากการกระทำบางอย่างจะทำให้คนอีกสองคนได้รับรู้ถึงความเป็นจริงได้นับตังค์จึงจัดการป้อนข้าวตังให้กับมีคุณด้วยดี

“อร่อยสุดๆ” มีคุณก็พูดเลียนแบบหนูด้วงก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความสุข นับตังค์นึกขำในใจ คนตีหน้ายักษ์เมื่อครู่หายไปไหนเสียแล้ว แต่พอหันมาเห็นหน้าของพญากับคีตะ นับตังค์จึงได้รู้ว่ายักษ์มันย้ายไปสิงร่างทั้งสองคนนั้นแล้ว

“บอสครับ เชฟครับ ลูกค้าเริ่มมาแล้วครับ” เฮงเข้ามาตามเมื่อถึงเวลาที่ต้องเปิดร้านแล้ว

“โอเค แยกย้าย” นับตังค์ทำมือให้ทุกคนออกไปจากครัวทุกคนถึงได้แยกย้ายกันไป ยกเว้นพญาที่ยังยืนอยู่เพราะนับตังค์สั่งให้รอก่อน นับตังค์จัดข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่องให้พญาเอากลับไปกิน

“มันเก็บไว้ได้นานที่สุดกี่วัน ถึงเดือนไหม” พญาถามนับตังค์

“จะบ้าเหรอลุง กินให้หมดในวันนี้แหละ จะเก็บเอาไว้ทำไม” นับตังค์โวยวาย

“พี่อยากให้ของที่ตังให้พี่อยู่กับพี่ได้นานที่สุด” พญายิ้มเศร้าๆ ให้นับตังค์ เขารับรู้แล้วว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ แต่ใจมันก็ยังไม่อยากจะยอมรับสักเท่าไหร่

“อาหารมันมีวันหมดอายุนะลุง แต่มิตรภาพไม่มีวันหมด” นับตังค์ยิ้มให้พญา

“ขอกอดสักทีได้ไหม” พญาถามอย่างตรงไปตรงมา

“ได้ดิ เพื่อนกัน” นับตังค์ดึงพญามากอดแล้วตบหลังปลอบใจดังปุๆ จนพญาแทบจุก แต่มันก็ทำให้พญายิ้มได้ แม้จะเป็นยิ้มที่รู้สึกขมขื่นมากก็ตาม

“เฮ้อ...เพื่อนก็เพื่อน แต่ถ้าผัวทำตัวไม่ดีอย่าลืมพี่ก็แล้วกันนะจ๊ะ” พญาพรูลมหายใจเพื่อยอมรับความเป็นจริงให้ได้ แต่ก็ยังไม่วายจะหยอดความรู้สึกทิ้งท้ายฝากเอาไว้

“ไปได้แล้วลุง เกะกะ วู้” นับตังค์ทำมือไล่ พญาหัวเราะแล้วก็ยอมกลับไปในที่สุด



หลังจากที่ช่วยมีคุณต้อนรับลูกค้าจนใกล้จะได้เวลาปิดร้านในรอบอาหารกลางวันแล้ว คุณพลอยประดับก็ให้คีตะเดินตามมาที่สวนหลังบ้าน ตอนนี้ทั้งคู่นั่งอยู่ที่ศาลาไม้ในสวน บนโต๊ะตรงหน้ามีจานข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่องวางอยู่ด้วย

“ดูจากการที่หนูช่วยมีคุณรับลูกค้า แม่ว่าหนูเป็นคนเก่งนะคิว” คุณพลอยประดับเอ่ยชื่นชมคีตะจากใจ ซึ่งคำชมนี้ทำให้คีตะยิ้มได้

“ขอบคุณครับคุณแม่”

“หนูได้ลองชิมข้าวตังนี่รึยังจ๊ะ”

“ยังเลยครับ”

“ลองดูสิจ๊ะ” คุณพลอยประดับเลื่อนจานข้าวตังให้คีตะ คีตะจำต้องหยิบมาชิมเพราะเกรงใจแต่ในใจก็แอบต่อต้านเพราะไม่อยากกินฝีมือของศัตรูหัวใจ แต่เมื่อได้ชิมแล้วคีตะก็ต้องยอมรับว่ามันอร่อยมากจริงๆ

“อร่อยดีครับ” คีตะจำต้องบอกความรู้สึกออกไปเพราะคุณพลอยประดับมองหน้าเหมือนจะรอคำตอบ

“แม่จะสอนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน อาหารบางชนิดดูในทีแรกมันจัดจ้านน่ากินจนน้ำลายสอ แต่พอกินไปความจัดจ้านมันทำให้อิ่มเร็ว อะไรที่เข้มข้นไปมันก็ไม่ดี อาหารบางอย่างมันดูเรียบง่าย ดูธรรมดา แต่พอได้ชิมก็รู้ได้ทันทีว่ามันครบเครื่อง ไม่จัดจ้านจนลิ้นชา ไม่โดดเด่นเมื่อแรกเห็นแต่ครบรสเมื่อแรกชิม กินได้เรื่อยๆ ไม่รู้เบื่อ หนูเข้าใจที่แม่พูดไหมจ๊ะ”

“แต่แม่ครับ...เราเคยรักกันมาก ผมรักคุณมาก” คีตะรู้ดีว่าคุณพลอยประดับเปรียบเทียบตัวเขาเองกับนับตังค์เป็นอาหาร ถึงจะรู้ว่าตัวเองแพ้แต่ก็ยังพยายามจะเรียกร้อง

“หนูก็รู้ตัวว่าแค่เคยรักแต่มันก็จบไปแล้วใช่ไหมจ๊ะ แม่ไม่รู้หรอกนะว่าหนูเลิกกับตาคุณด้วยเรื่องอะไร แต่ตอนนี้ตาคุณมีคนรักแล้ว ถ้าหนูเปิดใจก็จะเห็นว่าลูกชายของแม่รักหนูตังมากแค่ไหน แม่เองในทีแรกก็ใช่ว่าจะรับได้ แต่เพราะหนูตังคนนี้ก็เปรียบเหมือนของว่างจานนี้ มันทรงเครื่องขนาดนี้ใครกันจะไม่ต้องการ แต่สิ่งที่หนูกำลังมันยิ่งทำให้ตัวตนของหนูเลือนหายไปจากสายตาของตาคุณนะ หนูบอกกับแม่เองว่าคบกับตาคุณมาหลายปี หนูก็ควรจะรู้ใจเขาว่าอะไรที่จะทำให้เขาเก็บความทรงจำที่ดีที่หนูเคยมีกับเขาไว้หรืออะไรที่จะทำให้เขาโยนความทรงจำที่ดีทิ้งไป”

“ผมแพ้แล้วใช่ไหมครับ” คีตะน้ำตาไหลเมื่อรู้ว่าตัวเองแพ้นับตังค์ทุกรูปแบบแล้ว

“อ๊ะ นี่หนูกำลังเล่มเกมอยู่หรอกเหรอ แม่นึกว่าหนูต้องการตาคุณด้วยใจเสียอีก เฮ้อ..ถ้าหนูคิดว่ามันเป็นเกม ก็คงจะแพ้จริงๆ นั่นแหละ ขอโทษทีนะที่แม่พูดตรงๆ ที่แม่อยากพูดก็พูดไปหมดแล้ว หวังว่าหนูจะคิดได้นะ กลับไปเพิ่มมูลค่าให้ตัวเองดีกว่าทำตัวลดคุณค่าตัวเองแบบนี้นะจ๊ะ”

“ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” คีตะเช็ดน้ำตา สูดลมหายใจแล้วเชิดหน้าขึ้น คำพูดที่ดูเหมือนจะนุ่มนวลของคุณพลอยประดับมันเชือดเฉือนคีตะให้เจ็บปวดจนถึงแก่นข้างใน ในเมื่อที่นี่ไม่มีใครต้องการ คนอย่างคีตะก็จะไม่ง้ออีกแล้ว

เมื่อคีตะกลับไปแล้วคุณพลอยประดับก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง เธอรู้ตัวว่าได้พูดจาทำร้ายคีตะไปอย่างเจ็บแสบ เธอแค่คิดว่าในเมื่อเธอเป็นมารดาที่ไม่เคยทำตัวมีประโยชน์ให้มีคุณได้เลย อย่างน้อยการกรุยเส้นทางรักของลูกชายให้ราบเรียบขึ้นได้ก็ยังดีกว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย

ฝ่ายนับตังค์เมื่อทำงานในส่วนของตัวเองเสร็จแล้วก็เข้ามาหามีคุณในห้องทำงาน อยากจะมานั่งพักในห้องเย็นๆ ให้คลายร้อนเสียหน่อย มีคุณเห็นนับตังค์ก็เรียกให้นับตังค์มาที่โต๊ะทำงาน เมื่อนับตังค์เดินมาถึงมีคุณก็ดึงนับตังค์ให้มานั่งตักแล้วชี้ให้ดูที่จอคอม ในคอมเป็นคลิปที่นับตังค์กอดกับพญาอยู่

“นี่ติดกล้องในครัวไทยด้วยเหรอบอส” นับตังค์ไม่เคยรู้เลยว่ามีคุณติดกล้องไปทั่วร้าน

“ไปกอดกับมันทำไม รู้ไหมว่ามันทำอะไรเอาไว้” มีคุณหน้างอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแอบหอมที่ท้ายทอยของนับตังค์ กลิ่นตัวของนับตังค์มันหอมเหมือนขนมหวานจริงๆ ได้หอมกี่ทีก็ไม่เคยเบื่อ 

“กอดแบบเพื่อน ดูดีๆ ดิ ตังกระดกก้นออกด้วยนะ เซฟตัวสุดๆ เพราะรู้ว่าแฟนขี้หึงโคตรๆ ว่าแต่ลุงไปทำอะไรไว้เหรอ” นับตังค์ชี้ให้ดูว่าตัวเองไม่ได้กอดแบบแนบแน่น

“คิวมาหาบอกว่าโดนพญาข่มเหง ตัวของคิวมีแต่รอยจูบเต็มไปหมด” มีคุณเล่าให้นับตังค์ฟัง

“จริงดิ ตาลุงข่มเหงเลยเหรอ ตังไม่ได้อคตินะ แต่กิ๊กเก่าพี่ไม่สมยอมแน่เหรอ ถึงตาลุงจะดูโฉดไปนิด แต่ตังว่าคงไม่ข่มเหงหรอก”

“เข้าข้างมันรึไง”

“พี่ก็เข้าข้างกิ๊กเก่าพี่รึไง”

“โอเค เอาเป็นว่าไม่ใช่เรื่องของเรา” มีคุณรีบจบเรื่องเพราะกลัวว่าจะทะเลาะกับนับตังค์ด้วยเรื่องของคนอื่น

“ตังเหนื่อยๆ มาถึงก็มาหาเรื่อง” นับตังค์แกล้งงอน

“โอ๋ๆ พี่ผิดไปแล้ว มามะ นวดให้นะ” มีคุณรีบพานับตังค์มานั่งที่เตียง แต่ตัวเองกลับเดินไปล็อกประตูห้องทำงาน คราวนี้จะไม่ยอมพลาดให้ใครเข้ามาได้ง่ายๆ

“แค่นวดทำไมต้องล็อกประตูด้วยอะ” นับตังค์ถามทั้งที่รู้

“นวดแบบวีไอพี” มีคุณยิ้มกะล่อนใส่ก่อนจะดันนับตังค์ให้นอนราบลงบนเตียงส่วนตัวเองก็ขึ้นไปคร่อม โน้มใบหน้าลงมาแล้วใช้จมูกคลอเคลียกับจมูกของนับตังค์

“ตอนนี้เลยเหรอ” นับตังค์ถาม ในใจก็เต้นตึกตักให้กับความอ่อนโยนของมีคุณ

“เราไม่มีเวลาให้กันเลยนะ ขอแค่นิดหนึ่งก็ยังดี” มีคุณอ้อน เพราะกลางคืนหนูด้วงนอนคั่นกลางตลอด ไม่ยอมให้นับตังค์มานอนตรงกลาง

“ก็ได้ก็ได้ นิดเดียวนะ” นับตังค์ใจอ่อนให้กับลูกอ้อนของมีคุณ

ก็อกๆๆ.. เสียงเคาะสั้นๆ ดังขึ้นจนมีคุณกับนับตังค์ต้องชะเง้อมองไปที่ประตู แต่แล้วก็พบกับความเงียบ ทั้งคู่คิดว่าหูฟาดไปจึงหันกลับมาคลอเคลียกันต่อ

ก็อกๆๆๆๆๆๆ คราวนี้เสียงเคาะดังยาวกว่าเดิมจนทำให้ทั้งคู่รู้ว่าเสียงมันไม่ได้มาจากประตู แต่มันดังมาจากกำแพงกระจกตรงหัวนอน

“พี่ช้วน! ด้วง”

“ปู่ ด้วง!”

มีคุณกับนับตังค์เอ่ยชื่อคนที่กำลังเอาหน้าแนบกระจกด้วยความตกใจ ส่วนช้วนหัวเราะชอบใจที่ทำให้ทั้งสองคนในห้องตกใจได้

“เข้ามาได้ยังไง” มีคุณเกาหัว สวนหย่อมด้านหลังโดมกระจกเข้าออกได้ทางเดียวคือต้องเข้าออกผ่านห้องทำงานของเขาเท่านั้น ในสวนมีรั้วต้นข่อยสูงถึงสามเมตรล้อมรอบอยู่ ปิดมิดชิดเป็นส่วนตัว ไม่มีทางจะเข้าทางอื่นได้เลย

“ข้ายังไม่ได้ออกไปไหนเลย นั่งเล่นกับหนูด้วงอยู่ในนี้ เอ็งสองคนนั่นแหละที่มารบกวนข้ากับหนูด้วง” ช้วนเดินอุ้มหนูด้วงเข้ามาในห้องแล้วรีบแก้ตัว

“แด๊ดกะมัมจากัดกันอีกแย้ว” หนูด้วงฟ้องช้วนเพราะดันมาเห็นจังหวะที่นับตังค์กับมีคุณจะจูบกันพอดี

“ให้ปู่กัดกับย่าบ้างได้ไหม” ช้วนถามด้วง

“ไม่ได้!” มีคุณรีบตอบแทนด้วง

“ไม่ยุติธรรม” ช้วนทำหน้าเซ็งๆ

“พอเลย หมดเวลาสนุกแล้ว ไปด้วง ไปหาขนมกินกันดีกว่า” นับตังค์ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้ช้วนกับมีคุณเถียงกันก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วชูมือไปทางหนูด้วง หนูด้วงรีบโผตัวจากช้วนมาหานับตังค์

“อ้าว ทำไมยังงั้นล่ะตัง นี่มันเวลาของพี่นะ” มีคุณตัดพ้อ

“คั่วกลิ้ง คืนนี้” นับตังค์ตอบสั้นๆ ใบหน้าแดงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ รีบพาหนูด้วงออกไปก่อนจะหน้าแดงหนักกว่าเดิมเพราะเห็นรอยยิ้มที่มีเลศนัยของมีคุณ

“เฮ้ยๆ เอ็งสองคนจะแอบทำอาหารกินกันโดยไม่มีข้าไม่ได้นะ เจ้าตัง กลับมาคุยให้รู้เรื่องก่อน อย่าลำเอียงสิวะ ข้าก็อยากกินคั่วกลิ้งบ้างนะโว้ย เจ้าตัง!” ช้วนโวยวายแล้วเดินตามนับตังค์ออกไป ทิ้งให้มีคุณยืนยิ้มกว้างเหมือนคนถูกลอตเตอรี่อยู่ในห้องตามลำพัง


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ดีใจที่มีผู้อ่านมากขึ้น ดีใจที่มีคนชอบ มีกำลังใจขึ้นมากเลยค่ะ
ตอนใหม่เลยมาไวตามกำลังใจด้วยเลย ฮ่าๆ ขอบคุณที่ช่วยบอกคำผิดด้วยนะคะ กอดๆๆ

 :กอด1:
 

(https://www.uppic.org/image-5A72_597FDDA0.jpg)

 
เครดิตรูปจาก Google

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย] (https://twitter.com/loverouter)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 01-08-2017 11:25:42
มื้อต่อไปมีคั่วกลิ้งเหรอ ข้าวพร้อมแล้ววววววววว
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 01-08-2017 11:35:34
ปู่นี้ฮา คุณแม่ขา กรุยทางโลดค่ะ :hao3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 01-08-2017 11:48:55
หวังว่าคีตะคงจะจบจริงๆนะจ๊ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Aiim_Aiim ที่ 01-08-2017 12:06:17
โอ้ยยยยยย ปู่ช้วนจะมากินคั่วกลิ้งกะสองคนนี้ไม่ได้นะ 5555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-08-2017 12:28:07
ดูๆ ไปพญาก็คงจะไม่ได้แย่มากสินะ
แต่คิวนี่คงขุดไม่ขึ้นแล้ว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-08-2017 12:35:38
 :hao7: หวังว่าจะไม่มีอะไรมาขัดการทานคั่วกลิ้งนะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 01-08-2017 12:47:45
อ่านตอนนี้ขอกอดคุณแม่พี่คุณแรงๆ  ดีใจที่เชียร์คุณแม่ให้พี่ช้วน พูดได้ถูกใจมาก สมแล้วที่เป็นแม่ว่าที่สามีของนับตังค์  แต่ก็อยู่ที่ว่าคิวจะมีศักดิ์ศรีและคิดได้หรือเปล่า 

พญาก็ยังมีส่วนที่ดี และอ่อนโยนกว่าภาพลักษณ์ภายนอกที่เห็น  และนับตังค์ก็เหมือนจะเห็นส่วนดีของพญาว่าเป็นคนที่มีจิตใจดี พญาคิดถูกแล้วที่ยอมเป็นเพื่อนกับนับตังค์ เพราะอาหารมีวันหมดอายุ แต่มิตรภาพไม่มีวันหมดอายุ


เป็นกำลังใจให้คนเขียน ให้มีคนเข้ามาอ่านและคอมเม้นท์เยอะๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 01-08-2017 12:55:57
คุณแม่ทำดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 01-08-2017 13:54:36
ชอบเรื่องนี้ พระเอก นายเอก ไม่งี่เง่าดี มีอารมณ์แบบคนทั่วไป แต่ก็พร้อมจะเข้าใจเมื่อได้คุยกัน คุณแม่ก็น่ารัก ลุงช้วนก็เท่ ด้วงน่ารักสุดๆ
พญาก็น่ารักนะ  จริงๆถ้าคิวคิดได้  คู่กะคิวก็น่าจะดี
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 01-08-2017 14:16:01
ปู่ช้วนได้ยินเข้าแล้ว เข้าใจผิดจะเข้ามาขัดจังหวะไหมเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 01-08-2017 16:37:38
 o13 ขุ่นแม่ทำถูกต้องที่สุดค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 01-08-2017 17:51:26
 o13

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 01-08-2017 17:56:49
น้ำลายหยดแหมะเลย ข้าวตังหน้าตั้ง

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 01-08-2017 19:50:14
โอ๊ะ คั่วกลิ้งเลยเหรอ? มีคุณได้โบนัสนะเนี่ย หวังแค่โจ๊กเองนะ 5555 เอาแล้วๆๆๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 01-08-2017 20:00:26
ตอนนี้พญาน่ารักขึ้นจมเลย ไม่นึกเลยว่าพญาจะมีมุมนี้ จะมีรักจริงให้นับตังค์ขนาดนี้ ไหนๆก็กลับตัวกลับใจแล้ว คนแต่งช่วยหาคู่ให้พญาหน่อยนะคะ

อยากจะเดาว่า หนูด้วงต้องเป็นลูกของพี่ชายนับตังค์กับพี่สาวพญาที่หนีหายไปแน่นวล จริงไหมคะคนแต่ง แต่พี่ช้วนนี้สิ จะเป็นใครเกี่ยวข้องยังไง นึกไม่ออกเลยแฮะ ไว้รอเฉลยนะคะ

ยังเป็นตอนที่อ่านไปยิ้มไป ยิ้มหน้าบานเลย นึกภาพคุณย่า แด๊ด กับหนูด้วง ร้องเล่นเต้นรำกัน มันจะน่ารักกกกเกินไปแล้วววว 5555

จากนี้ก็จะไปกาปฏิทินนับวันรอตอนต่อไปนะคะ อยากจะลุ้นให้มีคุณได้กินโจ๊กบ้างอะไรบ้าง 5555 แต่คั่วกลิ้งก็เป็นเมนูที่ส่วนตัวแล้วชอบกินมากๆๆ ให้มีคุณกินต่อไปก็ได้ค่ะ

ปล.อยากบอกว่าไม่เคยลืมกดบวกเป็ดให้คะแนนชื่นชมคนแต่งค่ะ ชอบเรื่องนี้มากๆ ยิ่งอ่านยิ่งชอบ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 01-08-2017 20:02:50
คุณญ่า กับหนูด้วงน่ารักมาก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 01-08-2017 20:37:17
เห็นแล้วอยากกินบ้าง

 :m3: :myeye:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ก๊าบก๊าบ ที่ 01-08-2017 21:01:46
ว้าวววววว มีคุณได้กินคั่วกลิ้งล่ะเว้ยยยยย  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-08-2017 22:11:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 02-08-2017 00:51:43
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 02-08-2017 10:06:15
ตาช้วนนแกจะมาคั่วกลิ้งกับเค้าไม่ได้นะ :jul3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 02-08-2017 13:48:28
อ่านไปอ่านไปนี่หิวเลย   หนูด้วงน่ารักมากลูก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 02-08-2017 20:58:43
 o13 รอกินคั่วกลิ้งเผ็ชๆ ค่าาาา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 03-08-2017 20:28:16
รอคั่วกลิ้งงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 05-08-2017 16:52:56
เพิ่งได้เข้ามาอ่านวันนี้ครับ ทำเอาวางไม่ลงไล่อ่านมาทุกตอนจนหมด
คนแต่งแต่งเรื่องนี้น่าสนุกน่าติดตามเหมือนกับที่ผ่านมา
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 22 ข้าวตังหน้าตั้งทรงเครื่อง 01/08/60 P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 10-08-2017 17:28:56
เพิ่งอ่านได้แค่4-5ตอน
แต่รู้สึกโหยหิวมากอ่ะ
เขียนซะน่ากินอ่านแล้วอยากกิน//แทะจอแง่มๆๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 10-08-2017 18:59:19
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 10-08-2017 19:01:30
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 10-08-2017 19:25:38
 :hao3: ดีน่ะเรากินอิ่มแล้วค่อยมาอ่าน

พี่ช้วนนี้ป่วนจริงๆ555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 10-08-2017 19:40:50
ดราม่ามาก แต่ที่ดาวเรืองเล่าจะเป็นเรื่องจริงทั้งหมดหรือไม่นะ

เเถมปริศนาการหายตัวไปไม่ใช่แค่พี่สาวของพญา ฝั่งของนับตังค์ก็มีพี่น้องที่หายตัวไปเช่นกัน เชื่อใจเรื่องการผูกเรื่องของ loverouter รออ่านใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 10-08-2017 21:11:26
น่า กิน จุงเบย   :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 10-08-2017 21:45:52
 :hao7: o13 :hao7:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 10-08-2017 23:56:11
แม่หนูด้วงน่าจะยังไม่ตายมั้ย เดาๆๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 11-08-2017 00:17:48
อ่านแต่ละตอนแล้วอยากได้ลองกินจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 11-08-2017 00:34:11
นังดาวเรืองนี้ก็ไม่จบไม่สิ้น :z6:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 11-08-2017 01:20:34
เรื่องหนูด้วงเป็นปริศนามาก อยากรู้ว่าสรุปใครเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงและพ่อแม่เสียชีวิตจากอะไรกันแน่
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 11-08-2017 09:19:37
พี่ช้วนสมควรเป็นเทวดา พ่อทูนหัว ฯลฯ ที่น่าเคารพรักของทุกๆ คนในร้าน ทำให้อยากรู้ประวัติของพี่ช้วนตกลงแกเป็นใครมาจากไหนกันแน่ ที่สามารถแก้ปัญหาใหญ่เล็กของทุกๆ คนให้ผ่านไปได้ด้วยดี  แต่พี่ช้วนกลับแพ้ให้กับหนูด้วงคนเดียวหรือนับตังค์เป็นบางครั้งที่อยู่ในอารมณ์โมโห
   
เดาว่าพี่มั่นก็คือพี่เหรียญเงิน แล้วคุณใหญ่ตายไปแล้วจริงหรือเปล่า เพราะพญาก็บอกว่าไม่มีใครพบศพของพี่ใหญ่ ถ้าหนูด้วงเป็นลูกคุณใหญ่จริง  พญากับนับตังค์ก็ต้องเป็นคุณน้าคุณอาของหนูด้วง

นึกว่าพี่ช้วนจัดการดาวเรืองแล้วจะหายซ่า  แต่ดูแล้วนางจะโรคจิต อาฆาตแรง แค้นแรง จนไม่กลัวอะไรแล้ว  แล้วแบบนี้จะมีใครมาจัดการให้ดาวเรืองหายไปจากโลกนี้ได้

จะมีร้านอาหารแบบเชฟนับตังค์ทำขายหรือเปล่า อยากไปกินทุกอย่างที่เชฟทำ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-08-2017 09:53:26
พี่ใหญ่คงตายแล้วจริงๆ แต่ที่ดาวเรืองเล่ามาน่าจะเชื่อได้นิดเดียว
แค่เรื่องพี่ใหญ่กะหนูด้วง ส่วนแฟนพี่ใหญ่น่าจะมีอะไรมากกว่านั้น
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 11-08-2017 14:27:49
อ่านตอนนี้แล้วอยากกินซูชิคั่วกลิ้งขึ้นมาทันที
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-08-2017 18:05:11
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 12-08-2017 08:41:19
หิวอยู่เด้ออออออ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 13-08-2017 15:45:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 23 ซูชิคั่วกลิ้ง 10/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 14-08-2017 01:20:26
คนอื่นเครียด ส่วน เรา จิ้นวนไป
#ก้านพญา #ก้านพญา
หรือ ไม่ ก็
#มั่นพญา #มั่นพญา
ชื่อใครออกมาจับจิ้นให้หมดดด
อยากให้พญารับ ทำไมเราดูเลวววว :hao7:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 20-08-2017 15:26:23
ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม


นับตังค์เดินออกมาหาคีตะที่สวนของร้านหลังจากที่เคลียร์งานของตัวเองเสร็จแล้ว คีตะมารอคุยกับนับตังค์ตั้งแต่เช้า นับตังค์บอกคีตะไปว่ายังมีงานที่ทำค้างอยู่แต่คีตะก็บอกว่ายินดีจะรอ นับตังค์คิดว่าการมาครั้งนี้ของคีตะก็คงไม่พ้นเรื่องของมีคุณแต่แค่เดาไม่ออกว่าคีตะจะหาเหตุอะไรมาให้อีก ส่วนมีคุณไม่อยากให้คีตะมาวุ่นวายกับนับตังค์และตั้งใจจะไปปฏิเสธแทนนับตังค์ แต่นับตังค์บอกมีคุณเองว่าไม่เป็นไร ถ้าคีตะอยากจะคุยนับตังค์ก็พร้อมที่จะคุยด้วย

“ขอบใจนะที่ยอมมาคุยด้วย” คีตะเห็นนับตังค์เดินมาหาก็รีบทักขึ้นก่อน

“ไม่เป็นไร แต่มีเวลาไม่มากเท่าไหร่นะ” นับตังค์นั่งลงที่เก้าอี้เหล็กดัดตรงข้ามกับคีตะ

“ใช้เวลาไม่มากหรอก แค่อยากจะคุยด้วย”

“ว่ามา”

“เรารักมีคุณ เรายอมรับว่าในอดีตเราทำพลาดไป เราเสียโอกาสที่ควรจะเป็นของเราไปแล้วถึงได้รู้ว่าเราต้องการเขามากแค่ไหน แต่พูดไปก็คงเท่านั้น คุณเขาบอกกับเราว่าเขารักนาย”

“แล้ว..” นับตังค์เลิกคิ้วขึ้นแทนคำถาม บอกตามตรงว่าก่อนหน้านี้นับตังค์ค่อนข้างระแวงคีตะเพราะว่าคีตะแสดงออกว่าจะทำทุกทางเพื่อที่จะกลับมาหามีคุณ ถึงกับโทรไปตามคุณพลอยประดับให้ลงมาที่เกาะเพราะอยากให้คุณพลอยประดับเกลียดนับตังค์ แต่พอได้มาเห็นสีหน้าและแววตาของคีตะในตอนนี้ นับตังค์คิดว่าคีตะดูเศร้าจริงๆ

“ตอนคบกับเรา คุณเป็นคนขี้หึงมาก ห้ามโน้นห้ามนี้เราทุกเรื่อง ในตอนนั้นเราคิดว่าทำไมเขาต้องทำให้เราอึดอัด เขาอยากให้เรามีเวลาให้เขามากจนเราแทบไม่มีพื้นที่ส่วนตัว พอทะเลาะกันบ่อยๆ เราตัดสินใจห่างจากเขาไปเพราะเราต้องการพื้นที่ส่วนตัว เราอยากให้เขารู้ว่าการบังคับกันมันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น เราต้องการอิสระ อิสระที่พอได้มาแล้วก็พบว่ามันไม่มีความสุขเท่าตอนที่เราได้อยู่กับเขาเลย”

“อยากสื่ออะไร” นับตังค์ถามตรงๆ เพราะไม่รู้ว่าคีตะจะมาเล่าเรื่องในอดีตของตัวเองให้ฟังทำไม

“เราแค่อยากถามนาย ถ้าตอนนั้นนายเป็นเรา นายจะทำยังไง”

“ผมตอบไม่ได้หรอกเพราะผมไม่ใช่คุณ ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้างระหว่างคุณสองคน ที่คุณเล่ามามันเป็นแค่มุมมองจากตัวคุณเองคนเดียว มันไม่แฟร์กับบอส แต่ผมตอบคุณได้ในเรื่องที่เป็นของผมจริงๆ ตอนนี้บอสก็ยังเป็นคนขี้หึงขี้หวงเหมือนเดิม งอแงงี่เง่าในเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่การกระทำของบอสไม่ได้ทำให้ผมอึดอัดขนาดนั้น ถ้าเราตัดสินใจรับใครสักคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา พื้นที่ส่วนตัวมันจะกลายเป็นพื้นที่ส่วนเราทันที คำว่าเรา ทำให้ผมกับบอสยินดีจะแบ่งปันความรู้สึกกันในทุกเรื่อง ถ้าผมเริ่มอึดอัด ผมก็แค่บอกบอสอย่างตรงไปตรงมาแทนการไล่เขาให้ออกไปจากชีวิตหรือหนีไปจากชีวิตเขา ทำแบบนั้นมันจะเรียกว่าคู่ชีวิตได้ยังไง”

“..........” คีตะนิ่งอึ้งไปเมื่อได้ฟังคำตอบจากนับตังค์

“อยู่กับคนที่มีนิสัยชอบระแวงหรือกลัวความสูญเสีย เราก็แค่ซื่อสัตย์ แค่นั้นเองที่ผมจะทำ” นับตังค์พูดเหมือนรู้ว่าคีตะกำลังคิดอะไรอยู่

คีตะฟังประโยคนี้จบก็พูดไม่ออก ได้แต่นั่งน้ำตาร่วงเพราะห้ามไม่อยู่ นั่งร้องไห้อยู่สักพักถึงได้เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้นับตังค์ทั้งน้ำตา เขาแพ้แล้วจริงๆ แต่ครั้งนี้เป็นการยอมแพ้ด้วยความยินยอม ที่ผ่านมาเขาคิดถึงแต่ตัวเอง ไม่พอใจการกระทำของมีคุณก็ประชดและทำทุกอย่างที่จะเอาชนะ เขาไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย ผิดจากนับตังค์ที่ทำให้คีตะได้เห็นถึงความรักที่ต่างออกไป ที่สำคัญเขาก็ไม่ซื่อสัตย์ต่อมีคุณจริงๆ ก็สมควรแล้วที่จะไม่ได้ยืนอยู่ข้างมีคุณอีกต่อไป และที่มาในวันนี้แค่อยากมาให้แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้คู่ควรให้กับการยอมแพ้เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาหรือเปล่า ซึ่งคีตะว่าตัวเองได้คำตอบแล้ว

“ถ้าเราไม่ต้องเกลียดกันแล้ว เราจะเป็นเพื่อนกันได้ไหม” คีตะถามนับตังค์

“คุณยังอยากจะนอนกับบอสรึเปล่า ถ้ายังคิดแบบนั้นก็คงยังเป็นเพื่อนกันไม่ได้ ไม่อยากให้เพื่อนเรามาเผาเรือน” นับตังค์ตอบไปตรงๆ

“ใครบ้างล่ะที่ไม่อยากนอนกับบอสของนาย” คีตะก็ตอบไปตรงๆ เช่นกัน

“โน้นประตู กลับไปเลย ถ้าตัดใจได้แล้วค่อยมาใหม่” นับตังค์ชี้ไปที่ประตูร้าน

คีตะเห็นความตรงไปตรงมาของนับตังค์ก็หลุดหัวเราะออกมา เพิ่งรู้ว่าการยอมรับความจริงมันทำให้ความทุกข์ที่เกิดจากความอิจฉาริษยาเบาบางลง ถึงจะยังอดอิจฉานับตังค์ไม่ได้ที่ได้มีคุณไปแต่ก็ไม่ทำให้อยากจะเอาชนะอีก คีตะยอมรับว่าคิดเรื่องที่จะมาคุยกับนับตังค์อยู่นานเพราะไม่อยากเห็นอีกฝ่ายยิ้มเยาะสมน้ำหน้าตัวเอง ไม่อยากเป็นคนที่แพ้แบบหมดสภาพ แต่ก็อยากลองวัดใจดู คีตะคิดว่าถ้าจะต้องเกลียดนับตังค์ก็ขอให้นับตังค์เป็นคนที่สมควรจะถูกเกลียด แต่ถ้านับตังค์ไม่ใช่คนแบบที่คีตะควรจะเกลียด คีตะก็จะยอมแพ้แต่โดยดีและจะยอมรับให้ได้ว่ามีคุณมีคนที่คู่ควรแล้ว

“เออ รู้แล้ว จะรีบตัดใจให้ได้ แต่จำเอาไว้นะ ถ้านายทำไม่ดีกับคุณ เราจะมาทวงคืน”

“โอ้ย ไปบอกแฟนเก่าคุณเหอะว่ารักษาผมให้ดีๆ” นับตังค์ยักไหล่

“ไปดีกว่า เบื่อคนมั่นใจในตัวเอง” คีตะเบ้ปากใส่นับตังค์ก่อนจะเตรียมตัวจะกลับไปโรงแรม ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า เขาจะไม่เสียโอกาสและเสียเวลาของตัวเองให้กับคนที่ไม่ต้องการเขาอีกแล้ว

“เดี๋ยวก่อน” นับตังค์เรียกคีตะเอาไว้

“ว่ามา” คีตะเลียนแบบท่ากวนๆ ของนับตังค์บ้าง

“ถึงคุณจะนิสัยไม่ค่อยดี แต่คนทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง อย่าให้ตาลุงพญารังแกได้อีกนะ”

“อืม...” หากเป็นเมื่อก่อนคงคิดว่านับตังค์พูดเพราะอยากเยาะเย้ย แต่ตอนนี้คีตะสัมผัสได้ถึงความห่วงใยด้วยความจริงใจจริงๆ จึงตอบรับแล้วยิ้มให้นับตังค์ก่อนจะเดินกลับออกไปด้วยหัวใจที่เบาสบายกว่าตอนที่มา

นับตังค์ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก นับตังค์ได้แต่หวังว่าคีตะจะตัดใจได้จริงๆ เสียที นับตังค์ไม่ได้กลัวว่าคีตะจะมาแย่งมีคุณไป แต่นับตังค์ไม่อยากให้ใครจมอยู่กับความแค้น ความโกรธเกลียดทำให้ชีวิตไม่สงบสุข ชีวิตที่ตื่นมาแล้วจมอยู่กับความทุกข์มันน่าเศร้าจะตายไป อีกอย่างหนึ่ง...หากคีตะตัดใจจากมีคุณได้จริงๆ นับตังค์ก็เชื่อว่าทั้งคีตะและมีคุณจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้เหมือนเดิม ก็เหมือนกับที่นับตังค์บอกกับพญาไป อาหารมันมีวันหมดอายุ แต่มิตรภาพไม่มี

“ใครน่ะ” นับตังค์เห็นว่ามีใครแอบอยู่ตรงพุ่มไม้จึงตะโกนถาม แต่ไม่ทันจะได้เห็นหน้าอีกฝ่ายก็ลุกพรวดพราดแล้ววิ่งหนีไปแล้ว เห็นแค่หลังไวๆ เท่านั้นเอง แต่นับตังค์จำได้ว่าเป็นลูกน้องของพญาที่ชื่อก้าน ถ้าเป็นก้านจริงๆ นับตังค์ก็อยากรู้ว่ามันจะมาสอดแนมเรื่องอะไร จะแอบฟังทั้งทียังให้คนจับได้

‘อ่อนหัดทั้งเจ้านายและลูกน้องจริงๆ’

นับตังค์คิดแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าแล้วก็ขำอยู่ตามลำพังเมื่อนึกถึงพญา จากนั้นนับตังค์ก็เดินกลับเข้ามาในครัว เห็นว่าทุกคนยังอยู่พร้อมหน้า แถมยังมองมาที่นับตังค์แบบตาไม่กระพริบ ทุกคนคงอยากจะรู้ว่าคีตะมาคุยกับนับตังค์เรื่องอะไร

“ไม่เก็บอาการกันเลยนะ” นับตังค์มองไปทางคนโน้นทีคนนี้ที

“แหม เชฟคะ เชฟบอกเองว่าเราเหมือนเป็นคนในครอบครัว มานีก็แค่เป็นห่วงเชฟ กลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะมาหาเรื่องเชฟนี่คะ” มานีพูดไปเขินไปที่ออกอาการอยากรู้จนเก็บเอาไว้ไม่อยู่

“ใครอยากรู้ก็จะเล่าให้ฟัง แต่หักค่าหัวคนละห้าร้อย” นับตังค์แบมือ

“ผมไม่ได้อยากรู้นะ ผมไปจัดโต๊ะดีกว่า” เฮงรีบเดินออกไปคนแรก ม้ากับตุ้ยก็รีบตามไปติดๆ เพราะไม่อยากเสียเงิน

“เราก็ไม่อยากรู้แล้วค่ะ” มานีกับมีนาพูดขึ้นพร้อมกันแล้วก็พากันเดินออกไปจากครัวเหมือนกัน

“เราสองคนก็ไม่ได้อยากรู้นะ” พายพัดรีบปฏิเสธแทนใบเมี่ยงด้วย

“ฮ่าๆ ไอ้พวกนี้มันงกกันจริงๆ” ช้วนหัวเราะชอบใจ

“ปู่ล่ะ อยากฟังไหม” นับตังค์แบมือมาทางช้วนบ้าง

“ข้าไม่ใช่คนขี้เสือกหรอกนะเว้ย เรื่องของเอ็งไม่เห็นจะน่าสนใจ เรื่องผัวๆ เมียๆ ข้าเบื่อ ว่าแต่วันนี้เอ็งจะทำเมนูพิเศษอะไรให้หม่อมแม่ของนายท่านกิน ข้าได้ยินนะว่าเป็นเมนูหากินยาก อย่ามางุบงิบกันสองคน” ช้วนปัดมือของนับตังค์ทิ้ง เพราะถือคติว่าเรื่องชาวบ้านไม่ยุ่งมุ่งแต่เรื่องกิน

“ไส้กรอกปลาแนม เหมาะกับพวกชอบสอดแนม ปู่ว่าดีไหม” นับตังค์บอกช้วนแต่หันไปมองทางมีคุณที่แกล้งทำนิ่งขรึมแต่เอาจริงๆ หูคงบานเท่าจานดาวเทียมไปแล้ว

“ตังไปว่าเมี่ยงกับพายทำไม” มีคุณตีหน้าเซ่อหันมาถาม

“อ้าวบอส ทำไมโยนมาทางนี้ล่ะครับ” ใบเมี่ยงแกล้งตัดพ้อ

“เอ...แต่คนที่อยากกินไส้กรอกปลาแนมมันคือแม่คุณนี่นา เฮ้ย ไอ้ตัง เอ็งว่าแฟนของข้าเป็นคนชอบสอดแนมเหรอวะ” ช้วนถามเสียงดังจนคุณพลอยประดับสะดุ้ง

“บ้าเหรอพี่ช้วน ฉันไม่ได้สอดแนมนะ แม่ไม่ได้อยากรู้เลยนะจ๊ะหนูตัง แต่ถ้าหนูอยากพูดให้ใครสักคนฟังแม่ก็ยินดีนะจ๊ะ” คุณพลอยประดับรีบแก้ตัว

“ยอมรับว่าเป็นแฟนพี่แล้วเหรอจ๊ะแม่คุณจ๋า” ช้วนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“พอเลยทุกคน มันเป็นเรื่องส่วนตัวของตังเขา” มีคุณเลิกเก๊กขรึมก่อนจะลุกมาหานับตังค์พร้อมกับจูงมือนับตังค์แล้วทำท่าจะพานับตังค์ออกไปจากตรงนี้

“อ้าว จะพาตังไปไหน” นับตังค์ถามมีคุณ

“ไปคุยเรื่องเมนูใหม่” มีคุณตะโกนเสียงดังให้ทุกคนได้ยิน ทำท่าให้ดูเหมือนว่าเอาการเอางานจริงจัง

“อีกแล้วเหรอวะ เมื่อวานก็คุยไปทีหนึ่งแล้ว คุยน๊านนาน ข้าว่าข้าพาหนูด้วงไปนั่งเล่นที่สวนในห้องทำงานนายท่านด้วยดีกว่า เผื่อนายท่านต้องการความคิดเห็นจากข้าเรื่องเมนูใหม่” ช้วนรีบลุกขึ้นแล้วอุ้มหนูด้วงเข้าเอว แต่นับตังค์หน้าแดงเพราะรู้ว่าช้วนตั้งใจแหย่เรื่องที่นับตังค์กับมีคุณหายไปคั่วกลิ้งกันมาเมื่อวานนี้

“พี่ช้วน ปลาทูทอด” มีคุณหันไปพูดกับช้วนสั้นๆ

“ข้าว่าข้าไม่ไปแล้วดีกว่า เออ...เอ็งสองคนไปคุยกันให้เต็มที่เลย ตามสบายเลยนะ” ช้วนได้ยินก็รีบเปลี่ยนท่าทีเพราะเป็นที่รู้กันสองคนกับมีคุณเรื่องโค๊ดลับ มีคุณตั้งโค๊ดลับกับช้วนเอาไว้ ถ้ามีคุณพูดว่าปลาทูทอด ช้วนต้องห้ามทำตัวเป็นก้างขวางคอ ไม่เช่นนั้นช้วนจะอดจีบคุณพลอยประดับและอดกินอาหารดีๆ

มีคุณยิ้มอย่างพอใจที่ช้วนไม่ตามไปเป็นก้างขวางคอก่อนจะจูงมือพานับตังค์ออกมาจากครัว แต่พ้นประตูครัวมาได้นิดเดียวก็ต้องตกใจ เพราะสามหนุ่มสามมุมกับสองสาวฝาแฝดแก๊งเด็กเสิร์ฟยืนออแอบฟังกันอยู่ที่หน้าประตูครัว พอทั้งห้าคนเห็นมีคุณก็รีบเผ่นกันไปคนละทิศคนละทาง เล่นเอานับตังค์ยืนขำจนปวดท้องที่ทุกคนอยากรู้อยากเห็นเรื่องของนับตังค์กับคีตะมากขนาดนี้ ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของร้านที่กำลังจูงมือพานับตังค์ออกมาจากครัวและเดินจ้ำอ้าวมาที่ห้องทำงานจนนับตังค์ก้าวตามแทบไม่ทัน ก็คงไม่พ้นอยากจะรู้เรื่องของคีตะเหมือนกับทุกคน

นับตังค์ไม่ได้เล่าเรื่องที่คุยกับคีตะให้มีคุณฟังโดยให้เหตุผลว่ามันเป็นเรื่องระหว่างคีตะกับนับตังค์ แต่บอกให้มีคุณสบายใจว่าการมาครั้งนี้ของคีตะเป็นครั้งแรกที่นับตังค์สบายใจที่สุด มีคุณไม่ได้เซ้าซี้อยากรู้อีกเพราะรู้ดีว่านับตังค์เป็นคนมีเหตุผล หากเป็นเรื่องที่เล่าได้ก็คงเล่ามาแล้ว มีคุณก็แค่เป็นห่วงกลัวว่าคีตะจะทำให้นับตังค์ไม่สบายใจเท่านั้นเอง แต่เมื่อเห็นนับตังค์ไม่ได้มีทีท่าว่าอึดอัดหรือวิตกกังวลอะไรก็พลอยสบายใจไปด้วย

“พี่คุณ ตังมีเรื่องจะคุยด้วย” นับตังค์เดินไปที่กระเป๋าสตางค์ของตัวเองที่เก็บเอาไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของมีคุณ มีคุณมองตามไป เห็นนับตังค์ค้นกระเป๋าของตัวเองอยู่แต่ก็เดาไม่ออกว่านับตังค์จะคุยเรื่องอะไร

“อะไร” มีคุณถามเมื่อนับตังค์เอาบัตรเอทีเอมมาวางเอาไว้ให้

“เงินของตังเอง เงินเดือนที่พี่ให้กับเงินเก็บของตัง”

“เอามาให้พี่ทำไม” มีคุณขมวดคิ้วจนนับตังค์ต้องรีบขยับเข้าไปจับมือของมีคุณมากระชับเอาไว้

“อย่าเพิ่งทำหน้ามุ่ยสิ ตังอยากจะช่วยพี่” นับตังค์พูดเสียงอ่อยเพราะกลัวมีคุณจะโกรธที่เข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัว

“ตังรู้ได้ไง แม่บอกเหรอ” มีคุณถามหน้าเครียด

“คุณแม่ท่านนึกว่าพี่บอกตังเรื่องหนี้สินที่ท่านสร้างเอาไว้ พอท่านรู้ว่าตังไม่เคยรู้ท่านก็ตกใจเหมือนกัน ท่านเล่าให้ตังฟังมาหลายวันแล้วล่ะ ตังคิดอยู่นานว่าจะช่วยพี่ยังไงดี”

“ตัง พี่ขอบคุณนะที่อยากช่วย แต่พี่ขอไม่รับนะ เงินของตัง ตังเก็บเอาไว้ทำความฝันของตังให้เป็นจริง” มีคุณยื่นบัตรเอทีเอมคืนนับตังค์

“ฝันของตังเปลี่ยนไปแล้ว ฝันของตังไม่ได้มีแค่ร้านอาหารของตัวเอง แต่มีพี่ มีร้านนี้ มีพวกเรา ไหนพี่ว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันไง” นับตังค์รู้ว่ามีคุณคงไม่ยอมรับเงินจากตัวเองง่ายๆ มีคุณถึงไม่ยอมพูดเรื่องหนี้สินของมารดาให้นับตังค์รับรู้ พอนับตังค์ได้รู้จึงเข้าใจว่าทำไมมีคุณถึงทำทุกอย่างตามพินัยกรรม นับตังค์ยอมรับว่าเห็นใจมีคุณมากเมื่อได้รู้ความจริง

“พี่ยังไหวอยู่ ให้พี่ได้แก้ไขด้วยตัวเองก่อนนะครับ พี่ดีใจที่ตังนึกถึงพี่และดีกับพี่ขนาดนี้ แต่พี่คงจะไม่สบายใจหากเอาเงินก้อนนี้มา”

“ถ้างั้นก็ได้ แต่ถ้าพี่จำเป็นเร่งด่วนอะไรพี่ต้องบอกตังนะ อย่าปิดบังหรือเกรงใจ เงินเดือนที่พี่ให้ตังมันเยอะมากกว่าที่ตังควรจะได้รับ กินก็ฟรี อยู่ก็ฟรี ตังไม่ได้ใช้เงินเลยสักบาท”

“ถ้าอยากให้พี่รับเอาไว้ เราคงต้องเป็นคนๆ เดียวกันก่อน” มีคุณยิ้มเจ้าเล่ห์

“ไอ้หื่น งั้นอดทั้งเงิน อดทั้งคนไปเหอะ” นับตังค์รีบเอาบัตรเอทีเอมไปเก็บ พอนับตังค์เดินกลับมามีคุณก็ดึงนับตังค์ให้มายืนตรงหน้าก่อนจะสวมกอดและซบหน้ากับอกของนับตังค์

“พรุ่งนี้วันหยุดร้าน ตังอยากไปไหนไหม” มีคุณถาม

“ไม่อยากไปไหน แต่อยากให้พี่หัดขี่จักรยาน พี่รับปากตังแล้ว”

“ทำไมอยากให้พี่ขี่จักรยานเป็น”

“ก็โตจะตายแต่ขี่จักรยานไม่เป็นมันอ่อนอะ”

“ทีตังยังกลัวความสูงเลย”

“นั่นมันเป็นโรคชนิดหนึ่งเหอะ”

“ไม่เถียงแล้ว เถียงทีไรก็ไม่เคยชนะ ขอกอดไว้อย่างนี้ก่อนนะ ตัวตังหอมชื่นใจ ใช้น้ำหอมอะไร”

“น้ำปรุงของที่บ้าน ย่าตังทำเอง”

“ถึงว่า กลิ่นเป็นเอกลักษณ์มากเลย หอมจนอยากกิน”

“งั้นต่อไปจะไม่ใส่น้ำปรุงแล้ว จะได้ไม่ต้องมากิน”

“ไม่อยากให้พี่กินถึงขนาดนั้นเชียว” มีคุณเงยหน้ามามอง ทำสายตาอ้อนจนนับตังค์อดไม่ได้ต้องก้มลงมาหอมไปทั่วใบหน้าของมีคุณให้หายหมั่นเขี้ยว

“อ้อนมากๆ ระวังถูกกินเสียเอง” นับตังค์พูดไปก็เอามือมาบีบแก้มมีคุณจนหน้ายู่ไปหมด

“ให้เลือกระหว่างเป็นต้นไม้กับคนสวน ตังอยากเป็นอะไร” มีคุณเอามือของนับตังค์ออกจากแก้มของตัวเองแล้วถาม

“เป็นต้นไม้ เป็นคนสวนเหนื่อยตายชัก เป็นต้นไม้แค่อยู่นิ่งๆ ก็มีคนสวนมารดน้ำใส่ปุ๋ยให้แล้ว” นับตังค์คิดอยู่สักพักแล้วถึงตอบ

“เห็นไหม คนเรามันหนีความจริงไม่พ้น ยังไงพี่ก็ต้องเป็นฝ่ายกินตังอยู่ดี” มีคุณยักคิ้วให้นับตังค์

“ยังไง เกี่ยวกันไหม”

“ก็ตังเป็นต้นไม้ พี่เป็นคนสวน ต้นไม้มันยั่วยวน คนสวนเลยฟันเอา” มีคุณยักคิ้วหลิ่วตารู้สึกเป็นต่อ

“ฮ่าๆๆๆ มุกโคตรทะลึ่งอะ” นับตังค์โถมตัวลงไปทับมีคุณเอาไว้แล้วก็หัวเราะเสียงดัง

“มีอีกเป็นสิบมุกเลยนะ พี่เสิร์ชเอาไว้เพียบ พี่ช้วนบอกว่ามุกแบบนี้ ร้อยทั้งร้อยชนะใจแฟน” มีคุณเห็นนับตังค์ชอบก็ยิ่งพอใจ

“ว่าแล้วเชียว เชื่อใครไม่เชื่อไปเชื่อปู่ชูชก แต่ก็ดี...เคยนึกว่าจะมีแฟนขี้เก๊กไปตลอดชีวิต รั่วๆ แบบน่ารักดี ตังชอบ”

“ชอบก็อยู่กับพี่ตลอดไปนะ” มีคุณจูบที่ปลายคางของนับตังค์เบาๆ

“บอกรักตังก่อน” นับตังค์อยากอ้อนบ้าง

“รักตังครับ”

“เดี๋ยวๆ ขอถ่ายคลิปเอาไว้ก่อน วันไหนเปลี่ยนใจจะเอาไปถ่ายทอดทั่วประเทศเลย” นับตังค์ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะพยักหน้าให้มีคุณพูดอีกรอบ

“ผม...นายมีคุณ นฤวิทย์ รักนายนับตังค์ มณีรัตน์มากที่สุด จะทำทุกอย่างให้เขาได้อยู่กับผมตลอดไป ผมจะห่วงใย ใส่ใจ จะดูแลเขาให้ดีที่สุด ถึงผมจะโดนแดดจนตัวดำ แต่การกระทำเป็นสีชมพูตลอดไปครับ”

“ฮ่าๆๆ พอๆ ไม่ไหวแล้ว หน้าเซอร์ขนาดนี้มาเล่นมุกแบ้วๆ อะ ไม่เข้ากัน”

“เซอร์ตรงไหน ถึงพี่ไม่ใช่ณเดช แต่ไม่ปฏิเสธว่าหน้าคล้าย”

“แหวะ เซอร์อะถูกแล้ว เซอร์ถุน ฮ่าๆๆ” นับตังค์แกล้งพูดสำเนียงฝรั่งก่อนจะหัวเราะชอบใจที่ว่ามีคุณได้

“หาว่าพี่สถุลเหรอ หืม...ปากดีนักนะไอ้ตัวแสบ” มีคุณจับนับตังค์พลิกลงไปนอนราบก่อนจะจู่โจมจูบจนคนปากดีต้องยกมือยอมแพ้เพราะหายใจแทบไม่ทัน

“บอกรักพี่ก่อน แล้วพี่จะหยุด พี่ขอถ่ายคลิปเหมือนกัน” มีคุณหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมากดถ่ายบ้าง

“ต้องพูดด้วยเหรอ” นับตังค์รู้สึกเขินที่ต้องพูด

“ไม่อยากพูดเหรอ” มีคุณทำหน้าหงอย

“ก็ได้ก็ได้ ตังรักพี่คุณ” นับตังค์พูดจบก็คิดว่าพลาดไปแล้วเพราะตัวเองก็โดนมีคุณจูบต่ออยู่ดี

ส่วนทุกคนที่กำลังยืนเอาหูแนบประตูห้องทำงานของมีคุณอยู่ต่างก็เริ่มหน้าแดงแล้วก็ทำตัวกันไม่ถูก จากที่ตั้งใจมาสอดแนมเรื่องของคีตะก็กลับกลายต้องมาเป็นพยานฟังบอสกับเชฟใหญ่เขาบอกรักกัน ขนาดอยู่แค่นอกห้องยังสัมผัสได้ถึงพลังหวานจากด้านในแผ่ทะลุออกมา ทุกคนเลยจำต้องตีหน้าเนียนแล้วแยกย้ายกันไปเตรียมรับลูกค้าในมื้ออาหารเย็นประหนึ่งว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ยกเว้นช้วนที่ยังเอาหูแนบประตูแล้วหัวเราะเบาๆ หนูด้วงเห็นแล้วก็เอาหูแนบประตูแล้วหัวเราะคิกคักเลียนแบบช้วนบ้าง

“เอาใหญ่แล้วพี่ช้วน มานี่เลย” คุณพลอยประดับหยิกแขนช้วนแล้วดึงมือช้วนให้เดินออกมา

“แต่เมื่อกี้แม่คุณก็แอบฟังเหมือนกันนี่จ๊ะ” ช้วนลูบแขนตัวเองเพราะความเจ็บ

“บ้าเหรอ ฉันแค่มาดูแลความเรียบร้อยแถวนี้ อย่ามาใส่ความฉันนะพี่ช้วน ฉันไม่ได้จะมาสอดแนมสอดส่องอะไรเสียหน่อย” คุณพลอยประดับแก้ตัวเสียงเบา กลัวคนในห้องจะได้ยิน

“แด๊ด มัม เปิดปาตูให้หนูหน่อย หนูจาฉอดแนม ปู่ก้อฉอดแนม ย่าก้อฉอดแนม ชาหนุก เย่นเป็นนักฉืบกัน” หนูด้วงเคาะประตูห้องทำงานอย่างแรงจนช้วนและคุณพลอยประดับสะดุ้งสุดตัว

“พี่ปวดท้อง แม่คุณดูหนูด้วงด้วยแล้วกันนะจ๊ะ พี่ไปล่ะ” ช้วนรีบเผ่นไปอย่างรวดเร็วจนคุณพลอยประดับได้แต่ยืนอ้าปากค้างที่โดนทิ้ง จนมีคุณเดินมาเปิดประตูเธอถึงได้ยิ้มแห้งๆ ให้ลูกชาย

“เอ่อ หนูด้วงเขาคิดถึงลูก แม่เลยพามาส่ง แม่ปวดท้อง ลูกดูหนูด้วงด้วยแล้วกันนะจ๊ะ แม่ไปล่ะ” คุณพลอยประดับไม่รู้จะแก้ตัวยังไงจึงเอามุกปวดท้องแบบช้วนมาใช้บ้างก่อนจะรีบเดินออกไปจากบริเวณห้องทำงานอย่างรวดเร็ว

ส่วนหนูด้วงที่ยืนเอามือไขว้หลังอยู่ก็ยิ้มแฉ่งให้มีคุณก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานโดยไม่สนใจเลยว่าแด๊ดของตัวเองกำลังทำหน้าเซ็งโลกอย่างที่สุดที่โดนขัดขวางหนทางรักอีกแล้ว

มีต่อด้านล่างค่ะ

V
V

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 20-08-2017 15:28:25
ต่อจากด้านบนค่ะ


คุณพลอยประดับนั่งดูว่าที่ลูกสะใภ้ทำปลาแนมด้วยความพิถีพิถันก็นึกชื่นชมและแอบภูมิใจว่าลูกชายของตัวเองตาถึง ทีแรกที่ได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็ทำเอาคุณพลอยประดับนอนไม่หลับและร้องไห้เสียอกเสียใจ ได้แต่คิดว่าทำไมน้อชีวิตถึงมีเวรมีกรรมขนาดนี้ แต่เมื่อได้มารู้จักตัวตนของเด็กหนุ่มตรงหน้าแล้วเธอถึงได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าเธอคงทำบุญมาดีมากกว่า มีลูกชายเป็นคนกตัญญูก็ถือว่ามีบุญแล้ว ยังมาได้ลูกสะใภ้ที่เก่งครบเครื่องและเป็นคนที่จิตใจดีมากก็เหมือนมีโชคมาหล่นทับเธอถึงสองชั้น จะว่าไปหากมีคุณไม่ได้ชอบหนูนับตังค์คนนี้แล้วไปคว้าคนอื่นมาเธอคงเสียใจและเสียดายมากกว่านี้แน่

“โชคดีที่พี่สายรุ้งทำไส้กรอกเป็น ตังเลยให้ทำไส้กรอกข้าวกับไส้กรอกหมูสองอย่างรอไว้เลย” นับตังค์ชวนคุณพลอยประดับกับใบเมี่ยงคุยระหว่างที่ทำปลาแนมไปด้วย ทั้งสองคนเข้ามาขอดูว่าปลาแนมทำอย่างไร

เมนูไส้กรอกปลาแนมนี้หาทานยากแล้วในปัจจุบัน ขั้นตอนมันยุ่งยากตรงต้องพิถีพิถันทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การเอาปลาช่อนมาย่างแล้วแกะเนื้อปลาออกโดยไม่ให้มีก้างมาปน เทคนิคคือการย่างทั้งเกล็ดปลา เวลาลอกเนื้อปลาออกจะได้ลอกออกง่ายๆ เนื้อปลาก็จะได้ขาวสะอาดไม่มีส่วนเนื้อไหม้มาปะปน จากนั้นก็เอาเนื้อปลาย่างมายีให้ขึ้นฟู ส่วนเครื่องปรุงอื่นๆ ก็มีหัวกะทิ เกลือป่น น้ำมะนาว ข่าอ่อนคั้นน้ำ น้ำตาลมะพร้าว ข้าวคั่ว หนังหมูหันฝอยลวกพอสุกแต่ต้องขูดขนออกให้สะอาด มะพร้าวขูดขาวนึ่งพอสุก ถั่วลิสงบด กระเทียมดองและหัวหอมซอยบางๆ ใส่ผิวส้มซ่าเพิ่มความหอม ค่อยๆ ใส่ทุกอย่างลงไปคลุกให้เข้ากัน เริ่มจากผสมเนื้อปลากับข้าวคั่วทีละน้อย เติมกะทิแล้วยีส่วนผสมทั้งสองให้เป็นเนื้อเดียวกันก่อนจะใส่ส่วนผสมอื่น ปรุงให้มีรสชาติเค็มปานกลาง หวานและเปรี้ยวพอดีกัน เวลาจะทานก็ตักปลาแนมใส่ในใบทองหลางที่ม้วนเป็นกรวย ใครชอบทานเผ็ดหน่อยก็แนมพริกขี้หนูเข้าไปด้วย กินคู่กับไส้กรอกหมูหรือไส้กรอกข้าวที่ย่างมาร้อนๆ ก็จะได้อาหารว่างที่มีรสกลมกล่อม

“ย่าของตังบอกว่าของทั้งสองอย่างเป็นของคู่กัน หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่ใช่ไส้กรอกปลาแนม มีปลาแนมที่ไหนต้องมีไส้กรอกที่นั่น เป็นที่มาของชื่อไส้กรอกปลาแนม แต่เดี๋ยวนี้ตามตลาดนัดที่ยังขายไส้กรอกปลาแนมเขาไม่เอาใบทองหลางมากินแกล้มแล้ว มันคงหายาก เขาจะใช้ผักกาดหอมหรือใบชะพลูแทน แต่มันจะไม่อร่อยเท่า โชคดีที่พี่บ่าวหาใบทองหลางมาให้ได้ ใบทองหลางจะให้ความมัน กินแกล้มกับไส้กรอกปลาแนมแล้วอร่อยครบรสอย่าบอกใครเลย” นับตังค์เล่าให้ฟังต่อหลังจากที่ทำปลาแนมเสร็จแล้ว

 “ไม่บอกใครได้ไง ต้องบอกสิวะ ของอร่อยแบบนี้เอ็งจะไม่บอกใครได้ยังไง” ช้วนมาตรงเวลาอย่างที่นับตังค์คิดเอาไว้ อาหารเสร็จเมื่อไหร่จะเห็นช้วนทุกที

“แค่นี้แม่ก็เปรี้ยวปากอยากทานแล้วลูก ตอนที่แม่ยังเด็ก ยายของตาคุณก็ซื้อมาให้แม่กินบ่อยๆ พอโตมาก็หาทานยากเหลือเกิน วันนี้แม่จะกินให้สมใจอยากเลย” คุณพลอยประดับเห็นจานปลาแนมก็เริ่มชะเง้อมองหาไส้กรอกย่างแล้ว

“ยกไปทานในครัวใหญ่ดีกว่า พี่สายรุ้งคงย่างไส้กรอกเสร็จพอดีครับ จะได้ชิมพร้อมกันเลย” ใบเมี่ยงเสนอเพราะอยากลองทานใจจะขาดเหมือนกัน

“เราสองคนก็เหมือนไส้กรอกกับปลาแนมนะจ๊ะแม่คุณ ขาดกันไม่ได้” ช้วนอดหยอดคุณพลอยประดับไม่ได้

“หนูก้อฉอดแนมด้วย” หนูด้วงวิ่งเข้ามาในครัวไทย เมื่อได้ยินคำว่าปลาแนมก็นึกว่าจะได้เล่นเกมนักสืบคอยสอดแนมแบบที่ช้วนสอนอีก

“อย่าวิ่งสิหนูด้วง ค่อยๆ เดิน “ คุณพลอยประดับร้องเตือน

“เห็นไหมปู่ สอนแต่เรื่องดีๆ ให้ด้วงจำ” นับตังค์บ่นช้วน ช้วนไม่เถียงนับตังค์เพราะกลัวจะอดกินของอร่อย

เมื่อมาถึงที่ครัวใหญ่ ไส้กรอกย่างร้อนๆ ก็ถูกหั่นวางใส่จานเรียบร้อยแล้ว พนักงานทุกคนก็มารวมตัวอยู่ในครัวเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน ระหว่างที่นับตังค์แนะนำวิธีกินให้ดู ใบเมี่ยงก็อาสาเป็นคนเล่าวิธีทำและที่มาของชื่อเมนูนี้ให้ทุกคนฟัง ความรู้เกี่ยวกับอาหารไทยที่ได้จากนับตังค์ทำให้ใบเมี่ยงและพายพัดตื่นเต้นได้ทุกครั้ง ทั้งสองคนตั้งใจเอาไว้ว่าจะต้องไปกราบขอฝากตัวเป็นศิษย์กับคุณย่าของนับตังค์ให้ได้ในสักวัน

“อุ๋งอุ๋ง เราสองคนก็เหมือนไส้กรอกปลาแนมเลยเนอะ ต้องคู่กัน ขาดกันไม่ได้” พายพัดหันไปพูดกับใบเมี่ยง

“เฮ้ย ข้าพูดแบบนี้กับแม่คุณไปแล้ว เอ็งอย่ามาเลียนแบบ”

“หนูก้อฉอดแนมด้วย” หนูด้วงได้ยินก็รีบมาเกาะขอบโต๊ะแล้วพูดอวดบ้าง คุณพลอยประดับเป่าไส้กรอกให้คลายร้อนก่อนจะส่งให้หนูด้วงทาน

“บอสไม่เล่นมุกนี้บ้างเหรอคะ” มานีถามมีคุณที่ยืนกอดอกอยู่ข้างๆ นับตังค์

“มุกแบบนี้เชยแล้ว พี่ไม่ชอบเหมือนใครหรอก” มีคุณไหวไหล่ทำเป็นไม่สนใจทั้งที่คิดจะเล่นมุกไส้กรอกปลาแนมกับนับตังค์อยู่พอดี แต่โดนทั้งช้วนและพายพัดตัดหน้าไปเสียได้

“คิดต่างเชิญทางอื่น คิดหื่นเชิญทางนี้ สโลแกนประจำตัวบอส” พายพัดชี้ไปที่มีคุณ เล่นเอานับตังค์หลุดหัวเราะออกมาทันที

“พาย ใครสอนให้ตัวเองพูดแบบนี้” ใบเมี่ยงร้องถาม

“พี่ช้วนสอน” คราวนี้พายพัดชี้ไปทางช้วน

“ปู่ก้อฉอนหนู” ด้วงชี้ไปที่ช้วนด้วย

“ใช่ พี่ช้วนสอนพวกเราทุกคนเลย” ม้าบอก คนที่เหลือพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมกับชี้ไปที่ช้วน ช้วนยิ้มแห้งๆ ก่อนจะลุกขึ้นมาคว้าจานไส้กรอกปลาแนมแล้ววิ่งออกจากครัวไปเลย กลัวมีคุณจะโมโหแล้วไม่ให้กินของอร่อย

“เฮ้ย เอาไปกินคนเดียวได้ไงอะพี่ช้วน ผมยังไม่ได้ชิมเลยนะ ออตอเค!” พายพัดร้องโวยวายก่อนจะวิ่งตามช้วนออกไป

“หนูเย่นด้วย” หนูด้วงนึกว่าช้วนกับพายพัดเล่นไล่จับกันเลยวิ่งตามออกไปด้วย

“เดี๋ยวตังไปตามด้วงเอง ตังยังมีปลาแนมเก็บเอาไว้อีกจานใหญ่ที่ครัวไทย เมี่ยงไปเอาให้ทีนะ” นับตังค์บอกกับใบเมี่ยงก่อนจะเดินตามหนูด้วงออกไป

นับตังค์ไม่รู้ว่าช้วนกับพายพัดวิ่งไล่ตามกันไปถึงไหน หนูด้วงก็หายไปด้วย นึกในใจว่าตัวเองก็ตามออกมาติดๆ ทำไมถึงวิ่งกันเร็วนัก แล้วนับตังค์ก็ได้ยินเสียงหนูด้วงคุยกับใครบางคนอยู่ในสวนจึงเดินตามเสียงไป

“หนูชอบตุ๊กตาตัวนี้ไหม”

“เฉือดุมั้ย” ด้วงมองตุ๊กตาเสือในมือของคนแปลกหน้าก่อนจะถาม

“เป็นเสือก็ต้องดุ”

“หนูไม่ชอบเฉือดุ”

“หนูชื่อพยัคฆ์ หนูเป็นเสือ หนูต้องเก่ง ไม่ให้ใครมารังแกรู้ไหม”

“หนูชื่อด้วง หนูไม่เป็นเฉือ หนูไม่ดุ” ด้วงเอามือไขว้หลังแล้วเชิดหน้าไปทางอื่น

“ไม่ดุก็ไม่ดุ แล้วอยากได้ตุ๊กตาไหม”

หนูด้วงแอบเหลือบตาไปมองตุ๊กตาด้วยความลังเลใจ อยากจะได้แต่ก็กลัวมัมดุ มัมเคยบอกว่าไม่ให้เอาของจากคนอื่น แต่ตุ๊กตาเสือมันตัวใหญ่มาก ถ้าได้เอามาขี่คงสนุกน่าดู

“นายหัวพยนต์” นับตังค์เห็นว่าคนที่คุยอยู่กับด้วงคือนายหัวพยนต์นั่นเอง

“มัมๆ หนูเอาตุ๊กตาได้มั้ย” ด้วงวิ่งมากอดขาของนับตังค์แล้วทำหน้าอ้อน

“หนูตังคงไม่ใจดำห้ามไม่ให้หนูด้วงได้ตุ๊กตาหรอกใช่ไหม” พยนต์ถามดักทาง

“ผมเพิ่งรู้ว่านายหัวรักเด็ก” นับตังค์ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ

“ทำไมล่ะ หนูด้วงเป็นเด็กน่ารัก ผมจะเอ็นดูก็คงไม่แปลก” พยนต์ลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาเผชิญหน้ากับนับตังค์

“แค่เห็นหนูด้วงไม่กี่ครั้งนายหัวก็นึกเอ็นดูแล้ว จะไม่ให้ผมแปลกใจได้ยังไง”

“เอาเป็นว่าฉันรู้สึกถูกชะตากับหนูน้อยคนนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นที่ตลาด เห็นทนายเคารพบอกว่าเด็กคนนี้ชื่อพยัคฆ์ พอฉันเห็นตุ๊กตาเสือตัวนี้ก็เลยนึกถึงหนูด้วงขึ้นมา” พยนต์จงใจพูดถึงทนายเคารพ เห็นสีหน้าครุ่นคิดของนับตังค์ก็พึงพอใจที่ทุกอย่างเป็นอย่างที่คิดเอาไว้

“ขอบคุณคุณลุงก่อนครับด้วง” นับตังค์พูดกับด้วง ด้วงดีใจรีบยกมือไหว้ก่อนจะเข้าไปอุ้มเสือที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเอง

“เรียกว่าตาดีกว่า ฉันอายุไม่น้อยแล้ว เรียกคุณตาสิครับหนูด้วง” พยนต์ย่อตัวลงไปพูดกับด้วง ด้วงเงยหน้าไปมองนับตังค์ พอเห็นนับตังค์พยักหน้าให้เลยหันกลับมาพูดกับพยนต์

“คุณตา”

“แล้วตาจะมาหาอีกนะ” พยนต์ลูบผมด้วงแล้วมองที่ดวงตาใสซื่อ ดวงตาที่คล้ายกันกับพยงค์ไม่มีผิด

“แย้วเจอกันใหม่ บัยบายบัยบาย” ด้วงวางตุ๊กตาลงแล้วโบกมือให้พยนต์ พยนต์หัวเราะแล้วโบกมือตอบ

เมื่อพยนต์กลับไปแล้วนับตังค์ก็เห็นว่าในพุ่มไม้พุ่มเดิมกำลังมีคนแอบอยู่เหมือนตอนที่คุยกับคีตะ นับตังค์จึงเดินไปที่พุ่มไม้ช้าๆ ก่อนจะใช้มือตบไปที่พุ่มไม้อย่างแรง คนที่แอบอยู่ตกใจแล้วเตรียมจะวิ่งหนีแต่นับตังค์คว้าคอเสื้อได้ก่อนที่จะหนีได้ทัน หนูด้วงเห็นท่าทางตกใจของก้านก็หัวเราะชอบใจ เดินไปตีพุ่มไม้หวังจะให้ก้านตกใจบ้าง ก้านเห็นหนูด้วงตีพุ่มไม้ก็แกล้งตกใจ เห็นรอยยิ้มของเจ้าตัวน้อยก็นึกเอ็นดูลูกชายคนเดียวของคุณใหญ่เหลือเกิน

“ก้าน!”

“คุณตัง ปล่อยผมเถอะครับ” ก้านรีบยกมือไหว้เมื่อเห็นว่านับตังค์เรียกตัวเองเสียงเข้ม

“เจ้านายก้านให้มาสืบอะไร ไหนบอกมาซิ”

“เปล่าครับ นายพญาไม่ได้สั่งอะไรเลย ผมมาเอง”

“อย่ามาโกหก”

“จริงๆ ครับ ผมมา เอ่อ...มาจีบน้องมานีครับ นี่ไงครับ จดหมายรักของผม” ก้านชูซองจดหมายให้นับตังค์ดู

“มาจีบแล้วทำไมต้องมาซ่อนที่พุ่มไม้ด้วย” นับตังค์ยังไม่อยากจะเชื่อคำแก้ตัวของก้าน

“โธ่ มาทีแรกก็เจอคุณคีตะ มาอีกทีเจอนายใหญ่ ขืนเห็นว่าผมอู้งานมาจีบสาวแล้วไปฟ้องนายพญาผมก็แย่สิครับ” ก้านตีหน้าเศร้า

“ถ้าฉันรู้ว่าโกหกนะ จะเล่นงานเจ้านายของก้านแทน” นับตังค์ขู่

“ไม่โกหกหรอกครับ ถามน้องมานีดูก็ได้” ก้านไม่ได้โกหกเพราะมันมาจีบมานีจริงๆ แต่ที่ไม่ได้บอกความจริงก็คือที่มันมาจีบมานีเพราะต้องการสืบข่าวคนทางนี้ จะว่ามันเลวมันก็ยอมที่ทำแบบนี้เพราะมันแคร์แค่เจ้านายของมันแค่นั้น

“ก็ได้ก็ได้ ฉันจะเชื่อ ต่อไปไม่ต้องแอบนะ คิดจะจีบผู้หญิงต้องทำตัวเปิดเผย ไม่ใช่มาทำลับๆ ล่อๆ” นับตังค์ยอมปล่อยคอเสื้อของก้าน

“ขอบคุณครับคุณตัง” ก้านยกมือไหว้นับตังค์อีกครั้ง

“อย่าเพิ่งไป เดี่ยวจะฝากไส้กรอกปลาแนมไปให้เจ้านายของก้านด้วย รอตรงนี้ก่อน” นับตังค์บอกก้านแล้วจูงมือหนูด้วงกลับเข้าไปในร้านอย่างทุลักทุเลเพราะเจ้าตุ๊กตาเสือมันตัวใหญ่มากจริงๆ

นับตังค์ฝากหนูด้วงเอาไว้กับคุณพลอยประดับก่อนจะเอาไส้กรอกปลาแนมฝากไปให้พญากับคีตะได้ทาน จังหวะที่จะเดินออกไปหาก้านก็สวนกับช้วนที่วิ่งกลับเข้ามาพอดี ท่าทางของช้วนดูร้อนรนแปลกๆ แต่นับตังค์ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะช้วนก็ทำตัวแปลกๆ แทบจะตลอดเวลาอยู่แล้ว

“ก้านกินกับเจ้านายของก้านก็แล้วกัน จัดให้ไปเยอะอยู่” นับตังค์บอกกับก้าน

“ฝีมือของคุณตังไปถึงมือนายพญา ไอ้ก้านคงจะได้กินหรอกครับ อย่าว่าแต่ไอ้ก้านเลย มดยังไม่ได้ดมเลย”

“เยอะเกินจริงอีกแล้วนะ หาวิธีขอกินไม่ได้ก็อดชิมของดีไปก็แล้วกัน กลับไปได้แล้วก่อนที่เจ้าของร้านเขาจะออกมาเห็นว่านายทำพุ่มไม้ของเขาพัง” นับตังค์ไล่ก้านให้กลับก่อนที่มีคุณจะออกมาเห็นว่าเป็นคนของพญาแล้วจะหงุดหงิดอีก

ก้านไหว้ขอบคุณนับตังค์อีกครั้งก่อนจะรีบกลับไปที่ตลาดเพราะมีเรื่องที่นายหัวพยนต์มาที่นี่ไปรายงานให้นายพญาฟัง ยังไม่ทันที่นับตังค์จะกลับเข้าไปในร้านก็ต้องหยุดชะงักเพราะว่ามีคนแปลกหน้าเดินเข้ามาเรียกเสียก่อน นับตังค์คิดว่าอาจจะเป็นลูกค้าขาจรที่อาจจะไม่ทราบว่าร้านนี้มีเวลาเปิดปิดตอนไหนบ้าง

“ร้านยังไม่เปิดครับ” นับตังค์บอกเป็นภาษาอังกฤษเมื่อเห็นชายชาวต่างชาติเดินเข้ามาในร้าน

“เห็นผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมาทางนี้บ้างไหมครับ”

“ไม่มีนะครับ” นับตังค์ตอบเป็นภาษาไทยเมื่อเห็นว่าชายชาวต่างชาติคนนี้พูดภาษาไทยกลับมา สำเนียงค่อนข้างฟังชัดพอสมควร

“แต่ผมเห็นว่าเขาวิ่งเข้ามาในนี้” 

“ตัง...ลูกค้าเหรอ” มีคุณเดินมาถามนับตังค์เมื่อเห็นว่านับตังค์กำลังคุยอยู่กับชาวต่างชาติคนหนึ่งอยู่ เขาตั้งใจจะมาถามนับตังค์ว่าด้วงไปเอาตุ๊กตาเสือตัวใหญ่มาจากที่ไหน

“เขามาตามหาคน บอกว่าเห็นคนวิ่งเข้ามาในร้านเรา แต่ตังยืนอยู่ตั้งนานแล้วก็ไม่เห็นใคร” นับตังค์เล่าให้มีคุณฟัง

“มาตามหาเพื่อนเหรอครับ” มีคุณถามอีกฝ่ายกลับเป็นภาษาอังกฤษเพราะไม่รู้ว่าผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่คนนี้พูดไทยได้

“บอส พี่ช้วนกลับมารึยัง เห็นอายุมากแบบนั้นแต่วิ่งเร็วมาก เผลอแวบเดียวหายไปแล้ว” พายพัดวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาถามก่อนที่ชายชาวต่างชาติจะตอบคำถามของมีคุณ พอนับตังค์ได้ยินคำถามของพายพัดก็นึกขึ้นได้ว่าคนที่วิ่งเข้ามาในร้านก็คือช้วนนี่เอง

“เดี๋ยวนะครับ คนที่คุณตามหาเป็นคนชาติเดียวกับคุณรึเปล่า” นับตังค์ถามด้วยความสงสัย

“เขาเป็นลูกครึ่ง”

“อย่าบอกนะว่า...” มีคุณมองหน้านับตังค์ พอจะเดาออกว่านับตังค์หมายถึงใคร

“ถ้าอย่างนั้นไม่มีหรอกครับ คุณคงตาฝาด ผมยืนอยู่ตรงนี้นานแล้ว ไม่มีใครวิ่งเข้ามาเลย” นับตังค์พูดตอบชายชาวต่างชาติไป มีคุณขมวดคิ้วสงสัยที่นับตังค์ตัดบทไปดื้อๆ

“ผมต้องขอโทษด้วยครับที่เข้ามารบกวน” ชายชาวต่างชาติรีบบอกกับนับตังค์ก่อนจะส่ายหน้าด้วยความผิดหวังแล้วเดินกลับออกจากร้านไป

นับตังค์ไม่รอให้มีคุณกับพายพัดถามแต่เดินปรี่กลับเข้าไปในร้านเพื่อตามหาช้วน เห็นช้วนนั่งกินไส้กรอกปลาแนมอยู่ในครัวก็จ้องมองด้วยความสงสัย ช้วนเห็นนับตังค์ยืนมองตัวเองอยู่ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ มีคุณกับพายพัดที่เดินตามนับตังค์เข้ามาพอเห็นนับตังค์เอาแต่จ้องช้วนก็ได้แต่สงสัยเช่นกัน

“เอ็งจะมาทำตัวสอดแนมอะไรข้าเจ้าตัง” ช้วนถามเพราะทนไม่ได้ที่ถูกจ้อง

“แล้วปู่มีเรื่องอะไรให้ตังสอดแนมรึเปล่าล่ะ”

“มีอะไรรึเปล่า” มีคุณอดถามไม่ได้

“นั่นสิ หรือผู้ชายคนนั้นจะตามหาพี่ช้วน” พายพัดออกความเห็น

“ฌอน! นายจริงๆ ด้วย โอ้มายก๊อด นายยังไม่ตาย”

ช้อนจากมือของช้วนร่วงลงในจานหลังจากที่ได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองดังขึ้น ทุกคนในครัวหันไปมองตามเสียงเรียกก็เห็นว่าคนที่เรียกช้วนนั้นเป็นชายชาวต่างชาติรูปร่างสูงใหญ่พอกันกับช้วน มีดวงตาสีฟ้าสดใสเหมือนกัน อายุก็ดูจะพอกัน ท่าทางของชายคนนี้ดูจะดีใจที่ได้เจอกับช้วน ต่างจากช้วนที่หน้าซีดเหมือนไก่ต้มที่ได้เห็นชายแปลกหน้าคนนี้

‘คาล’ รู้สึกตัดสินใจถูกที่ถือวิสาสะเข้ามาในร้าน เขาเดาว่าเด็กหนุ่มที่ชื่อ ‘ตัง’ ต้องรู้ว่าคนที่เขาตามหาคือใครถึงได้ตัดบทเขาโดยไม่ถามรายละเอียดอื่น เขาแกล้งทำเป็นกลับไปเพื่อที่จะตามเข้ามาทีหลังเพราะมั่นใจว่าฌอนวิ่งเข้ามาในร้านนี้ แล้วก็สมดังที่หวังเสียที เขาหมดเวลาไปหลายปีเพื่อที่จะตามหาเพื่อนสนิทคนนี้ ในที่สุดก็ได้เจอแล้ว ถึงแม้คนที่เขาตามหาจะแสดงสีหน้าว่าไม่ยินดีที่เจอเขาก็ตาม


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

 
 
(https://www.uppic.org/image-ED92_599896EE.jpg)

 เครดิตรูปจาก Phuket cuisine

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย] (https://twitter.com/loverouter)
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 20-08-2017 16:29:48
ชอบคำพูดที่นับตังค์พูดกับคีตะ เห็นด้วยทุกประการ  แค่เราซื่อสัตย์กับคู่ของเรา ความระแวงก็จะไม่เกิดขึ้น และเมื่อเรามีอะไรทีไม่ชอบ ก็ให้พูดออกมาตรงๆ

คิดว่านับตังค์และมีคุณจะได้เพื่อนสนิทเพิ่มมาอีกคนแล้ว

ตอนนี้ก็เริ่มรู้แล้วว่าชื่อจริงของพี่ช้วน ก็คือ ฌอน  รอความลับและที่มาที่ไปของพี่ช้วนกำลังจะเปิดเผยในตอนต่อไป

และก็เพิ่งรู้ว่าชื่อจริงของหนูด้วงคือ พยัคฆ์  นายหัวพยนต์เริ่มรุกเข้ามาหาหนูด้วงแล้ว หวังว่าลุงพญาจะรีบบอกเรื่องหนูด้วงให้นับตังค์และมีคุณได้รู้ จะได้ช่วยกันสืบว่าสามีของพี่ใหญ่ คือพี่เหรียญเงินหรือเปล่า

 :pig4: คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-08-2017 16:54:26
 o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 20-08-2017 17:03:08
มีแต่ความลับทั้งนั้นเลย น้องตังค๋สู้ สู้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 20-08-2017 17:15:37
สนใจไส้กรอกปลาแนมกันไป / ปาดน้ำลาย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 20-08-2017 17:35:12
 :hao6: น่ากินอ่ะ  แล้วคุณปู่ว่าไงค่ะ ใครมาตามน่อ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 20-08-2017 18:47:40
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-08-2017 19:16:35
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 20-08-2017 19:21:44
 o13


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 20-08-2017 19:36:47
ตัวจริงปู่ช้วนใกล้เปิดเผยแล้ว

ส่วนด้วงมีแววตาเหมือนพยง ก็แสดงว่าเป็นลูกๆจริงๆอ่ะดิ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 20-08-2017 20:13:35
โอ้ยๆ ปมค่อยๆ ขมวด ลุ้นมากๆ ทั้งเรื่องน้องด้วงกับเรื่องลุงช้วน
แต่แอบติดใจตาพญา ตอนแรกคิดว่าคู่คีตะแน่ๆ แต่ตอนนี้ก้านดูลึกซึ้งกับนายมากแปลกๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 20-08-2017 20:27:27
อยากรู้ปู่ช้วนมีความลับอะไร?
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 20-08-2017 20:48:12
ชื่อจริงกับชื่อเล่นของหนูด้วงต่างกันมากเลย อดีตปู่ช้วนกำลังเปิดเผยออกมาแล้ว รออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 20-08-2017 22:12:44
ชื่อของด้วง มีความเกี่ยวพันสองบ้าน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-08-2017 22:41:29
ปู่โดนจับได้แล้วววววววว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 21-08-2017 00:48:08
สนุกมากและมีการสอนเรื่องทำอาหารด้วยชอบๆขอให้ลงให้จบนะคัฟอย่าหาไปนานๆ
เปนกำลังใจให้คัฟ
ปล.ถ้าเปนไปได้อยากให้ทำขนมบุหลันดันเมฆให้ชิมบ้างคัฟ :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 21-08-2017 01:34:28
 o13 o13 o13
สนุกมากกกกค่ะ อู๊ยยย ตอนหน้าจะเริ่มคลายปมของพี่ช้วนแล้วววว แกเป็นใคร มาทำอะไรที่เกาะนี้

แต่ก่อนอื่นตอนนี้รู้สึกสงสารคีตะนิดๆนะ คนแต่งจับใส่พานให้พญาไปก็แล้วกันนะคะ ดูๆแล้วช่างเหมาะสมกันจริงๆ คือถึงจะแย่แต่ก็ไม่แย่ที่สุด มีส่วนดีส่วนน่าเอ็นดูประปรายไปคนละแบบ

คนแต่งเก่งมากเลยค่ะ อ่านเรื่องนี้แล้วยิ้มอารมณ์ดีมีความสุขจัง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 21-08-2017 10:38:13
ชอบๆ คนสวนกับต้นไม้ "ต้นไม้มันยั่วคนสวนเลยฟันเอา"  :-[  :-[
ติดเรื่องอย่างนึงตรงที่มีเมนูแปลกๆที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากันได้มาให้ดู แถมน่าตาเมนูยังสวยด้วย
ขอบคุณคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 24 ไส้กรอกปลาแนม 20/08/60 P.14
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 21-08-2017 19:40:25
กว่าจะได้อ่านรอนานมากกกกกก 
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 28-08-2017 05:07:50
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 28-08-2017 05:13:49
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 28-08-2017 05:42:23
ไม่เห็นเฉลยเรื่องปู่ช้วนเลย รู้แต่ชื่อจริงเท่มาก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 28-08-2017 06:10:48
ช่วงหลังๆหวานเชียว หรือเขาหวานกันทุกช่วงอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 28-08-2017 07:25:53
หวานนนน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-08-2017 07:32:47
ปู่เป็นใครง่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 28-08-2017 08:28:48
บอกแต่ชื่อปู่ช้วนไม่รู้อดีต แต่คิดว่าน่าจะเชฟชื่อดังรึเปล่า นับตังค์ว่าอยู่ว่าให้ทำกินเองบ้างอย่าขี้เกียจอ่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 28-08-2017 12:36:54
สนุกมากค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะ  :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 28-08-2017 14:35:12
:ling1: คนเขียนมาทำให้อยากแล้วจากไป  ตอนนี้รู้แค่ชื่อจริงปู่ช้วน ฌอน ฮอฟแมน ชื่อเท่ห์มาก   

คงต้องให้พญาเล่าให้ฟัง หรือไม่ก็นับตังค์ถามพญาไปตรง ๆ เลยว่าทำไมถึงอยากใกล้ชิดหนูด้วง 

มันก็จริงนะที่ว่า ถ้าเรามัวแต่กลัว ไม่กล้าลอง แล้วเมื่อไรจะทำได้
---------------------------------
 :pig4: คนเขียน รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-08-2017 16:12:37
 :katai2-1: o13 :katai2-1:

ขอใหคนเขียน สุขภาพแข็งแรงโดยเร็ว....

 :L1: :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 28-08-2017 16:54:38
อยากรู้จังว่าปู่เป็นใคร
อ่านเรื่องนี้ทำให้รู้จักอาหารแปลกๆที่ไม่เคยทานมาก่อน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-08-2017 17:00:08
สบายๆนะวันนี้
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 29-08-2017 02:38:43
ก่อนอื่นขอให้คนแต่งพักผ่อนเยอะ สุขภาพฟื้นฟูแข็งแรงในเร็ววันนะคะ
รับรู้ความตั้งใจของคนแต่งผ่านตัวละครในแต่ละตอน ทุกๆตอนกลมกล่อมมากค่ะ คนแต่งแจกบทให้ทุกคนอย่างทั่วถึง มีมุขน่ารักๆให้ได้อมยิ้มอารมณ์ดีตลอดๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ

ตอนนี้น้าพญาเปลี๊ยนไป๊ จากช่วงแรกๆนักเลงมาเฟียประจำเกาะ ตอนนี้กลายเป็นคุณน้าผู้ใจดีแล้ว 5555 เข็มขัดสั้นคาดไม่ถึงมากกกก ตอนอยู่กับหนูด้วงน่าเอ็นดูเชียว

ปู่ช้วนเป็นเชฟระดับโลกแน่ๆเลย แต่สงสัยทำไมปู่ช้วนถึงพูดและเข้าใจภาษาไทยได้ดีจัง หรือปู่จะเป็นลูกครึ่งไม่ใช่ฝรั่งเต็มตัว รอฉากเปิดตัวปู่

บอสกับเชฟหวานกันจริงจริ๊ง มุ้งมิ้งกันตลอด ปลื้มมมม  :impress2:

รู้สึกสนุกไปกับปิคนิคของทุกคนเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยกันเลยค่ะ  o13 o13 o13
อย่าปล่อยให้คิดถึงนานนักนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 25 ม้าห้อ 28/08/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 04-09-2017 22:32:43
ตามอ่านทันแล้วววว อ่านเรื่องนี้แล้วอยากลงคอร์ดทำอาหารเลยจ้า ฮ่า ๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 07-09-2017 15:34:25
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 07-09-2017 15:36:24
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 07-09-2017 16:29:36
มาแล้วตอนใหม่

อ่านไปยิ้มไป หนูด้วง มัม แด๊ด ครอบครัวสุขสันต์อบอุ่นจริงๆค่ะ ไม่อยากให้มีอะไรมาทำลายครอบครัวนี้เลย จะมีดราม่าไหมคะ จะได้เตรียมทำใจไว้เนิ่นๆ

ใบเมี่ยงงงง มิน่าล่ะคุณปู่ถึงได้ยกที่ดินให้ใบเมี่ยง แต่ทำไมคุณปู่รู้ได้ยังไงว่าเมี่ยงเป็นหลานอีกคนหนึ่ง

คู่ปู่ช้วนกับแม่คุณก็น่ารักกก ปู่เท่ห์มากๆ อยากให้ปู่ขอแม่คุณแต่งงานเร็วๆ

เป็นนิยายที่อ่านแล้วฟิลกู๊ดอารมณ์ดีมีความสุขจริงๆค่ะ อ่านไปยิ้มไป แถมได้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับอาหารต่างๆอีก

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 07-09-2017 16:49:21
อ้าว ใบเมี่ยงเป็นพี่น้องพ่อเดียวกับมีคุณ? หมดปมปู่ช้วนก็มาต่อปมใบเมี่ยงอีกคน อ้าาาาาา ไปโฟกัสเมนูอาหารต่อดีกว่า ดี๊ดี อ่านทีไรอยากย้ายบ้านไปอยู่ใกล้ร้านมีคุณจริงๆเชียว  o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 07-09-2017 17:18:53
คลายไปทีละปม แต่ผุดใหม่มาอีกละ อินายหัวนั้นต้องการอะไรกันแน่ ที่ดินหรืออะไรอีก เฮ้อ...
ไม่เครียดน่อ พอเจอกับ 3คนพ่อแม่ลูกน่ารัก  :mew1:
 :L1:  :pig4:  :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 07-09-2017 18:39:34
ฮือออออ กว่าจะได้อ่านน น้องมารอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยยยย เม้นท์ก่อนอ่านจ้า ขอล่ะค่ะมาต่อทุกวันได้มั้ยยยย โฮๆๆๆ คิดถึงหนูด้วง :hao6:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 07-09-2017 18:44:34
น่ารักกกกกกกกก :-[ :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 07-09-2017 19:01:34
นายหุวต้องการที่ดิน โดยเอาด้วงเป็นตัวต่อรอง รึเปล่านะ  :mew4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-09-2017 19:13:31
 o13

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 07-09-2017 19:21:02
น่ารักมากกกก  น่ารักที่สุด   
รอรวมเล่มจ้า
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 07-09-2017 19:35:40
อย่าเอารอยยิ้มไปจากครอบครัวนี้เลยนะ นายหัว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 07-09-2017 21:26:08
หนูด้วงน่ารัก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 07-09-2017 21:46:41
ตัวละครเพิ่ม มีปมดราม่าหลายปม คนเขียนสร้างความเกี่ยวข้องตัวละครเก่งจัง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-09-2017 05:38:45
 :man1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-09-2017 08:09:51
ปู่อนันต์ไม่ธรรมดาแหะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 08-09-2017 15:23:27
ปู่ช้วนเก่งมาก มีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย แต่น่าจะมีสาเหตุที่ทำให้ต้องหลบหน้าผู้คนมาอยู่ที่เกาะ

ทนายความเคารพควรจะรีบมาบอกมีคุณและนับตังค์ให้รู้โดยเร็วเกี่ยวกับเรื่องที่นายหัวรู้เรื่องหนูด้วงแล้ว

:a5: ใบเมี่ยงเป็นพี่น้องพ่อเดียวกับมีคุณ

เรื่องนี้คนเขียนผูกเรื่องได้เก่งมาก 3 ครอบครัวแต่มีความเกี่ยวพันกัน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 08-09-2017 18:30:11
 :3123: :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: npsp2555 ที่ 09-09-2017 23:11:29
สนุกมากค่ะ ทั้งหิวทั้งฮา  :m20:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 10-09-2017 22:48:20
มีปมเพิ่มมาอีก1ปม  กลัวดราม่าจังเลยย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 26 ปลาแห้งแตงโม 07/09/60 P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Naiikratai ที่ 11-09-2017 15:48:06
รอๆค้าบบบ อิอิ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 16-09-2017 10:35:59
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 16-09-2017 10:37:50
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 16-09-2017 11:37:48
เกลียดดดดดดดดดดดดดดด คนที่เอาเปรียบคนอื่น อยากได้ที่ดิน อยากมั่งมีโดนการเอาเปรียบคนอื่น
 :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 16-09-2017 12:19:45
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 16-09-2017 12:47:23
มาแล้วววว  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 16-09-2017 12:49:35
มีคุณอย่าให้ใครแย่งหนูด้วงกับนับตังค์ไปได้นะ สู้ สู้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 16-09-2017 13:08:52
 :mc4:   แกงรัญจวนแซ่บน่อ    :m25: 
 :angry2:  อินายหัวนี้เลวจริงๆ คงเป็นคนบอกยัยแม่เลี้ยงแน่ๆ ต้องให้นับตังค์จัดการ เฮ้อ...
พ่อมีคุณนิทิฐิเยอะ หยิ่ง ถือว่าใหญ่ว่างั้นแถมหูเบาอีก นายแม่อาจจะผิด แต่ก็กลับตัวได้
พอกลับตัวกลับใจได้เลยได้ผลตอบแทนเป็นปู่ช้วน  o13 จะรอดูว่าผลตอบแทนพ่อและยัยแม่เลี้ยงจะได้อะไร
 :katai1: มาทิ้งท้ายให้ใจเราขาดด้วยความอยากรู้  รอกันต่อไป ดู 2 คนนี้เขาจะทำยังไง
 :L1:  :pig4:  :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-09-2017 13:18:31
มารมาแล้ว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 16-09-2017 13:20:33
เชื่อว่าพี่ช้วน มีคุณ และนับตังค์ จะผ่านอุปสรรคไปได้จากคนเห็นแก่ตัว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 16-09-2017 13:26:19
 :z1: :mc4: :z1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 16-09-2017 13:42:40
 :pig4: :pig4: :กอด1: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 16-09-2017 14:30:09
เราคิดว่าหนูด้วงต้องเป็นลูกของเหรียญเงินแน่เลย ไม่งั้นปู่ไม่ให้นับตังค์มาเป็นเชฟที่นี่หรอก และมีบางฉากที่นับตังค์บอกว่าดวงตาของหนูด้วงเป็นดวงตาที่คุ้นเคย ชื่อของหนูด้วงต้องเป็นพดด้วงแน่ เดาๆๆ :mc4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 16-09-2017 14:51:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-09-2017 15:21:01
พายุลูกใหญ่จะมาอีกแล้วสิ
จะหาทางออกกันยังไงหนอ เพราะดูเหมือนจะบีบบังคับหลายทางเลย หึ วางแผนมาดีจริง ๆ
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 16-09-2017 15:38:26
แกงรัญจวนป่วนหัวใจจริงๆ สมหวังแล้วนะบอสรับทานเชฟจนอิ่มแปล้เลย  :o8: :o8: :o8:

พี่ช้วนงานดีมีคุณภาพจริงจริ้งงงง โอ๊ยเขิลแทนแม่คุณ เป็นคู่ที่น่ารักมากกกค่าาา

พายกับเมี่ยงช่วงนี้แว๊ปไปแว๊ปมาเนอะ อยากอ่านตอนพิเศษของคู่นี้ด้วยนะคะ

สงสารหนูด้วงฝันร้ายทั้งคืน  :กอด1: :กอด1: :กอด1: ต่อไปหนูจะเป็นยังไงน้า ไม่อยากให้ครอบครัวนี้ต้องพลัดพรากจากกันเลยค่ะ

มีโครงการจะรวมเล่มไหมคะ อยากให้รวมเล่มเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ ชอบมากกกกจริงๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 16-09-2017 15:55:22
ยัยแม่เลี้ยงนี่ร้ายจริงๆ  พ่อมีคุณก็หูเบาเกิน ทำให้ต้องเสียภรรยาดีๆ ไปถึง 2 คน

คุณพลอยประดับโชคดีมาก ที่ได้เจอพี่ช้วน เป็นการขอแต่งงานที่โรแมนติกมาก และได้รู้ประวัติของพี่ช้วนแล้วก็ให้นึกสงสาร แต่ก็ดีใจที่พี่ช้วนโชคดีได้มาเจอกับมีคุณและนับตังค์ ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

และแล้วมีคุณก็ได้กินแกงรัญจวนสมใจ :pighaun:

ทนายเคารพควรรีบบอกด่วนๆ เพื่อที่มีคุณและนับตังค์จะได้หาทางหนีทีไล่ไว้สู้กับนายหัวพยนต์ และยังอาจต้องมาเจอกับพ่อและแม่เลี้ยงมีคุณอีก ถือเป็นศึกรอบด้าน  แต่ยังไงทั้งคู่ก็ยังมีเพื่อนๆ และพี่ช้วนคอยช่วย อุปสรรคต่างๆ ก็อาจจะพอสู้ได้ ถ้าใช้สติและกำลังใจที่มีให้กัน

รออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อ   ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 16-09-2017 17:48:17
แกงมันจะแซ่บหน่อยๆล่ะ

หนูด้วงน่ารักมากเลยลูก หนูฝันหรือหนูตื่นมาเห็นมันกับแด๊ด
เอ็นดูอ่ะ

ชอบบรรยากาศแบบนี้
อบอุ่นกันไป
ปมก็มากมายเลย อยากให้คลี่คลายเร็วๆ

อยากฟิลกู๊ดยาวๆๆๆๆ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-09-2017 21:15:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-09-2017 21:45:24
โว้ยยย นายหัว นี่ไม่เลิกรังควาญเนอะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 17-09-2017 01:30:45
มารมาผจญแล้ว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-09-2017 17:30:05
เอ็นดูหนูด้วงไปอี๊กกก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-09-2017 08:17:32
อ่านยาวเลยค่ะ ชอบมาก

นับตังค์น่ารัก ทะเล้น สดใส คิดต่างแต่คิดดี ถึงจะถูกเข้มงวดมา แต่ก็รู้จักใช้ชีวิต
มีคุณเจอความกดดันมาแต่เด็ก แม่ดูแลดี แต่ก็มีความขาดอยู่บ้าง

พอมาเจอกัน แล้วตกลงกันได้ มันคือความกลมกล่อม แล้วยิ่งมาลงเอยกันอีก มันคือความเข้มข้น
ต่างเติมเต็มให้กันและกัน นับตังค์ใจเย็นไปอีก ใจเย็นกว่ามีคุณ คนร้อนอย่างมีคุณ ไฟก็มอดได้

ใบเมี่ยงน่ารักดี มีความหลัง ตอนนี้ใบเมี่ยงรู้แล้วว่าเป็นพี่น้องกัน แต่มีคุณยังไม่รู้ตัว ไม่แปลกใจที่คุณปู่ยกที่ดินให้
พายพัด คือโอปป้าที่แท้ทรู มีครบทุกอย่าง อบอุ่น เจ้าเล่ห์ มีความร้าย รักอุ๋งอุ๋งคนเดียว

พญา กับพเยีย เนื้อแท้ไม่ร้ายนะ แต่แค่ขาดคนเข้าใจ และถูกเอาใจมากไป

สงสารด้วง เด็กน้อยขาดทั้งพ่อทั้งแม่ แต่น่ารัก และฉลาดมากนะลูก
คุณปู่รู้เยอะมากนะ ถึงช่วยเอาไว้หลายคนขนาดนี้

คุณช้วนมีความร้าย ตลาดไม่วายแน่ เพราะรุกไวมาก

ขมิ้นตัวเอกไม่แพ้มีคุณเลยนะ คนกุมความลับอีกหนึ่งอย่างกับทนายเคารพ

คั่วกลิ้งมาหลายรอบ ดีนะเปลี่ยนจากกินโจ๊ก เป็นแกงรัญจวน ไม่งั้นคงไม่รัญจวนจกันขนาดนี้

 


หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 27 แกงรัญจวน 16/09/60 P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 20-09-2017 23:29:58
จะเป็นยังไงต่อไปน้อออ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 25-09-2017 09:41:58
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 25-09-2017 09:43:54
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 25-09-2017 10:12:02
ปมต่างๆ เริ่มขมวดเข้าหากันแล้ว ยังเดาไม่ออกว่าพี่ชายตังยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ทำไมถึงได้ทิ้งลูกเมียไป หวังว่านายหัวคงไม่อยู่เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดนะ ไม่งั้นจะให้อภัยกันยังไง ดาวเรืองอีกคนที่น่าจะเป็นตัวการ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 25-09-2017 10:52:44
ด้วงเป็นลูกพี่ชายตังค์จริงๆด้วย ดีใจที่นี้ก็ง่ายขึ้นแล้วที่ตังค์จะได้เลี้ยงด้วงเป็นสิทธิ์ขาด
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 25-09-2017 10:58:21
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 25-09-2017 10:59:22
หวังว่าพ่อแม่หนูด้วงยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-09-2017 11:15:47
ตังมีสิทธิชนะ น่ะสิ ๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 25-09-2017 11:23:51
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
มันจะมีเหตุให้ จับไปขังกลางป่า ไหมอ่ะ โอ๊ยยยยย ลุงฟังก่อนนะ อย่าพึ่งวู่วามไป
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 25-09-2017 11:24:14
 :hao7: o13 :hao7:

หนูด้วง นี่ต้องชื่อ (((  พดด้วง )))แน่ๆ

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-09-2017 11:26:40
แล้วพี่ชายของนับตังหายไปไหน ไม่ใช่ว่าโดนอุ้มไปแล้วหรอกนะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-09-2017 12:08:39
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 25-09-2017 16:46:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-09-2017 17:11:21
โล่งอก เป็นไปอย่างที่คิดสินะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 25-09-2017 17:16:25
พี่มั่นก็คือพี่เหรียญเงินนั่นเอง และก็คงตั้งชื่อลูกให้คล้องจองกับตัวเอง คือ พด(ด้วง) 

แบบนี้ตังค์ก็มีสิทธิ์ชนะ เพราะด้วงเป็นหลานของนับตังค์เหมือนกัน  ยังไงก็ขออย่าให้พญาเข้าใจผิดทำอะไรวู่วามไปก่อนที่จะรู้ความจริงว่ามั่นคือพี่ชายของนับตังค์

เดาว่าปู่อนันต์ต้องรู้จักกับพี่ชายนับตังค์เป็นอย่างดีโดยอาจรู้ว่าเป็นหลานของคุณย่า และคุณย่าคงเป็นเป็นเพื่อนหรือคนรักเก่าของปู่อนันต์ ถึงได้ทำสัญญาว่าต้องให้นับตังค์มาเป็นเชฟที่ร้านตัวเอง

ตอนนี้คงต้องสืบให้รู้ว่าพี่ชายนับตังค์และพี่พยงค์ยังอยู่หรือตายไปแล้ว 

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 25-09-2017 19:24:35
ต้องเป็นพี่ชายตังค์แน่ๆ ไม่ต้องกลุ้มใจแย้ว นู๋ตังค์มีสิทธิ์สุดๆในฐานะอา หึหึ สะใจ
ตอนนี้รวมมิตรแท้ๆ  o13 สู้ๆ จ้าทุกคน ว่าแต่พี่ชายตังค์หายไปไหนอ่ะ
หรือโดนยัยมารดาวเรืองฆ่าไปละ
 :3123:  :pig4:  :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 25-09-2017 22:06:29
เป็นไปตามที่คาดไว้เลย กิกิ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-09-2017 22:39:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-09-2017 13:16:57
ถ้าพี่เหรียญเป็นพ่อของหนูด้วงจริง ตังก็มีสิทธิ์ในตัวหนูด้วงในฐานะอา
ซึ่งจะทำให้หมดปัญหาเรื่องฟ้องร้องกับนายหัวพยนต์
แต่มีคุณอาจต้องมีปัญหาเรื่องพ่อตัวเองที่อยากได้ที่ดินบนเกาะเนี่ยซิ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 27-09-2017 17:12:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 28-09-2017 21:28:03
นับตังค์ ทำไมเป็นคนแบบนี้ เป็นคนคิดดีมากเวอร์วัง
สงสารด้วงจนนอนไม่หลับ คิดหนัก จนต้องมาทำอาหารซะจัดเต็ม

มีคุณก็ถึงกับเครียด

ทุกคนพยายามช่วยหลาน หวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลายนะ

แล้วสรุปคือคุณปู่อนันต์คือรู้มากสุด แต่ชิงไปก่อน
เป็นลูกหลาน เกี่ยวพันกันไปหมด เผลอๆ เหรียญเงินก็ไม่อยากทิ้งหรอก แต่อาจมีเหตุ

ด้วงน่ารัก เด็กน้อยฉลาดมาก รู้ทันไปหมด
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 29-09-2017 21:57:28
ลุ้นมากไรท์จะแต่งให้พ่อ-แม่ของหนุด้วงยังอยู่ หรือจะแบบถูกฆาตกรรมหรือไม่ก็เกิดอุบัติเหตุไปแล้ว แต่หวังให้ยังอยู่แต่แบบเปิดเผยตัวไม่ได้ไรงี้
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 01-10-2017 10:24:15
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 28 รวมมิตร 25/09/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 03-10-2017 11:40:27
มาต่อได้แล้วนะคะ คิดถึงมากกกก :hao5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 12-10-2017 03:05:01
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 12-10-2017 03:06:59
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-10-2017 03:42:25
 :กอด1: :man1: กอดกันเยอะๆ ตังค์และมีคุณจะได้มีแรงสู้
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-10-2017 04:07:52
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: goldentime ที่ 12-10-2017 06:16:57
เป็นนิยายที่ทำให้หิวไปด้วยจริงๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 12-10-2017 07:41:36
สนุกมากค่ะ o13 o13 o13 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: jpjiraporn ที่ 12-10-2017 08:01:21
อ๋อย....เราจะรอนะ :mew2: :mew2:
#รักหนูด้วง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 12-10-2017 08:37:05
อยากกินมั่งง่า
ว่าแต่มีคุณคุยอะไรกับพี่เฟื้อง เครียดเชียว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-10-2017 09:01:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 12-10-2017 09:18:32
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-10-2017 09:23:23
"คนฉลาดๆ เห็นก็ต้องจำได้อยู่แล้ว" ประโยคนี้เหมือนพญาด่าตัวเองเลยเนอะ  :eiei1:
หวังให้หลวงพี่คือเหรียญเงินของนับตังค์ เรื่องหนูด้วงจะได้ง่ายขึ้น :call: :call:
 

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 12-10-2017 09:39:30
หลวงพี่ที่มาปักกลดในวัด จะใช่พี่เหรียญเงินหรือเปล่านะ  คงต้องรอวันที่มาฉันเพลพร้อมหลวงตา

มีคุณคุยอะไรกับเฟื้อง  คงต้องเกี่ยวกับหนูด้วงและนับตังค์แน่เลย

พญาเกือบได้รู้แล้วว่าเฟื้องคือผู้หญิงในรูป  ถ้าก้านไม่กลับไปซะก่อน

เหมือนกำลังอ่านหนังสือทำอาหาร แต่เอาชื่ออาหารมาทำเป็นนิยายที่มีครบทุกรส เอาใจคนอ่านไปเลยค่ะ 
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 12-10-2017 10:52:58
มันค้างงงง ตรงมีคุณคุยกะเฟื้องนี่แหละ คุยรัยกันนะ

มาต่อเร็วๆ นะคะ  :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 12-10-2017 11:16:23
สงสัยว่าพระหนุ่มรูปนั่นจะเป็นพี่ชายของนับตังค์หรือเปล่าหนอ เอาใจช่วยทุกคนจ้ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-10-2017 11:45:21
 :katai2-1: o13 :katai2-1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-10-2017 12:04:15
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 12-10-2017 15:54:37
น่ากินมาก ปู่บรรยายซะเหมือนประหนึ่งว่าเราได้กิน เข้าถึงรสชาติเลย พี่ น้องบ้านนี้เก่งทุกคนเลย  o13
ปริศนามาเพิ่ม คือ
1.พระรูปนั้นคือใคร (เราว่าเป็นพี่เหรียญหรือเปล่า)
2.ใครเป็นผู้อยู่เบื่อหลังการแกล้งในครั้งนี้ (ยัยแม่เลี้ยง หรือ ยัยดาว(โรย) เรือง) แต่เราหนักไปทางแม่เลี้ยง
ส่วนนายหัวพยนต์คงไม่เกี่ยวโดยตรงมั้ง เพราะพญาก็บอกว่าตนมั่นใจว่าพ่อไม่ได้ทำ
3.บอสจะคุยอะไรกะพี่เมีย เอ้ยพี่เฟื้อง เรานี้อยากรู้สุดๆ ต่อมเผือกกระดิกๆ ประมาณ 10 ริกเตอร์เลยล่ะจ้า 
ได้ฟังที่ตังค์สอนหนูด้วง ทำให้นายหัวสะอึกไปเหมือนกัน ชอบอ่ะตรงนี้ รักตังค์สุดๆ ชอบความคิด ชอบหลายๆ อย่าง
รักทุกอย่างที่เป็นนับตังค์  :mew1:  >>>  :m16:  มีคุณ - ตังค์ของเรา เดี๋ยวจะโดนๆ
ไปดีกว่าเดะโดนตื๊บ อิอิ สุดท้ายเราทำได้แค่รอ ว่าตอนต่อไปจะเฉลยอะไรมา หรือมาเพิ่มปริศนา ให้เราคิดเล่นๆ ระหว่างรอ
  :katai2-1:   :pig4:   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 12-10-2017 19:18:02
ดูแล้ว คุณป้าขจีต้องรู้อะไรแล้วบอกให้มีคุณรู้ ใช่เรื่องของน้องด้วงที่ว่าเป็นลูกของพี่ชายนับตังค์ไหมเนี่ย อยากรู้จริงๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 12-10-2017 20:52:34
ลุ้นนนทุกปม
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 12-10-2017 21:36:30
หลวงพี่ต้องเป็นเหรียญเงินแน่ๆ ขอให้คนแต่งมาแต่งต่อไวด้วยเถ้อะ เราเหมือนจะลงแดงกับการรอคอย :katai1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-10-2017 23:43:26
อยากรู้ความจริงทั้งหมดแล้วววววววว
พี่ชายบวชเป็นพระใช่ไหมคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 20-10-2017 16:02:58
เมื่อไหร่จะมาต่อคะ รอเป็นเมินแล้วนะเจ้า คิดถุงงงงงงงงงงง :hao7:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-10-2017 16:27:32
หิวแล้วนะ เมื่อไรจะมา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 22-10-2017 10:10:44
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 22-10-2017 10:12:21
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.17,18
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-10-2017 10:39:18
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
ลุ้นมากกกกกกกกกกกกกก ครอบครัวตังค์จะว่ายังไงบ้างเนี่ยยยย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 22-10-2017 12:45:57
 :hao7:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-10-2017 13:06:48
เราว่าปมมันเริ่มมาถี่ๆ ไปแล้วอ่าาาา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 22-10-2017 16:25:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-10-2017 17:34:02
คนที่บ้านจะว่ายังไงหนอ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-10-2017 18:00:43
ไม่ทันได้ชื่นใจกับขนมหวานก็ต้องมาทานยาขมแล้วรึ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 22-10-2017 18:08:23
อ่านตอนนี้แล้ว อยากวาบไปอ่านตอนงานแต่งพี่ช้วนเลย  คงเป็นวันรวมญาติของทุกฝ่ายเลย ลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้น

พลิกล๊อกกลายเป็นว่าคนที่มาป่วนคือพ่อของพญาจ้างมา คุณพ่อบอกไม่ให้พเยียทำอะไรเกินเลยกับผู้มีพระคุณ  แต่ดันไม่ได้บอกให้พญารู้  นี่่ถ้าคุณชายน้องเป็นอะไรไป  งานนี้ไม่พญาก็นายหัวพยนต์ตายแน่

 :ling1: คนเขียนมาต่อเร็วๆ  :katai4: 
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 22-10-2017 19:21:05
  :a5: เข้มข้นขึ้นทุกตอน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 22-10-2017 20:33:04
ลุ้นจนปัสสาวะเหนียวเเล้วค่าา ตอนต่อไปมาเร็วๆน้า  :hao5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 22-10-2017 20:56:18
ยุ่งอินุงตุงนังเลยยอ่ะ :z3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 23-10-2017 00:18:04
ตอนนี้ขมบาดปากมากเลย กระอักออกมาแล้ว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 23-10-2017 08:45:53
เดาไว้ก่อนว่าอาจไม่มีรัยร้ายแรงก็ได้ แต่นายหัวพยนต์ นี่มันน่า :z6:

นี่ห่วงคุณชายน้องมากกว่าอีก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 23-10-2017 09:23:22
ที่มีคุณไม่สบายใจคือเรื่องนี้หรอ ครอบครัวนับตังค์

นับตังค์น่ารัก ทะเล้น ใส่ใจ ถึงจะไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็ห่วงใย
มีคุณก็เครียดไปเหอะ คิดไปเหอะ แล้วมาเจอกันตอนนี้อีก จะราบรื่นหรือล่มไม่เป็นท่าล่ะ

ทำไมย่า พ่อแม่นับตังค์มาได้ไงล่ะ

พ่อมีคุณทำร้ายลูกมากไปไหมคะ

หลวงพี่ใช่เหรียญเงินไหม ทำไมหนูด้วงดูติด

หนูด้วงน่ารัก ตลก ทำให้สดชื่นกันทั้งบ้านนะ อันนี้อะได

โอ๊ยย นับตังค์ก็แคร์ครอบครัวมาก จนทำมีคุณเฟลไปเลยน่ะ ขอให้ผ่านไปด้วยดีนะ

มายาวๆๆหลายตอนมาก ปลื้มค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 24-10-2017 00:00:19
อ่านแล้วติดงอมแงม เค้าไม่ชอบดราม่าเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 24-10-2017 11:01:58
บังคับป้อนยา กันเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 24-10-2017 12:38:43
คุณชายโดนพญาจับไปโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่  แต่อาจเป็นสาเหตุทำให้พยนต์ผิดใจกะหม่อมเจ้าวิรงรองก็ได้คราวนี้เรื่องยากๆอาจง่ายขึ้น
 
มากันครบเลยไม่รู้ว่าย่ากะพ่อจะว่ายังไง  รอพรุ่งนี้ในงานพิธีอาจจะได้เจอพี่มั่น พ่อกะย่าอาจจะคิดได้ก็ได้  ตังค์สู้ๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 30 ขนมสามเกลอ 22/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Pin_12442 ที่ 24-10-2017 17:54:46
ฮึ่ยยยย  จะดีๆก็มีเรื่องมาขัดตลอดดด
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 24-10-2017 22:05:58
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 24-10-2017 22:07:21
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 24-10-2017 22:32:58
นั้นไง หลวงพี่ = พี่เหรียญ แน่นวลลล
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 24-10-2017 22:36:15
รู้สึกพญาจะเจอน้องรักคนใหม่แล้วนะ  :mew1:

ถ้าให้ทายหลวงพี่นี่ต้องเป็นพ่อของหนูดัวงแน่ๆ เอาใจช่วยทุกคนจ้ะ   :call:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-10-2017 23:04:10
 :katai2-1: o13 :katai2-1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 24-10-2017 23:11:45
พญามีแฟนแน่นวล
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 24-10-2017 23:18:28
เพราะพี่ช้วนทำให้ตังค์กะมีคุณได้รับการยอมรับก็เหลือเรื่องด้วง ดาวเรืองร้ายมากๆ. แอบขำคุณชายน้องไม่ได้กลัวอะไรเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 24-10-2017 23:24:54
เรื่องคลายไปหนึ่งเปลาะละ เหลืออีกปมรึป่าว พ่อน้องด้วง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-10-2017 23:52:43
ตื่นเต้นๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 25-10-2017 00:29:59
เราชอบที่คนเขียนแต่งมากค่ะ สร้างปมไว้เยอะแต่ก็เข้าใจง่ายแล้วทุกอย่างก็เชื่อมต่อกัน  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-10-2017 07:38:26
ดาวเรืองกับเท่งช่วยกันฆ่าเหรียญสินะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-10-2017 07:51:27
โอ้ยยย ปมครอบครัว หลุดไปหนึ่ง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-10-2017 08:54:18
เรื่องมีคุณกับตังค์รักกันหมดปัญหาแล้วเหลือเรื่องหนูด้วงเนี่ยแหละจะคลี่คลายได้ง่ายๆไหม เพราะพญายังเข้าใจผิดอยู่
ว่าแต่พญากับน้องจะมีแววได้คู่กันไหม อาการหน้าแดงของคุณน้องชวนให้คิดจริงๆเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 25-10-2017 10:10:20
ชอบคุณชายน้องจริงๆ  :laugh:

แต่ถ้าเค้าถูกใจพญา แล้วแฟนเก่ามีคุณล่ะ (จำชื่อไม่ได้
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-10-2017 10:47:47
 :pig4:  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวไหมอ้วนกลม ที่ 25-10-2017 11:45:23
 :katai1: :katai1: :katai1:  โอ๊ยยยยยยลุ้นๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 25-10-2017 19:11:14
ความจริงเริ่มจะเปิดเผยแล้ว  ตื่นเต้นๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 25-10-2017 21:22:06
ขอให้มาต่อไวๆทีเถ๊อะ เพี้ยงงงงงงง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 26-10-2017 09:39:55
ดีใจกับนับตังค์และมีคุณที่คุณย่าละม่อมไม่คิดขัดขวาง และยอมรับมีคุณเป็นหลานเขย  งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับพี่ช้วนที่ให้แง่คิดกับคุณย่า

แสดงว่าคนที่ฆ่าแม่หนูด้วงก็คือเท่งนั่นเอง นี่ถ้าพญารู้ว่าเท่งเป็นคนฆ่าพี่สาวตัวเอง และยังรู้ว่าเท่งมีชีวิตอยู่เพราะดาวเรืองช่วยไว้
รับรองว่า 2 คนนี้คงได้โดนทั้งนายหัวและพญายำเละไม่ได้เห็นศพให้ตำรวจได้สืบแน่

และหลวงพี่ก็คือพี่เหรียญเงินจริงๆ  อยากให้ถึงงานวันแต่งของพี่ช้วนเร็วๆ จัง ถ้าหลวงพี่ตามหลวงตามาด้วย ครอบครัวนับตังค์จะได้อยู่กันพร้อมหน้าและเคลียร์ปัญหาคาใจกันได้สักที รวมถึงเรื่องหนูด้วงด้วย 

คนเขียนกำลังบอกใบ้ว่า คุณชายน้องคือคนรักของพญาหรือเปล่าคะ  :-[   รักคุณชายน้องมาก  น่ารัก ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น

ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ ที่มาต่อให้เร็วทัันใจ  :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 26-10-2017 11:24:17
น่ารักมากค่ะ นับตังค์เกือบหลอนไปแล้ว แต่ก็ทำให้เห็นว่า ถึงยังไงหลานก็คิดถึงครอบครัวเสมอ
ตลกมีคุณ หลอนหนักกว่าไปอีกค่ะ

สมใจกันแล้วนะ ปู่ช้วนงานดีนะคะ ช่วยคู่นี้ได้หลายครั้งละนะ

ด้วงจะหามัม มัมคนเดียวเท่านั้น

พญาพลาดละ อาหลานกัน ยังไงก็หนีกันไม่พ้น แล้วไปกักน้องไว้ทำไม
คิดว่าหลวงพี่เป็นพี่เหรียญเงิน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 28-10-2017 22:32:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: jpjiraporn ที่ 02-11-2017 23:22:18
คิดถึงหนูด้วงจัง :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 31 เสน่ห์จันทร์ 24/10/60 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 03-11-2017 15:09:13
คิดถึง หนูด้วง :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 04-11-2017 18:47:18
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 04-11-2017 18:48:33
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 04-11-2017 19:10:33
วันมงคลจริงๆ  o13
รอจัดการพวกร้ายๆ กันต่อไป เอาแบบจัดหนักจัดเต็มไปเลย
และก็ลุ้นว่าคู่พญากับเทียมฟ้า จะมีลุ้นป่าวน่อ
ยิ่งตอนท้ายนิเล่นน้ำตาซึมฉากพ่อลูกเจอกัน
 :L2:  :pig4:  :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 04-11-2017 19:12:21
ไคลแมกซ์ตอนพระได้เจอทุกคน หนูด้วงได้เจอพ่อ  :ling3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 04-11-2017 20:19:10
 o13     o13    o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 04-11-2017 20:21:56
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 04-11-2017 20:28:29
วันมงคลวันที่ทุกคนได้กลับมาพบหน้าแค่นี้คนอ่านก็มีความสุขแล้ว ขอบคุณนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 04-11-2017 20:35:14
รวมญาติชุดใหญ่พร้อมเคลียร์ทุกปมเลยตอนนี้ อ่อ ยังๆๆๆ เหลือเรื่องแม่ใบเมี่ยงอีกปม โอ๊ะ! ยิ่งกว่าโคนันอีกนะเรื่องนี้ สืบกันหลายซับหลายซ้อน /  ดาวเรือง ฉันขอเสนอชื่อเธอ .. ดาวร้ายยอดเยี่ยม หึหึหึหึ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 04-11-2017 20:51:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 04-11-2017 21:11:09
มีคุณกะใบเมี่ยงพี่น้องคนละแม่ใช่มั้ยนะ

แต่ทุกอย่างคลี่คลายหลายปมละ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 04-11-2017 21:15:46
 :katai2-1: o13 o13 o13 :katai2-1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-11-2017 21:36:31
 โอ๊ย อยากอ่านต่อแล้ว มาเจอหน้ากันครบแล้วดีใจที่พี่ชายนับตังค์ยังไม่ตาย
เคลียร์เรื่องหนูด้วงได้ก็จะเหลือเรื่องใบเมี่ยงกับเรื่องที่ดินที่เมียใหม่พ่อของมีคุณอยากได้
ถ้าไม่มีพินัยกรรมคุณปู่ แต่ละคนคงไม่ได้มาเจอกัน มีคุณเจอตังค์ ตังค์เจอหลาน
ครอบครัวมณีรัตน์เจอลูกหลาน มีคุณเจอน้องต่างแม่ :3123:

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 04-11-2017 21:37:58
สงสารพดด้วงจังเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-11-2017 21:38:27
ตื่นเต้นๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 04-11-2017 21:38:52
วันมงคลจริงๆ   o13 :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 04-11-2017 21:54:46
นึกว่าตอนนี้จะดราม่าหนักซะอีก
อ่านมาจนจะจบ เพิ่งมีตอนนี้นี่แหละที่เนื้อเรื่องไม่โดนอาหารขโมยซีน 55
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-11-2017 23:49:23
ดีงามมากๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 05-11-2017 04:36:31
ลุ้นตั้งแต่ต้นตอนเลยค่ะ ทุกข้อสงสัยเริ่มคลี่คลายแล้ว

หลังจากที่เหมือนจะแย่สำหรับหลายคนแต่เช้า แต่นับเป็นเรื่องดี ที่ความจริงหลายอย่างเปิดเผย
แล้วพระก็มาให้ความกระจ่างด้วยการปรากฏตัว พอดีพอเหมาะมากค่ะ

อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาซึมเลย และหนูด้วงก็ทำให้ยิ้มได้ แถมเป็นวันมงคลอีก

ปู่ช้วนไปรู้จักท่านหญิงได้ยังไง แล้วปู่อนันต์รู้ได้ไงว่ามีแม่ใบเมี่ยง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: jpjiraporn ที่ 05-11-2017 05:55:40
 :man1: :mew4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-11-2017 07:07:38
ใกล้แล้ว รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 05-11-2017 10:03:29
ท่านหญิงมาทีเดียวเคลียร์ทุกปมได้กระจ่าง สมแล้วที่เป็นวันมงคลและถือเป็นวันรวมญาติของทุกฝ่าย อ่านตอนนี้แล้วได้หลากหลายอารมณ์ทั้งความดีใจ ซึ้งใจไปกับเรื่องของหนูด้วง ประหลาดใจที่พี่ช้วนรู้จักกับท่านหญิง และสะใจที่นายหัวพยนต์จะได้แก้แค้นได้ถูกคนสักที

สงสัยพี่ช้วนจะเคยเป็นเชฟให้กับวังของท่านหญิงมาก่อน หรือไม่ก็เคยเปิดร้านอาหารแล้วท่านหญิงมากินประจำ 

อยากให้นายหัวพยนต์บอกความจริงดาวเรืองสักทีว่าจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ลูกนายหัวแต่เป็นแค่ลูกคนขับรถ รับรองยัยดาวเรืองคงกระอักเลือดเป็นบ้าตายแน่

ขอบคุณคนแขียนที่เขียนตอนนี้ได้เยี่ยมมาก  :katai2-1: :pig4: รออ่านตอนหน้าว่าหลวงพี่จะเล่าเรื่องตัวเองบ้าง   
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 05-11-2017 12:19:13
:pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 05-11-2017 18:16:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 05-11-2017 23:14:08
 :hao5: :hao5: :hao5:
อือๆๆ ตอนนี้สุดยอด สนุกมากกกกเลยค่ะ ทั้งซึ้งทั้งตื้นตันทั้งดีใจ
นับวันรอตอนหน้านะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 07-11-2017 10:39:14
เม้นก่อนอ่าน อ่านเสร็จค่อยเม้นอีกรอบเน้อ :really2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 07-11-2017 21:56:59
รอลุ้นตอนต่อไปเลยยย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-11-2017 22:02:18
 :katai5: มารอ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 07-11-2017 23:11:59
ตอนนี้ไคลแม็กซ์จริงๆอ่ะ จะร้องไห้
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Nutcha.v ที่ 08-11-2017 09:41:33
โอ้ยยย ตื่นเต้นน  :ling1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 08-11-2017 18:39:45
 :hao5: รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 32 ขนมมงคล 4/11/60 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 08-11-2017 20:22:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 09-11-2017 11:38:50
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 09-11-2017 11:40:12
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 09-11-2017 12:10:06
ทั้งซึ่งใจทั้งลุ้น หนูด้วงงงงงงงงงงง
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-11-2017 12:27:53
 :katai2-1: o13 o13 o13 :katai2-1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 09-11-2017 12:32:24
งานเข้าแล้ว เลี้ยงเด็กนี่ปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้เลยจริง ๆ
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-11-2017 13:02:07
ซาบซึ่งใจ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 09-11-2017 13:07:59
นังดาวเรืองยังไม่หมดฤทธิ์  :z6:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-11-2017 13:12:41
กว่าจิตใจหนูด้วงจะดีขึ้นก็ใช้เวลาพอสมควร นี่มาเจอดาวเรืองกับผัวจับตัวไปอีก
หนูด้วงจะเป็นยังไงเนี่ยยยยย :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
จับตัว 2 ผัวเมียได้เมื่อไหร่มันน่าเอาให้ตายทั้งคู่ :pigangry2: :pigangry2: :pigangry2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 09-11-2017 13:31:01
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 09-11-2017 15:04:47
อ่านตอนนี้แล้วก็นั่งน้ำตาซึมไปตั้งแต่ข้อความแรกจนถึงสุดท้าย สงสารชีวิตของพี่พยงค์และหลวงพี่มาก แต่เป็นโชคดีของหลวงพี่ที่ได้มาเจอหลวงตาที่ให้สติ ทำให้ชีวิตไม่ทำบาปกรรมไปมากกว่านี้ และได้สะสมบุญจนได้มาพบกับหนูด้วงและครอบครัวตัวเอง

ดีใจกับนายหัวพยนต์ที่คิดกลับตัวกลับใจและยอมขอโทษทุกคนกับสิ่งที่ได้ทำลงไป  ตอนนี้ก็คงต้องเป็นคนคลายปมที่รัดใจของดาวเรืองให้หลุด แบบที่นับตังค์บอก 

คุณชายน้องเริ่มชอบพญาแล้ว  เพราะคีตะที่เพิ่งจะเจอคุณชายน้องยังสังเกตได้เลย แต่อิตาพญาคงต้องพูดตรง ๆ ถึงจะรู้

คุณปู่อนันต์ทำพินัยกรรมได้รัดกุมมาก  สงสารและสมน้ำหน้าพ่อมีคุณที่ต้องเสียภรรยาดีๆ ไปถึง 2 คน เพราะความหูเบา  และดันมาได้เมียที่เห็นแก่ตัวแบบยัยชไมพร

ตุ๊กตาแมวน้ำที่หนูด้วงถือไปจะใช่ตัวที่บันทึกเสียงได้ที่ใบเมี่ยงซื้อให้ป่าว  เผื่อว่าจะบันทึกเสียงคนร้ายที่ลักพาตัวหนูด้วงไปได้

เอาใจช่วยหนูด้วงในตอนต่อไป  :ling1: :call:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 09-11-2017 15:07:09
ตัวพ่อมีคุณน่าจะไม่มีปัญหา แต่เมียนิต้องจัดการ พร้อมๆกับยัยดาวเรืองดาวโรย  :beat:
 :3123:  :pig4:  :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 09-11-2017 15:50:21
ทุกอย่างกระจ่างแล้ว แต่ยัยดาวเรืองเนี่ยไม่รู้จักคิดกลับตัวกลับใจเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 09-11-2017 16:44:02
พระคุ้มครองหนูด้วงด้วยขอให้ปลอดภัย  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 09-11-2017 19:02:32
สงสารพี่เงินกับพยงค์จริงๆ ไม่น่าตกระกำลำบากจนพยงค์ต้องเสียชีวิตไปเลย
สงสารคุณปู่บั้นปลายชีวิตท่านถ้าไม่ได้หนูด้วงคงจะอ้างว้างน่าดู
(สงสัยว่าขมิ้นรู้ตั้งแต่แรกแล้วใบเมี่ยงเป็นหลานคนเล็กของคุณปู่ ทำไมขมิ้นไม่บอกมีคุณล่ะคะ คุณปู่สั่งให้ปิดไว้จนกว่าจะรู้กันเองจากวีดีโอพินัยกรรมเหรอคะ)
ตอนนี้ปมก็คลี่คลายไปเยอะแล้ว
หลังจากตามหาหนูด้วงเจอแล้ว รอฉากพี่มีคุณรับขวัญน้องชายใบเมี่ยง ฉากนี้ขอรีเควสหน่อยนะคะ  :กอด1: :L1:

เป็นห่วงหนูด้วงจริงๆ  :hao5: :hao5: :hao5: ตอนใหม่มาไวไวน้าาาาาาค้าาาาา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 09-11-2017 19:40:09
เคลียร์กันไปหมดแล้ว  o13 เหลือดาวเรืองกับเท่ง  :katai1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 09-11-2017 20:22:58
ใกล้จะจบแล้วสินะ แง  :hao5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 09-11-2017 20:33:08
ร้องให้เลยอ่า  :hao5: ซึ้ง

หักมุมมาเป็นระทึกใจซะงั้น หนูด้วงหาย :ling3:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-11-2017 20:38:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-11-2017 21:25:59
ใครพาหลานชั้นไปไหนนน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 09-11-2017 23:01:59
ซึ้งมากกกกก จะจบแล้วชิมิ มาต่อเวยๆนะเจ้า รออยู่ :o12:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 10-11-2017 02:29:34
ไม่ อย่าทำร้ายหนูด้วงนะ ฮือออ
ไปช่วงน้องให้ทันนะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 12-11-2017 19:29:29
สนุกมากๆเลยค่ะ เขียนดีอ่านเพลินมาก แล้วหิวทุกตอน ชอบพล็อตเรื่องปมเรื่องที่ค่อยๆคลายออกมา ความผูกพันธ์ของตัวละครสายสัมพันธ์ครอบครัวอีก เป็นนิยายที่อบอุ่นมากๆเรื่องนึงเลย ขอบคุณมากนะคะ เป็นกำลังใจให้หนูด้วงนะลูก  :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 12-11-2017 20:19:15
ดาวเรือง นี่ เหมือนเห็บ =_=
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 13-11-2017 22:03:27
หนูด้วงอย่าเป็นอะไรนะพระคุ้มครองนะลูกให้นางมารร้ายโดนกรรมทำร้ายตัวเองไปเลย~เรื่องสนุกมากค่ะอ่านแล้วถึงกับไปทำข้าวอบเผือกตาม^^
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 14-11-2017 07:39:49
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 14-11-2017 07:41:57
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 14-11-2017 08:39:49
ดีใจกับทุกคนในที่สุดก็มีความสุขกันซะที โดยเฉพาะหนูด้วง love love นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 14-11-2017 08:47:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-11-2017 08:53:32
เห็นคำว่าใกล้จะจบ ก็อยากบอกเหลือเกินว่าไม่อยากให้จบเลย อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 14-11-2017 09:50:36
อยากกินแกงระแวง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 14-11-2017 09:51:40
 :katai2-1: o13 :katai2-1:

 :L2: :3123: :pig4: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 14-11-2017 10:17:02
อ่านเรื่องนี้ตอนท้องว่าง ไม่ดีเลยจริง ๆ หิววว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 14-11-2017 10:33:14
 o13 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 14-11-2017 11:42:16
ชอบเรื่องนี้มากครับ ติดตามมาตั้งแต่ต้น ถ้าดูรวมๆ เหมือนจะเป็นเรื่องเบาสมองมีองค์ประกอบน่ารักๆ อย่างการทำอาหาร เงื่อนไขพินัยกรรม ตัวละครแปลกๆ เท่ๆ และเด็กน้อยน่ารัก แต่ยิ่งดำเนินเรื่องไปก็ยิ่งมีความดาร์คที่ซ่อนอยู่ ชะตากรรมของพยงค์และเหรียญเงิน ความโหดร้ายของดาวเรือง ความเห็นแก่ตัวของผู้ใหญ่ แต่สุดท้ายก็ค่อยๆ คลายลงด้วยความมองโลกในแง่ดีและการให้อภัย สรุปแล้วเป็นเรื่องที่มีหลายเลเยอร์ทับซ้อนกันอยู่ ขอชมจากใจครับ
มีติดใจนิดเดียวตรงปมใหญ่ๆ ในจิตใจที่ทำตัวละครหลายคนทำเรื่องเลวร้ายออกไป อยู่ๆ ก็ปล่อยวางได้รวบรัดไปหน่อยในตอนจบ จริงๆ ก็ชอบความคิดบวกแบบนี้ แต่ใจนึงก็รู้สึกว่ามันสวยงามเกินความเป็นจริงไปบ้าง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 14-11-2017 12:02:39
ชื่นชมที่คนเขียนปูทางให้ตัวอิจฉามีที่มาที่ไป แสดงให้เห็นว่าทุกการกระทำมีเหตุผลรองรับ นี่แหละคุณค่าของนิยายดีๆที่เล้าคู่ควร
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 14-11-2017 12:04:04
น้ำตาซึมกันเลยทีเดียวเชียว จะจบแล้ว รักหนูด้วงมากกกก :ling1พ:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: npsp2555 ที่ 14-11-2017 12:10:21
ชอบเรื่องนี้มาก. สนุกมากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 14-11-2017 12:46:49
ดีใจทีได้อ่านเรื่องนี้ ชอบที่มีเมนูแปลกๆมาให้ได้รู้จัก ขอบคุณค่ะ :pig4: จะจบแล้วแอบเศร้านิดๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-11-2017 13:01:09
ชื่นชมจากใจ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 14-11-2017 18:10:10
เพิ่งรู้จักแกงระแวงนะเนี่ยยยย อยากทานจัง
ในที่สุดทุกเรื่องก็คลี่คลาย ลุ้นสุดๆเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 14-11-2017 19:07:22
คลี่คลายไปทางที่ดีทุกอย่างเลย ว่าแต่คู่พญากับคุณน้องมีโอกาสบ้างไหม

 :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 14-11-2017 20:57:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 14-11-2017 21:50:22
หนูด้วงน่ารักกกขนาดเท่งอยู่ด้วยแป๊ปเดียวยังเอ็นดูเลยค่ะ อยากให้มีตอนน้องเป็นสเปเชียลเยอะๆเลย ดีใจที่ทุกคนได้มีความสุขสักที อ่านอย่างระแวงมาตลอด  :hao7:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: y_dao ที่ 14-11-2017 22:18:57
ขอบคุณนักเขียนเช่นกันค่ะ ชอบและประทับใจเรื่องนี้มากไม่ค่อยได้อ่านแนวทำอาหารอย่างนานแล้ว อธิบายดีจนเราอยากกินเลย ❤❤❤
ปล.อยากอ่านคู่ลุงพญาด้วย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-11-2017 00:54:53
ใกล้จบแล้วสินะ
ใจหาย อยากอ่านหนูด้วงไปเรื่อยๆ
เด็กอะไร น่ารักน่าเอ็นดู
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 15-11-2017 01:03:34
หนูด้วงปลอดภัยก็ดีใจแล้ว
ลุ้นแทบแย่ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆมากนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 15-11-2017 09:07:51
จริงๆ แล้วดาวเรืองก็ถือเป็นคนใช้ได้และก็รักหนูด้วงเหมือนกัน แต่เพราะแม่และนายหัวพยนต์ไม่บอกความจริง ทำให้ดาวเรืองเกิดความอิจฉาในตัวพยงค์ที่ได้ความรักจากนายหัวมากมาย

หนูด้วงน่ารักมาก ขนาดดาวเรืองทำร้ายตัวเอง แต่ก็ยังเป็นห่วง  รวมถึงเท่งเองก็ดูจะเอ็นดูหนูด้วงเหมือนกัน 

สรุปสุดท้ายก็จบลงด้วยดี เป็นเพราะทุกคนไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม ไม่กล้าเปิดเผยความจริง และมีทิฐิ ทำให้เกิดเรื่องราวมากมาย 

รอขบวนขันหมากมีคุณมาขอนับตังค์  แบบนี้มีคุณจะเรียกพี่ช้วนไม่ได้แล้วซิ ต้องเรียกเป็นแด๊ดแทนแล้วมั้ง 555 เพราะยังมีพ่อเสถียรอีกคน

ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ ไม่อยากให้จบเลย อยากอ่านต่อไป 

ปล.ถ้าแต่งเรื่องคู่ของพญากับคุณชายน้องเมื่อไร อยากให้มีนับตังค์ มีคุณและหนูด้วงมาร่วมแจมด้วยนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-11-2017 03:54:33
ทุกอย่างเคลียร์แล้ว คลี่คลายไปในทางที่ดี ต้องยกนิ้วให้คุณปู่อนันต์นะ
และเป็นบุญของหลวงพี่เหรียญเงินที่ได้เจอหลวงตา ไม่ได้สร้างบาป และยังสร้างบุญต่อได้ด้วย

ลงตัวไปทุกอย่างเลยค่ะ คุณปู่อนันต์ วางแผนรอไว้หมด แล้วเป็นแบบนี้คาดไว้ด้วย

มีคุณนับตังค์ได้คั่วกลิ้งกันอีกแล้ว มีคุณทำเป็นเล่นตัวนะคะ อยากให้น้องเริ่มล่ะสิ ทำเนียน
นับตังค์ถึงจะเขินอาย แต่ก็บ่หยั่นจ้า น่ารักทีเดียวเชียว

เรื่องที่เกิดขึ้นไวมาก แล้วนับตังค์เซนส์ดีมาก จนตามไปช่วยหนูด้วงได้ และมีคุณตามไปช่วยทั้งคู่ได้

เหมือนหลวงพี่บอก ปล่อยวาง ไม่ถือโทษโกรธเคืองกัน แล้วให้โอกาสกัน ทุกอย่างจะดีขึ้น
แล้วนายหัวพยนต์ก็ทำได้ ทำให้ดาวเรืองยอมหยุดได้ และยอมถูกจับ
จริงๆ ดาวเรืองเป็นคนดีนะ แต่ด้วยการจำฝังใจที่แม่สร้าง เลยผูกใจเจ็บ จนมองไม่เห็นความดีใคร

หนูด้วงน่ารักมากลูก ก็ตามคนไปง่ายเหลือเกิน แล้วดีที่เท่งไม่ร้าย แถมยังเป็นห่วงเค้าอีก เลยเกิดเรื่องดีๆ
จบสวยงามตรงที่กลับมาแล้วหลับ มัมกับแดดเลยได้สวีทและคั่วกลิ้ง ไม่มีใครมาขัด 55555

ชอบมากค่ะ เป็นอะไรที่มีลำดับ เห็นผลของคนทำไม่ดี และคนปล่อยวาง จะได้พบสิ่งที่ดี
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: annch ที่ 16-11-2017 21:05:46
สนุก แต่เห็นแล้วหิวง่ะ

รอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 17-11-2017 11:27:47
เป็นนิยายที่อ่านตามแล้วสนุกมาก อ่านจนติดเลย
ขนาดตอนนี้อยู่ต่างจังหวัดสัญญาณเน็ตไม่ดีก็ยังอยากที่จะอ่านต่อ
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆ+ได้ความรู้เกี่ยวกับอาหารไทยเพิ่มนะคะ
เป็นกำลังใจให้ในการแต่งนิยายเรื่องต่อไปค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: plearnly ที่ 17-11-2017 12:29:49
สนุกมากๆ  อ่านไปหิวไปตลอดทุกตอนเลย  :-[
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 34 แกงระแวง 14/11/60 P.21-22
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 17-11-2017 19:32:20
รักหนูด้วงจังที่จริงน่าสงสารดาวเรืองนะมีปมมากที่สุดเลยสุดท้ายเธอก็ยังเอ็นดูหนูด้วง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 18-11-2017 16:42:00
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 18-11-2017 16:43:50
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 18-11-2017 17:13:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 18-11-2017 17:36:08
อ่านแล้วชุ่มชื่นหัวใจจริงๆ รู้สึกถึงความสุขที่ลอยวนอยู่รอบๆตัว ว่าแต่เกาะนี้อยู่ที่ไหนคะ อยากจะไปเที่ยวจัง
ใจหายเหมือนกันนะคะ ใกล้จะจบแล้ว คงคิดถึงทุกๆคนในเรื่องนี้มากแน่ๆเลย ทุกตัวละครช่างน่ารัก น่าสัมผัส อ่านวนจนรู้สึกว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งในร้านมีคุณอนันต์ไปแล้ว รอรวมเล่มนิยายเรื่องนี้อย่างใจจรดใจจ่อนะคะ

ปล.เรื่องลุงพญากับคุณชายน้อง เอาเป็นเรื่องสั้นขนาดยาวก็แล้วกันค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-11-2017 18:18:36
แล้วพบกันใหม่  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-11-2017 19:10:41
ชักสงสารคุณชายน้อง พญาคิดน้อยไปจริง ๆ แถมปากไวพูดไม่คิดอีกต่างหาก คนที่เราเห็นเขาเอาแต่ยิ้มหัวเราะใช่ว่าจะไม่มีความทุกข์เสียหน่อย ขอบทเรียนให้พญาเยอะ ๆ เลยค่ะ ฮึ่ม
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 18-11-2017 19:27:03
ชอบความหมายของขนมไทยมากเลยมีความหมายลึกซึ้งที่ทำให้ครอบครัวรักกัน ดูแลกัน สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 18-11-2017 19:52:08
มีฟวามสุขที่สุดเล้ยยยยย จะจบแล้ว ไม่อยากให้จบเลย ขอให้มีตอนพิเศษที่มีหนูด้วงเป็นเมนหลักด้วยเถ้อะ ชอบหนูด้วง เด็กอะไรน่ายักที่สุด
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 18-11-2017 19:52:45
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 18-11-2017 20:31:59
 :pig4:

เรื่องของพญากับน้อง แล้วแต่เลยจ๊ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 18-11-2017 21:34:44
ครอบครัวสุขสันต์ ครอบครัวใหญ่ด้วย :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 18-11-2017 21:59:51
เรื่องลุงก็ต้องยาวหน่อย แฟนเด็กจีบยากนะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 18-11-2017 22:03:40
อยากไปเที่ยวเกาะฟ้าครามนนี่จัง ไปเรียนทำอาหารไทยประยุกต์ ชิมขนมไทยโบราณ แล้วไปทานอาหารอร่อยที่ร้านมีคุณอนันต์ :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-11-2017 22:29:31
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 19-11-2017 00:06:54
ชอบขนมลาอ่านจบแล้วอยากกินเลยจะไปหาได้ที่ไหน5555 รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 19-11-2017 01:14:46
โหวตว่าควรเขียนเรื่องยุงพญากับคุณชายน้องเป็นเรื่องยาวค่าาาา จะรออ่านอย่างใจจดใจจ่อเลยย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 19-11-2017 01:29:34
 o13


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 19-11-2017 09:32:14
สำหรับดาวเรือง คงต้องสุดแต่เวรกรรม ตราบใดที่ยังมีอคติในใจ  อโหสิกรรมไปก็ไม่มีประโยชน์  พอได้รู้ถึงความคิดของดาวเรืองแล้ว  ทำให้เห็นด้วยกับนายหัวพยนต์ว่าสมควรแล้วที่ให้ดาวเรืองและเท่งอยู่ในคุกตลอดชีวิต เพราะถ้าหากออกมาคงต้องเกิดเรื่องร้ายมากกว่าเดิมแน่

เป็นการลาที่มีความสุขมาก   ครอบครัวของทั้งนับตังค์และมีคุณได้อยู่กับพร้อมหน้า โดยมีคุณย่าละม่อมเป็นเสาหลักแทนคุณปู่อนันต์

เรื่องของพญากับคุณชายน้อง ตอนพิเศษก็ได้ เรื่องยาวก็ดี ตามใจคนเขียนเลยค่ะ  แต่ขอให้มีหนูด้วง นับตังค์ และมีคุณมาร่วมแจมด้วยก็พอ


รอฉากแต่งงานของคู่นับตังค์-มีคุณ และพายพัด-ใบเมี่ยง  :L2: :L2: :pig4: ขอบคุณคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-11-2017 09:51:11
ลุงกับคุณน้องขอเป็นเรื่องใหม่เลยแล้วก็มีมีคุณกับนับตังค์รวมทั้งหนูด้วงมาเป็นแขกรับเชิญบ้างบางตอนได้ไหมอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 19-11-2017 11:23:40
ครอบครัวใหญ่อบอุ่นจัง อยากไปเรียนทำอาหารกะนับตังค์จัง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 19-11-2017 12:57:17
หนูด้วงน่ารักกก
รอร้านเปิดใหม่ค่า
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 19-11-2017 13:52:06
ชอบเรื่องนี้จังค่ะข้อมูลเรื่องขนมมาเต็มมากชอบการดำเนินเรื่องและการให้ความสำคัญเรื่องครอบครัวดีใจแทนหนูด้วงที่แด๊ดกับมัมตั้งใจจะดูแลหนูด้วงอย่างเต็มที่ส่วนคุณช่ยกับพี่พญาไม่ว่าสั้นพิเศษหรือยาวเราก็จะรอค่ะขอยคุณนักเขียนนะคะที่สร้างความสุขให้
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 19-11-2017 17:15:54
ก่อนเมนท์ ขอตอบก่อนค่ะ ขอตั้งสองแบบค่ะ โลภมาก 5555
ขอตอนพิเศษให้ฟินล่วงหน้าสักตอนสองตอน และจัดเต็มกับเรื่องยาว ยาวไปๆๆ จ้า
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ 5555

น่ารักมากเลยค่ะ ทุกอย่างลงตัว ครอบครัวอบอุ่น ทุกคนเข้าใจกันแล้ว

เข้าใจนายหัวพยนต์นะ มองออก จากแค่ไม่กี่คำพูด ถึงจะอภัยให้ได้ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด
เข้าใจที่ไม่อยากให้ดาวเรืองออกมา ขนาดพระมาเทศน์แล้ว ดาวเรืองยังไม่หลุดพ้นเลย

หนูด้วงน่าฟัดจริงเลยลูก มัมกับแดด กำลังหาเวลาเพื่อดูแลหนูนะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-11-2017 20:54:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 20-11-2017 13:15:29
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ppcms. ที่ 20-11-2017 15:26:22
 :hao5: ชอบเรื่องี้มาเลยติดตามตลอดแต่ไม่เคยมาเม้น 5555 แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ เขียนดีบรรยายดี อ่านแล้วสนุก อินกับเรื่องมากโดยเฉพาะเรื่องอาหาร และหลายๆตอนก็ทำให้น้ำตาซึม ขอให้แต่งนิยายดีๆแบบนี้มาให้คนอ่านอย่างเราๆได้อ่านกันอีกนะคะ  :mew1:

ปล. ขอโหวตให้เรื่องพญากับคุณชายน้องเป็นเรื่องยาวนะคะ รอค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 20-11-2017 20:04:35
ชอบเรื่องนี้มาก ครั้งแรกเข้ามาไรท์ลงได้ประมาณ3-4ตอนแล้วมั้ง สะดุดชื่อเรื่องเข้ามาหลังจากนั้นติดเลยจ้า  ชอบการบรรยาย การเรียบเรียงเหตุการณ์ ทุกอย่างมันดูลงตัว ปมถึงจะดูมีเยอะนะ แต่แก้จบภายในไม่กี่ตอน นับถือ ใจจริงไม่อยากให้จบเลย  แต่ก็นะมีพบมีจาก 555 ตั้งแต่เม้นมา เม้นนี้ยาวสุด เรื่องของญาติ ขอแยกเรื่องได้ไหมมม อยากอ่านแบบจุใจ ชอบอ่ะ อยากได้แนวคนเถื่อนกลัวเมีย555 จะตีพิมพ์ไหมอ่า รอเปย์ ขอตอนพิเศษเยอะๆ พายพัดใบเมี่ยงด้วยย  คู่ของคีตะคือใคร?? น้องคีตะของเรา(?)ต้องมีคู่น้า หนูด้วงตอนโตด้วยย
ปล.ถ้าตีพิมพ์ขอตอนพิเศษเยอะๆนะฮะ อิอิ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 21-11-2017 21:50:40
ดาวเรืองนี้ฉุดขึ้นมาจากโคลนไม่ได้แล้วค่ะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: coolmaoil ที่ 22-11-2017 09:48:48
ชอบมาก อ่านไปหิวไป รักหนูด้วง อยากฟัดมาก
เรื่องของพญากับเทียมฟ้าอยากอ่านยาวๆเลย จะได้เจอหนูด้วงอีกนานๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 26-11-2017 01:48:45
คิดถึงหนูด้วง :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-11-2017 03:35:47
 :katai5: มารอ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 28-11-2017 21:38:12
เข้ามารอ :mew6:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 01-12-2017 00:16:08
เข้ามาอีกรอบ :mew5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 03-12-2017 01:10:57
รอค่าาา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 35 ขนมลา 18/11/60 P.22
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 03-12-2017 11:46:45
สนุกมากค่ะ อ่านเพลิน มีความรู้เรื่อง อาหารไทย มีเป็นกลอนด้วย ชอบมากๆ ขอบคณที่เขียนเรื่องที่อ่านแล้วมีความสุขให้ได้อ่านนะคะ รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 03-12-2017 12:27:45
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 03-12-2017 12:31:10
ขออนุญาตปิดเนื้อเรื่องบางส่วนเนื่องจากติดสัญญาลิขสิทธิ์
[/color]
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 03-12-2017 12:43:36
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-12-2017 12:46:26
สนุกจนไม่อยากให้จบเลย o13 o13 o13

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 03-12-2017 13:22:10
สนุกมากเลยค่ะ ชอบที่มีคุณเซอร์ไพรส์นับตังค์มากเลย ฟินสุดๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-12-2017 13:26:42
 :katai2-1: o13 o13 o13 :katai2-1:

 :กอด1: :L2: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 03-12-2017 13:49:55
เราชอบเรื่องนี้มากเลย
อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้เรามีแรงบันดาลใจหลายๆอย่าง
ทั้งอยากทำอาหาร อยากออกไปลองทานอาหารไทยแปลกๆ
สำคัญสุดคือ การที่ทำให้เราได้รู้จักอาหารไทยมากขึ้น
เหมือนให้เราได้ศึกษาวัฒนธรรมไทยไปด้วยอ่ะ
ชอบมากๆ ชอบจริงๆ และขอให้หายป่วยไวๆนะคะ
สุขภาพแข็งแรง มีแรงบันดาลใจแต่งนิยายต่อไปเรื่อยๆ
Fighting นะคะผู้แต่ง o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 03-12-2017 13:54:02
สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ไม่อยากให้จบเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 03-12-2017 13:55:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 03-12-2017 14:10:33
น่ารักมากกกกก ไม่อยากให้จบเลย รออุดหนุนนะจ้ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 03-12-2017 15:02:31
สนุกจ้า ยังไม่อยากให้จบเลย อ่านเรื่องนี้ได้เห็นเมนูที่ไม่เคยเห็น ขอบคุณนะคะ รอรวมเล่ม ขอนิดนึงในเล่มขอให้มีรูปเมนูที่เขียนได้ไหมคะ ขอบคุณคะ :pig4: o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-12-2017 15:44:12
มีความสุขมากๆเสมอยามได้อ่านเรื่องนี้  :กอด1: :กอด1: :กอด1:  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-12-2017 16:07:42
ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ และความรู้เกี่ยวกับอาหารค่ะ แฮ่
ว่าแต่ลุงพญากับคุณน้องนี่จะมีเรื่องแยกไหมคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 03-12-2017 16:10:56
อยากได้ของชำร่วยด้วยสักเล่มอ่ะ อบอุ่น ละมุนมาก อ่านกี่รอบๆ น่ารักค่ะ  :กอด1:
 :L1:  :pig4:  :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 03-12-2017 18:46:48
เป็นตอนจบที่น่ารักมาก ได้รู้เกี่ยวกับประเพณีการแต่งงานเพิ่มเติม  อยากได้ของชำร่วยด้วยคน

สำหรับเราชอบทุกเมนูที่นับตังค์ทำ 

ตอนสุดท้าย อ่านจบแล้วเริ่มสงสารแด๊ดมีคุณว่าจะทำยังไง ถ้ารู้ว่าหนูด้วงบอกจะไม่ยอมนอนที่อื่นอีกเพราะสงสารมัมนับตังค์

ขอบคุณคนเขียนที่แต่งนิยายเรื่องนี้ให้ได้อ่าน   

รอตอนพิเศษ และนิยายเรื่องใหม่ต่อไปค่ะ

หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 03-12-2017 19:04:29
อยากบอกนักเขียนว่าคุณรังสรรผลงานได้ดีมากๆๆๆๆค่ะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่นิยายวายธรรมดาๆแต่สอดแทรกความรู้ไว้มากๆชอบอาหารชอบแนวคิดเรื่องครอบครัวชอบความไม่เรื่องมากไม่ช่างนอยด์ของนับตังค์รักความเป็นผู้ใหญ่หลายท่านในเรื่องที่เห็นแก่ความสุขขอของลูกหลานขอเป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนนะคะถ้ามีการรวมเล่มดิฉันจะไม่ลังเลในการซื้อเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 03-12-2017 19:15:35
สนุกมาก อยากเป็นแขกไปงานแต่งด้วย เผื่อได้ตำรับรัก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 03-12-2017 19:19:41
ขอบคุณคัฟ :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 03-12-2017 19:23:33
ขอบคุณคนเขียนนะคะสำหรับ

นิยายดีๆ สนุกมากคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 03-12-2017 20:09:23
นิยายสนุกมาก ขอให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นเร็ววันและผลิตนิยายดีๆมาอีกนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 03-12-2017 20:13:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: diltosscap ที่ 03-12-2017 20:39:34
หลงความน่ารักของหนูด้วง รักความอบอุ่นของครอบครัวดีมากเลย อ่านแล้วความสุขล้นใจเหลือเกิน ขอบคุณมากนะคะ จะติดตามผลงานเรื่องอื่นๆนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 03-12-2017 21:27:16
ดีงามค่ะ นอกจากเนื้อเรื่องจะกลมกล่อมดีงามแล้ว ขอปรบมือดังๆ ให้กับความตั้งใจของนักเขียนในการทำรีเสิร์ชข้อมูล เรื่องนี้ทำได้ดีมากๆ ถ้ามองข้ามความเป็นนิยายวายไป เรื่องนี้เป็นนิยายรักชั้นดี เทียบนิยายของนักเขียนมีชื่อได้อย่างไม่อายเลยนะคะ ขอบคุณนักเขียนที่แต่งเรื่องดีๆ แบบนี้มาให้ติดตามอ่านกัน คืออยากบอกว่านิยายน้ำดีแบบนี้ ช่วยยกระดับวงการนิยายวายที่ไม่ได้เป็นแค่นิยายรักพล็อตเว่อๆ ซ้ำๆที่เอาไว้อ่านเล่นฆ่าเวลาเฉยๆ ชื่นชมนะคะ ขอให้ตั้งใจผลิตผลงานดีๆ อย่างนี้ออกมาเรื่อยๆ ค่ะ จะติดตามและให้กำลังใจค่าาาา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 03-12-2017 21:50:37
ชอบนิยายเรื่องนี้มาก นักเขียนแต่งได้ดีจริงๆ บทบรรยายเยอะๆที่จริงจะดูเหมือนน่าเบื่อนะเพราะส่วนมากมักจะใช้คำวนไปวนมา แต่นี่เรียบเรียงบทสวยมาก ชอบบบบบบ จะรอเล่มนะ ขอหนูด้วงตอนโตด้วยพลีสส แหะๆ นักเขียนสู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 03-12-2017 21:56:58
 :pig4: ยอมรับว่าอ่านไปหิวไปจริงๆจบแล้วต้องคิดถึงหนูด้วงมากแน่ๆ ^^
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 03-12-2017 22:34:33
ขอตอนพิเศษด้วยนะคะ please!!!! คิดถึงหนูด้วง :hao5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 03-12-2017 23:56:14
ปิดท้ายกับหนูด้วงได้น่ารักมากค่ะ สงสารมีคุณที่สุดในโลกกก  :hao7:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-12-2017 01:12:19
เอ็นดูหนูด้วงจริงๆ เลย น่ารัก
รออ่านพญากะคุณชายน้องต่อ อิอิ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 04-12-2017 09:21:49
 :pig4: :pig4:

ขอบคุณมาก ๆ ค่าาา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ ย้ายได้ค่ะ) 03/12/60 P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 04-12-2017 22:47:30
เราอ่านรวดเดียวจนถึงตอนจบ ใช้เวลา 3 วันกับการจดจ่ออ่านเรื่องนี้ สรุปสั้นๆนะคะว่า เป็นนิยายที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจ และน่าประทับใจมากๆ ขอให้คนเขียน เขียนเรื่องต่อๆไปออกมาอีกนะคะ จะติดตามอ่านแน่นอนค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 06-12-2017 06:24:03
แต่งได้ดีมากจริงๆ ขอบคุณที่แต่งนิยายดีเีให้อ่านนะคะ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 06-12-2017 14:10:28
รักกกกกกหนูด้วงงงงงงง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 08-12-2017 09:01:13
อ่านจบแล้วรู้สึกอบอุ่นมากเลย ไม่มีรู้จะอธิบายออกมายังไง แต่ขอบคุณคนเขียนมากๆที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้ออกมา รู้สึกได้ถึงความรักของครอบครัวที่มีให้กัน อบอุ่นเหมือนนั่งอ่านอยู่หน้าเตาผิงเลย แถมได้รู้จักอาหารและขนมไทยแบบละเอียดยิบอีก ถึงบางครั้งอ่านแล้วจะหิวตามบ้างก็เถอะค่ะ55555 เก็บนิยายเรื่องนี้เข้ารายการนิยายโปรดอีกเรื่อง

ขอบคุณคนเขียนอีกครั้งสำหรับนิยายดีๆนะคะ ♡
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 08-12-2017 13:29:27
สนุกมากเลยค่ะ รู้สึกเหมือนทุกตัวละครและทุกอย่างในเรื่อง ทั้งเกาะทั้งร้าน มีอยู่จริงบนโลก
ช่วงนำเสนออาหารคือพีค น่าทานสุดๆ ถึงจะบรรยายเยอะ แต่ภาษาดี กลวิธีการเล่าดี ชวนอ่านมากๆ
แม้หลักๆจะฟีลกู๊ด โรแมนติกคอมเมดี้ แต่ซิกเนเจอร์ของคนเขียนยังมาเต็ม
คือพล็อตแน่น ปมเพียบ ดราม่า แอ็คชั่น ซัซเพ็นส์ ธริลเลอร์ ...ฮอร์เรอร์เบาๆด้วย ครบรสอ่ะ!
ยกให้เป็นนักเขียนแสนปมตัวจริง ติดตามอ่านทุกเรื่อง ชอบงานของคุณ Loverouter มากค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 08-12-2017 17:52:41
ขอบคุณสำหรับนิยายรสละมุน ปรุงอย่างดีเรื่องนี้นะฮะ
อ่านแล้วอิ่มใจจริงๆ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 09-12-2017 15:30:30
น่ารักมาก อบอุ่นที่สุด

มีคุณนับตังค์ ได้ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสมบูรณ์สมกับที่รอคอย
ชอบนับตังค์นะ ถึงจะเขินแต่ก็ยอมได้เพื่อคนรัก มีคุณก็เจ้าเล่ห์ แต่ก็ยอมตามใจ

5555 คืนเข้าหอเกือบไปแล้วไหมล่ะ เกือบอดคั่วกลิ้งแล้ว
แต่หลังจากนั้น ไม่รู้จะรอดไหมนะ เพราะหนูด้วงกลัวมัมๆ เหงา

ทุกคนเข้าใจกัน มีคำว่าครอบครัวที่แท้จริง

ลุงพญาก็มีคนรอปลอบใจนะ อย่าเศร้านาน คนรออยากจะรุกแย่แล้ว

หนูด้วง ลูกกกก หนูไม่ต้องห่วงมัมๆ มากก็ได้นะ ควรห่วงแด้ด 555

เป็นเรื่องราวที่ดีค่ะ น่าอ่าน น่าสนใจ น่าติดตาม และลุ้นกันมาหลายตอน
มีอะไรให้เรียนรู้เยอะมากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งต่อไปนะคะ

ไม่อยากให้จบเลยอะ ต้องคิดถึงมากแน่เลย ... ขอตอนพิเศษสักสามตอนนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 12-12-2017 02:54:24
ชอบมากค่ะ ชอบจริง ๆ

ป.ล. สำนวนดี ภาษาสวย
แต่มีคำผิดบ้างนะคะ

อย่างล่าสุด ... หัวปักหัวปำ นะคะ ไม่ใช่ หัวปรักหัวปรำ

หัวปักหัวปำ
ว. อาการที่หัวถลำไปข้างหน้าเพราะเมาเหล้าเมารถเป็นต้น เช่น คนเมาเดินหัวปักหัวปำ, โดยปริยายหมายความว่า โงหัวไม่ขึ้น เช่น ถูกใช้ทำงานจนหัวปักหัวปำ หลงผู้หญิงจนหัวปักหัวปำ.

จริง ๆ อ่านมาก็มีคำผิดอยู่พอสมควร ไม่ใช่สะกดผิดนะคะ
เป็นคำที่ผิด
ถ้ามีโอกาสอ่านทวน จะหยิบมาบอกนะคะ
จะได้แก้ไขก่อนรวมเล่ม

ท้วงติงมาเพราะรักนะคะ รักงานเขียนแบบนี้จริง ๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 12-12-2017 04:02:20
ชอบมากค่ะ ชอบจริง ๆ

ป.ล. สำนวนดี ภาษาสวย
แต่มีคำผิดบ้างนะคะ

อย่างล่าสุด ... หัวปักหัวปำ นะคะ ไม่ใช่ หัวปรักหัวปรำ

หัวปักหัวปำ
ว. อาการที่หัวถลำไปข้างหน้าเพราะเมาเหล้าเมารถเป็นต้น เช่น คนเมาเดินหัวปักหัวปำ, โดยปริยายหมายความว่า โงหัวไม่ขึ้น เช่น ถูกใช้ทำงานจนหัวปักหัวปำ หลงผู้หญิงจนหัวปักหัวปำ.

จริง ๆ อ่านมาก็มีคำผิดอยู่พอสมควร ไม่ใช่สะกดผิดนะคะ
เป็นคำที่ผิด
ถ้ามีโอกาสอ่านทวน จะหยิบมาบอกนะคะ
จะได้แก้ไขก่อนรวมเล่ม

ท้วงติงมาเพราะรักนะคะ รักงานเขียนแบบนี้จริง ๆ


ขอบคุณมากเลยค่ะ ท้วงติงได้เลยค่ะผู้แต่งชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ 13-12-2017 07:05:52
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ เรายกให้เรื่องนี้เป็นนิยายที่น่ากินและอร่อยที่สุดแห่งปีนี้ไปเลย ครบทุกรสชาตเลย กลมกล่อมจริงๆค่ะ ขอบคุณที่เขียนนิยายสนุกๆมาให้อ่านกันนะคะ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 14-12-2017 19:56:59
สนุกมากค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 16-12-2017 09:51:52
น่ารักมากกกกกก อ่านแล้วหิวทุกตอนเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 16-12-2017 13:24:32
สนุกสนานและน่ารักและน่ากินมากๆค่ะ
ผูกเรื่องซับซ้อนซ่อนปมทำให้อยากรู้อยากติดตาม
ตัวละครก็น่ารัก เมนูอาหารก็แปลกใหม่ชวนลิ้มลองจริงๆ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้ค่ะ :pig4:
บวกๆจ้า ^^ :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 17-12-2017 01:07:47
สนุกมาก น่ารักทั้งเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mkooo ที่ 18-12-2017 00:42:27
อ่านรวดเดี๋ยวจบ ประทับใจมาก
ชอบมากค่า คือดีงามไปหมดทุกอย่างฮือ ชอบมาก อยากพาคนเขียนไปเลี้ยงข้าว ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 19-12-2017 00:48:51
มาอ่านเรื่องนี้ช้าไปเสียดายมากๆค่ะ อยากจะบอกว่า เป็นนิยายที่กลมกล่อมมากๆ เหมือนปรุงอาหารจริงๆ 555  ชอบกิมมิก อาหารในแต่ละตอนมากค่ะ  ♥ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 20-12-2017 01:33:22
ขำมากเลยนิยายเรื่องนี้ ฮืออ :pigha2:

เราชอบมุกตลกในเรื่องมาก จังหวะการดำเนินเรื่องดีมากเลย วางมุกไว้ตลอดด้วย ชอบจัง แล้วตัวละครก็มีเหตุผลมาก ไม่ค่อยงี่เง่ากันเท่าไร มีอะไรก็พูดคุยกัน แก้ไขปัญหาไปด้วยกัน ชอบมากค่ะ

ขอบคุณนักเขียนด้วยนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 20-12-2017 22:28:00
สนุกมากค่ะ เป็นนิยายที่ให้ความรู้เรื่องอาหารละเอียดมาก อ่านแล้วเห็นภาพนับตังค์กำลังทำอาหารอยู่เลย รักลงตัวทุกคน ชีวิตดี้ดีลลล อยากให้ลุงพญาได้กะหม่อมน้องเร็วๆ 55555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 21-12-2017 08:13:31
น่ารัก อบอุ่นมากเลย
ชอบหนูด้วงน่ารัก
อยากอ่านพญากับชายน้อง
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 21-12-2017 20:58:15
เป็นนิยายที่ทำให้หิวววววววว จริงๆค่ะ :กอด1:
น้ำลายไหลได้ทุกตอน :เฮ้อ:
ขอบคุณมากๆค่ะ สนุกสุดๆ  o13
ขอให้คนเขียนสุขภาพดีขึ้นเร็วๆนะคะ :L2:
ขอบคุณอีกครั้งจากหัวใจ ที่มอบความสุขให้เรา :3123:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PrInceZz ที่ 22-12-2017 22:21:55
เพิ่งได้อ่านจบ
นิยายสนุกมากค่ะ ไม่ยัดเยียดดราม่า
ผูกความสัมพันธ์ตัวละครได้ดี อาหารเมนูต่างๆ ก็น่าอร่อยมากค่ะ ทำให้อยากไปหากินเลย
ขอบคุณกับนิยายดีๆค่ะ
 o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: oiw08 ที่ 23-12-2017 21:55:19
ชอบเรื่องนี้มากๆ ผูกเรื่อง ผูกปมได้ดีมาก
หนูด้วงน่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: psyche ที่ 25-12-2017 00:20:04
อ่านไป หิวไป  ชอบนายเอกแบบนับตังค์​ นางไม่ง้องแง้ง ตอนแรกแบบคิดนะ ว่าถ้าพระเอกบอกความจริง มันต้องดราม่ามากแน่ๆ  แต่ผิดคาด นางโอเค นางคิดเป็น  ตัวละครอื่นๆ ก็น่ารัก พล็อตเรื่องเดาไม่ยาก ปมค่อนข้างเดาง่าย แต่ๆๆ นิยายอาหาร ก็เน้นอาหาร ครอบครัว ถูกแล้วค่ะ โดยรวมชอบ  รอผลงานเรื่องต่อๆไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: palm-metto ที่ 25-12-2017 23:08:34
โอ้ยย
สนุกจนแบบอยากให้มีต่อไปเรื่อยๆ
อยากตามอ่านเรื่องราวความรักของทั้งคู่ และทุกคู่ในเรื่องนี้เลย
ทุกเรื่องราวที่แต่งขึ้นมา เหมือนทุกตัวละครมีชีวิตจริง ปัญหาที่เกิดขึ้น และที่ทุกตัวในเรื่องนี้ต้องเจอ ดูไม่เว่อวัง และสมเหตุสมผล ชอบความที่ทุกเรืองผูกปมพอดีกัน แก้ไขได้รวดเร็ว ไม่ยืดเยื้อ ชอบการดำเนินเรื่อง การเข้าถึงตัวละครทุกคน ชอบบรรยากาศ การบรรยายวิธีการทำอาหาร ทุกอย่างดูสมูท เข้ากันดีหมด
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้ให้อ่าน แล้วจะติดตามผลงานในเรื่องอื่นๆอีก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 26-12-2017 20:04:34
สนุกมากเลย o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 02-01-2018 15:38:04
น่ารักมากเลยค่ะเรื่องนี้ ที่จริงจะกดปิดไปเพราะคีตาแล้ว แต่นิสัยของตังไม่เหมือนนายเอกหัวอ่อนเหมือนเรื่องอื่น เลยยังทำใจอ่านต่อ สรุปคือดีมากค่ะ เป็นนิยายที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นมาก ขอบคุณนะคะผู้เขียน  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 04-01-2018 05:43:54
อ่านแล้วหิวมากกกกก อ่านตอนตีห้าจะหาขนมจีนกินได้จากที่ไหน งือออออ อาหารแต่ละอย่างคนเขียนบรรยายเก่งมาก หิวไปหมดเลย  :ling1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 04-01-2018 15:15:46
ไม่เห็นรูปอาหารสักอันเลย เสียใจ งี้แหละมาอ่านช้าไป ต้องเอาไปค้นในคุณกู๋เอง ฮืออออออ หิว
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 04-01-2018 19:20:28
หืมมมมมม นังคิว  :katai4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 05-01-2018 23:30:37
น่ารักมากๆ อ่านดึกๆแล้วหิวเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 07-01-2018 17:48:07
รักนิยายเรื่องนี้มากกกเลยให้ความรู้ด้านอาหาร บางอย่างเราก็เรียกกันผิดตลอด รักมีคุณ รักน้องตัง รักเจ้าด้วง อยากอ่านตอนพิเศษ มีตอนใบเมี่ยงกับพายพัดก็ดีนะ น่ารักกก ตัวละครน่ารักทุกตัวเลย ตอนแรกคิดว่าลุงพญาร้าย ที่ไหนได้นางตลกอ่ะ รอติดตามเรื่องต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 07-01-2018 21:44:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 09-01-2018 07:41:48
สนุกสากเลยค่ะขอบคุณนะค่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 10-01-2018 19:49:19
นิยายขึ้นหิ้งอีกเรื่องหนึ่งแล้ว อ่านจบแล้วมีความสุขมาก โทนเรื่องให้ความรู้สึกเหมือนอ่านนิยายไทยจำพวกความรู้สึกดีที่เรียกว่ารักเลย อ่านจบน้ำตายังไม่ยอมหยุดไหล มันทั้งเต็มอิ่มและมีความสุขมาก หลงรักทุกตัวละคร  :pig4:  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 11-01-2018 12:38:27
สนุกและได้ความรู้เรื่องอาหารมากเลยค่ะ บางอย่างไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ตัวละครทุกตัวก็น่ารัก น้องด้วงก็น่าฟัดHappy Happy :katai2-1: :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 13-01-2018 12:11:26
สนุกมากครับ ตอนอ่านทำให้รู้สึกหิวได้เลย และยังได้ความรู้เรื่องอาหารไทยด้วย ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 15-01-2018 17:47:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 21-01-2018 02:00:05
ทุกคนมีความสุขเราก็มีความสุข
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: jomyingg ที่ 28-01-2018 22:48:53
อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้หิวตลอดเลยค่ะ แงงง  :hao5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 36 ตำรับรัก (ตอนจบ) 03/12/60 P.24 ย้ายได้ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 29-01-2018 18:45:21
อ่านจบนานแล้ว จำได้ว่าอ่านไปก็งองแงให้สามีหาของอร่อยตามเรื่องให้กิน
ประทับใจและอ่านสนุกมาก จนต้องกลับมาเม้นอีกที
หลังจากไถผ่านไปผ่านมา ดีใจที่คลิกเข้ามาอ่าน
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 14-03-2018 00:35:39
ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล

โรงเรียนอนุบาลพันแสง

“มันไม่เร็วไปเหรอน้องตัง”

“เร็วอะไรล่ะลุง นี่มันช้าไปด้วยซ้ำ หนูด้วงหกขวบกว่าแล้วนะ จะรอให้เข้าโรงเรียนตอนมอหนึ่งเลยรึไง”

“หนูด้วงไม่เคยอยู่กับคนอื่นมาก่อนจะร้องไห้รึเปล่าครับพี่ตัง”

“คุณชาย ถึงสงสารเราก็ต้องใจแข็งเข้าไว้ พี่อยากให้หนูด้วงฝึกอยู่ร่วมกับคนอื่นให้ได้”

“พี่ขอไปรอทางโน้นดีกว่า”

“พี่คุณ พี่เป็นพ่อของหนูด้วงนะ พี่ต้องเข้าไปส่งหนูด้วงสิ ไม่ต้องหนีเลยนะ”

“โธ่ตัง พี่กลัวตัวเองใจอ่อนถ้าหนูด้วงร้องไห้”

“หนูด้วงเก่งแล้วไม่ร้องหรอก ตังว่าเดี๋ยวเจอเพื่อนขี้คร้านจะติดใจขอมาโรงเรียนทุกวัน”

“มีน้องตังคนเดียวที่ใจแข็ง น้องตังเข้าไปส่งคนเดียวก็พอแล้ว”

“เฮ้อ ขี้สงสารพอกันหมดทั้งพ่อทั้งน้าทั้งอา ตังไปส่งหนูด้วงเองก็ได้ ไปหนูด้วง ไปกับมัม”

“หนูไปโรงเรียนก่อนนะ แด๊ดดี้ ยุงพญาแล้วก็อาน้องอย่าดื้อนะ เดี๋ยวหนูก็กลับมาแล้ว”

เด็กน้อยที่เป็นดั่งดวงใจของทุกคนรีบกำชับพร้อมกับหันมายิ้มให้ก่อนจะส่งมือให้ ‘มัม’ พาเดินก้าวเข้าไปในรั้วโรงเรียนอนุบาลพันแสงที่มีตะวันเป็นเจ้าของ เสียงถอนหายใจของคนทั้งสามคนที่ยืนอยู่นอกรั้วโรงเรียนบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ากำลังใจหายที่ดวงใจของพวกเขากำลังเติบโตขึ้นและกำลังจะเริ่มมีสังคมเป็นของตัวเอง

“สวัสดีฮับน้าตวง” หนูด้วงยกมือไหว้ตะวันทันทีที่เห็น

“สวัสดีครับคนเก่ง แล้วตังมาส่งหนูด้วงคนเดียวเหรอ” ตะวันลูบศีรษะของหนูด้วงก่อนจะมองหาคนอื่นๆ

“มากันครบแหละแต่ไม่ยอมเข้ามาส่งกัน”

“ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ กลัวลูกหลานจะร้องไห้แล้วทนไม่ได้ แต่หนูด้วงไม่ร้องไห้หรอกเนอะ” ตะวันเพิ่งเปิดโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้มาได้สามปีเพราะค้นพบแล้วว่าตัวเองมีความสุขเวลาที่ได้อยู่กับเด็กๆ ตะวันเคยบอกพญาไปหลายครั้งว่าให้พาหนูด้วงมาโรงเรียนแต่ฝ่ายนั้นก็อิดออดบอกว่าหนูด้วงยังไม่พร้อม

“หนูไม่ร้อง หนูเก่ง มัมๆ เขาเป็นอะไรฮับ เขาร้องไห้ทำไม” หนูด้วงพูดกับตะวันแต่สายตากำลังมองไปรอบๆ เห็นเด็กตัวเล็กๆ หลายคนกำลังร้องไห้กระจองอแงเลยนึกสงสัย

“เขาคิดถึงบ้าน ถ้าหนูด้วงคิดถึงบ้านก็อย่าร้องไห้นะครับ เพราะหน้าที่ของหนูด้วงคือมาเรียนรู้ที่โรงเรียน เดี๋ยวพอตอนเย็นมัมก็มารับกลับบ้าน” นับตังค์อธิบายให้หนูด้วงฟัง หนูด้วงได้ยินคำว่า ‘ตอนเย็น’ ก็หน้าเสีย

“หนูเรียนกับอุ๋งอุ๋งแล้ว หนูไม่ต้องมาเรียนที่นี่แล้วก็ได้” หนูด้วงหมายถึงตัวเองได้เรียนกับน้าใบเมี่ยงแล้วก็ไม่เห็นจะต้องมาเรียนที่อื่น

“หนูด้วงไม่อยากเก่งแบบพี่โอบเหรอครับ พี่โอบก็ไปเรียนหนังสือ”

‘พี่โอบ’ ที่นับตังค์พูดถึงก็คือเด็กชาย ‘โอบอุ้ม ภูมิเทพ’ บุตรบุญธรรมของพญา ซึ่งพญาส่งโอบอุ้มไปเรียนอยู่ที่อังกฤษตั้งแต่ยังเล็ก ช่วงปิดเทอมเมื่อสามปีก่อนโอบอุ้มกลับมาที่เมืองไทย ในวันนั้นหนูด้วงกับเทียมฟ้าพลัดตกน้ำทะเลและโอบอุ้มเข้าไปช่วยหนูด้วงได้ทันก่อนที่จะจมลงไปโดยไม่ห่วงตัวเองทั้งที่โอบอุ้มก็เป็นเพียงเด็กชายอายุสิบสามปีเท่านั้น ความอบอุ่นของโอบอุ้มทำให้หนูด้วงติดพี่ชายคนนี้ตลอดช่วงปิดเทอมและเห็นพี่โอบอุ้มเป็นฮีโร่ในดวงใจ

“หนูอยากเก่งแบบพี่โอบอุ้ม แต่มัมๆ อยู่กับหนูได้มั้ย”

“มัมต้องไปดูแลคุณทวดไงครับ หนูด้วงก็อยู่กับคุณครู อยู่กับน้าตวงไง”

“คุณครูจะตีหนูมั้ย”

“ไม่ตีหรอกครับ คุณครูใจดี หนูด้วงไปหาเพื่อนกับน้าตวงนะแล้วเย็นๆ มัมจะรีบมารับกลับบ้านเรา หนูด้วงผู้วิเศษของมัมเก่งที่สุด” นับตังค์ย่อตัวลงไปขยับกระเป๋าสะพายหลังของหนูด้วงให้เข้าที่ก่อนจะพูดให้กำลังใจ

“ไม่ต้องห่วงนะ ตวงจะดูแลหนูด้วงให้”

“ฝากหน่อยนะตวง หนูด้วงยังกลัวคนแปลกหน้า กลัวเสียงดัง กลัวคนทะเลาะกัน” นับตังค์ยังหนักใจเรื่องปมในใจของหนูด้วงแต่ก็คิดว่าหนูด้วงพร้อมแล้วที่จะเรียนรู้ที่จะอยู่กับผู้อื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว

“หนูค่อยมาโรงเรียนพรุ่งนี้ได้มั้ย” หนูด้วงต่อรองเมื่อเห็นว่านับตังค์ทำท่าจะทิ้งตัวเองไว้ที่นี่ ดวงตาของเด็กน้อยเริ่มมีน้ำตาคลอเพราะนึกว่ามัมแค่พามาเที่ยวที่โรงเรียนแล้วจะได้กลับบ้านพร้อมกัน หนูด้วงเข้าใจแล้วว่าเด็กคนอื่นที่ร้องไห้คิดถึงบ้านเขารู้สึกยังไง

“.....” นับตังค์อึ้งไปเมื่อเห็นน้ำตาของหนูด้วง ยิ่งมือน้อยๆ กระชับมือของตัวเองแน่นก็ยิ่งลังเล

“หนูไปหาเพื่อนกับน้าตวงก็ได้” หนูด้วงเห็นสีหน้าหนักใจของมัมก็เปลี่ยนใจ น้ำตาที่คลออยู่เมื่อครู่ถูกกลั้นเอาไว้ก่อนจะปล่อยมือของมัมไปจับมือของตะวันแทน

“ตวงจะดูแลหนูด้วงให้อย่างดีนะ ไม่ต้องห่วงนะ” ตะวันยืนยันเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ

นับตังค์ยืนมองดูแผ่นหลังน้อยๆ ที่เริ่มเคลื่อนห่างออกไปทุกที จากที่คิดว่าตัวเองจะใจแข็งแต่พอเห็นหนูด้วงแอบปาดน้ำตาก็ใจหาย ขาทั้งสองข้างแทบอยากจะก้าวไปรับหนูด้วงกลับมาแต่สมองก็สั่งว่าต้องอดทนเพราะอันที่จริงหนูด้วงควรมาเตรียมความพร้อมตั้งแต่สี่ขวบแล้ว แต่เพราะหนูด้วงยังพูดไม่ค่อยชัดและยังกลัวคนแปลกหน้าจึงให้ฝึกพูดและฝึกเรียนรู้พัฒนาการต่างๆ อยู่กับใบเมี่ยงถึงสามปีจนกระทั่งคิดว่าพร้อมแล้วจึงตัดสินใจพามาเข้าโรงเรียนชั้นประถามหนึ่งที่อนุบาลพันแสงแห่งนี้

โรงเรียนอนุบาลพันแสงแห่งนี้เป็นของ ‘ตะวัน’ หรือ 'ตวง' ซึ่งเป็นอดีตคนรักของพญา ที่นี่เพิ่งเปิดทำการเรียนการสอนได้เพียงสามปี แต่ตอนนี้มีนักเรียนมาสมัครเรียนจนครบตามจำนวนที่ตะวันกำหนดรับเอาไว้ ตะวันมาขอซื้อที่ริมทะเลบนเกาะใบไม้ครามจากนายหัวพยนต์เพื่อเปิดโรงเรียนอนุบาลพันแสงเพราะเห็นว่าที่นี่สงบและมีสิ่งแวดล้อมที่ดี ซึ่งในขณะนี้ทางโรงเรียนเปิดสอนแค่ระดับอนุบาลหนึ่งถึงชั้นประถมหกเท่านั้น ตะวันมุ่งเน้นการเรียนรู้ด้านพัฒนาการทางอารมณ์มากกว่าการเคร่งครัดด้านวิชาการ ฝึกทักษะด้วยจินตนาการ ศิลปะและดนตรี  ให้เรียนรู้ภาคปฏิบัติด้วยการลงมือทำ เนื่องจากตัวของตะวันเองเข้ารับการรักษาโรคซึมเศร้าจนกระทั่งหายดี เพราะรู้ดีว่าโรคซึมเศร้ามันให้ความเจ็บปวดและทรมานกับชีวิตมากแค่ไหนเขาจึงอยากให้เด็กน้อยที่เป็นเหมือนผ้าขาวทั้งหลายได้รับความสุขทางใจเป็นที่ตั้งแทนที่จะต้องเผชิญกับความกดดันหรือการแข่งขันที่มีมากขึ้นในยุคสมัยนี้ ครูที่ตะวันจ้างมาดูแลเด็กๆ เป็นครูที่มีทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ รวมถึงผ่านการประเมินทางด้านสภาพจิตใจว่าพร้อมจะดูแลเด็กในวัยนี้ ดังนั้นผู้ปกครองที่เห็นด้วยกับวัตถุประสงค์ของทางโรงเรียนจึงพาบุตรหลานมาสมัครเรียน แม้บางคนจะต้องข้ามฟากมาส่งลูกที่เกาะใบไม้ครามทุกวันก็ยังเลือกที่จะมา แต่สำหรับผู้ปกครองที่อยู่คนละจังหวัดหรือไม่สะดวกรับส่ง ที่นี่ก็มีหอพักสำหรับนักเรียนที่ต้องการอยู่ประจำด้วย นอกจากจะมีคุณครูประจำหอพักที่ตะวันคัดกรองอย่างดีแล้ว ยังมีคุณหมอและนักโภชนาการอยู่ประจำที่โรงเรียนอนุบาลพันแสงแห่งนี้ด้วยเช่นกัน     
 

“อ้าว ไหงเดินร้องไห้ออกมาแบบนั้นล่ะน้องตัง” พญาทักเมื่อเห็นนับตังค์เดินตาแดงออกมา

“ไม่ได้ร้องสักหน่อย”

“พี่ตังร้องไห้” เทียมฟ้าก็เห็นเหมือนกับที่พญาเห็น

“ก็ได้ก็ได้ ร้องก็ได้” นับตังค์เดินเขาไปหามีคุณ น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ก็หยดลงทันทีที่ถูกมีคุณดึงไปกอด

“ขี้แยกว่าลูกแล้ว” มีคุณยิ้มอ่อนก่อนจะลูบหลังให้นับตังค์เบาๆ

“นี่ขนาดให้คนใจแข็งเข้าไปส่งยังร้องไห้ออกมา ขืนให้พี่เข้าไปส่งคงอุ้มหนูด้วงกลับมาด้วยแน่ๆ” พญาบ่นอุบเพราะสงสารหลานที่ถูกทิ้งไว้คนเดียว

“นั่นไง หนูด้วงเดินออกมาเข้าแถวแล้วครับ” เทียมฟ้าชี้ให้ทุกคนดู

“ทุกคนหลบก่อน” นับตังค์เห็นหนูด้วงชะเง้อมองมาก็รีบบอกให้ทุกคนนั่งลง

“ทำไมต้องหลบด้วย” มีคุณถามด้วยความสงสัย

“เดี๋ยวหนูด้วงเห็นแล้วจะร้องไห้ เราแอบดูไปก่อน ถ้าดูแล้วเห็นว่าหนูด้วงอยู่ไม่ได้ค่อยพากลับบ้านเลย”

“อ้าว”

“ห๊ะ”

“เอ๊ะ”

เสียงของมีคุณ พญาและเทียมฟ้าร้องขึ้นพร้อมกันเพราะเริ่มงงที่คนใจแข็งเมื่อครู่กลับกลายเป็นคนใจอ่อนที่สุดไปแล้ว

ตอนทั้งสี่คนยังคงนั่งแอบดูหนูด้วงอยู่ที่ริมรั้วของโรงเรียน หนูด้วงไม่ได้ร้องไห้แล้วแต่ก็ยังยืนมองไปทางนั้นทีทางนี้ทีเหมือนคนไม่มั่นใจในตัวเอง จนกระทั่งตะวันเดินมาหาแล้วพูดอะไรบางอย่างกับหนูด้วง หนูด้วงพยักหน้าแล้วเดินไปที่หน้าเสาธงพร้อมกับตะวัน สักพักเพลง baby shark ดังขึ้น หนูด้วงวางตุ๊กตาน้องด้าวลงที่พื้นแล้วเริ่มยักย้ายส่ายสะโพกเต้นประกอบเพลง เด็กน้อยบางคนที่กำลังร้องไห้ก็เริ่มมองไปที่หนูด้วง เด็กบางคนได้ยินทำนองที่สนุกสนานก็เต้นตาม ไม่นานเด็กเล็กๆ ที่เพิ่งมาเรียนในวันแรกก็หยุดร้องไห้งอแงแล้วพากันเต้นยึกยักตามหนูด้วงกับแทบทุกคน

“หลานกู นั่นหลานกู มาแป๊ปเดียวกลายเป็นดาวโรงเรียนไปแล้ว” พญาพึมพำเบาๆ ด้วยความภูมิใจ

“น่ารักจังเลย น้องขอลาออกจากการเป็นเลขาของพี่มาเป็นครูที่นี่ได้ไหม” เทียมฟ้าถามพญาพลางยักไหล่ไปมาตามทำนองเพลง

“ไม่ได้ ไกลหูไกลตาเดี๋ยวมีคนมาจีบ” พญารีบปฏิเสธ

“เยอะไปแล้วลุง” นับตังค์หันมาเบรกคนขี้หึงแห่งปี

“สบายใจกันแล้วสิ กลับกันได้แล้ว” มีคุณเห็นหนูด้วงดูมีความสุขแล้วก็รู้สึกสบายใจและคิดว่าหนูด้วงคงปรับตัวกับการอยู่ร่วมกับคนอื่นได้แน่ๆ

“ก็ได้ก็ได้ กลับก็ได้” นับตังค์มองไปที่หนูด้วงอีกครั้งก่อนกันมายิ้มให้มีคุณ

“ตอนเย็นพี่มารับหนูด้วงเองนะน้องตัง” พญาอาสา

“ไม่ได้ ผมจะมารับเอง” มีคุณแย้ง

“ได้ไง กูเป็นน้า กูมารับเอง”

“แต่ผมเป็นพ่อ”

“แต่มึงเป็นพ่อไม่แท้ กูเป็นน้าแท้ๆ”

“พอ! ทั้งพี่ทั้งลุงไม่ต้องมารับ เดี๋ยวตังจะมาเอง จบ.. นี่ถ้าไม่เถียงกันสักวันคงนอนไม่หลับ เฮ้อ..เราไปกันเถอะคุณชาย” นับตังค์ยกมือขึ้นห้ามทั้งคู่ก่อนจะเป็นฝ่ายตัดสินใจเอง เทียมฟ้าก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ เพราะคำตัดสินของนับตังค์ถือเป็นที่สุดและคงช่วยอะไรพญาไม่ได้ ทั้งมีคุณและพญาจึงได้แต่มองหน้ากันแล้วก็ยอมรับสภาพทั้งที่ใจอยากมารับหนูด้วงเพราะอยากเห็นตอนหนูด้วงวิ่งมาหาแล้วทำท่าดีใจที่ได้กลับบ้าน

..

หลังจากที่เข้าแถวหน้าเสาธงเสร็จแล้วคุณครูก็พาเด็กๆ ในชั้นของตัวเองกลับห้องเรียน ห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งทับสี่เป็นห้องเรียนที่มีครูวิมลเป็นครูประจำชั้น ห้องนี้เป็นห้องพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อรองรับนักเรียนที่เพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่เป็นปีแรก แต่ก็มีนักเรียนเก่าที่เพิ่งจบชั้นอนุบาลจากที่นี่อยู่ด้วยสองสามคน

หนูด้วงเดินอุ้ม ‘น้องด้าว’ มานั่งอยู่ที่ท้ายห้องเพราะที่นั่งด้านหน้าเต็มหมดแล้ว น้องด้าวเป็นตุ๊กตาเอเลี่ยนที่สามารถอัดเสียงได้ เป็นตุ๊กตาตัวโปรดที่หนูด้วงพาไปไหนมาไหนเป็นประจำ หนูด้วงนึกว่าตัวเองแค่มาเที่ยวที่โรงเรียนของน้าตะวันแล้วก็กลับบ้านจึงพาน้องด้าวมาด้วย ไม่คิดว่าจะถูกพามาให้อยู่จนถึงเย็น เพื่อนหลายคนเห็นน้องด้าวแล้วก็ทำท่ากลัวจนไม่มีใครชวนหนูด้วงเล่นด้วยเลยสักคน

“ตัวอะไรน่าเกลียด” น้องเกลชี้มาที่น้องด้าวก่อนจะเบ้ปาก หนูด้วงมอง ‘น้องเกล’ เด็กหญิงตัวกลมๆ ผมสั้นหน้าม้าเต่อแล้วก็กลับมองที่น้องด้าว

“น้องด้าวบอกว่าเธอพูดไม่ดี” หนูด้วงตอบกลับไป

“ตุ๊กตาพูดไม่ได้” น้องเกลเถียง

“ตัวอะไรน่าเกลียด” เสียงของน้องเกลดังขึ้นอีกครั้งแต่คราวนี้ดังมาจากน้องด้าว เมื่อหนูด้วงกดไปที่มือของน้องด้าว คำพูดที่น้องเกลพูดเอาไว้เมื่อครู่เลยดังขึ้นเพราะหนูด้วงกดอัดเอาไว้

“คิกๆๆๆ” เสียงหัวเราะดังมาจากคนที่นั่งอยู่ทางฝั่งซ้ายของหนูด้วง เจ้าของเสียงหัวเราะคือ ‘นกฮูก’ เด็กชายตัวน้อยที่ใส่แว่นหนาเตอะ นกฮูกเป็นเด็กขี้อายดูไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง นกฮูกขำน้องเกลที่ทำหน้ามุ่ยเพราะคำพูดของตัวเอง

“เจ๋ง มันพูดได้ด้วย” คราวนี้คนที่นั่งด้านหน้าของหนูด้วงเป็นคนพูด ‘น้องเม่น’ เด็กชายอารมณ์ดีที่สนิทสนมกับเพื่อนใหม่ได้รวดเร็ว ตอนนี้น้องเม่นกำลังมองน้องด้าวอย่างทึ่งๆ 

“ไม่เห็นจะเจ๋งเลย” ‘สิงโต’ คนที่นั่งอยู่ทางฝั่งขวาของหนูด้วงเหลือบมองมาที่หนูด้วงแล้วพูดลอยๆ

“เธอไม่ชอบน้องด้าวเหรอ” หนูด้วงหันมาถามสิงโต สิงโตมองหนูด้วงก่อนจะหันไปทางอื่น ในใจก็คิดว่าหนูด้วงเหมือนตุ๊กตาที่ดูน่ารักมากกว่าน้องด้าวอะไรนั่นเสียอีก

“เอาล่ะเด็กๆ เดี๋ยวเรามาเล่นเกมขับรถส่งผู้โดยสารกันดีไหมคะ ครูจะเป็นคนขับรถให้เด็กๆ มานั่งในรถครูทีละคน คนที่มานั่งต้องบอกชื่อเล่นกับครูแล้วก็บอกว่าอยากไปที่ไหน ครูจะขับรถพาไป” ครูวิมลชักชวนเด็กๆ ให้เล่นเกมเพื่อแนะนำชื่อตัวเอง นอกจากครูวิมลแล้วยังมี ‘พี่หมวย’ กับ ‘พี่พลอย’ เป็นครูพี่เลี้ยงประจำห้องของครูวิมลด้วย

“แล้วพาไปได้จริงไหมฮะคุณครู” น้องเม่นถามด้วยความสงสัย

“สมมุติว่าไปได้ก็แล้วนะคะ” ครูวิมลหัวเราะเมื่อน้องเม่นถามแบบซื่อๆ

“สมมุติแปลว่าอะไรฮับคุณครู” หนูด้วงถามขึ้นบ้างเพราะไม่เข้าใจ

“แปลว่าคิดหรือนึกเอาไว้ว่าเป็นแบบนั้น อย่างเช่นครูสมมุติว่าเก้าอี้ของครูเป็นรถ ให้ทุกคนคิดตามว่ามันเป็นรถ ไม่ใช่เก้าอี้ เข้าใจไหมคะ” ครูวิมลอธิบายเท่าที่คิดว่าเด็กๆ จะเข้าใจได้มากที่สุด บางคนฟังแล้วก็พยักหน้า บางคนก็ยังทำตาแป๋วจนครูวิมลเดาไม่ได้ว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจ

“อ๋อ เหมือนที่ยุงพญาบอกหนูว่าอาน้องเป็นกระต่าย” หนูด้วงทำหน้านึกสักพักก็พูดออกมาแต่เพื่อนๆ ไม่เข้าใจว่าหนูด้วงพูดถึงอะไร

“หนูเล่นก่อนได้ไหมคะคุณครู” น้องเกลรีบยกมือเสนอตัว

“ได้เลยค่ะ”

เมื่อพี่หมวยเอาเก้าอี้สองตัวมาตั้งให้เหมือนที่นั่งของรถแล้วครูวิมลก็ไปนั่งอยู่ข้างหนึ่ง น้องเกลจึงเดินมานั่งอีกข้างหนึ่ง

“หนูชื่อเกลค่ะ หนูอยากไปร้านเคเอฟซีค่ะ” เกลแนะนำตัวและบอกสถานที่ที่อยากไปเสร็จ ครูวิมลยิ้มให้น้องเกลก่อนจะทำท่าขับรถพาน้องเกลไป พี่หมวยกับพี่พลอยปรบมือให้ เด็กๆ ในห้องจึงปรบมือตาม

“ชื่อเจนค่ะ หนูอยากกลับบ้าน ฮือๆ” น้องเจนแนะนำตัวเสร็จก็ร้องไห้ ครูวิมลรีบเข้ามาปลอบก่อนจะให้พี่พลอยพาน้องเจนไปนั่งที่

“ชื่ออะไรคะ ไม่ต้องอายนะ เพื่อนๆ จะได้รู้จักไงครับคนเก่ง” ครูวิมลพูดกับนกฮูก เด็กน้อยขี้อายที่ยืนหมุนนิ้วตัวเองไปมาอยู่ที่หน้าห้อง

“ชื่อ..นกฮูก อยากไปห้องน้ำฮับคุณครู” นกฮูกพูดจบน้องเม่นก็หัวเราะเสียงดัง นกฮูกได้ยินเสียงเพื่อนหัวเราะก็หน้าเสีย ครูวิมลเลยให้พี่หมวยพานกฮูกไปเข้าห้องน้ำก่อน

เด็กๆ พากันออกมาแนะนำตัว บางคนก็ไม่ยอมพูด บางคนก็เอาแต่ร้องไห้อยากกลับบ้าน บางคนก็วิ่งซนในห้องไม่สนใจใคร แต่ครูวิมลไม่ได้ดุเด็กๆ เพราะรู้ว่าเด็กวัยนี้กำลังเป็นตัวของตัวเอง ถ้าดุหรือห้ามเด็กจะไม่มีความมั่นใจจึงได้แต่คอยดูไม่ให้วิ่งเล่นจนชนกัน จนกระทั่งถึงตาหนูด้วงแนะนำตัวบ้าง

“หนูชื่อด้วงฮับ นี่น้องด้าวฮับ เราสองคนอยากไปประเทศลอนดอน” หนูด้วงพูดจบก็กดที่มือของน้องด้าว น้องด้าวส่งเสียงตามหนูด้วง เด็กๆ ในห้องส่งเสียงฮือฮาแล้วพากันมานั่งมองน้องด้าวที่หน้าห้องกันใหญ่ ครูวิมลค่อนข้างประหลาดใจที่หนูด้วงพูดถึงลอนดอน แม้จะพูดผิดไปเพราะลอนดอนไม่ใช่ประเทศแต่เด็กวัยแค่นี้รู้จักชื่อสถานที่ก็ถือว่าฉลาดช่างจดจำ

“ทำไมอยากไปที่ลอนดอนคะหนูด้วง” ครูวิมลถามพลางทำท่าขับรถไปด้วย

“หนูจะไปหาพี่โอบอุ้ม แต่คุณครูขับรถไปไม่ได้ฮับ คุณครูต้องขับเรือบินฮับ” หนูด้วงท้วงครูวิมล

“ฉลาดจริงเชียว” พี่พลอยหัวเราะชอบใจในความช่างพูดของหนูด้วง

“คนสุดท้ายแล้ว มาแนะนำตัวกับเพื่อนสิจ๊ะ” ครูวิมลเรียกสิงโต สิงโตเป็นเด็กที่อยู่ประจำที่นี่มาตั้งแต่ชั้นอนุบาลหนึ่งเพราะบ้านของสิงโตอยู่ที่กรุงเทพ สิงโตค่อนข้างตัวโตสูงกว่าเพื่อนๆ ในห้อง เป็นเด็กไม่ค่อยพูด มาเรียนวันแรกก็ไม่มีการร้องไห้ให้ใครเห็น ครูวิมลให้สิงโตมาอยู่ที่ห้องนี้เพราะสิงโตไม่ค่อยยอมพูดจากับครูคนอื่นยกเว้นครูวิมล

“ชื่อสิงโต อยากไปกับคนนี้” สิงโตชี้ไปที่หนูด้วง หนูด้วงทำตาโตก่อนจะตอบสิงโตกลับไป

“สิงโตต้องออกค่าเรือบินเองนะ”

“อือ บ้านเรารวย”

“งั้นไปด้วยกันก็ได้” หนูด้วงยิ้มให้สิงโต เมื่อสิงโตเห็นรอยยิ้มของหนูด้วงก็รีบหันหน้าไปมองทางอื่นทันที

หลังจากที่คุณครูได้ให้เด็กน้อยในห้องแนะนำตัวกันครบแล้วก็ชวนเด็กๆ ให้มาฟังนิทานประกอบหุ่นมือ เด็กที่ยังไม่ชินกับการอยู่กับคนแปลกหน้าหรือเด็กที่ยังติดคุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่ครูวิมลและครูพี่เลี้ยงพยายามชักชวนให้ทุกคนหันมาสนใจ โดยเฉพาะตอนที่หนูด้วงอาสามาเล่าเรื่องลูกหมูสามตัวที่เคยฟังจากมัมบ่อยๆ เพื่อนในห้องต่างก็พากันหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็งเพราะหนูด้วงทำท่าประกอบแบบที่แด๊ดดี้มีคุณเคยทำให้ดูด้วย

“สนุกกันไหมคะ” ครูวิมลถามเมื่อหนูด้วงเล่านิทานจบ

“สนุกคร้าบบบบ”

“สนุกค่า”

“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้มาโรงเรียนแล้วไม่ต้องร้องไห้กันนะคะ เพราะว่าเราจะได้มาฟังนิทานอีก แล้วก็..พรุ่งนี้ครูจะสอนทำแปลงดอกไม้กันด้วยดีไหม”

“เย้” เด็กส่งเสียงขึ้นพร้อมกับ

“เดี๋ยวเด็กๆ มาต่อแถวให้เหมือนรถไฟกันนะคะ เราจะไปทานข้าวกลางวันกัน” พี่หมวยยืนนำหน้าให้พี่พลอยพาเด็กๆ มาเกาะเอวต่อให้เป็นขบวนรถไฟ

“สมมุติให้เป็นรถไฟ” หนูด้วงหันมาอธิบายให้น้องเกลฟังเพราะเห็นน้องเกลทำหน้างงๆ

“โง่” น้องเม่นหันไปว่าน้องเกลก่อนจะแลบลิ้นให้

“ไม่พูดไม่ดี ขอโทษก่อน” หนูด้วงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินน้องเม่นว่าน้องเกล

“ก็เกลไม่รู้จักรถไฟ” น้องเม่นเถียง

“เธอรู้จักลอนดอนไหม” หนูด้วงเอียงคอถามน้องเม่น

“ไม่รู้” น้องเม่นส่ายหน้า

“เธอก็โง่” คราวนี้น้องเกลเท้าเอวว่าน้องเม่นบ้าง

“เราไม่ว่าเธอแล้วก็ได้” น้องเม่นทำหน้ามุ่ยเมื่อถูกว่าโง่บ้าง

“เราก็ไม่ว่าเธอแล้ว” น้องเกลพูดจบก็พาร่างกลมๆ ไปต่อหลังหนูด้วงอีกที แต่ยังไม่ทันได้เกาะเอวหนูด้วงสิงโตก็เดินเข้ามาแทรกตรงกลางระหว่างหนูด้วงกับน้องเกลก่อน

“จองแล้ว” สิงโตบอกน้องเกลก่อนจะเกาะเอวหนูด้วง น้องเกลเลยทำหน้างอแล้วเกาะเอวสิงโตแทน

“นกฮูกมานี่มานี่” หนูด้วงเรียกนกฮูกที่ยืนดึงชายเสื้อของตัวเองอยู่ที่มุมห้อง พอนกฮูกเดินมาหาหนูด้วงก็ให้นกฮูกมายืนข้างหน้าตัวเองแล้วก็เกาะเอวนกฮูกอีก

“พร้อมรึยังคะ” พี่พลอยถามเด็กๆ

“พร้อมแล้วฮับ”

“พร้อมแล้วค่ะคุณครู"

ขบวนรถไฟของเด็กชั้นปอหนึ่งทับสี่เคลื่อนออกจากห้องพร้อมกับเสียง ‘กะฉึกกะฉักปู๊นปู๊น’ ไปตลอดทาง ครูพี่เลี้ยงทั้งสองคนจัดที่ให้เด็กๆ นั่งเป็นกลุ่ม กลุ่มของหนูด้วงก็มีสิงโต นกฮูก น้องเม่นและน้องเกล ถาดอาหารถูกลำเลียงมาวางตรงหน้า วันนี้มีข้าวผัดสามสีกับแกงจืดเต้าหู้ น้องเกลทำหน้ายู่ยี่เมื่อเห็นถั่วลันเตา แครอทและข้าวโพดในข้าวผัด แต่เมื่อเห็นหนูด้วงกินอย่างเอร็ดอร่อยก็เลยยอมตักใส่ปาก พอน้องเกลได้ชิมแล้วก็ติดใจเพราะผักสามสีมีรสอร่อยไม่เหมือนที่เคยกินที่อื่น

“ทำอร่อยกว่าแม่เราอีก” น้องเม่นซดแกงจืดจนเกลี้ยงถาด

“มัมๆ เราทำอร่อย มัมๆ เรามีร้านอาหารด้วย” หนูด้วงพูดไปยิ้มไป

“พ่อเราไม่ทำกับข้าว พ่อเราบอกว่าขี้เกียจล้างจาน” น้องเกลเล่าบ้างทั้งที่ข้าวยังเต็มปาก

“บ้านเรามีเครื่องล้างจาน” น้องเม่นหันไปพูดกับน้องเกล

“บ้านเรามีกะละมังล้างจานใหญ่เท่านี้” น้องเกลอ้าแขนออกกว้างๆ เพื่อเกทับน้องเม่น

“เราจะให้พ่อซื้อกะละมังให้ใหญ่กว่า” น้องเม่นยอมไม่ได้จึงคุยโวกลับ

“แล้วบ้านเธอมีอะไร” น้องเกลหันมาถามนกฮูก

“เราไม่รู้ บ้านเรามีคนล้างให้” นกฮูกพูดจบน้องเกลกับน้องเม่นก็มองนกฮูกตาปริบๆ แล้วทั้งสองคนก็ไม่เถียงกันอีกแต่ยกมือขอเติมข้าวกับแกงจืดจากคุณครูอีกรอบ

“นี่” สิงโตเห็นข้าวผัดติดที่แก้มของหนูด้วงก็ส่งเสียงเรียก ‘นี่’ สั้นๆ

“หื้อ” หนูด้วงทำตาโตเพราะไม่รู้ว่าสิงโตจะบอกอะไร

“นี่” สิงโตไม่กล้าชี้ไปที่แก้มของหนูด้วงเลยเอานิ้วเขี่ยที่แก้มของตัวเองเพื่อบอกให้หนูด้วงรู้ตำแหน่งของข้าวที่ติดอยู่

“หื้อ” หนูด้วงทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะเอียงคอส่งเสียงสงสัยออกไปเพราะยังไม่เข้าใจ

“นี่ นี่” สิงโตแล้วจิ้มที่แก้มของตัวเองแรงๆ เพราะคิดว่าหนูด้วงเห็นไม่ชัด หนูด้วงนั่งนิ่งอยู่พักหนึ่ง พอเห็นสิงโตจิ้มแก้มไม่หยุดก็เลยพยักหน้า

“ก็ได้ก็ได้” หนูด้วงวางช้อนข้าวลงก่อนจะลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมาหาสิงโต จากนั้นก็หลับตาปี๋แล้วโน้มตัวลงไปหอมแก้มสิงโตหนึ่งทีแล้วถึงเดินกลับไปกินข้าวต่อ

“คิกๆๆๆ” นกฮูกหัวเราะแต่พอเห็นหน้าของสิงโตจึงรีบก้มหน้าไปมองถาดข้าวแทน

“เจ๋ง” น้องเม่นร้องขึ้นเมื่อเห็นหนูด้วงหอมแก้มสิงโต

“หะ หะ หอมทำไม!” สิงโตจับแก้มของตัวเองพร้อมกับถามหนูด้วง

“ก็เธอให้เราหอม” หนูด้วงทำหน้าไม่เข้าใจว่าตัวเองทำผิดอะไรสิงโตถึงดูโมโห เวลาแด๊ดดี้จิ้มแก้มตัวเองทีไรมัมๆ ก็จะเดินมาหอมแด๊ดดี้ทุกที

“ไม่ใช่! จะบอกข้าวติดแก้ม” สิงโตพูดจบก็ตักข้าวเข้าปากไม่หยุด แถมยังไม่ยอมมองหน้าหนูด้วงด้วย

“ขอโทษ” หนูด้วงหน้าจ๋อยเพราะโดนเพื่อนโกรธ

ช่วงบ่ายคุณครูสอนให้หนูด้วงและเพื่อนๆ รู้จักตัวหนังสือต่างๆ แล้วก็ร้องเพลงประกอบไปด้วยจะได้จดจำง่ายๆ ได้วาดภาพและเป่าสีจากหลอดให้สีกระจายบนกระดาษเป็นรูปต่างๆ หนูด้วงรู้สึกสนุกที่ได้ทำกิจกรรมกับคุณครูและได้เล่นกับเพื่อนๆ แต่ก็ยังรู้สึกเศร้าที่โดนสิงโตโกรธ สิงโตไม่ยอมคุยกับหนูด้วงเลย จนกระทั่งได้เวลากลับบ้านหนูด้วงจึงสะพายกระเป๋าเข้าที่หลังและอุ้มน้องด้าวเดินออกมาที่หน้าเสาธง

“หนูด้วง น้ามารับแล้ว” พญาโบกมือให้หนูด้วง

“เย้ ยุงพญามารับหนูแล้ว” หนูด้วงวิ่งมาหาพญาก่อนจะโดนพญาอุ้มจนตัวลอย

“ลุง! ขี้โกง” นับตังค์เห็นพญาแอบมารับหนูด้วงก็โวยวาย

“ก็พี่คิดถึงหลานนี่นา ไม่รู้แหละ พี่มาก่อน หนูด้วงเรียกชื่อพี่ก่อน” พญาไหวไหล่ รู้สึกดีใจที่ทำคะแนนได้ก่อน เทียมฟ้าได้แต่ยืนหัวเราะที่อากับน้าของหนูด้วงชิงทำคะแนนกัน

“ชิ!” นับตังค์รู้สึกเซ็งที่โดนพญาตัดหน้าไปเสี้ยวนาที

“เอาน่า พรุ่งนี้พี่ยอมให้น้องตังมารับก็ได้”

“หนูไม่มาโรงเรียนแล้วได้มั้ย” หนูด้วงถามเสียงอ่อย

“ทำไมล่ะครับ ไม่สนุกเหรอ” เทียมฟ้าถามเมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กทำเสียงหงอยๆ

“สนุกฮับ”

“แล้วทำไมไม่อยากมา เพื่อนแกล้งเหรอ คนไหน น้าจัดการให้ โอ้ย” พญาร้องโอ้ยเมื่อโดนนับตังค์ฟาดที่แขน

“อย่าสอนหลานใช้ความรุนแรง” นับตังค์บ่นพญา

“เพื่อนไม่ได้แกล้งแต่เพื่อนโกรธหนู”

“ทำไมเพื่อนโกรธล่ะครับ” ทั้งสามคนถามหนูด้วงพร้อมกัน

หนูด้วงมองผู้ปกครองทั้งสามคนก่อนจะทำตาละห้อย ไหล่เล็กลู่ลงเพราะรู้สึกสะเทือนใจที่โดนเพื่อนโกรธ แล้วเจ้าตัวเล็กก็เริ่มเล่าให้น้าๆ อาๆ ฟัง เมื่อเสียงหงอยๆ เล่าเรื่องราวของตัวเองจบก็ช้อนตาขึ้นมองคนฟังเพราะอยากรู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร แล้วหนูด้วงก็ต้องทำตาปริบๆ เมื่อหนึ่งน้ากับสองอาอ้าปากค้างกับเรื่องที่ได้ยิน

“หนูด้วง หนูจะไปหอมแก้มใครแบบนี้ไม่ได้นะลูก!!!”


ติดตาม ‘หนูด้วง โก ทู สคูล’ ตอนต่อไปได้ในฉบับรวมเล่ม อิอิ

อย่าลืมติดตามเรื่อง ปลดล็อกให้ความรัก ต่อนะคะ หนูด้วงน่าฟัดมาก
ตอนพิเศษนี้เอามาให้อ่านพอหอมปากหอมคอ ฮ่าๆ เจอแกงค์ The zoo เข้าไป
รับประกันความฮาในอนาคตค่ะ นำทีมด้วยหนูด้วง สิงโต เม่น นกฮูก ไนติงเกล
ว่าแต่ๆๆๆ รักแท้จะแพ้ใกล้ชิดรึเปล่าน้อ

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ หนูด้วงต้องพูดชัดซะแล้วล่ะพี่จ๋าทุกคน ฮือ หนูยักทุดคนที่ฉุด

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย] (https://twitter.com/loverouter)


           
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 14-03-2018 01:32:17
ถึงน้องจะพูดชัดแล้วก็ยังเอ็นดูน้องค่าาา รู้สึกผิดกับพี่โอดอุ้นนน ใจชิปสิงโตกับหนูด้วงไปแล้ว  :hao5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-03-2018 02:12:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 14-03-2018 03:05:49
สาบานว่าเด็กมาเรียนป.1ไม่ใช่อนุบาล ชิลลล์เกิ๊นนนนนนน เด็กๆน่าร้ากกก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 14-03-2018 03:12:38
พี่โอบอุ้มอย่ายอมแพ้นะ สู้สู้  :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 14-03-2018 06:36:28
อ้าววว พี่โอบมีคู่แข่งเหรอเนี่ย ระวังระวัง!!
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-03-2018 09:36:04
หนูด้วงดูท่าทางจะลืมพี่โอบซะล่ะมั้ง


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 14-03-2018 10:58:09
อ่านจบไปนานแล้ว จนลืมว่าใครคือตะวัน ใครคือพี่โอบ

ขำเด็กๆ คุยเกทับกันเรื่องกาละมังล้างจาน  :m20:

นู่ด้วงน่ารักเกินไป  :mew2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 14-03-2018 11:49:41
โอ้ย The Zoo Gang ฮามากๆ น่ารักจริงๆ
ส่วนพี่พญาไม่เจอกันนาน ยังฮาเหมือนเดิมนะ 5555+
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-03-2018 16:20:45
โอ้โห น้องโอบเริ่มมีคู่อข่งแล้วเหรอ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 14-03-2018 17:56:57
อ้าวๆมีน้องสิงโตมาแย่งซีนซะแล้วว พี่โอบอุ้มกลับมาทำคะแนนด่วนค่าาาา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 14-03-2018 20:19:23
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 15-03-2018 03:03:30
น่ารัก :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-03-2018 03:10:44
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 15-03-2018 15:34:36
 :เฮ้อ: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 16-03-2018 19:21:07
พี่โอบรีบกลับมาด่วน  หนูด้วงจะถูกสิงโตกินแล้ว  ไป first kiss เค้าก่อนด้วย


 
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 16-03-2018 21:27:55
งานนี้รักแท้แพ้ใกล้ชิดชัวร์ๆ :really2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-03-2018 22:06:05
ต้องรีบกลับมาแล้วพี่โอบ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วง โก ทู สคูล 14/03/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 17-03-2018 00:13:32
ตะวันมาจากปีโป้ใช่ไหมคะ แล้วโอบอุ้มมาจากใหนอ่าเราพลาดอะไรไป :katai1:แต่ไม่รู้แหละเราเชียร์สิงโตอะ o18 o18 o18
จองแล้วนะจองแล้ว เดี๋ยวยกนกฮูกให้โอบอุ้มก็ได้(ยกให้ทั้งๆที่ไม่รู้นี่แหละว่าโอบอุ้มเป็นใคร) :katai1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 17-03-2018 02:19:25
ประกาศๆๆๆๆ

เนื่องจากตอนพิเศษที่เพิ่งอัพไปผู้แต่งลืมใส่รายละเอียดตัวละครบางตัวที่โผล่มาเพิ่มขึ้น ทางผู้แต่งเลยใส่รายละเอียดเพิ่มให้ใหม่ในตอนแล้วค่ะ แต่ถ้าอยากรู้จักตัวละครของ ตะวันและโอบอุ้มเพิ่มมากขึ้น ต้องไปอ่านเรื่อง 'ปลดล็อกให้ความรัก' นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 19-03-2018 04:04:54
มีทีมยกนกฮูกให้โอบอุ้ม
งั้นนี้ขออยู่ทีม ยกนกฮูกให้สิงโต กรี้ดดดดดด

พี่โอบรีบมาทำคะแนนเลย5555

---
พึ่งได้มาตามอ่าน วางไม่ลงเลยค่ะ
ขอบคุณนะคะ ที่ทำให้ความรู้สึกที่ว่า รักนิยายเรื่องนี้จัง
มันกลับมาอีกครั้งหลังจากที่หายไปนาน
เราไม่ได้เสียน้ำตาให้นิยายมานานแล้ว
แต่เราประทับใจฉากวิดีโอพินัยกรรมจนร้องไห้เลย
ขอบคุณนะคะที่เขียนนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 20-03-2018 01:28:59
 :-[
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 03-04-2018 08:36:22
แก๊ง the Zoo น่ารักมากๆ หนูด้วงก็เก่งสุดๆ เข้ากับเพื่อนๆได้ไวมาก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 4 เทมปุระ น้ำยาปู 28/3/60 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 04-05-2018 01:21:37
 :sad4: คิดผิดมากๆที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ตอนกลางคืน ฮือ

หิวมากเด้อ อ่านไปท้องก็ร้องไป แถมยังต้องมากลืนน้ำลาย

ตามอีก ช่วยด้วยยยยหิวมากค่ะ  :o12:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 6 ลูกชุบ 3/4/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 04-05-2018 02:04:22
รู้สึกพลาดมากค่ะ ทำไมเราไม่เคยอ่านเรื่องนี้ แง้

เนื้อเรื่องบรรยายแบบแต่ละตัวอักษรมันดูละมุนมากเลยค่ะ

แบบอธิบายไม่ถูก แต่มันดีมากๆค่ะ ชอบ แถมอ่านมาไม่กี่ตอน

ก็ได้ความรู้เรื่องอาหาร ขนม เพิ่มมาเยอะเลย

อย่างดาราทองเนี่ยที่เราเข้าใจว่าชื่อจ่ามงกุฎ ไหนจะลูกชุบ

ที่คิดว่ามาจากถั่วเหลือง โอ๊ย ได้ทั้งความรู้และความหิว 55
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 10 พายเมี่ยงคำ 21/4/60 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 04-05-2018 03:24:23
ตัวขัดมาแล้ว ยิ่งถ้าแท๊กทีมกันกับพญาพเยียล่ะก็...งานเข้า!
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 12 ข้าวแช่ชาววัง 9/5/60 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 04-05-2018 04:04:54
เหยยย!  o22 อย่าบอกนะว่าพ่อแม่ของด้วง ใช่แน่ๆเลย

พ่อด้วงคือเงินพี่ชายของตังแน่ๆ ส่วนแม่ก็คุณใหญ่พี่สาวพญา

คือใช่แน่ๆ แล้วทั้งคู่ก็เสียโดนอุบัติเหตุทางเรือนั้นอ่ะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 16 ซีฟู้ดดูดนิ้ว 15/06/60 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 04-05-2018 05:22:33
ป้าดดดด ดาวเรืองก็ไม่ธรรมดานะเนี่ย ร้ายได้พ่อจ้า  :o211:

ส่วนคีตะนี่น่ารำคาญจริงๆ  :z6:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 17 ห่อหมกในตำนาน 26/06/60 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 04-05-2018 05:58:14
ถถถ คุณพญายม 555555555555  :laugh: :m20:

เป็นลมเพราะน้องด้าว 55555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 21 ไข่ลูกสะใภ้ 28/07/60 P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 04-05-2018 07:25:02
นั่นไง! ยัยดอกดาวเรืองเน่าเป็นลูกครอบครัวนั้นจริงด้วย

แถมโรคจิตกว่าใครไหนๆเลย แล้วด้วงก็เป็นลูกคุณใหญ่กับเงินแน่ๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 29 มัศกอด 12/10/60 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 04-05-2018 10:32:38
 :o สรุปพ่อแม่ด้วงนี่ยังอยู่หรือเสียแล้วอ่ะ แล้วพระธุดงรูปนั้นอีก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนที่ 33 กาแฟสายไหม 09/11/60 P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 04-05-2018 12:02:00
โอ้ย น้ำตาคลอตรงคุณปู่พูดถึงหนูด้วง  :o12: :o12:

นังดอกไม้เน่านี่สงสัยจะไม่ได้ตายดีแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 04-05-2018 18:30:25
เย้ อ่านจบแล้ว อ่านยาวตั้งแต่เมื่อคืน  :impress2: ชอบมากๆค่ะ

ประทับใจมาก น้องด้วงน่ารักม๊ากมาก แถมปมนี่โอ้โหระดับโคนัน

ทีเดียวค่ะ ปมในเรื่องนี้สำหรับเราถือว่าเคลียร์ปมที่มีในเรื่องหมด

ทุกปม บอกตรงๆค่ะ บางเรื่องที่จบยังมีปมที่ไม่ได้เคลียร์ชัดก็มี

เราละก็เศร้า แต่เรื่องนี้สำหรับเราดีทุกอย่าง ละมุนละไม

อาหารน่าทานตามมากๆค่ะ อ่านไปท้องร้องไปแล้วก็คิดภาพ

วิธีทำตาม ไหนจะบทประพันธ์ในเรื่องรวมถึงความรู้เรื่องอื่นๆอีก

อ่านเรื่องนี้เราได้ความรู้เพิ่มไปในตัวเลยค่ะ ข้อมูลแน่นมาก

ส่วนตอนพิเศษนี้ อ้อหอ ตอนแรกกะคิดว่าพดด้วงกับโอบอุ้มแน่ๆ

เอาไปเอามา อ้าว! ทำไมกลายเป็นสิงโตกับพดด้วงไปได้ละเนี่ย

ว่าแต่นะ เราอยากอ่านเรื่องของน้องด้วงบ้างจังเลยนะคะ  :mew2:

ละสุดท้ายนี้ ขอบคุณมากๆนะคะ นิยายสนุกมากกกที่สุดค่ะ

รู้สึกพลาดมากที่ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปได้ยังไง  :L1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Wendy ที่ 05-05-2018 21:55:29
ครบรสเลยค่ะ
อ่านไปก็ยิ้มไป ทั้งเรื่องน่ารักมาก อ่านแล้วมีความสุข หิวด้วยค่ะ 5555
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆ ให้อ่าน
และเป็นกำลังให้คนเขียนในเรื่องต่อไปด้วยค่ะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 06-05-2018 00:03:52
น้องด้วงน่ารักกก น้องโตมา งานนี้มีศึกแย่งชิงชัวร์ป้าบ!!!! 5555555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 06-05-2018 07:53:36
โอ้ย!!!!! น่าฮักขนานนนนนน
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 13-05-2018 15:36:33
 o13
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 18-05-2018 20:15:41
สนุกมากๆๆๆๆ คนเขียนเก่งมากๆ
บรรยายขั้นตอนการทำออกมาดีมากเลย
อ่านแล้วนึกภาพออกได้ทันที
ชอบแก๊งค์ zoo บุคคลิกแต่ละคนชัดมาก
โตมาคงป่วนแน่นอน มัมต้องคุมให้อยู่นะ 5555
ขอบคุณที่แต่งเรื่องน่ารักๆ มาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 18-05-2018 22:59:30
แอบเชียร์สิงโต 555
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 18-05-2018 23:33:01
มันมีแนวมาให้เชียร์ โอ๊ยยยยย
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 07-09-2018 09:47:05
อ่านไปยิ้มไปหัวเราะไปไม่ว่าจะความเกรียนของนับตังค์ ความน่ารักของน้องด้วง ความตะ...ห่วงกินของพี่ช้วน คือจริง ๆ ก็ชอบทุกตัวละครค่ะ (เท่งที่คิดกลับตัวกะเรืองที่ยังพอรักด้วงนั้น 2 ตัวละครนี้จะรักนิดส์นึงก็ได้ก็ได้) สนุก อบอุ่น และมีความสุขจริง ๆ ค่ะกับเรื่องราว แถมหิวพ่วงด้วย555 ขอบคุณนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 29-09-2018 13:52:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 20-10-2018 08:32:11
เรื่องนี้สนุกมาก น่ารัก อบอุ่น
และที่สำคัญ ทำให้หิวทุกตอนเลยค่ะ
แถมได้วิธีทำอาหารด้วย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 21-10-2018 19:52:36
 :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 16-12-2018 21:36:27
เป็นเรื่องที่สนุกมาก ครบรส มีปมน่าติดตามแต่อ่านแล้วไม่เครียดเลย หิวแทน 5555  :mew1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 10-02-2019 09:24:28
สนุกมาก อ่านแล้วหิวว เก่งมากเลย เอาอาหารมาสอดคล้องเป้นเรื่องได้ชอบจังง :mew4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 03-10-2019 20:54:02
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-10-2019 15:44:51
 :man1: :pig4: :pig4: :pig4: :man1:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 05-10-2019 18:01:39
ชอบเรื่องนี้มากกกก หนูด้วงน่ารักสุดดดๆ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: NOOKNIK21 ที่ 13-05-2021 01:12:17
 :กอด1: 101010กราบไม่แบมือ
เป็นนิยายที่สมบูรณ์แบบมากการบรรยายดีเยี่ยมแบบสุด
ขั้นตอนการทำอาหารคือหิวไม่ไหวดราม่าก็ครบรส
ฉากอ่านพินัยกรรมปู่อนันต์นี้แบบร้องไห้หนักมาก ใครยังไม่อ่านมาอ่านเถอะคะ :katai2-1: :katai5:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Vergintomza ที่ 12-06-2021 12:51:34
ลงตัวมาก ลงตัวทุกอย่าง เนื้อหา บริบทของตัวละครแต่ละตัว ทุกคนมีที่มาที่ไป ชอบมากครับ ขอบคุณมากนะครับ
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 23-06-2021 00:21:57
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Kimmiku ที่ 28-06-2021 11:12:29
เพิ่งได้มาอ่าน สนุกมาก เป็นนิยายที่ละมุน กลมกล่อม มีเหตุมีผล มีข้อคิดดีๆ ได้ความรู้เกี่ยวกับอาหาร ชอบมากกกกกก
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 04-07-2021 02:26:55
เอาจริง ๆ เรื่องนี้เราพลาดไปได้ไง ทั้งที่เราอ่านนิยายในนี้มาตั้งนาน
ปลื้มสุด ๆ เลยครับ //ขอบคุณนักเขียนมาก ๆ เลยครับ
 :L2:
หัวข้อ: Re: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
เริ่มหัวข้อโดย: EaK_kung^^ ที่ 10-07-2021 13:43:36
 o13 เพิ่งได้เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้
เป็นนิยายที่ใช้คำพูดเรียบเรียงได้ดีมากๆ แม้คำบรรยายจะเยอะแต่อ่านได้ลื่น เนื้อหา ความสัมพันธ์ธ์เกี่ยวโยงดีสุด
แถมชอบการบรรยายเรื่องอาหารได้ความรู้และภาพได้อย่างดีเลยจริงๆ
ถ้าตัดเรื่องนิยายวาย เราว่าผู้เขียนเป็นคนที่มีแนวคิดดีมากๆเลยนะครับ ถึงให้ตัวละคร ผู้ใหญ่มีความคิดในทางบวก อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆ ตัวละครหลักก็ดูเป็นเหตุและผลไม่ดูงี่เง่า หรือไร้เหตุ
อ่านแล้วติดจริงๆ ขออ่านเรื่องต่อาไปนะครับ