ตัวร้าย
07
“ว้าว ๆ บ่าวสาวมาแล้ว ๆ แท่นแทนแถ่แด”
นาฟวิ่งจากเตาตรงมาที่ผมกับบีสท์แล้วทำท่าโปรยดอกไม้โดยมีเมเปิ้ลทำอยู่อีกฝั่งมาร์คกับเชนก็ไม่ยอมน้อยหน้าวิ่งกลับมาทำบ้างกลายเป็นผมกับบีสท์เหมือนคู่บ่าวสาวเดินเข้ามาในโบสถ์อย่างไรอย่างนั้น
“คนนี้หรอ แม่งหน้าสวยกว่ากูอีก”
“ก็เกินไป เจนนี่ซัน ซันนี่เจน”
บีสท์แนะนำผมให้เพื่อนคนสุดท้ายในกลุ่มเขารู้จัก เจนเป็นผู้หญิงที่ดูดีมีสไตล์ถ้าสมัยนี้ก็คงเรียกว่าพวกฮิปเตอร์ จะว่าไปพวกนี้แม่งคัดหน้าตากันเข้ากลุ่มใช่ไหม หน้าดีกันหมดเลยถึงจะไม่ได้ดูดีแบบโดดเด่นอย่างยูหรือบีสท์หรือสวยปังแบบแจมแต่คนอื่น ๆ ก็ดูดีแบบมีสไตล์เป็นของตัวเองกันหมดที่สำคัญ รวย!! ดูจากบ้านและรถก็น่าจะรู้
พวกเขาจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ กันที่สระน้ำหลังบ้าน มีเตาบาร์บีคิวตั้งอยู่คนปิ้งคือแพรวกับเม มีเครื่องดื่มมึนเมาตั้งอยู่ข้างกันเรียงรายเต็มไปหมดคงกะเมาแล้วนอนตายกันอยู่ตรงนี้ ผมเดินตามบีสท์เข้าไปหาแพรวยิ้มทักทายเจนเล็กน้อยเพราะยังเขินที่พวกนาฟเล่นอยู่ไม่หาย
“ทำใจหน่อยนะพวกเราขี้แกล้งกันแบบนี้ล่ะ”
เมเปิ้ลยิ้มพูดมือก็กลับเนื้อบนเตาไปด้วย ผมพยักหน้าเกาท้ายทอยแก้เก้อ
“บ้านใหญ่มาก”
ผมลากเสียงยาวสองสาวมองผมแล้วยิ้มน้อย ๆ บุ้ยปากให้บีสท์เป็นคนตอบ
“ที่ของพ่อกูกับของพ่อสกาย”
“พ่อบีสท์กับพ่อสกายเป็นเพื่อนรักกันน่ะ”
แพรวช่วยเสริม บีสท์พยักหน้าแล้วเล่าต่อ
“จริง ๆ เขาก็ซื้อไว้ให้กูกับไอ้กายนั่นแหละแต่ยังไม่ได้บอก พอพวกกูไปพูดเรื่องจะสร้างบ้านอยู่ด้วยกันพวกเขาก็เลยรีบยกที่ตรงนี้ให้ ไกลหน่อยแต่พวกกูชอบ มันเป็นส่วนตัวดี”
“อาฮะ แล้วใครออกแบบบ้านหรอสวยมากเลย”
“พี่กู”
“โคตรเท่”
“อือ แบทออกแบบให้แล้วก็ออกค่าตกแต่งให้เป็นของขวัญวันเกิดพวกกู”
“เกิดวันเดียวกัน?”
ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ อะไรมันจะขนาดนั้น แพรวกับเมหัวเราะกันคิกคักส่วนบีสท์ส่ายหัวอ่อนใจแล้วจิ้มหน้าผากผม
“มึงจะมึนอะไร ใครมันจะบ้าเกิดวันเดียวกันทุกคนวะ หมายความว่ามันรวบยอดทำให้ทีเดียวเป็นของขวัญวันเกิดของทุกคนไง เข้าใจยังเอ๋อ”
ผมลูบหน้าผากตัวเองที่ถูกเขาจิ้มแล้วพยักหน้า บอกเฉย ๆ ก็ได้ไม่เห็นต้องจิ้มเลยมันเจ็บนะเฟร้ยแล้วยังมาเรียกผมเอ๋ออีก เดี๋ยวมีเคลียร์ ๆ
“เข้าใจ!”
ผมกระแทกเสียงตอบมัน ทำได้แค่นี้แหละที่นี่ถิ่นเขาอย่าหือ ผมถือคติเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
“แต่แบบก็แก้หลายรอบอยู่นะ ก็แบบเราอยู่กันตั้งสิบสองคนใช่ไหมล่ะเดี๋ยวคนนั้นของเพิ่มตรงนี้อีกคนของเปลี่ยนตรงนั้น พี่แบทแทบกระทืบหน้า”
แพรวเล่าไปหัวเราะไปโดยมีเมเปิ้ลพยักหน้าสำทับ
“แล้วค่าบ้าน...”
“เงินเก็บพวกกูเอง”
“ทะ...ทั้งหมดอ่ะนะ”
“ใช่แล้ว”
เมเปิ้ลตอบพร้อมขยิบตาให้ พระเจ้า!!!! บอกผมทีว่าพวกเขาอายุเท่าไหร่ ผมไม่อยากประเมินราคาบ้านหลังนี้หรอกนะเห็นก็รู้ว่ามันต้องหลายตังค์มากแน่ ๆ แต่ก็ไม่คิดว่ามันเป็นเงินของพวกเขาทั้งหมด
“ก็นะ...ตอนเด็ก ๆ แข่งกันเก็บเงินกันน่ะพอโตมาเริ่มทำอะไรเป็นก็เริ่มหางานทำ อย่างพวกผู้หญิงก็ขายเครื่องสำอางค์อะไรที่พวกคุณเธอชอบ อย่างพวกกูก็รับจ๊อบโน่นนี่ ตัวท๊อปเลยก็โน่นสกายกับแตงกวาแม่งหาเงินกันเก่งชิบ สกายมันเป็นดีเจย์เปิดเพลงในผับตั้งแต่อายุสิบหกอ่ะคิดดูหวิดโดนตำรวจจับไปหลายรอบละแต่ผับพี่มันไงเลยรอด ส่วนแตงมันเปิดช่องยูทูปพูดอยู่คนเดียวคนตามเป็นแสนไม่เข้าใจ”
บีสท์เล่าเรื่องเพื่อน ๆ ของเขาให้ฟังด้วยรอยยิ้ม ผมได้แต่ฟังแล้วก็คิดตามพวกเขาน่าทึ่งกันมากเลย อายุเท่านี้มีเงินสร้างบ้านหลังโต ต้นทุนดีแถมยังขยันหาเพิ่มอีก น่านับถือจริง ๆ
“คุ้นหน้าแจมมันมั่งไหมล่ะ”
แพรวถาม ผมหันไปมองหน้าแจมที่นั่งกินกุ้งอย่างสบายอารมณ์บนเสื่อที่ปูอยู่ตรงพื้นหญ้า แล้วหันกลับมาส่ายหัวให้แพรว ทั้งสามคนทำหน้าเหลือเชื่อ ทำไมหรือผมพลาดอะไรไปหรือเปล่า
“มึงเล่นโซเชียลมั่งไหมเนี่ย”
บีสท์บ่น อ่าวกูผิดอะไรวะครับ
“ก็มีไลน์ไงเอาไว้คุยกับเพื่อนกับปู่ย่าที่เชียงใหม่ เฟสก็มีนะเวลาเพื่อนโพสพวกข้อสอบลงในกรุ๊ปหรือเวลาอาจารย์สั่งงานก็เข้าไปดู ทำไมอ่ะ?”
ผมเอียงคอถาม นี่สงสัยจริง ๆ นะ แจมเขาเป็นนักแสดงร้อยล้านหรือ?
“ช่วงนี้มันฮ๊อตฮิตน่ะ เล่นโฆษณาเล่นเอ็มวีเต็มไปหมดไอจีคนก็ตามพอ ๆ กับพิมฐาแล้ว มันบอกมันเป็นแจมฐา”
แพรวพูดกลั้วหัวเราะ ผมร้องอ้อเสียงดังแต่ก็เท่านั้นแหละเพราะที่คอนโดมีทีวีก็เหมือนไม่มีผมแทบจะไม่เคยเปิดเลยส่วนโซเชียลอื่นก็ตามที่บอกพวกเขาไปไม่ได้เล่นอะไรมากกว่านั้น
“หน้าคนละแนวกับพิมฐาเลยนะ”
ผมออกความเห็นแจมเป็นผู้หญิงที่สวย สวยแบบนางแบบไม่ได้สายน่ารักแบบพิมฐา
“ช่วงนี้มันสายฝ.”
“สายฝ.??”
ผมเอียงคองง บีสท์หัวเราะแล้วตบบ่าผมเบา ๆ มองหน้าแบบเห็นอกเห็นใจ
“กูก็ทำหน้าแบบมึงเลยตอนได้ยินครั้งแรก”
“สายฝ. คือสายฝรั่งน่ะ เมื่อก่อนมันเป็นสายเกาหลีแต่ตอนนี้มันมีพวกบล็อกเกอร์ฝรั่งเป็นแรงบันดาลใจเลยเปลี่ยนสไตล์หมด”
ผมมองไปที่แจมอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เจ้าตัวเขารู้ตัวมองตอบแล้วโบกมือยิ้มให้ผม ผมเลยยกมือทักทายกลับ
“นึกไม่ค่อยออกแฮะ แต่สไตล์นี้ก็เข้ากับแจมเขาดีนะ”
ทั้งสามคนพยักหน้า
“หนังหน้ามันดีทำอะไรก็ดี”
เมเปิ้ลทำปากยื่นค่อนขอดเพื่อน ผมกับบีสท์ช่วยสองสาวย่างอาหารทั้งหลายแหล่บนเตาอยู่ครู่ใหญ่ เปา ยู แจม นาฟก็มาผลัดเปลี่ยนให้พวกผมไปกินบ้าง พวกเราทั้งสี่จึงเดินมานั่งร่วมวงกับที่เหลือ
“มา ๆ นั่ง ๆ”
สกายตบที่นั่งข้าง ๆ เขาดึงมือผมให้นั่งหันไปมองบีสท์เขาพยักหน้าให้ผมจึงนั่งลงโดยทีบีสท์นั่งประกบอีกข้างหนึ่งข้างบีสท์เป็นแพรว เมเปิ้ล เจน แตงกวา เชนแล้วก็มาร์คตามลำดับจนเป็นวงกลมใหญ่ เล่นมอญซ่อนผ้ากันได้เลยนะถ้าคนจะเยอะขนาดนี้
“เต็มที่เลยนะซันไม่ต้องเกรงใจ”
เจนบอกผมพร้อมรอยยิ้มกว้างในมือเธอมีกุ้งตัวโตที่แกะเปลือกเรียบร้อยอยู่ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดจนชุ่มแล้วเอาเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
“รบกวนด้วยนะทุกคน”
ผมบอกพวกเขาก่อนจะลงมือกินบ้าง
“เป็นเพื่อนกันแล้วน่า มาเกรงใจทำไมนี่งานเลี้ยงตอนรับสะใภ้ใหญ่ของบ้านอย่างมึงเลยนะซัน”
“แค่ก ๆ ๆ นะ...น้ำ”
ผมกำลังเอากุ้งตัวแรกเข้าปากพอดีตอนที่สกายพูด ผลคือสำลักจนแสบจมูกแสบคอไปหมด บีสท์รีบส่งน้ำเปล่ามาให้ผมรับมาดื่มช้า ๆ แล้วค่อย ๆ หายใจเข้าออกโดยมีบีสท์คอยลูบหลังให้ สกายหัวเราะชอบใจใหญ่
“เล่นไม่รู้เรื่องเลยกาย ซันเป็นไงบ้างไหวป่าว”
แพรวยื่นหน้าเข้ามาถามผม ผมจึงยกมือขึ้นทำท่าโอเคให้เธอกลับ
“โด่ ก็พูดจริงนี่นา”
“กาย”
“ง่ะ แพรวไม่ดุเค้าสิ”
สกายเบะปากเหมือนเด็กเมื่อโดนแพรวเรียกเสียงดุ ท่าทางที่ไม่ได้เข้ากับรอยสักบนตัวเสียเท่าไหร่มันทั้งดูตลกและขัดกันไปด้วย
“ไม่เป็นไร ๆ เรากินเร็วเฉย ๆ”
“ซันกินเนื้อไหมคะ”
เจนถามพอเห็นผมพยักหน้าเธอก็คีบเนื้อชิ้นที่ตัดพอดีคำมาใส่ในจานให้
“ลอง ๆ อร่อยเราหมักเองกับมือเลย”
“จะให้เขากินขี้มือตัวเองก็บอก ซันระวังท้องเสีย”
แตงกวาพูดก่อนที่ผมจะจิ้มเนื้อขึ้นมากิน
“อ่ะงั้นมึงไม่ต้องแดกนะขา”
เจนทำท่าจะแย่งเนื้อในจานเพื่อนแต่เจ้าของไวกว่าคว้าจานหลบได้ทันแต่ก็...
“ไอ้เชน!!! ไอ้ควายเผือก!!!!!”
นั่นแหละครับพอแตงกวายกจานหลบเจนที่นั่งอยู่ข้างขวาเจ้าตัว เชนที่นั่งอยู่ทางด้านซ้ายก็ขโมยเนื้อของเธอเอาเข้าปากไปเรียบร้อย
“สมน้ำหน้า!!”
สาว ๆ ที่เหลือยกเว้นคนโดนแย่งส่งเสียงหัวเราะเยาะ หัวขโมยยิ้มตาหยีชูสองนิ้วส่งให้รอบวงเอื้อมมือมาแท็กกับสกาย มาร์คชูนิ้วโป้งสองนิ้วให้เพื่อน บีสท์ยิ้มส่ายหัว เอนตัวมากระซิบเบา ๆ ให้ผมได้ยิน
“เดี๋ยวคอยดู”
“โอ๊ย!!! แต๊ง!!!! เค้าเจ็บ ๆ เจ็บ ๆ ๆ ๆ ยอมแล้วครับ ๆ”
“ไปเอามาคืนกูสิบชิ้นไม่งั้นกูดึงอีกกระจุกกลางกระหม่อมมึงแน่!”
สาวแว่นน่ารักกลายร่างเป็นนางยักษ์ทันที แตงกวาโถมตัวเข้าหาเชนแล้วดึงผมเพื่อนจนหลุดมาเป็นกระจุก ยื้อยุดกันอยู่สักครู่เชนก็ยอมแพ้ลูบหัวตัวเองแล้วลุกขึ้นไปเอาเนื้อให้ตามคำประกาศิต
“นั่นล่ะ”
บีสท์หัวเราะในลำคอ ผมมองหญิงสาวตรงหน้าตาปริบ ๆ ผู้หญิงเวลาโกรธน่ากลัวจัง ผมเพิ่งจะเคยเห็น แตงกวาเหมือนเพิ่งรู้สึกตัวว่ามีผมอยู่ด้วยเธอสะดุ้งเล็กน้อยแล้วกระแอมไอ
“เอ้อ เมื่อกี้ใครสิงก็ไม่รู้ ไม่ใช่เรานะซันเราน่ารักเรียบร้อย”
เธอเอียงคอยิ้มหวานใส่ผม ผมได้แต่ยิ้มแหยแล้วพยักหน้า
“ไม่ทันแล้วมึง”
เมเปิ้ลบอกแตงกวาจึงหัวเราะออกมาเสียงดังแล้วโบกมือบอกผม
“เอาหน่า ทำใจ ๆ นะซัน ฮ่า ๆ”
“อย่าไปแย่งของกินคุณเธอเชียวนะ จำไว้เลย”
สกายหันมากระซิบผมรีบพยักหน้าเห็นด้วย แตงกวาชี้หน้าสกายตาขวางใส่
“มึงเสี้ยมอะไรซัน!”
หนุ่มรอยสักสะดุ้งโหยงรีบส่ายมือส่ายหัวปฏิเสธ
“เปล่าจ้า”
“แล้วไป”
และทุกอย่างก็กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ เชนกลับมาพร้อมกับเนื้อและอาหารทะเลสุกใหม่อีกจานใหญ่ มื้ออาหารมื้อนี้ผมกินได้เยอะมากจนจุกมาถึงคอ จำตัวเองไม่ได้แล้วว่ากินข้าวได้มากพร้อมกับยิ้มได้กว้างขนาดนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
มันสุขจนผมอยากหยุดเวลาไว้
กลัวว่าตื่นมาทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้จะเป็นแค่ความฝันแล้วตัวเองจะกลับไปอยู่คนเดียวในห้องโล่ง ๆ เช่นเดิม
“หนังท้องตึงคราวนี้ก็กินเหล้าได้”
มาร์คลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจเมื่อพวกเราช่วยกันเก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อยและเอาของมึนเมากับขนมกินเล่นมาตั้งไว้กลางวงแทน
“ลุกยืนทำซากอะไร”
“กูจะไปเอาน้ำแข็งเว้ย ทักกูหรอมาเลยไปช่วยกูยกเลยห่าเปา”
มาร์คลากเปาให้ลุกขึ้นตามตัวเองไปเอาน้ำแข็งเพิ่มในบ้าน บ้านนี้เขาดูแลกันเองครับ ทำกินเองล้างเองแต่เรื่องทำความสะอาดจะมีแม่บ้านเข้ามาทำให้วันเว้นวัน ผมเข้าใจนะเพราะถ้าให้ทำความสะอาดกันเองไม่ต้องบอกก็รู้ว่าบ้านหลังไหนจะกลายเป็นรังหนู
“ไม่ทำงานหรอ”
ผมหันไปถามคนข้างกายเมื่อเห็นว่าพวกเขาเริ่มตั้งวง ไหนบีสท์บอกว่าคืนนี้จะทำงานให้ดูไง
“ก็ทำไง กินเสร็จค่อยทำ”
เขาบอกเสียงสบาย กำลังจะอ้าปากพูด เจนก็พูดขึ้นมาเสียก่อน
“มันเป็นแบบนี้แหละซัน เวลากึ่ม ๆ มันจะทำงานได้เร็วเป็นโรคบ้าแล้วอีกอย่างนะ มันไม่เมาหรอกคอแข็งจะตายไอ้พวกนี้ตายหมดมันยังนั่งตรงอยู่เลย”
เจ้าตัวยักไหล่เมื่อเพื่อนตัวเองพูดจบ เห็นแล้วหมั่นไส้จริง ๆ
“แต่กูอยากดูด้วยอ่ะ”
ผมกระซิบบอกมัน
“แล้วกูพูดว่าไม่ให้ดูรึไง”
บีสท์สวน ผมส่ายหน้า
“ไม่ใช่ ก็กลัวเมา กูเป็นพวกเมาแล้วหลับ”
ได้ยินเสียงคนตัวโตหัวเราะ มือใหญ่จิ้มหน้าผากผมเบา ๆ แล้วเปลี่ยนไปวางแปะบนหัว
“ก็อย่ากินให้เมา อยากดูมากเลย?”
ผมรีบพยักหน้าแรง ๆ ผมชอบมาก ๆ เลยนะ อย่างที่บอกว่าอยากเรียนแต่หัวไม่ไปเลยได้แค่ดูนี่แหละในห้องผมมีหนังสือพวกดีไซน์บ้านและที่อยู่อาศัยเพียบเลย ฝันว่าซักวันจะออกแบบบ้านหลังเล็ก ๆ ของตัวเองซักหลัง
“ไปดูของเจนไหมล่ะ มันก็เรียนสถาปัตย์ฯนะแต่คนละที่”
“จริงดิ! แต่ไม่เอาหรอก ดูงานมึงดีกว่าอยากรู้อะไรก็ถาม ถามเจนมาก ๆ กลัวเขารำคาญ”
“แล้วไม่กลัวกูรำคาญหรือไง”
ผมชะงักหน้าเสีย ลืมคิดไปเลย นั่นสินะกับคนที่รู้จักกันแค่ไม่กี่วัน...
“โอ๊ะ!”
ผมหน้าหงายยกมือกุมหน้าผากมองบีสท์ตาขวาง เขาเองก็มองผมอยู่เช่นกัน
“พูดเล่นแค่นี้จริงจังทำไม”
เขาเลิกคิ้วถาม ผมเม้มปากเข้าหากัน ไม่รู้สิว่าทำไมถึงคิดมากขนาดนี้ ผมแค่รู้สึกว่าผมแค่อยากรักษาที่ตรงนี้เอาไว้ เพราะกลัวจะเสียไปถึงคิดมาก
“ไม่รู้สิ”
“เฮ่ย ๆ บีสท์มึงทำอะไรซันฮะ!”
เสียงแจมดังขึ้นจากตรงข้ามเธอชี้หน้าคาดโทษคนข้างผม สกายยื่นหน้ามามองผมทีมองบีสท์ทีแล้วทำจมูกฟุดฟิด
“กูได้กลิ่นอะไรเน่า ๆ ใช่หัวมึงป่าวบีสท์”
“ว่าละกลิ่นโชยเลย ว๊าย ๆ หัวเน่าเพื่อนไม่รัก ๆ”
เชนรีบเสริมเรียกเสียงหัวเราะรอบวง ผมเองก็หลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นพวกเขาช่วยสร้างบรรยากาศ คนข้าง ๆ ผมลูบหัวผมเบา ๆ
“ได้กลิ่นจากหัวกูป่ะ”
เขาถามยิ้ม ๆ ผมเลยยื่นหน้าเข้าไปดมดูแล้วผละออกมา
“อือ เริ่มเหม็นแล้ว”
พอเห็นหน้าเขาที่ดูค่อนข้างตกใจจึงนึกขึ้นได้ว่าเผลอตัวทำอะไรลงไป และไวเท่าความคิดเสียงผิวปากก็ดังขึ้นจากเพื่อนผู้ชายพร้อมด้วยเสียงกรี๊ดกร๊าดจากเพื่อนผู้หญิง
“กรี๊ดน่ารักมึงเห็นมั้ย ๆ”
แพรวเขย่าแขนเมเปิ้ล คนโดนเขย่าพยักหน้ายิ้มจนตาปิด
“น่ารักมาก แฟนโคตร”
“โอ่ยดีกับใจ”
เจนเอามือทาบอก มาเหนือคงเป็นแตงกวา แจมและยู ชายหนุ่มหน้าหล่อชูมือถือขึ้นมาโบก
“ถ่ายวีดีโอไว้ด้วยล่ะ”
ยูพูดด้วยรอยยิ้ม สองสาวก็ด้วยเหมือนกัน
“กูด้วย!”
แจมยกมือที่ยังกำมือถืออยู่
“กูด้วยข่า กำลังจะอัดวีดีโอทำวล็อคเลย ได้ช็อตเด็ดเกินคาด หึหึ”
แตงกวาหัวเราะเจ้าเล่ห์ใส่ บีสท์เกาท้ายทอยกระแอมไอแล้วหันไปบอกแตงกวาเสียงจริงจัง
“ไม่ลงนะแตง”
“โถ่”
“เค้าขอ”
“ก็ได้ เพราะเป็นมึงนะเนี่ย ถ้าเป็นไอ้มาร์คกะผัวมันกูเอาลงแน่”
แตงกวาบอกเสียงสบาย ๆ แต่คนถูกเอามาเอี่ยวร้องโวยวาย
“ได้ยินนะแตงกวา! นินทาอะไรเค้า!”
“นินทาอะไรไม่มี กูพูดลอย ๆ”
แตงกวาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ มาร์ควางถังน้ำแข็งลงแล้วเดินมานั่งที่เดิมข้าง ๆ สกาย
“มันเผาอะไรกูไปมั่ง”
“ไม่มีอะไร แต่มึงพลาดช็อตเด็ดว่ะ”
“อะไรวะ ๆ กูพลาดอะไร”
“ไปขอยูดู”
เมื่อสกายบอกคนหัวสีก็เปลี่ยนเป้าหมายไปที่เพื่อนหน้าหล่อทันที
“อะไรวะยู ไหนเอามาดูมั่ง”
“500”
“ลดให้กูหน่อยคนกันเอง”
“499 สุด ๆ แล้วนะกูไม่ได้กำไรเลยนะมาร์ค”
“ถรุ้ยยยยยย ซึ้งใจมากเพื่อน”
“จะดูไม่ดู”
“ดู! เอาไปไอ้งก!”
มาร์คกระฟัดกระเฟียดแล้วควักแบงค์ 500 ออกมาวางตรงหน้า ยูยิ้มหล่อเก็บเงินใส่กระเป๋าแล้วยื่นคลิปวีดีโอให้อีกคนดู ผมคิดว่าพวกเขาพูดเล่นกันไม่คิดว่าจะเล่นจริงจ่ายจริง
“เดี๋ยวยูมันก็เอาไปใส่ในกระปุกส่วนกลาง”
บีสท์กระซิบบอก
“อ้อ”
“เชรดดดดดดดดดดดดดดดดดด ขออีกรอบได้ป่ะจะเอาไปลงเฟส”
“พอเลยไอ้มาร์คไปทำกับผัวมึงไป”
บีสท์โบกมือไล่ คนถูกไล่ทำหน้าเหม็นเบื่อคืนโทรศัพท์ให้ยูแล้วรับแก้วเหล้าจากเปามากระดกอึกใหญ่
“กูโสด”
“ห่าเลิกกันอีกละ วันละสองร้อยรอบ”
เชนส่ายหน้าเบื่อ บีสท์ทำหน้าประมาณว่าไม่ต้องสนใจแล้วทุกคนก็ชนแก้วกันเปลี่ยนเรื่องคุย มาร์คเองก็ไม่ได้มีท่าทีอยากเล่าหรือเศร้าสักนิดยังเฮฮาบ้าบอไปตามประสาแต่ก็เป็นไปตามที่ผมคิดนะว่าเขาไม่น่ามีแฟนเป็นผู้หญิง
“กินเยอะไปแล้ว”
บีสท์กระซิบบอก ผมที่กำลังจะยกเหล้าเข้าปากชะงักวางแก้วลงทันที ตอนนี้พวกที่เหลืออยู่มีแค่พวกผู้ชาย พวกผู้หญิงเข้าบ้านไปตั้งแต่สี่ทุ่ม มาร์ค เชน สกายคุยเรื่องผลฟุตบอลเมื่อวันก่อนกันอยู่ เปากับยูคุยกันเรื่องรถมีบีสท์ออกความเห็นบ้างผมก็นั่งฟังคนโน้นทีคนนี้ทีเริ่มกึ่มแล้วเหมือนกัน
“พรุ่งนี้พวกมึงออกไปไหนกันป่ะ”
ยูถามเพื่อนรอบวง เมื่อทุกคนส่ายหน้าเขาจึงพูดต่อ
“เล่นบาสกัน”
“เอาดิเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไอ้กายเสือกสอบปิดบล็อกอดเล่นเลย”
“เล่น ๆ ซันเล่นบาสกัน”
พอถูกชวนผมก็ยิ้มส่ายหัว
“ขอนั่งดูเฉย ๆ ได้ป่ะ กูกากมาก”
“พวกกูเล่นกันขำ ๆ ไม่ได้จะไปคัดทีมชาติไอ้ห่า”
สกายผลักหัวผมเกือบหน้าคว่ำ ผมว่ามันเริ่มเมาแล้วล่ะ สนิทกันเชียวแหม่
“รีบกลับรึเปล่า”
ยูถาม ผมส่ายหัวอีกรอบ
“ไม่รีบหรอกแต่กูไม่ค่อยชอบเล่นกีฬาเท่าไหร่ชอบนั่งดูเฉย ๆ มากกว่า”
“ขี้เกียจจนตัวเป็นขน”
บีสท์ว่าผม ผมเลยชูแขนไปตรงหน้ามัน
“ไม่มีขน ไม่ขี้เกียจ”
“มึงนี่มัน”
เขายิ้มส่ายหัวจิ้มหน้าผากผม ผมเชิดหน้าด้วยความรู้สึกชนะ จนพวกเพื่อนเขาแกล้งไอเสียงประหลาดกันนั่นแหละผมถึงกลับเข้าสู่วงสนทนาอีกครั้ง
“จีบกันได้ตลอดจริง ๆ พวกมึง”
เปาบ่นเนิบ ๆ ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
“จีบเจิบอะไรเล่าพวกมึงนี่”
ผมเฉไฉและเป็นอีกครั้งที่โดนสกายผลักหัว โอ่ยคราวนี้มันผลักแรงมึนเลย
“สลิดจริงมึง ไม่ใช่ไอ้มาร์คไม่ต้องตอแหล”
“อ่าวไอ้สัดกายทำไมกูโดน”
มาร์คขว้างถั่วใส่เพื่อนโดนตรงกลางหน้าผากพอดีเป๊ะ แปะมือกับเปาดีใจกันยกใหญ่
“เก่งมากน้องมาร์ค ป๋าให้ค่าขว้าง 100”
ว่าแล้วป๋าเปาเขาก็ควักแบงค์ 100 ออกมาส่งให้เพื่อน มาร์คกระดี๊กระด๊าขยับตัวมาพนมมือไหว้ที่หัวของเปา
“กราบแทบเท้าครับป๋า”
“ไอ้สัดนี่หัวกู!!!”
“อ่าวโทษ ๆ กูเมา”
มาร์คยิ้มแผล่ เปาชี้หน้าส่งเสียงจิ๊จ๊ะก่อนจะส่งเงินให้ ผมและคนอื่น ๆ หัวเราะ ผมรู้อีกอย่างหนึ่งว่าจริง ๆ แล้วคนที่เงียบที่สุดไม่ใช่เปา รายนั้นแค่ง่วงเฉย ๆ เงียบจริงน่าจะเป็นยูที่มักจะยิ้มหล่อฟังเพื่อน ๆ แย่งกันพูด รองมาก็บีสท์ส่วนพวกที่เหลือผมอยากจะเอาน้ำมะนาวให้กินกลัวตื่นมาแล้วเสียงแหบ
“ป่ะ”
บีสท์สะกิดแล้วบุ้ยหน้าไปทางบ้าน
“คุยเสร็จแล้วหรอ”
“อือ”
“โอเค”
ผมลุกขึ้นตามเขา พวกที่เหลือเลิกคิ้ว
“ไปละ?”
เชนถาม ผมกับบีสท์พยักหน้า
“อือ ตาปรือละมึงไม่เห็นกันหรอ”
เขาหันหน้ามาหาผม อะไรใครง่วงไม่ใช่ผมนะ
“ไม่ได้ง่วง”
“อย่าดื้อ”
“ไม่ได้ดื้อ!”
“ไหนว่าเมาแล้วง่วงทำไมดื้อด้วย”
“เอ๊ะก็ไม่ได้เมาแล้วก็ไม่ได้ดื้อด้วย”
“ฮะ...แฮ่มมมมมมมมมมมมมมม”
เสียงจากในวงเหล้าที่ไม่รู้ว่าเสียงใครดังขัดขึ้นมา พอหันไปมองทั้งวงก็มองผมกับบีสท์อยู่
“ท่าจะลูกดกนะมึงว่าป่ะ”
“เห็นด้วย”
“กูรู้สึกเป็นส่วนเกินเลย”
“เป็นส่วนเกินในชีวิตเธอที่เธอไม่ต้องการ~”
“อย่าร้องเลยไม่สวยเลยนะคนดี~”
แล้วพวกเขาก็หันไปคุยกันเอง ผมกับบีสท์หันมองหน้ากันแล้วขำ เขาหันไปชูนิ้วกลางใส่รอบวงแล้วพาผมเดินออกมา ได้ยินเสียงสกายตะโกนล้อว่าอันแค่นั้นหรอเล็กจังด้วย แล้วพวกที่เหลือก็หัวเราะกันครืน
“พวกห่า”
“แต่ก็เป็นเพื่อนที่ดีใช่ไหมล่ะ”
ผมยิ้มถาม มองใบหน้าคมที่ขึ้นสีเล็กน้อยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ บีสท์หันหลังมองกลับไปที่เพื่อน ๆ แล้วหันมาหาผม
“แน่นอนอยู่แล้ว”
แต่ไม่ต้องยิ้มละมุนขนาดนี้ก็ได้ ใจผมสั่น ไอ้บ้าเอ๊ย!
พอดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน
ไม่ต้องมาเขิน ฉันพูดจริงๆ
เธอมีเสน่ห์มากมาย จะน่ารักไปไหน
อยากจะได้แอบอิง ยิ่งดูยิ่งมีเสน่ห์
คนมีสเน่ห์ – ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์
Tbc.
Talk. ดูรวม ๆ แล้วมีสเน่ห์เหลื๊อเกินนนนนนนนน ความป่วงของผองเพื่อนยังมีมาอีกเรื่อย ๆ นะขา เอ่าใครทีมใครกันบ้าง 5555555 เราทีมพิสกายยยยยยยยย