สาปรัก...ทัณฑ์เทวา จบแล้ว P.14(28/04/2562) มีเรื่องแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับe-bookค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา จบแล้ว P.14(28/04/2562) มีเรื่องแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับe-bookค่ะ  (อ่าน 96417 ครั้ง)

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.33 P.11 (30/10/2560)
«ตอบ #330 เมื่อ30-10-2017 07:51:38 »

 :a5:

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.33 P.11 (30/10/2560)
«ตอบ #331 เมื่อ30-10-2017 09:15:48 »

หวังว่านาคินทร์จะได้มาเกิดใหม่เพื่อครองคู่กับรพีพงศ์นะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.33 P.11 (30/10/2560)
«ตอบ #332 เมื่อ31-10-2017 00:41:10 »

เศร้าอ่ะ...

ออฟไลน์ TanYung0209

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.33 P.11 (30/10/2560)
«ตอบ #333 เมื่อ31-10-2017 22:47:48 »

 :hao5: เรื่องมันจะดราม่าสักนิดนึง

ออฟไลน์ moodyfairy

  • สวย อร่อย ย่อยง่าย :)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.33 P.11 (30/10/2560)
«ตอบ #334 เมื่อ01-11-2017 22:09:55 »

สงสารรพีพงศ์อ่าาา :o12:

ออฟไลน์ pp.ll.ee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.33 P.11 (30/10/2560)
«ตอบ #335 เมื่อ01-11-2017 22:48:42 »

เดี๋ยวต้องกลับมาเจอกันอีกแน่ๆ  :sad11:

ออฟไลน์ nonobu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.33 P.11 (30/10/2560)
«ตอบ #336 เมื่อ01-11-2017 23:27:54 »

น้ำตาไหลพรากๆๆๆเลยเรา :m15:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.33 P.11 (30/10/2560)
«ตอบ #337 เมื่อ02-11-2017 14:31:41 »

ฮือออ น้ำตาไหลพรากเลย สงสารอ่า :m15:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.33 P.11 (30/10/2560)
«ตอบ #338 เมื่อ03-11-2017 11:12:47 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.33 P.11 (30/10/2560)
«ตอบ #339 เมื่อ04-11-2017 07:12:20 »



ร้องไห้หนักมาก....

ไม่นะ

ไม่เอาแบบนี้

ฮือ.....

รอขอรับ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.33 P.11 (30/10/2560)
« ตอบ #339 เมื่อ: 04-11-2017 07:12:20 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TanYung0209

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.34 P.12 (04/11/2560)
«ตอบ #340 เมื่อ04-11-2017 12:23:37 »

สาปรัก…ทัณฑ์เทวา

Writer : Tan-Yung 0209

File : 34











เมื่อผ่ามิติจากกระจกเงาวิเศษแห่งเทพจันทรัช เพียงหลับตาพึงจิตระลึกนึกถึงจุดหมายปลายทางที่จะไป ถ้ำแก้วคือสถานที่ที่ปรากฏชัดในความคิดของเทพนภนต์  มือหนาแสนอุ่นจึงได้กุมมือคนรักไว้มั่นแล้วบอกกับชลันธรถึงเป้าหมาย

เพียงชั่วพริบตา…หนึ่งเทวาหนึ่งมนุษย์บุรุษก็ลืมตาขึ้นแล้วพบว่าตนนั้นได้อยู่ด้านหน้าปลายทางที่ตั้งใจ หน้าปากถ้ำแก้วมีเสียงวิหกตัวน้อยขับขานทำนองเพลงแห่งความสุขราวกับต้อนรับผู้เป็นนายกลับมายังวิมานอีกครั้ง นภนต์คลี่ยิ้มบางออกมา หมายความว่าในที่สุดตนและคนรักได้สำเร็จเสร็จสิ้นในภารกิจลุล่วง…ความวุ่นวายที่เหลืออยู่ก็เพียงภาวนาให้พระเสาร์ พระพุธ และเทพกาลเวลาช่วยจัดการอสูรร้ายในร่างเทวดาอย่างกนธีให้ดับดิ้น

“ชลันธรพี่ว่าเราสองเข้าไปพักผ่อนในถ้ำแก้วกันเถิด” นภนต์เอ่ยชวนเพราะตอนนี้เทพเวหานั้นอยากให้ชลันธรได้พักผ่อน คนงามที่ท่าทางอ่อนล้าเพียงพยักหน้าเห็นตามแล้วเดินเคียงข้างโดยมีนภนต์โอบเอวเข้าไป บรรยากาศที่เงียบสงบชวนให้ระลึกถึงวันเก่าๆ…ถ้ำแก้วนี้ไม่ต่างจากที่พักพิงให้จิตใจได้ผ่อนคลาย

“ท่านพี่หากเหนื่อยล้าก็นอนหลับไปก่อนเถิด...ไม่ต้องรอข้า” ชลันธรเอ่ยกับนภนต์ทันทีที่มาถึงที่คูหาบรรทม

“แล้วเจ้าล่ะ…ชลันธร มิอยากพักผ่อนหรอกหรือ” นภนต์ถามกลับ ร่างสูงอยากจะกอดชลันธรให้หายเหนื่อยแต่คนรักกลับจะไปไหนเสียนี่

“ตัวข้านั้นอยากจะชำระล้างร่างกายเสียก่อน ด้วยกายมนุษย์นี้รู้สึกเหนียวตัวเหลือเกิน หากได้สรงน้ำข้าคงสบายกายขึ้นมาก...” ชลันธรเอ่ยกับนภนต์ที่ทิ้งกายนอนลงบนแท่นบรรจถรณ์

“เจ้าอยากทำอันใดก็ทำเถิด พี่จะรอเจ้าอยู่ที่นี่ รอกอดเจ้าคนดีของพี่…” นภนต์มิได้ขัดข้องอันใด ชลันธรคงอยากมีเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง ด้วยเป็นมนุษย์มีกลิ่นกายสาปกว่าเทพจึงจำเป็นที่ต้องชำระร่างกายเสียบ้าง...

ชลันธรแยกไปอีกห้องคูหาที่มีสระสรงน้ำโอ่อ่าอยู่กลางห้อง ขั้นบันไดขัดมันเงาวับเสียจนสะท้อนบุรุษผิวขาวที่อาภรณ์ปกคลุมกายค่อยๆ ปลดเปลื้องออกทีละชิ้น…ทีละชิ้น...จนเปล่าเปลือย เท้าเรียวเยื้องย่างก้าวลงไปในสระ

น้ำใสสูงท่วมท่อนล่างแต่หาได้ปิดบังภาพใต้น้ำได้มิดชิดหากชลันธรมิได้สนใจด้วยอยู่เพียงลำพัง มือเรียวกวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นแล้วจึงเริ่มชำระล้างร่างกาย บรรจงขัดสีฉวีวรรณให้ผุดผ่องหลังล้มลุกคลุกคลานในป่ากันติทัตมาจากการสู้ศึกกับพระปิตุลาของตน

…‘จริงสิ...ป่ากันติทัต’...

…‘รพีพงศ์…คินทร์’…

…‘สองทั้งจะเป็นเช่นไรบ้างหนอ เราก็ดันลืมไปเสียสนิท ยิ่งนาคินทร์ที่โดนตรีศูลพุ่งทำร้าย เห็นทีคง...’…

มัวแต่สู้ มัวแต่หนี จนแทบจะลืมสหายรักที่ถูกดึงเข้ามาโลดแล่นในโชคชะตาอันแสนโหดร้ายของตนเอง มันไม่ใช่เรื่องที่ใครจะรับเคราะห์นี้แทนเลย เฉกเช่นนาคินทร์ที่ต้องตรีศูลปักเข้าที่ท้อง หรือต่อให้ไม่ใช่จุดสำคัญ ทว่าชลันธรผู้เคยเป็นเจ้าของอาวุธคู่บัลลังก์มุกสีครามนี้ย่อมรู้ดีถึงฤทธานุภาพ รวมถึงชะตากรรมของสหายว่ามินานคงจะต้องสังเวยชีวิตให้ศาสตราวุธนี้เป็นแน่

“นาคินทร์…ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องเจอเรื่องราวเลวร้ายเช่นนี้” ชลันธรกล่าวขอโทษสหายรัก ใบหน้าและขอบตาร้อนผ่าวจนแดงก่ำ กายบางพยายามสะกดกลั้นน้ำตา แต่กระนั้นอัสสุชลก็รินไหลออกมาอยู่ดี ชลันธรทั้งเสียใจเรื่องนาคินทร์ ทั้งเจ็บใจที่ตนเองเป็นเพียงมนุษย์มิสามารถทำการใดได้ รังจะเป็นตัวถ่วง รังจะดึงผู้อื่นมาตาย มาเดือดร้อนด้วย...

‘ซ่า…ซ่า..’

วารีกระเซ็นออกตามแรงตี ชลันธรผู้ไม่เคยมีท่าทีโมโหกับสิ่งใด บัดนี้กำลังแสดงด้านเกรี้ยวกราดออกมา โกรธตนเองยิ่งนักที่อ่อนแอ…โกรธจนไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรให้ตนเองเจ็บให้มากกว่านี้

“นะ…นาคินทร์…เราขอโทษ” ชลันธรกระหน่ำตีน้ำจนพอใจก็พยายามสงบสติอารมณ์ให้คงที่แต่ร่างกายนั้นกลับโงนเงนโซเซจนหงายหลัง

‘หมับ’

ทุกครั้งที่มีอันตราย..หัตถาหนาแสนคุ้นเคยมักจะช่วยเหลือชลันธรได้ทันท่วงทีเสมอ นภนต์ที่น่าจะนอนรอชลันธรกลับมาโอบกอดคนรักมิให้พลัดตกจมน้ำ

“ท่านพี่…นี่เข้ามาตั้งแต่เมื่อใดกัน” ใบหน้างามเงยขึ้น ดวงตาเรียวช้อนมองผ่านขนตายาวประสานกับตาคมที่ก้มมองมาเช่นกัน

“พี่เข้ามาแอบดูเจ้าสักพักแล้ว มาทันเห็นเจ้าเกรี้ยวกราดจนหงายหลัง บอกพี่ได้หรือไม่เล่าว่ามีสิ่งใดกวนใจเจ้า” ในคราแรกนภนต์คิดจะนอนรอชลันธร แต่รอแล้วรอเล่าชลันธรยังไม่ออกมาเสียทีใจจึงนึกเป็นห่วงกลัวว่าเกิดเหตุร้ายยามที่คลาดสายตากัน เจ้าของถ้ำแก้วเลยออกมาดูก็พบว่าชลันธรโมโหโกรธาจนไม่สนใจสิ่งรอบกาย

“ข้า…ข้า…ข้าโกรธตัวเองที่ไม่สามารถทำอันใดได้...มีแต่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน” ชลันธรขยับตัวเข้าหาแล้วสวมกอดร่างกำยำแน่น นภนต์เองสวมกอดกลับ มือหนาคอยลูบแผ่นหลังเนียนเพื่อปลอบประโลม

“เรื่องมันจบแล้วชลันธร เราสามารถจับผู้กระทำผิด ผู้ที่ใส่ร้ายเจ้าได้แล้ว ไยเจ้าจะคิดมากอันใดอีก”

“จะไม่ให้ข้าคิดมากได้เช่นไร…ท่านพี่ลืมคินทร์กับรพีพงศ์ไปแล้วหรือ ภาพที่รพีพงศ์กอดคินทร์ข้านั้นยังจำได้” ชลันธรเอ่ยเสียงสั่นเครือเจือจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

“พี่จำได้” นภนต์เอ่ยเสียงแผ่ว ใช่ว่าจะลืมแต่เลือกไม่เอ่ยเสียมากกว่า เทพเวหานั้นมิต้องการกระตุ้นให้ชลันธรต้องคิดมาก

“ถ้าเช่นนั้นท่านพี่ยังจำได้ใช่หรือไม่ว่าตรีศูลของพระสมุทรใครได้ต้องจะเป็นเช่นไร…คินทร์…คินทร์โดนตรีศูลปักกายเช่นนั้น คงจะ…ฮึก…ฮือ…” ชลันธรน้ำตารินจนเทพแห่งท้องนภามิอาจนิ่งเฉยได้ นิ้วโป้งค่อยๆซับน้ำตาที่อาบแก้มนิ่มแผ่วเบา ริมฝีปากประทับลงบนกลางหน้าผากเนียน

“เจ้าเชื่อในโชคชะตาหรือไม่…บางครามักจะเล่นกลตลกให้สองใจได้จากกัน บ้างก็ไม่นาน บ้างก็นานแสนนานหลายภพ หลายชาติเช่นเจ้ากับพี่ ถึงกระนั้นสุดท้ายเราสองยังได้กลับมารักกัน”

“ท่านพี่จะบอกว่าคินทร์กับรพีพงศ์...” คำพูดของนภนต์ทำให้ชลันธรหัวใจอัดแน่นไปด้วยความหวังอีกครั้ง แต่ชลันธรกลับถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ถอนหายใจทำไมเล่า เจ้ายังมีกังวลเรื่องใดอีก”

“ข้ากลัวเหลือเกิน กลัวว่าโชคชะตาจะไม่เล่นตลกหากแต่ซ้ำเติมทั้งคู่ให้พรากจากกันไปตลอดกาล ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าคง...เฝ้าโทษตนเองทุกวันคืนเป็นแน่” ความหวั่นใจแสดงออกผ่านดวงตา นภนต์นั้นพอได้เห็นรู้สึกปวดใจไม่น้อย แทนที่ชลันธรจะได้สบายใจที่หมดสิ้นมลทินกลับต้องมีเรื่องทุกข์ใจเสียนี่

“วันพรุ่งพี่จะทูลขอชีวิตนาคินทร์ให้คืนมาจากพระผู้สร้าง...” นภนต์มิอาจทนเห็นชลันธรตกอยู่ในวังวนน้ำตาอีกต่อไป ถ้าสิ่งใดที่คิดว่าจะช่วยฉุดดึงชลันธรกลับขึ้นมาได้นภนต์ก็ยินดีที่จะทำ

“ท่านพี่นภนต์…ท่านพี่จะช่วยจริงหรือ” รอยยิ้มหวานระบายออกมาประดับใบหน้าให้สดใส ด้วยแรกมิได้คิดว่าภัสดาตนจะช่วยเพราะนาคินทร์เคยทำผิดต่อตนมาก่อน...

“พี่มิเคยกล่าวเท็จกับเจ้า หากทั้งสองต้องบุพเพสันนิวาทแล้วก็ย่อมเป็นจริงได้...”

“ว่าแต่พระผู้สร้างจะยอมให้ในสิ่งที่ท่านพี่จะทูลขอหรือ...”

“ครานี้พี่นั้นมั่นใจว่าพระผู้สร้างจะต้องประทานสิ่งที่พี่ขอให้เป็นแน่ ด้วยตัวพี่นำชัยชนะสู่สวรรค์มานับไม่ถ้วนและพี่จะใช้โอกาสนี้ขอรางวัลเป็นชีวิตนาคินทร์ผู้เป็นสหายของเจ้า”

“แล้วหากเป็นไปไม่ได้เล่า...” ชลันธรยังอดเป็นกังวลมิได้

“ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ...อย่ากังวลเลยคนดี เชื่อมั่นในตัวพี่สักครา...”

“ข้ารักท่านพี่ที่สุด” ชลันธรเอ่ยคำรักด้วยซาบซึ้งใจ รู้สึกมีกำลังใจและความหวังเรื่องนาคินทร์อีกครา...

“พี่เองก็รักเจ้า…ชลันธร” คำรักแสนอบอุ่นเอื้อนเอ่ยจากปากเทพหนุ่มในยามนี้ช่างถูกช่วงถูกเวลายิ่งนัก

…‘สิ่งใดที่ทำให้เจ้ามีความสุขพี่ยินดีที่จะทำ ก่อนที่พี่นั้นจะเข้ารับโทษกับความผิดที่ได้ก่อไว้กับเจ้า’…

“ท่านพี่หันหลังมาเถิด...ข้าจักช่วยถูหลังให้...” ชลันธรเอ่ย

“เจ้ามิกลัวพี่ทำสิ่งใดผิดแปลกหรือไร” นภนต์ถามลองเชิง ชลันธรเองรู้ความหมายถึงกับเขินอายจนหน้าแดง

“มีเรื่องผิดแปลกอันใดที่ข้าต้องกลัวเล่า...ข้ามิกลัวดอก...เว้นเสียแต่...” ชลันธรตอบทั้งที่ใบหน้าก้มลงต่ำไม่ยอมสบตาภัสดาของตน

“พี่ไม่ทำอันใดเจ้าหรอก พี่รู้ว่าเจ้าเหนื่อย คืนนี้พี่ขอเพียงเจ้าอาบน้ำให้พี่ก็พอ” นภนต์ลูบผมดำขลับนึกเอ็นดีพร้อมส่งรอยยิ้มให้ ชลันธรยิ้มตอบเช่นกัน ตามด้วยจัดการปลดภูษาอาภรณ์ให้กับคนรักแม้จะขัดเขินบ้างก็ตามที

น้ำเย็นฉ่ำไหลรินจากมือสวยที่คอยกวักรดให้ เมื่อเปียกทั่วดีแล้วจึงใช้ผ้าผืนน้อยคอยขัดถูตามแผ่นหลังกว้างอย่างเบามือให้นภนต์สบายตัวมากที่สุด ซึ่งได้ผลพอสมควรนภนต์สบายกายแต่หาได้สบายใจไม่

เทวาผู้คุมท้องนภาแสนกว้างใหญ่ ทั้งที่ก่อนหน้าคอยปลอบโยนประโลมใจชลันธรแต่ตนกลับมีเรื่องกลัดกลุ้มใจและเป็นเพียงไม่กี่เรื่องที่นภนต์อึดอัดใจถึงเพียงนี้ นั่นคือเรื่องที่ต้องนำตัวพระเทวีกวินตาผู้เป็นมารดาไปรับผิดกับพระผู้สร้าง

ใจเจ้าเอย…ถึงจะแกร่งดั่งหินผา ใบหน้าจะปั้นนิ่งไม่เผยความรู้สึกแท้จริงจากข้างใน ทว่าชลันธรกลับรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ นภนต์ไม่เคยนิ่งเงียบขนาดนี้…พอได้ชำเลืองมองดวงตาคม ดั่งคำกล่าวที่ว่าดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจจึงได้เห็นความเศร้าปนกังวลเผยออกมา

“ท่านพี่นภนต์...เมื่อครู่ท่านพี่นั้นปลอบข้าให้หายเศร้าแล้วเหตุใดผู้ที่ปลอบข้าถึงเศร้าเสียเอง หากท่านพี่มีความในใจอะไรที่กังวลก็บอกข้ามาเถิด ข้ายินดีรับฟังและแบ่งรับ เผื่อมันจะช่วยให้ท่านพี่เบาใจขึ้นมาได้” ชลันธรกอดเอวคนรัก ใบหน้าแสนสำอางแนบชิดแผ่นหลังกว้าง

“คือพี่…” นภนต์ไม่รู้จะบอกชลันธรอย่างไรดี ทั้งเจ็บใจที่ตนเองเผยความกังวล ความอ่อนแอออกมาให้ร่างบางเห็น

“เรื่องที่ท่านพี่จะไปรับตัวท่านน้ามาลงโทษใช่หรือไม่ หากเรื่องนี้เป็นเหตุให้ท่านพี่รู้สึกไม่ดีแล้วล่ะก็ ข้าว่าท่านพี่ให้ผู้อื่นทำเถิด”

“ไม่ได้ชลันธร…พี่บอกเจ้าแล้วว่าพี่นั้นตั้งใจตั้งแต่ต้นว่าจะนำคนผิดไปลงโทษกับพระผู้สร้างเอง”

“แต่ท่านพี่ไม่สบายใจ…”

“เจ้าอย่าห่วงแค่พี่นั้นไม่ทันจะเตรียมใจว่าผู้ที่ทำร้ายเจ้าจะเป็นท่านแม่ของพี่ก็เท่านั้น”

“ท่านพี่…” ชลันธรเสียงอ่อนลงทันที

“อย่าทำเสียงเช่นนี้สิ พี่มิได้เป็นอันใดมากดอก ถ้าเจ้านั้นกลัวพี่กังวลก็จงอยู่เคียงข้างพี่ให้พี่นี้มีความสุขในเพลานี้”…‘ก่อนที่พี่เองจะรับโทษเช่นกัน’... ประโยคหลังนภนต์ไม่ได้เอ่ยออกไป ทำได้เพียงแสร้งยิ้มบางให้ชลันธรไม่กังวลไปกับตนด้วย

“หากท่านพี่ประสงค์เช่นนี้ข้าเองก็มิขัด ข้าจะนวดให้ท่านพี่คลายปวดเมื่อยดีหรือไม่” ชลันธรเอ่ยชวน ในสมองมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา

“เอาสิ เจ้าอยากทำอันใดพี่มิห้าม” นภนต์พูดเอาใจชลันธร

“ท่านพี่ห้ามคืนคำกับข้านะ” ชลันธรยิ้มร่าออกมาทันที คำพูดเมื่อครู่ของนภนต์ถือว่าเข้าทางตนยิ่งนัก

“พี่ไม่ผิดคำพูดกับเจ้าดอก” นภนต์ย้ำอีกครั้งให้ชลันธรมั่นใจ

“ถ้าเช่นนั้นท่านพี่ได้โปรดอยู่เฉยๆ ข้าจะทำให้ท่านพี่ผ่อนคลายเอง”

ดัชนีทั้งห้าเรียวงามดุจลำเทียนค่อยๆ ลูบไล้ผิวกายของเทพหนุ่มอย่างช้าๆ ไล่มาตั้งแต่ท้ายทอยลงมาตามแนวยาวของกระดูกสันหลัง ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นกอดเอวอีกครั้ง

ริมฝีปากนุ่มไล่พรมจูบตามแผ่นหลังกว้าง มือปัดป่ายลูบไล้ตามกล้ามเนื้อหน้าท้องแกร่ง การกระทำปลุกปั่นอารมณ์เทพแห่งท้องนภาได้เป็นอย่างดี จนบางอย่างใต้น้ำนั้นเริ่มตื่นตัวขึ้นมา

“ชลันธร…เจ้าทำอันใด เจ้ารู้ตัวหรือไม่” นภนต์ข่มอารมณ์เอ่ยถามคนงาม เผื่อชลันธรไม่ประสีประสาเผลอยั่วยวนตนไม่รู้ตัว

“ข้าต้องการให้ท่านพี่มีความสุขและผ่อนคลายให้มากที่สุด” ชลันธรไม่ใช่แค่ตอบปากเปล่าเท่านั้น หากร่างกายเบียดเสียนภนต์โดยเฉพาะบางสิ่งที่โดนเข้ากับขาของนภนต์

“ชลันธร น้องอย่าฝืนนะ พี่รู้ว่าเจ้าไม่อยากทำ” นภนต์ได้แต่งุนงงเล็กน้อยเพราะเรื่องนี้ตนมักจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเองเสมอ...

“ก็ข้าอยากทำ…อยากทำให้ท่านพี่ เหตุใดเล่าเรื่องพวกนี้...ข้าจะเป็นคนเริ่มก่อนมิได้...ท่านพี่อยู่เฉยๆ คอยให้ข้าบำรุงรักให้เถิด” แม้จะอายอยู่บ้างแต่ชลันธรก็พูดออกไป นภนต์เองไม่อยากให้ชลันธรฝืนใจด้วยไม่ใช่วิสัยของคนรัก แต่ความต้องการในยามนี้มันเอ่อล้นขึ้นมาเกินเสียจะควบคุม อีกอย่างนภนต์ให้คำมั่นไว้ว่าจะไม่ขัดชลันธรเลยทำได้เพียงปล่อยให้ชลันธรทำตามใจชอบ

“อ่ะ…ตรงนี้ท่าทางเอ็นจะยึดถึงได้แข็งขืนขนาดนี้” ไออุ่นจากฝ่ามือผิดกับความเย็นจากน้ำในสระสรง เลื่อนลงสัมผัสจุดกลางกายของเทพานักรบที่ชูชันมาได้สักพัก

“เช่นนี้แล้วเจ้าจะทำเช่นไรต่อ” นภนต์ถามกลับน้ำเสียงทุ้มกระเส่าเล็กน้อย

“ข้าจะจะบีบนวดให้ท่านพี่ผ่อนคลาย…จนมันคลายตัว” ปากบอกคำตอบไป มือนิ่มนั้นจับแท่งร้อนไว้มั่นขยับรูดรั้งไปมา

นภนต์ขยับตัวหันหน้ามาหาคนรักที่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตาตน ร่างสูงนึกขบขันในใจกับท่าทีขัดเขินแต่กลับคอยทำรักให้ของอีกฝ่าย หัตถาหนาข้างหนึ่งกอดเอวคอดแนบชิดอีกข้างก็จับส่วนอ่อนไหวของชลันธร

“พี่จะนวดให้เจ้าบ้าง ของเจ้าเองดูจะเส้นยึดเหมือนกับพี่” เสียงกระซิบแนบชิดกับหูก่อนจะถือโอกาสจุมพิตบางเบาลงที่ใบหู หลังหู ลำคอขาวสลับกับดูดเม้มจนเกิดรอยจางๆ

“ทะ…ท่านพี่..อื้อ…” ชลันธรหลับตาพริ้มส่งเสียงเรียกหาภัสดา ความรู้สึกสวาทวาบหวามวูบวาบในท้องคล้ายมีบางอย่างจะถูกปลดปล่อย ยิ่งนภนต์ขยับมือขึ้นลงมากเท่าไร ชลันธรก็ยิ่งรู้สึกดีและเร่งมือขยับขึ้นลงนวดคลึงให้นภนต์เช่นเดียวกัน

“พะ…พี่นภนต์..ท่านพี่..เร็วอีก..…อ่ะ..อ่า” คำขอถูกส่งไปได้ไม่นานสายธารความสุขก็หลั่งรินออกมาผสมกับวารีในสระกว้าง

“น้ำมันนวดของข้าออกมาแล้ว…ท่านพี่นั่งลงก่อนเถิด ข้าจักนวดให้ต่อ” ชลันธรหอบเล็กน้อย แม้เหนื่อยอ่อนหากยังอยากจะทำให้นภนต์มีสุขบ้าง เทพเวหาเองทำตามแต่โดยดี ถอยไปนั่งตรงขั้นบันไดลงสระ

“เจ้าทำอันใด…ชลันธร” จะไม่ให้ถามคงจะไม่ได้ เมื่อร่างบางขยับขึ้นมานั่งคร่อมตัก ใบหน้าเลื่อนเข้ามาใกล้จนปลายจมูกชนกัน ลมหายใจอุ่นๆช่วยกระตุ้นอารมณ์ค้างเติ่งของนภนต์ได้เป็นอย่างดี

“ตัวข้านี้อยากนวดให้ท่านพี่ต่อ” รอยยิ้มหวานแสนยั่วยวนที่ไม่เคยได้พบเห็น เพลานี้อยู่ตรงหน้าของนภนต์เป็นที่เรียบร้อย อดีตพระสมุทรยกสะโพกตนขึ้นใช้นิ้วเรียวป้ายน้ำมันนวดสีขาวตรงส่วนปลายที่ยังหลงเหลือป้ายลงที่ช่องทางสีสวย ลูบวนไปมาตามรอยจีบ ดัชนีงามค่อยๆ เปิดแง้มแล้วสอดเข้าไป ระหว่างนั้นได้ใช้มืออีกข้างนวดแท่งร้อนแสนกร้าวของนภนต์

“อ๊ะ…อ่า…..” เสียงครางกระเส่าดังออกมา กายบางขยับขึ้นแผ่นอกขาวแอ่นเข้าหาใบหน้าหล่อเหลาที่ใช้ลิ้นแตะเลียเม็ดทับทิมสีชาดก่อนจะสลับดูดดุนจนแข็งสู้ลิ้นชื้น สายตาคมเหลือบมองใบหน้าแดงซ่านจากการสำเร็จความใคร่ของชลันธรเป็นระยะ…‘ไยเจ้าถึงยั่วยวนพี่เช่นนี้ชลันธร’…

จากนิ้วหนึ่งเพิ่มเป็นสอง จากสองเพิ่มเป็นสาม กระทั่งกายภายในช่องทางบีบรัดเล็กน้อยส่งสัญญาณความพร้อมจึงได้จับแก่นกายใหญ่จ่อเข้าปากทางแล้วกดกายลงไปทีละนิด…ทีละนิด

“อ๊า!!!...”

ชลันธรครางลั่นเมื่อผสานกายแนบสนิทเข้าด้วยกันกับคนรัก นภนต์เองสุขล้นจนแทบจะปลดปล่อยด้วยความคับแน่นที่กำลังครอบงำส่วนที่กำลังอึดอัดอยู่

“ชลันธร เจ้าช่วยนวดให้พี่เร็วเถิด พี่ปวดเมื่อยจนทรมานเสียแล้ว”

นภนต์ร้องขอมีหรือชลันธรจักไม่ทำตาม บั้นท้ายแน่นยกขึ้นลงขยับช้าๆก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเพื่อนนวดเค้นให้ตรงจุด นภนต์เห็นว่าชลันธรนั้นว่าง่ายจึงมอบจูบเร่าร้อนเป็นรางวัล ยามที่กายสอดประสานเข้าออกปลายลิ้นชื้นก็กระหวัดเข้าตักตวงความหวานของกันและกัน ยิ่งคราใดที่นภนต์แกล้งสวนสะโพก ชลันธรจะดูดปลายลิ้นของอีกฝ่ายจนเกิดเสียง

“อ่ะ…อ่า….อ้ะ…ท่านพี่…ชอบหรือไม่” ชลันธรโอบกอดคอนภนต์ ริมฝีปากขยับถามปนครางแทบฟังแทบไม่ได้ศัพท์

“ชอบสิ…เจ้าช่างนวดพี่ได้ถูกจุด ถูกใจนัก..ฮืม..” นภนต์เอ่ยปากชมก่อนจะยืนอุ้มชลันธรขึ้นมา ขาเรียวรีบเกี่ยวเอวหนาแทบจะทันทีจนร่างกายแนบชิด

“อ๊ะ…อ๊า..ท่านพี่…มัน..จุก..อื้อ..จุก” จากนี้ไปชลันธรมิได้ออกแรงนวด หากต้องเสียแรงนวดมากไม่ต่างกัน

‘ซ่า…ซ่า..’ นภนต์เป็นฝ่ายกระแทกกระทั้นแก่นกายเข้าไปจนวารีในสระกระจายเป็นวงกว้าง บ้างกระเพื่อมขึ้นมาเปียกชุ่มขั้นบันได

“ชลันธร…อ่า…กอดพี่ให้แน่น” คำสั่งแสนละมุนละไมถูกส่งให้กับร่างบางที่ทำตามไม่อิดออด แม้จะไม่รู้ด้วยเหตุใดหากชลันธรนั้นก็ยอมทำตาม

ขายาวก้าวลุยน้ำทีละก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น ถึงจะอุ้มชลันธรไว้แต่ไม่เป็นอุปสรรคกลับยิ่งทำให้ตนฝังกายลึกเรียกเสียงครางหวานจากชลันธรได้ไม่ขาด

“อ่ะ…อ่า…อ่า…ท่านพี่นภนต์..อ่ะ..อ๊ะ”

ชลันธรทำได้เพียงให้นภนต์ชักจูง จากที่หมายใจจะให้นภนต์ผ่อนคลายกลับกลายเป็นตนเองถูกปรนเปรอเสียเอง ยิ่งนภนต์เดินมากเท่าใดยิ่งสอดลึกถึงจุดกระสันมากเท่านั้น แก่นกายของตนที่เพลานี้เบียดเสียดหน้าท้องแกร่งเริ่มมีน้ำใสใสปริ่มส่วนปลายอีกครา

“อ๊ะ!!”

ชลันธรร้องอุทาน เมื่อถูกนภนต์วางตนลงบนเตียงนุ่มพร้อมกายที่โถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว มือหนาจับมือเรียวตรึงไว้แนบชิดติดเบาะ สะโพกหนากระแทกแรงถี่ระรัวมิให้ชลันธรได้หยุดหายใจ

“อ่ะ..อ๊ะ…อ่า…อื้อ….”

‘ปึง…ปัง..’

เสียงร้องครางเคล้าคลอกับเสียงแท่นบรรจถรณ์ที่กระทบกับผนังจนดังก้องไปทั่วถ้ำราวกับว่าเตียงจะแตกหักเสียให้ได้ นภนต์เร่งจังหวะมากขึ้นยิ่งผนังนุ่มในกายบางบีบรักแล้วยิ่งอดไม่ได้ที่จะไม่ออมแรง ด้านชลันธรรู้สึกร้อนผ่าวจากการเสียดสีหากกลับทำให้รู้สึกดีจนแอ่นสะโพกขึ้นรับ เรียวขากางออกรับกายนภนต์ให้ประชิดจนจะหลอมเป็นเนื้อเดียวกัน

“พี่รักเจ้า…อ่า..า…พี่รักเจ้าชลันธร”

“ข้าเอง..อึก..อ่า..ก็รักท่านพี่”

คำบอกรักถูกบอกผ่านทั้งภาษากาย ภาษาใจ และภาษาปากของทั้งสอง มันทำให้ความสุขล้นออกมาจากดวงใจจนมีรัศมีแห่งความรักห้อมล้อมรอบทุกคูหาของถ้ำแก้วแห่งนี้

“อ่า….”

ครรลองแห่งบทรักมาถึงช่วงสุดท้ายนภนต์และชลันธรต่างมอบให้กันและกัน ในที่สุดร่างกายสองกระตุกเกร็ง สายธารแห่งความสุขของเทพหนุ่มถูกปลดปล่อยออกมาจนสิ้น นภนต์แอนกายล้มนอนทาบทับร่างบาง ความชิดใกล้นี้ทำให้นภนต์ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของชลันธร

“ท่านพี่นภนต์…ข้ารักท่านพี่มากนะ…จุ๊บ” ชลันธรเอ่ยก่อนจะประทับจุมพิตแสนหวานกลางหน้าผากของคนรัก

“พี่เองก็รักเจ้ามาก…ชลันธร” นภนต์พูดจบก็ตรงเข้าหอมแก้มนิ่มทั้งสองข้าง ทว่ายามขยับกายส่วนที่เคยผ่อนคลายกลับปวดเมื่อยจนแข็งขืนขึ้นอีกครั้ง

“เอ่อ…ถ้าท่านพี่อยากจะคลายปวดคลายเมื่อยอีกครา ข้านี้ก็ยินดี” ชลันธรเอ่ยเชิญชวนด้วยใบหน้าแดงก่ำ เสียจนนภนต์อดเอ็นดูไม่ได้

“ถ้าเจ้าเชื่อเชิญเยี่ยงนี้เห็นทีคราเดียวคงไม่พอ...เจ้าจะยอมนวดให้พี่หรือไม่”

“ข้าเต็มใจขอให้ท่านพี่เป็นสุขตลอดราตรีนี้…อื้อ...” ถ้อยคำขาดหายด้วยริมฝีปากหยักประกบจูบ บทรักแรงสวาทเริ่มต้นบทใหม่อีกครั้งและไม่รู้ว่าจะจบบทเมื่อใด เพลานี้ทั้งสองต้องการจะตักตวงความรักให้กันและกัน โดยเฉพาะนภนต์ที่อยากจะครองกายชลันธรให้เนิ่นนานที่สุดเท่าที่จะทำได้...

…‘หลังจากราตรีนี้ไป พี่ไม่รู้ว่าจะได้กอดเจ้าเช่นนี้ได้อีกหรือไม่ชลันธร’…

.  .  .

ออฟไลน์ TanYung0209

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.34 P.12 (04/11/2560)
«ตอบ #341 เมื่อ04-11-2017 12:24:36 »

(ต่อ)



‘เพล้ง!!!! เพล้ง!!!! เพล้ง!!!!’

เสียงเครื่องแก้ว เครื่องเรือนมากมายถูกเขวี้ยงทิ้งลงบนพื้นจนแตกกระจายแทบหมดสิ้น สิ่งใดที่ขวาง สิ่งใดที่อยู่ในสายตา เจ้าของวิมานพร้อมที่จะทำลายจนสิ้นซาก บัดนี้วิมานสถานที่เคยเงียบสงบกลับกลายเป็นสนามแห่งอารมณ์ความคลุ้มคลั่ง ครั้งแล้วครั้งเล่าเสียงสิ่งของถูกขว้างปาดังขึ้นเสียงของมันดังลอดผ่านประตูทำให้ผู้เพิ่งเสร็จจากการสู้รบและแวะมาเยือนรีบผลักบานประตูเข้าไป

บาทาที่ยกย่างผ่านธรณีประตูต้องชะงักค้างไว้ก่อนที่จะย่ำลง ถือว่าพระพุธนั้นยังโชคดีอยู่บ้างที่มิเหยียบเศษแก้วที่แตกกระจัดกระจาย พอกวาดสายตามองโดยรอบก็พบว่าข้าวของนั้นกระจัดกระจายเสียหายจำนวนมาก แท่นประทับตลอดจนโต๊ะตั่งต่างล้มคว่ำด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ยากนักที่พระพุธพอจะเดาออกว่าเจ้าของวิมานนั้นอยู่ห้วงอารมณ์ใด

“พี่เสาร์!!!” พระพุธเรียกหาพระเสาร์แต่ก็ไร้เสียงขานรับ กายบางจึงถือวิสาสะเดินหาจนทั่ววิมาน แต่ก็มิพบจนเหลือเพียงแค่ห้องบรรทมเท่านั้น และเป็นไปตามคาดพระเสาร์นั้นอยู่ในห้องบรรทมจริงๆ  ร่างสูงใหญ่กำยำนอนเอนยาวบนเขนย ในมือนั้นถือจอกเหล้าเอาไว้

“พี่เสาร์!!! ไยพี่เสาร์ถึงดื่มน้ำจันทร์เมามายเช่นนี้” พระพุธเดินเข้าหา มือเรียวคว้าจอกเหล้าออกจากมือของพระเสาร์

“เอามาเจ้าพุธ!!! นั่นมันเหล้าของพี่หรือว่าถ้าเจ้านั้นอยากดื่มก็จงมานั่งตรงนี้ มาดื่มด้วยกัน...”

“พี่เสาร์!! โอ๊ย!!!” พระพุธโวยวายเมื่อถูกอีกฝ่ายฉุดให้นั่งลงบนเตียงกว้าง

“พี่เสาร์พุธมิได้ต้องการมาดื่มน้ำจันกับพี่เสาร์ ที่พุธมาที่นี่เพราะพุธจะมาบอกว่าพุธและเทพกาลเวลานั้นจับพระสมุทรกนธีขังไว้ในคุกกาลเวลาแล้ว อีกอย่างทำไมพี่ไม่ตามตัวนาคินทร์ตามที่พุธบอกเล่า...พุธใคร่รู้ว่าหลานนั้นเป็นเช่นไรไรบ้าง”

“ไอ้ชั่วกนธีถูกขังเช่นนั้นมันไม่สาสมแก่ใจที่ข้าต้องการ เจ้าพุธเอ๋ย…ในเมื่อข้าตามหาลูกของข้าไม่เจอ เจ้าได้ยินหรือไม่ว่าข้าตามหาไม่เจอ ข้าถึงได้กลัดกลุ้มเช่นนี้อย่างไรเล่า...” พระเสาร์เอ่ยออกมาด้วยความทุกข์ใจ ถึงรู้ดีแก่ใจว่าไม่มีผู้ใดรอดชีวิตจากตรีศูลของพระสมุทร กระนั้นพระเสาร์ต้องการจะพบเจอบุตร กอดกายลูกไว้สักครั้งหนึ่งในชีวิต

“เพียงหานาคินทร์ไม่เจอ ท่านพี่จะอาละวาด ดื่มเหล้าไปทำไมกันเล่า” พระพุธส่ายหน้าให้กับเทพเจ้าอารมณ์ตรงหน้า ปกติพระเสาร์ไม่เคยจะแยแสสิ่งใดแต่ในเวลานี้กลับคุมอารมณ์ไม่อยู่

“ข้านั้นใจคอไม่ดีระหว่างที่ตามหานาคินทร์ อยู่ๆ สร้อยสังวาลของข้าขาดออกจากกัน เป็นลางบอกเหตุร้ายนั้นจะเกิด และมันคงเกิดขึ้นกับลูกข้าเป็นแน่แท้ หากเป็นเช่นนั้นข้าจะไม่อภัยคนที่ทำร้ายลูกข้าเป็นอันขาด มันจักต้องไม่ตายดี!!!” พระเสาร์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น แววตาลุกโชนไปด้วยไฟโทสะ

“เช่นนั้นพุธจักลองใช้มิติมายาตามหาหลานดูอีกสักครั้ง” พระพุธเอ่ย แม้ตนจะอ่อนเพลียจากการที่ต้องจัดการขัดขวางพระเสาร์และกนธี แต่ใจนั้นอดจะนึกเป็นห่วงนาคินทร์ไม่แพ้พระเสาร์และเพื่อความสบายใจของพระเสาร์ด้วยเช่นกัน ผอบเถ้ากระดูกคชสารถูกนำมาใช้อีกครั้ง พระพุธไม่รอช้าร่ายคาถา ทว่า…เถ้ากระดูกนั้นมิได้ก่อขึ้นรูปเป็นสิ่งใดและไร้ซึ่งภาพของนาคินทร์

“เจ้าพุธ…เหตุใดถึงไม่มีสิ่งใดปรากฏ เจ้าร่ายคาถาผิดหรือไรเล่า” พระเสาร์ที่รอดูถามขึ้นมา

“พี่เสาร์…เหตุที่เถ้ากระดูกคชสารนั้นมิก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างนั้นมีอยู่ สองเหตุด้วยกันคือ ผู้ๆ นั้นไม่มีตัวตนอยู่จริง หรือ ผู้ที่เราตามหานั้นได้ละสังขารไร้ซึ่งกายหยาบไปเสียแล้ว” พระพุธตอบเสียงแผ่ว ตาสวยจ้องมองแววตาที่สิ้นหวังของพระเสาร์

“หมายความว่า…หมายความว่านาคินทร์ลูกของข้าตายไปแล้วหรือเจ้าพุธ!!! ตอบข้ามา!!!” พระเสาร์ควบคุมโทสะไว้ไม่อยู่ มือหนาจับต้นแขนขาวทั้งสองข้าง ทั้งบีบ ทั้งเขย่ากายจนพระพุธโยกไปตามแรง

“พี่เสาร์!!! ตั้งสติเอาไว้เสียก่อน” พระพุธคว้าหัตถาใหญ่ออกแล้วเข้าสวมกอดพระเสาร์แน่น

“ทำไม...ทำไม...ถึงเป็นเช่นนี้...อ้าก!!!!...”

‘ปัง!!!...ปัง!!!...ปัง!!!” เสียงบานประตู หน้าต่าง ขยับปิดเปิดเสียงดังไม่ต่างจากสายฟ้าฟาดทั้งที่ไม่ได้สัมผัสแตะต้องแต่ด้วยพลังที่ออกมาจากพระเสาร์จึงทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา แม้จะมีพระพุธที่พยายามสะกดพลังของพระเสาร์ด้วยอ้อมกอด

“พี่เสาร์…พุธรู้ว่าพี่เสาร์เจ็บปวดแต่พุธมิอยากให้พี่เสาร์โมโหโกรธาแล้วจมดิ่งลงไปในความทุกข์ พุธอยากให้พี่เสาร์ตั้งสติเอาไว้” เมื่อใดที่พระเสาร์โมโหทุกสรรพสิ่งจะเผชิญกับความโชคร้าย พระพุธรู้ดีจึงรีบเอ่ยเตือนสติเอาไว้ก่อนที่พระเสาร์จะระเบิดอารมณ์จนเกิดเหตุร้ายบานปลาย

“ลูกข้าทั้งคนจะให้ข้าตั้งสติได้หรือ หากคนตายนั้นสามารถฟื้นขึ้นมาได้เพียงแสงแดดส่อง ข้าคงมิเป็นเช่นนี้ดอก” พระเสาร์โต้กลับ

“โชคชะตาของคนเรานั้นไม่ว่าจะเป็น เทวดา มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน จนไปถึงอสุรา ยักษาล้วนถูกกำหนดไว้แล้วทั้งสิ้น ในยามนี้พุธคงบอกได้เพียงให้พี่เสาร์ยอมรับความจริง...อีกอย่างผู้ที่รักนาคินทร์นั้นมิได้มีเพียงพี่เสาร์เพียงผู้เดียวสักหน่อย พุธเชื่อว่าในเร็ววันบุตรแห่งพระอาทิตย์ นามระพีพงษ์จะมาพบพี่ถึงที่วิมานแห่งนี้เป็นแน่...” พระพุธผู้มีญาณสูงส่ง เอ่ยสิ่งที่ตนล่วงรู้ให้กับพระเสาร์ได้ทราบ

“เจ้าพุธ ไยเจ้าถึงเอ่ยเช่นนี้...แต่ช่างเถิดในเมื่อบุตรแห่งพระอาทิตย์นั้นจะมาข้าก็จักตั้งท่ารอแล้วสังหารให้มันดับสูญให้สมกับที่มันเป็นสาเหตุที่ทำให้นาคินทร์ต้องมาตายและโทษฐานที่มันไร้ซึ่งความสามารถที่จะปกป้องลูกข้าได้...” พระเสาร์ดันกายพระพุธเพื่อออกจากอ้อมกอด ก่อนจะเอ่ยวาจาด้วยสุรเสียงที่หนักแน่นหมายมั่นจักทำตามในสิ่งที่ตนได้เอ่ยออกมา

“พี่เสาร์!!! พุธบอกให้พี่ยอมรับความจริงและตั้งสติ มิใช่คิดจะเอาผิดหรือคิดแค้น ถ้าจะให้พุธพูดตามที่คิดพี่เสาร์เองก็ผิดที่ถือทิฐิเห็นนาคินทร์คบหากับบุรุษเพศจึงลงไปช่วยล่าช้า…อ่ะ!!” พระพุธที่คอยเตือนสติกลับเป็นฝ่ายสติหลุดไปเสียเอง เทวาเจ้าสำอางยกมือเรียวมาป้องปากปิดไว้เมื่อรู้ตัวว่าตนนั้นดันพูดสิ่งที่ไม่สมควรจะพูดออกไป พระเสาร์พอได้ฟังจึงฉุกคิดขึ้นมาว่าตนเองก็มีส่วนผิดเช่นเดียวกัน

“พี่เสาร์…พุธขอโทษ” พระพุธเอ่ยน้ำเสียงแผ่วเบาด้วยรู้สึกผิดที่ตนนั้นใช้วาจาเชือดเฉือนจิตใจอีกฝ่าย

“เจ้าพูดถูก…เจ้าพุธ ข้าเอง...ก็ผิดไม่แพ้บุตรพระอาทิตย์นี่เช่นกัน ทำไมกันโชคซะตาของข้า...เป็นถึงพระเสาร์ผู้ยิ่งใหญ่มีทุกสิ่งทุกอย่าง แต่กลับมิเคยได้อยู่ด้วยลูกเมียกันพร้อมหน้าพร้อมตา” น้ำเสียงสั่นเครือผ่านเข้าหูพระพุธ เจ้าของประโยคแทบสิ้นแรงจนทิ้งตัวลงบนบรรจถรณ์ ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาพร้อมกับความเสียใจ

ทั้งสองนิ่งเงียบกันอยู่ครู่หนึ่ง พระพุธเห็นว่าพระเสาร์นั้นจิตใจได้เย็นสงบลงแล้ว เห็นแก่เวลาอันสมควรจึงขอตัวปลีกกลับวิมานตนเสียก่อน

“พี่เสาร์คงอยากจะพักผ่อน เช่นนั้นพุธจักออกไปจัดการข้าวของที่กระจัดกระจายหน้าห้องของพี่เสาร์ก่อน แล้วจะกลับ...” พระพุธเข้าใจว่าพระเสาร์คงอยากจะอยู่กับตัวเองและคิดทบทวนเรื่องราว กายงามจึงลุกออกจากเตียง

‘หมับ’

“พี่เสาร์!!!” ไม่ทันจะได้ลุกออกไปไหน ข้อมือเล็กก็ถูกคนที่เอนตัวนอนคว้าไว้ ทั้งออกแรงดึงจนพระพุธล้มนอนลงไป แขนแกร่งรั้งเอวบางเข้ามาให้นอนชิดติดกับตน

“ของพวกนั้นวันพรุ่งค่อยจัดการก็ เพลานี้ข้าอยากให้ใครสักคนอยู่กับข้า หาเรื่องอื่นทำให้คลายโศกเศร้าบ้าง เจ้าพุธ...เจ้าจะอยู่เป็นเพื่อนข้าในราตรีนี้ได้หรือไม่”

“ปล่อยพุธก่อนเถิด...ถึงเราจะอยู่กันสองต่อสองมัน ก็มิเป็นการควร...”  พระพุธเอ่ยสิ่งที่ยับยั้งทำให้ตนกำลังรู้ใบหน้าร้อนผ่าว พระเสาร์เองก็ลืมไป...จึงปล่อยกายบางให้ลุกขึ้นนั่งที่ขอบแท่นบรรทม...

















........................................

ตอนที่แล้วคอมเม้นเยอะมากกกก ท่านยุ่งถูกกล่าวหาว่าใจร้ายทั้งที่ท่านยุ่งนั้นแสนดีเหมาะสมกับป๋ากนธี งอนคนอ่าน 5555



ตอนนี้ชลันธรนวดให้พี่นภนต์หลังจากตะลอนตะลอนมาแทบจะจบเรื่อง พี่นภนต์เราดีนะคะ ใครที่เคยว่าพี่แกรีบมาขอโทษเลย //ท่านยุ่งก็เคยว่า

ส่วนอีกคู่ 'พี่น้อง' เขาดราม่ากัน ท่านยุ่งกลัวเรือคู่นี้มากยังไงขอระเบิดเรือก่อนนะคะ 5555

สุดท้านยนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ตามอ่าน ตามเม้น เป็นกำลังใจ และขอฝากนิยายเรื่องต่อไปของท่านยุ่งด้วยนะคะ

ป.ล. ท่านยุ่งต้องเข้าฝึกซ้อมและรับพระราชทานปริญญาบัตร อาจจะอัพนิยายล่าช้าขออภัยด้วย ยังไงจะอัพเดทในเพจนะคะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.34 P.12 (04/11/2560)
«ตอบ #342 เมื่อ04-11-2017 16:27:14 »

ทำไมต้องระเบิดเรือ พี่น้อง คู่นี้ด้วยคะ เรากำลังก้าวขาลงเรือพร้อมเสริมเครื่องยนต์ด้วยอ่ะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.34 P.12 (04/11/2560)
«ตอบ #343 เมื่อ04-11-2017 21:49:37 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.34 P.12 (04/11/2560)
«ตอบ #344 เมื่อ04-11-2017 22:04:54 »

รอคู่นาคินทร์รพีพงศ์นะคะ หวังว่าผู้สร้างคงช่วยได้

ว่าแล้วก็คิดถึงคู่ผู้สร้าง ห่างหายไปนานเลย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.34 P.12 (04/11/2560)
«ตอบ #345 เมื่อ05-11-2017 00:58:54 »

 :pig4:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.34 P.12 (04/11/2560)
«ตอบ #346 เมื่อ05-11-2017 02:01:06 »

เรือพี่น้องดิฉันก้าวขาลงไปแล้วจะระเบิดมิได้นะเจ้าคะ
ตอนที่แล้วเสียน้ำตาตอนนี้เสียเลือดอีก

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.34 P.12 (04/11/2560)
«ตอบ #347 เมื่อ05-11-2017 11:01:11 »



หมดหน้ากระดาษ.....

ไม่นะ

มาต่อไวๆนะขอรับ


ออฟไลน์ TanYung0209

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.35.1 P.12 (19/11/2560)
«ตอบ #348 เมื่อ19-11-2017 09:02:42 »

สาปรัก ทัณฑ์เทวา

Writer : Tan-Yung 0209

File : 35













ความมืดมนแห่งรัตติกาลเคลื่อนย้ายหนีหาย ทดแทนด้วยแสงสว่างแห่งสุริยาสาดส่องฉาบลงสู่พื้นป่าหิมพานต์ที่กว้างใหญ่ เหล่าสรรพสัตว์น้อยใหญ่ออกมาจากที่พำนัก เหล่าวิหกโผผินเที่ยวบินลัดเลาะเกาะกิ่งไม้ แข่งขันเปล่งส่งเสียงขับขานดังบทคีตกวีแสนไพเราะ หากยลยินในยามเช้าเช่นนี้คงเป็นเช้าวันใหม่ที่แสนสุขสดใส แต่เสียงเพลงนี้กลับปลุกสองกายาที่กอดก่ายนิทราแสนสนิทภายในคูหาบรรทมถ้ำรัตนาให้ตื่นขึ้นมารับเช้าวันใหม่

ชลันธรเบี่ยงขยับกายเล็กน้อย…มีเพียงจิตที่นึกคิดว่านานเพียงใดแล้วที่ตนนั้นมิได้นอนหลับสนิทเช่นนี้ เปลือกตาที่ซ่อนดวงตาเสน่หานั้นค่อยๆ เปิดออก ภาพแรกที่ได้เห็นคือพักตราของภัสดาที่กำลังจ้องมองตน ชลันธรรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนผ่านนัยน์ตาคู่นั้นที่ไม่รู้ว่าจ้องมองตนมานานเท่าใดแล้ว

“จ้องมองข้าเช่นนี้มานานแล้วหรือ...หากท่านพี่ตื่นนานแล้ว...ไยถึงไม่ปลุกข้าเล่า เอ๊ะ! หรือว่าท่านพี่ยังไม่ได้นอนหลับพักผ่อนเลย” ชลันธรเอ่ยถาม นภนต์ก็ไม่ตอบสิ่งใดหรือมีท่าทีลุกลี้ลุลน แต่ชลันธรนั้นก็พอจะเดาเป็นคำตอบว่าตนนั้นเดาได้ถูกทาง

“เหตุใดถึงไม่พักผ่อนเล่า…ท่านพี่เหนื่อยมามากทั้งเดินทาง ทั้งสู้รบ ไหนจะเรื่องเมื่อคืนนี้...อีก...” ชลันธรมิค่อยจะชอบใจนักที่นภนต์ไม่ยอมหลับยอมนอน ด้วยเหนื่อยล้าแรงกายสมควรที่จะพัก แต่เรื่องเมื่อคืนที่เริ่มจากสระน้ำ ก็ทำเอาประโยคสุดท้ายที่พูดไปทำให้แก้มนวลนั้นแต่งแต้มสีแดงเรื่อบางเบา

“เจ้ามิต้องกังวลดอกกับเรื่องเพียงเท่านี้...การที่พี่ได้อยู่กับเจ้านั้นก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนแล้ว…ชลันธร” นภนต์ตอบ มือหนายกขึ้นมาลูบผมดำขลับแผ่วเบา…‘พี่นั้นอยากเห็นใบหน้าเจ้าก่อนที่พี่จักไม่มีโอกาสได้เห็นกันอีก’… แวบหนึ่ง เพียงแวบเดียวเท่านั้น ชลันธรรู้สึกถึงนัยน์ตาของนภนต์ที่แสดงความรู้สึกแต่งไปจากเดิม แต่ก็เพียงคิดว่านภนต์อาจจะกลัดกลุ้มใจที่จักต้องไปจับกุมพระเทวีกวินตาผู้เป็นมารดา

“ข้าแสนดีใจนัก..ที่ท่านพี่เห็นว่าข้านั้นเป็นที่พิงใจ หากข้าจะดีใจยิ่งกว่านี้ถ้าได้แบ่งปันความทุกข์จากท่านพี่มาให้ข้าบ้าง ข้ามิอยากเห็นท่านพี่นั้นคิดมาก...” ชลันธรคว้ามือที่ลูบเกศาตนมาแนบแก้ม

“เจ้านี่ช่างเจรจาเสียจริง พี่หาได้มีทุกข์ใจอะไรไม่หรือเป็นอันใดอย่างที่เจ้าคิด...คนดีของพี่อย่าคิดมากไปเลย... อืม…พี่ว่าเราทั้งสองไปอาบน้ำกันเสียดีกว่า วันนี้ยังคงจะต้องเดินทางกันอีก...” นภนต์เปลี่ยนเรื่องพร้อมกับช้อนแขนเข้าใต้ร่างกายชลันธรแล้วโอบอุ้มร่างบางขึ้นมา

“โปรดวางข้าลงเถิดท่านพี่...ข้าเดินเองได้…” ชลันธรรู้สึกอายเล็กน้อยที่ถูกอุ้มทั้งที่ยังคงเปลือยกายไร้ภูษาปกปิด แต่เทพหนุ่มก็หาได้วางลงไม่ก็ด้วยห่วงว่าเมียรักจะเดินไม่ไหวแม้จะเอ่ยว่าไหวก็ตามที ด้วยผ่านสมรภูมิรักแสนหนักห่วงมาแล้วทั้งคืน ก็ย่อมรู้ตนว่าตื่นมาต้องดูแลคนข้างกายเช่นไร ก็ด้วยรักมาก เสน่หามาก แรงรักแรงกระทำก็ยิ่งรุนแรงมาก... ชลันธรเอาแต่เงียบแอบซ่อนความรู้สึกน้อยใจที่นภนต์มีเรื่องทุกข์ใจปิดบังมิยอมเอ่ย

ทั้งสองชำระกายกันอยู่นานสองนาน จนแทบที่จะบรรเลงเพลงรักรับอรุณกันอีกรอบ แต่สตินั้นรู้ว่าเมียรักคงไม่ไหวจึงรีบชำระกายให้เสร็จสิ้น รีบจัดแจงแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จสรรพ นภนต์นั้นสวมอาภรณ์และเครื่องประดับยศฐา ด้านชลันธรนั้นแต่งกายเรียบง่ายเครื่องประดับคงจะมีเพียงธำมรงค์ที่นภนต์สวมใส่ให้เท่านั้น

“แหวนวงนี้จะช่วยให้เจ้าอยู่บนสรรค์ได้ และบริวารของพี่ ...เจ้าทิชากรจะเชื่อฟัง และทำตามความประสงค์ทุกอย่างของเจ้า” ข้อจำกัดของชลันธรคือการที่ยังคงอยู่ในร่างมนุษย์ นภนต์จึงสวมธำมรงค์ประจำกายเทพบนนิ้วเรียวของอดีตพระสมุทร ก่อนจะจรดจุมพิตบางเบาที่แหวนงาม

“ขอบน้ำใจท่านพี่มาก” ชลันธรยิ้มกว้าง มองธำมรงค์ที่ส่องประกายงดงาม

“เจ้าชอบหรือไม่”

“แหวนของท่านพี่ มีหรือข้าจะมิชอบ...ข้าชอบมาก”

“พี่ยกให้เจ้า…ขอให้เจ้าเก็บรักษาแหวนวงนี้ไว้ให้ดี ถือเสียว่าแหวนวงนี้คือดวงใจของพี่ที่ยกให้เจ้าและจะอยู่เคียงข้างเจ้าตลอดไป” นภนต์เอ่ย ก่อนจะจรดริมฝีปากไปยังกลางหน้าผาก

“ข้าจะเก็บมันเอาไว้ให้ดี จะรักษาดวงใจของท่านพี่และรักของเราทั้งสองตลอดไป” ชลันธรให้คำมั่น แขนเรียวสองโอบกอดกายสูงไว้แน่น นภนต์เองกอดกลับชลันธรไว้เช่นกัน

“แต่หากเป็นแหวนมงคลสมรสพี่จะหาให้เจ้าทั้งงามทั้งพิสดารกว่านี้...มิให้น้อยหน้าเทพเทวีองค์ไหน...ให้สมหน้าสมตา...ชายาแม่ทัพสวรรค์” นภนต์เอ่ยความในใจสิ่งหนึ่งที่นอนครุ่นคิดมาทั้งคืน... แม้ยังมิรู้ด้วยว่าภายหน้านี้จะได้ทำดั่งใจหมายหรือไม่

“ท่าน....ท่านพี่พูดเรื่องอะไรกัน...” ชลันธรประหลาดใจคำพูดของนภนต์มิใช่น้อย...แหวนมงคลสมรสหรือ...นี่มันอะไร...นภนต์หวังที่จะวิวาห์กับตน ดั่งตกตะลึงอยู่ในภวังค์ความคิด ใจนั้นเต้นแรง ชลันธรหยุดหายใจไปชั่วขณะ นภนต์มิตอบอะไรเพียงแต่สบเนตรแสนหวานซึ้งให้คนตะลึงในอ้อมกอดไปเท่านั้น

‘พรึบ พรั่บ’ เสียงหนึ่งที่มาพร้อมกระแสลมทำให้ชลันธรหลุดจากภวังค์คำพูดเมื่อครู่ วิหกสีทองตัวใหญ่บินถลาลงมาแล้วหยุดยืนหน้าถ้ำแก้ว นภนต์และชลันธรจึงคลายกอดจากกัน ต่างมองลอดผ่านที่ปากถ้ำเห็น ‘ทิชากร’ สัตว์พาหนะของนภนต์ที่ทั้งสองไม่เห็นหน้าเห็นตาเสียพักใหญ่

“ทิชากร” ชลันธรวิ่งเข้าหาโอบกอดคอนกยักษ์นี้ไว้ด้วยความคิดถึง ผิดกับนภนต์ที่ตกอยู่ในห้วงความคิดว่าใกล้ถึงเวลาเริ่มต้นเข้าสู่การนับเวลาถอยหลังระหว่างตนกับชลันธรแล้ว

“ชลันธร พี่ว่าเราทั้งสองออกเดินทางกันเถิด…” นภนต์เอ่ย ชลันธรจึงคลายกอดจากทิชากรและปีนขึ้นหลังวิหกเนื้อเหมที่ย่อกายลงให้ผู้เป็นนายทั้งสองได้ขึ้นขี่หลัง

“ทิชากร จงนำข้าและชลันธรไปยังวิมานเวหาของข้า” นภนต์สั่งการ ทิชากรสยายปีกกว้างก่อนที่จะกระพือขึ้นโผบินสู่ท้องฟ้าตมคำบัญชา

วิหกทิชากรพาทั้งสองบินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนเหนือเรือนยอดไม้ใหญ่ เห็นว่าต้นไม้หนึ่งมีเหล่าเทวดาและคนธรรพ์มากมาย บ้างกำลังต่อสู้กันเพื่อที่จะแย่งในสิ่งที่ต้องการไปเชยชม ต้นไม้ที่ว่าคงจะหนีมิพ้นเป็นต้นมักกะลีผลที่ออกผลเป็นนารีเรือนกายเย้ายวนอวนด้วยกลิ่นหอมหวานคละคลุ้ง แต่แล้วภาพเหตุการณ์ในเบื้องล่างถูกแทนที่ด้วยเมฆาที่เลื่อนลอยคล้ายหมอกจาง เงาตะคุ่มสีดำบินฝ่าเมฆมาเมื่อเข้าใกล้จึงรู้ว่าได้มีครุฑบินมาล้อมทั้งหมดเอาไว้

“ท่านพี่นภนต์เหตุใดครุฑทั้ง ๔ ตนนี้ จึงบินมาโอบล้อมเราไว้” ชลันธรถามนภนต์ด้วยความสงสัย ตาเรียวมองไปยังครุฑที่บินอยู่ไม่ห่าง

“เจ้าอย่าตกใจไปเลย ครุฑเหล่านี้ล้วนเป็นบริวารของพี่ มิใช่ครุฑเกเรที่จักมาหาเรื่องเราสองได้” นภนต์ไขความข้องใจทำให้ชลันธรโล่งอกเพราะคิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายอีก

จากการเดินทางที่มีเพียงสามเพิ่มอีกสี่ ขบวนของนภนต์บินขึ้นชั้นฟ้าที่มีเมฆาหนาทึบจนปิดบังมองไม่เห็นสิ่งใดบนพื้นพิภพหิมพานต์ แต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นคือวิมานตรงหน้าที่กว้างใหญ่โอฬารงดงามวิจิตร ยามต้องแสงดวงอาทิตย์วิมานนี้ได้ส่องแสงสีทองพลอยให้เมฆที่ลอยผ่านมีสีทองไปด้วย บัดนี้ทิชากรได้พานภนต์และชลันธรมาถึงวิมานสุวรรณเวหาหรือวิมานของเทพแห่งท้องนภาแล้ว

นภนต์ลงจากหลังทิชากรแล้วประคองร่างบางลงมาอย่างทะนุถนอม เมื่อเท้าได้สัมผัสกับพื้นด้านหน้า สายตาของทั้งคู่กวาดมองรอบกาย พลันทำให้ชลันธรนึกถึงเหตุการณ์ในวันที่ตนนำน้ำเกษียรสมุทรมามอบให้พระเทวีกวินตา

“แปลกเสียจริงเหตุใดจึงไร้ทหารเฝ้าวิมานเช่นนี้...” เสียงของนภนต์ฉุดชลันธรให้หลุดพ้นจากความคิดของตน ด้วยวิมานที่เคยมีบริวารมากมายกลับเงียบเหงาวังเวงเช่นนี้

“นั่นสิท่านพี่ ทหารยาม หรือทวารบานก็ไม่มี พวกเขาต่างหายหน้าไปไหนกันเสียหมด”

“หรือว่า…” และแล้วความคิดหนึ่งได้ผ่านเข้ามา นภนต์ไม่รอช้า เร่งสองเท้าย่างก้าวสู่วิมาน โดยมีชลันธรเดินตามติดอยู่ไม่ห่างกาย

‘แอ๊ด…’ เสียงบานประตูวิมานเปิดออก นภนต์ก้าวข้ามธรณีประตูสู่ภายในวิมาน

“ท่าทางรีบร้อนเช่นนี้ คิดว่าแม่หนีเจ้าไปหรือนภนต์…ลูกรัก” เทวีผู้งามล้นนั่งสางเส้นผมที่สลวยยาวด้วยสางทองคำ ริมฝีปากบางขยับถามความ หากดวงเนตรเรียบนิ่งคู่นั้นมิได้มองมายังคู่สนทนาด้วยเลยแม้แต่น้อย

“ท่านแม่” นภนต์เอ่ยเรียกมารดาเสียงแผ่วเบา เบาเสียจนคิดว่ากลืนไปกับสายลม

“เข้ามานั่งก่อนสิ...อดีตพระสมุทรชลันธร เจ้าก็เข้ามาด้วย” พระเทวีกวินตาเชื้อเชิญโอรสหนึ่งเดียวพร้อมชลันธรให้เข้ามา

“ท่านแม่ ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่าน”

“นภนต์เจ้าเข้ามาช่วยเกล้าผมให้แม่หน่อยเถิด เมื่อฟ้าสางแม่ไล่เหล่าบริวารออกไปจนเสียหมด พอจักทำสิ่งใดก็ช่างลำบากเหลือเกิน” เสียงเจื้อยแจ้วไม่ทุกร้อนเปล่งออกมาสั่งให้ลูกยาเข้าช่วยเหลือ นภนต์เทพผู้กตัญญูมิได้ขัดข้องลุกเข้าหาผู้เป็นแม่ มือหนารวบผมของมารดาเกล้าขึ้นสูง

“เหตุใดท่านแม่ถึงไล่ทุกคนออกไปเล่า” นภนต์ซักถามขณะเดียวกันนั้นได้หยิบศิราภรณ์รัดเกล้ายอดที่พระเทวีกวินตาเตรียมไว้มาประดับ

“แปลกใจใช่หรือ ไม่ต้องแปลกใจหรอก แม่จะพูดกับเจ้าตรงๆ...ก็ด้วยแม่มิอยากให้ใครต้องมาเห็นเจ้าจับกุมแม่ไปลงโทษ อีกทั้งยังพาคนที่แม่ชังน้ำหน้าเป็นหนักหนามาด้วย” พระเทวีกวินตาเอ่ย ดวงตาหวานแข็งกร้าวขึ้นทันทีที่เอื้อนเอ่ยถึงและมองไปยังชลันธรที่นั่งเงียบคล้ายจะเป็นอากาศธาตุ

“ท่านแม่ !! / ท่านน้ากวินตา !!!”

“จะส่งเสียงดังไปไย ในเมื่ออยู่ใกล้กันเพียงนิดเดียวเช่นนี้” พระเทวีกวินตายิ้มออกมา…ยิ้มที่เกิดจากการฝืน ยิ้มที่มิมาจากใจผิด

“วันนี้เจ้ามาจับแม่ไปให้พระผู้สร้างลงทัณฑ์เทวามิใช่หรือ...ก็มาจับไปเสียเถิด เพราะแม่เจ้ามันเลวหนักหนาที่คิดการชั่วใส่ร้ายเมียเจ้า” พระเทวีกวินตาพูดออกมาคล้ายตัดพ้อในตัวนภนต์ที่มาจับกุมตนตัวตนเอง แทนที่จะเป็นทหารสวรรค์ แต่อีกใจหนึ่งก็เห็นสมควรแล้วที่ตนต้องรับกรรมในสิ่งที่ก่อ

“ท่านน้า…” ชลันธรที่มิอาจอยู่นิ่งเฉยจึงลุกจากแท่นประทับ เดินมาหยุดตรงหน้าของพระเทวีกวินตา

“มีอันใดหรือชลันธร หรือว่าเจ้าจะด่าทอข้า เอาเถิด...พูดมาเลยข้ายินดีฟังคำผรุสวาทที่ออกมาจากปากของเจ้าหรือเจ้าอยากจะรู้ว่าเหตุใดข้าถึงเกลียดชังเจ้านัก”

“ข้ามิได้จะด่าทอท่านน้าสักหน่อย” ชลันธรเอ่ย

“แล้วเจ้ามีอะไร”

“ข้าขอโอกาส…โอกาสให้ท่านน้าเปิดใจให้กับความรักของข้าที่มีกับท่านพี่นภนต์ ท่านน้าอาจไม่พอใจที่ท่านพี่นภนต์มีใจให้บุรุษเพศ ข้าจึงอยากขอโอกาสจากท่าน” ชลันธรเว้าวอนขอร้องมารดาของคนรัก แม้ว่าคิดสงสัยเหตุใดพระเทวีกวินตาจึงเกลียดชังตนเป็นหนักหนา ทว่าเรื่องราวมันผ่านไปแล้ว จะรับรู้ไปก็เพียงเท่านั้น

“ข้าเองขอร้องท่านแม่เช่นกัน ได้โปรด….” นภนต์คุกเข่าขอร้องมารดา ยิ่งเห็นบุตรชายเพียงคนเดียวกระทำเช่นนี้พระเทวีกวินตายิ่งช้ำใจมากขึ้นทวีคูณ

“จะมาขอร้องอันใดข้าอีก ในเมื่อข้ากำลังจะถูกจับกุมไปรับโทษ ความผิดข้าร้ายแรงเหลือคณาจักต้องถึงชีพมลายเป็นแน่ ครานั้นข้าก็มิอยู่ขัดขวางความรักของเจ้าอีกแล้ว…ชลันธร จะรักกันมากเพียงไหนก็รักกันไปเถิด... เพราะแม่จะไม่อยู่ขวางความรักของเจ้าทั้งสองแล้ว...” พระเทวีกวินตาเอ่ยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่อ่อนข้อให้กับลูกของศัตรูที่สุดแค้น ด้วยยิ่งจ้องมองดวงตาที่กำลังอ้อนวอนให้ตนยอมรับ พระเทวีกวินตานั้นยิ่งนึกถึงกาลครั้งอดีต...อดีตที่สร้างรอยแผล สร้างความแค้น ความชิงชัง...

…‘ข้ามิรู้มาก่อนว่าเจ้าชอบพอด้วยพระสมุทร’…

…‘ยามนี้เจ้ารู้แล้วมิใช่หรือ... ถ้ารู้...เจ้าก็จงหลีกทางเสียสิชโลธร...’

‘ไยถึงนิ่งเงียบ!!! หรือเจ้าชอบพอด้วยพระสมุทรเช่นเดียวกับข้า นี่เจ้าคิดแย่งพระสมุทรไปจากข้าหรือ..!!’…

…‘ข้ามิเคยคิดแย่งเจ้าหรอกกวินตา หากแต่พระสมุทรเป็นผู้เลือกข้าตั้งแต่ต้นและข้าเองรักพระสมุทรด้วยใจจริง’…

… ‘เจ้าเอ่ยเช่นนี้เพื่อจะบอกข้าใช่หรือไม่ว่าพระสมุทรรักเจ้ามิใช่ข้า!!! ชโลธร!!! เจ้ามันเป็นมารความรักของข้า หากไม่มีเจ้า พระสมุทรต้องชอบพอด้วยข้า ต้องเลือกข้า มิใช่เจ้า ชโลธร ข้าเกลียดเจ้า!!! ได้ยินหรือไม่ข้าเกลียดเจ้า...!!!’…

สองนางอัปสรทั้งสองแห่งสวรรค์ผู้งามล้ำเหนือใครในชั้นฟ้าแลชั้นดิน เหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายทอดจากปากต่อปาก นางอัปสรกวินตาจึงแสร้งให้อภัยสวมหน้ากากขอโทษนางอัปสรชโลธรรวมถึงแก้ต่างว่าหาได้รักพระสมุทรดังข่าวลือที่ปรากฏ ใครจะคิดเมื่อนานมาแล้วทั้งสองต่างเป็นสหายสนิทรักใคร่ปรองดอง แต่แล้วเส้นด้ายแห่งมิตรภาพต้องขาดสะบั้นด้วยแรงอิจฉาที่ถูกซ่อนไว้ลึกภายในจิตใจของนางอัปสรกวินตาที่มีต่อนางอัปสรชโลธร รวมไปถึงความทะเยอทะยานอยากจักเป็นใหญ่ได้ตำแหน่งเทพีมหาสมุทร แท้ที่จริงแล้วนางอัปสรกวินตาหาได้รักพระสมุทรดั่งปากว่า หากแต่นางรักในอำนาจของพระสมุทรที่เป็นรองพระผู้สร้างมากกว่า

ความจงเกลียดจงชัง เมื่อยิ่งนึกถึงก็ยิ่งเจ็บใจ เมื่อยิ่งนึกถึงก็ยิ่งโกรธแค้น เมื่อยิ่งเห็นใบหน้าชลันธรก็พาลให้นึกถึงชโลธรเทวี









.......................................

มาแบบสั้นๆก่อนนะคะ ท่านยุ่งนั้นไม่ว่างค่ะติดงานและเร่งเคลียร์งานหลัก จนทำให้ล่าช้า ฮืออออ คิดถึงทุกคน

ส่วนตอนนี้...ไม่มีอะไรมากค่ะ ดูเนือยๆเอื่อยๆ แฮร่



สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน มาเม้น มาให้กำลังใจนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.35.1 P.12 (19/11/2560)
«ตอบ #349 เมื่อ19-11-2017 10:26:50 »



มาน้อย....

ดีกว่าไม่มาขอรับ

กวินตราจะร้ายไปไหน

รอต่อขอรับ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.35.1 P.12 (19/11/2560)
« ตอบ #349 เมื่อ: 19-11-2017 10:26:50 »





ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.35.1 P.12 (19/11/2560)
«ตอบ #350 เมื่อ19-11-2017 11:01:05 »

จะแยกจากกันอีกไหมเนี่ย นภนต์พูดเหมือนจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.35.1 P.12 (19/11/2560)
«ตอบ #351 เมื่อ19-11-2017 16:45:15 »

โอ้ ที่แท้ก็เป็นความแค้นฝังใจจากความผิดหวังเรื่องรักในอดีต

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.35.1 P.12 (19/11/2560)
«ตอบ #352 เมื่อ19-11-2017 19:16:02 »

 :pig4:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.35.1 P.12 (19/11/2560)
«ตอบ #353 เมื่อ19-11-2017 22:47:50 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ TanYung0209

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.35.2 P.12 (21/11/2560)
«ตอบ #354 เมื่อ21-11-2017 06:25:56 »


สาปรัก ทัณฑ์เทวา

Writer : Tan-Yung 0209

File : 35 . 2













“นภนต์ ช้าอยู่ไยเล่า...รีบมาจับกุมแม่เสียสิ หลงเมียหนักเสียจนมาจับกุมแม่ด้วยตนเองแทนที่จะส่งผู้อื่นมา” พระเทวีกวินตาประชดประชันบุตรชาย ทุกน้ำคำที่เปล่งออกมาคล้ายน้ำกรดที่กัดเซาะใจนภนต์ให้ปวดหนึบทรมาน

“ท่านแม่ เหตุที่ลูกมาจับกุมท่านแม่ด้วยตนเองนั้น ก็ด้วยลูกให้คำสัตย์ต่อตนเองและฟ้าดินว่าจะนำตัวผู้กระทำผิดการครั้งนี้ไปลงโทษด้วยตนเองให้จงได้ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่ละเว้น แม้แต่...ท่านแม่ผู้เป็นที่เคารพรักของลูก…ก็ตาม”

“แล้วเจ้ามัวรออันใดเล่า ในเมื่อต้องจับกุมแม่นี้ด้วยสองมือเจ้าก็รีบเสียสิ รอช้าอยู่ไย...มิกลัวเสียคำสัตย์เจ้าหรอกหรือ...”

“อภัยให้ลูกด้วยที่ล่วงเกินท่านแม่” นภนต์คุกเข่าลงก้มกราบแทบเท้าของมารดา รอยยิ้มเมื่อครู่ของโฉมงามได้จางหายพร้อมกับน้ำตาที่พยายามสะกดกลั้นเอาไว้ นภนต์ยืนขึ้นมาแล้วผายมือเชิญมารดาตนออกจากวิมานอย่างมิเกรงกลัวต่อเรื่องภายหน้าที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อพ้นบานประตูครุฑทั้งสี่บังคมกราบเท้าพระเทวีกวินตา ก่อนจะเปิดผอบทองคำสูบร่างอรชรเข้าไปภายในก่อนอัญเชิญขึ้นรถเทียม ที่ด้านบนมีไหมแก้วเส้นยาวที่มีวิหกหลากสีใช้เท้าเกาะเกี่ยวเส้นไหมนี้พร้อมพาผู้ที่ขึ้นนั่งท่องไปยังท้องนภากว้าง หากแต่ครั้งนี้วิหกหลากสีมิได้พาไปท่องเที่ยวอย่างเคย แต่นำพาพระเทวีกวินตาที่ประทับผอบทองคำนั้นตรงไปยังสภาเทวา …‘ใจเอ๋ยใจ เจ็บปวดยิ่งนัก’... นภนต์ทำได้เพียงมองพูดกับตัวเองเท่านั้น ความรู้สึกนี้ไม่สามารถระบายออกมาได้นอกจากเก็บมันไว้กับตัว

. . .

สภาเทวากว้างขวางยิ่งใหญ่ สถานที่ชุมนุมของเหล่าเทวาทั้งหลายเมื่อมีเหตุและวาระสำคัญ ด้านหน้าประตูมีทวารบาลเป็นสองอสุรากายสีขาวคอยเฝ้า ภายในที่ทุกครั้งจะเต็มไปด้วยเหล่าเทวาและเทพีชั้นสูง แต่ที่นั่งหลายที่ก็เว้นว่างเพราะเทพหลายองค์ก็มิได้มาเข้าร่วมประชุมครั้งนี้  หนึ่งที่นั่งสำคัญที่เว้นว่างคือที่นั่งของพระสมุทร แต่ที่เว้นว่างจำนวนมากโดยเฉพาะเทพหมู่ดาวนพเคราะห์ที่หายไปถึงสี่องค์ คือ พระพุธ พระอังคาร พระศุกร์ และพระเสาร์ ส่วนที่นั่งสูงสุดจะมีเพียงพระผู้สร้างเท่านั้นที่ประทับนั่งบนบัลลังก์ทองและบุษยะคนสนิทนั่งอยู่บนดอกบัวแก้วใกล้พระบาท เทพบุตรในดอกบัวนั้นลุกลี้ลุกลนนึกอยากเจอสหายโดยไว

วันนี้เป็นวันที่กงกรรมกงเกวียนของชลันธรจะสิ้นสุด ความบริสุทธิ์จักได้รับการพิสูจน์ มลทินจะถูกชำระล้าง ตราบาปจะถูกลบเลือน ทันทีที่นภนต์ย่างก้าวเข้ามาพร้อมผู้กระทำผิดที่อยู่ในผอบทองคำ และข้างกายคือผู้ที่ถูกกล่าวโทษจนถูกลงทัณฑ์เทวา

“ถวายบังคัมพระผู้สร้าง บัดนี้กระหม่อมนำตัวผู้กระทำผิดที่ใส่ร้ายอดีตพระสมุทรชลันธรจนเป็นเหตุให้ถูกสาปลงไปรับโทษทัณฑ์ยังโลกมนุษย์ บัดนี้กระหม่อมนำตัวผู้นั้นมาให้พระองค์ตัดสินโทษแล้ว…” นภนต์และชลันธรคุกเข่าตรงหน้าผู้ยิ่งใหญ่

“ไหนเล่าคือผู้ร้ายที่ท่านเอ่ยถึงเทพนถนต์” พระผู้สร้างตรัสถาม นภนต์จึงได้เปิดฝาผอบทองคำบนมือ ปรากฏกลุ่มขนวิหกสีขาวล่องลอยออกมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างของเทวีรูปงามที่กาลเวลามิอาจจะพรากความเยาว์วัยไปได้ บรรดาเทพและเทพีทุกองค์ที่นั่งเรียงรายอยู่นั้นเมื่อได้เห็นต่างตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลางสภาเทวา เทวีที่กำลังนั่งจะนั่งคุกเข่าลงบนพื้นนั้นจะเป็นพระเทวีกวินตาผู้มารดาของเทพนภนต์เอง

“เทพนภนต์ ท่านพาพระเทวีกวินตามารดาของเจ้ามากด้วยเหตุใดกัน” เสียงเทพพระจันทร์เอ่ยถาม

“มารดาข้าคือผู้กระทำผิดร่วมมือกับพระสมุทรกนธีใส่ร้ายอดีตพระสมุทรชลันธร” นภนต์ตอบ พลันเกิดเสียงฮือฮามากมาย ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเริ่มวิพากษ์วิจารณ์

“เอาล่ะ เอาล่ะ…ทุกท่านโปรดเงียบก่อน ครั้งนี้ข้าให้ทุกท่านมาเป็นพยานร่วมฟัง มิใช่มาพูดแสดงความเห็นใดใดทั้งสิ้น ...พระเทวีกวินตาท่านมีสิ่งใดโต้แย้งสิ่งเทพนภนต์ได้กล่าวมาเมื่อครู่หรือไม่...” พระผู้สร้างตรัสถาม แม้พระองค์จะรู้ความจริงว่านภนต์มิได้จับผิดตัวเฉกเช่นครั้งชลันธร

“ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นใหญ่ สิ่งที่เทพแห่งท้องนภาเอ่ยมานั้นล้วนเป็นความจริง หม่อมฉันนั้นสร้างเรื่องใส่ร้ายป้ายวรอดีตเทพพระสมุทรชลันธรจริงดั่งกล่าวหา...” พระเทวีกวินตาสารภาพความผิดที่ตนได้ก่อ...‘เทพีกวินตา…ข้าเสียใจยิ่งนักที่ท่านทำเรื่องเลวร้ายนี้ขึ้นมาเพื่อเพียงให้บุตรชายของท่านและชลันธรผิดใจกัน’...

“เรื่องใส่ร้ายป้ายสีนั้น...บนสวรรค์ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงมิยอมความกันได้...ความผิดของท่านช่างใหญ่หลวงยิ่งนัก เอาล่ะ บัดนี้ข้าขอลง…”

“พระผู้สร้าง!!! กระหม่อมมีเรื่องจะทูลขอ” ชลันธรพูดแทรกขึ้นมาก่อนพระผู้สร้างจะเอ่ยโทษทัณฑ์

“เจ้ามีเรื่องอันใด…ชลันธร”

“กระหม่อมมิอยากให้พระเทวีกวินตามีโทษถึงดับสิ้นชีวา ด้วยตัวเรายังได้รับโทษทัณฑ์ให้จุติโลกมนุษย์ ทั้งยังได้รับโอกาสพิสูจน์ตนเอง เราจึงอยากให้ท่านผ่อนปรน แม้พระเทพีกวินตามิต้องพิสูจน์ตนอันใด แต่อย่างน้อยก็ให้ได้คิดทบทวนและสร้างความดีต่อไปเท่าที่จักทำได้” ชลันธรยอมรับว่าตนนั้นใจอ่อน และยินดียอมรับให้เหล่าเทพทั้งสภาเทวาหากจะถูกด่าว่าโง่เง่า ชลันธรยอมรับทุกสิ่งยกเว้นความเศร้าโศกของนภนต์ที่ฉายชัดในดวงตา อีกทั้งชลันธรมิอยากสร้างเวรสร้างกรรมแต่อยากจะสร้างบุญด้วยอภัยทาน

“เจ้าต้องการเช่นนั้นหรือชลันธร…ข้าก็กล่าวอยู่เมื่อครู่ว่าเรื่องใส่ร้ายป้ายสีบนสวรรค์นั้นยอมความมิได้...” 

“พระองค์ทรงเมตตา กระหม่อมทราบดีว่าเรื่องใส่ร้ายป้ายสีบนสวรรค์นั้นยอมความมิได้ เสียอย่างไรกระหม่อมก็พ้นผิดแล้ว...มิอยากให้ผู้ใดต้องมาต้องทัณฑ์เทวาสถานหนักเพราะกระหม่อมอีก...”

“เรื่องราวใส่ร้ายป้ายสีมากมายที่เกิดขึ้นบนสวรรค์นี้...มิเคยเลยสักครั้งที่ผู้ถูกใส่ร้ายจะยอมความเช่นนี้  เอาล่ะในเมื่อเป็นความต้องการของเจ้านะชลันธร ครั้นข้าจะไม่เมตตาพระเทวีกวินตาเหล่าเทพเทวาในสภานี้จะนินทาข้าเอาได้  ย่อมได้...ข้าจักให้ตามเจ้าต้องการข้าจะละโทษตายให้เทพีกวินตา…”

“พระองค์ทรงเมตตา ขอบพระทัย” ชลันธรเอ่ย นภนต์หันไปสบตาแล้วพยักหน้าราวกำลังขอบคุณคนรัก ทางด้านพระเทวีกวินตานั้นยังคงนิ่งเฉยไม่แสดงออกว่าดีใจกับการที่ถูกลดหย่อนโทษ นางยังคงปั้นใบหน้านิ่งไร้อารมณ์ต่อไป

“บัดนี้ข้าขอลงทัณฑ์พระเทวีกวินตาให้ไปพำนัก ณ เชิงผาดาราลักษณ์ เป็นเวลา ๓๐๐ ชาติมนุษย์ที่ชลันธรเคยได้รับ มิสามารถเจอหน้าใครทั้งสิ้นรวมถึงเทพนภนต์ ให้ทนทุกข์กับความถวิลหาโศกเศร้ากับการมีชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายไปจนครบเวลา...” พระผู้สร้างตัดสินโทษ บทลงโทษนั้นแสนเบาบางหากเทียบกับความผิด ทว่าลองคิดอีกแง่…ถ้าตัดสินโทษตายพระเทวีกวินตาคงมิได้สำนึกผิดกับสิ่งเลวร้ายที่ทำเอาไว้ การที่ทำเช่นนี้ย่อมดีกว่า…

“หม่อมฉันรับด้วยเกล้า...” พระเทวีกวินตาพนมมือก้มลงกราบพระผู้เป็นใหญ่ในโลกสวรรค์

“ทหาร!!! เข้ามาคุมตัวพระเทวีกวินตาไปที่เชิงผาดาราลักษณ์บัดเดี๋ยวนี้...” พระสุรเสียงดังก้องเรียกทหารสวรรค์ด้านนอกให้เข้ามาคุมตัวพระเทวีกวินตา

“นภนต์แม่รักลูก…” คำพูดสุดท้ายที่พระเทวีกวินตามีให้นภนต์ หัวใจของผู้เป็นแม่แทบแตกสลายที่ต้องจากลาลูกชายเพียงคนเดียว ถึงนางจะร้ายกาจเพียงใดหากหัวใจของความเป็นแม่นั้นยังคงมี สองแขนที่อุ้มชูบุตรครั้งเยาว์วัยเข้าสวมกอดร่างสูงแน่นเพื่อให้ได้จดจำสัมผัสนี้ไว้ นภนต์เองกอดตอบมารดาเช่นกัน ก่อนจะคลายกอดเมื่อเหล่าทหารสวรรค์ เข้ามาคุมตัวมารดาของตนออกไป  พระเทวีกวินตาได้ขอให้ทหารสวรรค์หยุดก่อนเพราะตนมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพูดกับชลันธร

“ชลันธร…แม้ข้าจักต้องโดดเดี่ยวเดียวดายแต่ข้ามิยอมให้ลูกข้าเป็นเช่นนั้น ข้าคงหักห้ามเจ้าทั้งสองมิได้...ไม่ว่าเบื้องหน้าจะเป็นเช่นไร...ในฐานะที่เจ้าเป็นของลูกชายข้าแล้ว...ก็ขอสั่งเจ้าจงอยู่เคียงข้างลูกชายข้าอย่าได้ทอดทิ้งเป็นอันขาด...” พระเทวีกวินตาได้หันกลับมาพูดกับชลันธร ก่อนที่หันเดินเท้าด้วยท่วงท่าสง่างามข้ามธรณีประตูจำหลักออกไป  คำพูดที่เป็นคำสั่งแต่ได้ฟังกลับเป็นประโยคขอร้องเสียมากกว่า ถึงท่าทีจะแข็งกร้าวหากนางยอมเอื้อนเอ่ยด้วยชลันธรย่อมรู้สึกดีอยู่ลึกๆ อย่างน้อยพระเทวีกวินตานั้นได้ยอมรับตนบ้างแล้ว

“เรื่องของพระเทวีกวินตาได้ถือว่าสิ้นสุดลงแล้ว...และข้าขอประกาศ จากนี้ไปอีก ๓ วันข้างหน้า อดีตพระสมุทรชลันธรผู้นี้จะได้รับสถาปนาให้เป็นเทพขึ้นครองบัลลังก์มุก และคืนสู่ตำแหน่งพระสมุทรอีกครั้ง” พระผู้สร้างประกาศให้เหล่าเทพผู้อยู่ในสภาเทวาได้รับรู้ ต่างยินดีปรีดา โดยเฉพาะชลันธรที่ปลื้มปิติยิ่งนักที่ตนนั้นสามารถลบล้างมลทินได้ นภนต์เองรู้สึกดีใจและหมดห่วงอย่างน้อยการที่ชลันธรได้อำนาจคืนมาเท่ากับว่าคนรักของตนสามารถปกป้องตัวเองได้

“เอาล่ะ ทีนี้ก็ถึงตาท่านแล้ว...นภนต์” ความรู้สึกดีเมื่อครู่สลายลงพริบตาไม่ต่างจากภูผาแกร่งที่พังทลาย เมื่อชลันธรได้ยินสิ่งที่พระผู้สร้างเอ่ย ผิดกับนภนต์ที่ไม่แสดงท่าทางตกอกตกใจแม้แต่น้อย

“พระผู้สร้าง...พระองค์ทรงหมายความว่าอันใดกัน” ชลันธรใจหายวาบเมื่อได้ยิน …‘ในเมื่อจับผู้กระทำผิดได้แล้ว เหตุใดจึงพูดจาราวกับจะลงโทษนภนต์’…ชลันธรคิดในใจ ก่อนจะหันไปมองนภนต์ แต่กลับดูเหมือนจะไม่ตกใจแม้แต่น้อยเช่นตน

“เทพนภนต์ความผิดของท่านคือกระทำการบกพร่องต่อหน้าที่ มิได้สืบสวนเรื่องราวนี้ให้กระจ่างจริง...ทำให้ชลันธรต้องทนทุกข์เข็นในความผิดที่มิได้ก่ออย่างหนักหนาสาหัส ท่านจะยอมรับหรือไม่”

“กระหม่อมขอยอมรับว่ากระหม่อมได้กระทำการหละหลวมมิไต่ตรองให้ดีจริง จนทำให้ชลันธรต้องรับทัณฑ์เทวาอย่างทุกข์เข็นเป็นเวลานาน...”

“เมื่อเจ้ายอมรับความผิดแล้วเช่นนี้  เจ้าก็ต้องจำเป็นที่จะต้องรับโทษเช่นกัน...”

พลันเกิดเสียงฮือฮามากมาย จากเหล่าเทพที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาอีกครั้ง...ใบหน้าของชลันธรแทบที่จะไม่มีสีเลือดฝาดกลัวเหลือเกินที่จะต้องจากลากับคนรักอีกครั้ง

“ในนามของพระผู้สร้าง ผู้เป็นจอมทัพแห่งสวรรค์ ข้าขอสั่งปลดเทพเวหานภนต์ออกจากตำแหน่งแม่ทัพสวรรค์บัดเดี๋ยวนี้...” ...สุรเสียงตรัชดังลั่นสั่งปลดตำแหน่งสำคัญของสวรรค์ให้เว้นว่าง...

“กระหม่อมขอรับด้วยเกล้า”  นภนต์โน้มกายลงคำนับรับทราบ  ชลันธรเองถึงแม้จะตั้งรับไม่ทันในสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็เบาใจที่คนรักมิได้...ถูกลงทัณฑ์อะไรมากมายอย่างที่กังวล  เพียงปลดออกจากตำแหน่งแม่ทัพเท่านั้น เหล่าเทพบริวารจึงเข้ามาปลดชุดแสดงยศแม่ทัพสวรรค์ของออกนภนต์เองกำลังจะลุกยืนขึ้น...แต่กลับต้องหยุดชะงัก

“โทษของท่าน ยังมิหมดเพียงเท่านี้ดอกนภนต์... ทหาร!!! คุมตัวเทพนภนต์ไปยังวชิรภูผาบัดเดี๋ยวนี้!!!” สุรเสียงตรัชดังก้อง มินานทหารสวรรค์จำนวนสี่นายก็เข้ามาพร้อมเชิญอดีตแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ไปรับโทษ

“อย่าเข้ามานะ!!! อย่าเข้ามา!!!” แม้ไร้ฤทธิ์เดชแต่ชลันธรยังคิดเอาตัวมาขวาง ชลันธรไม่ยอม ไม่ยอมให้นภนต์ไปไหน

“ชลันธรเอ๋ย…พี่จักต้องรับโทษที่พี่บกพร่องในหน้าที่ ไม่รอบคอบ มีอคติจับตัวเจ้ามาลงโทษ” นภนต์พยายามเอ่ยให้ชลันธรเข้าใจ

“ไม่!!!...ท่านพี่ ท่านพี่เข้าใจผิด ข้าจักไม่ยอมให้ท่านพี่รับโทษ…พระผู้สร้างโปรดเมตตาด้วย…ได้โปรดอย่าลงทัณฑ์ให้เทพนภนต์ไปยังยังวชิรภูผาเลย” ชลันธรเข้ามาสวมกอดนภนต์ไว้พักตรางามจ้องมองอ้อนวอนผู้เป็นใหญ่

“พี่ทำผิดต่อเจ้า พี่สมควรได้รับโทษ เจ้าอย่าพี่ต้องอายเหล่าเทพหรือเสียเกียรติไปมากกว่านี้เลยชลันธร...” นภนต์แข็งใจดึงแขนที่โอบกอดตนออก

“ไม่เอา…ท่านพี่ไม่ได้ตั้งใจข้า…ข้าถือว่าไม่ผิด” ชลันธรแข็งขืนไม่ยอมปล่อยกอดนภนต์แน่น เทวาในสภาได้เห็นจึงอดสงสารชลันธรมิได้ กรรมอันใดหนอ จึงได้พลัดพรากจากคนรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ชลันธร…เจ้าปล่อยเทพนภนต์บัดเดี๋ยวนี้ อย่างไรเสียนภนต์จะต้องถูกลงโทษ” พระผู้สร้างเอ่ย

“ไม่…เราอยู่กับท่านพี่นภนต์…เราจะไม่ไปไหน” ชลันธรกอดนภนต์ไม่ยอมปล่อย นภนต์เองที่ใจแข็งมิอาจจะทนได้อีกต่อไปจึงกอดชลันธรแนบแน่นจนอากาศมิอาจแทรกผ่านได้

“บุษยะ…เจ้าจงนำตัวชลันธรออกไปจากที่นี่เสีย” พระผู้สร้างเอ่ย บุษยะน้อมรับคำบัญชาถึงใจจะไม่อยากทำ บงกชแก้วลอยเหนือพื้นเข้าหาชลันธร เทวาในดอกบัวเข้าฉุดร่างสหายให้เข้ามานั่งยังกลางเกสร แต่มิอาจสู้แรงได้จนเหล่าเทพบริวารต้องเข้ามาช่วยพาชลันธรขึ้นบงกชแก้วไป นภนต์เองไม่คิดจะรั้งเพราะนี่คือความจริง ความจริงที่ตนต้องปล่อยชลันธรไป

“ไม่!!!...เราไม่ไป…เราจะอยู่กับท่านพี่นภนต์..ท่านพี่พริษฐ์…โปรดเห็นความเป็นพี่น้องของเรา…ฮึก…เราขอ…ขอเถิดนะ…อย่าลงโทษท่านพี่นภนต์เลย” มือเรียวนั้นสุดเอื้อมคว้าจับกายหนา ทว่าดอกบัวแก้วกลับลอยสูงเกินก้มที่จะจับต้องได้

“บุษยะพาตัวชลันธรออกไป” สุรเสียงเรียบนิ่งเอ่ยชัด บุษยะมิอาจขัดได้จึงต้องนำตัวชลันธรไปจากสภาเทวานี้

เทพแห่งท้องนภาถูกนำตัวไปยังวชิรภูผา โดยมีพระผู้สร้างผู้ตัดสินโทษ โดยมีพระพาย เทพแห่งขุนเขา เทพพระจันทร์ เทพอัสนี และเทพปริศนา ร่วมเป็นพยาน อีกไม่ถึงอึดใจนภนต์จะต้องทัณฑ์เทวาจากความผิดที่ตนได้ก่อไว้ ใจนภนต์เพลานี้เริ่มมีความกลัวเข้าเกาะกุม มิใช่กลัวบทลงโทษแต่กลัวว่าถ้าไม่ตนแล้วใครเล่าจะดูแลชลันธร   ลานกว้างบนยอดวชิรภูผานั้นเงียบเหงาและน่ากลัวยิ่งนัก ไร้สิ่งมีชีวิต ณ ยอดภูผาแห่งนี้...มีเพียงกระแสลมเอื่อยๆ ที่วาบหวิวใจเท่านั้น ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ลงทัณฑ์สถานหนักสถานหนึ่งของผู้กระทำผิด และมิเคยมีเทพองค์ไหนรอดชีวิตกลับไปได้...

“ท่านมีอะไรจะสั่งเสียหรือไม่นภนต์...”

“กระหม่อมเองก็ไม่รู้ว่าจะทนทัณฑ์นี้ได้หรือไม่  ทีแรกกระหม่อมว่าจะมิขอหากแต่ยามนี้มีเรื่องที่ยังข้างคาอยู่หนึ่งเรื่อง กระหม่อมจำต้องมีเรื่องจักทูลขอพระองค์สักครา”

“เดิมในตำแหน่งแม่ทัพสวรรค์ท่านนั้น ทำหน้าที่ด้วยดีมาตลอด สร้างผลงานไว้มากมายทั้งยังไม่เคยขอรางวัลหรือสิ่งใดจากเรา บอกมาเถิดว่าท่านประสงค์สิ่งใด เราสามารถประทานสิ่งใดให้ท่านก็ได้ จะเว้นก็เสียแต่จะขอให้พ้นโทษ ข้าคงจะมิสามารถประทานให้ท่านได้”

“มิใช่เรื่องนั้นดอกกระหม่อม...เพียงแต่เมื่อครั้งในระหว่างที่กระหม่อมทำภารกิจพาชลันธรไปยังวิมานของเทพกาลเวลา ยังมีอีกหนึ่งเทพหนึ่งนาคาที่ช่วยเหลือให้ชลันธรได้พิสูจน์ตนเองจนสำเร็จนั่นคือรพีพงศ์บุตรแห่งพระอาทิตย์และนาคนามว่านาคินทร์ ซึ่งเป็นนาคเกล็ดนิลซึ่งตนนี้นั้นเป็นที่รักของรพีพงศ์มาก แต่ทว่าเกิดเคราะห์ร้ายกับนาคินทร์จากการสู้รบระหว่างทั้งสองกับพระสมุทรกนธี จนนาคินทร์ต้องตรีศูลแน่นอนว่าผู้ใดต้องตรีศูลนี้ย่อมสิ้นชีวา กระหม่อมมิต้องการให้รพีพงศ์ต้องจำจากคนรักเหมือนกระหม่อม จึงอยากให้พระองค์ทรงโปรดชุบชีวิตนาคนามนาคินทร์ให้รพีพงศ์นั้นคลายเศร้าด้วยเถิด” นภนต์เอ่ย ก่อนที่ตนจะต้องทัณฑ์เทวา ตนขอทำตามคำมั่นที่ให้ไว้กับชลันธร

“การชุบชีวิตข้านั้นย่อมทำได้ หากรพีพงศ์นำร่างของนาคนาคินทร์มาให้ข้า” พระผู้สร้างเอ่ย  แต่ผู้ที่ร่วมเป็นพยานอย่างเทพพระจันทร์นั้นกลับตกใจในสิ่งที่ได้ยินนั้น ด้วยรพีพงศ์นั้นเป็นโอรสองค์โตของพระอาทิตย์ผู้เป็นพี่ใหญ่ ...แล้วทำไมถึงไปรักกับนาคชั้นต่ำที่ชื่อนาคินทร์ได้อย่างไร แล้วเรื่องนี้พระอาทิตย์ผู้พี่นั่นทราบความหรือไม่... เทพพระจันทร์เพียงเก็บความสงสัยทุกอย่างไว้ภายในใจ ปล่อยให้เหตุการณ์เบื้องหน้าดำเนินไปอย่างที่มันจะเป็น...

“ขอบพระทัยพระองค์ในความกรุณา ได้โปรดทรงเป็นธุระจัดการเรื่องนี้ด้วย”  ถือว่านภนต์พอจะหายกังวลเรื่องชลันธรไปได้บ้าง…‘ถ้านาคินทร์ฟื้นคืนจากความตายก็เท่ากับว่าชลันธรเองจะได้มีคนคอยอยู่เป็นเพื่อน รพีพงศ์เองไม่ต้องจมอยู่ในวังวนความเสียใจ’…นภนต์คิดว่าตนนั้นทำดีที่สุดแล้ว บทสรุปทั้งหมดตนควรจักต้องเป็นฝ่ายเจ็บปวดเพียงผู้เดียวก็พอ

“ข้ารับปาก…ข้าจักรีบจัดการให้โดยไว ว่าแต่ท่านเถิดยังมีสิ่งใดต้องประสงค์จะขอข้าอีกหรือไม่”

“กระหม่อมนั้นหมดสิ้นคำขอแล้ว”

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะตัดสินโทษของท่าน…เทพนภนต์!!! ข้าขอลงโทษ…”

. . .

“บุษยะ!!! ได้โปรดพาเราไปหาท่านพี่นภนต์เถิด!!! หรือไม่ก็ปล่อยเรา  ปล่อยเราเดี๋ยวนี้!!!” ชลันธรโวยวายพยายามออกจากบงกชแก้วนี้ตลอดเวลา

“ข้าขอโทษนะชลันธร ที่ข้ามิอาจขัดคำสั่งของพระผู้สร้างได้” บุษยะเอ่ย เทวารูปงามลูบกลีบดอกบัวให้ตูมปิดล้อมทั้งตนและชลันธรไม่ให้ออก

“เจ้าไม่เห็นใจเราหรือบุษยะ…วชิรภูผานั่น…วชิรภูผานั่น…ผู้ใดก็รู้ว่าใครที่ได้ไปจักต้องถูกลงโทษเช่นไรและมิมีใครเคยรอดชิวิตกลับมา...”

“ชลันธร…ข้า…คือข้า…” บุษยะไม่รู้ว่าจักปลอบเช่นไรดี มันเป็นดั่งที่ชลันธรว่าเกี่ยวกับวชิรภูผา ปลอบไปก็เหมือนจะโกหก

ชลันธรนิ่งเงียบไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใดอีก เข่าทั้งสองยกขึ้นมาเพื่อให้ตนเองกอด ใบหน้างามซบลงไปใช้ความคิด… ‘ข้าเพียงหวังว่าสิ่งนั้นที่ข้ามอบให้ท่านพี่ไป จะเป็นเกราะป้องกันคุ้มภัยให้ท่านพี่รอดพ้นจากทัณฑ์ทรมานทั้งปวง’…





























........................................................

จบ 35 เสียที หลังจากดองเอาไว้ มีภารกิจเยอะสุดเลยอัพช้า ฮือออออออออ คนอ่านอย่าเพิ่งหายไปนะมาอ่านดราม่ากันก่อน 55555

บทสรุปจะเป็นเช่นไร ชลันธรจะเป็นหม้ายขันหมากหรือไม่ เรื่องสาปรักจะจบแฮปปี้แอนดิ้งหรือเปล่า เอ๊~~~~ ตอนหน้ามาดูกัน



ตอนนี้ดราม่าเบาๆนิดหน่อย นิดหน่อย อยากรู้ไหมว่าพี่นภนต์จะโดนอะไร ติดตามนะคะ ติดตาม



สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่าน มาเม้น มาเป็นกำลังใจนะคะ จุ๊บ

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.35.2 P.12 (21/11/2560)
«ตอบ #355 เมื่อ21-11-2017 07:28:16 »

 :z3: :z3:

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.35.2 P.12 (21/11/2560)
«ตอบ #356 เมื่อ21-11-2017 10:15:39 »


ตายนะขอรับเจอแบบนี้

คนอ่านนี่ล่ะตาย

รอต่อขอรับ


ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.35.2 P.12 (21/11/2560)
«ตอบ #357 เมื่อ22-11-2017 08:51:40 »

รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.35.2 P.12 (21/11/2560)
«ตอบ #358 เมื่อ22-11-2017 11:32:30 »

พระผู้สร้างลงโทษเหมาะสมแล้วนะ เพราะนภนต์ไม่เชื่อใจคนรักเอง สถานที่ลงโทษหากนภนต์อยากอยู่กับชลันธรก็ต้องผ่านมาให้ได้ เพราะตอนอยู่โลกมนุษย์ชลันธรก็ทุกข์ทรมานไม่ต่างกัน ก็สมเหตุสมผลอยู่ นาคินทร์จะได้กลับมาหารพีพงศ์แล้ว

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: สาปรัก...ทัณฑ์เทวา 20+ EP.35.2 P.12 (21/11/2560)
«ตอบ #359 เมื่อ27-11-2017 15:55:21 »

หน่วงๆกันไปจ้าาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด