.。.:*・ ۩ Creative สรรค์สร้างรัก۩・*:.。.{{สร้างรักวันสุดท้าย}} 4/05/60 P.7
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: .。.:*・ ۩ Creative สรรค์สร้างรัก۩・*:.。.{{สร้างรักวันสุดท้าย}} 4/05/60 P.7  (อ่าน 106126 ครั้ง)

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
เขินนนนนนหนักมากๆ

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ฌอนไปฝึกงานที่ไหนน้ออออ

โอ๊ยๆ หวานละมุนน  :impress2:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ได้รับการกล่อมแบบวีไอพีจากเจ้าชาย ฝันดีแน่ อิอิ

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
แหม อาจจะไปเจอกันที่ฝึกงานก็ได้
ใครจะไปรู้เนอะ  :impress2:

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
งื้อออออ น่ารัก
 :-[ :-[ :-[

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ฌอนนี่แพ้ทางน้ำเปล่าชัด ๆ เลย

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ณอนน่ารักมากกกกก
อยากได้ ฮืออออ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เค้านอนกอดกันด้วย
เขินแทน :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
นี้ใช่ฌอนตอนเริ่มเรื่องหรือเปล่าเนี่ยย :-[

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
.:*・สร้างรัก・*:. วันที่10



แสงแดดอันร้อนระอุก่อให้เกิดการบิดเบือนของแสงตลอดการนั่งรถทัวร์ไปยังดอยในจังหวังแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศ การประชุมถูกจัดขึ้นในอาทิตย์ก่อนหน้านี้เพื่อบอกถึงวัตถุประสงค์ที่ไปรวมถึงสิ่งต่างๆที่จำเป็นต้องรับรู้


แน่นอนว่ามีเพียงคนเดียวที่สร้างความแตกตื่นให้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้อง ปริ้น ออฟ อาร์ทของมหาวิทยาลัยจะไปค่ายอาสาด้วย ทุกสายตาล้วนจับจ้องพร้อมด้วยเสียงซุบซิบในระยะประชิดจนผมต้องเอื้อมมือไปจับแขนอีกฝ่ายไม่ให้ลุกหนีไปกลางครัน


เสียงซุบซิบเหล่านั้นไม่ได้นินทาแต่กำลังกรี๊ดกร๊าดที่จะได้เข้าค่ายร่วมกับคนดังของมหาลัย ช่วงก่อนปล่อยหลังจบการประชุมมีรุ่นพี่เดินเข้ามาคุยกับฌอนว่าด้วยเรื่องของการไปดอย เห็นว่าอยากให้ฌอนวากรูปเป็นที่ละลึกให้กับที่นั่นหน่อย แต่ฌอนเองก็บอกแค่ว่า...


‘ถ้าผมมีอารมณ์จะวาดให้ละกัน’


ก็สมกับเป็นฌอนดี


“ฌอน กินทาโร่ไหม”ผมยื่นถุงทาโร่ไปตรงหน้าฌอนโดยที่สายตามองไปยังทิวทัศน์ด้านข้างของถนน


พวกเราเดินทางกันตั้งแต่เมื่อคืนจนมาถึงตัวจังหวัดในช่วงเช้า จากนั้นรถก็แล่นเข้าไปในตัวจังหวัดและตอนนี้ก็กำลังอยู่ในแถบภูเขา สองข้างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียว


คาดว่าอีกไม่นานคงจะถึงที่หมาย


“กินไม่หยุดเดี๋ยวตอนขึ้นเขาก็อ้วกหรอก”ฌอนหันมาบ่น


“ห่วงกันก็บอกมา”


“อืม ห่วง”ผมที่คิดจะกวนกลับถูกอีกฝ่ายทำให้ใจเต้นไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ


ความรู้สึกมันเริ่มเด่นชัดขึ้นทุกทีซึ่งนั่นทำให้ผมกลัวที่จะยอมรับมัน


ถ้าผมยอมและตอบรับความรู้สึกนั้นมันจะมีอะไรเปลี่ยนไปรึเปล่า


ผมชอบที่เป็นอยู่ในตอนนี้แม้จะมีอึดอัด เขินอายหรือโมโหบ้างเป็นบ้างครั้งแต่โดยรวมผมก็มีความสุขกับช่วงเวลาแบบนี้


ไม่อยากให้อะไรเปลี่ยนไป


แต่ผมก็รู้ดีว่าทุกอย่างมันย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไปตามวันและเวลา


มันอยู่ที่เมื่อเปลี่ยนไปเราจะทำยังไงต่อ


“เปล่า...นี่น้ำเปล่า”เสียงเรียกพร้อมแรงเขย่าเรียกสติให้ผมหันไปมองหน้าฌอนงงๆ


“อะไร เสียงดังนะเดี๋ยวคนอื่นก็มองหรอก”


“คนอื่นลงไปหมดรถแล้วเนี่ย เหม่ออะไรอยู่”


“ห๊ะ? จริงด้วย ทำไมไม่เรียกให้เร็วกว่านี้เล่า”ผมลุกขึ้นมองรอบๆ ภายในรถตอนนี้มีเพียงผมและฌอนเท่านั้น


“เรียกเป็นสิบรอบแล้ว ไม่สบายรึเปล่า”ฌอนถามกลับด้วยใบหน้าห่วงๆ


“ไม่เป็นไร แค่คิดอะไรนิดหน่อย”


“คิดอะไร บอกได้ไหม”สายตาที่จ้องมานั่นทำให้ผมได้แต่ส่งยิ้มตอบกลับไป


“มันเป็นสิ่งที่ฉันควรคิดด้วยตัวเอง”ตอบเพียงแค่นั้นผมก็ลงจากรถก่อนจะตามมาด้วยฌอน


ทันทีที่ก้าวถึงพื้นอากาศเย็นๆก็แผ่ซ่านจนต้องกระชับเสื้อแขนยาวให้แน่นขึ้น


นี่มันหนาวกว่าที่คิดไว้อีกนะเนี่ย


“เอาล่ะทุกคน เอากระเป๋าไปไว้ที่เต็นท์แล้วแยกย้ายทำตามหน้าที่ที่จัดไว้ได้เลย”หัวหน้าของค่ายอาสาครั้งนี้คือพี่หมู เป็นพี่ปีสี่ของคณะมนุษย์ศาสตร์ซึ่งเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ดี เข้ากับคนง่าย


“เต็นท์นี่ชายหญิงรวมกันได้ใช่มะ”รุ่นพี่อีกคนซึ่งเป็นเหมือนรองหัวหน้าหันไปถามเสียงกวน


“อยากโดยผู้หญิงเตะก็ตามใจ หน้าเต็นท์จะมีป้ายอยู่ว่าสำหรับผู้ชายหรือผู้หญิง ทุกคนสามารถเลือกเต็นท์ได้ตามสบายถึงจะมีแค่5เต้นก็เถอะนะ ฮ่าฮ่า”


“โห่”หลายคนส่งเสียงโห่ตอบกลับไม่ให้พี่หมูต้องขำอย่างเดียวดาย


“เต็นท์ไหนดีฌอน”ผมหันไปถามคนด้านหลัง


“ก็เหมือนๆกันหมด จะอันไหนก็ได้”


“งั้นอันนี้ละกัน”ผมเลือกเต็นท์ที่ใกล้สุดแล้วเปิดเข้าไปด้านใน เต็นท์นี่ถึงจะมีแค่5เต็นท์แต่ขนาดของมันนั้นใหญ่มากพอจะจุได้เต็นท์ละ20คนเลยล่ะ


ด้านในของเต็นท์ถูกหลายคนจับจองที่นอนกันเกือบเต็มเหลือเพียงตรงกับกับริมด้านในสุดเท่านั้น


“ตรงริมไหม”ผมเสนอเพราะรู้ว่าฌอนไม่ชอบคนเยอะๆให้ตอนตรงกลางคนไม่ชอบเท่าไหร่


“อืม”ฌอนพยักหน้าตอบแล้วหอบกระเป๋าไปวางจองไว้ด้านริม


ผมเองก็วางกระเป๋าโดยเว้นที่ห่างจากฌอนเล็กน้อย


ทุกคนได้มีการแบ่งหน้าที่ตั้งแต่การประชุมครั้งก่อนแล้วว่าใครต้องทำอะไรโดยจะมีตั้งแต่สร้างห้องสมุด ทำอาหารไปจนถึงเป็นอาจารย์ให้กับโรงเรียนเล็กๆบนดอยแห่งนี้


พวกเรานั้นถูกรับหน้าที่ให้เป็นอาจารย์ ความจริงคือพวกรุ่นพี่บอกว่าฌอนน่าจะเหมาะกับการเป็นอาจารย์ส่วนผมนั้นเป็นเหมือนคนถูกบังคับให้มาร่วมด้วยทั้งๆที่ผมอยากไปสร้างห้องสมุดไม่ก็ทำอาหารมากกว่าแท้ๆแต่เพราะฌอนบอกไปว่าต้องให้ผมทำหน้าที่เดียวกันก็เลยต้องเป็นเช่นนี้


หน้าที่นี้ไม่ได้มีเพียงแค่ผมแต่ยังมีรุ่นพี่รุ่นน้องคนอื่นๆอีกโดยจะผลัดกันสอบคนละสามชั่วโมงซึ่งชั่วโมงแรงหรือก็คือ11โมงนี้เป็นเวลาของผมและฌอนทำการสอน


อาคารหลังเล็กชั้นเดียวถูกสร้างขึ้นด้วยปูนและคอนกรีตอย่างง่ายๆเป็นรูปทรงมาตรฐานที่สามารถพบได้ทั่วไป ด้านหน้าอาหารมีบันไดสำหรับที่ตอนนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนรออยู่


“สวัสดีค่ะ”


“สวัสดีครับ”ผมไหว้ตอบการทักทายนั้นด้วยรอยยิ้ม คาดว่าผู้หญิงคนนี้คงเป็นอาจารย์ประจำ


“ยินดีที่ได้รู้จัก เรียกฉันว่าพี่แยมก็ได้นะ ที่นี่มีอาจารย์แค่ฉันคนเดียวเลยดีใจมากที่จะมีคนมาช่วยสอน”พี่แยมพูดด้วยรอยยิ้ม


“แค่สิบวันเองครับ”


“ถึงจะแค่นั้นก็พอแล้ว เด็กที่นี่ชอบการเรียนและทำกิจกรรมในห้องมายังไงจะพาไปแนะนำนะ ตามมาสิ แล้วอีกคนชื่ออะไรเอ่ย?”ก่อนจะเดินเข้าไปพี่แยมก็หันไปถามฌอนที่ยังเงียบอยู่


“ฌอน ฮิลลารี่ครับ”ฌอนแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ


“เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน? ไม่สิ ลูกครึ่งสินะพูดไทยได้ชัดมากเลย”


“ครับ ผมเป็นลูกครึ่ง”


“ดีเลย หวังว่าพวกเธอจะช่วยสอนภาษาให้เด็กๆด้วยนะ”คำพูดของพี่แยมทำให้ผมได้แต่หัวเราะแหะๆกลับไปให้


อยากจะบอกเหลือเกินว่าภาษาอังกฤษผมยังเอาตัวเองไม่รอดเลยจะให้สอนคนอื่นไม่มีทาง


พี่แยมพาเราเดินเข้าไปในอาคารซึ่งมีห้องเพียงห้องเดียว พอเปิดประตูเข้าไปก็พบกับเด็กอายุไม่น่าเกิด10ขวบอยู่ประมาณ20คนได้ ดูจากหลายๆคนผมคิดว่าน่าจะมีอายุไม่เท่ากัน


แปลว่าเรียนรวมสินะ


“เด็กๆนั่งที่จ้า วันนี้จะมีพี่ๆมาสอนแทนอาจารย์นะ แนะนำตัวให้เด็กๆรู้จักกันเลยดีกว่า”พูดจบก็ส่งสายตามายังผมเป็นเชิงบอกให้แนะนำตัว


“ครับ สวัสดีครับ พี่ชื่อปภาวิน ศรีมาลา เลขประจำตัว เอ้ย ไม่ต้องนี่”ผมรีบยกมือปิดปากเมื่อกำลังจะบอกเลขประจำตัวออกไป การกระทำของผมส่งผลให้เด็กทั้งห้องหัวเราะลั่น


“หึ...”ไม่ใช่เด็กที่หัวเราะแต่ฌอนเองยังมองมาด้วยสายตาขบขัน


“ไม่ต้องมาขำเลย คนมันตื่นเต้นนี่”


“ไม่แนะนำตัวต่อแล้ว?”เสียงของฌอนทำให้ผมนึกได้ว่ายังแนะนำตัวไม่จบ


“เอ่อ พี่ชื่อปภาวิน อ๊ะ บอกไปแล้วนี่...เรียกพี่ว่าพี่น้ำก็ได้นะ ยินดีที่ได้สนิทกับทุกคนนะ”ผมแนะนำตัวต่อจนจบแล้วสะกิดฌอนเป็นเชิงให้พูดต่อ


“ฌอน ฮิลลารี่ เรียกพี่ฌอนก็ได้”การแนะนำตัวเพียงสั้นๆดูเหมือนจะเรียกความสนใจของเด็กทั้งห้องได้ อาจเพราะมีทั้งสีผมและสีตาไม่เหมือนคนไทยเลยเป็นจุดสนใจได้ง่าย อีกทั้งชื่อยังออกเสียงแปลกๆจนเด็กหลายคนถึงกับเอียงคอ


“ทั้งคู่แนะนำตัวแล้วก็เริ่มการสอนได้เลย ฉันขอตัวก่อนล่ะ”


“จะไม่อยู่ดูเหรอครับ”ผมถามกลับ


นึกว่าจะอยู่คุมซะอีก


“ไม่หรอกจ้า จะสอนหรือทำกิจกรรมอะไรก็เต็มที่เลย”บอกเสร็จก็เดินออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้มปล่อยให้ผมและฌอนยืนนิ่งอยู่หน้าห้องเรียนกันสองคน


เด็กๆกว่า20คนต่างก็นั่งเงียบๆรอดูปฏิกิริยาของพวกผมว่าเป็นยังไงต่อซึ่งผมเองตอนนี้ก็เริ่มขาสั่นเพราะไม่ถูกกับสายตากว่า20คู่ที่จ้องมา


ขนาดออกไปพูดหน้าชั้นยังไม่ค่อยกล้าเลย


“เอายังไงดีฌอน”ผมกระซิบถามคนข้างๆเสียงเบา


“แล้วแต่นายสิ”


“อย่ามาโยนให้กันนะ”ผมเสียงดังขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกปัดความรับผิดชอบ


“ดูเข้ากับเด็กได้ดีนี่”


“ใช้อะไรมาตัดสินกัน”


“ก็พวกเขาหัวเราะนาย”


“นายก็หัวเราะเหมือนกันแหละน่า”ผมสวนกลับ


“ไม่ให้ขำได้ไงเล่นจะบอกรหัสประจำตัว”


“ฌอน”


“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกพี่เขาทะเลาะกันแหละ”ระหว่างกำลังเถียงกันเสียงของเด็กให้ห้องก็ดังขึ้น


“จริงด้วยๆ ทะเลาะกัน”


“ไม่ถูกกันเหรอคะ?”


“แม่ผมเคยบอกว่าทะเลาะกันไม่ดีนะ”


และแล้วความเงียบภายในห้องก็จบลง เด็กกว่า20คนต่างส่งเสียงเจี๊ยวจ้าวจนผมไม่รู้จะทำยังไงต่อ


พอหันไปมองฌอนก็พบว่าอีกฝ่ายเบือนหน้าหนีเข้ากำแพงไปแล้ว


“พวกพี่ไม่ได้ไม่ถูกกันหรอก ความจริงสนิทกันม๊ากมาก เนอะ”ผมใช้ข้อศอกกระทุ้งแขนฌอน


“งั้นเหรอ”


“ฌอน”คำตอบที่ได้ทำเอาเด็กทั้งห้องหัวเราะขึ้นอีกครั้ง


“พี่น้ำน่าสงสารจัง”


“อย่าคิดมากนะครับ”


มันคงจะดีกว่านี้ถ้าผมไม่ต้องมาถูกเด็กปลอบ


ฌอนก็นะทำไมชอบมากวนกันตลอดเนี่ย


ถ้าจะเล่นกันแบบนี้ก็จัดให้


“เอาเป็นว่าจะให้พี่ฌอนสอนการทักทายเป็นภาษาอังกฤษละกันนะ!”ผมตะโกนพร้อมรอยยิ้มบอกเด็กทั้งห้อง


“เดี๋ยวสิเปล่า...”


“อย่าที่เห็นว่าพี่ฌอนนั้นเป็นครึ่งดังนั้นเรื่องภาษาหายห่วงได้เลย รบกวนด้วยละกันนะ”ผมเดินไปแตะไหล่อีกฝ่ายเบาๆพร้อมยกยิ้มขึ้น


“คิดจะเอาคืนรึไง”ฌนถามเสียงเบา


“พูดอะไร เด็กๆก็ควรเรียนรู้ภาษาติดตัวไว้ใช้สิ”


“จะได้ไม่เหมือนายที่แค่คำง่ายๆยังออกเสียงไม่ถูกสินะ”


“หาเรื่องรึไงฌอน”


“หึ...เดี๋ยวจะเอาคืนบ้าง”


“จะรอดูนะครับ”และแล้วผมก็เดินไปยืนข้างห้องคอยดูฌอนว่าจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้


“อยากได้คำไหนกันล่ะ”ฌอนถามเด็กๆ


“อะไรก็ได้ค่ะ พวกเราพอจะเคยเรียนมาแล้ว”เด็กผู้หญิงคนหนึ่งตอบ


“งั้นลองพูดหน่อยสิ”ฌอนบอกพลองมองไปยังเด็กผู้หญิงคนเดิม


“เอ่อ กู๊ดอาฟเตอร์นูน ทีทเชอร์”เด็กสาวออกเสียงด้วยสำเนียงแข็งๆ


ก็สมเป็นเด็กดีนะ


“ออกเสียงดีกว่าพี่คนนั้นอีกนะ”พูดจบกระชี้นิ้วมายังผม


“ฌอน ฉันออกเสียงดีกว่าเหอะ”เรื่องนี้ผมยอมไม่ได้


ถึงจะรู้ว่าไม่เก่งแต่ผมก็เรียนมากเกือบจะทั้งชีวิตนะภาษาอังกฤษน่ะ


อย่างน้องต้องดีกว่าเด็กแหละน่า


“จริง?”


“แน่สิ คอยดูนะ กู๊ดมอร์นิ่ง ทีสเชอร์ เป็นไงล่ะ”ผมยืดอกด้วยความมั่นใจ


“หึ มามอร์นิ่งอะไรล่ะนี่จะเที่ยงแล้วนะ”


“อึก...”พูดผิดซะได้น่าขายหน้าจริงๆเลยตัวผม


“ไม่เป็นไรนะครับพี่”เด็กชายข้างๆถึงกับพูดปลอบด้วยน้ำเสียงสงสาร


“นายจงใจแกล้งฉัน”ผมชี้หน้าฌอนอย่างไม่พอใจ


“เปล่านี่ คนพูดผิดมันนายเองนะ”


“คนขี้แกล้ง”


“บอกตัวเองเถอะ”


“ฌอน”


“การจะออกเสียงสำเนียงอังกฤษให้ดีจำเป็นต้องฝึกใช้บ่อยเพราะภาษาอังกฤษนั้นมีการออกเสียงที่มีการไล่ระดับเสียงไม่เหมือนภาษาไทย”


“พี่ช่วยพูดให้พวกเราฟังได้ไหมครับ”เด็กชายหลังห้องถาม


“ได้ good morning good afternoon good evening goodnight ประมาณนี้”สำเนียงอังกฤษแปะๆดังขึ้นท่ามกลางเด็กที่อ้าปากกว้างด้วยความตะลึงในสำเนียงการพูด


ขนาดผมรู้อยู่แล้วยังอดชื่นชมไม่ได้


คำพวกนี้ได้ยินมาเกือบทั้งชีวิตแต่สำเนียงเพราะขนาดนี้พึ่งเคยเจอ ตอนเรียนก็มีที่เรียนกับชาวต่างชาติแต่ไม่ใช่คนอังกฤษสำเนียงเลยไม่ดีเท่านี้


“สุดยอดเลย พูดอีกได้ไหมครับ”เหมือนเด็กๆจะเริ่มสนใจการออกเสียงของฌอนแล้วล่ะ


“เอาเป็นอะไรล่ะ”ฌอนเองก็ไม่ปฏิเสธที่จะทำให้ดู


“หนูอยากฟังคำสารภาพรักค่ะ”เด็กผู้หญิงผมแกะยกมือพร้อมกับเสนอ


“เดี๋ยวสิ ขออย่างอื่น...”นี่ไม่ใช่เสียงฌอนแต่เป็นผมเอง ผมรู้สึกไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่ถ้าให้ฌอนพูดสารภาพรักด้วยภาษาอังกฤษ เพียงแค่คิดก็รู้สึกเหมือนใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นแล้ว


“ได้ งั้นเริ่มกันเลย”


“ฉันขอไปห้องน้ำ อ๊ะ...”ยังไม่ทันได้หนีออกจากห้องก็ถูกมือของฌอนคว้าแขนเอาไว้แน่พร้อมกับดึงให้หันกลับมาเผชิญหน้ากันตรงๆ ดวงตาสีเทาอ่อนประสานกับดวงตาสีน้ำตาลของผมอย่างสื่อความนัยบางอย่าง


“I adore you แปลว่า ฉันหลงรักคุณ”เพียงประโยคแรกที่ดังขึ้นก็ทำเอาร่างกายผมขยับหนีไม่ได้


“ฌอน...ปล่อย...”ถึงรู้ว่าหนีไม่พ้นแต่ก็ยังพยายามขืนจนถึงที่สุด


“You fill my heart แปลว่า คุณมาเติมเต็มให้หัวใจของฉัน”


“อึก...”มือที่จับแขนผมเริ่มเปลี่ยนมาเป็นกุมมือไว้หลวมๆราวกับเขารู้ว่าผมไม่สามารถขยับหนีไปไหนได้


“You’re my missing piece แปลว่า คุณคือส่วนที่ขาดหายไปของฉัน”น้ำเสียงทุ้มนุ่มยังคงเอ่ยประโยคต่อๆไปโดยที่สายตาประสานอยู่กับผม


“I only have eyes for you แปลว่า ฉันมองแค่คุณคนเดียว”


เสียงหัวใจเริ่มเต้นดังขึ้น


“You make my life worth living แปลว่า คุณทำให้ชีวิตฉันมีค่า”


ความร้อนภายในร่างกายปะทุออกมาทางใบหน้าซึ่งแดงก่ำจนตัวเองยังรู้สึกได้ว่าใกล้ไหม้เต็มที


“You’re the light of my life นายคือแสงสว่างในชีวิตของฉัน”ประโยคนี้ถูกกระซิบเป็นประโยคสุดท้ายข้างใบหูก่อนริมฝีปากของฌอนจะลากผ่านแก้มอันแดงก่ำของผมเร็วๆ


หัวใจเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมา


ใบหน้าแดงราวกับจะมอดไหม้


ร่างกายแทบหมดแรงราวกับถูกหลอมละลาย


นี่มันเหมือนถูกสารภาพอีกครั้งแถมครั้งนี้ยังมาเป็นชุด


น้ำเสียงของฌอนไม่เพียงแค่มีสำเนียงอันไพรเราะแต่ยังสื่ออารมณ์ออกมาอย่างชัดเจนจนผมไม่รู้จะทำยังไง


สุดท้ายผมก็ได้แต่ปล่อยให้ฌอนพูดภาษอังกฤษให้เด็กฟังโดยที่ตัวเองแอบไปหลบอยู่หลังห้อง แม้จะหมดชั่วโมงสอนไปแล้วใบหน้าผมก็ยังคงเห่อแดงจนหลายคนเข้ามาทัก


ยิ่งทักความทรงจำก่อนหน้านี้ก็เหมือนถูกปลุกเลยส่งผลให้หน้าแดงเข้าไปอีก


“หน้าแดงไม่หยุดเลยนะ”ฌอนพูดพลางมองหน้าผมด้วยรอยยิ้ม


“แล้วคิดว่าเป็นเพราะใครเล่า”


“เพราะฉัน”


“รู้ตัวนี่”


“ห้ามหน้าแดงกับคนอื่นนอกจากฉันนะ”


“ไม่รู้ ถึงจะทำก็ไม่เกี่ยวกับนายนี่”ผมสะบัดหน้าหนีก่อนจะก้าวยาวๆกลับเต็นท์


“เกี่ยวสิ ฉันหึง”คำพูดนั่นเรียกหัวใจที่สงบนิ่งกลับมาเต้นรัวอีกครั้ง


“บ้า!”


ตอนนี้เป็นช่วงค่ำหลังกินอาหารเย็นเสร็จ มีหลายคนยังอยู่พูดคุยหรือเตรียมงานสำหรับพรุ่งนี้ต่อและมีหลายคนเดินไปอาบน้ำยังบ้านของคนในละแวกนี้ แน่นอนว่าไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นผมเลยเลือกที่จะไม่อาบ


ด้วยอากาศหนาวทำให้ไม่มีเหงื่อออกเลยไม่จำเป็นต้องอาบทุกวันก็ได้


“ท่าทางของนายทำให้ฉันมีความหวัง”


“...อะไร”ผมหยุดเดินแล้วหันกลับไปมองฌอนตรงๆ


“หวังว่าความรู้สึกนายจะเหมือนกัน”


“...แล้วถ้ามันไม่เหมือนล่ะ”ผมถามต่อ


“ก็จะทำให้เหมือนเอง”


“คิดจะบังคับกันรึไง”


“นั่นสินะ ไปดูดาวไหม”ฌอนเปลี่ยนเรื่องระหว่างเงยหน้ามองบนท้องฟ้าสีดำสนิท


“เอาสิ”ผมพยักหน้าก่อนที่พวกเราจะเดินไปยังชายป่าด้านหลังซึ่งไม่มีแสงไฟเหมือนอย่างบริเวณเต็นท์ทำให้เมื่อแหงนหน้ามองท้องฟ้าสามารถมองเห็นดวงดาวได้มากมาย


นี่สินะที่เขาบอกกันว่าดวงดาวนับล้านดวง


นับไม่ถ้วนจริงๆ


ถ้าเป็นในเมืองไม่มีทางเห็นได้ขนาดนี้


“สวยจัง”ผมพึมพำโดยไม่ละสายตาออกจากท้องฟ้าสีดำสนิทอันมีดาวดาวนับล้านส่องสว่าง


“อืม”


“ดีจังที่ได้มา”เพราะมานี่ถึงได้เห็นภาพอันแสนประทับใจนี่


“เหมือนกัน ดีใจที่ได้มองภาพนี้กับนาย”


“ฌอน...”


“ฉันไม่เร่งรัดเรื่องคำตอบ ฉันอยากให้นายตอบกลับมาด้วยความรู้สึกจริงๆ”


“...เข้าใจแล้ว”


“ไปพักกันเลยไหม”ฌอนถามต่อ


“อืม เหนื่อยแล้วเหมือนกัน”


“หน้าแดงจนเหนื่อยน่ะเหรอ”


“ดูบรรยากาศหน่อยได้ไหมฌอน กำลังโรแมนติกเลย”เล่นพูดซะหมดความโรแมนติก


“อะไร อยากให้โรแมนติกเหรอ”


“ก็เปล่า...เป็นแบบนี้ดีแล้ว”ไม่ต้องโรแมนติกหรอก


แค่ได้ดูดาวด้วยกันแบบนี้ก็พอแล้ว


อีกอย่างถ้าฌอนโรแมนติกผมคงอดไม่ได้ที่จะขำ


พวกเราเดินช้าๆกลับมายังเต็นท์ซึ่งมีหลายคนนอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว ในกระเป๋าเดินทางมีผ้าปูและผ้าห่มรวมทั้งถุงนอนเตรียมใส่เอาไว้เพราะรู้ว่าอากาศบนนี้หนาวมาก


ผมเองก็หยิบทุกอย่างออกมาเตรียมปู


“นายมานอนฝั่งนี้”อยู่ๆฌอนก็บอกพลางลุกขึ้นมาทางผมแทน


“ให้ไปนายฝั่งนาย? ทำไม?”ผมถามอย่างสงสัย


“ฉันไม่คิดจะให้แฟนไปนอนติดคนอื่นหรอกนะ”


“ยังไม่ใช่สักหน่อย”ผมบอกบัดด้วยใบหน้าแดงๆ


ผมยังไม่ได้ตกลงจะคบด้วยเลยนะ


“เดี๋ยวก็ใช่แล้ว”


“อย่ามาตัดสินเองนะ”


“ไม่รีบปูเดี๋ยวก็นอนช้าหรอก”


“เพราะนายหาเรื่องนั่นแหละ”ผมบ่นแล้วลงมือปูที่นอนบริเวณด้านในสุดของเต็นท์แทนที่ฌอน


เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จก็ล้มตัวลงนอน แสงไฟมีเพียงหน้าเต็นท์ทำให้ใช้เวลาในการปูพอสมควร ถ้ารู้ว่ามืดขนาดนี้คงปูเตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว


อากาศเย็นๆทำให้ผมดึงผ้าห่มในถุงนอนขึ้นมาจนถึงคอแต่แล้วสัมผัสของมือที่เอามาโบเอวทำให้ผมสะดุ้งเฮือกจนเกือบจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่งถ้าไม่ติดที่มือนั้นออกแรงกดจนผมไม่สามารถทำได้


มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำอะไรแบบนี้...


“ฌอน”ผมเสียงแล้วพลิกตัวหันไปทางอีกฝั่ง


“ฉันหนาว”เสียงกระซิบดังขึ้นพร้อมแรงขยับตัวเข้ามาแนบชิด


“ไม่ได้เตรียมถุงนอนมาเหรอ”ผมถามเมื่อไม่เห็นถุงนอนมีเพียงผ้าห่มผืนหนาเท่านั้น


“ไม่ได้เตรียม”


“พี่เขาบอกแล้วนี่ว่าให้เตรียมไว้น่ะ”


“อืม”


“อืมอะไร ลืมเอามาสินะ”


“ไม่ได้ลืมแต่ไม่เอามาต่างหาก”ฌอนพูดแก้


“หมายความว่าไง”


“ถ้านอนในถุงนอนก็กอดนายไม่ได้น่ะสิ”อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาราวกับเป็นเรื่องปกติ


“ใครจะให้กอดกัน”ผมเริ่มดิ้นไปมา


“อย่าเสียงดังสิ คนอื่นเขานอนอยู่นะ”คำพูดนั้นทำให้ผมเลิกดิ้น


ลืมไปเลยว่าไม่ได้อยู่กันแค่สองคน


“ขยับออกไปเลย”


“ไม่เอา”นอกจากปฏิเสธแล้วยังกอดแน่นขึ้นไปอีก


ผมได้แต่ขันขืนเล็กอยู่สักพักแต่ก็รู้ว่าไม่มีผลเลยได้แต่ถอนหายใจแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายกอดเอาไออุ่นไปจนถึงเช้าของวันใหม่ทีเดียว


ช่วงเช้าบนดอยอากาศค่อนข้างเย็นแต่ไม่มากเท่ากลางคืน พวกเรามีสอนช่วงบ่ายตอนนี้ผมจึงนั่งมองฌอนกำลังวาดภาพโดยใช้ขาตั้งสำหรับวางกระดาษอยู่ในระใกล้


อยู่ๆฌอนก็บอกว่าอยากวาดภาพเลยมานั่งวาดบริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ติดกับริมหน้าผา เพราะอยู่บนดอยเลยสามารถมองเห็นท้องฟ้าได้ใกล้กว่าที่เคย


ผมมองภาพที่ค่อยๆเป็นรูปเป็นร่างขึ้นด้วยความสนใจ ครั้งนี้ฌอนไม่ได้ใช้ดินสอร่างแต่ใช้สีน้ำลงเลยนั่นทำให้ผมค่อนข้างสงสัยว่าจะออกมาเป็นรูปอะไร สีเขียวของหญ้าถูกระบายลงด้านล่างของกระดาษก่อนจะแซมด้วยสีน้ำตาลและหินก้อนเล็กๆตามลำดับ


ด้านบนสุดของกระดาถูกแต่งแต้มด้วยสีฟ้าสดของท้องฟ้าอันสดใสอันเต็มไปด้วยเมฆร่องรอยอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์สาดส่องลงมายังพื้นโลก


ส่วนกลางของภาพเป็นรูปคนกำลังก่อสร้างอะไรบางอย่างอยู่ทางซ้ายมือสุด บริเวณใจกลางมีรูปของการเตรียมอาหารลากยาวไปถึงด้านขวาที่ปรากฏรูปห้องเรียนและเด็กนั่งอยู่ภายใน


ภาพนี้ไม่ได้ลงรายละเอียดถึงหน้าตาของคนทว่าผมกลับรู้ว่าแต่ละคนคือใคร นี่คือภาพของคณะอาสาที่กำลังสร้างห้องสมุด ร่วมกันทำอาหารและสอนเด็กๆ


เป็นภาพความทรงจำอันแสนอบอุ่น


ภาพของฌอนเปลี่ยนไปจากวันแรกอย่างชัดเจน


สีขาวดำคล้ายอดีตที่ไม่มีวันลบเลือนตอนนี้ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของอารมณ์และความรู้สึกรังสรรค์ออกมาจนได้เป็นผลงานอันยอดเยี่ยม


ความทรงจำตอนอยู่ด้วยกันค่อยปรากฏชัดยามหลับตาลง ทุกครั้งที่นึกถึงคำโต้เถียง เสียงทะเลาะหรือแม้แต้คำพูดคุยมันทำให้ผมยิ้มออก


อาจถึงเวลาที่ผมต้องยอมรับในความรู้สึกนี้สักที


ความรู้สึกที่เรียกว่าชอบ


“วันนี้เราจะมาวาดรูปบนกระดาษนี่กัน”ผมยืนกางกระดาษแผ่นยักษ์หน้าชั้นเรียนในห้องเดิมกับเมื่อวานด้วยรอยยิ้ม


ช่วงบ่ายผมได้ตัดสินใจแล้วว่าจะให้เด็กๆได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการวาดภาพ


“วาดภาพๆ”


“ว้าว น่าสนุกจัง”


“พี่มาวาดด้วยกันนะคะ”เหล่าเด็กๆเองก็ดูเหมือนจะเห็นชอบด้วยเลยมีการจัดสถานที่ใหม่


ในห้องมีโต๊ะเรียงวางอยู่จึงไม่สามารถวางกระดาษได้เลยจัดการขยับโต๊ะไปไว้ทั้งสี่มุมของห้องแล้ววางกระดาษแผ่นยักษ์ลงกลางห้อง รอบๆกระดาษมีถังสีและพู่กันสำหรับวาดเพียงพอสำหรับทุกคน


“เอาล่ะ ลงมือวาดเลย แสดงจิตนาการของทุกคนออกมา”พูดจบผมก็คว้าพู่กันจุ่มถังสีสีน้ำตาลแล้วลงมือวาดยังกระดาษตรงหน้า
สีน้ำตาลถูกวาดให้มีส่วนปลายแหลมคล้ายรูปสามเหลี่ยมและมีส่วนปลายเป็นพวงสีเดียวกัน ระหว่างวดภาพของตัวเองผมก็เงยหน้าขึ้นมองฌอนซึ่งอยู่อีกฝั่งกำลังใช้พู่กันลากสีเขียวเข้มเป็นภูเขาติดกันหลายๆลูก


“พี่น้ำวาดจรวดเหรอครับ”เด็กชายข้างๆเอ่ยถาม


“จรวด? ไม่ใช่นะ นี่คือหมาจิ้งจอกต่างหาก ดูหางที่เป็นพวงนี่สิ”ผมอธิบายรูปหมาจิ้งจอกด้วยความภูมิใจ


“ไม่เห็นเหมือนเลย”


“ว่าไงนะ ไม่จริงน่า...เหมือนจะตาย”


“ไม่เหมือนสักนิด สู้หมาผมก็ไม่ได้”พูดจบเด็กชายก็ชี้ไปยังรูปหมาสีน้ำตาลของตัวเอง


“ทานูกิ?”ผมเอียงคอถามเมื่อเห็นภาพ


“ไม่ใช่ หมาต่างหาก”


“ดูยังไงก็ทานูกิ”


“ของพี่ดูยังไงก็จรวด”


“หมาจิ้งจอก”


“พี่น้ำ ดูของหนูด้วยสิ”ระหว่างกำลังพูดชายเสียงผมถูกกระตุก


“ได้สิ ไหนๆ เอ่อ...ดอกไม้?”ผมเอ่ยออกไปอย่างไม่แน่ใจในภาพที่เห็น


“ไม่ใช่ดอกไม้ค่ะ กระต่ายต่างหาก”


“อะ...อ่า”ผมนี่ไม่รู้จะต่อยังไงเลย


“ฝั่งนู้นวาดสวยกันจังนะคะ”เด็กสาวพูดพลางมองไปยังอีกฝั่งที่มีฌอนเป็นคนหลักในการวาดภูเขาและทะเลส่วนเด็กๆก็วาดสัตว์น้ำและต้นไม้รอบๆ


วาดออกมาในทางเดียวกันสุดๆ


แต่พอมองฝั่งผม


หมาจิ้งจองที่เหมือนจรวด


หมาที่เหมือนทานูกิ


กระต่ายที่เหมือนดอกไม้


“ฝั่งนั้นขี้โกงนี่!”ผมตะโกนบอก


“ตัวเองวาดไม่สวยอย่าโวยวายน่า”ฌอนเงยหน้าตอบพร้อมยกยิ้มขึ้นคล้ายกลั้นขำเมื่อเห็นภาพวาดผม


“ฉันจงใจวาดไม่สวยจะได้กลืนกันฝีมือเด็กๆหรอก”ผมสวนกลับ


“ไม่ต้องพยายามแก้ตัวก็ได้”


“ไม่ได้แก้ตัว เอางี้ มาแข่งกันดีไหม”ผมเสนอความเห็น


เด็กหลายคนเริ่มวางพู่กันแล้วหันมามองหน้าผมอย่างสนใจว่าจะทำอะไร


“แข่ง?”


“ใช่...เราจะแบ่งเป็นสองฝั่งตามนี้แล้วมาแข่งกันว่าภาพของฝั่งไหนจะเจ๋งกว่า”


“ก็ไม่ขัด แต่ชนะแล้วจะได้อะไรล่ะ”ฌอนถามต่อ


“คนแพ้ต้องทำความสะอาดอุปกรณ์และพื้นในห้องนี้ให้สะอาดเป็นไง”ผมลองเสนอ


“ได้ ฝั่งก็เอาตามที่อยู่ตอนนี้ละกัน”


“ไม่มีปัญหา ทุกคนจะเอาด้วยไหม”ผมยืนขึ้นพร้อมตะโกนถาม


“เอาค่า/ครับ!”


“ให้พี่แยมเป็นคนตัดสิน”


“ได้”


“จัดไป”ผมมองฌอนอย่างท้าทาย


และแล้วการแข่งขันวาดรูปก็ได้เริ่มต้นและจบลง การประชัดวาดรูปกว่าสามชั่วโมงเสร็จสิ้นท่ามกลางเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีของฝั่งผมที่ชนะจากคำตัดสินของพี่แยม พูดถึงภาพที่ชนะสักหน่อย...นอกจากในภาพจะมีทั้งหมาจิ้งจอกคล้ายจรวด หมาคล้ายทานูกิ กระต่ายคล้ายดอกไม้แล้วยังมีทั้งช้างคล้ายวาฬ พระอาทิตย์สีแดงฉานมีหัวใจดวงเล็กลอยรอบและอีกหลายสิ่งซึ่งไม่สามารถบรรยายได้ว่าเป็นอะไร


เทียบกับของฝั่งฌอนนั้นอย่างที่เคยบอกว่าเป็นภูเขาและทะเล ในน้ำก็เหล่าสัตว์ทะเลหน้าตาเดาได้ว่าคืออะไรซึ่งถือว่าเรียบง่ายและธรรมดามาก


ผมค่อนข้างมั่นใจไม่ใช่เพราะตัวเองมีฝีมือแต่คนชนะไม่จำเป็นต้องวาดภาพสวย


ผมบอกไปแล้วนี่ว่าเป็นคนที่วาดได้เจ๋งกว่า


คำว่าเจ๋งไม่ได้ต้องแปลว่าสวยเสมอไปนะฌอน

.............................................................................

สวัสดีค่า

สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะทุกคน

หลายคนคงไปเที่ยวกันอยู่ ซึ่งเรานั้นอยู่บ้านเฉยๆ 555

แต่ก็ดีเพราะจะได้มีเวลาแต่งมาขึ้น

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่า

บ๊ายบาย

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
รู้สึกดีกับช้อนขนาดนี้ไม่คิดจะตกลงปลงใจหน่อยหรอน้ำเปล่าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
น้ำเปล่านี่ชัดเจนมากๆแล้วนะ เหลือแค่ยอมรับอย่างเดียวนั่นแหละ5555
ยอมรับออกมาให้ณอนได้ดีใจหน่อยเรววว

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อยากเห็นรูปที่พวกเด็กๆวาดจัง 555 สุขสันต์วันสงกรานต์ค่าา

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เหนื่อยหัวใจบ้างไหมน้ำเปล่า รู้สึกทำงานหนักเกินน :o8:

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
อ่านไปยิ้มไป เหมือนคนบ้าเลยเรา
น้ำเปล่าน่ารักที่สุด

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
มาค่ายครั้งนี้คงขำกันจนเหนื่อยแน่ๆ

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
หวงแฟนหรอฌอนน :o8:

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ๊ยยยยย เรื่องนี้ดีต่อใจม๊ากมากกกกกก
คู่นี้เค้าน่ารักกันจังเลยค่ะคุณพี่  :-[
ฌอนนี่สงส้ัยเป็นเจ้าของไร่อ้อยรายใหญ่แน่ๆ
จัดอ้อยให้น้ำเปล่ามาอีกเยอะๆนะคะ คนอ่านชอบบบบบ
จะละลายยยยย  :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด