。◕‿◕。❤ เอื้อมใจให้รัก ❤ 。◕‿◕。 >>>UP side story:เรื่องราวของโจม (จบแล้ว) 10/06/10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 。◕‿◕。❤ เอื้อมใจให้รัก ❤ 。◕‿◕。 >>>UP side story:เรื่องราวของโจม (จบแล้ว) 10/06/10  (อ่าน 77321 ครั้ง)

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
คู่นี้นี่นะมีแต่เรื่องเข้ามาตลอด

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ฟิ้งแค่ติดเพื่อน ห่วงเพื่อนมากไปใช่ป่ะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ฟิ้งคือคนที่น่ากลัว

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เอื้อ เชื่อใจเพื่อนมันก้อดีอ่ะนะ
แต่ว่าเรื่องรักๆ หรือแอบรักเนี่ย.......อะไรก้อเกิดขึ้นได้!!

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
ฟิ้ง นางคือเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ติดตามจ้า :L2:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
จำเป็นต้องหวงเพื่อนเว่อร์ขนาดนั้นเลยหรอฟิ้ง  :m16: :m16:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
ดูสิ เอื้อจะปกป้องน้องได้ไหม :hao4:

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
พี่เอื้อคะ ทำให้น้องปูนใจอ่อน ยอมเป็นแฟนให้ได้นะคะ  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ฟิ้งน่ากลัวอ่ะ เป็นบิ๊กบอสของเรื่องนี้เลยป่ะ อย่าทำอะไรพี่ปูนของเรานะ o9

ออฟไลน์ Maitre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บทที่ 24
เมื่อน้องปูนโดนถาม

ผมมาเรียนด้วยยานพาหนะคันสวยของเดือนมหา’ลัยสุดหล่อ ข่าวร้ายคือรถของผมมันนอนตายสนิท สตาร์ทไม่ติดเป็นที่เรียบร้อย เอื้อพูดคำเดียวเลยตอนเห็นสภาพ

‘ขายเป็นเศษเหล็กจะได้กี่บาท’

มันแช่งรถผมมมม เหอะ เดี๋ยวเอากลับไปซ่อมที่บ้านก็เอากลับมาใช้ใหม่ได้แล้วโว้ย แต่ช่วงนี้ผมคงต้องหาทางไปเรียนด้วยวิธีอื่น ซึ่งเอื้อมันก็เสนอมาว่า

‘ก็ไปกับกูเลยดิ เดี๋ยวเช้ากูไปส่ง ตอนเย็นกูไปรับ’

แหม เข้าทางเลยนะครับ

ผมเดินตรงไปหาเพื่อนรักทั้งสามคนที่นั่งหน้าสลอนมองมาทางผมอยู่ตรงเก้าอี้หน้าคณะ มองหน้าผมแล้วยิ้มกับอย่างนี้พวกมันต้องเล่นอะไรอีกแน่

และไอ้กล้าก็ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง...

“ชะอุ้ย นายเห็นเหมือนเรามั้ยโพล”

โพล? โพลอะไร โพลดำโพลแดง?

“เห็นสิดิบซี่ แล้วนายล่ะทิงกี้วิงกี้” หืม คราวนี้มาในธีมเทเลทับบี้เหรอ ให้ไอ้โจมเป็นทิงกี้วิงกี้ด้วย?

“เห็น แล้วมึงอ่ะลาล่า เห็นป่ะ”

ป๊าดดดดด คราวนี้ไอ้โจมของเราไม่หักมุกแล้วครับ!! น้ำตากูจะไหลแทนเพื่อนๆ เลยเนี่ย

มึงเก่งมาก! ว่าแต่ทำไมผมต้องเป็นลาล่าด้วยล่ะ! อย่างผมต้องดิบซี่สิ!

“กูไม่ใช่ลาล่าว่ะ กูเลยไม่เห็น”

“ถุยยยยยย!” มึงไม่ต้องถุยพร้อมกับสามคนก็ได้นะ

เอ๊ะ เดี๋ยวนี้ไอ้โจมก็เอาด้วยเหรอวะ

“จะอธิบายมาเองหรือจะให้กูบังคับ” กล้ามันถามก่อนจะเอื้อมมือมาลากผมให้นั่งลงที่เก้าอี้ ต้องใช้คำว่าเอื้อมเลยครับ มันนั่งอยู่อีกฝั่งแต่สามารถึงตัวผมได้ ในขณะที่ฟ้าซึ่งนั่งอยู่ฝั่งเดียวกับผมไม่สามารถยื่นมือมาถึง

ไว้อาลัยแก่ความสั้นของแขนเพื่อนผมหน่อยครับ (_ _)

“อธิบายอะไร”

“เรื่องมึงกับคนที่มาส่งมึงไง ตกลงอะไรยังไงกันแน่ เห็นมาหลายวันล่ะ คันปากอยากเสือกยิบๆ แต่โจมมันห้ามเอาไว้”

แล้วทำไมมึงไม่ห้ามมันไว้ให้ตลอดลอดฝั่งวะโจม ปล่อยให้มันมาถามกูทำไม

“ที่มันห้ามเพราะยังไม่เห็นกับตา แต่วันนี้เห็นพร้อมกันทั้งสามคนเลยจะถามมึงให้หายข้องใจ” อ๋ออออ มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง คือพวกมึงอยากจับให้มันคั้นให้ตายเลยว่างั้น เอาแบบปฏิเสธไม่ได้เลยสินะ

“ก็ไม่มีอะไรนี่ รถกูเสียมาหลายวันแล้ว เลยติดรถมากับเอื้อ” ผมตอบตามจริงไม่มีบิดเบือนแต่อย่างใด แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนๆ จะไม่ค่อยชอบใจครับ

“ไม่ต้องมาทำมึนเลยมึง มึงรู้ว่ากูหมายถึงอะไร” ไอ้กล้ายื่นหน้าเข้ามา ไอ้ห่าตกใจหมด คิดว่าหน้าตัวเองหล่อเหมือน ต่อ ธนภพ หรือไงวะ

“กูไม่รู้จริงๆ ว่าพวกมึงหมายถึงเรื่องอะไร” กระพริบตาปริบๆ พี่ปูนใสๆ ครับ ไม่รู้ความหมายที่เพื่อนแฝงเอาไว้ในประโยค

“ตามึงนี่น่าจิ้มให้บอดมาก ที่กูจะถามคือ…”

“มึงได้ไอ้พี่เอื้อเป็นผัวหรือยัง”

ผม กล้า และฟ้า อ้าปากค้าง ไอ้เชี่ยโจมมมมมมมมม มึงพูดอะไรออกมาหาาา เมื่อกี้ที่บอกว่ามึงแสนดีกูขอถอนคำพูดไอ้เวร!!

“เลอะเทอะแล้วมึงอ่ะ! ถามเชี่ยไรเนี่ย!”

“ทำไม มันเป็นเมียมึงเหรอ กูว่าไม่น่าใช่นะ” กูไม่ได้หมายถึงแบบนั้นเว้ย! แล้วทำไมต้องมองกูด้วยสายตาเหยียดหยามด้วย!

“เชี่ยโจม!!”

“ที่หน้าแดงเพราะมึงโกรธใช่มั้ยไม่ใช่เขิน”

ไอ้ ไอ้…!!

ผมพยายามยับยั้งและสกัดกลั้นอารมณ์ทั้งหลายในจิตใจเอาไว้ให้มั่นคง ผมต้องไม่หวั่นไหวกับหน้านิ่งๆ และคำถามส้นตีนๆ ของมันเด็ดขาด

“แต่กูว่าน่าจะเขินมากกว่านะ แค่ถามถึงผัวก็หน้าแดงแล้วเหรอ”

ไอ้เหี้ยยยยยยยยย ผมเกลียดมัน ผมเกลียดมัน!!!

“ไอ้ปูนมึงใจเย็นนนนน!!” ฟ้ารีบคว้าคอผมที่กำลังจะโจนเข้าไปหาไอ้โจมเอาไว้แน่นๆ

“กูไม่เย็นแล้ว มันกวนตีน!!” ผมดิ้นๆ กล้ามันคงรู้ว่าฟ้าคนเดียวไม่อาจต้านทานผมได้เลยมาช่วยจับผมอีกแรง “พวกมึงปล่อยกู!”

“มึงอายคนอื่นบ้างได้มั้ยไอ้ปูน ไอ้เชี่ยโจมนี่ก็แม่งไปแกล้งมันอยู่ได้ แล้วใครเดือดร้อน! พวกกูไง!! โอ๊ย...มึงเบาๆ หน่อยปูน” กล้าใช้แรงอันมหาศาลกดตัวผมลงกับเก้าอี้เหมือนเดิม ส่วนตัวผมได้แต่หายใจฟึดฟัดอย่างกับกระทิงหนุ่มที่กำลังโมโห ถ้าเป็นประทิงผมจะขวิดไอ้คนที่มันนั่งอมยิ้มคนแรกเลย!

“แล้ววันนี้กูจะได้เสือกเรื่องมันป่ะเนี่ย มึงทำเสียเรื่องเลยโจม คนมองเต็มแล้ว” ฟ้ามันก้มหน้า พยายามใช้มือปิดๆ ไว้แต่อยากจะบอกว่าไม่ได้ผลหรอก คนทั้งคณะมองมาทางนี้กันหมดแล้ว

“มึงจะเสือกอะไรอีก แค่นี้ยังไม่ชัดหรือไง”

“ไอ้โจม!”

“เอาล่ะๆ ไม่เล่นแล้วก็ได้” โจมไหวไหล่ “พวกมันก็แค่อยากรู้เรื่องมึงกับไอ้พี่เอื้อเท่านั้นแหละ”

“แล้วทำไมไม่ถามดีๆ วะ” ผมมองค้อน ทำให้กูต้องออกกำลังแต่เช้าเลย

“แหมะ ทำอย่างกับมึงจะตอบนครับ เล่นลิ้นอยู่ได้” ไอ้กล้ากระแนะกระแหน “ไหนๆ ก็ขนาดนี้แล้ว ช่วยบอกเพื่อนๆ อย่างพวกกูหน่อยเถอะว่ามึงกับพี่เอื้อของมึงเป็นยังไงกันแน่”

“มันไม่ใช่ของกู”

“เออๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แล้วมึงกับมัน…”

“เดี๋ยว!! รอกูด้วย!!” เสียงตะโกนดังลั่นเรียกให้พวกเราเงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็พบกันไอ้ตัวเสือกเบอร์สองอย่างไอ้บอยกำลังก้าวขาเร็วๆ มาทางเรา มันนั่งลงแล้วส่งยิ้ม “โอเค เริ่มใหม่ได้”

“อ่าฮะ” กล้าพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยปากถามอีกครั้ง “คราวนี้ก็ตอบได้แล้วนะ…”

“หยุดค่ะ! รอสวยก่อน!”

“ไอ้ผัวเมียคู่นี้นี่!” ฟ้ากรอกตาก่อนจะขยับที่ให้หนูนาที่เข้ามาแทรกกลางระหว่างผมกับมัน “ที่มีตั้งเยอะแยะนะ มึงก็มาเบียดกูเนี่ย!”

“ก็ต้องการใกล้ชิดกับเพื่อนปูนนี่นา” มึงก็พูดเลยครับว่าอยากเสือกแบบใกล้ๆ เข้าใจง่ายกว่าเยอะ

พอหนูนามาจี๊ดก็มาครับ จำจี๊ดสาวเงียบไร้บทบาทของเราได้หรือเปล่า เธอเป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่จิ๊บด้วยล่ะ ผมก็เพิ่งรู้วันไปเลี้ยงสายครับ แต่นิสัยนี่ต่างกันราวฟ้ากับเหว ถึงว่าเป็นเพื่อนกับหนูนาได้ แต่คราวนี้จี๊ดของเราไม่เฉยเหมือนแต่ก่อน เธอก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ให้กับสนใจกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ

“ต่อเลยมึง”

“โอเค มีใครจะเสือกอะไรอีกมั้ยครับผมจะได้รอ” กล้ามันพูดขึ้นเสียงดังๆ พลางหันไปมองรอบๆ มึงนี่ก็ไม่มียางอายใดๆ เลยนะ เขาหันมามองทางนี้กับหมดแล้วเว้ย! แล้วคุณๆ ครับ ไม่ต้องกางหูตั้งในฟังขนาดนั้นก็ได้ครับ!

“กูจะถามแล้วนะ” มันว่าพลางสอดสายตามองไปรอบๆ “มึงกับไอ้พี่เอื้อเป็นยังไงกันแน่”

“ก็...รู้จักกันไง”

“ไอ้รู้จักกูก็รู้จักเว้ย มึงรีบตอบๆ มาสักทีเถอะ อย่ามาตอแหลใส่พวกกู” ด่าอะไรไว้หน้ากูนิดนึงฟ้า

“งั้น...พี่น้องคนสนิท”

“มึงคิดว่ามึงเป็นดาราเหรอ ตอบให้มันเหมือนคนทั่วไปหน่อย” แล้วดาราไม่ใช่คนทั่วไปเหรอหนูนา

“ก็กูไม่รู้จะตอบยังไงนี่ เราไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ”

“แล้วที่ไปมาส่งมึงทุกเช้า มารับมึงทุกเย็น มาหากันที่คณะบ้าง ไปกินข้าวด้วยกันเกือบทุกวันนี่คืออะไรวะ” มึงไม่ต้องละเอียดมากมั้ยล่ะไอ้กล้า ก็ไม่ได้ทุกวันขนาดนั้น บางวันก็ไปกับพวกมึงไงทำไมไม่นับวะ

“ก็…” ผมกำลังจะคิดหาคำตอบที่มันครอบคลุมสถานะของเราสองคนได้ดีที่สุด

“พี่มันจีบมึง?”

“คงประมาณนั้น” ผมตอบไอ้บอย

“นี่ยังจีบกันอีกเหรอ ทำอย่างกับเป็นแฟนกันแล้วเลย” กูไม่ได้ใจง่ายขนาดนั้นไหมล่ะไอ้บอย

“มันมีอะไรซับซ้อนกว่านั้นเถอะ พวกมึงไม่ต้องรู้ก็ได้”

“หรือแปลง่ายๆ คือไม่ต้องเสือก” ขอบใจมากเพื่อนโจม มันเป็นคนที่ไม่สนใจอะไรแล้วนั่งเล่นมือถืออย่างเดียวครับ ก็แน่นอนสิ แกล้งกูไปตั้งเท่าไหร่แล้ว “เอาเป็นว่าพวกมันดูๆ กันอยู่ เพราะเพื่อนเราแม่งเสือกเล่นตัว”

“มันไมใช่อย่างนั้นเว้ย!”

โจมเงยหน้าขึ้นมองผม แล้วยิ้มมุมปาก แบบ ‘กูรู้น่า’ อ้อ มันกำลังจะพยายามจะช่วยผมจากไอ้พวกนี้สินะ ต้องกราบขอบใจมันหรือเปล่าครับบอกผมที!

“กรี๊ดดดดด!”

พวกผมสะดุ้งก่อนจะหันไปมองต้นเสียง ไม่ใช่หนู่นาแต่เป็นจี๊ดครับ เสียงกรี๊ดนี่จี๊ดสมชื่อจริงๆ ในขณะที่พวกผมกำลังมองจี๊ดอย่างอึ้งๆ หนูหนากลับหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า

“จี๊ดมันเป็นสาววายน่ะ ชอบเรื่องชายรักชายเป็นพิเศษ”

“ใช่ๆ โดยเฉพาะถ้าเป็นปูนกับพี่เอื้อเราอ่ะโคตรฟินเลย ตอนแรกก็ว่าว่านปูนฟินแล้วนะ เอื้อปูนนี่กินขาด!”

พระเจ้า! ผมไม่คิดเลยว่ามนุษย์เงียบจะมีมุมแบบนี้ด้วย หน้าเธอบ่งบอกหมดเลยครับว่าตอนนี้ฟินขนาดไหน

“แล้วเรื่องพี่น้ำอ่ะ” ฟ้าถามขึ้นพร้อมเหล่ตาไปมองโต๊ะที่กลุ่มพี่น้ำนั่งอยู่ “พี่เอื้อเคลียร์แล้วเหรอ”

“อือ พี่เขาคงไม่มายุ่งแล้วอ่ะ” บอกตามตรงว่าก็ยังไม่มั่นใจ เพราะตั้งแต่วันนั้นผมยังไม่ได้เจอกับพี่น้ำเลย แต่การที่พี่เขาไม่เข้ามาหาเรื่องก็ถือว่าเรียบร้อยดีแล้ว

“โอเคสรุปว่าเพื่อนเราเป็นฝั่งเป็นฝาแล้วสินะ” กล้ามันยกมือขึ้น ทำท่าเช็ดน้ำตาที่ไม่ได้ไหลสักหยด “กูดีใจด้วยนะปูน มีแฟนทั้งทีก็ได้สามีเลย”

“นั่นสิ น้องปูนของกูมีผัวเป็นเดือนมหา’ลัยเลยนะ ภูมิใจจริงๆ”

มึงยังไม่เลิกใช่มั้ยไอ้โจม ไอ้เพื่อนทรยศ!!

..
.
วันนี้ผมทำตัวประหนึ่งเซเลปฯ ชื่อดัง (ครับ เซเลปฯ ไม่ใช่เศษเล็บแต่อย่างใด) นั่งตอบคำถามพี่ๆ นักข่าว (หรือนักเสือก) ซึ่งก็คือไอ้เพื่อนๆ ตัวดี เท่านั้นยังไม่พอ ทำอะไรแต่ละครั้งจะเป็นกระแสให้พวกมันแซวเสมอ แค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมามันก็ชะโชกหน้ามาเสือกไม่ได้หยุดพัก พอพบว่าผมเล่นเกมแม่งก็ไม่สนใจ ถามจริงๆ พวกมึงอยากให้กูทำอะไรกันเหรอ (กระพริบตาถาม)

เย็นนี้เป็นเย็นที่ดีเหมาะสำหรับการเดินเล่นเป็นอย่างยิ่ง ถามว่าเอาอะไรมาตัดสิน...ก็ต้องบอกว่าเอาความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ครับ ตอนแรกผมกะว่าจะมาเดินคนเดียว แต่ก็นั่นแหละ ยังไงก็ต้องมีตัวแถมมาด้วยอยู่แล้ว

สาบานว่ายังไม่ได้เป็นแฟนกัน สาบานว่าผมยังไม่ตอบตกลงอะไรกับอีกฝ่าย ทำไมต้องทำตัวประหนึ่งเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันแบบนี้ด้วยวะ

พี่ปูนงงจริงๆ

“เฮ้อ!” นี่ไม่ใช่เสียงถอนหายใจแบบคนปลงๆ แต่อย่างไร แต่มันเป็นเสียงถอนหายใจแรงๆ ของคนที่อารมณ์ไม่ดี เอื้อเป็นคุณชายอย่างไรก็เป็นคุณชายอย่างนั้น แค่อากาศร้อยก็ทำให้เขาอารมณ์เสียแล้ว ยิ่งมาเจอคนแออัดเบียดเสียดคุณชายยิ่งไม่เอาเลยครับ

ถามว่าผมสงสารมั้ย...ตอบเลยว่าไม่ ก็บอกแล้วว่ามาเดินคนเดียวได้ ไม่ต้องตามมา แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอม

‘ปล่อยไปคนเดียวได้ไง เดี๋ยวใครฉุดไปพี่จะทำยังไง แบบนี้ยิ่งหายากๆ อยู่’

เดี๋ยวๆ ตกลงนี่ยังเป็นคนอยู่ใช่มั้ย

“ปูนจะหาซื้ออะไรเดี๋ยวพี่ช่วยหา”

“ไม่ได้จะมาหาอะไร มาเดินเล่นเฉยๆ” เข้าใจอารมณ์คนอยากเดินเล่นหรือเปล่าครับ อยากเดินดูโน้นนี่ไปเรื่อย อะไรน่าสนใจก็ซื้อ อะไรน่าดูก็หยุด

“งั้นไปเดินเล่นที่อื่นมั้ย ห้างก็ได้”

“มันไม่เหมือนกัน” ผมตอบโดยไม่หันไปมองอีกฝ่าย สงสัยว่าเอื้อจะทนไม่ให้ฟิวส์ขาดได้นานขนาดไหน บอกถามตรงว่าผมเป็นลูกชาวไร่ ไม่ค่อยชอบเดินห้างเท่าไหร่ แต่ที่ผ่านมานัดกันทีไรก็จะไปแต่ห้างตลอดเพราะผมเกรงใจเอื้อ ไม่อยากให้อีกฝ่ายลำบากหรือหงุดหงิด ครั้งนี้ผมก็แค่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตามใจผมได้แค่ไหน

“ไม่เหมือนกันตรงไหน ของกินก็มี ของใช้ก็มี”

ผมหยุดเดินแล้วหลบเข้าไปในซอกหลืบหนึ่งที่ไม่ขวางทางคนอื่น ก่อนจะหันไปหาเอื้อ อื้อหือ...ถ้าไม่มาเดินตลาดด้วยกันผมจะคิดว่ามันไปวิ่งห้าร้อยเมตรมานะ เหงื่อเต็มตัวเลย

“กลับไปก่อนได้นะ” ไม่อยากให้มาลำบากด้วยกับ แม้ว่าลึกๆ แล้วจะเสียใจนิดหน่อยถ้าอีกฝ่ายกลับไปก่อนจริงๆ

“ทำไมชอบไล่พี่อยู่เรื่อยเลยวะ” ผมตกใจ อยู่ๆ เอื้อก็ขึ้นเสียงใส่ครับ ได้แต่กระพริบตาปริบๆ ใส่ คือกูไม่ได้ไล่ไง แค่เห็นว่าไม่ชอบก็เลยอยากให้กลับก่อน

เอื้อขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจแรงๆ อีกรอบก่อนจะหมุนตัวเดินหนีผมไปกับสวนกันทางที่เราเดินมาเมื่อครู่ ทิ้งผมไว้ให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ มองตามอีกฝ่ายที่หายไปพร้อมกับผู้คนแล้วคิดกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อกี้

เฮ้ยยยยยยยยยย ไอ้เชี่ยยยยย มันอะไรวะ มันทิ้งผมเหรอ!!

อย่างนี้ก็ได้!?

แล้วกูจะเอาไงต่อวะชีวิต คือที่ไปนี่ไปเฉยๆ กลับไปรอที่รถ หรือกลับหอไปเลย แล้วผมต้องตามไปมั้ยหรือจะปล่อยมันไป แต่ผมมากับมันไง ถ้าปล่อยมันไปแล้วผมจะกลับยังไงล่ะ ตลาดนัดกับหอก็ไม่ได้ใกล้กันขนาดนั้นนะ ถึงเดินไปได้แต่ก็เล่นเอาเหนื่อยอยู่ดี

ผมยืนรออยู่สักพักเผื่อว่าเอื้อจะคิดได้แล้วย้อนกลับมา แต่นั่งมองคนก็แล้ว นั่งตบยุงก็แล้วเอื้อก็ไม่กลับมาสักที นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกไปแล้วไปลับ

กล้าทิ้งผมได้ยังไง ทิ้งผมไว้ได้ยังไง ไหนใครมันบอกว่ากลัวผมโดนฉุดไง ไหนใครมันอ้อนขอโอกาส แค่นี้ยังทิ้งผมเลย!

ถึงจะเสียใจและน้อยใจเล็กน้อยแต่ผมก็ต้องก้าวเดินต่อไป ไม่มีอารมณ์จะดูอะไรแล้วครับ ตอนนี้อะไรต่างกูรกตาสำหรับผมไปหมด จากตอนแรกที่ผมยังรู้สึกสบายๆ กลายเป็นหงุดหงิดกับทุกสิ่ง อากาศที่ร้อนและอบอ้าวชวนอารมณ์เสีย คนที่เดินกันไปมาก็พาลให้ผมเวียนหัวคลื่นไส้อย่างช่วยไม่ได้ และที่สำคัญ...ทั้งที่บอกไปว่ามาเดินคนเดียวได้แท้ๆ แต่ทำไมพอมาเดินคนเดียวจริงๆ แล้วมัน...โหวงๆ อย่างบอกไม่ถูก

ไม่น่าปากดีบอกให้เอื้อกลับไปเลย

หมับ!

ไหล่ผมถูกกระชากจากด้านหลังพร้อมๆ กับถูกดึงให้ตามแรงใครคนหนึ่งไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนที่ผมจะได้โวยวายอะไร ตัวของผมก็หลุดออกจากผู้คนที่วุ่นมามาอยู่ตรงที่โล่งว่างเล็กๆ ในซอกอีกครั้ง

กำลังจะหันไปมองว่าใครกันที่มันอาจหาญทำกับผมถึงขนาดนี้ แต่ก็ได้เสียงดุเข้มๆ คุ้นหูกลับมาก่อน

“ทำไมไม่รออยู่ที่เดิม!”

“อะ...เอื้อ?”

“เดินออกมาทำไม พี่ตกใจแทบแย่ที่กลับมาแล้วไม่เจอ” โอ้โหพี่ปูนขึ้นเลย พูดแบบนี้หัวร้อนเลยครับ

“แล้วจะไปรู้เหรอว่าจะกลับมา! เห็นเดินออกไปเลยขนาดนั้นก็คิดว่าจะทิ้งแล้วกลับไปก่อนดิวะ!”

“จะทิ้งได้ไงเล่า สำคัญขนาดนี้ทิ้งไม่ลงหรอก ไม่มีวัน!”

“...”

ทำไมผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกๆ ไปวะ อสำหรับเอื้ออ่ะไม่แปลกหรอก เพราะเจ้าตัวยังคงคอนเซปต์อารมณ์เสียอย่างต่อเนื่อง ส่นวคนที่แปลกไปน่ะคือผม ทั้งที่เมื่อกี้ผมกำลังหงุดหงิดอยู่แท้ๆ มองอะไรก็เป็นสีแดงเพลิงไปหมด ทว่าตอนนี้มันเริ่มปรับให้อ่อนลงจนกลายเป็นสี…

ชมพูอมม่วง?

อาลัยให้ความแมนของกูด้วย
 
“ก็แล้ว...เดินหนีไปทำไมเล่า” ผมปรับเสียงตัวเองให้ซอล์ฟลง คือไม่ได้กลัวเอื้อโมโหนะ แต่แบบอารมณ์ตอนนี้มันไม่ได้จริงๆ ให้ตะโกนโวยวายแบบเมื่อกี้ไม่เอาแล้ว

“เห็นว่าร้อนก็เลยไปซื้อน้ำมาให้กิน” ผมก็เพิ่งสังเกตว่ามืออีกฝ่ายไม่ได้ว่างเปล่าเหมือนตอนแรกแต่มีถุงน้ำอัดลมที่น้ำแข็งอัดแน่นแค่เห็นก็รู้สึกว่ามันแผ่ความเย็นออกมา กับอีกมือที่มีลูกชิ้นอยู่หลายไม้

ใครจะไปรู้วะว่าจะไปซื้อมาให้ ไม่บอกสักคำ ผมผิดหรือไงเล่า

“มากินก่อน จะเดินอีกนานไม่ใช่เหรอ” ผมยังนิ่ง คือไม่ใช้อะไรแค่รู้สึกผิดอยู่ เมื่อกี้ด่ามันในใจไปเยอะ “เร็วๆ ครับ หรือว่าจะรอให้ป้อน”

โอเค เลิกรู้สึกผิดก็ได้

เอื้อส่งลูกชิ้นพร้อมกับน้ำมาให้ และความที่คุณชายเขาเป็นคนเก็บรายละเอียดจึงไม่ได้มีแค่น้ำอัดลมเท่านั้นแต่ยังมีขวดน้ำเปล่าติดตาด้วย แล้วคนรักสุขภาพอย่างผมก็ต้องเลือกกินน้ำอัดลมสิครับ

อ่า…หวาน...ชื่นใจ

“อารมณ์ดีขึ้นแล้วดิ”

“อะไร ไม่ได้อารมณ์เสียสักหน่อย” บอกเลยกูตอแหล เมื่อกี้เหวี่ยงชนิดที่แบบอารมณ์ล้วนๆ แต่เอื้อก็ไม่ได้ว่าอะไร ทำแต่เพียงยิ้มๆ แต่เหงื่อนี่ไหลย้อยมายันคาง

เออ...สงสารแล้วครับ พี่ปูนไม่อยากเป็นคนใจร้ายแล้ว

“กลับกันเลยเถอะ ไม่เดินต่อแล้ว”

“เดี๋ยวโบกเลยครับ” อะไรจะมาโบกอะไร โบกมือทักทายเซย์ไฮเหรอ “อุตส่าห์เดินมาขนาดนี้แล้ว เดินต่อได้พี่โอเค”

“แต่…”

“ไม่มีแต่ ของมันก็เยอะดี ดูเพลินๆ ไม่คิดอะไรมาก”

ถามเอื้อพูดแบนั้นผมก็จะไปเถียงอะไรได้ มันเป็นความต้องการของอีกฝ่าย เพียงแต่…

“เอื้อ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องฝืนหรอกนะ”

เอื้อนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มละมุนที่ทำให้ผมใจเต้นแรงอีกครั้ง

“ไม่ฝืนหรอก อยู่กับปูนพี่ไม่เคยฝืน แล้วก็ชอบมากๆ ด้วย”

ตายไปอย่างสงบเลยครับทุกคน...แอ่ก!

ต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ Maitre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
♣♣♣♣♣

โรงอาหารกลางไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลยครับ คนเยอะอย่างไรก็คนเยอะอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง นี่เดินมาหลายก้าวแล้วยังหาที่นิ่งไม่เจอเลย

“มึง...เดินย้อนไปกินที่คณะดีมั้ย” ผมถามเพื่อนอีกสามชีวิตที่เหลือ ซึ่งคนแรกที่ตอบผมเป็นไอ้กล้า

“ไม่เอาเว้ย กูขี้เกียจกลับไปแล้ว ต้องเรียนที่นี่ต่อจะเดินไปให้เหนื่อยเพื่อ?” ก็มันไม่มีที่นั่งไงมึงงง มึงจะนั่งพื้นเลยมั้ยล่ะ

“งั้นมึงก็ไปหาที่นั่งมากล้า” โจมมันสั่งเสียงเข้ม เพราะคนเยอะตอนนี้มันเลยหงุดหงิดแล้วด้วย กล้าต้องวิ่งแจ้นไปหาที่ว่าตามคำสั่งมัน

ระหว่างที่ผมกำลังสอดส่ายสายตาหาที่นั่งให้ตัวเองและเดอะแก๊งอยู่นั่นสัมผัสหนักๆ ที่ไหล่ก็เกิดขึ้น พอหันไปมองก็พบว่าเป็นคนที่เพิ่งแยกกันไปเมื่อเช้าและเพื่อนของเขา…

เอื้อ พี่เดียว และ...พี่ฟิ้ง

เฮ้ยยยยย เฮ้ยยยย พี่ฟิ้งจริงๆ หรือเปล่าเนี่ย ตัวเป็นๆ ที่ส่งยิ้มมาให้ผมใช่มั้ย

“พี่เดียว พี่ฟิ้งหวัดดีครับ”

“ทำไมไม่หวัดดีพี่มั่งอ่ะ” เอาเลยครับ ความกวนตีนนี่ไม่มีใครเทียบกับพ่อเดือนมหา’ลัยคนนี้ได้ ที่เอื้อมันได้ตำแหน่งนี้คงเพราะน่าตาดีอย่างเดียวแน่นอนครับ ถ้าเขาพิจรณานิสัยมันคงตกรอบแรกเลย ฮาาา (อย่าเอาไปบอกมันนะ)

“อยากเป็นแค่พี่เหรอ” พอตอบกลับไปแบบนี้คนถามยิ้มแป้นเลยครับ

“ไม่อยากเป็นพี่ อยากเป็นอย่างอื่นอ่ะ เมื่อไหร่จะได้เป็น” เสี่ยวไม่ดูเวล่ำเวลาเลยนะพ่อคุณ

ผมเลือกที่จะไม่ตอบมันก่อนจะสะกิดโจมกับฟ้าให้หันมาทำความรู้จักกับรุ่นพี่ทั้งสองคนที่ยืนหล่ออยู่ข้างหลัง โจมมันเลิกคิ้ว จ้องหน้าเอื้ออยู่เกือบนาทีจนผมคิดว่ามันจะไม่ไหว้เอื้อแล้ว แต่สุดท้ายมันก็ยกมือขึ้นมาสวัสดีจนได้ (นึกว่ามันจะมีเรื่องกันเสียอีก)

“พวกมึง กูได้ที่แล้ว...อ้าว” ไอ้กล้าที่หันมาเรียกชะงัก ตามันเบิกกว้างกว่าปกติเล็กน้อย ก่อนที่จะยกมือขึ้นไหว้ “หวัดดีครับพี่”

เอื้อไม่ตอบแต่พยักหน้ารับ ผิดกับพี่เดียวที่ส่งยิ้มคืนมาให้ แหม อยู่กับคนอื่นนี่มาดเข้มตลอดเลยนะครับ นี่คนหรือกาแฟดำ เข้มได้ใจจริงๆ

ผมแนะนำพี่เดียวกับพี่ฟิ้งให้เพื่อนๆ รู้จัก ไอ้กล้านี่มองพี่ฟิ้งตาค้างไปเลยครับ เหอะๆ ระวังโดนฟ้าโบกหัวนะมึง “ไหนอ่ะโต๊ะที่มึงบอก เอื้อกับพี่ๆ เขาจะนั่งด้วยนะ” ผมถามไอ้กล้า มันทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย

“ตรงนั้นอ่ะมึง” แน่ะ ยังมีการส่งสารตาให้พี่ฟิ้งด้วยครับ เดี๋ยวฟ้าได้โบกหัวมึงเข้าให้จริงๆ หรอก

ไอ้กล้ากับไอ้ฟ้าเดินนำคนอื่นไปที่โต๊ะที่มันชี้บอกเมื่อกี้ ผมกับเอื้อเดินรั้งท้ายของกลุ่ม ตามหลังพี่เดียวกับพี่ฟิ้ง ตอนนี้ต่อมเสือกทำงานแล้วครับ

“เอื้อๆ พี่เดียวกับพี่ฟิ้งเขาดีกันแล้วเหรอ” อยากรู้มาก จำได้ว่าสองคนนี้ทะเลาะกันแรงอยู่ ถ้าผมเป็นพี่เดียวคงงอนพี่ฟิ้งอีกนาน

“อือ ฟิ้งมันไปขอโทษเดียว ตอนนี้เลยกลับมาเป็นดรีมธีมเหมือนเดิมแล้ว” พูดแล้วก็ยักคิ้วกวนๆ มาให้ แต่ผมรู้ว่าจริงๆ เอื้อดีใจมากขนาดไหนที่เพื่อนกลับมารวมตัวได้แบบนี้

พอเดินมาถึงโต๊ะ วางกระเป๋าได้ผมก็นั่งลง ฟ้านั่งข้างโจม ไอ้กล้าสะเออะนั่งข้างพี่ฟิ้งคนน่ารัก ผมกับเอื้อนั่งข้างกันและอีกข้างหนึ่งของผมเป็นพี่เดียว

“ไอ้เดียวมึงไปนั่งฝั่งโน้นเลย” ปัญหาเยอะจริงนะ

“กูจะนั่งตรงนี้...มีปัญหาป่ะ” พี่เดียวนี่ก้ขยันกวนเอื้อใช่ย่อยเหมือนกันนะครับ

“งั้นปูนเปลี่ยนที่กับพี่”

“อย่าเยอะดิเอื้อ” ผมฉุดมือมันที่กำลังจะลุกให้นั่งลง “พี่เดียวก็อย่าแกล้งเอื้อสิครับ”

“เดี๋ยวนี้ดุพี่เหรอปูน...ใช่สิ พี่มันไม่สำคัญแล้วนี่” อะไรคือการที่พี่ตีหน้าเศร้าครับ เชิญพี่ไปอยู่กับไอ้กล้าเลย มีไอ้บอยอีกคนคงตั้งทีมนักแสดงได้ล่ะ เจ้าบทบาทกันเหลือเกินแต่ละคน

“มึงไม่สำคัญตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก” ได้ทีเอื้อมันล่ะครับ

“พวกมึงเลิกเถียงกันเถอะ ไม่อายน้องหรือไง” นั่นไงล่ะโดนพี่ฟิ้งดุเข้าให้ พี่เดินเลยสะบัดหน้าไปนั่งอีกฝั่งกับไอ้กล้าแทน ผมก็อยากจะตามไปง้อนะ แต่ติดว่าขี้เกียจครับ

ทุกคนทะยอยกันไปซื้อข้าวและไม่นานก็กลับมารวมตัวกันใหม่ พวกเราพยายามเลือกอาหารที่รวดเร็ว และไม่เรื่องมาก หิวมากครับตอนนี้ กินวัวได้ทั้งตัวแล้ว

พี่ฟิ้งสาละวนอยู่กับการเปิดชวดน้ำอยู่นานสองนานจนเอื้อทนไม่ไหว “กูเปิดให้มั้ยฟิ้ง”

“เออเอาดิ” พี่ฟิ้งส่งขวดน้ำมาให้ พี่เขามือเล็กกว่าเอื้อมากครับถึงแม้จะเป็นผู้ชายด้วยกัน และด้วยความแข็งแรงเกินคน มันก็เปิดขวดน้ำได้อย่างง่ายดายในการบิดครั้งแรก

“มึงแม่ง ไม่เคยเปิดได้เลย”

“ก็มีมึงเปิดให้แล้ว” ผมรู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้กับบทสนทนาเมื่อกี้ ไม่ได้แปลกกับเอื้อแต่แปลกกับพี่ฟิ้ง แปลกแบบหาคำอธิบายไม่ได้ สายตาที่มองเอื้อเหมือนมีอะไรแอบแฝง

“มองแบบนี้อยากให้พี่เปิดให้บ้างเหรอ”

“ไม่ต้องหรอก เปิดเองได้” แต่ไม่ทันครับ เอื้อเอาขวดของผมไปถือแล้วเปิดออกพร้อมใส่หลอดมาให้เรียบร้อยแล้ว

ไอ้กล้าจ้องมองอยู่นานแล้วเบ้ปากเลยครับ มันคงคันปากอยากจะแซวเต็มทนแต่ไม่กล้า

“ทีกูไม่เคยเห็นดูแลแบบนี้บ้างเลย” ไม่ต้องถึงมึงหรอกกล้า พี่เดียวเขาจัดให้แล้ว

เอื้อมันลอยหน้าลอยตาไม่สนใจอะไรแล้วตักข้าวกิน ผมเลยไม่สนใจแล้วกินข้าวบ้าง ผมกลัวว่าเพื่อนๆ ผมจะเกร็งที่อยู่ๆ เอื้อกับพี่เดียวมานั่งด้วย แต่ผ่านไปห้านาทีเท่านั้นแหละ…

“พี่บอกไม่เอาคะน้าไง” เอื้อมันเขี่ยผักในจานไปมา เด็กน้อยมากครับ เลือกกินยิ่งกว่าผมอีก

“ก็ลืมบอกอ่ะ เอามาให้ก็ได้เดี๋ยวกินเอง” ทำไงล่ะของผมก็โคตรเยอะเลย ถ้าเอามาอีกได้กลายเป็นข้าวผัดผักคะน้าแทนไก่แน่นอน

“เอามาให้กูก็ได้เอื้อ ของน้องผักเยอะแล้ว” ผมชะงัก เอื้อก็ชะงักมือที่กำลังจะตักผักส่งมาให้ผมแล้วเปลี่ยนไปให้พี่ฟิ้งแทน ดีเลย ผมขี้เกียจเคี้ยวผักเหมือนกัน เส้นใยอาหารผมได้รับพอแล้ว

“ขอบคุณครับพี่ฟิ้ง นี่ถ้ากินอีกนิดจะกลายเป็นสัตว์กินพืชไปแล้ว”

“งั้นปูนเอาไก่ไปด้วยแล้วกัน กินเยอะๆ จะได้โตๆ สักที”

“ไม่เอา...แค่นี้ก็จะล้นจานแล้ว” ทั้งที่ในจานตัวเองก็มีไม่กี่ชิ้นแท้ๆ ยังตักมาให้ผม มันต้องไม่อิ่มแน่ ปกติกินจุอย่างกับหมู

และแล้วเสียงนกเสียงกาก็ดังขึ้น...

“พี่เดียวครับ เอาเส้นก๋วยเตี๋ยวของผมไปกินมั้ยครับ พี่จะได้โตไวๆ” เหอะๆ จ้าเอาเลยจ้า

“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวกล้ากินไม่อิ่ม”

“ไม่เป็นอะไรครับ ผมอยากดูแลพี่ให้ดีๆ มากกว่า”

“งั้นมึงเอามาให้กูทั้งชามเลย หิวฉิบหาย”

“เฮ้ยๆๆๆ ไม่ใช่แล้วครับพี่ มันต้องไม่เป็นแบบนี้ดิ!” ไอ้กล้าแย่งชามก๋วยเตี๋ยวที่พี่เดียวดึงไปกลับมา สองคนนี้เหมือนกันจริงๆ นะให้ตาย เรื่องที่พวกนี้เข้ากันได้ดีที่สุดคงเป็นการแซวผมกับเอื้อมันแหละครับ

“เอ้า ก็กูหิวนี่หว่า” พี่เดียวพูดขึ้นขำๆ “แต่ปูนก็ผอมไปจริงๆ นะ กินเยอะๆ นะครับ เอาหมูของพี่เพิ่มมั้ย”

ผมกรอกตา พี่เดียวนี่ก็ขยันแกล้งเอื้อจังเลยครับ เพื่อนพี่ก็มีอยู่แค่มันนะ ถ้ามันไม่คบพี่แล้วพี่จะทำยังไงครับ

“เชี่ยเดียว หลายครั้งแล้วนะมึง”

“ล้อเล่นขำๆ” พี่เดียวยิ้มแป้นจนผมอดขำไม่ได้

“พี่เอื้อนี่ก็ขี้หวงเหมือนกันนะครับ อย่างนี้แหละเขาถึงว่าผู้ชายเจ้าชู้ถ้ามีแฟนจะขี้หวงมากกก” ฟ้าพยักหน้าเออออกับตัวเองเสร็จสรรพ มึงกล้าวิจารณ์คุณชายเอื้ออย่างไม่กลัวตายเลยนะ!

มึงดูหน้าไอ้เอื้อด้วยครับฟ้า...แม่งจะแดกหัวมึงอยู่ล่ะ

“แหะๆ ผมล้อเล่นครับพี่ ยังไม่ได้เป็นแฟนกันนี่นา”

“...” เดดแอร์เลยครับ หน้าพวกผมอย่างอึ้งอ่ะ ฟ้ามึงก็กล้าพูดเกินไป เอื้อมันหักคอมึงกูไม่รู้ไม่เห็นนะ

“หึๆ พูดได้ดีนะฟ้า” พี่ฟิ้งหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะตามด้วยพี่เดียว

“ฮาาา น้องฟ้าแม่งตรงดีว่ะกูชอบ แม่งน่ารักด้วยอ่ะ ไม่ทราบว่ามีแฟนหรือยังครับ พี่ชื่อเดียวนะ เรียนเภสัชฯ พี่ไม่มีเวลาแต่มีอนาคตให้นะครับ” อะไรพี่เดียว พี่จะเปิดศึกกับไอ้กล้าอีกรอบเหรอ

“หยุดเลยครับพี่เดียว ไอ้ฟ้ามันเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น” ว่าแล้วเจ้าของตัวจริงก็ตวัดแขนโอบไอ้ฟ้าเข้าหาตัวเอง แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มึงยังมองพี่ฟิ้งอยู่เลย “เมียจ๋า มึงก็ปฏิเสธเขาหน่อยสิ เขาอ่อยมึงอยู่นะ!”

“กูไม่ใช่เมียมึง!”

“ไม่ต้องอายหรอก เขารู้กันหมดแล้วแหละว่ามึงเป็นเมียกูเนี่ย...ปูน ถ้าอยากศึกษาว่าหน้าที่เมียทำยังไงถามไอ้ฟ้าได้นะ มันรู้งานดี”

ไอ้เชี่ยกล้า!

“หุบปาก!” ผมกับไอ้ฟ้าพูดพร้อมกัน

“แหมๆ พูดแค่นี้หน้าแดงเลยนะครับ” เชี่ยกล้า กูเกลียดมึง!

“เรียนรู้ไว้บ้างก็ดีนะปูน...หน้าที่ ‘เมีย’ เนี่ย” เอื้อมันพูดพร้อมกับยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์ที่ผมคิดว่ามันโคตรมีเสน่ห์ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้!

ว่าแต่ ‘หน้าที่เมีย’ บ้านมึงสิครับ!!

“ดีใจด้วยนะปูน เจ็บหนักแน่มึง” ถ้ามึงจะไม่พูดอะไรก็ไม่ต้องพูดเลยไอ้โจม ไม่ต้องอยากมามีส่วนรวมเลยไม่เห็ดสด!

“ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าถึงตอนนั้นจริงๆ พี่จะอ่อนโยนที่สุด ปูนไม่เจ็บมากหรอกครับ”

“ฮั่นหน่อวววววววววว นี่เพื่อนผมครับเพื่อนผมมม” รู้แล้วว่าเพื่อนมึงอ่ะพี่เดียว จะตะโกนทำซากเหรอ!

“เหอะ เป็นแฟนให้ได้ก่อนเถอะครับ เรื่องอื่นอย่าเพิ่งหวังเลย…” ผมส่งยิ้มให้เอื้อ ยกมือขึ้นตบคางมันเบาๆ เป็นการหยอกล้อ “ระวังจะผิดหวังนะครับ”

“หูยยยยยยยย”

“เพื่อนผมครับพี่เพื่อนผม”

“ไอ้เอื้ออย่าจ๋อยดิวะ มึงต้องสู้เขา!”

“สู้เหี้ยไรล่ะ เดี๋ยวเขาก็ให้กูหวังเก้อหรอกมึง”

หึหึ อย่ามาแหยมกับพี่ปูนครับบอกเลย!!

=======================================================
=========================================
อย่ามาแหมยกับสุดหน่อยของเดี๊ยนค่ะ เพราะพี่ปูนน่ากลัวมากก 5555  :hao3:
ขอบคุณนะคะที่ติดตาม จูบบบบบ  :L2:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
ก็ยังคิดว่าฟิ้งชอบเอื้อ แอบรักสินะ แต่เป็นเพราะเอื้อชอบผู้หญิงเลยไม่บอก รึเปล่านะ?
แต่อย่ามาทำร้ายน้องปูนของอิฉันนะคะ เดี๋ยวจับกระทืบ

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เอ๊ พี่ฟิ้งนี่แปลกๆ ...

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :sad4:

รู้สึกกลัวฟิ้ง ดูจิตๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
หยอดเข้าเอื้อๆๆๆ ปูนใจอ่อนแระ อิอิอิ
แต่ว่าฟิ้งดูน่ากลัวอ่ะ ><

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
แหมๆๆ พี่ฟิ้ง มาแบบนิ่งๆ ประกาศเบาๆว่าตัวเองกับเอื้อ...เราใส่ใจกันสินะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พี่ฟิ้งมีอะไรแอบแฝงมะ เราก็ขี้ระแวงเกิน

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
แอบรู้สึกไม่ชอบฟิ้ง

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ฟิ้งวางมือหรือทำเนียน

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พี่ฟิ้งมาแปลกๆอีกละ ตัดใจสักทีเห้อะ ถ้าเอื้อจะชอบๆไปนานแล้ว
มาตอนนี้ปล่อยให้น้องปูนเค้าได้ไปกะแล้วกัน

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ฟิ้งแอบชอบเอื้ออยู่แหงๆเลย

ออฟไลน์ Maitre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บทที่ 25
เมื่อน้องปูนโดนอำ

เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก แปบๆ อีกเพียงสองอาทิตย์ก็เข้าสู่ช่วงสอบปลายภาพแล้ว ผมรู้สึกเหมือนว่าพี่บุ๊คมันขึ้นไปรับถ้วยรวมกีฬามาเมื่อวานนีนี่เองครับ แต่จริงๆ ผ่านมานานเป็นเดือนแล้ว และผมก็ผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมายอีกด้วย ตอนนี้มหา’ลัยเราเงียบเป็นพิเศษ ไม่มีการมีตีกลองซ้อมสันทนาการหรือกิจกรรมของคณะที่ไหนอีก เนื่องจากนโยบายของมอที่ห้ามทำกิจกรรมใดๆ ทั้งสิ้นสองสัปดาห์ก่อนสอบเวลานี้สถานที่ๆ ครึกครื่นที่สุดคงเป็นหอสมุดกลาง เพื่อนๆ คณะผมไปอ่านที่นั่นกันเยอะเลยครับ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใฝ่เรียนอะไรหนักหนาหรอก มันไปส่องสาวกัน

ส่วนตัวผมนั้นไม่นิยมครับ ไม่ใช่ไม่นิยมส่องสาวนะ ไม่นิยมอ่านหนังสือ

ก๊ากกกก

ทำไมชีวิตกูมันร่อแร่ขนาดนี้วะ T^T

ไม่ได้ๆ เทอมนี้ต้องไม่เป็นเหมือนเทอมที่ผ่านมา มันจะต้องดีขึ้น พี่ปูนจะต้องกู้เกรดคืนมาให้ได้ เพราะงั้นช่วงนี้ก็ต้องติดต่อติวเตอร์ไว้ก่อนครับ หลักๆ มีจี๊ดกับหนูนาล่ะ สองคนนี้ช่วยพวกเราได้เยอะสุด สมควรได้มงกุฏนางงามเลย เลคเชอร์ของพวกมันพอทำให้ผมได้ลืมตาอ้าปากได้บ้าง

รองลงมาเป็นโจมกับฟ้าครับ แต่ไอ้โจมมันพูดไม่ค่อยเก่งเลยอธิบายอะไรไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ ส่วนฟ้ามันก็ติดเล่นเกินไป พูดไร้สาระนี่มันถนัด แต่พอให้มาอธิบายวิชาเรียนฟังไม่รู้เรื่องเลย

ส่วนผม ไอ้กล้า และไอ้บอย...เราอยู่ในระดับโคม่าเหมือนกัน ไม่สามารถพึ่งพิงอะไรกันได้ทั้งนั้น แต่อย่าได้กลัวไป ผมยังมีติวเตอร์พิเศษเป็นเด็กเภสัชตัวท็อปของรุ่นอย่างเอื้ออยู่ มันคงช่วยผมได้ไม่มากก็น้อยล่ะ

ทำไมมันยังร่อแร่เหมือนเดิม พี่ปูนไม่เข้าใจ T_T

ตอนนี้ผมกำลังเดินไปที่ตึกคณะเภสัชศาสตร์อยู่ครับ เอื้อโทร.หาตอนสี่โมงกว่าๆ ว่าวันนี้มีทำคอนเฟอร์เรนซ์กับเพื่อน ต้องอยู่ที่คณะอีกนาน ตอนแรกเอื้อบอกว่าจะไปส่งผมที่หอก่อน มันไม่อยากให้ผมอยู่รอเพราะไม่รู้จะเลิกกี่โมง แต่ผมยังไม่อยากกลับตอนนี้ กลับไปก็ต้องอ่านแค่หนังสือเลยเป็นฝ่ายไปหาอีกฝ่ายที่คณะแทน

ระหว่างทางผมก็แวะร้านสะดวกซื้อเพื่อนื้อขนมติดไปด้วย ของเอื้ออ่ะไม่ยากหรอก มันชอบกินนมหวานกับมินิบันไส้กรอก แต่เพื่อนมันนี่สิ ผมไม่รู้จะหยิบอะไรไปเผื่อดีเลย ถึงเอื้อจะไม่ได้สั่งให้ซื้อไป แต่ผมก็อยากจะเอาไปเผื่อพวกพี่ๆ เขาด้วย

“พะ พี่ว่าน…” ผมหยุดยืนอยู่กับที่เเมื่อตรงหน้าเป็นพี่ว่าน จะหลบไปไหนก็ไม่ทันแล้วครับ พอเห็นหน้าพี่ว่านความรู้สึกผิดที่ลืมไปนานก็โผล่ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “สวัสดีครับ”

“ยังไม่กลับเหรอปูน” พี่ว่านยังคงส่งยิ้มมาให้ผมเหมือนเดิม คำว่าพระรองแสนดีที่พี่เขาเคยพูดไม่ได้ต่างไปจากความจริงตอนนี้เลย

“ครับ” พี่ว่านเหมือนยังไม่พอใจในคำตอบ คิ้วทั้งสองข้างเลิกขึ้นราวกับจะถามย้ำว่าตกลงผมจะไปไหนกันแน่ “ผมจะไปหาเอื้อที่คณะครับ”

“อ้อ...พี่ก็ไม่น่าสงสัยต่อเลยนะ”

ผมยิ้มแหยๆ ไปให้ไม่ได้พูดอะไรแล้วหันไปเลือกขนมต่อ ในขณะที่พี่ว่านกำลังโกยของทุกอย่างลงใoตะกร้า โอ้โห อะไรจะกินเยอะขนาดนั้น

สงสัยเห็นหน้าอื้งๆ ของผมล่ะมั้ง พี่เขาเลยส่งยิ้มขำๆ มาให้ “หึๆ ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น พี่ไม่ได้กินเองหรอก นี่ก็ของเพื่อนๆ ทั้งนั้น”

“อ่อ...ครับ” คือไม่รู้จะพูดอะไร คิดอย่างเดียวว่าตอนนี้ควรจะอยู่ให้ห่างจากพี่ว่านมากที่สุด ที่เขาจะได้ตัดใจได้ง่าย

“พี่คงทำให้ปูนอึดอัด ขอโทษนะ”

“ไม่ใช่แบบนั้นครับ” เกลียดความใจอ่อนและขี้สงสารของตัวเองมากถึงมากที่สุด แค่พี่ว่านทำเสียงเศร้าผมก็โคตรรู้สึกผิดจนต้องชวนคุยต่อ “แล้วเย็นขนาดนี้แล้วยังต้องทำงานอยู่เหรอครับ ใกล้จะสอบแล้วนะ”

“ใช่ ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วเนี่ยแหละอาจารย์ชอบสั่งงาน พี่กับเพื่อนก็เลยอยู่ทำที่คณะๆ ว่างๆ ก็แวะไปให้กำลังใจได้นะ” พี่ว่านยิ้ม...ยิ้มที่ทำเอาพนักงานซึ่งกำลังเช็คของอยู่ข้างๆ หน้าแดงไปเลย

ถ้าเทียบความหล่อกับเอื้อเลยก็สูสีครับ แต่ถ้าให้โหวตเอื้อน่าจะชนะ (ผมไม่ได้เข้าข้างมันนะ) เพราะมันมีทรงหน้าพิมพ์นิยมมากกว่าพี่ว่านที่ออกแนวเข้มๆ

ก็แล้วแต่ครับว่าใครจะชอบแบบไหน สำหรับตัวผมไม่ชอบเลยสักแบบแหละ ถ้าเลือกได้ก็อยากได้ขาวๆ ตัวเล็กๆ น่ารักๆ ยิ้มทีแล้วโลกสดใสมากกว่า

ใครจะรู้ว่ารอบๆ ตัวจะมีแต่...แบบนี้อ่ะ =__=

“ฮ่าๆ พี่ล้อเล่น ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นก็ได้” พี่ว่านยิ้มอีกแล้วครับ ถึงจะเป็นยิ้มขืนๆ ก็ตาม “พี่รู้ว่ายังไงปูนก็คงไม่ไปอยู่แล้วล่ะ…ก็กำลังจะไปคณะเภสัชฯ นี่”

เสียงพี่ว่านแผ่วเบาราวกับสายลมที่กำลังพัดไป แต่ผมก็ได้ยินชัดเจน มือที่กำลังจะหยิบขนมก็ชะงักค้าง คำพูดที่ว่านทำเอาผมรู้สึกผิดอีกครั้งที่ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของเขาได้ แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาในหัว

เสียงของคนที่กำลังรอโอกาสจากผมอยู่

ถ้าผมรู้สึกผิดไปมากกว่านี้ก็จะไม่ดีกับตัวผมและเอื้อด้วย

“ขอโทษนะครับพี่ว่าน”

“ไม่เป็นไรหรอก อย่าเพิ่งรีบขอโทษดิ พี่ยังไม่อยากหมดหวังตอนนี้” พี่ว่านแกล้งทำเป็นเลือกขนมแล้วเปลี่ยนเรื่องไปเลย “นี่ซื้อของเสร็จหรือยัง”

“ครับ เสร็จแล้ว”

“งั้นไป เดี๋ยวพี่ไปส่งที่คณะเภสัชฯ เอง”

“ผมว่า…”

“เมื่อกี้พี่เห็นว่าปูนเดินมา ถ้าจะเดินไปถึงคณะคงอีกนาน พี่ไปส่งสะดวกกว่าเยอะ”

“ผม…”

“ไปเถอะ ไม่ต้องเกรงใจหรอก”

“ก็ได้ครับ” ผมพยักหน้ารับอย่างจำยอม ก่อนที่เราจะเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ ตอนแรกพี่ว่านจะจ่ายให้ผมด้วย (สายเปย์อีกแล้วครับ หล่ออย่างเดียวก็ได้ทำไมต้องเปย์ด้วย) แต่ผมรีบบอกว่ามีเจ้ามือเลี้ยงแล้ว และขนมพวกนี้ไม่ใช่ของผมคนเดียวพี่ว่านเลยยอมไม่จ่ายให้

“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง” ผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่ว่าน นึกว่าจะได้นั่งรถยนต์แต่เปล่าเลย จักรยานครับ แถวเป็นจักรยานของมอที่ยืมมาอีก นี่แหละสายเปย์ตัวจริง ผมโคตรโล่งใจเลยที่เมื่อกี้พี่เขาไม่ได้จ่ายค่าขนมให้ ไม่อย่างนั้นคงรู้สึกผิดแน่นอน

“ไม่เป็นไรครับ เต็มใจอยู่แล้ว” พี่ว่านนี่ขยันยิ้มจริงๆ ถ้าเปิดแข่งแจกยิ้มผมว่าน่าจะได้ที่หนึ่งร่วมกับเอื้อแน่นอน แต่คงไม่ใช่ตอนนี้หรอกครับ นั่น...ยืนหน้ายักษ์อยู่หน้าคณะขนาดนั้น

“พี่ไปนะ” พี่ว่านเอื้อมือมาโยกหัวผมสองสามครั้ง พอเห็นว่าเอื้อมันกำลังเดินเข้ามาหาด้วยหน้าตาบึ่้งตึงพี่เขาก็หัวเราะชอบใจ แล้วขยิบตาให้ผม ก่อนจะจากไปโดยที่ผมยังไม่เอ่ยคำลาเลยสักคำ

ขี้แกล้งจริงๆ ครับ แต่เห็นเอื้อเป็นแบบนี้เป็นผมก็อยากแกล้งมันนะ ตลกดี

“ปูน”

ผมอมยิ้ม ก่อนจะหุบยิ้มแล้วหันไปหามัน ประหนึ่งว่าแปบกใจที่เพิ่งเจอ “อ้าว มาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ตั้งแต่แรก”

“เหรอ…”

“ตั้งแต่ยังซ้อนจักรยานกันมาไม่ถึงอ่ะ” มันพูดแล้วกระชากถุงขนมไปจากมือผม แล้วทำท่าจะเดินกลับคณะไป แต่เหมือนนึกขึ้นได้ว่าลืมผมไว้ตรงนี้คงไม่ดี เลยกลับมาคว้าแขนผมไปจับแล้วเดินเข้าคณะไปด้วยกัน “เผลอนิดเผลอหน่อยนี่ไม่ได้เลยนะ”

เหมือนมันจะบ่นกับตัวเองแต่ผมดันได้ยิน

“อะไร ก็ยังไม่ได้อะไรเลย” เอื้อหันมาเลิกคิ้วประมาณว่า ผมได้ยินเหรอ “ได้ยินหมดล่ะ ใกล้กันแค่นี้เอง”

“อยากใกล้มากกว่านี้ แบบที่ซ้อนจักรยานเมื่อกี้เลย” ดูท่าจะไม่จบง่ายๆ ครับ “แล้วไปทำอีท่าไหร่ถึงได้ซ้อนจักรยานมันมาได้”

“ก็ท่าปกตินะ ไม่ได้พิศดารเสียหน่อย”

“กวนตีนล่ะครับ” มันหันมาทำหน้าตึงใส่ แต่ผมกลับหลุดยิ้ม เอื้อหยุดเดินเลยครับ “ไม่ขำ พี่กำลังไม่พอใจอยู่เข้าใจมั้ย

“มันไม่มีอะไรเสียหน่อย พี่ว่านเขาแค่อาสามาส่งให้เฉยๆ”

“ไปเจอได้ไง” นี่ถ้าไม่บอกว่าที่บ้านเป็นหมดจะนึกว่าเ็นตำรวจแล้วนะครับ ถามเสียยิบย่อยเลย แต่เอ...หมอเขาก็ต้องซักประวัติกับแบบนี้นี่เนาะ

“ที่ร้านสะดวกซื้อ”

“คราวหลังใครชวนไปไหนก็อย่าไปง่ายๆ ดิ เขาอาจจะพาไปทำมิดีมิร้ายก็ได้ ปูนไว้ใจคนง่ายไป” แทนที่จะไม่พอใจที่อีกฝ่ายเจ้ากี้เจ้าการมากไป ผมกลับขำเสียอย่างนั้น เอื้อเหมือนพ่อที่กำลังดุลูกชายอย่างไรอย่างนั้น

“เข้าใจแล้วครับพ่อ”

“ยังทำเป็นเล่น นี่พี่จริงจังนะ ดีว่าว่านมันเป็นคนเชื่อถือได้ ถ้า…”

“พอๆๆ ขี้บ่นเป็นตาแกจริงๆ อายุก็ไม่ได้เยอะเสียหน่อย”

“ที่บ่นก็เพราะห่วง แล้วนี่ทำไมไม่มีเพื่อนมาส่งไม่ยอมบอกกัน พี่จะได้ไปรับ”

“นี่ก็มาแล้วไง ถึงแล้ว อยู่ตรงหน้าแล้วด้วย”

เอื้อคล้ายจะยังไม่พอใจ หน้ายังบูดเป็นตูดเป็ดอยู่เลยครับ มันยกมือขึ้นมาวางผมหัวผมตรงตำแหน่งเดียวกับพี่ว่านแล้วโยกไปมาหลายๆ ครั้งจนผมเริ่มมึน

“ชอบทำให้หึงตลอดเลย” ผมไม่ได้ชอบทำให้มันหึงเสียหน่อย วันๆ ก็ไม่ได้ไปไหนกับใครเลยด้วยซ้ำ นอกจากเพื่อนๆ แล้วก็มีแค่เอื้อนี่แหละที่เจอกันตลอด “รู้ตัวบ้างมั้ยว่าตัวเองเสน่ห์แรงแค่ไหน พี่ต้องคอยกับท่าใครต่อใครมากเท่าไหร่แล้วครับ”

พี่ว่านก็พูดแบบนี้มาคนหนึ่งแล้ว แต่ผมไม่เห็นรู้ตัวเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคนมอง ไม่รู้ว่ามีคนมาชอบ และไม่เคยรู้เลยว่าทำให้อีกฝ่ายต้องคอยกันท่าให้ผม

“เหนื่อยป่ะที่ต้องมาคอยหึง”

“หึ...เหนื่อยดิ…แต่โคตรเต็มใจเลย…”

“...”

“อยากจะอยู่หึงปูนตลอดไปเลยนะครับ”

ผมอยากจะยิ้มนะ แต่ไม่เอาหรอก เดี๋ยวเอื้อมันได้ใจ ให้รู้อยู่ลึกๆ ว่าผมคิดอะไรก็พอ

..
.
คณะเภสัชเป็นตึกทรงสูงถูกจัดว่างอย่างไม่เป็นระเบียนแต่ก็ลงตัว ตรงกลางมีสวนเล็กๆ เอาไว้ให้ผ่อนคลายสายตา เอื้อบอกว่าให้เดินเข้ามาแล้วเลี้ยวขวา จะมีโถงใต้คณะสำหรับนั่งทำงานตรงข้ามกับสวนกลางคณะ ซึ่งเป็นที่ๆ เอื้อกับเพื่อนนัดกันทำงานอยู่

ส่วนผมน่ะเหรอ กำลังเป็น...เรียกว่าอะไรดี ‘คนอำนวยความสะดวก’ มั้ง ผมไม่อยากเรียกตัวเองว่าคนรับใช้ครับ ถึงมันจะใกล้เคียงก็ตาม

ผมต้องคอยป้อนขนมกับนมและน้ำให้กับคุณชายเอื้อที่กำลังนั่งอยู่หน้าแม็คบุ๊คพิมพ์งามที่มีแต่ภาษาอังกฤษอย่างเคร่งเครียด ซึ่งเพื่อนคนอื่นของมันก็เช่นกัน ตรงนี้มีพี่ฟิ้งกับพี่เดียวด้วยครับ ผมดีใจนะที่พี่เดียวก็อยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นคงเกร็งแย่ พี่ฟิ้งที่ตอนแรกเหมือนจะใจดีแต่มาวันนี้ไม่ค่อยคุยกับผมเลยครับ ไม่รู้ว่าผมไปทำอะไรให้พี่เขาไม่พอใจหรือเปล่า

“แหมคุณเอื้อ มึงจะไม่กินเองเลยเหรอ “ คนพูดเป็นพี่แก้ว ผู้หญิงตัวเล็กใส่แว่น แต่กินจุที่สุด  ผมว่าผมซื้อขนมมาเยอะแล้วนะ แต่พี่แก้วคนเดียวกินหมดไปสองสามถึง

นั่นสิ ผมก็สงสัยเหมือนกันครับว่ามันจะไม่กินเองเลยหรืออย่างไร

“นั่นดิเป็นง่อยเหรอมึงถึงให้คนอื่นป้อน” พี่เดียวครับไม่ใช่ใครอื่น ถึงพี่มันไม่มีส่วนร่วมในการทำงานครั้งนี้แต่ก็มานั่งเสมอหน้าหล่อๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากเจอผม เหอะๆ

“ไม่มีก็ไม่ต้องมาอิจฉา แดกเองไปทั้งชาตินั่นแหละมึงอ่ะ” เอื้อยักคิ้วใส่เพื่อนตัวเอง โคตรน่าหมั่นไส้อ่ะ

“ไอ้เชี่ยอย่าแช่ง!” พี่มันตาโต ก่อนจะปาเศษขนมใส่ไอ้เอื้อ ง่ะ ขนมติดผมเอื้อมันเลยครับ ไม่ได้ๆ สกปรกหมดแล้ว

ผมยื่นมือไปปัดเศษขนมให้เอื้อเบาๆ พี่เดียวนี่เล่นไม่รู้เรื่องเลยอ่ะ ของกินเอามาเล่นอย่างนี้ได้ยังไง

“พี่เดียวอย่าเล่นของกินดิ” ผมว่าไปพลางชะโงกหน้าดูหน้าเอื้อว่ามีอะไรติดอยู่อีกหรือเปล่า โอเคเรียบร้อย หล่อเหมือนเดิมล่ะครับ

“ง่ะ ขอโทษๆ”

“โอ๊ย~ ทำไมดูแลมันดีจังน้องปูน” พี่ฝัน ผู้หญิงอีกหนึ่งคนเอ่ยขึ้น เธอเท้าคางมองมาทางผม ก่อนจะเหลือบตามองไอ้คนหน้าหล่อที่กำลังอมยิ้มได้ใจ “แกทำบุญด้วยอะไรวะ”

“นั่นดิวะ ชั่วๆ อย่างมึงได้แฟนดีๆ อย่าปูนได้ไง”

“มึงหุบปากไปเลยไอ้เดียว ไม่ต้องพูดก็ได้ ช่วงนี้กูทำคะแนนอยู่”

“นี่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันเหรอ” พี่แก้วตาโต “ไอ้เราก็นึกว่าเป็นแฟนกันแล้วเสียอีก หวานกันจนมดจะขึ้นอยู่แล้ว”

“นั่นสิ นี่ไม่เห็นเอื้อมันควงใครมานานแล้วนะ พี่ก็นึกว่าเป็นแฟนกัน” พี่แชมป์หนุ่มเสียงนุ่มเห็นด้วยกับความคิดพี่แก้ว

“ก็…” เอื้อหันมายิ้มละมุนให้ผม เล่นเอาผมหน้าร้อนผาว ต่อหน้าเพื่อนๆ มันยังกล้าส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้อีกนะ “กูก็รอเขาตกลงอยู่เนี่ย ไม่รู้เมื่อไหร่จะยอมสัก...แค่กๆ ยัดมาทำไมเนี่ย แค่กๆๆๆ”

ผมหัวเราะในลำคอ เพราะความหมั่นไส้ผมเลยป้อนมินิบันเข้าปากมันทั้งที่มันกำลังพูดอยู่นั่นแหละครับ เอื้อมันสำลักเลยอ่ะ เพื่อนมันแต่ละคนนี่ก็ไม่ได้สงสารเลย แถมยังหัวเราะเยาะอีก

สมน้ำหน้าครับ ฮาาา

“จะไปไหน” เอื้อกระซิบถาม เสียงเบา ตอนที่ผมกำลังจะลุกไปอีกฝั่งเพราะหมดหน้าที่ตัวเองแล้ว มินิบันหมดแล้วครับไม่ใช่อะไร

“ไปหาพี่เดียว จะไปนั่งตรงนั้น พวกพี่เขาจะได้ทำงานกันสะดวก”

“ไม่ต้อง อยู่นี่กับพี่” ว่าแล้วก็เอื้อมมือข้างซ้ายมาจับมือผมเอาไว้ใต้โต๊ะ เหมือนกลับว่าผมจะหนีไปหาพี่เดียว เอื้อกันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง ก่อนจะป้อนคำหวานที่ทำเอาผมต้องรีบปัดมดทิ้ง

“อยู่เป็นกำลังใจให้พี่ใกล้ๆ แบบนี้แหละ ไม่ต้องไปไหนหรอก”

 พี่ๆ ทุกคนเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจังกับการทำงานอีกครั้งรวมถึงเอื้อด้วย พวกเขาพูดภาษาอะไรกันก็ไม่รู้ครับ ผมไม่เข้าใจสักอย่าง หนังสือที่ใช้ก็เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด พี่ๆ เขาเก่งมากเลยนะ อ่านแล้วแปลออกมาอย่างรวดเร็วแทบไม่ต้องใช้ดิกชันนารีเลย ยิ่งพี่แก้วยิ่งเก่ง อ่านเสร็จก็แปลมาเป็นภาษาไทยทันที

จริงๆ พี่เขาก็พูดภาษาไทยนะ แต่ทำไมผมฟังไม่เข้าใจสักประโยค…

นี่ผมโง่หรือโง่กันแน่เนี่ย

เวลาผ่านไปสักพักงานก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จ ตอนนี้ห้าโมงครึ่งครับ ฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว ผมที่นั่งรอก็หยิบการ์ตูนในกระเป๋ามาอ่าน เอื้อมันเหลือบตามามองด้วย พอผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่ามีอะไรมันก็ส่ายหน้า แต่ผมรู้หรอกว่ามันไม่อยากให้ผมอ่านการ์ตูนและอยากจะให้ผมหยิบชีทที่เรียนมาอ่านแทนเพราะช่วงนี้ใกล้สอบแล้ว เอื้อมันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากครับ

“ไปห้องน้ำแปบนะ” ผมกระซิบบอกมันหลังจากที่นั่งอ่านหนังสือไปได้สักพัก ก่อนจะลุกขึ้นยืน เอื้อมันทำท่าจะตามมาด้วยแต่ผมกดไหล่มันไว้ก่อน “ไม่ต้องๆ ไปเองได้”

“เดินไปแล้วเลี้ยงซ้ายอ่ะ จะมีป้ายบอกอยู่”

ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปตามที่มันบอก คณะเภสัชฯ ไม่ใหญ่มากครับ ไม่ต้องกลัวหลง ผมว่าเดินรอบเดียวยังไม่ได้เหงื่อเลยเนี่ย...หลอกครับ ห้องน้ำแม่งอยู่ไหนวะ มาไกลแล้วนะยังไม่เจอสักที

อ่า...มาหลบอยู่ซอกนี้นี่เอง เงียบและวังเวงมาก ถ้าหมาหอนขึ้นมากูวิ่งจริงๆ ด้วย ขอล้างมือก่อนครับ เมื่อกี้ป้อนขนมเอื้อมือมันไปหมด  พอทำธุระเสร็จจะเดินผมเดินมาที่ประตู เมื่อกี้จำได้ว่ามันยังไม่ปิดนะ แต่ทำไม...

แก็ก...แก็กๆๆๆ

เชี่ย! ล็อก!!

แก๊กๆๆๆๆ

ปังๆๆๆๆ

“มีใครอยู่ข้างนอกหรือเปล่าครับ” ผมเคาะประตูรัวๆ ก่อนจะตะโกนถาม “มีใครอยู่ข้างนอกมั้ยครับ มีคนติดอยู่ข้างใน!”

ปังๆๆๆๆ

“ผมติดอยู่ในนี้ครับ มีใครอยู่ข้างนอกมั้ย!” ดวงซวยจริงๆ กู วันนี้ราหูเข้าหรือเปล่าเนี่ย รู้วี้พกเอื้อมาด้วยก็ดีหรอก โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอาติดมาด้วย

โอ๊ยยยย ชีวิตพี่ปูน

ปังๆๆๆๆ

“ช่วยด้วยครับมีคนติดยู่ข้างใน!!”

ผมเคาะและตะโกนเรียกอยู่หลายนาทีจนแสบมือไปหมด เสียงก็แหบแห้งแต่ก็ยังไร้วี่แววคนมาเปิด ลองเอาตัวเองกระแทกแล้วก็ไม่เป็นผล เจ็บตัวเปล่าๆ สงสัยแรงผมจะน้อยไป คงต้องเพิ่มน้ำหนักอย่างที่เอื้อบอก

ฟ้าข้างนอกมืดลงทุกขณะ แสงสว่างก็น้อยลงไปเช่นกัน ในห้องน้ำไม่มีสวิตซ์เปิดไฟครับ บรรยากาศโคตรน่ากลัวอ่ะ ทำไมผมถึงได้ดวงซวยแบบนี้เนี่ย รู้งี้พกเอื้อมาก็ดีหรอก

ผมนั่งกอดเข่าบนเคาน์เตอร์พลางคิดไปว่าถ้าไม่มีใครรู้ว่าผมอยู่ในนี้จะทำยังไง ผมคงได้นอนให้ห้องน้ำแน่ๆ แต่คิดไปคิดมา จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง ในเมื่อเอื้อมันยังอยู่ที่คณะ มันต้องออกมาตามแน่ถ้าผมยังไม่กลับไป

แต่ทำไมมันยังไม่รู้ตัวสักทีวะ นี่ก็นานแล้วนะ

กึกๆๆ

ผมสะดุ้งโหยงก่อนหันไปมองต้นเสียง แมวตัวหนึ่งไม่รู้มาจากไหนเดินชนประตูครับ โคตรหลอนอ่ะ มันมองสบตาผม ก่อนจะกระโดนขึ้นมาหาผมบนเคาน์เตอร์

“เมี้ยวววว” อย่างน้อยก็มีมันเป็นเพื่อนแหละครับ

แต่แล้วมันก็ทรยศผม! ระหว่างที่กำลังลูบหัวมันอยู่มันก็เดินหนีผม กระโดดขึ้นไปบนขอบประตูก่อนจะเดินไปหาช่องระบายอากาศที่กระจกแตกจนเป็นช่อง

“เฮ้ย อย่าทิ้งกันดิ”

มันไม่สนครับ มีหันมามองแล้วสะบัดหางก่อนจะกระโดดออกไป

ขนาดแมวยังทิ้งกู ชีวิตพี่ปูนโคตรเศร้า!

แต่ขนาดแมวยังออกไปได้ ผมก็ต้องออกไปได้สิ

เอาวะ ลองเคาะอีกสักที

ปังๆๆๆๆ

“ช่วยด้วยครับมีคนติดอยู่ในนี้!”

ปังๆๆๆ

“ได้ยินหรือเปล่าครับ”

ปังๆๆ

“ข้างนอกมี…”

“ปูน!”

เอื้อ?! ใช่เสียงมันหรือผมแค่หูฝาด

“ปูนอยู่ไหน!!” ใช่มันจริงๆ ด้วยครับ ผมรอดแล้ว!

ปังๆๆๆๆ

“อยู่ตรงนี้!!” ผมเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น มือก็เคาะประตูไม่หยุด “เอื้อ!! ตรงนี้ๆๆๆ ในห้องน้ำ!!”

บานประตูสั่นด้วยแรงจากอีกฝั่ง ผมรู้สึกเหมือนว่าเอื้อมันกำลังยืนอยู่ตรงหน้าแค่เอื้อม

“เชี่ยล็อกอ่ะ” ก็เออไง ไม่ล็อกกูจะติดอยู่ในนี้เหรอ “ปูนรอแปบนะ พี่ไปตามยามก่อน”

“ครับ!” ผมตะโกนตอบรับอีกฝ่ายไป เอื้อหายไปสักพักก่อนจะกลับมาอีกครั้ง

“ยามแม่งไม่อยู่ว่ะ ไปไหนของมันวะ!!” น้ำเสียงของอีกฝ่ายดูอารมณ์เสีย “ปูนถอยไป เดี๋ยวพี่พังเข้าไปเอง”

“รออีกนิดก็ได้...ยามคงกำลังมา”

“ไม่ต้องรอแล้ว ถอยให้ห่างจากประตูเลยปูน”

ผมถอยห่างจากประตูตามที่อีกบอก ถึงจะบอกให้รอยามด้วยกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมไม่อยากติดอยู่ในนี้แม้แต่วินาทีเดียว

บึง!!!

ประตูสั่นสะเทือนแต่ก็ยังไม่ยอมเปิดออก

บึง!! บึง!! บึง!!

พรวด!!

และแล้วประตูเปิดออกจนได้!!

พี่ปูนรอดแล้วครับทุกคน!!

ผมไม่เคยดีใจที่เห็นหน้าเอื้อเท่านี้มาก่อนเลย ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว อีกฝ่ายก็เข้ามากดึงผมไม่กอดอย่างรวดเร็ว เอื้อหอบหายใจแรง ตัวเต็มไปด้วยเหงื่อจนเปียกชุ่มไปทั้งแผ่นหลัง แต่ผมไม่รังเกียจเลย กลับเป็นฝ่ายยกมือกอดตอบอีกคนให้แน่นกว่าเดิม

“พี่ขอโทษ นะที่มาช้า” อีกฝ่ายบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มือใหญ่ถูกยกขึ้นมาลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา “กลัวหรือเปล่า ปูนตัวสั่นเลย”

“ตอนแรกกลัว แต่ตอนนี้ไม่แล้ว” พออยู่กับเอื้อแล้วรู้สึกปลอดภัยจริงๆ นะครับ ขอบคุณอะไรก็ตามที่นำพามันมาหาผม

“พี่ขอโทษนะที่มาช้า…”

“ไม่เป็นอะไร แค่มาก็ดีแล้ว นึกว่าจะได้อยู่ในนี้ตลอดทั้งคืนเสียอีก” เอื้อดันผมออกห่าง มันเหมือนจะอยากพูดอะไรสักอย่างแต่สุดท้ายก็เงียบไป

“มีอะไรเหรอ”

“ปูนเป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ย” อีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นหนุมตัวผมสำรวจบาดแผลไปมา ก่อนจะทำหน้าโล่งใจเมื่อไม่พบ “ดีจริงๆ ที่ไม่เจ็บตัวอีก” ผมก็ไม่ได้เป็นคนที่ชอบหาเรื่องเจ็บตัวขนาดนั้นสักหน่อย

“แล้วนี่ทำงานกันเสร็จแล้วเหรอ”

“ยังจะห่วงอะไรพวกนั้นอีก” อารมณ์เอื้อยังคงไม่คงที่เท่าไหร่ อีกฝ่ายต้องถอนหายใจซ้ำๆ “พี่หาปูนนานมาก ทำไมมาเข้าห้องน้ำไกลขนาดนี้”

“ก็...มาตามที่บอกเลย” จริงๆ นะผมมาตามที่เอื้อบอก

“ตามที่บอกตรงไหน รู้หรือเปล่าว่า…”

“อะวู้วววววววววววววววว”

เอื้อหน้าซีดลงถนัดตาหลังจากที่เสียงหมาหอนจบลงแล้ว ร่างสูงกุมมือผมแน่นแล้วพากันออกมาจากห้องน้ำโดยไม่พูดอะไรสักคำ ระหว่างทางที่มาผมก็สังเกตเห็นว่ามันมีห้องน้ำที่ใกล้กว่านี้จริงๆ ด้วย ทำไมเมื่อกี้กูไปเข้าไกลจังวะ

“เอื้อๆ เดินเบาๆ หน่อย” นี่ก็จ้ำเอาอยู่นั่นแหละ ขาจะขวิดอยู่แล้วนะ

ร่างสูงไม่พูดอะไรสักคำเลยครับเอาแต่เดินอย่างเดียว สุดท้ายเราก็มาโพล่ที่โถงคณะกันจนได้ ตอนนี้เหลือแค่พี่ฟิ้งกับพี่เดียวเท่านั้นที่นั่งรอพวกเราอยู่

“ฟิ้ง มึงได้แกล้งปูนอีกหรือเปล่า” เอื้อเปิดคำถามขึ้นมาทันควัน

“เจอน้องแล้วเหรอ!” พี่เดียวถามพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ผม “ปูนไม่เป็นอะไรใช่มั้ย เจ็บตรงไหนหรือเปล่า มึงไปเจอน้องที่ไหนวะ”

“ในห้องน้ำ” เอื้อพูดเสียงเรียบก่อนจะหันไปจ้องพี่ฟิ้งพร้อมๆ กับพี่เดียว “ฟิ้ง มึงได้แกล้งปูนอีกหรือเปล่า” เอื้อเปิดคำถามขึ้นมาทันควัน

พี่ฟิ้งขมวดคิ้ว “กูเปล่า”

““แต่มึงตามน้องไปนะ”

“กูไม่ได้ตามน้องไป ก็บอกแล้วไงว่าไปโทรศัพท์ไม่ได้ไปกับปูน” พี่ฟิ้งหันมาหาผมเพื่อต้องการการยืนยัน “พี่พูดถูกหรือเปล่าปูน..”

“พี่ฟิ้งไม่ได้ตามไปจริงๆ ตอนนั้นไปเองคนเดียว”

“กูไปคุยโทรศัพท์จริงๆ ไม่เชื่อดูได้” พี่ฟิ้งหยิบโทรศัพท์ส่งให้เอื้อดู แต่มันก็ส่ายหน้า

“ถ้ามึงบอกว่าไม่ได้แกล้งปูนกูจะเชื่อมึง” สายตาเอื้อจริงจังมาก ทั้งคู่สบตากับแบบที่ผมไม่เข้าใจความหมายทั้งที่มันเป็นเรื่องของผมแท้ๆ

“แล้วนี่มึงไปเจอน้องที่ห้องน้ำตรงไหนวะ ไปซะนานเลยห้องน้ำก็อยู่แค่นี้” พี่เดียวถามซึ่งมันดึงความสนใจของเอื้อกับพี่ฟิ้งได้เป็นอย่างดี คงอยากเปลี่ยนเรื่องล่ะครับ

“ห้องน้ำข้างลิตฟ์ตัวเก่า”

“...”

“...”

“ลิตฟ์อันนั้นอ่ะนะ”

“อือ อันนั้นแหละ”

“...”

“...”

เชี่ยยยย ทำไมเงียบกันขนาดนี้ล่ะครับ หน้าพี่เดียวแม่งอึ้งไปเลยอ่ะ พี่ฟิ้งก็ไม่ต่างกัน พี่เขาไม่พูดอะไรแล้วลงมือเก็บของที่วางกระจายอยู่บนโต๊ะอย่างเงียบๆ

อะไร! พวกคุณมีอะไรปิดบังพวกผมเหรอครับช่วยไขให้กระจ่างที!

“กูว่าพวกเรากลับกันเลยดีป่ะวะ มืดแล้วเนี่ย” พี่ฟิ้งเก็บของเสร็จแล้วก็ชวนกลับเลยครับ

“อะวู้วววววววววววววว”

“กลับเลย กลับด่วนๆ เลย กลับเดี๋ยวนี้เลย!” อะไรจะรีบขนาดนั้นพี่เดียว

“กูไปล่ะ” อ้าว ไม่รอกันเหรอครับพี่ฟิ้ง

“ปูนเก็บของเร็วดิ” ก็กำลังเก็บอยู่ไงทำไมต้องเร่ง

สรุป นี่มันเรื่องอะไรกันวะ พี่ปูนไม่เข้าใจจริงๆ

ผมกับเอื้อเราแวะหาอะไรกินกันแถวมอ ก่อนกลับหอ และระหว่างที่กำลังรอรถติดกับระยะทางไม่กี่กิโลเมตรก็จะถึงหอผมอยู่แล้ว ผมก็เลยถามคำถามที่ค้างคาใจออกมา

“เอื้อ ห้องน้ำตรงนั้นมันทำไมเหรอ”

“...”

“เอื้อ ได้ยินที่ถามหรือเปล่า”

“ได้ยินแล้วครับ” ร่างสูงตอบแค่นั้นแล้วก็เงียบไปเลย จนผมต้องถามซ้ำอีกรอบ “ปูนอยากรู้จริงๆ เหรอ”

“บอกมาเถอะน่า ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งอยากรู้นะ”

ร่างสูงเหลือบตามามองผม ถอนหายใจออกมาแล้วถามกลับ “ปูนเห็นลิตฟ์ข้างๆ ห้องน้ำหรือเปล่า ที่เก่าๆ ใหญ่ๆ ล็อคกุญแจไว้”

“ตอนแรกไม่เห็น แต่พูดมาแบบนี้เหมือนจะนึกออกแล้ว ทำไมเหรอ มันเป็นลิฟต์ขนของไม่ใช่เหรอ”

“อือ...ใช่ เอาไว้ขนของแต่ไม่ได้ใช้แล้ว” ผมว่ามันไม่ได้มีแค่นี้หรอก ต้องมีอะไรต่อไปจากนี้แน่นอนที่ทำให้พวกพี่ๆ เขามีท่าทางไม่ปกติกัน

“แล้วไงต่อ บอกมาให้หมด เลิกอมพะนำสักที”

“เมื่อก่อนเวลาที่เรียนอนาโตมี่กันเขาจะมาเรียนที่คณะพี่”

“แล้ว…”

“เรียนกันชั้นสาม”

“อ่าฮะ…”

“แล้วก็ใช้ลิตฟ์ตัวนั้นแหละที่ขนขึ้นไป” วะ ว่าไงนะ!! “แต่หลังๆ ไปเรียนที่คณะแพทย์แทนแล้วเลยไม่ได้ใช้อีก” อ่า…

เมี้ยว!

ผมสะดุ้ง อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงแมวเหมียวตัวน้อยขึ้นมาเลยครับ!

“คนในคณะที่รู้ก็ไม่ค่อยไปใช้ห้องน้ำตรงนั้นกันหรอก เรื่องวันนี้คงเป็นอุบัติเหตุแหละ ไม่ต้องกลัวไปนะ” เหอะๆ ไม่กลัวเลย…

ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยยยย! นี่กูติดอยู่ตรงนั้น กูติดอยู่ในห้องน้ำนั้น ติดอยู่ในห้องน้ำข้างลิฟต์ตัวนั้น!!

แล้วคืนนี้จะนอนหลับมั้ย ถามใจดูครับ

ฮือออออออออ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่ฟิ้งน่าสงสัยมากกกกกกกกกกกกก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
เปิดตอนมาดูเหมือนเครียด ตอนจบหักมุมซะงั้น :laugh: :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด