สาปรัก…ทัณฑ์เทวา
Writer : Tan-Yung
File : 09
“ท่านกนธี!!!”
เสียงเรียกที่ตื่นตระหนกด้วยเหตุตรงหน้านั้นคือยอดดวงใจที่สภาพเหมือนความเป็นความตายเฉียดเข้าใกล้เท่ากัน นาคินทร์แทบถลากายลงยังอ่างน้ำ โดยไม่สนใจว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่จะเปียกปอน แขนเรียวรีบสอดพยุงเข้าท้ายทอยให้กนธีที่กึ่งหลับอยู่นั้นนอนหนุนแขน ใบหน้าที่หล่อคมเอียงหันเข้าซุกแผ่นอกขาวผ่านเสื้อตัวบางที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ นาคินทร์รับรู้ได้ถึงลมหายใจโรยรินของคนรัก
“ท่านกนธี…ฮึก..ก…ท่านกนธีเกิดอะไรขึ้น…ฮือ..อ..” ทันทีที่เห็นคนรักในสภาพนี้ น้ำใสก็ไหลจากดวงตาอย่างหยุดมิได้ นาคินทร์ปล่อยโฮออกมาด้วยรู้สึกกลัวในสิ่งที่เห็นอย่างถึงที่สุด ทำให้กนธีนั้นมีสติขึ้นมาเล็กน้อย มือหนายกขึ้นเกลี่ยปาดเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มใสให้ มือบางจึงจับกุมมือของกนธี วางแนบพวงแก้มตนเอาไว้
“เจ้าร้องไห้ทำไม…แค่ก..แค่ก นาคินทร์” เสียงพูดและกระแอมที่แหบพร่า ของกนธี
“ก็ข้าเห็นท่านเป็นเยี่ยงนี้..ฮือ..อ…จะไม่ร้องไห้ได้อย่างไร...ด้วยข้าไม่เคยเห็นท่านอ่อนแอหรือเจ็บป่วยหนักขนาดนี้มาก่อน” นาคินทร์พูดปนสะอื้นไห้ ร่างบางแทบจะขาดใจยามเห็นใบหน้าซีดเซียวของเทพมหาสมุทร
“อาการปกติของข้า เจ้าอย่าได้เป็นกังวลไปเลย...เพียงได้พักสักราตรีก็จะดีขึ้น อั่ก อั่ก.” กนธียิ้มฝืนก่อนจะกุมหน้าอกที่อยู่ๆ ก็ปวดตุบขึ้นมา
“ไยท่านพูดราวกับเรื่องธรรมดา มันจะปกติได้เยี่ยงไรกัน ในเมื่อท่านมีสภาพเจ็บหนักขนาดนี้..ฮึก…บอกข้าได้หรือไม่ว่าจะต้องทำเช่นไร ท่านจึงจะหายขาดจากอาการนี้ได้ หากข้ารู้ด้วยวิธี ข้าจะช่วยท่านแม้ต้องแลกด้วยชีวิตข้าก็ยินดี” นาคินทร์บอกกับกนธีด้วยความสัตย์จริง เพื่อกนธีแล้วนาคินทร์นั้นพร้อมที่จะทำทุกอย่าง พร้อมทำให้ทุกสิ่ง ไม่ว่าอะไรก็ตาม
“การควบคุมมหาสมุทรนั้นให้สงบสุข ถึงแม้บางครั้งจะต้องลงโทษเหล่ามนุษย์ด้วยการทำให้เกิดภัยพิบัติ สิ่งเหล่านี้ข้าต้องใช้พลังเป็นอย่างมาก เลยทำให้ข้าร่างกายอ่อนแอลงเรื่อยๆ ” กนธีบอกสาเหตุที่ร่างกายของตนทรุดโทรม
“แล้วด้วยเหตุใดเทพพระสมุทรองค์ก่อนถึงไม่ประชวรด้วยอาการเช่นนี้เล่า?”
“เจ้าเคยได้ยินเรื่องดวงใจพระสมุทรหรือไม่?”
“ดวงใจพระสมุทรหรือ...ใช่...ข้าเคยได้ยิน…ว่ากันว่าดวงใจพระสมุทรเป็นอัญมณีสีครามเข้ม ที่ทรงอนุภาพด้วยพลังควบคุมทุกสิ่งในผืนน้ำและที่สำคัญดวงใจพระสมุทรเป็นสมบัติสืบต่อส่งต่อกัรของเทพมหาสมุทร แล้วเหตุใดจึง... หรือว่าจะ….”
“ใช่ อย่างที่เจ้าคิดอดีตเทพมหาสมุทรทุกองค์มีดวงใจพระสมุทร แต่ข้ากลับไม่มี แม้ข้าจะดิ้นรนตามหานับตั้งแต่ชลันธรลงไปจุติยังโลกมนุษย์แสนนานนับร้อยๆ ปี…สุดท้ายดวงใจพระสมุทรกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่ข้ารู้สึกได้ว่าดวงใจพระสมุทรนั้นน่าจะผนึกอยู่ในกายของชลันธรเป็นแน่” กนธีขบเขี้ยว ยิ่งคิดก็ยิ่งคับแค้นใจ ทั้งที่ได้รับการแต่งตั้งครองบัลลังก์แห่งชลธิศ แต่กลับไร้ดวงใจพระสมุทรที่ควรจะพึงมี
“นาคินทร์เจ้าจะช่วย ตามหาและนำดวงใจพระสมุทรมาให้ข้าได้หรือไม่?” กนธีถามเสียงแผ่วเบามุมปากก็มีโลหิตสีทองไหลออกมา แม้จะไม่มากแต่มันก็ทำให้นาคินทร์ร้อนใจไม่น้อย
“ได้…ข้าจะช่วยท่าน...ข้าจะนำดวงใจพระสมุทรมาให้ท่าน เพียงท่านบอกข้ามาว่าจักให้ข้าทำการอันใด ข้านั้นก็ยินดีเพื่อจะให้ท่านมีชีวิตอยู่กับข้า” นาคินทร์โอบกอดกายกนธีแน่น ถึงตอนแรกยังลังเลที่จะต้องทำร้ายชลันธรเพื่อนผู้แสนดีกับตนเสมอมา แต่บัดนี้นาคินทร์จำต้องเลือกกนธี ผู้เป็นที่รักมากกว่า
“ข้าดีใจเหลือเกินที่เจ้าจงรักภักดีกับข้ามาโดยตลอด” กนธียิ้มบางที่มุมปากออกมาเพียงแค่นี้ก็ทำให้นาคินทร์สุขใจขึ้นมากโข
“ข้ายินดีที่ได้รับใช้ท่านทุกอย่าง ว่าแต่ข้าจะนำพาชลันธรมาได้อย่างไร ในเมื่อเทพนภาติดตามตลอดเวลาแบบนั้น” นาคินทร์พูดออกมาจากใจ…ใจที่มีรักบริสุทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
“ก็ด้วยเล่ห์ของเจ้า พวกงูนั้นมากด้วยเล่ห์กลมิใช่หรือ เทพหน้าโง่อย่างนภนต์มันตามเจ้าไม่ทันแน่ๆ หากดวงใจพระสมุทรแผงอยู่ภายในกายชลันธรจริงๆ ไม่ว่าร่างนั้นจะเป็นหรือตาย ข้าก็สามารถนำดวงใจพระสมุทรออกมาได้ทั้งนั้น...”
“ได้ข้าจะพยายามทำให้จงได้...” นาคน้อยรับปากยอดดวงใจอย่างหนักแน่น
“แต่ตอนนี้เจ้าจงเช็ดเลือดที่มุมปากให้ข้าแล้วดูดดื่มมันเสียบัดเดี๋ยวนี้สิ” กนธีเอ่ย นาคินทร์ยิ้มหวานก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเช็ดแล้วดูดกลืนกินคราบเลือดที่ติดปลายนิ้วเรียวของตัวเอง
“เลือดของข้ารสชาติถูกใจเจ้าหรือไม่” กนธีถามเสียงพร่า
“เลือดของท่านหอมหวาน หากแต่ข้าไม่ปรารถนาที่จะลิ้มรสหรือเห็นท่านมีโลหิตหลั่งไหลออกจากกายอีก” นาคินทร์ตอบกลับไป
“ใครๆ ก็อยากดื่มโลหิตทองจากกายเทพทั้งนั้น ว่าแต่แล้วถ้าข้าอยากจะให้เจ้าช่วยมอบความสุขให้ข้า เจ้าจะทำได้หรือไม่?” มือหนากระชากคอเสื้อให้นาคินทร์โน้มใบหน้าลงมาใกล้เพียงแค่ฝ่ามือคั่น นาคินทร์รู้ทันทีว่ากนธีนั้นต้องการอะไร
“มีหรือที่จะไม่ได้ ความประสงค์อันใดของท่าน ข้านั้นไม่เคยขัด ข้าจะมอบความสุขให้กับท่านตามแต่ท่านต้องการ”
นาคินทร์เพียงโน้มลงบดเบียดริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากหนาที่เผยอปากคอยท่า ลิ้นร้อนทั้งสองต่างตวัดเกี่ยวพันไปมาสลับกับดูดดุนอย่างไม่มีใครยอมใคร กายหนาขยับกายนั่งพิงกับขอบอ่างขณะเดียวกันกายบางขยับเข้าขึ้นนั่งคร่อมตักของเทพมหาสมุทรซึ่งไร้อาภรณ์ปกปิด ริมฝีปากยังคงมอบรสจูบแสนหวานให้กันและกัน นาคินทร์รับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนของกนธีที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อน ถึงแม้จะสบสนในใจแต่ติดกับด้วยพันธนาการรักของกนธีเสียแล้ว คงยากที่จะดิ้นหนีหลุดออกไปได้
‘จุ๊บ..จุ๊บ..’
ด้วยกนธีดูดเม้มริมฝีปากล่างแดงสดนั้นหนักหน่วง จนเกิดเสียงชวนเร้าอารมณ์ ก่อนจะผละออก สายตาคมคายเพ่งพินิจหน้าสวยหมดจดอย่างหื่นกระหาย เช่นเดียวกับนาคินทร์ที่กายใจนั้นพร้อมจะมอบความสุขให้กับอีกฝ่ายตามความต้องการ
กนธีขบกัดลงปลายคางนาคินทร์เบาๆ แล้วพรมจูบลงมาจนถึงลำคอขาว เทพมหาสมุทรบรรจงแต่งแต้มรอยรักสีกลีบดอกกุหลาบทีละรอยจนรอบคอระหง สร้างความเสียวซ่านจนร่างบางครวญเสียงหวานออกมาไม่หยุดหย่อน
“อ๊ะ..อย่า..า..กัดสิ..”
ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ พายุทะเลคลั่งมีหรือจบสงบโดยง่าย กนธียังคงขบกัดเบาๆ จนมีรอยฟันปรากฏขึ้นมา ลิ้นร้อนตวัดรอบบาดแผลจนนาคินทร์รู้สึกเจ็บระคนความเสียวกระสัน จนนิ้วงามต้องจิกลงบนบ่าของเทพพระสมุทรเพื่อระบายอารมณ์ใคร่นั้น กนธีมิได้หยุดอยู่ที่ซอกคอขาว พลางพรมจูบลงมาเรื่อยจนถึงแผงอกไล่ จนถึงยอดอกที่ชูชันขึ้นมาผ่านเสื้อตัวบางที่แนบเนื้อ กนธีไม่ลังเลที่จะลงปลายลิ้นตวัดหยอกเย้าสลับไปมาซ้ายขวา มือหนาสอดเข้าในสาบเสื้อลูบผ่านผิวลื่นเนียนตามเอวคอดขึ้นจนถึงยอดอกงาม
“อ๊า.า…อ่ะ…อ่าาา.า…”