•12•
“ทีแรกตั้งใจจะขู่ให้น้องมันหนี ที่ไหนได้กูดันโดนเองซะงั้น..”
“เออ ใครจะไปคิดว่ามันจะกล้า ปกติหวงตัวจะตายไป”
“โอ๊ย เครียด”
“ไม่รู้ว่ะ อาบน้ำอยู่”
“ไอ่สัด กูไม่จังไรขนาดนั้น”
ผมออกมาจากห้องน้ำเมื่อจัดการอาบน้ำแต่งตัวอย่างที่เจ้าของห้องบอก ใช้แปรงสีฟันที่พี่ครามเคยแกะกล่องใหม่ให้คราวก่อนที่เผลอค้างแบบไม่ได้ตั้งใจ จนวันนี้ผมยังเห็นมันตั้งอยู่ในห้องน้ำอยู่เลย พอแต่งตัวเรียบร้อยก็แง้มประตูออกไป เห็นพี่ครามนั่งบนเตียงหันหลังให้ผม คุยโทรศัพท์กับใครไม่รู้อยู่ น่าจะเพื่อน ส่วนคุณเกรย์ก็นอนแผ่อยู่บนเตียงเรียบร้อย
“น้องมันไม่ใช่จะอะไร คงเป็นที่กู”
“เออ รู้แล้วหน่า ทำก็บ้าแล้ว”
“เฮ้อ มึงเองก็เหมือนกัน วางล่ะ เออ บาย”
กดตัวโตกดตัดสายโทรศัพท์ ลอบถอนหายใจ ก่อนหันกลับมาสบตาผมแล้วสะดุ้งตัวโยน
“..เสร็จแล้ว” ผมเอ่ยบอกเขา นึกเสียมารยาทที่แอบฟังพี่ครามคุยโทรศัพท์ แต่ก็ไม่กล้าขัดจังหวะนี่
“อืม เดี๋ยวพี่อาบต่อ”
คนตัวโตว่าพลางเกาท้ายทอย เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว
“เอ่อ พี่คราม...ผมนอนโซฟาก็ได้นะ”
เอ่ยอย่างเกรงใจ รู้ตัวว่ามาโดยไม่บอกไม่กล่าวก็แย่แล้ว ยังจะมาค้างแบบกะทันหันอีก รู้ว่าไม่ได้เรื่อง กำลังทำตัวรบกวนเขา แต่ก็ยังไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียว ยังเตรียมใจเหงาไม่ทัน
“ไปนอนบนเตียงเลยไป”
คุณโตตัวว่าแค่นั้นก่อนเดินเบียดผมเข้าห้องน้ำไป ไม่นานก็ได้ยินเสียงเปิดฝักบัว สายน้ำกระทบพื้น
ผมเดินไปนั่งบนเตียงอยู่ข้างๆ คุณเกรย์ มีเรื่องอยากจะอวดหลังอาบน้ำ ตอนแรกยังไม่รู้สึกอะไร แต่พอโดนน้ำแล้วหลังมือรู้สึกเจ็บแปล๊บ พินิจดูถึงรู้ว่าเป็นรอยข่วน น่าจะโดนคุณเขาข่วนตอนเล่นอุ้งตอนนั้นแน่ๆ
บาดแผลแห่งความมิตรภาพ
ไม่นับตอนแรกที่คุณเกรย์ข่วนผมเพราะตกใจนะ มันต่างกัน ครั้งนี้ถือว่าเพราะซี้กันแล้วถึงได้ฝากรอยแผลให้กันได้ขนาดนี้ ผมเห็นคนเลี้ยงแมวส่วนใหญ่ก็มีแผลตามแขนกันทั้งนั้น พี่ครามเองก็ด้วย ตอนนี้ผมก็มีบ้างแล้ว ไม่รู้ทำไมแต่ดันมีความสุขเล็กๆ กับเรื่องพวกนี้
นอนเกาพุงให้คุณเกรย์ที่นอนหงายยืดตัวรับแอร์อย่างสบายใจ ผมใส่เสื้อยืดกางเกงวอร์มเอวยางยืดของพี่คราม เสื้อตัวหลวมไปหน่อยแต่ไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ ส่วนกางเกงเองก็มีเชือกผูก เคอะเขินเล็กน้อยที่ต้องมายืมเสื้อพี่เขา แต่เกรงใจมากกว่านิดนึง
แต่..จูบไปแล้ว เรื่องแค่นี้คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
ผมนอนเกาคางให้คุณเกรย์สักพักประตูห้องน้ำก็เปิด พี่ครามอาบน้ำเสร็จแล้วก่อนเดินมาเป่าผม คงเพราะผมยาวแห้งช้าเลยต้องเป่าล่ะมั้ง ผมไม่เคยใช้ไดร์เป่าผมเลยสักครั้ง อันที่จริงนอนตอนหัวเปียกมันก็เย็นดี แต่ส่วนใหญ่ชอบทำนู่นทำนี่ก่อนนอน กว่าจะได้นอนผมก็แห้งแล้ว อย่างเช่นตอนนี้
นั่งมองอิริยาบถของพี่ครามไปพลางๆ เห็นคนตัวโตนั่งสางผมแบบนี้แล้วรู้สึกไม่ต่างอะไรกับแมวตัวโตนั่งเลียขนเลย
“มองมากเดี๋ยวก็จูบเลย”
ผมสะดุ้ง พี่ครามเอ่ยทั้งๆ ที่ยังหันหลังให้ผมอยู่ ไม่รู้ว่ารู้ได้ยังไง แต่นั่นก็ทำให้ผมเบนสายตาไปหาคุณเกรย์แทน แมวเทาที่ตอนนี้กึ่งนอนกึ่งนั่งทำหน้าตางัวเงีย หน้าตาน่าเอ็นดูจนผมต้องเกาคางให้
เสียงไดร์เป่าผมปิดลง ผมเหลือบมองไปเห็นพี่ครามกำลังเดินมาทางนี้ จึงหันไปมองอย่างช่วยไม่ได้
“สีเทามานี่” คนตัวสูงเอ่ยเรียกคุณเกรย์ที่แหงนหน้าให้ผมเกาคาง แมวเทาไม่ตอบ แค่เหล่ตาไปหาพี่ครามก่อนหลับตาพริ้มเมื่อผมขยับมือต่อ
“ปายก็อย่าไปสปอยล์มันมาก วันๆ แทบจะไม่ทำอะไรอยู่แล้วเนี่ย”
“แต่คุณเกรย์ดูชอบออกนี่ครับ”
คนตัวโตไม่ตอบแต่เข้ามาใกล้ผมมากขึ้น มือใหญ่จับคางผมเชิดขึ้นก่อนลงมือ...เกา... พี่ครามมาเกาคางผมทำไม! กว่าจะรู้ตัวก็เกือบเคลิ้ม สะบัดหน้าหนีเขาไป ใบหน้าตัวเองเห่อร้อนอีกครั้ง
“แล้วนี่ชอบมั้ยล่ะ”
“...”
ผมไม่ตอบ เสหน้าหนีคนบ้าแมวที่จู่ๆ ก็ยัดเยียดความเป็นแมวให้ผมเสียอย่างนั้น ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของพี่คราม คนตัวโตเอื้อมตัวผ่านผมไปยกอุ้มคุณเกรย์ไว้ในมือเดียว
“วันนี้ห้ามนอนเตียง” เอ่ยพร้อมเป่าลมใส่หัวยุ่งๆ นั่นเบาๆ คุณเกรย์ห้อยต่องแต่งอยู่บนมือพี่คราม ก่อนจะถูกพี่เขาจับวางที่โซฟา แมวเทามองหน้างง
“วันนี้แขกมา เป็นเจ้าของห้องก็เสียสละเข้าใจมั้ย” แน่นอนว่าไม่ คุณเกรย์มองหน้าพี่ครามสะบัดหางตุบๆ
ผมรู้ว่าที่พี่เขาคุยกับคุณเกรย์ก็เพื่อให้ผมรับรู้ไปด้วยอีกคนทั้งนั้น เลยพูดขัดออกไป “ผมนอนโซฟาก็ได้นะครับพี่คราม”
“อย่าไปเกรงใจแมว จริงๆ ที่นอนมันควรจะเป็นโซฟานั่นแหละไม่ก็ที่อื่น นอนดมขนแมวไม่ดีเท่าไหร่หรอก แต่พอที่นอนมันว่างสีเทามันเลยเข้าไปจอง” พี่ครามว่า ก่อนเดินมาปัดขนบนเตียง
“ปายนอนอีกฝั่งละกัน เดี๋ยวฝั่งนี้พี่นอนเอง มีแต่ขน”
อันที่จริง ผมนอนตรงไหนก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ก็ขี้เกียจจะเถียงพี่ครามแล้วเหมือนกัน เลยขยับตัวไปอีกฝั่งหนึ่ง
พอพี่ครามจัดแจงที่นอนจนพอใจแล้วจึงกางผ้าห่มออก แบ่งให้ผมครึ่งนึง ขยับตัวขึ้นมานั่งบนเตียง ระยะห่างระหว่างผมกับเขาถูกร่นมาให้ใกล้กันมากกว่าเดิม
“ทำไมชอบจ้องกันนัก หืม”
สิ้นเสียงพี่คราม ผมถึงรู้ตัวว่ากำลังจ้องเขาอยู่อีกแล้ว ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมชอบจ้อง ชอบมองพี่เขาบ่อยนัก เสหน้าหนีได้ไม่นานก็ถูกมือใหญ่คว้าเข้าที่ใบหน้า บังคับให้หันมา
หน้าพี่ครามใกล้เสียจนแทบหยุดหายใจ
ก่อนที่จะใกล้ไปมากกว่านี้
“ห...ห้ามจูบ”
“ทำไม” ว่าพร้อมเลิกคิ้วสงสัย
“คุณเกรย์มองอยู่...”
ผมตอบเสียงเบา แต่เชื่อว่าคนตรงหน้าได้ยินถึงได้ผละออกไปอย่างหงุดหงิด คนตัวโตลุกไปปิดไฟ ทั้งห้องมืดสนิท มีเพียงแสงสว่างจากระเบียงลอดผ่านเข้ามา สัมผัสจากเตียงฝั่งข้างๆ ยวบลงไป บ่งบอกว่าพี่ครามเดินกลับมาแล้ว เหมือนเป็นตัวส่งสัญญาณ ผมเตรียมท่าจะนอนแต่กลับถูกอีกคนคว้าหมับเข้าที่ต้นคอ หันไปตามแรงกระทำ
เพื่อพบกับสัมผัสที่คุ้นเคยอีกครั้ง...
ไม่ได้หวือหวาเหมือนครั้งแรก ไม่ได้ตัวเกร็งเหมือนครั้งที่สอง แต่กลับนุ่มนวล..เป็นครั้งที่สาม จูบกับเขาเป็นครั้งที่สามของวัน พี่ครามขบเม้มริมฝีปากล่างของผมราวกับกำลังขบเคี้ยวขนมหวาน กดย้ำซ้ำๆ จนเคลิ้ม เผลอเอียงคอรับกับองศา เปิดโอกาสให้คนตรงหน้าคุกคามมากกว่าเดิม
ก่อนที่พี่ครามจะเป็นฝ่ายผละออกไป
“ปิดไฟแล้ว แมวไม่เห็นหรอกเนอะ”
ว่าก่อนล้มตัวนอน
ขี้โกงนี่นา! เล่นทำกันอย่างนี้แล้วผมจะหลับลงได้ยังไง
เอ่ยโวยวายคาดโทษเขาในใจก่อนล้มตัวนอนบ้าง สอดตัวเข้ากับผ้าห่ม นอนหงายเงยหน้ามองเพดานพลางครุ่นคิด จูบเมื่อกี้..กลิ่นยาสีฟันแฮะ..
“จะกอดพี่ก็ได้นะ คิดซะว่าเป็นหมอนข้าง”
“เงียบไปเลย!”
.
ปุ ปุ
“อือ”
ปุ
สิ่งแรกที่เห็นของวันคือเส้นขนสีเทา ผมเพ่งตามองดีๆ ถึงได้รู้ว่าสิ่งที่ตบหน้าผมอยู่เมื่อครู่คืออุ้งเท้านุ่มๆ ของคุณเกรย์..ที่พี่ครามจับมาตบหน้าปลุกผม
สะดุ้งก่อนผลักตัวเองให้ออกห่างมากขึ้น เมื่อเห็นว่ากำลังอยู่ในโพสิชั่นที่สุ่มเสี่ยง ผมที่หันหน้าเข้าอกแกร่งในระยะประชิดนี่ ดูก็รู้ชัดๆ ว่าเผลอกอดเขาอีกแล้ว แล้วทำไมไม่ลุกออกไปเล่า
ค่อยชันตัวเองขึ้น เห็นพี่ครามนอนเล่นกับคุณเกรย์อยู่จึงเอ่ยถาม
“กี่โมงแล้วครับ”
“เจ็ดโมง”
“......วันนี้อาจารย์งดเลคเชอร์..” ทำไมต้องตื่นเช้าด้วยเล่า คิดพลางมุ่ยหน้ามองหน้าเจ้าของห้อง สงสัยว่าตัวเองคงเผลอทำสีหน้าไม่พอใจออกไปทำให้พี่ครามต้องเอ่ยตอบ
“แต่ที่โรงพยาบาลสัตว์ไม่หยุดนี่”
“แล้วปลุกผมทำไมอ่ะ พี่ครามก็ลุกไปทำงานสิ ปล่อยผมไว้ที่นี่ก็ได้ ผมไม่ขโมยของหรอก”
“ใครกลัวเรื่องนั้นกัน”
“...”
“ไม่ได้หรอก ต้องปลุกให้คนร้ายมาดูหลักฐานชัดๆ เดี๋ยวไม่เชื่อว่านอนกอดพี่อีกแล้ว”
ผมส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอก่อนเอย “ทำอย่างกะพี่ครามไม่ได้กอด”
“หืม...รู้ตัวหรอ”
หืม? ผมเบิกตาโต คำพูดของผมเมื่อครู่หมายจะสื่อว่าพี่ครามก็เคยนอนกอดผมเมื่อสองอาทิตย์ก่อนเหมือนกัน แต่คำพูดเมื่อครู่นั่นมัน...
ไม่รอให้ผมเอ่ยถาม ผู้ต้องสงสัยเบือนหน้าหนีก่อนลุกจากเตียงเข้าห้องน้ำไป
ไอ้พี่คราม!
ผมที่โดนปลุกให้ตื่นมาอย่างงงๆ เดินไปให้อาหารคุณเกรย์เพราะเห็นคุณเขาเดินวนรอบถาดอาหารพร้อมร้องเรียกไม่หยุด พอให้อาหารเสร็จคุณเกรย์ก็ลงมือกินอย่างมูมมาม พลางนึกขึ้นได้ว่าไหนๆ แล้วก็น่าจะทำอาหารเผื่อเจ้าของแมวด้วย จึงไปหน้าห้องน้ำ เอ่ยเสียงดังถามผ่านเสียงสายน้ำไป
“พี่คราม ผมทำไข่ดาวให้นะ”
“เอ้อ เอาๆ”
“เอาแบบสุกหรือไม่สุก”
“ทำๆ มาเหอะ”
สิ้นเสียงอนุญาต ผมกลับไปที่ห้องครัว เปิดตู้เย็นเห็นไข่ไก่วางเรียงราย เลือกหยิบมาสองฟอง เผื่อตัวเองอีกฟอง ตั้งกระทะ เทน้ำมันรอเดือดก่อนตอกไข่ลงไป ไม่ช้าอาหารเช้าแบบง่ายๆ ก็เสร็จ ผมทำอาหารเป็นอยู่ไม่กี่อย่าง ส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ทำไม่ยาก เพราะอยู่หอพักไม่ได้มีโซนครัวแบบนี้ และที่บ้านก็ไม่ได้ทำอาหารเองสักเท่าไหร่
พี่ครามเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพกางเกงสแล็คตัวเดียว เดินดุ่มๆ ผ่านผมไปหยิบไดร์เป่าผม เป่าอยู่ไม่นานก็เดินกลับไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อเชิร์ตสีขาวมาใส่ เดาว่าเพราะเมื่อครู่รีบเข้าห้องน้ำทำให้ลืมยางรัดผมไวข้างนอกแน่ๆ พออาบน้ำแล้วเปียกไปถึงผมจึงต้องออกมาเป่าให้มันแห้ง เวลาใส่เสื้อจะได้ไม่เปียก
แล้วผมไปวิเคราะห์พี่เขาทำไม
พี่ครามเดินมาทางผม ชะเง้อมองผลงานอาหารเช้ามื้อแรก แต่แทนที่พี่เขาจะนั่งเพื่อทานข้าวกลับพุ่งเข้ามาหาผม ทำให้รีบยกมือปิดปาก รู้เลยว่าจะทำอะไร
“ห้ามจูบ...”
ได้ยินเสียงจิ๊ปากดังขึ้นมา พี่ครามคว้าจานไข่ดาวบนโต๊ะกินข้าว หยิบซอสมาเหยาะก่อนลงมือทานไข่ดาวโง่ๆ ตรงหน้า ยืนกินไม่นานก็หมดจาน ก้าวไปยังอ่างล้างจาน ระหว่างทางไม่พ้นแอบแตะหางคุณเกรย์ที่ก้มกินข้าวอยู่ ไปแกล้งคุณเขาอีก
หลังจากวางจานลงบนซิ้งค์น้ำแล้วถึงหันมามองผม
“ห้ามจ้อง”
เอ๊า
“เห็นจ้องกันจังเลย ตัวพี่มีอะไรติดหรือไง”
“เปล่า..แล้วจ้องไม่ได้ไง”
“ถ้าจ้องจะจูบ”
“ไม่ให้จูบ”
พี่ครามแยกเขี้ยวใส่ ผมเอ่ยต่อ “..ยังไม่ได้แปรงฟัน...”
จบประโยค คนตัวโตเดินเข้ามาหา ผมรีบยกมือปิดปาก กลัวพี่ครามท้าทาย แต่ร่างสูงกลับโน้มตัวกดจูบลงบนหน้าผากของผม
“งั้นก็ห้ามอ่อย”
“ไม่ได้อ่อย!”
“หึ”
“ไม่ได้อ่อยสักหน่อย พี่ครามนั่นแหละมีแต่ความคิดแบบนี้”
“แล้วเราไม่คิดอะไรเลยหรือไง พี่ก็ผู้ชายนะ ไม่รู้ตัวหรอว่าทำตัวน่ารักกว่าสีเทาแล้วเนี่ยทุกวันนี้”
ผมหน้าแดงเป็นคำตอบ
“แหน่ะ อ่อยอีกละ”
“ไม่ได้อ่อย!! โวะ พี่ครามไปทำงานเลยไป”
“หึๆ ถ้าปายจะออกก็ฝากล็อคประตูห้องด้วยละกัน” เขาว่า เสียแต่ผมไม่มีแผนจะไปไหนเลยเอ่ยบอกงึมงำ
“วันนี้ไม่มีเรียน...ผมอยู่กับคุณเกรย์ได้ไหม”
“ไหนว่าไม่ได้อ่อยไง”
“ก็ไม่ได้อ่อยไง! อะไรของพี่ครามเนี่ย”
“เออๆ จะทำอะไรก็ทำ ร้อนก็เปิดแอร์นะ ฝากให้ข้าวสีเทาด้วย พี่ไปทำงานละ” เจ้าตัวว่าพลางขยี้หัวรุนแรง เดินออกห้องไป ผมถือว่านั่นเป็นคำอนุญาตละกัน
ทั้งวันผมผลาญค่าไฟของพี่ครามพร้อมกับคุณเกรย์ ไม่ออกไปไหนเลยทำตัวเป็นมนุษย์ถ้ำ หลังจากพี่ครามออกไปทำงานผมก็ทานมือเช้าบ้าง ล้างจานเสร็จเรียบร้อยก็กลับไปงีบจนเกือบเที่ยง ตื่นมาให้อาหารคุณเกรย์ก่อนหาอะไรให้ตัวเองกิน เบื่อมาม่าแล้วแต่มีโจ๊กซองอยู่เลยทำกิน ห้องพี่ครามนี่เสบียงเยอะดีจริงๆ
หลังจากนั้นก็นั่งดูทีวีกับคุณเกรย์ คุณเกรย์ดูท่าจะรักการนอนเป็นพิเศษ เพราะนอกจากตื่นมากินแล้วผมก็แทบไม่เห็นคุณเขาทำอย่างอื่นนอกจากนอน เลยเผลอนอนไปอีกงีบ
ทั้งวันไม่ได้ทำอะไรที่เป็นสาระนอกจากเล่นแมวไปวันๆ แต่กลับรู้สึกผ่อนคลายดี ชอบความไร้สาระแบบนี้ แบบที่ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ถึงปกติจะไม่ค่อยมีเรื่องอะไรให้คิดก็ตามนอกจากคิดถึงคุณเกรย์ ครั้งนี้พอได้อยู่ใกล้กับความคิดถึงจึงผ่อนคลายมากเป็นพิเศษ
ลองอุ้มคุณเกรย์ไว้บนตัวเหมือนที่คุณเขานอนบนท้องพี่ครามมั่ง คุณเกรย์ดูให้ความร่วมมือ อันที่จริงแมวเทาดูง่วงจนผมจับทำอะไรก็ไหลตามไปหมด จัดท่าทางให้คุณเขานอนบนตัวได้สำเร็จ แต้มความสุขถูกบวกเพิ่มไปอีกหนึ่งแต้ม มองคุณเกรย์ที่หลับสบายแล้วก็ง่วงตาม
งีบหลับอีกแล้ว
รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีอะไรมายุกยิกแถวแก้ม เปิดเปลือกตาตื่นก็เจอพี่ครามนั่งจ้องพร้อมหยิกแก้มเป็นเชิงปลุก
“อือ..”
ส่งเสียงขัดใจก่อนพยายามลุกขึ้นนั่ง นอนมากไปแน่ๆ ถึงปวดหัวแบบนี้
“มานอนโป๊อะไรตรงนี้ อ่อยอีกแล้ว”
ผมรีบก้มมองตัวเอง เสื้อยืดกางเกงวอร์มตัวเดียวกับเมื่อคืนยังอยู่ครบชุด เลยเอ่ยปฏิเสธอย่างหงุดหงิด “ไม่เห็นโป๊เลย ไม่ได้อ่อยด้วย”
หาว่าอ่อยอยู่นั่น เบื่อพี่คราม
“ไม่ใส่กางเกงในก็โป๊สิ”
กึก ผมชะงัก หันหน้าไปมองพี่เขาช้าๆ คนกล่าวหาขยับยิ้มล้อเลียนก่อนเฉลย
“ตะกี้ออกไปเก็บอึให้สีเทา เจอกางเกงในไม่คุ้นตากอยู่...ของปายใช่ป่ะ”
พรวด! ผมนี่ลุกเลย ใบหน้าเห่อร้อนอีกครั้ง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ากำลังแดงจัด
ก็เออ ของผมเองไงจะทำไมล่ะ ใครมันจะใส่กางเกงในเน่าๆ ได้สองวันติดกัน ผมก็เอาไปซักดิ แต่เรื่องคือซักแล้วตากทิ้งไว้จนลืม มานอนเล่นกับคุณเกรย์จนหลับไป ว่าจะเก็บก่อนที่พี่ครามจะกลับมาแต่ที่ไหนได้…
“ก็ชอบอ่อยอย่างเนี้ยะ”
“ไม่ได้อ่อย!”
ผมลุกพรวดพราดไปยังระเบียง คว้าชั้นในของตัวเองก่อนรีบรุดเข้าห้องน้ำไป เกลียดพี่คราม แซวทำไม แล้วก็ไม่ได้อ่อยด้วย ไม่เคยเลยด้วย หื่นกามคิดไปเองคนเดียวอยู่นั่นแหละ
จัดการตัวเองในห้องน้ำเสร็จก็แง้มประตูออกมา
“ปายมากินข้าวกัน พี่ซื้อมาให้”
ผมเดินไปยังต้นเสียงซึ่งยืนอยู่ที่โต๊ะอาหาร พี่ครามเทกับข้าวใส่ชามก่อนนำมาวางบนโต๊ะ ผมถึงได้สังเกตเห็นว่ามีเก้าอี้เพิ่มมาอีกตัวแล้ว สงสัยพี่ครามไปหยิบมาจากระเบียงจนได้ เห็นมันตั้งมานานแล้วไม่ได้ถูกใช้งานสักที
“เก้าอี้..”
“อ้อ ไปเอามาจากระเบียงแล้วน่ะ จะได้นั่งกินแบบชาวบ้านกันได้ซะที”
“แล้วทำไมพี่ครามต้องเอาไปไว้ข้างนอกอ่ะ”
“ให้สีเทาออกไปตากแดด...”
“...”
“พูดจริงนะ บางทีนอนแต่ในห้องก็คุดคู้ไปเลยเอาเก้าอี้ไปตั้งไว้ บางวันมันก็จะออกไปนอนบนเก้าอี้รับแดดบ้าง”
เขาเฉลย ผมถึงรู้สาเหตุที่เก้าอี้สำหรับนั่งทานอาหารถึงอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง พยักหน้ารับก่อนนั่งลงตรงข้ามกับเขา ลงมือทานข้าว ทำเป็นลืมเรื่องที่พี่ครามแซวก่อนหน้านี้
“วันนี้จะกลับหอมั้ย” พี่ครามเอ่ยถาม เปิดประเด็นบทสนทนาบนโต๊ะทานข้าว
“...”
“ถ้ากลับจะไปส่ง”
“...พี่ครามอยากให้กลับมั้ยอ่ะ” ตอบเป็นคำถาม ไม่กล้าบอกว่ายังอยากอยู่ต่อ กลัวรบกวน ถึงจะรบกวนมาทั้งวันแล้วก็ตาม
“แล้วเราอยากกลับมั้ยล่ะ...”
“...” ผมเงียบ
“งั้นก็นอนนี่ พรุ่งนี้เรียนกี่โมง”
“เก้าโมง” ตอบพร้อมความรู้สึกที่หัวใจพองโตเล็กๆ
“เดี๋ยวไปส่ง ซักชุดนักศึกษารึยังล่ะ” ผมส่ายหน้า ไม่รู้ต้องไปซักที่ไหน แต่ชั้นในนี่ผมซักมือเองนะ ไม่ได้ซักเสื้อด้วยเพราะไม่คิดว่าพี่ครามจะอนุญาตให้อยู่ต่อ เห็นเมื่อวานกระสับกระส่ายอย่างกับอะไร
“เดี๋ยวพี่เอาไปซักให้”
“เดี๋ยวผมเอาไปซักเอง พี่ครามบอกมาเฉยๆ ก็ได้ว่าเครื่องมันอยู่ตรงไหน”
“พี่ซักให้ เราอยู่เฝ้าห้องกับสีเทาไปนั่นแหละ” คนตัวโตเอ่ยขัด ผมอ้าปากหมายจะอาสาเองอีกครั้ง “อย่าเถียง”
เงียบก็ได้
พี่ครามทำตามที่ตัวเองว่าก่อนหน้านี้ พี่เขาใจดีจนผมเกรงใจแต่ก็ไม่ได้อึดอัดใจ ยังดีที่อย่างน้อยเขาก็ให้ผมล้างจานให้ ไม่ปล่อยให้ทำตัวเป็นง่อย
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจของวัน ผมมานอนแผ่อยู่บนเตียงหลังอาบน้ำเสร็จ พี่ครามอาบน้ำทีหลังพอเห็นผมนอนหัวเปียกอยู่จึงจับมานั่งเป่าผมให้ อ้างว่าเดี๋ยวไม่สบาย เดี๋ยวหัวเป็นรังแค เพิ่งรู้ว่าเขารักสวยรักงามก็ตอนนี้ ถึงแม้ว่าผมจะชอบนอนตอนหัวเปียกเป็นประจำแต่ก็ไม่เคยเป็นอย่างที่เขาว่า
ถึงอย่างนั้น การที่พี่ครามเป่าผมให้พร้อมลูบหัวเบาๆ นี่ก็สบายไปอีกแบบ
⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹
น้องไม่ได้อ่อยนะ อีพี่ก็เอาแต่โทษน้องจังง
ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
#คุณเกรย์