➤➤ใจเย็นกับเป็นไท ◑แจ้งข่าวตีพิมพ์หน้า 19 ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ➤➤ใจเย็นกับเป็นไท ◑แจ้งข่าวตีพิมพ์หน้า 19 ค่ะ  (อ่าน 124936 ครั้ง)

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
กระโดดกระทืบพื้น #รู้สึกค้าง

ออฟไลน์ แยมส้มขมคอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-2

38 – ใจเย็นกับเป็นไท



ใจเย็นนึกถึงฤดูร้อนปีนั้น ฤดูร้อนที่เขาได้เจอกับเป็นไทครั้งแรก นึกถึงแก้วน้ำเย็นๆ ในมือ จำไม่ได้แล้วว่าเป็นน้ำอะไร แต่ยังจำรอยนูนชัดของปุ่มกระดูกข้อมือได้ จำแววตาที่แฝงความกร้าวเอาไว้ จำสำเนียงพูดที่ห้วนห้าวแต่ก็ไม่แสลงหู จำได้ จำได้ทุกอย่างในฤดูร้อนปีนั้น เขานึกถึงมันท่ามกลางจูบที่ร้อนรน ไม่อาจหาเหตุผลได้เลยว่าทำไมจึงนึกถึง

หรือไม่ ตัวเขาตอนนี้ก็หมดสิ้นเหตุผลไปแล้ว

เป็นครั้งที่สองที่เป็นไทจูบเขา แผ่วเบา เนิบช้า ขณะเดียวกันก็รุ่มร้อน เมื่อถอนจูบออก สายตากลับมาประสานกัน แต่ก็แค่เพียงชั่วครู่ อีกฝ่ายหลบตาไปแล้ว ทั้งยังหันหนี ทำท่าเหมือนจะผลักเขาออก ขัดใจจึงพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างไม่อาจต้าน ใจเย็นกดมือที่จะผลักเขาออกให้ลดลงต่ำ จับคางอีกฝ่ายให้หันมาสบตากันอีกครั้งในห้องที่แสงไฟสาดเงาชัด และประทับจูบลงไปบนริมฝีปากนั้น

ประทับ นาบเนิบ ก่อนกลายเป็นกดจูบ ใช่ กดลงไปทั้งริมฝีปากและร่างของอีกฝ่ายให้ทิ้งแผ่นหลังลงบนเตียง เมื่อถอนจูบ ใจเย็นเห็นชัดถึงสีหน้าของเป็นไทที่เขาคร่อมอยู่ มันระเรื่อแดง อาจด้วยความร้อน ทั้งจากภายนอก และในกาย แววตาสับสน ร้อนรน ระคนหวาดหวั่น ริมฝีปากขยับเผยอเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เพราะใจเย็นไม่อยากได้ยิน ถ้าหากมันเป็นคำห้ามปราม เขาไม่อยากได้ยิน จูบจึงกดลงไปอีกครั้ง บดเบียดละเลียดรสของอีกฝ่าย ทั้งดูดดื่มราวจะดูดกลืนแม้แต่คำพูดห้ามปรามไม่ให้เขาทำ

และเหมือนได้ผล เมื่อผละจูบออกไม่มีคำพูดใดอีก นอกจากเสียงฝนแล้วก็ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจ หอบหายใจ ใจเย็นตื่นเต้น กระวนกระวาย อยากได้ อยากได้ทั้งหมด อยากได้ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มือจึงเอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อของเป็นไท การกระทำนั้นเกิดขึ้นทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว พลันไม่ทันดั่งใจจึงกระชากออก หมายพรากผ้าอาภรณ์ที่ห่อคลุมผิวของอีกฝ่าย แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงมือของเป็นไทที่ดึงรั้งการกระทำของเขาไว้ เห็นแววตาตระหนกบนใบหน้า ความรู้ตัวจึงกลับคืน เขาผ่อนลมหายใจให้ช้าลง ปล่อยมันรินรดบนผิวกายที่เขาปรารถนาครอบครอง ซบลงที่เนินอก ก่อนจะจูบไล่ลามขึ้นไปที่ต้นคอ ขบเม้มอย่างที่เคยทำ พลันนึกถึงวันที่สั่นเทาเพราะแตกสลายกับการกระทำ วันนี้ต่างออกไปตรงที่ต่อให้แตกสลาย เขาก็รู้วิธีประกอบคืนและเยียวยารอยแตกร้าวให้หายดีดังเดิม

รวมถึงวิธีประคับประคองไม่ให้แตกสลายก็เช่นกัน

จากต้นคอ ใจเย็นจูบไล่ขึ้นไปยังคาง สันกราม แวะขบกัดที่ใบหูจนอีกฝ่ายกระเถิบหนี เหมือนจะได้ยินเสียงร้องในลำคอแต่ถูกกลืนหาย ใจเย็นชอบปฏิกิริยาตอบกลับนั้น ชอบที่ใบหูของเป็นไทนุ่มนิ่มจึงขบเม้มลงไปอีกครั้ง และเพราะหนียิ่งกว่าเดิม เขาจึงประคองใบหน้าให้หันกลับมา คราวนี้เหมือนเห็นสายตาตำหนิ คิ้วขมวดปมเล็ก และโดยใจเย็นไม่รู้ตัว รอยยิ้มบางเบาผุดพรายบนใบหน้า ก่อนใช้รอยยิ้มประทับลงบนกลีบปากอีกครั้ง

จูบครั้งนี้ทำให้ใจเย็นนึกถึงไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ เป็นไอศกรีมถ้วยที่ทำให้รู้ว่าเป็นไทชอบรสเดียวกันกับเขา นึกถึงลิ้นที่ลิ้มเลียริมฝีปากที่เปรอะเลอะไอศกรีม นึกถึงใบหน้าพึงพอใจท่ามกลางอากาศที่ร้อนอ้าวนั้น พลันความคิดปั่นประหลาด เขาอยากเป็นไอศกรีม ให้เป็นไทไล้เลียเขา แต่คงได้โดนด่ามาสักชุดสองชุด ใจเย็นจึงทำแค่ไล้เลียอีกฝ่ายเสียเอง แม้เลอะเปรอะด้วยน้ำลายก็ไม่รังเกียจ เขาไล้เลียให้เหมือนไอศกรีม ให้ละลาย เลือนหาย ขณะเดียวกันก็อยากทะนุถนอมไว้ลิ้มรสได้นานๆ

เมื่อผละถอนจากรสจูบ ใจเย็นเลื่อนมือลงเบื้องล่าง สัมผัสโดนกลางกางเกงจนอีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก เอื้อมมือมารั้งไว้อีกครั้ง ทว่าเขาไม่ฟังอีก ดึงมือออก รูดซิปกางเกงและถอดมัน และยังไม่ทันถอดพ้นข้อเท้าที่เหลือข้างสุดท้าย ความใจร้อนก็พาเขากลับมาดึงกางเกงชั้นในที่เหลืออยู่ด้วย ซึ่งไม่แปลกนักที่เป็นไทยังคงรั้งไว้ แม้แสงไฟไม่ได้ส่องชัด แต่ใจเย็นก็เห็นสีแดง แดงไปหมดทั้งใบหน้าทำให้เขายิ่งนึกอยากแกล้ง โน้มลงพูดที่ใกล้หู

“ผมทำให้”

“ไม่ ไม่ต้อง”

“งั้นทำให้ผมดูหน่อย”

สิ้นสุดคำท้าทายนั้น เป็นไทชะงักงัน ใบหน้าเหมือนจะยังแดงได้อีก ก่อนด่ามาสั้นๆ ว่าโรคจิต แต่ก็ยังยอมให้ไอ้โรคจิตที่ว่าพรมจูบลงไปอีกครั้ง ยอมปล่อยให้เขากุมสัมผัสส่วนที่ร้อนและคลั่งข้นด้วยเพลิงอารมณ์ ใจเย็นเริ่มขยับเคลื่อนด้วยจังหวะเนิบช้าเหมือนตอนที่จัดการกับความอัดอั้นของตนเอง มองไม่เห็นสีหน้าของเป็นไทตอนนี้แล้วเพราะเจ้าตัวใช้แขนและมือทั้งสองข้างบดบัง ได้ยินเพียงเสียงหอบหายใจแทรกมากับเสียงฝนที่แผ่วจางลง ไม่แน่ใจว่าอากาศเริ่มร้อนขึ้นทุกทีหรือเป็นเพราะร้อนรุ่มในกาย ใจเย็นใช้มือข้างที่เหลือปลดกระดุมเสื้อตนเองและกางเกงที่ทำให้เขาอึดอัด ก่อนกลับไปเร่งจังหวะมือที่ปรนเปรอให้อีกฝ่าย แม้ไม่ยอมพูดหรือส่งเสียงร้องออกมาแต่ห้วงหายใจที่หนักหน่วงขึ้นก็ทำให้รู้ถึงความข้นคลั่กของอารมณ์

จนที่สุดแล้วราคะสีขาวก็ถะถั่งหลั่งไหลออกมา เปรอะเปื้อนเลอะมือเขาให้รู้สึกแปลกแปร่ง ไม่ใช่ว่ารังเกียจ แต่แค่ไม่เคยคิดว่าจะได้มาทำเรื่องแบบนี้ให้กับผู้ชายเหมือนกัน และชั่วขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เป็นไทขยับตัวเหมือนจะผละออกจากเขา

“ขอโทษ... เดี๋ยวหาอะไรมาเช็ดให้”

“ไม่เป็นไรครับ”

ใจเย็นปฏิเสธ เขาไม่อยากให้เป็นไทลุกไปไหน ขณะเดียวกันก็ไม่รู้จะจัดการกับน้ำเหนียวๆ ในมืออย่างไร รู้ด้วยว่าเป็นไทคงไม่อยากปล่อยให้เป็นแบบนี้ พลันก็จบปัญหาง่ายดาย เขาถอดเสื้อที่ปลดกระดุมเอาไว้แล้ว และใช้มันเช็ดมือ

“เฮ้ย เสื้อมึง...”

“ซื้อใหม่ก็ได้”

เหมือนเห็นสีหน้าหมั่นไส้ของเป็นไท ซึ่งใจเย็นก็แค่ยิ้ม และยิ้มเบาบางอย่างพึงใจที่อีกฝ่ายยังไม่ได้หนีเขาไปไหน ยังอยู่ใต้ร่างของเขา คล้ายยอมให้บังคับควบคุมได้ทุกอย่าง แน่นอนว่าความรู้สึกเดิมๆ ยังคงวนเวียน ทั้งรบเร้าและเร่งเร้า ว่าเขาอยากได้คนคนนี้ ตอนนี้ และเดี๋ยวนี้ แต่ความอยากทะนุถนอมเอาไว้ ความเป็นห่วงและไม่อยากให้ความต้องการของเขาเป็นเรื่องเห็นแก่ตัว จึงทำให้เขาพยายามใจเย็นอย่างถึงที่สุด ถึงขนาดที่ว่ายอมทำให้อีกฝ่ายก่อน ไม่ใช่เอาแต่ความสุขของตนเอง

“เป็นไท”

“...อะไร”

“เคยทำไหม”

เป็นไทไม่ได้ตอบ แต่เห็นชัดในแสงที่สาดส่องไม่ทั่วห้องว่าเจ้าตัวเบิกตาเล็กน้อยเหมือนไม่คิดว่าจะถูกถาม

“ไม่ได้หมายถึงว่าเคยกับผู้ชายไหม กับผู้หญิงก็ได้ เพราะ...แค่อยากรู้ว่ามีประสบการณ์บ้างไหม” ใจเย็นอธิบายต่อ แต่ก็รู้สึกได้ว่าตนเองร้อนรน เรียบเรียงคำพูดได้ไม่ค่อยตรงใจนัก “คือ...มันคงเจ็บมาก”

และก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาเสียเองเมื่อเป็นไทยังคงเงียบ

“ให้ผมไปหาอะไรมา—”

ไม่ทันขาดคำ ใจเย็นถูกดึงลงไป จูบ แต่ก็แค่ไม่กี่วินาที ราวกับสั่งให้หุบปาก

“พูดมาก รำคาญ”

และก็เป็นจริงดังนั้น แต่ถึงผละจูบออกแล้วก็ยังประสานสายตากันด้วยระยะห่างไม่กี่เซนติเมตร ฝนกลับมาตกหนักกลบกลืนทุกสรรพเสียง แต่เสียงห้วงหายใจของเป็นไทยังดังชัด ผิวยังคงระเรื่อสีแดงเหมือนเชื้อเชิญ พลันในห้วงวินาทีใดนับจากนั้นไม่อาจทราบได้ เพราะใจเย็นไม่แน่ใจอะไรอีกแล้ว สิ่งที่ทำปนเปทั้งความรู้ตัวและไม่รู้ตัว แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่แน่ใจ

พอกันที

เขาไม่อดทนอีกแล้ว และไม่แน่ใจด้วยว่าช่วยเปิดช่องทางของอีกฝ่ายได้มากแค่ไหน ทั้งที่อยากให้โอนอ่อนจากอ่อนโยนทะนุถนอม แต่เขาก็ไม่ทนอีกแล้ว ยืนยันได้จากเสียงร้องลั่นของเป็นไทเมื่อเขาพาร่างของตนเองสอดแทรกเข้าไป แม้อึดอัดคับแคบจนเจ็บเสียเองเขาก็ไม่ทนอีกแล้ว ใจเย็นผ่อนลมหายใจให้เข้าทีก่อนจะไปต่อ ได้ยินเสียงร้องหลงจากเจ็บปวดแต่เขาก็หยุดไม่ได้แล้ว ที่ทำได้มีแค่ประคองใบหน้าที่แดงระเรื่อนั้นไว้ ใบหน้าที่ยังพยายามใช้มือและแขนปกปิดไม่ให้เขาเห็น ใจเย็นดึงมันออกและกดไว้กับเตียง กระนั้นก็ยังเหลือการกัดเม้มปากราวกับรังเกียจเสียงตัวเอง ราวกับไม่อยากให้เขาได้ยิน แต่เพราะเขาอยากได้ยิน มือจึงเอื้อมไปบีบกระพุ้งแก้มให้คลายการขบเม้มออก ในทีแรกเบามือเพราะกลัวทำให้เจ็บ แต่เมื่อยังถูกต้านไว้จึงบีบแรงขึ้นจนยอมแพ้

เขาพรมจูบเป็นการปลอบใจ ก่อนใช้นิ้วมือข้างที่ไม่ได้ช่วยปรนเปรอในทีแรกแหย่เข้าไปในปาก ไม่ถึงกับบังคับให้เปิดอ้า แต่ก็เพียงพอที่จะไม่ให้ขบเม้มเก็บกลั้นเสียงร้อง และเขาก็รู้ รู้ว่าเป็นไทจะไม่กล้ากัดลงมาเพราะกลัวเขาเจ็บ

เมื่อเป็นดังใจ จังหวะที่เนิบช้ามาตลอดก็ถูกเร่งให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น เหมือนใจที่ร้อนรนมาตลอด ใจที่อยากจะได้ อยากได้ทั้งหมดของคนคนนี้ และแทบไม่น่าเชื่อว่าเขากำลังสมปรารถนา เขากำลังได้ครอบครองเป็นไท ได้เห็นสีหน้าที่อาบเคลือบด้วยสีแดงเรื่อจากเพลิงตัณหา ได้เห็นแววตาที่ฉ่ำด้วยน้ำตา และได้ยินเสียงร้องที่แม้แต่เจ้าตัวยังอยากเก็บเป็นความลับ เขาได้ครอบครองทั้งหมดนั้น ยิ่งคิดก็ยิ่งเหมือนโหมไฟอารมณ์ให้เดือดพล่าน ใจเย็นจึงยิ่งกดกระแทกเข้าไปอย่างตะกรุมตะกราม เสียงร้องดังลั่นไม่เป็นภาษา เขาเก็บกลืนทั้งหมดนั้น

ให้เป็นของเขา ของเขาคนเดียว

และในจังหวะที่ท้องฟ้าคำรามลั่น สายฟ้าของราคะก็ฟาดลงมา ปลดปล่อยทุกปรารถนาเข้าไปในร่างของเป็นไท ผ่อนลมหายใจออกมาหนักหน่วง และเพื่อปลอบประโลม เขาจูบลงบนหยดน้ำตา ซึมซับมันให้จางหาย แล้วจูบลงบนหน้าผาก แนบนาน อบอุ่น

ก่อนกระซิบคำบางคำที่ข้างหู

เป็นไทไม่ตอบอะไร แค่หลับตาลงเหมือนเหนื่อยอ่อนเต็มที ใจเย็นจึงไม่ได้พูดอะไรอีก – รวมถึงคำพูดเอาแต่ใจว่าขออีกรอบได้ไหม – เขาไม่ได้พูดมัน

พอดีกับที่เรื่องบนเตียงจบลง ไฟฟ้าของหอพักก็กลับมาใช้ได้เหมือนรู้งาน ให้พวกเขาได้สะสางตนเองจากเปรอะเปื้อน และตอนนั้นเองที่เป็นไทเริ่มบ่นอุบอิบ แม้เขาจะช่วยประคองพาไปล้างตัวในห้องน้ำก็ตาม

คืนนั้นจบลงด้วยการนอนเคียงบนเตียงเดียวกัน แม้สายฝนหยุดลงแล้วแต่ใจเย็นก็ไม่ได้กลับบ้านที่แม่รออยู่ หลังจากการฟ้องหย่าจบลง เกษราก็หาซื้อบ้านใกล้มหาวิทยาลัยของใจเย็นเพื่ออาศัยชั่วคราว ส่วนใจเย็นก็ย้ายออกจากคอนโดของพ่อเพื่อมาอยู่กับแม่ ดังนั้นเวลาไปไหนเขาจึงต้องโทรบอกเสียบ้าง การมาค้างคืนกับเป็นไทก็เช่นกัน ซึ่งเกษราก็ไม่ได้ว่าอะไร เหมือนกับที่หล่อนตามใจและเห็นดีเห็นงามเรื่องที่ใจเย็นคบกับเป็นไทนั่นแหละ

แต่บางที ก็อาจเพราะหล่อนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแท้จริงไม่บิดพลิ้วของลูกชายตนเอง จึงยินดีไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร และเพศอะไร

นับจากวันนั้น ใจเย็นกับเป็นไทก็ดำเนินชีวิตตามปกติ มีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็ยกให้กัน ไปหา มาหา พบหน้า พูดคุย ถกเถียง หยอกล้อ ด่า และโดนด่า ซึ่งแน่นอนว่าใจเย็นเป็นฝ่ายโดนด่าอยู่ตลอดจากการที่ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจกวนประสาทเป็นไท แต่เพราะรู้ว่าไม่ใช่คำด่าแบบโกรธหรือโมโห เขาจึงชอบที่จะได้ฟัง

ความจริงก็ชอบทั้งหมดของเป็นไทนั่นแหละ

แม้วันจะผ่าน ใจเย็นก็ไม่เคยเปลี่ยนความละเอียดลออในการสังเกตท่าทีของเป็นไท ไม่สิ เรียกว่าสังเกตอาจไม่ถูกทั้งหมด เพราะหลายครั้งก็แค่เฝ้ามองอย่างไม่คิดอะไร เหมือนว่าจะอย่างไรก็ได้ ขอแค่ให้ได้เห็นในสายตา ได้เฝ้ามองอยู่อย่างนั้นทั้งในความเป็นจริง ในฉากหลังที่ว่างเปล่า ในใจของเขา

เหมือนกับตอนนี้ที่เป็นไทนั่งอยู่ตรงหน้าเขา ท่ามกลางแดดคล้อยยามเย็นของสิงหาคม ในสวนของบ้านใหม่แม่ แม้จะไม่ยิ่งใหญ่ด้วยพฤกษานานาพันธุ์เท่าบ้านอัครเสนีย์ แต่ก็เต็มไปด้วยดอกไม้ กลิ่นหอมนวลเนียนในอากาศ และหอมหวานของไอศกรีมสตรอเบอร์รี่

ทั้งจะมีอะไรดีไปกว่าได้แอบมองคนตรงหน้าที่ลิ้มเลียไอศกรีมที่เปรอะเลอะริมฝีปากเป็นบางคราว ไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ที่จนบัดนี้เป็นไทก็ยังไม่เคยเอ่ยกับปากออกมาว่าชอบ พอๆ กับตัวเขาที่เป็นไทไม่เคยบอกรักเลยสักครั้ง

“เป็นไท”

“ว่า?”

เป็นไทเงยหน้าขึ้นจากไอศกรีมสตรอเบอร์รี่

“ผมเคยสนใจเป็นไทเพราะคิดว่ามีเรื่องที่ผมคาดเดาไม่ได้เต็มไปหมด”

“มึงจะพูดอะไรเลี่ยนๆ อีกแล้วใช่ไหม”

พลันใจเย็นยิ้มขำที่โดนดักทาง แต่เขาก็พูดต่ออยู่ดีเพราะอยากให้รับรู้เอาไว้

“แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต่อให้คาดเดาได้ ผมก็ยังสนใจอยู่ดี”

เป็นไททำเป็นไม่สนใจ ตักไอศกรีมคำสุดท้ายเข้าปาก อีกครั้ง ลิ้มเลียไอศกรีมที่เลอะเล็กน้อยบนริมฝีปาก

อีกครั้ง ใจเย็นนึกอยากเป็นไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ขึ้นมา

“เพราะมองยังไงก็น่ารัก”

“รำคาญ”

ทันควัน เป็นไทสวนกลับ

“รักนะครับ”

“รำคาญสัดๆ”

โดยไม่สบตาเขา เป็นไทลากถ้วยไอศกรีมของใจเย็นที่ยังกินไม่หมดไปตักกินเสียเอง

“รำคาญแต่แย่งของกินผมได้ไงอะ”

“ก็รำคาญไง เลยแย่ง”

“รำคาญมันต้องไล่ไปให้พ้นๆ หน้าไม่ใช่เหรอครับ”

เป็นไทไม่ได้ตอบ ตักไอศกรีมเข้าปากอีกคำก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา ไม่รู้เพราะแสงคล้อยของยามเย็นด้วยหรือเปล่าที่ทำให้แววตาแฝงความกร้าวนั้นดูอบอุ่น และอ่อนโยนขึ้นมา

“ไม่ไล่หรอก”

และก็ได้รู้ว่าไม่ได้คิดไปเอง

“อยู่ให้กูรำคาญนี่แหละ”

“งั้น...งั้นเหรอ”

“เออ ทั้งชีวิตเลยก็ดี”

จบคำ เป็นไทก้มหน้าก้มตากินไอศกรีมต่อ ปล่อยให้ใจเย็นจมอยู่ในคำพูดที่ก้ำกึ่งระหว่างคำหวานและคำธรรมดา แต่อย่างไร เขารู้สึกว่าหวาน หวานเหมือนไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ แล้วก็พลันรู้สึกว่าตนเองตอนนี้เป็นไอศกรีม ไม่ใช่เชิงลามกแบบที่เคยคิด แต่เป็นไอศกรีมที่กำลังละลายจากคำบอกรักที่ไม่มีคำว่ารัก

ละลายจริงๆ เพราะเขาคิดคำโต้ตอบไม่ออก แถมรู้ตัวอีกทีว่าหน้าแดงก็ตอนที่เป็นไทหัวเราะใส่และดึงแก้มเขาเล่นแล้ว แต่ใจเย็นก็ไม่ว่าอะไร ไม่เคยคิดว่าอะไรเลยสักครั้ง เพราะถ้าเป็นไทเป็นไฟ เขาก็จะยอมให้แผดเผาจนละลายหาย และถ้าไฟนั้นต้องการมอดดับ เขาก็จะเป็นน้ำแข็งที่เย็นมากพอจะช่วยอีกฝ่ายโดยไม่ทำลายตนเอง ต่อให้ไม่พูด เขาก็รู้ว่าเป็นไทไม่ปรารถนาให้เขาเจ็บปวด ปรารถนาเช่นนั้น ให้มีกันและกัน ประคับประคองและผ่านเรื่องราวต่างๆ ไปด้วยกันเหมือนที่เคยผ่านกันมาได้

แค่กันและกันก็เพียงพอ

ใจเย็นกับเป็นไท.















************************************************************************************

ไม่รู้จะใช้คำพูดไหนปิดในเนื้อเรื่องสำหรับการบอกว่า จบแล้ว เพราะการปิดด้วยคำว่า "ใจเย็นกับเป็นไท" มันดูสมบูรณ์มากเลยสำหรับแยม

แม้ว่ายังมีบทส่งท้ายอีกตอน แต่แยมมองว่ามันคล้ายๆ ตอนพิเศษมากกว่า เนื้อเรื่องจบสมบูรณ์จริงๆ ที่ตอนนี้

ส่วนบทส่งท้าย สปอยล์ว่ามีหมาค่ะ และหมาตัวนี้ไม่ตายนะ 5555


ความจริงมีเรื่องอยากพูดเยอะมาก แต่เรียบเรียงเป็นข้อๆ ดีกว่า เดี๋ยวเวิ่น

- ขอบคุณนักอ่านทุกคนเลยค่ะที่ติดตามมาจนถึงตรงนี้ ขอบคุณทุกฟี้ดแบ้ค ทุกกำลังใจ ทุกคอมเม้น ทุกการบวกเป็ด ขอบคุณจริงๆ ค่ะ มันทำให้แยมอยากเขียนงานให้ดีต่อไป และจะพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยค่ะ

- เคยบอกในทอล์กตอนของเกษราแล้วล่ะว่า เรื่องนี้ ภาษาได้รับอิทธิพลมาจากงานของคุณวีรพรเยอะมาก เป็นติ่งค่ะ 555 แล้วก็ผสมรวมกับความเป็นตัวเองของแยมลงไป ออกมาอย่างที่เห็นค่ะ

- อย่างไรก็ตาม เรื่องหน้าน่าจะใช้ภาษาแบบสบายๆ กว่านี้แล้วค่ะ (จริงๆ นักอ่านก็บอกอยู่ว่าแต่ละเรื่องของแยมภาษาไม่เหมือนกันเลย 55)


- อย่าลืมม มีบทส่งท้ายอีกตอนนะคะ


- แต่ก็เม้นบอกความในใจได้ตั้งแต่ตอนนี้น้า เค้าอยากรู้ อยากอ่านน 55

- รักทุกคนนะคะ รัก #ใจเย็นกับเป็นไท ด้วย  :กอด1: :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-09-2017 00:27:10 โดย แยมส้มขมคอ »

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
อิจฉาในความสัมพันธ์ทั้งคู่มาก ค่อยๆเรียนรู้และยอมรับในตัวตนกันและกัน และยังคงไว้ในความเป็นตัวตนแม้ว่าสถานะจะเปลี่ยนไป รักในความเป็นมนุษย์ที่นักเขียนใส่ลงไปให้ใจเย็นและเป็นไท ทั้งผุกร่อนและเติบโต รัก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอย........ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ใจเย็น เป็นไท  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รักกันแล้ว  :o8: :-[ :impress2:

เป็นไท บอกรักใจเย็น ได้สมกับเป็นไทสุดๆ
“อยู่ให้กูรำคาญนี่แหละ”
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เวลาอ่านนิยายคุณแยมต้องใช้พลังเยอะมากจริงๆค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ ถึงจะมาตามอ่านทีเดียวตอนจะจบ แต่ก็คอยแอบดูสปอยด์อยู่ตั้งแต่เปิดเรื่องนะคะ กลัวใจ 555555 เป็นกำลังใจให้นะคะ หลงรักภาษามาก เราอ่านแล้วซึมซับเข้าไปทุกตัวอักษร ดีใจที่ได้อ่านผลงานคุณภาพแบบนี้ค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ จี้ซัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขอเม้น
ที่จริงชอบเรื่องชิลๆ สบายๆ มากกว่าแต่เรื่องนี้กลับทำให้ไม่สามารถเลิกอ่านได้ เพราะอยากรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของใจเย็นและเป็นไทย
นอกจากที่แสดงออกมาให้คนอื่นเห็นจะเป็นอย่างไร ถึงแม้เนื้อเรื่องไม่หวือหวา แต่เมื่อได้อ่านตั้งแต่แรกจนจบบทสุดท้ายกลับรู้สึกว่าเรื่องนี้ให้คนที่อ่านฉุกคิดบางอย่างจากความคิดของตัวละคร เพราะคุณได้ทำให้ตัวละครในนิยายกลายเป็นคนขึ้นมาได้จริงๆ สรุปแล้วชอบมากค่ะ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
นี่เป็นคำจบเรื่องที่ตรึงตรามาก และสรุปความเป็นมาได้ดีที่สุด

เรียนรู้ เติบโต และแก่เฒ่าไปด้วยกัน


ขอบคุณคุณแยม

ออฟไลน์ vwm666

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อย่าลืมรวมเล่มน้าจร้า  :katai2-1:

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ปริ่มมากอ่ะ จะติดตามไปเรื่อยๆนะคะ ชอบงานเขียนมากๆเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ jaejae

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เขียนได้ดีมาก  ลึกซึ้ง  กินใจ  ขอบคุณคร้าาาาาาาาาาา...สำหรับนิยายดีๆ  อีกเรื่องนึง...................................

ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  อบอุ่น  อ่อนโยน 

ออฟไลน์ sleepingsheeppp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
กรี๊ดดดดดด จบแล้ว ร้องไห้ๆๆๆๆๆ คือดีย์อะ ป้าปลิ่มมากคะ

ออฟไลน์ 177266

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ใจเย็น ไม่ใจเย็นสมชื่อเลยน้าตอนนี้ :-[ 
ยังไม่อยากให้จบเลย ชอบบบบมากกกกกกกกกกค่ะ :L1:
 

ออฟไลน์ pee122

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบมากถึงแม้เรื่องราวไม่ได้ดำเนินแบบต่อเนื่องให้เห็นการดำเนินชีวิตของตัวละคร แต่ชอบมากกกกก

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ่านมาตั้งแต่ต้น เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ ตัวละครมีความซับซ้อนแต่บางทีก็เรียบง่าย
อ่านไปก็หน่วงใจดีแท้ แต่ใจเย็นกับเป็นไทเข้าใจกันได้เราก็ดีใจ ผ่านเรื่องร้ายๆมาเยอะแล้วต่อจากนี้ต่อให้มีเรื่องร้ายเข้ามาอีกก็จะไม่หนักหนาแล้วเพราะว่ามีคนแชร์ความรุ้สึกร่วมกัน :mc4:

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


ตามจนทันแล้ว ดีใจ จะเสียใจก็แค่เรื่องเดียวที่เราไม่มีโอกาสได้เข้ามาเมนท์นิยายแบบเรียลไทม์ ดังนั้น พอมารวบ ๆ เมนท์ มันก็เลยจะไม่ลงรายละเอียดเท่าที่ควร (ขอโทษด้วยนะคะ)

เอาเป็นว่า เรื่องของใจเย็นกับเป็นไท สำหรับเรา มันเป็นนิยายดราม่าที่ว่าด้วยเรื่องครอบครัวมากกว่าเรื่องความรัก เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง มันชวนทำให้คนอ่านตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทุกวันนี้ เราทำอะไรกับคนใกล้ ๆ ตัว คนที่เรารักและรักเราลงไปบ้าง (โดยเฉพาะกับลูกหลาน)

สิ่งที่เกิดขึ้นกับใจเย็นและเป็นไทซึ่งนับเป็นเพียงปลายน้ำของปัญหายิ่งใหญ่ในรุ่นพ่อแม่นั้น เตือนสติให้พวกเราตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งละอันพันละน้อยที่เราทำต่อกันและกันในทุก ๆ วัน นอกจากนั้นมันยังบอกให้เรารู้ว่า จะยังไง คนเราก็มีทางเลือกในการดำเนินชีวิตเสมอ...  ทั้งเลือกที่จะดูแลกันและกันให้ดี เพื่อให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับทุก ๆ ตัวละครไม่เกิดซ้ำรอยกับตัวเรา หรือเลือกที่จะปล่อยปละละเลย ทำทุกอย่างตามอารมณ์ ตามความพอใจและทำลายกันและกันในท้ายที่สุด

เราว่าการทำให้คนอ่านได้คิดตาม และสอนใจนี่แหละค่ะคือเป็นคุณสมบัติของนิยายดี ๆ สักเรื่องหนึ่ง
ขอบคุณนะคะคุณแยมที่เล่าเรื่องของใจเย็นและเป็นไทให้พวกเราฟัง
หวังว่าพวกเราจะได้ติดตามอ่านเรื่องเล่าของคุณแยมไปเรื่อย ๆ นะคะ ^_^
สู้ ๆ นะคะ พวกเราพร้อมจะเป็นกำลังใจให้คุณแยมเสมอค่ะ  :กอด1:


ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อึดอัดมาตั้งแต่ต้นที่อ่าน เป็นเรื่องที่หน่วงเวอร์ๆ ปกติไม่ค่อยชอบอ่านดราม่าแต่ภาษาดีพล็อตดีเลยยอม รอตอนพิเศษนะคะ แม้ตอนนี้เราจะรู้สึกว่ามันพิเศษแล้วที่เป็นไทอยู่กับใจเย็นอย่างมีความสุข 5555

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีดีที่มอบให้กัน 
อิ่ม !!!!!!!
ขอบคุณอีกครั้งครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ papapajimin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ชอบบบบ รู้สึกปลื้มปริ่ม อ่านแล้วขนลุกกับคำว่า ใจเย็นกับเป็นไท ในประโยคสุดท้ายของตอนจบมาก

จริงๆเราไม่ค่อยชอบอ่านเนื้อเรื่องหน่วงๆเลยนะ มันปวดหัวใจ แต่เรากลับชอบเรื่องนี่มากๆ
ถ้าสังเกตเรื่องนี้บทสนทนาน้อยมากก จะเน้นไปที่การบรรยายความรู้สึกของตัวละคร เราชอบภาษาที่ไรต์ใช้ในการบรรยาย มันทำให้เรารับรู้ความรู้สึกของตัวละครนั้นๆ ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆค่ะ

จะรอบทส่งท้ายน้าาา

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
จบได้ดีมากเลยค่ะ เราชอบแบบนี้มาก ไม่ว่าระหว่างทางจะเจออะไรแค่ไหน ร้องไห้กันมาเท่าไร แต่ตอนสุดท้ายก็ยังอยู่ด้วยกันแบบอยากอยู่ด้วยกัน

ในเรื่องนี้เราชอบเข้าข้างเป็นไทมากกว่าใจเย็น เพราะเรารู้สึกว่าเป็นไทเข้าใจได้มากกว่า และใจเย็นบางครั้งก็ใจร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อและไม่รู้ตัว แต่ท้ายที่สุดแล้ว เราว่าตอนที่เขาทั้งคู่อยู่ด้วยกันมันดีและพอดีที่สุดเลยค่ะ รู้สึกอุ่นๆดีมากเลย

ปล.เฝ้ารอตอนพิเศษนะคะ. ^.^

ออฟไลน์ แยมส้มขมคอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-2


บทส่งท้าย



เป็นไทนึกถึงคำพูดคำหนึ่งของเกษราขึ้นมาได้อย่างแจ่มชัด คำพูดที่ว่าใจเย็นคงไม่เลี้ยงหมาอีก เขานึกถึงรายละเอียดในถ้อยนั้น เกษราบอกกับเขาว่าใจเย็นฝังใจเรื่องของทันใจมาก ทั้งเสียใจและรับไม่ได้จนวาจาบกพร่องไปหลายวัน แต่ชัดถ้อยชัดคำว่าไม่เอาหมาตัวใหม่ ไม่เลี้ยงอีกแล้ว เป็นไทจำคำพูดนั้นได้ดี และนึกขึ้นมาได้อย่างแจ่มชัดก็เพราะเขาได้เห็น ‘มัน’ นั่งอยู่ในบ้านของใจเย็น

‘มัน’ เป็นลูกหมาหน้าตาประหลาดๆ  เห็นว่าพ่อเป็นไทยหลังอาน ส่วนแม่เป็นไซบีเรียนฮัสกี้ มันเกิดขึ้นท่ามกลางความชอกช้ำระกำใจจากเจ้าของไซบีเรียนฮัสกี้ ที่ครอกแรกของลูกสาวดันมีพ่อเป็นไอ้หนุ่มห่ามข้างบ้าน ผิดผี ผิดประเวณีโดยแท้ ใจเย็นได้ฟังเจ้าของผู้เป็นเพื่อนร่วมคณะบ่นให้ฟังแบบนั้นก็งงๆ สิ่งที่เขาสนใจมากกว่าคือเจ้าลูกหมาหน้าตาแบบไซบีเรียนฮัสกี้แต่ขนสั้นกว่า สีเทา ตาสีฟ้า มีคิ้ว และมีอานลายอานม้าพาดตามยาวกลางหลัง

รู้ตัวอีกที เขาก็พามันขึ้นรถกลับบ้านแล้ว

เป็นไทฟังเหตุผลคร่าวๆ ที่ ‘มัน’ มานั่งอยู่ตรงหน้าเขาแล้วก็รู้สึกว่าเออ สมเป็นใจเย็นดีนั่นแหละ นึกอยากทำอะไรก็ทำ กระนั้นอีกใจก็ยังนึกขัดแย้งกับสิ่งที่เกษราเคยพูดไว้ เขาไม่รู้ว่าใจเย็นคิดอะไรอยู่ จนระหว่างที่กำลังสับสนมึนงง เป็นไทก็โดน ‘มัน’ เข้าโจมตี ไม่ใช่การกัด แต่เป็นการเลียปากจนเขาต้องผละห่าง ชวนให้คิดว่าเมื่อครู่ตนเองไปกินอะไรมา แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าคือไอศกรีมสตรอเบอร์รี่...

บางที อาจไม่มีอะไรซับซ้อนเลยก็ได้ ใจเย็นอาจแค่ถูกชะตากับลูกหมาตัวนี้เท่านั้นแหละ

สรุปแล้ว มันจึงเป็นลูกหมาที่มาพร้อมกับฤดูร้อน เดือนพฤษภาคม ดอกสวีทพี และไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ และถ้าไม่ติดว่ากลัวมันท้องเสียหรือเป็นอะไรไปเพราะยังเด็ก ใจเย็นคงให้มันกินไอศกรีมวันละถ้วยสองถ้วยและสถาปนามันเป็น ‘ไอศกรีมสตรอเบอร์รี่เลิฟเวอร์’ อีกคน... ไม่สิ อีกตัวแน่นอน

“ให้มันชื่อสตรอเบอร์รี่ดีไหมครับ”

แต่ก็ไม่วายป้วนเปี้ยนกับเรื่องนี้อยู่ดี

“มึงคิดภาพตอนเรียกชื่อนะ สุดท้ายก็จะเหลือแค่อีรี่”

“ตัวผู้นะครับ”

“แล้วใครใช้ให้มึงตั้งชื่อว่าสตรอเบอร์รี่วะ”

“น่ารักออก”

เป็นไทได้ฟังก็นึกเห็นใจลูกหมาที่กำลังกลิ้งตีลังกาวิ่งไล่จับผีเสื้อในสวนขึ้นมาตงิดๆ

“ไม่ผ่านโว้ย เอาชื่อธรรมดาที่คนเขาตั้งกันดิวะ”

“เป็นไท”

“ฮะ?”

“ชื่อเป็นไทแล้วกันครับ”

“กวนตีน”

ก่อนที่เขาจะได้ประทุษร้ายคนกวนตีนให้หายคันไม้คันมือ ใจเย็นก็ลุกหนีไปเล่นกับลูกหมาเรียบร้อยแล้ว

สรุป เจ้าลูกหมาพันธุ์ผสมไซบีเรียนฮัสกี้และไทยหลังอานจึงยังไม่มีชื่ออย่างเป็นเอกฉันท์ และแน่นอนว่าเขาไม่ยอมให้ใช้ชื่อเป็นไท จะเป็นไทจูเนียร์ก็ไม่ได้ ช่วงเวลาหลายวันที่ยังตั้งชื่อให้มันไม่ได้นั้น บทสนทนาจึงวุ่นวายกับการทุ่มเถียงเรื่องชื่อ สลับกันไปกับการเล่นกับตัวต้นเหตุของบทสนทนา ซึ่งดูๆ แล้วใจเย็นจะเสียเวลาเล่นกับมันเยอะกว่าที่เขาเล่นเป็นเท่าตัว

เป็นไทไม่เคยเลี้ยงหมา ไม่เคยเลี้ยงสัตว์เลยสักตัว เขานึกไม่ค่อยออกหรอกว่าความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นอย่างไร และต่อให้พยายามเข้าใจ เขาก็ไม่มีทางถ่องแท้ว่าใจเย็นเสียใจเรื่องทันใจแค่ไหน ที่ใกล้เคียงที่สุดก็คงเหมือนสูญเสียสมาชิกในครอบครัว แต่เวลามองหน้าเจ้าลูกหมาพันทางที่จะว่าหล่อก็หล่อ จะว่าบ้องแบ๊วก็บ้องแบ๊ว เขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี แถมความซนจนเรียกได้ว่าบ้าคลั่ง ทั้งกัดเฟอร์นิเจอร์เละเทะ ทั้งขุดสวนดอกไม้ของเกษราจนดอกไม้ตายเรียบ ก็ยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่

และอีกอย่าง เป็นไทก็ยังไม่รู้ว่าทำไมใจเย็นถึงกล้ากลับมาเลี้ยงหมาที่เคยทำให้เสียใจนักหนาเมื่อมันจากไป

“นึกยังไงเอามันมาเลี้ยงวะ” ในที่สุดก็เลือกเอ่ยถามเรื่องคาใจออกไปในบ่ายแก่วันหนึ่งของพฤษภาคม

“ไม่รู้สิครับ เห็นหน้ามันแล้วถูกชะตา” คำตอบกลับฟังดูเป็นอะไรที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน คล้ายรสหวานเย็นของไอศกรีมสตรอเบอร์รี่สองถ้วยที่ถูกนำมาวางบนโต๊ะ ให้เจ้าลูกหมามองตามตาละห้อย

สุดท้ายแล้วเป็นไทก็เลิกเก็บมาคิดให้วุ่นวาย ปล่อยให้อะไรๆ เป็นไปเหมือนไอศกรีมที่จะละลายหากไม่รีบกิน เหมือนความร่มเย็นของซุ้มสร้อยอินทนิลในสวน แม้ไม่เหมือนม่านบาหลีแต่ก็ดูดีไม่แพ้ มันเป็นไม้เลื้อยที่ไม่ชูช่อดอกขึ้นด้านบนแต่ห้อยระย้าลงล่าง กลีบดอกสีม่วงอ่อนออกดอกตลอดปี ใจเย็นและเขามักใช้เวลาด้วยกันในซุ้มนี้มากกว่าที่อื่นของตัวบ้าน อาจเพราะติดนิสัยมาตั้งแต่บ้านอัครเสนีย์ และตอนนี้เองก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งตัว

“เออ แล้วตอนทันใจ ใครตั้งชื่อวะ”

“แม่ครับ”

“มึงก็ให้แม่ตั้งอีกดิ ชื่อที่แม่มึงตั้งน่ารักออก”

“สตรอเบอร์รี่ไม่ดีตรงไหนครับ”

“พูดชื่อนี้อีกที กูจะให้มันขุดหลุมเตรียมฝังมึง”

ถึงเป็นคำขู่ แต่ใจเย็นก็ยังยิ้มอยู่ดี

“งั้น...ชื่ออเล็กซานเดอร์”

“พอเถอะ...”

“ชื่อออกจะแมนแล้ว”

“ไม่ตั้งว่าสมชายไปเลยล่ะวะถ้างั้น”

“ถ้าเป็นไทตั้งก็โอ—”

“หยุด กูพูดเล่น” เป็นไทยั้งก่อนที่ความเห็นจะถูกลงมติ ซึ่งใจเย็นก็ยิ้มขำ เหมือนชอบใจที่กวนประสาทเขาได้

สรุปแล้วก็เป็นอีกวันที่ ‘มัน’ ยังไม่มีชื่อ และก็ยังคงต่อเนื่องไปอีกหลายวันจนเกษราเรียกมันว่า ‘น้อง’ ไปก่อนอย่างเอ็นดู แต่ถึงอย่างไร ใจเย็นก็เอ็นดูมันมากกว่า เป็นไทไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นเวลาใจเย็นดูแลสัตว์เลี้ยงสักตัว ใจเย็นเล่นกับมัน คุยกับมันอย่างที่ไม่คิดว่าจะทำ ทั้งยังละเอียดลออในการดูแล เช่นเรื่องอาหารการกิน แม้แต่ขนมก็ยังละเอียดถึงเรื่องสีและวัตถุดิบ ครั้งหนึ่งเป็นไทเคยเลือกซื้อแบบที่ใจเย็นบอกไปให้ เป็นกระดูกผูกชิ้นใหญ่ ซึ่งมันก็คาบหายไปไม่เห็นอีกเลย

จนกระทั่งวันที่ ‘มัน’ มีชื่อเป็นของตัวเอง เป็นไทถึงได้รู้ว่ากระดูกผูกชิ้นนั้นหายไปไหน

มันเป็นวันที่ฝนตกหนักหลังจากอากาศร้อนจัดมาหลายวัน และเช่นกัน เขาไม่ได้แวะบ้านของใจเย็นมาหลายวันแล้วเพราะงานยุ่ง เมื่อลงจากรถ เจ้าลูกหมาพันทางวิ่งออกมาต้อนรับใจเย็นก่อนจะปรี่มาป้วนเปี้ยนรอบตัวเขา ดูดีใจเป็นพิเศษแบบที่เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไม และยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่เมื่ออยู่ๆ มันก็วิ่งหายเข้าไปในสวนทั้งที่ฝนตก

เป็นแบบนั้นทั้งเขาและใจเย็นจึงไปตามมัน ก่อนพบว่ามันกำลังขุดดินอย่างบ้าคลั่ง ขนสีเทาสวยเลอะเปรอะมอมแมมไปหมดจนนึกอยากดุ แต่เมื่อมันคาบสิ่งที่กำลังขุดหามาวางตรงแทบเท้าเขาพร้อมหมุนหางเป็นวงสามร้อยหกสิบองศา เป็นไทก็พูดไม่ออก

มันคือกระดูกผูกชิ้นนั้นเองที่เขาให้ อยากจะบ่นว่าเอาของที่เขาให้มาให้เขาเองมาตลกดี แต่เมื่อคิดกลับกันว่ามันเก็บไว้ให้เขา ก็นึกอยากจะอุ้มมันขึ้นมากอดทั้งเลอะๆ นั่นแหละ

และก็เริ่มเข้าใจแล้วด้วยว่าทำไมใจเย็นถึงได้ผูกพันกับทันใจขนาดนั้น

หลังจากสองคนกับหนึ่งตัวเข้าบ้านมาล้างเนื้อล้างตัวกันได้ ใจเย็นก็จับลูกหมาพันทางที่เลอะไปทั้งตัว ทั้งหน้า ทั้งตายันคิ้วที่ไม่เคยขมวดเพราะไม่มีเรื่องให้เครียดมาอาบน้ำ ร่วมมือกับเป็นไทอย่างทุลักทุเลกันแทบตายกว่าจะอาบเสร็จแล้วพามาเป่าขนให้มันหลับตาพริ้มสบายตัวจนน่าหมั่นไส้

“เห็นแบบนี้ คิดชื่อให้มันได้หรือยังครับ” ในช่วงที่เจ้าหมามีคิ้วมีอานผล็อยหลับไปแล้ว ใจเย็นก็เอ่ยถามเขาขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มบางเบา

“กูจะรู้ไหมล่ะ ไม่ใช่หมากู”

“งั้นเหรอ” พลันรอยยิ้มก็ยิ่งกว้างเหมือนจะแซวอะไรสักอย่าง จนเป็นไทนึกอยากดึงยืดแก้มที่กำลังเปื้อนรอยยิ้มนั่น

“ถ้าไม่ได้ชื่อสักที ผมจะตั้งว่าเป็นไทแล้วนะ”

“งั้นตั้งว่าใจเย็น”

“เคยมีหมาชื่อใจเย็นแล้วครับ”

“ใจเย็นจูเนียร์”

“ยาวไปอะ”

“เป็นไทจูเนียร์นี่ไม่ยาวเหรอวะ”

“ไม่นะ”

“งั้นตั้งชื่อหมาว่าเป็นไทก็ได้ แล้วกูจะทำให้มันเกลียดมึง”

“แต่ผมก็รักเป็นไทอยู่ดี”

“โอ๊ย รำคาญ”

แน่นอนว่าถึงเป็นไทจะด่าคำนี้สักกี่รอบ คนฟังก็ยังยิ้มอยู่ดี และเพราะไม่รู้จะต่อกรทางวาจาอย่างไรต่อ เสียงฝนจึงประสานตกร่องของสนทนาอยู่สักพัก ก่อนที่ใจเย็นจะพูดต่อ

“ผมคิดชื่อมันออกแล้วนะ”

“จริงจังไหมเนี่ย”

“จริงจังครับ เป็นชื่อที่ถ้ามีลูกกับเป็นไทก็จะตั้งชื่อนี้—”

“ใครจะไปมีลูกกับมึง”

“ก็เลยเป็นหมาไปก่อนไงครับ”

“เออๆ ชื่ออะไร”

“เป็น—”

“ถ้าพูดว่าชื่อเป็นไท มึงไปนอนในหลุมที่มันขุดเมื่อกี้เลยนะ”

คำขัดทำให้ใจเย็นชะงัก แต่ก็ยิ้มเหมือนยอมจำนน

“ไม่ใช่เป็นไทหรอกครับ”

“แล้วชื่ออะไร”

“เป็นใจ”

“ฮะ?”

“เป็นใจไงครับ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เอาชื่อเรามารวมกันไปเลย”

คำเฉลยทำเอาคนที่ถูกนำชื่อไปรวมกับชื่อของอีกคนเพื่อไปตั้งชื่อหมาถึงกับนิ่งไป ก่อนมองเจ้าหมาตัวที่ว่า มันยังคงหลับสบายใจเพราะอากาศเย็น แสงสลัวจากฟ้าฝนส่องขนสีเทาของมันดูสะอาดตาทั้งที่เคยมอมแมม

“เป็นชื่อที่โง่มาก แถมเสียงใกล้เคียงชื่อกูอีก เวลาเรียกหมามันก็สับสนดิวะ”

“ไม่ชอบเหรอครับ”

“น่ารักดี”

พลันสนทนาตกร่องอีกครั้ง เงียบ เงียบไปทั้งคู่ ก่อนที่ใจเย็นจะค่อยๆ หัวเราะขึ้นมาเหมือนมีอะไรขำนักหนา ให้เป็นไทเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า

“ขำอะไร”

“จะอะไรอีกล่ะครับ” แม้ไม่เฉลยแต่ก็ได้คำตอบ เป็นไทหมายจะถีบไปสักทีแต่ก็ถูกห้ามไว้ “เดี๋ยว ‘เป็นใจ’ ตื่นนะครับ”

คำนั้นเองที่ทำให้เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก มองเจ้าหมา ‘เป็นใจ’ ที่นอนคั่นกลางระหว่างเขากับใจเย็นแล้วก็ไม่อยากทำให้มันตื่นจริงๆ นั่นแหละ ซึ่งนั่นก็ทำให้ใจเย็นที่ดูเป็นคนเส้นลึกขำอีกรอบจนนึกแค้นนิดๆ ที่ทำอะไรไม่ได้

“เออ กูถามอะไรหน่อย” จนเมื่อปรับอารมณ์กันได้ เป็นไทก็ตัดสินใจพูดขึ้น “คือแม่มึงเคยบอกกับกูว่ามึงเคยเสียใจมากเรื่องทันใจ”

“ครับ”

“แล้วนี่...ไม่กลัวถ้าต้องสูญเสียไปอีกเหรอ”

จบคำถาม ใจเย็นเงียบไปชั่วครู่ มองสัตว์เลี้ยงที่อาจสูญเสียไปในสักวัน ก่อนจะกลับมาสบตาเขาโดยไม่มีแววของความลังเลใจหรือหวั่นกลัวว่าต้องเสียใจเลย

“ก็ดีกว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันนะครับ”

อีกครั้ง เป็นคำตอบเรียบง่าย แต่ครั้งนี้เป็นไทรู้สึกได้ว่าเข้าใจใจเย็นมากขึ้น ทั้งยังสัมผัสได้ถึงการเติบโตขึ้นอีกก้าวในประโยคสั้นๆ

“แต่กับเป็นไทน่ะเป็นอีกแบบนะ”

“...ยังไง”

“ผมจะไม่ยอมให้เสียไป”

เป็นไทเห็นแววตาแบบเดิมจับจ้องมาที่เขา และทั้งที่ก็อยากจับภาพลงทรงจำให้นานเท่านาน แต่เขาก็เบือนหลบ เอื้อมมือไปลูบหัวเป็นใจอย่างแผ่วเบา แสร้งทำเป็นไม่ค่อยสนใจนัก

เพราะไม่อยากรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว ทั้งใบหน้า ทั้งที่อากาศเย็นจนเริ่มหนาว

“เอ็นดูผมแบบเป็นใจบ้างก็ได้นะครับ”

แล้วใจเย็นก็เริ่มเรียกร้องจนได้

“อะไร อิจฉาหมาเหรอ”

“ถ้าอิจฉาแล้วเป็นไทกอดผม อิจฉาก็ได้”

“รำคาญ”

“จะถือเป็นคำบอกรักนะ”

พลันก็พ่ายแพ้กับคำดักทางที่ใจเย็นเอ่ยมาพร้อมยิ้มกว้างเหมือนเด็กๆ ให้เขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เพราะก็มีแต่คำว่ารำคาญนั่นแหละ และในชั่วขณะที่เงียบงัน เจ้าหมาเป็นใจก็พลันหาวหวอดขึ้นมาก่อนพลิกเปลี่ยนท่านอนหงายแอ้งแม้งสบายใจจนน่าหมั่นไส้ ให้เป็นไทอดพูดออกมาไม่ได้

“เออ รำคาญ ทั้งคน ทั้งหมาเลย”

ทั้งคนที่ตั้งชื่อหมาว่าเป็นใจ ทั้งหมาชื่อเป็นใจ นั่นแหละ ทั้งหมดนั่นเลย.







*****

บทส่งท้าย – เป็นใจ


จบบริบูรณ์.






************************************************************
จบแล้วจริงๆ ค่ะ  :hao7:

รู้สึกว่าเรื่องที่จะพูดก็พูดไปเกือบหมดแล้วในตอนจบก่อนหน้านี้ 55

ยังไงก็ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะคะ

ส่วนเรื่องรวมเล่มที่มีคนถามกันเข้ามา ถ้าคืบหน้ายังไง จะมาอัพเดตอีกที อย่าเพิ่งลืมหรือหายกันไปไหนแล้วกันค่ะ แค่อาจจะนานหน่อย รอกันนะคะ  :กอด1:

สุดท้ายนี้ เรื่องใหม่ของแยมก็เปิดทิ้งไว้แล้ว แต่พล็อตยังฟุ้งอยู่ คงอีกสักพัก แค่เปิดไว้จองชื่อเรื่องค่ะ 5555 เรื่องนี้เป็นแนวกินเด็ก ตั้งใจว่าจะใช้ภาษาง่ายๆ บ้างแล้วล่ะ

รักทุกคนนะคะ รัก #ใจเย็นกับเป็นไท ด้วย ขอบคุณจริงๆ ค่ะ  :pig4: :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เป็นคำบอกรักที่ไม่เหมือนใคร และคงไม่ซ้ำกับใครแน่

“รำคาญ”

“จะถือเป็นคำบอกรักนะ”

“เออ รำคาญ ทั้งคน ทั้งหมาเลย”

เป็นไท พ่ายรักทั้งใจเย็น และเป็นใจ
ขอบคุณไรท์
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น่ารักกก ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
น่ารักมากเลยค่ะ ถ้ารวมเล่มแล้วมาแจ้งข่าวคราวบ้างน้าา อยากเปย์แล้ววว

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อบอุ่น
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ต่างคนต่างเติบโต
อบอุ่น
 
ดีใจที่ได้อ่านครับ
ขอบคุณ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด