- - - - ระยะห่างของความรู้สึก - - - - ผมมาทักทาย... (1 ก.พ. 54)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - - - - ระยะห่างของความรู้สึก - - - - ผมมาทักทาย... (1 ก.พ. 54)  (อ่าน 65652 ครั้ง)

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
ความเหงานี่ช่างโหดร้ายดีเนอะ

ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครมันไม่เคยปรานีใครเลย

สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ความเหงา มันช่างเศร้า อะไรอย่างงี๊

(จากตอนที่แล้ว สรุปแล้ว ผมเดาผิดครับ.... :serius2:)

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
แวะเอาเพลงมาฝากครับ....

ประกอบการอ่าน......

เพลงด้านมืดของพระจันทร์ครับ....


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-05-2009 15:11:55 โดย OsTrich »

patz

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วสงสารฟรอยจัง ทำไมอดีตช่างโหดร้ายอย่างนี้เนี่ย แต่ยังไงก็อยากให้อยู่กับปัจจุบันเข้าไว้อะ มีความสุขกับวันนี้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ อะไรที่ผ่านมาแล้ว ก็เก็บไว้เตือนใจ แต่อย่าไปจมปลักอยู่กับมัน


คนแต่งก็สู้ๆนะครับผม  :L2:

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
เค้ามาดุนกระทู้ตัวเอง.... :o8:

subaru

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาช่วยดันอีกแรงค่ะ o13

gateau

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วรู้สึกเหงาขึ้นมาเลย
ยิ่งฟังเพลงโปรดเจ้าของทู้แล้วก็ยิ่งเศร้า
 :L2:ให้น้องกร  :กอด1:น้องกร



gateau

  • บุคคลทั่วไป
มาช่วยดันกระทู้รอน้องสักนิดนึง
 :กอด1:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
คงกำลังเหนื่อยกับงานใหม่
เคลียร์งาน พักผ่อนหายเหนื่อยแล้ว
มาเล่าความรู้สึกต่อนะคับ น้องกร

 :กอด1: น้องกร Hug ทำให้รู้สึกอบอุ่น จิตใจผ่อนคลาย  :L1:

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
สวัสดีครับ... คนอ่านทุกคน....

ช่วงนี้หายๆไป... พอดีผมเพิ่งเข้าทำงานที่ใหม่คับ

เลยต้องปรับตัวหลายอย่างเลย ทั้งเรื่องการทำงานเรื่องเวลาเรื่องการพักผ่อน......

ตอนใหม่เลยยังไม่ได้เอามาลงให้อ่านกันสักที แต่ตอนนี้ก็กำลังพิมอยู่คับ....

ถ้าคืนนี้ไม่เสร็จก็เป็นพุ่งนี้นะครับ... ผมจะเอามาลงต่อให้

ขอบคุณพี่ๆที่เข้ามาช่วยกันดันกระทู้นะครับ  แล้วก็เม้นของคนอ่านทุกๆคนเลย

เห็นแล้วมีกำลังใจคับ.....

ขอเอ่ยชื่อคุณ pickki_a พอดีเพิ่งได้มีโอกาสอ่านเรื่องของคุณ " รักดั่งเส้นขนาน " หนะคับ.....

อ่านแล้วก็รู้สึกโหว่งๆ......... พอจาเข้าใจความรู้สึกของคุณอยู่พอสมควรเพราะผมเองก็เคยเจออะไรประมาณนี้มา

ยังไงก็ขอให้คุณเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะคับ........

ขอบคุณคนอ่านทุกคนด้วยครับ.....

เดี๋ยวไปพิมเรื่องต่อก่อน

 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เหนื่อยไหมคนดี  :กอด1:
 :L1:รักจัง เดะดื้อ

ออฟไลน์ posh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
หายไปนานเลยอ่า

เมื่อไหร่จะมาต่อซักที  :o12:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
รอกันไปก่อนนะ  :z1:
หุหุ

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
แวะมาดุนกระทู้ตัวเอง.....

กำลังพิมคับ...

แปปนึงๆนะ

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
จึ้กกกกกกกกกกกก..... :z13: ทีเดียว
ไหวมั้ยอ่ะ น้องกร
 :L1:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
รออยู่นะครับ กร  :กอด1:

ออฟไลน์ posh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อยากอ่านต่อแร๊วอ่า ~

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :กอด1: กร Hug อุ่นๆๆๆ นอนดูฝนตก
เขียนใกล้เสร็จเหรอยังคร้าบบบ น้องกร

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
มาไวไปไวคับ....เวลามีน้อยพิมพ์เสร็จดึกมากๆ...

ตอนนี้ยาวมากเลย....

ผมต้องรีบนอนแล้วเดี๋ยวตื่นไปทำงานไม่ทันคับ.... เข้างาน8.30น.



( -_-)* ระยะห่างของความรู้สึก ( -_-)



ใกล้ . . .   ไกล . . .   อยู่ที่ใจ หรือ ระยะทาง ( -_-)*




ผมใช้เวลาพักฟื้นตัวอยู่สักพักก็สามารถกลับมาทำงานตามปกติได้คับ
ในเรื่องของร่างกาย แม้ว่าหลายๆคนยังคงจะเป็นห่วงผมกันอยู่ แต่ผมว่าผมกลับมาปกติดีแล้วทุกอย่างนะครับ

แต่ในส่วนของจิตใจ.... ผมว่ามันมีบางอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงไป



“ จริงๆพักอีกสักอาทิตย์นึงก่อนก็ได้นะ ” พี่ฉินพูดขึ้น

“ ใช่.... พี่ว่าฟรอยพักอีกสักนิดดีกว่านะ ” พี่บอสพูดเสริมอีกคน

“ ผมหายดีแล้วครับ.... แผลก็หายหมดแล้วด้วยนะ ” ผมพูด

“ ไหวแน่นะเรา..... ” พี่ตอยพูดขึ้นอีกคนอย่างเป็นห่วง (พี่ตอยนี่เป็นพี่ที่ออฟฟิศอีกคนนึงคับ)

“ กาแฟค่ะ..... ” ป้าแม่บ้านเดินเข้ามาในห้องประชุมพร้อมกับเอากาแฟมาเสิร์ฟให้ทุกๆคน

“ ไหวสิคับ..... ผมพักไปเป็นเดือนๆแล้วนะครับ.... ” ผมพูด

“ อ้าว.... ฟรอย  มาทำงานได้แล้วเหรอจ๊ะ ” ป้าแม่ทักผมอย่างเป็นห่วง

“ ครับป้า.... ” ผมพูดแล้วยิ้มออกมา

“ โอเคๆ.... งั้นก็ตามใจ  แต่ถ้าไม่ไหวก็บอกนะ ” พี่ฉินพูด

“ ครับ.... ” ผมพูด

ป้าแม่บ้านเปิดประตูออกจากห้องประชุมไปสวนกับพี่พิงค์ที่เดินสวนเข้ามาพอดี

“ เชิญด้านในค่ะ ” พี่พิงค์พูดพร้อมกับมีคนเดินเข้ามาสองคนซึ่งก็คือลูกค้าที่เข้ามาบรีฟงานกันในวันนี้ครับ

“ สวัสดีครับ ” ทุกคนต่างทักทายกันตามมารยาท

“ นี่คุณ........ .................................................. ”
พี่พิงค์พูดแนะนำพวกผมทีละคนว่าแต่ละคนชื่ออะไรดูแลส่วนไหนกันบ้าง

“ ครับ...... ผมคิวครับ  ส่วนนี่ เจนคับ....  ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ” ลูกค้าแนะนำตัว
ผมรู้สึกว่าคุณมองมาทางผมด้วยสายตาแปลกๆ และดูเหมือนสายตานั้นจะสื่ออะไรบางอย่าง

“ เชิญนั่งครับ.... จะได้เริ่มบรีฟงานกันเลย ” พี่ฉินพูด ผมว่าพี่ฉินก็น่าที่จะดูออกว่าคุณคิวมองผมแปลกๆ

“ อ่อครับ..... ขอบคุณครับ ” คุณคิวหันไปขอบคุณพี่ฉินก่อนที่จะลงนั่ง



จากนั้นก็เป็นการบรีฟงานกันครับ ว่าลูกค้าต้องการอะไรบ้าง รายละเอียดในส่วนต่างๆเป็นอย่างไร
ก็ประมาณว่าทำให้เข้าใจตรงกันระหว่างลูกค้ากับทางเราหนะคับ จะได้ทำงานออกมาได้ตรงตามที่ลูกค้าต้องการ



“ โอเคตามนี้นะครับ.... เดี๋ยวผมให้ทางคุณพิงค์ส่งไทม์ไลน์ตามไปให้ทางคุณอีกทีนะครับ ”
พี่ฉินพูดหลังจากที่บรีฟงานกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“ ได้ค่ะ.... ” คุณเจนพูด

“ ถ้ามีอะไรก็ติดต่อทางพิงค์ได้ทุกเรื่องเลยนะคะ ” พี่พิงค์พูด

“ ขอบคุณครับ..... ทุกเรื่องเลยใช่มั้ยครับ ” คุณคิวพูดพร้อมกับมองมาทางผม
ผมเริ่มแน่ใจว่าคุณคิวต้องมีบางสิ่งบางอย่าง...... กะผมแน่ๆ

“ ค่ะ.... ยินดีรับใช้ค่ะ........ ” พี่พิงค์พูดอย่างยิ้มแย้ม

“ งั้นขอตัวก่อนนะคะ ” คุณเจนพูดพร้อมกับสะกิดคุณคิวที่กำลังมองมาทางผม

“ ค่ะ... เดี๋ยวพิงค์เดินไปส่งนะคะ ” พี่พิงค์พูดก่อนที่จะเดินนำคุณเจนกับคุณคิวออกไป




“ กูว่าท่าทางไอ้คุณคิวนั่นแปลกๆนะ ” พี่บอสพูดขึ้นเมื่อคุณคิวกับคุณเจนเดินออกไปแล้ว

“  กูก็ว่างั้น  มองยังกะจะกิน ” พี่ฉินพูดด้วยท่าทางมีอารมณ์

“ คงไม่มีอะไรหรอกมั้งครับ ” ผมพูดขึ้น

“ ห่างๆไว้หน่อยก็ดีนะ ” พี่ฉินพูดพร้อมกับเก็บเอกสารบนโต๊ะ

“ ครับ... ” ผมพูดพร้อมกับแสดงท่าทางกังวลเล็กๆ
ผมไม่รู้ว่านับจากนี้มันจะมีอะไรมากกว่านี้รึป่าว แต่ถ้ามี.... ผมคงทำตัวลำบาก เพราะว่าเค้าเป็นลูกค้าของบริษัท


*******************************************************************




หลังจากออกจากห้องประชุมก็แยกย้ายกันไปทำงานครับ

“ น้องฟรอยๆ ” พี่พิงค์เรียกพร้อมกับเดินมาหาผมที่เพิ่งจะเดินออกมาจากห้องน้ำ

“ มีไรคับพี่ ” ผมพูด

“ ท่าทางคุณคิวเค้าจะสนใจฟรอยนะ  เห็นถามนั่นถามนี่เกี่ยวกับฟรอยใหญ่เลย ” พี่พิงค์พูด


............เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย


“ อ่อครับ.... ” ผมตอบด้วยท่าทางเรียบเฉย

“ ว่าไง...... สนมั้ย... ” พี่พิงค์พูดพร้อมกับกระแซะผมอย่างหยอกล้อ  ท่าทางพี่พิงค์จะทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักซะแล้ว

“ ไม่ดีกว่าครับพี่... ” ผมตอบกลับไปอย่างเกรงใจ

“ นี่...ถ้าชอบเค้าก็บอกพี่ได้นะ  ไม่ต้องอาย..ไม่ต้องเกรงใจด้วย ” พี่พิงค์พูด

“ คือผม....ไม่ได้สนใจเค้าหนะคับ ” ผมพูด

“ ทำไมล่ะ... เค้าก็ท่าทางโอเคนะ น่าตาก็ใช้ได้...... หรือว่าเรามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ” พี่พิงค์พูดอย่างสงสัย

“ เอ่อ.... คือว่า ” ผมพูดไม่ออก... เหมือนไม่รู้ว่าจะตอบอะไรออกไปดี

“ เอ๊ะ..... อะไรยังไงเนี่ย.... ” พี่พิงค์พูดล้อๆผม

“ ไม่มีอะไรหรอกพี่..... ผมไปทำงานก่อนนะ ” ผมรีบพูดตัดบทแล้วเดินมาทำงานที่โต๊ะ


ผมกลับมานั่งคิดงานที่โต๊ะได้สักพักใหญ่ๆ ก็มีหน้าต่างสนทนาเด้งขึ้นมาที่หน้าจอ
ขอบอกก่อนครับว่าที่บริษัทผมเค้าจะมีโปรแกรมสนทนาภายในบริษัทครับ ลักษณะการสนทนาก็คล้ายๆกับเอ็มเอสเอ็น
เพียงแต่ไม่ต้องเข้าออนไลน์ด้วยอีเมลล์ครับ  ถ้าอยากจะคุยกับใครก็คลิ๊กไปที่ชื่อคนนั้น... หน้าต่างสนทนาก็จะขึ้นมา
คงจะพอนึกภาพกันออกนะครับ

“ ยุ่งอยู่มั้ย ” พี่ฉิน

“ ก็คิดงานอยู่คับ ” ผมพิมพ์ตอบกลับไป

“ งานของว่าที่แฟนนายนะเหรอ ” พี่ฉินพิมพ์กลับมา

“ ว่าที่แฟนอะไรกันคับ ” ผมพิมพ์กลับไปทั้งที่พอรู้ว่าพี่พิงค์คงเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ฉินฟัง

“ ก็ไอ้คุณคิวของนายไง ” พี่ฉินพิมพ์ตอบมา

“ ของผมที่ไหนล่ะ ไม่ใช่แระ ” ผมพิมพ์กลับไป

“ ก็ได้ข่าวว่าเค้าสนนายหนิ ” พี่ฉินพิมพ์กลับมา

“ ไม่มีไรหรอกพี่ ขำๆมั้ง ” ผมพิมพ์กลับไป

“ นายขำ แต่ฝั่งโน้นเค้าคงไม่ขำด้วยมั้ง ” พี่ฉินพิมพ์กลับมาอีก

“ ไม่ขำก็ช่างเค้าดิคับ ผมไม่เอาด้วยหรอก ” ผมพิมพ์ตอบกลับไป

“ ให้มันแน่ ” พี่ฉินพิมพ์กลับมา


หลายเรื่องหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่เกิดขึ้นตั้งแต่ผมมาทำงานที่นี่  ตั้งแต่ผมได้มารู้จักกับพี่ฉิน
หลายอย่างที่พี่เค้าปฏิบัติกับผม ที่พี่เค้าทำดีกับผม
ผมก็พอจะเกิดคำถามในใจอยู่บ้างครับ.... ผมไม่ได้โง่ขนาดดูอะไรไม่ออก
และก็ไม่ได้จิตใจตายขนาดที่ไม่รู้สึกอะไรเลย


เพียงแต่มันเป็นเพียงแค่คำถามก็เท่านั้นครับ


จริงๆแล้วคำถามนี้เกิดขึ้นในใจผมนานแล้วล่ะครับ



เพียงแต่เราจะใช้ใจ..... หรือสมอง.....  เป็นตัวตอบคำถามก็เท่านั้น


ครั้งนึงผมเคยให้คำตอบมันว่า......  มันไม่มีอะไร มันเป็นเพียงความรู้สึกที่พี่เป็นห่วงน้องคนนึง

............. เพราะพี่ฉินเสียน้องชายที่สนิทและรักกันมากไป  และผมอาจจะเป็นตัวแทนของคนนั้น
............. เพราะพี่ฉินไม่ชอบเกย์  เกลียดเกย์  จากเรื่องเพื่อนของเค้าที่พี่ฉินเคยเล่าให้ผมฟัง
............. เพราะผมอาจจะดูน่าสงสาร น่าสมเพช ก็เป็นได้
............. เพราะดูเหมือนว่าพี่ฉินเค้าจะมีพี่พิงค์อยู่ ถึงผมจะไม่แน่ใจว่าพี่ฉินคิดอะไรกับพี่พิงค์รึป่าว แต่ผมก็ไม่ค่อยเห็นท่าที่ปฏิเสธของพี่ฉินที่มีกับพี่พิงค์เลยสักครั้ง


แต่สายตานั่น...... ทำให้ผมสับสน

สายตาที่พี่ฉินมองผม......  มันเหมือนกับที่พี่โฟนเคยมองมาที่ผม





ตอนที่ผมสลบอยู่........... มันเหมือนกับผมหลุดเข้าไปในห้วงอะไรสักอย่าง
ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย  ผมเจ็บไปทั้งตัว ผมกำลังเดินหลงทางอยู่ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งเป็นที่ที่ผมไม่คุ้นตาเอาซะเลย ตอนที่ผมเคว้งคว้างอยู่นั้น ผมเห็นพี่โฟนครับ....  พี่โฟนเดินเข้ามาหาผม

“ พี่โฟน....  ผมได้อยู่กับพี่แล้วใช่มั้ย ”  ผมพูดไปทั้งที่ผมไม่รู้ว่าที่นั่นที่ไหน ผมคิดเพียงแค่ว่าผมคงจะได้อยู่กับพี่โฟนเสียที

พี่โฟนยิ้มให้ผม..... แล้วพูดกับผมว่า
“ ยังไม่ถึงเวลาของฟรอยหรอกคับ..... ” จากนั้นพี่โฟนก็เดินเข้ามากอดผม

“ มีคนให้ชีวิตกับฟรอยแล้วครับ ” พี่โฟนกระซิบที่ข้างหูผม

“ ใครคับ..... ” ผมถามพี่โฟนกลับไปทั้งที่ผมกอดพี่โนเอาไว้แน่น..... อ้อมกอดที่ผมโหยหา

“ สักวันฟรอยจะรู้ครับ...... เค้าจะเป็นคนที่ดูแลฟรอยแทนพี่ ” พี่โฟนจูบผมเบาๆที่ข้างแก้มก่อนจะพูดออกมา


จากนั้นผมก็รู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา........  ประโยคเมื่อครู่ที่พี่โฟนพูดยังก้องอยู่ในหูของผมเลยครับ



“ คนคนนั้นคือใคร.......... ” คำถามที่ผมกำลังหาคำตอบ


และตอนนี้.......... เรื่องคุณคิว   และบทสนทนานั่นของพี่ฉิน............



พี่ฉินคือคนคนนั้นเหรอ.......    และตอนนี้........ พี่เค้าหึงผม ??????????



การกระทำไวเท่าความคิด

“ ถ้าผมสนใจเค้าแล้วทำไมเหรอคับ ”  ผมพิมพ์กลับไป

ข้อความที่ผมพิมพ์กลับไปทำให้พี่ฉินเงียบไปสักพัก  ก่อนจะพิมพ์กลับมาว่า
“ นโยบายบริษัทห้ามพนักงานได้กับลูกค้า ” พี่ฉินพิมพ์ตอบกลับมา ทำเอาผมงง

“  มีด้วยเหรอคับ ไม่เห็นพี่นุชเคยบอกผมเลย ” ผมพิมพ์กลับไปอย่างงงๆ (พี่นุชนี่คือพี่ฝ่ายบุคคลคับ)

“ มี ” พี่ฉินพิมพ์กลับมา

“ อ้อ  ผมเพิ่งรู้เนี่ย ” ผมพิมพ์กลับไปอย่างไม่ค่อยแน่ใจ

“ มัวแต่คุย งานไม่มีทำรึไง ” พี่ฉินพิมพ์มาอีก ผมยิ่งงงเป็นไก่ตาแตก ก็ตัวเองเป็นคนเข้ามาคุยกะผมแท้ๆ

“ อ้าว งั้นผมทำงานก่อนนะคับ เดี๋ยวโดนไล่ออก ” ผมพิมพ์กลับไปอย่างฉุนๆก่อนที่ผมจะคิดงานต่อ


****************************************************




ช่วงประมาณเย็นๆ พี่บอสก็เดินมาบอกผมว่า

“ ฟรอย... วันนี้พวกพี่จะไปเที่ยวกัน  เราไปด้วยนะ ”

“ ทำไมหละครับ ไม่ไปไม่ได้เหรอ ”
ผมพูดเพราะไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ ไม่อยากไปเจอบรรยากาศอึดอัดๆ
เพราะตั้งแต่จบบทสนทนานั่น พี่ฉินก็ทำหน้าบึ้งใส่ผมทั้งวันเลย


“ ไปด้วยกันสิ ไอ้เคนกะหยินก็ให้ชวนนายไปด้วย ” พี่บอสพูด

“ คือว่า..... ” ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะอ้างยังไงดี

“ มีอะไรรึป่าว...... พรุ่งนี้ก็วันหยุดนี่ ” พี่บอสถามอย่างเริ่มสนใจเหตุผลที่ผมไม่ไป

“ เอ่อ... ไม่มีไรหรอกครับ ผมเกรงใจหนะครับเผื่อพวกพี่อยากไปเฉพาะเพื่อนๆกัน”
ผมรีบปฏิเสธ เพราะไม่อยากบอกเหตุผลที่แท้จริงกับพี่บอส

“ ไม่หรอกน่า.... มีแต่คนอยากให้นายไปด้วย ” พี่บอสพูดพร้อมกับยิ้มออกมา

“ แน่ใจเหรอครับ ” ผมหลุดปากออกมาเมื่อนึกถึงหน้าพี่ฉิน

“ แน่ใจสิ...  ทำไมล่ะ  นี่ฟรอยมีอะไรรึป่าวเนี่ย..... ” พี่บอสถามด้วยท่าทางแปลกใจ

“ ไม่มีไรครับ... ไปก็ไป ” ผมพูด

“ โอเค..... งั้นเลิกงานแล้วออกไปพร้อมพี่เลยนะ  ไอ้บอสกะพิงค์คงไปเจอที่โน้นเลย ”
พี่บอสพูด เพราะพี่ฉินกับพี่พิงค์ออกไปหาลูกค้าด้วยกันตั้งแต่บ่ายแก่ๆแล้วครับ

“ ครับพี่ ” ผมพูด จากนั้นก็แยกย้ายกันไปเคลียร์งาน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-05-2009 23:08:05 โดย OsTrich »

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
*******************************************************

เสียงเพลงดั่งสนั่นกับผู้คนเต็มร้านจนแน่น ร้านนี้ถือว่าเป็นร้านที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
เพราะคนแน่นเต็มร้านไปหมด แต่ละคนต่างก็อยู่ในอารมณ์สนุกสนานไปกับเพลงที่เปิดกระตุ้นอารมณ์ความสนุกอยู่ตลอดเวลา แต่ผมสิ..... ความอึดอัดกำลังจะเริ่มขึ้น

“ เหนื่อยเหรอฟรอย... หน้าเครียดจัง ”
พี่เคนตะโกนถามผมเสียงดังหลังจากที่เดินไปรับผมกับพี่บอสที่หน้าร้านมาสักพัก

“ ป่าวคับพี่.... ไม่ได้เป็นไร ” ผมพูดกับยิ้มออกมา ไม่อยากทำให้บรรยากาศหมดสนุก

“ ไม่ได้เป็นไรแน่นะ ” พี่บอสก้มมาพูดกับผมใกล้ๆพราะเสียงเพลงดังมาก

“ ครับ ” ผมตอบพี่บอสไป

“ เฮ้ยไอ้ฉิน... เบาๆหน่อยเมิง กินมากไม่ดีนะเว้ย ”
พี่บอสพูดเสียงดังฝ่าเสียงเพลงที่ดังอยู่เพื่อบอกกับพี่ฉิน ผมเองก็เห็นพี่ฉินดื่มหนักตั้งแต่ผมมาถึง

“ ไม่เป็นไรว่ะ... นานๆที ” พี่ฉินพูด

ตั้งแต่ผมมาถึงพี่ฉินไม่พูดกับผมเลย ไม่มองหน้าผมด้วย เอาแต่กินเหล้าๆ
ตัวผมเองก็ไม่แน่ใจหรอกคับว่าที่พี่เค้าดื่มหนักขนาดนี้มันเพราะเรื่องผมรึป่าว
เพราะผมเองก็ไม่ได้แน่ใจอะไรมากนัก แต่ที่แน่ๆที่พี่ฉินไม่พูดกับผมคงเป็นเพราะเรื่องนั้น

“ อ้าว..... มากันแล้วเหรอ ” พี่หยินพูดทักผมกับพี่บอส หลังจากที่เดินมาที่โต๊ะพร้อมกับพี่พิงค์
ซึ่งไปแดนซ์กันมา

“ เป็นไง.... มันส์กันใหญ่เลยนะ ” พี่เคนพูดแซวพี่หยินกับพี่พิงค์

“ ก็นิดหน่อย..... มาปล่อยแก่นี่หว่า ” พี่หยินพูด

“ ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำหน่อยนะครับ ” ผมพูด

“ ไปคนเดียวได้ป่าว ” พี่บอสพูดกับผม

“ ได้คับพี่... ใกล้ๆเอง ” ผมพูดก่อนที่จะเดินไปเข้าห้องน้ำ


หลังจากนั้นผมก็แทรกตัวผ่านคนที่ค่อนข้างจะแน่นเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำ
พอทำธุระเสร็จผมก็เดินฝ่าคนออกมาเพื่อจะเดินกลับไปที่โต๊ะ
แต่ช่วงที่กำลังเดินกลับไปนั้น เป็นช่วงที่มีคนเดินสวนมาพอดีผมก็เลยพยายามเบี่ยงตัวหลบ
แต่เหมือนคนนั้นก็จงใจเบี่ยงตัวมาทางผมแล้วเบียดตัวเข้าหาผมอย่างจังจนหน้าแทบจะชนกัน
ผมรู้สึกไม่พอใจเล็กๆกับการกระทำของคนตรงหน้าที่ผมไม่แน่ใจว่าบังเอิญหรือจงใจ
แสงไฟสลัวภายในร้านทำให้มองเห็นหน้ากันไม่ชัดนักว่าใครเป็นใคร

“ สวัสดีครับ  เราเจอกันอีกแล้วนะครับ ” เสียงคนตรงหน้าพูดกับผม

ผมเพ่งมองคนตรงหน้าชัดๆเพื่อดูว่าเป็นใคร เพราะฟังแค่เสียงผมก็รู้สึกไม่คุ้นเลย
“ คุณคิว ” ผมพูดเมื่อเห็นหน้าชัดๆว่าเป็นใคร

“ ครับ... คุณฟรอย ยินดีจังนะครับที่ได้เจอกันอีก ” คุณคิวพูด

“ อ้อครับ... ” ผมตอบรับอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ ผมเห็นคุณสักพักแล้วล่ะคับ  แต่ไม่ได้เดินไปทัก ” คุณคิวพูด

“ ครับ.... มากับพวกเพื่อนๆพี่ฉินหนะคับ” ผมพูด

“ ครับ.... เหมือนคุณไม่ค่อยสนุกนะ เห็นหน้าบึ้งๆ ” คุณคิวพูดจนผมเริ่มแปลกใจว่าผมทำหน้าเบื่อโลกขนาดนั้นเลยเหรอ

“ ไม่มีไรหรอกครับ ” ผมตอบปฏิเสธอย่างมีมารยาท

“ ครับ.... นึกว่าทะเลาะกับแฟนมาซะอีก ” คุณคิวพูด

“ ป่าวคับ  ผมไม่มีแฟน ” ผมพูด

“ เหรอคับ  ดีจังเลยนะครับ ” คุณคิวพูดพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างได้ใจ
ผมเห็นแววตานั่น ผมก็เริ่มแน่ใจได้แล้วคับว่าคุณคิวคิดอะไรอยู่

“ เอ่อ... ผมขอตัวก่อนนะครับ ” ผมพูด

“ ว่าอะไรนะครับ ” คุณคิวพูดพร้อมกับยื่นหน้ามาใกล้ๆผมแล้วหอมแก้มผมอย่างจัง
ผมยอมรับว่าตกใจมาก เพราะถึงผมจะดูท่าทางของคุณคิวออกว่าคิดยังไงกับผม
แต่ผมเองก็ไม่คิดว่าเค้าจะกล้าทำขนาดนี้ คงเพราะด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วย
ผมเลยอึ้งไปสักพัก  มาได้สติก็ตอนที่รู้สึกว่าโดนกระชากที่แขนอย่างแรง

“ มาอยู่นี่นี่เอง ” พี่ฉินพูดด้วยอารมณ์ที่เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ

“ โทษทีนะครับ... พอดีกำลังคุยกันถูกคอ ” คุณคิวหันมาที่พี่ฉินแล้วพูดขึ้น

“ คุณคิวนี่เอง.... มาเที่ยวที่นี่เหมือนกันเหรอคับ ” พี่ฉินพูดอย่างข่มอารมณ์

“ ใช่ครับ.... กำลังจะเดินไปทักที่โต๊ะพอดี ” คุณคิวพูด

“ ครับ..... บังเอิญจังนะครับที่มาเจอกันที่นี่ ” พี่ฉินพูดอย่างจงใจเน้นคำพูด

“ ที่นี่ร้านประจำพวกผมหนะ ” คุณคิวพูดอย่างจงใจเน้นคำเช่นกัน

“ เหรอคับ... ผมไม่เคยเห็นเจอ  นี่ก็ร้านประจำผมเหมือนกัน ” พี่ฉินพูด

ผมเริ่มกังวลใจเพราะท่าทางทั้งคู่ก็กรึ่มๆกัน บทสนทนาเริ่มกลายเป็นสงครามน้ำลาย

“ ผมว่ากลับไปที่โต๊ะกันดีกว่ามั้ยครับ ” ผมพูดเพื่อยุติเหตุการณ์ที่เริ่มตึงๆ

“ ไปดิ.. เห็นพวกนั้นถามหานายกันอยู่ ” ฉินพูด

“ ขอตัวก่อนนะครับคุณคิว ” ผมพูดตามมารยาท

“ ครับ... แล้วเจอกันครับ ” คุณคิวพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินแยกกัน

ตอนที่เดินกลับมาที่โต๊ะ พี่ฉินจับมือผมแล้วบีบแรงๆหลายครั้งมาตลอดทาง
ผมพยายามสะบัดออกเพราะเจ็บแต่พี่ฉินก็ยิ่งบีบมือผมแรงขึ้นทั้งที่ไม่ได้มองหน้าหรือพูดอะไรกับผมเลยสัดคำ



ผมไม่แน่ใจว่าไอ้อาการที่พี่ฉินแสดงอยู่นี้......... เป็นเพราะหึงผมรึป่าว?????????



พอกลับมาถึงที่โต๊ะทุกคนที่เหลือคงสังเกตุได้ว่าระหว่างผมกับพี่ฉินจะต้องมีเรื่องอะไรมาแน่ๆ

“ มีอะไรกันรึป่าว....... ” พี่พิงค์ถามด้วยเสียงที่ดูเหมือนเป็นห่วงหากผมไม่บังเอิญไปเห็นสายตาแบบนั้นของเธอที่มองมาที่มือของพี่ฉินที่จับมือผมอยู่

“ สงสัยฟรยจะมาหนะ..... เห็นยืนปล่อยเนื้อปล่อยตัวอยู่ที่หน้าห้องน้ำหนะ ” พี่ฉินพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน

“ จริงเหรอน้องฟรอย..... กับใครหนะ  แหม...ที่ตอนคุณคิวล่ะทำเป็นเล่นตัวนะ..... ”
พี่พิงค์พูดด้วยท่าทางสนุกปากแต่ผมกลับไม่รู้สึกสนุกด้วยสักนิด

“ ก็คุณคิวของฟรอยเค้านั่นแหละ..... ” พี่ฉินพูดอย่างจงใจเน้นเสียงให้ฟังชัดเจน

“ เมิงก็ท่าทางจะเมานะไอ้ฉิน.... พูดจาอะไรเพ้อเจ้ออยู่ได้ ” พี่บอสพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจหลังจากที่เงียบมานาน

“ ก็จริงอย่างที่พี่ฉินพูดล่ะคับ....... กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลยพี่ฉินดันมาขัดซะก่อน ”
ผมพูดออกมาอย่างโมโห ผมไม่สนใจแล้วว่าการกระทำที่พี่ฉินแสดงออกมาอยู่นี้เป็นเพราะหึงผมหรือเพราะอะไรกันแน่ แต่ผมกลับรู้สึกเสียใจเพราะการกระทำนั่นมันทำให้ผมรู้ว่าพี่ฉินทำเหมือนไม่รู้จักผมเลย

“ เอาเหอะน่า.... จะไงก็เหอะ...... มาสนุกกันต่อดีกว่า ” พี่เคนพูดเพื่อคลายบรรยากาศที่ตึงเครียดให้เบาบางลง

“ เอาชนแก้วกันหน่อย ” พี่หยินพูดพร้อมกับยกแก้วขึ้นตามด้วยพี่เคน พี่บอส พี่พิงค์และผมกับพี่ฉินยกแก้วขึ้นเกือบพร้อมกัน

คงด้วยความหงุดหงิดในใจที่มันเกิดขึ้นตอนนั้นซึ่งผมไม่แน่ใจนัก หรืออาจจะแน่ใจแต่ไม่กล้ายอมรับ หรือเพราะไม่เคยถามตัวเองก็ไม่รู้ ผมรู้แต่เพียงว่าผมรู้สึกเสียใจที่พี่ฉินแสดงอาการแบบนั้นออกมา รู้สึกเสียใจที่พี่ฉินทำเหมือนไม่รู้จักผมเลย......

ผมดื่มเหล้าแก้วนั้นจนหมดแก้วในครั้งเดียว.......

ตามด้วยแก้วที่สอง............

แก้วที่สาม..........................................

แก้วที่สี่............................................................

แก้วที่ห้า.................................................................................

.

..

........

.......................

........................................

ตามมาด้วยแก้วที่เท่าไหร่ไม่รู้......

ความรู้สึกที่มีรวมทั้งสติค่อยๆลดลงๆๆๆๆ...... ผมกำลังเมา

ผมไม่ได้คิดว่าเหล้าคือทางออกของปัญหา แต่ผมเพียงแค่ใช้เหล้าเป็นเครื่องมือหนีปัญหาก็เท่านั้น
ผมไม่อยากเห็นว่าสายตานั้น...... มองผมด้วยความรู้สึกเช่นไร.......
ผมไม่อยากรับรู้ว่าตัวเองเสียใจแค่ไหน....... ที่ถูกประเมินค่าเพียงแค่นั้น.....

ผมทนไม่ได้............



“ ไหวมั้ยฟรอย...... ” พี่บอสถามขึ้นอย่างเป็นห่วงขณะกำลังพยุงผมไปที่รถ

“ ผมไม่ได้ทำอะไรกับคุณคิวนะ......... พี่ฟังผมบ้างดิ...... ” ผมพึมพำอย่างอ้อแอ้เต็มที

“ ครับ....พี่รู้แล้วครับ........ ” พี่บอสพูด

“ ทำไมพี่ไม่ถามผมบ้าง.......  เห็นผมเป็นคนใจง่ายนักรึไง... ห๊า............. ” ผมเริ่มโวยวายอย่างตัดพ้อ

“ ใจเย็นๆก่อนนะฟรอย....... ”  พี่บอสพูดปลอบ

“ ไม่เย็นแล้ว.....เย็นไม่ไหวแล้วพี่.... ” ผมยังโวยวายไม่เลิก

“ ตอนนี้ฟรอยเมาแล้วนะ......  อย่าดื้อดิ...... ” พี่บอสพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นอย่างตั้งใจจะปรามผม

“ ปล่อยผม... ผมจะไปคุยกะพี่ฉินให้รู้เรื่อง ” ผมยังคงโวยวายพร้อมกับสะบัดมือพี่บอสที่พยุงร่างผมไว้ให้ออกไป

“ ฟรอย..... เอาไว้ค่อยคุยกันวันอื่นนะ ” พี่บอสพูด

ผมก็ยังคงดื้อที่จะเดินไปคุยกับพี่ฉินให้รู้เรื่อง ตอนนั้นเรากันตรงลานจอดรถผมเห็นพี่ฉินกับพี่พิงค์กำลังเดินไปที่รถด้วยกัน ซึ่งห่างออกไปจากผมอยู่พอสมควร
ผมสะบัดพี่บอสออกจากตัวแล้วผลักจนล้มไปกระแทกกับพื้น จากนั้นผมก็เดินโซเซๆไปที่เป้าหมายข้างหน้า

“ หยุดก่อน.... มาคุยกะผมให้รู้เรื่องก่อน ” ผมตะโกนออกไปเสียงดังได้ผลคับพี่ฉินหยุดเดิน

“ พี่น้องฟรอยกลับไปก่อนดีมั้ย.... น้องฟรอยเมาแล้วนะ ” พี่พิงค์พูด

“ แต่ผมจะคุยวันนี้.... ตอนนี้....  ” ผมพูด

“ แต่พี่ไม่มีอะไรจะคุย ” พี่ฉินหันมาพูดตะคอกผมเสียงดังก่อนที่จะเดินไปที่รถอย่างไม่สนใจผมเลย

“ พี่คิดว่าผมเป็นคนแบบนั้นจริงๆเหรอคับ..... ” ผมพูดออกไปทั้งที่พี่ฉินกำลังเดินหนีผม พี่ฉินหยุดเดินแต่ไม่ได้หันกลับมามองผมและพูดออกมาว่า

“ ก็ไม่รู้สิ.... แต่เกย์เค้าใจง่ายกันไปทั่วไม่ใช่เหอ..... ” พี่ฉินพูดแล้วก็เดินเข้าไปในรถโดยที่ไม่หันมามองผมเลย

“ พี่ว่าพี่เริ่มรู้เหตุผลที่ฟรอยไม่สนใจคุณคิวแล้วนะ... ” พี่พิงค์พูดออกมาด้วยหน้าตาและน้ำเสียงที่ผมอดแปลกใจไม่ได้

“ พี่หมายความว่าไงเหรอคับ.... ” ผมพูดออดมาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์

“ อย่าคิดว่าพี่ดูไม่ออกนะว่าเธอคิดอะไรอยู่........ แต่เสียใจด้วยนะ.... ที่ฉินเค้าไม่ใช่พวกเดียวกับเธอ”
พี่พิงค์พูดออกมาด้วยสายตาที่ดูเหยียดหยามผมอย่างเต็มที่ ผมรู้สึกแปลกใจ เพราะพี่พิงค์ที่ผมรู้จักดูเป็นผู้หญิงที่มี่พิษไม่มีภัย  น่ารัก ดูสนุกสนานเป็นมิตร แต่ตัวตนของพี่พิงค์ที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้มันเหมือนเป็นคนอีกคนนึงเลยด้วยซ้ำ

แม้ว่ารถของเค้าทั้งคู่จะขับออกไป  แต่ผมกลับยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
ผมยังคงอึ้งกับคำพูดของคนทั้งคู่......... ผมไม่คิดว่าตัวเองจะได้ยินประโยคเหล่านั้นออกมาจากปากของพวกเค้า  โดยเฉพาะพี่ฉิน

“ ก็ไม่รู้สิ.... แต่เกย์เค้าใจง่ายกันไปทั่วไม่ใช่เหอ..... ”

ประโยคนี้ยังก้องอยู่ในหูของผม.......


คิดไปคิดมาก็คงไม่แปลกสินะ........... ก็พี่เค้าไม่เป็นเกย์หนิ   จริงอย่างที่พี่พิงค์พูด
และที่สำคัญ....  พี่ฉินก็เกลียดเกย์มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว.....
ฮึ.. ฮึ... น่าสมเพชตัวเองชะมัด.......


ในตอนแรกผมยอมรับว่าผมเมา....
แต่จากคำพูดของเค้าทั้งคู่...........  ผมได้ฟังแล้วดูเหมือนผมถูกตบที่หน้าเข้าอย่างจัง
ทำเอาผมแทบจะหายเมาเลย  ตลอดทางจากผับกลับมาที่หอ ผมเปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคน
จากเดิมที่โวยวายไม่ฟังใครกลับกลายเป็นซึมเศร้า
บรรยากาศในรถดูอึมครึม พี่บอสที่ขับรถอยู่หรือแม้แต่พี่เคนที่นั่งข้างหน้าคู่กับพี่บอสก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยจนกระทั่งมาถึงอพาร์ทเม้นของผม

ผมไม่รู้ว่าพี่บอสกับพี่เคนกำลังคิดอะไรอยู่.... เค้าจะได้ยินบทสนทนานั่นมั้ย......
อย่าว่าแต่จะรู้หรือเข้าใจความคิดของคนอื่นเลย......

สำหรับตัวผมเอง..... ตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าผมกำลังรู้สึกอะไร....

มันว่างเปล่า... และรู้สึกโหว่งๆที่ใจยังไงก็ไม่รู้คับ


“ เดินไหวมั้ย..... ” พี่บอสพูดหลังจากที่เดินมาแล้วเปิดประตูให้ผมพร้อมกับทำท่าจะเข้ามาช่วยพยุง

“ ผมเดินเองได้ครับพี่ ” ผมพูดพร้อมกับเดินออกมาจากรถ

“ ไหวแน่นะ... ” พี่เคนถามขึ้นอีกคนอย่างเป็นห่วง

“ ครับ..... พวกพี่ขึ้นไปบนห้องผมกันก่อนมั้ยครับ”  ผมพูด

“ ไม่ดีกว่าฟรอยจะได้พักผ่อน ” พี่บอสพูด

“ ขึ้นไปหน่อยดีกว่า..... กูปวดฉี่ว่ะ” พี่เคนพูด

“ งั้นขึ้นไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่าครับ...”  ผมพูดพร้อมกับเดินนำพี่บอสกับพี่เคนขึ้นไปบนห้อง


“ ห้องน่าอยู่นะ... ” พี่เคนพูดขึ้นหลังจากที่เดินเข้ามาในห้อง

“ ห้องน้ำอยู่ตรงนั้นหนะคับ ” ผมพูดพร้อมกับชี้ไปที่ห้องน้ำเพื่อบอกกับพี่เคน

“ ขอบคุณครับ... ” พี่เคนพูดพร้อมกับเดินไปเข้าห้องน้ำ

“ ห้องกว้างกว่าที่พี่คิดไว้เยอะเลยนะเนี่ย........ ” พี่บอสพูดพร้อมกับเดินไปทั่วห้อง

“ ครับ.... ก็พี่ไม่ได้ขึ้นมาซะทีอ่ะ.... ” ผมพูด

“ นี่รูปใครเหรอฟรอย... ทำไมมีเยอะจัง ” พี่บอสพูดพร้อมกับมองรูปที่ผมติดไว้สะเปะสะปะที่มุมข้างโต๊ะทำงาน

“ รูปพี่โฟนหนะครับ...... ” ผมพูดด้วยเสียงราบเรียบ ทำให้พี่บอสเงียบไปจนผมคิดแทนว่าพี่บอสคงรู้สึกไม่ดีที่ดันมาถามถึงพี่โฟนแม้จะไม่ได้ตั้งใจ

“ ผมไม่เป็นไรหรอกครับพี่.... ” ผมพูดออกมาเพื่อบอกให้พี่บอสรู้

“ ครับ...... แต่พี่รู้สึกคุ้นหน้าเค้าจัง ” พี่บอสพูดอย่างใช้ความคิด

“ มีอะไ.......................” ผมพูดยังไม่ทันจบพี่เคนก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนว่า

“ กลับกันเหอะว่ะ.... กูง่วงมากเลย ” เสียงของพี่เคนไม่ได้ทำให้สายตาของพี่บอสหมดความสนใจจากรูปของพี่โฟน

“ เฮ้ย..... ไปกลับกัน ”  พี่เคนพูดเร่งพี่บอสด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม

“ เอ้อ... ไปดิ ” พี่บอสพูดแต่สายตาก็ยังคงมองที่รูปของพี่โฟนอย่างใช้ความคิด

“ พวกพี่กลับกันก่อนนะครับ.... ” พี่เคนพูด

“ ไปนะ... อย่าคิดมากล่ะ... ” พี่บอสพูดก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไป


ผมเดินไปเปิดประตูบานเลื่อนที่ระเบียงเพื่อระบายอากาศภายในห้อง
ผมออกไปยืนรับลมที่ระเบียงเพื่อหวังจะผ่อนคลายความรู้สึกและความคิดที่ดูจะเหนื่อยล้าเต็มที
แต่ดูเหมือนลมจะพัดแรงเกินกว่าที่ผมต้องการ  แรงลมที่พัดกรรโชกแรงบอกให้รู้ว่าฝนกำลังจะตก


พายุ....... กำลังจะมา


จากนั้นไม่นานสายฝนก็ค่อยๆโปรยปรายลงมาพร้อมกับแรงลมที่แสนแรงจนดูเหมือนน่ากลัว


ฤดูฝน.................................. ที่แสนบ้าคลั่ง


ผมยืนมือออกไปสัมผัสเม็ดฝนด้วยความต้องการเช่นเดิม.......
หวังว่าสายฝนคงช่วยดับความร้อนรุ่ม....... ความวุ่นวายเหนื่อยล้า  ภายในใจของผมได้

ผมหลับตา............ แต่ภาพที่เห็นในห้วงคำนึง........... กลับเป็นภาพของพี่ฉิน....
และเสียงนั่น...... ที่ยังคงก้องหูอยู่...........


ผมอยากจะลืม.......  ลืมความรู้สึกนั่น.......... พร้อมๆกับอยากจะรู้ให้แน่..... ว่าความร้อนรุ่มนี่

........................ สาเหตุมาจากอะไร


ครั้งนี้....... สายฝนดูเหมือนจะไม่สามารถช่วยให้ผมผ่อนคลายอะไรได้เหมือนอย่างเคย

ผมลืมตาขึ้นอย่างเหนื่อยใจ................
แต่ภาพที่เห็นตรงหน้า........  กลับทำให้ความร้อนรุ่มที่มีอยู่ตอนแรกทวีมากยิ่งขึ้น

ห้องตรงข้าม.........  ซึ่งเป็นห้องของเค้า...............

ผมเห็นพี่พิงค์นุ่งผ้ากระโจมอกเดินออกมาที่ระเบียง  ในมือถือเสื้อผ้าซึ่งเป็นชุดที่อยู่บนเรือนร่างของเธอเมื่อตอนอยู่ที่ผับ.....  ผมรีบหันหลังให้ทันทีก่อนที่พี่พิงค์เห็นผม.....


ผมรู้สึกหวามๆในใจ......  พร้อมกับใจที่เต้นแรงขึ้นๆๆๆ


ผมรู้สึกร้อนผ่าวๆที่ดวงตา.......  พร้อมกับหยาดน้ำไหลที่ค่อยๆไหลจากตา





ผมแน่ใจแล้ว.......  ว่าผมกำลังรู้สึกอะไร


###########################################################

เอาไว้แอบแวะมาทักอีกทีนะคับ   

ไปแล้ววววววววววววว......................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2009 00:20:30 โดย OsTrich »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ posh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
พี่พิงค์ร้ายกาจมาก
ใช้ช่วงพี่ฉินเมาแล้วปล้ำเขาล่ะสิ

มาต่อเร็ว ๆ เน่อ
หายไปนานละคิดถึง
อิอิ ~

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
โอววววว.....หลากอารมณ์ หลายความรู้สึก
ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเยอะแยะ

ฟรอย....ฉิน
ฉิน......พิงค์
พิงค์.....ฟรอย
ฟรอย....บอส
หยิน.....พิงค์

 :เฮ้อ: แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว

 :L1:ขอบคุณคับ น้องกร +1 กะอีก หนึ่ง Hug  :กอด1:

patz

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อ... สงสารฟรอยจัง  :monkeysad:


พิงค์ เธอร้ายมากๆเลยนะ  :beat:




แล้วบอสคุ้นหน้าโฟนด้วย เคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่าครับเนี่ย

sharp2

  • บุคคลทั่วไป
แรงคราบบบบบบบ คุณพิ้ง

เพราะเมาแท้ๆเลย

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
อารายกันนี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


มาเป็นกำลังใจให้สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
ดุนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :m32: :m32: :m32: :m32:

 :m7: :m7:

gateau

  • บุคคลทั่วไป
ดันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
:z2:
พิงค์มันร้ายเนอะ
ไอ้พี่ฉินก็ปากdogจริง

ออฟไลน์ posh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ชอบครับ

รอครับ

เมื่อไหร่จะมาต่ออ่ะ

 :o8:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ความรู้สึกที่กำลังจะตกผลึก กลับถูกกวนให้ขุ่นคลักขึ้นมาอีก

แล้วเมื่อไหร่ จะกลับมาตกผลึกอีกละ

เป็นกำลังใจให้ กร เช่นเดิมนะครับ รักษาสุขภาพด้วย อากาศเปลี่ยนแปลงอีกแล้วนะครับ

+1 ให้อีกเช่นเคย รอตอนต่อไปอยู่นา คนน่ารัก  :กอด1:

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
มาแล้วคร้าบ.....

โทษทีนะครับที่มาต่อช้า  พอดีว่าโน๊ตบุ้คผมพัดลมระบายอากาศมันเสีย เวลาที่พิมเวิร์ดพอเครื่องร้อนมันจะดับตลอดเลย

ทำให้พิมไม่เสร็จซะที... ต้องพิมพ์ที่ออฟฟิศเวลาเลิกงาน...  เลยเสร็จช้ามากๆ

วันนี้เลยเอามาลงให้อ่านกันก่อน..เดี๋ยวคนอ่านจะหายกันหมดพอดี...

ขอบคุณคนอ่านที่มาช่วยดันกระทู้ให้นะครับ.. แล้วก็ขอบคุณที่เป็นห่วงด้วย

น่ารักๆๆๆๆๆ...... 555555+


เชิญทัศนาครับ....

************************************************


( -_-)* ระยะห่างของความรู้สึก ( -_-)



ใกล้ . . .   ไกล . . .   อยู่ที่ใจ หรือ ระยะทาง ( -_-)



ผมตื่นนอนเกือบเที่ยงของวันรุ่งขึ้นพร้อมกับความรู้สึกมึนหัวเพราะอาการแฮงค์ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
ผมลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำเพื่อหวังจะเติมความสดชื่นให้กับตัวเอง
หลังจากอาบน้ำเสร็จผมรู้สึกสดชื่นขึ้นครับ แต่อาการแฮงค์ก็ยังไม่หายไปซะทีเดียว

เมื่อความสดชื่นถูกเพิ่มเติมเข้ามาในร่างกาย สมองผมก็เริ่มทำงานครับ
เหตุการณ์เมื่อคืน....         ภาพที่ผมเห็น  ..            เค้าสองคนกำลังจูบกัน......

ผมยอมรับครับ.... ว่าผมรู้สึกแปลกๆกับฟรอย.... แต่ผมเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้
น่าแปลกนะครับ.....  ที่บางครั้ง... ตัวเราเองกลับไม่รู้หรือเข้าใจความรู้สึกของตัวเองเลย..

ใช่ครับ........ ผมไม่เคยแน่ใจหรือตอบตัวเองได้เลยว่าแท้ที่จริงแล้วผมรู้สึกยังไงกับฟรอย

รู้.......  ว่าเป็นห่วง
รู้......... ว่าอยากดูแล
รู้...........  ว่าอยากอยู่ใกล้ๆ อยากมีเวลาอยู่ด้วยกันนานๆ

ทุกครั้งที่ผมอยู่ใกล้ฟรอย  ผมรู้สึกว่าเวลามักนะผ่านไปเร็วเสมอ

ใช่ว่าผมจะไม่เคยคิดหรือถามตัวเองนะครับ......
....................... ว่าไอ้ความรู้สึกเหล่านั้นมันเพราะผมตกหลุมรักรอยรึป่าว???

แต่ผมก็เลิกคิดครับ... ก็ผมไม่ใช่เกย์นี่.........  แถมยังไม่ค่อยชอบพวกนี้ซะเท่าไหร่ด้วย

ไม่น่าเชื่อครับ...
เมื่อเวลาผ่านไปผมกลับรู้สึกว่า.........
มีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวผมโดยที่ผมไม่เคยได้สังเกตตัวเองเลย

ตอนนั้นผมรู้สึกแต่ว่าผมหงุดหงิด....

ทุกครั้งที่ฟรอยอยู่ใกล้ใคร....... โดยเฉพาะผู้ชาย  หรือแม้แต่ผู้หญิงสวยๆบางคน
ทุกครั้งที่ฟรอยสนิทสนมทำตัวใกล้ชิดใคร  หรือพูดเล่นหยอกล้ออย่างสนุกสนานกับใคร
ทุกครั้งที่มีใครให้ความช่วยเหลือหรือเป็นห่วงฟรอยจนเกินความจำเป็น.....

และอีกหลายๆเหตุการณ์

โดยเฉพาะเวลาที่....  ฟรอยอยู่ใกล้ไอ้บอส

ทั้งที่ผมก็รู้นะว่าไอ้บอสไม่ได้เป็นเกย์  แต่ผมไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของมันนี่ครับ

เชื่อมั้ยครับ  ว่าผมไม่เคยถามตัวเองถึงที่มาของความรู้สึกหงุดหงิดหรือโมโหนั่นเลย
จนมาถึงเหตุการณ์เมื่อคืน  ตอนที่ผมเห็นเค้าสองคนกำลังจูบกัน
ความรู้สึกครั้งนี้มันไม่ใช่แค่หงุดหงิดหรือโมโห มันมากกว่านั้น
ทั้งหึง.... ทั้งหวง....... และใจของผมก็เต้นแรงอย่างไม่น่าเชื่อ
ความรู้สึกของผมตอนนั้นมันมากมายจนผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
ผมรู้เพียงว่ามันล้วนแล้วแต่เป็นความรู้สึกแย่ และมันก็มากมายจนผมอดแปลกใจกับตัวเองไม่ได้

และตอนนี้ผมคิดว่าผมรู้ความรู้สึกของตัวเองแล้ว................ " ผมตกหลุกรักฟรอย "


ผมเดินออกมาจากห้องเพื่อหวังจะใช้กาแฟเข้มๆสักแก้วช่วยบรรเทาอาการแฮงค์

“ กาแฟใช่มั้ย....... พิงค์ชงให้แล้วกำลังจะเอาไปให้พอดี ”  พิงค์พูดด้วยท่าทีเกร็งๆ คงเพราะเหตุการณ์เมื่อคืน

“ ขอบใจนะ.... ” ผมตอบออกไปเสียงเรียบเมื่อนึกถึงสิ่งที่ทำเมื่อคืน

“ เอ่อ..... เรื่องเมื่อคืน...... พิงค์ขอโทษนะ  คือว่าพิงค์คงดื่มหนักไปหน่อย ” เธอพูดอย่างอึกอัก

ผมยกกาแฟขึ้นจิบก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ ไม่เป็นไรหรอก.... มันไม่ใช่ครั้งแรกหนิ ” เธอได้ฟังถึงกับหน้าถอดสี ผมคิดว่าพิงค์คงไม่คิดว่าผมจะพูดออกมาตรงๆ

“ เอ่อ... คือ..... ฉินก็น่าจะรู้ว่าพิงค์ทำแบบนั้นเพราะอะไร ” พิงค์พูด

“ พิงค์อยากได้แบบอารมณ์ชั่ววูบเหรอ   พิงค์ก็รู้ว่าฉินคิดกับพิงค์ยังไง... อย่าพยายามให้เสียแรงเปล่าเลยนะ ”
ผมพยายามพูดอย่างปราณีปรานอม

“ แต่พิงค์รักฉินจริงๆนะ ” พิงค์ยังพูดยืนยันความรู้สึก

“ มันเป็นไปไม่ได้หรอกพิงค์.... เราเป็นแค่เพื่อนกันหนะดีที่สุดแล้ว ” ผมพูด


“ หวานเค้าตายไปแล้วนะฉิน..... ” พิงค์พูดออกมาด้วยหวังจะเตือนสติผม แต่เธอคิดผิด
เรื่องนั้นผมรู้ดีและผมก็ทำใจรับกับมันมาสักระยะแล้ว....

คนเราต้องอยู่กับปัจจุบัน


“ ฉินว่าเราคุยไม่รู้เรื่องแล้วนะพิงค์ ” ผมพูดอย่างเริ่มมีอารมณ์ส่วนพิงค์ก็ได้แต่นั่งร้องไห้

ผมรู้... ว่าสิ่งที่ผมพูดไปวันนี้เพื่อเตือนสติงเธอไม่ให้มารอคอยคนอย่างผมอาจจะทำให้เธอเสียใจ
แต่ผมคิดว่ามันก็คงดีกว่าจะปล่อยให้อะไรมันเลยเถิดไปกว่านี้
เหตุการณ์แบบเมื่อคืนไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งแรก..... และผมก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก

“ พิงค์พยามยามแล้ว.... แต่พิงค์ทำไม่ได้ ” พิงค์พูดด้วยเสียงสั่นเครือ

“ สักวันพิงค์จะทำใจได้เอง...... ฉินไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อคืนอีก  มันไม่ดีเลยนะ... พี่พิงค์พยายามทำอะไรแบบนั้น...... ” ผมพูดเพื่อเตือนสติเธอ

“ ฉินไม่รู้หรอกว่ามันทรมานขนาดไหน  เวลาที่เราได้แต่แอบมองใครอยู่ห่างๆ เวลาที่เราเห็นเค้าคบกับใคร  รักกับใคร เราได้แค่แอบมอง..... แล้วก็เจ็บอยู่ข้างใน..... ฉินไม่เข้าใจหรอก ”
พิงค์พูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบทั้งสองแก้มขาวใสของเธอ

เธอคงไม่รู้...... ว่าความรู้สึกแบบที่เธอพูดมา  ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน

เพราะมันคงไม่ต่างจากความรู้สึกของผมเมื่อคืน.... และมันยังคงเจ็บจนถึงตอนนี้

“ ฉินพอเข้าใจนะ.... ว่ามันโหดร้ายขนาดไหน  แต่ฉินคิดแบบนั้นกับพิงค์ไม่ได้จริงๆ ”
ผมพูดพร้อมกับทอดสายตาออกไปเบื้องหน้า..... ฝนกำลังตกลงมาอีกแล้ว

ผมเดินออกไปที่ริมระเบียงสายฝนที่โปรยปรายลงมา พร้อมกับฟ้าผ่าลงมาเป็นระยะราวกับว่าฟ้าจะทะลายลงมา ภายในใจของผมนึกถึงแต่ฟรอย มือของผมยื่นออกไปสัมผัสเม็ดฝนอย่างกับต้องมนต์สะกด ขอให้สายฝนช่วยชะล้างความว้าวุ่นในใจของผมออกไปทีเถอะ........


ผมเข้ามาในห้องหลังจากออกไปที่นอกระเบียงได้พักใหญ่ๆ  พิงค์กลับไปแล้ว.....
ผมหยิบกระเป๋าตังค์และกุญแจรถด้วยตั้งใจจะไปหาคนที่ผมหวังว่าเค้าจะช่วยให้ผมสบายใจขึ้นได้
และผ่านพ้นความว้าวุ่นในใจนี้ออกไปเสียที่

แม่...........................

“ ไงล่ะ....ไอ้พ่อคนเก่ง...  นึกยังไงมาหาแม่ได้ล่ะ  ” แม่พูดกับผมทันทีที่ผมก้าวลงมาจากรถ

ด้วยน้ำเสียงที่ขี้เล่นและแอบแฝงความน้อยใจเล็กๆนั่นทำให้ผมอดที่จะเข้าไปกอดละหอมแก้มฟอดใหญ่ไม่ได้....
ผู้หญิงคนนี้ล่ะครับที่ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจและสบายใจขึ้นทุกครั้งที่มีเธออยู่ข้างๆ

“ ก็คิดถึงแม่ไงครับ..... ” ผมพูดด้วยเสียงอ้อนๆ

“มีเรื่องอะไรมาอีกล่ะสิ ” แม่ผมพูดอย่างรู้ทัน

“ 55555…… แม่นี่ดูผมออกตลอดเลยจริงๆนะ ” ผมพูดอย่างเด็กที่โดนจับได้เมื่อทำความผิด

“ ก็ฉันเป็นแม่แกหนิ... ” แม่พูด

“ คร้าบ.... ก็คิดถึงแม่ด้วยล่ะครับ ” ผมพูด

“ แล้วนี่กินไรมารึยังล่ะ... ” แม่ถาม

“ ยังเลยครับ... ก็ตั้งใจจะมากินฝีมือแม่ไง ” ผมพูดด้วยท่าทางอ้อนๆ

“ เฮ้ออ.... ไปๆเข้าบ้านก่อน  เดี๋ยวแม่ทำอะไรให้กิน ” แม่พูด


*******************************************************


“ มีเรื่องไม่สบายใจอะไรจะเล่าก็เล่ามา....” แม่พูดหลังจากที่ผมทานข้าวฝีมือแม่เสร็จ

“ ไม่มีอะไรหรอกครับแม่.... ฉินแค่คิดถึงแม่ก็เลยมาหา ” ผมโกหกออกไปทั้งที่ใจก็อยากจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แม่ฟัง เพียงแต่ผมคิดว่ามันคงเร็วเกินไปที่แม่จะรับรู้เรื่องนี้

แม่จะรับได้ไหม....      ถ้ารู้ว่าลูกชายของตัวเอง....  รักผู้ชายด้วยกัน

“ แม่เป็นแม่ฉินนะลูก..... แม่เลี้ยงฉินมา  ทำไมแม่จะดูลูกแม่ไม่ออก ” แม่พูดอย่างอ่อนโยน
ใช่ครับ... แม่คือแม่ของผม และแม่รู้.... ว่าผมกำลังมีเรื่องอะไรในใจ

“ ผมไม่แน่ใจครับแม่.... ผมไม่รู้ว่าแม่จะรับได้มั้ย  กับสิ่งที่ผมกำลังจะพูด ” ผมพูดด้วยความกังวลใจ

“ ทำไมคิดแบบนั้นล่ะลูก.... ไม่ว่าลูกจะทำผิดอะไร แม่ก็ไม่มีทางโกรธเกลียดลูกได้หรอก ”
แม่พูดพร้อมกับลูบที่หัวผมอย่างเอ็นดู ผมรู้สึกรักผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมคนนี้ผม
...... แม่ของผมครับ

“ ขอบคุณครับแม่ ” ผมพูดพร้อมกับเข้าสวมกอดแม่

“ มีเรื่องอะไรกันหืม.... ไหนเล่าให้แม่ฟังซิ ” แม่พูดหลังจากที่คลายอ้อมกอดออกจากผม

“ คือผมรู้สึกว่าผมกำลังมีความรักครับแม่..... ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจนัก

“ ก็ดีสิลูก.... ไปหลงรักสาวที่ไหนเข้าล่ะ ” แม่ยิ้มออกมาตอนที่พูด

“ แม่จะรับได้มั้ยครับ.. ถ้าผมจะบอกว่าคนที่ผมหลงรัก....  เอ่อ.... คือ......  ”
ผมพูดตะกุกตะกักเพราะไม่แน่ใจว่าแม่จะรับในสิ่งที่ผมกำลังจะบอกได้

“ พูดมาสิลูก.... มีอะไรก็พูดออกมาเถอะ.... ” แม่พูด

“ คือว่า... คนที่ผมหลงรัก...  เค้าไม่ใช่...  ผู้หญิงครับ.... ”
ผมพูดออกไปอย่างยากเย็น  แต่สุดท้ายผมก็พูดมันออกไปจนได้

ผมไม่กล้าสบตาแม่....  ผมกลัว...  กลัวว่าแม่  จะผิดหวังในตัวผม.....
ผมกลัวว่าแม่จะอายใครๆ  ที่มีลูกอย่างผม

แม่เงียบครับ... หลังจากที่ผมพูดประโยคนั้นออกไปจากปาก
ในช่วงเวลานั้นผมรู้สึกกดดันและรู้สึกอึดอัดมาก  ผมไม่รู้ว่าแม่คิดหรือรู้สึกอะไรอยู่
ถึงแม่บอกว่า..  แม่รับได้  แต่ผมรู้ดีว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำใจรับกับมันได้ง่ายๆ

“ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันลูก ” แม่พูดด้วยเสียงนิ่งๆแต่ก็ยังเจือปนไปด้วยความห่วงใย

“ สักพักแล้วครับแม่ ”  ผมพูดทั้งที่ยังคงไม่กล้าที่จะสบตาแม่

“ เรื่องมันเป็นมายังไงกัน  ไหนเล่าให้แม่ฟังซิลูก ” แม่พูดพร้อมกับลูบหัวผมอย่างเอ็นดู
ผมโน้มตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของแม่  ผมไม่กล้ามองหน้าหรือสบตาแม่เลย
ผมกลัว...  กลัวว่าสายตาของแม่มันจะเป็นสายตาที่ผิดหวัง....  ผิดหวังกับคนอย่างผม

ผมค่อยๆเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แม่ฟัง ตั้งแต่วันที่ผมเจอฟรอยวันแรกจวบจนวันที่ความรู้สึกแปลกเริ่มย่างกลายเข้ามาในใจ  ผมค่อยๆบรรจงเล่าทุกๆเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเรา

ไม่น่าเชื่อ...... 

ผมสามารถจำทุกเรื่องราวทั้งหมดได้จนขึ้นใจ เสมือนว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นได้เพียงไม่กี่นาทีที่ผ่านมา

“ แม่เลี้ยงลูกมาตั้งแต่เกิดจนป่านนี้..... แม่รู้ดี... ว่าลูกของแม่เป็นคนยังไง  ” แม่พูด

“ ครับแม่... ” ผมยังคงกอดแม่แน่นเหมือนเด็กๆ  ผมไม่กล้าสบตาแม่เลยตั้งแต่ประโยคนั้นหลุดออกจากปากผม

“ เพราะฉะนั่น..... แม่ไม่ว่าอะไรหรอกลูก..... ไม่ว่าลูกของแม่จะเป็นอะไร  เพราะแม่รู้ดีว่าลูกของแม่เป็นคนดี ”
แม่พูดด้วยเสียงที่อ่อนโยนพร้อมกับลูกหัวของผมไปด้วยอย่างเอ็นดู

ทุกสิ่งที่แม่ทำทุกสิ่งที่แม่พูด  ผมฟังแล้วผมรู้สึกซึ้งใจและตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก และผมไม่สามารถจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้     

ผมรักแม่....

ผมรู้สึกว่าแม่คือคนที่พร้อมจะรับฟังปัญหาของผม...  และแม่จะอยู่ข้างๆผมทุกครั้งที่ผมมีปัญหา

ผมไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด....  มันเป็นเรื่องของความรู้สึก..  ความรู้สึกที่เกินจะบรรยายได้

ผมรักแม่ของผมครับ.....



“ สมัยนี้... สังคมมันเปลี่ยนไปเยอะ...  อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปเยอะ  คนก็เปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน....  แม่เข้าใจนะ  แต่แม่ก็ยังอดห่วงลูกไม่ได้ ”  แม่พูดอย่างเป็นห่วง

“ ผมจะพยายามไม่ทำให้แม่เป็นห่วงนะครับ ” ผมพูดพร้อมกับเช็ดคราบน้ำตา ผมหอมแก้มแม่ของผมและผมกอดท่านเอาไว้แน่น

“ ทีหลังมีอะไรไม่สบายก็บอกแม่รู้มั้ยลูก.... ” แม่พูดอย่างเป็นห่วง

“ ครับแม่... ” ผมตอบแม่

“ ลูกแน่ใจแล้วนะลูก..... ” แม่สบตาผมพร้อมกับถามผมขึ้นมา

ผมสบตาแม่อย่างมุ่งมันพร้อมตอบออกไปว่า
“ ครับแม่....  ผมแน่ใจแล้ว ”

“ ขึ้นชื่อว่าความรักแล้ว.... ไม่ว่าจะแบบไหนก็ตาม  ลูกอย่าลืมนะ...  ว่ามันมีสองด้านเสมอ ” แม่พูด

“ ครับแม่... อันนี้ผมรู้ดีครับ ” ผมพูด

“ ดีแล้วล่ะลูก ” แม่พูด

“ ผมรักแม่นะครับ...  เราน่าจะไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมนะครับ ” ผมพูดพร้อมกับหวนนึกถึงภาพในอดีต

“ ลูกก็รู้นี่.... ว่ามันเป็นไปไม่ได้  ” แม่พูด ผมรู้ว่าแม่ของผมเป็นคนเข้มแข็งมากแม้ว่าผมจะแอบเห็นสายตาสั่นไหวนั่นในดวงตาของแม่

“ ครับ...  ผมเข้าใจ  เพียงแต่ผมแค่อยากให้เรากลับไปอยู่กันเหมือนเดิม ” ผมพูด

“ มันไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมไปตลอดได้หรอกนะลูก ” แม่พูด

“ งั้น... ผมจะมาหาแม่บ่อยๆนะครับ ”  ผมพูด

“ ไม่ต้องมาทำปากดีเลย.... เดี๋ยวกลับไปก็ลืมแม่ทุกที.... ” แม่พูดหยอกผมอย่างอารมณ์ดี

“ ก็ผมงานเยอะนี่ครับ.... ” ผมพูด

“ จ้า.... ” แม่พูด

“ แม่หายโกรธพ่อรึยังครับ... ” ผมพูดทั้งที่ก็ไม่แน่ใจว่าสมควรถามออกไปรึป่าว

“ แม่รู้นะ... ว่าลูกคิดอะไรอยู่  แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอกลูก  ทุกสิ่งทุกอย่างมันสายเกินแก้แล้ว ”
แม่พูดพร้อมกับมองไปเบื้องหน้า  ทุกๆเรื่องราวระหว่างพ่อกับแม่ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตมันคงกำลังพรุ่งพรูออกมาในหัวของแม่

“ ขอโทษนะครับแม่.... ที่ผมพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ” ผมพูดอย่างรู้สึกผิด

“ ไม่เป็นไรหรอกลูก... คืนนี้จะค้างกับแม่รึป่าวล่ะ ” แม่พูด

“  ก็คิดว่าจะค้างนะครับ  แต่ผมว่าเดี๋ยวจะแวะไปเยี่ยมน้อง... กับหวานหน่อยนะครับ ” ผมพูดด้วยใจสั่นๆ

“ อืม... ก็ดีลูก ” แม่พูด

*************************************************************

ผมออกจากบ้านแม่ช่วงเย็นๆ ผมขับรถมุ่งหน้าไปที่ที่หวานและน้องชายของผมอยู่ที่นั่น.....
ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มอีกครั้ง..... ทำให้บรรยากาศรอบตัวอึมครึมตามไปด้วยทั้งที่ดวงอาทิตย์ยังไม่ตกดิน  ผมเดินไปตามเส้นทางที่ผมคุ้นเคย  ที่ที่ผมมักจะมาเสมอเมื่อผมว่าง  ที่ที่..... คนที่ผมรักมากทั้งสองคนนอนหลับอยู่ในนั้น  สุสานแทบจะไม่มีคนประกอบกับฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมา ผมกางร่มที่ถือติดมือลงมาด้วยเพื่อบังฝน


ความเหงา....  ความเศร้า....  ความน่ากลัวของเหตุการณ์ร้ายครั้งนั้น  ยังฝังอยู่ในใจของผม

สุดท้าย....  ก็เหลือเพียงแต่ผม....  ที่ยังคงมีลมหายใจ   พร้อมกับหัวใจแตกสลาย.... 
ผมรู้สึกใจสั่นทุกครั้งที่ยืนอยู่หน้าหลุมศพของคนทั้งคู่  ผมค่อยๆก้มลงวางดอกลิลลี่สีขาวที่หน้าหลุมศพของคนทั้งคู่ 
ผมอดปฏิเสธไม่ได้ที่ภาพเก่าๆของเรายังคงวนเวียนอยู่ในใจ  และจะไม่มีวันจางหายไป  หลายครั้งที่ผมอยากจะให้วันดีๆระหว่างเรากลับมา วันที่มีย้ง  มีหวาน  อยู่ข้างๆผม
เราไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน...    เราไปดูหนังด้วยกัน......  ไปกินไอศกรีมกัน.... 
ไปเดินซื้อของที่สวนด้วยกันในวันอาทิตย์......  ผมกับย้งมักจะทะเลาะกันเสมอเวลาที่เล่นเกมแข่งกัน เมื่อใครแพ้จะโดนอีกฝ่ายเกทับเสมอ  แล้วเราก็จะเถียงกันไม่หยุด  จนหวานต้องมาห้ามทุกทีเราถึงจะเลิกเถียงกัน   
ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมาก

“ หลับให้สบายนะ... ”

“ ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรนะ...... ว่างๆจะมาหาบ่อยๆนะ.... ”   

“ สักวัน... เราก็จะได้อยู่ด้วยกัน  เราจะไปเที่ยวด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน....  รอก่อนนะ”

ผมพูดด้วยเสียงสั่นๆ

เมื่อถึงจุดจบ.... คนเรามักจะนึกถึงจุดเริ่มต้น...........


ผมยืนมองที่หลุมศพนั่นอยู่นาน.... ก่อนที่จะตัดใจเดินกลับมาที่รถเพื่อขับกลับไปที่บ้านแม่
ตอนนั้นก็เริ่มมืดแล้ว  ฝนก็ทำท่าจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ  ผมค่อยๆเดินอย่างระมัดระวังเพราะทางค่อนข้างลื่น  ก่อนที่ผมจะเดินถึงรถ... ผมเห็นใครคนนึงเดินอยู่ตรงหน้าผม น่าแปลกที่เค้าไม่คิดจะวิ่งหลบฝน  ท่ามกลางสายฝนที่กำลังโปรยปรายลงมาอยู่นั้นแต่เค้ากลับเดินตากฝนยังกับไม่รู้ตัวว่าฝนกำลังตก ผมรู้สึกแปลกใจกับท่าทางนั่นของเค้า เนื้อตัวของเค้าเปียกปอนไปหมด  ตัวเค้าสั่นเทาด้วยความหนาวจากการตากฝน

คงไม่แปลกถ้าใครคนนั้นจะเป็นคนที่ผมไม่คุ้นเคย
แต่ทำไมผมรู้สึกคุ้นแผ่นหลังนั่นจัง...  ยิ่งผมเดินเกือบถึงตัวเค้า  ผมก็ยิ่งรู้สึกคุ้น.....

“ ฟรอย.... ” ปากผมไวเท่าความคิด

ร่างตรงหน้าหันมามองผม.......  ก่อนที่จะออกวิ่งหนีผม 

***************************************************************************

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2009 10:48:24 โดย OsTrich »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด