[เรื่องยาว] Dear, My customer. รักลับๆ ของช่างตัดเสื้อ บทที่53 (จบ)p.24(6/1/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องยาว] Dear, My customer. รักลับๆ ของช่างตัดเสื้อ บทที่53 (จบ)p.24(6/1/63)  (อ่าน 97505 ครั้ง)

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
แหม มีการพากันไปจีบสาวด้วยนะ
ไม่ค่อยเก็ตมุกพระราชินีแฮะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
นี่เขายังไม่ได้จีบกันใช่ไหม อิอิ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
แหม มีการพากันไปจีบสาวด้วยนะ
ไม่ค่อยเก็ตมุกพระราชินีแฮะ


พระราชินีหมายถึงธนบัตรค่า

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
จริงๆ แล้วครั้งก่อน ท่านลอร์ดก็รู้นะ ว่าเขาไม่พอใจ แต่ก็มีความมึนสูงมากกกกกกก

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
น้ารักมากเลยค่ะ
กลุ่มเพื่อนท่านลอร์ดนี่ก็ล้งเล้งเฮฮากันหมดเลย มีแต่คนแย่งกันพูด555

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เคมีเข้ากั๊น....เข้ากัน

ออฟไลน์ hibatsumoe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เขินตรงบรรทัดสุดท้ายนี่ล่ะ :o8:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ท่านลอร์ดรุกคืบเข้ามาเรื่อย ๆ แล้วนะกอร์ดอน

ออฟไลน์ toru10969

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ท่านลอร์ดเริ่มมีอาการนะคะท่าน  :hao3: o18

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog


Dear, My customer.

ตอนที่6 จังหวะวอลซ์


                ฝนยังคงตกอย่างเอาแน่เอานอนไม่ได้เช่นเคย แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นข้อดีของหน้าร้อน มีฝน มีแดด จึงมีดอกไม้บาน

                วันรุ่งขึ้นกอร์ดอนไปที่บาร์อีก โดยปราศจากเงาของลอร์ดโทรว์บริด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถคุยกับแม่สาวแอนนาเบลได้อย่างราบรื่น แม้จะยังตะกุกตะกักอยู่บ้างเล็กน้อยก็ตาม เรื่องนี้ทำให้ช่างตัดเสื้อหนุ่มอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา อย่างที่คนซึ่งตกอยู่ในห้วงความรักเป็นกัน เขาเขียนแบบเสื้อและกางเกงขึ้นมาใหม่อีกหลายชุด รวมไปถึงออกไปเลือกซื้อผ้าใหม่ๆ มาเพิ่มด้วย

                ลอร์ดโทรว์บริดเงียบหายไปเลยหลังจากวันนั้น ซึ่งกอร์ดอนไม่ได้นึกแปลกใจเท่าไหร่ เพราะฝ่ายนั้นเป็นถึงเอิร์ล เขาก็ควรมีเรื่องที่ต้องไปทำบ้าง ไม่ใช่มาเวียนเข้าออกร้านตัดเสื้อทุกวันอย่างที่เคยทำอยู่

                งานที่ร้านก็ยังคงมีเข้ามาเรื่อยๆ ไม่มีงานไหนเร่งเป็นพิเศษ ว่าไปแล้วช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขสำหรับกอร์ดอนเสียจริงๆ

                แต่หลังจากหายไปหนึ่งสัปดาห์กับอีกสามวัน ลอร์ดโทรว์บริดก็มาปรากฏตัวที่ร้านเขาอีกครั้ง สวมหมวกฮอมเบิร์กสีดำใบเดิม เสื้อโค้ทตัวเดิม และดูชอบใจดอกกุหลาบสีชมพูในร้านที่กอร์ดอนเพิ่งซื้อมาเปลี่ยนใหม่เป็นพิเศษ

                “ที่บ้านผมมีกุหลาบแฟร์เบียนกาหลายต้น เดี๋ยวผมจะให้คนตัดมาฝากคุณสักช่อ” ท่านเอิร์ลพูดอย่างอารมณ์ดี หลังจากทักทายกันเรียบร้อยแล้ว กอร์ดอนยิ้มให้เขา

                “ขอบคุณครับ วันนี้คุณมาเสียบ่ายเลย มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ”

                ลอร์ดโทรว์บริดยักไหล่ “มี ผมอยากได้ทักซิโดส์สำหรับใส่ไปงานเต้นรำ”

                “ครับ”

                “คุณพ่อบอกว่าเสื้อที่ผมเอามาจากอเมริกาใช้ไม่ได้สักตัว ตัวเก่าที่เคยใส่ก่อนไปที่โน่นก็ใส่ไม่ได้แล้ว” ท่านเอิร์ลบ่นพลางทำหน้าหงุดหงิด “แต่ผมเกลียดชุดทักซิโดส์ชะมัด”

                “ทำไมล่ะครับ คุณใส่แล้วน่าจะดูดีออกนะ”

                “ไม่รู้สิ ผมไม่ชอบ” ลอร์ดโทรว์บริดว่า “ยิ่งต้องถือไม้เท้า กับสวมหมวกทรงสูงนั่นอีกนะ โอ๊ย แค่นึกผมก็กลัวจะเห็นตัวเองในกระจกแทบตาย”

                กอร์ดอนหัวเราะออกมา “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ คุณจะเข้าไปดูมั้ยว่าจะใช้ผ้าอะไรดี”

                “อื้อ” ลอร์ดโทรว์บริดพยักหน้า “ผมจะตัดเสื้อเชิ้ต กับเสื้อกั๊กใหม่ด้วย เอาให้ครบชุดไปเลย คุณพ่อจะได้เลิกบ่น”

------------------------------------

                ลอร์ดโทรว์บริดอยากได้เสื้อหางยาวตัวนอกสีดำ แต่เสื้อกั๊กเป็นสีแดงเลือดหมู ส่วนกางเกงเป็นสีน้ำเงิน กอร์ดอนแย้งว่ามันดูไม่เหมาะสำหรับงานเต้นรำแบบเป็นทางการ ยิ่งเป็นงานใหญ่ๆ ที่เต็มไปด้วยแขกระดับสูงยิ่งไม่เหมาะ หลังจากเถียงกันนาน ลอร์ดโทรว์บริดก็ตกลงว่าจะตัดเป็นสีดำทั้งหมดหนึ่งชุด และตัดสีที่ตัวเองเลือกไว้ต่างหากอีกหนึ่งชุด กอร์ดอนไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดีกับงานที่เพิ่มขึ้นมาดี

                “แล้วคุณกับแม่สาวแอนนาเบลเป็นไงบ้าง” ลอร์ดโทรว์บริดถามขึ้นหลังจากนั้น กอร์ดอนหันไปตอบเขา “ก็ดีครับ หลังจากวันนั้นผมยังได้เจอเธออีกตั้งสองสามครั้ง”

                “ดีจัง” เอิร์ลหนุ่มว่า “งั้นคุณชวนเธอไปงานเต้นรำที่บ้านผมสิ”

                “หา?”

                “วันศุกร์หน้าที่บ้านผมจะมีงานเต้นรำ ผมตั้งใจจะเชิญเพื่อนๆ ไปเต้นเป็นเพื่อนพวกเลดี้ทั้งหลายที่คุณพ่อจะเชิญมา คุณเองก็ไปด้วยสิ ชวนแอนนาเบลไป”

                กอร์ดอนมองหน้าเขาก่อนจะสั่นศีรษะ “ไม่ได้หรอกครับ งานคุณมีแต่แขกผู้มีเกียรติ ผมจะชวนแอนนาเบลไปได้ยังไง ผมไม่มีศักดินา แล้วเธอก็ไม่ใช่เลดี้สักหน่อย อีกอย่างผมไม่อยากให้เธอรู้ว่าคุณคือลอร์ดโทรว์บริดจริงๆ”

                “อืม...” ลอร์ดโทรว์บริดทำเสียงหนักใจ “แต่วันนึงถ้าเธอแต่งงานกับคุณก็ต้องรู้อยู่ดีนั่นแหละน่า” เขาว่า กอร์ดอนยังคงยืนกรานปฏิเสธ “ไว้มันถึงขั้นนั้นแล้วค่อยว่ากันเถอะครับ ผมขอบคุณที่คุณให้เกียรติเชิญพวกเรา”

                ลอร์ดโทรว์บริดยังคงมีสีหน้าคิดหนักเหมือนเดิม “แต่ถ้าขาดคุณไปหนึ่งคนมันก็ไม่ครบทีมน่ะสิ”

                “ทีมอะไรครับ?”

                “ทีมสโมสรแบล็กเบิร์ดไง” ลอร์ดหนุ่มว่า “พวกเราทุกคนตกลงจะไปงานทั้งหมดเลยนะ ขาดคุณไปได้ยังไง คุณโดดเข้าประชุมสโมสรมาตั้งหลายสัปดาห์แล้วด้วย”

                ช่างตัดเสื้อหนุ่มทำหน้าเหวอ เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเป็นสมาชิกสโมสรลับนั่น ลอร์ดโทรว์บริดหรี่ตามองเขา ก่อนจะตกลงเองเสร็จสรรพ

                “ถ้าคุณไม่สะดวกชวนแอนนาเบลก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงคุณต้องไปงานเต้นรำที่บ้านผม”

                “แต่...”

                “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น” ลอร์ดโทรว์บริดว่า “พ่อแม่ผมก็รู้จักคุณ เพื่อนผมก็เป็นเพื่อนคุณ คุณห้ามมีข้ออ้างอะไรอีก วันศุกร์หน้าผมจะให้โอลิเวอร์เอารถม้ามารับคุณ”

                “ไม่เป็นไรครับ ผมไปเอง” กอร์ดอนรีบพูดขึ้นต่อ เพราะไม่อยากรบกวนคนรับใช้หนุ่มให้ต้องเอารถม้ามารับช่างตัดเสื้ออย่างเขา ลอร์ดโทรว์บริดมองหน้าเขาซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “ไม่โกหกผมนะ”

                “ครับ ผมไปแน่”

                “ดี” ฝ่ายนั้นพูดพลางยิ้ม “ชุดจะเสร็จวันไหน”

                “น่าจะวันพฤหัสฯ” กอร์ดอนว่า “ช่วงนี้ผมไม่มีงานเร่ง แต่เฉพาะสีดำนะครับ กางเกงสีน้ำเงินกับกั๊กสีแดงด้านในน่าจะถัดไปอีกสองสัปดาห์”

                “อ๋อ ไม่เป็นไร” ลอร์ดโทรว์บริดว่า “แล้วผมต้องเข้ามาลองเสื้อวันไหน”

                “วันอังคารครับ” กอร์ดอนตอบ “คุณไม่ต้องเข้ามาหรอก เดี๋ยวผมเอาเข้าไปให้ลองที่คฤหาสน์ดีกว่า”

                “ไม่เอาล่ะ” ลอร์ดโทรว์บริดว่า “ผมมานี่ดีกว่า คุณนัดเวลามาเลย ผมไม่ชอบอยู่ที่คฤหาสน์ คุณไปก็เสียเวลาเปล่า”

                 “แต่ผมไปก่อนมื้อเย็น ประมาณห้าโมงเองครับ” กอร์ดอนว่า “ก่อนเวลามื้อเย็นคุณยังจะไปไหนอีกหรือ?”

                “มาที่นี่ไง” ลอร์ดโทรว์บริดพูดพลางยิ้ม “พอลองเสื้อเสร็จแล้วพวกเราก็ออกไปทานมื้อเย็นกัน”

-----------------------------------------------

                แต่พอถึงวันอังคารที่นัดกันไว้ ลอร์ดโทรว์บริดกลับมาที่ร้านตั้งแต่ก่อนเที่ยง ด้วยสีหน้าแสดงความไม่สบอารมณ์อย่างที่สุด

                “เย็นนี้มีงานเลี้ยงที่คฤหาสน์ท่านดยุก คุณพ่อบังคับให้ผมไป” ลอร์ดโทรว์บริดบ่นด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะยื่นกุหลาบแฟร์เบียนกาช่อใหญ่ให้กอร์ดอน “เอ้า ผมตัดมาฝากคุณ”

                “ขอบคุณครับ” กอร์ดอนรับกุหลาบช่อนั้นไว้ ก่อนจะพูดตอบไป “ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงเสื้อคุณก็พร้อมลองแล้ว คุณไปรอที่ห้องลองเลยครับ เดี๋ยวผมเอาเสื้อเข้าไปให้”

                ลอร์ดโทรว์บริดเข้าไปรอในห้องลองเสื้อ กอร์ดอนจึงเรียกเดวิดให้เอาดอกกุหลาบช่อนั้นไปให้มิสซิสมาร์ธาจัดแจกัน

                “ว้าว กุหลาบสวยมากเลย คุณโอเดนเบิร์ก ท่านเอิร์ลซื้อมาฝากคุณหรือ?” เดวิดถาม เมื่อเห็นกุหลาบช่อใหญ่ในมือของเจ้านาย

                “เปล่า ของที่คฤหาสน์เขาน่ะ” กอร์ดอนตอบ เดวิดพยักหน้า แล้วรับดอกไม้ไปให้มิสซิสมาร์ธา เขาเลยเดินไปหยิบเสื้อและเรียกช่างอีกคนไปช่วยดูรายละเอียดในการลองชุด

                “ขยายช่วงแขนออกไปอีก” ลอร์ดโทรว์บริดพูด หลังจากสวมเสื้อทั้งหมดแล้ว “มันทำให้ผมขยับไม่สะดวกเลย”

                “แต่มันจะทำให้คุณดูดีมากนะครับ ถ้าเอาออกไปอีกผมเกรงว่ามันจะดูไม่สวยเอา”

                “แต่ผมขยับลำบากนี่นา” เอิร์ลหนุ่มว่า “ผมต้องเต้นรำนะ”

                “ผมว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ คุณไม่ได้ใส่ออกไปเล่นโปโลสักหน่อย แขนเสื้อตัวนอกของทักซิโดส์มันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”

                ลอร์ดโทรว์บริดทำหน้าไม่เชื่อถือ “ไม่เอา ผมว่าไม่สะดวกแน่ ไม่เชื่อคุณมายืนตรงนี้เลย เดี๋ยวผมเต้นให้ดู”

                กอร์ดอนไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียง เลยเดินไปตามที่ฝ่ายนั้นว่า ลอร์ดโทรว์บริดมองหน้าเขา “เอ้า จับบ่าผมสิ คุณยืนทื่อแบบนั้นจะรู้ได้ไงว่าผมขยับลำบาก”

                กอร์ดอนนึกสงสัยว่ามันจำเป็นด้วยหรือ แต่เพราะฝ่ายนั้นทำหน้าตาจริงจัง เขาเลยต้องทำตาม โดยการเอามือจับลงไปบนหัวไหล่ของอีกฝ่าย

                “ไม่ใช่แบบนั้น” เอิร์ลหนุ่มบ่น ก่อนจะจับมือเขาขยับไปวางบนไหล่ “คุณต้องวางลงไปแบบนี้ เบาๆ นี่อย่าบอกนะว่าเต้นรำไม่เป็น?”

                “ก็ไม่เป็นน่ะสิครับ” ช่างตัดเสื้อหนุ่มตอบ “ผมพยายามจะบอกคุณแล้วว่าคุณไม่จำเป็นต้องเชิญผมไปงานเต้นรำ เพราะผมเต้นไม่เป็น”

                ได้ยินเสียงลอร์ดโทรว์บริดครางออกมา “เออ ผมลืมนึกไปเลย ขนาดคุณเห็นผู้หญิงยังพูดไม่ออก จะเต้นรำเป็นได้ไง”

                “ถ้าคุณล้อผมแบบนี้อีกผมจะโกรธคุณจริงๆ ด้วย” กอร์ดอนว่า อีกฝ่ายจึงรีบขอโทษขอโพย “โทษทีๆ แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวผมสอนเอง ยังไงพวกเราต้องไปกันให้ครบทีมอยู่แล้ว”

                กอร์ดอนอ้าปากนึกอยากเถียง แต่ก็คิดได้ว่าคงไม่มีประโยชน์ ลองฝ่ายนั้นตกลงใจจะให้เขาทำอะไรสักอย่าง ก็คงหาวิธีมาเกลี้ยกล่อมให้เขาทำจนได้นั่นแหละ

                “ตกลงครับ ผมจับไหล่คุณ แล้วไงอีกครับ ดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่นา”

                ลอร์ดโทรว์บริดยื่นมืออีกข้างหนึ่งออกมา “ทีนี้วางมือซ้ายของคุณไว้บนมือผม”

                กอร์ดอนทำตาม ก่อนจะสะดุ้งเมื่อฝ่ายนั้นใช้มืออีกข้างรวบเอวเขาเข้าไปแนบตัว

                “เอ้า ขยับเท้าถอยหลังไปตามผมนะ” ลอร์ดหนุ่มสั่ง จากนั้นกอร์ดอนก็รู้สึกเหมือนโดนเหยียบเท้า

                “โอ๊ย คุณเหยียบเท้าผม”

                “ก็ผมบอกแล้วให้คุณถอย”

                “ผมจะรู้ได้ไง”

                “เดี๋ยวผมเหยียบคุณก็รู้เองนั่นแหละ”

                “....”

                หลังจากทนยอมให้ลอร์ดโทรว์บริดเหยียบเท้าอยู่หลายครั้ง ในที่สุดกอร์ดอนก็พูดออกมาอย่างทนไม่ไหว “ตกลงมันเกี่ยวกับแขนเสื้อตรงไหนครับเนี่ย?”

                “กำลังจะเกี่ยวนี่แหละ” เอิร์ลหนุ่มพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วดึงมือเขาขึ้นไปชูเหนือศีรษะ “นี่ไง พอทำแบบนี้แล้วผมรู้สึกว่ามันติด ชัดเลย”

                กอร์ดอนย่นคอมองผ่านแขนตัวเองที่ถูกลอร์ดโทรว์บริดชูอยู่ไปยังแขนเสื้อฝ่ายตรงข้าม “แล้วไงครับ มันก็ยกได้แค่นี้นี่แหละ คุณจะให้ยกได้สุดแบบเสื้อเชิ้ตเลยหรือไง”

                “ถ้าได้แบบนั้นก็เยี่ยมเลย” ท่านเอิร์ลว่า “ผมอยากได้เสื้อสูทกับเสื้อโค้ทที่ขยับได้เหมือนเสื้อเชิ้ตมานานแล้ว”

                กอร์ดอนดึงมือลงแล้วพูดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ ถ้าเสื้อสูทกับเสื้อโค้ทขยับได้แบบนั้น มันก็เป็นเสื้อเชิ้ตหมดแล้วสิ”

                “สรุปว่าคุณทำไม่ได้?”

                “ไม่ได้ครับ” กอร์ดอนตอบ “ในฐานะช่างตัดเสื้อ ผมขอยืนยันว่าเสื้อตัวนี้จะสวยที่สุด ถ้าคุณไม่พยายามแก้แขนเพื่อให้มันเหมือนกับเสื้อเชิ้ต แต่ถ้าคุณอยากแก้ ผมเรียนเชิญร้านอื่นครับ เพราะร้านผมไม่ทำให้เด็ดขาด เสียชื่อคุณปู่หมด”

                “ก็ได้” ลอร์ดโทรว์บริดยอมลงให้ในที่สุด “ผมเชื่อคุณแล้วกัน”

                ช่างตัดเสื้อหนุ่มพยักหน้า ก่อนจะให้ฝ่ายนั้นถอดเสื้อที่ใช้ลองออกเพื่อเอาไปเย็บเก็บความเรียบร้อยต่อ หลังจากช่างที่เข้ามาช่วยดูนำเสื้อออกไปแล้ว ลอร์ดโทรว์บริดก็หันมาพูดกับเขา

                “พรุ่งนี้ตอนค่ำผมจะมารับคุณไปหัดเต้นรำ”

                “หา?”

                “ไม่ต้องทำหน้างง” เอิร์ลหนุ่มพูดต่อ “คุณต้องหัดเต้นรำ อย่างน้อยๆ ต่อไปคุณจะได้ชวนสาวๆ เต้นรำได้ เพราะงั้นพรุ่งนี้คุณเตรียมตัวไว้เลย”

---------------------------------------

                วันพุธลอร์ดโทรว์บริดเอารถม้ามารับเขาหลังมื้อค่ำ แต่กอร์ดอนผู้น่าสงสารยังคงอยู่ในชุดที่ใช้ทำงานเมื่อตอนกลางวัน เขาเพิ่งกินมื้อคำเสร็จและยังไม่มีแม้แต่กระทั่งเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า

                “ขอร้องล่ะครับ ผมไม่ไปได้ไหม?” ช่างตัดเสื้อหนุ่มโอดครวญ เขาอยากจะนอนพักผ่อน ไม่ใช่ถูกลากออกไปหลังมื้อคำแบบนี้ “ผมสัญญาแล้วไงว่าจะไปงานเต้นรำของคุณ แต่ผมคงไม่จำเป็นต้องเต้นรำหรอก ยังไงผมก็ไม่กล้าขอใครอยู่แล้ว”

                “แต่สักวันคุณต้องขอแอนนาเบลอยู่ดี” ลอร์ดโทรว์บริดว่า ก่อนจะพูดด้วยท่าทางอ่อนลงนิดหน่อย “มากับผมเถอะ ถือว่าผมขอคุณแล้วกัน ไปหัดเต้นรำกับผมนะ”

                ท้ายที่สุดกอร์ดอนก็ยอมเปลี่ยนเสื้อผ้า และนั่งรถม้าไปกับเอิร์ลหนุ่ม

                รถม้าพาพวกเขาทั้งคู่มาหยุดหน้าอาคารซึ่งกอร์ดอนจำได้ว่าเป็นที่ตั้งของสโมสรแบล็กเบิร์ด เมื่อเข้าไปในห้องประชุม ก็พบว่ามีใครคนหนึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

                “สายัณห์สวัสดิ์จอห์นนี่ กอร์ดอนด้วย ในที่สุดพวกนายก็มากันซะที ฉันกำลังคิดอยู่เลยว่าจะออกไปเดินเล่นรอ” คนที่เอ่ยทักคือลอร์ดจอร์จ เฟลตัน เขานั่งอยู่หลังแกรนด์เปียโนตัวใหญ่ ซึ่งกอร์ดอนแน่ใจว่ามันไม่ได้อยู่ในห้องเมื่อคราวที่เขามาครั้งก่อน

                “สายัณห์สวัสดิ์ครับลอร์ดจอร์จ แล้วคนอื่นๆ ล่ะครับ?” กอร์ดอนทักทายฝ่ายนั้น ลอร์ดจอร์จ เฟลตันมองหน้าเขา “อ้าว จอห์นนี่ไม่ได้บอกนายหรือ? วันนี้สโมสรหยุด พวกเราที่เหลือเตรียมตัวไปงานเต้นรำกัน ฉันมานี่เพราะจอห์นนี่ขอร้องให้มาช่วยสอนนายเต้นรำ”

                “อ๋อ... ขอโทษด้วยนะครับที่รบกวน” กอร์ดอนก้มศีรษะให้ฝ่ายนั้น ลอร์ดจอร์จ เฟลตันรีบโบกมือทันที “ไม่เป็นไรๆ ไม่ได้รบกวนหรอก ที่จริงฉันก็หาโอกาสหนีจากมาร์กาเร็ตอยู่นานแล้วเหมือนกัน”

                กอร์ดอนเลิกคิ้วด้วยความสงสัย แต่ลอร์ดโทรว์บริดไม่ปล่อยให้เพื่อนของเขาอธิบายอะไรมากกว่านั้น เขาหันมาทางกอร์ดอน “ก่อนอื่นเลย คุณต้องเรียนรู้มารยาทเวลาจะขอใครเต้นรำก่อน”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันขำพรวดออกมา “โอ้โห จอห์นนี่ ฉันไม่นึกไม่ฝันว่าวันนึงจะได้ยินนายสอนมารยาทคนอื่น”

                ลอร์ดโทรว์บริดทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดนั้น เขายังคงพูดกับกอร์ดอนด้วยสีหน้าจริงจัง “พวกผู้หญิงจะนั่งรออยู่ที่เก้าอี้” เขาชี้ไปที่เก้าอี้ที่วางอยู่ตรงผนังห้อง แล้วทำท่าบอกให้กอร์ดอนเดินไปนั่ง พอเห็นว่าอีกฝ่ายนั่งเรียบร้อย เขาก็พูดต่อ “คุณเดินเข้าไปหาพวกเธอ ชำเลืองมองเล็กน้อย ยิ้มแล้วก็โค้งให้เธอสวยๆ จากนั้นก็พูดว่า ได้โปรดเต้นรำกับผมนะครับ”

                ลอร์ดโทรว์บริดทำตามที่เขาพูด เขาเดินตรงมายังเก้าอี้ที่กอร์ดอนนั่งอยู่ ชำเลืองมองเล็กน้อย ก่อนจะโค้งให้แล้วพูด “เต้นรำกับผมนะครับ”

                “นายจะไม่พูดคำว่า ‘ได้โปรด’ ก็ได้นะ” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันที่นั่งอยู่หลังเปียโนพูดแทรกขึ้น “ถ้านายเป็นถึงเอิร์ลที่เป็นว่าที่มาควิสอย่างจอห์นนี่ ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขาหรอก”

                ลอร์ดโทรว์บริดยืดตัวขึ้น แล้วหันไปมองเพื่อน “จริงๆ ฉันว่าเราควรชวนมาร์กาเร็ตมาที่นี่ เธอคงเป็นคู่เต้นรำที่ดีของกอร์ดอนได้”

                “โธ่... ฉันแค่เล่นมุกนิดหน่อยนายถึงกับต้องยกเรื่องมาร์กาเร็ตมาขู่ฉันเลยหรือ” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันคราง กอร์ดอนคิดว่าเขาควรจะรีบลากลอร์ดทั้งสองคนให้กลับมาพูดในประเด็นที่มันควรจะเป็น ก่อนทีมันจะกลายเป็นเรื่องอื่นไป

                “จากนั้นแล้วไงต่อครับ พอเธอตอบตกลงแล้ว”

                “เธอจะยื่นมือให้คุณ ยื่นออกมาสิ” ลอร์ดโทรว์บริดสั่ง กอร์ดอนยื่นมือออกมา ก่อนจะโดนบ่นอีก “ไม่ใช่ แบบนี้ต่างหาก” ฝ่ายนั้นทำท่าให้เขาดู ก่อนจะขยับมายืนฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง แล้วจับมือเขาเอาไว้ “คุณก็รับมือเธอ จากนั้นก็จูงมากลางฟลอร์”

                 กอร์ดอนเดินตามอีกฝ่ายไปกลางห้อง ได้ยินเสียงลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูดขึ้นมาอีก “ได้เวลาฉันออกโรงแล้วใช่มั้ย?”

                “ยัง” ลอร์ดโทรว์บริดว่า “ฉันต้องสอนเขาเรื่องการจับมือก่อน”

                “ว้า...”

                ลอร์ดโทรว์บริดไม่สนใจเสียงครางของเพื่อน เขามองหน้ากอร์ดอน “ผมจะสอนคุณเต้นฝั่งผู้ชายนะ คราวก่อนผมให้คุณจับบ่าใช่มั้ย คราวนี้คุณต้องจับเอวผม ส่วนมืออีกข้างคุณต้องยื่นออกมาทำท่าประคองมือของผู้หญิงเอาไว้”

                กอร์ดอนรู้สึกว่าเขาคงดูเงอะงะสิ้นดี เอวของลอร์ดโทรว์บริดใหญ่มาก และมือของฝ่ายนั้นก็ใหญ่พอๆ กัน

                “คุณต้องสบตาคู่เต้นของคุณด้วยนะ ข้อนี้สำคัญเลย” ลอร์ดโทรว์บริดพูด กอร์ดอนเงยหน้าขึ้นมองเขา “แบบนี้หรือ?”

                “ใช่” ฝ่ายนั้นพยักหน้าจริงจัง “การไม่สบตาคู่เต้นถือว่าเสียมารยาทมาก คุณต้องให้ความสำคัญกับเธอด้วยการมองเธอแค่คนเดียว”

                “ครับ”

                “จอร์จ ถึงเวลานายออกโรงแล้ว”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันเหมือนรอเวลานี้อยู่นานมาก เขาวางมือลงบนเปียโน “ฉันขอเสนอเพลงนี้ให้พวกนายสองคน “Waltzes Op.34 No.2 ของโชแปง”

                จากนั้นเขาก็ไล่นิ้วลงไปบนเปียโน เสียงค้อนไม้ที่รองไว้ด้วยขนแกะกระทบกับสายลวดดังก้องออกมาจากแกรนด์เปียโนตัวนั้น

                “เพลงนี้เป็นจังหวะวอลซ์” ลอร์ดโทรว์บริดพูด “คุณก้าวเท้าตามผมนะ เอ้า ข้างซ้าย... โอ๊ย!”

                “ขอโทษครับ” กอร์ดอนรีบขอโทษขอโพยที่เหยียบเท้าฝ่ายนั้น ลอร์ดโทรว์บริดสั่นศีรษะ “ไม่เป็นไร เอาใหม่นะ”

                “ครับ”

                “เอาล่ะ ข้างซ้าย อย่างนี้แล้วหมุนตัว... คุณเหยียบเท้าผมอีกแล้ว”

                “ขอโทษครับ”

                หลังจากทนฟังเสียงบ่นจากลอร์ดโทรว์บริดอยู่อึดใจหนึ่ง ลอร์ดจอร์จ เฟลตันก็หยุดเล่นเปียโน “จอห์นนี่ ฉันแนะนำว่านายควรจะเต้นให้เขาดูก่อนรอบนึง ขอร้องล่ะ สงสารกอร์ดอน เขาไม่เคยเต้นนำใคร เขาเต้นเลยไม่ได้หรอก นายต้องเต้นให้เขาดูก่อน”

                ลอร์ดโทรว์บริดนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย “ตกลง เอาแบบนั้นแล้วกัน”

                เขาจับมือของกอร์ดอนไปวางไว้ที่บ่า แล้วรวบเอวฝ่ายนั้นมาไว้แนบตัว ได้ยินเสียงลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูดขึ้น “เออ ค่อยดูเข้าท่าขึ้นมาหน่อย”

                เปียโนเริ่มบรรเลงอีกครั้ง ลอร์ดโทรว์บริดมองหน้าคู่เต้นของเขา “ขยับตามผมนะ ไม่ต้องเกร็งมาก เดี๋ยวผมจะค่อยๆ เต้น”

                พูดจบฝ่ายนั้นก็เริ่มขยับเท้ามาแตะปลายเท้าของเขา กอร์ดอนพยายามถอยตาม ลอร์ดโทรว์บริดใช้มือข้างที่โอบเอวของเขาอยู่ค่อยๆ ดันตัวเขาให้เคลื่อนไปตามทิศทางที่ต้องการ ไม่นานนักกอร์ดอนก็เริ่มเข้าใจว่าเขาควรจะก้าวเท้าหลบเท้าของอีกฝ่ายอย่างไร

                “คุณเริ่มวางเท้าดีแล้ว” เอิร์ลหนุ่มพูดยิ้มๆ “คราวนี้เหลือแค่คุณเงยหน้ามองผม”

                โดยไม่รอให้อีกฝ่ายพูดอะไรตอบ ลอร์ดโทรว์บริดรั้งเอวของอีกฝ่ายให้เข้ามาแนบตัวมากขึ้น กอร์ดอนเลยจำต้องเงยหน้ามองเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้

                “ต้องจับแน่นขนาดนี้เลยหรือครับ?” ช่างตัดเสื้อถามอย่างไม่แน่ใจนัก เอิร์ลหนุ่มพยักหน้า “อือ คอร์เซ็ตของผู้หญิงแข็งจะตาย เธอไม่เจ็บหรอก”

                “อ๋อ... จริงด้วย”

                ทั้งคู่เต้นช้าๆ ไปตามจังหวะเพลง กอร์ดอนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของฝ่ายตรงข้าม และรู้สึกเหมือนถูกดวงตาสีเขียวคู่นั้นตรึงเอาไว้ ลอร์ดโทรว์บริดยิ้มบางๆ ให้เขา แล้วโน้มหน้าเข้ามา จนปลายจมูกแทบจะชิดกัน

                “ต้องใกล้กันขนาดนี้เลยหรือ” กอร์ดอนถาม เขารู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ฝ่ายนั้นพยักหน้า

                “อืม... ใกล้เท่าที่คุณพอใจนั่นแหละ แต่จำไว้อย่างนึงนะ”

                “อะไรครับ?”

                “ห้ามจูบคู่เต้นตอนที่กำลังเต้นอยู่เด็ดขาด แม้ว่าคุณจะอยากจูบเธอขนาดไหนก็ตาม มันเสียมารยาทน่ะ”

                “ผมไม่กล้าหรอก” ช่างตัดเสื้อโพล่งออกมา รู้สึกร้อนวูบไปทั้งหน้า แต่ยังคงถูกบังคับให้จ้องหน้ากับลอร์ดโทรว์บริดต่อไป เขาเห็นดวงตาสีเขียวของฝ่ายนั้น แต่มองไม่เห็นริมฝีปาก เพราะอยู่ใกล้กันเกินไป

                “จอห์นนี่!” เสียงเรียกทำเอาคนถูกเรียกสะดุ้งโหยง พลอยทำให้คนที่ยืนอยู่ด้วยกันสะดุ้งไปด้วย พอหันไปก็เห็นลอร์ดจอร์จ เฟลตันทำหน้าแปลกๆ “นายควรลองให้กอร์ดอนเต้นฝั่งผู้ชายได้แล้ว”

                “นั่นสิ” ลอร์ดโทรว์บริดรีบพูดเหมือนเพิ่งนึกได้ เขารีบจับมือกอร์ดอนเปลี่ยนฝั่งทันที ช่างตัดเสื้อยังคงมองใบหน้าของท่านเอิร์ลด้วยหัวใจที่เต้นระรัว ไม่รู้ทำไม เขาถึงรู้สึกว่าฝ่ายนั้นเกือบจะจูบเขาแล้ว ถ้าเสียงของลอร์ดจอร์จ เฟลตันไม่ดังขึ้นเสียก่อน

                เปียโนเริ่มบรรเลงอีกครั้ง คราวนี้กอร์ดอนทำได้ดีกว่าเก่า เขาสามารถพาลอร์ดโทรว์บริดเต้นตามจังหวะเพลงได้ แม้จะไม่คล่องเท่าตอนที่ลอร์ดโทรว์บริดเป็นฝ่ายนำก็ตาม หลังจากลองเต้นกันไปสองรอบ ลอร์ดจอร์จ เฟลตันก็สรุปขึ้นมา

                “เอาล่ะ ฉันคิดว่าใช้ได้แล้วสำหรับกอร์ดอน นายควรจะให้เขากลับไปพักผ่อน เพราะเขายังต้องตัดชุดให้นายอีก”

                “นั่นสินะ” เอิร์ลหนุ่มพยักหน้าเห็นด้วย “งั้นเดี๋ยวฉันจะไปส่งเขา”

                “ไม่ๆ” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูดขึ้นอีก “ฉันจะไปส่งกอร์ดอนเอง เพราะคฤหาสน์ฉันผ่านทางนั้นพอดี นายกลับไปก่อนเลย”

                “แต่...”

                “ฉันอยากจะไปดูหน้าร้านของกอร์ดอนเอาไว้บ้าง เผื่อวันไหนจะแวะเข้าไปตัดเสื้อ นายมีปัญหาหรือ?”

                “เปล่า... เอาตามนั้นก็ได้ ขอบใจนะจอร์จ”

                “อืม ราตรีสวัสดิ์จอห์นนี่ เจอกันวันศุกร์”

                “ราตรีสวัสดิ์ครับ”

                “ราตรีสวัสดิ์”

                ทั้งสามคนแยกย้ายกันหน้าอาคารสโมสร กอร์ดอนขึ้นรถม้าของลอร์ดจอร์จ เฟลตัน ตอนอยู่ในรถม้า ลอร์ดจอร์จ เฟลตันกวาดตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วถอนหายใจเสียงดัง

                “มีอะไรหรือครับ?”

                “เปล่า ไม่มีอะไร”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันส่งกอร์ดอนที่หน้าร้าน เขาเหลือบมองป้าย ก่อนจะพยักหน้า “ไว้ว่างๆ ฉันจะแวะมา”

                “ขอบคุณครับ” กอร์ดอนโค้งให้เขา “ราตรีสวัสดิ์ครับลอร์ดจอร์จ”

                “ราตรีสวัสดิ์กอร์ดอน”

                รถม้าแล่นออกมาจากถนนบรอมต์ตัน ลอร์ดจอร์จ เฟลตันถอนหายใจกับตัวเอง

                “จอห์นนี่ที่น่าสงสาร พระเจ้าต้องเล่นตลกกับนายแน่ๆ เลยสร้างกอร์ดอนให้เกิดมาเป็นผู้ชาย”

------------------------------------
(จบตอน)
*** โอ๊ย บอกตรงๆ ค่ะ ดิฉันชอบตอนนี้มาก ชอบช็อตเต้นรำของคู่นี้ม๊ากมากกกก  :mew1:

บรรจงแปะวอลซ์ของโชแปงที่ใช้ประกอบเรื่องไว้ ณ จุดนี้เลย ฮ่าๆๆ

https://www.youtube.com/watch?v=PGdpRmL2XUc

ขอบคุณที่ติดตามค่า :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2017 21:21:05 โดย juon »

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ลอร์ดเฟลตันได้เป็นพยานรักคนแรกสินะ เผลอ ๆ จะรู้ก่อนเจ้าตัวด้วยซ้ำ

นึกถึงฉากเต้นรำของโฉมงามกับเจ้าชายอสูร

...อสูรจอห์นนี่จ้องเขมือบหัวกอร์ดอน 55555

1. พาเข้าบ้าน
2. พาไปเจอเพื่อน
3. พาไปจีบสาว
4. สอนเต้นรำ

ว้าว บ่มเพาะน่าดูเลยนะเนี่ย

ออฟไลน์ alicegrizzly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โรแมนติกมากเลยค่ะซิส >////<

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ยังไงก็จะเอาให้ได้ใช่มั้ยท่านลอร์ด  อิอิ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เจ้าเล่ห์ชัด ๆ หลอกล่อเหยื่อให้ตายใจใช่ไหมท่านลอร์ด

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
เหมือนว่าท่านลอร์ดเฟลตัน จะมองเห็นอะไรๆ ก่อนเจ้าตัวซะอีกนะเนี่ย

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
หูยมีดึงเอวเข้าไปชิดตัวด้วย สมจริงไปหรือเปล่าเนี่ย
สอนเต้นรำเฉยๆ นะท่านลอร์ด
 :-[

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เพิ่งเห็นเรื่องใหม่
รู้สึกกรุบกรอบ 555
ส่วนเรื่องเก่าจะช่วยหยอดกระปุกค่าตัวนักแสดงนะคะ  อิอิ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่าาา
 :L2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
จะทำอะไรลูกเจี๊ยบของช้านจอนนี่   o18

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

ออฟไลน์ jejiiee

  • cannot open this page
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
เหมือนเรากำลังอ่านนิยายแปลอยู่เลย ชอบมากกกกกกก มาต่อเร็วๆ นะคะะ หยุดอ่านไม่ได้เลย :katai2-1:

ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
นับๆดู ขาดแต่ สารภาพรัก กับ ขอแต่งงาน นะพ่อหนุ่มจอห์นนี่... :o8:

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เรื่องใหม่คุณจูออนนนนน สนุกน่ารักเหมือนเดิมเลย
ชอบฉากเต้นรำมาก มันกร๊าว มันหวาน มันมีความจีบ มีความชอบ มีความรัก มีความกอร์ดอนเคลิ้ม 555
รอตอนต่อไปค่ะ สนุก!

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เกือบจูบไปแล้ว!! >\\\\\<
กอร์ดอนต้องเฉลียวใจได้แระนะ โดนลวนลามไปเยอะมาก 55555555

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog


Dear, My customer.

ตอนที่7 งานเต้นรำ

                เย็นวันศุกร์มาถึงอย่างรวดเร็ว ลอร์ดโทรว์บริดสวมชุดสวยใส่หมวกทรงสูง ยืนต้อนรับเหล่าบรรดาเลดี้ทั้งหลายที่พ่อกับแม่ของเขาจัดแจงส่งบัตรเชิญไปให้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ โดยมีลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ยืนเป็นเพื่อน งานเต้นรำจัดในห้องโถงกลางภายในคฤหาสน์เดล แสงไฟสะท้อนคริสตัลของโคมไฟระย้าที่แขวนอยู่บนเพดานเป็นประกายสดใส เสียงเพลงบรรเลงจากวงออเครสตร้าที่ดีที่สุดดังก้องไปทั่วห้อง แขกเหรื่อที่เชิญมาทั้งหมดมีประมาณยี่สิบคน เนื่องจากเป็นงานเต้นรำส่วนตัว บรรดาช่างภาพหนังสือพิมพ์จึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาถ่ายภาพ

                กอร์ดอนมาถึงงานเป็นคนที่แปด เขาตัดสินใจตัดเสื้อยาวใหม่หลังจากจัดการชุดของลอร์ดโทรว์บริดเสร็จเมื่อเช้าวาน เพราะไม่อยากให้ฝ่ายนั้นรู้สึกว่าเขามีชุดออกงานอยู่ชุดเดียว ช่างตัดเสื้อหนุ่มลงจากรถม้าและยื่นบัตรเชิญให้อัลเบิร์ต หัวหน้าคนรับใช้ของคฤหาสน์เดล อัลเบิร์ตจึงให้คนรับใช้อีกคนนำทางเขาเข้าไปในคฤหาสน์

                ลอร์ดโทรว์บริดดูดีใจมากที่เห็นหน้าเขา ชายหนุ่มเอ่ยทักทายทันที “สายัณห์สวัสดิ์กอร์ดอน คุณสวมเสื้อใหม่ สวยจัง”

                กอร์ดอนทักตอบฝ่ายนั้น “สายัณห์สวัสดิ์ครับท่านลอร์ด คุณเองก็ดูดีในชุดนี้ ผมบอกแล้วว่าหมวกทรงสูงไม่น่าเกลียดสำหรับคุณหรอก”

                ลอร์ดโทรว์บริดทำหน้าไม่เห็นด้วย “มันเกะกะ” เขาบ่น “ผมรำคาญเวลาต้องถอดเข้าถอดออกแบบนี้”

                ช่างตัดเสื้อหนุ่มหัวเราะเบาๆ “เอาน่า ใช่ว่าคุณต้องทำแบบนี้ทุกวันเสียหน่อย”

                ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์พลอยหัวเราะด้วย “จอห์นนี่ นายอย่าบ่นเรื่องหมวกไปเลยน่า ไม่มีใครเขาเดือดร้อนสักหน่อย”

                ลอร์ดโทรว์บริดทำหน้าเซ็ง แต่แล้วก็ต้องรีบปั้นหน้ายิ้มอีกครั้ง เมื่อมีเลดี้อีกคนในชุดสีเหลืองสดใสกำลังเดินเข้ามา

                “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” กอร์ดอนพูด แล้วเดินเข้าไปในงาน ขณะที่เขากำลังมองหาที่เหมาะๆ ที่จะหลบไปอยู่เงียบๆ แบบไม่เป็นเป้าสายตาของใคร ลอร์ดจอร์จ เฟลตันก็โบกมือเรียกเขา “กอร์ดอน ทางนี้”

                “สายัณห์สวัสดิ์ครับ” กอร์ดอนเอ่ยทัก ลอร์ดจอร์จ เฟลตันทักกลับแล้วชี้ให้เขานั่งเก้าอี้ข้างๆ “นายเป็นไงบ้าง?”

                “สบายดีครับ”

                “ดี วันนี้นายต้องอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อนฉัน” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูด พลางกลอกตาไปมา “เห็นว่ามีเลดี้สองคนมาไม่ได้เพราะป่วย เพราะงั้นพวกเราจะมีสองคนที่ไม่มีคู่เต้นรำ ฉันหวังว่าสองคนนั้นจะเป็นฉันและนาย”

                กอร์ดอนมองฝ่ายนั้นด้วยสีหน้าแปลกใจ เขาแน่ใจว่าตัวเองคงไม่กล้าชวนเลดี้คนไหนมาเต้นรำแน่ แต่ลอร์ดจอร์จ เฟลตันนี่สิ ทำไมถึงต้องทำท่าเหมือนกลัวจะถูกให้ไปเชิญใครเต้นรำขนาดนั้นด้วย

                “คุณเต้นรำไม่เก่งหรือครับ?”

                “หึๆ ถ้าจอร์จจี้เต้นรำไม่เก่ง โลกนี้คงไม่มีใครเต้นรำเป็นแล้วล่ะ” เจมส์เดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้อีกตัวพร้อมแก้วคอกเทลในมือ เขาวางมันลงบนโต๊ะ ขณะถูกลอร์ดจอร์จ เฟลตันถลึงตาใส่ “นายไม่ต้องมาทำเป็นพูดเลยเจมส์ ยังไงวันนี้ฉันก็จะขอนั่งอยู่ตรงนี้ ประกาศไปเลยก็ได้ว่าฉันเจ็บขา เพิ่งตกบันไดมา”

                “อืม...” เจมส์ส่งเสียงในคอ “ฉันแน่ใจว่าถ้าประกาศแบบนั้น ไอรีนจะต้องรีบมาช่วยดูข้อเท้าของนายเป็นคนแรก จากนั้นแมรี่ก็จะตามเข้ามา โอ้โห... นึกภาพไม่ออกเลยนะว่าถ้ามาร์กาเร็ตเห็นแล้วอะไรมันจะเกิดขึ้น”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันเป็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง ท่าทางสะโอดสะอง หุ่นอย่างเขาใส่เสื้อแบบไหนก็ดูดีทั้งนั้น เขามีดวงตาสีม่วงเข้ม ผมสีน้ำตาลอ่อน รอยยิ้มตรงมุมปาก และไฝเม็ดเล็กๆ ใต้ตาทำให้เขาดูมีเสน่ห์เอามากๆ กอร์ดอนไม่แปลกใจถ้าเขาจะมีเรื่องกิ๊กกั๊กกับผู้หญิงหลายคน แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำให้เป็นปัญหาขนาดนี้

                “ไม่ตลกนะเจมส์” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันเอ็ด “ลองนึกภาพฉันโดนเลดี้สามคนชี้หน้ากลางงานเต้นรำสิ โอ๊ย ไม่... ถ้าฉันรู้มาก่อนว่าสามคนนี้ถูกเชิญมางานเต้นรำนี้ด้วย ฉันจะไม่มาเด็ดขาด ยอมให้จอห์นนี่ยึดรองเท้าสามคู่เลยเอ้า!”

                “จอห์นนี่คงไม่อยากได้รองเท้านาย เขาเลยไม่บอกไงว่าแม่กับพ่อของเขาเชิญสามคนนั้นด้วย”

                ได้ยินเสียงลอร์ดจอร์จ เฟลตันครางฮือ “จอห์นนี่บอกว่าพ่อกับแม่เขาตั้งใจเชิญแคทเธอรีน ส่วนคนอื่นๆ เชิญมาเสริมให้ครบคู่เฉยๆ แต่ทำไมต้องเป็นสามคนนั่น”

                ลอร์ดหนุ่มพูดด้วยท่าทางเหมือนว่าตัวเองกำลังถูกพระเจ้ากลั่นแกล้ง เจมส์หัวเราะชอบใจ ก่อนจะหันไปทักกอร์ดอน “ไงกอร์ดอน นายสบายดีนะ”

                “สบายดีครับ”

                “ฉันเห็นข่าวงานแต่งงานของลูกชายบารอนเคาน์ตี้แล้ว เขาบอกว่าตัดชุดที่ร้านของนาย สวยมาก”

                “ขอบคุณครับ”

                “ถ้าวันไหนฉันแต่งงาน ต้องเรียกใช้บริการนายแน่นอน”

                “ด้วยความยินดีครับ”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันเหลือบตามองเขา ก่อนจะพูดเหมือนเพิ่งคิดอะไรได้ “จริงสิกอร์ดอน นายตัดชุดแบบพรางตัวให้ฉันได้มั้ย เอาแบบที่พอฉันสวมแล้วใครเจอก็จำไม่ได้น่ะ”

                “ผมไม่รับรองหรอกนะครับ” กอร์ดอนว่า “เพราะปกติคนเราจะจำท่าทางการยืนและเดิน มากกว่าจำที่เสื้อผ้าครับ ยิ่งโดยเฉพาะคนที่สนิทๆ กันด้วยแล้วล่ะก็”

                เจมส์หัวเราะพรวดออกมา ขณะที่ลอร์ดจอร์จ เฟลตันครางฮือ

                ผู้คนเริ่มทยอยเข้ามาเรื่อยๆ งานเต้นรำครั้งนี้ดูเป็นกันเองว่างานเลี้ยงต้อนรับลอร์ดโทรว์บริดเมื่อคราวก่อน คงเพราะเป็นงานที่เชิญเฉพาะบรรดาแขกวัยรุ่น ได้ยินว่าลอร์ดและเลดี้บาธออกจากคฤหาสน์เดินทางไปเที่ยวตากอากาศตั้งแต่บ่ายเมื่อวานนี้ ปล่อยให้ลูกชายได้สนุกกับเพื่อนๆ ที่คฤหาสน์ได้อย่างเต็มที่ กอร์ดอนนึกดีใจที่ทั้งคู่ไม่เห็นเขาอยู่ในงาน แม้ว่าท่านมาร์ควิสและภริยาจะดีกับเขามาก แต่คงไม่ชอบใจแน่ถ้าช่างตัดเสื้อแบบเขายกฐานะมาเป็นเพื่อนของลูกตัวเอง แถมยังได้รับเชิญมางานเต้นรำด้วย

                นอกจากจะมีวงดนตรีบรรเลงแล้ว เลดี้บาธยังตัดสินใจเชิญนักร้องโอเปร่าที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งมาร้องเพลงเปิดงาน รวมถึงยังเชิญคณะนักเต้นมาเต้นเพื่อให้ความบันเทิงอีกด้วย กอร์ดอนสังเกตเห็นว่าลอร์ดจอร์จ เฟลตันดูจะสนอกสนใจนักเต้นสาวคนหนึ่งเป็นพิเศษ และคนอื่นๆ ก็คงดูออกเหมือนกัน ถึงได้แซะเขาเรื่องเลดี้สามคนจนท่านลอร์ดต้องก้มลงมองแก้วเหล้าของตัวเอง

                ลอร์ดโทรว์บริดมานั่งที่โต๊ะร่วมกับเพื่อนหลังการแสดงของคณะนักเต้นเริ่มได้ไม่นาน เขาเอาแต่บ่นเรื่องหมวกจนถูกเจฟฟรีแซวว่าตกยุค ส่วนลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่กอร์ดอนเห็นว่าเขาเอาหมวกทรงสูงฝากคนรับใช้ตั้งแต่ก่อนเดินมาถึงโต๊ะ คงไม่ชอบพอๆ กับลอร์ดโทรว์บริดนั่นแหละ พอการเต้นจบลง ลอร์ดโทรว์บริดก็ลุกออกจากโต๊ะ เพื่อกล่าวเปิดงานสั้นๆ จากนั้นก็ถึงคิวนักร้องโอเปร่าเสียงทองคนนั้น ซึ่งลอร์ดจอร์จ เฟลตันเอาแต่บ่นเสียดายว่าทำไมเจ้าตัวถึงเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง จนเพื่อนๆ ทำหน้าเพลียใจไปตามๆ กัน

                ในที่สุดก็ถึงคิวงานเต้นรำจริงๆ เสียที เหล่าบรรดาชายหนุ่มทั้งหลายต่างพากันลุกออกจากโต๊ะเพื่อไปโค้งสาวๆ ให้มาเป็นคู่เต้นรำด้วย ลอร์ดจอร์จ เฟลตันสะกิดกอร์ดอนให้ลุกขึ้นด้วยกัน “พวกเราไปห้องน้ำกันเถอะ นั่งหัวโด่อยู่สองคนมันน่าเกลียด”

                ช่างตัดเสื้อหนุ่มเห็นด้วย ทั้งสองคนจึงรีบลุกแล้วเดินหลบไปด้านหลังวงดนตรี

--------------------------------------

                ห้องน้ำในคฤหาสน์ของลอร์ดโทรว์บริดโอ่อ่าหรูหราชนิดที่ว่ากอร์ดอนนึกภาพไม่ออกถ้าไม่ได้มาเห็นจริงๆ เขากับลอร์ดจอร์จ เฟลตันทำธุระเสร็จก็ออกมายืนตากอากาศยามค่ำคืนที่ระเบียงด้านนอก ลอร์ดหนุ่มหยิบบุหรี่ออกมาจากอกเสื้อ ก่อนจะยื่นให้เขามวนหนึ่ง

                “ผมไม่สูบครับ”

                ลอร์ดหนุ่มเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ “ทำไมล่ะ? สูบไม่ยากหรอกน่า”

                กอร์ดอนยิ้มให้ฝ่ายนั้น “ผมเคยสูบ แต่เลิกไปแล้ว กลิ่นมันติดบนผ้าแล้วทำให้ลูกค้าไม่ชอบใจน่ะ”

                “อ๋อ” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพยักหน้าอย่างเข้าใจ “แปลกจริง เวลาเอามาใส่เดียวมันก็ติดกลิ่นบุหรี่อยู่ดีนั่นแหละ”

                “แต่ตอนอยู่ที่ร้านนี่ไม่ได้เลยครับ”

                “อืม... เป็นช่างตัดเสื้อนี่ก็ลำบากเหมือนกันนะ” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันรำพึง แล้วจุดบุหรี่ให้ตัวเอง แสงสีส้มสว่างวาบท่ามกลางแสงไฟดวงน้อยที่เปิดอยู่ หลังจากยืนจุดบุหรี่สูงเงียบๆ อยู่พัก ลอร์ฟเฟลตันก็พูดขึ้นต่อ “นายมีแฟนรึเปล่า?”

                กอร์ดอนสะดุ้ง “ผมหรือ?”

                “อืม”

                ชายหนุ่มใช้เวลาคิดครู่หนึ่ง “ไม่เชิงครับ ยังไม่เคยมี แต่อาจจะมีเร็วๆ นี้”

                “แสดงว่ามีคนที่กำลังจีบอยู่”

                “ครับ”

                “ผู้หญิงคนนั้นสวยมากมั้ย”

                “ก็พอตัวอยู่ครับ เธอผมสีแดง ผมชอบผู้หญิงผมสีแดง”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันถอนหายใจเฮือก “แล้วถ้าเป็นผมสีน้ำตาลเข้มๆ ล่ะ?”

                “ไม่รู้สิ ผมไม่เคยนึกสนใจมาก่อนเลย” อีกฝ่ายตอบ แล้วนิ่งนึก “ผมสีน้ำตาลเข้มหรือ...”

                “อื้อ เป็นลอน คิดว่าไง”

                “น่าจะสวยดีนะครับ” กอร์ดอนว่า “คุณชอบผู้หญิงผมสีน้ำตาลเข้มหรือ?”

                “อ๋อ เปล่า” ลอร์ดหนุ่มรีบปฏิเสธ “ถามดูน่ะ”

                “ครับ...”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันสูบบุหรี่เข้าปอดอีกสองสามเฮือก ก่อนจะระบายควันออกมา “แล้วสีตาล่ะ?”

                “อืม...” กอร์ดอนคิดอีก “ถ้าผมสีแดงก็ต้องตาสีน้ำตาลสิครับ สีเขียวก็ได้ อืม... ผมว่าสีเขียวสวยเลยล่ะ”

                สีหน้าของลอร์ดหนุ่มดูมีความหวังขึ้นมาหน่อย “ตาสีเขียวแบบจอห์นนี่ใช่มั้ย?”

                กอร์ดอนพยักหน้า “ครับ ผมว่าตาท่านลอร์ดโทรว์บริดก็สวยดี” เขาพูด และนึกถึงตอนเต้นรำ จากนั้นก็รู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมา

                “เขาคงหาเจ้าสาวได้ไม่ยาก ผมว่า” ชายหนุ่มพูดต่อ แล้วถอนหายใจ “ที่จริงแล้วเขาเป็นคนมีเสน่ห์มาก”

                “ใช่ จอห์นนี่เป็นคนที่มีเสน่ห์มาก” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันยอมรับ “เขาเป็นคนที่อยู่ตรงไหนก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจ นายคิดแบบนั้นมั้ย?”

                กอร์ดอนยิ้มแบบแบ่งรับแบ่งสู้ “ก็น่าจะประมาณนั้นครับ”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันถอนหายใจ “น่าเสียดายที่เขาเป็นประทับใจใครยากมาก ไม่อย่างนั้นฉันคงมีเพื่อนวิ่งหนีสาวๆ”

                ช่างตัดเสื้อหัวเราะออกมา “ท่าทางคุณจะมีปัญหาเรื่องผู้หญิงนะครับ”

                “นิดหน่อย” ลอร์ดหนุ่มยักไหล่ “นายหิวรึเปล่า? เราเข้าไปหาอะไรกินกันมั้ย ทุกคนคงกำลังเต้นรำอยู่แล้วล่ะ ฉันว่า”

                กอร์ดอนมองหน้าอีกฝ่าย แล้วพยักหน้า

---------------------------------

                เสียงดนตรีบรรเลงดังก้องไปทั่วคฤหาสน์ ไม่ใช่เพลงเดียวกับที่ลอร์ดจอร์จ เฟลตันเล่นวันพุธ เสียงไวโอลินหวานแหววดังกังวาลขับพื้นหลังด้วยเสียงเปียโน ยิ่งทำให้บรรยากาศดูตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นไอแห่งความเย้ายวนของคนวัยหนุ่มสาว

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพาเขาเดินหลบหลังวงดนตรีกลับเข้ามาในห้องโถงอีกครั้ง กอร์ดอนเห็นว่าคนในห้องกำลังเต้นรำกันอยู่ ทุกคนใส่ชุดสวย และเต้นได้เข้าจังหวะ สวยงามน่าประทับใจจนเขาหยุดยืนมองอย่างลืมตัว

                โดยเฉพาะคู่ของลอร์ดโทรว์บริดที่ดูโดดเด่นกว่าคู่อื่นอย่างเห็นได้ชัด คู่เต้นของเขาเป็นเลดี้ผมสีทองเป็นลอนสวย ในชุดสีฟ้าอ่อนทอประกายสดในเหมือนท้องฟ้าที่หายากของลอนดอน ทั้งคู่เต้นรำในจังหวะที่เร็วกว่าที่กอร์ดอนเคยเต้น และมีท่วงท่าที่สลับซับซ้อนมากกว่า การเคลื่อนไหวของเลดี้คนนั้นดูสอดคล้องไปกับการเคลื่อนไหวของลอร์ดหนุ่มเสมือนว่าเป็นคู่เต้นด้วยกันมานาน กอร์ดอนมองแล้วนึกในใจว่าสองคนนี้ช่างดูเหมาะสมกันจริงๆ ขณะที่เขากำลังเพลิดเพลินกับท่วงท่าอันสวยงามของคนทั้งคู่ จู่ๆ ลอร์ดโทรว์บริดก็เหลือบตาขึ้นมา แล้วสบกับสายตาของเขาพอดี การเคลื่อนไหวของลอร์ดหนุ่มชะงักทันที ดูเหมือนเขาจะสะดุดขาตัวเองด้วย กอร์ดอนสะดุ้งด้วยความตกใจ แต่ยังไม่ทันจะได้คิดหรือพูดอะไร เสียงของลอร์ดจอร์จ เฟลตันก็ดังขึ้นก่อน

                “กอร์ดอน ไปยืนทำอะไรตรงนั้น”

                พอหันไปมองก็เห็นลอร์ดจอร์จ เฟลตันกวักมือเรียกเขาอยู่ที่โต๊ะเครื่องดื่ม กอร์ดอนจึงรีบเดินเข้าไปทันที

                “แชมเปญ” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันว่าแล้วยื่นแก้วใบหนึ่งให้เขา “เท่านี้เหล้าและอาหารทั้งหมดก็เป็นของเราแล้ว” เขาหัวเราะหึๆ ก่อนจะดื่มแชมเปญรวดเดียวหมด จากนั้นก็หยิบขึ้นมาอีกแก้วหนึ่ง “แด่จอห์นนี่”

                กอร์ดอนชะงักไปแว้บหนึ่ง ก่อนจะรีบยกแก้วขึ้นชนกับอีกฝ่าย “แด่ลอร์ดโทรว์บริด” จากนั้นเขาก็ดื่มมันจนหมดแก้วแบบเดียวกับที่ลอร์ดจอร์จ เฟลตันทำ

                “อร่อยใช่ไหม?” ฝ่ายนั้นมองเขายิ้มๆ กอร์ดอนรู้สึกอุ่นลงไปถึงคอ ความชุ่มฉ่ำของเครื่องดื่มแผ่ไปทั่วทั้งปาก

                “ครับ ผมไม่เคยดื่มแชมเปญมาก่อน”

                “ฮ่าๆ” ลอร์ดหนุ่มหัวเราะชอบใจ “งั้นยิ่งต้องดื่มให้มากๆ มาๆ ดื่มกันอีก แด่พระราชินี”

                “แด่พระราชินี”

                กอร์ดอนไม่รู้ว่าเขาดื่มแชมเปญไปกี่แก้ว รสชาติของมันอร่อยเสียจนเขาไม่อยากจะนับ รู้ตัวอีกทีเขาก็นั่งอยู่ที่โต๊ะ ข้างลอร์ดจอร์จ เฟลตัน และพากันวิพากษ์วิจารณ์คนที่เต้นรำอยู่บนฟลอร์อย่างสนุกปาก

                “นั่นไงไอรีน เต้นอยู่กับเจฟฟรี สวยใช่มั้ย?”

                “อือ ครับ”

                “ผมสีน้ำตาลอ่อนที่ต้นอยู่กับแมกซ์คือแมรี่ คนนี้หวานอย่าบอกใครเลย”

                “ผมเธอสวยจังเลย...”

                “ส่วนคนนั้นมาร์กาเร็ต” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันชี้ให้เลดี้ผมสีแดงเพลิงที่เต้นรำอยู่กับเจมส์ “คนนี้ดุยิ่งกว่าอะไรใดๆ ทั้งหมด”

                “เธอสวยมากเลยนะ”

                “ฉันรู้ เพราะนายชอบผู้หญิงผมแดง”

                “ฮะๆ” กอร์ดอนหัวเราะ “แล้วคุณไม่ชอบหรือครับ?”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันทำหน้าเหมือนนึกคำตอบไม่ออก เขายกแก้ววิสกี้ขึ้นมาจิบ “ไม่รู้สิ... ฉันชั่งใจไม่ถูกว่าสามคนนี้สมควรจะเลือกใครดี”

                “แย่จริง คุณนี่อย่างกับพระเจ้าเฮนรี่ที่แปด* (พระเจ้าเฮนรี่ที่8 ทรงต้องการหย่าขาดกับพระมเหสี คือพระนางแคเธอรีนแห่งอารากอน จึงประกาศเลิกนับถือคริสต์ศาสนานิกายโรมันแคทอลิก หันไปนับถือนิกายโปรเตสแตนต์แทน ทำให้อังกฤษนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์จนถึงปัจจุบัน) แน่ะ”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันหัวเราะชอบใจ “ฉันไม่อ้วนแบบพระเจ้าเฮนรี่ที่แปดแน่ๆ”

                กอร์ดอนพยักหน้า แล้วดื่มแชมเปญไปอีกแก้ว คนรับใช้รีบมารินเติมให้อย่างรวดเร็ว ระหว่างนั้นจังหวะดนตรีที่บรรเลงอยู่ก็เริ่มช้าลง

                “อะฮ้า ใกล้ปิดฟลอร์แล้ว” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันคราง ก่อนจะยกมือปิดหน้า “เดี๋ยวฉันคงต้องรีบหลบไปอีก ไม่อยากเจอทั้งสามคนพร้อมกัน”

                กอร์ดอนหัวเราะ จังหวะดนตรีที่ช้าลงทำให้คู่เต้นต้องเต้นช้าลงด้วย กอร์ดอนสังเกตว่าพวกเขาเปลี่ยนท่าเต้น

                “วอลซ์ แบบเดียวกับที่นายเต้นกับจอห์นนี่คืนนั้นแหละ” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันอธิบาย กอร์ดอนพยักหน้า “เต้นรำนี่ซับซ้อนจัง ผมคงไม่มีทางได้ชวนสาวที่ไหนเต้นแน่”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันหัวเราะหึๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร กอร์ดอนจึงหันไปมองบนฟลอร์อีกครั้ง

                คู่ของลอร์ดโทรว์บริดยังคงโดดเด่นเหมือนเดิม พอเป็นจังหวะวอลซ์แล้วยิ่งเหมือนเหลือเพียงพวกเขาสองคนอยู่กลางฟลอร์ กอร์ดอนเห็นลอร์ดโทรว์บริดกำลังก้มมองเลดี้ผมทองคนนั้นแบบที่สอนเขา และเลดี้ก็กำลังมองตอบเช่นกัน

                ช่างเหมาะสมกันจริงๆ

                ช่างตัดเสื้อหนุ่มนึกในใจ พลางคิดว่าลอร์ดโทรว์บริดน่าจะก้มลงไปให้ใกล้อีก เพราะเลดี้ตัวเล็กกว่าเขา แต่ฝ่ายนั้นกลับก้มหน้าลงแค่นิดเดียว เขาพลันนึกถึงคำพูดที่เอิร์ลหนุ่มพูดกับเขา

                ‘ใกล้เท่าที่คุณพอใจนั่นแหละ แต่จำไว้อย่างนึงนะ... ห้ามจูบคู่เต้นตอนที่กำลังเต้นอยู่เด็ดขาด แม้ว่าคุณจะอยากจูบเธอขนาดไหนก็ตาม มันเสียมารยาทน่ะ’

                ลอร์ดโทรว์บริดจะนึกอยากจูบเลดี้คนนั้นรึเปล่านะ... พวกเขาดูเหมาะกันดีจะตาย ถ้าพวกเขาจูบกันล่ะก็...

                จู่ๆ กอร์ดอนก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจจนสะดุ้ง เขาตกใจจนเผลออุทานออกมา จังหวะเดียวกับที่ลอร์ดโทรว์บริดเงยหน้าขึ้นมาพอดี

                เหมือนทุกอย่างในโลกหยุดสนิท แม้แต่เสียงดนตรี หรือแม้กระทั่งเสียงหัวใจเต้น กอร์ดอนสัมผัสถึงความรู้สึกบางอย่างที่พุ่งจากหัวใจขึ้นมาจุกอยู่ในลำคอ ทันทีที่เขาสบเข้ากับดวงตาสีเขียวสดใสคู่นั้น

                “จอห์นนี่นี่มารยาทแย่ชะมัด ตัวเองมีคู่เต้นรำอยู่แท้ๆ ยังจะหันมองคนอื่นอีก” เสียงพึมพำของลอร์ดจอร์จ เฟลตันดึงสติของกอร์ดอนให้กลับมาอยู่กับตัว ช่างตัดเสื้อหนุ่มรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงจนแทบกระดอนออกมา เขารีบลุกขึ้นด้วยความตกใจ และเซไปหน้าหน่อยหนึ่ง คราวนี้ลอร์ดจอร์จ เฟลตันถึงค่อยรู้สึกว่าเกิดเรื่องไม่ปกติขึ้น “เป็นอะไรไปกอร์ดอน”

                “ไม่รู้ครับ” ช่างตัดเสื้อหนุ่มสั่นศีรษะด้วยความงุนงง “ผมรู้สึกเหมือนไม่สบาย”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันมองหน้าฝ่ายนั้น ก่อนจะตะโกนเรียกคนรับใช้ “โอลิเวอร์ มาพาคุณโอเดนเบิร์กออกไปหน่อย ฉันว่าเขาจะเป็นลม”

---------------------------------------

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2017 21:22:24 โดย juon »

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
                โอลิเวอร์พากอร์ดอนออกมานั่งพักบนโซฟาในห้องรับรองใกล้กับห้องโถงใหญ่ ลอร์ดจอร์จ เฟลตันเดินตามหลังจากนั้น และสั่งโอลิเวอร์ให้ไปรินบรั่นดีมาแก้วหนึ่ง

                “จิบนี่สักหน่อยนะ นายน่าจะรู้สึกดีขึ้น” ลอร์ดหนุ่มพูดแล้วยื่นแก้วบรั่นดีให้ช่างตัดเสื้อ กอร์ดอนรับมาและจิบไปอึกหนึ่ง เขาค่อยระบายลมหายใจออกมา “ขอบคุณนะครับ”

                “ไม่เป็นไร” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูด แล้วถอนหายใจเฮือก ก่อนจะหันไปสั่งคนรับใช้ “ไปบอกเจ้านายแกนะ ว่าให้ส่งแขกกลับให้หมด ถ้ายังไม่หมดห้ามเข้ามาที่นี่เด็ดขาด บอกไปว่านี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เข้าใจนะ”

                “ครับ” โอลิเวอร์รับคำแล้ววิ่งตื๋อออกไป ลอร์ดจอร์จ เฟลตันลากเก้าอี้มานั่งข้างโซฟาที่กอร์ดอนนอนพักอยู่ เขาปล่อยให้อีกฝ่ายนอนนิ่งๆ อย่างนั้นสักพัก ก็ถามออกมา “นายรู้สึกเป็นไงบ้าง?”

                “ดีขึ้นแล้วครับ” กอร์ดอนตอบ “ผมน่าจะเมา” เขาพูด แม้จะรู้สึกว่าหัวใจเต้นสงบลงแล้ว แต่ก็ยังอดตกใจกับเรื่องเมื่อครู่ไม่ได้อยู่ดี

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันมองหน้าเขาอีกอึดใจหนึ่ง แล้วลุกขึ้นยืน “ฉันจะออกไปดูข้างนอกหน่อย นายนอนนิ่งๆ ตรงนี้นะ อย่าเพิ่งลุก ถ้าง่วงก็หลับไปได้เลย”

                “ครับ”

                กอร์ดอนหันมองลอร์ดจอร์จ เฟลตันที่รีบสาวเท้าออกไปอย่างเร่งร้อน ก่อนจะถอนหายใจเฮือก

                เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่นะเนี่ย...

                ภาพดวงตาสีเขียวของลอร์ดโทรว์บริดลอยขึ้นมาในห้วงความคิด พอนึกถึงภาพนั้นหัวใจของกอร์ดอนก็เหมือนจะหยุดเต้นเอาดื้อๆ ชายหนุ่มไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม เขาอยากจะมองหน้าลอร์ดโทรว์บริดอีกครั้ง แต่ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับสิ่งที่เขารู้สึกอยู่หรือเปล่า

                ชายหนุ่มพลิกตัว พยายามสลัดภาพของลอร์ดโทรว์บริดออกไปจากความคิด แต่ก็ทำไม่ได้เสียที เขาเฝ้าคิดถึงดวงตาสีเขียวคู่นั้น และเริ่มเป็นกังวลว่าลอร์ดโทรว์บริดอาจจะไม่ยอมมาพบเขา เขาอาจจะไม่ได้เห็นดวงตาคู่นั้นอีกเลยก็ได้

                ความคิดนั้นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกว้าวุ่นใจ เขารู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปนานเป็นปีๆ ถ้าเขาเดินออกไปตอนนี้ เขาจะได้เจอกับลอร์ดโทรว์บริดรึเปล่า? แต่นี่เป็นคฤหาสน์ของท่านมาควิส และเขาเป็นเพียงแขกต่ำต้อยที่ถูกเชิญมาเพื่อให้ครบองค์ประชุมเท่านั้น เขามีสิทธิ์อะไรที่จะไปพบท่านเอิร์ลผู้สูงศักดิ์ มีสิทธิ์อะไรที่จะได้มองดวงตาสีเขียวคู่นั้นอีกครั้ง

                ฤทธิ์ของแชมเปญยิ่งทำให้ความคิดของช่างตัดเสื้อหนุ่มสับสนหนัก เขาพลิกไปพลิกมาอยู่บนโซฟา สับสนจนทำอะไรไม่ถูก เขาอยากเจอลอร์ดโทรว์บริด แต่ไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมต้องอยากเจอฝ่ายนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอยากเจออยู่ดี

                อยากสบตากับดวงตาสีเขียวคู่นั้นอีกสักครั้ง

--------------------------------------

                ลอร์ดโทรว์บริดไม่เคยคิดว่าเขาจะต้องยิ้มจนเหงื่อแตกเลยสักครั้ง แม้จะเข้าใจว่าชีวิตของเขามีเหตุการณ์ให้ต้องฝืนใจยิ้มมากมายก็ตาม เขากลับมาจูบหลังมือลาเลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนได้อย่างสวยงามน่าประทับใจ หลังจากเกือบจะทิ้งเธอกลางฟลอร์เต้นรำ เพราะเห็นโอลิเวอร์พาตัวกอร์ดอนออกไปจากห้องโถง โชคยังดีที่ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพยายามเตือนสติเขาด้วยทุกท่าทางที่มีให้เขากลับไปอยู่ในจุดที่ควรจะเป็น

                “จอห์นนี่เป็นพวกสมาธิสั้นครับ อย่าไปถือสาเขาเลย เขาขึ้นชื่อเรื่องมารยาทดีแบบที่ไม่มีใครชมมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพยายามพูดเรื่องที่เขาเสียสมาธิจากการเต้นรำถึงสองครั้งให้กลายเป็นเรื่องตลก เขาทำได้แค่หัวเราะเกลื่อนไปตามเรื่อง โชคยังดีที่เพื่อนคนอื่นไวพอจะรับมุกต่อจากลอร์ดจอร์จ เฟลตันเป็นทอดๆ จนทำให้เรื่องราวมันดูเบาลงทันที

                 เขาสัญญากับเลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนว่าจะเชิญเธอมางานเลี้ยงน้ำชาในสัปดาห์หน้าเพื่อเป็นการขอโทษ (เรื่องนี้ลอร์ดจอร์จ เฟลตันกระซิบบอกเขาพร้อมกับเหยียบเท้าด้วย) และเดินไปส่งเธอขึ้นรถม้าที่หน้าคฤหาสน์ เพื่อนหลายคนอาสาไปส่งเลดี้เหล่านั้นด้วยตัวเองเพื่อแสดงมารยาท สุดท้ายก็เหลือแค่ลอร์ดจอร์จ เฟลตัน ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ และเขาสามคน

                ลอร์ดโทรว์บริดร้อนใจเต็มแก่ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกอร์ดอน ทำไมฝ่ายนั้นถึงโดนพาตัวออกจากงานไปดื้อๆ พอแน่ใจว่าเลดี้ทั้งหลายได้นั่งรถม้าไปพ้นจากอาณาเขตของคฤหาสน์แล้ว เขาก็หันมาไล่เรียงเรื่องราวกับลอร์ดจอร์จ เฟลตันทันที

                “เกิดอะไรขึ้นกับกอร์ดอน?!”

                “ใจเย็นๆ จอห์นนี่ เขาแค่เมาแชมเปญ ไม่มีอะไร” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันตอบ ลอร์ดโทรว์บริดมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ “แต่ฉันเห็นเหมือนเขาทำท่าจะเป็นลม”

                ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์มองเพื่อนทั้งสองคน ก่อนจะพูดขึ้นบ้าง “ไม่เอาน่าจอห์นนี่ จอร์จบอกว่าเขาเมาก็คือเมาสิ เขาจะโกหกนายทำไม”

                “แต่...”

                “เขาดื่มแชมเปญไปเยอะมาก เดี๋ยวฉันจะพานายไปหาเขา” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันว่า แล้วพูดต่อ “แต่สัญญาก่อนนะว่านายจะไม่พูดหรือทำอะไรมากไปกว่าไปดูเขาเฉยๆ”

                ลอร์ดโทรว์บริดทำหน้าหงุดหงิด “ทำไมฉันถึงต้องสัญญาแบบนั้นด้วย กอร์ดอนเป็นอะไรกันแน่”

                โดยไม่รอให้ใครพูดอะไรต่อ เขารีบวิ่งไปยังห้องรับรองเล็กทันที ลอร์ดจอร์จ เฟลตันจึงรีบวิ่งตามไป

---------------------------------------

                “กอร์ดอน!” ลอร์ดโทรว์บริดเปิดประตูพรวดเข้ามา ก่อนจะถลันไปหาคนที่นอนหน้าซีดอยู่บนโซฟา “เกิดอะไรขึ้น!”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันที่วิ่งเข้ามาอุทานคำหนึ่ง ก่อนจะรีบปิดประตูห้องดังปึง เกือบจะกระแทกใส่หน้าลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ที่วิ่งตามหลังมา

                “จอร์จ นายเป็นบ้าอะไร! เปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยนะ”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันใช้หลังยันประตูเอาไว้ พลางจ้องภาพตรงหน้า “ไม่ได้ เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้นายฟังทีหลัง ตอนนี้ช่วยรอเงียบๆ ก่อนได้มั้ย!”

                ลอร์ดโทรว์บริดเบิ่งตาค้าง เพราะไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น เขาวิ่งเข้ามาและเห็นกอร์ดอนนอนหน้าซีดอยู่ เลยรีบเข้าไปดูอาการ แต่กลายเป็นว่าจู่ๆ ฝ่ายนั้นก็คว้าตัวเขาเข้าไปกอด

                “ผมคิดว่าคุณจะไม่มาอีกแล้ว”

                เอิร์ลหนุ่มรู้สึกหัวใจตัวเองเต้นแรงจนแทบจะฉีกออก เขารีบกอดตอบฝ่ายนั้น และรู้สึกตัวเองควรจะทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว

                “ทำไมผมถึงจะไม่มาหาคุณล่ะ ผมคิดถึงคุณแทบตาย” ลอร์ดโทรว์บริดพูดพลางใช้มือลูบผมสีทองของกอร์ดอน ฝ่ายนั้นค่อยคลายวงแขนแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา

                “ผมเป็นอะไรไปแล้วไม่รู้”

                “ยังไงล่ะ?”

                “ผม...” กอร์ดอนพูดค้าง ก่อนจะกอดฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง “ผมไม่อยากให้คุณจูบผู้หญิงคนนั้น”

                ลอร์ดโทรว์บริดเบิ่งตาหน่อยหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา “ผมยังไม่ได้จูบเธอ ผมไม่เคยคิดจะจูบเธอเลย”

                “จริงหรือ?” กอร์ดอนเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง “แต่คุณกับเธอดูเหมาะกันมาก”

                “คุณเองก็คิดแบบนั้นหรือ?” ลอร์ดโทรว์บริดว่า คนถูกถามพยักหน้า “งั้นทำไมไม่อยากให้ผมจูบเธอล่ะ?”

                “ก็ผม...” กอร์ดอนให้เหตุผลไม่ถูก เขารู้สึกสับสนไปหมด “ผมไม่รู้เหมือนกัน”

                เอิร์ลหนุ่มคลี่ยิ้ม “งั้น... อยากให้ผมจูบคุณไหม?”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันกระแอมไอออกมาดังๆ จนคนทั้งคู่สะดุ้ง ลอร์ดโทรว์บริดหันไปมองหน้าเพื่อน ฝ่ายนั้นเลยพูดขึ้น “ฉันคิดว่ากอร์ดอนควรจะกลับไปที่ร้านได้แล้ว พรุ่งนี้วันเสาร์ และนี่ก็ดึกมาก”

                “นั่นสิ” ลอร์ดโทรว์บริดตะกุกตะกักพูดด้วยความประหม่า “งั้นฉันไปส่ง”

                “นายต้องอยู่คุยกับพวกเราก่อน” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันเน้นเสียง “นี่เรื่องสำคัญมากนะจอห์นนี่”

                ลอร์ดโทรว์บริดสูดหายใจลึก เขาหันกลับไปมองกอร์ดอน จับมือฝ่ายนั้นขึ้นมาจูบเบาๆ “ผมต้องให้คุณกลับก่อน จะให้โอลิเวอร์ขับรถไปส่งนะ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไปหาคุณที่ร้าน”

                กอร์ดอนพยักหน้า ลอร์ดหนุ่มจึงพยุงเขาขึ้นมา ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูดขึ้นต่อ “ฉันจะตามโอลิเวอร์ให้ นายอยู่ในห้องนี้แหละ”

                เขาเปิดประตูออกไปและมีปากเสียงกับลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์เล็กน้อย จากนั้นไม่นานโอลิเวอร์ก็วิ่งตื๋อเข้ามา

                “ไปส่งคุณโอเดนเบิร์กที่ร้านหน่อย” ลอร์ดโทรว์บริดสั่ง โอลิเวอร์พยักหน้า ก่อนจะพยุงกอร์ดอนออกไป

------------------------------------

                “เอาล่ะ... จอห์นนี่ เรามีเรื่องจะต้องคุยกันยาวเลย” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูดหลังจากปิดประตูเรียบร้อยและแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้นแล้วนอกจากพวกเขาสามคน ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์มองเขา

                “เกิดอะไรขึ้น ฉันงงไปหมดแล้ว พวกนายมีอะไรกัน”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันมองไปยังลอร์ดโทรว์บริด แล้วหันกลับมามองลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์อีกที

                “แมกซ์ นายว่าสเป็กของจอห์นนี่เป็นแบบไหน”

                “ก็ต้องแบบเลดี้แบรนดอนสิ ผมสีทอง ตาสีฟ้า ท่าทางไม่เหมือนเลดี้”

                “ฉันไม่เห็นว่าเลดี้แบรนดอนไม่เหมือนเลดี้ตรงไหนเลย” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันแย้ง ก่อนจะถอนหายใจแรง “จอห์นนี่ของเราชอบกอร์ดอนต่างหาก... ผมสีทอง ตาสีฟ้า และไม่มีความเป็นเลดี้เลยแม้แต่นิดเดียว”

                “เฮ้ย!” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ร้องออกมา ขณะที่ลอร์ดโทรว์บริดลุกพรวดขึ้น “จอร์จ นายพูดอะไร!”

                “พูดเรื่องจริงไง” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันตอบด้วยท่าทางจริงจัง เขาจ้องหน้าลอร์ดโทรว์บริด “นายไม่ต้องปฏิเสธเลย ฉันรู้ว่านิสัยนายเป็นยังไง ลองถ้านายประทับใจใครหรืออยากได้อะไรแล้ว นายจะพยายามทำให้คนคนนั้นมาอยู่ข้างนายให้ได้ ตอนนายชวนแมกซ์เข้าทีม นายก็ตื๊อเขาเกือบตาย”

                “เออ ฉันนึกเรื่องตอนนั้นออกเลยล่ะ” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ว่า “แต่มันเกี่ยวกับกอร์ดอนตรงไหน? หมายถึงนายแน่ใจได้ยังไงว่าจอห์นนี่ชอบกอร์ดอนแบบที่... เอ่อ... ไม่ใช่อย่างที่เพื่อนควรจะชอบกัน”

                “สายตาไง” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันตอบ “ฉันสังเกตเวลาที่เขามองกอร์ดอน ไม่เหมือนเวลาที่เขามองฉันหรือมองนาย มันเหมือนสายตาฉันเวลามองผู้หญิงที่ชอบสักคน”

                “อืม... ฉันไม่รู้มาก่อนว่านายเคยสังเกตตัวเองแบบนั้นในกระจกด้วย” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ว่า ลอร์ดจอร์จ เฟลตันย่นคิ้วใส่เขา “นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะแมกซ์ จอห์นนี่ชอบกอร์ดอนแน่นอน ถ้าไม่ชอบจริงนายก็อ้าปากบอกมาเลย” เขาหันไปหาลอร์ดโทรว์บริด ฝ่ายนั้นทำหน้าปั้นยาก

                “ฉัน...”

                เกิดความเงียบขึ้นภายในห้อง ได้ยินเสียงลอร์ดโทรว์บริดสูดหายใจลึก “ใช่ ฉันชอบกอร์ดอน ชอบแบบที่เพื่อนไม่น่าจะชอบกันได้”

                “พระเจ้า!” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ครางออกมา “นายพูดจริงๆ? ใครก็ได้ช่วยบอกฉันหน่อยเถอะว่าจริงๆ แล้วกอร์ดอนเป็นผู้หญิง เขาแค่ชอบแต่งตัวเหมือนผู้ชายเฉยๆ”

                “เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันยืนยัน “ฉันแอบดูแล้วตอนเข้าห้องน้ำ ไม่มีทางเป็นผู้หญิงไปได้เด็ดขาด เหวอ!”

                ลอร์ดโทรว์บริดคว้าคอเสื้อลอร์ดจอร์จ เฟลตันขึ้นมา “นายแอบดูเขาเรอะ!”

                “ให้ตายจอห์นนี่ ตั้งสติหน่อยเถอะ” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์รีบพรวดพราดเข้ามาดึงตัวลอร์ดจอร์จ เฟลตันออกไป ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายไปมากกว่านี้ ลอร์ดจอร์จ เฟลตันยกมือลูบคอตัวเอง ไอออกมาเล็กน้อย

                “จอห์นนี่ของเราหึงโหดด้วยแฮะ”

                ลอร์ดโทรว์บริดโกรธจนหน้าแดง “พวกนายจะเอายังไงกับฉัน จะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อฉันหรือ?”

                “ไม่มีทาง พวกเราไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์พูดออกมาทันที แม้ว่าเขาจะยังตกใจเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ ลอร์เฟลตันรีบเสริม “ใช่ ถ้าเราตั้งใจจะบอกพ่อนาย เราจะมายืนคุยกับนายที่นี่ทำไม”

                “งั้นพวกนายคิดจะทำอะไร?”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันและลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์มองหน้ากัน ก่อนที่ฝ่ายแรกจะพูดออกมา “จอห์นนี่ นายเป็นเพื่อนรักของเรา เราจะไม่ขายนายให้ใคร แม้ว่านายจะทำสิ่งที่ผิดกับพระเจ้าก็ตาม”

                “ใช่ ยังไงนายก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเราเสมอ” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์สนับสนุน ก่อนจะพูดต่อ “แต่เราจะปล่อยเรื่องนี้ไว้เฉยๆ ไม่ได้เหมือนกัน”

                “ถูกต้อง”

                “แล้วพวกนายจะเอายังไง?” ลอร์ดโทรว์บริดถาม เขารู้สึกอารมณ์เย็นลงเล็กน้อย แต่ก็ยังอดโมโหไม่ได้อยู่ดี

                เพื่อนทั้งสองของเขาเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์จะพูดขึ้นมา “นายจะต้องตัดใจให้ได้”

                “ใช่” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันเห็นฟ้อง “เรื่องนี้มันผิดมากนะ นายไม่ควรถลำลึก”

                “พวกนายไม่เข้าใจ” ลอร์ดโทรว์บริดคราง “ฉันไม่เคยประทับใจใครเท่าเขามาก่อน” ดวงตาสีเขียวสดใสของเขาเป็นประกาย เมื่อนึกถึงเรื่องของกอร์ดอน

                “ตอนฉันเห็นหน้าเขาครั้งแรก ทุกอย่างบนโลกนี้เหมือนหยุดสนิทเลย”

                “....”

                “เขาเป็นผู้ชาย สมองฉันบอกแบบนั้น แต่หัวใจฉันบอกว่านี่แหละคือคนที่ใช่ที่สุดสำหรับฉัน” เอิร์ลหนุ่มพูดแล้วถอนใจ “ฉันตื่นเต้นจนพูดอะไรบ้าบอเต็มไปหมด แค่เพราะอยากรู้จักกับเขาให้เร็วที่สุดเท่านั้นเอง”

                ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์มองเพื่อน แล้วยกมือตบไหล่ฝ่ายนั้นเบาๆ ลอร์ดโทรว์บริดยิ้มให้เขา “รู้มั้ย ฉันไปช่วยเขาจีบสาวด้วยนะ... เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันรู้สึกว่าเขาเริ่มมองเห็นฉันบ้างแล้วในสายตา”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันเม้มปาก รู้สึกสะเทือนใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

                “ที่จริงแล้วฉันไม่หวังหรอกว่าเขาจะชอบฉันแบบที่ฉันชอบเขา ฉันแค่อยากรู้จักคนที่ฉันหลงรักตั้งแต่แรกเห็นให้มากที่สุด แต่... ตะกี้พวกนายก็เห็นไม่ใช่หรือ? เขากอดฉัน เขาบอกว่าอยากเจอฉัน ฉันแน่ใจว่าเขาคิดกับฉันแบบเดียวกับที่ฉันคิดกับเขา แล้วพวกนายจะให้ฉันตัดใจอย่างนั้นหรือ?”

                เกิดความเงียบขึ้นภายในห้องอีกครู่ใหญ่ๆ ลอร์ดจอร์จ เฟลตันสูดจมูกติดๆ กันหลายครั้ง ก่อนจะพูดด้วยเสียงแหบพร่า “ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อเลย...” เขาหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับหัวตา “นายทำให้ฉันร้องไห้ ฉันไม่เคยคิดว่าความรักจะน่าประทับใจขนาดนี้มาก่อน”

                ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์หันไปทางเพื่อน ขยับปากเหมือนจะพูดอะไร แต่สูดท้ายก็ถอนหายใจออกมา “จอห์นนี่ ทำไมพระเจ้าถึงโหดร้ายกับนายแบบนี้นะ...”

                “ฉันไม่สนใจพระเจ้าแล้ว!” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันโพล่ง แล้วจับไหล่ลอร์ดโทรว์บริด “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะช่วยนายเต็มที่ ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันเลือกข้างนายมากกว่าพระเจ้า”

                “ให้ตาย” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์คราง “พระเจ้าได้โปรดให้อภัยบาปของลูกด้วยเถอะ” เขายื่นมือข้างหนึ่งมาตบไหล่เพื่อน “นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน จอห์นนี่ ฉันเลือกอยู่ข้างนาย”

--------------------------------------
(จบตอน)
**แฟชั่นยุควิกตอเรียทำดิฉันมึนหัวมากค่ะ ฮ่าๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2017 21:22:50 โดย juon »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด