สาปรัก...ทัณฑ์เทวา จบแล้ว P.14(28/04/2562) มีเรื่องแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับe-bookค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา จบแล้ว P.14(28/04/2562) มีเรื่องแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับe-bookค่ะ  (อ่าน 96404 ครั้ง)

ออฟไลน์ TanYung0209

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.03 P.1 (24/03/2560)
«ตอบ #30 เมื่อ24-03-2017 07:38:07 »



สาปรัก…ทัณฑ์เทวา
Writer : Tan-Yung0209
File : 03

“ท่านชลันธร…ท่านชลันธรท่านอยู่ที่ใด”

ข้าราชบริพาร ต่างร้องเรียกหาเทวดาหนุ่มที่หนีออกมาจากนครใต้สมุทร เจ้าของนามที่ถูกตามหาได้ยินว่าเหล่าบริวารของตนอยู่ไม่ไกลนักจากที่ซ่อน ก็แทบจะกลั้นลมหายใจและนิมิตกายให้เล็กมากที่สุดเพื่อซ่อนในโพรงไม้

“ท่านชลันธรคงไม่อยู่ที่นี่ พวกเราแยกย้ายกันตามหาดีกว่า” เมื่อหาเจ้านายไม่พบเหล่านาคและทวยเทพในท้องทะเลที่ขึ้นมา ต่างก็แยกย้ายกันไปคนละทิศเพื่อตามหาชลันธรในป่าหิมพานต์

“เฮ้อ…คงจะไปกันหมดแล้ว” ชลันธรโล่งอกที่ไม่มีใครตามตัวเจอ นานๆ ครั้งที่เขาจะได้ออกมาจากถ้ำใต้น้ำ อย่างไรชลันธรก็ขอเที่ยวให้สมกับความอยากเสียหน่อย

ในขณะที่ยืนอยู่ในโพรงไม้ ก็มีนกตัวน้อยที่มีขนสีทองบินมาเกาะอยู่ใกล้ๆ ชลันธรจึงเกิดความคิดที่จะออกจากตรงนี้โดยมิให้ใครติดตามเห็น

“เจ้านกน้อย...” ชลันธรในร่างเล็กเท่านิ้วก้อยก็พูดกับนกขนสีทองที่หันขวับทันทีที่ชลันธรเรียก

“เราขอขึ้นขี่บนหลังเจ้า แล้วให้เจ้าพาเราออกจากที่นี่ได้หรือไม่?” ชลันธรเอ่ย นกน้อยขนสีทองจึงย่อตัวลงเป็นคำตอบว่าจะให้ร่างเล็กได้ขึ้นขี่หลัง

ชลันธรยิ้มกว้างแล้วปีนขึ้นขี่หลังเจ้านกตัวนั้น เมื่อพร้อมแล้วจึงกระตุกเส้นขนทองเบาๆ ว่านั่งมั่นแล้ว ปีกทองกางออกกว้างสุดปลายปีกแล้วขยับขึ้นลง ทะยานบินขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว โดยที่ชลันธรไม่รู้ว่ามันจะมุ่งหน้าไปที่ใด

ชลันธรทอดสายตาลงไปเบื้องล่าง ก็ได้พบเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เช่นการต่อสู้ของคนธรรพ์ที่แย่งชิงมักกะลีผลหรือจะเป็นเหล่านางกินรีที่กำลังลงสระอโนดาตเล่นน้ำกันอย่างสำราญใจเมื่อเจ้านกน้อยบินผ่านลงไปใกล้พวกนางก็มิได้สนใจชลันธรเลยแม้แต่น้อย  มันช่างน่าตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เพิ่งเคยเห็นเสียจริงเคยได้ฟังแต่เสียงเล่าลือไม่นึกว่าแดนหิมพานต์จะน่าอัศจรรย์เยี่ยงนี้ อยู่เจ้านกก็บินทะยานขึ้น ชลันธรตกใจหลงร้องออกมาเสียงดัง ด้วยเพราะมันบินหลบโขลงพญาคชสารกำลังเดินไปทางด้านป่าผลไม้ทิพย์บริเวณหัตถีมุข

“โอ๊ะ…เจ้านกน้อยจะบินขึ้นทำไมไม่บอกเรา” ระหว่างที่ชลันธรกำลังเพลิดเพลินกับสิ่งที่ได้เห็น นกสีทองก็บินถลาลงไปที่ปากถ้ำแก้วที่เงียบสงบ

“เจ้าจะส่งเราที่นี่นะหรือ  อืม...ก็ได้ที่นี่สวยมาก เราขอบใจเจ้ามากนะ” ชลันธรลงจากหลังเจ้านก ตามด้วยพนมมือร่ายมนต์แปลงนิมิตกายให้เป็นดังเดิม

“ขนาดปากถ้ำยังสวยขนาดนี้ ภายในจะสวยขนาดไหน?”  ชลันธรเมียงมองปากถ้ำก็ตั้งคำถามและเดินเข้าไปหาคำตอบโดยไม่คิดจะระแวดระวังตน

 ‘ฟิ้ว....’

ลูกธนูพุ่งเข้ามาหาเทพที่เดินย่างเข้าไปเพียงหนึ่งก้าว ชลันธรหลบหลีกแต่ไม่พ้นคมธนูที่เฉียดแขนจนมีโลหิตสีครามไหลซึมออกมา

“อ๊ะ…นี่มันอะไรกัน...” ชลันธรกุมแขนข้างที่เจ็บเอาไว้และร่ายคาถาเพื่อจะรักษาแผล

“เหตุใดแผลถึงไม่หาย” ปกติหากใช้คาถานี้แผลตามตัวก็จะหาย...แต่นี่กลับไม่ อีกทั้งเลือดก็ยังไหลออกมาไม่หยุด

“เพราะลูกธนูของข้ากำกับคาถาเอาไว้ คนที่จะรักษาเจ้าได้ก็มีเพียงคนที่ยิงเจ้าเท่านั้น…นั่นก็คือข้า” เทวดาหนุ่มเดินออกมาจากความมืด ปรากฏกายให้เห็นความงามของร่างกายที่กำยำรวมถึงใบหน้าที่ชลันธรเห็นแล้วไม่สามารถจะละสายตาจากเขาได้เลย

“ท่านช่วยโปรดรักษาเราด้วยเถิด” ชลันธรร้องขอ เวลานี้เลือดไหลเป็นทางจนเปรอะเปื้อนอาภรณ์ที่ปกปิดกาย

“เหตุใดข้าจะต้องช่วยหัวขโมยอย่างเจ้าด้วย” นภนต์มองคนตรงหน้าอย่างจับผิด

“เราหาใช่หัวขโมยไม่ ท่านกำลังเข้าใจเราผิด เรามีนามว่าชลันธรผู้ที่จะดูแลสรรพสิ่งในห้วงสมุทรในเร็ววันนี้”

“คิดว่าข้าจะเชื่อเจ้าอย่างนั้นหรือ? เทพมหาสมุทรต้องอยู่ในมหาสมุทร เหตุใดจึงมาเดินเล่นอยู่ในป่าหิมพานต์เยี่ยงนี้” นภนต์เอ่ย ร่างสูงเดินเข้าหาผู้บาดเจ็บที่เดินถอยหนีทุกครั้งที่เขาก้าวเดิน

“ที่นี่มีกฎหรือว่าห้ามเทพมหาสมุทรเข้ามา” ชลันธรถามกลับ สายตาก็มองจิกคนตรงหน้าด้วยความไม่ชอบใจนัก

“ป่าแห่งนี้ไม่ได้ห้ามเจ้า หากถ้ำแก้วนี้เป็นที่พำนักของข้าและข้าก็ไม่ยินดีที่จะให้ผู้ใดมาเดินเล่นในที่ของข้าก็เท่านั้น” นภนต์คว้าแขนข้างที่เจ็บของชลันธรแล้วกระชากเข้ามาจนคนถูกกระทำหน้านิ่วเพราะเจ็บแผล

“เราไม่รู้ว่าที่นี่เป็นที่พำนักของท่าน เจ้านกสีทองพาเรามาส่งที่นี่” ชลันธรเล่าความจริงให้นภนต์ฟังเผื่อจะได้เชื่อตนขึ้นมาบ้าง

“ทิชากรพาเจ้ามาอย่างนั้นหรือ?” นภนต์ถาม เทพหนุ่มแปลกใจที่พาหนะประจำตัวจะยอมพาใครมาที่ถ้ำแก้วแห่งนี้ ขนาดทหารคนสนิทเจ้านกทิชากรยังบินหนีไม่ยอมเข้าใกล้

“หากทิชากรคือนกสีทองตัวนั้น เราก็ขอตอบว่าใช่” ชลันธรเอ่ย นภนต์จึงผ่อนแรงที่บีบแขนเรียวไว้

“ท่านชลันธร….ท่านชลันธรท่านอยู่ที่ใด”

ไม่ทันที่นภนต์จะพูดอะไรออกไป เสียงเหล่าบริวารของชลันธรที่กำลังตามหานายของตนก็ดังแทรกขึ้นมา

“ท่าน…ได้โปรดให้เราเข้าไปซ่อนตัวที่นี่ได้หรือไม่?” ชลันธรเริ่มใจไม่ดี เขาไม่อยากกลับลงไปที่ใต้มหาสมุทรในตอนนี้

“แล้วเหตุใดข้าต้องช่วยเจ้า” นภนต์เอ่ย แล้วเดินกลับเข้าไปด้านใน ไม่คิดที่จะสนใจไยดีชลันธรแม้แต่น้อย

“ถือว่าเมตตาเราสักครั้งเถิด หากท่านช่วยเรา ท่านต้องการอะไรเราจักให้” ชลันธรยื่นข้อเสนอ

“เจ้าพูดจริงหรือ?” นภนต์ลูบคางตัวเอง มุมปากก็ยกยิ้มขึ้น ความเจ้าเล่ห์ฉายชัดในดวงตา

“เราพูดจริง” ชลันธรยืนยัน นภนต์จึงจับมือเล็กจูงเข้ามาหลบหลังโขดหินภายในถ้ำ

“เจ้านั่งอยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนเด็ดขาด จนกว่าข้าจะมา” นภนต์สั่งก่อนที่จะเดินออกไป

“ท่านจะไปไหน?” ชลันธรรีบคว้ามือนภนต์กลัวว่าอีกคนจะหนีไป

“ข้าจะออกไปรับหน้าคนของเจ้า” นภนต์ตอบ ชลันธรยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่นภนต์ยอมช่วย วินาทีนี้นี่เองที่นภนต์เริ่มหลงใหลในตัวชลันธร

“เราขอบน้ำใจท่านมาก” ชลันธรเอ่ยและปล่อยมือนภนต์ให้ออกไปบ่ายเบี่ยงกับผู้ติดตาม

“พวกเจ้ามีเรื่องอันใดถึงได้วนเวียนอยู่ที่บริเวณถ้ำของข้า!!!” นภนต์กล่าวด้วยเสียงอันดังก้อง ทำให้เหล่าเทพจากใต้ท้องทะเลก็วิ่งกรูเข้ามา

“พวกข้าขออภัยที่ล่วงล้ำเข้ามาในเขตของท่าน พวกข้าเพียงต้องการตามหาผู้เป็นนายเท่านั้น”

“นายของเจ้าอย่างนั้นหรือ?” นภนต์แสร้งถาม ในใจก็คิดถึงคำพูดของชลันธรที่เคยบอกว่าตัวเองเป็นเทพมหาสมุทร

“ใช่ นายของข้าคือท่านชลันธร ผู้ที่จะเข้ารับการแต่งตั้งเป็นเทวาผู้ปกครองท้องสมุทรในวันพรุ่ง” บริวารตนหนึ่งกล่าว

“ข้ายังไม่เห็นใครเข้ามาที่เขตถ้ำแก้วนี้นอกจากพวกเจ้า ข้าว่า...พวกเจ้าจงไปตามหาที่อื่นเสียเถิด” นภนต์โกหก เหล่าบริวารผู้ติดตามของชลันธรก็มองหน้ากันไปมาคล้ายจะปรึกษากัน

“ถ้าเป็นอย่างที่ท่านว่า พวกเราก็ขอลาไปตามหาท่านชลันธรต่อและขออภัยที่ได้รุกล้ำเข้ามา โดยมิได้รับอนุญาต”  พูดจบเหล่าบริวารของว่าที่เทพท้องสมุทรทั้งหลายก็โค้งคำนับ

“เอาเถิด ข้าไม่ได้ติดใจอะไร” นภนต์เอ่ย เหล่าบริวารของชลันธรต่างก็แยกย้ายกันออกไปตามหาผู้เป็นนายต่อ เมื่อไม่มีใครแล้วนภนต์จึงกลับเข้าไปในถ้ำแก้ว

“ออกมาได้แล้ว…ชลันธร”  เมื่อนภนต์เอ่ย ร่างโปร่งจึงเดินออกจากที่กำบังกาย

“คนของเรากลับไปหมดแล้วใช่หรือไม่?” ชลันธรถาม

“ใช่” นภนต์ตอบสั้นๆ

“เราขอบน้ำใจท่านมาก ท่าน….เอ่อ…มิทราบว่าท่านมีนามว่ากะไรหรือ” ชลันธรเอ่ยถาม เขารู้สึกเสียมารยาทที่เพิ่งจะถามชื่ออีกฝ่ายทั้งที่เสวนากันมาพักใหญ่แล้ว ถึงจะไม่ได้พูดคุยกันดีๆ ก็ตาม

“นภนต์ ข้าเป็นเทพแห่งท้องนภา”

“ท่านคือผู้ที่ปกครองน่านฟ้า อีกทั้งเป็นนักรบสวรรค์ผู้เก่งกาจกระนั้นหรือ...”  ชลันธรพูดออกมาด้วยใจที่ชื่นชมในความสามารถของนภนต์

“อย่ามัวเสียเวลาชื่นชมข้า เวลานี้ข้าจะมาทวงสัญญาจากผู้ที่จะได้เป็นผู้ครองมหาสมุทรเช่นเจ้า”

“ท่านต้องการสิ่งใดเล่า โปรดบอกเรามาเถิด” ชลันธรคิดไว้แล้วว่าเทพที่ช่วยเหลือตนจะต้องทวงสัญญาทันที

“แน่ใจหรือไม่ชลันธร...ว่าเจ้าจะให้ข้าได้”  นภนต์ยิ้มร้าย

“แน่ใจสิ ไม่ว่าจะไข่มุกหลากสีในมหาสมุทรหรือจะเป็นนางเงือกสาวเราก็สามารถมอบให้ท่านได้”

“สิ่งที่เจ้าเอ่ยนั้นข้าไม่ต้องการ สิ่งที่ข้าต้องการก็คือ...ริมฝีปากเจ้า” นภนต์เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้แล้วโอบเอวของชลันธรที่ยืนไม่ระวังตัวเอาไว้แน่น

“ท่านหมายความว่าอย่างไร…อีกอย่างช่วยปล่อยข้าด้วย” ชลันธรขืนตัวแต่ก็สู้แรงของเทพผู้เป็นนักรบไม่ได้ อีกทั้งเวลาที่ขยับตัว ขยับแขน ก็ปวดแผลจากลูกธนูอยู่ร่ำไป

“ข้าหมายความว่า…”

นภนต์ใช้มือที่ว่างเชยคางของชลันธรให้เชิดขึ้นเล็กน้อยพอที่จะรับ ใบหน้าของตนที่เลื่อนเข้าไปประทับริมฝีปากจนแนบสนิท ชลันธรเม้มปากแน่นและพยายามหันหน้าหนี นภนต์จึงใช้มือจับเข้าที่ท้ายทอย ริมฝีปากหนาก็บดเบียดรุนแรง ชลันธรรู้สึกแสบไปทั่วริมฝีปากสีสดจนเผลอเผยอปากขึ้น ซึ่งเปิดโอกาสให้ลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากอุ่น

“อื้อ…อื้ม.ม..”

ชลันธรพยายามส่งเสียงร้องห้ามแต่มันกลับเป็นเสียงเชิญชวนสำหรับเทพแห่งท้องนภา นภนต์กวาดลิ้นจนทั่วโพรงปากเพื่อลิ้มรสความหวานที่ติดอยู่ตรงปลายลิ้น ตามด้วยตวัดลิ้นของชลันธรให้มีอารมณ์คล้อยตามเขา

ชลันธรผู้ไม่ประสีประสาในเรื่องเหล่านี้ก็ต้องแพ้พ่ายให้กับนภนต์ ขาที่ยืนอยู่ก็อ่อนยวบจนแทบจะนั่งกองกับพื้น ยังดีที่นภนต์โอบร่างโปร่งเอาไว้

“เจ้าได้คำตอบแล้วหรือไม่ว่าสัมผัสริมฝีปากคืออะไร หากไม่...ข้าจะสัมผัสริมฝีปากเจ้าอีกรอบ” ทันทีที่ผละริมฝีปาก นภนต์ก็แกล้งเหย้าแหย่ชลันธรที่ทั้งปากและแก้มแดงไม่ต่างจากสีดอกกุพชกะ (กุหลาบ)

“ท่านช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก!!! บังอาจมาล่วงเกินเรา” ชลันธรทั้งโมโห ทั้งอาย เกิดมาหลายร้อยปียังไม่เคยเจอใครมาทำแบบนี้มาก่อน

“ข้าไม่ได้ล่วงเกินเจ้า ข้ารักษาแผลเจ้าต่างหาก” นภนต์เอ่ย ความจริงนภนต์ยอมรับว่าเจ้าเล่ห์อย่างที่อีกคนกล่าวหา แต่เขาก็ไม่คิดจะยอมรับ

“แผลของเราหายแล้วจริงๆ ด้วย” ชลันธรดีใจจนแทบจะลืมเรื่องที่นภนต์จุมพิตไปก่อนหน้านี้ นภนต์มองชลันธรที่ไม่ต่างจากเด็กน้อย เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าได้ปกครองมหาสมุทรจะวุ่นวายขนาดไหน

“ชลันธร พรุ่งนี้เจ้าจะต้องเข้ารับตำแหน่งใช่หรือไม่?” นภนต์เอ่ย รอยยิ้มของชลันธรก็หายไปทันที

“ใช่…เรารู้ว่าอนาคตเราจะต้องรับผิดชอบภาระอันยิ่งใหญ่ เราจึงเลือกที่จะหนีออกมาท่องเที่ยวตามความฝัน ก่อนจะต้องรับตำแหน่งในโลกแห่งความจริง” ชลันธรเอ่ยน้ำเสียงเศร้าสร้อยจนนภนต์อดเห็นใจไม่ได้ เขาเองก็รับตำแหน่งในช่วงอายุไม่ต่างจากชลันธร จึงเข้าใจดีว่าวัยนี้ต้องการอิสระมากขนาดไหน

“ข้ามีข้อเสนอ...ในทุกคืนวันเพ็ญ ชลันธรเจ้าจงขึ้นสู่จากมหาสมุทรมายังถ้ำแก้วของข้าแล้วข้าจะพาเจ้าท่องเที่ยวยามราตรี” นภนต์เอ่ย

“ท่านนภนต์..ทะ…ท่านอย่าล้อเล่นกับเราเลย”

“ข้าพูดจริง ข้าให้สัญญาด้วยเกียรติของเทพแห่งท้องนภา” นภนต์กล่าวคำมั่นพร้อมยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าของนภนต์

“อืม…เราเองก็สัญญาว่าจะมาหาท่านทุกคืนวันเพ็ญ ท่านภนต์” ชลันธรเกี่ยวก้อยเป็นคำมั่นสัญญา โดยเทวาทั้งสองไม่รู้ว่านี่คือพันธะที่เกี่ยวพันถึงหัวใจ

“เฮือก!”

ชลันธรสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝัน เขาตั้งสตินับหนึ่งถึงสิบในใจพร้อมกับเสียงหอบหายใจอย่างหนักหน่วงนี่เขาฝันไปหรือไปวิ่งแข่งร้อยเมตรมากันแน่ ก่อนจะกวาดสายตามองรอบห้องสีขาวที่ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย ชลันธรเลิกผ้าห่มออกเพื่อที่จะลงจากเตียงแต่ก็พบว่าร่างกายของตนเปลือยเปล่า มือบางแทบที่จะเลิกผ้ากลับมาปกปิดร่างกายไว้แทบไม่ทัน

“ตื่นแล้วเหรอ..ลัน” นภนต์ที่ยืนพิงกรอบประตูเอ่ยถาม สายตาก็จับจ้องไปที่ร่างกายของชลันธร










......................................
สวัสดีค่ะ มาแล้วนะ
ลงช้านิดนึงเพราะเอาให้รุ่นพี่นักเขียนช่วยดูช่วยแก้คำให้ เพราะตัวท่านยุ่งยังไม่เก่งในเรื่องการใช้คำในเรื่องแนวแฟนตาซีไทย แก้ไปเยอะเลย ต้องขอบคุณพี่สาวสุดสวยมากๆ
ตอนนี้ถ้าทุกคนไม่รู้ว่านภนต์มาร้ายก็คงจะรู้สึกดีกับนภนต์ แต่เราดันรู้ไงว่านางร้าย หมั่นไส้ถูกไหม 55555 เรื่องราวที่หนูลันฝันคือเรื่องจริงในชาติภพเทวดา
ไม่อยากเมาท์มอยหอยสังข์เยอะกลัวคนลำคาญ เอาเป็นว่าขอขอบคุณทุกคนนะคะที่เข้ามาอ่าน เม้น เป็นกำลังใจให้ ยุ่งอ่านเม้นทุกคนเลยค่ะ บางเม้นอยากตอบแต่กลัวหลุดสปอย 555555

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.03 P.2 (24/03/2560)
«ตอบ #31 เมื่อ24-03-2017 13:03:33 »

แลดูแล

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.03 P.2 (24/03/2560)
«ตอบ #32 เมื่อ24-03-2017 15:22:28 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.03 P.2 (24/03/2560)
«ตอบ #33 เมื่อ24-03-2017 21:15:36 »

ดีใจที่มาต่อไวน้า

แล้วนี่คือฝัน? ชลจะได้ความทรงจำกลับคือมาเต็มๆเมื่อไรเนอะ?

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.03 P.2 (24/03/2560)
«ตอบ #34 เมื่อ24-03-2017 21:53:48 »

ตอนแรกคือความฝัน แต่ตื่นมาแล้วตัวเปลือยนี่คือไร

ออฟไลน์ TanYung0209

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.04 P.2 (28/03/2560)
«ตอบ #35 เมื่อ28-03-2017 06:56:38 »



สาปรัก…ทัณฑ์เทวา
Writer : Tan-Yung0209
File : 04

“ตื่นแล้วเหรอ...ลัน” นภนต์ที่ยืนพิงกรอบประตูเอ่ยถาม สายตาก็จับจ้องไปที่ร่างกายของชลันธร

“พี่ นะ... เออ อาจารย์นภนต์!!! เสื้อผ้าผมหายไปไหน?” ชลันธรถาม มือก็ดึงผ้าห่มมาคลุมกายจนมิดชิด ใบหน้าขาวนั้นเริ่มที่จะมีสีแดงระเรื่อ ก็ด้วยทั้งตกใจทั้งอาย ที่อยู่ดีๆ ทำไมมาตกอยู่ในสภาพนี้ได้ ตั้งแต่โตเป็นหนุ่มมาก็ไม่เคยเปิดเผยร่างกายให้ใครได้เห็น

“เรียกอาจารย์อีกแล้ว เรียกพี่เหมือนเดิมไม่ได้เหรอครับ...”

“ครับ...พี่นภนต์...ตกลงเสื้อผ้าลันหายไปไหน” ...ถามอีกครั้งด้วยทั้งเขิน ทั้งอาย ชลันธรจึงไม่เลยที่จะมองสบสายตาคมคู่นั้นของคนที่อยู่ตรงหน้า

“ก็พี่เห็นลันอยู่ดีๆ ก็เป็นลม เหงื่อก็ออกชุ่มตัว พี่ก็เลยเช็ดตัวให้ ก็เลยต้องถอดเสื้อผ้าให้ด้วย....หรือว่า ลันอายพี่เหรอ?” คำตอบที่ดูจะไม่สมจริง เท่าที่จะคิดออกหาข้ออ้างมาได้หลุดออกมาจากปากของนภนต์

“อายสิครับ ต้องมาอยู่ในสภาพนี้เป็นใครก็ต้องอาย อีกอย่างพี่นภนต์ถอดเสื้อลันอย่างเดียวก็ได้นี่ครับ” ชลันธรตอบกลับไปแต่พอได้สบตากับอีกฝ่าย ชลันธรก็รีบหลบหน้า…ก็เพราะสายตาคมของนภนต์มองเขาราวกับจะจับกลืนกินลงท้องเสียทั้งตัว  ร่างบางได้แต่สงสัยทำไมต้องมองกันแบบนี้ด้วย...เขากำลังคิดอะไรของเขาอยู่ เสื้อผ้าก็ไม่ได้ใส่สักชิ้นยังจะมามองแบบนี้อีก

“อายทำไม? ผู้ชายด้วยกัน...” นภนต์เอ่ยพร้อมกับยิ้มที่มุมปากและแอบขำในใจที่ได้เห็นท่าทางของชลันธรที่ทั้งเขินทั้งอาย ในใจคงจะระแวงตัวเขาแน่ๆ ตอนที่หลับไป ...

“ผู้ชายด้วยกันที่ว่าคือผู้ชายที่เจอหน้ากันแค่สองครั้งนะครับ”

“ก็ถ้าอีกฝ่ายไม่สบายก็ต้องทำแบบนี้ทั้งนั้น ถ้าลันกลัวว่าพี่จะถ่ายคลิป ถ่ายรูป หรือทำอะไรไม่ดีกับลันไม่ต้องห่วงหรอก เพราะพี่ไม่คิดที่จะทำ พี่ไม่ใช่คนฉวยโอกาสนะครับ”  คำพูดที่ดูดีแต่เขาไม่คิดที่จะทำตอนนี้ต่างหากและหากได้ทำเขาก็จะทำอะไรรุนแรงและให้ชลันธรเจ็บจนทนไม่ได้เสียดีกว่า

“ครับ” ชลันธรเบาใจขึ้นมาบ้างเมื่อได้ยินนภนต์ยืนยันแบบนั้น เพียงแต่ยังมีข้อสงสัยภายในใจว่าเหตุใดจึงต้องถอดเสื้อผ้าออกจากตัวเขาจนหมด
“เดี๋ยวลันหาเสื้อผ้าของพี่ที่อยู่ในตู้มาใส่ก่อนนะ พอดีพี่เอาเสื้อผ้าของลันไปซักให้” นภนต์บอกกับชลันธร ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องนอน

ในระหว่างที่รอชลันธรออกมา นภนต์ก็กังวลกับสิ่งที่ได้รับรู้ก่อนหน้านี้ นั่นก็คือสิ่งที่ชลันธรฝันหรือจะเรียกอีกอย่างว่าความทรงจำในอดีตชาติ

ย้อนกลับไปเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ นภนต์ได้พาชลันธรมายังคอนโดของตนและจัดวางคนในอ้อมแขนนอนลงบนเตียงกว้าง

“เราจะซ่อนตัวที่ไหนดี...” เสียงละเมอหลุดออกมาจากปากของร่างในอ้อมแขนทำให้คนกำลังที่จะออกจากห้องไปกลับต้องหยุดชะงัก นภนต์เดินกลับมาหาชลันธรแล้วค่อยๆ นั่งลงบนเตียงอีกครั้ง

“เจ้ากำลังฝันถึงเรื่องอะไรกันชลันธร”

นภนต์ไม่รอให้คำถามที่ผุดขึ้นนั้นค้างคาใจตนเอง เทพหนุ่มโน้ทใบหน้าลงให้หน้าผากจรดกับหน้าผากเนียน เพียงแค่หลับคาและตั้งจิตให้อยู่ในสมาธิ เขาก็สามารถที่จะเข้าไป เข้าไปดูว่าชลันธรกำลังหลับฝันถึงเรื่องอะไร

‘นี่มัน...ความทรงจำของเจ้ากำลังกลับมาอย่างนั้นหรือ?’

ไม่นานนภนต์ก็ลืมตาขึ้น ถึงจะใช้เวลาไม่มากและไม่ได้เห็นความฝันทั้งหมดแต่จากที่เขาเห็นชลันธรกำลังนั่งบนตัวของเจ้านกน้อยทิชากร นภนต์ก็พอจะเดาออกว่านี่คือเหตุการณ์ที่ตนพบกับชลันธรเป็นครั้งแรก ...ครั้งแรกที่ได้พบ  ครั้งแรกที่ได้กอด  ครั้งแรกที่ได้จูบจุมพิต...  แต่นภนต์เริ่มหวั่นใจกลัวว่าชลันธรจะสามารถจำเรื่องราวได้ทั้งหมด

นภนต์มองชลันธรที่นอนกระสับกระส่าย เหงื่อไหลไปทั่วผิวกายจนเสื้อนั้นชุ่มไปด้วยเหงื่อรวมถึงกางเกงก็พลอยเปียกไปด้วย ส่วนหนึ่งเกิดจากนภนต์เข้าไปในความฝันของร่างโปร่งทำให้ร่างกายของชลันธรต้องทำงานหนักเป็นสองเท่า

ขณะเดียวกันในห้องนอนของนภนต์ ชลันธรก็สับสนกับตัวเองที่ฝันประหลาดและเห็นนภนต์ในความฝัน ตอนตื่นขึ้นมาเห็นนภนต์ก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติแต่ก็มีเรื่องเขานอนเปลือยกายมาเบี่ยงประเด็นความสนใจเสียก่อน

“แกร๊ก...”

ชลันธรเปิดประตูห้องและเดินออกมาหานภนต์ที่นั่งเงียบอยู่ นภนต์เองพอเห็นว่าชลันธรออกมาก็รีบแสร้งยิ้มออกมา

“โกรธพี่เหรอลัน หน้ายุ่งเชียว” นภนต์ถาม

“เปล่าครับ…ลันได้ไม่โกรธ” ชลันธรตอบ แต่ที่เขาหน้ายุ่งก็เป็นเพราะเรื่องในความฝันต่างหาก  ถึงจะเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่มันกลับเป็นความฝันที่ไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้

“พี่เอาเสื้อผ้าลันไปให้แม่บ้านซัก อีกชั่วโมงนึงคงจะเสร็จ รอหน่อยก็แล้วกัน” นภนต์พูดต่อ เพื่อให้คลายบรรยากาศที่แสนจะอึดอัด

“อ่อ ครับ”

“เป็นอะไรทำไมดูเงียบๆ” นภนต์อาศัยช่วงจังหวะที่กำลังเผลอดึงแขนชลันธรให้มานั่งบนตักตัวเอง

“พี่นภนต์ปล่อยลันนะครับ” ชลันธรพยายามลุกออกจากตัก แต่นภนต์เองก็ไม่ยอมร่างบางลุกออกไปง่ายๆ จึงรวบกอดเอวบางเอาไว้แน่น

“ขอพี่กอดหน่อยนะครับ…ให้พี่ได้กอดคนที่รักหน่อย”  คำกล่าวกระซิบว่า ...ที่รัก...ข้างใบหูนิ่มนั้น ทำให้เอาชลันธรที่ได้ยินถึงกับใจเต้นแรง ทำตัวไม่ถูก แต่ใจหนึ่งก็ชอบนัก แต่อีกใจหนึ่งก็เริ่มรู้สึกกลัว  ว่านี่มันอะไรพี่นภนต์กำลังจะทำอะไรกันแน่

“พี่นภนต์อย่ามาล้อเล่นกับลันสิครับ เราสองคนเพิ่งจะรู้จักกันแถมยังเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่” ชลันธรเองแม้ในใจลึกๆจะรู้สึกดี หากเขาคิดว่านี่มันเร็วเกินไปที่จะรักกัน

“ผู้ชายแล้วไง…พี่รู้ว่าลันเองก็ชอบผู้ชายด้วยกัน อีกอย่างพี่ก็เคยบอกว่าพี่รักเราตั้งแต่แรกเจอ” นภนต์พูดต่อ เรื่องจริงที่เขาตกหลุมรักชลันธรก่อนเมื่อแรกพบ เพียงแต่ว่าตอนนี้ความรักมันได้กลับกลายเป็นความเกลียดชัง
“ไม่ว่ายังไง ลันก็ว่าเร็วเกินไปอยู่ดี อีกอย่างเราสองคนเป็นลูกศิษย์และอาจารย์กันนะครับ”

“เข้าใจแล้ว เอาเป็นว่าพี่จะไม่เร่งเร้าลันเอาอะไรในตอนนี้นะครับ พี่ขอแค่ให้ลันอย่ารังเกียจพี่ คุยกับพี่จะได้ไหม?” นภนต์รู้ว่าขืนรุกหนักกว่านี้ชลันธรอาจจะหลบหนีไปจากเขาได้ จึงใช้ไม้อ่อนให้ชลันธรวางใจ ถึงเวลานั้นเขาก็ตลบหลังชลันธรให้เจ็บแสบทีเดียว

“ได้สิครับ ลันไม่รังเกียจพี่นภนต์หรอก ค่อยๆ ทำความรู้จัก ค่อยๆ เรียนรู้กันไปนะครับ” ชลันธรตอบพร้อมกับเผยรอยยิ้มจริงใจให้กับอีกฝ่าย ในใจนั้นเขินแทบแย่ไม่ถึงว่า หนุ่มหล่อขนาดนี้จะพูดบอกว่ารักกับตัวเอง

“พี่ดีใจนะอย่างน้อยลันก็ให้โอกาสพี่”  นภนต์ลูบผมสีดำขลับอย่างทะนุถนอม ทั้งคู่ต่างสบตาซึ่งกันและกัน ชลันธรนั้นรู้สึกได้ถึงความรักที่จริงใจจากแววตาคมคู่นั้น แต่หากมองลึกลงไปข้างในแววตาก็จะรับรู้ได้ถึงความอาฆาตแค้นที่ฝังลึกของชายหนุ่ม...

.
.
.

“พี่ไปก่อนนะ แล้วคืนนี้พี่จะโทรหานะครับ” นภนต์ขับรถมาส่งชลันธรที่หอพัก

“ลันขอบคุณพี่นภนต์มากๆ นะครับที่ช่วยดูแลลันแล้วก็มาส่งลันที่หอพักอีก”

“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นบอกรักพี่ไม่ได้เหรอ?” นภนต์หยอดคำหวานจนคนฟังหน้าขึ้นสี

“พี่นภนต์... ลันบอกแล้วไงว่ามันเร็วเกินไป”

“พี่รู้แล้วครับ แค่พูดเล่นๆ เผื่อว่าจะเป็นจริง” นภนต์เอ่ยพร้อมกับมองตาคู่สวยจนชลันต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาไปเอง

“ลันไปดีกว่า ไม่พูดกับพี่นภนต์แล้ว” ชลันธรพูดแก้เขินแล้วเดินขึ้นห้องไป ซึ่งนภนต์ก็รู้ว่าชลันธรเขินมากขนาดไหน โดยเฉพาะเอามือลูบท้ายทอยตัวเองแก้เขินนั้นไม่ว่าชาติที่เป็นเทพมหาสมุทรหรือจะเกิดเป็นมนุษย์เดินดิน ภาษากายนี้ดูเหมือนจะติดตัวมาด้วย…เห็นทีเรื่องหลายใจน่าจะตามติดเป็นนิสัยมาด้วยเช่นกัน

พอชลันธรเข้าไปในตัวตึกหอพัก นภนต์ก็ขับรถกลับไปแต่ระหว่างทางเขารู้ตัวว่ามีบางสิ่งติดตามจึงได้ขับรถไปยังสวนสาธารณะใกล้ๆไร้ผู้คน

นภนต์ก้าวลงมาจากรถ ขายาวก้าวไปที่ต้นไม้ใหญ่ริมน้ำ แม้มีลมพัดเอื่อยๆ แต่ไม่สามารถทำให้ใจของนภนต์สงบลงได้

“ทิชากรออกมา!!!” สิ้นเสียงของเทวดาหนุ่ม นกสีทองที่แอบซ่อนอยู่ก็บินถลาลงสู่พื้นหญ้า แสงสีทองเป็นประกายโดยรอบก่อนจะปรากฎบุรุษที่มีชงอยปากคล้ายนก ขาแกร่งราวกับนกอินทรี กลางหลังก็มีปีกสีทองกางออกกว้าง

“ท่านนภนต์เก่งจริงๆ ที่รู้ว่าข้าติดตามท่านมา” ทิชากรเอ่ยด้วยน้ำเสียงยียวนชวนกวนประสาทนภนต์ไม่น้อย

“เจ้ามาที่นี่ด้วยเหตุอันใด ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือ...ว่าให้เจ้าคอยเฝ้าถ้ำแก้วไม่ใช่ให้มาคอยติดตามข้า” นภนต์ถามนกบริวารที่บังอาจขัดคำสั่ง

“นายท่านจะโกรธข้าไปไยเล่า ก็ด้วยข้ามีเรื่องสำคัญมาบอกกับท่านก็เท่านั้น” ทิชากรเอ่ยถึงสาเหตุที่ต้องทิ้งถ้ำแก้วมายังโลกมนุษย์

“แล้วมันถ้าไม่สำคัญล่ะก็...ข้าก็จักเผาเจ้าให้เป็นจุนเสีย” นภนต์ปลายตามองทิชากรที่ยิ้มกว้างไม่สะทกสะท้านกับคำขู่ของผู้เป็นนาย

“ท่านไม่ได้เผาข้าแน่เพราะเรื่องที่ข้าจะมาบอกท่านก็คือ พระผู้สร้างเรียกท่านรวมถึงเทพองค์อื่นๆให้เข้าเฝ้าโดยด่วน”

“พระผู้สร้าง...เรียกข้าอย่างนั้นหรือ?”  เทพหนุมมีสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที…หรือว่าพระองค์จะรู้แล้วว่าข้าลงมาขัดขวางชลันธร

“ท่านนภนต์ รีบไปกันดีกว่า หากชักช้าท่านอาจจะโดนพระผู้สร้าง ทรงตำหนิเอาได้” ทิชากรเอ่ยก่อนจะกลายร่างกลับไปเป็นปักษาสีทองขนาดมหึมาเพื่อเป็นพาหนะให้กับนภนต์

นกยักษ์สยายปีกทองแล้วขยับปีกโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้าผ่านสวรรค์ชั้นต่างๆ จวบจนมาถึงชั้นสูงสุดอันเป็นที่สถิตของพระผู้สร้าง มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่

“ถวายบังคมพระผู้สร้าง”

พอมาถึงนภนต์ก็รีบคุกเข่าทำความเคารพผู้เป็นใหญ่ ก่อนจะลุกไปนั่งบัลลังก์ประจำตำแหน่งซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบัลลังก์ของเทพมหาสมุทรกนธี

“ในเมื่อมากันครบแล้ว ข้ามีเรื่องจะแจ้งให้พวกเจ้าทราบ” พระผู้สร้างพูดเกริ่น เทพทุกองค์ก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดี

“บัดนี้ชลันธรก็เกิดในชาติที่สามร้อยแล้ว ข้าจึงอยากให้ชลันธรได้รับการดูแลเพราะข้ากลัวว่าจะมีคนไปทำร้ายชลันธรหากความทรงจำนั้นกลับคืนมาทั้งหมด” พระผู้สร้างเอ่ยออกมาเสียงเรียบแต่ก็สัมผัสได้ถึงพลังอันน่าเกรงขาม

“ข้าแต่พระผู้สร้าง ข้ากนธีขออาสาดูแลชลันธรเอง ด้วยชลันธรนั้นมีศักดิ์เป็นภาคิไนยในช้า จึงเหมาะแล้วทีข้าจะเป็นผู้ดูแล” เทพสมุทรกนธีรีบเสนอตัว เพราะนี่เป็นโอกาสดีที่จะได้เข้าใกล้เสี้ยนหนามและได้กำจัดออกไปอย่างแยบยลตามแผนที่ได้วางเอาไว้ล่วงหน้า

“ข้าไม่รบกวนเจ้าหรอกกนธี ข้านั้นได้ตรองดูแล้วว่าจะให้เทพนภนต์เป็นผู้ดูแลชลันธรจนกว่าชลันธรจะพิสูจน์ตัวเองได้ เจ้าขัดข้องหรือไม่นภนต์”

“หากนี่เป็นพระประสงค์ของพระผู้สร้าง แลเห็นว่าสมควรแล้วข้าก็มิขัดข้องแค่ประการใด” นภนต์เอ่ย ตาก็เหลือบมองกนธีที่จ้องมองเขาด้วยความไม่พอใจ

“เป็นอันว่าเจ้าเต็มใจนะ ดีมาก...และเจ้าจงจำไว้ว่าอย่าให้มีอันตรายอันใดเกิดขึ้นกับชลันธรเป็นอันขาด รู้ไหม...”

“ข้าทราบแล้ว” นภนต์รับคำ

“เทพทุกองค์จงเป็นพยาน เทพนภนต์แห่งท้องนภาจะเป็นผู้ลงไปดูแลชลันธร หากเกิดอันตรายอันใดกับชลันธรก่อนที่ความทรงจำทั้งหมดคืนมา นภนต์จะต้องถูกลงโทษเพราะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้”

เสียงฟ้าร้องดังสนั่นเท่ากับว่าคำสั่งของพระผู้สร้างที่มอบให้เทพนภนต์ได้ทำนั้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

“ข้าไม่มีเรื่องที่จะแจ้งกับพวกเจ้าแล้ว เวลานี้พวกเจ้าก็กลับไปยังวิมานของตนเองเถิด” พระผู้สร้างเอ่ยกับเทพทุกองค์ที่ร่วมมาเป็นสักขีพยาน รวมถึงเทพผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างนภนต์ ที่ได้ยืนบนตัวของทิชากรลงสู่โลกมนุษย์

“พระผู้สร้าง ข้ามีเรื่องสงสัย” เมื่อเทพองค์อื่นกลับกันไปหมดแล้ว บุษยะเทพผูรับใช้พระผู้สร้างก็เกิดคำถามขึ้นมา

“สงสัยอันใดบุษยะ”

“พระองค์ก็ทรงทราบดีว่าท่านนภนต์นั้นเกลียดชังท่านชลันธรเป็นอันมาก เหตุใดเล่าจึงให้ท่านนภนต์ตามไปดูแลท่านชลันธรอีก ข้าเกรงจะมิเป็นการดี” บุษยะถามสิ่งที่ตนข้องใจ

“ใช่...ข้ารู้ดีว่านภนต์นั้นเกลียดชังและอยากจะขัดขวางชลันธรเพียงใด แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าก่อนจะเกลียดชังกันนั้น ทั้งสองก็รักใคร่และเสน่หากันมาก่อน ข้าเองก็อยากให้นภนต์คิดได้ว่าคนที่รักกันจักต้องเชื่อใจกันยิ่งกว่านี้...” พระผู้สร้างตอบ พระองค์รู้ว่าเทพแห่งท้องนภาและอดีตเทพแห่งมหาสมุทรนั้นเป็นคู่สร้างคู่บุญกันมานาน

“แล้วพระองค์ไม่ทรงกลัวว่าท่านนภนต์จะทำร้ายท่านชลันธรหรอกหรือ?”

“เทพนภนต์จะไม่ทำอันตรายใดๆ ต่อชลันธรหรอกเพราะคำสั่งข้าคือคำประกาษิต เทพนภนต์ไม่สามารถที่จะขัดคำบัญชาฟ้าดินของข้าได้ อีกทั้ง…” เทพพระผู้สร้างหยุดพูด ทำให้บุษยะที่กำลังฟังกระวนกระวาย

“อีกทั้งอะไรหรือพระผู้สร้างได้โปรดเอ่ยให้ผู้โง่เขลาอย่างข้าได้รับรู้” บุษยะคลานเข่าเข้าหาพระผู้สร้าง มือเรียวของบุษยะคว้าที่ข้อพระบาทของมหาเทพที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ทอง จนพระผู้สร้างเผยยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูคนตรงหน้า

“ข้าจักบอกเจ้าก็ได้ แต่เจ้าจงให้สัญญาว่าอย่าได้บอกเรื่องนี้กับใคร เพราะแม้แต่เทพนภนต์เองก็ยังไม่รับรู้” พระผู้สร้างเอื้อมพระหัตถ์เชยคางมนของบุษยะให้เงยขึ้นมาสบพระพักตร์พระองค์เอง

“ข้าสัญญาว่าจะไม่บอกใคร” บุษยะรีบกล่าวให้คำมั่น

“ยิ่งเทพนภนต์เข้าใกล้ชลันธรมากเท่าใด ความทรงจำของชลันธรก็จะยิ่งกลับมามากขึ้นเร็ววันเท่านั้น…ยิ่งทั้งสองใกล้ชิดกันก็ยิ่งส่งผลดีต่อชลันธร...”


















...................................
มาแล้วจ้า มาแบบเมาๆมึนๆอึนๆ หวังว่าเธอจะเข้าใจ เวลานี้พี่นภนต์คนหล่อไม่สามารถจะเล่นแผลงๆแกล้งทำเป็นรักหนูลันแล้วหักอกไม่ได้แล้วนะคะ 5555  โดนสั่งให้ปกป้องถ้าทำไม่ได้ พี่นภนต์จะโดนอาญาเอง #พระผู้สร้างเท่จริง #ฉันรู้พวกเธอจิ้นพระผู้สร้างกับบุษยะ
หลังจากนี้จะเจอแต่ซีนหวานเหมือนน้ำผึ้ง ไร้ซึ่งมาม่า #โปรดเชื่อ
สุดท้ายนี้ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านเม้นเป็นกำลังใจให้นะคะ จุ๊บ อยากให้ติดตามนิยายเรื่องนี้แฟนตาซีที่อาจจะไม่เขียนดีเลิศแต่อยากให้ติดตามว่าใครคือ #คนวางยา

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.04 P.2 (28/03/2560)
«ตอบ #36 เมื่อ28-03-2017 08:32:33 »

รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.04 P.2 (28/03/2560)
«ตอบ #37 เมื่อ28-03-2017 12:58:24 »

เข้ามาเจิมก่อน555อ่านไปได้แค่บทเดียวแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ

อิอิ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.04 P.2 (28/03/2560)
«ตอบ #38 เมื่อ28-03-2017 14:22:47 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.04 P.2 (28/03/2560)
«ตอบ #39 เมื่อ28-03-2017 21:11:26 »

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.04 P.2 (28/03/2560)
« ตอบ #39 เมื่อ: 28-03-2017 21:11:26 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.04 P.2 (28/03/2560)
«ตอบ #40 เมื่อ28-03-2017 21:31:03 »

อย่างน้อยพระผู้สร้างก็ยังแอบช่วยชล :hao5:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.04 P.2 (28/03/2560)
«ตอบ #41 เมื่อ28-03-2017 22:51:57 »

  เชื่อว่าพระผู้สร้างรู้ว่าใครเป็นคนก่อเรื่องให้ชลันธร เพียงแต่ท่านไม่พูดเท่านั้นเอง ปล่อยให้เป็นไปตามครรลองของมัน แค่ช่วยนิดๆหน่อยๆ รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.04 P.2 (28/03/2560)
«ตอบ #42 เมื่อ28-03-2017 23:57:17 »

เป็นการพิสูจน์รักแท้ไปในตัวด้วยหรือเปล่าเนี้ยะ

ออฟไลน์ TanYung0209

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.04 P.2 (28/03/2560)
«ตอบ #43 เมื่อ02-04-2017 13:31:25 »

สาปรัก…ทัณฑ์เทวา
Writer : Tan-Yung 0209
File : 05






นับตั้งแต่ที่นภนต์ได้รับบัญชาจากพระผู้สร้างว่าให้ดูแลอดีตเทพแห่งมหาสมุทร เขาก็ต้องยับยั้งความตั้งใจที่จะขัดขวางการรื้อฟื้นความทรงจำและทำร้ายชลันธร กลับต้องแปรเปลี่ยนเป็นดูแลและปกป้องแทน  ถึงแม้จะขัดใจและหัวเสียอยู่ไม่น้อยแต่ก็ต้องจำใจทำ

 …‘จะทำอย่างไรได้เล่า...ก็นั่นราชโอการแห่งฟ้าดินข้าจัชะขัดได้ที่ไหนกัน แต่มันต้องมีสักวันสิ ใช่...มันต้องมีสักวันที่ข้าจะต้องทำได้ ชลันธร...ข้ารอคอยเพื่อทำลายชีวิตเจ้ามาถึงสองร้อยเก้าสิบเก้าชาติ ในเมื่อรอมีถึงชาติสุดท้ายแล้ว ถึงข้ารออีกสักหน่อยก็คงมิเป็นกระไร’...

นภนต์เก็บความคับแค้นทั้งหมดไว้ภายในจิตใจ เหลือไว้เพียงใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มเสแสร้งมอบให้ชลันธรเท่านั้น นับตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกันจนถึงเวลานี้ก็ร่วมเข้าไปสองสัปดาห์แล้ว  ชลันธรเองก็ไว้วางใจนภนต์มากขึ้น  หากมีเวลาว่างทั้งสองก็มักจะนัดทานข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกันเสมอ มิต้องจากคู่รักทั่วไป แต่ภายในชั้นเรียนทั้งสองกลับเหลือสถานะเป็นเพียงอาจารย์และลูกศิษย์กันเท่านั้น

“อาจารย์นภนต์ครับ ผมเอางานมาส่ง” ชลันธรยื่นรายงานส่งให้กับอาจารย์หนุ่ม นภนต์เงยหน้าและยื่นมือรับรายงาน โดยอาศัยจังหวะนี้ยัดกระดาษโน้ตเล็กๆ ใบหนึ่ง ลงในมือบางของชลันธร

“ครับ” นภนต์แสร้งทำเป็นนั่งนิ่งใส่ร่างโปร่งบางเพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตาของใครต่อใครและไม่ให้เกิดข้อครหาเรื่องอาจารย์คบกับลูกศิษย์ ซึ่งชลันธรเองก็ไม่ได้น้อยใจอะไร เขากลับเข้าใจและเห็นด้วยที่จะรักษาระยะห่างกับนภนต์ในมหาวิทยาลัย

‘เย็นนี้ไปรอพี่ที่หน้าร้านไอศกรีมหลังมหาลัยนะครับคนเก่ง’

ชลันธรอ่านข้อความในกระดาษโน้ตเล็กๆ แผ่นนั้น  ก่อนจะเผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา โดยลืมไปว่าไม่ได้นั่งอยู่เพียงลำพัง

“อาจารย์นภนต์นัดเดทเหรอลัน?” เสียงกระซิบข้างหูทำให้ชลันธรตกใจ มือเรียวกำกระดาษแผ่นน้อยไว้แน่นและรีบซ่อนไว้ด้านหลังราวกับเด็กน้อยกำลังซ่อนของเล่นที่แสนหวง

“ไม่ต้องมาซ่อนเลยลัน เราเห็นหมดแล้ว” นาคินทร์ยิ้มขำกับท่าทางของชลันธร

“เอ่อ..คินทร์…คือว่าเรากับ…อาจารย์…” ชลันธรพยายามอธิบายแต่ก็ไม่รู้จะเรียบเรียงคำพูดออกมาอย่างไรดี

“ไม่ต้องบอกหรอก เราพอจะเดาออก” นาคินทร์จับมือชลันธรเอาไว้เพื่อสร้างความสบายใจให้กับเพื่อน

“แล้วคินทร์...จะพูดเรื่องเรากับอาจารย์ไหม?” ชลันธรกังวลเรื่องความสัมพันธ์นี้ หากใครได้รู้เรื่องเข้าล่ะก็ มีหวังคงจะถูกซุบซิบนินทาหาว่าเขาเอาตัวเข้าแลกกับคะแนนเป็นแน่

“ไม่บอกหรอก เรื่องความรัก มันห้ามกันได้ด้วยเหรอ...เราสองคนน่ะเพื่อนกันนะ อะไรที่สุ่มเสี่ยงแบบนี้พูดได้ที่ไหนกัน” นาคินทร์เอ่ย แต่ในสมองก็คิดถึงกนธีเทพผู้สูงศักดิ์ที่ตนบังอาจหลงรัก แค่คิดนาคินทร์ก็รู้สึกหน่วงใจตรงก้อนเนื้อที่อกด้านซ้าย

“เราไม่ได้รักอาจารย์เสียหน่อย” ชลันธรรีบปฏิเสธ ซึ่งดูยังไงก็ขัดกับแก้มที่เคยขาวและได้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

“ไม่รักก็ไม่รัก…แต่ถ้ารักกันขึ้นมาจริงๆเราก็ไม่บอกใครหรอก เราสัญญา” นาคินทร์เอ่ย

“ขอบใจมากนะคินทร์” ชลันธรเผยยิ้มกว้างตอบกลับโดยไม่รู้ว่าคำขอบคุณนั้นเป็นการยอมรับว่าตนเองมีความรู้สึกดีๆ กับนภนต์ไปแล้ว  แต่อีกฝ่ายอย่างนาคินทร์กลับรู้สึกแย่ทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มระคนความใสซื่อในดวงตาคู่นี้ของชลันธร

หลังเลิกเรียนชลันธรก็แยกกับนาคินทร์ โดยนาคินทร์อ้างว่ามีธุระ หากเขาต้องกลับไปรายงานความเคลื่อนไหวของนภนต์และชลันธร อีกทั้งยังต้องรับทำหน้าที่เป็นเครื่องรองรับอารมณ์ระบายตัณหาราคะให้แก่คนที่ตนรัก

ทางด้านชลันธรก็มายืนรอนภนต์ตามนัดหมาย ไม่นานนักรถยนต์หรูสีดำสนิทก็จอดเทียบในจุดที่ร่างบางนั้นยืนอยู่  ชลันธรรู้ทันทีว่าตนจะต้องรีบขึ้นรถเพื่อไม่ให้นักศึกษาที่อยู่แถวนั้นเห็นว่าตนไปกับนภนต์ผู้เป็นอาจารย์

“ขอโทษนะพอดีพี่อยู่คุยกับอาจารย์ณดลเรื่องเข้าค่ายรับน้องสาขาของเรา” นภนต์เอ่ยพร้อมกับขับรถไปด้วย เทวดาหนุ่มคิดว่าจะพาชลันธรไปทานข้าวที่บ้าน

“ไม่เป็นไรครับอาจารย์” ชลันธรเอ่ย ไม่ให้นภนต์เป็นกังวลแต่กลับได้รับหน้าดุๆ จากอีกคนแทน

“พี่บอกแล้วไงครับ ว่าถ้าอยู่ด้วยกันสองต่อสองให้เรียกพี่ว่าพี่” นภนต์ทักท้วง ชลันธรก็ยิ้มแหยะๆ ออกมา หนุ่มหน้าหวานลืมไปเสียสนิทเพราะชินกับการเรียกนภนต์ในห้องเรียน

“ลันขอโทษครับ” ชลันธรรีบยกมือไหว้ขอโทษนภนต์ที่แกล้งทำหน้าตาไม่พอใจ

“ถ้าหอมแก้มพี่ พี่จะหายโกรธ” นภนต์พูดเสียงนิ่ง จนชลันธรอดหมั่นไส้ไม่ได้ที่จะหยิกแขนนภนต์เบาๆ ในจังหวะที่รถกำลังติดไฟแดง

“นี่แหนะ…เอาหยิกไปก่อนนะพี่นภนต์”

“โอ๊ย!!! ใจร้าย…คนใจร้าย…ถ้าไม่หอมพี่ พี่หอมเองก็ได้…”

....ฟอด....จากที่ร้องโอดโอยเมื่อครู่ นภนต์ก็เอียงหน้าเข้าไปหอมแก้มชลันธรอย่างที่คนถูกหอมไม่ทันจะตั้งตัว เทพหนุ่มทำไปโดยไม่รู้ตัว…ไม่สิทำมาจากส่วนลึกในจิตใจมากกว่า...  ร่างบางสะดุ้งตกใจไม่น้อยไม่ใช่เพียงเพราะแค่ถูกหอมเท่านั้นแต่อยู่ดีๆ กลับมีภาพซ้อนในความคิดฉายผ่านเข้ามาในความคิด เหมือนว่าเขาเคยถูกหอมแก้มแบบนี้มาก่อน...

ด้วยขวยเขินและสบสันกับภาพในความคิด แต่ชลันธรเองก็ไม่รู้จะอธิบายสิ่งที่เห็นนั้นให้จอมฉวยโอกาสว่าอย่างไร จะพูดไปก็กลัวนภนต์จะคิดเป็นอื่น  เลยแกล้งพูดกลบเกลื่อน

“พี่นภนต์อะ ชอบฉวยโอกาส” เพราะเห็นว่าตนสู้ไม่ได้ก็เลยจำต้องทำหน้าบึ้งใส่ แกล้งทำเป็นโกรธอีกฝ่าย  ปากเม้มแกล้งงอนมองไปอีกทาง แต่อีกใจก็ยังสบสันกับภาพเมื่อครู่ไม่หาย

...เมื่อกี้มันอะไรกัน  เหมือนพี่นภนต์เคยหอมเรามาก่อน...

“โถ...โกรธพี่เหรอครับคนดี...พี่ขอโทษนะ...เอ...หรือว่างอนพี่ ที่พี่หอมแค่ข้างเดียว ไม่ได้หอมอีกข้าง...งั้นมามะ มาให้พี่ชื่นใจอีกทีได้ไหม...”  พูดหยอกเอิ้นไปให้หายโกรธ แต่อีกฝ่ายเหมือนจะได้สติทันควัน

“พอเลยครับพี่นภนต์...พี่อะทำอะไรลันไม่ได้ตั้งตัวเลย...เล่นทำแบบนี้ลันก็เขินแย่สิครับ...” มือบางถูเบาๆ ข้างแก้มที่ถูกหอมด้วยเขินในสิ่งที่ชายหนุ่มทำ  แต่คนทำกลับรู้สึกชื่นใจ

...หอมแบบไหนก็มิมีเปลี่ยน... กลิ่นแก้มเนียนเจ้าที่ตรึงใจข้า...

“ก็มันหน้าหอมนี่ครับ...อยากน่ารักน่าหอมแบบนี้ทำไม...”

“พี่อะ....”

“อืม...อีกไม่อาทิตย์ลัน ต้องไปเข้าค่ายที่แสมสารแล้วสิ...พี่คงคิดถึงลันแย่เลย” นภนต์ชวนคุยเรื่องเข้าค่ายหวังให้ชลันธรหายงอน

“แล้วพี่นภนต์ไม่ไปด้วยเหรอครับ?” ชลันธรถาม เขารู้สึกเสียดายที่นภนต์ไม่ได้ไปด้วยกัน ก็อยากเห็นหน้าคนคนนี้ทุกวันเหมือนกันนี่...

“ไปครับ  แต่พี่คงตามไปทีหลัง พอดีว่าวันนั้นต้องเข้าประชุมช่วงเช้า ยังไงลันก็ดูแลตัวเองไปก่อนนะ” นภนต์เอ่ย

“ลันดูแลตัวเองได้อยู่แล้วครับ พี่นภนต์ไม่ต้องห่วงหรอก ก็วันเดียวเองคงไม่คิดถึงมากขนาดนั้นหรอกมั้งครับ” ชลันธรเอ่ย แต่เขาก็แปลกใจที่นภนต์พูดจาแปลกๆให้เขาดูแลตัวเอง

“ไม่ได้อยู่ใกล้ลันเพียงไม่กี่ชั่วโมง พี่...ก็รู้สึกแย่แล้ว...การดูแลลันมันเป็นหน้าที่ของพี่นี่ครับ…พี่อยากให้ลันรู้เอาไว้ ว่าพี่เกิดมาเพื่อปกป้องและดูแลลัน...”

คำพูดของนภนต์ส่งผลให้หัวใจของชลันธรเต้นแรง ดวงใจที่พองโตนั้นตรเลิดไกลราวกับวิหคที่เริ่มแรกหัดบินได้  ทั้งเชื่อมั่นในตัวตน ทั้งเชื่อมั่นในคำพูด แบบนี้มีหรือจะไม่ให้ยิ้มหวานๆ เป็นรางวัลแก่คนที่เลื่อนมือมากอบกุมมือบางของเขาไว้ได้อย่างไร...ทุกสิ่งที่ชายหนุ่มกระทำออกมานั้นล้วนเป็นธรรมชาติ  ส่วนตัวนภนต์เองก็ย้อนคำนึงถึงคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับชลันธรในอดีตกาล  ช่วงอดีตที่แสนหวาน   ช่วงอดีตที่แรกรักในคนๆ นี้  จนลืมเลือนสิ่งที่แค้นเคืองกับการกระทำของคนงามที่เคยทำร้ายมารดาของเขาไปชั่วขณะ

‘ข้าขอสัญญา...ข้านภตน์...เทพแห่งท้องนภา
จะปกป้องและดูแลเจ้าไปตลอดกาล’...
.

และแล้ววันเข้าค่ายรับน้องของสาขาวิทยาศาสตร์ทางทะเลก็มาถึง นักศึกษาน้องใหม่ชั้นปีที่ 1 ทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมนี้  บรรยากาศภายในรถบัสปรับอากาศขนาดกลางนั้นเป็นไปอย่างคึกคักสนุกสนาน  ด้วยกลุ่มทีมงานรุ่นพี่ขี้เมาปีสองหลังรถที่ทั้งเต้น ทั้งร้อง เพลงประหลาดๆ เนื้อหาติดเรทสองแง่สองง่าม ทะลึ่งตึงตังบ้าง ซึ่งสร้างเสียงหัวเราะและอารมณ์ขันได้เป็นอย่างดีตลอดเส้นทาง แต่ชลันธรที่สวมแว่นตากันแดดเลนส์สีฟ้าน้ำทะเลกลับเลือกที่จะฟังบทเพลงสบายๆ ผ่านหูฟังจากโทรศัพท์มือถือมากกว่า บทเพลงที่นภนต์เลือกให้เขาฟังมันเป็นเพลงสบายๆ ฟังไม่มีเบื่อ นาคินทร์ที่นั่งข้างกันกลับนอนหลับเอาแรงเพราะไม่อยากกวนเพื่อน ชลันธรคงอยากฟังเพลงเงียบๆ คนเดียวมากกว่า

เมื่อรถบัสหยุดจอดยังรีสอร์ทที่ถูกเหมาจองไว้สำหรับเข้าพัก ทุกคนต่างก็แยกย้ายเข้าที่พักจัดเก็บสัมภาระ ส่วนชลันธรและเพื่อนๆ บางส่วนหลังจากที่เก็บของเสร็จแล้วก็ออกมารับข้าวกล่องมื้อกลางวันที่เตรียมมาแล้วก็นั่งทานด้วยกัน  อาหารมื้อกลางวันบนม้านั่งตัวใหญ่กับเพื่อนๆ ใต้ต้นจิกทะเล  พร้อมด้วยลมทะเลพัดเอื่อยเคล้าเสียงเกลียวคลื่นกระทบฝั่ง ช่างเป็นเวลาที่มีความสุขมากจริงๆ  3 ปีมาแล้วที่ชลันธรไม่ได้มาเที่ยวทะเลเลย... ยิ่งได้ฟังเสียงคลื่นที่กำลังซัดเข้าหาฝั่งทำเอาชลันธรอยากลงไปเล่นน้ำทะเลเสียตอนนี้เลยจริงๆ   แบบนี้ล่ะมั้งที่เขาเรียกว่า ...ร่างกายต้องการทะเล...

“ลัน คินทร์ เดี๋ยวพวกมึงจะไปนอนพักหรือเปล่าวะ ” เพื่อนชายคนหนึ่งในกลุ่มถามขึ้น

“ไม่อ่ะ เราว่าเราอยากจะไปเล่นน้ำนะ” ชลันธรตอบในสิ่งที่อยู่ในใจ

“เล่นตอนเที่ยงเดี๋ยวไม่สบายหรอกลัน  คินทร์ว่ากลับไปนอนกันดีกว่าพอตอนเย็นเราต้องเก็บกวาดสถานที่อีก” นาคินทร์ชวน มือก็ป้องปิดปากตัวเองที่กำลังหาวไปด้วย เพราะต้องออกเดินทางจากกรุงเทพแต่เช้าเพื่อไม่ให้รถติด

“คินทร์ไปนอนเถอะ เดี๋ยวเราเล่นน้ำคนเดียวก็ได้”

ไม่แปลกใจที่อยู่ๆ ก็ชวนกันนอนพักตั้งแต่บ่ายแก่ๆ เพราะกลุ่มของชลันธรมีหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ตั้งแต่เช้ามืดในวันพรุ่งนี้  ต้องเดินทางมาที่แสมสารนี้ ล่วงหน้าก่อนกลุ่มอื่นๆ ดีที่ว่าพวกปีสองจัดแบ่งงานกันเป็นกลุ่มๆ ชลันธรเลยมีเวลาว่างใน ขณะที่คนอื่นจะเดินทางมาสมทบในวันพรุ่งนี้

พอทานอาหารมื้อกลางวันกันเสร็จเรียบร้อย  ทุกคนต่างก็แยกย้ายไปทำเรื่องของตัวเองบ้างนอนพักเอาแรง บ้างก็นั่งเล่นคุยกัน  ชลันธรก็ออกมาเดินเล่นตามชายหาดไปเรื่อยๆ จนมาอยู่ในที่ลับตาคน ชลันธรไม่รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนแรงเลยเมื่อได้มาที่ทะเล เวลาเท้าได้สัมผัสผืนทรายละเอียดนั้นมันทำให้เขารู้สึกมีเรี่ยวแรงกระปรี่กระเป่าขึ้นมา ยามที่ได้สูดกลิ่นไอทะเลเข้าไปจนเต็มปอดก็ยิ่งทำให้มีความสุข ชลันธรชอบทะเล ชอบผืนทรายสีขาวชอบน้ำสีฟ้าคราม ชลันธรชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับน่านน้ำที่แสนกว้างใหญ่นี้

ใจหนึ่งก็อดมิได้ที่จะคิดถึงคนที่ชอบให้เรียกว่าพี่...อยากให้เขาตามมาแสมสารเร็วๆ ใจจะขาด ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกัน...ยามที่ได้อยู่คนเดียวกับสถานที่แสนสวยแบบนี้  แต่ใจเอยกลับคิดถึงอีกคนหนึ่ง หากตอนนี้พี่นภนต์มายืนกอดเขาจากทางด้านหลังแล้วหอมแก้มก็คงจะดีไม่ใช่น้อย...

ยืนอยู่อย่างนั้นไม่นานนัก เขากลับได้ยินเสียงแว่วหวานที่แผ่วเบา เชื้อเชิญให้ลงไปเล่นน้ำทะเลในตอนนี้  แล้วชลันธรก็ก้าวขาลงไปข้างหน้าทีละก้าว ทีละก้าว ร่างกายก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำทะเลไล่ตั้งแต่เท้า จนเขาหยุดเดินระดับน้ำก็อยู่ตรงช่วงของใต้ราวนมของชลันธรแล้ว

แต่แล้วจู่ๆ สายตากลับเห็น ปลาตัวเล็กๆ สีสันสะดุดตากำลังแหวกว่ายเข้ามาใกล้ มันเป็นปลาการ์ตูนส้มขาวหรือที่ใครๆ ก็ชอบเรียกว่านีโม่ แล้วนั่นก็ปลาการ์ตูนอานม้า  แล้วก็ปลาทะเลสีสันสวยงามอีกหลายชนิดต่างแหวกว่ายเข้ามาหาอดีตเทพแห่งมหาสมุทร ชลันธรเองก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจไม่น้อยที่มีฝูงปลามากมายเข้ารุมล้อมเขาเหมือนในการ์ตูนเทพนิยาย โดยมิรู้ตัวว่าภัยร้ายกำลังคลืบคลานเข้ามา

‘ครืน…ซ่า…’ เสียงคลื่นยักษ์สูงราวสองเมตรกว่าซัดเข้าหาชลันธรที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับฝูงปลามากมายจากทางด้านหลัง ทำให้ร่างบางตั้งหลักไม่ทันล้มจมลงไปใต้น้ำ โชคดีที่ชลันธรมีสติและว่ายน้ำเก่งจึงพยายามแหวกว่ายขึ้นมา แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเหมือนว่าความโชคร้ายกำลังค่อยๆ ก่อตัวกับขาของเขา และเริ่มรู้สึกว่าความหนาวเหน็บแล่นทั่วขาทั้งสองข้าง

หากว่าชลันธรมีพลังวิเศษเช่นกาลก่อน เขาก็จะเห็นเหล่าพรายน้ำสาวผมยาวสยายนับสิบตนว่ายวนไปรอบตกายของชลันธรเป็นวงกลมและหนึ่งในพรายน้ำก็กำลังตรึงขาของชลันธรเอาไว้ เหล่าพรายน้ำที่ได้เห็นต่างก็ฉงนใจนัก ว่าทำไมเจ้าแห่งท้องสมุทรจำต้องบังการให้มาทำร้ายหมายเอาชีวิตด้วยหนุ่มน้อยหน้ามนที่งามราวดั่งเทพบุตรบนสรวงสวรรค์ผู้นี้ด้วย  แต่ด้วยคำสั่งผู้ครองท้องสมุทรมีหรือที่จะขัดในบังการนั้นได้

ร่างบางเริ่มที่กลั้นลมหายใจไม่ไหวแล้ว  แขนเรียวพยายามแหวกว่ายให้โผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำได้ มือบางพยายามออกแรงสุดกำลังเท่าที่มีนั้นแหวกว่ายขึ้นมาให้จงได้ แต่กลับอ่อนล้าแรงกำลังลงพร้อมกับร่างที่ถูกดึงให้ดำดิ่งลึกลงไปใต้ทะเลเรื่อยๆ

‘พี่นภนต์…ช่วยลันด้วย  พี่นภนต์…ช่วยลันด้วย’

สติที่ยังเหลืออยู่นึกถึงคนที่เคยพูดว่าจะปกป้องและดูแลเขา  ก่อนที่ชลันธรจะหมดสติไป เขานึกถึงอาจารย์หนุ่มผู้เป็นคนรัก  รวดเร็วราวกับความฝัน ใบหน้าของนภนต์ปรากฏขึ้นและกำลังว่ายน้ำลงมาหาเขา…ชลันธรเพียงยิ้มบางๆ ให้ชายหนุ่มเขาเพียงคิดแค่ว่าฝันของตนนั้นกลายเป็นความจริง  พี่นภนต์ของเขาจะมาได้อย่างไรจะติดปีกบินมาหรือ...แต่อย่างน้อยถ้าตายแล้วได้เห็นใบหน้าของนภนต์ก็คงตายอย่างเป็นสุขก่อนสติจะจางหายไปโดยมิล่วงรู้ว่า นภนต์นั้นมาช่วยตนเองเอาไว้จริงๆ

นภนต์ก็รีบรับร่างของชลันธรเอาไว้ในอ้อมกอด พร้อมกับสยายปีกออกจนห้วงน้ำทะเลแหวกออกเป็นวงกลม เหล่าพรายน้ำต่างงุนงงที่ได้พบเทพแห่งท้องนภา ตอนนี้ร่างกายของชายหนุ่มนั้นมีเกราะนักรบสีทองหุ้มอยู่ พร้อมที่จะปกป้องคนในอ้อมแขนอย่างเต็มกำลัง  ด้วยแสงสีทองของเกราะแกร่งสะท้อนกับแสงจากดวงอาทิตย์ในเที่ยงวันนั้น พวกพรายน้ำรู้ได้ทันทีว่านักรบผู้มีปีกทองผู้นี้ไม่ใช่สิ่งที่ภูตผีชั้นต่ำอย่างพรายน้ำจะต่อกรด้วย  ต่างหนีตายอย่างจ้าละหวั่น  แต่มีหรือพวกที่ทำร้ายคนงามจะมีชีวิตรอดกลับไปได้ ด้วยบัญชาสวรรค์จะฆ่าใครฐานทำร้ายชลันธรก็มิต้องโทษทัณฑ์แห่งเทวา   ปีกทองเพียงขยายขยับสะบัดขึ้นลง ให้ขนนกสีทองพุ่งออกมาผ่านน้ำทะเล ตรงเข้าผ่านทะลุร่างของเหล่าพรายน้ำทุกตนจนชีพดับสูญ  พร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนชวนขนหัวลุกของผีพรายแห่งท้องทะเล ไม่นานนักทุกอย่างก็สงบลง

“เจ้านี่ช่างซุกซนเสียจริง หากพี่มาไม่ทันเล่า ป่านนี้จักเป็นเช่นไร...”  พลางจุมพิตปลอบประโลมขวัญจรดลงที่หน้าผากเนียน จากนั้นปีกทองก็ขยับทะยานขึ้นสู้ท้องฟ้า พาร่างของชลันธรขึ้นฝั่ง น้ำทะเลที่เคยแหวกก็กลับเข้าหากันเหมือนเดิม

นภนต์อุ้มชลันธรกลับเข้าไปพักที่ รีสอร์ท ท่ามกลางสายตาของเหล่านักศึกษาที่กำลังนั่งเล่น และเตรียมของสำหรับกิจกรรมในวันพรุ่งนี้กันอยู่

“อาจารย์นภนต์เกิดอะไรขึ้นกับลันครับ” เพื่อนร่วมรุ่นของชลันธรคนหนึ่ง เข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง

“ชลันธรจมน้ำ แต่ไม่เป็นอะไรมาก ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวผมจัดการเอง บอกคนอื่นให้ทำกิจกรรมต่อไปตามปกตินะ ไม่เป็นไรทางนี้ผมดูแลได้” นภนต์เอ่ยแล้วรีบพาชลันธรเข้าห้องพักของตนเอง

มือหนาค่อยๆ วางร่างบางที่เปียกปอนลงนอนในอ่างอาบน้ำ แล้วทาบลงที่แผ่นอกเนียน นภนต์เพียงร่ายมนต์ในชั่วอึดใจชลันธรก็สำลักน้ำทะเลออกมาจนหมด

“พี่นภนต์….” คำแรกที่เรียก ชลันธรปรือตาขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้านั้น  ปากก็ร้องเรียกคนตรงหน้าเบาๆ ก่อนจะหอบหายใจรวยรินแล้วสลบอีกไปครั้ง

นภนต์ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของชลันธรออกจนหมดแล้วล้างตัวให้อีกฝ่าย พอเสร็จก็โอบอุ้มร่างบางวางไปนอนบนลงเตียงและห่มผ้าให้ เขาแทรกกายภายใต้ผ้าห่มผืนนั้นแล้วนอนลงข้างๆ ดวงตาคมได้แต่มองใบหน้าซีดเซียวของชลันธร ที่หลับพริ้มไม่รู้สึกรู้สาอะไร

‘โชคดีแค่ไหนที่พี่ช่วยเจ้าเอาไว้ทัน’

วันนี้ตลอดเวลาช่วงการประชุม จู่ๆ ใจที่ร้อนรุ่มของนภนต์ก็รู้สึกนึกกระวนกระวายสับสน หวั่นไหวและเป็นห่วงชลันธรขึ้นมาอย่างมิทราบด้วยสาเหตุ จึงได้ขอตัวออกจากที่ประชุมมาก่อน  พอบินมาที่ถึงรีสอร์ทก็ถามหาชลันธรกับนักศึกษาคนอื่นๆ ทันที ร่างสูงจึงได้รู้ว่าเจ้าตัวออกมาเล่นน้ำทะเลเพียงลำพัง

‘พี่นภนต์…ช่วยลันด้วย’

เสียงขอความช่วยเหลือดังขึ้นเข้าโสตประสาท นภนต์เพียงใช้พลังจิตส่องหาไปทั่วบริเวณนั้นก็พบว่าชลันธรกำลังถูกเหล่าพรายน้ำเข้ารุมทำร้ายลากร่างกายดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลหมายจะเอาชีวิต

‘หมับ…’ ชลันธรพลิกร่างกายแล้วคว้าแขนของนภนต์เข้ามากอดเอาไว้แน่น แวบหนึ่งหัวใจของนภนต์ก็สั่นระรัวขึ้นมา…แค่แวบเดียวเท่านั้น  ใจของเขายังตั้งมั่นในปณิธานเดิมอยู่

“ข้านั้นชังเจ้านักชลันธร ที่ข้าช่วยเจ้าก็เพราะคำสั่ง หาใช่เพราะข้ามีใจให้กับเจ้าไม่”

.
แต่เหตุการณ์วันนี้กลับทำให้เขานึกถึงเรื่องที่เขาเคยช่วยชีวิตชลันธรในกาลครั้งก่อนอย่างอดมิได้ คนๆ นี้ชอบทำให้เขาเป็นห่วงอยู่เรื่อยจริงๆ

“ท่านนภนต์ช่วยเราด้วย!!!” เสียงชลันธรร้องลั่นไปทั่วปากแม่น้ำแห่งราชสีห์เพราะความคะนองนึกสนุกที่คิดไปดึงขนหางของบัณฑุราชสีห์ขนาดใหญ่ จนราชสีห์กายทองนั้นโกรธจัดตามไล่ล่าหมายจะฉีกเนื้อชลันธร

‘ฟิ้ว...ฉึก’ เสียงลูกธนูแหวกผ่านอากาศแล่นปักเข้าที่ขาของบัณฑุราชสีห์เป็นเหตุล้มลงไปนอนกับพื้น

“ท่านนภนต์ ท่านมาช่วยเราทันเวลาพอดีเลย” ชลันธรพูดออกมาพร้อมกับความรู้สึกโล่งใจที่รอดจากบัณฑุราชสีห์ นภนต์ที่บินผ่านมาพอดีก็ตกใจไม่น้อยที่เห็นชลันธรกำลังถูกไล่ล่า

“เหตุใดเล่า เจ้าถึงถูกบัณฑุราชสีห์ตามไล่ล่าเยี่ยงนี้”

“เราเพียงอยากได้ขนหางสีทองของพญาราชสีห์มาชื่นชมก็เท่านั้น มินึกว่ามันจะดุร้ายถึงเพียงนี้...”  ชลันธรบอกเหตุผลเสียงอ้อมแอ้ม ก้มหน้าก้มหน้าดั่งกลัวกลีบผกาจะร่วงออกจากปาก  นภนต์นั้นแทบอยากจะจับเทพมหาสมุทรโยนให้บัณฑุราชสีห์ฉีกร่างโทษฐานเล่นอะไรเยี่ยงเด็กน้อยมิรู้ประสา ด้วยทั้งที่ตนเป็นถึงผู้ปกครองมหาสมุทรที่แสนกว้างใหญ่ เป็นผู้มีอำนาจเห็นทุกสรรพสิ่งในมหาสมุทรทั้งปวง...

“แล้วไยถึงวิ่งหนีแทนที่จะสู้กับมัน เจ้าเองเป็นถึงเทวดาเทพชั้นสูง เพียงราชสีห์กายทองตัวเดียว เจ้าถึงกับก็จัดการเองมิได้เชียวหรือ...”

“ก็ด้วยเรามิหมายจะทำร้ายหรือเอาชีวิตใดในหิมพานต์พนานี้...และเพียงเรา...ปรารถนาที่จะพบท่านมิได้หรอกหรือ…ท่านนภนต์”…


....................

มาแนวหวานๆ หวานมาก แหวะ เหม็นสาปคนมีคู่ 5555555

เรื่องราวจะเริ่มเข้าโหมดความทรงจำที่จะกลับมา พร้อมกับ ตัวละครตัวใหม่ที่จะมาปรากฎตัวในตอนหน้า อิอิอิ
ฝากติดตามด้วยนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านมาเม้นกันนะคะ ดีใจมากเลยค่ะที่มีคนชื่นชอบนิยายเรื่องนี้ ท่านยุ่งเองก็อ่านทุกเม้นเขินทุกเม้น



ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.05 P.2 (02/04/2560)
«ตอบ #44 เมื่อ02-04-2017 19:59:56 »

ลันโดนต้องทำร้ายขนาดนี้
แม้แต่คนที่ปากบอกว่ารัก แต่ในใจยังชัง
ถ้าลันจำอดีตได้
แล้วรู้ว่าคนรัดคิดจะทำร้ายตนเองขนาดนี้
ลันคงอยากดับสูญ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.05 P.2 (02/04/2560)
«ตอบ #45 เมื่อ03-04-2017 00:44:47 »

แอบหวานอย่างที่ว่า จริงๆ อิอิ

จะว่าลึกๆพระเอกเราก็ยังรักชลอยู่แหละ  :hao3:

ออฟไลน์ polkadot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.05 P.2 (02/04/2560)
«ตอบ #46 เมื่อ03-04-2017 14:00:41 »

ชอบแนวแฟนตาซีจ้า เนื้อเรื่องก็สนุกน่าติดตาม  :L2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.05 P.2 (02/04/2560)
«ตอบ #47 เมื่อ03-04-2017 14:37:17 »

ทั้งรักทั้งเกลียดสินะนภนต์

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.05 P.2 (02/04/2560)
«ตอบ #48 เมื่อ03-04-2017 16:24:55 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.05 P.2 (02/04/2560)
«ตอบ #49 เมื่อ03-04-2017 17:20:09 »

รอตอนหน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.05 P.2 (02/04/2560)
« ตอบ #49 เมื่อ: 03-04-2017 17:20:09 »





ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.05 P.2 (02/04/2560)
«ตอบ #50 เมื่อ03-04-2017 18:04:54 »

 คำสั่งค้ำคอนภนต์อยู่ เลยทำร้ายชลันไม่ได้

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.05 P.2 (02/04/2560)
«ตอบ #51 เมื่อ06-04-2017 10:36:54 »

มีความอ่อย รอตอนต่อไปจ้า อิอิ

ออฟไลน์ TanYung0209

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.06 P.2 (06/04/2560)
«ตอบ #52 เมื่อ06-04-2017 11:34:43 »



สาปรัก…ทัณฑ์เทวา
Writer : Tan-Yung 0209
File : 06







ณ สรวงสวรรค์ชั้นสูงสุดมีวิมานแก้วสถานที่งดงามและสุดแสนจะประณีตลอยเด่นเป็นสง่า ซึ่งวิมานแก้วนี้เป็นที่ประทับของพระผู้สร้าง ผู้เป็นใหญ่และมีอำนาจเหนือผู้ปกครองในดินแดนทั้งสามโลก ภายในวิมานแก้วนั้นรายล้อมไปด้วยหมู่มวลบุปผาชาตินานาพันธุ์ที่ไม่มีในโลกมนุษย์ ต่างแข่งขันส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล  และตรงใจกลางสวนนั้นมีสระน้ำขนาดใหญ่ อุดมไปด้วยอุบลชาติ และปทุมชาติหลากหลายสีสันกำลังเบ่งบานขึ้นอยู่รวมกัน แต่มีปทุมชาติที่กำลังเบ่งบานอยู่เพียงดอกเดียวเท่านั้นที่แตกต่างออกไป กลีบดอกงดงามราวผลึกแก้วเนื้อดีที่ถูกเจียรนัยอย่างประณีต ถูกขนานนามว่า ‘บงกชแก้ว’

หากย้อนเวลากลับไปหลายหมื่นปีมนุษย์ พระผู้สร้างทรงลงสรงน้ำในคืนพระจันทร์ทรงฤทธิ์ ด้วยกลุ่มหมอกที่โพยพุ่งขึ้นปรากฏดอกบงกชแก้วโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำนั้น กลีบแก้วนั้นก็ค่อยๆ เบ่งบานรับแสงจันทราที่สอดส่องพร้อมด้วยกับการปรากฏตัวของเทพบุรุษที่มีพักตร์งดงามราวเทพธิดา ดวงตาที่เป็นประกายนั้นราวกับนำหมู่ดวงดาราทั้งท้องนภามาร้อยเรียงไว้  ฉวีขาวผุดผ่องนั้นเนียนลื่นเหมือนกลีบบัวระคนด้วยกลิ่นหอมเกสรบัวหลวงปทุม  นามเทพบุรุษนี้คือ ‘บุษยะเทพบุตร’...แลต่อมาได้เป็นผู้ใกล้ชิดพระผู้สร้างและเป็นเทวาเทพบุตรเพียงหนึ่งเดียวที่ได้พำนัก ณ วิมานแก้วสถานร่วมกับพระผู้สร้าง แม้แต่พระชายาทั้งสามก็มิอาจพำนักได้ ยังต้องกลับไปประทับที่วิมานของตน มิมีใครที่จะได้มาอยู่ร่วมเคียงใกล้ชิดพระวรกายของพระผู้สร้าง ณ วิมานแก้วนี้ได้

บุษยะเทพบุตรที่กำลังนอนพักในบงกชแก้วด้วยใจที่ร้อนรุ่มกลัดกลุ้มกระวนกระวาย  ด้วยลางสังหรณ์ไม่สู้ดีกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับชลันธร  สหายของตนเอง ซึ่งเทพหนุ่มมักจะสังหรณ์ใจเช่นนี้ทุกครั้งที่ชลันธรนั้นต้องเสียชีวิตด้วยยาพิษตลอดสองร้อยเก้าสิบเก้าชาติ

“หรือว่าชลันธรจะ…..” บุษยะบ่นพึมพำ ก่อนจะร่ายมนต์บทหนึ่ง เพียงดัชนีงามจรดลงผิวน้ำ ไม่นานก็ปรากฏภาพของชลันธรที่กำลังถูกเหล่าพรายน้ำพุ่งเข้าทำร้าย

“ชลันธร!!!..” บุษยะร้องออกมาด้วยความตกใจ ด้วยห่วงสหายรัก อยากจะลงไปช่วยเหลือเกินแต่เกรงว่าจะขัดราชโองการของพระผู้สร้างที่ไม่ให้เขานั้นเข้าไปเกี่ยวข้องวุ่นวาย บุษยะเทพเลยทำได้เพียงนั่งมองเหตุการณ์นั้นเหล่านั้นอย่างร้อนใจ

“ฮึก..ก…ฮือ..” น้ำใสไหลออกมาพร้อมกับเสียงสะอื้น บุษยะร้องไห้ด้วยความสงสารเพื่อนรักจับใจ อีกทั้งยังเจ็บใจที่ไม่สามารถลงไปช่วยได้

ในขณะที่บุษยะกำลังมองดูชลันธรผ่านวารีอย่างเศร้าใจ ก่อนจะเห็นเหตุการณ์ต่อไป แลปรากฏด้วยภุมราตัวอ้วนใหญ่สีเขียวแกมน้ำเงิน บินวนมาเกาะที่นิ้วเรียว สร้างความประหลาดใจให้กับบุษยะเทพบุตรยิ่งนัก

…นี่มันอะไรกันวิมานแก้วสถานแห่งนี้ มิใช่สถานที่ที่แมลงภู่จะบินเข้ามาได้...

“เจ้าแมลงภู่น้อย เจ้าหลงมาที่นี่ได้อย่างไรกัน?” บุษยะเอ่ยถามแม้จะรู้ว่าจะไม่ได้รับคำตอบ แมลงภู่ที่เกาะอยู่ตรงนิ้วก็กระพือปีกบินวนไปรอบร่างบางก่อนจะหยุดเกาะที่ฐานดอกนูน และทันใดนั้นแสงสีขาวก็ส่องสว่างจ้าขึ้น จนบุษยะต้องยกแขนขึ้นมาป้องปิดดวงตาทั้งสองข้างเอาไว้ เผลอเอียงกายหนีจนเกือบพลัดตกลงไปในสระน้ำ

‘หมับ’ ร่างบางของบุษยะถูกดึงเข้าไปตระกองกอด เทพหนุ่มจึงเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่เข้ามาฉวยโอกาสล่วงเกินตน แต่วิมานแก้วสถานนี้จะมีใครอีกเล่านอกจากตนและพระผู้สร้าง ที่ตอนนี้กำลังแย้มพระสรวลให้กับคนในอ้อมกอด  บัดนี้บุษยะเทพแสดงออกด้วยสีหน้าว่ามิพอใจพระองค์เป็นอย่างมาก

“ไยเจ้าถึงทำหน้าโกรธเคืองข้าด้วยเล่า…บุษยะ”  พระหัตถ์ของมหาเทพผู้สร้างลูบเส้นเกศานุ่มเบาๆ ด้วยความเอ็นดู

“ก็ด้วยพระองค์ทรงทำให้ข้าตกใจแล้วยังจะกอดรัดข้าอีก” บุษยะตอบน้ำเสียงกระเง้ากระงอด มันอดมิได้จริงๆ ที่พระผู้สร้างจะทรงพระสรวลให้กับความแสนงอนของบุษยะ

“นี่ข้าช่วยเจ้ามิให้ตกลงไปในน้ำ ยังจะมีหน้ามีโกรธข้าอีกหรือ....ก็ได้บุษยะ...ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าตกใจ แต่เรื่องที่ข้ากอดเจ้าข้าไม่จักไม่ขอโทษเพราะข้านั้นตั้งใจที่จะกอดเจ้าเอาไว้แนบอกข้าเช่นนี้ เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่ากลิ่นกายเจ้าหอมหวานเสียยิ่งกว่าดอกบัวงามทั้งสระนี้เสียอีก” พระผู้สร้างเอื้อนเอ่ยแล้วซุกไซร้ไปที่คอระหงหวังสูดดมกลิ่นกาย

“พระผู้สร้างโปรดปล่อยข้าเถิด หากพระเทวีเจ้าทั้งสามมาเห็นเข้าล่ะก็ ข้าเกรงว่ามันจะดูไม่งาม” แม้จะขวยเขินกับคำพูดแสนหวาน หากเขาก็ยังมีสติพอที่จะรับรู้ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร ยิ่งตนเป็นเพียงข้ารับใช้ก็ต้องยิ่งเจียมตัว

“ข้าปล่อยเจ้าก็ได้ แต่เพียงเจ้าจักต้องเรียกข้าว่าพี่…พริษฐ์ (พะ-ริด)เท่านั้น” พระผู้สร้างโน้มกระซิบที่ข้างใบหูนิ่มให้บุษยะเรียกขานพระนามเดิมของพระองค์ที่ไม่มีผู้ใดจะได้เอ่ยขานพระนามนี้  ก่อนที่พระนาสิกคมจะไล่เกลี่ยสันกรามขึ้นมาผ่านคาง ริมฝีปาก จนมาหยุดที่ปลายจมูกรั้นแล้วผละออก พักตร์งามที่ห่างกันไม่ถึงคืบทำให้พระผู้สร้างเห็นคราบน้ำใสที่อาบปรางขาวของบุษยะ ฝีพระโอษฐ์หนาประทับลงจุมพิตปลอบประโลมขวัญซับคราบน้ำตานั้นจนหมดสิ้น

“พี่...พริษฐ์” เอ่ยนามที่พระประสงค์ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ก่อนจะออกแรงขืนกายออกจากอ้อมพระกรแกร่งนั้น พระผู้สร้างเองก็ยอมปล่อยให้บุษยะเทพเป็นอิสระ ด้วยตั้งแต่ปรากฏกายจากบงกชแก้ว นอกจากชลันธรแล้วก็มีเพียงพระผู้สร้างเท่านั้นที่มักจะกระทำถึงเนื้อถึงตัวกับตนอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่มากเท่าครั้งนี้

“บุษยะน้องพี่ พี่กอดน้องเพียงเท่านี้ก็หมายด้วยปลอบขวัญ อย่าได้กรรแสงเลยเด็กดีของพี่ ชลันธรน่ะมิเป็นอันใดดอก” พระพริษฐ์ปลอบประโลมให้อีกฝ่ายคลายกังวล พักตร์งามพยักหน้ารับรู้แต่ใจนั้นกลับยังมิจะคิดปล่อยวาง แต่เมื่อครู่นั่นอะไรกัน พระองค์ทรงตรัสเรียกขานเขาว่า ‘น้อง’

“ไยพระองค์ถึงต้องเรียกขานข้าเช่นนั่นเล่า ” ด้วยน้อยอกน้อยใจที่ถูกแกล้งและหยอกเย้าอยู่เรื่อย แต่เห็นทีครานี้จะมากไปเสียแล้ว มายกตนตั้งให้เป็นอนุชาได้อย่างไร เคยมีที่ไหนกันเล่าแบบนี้

“อยู่ด้วยกันสองต่อสอง เจ้าก็เป็นน้องของพี่ คนดีนี่เจ้ารังเกียจที่จักเป็นน้องพี่หรอกหรือ...” ตรัสตัดเพ้อคนงาม ด้วยกลัวว่าคนงามจะนึกคิดว่าถูกแกล้ง แต่พระทัยที่ตั้งมั่นนั้นมิได้หมายให้เทพหนุ่มเป็นบ่าวรับใช้

“หามิได้...ข้าหาได้รังเกียจพระองค์ไม่ ด้วยข้ามิอาจเทียมตนด้วยเสมอพระองค์...ก็เท่านั้น” ด้วยเกรงว่าหากผู้อื่นล่วงรู้เรื่องนี้จะเสื่อมเสียพระเกียรติยศเจ้าของแห่งวิมานสถาน แลจะนินทาตนให้เสียหาย

“อย่าเกรงไปเลยคนดี  พี่นี้อนุญาตเพียงเจ้า อ่อ...แล้วก็แทนตัวว่า ‘น้อง’ เสียด้วย  พี่อยากให้เป็นน้องมากกว่าเป็นบ่าว...” แจ้งพระราชประสงค์ให้คนงามฟังชัด แต่ในพระทัยนั้นจะคิดเพียงแค่อยากจะให้บุษยะเทพเป็นเพียงอนุชาจริงหรือ

“แต่ข้า...”

“ข้าอันใดอีก...พี่สั่งแล้วมิฟังหรือ...แทนตนว่าอย่างไร คำว่า ‘น้อง’ นั้นน่ารักและเหมาะกับเจ้าเป็นไหนๆ” พระหัตถ์หนาจับมั่นที่แขนทั้งสองข้างของเทพหนุ่มน้อย... แลสายพระเนตรที่ต้องสบนั้นหวานซึ้งนัก เร่งเร้าให้เทพหนุ่มผู้ขี้อายตรงหน้านั้นแทนตนว่าน้อง  ด้วยจำต้องยอมตามพระประสงค์พระยอดเกล้า แต่บุษยะเทพก็จำต้องพูดด้วยก้มหน้าก้มตา มิหาญกล้าสนทนามองสายพระเนตรแสนเจ้าชู้นั้น

“แต่น้อง....แต่น้องก็หวังว่าชลันธรจะปลอดภัย แต่จักอดห่วงนั้นก็มิได้เช่นกัน  มิใช่เพียงผู้อื่นหมายปองทำร้ายเท่านั้น  ด้วยท่านนภนต์เองก็หาใช่จะวางใจได้ไม่ ด้วยรักแรงเกลียดแรงเยี่ยงนั้น น้องเกรงว่าสักวันหากทำร้ายชลันธรขึ้นมาได้…” พักตร์งามกำลังมีสีหน้าเป็นกังวล และด้วยเขินอายสรรพนามแทนตน

“บัดนี้ชลันธรเองก็มีใจให้กับท่านนภนต์แล้ว ยิ่งถ้าถึงวันที่จดจำเรื่องราวในอดีตทั้งหมดได้ น้องเองก็มิอาจจะขาดเดาเรื่องราวจะเลวร้ายถึงเพียงไหน…ชลันธรต้องเจ็บช้ำทั้งกายใจเป็นแน่”  พูดจบก็ถูกพระกรแกร่งรวบกายบางๆ กอดหมับเข้าให้อีก ครานี้บุษยะมิมีทีท่าว่าจะขัดขืน ด้วยคิดว่าก็เพียงแค่พี่ชายกอดน้องยามทุกข์ใจเท่านั้น พระพริษฐ์คงมิมีทางจะคิดเป็นอื่น ใจหนึ่งก็ชอบนักที่ได้รับความรักความเอาใจใส่จากพระผู้สร้างเช่นนี้

“บุษยะน้องพี่เรื่องนั้น น้องหาอย่าได้เป็นกังวลเลย พี่เห็นน้องเป็นทุกข์เยี่ยงนี้ พี่นั้นจะทุกข์ใจไปกับน้องด้วย เทพนภนต์เพียงแค่มิรู้ด้วยแก่ใจตัวเองก็เท่านั้น…ไม่นานด้วยบุญกรรมและกงล้อแห่งโชคชะตา จะเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเครื่องพิสูจน์ความรักของเทพนภนต์แลให้ประจักษ์เอง” พระผู้สร้างเปล่งวาจา พร้อมพระหัตถ์หนาดันศีรษะคนงามแนบซบพระอุระแกร่งแสนอบอุ่น แต่พระเนตรคมนั้นกลับเหลือบไปเห็นยังสิ่งหนึ่งที่กำลังเคลื่อนผ่านวิมานแก้วสถาน  จึงต้องทรงตั้งพระทัยเพ่งพินิจ

...นั่นมัน...ม้าอุจฉัยศรพที่เทียมราชรถของเทพพระอาทิตย์...

. . .

เปลือกตาค่อยๆ เปิดออกทีละนิด สติที่กลับเข้าร่างเองก็เกิดขึ้นทีละน้อย ชลันธรตื่นขึ้นมาจากความฝัน เขาพยายามขยับกายลุกขึ้นนั่งแต่ร่างกายยังคงอ่อนแรงก็เลยต้องเอนลงไปนอนต่อ นภนต์เองที่เผลอหลับไปพอเห็นว่าข้างกายมีปฏิกิริยาจึงตื่นขึ้นมาเช่นกัน

“อย่าเพิ่งขยับ ลันควรนอนพักก่อนนะครับ” นภนต์เอ่ยด้วยเสียงนุ่มทุ้ม มือหนาก็จับบ่าชลันธรแล้วกดให้นอนนิ่งๆ ชลันธรพอเห็นใบหน้าของนภนต์ก็นึกถึงความฝันก่อนหน้านี้…สับสนเหลือเกิน ทำไมถึงฝันอะไรแปลกประหลาดอยู่เรื่อย

“เป็นไข้หรือเปล่า? ทำไมถึงทำหน้าแบบนี้” นภนต์ที่เห็นสีหน้าของชลันธรไม่สู้ดี มือหนาค่อยเลื่อนแตะลงไปที่หน้าผากมน

“ลันไม่เป็นไรครับ เอ่อ...ลันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับพี่นภนต์” ชลันธรถาม

“พอมาถึงที่แสมสารพี่ตามหา มาเจอลันจมลงไปในน้ำพี่ก็เลยช่วยแล้วพามาพักที่ห้องของพี่นี่แหละ” นภนต์ตอบ

“ห้องพี่นภนต์เหรอครับ…ลันขอตัวกลับไปที่ห้องดีกว่ากลัวว่าคนอื่นจะมองไม่ดีที่ลันมานอนในห้องอาจารย์” ชลันธรทำท่าจะลุกออกจากเตียงแต่ก็ถูกนภนต์ที่นอนอยู่ใกล้ๆจับข้อมือเอาไว้

“อืม...ไม่เอาน่าอย่าดื้อกับพี่ได้ไหมครับ อีกอย่างคนอื่นๆ เขาก็เห็นกันหมดตอนพี่อุ้มลันเข้ามาที่ห้องพี่แล้วก็…ลันจะออกไปทั้งๆที่ไม่ใส่อะไรเหรอครับ?” นภนต์เอ่ยแล้วมองร่างกายท่อนบนที่เปล่าเปลือยยังดีที่ท่อนล่างยังมีผ้าห่มปิดอยู่ พอได้ยินแบบนี้แล้วชลันธรก็ก้มมองสำรวจตัวเอง ให้ตายเถอะ!!! นี่เขาเปลือยกายต่อหน้านภนต์เป็นครั้งที่สองแล้ว

“เฮ้ย...พี่นภนต์อย่ามองแบบนี้สิครับ” ชลันธรรีบรั้งผ้าห่มมาคลุมกายมิดชิด ปากก็สั่งห้ามคนหื่นให้หยุดมอง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า จะปิดทำไม พี่เห็นของเราหมดแล้วทุกซอกทุกมุม มาแล้วตั้ง... 2 ครั้ง...” นภนต์หัวเราะออกมา ชลันธรก็ยิ่งอายเข้าไปใหญ่ ก่อนจะคว้าหมอนที่นอนหนุนมาทุบตีเทพหนุ่ม จะเรียกง่ายๆ ก็ว่า ...โมโหกลบเกลื่อน...

“หยุดตีพี่นะลัน…ไม่อย่างนั้น….”

“ไม่อย่างนั้นอะไรครับ?” ชลันธรง้างมือถือหมอนค้างเอาไว้

“พี่จะปล้ำ” พลางยักคิ้วให้ข้างหนึ่ง นภนต์ไม่ใช่แค่พูด แต่เขาลงมือทำจริงๆ  ร่างสูงดันร่างโปร่งให้นอนลงตามด้วยคร่อมร่างอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว…เร็วเสียจนชลันธรตั้งตัวเอาไว้ไม่ทัน

“พี่นภนต์อย่าล้อเล่นกับลันแบบนี้สิครับ” ชลันธรขืนตัวแต่แรงมนุษย์ไม่อาจสู้แรงของเทพผู้เป็นใหญ่ได้ นภนต์ยิ้มมุมปากที่เห็นปฏิกิริยาคนใต้ร่างที่ดูเย้ายวนในสายตาของเขา

“พี่ไม่ล้อเล่นนะ…พี่เอาจริง” มือใหญ่นั้นก็ตรึงข้อมือเล็กไว้กับเตียง นภนต์ก้มหน้าลงฝังจมูกกับแก้มนิ่มซ้ายขวาสลับไปมา ความคิดแค้นที่เคยมีต่ออดีตเทพมหาสมุทรก็ลืมเลือนไปชั่วขณะ ชลันธรเองก็ได้แต่หลบหน้าหนี ยิ่งกระตุ้นให้นภนต์อยากจะแกล้งแรงๆ หนักๆ

“ท่านพี่นภนต์อย่า...” ไม่รู้อะไรดลใจให้ชลันธรพูดออกไปอย่างนั้น แต่ที่แน่ๆ นภนต์หยุดการกระทำทั้งหมดแล้วมองหน้าชลันธรด้วยความสงสัย

…หรือว่าชลันธรจะจำเรื่องราวทั้งหมดได้เสียแล้ว...

“เมื่อกี้น้องลันพูดว่าอะไรนะ” นภนต์ถามย้ำ พลางขบคิดหากชลันธรจำได้โอกาสที่อีกฝ่ายจะพิสูจน์ตัวเองก็ยิ่งเร็วขึ้น ซึ่งนภนต์ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นเลยสักนิด

“เอ่อ ลันไม่รู้ครับพี่นภนต์ว่าทำไมถึงพูดออกไปแบบนั้น” นภนต์ปล่อยตัวชลันธรที่มีท่าทางสับสนแสดงให้เห็นว่าความทรงจำยังกลับคืนมาไม่หมด เทพหนุ่มจึงวางใจได้เปราะหนึ่ง

“พี่ตกใจมากเลยรู้ไหม?” นภนต์เอ่ย มือก็ลูบผมนุ่มเบาๆ ใช่…เขาตกใจมาก ตกใจจนเกือบเปิดเผยความจริงและความรู้สึกทั้งหมดต่อหน้าชลันธร

“สงสัยลันคงเพลียจากที่จมน้ำมั้งครับ” ชลันธรบอกกับนภนต์เพื่อให้อีกคนสบายใจ ทั้งที่ใจของตนเองยังคงสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“แต่เรื่องแบบนี้...มันก็เป็นเรื่องปกติของคนรักกันใช่หรือเปล่า...” เทพหนุ่มถามหยอกไปด้วยใจปฏิพันธ์

“ก็ใช่ครับ...แต่ เราเพิ่งรู้จักกันไม่นาน...อีกอย่าง คือ  คือ....” เพราะขวยเขินที่จะพูดออกไปว่ายังไม่เคยต้องมือผู้ใด และมีประสบการณ์เรื่องอย่างว่า แต่ใจนั้นหรือก็ยอมรับคนข้างหน้านั้นแล้วว่าเป็นสามีในอนาคต

“คือ...คืออะไรครับ...บอกพี่สิ...” อยากได้ยินจากปากคนน้องที่ยังอมคำพูดมิยอมเอ่ย

“คือ...ลันเองก็ยังไม่เคยเรื่องแบบนี้ จู่ๆ พี่ก็จะ...คือ ใจลันยังไม่พร้อมน่ะครับ...” ริมฝีปากบางจำต้องเอ่ยตอบแถมยังต้องออกแรงดัน ด้วยคนหื่นทำท่าก้มลงจะหอมแก้มอีกแล้ว หากไม่ขัดขืน คงเสียบริสุทธิ์ ตกเป็นของอาจารย์หนุ่มในวันนี้เป็นแน่

‘ก็อก…ก็อก’

เสียงเคาะประตูทำลายบรรยากาศชวนอึดอัดภายในห้องพัก ใครกันที่มาหา นภนต์เองก็ไม่ปล่อยให้ค้างคาใจเขาเดินไปที่ประตู ระหว่างนั้นชลันธรก็รีบเดินไปคว้าชุดคลุมอาบน้ำมาใส่ปกปิดร่างกายเอาไว้แล้วกลับไปนอนบนเตียงต่อ

“สวัสดีครับอาจารย์นภนต์ ผมมาเยี่ยมลันครับ” นาคินทร์เอ่ยทันทีที่ประตูห้องพักของนภนต์เปิดออก

“เข้ามาสิ” นภนต์พูดเสียงเรียบ นาคินทร์ก็เดินเข้ามาด้วยความรู้สึกกลัวนิดๆ กลัวว่านภนต์จะจำตนได้ นาคินทร์พยายามรวบรวมสติเพื่อทำให้ตัวเองดูปกติที่สุดแต่นั่นก็ไม่สามารถตบตาของเทพแห่งท้งนภาได้

“เป็นอะไร? ถ้าอึดอัดอยากคุยกับชลันธร ผมออกจากห้องไปก่อนก็ได้นะ” นภนต์เอ่ย

“เปล่าครับอาจารย์คือว่าผม..คือผม…” นาคาน้อยพูดตะกุกตะกัก ทั้งพยายามสรรหาคำมาอธิบายแต่ก็ไม่เป็นผล

“ยังจะมาปฏิเสธอีก…เดี๋ยวผมจะออกไปซื้อของข้างนอกกันยังไงก็ฝากคุณดูแลชลันธรด้วยก็แล้วกัน”

“ได้ครับ” นาคินทร์รับคำแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ๆ กับเตียงที่ชลันธรนอนอยู่ก่อนหน้านี้ ส่วนนภนต์เองก็เดินออกจากห้องไป สร้างความโล่งใจให้กับนาคินทร์อยู่ไม่น้อย ตอนแรกคิดว่านภนต์จะจับพิรุธเรื่องที่ตนเป็นนาคได้เสียอีก

“ลัน เป็นไงบ้าง เรากับเพื่อนๆ เป็นห่วงมากเลยรู้ไหม?” นาคินทร์จับมือเป็นกำลังใจให้กับชลันธร

“เราไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่เพลียเฉยๆ” ชลันธรตอบ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าด้วยความซาบซึ้งใจจากความรักที่ทุกคนมีให้

“โชคดีนะที่อาจารย์นภนต์ไปช่วยลันเอาไว้ทัน ตอนอาจารย์อุ้มลันมาเราเองใจหายมากกลัวลันจะเป็นอะไรไปเสียอีก” นาคินทร์พูดต่อ ในสมองก็คิดถึงกนธีซึ่งตอนนี้คงพิโรธหนักที่ไม่สามารถทำอะไรชลันธรได้ อีกทั้งนภนต์เองก็เป็นฝ่ายเข้ามาช่วยและสังหารพรายน้ำผู้เป็นบริวารไป

“อาจารย์นภนต์เป็นผู้มีพระคุณกับเรามากเลย”

“เป็นคนรักด้วยถูกไหม?” นาคินทร์พูดแซว ชลันธรถึงกับหน้าขึ้นสีที่โดนเพื่อนรักพูดหยอกออกมาตรงๆ

“อือ…แต่เรามีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นหลังจากที่เจออาจารย์นภนต์ด้วย” ชลันธรไม่อยากจะอึดอัดใจอีกต่อไปจึงเริ่มเปิดประเด็น หวังให้นาคินทร์เพื่อนสนิทเป็นที่ปรึกษา

“อะไรเหรอที่ว่าแปลก” พอรู้ว่าเรื่องเกี่ยวข้องกับนภนต์ นาคินทร์ก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดีเขาต้องรับรู้ข้อมูลให้มากที่สุดเพื่อที่จะได้รายงานกนธี

“คินทร์ฟังแล้วอาจจะไม่เชื่อเราก็ได้…ตั้งแต่เด็กๆ เรามักจะฝันว่าเราอยู่บนสวรรค์ บางทีก็อยู่ในนครบาดาลกับฝูงสัตว์ทะเลมากมาย แล้วจู่ๆ ถูกเทวดาที่น่าจะเป็นใหญ่ที่สุดสาปให้ลงมาเป็นมนุษย์เพราะเราถูกเทวดาองค์หนึ่งปรักปรำเราว่าเราวางยาแม่ของเขา ซึ่งในฝันดูลางๆเห็นไม่ชัดว่าใครเป็นใคร” ชลันธรเริ่มเล่าความฝันในวัยเด็กให้นาคินทร์ฟัง พอเห็นว่านาคินทร์ไม่ได้พูดถามอะไรก็เล่าต่อ

“พอมาเจอกับอาจารย์นภนต์เรากลับไม่ฝันถึงเหตุการณ์เหล่านั้นอีกแต่กลับฝันเห็นตัวเองกับอาจารย์นภนต์แต่งกายด้วยเสื้อผ้าโบราณซึ่งก็ไม่รู้ว่ายุคไหน อยู่ด้วยกันในป่าที่มีสัตว์ประหลาดคล้ายกับที่ได้อ่านจากหนังสือวรรณคดีเลย ในฝันทั้งเราและอาจารย์นภนต์มีความสุขกันมาก” ชลันธรเล่าออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม ในความฝันนั้นมันช่างแสนหวาย ผิดกับนาคินทร์ที่เริ่มหน้าซีดเพราะความทรงจำของชลันธรกลับมาทีละนิดทีละน้อยเพียงแค่ไม่รู้ตัวเท่านั้นว่าสิ่งที่ฝันคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตชาติ

“บางทีลันอาจอ่านหนังสือนิยายพวกนั้นมากไปเลยเก็บเอาตัวเองกับอาจารย์ไปเป็นพระเอก นางเอกไงล่ะ” นาคินทร์สรุปให้ชลันธรฟังไม่อยากให้ชลันธรคิดมากหรือฉุดคิดอะไรไปมากกว่านี้ หากชลันธรระแคะระคายขึ้นมาคงจะเกิดเรื่องใหญ่มิใช่น้อย

“อือ…คงจะเป็นแบบนั้น” นาคินทร์คงจะเห็นว่าเขาเพ้อเจ้อแน่ๆ ก็ไม่ผิดที่จะมองอย่างนั้นเรื่องแบบนี้ใครจะไปเชื่อ

‘แกร็ก’ เสียงลูกบิดที่ประตูถูกหมุนออก นภนต์ที่ยืนฟังเรื่องราวทั้งหมดก็เข้ามาด้วยใบหน้าเรียบเฉย ต้องขอขอบคุณนาคินทร์ที่พูดให้ชลันธรไม่คิดอะไรไปมากกว่านี้ อย่างเช่น อดีตชาติหรือการระลึกชาติที่หลายคนมักจะมีความเชื่อแบบนี้

“อาจารย์กลับมาเร็วจังเลยครับ” นาคินทร์เอ่ย

“พอดีผมยังไม่ทันออกจากตัวรีสอร์ทก็เห็นว่าฝนเริ่มตั้งเค้ามา ก็เลยกลับเข้ามาก่อน” นภนต์พูดแก้ต่างทั้งที่จริงเขายืนหน้าห้องตลอดไม่ไปไหน สาเหตุมาจากเทวาหนุ่มไม่ไว้ใจนาคินทร์แต่การยืนเฝ้าครั้งนี้กลับทำให้ได้รู้ว่าชลันธรมีความสับสนในใจเสียแล้ว

“อาจารย์นภนต์กลับมาพอดีเลย เดี๋ยวผมกับนาคินทร์จะกลับไปที่ห้อง” ชลันธรเอ่ย ใจก็เต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้นที่นภนต์ไม่เข้ามาตอนที่เล่าเรื่องให้นาคินทร์ฟัง

“ชลันธรคุณนอนพักที่ห้องผมก็ได้เพราะคืนนี้นักศึกษาเขามีประชุมคงจะไม่มีใครมาเฝ้าดูแล”

“แต่ว่า….”

“เชื่ออาจารย์เถอะลัน คืนนี้นอนที่นี่กับอาจารย์ไปก่อน เราเองประชุมเสร็จกี่โมงก็ยังไม่รู้” นาคินทร์พูดเสริมอีกแรง

“ก็ได้ ฝากบอกเพื่อนๆ คนอื่นด้วยนะว่าเราขอโทษที่ไม่ได้ไปประชุม” ชลันธรที่ปกติจะเต็มที่กับกิจกรรมพอไม่ได้ทำก็พาลให้คิดมาก

“พักผ่อนเยอะๆ นะลันไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวเราไปก่อน” นาคินทร์บอกลาเพื่อนและไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ลานภนต์ที่ยืนจ้องอยู่ไม่ห่าง นาคินทร์รับรู้ถึงแรงกดดันที่นภนต์ส่งมายังตัวเขา พอได้ออกมาก็รู้สึกโล่งอก การที่ได้อยู่ต่อหน้านภนต์ไม่ต่างจากคนที่ใกล้หมดลมหายใจ มันรู้สึกกดดันจนจุกอก ถ้าไม่คิดที่ไปเยี่ยมชลันธรแล้วล่ะก็อย่าหวังว่านาคินทร์จะเหยียบย่างเข้าไปในห้องนั้น

ในช่วงเย็นจนถึงค่ำนาคินทร์ได้ร่วมรับประทานอาหารและประชุมร่วมกับเพื่อนๆนักศึกษาและรุ่นพี่ปีสอง ปีสามอีกสองสามคนที่เข้ามาดูแลกิจกรรมรับน้องครั้งนี้ รวมทั้งพูดถึงข้อตกลงที่นักศึกษาปีหนึ่งจะต้องปฏิบัติ งานนี้นาคินทร์ไม่ต้องทำอะไรนอกจากแต่ได้นั่งรอทำกิจกรรมของพี่ว๊ากที่จะเล่นงานน้องตอนค่ำ  แต่เล่นงานที่ว่าก็คือวิ่งรอบชายหาดจนน้องปีหนึ่งเหงื่อโชกจนแทบจะลงไปเล่นน้ำทะเลสีดำตอนกลางคืน

“เอาล่ะ แยกย้ายได้”

“เฮ้!!!!!!!!!”

รุ่นน้องต่างแยกย้ายกลับเข้าห้องรวมทั้งรุ่นพี่ปีสองและปีสามที่ทยอยเดินกลับห้อง ยกเว้นนาคินทร์ที่แยกตัวออกมา นาคน้อยไม่ได้กลับไปยังที่พัก สถานที่ที่นาคินทร์จะไปนั้นก็คือชายหาดที่ไร้ผู้คน ขาเรียวทั้งสองข้างลัดเลาะมาจนถึงโขดหินใหญ่ที่พอจะใช้หลบซ่อนไม่ให้ใครเห็น

ทะเลแสนสวยที่คลื่นลมยังคงสงบท่ามกลางความมืดมิดมีเพียงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวทอแสงมาเท่านั้น นาคินทร์พนมมือขึ้นแล้วก้าวขาลงไปในทะเลเล็กน้อย พลันขาทั้งสองข้างก็กลายเป็นหางมีเกล็ดสีเขียวเต็มไปหมด นาคินทร์ใช้หางตีน้ำเบาๆก็เกิดคลื่นขนาดใหญ่หมุนจนกลายเป็นน้ำวน ก่อนที่จะมีร่างสูงใหญ่โผล่ขึ้นมา

“ท่านกนธี ข้ามีเรื่องจะรายงานท่าน นาคินทร์ย่อตัวลงทำความเคารพเทพตรงหน้า

“เจ้ามีเรื่องอันใดนาคินทร์จึงเรียกข้ามา ถ้าเรื่องที่เจ้ารายงานนั้นเป็นเรื่องเหลวไหล ข้าจะลงโทษเจ้า” กนธีที่อารมณ์เสียจากการที่ฆ่าชลันธรไม่สำเร็จก็เริ่มพาลใส่ จนนาคินทร์ตัวสั่นเพราะความกลัว กลัวว่าเรื่องที่รายงานจะไม่ทำให้นายเหนือหัวผู้เป็นที่รักเกิดความพอใจ

“ความทรงจำของท่านชลันธรเริ่มกลับมาแล้ว” นาคินทร์ตัดสินใจพูดออกไปทีเดียว ร่างบางหลับตาปี๋รู้ว่ากนธีจะต้องลงไม้ลงมือตนเป็นแน่

“เป็นความจริงหรือ?” กนธีถามย้ำอีกครั้ง ใจก็เริ่มหวาดหวั่นกลัวบัลลังก์จะถูกทวงคืน

“ข้าขอรับรองว่าเป็นความจริงเพียงแต่ท่านชลันธรยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องอดีตชาติ” นาคินทร์พูดต่อ กนธีเองก็โล่งใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่วางใจอยู่ดี

“เห็นทีข้าต้องเร่งสังหารชลันธรเสียแล้ว”

บทสนทนาของกนธีและนาคินทร์นั้นก็ได้เข้าหูบุคคลหนึ่งซึ่งยืนอยู่อีกฟากของโขดหินใหญ่ ทุกถ้อยคำ…ทุกประโยคล้วนทำให้ใจคนฟังนั้นร้อนเป็นไฟจนอยากจะสังหารเทพแห่งมหาสมุทรและพญานาครับใช้ตนนั้นเสีย หากต้องเก็บอาการเอาไว้หมายจักเอาคืนในวันหน้า

‘หากชลันธรสิ้นชีวาคราใด ข้าจะเผาพวกเจ้าด้วยไฟของข้าเสีย’













...............................................

เขาคือใคร...เขาคือใคร....ใครจะใช้ไฟเออร์เบิร์นกนธีและนาคินทร์ 5555 รอติดตามตอนหน้า พร้อมกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มลึกลับ ร้อนแรงแน่ ร้อนเหมือนอากาศบ้านเราในตอนนี้

น้องลันกับพี่นภนต์ก็นะ มีแอบหวานนิดๆมีความสับสนหน่อยๆ ไม่นานก็จะเข้าสู้ความมาม่าแต่ไม่มากเพราะไม่ใช่ดราม่าชวนน้ำตาไหล

สุดท้ายนี้ขอฝากนิยายสาปรักทัณฑ์เทวาไว้ในอ้อมกอดอ้อมใจนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมาเม้นกัน ติดตามกัน มาเป็นกำลังใจกันเยอะๆนะคะ

ป.ล. ...แหวะ หมั่นไส้ว่ะ คู่ของพระผู้สร้างหรือพระพริษฐ์ของน้องบุษยะ =_= #อิจฉาคนมีคู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2017 13:50:22 โดย TanYung0209 »

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.06 P.2 (06/04/2560)
«ตอบ #53 เมื่อ06-04-2017 11:47:45 »

คู่รองแอบฟินแฮะ #พี่พรืษฐ์

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.06 P.2 (06/04/2560)
«ตอบ #54 เมื่อ06-04-2017 17:14:58 »

อยากอ่านตอนหน้าเร็วๆ พระเอกต้องเสียใจมากแน่ถ้ารู้ความจริง

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.06 P.2 (06/04/2560)
«ตอบ #55 เมื่อ06-04-2017 19:13:09 »

ใครจะโผล่มาอีกหนอ

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.06 P.2 (06/04/2560)
«ตอบ #56 เมื่อ06-04-2017 21:16:40 »

 :กอด1:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.06 P.2 (06/04/2560)
«ตอบ #57 เมื่อ06-04-2017 22:15:42 »

คจะมีเทพแห่งไฟมาแจมด้วยเหรอ :katai5: รอลุ้นต่อไป :katai5:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.06 P.2 (06/04/2560)
«ตอบ #58 เมื่อ06-04-2017 22:56:21 »

เป็นม้าของเทพพระอาทิตย์หรือป่าว อยู่ใกล้ๆวิมานท่านผู้สร้างอะ
  รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.06 P.2 (06/04/2560)
«ตอบ #59 เมื่อ07-04-2017 01:12:58 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด