- - - - ระยะห่างของความรู้สึก - - - - ผมมาทักทาย... (1 ก.พ. 54)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - - - - ระยะห่างของความรู้สึก - - - - ผมมาทักทาย... (1 ก.พ. 54)  (อ่าน 66149 ครั้ง)

ออฟไลน์ ohm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
ขอบคุณที่มาต่อครับ

ยังสนุกเหมือนเดิม ^^

ออฟไลน์ posh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ดีใจที่พี่ฉินคิดได้ เข้าใจตัวเองได้ซักที
แต่ที่แน่ ๆ  แล้วความรู้สึกของฟรอยล่ะ
โดนทำร้ายขนาดนั้นแล้ว
ฟรอยจะรู้สึกยังงัยนะ

ขอบคุณครับ
ชอบเรื่องนี้มาก

อิอิ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองได้แล้ว ก็ดีนะฉิน
แต่อย่าเก็บความเข้าใจนี้ไว้กับตัวคนเดียวล่ะ
ยังไงก็...บอกฟรอยให้เค้ารู้ความรู้สึกนี้ด้วยเน้ออออออ....ฉิน

เก็บความรู้สึกไว้กับตัว...คงไม่มีประโยชน์...ในเรื่องของความรัก

 :กอด1: +1 ให้คนดี คนเก่ง กรในร่าง...ฉิน

patz

  • บุคคลทั่วไป
ฉินรู้ใจตัวเองแล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่ทำยังไง ให้ฟรอยเข้าใจ รับรู้ และรับรักละเนาะ สู้ๆนะฉิน ใจเย็นๆด้วย


+1 ให้ด้วยเช่นกันครับ  :L2:

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
ดุน......

ตอนใหม่ยังพิมไม่เสร็จคับ

sharp2

  • บุคคลทั่วไป
มารอพี่ครับ

อ่านแล้วใจกระตุกทุกที (ไม่ได้เว่อน้าา)



ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
มาดันทู้ให้ กร เดี๋ยวหาไม่เจอ  :กอด1:

sharp2

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยพี่จะทำงานหนัก

น้องๆๆรออยู่คราบ

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
โย่วๆๆๆๆๆ....................

ยังอยู่กันรึป่าวจ๊ะ...............

มาช้ายังดีกว่าไม่มานะครับ........ 555555+ เป็นการแถเพื่อกลบเกลื่อนความผิด... อ่าๆ

ก่อนอื่นขอทักทายท่านผู้อ่าน... ทั้งที่แสดงตัวและไม่แสดงตัวกันก่อนนะครับ.......

ขอโทษจริงๆผมไม่ค่อยมีเวลาพิมพ์เรื่องเลยครับ..... ได้แต่แอบมาดูกระทู้ตัวเองบ้างเล็กๆน้อยๆ

ขอบคุณที่รอและตามอ่านกันนะครับ.... อย่าเพิ่งเบื่อผมไปซะก่อนนะครับ

ผมทำอะไรไม่ดีก็บอกกันได้ครับ...

อ้อ... แล้วก็ขอบคุณอ่านที่น่ารักหลายคนที่เข้ามาช่วยดุนๆ กระทู้ให้ผม

ผมไม่ขอเอ่ยชื่อดีกว่า เดี๋ยวจะเกิดการไม่เท่าเทียมกันในความรู้สึก

เอาเป็นว่าคุณคงรู้ตัวหละครับ.... และให้รู้ตัวไว้เลย.... " ว่าคุณเป็นคนน่ารัก...... "

ไปอ่านกันต่อได้เลยครับ.........


*******************************************************


( -_-)* ระยะห่างของความรู้สึก ( -_-)




ใจถึง.......  ถึงใจ ( -_-)*



“ ฟรอย ” 

ผมได้ยินเสียงใครคนนึงที่ผมคุ้นเคยเรียกชื่อผมออกมา ผมรีบหันกลับไปมองอย่างแปลกใจที่ได้ยินเสียงของเค้าที่นี่ 
ที่แห่งนี้..... สุสาน

แต่ทันทีที่ผมหันกลับไปเห็นพี่ฉินยืนอยู่  ผมกลับรู้สึกทำตัวไม่ถูกเพราะผมไม่คิดว่าจะเจอพี่ฉินที่นี่ ทางออกเดียวในตอนนั้นคือการหนี ผมขอหนีไปตั้งหลักก่อน ผมเลยตัดสินใจวิ่งหนีสุดแรงเกิด หวังว่าจะหนีพ้นและพี่ฉินคงวิ่งตามผมมาไม่ทัน

“ ฟรอย.... ฟรอย....  รอพี่ก่อน ” เสียงพี่ฉินตะโกนไล่หลังมาขณะที่พี่เค้ากำลังวิ่งตามผม

ผมไม่ตอบและไม่หันกลับไปมอง  ผมได้แต่วิ่งหนีอย่างเดียว

“ รอพี่ก่อน... อย่าหนีพี่สิ.... ” พี่ฉินยังคงตะโกนไล่หลังผมมาเรื่อยๆ

ผมพยายามวิ่งให้เร็วขึ้น แต่แล้วผมก็เสียการทรงตัวทำให้ลื่นไถลจนล้มกระแทกกับพื้นปูนอย่างแรง

“ โอ๊ย....... ” ผมร้องออกมาพร้อมกับความรู้สึกเจ็บที่แขน

“ เป็นอะไรรึป่าวฟรอย ” พี่ฉินที่วิ่งตามมาติดๆพูดขึ้นพร้อมกับเข้ามาจับดูที่แขนผม

“ โอ๊ย.... เบาๆพี่  ผมเจ็บ ” ผมร้องออกมาตอนที่พี่ฉินจับดูที่แขนผม

“ ข้อศอกแตกหนะ..... เดี๋ยวพี่พาไปทำแผลนะ ” พี่ฉินพูดและพยุงผมลุกขึ้น

“ ไม่เป็นไรครับพี่...  ผมดูแลตัวเองได้ ” ผมพูดเพราะยังไม่อยากจะเผชิญหน้ากับพี่ฉินตอนนี้

ที่จริงแล้วไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะเคลียร์กับพี่ฉินหรอกนะครับ เพราะผมอยากจะคุยกับพี่ฉินตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เพียงแต่ผมแค่ไม่ได้คิดว่าจะเจอพี่ฉินที่นี่.... ตอนนี้....

“ อย่าทำเป็นเก่งได้มั้ย.... ” พี่ฉินพูดพร้อมกับดึงผมให้เดินตามไปที่รถ

“ พี่ปล่อยผมก่อนได้มั้ยครับ ” ผมพูด

“ อย่าเพิ่งเรื่องมากน่า... ฝนตกอยู่เห็นมั้ย... รีบๆเดินเร็วๆ ” พี่ฉินหันมาพูดแบบตะคอกก่อนที่จะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เพราะฝนกำลังตกอย่างหนักพร้อมกับมีเสียงฟ้าร้องดังมาเรื่อยๆ

ผมรู้สึกว่าพี่ฉินบีบมือผมแรงขึ้นทุกครั้งที่มีเสียงฟ้าร้อง

“ พี่กลัวสียงฟ้าร้องเหรอครับ ” ผมพูด

“ ไม่ต้องถามมากได้มั้ย.... ” พี่ฉินพูดหลังจากนิ่งไปสักพักที่ได้ยินคำถามของผม

“ 55555+…. กลัวก็บอกมาเถอะครับ... ไม่เห็นต้องอายเลย ” ผมอดที่จะแซวพี่ฉินไม่ได้เมื่อได้รู้ความลับของพี่ฉิน แม้ว่าพี่ฉินจะไม่กล้ายอมรับตรงๆแต่ท่าทีแบบนั้นใครดูก็รู้คับ

“ ขำอะไร... คนกลัวฟ้าร้องมันตลกนักรึไง ” พี่ฉินพูดด้วยท่าทีงอนๆ

“ เปล่าหรอกครับ.... แค่ไม่คิดว่าพี่จะกลัว  มันไม่ค่อยเข้ากับบุคลิกเท่าไหร่ ” ผมพูดทั้งที่ยังนึกขำอยู่

“ เออ..... รีบๆวิ่งไปที่รถกันเหอะ.... เดี๋ยวจะไม่สบาย ” พี่ฉินพูดก่อนที่จะดึงมือผมออกวิ่งไปที่รถ

“ กลัวฟ้าร้องอ่ะดิ.... 55555+.... ” ผมวิ่งตามพี่ฉินแต่ยังอดที่จะแซวไม่ได้  ใครเป็นผมก็ต้องแซว ก็มันตลกดีนี่ครับ
คนตัวใหญ่ๆที่ท่าทางแข็งๆแบบนี้ใครจะคิดว่ากลัวเสียงฟ้าร้อง 555555+

“ แซวอยู่ได้.... เดี๋ยวจะเจอดี... ” พี่ฉินหันมาพูดกับผมพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยท่าทางอายๆ

คราวนี้ไม่ใช่พี่ฉินแต่เป็นผมเองที่กระชับมือที่จับกันไว้ของเราให้แน่นยิ่งขึ้น

******************************************************************


“ อ่ะ.... เช็ดตัวก่อน  ตัวเปียกเดี๋ยวไม่สบาย ” พี่ฉินพูดพร้อมกับส่งผ้าเช็ดตัวมาให้ผม

“ คนเราหนะน๊า.... มีร่มอยู่ก็ดันโยนทิ้งไปซะ  เลยเปียกกันหมดเลยเนี่ย ” ผมพูดแซวพี่ฉินพร้อมกับเช็ดหัวไปด้วย

“ ก็แล้วใครล่ะที่วิ่งหนีพี่ ” พี่ฉินพูดพร้อมกับเช็ดหัวตัวเองเหมือนกัน

“ เอ๊า.... ก็ผมงอนพี่อยู่หนิ แล้วใครจะคิดว่าจะมาเจอพี่ที่นี่ล่ะ ” ผมพูด

“ เออ... ไม่เป็นไร มาเจอที่นี่ก็ดีเหมือนกัน  พี่มีหลายเรื่องจะคุยด้วย  ” พี่ฉินพูด

“ ครับ.... ” ผมพูด

“ เช็ดไม่ถนัดอ่ะดิ... ” พี่ฉินพูดพร้อมกับแย่งผ้าที่มือผมไปแล้วก็เช็ดหัวแล้วก็ตามแขนตามตัวให้ผม

“ เลือดยังไม่หยุดไหลเลยอ่ะ ” พี่ฉินพูดแล้วส่งทิชชูมาให้ผมกดไว้ที่แผล

“ ขอบคุณครับ ” ผมพูด

“ แผลไม่ได้ใหญ่มากเดี๋ยวกลับไปทำแผลที่บ้านพี่แล้วกัน ” พี่ฉินพูดก่อนที่จะติดเครื่องรถขับออกมา

“ บ้านพี่.... บ้านที่ไหนครับ ” ผมถาม

“ อ๋อ.... บ้านแม่พี่อยู่ที่นี้หนะ  ขับรถไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง ” พี่ฉินพูด

“ อ่อครับ... ” ผมพูด

“ หนาวมั้ย.... ” พี่ฉินถาม

“ หนาวดิครับ ” ผมตอบ พี่ฉินจึงปรับแอร์ให้เบาลง

“ แล้วมาทำอะไรที่นี่ล่ะ.... ” พี่ฉินถามขึ้นมา

“ พี่โฟนเค้าอยู่ที่นี่หนะครับ... ” ผมตอบด้วยท่าทีเรียบเฉย

“ บังเอิญจังนะ... ” พี่ฉินพูดทั้งที่ไม่ได้หันมามองผม

“ ครับ... บังเอิญจัง ” ผมพูด

“ ทีหลังอย่าไปเดินตากฝนแบบนั้นอีกรู้มั้ย.... ” พี่ฉินพูด

“ ทำไมเหรอครับ..... เย็นสบายดีออก ” ผมพูดด้วยท่าทีที่พยายามจะร่าเริง เพื่อปกปิดเรื่องราวที่ทำให้ผมต้องเดินตากฝน

“ พี่หนาว.... ” พี่ฉินพูด

“ หนาว.... ?????? พี่จะหนาวได้ไง  ผมดิที่ต้องหนาว...  ”
ผมพูดพร้อมกับหันไปมองพี่ฉินด้วยความไม่เข้าใจกับสิ่งพี่ฉินพูดออกมา

“ ก็เราเป็นคนคนเดียวกัน.... ฟรอยตากฝนพี่ก็หนาวสิ... ” พี่ฉินพูดด้วยหน้านิ่งๆ

“ กล้าพูดเนอะ.... ” ผมพูดทั้งที่ยิ้มแก้มแทบปริพร้อมกับความรู้สึกแปลกใจเพราะที่ผ่านมาพี่ฉินไม่เคยแสดงความรู้สึกออกมาชัดเจนแบบนี้

“ ยิ้มอยู่นั่นแหละ... เดี๋ยวใครเค้าก็หาว่าบ้าหรอก ” พี่ฉินพูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆ

“ หายโกรธผมแล้วเหรอครับ ” ผมพูดเมื่อสมองคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืน

“ เดี๋ยวไปคุยกันทีเดียวที่บ้านเลยแล้วกัน ” พี่ฉินพูด

“ ครืด....................... ”

“ เสียงท้องใครร้องอ่ะ... 55555+...... ” พี่ฉินพูดพรร้อมกับหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเสียงท้องผมร้อง

“ อย่าขำดิพี่.... ก็ผมยังไม่ได้กินอะไรเลยหนิ ” ผมพูด

“ เครียดจนกินอะไรไม่ลงเลยเหรอจ๊ะ.... ” พี่ฉินพูด

“ ก็ใครล่ะ... ไม่ยอมเคลียร์กับผม ” ผมพูด

“ ขอโทษครับ.... เดี๋ยวได้เคลียร์สมใจแน่ๆ ” พี่ฉินพูดก่อนที่จะเร่งความรถขึ้นเพื่อมุ่งหน้ากลับไปที่บ้าน.... บ้านแม่พี่ฉิน

แม้เนื้อตัวจะเปียก................. จนหนาว

แม้แอร์จะเย็น............................... หนาวจนแทบสั่น

แต่ใจของผม................................................... กลับรู้สึกอบอุ่น


******************************************************************************



“ แม่ครับ..... แม่ ” พี่ฉินตะโกนเรียกแม่เมื่อพาผมเข้าไปในบ้าน

“ กลับมาแล้วเหรอลูก ” หญิงคนนึงเดินเข้ามาตรงโซฟาที่ผมกับพี่ฉินนั่งอยู่พูดขึ้น ซึ่งก็คงจะเป็นแม่ของพี่ฉิน แม้ว่าจะอายุมากแล้วแต่แม่ของพี่ฉินก็ยังดูสวยอยู่และที่สำคัญท่าทางใจดีด้วยครับ
 
“ ครับแม่ อุปกรณ์ทำแผลเก็บอยู่ตรงไหนเหรอครับ ” พี่ฉินพูด

“ ใครเป็นอะไรลูก  แล้วนี่ทำไมตัวเปียกกันมาแบบนี้ล่ะ ” แม่พี่ฉินถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

“ เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังครับแม่ ” พี่ฉินพูด

“ อุปกรณ์ทำแผลอยู่ในตู้ตรงห้องน้ำนะลูก ” แม่พี่ฉินพูดจากนั้นพี่ฉินก็เลยเดินไปเอาอุปกรณ์ทำแผล

“ เราชื่อฟรอยใช่มั้ยลูก... ” แม่พี่ฉินพูดขึ้นหลังจากที่พี่ฉินเดินออกไป

“ อ่อ... ครับคุณป้า ” ผมพูดด้วยท่าทีนอบน้อม

“ เรียกแม่ก็ได้ลูก ” แม่พี่ฉินพูดด้วยท่าทางอ่อนโยน ผมรู้สึกได้ว่าประโยคนี้มันมีความหมายลึกซึ้งกว่าคำพูดธรรมดา
สายตาของแม่พี่ฉินมองมา เป็นสายตาที่มีทั้งความเอ็นดู.... สงสาร...... เป็นห่วง....
มันเหมือนสายตาที่แม่คนนึงมองลูก สายตาของแม่ที่มองไม่ต่างจากสายตาที่แม่มองพี่ฉิน ความรู้สึกที่ผมรับได้ที่มันแผ่ออกมาจากแม่พี่ฉิน เป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยได้รับ แต่ผมรู้สึกว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีจัง

“ ขอบคุณครับ.... ” ผมพูดพร้อมกับมีน้ำตาไหลออกมา  คงเป็นเพราะผมเป็นคนเปราะบางกับเรื่องแบบนี้ ผมโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ผมไม่เคยได้รับความรักจากคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ ผมเติบโตมาด้วยความรักที่มาจากตัวผมที่ผมมีให้กับตัวเอง

“ ไม่ต้องร้องไห้หรอกลูก.... ถือซะว่าลูกเป็นลูกแม่อีกคนนึงนะ ” แม่พูดพร้อมกับลูบหัวผมอย่างเอ็นดู

“ ครับ.... ” ผมพยักหน้าตอบเบาๆ

“ ไหนแม่ดูสิลูก.... แขนไปโดนอะไรมา ” แม่พูดแล้วยกแขนผมขึ้นดูแผลอย่างเบามือ

“ แผลไม่ได้ลึกมากนะ.... แต่คงเจ็บน่าดูเพราะเป็นตรงข้อศอก ” แม่พูด

“ ครับ... มันจะเจ็บๆเวลางอแขน... ยืดแขน ” ผมพูด

“ อ้าว... ร้องไห้ทำไมอ่ะ.... ” พี่ฉินพูดทันทีที่เดินเข้ามาพร้อมกับอุปกรณ์ทำแผล

“ ป่าวครับ... ไม่มีไร ” ผมพูด

“ เจ็บแผลจนร้องไห้เลยเหอ ” พี่ฉินพูดแซวๆผม

“ เรานี่ไปแซวน้อง.... ทำแผลให้น้องเร็ว ” แม่พูดดุพี่ฉิน

“ โอ้โห... ผมไม่อยู่แป๊ปเดียวนี่เป็นพวกกันแล้วเหอ ” พี่ฉินพูดทำเอาผมกับแม่อดยิ้มไม่ได้กับท่าทางของพี่ฉิน

“ โอ๊ย.... แสบพี่  เบาๆหน่อย ” ผมพูดพร้อมกับขยับแขนหนี

“ ทนเอาหน่อยดิ.... ” พี่ฉินพูดดุๆ

“ อย่าไปดุน้องสิ.... มาแม่ทำเอง ” แม่พูดปรามพี่ฉิน

“ เข้าข้างกันจริงนะ ” พี่ฉินพูดแบบน้อยใจ

“ โตแล้วยังจะทำตัวเป็นเด็กๆอีกนะเรา ” แม่พูดพร้อมกับลงมือทำแผลให้ผมอย่างเบามือ

“ คร้าบ..... คุณนาย ” พี่ฉินพูดแซวแม่อย่างน่ารัก

“ เจ็บมั้ยลูก ” แม่ถามผม

“ ไม่ครับแม่... แม่มือเบาจังครับ ” ผมพูด

“ เวลาทำแผลต้องทำเบาๆแบบนี้.... ดูแม่ทำนี่  เดี๋ยวกลับไปจะได้ทำแผลให้น้องได้ ” แม่พูด

“ เอ่อคือ... ผมกับพี่ฉินไม่ได้อยู่ด้วยกันครับแม่ ” ผมพูด

“ ก็เดี๋ยวต่อไปก็ย้ายมาอยู่กับพี่เค้าสิลูก ” แม่พูด

“ ใช่ๆๆๆๆ ” พี่ฉินรีบพูดเลย

“ เอ่อ... ไม่ดีกว่าครับ  ผมเกรงใจด้วย ” ผมพูด

“ เราก็ตัวคนเดียว  อยู่คนเดียวไม่มีใครดูแลนะลูก  เวลาเป็นอะไรมันจะลำบาก ” แม่พูดอย่างเป็นห่วง

“ ครับ.... ” ผมตอบด้วยท่าทางนิ่งๆ ไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ เพราะจริงๆตอนนั้นผมก็ยังงงๆอยู่ ว่าอะไรมันเป็นมายังไง จู่ๆพี่ฉินก็มาดีกับผมแถมยังแสดงความรู้สึกอะไรของมาชัดเจนแบบนี้ ทั้งที่เมื่อคืนยังไม่ยอมเคลียร์กับผม ได้แต่หนีหน้าผมอย่างเดียว แต่พอวันนี้มันเหมือนคนละเรื่องกันเลย เดี๋ยวเคลียร์กันคงเข้าใจอะไรกันมากขึ้นกว่านี้

“ เสร็จแล้วจ๊ะ...” แม่พูดหลังจากพันผ้าก็อตที่ข้อศอกให้ผมเรียบร้อย

“ ขอบคุณครับแม่ ” ผมพูดพร้อมกับยกมือไหว้

“ ไม่เป็นไรลูก.... ไหว้ทำไมกัน ” แม่พูด

“ ครับแม่ ” ผมพูด

“ ฉินพาน้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างบนไป... เดี๋ยวเป็นไข้ซะก่อน ” แม่พูด

“ ครับแม่ ” พี่ฉินพูด

“ เสร็จแล้วเดี๋ยวลงมากินข้าวกันนะลูก  เดี๋ยวแม่ไปเตรียมกับข้าวก่อน ” แม่พูดแล้วเดินเข้าไปในครัว

“ ปะ... ขึ้นไปอาบน้ำกัน ” พี่ฉินพูดแล้วเดินนำผมขึ้นไปชั้นบน


***************************************************************************


“ อ่ะ... ผ้าเช็ดตัวกะเสื้อผ้า ” พี่ฉินพูดขณะที่ผมกำลังดูของในห้องไปเรื่อยๆ

“ ขอบคุณครับ.... พี่มาที่นี่บ่อยเหรอครับ ของพี่อยู่ที่นี่เยอะเลย ” ผมถามอย่างแปลกใจเพราะห้องนี้มีของพี่ฉินเยอะแยะไปหมดเหมือนเป็นห้องนอนที่พี่ฉินใช้อยู่เป็นประจำ

“ ครับ... จริงๆถ้าว่างพี่มาทุกอาทิตย์แหละครับ  แต่ช่วงนี้ยุ่งๆเลยไม่ค่อยได้มาเท่าไหร่ ” พี่ฉินพูด

“ อ่อครับ... ถึงว่า  ของเต็มไปหมดเลย ” ผมพูด

“ อย่ามัวแต่คุยอยู่  ไปอาบน้ำได้แล้วไป ” พี่ฉินพูด

“ ครับ... ” ผมพูดแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำ

“ ให้พี่ช่วยอาบมั้ย ??? ” พี่ฉินพูดด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์แล้วเดินเข้ามาประชิดตัวผม

“ ไม่ต้องเลย... ผมอาบเองได้ ” ผมพูดแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ

“ รีบๆอาบนะ แม่รอกินข้าวอยู่ ถ้าช้าพี่จะเข้าไปช่วยอาบนะ ” พี่ฉินพูดไล่หลังผมมาอย่างอารมณ์ดี


*****************************************************************************



“ อิ่มมั้ยลูก ” แม่ถามขึ้นหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จ

“ อิ่มครับแม่.... เกรงใจนะครับผมกินไปเยอะเลย ” ผมพูดอย่างเกรงใจทำเอาทั้งแม่ทั้งพี่ฉินหัวเราะร่วน

“ กินเยอะๆหนะดีแล้วลูก... คนทำเห็นก็ดีใจ ” แม่พูดพร้อมกับรอยยิ้ม

“ แม่ทำกับข้าวอร่อยมากเลยครับ... เฉาก๊วยที่แม่ทำก็อร่อยมาก ผมไม่เคยกินที่ไหนอร่อยเท่าฝีมือแม่เลย ” ผมพูด เพราะว่าแม่ทำกับข้าวอร่อยจริงๆครับ  เฉาก๊วยที่แม่ก็อร่อยมากๆ

“ แหม... ปากหวานจริงๆนะเรานี่ ” แม่พูดพร้อมกับยิ้มออกมา

“ จริงๆครับแม่... ” ผมพูด

“ อร่อยก็มาบ่อยๆสิลูก ” แม่พูด

ผมหันไปมองพี่ฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ พี่ฉินเลยพยักหน้าแล้วยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดว่า

“ เดี๋ยวผมจะพาฟรอยมาหาแม่บ่อยๆนะครับ ”

“ จ้า... ให้มันจริงอย่างที่พูดเหอะ.. กลับไปเดี๋ยวก็ลืมแม่ ” แม่พูดอย่างเหน็บแนมเล็กๆ

“ โอ๋..... ไม่หรอกครับ... ”  พี่ฉินง้อแม่อย่างน่ารัก

“ เออๆ.... อย่างนี้ทุกที....  ไป  พาน้องขึ้นไปนอนได้แล้ว  กินยาแก้ไข้กันด้วยนะ  เผื่อเอาไว้ก่อน ”
แม่พูด

“ ครับแม่ ”









“ ขอกอดหน่อยดิ.... กลัวเสียงฟ้าร้องอ่ะ ” พี่ฉินพูดพร้อมกับเขยิบตัวมาประชิดผม

ตอนนั้นเรานอนอยู่บนเตียงเดียวกันภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันและพี่ฉินกำลังนอนกอดผมอยู่
ผมก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ผมอยากจะทำในสิ่งที่ผมทำแล้วผมมีความสุข

ในตอนนี้.........
ผมรู้สึกดีที่ผมมีพี่ฉินอยู่ข้างๆ
ผมรู้สึกอบอุ่นกับอ้อมกอดของพี่ฉิน
ผมรู้สึกถึงการถูกรัก..... และการได้รัก

วันนี้เป็นอีกวัน.... ที่ผมรู้สึกมีความสุข
เพราะว่านานเหลือเกินแล้วที่ผมไม่ได้รู้สึกมีความสุขเช่นนี้ 
มันนาน... จนผมแทบจำไม่ได้ว่าวันสุดท้ายที่ผมมีความสุขเป็น...  คือเมื่อไหร่กัน

“ เรื่องที่ผ่านมา.... หรือแม้แต่เรื่องเมื่อคืน  พี่ขอโทษนะ  ที่ทำอะไรให้ฟรอยรู้สึกไม่ดี ”
พี่ฉินพูดทั้งที่กำลังกอดผมอยู่

“ พี่จะไม่ถามฟรอยเรื่องคุณคิวอีกแล้ว.... พี่ผิดเองแหละที่คิดไปไหนต่อไหนโดยที่ไม่ฟังฟรอยอธิบายอะไรเลย  แต่เรื่องเมื่อคืนมันก็ทำให้พี่ได้รู้อะไรหลายอย่างเลยนะ...  พี่ทนไม่ได้ที่เห็นฟรอยทำแบบนั้นกับใคร  พี่รู้แล้วว่าพี่ต้องทำยังไง.... ขืนมัวแต่ช้าอยู่คนอื่นได้แย่งฟรอยไปจากพี่พอดี ”

พี่ฉินพูดจบก็จับตัวผมให้หันหน้ามาหาพี่ฉิน แล้วพูดออกมาว่า

“ พี่รักฟรอยนะครับ ”  ถึงแม้ว่าจะมืดแต่ผมก็เห็นสายตาที่จริงใจนั้นของพี่ฉินได้  และใจของผมก็สัมผัสได้ว่าความรู้สึกนั้นของพี่ฉินกันลึกซึ้งและมีความหมายมากแค่ไหน

“ ฟรอยล่ะ.... รักพี่บ้างมั้ย ” พี่ฉินถาม

“ ครับ...... รักครับ ” ผมพูดแล้วโผเข้ากอดพี่ฉินเอาไว้แน่น

“ งั้นเราคบกันนะ.... ” พี่ฉินพูดพร้อมกับกอดผมเอาไว้แน่นเช่นกัน

เราทั้งคู่ไม่มีคำถามซึ่งกันและกันว่าความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่.... ตอนไหน
เรารู้แค่ว่าตอนนี้เรารักกัน.... และเราต่างก็มีความสุข  แค่นี้คงเพียงพอแล้ว

อาจมีหลายเรื่องราวที่ผมอยากรู้และพี่ฉินเองก็อยากรู้ ทั้งเรื่องพี่พิงค์กับพี่ฉินเมื่อคืน
หรืออีกหลายๆเรื่องที่ยังคงเป็นคำถามค้างคาในใจ
แต่ตอนนี้มันคงไม่จำเป็นอีกแล้ว.....

กว่าจะมาถึงวันนี้  มีเรื่องราวมากมายที่อาจทำให้เราเข้าใจผิดกัน  เข้าใจไม่ตรงกัน
ทำให้ความรู้สึกของเราที่ส่งผ่านกันมันคลาดเคลื่อนไป
แต่ตอนนั้น..... ระยะห่างของความรู้สึกของเราทั้งคู่เดินมาถึงจุดที่ทับซ้อนกันได้พอดี
หลายอย่างจึงอาจดูง่ายดาย

แต่ผมก็รู้สึกคุ้มค่านะครับ...... ที่สุดท้ายวันนี้ก็มาถึง  วันที่ใจของเราตรงกัน

“ จากวันนี้ไปอย่าไปทำแบบนี้กับใครนะ...... ” พี่ฉินพูดทำเอาผมงงว่าทำอะไร

“ ทำอะไ................................ ”
ผมยังถามไม่ทันจบผมก็ได้คำตอบ มันไม่ใช่คำตอบด้วยภาษาพูดแต่พี่ฉินตอบด้วยภาษากาย

สายฝนที่โปรายปราย....  ไพเราะเหมือนเสียงดนตรี
เสียงฟ้าร้องก้องระงม............ เหมือนเสียงกลองเร่งเร้าให้บทรักเร่าร้อน

ฤดูฝน...........
ฤดูแห่งการแรกรัก..................


“ คนคนนั้นคือพี่ฉินใช่มั้ยครับ......... พี่โฟน ”


#######################################################

ไปทำงานก่อนนะครับ... ไว้จะแวะมาใหม่ครับ

OT

  • บุคคลทั่วไป
โย่ว ๆๆๆๆ แม๋นนนนนน
นักเขียนดีเด่น  o13
ขนาดจะไปทำงาน
ยังมีเวลาลงนิยายได้


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
มาไม่ทันจิ้ม กร แต่ไม่เป็นไร ได้อ่านเรื่องต่อก็มีความสุขแล้วครับ

รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ฝนตกทุกวัน กร คงไม่เหมือนฟรอยนะ ที่ชอบตากฝน

ปล. ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ขอบคุณ ถ้าไม่ใช่ก็หน้าแตก  o22

        +1 ให้ด้วยนะครับ กร คนขยัน หรือเปล่า  :z2: :กอด1:

patz

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักจังเลยอะ ทั้งฟรอย ทั้งพี่ฉิน แล้วก็แม่พี่ฉินด้วย อ่านตอนนี้แล้วมีความสุขมากๆเลย

 :L2:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
“ พี่รักฟรอยนะครับ ”
 :L1:

 :กอด1:กร...+1 เดะดื้อ

sharp2

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
เข้ามาทักทายคับ...

จะบอกว่า.... ตอนนี้งานเยอะมากเลยครับ  ไม่ได้หยุดเลย  นี่ยังอยู่ออฟฟิศอยู่เลยคับ

มึนหัวไปหมดแล้วเนี่ย.... ปวดหัวตุบๆ หิวข้าวก็หิว

บอกตามตรงแบบไม่โกหกเลยว่า  ตอนใหม่พิมค้างไว้ได้แค่ประมาณครึ่งหน้าเองครับ....

รอกันก่อนนะครับ... อย่าเพิ่งหายไปไหน

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
เข้ามาเป็นกำลังใจให้น้องชาย   อิอิ

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
กลับมาอ่านอีกหน หลังจากหายไปนาน ก็ถึงตอน... พอดี  :z1:

อิตาพี่ฉินนี่บทจะรุกก็รุกเร็วซะจนคนอ่านตามแทบไม่ทัน กลับไปทำงานหนนี้คงมีคนเซอร์ไพร์สกันหลายคนล่ะ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
มาให้กำลังใจในการทำงาน สู้ ๆ นะครับ กร

ดันทู้ให้ด้วย ตกหน้า 2 แล้ว  :m9:

patz

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ด้วยคนครับ

รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคร้าบบบ  :L2:

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
เข้ามาแจ้งข่าวคับ....

ที่ผมหายไปเป็นเพราะว่าโน็ตบุ้คเสียคับ  ตอนใหม่เลยยังพิมพ์ไม่เสร็จซะที

เพิ่งไปถอยเครื่องใหม่มา...... เดี๋ยวผมจะพิมพ์เรื่องใ้หมาอ่านกันนะครับ

นิยายที่พิมพ์ๆไว้หายไปหมดเลยอ่า... ทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่

ใครที่เซฟเรื่องเล่าของผมไว้ "เรื่องของเค้ากะแก" + "รักของเราสาม" + "รักของเราสามคนฉบับเข้มข้น"
รบกวนPMมาหน่อยคับ ผมจะให้ส่งเมลมาให้หน่อย

ส่วนเรื่องใหม่ถ้าใครเซฟเก็บไว้ก็ PM มาหน่อยนะคับ จะให้ส่งเมลมาให้เหมือนกัน

เซ็งอ่า.... ไฟล์สำคัญๆอยู่ในเครื่องนั้นหมดเลย

ยังไงผมจะรีบพิมแล้วเอามาลงให้อ่านกันนะครับ  โทษทีที่หายไปเลย  เพราะอยู่ออฟฟิศก็ทำแต่งานเพราะช่วงนี้งานเยอะมากๆๆ

กลับไปห้องคอมก็พัง... เลยไม่ได้เข้าเล้าเลย.....

ขอโทษจิงๆนะครับที่ทำให้รอกัน

อ้อ.... วันที่ 24 มิย. ที่ผ่ายมาวันเกิดผมด้วยครับ......

อวยพรๆให้ผมมั่งดิ  ฮ่าๆ....

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ohm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
Happy (Belated) Birthday!!
 
สุขสันต์วันเกิด(ย้อนหลัง) ^^

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ฮ่า ๆ ถึงจะผ่านมาไกล แต่ยังไง สุขสันต์วันเกิดจ้า  :L2:

patz

  • บุคคลทั่วไป
happy birthday ย้อนหลังด้วยคนครับ

 :L1:

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
เซ็งคับ... หลังจากที่ถอยโน็ตบุ้คเครื่องใหม่มาก็ดันมีเหตุอีก..... ก็คือ สายเสียบเน็ตเสีย
ตอนนี้ต้องใช้ไวเลสฟรีของกรีน...... ซึ่งช้ามากๆ เซ็งโครต แล้วเค้าก็ไม่ยอมมาซ่อมให้
โดยให้เหตุผลว่า..... ไม่รู้จะให้ใครมาซ่อมให้ กรรมจริงๆ..... แล้วกรูจะรู้มั้ยว่าจะให้ใครมาซ่อม :angry2: ไม่ใช่เจ้าของหอนิ

จริงๆเรื่องพิมเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ....... แต่เน็ตมันช้ามาก โหลดยังไงมันก็ไม่ขึ้นซะทีครับ  เลยเพิ่งเอามาลงให้ครับ

ปล.เรื่องที่กล่าวมาเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น ไม่ได้ผสมแต่งเติมข้อความเพื่อเป็นการแก้ตัวแต่อย่างใด

อ่าๆ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะครับ.... ทุกท่านๆ


มาอ่านเรื่องกันต่อเลยแล้วกันนะครับ.......



"พายุใหญ่เริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว......"


******************************************************************



( -_-)* ระยะห่างของความรู้สึก ( -_-)





น้ำหลาก.... แรงเหลือ//น้ำนิ่ง.... ไหลลึก ( -_-)





“ อารมณ์ดีแต่เช้าเลยนะเมิง  มีไรดีๆเหรอว้ะ ” ไอ้บอสทักทายผมด้วยท่าทางที่ผมรู้ว่ามันกำลังหมั่นไส้ผม 

5555+ ...... ถ้าเมิงได้รู้ว่ากูกะฟรอยคบกันแล้วเมิงต้องหมั่นไส้กูแน่ๆ..........
และที่สำคัญ..... ถ้าเมิงรู้ว่ากูกะฟรอย................. อะจิ๋ยๆกันแล้ว เมิงจะทำหน้ายังไงว้ะ....
ผมคิดในใจ

“ ขอโทษนะ... มันมีความสุขจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ว่ะ ” ผมตอบไปโดยตั้งใจให้มันยิ่งหมั่นไส้ผมมากขึ้น

“ แหม.... ดีใจยังกะได้เมียนะเมิง ” ไอ้บอสแซวอย่างทีเล่นทีจริง..... 

แต่เมิงคงไม่เชื่อซะทีเดียวสินะ... ว่าไอ้ที่เมิงคิดนั่นแหละ.........
คือเรื่องที่ทำให้กูอารมณ์ดีได้ขนาดนี้.............  ผมคิดในใจ

“ ฉลาดนะเมิงเนี่ย...... ” ผมพูดทิ้งระเบิดไว้แล้วรีบชิ่งหนีมันครับ ให้มันฟุ้งไปเอง 5555+

“ หมายความว่าไงว้ะ..... ” ไอ้บอสตะโกนเสียงดังไล่หลังผมที่กำลังเดินหนีเข้าไปในห้องทำงาน

“ เฮ้ย.... เอาดีๆดิ๊ ” ไอ้บอสยังคงโวยวายเมื่อเห็นว่าผมไม่ตอบคำถามของมัน



“ อารมณ์ดีอะไรมาจ๊ะวันนี้..... ” พิงค์เดินเข้ามาทักทายผมในห้องทำงาน

ผมสบตาเธอเล็กน้อย ในหัวสมองก็พาลไปคิดถึงเรื่องวันนั้น

“ อ่อ... ไม่มีอะไรหรอก  ฉินแกล้งไอ้บอสมันหนะ ” ผมตอบไปแบบเลี่ยงๆ

“ นึกว่ามีเรื่องน่ายินดีอะไรซะอีก ” พิงค์พูด

“ เอ่อ... คือ.. เรื่องนั้น   พิงค์โอเคแล้วใช่มั้ย ”
ผมถามออกไปอย่างไม่เต็มเสียงนัก เพราะก็กลัวว่าจะไปสะกิดบาดแผลในใจของเธอเข้าอีก

“ พิงค์บอกตามตรงนะ.... ว่าพิงค์คงยังทำใจไม่ได้ตอนนี้หรอก  คงต้องใช้เวลาสักพัก ” พิงค์พูดด้วยวาวตาที่ดูเศร้าหมอง

“ ฉินดีใจนะ.... ที่พิงค์เข้าใจฉิน  เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเหมือนเดิมนะ ” ผมพูด

“ อืม.... ฉินให้เวลาพิงค์หน่อยนะ  แล้วพิงค์จะกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีของฉิน ” พิงค์พูดพร้อมกับยิ้มออกมา แม้ว่าสายตาของเธอจะยังคงดูเศร้าหมองอยู่ แต่ผมเชื่อว่า... เวลาจะช่วยเยียวยาให้อะไรๆมันดีขึ้น

“ ขอบใจนะพิงค์ ” ผมพูดพร้อมกับความรู้สึกสบายใจ

ผมเข้าใจความรู้สึกพิงค์ดี  ผมรู้ว่าเธอรู้สึกอะไร  แต่ผมไม่สามารถตอบสนองความรู้สึกของเธอได้
ผมหวังแต่เพียงให้เธอเข้าใจ..... และเรากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
ถึงแม้วันนี้เธออาจจะยังทำมันไม่ได้..... แต่สักวันเธอก็จะทำได้
เรื่องราวระหว่างผมกับฟรอยจะได้ง่ายขึ้น  ผมไม่อยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยน้ำตา
หรือแม้จะมีใครเสียน้ำตา  ก็ขอให้เป็นน้ำตาที่มาจากความเข้าใจ

“ แล้วนี่พิงค์มีอะไรรึป่าว?? ” ผมถามถึงเหตุที่เธอต้องเดินมาหาผมที่ห้องทำงาน

“ พิงค์ก็จะมาแซวฉินนั่นแหละ เห็นอารมณ์ดีจังวันนี้  แล้วก็เอา Story Board ของคุณดิวมาให้ดูหนะ  ” พิงค์พูด

ผมได้ยินชื่อไอ้คุณคิวนี่ก็รู้สึกอารมณ์เสียเล็กๆเมื่อพาลไปนึกถึงเรื่องคืนนั้น ถ้าหลังจากนี้มันยังมายุ่งกะผมของผมได้เป็นเรื่องแน่ ลูกค้าก็ลูกค้าเถอะ

“ เป็นไรรึป่าวฉิน... คิ้วขมวดเลย ” พิงค์ถามอย่างแปลกใจกับท่าทีของผม

“ ป่าวหรอก.... พอดีฉินกำลังนึกไทม์ไลน์หนะ ว่าจะทันรึป่าว ” ผมพูด

“ ไม่ต้องกังวลหรอก.... ยังทันอยู่จ้ะ  พิงค์นั่งไล่ดูแล้ว ” พิงค์พูด

“ งั้นก็ดี... พิงค์ก็ดำเนินการต่อเลยแล้วกันนะ ” ผมพูด

“ จ้ะ... งั้นพิงค์ขอตัวก่อนนะ ” พิงค์พูดก่อนที่จะเดินออกไป



ไอ้คุณคิวทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดแล้วก็กลัวเล็กๆ เพราะนายนั่นท่าทางจะเอาเรื่องซะด้วย แต่ก็พยายามห้ามความคิดตัวเอง เพราะตอนนี้มันก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมา ผมเองก็ไม่อยากกลัวไปซะก่อน ยังไงตอนนี้ทั้งตัวและใจของฟรอยก็เป็นของผม พูดถึงฟรอยขึ้นมา ผมอยากจะบอกว่าตั้งแต่ที่เราปรับความเข้าใจกันและเราก็......... กัน
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองคิดถึงฟรอยตลอดเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผมอยากจะนอนกอดอยากจะหอมทั้งวันเลย
ยิ่งคิดก็ยิ่งเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหื่นเกินไปรึป่าว แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันเวลาที่ผมอยู่ใกล้ๆฟรอย ผมจะนึกถึงเรื่องนั้นเกือบตลอดเวลา น้องชายของผมก็ตื่นตัวเกือบตลอดเวลาที่ผมอยู่ใกล้ๆฟรอย ที่ผ่านมาก็ใช่ว่าผมจะไม่ได้มีอะไรกับใครเลยนะครับ เวลาที่ผมไปเที่ยวก็มีมาบ้างเพียงแต่ไม่บ่อยก็เท่านั้นเอง พูดแล้วก็คิดถึงฟรอยจัง
 
“ อยู่รึป่าวครับ ” ผมทักไปในmsnของบริษัท

“ ครับ ” ฟรอยตอบกลับมา

“ คิดถึงจัง ” ผมพิมพ์ไป

“ เมื่อวานก็อยู่ด้วยกันเกือบทั้งวัน ” ฟรอยพิมพ์กลับมา

“ ก็มันคิดถึงจริงๆนี่ครับ ” ผมพิมพ์ไป

“ ครับ ก็ไม่ได้ว่าไม่จริง ” ฟรอยพิมพ์กลับมา

“ ทำไรอยู่ ” ผมพิมพ์กลับไป

“ ทำงานครับ ” ฟรอยพิมพ์มา

“ ขยันจัง ” ผมพิมพ์ไป

“ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนไล่ออก ” ฟรอยพิมพ์กลับมา

“ เป็นเมียเจ้าของยังจะกลัวอีกเหอ ” ผมพิมพ์กลับไปด้วยตั้งใจจะหยอกล้อ แต่ฟรอยเงียบไปไม่ตอบอะไรกลับมา
สงสัยจะอาย 55555+….. เมื่อวานผมแซวฟรอยเรื่องนี้ทีไรหน้าแดงทุกที น่ารักดีครับ

“ ว่างรึไง มาชวนคนอื่นเค้าคุยเนี่ย ” ฟรอยพิมพ์กลับมา

“ งานก็เรื่อยๆครับ แต่ใจไม่ว่างแล้ว ” ผมพิมพ์หยอกฟรอยกลับไป

“ *-* ” ฟรอยพิมพ์กลับมา

“ เดี๋ยวเดินไปหาที่โต๊ะนะ ” ผมพิมพ์กลับไป ไม่ไหวแล้วครับ อยากเห็นหน้า

ผมกับฟรอยคุยกันไว้แล้วครับ ว่าถึงเราจะคบกันแต่เรื่องงานก็คือเรื่องงาน ฟรอยจะไม่รับสิทธิพิเศษใดๆนอกเหนือจากนักงานคนอื่นเด็ดขาด ที่มากกว่าคนอื่นขอให้เป็นแค่เรื่องความสนิทสนมที่เราทั้งคู่แสดงออกมาให้มันอยู่ในขอบเขตและไม่น่าเกลียดจนเกินไปเวลาที่เราอยู่ที่ทำงาน ผมเองก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะทำได้รึป่าว
ไม่รู้ว่าคุณเคยเป็นกันรึป่าว เวลาที่เป็นแฟนกะใครก็อยากให้คนอื่นรู้ จะได้ไม่มีใครกล้ามายุ่งกะแฟนของเรา
ในออฟฟิศผมถึงแม้จะมีบางคนที่ไม่ได้แสดงตัวว่าชอบผู้ชายด้วยกัน แต่ผมก็พอดูออกนะว่าหลายคนก็เล็งๆฟรอยอยู่
นี่หละที่จะทำให้ผมไม่สามารถรักษาข้อตกลงได้

“ มีไรว้ะ... เดินมานี่ ” ไอ้บอสทักทายอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

“ ทำไมกูมาไม่ได้เหอ ทำยังกับว่ากูจะมาขโมยอะไรงั้นแหละ ” ผมพูดอย่างตั้งใจจะกวนประสาทไอ้บอส

“ คงไม่ต้องขโมยแล้วมั้ง ไหนๆเมิงก็เป็นเจ้าของแล้วนี่ ” ไอ้บอสพูดพร้อมกับมองไปทางฟรอย
ตอนแรกผมก็งงๆกับสิ่งที่มันพูด มันทำยังกับว่ามันรู้เรื่องความสัมพันธ์ของผมกับฟรอยแล้ว
แต่พอผมมองไปที่ฟรอยก็เห็นรอยดูดแดงๆที่คอสองสามรอยที่โผล่ออกมาจากคอเสื้อถึงจะไม่ชัดมากนัก
แต่ถ้าเพ่งมองดีๆก็เห็นได้ชัดเจน

“ คือกู............... ” พอเจอแบบนี้ผมก็พูดไม่ถูกเหมือนกัน จริงๆแล้วผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าไอ้บอสมันคิดยังไงกับฟรอย เพราะมันก็ไม่ได้มีท่าทีจะชอบผู้ชายด้วยกัน เพียงแต่มันชอบกันท่าผมเรื่องฟรอยจนผมต้องหงุดหงิดกับท่าทางของมันในหลายๆครั้ง

“ ช่างมันเหอะ...... ไว้ค่อยคุยกัน แล้วนี่เมิงมีไรรึป่าว ” ไอ้บอสพูด

“ อ่อ.... กูจะมาดูงานของไอ้คุณคิวอ่ะ เห็นพิงค์บอกว่าเสร็จแล้ว ” ผมพูด

“ ไฟล์อยู่ในเครื่องฟรอยอ่ะ เมิงไปดูเองแล้วกัน ” ไอ้บอสพูด

“ เออ ” ผมพูด

“ ดูดีๆล่ะเมิง ” ไอ้บอสพูดยิ้มๆก่อนจะเดินไปทำงานของมัน

“ เออ.... ขอบใจ ” ผมพูดพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความสบายใจ

ผมค้อมตัวลงและชะโงกหน้าไปใกล้ๆฟรอยที่นั่งจ้องอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์ และพูดออกมาว่า

“ ทำอะไรอยู่ครับ ” จังหวะที่ฟรอยหันมาที่ผมจมูกของฟรอยก็โดนที่แก้มผมพอดีตามที่ผมคาดเอาไว้ ฮ่าๆ.......

“ ฮุ๊ย...... โดยแอบหอมแก้ม ” ผมแกล้งพูดพร้อมกับแสร้งทำหน้าว่ากำลังโดนล่วงเกิน

“ ผมป่าวนะ..... ก็พี่ยื่นหน้ามาใกล้เองหนิ ” ฟรอยพูดพร้อมกับอากายอายเล็กๆ ดูแล้วน่ารักดีครับ

“ อยากหอมแก้มพี่ก็บอกตรงๆได้ครับ ” ผมพูดและยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

“ ไม่ต้องมาเนียนเลย ผมรู้ว่าพี่ตั้งใจ ” ฟรอยพูดอย่างรู้ทัน

“ ครับๆ...... ยอมแล้ว  แต่ทำแบบนี้กับแฟนคงไม่ผิดอะไรมั้ง ” ผมพูด

“ ครับ...... แต่อย่างประเจิดประเจ้อนักสิครับ ใครมาเห็นมันจะไม่ดี ” ฟรอยพูด

“ ใครเห็นแล้วจะทำไม ” ผมพูดแล้วหอมแก้มฟรอยอีกสองสามทีจนพอใจ

“ อย่างดื้อสิครับ..... ” ฟรอยพูดและพยายามหันหน้าหนี แต่ก็ไม่รอดมือผมหรอกครับ 55555+

“ ไหนเอางานไอ้คุณคิวให้พี่ดูหน่อยซิ ” ผมพูด

“ นี่ครับ.... ” ฟรอยพูดหลังจากที่เปิดไฟล์นั้นให้ผมดู

“ อืม.... ก็โอเคนะ ” ผมพูดหลังจากเห็นงาน

“ แล้วนี้พิงค์เค้าบอกรึป่าวว่านัดไอ้คุณคิวมาดูงานวันไหน ” ผมพูด

“ ยังเลยครับ สงสัยคงกำลังจะนัดหนะครับ ” ฟรอยพูด

“ อ่อเหรอ.... แล้วพิงค์บอกมั้ยว่าจะเอาเราไปด้วยรึป่าว ” ผมพูด

“ น่าจะเอาไปด้วยนะครับ เห็นถามผมว่าพรุ่งนี้ว่างรึป่าว ” ฟรอยพูด

“ แล้วฟรอยตอบไปว่าไง ” ถึงผมจะรู้ว่าฟรอยไม่มีทางสนใจไอ้คุณคิวนั่นแน่ๆ แต่ผมก็ไม่อยากให้ฟรอยเจอมันเลย

“ ก็บอกพี่เค้าไปว่าว่าง ” ฟรอยพูด

“ ทำไมตอบไปแบบนั้นอ่ะ อยากเจอมันเหรอ ” ผมพูดอย่างไม่พอใจเล็กๆ ก็คนมันหวงนี่ครับ

“ ผมก็ไม่ได้อยากไปหรอกครับ แต่พี่พิงค์เค้าอยากให้ไปด้วย อะไรๆจะได้คุยกันง่ายขึ้น ” ฟรอยพูด มันก็จริงของพิงค์ครับ แต่คงต้องให้ฟรอยระวังตัวหน่อย เพราะไอ้คิวนั่นท่าทางไม่น่าไว้ใจและมันก็ท่าทางเอาเรื่องด้วย

“ งั้นก็ระวังมันหน่อยนะ ” ผมพูด

“ ทำไม.... หวงผมเหรอ ” ฟรอยพูดพร้อมกับยิ้มออกมาท่าทางกวนๆ

“ หวงดิ.... แฟนทั้งคน  ไม่หวงได้ไง ” ผมพูดพร้อมกับขโมยหอมแก้มฟรอยอีกฟอด

“ พอเลยๆ ไปทำงานได้แล้ว  เดี๋ยวใครมาเห็นด้วย ” ฟรอยพูด

“ ทำไมอ่ะ.... พี่อยากอยู่ใกล้ๆฟรอยทั้งวันเลยนะ ” ผมพูดและกอดเอวฟรอยไม่ยอมไป

“ ดื้อจริงๆเลย ” ฟรอยบ่นเหมือนไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนที่ผมกำลังกอดฟรอยอยู่

“ ฟรอยจ๊ะ ” เสียงพิงค์ดังขึ้นมาทำให้ผมผละออกจากฟรอยทันที

“ อ้าวฉิน..... ” พิงค์ด้วยท่าทางตกใจเล็กๆที่เห็นผม

“ มีอะไรรึป่าวครับพี่พิงค์ ” ฟรอยพูดขึ้นมา

“ คือพี่จะมาบอกว่า  พี่นัดคุณคิวเข้ามาวันพรุ่งนี้นะ ประมาณบ่ายสามบ่ายสี่ ” พิงค์พูด

“ ได้ครับ ” ฟรอยพูด

“ แล้วฉินมาทำไรตรงนี้เหรอ ” พิงค์พูดด้วยท่าทางสงสัย

“ ฉินมาขอดูงานของไอ้คุณคิวหนะ ” ผมพูด

“ ก็พิงค์เดินเอาไปให้เมื่อตอนเช้าแล้วไง ” พิงค์ด้วยพยายามจะจับผิดอะไรบางอย่างจากผม

“ พอดีภาพมันไม่ค่อยชัดหนะ  ฉินก็เลยเดินมาขอดูไฟล์  ” ผมพูด

“ อ้อ.... นึกว่ามีอะไรซะอีก ” พิงค์พูด

“ ไม่มีอะไรหรอก  งานก็โอเคดีแล้ว ” ผมพูด

“ นี่ฟรอย...... พรุ่งนี้แต่งตัวหล่อหน่อยนะ ” พิงค์พูด

“ ทำไมเหรอครับ ” ฟรอยพูด

“ ก็ที่นัดคุณคิวไง เผื่อว่าเค้าจะชวนไปไหนต่อด้วย ” พิงค์พูด

“ จะไปไหนกันเหรอ ” ผมพูดแทรกขึ้นมาทันทีด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจ

“ อาจจะไปทานข้าวต่อมั้ง  พิงค์ก็ยังไม่แน่ใจ ” พิงค์พูด

“ ฉินว่าพิงค์ดูจะตามใจลูกค้าคนนี้เกินไปหน่อยมั้ง ” ผมพูด

“ ก็ลูกค้าหนะฉิน เป็นเรื่องธรรมดานะ  ฉินน่าจะเข้าใจดี ” พิงค์พูด

“ แต่ฉินว่ามันก็น่าจะมีขอบเขตบ้างนะ ” ผมพูดเชิงห้ามปราม

“ เป็นอะไรไปรึป่าวฉิน พิงค์ว่าฉินแปลกๆกะคุณคิวนะ ” พิงค์พูด

“ ฉินได้ข่าวว่าเค้าจะจีบฟรอยหนิ  แล้วฟรอยก็ท่าทางจะไม่เล่นด้วย ”
ผมพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าฟรอยที่กำลังมองมาที่ผม

“ ฟรอยก็ยังโสดหนิ แล้วคุณคิวเค้าก็โอเคอยู่นะ ” พิงค์พูดด้วยท่าทางที่คิดว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด

“ แต่ฉินว่ามันเกินไปหน่อยนะ  ยังไงนั่นมันก็เรื่องส่วนตัวของฟรอย ฉินว่าพิงค์อย่าไปยุ่งดีกว่า อะไรที่ฟรอยพอจะช่วยให้การประสานงานระหว่างทางเรากับคุณคิวมันง่ายขึ้นก็ให้ฟรอยเป็นธุระไป  แต่อะไรที่มันเกินเลยหรือนอกเหนือจากนั้น ฉินว่าพิงค์อย่าเข้าไปยุ่งดีกว่านะ ”
ผมพูดออกมาด้วยความไม่พอใจกับการวางตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักของพิงค์

“ โอเค..... งั้นพิงค์ต้องขอโทษด้วยนะ แล้วก็ขอโทษฟรอยด้วยที่เข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัว ”
พิงค์พูดด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจ

“ เอ่อ.... ไม่เป็นไรครับพี่พิงค์ ” ฟรอยพูดอึกอักอย่างคนเกรงใจ

“ งั้นพิงค์ขอตัวก่อนแล้วกันนะ ” พิงค์พูดด้วยรอยยิ้มที่เธอแสร้งทำออกมาก่อนที่จะเดินไป

“ เราหนะขี้เกรงใจ  ทีหลังหัดเด็ดขาดบ้างนะ  ถ้าอะไรที่มันไม่ใช่หรือว่าเราไม่ชอบก็หัดปฏิเสธคนอื่นบ้างรู้มั้ย ” ผมพูด

“ ก็มันไม่มีอะไรนี่ครับ ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรา  ถ้าเราไม่ได้คิดอะไรกับเค้ามันก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ” ฟรอยพูด

“ พี่เข้าใจ...... แต่ไอ้นั่นมันจะไม่คิดแบบฟรอยนะสิ คราวก่อนก็ทีนึงแล้ว ” ผมพูด

“ ครับ  ผมจะระวังก็แล้วกันนะ ” ฟรอยพูด

“ มีอะไรต้องบอกพี่นะ... รู้มั้ย ” ผมพูด

“ ครับ ” ฟรอยพูด

“ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปด้วย  เดี๋ยวจะไปเป็นก้างมันเอง ” ผมพูด

“ ก็ดีครับ ” ฟรอยพูดพร้อมกับยิ้มออกมา



ผมเคยเสียคนที่ผมรักมาแล้ว ผมรู้ว่ามันเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหน
ครั้งนั้น..... สิ่งที่พรากคนที่ผมรักไปจากผมไม่ใช่ใคร 
แต่มันคือ.................. ความตาย  ซึ่งไม่มีใครที่ห้ามโชคชะตาได้

ครั้งนี้................ ก็เช่นกัน
ถึงผมจะยอมรับว่า ผมเองก็ยังไม่ได้รักฟรอยได้มากมายเท่ากับที่ผมรักหวาน
เพียงเพราะมันเพิ่งเริ่มต้น และสักวันซึ่งคงอีกไม่นานนับจากวันนี้
ผมคงจะรักฟรอยมาก รักมาก เพราะผมกำลังรักฟรอยมากขึ้นทุกวินาที

สิ่งเดียวที่จะพรากฟรอยไปจากผมได้................... คือความตาย เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

**************************************************************************


“ โอเค.... งั้นเรามาเริ่มกันเลยนะคะ... ” เสียงพิงค์พูดเป็นจังหวะที่ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องประชุมพอดี

“ จะไม่รอผมหน่อยเหรอครับ ” ผมพูดเมื่อเปิดประตูเดินเข้าไป พิงค์หันมามองผมด้วยท่าทางตกใจเล็กๆ ส่วนไอ้คุณคิวหันมามองที่ผมพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กๆอย่างท้าทาย

“ พิงค์ไม่คิดว่าฉินจะเข้าด้วย ” พิงค์รีบพูดอย่างละล่ำละลัก

“ ฟรอยไม่ได้บอกเหรอว่าผมจะเข้าด้วย ” ผมพูดพร้อมกับลงนั่งข้างๆฟรอย

“ ผมบอกแล้วครับ แต่............... ” ในขณะที่ฟรอยพูดพิงค์ก็รีบแทรกขึ้นมาว่า

“ พอดีพิงค์ลืมหนะ..... กลัวคุณคิวเค้าจะรอนานด้วย ”

“ จริงๆผมรอได้นะครับ  ยิ่งรู้ว่าคุณฉินจะเข้ายิ่งอยากจะรอ ” ไอ้คุณคิวพูดด้วยท่าทางกวนตีน

“ อ้อครับ... ขอบคุณที่ให้เกียรติครับ ” ผมพูดพร้อมกับมองด้วยสายตาท้าทายกลับไป

“ คุณพิงค์นำเสนอต่อได้เลยค่ะ ” คุณเจนที่มากับไอ้คิวพูดขึ้น

“ ค่ะ....  อันนี้ก็จะเป็นหน้าตาของ Story Board นะคะ เดี๋ยวให้น้องฟรอยอธิบายนะคะ ” พิงค์พูด

“ ตามที่ผมได้บรีฟมา จุดประสงค์ก็คืออยากให้กลุ่มเป้าหมายสามารถจดจำแบรนด์ได้ ผมก็เลยนำเสนอออกมาในแบบที่ง่ายๆน่าสนใจและย้ำแบรนด์ให้เกิดการจดจำ โดยที่เรื่องราวของหนังโฆษณาจะเริ่มจาก ................................................................. บลา ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ”

“ สุดยอดเลยครับ ตรงใจผมเลย ” ไอ้คุณคิวพูดพร้อมกับมองไปที่ฟรอยอย่างจงใจ

“ ขอบคุณครับ ” ฟรอยพูด

“ ถ้าโอเคตามนี้ผมจะได้เริ่มถ่ายทำกันเลยนะครับ ” ผมพูดแทรกขึ้นมาด้วยความไม่พอใจเล็กๆ

“ ค่ะคุณฉิน  เริ่มถ่ายได้เลยค่ะ ” คุณเจนพูดขึ้น

“ เลิกแล้วเราไปหาอะไรทานด้วยกันมั้ยครับ ” ไอ้คุณคิวพูดขึ้นพร้อมกับกวาดสายตาไปที่ทุกคนและมาหยุดที่ฟรอย

“ เอ่อคือ.... วันนี้ ” ฟรอยอ้ำอึ้งๆจนผมต้องออกมาว่า

“ ผมกับฟรอยคงต้องขอตัวนะครับ เพราะว่าวันนี้มีธุระ ”

“ ฟรอยมีธุระเหรอ... งั้นให้ผมไปส่งมั้ย ” ไอ้คุณคิวรีบเสนอตัว

“ คงไม่ต้องหรอกครับ เพราะว่าเราไปด้วยกัน ” ผมพูดพร้มกับทำหน้ากวนตีนใส่ไอ้คุณคิว

“ ฉินกับฟรอยมีนัดไปไหนกันเหรอจ๊ะ ” พิงค์พูดขึ้นด้วยท่าทางอยากรู้

“ พอดีแม่มาตรวจสุขภาพหนะ ก็เลยจะแวะมาหา ” ผมพูด

“ แล้วฟรอย...... ” พิงค์พูดด้วยหน้าตางงๆ  ประมาณว่าแล้วเกี่ยวอะไรกับฟรอย

“ แม่เค้าอยากอยากเจอฟรอยหนะ ” ผมพูด

“ อ้าว... แม่ฉินเคยเจอฟรอยด้วยเหรอ ” พิงค์พูดด้วยท่าทางแปลกใจ

“ ใช่ครับ.... ” ฟรอยพูดด้วยหน้าตาดีใจ เพราะฟรอยเองก็เพิ่งรู้เพราะแม่เพิ่งจะโทรมาบอกผมก่อนที่ผมจะเข้ามาห้องประชุมนี่เอง

“ นี่ถึงขนาดพาไปแนะนำแล้วเหรอครับเนี่ย ” ไอ้คุณคิวพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกวนประสาท

“ ใช่ครับ ” ผมหันไปพูดด้วยท่าทางกวนตีนไม่แพ้มัน

“ คุณคิวค่ะ... งั้นวันนี้พิงค์ขอบายด้วยคนนะค่ะ จะไปเจอแม่ฉินด้วย ” พิงค์พูด

“ ไม่เป็นไรหรอกพิงค์ วันนี้พิงค์ไปกะคุณคิวแล้วกัน  ส่วนแม่เอาไว้คราวหน้าก็ได้ ” ผมพูด

“ แต่ว่า................. ” ผมรีบพูดแทรกพิงคืออกไปว่า

“ ปฏิเสธคำชวนลูกค้ากันหมดคงไม่ดีมั้ง ” ผมพูด

“ โอเค.... งั้นเดี๋ยวเราไปทานข้าวด้วยกันนะคะคุณคิวคุณเจน  ” พิงค์พูด

“ค่ะ... เสียดายจังนะคะ น้องฟรอยกับคุณฉินไม่ได้ไปด้วยกัน ” คุณเจนพูดส่วนไอ้คุณคิวก็แสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจน  เห็นหน้ามันตอนนั้นแล้วสะใจดีครับ

“ ครับ.... เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณเจน ” ผมพูด

“ ค่ะ... ไม่เป็นไรค่ะ ” คุณเจนพูด

“ โอเค... งั้นเดี๋ยวเราไปกันเลยนะค่ะ  พิงค์ขอเก็บไปของแปปนึง ” พิงค์พูดก่อนที่จะเดินออกไป

“ ผมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ ” ฟรอยพูดก่อนที่จะเดินออกไปเช่นกัน

“ แล้วนี่นัดเจอคุณแม่ที่ไหนค่ะเนี่ย ” คุณเจนถามขึ้นส่วนไอ้คุณคิวตอนนั้นยืนหน้าบูดอยู่

“ นัดเจอกันที่คอนโดผมหนะครับ ตอนนี้แม่คงเตรียมทำอาหารอยู่ ” ผมพูด

“ ดีจังนะคะ ท่าทางอบอุ่นกันดี ” คุณเจนพูด

“ ครับ.... แล้วนี่จะไปแถวไหนกันล่ะครับ ” ผมพูด

“ ยังไม่รู้เลยค่ะ  เดี๋ยวคงตกลงกันอีกที ” คุณเจนพูด

“ อ่อครับ ” ผมพูด

“ แล้วนี่คอนโดคุณฉินอยู่แถวไหนคะ ” คุณเจนพูด

“ แถวสุขุมวิทครับ ” ผมพูด

“ เหรอค่ะ เหมือนเจนเลย  คุณฉินอยู่ช่วงไหนค่ะเนี่ย ” คุณเจนพูด

ในขณะที่ผมกำลังจะตอบพิงค์ก็เปิดประตูเข้ามาพอดีพร้อมกับพูดว่า

“ ไปกันเลยมั้ยค่ะ พิงค์เรียบร้อยแล้ว ”

“ ก็ดีค่ะ ” คุณเจนหันไปพูดกับพิงค์

“ คุณคิวค่ะ.. ว่าไง ” พิงค์พูด

“ ไปครับ ” ไอ้คุณคิวพูด

“ ขอตัวก่อนนะคะคุณฉิน ”
คุณเจนพูดก่อนที่จะเดินตามพิงค์ออกไป ส่วนไอ้คุณคิวมันเดินมาที่ผมพร้อมกับพูดออกมาด้วยท่าทางท้าทายผมว่า

“ กันท่าผมให้ได้ตลอดนะครับ....  แต่ผมว่าคุณคงเสียท่าผมเข้าสักวัน ”

“ คงไม่หรอกครับ  อย่างน้อยๆตบมือข้างเดียวมันก็ไม่ดัง ” ผมพูด

“ คนอย่างผมไม่ตบมือข้างเดียวอยู่แล้ว รอดูสิครับว่าคนของคุณเค้าจะอยู่กับคุณได้ตลอดรึป่าว ” ไอ้คุณคิวพูดอย่างท้าทาย

“ คงไม่มีทางหรอกครับ ” ผมพูดอย่างพยายามระงับอารมณ์

“ ฮึฮึ... ช่วงนี้รีบเก็บเกี่ยวความสุขไว้นะครับ  เพราะอีกไม่นานมันก็คง....... ” ไอ้คุณคิวยังพยายามใช้คำพูดกวนประสาทผมจนผมทนไม่ได้เลยตอกมันกลับไปทันทีว่า

“  ถ้าคุณมีความคิดชั่วๆ สงสัยเราคงร่วมงานกันไม่ได้แล้วล่ะครับ ”

“ จุ๊ๆ.... อย่าเอาเรื่องส่วนตัวไปปนกับเรื่องงานสิครับ.... มืออาชีพเค้าไม่ทำกันนะ ” ไอ้คุณคิวพูด

“ งั้นลองดูกันสักตั้งแล้วกัน.... ผมรับรองว่าฟรอยไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับคุณแน่ ” ผมพูดอย่างท้าทาย

“ ไม่ต้องท้าหรอกครับ เพราะยังไงเกมนี้... ผมก็ตั้งใจจะลงแข่งอยู่แล้ว   ไปนะครับ....   โชคดี ”
ไอ้คุณคิวพูดก่อนที่จะเดินออกไป

#########################################################

ตอนต่อจากนี้พิมได้ครึ่งนึงแล้วครับ  แล้วจะรีบมาต่อให้อีกนะครับ........

อย่าลืมไปทำบุญกันด้วยนะครับ......... วันพระใหญ่

ขออนุโมทนาบุญแก่ทุกท่านด้วยนะครับ

ไปแระ..... ทำงานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

sharp2

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกกก รอมานาน


รอคราบ

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังก็จริง แต่ลูกแกะน้อยอย่างฟรอยจะตามหมาป่าทันเร้อ

ป.ล. ดูท่างานนี้หนุ่มฉินจะถูกใจสาวเจนแฮะ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เริ่มมันส์แล้วว่ะ
ฮ่าฮ่า

ดูเหมือนว่าฉิน...จะเจอคิวเปิดศึกรบสองด้าน ตีขนาบเข้ามาทั้งคู่
สาวเจน....กระหน่ำเข้าด้านฉิน
หนุ่มคิว....เข้าซ้ำด้านฟรอย
ไหนจะพิงค์...กองหนุนเข้าไปอีก

เอิ้ก เอิ้ก แค่คิดก็หนุกแล้ว หุหุ

 :pig4: ขอบคุณครับ น้องกร +1 ฮี่ฮี่  o22

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
เอาแล้ว

เริ่มมีการแย่งชิง


patz

  • บุคคลทั่วไป
ดูท่าแล้ว เรื่องยุ่งๆกำลังจะตามมาอีกแน่ๆเลย หนักแน่นไว้นะ ทั้ง ฉิน แล้วก็ ฟรอย

 :กอด1:

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด