นิยายจีน มังกรซ่อนหิมะ ตอนที่41 บทสรุป p15 8/10/60 จบแล้วจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายจีน มังกรซ่อนหิมะ ตอนที่41 บทสรุป p15 8/10/60 จบแล้วจ้า  (อ่าน 74403 ครั้ง)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ fahtallll

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ชอบมากเลย หลงช่างร้ายกาจ
รอตอนต่อไปค่าาา า  :mew1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เสี่ยวหลงเป็นใครหนอ

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่8



เสวี่ยหมิงเดินทางรอนแรมไปพร้อมกับเสี่ยวหลงได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว เขายอมรับว่าการมีเด็กน้อยนี้เกาะติดมาด้วยสร้างความครึกครืนให้จนเขาลืมความเหงาไปสิ้น



เสี่ยวหลงเป็นเด็กหนุ่มอัธยาศัยดี ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจเมื่อเห็นมันพูดจ้อไม่หยุด มีบางครั้งก็นึกสงสัยเหมือนกันว่าคุยมากถึงขนาดนี้ไม่เหนื่อยบ้างหรืออย่างไร



“เสี่ยวหลงเจ้าช่วยหยุดพูดซักนิดแล้วทานอาหารตรงหน้าเสียเถอะ”



เสวี่ยหมิงกล่าวเตือนเด็กหนุ่มที่พูดไม่หยุดจนลืมที่จะทาน เสี่ยวหลงยิ้มกว้างเริ่มต้นจัดการกับหมี่และเนื้อตรงหน้า ทว่ากลับกินไปพูดไปจนเสวี่ยหมิงระอาใจ



“เสี่ยวหลงนี่เป็นเวลากิน หากเจ้ายังเอาแต่พูดไม่ตั้งใจกิน ข้าจะไม่พูดกับเจ้าแล้วนะ”



ได้ผล เสี่ยวหลงสงบเสงี่ยมลงแล้วเริ่มต้นตั้งอกตั้งใจกินอย่างเงียบเฉียบ กริยามารยาทกลับมางดงามน่าชมเช่นเดิม เสวี่ยหมิงยอมรับกับตัวเองว่าชมชอบที่จะดูท่วงท่าอิริยาบถต่างๆของเสี่ยวหลงเอามากๆ เพราะแม้แต่นายท่านตระกูลเสวี่ยยังไม่งดงามเท่ากับเสี่ยวหลง



เสี่ยวหลงนั้นไม่ว่าจะเดินเหินหรือนั่งลงมักจะยืดอกตรงผึ่งผายอยู่ตลอดเวลา กริยาเช่นนี้บอกชัดว่าถูกขัดเกลามาอย่างดี สมแล้วที่เด็กน้อยนี่มีพ่อเป็นบัณฑิต



“น้องสาวว่าไงจ๊ะ ไม่ไปโรงแรมกับพี่หน่อยหรือ พี่คาดว่าน้องอายุน่าจะสิบสี่แล้วน่าจะอยากเรียนรู้เรื่องดีงามของชายหญิงกระมัง”



เสวี่ยหมิงลอบมองดูคนพูด ไม่ไกลจากโต๊ะของเขานัก ชายขี้เมาสองคนเริ่มต้นลวนลามเด็กสาวซึ่งเป็นคนของโรงเตี๊ยม โรงเตี๊ยมเล็กๆกลางป่านี้นอกจากเด็กสาวและพ่อครัวควบเจ้าของร้านก็ไม่มีผู้อื่นใดที่น่าจะช่วยรับมือได้อีก เสวี่ยหมิงยังพยามยามใจเย็นเฝ้าสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ



“น่าๆมามะมาให้พี่จูบซักทีสองที”



เกิดการยื้อยุดกันขึ้น เด็กสาวพยายามขืนตัวสุดฤทธิ์ ปากก็ร้องโวยวายชอความช่วยเหลือ ในตอนนั้นเองชายชราอายุอานามน่าจะเกือบ60ปีก็ก้าวออกมาจากในร้าน ชายผู้นั้นถือมีดออกมาด้วย คงคิดจะปกป้องหลานสาวของตัวเอง



เสวี่ยหมิงตั้งใจจะยื่นมือเข้าช่วย ไม่คาดว่าเสี่ยวหลงกลับไวกว่า เด็กน้อยขว้างถ้วยชาใส่คนเมาสองคนเปิดฉากหาเรื่องอย่างโจ่งแจ้ง



“เสี่ยวหลง” ตั้งใจจะเอ่ยปรามว่าอย่าหาเรื่องใส่ตัว แต่....



“พีใหญ่ให้ข้าจัดการเองเถอะแค่คนเมาสองคนไม่ครนามือข้าหรอก”

เสี่ยวหลงเดินอาดๆเข้าหาคนเมา เจ้าคนเมาสองคนคนหนึ่งเล่นงานลุงเจ้าของร้านอีกคนพุ่งเข้าหามันด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด



“ไอ้เด็กไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ กล้าขว้างถ้วยชาใส่หัวข้าเชียวรึ”



จังหวะที่คนเมาพุ่งเข้าใส่ไม่คาดว่าเสี่ยวหลงจะใช้ความแรงของการพุ่งเข้าหาถ่ายเทเหวี่ยงจับศัตรูจนลอยข้ามหัวไปกระแทกกับต้นไม้โครมใหญ่ เสวี่ยหมิงถึงกับตีเข่าดังฉาด มาตรว่าคงมีกระบวนท่าที่น่าจับตามองอีกกระมัง



“แกอย่าได้ใจไปนะ”



เจ้าคนเมาคนที่สองจับยึดลุงเจ้าของร้านเอาไว้ ตอนนี้มันแย่งมีดจากเจ้าของร้านจี้มีดไปบนคอหอยหวังว่าจะใช้ขู่เสี่ยวหลงให้ทำตาม ทว่าเสี่ยวหลงกับหัวเราะฮิฮะ



 เสวี่ยหมิงเดาว่าคงเล่นสงครามประสาท มันเดินเข้าหาคนร้าย เมื่อถูกกดดันเช่นนั้น อันธพาลขี้เมาจำต้องผลักไสเจ้าของร้านให้ออกห่างจากตัว แรงผลักทำให้เจ้าของร้านเกลือกกลิ้งไปกับพื้น



“ไอ้หนูอย่าอยู่เลย”



 อันธพาลขี้เมาถือมีดวิ่งเข้าใส่ เสี่ยวหลงลอบหัวเราะในใจ การโจมตีไร้ซึ่งพลังเช่นนี้อย่าหวังเลยว่าจะทำอะไรมันได้ ด้วยความคล่องแคล่วมันหลบฉากไปด้านข้างจังหวะที่เจ้าอันธพาลโหมตัวเข้าฟัน มันก็ยึดจับที่เอวและข้อมือพร้อมทั้งขัดขาจนเสียสมดุลออกแรงเหวี่ยงลอยหวือออกไปกองรวมกันกับเจ้าคนแรก

         

     “ฝากไว้ก่อนเถอะ” เมื่อสองอันพาลลุกขึ้นได้ แม้จะจะเข็ดหลาบอยู่บ้างแต่ไม่วายฝากแค้นก่อนจากไป เสี่ยวหลงยิ้มกว้างพลางตะโกนไล่หลัง

         

      “อยากเอาคืนให้มาหาข้านา”



เสวี่ยหมิงส่ายหน้ายิ้มอ่อนใจ กระนั้นไม่แปลกใจต่อพฤติกรรมของเสี่ยวหลง เพราะอายุยังน้อยจึงทำอะไรไม่คิด เวลานี้ต้องตักเตือนเสียหน่อยให้อย่าปากพล่อยหรือหาเรื่องใส่ตัวให้มากนัก ดังนั้นจึงพลิ้วกายเข้าไปเขกหัวมันดังโป๊ก เสี่ยวหลงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด

         

     “เหตุใดพี่ใหญ่ถึงทุบตีข้า”

         

     “เจ้ายังไม่รู้ตัวอีกรึว่าทำผิดอันใด อย่างนั้นให้ข้าทุบตีเจ้าอีกซักทีสองทีดีหรือไม่”

           

    “พี่ใหญ่จะใจดำทุบตีข้าเป็นครั้งที่สองลงหรือ”



เสี่ยวหลงทำตาอ้อนเป็นประกาย มันใช้สายตาเยี่ยงนี้หลอกลวงอิสตรีที่เข้ามาติดพันบ่อยทุกครั้งล้วนได้ผล ไม่คาดว่าจะได้รับรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมจากเสวี่ยหมิง ผิดคาด มารยาของมันไม่สัมฤทธิ์ผลเสียนี่

           

    “โอย...โอย...พี่ใหญ่อย่าได้ทุบตีข้า ข้าเจ็บแล้ว”



 เสวี่ยหมิงไม่รู้จะทำอย่างไรกับมันดี เขาแค่เงื้อมือจะทุบตีเป็นคราที่สองคิดไม่ถึงเสี่ยวหลงจะลงไปเกลือกลิ้งกับพื้นทำประหนึ่งเจ็บปวดเหลือแสน ช่างน่าตายนัก เด็กน้อยนี้ช่างแสดงละครเก่งทั้งเจ้าเล่ห์จนเหลือที่จะกล่าว

         

      “พี่ใหญ่ข้าเจ็บมาพอแล้ว อย่าได้ทุบตีข้าอีกเลยนะ”



 เสี่ยวหลงพินอบพิเทาสุดฤทธิ์ มันจงใจโขกศีรษะลงพื้นหลายต่อหลายครั้ง ตามจริงแล้วมันตั้งใจหยอกล้อเสวี่ยหมิง ตอนนี้คนที่มันหยอกล้อทำหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ฝืนทนที่จะไม่ยิ้มออกมา เสี่ยวหลงเริ่มต้นใช้มารยาเล่มเกวียนแบบที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน

         

     “พี่ใหญ่อภัยให้ข้านะ ข้าไม่รู้หรอกว่าผิดอะไร แต่ได้โปรดให้อภัยข้านะน้าน้า”



เสี่ยวหลงโผเข้ากอดขาข้างหนึ่งของเสวี่ยหมิงพลางถูไถใบหน้าเข้ากับหน้าแข้งของอีกฝ่าย เสวี่ยหมิงนึกยิ้มแต่กลับไม่อยากยิ้ม รู้แก่ใจว่าเป็นแผนการณ์มากเล่ห์อย่างหนึ่งของเด็กน้อย อยากจะทุบถองแต่ไม่ทราบได้เพราะเหตุใดจึงทำไม่ลง จังหวะนั้นเองไม่คาดว่าจะมีผู้ยื่นมือมาแก้สถานการณ์ให้

           

    “ขอบคุณนายท่านมากขอรับที่ช่วยเหลือพวกเรา” ผู้เฒ่าเจ้าของร้านคุกเข่าขอบคุณพร้อมหลานสาว ตอนนี้เองที่เสวี่ยหมิงสังเกตว่าผู้เฒ่าผู้นี้แขนหัก คาดว่าอาจจะเป็นเพราะล้มกลิ้งเมื่อครู่เป็นแน่

       

       “ทานลุงไม่ต้องคุกเข่า ท่านคงบาดเจ็บกระมัง”

           

    “ทำอย่างไรดีคะท่านปู่ท่านพ่อเองอีกสองอาทิตย์กว่าจะกลับมาด้วย เราจะเปิดโรงเตี๊ยมกันอย่างไร แล้วหากว่าอันธพาลกลับมารังแกเราล่ะ” ตอนนี้เองที่หลานสาววัยเยาว์เริ่มร้องไห้ ผู้เฒ่าเจ้าของร้านเองก็มีสีหน้าลำบากใจ

           

    “พวกท่านจ้างข้ากับพี่ใหญ่ดูแลพวกท่านในช่วงสองอาทิตย์ดีหรือไม่”

               เสวี่ยหมิงสะดุ้งตัวหันไปมองเสี่ยวหลงไม่คาดว่าเด็กน้อยจะมีความคิดเยี่ยงนี้ออกมา

           

    “จะดีหรือนายท่าน ไม่รบกวนนายท่านหรือ อีกอย่างข้าไม่มีเงินจ้างท่านในราคาสูงนะขอรับ”

         

      “ไม่ต้องกลัวท่านจ้างพี่ใหญ่ตามอัตราจ้างปกติส่วนข้าจะอยู่ช่วยท่านฟรี แค่ท่านเตรียมที่พักอาศัยให้เราสองพี่น้องก็พอแล้ว ได้ฟังเช่นนั้นสองตาหลานก็ยิ่มกว้าง เสวี่ยหมิงเริ่มจะตามเสี่ยวหลงไม่ทันได้แต่ส่งสายตาแฝงคำถามไป

     

         “พี่ใหญ่เราเองก็ขาดที่พักใช่ไหม แค่สองอาทิตย์คงไม่เสียเวลาหรอกเนอะ”

         

     เสี่ยวหลงยิ้มกว้าง เสวี่ยหมิงทำเพียงถอนหายใจ พวกเจ้าตัดสินใจกันขนาดนี้แล้วใยยังต้องถามข้า เอาเถอะเขาจะยอมทำตาม แต่ยังไงคืนนี้ต้องตักเตือนสั่งสอนกันเสียหน่อยไม่ให้ทำอะไรตามใจชอบอีก จากนั้นเมื่อช่วยสองตาหลานปิดร้านเสร็จ พวกเขาก็ถูกพาไปยังบ้านซึ่งเป็นที่พักของผู้จ้าง

       

       “พวกท่านสองคนพักที่ห้องนี้นะคะ เดิมเป็นห้องของข้า แต่เรามีห้องพักแค่สองห้อง ดังนั้นจึงรบกวนให้พวกท่านทนซักหน่อย”

       

       “ได้แน่นอนอยู่แล้ว” เสี่ยวหลงตอบรับเสียงระรื่น

         

      “ถ้าอย่างนั้นนี่คือเสื้อผ้าที่ให้พวกท่านใช้เปลี่ยนคืนนี้ค่ะ” เด็กสาวยื่นเสื้อผ้ามาให้สองชุด เสี่ยวหลงยื่นมือไปรับ

           

    “ขอบใจนะ น้องเหมยลี่” เสี่ยวหลงเอ่ยเสียงหวานทั้งยังยักคิ้วหลิ่วตาให้เจ้าของชื่อ เหมยลี่สะเทิ้นอายเมื่อยื่นส่งสิ่งของถึงมือแล้วก็รีบจากไป ท่าทางชัดเจนเช่นนี้แม้แต่เสวี่ยหมิงยังดูออก

           

    “เจ้าไม่น่าหว่านเสน่ห์ใส่นาง”

         

      “ข้าเปล่านะพี่ใหญ่ อัธยาศัยข้าคงดีไปหน่อยแค่นั้น” เสวี่ยหมิงส่ายหน้าคร้านจะเถียงด้วย เพราะมีเรื่องสำคัญกว่าที่จะสั่งสอน

     

         “เจ้ามานี่เสี่ยวหลง มาตรงหน้าข้าแล้วคุกเข่า”



เสวี่ยหมิงตีหน้าขึงขัง แม้ว่าเสี่ยวหลงจะพยายามทำหน้าตลกเข้าใส่เขาก็ไม่มีท่าทางอ่อนข้อ เมื่อเสี่ยวหลงพยายามยิ้มเท่าใดพี่ใหญ่ของมันยังคงตีหน้านิ่ง จึงช่วยไม่ได้ที่มันต้องนั่งคุกเข่าแล้วแสร้งตีหน้าสลด

       

       “เจ้าสำนึกจริงหรือแกล้งเศร้าข้าก็ไม่รู้นะ แต่เอาเถอะ ข้าจะถือเสียว่าเจ้าจริงใจแล้วกัน”

     

          “พี่ใหญ่มีเรื่องใดสอนสั่งข้าหรือ” เสี่ยวหลงช้อนตาละห้อยมองขึ้นมา เสวี่ยหมิงนึกใจอ่อนแต่หากไม่สั่งสอนเกรงว่าจะสายเกินแก้ไป เขาเริ่มด้วยเรื่องแรกที่นึกไม่ชอบใจ

     

          “อย่างแรก เหตุใดเจ้าจึงตัดสินใจแทนและมัดมือชกข้า รู้ไหมข้าไม่มีโอกาสได้ตัดสินใจเองเลยเรื่องยอมรับการจ้างวานของสองตาหลานสกุลฮวา”

               เสี่ยวหลงได้ฟังก็เอียงคอมองมาด้วยดวงตาใสกระจ่าง มันทำท่าทางเสมือนไม่รู้ว่าตนเองเป็นคนผิดเช่นนี้ ชวนให้เสวี่ยหมิงสงสัยนัก

         

      “พี่ใหญ่เป็นท่านเองมิใช่หรือที่ทำหน้าอดรนทนไม่ได้ ท่านจะรู้ตัวไหมนะว่าท่านแสดงสีหน้าเช่นนี้ตั้งแต่ฮวาเหมยลี่ถูกรังแกแล้ว”

               ถูกจี้ให้ตระหนักถึงความเป็นจริงที่แม้แต่ตนเองก็รู้ดีทำให้เสวี่ยหมิงนิ่งงันไป นี่เขาแสดงออกทางสีหน้าชัดเจนเพียงนั้นเชียวหรือ

         

     “พี่ใหญ่แสดงสีหน้าท่าทางกระวนกระวาย ราวกับอยากจะช่วยแต่ตัดสินใจไม่ได้ กระนั้นข้าเดาได้ว่าท่านมีใจเอนเอียงในทางที่อยากจะช่วยสองตาหลานอยู่มากดังนั้นข้าจึงตัดสินใจแทนท่าน เป็นข้าที่ผิดเองพี่ใหญ่จะลงโทษทุบตีข้าก็ไม่ผิดอะไร”

         

     เสี่ยวหลงแสดงท่าทางยอมจำนนต่อความผิด สำหรับมันการถูกลงโทษทุบตีเป็นเรื่องเล็กน้อย ตอนนี้มันอย่างดูน้ำใจของเสวี่ยหมิงนัก หากมีคนสร้างเรื่องเดือดร้อนให้หรือขัดใจจะทำเช่นไร ทว่าเสวี่ยหมิงกับถอนหายใจ

       

       “เจ้าพูดถูกเป็นข้าเองที่แสดงท่าทางให้เจ้าเข้าใจผิด เรื่องนี้ถือว่าข้าผิดเอง แต่ว่าการที่เจ้าเข้าไปวิวาธกับอันธพาลแทนข้าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ข้ารับไม่ได้”

     

          เสี่ยวหลงทำหน้าหงอยๆทั้งก้มหัวลงต่ำ การที่มันไม่โต้แย้งยิ่งทำให้เสวี่ยหมิงราวกับเป็นจอมมารก็ไม่ปาน หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เขาพอเรียนรู้นิสัยใจคอของเสี่ยวหลงมาบ้าง นอกจากจะอัธยาศัยดี ยังมีน้ำใจต่อพี่น้องเช่นเขา ทว่ามันมีนิสัยมุทะลุถือดีเช่นนี้ย่อมไม่ดีแน่ เขาควรจะสอนวิชาให้มันติดตัวไปป้องกันตัวเองน่าจะดีกว่า

         

     “ข้าเข้าใจว่าเป็นสันดารของเจ้า เจ้าเองก็โตแล้วคงห้ามปรามไม่ได้ง่ายๆ ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจจะสอนวิทยายุทธที่ข้ามีให้แก่เจ้าบ้าง จะได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับวาศนาและความตั้งใจของเจ้า”

     

          เสี่ยวหลงหูผึ่ง นับว่าเป็นเรื่องที่ดีงามต่อมันเรื่องหนึ่งทีเดียว มันเองอยากจะรู้นักว่าเฒ่าจูสอนวิชาใดให้ศิษย์คนเล็กบ้าง มันกระหยิ่มยิ้มย่อง ปั้นยิ้มดีใจอย่างที่สุด

     

          “จริงหรือพี่ใหญ่ท่านจะสอนข้าจริงหรือ”

     

         “เจ้าอยากเรียนไหมล่ะ”

       

       “แน่นอนครับข้าอยากเรียน พี่ใหญ่ใจดีต่อข้าเหลือเกิน” เสี่ยวหลงพุ่งเข้ากอดข้าข้างหนึ่งของเสวี่ยหมิงพลางถูไถใบหน้าเข้าที่แข้งออดอ้อนจนเสวี่ยหมิงทำตัวไม่ถูก

           

   “พอ พอเถอะ เราใช่ว่าจะสอนวิชายอดยุทธใดให้เจ้า แค่วิชาแมวสามขาเท่านั้น อย่าได้ดีใจจนเกินไปนัก”

               “วิชาสามขาก็เถอะ หากพี่ใหญ่เป็นผู้สอนคงเป็นวิชาที่ดีงาม อนาคตข้างหน้าข้าจะเป็นจอมยุทธผู้เก่งกาจยืนเคียงบ่าของพี่ใหญ่ท่านว่าเหมาะสมหรือไม่”

         

     “อนาคตจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่นั่นต้องแล้วแต่ตัวเจ้าเอง”



เสวี่ยหมิงสลัดขาไล่ให้เสี่ยวหลงผละออก ตามจริงแล้วเขาตั้งใจว่าจะสอนกระบวนท่าที่ครูพักลักจำจากคนในตระกูลเสวี่ย กระบวนวิชานี้ท่านอาจารย์บอกว่าเข้าท่าที่สุดเพราะเป็นวิชาจากสำนักบู๊ที่มีชื่อเสียงไม่แพ้เรือนญาณพิทักษ์ธรรม

           

    ใช่ว่าเขาจะหวงวิชา แต่กระบวนหมัดเกล็ดหิมะเป็นวิชาพิษที่อันตราย ส่วนกระบี่หิมะโปรยก็รุนแรงเกรี้ยวกราดมีแต่กระบวนท่าที่โหดร้ายทารุณ เขาไม่อยากให้เสี่ยวหลงเรียนวิชาที่เป็นเช่นนั้น กระนั้นยังมีความคิดที่จะแอบสอนวิชาหนึ่งอสูรพิชิตเทวะให้เสี่ยวหลง รู้อยู่ว่าตนอาจหาญคิดรับศิษย์ทั้งที่ยังไม่แตกฉาน ทว่าเพราะเอ็นดูบวกกับเป็นห่วงเด็กน้อยนี่จึงทำให้มีความคิดเช่นนี้ออกมา

       

        “อย่างนั้นเรามาเริ่มฝึกพื้นฐานลมปราณกันเถอะ เริ่มคืนนี้เลย”

       

        เสี่ยวหลงพยักหน้าหงึกหงัก ความกระตือรือร้นที่จะศึกษาของมัน เสวี่ยหมิงรู้สึกคุ้มค่าที่ตั้งใจสอนสั่งมันจริงๆ



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


     การเดินทางยังอีกใกล้เสี่ยวหลงคงยังป่วนเสวี่ยหมิงได้อีกนานละมั้ง55555





เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เสี่ยวหลง อ่านเสวี่ยหมิงออกหมด
ก็เสวี่ยหมิงเป็นคนซื่อ
เลยแสดงออกทางสีหน้าหมดทุกอารมณ์
รอดูว่า วิทยายุทธ์ที่เสวี่ยหมิง สอน
เสี่ยวหลงจะประเมินว่าอย่างไร
พื้นๆทั่วไป /  ดี / ดีเยี่ยม
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อยากให้เสวี่ยหมิงรู้ความจริงเร็วๆ :z2:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เสี่ยวหลงไม่ใช่ตัวร้ายใช่ไหม :ling3:

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 คู่นี้เถลไถลไปแล้วววว  :hao7: อยากแอบสวีทกันก็บอกสิ ฮุๆๆๆๆ  :haun5: แต่ก่อนหน้านั้นหลงๆต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการบอกความจริงกับหมิงเอ๋อร์ก่อนนนน  :m12: o3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ไม่เปลี่ยนระบุหน้าหน่อยเหรอหน้า4แล้วนะจ๊ะ เดาว่าเสี่ยวหลงเป็นพระเอกล่ะค่ะ :hao3:

ออฟไลน์ Bronc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
เสี่ยวหลง คือ หลงเยี่ยอิงศิษย์รอง ปลอมตัวมาหรือเปล่า 
ช่างเป็นวิชาที่ร้ายกาจมาก ย่อกระดูก ผลัดผิว แอ๊บเด็ก อยากฝึกบ้างอ่ะ 5555

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่9

           

   เสวี่ยหมิงแปลกใจเหลือเกินเพราะเพียงแค่บอกกล่าวคร่าวๆเท่านั้น เสี่ยวหลงก็สำเร็จหนึ่งอสูรพิชิตเทวะขั้นที่หนึ่งได้โดยง่าย เขามีความคิดบางอย่างเด็กน้อยนี่อาจมีพื้นฐานวรยุทธอยู่แล้วแต่ไม่ยอมบอก

           

    “เสี่ยวหลง เจ้าเคยฝึกปรือวรยุทธมาแล้วใช่หรือไม่”

               คำถามเช่นนี้ไม่ทำให้เสี่ยวหลงตื่นตกใจ เนื่องจากว่ามันหาข้อแก้ตัวเอาไว้บ้างแล้วมันจึงตอบแบบจริงบ้างผสมโกหกบ้างออกไป

         

      “ใช่ครับพี่ใหญ่ เป็นวรยุทธที่ท่านพ่อของข้าสอนให้ จริงๆที่ข้าทำตามได้โดยง่ายเพราะวิชาที่ท่านสอนข้าคล้ายกับวิชาที่ท่านพ่อสอนให้ข้ามากทีเดียว”

               คล้ายรึ เสวี่ยหมิงนึกสงสัย

         

      “วิชาของพ่อเจ้ามีชื่อว่าอะไร”

         

      “หนึ่งอสูรพิชิตเทวะครับพี่ใหญ่ จริงๆก่อนหน้าที่ท่านพ่อจะเป็นบัณฑิตสอนหนังสือ ท่านเคยเป็นคนของพรรคมังกรพิโรธมาก่อน ข้ารู้มาจากท่านพ่อว่าลูกพรรคในพรรคมังกรพิโรธทุกคนจะได้รับอนุญาตให้ฝึกหนึ่งอสูรพิชิตเทวะได้หนึ่งขั้น แต่ว่าท่านพ่อของข้าในสมัยนั้นอยู่ระดับสูงท่านจึงได้ฝึกถึงขั้นที่สาม ดังนั้นข้าจึงได้ฝึกปรือวิชานี้ถึงขั้นที่สามเช่นกัน”

               อย่างนี้นี่เอง ถึงว่าตอนที่สู้กับอันธพาลคราวก่อนเสี่ยวหลงถึงไม่มีท่าทางเกรงกลัว ฝีมือหรือก็จัดว่าเข้าขั้นดี ความจริงข้อนี่สามารถอธิบายได้โดยง่าย

         

     “เสี่ยวหลงแล้วกระบวนท่าของเจ้าเล่า เจ้าได้ฝึกปรือสิ่งใดมาบ้างจากท่านพ่อของเจ้า”

         

      “เป็น72เพลงหมัดชุดใหญ่และ16เพลงเตะชุดเล็กครับ เป็นวิชามาตรฐานที่เจ้าสำนักอนุญาตให้ลูกพรรคฝึกฝนได้”

               นี่เท่ากับว่าเสี่ยวหลงมีความเกี่ยวข้องกับพรรคมังกรพิโรธ เสวี่ยหมิงเกิดความรู้สึกเหมือนเด็กน้อยนี่ใกล้ชิดกับตัวเองมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

       

       “บางทีเรื่องการหายตัวไปของพ่อเจ้าอาจจะเกี่ยวข้องกับพรรคมังกรพิโรธก็ได้นะ”

       

        เสวี่ยหมิงตั้งข้อสังเกต เสี่ยวหลงแสร้งทำเป็นเห็นด้วย แต่ในความเป็นจริงชื่อซือเยว่ของท่านพ่อนั้นเป็นเพียงชื่อเล่นของตาเฒ่าจูซึ่งมีน้อยคนเท่านั้นที่จะรู้ มันตามหาคนชื่อนี้เพราะคาดว่าหากตาเฒ่าจูจะปลอมตัวย่อมต้องใช้ชื่อนี้ไม่ผิดแน่นอน

     

         ทว่าการที่เสวี่ยหมิงไม่รู้จักชื่อเล่นนี้ คงเพราะตาเฒ่าจูอาจใช้ชื่อจริงและไม่ได้บอกถึงชื่อเล่นก็เป็นไปได้

     

          “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ราค่อยเริ่มฝึกปรือขั้นต่อไปกัน”

       

       กล่าวจบเสวี่ยหมิงก็เดินไปดับไฟแล้วกลับมานอนบนเตียง เสี่ยวหลงลดตัวลงนอนบ้าง กระนั้นมันกลับไม่ยอมหลับลงง่ายๆ เด็กน้อยใช้มือสะกิดเขาก่อนจะเริ่มพูดความในใจ

         

      “พี่ใหญ่คงไม่โกรธข้าที่เก็บเรื่องวรยุทธเป็นความลับใช่หรือไม่” เสวี่ยหมิงพลิกกายหันมาเผชิญหน้า

     

         “ทำไมข้าจะต้องโกรธเจ้า” เสวี่ยหมิงไม่เข้าใจจริงๆเหตุใดเสี่ยวหลงถึงได้กลัวเรื่องนี้ มีเรื่องอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจถึงเพียงนั้นเชียวหรือ

     

          “ก็......”



เสี่ยวหลงแสร้งทำท่าอึกอัก มันตอนนี้ไม่อยากจะเผยตัวให้เสวี่ยหมิงรู้เร็วนัก แต่การที่มันแสดงพื้นฐานวรยุทธออกมาโดยลืมตัวไปจนถูกจับได้เช่นนี้ มันเกรงว่าความสัมพันธ์ที่มันพยายามถักทอจะพังพินาศไปสิ้น แปลกใจตัวเองนักเหตไม่ทราบได้ว่าทำไมมันถึงได้เกิดกลัวการสูญเสียขึ้นมา ทั้งทีอันที่จริงแล้วมันเองสามารถสานสัมพันธ์กับเสวี่ยหมิงในทางอื่นก็ย่อมได้



ทว่าตอนนี้มันกลับหวงแหนความสัมพันธ์เล็กๆนี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น มันอยากจะอยู๋ใกล้ชิดในฐานะน้องชายของเสวี่ยหมิงอีกหน่อย อยากเรียนรู้ความเป็นตัวตนของพี่ใหญ่ให้มากกว่านี้ มันเองก็รู้ว่านิสัยเยี่ยงนี้ของมันช่างกลับกลอกยิ่ง แต่มันผู้ไม่เคยไว้ใจใครง่ายๆไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสันดารได้โดยง่าย



“เพราะว่าวรยุทธที่ข้ามีมาจากสำนักมังกรพิโรธ บ่อยครั้งที่ข้ามักจะถูกรังแกจากวิชาเหล่านี้ ในสายตาชาวยุทธพรรคมังกรพิโรธเป็นเสมือนพรรคมารพรรคหนึ่งเพราะเหตุนั้นข้าจึงไม่กล้าบอกใครหรือแสดงวรยุทธที่ข้ามีให้ใครรู้”



เป็นอย่างนี้นี่เอง นี่คงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ไม่ยอมใช้วรยุทธที่มีให้เป็นประโยชน์สินะ เคยได้ยินจากอาจารย์อยู่บ้างว่าคนภายนอกมองพรรคมังกรพิโรธว่าเป็นพรรคมาร แต่ไม่คาดว่าจะถูกรังเกียจรุนแรงถึงเพียงนี้ เป็นเช่นนี้เขาเองก็ควรระวังตัวเองไว้บ้าง ดีจริงๆที่อาจารย์ตักเตือนเขาไม่ให้แพร่งพรายชื่อของอาจารย์



“พี่ใหญ่ท่านเองก็น่าจะมีวรยุทธสูง ท่านฝึกปรือมาจากผู้ใดรึ”



“เหตุใดเจ้าถึงอยากรู้”



เสวี่ยหมิงทำเสียงเย็นชาส่งสัญญาณปรามให้เสี่ยวหลงรู้ตัว เสี่ยวหลงรู้แจ้งในทันที มันแสร้งลนลานขอโทษขอโพย หากเจ้าไม่อยากพูดในตอนนี้ก็ไม่เป็นไรข้าจะใช้เวลาค่อยๆตะล่อมถามเจ้าเองในซักวันหนึ่ง



“หากพี่ใหญ่ไม่อยากพูดถึงท่านไม่ต้องเล่าให้ข้าฟังก็ได้ ข้าแค่อยากรู้จักท่านให้มากขึ้นอีกนิดเพียงเท่านั้น”

เสี่ยวหลงทำเสียงอ่อยๆ เสวี่ยหมิงไม่ถือโกรธในความอยากรู้อยากเห็นของเด็กน้อย หากอยากรู้นักเขาจะเล่าแค่คร่าวๆเท่านั้นก็เพียงพอกระมัง



“ข้าแต่เดิมเป็นแค่บ่าวไพร่ต่ำต้อย อาจเป็นเพราะมีวาศนาทำให้ได้พบกับอาจารย์โดยบังเอิญ เรื่องของข้ามีเท่านั้นเอง”



“พี่ใหญ่คงลำบากมากสินะ”

เสี่ยวหลงคาดเดาจากสีหน้าเลื่อนลอยแต่แฝงไว้ด้วยความเศร้าของเสวี่ยหมิงก็สามารถคาดเดาได้ อดีตของพี่ใหญ่ผู้นี้คงมีแต่เรื่องทุกข์ทนเป็นแน่แท้



“จะว่าลำบากก็ลำบากจะว่าไม่ลำบากก็ไม่ลำบาก เจ้านอนเถอะเสี่ยวหลงข้าง่วงนอนแล้ว”



เสวี่ยหมิงรอคอยให้เสี่ยวหลงนอนหลับ ทว่าถึงแม้เด็กน้อยจะหลับไปแล้ว เขากลับนอนหลับไม่ลง ได้แต่พลิกตัวหันกลับมามองดูใบหน้ายามหลับของคนข้างๆ



เขาไม่น่าพาลเสี่ยวหลงเพราะเรื่องแค่นี้เลย เด็กน้อยนี่เพียงแค่อยากสนิทสนมกับเขาให้มากขึ้นเพียงเท่านั้น นี่นับว่าตัวเขาเองยังไม่เป็นผู้ใหญ่ เห็นที่ว่าเขาจะโตแค่เพียงร่างกาย แต่จิตใจไม่ได้โตตามไปด้วย ทำอย่างไรได้ปีนี้เขาเองก็เพิ่งแค่สิบหกเท่านั้นไม่ได้ต่างจากเสี่ยวหลง



คิดแล้วก็ถอนหายใจ การปิดบังตัวตนที่แท้จริงต่อผู้อื่นเป็นเรื่องเหนื่อยถึงเพียงนี้เชียวรึ เสวี่ยหมิงเองบางครั้งก็มีความคิดที่ว่าอยากจะให้อาจารย์ซึ่งรู้ชาติกำเนิดของเขาดีมาอยู่ตรงนี้กับเขาด้วย



การที่ออกท่องไปในยุทธภพเพียงลำพังโดยไม่สามารถไว้ใจใครได้ เป็นเรื่องที่สร้างความปวดร้าวให้เขานิดหน่อย ถึงแม้ว่าตอนนี้ความฝันจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นการออกท่องไปในยุทธภพในฐานะจอมยุทธ ทว่ามีบางครั้งที่นึกถึงความฝันเก่าๆเช่นการได้อาศัยอยู่ในบ้านอันเงียบสงบกับคนรู้ใจซึ่งซักวันหนึ่งต้องพบเจอ



ยามนี้การได้พบเจอเสี่ยวหลงซึ่งอุปโลกน์ตัวเองเป็นน้องชายของเขา สร้างความครึกครืนและสีสันให้แก่ชีวิต เด็กน้อยนี่ค่อยๆรุกคืบเข้ามากลายเป็นส่วนหนึ่งของเขาอย่างช้าๆ การที่เขาไม่ผลักไสเด็กน้อยออกไปอาจเป็นเพราะตัวเขาเองที่โหยหายิ่งกว่าก็เป็นได้



“พี่ใหญ่....ข้าหิวแล้ว....”



ขณะที่คิดจู่จู่เสี่ยวหลงก็ละเมอพร้อมทั้งยกแขนขาขึ้นก่ายกอดเขา เสวี่ยหมิงส่ายหน้ายิ้มๆแล้วจัดท่าทางให้มันเสียใหม่ เขาเองก็ควรจะนอนได้แล้ว ไม่ควรคิดเล็กคิดน้อยให้มากความ



ถึงแม้ว่าเขากับเสี่ยวหลงจะผูกพันกันมากแค่ไหน แต่ซักวันหนึ่งก็ต้องมีแยกจาก ทางที่ดีไม่ควรยึดติดให้มาก ทว่าไม่อาจปฏิเสธว่าการมีอยู่ของเสี่ยวหลงสร้างความอบอุ่นสบายใจให้เขามากมายทีเดียว



“งืม...”



ถึงแม้จะผลักไสออกไปครั้งหนึ่งแต่ยังไม่วายเข้ามากอดรัดอีก เสวี่ยหมิงจนปัญญาและเหนื่อยที่จะจัดการกับมันแล้ว ดังนั้นจึงปล่อยให้คนละเมอทำตามใจชอบไปก่อน เอาเถอะถือว่าข้ายอมเจ้าก็แล้วกัน



เมื่อเสียงลมหายใจของเสวี่ยหมิงราบเรียบและสม่ำเสมอ เสี่ยวหลงก็ลืมตาตื่นขึ้นมา มันกระหยิ่มยิ้มย่องก่อนจะแสดงความย่ามใจยิ่งกว่าเก่าด้วยการสูดกลิ่นกายหอมๆจากตัวเสวี่ยหมิง



กลิ่นกายของเสวี่ยหมิงช่างหอมนัก มันคาดว่าเสวี่ยหมิงคงฝึกหนึ่งอสูรพิชิตเทวะสำเร็จถึงขั้นเก้าเช่นเดียวกับมัน นั่นเป็นเพราะว่าผู้สำเร็จถึงขั้นเก้าในแต่ละคนจะมีกลิ่นกายหอมเฉพาะตัวลอยฟุ้งออกมา ด้วยเหตุนี้มันจึงคาดเดาถึงพลังฝีมือของพี่ใหญ่ของมันได้ไม่ยาก



ผิวกายของเสวี่ยหมิงช่างเรียบลื่นนัก เสี่ยวหลงยิ่งลูบยิ่งเพลินมือ การที่มันแสร้งละเมอเป็นการหาเศษหาเลยวิธีหนึ่ง ระยะหลังมานี้ชักรู้สึกว่าตนเองถลำลึก ความใสซื่อใจดีของเสวี่ยหมิงมันยอมรับว่าไม่เคยสัมผัสได้จากผู้ใดที่อยู่รอบตัวมัน



 เนื่องจากคนรอบตัวมันล้วนแล้วแต่แสวงหาความยิ่งใหญ่ ตัวมันเองก็มีหน้าที่และอุดมการณ์สูงส่งไม่แพ้กัน การที่ได้พบแต่ผู้คนที่กลิ้งกลอก เมื่อได้มาบังเอิญพบคนที่รูปกายพึงใจทั้งยังนิสัยน่าสนใจยิ่ง ด้วยเหตุนี้กระมังมันจึงรู้สึกเอ็นดูเสวี่ยหมิงมากเป็นพิเศษ



แปลกนักมันพบว่ามันไม่เคยรู้สึกพิเศษอย่างนี้กลับใครถึงเพียงนี้มาก่อน อาจเป็นเพราะทั้งรูปลักษณ์และนิสัยตรงกับความชื่นชอบของมันก็เป็นได้ ตาเฒ่าจูเองกคงจะถูกใจนิสัยเยี่ยงนี้ด้วยเช่นกันกระมัง



“หึหึ พี่ใหญ่ช่างน่ารักยิ่ง” มันกระซิบเสียงแผ่วก่อนจะโถมกายเข้ากอดรัดอีกฝ่ายก่ายกอดอย่างแนบแน่นถือดี



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


คิดไหมว่าเสี่ยวหลงเป็นตัวอันตราย 5555 หางจิ้งจอกเริ่มโผล่ป่าวนะ



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ

ออฟไลน์ Bronc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ขอบเสี่ยวหลง ถึงจะเจ้าเล่ห์ไปนิด ว่าแต่เรื่องนี้ พระเอกคนเดียวใช่ไหม หรือ 3 คน

แบบว่า กลัวนายเอกรับศึกหนักไป ชอบความรักมั่น แหะๆ

ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เสี่ยวหลงตีบทแตกอีกเช่นเคย :hao3:

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เสี่ยวหลงร้ายกาจจจ หลอกแต๊ะอั๋งง่ายๆเลยหรอ :katai3:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
โอเคเสี่ยวหลงเราเชียร์นาย

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
อย่าลืมไปอัพเรื่องอื่นด้วยน้า :hao5: เจ้าหลงหางโผล่แล้ว อิอิ รอดูว่าจะสวีทหวานกันป่าว

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
เนียน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ polkadot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ไม่คิดว่าเสี่ยวหลงเป็นตัวอันตราย แต่คิดว่านี่แหละ คาแรคเตอร์พระเอกที่ชอบ :-[

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
เดี๋ยวนะ เสี่ยวหลงนี่จิ้งจอกในคราบลูกแกะชัดๆ หๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
วิชามารอะไร แปลกมาก
สำเร็จขั้นที่เก้าจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวออกมา
เสี่ยวหลง คิดไรกับเสวี่ยหมิง
แถมเนียนละเมอกอดจูบอีก
ช่างเจ้าเล่ห์ หากำไรจากเสวี่ยหมิง จริงๆ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2017 13:16:36 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
แม่ยกมาล๊าวววว ชูป้ายไฟ   :pig2: :hao7: ฮี่ๆ  หมิงๆก็ยังคงคอนเซปสดใส ซื่อ---เหมือนเดิม 5555 :laugh: รอๆอยากรู้ความจริงแล้ววว  :ling1:  แต่ไม่เป็นไรเป็นแม่ยกต้องอดทนอดกลั้นนน รอวันที่หมิงๆจะไล่ตามความเจ้าเล่ห์ของหลงๆทัน  :m4:

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่10



เป็นเวลาสี่วันแล้วที่เสวี่ยหมิงเข้าครัวรับหน้าที่แทนผู้เฒ่าฮวาซาน เขาถูกชมจากผู้เฒ่าไม่ขาดปากว่าฝีมือเยี่ยมและรู้จักพลิกแพลงจนลูกค้าที่แต่เดิมก็มากอยู่แล้วพากันมาอุดหนุนกันมากมาย ดังนั้นเสวี่ยหมิงและเสี่ยวหลงจึงทำงานกันมือระวิงแทบไม่มีเวลาพัก



แต่ถึงแม้จะกรำงานหนัก เสวี่ยหมิงก็ไม่งดเว้นการฝึกปรือฝีมือให้เสี่ยวหลง ยิ่งวรยุทธของเด็กน้อยนี่รุดหน้าเขาก็ยิ่งรู้สึกกระตือรือร้นที่จะสอนสั่ง เสี่ยวหลงนับว่ามีสติปัญญาอันชาญฉลาดสอนสิ่งใดไปก็เข้าใจได้ง่ายและปฏิบัติตามได้ถูกต้องทุกกระบวนความ



คืนนี้ก็เช่นกันหลังจากปิดร้านแล้วกลับมาที่บ้าน เสวี่ยหมิงใช้ลานกว้างหน้าบ้านของผู้เฒ่าฮวาในการฝึกฝนวรยุทธ เสี่ยวหลงตั้งอกตั้งใจฝึกมุ่งมั่นเสียจนเขาไม่ชื่นชมไม่ได้



“แต่เดิมทีข้าตั้งใจว่าจะสอนกระบวนวิชาประจำตัวของข้าให้แก่เจ้า ทว่ากระบวนท่าที่ข้ามั่นใจนั้นเป็นกระบวนท่าที่เต็มไปด้วยท่วงท่าดุดันโหดร้าย เกรงว่าจะไม่เหมาะกับเจ้า ดังนั้นวิชาหมัดกระจกของหมู่ตึกหรงก็นับว่าเป็นวิชาที่ดีงามวิชาหนึ่ง”



เสวี่ยหมิงกล่าวพลางมองดูเสี่ยวหลงออกกระบวนท่า เนื่องจากเด็กน้อยนี่มีพื้นฐานแน่น ท่วงท่าการออกหมัดจึงมั่นคงหนักหน่วงปานหินผา นับว่าคุ้มค่าที่อุตส่าห์สอนสั่ง



สำหรับเขานี่เป็นครั้งแรกที่ได้เป็นอาจารย์สั่งสอนใคร ดังนั้นจึงมีความตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ นอกเหนือจากตื่นเต้นแล้วยังกังวลกลัวว่าจะทำได้ไม่ดี ทว่าลูกศิษย์อันประเสริฐเฉกเช่นเสี่ยวหลงกลับทำให้ทุกอย่างราบรื่นเสียจนเขาต้องอมยิ้มไม่หุบ



“เอาล่ะ พอได้แล้วเสี่ยวหลง”



เมื่ออนุญาตให้หยุด ฮวาเหมยลี่ก็รีบถือผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าไปหาเสี่ยวหลง สองวันมานี้เด็กสาวมักมาดูเสียวหลงฝึกยุทธ จากแววตาหวานเยิ้มที่มองจ้องไปยังเด็กน้อยตาไม่กระพริบ เขาแจ้งแก่ใจได้ไม่ยากเหมยลี่นั้นปักใจต่อเสี่ยวหลงไม่ผิด



เสวี่ยหมิงไม่ทราบว่าตนเองรู้สึกแบบไหนกันแน่ ภายในส่วนลึกทั้งดีใจกับโชคดีของมันแต่ในขณะเดียวกันก็หงอยเหงาขึ้นมาวูบหนึ่งเพื่อปัดความคิดเช่นนั้นทิ้งไปจึงกล่าวคำหยอกเย้าต่อเสี่ยวหลง



“เสี่ยวหลงช่างโชคดียิ่งมีเด็กสาวรูปโฉมน่ารักมาเอาอกเอาใจ สงสัยว่าจะมีข่าวดีก็ครานี้กระมัง”



ทันทีที่กล่าวเช่นนั้นเหมยลี่ก็สะเทิ้นอาย กระนั้นเด็กสาวไม่คลาดสายตาจากเสี่ยวหลง แม่นางน้อยช้อนตามองระยิบระยับช่างชัดเจนเหลือเกินถึงความรู้สึกจนไม่ต้องพูดออกมา



“พี่ใหญ่อย่าได้พูดจาเหลวไหล ข้าเป็นผู้อาศัย นอกจากนั้นยังไม่ต่างกับคนแปลกหน้า ข้าย่อมไม่อาจเอื้อมเด็ดดอกไม้สกุลฮวามาย่ำยี”



ตอนนี้เองที่เหมยลี่หน้าเผือดสี คำปฏิเสธชัดแจ้งของเสี่ยวหลงนำพาความเสียใจให้เด็กสาว นางผละจากไปโดยไม่กล่าววาจา เสวี่ยหมิงเข้าใจว่าเหมยลี่คงอยากให้เสี่ยวหลงตามไปง้องอน



“เจ้าพูดจาเย็นชานัก ไม่ไปง้อนางเสียหน่อยรึ”



“พี่ใหญ่ล่ะก็”



 มันแสร้งดัดจริตขยี้เท้าเลียนแบบกริยาดังอิสตรี เสี่ยวหลงไม่อยากให้พี่ใหญ่ของมันกล่าววาจาหยอกเย้าเรื่องนี้อีก จึงจงใจสร้างเสียงหัวเราะให้ลืมเลือนไปเสียด้วยการแสดงท่าทางงี่เง่าเง้างอนประหนึ่งเด็กสาว นั่นได้ผลเสวี่ยหมิงหัวเราะขบขันออกมาจนได้



“พี่ใหญ่บอกตามตรง เหมยลี่นางน่ารักทั้งนิสัยและหน้าตาก็จริง ทว่าข้าไม่อาจเอาทั้งชีวิตมาจมอยู่กับนางได้ ข้ายังต้องตามหาท่านพ่อของข้าอยู่ พี่ใหญ่ก็ทราบดี ดังนั้นอย่าได้คิดเป็นพ่อสื่อให้ข้าอย่างเด็ดขาด”



เสวี่ยหมิงเกิดความละอาย ตนเองนั้นไม่ได้มีความคิดที่จะเป็นพ่อสื่อให้เสี่ยวหลงเลยแม้แต่น้อย นอกจากนั้นลึกๆแล้วยังมีความเห็นแก่ตัวเกรงว่าจะต้องกลับไปเดินทางตามลำพังอีกหน นับว่าเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวยิ่ง เหตุใดจู่จู่ตนจึงมีความยึดติดต่อเสี่ยวหลงอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ได้นะ



เป็นเพราะความผูกพันที่เขามีต่อเสี่ยวหลงได้ถูกถักทอขึ้นมาแล้วกระนั้นหรือ ช่างอันตรายนักเขาเกิดความคิดพึ่งพิงผู้อื่นเชื่อใจผู้อื่นดังเช่นสมัยเมื่อยังเป็นบ่าวไพร่ ปล่อยให้เป็นเช่นนี้มันดีแล้วหรือ



“อีกอย่างหากข้าอยากจะแต่งงานซักครา ข้ามีความทะเยอทะยานอยู่ข้อหนึ่ง หากว่าไม่ได้คู่แต่งงานที่รูปงามทัดเทียมพี่ใหญ่ ข้าจะไม่ตกลงปลงใจง่ายๆเป็นอันขาด”



“ไร้สาระ ข้าเป็นบุรุษแถมไม่ได้รูปงามซักเท่าใด การที่เจ้าเอาข้ามาเป็นบรรทัดฐานไม่เป็นการมักง่ายเกินไปหน่อยรึ”



“พี่ใหญ่ตั้งแต่ข้าอยู่มาจนทุกวันนี้ ไม่เคยมีผู้ใดที่จะรูปงามและนิสัยถูกใจข้ายิ่งเท่ากับพี่ใหญ่อีกแล้ว ท่านถือเป็นบุคคลในอุดมคติของข้าเชียวนะ”



เสวี่ยหมิงกระพริบตาปริบๆ การถูกวาจาเทาะโลมจากบุรุษเยี่ยงนี้เขาไม่เคยถูกกระทำมาก่อน ได้แต่คิดว่าเด็กน้อยนี่ช่างร้ายกาจยิ่ง หากว่าเขาเป็นหญิงสาวคงตกหลุมพลางไปแล้วอย่างง่ายดาย กระนั้นไม่ปฏิเสธว่าการได้รับคำพูดเช่นนี้ทำให้เขาคันยุบยิบในหัวใจเช่นกัน



“เจ้ากล่าววาจาจีบสตรีด้วยวิธีนี้ทุกครั้งไปรึ”



“ปัดโถ่ พี่ใหญ่ข้าจริงจังนะ”



เสี่ยวหลงขยี้เท้าอีกครั้ง ครานี้มันทำไปด้วยอารมณ์หงุดหงิดแท้จริงของมัน มันรึอุตส่าห์ตั้งใจกล่าวความรู้สึกที่อยู่ในใจ คาดว่าจะได้เห็นใบหน้าแดงก่ำของพี่ใหญ่ แต่ผิดไปไกลพี่ใหญ่กลับไม่แสดงท่าทางน่ารักให้มันเห็นแม้เพียงนิด



“พี่ใหญ่ข้าตั้งใจเกี้ยวพาราสีท่านถึงเพียงนี้เหตุใดท่านถึงทำเฉย”



 เสี่ยวหลงฮึดฮัดไม่ยอมเลิกราง่ายๆ เสวี่ยหมิงทำเพียงแค่ยักไหล่ จงใจก่อกวนให้เด็กน้อยนี่กระวนกระวาย น่าตายนักอยากมาล้อเล่นกับเขาทำไม เขาไม่คิดจะเดินตามแผนการเล่นสนุกของเด็กน้อยนี่เด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะอายุเท่ากันเขาก็หาใช่หมูในอวยให้มาแกล้งง่ายๆไม่



“พี่ใหญ่อ่า พี่ใหญ่อ่า ท่านช่างร้ายยิ่งนัก ท่านใจดำกับข้าเกินไปแล้วนะ ”



 พอเห็นเขาทำเฉยเสี่ยวหลงก็เริ่มวาดลวดลายอีกครั้ง เด็กน้อยรี่เข้ามาหาก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างทุบตีลงมาบนแขนเบาๆทั้งซ้ายและขวา ส่งเสียงหงุงหงิงเง้างอนไม่หยุด จริตจะก้านอันไม่ต่างกับสาวน้อยเช่นนี้ชวนให้ครื้นเครงยิ่งนัก



“พี่ใหญ่ หากว่าข้าเป็นสตรีข้าคงพลีกายให้ท่านไปแล้ว ท่านไม่สนใจความรู้สึกของข้าบ้างหรือ”



เสี่ยวหลงกอดแขนพลางอ่อยเหยื่อด้วยการใช้ใบหน้าซบลงบนหัวไหล่ของเสวี่ยหมิง ในระยะประชิดมันจงใจช้อนตามองส่งสายตาเป็นประกายร้อนแรงไปให้พี่ใหญ่ของมัน ครานี้ได้ผลเสวี่ยหมิงผงะไปชั่วครู่ใบหน้างดงามแดงระเรื่อคล้ายถูกทาทับด้วยสี



“พี่ใหญ่ท่านหน้าแดงด้วย ท่านมีใจให้ข้าแล้วใช่ไหม”

มันรุกเข้าหาด้วยคำพูดไม่หยุด ไม่คาดว่าจะถูกเสวี่ยหมิงโจมตีด้วยการดีดนิ้วใส่หน้าผาก ไม่แรงมากนักแต่เจ็บๆคันๆอยู่เหมือนกัน



“ท่านทุบตีข้าทำไม”



“อยากไร้สาระทำไม”



เสวี่ยหมิงผลักไส เจ้าตัวดีให้ออกห่างก่อนสาวเท้ารัวเร็วเดินหนีมันไปยังห้องนอน เสี่ยวหลงตามมาติดๆไม่ลดละพลางพูดจาบอกรักไร้สาระไปตลอดทาง เสวี่ยหมิงใช้มือลูบใบหน้าที่ยังร้อนไม่หาย บัดซบที่สุดนี่เขาตื่นเต้นกับวาจาไร้สาระของเสี่ยวหลงไปเสียได้



“พี่ใหญ่ ใยเข้าห้องไปคนเดียวเล่า แล้วจะให้ข้านอนที่ไหน ท่านให้ข้าเขาไปด้วยซี้”



เพราะเกรงว่ากลัวเด็กน้อยจะหยอกเย้าไม่เลิก เสวี่ยหลงจึงจงใจไม่ให้มันเข้าห้อง เขาลดตัวลงนอนบนเตียงสาแก่ใจไม่น้อยที่ได้ยินเสียงโอดครวญขอโทษขอโพยจากเสี่ยวหลงที่ด้านนอก



ผ่านไปหนึ่งชั่วยามในที่สุด เสี่ยวหลงก็หยุดโวยวาย เสวี่ยหมิงตอนนี้เริ่มจะใจอ่อน ทั้งยังสงสัยว่าเสี่ยวหลงทำอะไรอยู่กันแน่ ดังนั้นเสวี่ยหมิงจึงเปิดประตูเยี่ยมหน้าไปดูภายนอก เขาพบว่าเด็กน้อยนอนหลับขดตัวอยู่ตรงหน้าประตูไม่ไปไหน



“พี่ใหญ่ช่างใจร้าย”



 แม้ละเมอยังกลายเป็นการตัดพ้อเขา ลมเย็นพัดพามาสำหรับกับผู้ฝึกปรือจนถึงขั้นสูงสุดดั่งเขาไม่สามารถสร้างความเหน็บหนาวให้เขาได้ แต่เสี่ยวหลงนี่สิหากปล่อยให้อยู่ด้านนอกเช่นนี้ต่อไปเกรงจะป่วยเอา เสวี่ยหมิงจึงตัดสินใจอุ้มเสี่ยวหลงเข้าไปด้านในจัดแจงให้เด็กน้อยนอนบนเตียงเดียวกับเขาเช่นเดียวกับที่ผ่านมา



เสวี่ยหมิงพอลดกายลงนอนเคียงข้าง เสี่ยวหลงก็ผวาเข้ามากอดรัดแนบแน่น หลังจากที่พบเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยครั้งเขา เขาก็เกิดความชินชา คาดว่านิสัยละเมอกอดเยี่ยงนี้คงเป็นสันดารเดิมของมัน ถึงจะกล่าวเตือนในตอนเช้าหากทำไปโดยไม่รู้ตัวเช่นนี้ก็ใช่ว่าจะแก้ไขได้ง่ายๆ



“เจ้าบ้า เหตุใดเจ้าถึงได้ทำให้ข้าปั่นป่วนใจได้ถึงเพียงนี้นะ”



เสวี่ยหมิงพึมพำพลางใช้มือลูบศีรษะกลมทุยของเสี่ยวหลง เด็กหนุ่มเฝ้ามองดูใบหน้ายามหลับของอีกฝ่ายได้ไม่นาน ความง่วงก็จู่โจมจนในที่สุดเขาก็หลับลึกลงไปเช่นกัน



เช้าวันต่อมาบรรยากาศบนโต๊ะอาหารช่างอึมครึมนัก ฮวาเหมยลี่ลอบมองเสี่ยวหลงด้วยสายตาละห้อยหลายครั้ง เสวี่ยหมิงรู้สึกได้ว่าเด็กน้อยรู้ตัวแต่แสร้งทำเป็นไม่สนใจ กระนั้นเสวี่ยหมิงก็อดสงสารนางไม่ได้ จึงจงใจส่งสัญญาณให้เสี่ยวหลง



“เสี่ยวหลง เจ้าช่วยฉีกแบ่งไก่ให้เหมยลี่หน่อยสิ”

พอกล่าวเช่นนั้นไป เสี่ยงหลงก็โคลงศีรษะไปมา มันยิ้มกว้างไม่ปฏิเสธ



“น้องเหมยลี่ เจ้าทานน้อยเกินไป ทานน่องไก่นี่เสียหน่อยนะ”



 เมื่อได้รับความเอาใจใส่และรอยยิ้มจากเสี่ยวหลง เหมยลี่ก็ยิ้มได้เสียที ตอนนี้เองที่ผู้เฒ่าฮวายิ้มอ่อนใจ เสวี่ยหมิงกับผู้เฒ่าสบตากัน คาดว่าคงรู้อยู่แล้วเป็นแน่ว่าหลานสาวหลงรักเสี่ยวหลงเข้าแล้ว



วันนี้ก็เหมือนกับทุกวัน เสวี่ยหมิงกับเสี่ยวหลงช่วยกันตระเตรียมร้าน เมื่อเสร็จเรียบร้อย เขาก็ไปประจำในครัวกับผู้เฒ่าฮวาเริ่มปรุงอาหารให้แก่ลูกค้าที่มาอุดหนุนโรงเตี๊ยมกลางป่าแห่งนี้



ช่วงนี้เป็นเพราะฝีมือการทำอาหารของเสวี่ยหมิงทำให้มีผู้มาอุดหนุนมากกว่าปกติ ผู้เฒ่าฮวากล่าวขอบคุณและชมเชยเขาไม่ขาดปาก มีบางครั้งยังถามไถ่ถึงการเป็นลูกจ้างประจำของเขาอย่างจริงจัง หากแต่ว่าก็ได้อธิบายไปว่าตัวเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่นานๆได้ ผู้เฒ่าฮวาจึงต้องล้มเลิกความคิดไป แน่นอนคนที่พลาดหวังไม่ได้มีแต่ผู้เฒ่าเหมยลี่เองก็แสดงท่าทางเศร้าสร้อย



นางคงคิดว่าหากเขาอยู่ต่อเสี่ยวหลงก็ต้องอยู่ต่อไปด้วยกระมัง จริงๆนางก็คิดถูก เสี่ยวหลงเกาะหนึบเขาอย่างกับปลิง คาดว่าต่อให้ไล่ไปก็คงไม่ไปง่ายๆ



เวลาผ่านไปหลายชั่วยามตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว ผู้เฒ่าบอกให้เขากับเสี่ยวหลงเตรียมตัวปิดร้าน ไม่คาดว่าจะมีลูกค้ากลุ่มสุดท้ายเข้ามา ผู้เฒ่าจึงต้องเปิดร้านอีกหน่อยต้อนรับลูกค้าซึ่งมาใหม่



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


ตอนต่อไปมาแล้ว ตอนหน้าจะเริ่มต้นปัญหาใหม่ๆที่เข้ามาพัวพัน หวังว่าจะติดตามอ่านกันต่อน้า



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เจ้าหลงยังมารยาเก่งเหมือนเดิม55555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เสี่ยวหลง ช่างเจ้าเล่ห์แสนกล เจ้าเสน่ห์อีกด้วย
เสวี่ยหมิง ก็ถูกมันพัวพันออดอ้อน
ทั้งอ่อยทั้งจีบเปิดเผยเลยทีเดียว
“พี่ใหญ่ข้าตั้งใจเกี้ยวพาราสีท่านถึงเพียงนี้เหตุใดท่านถึงทำเฉย”
แล้วเสวี่ยหมิง จะทนทานได้หรือ
“เจ้าบ้า เหตุใดเจ้าถึงได้ทำให้ข้าปั่นป่วนใจได้ถึงเพียงนี้นะ”
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เสี่ยวหลงเจ้าเล่ห์เกินไป

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
รุกหนักมาก :ling1:

ออฟไลน์ pawara123

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากครับน่าติดตามมากมาลงไวๆนะครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด