➤➤ใจเย็นกับเป็นไท ◑แจ้งข่าวตีพิมพ์หน้า 19 ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ➤➤ใจเย็นกับเป็นไท ◑แจ้งข่าวตีพิมพ์หน้า 19 ค่ะ  (อ่าน 131919 ครั้ง)

ออฟไลน์ แยมส้มขมคอ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-2


37 – แสงสว่าง



ถ้าไม่นับว่าอากาศเย็นสบายขึ้นมาบ้าง เป็นไทก็ไม่เคยชอบฝนตก เขาไม่ชอบเวลาที่อยู่ข้างนอกแล้วต้องโดนฝน เปียกชื้น เหนอะหนะ ที่แย่คือทำให้ไม่สบาย หรือต่อให้ไม่ออกไปตากฝน หลายครั้งฝนกลับยิ่งปลุกปั่นให้อากาศร้อน ชื้น เหนียวตัว ส่งกลิ่นอับในห้องที่อากาศไม่ถ่ายเท ผ้าที่ตากก็แห้งช้า เป็นไทนึกข้อดีของฝนได้น้อยมาก และข้อที่แย่ที่สุดคือฝนมักมาพร้อมกับไฟดับ

ยิ่งเป็นฝนตอนกลางคืน เป็นไทยิ่งตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์ ปกติแล้วเขาจะมีเทียนกับเชิงเทียนเล็กๆ เผื่อไว้ตามแต่ละจุดของบ้าน เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก จนออกมาอยู่ที่คอนโดของปรายก็ยังมีติดไว้ แต่พอย้ายออกมาอยู่หอพักคนเดียวตั้งแต่เริ่มทำงาน เขากลับลืมเรื่องนี้ หรือนึกได้ว่าจะซื้อก็เป็นตอนที่ไม่สะดวก นึกได้อีกทีก็กลายเป็นว่ากลับมาห้องแล้ว พร้อมกับความคิดที่ว่าไม่เป็นไร ใช้โหมดไฟฉายในโทรศัพท์มือถือเอาก็ได้ อีกอย่าง ไฟก็ไม่น่าจะดับบ่อยขนาดนั้น

กระทั่งวันที่ใจเย็นขึ้นมารอฝนหยุดตกที่ห้องเขานั่นแหละ

มันเป็นต้นเดือนกรกฎาคมที่ฝนตกกระหน่ำ หนักขนาดที่ว่ากระจกหน้ารถกลายเป็นม่านน้ำดีๆ ที่ปัดน้ำฝนก็เอาไม่อยู่ เป็นไทจึงไม่อยากให้ใจเย็นขับรถกลับทั้งแบบนี้หลังจากมาส่งเขาที่หอพัก ซึ่งใจเย็นก็เออออเห็นด้วย ก่อนจะทำให้เขานึกหมั่นไส้อยากถีบกลับเข้ารถตอนที่เจ้าตัวยิ้มกว้างเหมือนเด็กๆ และเอ่ยคำ

“เป็นห่วงผมนี่ครับ”

ทั้งที่มันจริงตามนั้นแต่เป็นไทก็นึกหมั่นไส้ ที่สำคัญ หลังจากให้ดอกสวีทพีกับเขาในวันนั้น หลังจากช่วยพาเขาก้าวผ่านอดีตของตัวเองได้ ใจเย็นก็ยิ่งทำตัวน่าหมั่นไส้เป็นพิเศษ ราวกับไปเก็บกดมาจากไหน หรือบางทีเขาเองนั่นแหละที่ทำให้ใจเย็นเก็บกดด้วยข้อตกลงที่เคยสร้างขึ้น การแก้แค้นจึงมาในรูปแบบคำพูดที่ดักทางและรู้ทันแทบทุกความรู้สึกของเขา ไม่พอ ถ้าเรื่องไหนเป็นที่น่าพอใจก็จะยิ้ม ยิ้มเหมือนหยอกเขาอย่างไรอย่างนั้น เป็นไทจึงตั้งใจว่าให้ตายก็จะไม่บอกว่าเก็บดอกสวีทพีที่ให้มาไว้ในหนังสือ ทับไว้เป็นดอกไม้แห้งเพื่อให้มันคงอยู่ตลอดไป

อย่างไรก็ตาม ถ้าคำพูดดักทางทำให้เขาหมั่นไส้ คำพูดจากความรู้สึกของใจเย็นเองกลับทำให้เขาพ่ายแพ้ ยิ่งพูดด้วยสีหน้าตายเหมือนเป็นเรื่องปกติมากเท่าไหร่ เป็นไทยิ่งรู้สึกว่าอากาศร้อนอบอ้าวขึ้นมามากเท่านั้น

“ถ้าฝนตกหนักทั้งคืนก็ดีนะครับ”

และก็ได้อบอ้าวเข้าจริงๆ เมื่อใจเย็นพูดจบ เสียงหม้อแปลงระเบิดแว่วมาแต่ไกล พร้อมกับแสงไฟที่ดับวูบให้ความมืดห่มคลุมแทบทุกตารางสายตา

เป็นไทตกใจกับชั่ววูบนั้น ซ้ำยังตกใจกับตัวเองด้วย เพราะทั้งที่คิดว่าคงไม่กลัวเท่ากับเมื่อก่อน ในเมื่อเขาก้าวผ่านอดีตมาได้แล้ว พ่อที่เคยขังเขาไว้ในความมืดก็เปลี่ยนเป็นคนละคนแล้ว แต่เขากลับยังกลัว ยังยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก ให้พบว่าความจริงแล้วมันเป็นคนละเรื่องกับการก้าวผ่านพ่อของตนเองมาได้ คล้ายมันเป็นหลักฐานยืนยันอดีตที่เคยเกิดขึ้น คล้ายรอยแผลเป็นบางรอยจากการถูกทำร้ายบนแผ่นหลัง เขาตื่นตระหนกอยู่แบบนั้นกระทั่งแสงไฟจากโทรศัพท์มือถือของใจเย็นสว่างโร่

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

“...ไม่เป็นไรแล้ว”

บอก แม้จะไม่จริงทั้งหมด แต่โหมดไฟฉายของโทรศัพท์มือถือก็ช่วยเขาไว้ได้มาก เป็นไททิ้งตัวนั่งลงบนเตียงที่อยู่เบื้องหลัง ขณะที่ใจเย็นนั่งลงบนเก้าอี้ของโต๊ะอ่านหนังสือที่อยู่ข้างเตียง วางโทรศัพท์มือถือในบริเวณที่แสงไฟจะส่องสว่างทั่วบริเวณที่เขาสองคนนั่งอยู่

ห้องที่เป็นไทย้ายออกมาอยู่เป็นห้องเล็กๆ เหมาะสำหรับการอยู่คนเดียว เฟอร์นิเจอร์เป็นแบบบิลท์อิน ที่เหลือก็เหมือนหอพักทั่วไป แค่ระเบียงจะค่อนข้างกว้าง ยิ่งเปิดโอกาสให้สายฝนตอนนี้ทิ้งตัวเข้ามาดังอึกทึก และถึงใจเย็นจะชอบชวนไปอยู่ด้วย เขาก็ปฏิเสธ ไม่ใช่ว่าไม่อยากอยู่ด้วย

แต่เป็นไทเห็นภาพเลยว่าใจเย็นคงแทบไม่ให้เขาต้องออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย ทั้งโดยรู้ตัว และไม่รู้ตัว

“เล่าเรื่องผีกันไหมครับ”

“ส้นตีนเหอะ” เขาตอบไปทันควัน

“ก็เห็นเป็นไทเงียบ”

ได้ฟังก็ทำให้คิดว่าอีกฝ่ายคงเป็นห่วงเขา แต่เลือกหัวข้อสนทนาอย่างกับจงใจแกล้ง

“มึงเชื่อเรื่องผีด้วยหรือไง”

“ไม่เชื่ออะ”

“กะละ”

“แต่เผื่อเล่าแล้วเป็นไทกลัว กระโจนมากอดผม”

“เกลียดมึงตอนนี้เลยได้ไหม”

“เป็นไทไม่เกลียดผมหรอก”

“เกลียด”

“ผมไม่เชื่อพอๆ กับเรื่องผีแหละ”

พลันแสงไฟดับวูบจังหวะเดียวกับที่เป็นไทกำลังจะโต้ตอบ ซึ่งนั่นทำให้คำพูดถูกกลืนหาย ความกลัวเข้ามาแทนที่ ก่อนค่อยๆ แผ่วจางเมื่อกลับมามีแสงสว่าง แม้อ่อนจางเพราะเป็นแค่แสงจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือของใจเย็น

“แบตมันจะหมดน่ะครับ”

“ใช้ของกูก็ได้” เอ่ย ก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมาเปิดโหมดไฟฉาย แสงสว่างกลับมาอีกครั้งให้เขาสบายใจ

“ผมอยากให้ไฟมาสักที”

“ร้อนเหรอ ไปเปิดหน้าต่างดิ”

“ไม่ร้อนหรอก แต่ผมไม่อยากให้เป็นไทอยู่ในความมืด”

จบประโยคนั้น เป็นไทไม่รู้จะโต้ตอบอะไร อาจเป็นเหมือนทุกทีที่เขาได้ฟังความรู้สึกของใจเย็นเกี่ยวกับตัวเขาเอง ตรง ทื่อ แต่ก็ทำให้เขาแพ้ทาง ที่เอาชนะได้คงมีแต่การด่ากลับแบบไม่จริงจังอะไร เพียงตอนนี้เขาปล่อยเงียบ ให้เสียงฝนดังชัดกว่าเสียงใดๆ  ทว่าในจังหวะที่ใจเย็นเริ่มพูดบางคำออกมา เขาก็มีสิ่งที่จะพูดออกไปพอดี

“มึงพูดก่อนเลย”

“เป็นไทก่อนก็ได้”

ได้ฟังคำย้อนมา เป็นไทจึงไม่คิดโยนกลับให้เสียเวลาอีกรอบ

“ก็...กูไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงยังกลัวความมืดอยู่เหมือนเดิม”

“ผมว่าบางทีความกลัวเป็นสิ่งที่ดีนะ”

“แต่ความกลัวของกูมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยนี่หว่า”

“ก็จริงครับ ตามธรรมชาติความกลัวมีประโยชน์ในการเอาชีวิตรอด ในการกระตุ้นตัวเองให้ทำอะไรบางอย่างให้ดีขึ้น แต่ของเป็นไทมันไม่ใช่”

“เออ แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงกับมันด้วย”

“ผมจะหาทางช่วย”

ใจเย็นเอ่ย สบตาเขาด้วยแววตาเหมือนที่เคยเป็นมา แววตาที่เขาทั้งชอบทั้งชัง แต่ในวันนี้เขาอาจไม่เหลือความชังแววตานี้อีกแล้ว เพราะเขารู้แล้วว่ามันเป็นแววตาที่บอกกับเขาว่าเขามีค่า ไม่เหมือนกับแววตาของพ่อที่เคยมองมาอย่างว่างเปล่า และต่อให้เป็นไทได้เห็นว่าแววตาของพ่อไม่เหมือนเดิมแล้ว พ่อเห็นค่าในตัวเขาแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับแววตาของใจเย็นมันก็ยังดูต่างกันราวกับ –  ไม่สิ อาจไม่มีอะไรเทียบได้ด้วยซ้ำ

“จะช่วยยังไง”

เป็นไทถามออกไปไม่จริงจังนัก เสียงฝนด้านนอกยังไม่สร่างซาแม้แต่น้อย

“ตอนนี้ก็กลัวเป็นเพื่อนไปก่อน”

“มึงไม่กลัวความมืดไม่ใช่หรือไง”

“ความรักก็คือความกลัวเหมือนกันนะครับ”

“อะไรของมึงวะ”

เป็นไทสวนทันควันกับหัวข้อที่ไม่คิดว่าจะพูดขึ้นมา ซึ่งใจเย็นก็แค่ยิ้ม ขณะที่เขานึกอยากลุกหนีไปเปิดหน้าต่างห้อง

เพราะเริ่มรู้สึกว่าห้องนี้ร้อนขึ้นทุกที

“ยิ่งรักเดียวใจเดียวก็ยิ่งกลัว”

ใจเย็นพูดต่อ รอยยิ้มเจือจาง เป็นไทไม่อยากถูกคำพูดของอีกฝ่ายไล่ต้อนจึงต่อบทสนทนา กลัวถูกหักหลัง? กลัวทุ่มเทไปแล้วไม่ได้อะไรกลับคืนมา? สิ่งที่เขาถามออกไปเป็นเรื่องพื้นฐาน รู้ว่าใจเย็นคงคิดซับซ้อนกว่านั้น และก็จริงดังคาดเมื่อใจเย็นตอบคำถามมา แม้ไม่ได้พูดดัง แต่ฟังชัดท่ามกลางเสียงฝน – ก็ใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

“ผมว่ารักเดียวใจเดียวคือความกลัวว่าจะไม่ได้ให้ทั้งหมดที่เรามี แค่เหตุผลนี้ก็ทำให้คนเราไม่คิดอยากหาคนอื่นแล้ว”

รอยยิ้มเจือจางหายไปแล้ว เหลือแต่ความจริงในแววตา แววตาที่เขาชอบ และคำพูดก็เหมือนสะกดเขาเอาไว้ให้ไร้คำตอบโต้ หรืออาจจะเหลือรอดไว้ให้แค่คำคำเดียววนซ้ำไปซ้ำมาในใจ มันเป็นคำติดปากของใจเย็น

“เพราะงั้นผมเลยไม่เข้าใจว่าทำไมรักเดียวใจเดียวถึงต้องยับยั้งชั่งใจ”

งั้นเหรอ

คำถามทวนนั้นดังซ้ำๆ ในใจ

งั้นเหรอ มุมมองความคิดของคนคนนี้เป็นแบบนี้เองสินะ ความจริงแล้วเข้าใจทุกอย่างดี แต่แค่เป็นรูปแบบที่แปลกกว่าคนอื่นเท่านั้น เท่านั้นเอง

ขณะเดียวกัน ความแปลกนั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าอากาศร้อนอบอ้าวขึ้นทุกที ทุกที

“ตอนนี้ผมแค่อยากให้ ให้อะไรก็ได้ จะทั้งหมดเลยก็ได้ถ้าทำให้เป็นไทหายกลัวความมืดได้”

ไม่มีการต่อสนทนาหลังประโยคทั้งหมดนี้ เป็นไทแค่ปล่อยให้เงียบ ให้เสียงฝนช่วงชิงลื่นไหลของสนทนา แต่ก็ไม่เป็นไร เขาอยากให้เรื่องราวดำเนินไปเช่นนี้ ให้ความรู้สึกจากแววตาสะท้อนก้องดังชัด จากนั้น ไม่ทันให้ใจเย็นตั้งตัว เป็นไทใช้เท้าลากขาเก้าอี้ล้อเลื่อนให้เข้ามาใกล้เขา ก่อนดึงปกเสื้อเชิ้ตของคนบนเก้าอี้ให้โน้มตัวมาใกล้

และมอบจูบแผ่วเบาประทับลงบนริมฝีปาก

อากาศร้อนอบอ้าวจนเหมือนถูกสุมไฟในกาย เขาหลับตาในอื้ออึงของสายฝน เห็นความมืดหลังเปลือกตา รู้สึกได้ว่ากว่าครึ่งห้องตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยมืดมิด แต่ก็ไม่เป็นไรเลย ต่อให้แสงสว่างที่หลงเหลือจะกลายดับวูบก็ไม่เป็นไร

เพราะเขามีใจเย็นแล้ว

มีคนคนนี้ก็พอ

แสงสว่างหนึ่งเดียวของเขา








****************************************************************************
ในที่สุดก็ได้อธิบายแล้วว่าทำไมใจเย็นไม่เข้าใจคำอธิบายง่ายๆ เปรียบเทียบให้เห็นชัดของคุณเกษรา  :hao5: 

ออฟไลน์ 177266

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอ้ยยยยย ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ขนาดไปค้นเมลล์หาชื่อกับรหัสผ่านที่ลืมไปแล้ว5555 เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้นะคะ เป็นนิยายคุณภาพมาก ลึกซึ้ง มีไม่กี่เรื่องที่ต้องอ่านประโยคหนึ่งซ้ำๆเพราะอยากเข้าใจมันจริงๆ อินประหนึ่งเป็นไทที่พยายามเข้าใจใจเย็น /// รออออออ ตอนหน้านะคะ :oni3: :ped149:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เป็นคำบอกรักที่ใจเย็นมาก......ซับซ้อนได้อีกพ่อคู๊ณณณณณณณ

และเป็นคำตอบรักที่เป็นไทมาก.......แมน ๆ เตะบอล จูบเลย

น่ารักอ้ะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
กรี้สสสสส //คนเขียนตัดแพนเข้าโคมไฟใช่มั้ยย :ling1:


ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
จะแค่จูบหรือมากกว่านั้นเนี่ย แต่บรรยากาศโคตรเป็นใจเลยอ่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เป็นคำบอกรักที่ใจเย็นมาก......ซับซ้อนได้อีกพ่อคู๊ณณณณณณณ

และเป็นคำตอบรักที่เป็นไทมาก.......แมน ๆ เตะบอล จูบเลย

น่ารักอ้ะ

แฮะๆ......บรรยากาศก็เป็นใจ๊ เป็นใจ
เป็นใจกับใจเย็นที่ซู้ด
เป็นไท เริ่มแบบนี้ ใจเย็น ใจฟูฟ่องเลย
เอิ่มมมม........ไรท์ต่อนะ อย่าเปลี่ยนเรื่องล่ะ  :ling1: :ling1: :ling1:
รอ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ chubbymeuk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กรี๊ดดดดด มาต่อสะะ ฮือๆๆๆๆ   :z3:

ออฟไลน์ mam79

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ฮืออออออแ ทำไมดีต่อใจขนาดนี้คะ!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เราพยายามอ่านทุกคำพูดและความคิดของใจเย็นอย่างใจเย็น คิดว่าเข้าใจใจเย็นในแบบของเราแล้ว แต่ไม่รู้จะอธิบายยังไง แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเข้าใจใจเย็นถูกไหม  :laugh: ชอบทุกตัวละครของเรื่องนี้เลยค่ะ ทุกคนมีความบิดเบี้ยว อ่านแล้วอินมาก รอดูบทสรุปนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
กระโดดกระทืบพื้น #รู้สึกค้าง

ออฟไลน์ แยมส้มขมคอ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-2

38 – ใจเย็นกับเป็นไท



ใจเย็นนึกถึงฤดูร้อนปีนั้น ฤดูร้อนที่เขาได้เจอกับเป็นไทครั้งแรก นึกถึงแก้วน้ำเย็นๆ ในมือ จำไม่ได้แล้วว่าเป็นน้ำอะไร แต่ยังจำรอยนูนชัดของปุ่มกระดูกข้อมือได้ จำแววตาที่แฝงความกร้าวเอาไว้ จำสำเนียงพูดที่ห้วนห้าวแต่ก็ไม่แสลงหู จำได้ จำได้ทุกอย่างในฤดูร้อนปีนั้น เขานึกถึงมันท่ามกลางจูบที่ร้อนรน ไม่อาจหาเหตุผลได้เลยว่าทำไมจึงนึกถึง

หรือไม่ ตัวเขาตอนนี้ก็หมดสิ้นเหตุผลไปแล้ว

เป็นครั้งที่สองที่เป็นไทจูบเขา แผ่วเบา เนิบช้า ขณะเดียวกันก็รุ่มร้อน เมื่อถอนจูบออก สายตากลับมาประสานกัน แต่ก็แค่เพียงชั่วครู่ อีกฝ่ายหลบตาไปแล้ว ทั้งยังหันหนี ทำท่าเหมือนจะผลักเขาออก ขัดใจจึงพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างไม่อาจต้าน ใจเย็นกดมือที่จะผลักเขาออกให้ลดลงต่ำ จับคางอีกฝ่ายให้หันมาสบตากันอีกครั้งในห้องที่แสงไฟสาดเงาชัด และประทับจูบลงไปบนริมฝีปากนั้น

ประทับ นาบเนิบ ก่อนกลายเป็นกดจูบ ใช่ กดลงไปทั้งริมฝีปากและร่างของอีกฝ่ายให้ทิ้งแผ่นหลังลงบนเตียง เมื่อถอนจูบ ใจเย็นเห็นชัดถึงสีหน้าของเป็นไทที่เขาคร่อมอยู่ มันระเรื่อแดง อาจด้วยความร้อน ทั้งจากภายนอก และในกาย แววตาสับสน ร้อนรน ระคนหวาดหวั่น ริมฝีปากขยับเผยอเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เพราะใจเย็นไม่อยากได้ยิน ถ้าหากมันเป็นคำห้ามปราม เขาไม่อยากได้ยิน จูบจึงกดลงไปอีกครั้ง บดเบียดละเลียดรสของอีกฝ่าย ทั้งดูดดื่มราวจะดูดกลืนแม้แต่คำพูดห้ามปรามไม่ให้เขาทำ

และเหมือนได้ผล เมื่อผละจูบออกไม่มีคำพูดใดอีก นอกจากเสียงฝนแล้วก็ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจ หอบหายใจ ใจเย็นตื่นเต้น กระวนกระวาย อยากได้ อยากได้ทั้งหมด อยากได้ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มือจึงเอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อของเป็นไท การกระทำนั้นเกิดขึ้นทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว พลันไม่ทันดั่งใจจึงกระชากออก หมายพรากผ้าอาภรณ์ที่ห่อคลุมผิวของอีกฝ่าย แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงมือของเป็นไทที่ดึงรั้งการกระทำของเขาไว้ เห็นแววตาตระหนกบนใบหน้า ความรู้ตัวจึงกลับคืน เขาผ่อนลมหายใจให้ช้าลง ปล่อยมันรินรดบนผิวกายที่เขาปรารถนาครอบครอง ซบลงที่เนินอก ก่อนจะจูบไล่ลามขึ้นไปที่ต้นคอ ขบเม้มอย่างที่เคยทำ พลันนึกถึงวันที่สั่นเทาเพราะแตกสลายกับการกระทำ วันนี้ต่างออกไปตรงที่ต่อให้แตกสลาย เขาก็รู้วิธีประกอบคืนและเยียวยารอยแตกร้าวให้หายดีดังเดิม

รวมถึงวิธีประคับประคองไม่ให้แตกสลายก็เช่นกัน

จากต้นคอ ใจเย็นจูบไล่ขึ้นไปยังคาง สันกราม แวะขบกัดที่ใบหูจนอีกฝ่ายกระเถิบหนี เหมือนจะได้ยินเสียงร้องในลำคอแต่ถูกกลืนหาย ใจเย็นชอบปฏิกิริยาตอบกลับนั้น ชอบที่ใบหูของเป็นไทนุ่มนิ่มจึงขบเม้มลงไปอีกครั้ง และเพราะหนียิ่งกว่าเดิม เขาจึงประคองใบหน้าให้หันกลับมา คราวนี้เหมือนเห็นสายตาตำหนิ คิ้วขมวดปมเล็ก และโดยใจเย็นไม่รู้ตัว รอยยิ้มบางเบาผุดพรายบนใบหน้า ก่อนใช้รอยยิ้มประทับลงบนกลีบปากอีกครั้ง

จูบครั้งนี้ทำให้ใจเย็นนึกถึงไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ เป็นไอศกรีมถ้วยที่ทำให้รู้ว่าเป็นไทชอบรสเดียวกันกับเขา นึกถึงลิ้นที่ลิ้มเลียริมฝีปากที่เปรอะเลอะไอศกรีม นึกถึงใบหน้าพึงพอใจท่ามกลางอากาศที่ร้อนอ้าวนั้น พลันความคิดปั่นประหลาด เขาอยากเป็นไอศกรีม ให้เป็นไทไล้เลียเขา แต่คงได้โดนด่ามาสักชุดสองชุด ใจเย็นจึงทำแค่ไล้เลียอีกฝ่ายเสียเอง แม้เลอะเปรอะด้วยน้ำลายก็ไม่รังเกียจ เขาไล้เลียให้เหมือนไอศกรีม ให้ละลาย เลือนหาย ขณะเดียวกันก็อยากทะนุถนอมไว้ลิ้มรสได้นานๆ

เมื่อผละถอนจากรสจูบ ใจเย็นเลื่อนมือลงเบื้องล่าง สัมผัสโดนกลางกางเกงจนอีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก เอื้อมมือมารั้งไว้อีกครั้ง ทว่าเขาไม่ฟังอีก ดึงมือออก รูดซิปกางเกงและถอดมัน และยังไม่ทันถอดพ้นข้อเท้าที่เหลือข้างสุดท้าย ความใจร้อนก็พาเขากลับมาดึงกางเกงชั้นในที่เหลืออยู่ด้วย ซึ่งไม่แปลกนักที่เป็นไทยังคงรั้งไว้ แม้แสงไฟไม่ได้ส่องชัด แต่ใจเย็นก็เห็นสีแดง แดงไปหมดทั้งใบหน้าทำให้เขายิ่งนึกอยากแกล้ง โน้มลงพูดที่ใกล้หู

“ผมทำให้”

“ไม่ ไม่ต้อง”

“งั้นทำให้ผมดูหน่อย”

สิ้นสุดคำท้าทายนั้น เป็นไทชะงักงัน ใบหน้าเหมือนจะยังแดงได้อีก ก่อนด่ามาสั้นๆ ว่าโรคจิต แต่ก็ยังยอมให้ไอ้โรคจิตที่ว่าพรมจูบลงไปอีกครั้ง ยอมปล่อยให้เขากุมสัมผัสส่วนที่ร้อนและคลั่งข้นด้วยเพลิงอารมณ์ ใจเย็นเริ่มขยับเคลื่อนด้วยจังหวะเนิบช้าเหมือนตอนที่จัดการกับความอัดอั้นของตนเอง มองไม่เห็นสีหน้าของเป็นไทตอนนี้แล้วเพราะเจ้าตัวใช้แขนและมือทั้งสองข้างบดบัง ได้ยินเพียงเสียงหอบหายใจแทรกมากับเสียงฝนที่แผ่วจางลง ไม่แน่ใจว่าอากาศเริ่มร้อนขึ้นทุกทีหรือเป็นเพราะร้อนรุ่มในกาย ใจเย็นใช้มือข้างที่เหลือปลดกระดุมเสื้อตนเองและกางเกงที่ทำให้เขาอึดอัด ก่อนกลับไปเร่งจังหวะมือที่ปรนเปรอให้อีกฝ่าย แม้ไม่ยอมพูดหรือส่งเสียงร้องออกมาแต่ห้วงหายใจที่หนักหน่วงขึ้นก็ทำให้รู้ถึงความข้นคลั่กของอารมณ์

จนที่สุดแล้วราคะสีขาวก็ถะถั่งหลั่งไหลออกมา เปรอะเปื้อนเลอะมือเขาให้รู้สึกแปลกแปร่ง ไม่ใช่ว่ารังเกียจ แต่แค่ไม่เคยคิดว่าจะได้มาทำเรื่องแบบนี้ให้กับผู้ชายเหมือนกัน และชั่วขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เป็นไทขยับตัวเหมือนจะผละออกจากเขา

“ขอโทษ... เดี๋ยวหาอะไรมาเช็ดให้”

“ไม่เป็นไรครับ”

ใจเย็นปฏิเสธ เขาไม่อยากให้เป็นไทลุกไปไหน ขณะเดียวกันก็ไม่รู้จะจัดการกับน้ำเหนียวๆ ในมืออย่างไร รู้ด้วยว่าเป็นไทคงไม่อยากปล่อยให้เป็นแบบนี้ พลันก็จบปัญหาง่ายดาย เขาถอดเสื้อที่ปลดกระดุมเอาไว้แล้ว และใช้มันเช็ดมือ

“เฮ้ย เสื้อมึง...”

“ซื้อใหม่ก็ได้”

เหมือนเห็นสีหน้าหมั่นไส้ของเป็นไท ซึ่งใจเย็นก็แค่ยิ้ม และยิ้มเบาบางอย่างพึงใจที่อีกฝ่ายยังไม่ได้หนีเขาไปไหน ยังอยู่ใต้ร่างของเขา คล้ายยอมให้บังคับควบคุมได้ทุกอย่าง แน่นอนว่าความรู้สึกเดิมๆ ยังคงวนเวียน ทั้งรบเร้าและเร่งเร้า ว่าเขาอยากได้คนคนนี้ ตอนนี้ และเดี๋ยวนี้ แต่ความอยากทะนุถนอมเอาไว้ ความเป็นห่วงและไม่อยากให้ความต้องการของเขาเป็นเรื่องเห็นแก่ตัว จึงทำให้เขาพยายามใจเย็นอย่างถึงที่สุด ถึงขนาดที่ว่ายอมทำให้อีกฝ่ายก่อน ไม่ใช่เอาแต่ความสุขของตนเอง

“เป็นไท”

“...อะไร”

“เคยทำไหม”

เป็นไทไม่ได้ตอบ แต่เห็นชัดในแสงที่สาดส่องไม่ทั่วห้องว่าเจ้าตัวเบิกตาเล็กน้อยเหมือนไม่คิดว่าจะถูกถาม

“ไม่ได้หมายถึงว่าเคยกับผู้ชายไหม กับผู้หญิงก็ได้ เพราะ...แค่อยากรู้ว่ามีประสบการณ์บ้างไหม” ใจเย็นอธิบายต่อ แต่ก็รู้สึกได้ว่าตนเองร้อนรน เรียบเรียงคำพูดได้ไม่ค่อยตรงใจนัก “คือ...มันคงเจ็บมาก”

และก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาเสียเองเมื่อเป็นไทยังคงเงียบ

“ให้ผมไปหาอะไรมา—”

ไม่ทันขาดคำ ใจเย็นถูกดึงลงไป จูบ แต่ก็แค่ไม่กี่วินาที ราวกับสั่งให้หุบปาก

“พูดมาก รำคาญ”

และก็เป็นจริงดังนั้น แต่ถึงผละจูบออกแล้วก็ยังประสานสายตากันด้วยระยะห่างไม่กี่เซนติเมตร ฝนกลับมาตกหนักกลบกลืนทุกสรรพเสียง แต่เสียงห้วงหายใจของเป็นไทยังดังชัด ผิวยังคงระเรื่อสีแดงเหมือนเชื้อเชิญ พลันในห้วงวินาทีใดนับจากนั้นไม่อาจทราบได้ เพราะใจเย็นไม่แน่ใจอะไรอีกแล้ว สิ่งที่ทำปนเปทั้งความรู้ตัวและไม่รู้ตัว แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่แน่ใจ

พอกันที

เขาไม่อดทนอีกแล้ว และไม่แน่ใจด้วยว่าช่วยเปิดช่องทางของอีกฝ่ายได้มากแค่ไหน ทั้งที่อยากให้โอนอ่อนจากอ่อนโยนทะนุถนอม แต่เขาก็ไม่ทนอีกแล้ว ยืนยันได้จากเสียงร้องลั่นของเป็นไทเมื่อเขาพาร่างของตนเองสอดแทรกเข้าไป แม้อึดอัดคับแคบจนเจ็บเสียเองเขาก็ไม่ทนอีกแล้ว ใจเย็นผ่อนลมหายใจให้เข้าทีก่อนจะไปต่อ ได้ยินเสียงร้องหลงจากเจ็บปวดแต่เขาก็หยุดไม่ได้แล้ว ที่ทำได้มีแค่ประคองใบหน้าที่แดงระเรื่อนั้นไว้ ใบหน้าที่ยังพยายามใช้มือและแขนปกปิดไม่ให้เขาเห็น ใจเย็นดึงมันออกและกดไว้กับเตียง กระนั้นก็ยังเหลือการกัดเม้มปากราวกับรังเกียจเสียงตัวเอง ราวกับไม่อยากให้เขาได้ยิน แต่เพราะเขาอยากได้ยิน มือจึงเอื้อมไปบีบกระพุ้งแก้มให้คลายการขบเม้มออก ในทีแรกเบามือเพราะกลัวทำให้เจ็บ แต่เมื่อยังถูกต้านไว้จึงบีบแรงขึ้นจนยอมแพ้

เขาพรมจูบเป็นการปลอบใจ ก่อนใช้นิ้วมือข้างที่ไม่ได้ช่วยปรนเปรอในทีแรกแหย่เข้าไปในปาก ไม่ถึงกับบังคับให้เปิดอ้า แต่ก็เพียงพอที่จะไม่ให้ขบเม้มเก็บกลั้นเสียงร้อง และเขาก็รู้ รู้ว่าเป็นไทจะไม่กล้ากัดลงมาเพราะกลัวเขาเจ็บ

เมื่อเป็นดังใจ จังหวะที่เนิบช้ามาตลอดก็ถูกเร่งให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น เหมือนใจที่ร้อนรนมาตลอด ใจที่อยากจะได้ อยากได้ทั้งหมดของคนคนนี้ และแทบไม่น่าเชื่อว่าเขากำลังสมปรารถนา เขากำลังได้ครอบครองเป็นไท ได้เห็นสีหน้าที่อาบเคลือบด้วยสีแดงเรื่อจากเพลิงตัณหา ได้เห็นแววตาที่ฉ่ำด้วยน้ำตา และได้ยินเสียงร้องที่แม้แต่เจ้าตัวยังอยากเก็บเป็นความลับ เขาได้ครอบครองทั้งหมดนั้น ยิ่งคิดก็ยิ่งเหมือนโหมไฟอารมณ์ให้เดือดพล่าน ใจเย็นจึงยิ่งกดกระแทกเข้าไปอย่างตะกรุมตะกราม เสียงร้องดังลั่นไม่เป็นภาษา เขาเก็บกลืนทั้งหมดนั้น

ให้เป็นของเขา ของเขาคนเดียว

และในจังหวะที่ท้องฟ้าคำรามลั่น สายฟ้าของราคะก็ฟาดลงมา ปลดปล่อยทุกปรารถนาเข้าไปในร่างของเป็นไท ผ่อนลมหายใจออกมาหนักหน่วง และเพื่อปลอบประโลม เขาจูบลงบนหยดน้ำตา ซึมซับมันให้จางหาย แล้วจูบลงบนหน้าผาก แนบนาน อบอุ่น

ก่อนกระซิบคำบางคำที่ข้างหู

เป็นไทไม่ตอบอะไร แค่หลับตาลงเหมือนเหนื่อยอ่อนเต็มที ใจเย็นจึงไม่ได้พูดอะไรอีก – รวมถึงคำพูดเอาแต่ใจว่าขออีกรอบได้ไหม – เขาไม่ได้พูดมัน

พอดีกับที่เรื่องบนเตียงจบลง ไฟฟ้าของหอพักก็กลับมาใช้ได้เหมือนรู้งาน ให้พวกเขาได้สะสางตนเองจากเปรอะเปื้อน และตอนนั้นเองที่เป็นไทเริ่มบ่นอุบอิบ แม้เขาจะช่วยประคองพาไปล้างตัวในห้องน้ำก็ตาม

คืนนั้นจบลงด้วยการนอนเคียงบนเตียงเดียวกัน แม้สายฝนหยุดลงแล้วแต่ใจเย็นก็ไม่ได้กลับบ้านที่แม่รออยู่ หลังจากการฟ้องหย่าจบลง เกษราก็หาซื้อบ้านใกล้มหาวิทยาลัยของใจเย็นเพื่ออาศัยชั่วคราว ส่วนใจเย็นก็ย้ายออกจากคอนโดของพ่อเพื่อมาอยู่กับแม่ ดังนั้นเวลาไปไหนเขาจึงต้องโทรบอกเสียบ้าง การมาค้างคืนกับเป็นไทก็เช่นกัน ซึ่งเกษราก็ไม่ได้ว่าอะไร เหมือนกับที่หล่อนตามใจและเห็นดีเห็นงามเรื่องที่ใจเย็นคบกับเป็นไทนั่นแหละ

แต่บางที ก็อาจเพราะหล่อนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแท้จริงไม่บิดพลิ้วของลูกชายตนเอง จึงยินดีไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร และเพศอะไร

นับจากวันนั้น ใจเย็นกับเป็นไทก็ดำเนินชีวิตตามปกติ มีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็ยกให้กัน ไปหา มาหา พบหน้า พูดคุย ถกเถียง หยอกล้อ ด่า และโดนด่า ซึ่งแน่นอนว่าใจเย็นเป็นฝ่ายโดนด่าอยู่ตลอดจากการที่ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจกวนประสาทเป็นไท แต่เพราะรู้ว่าไม่ใช่คำด่าแบบโกรธหรือโมโห เขาจึงชอบที่จะได้ฟัง

ความจริงก็ชอบทั้งหมดของเป็นไทนั่นแหละ

แม้วันจะผ่าน ใจเย็นก็ไม่เคยเปลี่ยนความละเอียดลออในการสังเกตท่าทีของเป็นไท ไม่สิ เรียกว่าสังเกตอาจไม่ถูกทั้งหมด เพราะหลายครั้งก็แค่เฝ้ามองอย่างไม่คิดอะไร เหมือนว่าจะอย่างไรก็ได้ ขอแค่ให้ได้เห็นในสายตา ได้เฝ้ามองอยู่อย่างนั้นทั้งในความเป็นจริง ในฉากหลังที่ว่างเปล่า ในใจของเขา

เหมือนกับตอนนี้ที่เป็นไทนั่งอยู่ตรงหน้าเขา ท่ามกลางแดดคล้อยยามเย็นของสิงหาคม ในสวนของบ้านใหม่แม่ แม้จะไม่ยิ่งใหญ่ด้วยพฤกษานานาพันธุ์เท่าบ้านอัครเสนีย์ แต่ก็เต็มไปด้วยดอกไม้ กลิ่นหอมนวลเนียนในอากาศ และหอมหวานของไอศกรีมสตรอเบอร์รี่

ทั้งจะมีอะไรดีไปกว่าได้แอบมองคนตรงหน้าที่ลิ้มเลียไอศกรีมที่เปรอะเลอะริมฝีปากเป็นบางคราว ไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ที่จนบัดนี้เป็นไทก็ยังไม่เคยเอ่ยกับปากออกมาว่าชอบ พอๆ กับตัวเขาที่เป็นไทไม่เคยบอกรักเลยสักครั้ง

“เป็นไท”

“ว่า?”

เป็นไทเงยหน้าขึ้นจากไอศกรีมสตรอเบอร์รี่

“ผมเคยสนใจเป็นไทเพราะคิดว่ามีเรื่องที่ผมคาดเดาไม่ได้เต็มไปหมด”

“มึงจะพูดอะไรเลี่ยนๆ อีกแล้วใช่ไหม”

พลันใจเย็นยิ้มขำที่โดนดักทาง แต่เขาก็พูดต่ออยู่ดีเพราะอยากให้รับรู้เอาไว้

“แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต่อให้คาดเดาได้ ผมก็ยังสนใจอยู่ดี”

เป็นไททำเป็นไม่สนใจ ตักไอศกรีมคำสุดท้ายเข้าปาก อีกครั้ง ลิ้มเลียไอศกรีมที่เลอะเล็กน้อยบนริมฝีปาก

อีกครั้ง ใจเย็นนึกอยากเป็นไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ขึ้นมา

“เพราะมองยังไงก็น่ารัก”

“รำคาญ”

ทันควัน เป็นไทสวนกลับ

“รักนะครับ”

“รำคาญสัดๆ”

โดยไม่สบตาเขา เป็นไทลากถ้วยไอศกรีมของใจเย็นที่ยังกินไม่หมดไปตักกินเสียเอง

“รำคาญแต่แย่งของกินผมได้ไงอะ”

“ก็รำคาญไง เลยแย่ง”

“รำคาญมันต้องไล่ไปให้พ้นๆ หน้าไม่ใช่เหรอครับ”

เป็นไทไม่ได้ตอบ ตักไอศกรีมเข้าปากอีกคำก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา ไม่รู้เพราะแสงคล้อยของยามเย็นด้วยหรือเปล่าที่ทำให้แววตาแฝงความกร้าวนั้นดูอบอุ่น และอ่อนโยนขึ้นมา

“ไม่ไล่หรอก”

และก็ได้รู้ว่าไม่ได้คิดไปเอง

“อยู่ให้กูรำคาญนี่แหละ”

“งั้น...งั้นเหรอ”

“เออ ทั้งชีวิตเลยก็ดี”

จบคำ เป็นไทก้มหน้าก้มตากินไอศกรีมต่อ ปล่อยให้ใจเย็นจมอยู่ในคำพูดที่ก้ำกึ่งระหว่างคำหวานและคำธรรมดา แต่อย่างไร เขารู้สึกว่าหวาน หวานเหมือนไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ แล้วก็พลันรู้สึกว่าตนเองตอนนี้เป็นไอศกรีม ไม่ใช่เชิงลามกแบบที่เคยคิด แต่เป็นไอศกรีมที่กำลังละลายจากคำบอกรักที่ไม่มีคำว่ารัก

ละลายจริงๆ เพราะเขาคิดคำโต้ตอบไม่ออก แถมรู้ตัวอีกทีว่าหน้าแดงก็ตอนที่เป็นไทหัวเราะใส่และดึงแก้มเขาเล่นแล้ว แต่ใจเย็นก็ไม่ว่าอะไร ไม่เคยคิดว่าอะไรเลยสักครั้ง เพราะถ้าเป็นไทเป็นไฟ เขาก็จะยอมให้แผดเผาจนละลายหาย และถ้าไฟนั้นต้องการมอดดับ เขาก็จะเป็นน้ำแข็งที่เย็นมากพอจะช่วยอีกฝ่ายโดยไม่ทำลายตนเอง ต่อให้ไม่พูด เขาก็รู้ว่าเป็นไทไม่ปรารถนาให้เขาเจ็บปวด ปรารถนาเช่นนั้น ให้มีกันและกัน ประคับประคองและผ่านเรื่องราวต่างๆ ไปด้วยกันเหมือนที่เคยผ่านกันมาได้

แค่กันและกันก็เพียงพอ

ใจเย็นกับเป็นไท.















************************************************************************************

ไม่รู้จะใช้คำพูดไหนปิดในเนื้อเรื่องสำหรับการบอกว่า จบแล้ว เพราะการปิดด้วยคำว่า "ใจเย็นกับเป็นไท" มันดูสมบูรณ์มากเลยสำหรับแยม

แม้ว่ายังมีบทส่งท้ายอีกตอน แต่แยมมองว่ามันคล้ายๆ ตอนพิเศษมากกว่า เนื้อเรื่องจบสมบูรณ์จริงๆ ที่ตอนนี้

ส่วนบทส่งท้าย สปอยล์ว่ามีหมาค่ะ และหมาตัวนี้ไม่ตายนะ 5555


ความจริงมีเรื่องอยากพูดเยอะมาก แต่เรียบเรียงเป็นข้อๆ ดีกว่า เดี๋ยวเวิ่น

- ขอบคุณนักอ่านทุกคนเลยค่ะที่ติดตามมาจนถึงตรงนี้ ขอบคุณทุกฟี้ดแบ้ค ทุกกำลังใจ ทุกคอมเม้น ทุกการบวกเป็ด ขอบคุณจริงๆ ค่ะ มันทำให้แยมอยากเขียนงานให้ดีต่อไป และจะพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยค่ะ

- เคยบอกในทอล์กตอนของเกษราแล้วล่ะว่า เรื่องนี้ ภาษาได้รับอิทธิพลมาจากงานของคุณวีรพรเยอะมาก เป็นติ่งค่ะ 555 แล้วก็ผสมรวมกับความเป็นตัวเองของแยมลงไป ออกมาอย่างที่เห็นค่ะ

- อย่างไรก็ตาม เรื่องหน้าน่าจะใช้ภาษาแบบสบายๆ กว่านี้แล้วค่ะ (จริงๆ นักอ่านก็บอกอยู่ว่าแต่ละเรื่องของแยมภาษาไม่เหมือนกันเลย 55)


- อย่าลืมม มีบทส่งท้ายอีกตอนนะคะ


- แต่ก็เม้นบอกความในใจได้ตั้งแต่ตอนนี้น้า เค้าอยากรู้ อยากอ่านน 55

- รักทุกคนนะคะ รัก #ใจเย็นกับเป็นไท ด้วย  :กอด1: :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-09-2017 00:27:10 โดย แยมส้มขมคอ »

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อิจฉาในความสัมพันธ์ทั้งคู่มาก ค่อยๆเรียนรู้และยอมรับในตัวตนกันและกัน และยังคงไว้ในความเป็นตัวตนแม้ว่าสถานะจะเปลี่ยนไป รักในความเป็นมนุษย์ที่นักเขียนใส่ลงไปให้ใจเย็นและเป็นไท ทั้งผุกร่อนและเติบโต รัก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอย........ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ใจเย็น เป็นไท  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รักกันแล้ว  :o8: :-[ :impress2:

เป็นไท บอกรักใจเย็น ได้สมกับเป็นไทสุดๆ
“อยู่ให้กูรำคาญนี่แหละ”
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เวลาอ่านนิยายคุณแยมต้องใช้พลังเยอะมากจริงๆค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ ถึงจะมาตามอ่านทีเดียวตอนจะจบ แต่ก็คอยแอบดูสปอยด์อยู่ตั้งแต่เปิดเรื่องนะคะ กลัวใจ 555555 เป็นกำลังใจให้นะคะ หลงรักภาษามาก เราอ่านแล้วซึมซับเข้าไปทุกตัวอักษร ดีใจที่ได้อ่านผลงานคุณภาพแบบนี้ค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ จี้ซัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขอเม้น
ที่จริงชอบเรื่องชิลๆ สบายๆ มากกว่าแต่เรื่องนี้กลับทำให้ไม่สามารถเลิกอ่านได้ เพราะอยากรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของใจเย็นและเป็นไทย
นอกจากที่แสดงออกมาให้คนอื่นเห็นจะเป็นอย่างไร ถึงแม้เนื้อเรื่องไม่หวือหวา แต่เมื่อได้อ่านตั้งแต่แรกจนจบบทสุดท้ายกลับรู้สึกว่าเรื่องนี้ให้คนที่อ่านฉุกคิดบางอย่างจากความคิดของตัวละคร เพราะคุณได้ทำให้ตัวละครในนิยายกลายเป็นคนขึ้นมาได้จริงๆ สรุปแล้วชอบมากค่ะ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
นี่เป็นคำจบเรื่องที่ตรึงตรามาก และสรุปความเป็นมาได้ดีที่สุด

เรียนรู้ เติบโต และแก่เฒ่าไปด้วยกัน


ขอบคุณคุณแยม

ออฟไลน์ vwm666

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อย่าลืมรวมเล่มน้าจร้า  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ปริ่มมากอ่ะ จะติดตามไปเรื่อยๆนะคะ ชอบงานเขียนมากๆเลย

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ jaejae

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เขียนได้ดีมาก  ลึกซึ้ง  กินใจ  ขอบคุณคร้าาาาาาาาาาา...สำหรับนิยายดีๆ  อีกเรื่องนึง...................................

ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  อบอุ่น  อ่อนโยน 

ออฟไลน์ sleepingsheeppp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
กรี๊ดดดดดด จบแล้ว ร้องไห้ๆๆๆๆๆ คือดีย์อะ ป้าปลิ่มมากคะ

ออฟไลน์ 177266

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ใจเย็น ไม่ใจเย็นสมชื่อเลยน้าตอนนี้ :-[ 
ยังไม่อยากให้จบเลย ชอบบบบมากกกกกกกกกกค่ะ :L1:
 

ออฟไลน์ pee122

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบมากถึงแม้เรื่องราวไม่ได้ดำเนินแบบต่อเนื่องให้เห็นการดำเนินชีวิตของตัวละคร แต่ชอบมากกกกก

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ่านมาตั้งแต่ต้น เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ ตัวละครมีความซับซ้อนแต่บางทีก็เรียบง่าย
อ่านไปก็หน่วงใจดีแท้ แต่ใจเย็นกับเป็นไทเข้าใจกันได้เราก็ดีใจ ผ่านเรื่องร้ายๆมาเยอะแล้วต่อจากนี้ต่อให้มีเรื่องร้ายเข้ามาอีกก็จะไม่หนักหนาแล้วเพราะว่ามีคนแชร์ความรุ้สึกร่วมกัน :mc4:

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


ตามจนทันแล้ว ดีใจ จะเสียใจก็แค่เรื่องเดียวที่เราไม่มีโอกาสได้เข้ามาเมนท์นิยายแบบเรียลไทม์ ดังนั้น พอมารวบ ๆ เมนท์ มันก็เลยจะไม่ลงรายละเอียดเท่าที่ควร (ขอโทษด้วยนะคะ)

เอาเป็นว่า เรื่องของใจเย็นกับเป็นไท สำหรับเรา มันเป็นนิยายดราม่าที่ว่าด้วยเรื่องครอบครัวมากกว่าเรื่องความรัก เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง มันชวนทำให้คนอ่านตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทุกวันนี้ เราทำอะไรกับคนใกล้ ๆ ตัว คนที่เรารักและรักเราลงไปบ้าง (โดยเฉพาะกับลูกหลาน)

สิ่งที่เกิดขึ้นกับใจเย็นและเป็นไทซึ่งนับเป็นเพียงปลายน้ำของปัญหายิ่งใหญ่ในรุ่นพ่อแม่นั้น เตือนสติให้พวกเราตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งละอันพันละน้อยที่เราทำต่อกันและกันในทุก ๆ วัน นอกจากนั้นมันยังบอกให้เรารู้ว่า จะยังไง คนเราก็มีทางเลือกในการดำเนินชีวิตเสมอ...  ทั้งเลือกที่จะดูแลกันและกันให้ดี เพื่อให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับทุก ๆ ตัวละครไม่เกิดซ้ำรอยกับตัวเรา หรือเลือกที่จะปล่อยปละละเลย ทำทุกอย่างตามอารมณ์ ตามความพอใจและทำลายกันและกันในท้ายที่สุด

เราว่าการทำให้คนอ่านได้คิดตาม และสอนใจนี่แหละค่ะคือเป็นคุณสมบัติของนิยายดี ๆ สักเรื่องหนึ่ง
ขอบคุณนะคะคุณแยมที่เล่าเรื่องของใจเย็นและเป็นไทให้พวกเราฟัง
หวังว่าพวกเราจะได้ติดตามอ่านเรื่องเล่าของคุณแยมไปเรื่อย ๆ นะคะ ^_^
สู้ ๆ นะคะ พวกเราพร้อมจะเป็นกำลังใจให้คุณแยมเสมอค่ะ  :กอด1:


ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อึดอัดมาตั้งแต่ต้นที่อ่าน เป็นเรื่องที่หน่วงเวอร์ๆ ปกติไม่ค่อยชอบอ่านดราม่าแต่ภาษาดีพล็อตดีเลยยอม รอตอนพิเศษนะคะ แม้ตอนนี้เราจะรู้สึกว่ามันพิเศษแล้วที่เป็นไทอยู่กับใจเย็นอย่างมีความสุข 5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด