- ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - ปรุงรักให้ลงล็อก- ตอนพิเศษ หนูด้วงโกทูสคูล (แก้ไขตอนพิเศษเพิ่ม) 17/3/61 P.26  (อ่าน 209294 ครั้ง)

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ไม่น่าอ่านตอนนี้เลย หิว :hao7:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ยังไม่เห็นแววเปิดร้านซะที
รออะไร

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
หยอด จิก กัด เป็นคู่ที่มีหลากรส น่ารักจริงๆ คู่นี้ ขอให้จับมือกัน ชนะมารทั้งหลายด้วยน้อ แรงๆ กันทั้งนั้น
ไม่ว่า ดาวเรือง คีตะ พญา แต่ละปัญหานี้ชวนปวดหัว แต่ดาวเรืองนี้จะใหญ่สุด สงสัยอะ และก็สงสารด้วง
แล้วหวังว่าจะไม่ดราม่าเรื่องร้านน้อ คงจะมีแต่คีตะนี้ละ คงจะไปหาข้อมูลเพิ่มแน่ๆ คาดว่าคงไม่หยุด  :katai1:
แต่ละตอนนี้พาหิวตลอด ได้ทั้งความรู้ด้วย ชอบๆ  o13

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ตอนที่ 14 ขนมจีบ


จากวันสงกรานต์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ก็ครบสองอาทิตย์พอดี เมื่อวันพักผ่อนได้หมดลงทุกคนก็เริ่มเอาจริงเอาจังในหน้าที่ของตนเอง เพราะเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันร้านอาหารจะต้องเปิดตัวแล้ว ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา มีคุณเรียกทุกคนมาประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็นร่วมกันเกี่ยวกับแผนการตลาดกับรูปแบบของร้านอาหารที่เขาวางเอาไว้ อย่างแรกก็คือเรื่องชื่อร้าน ทุกคนช่วยกันคิดจนมาลงตัวกันว่าให้ร้านอาหารแห่งนี้ชื่อว่าร้านอาหาร ‘มีคุณอนันต์’

ประเด็นที่สอง...มีคุณให้นับตังค์เป็นคนจัดการเกี่ยวกับรายการอาหาร นับตังค์เสนอว่าสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการจองและจ่ายเงินล่วงหน้านั้น นับตังค์จะจัดเป็นอาหารชุดพิเศษให้ได้เลือก ชุดอาหารแต่ละวันในหนึ่งอาทิตย์จะไม่ซ้ำกันเลย แต่ลูกค้าสามารถเลือกได้หนึ่งในสามชุดที่นับตังค์จัดเอาไว้ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่นที่นับตังค์คิดสูตรเอง รวมไปถึงของหวานที่นับตังค์ยกหน้าที่ให้ใบเมี่ยงเป็นคนจัดการ โดยนับตังค์จะให้โจทย์เอาไว้ว่าของหวานในวันนั้นจะต้องไปกันได้ด้วยดีกับชุดอาหารคาวของนับตังค์ เครื่องดื่มที่พายพัดมีหน้าที่จัดการก็เช่นกัน

ที่นับตังค์เสนอแบบนี้เพราะอยากให้อาหารที่ทำแต่ละวันได้วัตถุดิบที่สดใหม่หมดวันต่อวัน ถ้าอยากทานเป็นอาหารตามสั่งหรืออยากทานเหมือนร้านทั่วไป นักท่องเที่ยวก็สามารถเลือกไปทานทางฝั่งของพ่อเลี้ยงพยนต์ได้ นับตังค์อยากให้ลูกค้ามีตัวเลือกเพิ่มขึ้นมาอีก รายการอาหารจะเน้นวัตถุดิบในพื้นที่ราคาจะได้ไม่แพงจนเกินไปแต่ได้กินของดีมีคุณภาพ มีคุณและทุกคนสนับสนุนความคิดของนับตังค์เลยได้ข้อสรุปในเรื่องของอาหารเป็นที่เรียบร้อย

เมื่อคุณขจีรับทราบเรื่องแนวคิดเกี่ยวกับอาหารที่นับตังค์เสนอกับมีคุณ เธอจึงได้ยื่นข้อเสนอมาว่าอยากให้ทางร้านมีคุณอนันต์จัดอาหารเย็นให้แขกจากรีสอร์ตของเธอด้วย ทางคุณขจีจะขายเป็นแพ็คเกจให้กับลูกค้าที่ต้องการห้องพักพร้อมอาหารเย็น ซึ่งเมื่อมีคุณเอารายการอาหารชุดพิเศษที่นับตังค์คิดไปให้คุณขจีลงในเว็บไซต์ของรีสอร์ต ลูกค้าทั้งชาวต่างชาติทั้งคนไทยก็จองล่วงหน้ากันเข้ามาจนเต็มทุกวัน ตอนนี้เรียกได้ว่าในส่วนของอาหารเย็นนั้นถูกจองเต็มยาวไปสี่เดือนแล้ว ผลตอบรับนี้ทำให้มีคุณพึงพอใจเป็นอย่างมาก

มีคุณจึงสรุปได้ว่าทางร้านจะเปิดเป็นช่วงเวลาแค่สองช่วง ช่วงแรกเป็นอาหารกลางวัน จะเริ่มเปิดตั้งแต่สิบเอ็ดนาฬิกาถึงบ่ายสองโมง จะเน้นไปที่อาหารจานเดียว ถึงจะเป็นแค่อาหารจานเดียว แต่เมนูที่นับตังค์คิดขึ้นมาและลองทำให้ทุกคนได้กินนั้นมีคุณยอมรับว่ามันดูดีและรสชาติอร่อยเทียบเท่าอาหารจากเชฟในโรงแรม ทุกคนที่ได้ชิมก็เอ่ยปากเป็นเสียงเดียวกันว่าฝีมือของนับตังค์สุดยอดมากจริงๆ ส่วนอาหารค่ำจะเริ่มตั้งแต่ห้าโมงเย็นจนถึงสี่ทุ่มครึ่งและมีไว้สำหรับผู้ที่จองล่วงหน้าเพียงเท่านั้น ที่มีคุณไม่ได้เปิดร้านในช่วงเช้าเพราะว่าอยากให้เชฟและพนักงานทุกคนได้มีเวลาพักพอเพียงและมีเวลาที่จะจัดเตรียมอาหารสำหรับมื้อกลางวันและอาหารค่ำได้อย่างเต็มที่

ขณะนี้มีคุณได้เปิดรับผู้ช่วยในครัวเพิ่มอีกหนึ่งคนและเด็กเสิร์ฟอีกห้าคน ผู้ช่วยในครัวอีกหนึ่งคนที่รับมาเคยทำงานที่นี่สมัยที่คุณปู่ของมีคุณยังบริหารอยู่ เธอมีชื่อว่าสายรุ้ง อายุสี่สิบกว่า รูปร่างเล็กและดูคล่องตัวมาก เธอเป็นคนเชียงราย ผิวขาวและไม่ค่อยพูดมาก ขมิ้นมาช่วยยืนยันว่าสายรุ้งนิสัยดีและขยัน ด้วยความที่เป็นคนเหนือเหมือนใบเมี่ยง ทั้งสองคนจึงสนิทกันรวดเร็ว ส่วนเด็กเสิร์ฟอีกห้าคนเป็นคนในพื้นที่ เป็นผู้ชายสามคนและผู้หญิงอีกสองคน

สำหรับสวัสดิการของพนักงาน มีคุณจัดอาหารให้สามมื้อสำหรับพนักงานทุกคน ทุกคนจะเริ่มทานอาหารเช้าร่วมกันและหลังจากมื้อเช้าเสร็จสิ้นต้องมารวมตัวเพื่อพูดคุย นับตังค์จะบอกเกี่ยวกับรายละเอียดของอาหารชุดพิเศษของวันนั้นๆ ทุกคนจะต้องได้ชิมและรับรู้ว่ารสชาติของอาหารเป็นอย่างไร มีส่วนประกอบอะไร เพื่อจะได้ให้ข้อมูลกับลูกค้าได้ถูกต้องชัดเจนฉะฉาน จากนั้นทุกคนจะต้องมารวมตัวอีกครั้งหลังจากที่ร้านปิดเพื่อพูดคุยถึงปัญหาของแต่ละคนในแต่ละวัน ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง มีคุณจะประเมินการทำงานและบอกข้อติชมจากลูกค้าให้ทุกคนฟังด้วย นอกจากนี้มีคุณยังมีสวัสดิการเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้กับทุกคนด้วยเหมือนกัน

ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมามีคุณยุ่งอยู่กับการทำการตลาดให้กับร้าน อบรมพนักงานเสิร์ฟให้พร้อมสำหรับปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ รวมไปถึงยังต้องคอยดูแลการตกแต่งร้านให้สะอาด แม้ร้านของมีคุณไม่ได้ใหญ่โตเหมือนภัตตาคาร แต่ด้วยความที่เขาเป็นนักวิจารณ์อาหารที่มีอุดมการณ์ในอาชีพสูง มาตรฐานของมีคุณจึงค่อนข้างสูงตามไปด้วย เขาเคยเห็นทั้งข้อดีและข้อเสียจากร้านอาหารที่เขาไปทานและเคยไปวิจารณ์เอาไว้ มาถึงร้านอาหารที่เป็นของเขาเอง เขาอยากให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์ให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

ส่วนนับตังค์ก็ยุ่งอยู่กับการทำอาหารทุกอย่างตามรายการอาหารที่คิดขึ้นมา เมื่อลองจัดเซ็ทกับขนมหวานและเครื่องดื่มของใบเมี่ยงและพายพัดแล้ว อาหารทั้งหวานคาวจะต้องเข้ากันได้ดี มีคุณจะเป็นคนสุดท้ายที่ตัดสินว่ามีอะไรตรงไหนต้องแก้ไขปรับเปลี่ยนหรือไม่ รวมไปถึงจัดการถ่ายรูปอาหารทุกอย่างเพื่อเอาไปลงในเมนูและสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งมีคุณและนับตังค์จะมีเวลาส่วนตัวก็แค่ก่อนนอนเท่านั้น นับตังค์ต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปซื้อของสดด้วยตัวเอง ไหนจะต้องเตรียมอาหารให้ทุกคนได้ลองชิม เสร็จงานแล้วกว่านอนก็ต้องกล่อมให้ด้วงหลับก่อน บางวันก็หลับก่อนด้วงจนมีคุณต้องเป็นคนเล่านิทานให้ด้วงฟังเอง มีคุณรู้ว่านับตังค์เหนื่อยแต่ก็เห็นว่านับตังค์มีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่รักเช่นกัน

ในช่วงนี้ใบเมี่ยงและพายพัดจะเป็นคนช่วยดูแลด้วงให้ในช่วงกลางวัน แต่บางทีก็อดสงสารด้วงไม่ได้เมื่อมีท่าที่เศร้าซึมเวลาที่ไม่ได้อยู่กับนับตังค์ สุดท้ายนับตังค์ก็ต้องยอมให้ด้วงเข้าไปอยู่ในครัวด้วย แต่ให้นั่งที่เก้าอี้ของเด็กที่มีคุณซื้อเอาไว้ให้และตั้งอยู่ตรงมุมห้องครัว ด้วงก็ไม่งอแงยอมนั่งเล่นของเล่นอยู่บนเก้าอี้ บางทีก็หลับคาเก้าอี้เป็นที่น่าเอ็นดูและน่าสงสารปนกันไปเมื่อได้เห็น

มีอยู่อย่างหนึ่งในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาที่สร้างความประหลาดใจให้กับนับตังค์และทุกคนนั่นก็คือ ‘ขนมจีบ’ ทุกๆ เช้าจะมีคนนำขนมจีบมาส่งให้นับตังค์ แม้คนที่มาส่งจะไม่ยอมบอกว่ามาจากไหน แต่นับตังค์เดาได้ว่าใครเป็นคนส่งมา วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ขมิ้นหิ้วขนมจีบเข้ามาในร้านตั้งแต่เช้าตรู่

“วันนี้พี่ไม่กินแล้วนิ เบื่อแล้ว” ขมิ้นยื่นถุงขนมจีบให้นับตังค์ ถึงขนมจีบจะรสชาติดี แต่พอต้องกินทุกวันขมิ้นก็รู้สึกเบื่อ

“หนูจากิน หนูกินนะ” ด้วงร้องขอพร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้า

“ดีมาก พูดชัดขึ้นบ้างแล้ว” นับตังค์เดินไปลูบผมของด้วงแล้วหอมแก้มยุ้ยของด้วงฟอดใหญ่


ใบเมี่ยงเป็นคนช่วยฝึกด้วงให้พูดชัดขึ้น ช่วงเวลาแค่สองอาทิตย์ด้วงพูดกอไก่ได้ชัดขึ้นบ้างก็ถือว่าดีแล้ว อีกอย่างหนึ่งคือใบเมี่ยงไม่ยอมให้ด้วงกินนมจากขวดแล้ว ทีแรกด้วงก็งอแงเพราะชินมาจากตอนที่ดาวเรืองเลี้ยง ใบเมี่ยงบอกว่ามันเป็นภาวะถดถอย แต่ทุกคนช่วยกันแข็งใจไม่สงสาร พยายามหลอกล่อให้ดื่มจากแก้ว สุดท้ายด้วงก็ยอมดื่มนมจากแก้วแทนการดูดขวด ส่วนแพมเพิร์สใบเมี่ยงยอมให้ด้วงใส่แค่ช่วงเวลานอนเพราะคำขอร้องของมีคุณ มีคุณสงสารนับตังค์ หากต้องฝึกด้วงให้เลิกใส่แพมเพิร์สช่วงเวลากลางคืน นับตังค์อาจจะมีเวลานอนน้อยกว่าเดิม เพราะต้องคอยระแวงว่าด้วงจะฉี่รดที่นอน ที่เป็นเช่นนั้นเพราะด้วงไม่ยอมนอนกับใครเลยนอกจากนับตังค์ ซึ่งมีคุณกำลังคิดว่าคงต้องหาพี่เลี้ยงมาช่วยเลี้ยงดูด้วง เพราะตอนที่ร้านอาหารเปิดทุกคนจะไม่มีเวลาอย่างตอนนี้แน่

“พี่บ่าวบอกคนที่มาส่งขนมจีบไปรึยังว่าไม่ต้องมาส่งให้แล้ว” นับตังค์ถามขมิ้น

“พี่บอกจนเมื่อยปากแล้วนิตังนิ” ขมิ้นบ่น

“ต้องไปบอกคนสั่งไม่ใช่คนส่ง ให้พี่ไปบอกให้ไหม” มีคุณถามเสียงเข้ม

“ไม่ต้องเลย พี่จะเปิดร้านอาหารอยู่แล้ว มีศัตรูมันไม่ดีหรอก ก็แค่ขนมจีบ อยากส่งก็ปล่อยให้เขาส่งมา” นับตังค์รีบห้าม

“ตังก็บอกเขาไปสิว่ามีแฟนแล้ว” ใบเมี่ยงเสนอแนะ

“โอ้ย อิตาพญามันคิดว่าตังมีเมียมีลูกแล้วเหอะเมี่ยง คงกะว่าทำคะแนนไปทุกวันรอตังเลิกกับเมีย” นับตังค์พูดแต่หันไปยักคิ้วให้มีคุณ เน้นคำว่าเมียจนมีคุณยกยิ้ม

“เน้นจัง อยากได้ตำแหน่งนี้เร็วๆ รึไง” มีคุณกระซิบถามนับตังค์เบาๆ เขาไม่ได้อายใครแต่กลัวด้วงจะได้ยิน

“เรื่องหื่นไว้ใจมีคุณ ไวเชียว ว่าแต่กิ๊กเก่าพี่หายไปเลย ไม่โทรมาแล้วเหรอ ปกติต้องโทรมาทุกวัน ไม่รับก็ยังโทรมายิกๆ” นับตังค์ถามถึงคีตะ นับตังค์ไม่ได้หึงหวง เพียงแต่ยอมใจในความขี้ตื้อของคีตะ ถึงแม้การพูดคุยจะมาในรูปแบบของเพื่อน แต่การโทรมาหามีคุณทุกวัน เขาไม่รับก็ยังขยันโทรมา นับตังค์เลยอยากรู้ว่าคีตะไม่รู้เลยเหรอว่าแฟนเก่าของตัวเองเป็นคนขี้รำคาญแค่ไหน

“เขาก็แค่โทรมาปรึกษาเรื่องงาน เขาเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน” มีคุณเองก็ยอมรับว่าเขารำคาญคีตะ แต่อีกใจก็นึกเห็นใจ เขาคบกับคีตะมาหลายปี มันก็ยังมีความเป็นเพื่อนให้กันอยู่บ้าง แม้คีตะจะโทรมาบ่อย แต่การที่คีตะยอมกลับกรุงเทพไปโดยไม่มาตามเฝ้าเขาถือว่าดีมากแล้วสำหรับคนเอาแต่ใจอย่างคีตะ

“ไม่แปลก” นับตังค์ยักไหล่ ไม่รู้สึกแปลกใจที่คีตะไม่ค่อยมีเพื่อน

“มานี มีนา มาพอดีเลย มาลองชิมคอกเทลสูตรใหม่นี่ให้พี่หน่อย” พายพัดเห็นฝาแฝดมานีกับมีนาเดินเข้ามาก็รีบเรียก

มานีกับมีนาเป็นฝาแฝดที่มาสมัครเป็นสาวเสิร์ฟ ทั้งคู่จบแค่ชั้นมัธยมปลาย ไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยเพราะฐานะทางบ้านยากจน แต่ทั้งสองคนพูดภาษาอังกฤษได้คล่องเพราะเคยไปช่วยแม่ทำงานบ้านให้กับชาวต่างชาติตั้งแต่ยังเด็กๆ มีคุณรับทั้งสองคนเอาไว้เพราะเห็นว่าพูดภาษาอังกฤษได้ หน้าตาก็ดูยิ้มแย้มและคล่องตัว ช่วงที่ร้านยังไม่ได้เปิด พายพัดพอมีเวลาก็ช่วยสอนภาษาเกาหลีให้กับทั้งคู่ด้วย มีคุณจึงให้ทั้งสองคนมาที่ร้านทุกวันในช่วงนี้ นอกจากมาช่วยหยิบจับงานในร้านก็ยังได้เรียนภาษาเกาหลีกับพายพัดไปด้วย พายพัดบอกกับมีคุณว่าทั้งคู่หัวไวและเรียนรู้ได้เร็ว เห็นว่าใบเมี่ยงจะสอนภาษาจีนให้ด้วยเผื่อต้องต้อนรับลูกค้าคนจีน

“เมื่อวานให้หนูกินน้ำสีม่วงๆ อร่อยมากเลยค่ะโอปป้า” มานีเอ่ยชม

ทั้งมานีและมีนาต่างก็ชื่นชมพายพัดราวกับว่าตัวเองเป็นแฟนคลับและพายพัดเป็นศิลปินเกาหลี ทั้งคู่ถึงกับยืนตะลึงตอนที่ได้เห็นพายพัดในครั้งแรก นอกจากมีรสนิยมที่ชอบดารานักร้องเกาหลีแล้ว มีนากับมานียังเป็นสาววายเต็มตัว เมื่อรู้ว่าพายพัดเป็นแฟนกับใบเมี่ยง ทั้งคู่ถึงกับกรี๊ดดีใจจนขมิ้นเกาหัวจนผมแทบหลุดเพราะเพิ่งเคยเห็นผู้หญิงคลั่งไคล้ผู้ชายที่มีแฟนเป็นผู้ชายก็วันนี้เอง

“เอาขนมจีบไปกินด้วยสิมีนา มานี” มีคุณส่งกล่องขนมจีบให้สองสาว

“ของหนู หนูจากิน” ด้วงร้องท้วงเมื่อเห็นมีคุณจะเอากล่องขนมจีบไป

“เดี๋ยวให้มัมทำให้กิน อันนี้ไม่ดี ไม่ต้องกิน” มีคุณบอกกับด้วง ไม่อยากให้กล่องขนมจีบนี้อยู่ขวางหูขวางตา

“ไม่รู้ใครส่งมานะคะ แต่มีนาว่าเชฟตังทำต้องอร่อยกว่ามากแน่ๆ” มีนาอยากกินขนมจีบฝีมือของเชฟตังบ้างจึงรีบบอก

“คนส่งมาต้องชอบเชฟแน่เลยค่ะ ให้ขนมจีบก็เหมือนมาจีบ” มานีแสดงความเห็น

“หึหึหึ” จู่ๆ มีคุณก็หัวเราะในลำคอจนสองสาวฝาแฝดมองหน้ากันอย่างงงๆ

“ขำอะไร” นับตังค์ถาม สีหน้าของมีคุณดูเจ้าเล่ห์จนไม่น่าไว้ใจ

“ตัง...ทำขนมจีบให้ด้วงกินด้วยนะ พี่ไปทำงานต่อก่อนนะ” มีคุณอารมณ์ดีขึ้นมาเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“อะไรของเขา” นับตังค์มองตามมีคุณที่เดินผิวปากออกไปก่อนจะหันมายักไหล่ให้ใบเมี่ยงที่ยืนขำอยู่

“นี่ดีนะครับว่าเป็นพี่คุณ ถ้าลองเป็นพายนะ ขนมจีบคงไปนอนอยู่ก้นถังขยะแล้ว” ใบเมี่ยงพูดให้นับตังค์ฟัง

“อุ๋งอุ๋ง ไม่เอา ไม่นินทาแฟนนะครับ” พายพัดเดินมาจับคางของใบเมี่ยงให้ส่ายไปมา มานีกับมีนาแอบยิ้มและบิดเขินอย่างกับเป็นใบเมี่ยงเสียเอง

“สรุปว่าบอสกับเชฟก็...คิดแบบนั้นไหมมีนา” มานีกระซิบถามน้องสาวฝาแฝด

“แบบนั้นเลยมานี เฮ้อ...ดูทุกอย่างเป็นสีชมพู มีความสุขจังเนอะ” มีนาตอบก่อนจะหันไปหัวเราะกับพี่สาว

“โลกของสาววาย จินตนาการสำคัญกว่าความรู้จริงๆ นิ” ขมิ้นเห็นแล้วก็ส่ายหน้าก่อนจะขำตามสองสาวที่ดูจะมีความสุขมาก ด้วยความร่าเริงของแฝดสาวก็ทำให้ห้องครัวดูสว่างไสวไปเลยสำหรับขมิ้น

“พรุ่งนี้หยุดพักหนึ่งวัน ตังว่าจะเข้าเมืองหน่อย จะไปซื้อเสื้อผ้ากับดูชักโครกของเด็กให้ด้วง พายกับเมี่ยงจะไปไหม” นับตังค์ถาม

“เราสองคนว่าจะไปเที่ยวที่น้ำตก ยังไม่เคยไปเลย” พายพัดตอบแทนใบเมี่ยง

“ว้าว ต้องลองขึ้นไปชั้นบนสุดดูนะคะโอปป้า ไม่ค่อยมีคนขึ้นไป สวีทได้” มีนารีบแนะนำ

“แหงล่ะ สูงจะตาย ใครจะขึ้นไป” นับตังค์ทำหน้าขยาดเมื่อนึกถึงสะพานเชือกอันนั้น

“เชฟเคยขึ้นไปเหรอคะ ไปกับบอสรึเปล่า นั่นแน่” มานีรีบเข้าไปถามนับตังค์

“หึ ก็ไปกับบอสนั่นแหละ แต่ไม่ต้องคิดเลยนะว่าจะมีอะไรให้แซว มีแต่ความน่าสะพรึง” นับตังค์รีบบอกก่อนจะหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อนึกว่าตัวเองแอบหวั่นไหวตอนที่โดนมีคุณจูงมือ แต่พอนึกถึงตอนที่มีคุณกระโดดให้พานเชือกสั่นก็ชักจะแค้นใจที่โดนแกล้ง แล้วพอมานึกถึงตอนที่ตัวเองแกล้งขี่รถเร็วๆ จนมีคุณหน้าซีดบ้างก็อดขำไม่ได้อีก

“เชฟเมาคอกเทลของโอปป้ารึเปล่า เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวหน้าบึ้ง เดี๋ยวก็หัวเราะ” มานีกระซิบถามพายพัด

“เมารักมากกว่า” พายพัดตอบแล้วยิ้มให้มานี เล่นเอามานีตะลึงยิ้มค้างอยู่นานสองนาน จนมีนาต้องเข้ามาสะกิดให้ไปช่วยกันจัดชุดผ้าปูโต๊ะที่ร้านซักรีดเพิ่งเอามาส่ง มานีถึงต้องยอมออกจากครัวไปด้วยความเสียดาย

“พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันนะด้วง” นับตังค์บอกกับด้วง

“ไปเที่ยว หนูจาไปดูโยมา ชื้อตุ๊ตาด้วย” ด้วงรีบพูดแถมยังทำท่าประกอบเป็นโลมาว่ายน้ำ

“ขอเยอะแยะ มีเงินรึเปล่า” นับตังค์นึกขำด้วง

“มี” ด้วงพยักหน้ารัว

“ไหนล่ะ” นับตังค์แบมือ

“เยืองเอาไปหมดเยย” ด้วงตอบก่อนจะทำปากยื่น

“ชื่อนี้อีกแล้วเหรอ” นับตังค์หน้าบึ้งทันทีที่ได้ยินชื่อดาวเรือง

“มัม กินได้ไหม” ด้วงชี้ไปที่กล่องขนมจีบที่ยังวางอยู่ สรุปว่ามีคุณลืมหยิบเอาออกไปด้วย ด้วงทำตาโตเอียงคอถาม เป็นท่าประจำเวลาอ้อนอยากได้อะไร

“เดี๋ยวพี่ทำให้ใหม่แล้วกัน แด๊ดเขาไม่ชอบ อย่าขัดใจแด๊ด แด๊ดแก่แล้ว ขี้งอน” นับตังค์หายหงุดหงิดเรื่องดาวเรืองเมื่อเห็นท่าทางน่าเอ็นดูของด้วง

“แด๊ดขี้ เหม็นยาเบิดแด๊ด” ด้วงได้ยินคำว่าขี้งอนก็เข้าใจว่ามีคุณอึ เลยทำหน้ายู่ยี่แล้วเอามืออุดจมูก

“น่ารักจังหนูด้วง อุ๋งอุ๋งน้อย” พายพัดอดไม่ได้ต้องเดินเข้ามาหอมแก้มด้วง

“อุ๋งอุ๋ง อุ๋ง อุ๋ง” ด้วงพูดแล้วทำตาโตๆ ทำปากจู๋ เป็นท่าเลียนแบบแมวน้ำที่พายพัดสอนให้ด้วงทำเวลาพูดคำว่าอุ๋งอุ๋ง

ใบเมี่ยงเห็นพายพัดเล่นกับด้วงก็อดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ แต่ในใจลึกๆ ก็นึกไปถึงเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ตัวเองตัดสินใจขายบ้านที่น่านแล้วย้ายมาอยู่ที่เกาะใบไม้ครามนี้ ได้แต่หวังว่าตัวเองจะได้ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและมีความสุขแบบที่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ตลอดไป



มีคุณออกจากครัวมาก็กลับไปที่ห้องทำงาน เขาจ้างช่างมาต่อเติมห้องทำงานเพิ่มเพราะว่านอกจากดูแลบริหารแล้ว มีคุณยังมีโปรเจคหนึ่งที่คิดทำเอาไว้โดยที่ยังไม่ได้บอกใคร ส่วนอาชีพวิจารณ์อาหารเขาคงต้องพักชั่วคราว เพราะการที่เขามีร้านอาหารเป็นของตัวเองในตอนนี้ทำให้เขาไม่มีเวลาไปชิมอาหารตามคำเชิญที่ถูกส่งมาและเขาก็ไม่อยากวิจารณ์อาหารที่ร้านของตัวเองด้วยเช่นกัน ถึงฝีมือของนับตังค์จะอร่อยจนอยากจะเขียนชมแค่ไหนแต่มันจะทำให้คนอื่นโจมตีได้ เขาต้องการให้ชื่อเสียงของนับตังค์เป็นที่บอกปากต่อปากจากลูกค้ามากกว่า ซึ่งเขาเชื่อว่าด้วยฝีมือของนับตังค์ ไม่นานจะเป็นรู้จักในวงการอาหารได้อย่างรวดเร็วแน่ๆ

“ฮัลโหล ว่ายังไงไอ้เขต” มีคุณกดรับโทรศัพท์จากสุดเขต

“แกสบายดีนะ หายไปเลย” สุดเขตไม่ได้คุยกับมีคุณพักใหญ่ก็นึกห่วง แต่นี่ก็ยังไม่ใช่ประเด็นที่เขาโทรมาหามีคุณในวันนี้

“สบายดี ยุ่งนิดหน่อย ร้านใกล้จะเปิดแล้ว”

“แกจะขึ้นมากรุงเทพบ้างไหม”

“คงยัง ทำไม มีอะไรรึเปล่า”

“ไอ้คุณ วันก่อนเฟื้องมาหาฉัน เขาจะให้ฉันช่วยตามหาน้องตังว่ะ” สุดเขตพูดพลางถอนหายใจ

“แกได้บอกอะไรไปรึเปล่า”

“เปล่า แต่ฉันสงสารเขา เขาร้องไห้เป็นห่วงน้อง เอาไงดีวะไอ้คุณ เขาบอกว่าโทรหาน้องตังแล้วแต่น้องตังปิดเบอร์ไปแล้ว”

“อืม เบอร์เดิมมันไม่ค่อยมีสัญญาณเลยเปลี่ยนใหม่ ฉันก็นึกว่าเขาจะโทรไปบอกเบอร์กับครอบครัวเขานะ” มีคุณเป็นคนบอกให้นับตังค์เปลี่ยนเบอร์เอง แต่เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร แค่เห็นนับตังค์บ่นว่าโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณเลย

“น้องตังโทรไปหาละมุด แต่ละมุดมันก็ช่วยเฉไฉไม่ให้น้องตังได้คุยกับเฟื้องตามที่แกเคยขอเอาไว้ แล้วแกจะเอายังไง” สุดเขตถามด้วยความกังวลใจ

“เฮ้ย ฉันขอแค่ก่อนเซ็นสัญญาโว้ย แกยังไม่ได้บอกละมุดเหรอวะไอ้เขตว่าไม่ต้องทำแบบนั้นแล้ว”

“เออ ฉันกลัวน้องตังเปลี่ยนใจกลับบ้านแล้วแกจะซวยเอาได้เลยยังไม่ได้ไปบอก” สุดเขตคิดว่านับตังค์ไม่เคยไปไกลจากบ้านเลย ถ้าทางบ้านมาง้อคงจะกลับไปง่ายๆ เขาเลยยังไม่ได้ไปบอกละมุดว่าไม่ต้องคอยเลี่ยงเวลาที่นับตังค์โทรถามเรื่องที่บ้านแล้ว

“ตอนนี้ฉันคบกับน้องตังแล้วว่ะเขต ฉันจะพาน้องตังกลับบ้านเอง คงจะไปพูดกับพ่อเขาตรงๆ และขอให้น้องตังมาอยู่ด้วย” มีคุณตัดสินใจว่าจะพานับตังค์กลับขึ้นกรุงเทพก่อนที่ร้านจะเปิด

“อะไรนะ แกกับน้องตังได้กันแล้วเหรอ ไอ้คุณเอ้ย ไหนแกว่าน้องไม่ใช่สเป็คแกไงวะ แกจริงจังกับน้องเขารึเปล่า” สุดเขตโวยวายทันทีที่ได้รับรู้

“เบาๆ ดิไอ้เขต ยังไม่ได้กันแต่คบกันแล้ว ฉันจริงจังกับตัง ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอก ฉันถึงอยากไปคุยกับที่บ้านน้องเขาตรงๆ”

“ถ้าแกจริงจังกับน้องตังจริงๆ แกอย่าเพิ่งพาน้องกลับมา ที่บ้านน้องตังรับไม่ได้หรอก เรื่องราวมันจะไปกันใหญ่ ดีไม่ดีพาลจะทำทุกอย่างพังไปหมด เอาแบบนี้ ฉันจะค่อยๆ หาวิธีพูดกับเฟื้อง คิดว่าเฟื้องน่าจะเข้าใจถ้าน้องชายจะคบกับผู้ชาย แล้วฉันจะโทรบอกแกอีกทีว่าจะเอายังไง เฮ้อ ไอ้คุณ แกจะพาลทำให้ฉันเข้าบ้านตระกูลมณีรัตน์ไม่ได้ก็คราวนี้” สุดเขตบ่นอย่างเพลียใจ

“ฉันก็ไม่คิดว่าจะได้มาคบกับตัง รู้อีกทีก็รักไปแล้ว ยังไงแกรีบหาทางพูดกับคุณเฟื้องเร็วๆ นะ ฉันไม่อยากให้น้องรู้สึกแย่” มีคุณเริ่มจะหนักใจเรื่องที่ครอบครัวของนับตังค์จะรับเรื่องของตัวเองกับนับตังค์ไม่ได้ ความสุขที่เกิดขึ้นมันทำให้เขาลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป รู้ว่าเป็นความเห็นแก่ตัวที่คิดจะเก็บนับตังค์เอาไว้กับตัวเอง แต่หากไม่มีนับตังค์ในตอนนี้มีคุณก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร ปมที่เขาเคยโดนทอดทิ้ง ทั้งจากพ่อและคนรักเก่าอย่างคีตะ มันทำให้มีคุณกลัวที่จะต้องเสียนับตังค์ไปอีก

“เออ ฉันจะพยายามหาทางออกให้เร็วที่สุด แต่แกต้องดีกับน้องตังให้มากๆ นะไอ้คุณ” สุดเขตยังแอบคิดไปว่าการที่มีคุณเป็นกังวลในเรื่องนี้เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับมรดกหากน้องตังอยู่ไม่ครบหนึ่งปีตามข้อกำหนดของคุณปู่จึงเน้นย้ำให้ทำดีกับน้องตัง

“แกก็รู้ว่าฉันไม่เคยทิ้งใครก่อน” มีคุณถอนหายใจ

“ก็เพราะรู้ไง ฉันถึงกังวลว่าความใกล้ชิดมันจะทำให้แกหวั่นไหว ที่ฉันคอยหยั่งเชิงถามแกบ่อยๆ เพราะฉันรู้ว่าบ้านของน้องตังเขาเป็นยังไง ขนาดฉันมีพร้อมทุกอย่าง พ่อของเฟื้องยังไม่ค่อยจะยอมเปิดใจให้ฉันเลย ดีว่าแม่ฉันเป็นเพื่อนกับแม่ของเขา ฉันถึงได้เข้านอกออกในได้บ้าง ฉันก็นึกว่าในใจแกยังมีแต่คิว ไม่คิดว่าแกจะตกหลุมรักน้องตังง่ายๆ น้องเขาไม่ใช่แบบที่แกชอบเลยนี่หว่าไอ้คุณ แกแค่หวั่นไหวหรือหลงไปรึเปล่าหรือแกกลัวว่าจะไม่ได้มรดกว่ะ”

“แกหยุดคิดแบบนั้นเลยไอ้เขต เพราะเขาไม่ใช่แบบที่ฉันชอบไง ฉันถึงมั่นใจว่าฉันรักตัง รักแบบที่เขาเป็นเขา ไม่ใช่แบบที่เขามีลักษณะที่ฉันชอบ แกคงไม่เข้าใจ” มีคุณถอนหายใจอีกครั้ง

“ท่าทางจะอาการหนักกว่าตอนคบคิวอีกนะ เออๆ ฉันเชื่อแล้วว่าแกรักน้องเขาจริงๆ หมดลายเสือเลยเว้ยเพื่อนกู”

“เสืออะไร ฉันเป็นหมีต่างหาก” มีคุณนึกถึงตอนที่นับตังค์เรียกเขาว่าหมียักษ์ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

“ท่าทางจะหนักจริงๆ เออ ฉันต้องวางสายแล้ว จะพาแม่ไปกินข้าวที่ร้านของย่าน้องตัง แล้วมีข่าวคืบหน้าอะไรฉันจะโทรมาอีกทีนะ”

“ขอบใจมากนะเขต” มีคุณวางสายจากสุดเขต ในใจเริ่มมีแต่ความกังวลใจและความรู้สึกผิด เขาจะหาทางออกนี้ได้ยังไงดี

...

นับตังค์เห็นว่าช่วงบ่ายนี้ว่างไม่มีอะไรให้ทำแล้วจึงคิดว่าจะทำขนมจีบตามคำขอของมีคุณ รายการอาหารใหม่ๆ ที่ทดลองทำก็ได้ทำจนครบและมีคุณก็ให้ผ่านทุกรายการแล้ว ทีเหลือจากนี้ก็แค่สอนให้พี่สายรุ้งปรุงน้ำซุปและเตรียมเครื่องต่างๆ ที่นับตังค์จะต้องทำในแต่ละวันให้ได้ตามมาตรฐานของนับตังค์แค่นั้นเอง

นับตังค์ตั้งใจจะทำขนมจีบแป้งสดเป็นแป้งแบบขนมจีบไทย นับตังค์จึงจัดการผสมแป้งข้าวเจ้ากับแป้งมันเพื่อที่จะทำแผ่นแป้งเกี้ยวเองเพราะที่ร้านมีทั้งวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการทำครบทุกอย่าง แผ่นแป้งที่ใช้ห่อขนมจีบถ้าทำสดใหม่มันจะนุ่มนวลอร่อยกว่า ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เมื่อผสมแป้งทั้งสองเสร็จแล้วเติมน้ำสะอาดเล็กน้อยให้ส่วนผสมเข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟแล้วกวนจนแป้งสุกจับกันเป็นก้อนและสีใสขึ้น จากนั้นก็พักแป้งเอาไว้โดยใช้ผ้าขาวบางคลุมกันไม่ให้ถูกลมรอให้ความร้อนคลายตัวจะได้จนนวดได้

ระหว่างนี้นับตังค์ก็นำเนื้อกุ้งสับหยาบและหมูสับติดมันมาผสมกับสามสหายที่โขลกละเอียดแล้ว เพิ่มด้วยต้นหอมซอย ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลาดี น้ำมันงา นับตังค์ใช้น้ำแข็งบดละเอียดผสมเข้าไปในขั้นตอนที่นวดไส้ด้วยเล็กน้อย นวดจนไส้เหนียวนุ่มได้ที่ก็กลับมาจัดการแป้งที่คลายร้อนแล้ว นับตังค์เอาหัวกะทิมาแตะที่ปลายนิ้วแล้วนวดแป้งอีกครั้งหนึ่งก่อนจะแบ่งออกเป็นส่วนๆ แล้วคลึงจนเนื้อแป้งเนียนเข้ากันดี จากนั้นนับตังค์ก็นำแผ่นแป้งไปรีดจนได้ความบางที่ต้องการแล้วจึงใช้พิมพ์ตัดแผ่นแป้งเป็นรูปวงกลม

“อยากกินแล้วเหรอด้วง” นับตังค์เห็นด้วงมองมาแบบตาไม่กระพริบเลยเดินมาหา

นับตังค์นึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน หลายครั้งที่ด้วงร้องตามนับตังค์มาอยู่ในครัว แม้นับตังค์ใช้เวลาอยู่ในครัวนานๆ แต่ด้วงไม่เคยงอแงแบบที่เด็กในวัยนี้ควรจะเป็น ด้วงจะคอยจ้องดูด้วยความสนใจ อย่างมากสุดถ้านับตังค์ไม่ได้หันมาชวนคุยแล้วจดจ่ออยู่กับอาหารที่ทำ ด้วงก็หลับคาเก้าอี้เด็กที่มีคุณซื้อมาให้ ดีว่าเก้าอี้ตัวนี้มีลักษณะคล้ายรถเข็นเด็ก ด้วงจึงนอนหลับสบายอยู่ในครัวเป็นประจำ แต่ถึงยังไงนับตังค์ก็ไม่อยากให้ด้วงมานอนในครัวอยู่ดีจึงอยากหาพี่เลี้ยงดีๆ สักคนมาดูแลด้วงตอนที่ร้านเปิด

“จินได้ไหม” ด้วงชูมือจะให้นับตังค์อุ้ม

“กินได้ไหม พูดใหม่ก่อน”

“กินได้ไหม” ด้วงพูดตามช้าๆ

“เก่งมาก แต่ยังกินไม่ได้ อยากทำขนมด้วยกันไหม” นับตังค์ถาม ด้วงพยักหน้าก่อนจะยิ้มกว้าง

นับตังค์อุ้มด้วงขึ้นแล้วพาไปล้างมือก่อนจะพามานั่งที่เคาน์เตอร์ใหญ่ ด้วงดูจะตื่นเต้นเมื่อนับตังค์ส่งช้อนคันเล็กๆ ให้ เด็กแค่สองขวบกว่าเมื่อเห็นของแปลกใหม่ที่ไม่ใช่ของที่เล่นประจำเลยทำตาโตเป็นไข่ห่าน

“เอาช้อนตักแบบนี้ ทำตามนี้นะไม่อย่างนั้นจะไม่ให้ทำ ของกินมีค่าจะทำเป็นเล่นไม่ได้นะ อะ...ดูอีกทีนะ ตักแบบนี้” นับตังค์สอนด้วง แม้ด้วงจะยังเล็กเกินกว่าจะเข้าใจอะไรทั้งหมด แต่นับตังค์คิดว่าสอนตั้งแต่ยังเล็กนี่แหละดีที่สุด เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้

“หนูจาทำ” ด้วงเอาช้อนในมือตักไส้ขนมจีบตามที่นับตังค์ทำให้ดู แต่ก็ตักได้แค่ปลายช้อน นับตังค์จึงจับซ้อนมือด้วงแล้วตักไส้ขนมจีบขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็วางไส้ลงบนแผ่นแป้ง

“เก่งมาก เดี๋ยวพี่จะบอกว่าด้วงเป็นคนทำให้แด๊ดกินนะ อยากให้แด๊ดรักไหม” นับตังค์ถามด้วง

“ยักแด๊ด พี่ยักแด๊ดไหม” ด้วงพยักหน้ายกใหญ่ก่อนจะถามนับตังค์บ้าง

“รักดิ” นับตังค์พูดเบาๆ แล้วก็หัวเราะคิกคัก ด้วงเห็นก็หัวเราะตามจนตาหยีเป็นรูปสระอิ


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2017 18:21:59 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


แล้วนับตังค์กับด้วงก็ช่วยกันห่อขนมจีบจนเสร็จ เสร็จช้าเพราะการให้เด็กที่ยังไม่ประสามาช่วยทำก็ต้องใจเย็น ห่อสวยบ้างไม่สวยบ้างแต่สะอาดก็ไม่เห็นเสียหายอะไร นับตังค์ยอมรับเลยว่าด้วงเป็นเด็กที่น่ารักมาก ว่านอนสอนง่าย มีแอบซนบี้ไส้ขนมจีบเล่นบ้างตอนนับตังค์เผลอ แต่พอนับตังค์เตือนก็หยุดทำแล้วก็ไม่งอแง นับตังค์ยังจำคำบอกเล่าของแม่ได้ว่าตอนตัวเองเป็นเด็ก พ่อกับย่าก็หัดให้เข้าไปอยู่ในครัว นับตังค์ทำของกินเละไม่เป็นท่า ซนหนักกว่าด้วงหลายเท่า

ตอนนี้ขนมจีบที่ห่อเสร็จแล้วก็เตรียมขึ้นซึ้งนึ่ง ไม่กี่นาทีก็จะพร้อมทานแล้ว นับตังค์พาด้วงไปล้างมือแล้วพากลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเองก่อนจะกลับไปเจียวกระเทียมกรอบๆ เตรียมเอาไว้โรยหน้า 

“หอมจนเครื่องดูดควันเก็บกลิ่นไม่อยู่เลยนิ” ขมิ้นเดินกลับเข้ามาในครัวเพราะจะมาเอาน้ำดื่มไปให้ช่างที่มาตกแต่งต้นไม้ในร้าน

“ตังทำเอาไว้เยอะเลย ใกล้สุกแล้ว พี่บ่าวเอาไปให้คนงานกินด้วยก็ได้นะ แล้วบอสอยู่ไหนเหรอพี่บ่าว” นับตังค์ถามขมิ้น

“อยู่ที่ห้องทำงาน หน้าตาดูเหนื่อยๆ” ขมิ้นเอาใบเบิกเงินไปให้มีคุณ เห็นมีคุณสีหน้าไม่ค่อยดีเลยอดเล่าให้นับตังค์ฟังไม่ได้

“รายนั้นก็ไม่ค่อยได้นอน นั่งทำงานดึกดื่นทุกคืนเลย นี่ข้าวกลางวันก็ไม่ยอมมากิน แล้วพายกับเมี่ยงล่ะพี่บ่าว” นับตังค์แอบเป็นห่วงมีคุณอยู่เหมือนกัน งานร้านอาหารจุกจิกสารพัด ไม่แปลกเลยที่คนไม่เคยทำอย่างมีคุณจะวิ่งวุ่นไปหมด

“เอาขนมไปให้คุณขจีที่รีสอร์ต เดี๋ยวคงกลับมา”

“ตังว่าตังเอาน้ำไปให้คนงานเองดีกว่า ฝากพี่บ่าวดูขนมจีบให้ที อีกสามนาทีปิดเตาได้เลย” นับตังค์พูดจบก็เดินไปอุ้มด้วงลงจากเก้าอี้แล้วก็หิ้วกระติกน้ำที่จะให้คนงานออกจากครัวไปโดยไม่ได้สนใจขนมจีบที่ยังนึ่งคาเอาไว้อยู่ 

“เจ้าตังเอ้ย จะมีอะไรที่สนใจมากกว่าอาหารก็คงเป็นนายหัวนี่นิ” ขมิ้นพูดตามไล่หลังไปเมื่อเห็นท่าทีรีบร้อนของนับตังค์

ขมิ้นเดาว่าตอนนี้เจ้านายคนใหม่ของขมิ้นคงมีผลต่อหัวใจของนับตังค์อย่างมากเข้าให้แล้ว แม้ขมิ้นจะไม่เคยมีเพื่อนสนิทที่มีรสนิยมอย่างมีคุณ นับตังค์ พายพัดและใบเมี่ยงมาก่อน อาจจะไม่ค่อยเข้าใจว่าผู้ชายจะมารู้สึกชอบพอกับผู้ชายด้วยกันได้ยังไง ผู้ชายที่เป็นเพศที่ไม่มีความอ่อนหวานนั้นจะแสดงความรักต่อกันยังไง แต่หลังจากที่ได้มาใกล้ชิดคนทั้งสี่คน ขมิ้นถึงได้เริ่มเข้าใจว่าแค่เราเปิดใจรับรู้ถึงความรักที่บุคคลหนึ่งให้แก่อีกคนหนึ่ง ความอ่อนหวานในความรักจะถูกแสดงให้เห็นเองโดยธรรมชาติ เพราะฉะนั้นคำที่ขมิ้นเคยได้ยินมาว่า...ธรรมชาติสร้างให้ผู้หญิงเกิดมาเพื่อรักกับผู้ชายก็คงผิดไปแล้ว ธรรมชาติแค่กำหนดให้เพศผู้และเพศเมียเกิดมาคู่กันเพื่อสืบเผ่าพันธุ์แค่นั้นเอง ส่วนความรักไม่สามารถมีอะไรมากำหนดว่าใครต้องคู่กับใคร แม้แต่ธรรมชาติก็กำหนดความรักไม่ได้เช่นกัน

นับตังค์จูงด้วงเดินมาถึงห้องทำงานของมีคุณแล้วจึงเคาะประตูห้องสองสามครั้ง มีคุณส่งเสียงบอกให้เข้าไปได้จึงเปิดเข้าไป นับตังค์เพิ่งจะเห็นห้องทำงานของมีคุณเป็นครั้งแรก เพิ่งรู้ว่าในห้องนี้นอกจากมีโต๊ะทำงานและตู้เอกสารของมีคุณแล้ว ยังมีอีกมุมหนึ่งที่มีคุณต่อเติมทำเป็นที่ให้พักผ่อนนอนเล่นได้ด้วย ถ้าเข้าใจไม่ผิดมุมนั้นคงสร้างเอาไว้สำหรับด้วง เพราะบนฟูกนอนสีขาวบนเตียงทรงกลมที่อยู่ในส่วนของโดมกระจกที่นับตังค์เห็นนั้นมีหมอนขนาดเล็กและของเล่นของเด็กกองเต็มไปหมด

“หนูจาไปเย่นของเย่น” ด้วงชักมือของตัวเองออกจากมือของนับตังค์ก่อนจะปีนบันไดที่บุนวมกันกระแทกขึ้นไปบนฟูกหนาอย่างรวดเร็ว

“ทำไมพี่ไม่ไปกินข้าวกลางวัน” นับตังค์เห็นด้วงขึ้นไปนั่งเล่นเรียบร้อยแล้วเลยหันมาถามมีคุณที่กำลังเรียงใบเสร็จเข้าแฟ้มอยู่อย่างเป็นระเบียบ

“ยังอิ่มอยู่เลย เป็นห่วงพี่เหรอ” มีคุณปิดแฟ้มแล้วลุกเดินมาหานับตังค์

“ก็ห่วงดิ เดี๋ยวไม่มีคนจ่ายเงินเดือนให้ พี่เครียดอะไร” นับตังค์เห็นว่ามีคุณมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างที่ขมิ้นบอกเลยเอ่ยปากถาม

“พี่ไม่ได้เครียดอะไรนี่” มีคุณยืนพิงโต๊ะทำงานแล้วรั้งเอวนับตังค์ให้เข้ามาใกล้จนชิดตัวเอง

“คิ้วเนี่ยชนกันแบบนี้เนี้ยเรียกว่าเครียด” นับตังค์ยกนิ้วขึ้นมาขยี้ที่หัวคิ้วของมีคุณเบาๆ

“ก็เวลาทำงานเอกสารมันก็ต้องมีบ้าง” มีคุณจ้องมองดวงตาของนับตังค์ที่อยู่ใกล้จนเห็นเงาของตัวเอง พยายามซ่อนความกังวลใจเอาไว้เพราะรู้ว่าสายตาของอีกฝ่ายจับจ้องมาเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง

“มีอะไรบอกตังได้นะ ถึงตังจะช่วยไม่ได้แต่ก็รับฟังได้”

“ไม่มีอะไรหรอก ใกล้เปิดร้านมันก็ยุ่งมากหน่อย ตังเองก็เหนื่อยมากแล้ว แต่ถ้ามีเรื่องที่ตังช่วยพี่ได้ พี่จะบอกนะ ตอนนี้ขอหอมทีหนึ่งได้ไหม” มีคุณอดไม่ได้อยากหอมคนตรงหน้า

“อะโห หัดมีมารยาทขอก่อนหอมตั้งแต่เมื่อไหร่ ไหนดูสิ หัวไปกระแทกอะไรมารึเปล่า” นับตังค์ชะโงกไปดูหัวของมีคุณทางซ้ายทีทางขวาทีจนมีคุณหมั่นเขี้ยวกดจมูกไปหอมแก้มนับตังค์ฟอดใหญ่

“เจียวกระเทียมมาเหรอ” มีคุณถามเพราะได้กลิ่นกระเทียมเจียว

“ก็ทำขนมจีบให้พี่ไง จะตามให้ไปกิน เหม็นก็ไม่ต้องมาหอม”

“พูดรึยังว่าเหม็น” มีคุณเคาะนิ้วไปที่หน้าผากของนับตังค์เบาๆ นับตังค์แกล้งเบ้ปากใส่ มีคุณเลยทำท่าจะจูบ

“ด้วง หมาป่าจะกัดพี่แล้ว ช่วยด้วย” นับตังค์เรียกด้วง ด้วงหันมามองอย่างลังเล อยากจะช่วยมัม แต่ของเล่นชิ้นใหม่หลายชิ้นบนนี้ก็เยอะแยะไปหมด

“ไม่มีหมาป่าหยอก ไม่ต้องจัว” ด้วงพูดจบก็ตัดสินใจหันกลับไปเล่นของเล่นต่อ มีคุณหัวเราะลั่นที่ด้วงไม่ช่วยนับตังค์อย่างเคย

“อ้าว เทกันเลย” นับตังค์ทำหน้าเซ็งที่ด้วงไม่สนใจ

“ตัง...”

“มีอะไร” นับตังค์ถามหลังจากที่เห็นมีคุณเรียกชื่อตัวเองแล้วไม่ยอมพูดอะไร

“อยากกลับไปหาครอบครัวก่อนร้านเปิดไหม ยังพอมีเวลา” มีคุณตัดสินใจถาม

“ก็อยากกลับนะ แต่คงไม่มีใครอยากเจอตังหรอก” นับตังค์ยักไหล่

“ตังรู้ได้ไง” มีคุณหยั่งเชิงถาม

“พี่ชายของตังหายไปหลายปีแล้วพ่อยังไม่เคยตามหาเลย ต่อให้ตังคิดถึงบ้านหรือคนที่บ้านคิดถึงตัง แต่ถ้าตังยังอยู่ในกรอบที่พ่อกับย่าวางเอาไว้ให้ไม่ได้ ตังกลับไปก็คงไม่มีประโยชน์” นับตังค์ถอนหายใจ

“คือ...ถ้าตังอยากกลับบ้านวันไหนบอกพี่ได้นะ พี่จะพาไป แต่พี่ก็อยากให้ตังรู้ว่าที่นี่ก็เป็นครอบครัวของตังนะ” มีคุณโอบกอดนับตังค์

“ถ้าติดใจอยากอยู่เกินหนึ่งปีกับพี่ก็ได้ใช่ไหม” นับตังค์ถาม

“หนึ่งปีเหรอ” มีคุณถึงกับอึ้งไปเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมาที่นี่ทำไม ถ้าเขาไม่ขายที่นี่เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ให้มารดาตามกำหนด ตัวเขาเองก็คงเรียกได้ว่าล้มละลายตามมารดาไปด้วยแน่ การที่ได้มาอยู่ที่นี่ในช่วงเวลาสั้นๆ และได้อยู่กับคนที่เป็นคนพิเศษ คนที่เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นคนรัก รวมไปถึงบุตรบุญธรรมอย่างด้วง มันทำให้เขาลืมจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการมาที่นี่เสียสนิท แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เขาเพิ่งรับรู้ได้ว่าตัวเองบริหารและทุ่มเทให้กับร้านนี้ด้วยความรักโดยไม่รู้ตัว

“คิดอะไรอยู่” นับตังค์เห็นมีคุณเงียบไป

“ได้สิ พี่ให้ตังอยู่กับพี่ได้ตลอดชีวิต” มีคุณตอบตามความจริง แม้อาจจะเป็นความจริงแค่ส่วนเดียว เพราะเมื่อถึงเวลานั้น เขาจำเป็นต้องขายที่นี่ เงินที่ได้คงมากพอที่จะใช้หนี้ให้มารดาและยังเหลือให้เขาเปิดร้านอาหารแห่งใหม่ให้นับตังค์ได้ ถึงจะเสียดายแต่มีคุณคิดว่าตัวเองคงไม่มีทางเลือกนอกจากนี้แล้วจริงๆ

“วันนี้มาผิดโหมด ต้องมีอะไรแน่เลย” นับตังค์รู้สึกว่ามีคุณไม่กวนประสาทเหมือนทุกที

“ผิดโหมดยังไง” มีคุณขมวดคิ้วสงสัย

“ก็ปกติต้องกวน...” นับตังค์พูดแล้วขยับตัวออกก่อนจะยกเท้าให้มีคุณดูแทนคำพูด เพราะไม่อยากให้ด้วงได้ยินคำว่าตีน

“ชอบมีแฟนกวน..รึไง” มีคุณพูดแล้วยกเท้าตัวเองขึ้นถามบ้าง

“หนูจ้อมี หนูจ้อมี” ทั้งคู่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วด้วงเลยหันไปดู ด้วงกำลังนอนยกเท้าของตัวเองขึ้นมาทั้งสองข้างแล้วชี้ให้ดู ด้วงเห็นมัมกับแด๊ดอวดเท้ากันเลยอยากอวดบ้างว่าตัวเองก็มี

“ด้วง!” นับตังค์เห็นแล้วขำ การมีเด็กฉลาดอยู่ด้วยมันช่างอันตรายจริงๆ

“ด้วง ดูสิ มีนกด้วย” มีคุณชี้ไปที่ด้านนอกโดม ด้วงรีบชะเง้อไปดูตามคำบอกของมีคุณ ระหว่างนั้นมีคุณก็รีบขโมยจูบนับตังค์ จนด้วงหันกลับมามีคุณก็ถอนจูบออกพอดี

“ไม่เห็นมีนกเยย” ด้วงส่ายหน้า

“นิดหน่อยก็เอานะ” นับตังค์บ่นแต่ก็อมยิ้ม แรกๆ ที่โดนจูบก็รู้สึกแปลกๆ  หวิวๆ แต่ตอนนี้นับตังค์ว่ามันก็เพลินๆ ดี

“ได้กอดได้จูบแล้วหายเหนื่อยเลย” มีคุณดึงนับตังค์มากอดอีกครั้ง เขารู้สึกอบอุ่นและหายเหนื่อยจริงๆ

“วิถีของคนหื่นก็งี้” นับตังค์ต่อว่ามีคุณแก้เขินแต่ตัวเองก็สวมกอดมีคุณกลับ นับตังค์คิดว่าเวลามีแฟนแล้วได้กอดกันแบบนี้มันรู้สึกอบอุ่นดี มิน่าคนถึงได้ชอบมีแฟน แต่มันคงไม่ได้รู้สึกดีถ้าคนที่เรากอดไม่ใช่คนที่เรารัก ใครจะไปคิดว่าที่นับตังค์ครองตัวเป็นโสดมาตั้งนานเพราะถูกโชคชะตากำหนดมาให้ต้องตกเป็นของหมีปากดีขี้หื่นอย่างมีคุณนี่เอง

“นายหัว เข้าไปได้ไหมนิ” ขมิ้นเคาะประตูถามอยู่ข้างนอก

“เข้ามาได้” มีคุณปล่อยให้นับตังค์เป็นอิสระก่อนจะบอกให้ขมิ้นเข้ามาได้

“ขนมจีบสุกแล้ว หมิ้นเห็นนายหัวยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลยตักมาให้นิ” ขมิ้นวางจานขนมจีบลงบนโต๊ะทำงาน

“หนูจากิน” ด้วงได้กลิ่นหอมก็รีบปีนลงจากเตียงแล้วเดินมาเขย่งเท้าเกาะที่ขอบโต๊ะทำงานของมีคุณ

“ร้อนนะ เป่าก่อน” นับตังค์ร้องบอกเมื่อมีคุณจะป้อนขนมจีบให้กับด้วง ด้วงที่กำลังอ้าปากรอกินขนมจีบจึงรีบห่อปากเป่าดังฟู่ๆ ก่อนจะกิน

“หรอยแรงไหม อร่อยไหม” ขมิ้นถามด้วง ทีแรกด้วงไม่ตอบ ขมิ้นเลยต้องถามเป็นภาษากลาง

“อาหย่อย เอาอีก” ด้วงพยักหน้า

“อร่อยมากเลยตัง ขนมจีบแป้งสดเหรอ พี่เคยกินแป้งแบบนี้ที่เขาปั้นเป็นรูปนก แต่ไส้ของตังอร่อยมาก ไม่แห้ง ชุ่มฉ่ำดี ไส้นุ่มเหนียวเด้งในปากเลย” มีคุณรีบเดินไปหยิบกล้องมาถ่ายขนมจีบแบบระยะใกล้เพื่อโชว์ความชุ่มฉ่ำของไส้ขนมจีบ

“พี่ตักแบ่งมานิดหน่อยให้คนงานได้กิน ชมกันไม่ขาดปากเลย” ขมิ้นเล่าให้นับตังค์ฟัง

“อร่อยมากจริงๆ แต่ทำไมปั้นขนมได้แปลกๆ” มีคุณจิ้มขนมจีบอันที่มันค่อนข้างบิดเบี้ยวขึ้นมาดู

“ฝีมือเด็กน้อยคนนี้ไง” นับตังค์ชี้ไปที่ด้วงซึ่งกำลังเคี้ยวขนมจีบจนแก้มตุ่ยไปข้างหนึ่ง

“เก่งมากเลยด้วง ตัวแค่นี้ทำได้แล้ว” มีคุณยีผมด้วงด้วยความเอ็นดู

“พี่บ่าวบอกมานีกับมีนาให้ไปกินด้วยนะ เอาไปฝากพี่สาลี่ด้วย ตังทำเอาไว้เยอะ”

“จัดใส่กล่องให้ชุดหนึ่งนะ พี่จะเอาไปฝากใครบางคน” มีคุณพูดแล้วก็ยิ้มมุมปาก

“มีแผนการร้ายชัวร์” นับตังต์เห็นสีหน้าของมีคุณแล้วก็พูดออกมา

“ร้ายอะไร แฟนตัวเองเป็นคนมีน้ำใจ รู้เอาไว้ด้วยนะ” มีคุณพูดแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

นับตังค์รู้ว่ามีคุณจะส่งขนมจีบไปให้พญา แต่ไม่รู้ว่าคิดอะไรในใจ แต่นับตังค์ไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่ส่ายหน้านึกขำว่าคนที่ดูจริงจังกับชีวิต เวลาหึงขึ้นมาก็ทำตัวเป็นเด็กได้เหมือนกัน

...

เสียงตะโกนโหวกเหวกของพญาดังลั่นห้องทำงานที่ตั้งอยู่ภายในตลาดสดที่ตัวเองบริหารอยู่ พเยียที่กำลังมาหาพี่ชายของตัวเองพอดีได้ยินก็ตกใจจนต้องรีบวิ่งเข้ามาดูว่าเกิดอะไรข้างในห้อง ภาพที่เห็นคือลูกน้องของพญานั่งคุกเข่าก้มหน้าตัวสั่นกันเป็นแถว พเยียไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้พี่ชายของตัวเองโมโหได้ขนาดนี้ รู้แต่ว่าพี่ชายของตัวเองถือกล่องที่บรรจุขนมจีบด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยวขนาดหนัก

“เกิดอะไรขึ้นคะพี่รอง ไอ้พวกนี้มันทำอะไรให้พี่โกรธ” พเยียถามพี่ชาย

“มันโง่ไง ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้เรื่องสักคน โว้ย!!!!!” พญาชี้หน้าด่าลูกน้องตัวเอง

“แต่ผมเลือกร้านที่อร่อยที่สุดในตลาดตามที่นายสั่งเลยนะครับนาย” ก้าน ลูกน้องคนสนิทรีบอธิบายให้เจ้านายของตัวเองฟัง

“แค่ขนมจีบเนี่ยนะที่ทำให้พี่รองโกรธขนาดนี้ ไหน...เยียขอชิมสิคะ” พเยียไม่ทันฟังคำทัดท้านของพี่ชาย จิ้มขนมจีบในกล่องมากิน แล้วพเยียก็ต้องทำตาโต

“อร่อยมากเลยค่ะพี่รอง เยียไม่เคยกินขนมจีบที่ไหนอร่อยแบบนี้เลย” พเยียเอ่ยชมก่อนจะเอื้อมมือไปจะจิ้มขนมจีบอีกลูกมาชิมซ้ำ แต่คราวนี้พญาชักกล่องขนมจีบหนี

“พี่ไม่ได้หมายถึงกล่องนี้ กล่องนี้มันต้องอร่อยมากอยู่แล้ว อร่อยที่สุดในโลกของพี่เลย” พญาแทบจะกอดกล่องขนมจีบที่ถือเอาไว้

พเยียขมวดคิ้ว รู้สึกไม่เข้าใจอารมณ์พี่ชายของตัวเอง ทำไมต้องโกรธมากกับอีแค่เรื่องของกิน พี่รองไม่เคยใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ แล้วทำไมต้องหวงขนมจีบกล่องนั้นขนาดนั้น จนสายตาเหลือบไปเห็นการ์ดฉบับหนึ่งที่เปิดคาเอาไว้บนโต๊ะจึงหยิบมาเปิดอ่าน

“ส่งมาให้ชิมดูว่าขนมจีบที่มันอร่อยมันต้องมีรสชาติยังไง แล้วก็เลิกส่งขนมจีบมาจีบได้แล้ว เพราะขนมจีบที่ส่งมา ไส้ของมันใส่แห้ว เข้าใจไหม มันเลยแห้ว ย้ำ แห้วนะครับ ขีดเส้นใต้และทำตัวหนาอีกครั้งว่า แห้วครับ แบบนั้นเขาเรียก ขนมจีบ..ไม่ติด จากคนที่มีเมียมีลูกแล้วและรักเมียมาก” พเยียอ่านข้อความในการ์ดจบก็หันไปมองพี่ชายที่กำลังกัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสันนูน

“ไอ้ก้าน!!! มึงไปบอกแม่ค้าร้านขนมจีบที่มึงไปซื้อมา ถ้ามันยังใส่แห้วในขนมจีบอีกให้มันไปขายที่ตลาดอื่น กูไม่ให้มันเช่าแผงแล้ว โว้ย!!! พวกมึงมันโง่ ทำไมไม่ชิมก่อนว่าขนมจีบมีแห้วผสม กูเลยแห้วเลย ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้เรื่องสักคน ไล่ออกให้หมดดีไหมวะ หงุดหงิดโว้ย” พญาตะโกนโวยวาย เดินไปเตะก้นลูกน้องทีละคนเพื่อระบายความโกรธ แต่มือก็ยังประคองกล่องขนมจีบด้วยความหวงแหนก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไป

ที่พญาหงุดหงิดเพราะเข้าใจไปว่านับตังค์เป็นคนเขียนการ์ดแนบมาให้ คำว่ารักเมียมากมันทำให้พญาเจ็บจี๊ดที่หัวใจ แต่ยังไงพญาก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด คนอะไรทั้งน่ารักทั้งทำอาหารอร่อยขนาดนี้ มันควรจะต้องมาเป็นเมียเขาไม่ใช่ไปเป็นผัวคนอื่น การได้ชิมขนมจีบสุดอร่อยกล่องนี้มันยิ่งทำให้พญามั่นใจว่า นับตังค์ช่างเป็นคนที่คู่ควรกับพญาผู้ยิ่งใหญ่แห่งเกาะใบไม้ครามที่สุด ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำให้ครอบครัวของนับตังค์ร้าวฉานเสียที

“ตกลงนายของพวกแกไปตกหลุมรักผัวใครกัน” พเยียถามลูกน้องของพญา นึกกลุ้มใจที่พี่ชายของตัวเองอาการหนัก จากที่รักชอบเพศเดียวกัน ชอบไปยุ่งกับนักท่องเที่ยวที่ถูกใจจนทำให้พ่อปวดหัวบ่อยๆ ก็เรียกว่าหนักมากแล้ว นี่ถึงกับไปหลงรักผู้ชายที่มีเมียมีลูกแล้ว ถ้าพ่อรู้เข้าคงเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ

“คนที่ฝั่งโน้นครับคุณหนู ชื่อนับตังค์” ก้านบอกกับเพยีย

“นับตังค์อย่างนั้นเหรอ” พเยียทำท่านึกว่าชื่อนี้คุ้นๆ สุดท้ายเมื่อนึกขึ้นได้ก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ ที่แท้คนที่พี่รองติดอกติดใจก็คือคนที่ทำให้คีตะหัวเสียจนต้องกลับไปตั้งหลักที่กรุงเทพนี่เอง แล้วพเยียก็นึกไปถึงพายพัด ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อคิดได้ว่าตัวเองจะหาเรื่องไปใกล้ชิดกับพายพัดได้ยังไง


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


ขอโทษที่หายไปนานนะคะ โหมงานประจำหนักเลยป่วยไปหลายวันเลย ขอบคุณที่ยังติดตามค่ะ
เดี๋ยวกลับมาแก้คำผิดนะคะ ขอให้อร่อยกับตอนขนมจีบนี้นะคะ กอดกันๆ



เครดิตรูปจาก Google

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2017 18:20:51 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อูยยยยยยย อ่านแล้ว น้ำยายย๋ายยยยย // ฮา พี่พญาอ่ะ 55555 ตกลงพี่เป็นตัวร้ายในเรื่องจริงหรือเปล่า? แลดูพี่ออกแนวลูกชายพ่อกำนันในมนต์รักลูกทุ่ง อะไรงั้นนะ 555555

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
นี่ดีนะไม่ได้อ่านตอนกลางคืน นึกภาพตามได้เลยอ่ะพวกอาหาร555

แต่ขนาดตอนกลางวันก็ยังอยากกินเลย

มีคุณนี่วางแผนสุดๆ

รู้สึกจะเริ่มมีการป่วนๆเล็กน้อย (?)

ติดตามต่อไปป :mew1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
หิวววววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
อยากทานขึ้นมาทันใด

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
อยากให้นับตังค์ไปถามคุณขจีที ว่ารู้จักกับดาวเรืองได้ยังไง  และเล่าเหตุการณ์ที่ด้วงกลัวทุกครั้งที่เจอดาวเรือง  เผื่อจะมีกล้องวงจรปิด หรืออะไรก็ตามที่สามารถดูย้อนหลังได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ถ้านับตังค์คอยสอนด้วงทำอาหาร  ไม่แน่อาจมีเชฟอายุน้อยที่สุดในร้านอาหาร "มีคุณอนันต์" มาคอยช่วยนับตังค์ก็ได้

:m20: กับข้อเขียนที่มีคุณเขียนถึงพญา  ขนมจีบไส้แห้ว ก็ต้องแห้วต่อไปล่ะกัน

สงสารนับตังค์เรื่องครอบครัว แต่อยากให้นับตังค์ทำงานที่นี่ จนมีชื่อเสียงจนพ่อหรือย่าได้รู้และลงมาดูเองกับตาดีกว่า ที่นับตังค์จะกลับไปเยี่ยมครอบครัวตอนนี้

:L2: :pig4: คนเขียน และรักษาสุขภาพด้วยนะคะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2017 10:56:36 โดย gookgik »

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เครียดตามพี่หมีอะ 1 ปีทำไงดีไม่อยากให้ขายร้านเลย  :monkeysad:
อบอุ่น น่ารักทุกคู่เลย น้องตังค์นับวันยิ่งน่ารัก มัน แด๊ด ด้วง ชอบๆ  :กอด1:
ปิดท้ายด้วยความร้ายของพี่หมี จบด้วยความฮาจากพ่อพญา  :pigha2:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ขนมจีบทำเอาหิวเลย ฮาตรงที่มีคุณส่งขนมจีบไปเย้ยอิตาพญานี่แหล่ะ แห้วนะแห้ว  :laugh:

แต่ไม่อยากจะคิดเลย ถ้านับตังรู้ว่ามีคุณจะขายร้านจะเป็นยังไง อยากให้มีคุณคุยกับนับตังตรงๆ แล้วหาวิธีแก้มากกว่านะ  :hao5:

เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ไม่อยากให้มีดราม่าเรื่องร้านอ่ะ
อยากให้มีคุณคุยกับนับตังค์ดีๆไปเลย
แบบเปิดอกคุยค่ะ
หรือจะถอดเสื้อผ้าคุยก็ไม่ว่ากัน
คือมีคุณดูรักจริงอ่ะ ไม่ได้แบบแกล้งทำ
น้องตังค์ก็ดูรักอ่ะ
ฮื่ออออออออออออออออออออออ
ให้จับมือกันไปตีกับคนอื่นดีกว่าค่ะ อิตาพญา คีตะ ไรนู่นดีกว่า อ้อ อีกคนสิ น้องพญาอ่ะ
จะมาเอาพายพัดไม่ได้ นั่นของใบเมี่ยงเด้อ
 :katai1:  :fire:
เรื่องราวน่ารักอ่ะ
อ่านทีไรหิวทุกทีเลย
 :mew1:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ชอบพญาอ่ะ อย่าเอาดีทางเป็นตัวร้ายเลย เป็นตลกเหมาะกว่า แล้วฝากคนเขียนหาสามีให้ซักคน

ออฟไลน์ PiiNaffe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
หิววววววววว
น่าตะีออ่านเรื่องนี้พรุ่งนี้  :ling1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ littlep_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
ขนมจีบแป้งสดไม่เคยกินเลย ปกติกินแบบห่อด้วยแป้งเกี๊ยว.  หิวววววว :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 o13 สนุกมากกกกกกกกกกกก

อ่านไปหิวไปเลย อยากลองทำเองดูบ้างแต่คงได้แค่เจียวไข่ กับข้าวผัดกะปิ

หนูด้วงน่ารัก ~ เรามีความรู้สึกว่าหนูด้วงต้องมาจาก พดด้วง คือลูกของพี่ชายตังแน่ๆ แล้วสัญญาต่างๆของคุณปู่นี้อีก อนาคตต้องวุ่นวายแน่ๆ ช่วยลุ้นนะคะ มาต่อไวๆ พี่คุณจะได้ล่าเตียงซะที555

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ตอนที่ 15 รังไร


วันนี้หนูด้วงตื่นตั้งแต่เช้าเหมือนจะรู้ว่าจะได้ไปเที่ยว ยอมอาบน้ำแต่งตัวอย่างว่าง่ายโดยไม่อิดออดเหมือนทุกครั้ง เมื่อคืนนี้นับตังค์แยกเสื้อผ้าของด้วงใส่ถุงเอาไว้ เสื้อผ้าที่ถูกแยกเป็นเสื้อผ้าที่ค่อนข้างคับและเก่า ซึ่งพอนับตังค์แยกออกมาแล้วชุดที่เหลือพอจะใส่ได้ก็มีเพียงไม่กี่ตัวแค่นั้นเอง นึกสงสารด้วงที่ต้องมาเสียพ่อและแม่ไปตั้งแต่ยังไม่รู้ความ พอได้มาอยู่กับคุณปู่ คุณปู่ก็มาเสียชีวิตไปอีก ตอนที่ไปอยู่กับคุณขจีก็ไม่รู้ว่าถูกดาวเรืองรังแกยังไงบ้างถึงได้ดูหวาดกลัวหลายอย่าง ถึงตอนนี้ด้วงจะอยู่ภายใต้การดูแลของมีคุณแล้ว แต่มีคุณไม่ใช่คนที่พร้อมจะดูแลเด็ก นับตังค์เข้าใจดีว่าเรื่องการมีลูกแบบกะทันหันมันสร้างความกดดันให้มีคุณไม่น้อย นับตังค์ก็ไม่ใช่ว่าจะดีกว่ามีคุณ เพียงแต่ตัวเองเติบโตมาในครอบครัวที่มีพร้อมทั้งพ่อและแม่ ถึงจะเป็นผู้ชายแต่ก็ถูกฝึกมาให้เป็นเหมือนแม่บ้านแม่เรือน อย่างน้อยก็ใส่ใจกับเรื่องละเอียดอ่อนได้มากกว่ามีคุณ แต่นับตังค์ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะได้อยู่กับมีคุณนานแค่ไหน ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อมั่นในตัวของมีคุณ แต่เรื่องของความรักมันไม่มีอะไรแน่นอน หากวันหนึ่งที่ไปกันไม่ได้หรือไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ นับตังค์ก็ไม่รู้ว่าด้วงจะเป็นอย่างไรในวันนั้น

“ไปกันได้แล้ว” มีคุณเดินเข้ามาตามนับตังค์เมื่อขมิ้นมาบอกว่าเบิ้มเอาเรือมารอที่ท่าแล้ว

“หนูจาไปเที่ยว ใฉ่หมวกใฉ่ยองเท้า” ด้วงรีบวิ่งไปหยิบหมวกกับรองเท้ามายื่นให้นับตังค์

“ถ้าปวดฉี่ปวดอึต้องทำไง” นับตังค์ถามด้วง

“ทำแบบนี้” ด้วงย่อขาลงแล้วเอามือกุมท้องพร้อมกับทำหน้ายู่

“เก่งมาก” นับตังค์หัวเราะชอบใจที่ด้วงทำตามที่สอนได้

“แล้วจำที่แด๊ดสอนได้รึเปล่า” มีคุณถามด้วงบ้าง ด้วงพยักหน้า

“สอนอะไร” นับตังค์ย่นคิ้วเข้าหากัน

“จำได้ ต้องจับมือตาหยอด แบบนี้เยย” ด้วงเดินไปจับมือมีคุณข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็จับมือของนับตังค์

“ดีมาก ห้ามปล่อยนะ” มีคุณยกยิ้ม

“จูงแด๊ดคนเดียวก็พอ” นับตังค์รีบบอกเพราะคิดว่าถ้าต้องเดินจูงกันไปแบบนี้คนอื่นต้องมองแน่ๆ

“ไม่ได้ ปล่อยไม่ได้” ด้วงทำหน้ายุ่งและจับมือของนับตังค์แน่นกว่าเดิม

“สอนดีนักนะ” นับตังค์กัดฟันพูดกับมีคุณ

“กลัวลูกหลงไง ไปกันเถอะ” มีคุณตีเนียนแล้วจูงมือด้วงไป ด้วงก็จูงมือนับตังค์ให้เดินตามมาอีกที กลายเป็นภาพครอบครัวพ่อแม่ลูกสมดั่งใจที่มีคุณต้องการ


ทีแรกนับตังค์ก็กังวลว่าด้วงจะเมาเรือ แต่ปรากฏว่าด้วงยังคงสดใสและร่าเริง แถมยังชวนนับตังค์กับมีคุณคุยเจื้อยแจ้วตลอดการเดินทาง จนทั้งสามคนมาถึงตัวเมืองในที่สุด เบิ้มเช่ารถยนต์เตรียมเอาไว้ให้มีคุณเหมือนอย่างทุกทีที่มีคุณเข้ามาในเมืองเพราะมันจะสะดวกกว่านั่งรถสองแถว 

หลังจากที่ไปเลือกดูชักโครกสำหรับเด็กและสั่งซื้อเรียบร้อยแล้ว มีคุณก็พานับตังค์กับด้วงไปเที่ยวที่ซีเวิร์ลเพราะด้วงอยากไปดูโชว์ปลาโลมา วันนี้มีชาวต่างชาติมาเที่ยวกันเยอะ แต่ละคนก็ตัวสูงใหญ่จนด้วงมองไม่เห็น มีคุณจึงอุ้มด้วงให้มาขี่คอตัวเอง ด้วงส่งเสียงอู้หูทุกครั้งที่ปลาโลมากระโดดลอดห่วง บางทีเห็นคนอื่นปรบมือก็ปรบมือตามบ้าง นับตังค์เห็นแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ รู้สึกผูกพันและเอ็นดูด้วงขึ้นมาทุกทีจนบางทีก็เผลอตัวคิดไปว่าด้วงคือลูกของตัวเองจริงๆ ไปแล้ว

“โยมากระโดดฉูง แย้วก็ตกน้ำตู้ม” ด้วงพยายามทำท่าทำทางประกอบเสียใหญ่โตจนนับตังค์ต้องแกล้งตื่นเต้นตามไปด้วย

“จริงเหรอ แล้วน้ำกระเด็นไหม” นับตังค์ถาม

“เปียกหมดเยย” ด้วงพยักหน้าแล้วทำตาโตเหมือนโดนน้ำกระเด็นใส่ตัวเอง

“รู้ไหมว่าโลมาที่ดูน่ารักแบบนี้นิสัยจริงของมันไม่น่ารักสักเท่าไหร่” มีคุณพูดกับนับตังค์ระหว่างที่ด้วงกำลังเพลิดเพลินกับการดูโชว์อย่างตื่นตาตื่นใจ

“ทำไมอะ ไม่น่ารักยังไง” นับตังค์ก็เห็นว่ามันดูเชื่อฟังคนสอนดี

“พฤติกรรมของมันขึ้นชื่อว่าหื่นมาก”

“โลมาหรือมีคุณ” นับตังค์เลิกคิ้วถาม

“กวนละ พี่พูดเรื่องจริงนะ” มีคุณอยากจะฟัดแก้มคนกวนประสาทเสียจริง

“อะๆ เล่าต่อ ไม่กวนแล้ว ฮ่าๆ” นับตังค์เอาไหล่ไปเบียดกระแทกมีคุณเบาๆ แทนการง้อ

“มันเป็นสัตว์ที่มีเซ็กส์เพราะความสนุกนะ ช่วงผสมพันธุ์นะมันจะรุมโทรมตัวเมีย ถ้าตัวเมียไม่สมยอมมันก็จะซ้อมด้วยการเอาตัวชน เอาหางฟาดจนกว่าตัวเมียจะยอม”

“ร้ายกาจ” นับตังค์ทำหน้าสยอง

“ตัวผู้บางตัวก็ทะลึ่ง ถ้าใกล้ชิดกับคนมากๆ มันถึงกับจะมาทำเรื่องนั้นกับคนด้วยนะ”

“จริงดิ” นับตังค์ฟังแล้วรู้สึกอึ้งกับข้อมูลที่ไม่เคยรู้

“จริง แล้วรู้ไหม..”

“ไม่รู้”

“ยังไม่ได้เล่า”

“แหะๆ ย่อเย่น อะเล่าๆ ไม่ขัดแล้ว” นับตังค์แกล้งพูดไม่ชัดเลียนแบบด้วง

“พวกมันส่วนใหญ่เป็นไบเซ็กส์ชวล มันสามารถมีเซ็กส์กับเพศเดียวกันเพื่อความสนุกอีกด้วย แล้วถ้าช่วงไหนที่เกิดความไม่สมดุลทางเพศในฝูงของมัน อย่างเช่นถ้ามีประชากรที่เป็นตัวผู้มากกว่า ถ้าตัวเมียคลอดลูกเป็นตัวผู้ออกมาอีก บรรดาโลมาตัวผู้จะร่วมกันฆ่าลูกโลมาอับโชคตัวนั้นทิ้ง”

“เฮ้ย น่ากลัวอะ พี่รู้ได้ไง จริงหรืออำ” นับตังค์ฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อ

“จริง พี่เคยดูสารคดีมา นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ที่มันขี้เล่นและดูเป็นมิตร นั่นเป็นการเล่นสนุกอย่างหนึ่งของมัน ประมาณว่าเป็นของเล่นยามว่างแค่นั้น แต่นิสัยจริงนะ ถ้ามันเล่นอะไรเบื่อแล้ว มันจะฆ่าให้ตายก็มี”

“เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าดูคนที่ภายนอกไม่ได้ ดูปลาโลมาที่ภายนอกไม่ได้เช่นกัน จำไว้นะด้วง บางคนหน้าตาเถื่อนๆ แต่ความรู้รอบตัวเยอะมาก จะไปดูถูกไม่ได้” นับตังค์ปรบมือให้มีคุณ

ด้วงหันมามองเมื่อได้ยินนับตังค์เรียกชื่อของตัวเอง พอเห็นนับตังค์ปรบมือก็ปรบตาม แล้วก็หันไปสนใจดูโลมาต่อ

“ไม่เอาครับ ไม่นินทาแฟนนะครับ เดี๋ยวแฟนน้อยใจกลับบ้านไปเจอปล้ำนะครับน้องตัง” มีคุณกระซิบที่หูของนับตังค์

“นี่ไปเอาดีเอนเอของปลาโลมามาป๊ะ” นับตังค์ถามเสียงสูงแบบกวนๆ

“ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ ตั้งใจว่าจะถ่ายดีเอนเอของตัวเองให้น้องตังเร็วๆ นี้ โอเคนะ”

“ไม่โอเค” นับตังค์เบ้ปากใส่ มีคุณหัวเราะพลางนึกในใจว่าแฟนของตัวเองไม่มีความโรแมนติกเอาเสียเลย

ทั้งสามคนนั่งดูโชว์ปลาโลมาจนจบ ด้วงเล่าเรื่องโลมาที่ได้ดูมาแบบฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่รอยยิ้มที่สดใสของด้วงเป็นเครื่องหมายแสดงให้มีคุณกับนับตังค์เห็นว่าเด็กน้อยคนนี้กำลังมีความสุขมากจริงๆ

“หิวรึยัง เห็นเบิ้มบอกว่าที่ห้างเขามีงานมหกรรมอาหารพอดี” มีคุณถามนับตังค์

“ไปที่ห้างเลยก็ได้ ด้วงคงหิวแล้ว” นับตังค์บอกเพราะเห็นด้วงมองไปที่ร้านขายขนม ดวงตาเป็นประกาย


เมื่อทั้งสามคนมาถึงห้างสรรพสินค้า นับตังค์ชวนมีคุณไปกินข้าวก่อน จากนั้นค่อยไปเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าให้ด้วง ท้ายสุดค่อยไปเดินที่งานมหกรรมอาหาร เพราะว่านับตังค์อยากซื้อของกินในงานไปฝากทุกคนในบ้าน มีคุณเห็นด้วยเลยให้นับตังค์เป็นคนเลือกว่าจะกินอะไร ซึ่งนับตังค์เลือกกินสุกี้

“ชอบกินสุกี้เหรอ” มีคุณถาม

“ใช่ ชอบกินเป็ดย่างด้วย พี่ไม่ชอบเหรอ จะกินอย่างอื่นก็ได้นะ” นับตังค์ถามกลับ

“ชอบสิ ชอบมากเลยแปลกใจที่ตังชอบเหมือนกัน” มีคุณแสดงท่าทีดีใจออกมา

“แค่นี้ก็ดีใจ”

“ดีต่อใจ” มีคุณยิ้มให้นับตังค์ที่แกล้งทำเป็นดูรายการอาหารแต่ก็เห็นได้ชัดว่าอมยิ้มอยู่เหมือนกัน

มีคุณเอาแต่นั่งมองนับตังค์กับด้วงจนเพลิน รู้สึกว่าสุกี้มื้อนี้เป็นสุกี้ที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยได้กินมา มันอิ่มเอมทั้งท้อง อิ่มเอมทั้งหัวใจ ผู้ชายตรงหน้าพยายามจะสอนให้เด็กตัวน้อยกินผัก หลอกล่อสารพัด เจ้าเด็กน้อยก็ฉลาดไม่เบา ผักอันไหนกินได้ก็กินโชว์เพราะอยากได้รับคำชม ผักอันไหนไม่ถูกปากก็อมเอาไว้ที่กระพุ้งแก้มแล้วบอกว่ากินไปแล้ว ศึกสังหารผักลงท้องจบลงด้วยฝ่ายมัมมี่นับตังค์ชนะขาดลอยเพราะว่าถ้าเด็กน้อยไม่กลืนผักลงไปจะอดได้ตุ๊กตา ผักที่ถูกอมเอาไว้จึงต้องไหลลื่นลงคอไปแต่โดยดีแม้เจ้าตัวจะอยากคายออกมาก็ตาม

“กินอะไรให้เลอะ” นับตังค์ไม่ได้พูดกับด้วง แต่กำลังพูดกับมีคุณ พร้อมกันนั้นก็โน้มตัวลุกขึ้นมาเอาทิชชูเช็ดที่มุมปากของมีคุณให้ก่อนจะกลับไปนั่งอย่างเดิม

มีคุณถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่คิดว่านับตังค์จะกล้าแสดงออกกับเขาต่อหน้าผู้คนอย่างนี้ มีคุณไม่ได้ตกใจ แต่กำลังดีใจจนพูดไม่ออก มีคุณคงแสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้าเกินไปนับตังค์ถึงได้ยิ้มอ่อนกลับมาให้

“อยากทำแบบนี้มานานแล้ว ดูในซีรีส์เกาหลีแล้วตั้งใจว่าถ้ามีแฟนจะทำแบบนี้ให้บ้าง” นับตังค์พูดจบก็หัวเราะ

“ต่อไปพี่จะกินให้เลอะบ่อยๆ นะ” มีคุณใจเต้นแรงให้กับรอยยิ้มและความโรแมนติกของนับตังค์ที่เขาเพิ่งจะได้เห็นเป็นบุญตา

“เป็นพาร์กินสันรึไง ถึงได้จะมือไม้สั่นกินแล้วหกเลอะเทอะบ่อยๆ ไม่ได้เรื่อง” นับตังค์บ่น

‘จบกัน’ มีคุณนึกในใจ ความโรแมนติกที่กำลังก่อตัวหายวับไปกับตา นับตังค์ก็ยังคงเป็นนับตังค์ ทำให้เขาทึ่ง อึ้ง เกินความคาดเดาไปได้ทุกทีสินะ

“แด๊ดไม่ได้เยื่องเยย” ด้วงหันมาบ่นสมทบ

‘สรุปว่าในครอบครัวนี้คนที่แพ้ต้องเป็นแด๊ดคนนี้สินะ ยอมก็ได้ ลูกเมียน่ารักแบบนี้ยอมแพ้หน่อยจะเป็นไรไป’ มีคุณได้แต่นึกในใจ เพราะขืนพูดออกไปเขาคงโดนโลมานับตังค์สะบัดหางใส่จนไส้แตกก็เป็นได้ การทำให้นับตังค์เขินมากเกินไปจะเป็นภัยต่อชีวิต ต้องค่อยๆ หยอด ค่อยๆ จีบ ค่อยๆ หวาน มีคุณชักจะรู้ทางของคนที่ตัวเองรักแล้ว 


อิ่มจากสุกี้แล้ว นับตังค์กับมีคุณก็ไปเลือกซื้อเสื้อผ้าให้ด้วง ด้วงต้องมองทั้งคู่เถียงกันไปมาเรื่องสไตล์ของเสื้อผ้าก่อนจะหาวหวอดเพราะพอท้องอิ่มก็เริ่มจะง่วง กว่าแด๊ดกับมัมจะซื้อเสื้อผ้าได้มากพอตามที่ต้องการด้วงก็เกือบจะหลับ แต่มาตาโตลืมง่วงก็ตอนที่แด๊ดกับมัมพามาตรงโซนขายตุ๊กตา ทุกอย่างตรงหน้ามันดูตื่นตาตื่นใจด้วงไปหมด

“เอาอันนี้ได้ไหม” ด้วงชี้ไปที่ตุ๊กตากระต่าย

“หุ่นยนต์ดีกว่าไหมด้วง” นับตังค์ถามเพราะกระต่ายที่ด้วงชี้ไปมันดูมุ้งมิ้งมาก

“ขัดลูกทำไม ให้เขาเลือกที่เขาชอบ” มีคุณพูดกับนับตังค์เบาๆ

“แต่ว่า..” นับตังค์จะเถียง แต่มีคุณแทรกขึ้นมาก่อน

“ตังยังไม่ชอบอยู่ในกรอบเลยนะ” พอมีคุณพูดแบบนี้นับตังค์ก็เถียงไม่ออกและเริ่มคิดว่ามีคุณก็เป็นพ่อที่ใจกว้างและเป็นผู้ใหญ่กว่าที่นับตังค์เคยคิดสบประมาทในใจ

“เอากระต่ายตัวนี้ใช่ไหม” นับตังค์ถามด้วงอีกครั้ง

ตอนนี้สายตาของด้วงไม่ได้มองไปที่กระต่ายแล้ว แต่มองไปที่ตุ๊กตาเอเลี่ยนที่ห้อยอยู่หลายตัว สายตาใสบริสุทธิ์มองอย่างสนใจก่อนจะหันกลับมามองนับตังค์ด้วยท่าประจำตัวเวลาที่อยากได้ของ คือการทำตาโตและเอียงคอถาม

“เอาตุ๊ตาหมาน้อยได้ไหม”

“มันหมาตรงไหนอะ” นับตังค์หันมาถามมีคุณเพราะมองยังไงเอเลี่ยนตัวนี้มันไม่เหมือนหมาสักนิด

“อย่าปิดกั้นจิตนาการของลูก” มีคุณกอดอกแล้วตอบกลับไป

“หมาก็หมา เอาหมาน้อยนี่ใช่ไหม” นับตังค์ถามด้วง

เมื่อด้วงพยักหน้ายืนยัน นับตังค์จึงบอกพนักงานว่าต้องการตุ๊กตาเอเลี่ยนตัวนี้พร้อมกับจ่ายเงินให้ ไม่นานพนักงานก็นำตุ๊กตาใส่ถุงมายื่นให้ นับตังค์เอาตุ๊กตาออกจากถุงส่งให้ด้วง ด้วงรีบรับมากอดเอาไว้

“มันชื่อด้าวนะ เป็นน้องชายของด้วง” นับตังค์บอกกับด้วง

“ชื่อมีเป็นพัน ตั้งชื่ออะไร ตลก” มีคุณนึกขำนับตังค์

“เอ้า ก็มันเป็นพวกต่างด้าวไหม แล้วด้าวกับด้วงก็ไปด้วยกันได้ ด้าว ด้วง แด๊ด เห็นไหม ออกจะดี” นับตังค์เห็นว่าชื่อนี้เก๋สุดๆ แล้ว

“ด้าว ด้วง แด๊ด” ด้วงพูดตาม

“งั้นด้วงต้องเรียกมัมว่า ด้งนะ จะได้เหมือนกับเราสามคน” มีคุณพูดกับด้วง

“ทำไมต้องด้ง” นับตังค์ถาม

“ก็พอตกดึก ตังจะมีกระด้งเอาไว้ฝึกบินไง” มีคุณพูดจบก็หัวเราะชอบใจ

“ว่าตังเป็นกระหังรึไง เออดี กระหังมันพกสากเป็นอาวุธ แม่จะตำให้แหลกคามือเลย” นับตังค์เอากำปั้นทุบลงมือ

“งั้นพี่ขอเป็นกระหังดีกว่า พี่อยากตำตัง” มีคุณยักคิ้วให้นับตังค์พร้อมกับเอากำปั้นทุบมือเหมือนกัน แต่มีสูดปากเพิ่มด้วย

“โอ้ย ไอ้หมีสัญชาติโลมา ไปกันดีกว่าด้วง” นับตังค์หน้าแดงก่อนจะรีบจูงมือด้วงพาเดินออกไปให้ห่างจากกระหังหื่นตัวนี้ให้ไวที่สุด


ตอนนี้ทั้งสามคนลงมาถึงสถานที่ที่กำลังจัดงานมหกรรมอาหาร นับตังค์ให้มีคุณอุ้มด้วงเอาไว้เพราะว่าคนค่อนข้างเยอะ ร้านที่มาร่วมงานต่างก็เป็นร้านชื่อดังที่ไม่ใช่เฉพาะร้านในจังหวัด ผู้จัดงานดึงเอาร้านดังจากจังหวัดอื่นมาร่วมด้วย นับตังค์เดินซื้อของกินหลายอย่างที่จะเอากลับไปกินเป็นอาหารเย็นด้วยกันกับทุกคน จนเดินมาถึงร้านขนมไทยร้านหนึ่งซึ่งมีขนมไทยวางเรียงหลายอยู่หลายอย่าง แต่มีขนมอย่างหนึ่งที่บรรจุหีบห่อคุ้นตา เมื่อเดินไปดูใกล้ๆ นับตังค์ถึงกับหยุดนิ่งไปจนมีคุณสงสัย

“มีอะไรเหรอ” มีคุณถาม

“ขนมรังไร มาจากร้านของย่า มาขายถึงนี้เลย ปกติย่าจะไม่ทำขายที่อื่น ไม่รู้ทำไมถึงมาวางขายอยู่ที่นี่ได้” นับตังค์มองขนมรังไรที่มีป้ายยี่ห้อ ‘ไทยละม่อม’ ติดอยู่

“จะรับขนมรังไรไหมคะ คนทำเป็นชาววังเก่านะคะ อร่อยมาก เหลือแค่สี่ถุงสุดท้ายแล้วนะคะ” คนขายรีบนำเสนอเมื่อเห็นนับตังค์มองขนมรังไรไม่วางตา

“เอาสี่ถุงเลยครับ” มีคุณเป็นฝ่ายตอบแทนนับตังค์

คนขายดีใจรีบหยิบขนมใส่ถุงให้ มีคุณจ่ายเงินเรียบร้อยก็พานับตังค์กับด้วงเดินออกมาจากงาน เห็นนับตังค์เงียบไปก็ใจไม่ดี

“คิดถึงบ้านใช่ไหม” มีคุณถาม

“ย่าไม่ได้ทำรังไรนานมาก ตังจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ย่าทำคือตอนที่พี่เหรียญเงินหนีออกจากบ้านไป”

“ตัง พี่พาตังกลับไปหาครอบครัวได้นะ พี่จะไปช่วยอธิบายทุกอย่าง” มีคุณสงสารคนรัก

“กลับเกาะกันเลยได้ไหม” นับตังค์ส่ายหน้าก่อนจะถาม

“ได้สิ นี่ก็เย็นมากแล้ว” มีคุณลูบผมนับตังค์เบาๆ เพราะเขาไม่รู้จะปลอบใจนับตังค์ยังไงดี


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2017 03:55:43 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


ขนมรังไรเส้นเล็กละเอียดสีสันงดงามถูกจัดวางใส่จานหลังจากที่คนซื้อกลับมาถึงบ้านแล้ว ช่วงเวลาอาหารค่ำที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาไม่ได้ทำให้อารมณ์ของนับตังค์แจ่มใสขึ้นสักเท่าไหร่ แม้ใบเมี่ยงกับพายพัดจะพยายามชวนคุย รวมไปถึงหนูด้วงที่เล่าเรื่องโลมาให้ฟังเป็นที่น่าเอ็นดู แต่นับตังค์ก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆ และเหม่อลอยจนมีคุณไม่สบายใจ

“ตัง” มีคุณเรียกนับตังค์หลังจากที่ใบเมี่ยงถามนับตังค์หลายรอบว่าขนมรังไรมีวิธีทำอย่างไร แต่นับตังค์ไม่ได้ยินเพราะมัวแต่จมอยู่ในความคิดของตัวเอง

“ขอโทษทีนะ เมี่ยงถามว่าอะไรเหรอ” นับตังค์รีบพาสติตัวเองกลับมา

“ขนมรังไรมันทำยังไง แล้วทำไมมันชื่อว่ารังไร” ใบเมี่ยงถามซ้ำ ใบเมี่ยงสัมผัสได้ว่านับตังค์มีเรื่องอะไรในใจ เลยพยายามจะชวนคุยเรื่องอาหารเผื่อจะช่วยให้นับตังค์สบายใจขึ้น

“รังไรก็เป็นขนมอีกชนิดหนึ่งที่อยู่ในบทพระราชนิพนธ์กาพย์เห่เรือของรัชกาลที่สอง” นับตังค์อธิบายให้ใบเมี่ยงฟัง

“จริงเหรอ ท่องให้ฟังหน่อยสิ เราชอบ” พายพัดถามอย่างสนใจ เพราะติดใจตั้งแต่ล่าเตียงกับหรุ่มแล้ว

“รังไรโรยด้วยแป้ง เหมือนนกแกล้งทำรังรวง โอ้อกนกทั้งปวง ยังยินดีด้วยมีรัง”

“เพราะจัง รูปร่างมันคล้ายรังนกนี่เอง ขอชิมหน่อยได้ไหม” พายพัดถาม เมื่อเห็นนับตังค์พยักหน้าเลยจะหยิบขึ้นมาชิมชิ้นหนึ่ง

“อย่าเพิ่ง โรยกะทิก่อน” นับตังค์บอกก่อนจะจัดการปรุงขนมรังไรให้ครบขั้นตอนแล้วจึงส่งให้พายพัดกิน

“อร่อยมากเลย อร่อยมาก ร้านไหนทำ” พายพัดหยิบถุงขนมที่วางเอาไว้ข้างจานขึ้นมาดู

“ทำยากไหมครับ” ใบเมี่ยงถามเพราะตอนนี้ใบเมี่ยงสนใจทำขนมไทยมาก โดยเฉพาะขนมไทยที่อยู่ในบทพระราชนิพนธ์

“ไม่ยากหรอก ทำจากแป้งข้าวเจ้า นำไปอบควันเทียนกับกระดังงาลนไฟ อบจนหอมแล้วก็นำไปนวดกับน้ำลอยดอกมะลิ นวดดีแล้วก็เติมกะทิ ผสมสี แล้วนำไปกวนจนแป้งสุกร่อน นำลงมาแบ่งเป็นก้อนแล้วนวดอีกทีให้แป้งเนียนดีก่อนที่จะเอาไปกดพิมพ์ให้เป็นเส้น ขั้นตอนนี้สำคัญ เส้นต้องเล็กเสมอกันแล้วตะล่อมให้เป็นก้อนกลมเหมือนรังนก ขั้นตอนสุดท้ายก็นำไปนึ่ง เวลาจะกินก็กินกับกะทิปรุงรส งาคั่วผสมเกลือกับน้ำตาล แล้วโรยมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย”

คำว่าไม่ยากของนับตังค์เล่นเอาใบเมี่ยงแทบปาดเหงื่อ ถึงฟังแล้วส่วนผสมจะไม่มีอะไรมาก แต่ขึ้นชื่อว่าขนมไทย ถ้าไม่ละเอียดและพิถีพิถันจริงรสชาติจะไม่อร่อยและรูปลักษณ์ก็คงจะไม่งดงามแน่ๆ

“ถ้าชอบเอาไว้ตังจะทำให้ดูนะ” นับตังค์บอกก่อนจะมองไปที่รังไรอีกครั้ง

“อยากรู้ว่าของตังกับของเจ้านี้ ที่ไหนจะอร่อยกว่ากัน” พายพัดยังคงติดใจรสชาติของรังไรอยู่ มันทั้งหวานมันเค็มนิดๆ ทั้งหอมติดลิ้น ทั้งชื่นใจแม้ขนมจะถูกกลืนไปหมดแล้ว

“เราสู้เขาไม่ได้หรอก” นับตังค์พูดจบก็ตักขนมรังไรขึ้นมากิน

ใบเมี่ยง พายพัด รวมไปถึงมีคุณพูดไม่ออกเมื่อเห็นน้ำตาของนับตังค์หลังจากที่กินขนมรังไรไปแล้ว มีเพียงมีคุณเท่านั้นที่รู้ว่านับตังค์กำลังคิดอะไรอยู่ เขาเดินเข้าไปหาแล้วโน้มตัวลงไปสวมกอดนับตังค์จากทางด้านหลัง จูบที่ผมของนับตังค์อย่างอ่อนโยน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นน้ำตาของคนที่เขารัก มันทำให้มีคุณถึงกับใจหายจนทำตัวไม่ถูก แต่คิดว่าการกอดคงจะเป็นการปลอบโยนที่สุดในขณะนี้

“ตังไม่ได้เป็นอะไร แค่อร่อยจนน้ำตาไหลแค่นั้นเอง” นับตังค์พยายามจะเข้มแข็ง

“อุ้มหนูหน่อย” ด้วงชูมือให้ใบเมี่ยงอุ้มตัวเองลงจากเก้าอี้เด็ก จากนั้นด้วงก็เดินไปหานับตังค์แล้วเบะปาก นับตังค์รีบอุ้มด้วงขึ้นมานั่งตัก

“เบะทำไม” นับตังค์ถามทั้งที่ตัวเองยังน้ำตาไหลไม่หยุด นับตังค์พยายามฝืนเอาไว้แล้ว แต่พอได้ชิมฝีมือของย่าก็อดคิดถึงบ้านไม่ได้จริงๆ

“มัมไม่ย้องนะ” ด้วงรีบเช็ดน้ำตาให้นับตังค์แต่ตัวเองก็เบะปากน้ำตาคลอ

“ไม่ร้องแล้ว” นับตังค์รีบกลั้นน้ำตาเอาไว้

“โอ้อกนกทั้งปวง ยังยินดีด้วยมีรัง ถ้าที่นี่เป็นรังของนกน้อยที่พลัดถิ่นมา พี่สัญญาว่าจะทำให้รังนี้อบอุ่นที่สุดทำหรับทุกคนนะ ไม่ร้องนะครับ พี่ไม่อยากเห็นน้ำตาของตังเลย” มีคุณพูดก่อนจะหอมที่ผมของนับตังค์อีกครั้ง

“ซึ้งมากเลยพี่คุณ” ใบเมี่ยงน้ำตาคลอตาม

“รังนี้...แมวน้ำอยู่ได้ไหมครับ” พายพัดถามจบนับตังค์หลุดหัวเราะทั้งน้ำตา ด้วงเห็นนับตังค์หัวเราะก็มองตาปริบๆ ก่อนจะหัวเราะตาม

“ได้สิ จะแมวน้ำ จะโอปป้า หรือจะกระหัง เราทุกคนคือครอบครัวนะ” มีคุณตอบ

“เกือบดีละเชียว” นับตังค์คว้าแขนของมีคุณที่โอบคอตัวเองมากัดเบาๆ

“มัมจะกินแด๊ด” ด้วงรีบดึงแขนมีคุณออกจากปากของนับตังค์

“เดี๋ยวนี้เข้าข้างกันแล้วเหรอ พอแด๊ดทำเตียงให้ มีของเล่นให้ ย้ายข้างเลยนะตัวแสบ” นับตังค์เคาะหน้าผากด้วงเบาๆ

“เดี๋ยวพี่ทำเตียงกับซื้อของเล่นให้ตังบ้าง จะได้ไม่น้อยใจนะ เอาของเล่นแบบไหนดี เอาเตียงน้ำไหม เด้งดึ๋งดีนะ เอาไหม” มีคุณทำหน้าเจ้าเล่ห์

“เดี๋ยวคืนนี้ด้วงไปนอนกับพี่ไหมครับ พี่จะเล่านิทานกับเล่นตุ๊กตาหุ่นเชิดให้ดู” ใบเมี่ยงถามด้วง

“หนูจะนอนกับพี่จ๋า” ด้วงชี้ไปที่ใบเมี่ยง

“วู้” มีคุณแสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้า

“อุ๋งอุ๋ง ไหนคืนนี้ว่าจะให้รางวัลพายไง” พายพัดทำหน้าเศร้า

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้สองรางวัลเลย คืนนี้เราต้องช่วยกันสร้างรังให้พี่คุณก่อน” ใบเมี่ยงกระซิบพายพัด พายพัดถึงได้ยิ้มออก

“ไม่ต้องกระซิบหรอกเมี่ยง ได้ยินชัดเหมือนพูดในโทรโข่งเลย” นับตังค์ค้อนใบเมี่ยงที่รู้เห็นเป็นใจให้ลูกครึ่งหมีผสมโลมาได้เข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ แล้วใครล่ะที่เสียเปรียบ นับตังค์คนนี้ไง

“มันจะดีนะ เชื่ออุ๋งอุ๋งเขาเถอะตัง อะไรดีอุ๋งอุ๋งก็ว่าดี” พายพัดช่วยคอนเฟิร์มจนนับตังค์อยากจะวิ่งลงเรือออกจากเกาะให้รู้แล้วรู้รอด

“อุ๋งอุ๋ง” ด้วงทำท่าแมวน้ำตอนที่ได้ยินคำว่าอุ๋งอุ๋ง

“ด้วงครับ ไปนอนกับพี่ไหม พี่จะเล่านิทานลูกหมูสามตัวให้ฟัง มีหมาป่าด้วย” นับตังค์หันมาล่อหลอกด้วง มีคุณทำหน้าเซ็งทันที

“ไม่เอา เบื่อแย้ว จะนอนกับพี่จ๋า จะไปเล่นตุ๊ตากับพี่จ๋า” ด้วงชี้ไปที่ใบเมี่ยง

“รักลูกจังเลยลูก เดี๋ยวแด๊ดจะซื้อตุ๊กตากระต่ายเพิ่มให้นะคนเก่ง” มีคุณหัวเราะชอบใจที่ทุกอย่างดูจะเป็นใจให้เขาได้ล่าเตียงกับนับตังค์ในคืนนี้แล้ว

“เย้” ด้วงชูไม้ชูมือทำท่าดีใจที่จะได้ตุ๊กตาเพิ่ม คงมีแต่นับตังค์ที่นั่งหน้าแดงใจสั่นกับอนาคตอันใกล้ที่ทำให้รู้สึกย้อนแย้งในตัวเอง ทั้งกลัวทั้งต้องการปนเปกันไปหมด

“กินข้าวกันสิ ไม่กินจะเก็บล้างแล้วนะ” นับตังค์ไม่รู้จะแก้เขินยังไงเลยแกล้งพาล

“กินๆๆ” มีคุณรีบเดินกลับไปนั่งแล้วชี้ชวนให้ทุกคนกินข้าว รีบสร้างบรรยากาศใหม่ก่อนที่ด้วงจะเปลี่ยนใจขอกลับมานอนกับนับตังค์

นับตังค์ยอมรับว่าคำพูดของมีคุณที่ว่า ‘จะทำให้รังนี้อบอุ่นที่สุด’ มันทำให้หัวใจที่อ่อนแอของนับตังค์แข็งแรงขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ การร้องไห้คิดถึงครอบครัวไม่ได้หมายความว่าที่นี่ไม่อบอุ่น แต่คำปลอบโยนของมีคุณมันเหมือนผ้าหนึ่งผืน ที่ช่วยซับน้ำตาให้จางหาย ช่วยห่อหุ้มเป็นรังให้นกพลัดถิ่นตัวนี้ได้อาศัยจนหายเหน็บหนาว หากคืนนี้นับตังค์จะต้องกลายเป็นคนรักของมีคุณโดยสมบูรณ์ นับตังค์ก็เต็มใจ แต่ขอให้ได้เล่นตัวกันบ้าง จะเสียตัวทั้งทีมันต้องมีสไตล์

...

เฟื้องยืนมองขนมรังไรที่คุณย่าทำเอาไว้แล้วอดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้ รังไรเป็นขนมที่พี่เหรียญเงินชอบกินมาก คุณย่าไม่เคยทำอีกเลยตั้งแต่พี่เหรียญเงินหนีออกจากบ้านไป จนมาวันก่อน...มีคนเข้ามาขอให้คุณย่าทำขนมไทยให้ บอกว่าอยากให้คนได้กินขนมไทยโบราณสูตรชาววังบ้าง ซึ่งคนที่มาติดต่อจะนำไปขายในงานมหกรรมอาหารที่ถูกจัดเป็นงานใหญ่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ เฟื้องประหลาดใจที่คุณย่ายอมตกลงทำให้และจัดการลงมือทำด้วยตัวเอง ที่ยิ่งประหลาดใจกว่าก็คือคุณย่าเลือกทำขนมรังไรให้

เฟื้องเดาใจคุณย่าไม่ออก หากคุณย่าคิดถึงหลานชายทั้งสองคนที่หนีออกจากบ้านไป ทำไมถึงไม่ยอมลดทิฐิลงบ้าง ทุกครั้งที่แม่ทำท่าว่าจะออกไปตามหาพี่เหรียญเงินหรือนับตังค์ คุณย่าก็จะออกคำสั่งไม่ให้แม่ไป เฟื้องสงสารแม่ที่ต้องร้องไห้จนน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด พ่อก็เป็นอีกคนที่เฟื้องรู้สึกน้อยใจ เฟื้องรู้ว่าพ่อถูกสอนมาให้รักและเคารพคุณปู่คุณย่า ถือความกตัญญูเป็นที่ตั้ง แต่เฟื้องอยากรู้ว่าพ่อรักลูกบ้างไหม การสูญเสียลูกไปไม่ทำให้พ่อเสียใจบ้างเลยหรือ คิดแล้วก็อดที่จะสะเทือนใจไม่ได้ เฟื้องทำได้แต่คิดถึงพี่ชายและน้องชายของตัวเองอย่างสุดหัวใจ


“น้องเฟื้อง มาหาพี่ถึงโรงงานเลย มีอะไรรึเปล่าครับ” สุดเขตได้รับแจ้งจากคนงานว่ามีคนมาหา เขาไม่คิดว่าจะเป็นตำลึงทอง

“เฟื้องเอาขนมมาให้คุณน้ากับพี่เขตค่ะ คุณแม่ท่านให้เอามาฝาก” ตำลึงทองส่งถุงขนมรังไรให้สุดเขต

“น่ากินมากเลย หากินยากมากเลยนะ แล้ว...ตาแดงๆ น้องเฟื้องร้องไห้ใช่ไหม” สุดเขตนึกเป็นห่วงคนที่ตนรัก

“พี่เขตได้ข่าวตังบ้างหรือยังคะ”

“เข้าไปนั่งในห้องทำงานของพี่ดีกว่า พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” สุดเขตตัดสินใจว่าจะพูดเรื่องของนับตังค์จึงพาตำลึงทองเข้าไปนั่งในห้องทำงาน เพราะมันค่อนข้างส่วนตัว

“สรุปว่าพี่ได้ข่าวตังแล้วใช่ไหมคะ” ตำลึงทองถามซ้ำเพราะคิดว่าสุดเขตน่าจะได้ข่าวอะไรมาบ้าง

“น้องตังอยู่กับเพื่อนของพี่เอง”

“เพื่อนของพี่ ใครเหรอคะ แล้วทำไมตังถึงไปอยู่กับเพื่อนของพี่ได้” ตำลึงทองรู้สึกร้อนใจนึกห่วงน้องชายที่ไม่เคยไปไหนไกลจากบ้านเลย ไม่รู้ว่ากินอยู่อย่างไร

“มีคุณ เฟื้องจำมีคุณได้ใช่ไหม ที่เป็นนักวิจารณ์อาหาร”

“จำได้ค่ะ แต่ว่าทำไมสองคนนี้ถึงไปอยู่ด้วยกันได้คะ” ตำลึงทองนึกสงสัยเพราะเท่าที่รู้มา นับตังค์ค่อนข้างมีอคติกับมีคุณเป็นอย่างมาก

“คือเพื่อนพี่มันได้รับช่วงกิจการร้านอาหารของปู่มัน มันเห็นว่าน้องตังอยากพิสูจน์ฝีมือทำอาหารในแบบที่น้องตังชอบ มันเลยเสนองานให้ เงินเดือนสูง มีที่พักและสวัสดิการให้อย่างดี น้องตังอ่านข้อเสนอแล้วก็ตอบตกลงไป”

“แล้วทำไมพี่ไม่บอกเฟื้องตั้งแต่แรกคะ ทำไมพี่ต้องปิดบังเฟื้อง พี่ไม่รู้รึไงคะว่าเฟื้องห่วงน้องมากแค่ไหน” ตำลึงทองรู้สึกเสียใจที่โดนปิดบัง

“พี่ขอโทษจริงๆ พี่ไม่ได้ตั้งใจ ทุกอย่างมันมีเหตุผล แต่พี่ยังบอกน้องเฟื้องไม่ได้จริงๆ เพราะมันเป็นข้อตกลงระหว่างมีคุณกับน้องตัง พี่เห็นน้องตังโตแล้วเลือกทางเดินชีวิตได้เองแล้วพี่ก็เลยจำต้องยอมรับการตัดสินใจของเขา แต่พี่รับประกันว่าเพื่อนของพี่ดูแลน้องตังได้เป็นอย่างดี นี่ไง มันส่งรูปมาให้พี่ดูด้วย” สุดเขตรีบหยิบไอแพดมาเปิดรูปให้ตำลึงทองดู เป็นรูปที่ถ่ายในวันสงกรานต์

เฟื้องเห็นรอยยิ้มของนับตังค์แล้วก็ปล่อยโฮออกมา เธอคิดถึงน้องชายมาก ทั้งคู่โตมาด้วยกัน ยิ่งตอนที่พี่เหรียญเงินหายไป ทั้งคู่ก็ยิ่งสนิทกันมาขึ้น เข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้นเพราะชีวิตถูกกดดันมาไม่ต่างกัน ตอนนี้เฟื้องเห็นแล้วว่าน้องชายกำลังมีความสุข รอยยิ้มที่สดใสของนับตังค์ทำให้เฟื้องคลายความกังวลใจได้มาก แต่อีกใจก็ยังอยากให้น้องชายกลับบ้านเพราะสงสารแม่

“เฟื้องจะติดต่อน้องได้ยังไงคะ โทรไปเบอร์เดิมก็ไม่ติดเลย” เมื่อสงบจิตใจจนเลิกร้องไห้ได้แล้ว ตำลึงทองก็เอ่ยถามสุดเขต

“เบอร์เดิมไม่มีสัญญาณน้องตังเลยเปลี่ยนค่าย อาจจะยุ่งเพราะร้านใกล้เปิดแล้วเลยไม่ทันได้โทรมาบอกน้องเฟื้อง แล้วเดี๋ยวพี่จะขอจากมีคุณให้นะ” สุดเขตพยายามจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ก่อน แต่คิดว่าคงยังไม่บอกเรื่องที่นับตังค์คบกับมีคุณในฐานะคนรัก

“น้องไปอยู่ที่ไหนคะถึงไม่มีสัญญาณ”

“เอาไว้น้องเฟื้องถามน้องตังเอาเองก็แล้วกันนะครับ แต่อย่าโกรธพี่เลยนะครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังจริงๆ”

“ขอคิดดูก่อนนะคะว่าจะยกโทษให้ดีไหม” ตำลึงทองค้อนสุดเขตที่ทำให้เธอต้องเสียใจอยู่นานสองนานกว่าจะยอมบอกความจริง

“โธ่ พี่ยอมทุกอย่างเลยคนดีของพี่ แต่อย่าโกรธพี่เลยนะครับ” สุดเขตเอื้อมมือมากุมมือของตำลึงทอง

“ครั้งนี้เฟื้องจะยกโทษให้นะคะ แต่ถ้าเฟื้องรู้ว่าพี่ปิดบังอะไรเฟื้องอีก คราวนี้เฟื้องจะไม่ยกโทษให้พี่เลย” ตำลึงทองคาดโทษเอาไว้จนสุดเขตกลืนน้ำลายลงคอได้อย่างยากเย็น

“พี่อยากทานขนมนี้แล้ว เราเอาเข้าไปให้คุณแม่พี่ได้กินด้วยกันดีกว่านะ คุณแม่ของพี่คงดีใจที่รู้ว่าเฟื้องมา” สุดเขตรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะจูงมือพาตำลึงทองเข้าไปในบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก อยู่ถัดจากด้านหลังของโรงงานไปเพียงนิดเดียว


ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือโชคชะตากำหนดมาให้ชีวิตของมีคุณต้องเจอกับบททดสอบ เพราะก่อนหน้าที่สุดเขตจะพาตำลึงทองมานั่งอยู่ในห้องทำงาน สุดเขตกำลังคุยโทรศัพท์กับคีตะอยู่ คีตะกำลังเค้นเอาความจริงจากสุดเขตว่ามีคุณลงไปทำอะไรที่เกาะใบไม้คราม เมื่อมีคนงานมาแจ้งกับสุดเขตว่ามีคนมาขอพบ สุดเขตจึงบอกให้คีตะวางสายไปก่อน จากนั้นสุดเขตก็ทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะแล้วเดินออกไป ไม่ทันดูว่าตัวเองไม่ได้กดวางสาย ซึ่งคีตะเองก็ไม่ได้กดวางสายเช่นกัน เพราะฉะนั้นบทสนทนาของสุดเขตกับตำลึงทองจึงเข้าหูของคีตะทุกคำ

“ที่แท้นับตังค์ก็เป็นน้องชายของเฟื้องนี่เอง จะเป็นยังไงนะ ถ้าพ่อแม่หัวโบราณรู้ว่าลูกของตัวเองเป็นเกย์” คีตะพึมพำกับตัวเอง

คีตะรู้จักตำลึงทองจากคำบอกเล่าของสุดเขตตั้งแต่สมัยที่สุดเขตจีบตำลึงทองใหม่ๆ รู้มาว่าที่บ้านของตำลึงทองค่อนข้างหัวโบราณ เข้มงวดมากจนสุดเขตกลัวว่าตัวเองจะไม่สมหวังกับลูกสาวบ้านนี้ ถ้านับตังค์เป็นน้องชายของเฟื้อง คีตะคิดว่าพ่อแม่ของนับตังค์คงรับไม่ได้แน่ๆ ที่นับตังค์จะคบหาผู้ชายด้วยกัน ถ้าเป็นแบบนั้นนับตังค์คงจะต้องถูกพาตัวกลับบ้านแน่นอน คีตะรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นทันที โชคเข้าข้างขนาดนี้ไม่ต้องลงแรงทำอะไรให้มากก็คงจะได้มีคุณกลับมา หรือถ้าไม่ได้มีคุณกลับมา ก็อย่าหวังว่านับตังค์จะสมหวังเหมือนกัน คนอย่างที่คีตะเกลียดที่สุดก็คือคนที่ได้ทุกอย่างของคีตะไป อะไรที่เคยเป็นของคีตะ ถ้าคีตะไม่อยากให้ก็จะไม่มีวันปล่อยมือไปง่ายๆ เหมือนกัน


***โปรดติดตามตอนต่อไป***


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เดี๋ยวกลับมาแก้คำผิดที่หลุดรอดให้นะคะ ว่าแต่คีตะคะ ระวังทุเรียนนะคะ 555





เครดิตรูปจาก Google


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-06-2017 12:06:24 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
 :เฮ้อ:((((    งานเข้าแล้วน้องตัง    ))))

 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
พังตั้งแต่สุดเขตบอกกะเฟื้องละ ยังยะมามีมารจากแฟนเก่าของมีคุณอีก  สู้ๆ นะตาง เฮ้อออ

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อ้าวคีตะ เดี๋ยวมีข้าวเหนียวเปลือกทุเรียนไปส่งถึงที่นะจ๊ะ

ปล.คิดถึงพี่พญาคนฮา

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
มาม่าไม่ใช่อาหารไทยต้นตำหรับนะ
ครอบครัวนับตังค์ทำไมปรุงออกมาเรื่อยๆ

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :angry2: กำจัดยากจริงๆมารตัวนี้ หึ ประฉันไม่ได้คนอื่นก็ต้องไม่ได้ เลวอะ  :serius2:
สู้ๆนะพ่อหมีแม่กระหัง
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ปกติอ่านจากในมือถือ เลยไม่เคยเห็นรูปขนมภาพประกอบ
พลาดมาก บอกเลย  :ling1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด