นิยายจีน มังกรซ่อนหิมะ ตอนที่41 บทสรุป p15 8/10/60 จบแล้วจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายจีน มังกรซ่อนหิมะ ตอนที่41 บทสรุป p15 8/10/60 จบแล้วจ้า  (อ่าน 74583 ครั้ง)

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
เริ่มงงๆว่าใครเป็นใคร ใครพี่ใหญ่ รอง เล็ก

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
เริ่มงงๆว่าใครเป็นใคร ใครพี่ใหญ่ รอง เล็ก

ศิษย์พี่ใหญ่คือหลี่มู่ไป๋ ศิษย์พี่รองคือหลงเยี่ยอิ่ง ศิษย์พี่สามคืออิงเฟยค่า 5555 พยายามหาวิธีลงรูปคาแรคเตอร์อยู่แต่ทำไมได้ซักที



ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
สนุกจังเลยมาเป็นกำลังใจให้น้องหมิง โดนล่อลวงทุกคืน

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
มาต่อไวไวนะ

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่14



หลังจากที่รู้ว่ามีคนปลอมแปลงจดหมายของตัวเองเสี่ยวหลงก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มันใช้นกสื่อสารติดต่อกับเงาของตนเองที่รักษาการณ์อยู่ในพรรคมังกรพิโรธ เพียงสองวันเท่านั้นจดหมายลับก็ถูกส่งกลับมายังมือของมัน



เนื้อหาใจความของสารยิ่งตอกย้ำว่าตัวมันตอนนี้ตกอยู่ในอันตรายเกินกว่าที่จะคาดคิด ที่มั่นใจเช่นนั้นเพราะจดหมายที่ส่งไปล้วนเขียนด้วยรหัสลับซึ่งรู้กันแค่เขากับเงาเท่านั้น ใจความจดหมายไม่ว่าจะอ่านดูอย่างไรก็เป็นการรายงานลับของสายสืบที่มีต่อนายเนื้อหัวทั่วๆไป



แน่นอนว่าถ้าเป็นเงาของเขาที่รู้รหัสลับดีย่อมจะตอบจดหมายกลับมาด้วยรหัสซึ่งวางไว้ ทว่าจดหมายกลับมีเนื้อหาใจความเป็นอย่างอื่น เนื้อหาใจความนั้นระบุว่าให้มันตามหาตาเฒ่าจูต่อไป



เป็นคำสั่งเรียบง่ายแต่เห็นได้ชัดถึงความจริง เงาของมันตอนนี้คงไม่ใช้คนเดิมอีกต่อไปแล้ว อาจถูกสับเปลี่ยนหรือถูกฆ่าทิ้งไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เสี่ยวหลงใช้เวลาครุ่นคิดจนนอนไม่หลับทั้งคืน



มันมีความสงสัยในตัวของหลี่มู่ไป๋กับอิงเฟย คิดไปคิดมาการหายตัวไปของอาจารย์กับเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อาจเป็นผู้ลงมือคนเดียวกัน สำหรับกับมัน ไม่ว่าจะเป็นศิษย์พี่หลี่มู่ไป๋หรือศิษย์น้องอิงเฟยก็นิสัยเข้ากันไม่ได้ทั้งนั้น



หลี่มู่ไป๋ เป็นคนทำอะไรตรงๆราวกับไม้บรรทัด เป็นคนแข็งกระด้างทำอะไรตรงไปตรงมาจนผิดใจกับมันอยู่บ่อยครั้ง อิงเฟยนั้นเล่าก็เจ้าเล่ห์ทะเยอทะยาน ทว่าหากจะให้คาดเดาว่าใครเป็นคนวางแผนร้าย มันก็เอนเอียงไปทางอิงเฟย กระนั้นก็ใช่จะปล่อยสมมุติฐานเรื่องหลี่มู่ไป๋เองก็เป็นผู้ลงมือเช่นกัน



เรื่องราวที่อาจารย์ถูกพบโดยหมาลอบกัดแห่งยุทธภพทั้งสามใช่ว่ามันจะไม่ลอยตามลมมาเข้าหู เสี่ยวหลงมีความคิดที่จะไปเยี่ยมเยียนคนทั้งสามถึงที่ ทว่าเป็นเพราะมันได้พบกับเสวี่ยหมิงที่เป็นเบาะแสชัดเจนถึงตาเฒ่าเสียก่อน ดังนั้นมันจึงไม่ได้เดินทางไปตามความมุ่งมั่นแต่เดิม



หลังจากได้รู้ว่าตอนนี้สถานภาพของตัวเองง่อนแง่นเต็มทน เสี่ยวหลงรีบมาพบกับเยิ่นเสียนฉีเป็นการส่วนตัว คราแรกมันตั้งใจจะใช้ลูกน้องผู้ภักดีคนนี้สืบเสาะตลบหลังหลงเยี่ยอิ่งตัวปลอม ทว่าจากการคาดเดาเจ้าตัวปลอมคงยึดอำนาจพรรคมังกรพิโรธเอาไว้แล้ว



 ฉะนั้นการมาของมันครั้งนี้เพื่อออกคำสั่งใหม่แก่เยิ่นเสียนฉี มันไม่ต้องการให้ที่อยู่หรือตัวตนของมันเองแพร่งพรายไป มันตัดสินใจว่าจะปลอมตัวเป็นเสี่ยวหลงเช่นนี้ต่อไป สืบเสาะข่าวคราวอย่างลับๆและติดตามพี่ใหญ่ของมันกลับเข้าพรรคมังกรพิโรธ



อยากจะรู้นักว่าการปรากฏตัวของเสวี่ยหมิงจะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเช่นไร เสี่ยวหลงยอมรับว่าตัวมันกำลังใช้ประโยชน์จากพี่ใหญ่ของมัน ทว่ามันมีทางเลือกไม่กี่ทาง ตอนนี้มันไม่ทราบเลยว่าผู้ใดทรยศมันและผู้ใดเป็นมิตร แม้กระทั่งเยิ่นเสียนฉีมันยังหวาดระแวงอยู่ไม่น้อยเช่นกัน



ตัวมันนั้นนอกจากจะมีความทะเยอะทะยาน ยังมีหน้าที่ที่ต้องให้ทำอีกมาก โดยเฉพาะหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาคือการดำรงตำแหน่งประมุขพรรคมังกรพิโรธให้ได้ มันถูกปลูกฝังสิ่งนี้มาตั้งแต่ยังเยาว์ มันยอมรับว่ามีบางครั้งมันเหนื่อยหน่ายต่ออุดมการณ์อันนี้



แต่เมื่อเป็นหน้าที่มันย่อมต้องทำให้สำเร็จ สิ่งที่มันแบกรับไว้ทำให้มันจำต้องทำในสิ่งที่เลวร้ายต่อเสวี่ยหมิง มันยอมรับว่ามันปวดร้าวใจ หากว่าวันใดวันหนึ่งพี่ใหญ่ของมันรู้เข้า มันจะถูกเกลียดมากมายแค่ไหนกันนะ



ถ้ามันสามารถละทิ้งหน้าที่และอุดมการณ์ไปได้แล้วไปมีความสุขข้างกายพี่ใหญ่ของมัน คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย ทว่ามันไม่สามารถปล่อยมือจากสิ่งนั้นได้ ระหว่างหน้าที่กับความผูกพันที่เพิ่งก่อเกิดขึ้นมา มันไม่อยากจะเลือกสิ่งใดแต่ก็ไม่อาจวางเฉยปล่อยให้สิ่งที่มันทำมาสูญเปล่าไปได้



“นายน้อยมีเรื่องใดสั่งหรือขอรับ”



เยิ่นเสียนฉีเมื่อมาถึงก็แสดงความเคารพต่อมัน เสี่ยวหลงไหวตัวเล็กน้อย ไม่ถึงกับสะดุ้ง แต่ไม่คาดคิดเช่นกันว่ามันจะกลายเป็นคนที่ปฏิกิริยาเชื่องช้าเช่นนี้ไป การที่มันเอาแต่คิดถึงความรู้สึกของเสวี่ยหมิงในอนาคตมันทำให้เหม่อลอยได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ



“เจ้ายังไม่ได้ลงมือทำตามคำสั่งที่ข้าสั่งไว้ใช่หรือไม่”



“ยังขอรับ ข้ารอคอยให้ถึงวันนัดของเจ้าตัวปลอมซึ่งเป็นวันพรุ่งนี้” เยิ่นเสียนฉีตอบ



“ดี เรื่องตลบหลังเจ้าตัวปลอมข้าขอยกเลิกไป เจ้าทำเพียงแค่ส่งแปลนอาวุธปลอมๆให้มันก็เพียงพอแล้ว”



เยิ่นเสียนฉีฟังแล้วเริ่มครุ่นคิด มันเองก็ใช่ว่าจะเป็นคนไร้สติปัญญา มันเดาว่านายน้อยของมันคงมีปัญหา หากใช้มันสมองอีกนิด มันยังกล้าคาดเดาว่า บางทีตัวปลอมของนายน้อยในพรรคมังกรพิโรธอาจจะยึดอำนาจจากนายน้อยแล้วก็เป็นได้



“นายน้อย ให้ข้าระดมพลสาขาบุกเข้าพรรคมังกรพิโรธดีหรือไม่ขอรับ”



“ยังก่อน ข้ายังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้บงการณ์ นอกจากนั้นยังไม่รู้ว่าเงามืดของมันครอบคลุมไปถึงที่ใดบ้าง หากแหวกหญ้าให้งูตื่นเกรงว่าจะไม่เหลือแม้แต่ชีวิต”



เยิ่นเสียนฉีเห็นด้วยกับนายน้อยของมัน ในบรรดาหมู่ตึก ที่อยู่ใต้อาณัตินายน้อย ถึงแม้ว่ามันจะรู้จักเจ้าของหมู่ตึกเหล่านั้นดี กระนั้นก็ใช่ว่าจะคาดเดาความจงรักภักดีที่มีต่อนายน้อยได้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน



หากว่ามีหมู่ตึกที่ทรยศนายน้อยแล้วไปเข้ากับเจ้าตัวปลอม การที่มันป่าวประกาศเช่นนี้ไม่เป็นการชี้โพรงให้มันมาจัดการกับนายน้อยของมันหรือ กระนั้นในบรรดาหมู่ตึกก็ใช่ว่ามันจะไม่มีผู้ไว้วางใจเช่นมันไม่ได้เสียทีเดียว



“มีหมู่ตึกบางที่ที่พอไว้ใจได้บ้าง นายน้อยจะให้ข้าแจ้งข่าวหรือไม่ขอรับ”



“ไม่ต้องยิ่งรู้น้อยยิ่งดี ระหว่างนี้ให้เจ้าทำตัวเป็นปกติรอข้าแจ้งข่าวเป็นระยะๆ”



“ทราบขอรับนายน้อย”

มันไม่มีคำถามได้ต่อไปอีก มันคาดเดาว่าจากนี้นายน้อยคงจะเดินทางต่อไปกับเด็กหนุ่มนามเสวี่ยหมิง



สองสามวันมานี้เสี่ยวหลงเอาแต่ครุ่นคิดอะไรบางอย่างเพียงคนเดียวอยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้ว่าจะยังร่าเริงเช่นเดิม แต่เสวี่ยหมิงสังเกตได้ถึงความผิดปกติอันนี้



นอกจากท่าทางที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย หลังจากพ้นจากสามวันไป เด็กน้อยก็ขอไปทำธุระที่หมู่ตึกเหมยนิรันดิ์ เสวี่ยหมิงไม่รู้ว่าเสี่ยวหลงกำลังคิดเรื่องใดอยู่ มีความคิดที่อยากจะถาม แต่ก็เกรงจะเป็นการณ์ก้าวก่ายจนเกินไป ดังนั้นจึงเลือกที่จะเมินเฉยพฤติกรรมแปลกๆช่วงนี้ของเสี่ยวหลงไปเสีย



ผ่านไปได้อีกสี่วัน ในที่สุดบุตรชายของผู้เฒ่าฮวาซานก็กลับมา เสวี่ยหมิงได้ปลดเปลื้องภาระอันนี้ลงจากบ่าเสียที คืนนั้นเขาจึงพูดกับเสี่ยวหลงให้เป็นกิจลักษณะ เด็กหนุ่มอยากมั่นใจเรื่องของเสี่ยวหลง ตอนนี้เริ่มจะสงสัยแล้วว่าเด็กน้อยยังอยากเดินทางไปกับเขาอยู่อีกไหม



“ในเมื่อบุตรชายของผู้เฒ่าฮวาก็กลับมาแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะออกเดินทางต่อไปได้เสียที เจ้าเห็นว่าเป็นอย่างไร”



เสวี่ยหมิงระทึกใจนิดๆรอคอยปฏิกิริยาของเสี่ยวหลง ยอมรับว่าคงรู้สึกเหงาหงอยยิ่งหากขาดเด็กน้อยนี่ไป ทว่าเกือบเจ็ดวันมานี้ใช้เวลาครุ่นคิดมากพอดู ถึงแม้แยกจากกันวันนี้ใช่ว่าวันหน้าจะไม่ได้พบกัน หากเด็กน้อยนี่ตัดสินใจอยู่กับเยิ่นเสียนฉีเป็นที่มั่น หลังจากเขาสะสางเรื่องราวของตนเรียบร้อย เขาตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมเยียนเสี่ยวหลงให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะบ่อยได้



การแยกจากครั้งนี้ใช่ว่าจะเป็นการตัดสัมพันธ์เสียหน่อย ชั่วชีวิตนี้ยังมีเวลาอีกมาก ไม่วันใดก็วันหนึ่งเขากับเสี่ยวหลงจะได้กลับมาพบกันอีก คิดดังนั้น เขาก็สบายใจขึ้นมากทีเดียว



“ข้าพร้อมแล้วพี่ใหญ่ พร้อมมานานมากแล้ว”



 เสี่ยวหลงหัวเราะฮิฮะ เสวี่ยหมิงเมื่อเห็นว่ามันไม่มีทีท่าอิดออดแต่อย่างใด รอยยิ้มน้อยๆก็ผุดบนใบหน้า เขาไม่สามารถห้ามตนเองไม่ให้ยิ้มได้ ยิ่งไม่อาจปฏิเสธว่าตนเองดีใจเพียงเพราะเสี่ยวหลงตัดสินใจจะเดินทางร่วมกับเขาต่อไป



“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เรารีบนอนกันเถอะพี่ใหญ่ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า”



เสวี่ยหมิงเห็นด้วยกับมันจึงเอนตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับไปในเวลารวดเร็ว

เช้าวันรุ่งขึ้น ไม่คาดว่าเยิ่นเสียนฉีจะมาหาถึงบ้านสกุลฮวาแต่เช้า เสวี่ยหมิงเข้าใจว่าชายผู้นี้มาหาเสี่ยวหลง แต่กลายเป็นว่าจุดประสงค์ที่มาคือตัวเขาเอง ดังนั้นเสวี่ยหมิงจึงไม่ได้ไปตามเด็กน้อยที่กำลังช่วยงานจิปาถะในบ้านสกุลฮวา



 “พ่อหนุ่มเจ้ารับตราของหมู่ตึกเหมยนิรันดิ์แล้วก็ตั๋วเงินเหล่านี้ไปเถอะ”



เสวี่ยหมิงเข้าใจว่าอีกฝ่ายคงมอบมันให้เขาเพียงเพราะไม่อยากให้เสี่ยวหลงลำบาก บางทีการไม่มอบให้เด็กน้อยโดยตรงคงคิดว่าดีแล้วอย่างแน่นอน



“มีหมู่ตึกจำนวนมากที่เป็นพันธะมิตรเราและอยู่ใต้อาณัติของนายน้อยหลงเยี่ยอิ่ง ตราสัญลักษณ์นี่มันจะช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าไม่มากก็น้อย”



หลงเยี่ยอิ่งคือชื่อของศิษย์พี่รองไม่ผิด อาจารย์พอจะเล่าเรื่องในพรรคให้เขาฟังอยู่บ้างว่าหมู่ตึกต่างๆซึ่งเป็นสาขาของพรรคมังกรพิโรธ ถือหางศิษย์ทั้งสามคนต่างกันไป เสวี่ยหมิงหวนระลึกถึงคำพูดของอาจารย์



“ศิษย์เราทั้งสามคน หลี่มู่ไป๋ หลงเยี่ยอิ่ง และอิงเฟย ต่างเป็นศิษย์รุ่นเล็กที่ถูกผลักดันมาจากการรวมตัวของหมู่ตึกในแต่ละกลุ่ม ดังนั้นเจ้าศิษย์สามคนนี้จึงมีขุมกำลังเป็นของตัวเองอยู่มาก เราขอเตือนเจ้าจะทำอะไรให้คิดระวังไว้ให้มาก ตอนนี้คนที่เราไว้ใจให้ดูแลพรรคในฐานะรักษาการณ์ประมุขคือหลงเยี่ยอิ่ง เรื่องราวก็มีเท่านี้”




หลงเยี่ยอิ่งคนนี้จากปากของอาจารย์นับเป็นคนเจ้าเล่ห์ร้ายกาจผู้หนึ่ง เสวี่ยหมิงมีความสงสัยในคำสั่งที่มีต่อเยิ่นเสียนฉีเล็กน้อย แรกเริ่มคนผู้นี้ตั้งใจจะจ้างเขาไปขโมยของ คาดว่าอาจเป็นคำสั่งของศิษย์พี่หลงเยี่ยอิ่งก็เป็นไปได้



“ขอบคุณในความหวังดีของท่านเยิ่นขอรับ ข้าจะขอรับไว้แทนเสี่ยวหลง”



ถึงแม้ไม่อยากจะรับของเหล่านี้มา แต่เพื่อเสี่ยวหลงแล้วก็ช่วยไม่ได้ เมื่อรับมาแล้วเยิ่นเสียนฉีก็ยิ้มชอบใจ ก่อนจะเข้าไปกล่าวลากับเด็กน้อยที่ยังอยู่ในบ้านสกุลฮวา



การเดินทางต่อไปของเสวี่ยหมิงเริ่มต้นได้ช้ากว่ากำหนด เนื่องจากเสี่ยวหลงมีเรื่องคุยกับเยิ่นเสียนฉีอีกมาก ทั้งยังมีเหมยลี่ที่เอาแต่ร้องห่มร้องไห้จนเสี่ยวหลงต้องเข้าไปปลอบ



เสวี่ยหมิงสงสารเสี่ยวหลงนัก เด็กน้อยนี่คงลำบากใจอย่างมาก เพราะถึงแม้ว่าจะไม่มีใจต่อเหมยลี่ แต่ก็ยังต้องรักษาน้ำใจเธอตามคำขอร้องของผู้เฒ่าฮวา เวลาผ่านไปจนช่วงสายในที่สุดเหมยลี่ก็ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆ เสวี่ยหมิงโล่งใจสุดท้ายก็ออกเดินทางได้เสียที



“เจ้าเกลี่ยกล่อมนางอย่างไรนางถึงหยุดร้องไห้” เสวี่ยหมิงถาม



“ก็ไม่อะไรมาก ข้าเพียงแค่บอกนางตามตรงว่า ข้ามีคนในใจอยู่แล้ว ขอให้นางตัดใจจากข้า ก็เท่านั้นเองพี่ใหญ่”



“เจ้ามีคนอยู่ในใจแล้วรึ”



เสี่ยวหลงหัวเราะฮิฮะ เสวี่ยหมิงรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกหยอกล้อ ดังนั้นถึงแม้ว่าจะสนใจเรื่องนี้มากเพียงใดเขาก็จำต้องแสร้งไม่ใส่ใจ เพราะไม่อยากให้เสี่ยวหลงเอาข้อสงสัยของเขามาเล่นสนุก



“พี่ใหญ่อยากรู้ไหมล่า”



“ข้าไม่อยากรู้”



เสี่ยวหลงทำเสียงจิ๊จ๊ะในปาก ท่าทางจะสนุกต่อการได้เย้าแหย่เขา เด็กน้อยเอาแต่เซ้าซี้เขาไปตลอดทางพยายามเกลี่ยกล่อมให้เขาพูดคำว่าอยากรู้ให้ได้ แต่เรื่องอะไรเสวี่ยหมิงจะยอมแพ้ล่ะ รู้อยู่แล้วว่าเป็นแผนการเล่นตลกอย่างหนึ่ง ฉะนั้นจึงตีหน้าขรึมนิ่งเงียบไปตลอดการเดินทางหวังว่าเสี่ยวหลงจะเหนื่อยแล้วหยุดเล่นซนไปเอง



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



มีเรื่องราวที่ต้องเขียนให้เคลียอีกมาก 5555 รู้สึกว่านิยายเรื่องนี้เขียนยาก ช่วงนี้มีเรื่องให้ทำเยอะ



งานเข้าหลายอย่างทำให้ไม่ค่อยมีเวลาว่างแต่จะรีบๆเอามาลงอย่างต่อเนื่องนะจ๊ะ



เม้นเป็นกำลังใจบ้างน้า

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
มีเงื่อนงำซะแล้ว :katai1:

ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เสี่ยวหลงคือพระเอกใช่ไหม

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 :hao7: เดินทางๆ ในที่สุดก็ได้รู้จักศิษย์พี่รองเสียที รอหมิงๆก้าวเข้าสู่พรรคกล้าม เอ้ยยย มังกรพิโรธๆๆ

ออฟไลน์ orange_object

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เรื่องราวเยอะจริง หมิงๆก็ยังคงไม่รู้อะไรต่อไป เสี่ยวหลงดูมีอะไรกับราชสำนักด้วย เหยยยย ดูเป็นคนใหญ่คนโตใช่เล่น ที่อ่านๆมา คนชื่อ หลงๆ อะไรทำนองนี้ชอบเป็นองค์ชาย แกนี่ยังไงกันเสี่ยวหลง แล้วถ้าวันดีคืนดีหมิงๆถูกตาแก่เขี่ยตำแหน่งเจ้าสำนักให้ล่ะ สนุกจริง 55555

รอพบศิษย์พี่ทั้งสองอยู่นะ ตามหมิงๆไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พรรคมังกรพิโรธ ภายในพรรคมีการแก่งแย่งอำนาจ
เสี่ยวหลง ปลอมตัวเข้าไปก็ดีนะ จะได้สืบไปด้วย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ใครทำกันแน่นะอยากรู้จัง

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่15



เดินทางออกจากบ้านสกุลฮวามาได้หลายวัน เสวี่ยหมิงกับเสี่ยวหลงนอนกลางป่ามาหลายคืนแล้ว เนื่องจากในระยะใกล้นี้ยังไม่พบหมู่บ้านแม้แต่ที่เดียว



“พี่ใหญ่ข้ามีเรื่องอยากจะถามท่าน” เสี่ยวหลงเริ่มคำถามหลังจากจ้อเรื่องของตัวเองไม่หยุดมาตลอดทาง



“ที่แท้แล้วท่านต้องการเดินทางไปที่ใดกันแน่ คนเราย่อมต้องมีจุดมุ่งหมาย แต่ตลอดเวลาเกือบสองเดือนที่ข้าได้ใกล้ชิดร่วมทางกับท่าน นอกจากพี่ใหญ่จะไม่ยอมเล่าเรื่องส่วนตัว ข้ายังไม่รู้เลยว่าพี่ใหญ่เดินทางครั้งนี้เพื่อสิ่งใดกันแน่”



เสวี่ยหมิงถอนหายใจ เขารู้อยู่แล้วว่าซักวันเด็กน้อยนี่ต้องมีคำถามเช่นนี้ ตามจริงแล้วทุกอย่างของอาจารย์และตัวเขาควรเก็บไว้เป็นความลับ ทว่าบอกไปแค่เพียงนิดหน่อยคงไม่เป็นไรกระมัง



“ข้าได้รับคำสั่งอาจารย์ให้เดินทางไปยังพรรคซึ่งเป็นที่มั่นแห่งหนึ่งทั้งหมดเพื่อไปฝึกวิชากับศิษย์พี่ซึ่งไม่เคยพบหน้ากันแม้แต่ครั้งเดียว”

“ตายล่ะ ท่านไม่กลัวว่าท่านจะเข้ากับพวกเขาไม่ได้หรือพี่ใหญ่”



เสี่ยวหลงแสร้งทำเป็นสงสัย อันที่จริงตอนนี้มันเริ่มจะกังวลเรื่องของพี่ใหญ่ของมันไม่น้อย แผนการของมันคือลอบเข้าไปพร้อมกับพี่ใหญ่จับตาดูพฤติกรรมของหลี่มู่ไป๋กับอิงเฟย ทว่าถึงแม้จะวางแผนเอาไว้ดิบดี แต่ยิ่งนานวันมันยิ่งปวดใจนักที่ต้องหลอกลวงหลอกใช้พี่ใหญ่ของมันจนถึงขั้นนั้น



มันมีความคิดที่จะเปิดเผยความจริงต่อพี่ใหญ่ ทว่าด้วยหน้าที่ที่มันได้รับไว้มันไม่สามารถเอาตัวเข้าไปเสี่ยงมากกว่านี้ได้ อีกอย่างการที่เสวี่ยหมิงไม่รู้เรื่องราวของมัน ทุกอย่างจะง่ายดายยิ่ง คนซื่อๆอย่างพี่ใหญ่หากให้โกหกว่าไม่รู้เรื่องของมันอาจจะทำได้ยาก ถึงตอนนั้นคงส่งผลเป็นอันตรายให้แก่พี่ใหญ่มากกว่าที่มันคาดไว้ก็เป็นได้



ตอนนี้การที่มันไม่สามารถรู้การเคลื่อนไหวภายในพรรคมังกรพิโรธก็นับว่าอันตรายมากอยู่แล้ว หากว่ามันกลับไปกับศิษย์น้องที่ถือจดหมายลับซึ่งกำหนดความเป็นไปของพรรคมังกรพิโรธเอาไว้ได้ในฐานะหลงเยี่ยอิ่งอีก เกรงว่าศัตรูจะลงมืออำมหิตปลิดชีวิตทั้งมันและพี่ใหญ่ในทันที



ถึงแม้จะกลัวว่าจะถูกลงมือฉับพลัน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันหาได้หวาดกลัวอันตรายไม่ ด้วยฝีมือของมันที่บรรลุหนึ่งอสูรพิชิตเทวะไปจนถึงขั้นสูงสุดแล้ว ภายในพรรคไม่มีผู้ที่สามารถจัดการมันลงได้ง่ายๆ พี่ใหญ่ของมันเองก็คงไม่ต่าง มันแน่ใจว่าเสวี่ยหมิงสำเร็จวิชาจนถึงขั้นสูงสุดแล้ว



“ต้องกลัวอันใด ข้าไปเพื่อฝึกวิชา หากพวกเขาไม่สอน ข้าก็แค่เดินทางกลับไปหาอาจารย์เพียงเท่านั้น หาได้มีเรื่องใหญ่ไม่”



เสี่ยวหลงพบพี่ใหญ่ของมันครั้งแรกที่เมืองตงถิง มันคาดว่าตาเฒ่าจูเองก็ไม่น่าจะอยู่ไม่ไกลจากเมืองนั้น ดังนั้นมันขอเพียงแค่ตามติดดูแลเสวี่ยหมิงเรื่อยไปคาดว่าไม่นานนักคงได้เจอตาเฒ่าจูไม่วันใดก็วันหนึ่ง



เรื่องการหายตัวไปของตาเฒ่าก็ดี เรื่องที่เงาของมันถูกสับเปลี่ยนก็ดี การที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงในระยะเวลารวดเร็วอย่างนี้คาดว่าคนทำต้องวางแผนมานาน เป็นความผิดของมันเองที่ประมาทคิดว่าสถานการณ์ในพรรคทุกอย่างเรียบร้อยอยู่ในมือโดยสมบูรณ์



นอกจากนั้นมันยังตำหนิตนเองที่เกิดความผูกพันต่อตาเฒ่า นึกเป็นห่วงจนต้องออกตามหา หากมันเลือกที่จะเมินเฉยปล่อยให้ลูกน้องออกมาจัดการมันเองก็น่าจะยังอยู่รักษาการณ์ในพรรค ไม่สิ อาจเป็นโชคดีก็ได้ หากมันยังอยู่ในพรรคไม่คาดว่าชะตากรรมจะเป็นอย่างไร



ตามจริงแล้วเงาของมันเองก็ได้รับการฝึกปรือหนึ่งอสูรพิชิตเทวะจนถึงขั้นเจ็ด ไม่ว่าฝีมือหรือมันสมองยังจัดอยู่ในขั้นยอดบุคคล แน่นอนว่าความจงรักภักดียิ่งเชื่อถือได้ บางทีอาจถูกจัดการด้วยแผนการบางอย่าง ระหว่างทางกลับไปยังพรรคมันจะต้องสืบหาข่าวสารจากหมู่ตึกต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้



“ถึงตอนนั้นพี่ใหญ่จะให้ข้าติดตามท่านไปหรือไม่”



เสวี่ยหมิงนิ่งคิด ตามจริงเขาตั้งใจจะฝากฝังเสี่ยวหลงไว้กับศิษย์พี่ที่พรรคมังกรพิโรธ ทางหนึ่งคือให้พรรคตามหาบิดาของเสี่ยวหลงให้ อีกทางหนึ่งคือเพื่อให้เด็กน้อยเจริญก้าวหน้า ได้ฝึกฝนวิชาของพรรคทั้งยังมีตำแหน่งในพรรคบ้างไม่มากก็น้อย



ทว่าด้วยนิสัยขี้เล่นซุกซนของเสี่ยวหลง อาจทำให้ผิดใจกับผู้อื่นก็เป็นได้ คิดได้ดังนั้นก็นึกห่วงเสียเหลือเกิน เขาไม่กล้าปล่อยให้เด็กน้อยนี่อยู่ตามลำพังเสียแล้ว คาดว่าคงมีแต่ต้องยอมให้เด็กน้อยติดสอยห้อยตามต่อไป



“หากว่าเจ้าต้องการย่อมสามารถตามติดข้าไปได้ อันที่จริงอาจจะดีกับเจ้ามากกว่าการถูกฝากฝังไว้กับพวกศิษย์พี่”



“พี่ใหญ่ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลยว่าท่านจะเดินทางไปหาศิษย์พี่ที่ใด” มันถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ



“พรรคมังกรพิโรธ”



“ข้าก็คิดอยู่แล้วว่าพี่ใหญ่ต้องเกี่ยวข้องกับพรรคมังกรพิโรธ ก็วิชาที่ท่านสอนมันเป็นวิชาของพรรคที่ท่านพ่อข้าสอนให้ข้า”



“เจ้าฉลาดมาก” เสวี่ยหมิงกล่าวชมเฉยเสี่ยหลง เด็กน้อยทำแค่เพียงยักไหล่



“ใครก็คาดเดาได้ทั้งนั้นไม่จำเป็นต้องฉลาดนักหรอกพี่ใหญ่ ท่านอย่าได้ชมข้านักเลย” เสวี่ยหมิงแทบไม่อยากเชื่อหู เสี่ยวหลงถ่อมตัวเป็นด้วยกระนั้นหรือ



“เจ้าเองก็ถ่อมตัวเป็นด้วยนะ”



 เสวี่ยหมิงใช้สายตาตื่นตะลึงจ้องมองเสี่ยวหลงอย่างไม่ลดละ เด็กน้อยเมื่อรู้สึกคล้ายโดนหยามหมิ่นก็ขยี้เท้ากับพื้นทำตัวประหนึ่งอิสตรีก็ไม่ปาน เสวี่ยหมิงเห็นมาจนชินตา



“พี่ใหญ่ๆๆๆๆท่านพูดจาร้ายกาจอีกแล้ว” เสี่ยวหลงตรงเข้ามาใช้กำปั้นทั้งสองข้างทุบลงบนแขนเขาอย่างแง่งอน



“ท่านทำราวกับว่าข้าเป็นคนชอบพูดจาโอ้อวด”



“ไม่จริงรึ บ่อยครั้งที่เจ้าชอบอวดโม้ตัวเอง บ่อยครั้งพอข้าชม เจ้าก็พองตัวทั้งสรรเสริญตัวเอง อย่างนี้ไม่ให้ข้าคิดว่าเจ้าถ่อมตัวเป็นได้อย่างไร”



“พี่ใหญ่ก็ข้าก็แค่อยากจะดูเก่งในสายตาท่านเท่านั้นแหละ ปกติข้าไม่ใช่คนอย่างนี้เลย”



 จริงอย่างที่มันกล่าว โดยปกติมันไม่ใช่คนเล่นหัวกับใครอย่างนี้ มีเพียงเสวี่ยหมิงเท่านั้นที่มันเปิดเผยทั้งยังปล่อยอารมณ์ตามใจชอบ การที่มันเอาแต่โอ้อวดต่อหน้าพี่ใหญ่ มันเพียงแค่ต้องการให้ทุกอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่เสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น นานเท่าไหร่แล้วนะที่มันไม่ได้เปิดเผยตัวตนเช่นนี้กับผู้อื่น



นับตั้งแต่มันจากบิดามารดามา มันก็ถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่โดยถูกส่งเข้าไปในหมู่ตึกเหมยนิรันดิ์ เยิ่นเสียนฉีเป็นผู้หนึ่งที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อมัน ทั้งยังผลักดันมันให้ไปถึงจุดมุ่งหมาย ตัวมันถูกเลือกจากเด็กที่หน่วยก้านดีจากสาขาต่างๆมากมาย สุดท้ายมีเพียงมันศิษย์พี่หลี่มู่ไป๋และศิษย์น้องอิงเฟยที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหฤโหดจนสามารถมาเป็นศิษย์เอกของตาเฒ่าจูได้



ทุกอย่างดำเนินไปได้สวยมันเองก็ได้เป็นถึงผู้รักษาการพรรค ตัวมันเองคาดการณ์ว่ามันคงได้เป็นประมุขพรรครุ่นต่อไปตามจุดมุ่งหมายเดิม ทว่าตอนนี้ทุกอย่างกลับไปในทางย่ำแย่



 ตามจริงมันสามารถรายงานไปถึงเหนือหัวเพื่อขอยืมกองกำลังทหารจากรัฐฉินแก้ปัญหาข้อนี้ได้ในพริบตา ทว่ามันเองกลับไม่อยากทำเช่นนั้น หากต้องพึ่งผู้อื่นให้มาจัดการทุกสิ่ง มันขอเลือกลองแก้ไขด้วยตัวเองดูก่อน ไม่อย่างนั้นการที่มันจากบิดามารดามาสู่หนทางลำบาก ไม่เป็นการกระทำที่สูญเปล่ามาตลอดหลายปีอย่างนั้นหรือ



การที่มันต้องกระทำในสิ่งที่อ้อมค้อมเช่นนี้ แต่แรกเริ่มเดิมทีมันเป็นเพราะตาเฒ่าจูนั่นแหละ ตั้งแต่แรกพรรคมังกรพิโรธถูกตั้งโดยแม่ทัพเอกแห่งรัฐฉิน มีไว้เฝ้าระวังชายแดนปกป้องมาตุภูมิมิให้ศัตรูบุกเข้ายึดพื้นที่สำคัญของรัฐฉินโดยง่าย



หลายร้อยปีมาแล้วที่พรรคมังกรพิโรธเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพขับไล่กองทัพของรัฐหลีออกไป การมีอยู่ของพรรคมังกรพิโรธทำให้รัฐหลีไม่สามารถนำทหารผ่านเส้นทางลับอันง่ายดาย จำต้องหันไปใช้เส้นทางที่ทุรกันดารและลำบากอย่างการผ่านภูเขาใหญ่และป่าทึบแทน



หากไม่เป็นอย่างนั้นก็จำต้องยกทัพผ่านรัฐฉู่ซึ่งบัดนี้เป็นพันธมิตรเหนี่ยวแน่นกับรัฐฉินด้วยการส่งเชื้อพระวงศ์มาเชื่อมสัมพันธ์อยู่ตลอดทุกรัชสมัย



แต่ไหนแต่ไรมารัฐหลีกับรัฐฉินถูกขวางกั้นด้วยรัฐเล็กๆอย่างรัฐฉู่ส่วนหนึ่ง รัฐหลีอุดมไปด้วยเพชรพลอยและทองจำนวนมากก็จริง แต่ขาดทรัพยากรอันสมบูรณ์ และรัฐหลีก็ไม่มีทางออกสู่ทะเลดังเช่นรัฐฉิน ดังนั้นจึงมุ่งมั่นที่จะบุกยึดรัฐฉินมาแต่ไหนแต่ไร



หลายรัชสมัยที่พรรคมังกรพิโรธอยู่เคียงข้างราชสำนักอย่างลับๆ หากประมุขพรรคก่อนหน้าจูเยว่เสวียนไม่เพี้ยนไปจนเลือก ตาเฒ่านี่มาเป็นประมุขพรรคคนปัจจุบัน ราชสำนักคงไม่วุ่นว่ายต้องทำเรื่องอ้อมค้อมเช่นนี้



ประมุขคนก่อนหน้าตาเฒ่าเดิมทีเป็นองค์ชายลำดับที่สิบสามของรัฐฉินถูกส่งมาที่หุบเขาหมื่นปีเพื่อรับตำแหน่งประมุขพรรคโดยเฉพาะ ไม่คาดว่าประมุขพรรคผู้นี้จะตั้งตาเฒ่าจูซึ่งเป็นบุตรลับๆขึ้นเป็นประมุขแทนตัวเอง



ราชสำนักก็หาได้ตำหนิองค์ชายสิบสามไม่ องค์ชายสิบสามได้แนะนำตัวตาเฒ่าจูอย่างเป็นทางการแก่ราชสำนักเช่นกัน ทุกอย่างคล้ายจะเป็นไปโดยง่าย แต่ตาเฒ่าจูก็ทำในสิ่งที่นอกเหนือจากที่คาด มันประกาศรับคัดเลือกเหล่าเด็กน้อยจากหมู่ตึกเพื่อที่จะนำมาเป็นประมุขแทนตนเอง



ร้อนไปถึงองค์ชายสิบสามซึ่งชราภาพมากแล้วต้องมาคอยไกล่เกลี่ย สุดท้ายตาเฒ่าจูยังยืนกรานทำในสิ่งที่ต้องการ ดังนั้นราชสำนักจึงส่งคนไปลอบสังหารตาเฒ่าจูอยู่บ่อยครั้ง ตาเฒ่าจูเองก็รู้ตัวดี



ทุกอย่างดำเนินไปจนขั้นคล้ายแตกหัก แต่คาดไม่ถึงเมื่อถึงยามที่รัฐหลีส่งทหารมาประชิด จูเยว่เสวียนทำหน้าที่ของผู้ภักดีโดยไม่บกพร่อง มันขับไล่ทหารหลีออกไปอย่างชาญฉลาด ทำให้ผู้มีอำนาจสูงสุดแห่งรัฐฉินเห็นความดีงามของมัน



สุดท้ายผู้มีอำนาจยังต้องทำตามการละเล่นบ้าๆของตาเฒ่า เรื่องนี้เป็นเพราะท่านผู้นั้นถูกอกถูกใจในผลงานและลักษณะนิสัยอันกว้างขวางทั้งชาญฉลาดของตาเฒ่า ดังนั้นนอกจากจะปล่อยให้ทำตามใจทั้งยังยกตำแหน่งขุนนางอย่างลับๆ หากแต่ตาเฒ่าโง่เง่ากลับปฏิเสธไปอย่างน่าเสียดาย



แล้วเป็นอย่างไรล่ะผลจากการคัดเลือกศิษย์มั่วซั่วตามใจอย่างไม่ไว้หน้า ไม่รู้ว่าบ่มเพาะตัวอะไรขึ้นมาบ้าง สุดท้ายตาเฒ่าต้องระหกระเหินอยู่อย่างหลบซ่อน แถมตัวมันเองตอนนี้ยังไม่รู้ว่าพรรคมังกรพิโรธเวลานี้อยู่ในสภาพเช่นใด



ถึงตอนนี้ถึงแม้อยากจะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แต่ก็ใช่เหตุผลที่มันจะละเลยไม่ส่งจดหมายไปยังราชสำนัก เสี่ยวหลงส่งจดหมายไปเมื่อสองวันก่อนคาดว่าไม่นานนักคงได้จดหมายตอบกลับมา



“เชื่อข้าสิพี่ใหญ่”



เสวี่ยหมิงไม่รู้ว่าจะเชื่อเด็กน้อยนี่ดีหรือไม่ เห็นวันๆเอาแต่คิดจะเล่นสนุกทั้งยังอวดตัวจนเป็นเรื่องปกติ ทว่ากลับไม่คิดตำหนิ เพราะเด็กน้อยนี่มีความสามารถจริงเห็นได้จากการฝึกวรยุทธที่รุดหน้าอย่างรวดเร็ว จนน่าตกใจ

           

   “ช่วยด้วยๆ”



ขณะที่จะยกมือขึ้นลูบศีรษะของเสี่ยวหลง เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือก็ดังขึ้น ไม่ไกลนักปรากฏหญิงสาวผู้หนึ่งควบม้ามาอย่างเร็วโดยมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งไล่ตามมาติดๆ

         

      “ใครก็ได้ช่วยที”



 ระหว่างที่ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ พวกที่ไล่ล่าตามมาก็ใช้ธนูยิงลูกศรเข้าใส่บั้นท้ายของม้า เจ้าม้าร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะเริ่มอาละวาดสลัดหญิงสาวลงจากหลัง เสวี่ยหมิงพลิ้วกายเข้าไปรับไว้ได้อย่างทันท่วงที



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


ตัวละครใหม่เริ่มโผล่ 55555 หวังว่าจะยังตามอ่านตามเม้นกันอยู่น้า



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
ชอบแนวจีนกำลังภายในแบบก้าวใจ จะรอติดตามตอนต่อไปจ้า
ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ ajkub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากอ่านต่ออย่างที่สุด ขอบคุณมากครับที่เอามาลงให้อ่านสนุกและน่าติดตามมาก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตามต่อ  :ling1: :ling1: :ling1:
หลงเยี่ยอิ่ง เสวี่ยหมิง  :mew1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ความจริงเริ่มเปิดเผยแล้ว

ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
กลัวเสี่ยวหลงจะสาวแตกเข้าสักวัน :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
บางทีเสี่ยวหลงอาจจะเป็นเคะหรือเปล่า55555 ล้อเล่นน้า

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 :a5: แย่แล้วตัวละครใหม่มา แค่นี้ยังมึนๆกับชื่ออยู่เลย5555 ถ้าออกมาบ่อยๆก็คงจะจำได้เอง เนอะ(คุยกะใครฟะ) :hao7:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อื้อหืออออ ที่มาที่ไปของพรรคซับซ้อนจริง ๆ

เสวี่ยหมิงถูกส่งเข้าพายุแท้ ๆ

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่16

           

   “ส่งนางมาให้พวกเราเดี๋ยวนี้”

           

   หนึ่งในกลุ่มคนที่ไล่ตามตะโกนสั่ง เสวี่ยหมิงไม่ทราบว่าเด็กสาวในอ้อมแขนถูกตามล่าเพราะเหตุใด ชั่วเวลาที่สบตากัน คนในอ้อมกอดก็ร้องขอความช่วยเหลือจากเขา

         

     “โปรดช่วยเหลือข้าทีเถอะคุณชาย”

       

       “เจ้าไปทำอะไรมาถึงถูกตามล่าเช่นนี้”



เสวี่ยหมิงไม่ลงมือช่วยเหลือใครบุ่มบ่าม เขาต้องการที่มาที่ไปจากเด็กสาว ทว่ากลุ่มคนซึ่งไล่ตามกลับไม่รอเวลาชิงลงมือต่อยตีกับเขาเสียก่อน ดังนั้นเสวี่ยหมิงจึงส่งตัวแม่นางน้อยให้เสี่ยวหลงที่อยู่ด้านหลังด้วยการผลักออกเบาๆแล้วรับมือกับชายสามคนที่กลุ้มรุมเข้ามา



เมื่อรับมือคนทั้งสาม ดูจากฝีมือที่ต่ำชั้นกว่ามาก เสวี่ยหมิงจึงออมมือเว้นไมตรี เขาลงมือเพียงแค่หนึ่งคนต่อกระบวนท่า ทำแค่ออกหมัดและซัดฝ่ามือ ชายทั้งสามก็ล้มกลิ้งลงไปไม่เป็นท่า คนเหล่านั้นต่างแสดงสีหน้าตื่นตะลึงก่อนจะพากันล่าถอยจากไป



“ขอบคุณคุณชายมากที่ช่วยข้าไว้”



เด็กสาวปริศนาประสานมือคำนับ พร้อมทั้งส่งสายตาเป็นประกายมาให้เสวี่ยหมิง เด็กสาวนี่คงนึกชอบพอพี่ใหญ่ของมันแต่แรกเห็น เสี่ยวหลงยอมรับว่าพี่ใหญ่ของมันหน้าตาหมดจดงดงามท่วงท่าหรือมารยาทก็ดีพร้อมจนน่าชื่นชม ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีหญิงสาวมาชอบพอ กระนั้นมันกลับไม่ชอบใจเอาเสียเลยที่เด็กสาวนี้มองพี่ใหญ่ของมันด้วยดวงตาเช่นนี้



“อ่ะแฮ่ม มองอย่างนี้คงชอบพอพี่ใหญ่ของข้าใช่หรือไม่” เสี่ยวหลงตั้งใจจะเย้าแหย่ให้นางได้อาย แต่แทนที่นางจะอายพี่ใหญ่กลับร้อนตัวแทนเสียนี่



“อย่าพูดเหลวไหล เสี่ยวหลง นางเพิ่งพบข้าครั้งแรกจะชอบพอข้าได้อย่างไร”



“ถูกของเขาแล้วล่ะคะ ข้าในตอนนี้ยอมรับว่าถูกใจท่านไม่มากก็น้อย” เสวี่ยหมิงผงะไม่ทราบว่าจะทำสีหน้าเช่นไร เด็กสาวนี่พูดจาได้หมิ่นเหม่ยิ่งนัก เกิดมาเขาไม่เคยถูกสตรีที่ไหนพูดจาด้วยเช่นนี้มาก่อน



ในทางกลับกันเสี่ยวหลงยิ่งรู้สึกว่าเด็กสาวนี้ช่างกล้านัก ถึงกับพูดจาเกี้ยวพาราสีพี่ใหญ่ของมันซึ่งๆหน้า มันยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด ยิ่งพี่ใหญ่แสดงสีหน้าขวยเขินกระดากอายนิดๆมันยิ่งเกิดความหวงแหนขึ้นมาอีกขั้น เสี่ยวหลงทำเสียงจิ๊จ๊ะในปากตั้งใจว่าจะประกาศความเป็นเจ้าของทั้งที่มันเองก็ยังไม่ใช่



“ถูกใจนะได้อยู่ แต่หากอยากได้มาเป็นเจ้าของเห็นจะไม่ได้ เพราะพี่ใหญ่เป็นของข้าผู้นี้แล้วนะจะบอกให้”



เสี่ยวหลงประกาศพลางยักคิ้วหลิ่วตาให้เด็กสาว เสวี่ยหมิงอับอายอย่างยิ่งยวด ไม่คาดว่ามันจะกล่าวไร้สาระถึงเพียงนี้ ดังนั้นจึงลงไม้ลงมือด้วยการบิดหูเจ้าตัวแสบอย่างไม่ออมมือ



“อย่าเข้าใจผิดนะแม่นาง น้องชายของข้าพูดเหลวไหล เช่นนี้จนเคยตัว”



“เหลวไหลอันใด เราสองคนนอนกอดกันทุกคืน ผิดผีกันถึงขนาดนี้ข้ายังแต่งงานกับใครได้อีก”

ตอนนี้เองที่เด็กสาวเอามือปิดปากใบหน้าที่สวยงามบ่งชัดว่าประหลาดใจและสนอกสนใจในขณะเดียวกัน



“ได้ยินมาจากบิดาเหมือนกันว่ามีบุรุษไม่น้อยที่รักใคร่ชอบพอกัน ข้าเพิ่งได้เห็นก็วันนี้”



“ใช่แล้วๆ พี่ใหญ่กับข้าเราสองคน.....โอ้ย...พี่ใหญ่อย่าลงมือหนักนักซี้...”



เสวี่ยหมิงไม่เห็นว่าตนลงมือหนักที่ตรงไหน แค่ทุบตีให้หยุดพูดไร้สาระนิดหน่อย หากเด็กน้อยนี่ยังไม่หยุดพ่นพิษออกจากปากสุนัขเห็นทีว่าจะต้องเอาจริง เมื่อเสี่ยวหลงหยุดวาจาได้เขาก็รีบเปลี่ยนเรื่องเสียใหม่ ยังมีเรื่องที่ยังติดใจเกี่ยวกับเด็กสาวผู้นี้อยู่



“เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามข้าเลยนะแม่นางเจ้าไปทำอะไรมาถึงได้ถูกตามล่า”



“เรื่องนั้น”



อาการครุ่นคิดชั่วเสี้ยวไม่หลุดไปจากสายตาของเสวี่ยหมิงกับเสี่ยวหลง สำหรับกับเสี่ยวหลงที่ชั่วชีวิตคอยจับผิดผู้คนมาตลอด มันเริ่มนึกอยากให้พี่ใหญ่สลัดเด็กหญิงนี่โดยเร็วก่อนที่นางจะนำเรื่องเดือดร้อนมาให้



“หากแม่นางไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร พวกเราขอตัวก่อน คงต้องแยกจากกันตรงนี้”



เสวี่ยหมิงรีบสาวเท้าจากมาโดยมีเสี่ยวหลงที่พึงพอใจจนออกนอกหน้าตามติด ความจริงเขาไม่อยากปล่อยเด็กสาวทิ้งไว้เพียงลำพัง จะว่าเขาใจดำโหดร้ายอย่างไรก็ช่าง แต่แค่เสี่ยวหลงคนเดียวก็เป็นภาระมากพออยู่แล้ว ดังนั้นจึงพยายามไม่มองใบหน้าที่แสดงออกถึงความผิดหวังของเด็กสาวให้นานเกินไป



เป็นเวลาสองชั่วโมงนับจากกล่าวลากับเด็กสาวแปลกหน้า หลังจากเดินทางออกจากป่ามายังทุ่งหญ้าระหว่างทางเริ่มพบผู้คนเดินทางประปรายคาดว่าอีกไม่นานคงใกล้ถึงเมืองหรือหมู่บ้าน



“ชิ นางต้องแอบตามเรามาแน่ๆพี่ใหญ่”



เสวี่ยหมิงไม่หันกลับไปมอง แต่จากเสียงฝีเท้าที่ตามหลังมา ถึงจะเว้นระยะห่างแต่แน่ใจว่าตามติดมาอย่างไม่ลดละ เกี่ยวกับเรื่องนี้เสี่ยวหลงดูจะไม่ชอบใจเอามากๆมันเดาะลิ้นเสียงจิ๊จ๊ะหลายต่อหลายครั้ง



“เฮ้แม่นาง เจ้าไม่ต้องหลบก็ได้นะพวกเรารู้แล้วว่าเจ้าตามเรามา”



 ช่างน่าตายนัก เสวี่ยหมิงไม่ต้องการให้เสี่ยวหลงเอ่ยเรียกนาง นางจะมีปฏิกิริยาเช่นไรนะ ด้วยความอยากรู้เขาจึงหันไปมอง เด็กสาวแปลกหน้าตอนนี้แสร้งทำเป็นเด็ดดอกหญ้าข้างทาง เสวี่ยหมิงไม่ทราบว่านางตามเขามาเพราะเหตุใด กระนั้นกลับไม่ได้ขับไล่ ได้แต่ถอนหายใจหนักๆแล้วสาวเท้าเดินหน้าต่อไป



“นี่เจ้าเลิกตามเราได้แล้วนะแม่ตัวดี เจ้าชอบพี่ใหญ่มากนักหรือไง” เสี่ยวหลงยังหันไปตะโฏนถามระหว่างออกเดิน เสวี่ยหมิงจำต้องทุบตีที่หัวของมันเบาๆเป็นการตักเตือน



“เจ็บนะพี่ใหญ่”



“เจ็บสิดี หากไม่เจ็บเจ้าคงไม่เลิกยุ่งกับนางใช่หรือไม่ ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเจ้าถึงได้ตั้งท่าเป็นศัตรูกับนางนัก”



“ก็ข้ากลัวพี่ใหญ่สนใจนางมากกว่าข้านี่นา”



 นั่นเป็นเพียงความรู้สึกส่วนหนึ่งที่กระตุ้นเร้ามันเท่านั้น อีกส่วนคือมันคาดว่านางจะนำเรื่องเดือดร้อนไม่ทางใดทางหนึ่งมาให้พี่ใหญ่ของมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่ใหญ่เป็นคนใจดีและขี้สงสาร การที่พี่ใหญ่ยอมรับมามันมาดูแลเป็นข้อพิสูจน์ชัดเจน หากมันไม่ลงมือจัดการกับนางไม่นานนักเด็กหญิงนี่คงมาเกาะติดกับพี่ใหญ่ของมันประหนึ่งเห็บตัวหนึ่ง



“อีกอย่างนางไม่น่าไว้ใจ พี่ใหญ่ไม่รู้สึกหรือ”



แน่นอนว่าเขาเองก็รู้สึก แต่เวลานี้ไม่อาจสลัดคำพูดของเสี่ยวหลงออกจากห้วงความคิดได้ เด็กน้อยนี่ยึดติดต่อเขามากถึงเพียงนี้เชียวรึ กี่ครั้งแล้วนะที่เขาคันยุบยิบในหัวใจเพราะเด็กน้อยนี่



“นางก็เดินทางของนาง เราก็เดินทางของเรา อย่าได้สนใจเลย”



“แต่ถ้าหากนางตามเรามาไม่เลิกล่ะพี่ใหญ่ ข้าว่าไปพูดกับนางให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้เลยดีกว่า”



“เสี่ยวหลง หากว่าเจ้ายังไม่เชื่อฟังพี่ใหญ่อีก ข้าจะถือว่าเจ้าไม่อยากเดินทางร่วมกับข้านะ”



ได้ผลเขาหยุดความคันไม้คันมือของเสี่ยวหลงได้อย่างไม่มีที่ติ เด็กน้อยหยุดโวยวาย แต่ยังไม่ยอมเลิกหันไปมองเด็กสาวที่แอบตามมาเป็นระยะๆ อย่างน้อยก็ทำให้เสี่ยวหลงเลิกหาเรื่องคนอื่นหรือพูดจาผล่อยๆได้ เสวี่ยหมิงถึงจะยังไม่บรรลุจุดประสงค์แต่ก็นับว่าทำได้ดี เสี่ยวหลงสงบปากไม่นานก็เริ่มต้นพูดไร้สาระอีกระลอกหนึ่ง ดีแล้วที่เด็กน้อยลืมเรื่องเด็กสาวไปได้



เวลาบ่ายแก่ๆ ในที่สุดก็พบกับโรงเตี๊ยมเล็กๆ เสวี่ยหมิงเห็นว่าควรจะพักเสียหน่อยก่อนออกเดินทางต่อ เขาเดินนำเสี่ยวหลงไปนั่งลงบนเก้าอี้และโต๊ะที่จัดวางไว้ก่อนจะเรียกเสี่ยวเอ้อมาสั่งอาหาร



“บะหมี่ สองชามแล้วก็ไก่ย่างอีกหนึ่งตัว เอ่อนี่เสี่ยวเอ้ออีกนานไหมกว่าจะถึงเมือง” เสวี่ยหมิงถาม



“อีกไม่ไกลขอรับเดินทางอีกวันสองวันก็ถึงเมืองเหวยกังแล้ว”



เมื่อไม่มีอะไรที่อยากทราบแล้วเสวี่ยหมิงก็ปล่อยให้เสี่ยวเอ้อไปทำงาน ไม่นานนักอาหารก็มาถึงที่โต๊ะ เสี่ยวหลงจ้องเชม็งไปยังโต๊ะที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก เสวี่ยหมิงพบว่าเด็กสาวที่ตามเขามาตลอดทางนั่งอยู่ที่ตรงนั้น



“พี่ใหญ่คิดว่านางจะตามเราไปจนถึงเมื่อไหร่”

เสวี่ยหมิงได้แต่ถอนหายใจ



“หากนางอยากตามก็ให้นางตาม เราก็ทำเรื่องของเราไปใยต้องสนใจนางนัก”



เสี่ยวหลงท่าทางคับข้องใจแต่ก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าไปอย่างเงียบๆ มันคาดว่าเด็กหญิงนี่ต้องนำพาโชคร้ายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แล้วก็คาดไม่ผิด มีกลุ่มคนจำนวนเก้าคนอาวุธครบมือควบม้ามาจากทางทิตใต้จนฝุ่นตลบ หากเดาไม่ผิดคงมาตามเด็กหญิงนี่อีกกระมัง



“ตามเรากลับไปเสียดีดีคุณหนู” เมื่อลงจากหลังม้าครบทุกคน ชายซึ่งเป็นหัวหน้าก็ประกาศเจตนา มันย่างสามขุมตรงเข้าหาเด็กสาว ทว่านางกลับวิ่งโผเข้ามาหลบหลังของเสวี่ยหมิง



“พี่ใหญ่ช่วยข้าด้วย” เด็กสาวแอบอ้างเรียกเขาเป็นพี่ใหญ่ ตามจริงจะทำนิ่งเฉยไปก็ได้ ทว่า...



“เฮ้ยแกใช่ไหมที่ทำร้ายคนของเรา”



เสวี่ยหมิงจะทำนิ่งเฉยก็ไม่ได้ เพราะหนึ่งในคนที่มาด้วยคือคนในกลุ่มที่เขาขับไล่ไปเพื่อเด็กสาวไม่ผิด ยิ่งพวกเดียวกันยืนยันว่าเขาเป็นศัตรู พวกมันก็พากันมาห้อมล้อมเขากับเสี่ยวหลง



“พี่ใหญ่ให้ข้าจัดการเถอะ” เสี่ยวหลงขานอาสา



“ระวังตัวด้วยล่ะ” จากการประมือกันคราวก่อนเสวี่ยหมิงคาดเดาว่าฝีมือของพวกมันอ่อนด้อยกว่าเสี่ยวหลงหลายขั้นดังนั้นจึงกล้าปล่อยให้เด็กน้อยไปต่อยตีแทนที่จะลงมือเอง



“บอกมาตามตรงเจ้าตามพวกเรามาทำไม” ขณะที่เสี่ยวหลงจัดการกับพวกอันธพาลทีละคนเสวี่ยหมิงก็คาดคั้นเอาความจริงจากเด็กสาว นางไม่เพียงมาหวาดกลัวต่อสายตาของเขายังกล้ายื่นข้อเสนอว่าจ้างตามใจชอบ



“ข้าเห็นว่าท่านหน่วยก้านดี ก็เลยจะว่าจ้างท่านพาข้าไปส่งที่เมืองเหวยกัง ไม่คาดว่าท่านนอกจากจะไม่ฟังข้าก่อนยังทิ้งข้าไว้ ข้าตัวคนเดียวมีทางอื่นให้เลือกนอกจากเดินตามท่านมาเพราะคิดว่าปลอดภัยด้วยหรือ”



เสวี่ยหมิงนิ่งเงียบ เขากำลังครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไรดีกับเด็กสาว การนิ่งเงียบของเขาคงไปกระตุ้นให้นางเกิดความลนลาน นางรีบหยิบตั๋วเงินจำนวนมากออกมาให้แก่เขา



“เอานี่ ตั๋วเงินจำนวนนี้น่าจะพอแก่ค่าจ้างท่านนะ”



“......”



“นี่...ท่านจะไม่สนใจข้าเลยหรือ ท่านเอาแต่นิ่งเฉยแบบนี้มันทำให้ข้ากลัวนะ”



ในที่สุดเสวี่ยหมิงก็ถอนหายใจออกมา ไม่รู้นะว่านางไปทำอะไรให้ถูกตามล่า จะปล่อยทิ้งไว้ก็ได้ แต่นางก็คงจะตามเขามาอีก สู้รับว่าจ้างนางแล้วไปส่งตามที่นางต้องการเรื่องคงจะจบลงง่ายๆ



“เข้าใจล่ะ ข้าตกลงรับงาน”



“จริงนะ” เด็กสาวมีท่าทางดีใจจนออกนอกหน้า แต่เสี่ยวหลงนี่สิ หลังจากจัดการกับพวกศัตรูจนล่าถอยไปหมด เด็กน้อยก็บ่นอุบอิบไม่หยุดหาว่าเขาตัดสินใจโดยพละการ



“พี่ใหญ่ไม่ถามข้าก่อนที่จะตัดสินใจ พี่ใหญ่รับงานนางทั้งที่ไม่รู้จักชื่อแซ่นางเลยด้วยซ้ำ”



“ข้าชื่ออู่เม่ยเหนียง” อู่เม่ยเหนียงบอกล่าวนามก่อนจะตรงเข้ามาเกาะแขนเสวี่ยหมิงอย่างถือวิสาสะ



“พี่ใหญ่ช่วยบอกนามให้ข้ารู้หน่อยสิคะ”



พี่ใหญ่ของมันตกใจเล็กน้อยที่ถูกถึงเนื้อถึงตัว เด็กหญิงนี่ช่างฉอเลาะนัก ขณะพยายามออเซาะพี่ใหญ่ก็ส่งสายตาประหนึ่งล้อเลียนมาที่เขา เฮอะคิดหรือว่าคนอย่างมันจะยอมแพ้ เสี่ยวหลงรี่เข้าไปเกาะแขนข้างที่เหลืออย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ



“พี่ใหญ่ของข้ามีนามอันไพเราะว่าเสวี่ยหมิง ส่วนข้านามว่าเสี่ยวหลง เจ้ารู้แล้วก็ปล่อยมือจากแขนพี่ใหญ่ได้”



“แต่ข้ากลัวนี่แถวนี้มันเปลี่ยวๆให้ข้าเดินเกาะแขนพี่ใหญ่เถอะนะคะ” อู่เม่ยเหนียงส่งสายตาวอนขอมา



“เฮอะอย่ามารยานักเลยเม่ยเหนียง นี่กลางวันแท้ๆเจ้าหาข้ออ้างลวนลามพี่ใหญ่ใช่หรือไม่”



“เจ้าพูดอะไร พี่ใหญ่มีข้าเกาะแขนย่อมดีกว่าเพศเดียวกันอย่างเจ้ามาออเซาะแน่นอน....ข้ากลัวจริงๆนะคะพี่ใหญ่”



ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ทั้งสองคนใช้เวลาโต้เถียงกัน ถึงแม้ว่าเสวี่ยหมิงจะสลัดทั้งสองออกแล้วปลีกตัวออกมา เด็กน้อยทั้งสองต่างก็ยังไม่ลดละแก่กันง่ายๆ เหนื่อยใจเสียเหลือเกิน เสวี่ยหมิงถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


มาดึกเลย55555 เพิ่งว่างแต่งตอนนี้เอง



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ก็แย่ละ อู่เม่ยเหนียง ดูท่าประทับใจเสวี่ยหมิง
เสี่ยวหลง จะทำยังไงถึงสลัดหลุดละเนี่ย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
อ๊ายยย :mew1:

ออฟไลน์ game6969

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ต่อไปอู่เม่ยเหนียงจะกลายเป็นบูเช็คเทียนอิอิอิ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
สงสารเสวี่ยหมิง ต้องทนปวดหูกับเด็กน้อยสองคน ฮ่าๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด