มาไวไปไวคับ....เวลามีน้อยพิมพ์เสร็จดึกมากๆ...
ตอนนี้ยาวมากเลย....
ผมต้องรีบนอนแล้วเดี๋ยวตื่นไปทำงานไม่ทันคับ.... เข้างาน8.30น.
( -_-)* ระยะห่างของความรู้สึก ( -_-)
ใกล้ . . . ไกล . . . อยู่ที่ใจ หรือ ระยะทาง ( -_-)*ผมใช้เวลาพักฟื้นตัวอยู่สักพักก็สามารถกลับมาทำงานตามปกติได้คับ
ในเรื่องของร่างกาย แม้ว่าหลายๆคนยังคงจะเป็นห่วงผมกันอยู่ แต่ผมว่าผมกลับมาปกติดีแล้วทุกอย่างนะครับ
แต่ในส่วนของจิตใจ.... ผมว่ามันมีบางอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงไป
“ จริงๆพักอีกสักอาทิตย์นึงก่อนก็ได้นะ ” พี่ฉินพูดขึ้น
“ ใช่.... พี่ว่าฟรอยพักอีกสักนิดดีกว่านะ ” พี่บอสพูดเสริมอีกคน
“ ผมหายดีแล้วครับ.... แผลก็หายหมดแล้วด้วยนะ ” ผมพูด
“ ไหวแน่นะเรา..... ” พี่ตอยพูดขึ้นอีกคนอย่างเป็นห่วง (พี่ตอยนี่เป็นพี่ที่ออฟฟิศอีกคนนึงคับ)
“ กาแฟค่ะ..... ” ป้าแม่บ้านเดินเข้ามาในห้องประชุมพร้อมกับเอากาแฟมาเสิร์ฟให้ทุกๆคน
“ ไหวสิคับ..... ผมพักไปเป็นเดือนๆแล้วนะครับ.... ” ผมพูด
“ อ้าว.... ฟรอย มาทำงานได้แล้วเหรอจ๊ะ ” ป้าแม่ทักผมอย่างเป็นห่วง
“ ครับป้า.... ” ผมพูดแล้วยิ้มออกมา
“ โอเคๆ.... งั้นก็ตามใจ แต่ถ้าไม่ไหวก็บอกนะ ” พี่ฉินพูด
“ ครับ.... ” ผมพูด
ป้าแม่บ้านเปิดประตูออกจากห้องประชุมไปสวนกับพี่พิงค์ที่เดินสวนเข้ามาพอดี
“ เชิญด้านในค่ะ ” พี่พิงค์พูดพร้อมกับมีคนเดินเข้ามาสองคนซึ่งก็คือลูกค้าที่เข้ามาบรีฟงานกันในวันนี้ครับ
“ สวัสดีครับ ” ทุกคนต่างทักทายกันตามมารยาท
“ นี่คุณ........ .................................................. ”
พี่พิงค์พูดแนะนำพวกผมทีละคนว่าแต่ละคนชื่ออะไรดูแลส่วนไหนกันบ้าง
“ ครับ...... ผมคิวครับ ส่วนนี่ เจนคับ.... ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ” ลูกค้าแนะนำตัว
ผมรู้สึกว่าคุณมองมาทางผมด้วยสายตาแปลกๆ และดูเหมือนสายตานั้นจะสื่ออะไรบางอย่าง
“ เชิญนั่งครับ.... จะได้เริ่มบรีฟงานกันเลย ” พี่ฉินพูด ผมว่าพี่ฉินก็น่าที่จะดูออกว่าคุณคิวมองผมแปลกๆ
“ อ่อครับ..... ขอบคุณครับ ” คุณคิวหันไปขอบคุณพี่ฉินก่อนที่จะลงนั่ง
จากนั้นก็เป็นการบรีฟงานกันครับ ว่าลูกค้าต้องการอะไรบ้าง รายละเอียดในส่วนต่างๆเป็นอย่างไร
ก็ประมาณว่าทำให้เข้าใจตรงกันระหว่างลูกค้ากับทางเราหนะคับ จะได้ทำงานออกมาได้ตรงตามที่ลูกค้าต้องการ
“ โอเคตามนี้นะครับ.... เดี๋ยวผมให้ทางคุณพิงค์ส่งไทม์ไลน์ตามไปให้ทางคุณอีกทีนะครับ ”
พี่ฉินพูดหลังจากที่บรีฟงานกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ ได้ค่ะ.... ” คุณเจนพูด
“ ถ้ามีอะไรก็ติดต่อทางพิงค์ได้ทุกเรื่องเลยนะคะ ” พี่พิงค์พูด
“ ขอบคุณครับ..... ทุกเรื่องเลยใช่มั้ยครับ ” คุณคิวพูดพร้อมกับมองมาทางผม
ผมเริ่มแน่ใจว่าคุณคิวต้องมีบางสิ่งบางอย่าง...... กะผมแน่ๆ
“ ค่ะ.... ยินดีรับใช้ค่ะ........ ” พี่พิงค์พูดอย่างยิ้มแย้ม
“ งั้นขอตัวก่อนนะคะ ” คุณเจนพูดพร้อมกับสะกิดคุณคิวที่กำลังมองมาทางผม
“ ค่ะ... เดี๋ยวพิงค์เดินไปส่งนะคะ ” พี่พิงค์พูดก่อนที่จะเดินนำคุณเจนกับคุณคิวออกไป
“ กูว่าท่าทางไอ้คุณคิวนั่นแปลกๆนะ ” พี่บอสพูดขึ้นเมื่อคุณคิวกับคุณเจนเดินออกไปแล้ว
“ กูก็ว่างั้น มองยังกะจะกิน ” พี่ฉินพูดด้วยท่าทางมีอารมณ์
“ คงไม่มีอะไรหรอกมั้งครับ ” ผมพูดขึ้น
“ ห่างๆไว้หน่อยก็ดีนะ ” พี่ฉินพูดพร้อมกับเก็บเอกสารบนโต๊ะ
“ ครับ... ” ผมพูดพร้อมกับแสดงท่าทางกังวลเล็กๆ
ผมไม่รู้ว่านับจากนี้มันจะมีอะไรมากกว่านี้รึป่าว แต่ถ้ามี.... ผมคงทำตัวลำบาก เพราะว่าเค้าเป็นลูกค้าของบริษัท
*******************************************************************
หลังจากออกจากห้องประชุมก็แยกย้ายกันไปทำงานครับ
“ น้องฟรอยๆ ” พี่พิงค์เรียกพร้อมกับเดินมาหาผมที่เพิ่งจะเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ มีไรคับพี่ ” ผมพูด
“ ท่าทางคุณคิวเค้าจะสนใจฟรอยนะ เห็นถามนั่นถามนี่เกี่ยวกับฟรอยใหญ่เลย ” พี่พิงค์พูด
............เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย
“ อ่อครับ.... ” ผมตอบด้วยท่าทางเรียบเฉย
“ ว่าไง...... สนมั้ย... ” พี่พิงค์พูดพร้อมกับกระแซะผมอย่างหยอกล้อ ท่าทางพี่พิงค์จะทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักซะแล้ว
“ ไม่ดีกว่าครับพี่... ” ผมตอบกลับไปอย่างเกรงใจ
“ นี่...ถ้าชอบเค้าก็บอกพี่ได้นะ ไม่ต้องอาย..ไม่ต้องเกรงใจด้วย ” พี่พิงค์พูด
“ คือผม....ไม่ได้สนใจเค้าหนะคับ ” ผมพูด
“ ทำไมล่ะ... เค้าก็ท่าทางโอเคนะ น่าตาก็ใช้ได้...... หรือว่าเรามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ” พี่พิงค์พูดอย่างสงสัย
“ เอ่อ.... คือว่า ” ผมพูดไม่ออก... เหมือนไม่รู้ว่าจะตอบอะไรออกไปดี
“ เอ๊ะ..... อะไรยังไงเนี่ย.... ” พี่พิงค์พูดล้อๆผม
“ ไม่มีอะไรหรอกพี่..... ผมไปทำงานก่อนนะ ” ผมรีบพูดตัดบทแล้วเดินมาทำงานที่โต๊ะ
ผมกลับมานั่งคิดงานที่โต๊ะได้สักพักใหญ่ๆ ก็มีหน้าต่างสนทนาเด้งขึ้นมาที่หน้าจอ
ขอบอกก่อนครับว่าที่บริษัทผมเค้าจะมีโปรแกรมสนทนาภายในบริษัทครับ ลักษณะการสนทนาก็คล้ายๆกับเอ็มเอสเอ็น
เพียงแต่ไม่ต้องเข้าออนไลน์ด้วยอีเมลล์ครับ ถ้าอยากจะคุยกับใครก็คลิ๊กไปที่ชื่อคนนั้น... หน้าต่างสนทนาก็จะขึ้นมา
คงจะพอนึกภาพกันออกนะครับ
“ ยุ่งอยู่มั้ย ” พี่ฉิน
“ ก็คิดงานอยู่คับ ” ผมพิมพ์ตอบกลับไป
“ งานของว่าที่แฟนนายนะเหรอ ” พี่ฉินพิมพ์กลับมา
“ ว่าที่แฟนอะไรกันคับ ” ผมพิมพ์กลับไปทั้งที่พอรู้ว่าพี่พิงค์คงเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ฉินฟัง
“ ก็ไอ้คุณคิวของนายไง ” พี่ฉินพิมพ์ตอบมา
“ ของผมที่ไหนล่ะ ไม่ใช่แระ ” ผมพิมพ์กลับไป
“ ก็ได้ข่าวว่าเค้าสนนายหนิ ” พี่ฉินพิมพ์กลับมา
“ ไม่มีไรหรอกพี่ ขำๆมั้ง ” ผมพิมพ์กลับไป
“ นายขำ แต่ฝั่งโน้นเค้าคงไม่ขำด้วยมั้ง ” พี่ฉินพิมพ์กลับมาอีก
“ ไม่ขำก็ช่างเค้าดิคับ ผมไม่เอาด้วยหรอก ” ผมพิมพ์ตอบกลับไป
“ ให้มันแน่ ” พี่ฉินพิมพ์กลับมา
หลายเรื่องหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่เกิดขึ้นตั้งแต่ผมมาทำงานที่นี่ ตั้งแต่ผมได้มารู้จักกับพี่ฉิน
หลายอย่างที่พี่เค้าปฏิบัติกับผม ที่พี่เค้าทำดีกับผม
ผมก็พอจะเกิดคำถามในใจอยู่บ้างครับ.... ผมไม่ได้โง่ขนาดดูอะไรไม่ออก
และก็ไม่ได้จิตใจตายขนาดที่ไม่รู้สึกอะไรเลย
เพียงแต่มันเป็นเพียงแค่คำถามก็เท่านั้นครับ
จริงๆแล้วคำถามนี้เกิดขึ้นในใจผมนานแล้วล่ะครับ
เพียงแต่เราจะใช้ใจ..... หรือสมอง..... เป็นตัวตอบคำถามก็เท่านั้น
ครั้งนึงผมเคยให้คำตอบมันว่า...... มันไม่มีอะไร มันเป็นเพียงความรู้สึกที่พี่เป็นห่วงน้องคนนึง
............. เพราะพี่ฉินเสียน้องชายที่สนิทและรักกันมากไป และผมอาจจะเป็นตัวแทนของคนนั้น
............. เพราะพี่ฉินไม่ชอบเกย์ เกลียดเกย์ จากเรื่องเพื่อนของเค้าที่พี่ฉินเคยเล่าให้ผมฟัง
............. เพราะผมอาจจะดูน่าสงสาร น่าสมเพช ก็เป็นได้
............. เพราะดูเหมือนว่าพี่ฉินเค้าจะมีพี่พิงค์อยู่ ถึงผมจะไม่แน่ใจว่าพี่ฉินคิดอะไรกับพี่พิงค์รึป่าว แต่ผมก็ไม่ค่อยเห็นท่าที่ปฏิเสธของพี่ฉินที่มีกับพี่พิงค์เลยสักครั้ง
แต่สายตานั่น...... ทำให้ผมสับสน
สายตาที่พี่ฉินมองผม...... มันเหมือนกับที่พี่โฟนเคยมองมาที่ผม
ตอนที่ผมสลบอยู่........... มันเหมือนกับผมหลุดเข้าไปในห้วงอะไรสักอย่าง
ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย ผมเจ็บไปทั้งตัว ผมกำลังเดินหลงทางอยู่ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งเป็นที่ที่ผมไม่คุ้นตาเอาซะเลย ตอนที่ผมเคว้งคว้างอยู่นั้น ผมเห็นพี่โฟนครับ.... พี่โฟนเดินเข้ามาหาผม
“ พี่โฟน.... ผมได้อยู่กับพี่แล้วใช่มั้ย ” ผมพูดไปทั้งที่ผมไม่รู้ว่าที่นั่นที่ไหน ผมคิดเพียงแค่ว่าผมคงจะได้อยู่กับพี่โฟนเสียที
พี่โฟนยิ้มให้ผม..... แล้วพูดกับผมว่า
“ ยังไม่ถึงเวลาของฟรอยหรอกคับ..... ” จากนั้นพี่โฟนก็เดินเข้ามากอดผม
“ มีคนให้ชีวิตกับฟรอยแล้วครับ ” พี่โฟนกระซิบที่ข้างหูผม
“ ใครคับ..... ” ผมถามพี่โฟนกลับไปทั้งที่ผมกอดพี่โนเอาไว้แน่น..... อ้อมกอดที่ผมโหยหา
“ สักวันฟรอยจะรู้ครับ...... เค้าจะเป็นคนที่ดูแลฟรอยแทนพี่ ” พี่โฟนจูบผมเบาๆที่ข้างแก้มก่อนจะพูดออกมา
จากนั้นผมก็รู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา........ ประโยคเมื่อครู่ที่พี่โฟนพูดยังก้องอยู่ในหูของผมเลยครับ
“ คนคนนั้นคือใคร.......... ” คำถามที่ผมกำลังหาคำตอบ
และตอนนี้.......... เรื่องคุณคิว และบทสนทนานั่นของพี่ฉิน............
พี่ฉินคือคนคนนั้นเหรอ....... และตอนนี้........ พี่เค้าหึงผม ??????????
การกระทำไวเท่าความคิด
“ ถ้าผมสนใจเค้าแล้วทำไมเหรอคับ ” ผมพิมพ์กลับไป
ข้อความที่ผมพิมพ์กลับไปทำให้พี่ฉินเงียบไปสักพัก ก่อนจะพิมพ์กลับมาว่า
“ นโยบายบริษัทห้ามพนักงานได้กับลูกค้า ” พี่ฉินพิมพ์ตอบกลับมา ทำเอาผมงง
“ มีด้วยเหรอคับ ไม่เห็นพี่นุชเคยบอกผมเลย ” ผมพิมพ์กลับไปอย่างงงๆ (พี่นุชนี่คือพี่ฝ่ายบุคคลคับ)
“ มี ” พี่ฉินพิมพ์กลับมา
“ อ้อ ผมเพิ่งรู้เนี่ย ” ผมพิมพ์กลับไปอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
“ มัวแต่คุย งานไม่มีทำรึไง ” พี่ฉินพิมพ์มาอีก ผมยิ่งงงเป็นไก่ตาแตก ก็ตัวเองเป็นคนเข้ามาคุยกะผมแท้ๆ
“ อ้าว งั้นผมทำงานก่อนนะคับ เดี๋ยวโดนไล่ออก ” ผมพิมพ์กลับไปอย่างฉุนๆก่อนที่ผมจะคิดงานต่อ
****************************************************
ช่วงประมาณเย็นๆ พี่บอสก็เดินมาบอกผมว่า
“ ฟรอย... วันนี้พวกพี่จะไปเที่ยวกัน เราไปด้วยนะ ”
“ ทำไมหละครับ ไม่ไปไม่ได้เหรอ ”
ผมพูดเพราะไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ ไม่อยากไปเจอบรรยากาศอึดอัดๆ
เพราะตั้งแต่จบบทสนทนานั่น พี่ฉินก็ทำหน้าบึ้งใส่ผมทั้งวันเลย
“ ไปด้วยกันสิ ไอ้เคนกะหยินก็ให้ชวนนายไปด้วย ” พี่บอสพูด
“ คือว่า..... ” ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะอ้างยังไงดี
“ มีอะไรรึป่าว...... พรุ่งนี้ก็วันหยุดนี่ ” พี่บอสถามอย่างเริ่มสนใจเหตุผลที่ผมไม่ไป
“ เอ่อ... ไม่มีไรหรอกครับ ผมเกรงใจหนะครับเผื่อพวกพี่อยากไปเฉพาะเพื่อนๆกัน”
ผมรีบปฏิเสธ เพราะไม่อยากบอกเหตุผลที่แท้จริงกับพี่บอส
“ ไม่หรอกน่า.... มีแต่คนอยากให้นายไปด้วย ” พี่บอสพูดพร้อมกับยิ้มออกมา
“ แน่ใจเหรอครับ ” ผมหลุดปากออกมาเมื่อนึกถึงหน้าพี่ฉิน
“ แน่ใจสิ... ทำไมล่ะ นี่ฟรอยมีอะไรรึป่าวเนี่ย..... ” พี่บอสถามด้วยท่าทางแปลกใจ
“ ไม่มีไรครับ... ไปก็ไป ” ผมพูด
“ โอเค..... งั้นเลิกงานแล้วออกไปพร้อมพี่เลยนะ ไอ้บอสกะพิงค์คงไปเจอที่โน้นเลย ”
พี่บอสพูด เพราะพี่ฉินกับพี่พิงค์ออกไปหาลูกค้าด้วยกันตั้งแต่บ่ายแก่ๆแล้วครับ
“ ครับพี่ ” ผมพูด จากนั้นก็แยกย้ายกันไปเคลียร์งาน