☂เหตุเกิดเพราะชอบคุณ☂ Sp3. [31-10-17]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☂เหตุเกิดเพราะชอบคุณ☂ Sp3. [31-10-17]  (อ่าน 90053 ครั้ง)

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
หึหึ

ออฟไลน์ janeta

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-2
บทที่ 5
เหตุเกิดเพราะ...หนังสือชีวะ


อยากได้หนังสือเล่มนี้จัง แต่หาในห้องสมุดไม่เจอเลย TT


สเตตัสของแอลทำให้ผมลุกพรวดจนแบงค์ตกใจ ผมมีเฟซแอลแล้วครับ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของคนตัวเล็กตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย


“อะไรของมึงวะ”


“ดูที่แอลโพสดิ กูจะได้ใกล้ชิดเขาขึ้นอีกขั้นแล้วนะโว้ย” แบงค์รับโทรศัพท์ไปดูแล้วส่งคืนผม


“แล้วหนังสือเล่มเดียวจะไปช่วยให้หนทางรักมึงราบเรียบขึ้นได้ยังไง ผ่านตัวเบ้งนั่นให้ได้ก่อนไหม” แบงค์เพยิดหน้าไปทางร่างสูงที่กำลังนั่งหน้าเครียดอ่านหนังสืออยู่ บนโต๊ะมีหนังสือกองเป็นตั้ง ไม่รู้ว่าเอามาอ่านจริงหรือตั้งโชว์ว่าตัวเองอ่านไปอย่างนั้น


“ผ่านทำไม เลี่ยงไปทางลัดเลยดีกว่า เดี๋ยวกูมา ไปหาหนังสือให้สุดที่รักก่อน” ผมเดินไปเสิร์ชเลขเรียกหนังสือที่คอมพิวเตอร์แล้วไล่หาหนังสือหมวดชีววิทยาที่คนตัวเล็กอยากได้ แต่หาจากซ้ายไปขวา ขวาไปซ้าย บนลงล่าง ล่างขึ้นบน ก็ไม่เจอหนังสือเล่มนั้น ได้แต่เดินคอตกไปหาเพื่อนยากที่นอนเล่นเกมอยู่บนพื้น


“ไม่เจอล่ะสิ กูว่าซื้อหนังสือชีวะไปเลยไหม ไหนๆ ก็หาไม่เจอแล้ว” แบงค์บอก ผมครุ่นคิดอย่างหนักเพราะหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ถูกๆ แต่เมื่อนึกถึงประโยชน์ในระยะยาว ทั้งได้เป็นเจ้าของหนังสือให้แอลยืม หรือถ้าแอลไม่ได้ใช้อย่างน้อยผมก็เก็บไว้อ่านสอบ ได้ประโยชน์ทั้งสองอย่าง ยอมงดขนมไปสักอาทิตย์คงไม่เป็นไร แลกกับว่าที่แฟนแล้ว คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม


“ความคิดดี งั้นเลิกเรียนมึงไปเป็นเพื่อนกูนะ” แบงค์พยักหน้ารับแล้วเล่นเกมต่อ


ผมลุกไปเข้าห้องน้ำ ตอนที่กลับเข้ามาเห็นหนังสือเล่มเดียวกับที่แอลต้องการวางอยู่บนโต๊ะพี่เจต


เหยยยยย แบบนี้ก็ดีน่ะสิ ไม่ต้องเสียเงินแล้ว หึหึ


แต่ขโมยของพี่เจตเท่ากับฆ่าตัวตายนะโว้ย เกิดพี่มันตามล่าขึ้นมาจะทำยังไง


แหม่ ของสาธารณะไหม ใครดีใครได้สิ ยิ่งพี่เจตไม่อยู่แล้วก็หวานหมูสิครับ



ผมมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นเจ้าของโต๊ะอยู่แถวนั้นก็รีบฉวยมาไว้กับตัวเตรียมย่องออกไป แต่เสียงคุ้นหูขัดขึ้น


“จะเอาหนังสือของพี่ไปไหน” พี่เจตถามเสียงเรียบ


“ของพี่ที่ไหน นี่ของห้องสมุดต่างหาก” ผมแหวแล้วชี้ไปที่เลขเรียกหนังสืออย่างเหนือกว่า แต่แล้วก็ต้องก้มหน้าลงเมื่อสบตาพี่เจตมองผมนิ่งๆ


“พี่หยิบก่อน เพราะฉะนั้นสิทธิ์ในการใช้หนังสือเล่มนั้นเป็นของพี่” เราสบตากันนิ่งๆ สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ ยื่นหนังสือคืนพี่เจตไปอย่างจำยอม


“เออ ของพี่”


แต่พี่เจตดันหนังสือกลับมาให้ผม “ยืมอ่านพี่ไม่ว่า แต่อ่านเสร็จแล้วคืนด้วยเพราะพี่ต้องใช้”


ผมมองพี่เจตอย่างอึ้งๆ คนอย่างพี่เจตน่ะเหรอจะยอมให้ของตัวเองแก่คนอื่น แต่อึ้งอยู่ไม่นานผมก็รีบกอดหนังสือไว้แนบอกป้องกันการขอคืนจากพี่เจต


“นั่งอ่านด้วยกันนี่แหละ” พูดจบพี่เจตก็นั่งลงอ่านหนังสือก่อนจะดุผมเบาๆ “อย่ายืนค้ำหัวผู้ใหญ่” ผมจำต้องนั่งเก้าอี้ข้างพี่เจตแล้วทำทีเปิดอ่านหนังสือเล่มนั้น


ความจริงแล้วผมเกลียดวิชาชีวะ เพราะไม่ชอบท่องจำเนื้อหาจำนวนมาก แต่หนังสือเล่มนี้ดีครับ ไม่ได้อธิบายละเอียดยิบย่อยเหมือนหนังสือเรียน เขียนเพียงข้อมความสั้นๆ พร้อมภาพประกอบจึงทำให้ผมเข้าใจมากกว่าหนังสือเรียนที่ใช้ศัพท์เทคนิคอธิบายกระบวนการต่างๆ คือแทนที่ผมจะไปต่อได้กลับต้องมานั่งอ่านคำอธิบายว่าศัพท์นั้นหมายถึงอะไร


สุดท้ายผมก็เลยปล่อยวาง ปล่อยวางหนังสือชีวะให้โดนปลวกแทะ ไม่แตะต้องมันอีก


“เข้าใจไหม” พี่เจตถามโดยไม่มองหน้า ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “นายนั่นแหละ”


“ก็ดีพี่ เห็นภาพชัดดี” จริงครับ ผมนั่งอ่านเพลินจนกระทั่งพี่เจตทักนั่นแหละ


“อืม” แล้วพี่เจตก็เข้าโหมดอ่านหนังสืออย่างจริงจังอีกครั้ง ส่วนผมที่กำลังสนุกกับการอ่านหนังสือเล่มนี้ก็ก้มลงอ่านเงียบๆ เช่นกัน น่าแปลกนะครับที่ผมนั่งอยู่กับศัตรูได้โดยไม่มีปัญหาอะไร


ผ่านไปสักพักพี่เจตก็ลุกขึ้นเดินออกไปเงียบๆ ผมเงยหน้ามองตามร่างสูงไปแล้วก้มลงอ่านหนังสือต่อก่อนฝ่ามือหนักจะฟาดหลังผมอย่างแรง


“มานั่งสวีทอะไรกับพี่เจตวะ เขาไปแล้วเนี่ย รีบฉวยโอกาสนี้เอาหนังสือไปให้แอลสิ” แบงค์มองไปทางห้องน้ำอย่างระแวงแล้วเร่งให้ผมรีบลุกขึ้นเพราะมันถือกระเป๋ามาให้ผมเรียบร้อยแล้ว


“กูไปซื้อเอาก็ได้ เล่มนี้ของพี่เจตมัน” ผมพูดเบาๆ เขาอุตส่าห์มีน้ำใจให้ผมยืมอ่านหนังสือดีๆ เชียวนะ ถือว่ามีบุญคุณเปิดโลกใบใหม่ของชีววิทยาให้ผมเลย


“กูเสิร์ชหาหนังสือเล่มนี้และโทรถามร้านหนังสือแล้ว เขาบอกว่าหมดสต็อกไปเป็นชาติ ถ้ามึงจะเอาใจแอลก็หยิบหนังสือเล่มนั้นไปยืมซะ แต่ถ้าไม่ก็วางคืนพี่เจตไป เลือกเอาสิ” ไม่ต้องคิดเลยว่าผมจะเลือกอะไร คนคุณธรรมสูงส่งแบบผมน่ะ


“ยืมหนังสือครับ” เลือกความรักอย่างแน่นอน


ผมรอบรรณารักษ์ปั๊มวันที่เสร็จแบงค์ก็รีบลากผมหลบมุมทันที ผมชะโชกหน้าไปดูก็เห็นพี่เจตขมวดคิ้วมองซ้ายมองขวาคงกำลังหาตัวผมอยู่


ขอโทษนะพี่ แต่เพื่อแอล ผมยอมทรยศพี่ว่ะ
.
.
.
“เห้ย พูหามาได้ยังไงน่ะ เราหาทั้งวันยังไม่เจอเลย” แอลยิ้มดีใจกอดหนังสือเล่มนั้นแน่น ตอนนี้พักกลางวันครับ ผมโทรถามแอลว่าอยู่ไหนแล้วรีบยื่นหนังสือให้เขา ดีใจที่คนตัวเล็กยิ้มอย่างมีความสุข


“ก็...เราอยู่ห้องสมุดพอดีก็เลยลองหาดู” ผมเกาหัวนิดๆ อย่างเคอะเขิน คือตอนแรกก็ไม่เขินหรอกครับแต่พอเห็นรอยยิ้มน่ารักส่งมาให้หัวใจก็เต้นตึกตักอย่างหยุดไม่อยู่


“ขอบใจน้า ถ้าไม่ได้พูเราต้องแย่แน่ๆ” แอลทำหน้าเศร้า


“ทำไมล่ะ”


“ก็เราได้รับหน้าที่ในกลุ่มให้หาหนังสือมาทำรายงานน่ะ เล่มอื่นเราหาได้แล้ว แต่เล่มนี้ก็หาย้ากยาก เรากลัวว่าเพื่อนๆ จะโกรธน่ะที่หาไม่ได้” แอลกัดริมฝีปากนิดๆ


“อย่ากัดปาก” ผมยกมือขึ้นแตะปากแอล คนตัวเล็กสะดุ้งก่อนแก้มใสจะขึ้นสีอย่างน่ารัก “ข..ขอโทษ เราแค่ไม่อยากให้ปากแอลเป็นแผล”


พูดบ้าอะไรวะไอ้พู ปากเขาเกี่ยวอะไรกับมึง


ก็เดี๋ยวตอนจูบไม่ฟินไงวะ เราต้องดูแลปากว่าทีแฟนให้ดีสิ



ผมไล่ความคิดบ้าบอแล้วบอกลา แต่ก่อนจะไปแอลก็พูดขึ้น


“พู...” ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “เอ่อ ไม่มีอะไร” แอลส่ายหน้าแล้วเดินกลับไปหาเพื่อนที่โต๊ะ ส่วนผมก็เดินเริงร่ากลับไปหาเพื่อนซี้ที่นั่งหน้าซีดอยู่ที่โต๊ะ เป็นอะไรวะ


ทันทีที่เห็นผม แบงค์ก็ถลาเข้ามากอดแขนผมแน่น “เชี่ยถั่ว มาก็ดีแล้ว มึงไม่อยู่กูเกือบถูกฆ่าแล้วรู้ไหม”


“ทำไมวะ”


“พี่เจตมาตามหามึง บอกว่าต้องการหนังสือคืน มึงรีบไปเอาคืนจากแอลดีกว่า กูกลัวมึงโดนกระทืบไส้ไหล”


“เรื่องอะไรล่ะ กูไม่ขอคืนจากแอลหรอก เสียมารยาท เดี๋ยวกูเคลียร์กับพี่เจตเองไม่ต้องห่วงนะมึง” ผมพูดเหมือนไม่ใส่ใจแต่ข้างในนี่สั่นพับๆ เลยครับ แต่จะให้รักตัวกลัวตายยอมเสียรักไปก็ใช่เรื่อง ผมจะสู้กับพี่เจตเพื่อแอลเอง


กินข้าวเสร็จไม่นานผมก็ได้รับข้อความจากพี่เจต


Jet Jetrin กินข้าวเสร็จมาหาพี่ที่หลังโรงเรียน


ผมอ่านข้อความแล้วถอยหายใจอย่างกังวล


กูจะถูกซ้อมไหมเนี่ย
.
.
.
ผมแยกทางกับแบงค์แล้วเดินไปยังหลังโรงเรียนถิ่นที่อยู่ของสมรเพื่อนรัก ขณะที่เดินเข้าไปก็เห็นไอ้พี่เจตลูบหัวสมรที่หลับตาพริ้มเอนหัวซุกมือพี่เจต


พี่เตาะเพื่อนผมเหรอ!


ผมวิ่งเข้าไปอุ้มสมรที่น้ำหนักไม่น้อยออกมาจากพี่เจต แต่เพราะหนักเกินไปจึงล้มหงายหลังลงพื้น ผมหลับตาปี๋คาดไว้แล้วว่าต้องเจ็บตัวแน่นอน แต่สัมผัสที่ได้รับกลับไม่เจ็บอย่างที่คิด


“หงิงๆ” เสียงร้องครางทำให้ผมรีบกวาดตาไปทั่วตัวสมรเพื่อหาบาดแผล ไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่านั่งทับใครอยู่


“อึก” ผมสะดุ้ง หันกลับไปมองพี่เจตที่ทำหน้านิ่งแฝงแววเจ็บปวด เหลือบไปเห็นเลือดสีแดงสดไหลอย่างน่ากลัว ผมรีบลุกจากตัวร่างสูงแล้วปล่อยสมรลงก่อนจะยกแขนพี่เจตขึ้นดูแผล เศษแก้วบาดลึกเข้าไปถึงเนื้อใน ผมแปลกใจที่เขาไม่ร้องสักแอะ


“พี่โอเคไหม” พี่เจตพยักหน้านิ่งๆ ผมจึงค่อยๆ พยุงเขาขึ้นแล้วรีบพาไปยังห้องพยาบาล


ระหว่างทางมีแต่เสียงฮือฮาเมื่อเห็นพี่เจตบาดเจ็บ หลายคนพยายามเข้ามาถามไถ่อาการเขาแต่พี่เจตไม่ตอบอะไร เป็นหน้าที่ผมที่ต้องคอยตอบคำถามและขอทางเพื่อพาพี่เจตไปยังห้องพยาบาล มีรุ่นพี่ผู้ชายหลายคนที่ตัวใหญ่กว่าผมอาสาจะพาพี่เจตไป แต่ผมรู้สึกผิดจึงขอทำหน้าที่นี้เองแม้จะตัวเล็กกว่าพี่เจตมากก็ตาม


“เห้ย ไปคุยกันท่าไหนพี่เจตถึงได้เลือดวะ” เพื่อนซี้ของผมวิ่งเข้ามาทันที มันบอกว่าเพิ่งเห็นภาพจากเฟซเมื่อไม่กี่นาทีก่อนจึงรีบมาหาผม


“ความผิดกูเอง” ผมพูดเสียงอ่อยไม่กล้าสบตาพี่เจต อีกฝ่ายก็นิ่งเงียบไม่หือไม่อือจนผมกลัวว่าจะสลบ แต่จังหวะเท้าที่ก้าวเดินไปด้วยกันก็ทำให้โล่งใจว่าพี่เจตยังมีสติดี


“ทำอะไรของมึง” ผมมองแบงค์ที่กำลังปลดกระดุมเสื้อออก


“ก็ช่วยมึงพยุงพี่เจตไปไง ชักช้าแบบนี้เสียเลือดตายก่อนพอดี”


“แล้วถอดเสื้อทำไม”


“เดี๋ยวเสื้อเปื้อน” เอิ่ม ผมไม่ควรถามคำถามนั้นสินะ ก็รู้ๆ อยู่ว่าไอ้แบงค์หวงเสื้อยิ่งกว่าอะไร


“มึงรีบบอกไปให้อาจารย์เตรียมอุปกรณ์ทำแผลเถอะ เดี๋ยวพอกูพาพี่เจตไปถึงจะได้เริ่มรักษาเลย”


“เออๆ งั้นก็ได้” พูดจบแบงค์รีบวิ่งไปทันที


“ให้เพื่อนนายช่วยพี่ก็ได้” พี่เจตพูดเสียงแผ่ว


“ไม่ได้หรอกพี่ ผมทำให้พี่เจ็บผมก็ต้องรับผิดชอบ ขอโทษนะพี่ ถ้าไม่ใช่เพราะผมแย่งสมรมาพี่ก็ไม่ต้องเจ็บตัว” ผมก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด ความคิดชั่วครู่ของผมทำให้คนอื่นต้องบาดเจ็บ ผมนี่มันใช้ไม่ได้จริงๆ คราวหลังคงต้องคิดให้มาก ต้องไม่ใช้อารมณ์เหมือนวันนี้


“หึหึ ทำไมกลายเป็นรักสามเศร้าเราคนสองหมาหนึ่งตัวไปได้เนี่ย”


“ฮ่าๆ คิดได้นะพี่” ผมหัวเราะออกมา คลายความเครียดเมื่อครู่ไปสนิท


“ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ คิดว่าพี่แส่เข้าไปรับเราก็ได้ อย่างน้อยพี่เจ็บเองก็ยังดีกว่าเห็นนายเจ็บ”


“ห้ะ” ผมฟังประโยคหลังไม่ทันเพราะเสียงรถเครื่องขับผ่านหลังไปพอดี “ประโยคท้ายว่าไงนะ ผมไม่ได้ยิน”


“ช่างมันเถอะ”


เมื่อเรามาถึงห้องพยาบาลผมก็ส่งพี่เจตให้ครูไปทำแผล ส่วนตัวเองก็ยืนอยู่ใกล้ๆ คอยช่วยครูหยิบโน่นนี่จนกระทั่งเสียงออดเข้าเรียนดังขึ้น ผมบอกให้แบงค์เอากระเป๋าผมขึ้นไปเรียนก่อนส่วนผมก็นั่งรอครูทำแผลให้พี่เจต


“นายไปเรียนเถอะ” พี่เจตพูดขึ้นเมื่อครูเริ่มพันแผล แผลพี่เจตค่อนข้างลึกแต่ก็ไม่ถึงขั้นต้องไปโรงพยาบาล


“เดี๋ยวผมรอพาพี่ขึ้นห้องก่อน อะ ไม่ต้องมาปฏิเสธเลย ยังไงผมก็จะพาพี่ไปส่งให้ถึงห้อง” พี่เจตที่อ้าปากจะโต้แย้ง แต่สุดท้ายก็พยักหน้ารับ บทจะว่าง่ายก็ง่ายดีนะ นึกว่าจะต่อต้านเพราะถือว่าตัวเองเป็นพี่ซะอีก


เมื่อพันแผลเรียบร้อยครูบอกข้อควรระวังและสั่งให้พี่เจตไปล้างแผลทุกวันก่อนจะเดินออกไปจัดยาให้ สวนทางกับคนตัวเล็กที่วิ่งพรวดเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก


“เจต! เกิดอะไรขึ้น”


“ล้มนิดหน่อย ไม่เอาอย่าร้องสิแอล” คนตัวเล็กถลาไปกอดพี่เจตแน่น เนื้อตัวสั่นเทาจนน่าสงสาร


ผมทำให้คนตัวเล็กต้องเสียน้ำตา


“นายเองก็เลิกรู้สึกผิดได้แล้ว มันเป็นอุบัติเหตุเข้าใจไหม” เมื่อพี่เจตพูดจบแอลก็ผละออกแล้วมองผมด้วยสายตาเย็นชา คงตัดสินไปแล้วว่าผมทำให้ญาติผู้พี่ของเขาต้องเจ็บตัว แม้จะแปลกใจกับสายตาที่ได้รับ แต่ผมก็ยอมรับผิด


ขอโทษนะแอล


“แอลมองพี่” พี่เจตยกมือข้างที่ไม่เจ็บจับหน้าแอลให้หันไปมองเขา “พูไม่ได้ตั้งใจ เขาไม่ผิด นายจะคิดอย่างนี้ไม่ได้”


แอลพยักหน้านิดก่อนที่จะหันกลับมามองผมด้วยแววตาของแอลคนเดิม ไม่รู้ทำไมคำพูดธรรมดาของพี่เจตถึงมีอิทธิพลต่อแอลขนาดนั้นเพราะแอลส่งยิ้มกว้างให้ผม ต่างจากสายตาเย็นชาที่ผมได้รับเมื่อครู่อย่างกับคนละคน


“ไปเรียนได้แล้วตัวเล็ก เจอกันตอนเย็นนะ” พี่เจตลูบหัวแอล คนตัวเล็กพยักหน้า หันมายิ้มให้ผม แล้วเดินออกจากห้องพยาบาลไป


“มาช่วยพยุงสิ” พี่เจตยกแขนข้างหนึ่งขึ้นรอให้ผมเข้าไปช่วยพยุง ผมรีบรับแขนนั้นมาคล้องคอแล้วพาพี่เจตไปยังห้องเรียน


ระหว่างทางพี่เจตก็บ่นนิดหน่อยเรื่องใช้แขนขวาไม่ได้เพราะเขาต้องทำรายงานเดี่ยวส่งอาจารย์


“ให้ผมช่วยไหมพี่ ถึงผมจะไม่เก่งแต่ก็อยากช่วยนะ”


“นายจะช่วยยังไง มีหนังสือเล่มนั้นเหรอ” ผมชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่พี่เจตจะบาดเจ็บเรากำลังจะเคลียร์เรื่องหนังสือกัน


“เอ่อพี่ คือหนังสือน่ะ...” ยังไม่ทันพูดจบพี่เจตก็แย้งขึ้น


“เอาไปให้แอลแล้วสินะ ช่างเถอะ ที่พี่เรียกนายไปก็ใช่ว่าจะขอหนังสือคืน แต่พี่อยากสอนนายว่าอย่าทำลายความเชื่อใจใคร พี่ให้เรายืมก็เพราะไว้ใจว่าเราจะคืนพี่ แต่เรากลับหนีหายไปเสียอย่างนั้น พี่รู้สึกแย่มากเลยนะ” ผมก้มหน้ายอมรับผิดแต่โดยดี “อย่าทำอีกนะ ไม่ว่ากับใครก็ตาม” ผมพยักหน้ารับคำ แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้ว่า


“มันสำคัญกับพี่มากขนาดนั้นเลยเหรอ”


“ก็ต้องใช้ทำรายงาน ส่งวันจันทร์ด้วย”


ผมหน้าเครียดนิดๆ ไอ้พูนะไอ้พู ไม่น่าเห็นแก่ความรักขนาดนั้นเลย


“เดี๋ยวผมไปขอคืนจากแอลก็ได้” ผมพูดเสียงอ่อย


“ไม่ต้องหรอก มันเสียมารยาทนะ”


“แล้วพี่จะทำยังไงล่ะ”


“อืมมมมม นายบอกว่ายังไงนะ จะช่วยพี่ใช่ไหม” ผมพยักหน้าอย่างว่องไว


“พี่จะให้ทำอะไรไอ้พูจะทำให้หมดครับ!” ผมประกาศลั่น


“หึหึ งั้นเสาร์-อาทิตย์มาช่วยพี่ทำรายงานด้วยนะ”


“ได้เลย”


⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀


กูไม่น่ามาเลย


ผมได้แต่คิดอย่างนั้นซ้ำไปซ้ำมาตั้งแต่มาถึงคาเฟ่ใกล้บ้านพี่เจต


ร้านนี้ตั้งอยู่ระหว่างบ้านผมกับบ้านพี่เจต ตอนแรกผมเข้าใจว่าพี่เจตอยู่ใกล้บ้านแอลเพราะเป็นญาติกัน แต่ความจริงแล้วอยู่คนละที่เลย นั่งรถผ่านทุกวันไม่เคยรู้ว่าไอ้บ้านหลังคาสีแดงโดดเด่นหลังนั้นเป็นบ้านของพี่เจต


แล้วตั้งแต่ที่ผมมาถึงบ้านพี่เจต ร่างสูงก็เอาแต่พูดอยู่นั่นว่าจะต้องกวาดบ้าน จะต้องซักผ้า จะต้องล้างจาน แต่ก็ทำไมได้ เดือดร้อนให้คนดีศรีสยามอย่างผมทำทุกอย่างให้จนเสร็จเรียบร้อย นั่งปาดเหงื่อตากผ้าชิ้นสุดท้ายไม่นานก็ได้กลิ่นไหม้มาจากห้องครัว


สภาพห้องครัวเละไม่มีชิ้นดีเลยครับ ผมมองคนที่สร้างปัญหาตาเขียวแล้วพาเจ้าของบ้านไปนั่งโซฟา เปิดทีวีให้เขานั่งดูไปเงียบๆ


“ขอร้องเถอะพี่ ช่วยอยู่นิ่งๆ สักครึ่งชั่วโมงได้ไหม” ห้านาทีมันน้อยไปครับถ้าต้องจัดการห้องครัวให้กลับมาเหมือนเดิม


“พี่หิวอะ” เสียงท้องร้องประกอบทำให้ผมหัวเราะนิดๆ ต่างจากอีกคนที่ทำหน้าบึ้ง


“เดี๋ยวผมทำให้กินโอเคไหม ช่วยอยู่เฉยๆ สักทีเถอะ” พี่เจตพยักหน้ารับก่อนจะหันกลับไปดูเบนเท็นที่ฉายอยู่ในทีวี


ผมเลือกทำข้าวผัดให้คนตัวโตเพราะวัตถุดิบอื่นๆ ถูกทำลายล้างไปหมดแล้ว ผมอุตส่าห์มาแต่เช้าหวังว่าจะมาฝากท้องที่นี่แต่กลายเป็นว่าต้องมาทำให้เจ้าของบ้านกินเสียเอง


พอทำเสร็จผมก็ยกจานไปวางไว้หน้าทีวีก่อนจะหันหลังกลับไปจัดการห้องครัวให้กลับมาสะอาดเอี่ยมอ่องอีกครั้ง ตอนที่ผมกลับไปหาพี่เจตก็เห็นว่าข้าวยังไม่พร่องเลยสักจาน


“ทำไมไม่กินล่ะพี่ ไหนบอกหิวไง” ผมนั่งลงข้างพี่เจตแล้ววางแก้วน้ำสองใบไว้ข้างๆ กัน


“รอกินพร้อมนาย” พี่เจตสบตาผมก่อนจะละออกไปมองข้าวผัดเย็นชืดในจาน “พี่กลัวตายคนเดียว”


“กลัวตายก็ไม่ต้องกิน” ผมเอื้อมมือจะหยิบจานพี่เจตออกมาด้วยความโมโห แต่พี่เจตยึดจานไว้กับตัว


“ไม่ได้บอกว่าจะไม่กินสักหน่อย” พูดจบพี่เจตก็พยายามใช้มือซ้ายตักข้าวแต่ดูลำบากเกินไป ผมจึงแย่งช้อนจากมือพี่เจตแล้วตักข้าวจ่อปากเขา


“อะ” พี่เจตอึ้งไปนิดก่อนอ้าปากงับช้อนที่ผมยื่นให้ ผมรู้สึกร้อนหน้านิดๆ เมื่อพี่เจตไม่ละสายตาจากผม ไม่รู้จะมองอะไรนักหนา เคี้ยวไปซักพักก็ทำตาโตใส่ผม


“นายแอบไปซื้อมาใช่ไหม”


ผมส่ายหัวยิ้มๆ ก้มลงตักข้าวกินเช่นกัน “อร่อยก็บอกมาเถอะพี่” มุกนี้ผมเจอมาตลอด พ่อมักจะชมว่าผมทำกับข้าวอร่อย แต่แม่บอกว่างั้นๆ เสมอ


ครับ ไม่มีใครสู้สามีคุณนายเขาได้หรอก


“อืม อร่อย อยากกินอีกจัง” คำพูดของพี่เจตทำให้ผมเกือบสำลักข้าว ดีนะที่กลืนไปแล้ว


“แม่พี่ไม่ทำให้กินหรือไง” ผมยกน้ำขึ้นดื่ม อันที่จริงตอนเข้ามาในบ้านผมก็สงสัยว่าพ่อกับแม่พี่เจตไปไหน เพราะวันนี้เป็นวันหยุด นึกว่าจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาซะอีก


“แม่เสียไปนานแล้ว ส่วนพ่อก็ทำงานที่ต่างจังหวัดน่ะ นานๆ จะกลับมาที” พี่เจตมองรูปครอบครัวที่ตั้งอยู่ข้างทีวีด้วยสายตาเลื่อนลอย


“เอ่อ ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”


พี่เจตส่ายหน้า “ช่างเถอะ แม่พี่ไปสบายแล้ว พ่อพี่เองก็คงมีความสุขจนลืมพี่ไปแล้วล่ะมั้ง ฮะๆ” ไม่รู้ทำไมเสียงหัวเราะของพี่เจตถึงดูเศร้าขนาดนั้น ผมไม่ได้พูดอะไรอีก ตักข้าวป้อนพี่เจตสลับกับกินเอง บางครั้งก็ลืมตัวใช้ช้อนพี่เจตตักกินเองและใช้ช้อนผมตักให้พี่เจตกิน ไปๆมาๆ ผมก็ไม่รู้แล้วว่าช้อนใครเป็นช้อนใคร ก็เลยปล่อยเลยตามเลยจนกระทั่งหมดทั้งสองจาน


“อิ่มแปล้เลย ขอบใจนะ” พี่เจตลูบท้องตัวเอง


“ยินดีให้บริการครับคุณชาย” ผมเก็บจานไปล้างแล้วกลับมานั่งข้างพี่เจต


“แล้วนี่เราจะเริ่มทำงานกันเมื่อไหร่พี่ งานบ้านผมก็จัดการให้หมดแล้ว” ใช่ครับ กางเกงในพี่มันผมก็ซักให้อะคิดดู


“เริ่มเลยก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่ไปเอาโน้ตบุ๊กกับหนังสือก่อน”


“ไปด้วยสิ พี่คงไม่คิดว่าตัวเองจะถือไหวหรอกนะ”


พี่เจตคิดอย่างชั่งใจ “อ่า นั่นสิ ตามมาๆ”


ผมเดินตามพี่เจตไปจนถึงหน้าห้องเล็กข้างห้องนอนพี่เจต ส่วนห้องนอนของเขาผมเข้าไปทำความสะอาดมาแล้ว ไม่คิดว่าคนที่ดูสะอาดอย่างนี้จะโคตรซกมกเลย ส่วนห้องเล็กพี่เจตไม่ยอมให้ผมเข้าไปทำความสะอาด เห็นบอกว่าเป็นห้องทำงานของแม่เขา


“นายรออยู่ตรงนี้ ห้ามเข้าไปเด็ดขาด”


“ทำไมล่ะพี่ หนังสือมันหนักนะ พี่ถือไหวเหรอ” พูดจบผมก็แตะลูกบิดประตูแต่พี่เจตใช้แขนข้างที่ไม่เจ็บดึงแขนผมออก


“บอกว่าอย่าเข้าไปไง!” ผมสะดุ้งเฮือก พี่เจตเสยผมไปข้างหลังแล้วพูดเสียงอ่อนลง


“อยู่ตรงนี้นี่แหละ” พูดจบพี่เจตก็เดินเข้าห้องแล้วล็อกประตูทันที ทิ้งผมให้ยืนอยู่หน้าห้องด้วยความสงสัยว่าข้างในนั้นมีความลับอะไรซ่อนอยู่


ผมยืนเงี่ยหูฟังเสียงครืดคราดข้างใน ถ้าอยู่ในหนังสยองขวัญผมคาดว่าฆาตกรอย่างพี่เจตกำลังลากศพอยู่ในห้องอย่างแน่นอน แต่เพราะต่อมาประตูแง้มออกนิดๆ และพี่เจตก็ส่งหนังสือให้ผมทีละเล่มผ่านช่องเล็กๆ ก็เข้าใจว่าเสียงที่ได้ยินคือเสียงลากหนังสือ แต่ทำไมต้องพยายามขนาดนั้น


พี่เจตก็พยายามยืนบังแล้วส่งหนังสือโดยไม่เปิดโอกาสให้ได้สำรวจข้างในเลย พอครบพี่เจตก็ไล่ให้ผมเอาหนังสือไปไว้ที่โต๊ะ เดี๋ยวเขาจะหยิบโน้ตบุ๊กตามออกมา


ประตูปิดลงอีกครั้งยิ่งทวีความอยากรู้มากขึ้น แต่จะให้ล้วงความลับวันนี้คงไม่ได้ ไว้รอมาบ้านพี่เจตอีกครั้งค่อยแอบเข้าไปดีกว่า ยังไงผมก็รู้ว่ากุญแจห้องซ่อนอยู่บนตู้เย็น


เดี๋ยวนะ จะมาบ้านพี่เจตอีกทำไมวะเนี่ย บ้านแอลสิที่ต้องไปบ่อยๆ


⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀


ณ ค่าเฟ่แถวบ้านพี่เจต


ตัดกลับมาปัจจุบันที่ผมคนนี้กำลังนั่งพิมพ์เนื้อหาตามที่พี่เจตพูดและเขียนไว้บนกระดาษอย่างเบื่อหน่าย ผ่านไปประมาณสองชั่วโมงผมก็ขอพักครึ่ง


“โหพี่ ม.6 เขาต้องทำรายงานกันแบบนี้เลยเหรอ” พี่เจตพยักหน้า


“ก็ทำทุกปีไม่ใช่หรือไง จะบ่นอะไรอีก”


“ก็หาจากเว็บไงพี่ ก็อปวางเอา อีกอย่างไม่ได้ทำคนเดียวด้วยทำเป็นกลุ่ม”


“แล้วนายเข้าใจเนื้อหาที่ทำหรือเปล่า หรือแค่ส่งๆ ไปเพื่อให้มีคะแนน” พี่เจตทำหน้าดุ


“ก็เข้าใจนะพี่ เขาสรุปมาให้แล้ว เร็วดีด้วย” ผมตอบยิ้มๆ หยิบแก้วกาแฟมาดูดเพื่อเติมพลัง คาเฟ่นี้ดีครับ เย็นสบายเพราะเปิดแอร์ตลอด ผมมองแดดนอกร้านแล้วส่ายหน้า ไว้ค่ำๆ โน่นแหละผมถึงจะกลับบ้าน


สรุปเสร็จผมก็ตักเค้กมะพร้าวอ่อนกิน พี่เจตออกค่าน้ำค่าขนมทั้งหมดครับ รู้อย่างนี้ทำให้พี่มันเจ็บตัวบ่อยๆ ก็ดีมีคนเลี้ยงด้วย


เดี๋ยวนะ หรือว่าไม่ดีวะ


“มันจะติดเป็นนิสัยนะ นายต้องทำความเข้าใจด้วยตัวเองสิ อย่าไปลอกจากเน็ตมามาก พี่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ให้ใช้เลย แต่อยากให้นายดูด้วยว่าข้อมูลที่นายก็อปมาน่ะถูกหรือเปล่า อย่าสักแต่ทำงานชุ่ยๆ สิ”


“ครับๆ” ผมตอบรับส่งๆ แล้วตักเค้กกินอีก


ผมไม่ใช่พ่อหนุ่มเลิศเลอแบบพี่นี่หว่า เนื้อหายาวเหยียดขนาดนั้นจะให้มานั่งอ่านเพื่อย่อยทำรายงานแล้วเมื่อไหร่จะเสร็จล่ะ แค่อ่านก็หมดเวลาแล้ว


“นายเนี่ยน้า” พี่เจตส่ายหน้า ทำไมครับ ผมทำไม นั่งทำหน้างงไม่นานพี่เจตก็ใช้ปลายนิ้วปาดคราบครีมออกจากมุมปากของผมอย่างแผ่วเบา “กินเลอะเป็นเด็กๆ”


“บอกก็ได้มั้ง มือเลอะหมด” ผมมองหาทิชชู่โต๊ะอื่นเพราะโต๊ะผมไม่มี สบตาเข้ากับเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่ยิ้มให้ บนโต๊ะพวกเธอมีกล่องทิชชู่อยู่ผมจึงเดินเข้าไปขอมาสองสามแผ่น


“ขอบคุณครับ”


“พี่เป็นอะไรกับพี่คนนั้นเหรอคะ” เด็กสาวผมเปียถามผมด้วยดวงตาเป็นประกาย ใบหน้าใสดูแล้วคงอยู่ม.ต้น


“รุ่นพี่รุ่นน้องครับ” ผมเดินกลับมาที่โต๊ะแต่ไม่วายได้ยินเสียงแว่วมา


“อร้ายยยย รุ่นพี่รุ่นน้องว่ะพวกมึง”


“พล็อตใหม่ๆ รีบแต่งเลยอีแจงกูรออยู่”


“ได้ค่ะเพื่อนๆ”


“มีอะไร” ผมส่ายหน้าแล้วดึงมือพี่เจตมาเช็ดครีม แต่ไม่เหลือคราบอะไรให้ผมเช็ดเลย


“ซกมกก็ควรมีขอบเขตนะพี่ เอามือเปื้อนไปเช็ดเสื้อผ้าได้ยังไง” ดูท่าแล้วคงไม่พ้นเช็ดเสื้อตัวเองอย่างแน่นอน


“เออน่า”


“แล้วนี่แอบกินเค้กผมเหรอ” ผมมองปากพี่เจตที่มีคราบครีมนิดๆ ถ้าไม่สังเกตก็คงไม่เห็นหรอก แต่น่าสงสัยตรงที่เค้กในจานไม่พร่องนี่สิ หรือแอบกินครีมข้างจานวะ


“เอ่อ...เออ นายอยากกินเพิ่มก็ไปสั่งไป”


“จริงนะพี่” ผมตาวาว พอเห็นพี่เจตพยักหน้าผมก็เดินเริงร่าไปเลือกเค้กชิ้นที่สองทันที ตอนแรกก็เกรงใจครับ แต่ไหนๆ พี่เจตก็แอบกินครีมเค้กผมไปแล้ว สั่งเพิ่มอีกชิ้นก็เป็นเรื่องสมควรใช่ไหมล่ะ อิอิ







Tbc.






⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀
น้องพูจ๋า มั่นใจเหรอคะว่าพี่เขากินครีมบนจานหนูน่ะ  :hao3:

ชอบตอนนี้กันไหมอ่า เม้นบอกด้วยน้าาาาาา
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-03-2017 03:45:56 โดย janeta »

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ชัดเจนว่าพี่เจตกินครีมที่เลอะจากปากพู กรี๊ดดดดด ชอบน้องใช่ไหมคะ ฮันแน่  :hao6: แล้วที่ห้องข้างห้องนอนนี่มีความลับอะไรคะ ไม่ใช่ว่าแปะรูปน้องพูไว้เต็มห้องนะ  :hao7:
มีเรื่องสงสัยอีกเรื่อง เป็นไปได้ไหมว่าแอลชอบเจต แต่เจตชอบพู สังเกตจากเจตบอกให้แอลไม่โกรธพู แอลก็ทำตาม เดี๋ยวนะแล้วที่พูท้องเสียไม่ใช่ว่าแอลจงใจนะ นี่เราคิดมากไปไหม  :serius2:
มาต่อเร็วๆนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ tonnum18

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่เจตเนี่ยคงจะรักและหลงน้องพูแน่ๆ

แต่เผอิญน้องพูซื่อบื้อ  เพราะตอนนี้พูอะไรก็แอล

แต่ดูเหมือนพูจะตามเจตไม่ทันอ่ะน่ะ เพราะเห็นแก่กิน

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  ไปๆมาสองคนนี้ได้กันเองคงไม่ใช่แอลล่ะ 5555

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
แอลชอบเจตแน่นอนนนนน

ออฟไลน์ janeta

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-2
บทที่ 6
เหตุเกิดเพราะ...ที่นั่ง



วันนี้ผมมาเดทครับ


“พูๆ ทางนี้” แอลโบกมือเรียกผมอยู่หน้าโรงหนังด้วยรอยยิ้มเช่นเคย คนตัวเล็กใส่เอี้ยมยีนส์สวมทับเสือยืดสีขาวลายลูกหมูสีชมพูน่ารัก


อยากได้แอลกลับบ้านต้องทำยังไงอะ งื้อ


“ช้า” พี่เจตเดินออกมาจากข้างเสาแล้วมองผมอย่างไม่สบอารมณ์


เออ ผมก็ไม่สบอารมณ์เหมือนกันนั่นแหละ แอลอุตส่าห์ชวนผมมาเที่ยวทั้งทีไม่รู้จะตามมาด้วยทำไม








เมื่อวาน


หลังจากช่วยพี่เจตทำรายงานจนเสร็จเรียบร้อยผมก็พารุ่นพี่สุดหล่อไปล้างแผลที่คลินิกแถวนั้น ระหว่างรออยู่ข้างนอกแอลก็โทรมาหาผมแล้วชวนไปดูหนังพรุ่งนี้ด้วยกัน คุยงุ้งงิ้งกันได้แป๊บเดียวพี่เจตที่เดินออกจากห้องมาก็พูดแทรก พอคนปลายสายรู้ว่าผมอยู่กับญาติผู้พี่ของเขาก็รีบขอสายทันทีเพราะติดต่อพี่เจตไม่ได้ทั้งวัน


“มือถืออยู่บ้าน” ร่างสูงตอบแอล


ใช่ครับ ชาร์จโทรศัพท์ไว้ที่บ้านตั้งแต่เช้า ผมก็อุตส่าห์เตือนให้หยิบตั้งหลายครั้งแต่พี่เจตก็ลืม ไม่รู้ป่านนี้แบตเสื่อมไปหรือยัง


คุยกับแอลสักพักพี่เจตก็รู้นัดหมายของเรา เขาขอไปด้วยหน้าตาเฉยไม่สนใจผมที่ฮึดฮัดฟึดฟัดเลยสักนิด


คนเขาจะไปเดทเข้าใจหรือเปล่าเนี่ย








“ดูเรื่องอะไรดีพู เจต” แอลมองผมสลับกับร่างสูงเพื่อขอความเห็น


“ตามใจแอล/แล้วแต่แอล” เราสองคนพูดพร้อมกันโดยไม่ได้ตั้งใจ แอลหัวเราะคิกคักก่อนจะยกมือทำท่าโอเค


“ไว้ใจแอลได้เลย” รอยยิ้มของแอลดูแปลกๆ จนผมอดกังวลไม่ได้ แต่พอจะเดินตามร่างเล็กไปก็ถูกฉุดไปทางเคาน์เตอร์ขายป็อบคอน


“ซื้อเตรียมไว้เลย เดี๋ยวแอลมาจะได้เข้าโรง” พี่เจตสั่งป็อบคอนหนึ่งถังกับน้ำสองแก้ว


“รีบซื้อทำไมล่ะพี่” ผมทำหน้าฉงน ปกติต้องดูตั๋วว่าจะได้รอบกี่โมงก่อนแล้วค่อยซื้อของกินไม่ใช่รึไง


พี่เจตเหลือบมองผมแล้วยิ้มมุมปาก “เชื่อพี่สิ” อะไรทำให้พี่มั่นใจขนาดนั้นครับ


“มาแล้ว” แอลยิ้มร่ามาพร้อมตั๋วหนังสามใบ ผมไม่ได้ดูหรอกว่าเรื่องอะไรเพราะพี่เจตส่งสายตาให้ผมรับน้ำสองแก้วไปถือ ส่วนแอลก็รับป็อบคอนจากพนักงานพอดี


“ไปกันเลยไหม” พี่เจตถามพลางลูบหัวคนตัวเล็ก แอลพยักหน้ายิ้มๆ แล้วเดินเข้าโรงหนังไป ทิ้งให้เราสองคนมองตามคนตัวเล็กที่ดูร่าเริงกว่าปกติ ผู้ชายหลายคนเหลียวหลังมองแอลแล้วยิ้มเอ็นดู


แต่ชายคนหนึ่งยืนหลบมุมจ้องคนตัวเล็กตาไม่กระพริบดูไม่น่าไว้ใจอย่างไรบอกไม่ถูก ยังไม่ทันได้คิดมากไปกว่านั้นพี่เจตก็ยกแขนขึ้นคล้องคอผม


“ปะ เข้าโรงกัน”


“ทำอะไรของพี่เนี่ย” ผมบ่นอย่างหัวเสีย จะเอาออกก็ไม่ได้เพราะถือแก้วน้ำไว้ทั้งสองมือ ได้แต่เดินไปตามแรงของร่างสูง


แอลเดินนำเข้าไปนั่งด้านในสุดแล้วกวักมือเรียกเราทั้งคู่ ผมรีบสะบัดตัวออกจากพี่เจตแล้วเดินไปนั่งข้างแอลทันที


ไม่นกนะครับหึหึ


แต่พอได้อยู่ใกล้กัน รับรู้ถึงไออุ่นจากคนข้างตัว หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นจนกลัวว่าคนข้างๆ จะได้ยิน คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันที่ผมได้อยู่ใกล้แอลมากขนาดนี้


“อะแฮ่ม” เสียงกระแอมไอจากคนข้างตัวขัดขึ้นอย่างไร้มารยาท แต่สำหรับคนตัวเล็กคงไม่ใช่


“เจตไม่สบายเหรอ” แอลยืดตัวถามพี่เจต ผมกลั้นหายใจเมื่อแก้มใสเฉียดจมูกผมไปนิดเดียว


“พี่ว่าพูจะตายก่อนนะ กลั้นหายใจอยู่นั่น” แอลเหลือบมองผมก่อนจะเบิกตากว้างรีบกลับไปนั่งนิ่งด้วยใบหน้าแดงก่ำ


“ขะ...ขอโทษนะ”


“ฮื่อ ไม่เป็นไร” ผมส่ายหัวอย่างไม่คิดอะไรทั้งที่ใจเต้นแรงมาก ยอมรับเลยว่าถ้าพี่เจตไม่ขัดขึ้นผมอาจจะตายจริงๆ ก็ได้


“ดะ...เดี๋ยวเราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เมื่อหน้าจอเริ่มฉายโฆษณาคนตัวเล็กก็ลุกขึ้นรีบเดินออกไปทันที ทิ้งให้ผมมองตามไปด้วยความเอ็นดู


ไว้เป็นแฟนเมื่อไหร่จะฟัดแก้มให้ช้ำเลย


“ไม่ตามไปเหรอ” เสียงทุ้มถามขึ้นโดยไม่มองหน้าผม “เผื่อมีใครเล็งแอลไว้แล้วใช้จังหวะนี้เข้าหาแอล” ผมคิดตามคำพูดพี่เจต ก่อนภาพชายคนนั้นจะแวบเข้ามาในหัว


“เดี๋ยวมานะพี่” ผมรีบลุกตามคนตัวเล็กไป  บางทีใครคนนั้นอาจใช้จังหวะนี้เข้าหาแอลก็ได้


“อ้าวพู” แอลที่ล้างมืออยู่หันมาหาผมที่กวาดตาไปทั่วห้องน้ำ เมื่อเห็นว่านอกจากแอลแล้วไม่มีใครก็โล่งใจ “มีอะไรหรือเปล่า” ผมส่ายหน้าแล้วชวนคนตัวเล็กกลับเข้าไปข้างใน


“เจต ทำไมมานั่งนี่อะ” ผมมองพี่เจตที่สวมรอยนั่งที่ผมอย่างเนียนๆ


โถ ไอ้เราก็ก็คิดว่าพี่มันเปิดโอกาสให้โชว์แมน ที่แท้จงใจขัดขวางแผนเดทชัดๆ เลย


“พี่อยากนั่งข้างแอลนี่” คนตัวเล็กที่นั่งลงยิ้มๆ ไม่ถามอะไรต่อ เป็นอันเข้าใจว่าที่นั่งที่เหลืออยู่อย่างไรก็ต้องเป็นของผม


ผมจิ๊ปากอย่างขัดใจแต่ก็ยอมนั่งลงอย่างไม่มีทางเลือก


หนังเริ่มฉายไปได้สักพักผมก็เริ่มอยู่ไม่สุข มือชื้นเหงื่อและหัวใจเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ


คงไม่ใช่อย่างที่ผมคิดใช่ไหม


ผ่าง!


ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อชื่อหนังโผล่ขึ้นบนหน้าจอ


ผี-ตาม-ผัว


ฉิบหายหนังผี


ผมชะโงกหน้าไปมองแอล คิดว่าคนตัวเล็กคงเป็นเหมือนกัน แต่เปล่าเลย ดวงตาแอลเปล่งประกายเหมือนเจอเรื่องสนุกอย่างไรอย่างนั้น


“แอลชอบหนังผี เผื่อนายอยากรู้” คำพูดนิ่งๆ จากคนข้างๆ ยืนยันได้อย่างดีว่าผมคิดผิดที่ให้แอลเลือกหนัง


ฮือ แอลทำร้ายเราทำมายยยยย


“แขนพี่ยังว่าง ถ้ากลัวก็ซุกได้นะ” พี่เจตพูดยิ้มๆ ยิ้มเยาะละสิไม่ว่า เรื่องอะไรจะให้พี่มันรู้ล่ะว่าผมกลัวผี


“เหอะ ไม่ทาง” ผมกอดอกเชิดหน้ามองหน้าจอ


หนังดำเนินไปเรื่อยๆ เรื่องราวของสามีที่รักภรรยามากจนยอมลาออกจากงานมาดูแลเธอที่ป่วยด้วยโรคร้าย ก็ดูเป็นครอบครัวที่รักกันมากจริงๆ ครับ แต่พอเมียตายได้สามวันสามีก็ออกเที่ยวลั้นลาไปกับหญิงสาวคราวลูก ทั้งสองพากันมาที่โรงแรมแห่งหนึ่งนัวเนียกันอยู่บนทางเดิน ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะกรีดร้องแล้วถูกกระชากออกไปพร้อมกับหน้าจอที่ดับวูบ


ผมเผลอจิกเบาะด้วยความกลัว ลางสังหรณ์บอกว่าผีจะโผล่มา


ผ่าง


เฮือก!


ผมไม่สนแล้วครับว่าคนข้างตัวเป็นใคร รีบหลับตาปี๋ซุกแขนเขาทันที ขอไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวก่อนก็แล้วกัน ความบาดหมางใดๆ ไว้ค่อยสะสางหลังออกจากโรง


“หึหึ” พี่เจตหัวเราะในลำคอ แต่ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาต่อล้อต่อเถียง เสียงหวีดร้องและเสียงครืดคราดจากหน้าจอยังคงดังอยู่เป็นระยะ


“กลับไปกับกู!”


เฮือก!


“กลับเชี่ยอะไรล่ะ ฮือ” ผมปล่อยน้ำตาออกมาอย่างสิ้นอาย บีบแขนแกร่งแน่นพลางเบียดหน้าเข้าไปมากกว่าเดิมด้วยความกลัว


“เฮ้ ร้องไห้เลยเหรอ” พี่เจตพยายามจะเอาแขนออกแต่ผมยึดไว้


ไม่เอานะ อย่าเอาแขนออกไป


“ออกจากโรงไหม” เสียงกระซิบข้างหูเหมือนเสียงสวรรค์ ผมรีบพยักหน้ารับ แต่แล้วก็ส่ายหน้าเมื่อฉุกคิดได้ว่าออกไปยังไงก็เห็นจอ สู้อยู่ในนี้จนจบเรื่องแต่ไม่เห็นอะไรยังดีซะกว่า


“เดี๋ยวพี่พาออกไปเอง รับรองนายไม่ทันได้เห็นอะไรหรอก” ผมเผลอเงยหน้ามองรอยยิ้มละไมที่ส่งมาให้ แล้วลุกตามโดยไม่ละสายตาจากพี่เจต ตอนนี้มองหน้าศัตรูยังไงก็ดีกว่าผีในจอ


กรี๊ดดดดดดดดดดดด


ผมซุกอกพี่เจตอย่างลืมตัว แข้งขาอ่อนเปลี้ยไปเสียอย่างนั้น ปล่อยให้ร่างสูงค่อยๆ พาออกมาจนถึงหน้าประตู พอออกมาได้ผมก็ทรุดตัวลงนั่งพื้นอย่างหมดสภาพ




กูรอดแล้ว



“อุ๊บ ฮ่าๆ” ผมเงยหน้ามองคนที่ยืนหัวเราะจนตัวงอ


“สะใจมากไหมพี่” ผมมองพี่เจตตาขวางแล้วพยุงตัวเองขึ้นยืน ขาผมยังสั่นอยู่เลย


“ไม่คิดว่านายจะกลัวถึงขั้นนี้ เด็กน้อยเอ้ย” พี่เจตโยกหัวผมก่อนจะยกแขนขึ้นคลองคอ “ปะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงขนมปลอบใจ ดีไหม” เหอะ คิดเหรอว่าขนมชิ้นเดี๋ยวจะทำให้ผมหายกลัวได้


“ขอบุฟเฟ่เค้ก” ผมตอบอ้อมแอ้ม


“หึหึ” พี่เจตไม่ตอบอะไรนอกจากพาผมลงลิฟต์มาชั้นล่างที่มีร้านเค้กแสนอร่อย ระหว่างนั้นผมรู้สึกเหมือนลืมบางอย่างที่สำคัญแต่คิดไม่ออกว่าคืออะไร


“พี่เจต เราลืมอะไรหรือเปล่า”


“ไม่มีนี่” คนตัวโตส่ายหัวแล้วเดินเข้าร้านเค้ก


“เหรอ”


ลืมอะไรวะ





Tbc.





⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀
สรุปใครมาเดทกับใครคะเนี่ย 555  :o8:
ปล.แอลไม่ใช่ตัวร้ายน้า แต่น้องมีบางอย่างที่ยังไม่ได้เฉลยหุหุ  :hao3:
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ค่ะ
   :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-03-2017 03:53:52 โดย janeta »

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  อ่านตอนดูหนังผีล่ะ พูเป็นเมียพี่เจตอะดีล่ะ อย่าเป็นผัวแอลเลย 555 แอลเขามีคู่ของเขาแล้วแน่ๆ
  รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ tonnum18

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พูน่าจะชอบมองความน่ารักสดใสแอล คงไม่ได้รักหรอก
ส่วนเจตคิดว่ารักน้องพูอยู่แล้ว  โดยอาศัยเรื่องที่พูชอบแอล
เพื่อเข้ามาใกล้ชิดกับน้องพูอีกทางหนึ่ง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ลืมแอลไงล่ะ โถ่ อีกคนก็พี่ อีกคนก็ชอบเค้า แต่หนีไปสวีทกันซะงั้น
ตอนแรกนึกว่าแอลจะมาร้ายซะแล้ว เราคิดมากไปเอง เย้
ยังยืนยันคำเดิมว่าพี่เจตนี่เนียนแน่ๆ แอบชอบน้องแน่ๆ เอาใจช่วยให้น้องรู้ตัวเร็วๆนะ :laugh:

ออฟไลน์ papapajimin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เอิ่ม....ลืมแอลไง อนาคตแฟนพูไม่ใช่หรอ
เราว่าตอนนี้ไม่น่าใช่แล้วแหละ 555555
พูน่าร้ากกกกก

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ลืมแอลไง o16
พี่เจตนี่ก็เนียนจังเลยนะ 55555

ออฟไลน์ janeta

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-2
บทที่ 7
เหตุเกิดเพราะ...อดีต



[แอล]


ทั้งคู่ลืมผม


แต่เอาเถอะ ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรอยู่แล้วเพราะดูหนังสนุกกว่าดูฉากสวีทของสองคนนั้น และผมคาดว่าพี่ชายตัวดีคงเนียนจีบพูไปเรื่อยๆ จนกว่าเจ้าตัวจะรู้นั่นแหละ


ผมเคยถามเจตว่าชอบพูเหรอ เขาก็ส่ายหน้าบอกว่าไม่ได้คิดอะไร แค่จะช่วยกันท่าให้ผม แต่ทำไมดูสนิทกันมากขึ้นทุกวันก็ไม่รู้นะครับ


ผมรู้ดีว่าพูชอบผม แต่เพราะไม่อยากทำลายมิตรภาพจึงยังไม่กล้าปฏิเสธไปตรงๆ ปล่อยให้เจตลองใกล้ชิดเพื่อนใหม่ดูเผื่อพูจะเปลี่ยนใจจากผมไปชอบพี่ชายของผมบ้าง


พูก็น่ารักดี แต่ยังไม่ใช่สำหรับผม อีกอย่างไปแย่งของๆ พี่ดีไม่ดีจะถูกฆ่าซะก่อน ดูก็รู้ว่าหวง ตอนผมเจอพูครั้งแรกยังกล้าประกาศใส่ผมเลยว่าคนนี้ห้ามยุ่ง


หวงตั้งแต่ยังไม่เป็นอะไรกับเขาเลยด้วยซ้ำนะพี่ชายของผมเนี่ย


“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดูมีความสุขนี่” เสียงคุ้นหูที่ผมไม่อยากได้ยินดังขึ้นก่อนเจ้าของเสียงจะปรากฏตัว “ยังชอบหนังผีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” สายตาคมกริบสบตาผม ผมเบิกตากว้างก่อนจะรีบถอยหลังหนีผู้ชายตัวใหญ่


‘พี่ตั้น’


หัวใจของผมเต้นรัวอย่างตื่นตระหนก เมื่อคนในอดีตกลับมาอีกครั้ง ความทรงจำอันเจ็บปวดก็หวนกลับมาทำร้ายผมทีละน้อย


ผมในวัยสิบห้าเข้ามาเรียนมัธยมปลายในโรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง ผมต้องจากญาติผู้พี่แสนรักเพราะเหตุการณ์เลวร้ายในวัยเด็ก และการได้มาอยู่ที่นี่คือความยินยอมของทั้งตัวผมและเจต เราจำเป็นต้องห่างกันเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น


ผมได้พบเพื่อนใหม่ ทุกคนเข้ามาทำความรู้จักผมไม่ขาดสาย โลกของผมกว้างขึ้นเมื่อหลุดออกจากอ้อมแขนของเจต ผมคิดว่านั่นคืออิสระ แต่สุดท้ายผมก็ถูกจับกักขังในกรงแทน


กรงที่ทั้งสกปรกและโสโครก


พี่ต้นคือผู้ชายคนแรกที่ผมแอบชอบ ผมเจอเขาที่สวนหย่อมของโรงเรียน กายสูงโปร่งและใบหน้าแย้มยิ้มอยู่เสมอประทับอยู่ในความทรงจำของผม รอยยิ้มอบอุ่นที่มอบให้กันทุกครั้งทำให้ผมตกหลุมรักเข้าเต็มเปา เขาชวนไปไหนผมก็ไป เขาต้องการอะไรผมก็หามาให้เสมอ บางทีแม้เขาไม่ได้พูดกับผมว่าอยากได้ ผมก็ทำตัวเป็นสตอกเกอร์แอบเอาไปให้ทุกครั้ง


นั่นเป็นความสุขเล็กๆ ของผมที่ได้ทำเพื่อคนที่ชอบ


แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็เรียกผมไปยังหลังโรงเรียน ที่ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าเป็นแหล่งมั่วสุมของเหล่าอันธพาลที่ชอบยกพวกตีกับโรงเรียนอื่น


เมื่อไปถึง ผมไม่เห็นแม้แต่วี่แววของพี่ต้นเลย เหลือเพียงพี่ตั้นฝาแฝดของเขาที่มีใบหน้าเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว พี่ตั้นบอกความจริงให้ผมฟังว่าพี่ต้นขอให้เขาจัดการผม เพราะรำคาญที่ผมคอยตามเป็นลูกหมาโง่ๆ เขาจะจีบผู้หญิงก็ไม่ได้ จะไล่ก็ไม่ได้เพราะเสียภาพลักษณ์ที่สร้างมา


ผมสัญญากับพวกเขาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพี่ต้นอีกแล้ว ถ้าเขารำคาญ ผมก็จะถอยไปเอง แต่พี่ตั้นไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น เขาไม่เชื่อว่าผมจะยอมถอยไปง่ายๆ และให้บทเรียนที่ผมต้องจำไปจนตาย ไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสองแฝดอีกเลย


แต่พี่ตั้นไม่ยอมจบง่ายๆ เขาใช้คลิปที่แอบถ่ายผมไว้เพื่อขู่ให้ผมทำตามคำสั่งเขา ไม่อย่างนั้นเขาจะส่งคลิปให้พ่อกับแม่ของผม ผมกลัวเรื่องจะรู้ถึงหูพ่อกับแม่ที่ผมรักจึงยอมทำตามทุกอย่าง


ยอมอมไอ้ของน่ารังเกียจนั่นเมื่อเขาอยาก


ยอมเป็นกระสอบทรายโง่ๆ ให้ซ้อมเมื่อเขาหงุดหงิด


ผมใช้ชีวิตอย่างนั้นเป็นปีๆ จนกระทั่งวันที่เจตแอบมาเซอร์ไพร์ซผม อุตส่าห์ซื้อของชอบมาให้ผมกิน แต่วันนั้นผมช้ำในจนไม่อาจบิดบังใครๆ ได้ว่าผมปกติดี รอยยิ้มของผมปิดเจตไม่ได้อีกแล้ว


พอเจตเห็นหน้าท้องบวมช้ำของผมก็ซักถามเรื่องราวทั้งหมดก่อนพุ่งตรงไปหาตัวต้นเหตุทันที ผมกลัวว่าเจตจะถูกทำร้ายจึงฝืนตัวเองตามเจตไป


หลังโรงเรียนยังคงเป็นแหล่งมั่วสุมชั้นดี เจตเข้าไปชกหน้าพี่ตั้นอย่างกับรู้ว่าใครที่ทำร้ายผม พี่ตั้นเองก็ไม่ยอมถูกชกง่ายๆ จึงสวนกลับไปอย่างไม่แพ้กัน


ผมพยายามข่มอารมณ์ แต่เมื่อเจตได้เลือด ผมก็ไม่รู้ตัวแล้วว่าทำอะไรลงไป


รู้ตัวอีกทีท่อนไม้ในมือก็ชุ่มด้วยเลือด เนื้อตัวพี่ตั้นเต็มไปด้วยรอยแผลสลบอยู่ข้างๆ เจต


ผมถลาเข้าไปหาเจตแล้วเขย่าตัวเขาอย่างแรง เจตลืมตามองผมก่อนจะเสมองคนข้างๆ ที่ค่อนข้างอาการสาหัส


“แอล มองพี่” ฝ่ามืออุ่นแตะแก้มผมให้หันไปมองเขา “พี่ไม่เป็นไรแล้ว วางไม้ลงนะ”


ผมทำตามที่เจตบอก ทิ้งไม้ชุ่มเลือดนั้นไปแล้วเดินตามเจตไปนั่งห่างจากพี่ตั้นที่ผมไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า


เจตเดินกลับไปอังจมูกคนที่สลบอยู่ก่อนจะกดโทรศัพท์หาใครบางคน ไม่นานรถโรงพยาบาลก็มา พาทั้งผม เจต และพี่ตั้นไปยังโรงพยาบาลด้วยกัน ตำรวจเข้ามาซักถามแต่ผมไม่ได้ตอบอะไรเพราะจำอะไรไม่ได้ 


“ผมไม่ยอมให้น้องอยู่ที่นั่นแน่ โรงเรียนบ้าอะไร เด็กโดนทำร้ายยังไม่จัดการอีก” เสียงเจตแว่วมาจากหน้าห้อง


“เจต น้าเข้าใจนะว่าหนูห่วงน้อง แต่แอลจะเป็นเหมือนเดิมถ้าไปอยู่กับหนู”


“ผมจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น  ขอร้องเถอะครับน้า อยู่โรงเรียนเดียวกับผม อย่างน้อยผมก็ช่วยน้องได้”


“เราห้ามบาดเจ็บให้น้องเห็นนะ”


“สัญญาครับ”


คำพูดของเจตผมยังจำได้ดี เขาขอร้องแม่ผมให้ย้ายผมมาเรียนโรงเรียนเดียวกับเขา ผมดีใจที่จะได้กลับไปอยู่กับเจตอีกครั้ง แต่ก็เสียดายที่ต้องจากเพื่อนของผมไป เพื่อนที่ให้กำลังใจผมทุกครั้งที่ถูกทำร้าย และบางครั้งก็ยอมถูกทำร้ายไปด้วยกัน


ผมขอกลับไปลาเพื่อน แต่เมื่อไปถึงโรงเรียน ผมกลับได้รับสายตาหวาดกลัวรอบสารทิศ เพื่อนสนิทของผมตีตัวออกห่าง ซ้ำร้ายยังกล่าวหาว่าผมเป็นฆาตกร ทั้งที่หลักฐานก็ปรากฏว่าผมคือเหยื่อที่ถูกทำร้ายมาตลอดปี พวกเขาเองก็รู้แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและใส่ร้ายว่าผมอ่อยฝาแฝดคู่นั้น สมควรแล้วที่ผมจะถูกสั่งสอน


ที่เลวร้ายที่สุดคือพี่ต้นที่ออกมาขอความเห็นใจจากทุกคน หน้ากากเทวดาของเขาทำให้ใครๆ เชื่อโดยง่ายว่าผมตามตื้อเขา น้องชายเขาจึงจัดการผมให้เลิกยุ่ง แต่ผมกลับพาพี่ชายมาทำร้ายน้องชายของเขาจนบาดเจ็บสาหัส


ผมกลายเป็นคนเลวในสายตาของคนทั้งโรงเรียน


เมื่อเรื่องลือไปเช่นนั้น ผมก็จำใจยอมรับคำประณาม เพราะต่อให้แก้ตัวอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อ และผมพร้อมแล้วที่จะจากโรงเรียนนี้ไป จากผู้คนที่ไม่คิดจะฟังความจากผมเลย


ผมจดรายชื่อทุกคนในเฟซแล้วปิดเฟซนั้นทิ้งไป  เมื่อเปิดใหม่ก็บล็อกทุกคนไม่ให้หาผมเจอ


ผมอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่ต้องพบกับคนใจร้ายพวกนั้นอีกแล้ว


อยากให้ทั้งหมดเป็นเพียงความทรงจำเลวร้ายในวันวาน


“ทำกูแสบมากนะ” เขาบีบกรามผมจนเจ็บไปหมด ดันผมหลบมุมแล้วก้มลงมาในระยะประชิด กลิ่นบุหรี่คละคลุ้งไปทั่วทำให้ผมจามอย่างหนัก แม้เขาจะรู้ว่าผมเกลียดอะไรเขาก็ยังทำอยู่ดี ผมตวัดสายตามองเขาที่ยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สา


“กูหามึงเจอแล้ว เตรียมตัวเตรียมใจของมึงไว้ให้ดี” ลิ้นโสโครกแลบเลียแก้มผมก่อนจะส่งยิ้มร้ายให้ “กูไม่ปล่อยมึงไปแน่”


“แอล!” เสียงพูดึงความสนใจของพี่ตั้นไปจากผม เขาหันไปมองพูด้วยสายตาโลมเลีย สายตาที่ทำให้ผมห่วงพูมากกว่าเดิม


“คนรอบตัวมึงเนี่ย ‘น่ากิน’ ทุกคนเลยนะว่าไหม” ร่างหนาฉีกยิ้มก่อนจะผละออกจากผมแล้วเดินไปอีกทาง


พูมองผมด้วยสายตามีคำถาม แต่เมื่อผมฉีกยิ้มสดใสให้อย่างที่เคยพูก็เกาหัวอย่างเขินๆ เดินเข้ามาหาผมยิ้มๆ


“เอ่อ ขอโทษที่เราลืมนายนะ” พูพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิด ต่างกับใครคนนั้น


‘ก็กูลืม หาทางกลับเองสิ...ตั้นคะ อะๆ เร็วไปแล้ว’


เฮ้อ อย่าไปนึกถึงเขาเลย ก็แค่ความเลวร้ายที่ผ่านเข้ามาครั้งหนึ่งในชีวิต


“ไม่เป็นไรหรอกพู เจตล่ะ”


“รออยู่ร้านเค้ก ปะ ไปกินกัน”


หึ คนเกลียดของหวานแบบเจตน่ะหรือจะเข้าร้านเค้ก ตอนผมชวนก็มีแต่เร่งให้ซื้อกลับไปกินที่บ้าน ไม่เคยมีมานั่งรอกินหรอก คงเพราะคนที่เดินอยู่ข้างๆ มากกว่าที่ทำให้พี่ชายผมเป็นถึงขั้นนี้ได้


“อะ ระวัง” พูดึงผมหลับรถเข็นที่พุ่งเข้ามา “เป็นอะไรไหม” เขาถามผมด้วยความเป็นห่วง สำรวจไปทั่วตัวผมเพื่อหาบาดแผล ผมเห็นแววตาจริงใจที่ไม่เคยได้รับจากใครนอกจากคนในครอบครัว หัวใจก็สั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน


ถ้าเจตยังบอกว่าไม่คิดอะไรอีก น้องจะแย่งคนนี้ไปแล้วนะ


[จบพาร์ทแอล]
.
.
.
“อันนี้อร่อยนะแอล” ผมชี้เค้กส้มและเค้กสตอเบอร์รี่ที่กินไปก่อนหน้านี้ให้คนตัวเล็กลองชิม แอลหยิบใส่ถาดแล้วหันมามองผมยิ้มๆ ให้ผมเขินเล่นอยู่เนืองๆ


คือเขาไม่ได้พูดอะไร แต่หยิบเค้กทุกชิ้นที่ผมชี้ หัวใจผมเต้นตามรอยยิ้มของเขาไปแล้ว


น่ารักอะ


ความฝันที่จะมางุ้งงิ้งกินเค้กด้วยกันกับแฟนเป็นจริงแล้วครับ อะ ว่าที่แฟนก่อนก็ได้ แต่ไม่นานเกินรอหรอกครับ ผมตั้งใจจะสารภาพรักกับแอลเร็วๆ นี้นี่แหละ


“กินด้วยกันน้า” แอลตักเค้กแล้วยื่นช้อนมาตรงหน้าผม แต่คนข้างๆ งับช้อนนั้นไปเต็มๆ


“อื้ม อร่อยดี” มารพี่เจตเริ่มแล้วครับ ไม่เคยอยู่นิ่งๆ สักที ตั้งแต่พาแอลเข้าร้านมาก็แย่งเค้กผมตลอด ทีก่อนหน้านี้บอกพี่ไม่กินเค้ก แล้วพี่จะเข้าร้านเค้กมาทำไมวะครับ ฮ่วย!


“เจตอะ” แอลนั่งกอดอกแล้วครับ “ถ้าแย่งพูอีกนะแอลจะโกรธแล้วด้วย” แก้มป่องๆ ชวนยื่นหน้าไปฟัดจริงๆ ครับคุณว่าที่แฟน พี่เจตทำหน้าไม่หยี่ระ แล้วนั่งจิบกาแฟเงียบๆ เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ โต๊ะข้างๆ ได้อย่างดี


เดี๋ยวนะ ทำไมผู้หญิงโต๊ะนั้นหน้าตาคุ้นๆ


“เหยยย คู่เดิมเพิ่มเติมคือน้องชายตัวน้อยหนึ่งคน มีหวงกันด้วยโว้ย”


“โทรตามอีแจงด่วน กูหาทางสานต่อจินตนาการมันได้แล้วจะได้เขียนตอนใหม่ให้กูอ่านสักที”


“โหล อีแจง เจตพูของมึงมาเดทกันโว้ย ตามมาร้านเค้กด่วน!” สาวน้อยผิวแทนกระซิบบอกปลายสาย


เอ่อ ได้ยินทุกคำเลยครับ แล้วเจตพูนั่นอะไร ต้องพูแอลสิคร้าบบบบบบบบบ


“คิกๆ” แอลหัวเราะนิดๆ ก่อนจะกวักมือเรียกผมไปหา คนตัวเล็กนั่งอยู่ตรงข้ามเราครับ พอผมลุกไปแอลก็ฉุดให้ลงมานั่งข้างกัน เสียงห้ามของพี่เจตไร้ความหมายไปเลยเมื่อแอลพูดยิ้มๆ


“ก็เจตชอบแย่งพู ให้พูมานั่งข้างแอลจะได้กินเยอะๆ อ้าม”


ผมงับช้อนเค้กด้วยความสุข โอย อยากได้อีกๆ


“พูชอบรสไหน”


หลังจากแอลป้อนผมครบทุกรส ความเลี่ยนก็เริ่มจุกอยู่ในลำคอเพราะก่อนหน้านี้ผมสวาปามหลายชิ้นแล้ว


“เอ่อ ระ...รสวนิลา”


“งั้นเดี๋ยวเราไปหยิบให้อีก” อย่านะแอล เรายัดต่อไปไม่ได้แล้ว ผมส่งสายตาบอกใบ้ แต่ดูเหมือนแอลจะคิดว่าผมอยากได้เค้กอีกสักชิ้น


“พอได้แล้วแอล เดี๋ยวจะค่ำไปมากกว่านี้” พี่เจตพูดขึ้นพลางลุกไปจ่ายเงิน


“เดี๋ยวสิเจต พูยังไม่ได้กินเค้กวนิลาเพิ่มเลยนะ” แอลร้องแย้งก่อนจะหุบปากฉับเมื่อพี่เจตมองนิ่งๆ “พอก็ได้”


ร่างสูงจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยเราทั้งสามก็พากันออกมาจากร้าน


“พูกลับยังไง” คนตัวเล็กถามเสียงใส


“อ่อ แม่มารับน่ะ”


ครับ อดไปส่งว่าที่แฟนเพราะแม่มารับกลับนี่ล่ะ จะเถียงก็ไม่ได้เพราะคุณนายจะซื้อของใช้เข้าบ้าน ตอนนี้คงกำลังเลือกของอยู่ในซุปเปอร์รอผมไปช่วยถือของแน่นอน


“งั้นกลับดีๆ น้า” แล้วโบกมือบ้ายบายก่อนจะเดินควงแขนพี่เจตไปอีกทาง


เฮ้อ เสียดายจัง





Tbc.






:hao7:
⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀
น้องแอลมีปมในอดีตจ้า ใครแตะพี่กูตาย 55555 ตัวละครใหม่มาเพิ่มแล้วหนึ่งคน
ไอ้คนๆ นี้นี่แหละที่จะมากระชับความสัมพันธ์ให้พูกับแอล (เดี๋ยวนะ?)
ยิ่งตอนนี้น้องแอลก็มีเอนใจมาหาน้องพู ถ้าพี่เจตยังช้าคงได้เปลี่ยนคู่แน่นอนหึหึ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ค่ะ
    :mew1: 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2018 16:07:20 โดย janeta »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รีบเลยพี่เจต ตัวกระตุ้นทำงานดีมาก...แอลหวั่นไหวให้พูแล้วเนี่ย

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ความจริงแอลก็น่ารักดีนะ :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  แอลแย้งพูเลย เหมาะสมกับแอลดี

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
3p เลยดีมั้ย 5555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 944
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
อยากได้โมเม้นเคะxเคะเพิ่มค่ะ :hao6:

ออฟไลน์ janeta

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-2
บทที่ 8
เหตุเกิดเพราะ...ข่าวลือ



“ไอ้ถั่ว...ไอ้ถั่ว!” แบงค์ตะโกนลั่นห้องก่อนจะพรวดเข้ามาพร้อมกับยื่นโทรศัพท์เครื่องหรูของมันให้ผม


“อะไร” ผมวางปากกาแล้วรับมาเลื่อนอ่านกระทู้บนบอร์ดของโรงเรียน


นักเรียนใหม่ตัวย่อ ‘อ’ ความจริงแล้วเป็นฆาตกร


ข่าวเล่าว่านาย อ. เคยทำร้ายนักเรียนโรงเรียนอีกเขตเกือบตาย และเพิ่งเข้าเรียนโรงเรียนผมภาคเรียนนี้


“ข่าวอะไรวะเนี่ย มั่วแล้วมั้งมึง โรงเรียนเราไม่มีทางปล่อยให้ฆาตกรเข้ามาได้หรอก”


“มั่วเชี่ยอะไรล่ะ อ. ที่ว่าเนี่ยก็แอลสุดที่รักของมึงไง” ผมชะงักมือที่กำลังเขียนการบ้าน


“ห้ะ มึงอย่ามามั่ว แอลของกูน่ารัก อัธยาศัยดีไม่มีทางเป็นฆาตกรอะไรนี่หรอก แค่ตบยุงคงไม่กล้าด้วยซ้ำมั้ง”


“กูก็ว่างั้น แต่ข่าวแพร่ไปทั่วโรงเรียนแล้วนี่สิ...แล้วนั่นมึงจะไปไหน” ผมไม่สนใจตอบแบงค์ รีบวิ่งไปยังห้องเคมีที่อยู่อีกอาคารทันที


ผมรู้ตารางเรียนแอลครับ และกังวลเหลือเกินว่าคนตัวเล็กจะเครียดหากทราบข่าวนี้


“ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องไปสนใจคนพวกนั้นหรอก” เสียงแว่วมาจากในห้องพร้อมกับภาพชายหญิงหลายสิบคนล้อมรอบอะไรบางอย่างอยู่ ผมเห็นแวบๆ ว่าตรงกลางคือแอลที่นั่งอยู่ข้างๆ เพื่อนตัวเล็กของเขา


“ใช่ๆ จะลืออะไรก็ช่างเขาเถอะ พวกเรารู้ว่าแอลเป็นคนยังไงก็พอแล้ว”


“อื้อ ขอบคุณทุกคนนะ” หลายคนเข้าไปลูบหัวแอลด้วยความเอ็นดูก่อนจะกลับไปนั่งที่ตัวเองเมื่อครูเข้ามาในห้อง


“อลงกรณ์ ไปพบครูเกรียงไกรที่ห้องปกครองด้วย” คำพูดของครูสาวเรียกเสียงฮือฮาจากทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ผมที่ยืนหลบอยู่หน้าห้อง


แอลเก็บของใส่กระเป๋า ยกมือไหว้ครูก่อนจะใส่รองเท้าเดินลงบันไดไป ผมรีบตามคนตัวเล็กไปด้วยความเป็นห่วงก่อนจะถูกเพื่อนซี้ที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนลากเข้าห้องปกครองไปด้วยกัน


แบงค์พาผมไปยืนช่วยรุ่นพี่ประธานนักเรียนเย็บเอกสารซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแอลนัก ผมเงี่ยหูฟังอย่างใจจดใจจ่อ กลัวคำพูดของครูเกรียงไกรจะทำร้ายจิตใจของคนตัวเล็ก


“ครูทราบข่าวแล้ว ครูอยากรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นยังไง เล่าให้ครูฟังซิ” ครูเกรียงไกรถามเสียงนุ่ม ไม่ได้กระโชกโฮกฮากอย่างที่เคยดุพวกผม อย่างน้อยผมก็เบาใจได้เปราะหนึ่ง


“เป็นเรื่องจริงครับ” แอลตอบนิ่งๆ ไม่มีท่าทีกังวลข่าวลือนั้นเลย


เดี๋ยวนะ


เรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ


ผมหันควับไปหาแอลทันที แอลไม่เห็นหรอกครับเพราะเขาหันข้างให้ผมอยู่ ผมวางเอกสารแล้วตั้งใจฟังคำพูดของแอลทุกประโยค


“ผมเคยทำร้ายนักเรียนคนหนึ่งที่โรงเรียนเก่าครับ แต่นั่นเพราะเขาทำร้ายผมและพี่ชายของผมก่อน ผมแค่ป้องกันตัวและปกป้องพี่ชาย ไม่ได้มีเจตนาทำร้าย” คำพูดของแอลทำให้เราสามคนหยุดทุกอย่างที่กำลังทำอยู่ ก่อนที่พี่ประธานนักเรียนจะกระซิบ


“ห้ามพูดเรื่องที่ได้ยินเด็ดขาดเลยนะ”


“แน่นอนครับพี่” แบงค์กระซิบตอบ


“นายล่ะ” เขาหันมาถามผม


“พี่ธงไม่ต้องถามมันหรอก มันไม่มีทางเอาเรื่องของคนที่ชอบไปบอกใครเด็ดขาด” พี่ธงมองหน้าผมอย่างชั่งใจก่อนจะรวบรวมเอกสารที่เย็บเสร็จเรียบร้อยส่งให้พวกเราคนละปึก


“เอาไปแจกให้หัวหน้าห้องทุกชั้นปี เสร็จแล้วกลับไปเรียนได้ ขอบใจที่เสียสละคาบพักมาช่วยงานพี่”


“ขออยู่อีกแป๊บไม่ได้เหรอพี่” ผมขอ แต่รุ่นพี่ประธานนักเรียนหันไปพูดกับเพื่อนของผมแทน


“พาเพื่อนนายไปได้แล้ว” พูดจบพี่ธงก็นั่งลงจัดการเอกสารอื่นๆ ตามหน้าที่ของเขา แบงค์สะกิดไหล่ให้ผมรีบตามมันออกไป


ผมเหลือบมองแอลก่อนจะจำใจเดินออกจากห้องไป รีบเดินไปตามห้องของรุ่นน้องม.1-ม.3 ที่ผมรู้จักดีแล้วยื่นเอกสารให้คนละชุด ส่วนแบงค์เอาไปแจกหัวหน้าห้องม.4-ม.6 ดูๆ ไป อนาคตประธานนักเรียนคนต่อไปคงไม่พ้นเพื่อนของผมนี่แหละ รู้จักคนทั่วทั้งโรงเรียน พานให้ผมสนิทกับพวกรุ่นน้องด้วย


เมื่อแจกห้องสุดท้ายเสร็จผมก็ไลน์ไปหาแบงค์ให้มันขึ้นเรียนก่อนเลยเพราะผมอยากไปหาแอลก่อน


ดักรอหน้าห้องปกครองไม่นานนักแอลก็เดินออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะยิ้มเจื่อนเมื่อเห็นผมเดินเข้าไปหา


“ไงพู มีอะไรเหรอ” ผมไม่ตอบอะไรนอกจากจูงมือแอลไปยังหลังโรงเรียนท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของนักเรียนที่เดินผ่านไปผ่านมา


‘คนนี้ไงที่เพิ่งย้ายมา’


‘เห็นหน้าซื่อๆ ไม่คิดเลยว่าจะโหดเหี้ยมขนาดนั้น’


‘เห้ย ชอบว่ะ น่าสนุกดีนะโว้ย’


‘โรงเรียนกล้าเอาคนแบบนี้มาเรียนได้ยังไง เกิดทำร้ายใครขึ้นมาจะเป็นยังไง’


‘เห้ย พี่พูนี่ จะโดนทำร้ายหรือเปล่าวะไปอยู่ใกล้คนแบบนั้น’


“หุบปากไปเลย!” ผมตวาดลั่น ไม่สนใจแล้วว่าใครเป็นใคร ผมรู้สึกเลือดขึ้นหน้าโมโหแทนคนตัวเล็กที่ก้มหน้าลงต่ำ


“อย่าก้มหน้าแอล” ผมจับคางแอลเชิดขึ้น ดวงตากลมโตมีน้ำใสคลอหน่วงแต่พยายามกลั้นไว้ “นายไม่ได้ทำอะไรผิด นายแค่ป้องกันตัว”


คนตัวเล็กพยักหน้ารับก่อนจะมองไปที่คนอื่นๆ ที่รีบหลบสายตาแล้วเดินหนีไปทางอื่น


“ปะ” ผมจูงมือแอลเดินต่อไปจนถึงรังรักของผมกับสมร วันนี้สมรยังคงกระดิกหางเดินมาหาผมเช่นเคย มันยื่นจมูกเปียกชื้นมาดมขาแอลก่อนจะกระดิกหางยินดี


“หายแล้วนี่” คนตัวเล็กนั่งยองๆ ยื่นมือลูบหัวสมรด้วยรอยยิ้มกว้าง


รอยยิ้ม...ที่ผมไม่อยากให้หายไป


“พู...ไม่ต้องอยู่ใกล้เราก็ได้ เราทำเรื่องนั้นจริงๆ เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจพูผิดนะ” แอลเอ่ยเสียงสั่นนิดๆ มือยังคงลูบหัวสมร


“แอลไม่ได้ตั้งใจนี่” คนตัวเล็กชะงักมือก่อนจะหันมามองผมอย่างแปลกใจ


“ทำไม...”


“เอ่อ...ตอนนั้นเราอยู่ในห้องปกครองน่ะ ขอโทษนะ” ผมเกาท้ายทอยอย่างรู้สึกผิดที่แอบฟังเรื่องราวทั้งหมด  แอลส่ายหน้านิดๆ แล้วยิ้มให้


“ช่างเถอะ แล้วพูไม่กลัวเราเหรอ ถึงไม่ได้ตั้งใจแต่เขาคนนั้นก็เจ็บหนักนะ”


“เจ็บเพราะแอล เรายอมเจ็บนะ” ผมหยอด


“อย่างพูน่าจะเจ็บเพราะคนอื่นมากกว่าคิคิ”


“หืม” ผมส่งเสียงในลำคอ แอลส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน


“ขอบคุณนะ” แววตาของแอลสื่อตามคำที่เขาพูด “ขอบคุณที่ ฮึก ที่ไม่หนีไปจากเรา” น้ำใสไหลจากดวงตากลมโต


ผมปาดน้ำตาบนแก้มนิ่มก่อนจะรวบคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้ ถึงเขาจะยิ้มแย้มแสดงออกว่าเข้มแข็งแค่ไหน แต่ความจริงแล้วแอลกำลังกลัว กลัวที่จะสูญเสียทุกคนไป


“ไม่เป็นไรนะ เราอยู่ข้างแอลเสมอ” ผมลูบหัวคนตัวเล็กที่กำเสื้อของผมแน่นเหมือนเป็นที่ยึดเหนี่ยวสุดท้ายของเขา


ผมปล่อยให้แอลร้องไห้อยู่อย่างนั้น ไม่รู้นานเท่าไร แต่ผมรู้สึกดีที่ได้อยู่ข้างๆ ในวันที่เขาอ่อนแอ


⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀


[แอล]


“เราเคยเกือบถูกข่มขืน” ผมเอ่ยขึ้นเมื่อเรานั่งกันอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ พูไม่ขัดผม เขาตั้งใจฟังทุกประโยคด้วยใบหน้าเครียด ผมสังเกตเห็นมือของเขากำแน่นอย่างโกรธเคือง แต่สำหรับผมทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว


ผู้กระทำเป็นครูประถมของผมเอง วันนั้นเจตมีเรียนพิเศษผมจึงนั่งรออยู่กับเพื่อนที่สนามเด็กเล่นจนกระทั่งแม่ของเพื่อนมารับกลับไป นั่นเป็นจังหวะเดียวกับที่ครูของผมเข้ามาหาแล้วชวนผมไปกินขนมที่ร้านใกล้ๆ


เพราะยังเด็กและครูเป็นคนเดียวที่รู้จัก แม้เพื่อนๆ ในห้องหลายคนจะหวาดกลัวเขาและหลีกหนีเป็นประจำ แต่สำหรับผมครูใจดีและชอบมีขนมมาให้เสมอ ผมก็เลยไว้ใจและตามครูไป เขาพาผมไปจนถึงตึกร้างแห่งหนึ่ง ผมกลัวผีจึงไม่ยอมตามเขาไป แต่พอดิ้นหนีเขาตบหน้าผมแล้วกระชากหัวลากเข้าไปข้างใน ผมร้องไห้ลั่นจนกระทั่งถูกขู่ด้วยมีดสั้นผมจึงหยุดร้อง


เด็กที่เคยถูกมีดบาดย่อมรู้ดีว่าคมมีดนั้นน่ากลัวแค่ไหน ผมร้องไห้เงียบๆ มองดูสัตว์นรกในคราบครูถอดกางเกงผมออกแล้วถอดกางเกงตัวเองตามลวกๆ


“แอล!” เสียงของพี่ชายช่วยชีวิตของผมไว้ ผมตะโกนสุดเสียงเพื่อบอกเจตว่าผมอยู่ตรงนี้ แม้ต่อมาจะถูกอุดจมูกด้วยฝ่ามือหยาบ แต่มันก็คุ้มค่าเมื่อพี่ชายของผมโผล่มาทันที


เจตพุ่งเข้าหาครูด้วยแรงทั้งหมดแล้วบอกให้ผมวิ่งหนีไป ผมสวมกางเกงลวกๆ มองพี่ชายที่พยายามชกครูด้วยแรงเด็กประถม ก่อนเจตจะถูกชกกระเด็นไปไกลและครูตามไปชกซ้ำจนใบหน้าของพี่ชายเต็มไปด้วยเลือด ตอนนั้นผมคิดเพียงแต่จะปกป้องเจตและหยิบมีดสั้นนั้นแทงครูไปหลายแผล พอครูจะหันมาจัดการผมเจตก็ใช้แรงทั้งหมดถีบครูก่อนจะพาผมวิ่งออกมา


สภาพของเราทำให้สองครอบครัวตกใจมาก พ่อเจตรีบติดต่อผอ.เพื่อจัดการครูคนนั้น และเมื่อสืบสาวราวเรื่องปรากฏว่าไม่ใช่ผมรายแรกที่เกือบถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่เด็กอีกเกือบครึ่งห้องเองก็ถูกกระทำเช่นเดียวกับผม ครูคนนั้นจึงถูกดำเนินคดีสูงสุด


ผมและเจตกลับไปใช้ชีวิตปกติอีกครั้งโดยไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องนั้นจะส่งผลต่อผมในภายหลัง


เจตเรียนมัธยมต้นที่อื่น และเริ่มมีกลุ่มเพื่อนใหม่ซึ่งชอบทะเลาะวิวาทกับโรงเรียนอื่นตามประสาวัยรุ่น วันนั้นเจตมารับผมที่โรงเรียนประถม เราไม่รู้ว่าคู่อริของเจตจะตามมา เขาพุ่งเข้ามาจัดการพี่ชายผมต่อหน้าต่อตา และผมที่ยังคงฝังใจที่มีคนทำร้ายพี่จึงหยิบเศษแก้วแถวนั้นจ้วงแทงเขาคนนั้นจนกระทั่งอีกฝ่ายล้มลง


“แอล” เจตปรี่เข้ามาประชิดผม “ปะ..ปล่อยแก้วก่อนครับตัวเล็ก” ผมก้มมองมือมือตัวเองชุ่มเลือด เลือดของผมที่กำแก้วแน่นจนบาดลึกไปถึงเนื้อใน


เจตโทรหารถโรงพยาบาลแล้วพาผมขึ้นไปนั่งบนรถ บุรุษพยาบาลทำแผลให้ผมก่อนที่ผมจะถูกพาลงจากรถ ส่วนคนเจ็บก็ถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไป พี่ชายผมเดินไปเดินมาอย่างกังวลก่อนจะต่อสายหาพ่อของผมที่ทำงานอยู่ใกล้ๆ โรงพยาบาล


จิตแพทย์บอกว่าทางที่สุดคือให้ผมแยกกับเจต ผมจึงต้องไปอยู่กับแม่ที่ต่างประเทศทันทีที่จบชั้นประถมและได้รับการรักษาจากแพทย์ชื่อดังของที่นั่น เรียนได้สามปีผมก็กลับมาไทยอีกครั้ง เชื่อสุดใจว่าตัวเองหายแล้วแต่เพื่อความสบายใจของแม่ผมจึงต้องไปเรียนอีกโรงเรียน


ทุกอย่างดูใหม่สำหรับผม แต่ผมก็อยากพิสูจน์ว่าตัวเองดีขึ้นแล้ว


จนกระทั่งเรื่องวนกลับมาที่เดิมอีกครั้ง


“แล้วเราก็ทำร้ายคนๆ นั้นเพราะเห็นเจตบาดเจ็บ ระ...เรา ไม่ได้อยากทำร้ายเขา” ผมบอกเสียงสั่น


หมับ


ผมถูกรวบตัวไปกอดไว้แน่น พูกระซิบบอกผมว่าไม่เป็นไรซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ผมรู้สึกถึงน้ำใสๆ


เขาร้องไห้เพราะผมอย่างนั้นเหรอ


“ฮึก ทำไมแอลต้องเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย ฮือ” กลายเป็นว่าผมต้องปลอบใจร่างโปร่งไปเสียอย่างนั้น ผมยิ้มขำนิดหน่อยก่อนจะลูบหลังปลอบใจพูให้คลายสะอื้น


“เราโอเคแล้ว แค่ต้องพยายามคุมอารมณ์”


“ตอนนั้นที่สายตาแอลแปลกไปเพราะเราทำให้พี่เจตมีแผลสินะ” ผมพยักหน้ารับคำ ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นใส่พูแต่มันเป็นไปโดยไม่รู้ตัว


“เราจะปกป้องพี่เจตเอง แอลไม่ต้องห่วงนะ” ผมหัวเราะคำพูดนั้นนิดหน่อย


ถ้าเจตมาได้ยินคงยิ้มหน้าบานแน่ๆ


ดวงตาของพูแดงก่ำมองตรงมาที่ผมด้วยสายตาซื่อตรงเช่นเคย เขาคงรู้สึกแย่แทนผมมาก


ผมลูบแก้มขาวแผ่วเบา


“ชอบเรามากเหรอ” ผมเอ่ยถามอีกฝ่ายที่เบิกตากว้างเม้มปากแน่น


น่ารักจัง


“อะ...เอ่อ” ท่าทางอ้ำอึ้งทำให้ผมเลิกแกล้งพู ลุกขึ้นยืนพลางยื่นมือไปให้เขา “ไปเรียนกันเถอะ เดี๋ยวคาบเรียนไม่ครบหมดสิทธิ์สอบนะ” พูเขินหน้าแดงแต่ก็ยอมยื่นมือมาจับผม


กอดไปแล้ว แค่จับมือจะมาเขินอะไรเนี่ย


ผมยิ้มหวานให้พูที่หน้าแดงนำมะเขือเทศไปแล้ว จูงมือเขาเดินกลับไปด้วยกัน ตอนนี้ไม่มีใครทำให้ผมรู้สึกแย่อีกแล้วเมื่อมือเรียวที่จับมือผมอยู่เสริมให้ผมเข้มแข็งมากอย่างนี้


ขอบคุณนะพู
.
.
.
“เป็นยังไงบ้าง” เจตถามผมทันทีที่เลิกเรียน อันที่จริงเขาไลน์มาหาผมก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมาหา แต่ผมบอกเขาว่าอยากเผชิญเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเองไว้เจอกันตอนเย็นดีกว่า เจตไม่ว่าอะไร เขาอยากให้ผมเข้มแข็งและไม่ต้องใส่ใจคำพูดของคนอื่นๆ ซึ่งผมก็เลิกใส่ใจไปแล้วหลังจากแยกกับพู


เพื่อนในห้องผมก็น่ารักทุกคนครับ มีมาบอกด้วยถ้าแม้ผมจะทำจริงๆ แต่พวกเขาก็จะยังคบผมต่อเพราะปัจจุบันสำคัญกว่าอดีต ผมขอบคุณคำพูดของพวกเขา รอยยิ้มสดใสของผมกลับมาอีกครั้งและพวกเขาเองก็สังเกตเห็น บรรยากาศในห้องจึงกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง


“อื้ม แอลรู้สึกดีมากๆ เลย”


เพราะพูของเจตเลยน้า


เอ๊ะ หรือยึดมาเป็นของตัวเองดีนะ


“เจต” ผมเอ่ยถามพี่ชายที่ยังคงมีผ้าพันแผลอยู่บนต้นแขน


“ว่าไง”


“แอลขอพูได้ไหม”


“ห้ะ!” เจตทำหน้าเหวอ


“แอลชอบพู”


อยากรู้จริงๆ ว่าพี่ชายของผมจะทำยังไง


จะยกพูให้ผม


หรือแย่งพูไปเป็นของตัวเอง


[จบพาร์ทแอล]






Tbc.







⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀⇀
โมเม้นเคะเคะเขาอยู่ด้วยกันจ้า บางทีเราก็คิดอยากเปลี่ยนคู่เหมือนกันนะเนี่ย 5555
น้องแอลขอแล้วนะพี่เจต อย่ามัวชักช้าให้น้องคาบถั่วพูไปกินล่ะ อิอิ   :hao3:
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์จ้า ชอบตอนนี้กันไหมเอ่ย
ตอนนี้เราเบลอมาก อยากนอนแต่ก็อยากเขียนก็เลยลุกมาเขียนก่อน  :hao5:
เดี๋ยวมีธุระต้องนั่งรถตู้ตอนตีห้า ยังไม่ได้นอนเลยจ้า 555 ไปนอนล่ะนะ
ถ้าเจอคำผิด ประโยคแปลกๆ บอกได้น้า ไว้กลับมาจะรีบแก้ค่ะ  :pig4:
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-03-2017 00:35:07 โดย janeta »

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
3p ก็ลงตัว.. :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
สงสารแอล :hao5:
แต่ตอนนี้เริ่มสงสารพี่เจตล่ะ 5555

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 944
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
เลือกไม่ได้เลยย รักพี่เสียดายน้อง จับเค้ามัดรวมกัน3คนเลยได้มั้ยคะ ขอเหมา55555555555
แอลเข้มแข็งขึ้นนะ สู้ๆ
พี่เจตจะทำยังไงน้อออออ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
 ค้างมากๆอยากอ่านต่อ

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เอาแล่ววววศึกสายเลือด

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
โอ้โห เรื่องของแอลซับซ้อนกว่าที่คิดไว้อีกอะ แอลจะมีคู่ไหมเนี่ย ถ้าเป็นพี่ตั้นอะไรนั่นนี่แย่เลยนะ เคยทำชั่วกับแอลไว้ แต่ก็เป็นปมที่น่าติดตามว่าจะมารักกันได้ยังไง
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า  :กอด1:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
เอ้าๆจะโดนน้องคาบไปกินแล้วนะพี่เจต :hao3:

ออฟไลน์ Ujeen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เพิ่งเข้ามาอ่านนนนน สนุกมากค่ะ :katai2-1:

อยากรู้แล้วเจตจะตอบแอลว่าไง

รอตอนต่อไปน้าาาาา :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด