。◕‿◕。❤ เอื้อมใจให้รัก ❤ 。◕‿◕。 >>>UP side story:เรื่องราวของโจม (จบแล้ว) 10/06/10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 。◕‿◕。❤ เอื้อมใจให้รัก ❤ 。◕‿◕。 >>>UP side story:เรื่องราวของโจม (จบแล้ว) 10/06/10  (อ่าน 77300 ครั้ง)

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
พี่เอื้อจะทำอะไรครับ ถามน้องปูนด้วย ตกลงแล้วคิดอะไรยังไงกับน้อง

ออฟไลน์ Naam3

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาไวๆๆๆๆรอๆๆๆ :katai2-1: :hao4:

ออฟไลน์ Maitre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บทที่ 16
เมื่อน้องปูนกลัว


บรรยากาศในโต๊ะดำเนินไปด้วยความอึมครึมขั้นสุด พี่น้ำกับเอื้อสนทนากันบ้างเป็นบางประโยค ส่วนใหญ่พี่น้ำจะเป็นคนถาม ในขณะที่เอื้อตอบบ้างไม่ตอบบ้างเป็น เห็นได้ชัดว่าพี่น้ำไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยต้องหันไปคุยกับเพื่อนเธอแทน ส่วนผมผู้ซึ่งไร้ความสำคัญใดๆ ก็นั่งกินไปเงียบๆ

“โอ๊ย!”

ผมร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ น้ำซุปที่กำลังเดือดฟุดๆ ในหม้อกระเด็นมาโดนผมหลังจากที่พี่น้ำเพิ่งคีบลูกชิ้นใส่เข้าไป

“พี่ขอโทษนะ”

“ไม่เป็นอะไรครับ”

อ่า...แสบฉิบหายเลย

“โอ๊ยยยย”

คราวนี้มาเป็นถ้วยเลยครับ! จังหวะที่พี่น้ำกำลังจะเอื้อมไปหยิบทิชชู่อยู่แขนพี่แกปัดมาโดนถ้วยที่ใส่น้ำซุปของผม มันเลยหกราดแขน แถมยังไหลลงขาอีกด้วย

“ระวังหน่อยน้ำ!” เอื้อทำท่าจะลุกขึ้นมาดูผม แต่ติดที่พี่น้ำกับเพื่อนนั่งอยู่ “น้ำผมขอทาง…”

“ไม่เป็นอะไรมึง พี่ครับ ผมขอไปเข้าห้องน้ำแปบ”

ผมส่งยิ้มให้เพื่อนพี่น้ำแล้วเดินออกจากโต๊ะมาเข้าห้องน้ำ รู้สึกโคตรโล่งเลยครับ ผมไม่อยากอยู่ที่โต๊ะนาน  แต่ถึงไม่เป็นอะไรมากแขนผมแดงเป็นแถบเลย แถมพอยกขึ้นมาดมยังมีกลิ่นสุกี้อ่อนๆ ด้วย

“อะไร นี่จะกินแขนตัวเองเหรอ”

“เอื้อ?” ผมเลิกคิ้วมองคนที่เข้ามาใหม่อย่างสงสัย “มาทำไมอ่ะ”

“ก็มาดูมึงไง”

“ก็บอกว่าไม่เป็นอะไรๆ ยังจะตามมา”

ร่างสูงไม่สนใจสิ่งที่ผมพูด มันเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะดึงแขนผมไปพลิกดูความเสียหาย มือใหญ่จับแขนผมให้อยู่ในอ่าง เปิดน้ำเบาๆ ใช้มืออีกข้างรองน้ำแล้วค่อยๆ ล้างแขนผม มันทำทุกอย่างช้าๆ และระมัดระวัง สีหน้าที่แสดงความตั้งใจฉายชัด ซ้อนทับกับครั้งก่อนที่มันเคยทำแผลให้ผม

“ไปหายาทากัน”

“แค่นี้เอง ไม่เป็นอะไรหรอก”

“ดื้อที่หนึ่ง อย่าให้ต้องอารมณ์เสียเพิ่ม” มันขมวดคิ้วทำหน้าโหดใส่

“อารมณ์เสียอะไรอีกอ่ะ ใครทำอะไรให้”

“มึงไง กูอารมณ์เสียทุกครั้งแหละที่เห็นมึงเจ็บตัว”

ใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ผมจนสายตาเราอยู่ระดับเดียวกัน นิ้วเรียวถูกยกขึ้นและแตะลงที่หน้าผากผม ก่อนมันจะจิ้มลงมาเบาๆ

“รู้แล้วครั้งหน้าก็ช่วยระวังตัวด้วย”

“ก็...ใครจะไปรู้ล่ะว่า...จะเจ็บตัว” ผมต้องเถียงมันออกไปอย่างเต็มเสียงสิ! ทำไมเสียงที่ออกมามันถึงได้อ่อยขนาดนี้ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ!

“ถึงได้บอกว่าให้ระวังไง ไป...ไปหายาทากัน” พูดแล้วมันก็ลากแขนผมเดินออกมาจากห้องน้ำเลยครับ ไม่ถามความสมัครใจสักคำ จะดื้อก็ไม่ได้เดี๋ยวมันหันมาดุอีก

ผมไม่ได้กลัวมันนะ อย่าเข้าใจผิด

พอได้ยาแล้วเราก็หาที่นั่งใกล้ๆ ตรงนั้น ก่อนที่คนขี้บังคับจะจัดการทายาที่แขนให้ผมเบาๆ ด้วยความตั้งใจ คนที่ผ่านไปผ่านมาต่างหันมามองทางเราสองคน ที่จริงผมโดนมองตั้งแต่เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วครับ ตอนแรกก็สงสัย แต่ก็ถึงบางอ้อเมื่อลองก้มมองมือตัวเอง เอื้อมันเปลี่ยนจากจับแขนมาเป็นจับมือตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ขนาดตอนทายาให้ผม มือข้างหนึ่งมันยังคงจับที่มือผมไม่ปล่อย ที่จริงผมอยากท้วงนะ แต่ไม่รู้สิ...ปล่อยไว้อย่างนี้มันรู้สึกดีแปลกๆ

“กลับเลยป่ะ” ร่างสูงถามหลังจากทายาเสร็จ

“หือ? ไม่ไปหาพวกพี่ๆ เขาเหรอ”

“ไม่เอา ไม่มีอารมณ์กินล่ะ” จ้าพ่อคุณ กินข้าวก็ต้องมีอารม์เนาะ

“แล้วค่าอาหารอ่ะทำไง”

“กูรวย ก่อนออกมากูเดินไปจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว” มันน่าหมั่นไส้มั้ยครับ เหอะ พ่อเจ้าประคุณ เป็นสายเปย์นี่ลืมไป เรื่องค่าอาหารแค่นี้เสี่ยเอื้อสบายอยู่แล้ว

“ครับๆ รู้แล้วว่ารวยมากกกก” ผมแกล้งลากเสียงยาวๆ ให้อีกคนยกมือขึ้นมาผลักหัวผมเบาๆ มันบอกว่าไม่อยากเห็นผมเจ็บตัวแล้วนี่อะไร ทำร้ายร่างกายกันเฉยเลย “แต่แล้วพี่น้ำอ่ะ…”

“กูจะเลิกแล้ว”

“อะไรวะ เลิกง่ายขนาดนั้นเลย?” โอโห้พ่อขุนแผน พ่อพระอภัยมณี สเน่ห์เหลือล้นจริงๆ คิดอยากจะเลิกก็เลิกเลยไม่สนใจความรู้สึกผู้หญิงเขาหน่อยเหรอ

“เออ ง่ายๆ แบบนี้แหละ อีกอย่างกูมีเป้าหมายใหม่แล้ว...”

“มึงแม่งโคตรของโคตรเลยว่ะ เลิกคนนี้ไปคบคนนั้น พอจะเลิกก็มีคนใหม่” ผมใช้ลิ้นดักระพุ้งแก้ม รู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาเฉยๆ “แล้วคนนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ”

“ยังลูกผีลูกคนว่ะ ไม่รู้จะเอาไงกันแน่” ว่าแล้วมันก็ถอนหายใจออกมายาวๆ ด้วยความหนักใจ “กูกับเขารู้จักกันไม่นาน มันก็เริ่มกันไม่ค่อยดีด้วย”

“มึงรู้จักเขาแค่แปบเดียว จะแน่ใจความรู้สึกตัวเองได้ไง”

“ถึงตอนแรกกูยังไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกตัวเองเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ก็แน่ใจแล้ว แต่เขาอ่ะดิ…” มันจ้องหน้าผม ตลอดเวลาที่พูดแต่ละประโยคออกมา “กูไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง ในใจแล้วเขารู้สึกแบบไหนกับกู จะเกลียดที่กูเป็นคนแบบนี้ไปแล้วหรือยังก็ไม่รู้…”

ทำไมผมรู้สึกแปลกๆ วะ

“...เขาคงไม่เกลียดมึงหรอก” ไม่รู้ว่าผมเอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหนกัน แต่พอผมพูดจบ เอื้อก็ส่งยิ้มมาให้

“นั่นสินะ เขาใจดีใจตาย” เอื้อส่งยิ้มมุมปากตอนที่เราสบตากัน “มึงว่ากูควรทำยังไงกับเขาดีวะปูน”

จะมาถามทำไม คนไม่เคยมีแฟน ไม่เคยจีบใคร พอคิดจะจีบก็แห้วแดกทุกคนอย่างผมจะไปแนะนำอะไรได้

“ลองถามเขาว่าเขาคิดยังไง” ผมตอบปัดๆ แล้วเสสายตาไปมองทางอื่น ไม่กล้าสบตาเอื้อที่มองมาเลยครับ มันเขินแบบแปลกๆ

“เขาไม่บอกกูหรอก ขนาดคนที่เขาชอบมานานกว่าเขาจะบอกรักก็โดนคนอื่นตัดหน้าไปแล้ว” 

“แล้วมึงชอบเขาป่ะวะ”

เอื้อมันเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหันมามองผม สายตาที่จ้องมาทำเอาผมเผลอกลั้นหายใจชั่วคราว มันให้ความรู้สึก...หวิวๆ ในใจยังไงชอบกล

“กูต้องตอบมึงป่ะ”

“ก็...เรื่องของมึงดิ”

“ชอบดิ...อยู่กับเขาแล้วกูมีความสุขจะตาย”

เชี่ยยยยยยยย ใจเต้นรัวเลยครับ ผมเป็นอะไรไปปป ปูนมึงฟังนะ เอื้อกำลังพูดถึงคนอื่นอยู่โว้ยยยย ถึงมันจะมองมึง ถึงมันจะยิ้มให้มึงแต่คนที่พูดอ่ะไม่ใช่มึงงง สติมึงอยู่ไหนเอากลับมาด่วน

“บอกหน่อยดิว่ากูจะต้องทำไง” มันกำลังส่งยิ้มให้ผมครับ ผมโคตรเกลียดหน้ามันตอนนี้เลย โคตรเจ้าเล่ห์อ่ะ “บอกเร็วดิครับ กูควรทำไงกับเขาดี”

“ถ้ามึงชอบเขามาก...ก็ไปบอกเขาสิ”

“จะดีเหรอ ถ้าบอกไปแล้วเขาไม่ชอบ กูจะทำไงล่ะ” อีกฝ่ายยกมือขึ้นเกาหัวเบาๆ แก้เขิน

“คนอย่างมึงนี่ยังจะกลัวอีกเหรอ มีใครเขาจะไม่ชอบมึงบ้าง หน้าตาก็ดี เรียนเก่ง แถมยังรวยอีก…”

“แต่นี่มันเรื่องของความรู้สึก ไม่เกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นสักหน่อย” เอื้อเอ่ยขึ้นทั้งที่ผมยังพูดไม่จบ “สำหรับเขากูแม่งไม่มีความมั่นใจอะไรทั้งนั้น”

“...เขาคงเป็นข้อยกเว้นของทุกอย่างสำหรับมึงสินะ”

“ก็คงใช่...ปูน คือกู…”

ครืน!!!

ผมสะดุ้งสุดตัวก่อนจะมองไปรอบๆ “เมื่อกี้เสียงฟ้าร้องป่ะวะ”

“น่าจะใช่อ่ะ มีอะไรเหรอ”

“กูว่าเขารีบกลับกันเถอะ เดี๋ยวฝนตก” ผมลุกขึ้นยืนแล้วดึงแขนเอื้อ มันก็เดินตามผมมาอย่างงงๆ แต่ไม่ได้ท้วงอะไร ต้องรีบครับก่อนที่ฝนจะเทลงมา ผมไม่อยากนั่งรถท่ามกลางสายฝน

“ปูน…” ร่างสูงเรียกชื่อผมก่อนที่ตัวมันจะหยุดเดิน แล้วหมุนตัวกลับมา “กูมีอะไรจะบอก”

หน้ามันเครียดมากครับ พาลเอาผมต้องตั้งใจฟังเสียงที่กำลังหลุดออกจากริมฝีปากสีสวยที่ค่อยเปิดทีละนิด

“อะไรอ่ะ รีบๆ บอกได้ป่ะวะ”

โอ๊ย เร็วๆ มัวแต่อ้ำอึ้งแบบนี้เดี๋ยวฝนก็ตกกันพอดีหรอก

“กูคิดว่าต่อให้มีน้ำสักสิบคน มิ้มอีกร้อยคน หรือผู้หญิงคนอื่นอีกหมื่นคนกูก็ไม่สนใจ เพราะกูชอบ...เวลาที่ได้อยู่กับมึง”

“..หะ?!”

มะ มันพูดเรื่องอะไร

“ไปเหอะ เดี๋ยวฝนตก”

เดี๋ยวดิ อย่าเนียนเปลี่ยนเรื่องสิวะ! เคลียร์สิ่งที่มึงพูดเมื่อกี้มาก่อนเว้ยยยยย!!

..
.
ผมหนีฝนไม่ทันครับ พอขึ้นรถออกมาได้สักสิบนาทีฝนก็เทลงมาอย่างกับฟ้ารั่ว เราสองคนต้องติดอยู่บนถนนเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงหอ ทั้งที่ระยะทางแค่ไม่กี่กิโลเมตร พอรถจอดลงผมก็รีบเปิดประตูแล้ววิ่งเข้ามาในตึกทันที หัวใจของผมเต้นกระหน่ำด้วยความกลัว ลืมทุกสิ่งแม้กระทั่งคนที่นั่งรถมาด้วยกัน

ผมจัดการเข้าไปอาบน้ำอาบท่าเสียให้เรียบร้อยกันตัวเองจะเป็นหวัด ฝนยังคงตกมาไม่ยอมหยุด และไม่มีท่าทีว่าจะเบาลง อีกทั้งยังมีฟ้าคะนอง กลุ่มเมฆสีดำลอยอยู่เหนือเมืองทั้งเมือง ผมล่ะสงสารคนที่ขายของอยู่งานแฟร์จริงๆ เพื่อนที่เป็นเวรเฝ้าบูธวันนี้เจองานหนักแน่นครับ

กึกๆๆๆ

เสียงลมตีกับกระจกระเบียงดังเป็นจังหวะ ฝนแรงขนาดนี้ต้องมีฟ้าร้องฟ้าฝ่าตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย

ผมไม่ชอบฝนเอาเสียเลย

ในคืนที่ผมเสียพ่อกับแม่ไปก็เป็นอย่างเช่นคืนนี้

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เตรียมจะกดโทร.ออกหาตากับยายที่อยู่ห่างกันออกไปหลายร้อยกิโลเมตรด้วยความคิดถึง แต่ขณะนั้นประตูห้องกลับถูกเคาะเบาๆ

ก๊อกๆๆ

“มึงเป็นอะไรวะ อยู่ดีๆ ก็วิ่งขึ้นมาบนห้องซะอย่างนั้น” ร่างสูงบอกก่อนจะแทรกตัวเข้ามาในห้องผม มันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ในมือใหญ่มีถุงของที่ซื้อมาวันนี้ด้วย มันวางถุงลงบนโต๊ะ ก่อนจะนั่งลงที่เตียงอย่างถือวิสาสะ “ห้องนี่คิดจะเก็บบ้างป่ะ”

“เรื่องของกูน่า” ผมเก็บโทรศัพท์ไว้ที่หัวเตียง เดินไปนั่งข้างมัน “มึงแหละ ห้องตัวเองก็มีทำไมไม่ไปอยู่”

“แล้วใครล่ะที่วิ่งหนีฝนจนลืมของไปเสียทุกอย่างน่ะ คนดีอย่างกูเลยต้องลงเอามาให้” มันชี้มือไปที่ถุงกระดาษบนโต๊ะผม “ว่าแต่มึงกลัวฝนเหรอปูน พอฝนตกมึงดูจิตหลุดแปลกๆ”

“ไม่ได้กลัว แต่แค่ไม่ชอบเฉยๆ”

“อือ กูก็ไม่ชอบ พอฝนตกแล้วมันเปียก” กวนตีนแล้วครับ ถ้าเหตุผลของผมแค่นั้นก็ดีอ่ะดิ แต่นี่ไม่ใช่สักหน่อย “บอกกูไม่ได้เหรอว่าทำไมถึงกลัว”

“บอกว่าไม่ได้กลัวไง”

“อ่ะๆ งั้นบอกได้ป่ะว่าทำไมไม่ชอบ”

ผมนึกย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีต พร้อมกับมองเม็ดฝนที่ตกกระหน่ำอยู่นอกกระจกไปด้วย “พ่อกับแม่กูตายตอนฝนตก”

“...”

ผมยกเข่าขึ้นมากอดไว้แน่นๆ “วันนั้นฝนก็ตบหนักแบบนี้แหละ พายุฝนฟ้าคะนองกระจายเป็นหย่อมๆ” ผมหัวเราะขืนๆ “แล้วพ่อกับแม่ก็ไปรับกูที่โรงเรียน ตอนกลัวบ้านสงสัยพ่อรีบไปหน่อยเลยเกิดอุบัติเหตุเข้า…”

“กูขอโทษนะ”

“เคยบอกไปแล้วไงว่าไม่เป็นอะไร เรื่องมันก็นานมาแล้วด้วย” แต่ส่วนหนึ่งในความทรงจำของผมไม่ลืม

“กูเคยเรียน สมองเรามันฉลาดมากเลยนะ มันจำสิ่งที่มึงไม่อยากจำได้ นั่นก็เพราะว่ามึงเอาแต่คิดถึงแต่สิ่งนั้น เฝ้าบอกตัวเองว่าให้ลืมๆ สุดท้ายเลยกลายเป็นการตอกย้ำตัวเองแล้วมึงก็จะไม่ลืมสิ่งเหล่านั้น”

“ถ้าอยากลืมจริงๆ ล่ะต้องทำยังไง”

เอื้อหันมาสบตา “มึงก็ต้องไม่คิด ไม่ใช่ว่าคอยบอกตัวเองว่าไม่คิด แต่มึงต้องทำเหมือนว่าเรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

“ฟังดูยากนะ”

“ไม่ยากหรอก มันก็เหมือนตอนที่มึงลืมความรู้สึกที่มีต่อมิ้มนั่นแหละ”

ผมขมวดคิ้ว “มันเกี่ยวอะไรกัน”

“มึงไม่ได้พยายามจะลืมมิ้นให้ได้ มึงแค่บอกกันตัวเองว่าจะตัดใจ แล้วมึงก็ไม่คิดถึงเรื่องของมิ้มอีก สมองมึงเลยค่อยๆ ลบความรู้สึกนั้นออกไป ตอนนี้มึงเลยไม่รู้สึกอะไรแล้ว”

“รู้ได้ไงว่ากูไม่รู้สึก…”

“รู้สิ เพราะถ้ามึงรู้สึก…”

ครืน!!!

เสียงฟ้าร้องดังสนั่นทำให้ผมต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้างแล้วคู้ตัวลง แม่งเอ้ย คิดว่าวันนี้จะไม่มีฟ้าร้องแล้วเสียอีก

ผมเกลียดวันฝนตก ผมเกลียดเสียงฟ้าร้อง และผมเกลียดฟ้าฝ่า!

ครืน!!

เปรี้ยง!!!

ใครไปสาบานอะไรไว้หรือเปล่าวะเนี่ย!! สารภาพมาซะดีๆ เดี๋ยวพี่ปูนยกโทษให้

หัวใจผมเต้นกระหน่ำด้วยความกลัว ภาพเหตุการณ์เมื่อครั้งในอดีตไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ คืนนั้นเสียงฟ้าก็ดังก้องเช่นเดียวกัน ไม่ๆ ผมต้องไม่คิดถึงมัน

ไม่คิด...ไม่คิด…ไม่...

พรึบ!

อ๊ะ!

ไม่นานไฟก็ดับลง ตอนนี้ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืดและเงียบสนิท ได้ยินเพียงเสียงเม็ดฝนที่กระทบกับกระจกหน้าต่าง และเสียงดัง กึกๆๆ เนื่องจากแรงของลม

“ปูน...มึงโอเคป่ะวะ”

“...” ใครมันจะไปโอเคได้ลงวะ

“ไม่ต้องกลัวนะ”

เสียงทุ่มดังขึ้นข้างหู ก่อนที่ผมจะถูกสวมกอดไว้ด้วยอ้อมแขนเเข็งแรง… ตัวตัวชิดกับแผ่นอกอันอุ่นจัดของอีกฝ่าย ความกลัวทำให้ผมยกมือขึ้นกำเสื้อเปียกๆ ของเอื้อไว้แน่น นั่นยิ่งทำให้อีกฝ่ายกระชับอ้อมกอดให้แนบสนิทยิ่งกว่าเดิม มือใหญ่แต่เย็นเฉียบกดหัวผมลงกับหน้าอกหนา หน้าผมแนบลงไปกับเสื้อยืดของอีกฝ่าย หูผมได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะของอีกคนอย่างชัดเจน

“ไม่ต้องกลัวนะ” เสี้ยงทุ้มคอยปลอบโยนผมไว้ “จำที่กูบอกได้หรือเปล่า ไม่ใช่ว่าต้องพยายามไม่คิด แต่มึงแต่ไม่คิด…”

“พูดเหมือนง่าย ใครมันจะทำได้”

“มึงเคยทำมาแล้วปูน”

“กู…”

ครืน!!

เง้อออออ ผมทำไม่ได้ครับ มันเริ่มจากความกลัว จนกลายเป็นความฝังใจที่แก้ไม่หายแล้ว

“กะ กูทำไม่ได้!” ผมซุกตัวเข้าสู้อ้อมกอดของอีกฝ่ายมากขึ้น

“งั้นไม่เป็นอะไร ถ้ามึงกลัวก็แค่กอดกูไว้…”

“แล้วถ้าวันที่มึงไม่อยู่ล่ะ”

“สัญญาว่าจะพยายามอยู่ด้วยตลอดเวลา ไม่ปล่อยให้มึงกลัวคนเดียว…”

ในใจผมตั้งคำถามขึ้นมาว่าผมจะเชื่อคำพูดนี้ได้มากขนาดไหนกัน…

สักพักใหญ่ๆ ที่เอื้อกอดผมไว้ ข้างนอกฝนยังคงตกหนักอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด และยังคงมีเสียงฟ้าร้องเป็นระยะ ทุกครั้งที่ผมสั่นเพราะความกลัว เอื้อจะกอดผมให้แน่นขึ้นกว่าเดิม

“มึงเมื่อยหรือยัง” ผมถามมันเสียงเบา ผมชอบนะ...อยู่ใกล้กันแค่นี้ไม่ต้องตะโกนให้เจ็บคอ แค่นี้มันก็ได้ยินชัดเจน

“นิดหน่อย แต่ไม่เป็นอะไร กอดกูได้ตามสบายเลย”

ผมเบ้ปาก แต่อยู่อย่างนี้ย่อมดีกว่าอยู่คนเดียวในห้องที่มืดมิด ท่ามกลางเสียงฟ้าร้องและเสียงหยาดฝนที่ตกลงมาไม่หยุด

หัวใจผมสงบลงอย่างน่าประหลาด เสียงหัวใจของเอื้อคล้ายกับเสียงขับกล่อมที่ทำให้ผมเคลิบเคลิ้ม และดวงตาทั้งสองข้างก็พาลจะปิดลง

“ถ้ากูหลับไป มึงจะกลับไปเลยก็ได้นะ”

“ไม่เป็นอะไร กูจะอยู่ข้างมึงอย่างนี้ทั้งคืน จนกว่ามึงจะตื่น”

“...”

“ฝันดีนะปูน ฝันถึงกูด้วยล่ะ”

ผมไม่รับปาก และถึงผมจะฝันถึงมันจริงๆ ผมก็ไม่มีทางบอกมันหรอกครับ

ไม่นาน สติของผมก็เริ่มบินจากไป…

..
.
อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน เช้านี้เป็นเช้าที่สดใสนะว่ามั้ย ฟ้าหลังฝนก็งี้แหละ รู้สึกเลยว่าวันนี้ผมจะต้องเจอเรื่องดีๆ อย่างแน่นอน แต่ก่อนอื่นนั้น…

ผมจะจัดการกับคนที่มันมายึดเตียงอีกครึ่งหนึ่งของผมยังไงดีครับ ช่วยตอบผมที

เอื้อมันนอนหันหน้ามาทางผม สองครั้งแล้วที่ผมได้มองอีกฝ่ายยามหลับ ครั้งแรกตอนกลับจากบ้านผม แต่ครั้งนั้นผมไม่ได้มองมันเต็มๆ ตา

เมื่อคืนผมหลับไปคาอกมันเลย น่าอายชะมัด ผู้ชายสองคนกอดกันแล้วคนหนึ่งก็หลับไป ถึงจะไม่มีใครรู้เห็นก็เถอะ แต่พอนึกไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นผมก็อดหน้าร้อนขึ้นมาไม่ได้ เอื้อไม่ได้กอดผมอย่างตอนก่อนที่ผมจะหลับ มือของเราไม่ได้กุมกันไว้ มันทำเพียงแค่นอนอยู่ข้างๆ ผมเท่านั้น แต่แค่นี้ก็เท่ากับว่ามันรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผมแแล้ว

อ้อ ส่วนเมื่อคืนผมฝันถึงมันหรือเปล่า...นั่นเป็นความลับทางราชการครับ ห้ามเปิดเผย

ผมเหลือบตามองนาฬิกาที่บอกเวลาแปดโมงกว่าๆ วันนี้ผมมีเรียนตอนเก้าโมง ตื่นตอนนี้ทันอยู่นะ เวลามีเหลือเฟือ ปกติผมตื่นไปเรียนแปดโมงครึ่งครับ แต่อีกคนนี่สิ...ปลุกมันเลยแล้วกัน ถ้ามันไม่มีเรียนจะได้ให้หลับไปนอนสบายๆ ที่ห้องมันเลย

“เอื้อ...เอื้อ” ผมเขย่าตัวอีกฝ่ายเบาๆ เพียงแค่นี้ดวงตาสีเข้มก็ลืมขึ้นแล้ว

หมับ

เอื้อจับมือข้างที่เขย่าตัวมันเอาไว้ครับ อยากจะกรอกตามองบนสักสิบรอบ เรื่องถึงเนื้อถึงตัวนี่ถนัดนักนะ

“ว่าไงครับ”

ละลาย!

บอกเลยว่าสาวๆ คนไหนมาเห็นหน้ามันตอนเพิ่งตื่นพร้อมรอยยิ้มหวานๆ ที่ส่งมาให้ กับเสียงนุ่มเพราะๆ เมื่อกี้ ใครไม่ละลายผมกราบเลย!

“ไม่ต้องมาพูดเพราะเลย กูไม่ใช่สาวๆ ของมึง” ผมพยายามดึงมือตัวเองออก แต่ไม่สำเร็จ ผมเลยสั่งมันด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความเซ็งขั้นสุด “เอื้อปล่อย”

“ปกติแล้วกูไม่นอนค้างคืนที่ไหนนะ มึงเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้เห็นกูตอนตื่น” เปลี่ยนเรื่องใส่กูอีก นี่มึงกะเนียนจับมือกูถูกมั้ย

“เหรอ กูควรภูมิใจป่ะ”

“ควรดิ มีคนหล่อขนาดนี้มานอนให้มองเพลินๆ ไม่ชอบเหรอ”

“ไม่อ่ะ กูไปส่องกระจกก็เจอคนหล่อแล้ว หล่อกว่ามึงอีก” ว่าแล้วก็ยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจ เรื่องความหล่อพี่ปูนไม่แพ้ใคร

“อื้อหือ อะไรทำให้มึงมั่นใจขนาดนั้นครับ” มันใช้มือข้างหนึ่งเท้าหัวตัวเองขึ้นมา ทำให้หน้าอยู่ใกล้กับผมมากขึ้น “งั้น...ถ้าน้องปูนหล่อขนาดนี้...ทำไมยังไม่มีแฟนสักคนนะ”

“มึงก็ไม่มีเหมือนกันแหละ” ผมบ่นอุบอิบ ทำไมมันนิสัยเสียงี้วะ เอาปมด้อยคนอื่นมาล้อ พี่ปูนก็ไม่เข้าใจไงว่าทำไมถคงยังไม่มี

“ถ้าน้องปูนก็ยังโสด พี่เอื้อก็ยังว่าง… งั้นเราสองคนมาลองๆ คบกัน…”

“ตลกเหรอคุณ ลืมอะไรไปหรือเปล่าครับว่าเราเป็นผู้ชายทั้งคู่นะ”

“ผู้ชายแล้วไง ถ้ามันชอบซะอย่างก็ไม่เห็นเสียหาย”

ผมว่าเราเริ่มจะออกทะเลไปไกลแล้วครับ กลับเข้าเรื่องเถอะ

“มึงมีเรียนกี่โมง”

เอื้อเหล่ตามองผม มันเหมือนไม่อยากตอบ แต่สุดท้ายก็บอกมาจนได้ “เก้าโมง”

“งั้นก็เชิญเสด็จกลับห้องไปได้แล้วครับ ตอนนี้แปดโมงกว่าแล้ว กูก็จะอาบน้ำไปเรียนแล้วเหมือนกัน”

เอื้อหันไปมองนาฬิกาก่อนจะยันตัวลุกขึ้นนั่ง มันทำหน้าเสียดาย “อยากนอนต่อว่ะ เมื่อคืนเด็กที่ไหนไม่รู้ละเมอกอดกูทั้งคืนเลย เพิ่งจะได้นอนเต็มที่ก็ช่วงเช้ามืดเอง”

“ไม่จริงอ่ะ อย่ามาโมเมพาเพลินกูไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก”

หน้าเอื้อมันโคตรเจ้าเล่ห์!!

“หึๆ ‘หนาว...กอดแน่นๆ เอื้อ...หนาว...กอด...’”

“ไม่จริง!”

“จริง! ทำเอากูไม่ได้นอนทั้งคืน ถ้าอยากจะพังกูรีเพลย์ให้อีกรอบได้นะ…”

“พอแล้ว!!”

หน้าผมร้อนฉ่าทันทีเมื่อเอื้อพูดจบ มะ มะ มันรู้ได้ไงว่าผมฝันว่าอะไร!!

ตาย! ตาย! ตาย!

ชีวิตผมหมดสิ้นแล้ว!!

ขอย้ำว่าผมไม่ได้ฝันถึงมัน ผมฝันถึงพ่อกับแม่ผมอยู่ดีๆ แต่ไอ้หน้าหล่อนี่มันเข้ามาจากตรงไหนก็ไม่รู้! แล้วกลายเป็นว่าในฝันของผมมีแต่หน้ามันเต็มไปหมด! ผมไม่ได้อยากให้มันมากอดสักหน่อย!

เย้ย! ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ฝันถึงมัน!

“หน้ามึงแดงนะปูน” มันยิ้มล้อๆ ส่งมาให้ผม

“ไอ้…มึงอย่าอยู่เลย!”

ผมคว้าหมอนที่อยู่ใกล้มือที่สุดขึ้นมาแล้วระดมฟาดมันจนเกิดเสียงดัง ‘ตุบ’ ติดกันถี่ๆ แรงของหมอนเพิ่มขึ้นตามระดับความร้อนบนใบหน้า ผมไม่น่าให้มันมานอนที่ห้องเมื่อคืนเลย!

“โอ๊ยเบาๆ กูเจ็บ” ดี! เอาให้กระอักเลือกตายไปเลยไอ้บ้า!

ตุบๆๆๆๆ

“ปูนหยุด...พี่เจ็บ” อย่าคิดมาใช้ไม้นี้กับกู ไม่หลงกลหรอกเว้ย!

“ไม่หยุดเว้ย!”

“ปูนเบาๆ พี่เอื้อเจ็บนะครับ”

ผมชะงักมือที่เตรียมจะฟาดมันอีกครั้ง มะ เมื่อกี้มันแทนตัวเองว่าอะไรนะ…

พะ..พี่เอื้อ?

หมับ!

“ทำไมมือหนักแบบนี้วะ ฟาดมาแต่ละครั้งเล่นเอามึนเลย” ไอ้คนมือไวฉวยโอกาสคว้าแขนทั้งสองข้างผมของเอาไว้อย่างแน่นหนา ทำให้ผมไม่อาจจะทำร้ายมันต่อไปได้

“สมน้ำหน้า!”

“ปูนไม่สงสารกันบ้างเหรอครับ พี่เจ็บจริงๆ นะ” มันแทนตัวเองด้วยชื่ออีกแล้ว! และผมก็เขินมัน!

กูจะไปเขินมันทำไม!!!

“งื้อออ ห้ามพูดแบบนั้นอีกนะ!”

“ทำไมอ่ะ ไม่ชอบเหรอ”

“เออ โคตรไม่ชอบเลย ห้ามพูด ห้ามๆๆๆ ห้ามเข็ดขาด” ผมสั่งด้วยเสียงที่ดังฟังชัด...ที่ไหนเล่า เสียงผมโคตรสั่นเลยครับ สั่นเหมือนใจผมเนี่ยแหละ

นี่ผมเป็นอารายยยย

==========================================================
============================================
สวัสดีค่ะทุกคนนน ช่วงนี้เจอกันบ่อยแต่ต่อไปไม่รู้ 5555
เราจะสอบมิดเทมอแล้วค่ะ มันหนักหนามาก
เรียนคณะเดียวกับพี่เอื้อไม่ง่ายจริงๆ :katai5:
มาบ่นเฉยๆ ค่ะ อยากระบาย 55555
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ อาจไม่ถูกใจบ้างแต่อยากให้ติดตามกันต่อไปนะ  :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องปูนเริ่มหวั่นไหว พี่เอื้อก็รีบบอกน้องได้แล้วครับ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
อร้ายยยยย เขินแรงอะ

คนเขียนสู้ ๆ ตั้งใจสอบนะครับ

ออฟไลน์ i_Tipz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีพี่เอื้อเริ่มรุกน้องละ อิอิ

ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
อั๊ยยยย ชอบง่ะะะ แปะป้ายิดตามโลยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
งื้ออออ น่ารัก

ออฟไลน์ Maitre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บทที่ 17
เมื่อน้องปูนทำไม่ได้


ผมรอดผ่านช่วงเวลาวิกฤติในชีวิตได้แล้วครับ ดีใจกับผมหน่อยทุกคน T^T

“ตอนเย็นกูมารับ ห้ามเบี้ยว ห้ามลืม ห้ามหนีกลับก่อน สี่โมงครึ่งกูต้องเห็นมึง”

ทำไมไอ้เอื้อเวอร์ชั่นนี้มันกลับมาอีกแล้ววะ ไอ้เสียงดุๆ หน้าโหดๆ แล้วก็ชอบบังคับเนี่ยผมขอซื้อเก็บไว้เลยได้ป่ะ มันจะได้ไม่ทำอีก

เอื้อมันบังคับให้ผมมากับมันเมื่อเช้า ปรบมือให้กับความทุ่มทุนของมันหน่อยครับ ผมว่าผมอาบน้ำเร็วระดับจรวดแล้วนะ แต่พอเปิดประตูออกมากลับเจอมันยืนพิงกำแพงอยู่ข้างๆ เฉยเลย

บอกทีเถอะว่ามึงอาบน้ำมาจริงๆ ไม่ได้ซักแห้ง

“เข้าใจที่กูพูดป่ะเนี่ย”

“เออๆ เข้าใจแล้ว ห้ามลืม ห้ามเบี้ยว ห้ามสาย ว่าแต่จะพาไปไหนอ่ะ”  หึๆ ผมไม่ปล่อยให้โอกาสแบบนี้หลุดมือไปหรอก โอกาสที่จะได้เอาคืนแบบที่มันเถียงกลับไม่ได้

“ดินเนอร์มั้ง”

“หะ?”

“รับกลับหอเนี่ยแหละ ทางเดียวกับไปด้วยกัรประหยัดน้ำมันจะตาย ไปเรียนได้แล้วไป ชิ่วๆ”

จะบอกว่ารวยไง จะมาประหยัดอะไรตอนนี้

ผมโบกมือไล่มันแล้วเตรียมจะลงจากรถ แต่ติดที่อีกคนเอื้อมแขนมาดึงประตูให้ปิดลงเสียงก่อน และพอผมจะหันกลับไปต่อว่ามัน ผมก็ต้องเงียบปากทันที หน้ามันห่างจากผมแค่ปลายจมูกเอง

บางทีพี่ปูนก็สงสัยว่ามันจำเป็นต้องใกล้ขนาดนี้มั้ย ห่างกันหน่อยก็ได้ป่ะวะ แล้วนั่น...จะยิ้มแบบนั้นทำไม

“ตั้งใจเรียนนะครับปูน พี่เอื้อเป็นกำลังใจให้”

แล้วปุ้งงง เกิดเป็นปีโป้ครั้น!

เอ่อะ ไม่ใช่แหละ

ผมดันตัวมันให้ออกห่างก่อนจะเปิดประตูลงมาจากรถคันสวยด้วยความเร็วแสง แล้วเดินเข้าคณะโดยไม่หันหลังกลับไปมองมันอีก

เหอะ พอรู้ว่าทำให้กูเขินแล้วเล่นงานกูใหญ่เลยนะ มึงมันนิสัยเสียไอ้เอื้อ! (ได้ข่าวว่าตัวเองก็ทำ) ไอ้ก้อนเนื้อในอกนี่ก็ยังไง บอกให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่ฟัง ดันไปสั่นตามคำพูดมันอีก

โว้ยยยยย นี่พี่ปูนเป็นอะไรไป!

“อ่ะแฮ่มๆ”

ผมสะดุ้งโหย่งก่อนจะหันไปหาต้นเสียง พวกเพื่อนๆ ผมนั่นเองครับ แหม...อยู่กับครบแก๊งเลยนะ

“มะ มาเช้ากันจังวะ”

“นี่บีหนึ่ง นายเห็นเหมือนฉันมั้ย” มึงจะเล่นอะไรของมึงอีกเนี่ยกล้า

“เห็นสิบีสอง นายล่ะบีสาม เห็นเหมือนกันหรือเปล่า” เดี๋ยวนะไอ้ฟ้า กล้วยหอมจอมซนมันมีแค่บีหนึ่งกีบบีสองไม่ใช่เหรอวะ มึงเอาบีสามมาจากไหน

“หึ...เห็นสิ...แล้วมึงล่ะปูน เห็นเหมือนที่พวกกูเห็นมั้ย”

บอกไว้ ณ ตรงนี้เลยนะฟ้า มึงไม่ควรส่งมุกต่อให้ไอ้โจมว่ะ ถึงมันทีไรเสียเรื่องทุกที คิดว่าตัวเองเป็นกล้วยหรือไง

อ้าว งงอ่ะดิครับงง

ก็กล้วยหักมุกงายยยยยย

ตึ่งโป๊ะ!

“กู...ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นแหละ” พูดจนผมก็เดินหนีเลยครับ ขืนอยู่ต่อคงโดนล้อหรือแซวอะไรแน่

“เดี๋ยวก่อนสิครับเพื่อนปูน จะรีบไปไหนล่ะ” มึงปล่อยกูไปเถอะกล้า แล้วก็ไม่ต้องมากอดคอกูด้วย กูเดินไม่ถนัด

“ไปเรียนไง”

“ขยันขึ้นมาเลยนะ” เสียงมึงเจ้าเล่ห์มากฟ้า

“ปกติของกูน่า”

“อ้อเหรอ” มึงก็เอาด้วยใช่มั้ยโจม

นี่จะไม่มีใครอยู่ข้างกูเลยใช่มั้ยวะ!

“บอกกูมาซะดีๆ ว่าเมื่อกี้ใครมาส่งมึง” เสียงไอ้กล้าเข้มขึ้นราวกับมันเป็นคุณครูที่กำลังจับผิดนักเรียนลอกข้อสอบ

“เพื่อน”

“ใคร!” จำเป็นต้องดุขนาดนี้ป่ะวะ T_T

“อะ เอื้อ”

“ใครนะ พูดให้มันดังๆ!”

ผมว่าผมพูดดังแล้วนะ หูมึงตึงกันเหรอครับเพื่อน แล้วไอ้โจมไอ้ฟ้า มึงไม่คิดจะช่วยกูเลยหรือไง!

“เอื้อมาส่ง”

“แหมะ เดี๋ยวนี้คำว่า ‘ไอ้’ หายไปเลยนะ” แค่นี้มึงก็เอามาเป็นประเด็นเหรอกล้า

“เออน่าก็กูไม่ได้เกลียดมันแล้วอ่ะ” ผมตอบเลี่ยงๆ แล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องเรียน อ่า แอร์เย็นดีจริงๆ พี่ปูนชอบ

“ปูน เมื่อวานกูเห็นพี่เอื้อของมึงไปเดินงานกับพี่น้ำ ตกลงมึงได้นัดเขาจริงหรือเปล่าวะ” โจมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตามันที่มองมาก็จริงจังไม่แพ้กัน

แต่เดี๋ยวนะ ‘พี่เอื้อของมึง’? เอื้อมันเป็นของผมตั้งแต่เมื่อไหร่

“ไม่ใช่พี่เอื้อของกูเว้ย” ผมต้องแก้ตัวประเด็นนี้ครับ ไม่งั้นมันจะไม่จบง่ายๆ “กูนัดกับมันจริง แต่มันไม่ได้มา ก็นั่นแหละ มันไปเดินงานกับพี่น้ำ”

“มันเบี้ยวมึง?” ทำไมรู้สึกว่าน้ำเสียงโจมมันดูไม่ค่อยพอใจวะ

“อือ แต่เคลียร์กันแล้ว เอื้อมันไม่ได้ตั้งใจจะผิดนัดหรอก”

“แหนะ มีปกป้องกันด้วย”

“เปล่าปกป้องสักหน่อย มึงอย่ามาหาเรื่องว่ะกล้า”

“เขาเรียกว่าแซวครับเพื่อน” กูรู้แล้วน่าไอ้ฟ้า!

พวกผมเงียบเสียงลงเมื่ออาจารย์หน้าห้องเดินเข้ามา หน้าอาจารย์ดูเครียดๆ ยังไงบอกไม่ถูก

“ทุกคนครับ เนื่องจากเมื่อวานมีพายุเข้า ฝนตกหนักมาก เลยทำให้ต้นไม้บางต้นล้มทับแปลกผักที่คุณปลูกไว้บางส่วน”

อ่าฮะ แล้วไงต่อครับอาจารย์

“แปลงผักเหล่านั้นได้รับความเสียหายอย่างหนักมาก ผมจึงคิดว่าจะให้พวกคุณทำแปลงใหม่...แต่ดูเวลาแล้วก็คงไม่ทัน เฮ้อออออ”

อาจารย์อย่าลีลาสิครับ พูดให้จบ!

“และเพื่อความยุติธรรมกับคนที่แปลงเสียหาย ผมขอสั่งยกเลิกงานนี้ครับ”

“เยส!!”

“ไชโย!”

“กูรอดแล้วโว้ย!!”

“ไม่ต้องดีใจขนาดนั้นครับทุกคน!” อาจารย์เสียงเข้มขึ้นในทันที ทำให้พวกเราทั้งหลายเก็บความดีใจไว้ลึกๆ ข้างใจ “ผมมีงานใหม่ครับ ไปปลูกต้นอะไรก็ได้มาส่งผมหนึ่งต้นครับ จะอะไรเป็นดอกไม้ หรือไม้ประดับ หรือใครจะปลูกหอมปลูกกระเทียมก็เชิญ แต่ถั่วงอกห้ามนะ...”

“โห่ววววว”

นี่พวกมึงคิดจะปลูกกันจริงๆ เหรอ

“เอาว่าให้มันสมกับคะแนนห้าเปอร์เซ็นต์จากหนึ่งร้อยนะครับ แล้วเอามาส่งผมในวันสอบไฟนอลพร้อมรายงานหนึ่งเล่มเกี่ยวกับต้นไม้ของคุณ ในรายงานคุณต้องบอกถึงการเจริญเติบโตของต้นไม้คุณทุกๆ สามวัน ถ่ายรูปพร้อมระบุวันที่ด้วยนะครับ ส่วนอย่างอื่นจะใส่อะไรมาก็ตามแต่คุณเลย จะใส่รูปแฟนมาก็ได้ หนูนาคุณจะใส่รูปบอยผมก็ไม่ว่านะ”

“ฮิ้ววววววว”

“หนูนากับนุ้งบอยยย”

“ไม่ใช่นะคะอาจารย์ สามีหนูคือโจมค่ะ! นายสิงห์ของหนูคือโจมคุงงง”

มึงก็ไม่ต้องประกาศให้โลกรู้ขนาดนั้นป่ะล่ะหนูนา

“ครับๆ เข้าใจงานที่ผมสั่งกันใช่มั้ย ส่วนแปลงผักพวกคุณไปเคลียร์ให้เรียบร้อยนะ พรุ่งนี้ผมต้องไม่เห็นว่ามีผักหลงเหลือในแปลง ไม่อย่างนั้นผมจะหักคะแนนรายงานพวกคุณทุกคนครับ”

“แล้วจะให้เอาผักที่ปลูกไปไว้ไหนคะ” ถามได้ดีมากครับหนูนาคนสวย

“เอาไปไว้ที่คอกสัตว์ของคณะได้เลยครับ ผมบอกคนดูแลไว้แล้ว เอาล่ะ เรามาเข้าสู่บทเรียนของเราดีกว่า ครั้งที่แล้วเราเรียนถึงเรื่องการขยายพันธ์ุแบบตอนกิ่งใช่ การขยายพันธุ์แบบนี้…”

ตัดเข้าช่วงโฆษณาครับ เนื้อหาต่อไปนี้ควรค่าแก่การหลับมาก อย่าสนใจเลยครับคุณๆ ให้ผมทรมานคนเดียวเป็นพอ

..
.
4 โมง 41 นาที

สายๆๆๆ ผมสายแล้วครับ!

นั่นไง ยักษ์ขมูขีเตรียมหักคอผมจิ้มน้ำพริกกินอยู่ตรงนั้นแล้ว!

ผมวิ่งเข้าไปหาเอื้อที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้หน้าคณะ หน้ามันโคตรบอกบุญไม่รับเลย แถมพอเห็นผมมันยังลุกขึ้นยืนท้าวเอวทำหน้าโหดกว่าเดิมสิบเท่า

“มาสายอีกแล้ว!”

โอ๊ย กูสายแค่สิบเอ็ดนาทีเองครับ

“ขอโทษๆ” ผมส่งยิ้มประจบให้  ก่อนจะใช้ท่าไม้ตาย เพื่อหวังว่าหน้ามันจะคลายความโหดลง “ไม่โกรธนะๆๆๆ”

ได้ผล มันเริ่มยิ้มแล้วครับ

“ไม่ต้องมาอ้อนกูเลย แล้วนี่ไปทำอะไรมา เนื้อตัวมอมแมมไปหมด”

เอื้อเอื้อมมือมาปัดเศษใบไม้ใบหญ้าบนตัวผม ผมรีบมากอ่ะ แค่ล้างมือแล้ววิ่งมาหามันเลย ไม่ได้ดูว่ามีอะไรติดอยู่ตรงอื่นหรือเปล่า

“ไปเคลียร์แปลงที่ปลูกมา เมื่อคืนที่ฝนตกต้นไม้มันล้มทับแปลงอ่ะ แปลงกูโดนไปเกือบครึ่งเลย เสียดายว่ะ ผักในแปลงกำลังงามๆ” ผมบ่นให้มันฟังระหว่างนั่นก็รอมันทำความสะอาดให้ผมไปด้วย โอ้โห ขนาดบนหัวผมยังมีขี้ดินติด “กูเดินกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนดีป่ะวะ กลัวเลอะรถอ่ะ”

“ไม่ต้องหรอก อยู่เฉยๆ สิ”

ผมทำตามคำสั่งของโดยการยืนเฉยๆ ก่อนที่ตาทั้งสองข้างจะเบิกกว้างเมื่ออีกฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พอผมจะขยับหนีมันก็ดุเสียงเข้ม

“บอกให้อยู่เฉยๆ ไง”

มือใหญ่ของอีกคนถูกยกขึ้นมา ก่อนปลายนิ้วเรียวสวยจะปาดลงที่ข้างแก้มผมเบาๆ เพื่อเช็ดคราบดินให้หลุดออกไป

“อย่าไปอยู่ใกล้คนอื่นแบบนี้อีก เข้าใจมั้ย”

“กูยังไม่ได้…”

“เมื่อคืนนั้นไง มึงจะจูบกับไอ้หมอนั่นอยู่แล้ว มันแอบหอมแก้มมึงด้วย”

“คืนไหน?” มีหลายคืนที่ผ่านมาครับ

“ก็คืนที่กูนัดมึงอ่ะ ตอนที่มึงกำลังเช็ดหน้าให้ไอ้วิดวะคนนั้น แล้วมันก็แอบหอมมึง”

“พี่ว่านแอบหอมแก้มกูจริงดิ!” ตอนไหนวะไม่เห็นรู้เรื่องเลย จำได้ว่าเช็ดหน้าให้พี่ว่านอย่างเดียว ไม่รู้สึกว่าถูกขโมยหอมแก้มสักนิด เอื้อมันมั่วป่ะเนี่ย “แล้วมึง...รู้ได้...ไง”

เสียงผมแผ่วลงทันทีเมื่อได้สบตากับอีกฝ่าย ดวงตาสีเข้มทำเอาผมลืมไปเสียสนิทว่าควรจะทำอะไรต่อไป ลืมไปว่าควรจะผลักมันออก ลืมไปเลยว่าเรายืนอยู่หน้าคณะ

“ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือมึงจะไม่ทำแบบนั้นกับใครอีก...เข้าใจหรือเปล่า” ทำไมผมต้องทำตามที่มันสั่งด้วยวะ

ในใจผมมีคำถามนะ แต่สิ่งที่ผมแสดงออกมาคือการพยักหน้ารับ นั่นทำให้อีกฝ่ายดูอารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง เอื้อส่งยิ้มมาให้ ใช้นิ้วชี้ของมืออีกข้างเคาะเบาๆ ที่ปลายจมูกผม

“เก่งมากเด็กดี เดี๋ยววันนี้พาไปเดินเล่น”

“ไม่ใช่หมาเว้ย”  เท่านั้นแหละ ผมก็ได้สติแล้วดันมันออกในทันที แล้วพอมองไปรอบๆ ผมก็ต้องใจหายวาบ

เชี่ย...คนเต็มเลย แล้วสายตาทุกคู่ก็จ้องมาทางนี้ด้วย! มองอะไรกับครับทุกคน ไม่เคยเห็นคนหล่อสองคนยืนคุนกันเหรอ (พยายามปลอบใจตัวเอง)

“เขาคบกันเหรอมึง”
“ชัดขนาดนั้นแล้วมึงยังจะถามอีกเนาะ”

ไม่นะครับ ผมไม่ได้คบกับมัน!

“เมื่อกี้มีเคาะจมูกกันด้วยอ่ะ โคตรละมุน”

ไม่เห็นจะละมุนสักนิด นี่ผู้ชายแมนๆ คุยกันครับ

“น้องเอื้อก็น่ารัก น้องปูนยิ่งน่าหยิก ฟินมากเจ้บอกเลย”

แต่ผมไม่ฟินด้วยครับเจ้

“กูว่ารีบไปเถอะ”

“ทำไมเขินหรือไง”

ผมถลึงตาใส่มันก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำไปที่รถ หวังว่ามันจะเดินมาแล้วเรื่องจะจบลงแค่นี้ แต่เปล่าครับ… ระหว่างที่ผมกำลังจะเปิดประตูรถ ร่างสูงใหญ่ของเอื้อก็เดินมาซ้อนข้างหลัง แล้วหน้าหล่อๆ จะก้มลงมาใกล้ใบหู มันส่งยิ้มให้ผมผ่านเงาสะท้อนในกระจก ก่อนจะกระซิกเบาๆ ที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงทุ่มนุ่มของมัน

“อย่าเขินมากนะครับน้องปูน เห็นแก้มแดงๆ แล้วพี่เอื้อหวั่นไหว”

อะ อะ อะ...ไอ้บ้า! ไอ้คนนิสัยไม่ดี! ไอ้ ไอ้…

โว้ย! มึงก็อย่ามาทำให้กูรู้สึกแปลกๆ สิวะ!!

♣♣♣♣♣

โธ่ ไอ้เราก็นึกว่ามีธุระอะไรสำคัญหนักหนาถึงได้ทำหน้าไม่พอใจตอนที่ผมมาสายไปสิบเอ็ดนาที จริงๆ แล้วเอื้อมันไม่ได้อะไรหรอกครับ มันหิวมากๆ แค่นั้นเอง พอไปถึงร้านอาหารมันก็เอาแต่สั่งๆๆๆๆ จนแทบจะกินไม่หมด ลำบากผมต้องพยายามนั่งยัดกับข้าวที่ทำท่าจะเหลือลงท้อง

ผมกำลังนั่งทำการบ้านอยู่ที่ห้องเอื้อครับ มันบอกว่าเมื่อวานมันไปนอนที่ห้องผมมาแล้ว วันนี้ผมก็ควรจะได้นอนห้องมันบ้าง อีกอย่างมันบอกมันเหงาครับ

ถุยยยยย ทำอย่างกูจะเชื่ออ่ะ

แต่ช่างเถอะ ยังไงผมก็หอบข้าวของตามมันขึ้นมาข้างบนแล้ว (ใจง่ายว่ะ) ก็ดีกว่าทนมันวิจารณ์ห้องผมเสียๆ หายๆ ครับ เท่านั้นยังไม่พอ มันยังไปแกล้งน้องเดหลีของผมด้วย!

อ้อ แนะนำน้องเดหลีก่อน น้องเดกลีก็คือต้นไม้ที่ผมปลูกเอาไว้ในห้อง เพิ่งซึ่งมาเองครับ ผมไปขอซื้อที่ร้านมากอเล็กๆ เพื่อจะเลี้ยงให้มันเติบใหญ่ เลยกะว่าจะเอาเป็นต้นไม้ส่งงานที่อาจารย์สั่งวันนี้เสียเลย เอื้อมันมือบอนมากอ่ะ พอเห็นน้องเดหลีของผมมันก็เข้าไปเขี่ยเล่นทันที ผมนี่ร้องห้ามเสียงหลง กลัวน้องเดหลีของผมเฉามือใหญ่ๆ ของมันตาย

ปล่อยเรื่องน้องเดหลีไว้ก่อนดีกว่าครับ ตอนนี้ผมเจอปัญหาหนักหนาไม่แพ้กันเลย นั่นคือ...การบ้านวิชาเคมีเชิงประยุกต์ของผมนี่แหละ...ทำไมมันยากขนาดนี้วะ! แล้วตอนสอบผมจะรอดได้ยังไง!

ฮือออออ พี่ปูนตายแน่ๆ T_T

“เอื้อมึงเบาเสียงหน่อยดิ กูไม่มีสมาธิ” พอทำการบ้านไม่ได้ก็พาลคนข้างๆ มันครับ เหอะ นั่งดูหนังสบายใจเลยนะมึง

“นี่ก็เบาจนเป็นหนังกระซิบล่ะ” เอื้อหันมาทำหน้าเซ็งใส่ ก่อนชะโงกหน้าเข้ามาหา “มึงเรียนอันนี้ด้วยเหรอวะ”

“อือ มึงก็เรียนเหรอ”

“เรียนไปตอนปีหนึ่ง ไหนมาดูดิ” ว่าแล้วมือใหญ่ก็ฉวยเอาการบ้านผมไปดู “มึงทำอะไรของมึงเนี่ยปูน”

“ก็...ทำตามหนังสือไง ผิดเหรอ”

“มึงถามว่าตรงไหนถูกบ้างดีกว่า”

ง่ะ!! ทำไมพูดทำร้ายใจกันอย่างนั้นล่ะเอื้อ

จริงๆ มันก็ไม่ต้องพูดขนาดนั้นป่ะล่ะ กูไม่เก่งเหมือนมึงไง อะไรคือการให้ผมไปเรียนเหมือนเภสัชฯ ครับ ผมเรียนเกษตรนะเฮ้ยยยแต่ผมว่าผมมองเห็นทางรอดของวิชานี้แล้วครับ… ไม่ขออะไรมาก ผ่านเอฟเป็นพอ

“เอื้อออออ ช่วยสอนหน่อยดิ”  ผมตกลงกับตัวเองแล้วจัดการกับเป้าหมายทันที! เอื้อมันดูจะแพ้ลูกอ้อนของผมนะ หึๆๆ เสร็จกูแน่!!  ผมขยับตัวเองเข้าใก้มันแล้วเขย่าชายเสื้ออีกผฝ่าย  “พี่เอื้อสุดหล่อสอนน้องปูนหน่อยนะครับ นะๆๆๆ”

“เออๆ กูสอนก็ได้ แต่ต้องตั้งใจเรียนนะ”

เยสสสสสสสส!!

“น้องปูนจะไม่ดื้อ ไม่ซน แล้วก็ไม่เถียงด้วย” ว่าแล้วก็ส่งยิ้มประจบให้มันไปอีก “สัญญาเลยครับ!”

เอื้อวางมือลงบนหัวผมแล้วขยี้เบาๆ ตอนแรกผมก็ไม่ชอบหรอก เหมือนว่าผมเป็นเด็กเล็กๆ แต่พอมันทำบ่อยครั้งเข้าก็เริ่มชิน

มันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่…

“หึๆ เข้าใจพูดนะ ขยับเข้ามาใกล้ๆ แล้วบอกเอื้อสิครับว่าปูนไม่เข้าใจตรงไหน” อย่ามาใช้เสียงสองกันกูครับ ไอ้เสียงนุ่มทุ้ม แบบนี้เอาไปคุยกันสาวๆ ไป๊

“เปลี่ยนคำถามเป็นเข้าใจตรงไหนผมจะตอบง่ายกว่านะ”

“แล้วเข้าใจตรงไหนอ่ะ”

“ก็...ไม่เข้าใจเลยสักตรง แหะๆ”

“นี่มึงเรียนหรือมึงหลับกันแน่วะ” นั่น เมื่อกี้ยังใช้เสียงสองกับผมอยู่เลย ทำไมเปลี่ยนโทนเร็วนักอ่ะ

“ก็เรียนบ้าง...บางครั้งก็หลับบ้างอ่ะ มันไม่เข้าใจนี่ มึงช่วยสอนตั้งแต่แรกเลยได้ป่ะ”

ทำหน้าเซ็งใส่กันทำไม ก็คนมันไม่เก่งอ่ะ T^T

“เออๆ กูจะทำไงได้อ่ะ ก็ตกลงกับมึงไปแล้วป่ะ” มันกดปิดทีวีแล้วเริ่มทำการสอน

โอ้โห พี่เอื้อของเราใจดีสุดๆ เลยครับ งั้นผมขอไปตั้งใจเรียนกับติวเตอร์พิเศษเฉพาะกิจก่อนนะทุกคน

อิอิ

..
.
เวลาล่วงเลยไปชั่วโมงกับอีกสิบเจ็ดนาทีที่ผมนั่งฟังเอื้อพูดอย่างเดียว มีถามบ้างบางข้อที่ผมยังงงๆ จะว่าไปเอื้อมันเก่งจริงๆ ครับ ขนาดไม่ได้เตรียมตัวมามันยังทำข้อสอบให้ผมดูได้ แถมมันพูดอธิบายเข้าใจกว่าอาจารย์ประจำวิชาอีก ถ้ามีคนมาทาบทามมันให้เป็นติวเตอร์ผมก็ไม่สงสัยเลย ผมว่าผมคงพอทำข้อสอบได้บ้างแล้วล่ะ อยากอัดเสียงมันไว้ฟังตอนก่อนสอบจัง

แต่ตอนนี้ผมจะอ้วกล่ะครับ…

“เอื้อ...พอก่อนได้ป่ะวะ กูไม่ไหวแล้วอ่ะ”

ผมถอนหายใจ ดันหนังสือให้ห่างจากตัวแล้วเอนหลังไปพิงเอื้อที่นั่งซ้อนหลังผมอยู่ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่มันมาขยับเข้ามาใกล้ผมขนาดนี้ ท่าทางเหมือนมันกำลังโอบผมไว้  มือข้างหนึ่งของมันวางไว้ที่เอวผม พาดมาตรงหน้าขา  มียกไปจับกระดาษบ้างตอนเขียน แต่นอกนั้นมันก็อยู่ตกแหน่งเดิมตลอด

ตอนแรกๆ ผมก็รู้สึกแปลกๆ นะ แต่มันอุ่นดี ร่างที่ใหญ่กว่าผมบังลมจากแอร์ที่เปิดไว้พอดิบพอดี อีกอย่างนั่งพิงอกมันแบบนี้ก็โคตรสบายเลย ผมชอบ

“พักอีกล่ะ เมื่อกี้ก็เพิ่งพักไป” มันวางปากกาลง

“ยี่สิบนาทีแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ”

“...” มันทำหน้าไม่เชื่อครับ

“นี่จะอ้วกเลยอ่ะ ในหัวมีแต่สูตรไรไม่รู้เต็มไปหมดเลย”

“เฮ้อ เอาเหอะ พักก็พัก มึงลุกไปเอาน้ำมาดิ”

“ไม่เอาขี้เกียจ มึงก็ห้ามไปไหนด้วย กูกำลังสบาย” ผมยึดแขนแกร่งเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน ส่วนตัวเองก็เบียดกระแซะเข้าหามันอีกนิด

อืม...สบายจริงๆ ครับ งั้นผมขอพักสายตาสักแปบนะ

“นี่กูกลายเป็นโซฟาของมึงไปแล้ว?”

“ก็อะไรประมาณนั้น”

ได้ยินเสียงทุ้มๆ ของอีกฝ่ายหัวเราะก่อนที่สัมผัสหนักๆ จากมือใหญ่จะวางลงบนหัวผมแล้วโยกไปมาเบาๆ ผมรู้สึกได้ว่าเอวของผมถูกกอดแน่นขึ้นไปอีก และตอนนี้ตัวผมทั้งตัวก็อยู่บนตักของอีกคนไปแล้ว

เนียนอีกล่ะครับ...แต่ไม่เป็นไร

ตักของเอื้อมันไม่นุ่มเลยสักนิด เทียบกับโซฟาที่ห้องผมไม่ได้แม้แต่น้อย แต่มันกลับนั่งได้พอดีและสบายกว่าโซฟาตัวไหนๆ ความรู้สึกในวันที่ผมหลับลงในอ้อมกอดของมันหวนกลับมาอีกครั้ง ถึงในครั้งนี้เสื้อผ้าที่เอื้อใส่แห้งสนิทไม่เปียกชื้นอย่างวันที่มันตากฝนมา ทว่า...มันกลับให้ความรู้สึกปลอดภัยไม่ต่างกัน

เพราะแบบนั้นผมจะยอมหลับหูหลับตาไม่รับรู้ก็ได้ว่าตอนนี้เราสองคนใกล้กันมากเกินไป...

ผมคิด...แล้วไม่นานหลังจากนั้น ผมก็หลับไปในอ้อมแขนอุ่นๆ นั่น

..
.
ใบหน้าหล่อของผู้ที่ได้ผันตัวเองเป็นโซฟาแสนสบายยกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกรนเบาๆ จากอีกคน บ่งบอกว่าเจ้าตัวแสบได้หลับไปแล้ว เขาลดมือข้างที่วางอยู่บนโต๊ะลงมากอดคนในอ้อมแขนให้แน่นเข้าไปอีก

แต่เดี๋ยวนะ… ไอ้สถานการณ์แบบนี้มันไม่ใช่ว่าหากันได้ง่ายๆ เสียเมื่อไหร่

คิดได้ดังนั้นมือใหญ่ก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา เข้าแอปพลิเคชั่นถ่ายภาพ แล้วเสียง ‘แชะ’ ก็ดังขึ้นถัดมาหลายๆ ครั้ง เขามองดูผลงานตัวเอง ก่อนจะกดที่ไอคอนสีเขียวๆ แล้วเลือกห้องแชทของเพื่อนสนิท

‘เดียว’

ร่างสูงจัดการส่งภาพที่เพิ่งถ่ายหมาดไปให้เพื่อนรักดู เขาถ่ายไว้ครบทุกมุมไม่ว่าจนมุมตรง ก้ม หรือเงย และไม่ถึงสองนาทีภาพที่เขาส่งไปก็ขึ้น ‘Read’ เป็นที่เรียบร้อย

เดียว : ไอ้ขี้อวด

เอื้อ : เรื่องแบบนี้กูต้องแบ่งปัน

เดียว : กูอยากรู้มากครับ
เดียว : เมื่อยมั้ยมึง พาน้องเขามานอนห้องกูได้นะ
เดียว : กูยินดี

เอื้อ : วอนล่ะครับมึง
เอื้อ : นี่กูยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องที่มึงโกหกว่าได้เบอร์ปูนเลยนะ

เดียว : หายโง่แล้วเหรอ
เดียว : แม่งไม่สนุกเลย
เดียว : ปูนแม่งน่ารักว่ะ เหมือนหนูแฮมสเตอร์เลยอ่ะ
เดียว : อยากเลี้ยง

เอื้อ : พ่องงงงงง
สติกเกอร์หมีตีเข่า
เอื้อ : ไม่ต้องเสือกครับ กูเองเลี้ยงได้

เดียว : ฮ่าๆ แล้วน้องหลับเหรอวะ ปลุกมาคุยดิ
เดียว : บอกด้วยว่าพี่เดียวโคตรคิดถึง
สติ๊กเกอร์มูนส่งจูบ

เอื้อ : ฝันไปเหอะครับไอ้เหี้ย!

เรื่องอะไรเขาจะต้องบอกไอ้ตัวแสบของเขาล่ะว่ามีชายอื่นคิดถึง

ไม่มีทางครับ! บอกไว้เลยว่าคนนี้…

หวงมาก!!



ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
เนียนนะครับพี่เอื้อ หวังว่าน้องปูนตื่นมาจะไม่โวยวายนะ ^^

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จัดการกับสาวๆหมดหรือยัง

ออฟไลน์ Bronc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
พี่เอื้อ เนียนเวอร์ ส่วนน้องปูน น่ารักชะมัด อยากกอดบ้าง 5555 จะโดนพี่เอื้อเตะไหม เพราะคนนี้หวงมาก

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ก่อนมาเนียนไปจัดการสาว ๆ ให้หมดก่อนไป

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ตราบใดที่เอื้อยังไม่เคีลยร์เรื่องสาวๆ เราก็ไม่อยากได้พระเอกที่ชื่อเอื้อให้น้องปูนอ่ะ :m16: :m16:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ไกล้กันวันล่ะนิด  เสพติดกันวันล่ะหน่อย

ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ปูนอย่าเผลอใจง่ายๆนะลูก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
จะจีบน้อง เคลียร์สาวรึยังพี่เอื้อ

ออฟไลน์ i_Tipz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew1:    :mew1:

 o13    o13    o13

ออฟไลน์ Maitre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บทที่ 18
เมื่อน้องปูนไม่รู้สึก


ฮัลโหลทุกคนนนน ขอเชิญต้องรับเข้าสู่บูธขายผักออร์แกนิกของพวกเราคณะเกษตรค๊าบบบ

อาฮะ อย่างที่คุณๆ คิด ผมกำลังปฏิบัติหน้าที่สำคัญอยู่

ก็เป็นพ่อค้ารูปหล่อไง ฮิ้วววววว

“ผักสลัดน่ากินจังเลยนะ”

“ครับ นี่เก็บสดๆ เลยนะครับ ยังชุ่มฉ่ำอยู่เลย แถมเป็นผักปลอดสารพิษด้วย ดีต่อสุขภาพสุดๆ ครับ”

เปล่าครับ นั่นไม่ใช่ผมหรอก อยู่กันมานานขนาดนี้คุณคงจะรู้ว่าผมไม่ใช่คนที่พูดอะไรแบบนี้ได้แน่นอน นั่นมันพ่อค้ากล้าครับ ถึงรูปจะไม่งามเท่าพี่ปูนแต่ปากมันหวาน ขายเก่ง ป้าๆ น้าๆ นี่หลงฝีปากมันกันทุกคน

หึๆ เสร็จล่ะงานนี้ ผมได้กลับหอไวแน่นอน! คืนวันศุกร์แบบนี้ผมจะดูการ์ตูนให้ตาแฉะเลย เอ๊ะ แต่ไม่ได้นี่หว่า ถ้าเลิกเร็วแล้วต้องรีบโทร.บอกเอื้อมันครับ มันชวนไปเดินงานต่อรู้นะว่าคุณๆ คิดอะไรอยู่ ห้ามแซวผมครับ แค่นี้ผมก็เขินตัวเองจะแย่แล้ว

“งั้นเอาห่อนึงจ้ะ” นั่นไง ป้าเสร็จมันแล้วครับ

“ได้ครับคุณพี่” มึงกล้าเรียกป้าเขาว่า ‘พี่’ เลยเหรอ ดูหน้าป้าก่อนสิ เหี่ยวกว่ายายกูอีก!

“ต๊ายย พ่อค้านอกจากจะหน้าตาดีแล้วยังปากหวานอีกนะ งั้นพี่เอาสองห่อเลยจ้า”

“ได้เลยครับ คนสวยๆ ก็ต้องกินอะไรที่มีประโยชน์ จะได้สวยนานๆ”

“เอามาอีกห่อจ้ะ ใส่เข้าไปเลย นั่นแหละๆ”

“ขอบคุณครับ”

เชรด! ไอ้กล้าโคตรเจ๋งครับ คนเดียวขายไปสามห่อ มึงเอามงกุฎเพชรประจำบูธไปเลย!!

“โอ้โหพี่กล้าของเรา เลิกเรียนดีกว่ามั้งครับ”

“เหอะๆ ถ้าพี่กล้าเรียนไม่จบแล้วจะเอาอะไรไปเลี้ยงน้องฟ้าล่ะจ๊ะ” มันกลับมาอีกแล้วครับ ไอ้การเกี้ยวพาราศีน้องฟ้าของพี่กล้าเนี่ย

“ตลกล่ะมึง ต่อให้มึงเรียนจบกูก็ไม่เอาเว้ย!” ฟ้าผลักหน้าทะเล้นๆ ที่ยื่นเข้าไปหามันของไอ้กล้าออกห่างแล้วหยิบเงินจากมึงมันไปเก็บลงกล่อง

“เนี่ยแหละ สามีที่ดีต้องให้เมียเป็นคนเก็บเงิน พวกมึงจำไว้เลยนะครับ” เหอะๆ ไม่สลดนะมึง

“ไอ้-เวร-กล้า”

“จ้า เลิกเล่นแล้ว นี่แซวขำๆ ไงไม่ชอบเหรอ”

“เออ ไม่ชอบเว้ย!”

ผมว่าปล่อยพวกมันไปเถอะครับ

ตอนนี้ผมอยู่ที่บูธขายผักซึ่งพวกคุณก็คงรู้กนอยู่แล้วจากสถานการณ์ข้างต้น คนที่ประชำบูธวันนี้ประกอบด้วยสุภาพบุตรจุฑาเทพทั้งห้า คือ ผม ฟ้า โจม กล้า และตัวแถมที่เพิ่งรับเข้าวงอย่างบอย กับหนึ่งสาวงามประจำสาขา...หนูนา และจี๊ดเพื่อนสนิทมัน จี๊ดเป็นคนเงียบๆ ครับ ไม่มีปากเสียงอะไรเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าสนิทกับคนขี้โวยวายอย่างหนูนาได้ยังไง

จะว่าไป...นี่ผมเริ่มสงสัยหนูนากับไอ้บอยแล้วครับ ทำไมเวลาเจอพวกมันแต่ละทีก็ต้องเจอคู่กันตลอดเลยวะ พวกมึงอะไรยังไงกันป่ะเนี่ย

งานแฟร์วันนี้ก็คึกคักดีครับ  เอ้อ พายุถล่มวันนั้นทำเอาข้าวของในงานแฟร์เสียหายไปเยอะเลย บูธผมนี่...ย่อยยับอ่ะ เมื่อวานเพื่อนๆ ก็มาช่วยกันซ่อมในขณะที่อีกกลุ่มแบ่งไปเคลียร์แปลงผัก ผมเห็นสภาพจากที่เพื่อนถ่ายรูปส่งมาให้ดูแล้วสงสารคนซ่อมเลย

บูธผมอยู่ตรงทางเข้า ถัดไปเป็นบูธของพี่ๆ ปีสอง พี่เขาได้รับมอบหมายให้ขายผลิตภัฒน์จากสัตว์จำได้มั้ย ที่ผมเคยบอกไปวันนั้น พี่เขาขายดีไม่แพ้กันเลย ช่างคิดจริงๆ เอาพี่น้ำมานั่งขายนม หนุ่มๆ เดินผ่านแล้วไม่หยุดซื้อก็ไม่รู้จะว่าไง

เห็นหน้าพี่น้ำก็นึกถึงเรื่องเมื่อวานขึ้นมาทันทีเลยครับ แล้วหน้าผมมันก็ร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ

“มึง...คิดเรื่องลามกกับพี่น้ำอยู่เหรอวะ” ผมละสายตาจากพี่น้ำแล้วหันไปเลิกคิ้วเป็นเชิงถามใส่ไอ้บอย “ก็มึงมองพี่เขาแล้วหน้าแดงอ่ะ ต้องคิดเรื่องพี่เขาแน่ๆ เลย”

ผิดแล้ว...ผมมองพี่น้ำก็จริงแต่ไม่ได้คิดถึงพี่เขาเลยสักนิด เพราะในหัวมันมีแต่หน้าหล่อๆ กับเสียงนุ่มๆ ที่พูดอะไรก็ไม่รู้เมื่อวานต่างหาก!

โอ๊ยย ออกไปจากหัวผมสักทีเถอะเว้ยไอ้เอื้อ!

“กูแค่ร้อนเฉยๆ”

“อ้อเหรอออ” เกลียดมันว่ะ ไม่อยากพูดด้วยแล้ว

“ปูน”

หืม? ใครมาเรียกพี่ปูนสุดหล่อครับ

ผมหันไปตามเสียงเรียก คนที่เรีกยผมเป็นพี่ว่านเองครับ ส่งยิ้มหล่อมาให้เชียว รู้แล้วว่าหล่อไม่ต้องยิ้มมากก็ได้ พี่สาวที่เดินผ่านมองตาไม่กระพริบเลย อ้อ วันนี้พี่ว่าไม่ได้มาคนเดียวด้วยนะ พกเพื่อนๆ มาเป็นโขยง แต่ละคนหน้าตาดีๆ ทั้งนั้น หนึ่งในนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งด้วย น่ารักเชียว ตัวเล็กๆ แต่เธอคงไม่โสดครับ เจ้าของน่าจะเป็นหนุ่มหน้าหล่อผิวเข้มที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน

“หวัดดีครับ” ผมรีบยกมือไหว้พี่ว่านแล้วหันไปไหว้พี่ๆ ทุกคน เพื่อนๆ ผมก็เลยต้องไหว้ตาม “พี่ว่านนี่เพื่อนผม โจมพี่รู้จักแล้ว นี่ก็บอย ฟ้า กล้า หนูนา แล้วก็จี๊ดครับ”

“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ”

“หวัดดีครับน้องๆ นี่โอมเพื่อนพี่” พี่เขาแนะนำคนที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุด “ส่วนคนอื่นไม่ต้องรู้จักหรอก มันไม่ได้เรียนที่นี่น่ะ”

อ่า โอเคตามแต่ใจพี่เลยครับ

“มึง กูพาไอติมไปเดินเล่นก่อนนะ” พี่คนที่ผิวเข้มสะกิดบอกพี่ว่าน ก่อนจะจูงมือผู้หญิงคนนั้นที่ต้องเป็นแฟนพี่เขาแน่ๆ แล้วเดินต่อไป พี่ผู้ชายอีกสี่คนเลย ก็เลยตามไปด้วย แต่พี่ๆ ทั้งสี่เดินได้ไม่ไกลหรอก หยุดดูนม เอ้ย กินนมอยู่บูธข้างๆ กันนี่เอง ตรงนี้เลยเหลือแค่พี่ว่านกับพี่โอมสองคน

“พี่ว่านช่วยซื้อหน่อย” โอกาสมาก็อย่าปล่อยให้หลุดมือ วันนี้ผมยังไม่ได้ขายผักเลยสักห่อ มานั่งเฝ้าอย่างเดียว

“เหลือแค่นี้เหรอ” ว่าแล้วพี่เขาก็หยิบห่อผักกาดขึ้นมาดู

“ครับ เหลือแค่นี้แหละ พี่ว่านมาช้าไป”

“มึงเอาป่ะโอม”

“เอาไปทำห่าไรล่ะ” พี่โอมกรอกตาใส่

“พี่เหมาหมดเลย…”

“จริงเหรอครับ!” ผมตาโต ถ้าพี่ว่านเหมาไปจริงๆ ดูหน้าอันมีความหวังของเพื่อนผมแต่ละคนสิ

“มึงเอาไปทำมะเขืออะไรเนี่ย” พี่โอมบ่น แต่มะเขือผมมีขายอยู่แล้วนะครับ ไม่ต้องเอาไปทำหรอก

“เออน่า”

แล้วพี่ว่านก็เถียงกลับ แต่ผมไม่สนใจครับ รู้แค่จะขายหมดก็พอแล้ว ในขณะนั้นผมก็รีบส่งไลน์ไปหาเอื้อเลยครับ มันสั่งไว้ว่าขายหมดเมื่อไหร่ก็บอกให้มันด้วย จะเลื่อนฐานะให้เป็นพ่ออยู่แล้ว

“พี่ว่านจะเหมาจริงเหรอ” ผมถามอีกครั้ง ถ้าไม่ทำจริงผมโกรธนะ โทษฐานทำพวกผมฝันสลาย ฮ่าๆ

“ครับ แต่มีข้อแม้นะ”

“ข้อแม้อะไรครับพี่!” พวกมึงนี่รีบเสนอหน้ามาเลยนะไอ้กล้าไอ้บอย

“วันอังคารพี่มีแข่งฟุตบอล มาดูด้วยนะ” พี่ว่านพูดพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าปูนตกลง พี่ซื้อหมดนี่เลย”

“...” ผมเงียบด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมพี่ว่านต้องให้ผมไปดูพี่เขาแข่งฟุตบอลด้วย

หรือว่าพี่เขา…

“แหมไอ้ว่าน จะจีบน้องกูทีนี่มึงต้องถึงกับเหมาผักทั้งร้านเลยเหรอครับ”
“โหวววว”
“จีบน้องปูนเลยเหรอวะครับ”
“ใจกล้าใช่เล่นนะมึง”
“สู้ๆ นะเว้ยพวกกูเป็นกำลังใจให้”
“ฮิ้วววววววว”

ไอ้คนพูดคือพี่สามครับไม่ใช่ใครที่ไหน ไม่รู้พี่มันโผล่มาตอนไหน เมื่อกี้ยังไม่เห็นเลย แล้วไอ้ลูกคู่โหฮิ้วนี่คืออะไร =_=

ว่าแต่...จีบ?

“ว่าไงครับ...ตกลงมั้ย”

ผมหันไปหาเพื่อนๆ อย่างขอความเห็น แหนะ หลบตากูกันทุกคนเลยนะพวกมึง ทีอย่างนี้ล่ะหาคนช่วยไม่ได้เลยนะครับ!

“เอ่อ...คือ…”

“ถ้าปูนลำบากใจก็ไม่เป็นอะไรนะ ไม่ต้องไปดูก็ได้” หน้าพี่ว่านเศร้าๆ ครับ ถึงจะยิ้มอยู่ก็เถออะ พวกเพื่อนๆ พี่ๆ บูธข้างๆ ก็พลอยลุ้นคำตอบผมไปด้วย

“ขอโทษจริงๆ ครับวันนั้นผมต้องเฝ้าบูธ”

“งันพี่เอาผัดกาดห่อหนึ่งแล้วกัน” พี่ว่านนน ทำไมพี่ทำแบบนี้ครับบบ

พอพี่เขาพูดจบเท่านั้นแหละครับ เพื่อนผมเสนอหน้าออกมาเลย

“ไม่เป็นอะไรมึง พวกกูเฝ้าให้ได้ ดูพี่เขาแข่งเสร็จมึงก็ค่อยมาขายต่อไง” หือ? ทำไมเพื่อนบอยใจดีผิดปกติอ่ะครับ ตามจริงแล้วมึงต้องไม่ยอมให้กูอู้ป่ะวะ

“ไอ้ปูนมึงก็ไปดูพี่เขาแข่งหน่อยเหอะ”

“นั่นสิ นิดๆ หน่อยๆ ไม่เป็นไรหรอกมึง”

รีบเลยนะไอ้บอยไอ้กล้า กลัวไม่ได้กลับหอเร็วหรือไงพวกมึง! แล้วมาจ้องกูด้วยสายตาเป็นประกายแบบนั้นมันหมายความว่าไงครับ จะให้กูเซย์เยสอย่างเดียวเลยถูกมะ

ที่จริงผมไม่ได้อะไรหรอกที่พี่เขาจะให้ไปดูแข่งฟุตบอลวันอังคารหน้าน่ะ อย่าลืมสิว่าผมเจอคนขี้บังคับขั้นสุดมาแล้วนะครับ พี่ว่านนี่ดีกว่าร้อยเท่า พี่เขายังมีการถามความเห็นก่อน แถมมีของตอบแทนให้อีกด้วย แต่ที่ผมไม่อยากไปเพราะคำว่า ‘จีบ’ นี่แหละ

เอาตรงๆ นะ ผมไม่ใช่คนที่ไม่มีคนเข้าหาหรอกครับ คนเข้ามาจีบผมก็มีนะ พวกสาวๆ ที่มีความกล้าสูง (ย้ำอีกครั้งว่าผมหล่อมากครับ (ถุยยย!!)) แต่ผมไม่ชอบแนวมาเร็วเคลมเร็ว อย่างเจอกันวันแรกก็บอกว่าชอบ หรือขอเบอร์เลยอะไรทำนองนั้น มันทำตัวไม่ค่อยถูกครับ

“ก็ได้ครับ วันนั้นผมจะไปดูพี่แข่ง แต่ขอพาเพื่อนไปด้วยนะ”

“ได้สิแต่ต้องอยู่ดูจนจบเลยนะ”

“ครับพี่” ผมส่งยิ้มตอบกลับพี่ว่านไป

“งั้นผักนี่พี่เหมาหมดเลย”

“ไม่ต้องก็ได้พี่ว่าน ผมเกรงใจ”

“ไม่เป็นอะไร เฮ้ยพวกมึงๆ อ่ะ มาช่วยกูขนดิ” พี่ว่านกวักมือเรียกพวกพี่ๆ ปีสอง ซึ่งผู้นำทีมคือไอ้พี่สามคนปากมากไงไม่ใช่ใครอื่น

ทำไมรอบๆ ตัวผมต้องเจอแต่กับคนแบบนี้ด้วยวะ -*-

“ไม่คิดจะไปเหมาของกูบ้างเหรอครับ” ไอ้พี่สาม เงียบบ้างก็ไม่มีใครว่าป่ะครับ

“ไม่อ่ะ กูไม่ได้จะจีบมึงนี่”

เหอะๆๆๆ

“มึงจะเอาไปทำอะไรหมดเนี่ย” พี่โอมที่ยืนนิ่งๆ มานานถามขึ้น ผมลืมไปแล้วนะว่าพี่ยืนอยู่ด้วยอ่ะ

“เอาไปไว้บ้านมังกรก็ได้ ให้คุณลุงคุณป้าเอาไปทำอาหาร” พี่ว่านตอบก่อนจะหันมายิ้มให้ผม แล้วถามราคา พอบอกไปพี่แกก็จ่ายเงินมาให้

“ขอบคุณคร้าบบบบ” เรื่องเก็บเงินนี่ไวจริงๆ นะไอ้ฟ้า เมื่อกี้ไม่เห็นหัวมึงเลยอ่ะ

ระหว่างที่พวกผมกำลังช่วยพี่ว่านขนของ คนที่ไม่น่าจะมาปรากฏตัวตอนนี้ก็โผล่มาครับ ผมไม่นึกเลยว่ามันจะมาไวขนาดนี้ เมื่อกี้เพิ่งไลน์ไปบอกมันเอง

จะใครล่ะนอกจากเอื้อ

แล้วที่บอกว่ามันไม่น่าโผล่มานั่นก็เพราะ… พี่ว่านยังไม่ไปไหนครับ

“ขายหมดแล้วเหรอ” เอื้อมายืนล้วงกระเป๋าอยู่ตรงหน้าในตอนที่ผมกำลังจัดผักใส่ถุง มันยืนข้างพี่ว่านเลยอ่ะ ห่างกันนิดเดียวเอง มันเหลือบมองพี่ว่านด้วยความกวนตีนไปหนึ่งครั้ง พี่ว่านก็มองตอบด้วย ผมล่ะเสียวจะวางมวยกันจริงๆ

“อือ กำลังขนอ่ะ” ผมพยักหนัา ก่อนหันไปเรียกพวกเพื่อนๆ ข้างหลัง “เฮ้ยมึงๆๆ นี่เอื้อนะ”

พวกเพื่อนๆ ที่รักของผมเหมือนรู้สถานการณ์เลยครับ มันถอยหลังไปประมาณสามก้าวจากตัวผม ขอบใจนะที่รักกูกันขนาดนี้อ่ะ

“สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ”

“พี่เอื้อตัวจริงโคตรหล่อเลยเนาะ” หนูนากระซิบกับจี๊ด ซึ่งเธอก็พยักหน้าเห็นด้วย แต่สาบานเถอะว่ามึงกระซิบกัน ได้ยินมาถึงนี่

“เฮ้ยไอ้เอื้อ มาซื้อผักไปต้มมาม่าเหรอวะ” ไอ้พี่สาม มึงได้ดูสถานการณ์อะไรบ้างป่ะวะครับ มาถึงก็กอดคอเอื้อข้างหนึ่ง กอดขอพี่ว่านอีกข้างหนึ่ง มึงเสี่ยงตายมาก “แต่เสียใจว่ะ เพื่อนกุเหมาไปแล้ว”

โอเคพี่ ถ้าเป็นอะไรมาผมไม่ช่วยนะครับ

“ใครเหมานะ” เสียงโคตรเย็นเลยครับ พี่ปูนกลัวแล้ว

“ไอ้นี่ไง” พี่สามยิ้มแป้น “นี่ไว้ว่านเพื่อนวิดวะของกู มึงก็น่าจะรู้จักนี่หว่าเอื้อ”

“หึ...รู้”

เอื้อกับพี่ว่านประสานสายตากัน แล้วตอนนั้นพี่สามถึงรู้ว่าไม่ควรอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งมองคนอีกต่อไป พี่สามค่อยๆ หลบเลี่ยงมาทางผม

“ถะ ถ้ามึงอยากจะซื้อผักก็มาพรุ่งนี้ได้นะ” พี่สามมึงยังจะขายของอีกเนาะ “หรือว่าวันนี้อยากกินนมก่อนวะ นี่น้ำอยู่ด้วยนะ กูไปเรียกให้ป่ะ”

“ไม่ต้อง กูไม่ได้มาหาน้ำ แต่กูมารับปูน” เอื้อยิ้มเป็นต่อให้พี่ว่าน “ว่าจะไปเดินเล่นในงานด้วยกัน แล้วกลับหอพร้อมกันเลย”

“แล่ว แล่ว แล่ววว สึกชิงนายป่ะวะ”
“เชี่ย อย่าต่อยกันนะมึง”
“น้องปูนกูนี่สเน่ห์แรงจริงๆ”

กูไปเป็นของมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ครับพี่! แล้วเขาก็ไม่ได้จะชิงกูเว้ยยย

แต่เรื่องมันก็ยุ่งยากเพิ่มไปอีกนิด เพราะพี่น้ำที่มาจากไหนไม่รู้ (ผมไม่ได้มองครับ มัวแต่ลุ้นว่าไม่ให้สองคนนี้ตีกัน) ก็เข้ามาควงแขนเอื้อต่อหน้าต่อตาผม พี่น้ำทำให้ไม่พอใจ พร้อมกับถามเอื้อด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด

“เอื้อ ทำไมเมื่อวานหนีกลับก่อนอ่ะ”

อูยยยยยย

ผมเบือนหน้าหนีทันที ก็ใครล่ะที่ทำให้เอื้อมันทิ้งพี่น้ำกับเพื่อนๆ มาแบบนั้น วันนี้พี่เขาไม่เข้ามาหาเรื่องผมก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว

“ดูท่าว่าคงมีธุระต้องเคลียร์ยาวนะเอื้อ” เป็นทีพี่ว่านบ้างที่ยิ้มอย่างผู้มีชัย ก่อนที่พี่เขาจะหันมาหาผม “พี่ว่าเอื้อคงไม่ว่างไปเดินกับปูนแล้วล่ะ ไปเดินกับพี่แทนก็ได้นะ พี่เอาของไปเก็บที่รถแปบเดียวเดี๋ยวมารับ”

“ไม่ต้องเสือก! ปูนต้องไปกับกู!”

เอื้อคว้ามือผมไว้ก่อนจะออกแรงดึงจนตัวผมเกือบจะปลิวไปหามัน แต่ติดว่ามืออีกข้างถูกยึดไว้โดนพี่ว่าน คราวนี้คนที่อยู่แถวนี้ก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะล้อมเข้ามาคุมเชิง พวกเพื่อนๆ ผมขยับเข้ามาใกล้แล้วครับ เผื่อว่าถ้ามีเรื่องอะไรจะได้ห้ามทัน

ขอบใจมากนะที่เริ่มรักกูขึ้นมาบ้าง

“ตลกป่ะวะ มือข้างนั้นยังจับกับน้ำอยู่เลย แล้วมึงก็เอามืออีกข้างมาคว้าปูนไว้แบบนี้เหรอ” พี่ว่านยิ้มเยาะใส่เอื้อ “แถวบ้านกูเรียกจับปลาสองมือว่ะ”

คำพูดพี่ว่านทำให้ผมหน้าชา พอๆ กับแขนที่เริ่มชาจากการบีบของเอื้อ

“หุบปากมึงไป”

“ทำไม แทงใจดำมึงอ่ะดิ”

“ไอ้เหี้ยกูบอกให้หุปปาก!”

“ไม่! พูดแทงใจดำเข้าหน่อยทำเป็นรับไม่ได้แล้วขึ้นเสียงใส่เหรอวะ” พี่ว่านยังคงไม่ยอม ถ้าพี่เขาพูดอะไรอีกนิดผมว่าได้วางมวยกันจริงๆ

เอื้อไม่ใช่คนใจเย็นเท่าไหร่หรอก เห็นมันนิ่งๆ แบบนี้ที่จริงแล้วข้างในร้อนเป็นไฟ แต่ไม่รู้ทำไม ผมถึงได้อยากให้พี่ว่านพูดต่อ

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมึงว่าน”

“ทำไมจะไม่เกี่ยว ถ้ามึงไม่รู้กูจะบอกให้นะ...กูจีบปูนอยู่”

แรงที่บีบมือผมแน่นขึ้น จนผมนิ่วหน้า แต่ก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากว่าเจ็บ

“ไปปูน” ผมก็อยากจะไปกับมันนะ แต่พอมองไปอีกฝั่งหนึ่งที่มีพี่น้ำจับมือมันอยู่แล้วผมก็จำเป็นต้องถอยออกมา “ปูน!”

“มึงยังจับมือพี่น้ำอยู่เลย แล้วจะให้กูไปกับมึงเหรอเอื้อ” ผมถามพร้อมกับพยายามดึงแขนตัวเองออกจากมืออีกฝ่ายแต่มันก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น “ปล่อยเอื้อ…”

“ไม่!”

“ก็เห็นอยู่ว่าปูนไม่อยากไปด้วย มึงก็ควรปล่อยนะเอื้อ” พี่ว่านออกแรงดึงผมให้เข้าไปหา

“มันไม่ใช่เรื่องของ...”

“เอื้อปล่อยน้องไปเถอะ” พี่น้ำพูดขึ้น

“กูจะไปกับพี่ว่าน” และสุดท้ายผมก็พูดออกมาจนได้ ทั้งที่ตอนนี้ผมไม่มีกระจิตกระใจจะไปไหนทั้งนั้น พี่ว่านส่งยิ้มให้เอื้อ ก่อนที่เขาจะออกแรงเพียงน้อยนิดผมก็หลุดออกจากกำมือของเอื้ออย่างง่ายดาย

แค่พี่น้ำพูด...แค่เท่านี้มันก็ปล่อยผมแล้ว

แทนที่ผมจะดีใจที่เป็นอิสระ...ทำไมผมถึง…

“เราสัญญากันแล้วนะปูน”

“มันจะไปมีความหมายอะไร...ในเมื่อมึงก็ต้องไปกับพี่น้ำอยู่ดี” ผมกระซิบตอบเอื้อ “กูจะไปกับพี่ว่าน”

เราสองคนสบตากันราวกับว่าใครหลบตาก่อนหรือพูดอะไรออกมาสักคำจะเป็นคนที่แพ้ในการแข่งขันครั้งนี้ และคนที่ชนะเป็น...ผม

“ถ้าอยากจะไปกับมันนัก...ก็เชิญ”

เปล่าหรอก...ผมไม่อยากไปกับใครทั้งนั้น และผมไม่ได้อยากเป็นคนผิดสัญญา แต่จะให้ผมดึงเอื้อมาจากพี่น้ำ...ผมก็ไม่กล้าพอ พี่น้ำมาก่อน เขาขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของเอื้อ แล้วผมล่ะเป็นอะไร

เพื่อน? รุ่นน้องคนสนิท? คนรู้จัก?

หรือคนที่ไม่มีสถานะอะไรเลย

เรื่องของเรามีแต่ความไม่แน่นอน ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมเป็นอะไร ที่เอื้อเข้ามาวุ่นวายในชีวิต ที่ในบางครั้งอีกฝ่ายก็เข้าใกล้ผมมากเกินไป มันเป็นเพราะอะไรกันแน่

“เอื้อ! ไปไหนน่ะเอื้อ!”  พี่น้ำส่งเสียงตะโกนเรียกคนที่กำลังเดินห่างและกลืนหายไปกับผู้คนในงานแฟร์

ก่อนที่เอื้อจะเดินไปเราได้สบตากัน และสายตาคู่นั้นบ่งบอกถึงความผิดหวังและเสียใจ สายตาคู่นั้นทำให้ผมอดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่า คนที่จะเสียใจ...ควรเป็นใครกันแน่

“ปูน” เสียงพี่ว่านดึงสติของผมกลับมาสู่ปัจจุบัน ตอนนี้พี่เขาปล่อยมือผมให้เป็นอิสระแล้ว รอยยิ้มที่พี่ว่านส่งมาไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย “พี่เอาของไปเก็บที่รถก่อนนะ รอพี่แปบเดียวเดี๋ยวพี่มา”

ผมได้แต่พยักหน้ารับแล้วยืนรอพี่ว่านอยู่ที่เดิน แม้ภายในใจจะอยากหายไปจากตรงนี้ก็ตาม

..
.
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ทั้งที่ผมกับพี่ว่าใช้เวลาเดินในงานได้เพียงไม่นานเท่านั้น ถ้าวันนี้ไม่เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน บอกเลยว่าเวลาที่อยู่กับพี่ว่านก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ครับ ผมคงสนุกกว่านี้มากขึ้นอีกเท่าตัว

“ปูนอยู่หอแถวนี้ดีเลยนะ ใกล้กับมหา’ลัย” พี่ว่านมาสิ่งผมด้วยรถของพี่โอม พี่สองคนสนิทกันมาก เห็นว่าเป็นเพื่อนกับตั้งแต่มัธยม เห็นแล้วนึกถึงพี่บุ๊คกับพี่มิวเลย

“แต่ผมก็ยังไปสายตลอดเลยครับ”

“งั้นให้พี่มารับมั้ย พี่ตื่นเช้านะ รับรองว่ามารับทันปูนเข้าเรียนทุกวัน”

ผมหัวเราะกับคำพูดและรอยยิ้มของพี่ว่านมากกว่าจะเขิน ไม่รู้สิ มันไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าพี่เขากำลังจีบเลยสักนิดแม้ว่าพี่เขาจะส่งสายตาหวานๆ มาก็ตาม มันเหมือน...โดนเพื่อนแซวมากกว่า

“อย่าเลยครับ เกรงใจ”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก พี่เต็มใจ”

“จะมารับน้องเขานี่มึงมีรถเหรอ ทุกวันก็ติดรถกูตลอด” พี่โอมขัดขึ้น คงทนเพื่อนตัวเองไม่ไหว

“ไอ้โอม แทนที่จะช่วยกูทำมาหากิน”

“ผมไปนะครับ”

ผมบอกลาพี่ๆ แล้วเดินลงมาจากรถ ก่อนจะเข้ามาในดึก พออยู่คนเดียวแล้วสมองมันก็อดคิดไปถึงเรื่องเมื่อตอนหัวค่ำไม่ได้ มาคิดๆ ดูอีกทีแล้วผมสงสารเอื้อครับ ผมอาจจะทำเกินไป อย่างน้อยผมก็ควรเลือกใช้คำพูดที่ดีกว่านั้น

ผมมัน...หือ? คนที่ยืนอยู่หน้าห้องผมนั่นมัน…

“กลับมาแล้วเหรอ” เอื้อส่งยิ้มมาให้ผมจากพื้นห้อง มันค่อยๆ ชันตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินเข้ามาหา ภาพครั้งนี้ซ้อนทับกับเรื่องราวในวันเก่าที่เคยผ่านมาแล้ว  “ให้รอซะนานเลย”

“แล้วใครใช้ให้มารอล่ะ” ผมอยากจะตีปากตัวเองที่เผลอปากไวประชดออกไปแบบนั้นจริงๆ จะแก้ยังไงดีกับนิสัยพูดก่อนแล้วค่อยมาคิดทีหลัง

“ไม่มีใครใช้ อยากมารอเอง”

“กวนตีน” อดด่ามันไม่ได้ครับ “แล้วมารอทำไม ไม่ไปกับพี่น้ำก็สิ้นเรื่อง”

โอ๊ยย กูเอาอีกแล้ววว ปากหนอปาก ทำไมไม่ปรึกษากันก่อนบ้างวะก่อนที่จะพูดออกไป

“ที่พูดนี่...แค่พูดไปเฉยๆ หรือรู้สึกอะไรถึงพูดออกมา”

เอาล่ะ ครั้งนี้พี่ปูนจะไม่ปากไวอีกแล้ว คราวนี้พี่ปูนของเลือกที่จะเงียบไม่โต้ตอบใดๆ ทั้งสิ้น ผมล้วงกุญแจในกระเป๋าขึ้นมาไขห้องราวกับว่าอีกฝ่ายไม่มีตัวตน แต่ยังไม่ทันที่จะสอดกุญแจเข้ารู มือใหญ่ก็เอื้อมาดึงบานระตูเอาไว้ ร่างสูงหญ่ซ้อนทับแผ่นหลังของผมเอาไว้ ลมหายใจร้อนเป่ารถต้นคอเป็นระยะๆ

“จะ จะทำอะไร”

“คุยกันให้รู้เรื่องก่อนดิ” เอื้อพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบาลงกว่าเดิม ผมไม่ชอบเลยที่เราใกล้กันขนาดนี้ มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ เอื้อขยับเข้ามาใกล้ขึ้นจนผมต้องเกร็งตัว จะหนีไปไหนก็ไม่ได้ เพราะมันยกมืออีกข้างมากั้นเอาไว้

“ถอยไปก่อน ตรงนี้มันที่สาธารณะ”

“ไม่ถอย ตอนนี้ไม่มีใครหรอก เขาคงเข้าห้องไปกันหมดแล้ว” ผมอยากจะเถียง แต่คิดว่าอีกฝ่ายก็ไม่ยอมอยู่ดีเลยเลือกที่จะเงียบเอาไว้

“...งั้นก็รีบๆ คุย”

“วันนี้มึงใจร้ายมากนะปูน เลือกที่จะไปกับมันแทนที่จะเป็นกูได้ยังไง” ผมหลับตาลงเมื่อลมหายใจของเอื้อเป่ารดต้นคอ มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เหมือนล้มหายใจของผมกำลังสะดุด

“มึงมีพี่น้ำ”

“กูไม่ได้อยากมีเขา เคยบอกไปแล้วนี่ว่าสำหรับกูตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่า…”

“หยุด” ผมสั่งด้วยน้ำเสียงที่บางเบา แต่เพราะเราใกล้กันมันเลยได้ยินชัดเจน พอแล้ว ผมไม่อยากได้ยินอะไรที่ทำให้หัวใจของผมหวั่นไหวอีกแล้ว มันมากเกินไปในวันนี้

ถ้าเอื้อไม่คิดอะไร ก็ควรพอเสียที

“ถ้าไม่คิดอะไร มึงอย่าพูดแบบนี้ดีกว่า ไม่รู้หรือไงว่าคนฟังเขาจะรู้สึกยังไง”

“แล้วมึงรู้สึกยังไง” มือผมสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่หลังจากฟังคำถามนั้น อีกฝ่ายค่อยๆ เลื่อนมือที่กำลูกบิดมาจับมือผมเอาไว้หลวมๆ เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู “พูดมาสิว่ารู้สึกยังไง”

“ไม่...” ทำไมผมต้องเป็นคนพูดก่อนด้วย คนที่เริ่มเรื่องทั้งหมดควรจะเป็นคนที่บอกความรู้สึกของตัวเองก่อนสิไม่ใช่ผม “กูไม่พูด…”

“ถ้าอย่างนั้น...มึงรู้ได้ไงว่ากูไม่คิด…”

“...”

“ที่ผ่านมาทั้งหมด...กูคิด”

ผมค่อยๆ ดึงมือออกจากมืออันอุ่นจนกระทั่งกลายเป็นร้อน แล้วเอ่ยคำโกหกออกไปด้วยความง่ายดาย เพียงเพื่อหวังให้คนฟังเข้าใจ และเลิกทำอะไรแบบนี้เสียที

“ถ้าอย่างนั้นมึงคงคิดไม่มากพอ...ที่จะทำให้กูรู้สึก”

“แล้วอะไรที่จะทำให้มึงรู้สึก…”

“ถามตัวเองสิเอื้อ...ที่มึงให้กูวันนี้มันชัดเจนพอหรือยัง…”

“...”

“ถ้ามันชัดเจนแล้ว วันนั้นกูคงจะรู้สึกเอง…”

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
คนแบบเอื้อก็เหมาะกับนำ้ดี ไม้เลื้อย กับปลิง :เฮ้อ:


สงสารพี่ปูน

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
เรื่องน้ำ ปัญหามันเกิดจากเอื้อ ไปคบแล้วทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไม่จัดการให้เรียบร้อย ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ชัดเจน ปูนหาใหม่ดีไหมลูก คบเอื้ออาจน้ำตาเช็ดหัวเข่านะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มันไม่มีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกเลยว่าเอื้อจริงจังกับปูน นอกจากคำพูดปากเปล่า ตัวเองยังเคลียร์ไม่รอดเลยยังจะไปเอาเรื่องเขาอีก

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
ปลดเอื้อจากพระเอกเป็นแค่รักษาการณ์แทนได้ไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ไม่เอาเอื้อเป็นพระเอกได้ไหมคะ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด