:. t h u g ♡ ตัวร้าย -แจ้งข่าวหนังสือและE-book- update 11/11/2018 P.34 end
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -แจ้งข่าวหนังสือและE-book- update 11/11/2018 P.34 end  (อ่าน 392739 ครั้ง)

ออฟไลน์ _mysecretlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ



** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นตามจินตนาการของคนเขียน ต้วละครและบางสถานที่ไม่มีอยู่จริง โปรดใช้วิจารณญาณ

ผลงานที่ผ่านมา






t h u g ♡ ตัวร้าย

-01-       -02-        -03-        -04-        -05-        -06-        -07-        -08-
     
-09-        -10-        -11-        -12-        -13-        -14-        -15-
       
-16-        -17-        -18-        -19-        -20-        -21-        -22-        -23-
       
-24-        -25-        -26-        -27-        -28-        -29-        -30-
   
-31-        -32-        -33-        -34-        -35-        -36-        -37-        -38-        -39-        -40-

e n d

ขอบคุณสารบัญงาม ๆ จาก คุณ PP_annann มากเลยนะคะ รักที่สุดเยย




Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2018 21:07:30 โดย _mysecretlove »

ออฟไลน์ _mysecretlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-2
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -01- update 20/02/2017
«ตอบ #1 เมื่อ20-02-2017 22:08:13 »

ตัวร้าย
01




ทุก ๆ ครั้งที่เปิดดูละคร มีบางตอนที่ฉันเองไม่อาจมี ในละครมีผู้ชายดี๊ดี~ เสียงเพลงดังก้องในหูจากการเปิดวนมาเจอดังขึ้นพร้อมกับเสียงทุ้มที่ดังแทรกเข้ามา



“เฮ้ยดาเหม่ออะไรอยู่วะ”



แรงสัมผัสหนัก ๆ ตรงบ่าพร้อมกับเสียงเรียกทำให้ผมต้องหันไปมองต้นเสียง ผมจิ๊ปากขัดใจเมื่อคริษฐ์ยิ้มร่าไม่สะทกสะท้านกับสายตาไม่พอใจของผม ร่างสูงใหญ่ของเพื่อนสนิทในคณะนั่งลงฝั่งตรงข้าม



“ถ้ามึงจะกรุณาและไม่ลำบากเกินไปก็เรียกชื่อจริงเต็ม ๆ ของกูหรือไม่ก็เรียกชื่อเล่นกูก็ได้ไอ้ฟวย”



คริษฐ์ดูจะถูกอกถูกใจเมื่อถูกผมด่า มันเป็นแบบนี้ตลอดรู้ว่าผมไม่ชอบให้เรียกก็แกล้งอยู่นั่นแหละ ผมไม่ได้ชื่อดา ชื่อเล่นผมคือซัน ส่วนที่ไอ้คริษฐ์มันเรียกว่าดานั่นคือชื่อจริงของผมที่มันทอนจาก ดารินทร์ จนเหลือแค่ดาเฉย ๆ



“ก็มันเหมาะกับหน้าสวย ๆ ของมึงนี่ซัน โอเค ๆ กูไม่แกล้งแล้วคนอื่นยังไม่มาหรอ”



มันยกมือยอมแพ้เมื่อเห็นว่าผมกำหนังสือในมือแน่นเตรียมโบกหัวมัน ไอ้หล่อเลยเปลี่ยนเรื่องไปถามถึงเพื่อนคนอื่น ๆ แทน วันนี้เป็นวันเปิดเทอมปีสามวันแรก มองไปทางไหนก็เห็นแต่เด็กปีหนึ่งแต่งตัวถูกระเบียบเต็มไปหมด ผมที่ไม่ได้มารับน้องช่วงก่อนเปิดเทอมเลยไม่ค่อยเป็นที่รู้จักแต่ก็มีน้อง ๆ ไหว้บ้างประปราย บรรยากาศในคณะคึกคักแต่เช้า



“แล้วมึงเห็นใครไหมล่ะ”



ผมกวนตีนมันกลับ คริษฐ์มันเลยประเคนมะเหงกมาให้ผมเป็นการตอบแทน



“กวนตีน”



พร้อมกับคำด่าแสนน่ารัก



“มึงกวนตีนกว่ากูอีก แล้วนี่ไปส่งณินเสร็จแล้วหรอ”



ผมถามถึงแฝดสยามของคริษฐ์มัน ภาณินเพื่อนสมัยเด็กของคริษฐ์ที่มันบอกว่ารู้จักกันตั้งแต่จำความได้ จะพูดให้ถูกก็คือเท่าอายุของพวกมันนั่นแหละ สองคนนี้ตัวติดกันยิ่งกว่าแฝดสยามขนาดเรียนคนละคณะแต่ก็ไปมาหาสู่กันตลอดจนผมสนิทกับณินไปด้วย ณินเป็นผู้ชายที่จัดว่าจะหล่อก็หล่อจะน่ารักก็น่ารักจะว่าไงดีล่ะ หน้าณินมันหล่อปนหวานสูงโปร่งเตี้ยกว่าไอ้คริษฐ์มันประมาณห้าเซนได้ ผมว่าผมสูงแล้วนะแต่ไอ้พวกนี้มันเปรตกลับชาติมาเกิดจริง ๆ ทำให้ผมที่ภูมิใจในความสูงร้อยแปดสิบเซนของตัวเองต้องยอมหงอให้พวกมัน



“อืม วันนี้มันเรียนเช้ากูเลยออกมาพร้อมมันเลยเพราะรู้ว่ายังไงก็เจอมึงอยู่คณะอยู่แล้ว”



ผมยักไหล่ จริงอย่างที่คริษฐ์พูดผมเป็นคนตื่นเช้าจนติดเป็นนิสัยเลยทำโน่นทำนี่เสร็จไวพอไม่มีอะไรทำก็เลยออกมานั่งเล่นที่ม.รอเวลาพวกเพื่อนมา



“กินข้าวมาแล้วใช่ไหม”



ผมถามแม้จะรู้คำตอบอยู่แล้ว



“อืม”



“งั้นกูไปซื้อข้าวก่อน ฝากของด้วยเอาไรมั้ย”



ผมลุกขึ้นเต็มความสูง คริษฐ์โบกมือผมเลยเดินออกมา



หลายคนบอกว่าผมเงียบ ผมไม่เถียงหรอกนะเพราะผมเป็นแบบนั้นจริง ๆ ผมไม่ใช่คนพูดเยอะกับคนอื่นแต่กับเพื่อนผมก็พูดปกตินะติดเสียแต่ว่าพวกเพื่อน ๆ ของผมมันพูดมากและเร็วจนผมแย่งพูดไม่ทันจึงได้แต่นั่งเงียบ ๆ ฟังพวกมันพูดไปก็เท่านั้น



ด้วยความที่ไม่รู้จะกินอะไรผมเลยเดินไปต่อแถวซื้อข้าวต้มปลามากิน เช้า ๆ ยังไม่ค่อยอยากกินอะไรเท่าไหร่อีกอย่างร้านนี้คนต่อไม่เยอะด้วย ขี้เกียจรอนาน ได้ข้าวต้มพร้อมน้ำอัดลมมาถือในมือผมก็หันหลังเตรียมเดินกลับไปยังโต๊ะที่มีคริษฐ์นั่งรออยู่ถ้าไม่มีร่างของใครบางคนมาขวางไว้ก่อน



ร่างสูงพอ ๆ กับคริษฐ์ ผิวขาวสะอาด ตาคม คิ้วเข้มเรียงตัวสวย ทำให้คนตรงหน้าเหมือนกับหลุดออกมาจากตัวเอกในวรรณคดี ชุดนิสิตถูกระเบียบถูกคลุมทับด้วยเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดขับให้เขายิ่งดูโดดเด่นท่ามกลางเหล่าคนเถื่อนสวมเสื้อช็อปแบบผมได้เป็นอย่างดี



“หลีก”



ผมบอกกับคนตรงหน้าเสียงเรียบ ดูท่าข้าวเช้าวันนี้คงไม่อร่อยเสียแล้วสิ



“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”



เหมือนว่าเขาจะไม่ได้ฟังสิ่งที่ผมเพิ่งจะบอกกับเขาไป กลับถามอีกคำถามกลับมา ผมถอนหายใจก่อนจะเบี่ยงตัวหลบแต่เขาก็ตามมาขวางไว้ ผมมองหน้าเขาอย่างไม่สบอารมณ์



อินผมบอกให้หลีก”



แทนที่เขาจะหลบให้ผมเดินมือใหญ่กลับคว้าเอาข้าวต้มในมือผมไปถือแทน รอยยิ้มละมุนถูกจุดขึ้นบนใบหน้าหล่อ



“เรียกชื่อพี่ได้แล้วหรอครับคุณคนเล็กมาเดี๋ยวพี่ถือไปให้นั่งกับคริษฐ์ตรงนั้นใช่ไหม”



ไม่รอให้ผมได้ตอบร่างสูงใหญ่ก็เดินนำผมไปแล้ว



ผมถอนหายใจเหนื่อยหน่าย มายุ่มย่ามกันตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียนเลยหรือไง ผมมองแผ่นหลังกว้างของ ศักราธร ขจรเกียรติ หรือ อิน ที่ผมเพิ่งจะเรียกชื่อเขาไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ความรู้สึกหนึ่งที่เด่นชัดออกมานั่นก็คือ



ผมเกลียดเขา



เกลียดเขามากพอ ๆ กับที่เมื่อก่อนเคยรักเขานั่นแหละ



“อ้าวพี่อินหวัดดี”



คริษฐ์ทักคนที่ขโมยชามข้าวผมไปถือ เขาวางมันลงตรงข้ามกับคริษฐ์และนั่งลงเว้นที่ว่างไว้ให้ผม



“สบายดีนะ”



“สบายดีพี่สุขสบายหายห่วง”



ผมก้มลงกินข้าวเงียบ ๆ ปล่อยให้คริษฐ์มันคุยกับเขาไปโดยไม่เข้าไปร่วมบทสนทนาสักประโยค



“ปีห้าเรียนหนักมั้ยพี่”



“ที่จริงมันก็หนักทุกปีแหละแต่ปีนี้เรียนน้อยหน่อยเพราะได้เลือกภาคแล้วก็ทำโปรเจคน่ะ”



ผมวางช้อนในมือทั้งที่ยังกินไปได้ไม่เท่าไหร่ ไม่รู้สิมีเขาอยู่ใกล้ ๆ แล้วมันไม่ค่อยเจริญอาหารสักเท่าไหร่ ผมดูดน้ำเสร็จก็คว้ากระเป๋ามาสะพายแล้วลุกขึ้นยืน แต่มือใหญ่คว้าแขนผมไว้ก่อนที่จะก้าวเดิน ผมหันไปเลิกคิ้วให้เขาแทนคำถาม



“คุณคนเล็กอิ่มแล้วหรอ ทานไปได้นิดเดียวเองนะ”



เสียงทุ้มเปล่งออกมาด้วยความเป็นห่วงแต่สำหรับผมมันน่ารำคาญสิ้นดี



“แล้วเกี่ยวอะไร”



“ซัน”



คริษฐ์เอ่ยปรามผม ผมถอนหายใจแล้วค่อย ๆ แกะมือเขาออก



“มีอะไรจะคุยกับผมอินก็พูดมาเลยดีกว่า”



ผมมองหน้าเขาที่มีแวววิตกเล็กน้อย ก่อนเสียงทุ้มนั้นจะเปล่งออกมา



“คุณลุงฝากความคิดถึงมาให้น่ะแล้วก็..ท่านอยากให้คุณคนเล็กกลับบ้านบ้างนะ”






จ๋อม...จ๋อม...



ผมมองผิวน้ำที่สั่นเป็นวงกว้างจากฝีมือตัวเองนิ่งงัน ในมือยังกำเจ้าก้อนหินตัวการอีกก้อนในมือแน่น ถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้ หลังจากที่อินพูดจบผมก็เดินจ้ำออกมาเลย ในหูอื้ออึงไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น สองมือกำแน่นจนเจ็บขอบตาร้อนผ่าวจนกลัวว่ามันจะไหลออกมา



หึ!


คิดถึงอย่างนั้นหรือ



บ้านอย่างนั้นหรือ



มันไม่มีคำว่าบ้านตั้งแต่วันที่เขาเอาผู้หญิงคนนั้นเข้ามาแทนที่แม่ของผมแล้วล่ะ ผมไม่ได้เกลียดเธอ ไม่ได้เกลียดคุณผู้หญิงคนใหม่ของบ้านกับลูกสาวของเธอที่อายุมากกว่าผมสองปี คนที่ผมเกลียดคือเขา พ่อของผมคนที่สัญญาว่าจะไม่ให้ใครมาแทนที่ของแม่แต่เพียงแค่เวลาผ่านไปปีเดียวคำสัญญาของพ่อก็เลือนหายไปเหมือนเสียงสะท้อน บ้านที่เคยเป็นทุกอย่างของผม เป็นความสุขเป็นความผูกพันของเราครอบครัวมันไม่เหลืออีกแล้ว



ที่นั่นไม่ใช่ที่ของผมอีกต่อไป



“มาเหม่ออะไรตรงนี้ มันอันตรายนะ”



เสียงนิ่งเย็นทำผมสะดุ้งสุดตัวรีบปาดน้ำตาแล้วหันไปเงยหน้ามองต้นเสียง ผู้ชายผิวสีแทนร่างสูงใหญ่ บึกบึนดูก็รู้ว่าดูแลตัวเองมาอย่างดี ใบหน้าหล่อร้ายกาจ แววตาดุดันของเขาจ้องมองมาที่ผมนิ่งในมือข้างหนึ่งของเขาคีบบุหรี่ไว้ ร่างสูงใหญ่ย่อลงจนกลายเป็นนั่งยอง ๆ ข้าง ๆ ผม



“อันตรายยังไง”



“น้ำมันลึกและมึงก็เหม่อถ้ามีคนผลักมึงตกลงไปแล้วมึงตายก็ไม่แปลก อย่าเถียงล่ะว่าว่ายน้ำเป็นข้างใต้นั่นมีอะไรบ้างก็ไม่รู้แล้วฝั่งก็ชันอย่างกับอะไรดี”



“ไม่ได้เหม่อขนาดนั้น”



“ยังจะเถียง ขนาดกูนั่งอยู่ตรงนี้มาก่อนมึงตั้งนานมึงยังไม่รู้เลยว่ามีกูหายใจอยู่ตรงนี้อีกคน”



“....”



ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไรออกไปเขาเองก็เช่นกัน



“กลัวกูหรอ”



“เปล่า”



ในมหาลัยนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ทศกัณฐ์ เศรษฐ์ถิรคุณ ชายผู้ลึกลับของมหาวิทยาลัยหรอก เขามีร่างกายสูงใหญ่ใบหน้าคมคายเครื่องหน้าเหมาะเจาะเรียกได้ว่าหล่อร้ายกาจ ฐานะทางบ้านที่ใคร ๆ ต่างซุบซิบกันว่าพ่อของเขาเป็นมาเฟียจากตะวันออกกลางทำให้ทุกคนต่างกลัวเกรง



แต่ที่บอกว่าลึกลับนั้นมาจากนิสัยของเจ้าตัวที่พูดน้อยเข้าถึงตัวยากและค่อนข้างจะเก็บตัว เพื่อนที่มหาลัยแทบจะไม่มีนอกจากแพรวเพื่อนร่วมคณะของภาณินเพราะเหตุนี้คนจึงชอบเขาเยอะเพราะบุคลิกที่น่าสนใจกลับกันคนไม่ชอบเขาก็เยอะเช่นกัน ข่าวลือเรื่องการต่อยตีของเขามีหนาหูและทุกข่าวมักจะจบลงตรงที่คู่กรณีของเขาแอดมิดอยู่โรงพยาบาลทุกราย



“แล้วมานั่งทำไมตรงนี้”



แต่ผมว่าเขาก็ไม่ได้พูดน้อยขนาดนั้นนะ



“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย แล้วก็ไม่มีใครบอกว่าตรงนี้ห้ามนั่ง”



ชะงักกับคำพูดของตัวเองทันที เผลอกวนตีนเขาไปจนได้ ผมหลับตาปี๋เมื่ออีกฝ่ายเงื้อมือขึ้นสูงก่อนจะ...ผลักหัวผมเบา ๆ



“มึงนี่กวนตีนใช้ได้เลยนะ”



ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเห็นเขายิ้มมุมปาก สายตาเขาไม่ได้มองผมหากแต่มองตรงไปยังบึงกว้างมือใหญ่ที่เคยผลักหัวผมกลายเป็นโยกเบา ๆ



“สบายใจขึ้นไหม”



อยู่ ๆ เขาก็ถามขึ้นผมไม่ได้ตอบ ขยับขาขึ้นมานั่งกอดเข่าและปล่อยให้เขาโยกหัวผมไปเรื่อย ๆ สัมผัสแรกเหมือนจะหยาบกระด้างแต่นานไปมันกลับทำให้ผมอุ่นใจ



“กูชอบมาที่นี่เวลามีเรื่องไม่สบายใจหรือเวลาที่คิดงานไม่ออก”



“...”



“ฐานทัพลับกูเลยนะ”



“ไม่ได้จะมาแย่งนะ”



“ก็ไม่ได้ว่าอะไร” เขาว่า



“เวลามีเรื่องไม่สบายใจแล้วได้มองน้ำนิ่ง ๆ มันจะสบายใจขึ้นมาแค่นั้นเอง” ผมพูดให้เขาฟังบ้าง



“เหมือนกูเลย”



ผมหันไปมองเขาที่มองผมอยู่เช่นกัน ก่อนที่เราสองคนจะยิ้มให้กัน รอยยิ้มของเขามันน่ามองมาก ๆ เลย เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ ผมเองก็เหมือนกัน เรานั่งอยู่เงียบ ๆ จนกระทั่งใกล้ถึงเวลาเรียนจึงบอกลากันและคุยกันอีกเล็กน้อย เขาเดินมาส่งผมตรงทางเชื่อมคณะพอเห็นว่าผมเดินเข้ามาในตึกแล้วเขาก็เดินแยกไปอีกทาง



บางทีคนที่เขาว่ากันว่าร้าย ๆ ถ้าไม่ลองสัมผัสด้วยตัวเองก็อย่าเพิ่งเชื่อคำพูดพวกนั้นเลย ก็เหมือนกับเขาคนนี้ ดูเป็นคนที่...น่าคบหาดีนะ



In these promises broken
Deep below
Each word gets lost in the echo
So one last lie I can see through
This time I finally let you go...

Lost in the echo – Linkin Park




TBC




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2017 01:43:04 โดย _mysecretlove »

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -01- update 20/02/2017
«ตอบ #2 เมื่อ20-02-2017 22:46:22 »

 :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -01- update 20/02/2017
«ตอบ #3 เมื่อ21-02-2017 14:36:45 »

หรือพระเอกเรื่องนี้จะมีชื่อเหมือนตัวร้ายในวรรณคดี

ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -01- update 20/02/2017
«ตอบ #4 เมื่อ21-02-2017 17:08:53 »

จะมีศึกชิงนายไหมหนอ :katai5:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -01- update 20/02/2017
«ตอบ #5 เมื่อ21-02-2017 19:11:10 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ LoveRead

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -01- update 20/02/2017
«ตอบ #6 เมื่อ21-02-2017 19:39:28 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ dilokrittisak

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -01- update 20/02/2017
«ตอบ #7 เมื่อ21-02-2017 20:03:19 »

ติดตาม  :hao6:

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -01- update 20/02/2017
«ตอบ #8 เมื่อ22-02-2017 07:23:44 »

ติดตาม  :katai2-1:

ออฟไลน์ _mysecretlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-2
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -02- update 22/02/2017
«ตอบ #9 เมื่อ22-02-2017 13:20:05 »

ตัวร้าย
02


ผมเดินกลับมาที่คณะหลังจากแยกกับบีสท์ก็ชื่อเล่นของนายทศกัณฐ์นั่นแหละ ก่อนไปเขายังกำชับให้ผมเดินดี ๆ อยู่เลยบีสท์บอกว่าผมหน้ามึนเหมือนคนเมายา คนเมายาบ้านป้ามันจะหน้าหล่อแบบนี้หรอผมทำได้แค่คิดในใจเท่านั้นแหละ กล้าเถียงเสียที่ไหน เดินเข้ามาในห้องเรียนก็เห็นพวกเพื่อน ๆ จองที่ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ผมเดินเข้าไปเข้าไปนั่งชิดริมผนังที่คริษฐ์จองไว้ให้



“ไปไหนมาวะซัน”



ซานเพื่อนอีกคนในกลุ่มชะโงกหน้ามาถาม



“ไปสงบสติอารมณ์มา”



ผมตอบมันสั้น ๆ



“ทะเลาะกับพี่อินอีกแล้ว?”



“ไม่ได้ทะเลาะแค่รำคาญ”



“เขาเป็นห่วงมึงมากนะ”



คริษฐ์ละจากหน้าจอโทรศัพท์มามองหน้าผมตรง ๆ ซานกับคิงก็พยักหน้าสำทับคำพูดของคริษฐ์



“นิสัยพระเอก หมอนั่นก็ห่วงทุกคนนั่นแหละ”



ผมเอ่ยตัดรำคาญหยิบหูฟังขึ้นมาอุดหูแม่ง ไม่อยากได้ยิน หางตาเห็นว่าพวกมันถอนหายใจพร้อมกับส่ายหัวอ่อนใจ ช่างเถอะพวกมันไม่ได้รู้นี่ว่าเขาทำอะไรกับผมไว้บ้าง



Inn : ตั้งใจเรียนนะครับ



ข้อความแจ้งเตือนไลน์เด้งขึ้นมา จะอะไรกับผมนักหนาวะเนี่ย อยากจะตอบกลับไปว่าไม่เสือกสิ แต่ก็ไม่ใช่นิสัยผมไม่เคยพูดคำหยาบกับเขา อย่างน้อยก็เมื่อก่อนล่ะนะ ผมไม่ตอบข้อความของอินพอดีกับที่อาจารย์เข้าสอนผมเลยจัดการปิดโทรศัพท์ไปซะเลย



“เย็นนี้มึงจะเข้ารับน้องไหมซัน”



คริษฐ์หันมาถามตอนเรากำลังกินข้าวกลางวันกันอยู่ที่โรงอาหารคณะวิทยาศาสตร์ ถามว่าทำไมต้องคณะวิทยาศาสตร์คณะตัวเองไม่มีรึไงคำตอบคือมีครับแต่มันแพงและไม่ค่อยอร่อย เมื่อเช้าที่ผมกินน้อยส่วนนึงคือมันไม่อร่อยแหละและอีกเหตุผลก็คือณินแฝดสยามไอ้คริษฐ์มันเรียนอยู่คณะนี้ครับ



“พวกมึงเป็นพี่ว้ากใช่ป่ะ”



ผมถามพวกมันที่พยักหน้าให้เป็นคำตอบ



“ไปดิมึงน้อง ๆ จะได้รู้จักชอบทำตัวอยู่ในมุมมืดของสังคม”



 โดนไอ้ซานว่าเข้าให้ ผมได้แต่ถลึงตาใส่มัน



“อย่ามาว่าน้องซันของกูนะเว้ย”



ณินตบหัวไอ้ซานเบา ๆ แล้วหันมายิ้มเอาใจผม คริษฐ์บอกว่าณินเป็นโรคดารินทร์ลิซึ่ม ชอบผมเหลือเกินไม่ได้ชอบในทางชู้สาวนะครับ แต่เอ็นดูเหมือนลูกสาว เออ...เอากับมันสิ แต่ก็ดีนะครับเพราะว่าณินชอบตามใจแล้วก็ซื้อขนมมาฝากผมบ่อย ๆ จนไอ้ซานกับไอ้คิงอิจฉา



“แตะไม่ได้ ๆ แหมแหมแหมมมม”



เกลียดเสียงแหมของไอ้ซานมันจริง ๆ



“แน่สิลูกรักกู ห้ามแตะห้ามว่าห้ามด่า”



“ถ้ามึงจะห้ามขนาดนั้นเก็บไอ้ซันไปบูชาเลยไหมณิน”



โฟล์คเพื่อนกลุ่มณินทักขึ้น ทุกคนพากันขำไม่เว้นแม้แต่ผม ณินมันเลยไปงอแงใส่ผัว เอ้ย พ่อมันแทน



“คริษฐ์ไอ้โฟล์คแซะกูอ่ะ”



ณินเอาไหล่กระแทกคริษฐ์เบา ๆ



“มึงก็ไปแกล้งมัน”


“หึหึ” ผมหัวเราะ


คริษฐ์ว่าไม่ใส่ใจแต่ทุกคนทำหน้าเหม็นเบื่อ ใคร ๆ ก็ว่าณินให้ท้ายผมแตะไม่ได้ แต่คนที่แตะไม่ได้จริง ๆ คือณินต่างหาก คริษฐ์มันทั้งรักทั้งห่วงของมันจะตายแต่พวกมันก็ไม่ได้คบกันนะ ไม่รู้ว่ารักกันยังไงเพราะคริษฐ์มันก็มีเด็กของมันไปเรื่อย ส่วนณินมันก็ไม่ได้ว่าอะไร



“แล้วสรุปมึงจะไปไหม”



คริษฐ์หันมาถาม



“อือ ขี้เกียจกลับห้อง”



Rrrrrr Rrrrrr



Inn is calling…




ผมก้มมองมือถือด้วยสายตาว่างเปล่า ปล่อยให้มันสั่นไปงั้นแหละ ขี้เกียจรับ สายตัดไปก่อนจะสั่นขึ้นมาใหม่ผมก็ยังไม่สนใจจนมันตัดไปสามครั้ง โทรศัพท์ไอ้คริษฐ์ก็ดังขึ้น



“ครับพี่อิน” นั่นไง



“อยู่บาร์วิทพี่ ครับนั่งอยู่ข้าง ๆ ผมเนี่ย สงสัยเปิดสั่นมันคงไม่รู้ตัว”



 ไม่รู้ตัวห่าไรล่ะ ผมปล่อยให้มันสั่นตรงหน้าขาจนไส้จะเลื่อนแล้วเนี่ย



“ครับ ๆ โอเค”



มันวางโทรศัพท์ก่อนจะหันมาบอกผม



“เดี๋ยวพี่อินมาหา ห้ามหนี”



มันบอกก่อนจะก้มลงไปกินข้าวของมันต่อ ผมยักไหล่ หนีทำไม ไม่ได้คิดจะหนีสักหน่อย อยากมาก็มาไม่เห็นจะสนใจ ไม่เกินสิบนาทีร่างสูงโปร่งสวมเสื้อกาวน์สองคนก็เดินเข้ามาในโรงอาหารคณะ



“พี่แวะเอาขนมมาให้ครับ”



เขายื่นถุงขนมมาตรงหน้าผม



“ขอบคุณครับ”



ผมไม่เข้าใจว่าแค่คำขอบคุณของผมมันสามารถทำให้เขายิ้มกว้างได้ขนาดนั้นจนพี่มินเพื่อนเขาเอ่ยแซวนั่นแหละ



“หน้าบานเชียวนะมึงทีตอนเดินมาหน้าอย่างกับหมาหงอย”



ผมเลิกคิ้วถาม อินยิ้มอ่อนก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ผมที่ไอ้คริษฐ์มันเว้นที่ให้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไอ้เพื่อนเลว



“ก็กลัวว่าคุณคนเล็กจะไม่ยอมรับ”



อ่อ อย่างนี้นี่เอง ผมยักไหล่



 “ไม่มีเหตุผมอะไรที่ผมจะไม่รับนี่ครับ ผมรับแต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะกิน”



รอยยิ้มของเขาจางลง



“อ่ะ ขนมอินซื้อมาฝากพวกมึงกินได้เลยนะ กูอิ่มแล้วเจอกันคาบบ่าย”



ผมไสถุงขนมไปไว้ตรงกลางโต๊ะบอกพวกเพื่อน ๆ แล้วลุกขึ้นคว้าจานข้าวไปเก็บ



“เที่ยวเชียงใหม่สนุกไหม”



เสียงทุ้มข้างตัวเอ่ยถาม ผมถอนหายใจเหนื่อยหน่ายอุตส่าห์เดินหนียังจะเดินตามมาอีก



“ไม่หิวข้าวหรือครับ”



“พี่กินขนมปังไปเมื่อเช้าแล้วครับ”



“ผมหมายถึงมื้อกลางวัน”



“ยังไม่หิวครับอยากคุยกับคุณคนเล็กก่อน”



ผมหยุดตรงร่มไม้แถวคณะแล้วหันกลับไปมองหน้าเขา



“เดี๋ยวปวดท้อง”



ผมเอ่ยสั้น ๆ แต่กลับได้รอยยิ้มกว้างกลับมา



“ขอบคุณครับที่เป็นห่วงพี่”



“ไม่ได้ห่วง!”



ผมสวนทันควัน เขายกมือยอมแพ้



“โอเคครับไม่ห่วงก็ไม่ห่วง”



น่าขัดใจชะมัด ผมเกลียดใบหน้าเปื้อนยิ้มของเขาจริง ๆ ให้ตายเถอะ



“คุณคนเล็กยังไม่ได้ตอบพี่เลย”



“ตอบอะไร แล้วก็เลิกเรียกผมด้วยชื่อนั่นซักที”



ผมเริ่มก้าวเดินต่อ



“พี่ถามน้องเรื่องเที่ยว”



“ก็ดีครับ”



ผมเดินเข้ามานั่งใต้ตึกคณะ เขาเดินตามมานั่งฝั่งตรงข้าม



“ขอโทษนะครับพี่ติดงานเลยตามไปอยู่ด้วยนาน ๆ ไม่ได้เลย พอพี่ไปหาที่ไร่คุณยายก็บอกว่าน้องไปปายพี่ติดต่อไม่ได้เลยอยู่ต่อสองสามวันแล้วก็กลับกรุงเทพฯ”



“ครับ”



“น้องผอมลง”



“เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับชีวิตผมซักทีครับ”



ผมมองหน้าเขาตรง ๆ อินหน้าเจื่อนลงแต่ก็ยังยิ้มอ่อนให้ผม ผมเกลียดที่สุดเลยรอยยิ้มแบบนี้ รอยยิ้มที่ทำให้ผมตายใจ ทำให้ผมใจอ่อนหลอกล่อให้ผมหลงเชื่องมงาย และสุดท้ายผมก็กลายเป็นแค่ไอ้โง่คนนึง



“อาหารที่โน่นไม่อร่อยหรือ”



เหมือนว่าเขาจะไม่ได้ยินในสิ่งที่ผมพูด



“อิน”



ผมเรียกชื่อเขาเสียงเรียบ เขานิ่งไป



“จะให้พี่เลิกยุ่งกับชีวิตน้องได้ยังไงในเมื่อพี่ยังเป็นห่วงน้องอยู่ทุกวัน”



เกลียดคำพูดห่วงใยของเขา เกลียดสายตาที่ส่งผ่านความอบอุ่นนั้นมา เกลียดการกระทำที่ดูจะเป็นห่วงผมเหลือเกิน ผมเกลียด เกลียดเขาที่สุด



แล้วในวันที่น้องต้องการพี่ที่สุดพี่หายไปไหนหรือ วันที่น้องต้องการให้พี่อยู่ข้าง ๆ พี่ไปอยู่ไหนมา



“คุณคนเล็ก..”



ผมยกมือห้ามไม่ให้เขาพูด



“พอเถอะครับ ถ้าอินเป็นห่วงว่าผมจะอยู่ไม่ได้ผมบอกอินไว้ตรงนี้เลย ว่าผมอยู่ได้ผมสบายดีผมดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วงผม ผมไม่ได้โดดเดี่ยว ผมมีเพื่อนผมมีคุณตาคุณยาย เอาเวลาที่มาตามผมไปดูแลคู่หมั้นของอินเถอะ”



“ตอนเด็ก ๆ น้องพูดเสมอว่าอยากเป็นอะไร โตขึ้นจะทำอะไรและทุกอย่างที่น้องพูดมักจะมีพี่อยู่ในนั้นเสมอ..”



ผมหันหน้าหนีสายตาเจ็บปวดนั้น มือสองข้างกำแน่นอยู่บนหน้าตัก ขอบตาร้อนผ่าว เกลียดตัวเองจริง ๆ ที่ชอบทำตัวอ่อนแอ เพราะแบบนี้ไงเขาถึงยังเห็นว่าผมเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโตเสียที



“อย่าพูดเหมือนผมเป็นคนผลักอินออกมา! อินเองไม่ใช่หรอที่เลือกอนาคตที่ไม่มีผม!”



“มันไม่ใช่แบบนั้น” เขาพยายามอธิบาย



“พอเถอะครับ ผมเรียนรู้ความผิดพลาดในอดีตแล้วและตอนนี้ผมก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ผมอยู่ได้...ตอนนี้ผมไม่ต้องการอินอีกต่อไปแล้ว ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้นะครับแต่ถ้ายังเคารพในการตัดสินใจของผมเหมือนที่ผ่าน ๆ มาช่วยทำตามที่ผมขอด้วยนะครับ อย่ามายุ่งกับผมอีกเลย”



ผมเดินออกมาโดยภาพสุดท้ายคือสายตาปวดร้าวของเขา



ผมรู้ว่าเขาเจ็บ



แต่เชื่อเถอะ



มันเจ็บไม่เท่าเสี้ยวหนึ่งที่ผมเคยเจ็บหรอก






Inn’s Part



ผมนั่งหมดแรงอยู่ตรงโต๊ะ ไม่มีแรงที่จะเดินไปรั้งแผ่นหลังบางนั้นไว้ ความจริงแรงจะเปล่งเสียงออกมาผมยังไม่มีเลย คำพูดทุกคำของน้องมันเสียดแทงหัวใจผมอย่างจัง คำว่าน้องไม่ต้องการผมคนนี้แล้วมันวนเวียนอยู่ในหัว มันเจ็บเหมือนจะหมดอากาศหายใจ ก้อนสะอื้นจุกอยู่ที่คอ



ทั้งหมดมันเป็นเพราะผม



ผมทำลายคำสัญญาระหว่างเรา อยากจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขก็ทำไม่ได้ อยากจะแก้ไขปัจจุบันยิ่งทำไม่ได้ใหญ่เลย ผมมองแผ่นหลังของน้องไปจนสุดสายตาจุดโฟกัสพร่ามัวเพราะม่านน้ำตาของตัวเอง ยอมรับแบบแมน ๆ เลยว่าร้องไห้ ผมเสียใจจริง ๆ ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะมีวันนี้



วันที่เราจะไม่ได้เดินไปด้วยกันแล้ว



จากเด็กตัวเล็กที่คอยตามผมต้อย ๆ ในวันวาน น้องชายข้างบ้านที่ผมเฝ้ารักทะนุถนอม เราสองคนสนิทกันเหมือนพี่น้องแท้ ๆ ผมรักน้องมากพอ ๆ กับที่รู้ว่าน้องก็รักผมมากเหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยรู้เลยนั่นก็คือความรู้สึกของเราสองคนมันเกินกว่าคำว่าพี่น้อง



ผมเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน เป็นหลานชายคนเดียวของตระกูล หน้าที่ของผมก็คือต้องรับดูแลกิจการของบ้านต่อและแต่งงานมีลูกหลานสืบสกุล นั่นเป็นคำขอเดียวของอาม่าก่อนที่ท่านจะเสีย



วันที่ผมรู้ตัวว่าเราสองคนรักกันแบบไหนมันเหมือนกับผมเจอทางตัน ผมไม่รู้ว่าควรเดินไปทางไหน ควรทำอย่างไร ผมหลบหน้าน้องโดยไม่รู้เลยว่าตอนนั้นน้องกำลังเจอกับปัญหา คนที่น้องต้องการพึ่งพิงที่สุดคือผมแต่ผมกลับไม่อยู่ตรงนั้นและที่แย่กว่านั้นคือการที่ผมทำให้คำสัญญาของเราสองคนพังทลาย



สัญญาของเราที่จะจับมือกันตลอดไป



เป็นผมเองที่เป็นฝ่ายปล่อยมือออกจากน้องก่อน ปล่อยให้น้องโดดเดี่ยวท่ามกลางความโหดร้าย และกว่าผมจะรู้ตัวทุกอย่างมันก็สายเกินไปแล้ว ผมพยายามที่จะกลับมาคว้ามือน้องไว้แต่มันก็มีกำแพงกั้นสองมือของเราอยู่



ผมควรทำอย่างไรดี



ฉันไม่รู้จะห้ามยังไงให้เธอไม่ไปไหน
และไม่รู้จะทำอย่างไรกับใจที่สลาย
และมันคือความเป็นจริง ที่เลวร้ายเกินใครจะรับไหว

รู้ – บี พีระพัฒน์


TBC







talk ค่อย ๆ ดูกันไปแล้วค่อยเลือกทีมนะคะ ด้วยรักจากไต :hao3:












« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2017 13:26:13 โดย _mysecretlove »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -02- update 22/02/2017
« ตอบ #9 เมื่อ: 22-02-2017 13:20:05 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -02- update 22/02/2017
«ตอบ #10 เมื่อ22-02-2017 18:05:23 »

ทำดีแล้วซันเราต้องยากเข้าไว้ o13

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -02- update 22/02/2017
«ตอบ #11 เมื่อ22-02-2017 18:16:45 »

เป็นเรื่องที่พูดยากนะ แต่ในเมื่ออินเลือกแล้วก็ควรจะหันหลังให้แล้วก้าวเดินต่อไปได้แล้ว อย่ามัวแต่มาทำให้ซันเขวเลย

ออฟไลน์ _mysecretlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-2
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -03- update 24/02/2017
«ตอบ #12 เมื่อ24-02-2017 19:28:49 »

ตัวร้าย
03




ผมขอแยกตัวออกมาหลังจากที่เพื่อน ๆ ว้ากน้องกันเสร็จ พวกมันชวนผมไปกินข้าวเย็น อย่าเรียกว่าข้าวเลย พวกมันชวนไปกินเหล้าแต่วันนี้ผมไม่มีอารมณ์เลยบอกปัดไป ตอนนี้ผมยืนอยู่บนสะพานพุทธ ณ เวลายี่สิบเอ็ดนาฬิกา พวกแว๊นยังไม่ค่อยมากัน ถือว่าสงบ ตอนนี้สีฟ้ากับสีน้ำเป็นสีเดียวกันเลย สีดำ เหมือนกับใจของผมตอนนี้



ผมถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้ ในหัวพาลไปคิดถึงเหตุการณ์เมื่อกลางวัน ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าสายตาคู่นั้นมันส่งผ่านความรู้สึกอะไรมา แล้วยังไงในเมื่อเรื่องของเรามันก็ไปต่อไม่ได้อยู่ดีสู้ต่างคนต่างอยู่ให้ผมรักษาหัวใจที่พังยับเยินไม่ดีกว่าหรือในเมื่อที่พึ่งเดียวที่ผมเคยมีมันหายไป ตอนนั้นผมเคว้งคว้างมาก ออกจากบ้านมาโดยที่ไม่รู้จุดหมาย สุดท้ายก็รู้ว่าเด็กอายุสิบแปดไปไหนไม่รอดหรอก ผมไปหาคุณตากับคุณยายที่เชียงใหม่พร้อมกับบอกว่าจะย้ายออกมาอยู่คนเดียว ท่านทั้งสองก็ไม่ขัด คุณตาซื้อคอนโดใกล้กับมหาลัยให้ผม นั่นคือจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตลำพัง



"หวังว่ามึงคงไม่กระโดดลงไปหรอกนะ" เสียงเรียบเรื่อยดังขึ้นข้างตัว ผมสะดุ้งเล็กน้อยหันไปหาต้นเสียง



"วันนี้เจอกันสองรอบแล้วนะ" ผมไม่ตอบคำถามของบีสท์ ซึ่งตัวเขาเองก็ดูเหมือนจะไม่ได้ต้องการคำตอบจากผมเสียเท่าไหร่



"กูมาที่นี่บ่อย"



"เราก็มาบ่อยไม่เห็นจะเคยเจอ"



"คงจะเจอหรอกที่ประจำกูอยู่ฝั่งโน้น" เขาชี้ไปทางฝั่งตรงข้ามที่ตอนนี้เริ่มมีคนมาตกปลากันแล้ว



"อ่อเหรอ แล้วมาทำไมฝั่งนี้ล่ะ"



"เห็นข้างหลังแล้วคุ้น ๆ เลยเดินมาดู สรุปก็เป็นมึงจริง ๆ ด้วย" เขาบอกก่อนจะเท้าแขนกับราวสะพาน ดวงตาคมดุมองไปยังผืนน้ำสีดำสนิท



"มีเรื่องหนักใจอะไรขนาดนั้น" เขาถาม ผมหันไปเลิกคิ้วใส่อย่างไม่เข้าใจ บีสท์เลยจิ้มหน้าผากผมแรง ๆ จนเกือบหงายหลัง



"ดูมึงทำหน้าสิ อย่างกับโลกทั้งใบจะสลาย"



"อย่างนั้นเลย?"



"เออสิ"



เขาบอกเสียงติดจะรำคาญหน่อย ใบหน้าหล่อคมทำปากขมุมขมิบ ผมอมยิ้มให้กับท่าทางและดวงตานั้น



"ขอบคุณนะที่เป็นห่วง"



"แค่กลัวจะเป็นพยานรู้เห็นการตายของใครบางคน"



"ไม่ได้คิดสั้นหรอก แค่คิดอะไรไม่ออกเฉย ๆ เบื่อด้วยเลยออกมาเดินเล่นแล้วบีสท์ล่ะ"



ผมถามเขากลับบ้าง ร่างสูงยักคิ้วก่อนจะจุดบุหรี่ขึ้นสูบ



"กูคิดงานไม่ออก" บีสท์ตอบสั้น ๆ ผมปัดควันบุหรี่ที่ลอยมาปะทะหน้าเพราะแรงลม



"โทษที" เขาบอกก่อนจะเดินอ้อมมาอีกฝั่ง



"สถาปัตย์ฯเรียนยากมากมั้ย" ผมถามเขา



"จะว่ายากมันก็ยากจะว่าง่ายมันก็ง่าย ไม่รู้สิ เพราะกูชอบด้วยมั้ง"



"เราอยากเรียนมากเลยนะแต่หัวเราไม่ไปเลย ชอบดู แต่ไม่ชอบวาดไม่ชอบทำ พยายามแค่ไหนก็ไม่ไหว"



"เข้าใจว่ะ"



บีสท์สูดบุหรี่เข้าปอดอึกใหญ่ก่อนจะเงยหน้าและพ่นควันขึ้นฟ้า ปกติผมไม่ค่อยชอบอยู่ใกล้คนสอบบุหรี่สักเท่าไหร่เพราะมันเหม็น กลิ่นมันติดตัวและไม่ค่อยดีต่อปอดตัวเองด้วย พวกไอ้คริษฐ์เวลาจะสูบมันก็จะแยกตัวไปเพราะรู้ว่าผมไม่ค่อยชอบแต่กับบีสท์ผมไม่กล้าว่าหรอก เราเพิ่งรู้จักกันนี่นา อีกอย่าง ผมกลัวโดนเขากระทืบ คนบ้าอะไรสูงได้สูงดี เมื่อสักครู่ตอนเขาเดินผ่านผมแอบกะความสูงตัวเองดู ปรากฏว่าผมสูงประมาณติ่งหูของเขา พระเจ้า! ผมสูงร้อยแปดสิบนะ เขาต้องสูงถึงสองเมตรแน่ๆ



"มีคนบอกมั้ยว่านายตัวสูงมาก"



“ทุกคน”



“ตัวใหญ่เหมือนยักษ์เลย”



“กูภูมิใจในรูปร่างตัวเองที่สุดแล้วล่ะ”



บีสท์หันมายิ้มให้ผม เป็นยิ้มที่...อ่อนโยนมากจนผมเผลอยิ้มตาม



“จะได้มีแต่คนกลัวใช่ไหมล่ะ”



“เปล่า จะได้ปกป้องคนที่กูรักได้ต่างหาก



ผมเชื่อเลยว่าถ้าใครได้เป็นคนที่เขาปกป้องจะต้องโชคดีมากที่สุดในโลก เพราะแววตาและน้ำเสียงของเขาจริงจังและเด็ดเดี่ยว เขาทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วเหยียบดับไฟ ยกมือยืดเส้นยืดสายแล้วพยักหน้าให้ผม



“อะไร?”



“ไปกัน”



“ไปไหน”



“ไปขับรถเล่น”



เออ...ไปก็ไปวะ งงตัวเองเหมือนกันที่อยู่ ๆ ก็เดินตามขึ้นรถคนที่เพิ่งจะรู้จักกันแบบนี้ได้ยังไง แต่เอาเถอะตอนนี้อารมณ์ผมไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่ ทำอะไรให้หัวโล่ง ๆ บ้างท่าจะดี



อ่า...รู้งี้ไปกินเหล้ากับไอ้พวกนั้นดีกว่า



"ทำไมกลัวกูพาไปฆ่าหมกป่ารึไงดูทำหน้าเข้า"



"เปล่า แค่กำลังคิด"



"คิดไร"



"คิดว่าน่าจะไปกินเหล้ากับเพื่อน"



"อยาก?"



"อือ คิดไปคิดมาก็อยากกิน"



ผมเท้าแขนกับขอบหน้าต่าง บีสท์เปิดประทุนรถให้เจ้าตัวขับช้า ๆ เรื่อย ๆ ลมเย็นสบายดีจัง



"ไปกินกับกูมั้ยล่ะ"



ผมละสายตาจากข้างทางหันไปเลิกคิ้วถาม



"มีร้านนึงนั่งชิวได้ถึงเกือบเช้า อาหารอร่อย ไปมั้ยไกลนิดนึง"



"แถวไหนอ่ะ"



"ลาดกระบัง"



ผมทำตาโต



"ไกลมาก!"



"เออน่ะเดี๋ยวกูมาส่งแล้วก็เลิกใช้คำสุภาพได้ละ ฟังแล้วจั๊กจี้รูหู"



บีสท์เอียงคอยักไหล่ทำหน้าแหย ผมนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง เอาวะ ขึ้นรถมากับมันขนาดนี้แล้ว ไปก็ไป พัทยากูก็ไป!



"ไปดิ"



จากฝั่งธนสู่ลาดกระบัง ขับไปอีกนิดก็ถึงสนามบินละ บีทส์พาผมเข้ามาในร้านนั่งชิว บรรยากาศภายในร้านมีแต่วัยทำงาน แต่ก็ดีเสียงไม่ค่อยดังแถมมีสาว ๆ ที่ทำงานสนามบินให้นั่งมองด้วย



"ซัน มึงกินเหล้าถูก ๆ ได้ป่ะ" บีสถาม ผทเงยหน้าจากเมนูอาหารขึ้นมาพยักหน้าให้



"แค่ไม่ใช่เหล้าขาวก็โอเค"



บีสท์หัวเราะเราะเล็กน้อยก่อนจะหันไปสั่งแสงโสมกลมนึงกับพนักงาน ผมนั่งท้าวคางมองเขาอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาดูผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติทำให้ผมหายเกร็ง ความจริงแล้วก็ไม่เห็นจะเหมือนที่คนอื่นพูดมาเลย



"มึงมิกส์อะไร"



"โซดาสไปร์ท"



"งั้นเอาโซดาสี่สไปร์ทสอง น้ำแข็งถังเล็กถังนึง" บีสท์สั่งเสร็จก็หันมาพยักเพยิดให้ผมสั่งอาหาร



"บีสท์มึงกินเผ็ดมั้ย"



"กินได้"



"โอเค พี่ครับตำไทยเผ็ดเปรี้ยว ยำหอยแครง เอ็นข้อไก่ทอด แล้วก็เฟรนซ์ฟรายครับ มึงเอาไรอีกป่ะ"



บีสท์ส่ายหัวพนักงานทวนรายการอาหารผมถึงกับเอ๋อ ฟังอยู่นานมากว่าเขาพูดภาษาอะไร บีสท์หัวเราะชอบใจใหญ่ก่อนจะแปลให้ผมฟัง



"พูดไม่ชัดแล้วยังแร็ปใส่กูอีกฟังไม่ทันเลย"



"ลูกค้าเยอะไง พี่แกรีบ"



ผมมุ่ยหน้าไม่ได้ตอบอะไรหันไปสนใจบรรยากาศโดยรอบร้านดูเหมือนว่าบีสท์จะเป็นขาประจำของที่นี่เพราะเด็กในร้านรู้จักเขาแทบทุกคน รอไม่นานเหล้าก็วางอยู่บนโต๊ะ บีสท์มันใจดีจัดการชงให้เรียบร้อบ




"ขอบใจ เออแล้วมึงเจอร้านนี้ได้ไง ไม่ได้ใกล้มหาลัยเราเลยนะ"



ผมยกแก้วชนแก้วมัน ยาวครับคืนนี้อีกยาว



"เพื่อนสนิทกูเรียนอยู่แถวนี้ แล้วชอบชวนมาร้านนี้"



"อ่อ"



ทำถูกแล้ว ที่เธอเลือกเขาและทิ้งฉันไว้ตรงกลางทาง
เมื่อตัวเธอพบคนที่ดี ที่เธอวาดไว้ในหัวใจ





โอ้โห กูจะเกลียดร้านนี้ก็ตรงเพลงที่เปิดนี่แหละ แทงใจดำเหลือเกินครับ จุกเลยจุก



"ทำหน้าเหมือนจะตายอีกละ เป็นห่าไร"



"อยากฆ่าคนเปิดเพลง"



ผมบอกมันเสียงขุ่น ยกเหล้ากระดกหมดแก้ว บีสท์ยิ้มมุมปาก



"อกหักหรอมึง" มันถาม มือใหญ่ยื่นมารับแก้วเหล้าไปชงให้ใหม่ ผมส่ายหน้า



"เปล่า ก็ไม่เชิง"



ผมยักไหล่ ก็ไม่รู้สิ จะเรียกว่าอกหักก็คงไม่ถูกเพราะเขาเองก็เป็นฝ่ายตามผมเหมือนกัน จะว่าถูกทิ้งก็ไม่เชิงเพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน



"อ่าว แล้วมึงจะเศร้าทำไม"



"ไม่รู้สิ มันเป็นความสัมพันธ์ที่ไปต่อไม่ได้ เหมือนเดินกันมาได้แค่ถึงกลางทางแล้วก็เจอทางแยก กูกับเขาเดินไปทางเดียวกันไม่ได้ ก็แค่นั้น"



บีสท์มองผมนิ่ง ๆ คนตัวใหญ่ถอนหายใจแล้วยื่นแก้วเหล้าส่งให้



"แล้วใช้อะไรตัดสินว่ามึงกับเขาเดินไปด้วยกันต่อไม่ได้"



"เกือบทุกอย่างเลยว่ะ แต่ที่สำคัญคือเพราะทั้งกูและเขาต่างก็เป็นผู้ชาย เขาเป็นลูกเป็นหลานคนเดียวของตระกูลกิจการที่บ้านทุกอย่างเขาต้องดูแล เขาควรที่จะมีครอบครัวที่ดี อืม แบบนั้นแหละ"



ผมเอานิ้วคนเหล้าในแก้วไปเรื่อย ตาเหม่อมองน้ำแข็งที่ค่อย ๆ ละลาย เหมือนความสัมพันธ์ของผมกับอิน ตอนแรกเป็นก้อนแข็งแรงก่อนจะค่อย ๆ ละลายหายไป เหลือบมองไปข้างโต๊ะเห็นผู้หญิงสี่ถึงห้าคนหนึ่งในนั้นนั่งร้องไห้เป็นเผาเต่าสงสัยเพิ่งเลิกกับแฟน แล้วมากินเหล้าย้อมใจ ยิ่งเจอเพลงนี้เข้าไป หึหึหึ



"เภสัชปีห้านั่นน่ะเหรอ"



ผมเลิกคิ้วแปลกใจเล็กน้อยที่บีสท์รู้



"รู้ได้ไง"



"เขารู้กันทั้งมหาลัยแล้วมั้งว่าปีห้านั่นตามจีบมึงมาตั้งแต่ปีหนึ่ง"



"หือ? มั่วแล้วไม่ได้ตามจีบ" ผมโบกมือปฏิเสธ



"ก็เขาพูดกันงั้น"



"แล้วคนอื่นเม้าท์เรื่องกูกันได้ไงวะเนี่ย"



"มึงไม่รู้ตัว?"



ผมมองมันด้วยสายตาฉงน



"รู้อะไร"



บีสท์ถอนหายใจเหนื่อยหน่าย



"เฮ้อมึงนี่นะไม่รู้เหรอว่าคณะมึงเขาเรียกมึงว่าสมบัติของคณะกัน"



สมบัติของคณะ ฟังดูตลกชะมัด ผมหัวเราะเมื่อบีสท์พูดประโยคนั้นจบ คณะผมยอมรับว่าผู้หญิงน้อยในคณะเต็มไปด้วยชายเถื่อน แต่ขอเถอะมาเรียกผู้ชายเถื่อน ๆ แบบผมว่าสมบัติคณะแทนที่จะเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ น่ารักนี่มันตลกไปหน่อยมั้ง



“ใครเป็นคนคิดวะเนี่ย จี้ชะมัด”



“แต่กูว่าเหมาะนะ”



“ผู้ชายหน้าเถื่อน ๆ แบบกูเนี่ยนะ” ผมเอียงคอถามมัน คงจะทำหน้ากวนตีนไปหน่อยมันเลยผลักหัวเข้าให้



“ไปส่องกระจกดูหน้ามึงใหม่ไปว่ามันหวานขนาดไหน”



ผมยักไหล่ ก็ยอมรับว่าหน้าตัวเองหวานเพราะได้แม่มาเยอะ แต่ไอ้ผมที่ไม่เป็นทรงของผมเนี่ยถามหน่อยเถอะเอาตรงไหนมาดูว่าน่ารัก ตัวเองยังรู้เลยว่ามันยุ่งเหยิงอย่างกับรังนกแล้วยิ่งตอนนี้มันยาวระต้นคอหวีก็ไม่ได้หวีถ้าไว้เคราอีกนิดคงเหมือนโจร



“แล้วสรุปมึงไม่ได้เป็นอะไรกับปีห้านั่นจริงหรอ”



“อือ จะเป็นไรกันได้ล่ะ”



ตอบปฏิเสธไปในมือยังกำมือถือไว้แน่น สายที่ไม่ได้รับจากอินกับข้อความอีกมหาศาลที่ผมไม่ยอมเปิดดู จะตามกันไปถึงไหน ทำไมไม่เริ่มใหม่ซักที กับเธอคนนั้นคู่หมั้นของเขาก็ไม่ใช่ว่าจะเลวร้ายอะไรเห็นตามหน้าข่าวสังคมก็ดูเหมาะสมกันดี ดีกว่ายืนข้างคนที่ไม่มีอะไรแบบผมมากโข



เรากินเหล้ากันไปเรื่อย ๆ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนประวัติกันทำให้ได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วที่เขาพูดกันว่าพ่อมันเป็นมาเฟียตะวันออกกลางอะไรนั่นเหลวไหลสิ้นดี แต่เรื่องรวยนี่บ้านมันรวยจริง พ่อมันทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศไทยนี่ยังไม่รวมถึงเครือโรงแรมของแม่มันที่มีสาขาทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้



บีสท์เป็นลูกชายคนเล็กมีพี่ชายหนึ่งคนชื่อพี่แบทตอนนี้เรียนโทอยู่อังกฤษ บีสท์เป็นคนพูดจาห้วน ๆ คิดอะไรก็พูดอย่างนั้นแต่ก็ดูจริงใจดีเราคุยกันจนเวลาล่วงเลยมาเกือบ ๆ ตีสี่ตอนนี้เหล้าหมดไปกลมนึงแล้วดูบีสท์มันไม่สะทกสะท้านเลยตัวผมเริ่มมึน ๆ เลยคิดว่าถึงเวลากลับเสียที



“คิดเงินเลยนะ”



“อือ” ผมครางในลำคอ รู้สึกง่วงขึ้นมาทันใด ผมเป็นพวกเมาแล้วจะง่วงไม่โวยวาย หลับอย่างเดียว



“ไหวมั้ยมึง”



บีสท์มายืนข้างโต๊ะตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมพยักหน้าให้มันแล้วลุกขึ้นสงสัยลุกเร็วไปหน่อยเลยเซจะล้มยังดีที่คนตัวใหญ่รับไว้ได้ทัน



“ค่อย ๆ เดิน”



บีสท์ก้มลงมากระซิบโอบไหล่ประคองผมออกมานอกร้านสติผมยังพอมีอยู่เลยทำให้รู้ว่าขนาดตัวผมกับมันต่างกันค่อนข้างมากยิ่งตอนนี้ที่มือข้างหนึ่งโอบไหล่ผมไว้รู้สึกเลยว่าตัวเองเหมือนจะจมหายไปในอกของเขาก่อนที่สติจะเลือนหายไป






ปล่อยมือฉัน ถูกแล้ว ให้ใจของฉันปวดร้าวแค่ไหน
ยอมฝืนใจ ให้เธอเดินจากฉันไป
เมื่อรู้ว่าเธอ มีคนที่พาไปถึงปลายทาง

ทิ้งไว้กลางทาง – potato



TBC










ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -03- update 24/02/2017
«ตอบ #13 เมื่อ24-02-2017 19:49:14 »

คือที่พี่อินคอยมาตามนี่ต้องการอะไร ถ้าน้องเล่นด้วยก็จะไปคุยกับคนที่บ้านเหรอ ตอนก่อนไม่ใช่อย่างนี้นะ เห็นว่าตัวเองเป็นลูกคนเดียวมีภาระหน้าที่กับทางบ้านเลยต้องหมั้น... แล้วทำไมไม่ปล่อยน้องไปล่ะ เพื่อนน้องอีก ทำไมเชียร์นัก ไม่รู้เหรอว่าถ้าคบกันแล้วสุดท้ายก็ต้องเลิก (ถ้าพี่อินไม่หาทางออกอย่างอื่นกับทางบ้านน่ะนะ)
เราเชียร์ให้น้องตั้งหลักให้ได้ค่ะ ถึงตอนนี้เสียใจวันข้างหน้าก็ยังจะได้เจอคนอื่นที่จะเข้ามามีความสำคัญในชีวิตในหัวใจ (ถ้าน้องไปปิดใจไปเสียก่อนนะ) ผู้ชายไม่ได้มีแค่คนเดียวในโลก เชิดหน้าแล้วก้าวต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Seilong2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -03- update 24/02/2017
«ตอบ #14 เมื่อ24-02-2017 20:41:37 »

ชูป้ายไฟ เชียร์บีสท์จ้า  :impress2:

ออฟไลน์ temaripik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -03- update 24/02/2017
«ตอบ #15 เมื่อ24-02-2017 21:50:03 »

ทีมนุ้งซันละกันเน้อ

ออฟไลน์ silverrain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -03- update 24/02/2017
«ตอบ #16 เมื่อ24-02-2017 22:55:35 »

ถ้าคิดจะปล่อยมือแล้วก็อย่าหันกลับมาอีกเลย

ออฟไลน์ pearlypear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -03- update 24/02/2017
«ตอบ #17 เมื่อ24-02-2017 23:21:01 »

น้องน่าสงสารจัง  คิดปล่อยมือแล้วก็อย่ากลับมาสิ :hao4:

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -03- update 24/02/2017
«ตอบ #18 เมื่อ25-02-2017 09:14:28 »

สงสารน้องงง

ออฟไลน์ _mysecretlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-2
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -04- update 27/02/2017
«ตอบ #19 เมื่อ27-02-2017 21:36:45 »

ตัวร้าย
04



ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เปลือกตากระพริบถี่เพื่อปรับแสง เอ๊ะเปลี่ยนผ้าปูใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่นะแล้วเรามีเครื่องนอนลายนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ



ไม่สิ



ผมมองสำรวจห้องที่ผมนอนอยู่ตอนนี้ ไม่คุ้น ไม่ใช่ห้องเราแน่ ๆ ในหัวก็พาลคิดไปถึงเมื่อคืน ใช่สิบีสท์เป็นคนพาเรากลับมานี่ก็น่าจะเป็นห้องของหมอนั่นนั่นแหละ ค่อย ๆ ลุกขึ้นมาจากเตียงไม่แฮงค์อย่างที่คิด อ่า...เสื้อผ้าก็เปลี่ยนเรียบร้อย



ผมยักไหล่ไม่ใส่ใจ ผู้ชายเหมือนกันไม่เห็นต้องซีเรียสต้องขอบคุณมันด้วยซ้ำที่อุตส่าห์เปลี่ยนชุดไม่ให้นอนทั้งกลิ่นเหล้า เหลือบมองไปที่มุมห้องก็เห็นหมีตัวโตนอนหลับอุตุอยู่ตรงโซฟา โคตรน่าสงสารคิดสภาพผู้ชายตัวใหญ่ ๆ มานอนคุดคู้อยู่ตรงโซฟาตัวแคบสิ เตียงก็ตั้งกว้างไม่รู้จักไปนอน



ตรงโต๊ะตัวเล็กหน้าโซฟามีโมเดลที่ยังไม่เสร็จตั้งอยู่ ผมย่อตัวลงนั่งพิจารณางานของมัน สวยดีละเอียดมาก ๆ ด้วย สงสัยเมื่อคืนกลับมาแล้วทำงานต่อแน่ ๆ จะอึดอะไรขนาดนั้น ลังเลอยู่ว่าจะปลุกมันไปนอนที่เตียงดี ๆ ดีไหมแต่ก็กลัวว่ามันจะเป็นพวกหลับยากถ้าได้ตื่นขึ้นมา



ผมเหลือบดูนาฬิกาพึ่งจะเจ็ดโมงเช้าวันนี้ผมมีเรียนบ่ายไม่รีบ แต่ไอ้คนที่นอนอยู่นี่สิ ไหน ๆ มันก็ให้ที่ซุกหัวนอน ทำอะไรตอบแทนมันหน่อยแล้วกัน เมื่อมองดี ๆ ก็รู้ว่าที่ผมอยู่ตอนนี้ไม่ใช่คอนโดหรือหอพัก แต่มันคือ บ้าน


ผมเดินไปแง้มม่านดูด้านนอก โอ้โห...เหมือนตัวเองหลุดออกมาในอาณาจักรอะไรสักอย่าง เหมือนไม่ได้อยู่ในประเทศไทยเลย อดไม่ได้ที่จะค่อย ๆ เปิดประตูกระจกแล้วสอดตัวเองออกมายืนที่ระเบียงเพื่อมองบรรยากาศภายนอกชัด ๆ ห้องของบีสท์น่าจะอยู่ชั้นสอง...ไม่สิชั้นสามแน่ ๆ เมื่อชะโงกดูจนมั่นใจแล้ว


ต้นไม้เขียวครึ้มเรียงรายจนสัมผัสได้ถึงความเย็นของพื้นดิน ไม่น่าเชื่อว่าจะมีที่แบบนี้อยู่ในกรุงเทพฯ ตัวบ้านอยู่สูงขึ้นเหมือนตั้งอยู่บนเนินเขามองไปทางด้านซ้าย พระเจ้า! โรงรถหรือโชว์รูมรถหรู มีตั้งแต่รถยุโรปราคาไม่น่ารักไปจนถึงซุปเปอร์คาร์ราคาโคตรจะไม่น่ารักนับคร่าว ๆ ได้เกือบยี่สิบคัน! มึงต้องรวยเบอร์ไหน! ตอบ! มองไปทางด้านขวาก็เป็นเหมือนบ้านอีกหลัง ชะเง้อมองแล้วเหมือนหลังคาบ้านทั้งสองหลังนี่จะเชื่อมกันอยู่


ผมยิ้มออกมาบาง ๆ เหมือนทุกสิ่งที่ผมเพิ่งพบเห็นเป็นสิ่งแปลกใหม่ในชีวิต บ้านของบีสท์สวยมากทั้งการตกแต่งและสไตล์แต่เหนือสิ่งอื่นใด


ผมรู้สึกว่ามันอบอุ่น


มันเป็นบ้านที่สามารถเรียกว่าบ้านได้จริง ๆ เห็นสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์หนึ่งตัวกับไซบีเรียนฮัสกี้อีกหนึ่งตัววิ่งเล่นกันให้วุ่นพร้อมกันนั้นร่างเล็กของหญิงสาวที่ผมจำได้ขึ้นใจว่าเป็นเพื่อนของณินที่มหาลัยก็ปรากฏสู่สายตาพร้อมกับผู้หญิงอีกหนี่งคนและผู้ชายอีกหนึ่งคน


“ตื่นเช้าจังวะ”


เสียงทุ้มดังอยู่ด้านหลังทำให้ผมหันกลับไปมอง บีสท์ยืนพิงกรอบประตูในสภาพหัวฟูชี้ไม่เป็นทรง อ้าปากหาวกว้างแถมยังเกาพุงที่มีแต่กล้ามเนื้อเป็นลอนสวยอีก ลองจินตนาการว่าถ้ามึงไม่หล่อนี่ทำแบบนี้ไม่ได้นะ มันจะสถุลมาก แต่มันหล่อไงเลยไม่ดูน่าเกลียดสักเท่าไหร่


“ชินอ่ะ แล้วนี่บ้านมึงหรอ”


“อื้อบ้านพวกกูเอง”


“พวกมึง?”


“อือ บ้านนี้อยู่กันทั้งหมด 12 คน”


ผมเบิกตาโตด้วยความตกใจมิน่าล่ะรถถึงเยอะขนาดนั้นแถมบริเวณบ้านก็กว้างมาก ๆ ด้วย


“12 คนเลยหรอ โคตรเยอะ”


คนตัวใหญ่เผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมาเป็นครั้งที่สองตั้งแต่ที่เรารู้จักกัน มันทำให้ผมเผลอยิ้มตามโดยอัตโนมัติ บีสท์บุ้ยปากไปทางสามคนที่เล่นกับสุนัขอยู่กลางสนามหญ้า


“อืม จะว่าเยอะก็เยอะจะว่าน้อยก็น้อยแต่พวกมันเป็นเพื่อนที่กูตายแทนได้เลยล่ะ”


“แล้วบ้านหลังนี้สร้างขึ้นใหม่เพื่ออยู่ด้วยกันเลยหรอ”


“ใช่ เราคิดกันไว้ตั้งแต่ใกล้จบมัธยมปลายว่าอยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันให้นานที่สุดก่อนแต่ละคนจะแยกย้ายไปมีชีวิตของตัวเอง บ้านหลังนี้จึงถูกสร้างขึ้นมา จริง ๆ ก็ไม่ค่อยมีใครเข้ามาหรอก”


เขายักไหล่ ชูมือบิดขี้เกียจสุดแขน ผมเม้มริมฝีปากรู้สึกผิดขึ้นมาตงิดที่ก้าวล้ำเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขา


“ขอโทษนะ”


คิ้วหนาเลิกขึ้นก่อนจะโบกมือไม่ใส่ใจเมื่อรู้ว่าผมหมายความว่าอะไร


“ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อยกูเป็นคนพามึงเข้ามาเอง ที่บอกว่าไม่ค่อยมีใครมาเพราะว่าไม่ค่อยมีคนรู้ว่าพวกกูอยู่ด้วยกันเพราะแต่ละคนก็มีคอนโดแยกอยู่ใกล้ ๆ มหาลัยอีกทีจะมีแค่บางคนเช่นกูเป็นต้นที่อยู่ที่นี่แทบจะทุกวัน”


“ที่นี่สวยแล้วก็รู้สึกอบอุ่นมากเลย”


ผมยิ้มบอกเขาอย่างจริงใจ เขาเองก็ยิ้มรับและพยักหน้าขึ้นลง


“ใช่ไหมล่ะ เพราะบ้านนี้สร้างขึ้นจากความรักและมิตรภาพของพวกกูทุกคน”


“สนิทกันมากเลยนะพวกมึงน่ะ มาอยู่ด้วยกันเยอะขนาดนี้แถมยังมีทั้งชายหญิงไม่ทะเลาะกันบ้างหรอวะ”


“ประจำ แต่ก็เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นใครเอาขนมไปกิน จะดูทีวีคนละช่องอะไรแบบนี้”


ผมทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ เป็นไปได้ด้วยหรอแล้วยิ่งผู้หญิงด้วยความซับซ้อนของเพศนี้สูงทะลุเพดานจนผมปักใจเชื่อไม่ลงว่าการอยู่ร่วมกันกับคนหมู่มากแบบนี้จะไม่มีทะเลาะกันเลย บีสท์เหมือนจะรู้ทันความคิดผม(อีกแล้ว) มือใหญ่จึงเอื้อมมาจิ้มหน้าผากผมจนหงายหลัง


“พวกกูไม่ได้รู้จักกันมาแค่ปีสองปีซะหน่อย ก่อนจะมาอยู่รวมกันก็รู้จักกันมาเกือบสิบปีแล้วบางคนรู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาลแล้วอีกอย่าง...พวกกูผ่านอะไรกันมาเยอะ”


ท้ายประโยคเสียงเขาแผ่วลงและเจือความเศร้าจนผมใจหาย แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น บีสท์สูดลมหายใจลึกและผ่อนมันออกมาร่างกายสูงใหญ่ยืดตรงแล้วหันมาหาผม


“วันนี้มึงมีเรียนป่ะ”


“มีตอนบ่าย มึงล่ะ”


“บ่ายเหมือนกัน”


“ดีจะได้ออกไปพร้อมกันทีเดียว”


เขาเดินหายกลับเข้าไปในห้องผมจึงเดินตามเข้ามาก็เห็นชุดนิสิตของผมซักรีดเรียบร้อยแขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าแล้ว ผมยืนมองมันตาแป๋ว ก็ไม่รู้จะทำอะไรนี่นาเลยยืนอยู่นิ่ง ๆ บีสท์มันเลยกวักมือเรียกให้ไปล้างหน้าแปรงฟัน


“จะกินอะไรอ่ะ”


บีสท์ถาม ตอนนี้พวกเรายืนอยู่ข้างกันหน้ากระจกในห้องน้ำ ในมือถือแปรงสีฟันกันคนละด้าม ห้องน้ำบ้านมันสวยจังเผลอมองอยู่นานจนมันใช้ศอกสะกิดเรียก ผมส่ายหน้าไม่รู้


“ไอ้อู๊อ่ะ”


แปลเป็นภาษาคนได้ว่า ไม่รู้ว่ะ แต่ด้วยสภาพที่ฟองยาสีฟันเต็มปากเลยพูดออกไปได้แค่นั้น มันเหลือบตามองผมนิด ๆ แล้วแปรงของมันต่อไปเงียบ ๆ ผมยักไหล่จัดการล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อย ผมไม่เหมือนคนอื่นอยู่อย่างคือเป็นมนุษย์ไร้ขนไม่ว่าจะเป็นขนแขนขา ขนจั๊กแร้ หนวดอะไรก็แล้วแต่ไม่มีทั้งนั้นมีแต่ขนอ่อน ๆ เลยไม่ต้องเสียเวลาโกนหนวดเหมือนผู้ชายคนอื่น


บีสท์ยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กมาให้ผมซับหน้า ผมกล่าวขอบคุณมันแล้วเดินออกมารอข้างนอกปล่อยให้มันทำธุระส่วนตัวของมันไป นั่งยอง ๆ ดูงานมันอย่างสนใจแต่ไม่กล้าแตะหรอกกลัวพัง เจ๋งอ่ะอยากทำได้บ้างแต่ลำพังแค่ตัดกระดาษให้ตรงสำหรับผมยังยากเลย มาทำอะไรแบบนี้คงไม่รอด


“นั่งแบบนั้นไม่เมื่อยรึไง”


ผมหันไปมองต้นเสียง บีสท์มันยืนพิงกรอบประตูมองผมยิ้ม ๆ ผมส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นยืน ชี้ไปที่โมเดลของมัน


“ทำให้ดูมั่ง” มันเลิกคิ้ว


“ตอนนี้?” ผมพยักหน้า


“ไม่ล่ะคืนนี้ค่อยทำ ยังไม่มีอารมณ์”


บีสท์ปฏิเสธ ผมถอนหายใจด้วยความเสียดาย ก็อยากนั่งดูตอนมันทำนี่หว่า อยากรู้สึกถึงฟีลเด็กถาปัตอ่ะเข้าใจมั้ย


“ก็อยากดูนี่”


“แล้วกูบอกรึไงว่าไม่ให้ดู”


มันมองหน้าผมแล้วส่ายหัว นิ้วยาว ๆ ของมันจิ้มหน้าผากผมจนหงายหลัง อีกแล้วนะเป็นโรคอะไรกับหน้าผากผมนักเนี่ย


“คืนนี้ค่อยกลับมาดูตอนนี้หาไรกินกันดีกว่า”


ผมมองมันตาปริบ ๆ ก่อนจะอมยิ้มเจ้าเล่ห์


“แน่ะ ๆ ชวนกูมานอนด้วยหรอ คิดอะไรกับกูป่ะเนี่ย”


บีสท์ส่ายหัวทำหน้าเหม็นเบื่อ


“เพ้อเจ้อ เดี๋ยวเตะไส้แตก”


ผมยิ้มแหยให้มันแล้ววิ่งตามมันออกไปข้างนอกแล้วก็ต้องตะลึงอีกครั้ง บ้านมันแต่งสวยมากบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าสไตล์ไหนแต่ผมรู้แค่ว่าผมชอบมาก ๆ เลยให้ตาย อยากมีบ้านแบบนี้บ้างจัง เดินตามหลังบีสท์ลงมาถึงห้องนั่งเล่นมีผู้ชายสองคนนั่งดูหนังกันอยู่หนึ่งในนั้นเลิกคิ้วสงสัยเมื่อเห็นคนแปลกหน้าอย่างผมเดินตามเข้ามาก่อนมุมปากจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์


“ไปฉุดลูกบ้านไหนเขามาล่ะมึง”


“ก็เหี้ยละ นี่ซัน ซันไอ้ปากหมานี่ชื่อเชนส่วนนั่นชื่อยู”


บีสท์แนะนำทีละคน เชนหนุ่มตี๋ผิวขาวดูขี้เล่นยิ้มยกมือทักทายส่วนยูละจากจอทีวีมายิ้มให้ผมแล้วกล่าวสวัสดีอย่างสุภาพ


“สวัสดีครับซัน”


“อะ..เอ่อ หวัดดีครับขอโทษที่มารบกวนนะ”


เชนส่ายหน้าโบกมือไหว


“ไม่เป็นไร ๆ อย่าคิดมากแล้วนี่กินไรยังพวกสาว ๆ ทำกับข้าวอยู่บ้านโน้นคงใกล้เสร็จแล้วล่ะ”


“วันนี้ใครอยู่มั่ง”


“บ้านโน้นมีแพรว เม แจม แตงบ้านเรามีมึง กู มัน แล้วก็ไอ้เปา”


เชนบอก บีสท์พยักหน้าเข้าใจพอดีกับโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ยูเป็นคนรับคุยไม่ถึงสิบวิก็วาง


“ป่ะ ข้าวเสร็จแล้ว”


ทั้งสองคนเดินนำผมกับบีทส์ไปก่อนคนตัวใหญ่พยักหน้าเป็นเชิงให้ผมเดินตามไปแต่ผมดึงชายเสื้อเขาไว้เสียก่อน


“เอ่อ...เดี๋ยวกูกลับก่อนก็ได้ ไม่อยากรบกวน”


รู้สึกเกรงใจมันขึ้นมาทันที แล้วก็เหมือนเดิมผมโดนจิ้มหน้าผากจนหงายหลังอีกแล้ว พอตั้งตัวได้ก็ตวัดตามองมันตาขวาง หลายรอบแล้วนะเว่ย!


“คิดมากทำไม เราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่หรอหรือกูคิดไปเองคนเดียว”


ผมชะงักกับคำพูดของเขา มองคนตรงหน้าที่ยิ้มอ่อนมาให้ผมนิ้วเรียวที่คอยจิ้มหน้าผากเปลี่ยนไปวางบนหัวแล้วโยกเบา ๆ


“ว่าไง”


“อือไปสิ”


อะไรบางอย่างข้างในบอกให้ผมไว้ใจเขาและผมเชื่อในการตัดสินใจของตัวเองเสมอ เราสองคนเดินมาอีกบ้านหนึ่งที่บีสท์บอกว่าเป็นบ้านของสาว ๆ ผ่านทางเชื่อมที่เป็นสะพานเล็ก ๆ มีบ่อปลาคาร์ฟตกแต่งเป็นน้ำตกเก๋ ๆ อยู่ด้านล่าง ผมมัวแต่มองนั่นมองนี่จนบีสท์ต้องเดินกลับมาลากผมให้เดินตามเขาไป เข้ามาถึงในห้องรับประทานอาหารทุกคนก็อยู่กันครบกำลังคุยกัน พอผมกับบีสท์เดินเข้ามาเสียงทุกอย่างก็เงียบลง เงียบสนิทจนผมหวั่นใจ


“ซันหรอ?”


“หวัดดีแพรว ขอรบกวนหน่อยนะ”


แพรวเป็นคนแรกที่เอ่ยทักผม หญิงสาวยิ้มหวานแล้วเดินเข้ามาหามองที่บีสท์ทีที่ผมที


“แล้วรู้จักกันได้ไงอ่ะ”


“เรื่องมันยาวเดี๋ยวเค้าเล่าให้ฟัง หิวแล้ว”


ผมตาโตเมื่อได้ยินคำเรียกที่บีสท์ใช้แทนตัวเองกับเพื่อน มันค่อนข้างจะ...เอ่อ น่ารักดี ไม่คิดว่าคนห้วน ๆ แบบนี้จะพูดจาสุภาพกับผู้หญิง แพรวย่นจมูกใส่คนตัวโตแล้วหันมาสนใจผมแทนมือเล็กยื่นมาดึงแขนผมให้เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะแล้วแนะนำแต่ละคนให้รู้จัก


“สองคนนี้น่าจะเจอกันเมื่อกี้แล้วเนอะ ถัดจากเชนมาชื่อเปา คนนี้เมเปิ้ล แตงกวาแล้วก็แจม ทุกคนนี่ซันเพื่อนที่มหาลัยกูเอง”


แพรวแนะนำเพื่อนเพิ่มอีกสี่คนผู้ชายผิวขาวเหลืองใส่แว่นดูติส ๆ ยกมือทักทายเนิบ ๆ ชื่อเปาถัดมาเป็นอาหมวยอารมณ์ดีเมเปิ้ลที่เธอบอกให้เรียกว่าเมเฉย ๆ ก็ได้ ผมเดาเอาว่าเธอน่าจะเป็นคนอารมณ์ดีเพราะว่าเธอยิ้มอยู่ตลอดเวลา สาวแว่นเนิร์ดน่ารักแต่พูดทีฮากระจายอย่างแตงกวากับลูกคู่อันดับสองอย่างแจม แพรวบอกว่าอันดับหนึ่งชื่อเจนที่วันนี้ไม่ได้อยู่ด้วย เราทานอาหารกันไปด้วยเสียงหัวเราะและสาว ๆ ก็ทำกับข้าวได้อร่อยมาก บีสท์บอกไม่บ่อยหรอกที่พวกเธอจะเข้าครัวทำอะไรให้กินเพราะฉะนั้นการที่ผมได้กินฝีมือพวกเธอในวันนี้ถือว่าโชคดีมาก


เพียงแค่เวลาไม่ถึงชั่วโมงที่เราร่วมทานอาหารด้วยกันมันทำให้ผมรู้สึกสนิทใจกับพวกเขาได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วทั้ง ๆ ที่โดยปกติแล้วผมค่อนข้างจะเว้นระยะห่างกับคนที่พึ่งจะรู้จักเสมอ แต่ไม่รู้สิ...อย่างที่ผมเคยบอกไปว่าความรู้สึกของผมบอกให้เชื่อใจบีสท์และแน่นอนมันก็เผื่อแผ่มาถึงเพื่อน ๆ ของเขาด้วย ในวงสนทนาส่วนมากคนที่แย่งกันพูดจะเป็นแตงกวา เมเปิ้ลแล้วก็เชนเป็นส่วนใหญ่พวกที่เหลือจะคอยเสริมและตบมุขฮา ๆ ไม่ขาด ขนาดเปาที่ผมคิดว่าเขานิ่งแต่จริง ๆ แล้วก็เป็นคนที่ตลกหน้าตายคนหนึ่งเลย


ผมชอบพวกเขาจังความรู้สึกที่อยู่รอบตัวของพวกเขามันคือความอบอุ่น สายสัมพันธ์ที่คนนอกอย่างผมมองเข้าไปปราดเดียวก็รู้ว่ามันแน่นแฟ้นแค่ไหน เห็นแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้อยากมีเพื่อนแบบนี้บ้างจัง ไม่ใช่ว่าพวกเพื่อนผมไม่ดีนะพวกมันก็ดีแต่ก็ไม่ได้สนิทกันมากขนาดนี้


“ตอนแรกกูคิดว่ามึงหยิ่งนะ”


ผมเลิกคิ้วถามเมื่อตอนนี้เราทั้งคู่กลับขึ้นมาบนห้องของบีสท์แล้ว


“ทำไมอ่ะ”


“ก็ลุคมึงดูเงียบ หน้าหยิ่ง ๆ เชิด ๆ ประมาณนั้นแหละ”


“อ่อ ก็ถ้ารู้จักกันกูก็พูดมากนะ”


“กวนตีนด้วย”


“บีสท์!”


ผมแหวใส่ดูท่าอีกคนจะชอบใจ หัวเราะร่วนเชียว ผมขมวดคิ้วแล้วเอียงคอมองคนตรงข้าม


“มึงก็ต่างจากที่กูคิดนะ” ผมบอกบ้าง


“หึ ทำไมกูดูเป็นคนยังไงในสายตามึง”


“เอาจริงกูก็ไม่ค่อยรู้จักอะไรมึงมากหรอกแต่ได้ยินมาแต่ละอย่างก็ไม่ค่อยดีทั้งนั้น ทั้งเรื่องความโหดที่เขาลือกันว่าแค่ใครมองหน้ามึงแล้วมึงไม่พอใจรู้ตัวอีกทีคนมองก็ฟื้นที่โรงพยาบาลแล้วอะไรทำนองนั้น”


บีสท์มองผมนิ่งแล้วเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ยถาม


“แล้วมึงคิดว่ากูเป็นแบบนั้นไหม”


“ตอนแรกก็กลัวนะเพราะเสียงมึงแบบนิ่ง ๆ ใหญ่ ๆ มันดูมีอำนาจเลยหงอไปแต่ได้พอรู้จัก ก็...”


ผมทิ้งช่วงให้มันลุ้นเล่น ตลกหน้ามันตอนนี้จังเลย เหมือนหมาตัวใหญ่ที่รอเจ้าของให้อาหารด้วยความหวังตาสีนิลของบีสท์ดูลุ้นมาก


“มึงนี่กวนตีนดีจริง ๆ” ผมหัวเราะก่อนจะเอื้อมมือมาตบบ่ามันเบา ๆ


“ฮ่า ๆ โทษ ๆ ไม่รู้สิสำหรับกูมึงคือคนที่ดีคนหนึ่งเลยนะถึงเราจะยังรู้จักกันแค่ไม่กี่วันก็เถอะ”


บีสท์ยิ้มกว้าง รอยยิ้มนั้นทำให้ผมหยุดนิ่งไปชั่วขณะเพราะมันเป็นรอยยิ้มที่สวยมาก ดูก็รู้ว่าคนยิ้มมีความสุขมากขนาดไหน ผมยิ้มตามคนตรงข้าม ผมรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ นะ บีสท์ดูเป็นคนที่การกระทำกับคำพูดสัมพันธ์กันคือเป็นคนที่คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น ถึงจะโผงผางไปบ้างแต่ก็ดูจริงใจไม่มีอะไรปิดบัง


โดยรวมแล้วถือว่าน่าคบหา


แต่... นี่ผมกำลังประเมินอะไร


“ขอบคุณนะที่ไม่ตัดสินกูจากคำพูดคนอื่น”


บีสท์เดินเข้าห้องน้ำไปแล้วแต่ทำไมความอบอุ่นบนหัวผมยังไม่จางหายไปสักที เสียงทุ้มที่เอ่ยกับผมเมื่อสักครู่ ดวงตาสีนิลดุทอประกายอ่อนโยนคู่นั้น แล้วยังมือใหญ่ที่วางอยู่บนหัวของผม ทำไมมันทำให้หัวใจผมเต้นแรงได้มากขนาดนี้


เราสองคนเดินทางมาถึงมหาลัยเกือบ ๆ สิบเอ็ดโมง ผมบอกให้บีสท์จอดให้ลงแถว ๆ ถนนหน้าคณะแล้วเดินเข้ามาเอง พอดีว่าภาคผมอยู่หน้าคณะและคาดว่าพวกเพื่อน ๆ น่าจะนั่งกันอยู่ใต้ถุนคณะอยู่แล้วขี้เกียจตอบคำถามพวกมันถ้าเห็นว่าผมมากับรถที่พวกมันไม่คุ้น ก่อนจากกันเราก็ตกลงแลกเบอร์กันเป็นที่เรียบร้อยเพราะผมจะกลับไปดูมันทำโมเดลตามที่ตั้งใจ


อีกเหตุผลหนึ่งก็คือผมอยากกลับไปที่บ้านแฝดหลังนั้นอีก


บ้านที่สามารถเรียกได้ว่าบ้านจริง ๆ


“วันนี้มึงดูอารมณ์ดีผิดปกตินะซัน”


ซานมองหน้าผมหลอน ๆ ผมเลิกคิ้วมองหน้ามันนิ่งก่อนจะนั่งลงข้างคิงตรงข้ามกับซาน


“ก็ปกติ”


พวกมันสองคนหรี่ตามองทำหน้าไม่เชื่อเสียเต็มที่ ผมเลยยักไหล่ไม่สนใจหยิบมือถือขึ้นมาดูไล่ตอบข้อความที่ไม่ได้อ่านมาตั้งแต่เมื่อวาน


“ไม่ปกตินะ คือมึงว่ามันแปลก ๆ มั้ยคิง”


“อืม มึงผิดปกติว่ะซัน”


“ยังไง” ผมถอนหายใจแล้วเงยหน้ามองพวกมันที่ขมวดคิ้วจ้องผมตาไม่กระพริบ


“ก็...แววตามึงดูมีความสุข”


“หรอ” ผมครางรับคำพูดของไอ้ซานเบา ๆ มันสองคนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง


“มีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นรึไง” คิงถาม ผมเลยพยักหน้าตอบ


“อือ นิดหน่อย แต่ไม่เกี่ยวกับคนนั้นหรอกนะ”


“หืม อะไรยังไงมึงมีคนใหม่แล้วหรอวะปกติมึงไม่สนใจใครเลยนี่”


ผมผลักหน้าไอ้ซานจนมันหน้าหงาย(เหมือนที่บีสท์ชอบทำกับผม)เพราะหมั่นไส้หน้าตาอยากรู้อยากเห็นของมัน คิงมองผมแล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อย เทียบกับซานแล้วคิงนิ่งกว่าเยอะแต่นิ่งสุดในกลุ่มก็คงเป็นผมนี่แหละจะพูดเยอะกวนตีนกับคนที่สนิทใจเท่านั้น


“เรียกว่าเพื่อนใหม่น่าจะดีกว่า”


ผมตอบพวกมันแค่นั้นแล้วตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอกโดยการหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบแล้วเปิดเพลงกลบเสียงบ่นของไอ้ซานที่เผือกได้ไม่เต็มที่เพราะผมไม่ยอมบอกอะไร


“ซันแม่งนิสัยเสีย ชอบทำให้อยากรู้แล้วจากไป”


“มึงก็ชินกับนิสัยกวนตีนหน้าตายของมันได้แล้วนะซาน”


กูได้ยินนะคิงว่ามึงแอบด่ากู แต่เอาเถอะวันนี้อารมณ์ดีอย่างที่พวกมันทักจริง ๆ นั่นแหละจะปล่อยให้ว่าสักครั้งก็ได้ พูดถึงเย็นนี้แล้วก็ตื่นเต้น อยากดูมันทำโมเดลเร็ว ๆ จัง




투명한 유리구슬처럼 보이지만 그렇게 쉽게 깨지진 않을 거야
ฉันอาจจะดูเหมือนลูกแก้วใสๆ แต่ฉันไม่ได้แตกง่ายๆนะ
사랑해 너만을 변하지 않도록 영원히 널 비춰줄게
ฉันรักคุณ แค่คุณ และมันจะไม่เปลี่ยนแปลง ฉันจะส่องแสงไปที่คุณตลอดไป
Glass Bead – G Friend


TBC





Talk. แล้วความสนานจะบังเกิด ฮี่ ๆ






CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -04- update 27/02/2017
« ตอบ #19 เมื่อ: 27-02-2017 21:36:45 »





ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -04- update 27/02/2017
«ตอบ #20 เมื่อ01-03-2017 09:22:51 »

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -04- update 27/02/2017
«ตอบ #21 เมื่อ01-03-2017 09:48:01 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -04- update 27/02/2017
«ตอบ #22 เมื่อ01-03-2017 13:29:59 »

ซัน ได้รับสมญาว่า สมบัติของคณะ ได้บีสท์ เป็นเพื่อน
แต่บีสท์ พาเพื่อนมาให้ซันอีกหลายคนเลย
ซัน เจอคนไม่รักษาสัญญาทีเดียวสองคน
พ่อตัวเองที่ไม่รักษาสัญญา พาเมียใหม่เข้าบ้าน
อิน  ทิ้งสัญญา ทำตัวหายไป และมีคู่หมั้น
คนทีรักใกล้ตัวซัน ทิ้งสัญญา
แต่บีสท์ คนเลวที่ไม่เลวดังคำลือกลับเป็นคนดี  :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -04- update 27/02/2017
«ตอบ #23 เมื่อ01-03-2017 13:53:10 »

เข้าใกล้กันทีละนิดแล้วว  :o8:

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -04- update 27/02/2017
«ตอบ #24 เมื่อ01-03-2017 14:50:11 »

 o13

ออฟไลน์ _mysecretlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-2
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -05- update 01/03/2017
«ตอบ #25 เมื่อ01-03-2017 19:44:09 »

ตัวร้าย
05


“ทำไมวันนี้ดูอารมณ์ดีพิลึก”


คริษฐ์ก็เป็นอีกคนที่ถามหรือเนี่ย ผมละสายตาออกจากโทรศัพท์มามองมันก็พบว่าแทบจะทั้งโต๊ะจ้องมองผมอยู่ก่อนแล้ว ทุกคนมองผมด้วยความสงสัยยกเว้นแพรวที่อมยิ้มแล้วหันไปสนใจมือถือต่อ ตอนนี้พวกผมสี่คนมานั่งกินข้าวที่เดิม คือโรงอาหารคณะวิทยาศาสตร์พร้อมกับพวกของภาณินแต่ผมไม่ได้กินหรอกมานั่งกับพวกมันเฉย ๆ อิ่มมาจากบ้านบีสท์แล้วยัดเข้าไปอีกคงท้องแตกตาย


“นั่นสิวันนี้น้องซันของพี่ณินดูอารมณ์ดีนะ”


กระทั่งณินยังพูดออกมาสงสัยว่าสีหน้าผมคงออกชัดจริง ๆ นั่นแหละ ผมยักไหล่เลิกคิ้วโคลงหัว


“ก็ไม่มีอะไรทำให้อารมณ์เสียนี่”


“ไม่เลย ๆ ปกติของน้องซันไม่ใช่แบบนี้อย่าเถียงพี่ณินสิ”


แล้วณินมันก็บีบแก้มผมไปมา ผมยิ้มแล้วส่ายหัวเป็นคำตอบ ยังไม่อยากพูดเรื่องบีสท์ให้ใครรู้เพราะชื่อเสียงในมหาลัยเขาค่อนข้างจะไปในทางไม่ดีถึงตัวจริงจะไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนพูดมาแต่บีสท์ก็ไม่เคยแก้ตัวกับใครเลยสักครั้ง ตัวแพรวเองถึงจะเป็นเพื่อนสนิทกันก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งสองคนพูดเพียงแค่ว่า เรารู้ว่าพวกเราเป็นอย่างไรก็พอ คนอื่นจะมองอย่างไรก็ช่างเขาไม่ได้มามีส่วนอะไรในชีวิตพวกเราอยู่แล้ว


นั่นล่ะ ผมเลยไม่ได้พูดเรื่องบีสท์ให้เพื่อนฟังเพราะซานกับคิงไม่ค่อยจะปลื้มเขาเท่าไหร่ มันสองคนก็เป็นหนึ่งในหลาย ๆ คนที่มองบีสท์จากสิ่งที่เห็นภายนอกและคำบอกเล่าจากคนอื่น พนันได้เลยว่าถ้าผมบอกไปว่ารู้จักกับอีกคนนะ ถูกจับแยกออกจากกันแน่และไม่วายคงถูกคุมเป็นเงาตามตัว ไม่เอาด้วยหรอกอย่างนั้น ผมรู้ว่าเพื่อนเป็นห่วงเพราะ...เอ่อ ก็นะ ผมมีปัญหากับทางบ้านไม่ได้กลับบ้านนั้นมาจะสามปีแล้วและก็คิดว่าตัวเองจะไม่กลับไปอีกตลอดไป


เรื่องของผมเป็นปัญหากันใหญ่โตถึงขั้นฟ้องร้องกันเลยล่ะ สุดท้ายฝั่งคุณตาคุณยายก็ได้สิทธ์เลี้ยงดูผมไป ผมดีใจมากที่ไม่ต้องกลับไปอยู่บ้านหลังนั้นอีกแม้ว่าเขา...อืม พ่อของผมน่ะจะทำทุกวิถีทางเพื่อหว่านล้อมให้ผมอยู่กับเขา แต่บ้านที่ไออุ่นของแม่ ความรักของพวกเรามันจางลงไปแล้ว ยิ่งอยู่ยิ่งเห็นว่าเขามีความสุขกับครอบครัวใหม่ของเขามากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งปวดใจ คำสุดท้ายที่ผมพูดกับเขาผู้ให้กำเนิดของผมคือคำว่า ลาก่อน


ผมหันหลังให้กับบ้านหลังนั้น ละทิ้งสกุลที่ใช้มาตั้งแต่เกิดกลับไปใช้นามสกุลของแม่ ผมออกมาใช้ชีวิตคนเดียวในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตจึงทำให้ทุกคนดูจะเป็นห่วงผมมากเกินไปแต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาก็รู้ว่าผมสามารถอยู่ได้ คุณตาคุณยายจึงวางใจผมได้ในระดับหนึ่งแต่ผมรู้นะว่าพวกเขาก็คอยให้ไอ้พวกเพื่อนที่เคารพสอดส่องดูแลผมอยู่ตลอด พวกมันก็ทำหน้าที่ดีเกินโดยเฉพาะคิงกับซานทำอย่างกับผมเป็นลูกในไส้จนคริษฐ์ยังเตือนให้เพลา ๆ ลงหน่อย


“มันแอบซุกกิ๊กไว้ล่ะณิน”


ไอ้ซานเพื่อนชั่วรีบยื่นหน้ามาฟ้องณิน คนถูกฟ้องนิ่วหน้าเหมือนคนถ่ายไม่ออกขมวดคิ้วจ้องหน้าผม


“จริงรึเปล่าน้องซัน”


“เอาตรงไหนมาซุกล่ะณิน ซานมันก็มั่วไปเรื่อย”


“ไอ้ซานหน้าปลวกกล้าใส่ร้ายน้องซันของกูรึ!”


คราวนี้ความซวยไปตกอยู่ที่ซาน โดนมือแม่นาคของณินเอื้อมไปตบหัวเน้น ๆ มันบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรณินคืน ผมยิ้มเย้ยมันไปทีหนึ่งสมน้ำหน้าอยากหาเหาใส่หัวกูดีนัก


“แล้วเย็นนี้เข้าห้องเชียร์กับพวกกูมั้ย”


ผมส่ายหน้าให้กับคำถามของคริษฐ์


“ไม่ล่ะ ขี้เกียจ”


โกหกออกไปคำโตแต่ดูท่าพวกที่เหลือจะเชื่อหมดใจ พวกเพื่อนผมพยักหน้าเป็นอันเข้าใจจะมีก็แต่แพรวที่เงยหน้าขึ้นมายิ้มล้อแล้วพูดกลับมาแบบไม่มีเสียงว่า


‘รู้นะว่าไปไหน’


ผมยักไหล่ยิ้มรับ เฮ้อ...เมื่อไหร่จะเลิกเรียนซักทีเบื่อแล้ว อยากกลับเร็ว ๆ ด้วย


“ตั้งแต่เมื่อกี้ละ แอบกิ๊กกับแฟนกูหรอซัน”


โฟล์คเพื่อนณินเอ่ยขึ้น แขนแกร่งพาดไหล่แพรวแฟนสาวของเจ้าตัวดึงให้เข้าใกล้ตัวเองตาเรียวหรี่มองผมอย่างระแวดระวัง ผมกับแพรวหลุดหัวเราะ หญิงสาวใช้ศอกกระทุ้งท้องของแฟนตัวเองไม่เบานัก คนโดนถึงกับตัวงอเป็นกุ้ง


“กิ๊กบ้าไรล่ะ”


“ก็เห็นส่งสายตาให้กันนี่!”


โฟล์คเถียงเลยโดนแฟนมันตบหัวอีกป้าบใหญ่


“ปัญญาอ่อน”


คนถูกว่าย่นจมูกสะบัดหน้างอน แพรวเองก็ไม่ได้สนใจจะตามง้อสักเท่าไหร่


“ส่งสายตาอะไรอ่ะ สองคนนี้แอบมีเบื้องลึกเบื้องหลังกันหรอ”


ณินรีบขยับชิดกอดเอวผมไว้เหมือนเด็กหวงแม่ แพรวถอนหายใจเหนื่อยหน่าย


“กูมองกันไม่ได้รึไงณิน”


“น่ะ! เห็นมั้ยร้อยวันพันปีมึงเคยสนใจใครที่ไหน มันต้องมีอะไรแน่ ๆ”


ณินโวยวายขึ้นมาโดยมีลูกคู่เป็นโฟล์คที่คราวนี้หลบทั้งศอกทั้งฝ่ามือแพรวได้ มือใหญ่รีบคว้าข้อมือทั้งสองข้างของแฟนตัวเองไว้


“ใจเย็น ๆ กันก่อน ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละเมื่อวานแค่บังเอิญเจอกันเฉย ๆ”


“ที่ไหน!!//ที่ไหน!!”


พอผมตอบสองเสียงประสานก็ถามกลับดังลั่นจนคนในโต๊ะส่ายหน้าระอา ผมกับแพรวมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะตอบ


“ห้าง”


ผมตอบสั้น ๆ ไม่ได้โกหกเสียทั้งหมด เราบังเอิญเจอกันจริง ๆ เพียงแต่ไม่ได้เจอกันเมื่อวานที่ห้างแต่เป็นเมื่อเช้าที่บ้านเท่านั้นเอง


“ตอนไหน ไหนบอกว่าเมื่อวานกลับบ้านนั้นไง”


โฟล์คหันมาซักแฟนตัวเอง แพรวกลอกตาแล้วสะบัดตัวออกห่างนิดหน่อย


“ตอนเย็นที่เซ็นทรัลก็บอกแล้วนี่ว่านัดกับแจมไว้ที่นั่นรอกลับพร้อมกัน”


“อ่อ ก็แล้วไป”


“แล้วมึงเห็นน้องซันของกูไปกับใครมั้ยแพรวเจอกันทำไมไม่บอกกู”


“โอ่ยณินมึงก็อย่าบ้าตามโฟล์คมันได้มั้ยกูขอ ไม่เจอใครซันไปคนเดียว บังเอิญเจอในร้านหนังสือตอนสองทุ่มพอใจยัง! นี่ก็ถอยเกาะเป็นปลิงอยู่นั่นจะไปเรียนแล้ว”


แพรวตอบน้ำเสียงติดจะรำคาญ ร่างสูงโปร่งของหญิงสาวลุกขึ้นคว้ากระเป๋าขึ้นสะพายแล้วเดินออกไปโดยมีแฟนตัวดีรีบวิ่งตามไปด้วย ผมหันมามองณินแล้วพยักหน้าเพื่อย้ำว่าที่แพรวพูดมาเป็นความจริง โชคดีตรงที่ว่าเมื่อวานผมแยกจากเพื่อนประมาณทุ่มกว่า ๆ ทำให้ช่วงเวลาที่แพรวบอกนั้นปลอดภัยไม่มีใครมาจับผิด


“ไม่ได้แอบกิ๊กกันจริง ๆ นะ”


ณินถามย้ำอีกรอบ ซานกับคิงก็จ้องผมด้วยแววตากดดันจะมีก็แต่คริษฐ์นี่แหละที่ช่วยกู้สภานการณ์ไว้


“อย่ามาบ้าณิน เห็นเพื่อนมึงเป็นคนยังไงแล้วพูดแบบนี้เขาเป็นผู้หญิงเขาเสียหายไหม”


คริษฐ์บอกเสียงดุ ภาณินมีท่าทีอ่อนลงจนหงอย ผมยิ้มบางให้คนขี้หวงเห็นท่าทางแบบนี้แล้วอดสงสารไม่ได้ทุกที


“ไม่มีอะไรจริง ๆ ณินแค่บังเอิญเจอกันเฉย ๆ พวกมึงสองคนก็ไม่ต้องมามองกูแบบนี้เลย”


ผมบอกกับทุกคนท้ายประโยคกดเสียงต่ำให้กับพ่อทูลหัวทั้งสองคน ซานมันหรี่ตามองผมคิงเองก็มองมานิ่ง ๆ รู้หรอกว่าพวกมันไม่เชื่อแต่ถ้าผมไม่บอกซะอย่างมันก็ทวงหาความจริงไม่ได้หรอก พวกเพื่อนกินข้าวกันต่ออีกสักพักแล้วจึงแยกย้ายกันกลับไปเรียน คาบบ่ายพวกผมเรียนวิชาเลือกรวมในห้องสโลปใหญ่ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเรียนวิชาเดียวกับบีสท์ เราสองคนหันมองกันชั่วครู่ ร่างสูงใหญ่ยักคิ้วให้ผมนิด ๆ แล้วฟุบหน้ากับแขนเพื่อนอน


ผมมองการกระทำนั้นแล้วยิ้มออกมา คงจะนอนเอาแรงทำงานล่ะสิถึงวิชานี้จะเป็นวิชาเลือกแต่อาจารย์ก็เช็คชื่อทุกคาบเป็นการเก็บคะแนนไปในตัวซึ่งทำให้อยากจะโดดแค่ไหนก็ทำไม่ได้ เหล่านิสิตส่วนมากจึงมักจะใช้คาบนี้ทำงานวิชาอื่นหรือไม่ก็นอนหลับแบบนี้แหละ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับน้อง ๆ เลยจริง ๆ แต่จะว่าไม่ได้หรอกเพราะผมเองก็ทำ แหะ ๆ


ครืด...


โทรศัพท์ของผมสั่นหยิบขึ้นมาดูก็เห็นชื่อของคนที่ฟุบหลับส่งข้อความผ่านทางโปรแกรมแชทมาหา


Breath : เพิ่งรู้ว่ามึงก็เรียนวิชานี้

Sun : กูก็เพิ่งเห็นมึงเหมือนกัน

Breath : โลกกลม

Sun : พรหมลิขิตต่างหาก

Breath : เพ้อเจ้อแล้วไอ้มึนเอ๊ย มึงเลิกกี่โมงกูมีเรียนวิชาภาคอีกตัวเลิกห้าโมงเย็น

Sun : หมดแล้ว

Breath : ?? วันนี้มึงมาเพื่อเรียนวิชาเดียว? ขยันชิบ

Sun : แหม่ทำอย่างกับวิชานี้โดดได้อย่างนั้นล่ะ คะแนนเข้าห้องเยอะจะตายครึ่งครึ่งเลยนะ จริง ๆ แล้วมาคุยโปรเจคปีสี่กับอาจารย์ที่ปรึกษาด้วย

Breath : อ่อ โอเค กูนอนละถ้าเสร็จก่อนก็หาอะไรทำไปก่อนนะ กูเลิกแล้วเดี๋ยวโทรหา

Sun : (สติ๊กเกอร์สติชทำท่าตะเบ๊ะ)


เราหยุดบทสนทนากันแค่นั้นหลังจากที่ผมส่งสติ๊กเกอร์ไปแล้วขึ้นว่าอ่าน ถือว่ารับรู้กันทั้งสองฝ่ายเพราะถ้ามัวส่งคืนกันไปคืนกันมาคงไม่เป็นอันทำอะไร ผมมองชื่อไลน์กับรูปโปรไฟล์อีกคนอยู่ ๆ มุมปากก็กระตุกยกขึ้นกว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่คริษฐ์สะกิดนี่แหละ


“คุยกับใครทำไมอารมณ์ดี”


เดือนคณะโน้มตัวมากระซิบถามพยายามเหลือบมองจอโทรศัพท์ของผมแต่ดีที่ผมไหวตัวทันกดออกจากโปรแกรมได้ทัน ผมเลิกคิ้วมองคริษฐ์แล้วส่ายหัว


“เปิดเจอรูปตลก”


“หรอ? อืม”


มันหันกลับไปสนใจสิ่งที่อาจารย์พูดหน้าห้อง ผมเองก็เก็บโทรศัพท์แล้วหันไปสนใจเนื้อหาของบทเรียนบ้าง รู้อยู่หรอกว่าคริษฐ์ไม่เชื่อ แต่หมอนี่เป็นพวกใจเย็นถ้าบอกว่าไม่มีอะไรก็จะไม่เอ่ยถาม เขาจะรอจนกว่าผมจะเป็นคนพูดออกไปเองซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่คริษฐ์ต่างจากเพื่อนอีกสองคนและมันทำให้ผมชอบที่จะคุยกับมันมากกว่า


สบายใจดี...เหมือนตอนอยู่กับบีสท์


ผมสะดุดความคิดไปครู่หนึ่งเมื่อจู่ ๆ ชื่ออีกคนก็ผุดขึ้นมาในหัวแล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผมยิ้มออกมา จริง ๆ แล้วชื่อเล่นของเขาคือ breath(เบรท) ต่างหากล่ะแต่ด้วยความที่มันออกเสียงยากแล้วเขาก็ตัวโตกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ แต่เด็ก ชื่อเล่นของเขาเลยเพี้ยนมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นบีสท์อยู่ทุกวันนี้ซึ่งผมว่าชื่อที่เพี้ยนมาเนี่ยมันเหมาะกับเขาที่สุดแล้ว


อสูรที่อาศัยอยู่ในปราสาทหลังโต ต่างจากในนิทานคือภายในปราสาทเขาไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวแต่มีเหล่าสหายมากมายที่อยู่รวมกันอย่างมีความสุข


“กูชักจะสงสัยเหมือนไอ้สองตัวนั้นแล้วนะ”


“หึหึ ไว้มั่นใจเมื่อไหร่แล้วจะบอก”


“อ่าฮะ”


คริษฐ์ตอบรับเสียงเบาไม่ให้อีกสองคนที่นั่งถัดจากมันได้ยิน


“อะไรที่มึงทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะ”


“อื้อ ไม่ต้องห่วงไม่ใช่อะไรที่ไม่ดีหรอก เขาเป็นคนดี”


ผมย้ำให้มันมั่นใจ คริษฐ์พยักหน้าขึ้นลงตายังคงจ้องสไลด์หน้าห้อง กำลังเคลิ้ม ๆ โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นอีกครั้งหยิบขึ้นมาดูก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความเซ็ง


Inn : เย็นนี้เลิกกี่โมงครับ


ผมมองข้อความนั้นด้วยความเฉยเมยแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงเช่นเดิมไม่มีการเปิดอ่าน ไม่มีการตอบกลับ เดี๋ยวเขาก็คงหาคำตอบจากเพื่อนของผมเองเป็นแบบนี้ประจำ รู้ทั้งรู้ว่าผมไม่เคยเปิดอ่านไม่คิดจะส่งกลับไปแต่เขาก็ยังเพียรพยายามส่งมันมา


น่ารำคาญที่สุด


ครืด....


Breath : เจอกันที่ร้านกาแฟสีน้ำตาล ๆ หน้าม.นะรู้จักป่ะ แพรวมันรออยู่ที่นั่นถ้าเลิกเร็วก็นั่งรอที่นั่นไปก่อน กาแฟกินได้ มัฟฟินอร่อย

Sun : OK

Breath : อย่ากินเยอะนะวันนี้พวกนั้นจัดมื้อใหญ่ วันศุกร์กลับบ้านกันครบ

Sun : งั้นวันอื่นก็ได้ กูไม่อยากรบกวนเวลาของพวกมึง

Breath : เสียใจด้วยทุกคนรู้แล้วว่ามึงจะไป


ผมอมยิ้มกับโทรศัพท์เหมือนคนบ้าระหว่างที่ทยอยเดินออกจากห้องเรียน โชคดีที่ซานกับคิงขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนหน้านั้น ใจจริงก็อยากไปบ้านนั้นแหละอยากไปมากเลยแต่อีกใจก็เกรงใจบีสท์และเพื่อน ๆ ด้วยเหมือนกันที่ผมไปรบกวน แต่ในเมื่อพวกเขาไม่ว่าอะไรผมก็ขอกอบโกยหน่อยแล้วกัน


ผมแค่พยายามแสวงหาที่ ๆ เป็นของผมก็แค่นั้นเอง


Sun : ขอบคุณมากนะบีสท์

Breath : อือ


ผมเงยหน้าขึ้นสายตาสบเข้าพอดีกับดวงตาคู่คมตรงลิฟท์ บีสท์มองตรงมาที่ผมเช่นกันมุมปากเขายกยิ้มเล็กน้อยก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของเขาจะหายเข้าไปในตัวลิฟท์


“ถ้าพวกมันสองคนรู้กูว่าเรื่องใหญ่นะ”


เสียงทุ้มข้างกายดึงสติผมกลับมา คริษฐ์มองตามสายตาของผมไป อดหงุดหงิดในใจไม่ได้ลืมไปได้อย่างไรว่าเซนส์ของหมอนี่เร็วจะตาย มันวกสายตากลับมามองผมแล้วยักไหล่


“อย่างที่กูบอกไปว่าอะไรที่มีความสุขก็จะทำไป กูไม่ห้ามแต่ถ้าวันไหนมึงเสียใจเพราะมันเมื่อไหร่เตรียมตัวตอบคำถามพ่อมึงทั้งสองคนไว้ได้เลย”


“มึงก็เกินไป กูไม่ได้คิดแบบนั้นเสียหน่อย”


“เรอะ”


“ไอ้คริษฐ์!”


“หึหึ”


ผมเกลียดไอ้หัวเราะหึหึของมันมากเลยแถมยังสายตารู้ทันที่เหมือนมองทุกอย่างทะลุปรุโปร่งนั่นอีก ฮึ่ย! น่าขัดใจชะมัด ผมที่ทำอะไรมันไม่ได้จึงได้แต่เดินกระทืบเท้านำหน้ามันไปเมื่อคิงกับซานเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว


“มันเป็นไรอ่ะ”


“เมนส์ไม่มามั้ง”


“ไอ้คริษฐ์! กูได้ยินนะแล้วมึงจะทำหน้าหมางงอยู่อีกนานไหมซาน”


“อ่าวทำไมกูโดนด่าเฉยเลยวะ”


ซานมันเกาหัวงงอยู่ข้างคริษฐ์เดินตามหลังผมกับคิงมา ไอ้คิงก็อมยิ้มส่ายหัวผมเลยหันไปแยกเขี้ยวใส่มัน มันเลยยกมือสองข้างเป็นสัญญาณว่ายอมแพ้นั่นแหละผมถึงลดอาการประหม่าลง ไม่ใช่ว่าหงุดหงิดอาการรู้ทันของคริษฐ์มันหรอกแต่ผมแค่ยังไม่อยากจะยอมรับ


ว่าสิ่งที่คริษฐ์พูดมามันตรงกับที่ใจผมหวัง


“เออมึงพี่อินไลน์มาหากูอ่ะถามว่าเลิกกี่โมงเขาจะมาหา”


ซานเอ่ยบอกเมื่อผมออกมาจากห้องอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือสี่โมงครึ่งแล้วบีสท์เลิกห้าโมงไปนั่งกินกาแฟรอมันดีกว่าเผื่อแพรวไปรออยู่แล้วด้วย


“ซัน เฮ้ซันมึงฟังกูอยู่หรือเปล่า”


“หือ? มึงว่าอะไรนะ”


ซานมันส่ายหัวระอาก่อนจะทวนบทสนทนาก่อนหน้านี้อีกครั้งหนึ่ง


“พี่อินบอกว่าจะมาหา”


“แต่กูไม่ว่าง”


“บอกเขาเองสิ รออยู่ข้างล่างกับไอ้คิงน่ะ”


ผมถอนหายใจเบื่อหน่ายสิ่งที่พูดไปวันนั้นคงเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ไม่เข้าใจว่าเขาจะดึงดันไปเพื่ออะไรแต่ก็ไม่ได้อยากจะรู้คำตอบสักเท่าไหร่เพราะคิดว่าตัวเองสามารถเดาได้ อยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ เดินลงมาข้างล่างพร้อมกับซานที่มันคงกลัวว่าผมจะหนีเขาจึงเดินประกบตามมาด้วย เห็นเขาคุยอยู่กับคิงพอเห็นผมก็ยิ้มแล้วรีบลุกขึ้นมาหา


“คุณคนเล็ก”


ผมถอนหายใจอีกครั้ง ไม่ตอบรับเขาด้วยคำพูดแต่เลิกคิ้วถามแทน เขายื่นถุงน้ำหอมแบรนด์ดังมาให้


“คุณย่าฝากมาให้ครับ ท่านไปเที่ยวฝรั่งเศสมาแล้วก็ฝากความคิดถึงมาให้คุณคนเล็กด้วยบอกว่าถ้าว่าง ๆ ให้ไปหาหน่อยคนแก่อยู่คนเดียวแล้วเหงา”


“ขอบคุณครับ ฝากบอกท่านด้วยว่าถ้าว่าง ๆ เดี๋ยวผมแวะเข้าไป”


ผมยกมือไหว้กล่าวขอบคุณแล้วยื่นมือไปรับถุงที่ย่าของผมฝากมาให้ ย่าไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้นแต่เดาได้ไม่ยากหรอกว่าเขาคงแวะเวียนไปหาท่านบ่อย เป็นนิสัยปกติของอินอยู่แล้วที่เขามักจะใส่ใจคนรอบข้างอยู่เสมอ


 “ได้อยู่แล้วครับ เอ่อ...วันนี้ว่างไหมถ้าว่างไปทานข้าวเย็นกันไหมครับ”


“ไม่ว่างครับ ขอบคุณที่สละเวลาเอาของมาให้นะครับ ผมขอตัวก่อน”


ผมก้มหัวกล่าวลาเขาแล้วเดินจ้ำออกมาด้วยความว่องไวไม่สนเสียงร้องท้วงของซาน สายตาตำหนิที่ผมเสียมารยาทกับรุ่นพี่จากคิงหรือแม้กระทั่งสายตาตัดพ้อของเขา ผมส่ายหัวสะบัดความว้าวุ่นใจออกไปก่อนจะส่งข้อความบอกบีสท์ว่าผมเลิกแล้ว อีกฝั่งไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเดาว่าคงเรียนอยู่ไม่ก็นอนหลับ เดินออกจากประตูมหาลัยข้ามสะพานลอยมาจนถึงร้านกาแฟสีน้ำตาลที่บีสท์บอกไว้คนค่อนข้างเยอะแต่ไม่ถึงกับล้นยังพอมีที่ว่างอยู่จึงเดินเอากระเป๋าไปวางแล้วเดินไปสั่งกาแฟที่เคาท์เตอร์


ได้กาแฟกับมัฟฟินมากินรองท้องเดินกลับมานั่งที่โต๊ะแพรวก็เดินเข้ามาในร้านพอดีพร้อมกับผู้หญิงและผู้ชายที่ใส่ชุดนิสิตต่างมหาวิทยาลัย เธอเห็นผมแล้วก็โบกมือยิ้มกว้างเดินเข้ามาหาพร้อมกับสองคนนั้น


“มานานแล้วหรอซัน”


แพรวทักผมแล้วนั่งตรงที่นั่งว่างข้าง ๆ ส่วนอีกสองคนนั่งอยู่ตรงข้าม ผมยิ้มให้เธอก่อนจะตอบ


“เพิ่งมาถึงน่ะ สั่งขนมเสร็จแพรวก็เข้ามาพอดี”


“ดี ๆ นึกว่าจะรอนานเราไปรอรับไอ้พวกนี้มาอ่ะ อีหมากระเป๋านี่ชื่อนาฟ ไอ้หัวสีนี่ชื่อมาร์ค”


แพรวผายมือแนะนำเพื่อนของเขาทีละคน เธออธิบายลักษณะของเพื่อนได้ตรงไปตรงมามากเพราะผู้หญิงที่ชื่อนาฟตัวเล็กจริง ๆ อืมจะเรียกว่าเตี้ยก็ได้ตัวเล็กกะทัดรัดพกพาได้สะดวกส่วนผู้ชายที่ชื่อมาร์คก็ทำผมสีแสบตาที่ผมไม่สามารถระบุได้ว่าบนหัวของเขามีสีอยู่ทั้งหมดกี่สี ทั้งสองคนยิ้มทักทายผมด้วยท่าทางเป็นกันเอง


“สวัสดีซันใช่ไหม แพรวเล่าให้ฟังแล้วล่ะยินดีที่ได้รู้จักนะ”


“ครับยินดีที่ได้รู้จักนะนาฟ”


“จ้ะ”


“หวัดดีพูดมึงกูด้วยได้ใช่ไหม”


มาร์คยกมือทักทายพร้อมกับเอ่ยถามพอผมยิ้มทักทายกลับและพยักหน้าเขาก็ยิ้มกว้างแล้วยกนิ้วโป้งมาให้


“ต้องแบบนี้ ดี ๆ”


“เดี๋ยวกูไปซื้อกาแฟก่อนพวกมึงเอาอะไรป่าว”


“กูไปด้วยจะไปหาขนมแดก”


แพรวถามขึ้น ส่วนประโยคถัดมาเป็นของนาฟ หญิงสาวทั้งสองคนลุกขึ้นก่อนจะหันไปถามเพื่อนหัวสีของพวกเขา


“มึงเอาไร”


“อเมกาโน่เย็นแล้วกัน ใจมาก”


“เค”


มาร์คยิ้มตาหยีโบกมือให้เพื่อนทั้งสองแล้วหันกลับมาหา พูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ


“ตอนแรกที่ไอ้พวกนั้นบอกว่าบีสท์พาคนเข้าบ้านพวกกูที่เหลือแปลกใจมากเลยนะ มันไม่เคยพาใครมาเลย”


“ขอโทษนะ กูทำพวกมึงอึดอัดหรือเปล่า”


ผมเอ่ยขอโทษแต่มาร์คโบกมือปฏิเสธ


“ไม่ ๆ พวกกูแค่แปลกใจเฉย ๆ ไม่ได้อึดอัดหรือต่อต้านอะไรแค่นาน ๆ ครั้งจะมีเพื่อนมาเที่ยวบ้านแบบน๊านนานอ่ะเข้าใจใช่ป่ะ”


ผมพยักหน้าเข้าใจ


“บีสท์ก็บอก”


“อือนั่นแหละคนรู้ไม่ค่อยเยอะหรอกว่าพวกกูอยู่ด้วยกัน”


“อื้อ”


“อย่าว่างั้นงี้เลย แต่เพื่อนกูเป็นคนดีนะ”


มาร์คพูดยิ้ม ๆ ผมเลิกคิ้วแล้วหลบสายตาของเขา รู้สึกว่าแก้มตัวเองร้อนวูบ


“อะไร”


“เปล๊า แค่พูดลอย ๆ มันเป็นคนเก็บตัวกับคนอื่นน่ะถ้ารู้จักกันจริง ๆ แบบพวกกูมันก็เป็นคนเฮฮาคนนึง อืม...เป็นแฟนที่ดีไหมนะ ไม่รู้สิมันไม่เคยคบใคร เอาจริงไม่เห็นมันเคยสนใจใครเลยนะ จนวันที่มันพามึงเข้าบ้านนั่นแหละ”


“เฮ้ย ไม่ใช่แบบที่พวกมึงคิดนะวันนั้นกูไปกินเหล้ากันแล้วเมามาก กูหลับไปบีสท์คงไม่รู้ว่าจะไปส่งกูที่ไหนถึงพากลับบ้านอ่ะ”


มาร์คส่งเสียงจุ๊ ๆ แล้วส่ายหัว


“แล้วไปกินเหล้ากันได้ไง”


“ก็บังเอิญเจอกันแล้วก็ชวน ๆ กันไป”


“สองคน?”


“อื้อ”


“บีสท์ทักมึงก่อน?”


“อืม”


“หึหึซัน เพื่อนกูไม่เคยเสือกเรื่องของใครก่อนนะ


ผมเม้มปากใช้ความคิด ก็รู้อยู่หรอกว่ามันแปลกที่คนเพิ่งรู้จักกันจะให้ความสนิทสนมกับอีกฝ่ายถึงขั้นไปบ้านให้เข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวได้มากขนาดนั้น ผมเองก็ไม่ใช่คนที่จะคล้อยตามใครได้ง่ายแต่ก็ยอมตามเขาไปถึงแม้ว่าเราจะเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว


ถ้าจะแปลกก็ไม่ใช่แค่เขาหรอก


แต่เป็นเราทั้งสองคนมากกว่า




I wanna heal, I wanna feel what I thought was never real
I wanna let go of the pain I’ve felt so long
(Erase all the pain till it’s gone)
I wanna heal, I wanna feel like I’m close to something real
I wanna find something I’ve wanted all along
Somewhere I belong

Somewhere I Belong - Linkin Park



Tbc.

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -05- update 01/03/2017
«ตอบ #26 เมื่อ01-03-2017 20:39:29 »

มีเพื่อนช่วยเชียร์เยอะเชียว

ออฟไลน์ pearlypear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -05- update 01/03/2017
«ตอบ #27 เมื่อ01-03-2017 21:05:49 »

เบื่อซันกับคิง  รู้ว่าเพื่อนไม่ชอบ ยังจะทำยุแยงอยู่ได้ ในฐานะคนคนหนึ่ง บอกเลยว่าน่ารำคาญมากกกกก :z6: แย่ๆๆ


ชอบโมเมนต์น้องซัน กับ บีสนะ  งือ ละมุนอ่ะ :o8: :o8:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -05- update 01/03/2017
«ตอบ #28 เมื่อ01-03-2017 21:56:45 »

บีสท์ ซัน ใจตรงกัน  :mew1:
ซัน หลุดจากจากวงโคจรพี่อิน แล้ว
เป็นเพราะพี่อิน ทำให้หลุดจากกันเอง
ความรัก ความเชื่อมั่น ความผูกพัน ความไว้ใจ หมดไปแล้ว
เพื่อนๆหวงสมบัติของคณะ เพื่อพี่อินหรือ
คิงกับซาน ไม่คิดถึงใจซันเลยหรือ
เพื่อนถูกทรยศแท้ๆ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -05- update 01/03/2017
«ตอบ #29 เมื่อ01-03-2017 23:01:51 »

กำลังสนุกเลยค่ะ
บีทส์อบอุ่นนะเนี่ย
ส่วนซันก็กวนๆ หวังว่าบีทส์จะทำให้อารมณ์ดีขึ้นทุกวันๆนะ
เพื้อนบีทส์นี่ก็เป็นป๋าดันจังเนอะ ถูกใจ 5555
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด