สาปรัก…ทัณฑ์เทวา
Writer : Tan-Yung 0209
File : 34
เมื่อผ่ามิติจากกระจกเงาวิเศษแห่งเทพจันทรัช เพียงหลับตาพึงจิตระลึกนึกถึงจุดหมายปลายทางที่จะไป ถ้ำแก้วคือสถานที่ที่ปรากฏชัดในความคิดของเทพนภนต์ มือหนาแสนอุ่นจึงได้กุมมือคนรักไว้มั่นแล้วบอกกับชลันธรถึงเป้าหมาย
เพียงชั่วพริบตา…หนึ่งเทวาหนึ่งมนุษย์บุรุษก็ลืมตาขึ้นแล้วพบว่าตนนั้นได้อยู่ด้านหน้าปลายทางที่ตั้งใจ หน้าปากถ้ำแก้วมีเสียงวิหกตัวน้อยขับขานทำนองเพลงแห่งความสุขราวกับต้อนรับผู้เป็นนายกลับมายังวิมานอีกครั้ง นภนต์คลี่ยิ้มบางออกมา หมายความว่าในที่สุดตนและคนรักได้สำเร็จเสร็จสิ้นในภารกิจลุล่วง…ความวุ่นวายที่เหลืออยู่ก็เพียงภาวนาให้พระเสาร์ พระพุธ และเทพกาลเวลาช่วยจัดการอสูรร้ายในร่างเทวดาอย่างกนธีให้ดับดิ้น
“ชลันธรพี่ว่าเราสองเข้าไปพักผ่อนในถ้ำแก้วกันเถิด” นภนต์เอ่ยชวนเพราะตอนนี้เทพเวหานั้นอยากให้ชลันธรได้พักผ่อน คนงามที่ท่าทางอ่อนล้าเพียงพยักหน้าเห็นตามแล้วเดินเคียงข้างโดยมีนภนต์โอบเอวเข้าไป บรรยากาศที่เงียบสงบชวนให้ระลึกถึงวันเก่าๆ…ถ้ำแก้วนี้ไม่ต่างจากที่พักพิงให้จิตใจได้ผ่อนคลาย
“ท่านพี่หากเหนื่อยล้าก็นอนหลับไปก่อนเถิด...ไม่ต้องรอข้า” ชลันธรเอ่ยกับนภนต์ทันทีที่มาถึงที่คูหาบรรทม
“แล้วเจ้าล่ะ…ชลันธร มิอยากพักผ่อนหรอกหรือ” นภนต์ถามกลับ ร่างสูงอยากจะกอดชลันธรให้หายเหนื่อยแต่คนรักกลับจะไปไหนเสียนี่
“ตัวข้านั้นอยากจะชำระล้างร่างกายเสียก่อน ด้วยกายมนุษย์นี้รู้สึกเหนียวตัวเหลือเกิน หากได้สรงน้ำข้าคงสบายกายขึ้นมาก...” ชลันธรเอ่ยกับนภนต์ที่ทิ้งกายนอนลงบนแท่นบรรจถรณ์
“เจ้าอยากทำอันใดก็ทำเถิด พี่จะรอเจ้าอยู่ที่นี่ รอกอดเจ้าคนดีของพี่…” นภนต์มิได้ขัดข้องอันใด ชลันธรคงอยากมีเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง ด้วยเป็นมนุษย์มีกลิ่นกายสาปกว่าเทพจึงจำเป็นที่ต้องชำระร่างกายเสียบ้าง...
ชลันธรแยกไปอีกห้องคูหาที่มีสระสรงน้ำโอ่อ่าอยู่กลางห้อง ขั้นบันไดขัดมันเงาวับเสียจนสะท้อนบุรุษผิวขาวที่อาภรณ์ปกคลุมกายค่อยๆ ปลดเปลื้องออกทีละชิ้น…ทีละชิ้น...จนเปล่าเปลือย เท้าเรียวเยื้องย่างก้าวลงไปในสระ
น้ำใสสูงท่วมท่อนล่างแต่หาได้ปิดบังภาพใต้น้ำได้มิดชิดหากชลันธรมิได้สนใจด้วยอยู่เพียงลำพัง มือเรียวกวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นแล้วจึงเริ่มชำระล้างร่างกาย บรรจงขัดสีฉวีวรรณให้ผุดผ่องหลังล้มลุกคลุกคลานในป่ากันติทัตมาจากการสู้ศึกกับพระปิตุลาของตน
…‘จริงสิ...ป่ากันติทัต’...
…‘รพีพงศ์…คินทร์’…
…‘สองทั้งจะเป็นเช่นไรบ้างหนอ เราก็ดันลืมไปเสียสนิท ยิ่งนาคินทร์ที่โดนตรีศูลพุ่งทำร้าย เห็นทีคง...’…
มัวแต่สู้ มัวแต่หนี จนแทบจะลืมสหายรักที่ถูกดึงเข้ามาโลดแล่นในโชคชะตาอันแสนโหดร้ายของตนเอง มันไม่ใช่เรื่องที่ใครจะรับเคราะห์นี้แทนเลย เฉกเช่นนาคินทร์ที่ต้องตรีศูลปักเข้าที่ท้อง หรือต่อให้ไม่ใช่จุดสำคัญ ทว่าชลันธรผู้เคยเป็นเจ้าของอาวุธคู่บัลลังก์มุกสีครามนี้ย่อมรู้ดีถึงฤทธานุภาพ รวมถึงชะตากรรมของสหายว่ามินานคงจะต้องสังเวยชีวิตให้ศาสตราวุธนี้เป็นแน่
“นาคินทร์…ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องเจอเรื่องราวเลวร้ายเช่นนี้” ชลันธรกล่าวขอโทษสหายรัก ใบหน้าและขอบตาร้อนผ่าวจนแดงก่ำ กายบางพยายามสะกดกลั้นน้ำตา แต่กระนั้นอัสสุชลก็รินไหลออกมาอยู่ดี ชลันธรทั้งเสียใจเรื่องนาคินทร์ ทั้งเจ็บใจที่ตนเองเป็นเพียงมนุษย์มิสามารถทำการใดได้ รังจะเป็นตัวถ่วง รังจะดึงผู้อื่นมาตาย มาเดือดร้อนด้วย...
‘ซ่า…ซ่า..’
วารีกระเซ็นออกตามแรงตี ชลันธรผู้ไม่เคยมีท่าทีโมโหกับสิ่งใด บัดนี้กำลังแสดงด้านเกรี้ยวกราดออกมา โกรธตนเองยิ่งนักที่อ่อนแอ…โกรธจนไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรให้ตนเองเจ็บให้มากกว่านี้
“นะ…นาคินทร์…เราขอโทษ” ชลันธรกระหน่ำตีน้ำจนพอใจก็พยายามสงบสติอารมณ์ให้คงที่แต่ร่างกายนั้นกลับโงนเงนโซเซจนหงายหลัง
‘หมับ’
ทุกครั้งที่มีอันตราย..หัตถาหนาแสนคุ้นเคยมักจะช่วยเหลือชลันธรได้ทันท่วงทีเสมอ นภนต์ที่น่าจะนอนรอชลันธรกลับมาโอบกอดคนรักมิให้พลัดตกจมน้ำ
“ท่านพี่…นี่เข้ามาตั้งแต่เมื่อใดกัน” ใบหน้างามเงยขึ้น ดวงตาเรียวช้อนมองผ่านขนตายาวประสานกับตาคมที่ก้มมองมาเช่นกัน
“พี่เข้ามาแอบดูเจ้าสักพักแล้ว มาทันเห็นเจ้าเกรี้ยวกราดจนหงายหลัง บอกพี่ได้หรือไม่เล่าว่ามีสิ่งใดกวนใจเจ้า” ในคราแรกนภนต์คิดจะนอนรอชลันธร แต่รอแล้วรอเล่าชลันธรยังไม่ออกมาเสียทีใจจึงนึกเป็นห่วงกลัวว่าเกิดเหตุร้ายยามที่คลาดสายตากัน เจ้าของถ้ำแก้วเลยออกมาดูก็พบว่าชลันธรโมโหโกรธาจนไม่สนใจสิ่งรอบกาย
“ข้า…ข้า…ข้าโกรธตัวเองที่ไม่สามารถทำอันใดได้...มีแต่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน” ชลันธรขยับตัวเข้าหาแล้วสวมกอดร่างกำยำแน่น นภนต์เองสวมกอดกลับ มือหนาคอยลูบแผ่นหลังเนียนเพื่อปลอบประโลม
“เรื่องมันจบแล้วชลันธร เราสามารถจับผู้กระทำผิด ผู้ที่ใส่ร้ายเจ้าได้แล้ว ไยเจ้าจะคิดมากอันใดอีก”
“จะไม่ให้ข้าคิดมากได้เช่นไร…ท่านพี่ลืมคินทร์กับรพีพงศ์ไปแล้วหรือ ภาพที่รพีพงศ์กอดคินทร์ข้านั้นยังจำได้” ชลันธรเอ่ยเสียงสั่นเครือเจือจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
“พี่จำได้” นภนต์เอ่ยเสียงแผ่ว ใช่ว่าจะลืมแต่เลือกไม่เอ่ยเสียมากกว่า เทพเวหานั้นมิต้องการกระตุ้นให้ชลันธรต้องคิดมาก
“ถ้าเช่นนั้นท่านพี่ยังจำได้ใช่หรือไม่ว่าตรีศูลของพระสมุทรใครได้ต้องจะเป็นเช่นไร…คินทร์…คินทร์โดนตรีศูลปักกายเช่นนั้น คงจะ…ฮึก…ฮือ…” ชลันธรน้ำตารินจนเทพแห่งท้องนภามิอาจนิ่งเฉยได้ นิ้วโป้งค่อยๆซับน้ำตาที่อาบแก้มนิ่มแผ่วเบา ริมฝีปากประทับลงบนกลางหน้าผากเนียน
“เจ้าเชื่อในโชคชะตาหรือไม่…บางครามักจะเล่นกลตลกให้สองใจได้จากกัน บ้างก็ไม่นาน บ้างก็นานแสนนานหลายภพ หลายชาติเช่นเจ้ากับพี่ ถึงกระนั้นสุดท้ายเราสองยังได้กลับมารักกัน”
“ท่านพี่จะบอกว่าคินทร์กับรพีพงศ์...” คำพูดของนภนต์ทำให้ชลันธรหัวใจอัดแน่นไปด้วยความหวังอีกครั้ง แต่ชลันธรกลับถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ถอนหายใจทำไมเล่า เจ้ายังมีกังวลเรื่องใดอีก”
“ข้ากลัวเหลือเกิน กลัวว่าโชคชะตาจะไม่เล่นตลกหากแต่ซ้ำเติมทั้งคู่ให้พรากจากกันไปตลอดกาล ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าคง...เฝ้าโทษตนเองทุกวันคืนเป็นแน่” ความหวั่นใจแสดงออกผ่านดวงตา นภนต์นั้นพอได้เห็นรู้สึกปวดใจไม่น้อย แทนที่ชลันธรจะได้สบายใจที่หมดสิ้นมลทินกลับต้องมีเรื่องทุกข์ใจเสียนี่
“วันพรุ่งพี่จะทูลขอชีวิตนาคินทร์ให้คืนมาจากพระผู้สร้าง...” นภนต์มิอาจทนเห็นชลันธรตกอยู่ในวังวนน้ำตาอีกต่อไป ถ้าสิ่งใดที่คิดว่าจะช่วยฉุดดึงชลันธรกลับขึ้นมาได้นภนต์ก็ยินดีที่จะทำ
“ท่านพี่นภนต์…ท่านพี่จะช่วยจริงหรือ” รอยยิ้มหวานระบายออกมาประดับใบหน้าให้สดใส ด้วยแรกมิได้คิดว่าภัสดาตนจะช่วยเพราะนาคินทร์เคยทำผิดต่อตนมาก่อน...
“พี่มิเคยกล่าวเท็จกับเจ้า หากทั้งสองต้องบุพเพสันนิวาทแล้วก็ย่อมเป็นจริงได้...”
“ว่าแต่พระผู้สร้างจะยอมให้ในสิ่งที่ท่านพี่จะทูลขอหรือ...”
“ครานี้พี่นั้นมั่นใจว่าพระผู้สร้างจะต้องประทานสิ่งที่พี่ขอให้เป็นแน่ ด้วยตัวพี่นำชัยชนะสู่สวรรค์มานับไม่ถ้วนและพี่จะใช้โอกาสนี้ขอรางวัลเป็นชีวิตนาคินทร์ผู้เป็นสหายของเจ้า”
“แล้วหากเป็นไปไม่ได้เล่า...” ชลันธรยังอดเป็นกังวลมิได้
“ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ...อย่ากังวลเลยคนดี เชื่อมั่นในตัวพี่สักครา...”
“ข้ารักท่านพี่ที่สุด” ชลันธรเอ่ยคำรักด้วยซาบซึ้งใจ รู้สึกมีกำลังใจและความหวังเรื่องนาคินทร์อีกครา...
“พี่เองก็รักเจ้า…ชลันธร” คำรักแสนอบอุ่นเอื้อนเอ่ยจากปากเทพหนุ่มในยามนี้ช่างถูกช่วงถูกเวลายิ่งนัก
…‘สิ่งใดที่ทำให้เจ้ามีความสุขพี่ยินดีที่จะทำ ก่อนที่พี่นั้นจะเข้ารับโทษกับความผิดที่ได้ก่อไว้กับเจ้า’…
“ท่านพี่หันหลังมาเถิด...ข้าจักช่วยถูหลังให้...” ชลันธรเอ่ย
“เจ้ามิกลัวพี่ทำสิ่งใดผิดแปลกหรือไร” นภนต์ถามลองเชิง ชลันธรเองรู้ความหมายถึงกับเขินอายจนหน้าแดง
“มีเรื่องผิดแปลกอันใดที่ข้าต้องกลัวเล่า...ข้ามิกลัวดอก...เว้นเสียแต่...” ชลันธรตอบทั้งที่ใบหน้าก้มลงต่ำไม่ยอมสบตาภัสดาของตน
“พี่ไม่ทำอันใดเจ้าหรอก พี่รู้ว่าเจ้าเหนื่อย คืนนี้พี่ขอเพียงเจ้าอาบน้ำให้พี่ก็พอ” นภนต์ลูบผมดำขลับนึกเอ็นดีพร้อมส่งรอยยิ้มให้ ชลันธรยิ้มตอบเช่นกัน ตามด้วยจัดการปลดภูษาอาภรณ์ให้กับคนรักแม้จะขัดเขินบ้างก็ตามที
น้ำเย็นฉ่ำไหลรินจากมือสวยที่คอยกวักรดให้ เมื่อเปียกทั่วดีแล้วจึงใช้ผ้าผืนน้อยคอยขัดถูตามแผ่นหลังกว้างอย่างเบามือให้นภนต์สบายตัวมากที่สุด ซึ่งได้ผลพอสมควรนภนต์สบายกายแต่หาได้สบายใจไม่
เทวาผู้คุมท้องนภาแสนกว้างใหญ่ ทั้งที่ก่อนหน้าคอยปลอบโยนประโลมใจชลันธรแต่ตนกลับมีเรื่องกลัดกลุ้มใจและเป็นเพียงไม่กี่เรื่องที่นภนต์อึดอัดใจถึงเพียงนี้ นั่นคือเรื่องที่ต้องนำตัวพระเทวีกวินตาผู้เป็นมารดาไปรับผิดกับพระผู้สร้าง
ใจเจ้าเอย…ถึงจะแกร่งดั่งหินผา ใบหน้าจะปั้นนิ่งไม่เผยความรู้สึกแท้จริงจากข้างใน ทว่าชลันธรกลับรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ นภนต์ไม่เคยนิ่งเงียบขนาดนี้…พอได้ชำเลืองมองดวงตาคม ดั่งคำกล่าวที่ว่าดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจจึงได้เห็นความเศร้าปนกังวลเผยออกมา
“ท่านพี่นภนต์...เมื่อครู่ท่านพี่นั้นปลอบข้าให้หายเศร้าแล้วเหตุใดผู้ที่ปลอบข้าถึงเศร้าเสียเอง หากท่านพี่มีความในใจอะไรที่กังวลก็บอกข้ามาเถิด ข้ายินดีรับฟังและแบ่งรับ เผื่อมันจะช่วยให้ท่านพี่เบาใจขึ้นมาได้” ชลันธรกอดเอวคนรัก ใบหน้าแสนสำอางแนบชิดแผ่นหลังกว้าง
“คือพี่…” นภนต์ไม่รู้จะบอกชลันธรอย่างไรดี ทั้งเจ็บใจที่ตนเองเผยความกังวล ความอ่อนแอออกมาให้ร่างบางเห็น
“เรื่องที่ท่านพี่จะไปรับตัวท่านน้ามาลงโทษใช่หรือไม่ หากเรื่องนี้เป็นเหตุให้ท่านพี่รู้สึกไม่ดีแล้วล่ะก็ ข้าว่าท่านพี่ให้ผู้อื่นทำเถิด”
“ไม่ได้ชลันธร…พี่บอกเจ้าแล้วว่าพี่นั้นตั้งใจตั้งแต่ต้นว่าจะนำคนผิดไปลงโทษกับพระผู้สร้างเอง”
“แต่ท่านพี่ไม่สบายใจ…”
“เจ้าอย่าห่วงแค่พี่นั้นไม่ทันจะเตรียมใจว่าผู้ที่ทำร้ายเจ้าจะเป็นท่านแม่ของพี่ก็เท่านั้น”
“ท่านพี่…” ชลันธรเสียงอ่อนลงทันที
“อย่าทำเสียงเช่นนี้สิ พี่มิได้เป็นอันใดมากดอก ถ้าเจ้านั้นกลัวพี่กังวลก็จงอยู่เคียงข้างพี่ให้พี่นี้มีความสุขในเพลานี้”…‘ก่อนที่พี่เองจะรับโทษเช่นกัน’... ประโยคหลังนภนต์ไม่ได้เอ่ยออกไป ทำได้เพียงแสร้งยิ้มบางให้ชลันธรไม่กังวลไปกับตนด้วย
“หากท่านพี่ประสงค์เช่นนี้ข้าเองก็มิขัด ข้าจะนวดให้ท่านพี่คลายปวดเมื่อยดีหรือไม่” ชลันธรเอ่ยชวน ในสมองมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา
“เอาสิ เจ้าอยากทำอันใดพี่มิห้าม” นภนต์พูดเอาใจชลันธร
“ท่านพี่ห้ามคืนคำกับข้านะ” ชลันธรยิ้มร่าออกมาทันที คำพูดเมื่อครู่ของนภนต์ถือว่าเข้าทางตนยิ่งนัก
“พี่ไม่ผิดคำพูดกับเจ้าดอก” นภนต์ย้ำอีกครั้งให้ชลันธรมั่นใจ
“ถ้าเช่นนั้นท่านพี่ได้โปรดอยู่เฉยๆ ข้าจะทำให้ท่านพี่ผ่อนคลายเอง”
ดัชนีทั้งห้าเรียวงามดุจลำเทียนค่อยๆ ลูบไล้ผิวกายของเทพหนุ่มอย่างช้าๆ ไล่มาตั้งแต่ท้ายทอยลงมาตามแนวยาวของกระดูกสันหลัง ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นกอดเอวอีกครั้ง
ริมฝีปากนุ่มไล่พรมจูบตามแผ่นหลังกว้าง มือปัดป่ายลูบไล้ตามกล้ามเนื้อหน้าท้องแกร่ง การกระทำปลุกปั่นอารมณ์เทพแห่งท้องนภาได้เป็นอย่างดี จนบางอย่างใต้น้ำนั้นเริ่มตื่นตัวขึ้นมา
“ชลันธร…เจ้าทำอันใด เจ้ารู้ตัวหรือไม่” นภนต์ข่มอารมณ์เอ่ยถามคนงาม เผื่อชลันธรไม่ประสีประสาเผลอยั่วยวนตนไม่รู้ตัว
“ข้าต้องการให้ท่านพี่มีความสุขและผ่อนคลายให้มากที่สุด” ชลันธรไม่ใช่แค่ตอบปากเปล่าเท่านั้น หากร่างกายเบียดเสียนภนต์โดยเฉพาะบางสิ่งที่โดนเข้ากับขาของนภนต์
“ชลันธร น้องอย่าฝืนนะ พี่รู้ว่าเจ้าไม่อยากทำ” นภนต์ได้แต่งุนงงเล็กน้อยเพราะเรื่องนี้ตนมักจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเองเสมอ...
“ก็ข้าอยากทำ…อยากทำให้ท่านพี่ เหตุใดเล่าเรื่องพวกนี้...ข้าจะเป็นคนเริ่มก่อนมิได้...ท่านพี่อยู่เฉยๆ คอยให้ข้าบำรุงรักให้เถิด” แม้จะอายอยู่บ้างแต่ชลันธรก็พูดออกไป นภนต์เองไม่อยากให้ชลันธรฝืนใจด้วยไม่ใช่วิสัยของคนรัก แต่ความต้องการในยามนี้มันเอ่อล้นขึ้นมาเกินเสียจะควบคุม อีกอย่างนภนต์ให้คำมั่นไว้ว่าจะไม่ขัดชลันธรเลยทำได้เพียงปล่อยให้ชลันธรทำตามใจชอบ
“อ่ะ…ตรงนี้ท่าทางเอ็นจะยึดถึงได้แข็งขืนขนาดนี้” ไออุ่นจากฝ่ามือผิดกับความเย็นจากน้ำในสระสรง เลื่อนลงสัมผัสจุดกลางกายของเทพานักรบที่ชูชันมาได้สักพัก
“เช่นนี้แล้วเจ้าจะทำเช่นไรต่อ” นภนต์ถามกลับน้ำเสียงทุ้มกระเส่าเล็กน้อย
“ข้าจะจะบีบนวดให้ท่านพี่ผ่อนคลาย…จนมันคลายตัว” ปากบอกคำตอบไป มือนิ่มนั้นจับแท่งร้อนไว้มั่นขยับรูดรั้งไปมา
นภนต์ขยับตัวหันหน้ามาหาคนรักที่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตาตน ร่างสูงนึกขบขันในใจกับท่าทีขัดเขินแต่กลับคอยทำรักให้ของอีกฝ่าย หัตถาหนาข้างหนึ่งกอดเอวคอดแนบชิดอีกข้างก็จับส่วนอ่อนไหวของชลันธร
“พี่จะนวดให้เจ้าบ้าง ของเจ้าเองดูจะเส้นยึดเหมือนกับพี่” เสียงกระซิบแนบชิดกับหูก่อนจะถือโอกาสจุมพิตบางเบาลงที่ใบหู หลังหู ลำคอขาวสลับกับดูดเม้มจนเกิดรอยจางๆ
“ทะ…ท่านพี่..อื้อ…” ชลันธรหลับตาพริ้มส่งเสียงเรียกหาภัสดา ความรู้สึกสวาทวาบหวามวูบวาบในท้องคล้ายมีบางอย่างจะถูกปลดปล่อย ยิ่งนภนต์ขยับมือขึ้นลงมากเท่าไร ชลันธรก็ยิ่งรู้สึกดีและเร่งมือขยับขึ้นลงนวดคลึงให้นภนต์เช่นเดียวกัน
“พะ…พี่นภนต์..ท่านพี่..เร็วอีก..…อ่ะ..อ่า” คำขอถูกส่งไปได้ไม่นานสายธารความสุขก็หลั่งรินออกมาผสมกับวารีในสระกว้าง
“น้ำมันนวดของข้าออกมาแล้ว…ท่านพี่นั่งลงก่อนเถิด ข้าจักนวดให้ต่อ” ชลันธรหอบเล็กน้อย แม้เหนื่อยอ่อนหากยังอยากจะทำให้นภนต์มีสุขบ้าง เทพเวหาเองทำตามแต่โดยดี ถอยไปนั่งตรงขั้นบันไดลงสระ
“เจ้าทำอันใด…ชลันธร” จะไม่ให้ถามคงจะไม่ได้ เมื่อร่างบางขยับขึ้นมานั่งคร่อมตัก ใบหน้าเลื่อนเข้ามาใกล้จนปลายจมูกชนกัน ลมหายใจอุ่นๆช่วยกระตุ้นอารมณ์ค้างเติ่งของนภนต์ได้เป็นอย่างดี
“ตัวข้านี้อยากนวดให้ท่านพี่ต่อ” รอยยิ้มหวานแสนยั่วยวนที่ไม่เคยได้พบเห็น เพลานี้อยู่ตรงหน้าของนภนต์เป็นที่เรียบร้อย อดีตพระสมุทรยกสะโพกตนขึ้นใช้นิ้วเรียวป้ายน้ำมันนวดสีขาวตรงส่วนปลายที่ยังหลงเหลือป้ายลงที่ช่องทางสีสวย ลูบวนไปมาตามรอยจีบ ดัชนีงามค่อยๆ เปิดแง้มแล้วสอดเข้าไป ระหว่างนั้นได้ใช้มืออีกข้างนวดแท่งร้อนแสนกร้าวของนภนต์
“อ๊ะ…อ่า…..” เสียงครางกระเส่าดังออกมา กายบางขยับขึ้นแผ่นอกขาวแอ่นเข้าหาใบหน้าหล่อเหลาที่ใช้ลิ้นแตะเลียเม็ดทับทิมสีชาดก่อนจะสลับดูดดุนจนแข็งสู้ลิ้นชื้น สายตาคมเหลือบมองใบหน้าแดงซ่านจากการสำเร็จความใคร่ของชลันธรเป็นระยะ…‘ไยเจ้าถึงยั่วยวนพี่เช่นนี้ชลันธร’…
จากนิ้วหนึ่งเพิ่มเป็นสอง จากสองเพิ่มเป็นสาม กระทั่งกายภายในช่องทางบีบรัดเล็กน้อยส่งสัญญาณความพร้อมจึงได้จับแก่นกายใหญ่จ่อเข้าปากทางแล้วกดกายลงไปทีละนิด…ทีละนิด
“อ๊า!!!...”
ชลันธรครางลั่นเมื่อผสานกายแนบสนิทเข้าด้วยกันกับคนรัก นภนต์เองสุขล้นจนแทบจะปลดปล่อยด้วยความคับแน่นที่กำลังครอบงำส่วนที่กำลังอึดอัดอยู่
“ชลันธร เจ้าช่วยนวดให้พี่เร็วเถิด พี่ปวดเมื่อยจนทรมานเสียแล้ว”
นภนต์ร้องขอมีหรือชลันธรจักไม่ทำตาม บั้นท้ายแน่นยกขึ้นลงขยับช้าๆก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเพื่อนนวดเค้นให้ตรงจุด นภนต์เห็นว่าชลันธรนั้นว่าง่ายจึงมอบจูบเร่าร้อนเป็นรางวัล ยามที่กายสอดประสานเข้าออกปลายลิ้นชื้นก็กระหวัดเข้าตักตวงความหวานของกันและกัน ยิ่งคราใดที่นภนต์แกล้งสวนสะโพก ชลันธรจะดูดปลายลิ้นของอีกฝ่ายจนเกิดเสียง
“อ่ะ…อ่า….อ้ะ…ท่านพี่…ชอบหรือไม่” ชลันธรโอบกอดคอนภนต์ ริมฝีปากขยับถามปนครางแทบฟังแทบไม่ได้ศัพท์
“ชอบสิ…เจ้าช่างนวดพี่ได้ถูกจุด ถูกใจนัก..ฮืม..” นภนต์เอ่ยปากชมก่อนจะยืนอุ้มชลันธรขึ้นมา ขาเรียวรีบเกี่ยวเอวหนาแทบจะทันทีจนร่างกายแนบชิด
“อ๊ะ…อ๊า..ท่านพี่…มัน..จุก..อื้อ..จุก” จากนี้ไปชลันธรมิได้ออกแรงนวด หากต้องเสียแรงนวดมากไม่ต่างกัน
‘ซ่า…ซ่า..’ นภนต์เป็นฝ่ายกระแทกกระทั้นแก่นกายเข้าไปจนวารีในสระกระจายเป็นวงกว้าง บ้างกระเพื่อมขึ้นมาเปียกชุ่มขั้นบันได
“ชลันธร…อ่า…กอดพี่ให้แน่น” คำสั่งแสนละมุนละไมถูกส่งให้กับร่างบางที่ทำตามไม่อิดออด แม้จะไม่รู้ด้วยเหตุใดหากชลันธรนั้นก็ยอมทำตาม
ขายาวก้าวลุยน้ำทีละก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น ถึงจะอุ้มชลันธรไว้แต่ไม่เป็นอุปสรรคกลับยิ่งทำให้ตนฝังกายลึกเรียกเสียงครางหวานจากชลันธรได้ไม่ขาด
“อ่ะ…อ่า…อ่า…ท่านพี่นภนต์..อ่ะ..อ๊ะ”
ชลันธรทำได้เพียงให้นภนต์ชักจูง จากที่หมายใจจะให้นภนต์ผ่อนคลายกลับกลายเป็นตนเองถูกปรนเปรอเสียเอง ยิ่งนภนต์เดินมากเท่าใดยิ่งสอดลึกถึงจุดกระสันมากเท่านั้น แก่นกายของตนที่เพลานี้เบียดเสียดหน้าท้องแกร่งเริ่มมีน้ำใสใสปริ่มส่วนปลายอีกครา
“อ๊ะ!!”
ชลันธรร้องอุทาน เมื่อถูกนภนต์วางตนลงบนเตียงนุ่มพร้อมกายที่โถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว มือหนาจับมือเรียวตรึงไว้แนบชิดติดเบาะ สะโพกหนากระแทกแรงถี่ระรัวมิให้ชลันธรได้หยุดหายใจ
“อ่ะ..อ๊ะ…อ่า…อื้อ….”
‘ปึง…ปัง..’
เสียงร้องครางเคล้าคลอกับเสียงแท่นบรรจถรณ์ที่กระทบกับผนังจนดังก้องไปทั่วถ้ำราวกับว่าเตียงจะแตกหักเสียให้ได้ นภนต์เร่งจังหวะมากขึ้นยิ่งผนังนุ่มในกายบางบีบรักแล้วยิ่งอดไม่ได้ที่จะไม่ออมแรง ด้านชลันธรรู้สึกร้อนผ่าวจากการเสียดสีหากกลับทำให้รู้สึกดีจนแอ่นสะโพกขึ้นรับ เรียวขากางออกรับกายนภนต์ให้ประชิดจนจะหลอมเป็นเนื้อเดียวกัน
“พี่รักเจ้า…อ่า..า…พี่รักเจ้าชลันธร”
“ข้าเอง..อึก..อ่า..ก็รักท่านพี่”
คำบอกรักถูกบอกผ่านทั้งภาษากาย ภาษาใจ และภาษาปากของทั้งสอง มันทำให้ความสุขล้นออกมาจากดวงใจจนมีรัศมีแห่งความรักห้อมล้อมรอบทุกคูหาของถ้ำแก้วแห่งนี้
“อ่า….”
ครรลองแห่งบทรักมาถึงช่วงสุดท้ายนภนต์และชลันธรต่างมอบให้กันและกัน ในที่สุดร่างกายสองกระตุกเกร็ง สายธารแห่งความสุขของเทพหนุ่มถูกปลดปล่อยออกมาจนสิ้น นภนต์แอนกายล้มนอนทาบทับร่างบาง ความชิดใกล้นี้ทำให้นภนต์ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของชลันธร
“ท่านพี่นภนต์…ข้ารักท่านพี่มากนะ…จุ๊บ” ชลันธรเอ่ยก่อนจะประทับจุมพิตแสนหวานกลางหน้าผากของคนรัก
“พี่เองก็รักเจ้ามาก…ชลันธร” นภนต์พูดจบก็ตรงเข้าหอมแก้มนิ่มทั้งสองข้าง ทว่ายามขยับกายส่วนที่เคยผ่อนคลายกลับปวดเมื่อยจนแข็งขืนขึ้นอีกครั้ง
“เอ่อ…ถ้าท่านพี่อยากจะคลายปวดคลายเมื่อยอีกครา ข้านี้ก็ยินดี” ชลันธรเอ่ยเชิญชวนด้วยใบหน้าแดงก่ำ เสียจนนภนต์อดเอ็นดูไม่ได้
“ถ้าเจ้าเชื่อเชิญเยี่ยงนี้เห็นทีคราเดียวคงไม่พอ...เจ้าจะยอมนวดให้พี่หรือไม่”
“ข้าเต็มใจขอให้ท่านพี่เป็นสุขตลอดราตรีนี้…อื้อ...” ถ้อยคำขาดหายด้วยริมฝีปากหยักประกบจูบ บทรักแรงสวาทเริ่มต้นบทใหม่อีกครั้งและไม่รู้ว่าจะจบบทเมื่อใด เพลานี้ทั้งสองต้องการจะตักตวงความรักให้กันและกัน โดยเฉพาะนภนต์ที่อยากจะครองกายชลันธรให้เนิ่นนานที่สุดเท่าที่จะทำได้...
…‘หลังจากราตรีนี้ไป พี่ไม่รู้ว่าจะได้กอดเจ้าเช่นนี้ได้อีกหรือไม่ชลันธร’…
. . .