สวัสดีคับ.......
ผมมาแล้ววววววววววววววว.....
เอาตอนใหม่มาลงให้แล้วด้วยคับ
เพิ่งพิมเสร็จสดๆร้อนๆเลย.......
อย่าโกรธผมกันนะคับ......................
ผมรู้....... ว่าคนน่ารัก เค้าไม่ใจร้ายกันหรอก.. จริงมั้ยคับ
ไปอ่านกันเลยคับ
( -_-)* ระยะห่างของความรู้สึก ( -_-)
หนาวกาย... ไม่เท่าหนาว.... ข้างในใจ ( -_-)*ที่นี่มันคือที่ไหนกัน....
ทำไมผมถึงไม่รู้สึกคุ้นชินกับมันเลย
นี่ผมกำลังหลงทางเหรอ........
ผมรู้สึกโมโหตัวเองจัง.......
ผมหลงทางอีกแล้ว....
ทำไมผมถึงต้องหลงอีกแล้ว........
มันเพราะอะไรกัน.....
หรือเป็นเพราะว่าผมไม่มีคนคอยนำทาง.....
ฮึ ฮึ ..................................... ผมเคยมีคนที่เค้าคอยนำทางให้ผมนะ....
เพียงแต่...............
เพียง............... แต่......... ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหน
ผมรู้เพียง.................. ว่า..........
เค้าไม่อยู่กับผมแล้ว
นับจากวันที่เค้าไปจากผม
ผมรู้สึกว่าผมเหมือนคนหลงทาง...............
ผม............
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดอกหญ้าดอกเล็กๆบนโลกใบนี้ ที่กำลังล่องลอยไร้ทิศทางและไร้จุดหมายในอากาศ กวัดแกว่งไปตามกระแสลมที่จะพัดพาผมไป
เมื่อไม่มีเค้า....
ผมรู้สึกว่าโลกนี้มันกว้างใหญ่เกินไป มันกว้างเกินกว่าที่คนอย่างผมจะอยู่ได้โดยไม่รู้สึกเหงา
ใช่สิ...... ผมมีความเหงาเป็นเพื่อน
แม้ว่ามันจะไม่เคยพูดอะไรกับผม.... แม้เพียงสักคำ
แต่มันก็ไม่เคยหนีผมไปไหน................
น่าแปลกนะคับ....................
อันที่จริงแล้วผมว่าผมก็ไม่ได้จะอยู่บนโลกใบนี้เพียงลำพัง
แต่เชื่อมั้ยคับ.....
ผมมองไม่เห็นใครเลยสักคน..........
ไม่ว่าผมจะไปที่ไหน..... ผมก็มองไม่เห็นใคร
หันไปทางซ้ายหรือขวา
รอบกายของผมก็มีแค่ไอ้ความเหงานี่แหละที่มันอยู่กะผมตลอดเวลา
ผมยังเคยคิดเลยคับ............ ว่า.............
นับจากวันที่เค้าจากไป............
บนโลกใบนี้มันเหลือเพียงแค่ผมกับความเหงา
“ พี่โฟนคับ.... พี่อยู่ไหนคับ ทำไมพี่ใจร้ายกับผมจัง ”
“ ฟรอย...................... ” เสียงตะโกนก้องดังมาจากทางด้านหลังทำให้ผมต้องรีบหันหลังกลับไปมอง แต่แล้วผมก็ไม่เห็นใคร
“ ฟรอย..........................” เสียงที่ผมรู้สึกคุ้นหูดังมาอีกครั้ง ผมรีบหันไปมองหาต้นเสียงนั้นทันที
ใช่...........
ใช่จริงๆด้วย......................
เสียงของเค้า................
เสียงของพี่โฟน...............
แต่ผมกลับมองหาเจ้าของเสียงนั้นไม่เจอ..........................
ผมหูฝาดไปเองเหรอ.............
ไม่นะ... ผมว่าผมได้ยินเสียงพี่เค้าจริงๆ
“ พี่โฟน......... พี่โฟนอยู่ไหนคับ ออกมาหาฟรอยเถอะ.....”
“ พี่โฟน..... อย่าใจร้ายกับผมสิคับ............ พี่โฟน........................”
“ พี่โฟนคับ................. ผมกำลังหลงทางนะ............ พี่ช่วยพาผมออกไปที”
ผมค่อยๆทรุดลงนั่งกับพื้นหญ้าอย่างไร้เรี่ยวแรง
ความหนาวสุดขั้วหัวใจที่มันเพิ่งเจือจางลงไปนับจากที่ผมได้ยินเสียงเรียกของเค้า กลับทวีความหนาวเย็นขึ้นอีกครั้ง
ผมหนาวจังคับ..............
มันหนาว................................
หนาวที่ข้างในหัวใจ...........................
“ พี่กอดฟรอยอยู่ยังหนาวอีกเหรอคับ............” เสียงที่ผมคุ้นหูพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นที่แผ่ซ่านภายในใจสู่ร่างกาย ทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมองวงแขนแกร่งที่โอบกอดรอบกายผมเอาไว้
“ พี่โฟน.................. ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเบิกบานอย่างบอกไม่ถูก
“ พี่มาหาผมแล้ว..... พี่หายไปไหนมาคับ.... ทำไมพี่ถึงทิ้งผมไว้คน.... ” ผมพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้นก่อนที่พี่โฟนจะใช้ริมฝีปากบางๆของพี่เค้ายุติคำพูดทั้งหมดของผม
มันเป็นจูบที่ผมโหยหาและอยากครอบครองไว้ตลอดไป
“ พี่รักฟรอยนะคับ....... ” พี่โฟนมองตาผมแล้วพูดคำนี้ออกมาทำให้น้ำตาของผมเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง
“ ฟรอยก็รักพี่โฟนคับ......” ผมพูดออกมาทั้งน้ำตาก่อนที่จะกอดพี่โฟนเอาไว้แน่นไม่อยากให้พี่โฟนหายไปไหนอีกแล้ว
“ ในที่สุดพี่ก็ได้ยินคำนี้..........” พี่โฟนพูดด้วยเสียงเป็นปลื้มก่อนที่จะกอดตอบผม
จากนี้ไปผมจะไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าความหนาว............. หรือความเหงา...............
ผมจะไม่หลงทางแล้ว.......... เพราะคนที่คอยนำทางให้ผมเค้ากลับมาแล้ว
ผมรู้สึกว่าความหนาวข้างในใจได้รับการเยียวยา
กองไฟกองเล็กๆแต่สุดแสนจะอบอุ่นกำลังก่อตัวขึ้นในใจผม
และมันกำลังต่อสู้กับความหนาวภายในใจให้ค่อยๆถอยร่นไป
คงเหลือเพียงความสุขและอบอุ่น
“ ฟรอยคับ.. พี่ต้องไปแล้วหละ” พี่โฟนพูดก่อนที่ผละออกจากอ้อมกอดของเรา
มันเป็นคำพูดที่ผมไม่อยากจะได้ยินและไม่คิดว่าจะได้รับฟังมันอีก
“ พี่โฟนจะไปไหนคับ พี่... พี่กลับมาหาผม... แล้วพี่จะทิ้งผมไปอีกเหรอคับ ” ผมพูดออกมาทั้งน้ำตา
ผมแทบใจจะขาดเมื่อได้ยินคำพูดว่าพี่โฟนจะไปจากผมอีกแล้ว
คราวนี้ผมจะไม่ยอมอีกแล้ว ผมจะไม่ยอมเสียพี่โฟนไปอีก พี่โฟนจะต้องอยู่กับผม
“ ตัวพี่อาจจะ... ไม่ได้อยู่กับฟรอยอีก..... แต่ใจพี่อยู่กับฟรอยตลอดไปนะ ” พี่โฟนพูดออกมาทั้งที่น้ำตาไหลอาบสองข้างแก้ม
ผมค่อยๆใช้มือปาดคราบน้ำตาที่ข้างแก้มของพี่โฟนก่อนที่จะพูดว่า
“ พี่โฟนอย่าไปไหนอีกเลยคับ... ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่ ที่ผ่านมาผมขอโทษนะคับ.... พี่โฟนยังโกรธผมเหรอคับถึงจะทิ้งผมไปอีก ”
“ พี่ไม่เคยโกรธฟรอยหรอกคับ..... แต่พี่ต้องไปแล้วจริงๆ.... ” พี่โฟนพูด
จากนั้นร่างของพี่โฟนก็ค่อยๆจางหายไปในอากาศ
“ พี่โฟนคับ.... พี่โฟน.... พี่จะทิ้งผมไปไหน..... พี่โฟนคับ...... ” ผมร้องไห้ฟูมฟายตะโกนเรียกพี่โฟนสุดเสียง แต่พี่โฟนก็ไม่ยอมกลับมา พี่โฟนทิ้งผมไปอีกแล้ว
“ ฟรอย...... ฟรอย....... เป็นอะไรคับ ฟรอย................ ” ใครคนนึงเรียกชื่อผม ผมจึงผวาเข้าไปกอดร่างนั้นไว้อย่างแน่น
“ พี่โฟน.... พี่กลับมาหาผมแล้วใช่มั้ยคับ.....” ผมพูดด้วยเสียงดีใจ
“ ฟรอยคับ..... ฝันร้ายเหรอ.... ไม่ต้องกลัวนะ.... พี่ฉินอยู่นี่แล้ว”
ผมค่อยๆลืมตาที่ฉาบไปด้วยคราบน้ำตาขึ้นมา ร่างที่กอดผมอยู่......
ไม่ใช่พี่โฟน
แต่น่าแปลก..................
ร่างที่กำลังกอดผมอยู่..........
ทำให้ความหนาวและอ้างว้างภายในใจของผมค่อยๆจางหายไปอย่างน่าประหลาด
“ ปล่อยผมเถอะคับ... พี่ฉิน ” ผมพูดแล้วค่อยผลักพี่ฉินออกเบาๆพอเป็นมารยาท
“ ฝันร้ายเหรอคับ..... ขวัญเอ้ย...ขวัญมา ” พี่ฉินไม่ยอมปล่อยผมออกจากอ้อมกอด แต่กลับกอดผมให้แน่นขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับใช้มือลูบเบาๆที่หัวผมเป็นการปลอบประโลม
ความรู้สึกแปลกประหลาดแผ่ซ่านเข้ามาในใจผมอีกครั้ง
ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร..........
แต่รู้สึกได้ว่าความอบอุ่นถูกก่อตัวขึ้นภายในใจ....................
“ ผมไม่เป็นอะไรแล้วล่ะคับ........ ” ผมพูดและพยายามผลักพี่ฉินออกอีกครั้ง คราวนี้พี่ฉินยอมแต่โดยดี
“ หนาวขนาดนี้.... เหงื่อยังซึมเต็มหน้าเลยนะ.... สงสัยจะฝันร้ายมากเหรอ ” พี่ฉินพูดแล้วเอาแขนเสื้อค่อยๆซับเหงื่อบนหน้าผมออกให้
“ คับ..... ” ผมพูดด้วยใจสั่นๆ
“ ออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันมั้ย..... ใกล้จะเช้าพอดีเลย ” พี่ฉินพูด
“ คับ... ” ผมตอบรับด้วยท่าทางนิ่งๆคล้ายต้องมนต์สะกด
*****************************************************************************
“ สวยจัง......... ตั้งแต่ทำงานหนักๆก็ไม่เคยได้มีโอกาสเห็นภาพแบบนี้เลย ” พี่ฉินพูดทำลายความเงียบระหว่างเรา
“ คับ ” ผมพูดออกไปเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน ลมเย็นๆที่พัดเข้ามากระทบผิวกายคงไม่เท่าความหนาวเย็นในใจของผมตอนนี้
ภาพของพี่โฟนในฝัน ยังชัดเจนในความทรงจำเสมือนมันเป็นเรื่องจริง
“ เงียบเลย.... เป็นอะไรรึป่าว หนาวเหรอ ” พี่ฉินพูดแล้วถอดเสื้อกันหนาวของตัวเองมาคลุมให้ผม
“ ไม่เป็นไรคับพี่.... พี่ใส่เถอะ... ” ผมพูดด้วยท่าทางเกรงใจ
“ ไม่เป็นไรหรอก.... พี่ตัวใหญ่กว่านาย.... นายตัวเล็กกว่าพี่เยอะ.. ใส่เถอะ ” พี่ฉินพูด
“ คับ.... ขอบคุณคับ ” ผมพูด
“ เอ่อ.... ฟรอย พี่ขอถามนายได้มั้ย.... นายฝันร้ายว่าอะไร ” พี่ฉินพูดทั้งที่ตายังมองไปที่ขอบฟ้าด้านหน้า
ภาพตรงหน้า... สวยงามเกินกว่าจะห้ามใจไม่ให้หลงชื่นชม
ดวงอาทิตย์ค่อยๆแทรกตัวผ่านเมฆหมอก เคลื่อนตัวสูงขึ้นคล้ายหวังจะตั้งใจทำหน้าที่ส่องแสงสว่างเพื่อปลุกทุกชีวิตให้ตื่นจากการหลับใหล
เป็นสัญญาณของการเริ่มต้นวันใหม่
แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ ตกกระทบมวลในอากาศ สะท้อนเป็นแสงสีสวยงามฉาบไปทั่วท้องฟ้าด้านหน้า
สัญญาณเริ่มต้นวันใหม่........... ได้เกิดขึ้นแล้ว
ใช่สิ.... ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเดินไปข้างหน้า แม้ภายในจะเจ็บช้ำแค่ไหน... แต่เราก็ต้องเดินไปต่อไป
“ ถ้านายไม่อยากพูดถึง... ก็ช่างมันเถอะนะ ” พี่ฉินพูดหลังจากที่เห็นผมเงียบไป
“ ขอโทษนะคับ.... ผมยังไม่พร้อมจะพูดตอนนี้ ” ผมพูดอย่างเกรงใจ
“ เฮ้ออ............. อากาศตอนเช้าที่นี่ดีจังนะ.... ไม่เหมือนกรุงเทพเลย” พี่ฉินพูด
“ คับ......... อากาศที่นี่สดชื่นดีคับ” ผมพูดก่อนที่จะสูดลมหายใจยาวๆ เพื่อที่จะพยายามควบคุมความสั่นไหวในใจเอาไว้
ผมคงต้องยอมรับความจริงเสียที
“ ป่ะ... ไปอาบน้ำอาบท่าเหอะ... เดี๋ยวกองถ่ายก็จะเริ่มแล้ว ” พี่ฉินพูด ก่อนที่เราจะแยกย้ายกัน
##########################################################################
ลงให้แล้วนัคับ.....
ใครรู้วิธีใส่รูปมั่ง... ไอ้ที่มันอยู่ใต้ชื่อเราอ่ะ
อยากมีรูปกะเค้ามั่งอ่า...............
ใครทำเป็นสอนหน่อยดิคับ...........................
ง่วงแล้ว
ไปนอนก่อนนคับ.....